Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17  (อ่าน 176954 ครั้ง)

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #390 เมื่อ26-10-2013 17:29:43 »

แม่เป็นสาววาย...
อยากกอดคุณแม่แรงๆ เข้าใจลูกดีมั่กๆ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #391 เมื่อ26-10-2013 20:24:30 »

คไม่คิอว่าพี่วินจะสารภาพเร็วแบบนี้ และไม่คิดว่าคุณแม่จะเข้าใจเร็วขนาดนี้ แฮปปี้

zeaza

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #392 เมื่อ26-10-2013 21:04:12 »

คุณแม่น่ารักมากกกกก  ดีใจแทนก้องมากๆเลยที่มีแม่ที่พร้อมจะเข้าใจลูกขนาดนี้

ออฟไลน์ redtiger23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #393 เมื่อ26-10-2013 23:21:34 »

คุณแม่เป็นสาววายซินะ :katai2-1:
แล้วก็คุณแม่ยอมรับและเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมาก Orz..

ออฟไลน์ karatop

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #394 เมื่อ27-10-2013 02:57:50 »

5555 ง่ายมากๆๆ คุณแม่เริศจริงอะไรจริง น่ารัก^^"

gboykung

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #395 เมื่อ27-10-2013 03:33:34 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #396 เมื่อ27-10-2013 03:41:02 »

คุณแม่แอบเป็นสาววายป่ะเนี่ย

แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าก้องจะเขินพี่วินน่ะเนี่ย

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #397 เมื่อ27-10-2013 05:26:15 »

จงพุ่งเข้าโพรงเสียเถิดกระรอกน้อยก้อง อย่าได้เขิน
คุณแม่ท่านถือป้ายไฟชี้ทางเข้าไว้ให้เสร็จสรรพ
พี่วินงานนี้ "มะ"มาก "ใจ"มากค่ะ ...ศัพท์แสงแก่ไปมั้ย อิอิ

ออฟไลน์ josephine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #398 เมื่อ27-10-2013 07:08:52 »

พี่วินไม่เผื่อใจเลย   บอกซะตรง  รีบขอเลย   
โชคดีที่มีแม่เข้าใจ   

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #399 เมื่อ27-10-2013 22:57:53 »

คุณแม่เปรี้ยวค่ะ
จริงๆแอบวายใช่มั้ยล่ะ 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
« ตอบ #399 เมื่อ: 27-10-2013 22:57:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #400 เมื่อ28-10-2013 09:36:05 »

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #401 เมื่อ28-10-2013 15:20:25 »

ชอบเรื่องนี้ค่ะ ชอบพี่วิน
น่าเสียดายที่เป็นเรื่องสั้น เหตุการณ์ต่างๆถึงได้ดูรวบรัด แต่คุณต้นก้อยังคงแต่งเรื่องนี้ได้ครบทุกรส
อยากให้มีตอนหวานๆอีกซักหน่อยค่ะ เพื่อความฟินของคนอ่าน 5555

เป็นกำลังใจให้คุณต้นนะคะ เรื่องหน้าขอเป็นเรื่องยาว หวานๆเยอะๆ นะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #402 เมื่อ29-10-2013 13:48:58 »

คุณแม่แอบเป็นสาววายรึเปล่า

ออฟไลน์ tay028643904

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #403 เมื่อ29-10-2013 21:00:43 »

น่ารักจัง ติตามน้าาาาาา ♥

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
«ตอบ #404 เมื่อ29-10-2013 21:59:40 »

คุณแม่ก้องเป็นสาววาย   o13   :mc4:  :mc4:  :mc4:
พี่วินทางสะดวกละ   ก็เหลือแต่ก้องละ ว่าจะเอายังไง   :o8:
เป็นกำลังใจให้น้องก้องพี่วินนะครับ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #405 เมื่อ29-10-2013 22:11:44 »

ตอนที่ 14


เมื่อผมไปเรียน ผมก็ตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนแทบทุกคนที่เดินผ่าน ผมว่าผมเองก็แทบไม่มีแผลหรือรอยฟกช้ำอะไรเหลือให้เห็นแล้วนะ นอกจากหัวที่ยังคงต้องพันผ้าพันแผลเอาไว้เท่านั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกแม่งจะมองอะไรกันนัก บางทีข่าวลือเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมคงจะแพร่ออกไปจนทั่วแล้วล่ะมั้ง ซึ่งก็คงไม่แปลก แต่สิ่งที่ผมคิดว่าแปลกคือดูเหมือนจะยังไม่มีใครรู้เรื่องที่พี่วินกำลังจะลาออกเลย เพราะผมไม่เห็นใครถามผมหรือพูดถึงเรื่องนี้เลยสักคน

เพื่อนๆ ของผมต่างก็แสดงความยินดีที่ผมออกจากโรงพยาบาลและสามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ เว้นก็แต่เพียงคนเดียวในห้อง ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงส่งสายตาเกลียดชังมาให้ผมตลอดเวลา... ไอ้ข้าว

แต่ผมก็ไม่สนใจแม่งหรอก แม่งคงได้แต่เคียดแค้นผมแต่ไม่มีปัญญาทำอะไรมากกว่า ก็พวกมันเพิ่งโดนผมอัดไปซะหมอบมาหยกๆ ถ้าหากแม่งยังจะโง่บ้ากล้ามาหาเรื่องผมอีก ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ทุกอย่างในช่วงเช้าผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาอะไร นอกจากตอนกลางวันที่ผมเจอพวกไอ้วีในโรงอาหารและพวกมันก็มองหน้าผมกวนๆ ท่าทางเหมือนจะอยากหาเรื่องแต่ก็ไม่กล้า จนหลังจากที่คาบสองในช่วงบ่ายจบลง ผมก็เดินไปห้องพยาบาลเพื่อขอยาแก้ปวดเพราะลืมเอายามาจากที่บ้าน และในขณะที่ผมกำลังเดินกลับห้องเรียนอยู่นั้น จู่ๆ ผมก็ถูกใครบางคนดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำ

“เฮ้ยย! ไรวะ!!” ผมสะบัดแขนออก จากนั้นก็หันไปเผชิญหน้ากับคนๆ นั้น

ไอ้วี ไอ้ข้าว และเพื่อนๆ ของมันอีกสามคนกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ ท่าทางพร้อมหาเรื่องเต็มที่

“เรื่องของมึงกับพวกกูยังไม่จบนะ ไอ้สัตว์” ไอ้วีพูดพลางจ้องหน้าผมเขม็ง

“อ๋อเหรอวะ”ผมยิ้มเยาะ “ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดงั้นสิ พวกมึงนี่มันโง่จริงๆ น้าา”

คำพูดยั่วยุของผมได้ผล เพราะสีหน้าของพวกมันเปลี่ยนไปทันที

“ครั้วที่แล้วมึงเล่นกูทีเผลอ อย่าทำได้ใจนักนะเว้ย!!”

“มึงต่างหากที่เพิ่งโดนรุมกระทืบมาซะน่วมน่ะ”

“อ๋อเหรอวะ” ผมกลอกตา “ก็แล้วมึงจะเอายังไงกับกู ไอ้วี” ผมถามกลับไป “กูต้องทำยังไง พวกมึงถึงจะยอมเข้าใจว่ามึงไม่มีปัญญาทำเหี้ยอะไรกูได้นอกจากเล่นทีเผลอ หรือใช้แผนสกปรกๆ แล้วก็เลิกยุ่งกับกูสักที”

“หึ มึงนี่มันปากดีจริงๆ นะ ไอ้บ้านนอก ถ้ามึงแน่จริง เย็นนี้ขึ้นไปเจอพวกกูบนดาดฟ้า แล้วมาวัดกันให้รู้เรื่องเลย ไม่งั้นเรื่องที่ไอ้อาจารย์อัคมันเป็นคนไปช่วยมึงและต้องทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ไปถึงหู ผอ. และมันจะโดนไล่ออกแน่”

ผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา นี่ตกลงพวกแม่งโง่กว่าที่ผมคิดอีกใช่มั้ยเนี่ย แถมสิ่งที่แม่งเสนอมาก็ยังเข้าทางผมเลยอีกต่างหาก

“ขำเหี้ยอะไรของมึง” เด็กคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น “พวกกูรู้นะว่ามึงสองคนสนิทกันน่ะ ถ้ามึงไม่อยากให้อาจารย์ที่มึงรักนักหนาต้องพลอยซวยไปด้วยก็อย่ากวนตีนให้มากนัก ไอ้สัตว์!”

“กูจะขำเหี้ยอะไรได้นอกจากขำพวกมึงนั่นแหละ” ผมยิ้มเหยียดๆ “กูว่าพวกมึงมาหาเรื่องกูตอนนี้ก็เพราะคิดจะฉวยโอกาสตอนที่กูยังบาดเจ็บอยู่มากกว่าล่ะมั้ง ไม่ได้เกี่ยวกับอาจารย์อัคหรือเหี้ยอะไรหรอก มึงไม่ต้องมาแถ”

พวกมันมองหน้าผมอึ้งๆ นิดหน่อย คงแปลกใจที่ผมรู้ทันมั้ง ไอ้พวกง่าวเอ๊ยยย

“ไม่ต้องรอถึงตอนเย็นหรอก ขึ้นไปบนดาดฟ้าตอนนี้เลยดีกว่า กูจะได้สอนให้พวกมึงรู้จริงๆ สักทีว่าอย่าโง่มาหาเรื่องกับกูอีก น้ำหน้าอย่างพวกมึงอะไม่เสียเวลามากหรอก ไม่เกิน 15 นาทีก็จบแล้ว” ผมยักคิ้วให้พวกมัน

“ปากดีนักนะมึง!!” หนึ่งในนั้นทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ผม แต่ถูกไอ้ข้าวกันเอาไว้ได้เสียก่อน

ในตอนนั้นเองที่นักเรียนคนอื่นเดินเข้ามาในห้องน้ำ มันดูตกใจนิดหน่อยที่เห็นพวกเรายืนกันอยู่แบบนั้น ผมจึงฉวยโอกาสนี้เดินออกจากห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปพูดทิ้งท้ายเอาไว้

“กูจะไปรอมึงก่อนก็แล้วกัน ถ้ามึงไม่ได้ดีแต่ปาก หน้าตัวเมีย ไม่กล้าจริงอย่างที่กูคิดล่ะก็ เดี๋ยวเจอกันว่ะ”

ผมขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดและใช้บันไดหนีไฟเดินต่อขึ้นไปบนดาดฟ้า ผมยืนรออยู่ไม่ถึงห้านาที พวกไอ้วีทั้งหมดห้าคนก็ตามขึ้นมา ผมมองหน้าพวกมันแล้วก็นึกขำในใจ ถึงจะรู้สึกผิดต่อแม่อยู่บ้าง แต่ผมสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ เพราะถ้าผมไม่สั่งสอนพวกแม่งให้เด็ดขาด พวกมันก็คงจะยังตามราวีไม่เลิกตอแยผมสักที และที่สำคัญ น้ำหน้าอย่างพวกมันไม่มีปัญญาทำอะไรผมได้อยู่แล้ว

“ใครจะเริ่มก่อน มาเลย ไม่ต้องเสียเวลา” ผมเดินเข้าไปหาพวกมันพร้อมกับถอดเสื้อนักเรียนออก เพราะผมไม่อยากให้มีหลักฐานอะไรหลงเหลือบนเสื้อนักเรียน และต้องมาตอบคำถามใครหรือมีปัญหาทีหลังเท่านั้นเอง “จะมีคนจับเวลามั้ยว่าไม่เกิน 15 นาทีจริงๆ ไม่มีเหรอวะ เสียดายจัง”

“ปากดีนักนะ ไอ้สัตว์! แดกตีนกูก่อนเลยเหอะมึง!!” ไอ้วีเป็นคนแรกที่กระโจนเข้าใส่ผม

“งั้นกูจับเอง...” ผมดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็เบี่ยงตัวหลบหมัดของไอ้วี

หลังจากที่ผมปล่อยหมัดสวนใส่เข้าท้องของไอ้วีเต็มรักจนมันล้มลงไปกองบนพื้น คนอื่นๆ ที่เหลือก็พุ่งเข้ามาหาผมแทบจะพร้อมๆ กัน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมเองยังแปลกใจที่ลึกๆ แล้วผมกลับรู้สึกสนุกกับการชกต่อยครั้งนี้กว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก มันไม่เหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ในโรงอาหารที่ผมโมโหจนหน้ามืดและจำอะไรแทบไม่ได้เลย และไม่เหมือนเมื่อคืนก่อนที่ผมได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอบโต้อะไรไม่ได้เลยด้วย

เมื่อทุกอย่างจบลง ผมก็หยิบเสื้อนักเรียนขึ้นจากพื้น จากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ตรงที่ที่ไอ้วีนั่งพิงผนังตึกอยู่ ผมรู้สึกเจ็บหัวเข่าเล็กน้อย แต่จะแสดงออกไปให้มันเห็นไม่ได้เด็ดขาด

“12 นาที เร็วกว่าที่กูบอกไว้อีก เห็นปะล่ะ” ผมพูดหลังจากที่ดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็นั่งยองๆ ลงตรงหน้าของมัน “มึงควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ ไอ้วี ว่าพวกมึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก ไอ้โง่เอ๊ยยย”

ไอ้วีมองหน้าผมด้วยแววตาหวั่นๆ มุมปากของมันมีเลือดไหลซิบๆ และเบ้าตาของมันก็เริ่มมีรอยช้ำเห็นชัดขึ้นเล็กน้อย ผลของการที่มันไม่รู้จักยอมแพ้และแกล้งตายตั้งแต่หมัดแรกแท้ๆ

“กูจะเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ ไอ้สัตว์ มึงจะเกลียดกู กูก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้ามึงไม่อยากเจ็บหนักกว่านี้ก็อย่ามายุ่งกับกูอีก เพราะผลลัพธ์มันก็จะยังคงเหมือนวันนี้หรือเมื่อครั้งก่อนนั่นแหละว่ะ” ผมจบประโยคด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “กูเตือนพวกมึงแล้วนะ ครั้งหน้ากูไม่ยั้งมือแบบนี้แน่”

ผมเดินตรงไปที่ประตูเพื่อจะกลับไปยังห้องเรียน แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกจากดาดฟ้า ผมก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้อีก

“อ้อ อีกอย่าง” ผมหันกลับไปหาพวกมัน “เรื่องอาจารย์อัคน่ะ มึงเลิกคิดเหอะ เพราะอย่างพวกมึงทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก คนอย่างเค้าไม่มีทางโดนไล่ออกเพราะเรื่องสิวๆ แบบนี้หรอกว่ะ ถ้าจะออกคือเค้าลาออกด้วยตัวเองเท่านั้นแหละ รู้ไว้ด้วย”

ผมหันกลับและเอื้อมมือออกไปจีบลูกบิดประตู ในขณะที่ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ามึงรู้เรื่องของอาจารย์อัคเค้าดีนักวะ! มึงมันก็แค่เด็กใหม่ มึงรู้เหรอว่าที่ผ่านมาแม่งมีปัญหากับเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองมาตั้งกี่ครั้งแล้ว!” ไอ้ข้าวเป็นคนพูดขึ้น

“กูรู้มากกว่าที่พวกมึงคิดเยอะว่ะ” ผมหัวเราะเบาๆ “เพราะเค้าคืออาจารย์ที่กูเคารพ และยังเป็นพี่ชายของกูอีกด้วย เพราะงั้นถ้ามึงไม่อยากมีปัญหากับกูมากไปกว่านี้ ก็เชื่อที่กูบอกว่าให้เลิกคิดที่จะวุ่นวายกับกูและอาจารย์อัคซะ”

ผมเดินออกจากดาดฟ้าพร้อมกับปิดประตูตามหลังลง ในขณะที่ติดกระดุมเสื้อนักเรียนอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงกระแอมดังขึ้นเบาๆ ผมจึงรีบหันไปมองยังซ้ายมือของตัวเองทันที

“พี่วิน! ทำไมชอบโผล่มาแบบนี้นักวะ ตกใจนะเว้ย!!”

“เมื่อกี้คุณไปทำอะไรที่ดาดฟ้ามา ศุภวิชญ์”

สรรพนามและน้ำเสียงที่เขาใช้กับผม ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเรากำลังอยู่ในบทบาทของครูกับนักเรียน ไม่เหมือนตอนที่เราอยู่บ้าน

“ไม่มีอะไรครับ อาจารย์”

“แน่ใจเหรอ” เขาถามย้ำพลางเดินตรงไปที่ประตู

ผมรีบเขยิบตัวเข้าไปขวางเขาเอาไว้ทันที “อาจารย์จะออกไปดาดฟ้าทำไม”

“แล้วทำไมผมจะออกไปไม่ได้”

“คือ... ผม...”

“แล้วทำไมชุดนักเรียนอยู่ในสภาพนี้ เมื่อกี้คุณทำอะไรอยู่ข้างนอก” เขาจับชายเสื้อของผม “หรือว่าเพิ่งจะมีอะไรกับคนอื่นเสร็จ”

“เฮ้ยย!! จะบ้าเรอะ!!” ผมสะบัดตัวหลบ

“งั้นไปทำอะไร บอกมา”

ผมพยายามนึกหาคำพูด แต่ก็นึกไม่ออก และในตอนที่ผมกำลังจะยอมสารภาพอยู่แล้วนั้น จู่ๆ เขาก็ยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไปเหอะ ปล่อยพวกมันไป ไหนๆ พี่ก็จะลาออกอยู่แล้ว” เขาพูดพลางโอบบ่าผม

“อ้าว! ตกลงว่า...”

“พี่ยืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว พอดีเห็นไอ้เจ้าพวกนั้นมันเดินขึ้นลิฟต์มา ก็เลยตามมาเงียบๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ”

“แล้วพี่ไม่โกรธผมเหรอ”

“ไม่ ตอนนี้เฉยๆ แล้ว ก็คงจริงนั่นแหละ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ไม่แสดงให้มันเห็นกันไปเลยว่าใครเหนือกว่าใคร มันก็คงคิดว่ามันเป็นที่หนึ่ง และไม่เลิกตอแยสักที อีกอย่าง...” เขาหันมามองหน้าผม “ขอบใจมากที่ช่วยพูดปกป้องพี่”

ผมยักไหล่เบาๆ “ก็แค่พูดอย่างที่ใจคิดแค่นั้นแหละ”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะตบบ่าผม “รีบกลับไปห้องเรียนได้แล้วไป ยอมให้หนนี้หนเดียวนะ ถ้าครั้งหน้าจับได้ว่ามีเรื่องวิวาทในโรงเรียนอีกล่ะก็ ไม่ใจดีแล้วนะเว้ย”

“ครับผม!!” ผมรับคำ จากนั้นก็เริ่มออกวิ่งตรงไปยังบันไดหลัก ผมหยุดฝีเท้าลงแล้วหันมาหาเขาอีกครั้ง “ขอบคุณนะคร้าบ อาจารย์อัค!”

เขามองหน้าผมแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะโบกมือไล่ให้ผมรีบไปเรียน ผมจึงรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดตรงกลับไปยังห้องของตัวเอง
ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ผมถึงได้รู้สึกดีและสดชื่นขนาดนี้ ไม่รู้เป็นเพราะเพิ่งได้ต่อยคนมาหมาดๆ หรือเพราะพี่วินกันแน่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2015 01:00:19 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #406 เมื่อ29-10-2013 22:18:10 »

ตอนที่ 15


กว่าที่ข่าวลือเรื่องที่พี่วินลาออกจากโรงเรียนจะเริ่มแพร่สะพัดในหมู่นักเรียนก็อีกหลายวันให้หลัง บางคนก็คิดว่าเขาโดนไล่ออก แต่บางคนก็พูดว่าเขาลาออกเอง ส่วนเหตุผลก็มีมากมายต่างๆ นานา โดยคนที่รู้ความจริงก็คงมีแค่ผมเพียงคนเดียวว่าเขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม นอกจากนั้นผมกับเขายังเคยคุยกันอีกด้วยว่าเขากำลังจะเรียนต่อปริญญาโท นี่จึงนับว่าเป็นโอกาสดีแล้ว ที่เขาจะได้มีเวลาทุ่มเทให้กับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่

“นอกจากนั้นพี่ก็จะได้มีเวลาดูแลเรามากขึ้นด้วย”

นั่นคือสิ่งที่เขาเคยพูดกับผม แค่นึกถึงมันขึ้นมาทีไร ผมก็รู้สึกเขินทุกทีว่ะ ทำไมเขาถึงได้พูดเรื่องอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ ทุกที   

ผมว่าผมรู้แน่แล้วล่ะว่าผมรู้สึกกับเขายังไง ความเทิดทูนที่มีต่อเขาเมื่อครั้งยังเด็ก ค่อยๆ พัฒนาและงอกเงยขึ้นกลายเป็นความหลงใหลโดยที่ผมไม่รู้ตัว และเมื่อได้พบกันอีกครั้ง การที่ผมโตขึ้น บวกกับความใกล้ชิดที่เรามี ก็เป็นเหมือนปุ๋ยที่ช่วยเร่งความรู้สึกดีๆ ที่หลับไหลอยู่ส่วนลึกของใจให้เติบโตขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นความรักและความอบอุ่นแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

แต่ผมเป็นคนแสดงออกไม่เก่งเนี่ยดิ หรือถ้าพูดจริงๆ คือผมคงไม่อยากแสดงออกเองมากกว่า... ก็ผมไม่รู้ต้องทำตัวยังไงนี่หว่า และผมก็ยังไม่ค่อยอยากให้สิ่งที่เรามีในตอนนี้มันเปลี่ยนไปด้วย ผมเลยยังคงตีเนียน เฉยๆ ไว้ก่อน ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาจะรู้รึเปล่าว่าผมคิดกับเขายังไง เพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนกำลังจะจบเทอมสองนี่ ผมก็ยังไม่เคยให้คำตอบหรือคุยเรื่องพวกนั้นกับเขาอีกเลย ส่วนเรื่องพวกไอ้วีและไอ้เด็กโรงเรียนอื่นที่เคยมีเรื่องกับผมก็จบลงไปด้วยดี

เอ่ออ จะเรียกว่าแบบนั้นได้รึเปล่าวะ

คือพวกไอ้วีมันก็ยังเขม่นๆ ผมอยู่แหละ แต่มันแค่ไม่มาวุ่นวายอะไรกับผมอีกแล้ว ถึงแม้ตอนที่ข่าวเรื่องการลาออกของพี่วินจะแพร่ไปทั้งระดับชั้น พวกมันจะพูดจาเยาะเย้ยทำและตัวกวนส้นตีนผมอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่อยากสนใจว่ะ หมาแม่งจะเห่าก็อย่าไปห้ามมัน ใช่มั้ยล่ะ เพราะนอกจากนั้นแล้วพวกมันจะทำอะไรผมได้อีก ส่วนเรื่องของไอ้พวกเด็กโรงเรียนแสบแคม (ส.ค.) ที่เคยมีคดีกับผมก็ทำเอาผมวุ่นๆ ไปพักหนึ่ง แต่ก็อย่างที่ลุงของพี่วินบอกว่าเขาจัดการให้ได้ ผมแค่สงสัยว่าการที่ทำให้เรื่องเงียบได้เร็วขนาดนี้ มันคงไม่ใช่แค่เพราะทนายหรือฝ่ายกฎหมายเก่งอย่างเดียวแล้วซะล่ะมั้ง แต่คิดไปก็คงไม่ได้อะไร เพราะถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจอยู่ดี สำหรับผม ขอแค่พวกแม่งไม่มาวุ่นวายกับผม และเด็กโรงเรียนมันไม่มาหาเรื่องเด็กโรงเรียนผมอีกเป็นพอ เพราะถ้าเกิดพวกแม่งมามีปัญหากับเด็กของเราหรือเพื่อนคนใดคนหนึ่งของผมอีกล่ะก็ ผมคงต้องออกลุยเป็นแนวหน้าโดยไม่ต้องมีคนขอแหงๆ

อีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดคือเหล่าเพื่อนใหม่ของผมที่คราวนี้ผมสามารถเรียกว่า ‘เพื่อน’ ได้อย่างเต็มปาก ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ในที่สุดผมก็มีคนที่รักและเป็นห่วงผมจริงๆ อย่างพวกไอ้บอมและคนอื่นๆ แม้พวกมันจะพอรู้แล้วว่าที่ผ่านมาผมเคยเป็นยังไง แต่พวกมันก็ยอมรับผมได้ และปฏิบัติกับผมเหมือนเมื่อวันแรกที่เรารู้จักกันไม่เปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องความบาดหมางระหว่างผมกับพวกไอ้วีก็ได้แพร่ออกไปมากขึ้น รวมทั้งเรื่องที่ผมอัดพวกมันไปถึงสองครั้งก็ด้วยเช่นกัน... คือผมก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกไปหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นบนดาดฟ้านั่น และพวกไอ้วีเองก็คงไม่ได้บอกใครด้วย ฉะนั้นเด็กทุกคนมันจึงแค่คิดและลือกันไปเองมากกว่า ซึ่งข่าวลือเหล่านั้นก็ทำให้ผมตกเป็นเป้าหมายใหม่ของไอ้พวกตัวแสบทั้งหลายของโรงเรียนไปโดยปริยาย แต่ผมไม่คิดจะกลับไปเป็นแบบเดิมๆ อีกแล้วแน่นอน

“ความรุนแรงมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาระยะยาวหรอก” พี่วินพูดกับผม หลังจากผมเล่าให้เขาฟังว่า ผมเพิ่งโดนเด็กกลุ่มหนึ่งพูดจายั่วโมโหและหาเรื่องตอนก่อนกลับบ้าน

“แล้วผมควรทำไง”

“ทำเฉยๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็เบื่อไปเองนั่นแหละ” เขาตอบพลางใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นที่อยู่ในชามของตัวเองมาให้ผม “ของแบบนี้มันอยู่ที่ว่าใครความอดทนสูงกว่าถึงจะชนะ”

ผมคีบลูกชิ้นเข้าปาก ก่อนที่จะคีบถั่วงอกที่ผมไม่ชอบกินไปให้เขา “จริงๆ ก็เกือบน็อตหลุดไปหลายรอบแล้วล่ะ แต่ก็พยายามคิดซะว่าหมามันเห่าว่ะพี่ แถมดูๆ แล้วถ้าผมเอาจริง ยังไงผมก็ต่อยพวกแม่งคว่ำได้ทุกคนนั่นแหละ”

“เก่งจริงเว้ย” เขาหัวเราะเบาๆ

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ว่าแต่พี่เหอะ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังเป็นข่าวเรื่องลาออกไปแทบทั้งโรงเรียน แต่ยังจะชวนผมมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวแถวโรงเรียนแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นมันจะเอาไปพูดหรือไง” ผมพูดทั้งที่ยังคงเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆ จากนั้นก็ชี้ตะเกียบไปที่เขา “รู้ไรปะ จริงๆ เพื่อนผมบางคนมันก็มาถามแล้วด้วยซ้ำว่าผมกับพี่สนิทกันเหรอ บางคนแม่งแซวแล้วด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกันรึเปล่าน่ะ”

“แล้วตอบไปว่ายังไง”

“ไม่ได้ตอบว่ะ ขี้เกียจตอบ”

“ไม่แคร์เลยรึไง”

“เฉยๆ อะ” ผมยักไหล่

“ก็นั่นสิ จะไปใส่ใจทำไมกับเรื่องจริง”

“อึกก!!” คำพูดของผมทำเอาผมสำลักลูกชิ้น “แค่กกก!! แอ่กกก!! ค่ออ..ก...ก!!”

“เอ้าๆ อะไรของเราวะ ไอ้ก้อง” เขายื่นแก้วน้ำให้ผม

ผมรับมันมาแล้วรีบดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว “อึกก! ฮ่าาา..ห์!!”

“อะไรวะ จู่ๆ ก็สำลัก”

“ก็พี่นั่นแหละ! ที่บอกว่าเรื่องจริงนั่นมันอะไร!”

“ก็เรื่องที่เราสนิทกันไง” เขายิ้มมุมปากน้อยๆ “คิดอะไรอยู่ล่ะ”

“เออะ... อ่ออ... ก็เปล่านี่ แค่คิดว่าพี่พูดไม่เคลียร์เฉยๆ” ผมดื่มน้ำที่เหลืออยู่ในแก้วจนหมด

หลังจากนั้นเราก็กินก๋วยเตี๋ยวต่อจนเสร็จ แต่ก่อนหน้านั้นก็มีนักเรียนบางคนเข้ามาในร้านและยกมือไหว้พี่วินอยู่ 2-3 ครั้ง ซึ่งบางคนผมก็พอคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง

“อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว อย่าลืมขยันให้มันมากๆ ล่ะ” เขาบอกผมหลังจากที่เราจ่ายเงินค่าอาหารแล้ว

“รู้แล้วล่ะน่าาา ไม่ต้องย้ำมากได้มั้ยเนี่ย เห็นแบบนี้แต่ก็เครียดนะเว้ยยย”

“พูดให้มันดีๆ” เขาเขกหัวผมดังโป๊ก

“โอ๊ยยย!! ขอโทษครับ!” ผมยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง “เขกหัวบ่อยๆ เนี่ย ไม่กลัวสมองผมเสื่อมรึไง”

“มันจะเสื่อมไปกว่านี้ได้อีกเรอะ”

“โห แรงงง”

“ส่งงานวิชาอื่นครบแล้วใช่มั้ย”

“ครบแล้วๆ”

เขาเหลือบมองหน้าผม

“ครบแล้วครับ” ผมรีบแก้คำพูด

“ดี เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยนะ เพราะข้อสอบพี่ไม่ง่ายนะเว้ย และพี่ก็จะไม่เอาข้อสอบมาบอกเราก่อนเด็ดขาดด้วย”

“โหหห จะดูถูกกันเกินไปแล้ว คนอย่างไอ้ก้อง จะตกก็ตกเว้ย แต่ไม่โกงเด็ดขาด!”

“ปากดีนัก แน่ใจเหรอที่พูดมาน่ะ” เขาหรี่ตา

“เอออ... โอเคๆ ไอ้ลอกข้อสอบเล็กๆ น้อยๆ มันก็พอมีบ้างเป็นสีสัน แต่ไอ้รู้ข้อสอบก่อนคนอื่นอยู่คนเดียวเนี่ย ไม่มีแน่นอนเว้ย ไม่คิดจะทำด้วย”

“พูดง่ายๆ คือถ้าจะตกก็ขอตกกับเพื่อน ถ้าจะผ่านก็ขอให้ผ่านเพราะลอกเพื่อน ว่างั้นเถอะ”

“ถูกต้อง!”

“ทุเรศจริงๆ” เขาเขกหัวผมอีกรอบ

“โอ๊ย!!”

“ไป กลับบ้าน จะไปติวให้”

ผมหันขวับไปหาเขาทันที “ติวอะไร”

“ก็ติวหนังสือที่จะสอบน่ะสิ พี่จะติวเลขกับเคมีให้ทุกวันจนกว่าจะสอบ แม่เราเค้าฝากฝังพี่เอาไว้แล้ว”

“เฮ้ยยย ไปคุยกับแม่ผมตอนไหน”

“ก็คุยออกบ่อยไป จะมาทำโวยวายอะไรตอนนี้”

“พี่วินน!!”

“ทำไม เรียกชื่อบ่อยๆ นี่กลัวลืมรึไง” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “รู้ว่ารักและคิดถึง แต่ไม่ต้องแสดงออกขนาดนั้นก็ได้”

พอได้ยินแค่นั้นแหละ ผมก็เขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด ทำไมผมถึงไม่สามารถหาคำพูดอะไรมาเถียงเขาชนะได้เลยสักครั้งวะเนี่ย!

หลังจากกลับถึงคอนโด เราต่างก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องของตัวเอง ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะเขาบอกว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจะลงมาที่ห้องของผมเพื่อดูว่าผมอ่านหนังสือจริงรึเปล่า และอีกราวๆ 40 นาทีถัดมา เสียงเคาะประตูห้องของผมก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงไขกุญแจ ผมไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เขาด้วยซ้ำ เพราะเขามีกุญแจห้องของผมมาตั้งนานแล้ว ซึ่งปกติเขาก็จะทำแบบนี้แหละ เคาะห้องก่อน แล้วค่อยไขกุญแจเข้ามา ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมนี่แหละที่เป็นคนบอกให้เขาทำแบบนี้ เนื่องจากว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่จู่ๆ เขาก็เปิดประตูห้องเข้ามาเลย แต่ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเดินแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำพอดี ทำเอาผมโวยวายยกใหญ่และยื่นคำขาดว่า ถ้าหากเขาอยากจะมีกุญแจห้องของผมเก็บเอาไว้ ก็ต้องเคาะประตูเตือนผมก่อนจะเปิดเข้ามาด้วยทุกครั้ง

พี่วินใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น แต่หิ้วแฟ้มงานกับหนังสือเรียนมาด้วยปึกใหญ่ ผมเห็นเขาในสภาพแบบนี้จนชินตาแล้ว เพราะหลังจากที่เขาได้ไฟเขียวจากแม่ของผม เขาก็มักจะหอบงานมานั่งทำในห้องของผมอยู่บ่อยๆ เพื่อถือโอกาสในการคุมให้ผมทำการบ้านและอ่านหนังสือเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะต้องมานั่งพื้น ใช้โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ กับผม แทนที่จะได้นั่งทำบนโต๊ะดีๆ เขาก็ยอม

ในระหว่างที่เราต่างก็นั่งทำงานของตัวเองกันอยู่เงียบๆ นั้น ผมก็เกิดเบื่อขึ้นมา เลยเหยียดตัวออกบิดขี้เกียจ จากนั้นก็นั่งมองหน้าของเขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจงานของนักเรียนอยู่ ยิ่งดูผมก็ยิ่งคิดว่าเขาน่ารักจริงๆ ว่ะ หน้าขาว ใส ยังกับเด็กอายุไม่เกิน 20 แต่นิสัยแม่งดันโหดต่างกับใบหน้าลิบลับ

เขาเหลือบขึ้นมาสบตาผม “มองอะไร”

“เปล๊า” ผมแสร้งทำบิดคอไปมา “เออ พี่วิน ถามไรหน่อยดิ”

“ว่ามา”

“ก่อนนี้พี่เคยบอกว่าพี่จำผมได้จากประโยคนึงที่ผมพูดไปเมื่อตอนเราเจอกันคืนแรกน่ะ สรุปว่ามันคือประโยคไหน ผมพูดอะไรออกไปเลยทำให้พี่มั่นใจว่าผมคือไอ้ก้อง เด็กน้อยน่ารักคนนั้นของพี่”

เขาวางปากกาลงพร้อมกับหัวเราะชอบใจ “ประโยคหลังแม่งทุเรศว่ะ”

“ทุเรศตรงไหน หรือพี่จะปฏิเสธว่าตอนนั้นผมไม่น่ารัก”

“น่ารักก็น่ารัก ก็ถึงได้รักจนถึงทุกวันนี้ไง”

เอาแล้วไง ไปๆ มาๆ กลายเป็นผมเองซะงั้นที่ต้องเป็นฝ่ายเขิน “พอ! สรุปบอกมาได้รึยังว่าอะไรที่ทำให้พี่จำผมได้”

“ก็ประโยคที่ก้องบอกว่า ‘ลูกผู้ชายต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า’ นั่นแหละ มันคือสิ่งที่พี่เคยสอนเราเมื่อสมัยเด็กๆ หลายต่อหลายครั้ง... แต่ที่จริงมันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างที่พี่ใช้ เพื่อไม่ให้ก้องคิดว่าความรุนแรงคือคำตอบของทุกอย่าง หรือจำสิ่งไม่ดีๆ เกี่ยวกับพี่ไปเพียงอย่างเดียวก็ได้ล่ะมั้ง เพราะพี่เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนดีขนาดนั้นหรอก”

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะพี่”

“ก็ไม่ทำไมหรอก สมัยก่อนพี่มันก็นักเลงจริงๆ ไม่ได้คิดจะมาสร้างข้อแก้ตัวอะไรเอาป่านนี้”

“ตอนนี้ก็ยังนักเลงเหอะ...” ผมพูดเบาๆ

“อะไรนะ”

“ป๊าววว ไม่มีอะไรเลยย” ผมโบกมือปฏิเสธ “ว่าแต่หลังจากนี้พี่จะทำยังไงต่อไป”

“เรื่องอะไร” เขาก้มหน้าลงไปตรวจงานต่อ

“ก็เรื่อง...” ผมชะงัก นึกไม่ออกว่าควรจะพูดยังไงดีแฮะ “เออๆ ช่างมันเหอะพี่”

“ถ้าหมายถึงเรื่องงานพี่น่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก อีกเดี๋ยวพี่ก็ไปเรียนต่อแล้ว แต่ถ้าหมายถึงเรื่องของเราล่ะก็ พี่รอจนกว่าก้องจะพร้อมได้เสมอ” เขาพูดโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม

“เอิ่มมม รออะไร”

“รอจนกว่าเราจะพร้อมบอกว่า ‘รัก’ พี่เหมือนกัน”

โอ๊ยยยย! ทำไมมันเขินอย่างนี้วะ!!

“เออ งั้นรอไปนะ รอจนเรียนจบเลย”

“รอได้ ขอให้จบเหอะ” เขายิ้มมุมปาก

“อ้าวววว แปลว่าอะไรวะแบบนี้”

“ก็ถ้ามัวแต่โม้ ไม่ยอมอ่านหนังสือแบบนี้ โดนซ้ำชั้นหรือสอบตกขึ้นมา กูจะตบหัวซ้ำให้ดู” เขาเหลือบขึ้นมามองผม “รีบๆ อ่าน พออ่านจบแล้วจะได้เริ่มติวให้”

“โอเคๆๆ อ่านหนังสือก็ได้คร้าบบบ” ผมคว้าดินสอกดที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นและเริ่มพลิกหน้าหนังสืออีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มอ่าน ผมก็แอบเหลือบมองหน้าของเขาอีกครั้ง

ไม่รู้ทำไมใจของผมมันเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ ชอบกลแฮะ นี่เขาจะรอจนกว่าผมจะเรียนจบเลยจริงๆ เหรอเนี่ย มันจะนานไปมั้ยวะ ไอ้ผมก็ไม่เคยมีแฟนกับเขาสักทีนะ แถมเวลาอยู่กับเขา ผมก็มีความสุขดี เหมือนเขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งผู้ปกครอง เขาช่วยดูแลและทำนั่นทำนี่ให้ผมตั้งหลายอย่าง ถึงจะปากไม่ค่อยดีก็เหอะ แต่ผมว่าเราสองคนมันก็พอๆ กันนั่นแหละวะ บางทีการที่เราต่างก็เป็นแบบนี้แหละมั้งถึงทำให้เราเข้ากันได้ แม้อายุจะค่อนข้างต่างกันไปหน่อยก็ตาม

เอาจริงๆ นะ ไหนๆ เขาก็เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งคนข้างบ้าน ทั้งอาจารย์ ของผมมาหมดแล้ว ถ้าเกิดจะให้เพิ่มตำแหน่งหน้าที่มาเป็นคนรักอีกสักอย่าง มันก็คงจะไม่ต่างไปจากตอนนี้เท่าไหร่หรอกมั้ง

“งั้นไม่ต้องรอละก็ด้ะ...” ผมพูดออกมาเบาๆ โดยไม่ได้มองหน้าเขา

เงียบ... ไม่มีเสียงตอบกลับ ไอ้ผมก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา จึงไม่รู้เลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และได้ยินที่ผมพูดออกไปหรือเปล่า แต่แล้วจู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ทำเอาผมสะดุ้งจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขางงๆ

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ตูดเอ๊ยยยย!!” เขายังคงหัวเราะอยู่

“อะไรเล่า!!” ผมรู้สึกเขินจนหน้าร้อนไปหมดแล้ว

“เปล่า ไม่มีอะไร...” เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้า “โอ๊ยยย กูฮาาาา”

“จะหาเรื่องกันรึไง จะเอาไงก็ว่ามาเลย!” ผมยืนขึ้น

เขาเหยียดแขนออกมาคว้าเข้าที่ข้อมือของผม แล้วจากนั้นก็ออกแรงดึงอย่างแรงจนทำให้ผมล้มลงไปนอนทับลงบนตัวของเขา

“เฮ้ยย!!” ผมพยายามจะทรงตัวและดันตัวเองขึ้น แต่กลับถูกเขากอดรัดตัวเอาไว้เสียก่อน

“เลิกเขินได้แล้ว และพูดมาดีๆ เลย”

“พูดอะไร” ยิ่งอยู่ห่างจากเขาแค่ไม่กี่นิ้วแบบนี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกเขินเข้าไปใหญ่ จู่ๆ แม่งจะมาบอกว่าให้เลิกเขินได้ไงวะ จะบ้ารึเปล่า!

“ถ้าเกิดพี่ขอเป็นแฟน จะยอมเป็นแฟนพี่มั้ย”

“เฮ้ย พะ...” ผมยังไม่ทันจะได้พูดให้จบคำ พี่วินก็ใช้นิ้วชี้แตะลงบนริมฝีปากของผมเสียก่อน

เราสองคนนอนจ้องตากันและกันอยู่ในท่านั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนนิ้วออก แล้วจากนั้นจึงชะโงกหน้าเข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ

“เป็นแฟนพี่นะครับ”

ผมอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แววตาของเขาเป็นประกาย ชั่วเวลาไม่กี่วินาทีแลดูยาวนานนับชั่วโมง สุดท้ายผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ก็ทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบตกลง

หัวใจของผมเต้นแรงจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้วนะเนี่ย!

พี่วินยิ้มกว้างก่อนจะจุ๊บลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง จากนั้นเขาก็รวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น และหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“ไอ้เด็กน้อยเอ๊ยยย!!”

“ไม่น้อยแล้วเหอะ!”

“เท่าที่จำได้ก็ยังน้อยอยู่นะ” เขาใช้มืออีกข้างขยำเป้ากางเกงผม

ผมรีบดีดตัวขึ้นนั่งทันที “เฮ้ยยย!!”

“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ยังไม่ทำอะไรหรอกน่า รอเรียนจบ ม. 4 ก่อนก็ได้ ให้มันใหญ่ขึ้นอีกนิดค่อยว่ากัน” เขายิ้มมุมปากกวนๆ “ไปอ่านหนังสือต่อได้แล้ว พี่จะตรวจงานต่อ จะได้ติวหนังสือสักที” เมื่อพูดจบ เขาก็เลื่อนตัวกลับไปนั่งทำงานต่อเหมือนเดิม

ผมพยายามตั้งสมาธิอ่านหนังสือตรงหน้าให้เข้าหัว แต่ก็ทำไม่ได้อีกเลย เพราะในหัวมันเอาแต่ฉายภาพและคำพูดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ซ้ำไปซ้ำมา แถมเขาก็เอาแต่ลอบมองผมและยิ้มหรือไม่ก็หัวเราะในลำคอเบาๆ อยู่ตลอด จนเมื่อเวลาผ่านไปอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง เขาก็บอกว่าเขาทำงานเสร็จแล้ว และเริ่มต้นติวเคมีให้ผมต่ออีกเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง จนกระทั่งหัวของผมมันรับอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงยอมอนุญาตให้ผมพักและเริ่มเก็บข้าวของของตัวเอง

ผมเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูห้องหมือนอย่างเคย แต่ก่อนที่เขาจะปิดประตูลง เขาก็ชะโงกเข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของผม

“แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะครับ ลูกศิษย์ที่รัก”

ผมรู้ว่าเขาพูดแหย่ให้ผมเขินมากกว่าที่จะคิดจริงจัง แต่แม่งดันได้ผลซะด้วยเนี่ยดิ เพราะผมเขินจนมือสั่นปากสั่น จะสวนอะไรกลับไปก็พูดไม่ออก ทำได้แค่รีบไล่ให้เขาเดินกลับห้องไปและปิดประตูลง

หลังจากนั้น เวลาเราเจอกันที่โรงเรียน เขาก็ยังคงปฏิบัติกับผมเหมือนเดิม ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับเขาไม่เคยขอผมเป็นแฟนเลย แต่เมื่อเวลาอยู่กันตามลำพังที่บ้าน เขาจะพูดจาหยอกล้อและแหย่ผมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเขาถึงเนื้อถึงตัวผมมากขึ้น กอดผมง่ายขึ้น และหอมแก้มผมบ่อยขึ้น ซึ่งแรกๆ ก็ไม่ชินหรอกนะ แต่ไปๆ มาๆ ถ้าวันไหนเขาไม่ทำแบบนั้นแล้วผมแม่งรู้สึกขาดๆ อะไรบางอย่างไปและพาลทำให้รู้สึกเซ็งๆ ขึ้นชอบกลว่ะ

แต่ความลับก็คงไม่มีในโลกจริงๆ นั่นแหละ มีเด็กนักเรียนบางคนเริ่มตั้งข้อสังเกตที่เห็นผมกับพี่วินใช้เวลาอยู่ด้วยกันนอกโรงเรียนมากขึ้น และล่าสุด ก่อนสอบเสร็จวันสุดท้ายดันมีคนพูดว่าเห็นพี่วินกับผมเดินเข้าไปในคอนโดด้วยกันตอนกลางคืน ซึ่งก็แหงล่ะ ไอ้สัตว์ กูอยู่คอนโดเดียวกันและไปซื้อของกินที่เซเว่นด้วยกันมา แต่ผมก็ขี้เกียจจะต้องคอยอธิบายแก้ตัวอะไร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย เพราะอีกไม่นานเขาก็จะพ้นสภาพการเป็นครูแล้ว ข่าวลือแม่งเลยยิ่งแพร่สะพัดไปจนแม้แต่ตอนปิดเทอมแล้ว เรื่องก็ยังไม่ซาสักที

“เฮ้ย ไอ้ก้อง สรุปมึงกะอาจารย์อัคนี่ยังไงวะ” ไอ้ภูมิถามผมหลังจากที่เราเพิ่งเตะบอลด้วยกันเสร็จ... คือพวกมันน่ะเตะกันจริงจัง แต่ผมทำได้แค่วิ่งๆ ตามบอลนิดหน่อยเท่านั้นเอง “คือพวกกูก็พอรู้นะเว้ยว่าจริงๆ แล้วมึงสองคนสนิทกันอะ แต่นี่มันเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามของศิษย์กับอาจารย์รึเปล่าวะ เฮ้ยยย มึงงงง” มันทำเสียงแหย่พลางกระทุ้งศอกใส่ผม

“ศิษย์อาจารย์ห่าอะไร ก็พี่วินเค้าไม่ได้เป็นอาจารย์แล้วนี่หว่า นี่ขนาดปิดเทอมแล้ว พวกมึงยังไม่เลิกสนใจข่าวลือพวกนั้นอีกเหรอวะเนี่ย” ผมดูนาฬิกาข้อมือ

“อ้าวว พูดแบบนี้แปลว่ามึงยอมรับเหรอวะ ไอ้ก้องงง ฮึ้ยยยย” ไอ้เอิรธ์ถามต่อ

“กูไม่มีเหี้ยไรจะยอมรับรึปฏิเสธว่ะ”

“เฮ้ย ไอ้ก้องๆ กูไปนั่งเล่นห้องมึงได้ป่าววะ เบื่อว่ะ ยังไม่อยากกลับบ้าน” ไอ้บอมพูดขึ้น

“วันนี้ไม่ได้ว่ะ ไม่สะดวก” ผมดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง

“ทำไมวะ ไปไหน”

“เดี๋ยวพี่ข้างบ้านกูเค้าจะมารับไปกินข้าวกับแม่กูว่ะ”

“อ้าว แม่มึงมาเหรอวะ”

“ช่ายย”

“แล้วว่าพี่ข้างบ้านคนไหนวะ ไอ้ก้อง” ไอ้บอมถาม

“ทำไมวะ กูอยู่คอนโดแล้วจะมีเพื่อนบ้างไม่ได้เลยรึไง ไอ้ห่า แต่พี่ที่กูบอกอะ พี่ข้างบ้านสมัยเด็กว่ะ... พวกมึงก็รู้จักนะ”
พวกมันทุกคนหันไปมองหน้ากันงงๆ

“นั่นไง มาพอดี งั้นกูไปก่อนแล้วนะเว้ยพวกมึง” ผมเดินตรงไปยังรถเก๋งที่ขับเทียบเข้ามาใกล้พวกเรา และเมื่อรถคันนั้นจอดสนิท คนขับก็เปิดประตูและก้าวออกมาจากในรถ

พอเห็นว่าคนที่มารับผมคือใคร พวกเพื่อนๆ ของผมแม่งก็รีบยกมือไหว้อดีตอาจารย์ของพวกมันกันแทบไม่ทัน

“พวกมึง” ผมหันกลับไปหาพวกมัน “นี่พี่วิน พี่ข้างบ้านตั้งแต่สมัยเด็กของกูเอง... อ้อ และไอ้ข่าวลืออะไรพวกนั้นน่ะ พวกมึงเลิกใส่ใจกันไปได้เลยนะเว้ย”

“เพราะมันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ยวะ” ไอ้เอิร์ธถาม

“เพราะมันเป็นความจริงว่ะ” ผมตอบ

“ไอ้เหี้ยยยยยยย!!!” พวกมันทุกคนร้องอุทานด้วยความตกใจพร้อมๆ กัน

“คอนเฟิร์มข่าวแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะพวกมึงเลยนะเนี่ย อย่าแรดเอาไปบอกใครล่ะ สาดดด”

“ข่าวลืออะไร” พี่วินหันถามผม

“อ๋อ ก็ข่าวลือว่าเราสองคนเป็นอะไรกันอะดิ พี่”

พี่วินหัวเราะชอบใจทันที “แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ”

อ้าว เชี่ย ไอ้การยอมรับให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันรู้มันก็อีกเรื่อง แต่ถ้าจะให้พูดออกมาว่าเราเป็นอะไรกันต่อหน้าคนอื่นเนี่ย ผมยังทำไม่ลงนะเว้ย!

“พอๆ ไปเหอะ เดี๋ยวแม่ก็รอนานหรอก” ผมเดินวนไปอีกฝั่ง เปิดประตูรถออก โบกมือลาพวกเพื่อนๆ ของผมก่อนจะโชว์นิ้วกลางให้พวกมันที่เริ่มส่งเสียงแซว แล้วจากนั้นจึงเข้าไปในนั่งในรถและปิดประตูลง

เมื่อพี่วินปิดประตูฝั่งตัวเองลงแล้ว เขาก็คาดเข็มขัดนิรภัย หันมามองหน้าผมและยิ้มออกมาน้อยๆ “ตกลงจะไม่บอกเพื่อนจริงๆ รึไงว่าเราเป็นอะไรกัน”

“ก็บอกไปแล้วไง”

“บอกอะไร ไม่เห็นพูดอะไรสักคำ”

“กวนตีนนะเรา”

“เดี๋ยวจะโดน” เขาเงื้อมือ

ผมรีบขยับหัวหลบทันที “ไรเล่า! บอกไปแค่นั้นมันก็รู้แล้วไง จะพูดไปทำไมอีก อีกอย่างเรื่องบางเรื่อง คำบางคำ เก็บไว้รู้กันแค่สองคนบ้างก็ได้”

“เรื่องอะไร”

“ขับรถไปเลยไป ไม่ต้องถามมาก”

“เรื่องที่ก้องรักพี่... เรื่องที่เรารักกันน่ะเหรอ”

“ขับไปเลยยยย และเวลาขับรถน่ะ ตามองถนนด้วย” ผมใช้มือปัดหน้าของเขาให้หันไปมองถนนดีๆ

เราสองคนเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้

“เออ ใช่!!”

“อะไร จู่ๆ ก็ตะโกน”

“ผมลืมถามพี่ไปซะสนิท”

“ว่า”

“ตอนอยู่ในโรงพยาบาล พี่บอกผมว่า ในคืนแรกที่เราได้เจอกัน มีประโยคนึงที่ผมถามพี่ และพี่ก็ตอบกลับมาด้วยประโยคคำถามคล้ายๆ กัน และสิ่งนั้นคือสิ่งแรกเลยที่พี่แสดงออกว่าสนใจในตัวผม หลงรักผมหัวปักหัวปำไปตั้งแต่แรกแล้วน่ะ มันคือคำถามว่าอะไรวะ”

เขาหัวเราะ “หัวปักหัวปำเลยเหรอ เวอร์ชิบหาย”

“ตงลงมันคือประโยคไหน”

“ลองนึกดูสิ ตอนนั้นเราพยายามจะพูดกวนตีนพี่ว่าอะไรบ้าง และพี่ตอบกลับไปว่ายังไงถึงทำเราเขินจนม้วนต้วน” เขาเหลือบมองผมด้วยหางตา แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมไม่มีทีท่าว่าจะนึกออก เขาจึงพูดต่อ “พอหลังจากพี่ถามชื่อและที่อยู่แล้ว เราก็สวนกลับมาว่าพี่จะจีบเราเหรอ พี่เลยตอบกลับไปว่า ‘ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะทำยังไง’ แล้วเราก็เขินนน หน้าแดงหูแดงปากสั่นไปหมด น่ารักสุดๆ” เขาหัวเราะปิดท้าย

“กวนตีนนนนน!!” ผมต่อยลงบนหัวไหล่ของเขาอย่างแรง ทำเอาเขาร้องออกมาเบาๆ

“ปฏิเสธสิว่าตอนนั้นไม่ได้เขินพี่... แต่ถ้าโกหกคืนนี้ต้องตกเป็นเมียพี่อีกนะเว้ย” เขาใช้น้ำเสียงขู่ผมอีกแล้ว

ผมอ้าปากจะเถียงกลับไป แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ พูดไม่พูดยังไงก็ตกเป็นเมียอยู่ดี เพราะงั้นคืนนี้ขอเอาคืนวางแผนปล้ำแม่งคืนมั่งดีกว่า

“ดีมาก ว่าง่ายๆ” พี่วินคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “...พี่รักก้องนะเว้ย”

“เออ ก็ลองไม่รักดิ” ผมยักคิ้วแล้วทำหน้ากวนๆ ใส่เขา จากนั้นก็หันไปมองยังนอกหน้าต่างรถและเปรยออกมาเบาๆ “ผมก็รักพี่เหมือนกันแหละ...”

พี่วินยกมือของผมขึ้นจุ๊บเบาๆ ทำเอาผมได้แต่นั่งยิ้มน้อยๆ แต่พยายามแอบซ่อนไว้ไม่ให้เขาเห็น

แม่งงง... กูมีความสุขว่ะ!



............................... จบ ...............................


จบแล้วครับ สำหรับเรื่องสั้นอีกเรื่อง ในชุดของคำว่า "บ้าน"

เรื่องนี้อาจจะต่างจาก HOME, Moving In และ Coming Back Home นิดหน่อย ตรงที่ไม่ได้มีคำหรือกลิ่นของคำว่า บ้าน ชัดเจนนัก
แต่ "เพื่อนบ้าน" ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยู่บ้านอย่างมีความสุข ใช่มั้ยล่ะครับ

ติดตามเรื่องอื่นๆ ของผมที่เคยเขียนมาแล้ว หรืออัพเดทเรื่องที่กำลังจะลงใหม่ได้ที่แฟนเพจเหมือนเดิมนะครับ https://www.facebook.com/ExecutionerNovel

ไม่แน่ ก่อนเรื่องยาวเรื่องใหม่จะมา อาจจะมีเรื่องสั้นอีกเรื่องโผล่มาก็ได้ หรือผมอาจจะรวมเล่ม series เรื่อง home นี้เป็นชุดเดียวกันแล้วมีอะไรแถมให้ในเล่มก็ได้นาาา

แล้วเจอกันครับ

 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2013 22:22:10 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #407 เมื่อ29-10-2013 22:26:01 »

 :katai2-1: สมน้ำหน้าพวกไอ้วีไอ้ข้าว อยู่ดีไม่ว่าดีวิ่งเข้าหาตีนซะงั้น ไงละ5ต่อ1 ก้องเราเทพอยู่แล้ว  :hao7:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #408 เมื่อ29-10-2013 22:41:44 »

จบแล้วเหรอ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีค่า

ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #409 เมื่อ29-10-2013 22:44:48 »

แวะเข้ามาฟิน อ่านทีไรฟินทุกที
เรื่องนี้ให้ความรู้สึกหวานกว่าเรื่องอื่นๆนะ
หวานนุ่มแต่หวานมากมาตั้งแต่ต้นเรื่อง
ว่าแต่แต่งความรักต้องห้ามมากขึ้นปะเนี่ย
พี่-น้อง ครู-ลูกศิษย์ ชอบนะไม่ได้ว่าอะไร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
« ตอบ #409 เมื่อ: 29-10-2013 22:44:48 »





ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #410 เมื่อ29-10-2013 22:52:47 »

จากนี้ไปพวกวีคงไม่มายุ่งสักพักล่ะเนอะ ...

ทีนี้ก็เหลือแต่พี่วินล่ะล่าาาา > < จัดการเลย!!! คึคึ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #411 เมื่อ29-10-2013 23:33:09 »

เย้ๆ จบแล้ว
จริงๆ กลัวมากว่าก้องจะเจ็บตัวอีกรึปล่าว
ดีใจที่แฮปปี้ เออะว่าแต่ พี่วินระวังโดนข้อหาพรากผู้เยาว์นะค๊า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #412 เมื่อ29-10-2013 23:34:11 »

โอ๊ยยย
น่ารักไม่ไหว
ขอบคุณพี่ต้นมากนะคะที่เขียนมาให้อ่านกัน
พี่วินกับน้องก้องน่ารักมากเลยอะ
แต่น่าจะมีตอนพิเศษมาให้อ่านกันอีกสักนิดนึง อิอิ

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #413 เมื่อ29-10-2013 23:42:03 »

หวานๆ พี่วินน้องก่องอิอิ 

น้องก้องเเมนมากๆ   o13 

เมื่อไรจะเป้นเมียพี่วินจ๊ะ :hao7:


อยากอ่านตอนพิเศษจัง


ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #414 เมื่อ29-10-2013 23:52:18 »

ขอบคุณครับ อยากได้ตอนพิเศษจัง รอน๊า

tamahomae

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #415 เมื่อ30-10-2013 01:11:11 »

เป็นอะไรที่กุ๊กกิ๊กน่ารัก แถมอบอวลไปด้วยความอบอุ่นเลยค่ะ

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #416 เมื่อ30-10-2013 01:16:27 »

ชอบเรื่องนี้ที่สุดใน series Home เลยครับ  o13
ฟินมาก  :hao7:

สนุก น่าติดตามสม่ำเสมอตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีน่าเบื่อเลย
ตัวละครมีชีวิตมากจนไม่อยากให้จบ

ไม่น่าจบเลย อ่ากกกก  :z6:

ออฟไลน์ karatop

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #417 เมื่อ30-10-2013 02:19:17 »

จบแล้ว...ขอบคุณคนแต่งมากๆ นะครับ ^^"

ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #418 เมื่อ30-10-2013 09:04:57 »

น่ารักมาก

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
«ตอบ #419 เมื่อ30-10-2013 09:21:21 »

เฮ้ย   ได้กันแล้วหรอ


"คืนนี้ตกเป็นเมียพี่อีก"    หืมมม  คำว่าอีก   

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด