บทที่ 6
The end
ผมชื่อยูอาร์ You are คุณคือ หรือไอ้มึงที่ใครๆรู้จัก ตอนนี้ผมอยู่กรุงมิวนิค ประเทศเยอรมัน ผมกำลังยืนอยู่กับไอ้ไพรซ์ผู้ชายที่โง่ที่สุด แต่เป็นคนที่ผมรักที่สุดมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา
" นี่กูเหรอวะ"
" รีกาโลมั้งมึง เห็นไหมว่ามันไม่มีหาง"
ป้าบ!
งื้อ... ไอ้เมียโหด ไอ้เมียสุดแสบ เดี๋ยวกูทำให้ครางไม่ได้พูดไม่ออกเลยมึง
" กูหล่อขนาดนี้เลยเหรอวะ" แน่ะ มีชมตัวเองได้อีกเมียใครวะ
" มึงไม่หล่อ มึงดูดี มึงมันโง่ มึงมันไม่ฉลาด มึงมัน..."
ป้าบ!
รอบที่สอง...
งื้อ~ ไอ้โหด! กูอยากจะร้องเป็นภาษารีกาโลหนึ่งกับเพรสเซนต์หนึ่ง ไอ้เมียโหด ไอ้เมียแสบ
แต่อยากมีเมียโหดต้องทำใจ
เฮ้อ~ ยูอาร์เซ็ง...
ผมมองไอ้ไพรซ์ที่มองรูปตัวเองอย่างตื่นตะลึง เป็นไงล่ะ ดูดีล่ะสิ กูใส่อารมณ์ศิลปินลงไปหมด แต่โง่ๆอย่างมึงดูไม่ออกหรอก เอารีกาโลเบอร์หนึ่งเป็นตัวประกัน ถ้ามึงดูออก... กูยอมรอมึงไปอีกสิบปีเลยถ้ามึงดูออก
" มัน... แปลว่าอะไรวะ My Prize ชื่อกู? กูไปเป็นของมึงเมื่อไหร่"
....ก็บอกแล้วว่ามึงน่ะมันไอ้โง่ โง่กว่ากูอีก กูแสดงออกออกจะชัดมึงยังไม่รู้ตัวว่ากูแอบชอบอยู่ สมองเป็นโปรโตซัวหรือไงมึง โง่กว่ารีกาโลอีก
" เอ้าตอบมา ไม่งั้นกูเก็บเงินค่านายแบบนะมึง พี่ต้อมบอกถ้าขายคงได้ราคาแพง มึงวาดให้กูใช่ไหม กูจะได้เอาไปขายเป็นทุนการศึกษาให้ของขวัญ"
ครับ... คุณเมีย จัดการชีวิตและบัญชีเสร็จสรรพ แถมวางแผนอนาคตให้หลานอีก ได้ข่าวว่าของขวัญเป็นลูกไอ้ไอเอ็ม มึงไปขอไอเอ็มแล้ว? แต่อย่างมึงมั่วนิ่มเองตลอด เรื่องอื่นน่ะฉลาดหมด ยกเว้นเรื่องกู แม่ง โง่ดักดาน
" กูวาดภาพให้มึง กูมองแต่มึงมาตลอด มึงเป็นไหมว่าสีของแปรงมันไม่สะเปะสะปะ มันออกเป็นแนวทางเดียวตลอด รูปมึงเป็นรูปขาวดำแต่ดูเป็นมิติ เป็นเส้นแสงที่กูอยากแสดงออก ส่วนประกอบอื่นของภาพมีแสงสีหมดแม้แต่ฝุ่น แต่เห็นไหมว่าตัวมึงเป็นตัวเด่น เพราะมีแต่มึงที่สำคัญที่สุด ถึงกูจะไม่ลงสี ไม่ลงแสง แต่กูมองแต่มึงมาตลอด มึงเป็นรางวัล มึงเป็นคนเดียวที่ทำให้กูอยากให้โลกมีสันติ เพื่อที่มึงจะได้อยู่อย่างมีความสุข
ถ้าจะมีคนใส่สีต่างๆในตัวมึง ควรเป็นตัวกูที่มีสิทธิ ไม่ใช่คนอื่น คนที่ไม่เคยมองมึงมาก่อน"
ผมบอกมันที่เม้มปาก มันมองผมแบบหงุดหงิดแล้ว...
ป้าบ!
งื้อ... กูพูดอะไรผิด
" พูดภาษาคนสัด กูแปลไม่ออก"
.....ไม่อยากจะบ่น แต่มันจะงงไปถึงไหววะ! ผมแสดงออกขนาดนี้ พูดภาษาคนขนาดนี้ มึงจะโง่ไปถึงไหนวะ ไอ้ไพรซ์!
ป้าบ!
คราวนี้ผมตบไอ้ไพรซ์บ้าง หมั่นไส้มึง กูแสดงออกขนาดนี้มึงไม่รู้สึก โง่ดักดาน โง่กว่ารีกาโลอีก
ป้าบ!
มันตบกลับ...
แล้วก็เกิดสงครามตบตีระหว่างผัวเมีย...
มองอะไร! ไม่เคยเห็นคนตบกันหรือไง!
" ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย! มึงมันไม่น่ารักหรอก! แล้วบอกกูมา... มึงรักกูตั้งแต่เมื่อไหร่! เอาภาษาคน กูแปลไม่ออก!"
มันแปลไม่ออกตรงไหน ผมออกจะอธิบายเก่ง หรือคุณ... ว่าไง
ผมมองรูป My Prize ที่มันเป็นแบบ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมวาดด้วยใจทั้งหมด ผมลงสีตัวมันเป็นแบบขาวดำ มีแสงและเงาตามมุมตกกระทบทั้งหมด ผมอยากให้มันเป็นตัวมันที่ใสสะอาด เป็นคนที่ไม่ถูกสาดสีใส่ เป็นคนที่ไม่ว่าจะอยู่ในที่แบบไหน มันจะเป็นตัวมันที่ผมแอบรักมาตลอด
ผมมองมันที่ยังมองรูปภาพของตัวเองที่ตัวเปลือยเปล่า ภาพที่มันเอามือค้ำอยู่ที่เก้าอี้สตูสีแดงทำให้มันดูเด่น แต่จุดที่ทำให้มันดูเด่นที่สุดคือดวงตา ดวงตาที่มองมาโกรธๆยิ่งทำให้มันดูโดดเด่น ทั้งที่มันเป็นมุมที่หลบแดด แต่กลับแสดงความรู้สึกออกมาหมด
Primo Premio...
คนที่เป็นรางวัลของผม
คนที่มองผมอยู่คนเดียวมาตลอด
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอย่างอื่น
" ฮึก..."
เวรแล้วกู
" ฮึก แง..."
จบกันกู
" ฮึก ฮึก โฮๆๆๆๆๆ"
" แง๊ แงๆๆๆๆ เอ๊!!!! แงๆๆๆๆๆ"
โอย กูปวดหู!!!
เฮ้ออ ตอนนี้มีตัวแหกปากอยู่ในรถไฟความเร็วสูงสองตัว ตัวหนึ่งตัวพ่อ อีกตัวหนึ่งตัวลูก ไพรซ์กับของขวัญ...
แง๊!!!!!
เออ... ดี แหกปากกันใหญ่ กูรำคาญ
" ฮึก... มึง มึงไม่คิด....ถึงของขวัญหรือไง ลูกกู.... ลูกเรา....."
" .... " ได้ข่าวว่าของขวัญมันลูกไอเอ็มที่มันเอามาฝาก
" มึงจะร้องทำไม มันแค่ไปอยู่ที่นีซ มึงเองก็อยู่ พี่กูก็อยู่ แล้วถ้ามึงอยากอยู่ มึงอยู่ถาวรไปเลย กูจะทำเรื่องขอให้มึงอยู่ฝรั่งเศษยาวให้"
ป้าบ!
เง้อ... กูพูดไรผิด
" ไอ้ - ใจ - ดำ! มึงมัน....ไม่รักของขวัญนี่ กูเลี้ยง ของกูมา เกือบหนึ่งปี ลูกแม่... โฮ!!!"
เอ๊!!! แอ!!!!
เฮ้อ... กูล่ะเซ็ง
ผมตัดปัญหาโดยการปิดตา แล้วปล่อยตัวแหกปากสองตัวแหกปากกันไป ส่วนรีกาโลกับเพรสนี่หลับสนิท ดีจริง สุดยอดความมีประโยชน์
ผมหรี่ตามองสองแม่ลูกที่กอดกันอยู่ ร่ำลากันอย่างกับจะไปออกรบ ตั้งแต่ออกมาจากแกลโดยที่ไอ้ไพรซ์ยังงงๆอยู่ ผมก็ไปรับของขวัญ รีกาโลกับเพรสที่โรงแรม (ฝากพี่ต้อมดูอยู่) เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปที่นีซ ตาของไอ้ไพรซ์นี่แดงก่ำ ส่วนของขวัญก็เบะปากใส่ แค่ขึ้นรถไฟไปฝรั่งเศษมึงยังแหกปากกันขนาดนี้ ถ้าตอนพวกมึงแยกจากกัน มึงไม่ร้องจนเป็นสึนามิถล่มหรือไงวะ
แง้!!!!!
.....โอเค กูยอมแพ้ กูปวดหัว กูเซ็ง...
สุดท้ายผมต้องเอาสองแม่ลูกจอมเผาเต่ามากอดปลอบ แหมะ พอกูกอดเงียบกันเชียว ของขวัญนี่ทำหน้าตื่นๆ(ผมไม่ค่อยกอดบ่อย เอาแต่แกล้งหยิก) ส่วนไอ้ไพรซ์... อายกระทั่งกับหลาน ขี้อายจริงมึง เดี๋ยวโดนจัดหนัก
" มึงปล่อย... กูจะกล่อมของขวัญให้หลับ กูไม่แหกปากแล้ว มึงอย่าทำตาหื่น กู... กูจะหยุดแหกปาก"
ดี กูรำคาญ แต่กูไม่ปล่อย กูจะกอด
อย่ามึง
อย่าดิ้นมาก เดี๋ยวกูจูบ
เฮ้อ... แล้วกว่าทั้งสองตัวจะหลับเล่นเอาเหนื่อย เพราะกว่าจะหลับเล่นร้องแล้วอีก ปลอบแล้วปลอบอีก เพราะถ้าถึงฝรั่งเศษไอ้ไพรซ์ต้องส่งของขวัญคืนแม่จริงๆของของขวัญที่รออยู่ เมียไอเอ็ม ไอ้ไพรซ์เลยบ่อน้ำตาแตก
ส่วนหมาๆนี่ก็เป็นหมาที่ดีมาตลอด มันผงกหัวมาดูกันตัวละทีก็นอนต่อ รีกาโลนอนอยู่บนตัวเพรส เจ็ดเดือนนับตั้งแต่ผมซื้อมันมาตอนเป็นลูกหมา ตอนนี้มันเป็นหมาไซบีเรียนตัวใหญ่ ใหญ่กว่าเดิมเกือบสี่เท่าตัว สูงประมาณเกือบเข่า ตัวโตได้อีก เหมือนเจ้าของเลยว่ะ
ผมกอดสองตัวที่แหกปากจนหลับ ผมอยู่ในรถไฟความเร็วสูงแบบที่เป็นห้องเดี่ยวเพื่อเดินทางไปฝรั่งเศษ ก่อเปลี่ยนเที่ยวใหม่ไปที่นีซ ผมอยากให้มันดูวิว ผมกอดทั้งสองตัวที่หลับสนิท คนหนึ่งเป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนแม่ที่ดี เป็นแฟนที่สมบูรณ์แบบ ส่วนของขวัญก็เป็นหลานที่ผมอยากมี ความจริง... เรื่องที่ไอเอ็มเอาของขวัญมาฝากน่ะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก ผมเป็นคนสั่งมันให้เอาของขวัญมาเอง ส่วนโจ๊กเรื่องจดหมายน่ะ เป็นเกมส์ที่เราชอบเล่นกันบ่อยๆ
อะไร ใครหาว่าผมโกหก
ผมเปล่าโกหก
เพียงแต่เรื่องที่ไพรซ์มันไม่รู้ คุณเองก็ไม่มีสิทธิ์รู้
ผมกอดแฟนกับหลานที่นอนหลับ มันสองตัวเหมือนเทวดากับของขวัญตัวน้อยๆที่สวรรค์ประทาน ไอ้ไพรซ์ดูน่ารักมาก น่ารักว่ารีกาโลพีอีก แต่ที่ผมอยากหิ้วรีกาโรพีกลับมาน่ะ แค่อยากแกล้งไอ้ไพรซ์ต่างหาก ไอ้ไพรซ์น่ะขี้หวง แถมขี้หึงอีก ตอนที่ผมหิ้วรีกาโลพีน่ะ มันเหมือนอ้าปากจะด่า แต่พอเห็นตาดุๆของไอ้พิทบลูก็หุบปาก ฮาว่ะ ไอ้พิทบลูก็ขี้หึงแต่ไม่แสดงออก ผิดกับไอ้ไพรซ์ที่ด่าฉะ
ผมจับไอ้สองตัวแหกปากให้นอนอยู่บนเตียงดีๆ ก่อนนั่งลงเตียงฝั่งตัวเอง รีกาโลผงกหัวมาแล้วลงมาจากตัวเพรสก่อนมาทับผมต่อ
" เดี๋ยวแม่แกก็รู้แล้ว รู้ทุกอย่าง รู้ด้วยว่าที่กูซื้อหมามา ก็เพราะมันบ่นอยากได้ มันเป็นคนบอกเองว่าจะซื้อแต่ไม่มีเงินเลยซื้ออย่างอื่นแทน มันเป็นคนบอกเองว่ามึงตาเหมือนมัน มันเลยอยากให้มึงมาเป็นตัวแทน คนอะไร โง่ชิบเป๋ง แค่เอาตัวมันมาก็พอ ไม่ต้องเสียเงินซักบาท ปัญญาอ่อนได้อีก"
ผมบ่นแล้วเขกหัวไอ้ไพรซ์ที่งึมงำอยู่ไปที
" อืออ..."
มันคราง แต่ยังหลับสนิท
งื๊ดด หงิงๆ
อืมม ภาษาหมาของผมยังใช้ได้อยู่ รีกาโลเอาหัวมาไถแบบส่งกำลังใจ มันเอง...ฟังผมบ่นมาตลอดสี่ปี ตั้งแต่ตอนที่ผมซื้อมันว่าเพราะไพรซ์บ่นอยากชื่อมาหมาให้ผม มันบอกว่าอยากให้ผมเห็นมันอยู่ในสายตา อยากให้ผมมองมันอย่างที่มันมองมาตลอด แต่มัน... ไม่รู้หรอก ว่าผมเองก็มองแต่มันมาตลอด โดยที่มันไม่เคยรู้ตัวมาก่อน
" นี่กูเหรอวะ" มันถามเป็นรอบที่ล้าน
" มึงเห็นไหมว่ามันไม่มีหาง มันมีแต่ตา มึงจะ..."
ป้าบ!
งื้อ... ไอ้เมียโหด
ตอนนี้ผมอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลที่อยู่ที่นีซ ปราสาทที่เป็นหอคอยงาช้างเก่าแก่ มันเป็นอดีตป้อมปราการขนาดใหญ่ในสมัยก่อน คฤหาสน์แห่งนี้เป็นของสืบทอดมานานหลายสิบปี หมายถึงสิบๆปีที่รวมกันได้หลายร้อยปีน่ะ
ผมพาไพรซ์มาที่คฤหาสหลังจากพาไปทักทายกับที่บ้านเสร็จ ไอ้ไพรซ์นี่แทบปวดตับเมื่อเห็นต้นแบบกับต้นฉบับของผมที่อยู่กันครบหมด พ่อกับแม่ ปู่ย่า ตายาย ไอเอ็ม อยู่กับครบหมด โรซานน่า(เมียไอ้ไอเอ็ม)กับพ่อแม่ของโรซานน่าก็อยู่ เรียกได้ว่าอยู่กันครบหมด พ่อกับแม่ดีใจมากที่ผมกับไอเอ็มเป็นฝั่งเป็นฝา ท่านอยากอุ้นหลานน่ะ ถึงหลานอีกคนต้องรอก่อนก็ไม่เป็นไร ท่านแค่อยากเห็นเรามีความสุข
" ไพรซ์เหรอลูก น่ารักเหมือนที่ซีน่าบอก แม่แปลเสียงอ้อแอ้ของหลานออกน่ะ คุณมาดูสิ น่ารักเชียว my prize.. เด็กผู้ชายใช่ไหม ตัวเตี้ยไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร แม่ไม่พาไปเคสหรอก แม่เป็นอดีตนางแบบ ส่วนคุณตากับคุณยายท่านเป็นอัจฉริยะที่อยู่สาขาเคมีฟิสิกซ์ ทำงานเกี่ยวกับสสาร ยูอาร์น่ะเหมือนคุณตา แต่ผิวเหมือนคุณยาย เป็นคนเผือกน่ะ แต่เราก็ขาวนะ น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นมากกว่า คุณดูสิขาวเหมือนคุณเลย ขนาดคุณเป็นลูกครึ่งยังขาวไม่เท่าไพรซ์เลย อิจฉาล่ะสิ"
....เป็นไงล่ะ รู้รึยังว่าผมได้นิสัยพูดติดเป็นต่อยหอยมาจากใคร
หลังจากจบประโยคนั้นไอ้ไพรซ์ก็ลากผมแถกๆ มันคงตกใจน่ะ ตอนแรกมันกะขนของขวัญกับหมามาด้วย มันบอกบ้านผมแปลก แปลกแบบปัญญาอ่อนๆ
" แม่ง ที่เขาว่าอัจฉริยะกับคนบ้านี่ห่างกันแค่เส้นกั้นนี่ท่าทางจะจริงว่ะ แม่มึงจบสาขาเคมีฟิสิกซ์แต่ดันเป็นนางแบบ พ่อมึงจบสถาปัตแต่เป็นผู้บริหารธุรกิจ ปู่ยาเป็นนักการทูต ตายายเป็นนักเคมี เหมาะกันมากมึง ไปจูนกันอีท่าไหนวะ"
ครับ.. อย่าถามดีกว่าไปจูนอีท่าไหน เพราะกูก็ไม่อยากถาม กูกลัวรู้คำตอบ
หลังจากที่ผมมาถึงนีซ ก็พามันไปเปิดตัว ก่อนที่มันจะลากผมแถกๆหนีออกมาจากบ้าน ที่บ้านผมก็เห่อ ของขวัญ(หรือซีน่า) รีกาโล เพรส กับไพรซ์กันใหญ่ แต่ผมขอดึงตัวมันออกมาก่อน
ผมดึงมันมาขึ้น Vanquish คันโปรดก่อนพามันทัวร์รอบหาด ก่อนพาไปคฤหาสน์ที่อยู่ที่ Eze มันเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีภูเขาหินโอบล้อม คฤหาสน์หลังนี้อยู่ในมือตระกูลผมมาหลายชั่วอายุคน อยู่บนเขาที่เห็นทะเลมอนติ คุณยายท่านส่งต่อมาให้ผม คนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนคุณตา ส่วนไอ้ไอเอ็มที่เหมือนคุณยายได้ที่ดินแถบรัสเซียที่เป็นของคุณตาไป
" นี่ตากู? มึงมองกูมาตลอด?"
" ใช่ กูมองมึงมาตลอด มีแต่มึงที่กูมอง แต่มึงมันไม่เคยรู้ตัว กูต้องรอมึงมาตลอดห้าปี มึงสำนึกผผิดหรือยัง..."
ป้าบ!
งื้อ อะไรอีกว้า
" ได้ข่าวว่ากูเป็นคนขอมึงเป็นแฟนก่อนสัด! แล้วทำไมมึง..."
" อ่อ... กูอยากแกล้งมึงน่ะ เห็นมึงเอ๋อดี กูเลยอยากแกล้งมึง"
ป้าบ!
.
.
.
เพี๊ยะ ผลั่วะ ตุบตับ ตุบตับ
งื้อ... ผมถูกซ้อม ถูกเมียซ้อม กูแค่ล้อเล่นนิดหน่อย ลงไม้ลงมือตลอด ไอ้เมียโหด
" บอกกูมา!"
แน่ะ มีตะโกน เห็นกูไม่ตอบหน่อย เอาใหญ่
ผมกดปากแลกจูบกับมันไปที โทษฐานที่มันตบ มันครางแผ่ว ดีมึง หุบปาก กูเจ็บปาก ตบจนกูเกือบปากแตก
" ไอ้มึง! "
" เออๆ กูโกหก กูโกหกมาตลอด กูมองมึงมาตลอด แต่กูไม่อยากให้มึงเสียใจ กูไม่มั่นใจในตัวเอง กูเลยรอไปก่อน"
" .... "
อ่าว คราวนี้มันไม่ตอบ มันไม่ด่า แต่ตาแดงๆ อย่าแหกปากนะมึง กัดปากไว้ อ่าา... เซ็กซี่ได้อีก แต่ขืนผมจูบอีก ผมคงโดนต่อย
" กู... มองแต่มึงมาตลอด ตั้งแต่ตอนมึงอยู่ในดงตีน มึงแม่งเอ๋อ เขาตีกันเพื่อแย่งมึง มึงยังเอ๋อได้อีก เออๆ กูรู้ว่ามึงรำคาญ ตามึงมันบอก แต่ตอนที่มึงอยู่ในดงตีนน่ะ มึงไม่รู้หรอกว่ามึงทำตาแบบไหน ตามึงสวย ใส วาววับด้วยความโกรธ ตามึงดูโกรธๆอยู่ตลอด แต่ในนัยน์ตาโกรธๆของมึงน่ะ มีความเบื่ออยู่ เออๆ กูปล่าวโรคจิต แต่ตามึงสวย มันดูวับวาว ทั้งที่เบื่อแต่กลับเต็มไปด้วยชีวิตเต็มไปหมด ผิดกับกู ตากูตายซาก กูมองไม่เห็นสี ไม่เห็นแสง กูอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด ถึงกูจะอยู่แบบคนปกติ แต่กูไม่เคยปกติ กูไม่เคยมีใคร จนอยาก... มีมึง"
ใช่ ผมอยู่คนเดียวมาตลอด ตั้งแต่อดีตผมไม่เคยมีใคร เพราะเป็นเด็กพิเศษที่เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ ผมถึงอยู่อย่างโดดเดี่ยว ผมไม่เคยมีใครนอกจากไอเอ็ม จนกระทั่งมาเจอกับมัน
" ตามึงเป็นสีน้ำตาล เป็นครั้งแรกที่ตากูเห็นสี ทั้งที่เป็นดวงตาแบบธรรมดา แต่กลับมีชีวิตอยู่เต็มไปหมด ตามึงสวยใส แค่เห็น... กูก็ไม่อยากหลบตา อยากมองตาอยู่ตลอด จนมึงสบตากูจังๆ มึงเสือกหลบตา ตอนนั้นหน้าสามปลิวมาจนเกือบโดนมึงพอดี กูเลยไปช่วย กูไม่ได้ห่วงมึง กูห่วงตามึงต่างหาก กูพูดจริง กูห่วงตามึงก่อน ก่อนห่วงมึงอีกที แต่สุดท้ายกูถูกรุมตีน ฐานเป็นตาอยู่"
ผมบอกตอนที่มันหลุบตา ผมมองตามันมาตลอด มองแต่ดวงตา เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแสงสว่าง เป็นครั้งแรกที่เห็นแสง ผมอยู่คนเดียวมาตลอด ท่ามกลางแสงขาว มันดูสะอาด แต่ว่างเปล่า จนเมื่อเห็นตามัน ผมถึงเห็นแสง เห็นสี เห็นแต่ตามันมาตลอด
" ....แต่รูปมึง มันเป็นตาสีเขียว"
ใช่... รูปที่ผมวาดจนรางวัลมา รูป First Prize เป็นรูปดวงตาสีเขียวดูวาววับเต็มไปด้วยความโกรธ เป็นรูปตาที่ผมเห็นจากตามันครั้งแรกตอนที่มันกำลังโกรธ แต่สีของดวงตาเป็นสีจากตาของผมเอง เป็นสีตาที่มีภาพพิมพ์มาจากแบบตาของไอ้ไพรซ์อีกที
" มึงเป็นคนแรกที่ทำให้กูอิจฉา มึงเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน ถึงมึงจะดูเบื่อๆอยู่ตลอด แต่มึงไม่เคยโดดเดี่ยว มึงมีเพื่อนที่จริงใจอยู่ตลอด ผิดกับกู ที่มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่กูไม่เคยเห็นอะไรซักอย่าง ไม่เคยเห็นความจริงใจ เจอแต่คนตลบแตลง กูอยากเป็นแบบมึง เลยวาดสีตาแบบที่เป็นตัวกู คนที่อยากเป็นแบบมึง คนที่เป็นคนธรรมดา"
" แล้วกู... ไปเป็นแบบให้มึงเมื่อไหร่ ทำไมมึงอิจฉากู ทำไมมึงไม่เคยบอกกูมาก่อน"
" กู...ไม่แน่ใจตัวเอง กูไม่เคยรักใครมาก่อน กูไม่อยากทำให้มึงเจ็บปวด กู... ไม่เคยรู้จักความรัก กูกลัวกูทำมึงเจ็บ กูไม่เคยเห็นแสงแดดอันอบอุ่น อยู่เมืองไทย กูอาจเป็นคนปกติ แต่พออยู่ที่อื่น กูเป็นคนที่โดดเดี่ยว อยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีขาวสว่าง ต่อให้เป็นถนนเปื้อนเลือด มันก็เป็นถนนสีขาว กูฆ่าคนตาย... ไม่ได้ยิงคนหรอก กูเป็นนักธุรกิจ ปีศาจแห่งวงการธุรกิจ กูฆ่าคนผ่านธุรกิจ กูเทคโอเวอร์มาหลายบริษัท เหมือนเป็นเกมส์แก้เบื่อ กูอยากเห็นคนอื่นสิ้นหวัง ในเมื่อกูเบื่อกูเลยอยากเห็นคนอื่นสิ้นหวัง แต่กูกลัว... กูกลัวตัวเองว่าจะเข้าใจคำว่าความรักผิดไป แล้วสุดท้ายจะเป็นตัวกูเองที่อยากทำให้มึงหลงทาง อยากให้มึงทรมาน แบบที่กูเคยเป็นมาก่อน" ผมบอก
ผมกลัวตัวเองจริงๆ กลัวว่าจะเป็นผมเองที่อยากเห็นมันทรมานเจ็บปวด ผมไม่เคยมีใครมาก่อน ทุกอย่างที่ผ่านมาเหมือนมันเป็นเกมส์แก้เบื่อ ผมชอบเห็นความผิดหวังของคนอื่น ชอบเห็นเวลาที่คนล้มลง ผมไม่ได้ดูถูกเหยียบย่ำ แต่เหมือนมันเป็นเกมส์ที่พอจบเกมส์ก็เริ่มเกมส์ใหม่
ผมกลัวว่าพอผมเบื่อมัน ผมจะเป็นคนทำลายมัน ผมสามารถทำให้มันรักผมตอบ และผมจะทรมานมันก่อน ก่อนที่จะบอกเลิกมันให้มันอยู่อย่างเจ็บปวด ผมสามารถนอนกับมันแล้วทำมันเหมือนเป็นเศษขยะ แต่ผม... ไม่อยากเห็นน้ำตาของมัน ไม่อยากเห็นมันเจ็บปวด ไม่อยากเห็นตาใสๆเปลี่ยนไปเป็นความว่างเปล่า แบบที่ผมเป็นอยู่
ผมต้องใช้เวลาสามปีในช่วงที่อยู่มหาลัยในการหักดิบ ทุกครั้งที่มันแอบมองมา ผมต้องข่มใจไม่ให้อยากทำลายตาใสๆที่เปี่ยมไปด้วยความหวังแบบนั้น ตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ทั้งที่มันเพิ่งเห็นผมตอนที่มันอยู่ในดงตีน แต่มันก็รักผมมาตลอด แต่เป็นผมที่ต้องถอยห่าง เพราะผมกลัว กลัวเผลอทำให้มันเจ็บ
ผมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ทำเป็นจำไม่ได้ ตอนที่มันมาขอเป็นแฟนผมก็แกล้งเอ๋อ ผมรักมันมาตลอด แต่ผมก็อยากเห็นเจ็บปวด อยากเห็นมันเป็นเกมส์อีกเกมส์ที่ใช้แก้เบื่อ แต่ทุกครั้งที่ผมจะลงมือ ผมกลับลังเล ผมไม่อยากทำลายมัน ผมต้องข่มใจอยู่นาน ต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นาน
จนตอนที่ผมวาดภาพ First Prize เสร็จ ผมถึงได้ตัดสินใจ... ที่จะอยู่ห่างมันมาอีกสองปี ผมมองตาตัวเองในทุกวัน เพื่อที่ว่าเมื่อผมไม่เห็นหน้ามัน ผมจะได้รู้สึกรัก และอยากปกป้อง เพราะคงไม่มีใครอยากให้ตัวเองเจ็บ ผมทนอยู่ต่ออีกสองปี โดยไม่ฉุดกระชากลากถูมันให้มาหาก่อน ผมรอ... จนแน่ใจว่าผมคงปกป้องมันได้จริงๆ ปกป้องมันจากตัวผมเอง ที่เคยคิดร้ายกับมันมากที่สุด
" กูรออยู่อีกสองปี วันที่มึงรับปริญญา กูก็แอบดูอยู่ แต่กูไม่ได้เดินไปหา กูกลัวกูทำมึงเจ็บ กูกลัวว่ากูจะเป็นคนทำลายรอยยิ้มของมึง มึงสดใส มึงเป็นรางวัล เป็นรางวัลแห่งความอดทน กูไม่เคยอดทนรอใครมานานขนาดนี้มาก่อน ตอนที่วาด First Prize กูอยากให้กูเป็นแบบมึงมาตลอด กูจะได้ไม่ต้องรออีกสี่ปี สองปี หรือหนึ่งปี ถ้ากูเป็นคนปกติ กูคงมีความสุขไปแล้ว กูไม่อยากมีความสุขแค่เพียงชั่ววูบ กูอยากมีมึง... อยู่ตลอด"
ผมบอกเสียงแผ่ว ช่วงสองปีสุดท้าย ผมฝันถึงมันมาตลอด ตั้งแต่วันที่หักดิบไม่เห็นหน้า ผมฝันถึงแต่มัน เป็นมันที่มาปลุกผมตอนเช้า เป็นมันที่คอยมาบอกรัก เป็นมันที่อยู่กลางแสงสีขาวที่คอยบอกรักผมตลอด
" มึง... กลัวกูหรือเปล่า กูออกจะโรคจิต ที่อยากทำมึงเจ็บ แต่กู... อดทนมาตลอด"
" กูไม่กลัว... แต่กูโกรธ... กูโกรธ ที่มึง... ทำร้ายตัวเองมาตลอด..."
มันบอกแล้วมัน... ก็กระชากผมเข้าไปจูบ น้ำตามันไหล มันบอกผมน่าสงสาร ทั้งที่ผมทำมันเจ็บ จะทำมันเจ็บ แต่มันกลับบอกสงสาร
" กูไม่รู้มาก่อน... กูไม่รู้ว่าก่อนมามึงเจ็บ มึงโดดเดี่ยว เจ็บมากไหมที่ทำร้ายตัวเอง มึงทำร้ายตัวเอง... โดยการอดทนเพื่อกูมาตลอด กูขอโทษ กูไม่รู้มาก่อนว่ามึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่กูมองมึงมาตลอด แต่กูกลับ ดูไม่ออก"
" กูเจ็บ... เพื่อมึงคนเดียว มึงอย่าร้อง ยิ่งมึงร้องกูยิ่งเจ็บ"
" ฮึก กูร้องไห้เพราะมึงเจ็บต่างหาก มึงมันไอ้โง่ ถ้ามึงบอก... มึงคงไม่เจ็บแบบนี้ กูรอมึงมาตลอด มึงน่าจะบอก มึงจะได้ไม่เจ็บอยู่คนเดียว มึงจะมีกูช่วยเจ็บ มึงจะได้... มีกู"
มันบอกแล้วจูบ จูบที่ออกเค็มๆจากน้ำตา จากของผม จากของมัน
" ....เป็นมึงได้ไหมที่จะไม่ทำกูเจ็บอีก เป็นมึงได้ไหม ที่จะไม่ทิ้งกูไป ไม่ว่ากูจะเลว หรืออยากทำลายมึงมากแค่ไหนก็ตาม"
" มึงน่ะไม่ได้เลวหรอก.. แต่โคตรเลว แม่ง เสือกทำตัวเองเจ็บ ไอ้มาโซ ไอ้ซาดิส "
มันบอกแล้วจูบ จูบที่ดวงตา จูบที่ริมฝีปาก ก่อนกดปากลงมาอีก แล้วบอกคำตอบ
" ขอบคุณ ที่ไม่อยากทำกูเจ็บ ขอบคุณที่เจ็บแทนกูอยู่ตลอด ต่อไป... กูจะอยู่กับมึงตลอด เพราะกูจะไม่ปล่อยให้มึงเจ็บ ไม่ปล่อยให้มึงปวด และอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป"
You are my prize คนที่ทำให้ผมไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
You are my first prize คนที่ทำให้ผมเห็นว่าแต่ละชีวิตมีความหมาย
Only You I want, Only you I need คนที่ทำให้พ้นหลุดพ้นและไม่ต้องอยู่กับคำว่าโดดเดี่ยว
คนเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อทำให้มันมีความสุข
และเป็นคนเพียงคนเดียวที่ทำให้ผมรู้จักความหมายของคำว่ารัก
You are my first prize.
You are Primo Premio.
คนที่ผม... รักมากที่สุด
THE END