พิมพ์หน้านี้ - Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ExecutioneR ที่ 19-09-2013 21:12:36

หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-09-2013 21:12:36
อ่านกันบ้างอะไรบ้าง


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-09-2013 21:16:37
เรื่องสั้นอีกเรื่องที่มี theme เกี่ยวกับ "บ้าน"

เรื่องอื่นๆ มีตามนี้ครับ

HOME
เรื่องสั้นที่พูดถึงชีวิตของพี ชายหนุ่มอายุย่าง 30 ปี กับการกลับมาบ้านหลังจากการสูญเสียพ่อ สมาชิกในครอบครัวคนสุดท้ายไป เขาต้องกลับมาบ้านเพื่อพบกับความว่างเปล่า แต่ในความเหงาและความเศร้าโศกนั้น เขาได้พบกับเต้ เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กและเป็นรักแรกของเขาอีกครั้ง เขาได้เรียนรู้ถึงความอบอุ่น และความหมายที่แท้จริงของการใช้ชีวิตในยามที่ไม่เหลือใคร
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34147.0


Coming Back Home
[incest] เรื่องสั้นของ 2 พี่น้อง แอร์บัส และ กัปตัน ที่อายุห่างกัน 2 ปี และรักกันมากตั้งแต่ยังเล็ก แต่เมื่อโตขึ้น ความรักและความผูกพันที่มีก็เริ่มกัดกร่อนจิตใจของแอร์บัส จนในที่สุดเขาก็ต้องหาทางออกเพื่อจัดการกับความรักที่ตัวเองมีมากเกินกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37604.0


Moving In
เรื่องสั้นที่พูดถึงการได้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของชายหนุ่ม 2 คน เล่าผ่านมุมมองของ ก้าวตะวัน คุณหมอหนุ่มผู้แสนจะขี้อาย เก็บตัว introvert แบบสุดๆ แต่ก็เบื่อแสนเบื่อกับการอยู่ตัวคนเดียวมาหลายปี ได้พบกับเพื่อนบ้านคนใหม่ ลักษณ์ธิสุทธิ์ ซึ่งเป็นคนที่นิสัยตรงข้ามกับเขาแทบทุกอย่าง แถมเมื่อ 10 ปีก่อน ยังเคยทำให้เขาหวั่นไหวมาก่อนอีกด้วย โชคชะตาทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แต่ปมในใจและความหลังที่เลวร้ายของเก้าตะวัน จะเป็นตัวขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งคู่หรือไม่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38709.0


และเหมือนเดิมนะครับ ตัวละคร สถานที่ ทุกสิ่งล้วนแต่งขึ้น ไม่ต้องจับผิดนะครับ (ฮา)

หากต้องการจะแนะนำ ติชม หรือพูดคุยอะไร ที่ไม่อยากคอมเมนท์ในเล้าให้กระทู้ออกทะเล ไปที่แฟนเพจ (https://www.facebook.com/ExecutionerNovel)ได้เช่นเคย และไปดู list นิยายเต็มๆ ได้ใน note ของเพจนะครับ

อ่านแล้วก็คอมเมนท์กันได้นะ จะชมจะด่า รับได้หมด ขอให้เม้นเป็นพอ

ขอให้มีความสุขกับการอ่านครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-09-2013 21:20:57
Brother Next Door

ตอนที่ 1


“เบื่อเว้ยยย หิว! จะกินเหี้ยอะไรดีวะ!”

ความหิวเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เที่ยงเริ่มทำให้ผมหงุดหงิด ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นดู ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลยนอกจากน้ำเปล่าแค่สองขวดก็ตาม ผมเหวี่ยงมือปิดตู้เย็นอย่างหัวเสีย จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้เหนืออ่างล้างจานในห้องครัวดู

เหลือมาม่าอยู่แค่เพียงห่อเดียว

“ก็ยังดีวะ” ผมบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะแกะมันลงในชาม เทน้ำจากกาน้ำร้อนลงไป หยิบจานอีกใบขึ้นมาปิด แล้วจึงเดินออกจากห้องครัวไปยังห้องนั่งเล่น

ผมนั่งลงบนโซฟา หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวี ผมยกมือขึ้นลูบท้องที่กำลังส่งเสียงคำรามเบาๆ เป็นการปลอบมันว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้กินข้าวแล้วเว้ย ใจเย็นๆ ผมหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูก็เห็นว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว ก่อนหน้านี้ผมมัวทำบ้าบ้าอะไรอยู่วะ ทำไมถึงไม่ยอมกินข้าวเย็นไปซะตั้งนานแล้ว ผมโยนมือถือกลับลงไปบนโซฟาแล้วมองไปรอบๆ ห้องอย่างหงุดหงิด ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ได้แค่สามวัน ห้องขนาดแค่ 30 ตารางเมตรมันดูแคบจนผมอึดอัด ไหนจะแบ่งเป็นห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น แล้วยังระเบียงอีก เด็กที่มาจากต่างจังหวัด เคยชินกับบ้านพื้นที่กว้างๆ อย่างผม แม่งไม่ชินกับการต้องมาอยู่ในห้องแคบๆ แบบนี้จริงๆ

เมื่อเดือนก่อน แม่ของผมวิ่งเต้นฝากผมเข้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ แห่งนี้ได้สำเร็จ ผมจึงจำต้องบอกลาโรงเรียนเก่าและเพื่อนๆ ในจังหวัดบ้านเกิดมาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว เพราะแม่และญาติพี่น้องคนอื่นๆ เห็นว่า เมื่อขึ้น ม. 4 แล้ว ผมควรจะได้เริ่มต้นใหม่ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ เจอเพื่อนดีๆ และหลีกหนีจากสิ่งร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้นให้หมด

เออ มันก็คงจะจริงนะ

แต่ปัญหาคือถึงพรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก แต่มันดันเป็นเทอมสองแล้วไง ไม่ใช่เทอมหนึ่ง ผมที่เพิ่งจะมาช้ากว่าคนอื่นคงต้องรู้สึกแปลกที่แปลกทางและถูกคนอื่นมองสงสัยแน่ๆ อีกอย่าง ผมไม่เคยต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาก่อนเลยด้วย ถึงจะถูกคนส่วนมากมองว่าเป็นเด็กห่ามๆ ห้าวๆ หรือแม้แต่เป็นนักเลงของโรงเรียนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็เป็นลูกชายคนเดียวของแม่ และอยู่กับแม่แค่สองคนมาโดยตลอด ญาติพี่น้องคนอื่นก็เป็นญาติฝั่งพ่อที่ไม่ได้สนใจอะไรเราเท่าไหร่นัก โชคดีที่ผมไม่ได้กเฬวรากจนขนาดทำให้แม่จำต้องตัดหางปล่อยวัดไป และไม่ได้เหลวไหลในการเรียนซะจนผลการเรียนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ย่า ผู้ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในบ้าน จึงยอมอนุญาตให้ผมมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่เมืองหลวงแห่งนี้ได้

พ่อของผมเสียไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ผมยังเด็ก เหลือแค่ผมกับแม่ที่รอดตายมาได้ เราสองคนจึงอาศัยอยู่กับญาติๆ ฝ่ายพ่อ โดยที่ย่าเป็นคนรับช่วงดูแลกิจการโรงงานที่พ่อเคยเป็นเจ้าของทั้งหมดไปแจกจ่ายให้ญาติพี่น้องคนอื่นๆ โดยที่แม่ของผมแทบไม่ได้รับอะไรเลย ดังนั้นถึงครอบครัวของเราจะไม่ได้ลำบาก แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย หากมองจากมุมมองของคนภายนอกก็คงดูเหมือนพวกเรามีเงิน แต่คนที่มีจริงๆ คือย่าต่างหาก ไม่ใช่แม่ของผม

ผมกดปุ่มรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะวางมันลงข้างตัวและเดินไปยกชามมาม่าออกมาวางที่โต๊ะรับแขก ผมใช้ส้อมตักเส้นขึ้นแแล้วก็รู้สึกว่ามันยังดูแข็งๆ ชอบกล ทั้งที่ผมก็ทิ้งไว้นานเกินสามนาทีแล้วนะ แต่ก็อย่างว่า ผมแค่ใช้น้ำร้อนลวก จะให้มันนุ่มเหมือนเอาไปต้มก็คงเป็นไปไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้น แต่เมื่อผมลองตักเส้นและน้ำซุปเข้าปากคำแรก ผมก็ถึงกับต้องบ้วนมันออกมาเพราะเส้นแม่งยังดิบอยู่เลย แถมน้ำก็ไม่ร้อนอีกต่างหาก!

“อ้าว! ทำไมวะเนี่ย! ก็กูเพิ่งต้มน้ำไปเมื่อตอนเย็นนี้เองไม่ใช่เหรอวะ!” ผมสบถอย่างหัวเสียพลางลุกออกไปดูกาน้ำร้อนแล้วจึงเห็นว่าปลั๊กแม่งไม่ได้เสียบเอาไว้

เออ ดี ขนาดมาม่ายังต้มไม่สำเร็จเลย แล้วจะเอาชีวิตรอดตัวคนเดียวได้มั้ยวะเนี่ยกู!

ผมจัดการเทมาม่าดิบแดกไม่ได้ลงถังขยะ โยนชามเปล่าลงไปในอ่างล้างจาน แล้วจึงเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นมาเปลี่ยน สุดท้ายก็ต้องเดินลงไปหาซื้ออะไรข้างล่างกินจนได้ แต่เวลานี้ ทั้งร้านข้าวและพวกรถเข็นต่างๆ ก็คงปิดไปหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องเดินออกไปไกลอีกหน่อยเพื่อไปซื้อข้าวกล่องที่เซเว่นฯ เพราะแฟมิลี่มาร์ทใต้คอนโดก็ดันกำลังปิดปรับปรุงอยู่ซะอีก

หลังจากที่ใช้เวลาเดินเกือบ 10 นาทีเพื่อไปเสียเวลาเลือกว่าจะกินอะไรอีกไม่ถึงสองนาที ผมก็ได้ข้าวกล่องติดมือกลับมาสองกล่อง ผมรีบเดินกลับคอนโด เพื่อจะได้กลับไปกินข้าวสักที หิวจะตายห่าอยู่แล้ว แถมรอบๆ ข้างก็มืดฉิบหาย ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดีเลย ซอยบ้าอะไรไม่รู้ ทำไมมันเงียบขนาดนี้วะ ไอ้โจรขโมยน่ะ ผมไม่กลัวหรอก มีมือมีตีน สู้ไหว แต่ผีเนี่ย มันเตะต่อยไม่โดนนะเว้ย ของที่จับต้องไม่ได้ผมไม่สู้ บอกไว้ก่อนเลย

ในระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงโหวกเหวกของคนหลายคนดังขึ้นในซอยเล็กๆ ถัดมา ด้วยสัญชาติญาณและความเคยชิน ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าแม่งต้องกำลังมีเรื่องชกต่อยกันอยู่แน่ๆ และถ้าผมจำไม่ผิด ในซอยนั้นจะมีร้านเน็ตอยู่ด้วยร้านนึง เพราะงั้นความเป็นไปได้ว่าคนเหล่านั้นน่าจะเป็นเด็กนักเรียนก็ยิ่งมากขึ้นไปใหญ่ ตอนแรกผมก็คิดจะแค่เดินผ่านเลยไป แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย แต่อีกใจก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ นิสัยเก่าๆ และต่อมเสือกแม่งดันทำงานขึ้นมพร้อมกันซะงั้น ซึ่งสุดท้ายจิตใจด้านมืดของผมก็เป็นฝ่ายชนะ ผมจึงเดินเข้าไปในซอยแห่งนั้นและเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนจำนวนสี่คน กำลังยืนล้อมกรอบผู้ชายคนหนึ่งอยู่

ดูๆ แล้วท่าทางสถานการณ์จะไม่ค่อยดีแน่ๆ ร้านอินเตอร์เน็ตที่อยู่เลยออกไปไม่กี่ 10 เมตรยังคงเปิดไฟอยู่ และหน้าร้านก็มีคนออกมายืนดูอยู่ด้วยสามคน แต่ดูเหมือนไม่มีใครคิดจะทำอะไรเลย ผมหันกลับมาสนใจกลุ่มคนที่อยู่ห่างจากตรงหน้าไม่ไกล แล้วก็เห็นว่าคนที่ถูกต้อนจนหลังเกือบชนกำแพงนั้น ดูน่าจะอายุราวๆ 20 ต้นๆ หรืออาจจะแค่ 10 ปลายๆ ด้วยซ้ำ เขากำลังถูกเด็กคนอื่นๆ ผลักหน้าอกไปมาและก่นด่าด้วยคำหยาบสารพัด

ผมกำลังจะเดินเข้าไปช่วยเขาออกมาจากสถานการณ์นั้น แต่แล้วก็รั้งตัวเองไว้ได้ทัน มันไม่ใช่ธุระของผม ไม่ใช่เรื่องของผม อย่าเข้าไปหาเรื่อง อย่ากลับไปทำแบบเดิมๆ อีก การที่แม่ยอมขอร้องย่าให้มึงมาอยู่โรงเรียนดีๆ ที่กรุงเทพฯ ก็เพราะไม่อยากให้มึงต้องมีเรื่องชกต่อยจนเจ็บตัวแบบครั้งที่แล้วอีกไม่ใช่รึไง และที่สำคัญคือมึงรับปากแม่มึงเอาไว้แล้วนะ ไอ้ก้อง!

ผมกำลังจะหันหลังกลับและเตรียมออกเดินต่อ กลับไปยังห้องของตัวเอง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปซะ แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงดัง ‘พลั่ก’ ที่คุ้นหูสองครั้ง ผมรีบหันกลับไปมองยังคนกลุ่มนั้นทันที ผู้ชายคนที่เคยยืนอยู่นั้นทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น เขาใช้มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้อง ส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นใช้หลังมือเช็ดที่มุมปาก ผมรู้ได้ทันทีว่าเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เขาต้องโดนรุมกระทืบแน่ๆ มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นกฎบัญญัติของการเป็นนักเลงเลยว่า ‘ถ้าหากอีกฝ่ายล้มลงบนพื้น มึงต้องกระทืบซ้ำ!’

ผมรีบพุ่งตัวตรงเข้าไปหาเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นและยกเท้าขึ้นถีบคนที่อยู่ใกล้ที่สุดออกไปทันที มันร้องออกมาเสียงด้วยพร้อมกับล้มลงไปบนพื้น เด็กที่เหลืออีกสามคนหันมามองผมด้วยความตกใจ

“คนตั้งสี่คน รุมคนๆ เดียว แม่งไม่เหี้ยไปหน่อยเหรอวะ!” ผมตะคอกใส่พวกมัน

ช่วยคน คงไม่นับว่าผิดสัญญานะ แม่

“มึงเป็นใครวะเนี่ย!”

“แม่งเตะกูอะ! ไอ้เหี้ย!” คนที่เพิ่งโดนผมถีบพูดขึ้น “เหี้ยอะไรของแม่งวะ!!”

“เล่นแม่งเลยมั้ย!! สัตว์!!” คนที่อยู่ใกล้ผมที่สุดเดินเข้ามาหาผม มันทำท่าจะคว้าคอเสื้อของผม แต่ผมหมุนตัวหลบทัน เลยต่อยหน้ามันสวนกลับไปทันที มันเซถลาไปข้างๆ ตามแรงหมัด ก่อนจะหันกลับมามองผมด้วยความตกใจ

นี่พวกมันเป็นนักเลงแน่รึเปล่าวะเนี่ย หรือเด็กนักเลงกรุงเทพฯ แม่งเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด

เด็กอีกคนหนึ่งพุ่งเข้ามาทำท่าจะถีบผม ผมยกแขนขึ้นกันเอาไว้ได้ แต่ก็เซไปข้างหลังก้าวหนึ่ง ไอ้คนที่โดนผมถีบไปในตอนแรกรีบลุกขึ้นและพุ่งตัวเข้ามาจะต่อยผม แต่ผมก็หลบทันอีกและต่อยสวนมันกลับไปอย่างสุดแรง พร้อมกับหมุนตัวเตะไอ้คนที่ถีบผมเมื่อครู่เข้าเต็มหน้าท้อง ทำเอามันลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น ส่วนไอ้คนที่โดนผมต่อยเมื่อตอนแรกก็อาศัยช่วงชุลมุนชกหน้าผมไปได้หนึ่งที ผมจึงสวนกลับไปอีกหมัดที่แรงขึ้นกว่าเดิม ทำเอามันล้มลงไปบนพื้นใกล้ๆ กับเพื่อนของมัน ไอ้คนสุดท้ายที่เหลือ ได้แต่ยืนมองเพื่อนๆ ของตัวเองที่คุดคู้และร้องโอดโอยอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าตกใจกลัว

“ลุกขึ้นมาได้แล้ว!” ผมตะคอกขึ้น

ทั้งสามคนที่นั่งๆ นอนๆ อยู่สะดุ้งและเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาหวาดกลัว ความกล้าและบ้าดีเดือดแบบนักเลงในตอนแรกหายไปจนเกือบหมด หนึ่งในสามคนนั้นที่ถูกผมต่อยหน้ายกมือขึ้นปิดปากและจมูกของตัวเองที่ดูเหมือว่าจะกำลังเลือดไหลอยู่

“กูไม่ได้หมายถึงพวกมึง! ไอ้ควาย!! แต่กูหมายถึงไอ้คนนู้น!” ผมชี้ไปยังผู้ชายคนนั้น

เขาที่ชันตัวยืนขึ้นมาแล้วมองหน้าผม แต่แล้วอีกเพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ยิ้มที่มุมปากออกมาเล็กน้อย

เฮ้ย มันยิ้มอะไรของมันวะ

“ไปได้แล้ว จะยืนรอห่าอะไรอยู่อีกเล่า!” ผมรีบเดินไปคว้าข้อมือของเขา ตอนแรกก็ตั้งใจจะพาเขาวิ่งออกไปจากซอยแห่งนี้ แต่พอไอ้เด็กคนที่ยืนอยู่เห็นผมเดินเข้าไปใกล้มัน มันก็รีบวิ่งหนีออกไปเลย ทำให้เพื่อนๆ ของมันอีกสามคนรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปตามๆ กัน

ผมมองตามพวกมันไปก็เห็นว่ามันไม่ได้วิ่งหนีกันไปไหนไกลหรอก แต่แค่วิ่งกลับเข้าไปในร้านเน็ตในซอยนั่นแหละ

เมื่อเหลือเรายืนกันอยู่แค่สองคน ผมจึงมีโอกาสได้มองหน้าของเขาคนนี้ให้ชัดๆ แต่ผมก็ยังเดาอายุเขาไม่ถูกอยู่ดี ดูท่าทางเขาน่าจะเป็นได้ตั้งแต่เด็กมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัยเลยว่ะ แม่งนอกจากจะหล่อ หน้าเด็ก แล้วยังสูงอีกด้วย สเป๊กผมเลยนะเนี่ย ผมว่าผมชักรู้สึกเขินขึ้นชอบกลๆ แฮะ

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ผมกระแอมในลำคอเบาๆ

เขามองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมอ่านไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาแลดูเรียบเฉยมาก มากจนไม่เหมือนคนที่เพิ่งตกอยู่ในสถานการณ์แบบเมื่อครู่ซึ่งควรจะหวาดกลัวหรือตื่นเต้นเลยสักนิดเดียว

“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก” ในที่สุดเขาก็ตอบออกมาจนได้ ผมแปลกใจนิดหน่อยที่น้ำเสียงของเขานั้นกลับทุ้มต่ำและหนักแน่นขัดกับใบหน้าใสๆ ลิบลับ

“ตกลงจะไปมั้ย หรือจะยืนรอพวกมันกลับมาอยู่ตรงนี้”

เขาเลิกคิ้วซ้ายขึ้นพลางยิ้มมุมปากแบบเดิมออกมาอีกครั้ง “แล้วคุณจะมายืนอยู่ทำไมล่ะ จะไปก็ไปดิ มารอผมอยู่ทำไม”

“อ้าว! คนอุตส่าห์มาช่วย ทำไมพูดกวนตีนแบบนั้นวะ” ผมชักอารมณ์ขึ้นทันที “จะขอบคงขอบคุณสักคำก็ไม่มีเลยรึไง”

“เมื่อกี้ก็ขอบใจไปแล้วไง”

เอออออว่ะ จริงด้วย

“เออๆ ก็ตามใจเว้ย งั้นก็ต่างคนต่างไป” ผมเดินไปหยิบถุงเซเว่นบนพื้นขึ้น ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ก็ก้มมองดูในถุง กล่องข้าวที่ซื้อมาคว่ำจนแกงที่อยู่ข้างในไหลออกมาเลอะไปหมด “แม่งเอ๊ยยยย!!”

“อ้าว แล้วจะยังกินได้มั้ยน่ะ”

ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างๆ หู

“เฮ้ย! ตกใจหมด!!”

“แค่นี้ทำขวัญอ่อนไปได้”

“ใครขวัญอ่อน”

“ก็คุณนั่นแหละ”

ทำไมแม่งพูดเพราะจังวะ

“ไม่ได้ขวัญอ่อนเว้ย”

“งั้นสะดุ้งทำไม”

“ก็มันตกใจ จู่ๆ ก็มาพูดใกล้ๆ”

“นั่นแหละที่เค้าเรียกขวัญอ่อน” เขายิ้ม

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมเลยที่ไม่รู้จะโต้ตอบอีกฝ่ายกลับไปอย่างไร ปกติถ้าพูดอะไรไม่ออก สู้ด้วยคำพูดไม่ได้ ผมก็เหวี่ยงหมัดใส่ไว้ก่อนแล้ว แต่นี่ก็ดันทำไม่ได้อีก

“แล้วนี่เดินตามผมมาทำไม” ผมนิ่วหน้าด้วยความหงุดหงิด

“ไม่ได้เดินตาม แต่ทางกลับบ้านอยู่ทางนี้”

“เออๆ โอเค” ผมพูด จากนั้นก็ออกเดินต่อโดยมีเขาเดินตามมาอยู่ใกล้ๆ

“ชื่ออะไรล่ะ เราน่ะ” เขาถามขึ้น

“ก้อง”

“พักที่ไหน”

“จะรู้ไปทำไม จะจีบผมรึไง เป็นเกย์เหรอวะ” ผมหันไปมองหน้าเขาพร้อมกับยิ้มเยาะ กะว่าที่พูดไปคงจะทำให้เขาต้องตกใจ เขิน หรือรู้สึกอะไรบ้าง แต่ปรากฏว่าเขากลับมองหน้าผมนิ่งด้วยแววตาแบบเดิม จากนั้นจู่ๆ ก็คว้าข้อมือของผมพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาใกล้

“ถ้าใช่แล้วจะทำยังไง”

“เฮ้ย!! ไอ้...!!” ผมอ้าปากค้าง สะบัดมือออกและผลักหน้าอกเขาอย่างแรงจนเขาเซไปข้างหลังก้าวหนึ่ง “อย่ามาโรคจิตใส่กูนะเว้ย! เดี๋ยวกูก็กระทืบให้หรอก!!”

เขายิ้มกว้างออกมาเป็นครั้งแรก “เขินเหรอ หน้าแดงขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าคิดอะไรกับผมจริงน่ะ”

“มึงจะบ้ารึไง!!” ผมเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขา แต่แทนที่จะรู้สึกตกใจหรือออกท่าปกป้องตัวเอง เขากลับยืนเฉยอยู่แบบนั้น ไม่สะทกสะท้านกับการกระทำของผมเลยแม้แต่นิดเดียว ทำเอาผม คนที่เคยได้ชื่อว่า ‘น่ากลัว’ ติดอันดับต้นๆ ของโรงเรียน ถึงกับเสียความมั่นใจไปเหมือนกัน

ผมสะบัดมือออกแล้วจึงเดินต่อโดยที่มีเขาเดินตามมาติดๆ

“บ้านอยู่ไหนน่ะ” เขาถามขึ้นอีก “ดึกดื่นป่านนี้ ทำไมเพิ่งจะออกมาซื้อของกิน มันอันตรายไม่รู้หรือไง”

“แทนที่จะยุ่งเรื่องของคนอื่น บอกตัวเองซะก่อนจะดีกว่ามั้ง” ผมพูดกลับโดยไม่ได้หันไปมองเขา

“ก็ขอบใจไปแล้วไง อย่าโกรธน่า ขอโทษก็ได้ที่เมื่อกี้พูดจาไม่ดี โอเครึยัง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ตกลงพักที่ไหน นี่มันก็ดึกแล้ว ออกมาข้างนอกแบบนี้พ่อแม่ไม่ว่าเอาเรอะไง”

“ผมอยู่คอนโดเนี่ย ใกล้แค่นี้” ผมชี้ไปยังกลุ่มอาคารสูงตรงหน้า “พ่อตาย แม่อยู่บ้านนอก ตอนนี้อยู่คนเดียว โอเครึยัง”

“โอเคๆ ดุจริงเว้ย”

“ไม่ได้ดุ แต่แม่สอนว่าไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า ยิ่งคนกรุงเทพฯ ยิ่งต้องระวัง”

เขาหัวเราะเบาๆ “ถ้างั้นแล้วเมื่อกี้ไปช่วยคนแปลกหน้าไว้ทำไม”

“ลูกผู้ชายมันต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแออยู่แล้ว” เขาหันไปยิ้มเยาะใส่เขา เขาได้แต่มองหน้าผม ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมาอีก ผมจึงเดินต่อเงียบๆ คิดว่าเราคงไม่ต้องพูดต้องคุยอะไรกันอีกแล้ว

“ทำไมถึงต่อยตีเก่งนัก ไปฝึกมาจากไหน” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น

ผมกลอกตา “ไม่ได้ฝึกเว้ย มันเป็นเอง”

“จริงเรอะ ไม่เคยเรียนรึไม่มีคนสอนเลยรึไง”

“ไม่มี ไม่ต้องถามมากได้มั้ยวะ จะถามไปเขียนอัตชีวประวัติรึไง รำคาญ”

เขาเงียบลงไปอีกครั้ง คราวนี้ผมคิดว่าบทสนทนาของเราคงจะจบลงจริงๆ แล้วสักที หลังจากเดินต่ออีกครู่สั้นๆ ก็มาถึงหน้าคอนโดของผม ผมจึงเลี้ยวเข้าคอนโดของตัวเอง ใจก็คิดว่าเขาคงจะเดินผ่านเลยไป จะไปไหนก็ไป แต่เมื่อหันหลังไปดูก็พบว่าเขายังคงเดินตามผมเข้ามาอยู่

“ยังจะตามมาทำไมอีก!” ผมหันไปพูดอย่างหงุดหงิด

แทนที่จะตอบดีๆ เขากลับชูคีย์การ์ดของคอนโดขึ้นให้ผมดู ผมจึงหันกลับอย่างหัวเสีย อายก็อาย โกรธก็โกรธ ที่ดันเผลอปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม ไม่คิดว่าเขาจะพักอยู่ที่เดียวกับผม แต่อย่างน้อยๆ ก็คงจะไม่ใช่ตึกเดียวกันล่ะนะ เพราะที่คอนโดแห่งนี้ก็มีอยู่ตั้งหกตึก ถ้าเกิดว่ายังอยู่ตึกเดียวกันอีก มันก็คงจะบังเอิญเกินไปแล้ว

ผมเดินเลี้ยวเข้าไปในตึกของตัวเอง และทายซิว่าใครที่เดินตามผมเข้ามาด้วย

“เฮ้ย! นี่...” ผมพูดขึ้นขณะที่หยุดยืนอยู่หน้าลิฟต์

เขาชูคีย์การ์ดขึ้นอีกครั้ง “รู้ใช่มั้ยว่าที่คอนโดนี้น่ะ คียการ์ดมันใช้ได้เฉพาะกับตึกและชั้นของตัวเองเท่านั้น”

“รู้น่า!”

เมื่อลิฟต์เปิดออก ผมก็เดินเข้าไปข้างใน และรอให้เขาที่เดินตามเข้ามาทีหลังกดชั้นของตัวเองก่อน เขามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ ก่อนจะแตะคีย์การ์ดลงที่ตัวรับสัญญาณแล้วจึงกดชั้น 17 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด

“ไม่กดเหรอครับ” เขาหันมาถาม “หรือว่าอยู่ชั้นเดียวกัน”

“ตลกเหอะ” ผมยื่นมือไปแตะบัตรแล้วกดชั้น 15

“เรียนอยู่โรงเรียนไหนน่ะ” เขาถามขึ้น

“จะถามไปทำไม”

“ก็ถามดู เผื่อจะอยู่ที่เดียวกัน”

ผมเลิกคิ้วขึ้น “นี่นายยังเรียนอยู่ ม. ปลายเหรอ โรงเรียนอะไร”

เขาหัวเราะเบาๆ “โรงเรียนชายล้วนใกล้ๆ นี้แหละ”

“เฮ้ย งั้นก็ที่เดียวกันอะดิ เราเพิ่งย้ายมา” ผมลืมตัวเผลอแสดงความดีใจออกไป เพราะคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็อาจจะได้รู้จักเด็กคนอื่นไว้ก่อนบ้างก็ยังดี ถึงแม้ว่าเขาน่าจะเรียนอยู่คนละชั้นกับผมก็ตามเถอะ “นายอยู่ ม. อะไร”

เขามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ เล็กน้อย และตอนนั้นเองที่ลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้นของผม ผมมองดูประตูลิฟต์ที่เปิดออกแล้วหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง

“ไม่ไปรึไง หรือจะไปที่ห้องของผม” เขายิ้มเยาะๆ

“กวนส้นตีนนะ” ผมพูดเบาๆ พลางเดินออกจากลิฟต์

“รีบนอนได้แล้ว ถ้าพรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรกด้วย เกิดไปสาย ระวังจะโดนฝ่ายปกครองเล่นงานเอานา” เขาพูดก่อนที่ประตูลิฟต์จะเริ่มปิดลง “แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

“เฮ้ย เดี๋ย..!!” ผมยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ประตูลิฟต์ก็ปิดลงซะก่อนแล้ว

หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 19-09-2013 21:23:47
น่าหนุก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-09-2013 21:36:50
เรื่องใหม่มาแล้ว
น่าติดตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 19-09-2013 21:37:23
อร้ากกกกกก ทำไม่ไม่เอาไป รวมอยู่เรื่องเดียวกับเพื่อนใหม่ด้วยเลยละเฮีย  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 19-09-2013 21:40:38
แล้ว second chance ของดิฉันล่ะคะ! :hao4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 19-09-2013 21:42:47
น่าติดตามแฮะ เด็กม.ปลายแอร้ยยย   :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-09-2013 21:59:37
แล้ว second chance ของดิฉันล่ะคะ! :hao4:

เรื่องนั้นขอพักยาวไม่มีกำหนดก่อนนะครับ ตามที่เคยแจ้งในเพจนะครับ T^T
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 19-09-2013 22:00:58
เห้ยย
ชอบเรื่องนี้อะพี่ต้น -/-

หวังว่าไอเรื่องที่ต่อยตีไป จะไม่มีปัญหาตามมาทีหลังนะ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 19-09-2013 22:12:40
มาขอเป็นแฟนเรื่องใหม่อีกคน
จะเป็นแนวไหนน้าาา    ขอแบบแน่น ๆ หนัก ๆ ได้ไหม ได้ไหม  :fire:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-09-2013 22:13:36
เปิดเรื่องใหม่แล้ว  :mc4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 19-09-2013 22:51:28
เย้ๆๆๆ มาแล้วว ชอบมาก อะไรที่เกี่ยวกับเด็กๆกลุ๊มกลิ่มนิ มาโล้ด
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 19-09-2013 23:44:11
น่าติดตามคับ เริ่มต้นก็สนุกแล้ว มาต่อบ่อยๆนะคับคุณต้น
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 20-09-2013 00:14:36
อย่าดองนะเฮียไม่งั้นมีงอน  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 20-09-2013 08:15:51
ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 20-09-2013 09:02:40
ต่อออออ
น่าหนุกง่อออ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 20-09-2013 09:51:53
ชอบ ๆ จังเลย ก้อง เก่ง กล้า ซ่าส์ ดีจังเลยอ่ะ กลัวผีแต่ไม่กลัวคน แหม่ เดี๋ยวนี้คนน่ากลัวกว่าผีอีกนะ
แถมยังมีน้ำใจ ตรงไปตรงมา แล้วก็มีมุมใสซื่อด้วย น่ารักจังเลย เด็กม.ปลาย เพิ่งม. 4 เอง
แต่คุณพระเอก(รึเปล่า) เนี่ย เด็กม.ปลายด้วยเหรอ บุคลิกดูเป็นผู้ใหญ่จัง ไม่น่าจะแค่เด็กม.ปลายเลยนะ
ก้องที่ดูเปิดเผย โผงผาง รู้สึกอะไรก็แสดงออกไปหมด กับคุณพระเอก ที่นิ่ง ๆ หน้าตาคาดเดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่
แต่ก็กลับดูกวน ๆ เหมือนพวกร้ายลึุก อย่างนี้ดูเหมือนก้องจะแพ้ทางอยู่นะเนี่ย แต่คุณพระเอกดูจะสนใจก้องมากนะ
เหมือนเจอคนที่ถูกใจ แล้วบังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันอีก ตอนแรกคิดว่าจะอยู่ชั้นเดียวกัน ข้างห้องกันด้วยนะเนี่ย
คำพูดทิ้งท้ายก่อนลิฟต์ปิด รึว่าคุณพระเอก จะเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง โรงเรียนที่ก้องต้องไปเรียนรึเปล่า
แบบ หน้าเด็กเกินอายุอ่ะ แล้ว เด็กที่มีเรื่องด้วยสี่คนเนี่ย อาจจะเด็กที่โรงเรียนเดียวกันกับก้องด้วยรึเปล่า (เดาไปเรื่อย)
สงสัยตรง เรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับก้อง ที่ทำให้ต้องย้ายโรงเรียนกลางคันคืออะไรน้า
ต้องรอติดตามต่อไปแล้ว หวังว่าจะไม่มีดราม่ามากนะคะ
ชอบ ๆๆ จังเลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค่า  :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 20-09-2013 16:02:00
ชอบแนว ๆ นี้ค่ะ  กวน ๆ ดี  :)
" แล้วเจอกันพรุ่งนี้ " ฮื้อ!! .. เค้าเป็นใครน๊า!!!
อยากอ่านตอนต่อไปจัง ==''
ขอบคุณสำหรับเรื่องใหม่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 20-09-2013 19:45:10
เข้ามารออัพ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 20-09-2013 20:13:14
แย๊กกกกกกกก!!!!!  :hao6:

ชอบแบบนี้ ยกพวกชกต่อย (มะใช่แระ)

รีบมาต่อไวๆน๊าา

ชอบมากเลยย  :katai2-1:

 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 20-09-2013 20:25:27
โอเค รับทราบค่ะ / นี่ขนาดเฟฟเพจคุณต้นไว้ยังไม่ค่อยได้ไปเยี่ยม ^^
เดี๋ยวโฉบไปเสียหน่อยดีกว่า / ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 20-09-2013 20:59:05
ฤาพระเอกจะเป็นครู? โอ้บุดดา รักต้องห้าม บนโต๊ะ หน้ากระดาน และเก้าอี้ ได้หลายท่าเบย :hao6:
# โดนก้องขาคู่ แอ่ก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 20-09-2013 23:02:13
ใครเป็นพระเอกวะค่ะ?? พระเอกไม่สู้คนว่างั้น
โอ้ยยยยย เดายากจิงจิ๊งงงงงงง เซ็ง!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 21-09-2013 05:14:11
พอทราบจากเพจว่าเปิดเรื่องใหม่ ก็รีบตามมาทันที
ไม่อยากพลาดเหมือนกันค่ะ จุดนี้
กระตุ้นความเขิน(แทนก้อง)ในคนอ่านได้อย่างไว
กับผู้ชายลึกลับ กวนส้น ที่ยังไม่ระบุที่มา
ท่าทีเก็บคำ ไม่บอกใดๆ นี่ชวนเข้าหามากค่ะ
//รอติดตามนะคะ

หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 21-09-2013 10:20:05
เรื่องใหม่ ติดตามๆ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 21-09-2013 14:29:19
 :impress2: รอติดตามค่าา

ปล พอเริ่มเรื่องแล้วไม่อยากให้เป็นเรื่องสั้นเลยค่ะ อยากอ่านยาวๆนานๆ :)
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-09-2013 15:53:51
อุ๊ย เรื่องนี้เป็นเด็กม.ปลาย
ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 21-09-2013 16:09:27
ตามจ้าา  ชอบจังเลยน่าหนุกนะเนี่ยยย  แนวนี้ใช่เลย ฮ่าาๆๆ    :impress2:   :-[  :-[  :-[  :-[

 :ling1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 21-09-2013 16:10:46
เข้ามาส่อง ... เผื่อก้องจะมา  :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-09-2013 20:26:13
ตามมาเชียร์เรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: Brother Next Door
เริ่มหัวข้อโดย: tay028643904 ที่ 21-09-2013 21:29:49
เจอกันน่ารัก 5555555555
ประทับใจในเเรกเจอ
รอน้ะค้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 21-09-2013 22:57:32
ตอนที่ 2


โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีค่าเทอมที่ค่อนข้างแพง คนนอกมักพูดกันว่าแค่มีเงินก็เข้ามาเรียนได้แล้ว ซึ่งก็อาจจะจริงส่วนหนึ่ง แต่ผมก็พอได้ยินมาเหมือนกันว่าคุณภาพการเรียนการสอนเขาก็โอเคอยู่ นี่ถ้าหากว่าเกรดเฉลี่ยรวมจากตอน ม. ต้น ของผมไม่ถึงเลขสาม และเมื่อเทอมที่แล้วผมได้ต่ำว่า 2.5 ผมก็คงไม่ได้เข้ามาเรียนหรอกมั้ง หรือต่อให้เข้าได้ แม่ก็อาจจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และถ้าเป็นแบบนั้น ย่าก็คงไม่ยอมแน่ๆ

ผมยืนมองตัวเองในกระจกแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็พยายามยิ้มให้กับตัวเอง ที่จริงผมว่าผมก็หน้าตาไม่เลวหรอกนะ สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในตัวเองก็คงจะเป็นดวงตาคู่นี้ล่ะมั้ง เวลาผมโกรธ มันจะดูน่ากลัวมาก แต่ถ้าเวลาผมยิ้ม มันก็จะยิ้มตามผมไปด้วย ผมมองสำรวจร่างกายของตัวเอง กล้ามเนื้อที่ได้มาจากการเล่นกีฬาและการต่อยตีสารพัดแลดูสมส่วนสำหรับคนสูงแค่ 165 อย่างผม ถึงผมจะไม่ใช่คนผิวขาวอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ใช่คนผิวคล้ำกรำแดด เห็นผมอย่างนี้แต่ผมก็แอบสำอางนะเว้ย ผมว่าผิวของผมค่อนข้างเรียบเนียนกว่าผู้หญิงหลายๆ คนด้วยซ้ำไป สีผิวก็สม่ำเสมอ ไม่มีรอยแผลสักจุด เว้นก็แต่บริเวณหัวเข่าข้างขวาเท่านั้น...

ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

ผมกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เลิกต่อยตี เลิกเกเร ตั้งใจเรียนให้แม่ ไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจอีกแล้ว แผลเป็นขนาดใหญ่บนหัวเข่านี้คือสิ่งเตือนใจที่ตอกย้ำให้ผมยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ ว่าผมจะเป็นลูกที่ดีและต้องทำให้แม่ภูมิใจให้ได้สักครั้งในชีวิต

ก็อย่างที่บอกว่าผมเคยเกเรมาก่อน ตั้งแต่ประถม ผมคือหัวโจกของกลุ่มเด็กเกรเรของโรงเรียนและละแวกบ้าน แต่ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้พวกนั้นมันมาจากไหน และผมกลายไปเป็นหัวหน้าของพวกมันตั้งแต่เมื่อไหร่ มันตามผมมาเอง มาสนิทชิดเชื้อกับผมเอง ผมไม่เคยตั้งใจที่จะเป็นแบบนั้นเลย ผมแค่ไม่เคยยอมใครเวลาที่มีปัญหา หากต้องต่อย ผมก็ต่อย หากต้องเตะ ผมถีบ ถ้ามีคนมาหาเรื่อง ผมสู้ไม่ถอย และผมก็มักจะชนะด้วย แต่ผมไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อนเลยนะ ในทางกลับกัน ถ้าหากใครดีกับผม ผมก็จะดีตอบ แถมยังดีมากๆ ด้วย คิดไปคิดมา บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมคบกับไอ้พวกนั้นได้ล่ะมั้ง

เมื่อตอนอยู่ ม. 2 แม่จับผมไปเรียนพิเศษเพราะอยากให้ผมสนใจเรียนมากขึ้น มีเพื่อนที่ดีๆ และเลิกใช้เวลากับเพื่อนๆ เกเรเหล่านั้น ซึ่งผมก็ไปเรียนตามที่แม่ต้องการ พยายามทำให้แม่สบายใจ ผมน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเรียนอยู่แล้ว อาจจะฟังดูแปลกนะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยตั้งใจจะทำตัวเหลวไหลสักนิด ผมยังไม่รู้เลยว่าทำไมปัญหามันถึงได้ชอบวิ่งเข้ามาหาผมนัก และประเด็นคือผมก็ไม่ชอบหนีปัญหาไง

นอกจากนั้น ถึงจะตัวเล็ก ด้วยส่วนสูงแค่นี้ แต่ผมกลับเป็นคนเสียงดัง หน้าดุ แรงเยอะ แถมเก่งเรื่องต่อยตีขนาดที่แม้แต่เด็กมัธยมปลายที่เคยมาหาเรื่องยังต้องยอมไปตามๆ กัน คราวนี้พอมันปากต่อปากออกไป คนดีๆ ก็เลยพาลกลัวผมไปกันหมดโดยปริยาย ชื่อเสียงด้านไม่ดีก็เริ่มแพร่ออกไปมากขึ้น เรื่องเล็กที่ผมเคยทำก็ดันถูกเสริมเติมแต่งจนแม่งโอเวอร์ ส่วนไอ้คนเหี้ยๆ ที่อยากมีเรื่องกับผมกลับเพิ่มขึ้นเร็วยิ่งกว่าเสียอีก จนในที่สุด เมื่อปีก่อน ตอนที่ผมกำลังขี่รถกลับจากเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ผมก็โดนนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ผมไม่คุ้นหน้า ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามผม ตีกรอบล้อมผม บีบจนรถของผมล้มลง และจากนั้นก็รุมกระทืบผม ผมที่บาดเจ็บจากแผลตอนรถล้มไม่สามารถสู้พวกมันที่มากกว่า 10 คนได้ โดยเฉพาะไอ้เวรตะไลคนหนึ่งที่มันออกคำสั่งให้เพื่อนๆ ของมันตรึงผมเอาไว้ และใช้ไม้หน้าสามหวดเข้าที่หัวเข่าของผมหลายทีจนกระดูกแตกยับ เมื่อพวกมันสาแก่ใจดีแล้ว ผมก็ถูกทิ้งให้นอนจมกองเลือดอยู่ข้างถนนแบบนั้น

ผมต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่นาน และเดินไม่ได้ไปหลายเดือน แต่ความเจ็บปวดทางกายที่ผมได้รับ มันเทียบไม่ได้เลยกับการต้องเห็นน้ำตาของแม่ในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา ดังนั้นผมจึงสัญญากับแม่ว่าจะเลิกทำตัวเกเร เลิกมีเรื่องวิวาท และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้แม่ต้องร้องไห้อีกเด็ดขาด

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นปลุกผมจากภวังค์ ผมจึงรีบหยิบมันขึ้นมาจากโต๊ะรับแขก คว้ากระเป๋านักเรียนขึ้นจากพื้นห้อง เดินไปสวมรองเท้าและเดินออกจากห้องไป แต่ตลอดทางขณะที่กำลังเดินลงลิฟต์ไปจนถึงเดินออกจากคอนโด ผมก็ไม่ลืมที่จะมองหาเด็กคนนั้นที่ผมยังไม่รู้ชื่อเลยด้วยซ้ำไปด้วย

โรงเรียนใหม่ของผมอยู่ห่างจากคอนโดที่ผมอยู่แค่เพียงห้าป้ายรถเมล์เท่านั้น ถ้าเดินก็คงราวๆ ครึ่งชั่วโมงถึง 40 นาทีมั้ง ไม่รู้สิ ยังไม่เคยเดินว่ะ แต่ถ้านั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ 2-3 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นผมจะเดินทำไมให้เสียเวลาแถมยังปวดหัวเข่า ในขณะที่เสียเงินแค่ 20 บาทแต่ประหยัดเวลาไปได้อีกตั้งเยอะ

ผมอุตส่าห์ตื่นเต้นและกังวลอยู่ตั้งหลายวันว่าการเรียนวันแรกของผมจะเป็นยังไงบ้าง ไหนจะการที่ผมมาเรียนช้ากว่าคนอื่นไปตั้งหนึ่งเทอมเต็มๆ และยังสังคมที่เปลี่ยนไปอีก ในตอนแรกผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กกรุงเทพฯ มันจะมองดูถูกผมว่าผมมาจากต่างจังหวัดหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่เป็นอย่างที่ผมเคยคิดสักนิดเดียว อาจจะเพราะทุกคนเป็นผู้ชายเหมือนกันล่ะมั้ง ถึงได้เข้ากันง่าย และผมก็ลืมคิดไปว่า ถ้าหากผมไม่มีเงินก็คงจะมาเรียนที่นี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมจะมาจากจังหวัดไหน หน้าตายังไง เคยทำอะไรมา ก็คงไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ตราบเท่าที่ผมมีเงิน

แต่พูดแบบนั้นก็อาจจะฟังดูใจร้ายกับพวกมันเกินไป เพราะว่าเด็กนักเรียนในห้องของผมส่วนมากก็ดูเป็นมิตรดี และดูไม่มีใครจะใส่ใจว่าผมมีเงินแค่ไหนหรือเคยเป็นยังไงมาแม้แต่นิดเดียว

“เฮ้ย ไอ้ก้อง แผลที่เข่าไปโดนอะไรมาวะ” ไอ้เอิร์ธ เพื่อนใหม่ของผมถามขึ้นในตอนพักกลางวัน ขณะที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่

“มอ’ไซล้มว่ะ” ผมโกหก

“เจ็บป่าววะ”

“ไม่เจ็บมั้ง สัส มึงก็ถามได้ ไอ้ควาย” ไอ้บอม เด็กอีกคนตอบแทนผม

“มึงเล่นกีฬารึเปล่าวะ ไอ้ก้อง” เด็กอีกคนที่ชื่อภูมิ ถามขึ้นบ้าง

“เคยเล่นบอลว่ะ แต่ตอนนี้กูวิ่งไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว” ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม

“โห เซ็งเย่เลยว่ะ ฟุตบอลนี่กีฬาประจำชาติของโรงเรียนเราเลยนะเว้ย” ไอ้เอิร์ธพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเสียดาย “เออ ว่าแต่ทำไมมึงถึงย้ายมาที่ กทม. วะ”

“ก็ไม่ทำไมอะ แม่กูเค้าแค่อยากให้กูมาเรียนที่นี่เฉยๆ ก็วางแผนกันไว้ตั้งนานแล้ว แค่นั้นแหละ” คราวนี้ผมพูดความจริงครึ่ง โกหกไปอีกครึ่ง

“แล้วนี่มึงพักอยู่กับใครวะ” ไอ้ภูมิถาม

“คนเดียว ที่คอนโดตรงซอยใกล้ๆ เนี่ย”

“เหยดเข้ งั้นแบบนี้พวกกูก็ไปเที่ยวได้อะดิ!” พอไอ้เอิร์ธพูดจบ คนอื่นๆ ก็เฮขึ้นทันที ทั้งที่ผมยังไม่ทันจะได้ตอบตกลงสักคำ

ถึงจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างที่ได้มานั่งคุยกับคนอื่นแบบปกติๆ อย่างนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้สึกกลัวหรือรังเกียจผมเลย แต่มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เพราะดูท่าทางว่าผมคงจะเริ่มต้นมีชีวิตใหม่ได้จริงๆ จังๆ สักที

ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มคุยกันถึงเรื่องวิชาเรียนในช่วงบ่ายที่กำลังจะมาถึง จู่ๆ ผมที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก ก็ถูกกระแทกเข้าจากทางด้านหลังอย่างแรง ทำให้ช้อนที่ถืออยู่กระเด็นหลุดออกจากมือ ข้าวและกับที่ตักขึ้นมาก็หกลงบนเสื้อและกางเกง

“โอ๊ะ ขอโทษทีว่ะ” คนที่เดินชนผมพูดขึ้น แต่น้ำเสียงไม่ฟังดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ สักเท่าไหร่นัก

เสียงพูดคุยจากเพื่อนๆ ข้างตัวผมเงียบลงทันที ส่วนผมก็หันกลับไปมองไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมด้วยความรู้สึกที่เริ่มคุกรุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงกวนส้นตีนของมันนั่นแหละ

“อะไร ก็ขอโทษแล้วไง หรือจะเอาวะ” อีกฝ่ายพูดขึ้น

ผมมองหน้าของมันและกำหมัดแน่น นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกระโจนเข้าคว้าคอมันไปแล้ว แต่ไม่ได้ๆ ผมจะทำแบบนั้นอีกไม่ได้

“เออ ไม่เป็นไร กูยกโทษให้” ผมตอบกลับไป

ไอ้คนที่เดินชนผมหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสองคนของมันที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก่อนจะหันกลับมาหาผมอีกครั้ง “มึงคิดว่ามึงเก๋าเหรอวะ ไอ้บ้านนอก!”

เหยดเข้! กูอยากจะเหวี่ยงหมัดเสยเข้าปลายคางแม่งแทนคำตอบจริงๆ!

แต่แทนที่จะทำแบบนั้น ผมเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไปแทน จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ยกจานข้าวของตัวเองขึ้นจากโต๊ะ และเดินไปวางมันลงที่เก็บภาชนะ ก่อนจะเดินออกจากโรงอาหารโดยมีเพื่อนคนอื่นวิ่งตามมาติดๆ

“ไอ้ก้อง! รอก่อนเว้ย!”

ผมเดินไปเปิดก๊อกน้ำที่อยู่ข้างนอกโรงอาหารแล้วเริ่มล้างคราบเปื้อนบนเสื้อกับกางเกงของตัวเอง มือแม่งก็สั่นเพราะความโมโหไม่ยอมหยุด

“มึงอย่าไปสนใจมันเลยนะเว้ย ไอ้ก้อง” ไอ้ภูมิพูดขึ้น

“ไอ้เหี้ยนั่นมันใครวะ” ผมหันไปถามมัน และเมื่อไอ้ภูมิเห็นหน้าผม มันก็ดูผงะไปเล็กน้อย

“ไอ้เชี่ยวี อยู่ห้องสาม แม่งกวนตีนจะตาย แต่ถ้ามึงอยู่ห่างๆ มันไว้ก็ไม่มีปัญหาหรอก” ไอ้เอิ์รธเป็นคนตอบ แต่มันเองก็มีสีหน้าและน้ำเสียงเกรงๆ ผมเหมือนกัน

ผมถอนหายใจ และพยายามผ่อนคลายลง “แต่คนนึงที่ยืนอยู่กับมันด้วยก็อยู่ห้องเราไม่ใช่เหรอวะ”

“ไอ้เชี่ยข้าวอะดิ ก็งั้นแหละว่ะ แม่งก็สันดานหนังตีนแบบนั้นแหละ” ไอ้บอมถอนหายใจ “โรงเรียนเราแม่งจะเหี้ยลงทุกทีๆ แล้วนะเนี่ย”

“ทำไมวะ” ผมสงสัย

“ก็โรงเรียนเราแม่งรับเด็กเข้ามาทุกปี ทุกระดับชั้นน่ะ เข้ามากลางปีแบบมึงก็เยอะ บางทีเข้ามากลางเทอมยังมีเลย คือแค่มีเงินก็เข้าได้แล้วไง ยิ่งช่วงหลังๆ นี้แม่งยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เพราะงั้นเด็กบางคนที่ย้ายเข้ามา บางทีแม่งก็พวกเด็กที่เคยมีปัญหาจากโรงเรียนเก่าหรืออะไรแบบนั้นแหละว่ะ” ไอ้เอิร์ธอธิบาย “อย่างไอ้เชี่ยวีน่ะ มันย้ายเข้ามาเมื่อตอน ม. 3 เพราะเคยมีเรื่องต่อยตีกับรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดิม กูได้ยินมาแบบนั้นนะ”

“อ่ออ... เหรอวะ” ผมพยักหน้าเบาๆ แบบนี้ผมยิ่งให้พวกมันรู้ไม่ได้เลยนะเนี่ยว่าผมก็แทบไม่ได้ต่างไปเท่าไหร่

“แต่อาจารย์อัคแกก็กำราบไอ้พวกเด็กเกเรๆ ไปได้หลายคนเหมือนกันนะเว้ย”

“ใครนะ ไอ้ภูมิ” ผมถาม

“อาจารย์อัค มึงคงยังไม่เคยเจอมั้ง เป็นอาจารย์สอนเคมีแต่แม่งโหดหยั่งเหี้ยเลย เลยได้ควบตำแหน่งรองฝ่ายปกครองไปด้วย ขนาดเด็กโรงเรียนอื่นยังเคยได้ยินชื่อเสียงเลยนะเว้ย มึงคิดดู แม่งจัดการเด็กเกเร หนีเรียน สูบบุหรี่ หรือเหี้ยอะไรพวกนั้นซะอยู่หมัดอะ เมื่อปีที่แล้ว เด็ก ม. 4 มันเคยมีเรื่องกับเด็กอีกโรงเรียนนึง แล้ววันนึงพวกแม่งก็ยกพวกมาล้อมเด็กของเราที่ร้านข้าวแถวเนี้ย ก็ได้อาจารย์อัคนี่แหละ แม่งฝ่าวงนักเรียนที่มาล้อมโรงเรียนเราเข้าไปเคลียร์เองเลย”

ผมฟังสิ่งที่ไอ้เอิร์ธเล่าแล้วก็อดคิดถึงอาจารย์ฝ่ายปกครองที่โรงเรียนเก่าของผมไม่ได้ รายนั้นนี่อย่าว่าแต่ไปลุยกับนักเรียนหรือนักเลงจากโรงเรียนอื่นเลย แค่ผมคนเดียวยังกำราบไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้ก็พูดออกไปไม่ได้อีกเหมือนกัน

“โรงเรียนที่มึงว่าคือโรงเรียนอะไรวะ”

“ส.ค. อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเรานี่แหละ มึงดูถ้าเจอไอ้พวกหน้าเหี้ยๆ แล้วชื่อย่อโรงเรียนนี้เมื่อไหร่ก็เลี่ยงๆ ไว้แล้วกัน” ไอ้บอมเตือนผม

“ส.ค. ย่อมาจากอะไรวะ”

“ก็สันแคมไง ไอ้สัตว์ ถามได้” ไอ้เอิร์ธตอบ

“เฮ่ยย สันครวย รึเปล่า” ไอ้บอมพูดขึ้นอีกคน

“อ้าว ไม่ใช่ สากแคม เหรอวะ” ไอ้ภูมิก็เอาด้วยอีกคน จากนั้นมันก็หัวเราะและหันไปตีมือกับคนอื่น ส่วนผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจริงๆ แล้วไอ้โรงเรียนที่ชื่อย่อว่า ส.ค. เนี่ย มันคือโรงเรียนอะไรกันแน่

หลังจากนั้นเราก็กลับไปเข้าเรียนต่อในคาบบ่าย กว่าจะหมดวันก็ทำเอาผมหมดแรงไปพอสมควร แต่ยังไม่ทันที่ผมจะทันได้เก็บกระเป๋ากลับบ้าน เสียงประกาศก็ดังขึ้นว่าต้องการตัวของผมที่ห้องฝ่ายปกครอง ทำเอาเพื่อนๆ ในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียวกัน

“มึงไปทำเหี้ยอะไรไว้วะ ไอ้ก้อง มาวันแรกก็โดนเรียนซะแล้ว” เพื่อนคนหนึ่งในห้องตะโกนถามผมขึ้น ทำให้คนอื่นๆ หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน

“กูยังไม่ได้ทำเหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมตอบก่อนจะถามพวกมันว่าห้องปกครองไปทางไหน จากนั้นก็รีบเก็บกระเป๋าและเดินออกจากห้องเรียน

เมื่อไปถึงยังห้องปกครอง ผมก็ถูกสั่งให้เดินไปนั่งรอในห้องเล็กๆ ข้างในอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพบผม ผมมารู้ทีหลังว่าเธอเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผม ชื่อว่า อาจารย์กาญกนก เราจึงนั่งคุยกันพักหนึ่งโดยไม่ได้มีเนื้อหาอะไรสำคัญเป็นพิเศษ อาจารย์แกก็แค่ถามว่าเพื่อนๆ เป็นอย่างไร คิดยังไงกับการเรียน โรงเรียน สัพเพเหระว่ากันไป แต่อีกไม่นานถัดมา ประตูห้องก็ถูกเปิดออกและมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เมื่อผมเงยขึ้นไปมองหน้าของเขา ผมก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างทันที

“ศุภวิชญ์ นี่อาจารย์อัครวินท์ เป็นรองฝ่ายปกครองและเป็นอาจารย์สอนเคมีด้วย ถ้าครูจำไม่ผิด เธอจะได้เรียนกับอาจารย์เค้าพรุ่งนี้ใช่มั้ย”

“ห.. หา ครับ อะไรนะครับ” ผมหันกลับมาหาอาจารย์ที่ปรึกษาของผมอีกครั้ง

“ครูถามว่าพรุ่งนี้เธอมีเรียนเคมีใช่มั้ย ได้ตารางสอนแล้วใช่รึเปล่า”

“อ๋อครับ น่าจะใช่นะครับ ผมยังจำไม่ได้หรอก ใครจะไปจำได้หมดภายในวันเดียวล่ะครับ” ผมตอบพลางหันไปหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองโดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าใช้คำพูดอะไรออกไป

อาจารย์กนกส่งเสียงจิ๊ปากพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็เริ่มพูดต่อ “ไม่ต้องหาแล้ว เธอจัดการตัวเองให้ดีๆ แล้วกัน เรื่องที่ครูอยากจะรู้ก็คุยกับเธอหมดแล้ว แต่อาจารย์อัครวินท์เค้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเธอต่ออีกหน่อยนะ”

“เป็นยังไงบ้างครับ ศุภวิชญ์ มาเรียนวันแรก” เจ้าของเสียงทุ่มต่ำนั้นถามขึ้นในขณะที่อาจารย์กนกกำลังลุกขึ้นยืน หลังจากที่อาจารย์กนกเดินออกไปแล้ว เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม “เมื่อคืนนอนดึกมั้ยครับ... เพื่อนบ้านชั้น 15”

ผมอ้าปากออกจะพูด แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

เฮ้ยยย!!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 21-09-2013 23:16:46
ว้ายยยยยยยยยยยยย
ครูกับนักเรียน -/-

เริ่ดดด !!

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ !!!
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-09-2013 23:23:35
เห้ยยยยยยยยยย

สนุกละคราวนี้ หึหึ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 21-09-2013 23:31:16
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!1 :a5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: winnie_the_far ที่ 21-09-2013 23:36:17
แง่ววววววววววววววววววววววววววววววว ชายลึกลับกลับกลายเป็นอาจารย์ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-09-2013 23:36:58
เฮ้ย...พี่คนนั้นเป็นฝ่ายปกครองเชียว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 22-09-2013 00:10:48
แอบเดาไว้นิดนึงด้วยว่าต้องเป็นครูแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 22-09-2013 00:15:29
หนุ่มชั้น17 เป็นอาจารย์ที่โรงเรียน!!!!  :hao6: :hao6: :hao6:

จะเป็นยังไงต่อไปๆ ครู+นักเรียน :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 22-09-2013 00:22:01
กรี๊ดดด ครูนักเรียนหรออ แอร๊ยยย รออ่านตอนต่อไป และรออ่าน เพื่อนใหม่  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 22-09-2013 00:26:02
คุณพระ!!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 22-09-2013 00:35:17
อ่านตอนแรกคิดว่าก้องอ่ะ
เมะชัวร์ๆๆๆ
แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าน้องก้อง
เคะแน่นอน เหอๆๆ

ครูกับลูกศิษย์
แถมพี่แกโหดขนาดนั้น
ทำไมเปิดตัวมาตอนแรก
จมตรีนขนาดนั้นแหละคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 22-09-2013 00:39:25
พี่อัค แก่กว่าที่คิดนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 22-09-2013 01:35:20
OMG !!!  :a5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 22-09-2013 01:41:57
สนุกๆๆ อ่ะ รอตอนต่อไปนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 22-09-2013 03:15:42
เดาถูกด้วย คุณพระเอก อาจารย์ฝ่ายปกครองจริง ๆ ด้วย ^^
โห อาจารย์กับลูกศิษย์ แล้วจะดราม่ามั้ยเนี่ย แต่แสดงว่าอาจารย์อัค
หน้าเด็กมากเลยนะ น้องก้องถึงขนาดคิดว่าเป็นนักเรียนด้วยกันได้เนี่ย
แถมยังโหดสุด ๆ ขนาดปราบเด็กเกเรมานักต่อนัก แสดงว่า ฝีมือดีมากแน่ ๆ
วันนั้น น้องก้องเข้าไปช่วยซะก่อน เลยยังไม่ทันให้อ.อัค ได้แสดงฝีมือสินะ
น้องก้อง ตัวเล็กมาก ๆ สูง 165  แต่ไหงถึงต่อยตีเก่ง แรงเยอะ ไม่สมตัวเลย
เรื่องร้ายแรงในอดีต จนทำให้เข่าใช้งานได้ไม่ดีจนถึงปัจจุบันเลย น่าสงสาร
ถึงจะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เหมือนจะมีแต่คนคอยเข้าขัดขวางไม่หยุดหย่อน
ทั้งในและนอกโรงเรียน และคาดว่า โรงเรียคู่อริ ส.ค.ต้องมามีปัญหากับน้องก้องแน่ ๆ
อยู่ที่ว่าน้องก้อง จะอดทน เพื่อให้เรียนที่นี่ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่มีปัญหาได้แค่ไหน
อ.อัค ของเรา คงต้องให้ความช่วยเหลือน้องก้อง เพื่อให้เรียนที่นี่ได้อย่างปรกติสุขสินะ
รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  :L2:  :3123:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-09-2013 08:09:17
ที่ไม่ยอใบอกตอนแรกว่าอยู่ชั้นไหนเพราะเป็นอาจารย์สินะ อาจารย์หน้าเด็กนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 22-09-2013 08:10:23
ว๊าว!!! เป็นไปตามคาด .. ถูกใจเลยทีนี้  555 สนุกแน่ ๆ  o13
รออย่างตั้งใจ อิอิอิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 22-09-2013 08:37:37
เด็กนักเลงเก่ากับอาจารย์ฝ่ายปกครองช่างเข้าคู่กันดีจริงๆ
รอลุ้นตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 22-09-2013 09:11:49
ไหงหน้าอาจารย์อ่อนซะ  หรือว่ากลางคืนมันมืด
ตอนแรกก็ยังคิดว่าเป็นแค่เรื่อง มอปลาย
ตอนนี้เลยมีลุ้น  ชอบ ๆๆๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-09-2013 09:27:27
อาจารย์!!! :a5:

กะแล้วเชียวแล้วไอ้เมื่อวานคือไรอ่ะ ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 22-09-2013 09:59:51
รอค่ะๆๆๆๆๆ :z2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 22-09-2013 10:39:27
ว๊ายยย!!อาจารย์กับนักเรียน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-09-2013 11:16:44
ถึงกับตกใจเลยเหรอก้อง พี่อัคเป็นครูฝ่ายปกครองด้วย
คงโหดไม่เบา  เตรียมใจไว้ให้ดี คงมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่นอน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 22-09-2013 11:46:20
55555นั่นไง ว่าแล้วเชียว
แบบนี้ก็ได้เจอกันเกือบทุกวันเลยสิคริๆ
ยิ่งอยู่คอนโดเดียวกันด้วย โอ้ยยน่าลุ้นจริงๆคู่นี้ รักต้องห้าม555
รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-09-2013 11:53:45
วุ้ยยย
เอาละ ครูกับนักเรียนนน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 22-09-2013 12:45:28
ว้าย บัดสีบัดเถลิง

มาต่อเร็วๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 22-09-2013 19:15:42
ถ้ากระแสดี คนเม้นเยอะๆ แบบ กัปตันกับแอร์บัส จะลงให้วันละตอนเลยเอาปะล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 22-09-2013 19:18:49
เอา ลงเยอะๆวันละหลายๆตอนก็ได้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 22-09-2013 20:06:54
หวายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หนุ่มน้อยกะคุณครู
ว่าแต่ ถ้าอาจารย์อัคเจ๋ง ไมโดนรุมกระทืบได้ล่ะนั่น
รออ่านตอนต่อไปครับบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 22-09-2013 20:19:15
บร๊ะเจ้า!!!! ครูกะนักเรียน !! โดนว่ะ

ปล.อัพวันละสองตอนก้ได้นะพี่

 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 22-09-2013 20:19:54
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :katai4:  :hao7: :katai4: :hao7:
นักเรียนกับอาจารย์ แหม่ ปลาบปลื้มปิติยินดีจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 22-09-2013 20:22:04
ชอบอะ วันละหลายตอนเถอะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 22-09-2013 21:42:32
นั่นประไร ตรูว่าแล้ว ครูจริงด้วย ในที่สุด...หน้ากระดาน โต๊ะหนังสือ เก้าอี้ก็เป็นจริง :laugh:
# พูดแล้วห้ามคืนคำนะเออ วันละตอน ชอบเห็นเด็กตีกัน มันดี โดยเฉพาะตอนที่ตบะแตก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 22-09-2013 21:55:15
อุแหม

หรือว่า..ที่อาจารย์โดนรุมจะเป็นแผนการอ่อยเหยื่อ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 22-09-2013 21:55:56
เอามาลงได้ละอย่ายั่วดิ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-09-2013 22:04:45
พระเจ้า นี่มันเลี้ยงต้อยชัดๆ

แถมยังไม่โชว์เตะต่อยต่อหน้าอาจารย์ฝ่ายปกครองตั้งแต่วันแรกอีก

ซ่าๆ แบบนี้คงต้องให้อาจารย์มาปราบ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 23-09-2013 00:32:38
ถือเป็นขั้นกว่าเลยทีเดียว กับการเปิดตัวเหนือๆ
คือเป็น.....อาจารย์กับลูกศิษย์......กันเลยจ้า
แล้วสมภารจะกินไก่หรือไม่อย่างไร ที่ใด!
ก็ชวนหนุกหนานล่วงหน้ามากค่ะ
รออ่านบทบู๊ที่จะตามมานะคะ
น่าจะเลือดพล่าน เดาว่า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Heisei ที่ 23-09-2013 01:06:59
ตอนแรกคิดว่าเป็นพี่ชายชั้นปีสูงกว่า

ไหงกลายเป็นอ.ได้อะ  ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 23-09-2013 02:49:55
โอ้  :really2:
สวัสดีครับคุณครู _/|\_
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 23-09-2013 12:38:56
 :hao5:รอดูครูกะนักเรียน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: np3 ที่ 23-09-2013 14:36:59
นั่นปะไรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร
ทายถูกด้วยว่าต้องเป็นครู มันส์ล่ะทีนี้

ลงวันละเยอะๆเลยน๊าาาาาาา
เพิ่งว่างเข้ามาอ่าน ติดตามจ้าาา  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-09-2013 20:00:18
สนุก เข้ามาติดตาม :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 24-09-2013 02:37:52
ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมากคับคุณต้น มาต่ออีกบ่อยๆนะคับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 24-09-2013 09:29:27
เป็นอาจารย์นี่เอง จัดการเด็กแสบยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 24-09-2013 19:02:57
ชอบมากอาจารย์นักเรียน

มาอัพตอนใหม่ไวๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 24-09-2013 19:47:01
อยากรู้จังเลย  ว่าน้องก้องจะป่วน อ.ฝ่ายปกครองระดับไหน  :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 2: 21 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2013 20:48:30
แอรรรรรรรรรรรรรรรรรรร๊
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-09-2013 21:29:14
ตอนที่ 3


“ตกลงเมื่อคืนนอนดึกมั้ย แล้วได้กินข้าวกล่องที่ซื้อมารึเปล่า” เขาถามซ้ำอีกครั้ง

ผมส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ดึก”

“แล้วกินข้าวล่ะ”

“กิน”

“พูดจากับผู้ใหญ่ให้มันสุภาพ”

“กิน... ครับ...” ผมพูดลอดผ่านไรฟัน

“ค่อยยังชั่ว” เขายิ้มออกมา แต่เหมือนเป็นรอยยิ้มที่ดูเย้ยๆ ผมชอบกล “ผมชื่ออาจารย์อัครวินท์นะครับ เป็นอาจารย์สอนเคมี แล้วก็เป็นอาจารย์ผู้ช่วยฝ่ายปกครองด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงอยากจะเตือนคุณว่า การแสดงความรุนแรงหรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างเช่นเมื่อคืนนี้ คือสิ่งที่ห้ามเกิดขึ้นภายในรั้วโรงเรียนนี้เด็ดขาด เข้าใจรึเปล่า”

“อ้าว!” ผมร้องขึ้น “แต่เมื่อคืนนี้กู...”

เขากระแอมเบาๆ

“ผมไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มทำอะไรสักหน่อย” ผมรีบแก้สรรพนาม “อีกอย่างผมเป็นคนไปช่วยอาจารย์เอาไว้นะ”

“นอกจากการทะเลาะวิวาททุกชนิดจะถูกห้ามภายในบริเวณโรงเรียนแล้ว บทลงโทษที่สมควรก็ยังคงใช้ได้กับการใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นนอกรั้วโรงเรียนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่ามันสามารถส่งผลเสียต่อทางโรงเรียน...” เขาพูดต่อโดยไม่สนใจผม “ไม่ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดของวันก็ตาม”

“แล้ว... อ้าว... เฮ้ยย อะไรวะ!” ผมโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด

“ระวังภาษาด้วยครับ หรือคุณต้องการจะให้ผมลงโทษคุณตั้งแต่วันแรกของการมาเรียนเพื่อเป็นตัวอย่าง”

“...ขอโทษครับ” ผมก้มหน้า

อย่าให้ถึงทีกูนะมึง!

“ดีมาก คุณย้ายโรงเรียนมาแล้ว ก็อย่าให้มันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก ผมได้รายงานวีรกรรมของคุณมาเพียบ ดูท่าทางว่าที่ผ่านมาจะแสบไม่เบาเลยนี่ ตั้งแต่ประถมเลยด้วย” เขาหยิบกระดาษใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วคลี่มันออก “ตอนประถม มีเรื่องชกต่อยทั้งหมดหกครั้ง ในจำนวนนั้นสามครั้งเกิดขึ้นภายในโรงเรียน ตอนมัธยมต้นมีเรื่องวิวาททั้งหมดเก้าครั้ง สองครั้งเป็นเรื่องใหญ่ขนาดที่อีกฝ่ายต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นนอกโรงเรียนจนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า...” เมื่อพูดจบเขาก็ชำเลืองมองมาที่ขาของผม

“เดี๋ยวก่อนครับ” ผมขัดขึ้น “ผมก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ไปเอาข้อมูลพวกนั้นมาจากไหนนะ แต่ผมไม่เคยนับหรอกนะว่ามันเกิดเรื่องกับชีวิตผมขึ้นกี่ครั้ง และผมก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอ้ครั้งสุดท้ายที่อาจารย์บอกว่าเป็น ‘การวิวาท’ จนผมได้รับบาดเจ็บนั่นน่ะ ช่วยไปหาข้อมูลมาใหม่ดีๆ ด้วยครับ” ผมพยายามระงับความโกรธไว้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้ร่างกายและเสียงสั่นได้จริงๆ “ถ้าอาจารย์ไม่มีธุระอะไรมากกว่านี้ ผมขอตัวกลับไปทำการบ้านก่อนล่ะครับ” ผมพูดพร้อมกับยืนขึ้น

“นั่งลง” เขาออกคำสั่งสั้นๆ แต่ผมก็ยังคงยืนมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาจงยืนขึ้นประจันหน้ากับผม “ผมบอกให้นั่งลงไง!”
แววตา บวกกับน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำเด็ดขาดของเขา ทำให้ผมถึงกับต้องผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม

“ดีมาก” เขาเองก็นั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม “ไม่เสียแรง...”

“ขอโทษครับ” ผมนิ่วหน้า “ไม่เสียแรงอะไร”

เขามองมาที่รอยเปื้อนบนเสื้อของผม “ไปเลอะอะไรมา”

“แค่ข้าวหกเฉยๆ”

เขากระแอมในลำคออีกครั้ง

“แค่ข้าวหกเฉยๆ ครับ...”

“วันนี้ผมคุยโทรศัพท์กับแม่ของคุณมา และแม่ของคุณบอกผมว่า บางทีต้นเหตุของการที่คุณเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงเนี่ย น่าจะมาจากในวัยเด็กที่คุณเคยได้รับอิทธิพลจากคนอื่นมา คุณคิดว่าอย่างนั้นรึเปล่า”

ผมเกือบจะอ้าปากถามว่าเขาไปคุยกับแม่ของผมมาได้ยังไง แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นคำถามที่งี่เง่าเกินไป จึงตัดสินใจไม่ถาม แต่กลับเริ่มคิดถึงสิ่งที่เขาพูด ผมนึกย้อนไปเมื่อตอนผมยังเด็ก... ใช่ ผมเคยรู้จักกับพี่แถวบ้านคนหนึ่ง ผมจำได้ว่าผมเคยชื่นชมเขา เขาเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่ เสียงดัง โผงผาง เก่งเรื่องชกต่อยมาก เรียกว่าเป็นนักเลงประจำโรงเรียนและแถวละแวกบ้านเลยก็คงได้ แต่ผมจำได้ว่าถึงเขาจะเป็นแบบนั้น เขาก็เอ็นดูผมราวกับน้องชายแท้ๆ ของตัวเอง ผมจึงไปคลุกคลีกับอยู่กับเขาและเพื่อนๆ บ่อยๆ แต่ผมก็จำรายละเอียดไม่ได้มากนักหรอก เพราะมันก็หลายปีมาแล้ว และเขาก็อยู่แถวบ้านผมแค่ช่วงสั้นๆ ไม่กี่ปีเท่านั้นเอง

ผมเองก็ไม่ได้คิดถึงเขาคนนี้มานานมากแล้วนะ และผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อผมจนทำให้ผมมีนิสัยแบบนี้ หน้าตาหรือชื่อของเขาเป็นยังไงผมก็ยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่ผมมีเหลืออยู่ก็แค่ความทรงจำลางๆ เกี่ยวกับเขาและความรู้สึกว่าเคยรู้จักคนแบบเขาอยู่ก็เท่านั้นเอง

“ผมว่าผมไม่เคยได้รับอิทธิพลอะไรจากใครทั้งนั้นแหละครับ ผมก็เป็นของผมแบบนี้เอง และผมก็ไม่ได้อยากจะหาเรื่องใครก่อนด้วย ผมบอกไปแล้วไง”

อาจารย์อัคมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง แต่คราวนี้เขามองผมเหมือนกับกำลังพยายามศึกษาผมอยู่ เหมือนกับว่ากำลังพยายามอ่านใจหรือจับผิดอะไรผมสักอย่าง

“โอเค” เขาพูดขึ้นในที่สุด “ถ้าคุณคิดแบบนั้นก็ดี ผมก็แค่ลองทดสอบคุณดูนิดหน่อยเท่านั้นแหละ”

“อาจารย์จะมาทดสอบผมทำไม”

“แค่อยากให้แน่ใจเฉยๆ”

“แน่ใจอะไรครับ”

เขายืนขึ้นแล้วเดินตรงไปยังประตู “คุณกลับบ้านได้แล้วครับ จะไปทำการบ้านอะไรก็ทำซะให้เรียบร้อย”

“เดี๋ยวครับ” ผมหยุดเขาก่อนที่เขาจะทันได้เปิดประตูออก “เมื่อคืนอาจารย์ไปทำอะไรในซอยนั้น แล้วทำไมถึงไปถูกเด็กพวกนั้นมันรุมเอาได้ พวกมันไม่รู้เหรอว่าอาจารย์เป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนนี้น่ะ”

เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเปิดประตูออก “เชิญครับ”

ผมคว้ากระเป๋าขึ้นจากพื้นห้องอย่างหัวเสียและเดินตรงไปยังประตู แต่ในตอนที่ผมกำลังจะเดินสวนเขาออกจากห้องไปนั้น เขาก็วางมือลงบนหัวไหล่เพื่อหยุดผมเอาไว้เสียก่อน

“คืนนี้ตอนทุ่มตรง มาหาผมที่ชั้นสี่ ตรงสระว่ายน้ำ มีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”

ผมไม่ตอบ

“ตอบรับสิ” เขาพูดเสียงหนักแน่น

“ครับ”

“ดีมาก เพราะไม่งั้น...”

ผมหยุดรอฟังสิ่งที่เขาจะพูด แต่เขาก็ไม่ยอมพูดต่อสักที

“...เหอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น

“เปล่า ไม่มีอะไร”

น้ำเสียงของเขาทำให้ผมรู้สึกสงสัยขึ้นมา มันไม่ใช่น้ำเสียงที่แสดงถึงอำนาจ ไม่ได้ออกคำสั่ง และไม่ใช่การข่มขู่ แต่มันฟังดูแทบจะคล้ายกับ... การยอมถอดใจหรือการขอโทษอะไรสักอย่าง

คิดไปเองมั้ง

หลังออกจากโรงเรียน ผมก็ตรงดิ่งกลับบ้าน และเมื่อถึงห้องแล้วผมก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงทันที วันเปิดเทอมวันแรกของผมเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย ไหนจะจำชื่อเพื่อนใหม่ ไหนจะเรียน ไหนจะเรื่องพวกไอ้วีเมื่อตอนกลางวัน แถมยังเรื่องของไอ้อาจารย์อัคนั่นอีก แม่งงง! หออื่นคอนโดอื่นก็มีเยอะแยะดันไม่เลือกนะแม่ ดันต้องมาอยู่หอเดียวกับอาจารย์ของตัวเอง นี่ยังดีนะที่ไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกันหรือห้องติดกัน ไม่งั้นคงซวยตายห่า แล้วนี่เขาเรียกผมไปเจอที่สระว่ายน้ำตอนทุ่มนึงนี่เพื่ออะไรอีกล่ะ มันมีอะไรที่คุยในโรงเรียนไม่ได้รึไงวะ

ผมนอนคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้จนกระทั่งเผลอหลับลงไป แต่นอนไปยังไม่ทันจะหลับสนิทดีก็ดันต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ผมกระเด้งลุกออกจากเตียงและควานหาโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด เมื่อเจอก็สไลด์รับสายทันทีโดยไม่ได้แม้แต่มองว่าคนที่โทรเข้ามาคือใคร

“ฮัลโหล!” ผมเกาหัวแกรกๆ

“เป็นยังไงบ้าง ก้อง เปิดเทอมวันแรก” แม่ของผมถามขึ้น

“อ้าว แม่เองเหรอ...” ผมบิดขี้เกียจ “ก็ดีอะ ไม่มีอะไรมากหรอก”

“เหรอ แล้วเพื่อนๆ เป็นยังไงบ้าง เพื่อนดีมั้ย”

“ก็ดีครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ก้องไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว” ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนพักกลางวันขึ้นมา แต่ก็ตัดสินใจไม่เล่าให้แม่ฟังดีกว่า

“แบบนั้นก็ดี แล้วนี่ทำอะไรอยู่ กินข้าวกินปลารึยัง”

“โอ๊ยย ยังหรอกแม่ นี่ก้องเพิ่งกลับมาถึงห้องเอง กำลังทำการบ้านอยู่พอดี”

“ตอแหล แม่ว่าแกกำลังนอนอยู่มากกว่า”

“อ้าวแหม รู้ได้ไง”

แม่หัวเราะเบาๆ “งั้นแกจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ ตั้งใจเรียนนะลูก ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรบอกแม่ทันทีเลยนะ เข้าใจรึเปล่า”

“คร้าบบบ” ผมรับคำ แต่แล้วก่อนที่แม่จะวางสายไป ผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เฮ้ย! เดี๋ยว แม่!”

“อะไร”

“วันนี้มีอาจารย์จากโรงเรียนโทรไปหาแม่ด้วยเหรอ แม่คุยอะไรกับเค้าไปมั่งเนี่ย”

“เออใช่ มีโทรมาคนนึง แล้วก็โทรไปหาที่โรงเรียนเก่าแกด้วย เห็นว่าเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองรึไงนี่แหละ ตอนแรกแม่ก็ตกใจ นึกว่าแกไปก่อเรื่องอะไรไว้อีก แต่เค้าบอกว่าแค่โทรมาสอบถามประวัติดูเฉยๆ แม่ก็โล่งใจ เฮ้ออ ก็แกนะ ไอ้ก้อง ทำแม่ใจเสียมาไม่รู้กี่รอบละ แม่ก็อดห่วงไม่ได้ แถมยัง...”

“เดี๋ยวแม่ พอก่อน ขอเข้าประเด็นเลยได้ปะ” ผมรีบพูดขัดขึ้นก่อนแม่จะร่ายยาวไปมากกว่านี้ “แล้วแม่ไปบอกอะไรเค้า ทำไมไปพูดว่าก้องได้รับอิทธิพลไม่ดีมาจากคนอื่น”

“อ้าว หรือไม่จริงล่ะ ตอนเด็กๆ แกไปคลุกคลีอยู่กับเด็กที่โตกว่าประจำ จำไม่ได้เหรอ แถมยังเคยมาพูดกับแม่เลยว่าพอโตขึ้นแล้วอยากจะเป็นนักมวยบ้างล่ะ อยากจะเป็นนักเลงบ้างล่ะ แต่ยังดีหน่อยที่ไอ้วินมันก็ไม่ใช่เด็กนิสัยไม่ดีอะไร แม่ก็เลย...”

“เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวก่อนแม่ เมื่อกี้แม่บอกว่าใครไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไรนะ” ผมรีบขัดขึ้น

“ก็เจ้าวินไง ลูกคนเล็กของป้าเนียรที่เคยอยู่แถวบ้านเรา อ้าว แกจำพี่เค้าไม่ได้เหรอ สมัยก่อนเห็นชื่นชมเชิดชูพี่เค้าจะเป็นจะตาย”

วิน... วิน... จะว่าไปก็คุ้นๆ อยู่เหมือนกันแฮะ แต่ผมจำชื่อเขาไม่ได้จริงๆ นะเนี่ย

“แต่ก้องจำชื่อกับหน้าเค้าไม่ได้ด้วยซ้ำนะ แม่ ก้องจะไปได้รับอิทธิพลอะไรมาจากเค้านักหนา ก้องก็เป็นของก้องแบบนี้เอง ไม่ได้ไปเลียนแบบใครอะไรสักหน่อย และแม่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าก้องไม่เคยไปหาเรื่องใครด้วยซ้ำ หลายๆ ครั้งก้องไปมีเรื่องก็เพราะไปช่วยคนอื่นนะ”

แม่ถอนหายใจ “จะยังไงแม่ก็ไม่อยากให้แกมีเรื่องอีกต่อไปแล้ว ก้อง แม่อยากให้แกตั้งใจเรียน โค้งสุดท้ายก่อนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ ไม่ต้องไปช่วยเหลือใครจนตัวเองต้องกลายเป็นคนไม่ดีอีกแล้ว”

“งั้นก้องไปทำการบ้านก่อนละครับ แค่นี้นะแม่”

หลังจากวางสาย ผมก็เดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำและยืนส่องกระจกมองหน้าตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ชื่อ ‘วิน’ ที่แม่บอกมาเมื่อครู่มันคุ้นผมจริงๆ เรื่องคือถ้าแม่พูดมาถึงขนาดนั้นแล้ว ที่คนที่ผมเคยสนิทด้วยและชื่นชมเมื่อตอนเด็กๆ ก็ต้องชื่อวินแน่ๆ ล่ะ แต่ที่ผมบอกว่าคุ้นเนี่ย มันหมายถึงอย่างอื่นมากกว่า ผมเริ่มนึกได้ลางๆ ว่าเขาน่าจะเป็นคนที่เคยอยู่ในค่ายมวย หรือเคยเล่นเทควันโด หรือยูโด หรือคาราเต้ หรืออะไรสักอย่าง แล้วเขาก็เคยสอนผมนิดหน่อยด้วย ใช่แล้ว ผมเริ่มจำได้แล้วว่าเขาเคยสอนผมให้รู้จักป้องกันตัวเอง และฝึกให้ผมเป็นคนเข้มแข็งและอดทน หลังจากนั้นผมก็เลยอ้อนแม่ขอเรียนเทควันโดตั้งแต่เด็ก... แต่ผมข้องใจจริงๆ เลยว่ะ ว่าทำไมผมถึงจำรายละเอียดเกี่ยวกับเขาไม่ค่อยได้เลยวะ

“พี่วิน... พี่วิน...” ผมพยายามนึกหน้าของเขา แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆ ผมจำได้แค่ว่าพี่เขาเป็นคนเสียงดังและเสียงดุ นอกจากนั้นก็ยังหน้าตาดีอีกต่างหาก แต่หน้าตาดีแบบไหนยังไงนี่หมดปัญญาจะนึกออกว่ะ

ใช่ ผมเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย รู้ตัวมานานแล้วด้วย แต่แสดงออกไม่ได้ ไม่มีคนรู้ ผมจะให้พวกมันรู้ได้ยังไง ก็ผมอยู่ในสังคมแบบนั้น แถมยังเป็นคนแบบนี้อีก ขืนเพื่อนๆ หรือพวกแกงค์ของผมมันรู้เข้าก็ตายห่าพอดี นักเลงหัวโจกลูกน้องเป็น 10 แต่ดันชอบเพศเดียวกันเนี่ยนะ

ผมส่ายหน้า เอาวะ ไหนๆ ก็ย้ายมาอยู่ไกลจากพวกมันและจะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว ถ้ายังไงก็ลองค่อยๆ เปิดใจเปิดตัวดูซิว่าคนหน้าตาอย่างผมจะพอมีโอกาสได้มีแฟนคนแรกกับเขาบ้างสักทีรึเปล่า เรียนโรงเรียนชายล้วนทั้งที คนหน้าตาดีๆ ก็มีเยอะแยะ มันต้องมีสักคนล่ะวะที่จะมาสนใจผมบ้าง

ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนและกระโดดขึ้นบนเตียง ชื่อวินที่แม่พูดยังคงสะกิดใจผมไม่หาย แต่เมื่อนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก หัวของผมมันก็เปลี่ยนไปนึกถึงเรื่องของไอ้เด็กที่ชื่อวีที่มาหาเรื่องผมเมื่อตอนกลางวันแทน ผมก็ไม่รู้ว่าแม่งมีปัญหาอะไรกับผมนะ แต่ท่าทางมันจะตั้งตัวหาเรื่องเป็นศัตรูกับผมไปเรียบร้อยแล้ว แม่งงง นี่ถ้าเป็นที่โรงเรียนเก่าล่ะก็นะ...

ไม่ๆๆ ผมจะกลับไปทำตัวแบบนั้นไม่ได้ ผมต้องใจเย็นมากกว่านี้ ต้องสวมบทบาทเด็กดีเอาไว้ให้นานๆ ต้องไม่สร้างปัญหา และถ้าปัญหามันเป็นฝ่ายตามมาหาเรื่องผม ก็ให้เดินหนีไปซะแบบเมื่อตอนกลางวันนั่นแหละ ดีแล้ว

ผมว่าผมคงเกิดมาซวยจริงๆ นั่นแหละ ถึงจะไม่ไปหาเรื่องใครก่อน แต่ก็มักจะเจอคนกวนตีนหรือมาหาเรื่องก่อนประจำ อย่างไอ้วีนั่นก็หนนึงละ แล้วไหนจะยังอาจารย์อัคนั่นอีก ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้ดูจะชอบหาเรื่องผมจังวะ แถมผมจะกวนตีนกลับก็ทำไม่ได้อีก เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงอาจารย์ คิดไปคิดมา ไอ้รายนี้เนี่ยท่าทางจะรับมือยากยิ่งกว่าไอ้วีซะอีกมั้ง

เมื่อท้องเริ่มหิว ผมก็เลยลงไปข้างล่างเพื่อหาซื้ออะไรกลับขึ้นมากินบนห้อง เพราะผมยังคงไม่ชินกับการลงไปนั่งกินข้าวคนเดียวในร้านที่คนเยอะๆ สักเท่าไหร่ ไม่ได้เขินหรืออายอะไรหรอกนะ แต่มันแค่รู้สึกแปลกๆ ชอบกล บางทีผมอาจจะยังไม่ค่อยเคยชินกับการไปไหนมาไหนคนเดียวล่ะมั้ง

หลังจากที่ได้ข้าวผัดกะเพรามากล่องนึง ผมก็เดินกลับเข้ามาที่คอนโด และในตอนที่ผมกำลังล้วงหยิบเอากระเป๋าเงินออกมาเพื่อแตะบัตรนั้น ผมก็เหลือบไปเห็นอาจารย์อัคกำลังเดินตรงเข้ามาจากอีกทาง ด้วยความตกใจ ผมจึงชะงักฝีเท้าลงและรีบเดินไปหลบอยู่หลังต้นไม้ทันที

ก็ผมยังไม่ค่อยอยากเจอเขาในตอนนี้นี่หว่า

“สวัสดีครับ อาจารย์วิน! สบายดีมั้ยครับ!” ยามที่เฝ้าหน้าประตูกล่าวทักทายขึ้นเสียงดังพร้อมทำท่าตะเบ๊ะ

“สวัสดีครับพี่ แต่ผมบอกแล้วไงไม่ต้องเรียกผมว่าอาจารย์หรอก ผมไม่ได้อยู่ในโรงเรียน” เขาตอบ

“ครับ อาจารย์วิน เอ๊ย! คุณวิน!” ยามคนนั้นยังคงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง

แต่เดี๋ยวก่อนนะ... นี่เขาก็ชื่อวินเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาวิ่งชนหัวสมองก้อนน้อยๆ ของผมเข้าอย่างจัง

ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรกลับไปหาแม่ทันที “แม่! ไอ้พี่วินที่แม่บอกก้องอะ แม่รู้ชื่อจริงมันรึเปล่า!”

“อะไรของแก้เนี่ย ตาก้อง แม่ไม่รู้หรอก แม่จะไปรู้ได้ยังไง”

“แล้วนามสกุลล่ะ เออใช่ นามสกุลก็ได้!”

“นามสกุลเหรอ... แม่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่ป้าเนียรน่ะ รู้สึกว่าจะนามสกุล ‘แสงทอง’ ล่ะมั้ง”

“โอเค แค่นี้ก่อนนะแม่!”

“เดี๋ยว ก้อง ต...”

ผมตัดสายไปก่อนที่แม่จะทันพูดจบ จากนั้นก็ใช้มือถือเปิดเว็บไซท์ของโรงเรียน เสิร์ชหาชื่อของอาจารย์อัครวินท์ แต่ก็ไม่เจอ ผมจึงคลิกไปที่แผนกฝ่ายปกครองแล้วดูรายชื่ออาจารย์ประจำแผนก หัวหน้าฝ่ายปกครองคืออาจารย์ศุภกรณ์ ส่วนรองฯ คือ... นี่ไง ‘อาจารย์อัครวินท์ ธนภูตินนท์’

ผมดูรูปและอ่านชื่อกับนามสกุลของเขาซ้ำไปมาอีก 2-3 หนกว่าจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไอ้ตอนแรกผมก็หลงคิดว่าเขาจะเป็นคนๆ เดียวกันไปซะแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็จบังเอิญเกินไปหน่อยล่ะมั้ง แม่นะแม่ ไม่น่าพูดขึ้นมาให้ผมเข้าใจผิดเลยจริงๆ

ผมเดินออกมาจากที่ซ่อนและกลับขึ้นไปกินข้าวในห้องของตัวเอง จากนั้นก็นั่งดูทีวีอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งนาฬิกาที่วางอยู่บนชั้นวางหนังสือบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-09-2013 21:50:29
ชัวร์ว่าวินเดียวกัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-09-2013 21:56:46
ชัดเลย พี่วิน หึหึ
ชอบก้องตรงที่ยอมรับตัวเองแบบตรงๆ ก็เป็นเกย์อ้ะ
ขอให้เจอรักในโรงเรียนใหม่นะก้อง 555555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 24-09-2013 21:56:59
พลิกอีกตลบเลยอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 24-09-2013 22:08:14
แหมม เปลี่ยนนามสกุลหรือปล่าวววว

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2013 22:08:39
เย้ยๆ  จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 24-09-2013 22:25:04
วินเดียวกันชัวร์  รู้สึกแหม่งๆตั้งแต่ตอนที่จารย์วินแกถามถึงรุ่นพี่สมัยเด็กๆแล้ว
อ่านแล้วยิ้มแก้มปริเลย ไม่รู้ว่ายิ้มอะไร ไม่มีอะไรให้ฟินด้วยซ้ำตอนนี้
แต่เราชอบมากกกกกกกก
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-09-2013 22:27:58
คนเดียวกันแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-09-2013 22:32:04
อ้าวคนกันเองนี่นา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-09-2013 22:34:04
ท่าทางโลกจะกลม คนเดียวกันแน่ o18
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-09-2013 22:41:34
อาจารย์วิน เปลี่ยนนามสกุลอ่ะดิ อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 24-09-2013 23:42:53
ก็บอกอยู่หยกๆ ว่า 'นามสกุลป้าเนียร' ไม่ใช่พี่วินนิ โถ่ เอ่ทีนี้ รอดูก้องถูกเชือดก่อนชิม
# ดูท่าพี่วินคง 'ผิดหวัง' ที่ก้องจำตัวเองไม่ได้ ถึงทำหน้าอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 25-09-2013 00:15:49
น่าติดตามมากๆๆคับ ดำเนินเรื่องได้ดีคับ ชอบคับ
ขอบคุณมากคับ ว่างๆก็มาต่ออีกนะคับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 25-09-2013 01:29:21
คนเดียวกันชัวร์ๆๆๆ :really2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 25-09-2013 01:50:19
คนเดียวกันแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 25-09-2013 04:04:57
ยุให้ต่อต้านได้มั้ย...อยากเห็น
ขบถเล็กๆ ดื้อเบาๆ ไม่ต้องไปตามสั่งอ.วิน
อยู่โรงเรียนควงเด่นๆซักคน เก๋ๆ
มาไม้ไหน ตื่นเต้นมาก ลุ้นมากค่ะจุดนี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 25-09-2013 06:24:11
พี่วิน  มีความหลังฝังใจเหรอเนี้ยะ   
วางแผนหลอกให้ไปช่วยจากนักเลงแน่เลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-09-2013 07:41:29
วินเดียวกันน่ะแหละ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-09-2013 09:51:20
คนคุ้นเคยแน่ๆ
ก้องฟังแม่ไม่ทันจบ วางสายก่อน เสียดายจีงๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-09-2013 10:03:17
คนเดียวกันชัวร์ๆ อิอิ

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 25-09-2013 16:17:37
โย่ววว วินเดียวกันชัวร์

แต่พี่แกเปลี่ยนนามสกุล

น้องเลยจำไม่ได้

ฟินแล้วจ้าาาา 
:pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 25-09-2013 17:45:18
จะใช่คนเดียวกันรึเปล่านะ ....
ถ้าใช่ พี่เค้าคงรู้สึกไม่ดีเนอะ ที่แม่ก้องหรือใคร ๆ มองว่า ..
พี่เค้าเป็นคนต้นแบบที่ทำให้ก้องเกเร ชอบมีเรื่องชกต่อย 
ก้องก็จำอะไรไม่ได้เลยซะงั้น ..  :z3:

หนึ่งทุ่มแล้ว .......... ก้องจะไปตามนัดรึเปล่าน๊า!!!! ..  :hao4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 25-09-2013 18:02:52
คนเดียวกันชัดชัด

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 25-09-2013 19:46:48
อ่านแรกๆ

ก็นึกว่าคุณอัค เป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนซะอีก

อ่านไปอ่านมา เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองด้วย

สุดท้ายอ่านอีก อ้าว ต้องใช่พี่ข้างบ้านสมัยเด็กชัวร์
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 25-09-2013 20:08:30
ุถ้าใช่คนเดียวกันละก็.. ฮี่ๆๆ

เดาว่าน่าจะใช่น้าาาาาา   โอ้ยยยย  -////-   
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 25-09-2013 20:26:30
นี่ก็สองทุ่มจะครึ่งละ ก้องไม่ไปตามนัดชัวร์  :hao4:




55 ล้อเล่น  :mew3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 25-09-2013 21:41:02
ขอ วินอีกคน จะดีมาก เบื่อหน้า อาจารย์วิน  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 25-09-2013 21:48:16
วินเดียวกันปะเนี่ยย
แล้ววี วิน วี วิน เกี่ยวกันมั้ยนะ #แผนภูมิเชื่อมโยงแบบมายแมปปิ้ง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 26-09-2013 09:57:49
 :haun4: :pighaun:

สงสัยตัวเอก จะคัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-09-2013 14:00:59
 :call:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 26-09-2013 14:54:38

แต่การได้เห็นน้ำตาของแม่ที่ร้องไห้ให้ผมในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา มันเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดทางกายที่ผมได้รับ


น่าจะต้องบอกว่า แต่ความเจ็บปวดทางกายที่ผมได้รับในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา  มันเทียบไม่ได้เลยกับการได้เห็นน้ำตาของแม่ที่ร้องไห้ให้ผมในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา รึเปล่าฮะ
เพราะมันเหมือนกับว่า น้ำตาของแม่เทียบไม่ได้(มีค่าน้อยกว่า)ความเจ็บ
หรือเราเข้าใจผิดหว่า ...
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 26-09-2013 20:05:43
น่าจะต้องบอกว่า แต่ความเจ็บปวดทางกายที่ผมได้รับในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา  มันเทียบไม่ได้เลยกับการได้เห็นน้ำตาของแม่ที่ร้องไห้ให้ผมในตอนที่ผมฟื้นขึ้นมา รึเปล่าฮะ
เพราะมันเหมือนกับว่า น้ำตาของแม่เทียบไม่ได้(มีค่าน้อยกว่า)ความเจ็บ
หรือเราเข้าใจผิดหว่า ...

ขอบคุณครับ ผมผิดเอง คำมันตกไป แก้ละครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 28-09-2013 09:07:33
พี่คนแต่งไปหนาย หลายวันแล้วน๊าา  :katai2-1:

มาต่อเร๊ววววววววววววว   :ling1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 28-09-2013 09:36:38
รอจ้ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: buff89 ที่ 28-09-2013 10:15:59
คนเดียวกันชัวร์
ฟินเลยอะ ครูกับนักเรียน อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 28-09-2013 11:48:28
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 29-09-2013 10:36:57
เพ่ต้น~ รออยู๊~ นะ คิกถึงก้องแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 29-09-2013 21:33:33
อ่านกี่เรื่องก็สนุก ลุ้นรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 29-09-2013 22:42:40
รอออออออ :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 29-09-2013 23:15:21
เข้ามาช่วยดัน  :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 30-09-2013 03:58:19
เพิ่งมาอ่าน เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก

รอตอนต่อไปนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 30-09-2013 06:07:42
ชัวร์เลยว่าคนเดียวกัน แต่ครูกับนักเรียนต้องมีดราม่าแน่เลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 3: 24 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 30-09-2013 20:42:49
หายเหนื่อยแล้วมาต่อสักตอนนะคะคุณนักเขียน ... รอค่ะรอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 30-09-2013 22:56:48
ตอนที่ 4


ที่ตึกของผม บนชั้นสี่จะเป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ และสวนหย่อมขนาดย่อมๆ อยู่ นั่นแปลว่านอกจากชั้นของตัวเองและชั้นล่างแล้ว คีย์การ์ดของทุกห้องจะสามารถใช้กดลิฟต์มาที่ชั้นสี่ และใช้เปิดประตูของชั้นนี้ได้

ผมจงใจรอจนเลยหนึ่งทุ่มไป 15 นาที ถึงได้เดินออกจากห้อง ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปหรอก แต่ผมกลัวจะโดนเขากวนตีนใส่หรือมีปัญหาทีหลังมากกว่า นึกๆ แล้วก็แปลกอยู่เหมือนกันนะ เพราะปกติผมแทบไม่เคยกลัวใครเลย อาจารย์ที่ผมเคยนับถือและยอมให้เมื่อตอนอยู่มัธยมต้นก็มีแค่ 2-3 คน นอกนั้นผมไม่เคยสนใจสักนิด แต่ไม่รู้ว่าทำไม พอนึกถึงน้ำเสียงของอาจารย์อัคคนนี้ขึ้นมาแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าไม่อยากจะมีปัญหาหรือทำให้เขาไม่พอใจสักเท่าไหร่...

เออ พูดง่ายๆ คือกลัวนั่นแหละ แต่ไม่ค่อยอยากจะยอมรับ

พอผมลงไปถึงชั้นสี่ ผมก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะไปเจอเขาตรงไหน ผมเดินพลางกวาดสายตามองไปยังห้องฟิตเนสทางซ้ายมือก็ดูเหมือนจะไม่มี มองไปทางขวาที่เป็นสวนหย่อมก็ไม่มี ผมจึงเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำและนั่งลงบนม้านั่งตัวหนึ่ง มีคนกำลังอยู่ในสระห้าคน สามคนในนั้นกำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่ขอบสระ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนลอยคออยู่บนห่วงยาง ส่วนผู้ชายอีกคนเป็นเพียงคนเดียวที่กำลังว่ายน้ำอยู่จริงๆ

ผมมองดูเวลาบนมือถือแล้วก็หันไปมองรอบๆ อีกครั้ง นี่ก็เลยเวลานัดมา 20 นาทีแล้ว สงสัยเขาจะไม่มาแล้วล่ะมั้ง เมื่อคิดอย่างนั้นผมก็ลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงๆ หนึ่งเรียกให้หยุดเอาไว้

“จะรีบไปไหนล่ะ”

ผมหันไปมองด้านข้างแล้วก็เห็นว่าผู้ชายคนหนึ่งกำลังขึ้นมาจากสระ และเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอาจารย์ของผมนั่นเอง

“มาก็สายแล้วยังจะรีบกลับอีก” เขาเดินไปยังม้านั่งตัวถัดออกไปแล้วหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัว

ผมมองร่างกายของเขาแล้วอ้าปากค้าง เขามีหุ่นแบบเดียวกับนายแบบตามนิตยสารไม่มีผิด ทั้งกล้ามท้องที่เป็นลอนชัดเจน กล้ามอกที่เป็นลูก และกล้ามแขนเป็นมัดๆ แถมเจ้าตัวยังใส่กางเกงว่ายน้ำแบบบิกินี่ที่รัดซะจนเห็นหมดว่าพาดอะไรเฉียงไปทางไหน แต่นี่ขนาดแสงไฟไม่ค่อยเยอะผมยังเห็นเค้าโครงเป็นลำชัดเจนขนาดนั้น ถ้าหากอยู่ในที่สว่างๆ แล้วจะเห็นขนาดไหนวะเนี่ย
เมื่อผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา เขาก็กำลังยิ้มมุมปากน้อยๆ รออยู่แล้ว

“กินข้าวรึยัง”

“กินแล้ว” ผมตอบ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ก็เลยจำเป็นต้องเพิ่มหางเสียงต่อท้ายไป “...ครับ”

“อ้าวเหรอ ว่าจะชวนไปหาอะไรกินด้วยกันสักหน่อย”

ผมนิ่วหน้า “อาจารย์อยากเจอผมเนี่ย มีอะไรรึเปล่าครับ”

“ก็แค่อยากเจอเพื่อนบ้านเฉยๆ” เขายิ้มน้อยๆ “รออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อ” เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบสัมภาระเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนรออยู่อย่างนั้น อีกราวๆ ห้านาทีถัดมา เขาก็เดินกลับมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้น

ผมมองหน้าเขาแล้วก็นึกถึงสิ่งที่ผมสงสัยเมื่อก่อนหน้านี้ขึ้นมา “นี่ อาจารย์ ผมถามอะไรหน่อยดิ”

“ว่ามา”

“อาจารย์เคยรู้จักกับผมมาก่อนรึเปล่า”

เขายิ้มกว้างพร้อมหัวเราะเบาๆ “ก็ใช่น่ะสิ เพิ่งจะนึกออกรึไง”

“อ้าว!! เดี๋ยวนะ... งั้นอาจารย์ก็คือพี่วินจริงๆ น่ะสิ แต่... เอ๊า! แล้วทำไมนามสกุลไม่ตรงกันอะ!” ผมโพล่งออกมาเสียงดัง

“หืมมม จำนามสกุลพี่ได้ด้วยเหรอ หรือว่าไปสืบมา” เขาเลิกคิ้วขึ้น

ผมรู้สึกเขินขึ้นมาจริงๆ เป็นครั้งแรก “ไม่ได้สืบเว้ย! แต่ตอบมาก่อนว่าทำไม ว่าแต่ใช่พี่วินแน่รึเปล่าเนี่ย แล้วถ้าใช่ทำไมไม่บอกผม และจะว่าไปพี่จำผมได้ตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“ถ้าเรื่องนามสกุลน่ะ พอแม่พี่แต่งงานใหม่ พี่ก็เปลี่ยนนามสกุล จาก ‘แสงทอง’ เป็น ‘ธนภูตินันท์’ ตามนามสกุลของพ่อ ส่วนไอ้เรื่องจำได้เมื่อไหร่น่ะ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก ไม่ได้เจอตั้งหลายปี พอโตเป็นหนุ่มแล้วก็หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะ แต่มาเอะใจประโยคนึงที่เราพูดตอนเจอกันครั้งแรกนั่นแหละ”

“ประโยคอะไร”

“ไม่บอก” เขายิ้มกวนๆ

“อ้าว แม่ง! กวนต...” ผมหยุดตัวเองลงได้ทันก่อนจะหลุดพูดคำนั้นออกไป “แล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกผมตั้งแต่แรก!”

“ก็ตั้งใจจะบอกวันนี้ไง ถึงได้เรียกมาคุยน่ะ” เขาล้วงหยิบสิ่งๆ หนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้ผม “เอ้า”

“อะไร” ผมรับมันมาจากเขา “คีย์การ์ดเหรอ เอามาให้ผมทำไมวะ... ครับ”

“สำหรับขึ้นไปชั้น 17 เบอร์ห้องแปะอยู่หลังบัตร ถ้าอยากคุยต่อ คืนนี้ก็ตามขึ้นไปบนห้อง เดี๋ยวจะไปหาข้าวกินก่อน” เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังให้ผมแล้วออกเดินไป

“เฮ้ย! เดี๋ยวดิ พี่วิน!” ผมรีบเดินตามเขา “ผมไม่อยากขึ้นไปห้องพี่นะเว้ย จะคุยก็คุยกันตรงนี้ดิ”

“ยังไม่อยากคุยตอนนี้ หิว” เขาตอบห้วนๆ “อีกอย่าง ยังไงเดี๋ยวคืนนี้เราก็ต้องขึ้นไปแน่ๆ”

อ้าว พอแม่งพูดแบบนี้แล้วผมก็ยิ่งไม่อยากขึ้นไปหาเขาเข้าไปใหญ่ “ทำไมวะ ทำไมถึงคิดว่าผมจะต้องขึ้นไปด้วย”

“ก็เพราะเรากลัวพี่ไง” เขาหันมายิ้มให้ผม “อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว”

“ลืมอะไร”

“ลืมว่าทำไมเมื่อก่อนเราถึงได้กลัวและไม่กล้าขัดใจพี่”

ผมยืนอึ้งไปสักพัก ก็ใช่ที่ว่าเมื่อกี้ผมยังเพิ่งสงสัยตัวเองอยู่เลยว่าทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนจะกลัวเขา แต่ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นวะ ทำไมเขาถึงคิดว่าผมจะต้องกลัวเขา

หลังจากมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจ “อ้าว นี่เราลืมไปแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย”

“ลืมอะไร ผมลืมอะไรไปบ้าง” ผมถามกลับด้วยความสงสัย เพราะที่จริงผมก็ลืมเรื่องที่เกี่ยวกับเขาไปหลายอย่างแล้วจริงๆ นั่นแหละ ถ้าหากเขาจะบอกอะไรเพื่อให้ผมจำได้ขึ้นมาสักอย่างสองอย่าง ผมก็อยากจะรู้

“ยกตัวอย่างเช่นว่า ทำไมเราถึงกลัวตุ๊กแก หรือเรื่องที่เรากลัวผีมากจนฉี่ราดกางเกงมาแล้วเป็นต้น”

“เฮ้ย!! พี่รู้ดะ...” ผมชะงักไปทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ

สมองของผมเริ่มทำงาน และผมก็เริ่มนึกออกทันที ตอนเด็กๆ ผมเคยถูกพี่คนหนึ่งกับเพื่อนๆ แกล้งด้วยการหลอกให้มุดเข้าไปอยู่ในลังกระดาษใบใหญ่ที่ข้างในมีตุ๊กแกอยู่สองตัว แล้วจากนั้นพวกเขาก็ปิดฝาเอาไว้ ทำให้ผมออกมาไม่ได้ ผมทั้งร้องและดิ้นด้วยความกลัวและขยะแขยง เพราะตุ๊กแกตัวหนึ่งมันกระโดดมาเกาะผมและมุดเข้าไปอยู่ในเสื้อ ส่วนอีกตัวก็ส่งเสียงขู่ผมและกัดผมเข้าให้อีก ผมร้องไห้จ้าด้วยความกลัวและพยายามเตะต่อยจนกระทั่งลังกระดาษเป็นรูและพยายามมุดหนีออกมาได้สำเร็จ แต่กว่าที่คนอื่นจะช่วยจับตุ๊กแกออกไปจากตัวผมได้ก็อีกหลายนาทีให้หลัง ทำเอาผมร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เป็นภาษาคนไปเป็นชั่วโมง

พี่คนนั้นคือพี่วินนั่นเอง!

ส่วนเรื่องที่ผมกลัวผี ก็เป็นเพราะเขาเคยหลอกพาผมไปทิ้งไว้ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง แล้วให้เพื่อนๆ ที่แกล้งซ่อนตัวอยู่ทำเป็นผีมาหลอกผม ผมพยายามจะวิ่งหนีออกจากบ้าน แต่ก็หาทางออกไม่เจอเพราะมันมืดมาก ผมที่ยังเด็กก็เลยกลัวจนยืนฉี่ราดร้องไห้จ้าอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเขายอมกลับเข้ามาพาผมออกไป

สองเรื่องนี้คือสิ่งที่ผมไม่อยากจะจำจนหลงคิดว่าตัวเองลืมมันไปได้สำเร็จแล้ว มันเป็นความลับที่ผมไม่เคยบอกใครและให้ใครรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด! เพื่อนๆ หรือแม้แต่แม่ของผมยังไม่รู้เลยว่าผมกลัวผีและเกลียตุ๊กแกมาก นี่ถ้าเขาไม่พูดขึ้นมาแบบนั้น ผมก็คงจะจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำไป

“เฮ้ยยย..ยย...!!” ผมร้องออกมา สีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความทรงจำเลวร้ายเหล่านั้น

“ทำไม เริ่มนึกออกแล้วเหรอ” เขายิ้มเยาะ

ผมยืนตัวสั่น รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ “เปล่า! นึกอะไรไม่ออกเลย ลืมไปหมดแล้ว!”

ถ้าเด็กที่โรงเรียนเก่าผมมันมาเห็นผมอยู่ในสภาพนี้ มันจะคิดว่ายังไงกันวะเนี่ย+

“ดีมาก” เขาพูดขึ้น

ฮะ อะไรดีมากวะ

“ถ้างั้นอีกไม่เกินสองชั่วโมงเจอกันข้างบนนะ” เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินจากไป

ผมยืนรอจนกระทั่งเขาเดินลงลิฟต์ไปแล้ว ถึงได้สบถออกมาเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง แต่ผมไม่แคร์ ผมเดินกระทืบเท้าออกจากสระว่ายน้ำ กดลิฟต์กลับขึ้นไปบนห้องของตัวเอง และตัดสินใจอาบน้ำทำหัวตัวเองให้ปลอดโปร่ง

“แล้วนี่กูเคยไปชื่นชมมันได้ยังไงวะเนี่ย!” ผมถามตัวเอง ในเมื่อสองสิ่งแรกเกี่ยวกับเขาที่นึกขึ้นมาได้ก็มีแต่เรื่องไม่ดีๆ ทั้งนั้นแล้ว แถมเมื่อมาคิดรวมกับว่าทำไมลึกๆ แล้วก่อนนี้ผมถึงยังรู้สึกกลัวเขาอยู่อีก ทั้งที่ยังจำเขาไม่ได้สักนิด นี่แปลว่าความกลัวที่ผมมีต่อเขามันฝังลึกลงไปในใจของผมถึงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

และถ้าหากว่าผมกลัวเขาถึงขนาดนั้น แต่ทำไมในขณะเดียวกันเมื่อครู่ผมถึงรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขา และรู้สึกเหมือนอยากจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้นแบบนี้ล่ะวะ ยิ่งตอนที่รู้ว่าเขาคือพี่วินคนนั้น ผมนี่แทบจะกระโดดกอดเขาเลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกแบบนั้นมันคืออะไรและมาจากไหนวะ

ไหวมั้ยเนี่ยเฮ้ย ไอ้ก้อง!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 30-09-2013 23:01:36
เสียใจนึกว่าจะมีอีกคน  :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 30-09-2013 23:09:22
ตกลงใจยังไงละเนี้ยดีหรือร้ายอีตาพี่วินนน

ค้าง มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-09-2013 23:14:50
โหยพี่วินแสบนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 30-09-2013 23:28:55
พี่วินมันจะเป็นคนดีหรือไม่ดีเนี่ย
แกล้งกันขนาดนี้หัวใจหยุดเต้นได้เลยนะนั้น
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 30-09-2013 23:45:00
นั่นสิ  มีแต่เรื่องน่ากลัว กับเรื่องกลั่นแกล้ง
ทำไมถึงได้ดีใจที่เห็นพี่วินในตอนแรก
แสดงว่า .. มันต้องมีเรื่องดีดี ประทับใจด้วยสิ ถึงได้รู้สึกดีใจ อิอิ ^^
แล้วทำไมก้องจำไรไม่ได้เลยว๊า!!!!! 
ทำไมพี่วินเค้าดู ดุดุ ชอบบังคับ แสดงความเหนือไงไม่รู้อะ   :hao4:
ขอบคุณนะคะ ที่มาต่อให้พวกเราได้อ่านกัน .. หายคิดถึงก้องไปนิดนึง  :)  :)
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 30-09-2013 23:45:51
กรี๊ดดดดดกร๊าดดดดด ครูกับลูกศิษย์ อดีตพี่แถวบ้าน แล้วยังมาเป็นเพื่อนร่วมคอนโดเดียวกันอีก บุพเพค่า ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 01-10-2013 00:02:52
ลืมเยอะนะเนี่ยย ก้อง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 01-10-2013 00:38:40
ใช่ ใช่ไหม เป็นคนเดียวกันจริงๆ ใช่ไหม

พี่วินของน้องก้องสมัยเด็กซินะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 01-10-2013 01:10:18
ในที่สุดก็เป็นวินเดียวกัน มาต่ออีกบ่อยๆๆนะคับ เรื่องกำลังน่าติดตามเชียว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-10-2013 01:23:25
น่าจะต่ออีกสักหน่อยนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 01-10-2013 07:07:05
สงสารวินจัง เดี๋ยวครูฝ่ายปกครองโดนพิพาทข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 01-10-2013 07:41:05
แกล้งน้องแต่ละอย่าง!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-10-2013 09:27:48
รอดูว่าพี่วินจะทำไงต่อไป
อิอิ ชอบอ่ะ พี่วินชอบแกล้งน้อง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-10-2013 09:35:56
แล้วพี่วินให้ขึ้นไปทำไรข้างบนเนี้ยยย

อยากรู้จังง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 01-10-2013 10:35:05
 :hao6:       :hao7:             :z1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 01-10-2013 10:55:40
ปวดตับ จะมาแนวไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: GGyy ที่ 01-10-2013 11:46:55
อ๊ากกกก เดาไม่ถูกกกก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-10-2013 12:11:55
พี่วินตั้งใจมาอ่อยน้องหรือเปล่า อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-10-2013 12:53:34
อิพี่วินแกล้งน้องจนฝังใจเลยนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Pencil-case ที่ 01-10-2013 13:04:30
เพิ่งจะตามมาอ่าน น่ารักมากเลยครับ

ก้อง นายเท่ห์มาก  :m4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 01-10-2013 18:29:24
โอ้โห พี่วินร้ายไปป่ะเนี่ยย สงสารน้องก้อง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 01-10-2013 20:53:39
พี่วิน เด็กแสบ แสบแต่เด็ก เฮอะ
เอาตรงๆนะ พี่วินแม่งกวนโอ๊ยอะ ถ้าเป็นเรานี่ยังไงก็ขอด่าย้อนหลังอะ 555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 01-10-2013 21:04:36
เฮ้ยยย ชอบพี่วินอ่ะ ไม่ไหวและ
กลับมาได้ม๊ายยยย กลับมาต่ออีกหน่อยก้อยังดี แง้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-10-2013 23:45:28
มันคืออะไรพี่วิน ทำไมก้องถึงลืมพี่วินนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-10-2013 08:51:50
แกล้งเพราะน้องน่ารักน่าแกล้งละซี้
ก้องไม่ทันเล่ห์พี่วินหรอก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 02-10-2013 12:09:31
พี่วิน  :hao6:
จะงาบก้องอ่ะดิ๊  :impress2:
ติดตามฮะ   :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 02-10-2013 15:36:58
เฮ่ๆๆ  ยังไงเนี่ยย รีบๆมาต่อน้าาารอเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 02-10-2013 18:04:47
ชนะสมชื่อ เหนือกว่าชััดๆ และคุกคามเห็นๆ
แล้วจะรับไหวมั้ยล่ะเจ้าก้อง...
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 02-10-2013 18:54:13
เดาไม่ถูกเลยว่าจะไปทางไหน
ลุ้นๆๆๆๆๆๆ

แต่ชอบ อ.วิน จังเลย  :mew1:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 03-10-2013 12:53:15
กรี้ดดด เป็นคนเดียวกันจริงๆซินะเนี่ย
ว่าแต่ๆพี่วินจะไปคุยอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 03-10-2013 15:52:53
เพราะพี่วินเขาหน้าตาดีมั้งก้อง >////<
เปิดตัวกันเร็วดี จะได้ไม่ต้องคาใจกันนาน

มารอฉากสองชั่วโมงให้หลังอีกคน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 4: 30 Sep)
เริ่มหัวข้อโดย: ✿PIERRE ที่ 03-10-2013 21:16:40
พี่วินหลอกน้องก้องแน่ๆ 555555

แต่เปิดตัวตอนแรกมาอย่างกับก้องเป็นพระเอกเลยแน่ะ

ชอบๆๆๆๆๆ อาจารย์ นักเรียน

มาต่อไวๆนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 03-10-2013 22:17:03
ตอนที่ 5


สรุปผมก็ไม่ได้ไปหาเขาที่ห้องอย่างที่เขาบอกหรอก ผมนั่งเล่นเกมอยู่จนดึกแล้วก็เข้านอนเลย ถ้าเขาคิดว่าผมกลัวเขาจนไม่กล้าขัดคำสั่ง... ก็ลองดูสักตั้งสิวะ เขาจะทำอะไรผมได้ อยากรู้นัก เพราะผมก็ไม่ใช่เด็กๆ ที่เขาจะแกล้งได้อีกแล้วด้วย

แต่พอตอนอยู่โรงเรียนเท่านั้นแหละ ผมรู้เลยว่าผมคิดผิด เพราะในชั่วโมงเรียนของเขา ผมโดนเขาเรียกให้ตอบคำถามอยู่แทบคนเดียวตลอดทั้งคาบ ทำเอาพอหมดชั่วโมง ผมถึงกับต้องฟุบลงบนโต๊ะด้วยความเหนื่อยอ่อน

“เฮ้ย ไอ้ก้อง ทำไมอาจารย์อัคเค้าดูตั้งแง่กับมึงจังวะ” ไอ้เอิร์ธลากเก้าอี้มานั่งคุยกับผม

“กูก็ไม่รู้...” ผมหันไปหามัน “ปกติมันเป็นยังไงวะ ไอ้อาจารย์คนเนี้ย”

“ก็ดุๆ แบบนี้แหละว่ะ ถึงจะเห็นมันหน้าตาแบบนั้นก็เหอะ แต่เสือกเสียงดัง ตัวใหญ่ ใครก็กลัวมันกันทั้งนั้นอะ ที่จริงกูว่าปกติแม่งก็ไม่ค่อยด่าใครนะ เพราะแค่มองหน้ามึงก็ทำเอามึงก็หัวหดได้แล้วอะ” ไอ้บอมที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมหันมาตอบ “แต่บางทีแม่งก็ตบหัวมึงคว่ำเหมือนกัน ถ้ามึงคุยเสียงดังหรือแอบทำอย่างอื่นในเวลาเรียนอะ”

“เรื่องนั้นกูไม่สงสัยหรอก...” ผมพูดขึ้นลอยๆ พลางนึกถึงสิ่งที่เขาเคยทำกับผมเมื่อตอนเด็ก “ไม่แปลกเลยด้วยซ้ำ”

“เหอ ยังไงวะ ไอ้ก้อง” ไอ้เอิร์ธถาม

“ไม่มีอะไร” ผมหันหน้าไปอีกทาง จากนั้นบทสนทนาของเราก็จบลงเมื่ออาจารย์ของวิชาต่อไปเดินเข้ามาในห้อง

หลังจากนั้นก็ผ่านไปอีกสามวัน ผมไม่ได้เจอกับเขาบ่อยมากนัก แต่ทุกครั้งที่เจอกันในโรงเรียน เขาก็จะส่งยิ้มแบบมีเลศนัยให้ผมแทบทุกครั้ง แต่ถ้าผมไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็เล่นงานอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาหยุดคุยกับผมและถามว่าผมเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้รึยัง เขาบอกว่าถ้าต้องการความช่วยเลืออะไรก็ให้บอก ไม่ว่าจะนอกหรือในโรงเรียนก็ตาม ซึ่งการที่เขาพูดแบบนั้นก็ทำให้ผมแปลกใจไปนิดหน่อยเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีที่เขาเป็นห่วงผม และเมื่อเพื่อนของผมเดินมาเจอและบังเอิญได้ยินว่าเรากำลังคุยกันอยู่ เขาก็ขอตัวเดินจากไป ทำเอาพวกมันสงสัยกันใหญ่ว่าทำไมเขาถึงมาคุยกับผม ในเมื่อเวลาอยู่ในห้องเรียน ผมดูจะถูกเขาเพ่งเล็งมากที่สุด แต่อย่าว่าแต่พวกมันเลยที่สงสัย เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

วันเสาร์ ผมจำเป็นต้องตื่นมาแต่เช้าเพราะว่าแม่โทรมาหาตั้งแต่ยังไม่เก้าโมงดี ผมโดนแม่จิกนิดหน่อยที่เมื่อคืนไม่ยอมโทรไปหา จากนั้นก็เล่าให้แม่ฟังว่าผมเริ่มปรับตัวได้แล้ว และก็บอกไปตรงๆ ด้วยว่าสายวิทย์มันยากกว่าที่ผมคิดเยอะ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียนได้สักเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่ได้พูดให้แม่ฟังก็คือเรื่องที่อาจารย์ฝ่ายปกครองคนที่โทรหาแม่คือพี่วิน คนที่แม่คิดว่าเป็นต้นเหตุให้ผมกลายเป็นแบบนี้นั่นแหละ ถ้าหากแม่รู้ขึ้นมา แม่จะมีปฏิกิริยายังไงวะ จะให้ผมลาออกไปอยู่โรงเรียนอื่นเลยมั้ยเนี่ย
หลังจากวางสายไป ผมก็นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หลับลงไปอีกครั้ง...

“พี่วินนนน! ไอ้ป๋องมันไม่ยอมคืนของเล่นของก้องอะ!” ผมเดินเข้าไปหาพี่วินทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า “แม่เพิ่งซื้อมาให้ก้องด้วย ฮึกก...”

พี่วินที่ดูหน้าตาไม่ได้ต่างไปจากตอนนี้เท่าไหร่ นอกจากผมที่สั้นเกรียน หันมามองผม “เป็นลูกผู้ชายรึเปล่าวะ ไอ้ก้อง หยุดร้องไห้เลย!!”

ผมสะดุ้งและรีบกลั้นน้ำตาทันที จากนั้นเขาก็ลุกออกจากม้านั่งที่มีเพื่อนคนอื่นๆ ยืนอยู่ล้อมรอบและเดินตรงเข้ามาหาผม

“พี่เคยสอนเราต่อยคนแล้วไม่ใช่เหรอวะ ของของตัวเอง ก็ไปจัดการเอาคืนเองสิเว้ย”

“แต่... แต่แม่บอกก้องว่าทะเลาะกับคนอื่นมันไม่ดีนี่...”

พี่วินชูกำปั้นขึ้นแล้วจากนั้นก็โขกลงบนหัวของผมอย่างแรง... ไม่เจ็บแฮะ

“กูไม่ได้ให้มึงไปชวนมันทะเลาะ! แต่ถ้ามึงทำตัวอ่อนแอแบบนี้แล้วยังไง จะปล่อยให้มันรังแกมึงต่อไปเรื่อยๆ เหรอวะ! เป็นลูกผู้ชายมันต้องหัดดูแลตัวเองและปกป้องคนอื่นได้สิเว้ย!”

จากนั้นภาพและเหตุการณ์ต่างๆ ก็สับสนปนเปกันไปหมด ผมเห็นภาพของเด็กคนหนึ่งที่ตัวใหญ่กว่าผม ล้มลงไปกองอยู่บนพื้นเพราะถูกผมเตะเข้าที่กลางลำตัว เห็นพี่วินยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล เขาพาผมขี่คอเดินเล่นอยู่ริมแม่น้ำ จากนั้นก็เห็นตัวเองกำลังนั่งตักเขาดูทีวีและเล่นเกมด้วยกันในบ้าน และสุดท้ายก็เป็นภาพของผมในวัยเด็กที่กำลังปีนต้นไม้อยู่กับเพื่อนๆ แต่แล้วจู่ๆ เท้าของผมก็เหยียบพลาด กิ่งไม้ใต้เท้าของผมหักลง ความรู้สึกตกจากที่สูงทำให้ผมสะดุ้งตื่นอย่างสุดตัว

ผมลืมตาขึ้นพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาจนท่วม ผมยกมือขึ้นจับหน้าอกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่านี่เป็นความจริง ไม่ใช่ว่าผมยังคงอยู่ในความฝัน ผมมองไปรอบๆ ห้องแล้วถึงนึกออกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน สิ่งที่ผมฝันเห็นมันอาจจะไม่ปะติดปะต่อ แต่ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันคือเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำที่ผมลืมเลือนไปแล้ว

ผมยกมือขึ้นแตะลงบนแผลเป็นที่หลังหัวของตัวเอง ผมเชื่อว่าเด็กผู้ชายแทบทุกคนต่างก็ต้องมีรอยแผลเป็นอยู่บนหัวกันทั้งนั้น ผมเองก็เช่นกัน แต่ผมจำไม่ได้หรอกว่าได้แผลนี้มาเมื่อไหร่ ผมรู้แต่ว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมตกจากต้นมะขามต้นใหญ่แถวบ้าน ซึ่งแม่บอกว่ามันทำเอาผมหลับไป 2-3 วันเลยทีเดียวกว่าจะฟื้น

แล้วเรื่องของพี่วินล่ะ... ผมคิดว่าผมพอนึกออกแล้วว่าทำไมผมถึงเคยรักเขามาก มันคงเป็นเพราะแบบนั้นนี่เอง

ผมเดินไปอาบน้ำแล้วจากนั้นก็ลงไปหาอะไรกินที่เซเว่น ในหัวก็นึกถึงความฝันเมื่อก่อนหน้านี้ตลอด ใช่ ผมจำได้แล้วว่าพี่วินคือคนที่ทำให้ผมรู้จักสู้กับคนอื่นเป็นจริงๆ เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ เขาจะค่อนข้างดุและเข้มงวดกับผมมาก แต่เวลาเราอยู่กันสองคนแล้ว เขาจะรักและเอ็นดูผมราวกับผมเป็นน้องชายแท้ๆ เสมอ อย่างเมื่อตอนที่เขาเคยแกล้งผมเรื่องตุ๊กแก หลังจากนั้นเขาก็มาง้อผม มาขอโทษ ซื้อขนมให้กิน และพาผมไปขี่รถเล่น หรืออย่างความฝันที่ผมเห็นเขาพาผมขี่คอเดินเล่นนั่นก็เหมือนกัน

แค่นึกขึ้นมาผมก็รู้สึกหวิวๆ ในใจแปลกๆ ชอบกลแล้วแฮะ

ผมเริ่มนึกถึงเหตุการณ์อย่างอื่นออกอีกหลายอย่าง ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าสมัยก่อน ผมมักจะชอบไปเล่นที่บ้านเขา บางทีก็นอนค้างคืนกับเขา และพี่วินก็มักจะกอดผม เล่นหัวกับผมอย่างสนิทสนม ถึงบางครั้งเขาจะดุ แต่หลายๆ ครั้งเขาก็ใจดีและอ่อนโยนกับผมมากเช่นกัน ผมถึงได้รักและติดเขามาก ที่จริงแม้แต่อาบน้ำด้วยกันเราก็ยังเคยทำมาแล้วด้วยซ้ำ

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาได้ ผมก็รู้สึกเขินขึ้นทันที ถึงผมจะจำ ‘รายละเอียด’ ไม่ได้ แต่ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราเคยทำแบบนั้นกันมาก่อนจริงๆ พอมาคิดๆ ดูแล้ว ความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นในวัยเด็กคงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมยังคงรู้สึกผูกพันกับเขามาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าผมจะจำหน้าเขาหรือเรื่องราวหลายๆ อย่างไม่ได้ก็ตาม นอกจากนั้น ผมชักยังสงสัยแล้วด้วยว่าเขานั่นแหละที่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมชอบผู้ชาย... ไม่สิ หรือเผลอๆ แล้วเขานั่นแหละ จะเป็นรักแรกที่ฝังใจของผม แต่ผมกลับไม่เคยรู้สึกตัวเลย

“เฮ้ยยย! ไม่มั้งงง!” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ในขณะที่กำลังหยิบข้าวกล่องลงตะกร้า

“ไม่มั้งอะไร”

เสียงที่จู่ๆ ดังขึ้นใกล้ๆ หูทำเอาผมสะดุ้งจนสุดตัว

“เฮ้ยย!!” ผมรีบหันกลับไปมองด้านหลังของตัวเองทันที “พี่วิน! เอ๊ย! อาจารย์!!”

เขายิ้มให้ผมน้อยๆ “เรียกพี่วินก็ได้ ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน”

“พี่มาทำอะไร! แล้วจู่ๆ มาอยู่ข้างหลังผมได้ไง!”

“อ้าว พี่ก็มาซื้อของน่ะสิ” เขาชูถุงพลาสติกในมือขึ้น “ตอนจ่ายเงินเมื่อกี้ก็หันมาเห็นว่าก้องกำลังทำหน้าเครียดอะไรอยู่ถึงขนาดไม่สังเกตเห็นพี่ที่เคาน์เตอร์ พอเดินเข้ามาจะทักก็ได้ยินเราบ่นพึมพำๆ  ใช่ไม่ใช่อะไรสักอย่าง”

นี่ผมคงไม่ได้เผลอหลุดพูดอะไรแปลกๆ ไปใช่มั้ยวะเนี่ย!

“ตกลงว่าทำไมวันนั้นถึงไม่ไปหาที่ห้อง คียการ์ดก็ให้ไปแล้ว” ในที่สุดเขาก็ถามเรื่องนั้นขึ้นจนได้ หลังจากที่ผ่านมาหลายวัน

“ไม่ได้ทำไมอะ แค่ไม่รู้จะไปทำไม” ผมเริ่มออกเดินหาของกินอย่างอื่นต่อ

“ทีตอนเด็กๆ ยังมาหาพี่ที่บ้านประจำ”

คำพูดของเขายิ่งช่วยตอกย้ำสิ่งที่ผมเพิ่งนึกออกเข้าไปใหญ่

“แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะเว้ย” ผมพูด “...ครับ”

“ดูก็รู้แล้วล่ะน่า” เขาตอบกลับ “แล้วนี่อะไรวะ ซื้อข้าวกล่องอีกแล้ว กินแต่อะไรแบบนี้มันจะไปดีแต่สุขภาพได้ยังไง”

“ช่างผมเหอะน่า ไม่ได้กินทุกวันสักหน่อย”

“พอๆ กินแต่ข้าวกล่องกับขนมอยู่ได้” เขาหยิบถุงมันฝรั่งที่ผมเพิ่งหยิบลงตะกล้าขึ้นไปเก็บบนชั้น จากนั้นก็หยิบข้าวกล่องออกด้วย

“อ้าว! พี่จะทำอะไรอะ!!” ผมโวยขึ้น

“ไม่ต้องเสียงดัง ตามมานี่” เขาดึงตะกร้าไปจากมือของผมแล้วเดินไปเก็บมันลงที่ จากนั้นก็หันมาหาผม “จะพาไปกินข้าว เดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“เฮ้ย เอาจริงอะ”

“เออ จริงดิ พี่เคยโกหกเรารึไง”

“ไม่รู้ จำไม่ได้...” ผมตอบ

“อย่ามาทำกวน” เขายิ้มมุมปาก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของผม รอยยิ้มของเขาก็จางหายไป “เฮ้ย จำไม่ได้จริงๆ เรอะ”

ผมพยักหน้า

เขาขยับเขามาหาผม จากนั้นก็จับหัวของผมให้หันไปด้านข้าง ผมรู้สึกว่าเขาใช้นิ้วแตะลงบนแผลเป็นของผมเบาๆ “นี่แปลว่าแผลนี้มันทำให้ลืมไปจริงๆ เหรอเนี่ย งั้นตอนแรกที่จำพี่ไม่ได้ก็เป็นเพราะไอ้นี่จริงๆ ไม่ใช่แค่ไม่ได้เจอกันนานสินะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนครุ่นคิดเล็กน้อย

“นี่พี่รู้อะไรบ้างเนี่ย” ผมสะบัดหัวออกจากมือของเขา “ดูเหมือนพี่จะรู้เรื่องของผมมากกว่าตัวผมเองอีกนะ”

“ก็บอกให้ไปหาที่ห้องก็ไม่เสือกไป!” เขาตบหัวผมเบาๆ ทำเอาผมแทบคะมำเพราะตั้งหลักไม่ทัน “ตามมาได้แล้ว จะได้ไปคุยกันตอนกินข้าว”

“เฮ้ย เดี๋ยวๆ ที่ไหนเนี่ย พี่จะพาผมไปกินข้าวที่ไหน” ผมเดินตามเขา

“ที่ห้องพี่ไง ถามได้”

เมื่อเราเดินไปถึงหน้าห้องของเขา ใจของผมก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาไขกุญแจห้องและเปิดประตูออกแล้ว เขาก็เขยิบตัวหลบให้ผมได้เดินเข้าไปข้างใน ผมมองไปรอบๆ แล้วก็เห็นว่าถึงหน้าตาห้องจะคล้ายๆ กับห้องของผม แต่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ การตบแต่ง และทุกๆ อย่าง ก็ทำให้มันดูแตกต่างเยอะอยู่เหมือนกัน

เขาบอกให้ผมนั่งรอที่โซฟาแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น “มีอะไรมาทำกินได้มั่งวะเนี่ย...”

“อ้าว ที่ชวนมากินข้าวเนี่ย ไม่ได้มีของกินอยู่แล้วเหรอ แล้วพี่ทำกับข้าวเป็นด้วยรึไง”

เขาหันมามองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น “คิดว่าพี่เป็นใครกันวะ คิดว่าพี่อยู่คนเดียวมากี่ปีแล้ว กะไอ้แค่ทำกับข้าว”

“ทำเป็นใช่มั้ย”

“ไม่เป็นสักนิด”

“เอ๊า! ไอ้...!!”

“ไอ้อะไร”

“...เปล่าครับ”

“ถ้ามากเรื่องนักก็เรานั่นแหละ มาทำ ลองมาดูซิว่าของที่มีอยู่ทำอะไรกินได้มั่ง”

“ทำบ้าไรเล่า ต้มมาม่าผมยังไม่ได้เรื่องเลยเหอะ”

“ทุเรศจริงๆ เลยว่ะ แกนี่” เขาส่ายหน้า “งั้นก็นั่งรอไป เดี๋ยวทำให้กินเอง” เขากลับไปค้นดูของในตู้เย็นต่อ จากนั้นก็เดินเข้าไปในครัว

“สรุปพี่จะทำอะไรกินน่ะ” ผมถาม “ไหนบอกทำไม่เป็นไง”

“เดี๋ยวก็รู้”

อีก 15 นาทีถัดมา เขาก็เดินออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารหน้าตาประหลาดๆ จานหนึ่ง มันดูเหมือน... อืมม... ผัดวุ้นเส้นที่เละๆ มีน้ำซอสสีส้มๆ แดงๆ กับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไข่หรืออะไรสักอย่างปนอยู่ด้วย

“เอ่ออ... นี่คือ...”

“สุกี้แห้งไง กินซะตอนร้อนๆ หน้าตาอาจจะดูไม่ดี แต่อร่อยนะเว้ย”

“แล้วพี่ล่ะ”

“เดี๋ยวค่อยกิน”

“โอเคๆ” ผมตักคำแรกเข้าปากอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก แต่ก็เชื่อที่เขาพูด อีกอย่างกะไอ้แค่สุกี้แห้ง มันจะแย่ได้สักขนาดไหนเชียววะ...

“เป็นไง” เขาถามด้วยสีหน้าลุ้นๆ

ผมเคี้ยวไปได้แค่เพียงสองครั้งก็ถึงกับต้องชะงัก จากนั้นก็จำต้องบ้วนมันกลับลงในช้อนเหมือนเดิม “หวานเว้ยยยยย!! หวานเกินไปแล้ววว! แถมยังมีรสเปรี้ยวอีกต่างหาก! นี่น้ำจิ้มสุกี้พี่เสียรึเปล่าเนี่ย!!”

“ไม่เสียเว้ย! เพิ่งซื้อ! ก็แค่ปรุงรสมาให้เลยตอนผัด"

“แล้วเส้นมันเละไปมั้ยเนี่ย กินแล้วมันลื่นๆ เละๆ ชอบกลอะ”

“เกินไปแล้ว มันจะแย่ขนาดไหนเชียววะ เอามานี้” เขาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนจะใช้ส้อมลองตักอาหารฝีมือตัวเองเข้าปาก แต่แล้วเขาก็นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะกลืนมันลงคอ

เขาลุกออกจากเก้าอี้และเดินไปรินน้ำดื่ม จากนั้นก็หันมาหาผมพร้อมรอยยิ้ม “เอาเป็นว่าเรากินไปก็แล้วกัน พี่เสียสละให้ เมื่อกี้ก็ทำไปชิมไปจนอิ่มแล้วว่ะ”

“ตอแหล!!”

“ไม่ได้แหลเว้ย อิ่มแล้วจริงๆ!”

“มาช่วยกันกินเลย! ฝีมือตัวเองเนี่ย!”

“กินไม่ได้ก็ทิ้งไป แม่งงง! ไม่เห็นจะยากเลย” เขาเดินตรงเข้ามาหยิบจานขึ้นจากโต๊ะแล้วจากนั้นก็เดินไปที่ครัว

ผมเห็นสีหน้าของเขาแล้วก็เกิดรู้สึกสงสารขึ้นมาซะอย่างนั้น “เดี๋ยวๆๆ ไม่ต้องทิ้งหรอก เอามานี่”

เขาหันมามองหน้าผมงงๆ “ทำไม”

“อุตส่าห์ทำให้ เดี๋ยวผมกินเอง มันก็... ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก”

เขามองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินกลับมาวางจานลงบนโต๊ะและนั่งลงข้างๆ ผม ผมจึงเริ่มลงมือกินสุกี้ที่รสชาติพิลึกที่สุดในโลกเท่าที่เคยกินมา กว่าจะหมดก็ล่อไปเกือบ 10 นาทีได้ จนกระทั่งเนื้อไก่ชิ้นสุดท้ายถูกผมกลืนลงคอแล้ว เขาก็ยื่นแก้วน้ำให้ผมพร้อมรอยยิ้ม

“อร่อยมั้ย” เขาถาม

ผมส่ายหน้า “ไม่อร่อยเลย...”

“แล้วกินทำไม”

“ก็เห็นอุตส่าห์ทำให้... สงสาร”

แทนที่จะโกรธ เขากลับยิ้มน้อยๆ ให้ผม “งั้นกินขนมอะไรล้างปากหน่อยมั้ย”

ผมรีบพยักหน้า “เอาๆ มีอะไรกินบ้าง”

“ไม่มี แต่เดี๋ยวไปทำอะไรให้กิน” เขาลุกขึ้นยืน

ผมรีบดึงชายเสื้อเขาไว้ทันที “ไม่ต้องเลย!!”

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 03-10-2013 22:24:32
พี่วินโยนของเสีย(?)ให้น้องเฉยเลยเว้ย แหม่ ขนาดคนทำยังทำใจกระเดือกไม่ลง
แต่น้องมันกินให้นี่รู้ไว้เลยนะน้องมันรักมากกก ไม่งั้นไม่กินให้หรอก 555
:jul3:


อดแปลกใจไม่ได้นะ ทำไมก้องถึงจำไม่ได้ขนาดนั้น เท่าที่อ่านมารู้สึกได้ว่าสองคนนี้สนิทกันมากตอนเด็กๆ ไม่น่าลืมได้ง่ายขนาดนั้นแถมยังลืมแบบสนิทเลยซะด้วย ต่อให้ไม่ได้เจอกันหลายปีก็ไม่น่าลืม
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 03-10-2013 22:27:18
เย้ๆๆ มาต่อแล้ว  ชอบเรื่องขึ้นมาระดับนึงให้ 9 ระดับจากเต็ม 10 ระดับเลยเอ้า 5555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 03-10-2013 22:34:16
ถ้าก้องท้องเสียวินต้องรับผิดชอบนะ

ดีใจจังมาต่อแล้ว ^_^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-10-2013 22:35:52
 :katai4:

ฮ่าๆๆ ไอพี่วินนน
แอบชอบน้องมันก็บอกมาเหอะ กร๊ากก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-10-2013 22:38:48
แผลนั้น คงเป็นเหตุที่ก้องลืมพี่วิน
พี่วินชอบแกล้งก้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-10-2013 22:50:02
โอ๊ะ ขนาดสุกี้ยังหวาน
ไม่ธรรมดาซะแล้วคู่นี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-10-2013 23:03:03
ท่าจะรักกันรุนแรงนะคู่นี้ 55555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 04-10-2013 00:46:37
อื้ออออ น่ารักมาก
เป็นฉากที่แอบน่ารักปนหวานนน 55 5
พี่วินก็นะ ! สงสารน้องมันบ้างเถอะะะ !

รอติดตามตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 04-10-2013 00:59:34
เรียกความสนิทสนมกลับคืนมาเหมือนเดิมเนอะ พี่วิน o13
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 04-10-2013 01:36:21
สนิทกันตอนเด็กแต่ทำไมลืมกันได้ง่ายจัง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 04-10-2013 02:42:01
โห  หลอกอ่ะ   เราก็ว่าเพิ่งจะเจอกันจะหวานอะไรได้ไง
ที่แท้ก็หวานสุกี้นี่เอง 
ตกลงนี่มันเรื่องสั้นหรือยาวกันนี่
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 04-10-2013 05:13:39
อิพี่วินแมร่งกวนนนนนนนนน


ฮ่าๆๆๆ เอาอะไรให้น้องกินเนี่ย  สงสารน้องก้อง 555 :katai1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 04-10-2013 05:18:49
อย่าไปยอมไอ้พี่ เอ้ยคุณครูวินมันครับบ  :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 04-10-2013 08:57:25
หลอกพามากินอาหารรสชาดพิลึกนี่เอง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 04-10-2013 10:06:09
ไอ้พี่วิน อารมณ์ไหนเนี้ย ว่าแต่คนอื่นตัวเองก็ทำไม่เป็นเหมือนกันอะแหละ

แล้วหยุดเลยนะไม่ต้องทำแล้ว สงสารน้องเถอะ 555555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-10-2013 11:14:26
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ แหะๆ :mew3:
วีรกรรมที่พี่วินทำกับน้องแต่ละอย่างนี้มัน :ling1:
ถ้าไม่รักกันจริงนี่มี :z6: กันบ้างอะ แต่ละอย่างแสบๆทั้งนั้น แค่ตุ๊กแกตอนเด็กๆก็เกินจะทนแล้ว :ling3:
รออ่านตอนต่อไปนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-10-2013 12:54:38
แอบน่ารักนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 04-10-2013 13:51:52
พี่วินขี้แกล้งอ่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 04-10-2013 14:43:05
พี่วินขี้แกล้งจริงๆอ่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 04-10-2013 14:44:46
น่ารักอ่า....พี่วินชอบแกล้งน้องจัง ^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: p.spring ที่ 04-10-2013 15:37:04
คิดไปเองหรือเปล่าว่าก้องเหมือนมาฟูยุ ในเรื่อง ฉันนี้แหละอาจารย์
แล้ว พี่วินเหมือน ทาคาโอมิ  ไม่ใช่ไม่ชอบนะ แต่ชอบมากๆเลยต่างหากกก
เพราะว่าเราปิ๊งน้องตายแมนมานานมากเเล้ว  เวลามาอ่านเรื่องนี้มันให้ความรู้สึก
กรี๊ดดดดดดด  :hao7: :hao7:  น้องต่ายแมน  ยังงี้ต้องมีฮายาซากะแฟนเรา(?) ด้วยดิ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 04-10-2013 18:46:23
คิดไปเองหรือเปล่าว่าก้องเหมือนมาฟูยุ ในเรื่อง ฉันนี้แหละอาจารย์
แล้ว พี่วินเหมือน ทาคาโอมิ  ไม่ใช่ไม่ชอบนะ แต่ชอบมากๆเลยต่างหากกก
เพราะว่าเราปิ๊งน้องตายแมนมานานมากเเล้ว  เวลามาอ่านเรื่องนี้มันให้ความรู้สึก
กรี๊ดดดดดดด  :hao7: :hao7:  น้องต่ายแมน  ยังงี้ต้องมีฮายาซากะแฟนเรา(?) ด้วยดิ  :-[ :-[

ไม่รู้จักอะครับ แต่น่าจะใช่ เพราะจริงๆ แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนมาเล่าเรื่องการ์ตูนอะไรบางอย่างที่มันเคยอ่านให้ฟัง ซึ่งมันเองก็จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เนื้อเรื่องแบบไหน มันมาบ่นๆ ถามหาอยู่และเล่าตอนแรกๆ ให้ฟัง ก็เลยปิ๊งๆ น่าจับมาทำเรื่องสั้นแนวของเราเนอะ แต่คงคล้ายๆ แค่แรกๆ ครับ เพราะหลังจากนี้เนื้อเรื่องจะเป็นของก้องกับวินเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับถ้าอ่านแล้วคิดว่ามันคล้ายเกินไป เพราะผมก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ มันเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 04-10-2013 19:20:53
วินหลอกน้อง ชิๆ สงสารก้อง ท้องเสียแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 04-10-2013 19:34:12
แอร๊ยยยย พ่อครัวหัวป่า. ><

ครูวินน่ารักจังเลยนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 04-10-2013 20:30:39
ขอปรบมือให้กับความพยายามของพี่วิน   :katai2-1:  :katai2-1:
ทำอาหารก็ไม่เป็น แล้วดันชวนเค้ามากินข้าวฝีมือตัวเองเนี่ยนะ 555
....
แค่สุกี้แห้งเละ ๆ  ก้องก็สุด ๆ ละ  พี่แกยังจะจัดขนมมาให้อีก ..
โธ่!! พี่วิน  :เฮ้อ:

 
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Pencil-case ที่ 05-10-2013 00:07:24
ไหงเป็นอย่างนั้นล่ะครับอาจารย์

 :m20:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 05-10-2013 00:25:31
พี่วินน่ารักมาก ผิดกับตอนที่แล้วเลย ^___^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 05-10-2013 10:41:27
เรื่องนี้ จัดเป็นเรื่องสั้น หรือเรื่องยาวคะ? อยากโหวตให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 05-10-2013 15:14:07
เรื่องนี้ จัดเป็นเรื่องสั้น หรือเรื่องยาวคะ? อยากโหวตให้ค่ะ

เรื่องสั้นครับ มีประมาณ 15 ตอน แต่น่าจะโหวตไม่ได้นะครับ เพราะยังมาไม่ถึงครึ่งเรื่องเลย รึเปล่า ผมไม่แน่ใจแฮะ แต่ถ้าเรื่องสั้นอื่นๆ ที่จบไปแล้วของผม น่าจะโหวตได้ครับ (ฮา)
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-10-2013 19:17:11
ดูท่าทางพี่วินจะเจ้าเล่ห์น่าดู  :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 06-10-2013 09:59:48
ชอบมากครับ มาดันอีกรอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 06-10-2013 16:59:22
ท่าทางพี่ิวินเองก็จำก้องได้อย่างละเอียดเลยนะเนี่ย
คิดอะไรกับน้องมันรึเปล่าฮึ(คิดเหอะ><)
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 06-10-2013 20:56:20
ชอบน้องก้องอ่ะ  เลิฟๆเลยยยย :-[ :L1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 06-10-2013 22:20:41
ไอ้พี่วินมันมีนิสัยแบบนี้กุไม่เเปลกใจเล๊ยยย ดูจากมันจับน้องขังกับตุ๊กเเกแล้วก็หลอกผี เออ เอากะมันสิแล้วจะไปรักกันตอนไหนว่ะเนี้ยะปวดหัวแทนเลย

ปล.เค้ายังรอ  he Second Chance อยู่นะ หมดมุขละสิเลยหยุดฮ่าๆ แต่ก็จะอ่านเรื่องนี้ด้วย ุหุหุ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-10-2013 22:29:30
ไอ้พี่วินมันมีนิสัยแบบนี้กุไม่เเปลกใจเล๊ยยย ดูจากมันจับน้องขังกับตุ๊กเเกแล้วก็หลอกผี เออ เอากะมันสิแล้วจะไปรักกันตอนไหนว่ะเนี้ยะปวดหัวแทนเลย

ปล.เค้ายังรอ  he Second Chance อยู่นะ หมดมุขละสิเลยหยุดฮ่าๆ แต่ก็จะอ่านเรื่องนี้ด้วย ุหุหุ

second chance ผมแต่งไว้ 20 กว่าตอนแล้วครับ นำจากที่โพสลงเล้าไปประมาณนึงเลย แต่ที่ตัดสินใจหยุดไว้ก่อน ก็ตามที่แจ้งไว้ในเพจครับ ต้องขอโทษด้วยครับ ส่วนเรื่องนี้แต่งไว้จนจบแล้ว เหลือ revise และ proof ก่อนลงครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 5: 3 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: p.spring ที่ 07-10-2013 01:07:38
ไม่รู้จักอะครับ แต่น่าจะใช่ เพราะจริงๆ แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนมาเล่าเรื่องการ์ตูนอะไรบางอย่างที่มันเคยอ่านให้ฟัง ซึ่งมันเองก็จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เนื้อเรื่องแบบไหน มันมาบ่นๆ ถามหาอยู่และเล่าตอนแรกๆ ให้ฟัง ก็เลยปิ๊งๆ น่าจับมาทำเรื่องสั้นแนวของเราเนอะ แต่คงคล้ายๆ แค่แรกๆ ครับ เพราะหลังจากนี้เนื้อเรื่องจะเป็นของก้องกับวินเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับถ้าอ่านแล้วคิดว่ามันคล้ายเกินไป เพราะผมก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ มันเป็นยังไง

ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เราแค่จะบอกว่าเราชอบมาก ชอบภาษาที่ใช้เขียน
ชอบน้องก้องของเรา(?) ชอบพี่วิน แล้วก็เอิร์ธ (สรุปชอบผู้ชายทั้งเรื่อง)
ว่าแต่แต่งเป็นเรื่องสั้นหรอคะ ?  อยากให้เป็นเรื่องยาวอ่า ไม่อยากให้รีบจบเลยบอกตรงๆอ่านเเล้วเขิน รีบมาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 09-10-2013 19:23:27
ตอนที่ 6


หลังจากที่นั่งพักจากการกินสุกี้แห้งมหาประลัยนั่นไปอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หันมามองหน้าผม “โตขึ้นเยอะเลยนะเรา...”

ผมรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ รอยยิ้มน้อยๆ ของเขามันดูแปลกไปจากก่อนหน้านี้แฮะ

“ตกลงนี่จำเรื่องของพี่ไม่ได้เลยรึไง เรื่องก่อนหน้าที่เราจะหัวฟาดพื้นไปน่ะ”

ผมส่ายหน้า “ตอนแรกก็จำไม่ได้หรอก จำได้แค่ลางๆ ว่าเคยมีพี่ข้างบ้านคนนึงที่ผมรักและชื่นชมมาก แต่จำรายละเอียดไม่ได้...” ผมเหลือบมองหน้าของเขา “เอ้ยย ไม่ได้รักแบบนั้นหรืออะไรนะเว้ย ก็แค่แบบ ติดพี่ ไรงี้อะ”

“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” เขายักไหล่ “แล้วตอนนี้จำอะไรได้บ้างแล้ว”

“ไม่เยอะหรอก” ผมตอบ “ว่าแต่พี่วินเหอะ ตกลงทำไมถึงจำผมได้ จำได้ตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงมาเป็นครูได้ อย่างน้อยๆ จากความทรงจำผมเนี่ย ผมว่าพี่แม่งโคตรไม่เหมาะกับอาชีพนี้เลยนะ”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ “บอกแล้วไงว่าไม่บอก”

“อ้าว! กวน!!”

“ตอนแรกที่เห็นหน้าก็รู้สึกหน้าคลับคล้ายคลับคลาอยู่หรอก แต่พอรู้ชื่อ และได้ยินประโยคนั้น บวกกับที่เราบอกว่ามาจากต่างจังหวัดก็เลยมั่นใจ”

“ก็แล้วประโยคอะไรล่ะพี่”

“คิดเอาเองดิ”

“ถ้าคิดเองแล้วรู้ก็คงไม่ถามหรอก”

“เอาไว้ถึงเวลาอยากบอกจะค่อยบอกเอง ไปนึกดูเล่นๆ ก็แล้วกัน ไม่ยากขนาดนั้นหรอก” เขายิ้มมุมปาก

ผมตัดสินใจยอมแพ้และเปลี่ยนคำถาม “เออๆ จะว่าไปพี่ไปทำอะไรที่ซอยนั้นดึกๆ และถ้าเป็นพี่ ทำไมไม่ต่อยพวกแม่งให้คว่ำไปเองเลยตั้งแต่แรก อย่าบอกนะว่าลืมวิธีชกต่อยไปหมดแล้วน่ะ”

“คนเป็นครู จะไปต่อยเด็กนักเรียนได้ยังไง ถึงจะเด็กโรงเรียนอื่นก็เถอะ ที่ไปอยู่ที่นั่นก็เพราะรู้มาว่าเด็กกลุ่มที่มันชอบมาตามรังควานและมีปัญหากับเด็กโรงเรียนเรา มักไปสุมกันอยู่ที่นั่นกันดึกๆ ดื่นๆ เลยตามไปดูว่าจริงรึเปล่า เพื่อจะได้ตักเตือนและแจ้งไปยังโรงเรียนของพวกมันด้วย ก็แค่นั้นแหละ”

“โหเว้ย ทำงานนอกเวลาซะด้วย ทุ่มเทน่าดู”

“ก็มันอยู่ใกล้ๆ บ้านแค่นี้ แวะไปดูก็ไม่เสียหาย ว่าแต่เราเองเหอะ ค่ำมืดอย่าเผลอไปเดินแถวนั้นคนเดียวล่ะ เกิดพวกมันดักรอแก้แค้นอยู่ จะซวยเอา ส่วนตอนกลางวันมันคงไม่กล้ามาหาเรื่องถึงที่โรงเรียนหรอก”

“ผมดูแลตัวเองได้น่า”

“งั้นเรอะ ถึงแม้ว่ามันจะมากันสัก 10 คน พกอาวุธมาด้วย หรือใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่หัวเข่า ก็คิดว่าดูแลตัวเองได้เรอะ” เขาตีลงบนหัวเข่าของผม

ผมรีบชักขาหลบทันที “เออๆ เอาเป็นว่าผมจะระวังก็แล้วกัน ว่าแต่พี่เถอะ ทำไมถึงมาเป็นครู ยังไม่ตอบผมเลย แล้วตอนนั้นทำไมถึงย้ายออกไปจากที่บ้าน”

“ก็มาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ น่ะสิ ถึงได้ย้ายกลับมา ส่วนที่ว่าทำไมมาเป็นครู ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก ทำไปเล่นๆ ฆ่าเวลาแค่นั้นแหละ” เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่าง จากนั้นสักพักก็หันกลับมามองผม “พี่รู้เรื่องส่วนมากมาจากแม่เราแล้วนะ ทำวีรกรรมไว้เยอะไม่เบานี่หว่า”

“เลิกแล้ว” ผมพูดเซ็งๆ “และผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาเรื่องใครก่อนสักหน่อย ก็บอกแล้วไง”

“ดีแล้ว” เขายิ้ม “แล้วไง ดีใจมั้ย ได้มาอยู่ใกล้ๆ พี่อีกครั้งน่ะ”

การที่จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องไปแบบนี้ทำเอาผมเขินจนตั้งหลักไม่ถูก “จะไปดีใจอะไรเล่า ก่อนนี้ผมยังจำพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เฉยๆ มากกว่าเหอะ”

“แต่ตอนนี้ก็จำได้แล้วนี่ ไม่ดีใจรึไง ไม่อยากกอด ไม่อยากขี่คอ ขี่หลัง หรืออาบน้ำด้วยกันแล้วเหรอ”

“เฮ้ย! เป็นถึงครูบาอาจารย์มาพูดจาอะไรวะเนี่ย ทะลึ่งว่ะ! โหยยย!”

“เกี่ยวอะไรวะ นี่ไม่ได้พูดในฐานะอาจารย์เว้ย พูดในฐานะพี่น้อง คนเคยสนิทกัน บ้านใกล้กัน” เขาเดินกลับมานั่งลงข้างๆ ผมเหมือนเดิม “ตอนที่ก้องตกจากต้นไม้น่ะ พี่กำลังจะย้ายบ้านพอดี เลยไม่ได้อยู่รอจนกว่าเราจะฟื้น เห็นว่าสลบไปตั้ง 2-3 วัน ตอนนั้นพี่เป็นห่วงเรามากเลยนะเว้ย และไม่คิดด้วยว่าเราจะเสียความทรงจำบางส่วนไปแบบนี้”

“สมองมันคงอยากจะลืมๆ ความทรงจำไม่ดีๆ ออกไปล่ะมั้ง”

“เออ ก็คงเป็นไปได้...” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เย็นชา

“ผมหมายถึงอย่างไอ้เรื่องตุ๊กแกหรือเรื่องที่พี่ไปขังผมไว้ในบ้านร้างอะไรพวกนั้นนะ” ผมรีบพูดต่อด้วยความรู้สึกผิด

“ตอนนั้นพี่ยังเด็กว่ะ อยู่กับเพื่อนก็ทำตัวเป็นหัวโจกไปงั้นแหละ แต่ที่จริงแล้วพี่เองก็...”

“ก็อะไร”

“ไม่มีอะไร” เขาหันหน้าหลบไปอีกทาง

“เฮ้ย อะไรเล่า บอกมาดิ ไหนบอกให้มาคุยไง แล้วทำไมทีแบบนี้ไม่พูด” ผมเร้า

“เออๆ ไม่มีอะไรเว้ย แค่จะบอกว่า ตอนนั้นพี่ก็เห็นเราเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ ของตัวเองเหมือนกัน แค่นั้นแหละน่ะ” เขาพูดทั้งที่หน้าแดง ทำเอาผมอึ้งๆ ไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะได้เห็นเขาเป็นแบบนี้

“เออออ... แต่ตอนนี้จะเป็นพี่เป็นน้องกันแบบเดิมก็ไม่ได้แล้วดิ กลายเป็นครูกับนักเรียนแทนซะงั้น” ผมพูดขึ้นหวังว่าจะช่วยทำให้เราสองคนต่างก็รู้สึกเขินอายน้อยลงได้บ้าง

“เรามันไม่ใช่เด็กๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไอ้ก้อง” เขาหันกลับมามองผม “ลำพังแค่เป็นครูกับนักเรียนแม่งคงไม่แย่เท่าไหร่หรอก”
ผมนิ่วหน้า “ยังไงวะพี่ ผมงง”

“ไม่ต้องรู้หรอก” จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นอีกครั้ง “ไปๆ กลับห้องตัวเองไปได้แล้ว พี่จะทำงาน”

อ้าว จู่ๆ ก็ไล่กูซะงั้นเลย

ผมที่ไม่อยากจะเถียงเขาลุกออกจากโซฟา แต่ก่อนออกจากห้อง ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณเขาสำหรับอาหารที่ทำให้ แล้วจากนั้นเขาก็ปิดประตูลง ผมจึงเดินกลับห้องของตัวเองอย่างงงๆ ในใจก็รู้สึกสับสนนิดหน่อยเหมือนกันว่าตกลงแล้วความสัมพันธ์ของเราสองคนนี่มันยังไงกันวะ เราจะเป็นพี่น้อง ครูกับนักเรียน เพื่อนต่างวัย หรือเป็นแค่เพื่อนบ้านกันแน่ นี่ถ้าผมไม่โกหกตัวเองล่ะก็ ผมว่าผมก็รู้สึกชอบเขานะ ผมเริ่มนึกเรื่องราวเมื่อสมัยเด็กๆ ออกตั้งหลายเรื่อง ความรู้สึกชอบและชื่นชมแบบสมัยก่อนนั้นมันเริ่มหวนกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ในตอนนี้ที่ผมโตขึ้น ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็เลยแลดูจะลึกซึ้งตามขึ้นไปด้วย แต่ผมไม่อยากทำให้เรื่องระหว่างเรามันสับสนไปยิ่งกว่านี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมไม่อยากจะคิดอะไรไปเองเพียงแค่เพราะผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนแค่นั้น

“ก็แม่งเสือกหล่อ สเป๊กกูอีกนี่...” ผมพูดขึ้นลอยๆ ในขณะที่นอนลืมตามองเพดานห้องอยู่บนเตียง “แม่งเอ๊ยยย!!”

อีกราวๆ สองสัปดาห์ถัดมา ผมก็เริ่มปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่และเพื่อนใหม่ได้มากขึ้น รวมทั้งความใกล้ชิดของผมกับพี่วินก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน บางทีเขาก็ชวนผมไปออกกำลัง ว่ายน้ำ หรือกินข้าวเย็นด้วย เราคุยเรื่องสมัยตอนที่ผมกับเขาเคยเป็นเพื่อนบ้านกันหลายเรื่อง และเขาก็ถามถึงชีวิตของผมในช่วงหลังจากที่เขาไม่อยู่ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้ก็คือเขามักไม่ค่อยพูดถึงเรื่องของตัวเองนัก ซึ่งก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่อยากบอก ผมก็ไม่อยากเสือก เพราะแค่สิ่งที่เราเป็นกันอยู่นี้ก็ทำให้ผมมีความสุขและคลายเหงาไปได้เยอะแล้ว

สิ่งที่ผมรู้สึกชอบใจเกี่ยวกับเขาอีกอย่างหนึ่งก็คือ เวลาที่อยู่โรงเรียน เขาจะปฏิบัติกับผมแบบนักเรียนปกติธรรมดาคนหนึ่ง เราไม่เคยคุยกันเรื่องที่บ้าน เรื่องส่วนตัว หรือแสดงความสนิทสนมอะไรกันให้คนอื่นเห็น เขาจะมีมาดความเป็นครูที่ดุและน่าเกรงขาม แต่เวลาที่อยู่กับผมที่บ้าน เขาจะกลายเป็นพี่ชายที่... อืมม... ก็ยังคงดุเหมือนเดิม แต่เป็นกันเองมากขึ้น กวนตีนมากขึ้น ผมเล่นหัวกับเขาได้ และเขาก็ถึงเนื้อถึงตัวผมมากขึ้นด้วย ตอนแรกๆ ผมก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะ ที่ว่าทำไมพออยู่โรงเรียนแล้วเขามักจะทำเป็นเหมือนไม่รู้จักผม ไม่ค่อยยิ้มให้หรือทักทาย นอกจากผมจะยกมือไหว้เขาก่อนเวลาเดินผ่าน ไม่เหมือนตอนเราบังเอิญเจอกันข้างนอกโรงเรียน เขามักจะเป็นฝ่ายเข้ามาทักผมก่อนเสมอๆ ซึ่งพอมาคิดๆ ดู การที่เป็นแบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษของเขา และนอกจากนั้นผมว่ามันเป็นความรู้สึกแบบที่ผมคุ้นเคยมาก่อนยังไงบอกไม่ถูก

วันหนึ่งเพื่อนๆ ของผมตัดสินใจที่จะไปนั่งเล่นที่ห้องของผมหลังเลิกเรียน หลังจากที่พวกมันเตะบอลเสร็จ ผมก็พาพวกมันเดินไปยังคอนโด เพราะพวกเรามีกันหลายคน เดินไปคุยไปแป๊บเดียวก็ถึง และเราก็ตั้งใจจะเดินเลยไปซื้อขนมที่เซเว่นกันก่อนด้วย และในระหว่างทาง เราก็สังเกตเห็นกลุ่มของนักเรียนโรงเรียนอื่นที่กำลังยืนคุยกันอยู่ พอพวกเราเดินผ่านพวกมัน พวกมันก็หันมามองเราเป็นตาเดียวกัน ก่อนจะหันกลับไปซุบซิบอะไรบางอย่าง

“แม่งจะมาหาเรื่องเหี้ยอะไรพวกเรารึเปล่าวะ” ไอ้เอิร์ธพูดขึ้น

“มึงอย่าป๊อดน่า ไอ้เชี่ยเอิร์ธ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง” ผมส่ายหน้า

“มึงไม่รู้อะไร ไอ้ก้อง โรงเรียนแม่งกับโรงเรียนเราอะ ไม่ถูกกันมาตั้งนานแล้ว มีกลุ่มมีก๊กที่แม่งฟัดกันมาตลอดอยู่หลายกลุ่มนะเว้ย” ไอ้ภูมิโน้มเข้ามาพูดใกล้ๆ ผม

“ใช่ๆ อย่างล่าสุดเมื่อราว 2-3 อาทิตย์ก่อนกูก็ได้ยินข่าวลือว่ามีเด็กโรงเรียนเราแม่งไปไล่กระทืบพวกแม่งซะกระเจิงมาด้วย รู้สึกว่าเรื่องแม่งก็เกิดแถวๆ ใกล้ๆ คอนโดมึงนี่แหละว่ะ ไอ้ก้อง” ไอ้บอมพูดเสริมขึ้น

ผมกระแอมในลำคอเบาๆ “แฮ่ม.. เอ่ออ แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรามั้ง อย่าไปสนใจเลย”

ในที่สุดพวกมันทุกคนก็เปลี่ยนหัวข้อคุยไปเรื่องอื่น ผมหันกลับไปมองยังด้านหลังของตัวเองแล้วก็เห็นว่าเด็กกลุ่มนั้นก็ยังคงมองตามพวกเรามาอยู่ ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ผมคิดว่าผมจำเด็กคนหนึ่งในกลุ่มนั้นได้ด้วย แต่เมื่อเราสบตากัน มันก็รีบหันหลบผมไปทันที

ผมพยายามไม่คิดอะไรและบอกตัวเองว่าผมอาจจะคิดไปเอง แต่สัญชาติญาณของผมก็ส่งเสียงเตือนให้ผมระวังตัวและจำเอาไว้ให้ดี ว่าผมมันเป็นคนประเภทที่เรื่องมักจะวิ่งเข้ามาหาเป็นประจำ ฉะนั้นจะทำเฉยเกินไปก็คงไม่ดี

ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปอย่างดีและไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่เพื่อนๆ ของผมกลับไปแล้ว ผมก็เข้านอนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่เมื่อผมไปถึงโรงเรียนในตอนเช้า ผมก็ต้องตกใจเมื่อได้รับข่าวว่าไอ้เอิร์ธไม่มาโรงเรียนเพราะถูกนักเรียนโรงเรียนคู่อริดักทำร้ายเอาในตอนหัวค่ำ โชคดีที่มันไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็คงต้องหยุดเรียนไปสักพักเพื่อรักษาตัวให้หาย แต่สิ่งที่แย่กว่าร่างกายคือการที่พ่อแม่ของมันกังวลจนไม่พร้อมให้มันมาโรงเรียนตามปกติมากกว่า

เมื่อรู้ข่าวนั้น ผมก็รู้สึกโกรธจนแทบจะระเบิด ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าต้องเป็นไอ้พวกเหี้ยนั่นที่เราเจอแน่ๆ ถ้าพวกมันจะทำอะไรผม ผมจะไม่ว่าเลย แต่ไม่ใช่มาเล่นงานเพื่อนของผมแบบนี้ ผมอยากจะโดดเรียนและลุยไปถึงโรงเรียนของพวกแม่งให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้ ผมพยายามสงบสติอารมณ์และนึกถึงสัญญาที่ให้กับแม่เอาไว้ พอตอนพักกลางวัน พวกเราก็โทรไปหาไอ้เอิร์ธเพื่อพูดคุยและให้กำลังใจมัน แต่เมื่อถึงคราวที่โทรศัพท์ถูกยื่นมาที่ผม ผมกลับรู้สึกผิดจนพูดอะไรไม่ออก

“เฮ้ย ไอ้เอิร์ธ กู... กู... กูขอโทษนะเว้ย” ผมพูดออกไปเบาๆ

“ขอโทษเหี้ยอะไรของมึงวะ ไอ้เชี่ยก้อง”

“ก็ถ้าตอนนั้นกูเดินออกมาส่งมึง มึงก็คงไม่เจอเรื่องแบบนี้ว่ะ ไม่ดิ ไอ้เหี้ย ถ้ากูไม่พาพวกมึงไปที่บ้าน มึงก็คงไม่เจอเรื่องแบบนี้แล้ว และตอนนั้นกูก็เสือกเป็นคนปากดีบอกพวกมึงว่ามันคงไม่มีเรื่องอะไรอีก...”

“พอเลยๆ ไอ้ก้อง มึงเพ้อเจ้ออะไรของมึงวะเนี่ย กูงง” มันหัวเราะเบาๆ “กูถึงคราวซวยของกูเอง เรื่องนี้แม่งไม่ได้เกี่ยวกับมึงสักหน่อย อย่าคิดมากน่า”

ผมเงียบไปพักหนึ่ง “จริงๆ ก็อาจจะเกี่ยวนะเว้ย...”

“หมายความว่ายังไงวะ”

“คือ กู...” ผมอ้ำอึ้ง เพื่อนคนอื่นๆ ที่โต๊ะก็กำลังมองผมอยู่ด้วยแววตาสงสัย

“เฮ้ย ไอ้เด็กใหม่!” เสียงของเด็กคนหนึ่งตะโกนขึ้นจากทางด้านหลังของผม

เมื่อผมหันไปตามเสียง ก็เห็นไอ้วีกับเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังกำลังมองมายังพวกเราอยู่

“ได้ข่าวว่าเพื่อนมึงเพิ่งโดนเด็ก ส.ค. เล่นงานเมื่อคืนไม่ใช่เหรอวะ มันเป็นไงบ้าง ตายไปยัง” ไอ้วีพูดตามด้วยเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ของมัน “แม่งโคตรอ่อนเลยว่ะ เสียชื่อเด็กโรงเรียนเราชิบหาย!”

เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง ส่วนผมก็ได้แต่กำหมัดแน่น

“เฮ้ย มีเรื่องอะไรวะ ไอ้ก้อง” ไอ้เอิร์ธที่อยู่ในสายถาม

“ไม่มีอะไรว่ะ มึงอย่าสนใจเลย” ผมตอบพลางหันกลับมาที่เดิม

“เฮ้ย ไอ้บ้านนอก!” มันตะโกนเรียกผมอีกครั้ง แถมยังปาอะไรบางอย่างใส่หัวผมด้วย พอผมหันกลับไปมองก็เห็นลูกชิ้นลูกหนึ่งกำลังกลิ้งอยู่บนพื้น

“แล้วมึงจะไม่บอกเพื่อนมึงเหรอววะว่าที่แม่งโดนเค้ากระทืบน่ะ มันเป็นเพราะมึงไปก่อเรื่องครวยอะไรไว้น่ะ!”

“มึงพูดเหี้ยอะไรของมึง!!”

เมื่อเห็นผมมีปฏิกิริยาอย่างนั้น มันก็ดูเหมือนจะยิ่งได้ใจ ไอ้วีลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหาผม 2-3 ก้าว

“อ้าว หรือไม่จริงวะ” มันหัวเราะในลำคอเบาๆ “กูน่ะ มีเพื่อนเยอะนะเว้ยย เด็ก ส.ค. กูก็รู้จักอยู่หลายคน มึงคิดว่าที่พวกมันไปเจอมึงระหว่างทางกลับบ้านน่ะ... เรื่องบังเอิญเหรอวะ”

ผมลุกพรวดขึ้นและพุ่งตรงเข้าไปคว้าคอเสื้อของไอ้เวรตะไลนี่เอาไว้ทันที “มึงรู้อะไรมา! ไอ้สัตว์!! มึงทำอะไรลงไป!”

“มึงนั่นแหละทำอะไรลงไป!” มันคว้าคอเสื้อของผมกลับ บรรดาเพื่อนๆ ของเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ลุกฮือขึ้นจากโต๊ะพร้อมๆ กัน “ไม่ใช่เพราะมึงไปหาเรื่องกับไอ้พวกนั้นก่อนรึไงวะ พวกมันถึงได้จ้องจะมาเอาคืนน่ะ! แล้วแบบนี้มึงจะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่ตัวมึงเอง ไอ้ควาย!” มันตะคอกใส่หน้าผม จากนั้นก็เหวี่ยงหมัดขึ้นชกหน้าผมทันที

ใบหน้าของผมสะบัดไปตามแรงต่อย สิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยินคือเสียงเส้นบางๆ บางอย่างในหัวที่ขาดดังผึง ผมเหวี่ยงหมัดสวนกลับไปอย่างแรง แล้วจากนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปราวกับความฝัน ภาพทุกอย่างแลดูพร่ามัว ผมได้ยินเสียงของผู้คนร้องตะโกนอยู่รอบข้าง แต่ก็จับใจความอะไรไม่ได้ ทุกสิ่งแลดูโกลาหลและสับสนวุ่นวายไปหมด สิ่งถัดมาที่ผมรู้สึกตัวหลังจากที่เริ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้วคือแขนหลายแขนที่พยายามดึงรั้งตัวของผมเอาไว้ ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าคือไอ้วีและเพื่อนๆ ของมันทุกคนที่ลงไปนอนกองอยู่บนพื้น สภาพโต๊ะและเก้าอี้ที่กระจัดกระจาย เสื้อนักเรียนสีขาวของผมมีรอยเลือดอยู่ 2-3 จุด และเมื่อผมหันไปมองรอบตัว เด็กนักเรียนหลายๆ คนต่างก็กำลังยืนมุงดูผมด้วยสีหน้าซีดเผือด แม้แต่เพื่อนๆ ของผมเองก็ยังคงมองผมด้วยแววตาหวาดกลัวแทบไม่ต่างกัน

“พอได้แล้ว! ไอ้ก้อง!!” เสียงของไอ้บอมดังขึ้นที่ข้างหูของผม

ผมหันไปมองหน้าของมันแล้วก็เห็นว่ามีรอยช้ำอยู่ตรงมุมปากด้วย

“ใครทำอะไรมึง! ไอ้บอม! ไอ้พวกเหี้ยนั้นแม่งทำอะไรมึง!” ผมโวยวายพลางสะบัดตัวพยายามหลุดเป็นอิสระ

“ไม่ใช่ไอ้พวกเหี้ยนั่นหรอก! แต่เป็นมึงนั่นแหละ!” ไอ้ภูมิที่ช่วยจับผมอยู่อีกคนพูดขึ้น “มึงใจเย็นได้แล้ว ไอ้ก้อง! พอแล้วเว้ย!!”

ผมหันไปมองที่ไอ้บอมอีกครั้ง สีหน้าของมันแลดูหวาดหวั่น แต่แขนของมันก็ยังคงล็อคตัวของผมเอาไว้แน่น

เมื่อผมรู้สึกตัวว่าพวกมันกำลังกลัวผมอยู่มากขนาดไหน และคนที่ทำร้ายพวกมันก็คือผมเอง ผมจึงเริ่มผ่อนคลายลง พวกมันจึงยอมค่อยๆ ปล่อยตัวผม

“กูไม่เป็นไรแล้ว กูขอโทษว่ะ... กูขอโทษนะเว้ยไอ้บอม กูไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อพูดเสร็จ ผมก็เดินออกจากโรงอาหารไปทันที แต่คราวนี้ไม่มีใครเดินตามผมมาสักคนเดียว

ผมเดินเข้าไปล้างหน้าล้างมือในห้องน้ำ แล้วจากนั้นก็ขังตัวเองอยู่ในนั้นครู่หนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศเรียกชื่อของตัวเองออกทางลำโพงว่าให้ไปพบอาจารย์ที่ห้องปกครอง ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วจึงเดินออกไปพบกับชะตากรรมของตัวเอง

ที่ห้องปกครอง อาจารย์ศุภกรณ์กำลังยืนรอผมอยู่ด้วยสีหน้าโกรธจัด แต่นอกจากเขาแล้วผมก็ยังเห็นไอ้วีและเพื่อนๆ ของมันนั่งอยู่บนพื้นห้องด้วย พวกมันทุกคนได้รับการปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไร แต่เห็นแบบนี้แล้วแม่งก็น่ากระทืบซ้ำให้แม่งสลบคาตีนไปเลยจริงๆ ว่ะ!

“จะยืนอยู่อีกนานมั้ย!!” อาจารย์ศุภกรณ์ตะคอกขึ้น ทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง ผมว่าพี่วินน่ากลัวแล้วนะ แต่อาจารย์คนนี้กลับยิ่งมีน้ำเสียงที่น่ากลัวยิ่งกว่าอีก “นั่งลง!!”

ผมเดินไปนั่งลงบนพื้นตามที่เขาชี้

“ผมให้โอกาสพวกคุณอธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น!”

เงียบ... ไม่มีใครพูดอะไร

“จะพูดหรือไม่พูด!!” อาจารย์ศุภกรณ์ฟาดไม้เรียวที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นจนทำเอาคนอื่นๆ สะดุ้งตัวโยน ยกเว้นแค่ผมเพียงคนเดียว

แปลกแฮะ ทั้งๆ ที่ผมว่าเขาก็มีบุคลิกที่น่าเกรงขามและน้ำเสียงที่น่าหวั่นเกรงมากอยู่หรอกนะ แต่ไม่รู้ทำไม ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเขาเลย

“ขออนุญาตครับ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ผมคุ้นหูดังขึ้นจากตรงประตูห้อง เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าพี่วินกำลังเดินเข้ามาข้างในห้องด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ “ผมขอเป็นคนรับเรื่องนี้ต่อเองได้มั้ยครับ อาจารย์”

“คุณคุยกับเด็กคนอื่นๆ รึยัง”

“คุยแล้วครับ”

“เด็กคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เพื่อนๆ ของเจ้าพวกนี้นะ”

“ใช่ครับ” เขาตอบอย่างหนักแน่น แต่ตลอดเวลาที่เขาพูดอยู่กับอาจารย์ศุภกรณ์ เขาไม่ได้แม้แต่ปรายตามามองผมเลยสักนิดเดียว “ผมอยากให้อาจารย์จับเด็กพวกนี้แยกแล้วสอบสวนทีละคนมากกว่าครับ ดูว่าจะพูดตรงกันรึเปล่า แบบนั้นน่าจะดีกว่านะครับ”

“ก็จริงของคุณ” อาจารย์ศุภกรณ์พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปหาไอ้วี “นายวิทวิสิทธิ์ ตามผมเข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้!”

ผมมองอาจารย์ศุภกรณ์เดินนำไอ้วีหายเข้าไปในห้องรับรองห้องเล็กที่อยู่ด้านใน จากนั้นพี่วินก็เปิดประตูออกและสั่งให้เพื่อนๆ ของไอ้วี ซึ่งรวมถึงไอ้ข้าว เพื่อนในห้องของผมก็ด้วย ออกไปนั่งรออยู่ที่ส่วนหน้าของห้องปกครองซึ่งมีโต๊ะประชาสัมพันธ์และอาจารย์ท่านอื่นนั่งอยู่ จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาหาผม

“ตามผมมาในห้อง” เขาพูด จากนั้นก็เดินนำผมเข้าไปยังในห้องที่ผมได้พบกับเขาในโรงเรียนนี้เป็นครั้งแรก

เมื่อเขานั่งลงแล้ว เขาก็สั่งให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สีหน้าของเขาก็ยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมกลัว แต่ไม่ได้กลัวเขา หากแต่มันคือความรู้สึกกลัวแบบเดียวกับที่ผมกลัวว่าแม่จะรู้เรื่องนี้... ความกลัวที่จะทำให้เขาผิดหวังในตัวของผม

“ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนที่ทำผิดสัญญาได้ง่ายๆ แบบนี้นะ...” ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่พักหนึ่ง “มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย”

“ไม่มีครับ” ผมตอบ

“มีอะไรจะอธิบายมั้ย”

“ไม่มีครับ”

เขามองหน้าผมด้วยแววตาทะลุทะลวง “ผมมีหน้าที่จะต้องสอบสวนคุณ และคุณต้องตอบคำถามของผม เข้าใจสถานะของตัวเองรึเปล่า”

“เข้าใจครับ”

“ถ้างั้นก็ตอบผมมา”

“ครับ”

“ใครเป็นคนเริ่มก่อน”

“ไอ้วีครับ”

“แล้วคุณก็เลยตอบโต้”

“ผมโมโหครับ”

“ทำไมถึงโมโห”

“เพราะมันเป็นคนที่ทำให้เพื่อนของผมต้องบาดเจ็บ”

“หมายถึงใคร”

“ไอ้เอิร์ธ อาจารย์น่าจะรู้ วันนี้มันไม่มาโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนๆ ของไอ้วีมันรุมกระทืบเมื่อคืน”

เขาเงียบลงไปอีกครั้ง “...เล่ามาซิ”

ผมเริ่มต้นเล่าตั้งแต่เรื่องที่พวกเราเจอเด็กกลุ่มนั้นระหว่างทางกลับบ้านของผมเมื่อวานตอนเย็นให้เขาฟัง ผมบอกเขาว่าผมเห็นเด็กคนหนึ่งในนั้นที่น่าจะอยู่กลุ่มเดียวกับคนที่เคยจะทำร้ายเขา และเล่าว่าไอ้วีพูดอย่างไรออกมา เขานั่งฟังผมโดยไม่ได้พูดหรือถามอะไรจนกระทั่งผมพูดจบ จากนั้นเขาจึงนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งท่าทางใช้ความคิด ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและส่งสัญญาณบอกให้ผมทำตาม

“เชิญคุณกลับไปห้องเรียนได้แล้ว” เขาเดินไปจับที่ลูกบิดประตู

ผมหันไปมองเขางงๆ “ผมไม่ต้องถูกลงโทษเหรอครับ”

“อันนั้นเป็นหน้าที่ของผมกับอาจารย์ศุภกรณ์ที่ต้องตัดสินใจ แล้วเดี๋ยวคุณจะถูกเรียกตัวอีกที”

“ครับ... เอ่ออ... ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”

“ถามว่า”

“แม่ของผม... เค้าจะต้องรู้เรื่องนี้มั้ยครับ”

“ตามกฎของโรงเรียน ผู้ปกครองจะต้องได้รับทราบเมื่อบุตรหลานก่อเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้นภายในโรงเรียนทุกครั้งและทุกกรณี...” เขาตอบ จากนั้นก็เน้นคำสุดท้ายเป็นพิเศษ “ไม่มีข้อยกเว้น”

“ครับ...” ผมก้มหน้า รู้สึกผิดแบบสุดๆ ที่ทำให้แม่ต้องเสียใจอีกแล้ว

“แต่ในกรณีของคุณ...” เขาพูดต่อ “ผมจะเป็นคนโทรไปบอกผู้ปกครองของคุณด้วยตัวเอง” บางอย่างในน้ำเสียงนั้นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของเขาด้วยความแปลกใจ เขามองหน้าผมก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาน้อยๆ “อย่าก่อเรื่องให้กูนักได้มั้ยวะ ไอ้แสบเอ๊ย!”

เขาเขกกำปั้นลงบนหัวของผมอย่างแรงจนผมต้องร้องโอ๊ยออกมา ผมยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆ แต่ในขณะเดียวกันผมกลับอดยิ้มและหัวเราะออกมาไม่ได้

“คืนนี้ค่อยคุยกัน สองทุ่มตรงที่ห้อง ถ้าคราวนี้ไม่ขึ้นไปอีก ไม่ช่วยแล้วนะเว้ย” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูออก

“ครับ! อาจารย์วิน!” ผมรับคำอย่างหนักแน่น

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-10-2013 19:35:42
อยากจะตืบวี นิสัยเสีย ชิ!!!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 09-10-2013 19:45:12
วีเลวมากกกกกกก
เอาเด็กต่างโรงเรียนมาทำร้ายเพื่อนโรงเรียนตัวเองเลวววววววว  :z6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 09-10-2013 20:04:36
กรี๊ดดด ไอ้น้องวีขา
ทำแบบนี้เจ๊ไม่ปลื้มนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 09-10-2013 20:09:14
อ๊ากกก ฟินตอนท้าย :hao7:

เเต่ก้องนิโหดใช่เล่นนะเนี้ยะหุๆ เห็นตัวเล็กนิซัดซะหมอบหมดเลย เพื่อนคงกลัวไปอีกนาน นน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 09-10-2013 20:12:46
โอ้ยยย   เคะโหดไปนะต่อยจนคนอื่นกลัว เอิ้กๆ  :katai2-1:

สู้ค่ะ  รอต่อนะค่ะ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 09-10-2013 20:16:27
อาจารย์วินแม่ง ใช้อำนาจโดยมิชอบว่ะ 555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Fill ที่ 09-10-2013 20:21:47
 :angry2:ก้องสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 09-10-2013 20:23:18
พี่วินจะโหดจะน่ารักเลือกซักอย่างเสือเค้างงน่า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 09-10-2013 20:54:06
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 09-10-2013 21:08:51
ช่วยไม่ได้เสร่อไปกระชากให้ก้องมันถึงจุดที่ระเบิดโพล๊ะเอง ฮ่ะๆ
แตก้องก็แรงไป น่ากลัวไปนะ เหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พอสติขาดผึงก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย มือเท้าไปเองหมด

แต่แหม มาเขินตอนท้ายอะ ฮ่ะๆ สองทุ่มให้ไปที่ห้องนี่ไปคุยเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหม หวังว่าจะไม่มีเมนูพิฆาตอีกนะ สงสารก้องที่ต้องจำใจกิน ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: miracle22936 ที่ 09-10-2013 21:49:10
อ๊ากกก ลงอีกสักตอนได้ไหมครับ อยากอ่านต่อมาก ๆ เลยสนุกกกกกก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 09-10-2013 22:03:09
พี่วินนนนนนนนนนนนนน
แหมม อย่าไปรุนแรงกับน้องก้องสิ !
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-10-2013 22:17:06
แต่นอกจากเขาแล้วผมก็ยังเห็นไอ้วินและเพื่อนๆ/..................................ไอ้วี

ยั่วโมโหซะขนาดนี้เป็นใครก็อดโต้ตอบไม่ได้หรอก

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 09-10-2013 22:21:52
แต่นอกจากเขาแล้วผมก็ยังเห็นไอ้วินและเพื่อนๆ/..................................ไอ้วี

ยั่วโมโหซะขนาดนี้เป็นใครก็อดโต้ตอบไม่ได้หรอก



ขคมค มึนจริงๆ ผม
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 09-10-2013 22:50:33
  “อย่าก่อเรื่องให้กูนักได้มั้ยวะ ไอ้แสบเอ๊ย!”  อ๊ากกกกกกกก //ขอเสียมารยาทกับประโยคนี้ของ อ.วิน   :-[  :-[
  เม้นไม่ถูกเลย ยิ้มหน้าบานไปก่อนละกัน  :o8:
  สนุกมาก ๆ  อยากอ่านยาว ๆ จังเลย ^^
   o13   :pig4:
 
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 10-10-2013 01:23:17
เด็กเส้นนี่หว่าาาา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 10-10-2013 06:02:23
มีแบ็คอัพมันดีแบบนี้นี่เอง ลุยโลดเลยค่ะหนู กรวด(วี)ในรองเท้า ต้องขยี้ให้แหลก ก่อนดีดให้ไกลๆ อิอิ
ชอบตรงที่พี่วินเสือกหล่อและสเป็คน้องก้องอ่ะค่ะ...พึมพำปนสบถซะน่ารักเบย รู้สึกเขินๆแทน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-10-2013 09:49:59
แอร๊ยยย พี่วิน น่ารัก ชอบบๆ มีหลายโหมดดี บทจะดุก็ดุ บทจะใจดีก็ใจดี

เรื่องนี้ต้องเคลียนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-10-2013 10:31:17
ก้องรีบขึ้นไปหาวินตามนัดนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-10-2013 11:40:00
ฮิ้ววววววว อาจารย์วิน
ดูแลลูกศิษย์ด้วยตัวเองเลยจ้าาา แหมๆๆ

ไม่ว่าจะเป็นพี่วินหรืออาจารย์วินก็น่ารัก อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 10-10-2013 22:46:14
สนุก น่าติดตามคับ อาจารย์วินก็คอยแอบดูก้องและมักออกมาช่วยก้องในเวลาคับขันเสมอคับ

มาต่อบ่อยๆนะคับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 11-10-2013 13:28:40
อ่านะ... เป็นไปตามที่คาด
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 11-10-2013 14:10:04
หนุกมากก ก้องโคตรเก่งง เคะแบบนี้หายากมากกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-10-2013 16:49:07
ถึงโรงเรียนไม่ทำโทษ พี่วินก็ทำโทษน้องก้องเยอะๆเลยก็ได้นะคะ แบบสองต่อสอง :z1:
เด็กผู้ชายต่อยกัน เด็กผู้หญิงก็ตบกัน บ้านเรานี่ความรุนแรงในโรงเรียนเยอะนะคะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 11-10-2013 18:05:36
ต้องย้อนไปอ่านตอนต้นใหม่ อยากรู้ว่าประโยคใหนที่ทำให้พี่วิน จำก้องได้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 12-10-2013 00:57:47
เรื่องใหม่สินะเนี่ย มาอ่านแล้วนะครับ น่าสนใจจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 12-10-2013 02:54:33
ขรึมไว้ครับ ขรึมไว้ เดี๋ยวเด็กมันได้ใจ  :katai5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-10-2013 08:06:00
ป่วยนะ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่ก็ลุกขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ เล่น เอามาแปะให้สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าแฟนเพจ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 12-10-2013 08:33:49
รูปน่ารัก  :mew3:
หายป่วยไวๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 12-10-2013 23:33:15
อ.วิน หล่อเท่มาก  ส่วนน้องก้อง หน้าหงิกเชียว ต้องโดนแกล้งอีกแน่เลย ^^

คุณนักเขียน พักผ่อนเยอะ ๆ หายป่วยเร็ว ๆ นะคะ    :L2:   :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 13-10-2013 05:58:34
แรงเยอะไม่เบาเลยนะเนี่ย
หาเรื่องต้องให้พี่วินมาช่วย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 6: 9 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-10-2013 17:31:04
 :-[
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-10-2013 17:47:58
ตอนที่ 7


ตลอดช่วงบ่าย ไม่มีเพื่อนในห้องคนไหนเข้ามาคุยกับผมเลยสักคน แต่ก็แน่ล่ะ ก็ผมเสือกลืมตัวโชว์ถ่อยออกไปขนาดนั้นแล้ว ใครมันจะอยากคบกับผมอีกวะ แบบนี้ชีวิตหลังจากนี้ของผมก็คงไม่แคล้วกลับไปเป็นแบบเดิมๆ อีกแหงๆ

หลังเลิกเรียน ผมถูกเรียกไปยังห้องปกครองอีกครั้งเพื่อรับคำตักเตือน และบทลงโทษให้ทำความสะอาดโรงเรียนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม ผมจะต้องมาเริ่มทำงานตั้งแต่หกโมงครึ่งจนถึงเจ็ดโมงครึ่งทุกวัน สาเหตุที่ผมโดนลงโทษเแค่นี้ก็เป็นเพราะว่าอาจารย์ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าผมเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำก่อน และนอกจากนั้นยังมีเรื่องของเด็กโรงเรียน ส.ค. มาเกี่ยวข้องอีก ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะไม่พูดออกมา แต่ผมก็รู้ดีว่าน่าจะหมายถึงกลุ่มของเด็กนักเรียนที่เคยทำร้ายพี่วิน และตอนนี้น่าจะกำลังพุ่งเป้ามาที่ผมและเพื่อนๆ ของผมอยู่ในตอนนี้

หลังจากที่เดินออกจากห้องปกครอง ผมก็ต้องแปลกใจที่เจอพวกไอ้บอมกำลังยืนรออยู่ ไอ้บอมเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหาผม ก่อนที่จะตบหัวผมหนึ่งที

“โอ๊ยย!!” ผมร้องออกมา “อะไรวะ!”

“เอาคืนไง ไอ้สัตว์ คราวหลังช่วยระวังเพื่อนรอบข้างมึงด้วยนะ ไอ้เหี้ย!”

“หรือถ้าจะให้ดี มึงกรุณาอย่ามีเรื่องชกต่อยเลยจะดีที่สุดปะวะ” ไอ้ภูมิพูดขึ้นอีกคน

“เออๆ กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพวกมึงอยู่แล้ว มึงก็น่าจะรู้กันนี่หว่า แต่ตอนนั้นกูกำลังโมโหอะ” ผมนิ่วหน้า

“กูรู้น่าว่ามึงกำลังโมโห ไอ้ห่า ตอนนั้นมึงแม่งโคตรน่ากลัวขนาดนั้น ใครจะไม่รู้วะ” ไอ้บอมกอดคอผม “แต่ทำไมมึงแม่งบู๊เก่งขนาดนั้นวะ ไอ้ก้อง มึงนักเลงเก่าเหรอมึงอะ หรือว่านักมวย เหี้ยแม่งยังกะในหนังแน่ะ แป๊บเดียวพวกไอ้เชี่ยวีลงไปกองหมดเลย แต่มึงไม่โดนพวกแม่งสักหมัด”

ผมหัวเราะแห้งๆ แต่ไม่ตอบคำถามนั้นของมัน และพวกมันก็ไม่ได้ซักไซ้ผมต่อด้วย ผมรู้สึกดีใจจริงๆ ที่พวกมันไม่โกรธหรือกลัวผมและยังอยากจะเป็นเพื่อนกับผมต่อ

“เอ้า มีคนเค้าอยากคุยกับมึงด้วยว่ะ” ไอ้ภูมิยื่นโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือให้ผม

“ฮัลโหล” ผมพูดไปในโทรศัพท์ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร

“ไอ้ก้อง เป็นไงมั่งวะ โดนเหี้ยไรไปบ้าง” ไอ้เอิร์ธพูดพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ

“เฮ้ย ไอ้เอิร์ธ กูขอโทษนะเว้ย กู...”

“เออๆ ช่างมันเหอะมึง พวกไอ้บอมเล่าให้กูฟังแล้ว มันไม่เกี่ยวกับมึงหรอกน่า คนที่เหี้ยคือไอ้พวกที่แม่งมารุมกู กับไอ้เชี่ยวีต่างหากที่แม่งขายเพื่อนโรงเรียนเดียวกันน่ะ”

ผมถอนหายใจแล้วยิ้มออกมา “ขอบใจมากว่ะ ไอ้เอิร์ธ กูสัญญาว่าคราวหน้าจะไม่มีแบบนี้อีกแล้วเว้ย”

“ดีแล้วล่ะมึง กูไม่ได้ชอบเจ็บตัวฟรีบ่อยๆ หรอกนะ” มันหัวเราะ “แต่กูมีเรื่องจะบอกว่ะ รู้กันสองคนนะเว้ย...”

“อะไรวะ” ผมสงสัย

“ถ้ามึงอยากจะเอาคืนรึแก้แค้นแทนกูอะ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะเว้ย แค่ระวังอย่าให้โดนจับได้เป็นพอ”

คำพูดทีเล่นทีจริงของมันทำให้ผมหัวเราะออกมา เราคุยกันต่ออีกพักหนึ่งแล้วก็วางสาย เมื่อกลับถึงบ้าน ผมก็รอว่าเมื่อไหร่แม่ถึงจะโทรมาเล่นงานผม แต่ก็ไม่มี จนกินข้าว อาบน้ำเสร็จ และเวลาผ่านเลยไปจนถึงสองทุ่มแล้วแม่ก็ยังไม่โทรมา ผมนึกแปลกใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายโทรไปหาก่อนหรอกนะ สุดท้ายก็เลยปล่อยเลยตามเลยและเดินขึ้นไปหาอาจารย์เพื่อนบ้านของผมที่ชั้น 17

“เข้ามาได้เลย” เขาตะโกนตอบกลับมาหลังจากที่ผมเคาะประตูห้อง

เมื่อเปิดประตูเข้าไป ผมก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขากำลังยืนอยู่หน้าทีวีในกางเกงบ็อกเซอร์แค่ตัวเดียว แถมท่าทางว่าจะไม่ได้ใส่กางเกงในอีกด้วย

เขาหันมาหาผม “อ้าว มัวยืนทำอะไรอยู่ได้ รีบๆ ปิดประตูแล้วเข้ามานั่ง วันนี้เราต้องคุยกันยาว”

“ครับๆ” ผมทำตามที่เขาบอก

เขารินน้ำเย็นให้ผมหนึ่งแก้ว ในขณะที่ตัวเองกลับเปิดกระป๋องเบียร์เย็นๆ ขึ้นจิบ

แม่งโคตรจะไม่แฟร์เลย!

“ไม่ต้องมามอง อายุแค่ 16 คิดเหรอว่าพี่จะให้กินเบียร์” เขานั่งลงข้างๆ ผม

“กินเป็นเหอะ”

“ไม่เกี่ยวกับกินเป็นหรือไม่เป็น แต่มันไม่ควร” เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่วินอายุเท่าไหร่แล้วนะ ผมจำไม่ได้”

“24”

ผมพยักหน้าเบาๆ “งั้นตอนที่พี่วินอยู่ข้างบ้านผม ตอนนั้นพี่ก็อายุ...”

“พี่ย้ายออกตอนอายุ 17 ส่วนเราน่ะ เก้าขวบ ไม่ต้องนับหรอก” เขาพูดขึ้นก่อนที่ผมจะนับนิ้วเสร็จ “ตอนนั้นเราอยู่ด้วยกันสามปี เราติดพี่จะตาย แรกๆ ก็กลัวพี่ ไม่กล้ามาเล่นด้วยอยู่หรอก แต่ไปๆ มาๆ ก็ชอบติดสอยห้อยตามไปนั่นมานี่ด้วยตลอด” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม

“ตอนนั้นพี่วินรำคาญผมมั้ย”

“รำคาญดิ” เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลย “แต่สักพักก็ชิน พี่ไม่มีน้องชาย ก็รู้สึกเอ็นดูเราอยู่” เขาหันมายิ้มให้ผมและยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ “ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมนะ”

ผมพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ยิ้มออกมา แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้เขินได้แฮะ

“แต่ทำไมต้องเสือกสร้างปัญหาด้วยวะ!” จู่ๆ เขาก็ตบหัวผมซะจนหน้าคะมำ “ถ้าพี่โดนไล่ออกซะก่อนจะรับผิดชอบพี่มั้ย”

“เฮ้ย! ทำไมเค้าจะไล่พี่ออกอะ!”

“ยังไม่ไล่ แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเรื่องไอ้เด็กโรงเรียนนั้นมันบานปลายขึ้นมา พี่ก็อาจจะโดนบีบออกได้”

“ยังไงวะครับพี่”

“ฟังให้ดีๆ เลยนะ พี่บอกไปแล้วใช่มั้ยว่าพี่เป็นครู ไปมีเรื่องกับเด็กนักเรียนไม่ได้ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม แต่วันนี้พี่คุยกับอาจารย์ท่านอื่นๆ และผู้อำนวยการแล้วว่า กลุ่มเด็กที่มาทำร้ายนักเรียนของเราเมื่อคืน คือพวกเดียวกับที่เคยจะทำร้ายพี่ในตรอกนั้น ซึ่งมันคงมาเอาคืน ตอนแรกพี่ไม่ได้เล่าให้เค้าฟังหรอกว่าเรามาเกี่ยวข้องด้วย จนกระทั่งเพื่อนๆ ของไอ้วิทวิสิทธิ์ มันพูดออกไปให้อาจารย์ศุภกรณ์ฟังนั่นแหละ พี่ก็เลยโดนเค้าต่อว่าเอาว่าทำไมไม่พูดให้หมด และถึงอาจารย์บางคนเค้าจะปกป้องพี่ แต่บางคนเค้าก็ไม่พอใจ หาว่าพี่ทำไม่ถูกที่ดึงเด็กนักเรียนมาเกี่ยวข้องและเป็นเหตุให้นักเรียนต้องได้รับบาดเจ็บ”

“อ้าว! ไม่เห็นเกี่ยวกับพี่เลย! ถ้าเค้าจะว่าใครเค้าก็ต้องว่าผมดิ!!”

“พี่ออกตัวปกป้องเราไปแล้ว” เขาตอบสั้นๆ จากนั้นก็ดื่มเบียร์ที่เหลือจนหมดกระป๋อง “เอาเข้าจริง ไอ้การที่พี่ไปอยู่ในตรอกในซอยนั้นดึกๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนักหรอก แต่พี่แค่อยากจะไปดูให้เห็นว่าไอ้คนที่มันเคยมีเรื่องกับเด็กโรงเรียนเรามีใครบ้าง เพื่อที่จะได้ไปรายงานกับทางโรงเรียนนั้นให้ช่วยจัดการ”

“อ้าว แล้วพี่จะแจ้งไปยังไง ไปพูดเฉยๆ เหรอ ใครเค้าจะเชื่อ หรือจะไปนั่งอธิบายหน้าตาให้เค้าฟังเนี่ยนะ”

เขาหันมายิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ที่ทำให้ผมถึงกับต้องขนลุก “ก็ถ้าในช่วงชุลมุนกันอยู่แล้วมัน ‘บังเอิญ’ มีเด็กทำกระเป๋าตังค์ตกเอาไว้ แล้วพี่ ‘บังเอิญ’ เก็บขึ้นมาได้ ก็จะเท่ากับว่าพี่แค่ ‘บังเอิญ’ ไปอยู่ในที่แห่งนั้นและเจ้าพวกนั้นมันจงใจเข้ามาหาเรื่องพี่ก่อนเองไปโดยปริยาย จริงมั้ยล่ะ”

“โหหหห!! เลวววว!”

“อย่ามาทะลึ่ง” เขาตบหัวผมดังป้าบ

“โอ๊ยยยย” ผมลูบหัวตัวเอง “แล้วกระเป๋าตังค์ใบนั้นอยู่ไหนแล้ว”

“ส่งคืนโรงเรียนไปแล้วไง”

“เหยดดด โจรในคราบอาจารย์ เอ๊ย อาจารย์ในคราบโจรชัดๆ”

“เดี๋ยวก็ตบคว่ำให้อีกทีหรอก ถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วจะได้เรื่องเหรอวะ ว่าแต่ห่วงเรื่องของตัวเองก่อนจะดีกว่ามั้ย ไอ้ก้อง เพราะพรุ่งนี้พี่จะโทรไปหาแม่เราแล้วนะ เตรียมใจเอาไว้เลย”

“อ้าว พี่จะโทรจริงๆ เหรอ...”

“ไม่ต้องทำเสียงอ่อย เป็นลูกผู้ชาย ทำอะไรไว้ก็ต้องยืดอกรับผลของการกระทำตัวเองด้วย เคยสอนไปแล้ว จำไม่ได้รึไง”

“ก็บอกแล้วไงว่าจำไม่ได้ แต่ก็รู้แล้วล่ะน่า”

“แต่เรายังโชคดีที่โดนลงโทษแค่นั้นและทางโรงเรียน ซึ่งหนนี้ก็คือพี่ ก็จะช่วยพูดให้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเราคนเดียว เพราะอีกฝ่ายเป็นคนหาเรื่องก่อน แถมยังใช้จำนวนคนที่มากกว่าเข้ารุมด้วย เรื่องนี้มีพยานเห็นอยู่หลายคน”

“มันก็แหงดิ”

“อย่าได้ใจไปนัก คราวหลังหัดใจเย็นให้มันมากหน่อย ไม่อยากผิดสัญญากับแม่ไม่ใช่รึไง” น้ำเสียงของเขาไม่ใช่การดุหรือสั่งสอน แต่มันเจือไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ ทำให้ผมถึงกับต้องก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด “การที่เราชกต่อยเก่งกว่าคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องโต้ตอบเวลาที่ถูกหาเรื่องไปซะทุกครั้งนะ จำไว้”

“ครับๆ”

“ก้อง เราคิดว่าทำไมเราถึงต้องมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่น ไหนลองบอกพี่มาซิ”

“สำหรับผม มันคือการป้องกันตัวและปกป้องคนอื่น”

“ถ้าคิดได้อย่างนั้นแล้ว จากนี้ก็ระวังให้ดีแล้วกัน”

“ครับ”

เราสองคนต่างก็นั่งเงียบไปพักหนึ่ง พี่วินเอนหลังแล้วยกขาขึ้นพาดลงบนโต๊ะรับแขก ทำให้ขากางเกงบ็อกเซอร์ร่นขึ้นเล็กน้อย ผมพยายามที่จะไม่มอง แต่แม่งก็ยากจริงๆ ต้นขาขาวๆ และเงาดำๆ ภายใต้ขากางเกงที่เลิกขึ้นนั่นทำเอาผมต้องใจเต้นแรง

“เรามีแฟนรึเปล่า” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น

“ฮะ เหออ ไม่มีอะครับ”

“ทำไมไม่มีล่ะ หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ ออกจะหล่อด้วยซ้ำ สาวๆ น่าจะมาชอบเยอะไม่ใช่รึไง”

ผมนึกในใจว่า ‘ชอบ’ เหรอ ‘กลัว’ น่ะสิ ไม่ว่า

“ไม่หรอกพี่ ผมมีแต่เพื่อนผู้ชาย... แต่จะว่าไป เรียกเพื่อนยังลำบากเลยมั้ง”

“ถ้าไม่ใช่เพื่อนแล้วอะไร ลูกน้องรึไง” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ก็คงราวๆ นั้นมั้ง ฟังดูทุเรศนะพี่ ถึงจะรุ่นเดียวกัน แต่พวกมันก็ยกให้ผมเป็นหัวหน้า ตัดสินใจทุกอย่าง ผมไปไหนก็ตามไปด้วย เพื่อนปกติในโรงเรียนที่ไม่ได้เป็นแบบไอ้พวกเหี้ยนั่นก็มี แต่ก็เหมือนแค่คุยกันในห้อง เตะบอลด้วยกัน แต่ไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วย เพื่อนที่เรียนพิเศษก็คุยกันแต่ในที่เรียน เจอกันในโรงเรียนก็แค่ทักทาย แต่ไม่ได้สนิทสนมด้วยจริงๆ จังๆ” ยิ่งพูดไป ผมก็ยิ่งรู้สึกมันน่าเศร้ามากขึ้นทุกทีๆ นี่ชีวิตผมเมื่อก่อนหน้านี้มันแลดูแห้งแล้งขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย “เพราะแบบนี้ไง ผมถึงได้โมโหไอ้เหี้ยวีมาก แม่งทำร้ายเพื่อนผมอะ ผมอุตส่าห์มีเพื่อนดีๆ กับเค้าทั้งที... ผมอยากเริ่มต้นใหม่นะพี่ อยากเป็นคนดีกับเค้าบ้าง ผม...”

ผมพูดไม่ออกจริงๆ ว่ะ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะเป็นแบบนี้ ผมไม่เคยรู้ตัวเลยว่าผมมีความรู้สึกแบบนี้หลบซ่อนอยู่ภายในใจด้วย มันเป็นความอัดอั้นและอ่อนไหวแบบที่ผมเพิ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาผมปกปิดความเหงาของตัวเองด้วยการเชื่อว่าไอ้เหล่าบรรดาคนที่ห้อมล้อมอยู่รอบกายผมคือ ‘เพื่อน’ แต่ความเป็นจริงคือในช่วงที่ผมนอนโรงพยาบาล แม่งไม่เคยมีหมาตัวไหนโผล่ไปเยี่ยมผมสักคน และนี่ผมมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ตั้งหลายวันแล้ว ผมยังไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากพวกมันเลยแม้แต่ครั้งเดียวด้วย

ผมนั่งก้มหน้าและพยายามกล้ำกลืนความรู้สึกขมขื่นพวกนั้นลงคอไปให้หมด ผมจะมาอ่อนไหวแบบนี้ได้ยังไง ที่ผ่านมาผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้งนะเว้ย!

พี่วินที่นั่งอยู่ข้างๆ เหยียดแขนออกมาโอบบ่าผม แล้วจากนั้นก็ดึงตัวของผมเข้าไปล็อคคอ

“โอ๊ยยๆๆ อะไรล่ะพี่!!”

“อย่ามาทำตัวอ่อนแอนะ ไอ้ก้อง! พี่ไม่ได้สอนแกให้โตมาให้ขี้แงนะ!”

“อะไรเว้ยเฮ้ย! ไม่ได้ขี้แงสักหน่อย! ยังไม่ได้มีน้ำตาสักหยดเลยเนี่ย จะบ้ารึไง!!” ผมตบแขนเขาเป็นการยอมแพ้

เขายอมคลายแขนออกนิดหน่อยเพื่อให้ผมหยุดดิ้น แต่ก็ยังคงรัดคอของผมเอาไว้ในท่าเดิม “ถึงเมื่อก่อนจะเป็นยังไง มันก็ไม่ได้มีผลกับในตอนนี้ไม่ใช่เหรอวะ และที่สำคัญ แกก็ยังมีพี่อยู่นี่ไง... เราอุตส่าห์ได้มาเจอกันอีกครั้งทั้งที อย่าทำหน้าเป็นตูดเป็ดแบบนั้นให้เห็นอีกนะเว้ย!” เขาขยี้กำปั้นลงบนหัวของผม

“โอ๊ยยยย!! เจ็บๆๆ” ผมเริ่มดิ้นอีกครั้ง “อย่าให้หลุดไปได้นะเว้ย! น่าดู!!”

“อะไร! มึงจะทำอะไรกู!” เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นจี้เอวผมแทน “กูจำได้นะว่ามึงบ้าจี้น่ะ!”

ทันทีที่นิ้วของเขาจิ้มลงบนเอวของผมเท่านั้นแหละ ผมก็ดิ้นพล่านทันที นี่เขารู้กระทั่งว่าผมบ้าจี้เหรอเนี่ย!

“ฮ่าๆๆๆ พอแล้วๆๆ ผมขอโทษๆ ผมยอมม!! ฮ่าๆๆ”

เมื่อเขาคลายแขนที่ล็อคคอของผมออก ผมจึงรีบผละตัวออกจากเขาอย่างรวดเร็ว ดีนะที่เขาไม่ได้จี้ผมนานกว่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ผมอาจจะต้องยิ่งอับอายมากกว่าเดิมถ้าหากเขารู้ว่าผม ‘มีปฏิกิริยา’ กับการถูกจี้ด้วยเหมือนกัน

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะทันได้หายใจหายคอ เขาก็โถมตัวเข้ามาทับผมและเริ่มจี้เอวของผมต่อ ทำเอาผมหัวเราะและดิ้นอย่างบ้าคลั่ง แต่นั่นกลับทำให้เขาดูเหมือนจะยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ ท่อนขาของเขาที่เบียดเข้าตรงหว่างขาของผมเริ่มกระตุ้นอารมณ์ผมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่กำลังหัวเราะอยู่จนเหนื่อยอ่อน ผมกลับเริ่มรู้สึกถึงไอ้น้องชายที่ค่อยๆ แข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน

“พอแล้ว...!! พี่วิน ผมขอโทษ ผมยอมแล้วจริงๆ พอเถอะครับ! ผมข... ขออ ร้องง...!!” ผมพยายามพูดแทรกเสียงหัวเราะออกไปอย่างบากลำบาก

“เออๆ พอก็ได้” ในที่สุดเขาก็ยอมชูมือทั้งสองข้างขึ้น แต่ยังคงนั่งทับตัวของผมอยู่ เขายิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงของผม “แล้วจู๋แข็งแบบนี้เนี่ยนะ ดันต้นขาพี่อยู่ได้ตั้งนาน”

“พี่วิน!!” ผมพยายามจะบิดตัวหนี แต่ก็ทำไม่ได้

“ทำไมวะ ทำยังกับไม่เคยถูกจับไปได้”

“ก็ไม่เคยน่ะสิพี่!”

“เฮ้ย นี่แกยังบริสุทธิ์อยู่เหรอเนี่ย”

คำพูดของเขาทำเอาผมเขินและโกรธจนใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด

“อ้าวๆ หน้าแดงหมดแล้วว่ะเฮ้ย... น่ารักไม่เปลี่ยน” เขาหัวเราะ

“เลิกแกล้งผมเป็นเด็กๆ ได้แล้ว!!” ผมคำรามออกมา

“ไม่ต้องทำเป็นโกรธ ไอ้ที่แกล้งเนี่ย ก็เพราะรักหรอกนะ” เขายิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะลุกออกจากตัวผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปโอบบ่า “โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอวะเนี่ย ยังไม่อยากจะเชื่อเลย...”

“พี่จะทำไรอะ ปล่อยผม!” ผมดันตัวเขาออก

“ทำไม โอบไหล่แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ ทีตอนเด็กๆ ยังชอบวิ่งมาให้พี่กอดประจำ”

“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ผมโตแล้วนะเว้ย!”

“แล้วมันต่างกันยังไง” เขาเลิกคิ้วขึ้น

“มันก... ก็... เอ่ออ...” ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี “ถ้าพี่อยากกอดก็ไปกอดแฟนตัวเองนั่นดิ ไปหาสาวๆ มากอดนู่น”

“ไม่มีแฟน เลิกไปแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ถามไรหน่อยดิ ก้อง”

“อะไร”

“พูดให้มันดีๆ” เขาเงื้อมือขึ้นทำท่าจะตบหัวผมอีก

“อะไรครับ! อะไรครับๆ ขอโทษครับ...” ผมรีบยกมือขึ้นกันเอาไว้ทันที

“ดีมาก” เขายักคิ้วข้างเดียว “ตอบพี่มาตามตรงนะ สัจจะลูกผู้ชาย”

ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขาจะถามเรื่องอะไร “เออๆ ครับ”

“เราชอบผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”

“เฮ้ย! พี่ถามอะไรอะ จะบ้าเหรอ!” ผมดันตัวเขาออกแล้วลุกขึ้นยืน “ไม่ตลกนะเว้ย!”

“ทำไม แค่ตอบมาตามความจริงมันยากตรงไหน ชอบผู้หญิงก็บอกว่าผู้หญิง แต่ถ้าชอบผู้ชายก็บอกมาว่าชอบผู้ชาย แค่นั้น”

“แล้วจู่ๆ พี่มาถามเรื่องนี้ทำไมวะ มันใช่เรื่องรึไง” ผมเขินจนไม่รู้จะพูดบ่ายเบี่ยงยังไงดี “ผมกลับห้องละนะ”

“หยุดเลย ก้อง” เขาออกคำสั่ง แต่ผมไม่หยุด ผมเดินตรงไปที่ประตูและเริ่มกำลังจะสวมรองเท้า “ก็บอกให้หยุดไง!”

พี่วินเดินตรงเข้ามาดึงตัวของผมให้หันกลับไปหาเขา แล้วจากนั้นเขาก็รวบแขนกอดผมเอาไว้ ผมมองหน้าเขาด้วยใจที่เต้นแรง ถ้าเป็นคนอื่นมาทำแบบนี้กับผม ผมคงต่อยแม่งหน้าแหกไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม พอผมมองหน้าเขาแล้วผมกลับรู้สึกตัวเองไร้เรี่ยวแรงชอบกล

“พี่จะทำเหี้ยอะไรอีกอะ ผมไม่ตลกแล้วนะเว้ย”

เขามองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เป็นอีกครั้งที่ผมไม่สามารถอ่านแววตาของเขาออก เราสองคนต่างก็ยืนจ้องตากันและกันอยู่สักพักจนกระทั่งเขายอมปล่อยตัวของผม

“กลับไปเหอะ” เขาพูดขึ้น จากนั้นก็หันหลังให้กับผมและเดินไปกลางห้อง “จะไปทำอะไรก็ทำ”

ผมมองแผ่นหลังของเขาด้วยความสับสน นี่เขาเป็นเหี้ยอะไรของเขาวะ จะเอายังไงกับผมกันแน่ ผมใส่รองเท้าแล้วจากนั้นก็เดินออกจากห้องของเขาไปโดยไม่พูดอะไรออกไปอีกเลย

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 13-10-2013 18:06:09
อัลลลไรรรงงเลยอ่าา

ตกลงจะดีรึโกรธกันหว่า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 13-10-2013 18:14:18
โดนจี้้เอวแค่นี้ถึงกับจู๋แข็งเลยเหรอไอ้หนู หึหึ  :z1:

ว่าแต่พี่วินแม่มมึงเป็นอะไรของมึง กำเบยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 13-10-2013 18:31:32
น้องก้องไม่บอกละว่าชอบ ผช 5555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 13-10-2013 18:35:52
นั่นน่ะ
ถามทำไมพี่วิน จัดเลยซักดอก
อุ้ย รีบไปเหรอ  555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-10-2013 18:41:45
โอ้ววว เกือบเสียตัว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 13-10-2013 18:50:25
เห้ย ทำไมต้องงอนกันด้วย ของ้อแบบน่ารักๆนะครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 13-10-2013 18:58:48
อัลไลลลล    งง โกรธกันซะงั้น โอ้ยปากเเข็งทั้งคู่ ตึบแม่ง :z6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-10-2013 19:31:21
โอ้ม่ายย
น้องก้องไม่ง้อพี่วินหน่อยเหรอ กิกิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 13-10-2013 19:37:47
มันเป็นไปได้เหรอที่เด็กหนุ่มอายุ 17 จะชอบ เด็กอายุ 9 ขวบ  คงเอ็นดู แต่คงเพิ่งมาชอบ
ตอนที่เจอกันใหม่นี่    ใช่ป่ะ  คุณ ExecutioneR  ก็แต่งได้หลายแนวเนอะ  นับถือ ๆ 
แต่งได้ทั้ง ๆ ที่ป่วยด้วย   มืออาชีพนะนี่ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-10-2013 19:56:15
มันเป็นไปได้เหรอที่เด็กหนุ่มอายุ 17 จะชอบ เด็กอายุ 9 ขวบ  คงเอ็นดู แต่คงเพิ่งมาชอบ
ตอนที่เจอกันใหม่นี่    ใช่ป่ะ  คุณ ExecutioneR  ก็แต่งได้หลายแนวเนอะ  นับถือ ๆ 
แต่งได้ทั้ง ๆ ที่ป่วยด้วย   มืออาชีพนะนี่ ขอบคุณค่ะ

เรื่องนั้น ไว้เฉลยในเนื้อเรื่องนะครับ ส่วนถามว่าแต่งมั้ย จริงๆ ไม่ได้แต่งหรอกครับ มานั่ง revise เฉยๆ เพราะแต่งไว้หมดแล้ว แต่ถ้ามีพิมพ์ผิดหรืออะไรหลุดตาไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะครับ ยังเบลอๆ เพราะพิษไข้จริงๆ

:'(
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 13-10-2013 20:18:28
พี่วินนี่ยังไงงิ  -3-  จะดีหรือร้าย แอ้กก

คือแบบว่า ชอบนายเอกแนวนี้มากอ่ะ  ลุคเถื่อนๆ(?) คือชอบแนวนายเอกต่อยตีเก่งๆก๊ากก เถื่อนดีค่ะ

เป็นกำลังใจ+ขอบคุณนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-10-2013 20:39:45
ใกล้แล้ว หึหึ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-10-2013 21:09:10
ตายละ นายเอกของเราจะเป็นไรรึเปล่านะ   :hao7: สงสารจังเลย  พี่วินอย่าแกลังน้องมาสิคะ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 13-10-2013 21:15:51
มันมีอยู่ประโยคนึงที่ว่า ' กับไอ้เชี่ยวินต่างหากที่แม่งขายเพื่อนโรงเรียนเดียวกันน่ะ'
ตรงคำว่า วิน นี่เป็น วี หรือเปล่าคะ?
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-10-2013 21:16:26
มันมีอยู่ประโยคนึงที่ว่า ' กับไอ้เชี่ยวินต่างหากที่แม่งขายเพื่อนโรงเรียนเดียวกันน่ะ'
ตรงคำว่า วิน นี่เป็น วี หรือเปล่าคะ?

ถูกครับ หลุดอีกแล้ว ขอบคุณมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 13-10-2013 22:09:17
เอ๊าาาาา ซ่ะงั้น
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 13-10-2013 22:14:18
น้องก้องเขาใสๆนะ พี่วินมาอารมณ์ลงลึกแบบนี้น้องเขาไม่เข้าใจหรอก


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 13-10-2013 22:15:47
ไหงเป็นเงี่ยอ่ะ :katai1: :katai1:  :katai1:ขัดใจๆๆๆ

พี่วินแล้วน้องก้องง้อพี่วินด่วนเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: GuLaZeng ที่ 13-10-2013 22:24:47
โอ้นึกว่าจะ  :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 13-10-2013 22:28:40
อะไรของพี่วินมันฟร่ะ555555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-10-2013 22:34:44
ไปนัวเนียน้องแล้วก็ต้องห้ามใจตัวเองสินะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 13-10-2013 22:42:38


เอาล่ะๆ  :mew2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 13-10-2013 23:03:10
งง อะไรแวะ โกรธกันซะงั้น ให้ตายสิ ช่างเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนเสียจริง กระทบผิดองศาไปนิดเดียว ถึงกับโมโหโกรธกันซะได้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 13-10-2013 23:11:21
พี่วินมีอะไรก็บอกน้องไปเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 14-10-2013 00:06:21
ถ้าก้องตอบว่าชอบผู้หญิงล่ะพี่วิน ^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 14-10-2013 00:31:54
น้องก้อง ที่พี่วินมันถามเพราะมันจะจีบหนูไง โง่จริง

พี่วินแม่งร้าย จะจับน้องทำเมียดูก็รู้แล้วววววว

ก้องตอบไปเลยว่าชอบผู้ชาย หนูจะได้มีผัวไงลูก 555555

มีสามีเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง เก๋จะตาย เอิ๊กๆ

แต่แบบก้องเป็นเคะที่เถื่อนมากอ่ะ แต่เอ๊ะๆ

ก้องเคยบอกว่า พี่วินตรงสเป๊ค งั้นหนูก็รุกเลย

#วินก้องเชียร์ใจขาดดิ้นกรี๊ดๆ
#แต่สงสารก้องนะเพราะความเถื่อนทำให้มีแต่คนกลัว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: patek ที่ 14-10-2013 00:52:50
พี่วินแสบมากๆ ดักคดก้องได้ตลอดเลย เริ่มสนุกแล้วคับคุณต้น
ขอให้คุณต้นหายป่วยไวไวนะคับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-10-2013 01:38:18
มันแบบบ


น้องก้องต้องสับสนแน่ๆ อยู่แล้วนะแบบนี้  อิอิ

เมื่อไหร่พี่วิน จะเปิดเผยมากกว่านี้หล่ะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 14-10-2013 09:43:07
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 14-10-2013 11:56:33
อารมณ์ไหนเนี้ยพี่  เดี๋ยวให้ไปเดี๋ยวไม่ให้ไป

แล้วอยู่ดีมาๆถามว่าชอบผู้หญิงผู้ชาย ปกติเค้าถามกันแบบนี้หรอ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ❁INDY_FAMILY❁ ที่ 14-10-2013 13:40:47
ซะงั้น
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 14-10-2013 14:46:56
คุณทำให้ฉันเกิดอารมณ์ แล้วคุณก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 14-10-2013 15:17:36
 :hao4:  พอๆ กันทั้งคู่เลย  :z3:

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 14-10-2013 15:55:14
ไม่ได้เข้าเล้าครึ่งเดือนค่ะ เลยขอตามเม้นท์ ตอนที่ 3 - 7 รวดเดียวเลยนะคะ
.......................................................
ตอนที่ 3
อาจารย์อัค พูดจาดูหมั่นไส้ชอบกลแฮะ ถึงจะถูก ว่าไม่สมควร เรื่องทะเลาะวิวาท
แต่ถ้าเราเป็นก้อง ซึ่งต้องมีเรื่องเพราะช่วยคนที่กำลังตำหนิเราอย่างนี้ เราก็คงโมโหเหมือนกัน
พี่วิน พี่ชายข้างบ้าน ที่ก้องรักและสนิทสนมด้วย คือคนที่เริ่มต้นสอนวิชาป้องกันตัวให้ก้องนี่เอง
แต่ก้องกลับจำชื่อและหน้าตาพี่วินไม่ได้ เหมือนความทรงจำขาดหาย มีสาเหตุจากอะไร
แล้วได้มาเจออาจารย์อัค ที่มีอีกชื่อว่า วิน เหมือนกันอีก อาจารย์อัค กับ พี่วิน คือคนเดียวกันแน่ ๆ
ถึงนามสกุลจะไม่เหมือนกัน แต่ลักษณะการพูดจาของอ.อัค ที่เหมือนรู้สึกผิด แล้วยังถามอีกว่าใครสอนชกต่อยให้ก้อง
คงคิดว่าตัวเองที่เป็น พี่วิน คือ แบบอย่าง ที่ทำให้ก้องชื่นชอบการมีเรื่องทะเลาะวิวาท อย่างที่แม่ก้องคิดแน่ ๆ
แล้วก้อง รู้ตัว และยอมรับ ว่าตัวเองเป็นเกย์ ทำไมถึงรู้ตัวได้ เคยรู้สึกพิเศษกับใครมาก่อนรึเปล่า พี่วินรึเปล่า
...............................
ตอนที่ 4
อ.อัค คือพี่วินจริง ๆ ด้วย พอเปลี่ยน มาเรียกแทนตัวเองว่า "พี่" ทำให้รู้สึกดียังไงไม่รู้ คำแทนตัวนี่สำคัญจริง ๆ
ประโยคอะไรที่ทำให้พี่วิน จำก้องได้อ่ะ “ลูกผู้ชายมันต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแออยู่แล้ว” ประโยคนี้รึเปล่า
มีการให้คีย์การ์ดกันด้วยอ่ะ แหม ว่าแต่ ทำไมต้องไปคุยกันต่อที่ห้องด้วย พี่วินแอบคิดอะไรรึเปล่าเนี่ย
ที่แท้ ก้องกลัวพี่วิน เพราะมีความทรงจำเลวร้ายในตอนเด็ก ๆ นี่เอง ทำไมพี่วินร้ายขนาดนั้นเนี่ย สมควรจะกลัวฝังใจอยู่หรอก
ทั้งกลัว ทั้งชื่นชม ความรู้สึกมันเลยสับสนกันไปหมดเลยสินะ แต่ถ้ารู้สึกขนาดนี้ ไม่น่าว่าจะลืมพี่วินได้ง่าย ๆ เลยนะเนี่ย
.............................................
ตอนที่ 5
พี่วิน กับ อ.อัค จะอยู่ในสถานะไหน ก็โหดพอกันเลยอ่ะ ขนาดตบหัวนักเรียนคว่ำเพราะคุยเวลาเรียนเนี่ย เอิ่ม...
ความทรงจำในวัยเด็ก ค่อย ๆ กลับมาทีละนิด ๆ แล้วสินะ ประโยคที่พี่วินสอนก้องเนี่ย เหมือนที่ก้องพูดครั้งแรกเลยอ่ะ
ที่แท้ เวลาอยู่กันสองคน จะรักและเอ็นดูก้องมาก ๆ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่น ๆ ด้วย พี่วินจะแสดงออกอีกแบบสินะ
การกระทำที่แสดงออกต่อก้องตอนเด็ก ๆ เหมือนกับที่แสดงออกตอนนี้เลย แสดงว่าพี่วิน ก็ยังเอ็นดูก้องเหมือนเดิม
แถมยังอยู่ในสถานะ ครู กับ ลูกศิษย์ จะให้มาแสดงความรักเอ็นดูเหมือนน้องชาย ต่อหน้าคนอื่นมันก็ไม่ควรล่ะเนอะ
ว่าแล้ว พี่วิน ต้องเป็นคนที่ทำให้ก้อง รู้ตัวว่าเป็นเกย์แน่ ๆ แถมเป็นรักแรกของก้องซะอีก ที่ลืมไป เพราะตกต้นไม้นี่เอง
พออยู่ด้วยกันสองต่อสอง คู่นี้ดูน่ารักงุ้งงิ้ง  ๆ ดีจังเลยนะ ก้องก็มีส่วนอ่อนโยน พี่วินก็ดูอบอุ่นดี น่ารักจัง
...................................................................
ตอนที่ 6
ทำไม พี่วินถึงได้มาเป็นครู ไม่น่าจะแค่เล่น ๆ ฆ่าเวลาอย่างที่บอก มีเหตุผลอะไรที่เกี่ยวกับก้องรึเปล่านะ เหมือนเป็นความลับเลยอ่ะ
และจากเด็กที่ชอบต่อยตีในอดีต พอมีสถานะเป็นครู พี่วิน ก็สามารถควบคุมอารมณ์และมีสำนึกความเป็นครูดีเยี่ยมเลย
คำพูดพี่วิน ดูมีความนัยแอบแฝง ลำพังแค่ครูกับลูกศิษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เพราะเป็นผู้ชายทั้งคู่
และพี่วิน ยังไม่รู้ ว่าก้อง ยอมรับที่ตัวเองเป็นเกย์แล้วใช่มั้ย ที่สำคัญ พี่วิน ยอมรับตัวเองรึเปล่านี่สิ ว่าคิดยังไงกับก้อง
เอิร์ธ โดนดักทำร้าย โดยไอ่วี ที่ขายพวกโรงเรียนเดียวกัน ในที่สุดความอดทนของก้องก็หมดลง ก้องเก่งสุดยอดเลย
ที่จริง เข้าใจที่ก้องจะโกรธนะ แต่อารมณ์ที่รุนแรง จนตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ขนาดทำให้เพื่อนโดนลูกหลงไปด้วย ก็น่ากลัวเกินไป
ยังดี ที่พี่วิน มีเหตุผลมากพอ และฟังคำอธิบายของก้องด้วยความเป็นกลาง มันทำให้รู้สึกอุ่นใจ ที่ก้องมีพี่วินเป็นที่พึ่งล่ะนะ
...
ตอนที่ 7
ดีที่ก้อง ได้เจอกับเพื่อนดี ๆ ทั้งบอม ภูมิ และก็เอิร์ธ แม้จะเก่งกล้าจนไม่มีใครกล้ารังแก แต่ถ้าอยู่โดยไม่มีเพื่อน มันก็คงทรมานนะ
พี่วิน อายุแค่ 24 เองเหรอ คิดว่าจะแก่กว่านี้นะเนี่ย ก้องอายุ 16 ก็ห่างกันแค่ 8 ปีเองนิ ไม่มาก ๆ เดี๋ยวน้องก็โตแล้วพี่วิน
ก้อง โดนลงโทษ แบบไม่หนักหนา คิดว่าโรงเรียน ก็ให้ความยุติธรรมกับนักเรียนดีพอสมควร แต่เป็นเพราะพี่วินออกโรงปกป้องด้วย
แถมยังไปโยงกับตอนที่พี่วินจะโดนทำร้าย กลายเป็นเรื่องบานปลายเลย แต่พี่วินวางแผนไว้หมดเหรอวันนั้นอ่ะ เจ้าเล่ห์มาก ๆ
พี่วิน นี่ก็ชอบทำเซ็กส์ซี่ยั่วก้องจริง ๆ เลย ตั้งใจรึเปล่านั่น แต่สายตาก้อง ก็มักไปป้ะกับภาพวาบหวิวเรื่อยเลยนะ อิอิ
เวลาสอน ก็สอนน้องได้ดี ดูมีหลักการ แต่เวลาเล่น ก็เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ เลยนะ ขำตรงก้อง ‘มีปฏิกิริยา’ กับการถูกจี้ด้วยอ่ะ
ทำเป็นแกล้งน้อง แต่หลอกแต้ะอั๋งน้องตลอด ๆ เลยนะพี่วิน จับไปเต็ม ๆ อย่างนั้น พี่น้องก็พี่น้องเหอะ เกินเลยไปหน่อยม้าง
ถามก้อง ว่ามีแฟนรึยัง ชอบผู้หญิงรึผู้ชาย พี่วินคิดอะไรอยู่ ถ้าก้องบอกชอบผู้ชาย พี่วินจะทำยังไงต่อไปนะ
เหมือนพี่วินอยากรู้ความชัดเจนของก้อง แล้วพี่วินชัดเจนกับตัวเองรึยังนะ เดี๋ยวเข้าหา เดี๋ยวถอยห่าง เหมือนตัวเองก็ยังสับสน
แต่ทำอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้ก้องสับสนไปด้วยนะเนี่ย  รอพัฒนาการต่อไปของคู่นี้นะจ้ะ
...
แบบว่า เมนท์ยาวมากไปรึเปล่า  :m17: เดี๋ยวตอนต่อไปจะเมนท์เป็นตอน ๆ ไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-10-2013 16:50:18
ไม่ได้เข้าเล้าครึ่งเดือนค่ะ เลยขอตามเม้นท์ ตอนที่ 3 - 7 รวดเดียวเลยนะคะ
.......................................................
ตอนที่ 3
อาจารย์อัค พูดจาดูหมั่นไส้ชอบกลแฮะ ถึงจะถูก ว่าไม่สมควร เรื่องทะเลาะวิวาท
แต่ถ้าเราเป็นก้อง ซึ่งต้องมีเรื่องเพราะช่วยคนที่กำลังตำหนิเราอย่างนี้ เราก็คงโมโหเหมือนกัน
พี่วิน พี่ชายข้างบ้าน ที่ก้องรักและสนิทสนมด้วย คือคนที่เริ่มต้นสอนวิชาป้องกันตัวให้ก้องนี่เอง
แต่ก้องกลับจำชื่อและหน้าตาพี่วินไม่ได้ เหมือนความทรงจำขาดหาย มีสาเหตุจากอะไร
แล้วได้มาเจออาจารย์อัค ที่มีอีกชื่อว่า วิน เหมือนกันอีก อาจารย์อัค กับ พี่วิน คือคนเดียวกันแน่ ๆ
ถึงนามสกุลจะไม่เหมือนกัน แต่ลักษณะการพูดจาของอ.อัค ที่เหมือนรู้สึกผิด แล้วยังถามอีกว่าใครสอนชกต่อยให้ก้อง
คงคิดว่าตัวเองที่เป็น พี่วิน คือ แบบอย่าง ที่ทำให้ก้องชื่นชอบการมีเรื่องทะเลาะวิวาท อย่างที่แม่ก้องคิดแน่ ๆ
แล้วก้อง รู้ตัว และยอมรับ ว่าตัวเองเป็นเกย์ ทำไมถึงรู้ตัวได้ เคยรู้สึกพิเศษกับใครมาก่อนรึเปล่า พี่วินรึเปล่า
...............................
ตอนที่ 4
อ.อัค คือพี่วินจริง ๆ ด้วย พอเปลี่ยน มาเรียกแทนตัวเองว่า "พี่" ทำให้รู้สึกดียังไงไม่รู้ คำแทนตัวนี่สำคัญจริง ๆ
ประโยคอะไรที่ทำให้พี่วิน จำก้องได้อ่ะ “ลูกผู้ชายมันต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแออยู่แล้ว” ประโยคนี้รึเปล่า
มีการให้คีย์การ์ดกันด้วยอ่ะ แหม ว่าแต่ ทำไมต้องไปคุยกันต่อที่ห้องด้วย พี่วินแอบคิดอะไรรึเปล่าเนี่ย
ที่แท้ ก้องกลัวพี่วิน เพราะมีความทรงจำเลวร้ายในตอนเด็ก ๆ นี่เอง ทำไมพี่วินร้ายขนาดนั้นเนี่ย สมควรจะกลัวฝังใจอยู่หรอก
ทั้งกลัว ทั้งชื่นชม ความรู้สึกมันเลยสับสนกันไปหมดเลยสินะ แต่ถ้ารู้สึกขนาดนี้ ไม่น่าว่าจะลืมพี่วินได้ง่าย ๆ เลยนะเนี่ย
.............................................
ตอนที่ 5
พี่วิน กับ อ.อัค จะอยู่ในสถานะไหน ก็โหดพอกันเลยอ่ะ ขนาดตบหัวนักเรียนคว่ำเพราะคุยเวลาเรียนเนี่ย เอิ่ม...
ความทรงจำในวัยเด็ก ค่อย ๆ กลับมาทีละนิด ๆ แล้วสินะ ประโยคที่พี่วินสอนก้องเนี่ย เหมือนที่ก้องพูดครั้งแรกเลยอ่ะ
ที่แท้ เวลาอยู่กันสองคน จะรักและเอ็นดูก้องมาก ๆ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่น ๆ ด้วย พี่วินจะแสดงออกอีกแบบสินะ
การกระทำที่แสดงออกต่อก้องตอนเด็ก ๆ เหมือนกับที่แสดงออกตอนนี้เลย แสดงว่าพี่วิน ก็ยังเอ็นดูก้องเหมือนเดิม
แถมยังอยู่ในสถานะ ครู กับ ลูกศิษย์ จะให้มาแสดงความรักเอ็นดูเหมือนน้องชาย ต่อหน้าคนอื่นมันก็ไม่ควรล่ะเนอะ
ว่าแล้ว พี่วิน ต้องเป็นคนที่ทำให้ก้อง รู้ตัวว่าเป็นเกย์แน่ ๆ แถมเป็นรักแรกของก้องซะอีก ที่ลืมไป เพราะตกต้นไม้นี่เอง
พออยู่ด้วยกันสองต่อสอง คู่นี้ดูน่ารักงุ้งงิ้ง  ๆ ดีจังเลยนะ ก้องก็มีส่วนอ่อนโยน พี่วินก็ดูอบอุ่นดี น่ารักจัง
...................................................................
ตอนที่ 6
ทำไม พี่วินถึงได้มาเป็นครู ไม่น่าจะแค่เล่น ๆ ฆ่าเวลาอย่างที่บอก มีเหตุผลอะไรที่เกี่ยวกับก้องรึเปล่านะ เหมือนเป็นความลับเลยอ่ะ
และจากเด็กที่ชอบต่อยตีในอดีต พอมีสถานะเป็นครู พี่วิน ก็สามารถควบคุมอารมณ์และมีสำนึกความเป็นครูดีเยี่ยมเลย
คำพูดพี่วิน ดูมีความนัยแอบแฝง ลำพังแค่ครูกับลูกศิษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เพราะเป็นผู้ชายทั้งคู่
และพี่วิน ยังไม่รู้ ว่าก้อง ยอมรับที่ตัวเองเป็นเกย์แล้วใช่มั้ย ที่สำคัญ พี่วิน ยอมรับตัวเองรึเปล่านี่สิ ว่าคิดยังไงกับก้อง
เอิร์ธ โดนดักทำร้าย โดยไอ่วี ที่ขายพวกโรงเรียนเดียวกัน ในที่สุดความอดทนของก้องก็หมดลง ก้องเก่งสุดยอดเลย
ที่จริง เข้าใจที่ก้องจะโกรธนะ แต่อารมณ์ที่รุนแรง จนตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ขนาดทำให้เพื่อนโดนลูกหลงไปด้วย ก็น่ากลัวเกินไป
ยังดี ที่พี่วิน มีเหตุผลมากพอ และฟังคำอธิบายของก้องด้วยความเป็นกลาง มันทำให้รู้สึกอุ่นใจ ที่ก้องมีพี่วินเป็นที่พึ่งล่ะนะ
...
ตอนที่ 7
ดีที่ก้อง ได้เจอกับเพื่อนดี ๆ ทั้งบอม ภูมิ และก็เอิร์ธ แม้จะเก่งกล้าจนไม่มีใครกล้ารังแก แต่ถ้าอยู่โดยไม่มีเพื่อน มันก็คงทรมานนะ
พี่วิน อายุแค่ 24 เองเหรอ คิดว่าจะแก่กว่านี้นะเนี่ย ก้องอายุ 16 ก็ห่างกันแค่ 8 ปีเองนิ ไม่มาก ๆ เดี๋ยวน้องก็โตแล้วพี่วิน
ก้อง โดนลงโทษ แบบไม่หนักหนา คิดว่าโรงเรียน ก็ให้ความยุติธรรมกับนักเรียนดีพอสมควร แต่เป็นเพราะพี่วินออกโรงปกป้องด้วย
แถมยังไปโยงกับตอนที่พี่วินจะโดนทำร้าย กลายเป็นเรื่องบานปลายเลย แต่พี่วินวางแผนไว้หมดเหรอวันนั้นอ่ะ เจ้าเล่ห์มาก ๆ
พี่วิน นี่ก็ชอบทำเซ็กส์ซี่ยั่วก้องจริง ๆ เลย ตั้งใจรึเปล่านั่น แต่สายตาก้อง ก็มักไปป้ะกับภาพวาบหวิวเรื่อยเลยนะ อิอิ
เวลาสอน ก็สอนน้องได้ดี ดูมีหลักการ แต่เวลาเล่น ก็เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ เลยนะ ขำตรงก้อง ‘มีปฏิกิริยา’ กับการถูกจี้ด้วยอ่ะ
ทำเป็นแกล้งน้อง แต่หลอกแต้ะอั๋งน้องตลอด ๆ เลยนะพี่วิน จับไปเต็ม ๆ อย่างนั้น พี่น้องก็พี่น้องเหอะ เกินเลยไปหน่อยม้าง
ถามก้อง ว่ามีแฟนรึยัง ชอบผู้หญิงรึผู้ชาย พี่วินคิดอะไรอยู่ ถ้าก้องบอกชอบผู้ชาย พี่วินจะทำยังไงต่อไปนะ
เหมือนพี่วินอยากรู้ความชัดเจนของก้อง แล้วพี่วินชัดเจนกับตัวเองรึยังนะ เดี๋ยวเข้าหา เดี๋ยวถอยห่าง เหมือนตัวเองก็ยังสับสน
แต่ทำอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้ก้องสับสนไปด้วยนะเนี่ย  รอพัฒนาการต่อไปของคู่นี้นะจ้ะ
...
แบบว่า เมนท์ยาวมากไปรึเปล่า  :m17: เดี๋ยวตอนต่อไปจะเมนท์เป็นตอน ๆ ไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  :3123: :L2:

เยี่ยมอะครับ อ่านแบบจดรายละเอียดมากๆ มี K ครบ (คิด วิเคราะห์ แยะแยะ) ไม่ยาวไปหรอกครับ ผมชอบอ่านคอมเมนท์ ยิ่งคอมเมนท์แบบนี้ เป็นกำลังใจดีมากครับ ถ้ามีติจะยิ่งชอบครับ ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: miracle22936 ที่ 14-10-2013 17:00:25
อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น อ๊ากกกก  :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 14-10-2013 18:28:00
พี่วิน อย่างนี้เค้าเรียกว่างอนรึปล่าว เอ๊ะ...ไม่มั้ง หรือว่าใช่
ว่าแต่ถามก้องไปอย่างนั้นตรงไปมั๊ย แสดงว่าพี่วินก็ต้องสงสัยบ้างแหละว่าก้องชอบพี่ใช่มั๊ย
.....
ก้อง เล่นตัวหรือตั้งตัวไม่ทัน นั่นแน่...แอบเขินแน่ๆเลย ^/////^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 14-10-2013 18:49:36
อ้าวววววววววว ไหงงั้นอ่ะ
อะไรยังไง อยู่ๆพี่วินมาถามกับแบบนี้ ใครจะไปตั้งตัวทันหะ!!!
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-10-2013 20:05:43
 :z2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 14-10-2013 21:41:04
กำลังสับสนสินะ กับสถานะที่เปลียนแปลงและความรู้สึกที่ปลียนไป
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 14-10-2013 21:58:25
ไม่อยากบอกว่า รีบๆลงๆต่อๆให้จบเถอะ  :heaven :heaven
ปล.กระดานดำภาค2ของหนูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 14-10-2013 23:32:07
โอยย ลุ้นให้ได้กัน 55555
 :hao6: :hao6:

ดีกันเร็วๆนะ~~
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 15-10-2013 05:03:07
อะไรกันพี่วิน

โกรธ หรือว่างอนกันล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 15-10-2013 10:01:36
บอกพี่วินไปเล้ยยย~~~ ว่าชอบผู้ชาย >.<

ขอบคุณนะคะ อ่านทันแร้วว^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 15-10-2013 16:12:02
แหม มันค้างคาใจไม่ต่างกับก้อง
พี่เค้าคิดอะไรก็ไม่รู้ เข้าใจ ไม่เข้าใจ รึยังไง
จะนอนหลับมั้ยเนี่ยก้อง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 15-10-2013 17:24:08
มาต่อด่วนๆเลยครับพี่ต้น ขึ้นหน้า 10 แล้วนะ อิอิ  :mew2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 15-10-2013 19:36:53
พี่วิน มีอะไรในใจ แต่ไม่กล้าจะบอกก้องแน่ ๆ เลย
เป็นกำลังใจให้พี่วินนะคะ ดู ๆ ไปก่อน ค่อย ๆ เปิดเผยที่ละนิด 
ก้องเค้าไม่ได้มีใครอยู่แล้ว ไม่รีบ ๆ ค่ะ ^^

ขอเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ  หายป่วยเร็ว ๆ แข็งแรง ๆ ค่ะ   :L2:   :L2:   
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: atcharayee ที่ 15-10-2013 20:34:26
 :mew1: รอๆๆๆ สนุกโดนใจ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 18-10-2013 00:00:53
เข้ามาง้อพี่วินแทนก้อง ^^
และมาส่งกำลังใจให้คุณนักเขียน ขอให้หายป่วยเร็ว ๆ นะคะ  :L2:   :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 18-10-2013 03:15:38
พี่ต้นหายไวๆค้าบ  o13
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 18-10-2013 19:19:01
พี่ต้นหายไวๆนะครับ ผมจะดันไว้รอ อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: pppf44 ที่ 19-10-2013 00:20:06
หายไวไวน้าค้าคนเขียน หนูรออ่านอยู่ ทำไมอ่านแล้วคิดว่าบางทีก็อยากมีคนแบบพี่วินมาอยู่ข้างๆบ้างไรบ้างงงกร๊ากกกกกก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 20-10-2013 07:01:13
พี่วินถามว่าชอบผู้ชายหรือผู้หญิงไปทำไมน้อออ

แต่ดูท่า คงเดาได้ว่าชอบเพศไหนล่ะนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 7: 13 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 20-10-2013 11:29:32
งงอะคุยกันดี ๆ ทำไมงอนกันชะงัน
 :mew5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 21-10-2013 17:00:51
ตอนที่ 8


หลังจากนั้นผมก็แทบไม่ได้คุยกับพี่วินอีกเลยนอกจากในห้องเรียนเท่านั้น จากปกติเวลาอยู่โรงเรียนที่เขาจะทำเฉยๆ กับผม ก็กลายเป็นความเย็นชาที่แย่หนักกว่าเดิมซะอีก แต่ผมก็ไม่อยากจะใส่ใจมากนัก เพราะผมต้องทั้งทำการบ้าน ทำรายงานกลุ่ม ทำความสะอาดโรงเรียน เตรียมตัวสอบ แล้วไหนยังจะต้องรายงานความประพฤติให้แม่ฟังทุกเย็นหลังจากโดนด่าเรื่องไอ้วีมาแล้วรอบนึงอีก

เย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกเรียน ผมที่รู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวเท่าไหร่ก็กำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน และในตอนที่ผมกำลังเก็บของอยู่นั้น จู่ๆ ไอ้ข้าวก็เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะ

“ระวังตัวไว้ให้ดีนะมึง” มันพูดเบาๆ สั้นๆ ก่อนจะเดินจากไป

ผมมองตามมันไปอย่างงงๆ ไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหนอีก ถึงผมจะไม่กลัวคำขู่ของมัน แต่ผมว่าผมคงต้องพยายามเลี่ยงการมีปัญหาให้ได้มากที่สุดน่าจะดีกว่า

“เฮ้ย ไอ้ก้อง” ไอ้ภูมิเดินเข้ามาหาผม “เมื่อกี้ไอ้ข้าวมันมาพูดอะไรกับมึง” มันถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรหรอก”

“แน่นะมึง”

“เออ แน่ มันไม่ได้พูดอะไรหรอก มึงอย่าคิดมาก” ผมสะพายกระเป๋าเป้

“หน้ามึงแม่งแย่ๆ ว่ะ ดูแย่กว่าเมื่อตอนกลางวันอีกนะเว้ย”

“เออ กูเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายว่ะ”

“เปล่า กูหมายถึงหนังหน้ามึงอะ ดูแย่ๆ เหี้ยๆ ออกแนวขี้เหร่อะว่ะ”

ผมหันไปยิงสายตาใส่มันพร้อมกับชูนิ้วกลางขึ้น

“ฮ่าๆๆ กูล้อเล่น ไอ้เหี้ย มึงไหวป่าววะเนี่ย”

“ไหว เดี๋ยวกูจะรีบกลับไปนอนสักงีบว่ะ ตื่นมาคงดีขึ้น”

“เออ ดีเว้ย ไปพักผ่อนเยอะๆ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

ผมโบกมือลาไอ้ภูมิและเพื่อนคนอื่นๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องเรียน

เมื่อกลับไปถึงที่คอนโด ผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนร่างกายมันหนักมากขึ้นกว่าเดิมอีก ผมครั่นเนื้อครั่นตัวแบบสุดๆ ท่าทางจะโดนหวัดเล่นงานเข้าจริงๆ ซะแล้ว แต่ความซวยคือผมไม่มียาติดห้องเลยสักอย่างเดียว แถมเมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาก็ไม่ได้แวะซื้ออีกต่างหาก ผมตัดสินใจไม่อาบน้ำ ไม่กินข้าว และตรงเข้านอนเลย เผื่อว่าตื่นมาแล้วจะรู้สึกดีขึ้น แต่ปรากฏว่าผมคิดผิด เพราะเมื่อผมตื่นขึ้นกลางดึก อาการของผมกลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ผมหนาวจนตัวสั่นทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์ แถมยังหิวอีกต่างหาก ผมลากตัวเองไปที่ตู้เย็นและกินขนมปังที่เหลืออยู่สองแผ่นกับนมอีกกล่องหนึ่งเพื่อรองท้อง ก่อนจะกลับไปนอนต่อที่เตียง

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก แต่ไม่มีแรงที่จะลุกออกจากเตียงได้เลยจริงๆ ผมปิดเสียงโทรศัพท์และหลับตาลงนอนต่อ เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเที่ยง ผมก็เห็นว่ามีเพื่อนโทรเข้ามาหาผมหลายสาย แต่หนึ่งในสายที่ผมไม่ได้รับนั้นมีเบอร์ที่ผมไม่ได้เมมเอาไว้อยู่ด้วย ผมไม่ได้โทรกลับไปหาคนเหล่านั้น แต่ตัดสินใจลงออกจากห้องไปซื้อข้าวมากิน เพราะไม่อย่างนั้น แทนที่จะตายเพราะพิษไข้ ผมจะได้ตายเพราะความหิวแทน

ในตอนเย็น ขณะที่ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นอีก คราวนี้มันไม่ใช่ชื่อเพื่อนของผม แต่เป็นเบอร์แปลกที่ผมไม่รู้จัก ขึ้นต้นด้วย 02 ตอนแรกผมก็คิดจะไม่รับสาย เพราะว่าเจ็บคอ ไม่อยากคุยกับใคร แต่ก็ไม่รู้ทำไมมาเปลี่ยนใจเอาในวินาทีสุดท้ายได้

“ฮัลโหล” ผมพูดด้วยเสียงแหบพร่า

“ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยคำถาม

“ใครเนี่ย”

“ไม่สบายเหรอ”

“กูถามว่านี่ใคร” ผมชักเริ่มหงุดหงิด

“ผมเป็นชื่ออัครวินท์ครับ เป็นอาจารย์อาจารย์ฝ่ายปกครองและก็เป็นอาจารย์ประจำวิชาเคมีของคุณด้วย”

“เฮ้ย พี่วินเหรอ” ผมตกใจ ไม่คิดว่าจะเขาจะโทรมา

“ทำไมถึงไม่มาเรียน”

“ผมไม่สบาย”

“กินยาหาหมอรึยัง”

“ยัง”

“พอเดินไหวรึเปล่า”

“ไหวครับ”

“อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเจอหน้าลิฟต์ชั้นหนึ่งด้วย” เมื่อพูดจบ เขาก็วางสายไปเลย

ผมว่าผมชักเริ่มชินกับการออกคำสั่งของเขาแล้วว่ะ แถมยังไม่มีแรงจะไปต่อปากต่อคำด้วยอีกต่างหาก ดังนั้นผมจึงนอนรอจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องลงไปรับเขา และพอนอนเคลิ้มๆ ได้สักพักหนึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นเบอร์มือถือที่ผมไม่รู้จัก แต่ก็พอเดาได้แหละว่าน่าจะเป็นใคร พี่วินโทรมาบอกว่าเขามาถึงที่คอนโดแล้ว ผมจึงลุกออกจากเตียงและเดินออกจากห้องลงไปหาเขาที่ชั้นล่าง เมื่อผมเดินออกจากลิฟต์ ผมก็เจอเขากำลังยืนรอผมอยู่พอดี

“วันนี้ได้กินข้าวกินปลาบ้างรึยัง” เขาถาม ส่วนผมก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบ “รู้สึกยังไงบ้าง”

“หนาวมาก” ผมตอบไปตามจริง

เขายื่นมือมาแตะลงบนหน้าผากของผม “ไข้สูงมากเลยนะ ทำไมไม่กินยา”

“ไม่มียา”

เขามองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อเรากลับขึ้นมาถึงบนห้องของผมแล้ว เขาก็วางถุงพลาสติกที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะ ในขณะที่ผมนั่งลงบนโซฟา

“ดีนะที่พี่ซื้อยาแก้หวัดติดมากับปรอทวัดไข้ด้วย ส่วนนี่ก็โจ๊ก กินสักหน่อย จะได้พอมีแรง แต่ถ้าคืนนี้ไม่ดีขึ้น พี่จะพาไปหาหมอ” เขาแกะปรอทวัดไข้ออกจากกล่องแล้วเดินมานั่งยองๆ ลงตรงหน้าผม “อ้าปาก”

ผมทำตามที่เขาบอก เขาสอดปรอทวัดไข้เข้ามาใต้ลิ้น ผมอมมันอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งมีเสียงดัง ‘บี๊ป’ ร้องเตือน เขาจึงดึงมันออกแล้วมองดูตัวเลข

“ไข้ 38.7 เลยนะ ก้อง นี่มันสูงเกินไปแล้ว ต้องเช็ดตัวแล้วว่ะแบบนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวชัก”

ผมส่ายหน้า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมนอนพัก”

“ไม่ต้องเถียงน่ะ มันใช่เวลาจะมาเถียงมั้ย ผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ในตู้ใช่มั้ย ไปถอดเสื้อผ้ารอบนเตียงเลยไป”

ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่ผมรู้สึกร้อนๆ ที่หน้าเนี่ย แม่งเป็นเพราะไข้หรือเพราะเขินกันแน่

“ถ้ายังไม่ลุก พี่อุ้มนะ” เขาเดินเข้ามาหาผม

“ไม่ต้อง” ผมลุกออกจากโซฟาแล้วค่อยๆ ลากตัวเองไปนอนลงบนเตียงโดยมีเขาเดินตามเข้ามาด้วย

พี่วินเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูออกมาผืนหนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องนอนไป เขากลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับกะละมังใบเล็กที่ใส่น้ำเอาไว้ด้วย เขาวางมันลงบนเตียงข้างๆ ตัวผม จากนั้นก็ชุบผ้าลงในน้ำ

“อ้าว ถอดเสื้อสิ พี่จะเช็ดตัวให้”

ผมชันตัวขึ้นแล้วถอดเสื้อยืดออก จากนั้นก็ทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงเหมือนเดิม เขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดถูไปตามร่างกายของผม ผมได้แต่นอนตัวอ่อนปล่อยให้เขาจับแขนผมยกไปมา เช็ดตามร่องแขน ต้นคอ อย่างอ่อนแรง ตั้งแต่ผมจำความได้ นอกจากแม่แล้ว ผมว่าผมไม่เคยถูกใครเช็ดตัวให้มาก่อนเลยนะ แถมขนาดแม่ยังเคยเช็ดตัวให้ผมแค่ครั้งเดียวเท่านั้นด้วย เพราะปกติผมไม่ค่อยป่วยสักเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงรู้สึกเขินๆ ชอบกล

เขาสั่งให้ผมลุกขึนนั่ง จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดไปตามแผ่นหลังของผม เขาไม่ได้ถูตัวผมอย่างแผ่วเบาทะนุถนอมนักหรอก นั่นแม่งในนิยาย แถมคนอย่างพี่วินน่ะเหรอจะทำอะไรเบาๆ มือเป็น แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ลงน้ำหนักมือมากนัก แถมยังคอยถามตลอดด้วยว่าเขาทำผมเจ็บหรือเปล่า แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกดีมากแล้ว

เมื่อทำความสะอาดร่างกายท่อนบนเสร็จ เขาก็เอนตัวของผมลง จากนั้นก็เลื่อนมือไปจับที่ขอบกางเกงขาสั้นของผม

“เฮ้ย พี่จะทำอะไร” ผมรีบยกตัวขึ้นและจับข้อมือของเขาเอาไว้

“ก็ถอดกางเกงไง ถามได้ จะได้เช็ดตัวให้ ไม่ต้องมาทำเขินน่า ทำเป็นพี่ไม่เคยเห็นไปได้ อย่าว่าแต่เห็นเลย จับยังจับมาแล้วเมื่อวันก่อน นอนลงไปซะ” เขาดันหน้าอกของผมให้ล้มลงไปเหมือนเดิม จากนั้นก็เริ่มดึงกางเกงของผมลง ผมที่ไม่มีแรงจะขัดขืนเขา และบอกตรงๆ ว่าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมีอารมณ์อะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เขาถอดมันออกได้ง่ายขึ้น

ผมนอนหลับตาและปล่อยให้เขาเช็ดบริเวณซอกขาของผมอยู่อย่างนั้น นี่ถ้าผมไม่ได้กำลังป่วยอยู่แบบนี้ล่ะก็ ผมว่าไอ้น้องชายผมมันคงตั้งเด่ขึ้นตั้งนานแล้วล่ะ

หลังจากที่เช็ดบริเวณต้นขาและขาหนีบเสร็จแล้ว เขาก็ช่วยทำความสะอาดขาทั้งสองข้างของผม จนเมื่อเสร็จหมดเรียบร้อย เขาก็ช่วยผมแต่งตัว แล้วจากนั้นก็เอากะละมังกับผ้าไปเก็บ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับชามใส่โจ๊กในมือ

เขาสั่งให้ผมลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ป้อนโจ๊กให้ผมจนหมด ทั้งๆ ที่ผมบอกเขาแล้วนะว่าผมกินเองได้ แต่เขาก็ไม่ยอมให้ผมลุกออกจากที่นอน ผมจึงต้องปล่อยเลยตามเลย หลังจากกินโจ๊กเสร็จเขาก็เอายามาให้ผมกินแล้วสั่งให้ผมนอนต่อ

“นอนพักไปซะ แล้วเอาไว้พี่จะโทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ไหวหรือจะเอาอะไรก็บอก เข้าใจมั้ย” เขาพูด

“พี่วิน... กระเป๋าตังค์ผมอยู่บนโต๊ะ” ผมชี้ไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ “พี่เอาคีย์การ์ดไปก็ได้”

เขาหันมามองหน้าผม

“ส่วนกุญแจสำรองแขวนอยู่ตรงประตู...”

เขาเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ของผมขึ้นจากโต๊ะแล้วดึงคีย์การ์ดออกมา จากนั้นก็เดินกลับมานั่งลงข้างๆ ผมบนเตียง แล้วยิ้มให้ผมน้อยๆ “ถ้าไม่สบายแล้วจะว่าง่ายน่ารักขนาดนี้ น่าจะป่วยแม่งทุกวันไปเลยว่ะ”

ผมกลอกตาก่อนจะหลับตาลง “ผมนอนละนะ...”

“พักผ่อนไปเหอะ” เขาตอบ

ผมรู้สึกว่าเขาลุกขึ้นจากเตียง แล้วจากนั้นก็รู้สึกถึงริมฝีปากที่จุ๊บลงบนหน้าผากของผมเบาๆ ผมจึงรีบลืมตาขึ้นทันที

ใบหน้าของพี่วินที่อยู่ห่างจากผมแค่ไม่กี่นิ้วกำลังยิ้มให้ผม ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร เขาก็ลุกออกจากเตียงแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมแรงๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนและออกจากห้องของผมไป

เมื่อกี้ผมแค่คิดไปเองใช่มั้ย ผมแค่เพ้อเพราะพิษไข้ใช่รึเปล่า!

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 21-10-2013 17:14:40
ฮือออๆ สั้นไปอ่าพี่ต้นนนน อยากอ่านยาวๆๆๆๆ กำลังได้ฟิลเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 21-10-2013 17:17:42
เฮ้ย

มันแบบว่าฟินนนน 5555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-10-2013 17:22:33
กรี๊ดดด
เอาอีก
หนูขออีกค่ะพี่ต้นนน

 :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 21-10-2013 17:32:57
แปะ ก่อนนะ เดี๋ยวมาอ่าน บรรกาศชวนให้นอน อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-10-2013 17:41:53
แล้วพี่วินก็เดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากเช็ดตัวให้ก้องเสร็จ................... 55555555655555555555 :jul3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 21-10-2013 17:42:33
อือหือจุ๊บเหม่ง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 21-10-2013 17:52:47
พี่วินจุ๊บหน้าผากด้วย >/////<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 21-10-2013 17:59:01
อ่ะกิ๊วๆ ตัวเองไม่ได้เพ้อหรอกน้องก้อง

 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 21-10-2013 18:30:34
อยากอ่านยาวๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: BlackKnight09 ที่ 21-10-2013 19:00:20
อืม มีอะไรอีกไหมเนี่ย
น้ำตาล กำลังก่อตัวเลยอ่ะ

มาไว ๆ ๆ นะ กำลังได้ที่เลย

 o13
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-10-2013 19:29:11
จะมีเรื่องอะไรอีกหนอ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 21-10-2013 19:43:56
ไข้สูงมากๆจนชักได้จากไข้มันเฉพาะในเด็กเล็กนะคร้าบ
พี่วินหลอกเช็ดตัวน้องนิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-10-2013 19:59:04
โหยพี่วิน ดูแลอย่างดีอ้ะ
ไม่หอบผ้าลงมานอนเฝ้าเลยละค๊าาาา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-10-2013 20:05:18
ก้องเวลาป่วยว่าง่ายนะ อยากอ้อนพี่วินเหรอ
ให้คีย์การ์ดพี่วินไว้ด้วย

ส่วนข้าวนี่ไม่ยอมจบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 21-10-2013 20:10:34
มาต่อน้อยจังเลย รอต่อไปนะ กำลังฟินเลย ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: miracle22936 ที่ 21-10-2013 20:12:47
สั้นไปนะ T_T อยากอ่านต่อแว้ว  :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 21-10-2013 20:36:30
พี่วินก็อารมณ์ละมุนเป็นนะ ตอนแปดนี่เลยหลักฐาน


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: RGB.__ ที่ 21-10-2013 20:46:20
น่ารักค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 21-10-2013 21:18:18
แอร๊ย........ตอนนี้สั้น....แต่น่ารักอ่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 21-10-2013 21:59:57
พี่วิน มาทำเป็นเย็นชาใส่ก้องนะ ชิส์ อะไรก็ไม่รู้ ทำเย็นชา เพื่อปกปิดความรู้สึกบางอย่างรึเปล่าพี่วิน
พวกที่ชอบหาเรื่อง คราวก่อนที่ก้องอาละวาดไป คิดว่าจะกลัวจนไม่มีใครกล้ามาวุ่นวายแล้วซะอีก
ที่ไหนได้ ไม่มีจะเข็ด เกิดทำให้ก้องฟิวส์ขาดอีกรอบทำไงล่ะเนี่ย พี่วินก็คงออกตัวช่วยไม่ไหวแล้ว

การป่วย ก็ทำให้มีเรื่องดี ๆ เหมือนกันนะ พี่วินทำเก๊ก ๆ เย็นชาใส่ สุดท้ายก็อดห่วงไม่ได้ ต้องมาดูแลก้องอยู่ดี
คนที่ใช้ชีวิตคนเดียว เวลาไม่สบายทีนี่ลำบากสุด ๆ จริง ๆ แล้วยิ่งนิสัยไม่ค่อยสนใจอะไรอย่างก้องด้วย ยิ่งแล้วใหญ่
ดีที่ได้พี่วิน มาดูแลอย่างดี ดีขนาด กระทั่งเช็ดตัว แหม่ เข้าใจนะว่าหวังดี  แต่ก้องที่ลงไปรับพี่จนถึงชั้นล่างไหวเนี่ย
แค่เช็ดตัว ก็น่าจะทำเองไหวเนาะ แต่พี่วินอยากบริการก็ปล่อยเขาหน่อย แถมเช็ดให้หมดทั้งบนทั้งล่างด้วยอ่ะ เขินจัง :-[
ก้องพอไม่สบายแล้วว่าง่ายน่ารัก ส่วนพี่วิน ก็อ่อนโยนใจดี สุด ๆ ชอบมาก ๆ เลย ตอนที่ จุ๊บเหม่ง น้องก้องเนี่ย
จุ๊บทั้ง ๆ ที่น้องยังไม่หลับ ยิ้มหวานให้น้องอีก ตั้งใจสื่อความนัยอะไรในใจส่งไปด้วยรึเปล่าจ้ะ พี่วินทำถึงขนาดนี้
ถ้าก้องคิด ว่าคิดไปเอง รึเพราะพิษไข้จริง ๆ นะ คงต้องไปยุพี่วิน ให้มาทำยืนยันให้อีกรอบ ตอนน้องก้องมีสติเต็มร้อยซะแล้วเนอะ
รอ ๆ รออ่านตอนพี่วินมาเฝ้าไข้น้องอีกรอบ แต่อยากถามพี่วินจัง ตอนเช็ดตัวให้น้องเนี่ย รู้สึกอะไร ๆ บ้างมั้ยจ้ะพี่วิน อิอิ
ขอบคุณมากค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-10-2013 23:50:05
ที่จริงพี่วินต้องนอนเฝ้าไข้สิเผื่อน้องก้องอาการหนัก

นี่จำลองมาจากอาการคนเขียนเลยหรือเปล่า หายไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: yamanaiame ที่ 22-10-2013 11:44:08
มาสั้นๆ แต่ ฟินอะ >///<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 22-10-2013 16:49:49
 :o8: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 22-10-2013 17:53:10
ก้องกับพี่วินมัวเเต่ซึนนน   :katai5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 8: 21 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 22-10-2013 21:09:47
เราสัมผัสได้ถึงความผูกพันที่มันอยู่ในอากาศล่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 22-10-2013 21:47:29
ตอนที่ 9


ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากี่โมง แต่ที่แน่ๆ คือภายในห้องนั้นมืดสนิท ผมรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของคนที่กำลังเปิดประตูห้องนอนออก ผมหันไปเห็นเงาของคนๆ หนึ่งกำลังเดินตรงมาที่เตียง

“เป็นยังไงบ้างแล้ว” เจ้าของเงานั้นถามพร้อมกับวางมือลงบนหน้าผากของผม

“ดีขึ้นแล้วครับ” ผมตอบเบาๆ

“แน่นะ” เขาถามย้ำ

ผมพยักหน้า

“ไม่ต้องไปหาหมอแน่นะ”

ผมส่ายหน้า “ผมดีขึ้นแล้วจริงๆ”

“แต่ยังมีไข้อยู่เลย” เขาลุกออกจากเตียง เดินออกไปข้างนอก จากนั้นก็กลับเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับยาและแก้วน้ำในมือ “กินยาซะอีกหน แล้วคราวนี้ก็นอนยาวไปเลย พรุ่งนี้เช้าพี่จะมาเช็คดูอีกที”

เมื่อกินยาเสร็จ ผมก็ยื่นแก้วน้ำคืนให้เขา “พี่วิน”

เขาที่เพิ่งลุกขึ้นยืนหันกลับมามองผม

“ขอบคุณนะครับ”

แสงสลัวๆ ที่ทะลุผ่านผ้าม่านเข้ามาและดวงตาที่เริ่มชินกับความมืดแล้วทำให้ผมเห็นว่าเขาส่งยิ้มมาให้ผม จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป ส่วนผมเองก็หลับลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ในตอนเช้า ผมตื่นขึ้นมาก่อนนาฬิกาปลุกซะอีก ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ผมลุกออกจากเตียงไปหยิบปรอทที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกมาวัดไข้ดูก็พบว่าอุณหภูมิร่างกายผมมันลดลงเหลือแค่ 37.4 เท่านั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำและไปเรียนตามปกติ

ด้วยความเคยชินของการอยู่คนเดียว ผมจึงอาบน้ำโดยเปิดประตูห้องน้ำทิ้งเอาไว้ และในขณะที่กำลังสระผมอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องที่ถูกไขกุญแจและเปิดออก ตอนแรกผมตกใจมาก เพราะคิดว่าใครไม่รู้เข้ามาในห้อง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมให้กุญแจกับพี่วินไปเมื่อคืน ผมก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมซะอีก!

“เฮ้ย อาบน้ำได้แล้วเหรอ” เขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ “หายแล้วรึไง”

“พี่วิน! ปิดประตู!!” ผมรีบใช้มือปิดไอ้น้องชายตัวน้อยของผมเอาไว้

“มาทำเขินอะไรเอาป่านนี้ เมื่อวานก็เพิ่งเช็ดตัวให้หยกๆ” เขาส่ายหน้า “แล้วนี่จะไปโรงเรียนใช่มั้ย”

“ครับ”

“งั้นก็รีบอาบน้ำแต่งตัวซะ เดี๋ยวจะพาไปพร้อมกัน” เมื่อพูดจบ เขาก็ปิดประตูห้องน้ำลง

ผมรีบอาบน้ำ และเมื่อพันผ้าเช็ดตัวเดินออกมาแล้วก็เห็นว่าเขากำลังนั่งดูทีวีรออยู่ ผมจึงรีบเดินเข้าไปในห้องนอนและแต่งตัว เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็พาผมลงไปยังลานจอดรถ ระหว่างทางสั้นๆ ไปยังโรงเรียน เราแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่ผมกลับรู้สึกได้ว่าดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีผิดปกติชอบกล

จะว่าไป... เมื่อคืนเขาจุ๊บหน้าผากผมแน่รึเปล่าวะ ถ้าใช่ ทำไมเขาถึงยังทำตัวได้ปกติขนาดนี้ หรือว่าผมจะคิดไปเองเพราะจิตใต้สำนึกมันต้องการแบบนั้น

เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่ละ! ผมไม่ได้อยากให้เขามาจุ๊บมาหอมอะไรผมนะเว้ย ผมไม่เคยคิดต้องการอะไรแบบนั้นสักนิดเดียว... แต่ถ้าเกิดเขาทำ หรือจะทำ แบบนั้นจริงขึ้นมาล่ะก็ มันก็คงน่ารักดีเหมือนกันเนอะ...

เฮ้ยยย!! พอๆๆ!! เลิกคิดได้แล้ว ไอ้ก้อง!

“เป็นอะไร” เสียงทุ้มต่ำของเขาทำเอาผมสะดุ้ง “เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็คิ้วขมวดเข้าหากัน เดี๋ยวก็ตาลอย เดี๋ยวก็ทำหน้าหงุดหงิด คิดอะไรอยู่”

“เปล่านี่”

“ไม่จริงอะ”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่คิดเรื่องที่ขาดเรียนไปนิดหน่อยเฉยๆ”

เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนไม่เชื่อ “แล้วทำไมหน้าแดง”

“เหอ หน้าแดงเหรอ ไข้มั้ง เออ เมื่อเช้าวัดไข้แล้วยังมีไข้อยู่เลย แต่ไม่เยอะแล้ว”

คราวนี้ดูท่าทางเขาจะเชื่อผมแฮะ

เมื่อไปถึงที่โรงเรียน เขาก็หันมาบอกผมว่าไม่ต้องไปรายงานตัวเรื่องทำความสะอาดโรงเรียน เดี๋ยวเขาจะไปบอกให้เองว่าผมไม่สบาย ให้ผมขึ้นห้องเรียนไปได้เลย และถ้ารู้สึกไม่สบายจนไม่ไหวก็ให้ไปนอนที่ห้องพยาบาล ผมพยักหน้าตอบรับเขา จากนั้นก็ลงจากรถ และหลังจากที่ผมเดินห่างออกจากลานจอดรถได้ไม่เท่าไหร่ ผมก็ถูกใครบางคนวิ่งเข้ามากระแทกอย่างจัง

“ไอ้เชี่ยก้อง!!” ไอ้บอมที่จู่ๆ โผล่มาจากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามารวบตัวผมเอาไว้ ทำเอาผมต้องหยุดเดิน “เมื่อกี้กูเห็นมึงลงมาจากรถอาจารย์อัคนี่หว่า! อะไรยังไงวะมึง!”

“ก็กูไม่สบาย อาจารย์เค้าก็เลยมาส่ง แค่นั้นแหละน่า”

“อ้าว เออ มึงหายแล้วเหรอวะ แล้วไปทำอีท่าไหนอาจารย์เค้าถึงไปรับมึงที่คอนโดได้อะ”

“เค้าไม่ได้ไปรับกู เค้าพักอยู่ตึกเดียวกับกู ไอ้ห่า มึงอย่าสงสัยมากน่ะ ไม่มีอะไรหรอก แต่มึงอย่าไปบอกใครก็แล้วกัน รับปากกูเลย สัตว์” ผมหันไปมองหน้ามันด้วยแววตาจริงจัง

“เออๆ โอเคๆ ไม่บอกเว้ย ไม่ต้องทำหน้าดุก็ได้ เหี้ยแม่ง กูกลัว”

ผมหันกลับมาและเริ่มออกเดินต่อโดยมีไอ้บอมเดินอยู่ข้างๆ มันเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟังไปด้วย ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญนักหรอก และในตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นไอ้วีกับเพื่อนๆ ของมันด้วยหางตา แต่เมื่อผมหันไปมอง พวกมันก็หันไปทางอื่นและเดินจากไปทันที ผมนึกถึงคำเตือนที่ไอ้ข้าวมันมาพูดกับผมเมื่อวันก่อนขึ้นมาแล้วก็ชักรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล

“อย่าไปสนพวกแม่งเลยมึง ไปเหอะ” ไอ้บอมสะกิดให้ผมเดินต่อ

ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วจึงเดินตรงไปยังตึกเรียนพร้อมกับไอ้บอม

ในตอนเย็นหลังเลิกเรียน ผมนอนฟุบลงบนโต๊ะครู่หนึ่ง รู้สึกดีใจที่สุดที่วันนี้เป็นวันศุกร์ เพราะผมชักเริ่มรู้สึกเหมือนไข้จะกลับมาอีกแล้ว ยังดีที่ผมสามารถทนผ่านมาได้ตลอดทั้งวัน แต่ถ้ากลับถึงห้องเมื่อไหร่ ผมก็คงจะตรงไปนอนเป็นอันดับแรกก่อนเลยแน่ๆ เมื่อนึกถึงเตียงนอนในห้องขึ้นมาแล้วก็ค่อยมีกำลังใจเก็บของกลับบ้านขึ้นมาหน่อย ผมยัดหนังสือเรียนลงกระเป๋าแล้วจากนั้นก็บอกลาเพื่อนๆ

ขณะที่ผมกำลังเดินไปยังป้ายรถเมล์ ผมก็เจอเด็กน่าสงสัยสองคนกำลังยืนพิงกำแพงโรงเรียนอยู่ พวกมันใส่เสื้อยืดไปรเวท แต่ยังคงใส่กางเกงและรองเท้านักเรียนอยู่ เมื่อพวกมันเห็นผม มันก็มองตามผมแบบไม่วางตา ผมว่าผมพอจะเดาได้ล่ะว่าพวกมันคือใครและต้องการอะไร แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจและเดินต่อไปเรื่อยๆ จนผ่านหน้าพวกมัน

“เฮ้ย ไอ้ก้อง!” หนึ่งในสองคนนั้นเรียกชื่อของผม ผมจำได้ว่าไม่เคยบอกชื่อพวกมันไปนะ แต่นาทีนี้เรื่องนั้นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
ผมทำเป็นไม่ได้ยินและเดินต่อ

“เฮ้ย! จะรีบไปไหนเล่า หยุดคุยกันก่อนดิวะ” พวกมันเดินขึ้นมาเทียบผม

“กูไม่มีอะไรจะคุยกับพวกมึง” ผมยังคงเดินต่อ

“แต่พวกกูมี” คนแรกที่เรียกชื่อผม จับหัวไหล่ของผมเอาไว้

ผมหยุดเท้าลงและหันไปหามันทันที

“โอ๋ๆ ไม่ต้องทำหน้าน่ากลัวอย่างนั้นก็ได้ กูกลัวไปหมดแล้ววว” มันทำหน้าและเสียงล้อเลียนผม “กูไม่ได้จะมาหาเรื่องมึงหรอกน่าา”

“แต่กูมาเพราะอยากหาเรื่องว่ะ” อีกคนพูดขึ้น “ได้ข่าวว่ามึงแม่งทำซ่า ไปเล่นงานเพื่อนกูซะน่วมเลยนี่หว่า เก๋านักเหรอวะมึงน่ะ”

ผมกลอกตาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็หันไปหามัน “มึงจะเอาไงกะกูก็ว่ามาเหอะว่ะ”

“พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย” ไอ้คนที่อยากจะหาเรื่องผมยิ้มเยาะที่มุมปาก “คืนนี้ เที่ยงคืน หลังโรงเรียนมึง ถ้าแน่จริง มึงมาคนเดียว”

ผมมองหน้าพวกมันนิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำ ในใจน่ะคิดอยู่แล้วว่าผมไม่ไปให้โง่หรอก พวกแม่งก็ไม่ค่อยฉลาดเนอะ มาพูดแบบนี้แล้วใครจะไปให้มันรุมกระทืบวะ คือถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมก็คงไปแหละ แค่ไม่มีทางไปคนเดียวแบบโง่ๆ แน่ๆ หรือไม่ผมก็คงกระทืบแม่งจมตีนไปแล้วตั้งแต่ตรงนี้เลย แต่ผมในตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว

มันมองหน้าผมตอบกลับด้วยแววตาหาเรื่อง ก่อนที่จะยิ้มมุมปากออกมาอีกครั้ง “หึ ไม่ใช่แค่มึงหรอกนะที่จะซวย แต่ไอ้อาจารย์คนนั้นที่อยู่คอนโดเดียวกับมึงก็จะโดนด้วย แล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือน”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมก็กระชากคอเสื้อของมันเข้ามาหาผมทันที “มึงหมายความว่าไงวะ!”

มันคว้าคอเสื้อของผมคืน “ถ้ามึงอยากรู้ก็ลองไม่โผล่หัวไปสิวะ!”

“อย่างเบาแม่งก็โดนไล่ออก หรืออย่างมากก็แค่ตาย จะลองดูมั้ยล่ะ” อีกคนพูดขึ้น “หรือไม่อย่างนั้นพวกกูก็จะยกพวกมาตีโรงเรียนมึงทั้งโรงเรียนเลย จะเอางั้นปะล่ะ ไอ้สัตว์!”

“ถุยเหอะ! ไอ้พวกหน้าตัวเมีย!!” ผมกำหมัดแน่น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไร ผมก็เห็นว่า เด็กนักเรียนคนอื่นๆ และคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเริ่มหันมามองพวกเรากันมากขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงยอมลดมือลง และเมื่อมันปล่อยคอเสื้อของผมออกแล้ว ผมก็เริ่มออกเดินต่อโดยทิ้งพวกมันไว้ข้างหลัง

ไอ้สองคนนั้นเดินจากไปพร้อมกับทิ้งความหงุดหงิดและความสับสนไว้ให้ผม นี่ผมควรจะทำยังไงดีวะ มันรู้เรื่องของพี่วินได้ยังไง และถ้าผมไม่ไปตามที่พวกมันท้า มันจะทำอะไรพี่วิน เมื่อกี้ไอ้คนที่ตัวเล็กกว่าก็พูดออกมาแล้วว่าพี่วินอาจจะโดนไล่ออกได้ ส่วนไอ้เรื่องถึงตายน่ะ พวกมันไม่มีปัญญาหรอก แม่งเป็นการบลัฟที่ควายมากๆ แต่เรื่องไล่ออกนี่แม่งทำให้ผมคิดนักแฮะ เพราะก่อนหน้านี้พี่วินเองก็เคยพูดเรื่องแนวๆ นี้มาแล้วหนนึงเหมือนกัน ถ้าผมไม่ไปหาพวกมันคืนนี้ แม่งก็อาจจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้พี่วินต้องโดนไล่ออกก็ได้

“ไอ้ก้อง!” เสียงของไอ้บอมตะโกนเรียกผมจากทางด้านหลัง ผมหันกลับไปมองและก็เห็นมันกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาผมอยู่ “เมื่อกี้มีเรื่องอะไรวะ!”

“ไม่มีสักหน่อย มึงไปเอามาจากไหน”

“มึงอย่ามาทำไก๋ ไอ้เหี้ย เมื่อกี้กูได้ยินเด็กรุ่นน้องมันคุยกันว่ามีคนกำลังมีเรื่อง และพอกูเดินออกมาก็เห็นไอ้สองคนนั้นกำลังเดินแยกจากมึงพอดี ตอนแม่งเดินสวนกู กูยังได้ยินที่พวกมันคุยกันเลย”

“มึงได้ยินอะไร”

“ก็แค่ชื่อมึงนั่นแหละ แม่งพูดเหมือนจะทำอะไรสักอย่าง กูไม่ได้ตั้งใจฟังและแม่งก็แค่เดินสวนกูไปเร็วๆ ด้วย ว่าแต่มึงเหอะ จะมีเรื่องกับพวกแม่งอีกเหรอวะ” มันถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“กูก็ไม่ได้อยากมีหรอกนะเว้ย มึงเชื่อกูเหอะ”

“งั้นมึงก็ปล่อยๆ มันไปนะเว้ย อย่าไปหาเรื่องให้ตัวเองเลย ไอ้เหี้ย”

“กูรู้น่า...” ผมตอบมันไป “มึงไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้บอม กูไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอกน่า แต่มึงรับปากกับกูอย่างดิวะว่ามึงจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด กูไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง โดยเฉพาะอาจารย์อัคน่ะ”

“อาจารย์อัคทำไมวะ” มันสงสัย

“เออน่ะ มึงรับปากกูดิวะ ถ้ามึงรับปากกู กูก็รับปากว่าจะไม่ไปหาเรื่องอะไรพวกแม่งด้วยเหมือนกัน โอเคปะวะ”

“โอเคๆ กูรับปาก” มันรับคำ ถึงแม้ว่าจะดูไม่ค่อยมั่นใจนักก็ตามที

“ดีมาก ขอบใจเว้ย มึงกลับบ้านไปเหอะ ไม่ต้องเป็นห่วงกู แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้ กูไม่ค่อยสบาย จะรีบกลับไปนอนพักก่อนล่ะ”

“เออๆ ไงก็พักผ่อนเยอะๆ เว้ย ไอ้ก้อง” ไอ้บอมโบกมือลาผม แต่สีหน้าของมันยังคงแลดูกังวลอยู่เล็กน้อย ผมโบกมือตอบกลับ แล้วจากนั้นมันก็หันหลังเดินกลับไปยังประตูโรงเรียน

ขอโทษทีว่ะ ไอ้บอม กูไม่ได้ไปหาเรื่องพวกมันก่อน แต่ถ้ามันมาหาเรื่องกูก่อน คงไม่นับว่าผิดสัญญาใช่มั้ยวะ

เมื่อถึงห้อง หลังวางสายรายงานตัวกับแม่ ผมก็นอนเอาแรงไปงีบหนึ่ง ตื่นมาอีกทีก็สองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม ผมลงไปหาข้าวกิน และจากนั้นก็กลับขึ้นมาบนห้อง นั่งคิดและเตรียมตัวเตรียมใจที่จะไปเจอกับไอ้พวกเหี้ยนั่นตามเวลาและสถานที่ที่มันนัดไว้ ประสบการณ์มันบอกผมว่า อีกฝ่ายคงจะมีกันหลายคนแน่ๆ เผลอๆ ก็น่าจะมีอาวุธด้วย ผมเคยเจอกับไอ้คนประเภทนี้มาเยอะแล้ว อย่างดีผมก็คงจะเอาตัวรอดมาได้ ถึงจะต้องเจ็บตัวและเสียเลือดบ้างก็เถอะ แต่อย่างเลวคือผมอาจจะนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะมีคนมาพบตอนไหนก็ไม่รู้นั่นแหละ

ไอ้เรื่องต่อยตีน่ะ ผมไม่ห่วงเท่าไหร่หรอก ผมเจอมาเยอะ ลุยมาเยอะ ทั้งแบบมือเปล่าและมีอาวุธ หลังจากที่เคยโดนพี่วินจับสอนพื้นฐานให้สมัยเด็กๆ ผมก็ได้ฝึกเทควันโดต่อ พอได้สายดำและเลิกเรียนไปแล้วก็ยังคงฝึกซ้อมอยู่เรื่อยๆ บางทีก็เข้าค่ายมวยของพ่อเพื่อนบ้าง แต่ส่วนมากก็ได้ประสบการณ์มาจากสนามจริงนั่นแหละ จะเรียกว่าผมแม่งดันมีพรสวรรค์ด้านนี้ก็คงได้ล่ะมั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะโง่พอที่จะทำเป็นมั่นใจในตัวเองและเดินเข้าไปในวงตีนของศัตรูตัวเปล่าหรอกนะ ถ้าหากจำเป็น ผมก็ต้องพึ่งตัวช่วยเหมือนกัน แต่มันแย่ตรงที่ผมรับปากกับแม่และพี่วินเอาไว้แล้วเนี่ยสิ ว่าผมจะไม่ต่อยตี ไม่สร้างปัญหาอีก แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าหากผมไม่ไปตามที่พวกมันท้าในคืนนี้ ผมก็อาจจะทำให้พี่วินต้องลำบากได้ เพราะผมไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้มันจะทำอะไรลงไปบ้าง

ผมเดินไปหยิบปรอทวัดไข้ขึ้นมาวัดไข้ตัวเอง 37.8 องศา ก็ยังคงมีไข้อ่อนๆ อยู่ดี ดูท่าทางว่าคืนนี้ผมคงจะแย่แน่ๆ แฮะ ผมตัดสินใจลงไปซื้อของบางอย่างจากร้านขายยาใกล้ๆ คอนโด และขณะเดินกลับเข้ามาในคอนโด ผมก็สังเกตเห็นเด็กวัยรุ่น 2-3 คนที่มีท่าทางน่าสงสัย ที่ผมคิดว่าน่าสงสัยก็เป็นเพราะทันทีที่ผมหันไปมองหน้าพวกมัน พวกแม่งก็หันหลบและทำเป็นเดินออกไปอีกทางทันที

ที่จริงผมก็ไม่อยากจะคิดอะไรมากหรอก แต่หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด จะไม่คิดไม่ระวังอะไรเอาไว้เลยก็คงไม่ได้แล้ว
หลังจากกลับถึงห้อง โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

“ว่าไง ไอ้บอม” ผมรับสาย

“มึงทำไรอยู่วะ ไอ้ก้อง”

“ไม่ได้ทำอะไร กูเพิ่งลงไปซื้อยาขึ้นมาแดก มึงมีไรป่าว”

“ไม่มีว่ะ กูแค่เบื่อๆ เลยอยากไปห้องมึงอะ”

“เฮ้ย เวลานี้เนี่ยนะ” ผมหันไปมองนาฬิกาบนผนังห้อง “สี่ทุ่มกว่าแล้วนะมึง”

“เออ กูไปนอนกับมึงก็ได้ กูเบื่อๆ บ้านว่ะ”

ผมรู้ว่าบ้านของไอ้บอมอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนและคอนโดของผม และผมก็รู้ด้วยว่ามันเป็นคนหนึ่งที่นิสัยลุยๆ จะไปไหนเวลาใดก็ไปได้ตลอด เพราะพ่อแม่ของมันไม่ค่อยอยู่บ้าน หรือต่อให้อยู่ พวกเขาก็ไม่ค่อยว่าอะไรมันอยู่ดี เพราะถึงมันจะมีนิสัยอย่างนั้น แต่แม่งก็ดันเรียนได้เกรดดีติดอันดับต้นๆ ของโรงเรียนมาตลอด

“กูไม่ค่อยสบายว่ะ ไอ้บอม ไว้คราวหน้าเหอะ”

“อ้าว กูก็จะไปดูแลมึงไง สาดดดด น่าๆ เดี๋ยวกูออกไปเลยเนี่ย ไม่เกินชั่วโมงเดียว ถึงแน่นอน”

“อย่าเลย ไอ้เหี้ย กูไม่สะดวกว่ะ” ผมปฏิเสธอีกครั้ง

“ทำไมวะ มึงจะออกไปไหนรึไง ถ้างั้นกูไปด้วย” น้ำเสียงหนักแน่นของมันทำให้ผมเริ่มเอะใจ

“ไม่ได้”

“เฮ้ย นี่ ไอ้ก้อง...”

“มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก ไอ้บอม กูดูแลตัวเองได้ กะอีแค่ป่วยนิดๆ หน่อยๆ แค่นี้ ไม่ทำกูถึงตายหรอกน่า แค่นี้ก่อนนะเว้ย กูยุ่งๆ อยู่ว่ะ”

หลังจากพูดจบ ผมก็วางสายไปเลยทันที ผมชักแน่ใจแล้วว่าไอ้บอมน่าจะรู้เรื่องการนัดหมายของผมกับไอ้พวกเหี้ยนั่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้  ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่รู้ว่ามันไปรู้มาจากไหนอย่างไร แต่มัวมาคิดอยู่ก็คงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะมั้ง เพราะถึงยังไงผมก็จะทำให้มันมาเสี่ยงอันตรายไปกับผมไม่ได้เด็ดขาดอยู่ดี

ผมกินยาลดไข้ และจัดการเตรียมตัวเองให้พร้อม เมื่อนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง ผมก็เดินลงจากคอนโดไปแบบตัวเปล่า และตรงหน้าทางเข้าคอนโด ผมก็ยังเห็นไอ้เด็กสองคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม



หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Redz ที่ 22-10-2013 21:51:49
มาลงต่อๆๆๆๆๆๆ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 22-10-2013 22:04:52
ค้างมาต่อด่วน

ก้องไม่น่าตัดสินใจคนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 22-10-2013 22:16:03
มาต่อๆๆๆ   โอ้ยอยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่าา

 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-10-2013 22:17:46
ก้องนายป่วยอยู่นะ ออกไปแบบนั้น เฮ้อ คงเป็นเรื่อง
พี่วินอยู่ไหน ไปช่วยก้องด้วย แล้วอย่าเพิ่งโกรธก้อง
ที่มีไรไม่บอกไม่ปรึกษา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-10-2013 22:25:52
ก้องไม่น่าไปเลยนะ
อันตรายมากอะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-10-2013 22:37:01
ตื่นเต้น กลัวใครจะเป็นอะไรไปอีก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-10-2013 23:02:40
แย่ละสิยิ่งไม่สบายอยู่ด้วยจะไปสู้ยังไงไหว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 22-10-2013 23:28:43
ก้องเอ๊ยยยยย
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 22-10-2013 23:39:10
ถ้าคิดอีกสักนิดมันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้แน่ๆ
ทำไมนะก้อง



 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 22-10-2013 23:46:25
แหงะ น่าจะแจ้งความกะตำหนวด ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: yamanaiame ที่ 22-10-2013 23:53:01
ค้างอย่าง แรง     มาต่อเร็วๆเน้ออออ  :m16:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 23-10-2013 01:08:10
หูยย~~ ก้องฉายเดี่ยวเหรอ >.<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 23-10-2013 02:10:06
ก้องเอ๊ย บอกพี่วินไปเถอะ อย่าไปเสี่ยงคนเดียวเลย เกิดพวกมันทำมิดีมิร้ายหล่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 23-10-2013 03:57:36
แล้วไงต่อคะ แล้วไงต่ออออ ค้างจังเลย

ตาก้องเอ๊ยยย จะลุยเดี่ยวทำไมเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 23-10-2013 08:25:16
แนวนายเอกทรหดเนี่ยพี่ต้นชอบมากกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 23-10-2013 08:30:17
ก้องอย่าไปเลย

พี่วินช่วยด้วยดิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-10-2013 10:11:39
อย่าไปเลยนะก้อง พี่วินมาดูก้องด่วยๆเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 23-10-2013 15:11:14
 :ling3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 23-10-2013 17:39:17
โอ้ยยยยย ก้องจาเปนไรไหมมแง้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 23-10-2013 18:09:15
คิดว่าจะได้ฟินตอนเฝ้าไข้ต่อซะอีกนะเนี่ย กลายเป็นเรื่องซีเรียสอีกแล้ว
ก้อง คิดอะไรอยู่นะ แน่นอนว่าก้องพยายามเลี่ยง และ ระงับอารมณ์ตัวเองได้ดีแล้ว
แต่เรื่องที่ไอ่สองคนที่มาหาเรื่อง ยกขึ้นมาขู่ คือเรื่องที่จะทำให้พี่วินโดนไล่ออก รึตาย
เรื่องตาย ก้องคิดอยู่แล้วว่าพวกนั้นไม่มีปัญญาแน่ ๆ แต่เรื่องโดนไล่ออกนี่สิ
ก้อง คิดว่าถ้าตัวเองไม่ไปตามนัด พวกนั้นจะมีทาง ทำให้พี่วินถูกไล่ออกได้
แล้วก้องไม่คิดรึไงนะ ว่าถ้าก้อง ไปมีเรื่องกับพวกนั้น ตามที่นัดไว้ พี่วินที่คราวก่อน
ออกหน้าช่วยก้องไว้ ก็ต้องโดนลงโทษ รึอาจโดนไล่ออกเหมือนกัน รึถ้าโชคดีก้องชนะกลับมา
พวกนั้นก็ต้องแค้นกว่าเดิม ก็มาหาเรื่องอีกอยู่ดี และอาจทำให้พี่วินโดนไล่ออกได้อยู่ดี ไม่จบไม่สิ้น
ในเมื่อก้องต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเมื่อก่อน ทั้งที่คิดได้ถึงผลที่จะตามมา
ทั้งที่คิดถึงเรื่องสัญญาที่รับปากแม่กับพี่วินไว้ตลอด แต่ก้องก็ยังจะไป ไม่เข้าใจก้องแฮะ
ทำไมก้องถึงคิดจะจัดการเรื่องใหญ่อย่างนี้เองคนเดียว ทำไมตัดสินใจเองหมด ทำไมไม่ปรึกษาพี่วิน
แล้วก็กำลังคิดว่า เหมือนก้อง จะมีแผนอะไรอยู่ในใจด้วยรึเปล่า อะไรที่ซื้อมาจากร้านขายยานะ
เด็กวัยรุ่นน่าสงสัยที่ก้องว่า เป็นพวกไหน อาจไม่ใช่พวกตรงข้ามก็ได้ มีใครสั่งให้มาจับตาดูก้องรึเปล่า
แล้วขนาดบอมยังรู้เรื่องที่ก้องจะไปตามนัดของพวกนั้น ก็ไม่น่า ว่าพี่วินจะไม่รู้นะ (คิดเอาเองนะ)
คิดในแง่ดี ว่าพี่วินอาจจะทำอะไรซักอย่าง ไม่น่าจะปล่อยให้ก้องไปมีเรื่องได้ (รึเปล่า) 
รู้สึกจะเดาไปเรื่อยเลย แหะ ๆ  รอคนเขียนมาต่อดีกว่า ขอบคุณมากค่ะ  :L2: :L1:
ปล. เมื่อคืน พี่วินจุ๊บหน้าผากก้องไม่ใช่เหรอคะ ไม่ได้หอมแก้มนี่นา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 23-10-2013 18:30:33

ปล. เมื่อคืน พี่วินจุ๊บหน้าผากก้องไม่ใช่เหรอคะ ไม่ได้หอมแก้มนี่นา

จริงๆ ต้องการให้ไอ้ก้องมันเหมือนลืมๆ เบลอๆ น่ะครับ ว่าหอมแก้มรึจุ๊บหน้าผาก มันก็จำไม่ได้ แต่ไปๆ มาๆ คนอ่านงงเนอะ งั้นผมแก้ดีกว่า 55555

ขอบคุณมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: p.spring ที่ 23-10-2013 21:03:51
ก้องฉายเดี่ยว ??? :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 23-10-2013 21:49:04
น้องก้อง.....ระวังเจอพี่วินดุนะลูก ^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 23-10-2013 22:56:23
แล้วก้องจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย!  ไปคนเดียวอีกต่างหาก   :ruready
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 24-10-2013 05:05:31
จนได้ แล้วมันก็ฮืิอกันมาจนได้...มหาสงครามอุบัติ!
แต่หนึ่งต่อสิบก็ไม่ไหวมั้ยคะ ไม่ใช่ เดอะ แมทริกซ์
ฝากความหวังไว้ที่หนูบอม(บาร์ด) ช่วยก้องด้วยยย ย ย  ย  .   .    .
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 24-10-2013 09:02:15
ค้างงงงง *^*

พี่วินไปช่วยก้องด้วยยยย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 9: 22 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 24-10-2013 09:53:01
เหมือนบอม จะสงสัย กลัวอ่ะ

ยังไงพวกแมร่งก็ไม่พ้นหมาหมู่

บอกพี่วินเหอะ พี่วินคงมีทางออกที่ดีกว่านี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-10-2013 16:46:52
ตอนที่ 10


ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ ผมเคยเดินมาแถวหลังโรงเรียนแค่เพียงหนเดียวเท่านั้น หลังรั้วโรงเรียนของเราเป็นตึกแถวและบ้านหลังเล็กๆ ค่อนข้างแออัด ดูขัดกับความเจริญรอบข้าง ซึ่งหากเดินเลยไปอีกหน่อย จะมีซอยเล็กซอยน้อยที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านมากมาย ในบรรดาซอยเหล่านั้น บางซอยก็เป็นซอยตัน แต่บางซอยก็สามารถทะลุไปแถวหน้าโรงเรียนหรือแม้แต่ซอยแถวหน้าคอนโดของผมได้ ผมไม่เคยเดินไปหรอก แต่เพื่อนของผมบอกมาอีกที เพราะบางคนก็อยู่ในซอยเหล่านี้ และก็เพื่อนพวกนั้นนั่นแหละที่ทำให้ผมรู้ว่าเมื่อเดินเลยหลังโรงเรียนเราไปหน่อย จะมีที่ว่างๆ ที่ไม่มีคนใช้และเป็นสถานที่พวกวัยรุ่นมักมาจับกลุ่มกันยามเย็นหรือในตอนกลางคืน ซึ่งจุดนี้จะอยู่ห่างจากโรงเรียนของผมและโรงเรียน ส.ค. เป็นระยะทางเท่าๆ กันพอดี ดังนั้นเมื่อไอ้พวกเหี้ยนั่นบอกให้มาเจอกันหลังโรงเรียน ผมจึงรู้ได้ทันทีว่ามันหมายถึงที่ไหน

ผมรู้ตัวอยู่ตลอดว่าผมถูกคนเดินตามอยู่ห่างๆ ซึ่งก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากไอ้สองคนที่ผมเห็นเมื่อตอนหัวค่ำและตอนเดินออกมาเมื่อครู่

เมื่อเดินไปถึงสถานที่นัด ผมก็เห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังยืนรอผมอยู่แล้ว

หนึ่ง... สอง... สาม... สี่... ห้า... หก... เจ็ด... แปดคน ถ้ารวมกับไอ้สองคนที่เดินตามผมมาทางด้านหลังด้วยก็เป็น 10 คน แต่ดูท่าทางว่าพวกมันน่าจะเป็นแค่คนที่คอยดูลาดเลาให้เท่านั้น เพราะพอผมเดินใกล้เข้ามาถึงที่นี่ พวกมันก็หายไปแล้ว

ที่จริงแปดคนก็ไม่ต่างจากที่คิดเอาไว้สักเท่าไหร่ เพราะตอนแรกผมกะไว้ว่าพวกมันอาจจะมีมากกว่า 10 คนด้วยซ้ำ ถ้าแค่แปดคนแบบนี้ก็ยังถือว่าโอเค... ในสถานการณ์ปกตินะ

“กูก็มานี่แล้วไง ยังไงต่อ” ผมเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนพลางกวาดสายตามองพวกมันทุกคน แน่นอนว่ามีอยู่สี่คนที่ผมเคยเจอแล้วจากเมื่อคืนแรก และอีกสองคนที่ผมเจอเมื่อเย็น ส่วนอีกสองคนที่ตัวใหญ่กว่าใครเพื่อนนั้นผมเพิ่งจะเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรก

เท่าที่มองด้วยตาเปล่า ผมไม่เห็นใครถืออาวุธอยู่ในมือสักคน ซึ่งแม่งแปลได้แค่สองอย่างเท่านั้นคือ ถ้าไม่เป็นโชคดีของผมไปเลย ก็คือแม่งมีอาวุธขนาดเล็กจำพวกมีดหรือปืนซ่อนอยู่ในเสื้อผ้า และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมคงตกอยู่ในอันตรายกว่าเดิมแน่ๆ

ที่จริงถ้าแค่มีดน่ะ ผมก็เคยเจอมาบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่หรอก แต่ผมต้องไม่ลืมว่าทำไมผมถึงมาที่นี่ในคืนนี้ และที่สำคัญคือผมต้องย้ำตัวเองอยู่ตลอดว่าหัวเข่าของผมไม่ได้อยู่ในสภาพดีพอ ที่จะรับมือกับคนจำนวนเท่านี้ได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะฉะนั้นผมต้องเลิกทำอวดเก่งสักที

“มึงยังจำเพื่อนกูได้ใช่มั้ย” ไอ้คนที่เจอผมเมื่อตอนเย็นตรงหน้าโรงเรียน คนที่พูดเยอะที่สุดและกวนส้นตีนที่สุดพูดขึ้นพลางพยักเพยิดไปทางเพื่อนๆ มันทั้งสี่คน แต่ผมไม่ตอบ มันจึงพูดต่อ “พวกมันบอกกูว่ามึงเล่นพวกมันซะน่วมเลยนี่หว่า และถ้าไม่ได้เอาคืน พวกกูก็คงนอนไม่หลับว่ะ มึงเข้าใจใช่มั้ยวะ”

ผมถอนหายใจเบาๆ แม่งอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นหรือดูหนังมาเฟียจีนเยอะไปรึเปล่าวะ ไอ้แตดหมานี่

“มึงจะให้กูทำยังไง” ผมถามย้ำไปอีกครั้ง ในขณะที่พวกมันเริ่มเดินเข้ามาล้อมกรอบผม

“ก็ไม่ยากหรอก แค่ยืนเฉยๆ ให้พวกกูรุมกระทืบแค่นั้นเอง” ไอ้คนตัวใหญ่สุดพูดขึ้นบ้าง

“ยืนเฉยๆ เหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น “พูดออกมาเต็มปากเลยเหรอวะ พวกมึงเก่งแต่ทำร้ายคนที่ไม่สู้จริงๆ นะเนี่ย หรือคิดว่าถ้ากูตอบโต้กลับแล้วจะสู้กูไม่ได้ ถึงแม้พวกมึงจะมีกันแปดคนเนี่ยนะ” ดูเหมือนผมจะเลิกนิสัยปากดีไม่ได้จริงๆ แฮะ “เด็กกรุงเทพฯ ไม่สิ เด็กโรงเรียนมึงแม่งก็เก่งแค่เห่า แต่กัดไม่เป็นงั้นดิ แล้วอีกสองคนที่เดินตามกูมาตั้งแต่แรก ไม่มาร่วมวงด้วยรึไง มึงคิดว่าแค่แปดคนจะพอเหรอวะ อ่อนๆ อย่างพวกมึงเนี่ยนะ”

“ไอ้เช็ดแม่งนี่!!” เสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับกำปั้นที่เหวี่ยงเข้าหน้าของผมอย่างแรง “ปากดีนักนะ ไอ้เหี้ย!!”

หลังจากที่เสียหลัก ผมก็รู้สึกถึงหมัดและเท้าที่ถูกประเคนเข้าใส่ร่างกายของผมอย่างไม่ยั้ง ตอนแรกผมก็พอจะยกมือขึ้นกันและเอี้ยวตัวหลบหมัดของพวกมันได้บ้าง แต่การเอาแต่เป็นฝ่ายตั้งรับโดยไม่โต้ตอบ แม่งก็ทำยากจริงๆ ว่ะ

ผมตั้งการ์ดขึ้นปกป้องคางและชายโครงของตัวเองเอาไว้เพื่อลดความเสียหายเท่าที่จะทำได้ แต่แล้วจู่ๆ ผมก็รู้สึกถึงของแข็งที่ฟาดลงบนหัวของผมอย่างแรงจนทำให้ผมถึงกับทรุดตัวลงไปบนพื้น แววตาของผมพร่ามัวไปชั่วขณะหนึ่ง ผมรู้สึกราวกับสมองของผมแทบจะหยุดทำงาน จากนั้นพวกมันก็ใช้ท่อนไม้หรืออะไรบางอย่างฟาดเข้าที่สีข้างของผมอีกที ทำเอาลมหายใจของผมขาดห้วง ผมพยายามหายใจเข้าปอดอย่างทรมานแต่ก็ไม่เป็นผล ผมที่ล้มตัวลงนอนคุดคู้บนพื้นถูกเตะซ้ำเข้าที่กลางหลังและกลางลำตัว ความเจ็บปวดราวกับว่ากระดูกถูกหักออกเป็นท่อนๆ วิ่งแล่นไปทั่วทั้งร่าง ภาพตรงหน้าของผมเริ่มเลือนลาง ดวงตาของผมก็เริ่มปิด และหูของผมก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้วนอกจากเสียงลมหายใจเบาๆ ของตัวเองที่ดูเหมือนจะยิ่งแผ่วลงทุกทีๆ

แม่งเอ๊ยยย ผมแทบจะลืมไปแล้วว่าการโดนรุมกระทืบแม่งเจ็บเหี้ยๆ ขนาดนี้... คืนนี้กูจะตายมั้ยวะเนี่ย

ผมเริ่มรู้สึกถึงเลือดอุ่นๆ ที่ไหลลงมาตามใบหน้า ผมหลับตาลง เริ่มจะยอมแพ้กับการพยายามฝืนประคองสติเอาไว้แล้ว เสียงสบถด่าด้วยความสะใจของพวกมันก็เริ่มแผ่วลงไปทุกทีๆ จนเกือบจะเข้าสู่ความสงบเงียบ ผมไม่รู้ว่าถ้าหากผมหมดสติไปแล้ว พวกมันจะหยุดตีนที่กำลังรุมกระทืบผมอยู่รึเปล่า แต่ถ้าหากว่าสวรรค์ยังคงให้โอกาสแก่ผมที่อยากจะกลับตัวกลับใจทำเพื่อแม่สักครั้งในชีวิตแล้วล่ะก็ ผมก็หวังว่าผมจะไม่ต้องทรมานมากไปกว่านี้แล้วล่ะนะ...

“เฮ้ย!! อะไรวะ!” เสียงร้องตะโกนเสียงหนึ่งดังแว่วขึ้น ทำให้ผมรู้สึกตัวและค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง

ดวงตาที่พร่ามัวของผมไม่สามารถจับภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตรงหน้าได้ดีเท่าไหร่นัก ผมได้ยินและเห็นไอ้พวกเวรตะไลทั้งหลายกำลังเคลื่อนไหวหรือวิ่งผ่านหน้าผมไปมา และแล้วจู่ๆ หนึ่งในพวกมันก็ล้มลงตรงหน้าผม จากนั้นก็อีกคน และอีกคน

ผมพยายามจะขยับตัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้ รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณชายโครง และหัวของผมก็เจ็บจนแทบจะระเบิด อีกไม่กี่อึดใจต่อมา เสียงตะโกนโหวกเหวกเมื่อครู่ค่อยๆ เบาลง จนกระทั่งกลายเป็นความเงียบสงบ ผมมองเห็นเท้าของคนๆ หนึ่งเดินเข้ามาหาผม จากนั้นเขาคนนั้นก็คุกเข่าลง

“ก้อง! ยังไหวอยู่รึเปล่า!” เขาจับตัวผมเขย่าเบาๆ จากนั้นก็พลิกตัวของผมเป็นนอนหงาย ผมเจ็บจนต้องร้องออกมา ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเองลอดผ่านปากออกมาเลยก็ตาม

ผมหันไปมองหน้าของคนที่กำลังพยุงหัวของผมเอาไว้ “พี่วิน...”

“ยังไม่ต้องพูดอะไร บอกพี่มาว่าเจ็บตรงไหน”

“เจ็บอะไร... ไม่เจ็บ... สักหน่อย” ผมยิ้มให้เขา

“ยังจะทำปากเก่งอีก!” เขาตะคอกใส่หน้าผม ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ผมก็เห็นเขาเป็นตอนที่เขาผมสั้นและหน้าเด็กกว่าในปัจจุบันนี้... ผมเห็นภาพของเขาเมื่อหลายปีก่อนที่ผมเคยลืมไปแล้วซ้อนขึ้นมา และมันก็ทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: M.Aplus ที่ 24-10-2013 16:53:16
สนุกเหมือนเดิมเลยพี่ต้นนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 24-10-2013 17:41:50
ค้างกว่าเดิมอีกพี่ต้นนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-10-2013 17:55:15
กีสสส
พี่ต้นนน
ตอนนี้มันทำร้ายจิตใจมากกกอะ
กลับมาเคลียร์ด่วนๆเลยนะค้าา
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-10-2013 18:17:35
ตอนที่ 11


เมื่อผมรู้สึกตัวขึ้น ผมก็ได้ยินเสียงของพี่วินกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ผมพยายามนึกว่าผมกำลังอยู่ที่ไหน ร่างกายของผมที่นอนราบอยู่บนเบาะกำลังสั่นไหวเบาๆ ผมหันไปทางขวาแล้วก็เห็นที่เบาะนั่งสองเบาะ คนที่นั่งอยู่บนเบาะซ้ายหันมาหาผม แล้วจากนั้นก็ร้องเรียกชื่อผมด้วยความดีใจ

“เฮ้ย! ไอ้ก้อง! ฟื้นแล้วเหรอวะ!” ไอ้บอมพยายามจะเอี้ยวตัวมาหาผม แต่ก็ติดเข็มขัดนิรภัยที่คาดเอาไว้อยู่ “มึงยังไหวใช่มั้ยวะ อย่าตายนะเว้ย!”

“นั่งดีๆ อย่าเพิ่งวุ่นวาย” พี่วินที่กำลังขับรถอยู่พูดเตือนขึ้น

ผมอยากจะอ้าปากถามไอ้บอมว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่ก็พูดไม่ออก มันหันกลับไปนั่งดีๆ ตามเดิม แต่ก็ยังคงเอี้ยวคอหันมามองผมอย่างเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆ ผมหลับตาลง รู้สึกว่าร่างกายระบมไปหมดทุกส่วน ภาวนาอยากจะให้ความเจ็บปวดเหล่านี้มันหยุดลงเสียที ผมยังคงไม่เข้าใจว่าหลังจากที่ผมใกล้จะหมดสตินั้นมันเกิดอะไรขึ้น แต่ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่หัวของผมกำลังนึกถึงคือ... แม่

น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมาโดยที่ห้ามไม่ได้ ผมอยากจะยกมือขึ้นปาดมันออกเพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขยับตัวไม่ไหว ผมรู้สึกถึงรถที่หยุดลง จากนั้นประตูรถที่อยู่ตรงหัวของผมก็เปิดออก ผมได้ยินเสียงของพี่วินพูดอะไรบางอย่างกับคนอื่น แล้วผมก็ถูกหามลงจากรถไปนอนบนเตียงอย่างทุลักทุเล ผมถูกเข็นเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยนางพยาบาลในชุดขาว แสงจากหลอดไฟนีออนส่องสว่างจ้าจนผมแทบสู้ไม่ไหว ผู้คนจำนวน 3-4 คนต่างเข้ามารุมล้อมผมและพยายามจะคุยกับผม ผมพยายามจะเรียกชื่อของพี่วิน ผมอยากให้เขาพาผมออกไปจากที่นี่ ผมอยากกลับบ้าน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครได้ยินเสียงของผมเลย จนในที่สุดสมองของผมก็ยอมแพ้ แล้วจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับลงไปอีกครั้ง

ผมตื่นขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เมื่อมองไปรอบๆ ผมก็ต้องรู้สึกแปลกใจไปอยู่ครู่หนึ่งเนื่องจากสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย ผมต้องใช้เวลาสักพักถึงจะนึกออกว่าผมอยู่ที่ไหน มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และมันเกิดอะไรขึ้นกับผม เมื่อหันไปทางขวา แสงสว่างจากภายนอกที่ทะลุผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องก็ทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางวันแล้ว ผมพยายามจะเอี้ยวตัวไปอีกทาง แต่อาการเจ็บแปลบที่ชายโครงและบริเวณท้ายทอยก็ทำให้ผมต้องชะงัก

“อย่าขยับตัวมาก” เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้น

ผมค่อยๆ หันไปทางซ้ายมือแล้วก็พบว่าพี่วินกำลังเดินตรงเข้ามาหาผม “พี่วิน...”

“รู้สึกยังไงบ้างแล้ว”

“เมื่อคืนนี้... หลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น... แล้วไอ้พวกนั้นล่ะ มันเป็นยังไงบ้าง”

“หัดห่วงตัวเองก่อนเถอะ” เขานิ่วหน้า

“ผมไม่ได้ห่วงพวกมันสักกะติ๊ด ผมแค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมั่ง” ผมกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากราวกับทราย “ผมหิวน้ำอะ...”

พี่วินรินน้ำใส่แก้วแล้วจากนั้นก็ปรับเตียง เขาช่วยประคองคอของผมให้ค่อยๆ จิบน้ำช้าๆ “ดีนะที่เราไม่เป็นอะไรมาก แค่แผลฟกช้ำและหัวแตก ไม่มีกระดูกอะไรแตกหัก คงต้องนอนโรงพยาบาลสัก 2-3 คืนล่ะมั้ง”

“ครับ” ผมรับคำเบาๆ

“ว่าแต่ พี่ถามอะไรหน่อย”

“ครับ”

“ใครเป็นคนสอนให้พันผ้าและหนังสือพิมพ์รัดรอบตัวเอาไว้แบบนั้นวะ”

หลังจากที่เอนหัวพิงลงบนหมอนเหมือนกันแล้ว ผมก็ยกมือขึ้นแตะลำตัวดู ผมเพิ่งสังเกตว่าผ้าที่ผมซื้อมาพันตัวกับแขนเอาไว้เมื่อเย็นวานถูกถอดออกไปหมดแล้ว และถูกแทนที่ด้วยชุดสีฟ้าเชยๆ ของโรงพยาบาลแทน

เมื่อวานก่อนออกไปหาพวกมัน ผมไปซื้อสายรัดลำตัวสำหรับนักกีฬาที่ใช้ป้องกัน หรือสำหรับเวลาบาดเจ็บมาหลายม้วน จากนั้นก็พันมันรอบลำตัวและต้นแขนบริเวณที่ไอ้พวกนั้นจะมองไม่เห็นเอาไว้ โดยตรงช่วงท้อง ผมใช้หนังสือพิมพ์ห่อตัวเอาไว้ก่อนด้วย 2-3 ชั้น ที่ผมทำแบบนั้นหลักๆ เลยก็เพื่อที่ว่าหากพวกมันมีมีด และถ้าผมหลบไม่พ้น แทนที่จะโดนถากๆ ผมก็อาจจะไม่เป็นอะไรเลย หรือถ้าหากผมจะโดนฟันแผลลึก ผ้ายืดๆ และหนังสือพิมพ์เหล่านั้นก็น่าจะช่วยลดความรุนแรงลงไปได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนั้นมันยังช่วยลดแรงกระแทกจากหมัดและเตะไปได้อีกนิดหน่อยด้วย

“ถึงจะช่วยไม่ได้มาก แต่ก็คงดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยล่ะมั้ง” พี่วินพูดต่อ “แต่ถ้าพวกมันรู้ว่าเราพันตัวเอาไว้แบบนั้น จะเป็นยังไง”

“มันไม่รู้หรอก ไม่ได้พันไว้จนหนาขนาดนั้น” ผมตอบ “หรือต่อให้รู้แล้วไงล่ะ”

เขาส่ายหน้า “แต่การที่พันตัวไปแบบนั้นมันจะทำให้เคลื่อนไหวได้ช้าลงนะ ทำไมถึงเลือกที่จะปกป้องตัวเองมากกว่าจะสู้กลับ... ไม่สิ ที่สำคัญเลยคือก้องไปที่นั่นทำไมตั้งแต่แรก”

“ผมแค่...” ผมไม่รู้จะเรียงเรียงคำตอบยังไงดี “ผมปวดหัวอะ พี่วิน ผมขอกินยาก่อนได้มั้ย”

เขามองหน้าผมนิ่ง แต่คราวนี้แววตาของเขาดูเศร้าๆ ชอบกล... ผมคิดไปเองรึเปล่านะ

เขากดอินเตอร์คอมและบอกพยาบาลข้างนอกว่าผมต้องการยาแก้ปวด จากนั้นก็หันมามองหน้าผมอีกครั้ง

“เมื่อเช้านี้พี่ลาออกแล้วนะ”

“อ้าว!” ผมอุทานด้วยความแปลกใจ “ทำไมอะพี่!”

“ไม่ต้องสนใจหรอก ตอนนี้กินยาแล้วนอนพักไปเหอะ ปวดหัวไม่ใช่รึไง” เขาตอบ จากนั้นก็เดินไปที่ประตู แต่ก่อนจะเดินออกไป เขาก็หันกลับมาหาผมก่อน “นอนไปซะ ตื่นแล้วค่อยคุย พี่มีธุระต้องจัดการอีก”

หลังจากที่พี่วินเดินออกจากห้องไปไม่นาน พยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมกับยาแก้ปวด หลังจากที่ผมกินมันเข้าไปแล้ว ผมก็หลับลงแทบจะในทันที ผมไม่รู้ว่าผมหลับไปนานขนาดไหน แต่ผมตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ใกล้ๆ ผมเห็นพี่วินกำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายอีกสามคน สองคนนั้นอยู่ในเครื่องแบบตำรวจ ส่วนอีกคนอยู่ในชุดสูท ผมรู้สึกคุ้นๆ หน้าเขาชอบกล แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน

“ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดการให้ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” ตำรวจนายหนึ่งพูดขึ้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะตะเบ๊ะทำความเคาพแล้วจึงเดินออกจากห้อง

“ผมทำตามที่คุณขอแล้วนะ อาจารย์วิน...”

“อย่าเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ ท่านผู้อำนวยการ” พี่วินพูดขัด “ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ผมก็ไม่ใช่อาจารย์อีกต่อไปแล้ว”

“ผมยังไม่ได้อนุมัตินะ ยังไงคุณก็จะยังคงเป็นครูในโรงเรียนของผมต่อไป แต่ถ้าคุณต้องการอย่างนั้นจริง งั้น... วิน ลุงจะพูดกับวินในฐานะลุงกับหลานก็แล้วกัน” ชายในชุดสูทถอนหายใจ “ตั้งแต่พ่อของวินจากไป ลุงก็ช่วยแม่ของวินดูแลวินมาตลอด ถึงเมื่อก่อนวินจะเคยเหลวไหล เกเร แต่ลุงรู้มาตลอดว่าลึกๆ แล้ววินคือเด็กดีที่รักแม่ของวินมาก วินเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งใจเรียนขึ้นเพื่อแม่ เพื่อพ่อใหม่ เพื่อตัวเอง ลุงจึงเสนอให้วินมาทำงานที่โรงเรียนนี้เพื่อหาประสบการณ์ จนกว่าจะถึงตอนที่วินไปสอบเพื่อเรียนต่อ ที่ผ่านมาถึงจะมีคอมเพลนท์เรื่องสไตล์การสอนของวิน หรือแม้แต่วิธีที่วินใช้ลงโทษเด็กเข้ามาบ้าง อย่างมากลุงก็แค่ตักเตือนไปตามระเบียบ แต่ก็ยังคงเชื่อใจและให้โอกาสวินอยู่เสมอ เพราะลุงรู้ว่าวินคือครูที่อุทิศตนให้แก่นักเรียนอย่างแท้จริง ต่างจากครูคนอื่นๆ หลายคน แต่...” เขาถอนหายใจอีกครั้ง “วินรู้ใช่มั้ยว่าลุงจะพูดอะไร”

“วินรู้ครับ” พี่วินตอบ “วินทำผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ คำสัญญาที่ว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงเกินสมควรแก่เด็กนักเรียน ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม คำสัญญาที่ว่าจะไม่มีเรื่องชกต่อยกับใครอีก ไม่ว่ากรณีไหนก็ตามเช่นกัน วินผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับลุงและแม่ วินทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง วินขอโทษครับ” พี่วินพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ก็หนักแน่น

“ยังไงก็ตาม ลุงก็คงทำได้ดีที่สุดแค่นี้ล่ะนะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคดีความ ฝ่ายกฎหมายของเราและทนายของลุงจัดการได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ลุงจะจัดการให้เอง ยังไงเด็กคนนี้ก็เป็นนักเรียนโรงเรียนของเรา และก็เป็นผู้เสียหายด้วย แต่วินแน่ใจเหรอว่าจะไม่ต้องโทรไปบอกแม่ของเด็กน่ะ เด็กคนนี้คือคนที่เคยอยู่บ้านข้างๆ ของแม่เราเมื่อสมัยก่อนไม่ใช่เหรอ”

“ลุงวุฒิไม่ต้องเป็นห่วงครับ ตอนนี้วินคือผู้ปกครองของเด็กคนนี้ วินจะดูแลมันเอง”

“เอาเถอะๆ แล้ววินจะทำยังไงต่อไป”

“วินขอดูแลน้องมันก่อนแล้วกันครับ รอจนกว่ามันจะหาย แล้วจากนั้นค่อยว่ากัน”

“นี่ ลุงก็ไม่รู้ทำไมหรอกนะ แต่...” ชายร่างท้วมหัวเราะในลำคอเบาๆ “ลุงรู้สึกเหมือนว่าเด็กคนนี้คงจะมีความพิเศษสำหรับวินมาก ลุงเข้าใจผิดรึเปล่า”

พี่วินไม่ตอบ แต่หันมาที่เตียง และเมื่อเห็นว่าผมกำลังนอนลืมตามองพวกเขาอยู่ เขาก็สาวเท้าเข้ามาหาผม ผมรีบหลับตา ตั้งใจว่าจะแกล้งทำเป็นหลับอยู่ แต่ท่าทางจะไม่เนียนซะแล้วล่ะมั้ง

“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่วินถาม

ผมลืมตาขึ้นมองหน้าเขา “...เพิ่งตื่น”

“ก้อง นี่ผู้อำนวยการศราวุฒิ เคยเจอท่านบ้างรึเปล่า”

ผมส่ายหน้าเบาๆ “เคยเห็นแต่ในรูปครับ”

“เป็นยังไงบ้างล่ะเรา” ผู้อำนวยการถามผม

“ก็ดีครับ รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว”

“แบบนั้นก็ดี งั้นครูให้เธอพักผ่อนไปดีกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเรียนและเรื่องค่าใช้จ่าย รักษาตัวไปจนกว่าจะหาย แล้วจากนั้นค่อยกลับไปเรียน เข้าใจมั้ย”

“ขอบคุณมากครับ”

“งั้นผมไปล่ะ ฝากที่เหลือด้วยนะ อาจารย์อัครวินท์”

ผมกับพี่วินยกมือขึ้นไหว้ผู้อำนวยการ แล้วจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปโดยมีพี่วินเดินออกไปส่งที่หน้าประตู

“พี่วิน...”

“ว่า” เขาตอบพลางเดินกลับมานั่งลงข้างๆ ผมที่เตียง

“พี่เป็นคนมาช่วยผมไว้ใช่มั้ย”

“ใช่”

“แล้วพี่รู้ได้ยังไง”

“เจ้าเจษฎาวิทย์... ไอ้เจ้าบอมมันโทรไปบอกพี่”

“เออใช่ แล้วไอ้บอมล่ะ”

“ตอนนี้โรงเรียนน่าจะเพิ่งเลิก แต่พี่บอกมันไว้ว่าไม่ต้องมา ให้เราพักผ่อนไปก่อน”

“มันรู้เรื่องของผมได้ยังไง”

“มันสงสัยตั้งแต่ตอนที่เจอเรากับไอ้เด็กสองคนนั้นมีปากเสียงกันหน้าโรงเรียนแล้ว และพอตอนมันกลับเข้ามาในโรงเรียน มันก็บังเอิญไปได้ยินไอ้เจ้าวิทวิสิทธิ์มันคุยโทรศัพท์กับเด็กพวกนั้น ไอ้เจ้าบอมมันก็แอบฟังอยู่จนพอจับใจความได้ ถึงมันจะไม่ค่อยรู้เรื่องมากมาย แต่มันก็จับแพะชนแกะเอา มันบอกพี่ว่าตอนแรกมันก็ไม่คิดด้วยว่าเราจะไปเจอไอ้พวกนั้นจริงๆ จนกระทั่งมันโทรไปหาเรานั่นแหละ มันถึงรู้ว่าเรากำลังคิดจะทำอะไร จากนั้นมันก็รีบหาเบอร์ของพี่ และโทรมาบอกพี่ แต่กว่าที่พี่จะได้คุยและตามไปถึงที่นั่น ก็ช้าไปแล้ว”

“ครับ...”

“ก้อง” พี่วินมองหน้าผม “ทำไมถึงทำแบบนั้น อธิบายเหตุผลทั้งหมดมาให้พี่ฟังเดี๋ยวนี้”

ผมนิ่งไปพักหนึ่ง รวบรวมความคิดและคำพูดที่จะใช้ จากนั้นก็เริ่มเล่าตั้งแต่ที่ไอ้ข้าวมันเดินมาเตือนผม ไปจนถึงสิ่งที่ไอ้สองคนนั้นบอกผมที่หน้าโรงเรียน ผมพยายามเล่าทุกสิ่งที่ได้ยินมาแบบคำพูดต่อคำพูด จากนั้นจึงบอกเขาไปตรงๆ ว่าเหตุผลที่ผมตัดสินใจทำแบบนั้นลงไปคือเพราะว่าผมไม่อยากให้เขาต้องเดือดร้อน

“ว่ากันตรงๆ เลยนะ ผมก็กังวลเรื่องที่มันขู่จะยกพวกมาตีโรงเรียนของเราและทำให้เด็กคนอื่นต้องเดือดร้อนเหมือนกันนั่นแหละ ผมคิดว่ามันอาจจะไปเล่นงานเด็กคนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แค่เพราะอยากจะแก้แค้นผม แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้แคร์เรื่องพวกนั้นเท่าไหร่หรอกว่ะ... ผมรู้ว่าแม่งฟังดูเหี้ยนะ แต่ถ้าพี่ถามว่าทำไมผมถึงทำแบบนั้นและอยากได้คำตอบแบบจริงๆ เลยล่ะก็ ผมก็คงบอกได้แค่ว่าผมนึกถึงแต่พี่ ไม่อยากให้พี่ต้องเดือดร้อน ก็แค่นั้น” ผมอธิบายให้เขาฟัง “แต่ดูเหมือนสุดท้ายผมก็สร้างปัญหาให้พี่อยู่ดี...”

“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ไปที่นั่นซะ เราก็ไม่ต้องมานอนอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ และพี่ก็คงต้องไม่ลาออกด้วย” เขาพูดด้วยสีหน้าซีเรียส

ผมก้มหน้าลงเพราะไม่กล้าสู้แววตาของเขา “เออๆ ผมขอโทษอะ”

“คิดรึไงว่าทำแบบนั้นแล้วปัญหามันจะถูกแก้ได้จริง สมองมีคิดได้แค่นั้นรึไงวะ”

ผมนิ่วหน้า อยากจะเถียงเขากลับไป แต่ก็พูดไม่ออก เพราะลึกๆ แล้วผมก็รู้ว่าเขาพูดถูก และไอ้ผมเองมันก็ไม่ใช่คนหัวดีที่จะคิดอะไรได้ลึกลับซับซ้อนนัก ผมมันก็แค่ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบโง่ๆ แค่นั้นเอง

เราสองคนเงียบลงไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่พี่วินจะวางมือลงบนหัวของผมเบาๆ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “แต่พี่ก็ดีใจนะ ที่ก้องคิดจะทำเพื่อพี่”

ผมเงยหน้าขึ้นมองเขางงๆ “พี่วินไม่โกรธผมเหรอ”

“โกรธ ยิ่งตอนแรกน่ะ โกรธมากด้วย” เขาตอบ “แต่ตอนนี้ไม่ค่อยแล้ว สงสารมากกว่าว่ะ และก็พอเข้าใจด้วย”

“เข้าใจอะไร” ผมสงสัย

“เราก็ได้ยินที่เมื่อกี้พี่คุยกับลุงวุฒิแล้วนี่... หึๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก พี่รู้ว่าเราได้ยิน” เขาโน้มตัวเข้ามาหาผม “พี่ว่าเราสองคนมันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ ก้อง ตอนที่พี่รู้จักเราเมื่อหลายปีก่อน พี่ยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมพี่ถึงได้รู้สึกรักและเอ็นดูเรานัก ทั้งที่ปกติก็ไม่ได้ชอบเด็กเท่าไหร่หรอก แต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้วว่ามันเป็นเพราะพี่คงเห็นตัวของพี่เองอยู่ในนี้” เขาชี้มาที่ผม “ตอนเด็กๆ พี่ก็เป็นเด็กขี้แง อ่อนแอ และไม่สู้คนเหมือนกัน พี่มีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยมีใครมาคบ พ่อพี่เค้าเลยเอาพี่ไปฝึกเทควันโด พอขึ้นมัธยม พี่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากจะเป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆ อยากจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ‘เฮ้ย กูก็อยู่ตรงนี้ด้วยนะเว้ย’ พี่จึงเริ่มไปฝึกที่ค่ายมวยเพิ่ม เพื่อให้คนอื่นๆ สนใจ และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้พี่เริ่มรู้จักเด็กเกเรคนอื่นๆ ทำให้พี่มีเรื่องชกต่อยเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นพี่ก็ชนะมาตลอด”

ผมนอนฟังเรื่องของเขาแล้วก็รู้สึกอึ้งๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีความหลังแบบนั้น

“ตอนนี้เราเองก็น่าจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยล่ะ ความรู้สึกของการเป็นผู้ชนะ เป็นหัวโจกของกลุ่ม มีเรื่องทะเลาะวิวาทเข้ามาหาบ่อยๆ ทั้งๆ ที่เราเองก็ไม่ได้อยากจะไปหาเรื่องใครก่อน และที่สำคัญคือความเหงาในใจที่ไม่ว่าจะไปต่อยตีกับใครเท่าไหร่ มีคนเดินตามหลังเฮฮาด้วยมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปอยู่ตลอด”

โป๊ะเชะเลย! ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าเขาหมายถึงอะไร

“พี่ถูกย้ายบ้านและย้ายโรงเรียนไปอยู่ข้างบ้านเรา แต่ก็ไม่วายที่จะเกิดเรื่องเดิมๆ ขึ้น มีคนมาหาเรื่องเพราะความเป็นเด็กใหม่บ้าง มีคนหมั่นไส้เพราะหน้าตาบ้าง ต่างๆ นานา จากนั้นก็เริ่มมีคนมาติดสอยห้อยตามเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปสักนิด สิ่งๆ เดียวที่ต่างออกไปคือเรานั่นแหละ ก้อง เราทำให้พี่รู้สึกถึงการได้เป็น ‘พี่ชาย’ เป็นครั้งแรก” พี่วินยิ้มมุมปากน้อยๆ “เพราะการที่มีเรามาวอแวอยู่ใกล้ๆ มันทำให้พี่ได้รู้จักการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ได้ดูแลคนอื่น และได้เห็นด้านดีๆ ของตัวเองที่พยายามไม่แสดงออกมา แต่พี่ก็ไม่คิดหรอกนะว่าสุดท้ายพี่นี่แหละที่กลายเป็นคนทำให้เราโตขึ้นมาใช้ชีวิตแบบเดียวกับพี่ตอนอายุเท่าๆ กัน ไปซะได้”

“พี่วิน ผมถามอะไรพี่หน่อยดิ”

“ว่ามา”

“เมื่อกี้ผมได้ยินว่าพ่อพี่เสียไปแล้วเหรอ”

“ใช่ ตอนพี่อยู่ ม. 3”

“พ่อผมก็เหมือนกัน แต่เค้าเสียไปตั้งแต่ผมอยู่ประถมแล้ว”

“พี่รู้”

“ผมไม่เคยตั้งใจจะเป็นนักเลงหรืออะไรเลยนะพี่”

“พี่รู้ มันแค่เป็นสิ่งที่เรามีติดตัวมาตั้งแต่แรกเท่านั้นเอง เพียงแต่ตอนแรก เรายังไม่เคยได้ใช้มัน”

“สิ่งที่มีติดตัวเหรอ”

“ใช่ จะเรียกว่า ‘คาริสมา’ ก็คงได้มั้ง เราสองคนมีสิ่งนี้เหมือนๆ กัน”

“เดี๋ยวๆ อะไรม่าๆ นะ” ผมนิ่วหน้า

พี่วินหัวเราะเบาๆ “มันคือบุคลิกเด่น หรือคุณสมบัติเฉพาะคนที่ติดตัวคนเรามาตั้งแต่เกิด หรืออาจจะไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด แต่เกิดมาจากการฝึกฝน ขัดเกลา หรืออะไรพวกนั้นก็ได้ เช่นเราคงเคยเห็นคนบางคนที่เกิดมาเพื่อเป็นหัวหน้าห้อง หัวหน้ากลุ่ม รึหัวหน้าหมู่ลูกเสือตลอด หรือคนที่ดูเป็นคนดุ น่ากลัว และน่าเกรงขาม เต็มไปด้วยพลัง อะไรพวกนั้นก็เหมือนกัน”

“ผมเนี่ยเหรอ มีไอ้ ริดม่าๆ อะไรนั่น”

“ถ้าเราคล้ายกับพี่จริง เราน่าจะรู้ตัวนะว่าเวลาเราโกรธขึ้นมา คนรอบข้างมักจะกลัวเราขนาดไหน หรือเวลาก่อนมีเรื่อง เรายังไม่ทันจะทำอะไร แต่บางทีฝ่ายตรงข้ามก็กลัวเราแล้ว เป็นต้น” เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง “อย่างน้อยๆ เรื่องเหล่านั้นก็เกิดกับพี่น่ะนะ และพี่ยังมีน้ำเสียงกับบุคลิกแบบนี้อีก คนก็เลยมักจะกลัวพี่กัน หรือแม้แต่เด็กนักเรียน เพื่อนๆ เราเองมันก็กลัวพี่ไม่ใช่รึไง ใช่ว่าพี่จะไม่รู้”

“อ้าว รู้ตัวด้วยเหรอ”

“อย่านะ พี่ไม่ใช่อาจารย์ของเราแล้ว คราวนี้จะทำอะไรก็ได้แล้วนะเว้ย” เขาหลิ่วตา

“ยังไม่ใช่ตรงไหน ก็ ผอ. เค้ายังไม่ได้อนุมัติสักหน่อย ที่สำคัญ พี่จะทำคนเจ็บได้ลงเชียวเหรอ...”

“หึๆ กวนตีนนักนะ” เขาส่ายหน้าเบาๆ “ตอนนั้นพอหลังจากที่พี่โทรไปคุยกับแม่ของเรามาแล้ว พี่ก็เลยยิ่งมั่นใจว่านอกจากบุคลิกหรือนิสัยที่มันมักทำให้คนรอบข้างกลัวรึเข้าใจผิดโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วเนี่ย ก็ยังมีอีกอย่างที่เราสองคนมีเหมือนๆ กัน นั่นคือ ‘ดวง’”

“ดวง” ผมสงสัย

“ใช่ ดวงที่มักจะดึงดูดปัญหาการทะเลาะวิวาทเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ”

“ถูกเผงงงง ผมก็เคยบอกพี่ไปแล้วไงว่าผมไม่เคยตั้งใจจะไปหาเรื่องใครก่อนหรอกนะ”

“พี่ก็ไม่เคยพูดสักคำว่าไม่เชื่อ” จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน

“จะไปไหนอะ”

“ไปโทรศัพท์ ยังมีธุระที่ต้องจัดการอีกนิดหน่อย”

“เดี๋ยว พี่วิน ผมขอถามอะไรเป็นอย่างสุดท้ายหน่อยดิ”

“ว่ามา”

“เมื่อกี้พี่บอกว่าตอนนั้นพี่เอ็นดูผม รู้สึกเหมือนเป็นพี่ชายของผม แล้ว... แล้วตอนนี้ล่ะ ทำไมพี่ถึงยังต้องทำอะไรเพื่อผมขนาดนี้ด้วย ทำไมพี่ถึงต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย แถมสุดท้ายยังต้องลาออกจากงานเพราะผมอีก ทั้งที่เราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปีแล้ว ที่พี่ทำลงไปทั้งหมดนี่คือในฐานะครูของผมเหรอ”

เขามองหน้าผมนิ่ง แววตาของเขายากเกินกว่าที่จะอ่านออก “ไม่ใช่ทั้งคู่ พี่ไม่ได้ทำลงไปเพราะในฐานะครู และก็เพราะการที่เราไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปีนั่นแหละ ที่ทำให้พี่รู้สึกต่อก้องไม่เหมือนเดิม”

“ผมงงว่ะ”

“ก็มึงมันโง่ไง”

“อ้าว!”

“มันก็เหมือนกับที่เราคิดถึงสวัสดิภาพของพี่มากกว่าเด็กคนอื่นๆ ของโรงเรียนหรือแต่ตัวเองนั่นแหละ ทุกอย่างที่พี่ทำก็เพราะพี่ไม่ได้คิดถึงก้องในฐานะลูกศิษย์ แต่เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่พี่ใส่ใจเป็นพิเศษ ก็แค่นั้นเอง”

“พี่... เอ่ออ พี่หมายความว่ายังไงอะ”

“ยังจำเมื่อคืนนั้นที่เราเจอกันได้มั้ย”

ผมพยักหน้าเบาๆ

“มันมีอยู่คำถามนึงที่ก้องถามพี่ และพี่ก็ตอบกลับไปด้วยประโยคคำถามคล้ายๆ กัน... ตอนนั้นพี่ไม่ได้แค่กวนตีนกลับไปเฉยๆ หรอกนะ”

ผมพยายามนึกว่าตอนนั้นผมถามอะไรเขา และเขาตอบอะไรผมกลับมาวะ แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆ ไอ้ห่าเอ๊ยยย!! ที่เรื่องสำคัญแบบนี้ล่ะเสือกลืม! คืนนั้นเราไม่ได้เจอกันในสถานการณ์ที่ดีเท่าไหร่นัก และบรรยากาศระหว่างเราก็ใช่ว่าจะเป็นมิตร ผมจำได้ว่าเราต่างก็ฟาดปากกันไปมาหลายหน เขาเองก็ถามนั่นถามนี่ผมหลายอย่างจนผมรำคาญ แต่สรุปผมเคยถามอะไรเขาไปและเขาตอบอะไรผมกลับมาล่ะเนี่ย!

“หึๆ คิดเข้าไปนะ ไอ้ตัวแสบ” เขาพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมรอยยิ้มหยันก่อนจะเดินออกจากห้องไป

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-10-2013 18:21:14
ตอนที่ 12


อีกสองวันถัดมาผมก็ถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล... เอ่ออ ที่จริงคือผมเป็นคนงอแงขอออกจากโรงพยาบาลเองมากกว่า พี่วินเป็นคนดูแลจัดการเรื่องทั้งหมดให้ผม นอกจากนั้นเขาก็ยังเป็นคนขับรถพาผมไปส่งที่คอนโดอีกด้วย แต่ถึงแม้จะได้อยู่ด้วยกันแทบตลอด เราสองคนกลับไม่ได้คุยเรื่องที่ยังค้างกันต่อจากเมื่อวานเลย ไอ้ผมน่ะ ก็อยากจะคุยกับเขาอยู่หรอก แต่เดี๋ยวก็พยาบาลเดินเข้ามาในห้องบ้าง หมอบ้าง แม่บ้านบ้าง และไหนจะยังเพื่อนๆ ของผมที่มาเยี่ยมอีก สุดท้ายเมื่อรู้สึกตัวอีกที ผมก็นอนอยู่บนเตียงของตัวเองในห้องแล้วเรียบร้อย ส่วนพี่วินที่ช่วยผมถือของเยี่ยมขึ้นมาก็กำลังวางพวกมันให้เข้าที่อยู่ในห้องครัว

“พี่วิน...”

“ว่าไง”

“แม่ผมไม่รู้เรื่องเหรอ”

“พี่ไม่ได้บอก”

“ทำไมอะ”

เขาเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน “อยากให้บอกรึไง”

“เปล่า แค่ถามเฉยๆ”

“จริงๆ มันก็ควรต้องบอกอยู่หรอก แต่พี่เห็นว่าเราไม่เป็นอะไรมากก็รีบๆ หาย แล้วก็ลืมๆ มันไปซะ ไม่ต้องไปทำให้เค้าไม่สบายใจอาจจะดีกว่าก็ได้” เขาเดินมานั่งบนเตียง

“ขอบคุณครับ พี่”

“มีมารยาทก็เป็นเหมือนกันเว้ย” เขายิ้มน้อยๆ

“อ้าว พูดแมวๆ อีกละ ทำไมพออยู่กันสองคนนอกโรงเรียนทีไร พี่ต้องว่าผมอยู่เรื่อย”

“ไม่ได้ว่าอะไรเลย” เขาหัวเราะเบาๆ “แค่เอ็นดูเฉยๆ”

“ถ้าเอ็นดูจริง รักกันจริง ก็หัดพูดจาให้มันดีๆ บ้างดิวะ” ผมบ่นเบาๆ

จู่ๆ พี่วินก็คว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ ทำเอาผมต้องหันไปมองหน้าเขาด้วยความตกใจ “อีกไม่นานพี่ก็ไม่ได้เป็นครูแล้ว เพราะงั้นพี่จะพูดก็คงได้ใช่มั้ย”

“พ...พูดอะไร”

“พี่ชอบก้องว่ะ”

“ฮะ... เฮ้ยย!! พี่พูดเล่นใช่มั้ยเนี่ย!” ผมรีบชักมือกลับทันที รู้สึกเลือดแม่งสูบฉีดขึ้นไปเลี้ยงที่หน้าจนปวดแผลที่หัวตุบๆ

“ก็พูดเล่นน่ะสิ” เขาหัวเราะ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “ทำไมวะ คิดว่าพี่จะพูดจริงรึไง”

“พี่จะบ้าเรอะ! ผู้ชายที่ไหนเค้ามาล้อเล่นเรื่องแบบนี้กันวะ!” ผมโวยวายพลางหันหน้าหลบไปทางอื่น

“ก็ผู้ชายแบบพี่นี่แหละ ว่าแต่ทำไมต้องเขินขนาดนั้นด้วย”

“ไม่ได้เขินเว้ย แค่... แค่...”

“เวลาเขินก็น่ารักนะเราเนี่ย” เขาหัวเราะเบาๆ ทำเอาผมยิ่งเขินจนแทบจะตายเข้าไปใหญ่

ผมก้มหน้าหลบไม่ให้เขาเห็นว่าผมกำลังหน้าแดงมากขนาดไหน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลแฮะ

“แล้วถ้าเกิดว่าพี่ไม่ได้พูดเล่นขึ้นมา ก้องจะทำยังไง” เขาถาม

“เพ้อเจ้อน่ะ! เลิกเล่นได้แล้วเหอะ ผมไม่เชื่อพี่หรอก”

“ก็ไม่ได้บอกให้เชื่อ แค่ถามว่าจะทำยังไง”

“ไม่ทำไงทั้งนั้นอะ ไม่รู้ไม่ชี้เว้ย เลิกพูดเหมือนตัวเองชอบผู้ชายสักทีเหอะ ขนลุก!” ผมพูดไปก็ก้มมองหมอนที่วางอยู่ข้างๆ ตัวไป ยังคงไม่กล้าหันไปเผชิญหน้าเขาอยู่ดี

พี่วินเงียบลงไปพักหนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ผมก็ต้องสะดุ้งจนแทบสุดตัวเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากที่จุ๊บลงบนแก้มของผมเบาๆ

“เฮ้ยย!! พี่วิน!” ผมเขยิบตัวหลบพร้อมกับหันขวับไปหาเขา

เขาส่งยิ้มให้ผม จากนั้นก็ชะโงกหน้าเข้ามาจูบลงบนริมฝีปากของผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งจับคางของผมเอาไว้ แต่ด้วยความตกใจ ผมดันเผลอตัวเผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย ทำให้เขาค่อยๆ ใช้ลิ้นสอดเข้ามาในปากของผม ทันทีที่ลิ้นของเราสัมผัสกัน แค่เพียงนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น ผมก็รู้สึกถึงกระแสไฟอ่อนๆ ที่วิ่งไปทั่วทั้งร่างทันที

“อื๊อออ!!” เมื่อรู้สึกตัว ผมก็รีบผลักหน้าอกของเขาออกอย่างแรงพร้อมกับหอบหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก “พี่ทำเหี้ยอะไรของพี่เนี่ย!!”

เขามองหน้าผมนิ่ง ก่อนที่จะยิ้มมุมปากออกมาน้อยๆ “แล้วคิดว่าทำอะไรล่ะ”

“ไม่ใช่เรื่องตลกนะเว้ย!!” ผมตะโกนแทบสุดเสียง ทำให้เขาเองก็ยังต้องผงะไปด้วยความตกใจ

“ก้อง...” เขาเขยิบตัวเข้ามาหาผม

“มึงถอยไปเลย!!” ผมเหวี่ยงหมัดขวาเข้าใส่ที่แก้มซ้ายของเขาอย่างเต็มแรง

ใบหน้าของพี่วินสะบัดไปทางขวาพร้อมกับเซถลาจนล้มลงไปบนพื้นห้อง เขาก้มหน้าลงอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม ที่มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย

“มึงออกจากห้องของกูไปเดี๋ยวนี้เลย!! ไป!!” ผมตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ร่างกายสั่นเทาจนแทบควบคุมไม่ได้ ผมทั้งรู้สึกตกใจ หวาดกลัว และสับสนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

พี่วินใช้หลังมือแตะที่มุมปาก จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น เราสองคนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ครู่หนึ่ง ผมรู้สึกเหมือนว่าผมเห็นความเจ็บปวดฉายอยู่ในแววตาที่ปกติจะอ่านไม่ค่อยออกอยู่ชั่วสั้นๆ แต่ผมคิดว่าผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ เพราะจู่ๆ เขาก็มีรอยยิ้มฉายขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มมุมปากเล็กๆ แบบที่ทำให้ผมรู้สึกกลัวทุกครั้งที่เห็น มันไม่ใช่รอยยิ้มเพราะรู้สึกมีความสุข สนุก หรืออะไรในเชิงนั้น แต่เป็นรอยยิ้มที่แลดูผิดที่ ผิดเวลา และไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเขายิ้มทำไม

เขาหันหลังให้ผมแล้วเดินออกจากห้องนอนไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ผมก็เอนตัวนอนลงบนเตียง หัวของผมปวดจนแทบจะระเบิด แต่ใจของผมที่กำลังปั่นป่วนนั้นกลับรู้สึกเจ็บปวดมากกว่า นี่เขาทำเหี้ยอะไรของเขาวะ และนี่ผมเป็นเหี้ยอะไรของผมเนี่ย!

ผมไม่เข้าใจเลยนะเว้ย ผมไม่เข้าใจเขา ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ไม่เคยรู้ว่าเขาคิดยังไงกับผม ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร และไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวยังไงด้วย เขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นแค่ของเล่นของเขาเท่านั้นเอง

ผมทั้งปวดหัว เจ็บสีข้าง และไหนจะยังรอยฟกช้ำอื่นๆ บนร่างกายอีก ผมสบถเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ลุกออกจากเตียงและเดินไปหยิบยาที่อยู่ในถุงออกมากิน แล้วจากนั้นก็กลับมานอนลงบนเตียงเหมือนเดิม

เมื่อคิดย้อนไปถึงตอนที่เขาจูบผม ผมก็เผลอยกหลังมือขึ้นมาถูปากของตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ นั่นมันจูบแรกของผมนะเว้ย ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจูบแรกของผมมันจะออกมาในรูปแบบนั้น ถึงผมจะชอบผู้ชายอยู่แล้ว และพี่วินเองก็หน้าตาดี แถมยังเป็นคนแรกที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกดีๆ เวลาที่อยู่ด้วยกันได้อีกด้วย แต่ผมชอบพี่เขาแน่เหรอ ไม่สิ ผมว่าผมชอบเขาแหละ แต่ชอบแบบไหนนั้น ผมเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย และที่สำคัญคือเขาเองก็เพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าเขาไม่ได้ชอบผม แต่แล้วทำไมเขาถึงทำแบบนั้นวะ หรือว่าเขาแค่อยากจะเล่นๆ กับผมเท่านั้น เขาอาจจะชอบผู้ชายเหมือนกันและแค่อยากจะมีอะไรกับผมอย่างนั้นเหรอ ถ้าเกิดเขาคิดแบบนั้นจริงล่ะก็ ความนับถือ ชื่นชม และความรู้สึกดีๆ ที่ผมเคยมีให้เขามาตลอดแม่งคงจะพังลงไปหมดตั้งแต่วันนี้แล้วล่ะว่ะ

ผมที่หลับลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือ ผมพลิกตัวและควานหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนตัว และเมื่อคว้ามันมาได้ ผมก็รับสายทันทีโดยลืมมองว่าคนที่โทรเข้ามาคือใคร

“ฮาโหลวว..ว...”

“หลับอยู่เหรอลูก”

“อ้าว แม่... อืมมม ก้องนอนอยู่อะ” ผมขยี้ตา

“พอแม่ไม่โทรไปหาแล้วก็หายเงียบเลยนะ”

“โหยยย ไม่ต้องคิดมากเลยแม่ ก้องแค่ยุ่งๆ เหนื่อยๆ แค่นั้นแหละน่า”

“ไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรกับใครมาใช่มั้ย”

“เฮ้ยยย ไม่มีๆ” ผมรีบปฏิเสธ “แม่ไปเอามาจากไหน”

“จะจากไหนล่ะ ก็จากประวัติในอดีตแกนั่นแหละ”

“โอ๊ยย เจ็บดังจึ้กก...”

“นี่ ก้อง พรุ่งนี้วันเสาร์ แม่จะลงไปหานะ ไม่ได้เจอหน้าลูกชายมาตั้งนานแล้ว แม่คิดถึง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมก็ตื่นเต็มตาทันที ผมรีบผุดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเร็วจนเจ็บแผล ทำให้เผลอร้องโอ๊ยออกมาเบาๆ

“เป็นอะไร ตาก้อง”

“เปล่าๆ ก้องแค่บิดตัวผิดท่าแล้วเจ็บเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่พรุ่งนี้แม่จะมาเหรอ มาทำไม ไม่ต้องมาหรอกน่าาา ก้องอยู่ได้”

“อะไร นี่แกมีเรื่องปิดบังอะไรแม่อยู่รึเปล่าเนี่ย”

“เฮ้ยยย ไม่มี จะบ้าเหรอ!”

“อย่าบอกนะว่าแกมีผู้หญิงมานอนอยู่ที่ห้องน่ะ”

คงจะใช่อยู่หรอก

“บ้าละ แม่ก็พูดไป ก้องแค่ไม่อยากให้แม่เหนื่อยและไม่อยากให้เป็นห่วงเกินไปต่างหาก เออๆ เอาเหอะ อยากมาก็มา ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ก้องเองก็คิดถึงแม่เหมือนกันนั่นแหละ แต่ไม่แสดงออกเฉยๆ บอกไว้ก่อนเลยนะเนี่ย จะได้ไม่ต้องทำเป็นงอน ขี้เกียจง้อ”

หลังจากคุยกับแม่อยู่พักหนึ่ง ผมก็วางสายลงด้วยใจกระวนกระวาย ผมจะทำยังไงไม่ให้แม่เห็นแผลที่หัวได้วะเนี่ย ไอ้รอยฟกช้ำตามร่างกายก็ยังพอใส่เสื้อผ้าปกปิดได้ แต่แผลบนใบหน้ากับบนหัวที่ยังไม่หายดีและยังคงต้องพันแผลเอาไว้แบบนี้เนี่ย ผมจะทำยังไงดี

ในขณะที่ผมกำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น เสียงเคาะประตูห้องของผมก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงไขกุญแจ และจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก พี่วินเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถุงพลาสติก 2-3 ถุงในมือ

“ซื้อข้าวมาให้” เขาพูดพลางเดินตรงไปยังห้องครัว

ผมลุกออกจากเตียงและเดินมาหยุดอยู่ตรงประตูห้องนอน มองดูเขาที่กำลังหยิบของออกมาจากถุงมาวางบนเคาน์เตอร์

“หิวรึยัง จะกินเลยรึเปล่า” เขาถามโดยไม่ได้หันมามองผม

น้ำเสียงและพฤติกรรมที่แลดูเป็นปกติของเขาชักทำให้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้มันเป็นความจริง หรือว่าผมแค่ละเมอฝันกลางวันไปเองกันแน่

“พี่วิน”

“อะไร”

“แม่ผมเค้าจะมาหาอะ”

เขาหันมาหาผม “แล้วยังไง”

“แผลผมเห็นชัดแบบนี้ จะปิดแม่ยังไง”

เขาเลิกคิ้วขึ้น “ปิดเหรอ”

“ก็ผมไม่อยากให้แม่ต้องเป็นห่วง พี่ก็พูดแบบเดียวกันไม่ใช่รึไง”

เขาส่ายหน้าเบาๆ “แล้วจะทำยังไงไม่ให้แม่รู้”

“ผมก็ไม่รู้ พี่คิดว่าไงอะ พี่ว่าผมควรทำไงดี”

“แล้วทำไมถึงมาถามพี่ พี่ไม่ได้อยากให้ก้องโกหกแม่นะ”

“อ้าว แต่พี่ก็ไม่ได้โทรไปบอกแม่ผมนี่”

“พี่ไม่ได้โทรไปบอกเค้า ไม่ได้หมายความว่าพี่โกหกหรืออยากให้ก้องโกหกเค้าสักหน่อย แต่เอาเหอะ อยากจะให้พี่ทำยังไงล่ะ เลือกเอาเองก็แล้วกันว่าอยากให้พี่ช่วยโกหกเพราะแค่อยากให้เค้าสบายใจชั่วคราว หรืออยากจะบอกความจริงเค้าไปตรงๆ แบบลูกผู้ชาย”

“โห ถ้าพี่พูดขนาดนี้ ยังจะเหลือทางเลือกให้ผมอีกเหรอ” ผมนิ่วหน้า

“พี่ไม่ได้บังคับนะ ก้องเลือกเองได้ ถ้าจะให้พี่ช่วยโกหก ก็คงต้องบอกว่าตกบันได รถมอเตอร์ไซค์ล้ม อะไรก็ว่าไป จะเอางั้นปะล่ะ แม่เค้าจะเป็นห่วงน้อยลงมั้ย”

ผมส่ายหน้า “ก็คงไม่อะ...”

พี่วินเดินเข้ามาหาผม “ก้อง คืนนั้นเราทำเพื่อพี่อย่างลูกผู้ชายมาแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาอย่างลูกผู้ชายด้วยสิวะ พี่ดีใจนะเว้ยที่เราทำเพื่อพี่ขนาดนั้น ถึงมันจะเป็นการกระทำที่โง่มากกว่ากล้าหาญก็เหอะ แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าหากว่าก้องตัดสินใจจะเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา พี่ก็จะขอเป็นส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน”

“คืออะไรพี่ ผมไม่เข้าใจ”

“พี่จะช่วยพูดกับแม่ของเราให้เอง”

“เฮ้ย จริงอะ พี่จะพูดอะไรกับแม่ของผม”

“ก็ทุกอย่างเท่าที่พูดได้นั่นแหละ ว่าแต่แม่จะมาเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้ครับ”

เขาพยักหน้าเบาๆ “ตกลงว่าหิวรึยัง จะได้หาข้าวให้กิน”

“ครับ หิวก็หิว...” ผมพยักหน้า “เฮ้ยนี่ พี่วิน... คือ... เรื่องเมื่อกี้อะ...”

“เรื่องเมื่อกี้ทำไม”

“พี่... พี่... ผม...” จู่ๆ ผมก็ดันพูดไม่ออก “คืออ... พี่คิดยังไงกับผมกันแน่อะ ทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น”

“ก่อนอื่นพี่ว่าก้องตอบตัวเองก่อนเหอะว่าก้องคิดยังไงกับพี่ ทำไมถึงต้องยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อช่วยเหลือพี่ขนาดนั้นด้วย” เขาหันมามองหน้าผมพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก “เรื่องคืนนั้นน่ะ เราอาจจะถึงตายก็ได้นะ รู้ใช่มั้ย”

ผมไม่ตอบ แต่ถึงเขาไม่พูด ผมก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เพราะผมก็เคยโดนรุมกระทืบจนปางตายจริงๆ มาแล้วหนนึง เพราะฉะนั้นผมรู้ดี ผมแค่ทำปากดีและพยายามคิดว่า ‘เรื่องมันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้น’ แค่นั้นแหละ

“การที่ก้องยอมทำขนาดนั้น มันต้องมีเหตุผลสิ”

“ผม... ผม...” ผมนิ่วหน้า

“ถ้าหากสมมติว่าพี่บอกก้องว่าพี่ชอบผู้ชายและพี่ชอบเราล่ะ มันจะทำให้พูดง่ายขึ้นมั้ยว่าเราคิดยังไงกับพี่กันแน่”

ผมถึงกับสะอึกไปอีกครั้ง “พี่... พี่วินเป็นเกย์เหรอ”

“ใช่” เขาตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

“แล้วพี่... พี่ก็ชอบผมด้วย...”

“ใช่”

“ทำไมอะ”

“ไม่รู้ มันชอบของมันเอง” เขายักไหล่

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมรู้สึกว่าใจเต้นแรง

“ตั้งแต่ตอนแรกที่เจอคืนนั้นแหละ แล้วก็...”

“แล้วก็อะไร” ผมสงสัย

“พอเรื่องของพี่ก่อนเหอะ พี่ยอมสารภาพความในใจแล้วนะเว้ย แล้วก้องล่ะ ไม่ได้คิดอะไรกับพี่สักนิดเลยรึไง” เขาก้าวเข้ามาหาผม

“ผม... ผม...” ผมก้มหน้าหลบเขา

“ก้อง มองหน้าพี่” เขาเดินมาจับหัวไหล่ทั้งสองข้างของผม “ก้องจะชกพี่ จะต่อย จะเตะพี่ จะทำอะไรพี่อีกก็ได้ แต่พี่อยากได้ความจริงจากปากก้อง ถ้าหากพี่ไม่มีความหวัง พี่ก็จะไม่วุ่นวายกับก้องอีก เราก็จะเป็นแค่ครูกับลูกศิษย์ที่บังเอิญพักอยู่คอนโดเดียวกัน แค่นั้น”

“พี่วิน ผม... ผมไม่รู้...” ผมไม่กล้าสบตาเขา

“ก้องไม่รู้จริงๆ เหรอวะ สรุปตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่แค่คิดไปเองงั้นดิว่าเราเองก็น่าจะรู้สึกดีๆ กับพี่อยู่บ้าง”

ผมรู้สึกทั้งเขินและกลัวจนรู้สึกร้อนไปหมด “แต่ผมอยากรู้จริงๆ อะว่าพี่วินชอบผมเพราะอะไร บอกได้ป่าว”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ล่ะก็...”

“ก็...” ผมเลิกคิ้วขึ้น รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

เขาถอนหายใจเบาๆ “พี่รักเรามาตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว แต่ไม่ได้รักแบบนั้นนะเว้ย ตอนนั้นมันเป็นแค่ความรู้สึกแบบพี่น้อง พี่รู้สึกผูกพันกับเรามาก ก็คงอย่างที่บอกว่าพี่เคยเห็นตัวตนของพี่ในตัวเรา พี่เลยเอ็นดูเรา รักเราเหมือนกับน้องแท้ๆ แต่พอเราได้เจอกันอีกครั้ง ก้องโตขึ้น เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว ทั้งหน้าตาและนิสัยของเรา มันทำให้ความรักที่พี่เคยมีแปรเปลี่ยนไป พูดแบบนั้นเข้าใจรึเปล่า พี่อะ ชอบคนหน้าแบบเราอยู่แล้ว ตอนเจอกันในคืนนั้นก็รู้สึกปิ๊งเลย และพอพี่ได้ใช้เวลาอยู่กับเรา พี่ก็ยิ่งรู้สึกหมั่นเขี้ยวเรามากขึ้นไปอีก เข้าใจปะวะ ก้อง เราเป็นเด็กดีนะเว้ย เป็นคนน่ารัก ใครอยู่ด้วยก็รัก มีความสุข นอกจากนั้นยังเป็นคนมีหัวคิดอีกต่างหาก ถึงบางทีจะคิดอะไรโง่ๆ ไปบ้างก็เหอะ แต่พี่ก็ชอบที่เราพยายามที่จะทำเพื่อแม่และเพื่อคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเพื่อนๆ หรือแม้แต่เพื่อคนอื่นอย่างพี่ การที่พี่ได้เห็นตัวตนจริงๆ ของเราแบบนี้แหละ มันยิ่งทำให้พี่ชอบเรามากขึ้นไปอีก แต่ก่อนหน้านี้พี่มีคำว่า ‘ครู’ ค้ำคอ จึงพูดไม่ได้ แสดงออกไม่ได้มาก แต่หลังจากนี้พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแล้ว พี่เลยอยากให้เรารู้เอาไว้ว่า ‘พี่ชอบเรา’ นะเว้ย... ตอบแบบนี้โอเครึยัง”

ผมก็รู้นะ ว่าเขาเป็นคนตรงๆ แต่ตรงแบบนี้มันก็ทำเอาผมจุกไปเลยเหมือนกัน ทำไมเขาถึงได้พูดเหมือนกับเขารู้จักผมดีขนาดนั้น ทั้งๆ ที่แม้แต่ตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นคนแบบนั้น ที่สำคัญ ทำไมเขาถึงได้มองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวของผมเยอะนักวะ ทั้งที่คนรอบข้างผมต่างก็พากันส่ายหน้าใส่ผม ไม่มีใครเคยเห็นความดีของผม ไม่เคยมีคนมองผมในด้านดีๆ แม้แต่เพื่อนที่แท้จริงผมก็ยังไม่เคยมี ที่ผ่านมาก็มีแค่แม่คนเดียวเดียวเท่านั้นที่ยังคงรักผม ถึงแม้ว่าผมจะทำเรื่องไม่ดีให้แม่ต้องปวดหัวและเสียใจแค่ไหนก็ตาม แต่นี่เขากลับบอกว่าเขาเชื่อในตัวของผมอย่างนั้นเหรอ เขาบอกว่าเขาชอบผมในแบบที่ผมเป็น ชอบในตัวตนของผม... ตัวตนที่แม้แต่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยเนี่ยนะว่าเป็นยังไง

“ก้อง...”

เสียงของพี่วินปลุกผมจากภวังค์ ผมกะพริบตาและมองหน้าเขา จู่ๆ ดวงตาก็พร่ามัว และรู้สึกถึงหยดน้ำที่ไหลลงมาจากตา

“หืออ...” ผมยกมือขึ้นปาดหยดน้ำออกจากแก้ม นี่ผมร้องไห้เหรอเนี่ย

“ไม่เป็นไรนะ ก้อง” พี่วินดึงตัวของผมเข้าไปกอด “อดีตมันจะเป็นยังไงก็ช่างมัน รู้เอาไว้ว่าตอนนี้นอกจากแม่แล้ว ก้องยังมีพี่ที่รักและเป็นห่วงเรามากๆ อยู่อีกคนก็พอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่น้อยครั้งนักที่ผมจะได้ยิน

ผมจำไม่ได้เลยว่าผมถูกกอดแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ผมไม่เคยกอดแม่ และกับเพื่อนหรือผู้หญิงคนไหนก็ยิ่งไม่เคย หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่เคยมีใครอยากกอดผมมากกว่า นอกจากนั้น ผมยังจำไม่ได้แล้วด้วยว่าความอบอุ่นของจากคนเป็นพ่อนั้นมันเป็นอย่างไร ไม่เคยมีใครทำให้ผมอย่างที่พี่วินทำ ไม่เคยมีใครใกล้ชิดผมแบบเขา และที่สำคัญ ไม่เคยมีใครบอกว่ารักผมและกอดผมเอาไว้ในอ้อมแขนแบบนี้มาก่อนเลย

ผมยกแขนขึ้นกอดเขาแน่น พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะผมนึกถึงตอนที่เขาบอกว่าเขาไม่เคยสอนให้ผมเป็นคนขี้แง แต่แม่งก็ยากจริงๆ ว่ะ หลายต่อหลายครั้งที่ผมได้แต่แสดงความเข้มแข็งปลอมๆ ออกไปให้คนอื่นเห็น โดยเก็บความอ่อนแอไว้ส่วนลึกสุดของใจ หลายๆ ครั้งที่ผมอยากจะร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ได้ ความอัดอั้นทั้งหมดที่เคยมีเริ่มเอ่อล้นออกมามากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ร่างกายของผมสั่นไหวเบาๆ

พี่วินยกมือขึ้นลูบหัวผมช้าๆ จากนั้นเขาก็จุ๊บลงบนกลางกระหม่อมของผม “นานๆ ทีจะระบายออกมาบ้างก็ได้ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก การลองสำรวจความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองและกล้ายอมรับมัน ก็เป็นการแสดงความเข้มแข็งที่แท้จริงอย่างนึงเหมือนกัน”

น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ก็อ่อนโยนของเขา คือสิ่งที่ทำให้ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป จู่ๆ ความเหงา ความเศร้า ความกลัว และความอ่อนแอที่เคยถูกเก็บไว้มานานต่างก็ถูกระบายออกไปผ่านสายน้ำตาที่พรั่งพรู ความรู้สึกเหล่านั้นมันคือสิ่งที่ผมไม่เคยระบายออกไปให้ใครฟัง ไม่สิ ที่จริงผมว่าตัวผมเองยังไม่เคยแม้แต่จะสำรวจหรือรับรู้เลยด้วยซ้ำว่ามีมันอยู่ในก้นบึ้งจิตใจของผมด้วย ที่ผ่านมา ผมคิดว่าแรงผลักดันของการที่ผมอยากจะเป็นคนใหม่ ไม่อยากทำให้แม่เสียใจอีกแล้วนั้นคือความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว่าแท้จริงแล้วมันคือความเหงาและความกลัวที่ตัวเองจะกลายเป็น ‘ไอ้ขี้แพ้’ อย่างที่ถูกญาติพี่น้องและคนอื่นๆ สบประมาทเอาไว้ต่างหาก

หลังจากที่ร้องไห้จนพอใจแล้ว พี่วินก็พาผมไปนั่งลงบนโซฟา ผมเริ่มเล่าเรื่องในวัยเด็กให้เขาฟัง เริ่มตั้งแต่ตอนที่ผมมีเรื่องชกต่อยจริงๆ เป็นครั้งแรก ไปจนถึงครั้งสุดท้ายที่ทำให้หัวเข่าของผมมันพังแบบทุกวันนี้ แต่ผมไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดของวีรกรรมเหล่านั้นหรอก สิ่งที่ผมระบายออกไป มันคือความอัดอั้นที่ผมเก็บไว้มานานต่างหาก ทั้งความอึดอัดที่ต้องเจอแต่ปัญหา ความผิดหวังในตัวเองที่ทำให้แม่เสียใจ ความรู้สึกโดดเดี่ยวจากการที่ถูกมองว่าต่ำต้อยกว่าคนอื่น ไม่ใช่เรื่องฐานะ แต่เป็นพฤติกรรมทางสังคมที่บรรดาพ่อๆ แม่ๆ คนไหนต่างก็ไม่อยากให้ลูกของตัวเองเป็นเพื่อนกับผมเป็นต้น

หลังจากที่ผมระบายไปจนหมดแล้ว พี่วินก็เล่าเรื่องในวัยเด็กของตัวเองให้ผมฟังบ้าง น่าตลกดีที่หลายๆ อย่างที่เขาเล่าออกมา มันฟังดูคล้ายกับชีวิตของผมจริงๆ จนกระทั่งเขาพูดถึงแฟนคนที่เพิ่งเลิกกันไปขึ้นมา

“ที่ผ่านมาพี่ก็เคยมีแฟนผู้ชายแค่สองคนเอง คนแรกคบกันปีนึง คนที่สองเกือบสองปี”

“แล้วทำไมพี่ถึงเลิกอะ”

“จับได้ว่ามันไปมีอะไรกับคนอื่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ทั้งสองคนเลยเหรอ”

“ใช่”

“โห แม่งงง...”

“ตอนก่อนจะคบกัน พี่ก็พอรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นคนแนวๆ นี้ หมายถึงไอ้คนที่สองอะนะ ไม่รู้ดิ พี่ว่าพี่คงชอบคนที่มันดื้อๆ เฮ้วๆ หน่อยมั้ง แต่ปกติตอนอยู่กับพี่ มันก็โอเคนะ พี่คิดว่าพี่คงทำให้มัน ‘เชื่อง’ ได้ แต่เปล่าเลย สุดท้ายสันดานรักสนุกของมันก็แก้ไม่หาย... ช่างมันเหอะ จบไปแล้ว ไม่อยากคิดถึงว่ะ”

“พี่ยังคิดถึงเค้าอยู่อะดิ”

“ไม่เลย” เขาพ่นลมหายใจออกจมูกเบาๆ พร้อมกับเผยอรอยยิ้มเยาะออกมาเล็กน้อย “พี่ไม่เคยเสียดายความสัมพันธ์ที่มันจบเหี้ยๆ สักครั้ง... เอาจริงๆ พี่ไม่เคยรู้สึกเสียดายอะไรเลยด้วยซ้ำ มีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พี่รู้สึกเสียใจและเสียดาย นั่นคือตอนที่พี่ต้องย้ายบ้านและคิดว่าคงจะไม่ได้เจอเราอีกแล้วนั่นแหละ” เขาหันมายิ้มให้ผม

ผมเขินจนหน้าร้อนไปหมด “พี่วินแม่งกะล่อนว่ะ! เชี่ย! ท่าทางจะเจ้าชู้นะเนี่ย!”

“ไม่เกี่ยว พี่มีอะไรคิดอะไรก็พูดไปตรงๆ คนอย่างพี่ มีแค่พูด หรือไม่พูด แค่สองอย่างเท่านั้น ไม่มีโกหกตอแหล”

“ตอนแรกพี่ยังเคยบอกเลยว่าไม่คิดอะไรกับผม”

“ก็เราเป็นครูกับลูกศิษย์กันนี่หว่า แม่งก็... เออ ช่างมันเหอะ!” เขาพูดปัดด้วยสีหน้ารำคาญใจ “แต่พี่ยังไม่รู้เลยนะว่าเราคิดยังไงกับพี่ ก้อง”

“ผม...” ผมหันหน้าหลบเขาไปอีกทาง “ผมก็ไม่รู้ว่ะพี่”

“ไม่ได้ชอบพี่ใช่มั้ย”

“เปล่า... มันก็... ไม่ใช่ว่าไม่ชอบขนาดนั้น...”

“งั้นก็ชอบ”

“มันก็... ไม่รู้ดิ มันก็ชอบแหละ แต่ก็ไม่เชิงอีกอะ มันแบบ ไม่ได้... เอ่ออ...”

“เฮ้ย! เอาไงแน่วะ งั้นสรุปง่ายๆ ตกลงเราชอบผู้ชายรึเปล่า เอาให้ชัดๆ เลย”

ผมไม่ตอบ แต่พยักหน้าเบาๆ จริงๆ ก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่าเขานี่แหละ สเป๊กผมเลย แต่ก็พูดไม่ออก

“เออๆ ก็แค่เนี้ย ไม่เห็นยาก สรุปว่าตอนนี้ก้องรู้แล้วว่าพี่ชอบเรา แล้วไงต่อ รู้สึกยังไงบ้าง และจะทำยังไงต่อไป”

“ก็ไม่ทำไงอะ... เฮ้ยพี่ ผมไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้มาก่อนนะเว้ย ผมก็ไม่รู้จะตอบพี่ยังไง และไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันนั่นแหละ” ผมพูดพึมพำเบาๆ “ขอเวลาผมหน่อยได้มั้ยเล่า...”

เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ แล้วจากนั้นก็ดึงตัวของผมเข้าไปโอบ “มึงนี่มันน่ารักจริงๆ ว่ะ!”

“เฮ้ย! ขึ้นมึงขึ้นกูกับลูกศิษย์เหรอวะ!” ผมโวย

“ก็แค่ตอนนี้แหละวะ อีกไม่กี่เดือนมึงก็ไม่ใช่นักเรียนของกูอีกต่อไปแล้ว”

เราสองคนเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นเบาๆ “เอาจริงๆ ผมก็คงรู้สึกดีกับพี่นิดๆ ล่ะมั้ง...”

“หือ อะไรนะ” พี่วินถาม

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” ผมรีบปฏิเสธทั้งที่เขินจนร้อนหน้าไปหมด

“เฮ้ย เอาดีๆ เมื่อกี้ไม่ได้ยินจริงๆ” เขาถามสีหน้าซีเรียส

“ช่างมันเหอะน่า! ที่สำคัญอะ ช่วยผมคิดก่อนดิว่าพรุ่งนี้แม่มา ผมควรจะบอกแม่ยังไงดี ผมเครียดนะเว้ย”

“ก็บอกเค้าไปตามจริงไง”

“อันนั้นน่ะผมรู้แล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดีนี่หว่า อีกอย่าง ผมไม่รู้ด้วยว่าผมควรจะเล่าให้เค้าฟังขนาดไหน มันยากนะเว้ย พี่”

“ไม่ต้องห่วง” เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย “เดี๋ยวพี่จัดการเอง”



หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-10-2013 18:24:48
ลงให้ 3 ตอนติดเลยนะ เพราะรักนะเนี่ย ไม่อยากให้ค้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 24-10-2013 18:27:54
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: prapawon ที่ 24-10-2013 18:43:11
จุใจมาก 3 ตอนรวด 

 :-[
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: miracle22936 ที่ 24-10-2013 19:17:18
หายค้างเลย ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ตอนหน้าต้องดราม่าแน่ ๆ รู้สึกยังงั้นนะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-10-2013 19:19:41
เอาละเว่ยยยย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 24-10-2013 19:36:44
 :impress2: :-[ :o8: :-[

ว้าววววว มาสามตอนรวดเลยยยยยย
กรี๊ดดดดด พี่วินสุดๆๆๆๆๆๆๆ
เท่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ จะรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 24-10-2013 19:39:26
โอ้วววว 3 ตอนรวด
 :katai2-1:
แอบขำตอนก้องเอาผ้า เอาหนังสือพิมพ์พันตัวไปให้เค้ากระทืบ ฮ่าาาาาา
คิดได้ไง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-10-2013 19:46:46
ด้วยวัย ด้วยไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน น้องเลยยังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองน่ะ
พี่วินให้เวลาน้องหน่อยนะ แต่แค่ที่ต่างคนต่างทำเพื่อกันและกันขนาดนี้แล้วก็เนอะ... :mew3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-10-2013 19:58:20
ขอบคุณมากกกก
อย่างนี้ค่อยรักกันจริง ha ha ha

เรื่องเริ่มคลี่คลายแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 24-10-2013 20:01:51
โอ้ยย  สามตอนรวดด  <3

โหยยน้องก้องพี่วินน่ารักอ่ะ  รอต่อไปนะค่ะ

 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 24-10-2013 20:16:26
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: pammii ที่ 24-10-2013 20:18:07
อ๊ายยยย พี่วิน น่ารักอ่ะ อยากได้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 24-10-2013 20:24:23
อรั๊ยยยย น่ารักมากกกก ทั้งก้องทั้งพี่วิน ทั้งคนเขียน คิกคิก

อ่านตอนนี้แล้วเขินจัง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 24-10-2013 20:28:05
อ๊ากกก!!!! แบบนี้รักเลย

สามตอนรวดด

เต็มอิ่มมากพี่น้องง~!

 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 24-10-2013 20:37:59
จัดเต็ม 3 ตอนรวด
 :pig4: :pig4:

พี่วินใจเย็น อย่าเพิ่งเร่งน้องมัน
หยอดบ่อยๆ แต่เอาแบบไม่เลี่ยน
แม่ก้องจะมาแล้ว ช่วยน้องมันก่อนนะ
ไม่อยากให้แม่ก้องมองก้องเป็นเด็กเกเร
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 24-10-2013 21:08:12
รอบนี้มาเต็มเลย จุใจ


ตอนหหน้าคุณแม่มาจะบอกยังไงเนี้ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-10-2013 21:19:42
ขอบคุณมากจ้า
ที่มาลงต่อให้ 3 ตอนรวด  พี่วินสุดยอดมาก  น้องก้องไม่งงแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-10-2013 21:36:39
นึกแล้วเชียวว่าก้องต้องลุยเดี่ยวแล้วพี่วินมาช่วย
แอบใจหายตอนก้องต่อยพี่วินหลังถูกจูบ สับสนรุนแรงไปนิดนึง ดีที่พี่แกยังกลับมาเลยได้ปรับความเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 24-10-2013 22:10:22
นึกว่าจะโกรธกันซะแล้ว
คุยกันตรงๆแบบนี้ก็ดีเนาะ

กอด3ที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 24-10-2013 22:59:42
อ่านรวด 3 ตอนจุใจมากค่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักพี่วิน >.<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 24-10-2013 23:35:52
เพิ่งตื่นมาเห็น นอนสะดุ้งกับเลขตอน...
โห! นี่มัน... ยาวจุใจเบย ชอบๆ อิอิ
แหม ตอนนี้ก้องมึนดีเนอะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 25-10-2013 00:21:13
 :mew1: จุ๊บให้รางวัล สามตอนรวด
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-10-2013 00:53:06
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ชอบมั่กๆ ค่ะ  รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 25-10-2013 02:16:26
สามตอนรวดเลย ชอบพี่วินอ่าตรงได้ใจจริงๆ ^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 25-10-2013 03:23:24
...รักเหมือนกัน... อ๊างงง เขิน ก็เล่นปล่อยมาตั้ง 3 ตอนนี่นา
ก้องเด็ดมาก ใจนักเลง โดนเป็นโดน ไม่โต้ตอบ ยกเว้นปาก(ปากยังดีอยู่ ใช้ได้ๆ)
แต่มีแอบเสริมเกราะอ่อนไว้หน่อยนึง ฮิฮิ พ่อคนฉลาด ถูกใจกองเชียร์
แล้วออกหมัดไวขนาดนี้ ถ้ามากกว่าจูบ เช่น เผลอคว้าหมับเข้าให้ พี่วินไม่โดนทีเคโอเลยเหรอ! 555
แล้วๆๆๆ แบบนี้พี่วินจะยังไปเรียนต่ออีกมั้ย? มีคู่แล้วเนี่ย ...ไม่ค้างค่ะ แต่ดันอยากรู้ต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 25-10-2013 04:25:06
จุใจมากครับ  :heaven

ใกล้จบแล้วสิเนี่ย ไม่อยากให้จบเลย  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 25-10-2013 05:06:27
over react อ่ะ  ปฏิกิริยาต่อยใส่ แล้วด่าแบบนี้มันคนเกลียดเกย์นี่หน่า   
เราว่าถ้าพี่วินก็เป็นสเปคของก้อง   แล้วก้องก็ชอบผู้ชายด้วย  ไม่น่าจะ
รุนแรงขนาดนี้ 

ลงให้ 3 ตอนนี้เป็นของฝากจากโรงพยาบาลหรือเปล่าจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 25-10-2013 07:26:41
3 ตอนรวด ขอบคุณมาก ๆ นะคะ >.<

น้องก้องคงจะเขิน ๆ แหละ
ไม่ค่อยกล้าบอกพี่วินไปว่า พี่แหละสเป๊คผม อิอิ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 25-10-2013 16:57:03
การตัดสินใจของก้อง คือ แบบนี้เองเหรอเนี่ย มาตามที่พวกนั้นนัด แต่ตั้งใจจะไม่ตอบโต้
เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ และเพื่อจะปกป้องพี่วิน ไม่ให้ถูกไล่ออก ตามที่พวกนั้นขู่
จะว่าเข้าใจ ก็พอจะเข้าใจความคิดของก้องนะ แต่ตัดสินใจแบบนี้ มันเสี่ยงชีวิตเกินไปหน่อยมั้ยเนี่ย
ถึงโดนหนักขนาดนั้น แต่มีแค่แผลฟกช้ำ หัวแตก ไม่มีกระดูกหัก เพราะเตรียมป้องกันตัวไปพร้อมก็เถอะ
แต่้ถ้าพวกนั้นมีอาวุธที่ร้ายแรง อย่างมีดใหญ่ ๆ  รึ ขนาดเล่นปืนขึ้นมาล่ะ พันตัวหนาขนาดไหน ก็คงช่วยไม่ได้
ไม่ผิดสัญญากับแม่ ได้ปกป้องพี่วินตามที่ต้องการ แต่ถ้าไม่มีชีวิตรอดกลับไป ที่ทำไปก็คงไม่มีประโยชน์
แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าโชคดี ที่ไม่เป็นอย่างนั้น และดีที่พี่วินไปช่วยไว้ได้ทัน พี่วินรู้จากบอมนี่เอง
งานนี้ ถ้าไม่ได้บอม ก้องคงแย่แน่ ๆ  เพื่อนที่แสนดีจริง ๆ แต่ก็นะ เลยกลายเป็นว่าพี่วิน มีเรื่องจนต้องลาออกอีก
พี่วิน ก็มีสัญญากับแม่และลุง เหมือนของก้องเลย ต้องมาผิดสัญญาเพราะช่วยก้อง แต่มันก็เพราะความจำเป็นจริง ๆ นินะ
รู้สึกพี่วินกับก้องเนี่ย สองคนนี้จะมีชะตาชีวิตคล้าย ๆ กันเลยนะ แล้วถึงจะมีเรื่องขนาดนี้ แต่พี่วิน ก็พยายามถามเหตุผลจากก้อง
ทำให้รู้สึกดี ที่มันแสดงว่าพี่วินเชื่อใจ ว่าก้องเองก็ไม่ได้อยากจะมีเรื่องจริง ๆ และที่สำคัญที่สุด ก้องทำเพื่อพี่วิน
ว่าแต่ สองคนนี้ มีดวงที่ดึงดูดปัญหาการทะเลาะวิวาทเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ เหรอเนี่ย มาอยู่ด้วยกัน ก็ยิ่งดึงดูดเป็นสองเท่าน่ะสิ

พี่วิน! เราก็รอพี่วินสารภาพความในใจกับก้องอยู่นะ ตอนบอกชอบครั้งแรก อุตส่าห์ดีใจ ดันมาบอกว่าพูดเล่นซะอีก
แล้วจู่ ๆ ตอนก้องกำลังสับสน ดันจู่โจมซะงั้นอ่ะ สรุป ยังไม่ทันได้บอกรักน้อง แต่การกระทำดันไปก่อนซะแล้วนะพี่วิน
มันก็สมควรที่ก้องจะคิดอะไรไปมากมาย เด็กขนาดก้อง ก็คงจะกลัวและกังวลไปหมด กับการไม่พูดแต่ทำเลยของพี่วินเนี่ย
แต่ถึงจะเข้าใจก้อง แต่ก็สงสารพี่วินนะ ทั้งคำพูดและการกระทำของก้อง เหมือนรังเกียจอย่างนั้น ถ้าเราเป็นพี่วิน ก็คงเสียใจ
ยังดีที่พี่วิน มีความเป็นผู้ใหญ่มากพอนะ ยังมาดูแลก้องเหมือนเดิม แถมให้คำแนะนำที่ดีกับก้องอีก ดีแล้วล่ะที่ก้องไม่โกหกแม่
พอกลับมาพูดกันดี ๆ เริ่มจากบอกชอบก่อน ก้องก็เข้าใจนะ แหม๋ พี่วิน ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องเจ็บตัวละ
พี่วิน โหมดอบอุ่นอ่อนโยน กับ ก้อง โหมดอ่อนแอ เนี่ย น่ารักดีจัง ต่างฝ่ายต่างรับฟังเรื่องราวของกันและกัน มันรู้สึกดีจัง
แต่จนแล้วจนรอด ก้องก็ไม่ยอมรับซะทีนะว่าชอบพี่วินเหมือนกัน ทั้งที่พี่วินก็สเป็คแท้ ๆ ทำเพื่อพี่วินขนาดนั้นแท้ ๆ
มันจะแค่รู้สึกดีนิด ๆ ได้ไงนะก้องเนี่ย พวกไม่ยอมรับความจริง แต่ก็เอาเหอะ แสดงออกขนาดนี้แล้ว พี่วินก็ชัดเจนซะขนาดนี้
แถมใจก้อง ดูก็รู้แล้วว่าให้พี่วินไปแล้วเต็ม ๆ รอก็แค่ ยอมรับ และบอกออกมาเป็นคำพูดให้พี่วินได้ฟังก็แค่นั้น
แต่ว่า พอพูดถึงแม่ก้อง แม่ก้องรู้รึเปล่านะเรื่องที่ก้องชอบผู้ชาย ถ้าไม่รู้ แล้วจะยอมรับได้รึเปล่า แล้วที่สำคัญ
กับพี่วิน คนที่แม่ก้องคิดว่าเป็นต้นแบบทำให้ก้องกลายเป็นเด็กเกเร ซะด้วยนี่สิ ท่าทางจะปัญหาใหญ่นะเนี่ย
จะได้เป็นบทพิสูจน์ความรักของคู่นี้รึเปล่า รอลุ้นว่าพี่วินกับก้อง จะจัดการกับปัญหายังไงต่อไป
.........................................................................................
มาทีเดียวสามตอน ยาวจุใจ คนเขียนใจดีจัง ขอบคุณมากค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 25-10-2013 18:38:45
 :sad11: ก้องได้กินขนมตุบตั๊บอิ่มเลย :ruready
พี่วินบอกชอบก้องแล้ว มาขัดใจตรงที่อีก้องนิสิ อืมอ้ำอยู่นั่นแหละบอกๆไปสิว่าสเปกแกก็อีพี่วินนี้ไงว่ะ น่าเตะสักดอกมันอาจจะพูดออกมากก็ได้แม่งขัดใจจจจจ แต่ก็ทำให้พี่วินรู้อะนะว่าชอบผู้ชายด้วยกัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 25-10-2013 23:13:21
โห...พี่วินแมนสุดๆ ขนาดก้องไล่ขนาดนี้
แต่ก็ยังมาดูแลเหมือนเดิม ก้องรีบคว้าไว้
ให้ไวอย่าเสียเวลา
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 10-12: 24 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: gboykung ที่ 26-10-2013 04:27:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 26-10-2013 07:45:33
ตอนที่ 13


วันรุ่งขึ้น แม่โทรมาหาผมแต่เช้าเพื่อบอกว่ากำลังออกจากบ้าน และจะมาถึงที่คอนโดของผมราวๆ กี่โมง ผมอยากบอกแม่ใจจะขาดว่าไม่ต้องมา แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะสารภาพความจริงกับแม่ ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอย่างไรและพูดอะไรบ้างก็ตาม แต่พี่วินก็ยืนยันกับผมว่าเขาจะคอยช่วยผมเอง ผมถามว่าเขาจะช่วยผมยังไง แต่เขาก็ไม่ยอมบอก เวลาผ่านไปจนกระทั่งตกบ่าย แม่ก็มาถึง

ผมลงจากห้องไปรับแม่ที่ชั้นหนึ่ง และเมื่อแม่เห็นรอยฟกช้ำบนหน้าและผ้าพันแผลบนหัวของผม แม่ก็ตาโตและหน้าซีดเผือดทันที

“ตาก้อง! นี่แกไปทำอะไรมา!” แม่ถามขึ้นหลังจากที่ผมเปิดประตูออก

“เดี๋ยวเราไปคุยกันข้างบนดีกว่านะ แม่ ก้องมีเรื่องอยากบอกแม่อะ...”

“นี่แกไปมีเรื่องมาอีกแล้วใช่มั้ย!” น้ำเสียงของแม่เริ่มเปลี่ยนจากความกังวลเป็นความโกรธ “ทำไมแกถึงทำตัวแบบนี้ ตาก้อง! ไหนแกสัญญากับแม่ไว้แล้วไง! แล้วนี่เป็นอะไรมากรึเปล่า ใครเป็นคนพาแกไปหาหมอ!” น้ำเสียงของแม่เปลี่ยนกลับไปเป็นความกังวลอีกครั้ง

“เราไปคุยกันบนห้องเถอะแม่ อย่าเพิ่งเสียงดังตรงนี้น่า” ผมนิ่วหน้า

“แบบนี้แม่ไม่ชอบเลยนะ ก้อง” ท่าทางของแม่เริ่มหงุดหงิดแล้ว

“ก้องรู้น่ะ แต่แม่ไม่ต้องห่วงหรอก ก้องไม่ได้เป็นอะไรมากเลย เห็นมั้ยเนี่ย ที่สำคัญ อาจารย์ที่โรงเรียนเค้าก็เป็นคนช่วยก้องทุกอย่าง และก้องก็ไม่ได้ไปหาเรื่องชกต่อยใครก่อนเลยด้วย สาบานเลยเอ้า”

เสียงดัง ‘ติ๊ง’ เบาๆ และประตูลิฟต์ที่เปิดออกช่วยผมเอาไว้ได้พอดี ผมเดินนำแม่เข้าไปในลิฟต์ จากนั้นผู้หญิงอีกสองคนก็รีบเดินตามพวกเราเข้ามาข้างใน เราจึงไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลยจนกระทั่งขึ้นไปถึงที่ชั้น 15

เมื่อก้าวออกจากลิฟต์แล้ว ผมก็พูดขึ้นต่อ “และตอนนี้อาจารย์ก้องคนนั้นเค้าก็รอเจอแม่อยู่ที่ห้องด้วยนะ”

“อาจารย์แกน่ะเหรอ” แม่ทำหน้าแปลกใจ “เค้ามาอยู่ที่ห้องแกได้ยังไง และเค้าจะมาเจอแม่เรื่องอะไร”

“ก็เค้าบังเอิญพักอยู่ที่คอนโดนี้เนี่ยแหละ และเค้าก็จะมาช่วยคุยให้แม่เข้าใจไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะต่อให้ก้องพูดไป แม่ก็คงไม่เชื่อก้องอยู่ดี จริงปะล่ะ”

แม่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเดินนำแม่ตรงไปที่ห้องด้วยหัวใจที่เต้นไม่ค่อยจะเป็นจังหวะ เพราะถึงผมจะบอกแม่ไปด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจอย่างนั้น แต่ที่จริงแล้วผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าผมควรทำตัวยังไง และพี่วินจะพูดกับแม่ว่ายังไงบ้าง และที่สำคัญ ผมว่าแม่เองก็น่าจะจำพี่วินได้ ถ้าหากแม่รู้ว่าอาจารย์คนที่ผมพูดถึงคือพี่วินแล้วล่ะก็ แม่จะมีปฏิกิริยายังไงวะเนี่ย

ผมจับลูกบิดประตูค้างอยู่ครู่หนึ่ง ใจก็นึกลังเลว่าจะเอายังไงดี

“เป็นอะไรของแก ตาก้อง” แม่พูดขึ้น

“เปล่านี่”

ทันทีที่สิ้นเสียงของผม ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากข้างใน

พี่วินยกมือขึ้นไหว้แม่ของผม “สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ...” แม่ยกมือขึ้นรับไหว้งงๆ แค่ดูหน้าแม่ผมก็รู้ได้ทันทีว่าสมองของแม่ต้องกำลังทำงานประมวลผลอยู่อย่างรวดเร็วแน่ๆ “เอ๊ะ นี่เรามันเจ้าวินใช่มั้ยเนี่ย”

พี่วินยิ้มน้อยๆ “จำผมได้ด้วยเหรอครับ”

“นี่มันยังไงเนี่ย แม่งงไปหมดแล้ว ไหนบอกว่าอาจารย์แกเค้าจะมาคุยกับแม่ไง ก้อง” แม่หันมาหาผม จากนั้นก็หันกลับไปหาพี่วินอีกครั้ง “แล้ววินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“เข้าไปนั่งคุยในห้องก่อนเหอะแม่ เดี๋ยวก้องเล่าให้ฟัง” ผมดันตัวแม่เข้าไปในห้อง

เมื่อทุกคนนั่งลงบนโซฟาและเก้าอี้เรียบร้อยหมดแล้ว พี่วินก็เป็นฝ่ายเล่าเรื่องที่เขากลายเป็นมาอาจารย์สอนเคมีที่โรงเรียนของผมให้แม่ฟัง รวมทั้งเรื่องที่เราบังเอิญเจอกันก็ด้วย แต่เว้นรายละเอียดที่ว่าเขาไปทำอะไรในซอยนั้นตอนค่ำๆ มืดๆ เอาไว้ และในที่สุดเขาก็เล่าถึงตอนที่มีเด็กคนอื่นเข้ามาหาเรื่องผม

“ก้องมันกลัวว่าเด็กพวกนั้นจะทำร้ายเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน มันก็เลยยอมเอาตัวเองเข้าแลกน่ะครับ แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางโรงเรียนเราออกค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างให้ก้อง และก็จัดการเอาผิดนักเรียนตัวการเหล่านั้นได้ครบทุกคนแล้วด้วย แต่ผมเข้าใจว่านั่นมันอาจจะยังไม่พอ ถ้าหากว่าแม่ต้องการจะเอาเรื่องเด็กเหล่านั้นให้ถึงที่สุดโดยการไปแจ้งตำรวจ ผมก็เข้าใจ เมื่อคืนผมคุยกับท่านผู้อำนวยการแล้ว ท่านเองก็บอกว่ามันเป็นสิทธิ์ของผู้ปกครองที่สามารถทำได้ แต่ถ้าหากเป็นไปได้ ท่านก็อยากจะให้ทางโรงเรียนเป็นคนติดต่อประสานงานเองทั้งหมด เพื่อไม่ให้เรื่องราวมันบานปลายจนทำให้เด็กคนอื่นๆ ต้องตื่นตระหนก รวมไปถึงอาจจะยิ่งทำให้ความบาดหมางของนักเรียนทั้งสองโรงเรียนต้องแย่ลงไปอีกน่ะครับ”

แม่ที่นั่งฟังอย่างเงียบๆ มาตลอดตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก “พูดแบบนี้มันจะง่ายไปหน่อยมั้ง วิน แม่ว่าทางโรงเรียนก็แค่ห่วงชื่อเสียงของตัวเองมากกว่า และไอ้การที่ทางโรงเรียนของฝ่ายนั้นไปจัดการกับเด็กของตัวเองน่ะ แม่ก็ไม่รู้มันไปลงโทษอะไรบ้าง และมีอะไรมาการันตีได้ว่าพวกนั้นจะไม่มายุ่งกับลูกของแม่อีก”

“ตอนนี้เด็กๆ พวกนั้นถูกสั่งพักการเรียนเรียบร้อยแล้วครับ และถ้าหากว่าเกิดเรื่องพิพาทขึ้นอีกก็จะถูกไล่ออกสถานเดียว นอกจากนั้นทางโรงเรียนของเรา ซึ่งนักเรียนเราเป็นผู้เสียหาย ก็จะเอาเรื่องกับทางโรงเรียนนั้นอย่างถึงที่สุดด้วย ดังนั้นพวกเค้าจึงไม่มีตัวเลือกมากนักนอกจากคุมเด็กของตัวเองให้ดีที่สุด นี่คือเงื่อนไขที่เรายื่นไปเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเหล่านั้นมาหาเรื่องก้องหรือคนอื่นๆ อีก... ผมเข้าใจว่ามันอาจจะฟังดูเชื่อถือไม่ค่อยได้นัก แต่ผมก็อยากให้แม่ลองให้โอกาสแก่เด็กๆ พวกนั้น โรงเรียน และรวมถึงตัวเจ้าก้องเองด้วยนะครับ ก้องมันอาจจะดูเป็นเด็กแบบนี้ก็จริง แต่มันก็มีจิตใจดี และยังพูดกับผมอยู่เสมอว่ามันไม่อยากจะมีปัญหาอะไรเพื่อให้แม่ต้องเสียใจอีก เพียงแต่ว่าครั้งนี้ก้องมันเลือกที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเด็กคนอื่นๆ ซึ่งผมว่ามันเป็นการกระทำที่กล้าหาญและแสดงถึงจิตใจที่ดีมากๆ ของมันนะครับ ถึงแม้ว่าที่จริงผมจะคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่ หุนหันพลันแล่น อันตราย และขาดความรอบคอบมากเกินไปหน่อยก็ตามเถอะ” พี่วินจบประโยคด้วยการส่ายหน้าเบาๆ

“เอาตัวเองเข้าแลกเพื่อคนอื่นๆ เหรอ จะบ้ารึไงกัน! แม่ที่ไหนมันจะอยากเห็นลูกตัวเองถูกรุมกระทืบปางตายเพื่อเด็กคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จักแบบนั้น” แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดีขึ้นกว่าตอนแรกสักเท่าไหร่

“ผมรู้ครับ แต่นั่นก็อาจจะเป็นความผิดของผมเองส่วนหนึ่งที่เคยสอนให้ก้องมันปกป้องคนอื่นๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว มันอาจจะคิดและทำไปแบบนั้นโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ และเท่าที่ผมรู้มา นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ก้องมันมีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่นๆ มาหลายครั้งด้วยใช่มั้ยล่ะครับ”

แม่หันมามองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ก็จริงของวิน... แม่รู้ว่าก้องมันไม่ใช่คนเลวโดยสันดานหรือเป็นเด็กเกกมะเหรกเกเรอะไรหรอก เฮ้อออ...” แม่เงียบไปพักหนึ่ง ท่าทางใช้ความคิด “เออ เอาเหอะ! จะว่าแม่ชินกับเรื่องพวกนี้แล้วก็คงได้ล่ะมั้ง แต่หัวอกคนเป็นแม่น่ะ รู้ว่าลูกของตัวเองมีเรื่องต้องเจ็บตัว ถึงจะชินสักเท่าไหร่ แต่มันก็อดเจ็บแทนและเป็นห่วงไม่ได้หรอกนะ แต่แม่จะไม่เอาเรื่องทางโรงเรียนหรือเด็กพวกนั้นแล้วก็ได้ แม่เชื่อใจวิน”

“ขอบคุณมากครับ ผมรับปากว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างดีที่สุด”

ผมมองหน้าแม่ด้วยความแปลกใจ ทำไมมันดูง่ายขนาดนี้วะเนี่ย แต่ในขณะที่แม่ยังคงมีสีหน้ายุ่งยากใจอยู่เล็กน้อย พี่วินกลับเหลือบมามองผมพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก

“แล้วที่โรงเรียนเจ้าก้องมันเป็นยังไงบ้าง วิน มันตั้งใจเรียนรึเปล่า แม่เห็นผลสอบมันออกมาแล้วก็กลุ้มใจ มีแต่คาบเส้นๆ ทั้งนั้น”

“ก้องอาจจะไม่ใช่เด็กหัวดีอะไรมากมาย แต่มันก็ไม่เคยโดดเรียนหรือไม่ส่งงานวิชาผมนะครับ ผมว่าน้องมันก็คงกำลังพยายามเต็มที่ แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลก้องให้เป็นอย่างดี อย่างน้อยๆ ก็จนหมดวิชาของผมเทอมนี้นั่นแหละ”

“อ้าว แล้วเทอมหน้าวินจะไม่ได้สอนก้องแล้วเหรอ”

“ไม่ครับ เพราะผมยื่นเรื่องลาออกไปแล้ว”

“อ้าว!”

“เพื่อแสดงความรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และที่ทำให้ก้องต้องบาดเจ็บแบบนี้ด้วยครับ” พี่วินอธิบายสั้นๆ แต่หนักแน่น

แม่ดูเหมือนอยากจะถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่ออีก แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจหันมาหาผมแทน “ทำไมก้องไม่เห็นเคยบอกแม่เลยว่าเจอพี่วินที่นี่”

“ก็...” ผมอ้าปากกำลังจะตอบ แต่สุดท้ายก็ต้องชะงักไป “เออนั่นดิ ทำไมวะ” ผมนิ่วหน้า “อ๋อๆ นึกออกแล้ว ก็ก้องกลัวแม่จะ... เอ่ออ จะไม่ชอบใจอะดิ เห็นพี่วินบอกว่า แม่เป็นคนพูดเองไม่ใช่เรอะ ว่าแม่คิดว่าพี่วินคือตัวการที่ทำให้ก้องชอบใช้กำลังอะไรนั่นน่ะ”

“อ้าว แล้วมันเรื่องจริงมั้ยล่ะ”

“จริงครับ” พี่วินตอบทันควัน

“เห็นมั้ยล่ะ” แม่หันมามองผม “แต่ความจริงอีกอย่างคือสมัยก่อนวินเองก็รักและคอยดูแลก้องมาตลอด เป็นเพื่อนเล่นให้ก้องบ้าง ช่วยดูแลก้องเวลาแม่ไม่อยู่บ้านบ้าง เรื่องดีๆ เหล่านั้นทำไมแม่จะไม่รู้”

ทำไมพอได้ยินอย่างนั้นแล้วผมถึงรู้สึกเขินขึ้นแปลกๆ ชอบกลแฮะ

“ไม่ใช่แค่ตอนนั้นหรอกครับ” พี่วินพูดขึ้น

“หือ ว่าไงนะ วิน”

“ผมบอกว่าไม่ใช่แค่ตอนนั้นหรอกครับ ที่ผมรักและอยากจะดูแลก้องน่ะ”

“เฮ้ย! พี่วิน!!” ผมร้องขึ้นเสียงดัง

“อย่าเสียงดังน่ะ ก้อง!” แม่เอ็ดผม จากนั้นก็หันไปหาพี่วินด้วยดวงตาเป็นประกาย ผมว่าผมเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากแม่ด้วยซ้ำ “วินพูดต่อซิ”

พี่วินยิ้มน้อยๆ “ผมชอบลูกชายแม่ครับ ผมอยากจะเป็นคนช่วยดูแลก้องแทนแม่ ไม่ให้เหลวไหลทั้งเรื่องเรียนและไม่ให้มีปัญหาชกต่อยเกิดขึ้นอีก ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นครูสอนก้องในโรงเรียนแล้วก็ตาม แต่ผมสัญญาว่าผมจะดูแลก้องให้ดีที่สุด ทุกเวลา และตลอดไป”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเท่านั้นแหละ ผมก็รีบลุกขึ้นยืนทันที “พี่วินนน!!”

“เงียบนะ ตาก้อง!” แม่หันมาดุผมอีกรอบ “โวยวายทำไมเนี่ย เขินนักรึไง!”

“แม่!!”

“เออ จะเขินทำไมวะ ก้อง เมื่อวานพี่ก็สารภาพกับเราไปรอบนึงแล้วไง” พี่วินหันมานิ่วหน้าใส่ผม

“ว้ายยย! เหรอ!! นี่วินเพิ่งสารภาพกับตาก้องเหรอว่าวินชอบมันน่ะ ไหนๆ เล่าให้แม่ฟังซิ แล้วทำไมเราถึงไปชอบมันได้ล่ะ มันมีอะไรดี ไอ้ลูกชายแม่เนี่ย” แม่ผมโน้มตัวเข้าหาพี่วินด้วยสีหน้าสนอกสนใจ น้ำเสียงและท่าทางเปลี่ยนไปจากตอนแรกแบบหน้ามือเป็นฝ่าเท้า

นี่มันอะไรกันวะเนี่ยเฮ้ยยย! ทำไมมันหักมุมแบบนี้อะ!

“แล้วเจ้าก้องมันว่ายังไงบ้าง มันชอบวินรึเปล่า ตกลงมันชอบผู้ชายมั้ย”

“เฮ้ยย!!”

“ที่ถามแบบนั้นนี่แปลว่าแม่เองก็พอรู้อยู่แล้วเหรอครับ”

“เฮ้ยยยย!!”

“ก็พอเอะใจนิดหน่อยน่ะนะ แม่เห็นมันไม่มีแฟนสักที พอถามเรื่องผู้หญิงก็ชอบทำเขิน ทำบ่ายเบี่ยง และแม่เคยทำความสะอาดห้องมันแล้วไปค้นเจอมันเก็บนิตยสารที่มีนายแบบผู้ชายหุ่นดีๆ อยู่หน้าปกเก็บไว้ 2-3 เล่ม ก็เลยเอะใจอยู่”

“เฮ้ยยยยย!! แม่!!” ผมร้องดังขึ้นกว่าเดิมซะอีก นี่แม่เคยเจอหนังสือ Atti... เฮ้ยย! คือแบบ เฮ้ยยยย!!!

“น่ารำคาญน่ะ! ตาก้อง!! จะไปเดินเล่นที่ไหนก่อนก็ไป แม่จะคุยกับวิน!”

ผมมองหน้าแม่สลับกับพี่วิน รู้สึกเขินจนแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่พี่วินกลับมองหน้าผมแล้วยิ้มน้อยๆ พร้อมกับยักคิ้วให้ผม เหมือนกำลังจะบอกผมว่าเขาได้ชัยชนะมาเรียบร้อยแล้วยังไงอย่างนั้น เมื่อเห็นแบบนั้น ผมจึงคว้ากุญแจห้องขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินจ้ำออกจากห้อง ถ้าอยากคุยนักก็คุยกันไปเลย แม่งงง!

ผมเดินลงจากคอนโดด้วยอารมณ์หงุดหงิด แต่เมื่อผมลองถามตัวเองดูดีๆ แล้ว ผมก็ชักจะไม่แน่ใจว่าผมกำลังหงุดหงิดเรื่องอะไร ผมโมโหใครอยู่ หรือที่จริงแล้วผมแค่กำลังอายเพราะสิ่งที่แม่กับพี่วินกำลังคุยกันอยู่กันแน่

ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่จะสงสัยในตัวของผมอยู่แล้ว และยิ่งไม่เคยคิดเข้าไปใหญ่ว่าแม่จะโอเคกับเรื่องนี้ได้ขนาดนั้น คือที่จริงผมก็รู้นิสัยแม่ตัวเองอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนตรงๆ ค่อนข้างขวานผ่าซาก และไม่ค่อยจะจริงจังซีเรียสกับอะไรมากนัก นอกจากเรื่องของผมและครอบครัว แต่ปฏิกิริยาของแม่หลังจากที่พี่วินบอกว่าเขาชอบผมมันเกิดคาดไปเยอะจริงๆ ว่ะ คือเกินไปเยอะจนผมรับไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่ผมชักรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยซะแล้วสิ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนจะกำลังคุยอะไรกันอยู่บ้าง และชีวิตของผมจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป

เพื่อแก้อาการหงุดหงิด ผมจึงเดินไปซื้อของกินที่เซเว่นกลับมานั่งกินอยู่ใต้คอนโด ผมไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของพี่วินกับแม่อยู่ แต่ไปๆ มาๆ ผมก็กลับมาคิดถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อพี่วินเข้าจนได้

เอาจริงๆ ผมยอมรับแล้วล่ะว่าชอบเขา ผมไม่โกหกตัวเองแล้วก็ได้วะ แต่ที่ผมไม่แน่ใจว่าผมขอบเขาแบบไหนนั้น มันคงเป็นเพราะว่าผมกลัวมากกว่า ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยได้ใกล้ชิดใครหรือผู้ชายคนไหนแบบพี่วิน และผมก็ไม่เคยถูกใครจู่โจมใส่แบบนี้มาก่อนด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครบอกว่ารักหรือชอบผม ไม่เคยมีใครกอดผมแบบที่เขาทำ มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ นะเว้ย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ผมกลัว เพราะผมไม่กล้าที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง หรือถ้าพูดให้ถูกคือผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะแสดงออกไปยังไง

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่าผมอยากมีแฟนนะ แต่พอมีคนมาชอบผมเข้าจริงๆ ผมกลับเป็นฝ่ายทำตัวไม่ถูกซะเองแบบนี้มันจะไหวเหรอวะเนี่ย

โอ๊ยยยย! ยิ่งคิดผมก็ยิ่งรู้สึกเขินเข้าไปอีก!

“เฮ้ย”

เสียงของผู้ชายที่ดังขึ้นด้านหลังของผมทำเอาผมสะดุ้งแทบสุดตัว

“พี่วิน! ทำไมชอบโผล่มาเงียบๆ แบบนี้วะ ตกใจนะเว้ย!”

“พูดให้มันดีๆ” เขาทำหน้าดุ

“พูดไม่ดีแล้วจะทำไม”

เขาจ้องหน้าผมไม่กะพริบโดยไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย แต่แค่สีหน้าละแววตาของเขานั้นก็ทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ก่อนแล้ว

“ขอโทษ... ครับ” ผมก้มหน้าพลางพึมพำเบาๆ

“ทำไมไม่เอาโทรศัพท์ลงมาด้วย แม่ให้มาตามขึ้นห้องได้แล้ว”

ผมตบกระเป๋ากางเกงของตัวเอง “อ้าวว เออ ไม่ได้ไม่เอามา แต่ลืม”

“ก้อง”

“ครับ”

“แม่เราเค้าไม่ว่าอะไรเลยนะ ที่เราชอบผู้ชายน่ะ กลับขึ้นไปแล้วก็พูดกับเค้าให้ดีๆ อย่าทำตัวเหวี่ยงแบบเมื่อกี้อีก มีพ่อแม่ไม่กี่คนนักหรอกนะครับ ที่จะรัก เข้าใจ และยอมรับในตัวลูกกับเรื่องแบบนี้ได้น่ะ”

“ผมไม่ได้เหวี่ยงสักหน่อย” ผมรีบแก้ตัว “เมื่อกี้ผมแค่...”

“แค่อะไร”

ผมก้มหน้าหลบตาเขาอีกครั้ง “เปล่าครับ... ขอโทษ...”

“ขึ้นข้างบนกันเถอะ ตอนเย็นเราจะออกไปกินข้าวด้วยกัน”

“พี่วิน เดี๋ยว” ผมจับชายเสื้อของเขาเอาไว้ “ผมพูดตรงๆ เลยนะ ผมทำตัวไม่ถูกอะพี่”

“เรื่องอะไร”

“ก็เรื่อง... เนี้ย เรื่องของพี่ เรื่องของผม เรื่องของแม่ ทุกเรื่องเลย” ผมนิ่วหน้า ชักเริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมาอีกครั้ง “ผมบอกพี่ไปเมื่อคืนแล้วไงว่าผมไม่คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ ผมไม่เคยใกล้ชิดใคร ไม่เคยมีใครทำอะไรให้ผมแบบที่พี่ทำ ไม่เคยต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกแบบนี้ ผมควรจะทำยังไงดีวะ พี่ ผมถามจริงๆ เลย ผมควรทำยังไงดี...”

เขามองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส “คิดอะไรมากมายวะ เพิ่งจะอายุแค่นี้ อยากทำอะไรยังไง ก็ทำไปเลย ไม่ต้องไปคิดเยอะนัก เป็นตัวของตัวเอง ทำแบบที่เคยทำมาตลอดนั่นแหละ ดีแล้ว ทั้งพี่ แม่ และเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ต่างก็รักเราเพราะเราคือเรานะ ไอ้ก้อง”

ผมคิดตามที่เขาพูด จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ “แปลว่าให้ผมต่อยพี่แบบครั้งนั้นได้อีกเหรอ”

“ถ้าคิดว่าพี่สมควรโดนอีกก็เอา” เขาตอบกลับด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังเกินคาด

“ผมขอโทษนะพี่ ตอนนั้นผมตกใจอะ ก็เลย...”

“ไม่เป็นไร พี่สมควรโดนเอง”

“พี่เจ็บป่าววะ”

“นิดหน่อย แต่ไม่เจ็บเท่าเจ็บใจหรอก”

“ทำไมอะ งง เจ็บใจอะไร”

“ก็เจ็บใจที่ทำให้ก้องต้องรู้สึกไม่ดี”

“หูยยยยย จะอ้วก!”

“หน้าพี่เหมือนคนพูดเล่นเหรอ” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย

“ขึ้นข้างบนกันเหอะพี่ เดี๋ยวแม่จะรอนาน” ผมเปลี่ยนเรื่อง จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในคอนโด

ในขณะที่อยู่ในลิฟต์กันตามลำพังแค่สองคน เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันออกมาอีก และในตอนที่ลิฟต์กำลังจะหยุดที่ชั้นของผม จู่ๆ เขาก็เขยิบเข้ามาขโมยหอมแก้มผมแบบไวๆ ไปหนึ่งที

“เฮ้ยย!!” ผมสะดุ้งพร้อมกับยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองตามสัญชาติญาณ

เขาหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไป ทิ้งให้ผมยืนอยู่ในลิฟต์แบบนั้น

“พี่วินนน!!” ผมรีบวิ่งตามเขาออกไปก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง จากนั้นก็กระโดดขึ้นขี่หลังของเขาแบบไม่ทันให้เขารู้ตัว

“เฮ้ยย!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็รีบใช้แขนทั้งสองข้างรองรับตัวของผมเอาไว้ทันที

“ครั้งหน้าเล่นแบบนั้นอีกเดี๋ยวจับหักคอนะเว้ย!” ผมพูดพลางล็อคคอของเขา “กล้องวงจรปิดก็มี อายเค้ามั่งมั้ยยยย!!”

“อ้าว ห่วงกล้องวงจรปิด กลัวคนเห็น แต่ไม่เขินที่พี่หอมแก้มแล้วเหรอ เออดีๆ”

“กวนต...!!” ผมรั้งปากไว้ได้ทัน แต่ก็ล็อคแขนที่รัดคอเขาไว้ให้แน่นขึ้นแทน

“แอ่กก..!! หายใจไม่ออกเว้ย!” เขาปล่อยมือที่ประคองตัวผมไว้ออกข้างหนึ่งมาตีแขนผม

“อยากให้เป็นตัวของตัวเอง อยากให้ทำตามที่อยากทำ ไม่ต้องคิดเยอะ ก็นี่แหละ!”

“ยอมๆๆ!!”

เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้นแล้วผมจึงยอมคลายวงแขนออก แต่ก็ยังคงกอดคอขี่หลังเขาอยู่ดี

“พี่ไม่มีคนขี่หลังแบบนี้มานานมากแล้วนะ”

“ผมก็ไม่ได้ขี่หลังใครแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน”

“คนสุดท้ายที่พี่ให้ขี่หลังก็คือเรานั่นแหละ”

“ผมว่าผมก็คงขี่หลังพี่เป็นคนสุดท้ายเหมือนกัน...”

เขาพาผมเดินตรงไปที่ห้องโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว เขาก็ปล่อยตัวของผมลง เรามองหน้าและส่งยิ้มให้กัน จากนั้นผมก็ไขกุญแจห้อง รู้สึกทำไมหัวใจมันพองโตและเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ ชอบกล

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-10-2013 08:02:22
คุณแม่เริศมาก
มีความรู้สึกคล้ายๆก้องว่า มันหักมุมอย่างนี้
คิดว่าจะดราม่ากว่านี้สักหน่อย

พี่วิน หยอดบ่อยจริง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งข้าวหมาก ที่ 26-10-2013 08:03:20
คุณแม่สุดยอดมาก...ก้องยังต้องอึ้ง
คุณแม่เซเยสแล้วคบกันได้เลย...อิอิ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 26-10-2013 08:11:52
แอร๊ยย~~ คุณแม่ยอมรับ~~~
เพราก้องทิ้งหนังสือเป็นหลักฐานไว้นี่เอง อิอิ

>.<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 26-10-2013 08:38:48
แม่ยอมรับแล้วววว ดีใจด้วยๆๆๆๆ เจอพ่อแม่ที่คิดใจกว้างแบบนี้ยากจริงๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 26-10-2013 08:46:21
แอร้ยยย ฟินไปโลกหน้าแล้วคนแต่งง  >//////////////<
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 26-10-2013 09:26:44
อิอิอิ   ไวยิ่งกว่าสายฟ้าแลบซะอีก 



คุณแม่  ได้ใจมากกกกกกกกกกฮ่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-10-2013 09:35:06
หวานนะเนี่ยน้องก้องกับอ.วิน
ยินดีด้วยที่แม่ยอมรับซะด้วย  อิอิ  ยินดีด้วยจ้า
มาลงให้อ่านเร็วมาก  ขอบคุณนะคร๊าบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-10-2013 09:47:09
แม่คะ เปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก 55
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 26-10-2013 09:58:38
ยกป้ายไฟให้คุณแม่เลยจ้า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: prapawon ที่ 26-10-2013 10:21:16
คุณแม่ สุดยอดจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-10-2013 11:04:48
แอบกรี๊ด กับคุณแม่เบาๆ รักแม่อ่ะ
 :mew3:

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-10-2013 11:11:01
แม่น้องก้องเป็นสาววายปะเนี่ย 5555
ดูท่าทางตาเป็นประกายซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 26-10-2013 12:41:44
ตกใจคุณแม่ ฮ่ะๆ นึกว่าคุณแม่จะเม้งแตก ที่ไหนได้ สงสัยลูกชายตัวเองมานานนมแล้วนี่นาเนาะ
อืมม ดูเหมือนเรื่องจะจบ ไม่มีอะไรมาก แต่เราคิดว่านี่คงเป็นช่วงสงบที่รอเวลาจะกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 26-10-2013 12:57:25
ขอบคุณคุณแม่ที่เข้าใจและยอมรับค่ะ ฟีดแบคดีมากด้วยค่ะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: miracle22936 ที่ 26-10-2013 13:18:08
นึกว่าจะดราม่าแล้วสิ แต่กลับไม่ดราม่าซะงั้น เยี่ยม ๆ มาต่อตอนใหม่เร็ว ๆ ครับ ชอบมากเลย :katai4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 26-10-2013 13:25:09
โอ้โห คนเขียนใจดีมากมาต่อให้รวดเร็วทันใจ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 26-10-2013 14:36:42
ดีนะที่ก้องเชื่อพี่วิน ยอมบอกความจริงกับแม่ไปตามตรง ในที่สุดคุณแม่ก็ไม่โกรธและเข้าใจ
ที่สำคัญ ต้องยกความดีให้กับทักษะการพูดของพี่วินเลยนะ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ
ที่จริง คิดว่าคุณแม่ จะรู้สึกไม่ดีกับพี่วินมากกว่านี้ซะอีก กลายเป็นว่า คุณแม่ ก็แค่พูดตามสิ่งที่คิด ที่เชื่อ
รับรู้ทั้งด้านบวก และด้านลบของพี่วิน ไม่ได้ตั้งแง่ มีอคติ จนจดจำแต่ด้านร้าย ๆ เท่านั้น เป็นผู้ใหญ่ที่ดีมาก ๆ เลย
แล้วจากเรื่องชกต่อย ไหงกลายมาเป็นเรื่อง สารภาพความในใจของพี่วินไปได้ เข้าใจก้องนะ ก็ยังไม่ทันตั้งตัวนี่นา
แต่เรื่องที่คิดว่าจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ กลับกลายเป็น ไม่มีอะไรให้กังวลเลย คุณแม่ได้ใจเราไปเต็ม ๆ  :กอด1:
ยอมรับ และเข้าใจ แถมท่าทางมีความสุข คุณแม่ เหมือนสาววายอย่างเรา ๆ มากเลยนะ ยิ่งตอนตาเป็นประกายเนี่ย
พอคุณแม่ยอมรับได้ พี่วินชัดเจน กลายเป็นก้อง คิดมากมาย จนสับสนแล้วก็กังวลไปเองซะอีก ก็พอจะเข้าใจก้องนะ
แต่อย่างที่พี่วินว่า ในเมื่อทุกคนรักที่เราเป็นเรา เราก็แค่เป็นตัวของตัวเองต่อไป เรามีความสุข ไม่ทำให้ใครเสียใจ ก็แค่นั้น
เข้าใจกันได้ซะที ขี่หลังกันน่ารักจังเลยอ่ะ ก้องยอมรับว่าชอบพี่วินแล้ว เหลือก็แต่เมื่อไหร่ พี่วินจะได้ยินคำนั้นจากปากก้องนะ
จบตอนด้วยความชื่นมื่น ไม่ดราม่า ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :L1:

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 26-10-2013 17:29:43
แม่เป็นสาววาย...
อยากกอดคุณแม่แรงๆ เข้าใจลูกดีมั่กๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-10-2013 20:24:30
คไม่คิอว่าพี่วินจะสารภาพเร็วแบบนี้ และไม่คิดว่าคุณแม่จะเข้าใจเร็วขนาดนี้ แฮปปี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: zeaza ที่ 26-10-2013 21:04:12
คุณแม่น่ารักมากกกกก  ดีใจแทนก้องมากๆเลยที่มีแม่ที่พร้อมจะเข้าใจลูกขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: redtiger23 ที่ 26-10-2013 23:21:34
คุณแม่เป็นสาววายซินะ :katai2-1:
แล้วก็คุณแม่ยอมรับและเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมาก Orz..
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 27-10-2013 02:57:50
5555 ง่ายมากๆๆ คุณแม่เริศจริงอะไรจริง น่ารัก^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: gboykung ที่ 27-10-2013 03:33:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 27-10-2013 03:41:02
คุณแม่แอบเป็นสาววายป่ะเนี่ย

แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าก้องจะเขินพี่วินน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 27-10-2013 05:26:15
จงพุ่งเข้าโพรงเสียเถิดกระรอกน้อยก้อง อย่าได้เขิน
คุณแม่ท่านถือป้ายไฟชี้ทางเข้าไว้ให้เสร็จสรรพ
พี่วินงานนี้ "มะ"มาก "ใจ"มากค่ะ ...ศัพท์แสงแก่ไปมั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 27-10-2013 07:08:52
พี่วินไม่เผื่อใจเลย   บอกซะตรง  รีบขอเลย   
โชคดีที่มีแม่เข้าใจ   
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 27-10-2013 22:57:53
คุณแม่เปรี้ยวค่ะ
จริงๆแอบวายใช่มั้ยล่ะ 5555555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 28-10-2013 09:36:05
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 28-10-2013 15:20:25
ชอบเรื่องนี้ค่ะ ชอบพี่วิน
น่าเสียดายที่เป็นเรื่องสั้น เหตุการณ์ต่างๆถึงได้ดูรวบรัด แต่คุณต้นก้อยังคงแต่งเรื่องนี้ได้ครบทุกรส
อยากให้มีตอนหวานๆอีกซักหน่อยค่ะ เพื่อความฟินของคนอ่าน 5555

เป็นกำลังใจให้คุณต้นนะคะ เรื่องหน้าขอเป็นเรื่องยาว หวานๆเยอะๆ นะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 29-10-2013 13:48:58
คุณแม่แอบเป็นสาววายรึเปล่า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: tay028643904 ที่ 29-10-2013 21:00:43
น่ารักจัง ติตามน้าาาาาา ♥
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 13: 26 Oct)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 29-10-2013 21:59:40
คุณแม่ก้องเป็นสาววาย   o13   :mc4:  :mc4:  :mc4:
พี่วินทางสะดวกละ   ก็เหลือแต่ก้องละ ว่าจะเอายังไง   :o8:
เป็นกำลังใจให้น้องก้องพี่วินนะครับ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 29-10-2013 22:11:44
ตอนที่ 14


เมื่อผมไปเรียน ผมก็ตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนแทบทุกคนที่เดินผ่าน ผมว่าผมเองก็แทบไม่มีแผลหรือรอยฟกช้ำอะไรเหลือให้เห็นแล้วนะ นอกจากหัวที่ยังคงต้องพันผ้าพันแผลเอาไว้เท่านั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกแม่งจะมองอะไรกันนัก บางทีข่าวลือเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมคงจะแพร่ออกไปจนทั่วแล้วล่ะมั้ง ซึ่งก็คงไม่แปลก แต่สิ่งที่ผมคิดว่าแปลกคือดูเหมือนจะยังไม่มีใครรู้เรื่องที่พี่วินกำลังจะลาออกเลย เพราะผมไม่เห็นใครถามผมหรือพูดถึงเรื่องนี้เลยสักคน

เพื่อนๆ ของผมต่างก็แสดงความยินดีที่ผมออกจากโรงพยาบาลและสามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ เว้นก็แต่เพียงคนเดียวในห้อง ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงส่งสายตาเกลียดชังมาให้ผมตลอดเวลา... ไอ้ข้าว

แต่ผมก็ไม่สนใจแม่งหรอก แม่งคงได้แต่เคียดแค้นผมแต่ไม่มีปัญญาทำอะไรมากกว่า ก็พวกมันเพิ่งโดนผมอัดไปซะหมอบมาหยกๆ ถ้าหากแม่งยังจะโง่บ้ากล้ามาหาเรื่องผมอีก ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ทุกอย่างในช่วงเช้าผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาอะไร นอกจากตอนกลางวันที่ผมเจอพวกไอ้วีในโรงอาหารและพวกมันก็มองหน้าผมกวนๆ ท่าทางเหมือนจะอยากหาเรื่องแต่ก็ไม่กล้า จนหลังจากที่คาบสองในช่วงบ่ายจบลง ผมก็เดินไปห้องพยาบาลเพื่อขอยาแก้ปวดเพราะลืมเอายามาจากที่บ้าน และในขณะที่ผมกำลังเดินกลับห้องเรียนอยู่นั้น จู่ๆ ผมก็ถูกใครบางคนดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำ

“เฮ้ยย! ไรวะ!!” ผมสะบัดแขนออก จากนั้นก็หันไปเผชิญหน้ากับคนๆ นั้น

ไอ้วี ไอ้ข้าว และเพื่อนๆ ของมันอีกสามคนกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ ท่าทางพร้อมหาเรื่องเต็มที่

“เรื่องของมึงกับพวกกูยังไม่จบนะ ไอ้สัตว์” ไอ้วีพูดพลางจ้องหน้าผมเขม็ง

“อ๋อเหรอวะ”ผมยิ้มเยาะ “ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดงั้นสิ พวกมึงนี่มันโง่จริงๆ น้าา”

คำพูดยั่วยุของผมได้ผล เพราะสีหน้าของพวกมันเปลี่ยนไปทันที

“ครั้วที่แล้วมึงเล่นกูทีเผลอ อย่าทำได้ใจนักนะเว้ย!!”

“มึงต่างหากที่เพิ่งโดนรุมกระทืบมาซะน่วมน่ะ”

“อ๋อเหรอวะ” ผมกลอกตา “ก็แล้วมึงจะเอายังไงกับกู ไอ้วี” ผมถามกลับไป “กูต้องทำยังไง พวกมึงถึงจะยอมเข้าใจว่ามึงไม่มีปัญญาทำเหี้ยอะไรกูได้นอกจากเล่นทีเผลอ หรือใช้แผนสกปรกๆ แล้วก็เลิกยุ่งกับกูสักที”

“หึ มึงนี่มันปากดีจริงๆ นะ ไอ้บ้านนอก ถ้ามึงแน่จริง เย็นนี้ขึ้นไปเจอพวกกูบนดาดฟ้า แล้วมาวัดกันให้รู้เรื่องเลย ไม่งั้นเรื่องที่ไอ้อาจารย์อัคมันเป็นคนไปช่วยมึงและต้องทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ไปถึงหู ผอ. และมันจะโดนไล่ออกแน่”

ผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา นี่ตกลงพวกแม่งโง่กว่าที่ผมคิดอีกใช่มั้ยเนี่ย แถมสิ่งที่แม่งเสนอมาก็ยังเข้าทางผมเลยอีกต่างหาก

“ขำเหี้ยอะไรของมึง” เด็กคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น “พวกกูรู้นะว่ามึงสองคนสนิทกันน่ะ ถ้ามึงไม่อยากให้อาจารย์ที่มึงรักนักหนาต้องพลอยซวยไปด้วยก็อย่ากวนตีนให้มากนัก ไอ้สัตว์!”

“กูจะขำเหี้ยอะไรได้นอกจากขำพวกมึงนั่นแหละ” ผมยิ้มเหยียดๆ “กูว่าพวกมึงมาหาเรื่องกูตอนนี้ก็เพราะคิดจะฉวยโอกาสตอนที่กูยังบาดเจ็บอยู่มากกว่าล่ะมั้ง ไม่ได้เกี่ยวกับอาจารย์อัคหรือเหี้ยอะไรหรอก มึงไม่ต้องมาแถ”

พวกมันมองหน้าผมอึ้งๆ นิดหน่อย คงแปลกใจที่ผมรู้ทันมั้ง ไอ้พวกง่าวเอ๊ยยย

“ไม่ต้องรอถึงตอนเย็นหรอก ขึ้นไปบนดาดฟ้าตอนนี้เลยดีกว่า กูจะได้สอนให้พวกมึงรู้จริงๆ สักทีว่าอย่าโง่มาหาเรื่องกับกูอีก น้ำหน้าอย่างพวกมึงอะไม่เสียเวลามากหรอก ไม่เกิน 15 นาทีก็จบแล้ว” ผมยักคิ้วให้พวกมัน

“ปากดีนักนะมึง!!” หนึ่งในนั้นทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ผม แต่ถูกไอ้ข้าวกันเอาไว้ได้เสียก่อน

ในตอนนั้นเองที่นักเรียนคนอื่นเดินเข้ามาในห้องน้ำ มันดูตกใจนิดหน่อยที่เห็นพวกเรายืนกันอยู่แบบนั้น ผมจึงฉวยโอกาสนี้เดินออกจากห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปพูดทิ้งท้ายเอาไว้

“กูจะไปรอมึงก่อนก็แล้วกัน ถ้ามึงไม่ได้ดีแต่ปาก หน้าตัวเมีย ไม่กล้าจริงอย่างที่กูคิดล่ะก็ เดี๋ยวเจอกันว่ะ”

ผมขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดและใช้บันไดหนีไฟเดินต่อขึ้นไปบนดาดฟ้า ผมยืนรออยู่ไม่ถึงห้านาที พวกไอ้วีทั้งหมดห้าคนก็ตามขึ้นมา ผมมองหน้าพวกมันแล้วก็นึกขำในใจ ถึงจะรู้สึกผิดต่อแม่อยู่บ้าง แต่ผมสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ เพราะถ้าผมไม่สั่งสอนพวกแม่งให้เด็ดขาด พวกมันก็คงจะยังตามราวีไม่เลิกตอแยผมสักที และที่สำคัญ น้ำหน้าอย่างพวกมันไม่มีปัญญาทำอะไรผมได้อยู่แล้ว

“ใครจะเริ่มก่อน มาเลย ไม่ต้องเสียเวลา” ผมเดินเข้าไปหาพวกมันพร้อมกับถอดเสื้อนักเรียนออก เพราะผมไม่อยากให้มีหลักฐานอะไรหลงเหลือบนเสื้อนักเรียน และต้องมาตอบคำถามใครหรือมีปัญหาทีหลังเท่านั้นเอง “จะมีคนจับเวลามั้ยว่าไม่เกิน 15 นาทีจริงๆ ไม่มีเหรอวะ เสียดายจัง”

“ปากดีนักนะ ไอ้สัตว์! แดกตีนกูก่อนเลยเหอะมึง!!” ไอ้วีเป็นคนแรกที่กระโจนเข้าใส่ผม

“งั้นกูจับเอง...” ผมดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็เบี่ยงตัวหลบหมัดของไอ้วี

หลังจากที่ผมปล่อยหมัดสวนใส่เข้าท้องของไอ้วีเต็มรักจนมันล้มลงไปกองบนพื้น คนอื่นๆ ที่เหลือก็พุ่งเข้ามาหาผมแทบจะพร้อมๆ กัน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมเองยังแปลกใจที่ลึกๆ แล้วผมกลับรู้สึกสนุกกับการชกต่อยครั้งนี้กว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก มันไม่เหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ในโรงอาหารที่ผมโมโหจนหน้ามืดและจำอะไรแทบไม่ได้เลย และไม่เหมือนเมื่อคืนก่อนที่ผมได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอบโต้อะไรไม่ได้เลยด้วย

เมื่อทุกอย่างจบลง ผมก็หยิบเสื้อนักเรียนขึ้นจากพื้น จากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ตรงที่ที่ไอ้วีนั่งพิงผนังตึกอยู่ ผมรู้สึกเจ็บหัวเข่าเล็กน้อย แต่จะแสดงออกไปให้มันเห็นไม่ได้เด็ดขาด

“12 นาที เร็วกว่าที่กูบอกไว้อีก เห็นปะล่ะ” ผมพูดหลังจากที่ดูนาฬิกาข้อมือ จากนั้นก็นั่งยองๆ ลงตรงหน้าของมัน “มึงควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ ไอ้วี ว่าพวกมึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก ไอ้โง่เอ๊ยยย”

ไอ้วีมองหน้าผมด้วยแววตาหวั่นๆ มุมปากของมันมีเลือดไหลซิบๆ และเบ้าตาของมันก็เริ่มมีรอยช้ำเห็นชัดขึ้นเล็กน้อย ผลของการที่มันไม่รู้จักยอมแพ้และแกล้งตายตั้งแต่หมัดแรกแท้ๆ

“กูจะเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ ไอ้สัตว์ มึงจะเกลียดกู กูก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้ามึงไม่อยากเจ็บหนักกว่านี้ก็อย่ามายุ่งกับกูอีก เพราะผลลัพธ์มันก็จะยังคงเหมือนวันนี้หรือเมื่อครั้งก่อนนั่นแหละว่ะ” ผมจบประโยคด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “กูเตือนพวกมึงแล้วนะ ครั้งหน้ากูไม่ยั้งมือแบบนี้แน่”

ผมเดินตรงไปที่ประตูเพื่อจะกลับไปยังห้องเรียน แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกจากดาดฟ้า ผมก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้อีก

“อ้อ อีกอย่าง” ผมหันกลับไปหาพวกมัน “เรื่องอาจารย์อัคน่ะ มึงเลิกคิดเหอะ เพราะอย่างพวกมึงทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก คนอย่างเค้าไม่มีทางโดนไล่ออกเพราะเรื่องสิวๆ แบบนี้หรอกว่ะ ถ้าจะออกคือเค้าลาออกด้วยตัวเองเท่านั้นแหละ รู้ไว้ด้วย”

ผมหันกลับและเอื้อมมือออกไปจีบลูกบิดประตู ในขณะที่ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ามึงรู้เรื่องของอาจารย์อัคเค้าดีนักวะ! มึงมันก็แค่เด็กใหม่ มึงรู้เหรอว่าที่ผ่านมาแม่งมีปัญหากับเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองมาตั้งกี่ครั้งแล้ว!” ไอ้ข้าวเป็นคนพูดขึ้น

“กูรู้มากกว่าที่พวกมึงคิดเยอะว่ะ” ผมหัวเราะเบาๆ “เพราะเค้าคืออาจารย์ที่กูเคารพ และยังเป็นพี่ชายของกูอีกด้วย เพราะงั้นถ้ามึงไม่อยากมีปัญหากับกูมากไปกว่านี้ ก็เชื่อที่กูบอกว่าให้เลิกคิดที่จะวุ่นวายกับกูและอาจารย์อัคซะ”

ผมเดินออกจากดาดฟ้าพร้อมกับปิดประตูตามหลังลง ในขณะที่ติดกระดุมเสื้อนักเรียนอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงกระแอมดังขึ้นเบาๆ ผมจึงรีบหันไปมองยังซ้ายมือของตัวเองทันที

“พี่วิน! ทำไมชอบโผล่มาแบบนี้นักวะ ตกใจนะเว้ย!!”

“เมื่อกี้คุณไปทำอะไรที่ดาดฟ้ามา ศุภวิชญ์”

สรรพนามและน้ำเสียงที่เขาใช้กับผม ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเรากำลังอยู่ในบทบาทของครูกับนักเรียน ไม่เหมือนตอนที่เราอยู่บ้าน

“ไม่มีอะไรครับ อาจารย์”

“แน่ใจเหรอ” เขาถามย้ำพลางเดินตรงไปที่ประตู

ผมรีบเขยิบตัวเข้าไปขวางเขาเอาไว้ทันที “อาจารย์จะออกไปดาดฟ้าทำไม”

“แล้วทำไมผมจะออกไปไม่ได้”

“คือ... ผม...”

“แล้วทำไมชุดนักเรียนอยู่ในสภาพนี้ เมื่อกี้คุณทำอะไรอยู่ข้างนอก” เขาจับชายเสื้อของผม “หรือว่าเพิ่งจะมีอะไรกับคนอื่นเสร็จ”

“เฮ้ยย!! จะบ้าเรอะ!!” ผมสะบัดตัวหลบ

“งั้นไปทำอะไร บอกมา”

ผมพยายามนึกหาคำพูด แต่ก็นึกไม่ออก และในตอนที่ผมกำลังจะยอมสารภาพอยู่แล้วนั้น จู่ๆ เขาก็ยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไปเหอะ ปล่อยพวกมันไป ไหนๆ พี่ก็จะลาออกอยู่แล้ว” เขาพูดพลางโอบบ่าผม

“อ้าว! ตกลงว่า...”

“พี่ยืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว พอดีเห็นไอ้เจ้าพวกนั้นมันเดินขึ้นลิฟต์มา ก็เลยตามมาเงียบๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ”

“แล้วพี่ไม่โกรธผมเหรอ”

“ไม่ ตอนนี้เฉยๆ แล้ว ก็คงจริงนั่นแหละ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ไม่แสดงให้มันเห็นกันไปเลยว่าใครเหนือกว่าใคร มันก็คงคิดว่ามันเป็นที่หนึ่ง และไม่เลิกตอแยสักที อีกอย่าง...” เขาหันมามองหน้าผม “ขอบใจมากที่ช่วยพูดปกป้องพี่”

ผมยักไหล่เบาๆ “ก็แค่พูดอย่างที่ใจคิดแค่นั้นแหละ”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะตบบ่าผม “รีบกลับไปห้องเรียนได้แล้วไป ยอมให้หนนี้หนเดียวนะ ถ้าครั้งหน้าจับได้ว่ามีเรื่องวิวาทในโรงเรียนอีกล่ะก็ ไม่ใจดีแล้วนะเว้ย”

“ครับผม!!” ผมรับคำ จากนั้นก็เริ่มออกวิ่งตรงไปยังบันไดหลัก ผมหยุดฝีเท้าลงแล้วหันมาหาเขาอีกครั้ง “ขอบคุณนะคร้าบ อาจารย์อัค!”

เขามองหน้าผมแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะโบกมือไล่ให้ผมรีบไปเรียน ผมจึงรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดตรงกลับไปยังห้องของตัวเอง
ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ผมถึงได้รู้สึกดีและสดชื่นขนาดนี้ ไม่รู้เป็นเพราะเพิ่งได้ต่อยคนมาหมาดๆ หรือเพราะพี่วินกันแน่

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 29-10-2013 22:18:10
ตอนที่ 15


กว่าที่ข่าวลือเรื่องที่พี่วินลาออกจากโรงเรียนจะเริ่มแพร่สะพัดในหมู่นักเรียนก็อีกหลายวันให้หลัง บางคนก็คิดว่าเขาโดนไล่ออก แต่บางคนก็พูดว่าเขาลาออกเอง ส่วนเหตุผลก็มีมากมายต่างๆ นานา โดยคนที่รู้ความจริงก็คงมีแค่ผมเพียงคนเดียวว่าเขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม นอกจากนั้นผมกับเขายังเคยคุยกันอีกด้วยว่าเขากำลังจะเรียนต่อปริญญาโท นี่จึงนับว่าเป็นโอกาสดีแล้ว ที่เขาจะได้มีเวลาทุ่มเทให้กับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่

“นอกจากนั้นพี่ก็จะได้มีเวลาดูแลเรามากขึ้นด้วย”

นั่นคือสิ่งที่เขาเคยพูดกับผม แค่นึกถึงมันขึ้นมาทีไร ผมก็รู้สึกเขินทุกทีว่ะ ทำไมเขาถึงได้พูดเรื่องอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ ทุกที   

ผมว่าผมรู้แน่แล้วล่ะว่าผมรู้สึกกับเขายังไง ความเทิดทูนที่มีต่อเขาเมื่อครั้งยังเด็ก ค่อยๆ พัฒนาและงอกเงยขึ้นกลายเป็นความหลงใหลโดยที่ผมไม่รู้ตัว และเมื่อได้พบกันอีกครั้ง การที่ผมโตขึ้น บวกกับความใกล้ชิดที่เรามี ก็เป็นเหมือนปุ๋ยที่ช่วยเร่งความรู้สึกดีๆ ที่หลับไหลอยู่ส่วนลึกของใจให้เติบโตขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นความรักและความอบอุ่นแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

แต่ผมเป็นคนแสดงออกไม่เก่งเนี่ยดิ หรือถ้าพูดจริงๆ คือผมคงไม่อยากแสดงออกเองมากกว่า... ก็ผมไม่รู้ต้องทำตัวยังไงนี่หว่า และผมก็ยังไม่ค่อยอยากให้สิ่งที่เรามีในตอนนี้มันเปลี่ยนไปด้วย ผมเลยยังคงตีเนียน เฉยๆ ไว้ก่อน ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาจะรู้รึเปล่าว่าผมคิดกับเขายังไง เพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนกำลังจะจบเทอมสองนี่ ผมก็ยังไม่เคยให้คำตอบหรือคุยเรื่องพวกนั้นกับเขาอีกเลย ส่วนเรื่องพวกไอ้วีและไอ้เด็กโรงเรียนอื่นที่เคยมีเรื่องกับผมก็จบลงไปด้วยดี

เอ่ออ จะเรียกว่าแบบนั้นได้รึเปล่าวะ

คือพวกไอ้วีมันก็ยังเขม่นๆ ผมอยู่แหละ แต่มันแค่ไม่มาวุ่นวายอะไรกับผมอีกแล้ว ถึงแม้ตอนที่ข่าวเรื่องการลาออกของพี่วินจะแพร่ไปทั้งระดับชั้น พวกมันจะพูดจาเยาะเย้ยทำและตัวกวนส้นตีนผมอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่อยากสนใจว่ะ หมาแม่งจะเห่าก็อย่าไปห้ามมัน ใช่มั้ยล่ะ เพราะนอกจากนั้นแล้วพวกมันจะทำอะไรผมได้อีก ส่วนเรื่องของไอ้พวกเด็กโรงเรียนแสบแคม (ส.ค.) ที่เคยมีคดีกับผมก็ทำเอาผมวุ่นๆ ไปพักหนึ่ง แต่ก็อย่างที่ลุงของพี่วินบอกว่าเขาจัดการให้ได้ ผมแค่สงสัยว่าการที่ทำให้เรื่องเงียบได้เร็วขนาดนี้ มันคงไม่ใช่แค่เพราะทนายหรือฝ่ายกฎหมายเก่งอย่างเดียวแล้วซะล่ะมั้ง แต่คิดไปก็คงไม่ได้อะไร เพราะถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจอยู่ดี สำหรับผม ขอแค่พวกแม่งไม่มาวุ่นวายกับผม และเด็กโรงเรียนมันไม่มาหาเรื่องเด็กโรงเรียนผมอีกเป็นพอ เพราะถ้าเกิดพวกแม่งมามีปัญหากับเด็กของเราหรือเพื่อนคนใดคนหนึ่งของผมอีกล่ะก็ ผมคงต้องออกลุยเป็นแนวหน้าโดยไม่ต้องมีคนขอแหงๆ

อีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดคือเหล่าเพื่อนใหม่ของผมที่คราวนี้ผมสามารถเรียกว่า ‘เพื่อน’ ได้อย่างเต็มปาก ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ในที่สุดผมก็มีคนที่รักและเป็นห่วงผมจริงๆ อย่างพวกไอ้บอมและคนอื่นๆ แม้พวกมันจะพอรู้แล้วว่าที่ผ่านมาผมเคยเป็นยังไง แต่พวกมันก็ยอมรับผมได้ และปฏิบัติกับผมเหมือนเมื่อวันแรกที่เรารู้จักกันไม่เปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องความบาดหมางระหว่างผมกับพวกไอ้วีก็ได้แพร่ออกไปมากขึ้น รวมทั้งเรื่องที่ผมอัดพวกมันไปถึงสองครั้งก็ด้วยเช่นกัน... คือผมก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกไปหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นบนดาดฟ้านั่น และพวกไอ้วีเองก็คงไม่ได้บอกใครด้วย ฉะนั้นเด็กทุกคนมันจึงแค่คิดและลือกันไปเองมากกว่า ซึ่งข่าวลือเหล่านั้นก็ทำให้ผมตกเป็นเป้าหมายใหม่ของไอ้พวกตัวแสบทั้งหลายของโรงเรียนไปโดยปริยาย แต่ผมไม่คิดจะกลับไปเป็นแบบเดิมๆ อีกแล้วแน่นอน

“ความรุนแรงมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาระยะยาวหรอก” พี่วินพูดกับผม หลังจากผมเล่าให้เขาฟังว่า ผมเพิ่งโดนเด็กกลุ่มหนึ่งพูดจายั่วโมโหและหาเรื่องตอนก่อนกลับบ้าน

“แล้วผมควรทำไง”

“ทำเฉยๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็เบื่อไปเองนั่นแหละ” เขาตอบพลางใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นที่อยู่ในชามของตัวเองมาให้ผม “ของแบบนี้มันอยู่ที่ว่าใครความอดทนสูงกว่าถึงจะชนะ”

ผมคีบลูกชิ้นเข้าปาก ก่อนที่จะคีบถั่วงอกที่ผมไม่ชอบกินไปให้เขา “จริงๆ ก็เกือบน็อตหลุดไปหลายรอบแล้วล่ะ แต่ก็พยายามคิดซะว่าหมามันเห่าว่ะพี่ แถมดูๆ แล้วถ้าผมเอาจริง ยังไงผมก็ต่อยพวกแม่งคว่ำได้ทุกคนนั่นแหละ”

“เก่งจริงเว้ย” เขาหัวเราะเบาๆ

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ว่าแต่พี่เหอะ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังเป็นข่าวเรื่องลาออกไปแทบทั้งโรงเรียน แต่ยังจะชวนผมมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวแถวโรงเรียนแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นมันจะเอาไปพูดหรือไง” ผมพูดทั้งที่ยังคงเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆ จากนั้นก็ชี้ตะเกียบไปที่เขา “รู้ไรปะ จริงๆ เพื่อนผมบางคนมันก็มาถามแล้วด้วยซ้ำว่าผมกับพี่สนิทกันเหรอ บางคนแม่งแซวแล้วด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไรกันรึเปล่าน่ะ”

“แล้วตอบไปว่ายังไง”

“ไม่ได้ตอบว่ะ ขี้เกียจตอบ”

“ไม่แคร์เลยรึไง”

“เฉยๆ อะ” ผมยักไหล่

“ก็นั่นสิ จะไปใส่ใจทำไมกับเรื่องจริง”

“อึกก!!” คำพูดของผมทำเอาผมสำลักลูกชิ้น “แค่กกก!! แอ่กกก!! ค่ออ..ก...ก!!”

“เอ้าๆ อะไรของเราวะ ไอ้ก้อง” เขายื่นแก้วน้ำให้ผม

ผมรับมันมาแล้วรีบดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว “อึกก! ฮ่าาา..ห์!!”

“อะไรวะ จู่ๆ ก็สำลัก”

“ก็พี่นั่นแหละ! ที่บอกว่าเรื่องจริงนั่นมันอะไร!”

“ก็เรื่องที่เราสนิทกันไง” เขายิ้มมุมปากน้อยๆ “คิดอะไรอยู่ล่ะ”

“เออะ... อ่ออ... ก็เปล่านี่ แค่คิดว่าพี่พูดไม่เคลียร์เฉยๆ” ผมดื่มน้ำที่เหลืออยู่ในแก้วจนหมด

หลังจากนั้นเราก็กินก๋วยเตี๋ยวต่อจนเสร็จ แต่ก่อนหน้านั้นก็มีนักเรียนบางคนเข้ามาในร้านและยกมือไหว้พี่วินอยู่ 2-3 ครั้ง ซึ่งบางคนผมก็พอคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง

“อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว อย่าลืมขยันให้มันมากๆ ล่ะ” เขาบอกผมหลังจากที่เราจ่ายเงินค่าอาหารแล้ว

“รู้แล้วล่ะน่าาา ไม่ต้องย้ำมากได้มั้ยเนี่ย เห็นแบบนี้แต่ก็เครียดนะเว้ยยย”

“พูดให้มันดีๆ” เขาเขกหัวผมดังโป๊ก

“โอ๊ยยย!! ขอโทษครับ!” ผมยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง “เขกหัวบ่อยๆ เนี่ย ไม่กลัวสมองผมเสื่อมรึไง”

“มันจะเสื่อมไปกว่านี้ได้อีกเรอะ”

“โห แรงงง”

“ส่งงานวิชาอื่นครบแล้วใช่มั้ย”

“ครบแล้วๆ”

เขาเหลือบมองหน้าผม

“ครบแล้วครับ” ผมรีบแก้คำพูด

“ดี เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยนะ เพราะข้อสอบพี่ไม่ง่ายนะเว้ย และพี่ก็จะไม่เอาข้อสอบมาบอกเราก่อนเด็ดขาดด้วย”

“โหหห จะดูถูกกันเกินไปแล้ว คนอย่างไอ้ก้อง จะตกก็ตกเว้ย แต่ไม่โกงเด็ดขาด!”

“ปากดีนัก แน่ใจเหรอที่พูดมาน่ะ” เขาหรี่ตา

“เอออ... โอเคๆ ไอ้ลอกข้อสอบเล็กๆ น้อยๆ มันก็พอมีบ้างเป็นสีสัน แต่ไอ้รู้ข้อสอบก่อนคนอื่นอยู่คนเดียวเนี่ย ไม่มีแน่นอนเว้ย ไม่คิดจะทำด้วย”

“พูดง่ายๆ คือถ้าจะตกก็ขอตกกับเพื่อน ถ้าจะผ่านก็ขอให้ผ่านเพราะลอกเพื่อน ว่างั้นเถอะ”

“ถูกต้อง!”

“ทุเรศจริงๆ” เขาเขกหัวผมอีกรอบ

“โอ๊ย!!”

“ไป กลับบ้าน จะไปติวให้”

ผมหันขวับไปหาเขาทันที “ติวอะไร”

“ก็ติวหนังสือที่จะสอบน่ะสิ พี่จะติวเลขกับเคมีให้ทุกวันจนกว่าจะสอบ แม่เราเค้าฝากฝังพี่เอาไว้แล้ว”

“เฮ้ยยย ไปคุยกับแม่ผมตอนไหน”

“ก็คุยออกบ่อยไป จะมาทำโวยวายอะไรตอนนี้”

“พี่วินน!!”

“ทำไม เรียกชื่อบ่อยๆ นี่กลัวลืมรึไง” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “รู้ว่ารักและคิดถึง แต่ไม่ต้องแสดงออกขนาดนั้นก็ได้”

พอได้ยินแค่นั้นแหละ ผมก็เขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด ทำไมผมถึงไม่สามารถหาคำพูดอะไรมาเถียงเขาชนะได้เลยสักครั้งวะเนี่ย!

หลังจากกลับถึงคอนโด เราต่างก็แยกย้ายกันกลับไปยังห้องของตัวเอง ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะเขาบอกว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจะลงมาที่ห้องของผมเพื่อดูว่าผมอ่านหนังสือจริงรึเปล่า และอีกราวๆ 40 นาทีถัดมา เสียงเคาะประตูห้องของผมก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงไขกุญแจ ผมไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เขาด้วยซ้ำ เพราะเขามีกุญแจห้องของผมมาตั้งนานแล้ว ซึ่งปกติเขาก็จะทำแบบนี้แหละ เคาะห้องก่อน แล้วค่อยไขกุญแจเข้ามา ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมนี่แหละที่เป็นคนบอกให้เขาทำแบบนี้ เนื่องจากว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่จู่ๆ เขาก็เปิดประตูห้องเข้ามาเลย แต่ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเดินแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำพอดี ทำเอาผมโวยวายยกใหญ่และยื่นคำขาดว่า ถ้าหากเขาอยากจะมีกุญแจห้องของผมเก็บเอาไว้ ก็ต้องเคาะประตูเตือนผมก่อนจะเปิดเข้ามาด้วยทุกครั้ง

พี่วินใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น แต่หิ้วแฟ้มงานกับหนังสือเรียนมาด้วยปึกใหญ่ ผมเห็นเขาในสภาพแบบนี้จนชินตาแล้ว เพราะหลังจากที่เขาได้ไฟเขียวจากแม่ของผม เขาก็มักจะหอบงานมานั่งทำในห้องของผมอยู่บ่อยๆ เพื่อถือโอกาสในการคุมให้ผมทำการบ้านและอ่านหนังสือเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะต้องมานั่งพื้น ใช้โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ กับผม แทนที่จะได้นั่งทำบนโต๊ะดีๆ เขาก็ยอม

ในระหว่างที่เราต่างก็นั่งทำงานของตัวเองกันอยู่เงียบๆ นั้น ผมก็เกิดเบื่อขึ้นมา เลยเหยียดตัวออกบิดขี้เกียจ จากนั้นก็นั่งมองหน้าของเขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจงานของนักเรียนอยู่ ยิ่งดูผมก็ยิ่งคิดว่าเขาน่ารักจริงๆ ว่ะ หน้าขาว ใส ยังกับเด็กอายุไม่เกิน 20 แต่นิสัยแม่งดันโหดต่างกับใบหน้าลิบลับ

เขาเหลือบขึ้นมาสบตาผม “มองอะไร”

“เปล๊า” ผมแสร้งทำบิดคอไปมา “เออ พี่วิน ถามไรหน่อยดิ”

“ว่ามา”

“ก่อนนี้พี่เคยบอกว่าพี่จำผมได้จากประโยคนึงที่ผมพูดไปเมื่อตอนเราเจอกันคืนแรกน่ะ สรุปว่ามันคือประโยคไหน ผมพูดอะไรออกไปเลยทำให้พี่มั่นใจว่าผมคือไอ้ก้อง เด็กน้อยน่ารักคนนั้นของพี่”

เขาวางปากกาลงพร้อมกับหัวเราะชอบใจ “ประโยคหลังแม่งทุเรศว่ะ”

“ทุเรศตรงไหน หรือพี่จะปฏิเสธว่าตอนนั้นผมไม่น่ารัก”

“น่ารักก็น่ารัก ก็ถึงได้รักจนถึงทุกวันนี้ไง”

เอาแล้วไง ไปๆ มาๆ กลายเป็นผมเองซะงั้นที่ต้องเป็นฝ่ายเขิน “พอ! สรุปบอกมาได้รึยังว่าอะไรที่ทำให้พี่จำผมได้”

“ก็ประโยคที่ก้องบอกว่า ‘ลูกผู้ชายต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า’ นั่นแหละ มันคือสิ่งที่พี่เคยสอนเราเมื่อสมัยเด็กๆ หลายต่อหลายครั้ง... แต่ที่จริงมันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างที่พี่ใช้ เพื่อไม่ให้ก้องคิดว่าความรุนแรงคือคำตอบของทุกอย่าง หรือจำสิ่งไม่ดีๆ เกี่ยวกับพี่ไปเพียงอย่างเดียวก็ได้ล่ะมั้ง เพราะพี่เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนดีขนาดนั้นหรอก”

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะพี่”

“ก็ไม่ทำไมหรอก สมัยก่อนพี่มันก็นักเลงจริงๆ ไม่ได้คิดจะมาสร้างข้อแก้ตัวอะไรเอาป่านนี้”

“ตอนนี้ก็ยังนักเลงเหอะ...” ผมพูดเบาๆ

“อะไรนะ”

“ป๊าววว ไม่มีอะไรเลยย” ผมโบกมือปฏิเสธ “ว่าแต่หลังจากนี้พี่จะทำยังไงต่อไป”

“เรื่องอะไร” เขาก้มหน้าลงไปตรวจงานต่อ

“ก็เรื่อง...” ผมชะงัก นึกไม่ออกว่าควรจะพูดยังไงดีแฮะ “เออๆ ช่างมันเหอะพี่”

“ถ้าหมายถึงเรื่องงานพี่น่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก อีกเดี๋ยวพี่ก็ไปเรียนต่อแล้ว แต่ถ้าหมายถึงเรื่องของเราล่ะก็ พี่รอจนกว่าก้องจะพร้อมได้เสมอ” เขาพูดโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม

“เอิ่มมม รออะไร”

“รอจนกว่าเราจะพร้อมบอกว่า ‘รัก’ พี่เหมือนกัน”

โอ๊ยยยย! ทำไมมันเขินอย่างนี้วะ!!

“เออ งั้นรอไปนะ รอจนเรียนจบเลย”

“รอได้ ขอให้จบเหอะ” เขายิ้มมุมปาก

“อ้าวววว แปลว่าอะไรวะแบบนี้”

“ก็ถ้ามัวแต่โม้ ไม่ยอมอ่านหนังสือแบบนี้ โดนซ้ำชั้นหรือสอบตกขึ้นมา กูจะตบหัวซ้ำให้ดู” เขาเหลือบขึ้นมามองผม “รีบๆ อ่าน พออ่านจบแล้วจะได้เริ่มติวให้”

“โอเคๆๆ อ่านหนังสือก็ได้คร้าบบบ” ผมคว้าดินสอกดที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นและเริ่มพลิกหน้าหนังสืออีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มอ่าน ผมก็แอบเหลือบมองหน้าของเขาอีกครั้ง

ไม่รู้ทำไมใจของผมมันเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ ชอบกลแฮะ นี่เขาจะรอจนกว่าผมจะเรียนจบเลยจริงๆ เหรอเนี่ย มันจะนานไปมั้ยวะ ไอ้ผมก็ไม่เคยมีแฟนกับเขาสักทีนะ แถมเวลาอยู่กับเขา ผมก็มีความสุขดี เหมือนเขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งผู้ปกครอง เขาช่วยดูแลและทำนั่นทำนี่ให้ผมตั้งหลายอย่าง ถึงจะปากไม่ค่อยดีก็เหอะ แต่ผมว่าเราสองคนมันก็พอๆ กันนั่นแหละวะ บางทีการที่เราต่างก็เป็นแบบนี้แหละมั้งถึงทำให้เราเข้ากันได้ แม้อายุจะค่อนข้างต่างกันไปหน่อยก็ตาม

เอาจริงๆ นะ ไหนๆ เขาก็เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งคนข้างบ้าน ทั้งอาจารย์ ของผมมาหมดแล้ว ถ้าเกิดจะให้เพิ่มตำแหน่งหน้าที่มาเป็นคนรักอีกสักอย่าง มันก็คงจะไม่ต่างไปจากตอนนี้เท่าไหร่หรอกมั้ง

“งั้นไม่ต้องรอละก็ด้ะ...” ผมพูดออกมาเบาๆ โดยไม่ได้มองหน้าเขา

เงียบ... ไม่มีเสียงตอบกลับ ไอ้ผมก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา จึงไม่รู้เลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และได้ยินที่ผมพูดออกไปหรือเปล่า แต่แล้วจู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ทำเอาผมสะดุ้งจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขางงๆ

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ตูดเอ๊ยยยย!!” เขายังคงหัวเราะอยู่

“อะไรเล่า!!” ผมรู้สึกเขินจนหน้าร้อนไปหมดแล้ว

“เปล่า ไม่มีอะไร...” เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้า “โอ๊ยยย กูฮาาาา”

“จะหาเรื่องกันรึไง จะเอาไงก็ว่ามาเลย!” ผมยืนขึ้น

เขาเหยียดแขนออกมาคว้าเข้าที่ข้อมือของผม แล้วจากนั้นก็ออกแรงดึงอย่างแรงจนทำให้ผมล้มลงไปนอนทับลงบนตัวของเขา

“เฮ้ยย!!” ผมพยายามจะทรงตัวและดันตัวเองขึ้น แต่กลับถูกเขากอดรัดตัวเอาไว้เสียก่อน

“เลิกเขินได้แล้ว และพูดมาดีๆ เลย”

“พูดอะไร” ยิ่งอยู่ห่างจากเขาแค่ไม่กี่นิ้วแบบนี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกเขินเข้าไปใหญ่ จู่ๆ แม่งจะมาบอกว่าให้เลิกเขินได้ไงวะ จะบ้ารึเปล่า!

“ถ้าเกิดพี่ขอเป็นแฟน จะยอมเป็นแฟนพี่มั้ย”

“เฮ้ย พะ...” ผมยังไม่ทันจะได้พูดให้จบคำ พี่วินก็ใช้นิ้วชี้แตะลงบนริมฝีปากของผมเสียก่อน

เราสองคนนอนจ้องตากันและกันอยู่ในท่านั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนนิ้วออก แล้วจากนั้นจึงชะโงกหน้าเข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ

“เป็นแฟนพี่นะครับ”

ผมอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แววตาของเขาเป็นประกาย ชั่วเวลาไม่กี่วินาทีแลดูยาวนานนับชั่วโมง สุดท้ายผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ก็ทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบตกลง

หัวใจของผมเต้นแรงจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้วนะเนี่ย!

พี่วินยิ้มกว้างก่อนจะจุ๊บลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง จากนั้นเขาก็รวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น และหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“ไอ้เด็กน้อยเอ๊ยยย!!”

“ไม่น้อยแล้วเหอะ!”

“เท่าที่จำได้ก็ยังน้อยอยู่นะ” เขาใช้มืออีกข้างขยำเป้ากางเกงผม

ผมรีบดีดตัวขึ้นนั่งทันที “เฮ้ยยย!!”

“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ยังไม่ทำอะไรหรอกน่า รอเรียนจบ ม. 4 ก่อนก็ได้ ให้มันใหญ่ขึ้นอีกนิดค่อยว่ากัน” เขายิ้มมุมปากกวนๆ “ไปอ่านหนังสือต่อได้แล้ว พี่จะตรวจงานต่อ จะได้ติวหนังสือสักที” เมื่อพูดจบ เขาก็เลื่อนตัวกลับไปนั่งทำงานต่อเหมือนเดิม

ผมพยายามตั้งสมาธิอ่านหนังสือตรงหน้าให้เข้าหัว แต่ก็ทำไม่ได้อีกเลย เพราะในหัวมันเอาแต่ฉายภาพและคำพูดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ซ้ำไปซ้ำมา แถมเขาก็เอาแต่ลอบมองผมและยิ้มหรือไม่ก็หัวเราะในลำคอเบาๆ อยู่ตลอด จนเมื่อเวลาผ่านไปอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง เขาก็บอกว่าเขาทำงานเสร็จแล้ว และเริ่มต้นติวเคมีให้ผมต่ออีกเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง จนกระทั่งหัวของผมมันรับอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงยอมอนุญาตให้ผมพักและเริ่มเก็บข้าวของของตัวเอง

ผมเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูห้องหมือนอย่างเคย แต่ก่อนที่เขาจะปิดประตูลง เขาก็ชะโงกเข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของผม

“แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะครับ ลูกศิษย์ที่รัก”

ผมรู้ว่าเขาพูดแหย่ให้ผมเขินมากกว่าที่จะคิดจริงจัง แต่แม่งดันได้ผลซะด้วยเนี่ยดิ เพราะผมเขินจนมือสั่นปากสั่น จะสวนอะไรกลับไปก็พูดไม่ออก ทำได้แค่รีบไล่ให้เขาเดินกลับห้องไปและปิดประตูลง

หลังจากนั้น เวลาเราเจอกันที่โรงเรียน เขาก็ยังคงปฏิบัติกับผมเหมือนเดิม ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับเขาไม่เคยขอผมเป็นแฟนเลย แต่เมื่อเวลาอยู่กันตามลำพังที่บ้าน เขาจะพูดจาหยอกล้อและแหย่ผมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเขาถึงเนื้อถึงตัวผมมากขึ้น กอดผมง่ายขึ้น และหอมแก้มผมบ่อยขึ้น ซึ่งแรกๆ ก็ไม่ชินหรอกนะ แต่ไปๆ มาๆ ถ้าวันไหนเขาไม่ทำแบบนั้นแล้วผมแม่งรู้สึกขาดๆ อะไรบางอย่างไปและพาลทำให้รู้สึกเซ็งๆ ขึ้นชอบกลว่ะ

แต่ความลับก็คงไม่มีในโลกจริงๆ นั่นแหละ มีเด็กนักเรียนบางคนเริ่มตั้งข้อสังเกตที่เห็นผมกับพี่วินใช้เวลาอยู่ด้วยกันนอกโรงเรียนมากขึ้น และล่าสุด ก่อนสอบเสร็จวันสุดท้ายดันมีคนพูดว่าเห็นพี่วินกับผมเดินเข้าไปในคอนโดด้วยกันตอนกลางคืน ซึ่งก็แหงล่ะ ไอ้สัตว์ กูอยู่คอนโดเดียวกันและไปซื้อของกินที่เซเว่นด้วยกันมา แต่ผมก็ขี้เกียจจะต้องคอยอธิบายแก้ตัวอะไร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย เพราะอีกไม่นานเขาก็จะพ้นสภาพการเป็นครูแล้ว ข่าวลือแม่งเลยยิ่งแพร่สะพัดไปจนแม้แต่ตอนปิดเทอมแล้ว เรื่องก็ยังไม่ซาสักที

“เฮ้ย ไอ้ก้อง สรุปมึงกะอาจารย์อัคนี่ยังไงวะ” ไอ้ภูมิถามผมหลังจากที่เราเพิ่งเตะบอลด้วยกันเสร็จ... คือพวกมันน่ะเตะกันจริงจัง แต่ผมทำได้แค่วิ่งๆ ตามบอลนิดหน่อยเท่านั้นเอง “คือพวกกูก็พอรู้นะเว้ยว่าจริงๆ แล้วมึงสองคนสนิทกันอะ แต่นี่มันเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามของศิษย์กับอาจารย์รึเปล่าวะ เฮ้ยยย มึงงงง” มันทำเสียงแหย่พลางกระทุ้งศอกใส่ผม

“ศิษย์อาจารย์ห่าอะไร ก็พี่วินเค้าไม่ได้เป็นอาจารย์แล้วนี่หว่า นี่ขนาดปิดเทอมแล้ว พวกมึงยังไม่เลิกสนใจข่าวลือพวกนั้นอีกเหรอวะเนี่ย” ผมดูนาฬิกาข้อมือ

“อ้าวว พูดแบบนี้แปลว่ามึงยอมรับเหรอวะ ไอ้ก้องงง ฮึ้ยยยย” ไอ้เอิรธ์ถามต่อ

“กูไม่มีเหี้ยไรจะยอมรับรึปฏิเสธว่ะ”

“เฮ้ย ไอ้ก้องๆ กูไปนั่งเล่นห้องมึงได้ป่าววะ เบื่อว่ะ ยังไม่อยากกลับบ้าน” ไอ้บอมพูดขึ้น

“วันนี้ไม่ได้ว่ะ ไม่สะดวก” ผมดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง

“ทำไมวะ ไปไหน”

“เดี๋ยวพี่ข้างบ้านกูเค้าจะมารับไปกินข้าวกับแม่กูว่ะ”

“อ้าว แม่มึงมาเหรอวะ”

“ช่ายย”

“แล้วว่าพี่ข้างบ้านคนไหนวะ ไอ้ก้อง” ไอ้บอมถาม

“ทำไมวะ กูอยู่คอนโดแล้วจะมีเพื่อนบ้างไม่ได้เลยรึไง ไอ้ห่า แต่พี่ที่กูบอกอะ พี่ข้างบ้านสมัยเด็กว่ะ... พวกมึงก็รู้จักนะ”
พวกมันทุกคนหันไปมองหน้ากันงงๆ

“นั่นไง มาพอดี งั้นกูไปก่อนแล้วนะเว้ยพวกมึง” ผมเดินตรงไปยังรถเก๋งที่ขับเทียบเข้ามาใกล้พวกเรา และเมื่อรถคันนั้นจอดสนิท คนขับก็เปิดประตูและก้าวออกมาจากในรถ

พอเห็นว่าคนที่มารับผมคือใคร พวกเพื่อนๆ ของผมแม่งก็รีบยกมือไหว้อดีตอาจารย์ของพวกมันกันแทบไม่ทัน

“พวกมึง” ผมหันกลับไปหาพวกมัน “นี่พี่วิน พี่ข้างบ้านตั้งแต่สมัยเด็กของกูเอง... อ้อ และไอ้ข่าวลืออะไรพวกนั้นน่ะ พวกมึงเลิกใส่ใจกันไปได้เลยนะเว้ย”

“เพราะมันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ยวะ” ไอ้เอิร์ธถาม

“เพราะมันเป็นความจริงว่ะ” ผมตอบ

“ไอ้เหี้ยยยยยยย!!!” พวกมันทุกคนร้องอุทานด้วยความตกใจพร้อมๆ กัน

“คอนเฟิร์มข่าวแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะพวกมึงเลยนะเนี่ย อย่าแรดเอาไปบอกใครล่ะ สาดดด”

“ข่าวลืออะไร” พี่วินหันถามผม

“อ๋อ ก็ข่าวลือว่าเราสองคนเป็นอะไรกันอะดิ พี่”

พี่วินหัวเราะชอบใจทันที “แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ”

อ้าว เชี่ย ไอ้การยอมรับให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันรู้มันก็อีกเรื่อง แต่ถ้าจะให้พูดออกมาว่าเราเป็นอะไรกันต่อหน้าคนอื่นเนี่ย ผมยังทำไม่ลงนะเว้ย!

“พอๆ ไปเหอะ เดี๋ยวแม่ก็รอนานหรอก” ผมเดินวนไปอีกฝั่ง เปิดประตูรถออก โบกมือลาพวกเพื่อนๆ ของผมก่อนจะโชว์นิ้วกลางให้พวกมันที่เริ่มส่งเสียงแซว แล้วจากนั้นจึงเข้าไปในนั่งในรถและปิดประตูลง

เมื่อพี่วินปิดประตูฝั่งตัวเองลงแล้ว เขาก็คาดเข็มขัดนิรภัย หันมามองหน้าผมและยิ้มออกมาน้อยๆ “ตกลงจะไม่บอกเพื่อนจริงๆ รึไงว่าเราเป็นอะไรกัน”

“ก็บอกไปแล้วไง”

“บอกอะไร ไม่เห็นพูดอะไรสักคำ”

“กวนตีนนะเรา”

“เดี๋ยวจะโดน” เขาเงื้อมือ

ผมรีบขยับหัวหลบทันที “ไรเล่า! บอกไปแค่นั้นมันก็รู้แล้วไง จะพูดไปทำไมอีก อีกอย่างเรื่องบางเรื่อง คำบางคำ เก็บไว้รู้กันแค่สองคนบ้างก็ได้”

“เรื่องอะไร”

“ขับรถไปเลยไป ไม่ต้องถามมาก”

“เรื่องที่ก้องรักพี่... เรื่องที่เรารักกันน่ะเหรอ”

“ขับไปเลยยยย และเวลาขับรถน่ะ ตามองถนนด้วย” ผมใช้มือปัดหน้าของเขาให้หันไปมองถนนดีๆ

เราสองคนเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้

“เออ ใช่!!”

“อะไร จู่ๆ ก็ตะโกน”

“ผมลืมถามพี่ไปซะสนิท”

“ว่า”

“ตอนอยู่ในโรงพยาบาล พี่บอกผมว่า ในคืนแรกที่เราได้เจอกัน มีประโยคนึงที่ผมถามพี่ และพี่ก็ตอบกลับมาด้วยประโยคคำถามคล้ายๆ กัน และสิ่งนั้นคือสิ่งแรกเลยที่พี่แสดงออกว่าสนใจในตัวผม หลงรักผมหัวปักหัวปำไปตั้งแต่แรกแล้วน่ะ มันคือคำถามว่าอะไรวะ”

เขาหัวเราะ “หัวปักหัวปำเลยเหรอ เวอร์ชิบหาย”

“ตงลงมันคือประโยคไหน”

“ลองนึกดูสิ ตอนนั้นเราพยายามจะพูดกวนตีนพี่ว่าอะไรบ้าง และพี่ตอบกลับไปว่ายังไงถึงทำเราเขินจนม้วนต้วน” เขาเหลือบมองผมด้วยหางตา แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมไม่มีทีท่าว่าจะนึกออก เขาจึงพูดต่อ “พอหลังจากพี่ถามชื่อและที่อยู่แล้ว เราก็สวนกลับมาว่าพี่จะจีบเราเหรอ พี่เลยตอบกลับไปว่า ‘ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะทำยังไง’ แล้วเราก็เขินนน หน้าแดงหูแดงปากสั่นไปหมด น่ารักสุดๆ” เขาหัวเราะปิดท้าย

“กวนตีนนนนน!!” ผมต่อยลงบนหัวไหล่ของเขาอย่างแรง ทำเอาเขาร้องออกมาเบาๆ

“ปฏิเสธสิว่าตอนนั้นไม่ได้เขินพี่... แต่ถ้าโกหกคืนนี้ต้องตกเป็นเมียพี่อีกนะเว้ย” เขาใช้น้ำเสียงขู่ผมอีกแล้ว

ผมอ้าปากจะเถียงกลับไป แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ พูดไม่พูดยังไงก็ตกเป็นเมียอยู่ดี เพราะงั้นคืนนี้ขอเอาคืนวางแผนปล้ำแม่งคืนมั่งดีกว่า

“ดีมาก ว่าง่ายๆ” พี่วินคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “...พี่รักก้องนะเว้ย”

“เออ ก็ลองไม่รักดิ” ผมยักคิ้วแล้วทำหน้ากวนๆ ใส่เขา จากนั้นก็หันไปมองยังนอกหน้าต่างรถและเปรยออกมาเบาๆ “ผมก็รักพี่เหมือนกันแหละ...”

พี่วินยกมือของผมขึ้นจุ๊บเบาๆ ทำเอาผมได้แต่นั่งยิ้มน้อยๆ แต่พยายามแอบซ่อนไว้ไม่ให้เขาเห็น

แม่งงง... กูมีความสุขว่ะ!



............................... จบ ...............................


จบแล้วครับ สำหรับเรื่องสั้นอีกเรื่อง ในชุดของคำว่า "บ้าน"

เรื่องนี้อาจจะต่างจาก HOME, Moving In และ Coming Back Home นิดหน่อย ตรงที่ไม่ได้มีคำหรือกลิ่นของคำว่า บ้าน ชัดเจนนัก
แต่ "เพื่อนบ้าน" ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยู่บ้านอย่างมีความสุข ใช่มั้ยล่ะครับ

ติดตามเรื่องอื่นๆ ของผมที่เคยเขียนมาแล้ว หรืออัพเดทเรื่องที่กำลังจะลงใหม่ได้ที่แฟนเพจเหมือนเดิมนะครับ https://www.facebook.com/ExecutionerNovel

ไม่แน่ ก่อนเรื่องยาวเรื่องใหม่จะมา อาจจะมีเรื่องสั้นอีกเรื่องโผล่มาก็ได้ หรือผมอาจจะรวมเล่ม series เรื่อง home นี้เป็นชุดเดียวกันแล้วมีอะไรแถมให้ในเล่มก็ได้นาาา

แล้วเจอกันครับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 29-10-2013 22:26:01
 :katai2-1: สมน้ำหน้าพวกไอ้วีไอ้ข้าว อยู่ดีไม่ว่าดีวิ่งเข้าหาตีนซะงั้น ไงละ5ต่อ1 ก้องเราเทพอยู่แล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 29-10-2013 22:41:44
จบแล้วเหรอ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีค่า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: LittlePrince ที่ 29-10-2013 22:44:48
แวะเข้ามาฟิน อ่านทีไรฟินทุกที
เรื่องนี้ให้ความรู้สึกหวานกว่าเรื่องอื่นๆนะ
หวานนุ่มแต่หวานมากมาตั้งแต่ต้นเรื่อง
ว่าแต่แต่งความรักต้องห้ามมากขึ้นปะเนี่ย
พี่-น้อง ครู-ลูกศิษย์ ชอบนะไม่ได้ว่าอะไร
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 29-10-2013 22:52:47
จากนี้ไปพวกวีคงไม่มายุ่งสักพักล่ะเนอะ ...

ทีนี้ก็เหลือแต่พี่วินล่ะล่าาาา > < จัดการเลย!!! คึคึ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-10-2013 23:33:09
เย้ๆ จบแล้ว
จริงๆ กลัวมากว่าก้องจะเจ็บตัวอีกรึปล่าว
ดีใจที่แฮปปี้ เออะว่าแต่ พี่วินระวังโดนข้อหาพรากผู้เยาว์นะค๊า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 29-10-2013 23:34:11
โอ๊ยยย
น่ารักไม่ไหว
ขอบคุณพี่ต้นมากนะคะที่เขียนมาให้อ่านกัน
พี่วินกับน้องก้องน่ารักมากเลยอะ
แต่น่าจะมีตอนพิเศษมาให้อ่านกันอีกสักนิดนึง อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 29-10-2013 23:42:03
หวานๆ พี่วินน้องก่องอิอิ 

น้องก้องเเมนมากๆ   o13 

เมื่อไรจะเป้นเมียพี่วินจ๊ะ :hao7:


อยากอ่านตอนพิเศษจัง

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 29-10-2013 23:52:18
ขอบคุณครับ อยากได้ตอนพิเศษจัง รอน๊า
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: tamahomae ที่ 30-10-2013 01:11:11
เป็นอะไรที่กุ๊กกิ๊กน่ารัก แถมอบอวลไปด้วยความอบอุ่นเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 30-10-2013 01:16:27
ชอบเรื่องนี้ที่สุดใน series Home เลยครับ  o13
ฟินมาก  :hao7:

สนุก น่าติดตามสม่ำเสมอตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีน่าเบื่อเลย
ตัวละครมีชีวิตมากจนไม่อยากให้จบ

ไม่น่าจบเลย อ่ากกกก  :z6:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: karatop ที่ 30-10-2013 02:19:17
จบแล้ว...ขอบคุณคนแต่งมากๆ นะครับ ^^"
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 30-10-2013 09:04:57
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: daboo ที่ 30-10-2013 09:21:21
เฮ้ย   ได้กันแล้วหรอ


"คืนนี้ตกเป็นเมียพี่อีก"    หืมมม  คำว่าอีก   
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 30-10-2013 09:23:50
 :L2: :L1: :pig4: ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 30-10-2013 09:53:14
เก่งเกิ้นนนน 5-1 หมาหมู่ชัดๆ แถมยังแพ้อีกนะ อายไหม ฮะ

ในที่สุดก็แฮปปี้  :mew1:


ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 30-10-2013 10:53:54
ในที่สุด น้องก็ยอมสักที :) :) :)
ว่าแต่มันขาดอะไรไปเหรอเปล่านะ 55555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 30-10-2013 11:20:02
น่ารักมากๆเลยค่ะ ทั้งพี่วินและน้องก้อง

ไว้จะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-10-2013 11:36:02
โอ๊ยยยย ตอนสุดท้ายก้องน่ารักอ่ะ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 30-10-2013 15:18:13
".. ถ้าโกหก คืนนี้ต้องตกเป็นเมียพี่อีกนะเว้ย"  หื้อ! .... เมื่อไหร่หว่า  :hao4:
".. เรื่องบางเรื่อง คำบางคำ เก็บไว้รู้กันแค่สองคนบ้างก็ได้"  555 จ้าก้อง  :hao3:

ขอบคุณนะคะ รออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปค่ะ  :L2:  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 30-10-2013 18:39:37
ถ้าเป็นหน้ากระดาษคงพลิกไปพลิกมาจนขาดเพราะหาไม่เจอ น้องก้องมัน ไปเป็นเมียพี่วินตอนไหน

มันติว เคมี กับ เลข กันไม่ใช่รึ เห็นบอกว่า จะรอ จบ ม.4 นี่มันเพิ่งสอบเสร็ง อร๊ายยย กำลังจะได้เป็น ซินะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: gboykung ที่ 30-10-2013 18:42:16
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 30-10-2013 18:58:12
จบแล้ววว


เย่ๆๆ น่ารักอ่ะ ชอบเรื่องนี้ิ ขอบคุณคนแต่นะค่ะ  ^^

 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 30-10-2013 19:18:55
พี่วินน่ารักมากเลย กิสส
อิจฉาก้อง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-10-2013 20:19:40
จบแล้ว :pig4: :pig4:

ก้องไม่ต้องตงต้องติววิชาเรียนแล้ว ให้พี่วินติวเรื่องบนเตียงดีกว่า
ถ้าจะหัวไวกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 30-10-2013 20:22:35
ไอ้คู่โหดมันหวานปิดท้ายให้ได้ชื่นใจ
ขอบคุณค่าาาา


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 30-10-2013 20:34:25
น่ารักจังเลยค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 30-10-2013 21:49:35
สนุกมากครับ กว่าจะเป็นแฟนกันก็ถึงตอนจบพอดี

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-10-2013 22:39:18
ชอบจังเลยผู้ชายที่พึ่งพาได้แทบทุกเรื่องเนี่ย
เอ่อ...ไม่ทราบว่าน้องก้องแอบไปเป็นเมียพี่วินเมื่อไหร่กัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 30-10-2013 22:48:41
เค้าได้กันหลังไมค์เว้ย 555555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 30-10-2013 23:30:37
ขยันลงเรื่องสั้นจริงอะ พี่ต้น อย่าลืมไปลงเรื่องยาวละครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 31-10-2013 01:25:00
ว๊ายๆๆๆ

จบซะแหล่ะ  สนุกอ่ะ คุณผู้แต่ง

อยากอ่านตอนพิเศษจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 31-10-2013 08:32:22
โอยสนุก น่ารัก อบอุ่น ครบรสมาก
ไม่ดราม่า
ชอบประทับใจ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: envylover ที่ 31-10-2013 19:00:10
อ่านแบบรวดเดียวจบเลยขอรวบยอดคอมเมนต์ทีเดียวเลยนะคะ

ชอบกลิ่นไอสไตล์พี่ต้นในนิยายแต่ละเรื่องมากเลยค่ะ มันอบอุ่น ซาบซึ้ง บางครั้งก็เศร้าๆ เล่นเอาน้ำตาซึมไปหลายตอนเลย แล้วที่ชอบที่สุดคือความเรียลของเนื้อเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันต้องมีคนแบบนี้ คู่รักแบบนี้ในชีวิตจริงแน่ๆที่ไหนสักแห่ง อบอุ่นหัวใจมากเลย

แถมตัวละครของพี่ต้นอ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นความรักของผู้ชายดี >< ไม่เพ้อฝันแต่สนุกมาก อ่านแล้วสุดจะอิน ตอนกัดกันก็น่ารัก แถมก้องเก่งมากอะชอบสุดๆ คาแรกเตอร์ตัวละครมีเสน่ห์ แยกออกได้เลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่า

ปล. รออ่านกระดานดำภาค 2 เป็นกำลังให้นะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 31-10-2013 22:01:40
พระเอกนายเอกบู้กันเก่งทั้งคู่เลย
หวานๆไม่มี แต่พี่วินกับน้องก้องก็อบอุ่นน่ารักมากฮับ

ขอบคุณผู้เขียนคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: icetim ที่ 31-10-2013 23:59:55
โหด มันส์  ฮา ครบรสเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ฺBieKung ที่ 01-11-2013 19:44:29
อ๊ากกกกกกก!!!
ชอบนิยายพี่ต้นทุกเรื่องเลยยยยย
(อ่านของคนอื่นแล้วมันไม่สนุกเท่าอ่า 555)
ชอบตรงที่มันไม่ได้รู้สึกเว่อร์เกินไป ทุกๆเรื่องให้ความรู้สึกแบบเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
แล้วก็อ่านแล้วรู้สึกไม่อยากหยุด 55555

 :hao5: :hao5: :hao5:
อ่านนิยายพี่มาตั้งแต่ม.ปลาย จนตอนนี้จะจบมหาลัยแล้ว
ก็ยังชอบไม่เปลี่ยนเลยยยย ^^
ขอบคุณมากนะค๊าบพี่ต้น ที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านมาตลอดเลยยย
พักบ้างนะพี่ ช่วงนี้งานหนัก เดี๋ยวไม่สบาย แหะๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 01-11-2013 21:38:17
น่ารักจัง สนุกที่สวดเลย

ขอบคุณค่าที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน  :pig4: :pig4: :pig4:
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 02-11-2013 02:04:48
พอไม่มีเรื่องที่พี่วินจะถูกไล่ออกมาให้กังวล ก้องก็แสดงฝีมือเต็มที่เลยนะ ดูจากนิสัยพวกไอ่วีแล้วก็คงจะจริง
ที่ว่าถึงยอมให้พวกนี้ไป ก็ไม่มีทางจะจบง่าย ๆ มีแต่จะคิดว่าตัวเองเหนือกว่า แล้วก็คอยรังแกคนที่อ่อนแอกว่า
หรือคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าไปเรื่อย ไม่จบสิ้น สั่งสอนให้รู้สำนึกไปซักทีก็ดีเหมือนกัน ให้รู้ว่าที่ทำอยู่มันไร้ประโยชน์
จะได้เลิกมาวุ่นวายซะที แต่สุดท้าย สิ่งที่จะทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ ก็ต้องใช้ความอดทน
และรู้จักข่มใจตัวเอง อย่างที่ก้องกำลังพยายามทำอยู่นี่แหละนะ ยังไงซะ การมีพี่วินคอยอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าในสถานะไหน
ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับก้องอยู่ดี แล้วประโยคที่ทำให้พี่วินจำก้องได้ เดาถูกด้วยล่ะ ดีใจจัง(รึว่าเค้าก็เดากันถูกหมดนะ แหะๆ)
   
ก้อง รู้ตัวแล้วว่า ความรู้สึกที่มีให้พี่วินเป็นยังไง แต่ไม่ยอมแสดงออก ต้องให้พี่วินหมั่นหยอดอยู่นั่นแหละนะ กว่าจะยอมเป็นแฟน
แหม แต่ท่าตอนขอเป็นแฟน กับพี่วินพูดเพราะ ๆ  “เป็นแฟนพี่นะครับ” เขินจัง  :o8: แต่หวานได้แป๊บ ๆ ก็เริ่มหื่นอีกแล้วนะ
ยังไม่ทำอะไร รอให้ก้องจบ ม. 4 ก่อนก็ได้ ม. 4 เนี่ยนะพี่วิน พูดเหมือนรอนานเลยนะ พอเป็นแฟนกัน ก็เดี๋ยวจุ้บ เดี๋ยวหอม น่ารักอ่ะ
พี่วินกล้าเปิดเผย ก้องก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัวแฟนกับเพื่อน ๆ อย่างเท่ห์เลยนะ ท่าทางภูมิใจนะเนี่ย ที่มีพี่วินเป็นแฟน
จากพี่ชายน้องชายข้างบ้าน ครูกับลูกศิษย์ และสุดท้าย ก็ได้กลายมาเป็นคนรักกัน ถึงต่อไปในอนาคต จะมีปัญหาอะไรเข้ามา
ให้ทั้งสองคนต้องเจออีก แต่แค่จับมือกันไว้และร่วมแก้ไขไปด้วยกัน ยังไงซะก็จะมีคำว่า ความสุข รอทั้งคู่อยู่แน่นอน
******************************************************
จบลงด้วยคำว่า ความสุข ทั้งของพี่วินกับก้อง และคนอ่าน ขอบคุณคนเขียน สำหรับนิยายดี ๆ ที่ให้ทั้งข้อคิดและความสนุก
ที่สำคัญ ไม่มีดราม่ามาให้จิตตก ข้อนี้ชอบมาเลยค่ะ ขอโทษที่บางครั้งก็มาเมนท์ช้า และบางครั้งอาจเมนท์อะไรที่มัน
วกวน ยืดยาว งง ๆ อินจัด ไปบ้าง หวังว่าจะไม่ว่ากันนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :pig4: :3123:

 
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: gboykung ที่ 02-11-2013 04:02:39
ช่วยเม้นท์
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: netkung ที่ 02-11-2013 17:01:42
น่าจะมีฉากหื่นๆเยอะเน้อออ ผมชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: balnk_guy ที่ 02-11-2013 20:20:01
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 02-11-2013 23:47:52
อ่านรวดเดียวจบเลย
เดี๋ยวจะไปตามผลงานเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ
ชอบเวลาก้องคุยกับเพื่อนๆ นะ
เฮฮาดี
คุณแม่ก้องก็น่ารักนะ คิดว่าคุณแม่เป็นสาววายซะแล้ว
แต่เปล่าเลย เป็นคุณแม่ที่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นต่างหาก
เป็นคุณแม่ที่เท่จริงๆ คงเพราะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย

ไม่พูดถึงคงไม่ได้ พี่วินก็น่ารักนะ ขยันหยอกน้องเหลือเกินอ่ะ
เป็นคนมีความคิด ฉลาด และดูมีสติมากกว่าก้องเยอะ (หัวเราะ)
ฝากน้องก้องให้พี่วินดูแลด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 03-11-2013 20:55:59
เนื้อเรื่องสั้นแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกครับ เขียนเป็นธรรมชาติ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: paintshinki ที่ 03-11-2013 22:27:48
ชอบมากค่ะน่ารักดี อ่านรวดเดียวจบเลย
ขอบคุณมากๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: amkang12 ที่ 04-11-2013 00:37:21
อ่านจบแล้วครับคุณต้น เรื่องนี้สนุกดีครับ สั้นๆไม่ยาวแต่น่ารักมาก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ที่คุณเสียสละแต่งให้พวกเราได้อ่านกันน่ะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ

ยังคงติดตามในเฟสบุ๊คตลอด อย่าน้อยใจน่ะครับ อิอิ สู้ๆๆครับ ผม
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 04-11-2013 10:16:27
แอร๊ยยย สนุกและดูอบอุ่นมากมายเลยยย
เขียนได้ดีมาก ๆ เลยฮ๊าฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ✿PIERRE ที่ 09-11-2013 21:36:11
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย

น่ารักเวอร์ๆ

พี่วินนี่แบบ ชอบแกล้งงะ 5555+
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 10-11-2013 01:06:50
อบอุ่นและน่ารักมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับความอบอุ่น  และความรู้สึกดีๆ  ที่แบ่งปันมาให้กันนะคะ

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 11-11-2013 03:27:01
ดูอบอุ่นดี แล้วก็น่ารักด้วย ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: yong ที่ 11-11-2013 12:31:41
ขอบคุณผู้เขียน รออ่านจบจะเข้าใหม่
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 13-11-2013 00:02:37
จะมีตอนพิเศษมั้ยน๊ออออออ??
 :hao3:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 14-11-2013 17:08:16
เค้าได้กันหลังไมค์เว้ย 555555

 :a5: ช๊อค
ขอบคุณมากค่ะ ถึงจะช๊อคไปนิดหน่อยก็ตาม  :m20:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 16-11-2013 00:21:19
รู้ตัวอีกทีเรื่องนี้ย้ายมาห้องจบแล้ว งง ตามไม่ทัน ฮ่าๆๆ

น่ารักมากเลย อืมมม จะให้มาจิ๊จ๊ะมันคงไม่ใช่แนว ชอบๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 26-11-2013 18:22:01
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-01-2014 08:28:46
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: maybe-yy ที่ 06-01-2014 14:39:51
 :katai2-1: น่ารักอมยิ้มสั้นๆ สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 06-01-2014 16:20:12
โอ้ยยยยยยยยย น่ารักดีอะ สนุกมาก ๆเลยนะ ยอดเยี่ยมๆ
 o13 :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 06-01-2014 22:42:48
ชอบซีรี่ย์ชุดนี้มากค่ะ

คือทุกเรื่องให้ความรู้สึกอบอุ่น ความรู้สึกของบ้าน ของครอบครัว ที่อ่านแล้วรู้สึกดี

จะรอติดตามผลงานถัดไปและเป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 09-01-2014 22:50:44
 :katai2-1: ใช้เวลาอ่านเรื่องนี้ 2 วัน จบแล้วววววววววว

สนุกดีนะคะ เป็นเรื่องที3 แล้วนะ ต่อจาก กัปตัน - แอร์บัส และก็ หมอเก้า

ไม่มีข้อตินะคะ เพราะเนื้อเรื่องสนึก น่าติดตาม ใช้ภาษาการบรรยาย ที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความมากมาย

แต่ก็ไม่ได้ทำให้ เนื้อเรื่องน่าเบื่อแต่อย่างใด

ขอบคุณสำหรับ นิยายสนุกอีกเรื่องนะคะ  :pig4:

ป.ล. ลืมมมมมม ทวงๆๆๆๆๆ อยากอ่านตอน ก้อง ตกเป็น เมีย พี่วิน อ้ะ  :oo1: :oo1: :oo1:
 :z1: :m25: :pighaun: :z1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 10-01-2014 00:44:48
แอร๊ยยยยส์ วินxก้อง น่าร๊ากกกกส์  :man1:
เป็นเรื่องสั้น ที่อยากให้เป็นเรื่องยาวจริงๆ เลยค่ะ..
อ่านแล้วอมยิ้มไปด้วย มีความสุขที่ได้อ่านค่ะ..
ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: littlebug ที่ 12-01-2014 03:38:32
ขอบคุณผู้แต่งที่นำเรื่องราวดีๆแบบนี้มาให้อ่านกันครับ ชอบมากครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: TK323 ที่ 12-01-2014 12:24:06
อยากได้ผู้ชายอย่างพี่วินดูอบอุ่นสุดๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด อิจฉาหนูก้อง :hao5: 
ก้องก็น่ารักแบบแมนๆ เราชอบเคะแบบนี้ล่ะไม่อ้อนแอ้นเกิน สองคนนี้ทำเราเขินหลายรอบเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: MonkeyJman ที่ 12-01-2014 17:03:12
 :really2: เอาอีกได้เปล่าอะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-02-2014 19:07:51
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ อ่านเพลินมาก
อ่านไปยิ้มไป แนวคุณครูกะนักเรียน ช๊อบชอบบบบบ ^▽^
ขอบคุณคนเขียน สำหรับเรื่องดีๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 25-02-2014 14:18:26
โอ๊ยย น่ารักอบอุ่นมาก
ชอบการเล่าเรื่อง ตัวเอกก็แจ่ม อิอิ
ชอบนิสัยของทั้งคู่เลย อ่านไปฟินไป
ขอบคุณนะคะ สำหรับนิยายสนุกๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 27-02-2014 00:42:29
 :mew4: สนุกอะ แบบว่าอ่านไปเรื่อยๆ อ้าววว จบละเหรอ ไม่ทันได้รู้ตัว 5555
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 07-03-2014 16:40:23
เพิ่งจะได้อ่านก็ตอนจบ

สนุกมากกกกกกก  อ่านง่าย ลื่นไหล   

ก้องน่ารักดี 

แล้วตอนท้ายนี่คือได้กันแล้ว? ไอ้เราก็ไม่รู้ไม่เห็น ก็อยากจะรู้อยากจะเห็น(?) 

ไม่มีนโยบายเขียนตอนพิเศษเรื่องนี้เลยเหรอคะ?   :hao3:

สุดท้าย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ อ่านเพลินๆค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 02-06-2014 20:35:26
อ่านจบแล้วววววววว


อยากบอกว่าเขินอ่ะ


เขินแทนนายก้องจริงๆ

แอบอินว่าตัวเองเป็นนายก้องซะเอง

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 05-06-2014 17:26:11
น่ารักอ่ะ คู่นี้ต้องเรียกว่า.. Top Secret  เลยนะเนี่ย 555+  :m1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door (ตอนที่ 14-15: 29 Oct จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 03-07-2014 22:47:11
จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-08-2014 16:52:15
แจ้งเปิดจองและโอนเงิน
หนังสือชุด "Home The Series ความรัก & ความทรงจำ"
 Home, Coming Back Home, Moving In และ Brother next door
และเรื่องสั้นพิเศษอีก 1 เรื่อง


อ่านรายละเอียดได้จากกระทู้ข้างล่างนี้ครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43296.0
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 27-09-2014 00:36:52
น่ารักจัง เขินแทนไปหลายช็อต

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ :)
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 28-09-2014 06:18:57
อ่านรวดเดียวจบเลย
ตอนแรกนึกว่าจะน่าเบื่อแบบเพื่อนบ้านกันอะไรอย่างงี้ แต่มันกลับไม่ใช่
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วบางทีก็สงสารน้องก้อง บางทีก็หมั่นไส้พี่วิน แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้รักกัน แต่ก็นึกว่าจะมีมาม่าครอบครัวซะแล้ว ยังดีที่คุณแม่เข้าใจนะเนี่ย
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 29-09-2014 20:39:29
เข้ามาอ่านรอบสองคับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 07-10-2014 18:29:55
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 11-11-2014 17:09:00
ชอบเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 18-02-2015 03:16:40
โอ๊ย ชอบๆ แต่มันยังจิ้นไม่สุดอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Nbear ที่ 18-02-2015 23:22:58
เพิ่งจะเข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่าาา น่าจะแต่งตอนพิเศษบ้างน้าาา :mew1: :mew2:
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 11-03-2015 23:03:59
5555น่ารักอ่า ชอบน้องก้องเวลารั่วๆโก๊ะๆอ่า
พี่วินนี่ก็นะ พอได้ทีรุกซะ และตอนนี้คือเป็นเมียไปละด้วย อยากจิแอบดูซะจริงๆ อิอิ
แต่ว่าคุณแม่ชนะเลิศ~~~~
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: poonnana2533 ที่ 12-03-2015 00:38:51
เรื่องรี้สนึกจังแต่งได้ดีค่ะ อ่านแช้วไม่เบื่อเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 17-04-2015 18:45:59
สนุกมากค่ะ เราชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิงผมซอยปลาย ที่ 26-04-2015 18:02:13
ชอบมากค่ะ พระเอกนายเอกบู๊เก่งเนี่ยย

ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ  :m1: :m13:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: hardened-boy ที่ 27-04-2015 20:01:17
 :hao6:
สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: PrInCeZzAoFz ที่ 01-05-2015 21:26:19
น่ารักมากอ่ะ
แอบเขินตาม
 :o8:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 04-05-2015 22:42:33
พึ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่านค่ะ
น่ารักจังเลยยยยย ชอบพี่วิน พี่วินคะ  :-[
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 07-05-2015 07:10:52
น่ารักจริง โดยเฉพาะคุณแม่
แต่แอบกลัวใจคุณย่าถ้ารู้จัง
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 25-07-2015 11:19:15
แปะๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 21:24:05
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 28-07-2015 15:40:21
มาอ่านแบบรวดเดียวจบ น่ารัก อบอุ่น ชอบพี่วินมากมาย แบบว่า เป็นคนที่ครบถ้วนแบบออลอินวันมากค่ะ
เป็นคนที่อบอุ่นก็ได้ ดูแลคนอื่นก็ได้ โหดก็ดี เกรียนและอารมณ์ดีหน่อยๆด้วย มีเหตุมีผล บลาๆๆ0 ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกชอบ ก้องก็คล้ายๆกันเลยค่ะ จะต่างแค่ดูเด็กกว่า เลยมุ้งมิ้งๆบ้าง แต่แบบ ชอบอ่ะ ชอบคู่นี้นะ เค้าดูเข้าใจกันดีแบบแปลกๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Pine_apple ที่ 31-07-2015 04:39:18
 :L2: :L2: สนุกมากเลยค่าา ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 05-08-2015 09:01:34
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 07-08-2015 11:35:01
สนุกดีครับ
ไอเดียแปลกกว่าที่คิดไว้
แถมนายเอกสู้คนก็น่ารักดีจัง
ขอบคุณผู้แต่งมากๆครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 12-08-2015 23:51:24
 :pig4: เสียใจมาไม่ทันรวมเล่ม :sad4: น่ารักทุกเรื่องเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 16-08-2015 15:32:34
น่ารักจังเลยยย เคยอ่านเมื่อสักพักนานมาแล้ว แว้บมาอ่านอีกรอบ
ชอบพลอต อาจารฝ่ายปกครองสุดเหี้ยบกะเด็กเกเร จัง 555555555

จะตามเก็บเรื่องที่ยังไม่ได้อ่านของซีรี่ย์ชุดนี้น้า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 20-08-2015 20:04:40
สนุกมากครับชอบเลย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-12-2015 18:10:15
สนุกมากครับ พี่วี น้องก้อง น่ารักมาก

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 18-12-2015 11:01:24
อร๊ายยยย น่ารักอ่ะ แต่น่าจะมีมากกว่านี้หน่อย จบแบบดื้อๆเกินอ่ะ อยากอ่าฉากหลังจากเป็นแฟนกันด้วยอ่ะ :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 26-12-2015 16:43:37
อ่านแล้วหัวใจฟูฟ่องเลย หุหุ :ling1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 26-12-2015 21:59:03
โอ้ย น่ารัก ชอบๆๆๆๆๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 27-12-2015 21:39:57
น่าจะเป็นบทพิเศษ ส่งท้าย :ling1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 25-02-2016 22:53:22
 o13
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-02-2016 19:17:34
พึ่งมาเจอเรื่องนี้ คึคึ นี่สรุปเพื่อนๆรู้ไหมว่ารักกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 21-03-2016 20:36:05
 :o8:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 24-03-2016 18:36:03
ชอบ น่ารักละมุนอบอุ่นแบบเถื่อนนิดหน่อย กำลังกรุบ 55 ขอบคุณสำหรับผลงานครับ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 05-05-2016 14:42:43
อ่านจบแล้ว
เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆเลย
พระนายน่ารักด้วยความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 20-07-2016 10:19:44
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 29-09-2016 09:21:36
จบแล้วจ้าาา
ขอบคุณ นิยายสนุกๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: THANZ ที่ 09-10-2016 09:35:47
เราพึ่งเคยอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจมากเลย เป็นนิยายที่สนุกมากๆๆ ขอบคุณผู้เขียนที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านครับ  :3123:
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 10-10-2016 17:32:23
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วชอบมากกกกกกกกกกก

ถึงไม่มีncเลยแต่ชอบในความกวนตีนของก้องอ่ะ

อยากให้มีต่อฉากพิเศษจริงๆเลย

ปล.ภาวนาให้เขียนต่อตอนน้องเรียนมหาลัยก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-03-2017 23:44:32
นิยายที่อ่านแล้วทำให้รู้สึกดีๆมากมาย
ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 27-08-2017 22:32:15
อ่านจบให้ความรู้สึกสมกับชุดโฮมจริงๆค่ะ.      อ่านแล้วชอบมากวางไม่ลงจริงๆ  มีแนวและเอกลักษณ์อย่างชัดเจน.  ขอบคุณ.   และส่งกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 12:40:27
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 13-02-2018 10:25:42
 :katai4:เร้วๆๆๆๆๆช่วยอัฟๆ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 13-02-2018 23:22:57
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-04-2018 02:52:49
เหมือนจะขาดฉากncไปนะ5555
หัวข้อ: Re: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-04-2018 07:11:37
คิดถึงจึงมาอ่านอีกครั้ง ^^
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: สิงหา ที่ 30-09-2018 00:48:38
น่ารักแบบโหดๆ น้องก้องศิษย์พี่วินยังเก่งขนาดนี้
แอบอยากอ่านฉากโชว์สกิลของคนพี่บ้างจัง

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 01-10-2018 16:59:15
น้องก้องนี่แสบ ซ่าจริงๆเลยยยยยย

พี่วีนี่ถึงจะดุๆ แต่ให้ความรู้สึกอุ่นๆนะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ภาษาดี เดินเรื่องก็ดี อ่านแล้วลื่นไหล ไม่สะดุดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-10-2018 23:56:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 31-07-2019 00:36:38
ขอบคุณมากๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 20-12-2020 22:35:17
เออสนุกดีอ่ะ เข้าใจก้องนะว่าไม่ได้ตั้งใจแต่มันก็มักเป็นแบบนี้แหละเป็นหัวโจ๊กและชอบมีคนมาหาเรื่อง มันเป็นคาริสม่า 55555 พี่วินก็ลาออกจากครูมาเป็นแฟนกัน  :-[ อ่านเพลินดี  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 21-12-2020 17:39:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Brother Next Door แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.17
เริ่มหัวข้อโดย: amkang12 ที่ 26-12-2020 22:54:43
ขอบคุณนิยายดีๆที่แต่งมาให้อ่านน่ะครับ
ไม่รู้ผมไปอยู่ที่ไหนมาไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลยทั้งๆที่อยู่ในเล้านี้มาตั้งนาน
เพิ่งปีโอกาสอ่านก็ปี2020แล้ว ช้าไปหลายปีเลย

ยังไงถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ 2021 & 2564 นะครับ