หมอ(โดน)ฟัน ตอนที่ 41
กลับมาแล้วครับขอบอกเหนื่อยมากกกกกกแต่สนุกมากกกเหมือนกัน วันสุดท้ายนี่ไปทุ่งดอกกระเจียวกันครับดอกกำลังสวย แบบว่าทางผ่าน(เหรอ)จริงๆเห็นป้ายโฆษณาท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิไหนๆก็เที่ยวกันแล้วก็เอาให้คุ้ม แล้วก็คุ้มจริงๆ ฟิกเกอร์คุ้มมากกกคุ้มทุกพื้นที่ทุกคืนน กว่าจะถึงม.ซื้อไวน์แดงกับไวน์ขาวมาอย่างละ 3 กะเป็นของฝากพ่อแม่ฟิกที่จะมาล่อไปแล้ว 2 ขวด ถึงห้องต้องแบกขึ้นห้องอ่ะขาสั่นเดินไม่ไหว
ผลั๊วะ
“โอ๊ย!! เหี้ย!!” กำลังจะเคลิ้มหลับดันเจอสัมพเวสีตบไหล่ขอส่วนบุญ
“โอ๊ยๆๆๆๆ เห็นหน้าเพื่อนก็เจริญพรกันทันที” อีแพนค่อนขอด พอผมหันไปมองก็สะบัดหน้าใส่ เชอะ กูก็ทำได้
“สะดิ้งมากกกกก” อีปีว่าแล้วพลักหัวผม ผมก็มองจิกๆรู้สึกหน้ามันอิ่มเอิ่มยิ้มแย้มหน้าบานมาหลายวันแล้ว นางนั่งลงข้างๆผมตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้วหลังจากที่เรียนและเข้าคลีนิกกันหน้าดำคร่ำเครียดมา 4 วันติด ในที่สุดเทอมนี้พวกผมก็ว่างบ่ายวันพฤหัสกันซะที ปกติเรียนเต็มกันตลอดลงคลีนิคก็เลือกช่วงที่แฟนแต่ละคนไม่ว่างหรือเรียนหนักจะได้มีเวลาว่างหวีตหวานกัน โฮะๆๆๆ
“มีไรดีๆ....” ผมมองหน้าอีปีแบบจับผิดนางก็นั่งยิ้มกรุ่มกริ่มแฮปปี้มาก
“ก็.....” เปิดประเด็นขึ้นมาแล้วก็มองหน้าแต่ละคนทำตาหลุกหลิก
“ลีลา เดี๋ยวกุตบหัวทิ่ม” อีทอมทนลุ้นไม่ไหวแว้ดออกมาซะเหวอเลย
“ก็นะ อยากเสือกเรื่องกูแล้วยังจะมาข่มขู่กูอีก เดะปั๊ดไม่เข้าซะเลย” นางจิ้มหน้าผากอีทอมซะหงายเงิบแต่อีทอมก็เด้งกลับมาคืนทันที
“ก็กูไปงานแต่งญาติไอ้ตามใช่ม่ะ แล้วก็....” แล้วก็หยุดค้างพวกผมที่ตั้งตารอก็ลุ้นจนเกร็ง
“ก็....” ยังก็อีก กูจะรู้เรื่องไหมชาตินี้
“ก็อีกทีกูจับมึงกด อย่าลีลา” ผมแว้ดบ้างนางจิ๊ปากมองผมประมาณ มึงทำเป็นเหรอ
“เออ พวกเสือก กูแต่งงานแล้ว” ก็แค่นั้น ทำลีลา แต่... เดี๋ยวนะ
“แต่งงานนน!!!!” ผมกะชะนีตะโกนเสียงดัง หน้าเหวอกันสุดๆ
“เออค่ะ ดอก” แล้วก็บิดตัวทำขวยเขิน สะดิ้งมากเพื่อนกู
“มึงไปงานแต่งไม่ใช่เหรอวะ ไหงแต่งซะเอง ท้องเหรอ โอ๊ย สัสปีกูเจ็บ” อีทอมข้องใจแต่คำถามคงโดนใจอีปีนางเลยตบหัวซะดังเลย
“ปากนะมึง ก็แบบญาติไอ้ตามคงเห็นความน่ารักในตัวกู อย่าทำท่าอ้วกนะมึง” นางดักทางเมื่อเห็นท่าทางพวกผม
“เออๆๆแล้วไงต่อ” พี่แพนโบกมือขอไปที
“ที่นี่เค้าก็เลยแซวกูกับไอ้ตามเล่นๆ ว่ามางานแต่งนี้ก็แต่งกันซะเลยซิ ไม่รู้ว่าเมาดิบหรือเบลอไอ้ตามก็ตอบตกลงมีแม่ไอ้ตามเป็นโต้โผ” เล่าไปก็หน้าแดงไปแต่ยิ้มไม่หุบ เหอะ กูอิจฉา
“แล้วมึงแต่งแบบไหน ใส่ชุดเจ้าสาวเหรอ??” อีแพนถามอีกตั้งตารอสุดๆ
“บ้าเหรอ แต่ก็เกือบ แต่แบบคริสต์แลกแหวนกล่าวคำสาบานจูบกันไรงี้แหละ” แล้วนางก็ซบที่ไหล่ผมทุบรัวๆแก้เขิน
“โห้ยยยย บอกป๊าม๊ามึงยัง ไปงานแต่งเค้าแต่ตัวเองดันแต่งซะเอง” ผมถามด้วยความริษยาเอ้ยเป็นห่วง
“แม่ตามโทรบอกแล้ว คุยไรไม่รู้กูรู้ตอนที่ป๊าโทรมาอวยพรให้รักกันานๆ กูนี่เหวอสุดๆ” นางเล่าไปแฮปปี้ไป ดีจังเพื่อนกูแต่งงานไปแล้วคน
“ดีใจด้วยมึง แต่กูเสียใจที่มึงแต่งแล้วไม่มีพวกกูเป็นเพื่อนเจ้าสาว” ผมบอกยินดีกับนางกอดนางโยกไปมา ชะนีสองนางก็เข้ามากอดบอกยินดีเหมือนกัน
“มึงอย่าคิดมากนะเกล กูเชื่อว่าพี่ฟิกต้องผ่านไปได้” อยู่ๆอีปีก็ทำซึ้งบีบมือผมให้กำลังใจ
“อะไร ใครคิดมาก” ผมรีบปฏิเสธ
“โอ๊ยย อีเก้ง หน้ามึงเศร้าคิ้วขมวดแบบนี้เด็กอนุบาลก็รู้ว่ามึงกำลังคิดมาก” นางจิ้มที่หว่างคิ้วผมพูดยิ้มๆ
“เอาน่าเกล มึงอย่าเพิ่งคิดในสิ่งที่ยังไม่มาซิวะ ทำวันนี้กับตอนนี้ให้ดีที่สุดมีความสุขกับมันก็พอแล้ว เรื่องอื่นปล่อยมันไปยังไงมันก็มีทางออกของมันอยู่แล้ว เชื่อกูซิเพื่อนสาว อย่าเศร้ากูไม่สบายใจไปด้วย” นางปลิบผมอีกรอบอึ้งนิดๆตั้งแต่คบกันมามีไม่กี่ครั้งที่นางจะจริงแบบนี้ อีทอมกับอีแพนก็เข้ามาลูบหัวปลอบ
“นี่กูทำให้พวกมึงไม่สบายใจขนาดนี้เลยเหรอวะ รู้สึกผิดแฮะ” ผมพูดยิ้มๆจับมือพวกมันให้คลายกังวลกับเรื่องผม
“เพื่อนกันถ้ามีใครเป็นทุกข์เราก็ต้องทุกข์ไปด้วยกัน สุขเราก็ต้องสุขไปด้วยกัน ไม่งั้นเค้าจะเรียกเพื่อนเหรอวะ” อีทอมมาแนวซึ้งอีกคนเห็นด้วยว่าอีแพนแอบไปปาดน้ำตา
“เออ ทำซึ้งนะมึง เมียมึงน้ำตาแตกแล้ว” ผมว่ายิ้มแอบแซวอีแพน เลยเจอตีไหล่มมาป็นรางวัล ชะนีนี่มือหนักกันทุกคนเลยป่าวว่ะ
“ทำไรกันอยู่สาวๆ กอดกันกลับเชียวววว” มาแล้วสองแฝด อีแพนจากที่น้ำตาท่วมก็รีบเช็ดหน้าแล้วมองพี่แฝดเขม็ง
“พี่แฝด!!!!” อีแพนลุกชี้หน้าทันก้าวสามขุมเข้าหา
“อะ อะไรจ๊ะ” ถามเสียงสั้นนิดๆก้าวถอยหลังที่ละก้าว
“พี่ตกอีนกมากินเหรอ พี่ก็รู้ว่าแพนไม่ถูกกับมันแล้วยังจะไปนอนกับมันอีก รู้ไม๊มันมาเยาะแพนถึงคณะเลย พี่แม่ง” อีแพนเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อพี่แจมแล้วพี่โจก็รีบเฟดตัวเองออกจากพื้นที่อันตราย
“โชคดีนะน้องชาย ฮูว โชคดีที่กูกินปลา” พี่โจอวยพรน้องชายแล้วถอยหายใจ
“ปลาไหน เภสัชปี 4 ” อีแพนตวัดตามามองลากพี่แจมทั้งๆที่กำคอเสื้อมาหาพี่โจพยักหน้าหงึกขาค่อยๆเดินขยับมาหลังฟิก
“แล้วไป แต่เฮ้ยนั้นมันดาวคณะนะพี่สอยได้มาได้ไง ทอมตามตั้งนานกว่าจะได้” คราวนี้อีทอมอวดครวญบ้าง พี่โจแบมือหยักไหล่ประมาณ ของง่ายๆ
“ช่างแม่ง เรามาเครียร์ต่อว่าไงพี่แจม” อีแพนหันไปพี่แจมต่อที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้อง อย่าคิดไปไกลครับสองคนนั้นไม่ได้เป็นไรกันพี่น้องกันธรรมดา ปกติอีแพนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชะนีที่พี่แฝดกินนอกจากจะเจอคู่อริแบบนี้เกือบมีตบถ้าอีทอมกับอีปีฉุดไม่ทัน
“เหนื่อยไหม” ฟิกเดินเข้ามาลูบแก้มผมยิ้มหล่อๆให้ผมส่ายหน้า แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว
“กินนี่รองท้องไปก่อนนะเมื่อเช้าไม่ได้กินมานี่” ฟิกยื่นกล้องแซนวิชทำเองมาให้ผม แอบหน้าแดงนิดๆเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า
“เพราะใครละ” ว่าเบาๆดังไม่ได้เดี๋ยวเจอแซว
“ก็อยากน่ารักทำไมอ่ะ เลยอดใจไม่ไหว” พูดแล้วลูบแก้มผมเบาผมก็ยิ่งเขินกัดแซนวิชเข้าปากก้มหน้าเคี้ยวไม่กล้าเงยหน้า
“หัวเราะไรเล่า เงียบเลยนะ” เอาแซนวิชยัดปากแม่งเลย
“อย่าให้มีอีกนะ เอาใครไม่ว่าแต่ถ้ามีมาเยาะหรือแดกดันถึงคณะศพไม่สวยแน่” นางชี้หน้าคาดโทษพี่แฝดแล้วหยิบแซนวิชที่ยื่นให้เข้าปากเคี้ยวแบบเคืองๆ
“คร้าบโผ้ม!!” ยกสามนิ้วรับปากอีแพนทั้งสองคน เห็นแล้วก็ขำ แล้วได้ยินปรึกษาแว่วๆ แล้วกูจะรู้ได้ไงวะ
“เดี๋ยวแพนจดชื่อให้” อีแพนแว้ดอีกครั้งพี่แฝดก็ยิ้มแหยงๆมาให้ แล้วก็นั่งกินแซนวิชกับผมจนหมดเหลือบมองคนข่างเคียงก็เห็นอีแทบคุยแชทอยู่อีปีกับสามีก็นั่งจับมือคุยกันกระหนุกกระหนิง
“มึง” ผมสะกิดอีแพนส่งสายตาไปที่คู่อีปี นางตาโตพยักหน้าเข้าใจยกน้ำดื่มแล้วตรงไปที่พี่ตาม
“ไงเจ้าบ่าว แต่งงานไม่มีบอกน้องนุ่ง” อีแพนเริ่มเปิดฉากฟิกกับพี่แฝดหันไปจ้องเขม็ง
“ยังไม่รู้เหรอ” ผมถามฟิกส่ายหน้าตานิ่งมากกก พี่แฝดนี่เดินเข้าใส่หน้าตาหาเรื่องมาก
“รู้แล้วเหรอ แฮะๆ โอ๊ย” พี่ตามองหน้าอีปีแล้วยิ้มแฮะๆให้อีแพน แต่ไม่ทันพี่แฝดเจอตบหัวไปคนละทีแรงมากด้วย
“เพื่อนเหี้ย นี่เหรอเรื่องที่มึงปิดกูแล้วก็นั่งหน้าแปะยิ้มทั้งวัน สัส” พี่แจมใส่ทันทีมีพี่โจพยักหน้าตาม
“ก็เมียกูไม่ให้บอกจนกว่าพวกเพื่อนเค้าจะรู้อ่ะ สามีที่ดีก็ต้องทำตามที่เมียสั้งซิ” ตอบหน้าระรื่นเลยเจอตบหัวไปอีกคนละที เหอะๆ
“เหรออออ สาสสสสส”
“เออซิครับเพื่อนเวรรรร” หยักคิ้วให้อย่างกวนๆกุมมือีปีแน่นส่วนนางก็หน้าแดงนิดๆ สมกันดีก่อนจะเดินขึ้นรถไปกินอาหารอีสานกันหลังจากโหวตเสียงแล้ว
“เป็นไร” ผมถามขึ้นเห็นเงียบๆตั้งแต่กินข้าวแล้วเหมือนคิดอะไรอยู่ อยู่ด้วยกันมานาก็รู้ว่าอันไหนนิ่ง อันไหนเงียบ
“เปล่า” ตาจ้องไปที่ถนนกำลังจะไปดูหนังแล้วก็ซื้อของกันพรุ่งนี้แม่ฟิกจะมาแล้ว
“โกหก บอกเค้าไม่ให้คิดมากแล้วตัวเองคิดมากซะเอง ไรเนี้ย” ผมเอื้อมมือจับหน้าฟิกให้มาสบตาตอนนี้ติดไฟแดงอยู่
“เปล่าซะหน่อย” บีบแก้มผมแล้วยิ้มให้
“เหรออออ” ลากเสียงถามมองยิ้มๆ
“นิดนึง” ขยี้หัวผมขับรถไปต่อ ผมยิ้มขำก่อนจะโน้มตัวไปหอมแก้มฟิก
“อย่าคิดมากฟิกบอกเกลเองน้า ตัวเองจะมาคิดทำไมเนอะ” บอกฟิกแล้วซบที่ไหล่จับมือมาบีบเล่นฟิกก็ก้มจูบที่หัวผมแค่นี้ก็ยิ้มได้แล้ว
หลังจากดูหนังเสร็จก็หวิดมีตบกันห้างดัง ชะนีเด็กน้อยที่นั่งข้างฟิกดันมาอ่อยตอนแรกก็เฉยๆนะคิดว่าเด็กแต่นี่ตามมาขอเบอร์หลังหนังจบ
พี่ไม่ชอบที่ผู้หญิงเข้าหาก่อน มันดูไม่สมกุลสตรี และที่สำคัญพี่มีเมียแล้วครับ
สะใจมากกกก น้องนีหน้าเหวอไปเลย ผมก็ควงฟิกออกมาเดินควงหน้าบานฝุดๆ
“อันนี้เค้าเลือกกันยังไงอ่ะ” ผมถามขึ้นตาก็จ้องไปที่ผักสดหลายอย่าง อยากกินสลัดแต่เลือกผักไม่เป็น
“ดูอันไหนที่สีสดๆไม่ช้ำ” ฟิกตอบกลับมายืนเลือกเนื้อที่จะทำเสต็กอยู่ข้างๆ มีเนื้อแกะด้วย
“มันก็สีสดทุกอันอ่ะ โว๊ะเลือกยาก” ผมยกกะหล่ำสีม่วงสองอันขึ้นมาเทียบแล้วย่นหน้า
“ฮ่าๆๆ อันทางซ้าย มานี่ดีกว่ามาดูว่าจะอาเนื้ออะไรบ้าง” ผมวางอันทางซ้ายใส่รถเข็นแล้วเดินไปหาฟิก
“เนื้อแกะเอาแล้วใช่มะ อืม หมู ไก่ วัว แล้วพอแล้วแหละ ซื้อของทะเลบ้าง” ฟิกโยกหัวผมแล้วเดินไปโซนของทะเล
“เอากิมจิไปหินกับอะไร” มองกิมจิในมือผมหลายถุง
“เนื้อไง กินแบบห่อเหมือนในหนังที่เราดูอ่ะ” ผมยิ้มให้แล้วก็เลือกซื้อของต่อจนได้ของครบก็พากันกลับเพราะฟิกมีซ้อมละครตอน 5 โมงเย็น แอบเลทด้วยปกติต้อง 4 โมงเย็น
“พี่ไปแล้วนะ กับข้าวมีอยู่ในตู้เย็นแค่เวฟก็กินได้แล้วจำที่สอนได้ใช่มะ ข้าวอยู่ในหม้อ ผลไม้พี่บอกไว้ให้แล้ว อะไรอีกวะ” ตอนนี้มาส่งฟิกที่ด้านข้างคณะเพราะทางนี้ห้องซ้อมจะใกล้กว่า 4 โมงเลยครึ่งนิดๆเร็วกว่าเวลาที่ขอ และฟิกก็สั่งผมแร๊พโย่วเลย
“พอๆๆ เดี๋ยวเกลเปิดดูเองได้ ไปได้แล้วพ่อพระเอกก สายเค้าจะว่าเอา” ผมขัดยิ้มๆ ฟิกหน้ามุ่ยเล็กน้อย
“คร้าบๆ จุ๊บหน่อย เร็ว” ผมส่ายหน้าใครจะกล้าแม้จะมืดนิดๆแล้วก็เถอะ
“น้า เดี๋ยวไม่มีแรงซ้อม” เจออ้อนซะแล้วเรา ผมกัดปากอย่างช่างใจก่อนจะโดนดึงเข้าไปจุ๊บเร็วๆ
“ชื่นใจ ไปแล้วครับว่างแล้วจะโทรหาเสร็จงานแล้วส่งไลน์มาบอกด้วย รักเกล” บอกเสร็จก็เดินจากไปโบกมือให้ส่วนผมก็รีบขึ้นรถแอบอายนิดๆเมื่อกี่เห็นน้องแก้มเดินมาทางนี้ด้วย อ๊ากกกก เสียค่าปิดปากลูกสาวเท่าไร่เนี่ย
เห็นน้า จุ๊บหน่อยยยยย จุ๊บๆๆๆ 55555
ว่าแล้วก็ส่งมาทันที ผมขำกับสติกเกอร์ที่น้องแก้มส่งมาให้
คืนนี้อยากกินอะไร
O.O พิซซ่าอยากกินนานแล้วไอ้มุกไม่ยอมพาไปกินบอกอ้วน
ฮ่าๆๆ ก็อ้วนจริงๆอ่ะ
T^T
โอ๋ๆ เดี๋ยวซื้อให้ 3 เลยเอ้า
เย้ๆ ไปก่อนน้าผู้กำกับจะกินหัวแล้ววววว
“เฮ้อออออ กลับไปเคลียร์งานต่อ จะได้มากันหมาไวๆ เกลสู้ๆ” พูดกับตัวเองหน้ากระส่องหลังรถกำมือให้กำลังใจเอง พอถึงห้องก็รีบหาอะไรยัดท้องตัวเองก้มหน้ากับงานกลุ่มต่อเปิดสไกป์คุยงานกับพวกเพื่อน
กริ่งงงงงงงง กริ่งงงงงงงงง
ผมเงยหน้าจากกองหนังสือและชีทมองหาไอโฟนที่ร้องไม่หยุด
“ฮะ โหลลลลลล ฮ้าววววววว” รับไปก็หาวไป
//เกล// ผมยกไอโฟนมาดูหน้าจอเบอร์แก้มแต่ทำไมเสียงฟิก
//ฮัลโหลเกล ได้ยินพี่ไม๊// เสียงฟิกดังเข้ามาอีก
“อืม ว่า เบอร์แก้มนี่” ผมถามอย่างข้องใจ
//พอดีพาแก้มมาเข้าห้องน้ำเลยเอาโทรศัพท์แก้มมาโทร//
“อืม ว่าแต่มีไร”
//คิดถึงงงงงง//
“เหมือนกัน” พูดแล้วก็หน้าแดง ทำไมไม่ชินสักทีตอนแรกก็ไม่เขินแต่ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งผูกพันธ์มันก็เขินขึ้นมา
//ทำงานเสร็จแล้วเหรอ หลับเนี่ย//
“ฮ้าววว เสร็จของแต่ละคนเหลือเอามารวมกันแล้วก็เช็คความเรียบร้อย” ตอบไปหาวไปบิดขี้เกียจอีกเล็กน้อย
//จะมาป่ะ ไม่ไหวไม่ต้องฝืนนะ//
“ไม่ฝืน เอาของไปเซ่นแก้มอีกเบี้ยวคราวนี้งอนยาวแน่ๆ พี่จะเอาไรปะ”
//ขอน้ำแร่ละกัน รีบๆมานะคิดถึง// ผมยิ้มเขินๆตอบรับในลำคอก่อนจะวางสายโทรไปสั่งพิซซ่าและก็เครื่องเคียงนิดหน่อยกะพอคนที่อยู่ในห้องให้เอามาส่งที่คณะฟิก สั่งเสร็จก็เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเพื่อไปรบเอ้ยไปเฝ้าฟิก
“อื้ม เอาไปด้วยดีกว่า” ผมเปิดตู้เย็นกวาดตามองหยิดผลไม้กับสลัดแล้วก็กับข้าวที่ฝึกทำใส่กล่องไว้เวฟแล้วกินได้เลย ผมจัดการเวฟข้าวให้ฟิกแล้วก็ใส่ถุงแยกต่างหากกับของพี่แฝดไม่งั้นพี่แฝดซัดเรียบ น้องแก้มกับน้องมุกก็พิซซ่า เรียบร้อยออกเดินทางได้
“นี่ครับ ขอบคุณที่มากส่งครับ” ผมส่งเงินให้พนักงานเหลือเศษก็ทิปให้เขาที่อุส่าห์มาส่งดึกๆแบบนี้
“ฮึบ หนักว่ะ” แต่ก็ต้องหอบขึ้นไปข้างหนึ่งกล่องข้าวข้างหนึ่งพิซซ่า กว่าจะเดินมาถึงตัวอาคารไม่ไกลนะแต่ก็ใช้เวลาพอสมควร แล้วก็เดินไปที่ห้องที่อยู่ริมสุด หอบหายใจนิดๆเมื่อถึงหน้าห้องได้ยินเสียงแว่วๆ ผมหลับตาสูดลมหายใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แล้วก็ค่อยๆเปิดเข้าไป เอิ่ม สายตาสิบกว่าคู่จ้องมาที่ผม ที่สำคัญมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วยนี่เซะ อยากกลายเป็นฝุ่นปลิวออกไป
***************************************
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาแล้ววว วันนี้เลี้ยงสายรหัสสส มีเหลือชีวิตทั้งหมด 6 คน รวมพี่บัณฑิต
ไปร้านเต็มมม เหลือฮอทพอทกะอากะ ไอ้เราขอนิสัยเสียโวยวายขอเป็นฮอทพอทันที เข็ดแล้วววกะอากะ ที่สำคัญกินอากะติดกันมา 2 วันแล้ววววว
12-15 4 วันมานี้กินตลอดดดดดดดดดดดดดด ไม่กล้าชั่ง นน.เบยย
แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับ บัณฑิตจบใหม่ทั่วประเทศเลยค่าาาาาาาาาา
เราก็อยากจบม้างอ่ะ
ที่เวิ่นมาไม่เกี่ยวกัยนิยาย แต่อยากเล่าสู่กันฟัง
ปล.
รุ้มะหาอิมเมจที่ตรงกะ ปีและเกลแล้ววว บอกเลย ก่อนแต่งเรื่องนี้ตามเพจของคนๆนี้แบบผิวเผิน ไม่ตามจิกเหมือนทุกวันนี้
คนๆคืออออออออออออออ.........................
'ขุ่นช่า' ที่น่ารักของเราาาาาาา
นี่บอกเลยปลื้มมากกกกกก ตามติดทุกอย่าง เป็นเพื่อนในเฟสด้วยตอนแรกคิดว่าจะไม่รับ รับค่าาา ตอนนั้นเพื่อนคุณช่ายังไม่เต็ม 2000กว่าๆๆ
ตอนแรกไม่ได้คิดนะ พอตอนนี้ มีฟิค ขุ่นข่ากะพี่โฟลค์ แล้วแบบว่ามีมุ้งมิ้งทะเลาะกัน แล้วมันใช่อ่า ฮ่าๆๆๆๆ
#นี่บอกเลยไม่สวยแต่แต่งนิยายให้แซ่บได้ #โพสที่คุณช่าโพสนินทาพี่โฟลค์ลับหลังและลบไปแล้ว #นี่แคบได้จร้าาา #แรร์ไอเท็ม
ปล.1 เราไม่ได้เอาขุ่นช่ามาเป็นแบบนะ แค่คล้ายยยยยยย ไม่ใช่อะไรยังมิได้บอกขุ่นช่าว่านิยายที่แต่งนายเอกและผองเพื่อนคือเดจาวูขุ่นช่าาาา
ปล.สุดท้าย ตามคอนเซ็ป นิยายใสๆ 'ไร้สาระ' เน้น 'เอา' อย่างเดียว นายเอกไม่โง่และซื่อบื่อจ๊ะ
#นี่บอกเลยโลกไม่ได้สวยยยยย