บทที่ 1
" ไอ้ไพรซ์ มึงมาหากูที่คอนโดเดี๋ยวนี้!!!!"
" คุณมึงเป็นใครครับ มาตะคอกใส่หูกูทำ_่อ มึงเหรอ! "
" กูก็ไอ้มึงไง! เพื่อนมึงจากวิศวะที่ช่วยมึงจากการถูกกระทืบไง ยูอาร์! มึงจำได้รึยัง!!!"
" .... "
" มึงไม่ต้องเงียบมาที่คอนโดกูเดี๋ยวนี้ กูอยู่คอนโดเดิม รีบมา ทิ้งงานทุกอย่างของมึงแล้วมาหากูเดี๋ยวนี้!!!!"
" กูไม่..."
" ไม่ต้องมาไม่ มึงเคยบอกเองว่าชีวิตที่เหลือของมึงยกให้กู ตอนนี้กูจะเอาชีวิตมึงแล้ว มาหากูเดี๋ยวนี้!!!!"
ผมพูดจบก็ตัดสายทิ้งครับ ไม่รอให้มันปฎิเสธ ไอ้ไพรซ์นี่เป็นคนที่ผมเคยช่วยไว้ตอนที่มันโดนลูกหลงระหว่างศึกวิศวะกับสถาปัตถ์ครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ไพรซ์ที่เรียนบริหาร ไปอยู่ในดงตีนได้ยังไง ผมที่เห็นมันยืนเอ๋ออยู่เลยช่วยดึงมันออกมาจากดงตีนจนหัวแตกโดนเย็บไปหลายเข็ม หลังจากนั้นมันก็สำนึกในบุญคุณแล้วบอกว่า มันชอบผมมาก จะขอยกชีวิตที่เหลือของมันให้ แต่ตอนนั้นผมยังไม่อยากได้ลูกน้อง ไม่อยากเป็นหัวหน้าแก๊ง เลยบอกมันไปว่าถ้าอยากได้มันเป็นลูกน้องเมื่อไหร่จะค่อยบอกอีกที แต่หลังพูดจบมันก็ร้องไห้แล้วด่าผมว่าไอ้โง่ ถึงผมจะงงๆว่ามันด่าผมทำไม แต่ผมก็ไม่ได้อะไรมากมันอยากวิ่งหนีก็วิ่งไป แต่ตอนนี้ผมต้องการมันแล้ว และมันต้องมาด้วย มาเป็นพี่เลี้ยงให้หลานผมซะดีๆ
ผมเดินไปเดินมารอไพรซ์อยู่ที่หน้าประตูห้อง ผมเพิ่งทำให้เจ้าตัวแหกปากหลับไปได้เมื่อกี้เองครับ ความจริงผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ แค่หนีไปที่ระเบียงแล้วปล่อยให้รีกาโลดูหลานไป แต่เจ้าหมามันดันไม่รักดี มันเห่าเรียกผมแล้วขอออกมาอยู่ด้วย ผมก็เลยต้องพามันออกมาแล้วปล่อยให้ตัวที่แหกปากเงียบไปเอง
ติ๊งต๊อง
แงๆๆๆๆๆๆ
ชิบหาย!! เสียงดังหน่อยแหกปากเลยนะมึง
ผมรีบเปิดประตูไปหาคนที่กดกริ่ง ผมมองไป.. ทำไมไม่เห็นใครวะ แม่งใครกดกริ่งแกล้งกู
" มึงจะมองผ่านหัวกูอีกนานไหมหา ไอ้เปรต กูสูงร้อยเจ็ดสิบนี่มันเตี้ยมากใช่ไหม"
อ่าว... ก็กูสูงร้อยเก้าสิบนี่หว่า แต่นั่นมันใช่ประเด็นไหม!
" มึงเข้ามาเร็ว! หลานกูแหกปากแล้ว มึงไปทำให้มันเงียบเลยนะ กูจะหนีไปอยู่ในห้อง ทำให้มันเงียบแล้วค่อยมาเรียกกู ไม่ต้องงงไปเร็ว!"
ผมลากมันไปที่โซฟา เพื่อให้มันเห็นตัวที่กำลังแหกปาก ส่วนผมก็อุ้มรีกาโลหนีเข้าห้อง
เฮ้อ... สบายแล้วกู วาดรูปต่อดีกว่า
ปังๆๆๆๆ
ใครมาขัดอารมณ์ศิลปินกูอีกวะ
" มึงเลิกเล่นมุกมองผ่านหัวกูซักที บอกกูมาว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วที่อยู่บนโซฟาน่ะลูกใคร อย่าบอกนะว่า... ลูกมึง"
มันจะพูดเสียงเบาตอนท้ายทำไมวะ หรือมันกลัวหลานผมที่มันอุ้มอยู่จะตื่น
" ลูกพี่ชายกูมันเอามาทิ้งไว้ แต่กูเลี้ยงเด็กไม่เป็น กูจ้างมึงเดือนละแสนไม่รวมค่าของกินของใช้ เดี๋ยวกูหยิบบัตร ATM ให้ รหัส 2606 กดได้ตามใจมึง ไม่พอค่อยมาบอกกู ดูแลหลานกูให้ดี กูจ้างมึงยาวหนึ่งปีเลย ให้เบิกเงินได้ล่วงหน้าด้วย อยากนอนที่ไหนในคอนโดก็ตามใจมึง แต่ต้องดูหลานกูด้วย แล้วอย่ากวนเวลากูวาดรูป แค่นี้แหละ ไปดูหลานกูได้แล้ว"
ปังๆๆๆๆ
มันจะเคาะอะไรอีกวะ หรือมันไม่เครียร์
" มีอะไรอีกวะ"
" กูไม่ทำ!"
" มึงบอกเองว่าจะยกชีวิตให้กู นี่กูขอแค่ปีเดียวนะ ที่เหลือกูยกให้ฟรี น่าไพรซ์ ช่วยกูหน่อย กูมีแต่มึงคนเดียวเลย กูไม่มีใครแล้ว"
ผมส่งสายตาลูกหมาแบบรีกาโลไปให้ครับ มันหน้านิ่งก่อนแยกเขี้ยวใส่ผม
" มึงมันไอ้โง่! ผ่านมากี่ปีก็ยังโง่เหมือนเดิม! เออ! กูเลี้ยงหลานให้มึงก็ได้.. เงินกูเอาแค่ห้าหมื่นพอ แต่มีข้อแม้.."
" ข้อแม้ไรวะ"
" มึงต้องให้กูนอนด้วย!"
" อ๋อ... ได้ดิ แต่มึงจะไม่ลำบากเหรอวะ บางทีกูวาดรูปข้ามคืนไม่ได้นอนนะ หรือมึงเปิดไฟนอนได้ ถ้ามึงนอนได้กูก็ไม่มีปัญหา แค่อย่ากวนตอนกูวาดรูปก็พอ"
" มึง.."
" หือ?"
" มึงมันไอ้ไง่!!!!!"
มันจะตะโกนทำไมนักวะครับ แล้วผมโง่ตรงไหน ผมออกจะฉลาด หรือคุณว่าไง?
-----//-----
" มึงว่าอะไรนะ!"
" กูสั่งให้มึงออกไปซื้อของพร้อมกู!"
" มึงจะให้กูไปทำไม กูต้องวาดรูป แล้วนี่แม่บ้านก็จะมาอีก ถ้าแม่บ้านเก็บงานกูไปทิ้งจะทำไง ไหนจะแบบวาดภาพกูอีก มึงดูดิ ไอ้กระป๋องเบียร์ที่กองอยู่อ่ะ ไม่ใช่ขยะนะ อยู่อุตสาห์กองไว้เพื่อฝึกฝีมือ แล้วมึงดูแจกันที่มีดอกไม้ดิ ถึงมันจะเหี่ยวแต่มันเป็นศิลป์นะโว้ย คอมโพซิชั่นอย่างงาม เกิดแม่บ้านเอาไปทิ้งจะทำไง แล้วยังกองขวดแก้วอีก กูต้องดื่มเหล้าไปตั้งหลายขวดกว่าจะได้คอลเล็คชั่นหลากสีมาเป็นแบบสีน้ำมัน แล้วยัง..."
" มึงหุบปาก! ไปโกนหนวดออกด้วย ถ้ามึงไม่รีบจัดการให้เสร็จ กูจะทิ้งมึงไว้กับหลานมึงแล้วกลับบ้าน!"
ทำไมมันที่เป็นลูกจ้างถึงมาบังคับได้ผมอ่ะ แต่พอมันทำท่าจะทิ้งผมไว้กับตัวแหกปากจริงๆ ผมก็ต้องวิ่งไปอาบน้ำ(หลังจากไม่ได้อาบมาห้าวัน) โกนหนวดโกนเครา(หลังจากไม่ได้โกนมาสองเดือน) เปลี่ยนเสื้อ(ที่ไม่ได้เปลี่ยนมาหนึ่งสัปดาห์) ใครว่าผมซกมก ผมแค่ติสต์! ศิลปินมันต้องอยู่เซอร์ๆ จะทำตัวสะอาดเหมือนพนักงานบริษัทได้ยังไง!
จะว่าไปพอเอาหนวดเคราออกก็สบายหนังหน้าดีเหมือนกันนะครับ แล้วไอ้ผีดิบหน้าซีดในกระจกนี่ใครวะ เอียงคอซ้ายเอียงคอขวาตามผมด้วย อืมม สงสัยจะเป็นผมเอง การไม่ได้โผล่ออกไปนอกห้องสองเดือนทำให้ผมหน้าซีดเป็นผีดิบได้เลยนะ เออ ดีเหมือนกันแฮะ ไม่ต้องเปลืองเงินค่ากลูต้า ไม่ต้องกลัวตับพังเพราะกินยาให้ขาว คราวหน้าผมอยู่ในห้องซักสามเดือนดีกว่า ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง
" กูเสร็จแล้ว"
" .... "
" มึงจะจ้องหน้ากูทำไม จะไปก็รีบไป จดรายการของที่ต้องใช้แล้วใช่ไหม กูไม่ชอบเดินห้างนานๆ อย่าพากูเดินวนด้วย"
ผมบอกไอ้ไพรซ์ที่มันยังอ้าปากค้าง มันจะอึ้งอะไรนักหนาวะ รึผมโกนหนวดแล้วดูแปลกๆ ก็ไม่นี่หว่า ผมก็ยังมีสองตา หนึ่งจมูก หนึ่งปากช่างมันเถอะ คิดมากเสียเวลา
" รีกาโล เฝ้าคอนโดด้วยนะ ถ้าแม่บ้านหยิบอะไรของพ่อ กัดมันให้ตายเลยลูก แล้วอย่าให้ใครแตะต้องงานศิลป์สุดที่รักของพ่อนะ ห้องพ่อก็ห้ามแม่บ้านเข้า พู่กันอย่าให้ใครเอาไปล้าง ขี้ดินสออย่าเอาไปทิ้ง รูปวาดอยู่ตรงไหนมันต้องอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าให้เอาไปซักได้ ดูแม่บ้านตอนล้างจานด้วย อย่าให้ทำจานพ่อแตก เบียร์ในตู้เย็นก็ห้ามเอาไปทิ้ง นมเน่าในตู้แกก็ห้ามกิน เดี๋ยวซื้อกล่องใหม่มาให้ ซื้ออาหารซองยี่ห่อใหม่ดีไหม ที่แกบ่นอยากกินไง เอาซักสามลังดีกว่า จะได้ไม่ต้องออกไปซื้อบ่อยๆ แล้วเอาของเล่นไหม CD เพลงของเลดี้กาก่าป่ะที่แกชอบฟัง งั้น..."
" เลิกร่ำลาหมามึงได้แล้ว!!!"
ชิ ไอ้คนหัวใจหยาบกระด้างไม่รักสัตว์ แล้วนี่มันจะดูแลหลานผมได้ไหมเนี่ย เกิดมันกินหัวหลานผมจะทำยังไง ไอ้ไอเอ็มไม่มาป่วนคอนโดผมเหรอ
" มองหน้ากูทำไม ไปขับรถ!"
ฮึก ไอ้พี่เลี้ยงเด็กจอมโหด
ผมต้องนั่งรถเท็กซี่ไปห้างครับ สงสัยเพราะไม่ได้ใช้รถนาน รถเลยสตาร์ทไม่ติด ผมตามช่างมาแล้วครับเพราะขี้เกียจรอเลยฝากเรื่องไว้ที่ยามแทน รถที่กรุงเทพนี่ติดทั้งปีทั้งชาติเลยจริงๆ ผมถึงไม่ค่อยได้ออกไปไหนไงครับ เวลาจะส่งผลงานไปขายก็ตามผู้จัดการให้มารับภาพ แกจะช่วยจัดการให้เสร็จสรรพ หักค่านายหน้าเรียบร้อย พี่แกก็โอนเงินมาให้
ว่าแต่ง่วงจัง ผมไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว อยู่บนรถแบบนี้ขอผมนอนหน่อยดีกว่า...
" ยูอาร์ ถึงแล้ว"
" อือ..."
" ยูอาร์ ตื่นได้แล้ว"
" อืมม "
" ไอ้มึง! ตื่นเดี๋ยวนี้!"
หา? อะไรๆๆๆ ใครตบหัวผมอ่ะ อ๋อ.. ไอ้พี่เลี้ยงจอมโหดนี่เอง
" ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย มึงไม่น่ารักหรอก"
กูก็ไม่ได้อยากน่ารักซักหน่อย ผมมองหน้าไอ้พี่เลี้ยงสุดโหด ตามันจ้องผมเคืองๆแต่ทำไมแก้มมันแดงๆวะ
" ทำไมหน้ามึงแดง เป็นไข้รึเปล่า แล้วจะติดหลานกูไหมเนี่ย มึงเล่นอุ้มมันติดอย่างกะมันเป็นจิงโจ้ในถุงหน้าท้อง ถ้าหลานกูไม่สบายกูหักเงินมึงจริงๆด้วย"
ผมถามแล้ววัดไข้ให้มันโดยการเอาหน้าผากตัวเองไปชน แม่ผมชอบวัดไข้วิธีนี้ครับ แม่บอกว่าใช้หน้าผากด้วยกันจะได้วัดไม่ผิด มันก็ไม่มีไข้นะ แต่ทำไมหน้ามันแดง พอผมเอาหน้าผากออก ก็เห็นมันหน้าแดงกว่าเดิมอีก
" มึงจะเป็นลมแดดรึเปล่า ให้กูอุ้มหลานเองดีไหม เดี๋ยวมึงเป็นลมล้มทับหลานกูแบนพอดี"
" มึงมัน.."
" หือ?"
" มึงมันไอ้โง่!!!!"
ทำไมมันต้องว่าผมอีกแล้วอ่ะ ผมทำอะไรผิดกัน ยูอาร์ไม่เข้าใจ...
ผมไม่เข้าใจเลยว่าสิ่งที่ไอ้ไพรซ์กำลังทำอยู่คืออะไร มันลากผมมาที่แผนกเด็กอ่อนครับ ก่อนจะเลือกซื้อเสื้อผ้า ผ้าอ้อม ขวดนม ที่นอน ของเล่น และสารพัดของใช้เด็ก มันเลือกไม่หยุดเลยครับ ผมไม่เห็นว่าแต่ละอย่างจะต่างกันตรงไหน เสื้อก็ดูเหมือนๆกับไปหมด แล้วที่นอนต้องซื้อทำไมตั้งสองอัน แล้วทำไมต้องมีที่ปูรองอีก เอาเถอะ ถ้ามันคิดว่าจำเป็นก็คงจำเป็นแหละครับ ยังไงผมก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินอยู่แล้ว แต่ไพรซ์ก็ดูรู้เรื่องพอตัวเลยครับ ดูแลหลานผมเก่งมากด้วย เพราะเจ้าตัวแหกปากไม่ร้องซักแอะ ใครมาเล่นมาจับก็หัวเราะอารมณ์ดี พนักงานสาวๆนี่เข้ามารุมดูกันใหญ่ ยิ่งพอเจอคุณแม่มือใหม่ยิ่งคุยกันยาว แต่ผมเริ่มเมื่อยแล้วนะ ทำไมผมต้องมายืนรอด้วยเนี่ย
" ยูอาร์ หลานมึงชื่ออะไรวะ"
ชื่อ... จะว่าไปในจดหมายเหมือนจะมีบอกนะ แต่ผมขยำทิ้งไปแล้ว ผมมองหน้าคนถาม มองหน้าหลาน มองหน้าคนถามอีกทีก่อนยิ้มตอบไปว่า
" ชื่อของขวัญ"
ผมว่าไอ้ไพรซ์นี่หน้าเหมือนรีกาโลเลยครับ ตากลมๆโตๆ ตัวเล็กๆ ผิวขาว ผมออกสีน้ำตาลๆเข้ม คงไปย้อมผมมา สรุปคือมันเป็นเจ้ารีกาโลเบอร์สองนี่เอง งั้นผมตั้งชื่อหลานว่าของขวัญแล้วกันครับ เพราะจะได้มีรีกาโลในห้องผมสามตัวเลย
" ...มึงเพิ่งตั้งเมื่อกี้ใช่ไหม"
" ใช่ กูอยากให้มีรีกาโลในห้องกูหลายๆตัว"
ผมยิ้มมุมปากแสดงความฉลาดในการตั้งชื่อให้มันฟัง เห็นไหมว่าผมไม่โง่ กว่าจะตั้งชื่อสุดแสนจะบรรเจิดสอดคล้องกันได้นี่ ไม่ฉลาดทำไม่ได้หรอกเนอะ~
" มะ แหม.. คุณอานี่น่ารักจังเลยนะคะ มีแฟนรึยังคะเนี่ย"
หือ? ชมที่ผมตั้งชื่อหลานได้เก่งเหรอ แล้วถามทำไมว่าผมมีแฟนรึยัง จะว่าไปพนักงานคนนี้ก็น่ารักดี หรือว่าผมควรสานความสัมพันธ์ดี ผมไม่ได้ควงใคร หรือนอนกับใครมานานแล้วนะ
" แฟนก็ยืนอยู่ตรงนี้ไง ใช่ไหมที่รัก"
เหอ?
สรุปมันเป็นแฟนผม? ไม่ใช่พี่เลี้ยง? แต่พอเห็นสีหน้ารำคาญๆผมเลยตัดปัญหาบอกพนักงานไปว่าไอ้ไพรซ์มันเป็นแฟนผมจริงๆ น่าสงสารพนักงานจัง คงเสียใจมากพอดูเพราะน้องแกทำหน้าแบบรับไม่ได้มากๆ ยิ่งพอไอ้ไพรซ์มาหอมแก้มผม น้องพนักงานก็แทบกรี๊ดจนไม่อยากรับบัตรเครดิตไป ไอ้ไพรซ์มันไปเกลียดน้องเค้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เมื่อกี้ยังเห็นคุยกันดีๆอยู่เลย
" ที่รักจ่ายเงินสิ ต้องลงไปมาร์เก็ตข้างล่างอีกนะ"
ผมที่ยังงงๆก็ได้แต่ยื่นบัตรเครดิตไปให้ ส่วนของก็ฝากไว้ก่อน ค่อยให้ทางห้างช่วยส่งไปคอนโด เพราะมันเล่นซื้อเตียงไม้เด็กอ่อนมาทั้งหลัง คงใส่รถเท็กซี่ไปไม่ได้แน่
" กินข้าวก่อนค่อยแวะมาร์เก็ตนะ กูอุ้มหลานมึงจนเหนื่อยแล้ว"
" มึงเลือกร้านแล้วกัน เอาร้านที่คนน้อยๆนะ"
ไพรซ์เลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูไฮโซร้านหนึ่ง เลือกที่นั่งที่ในสุด พอสั่งอาหารกันเรียบร้อยมันก็ชวนผมคุยครับ
" มึงเป็นไงบ้าง"
" ก็สบายดี วาดรูปไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน นอกจากอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปวาดรูปนอกสถานที่"
" ภาพยังขายได้ราคาใช่ไหม กูเข้าไปดูรูปในเว็บมาแล้ว ฝีมือไม่ตกเลยนี่"
" ก็พออยู่ได้ รูปนึงสองสามแสน วาดเดือนละรูปกูก็พอกินแล้ว"
" ยังอยู่กับเอเจนซี่เดิมรึเปล่า"
" อืม พี่ต้อมเขาก็เอาใจใส่ดี ค่านายหน้าก็ไม่ได้หักเยอะมาก กูเลยขี้เกียจเปลี่ยน"
" .... "
" .... "
" .... "
" .... "
" นี่มึงไม่คิดจะถามอะไรกูบ้างรึไง"
หือ? แล้วจะให้ผมถามอะไรล่ะ ถามว่าสบายดีไหม? ก็เห็นอยู่ว่ามันสบายดี ถามเรื่องงาน? ก็ผมนี่ไงนายจ้างมัน เรื่องเงิน? ก็มันออกเองว่าจะเอาห้าหมื่น แล้ว..
" แล้วอยากให้กูถามอะไรล่ะ"
" .... "
" .... "
" .... "
สรุปเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก พออาหารมาก็ต่างคนต่างกิน ผมกินส่วนของผม มันกินส่วนของมัน มีเล่นกับของขวัญบ้าง เล่นเสร็จมันก็ป้อนนมให้หลานผม ผมที่นั่งรอเฉยๆระหว่างรอมันให้นม ก็เลยเอาดินสอกับสมุดสเก็ตภาพเล่มเล็กมาวาดภาพพวกมันสองคนพลางๆ พอได้ลงมือวาดผมถึงได้รู้ว่าไอ้ไพรซ์มันมีโครงหน้าสวยมากเลยครับ ตา ปาก จมูก คิ้ว ทุกอย่างรับกันดีหมด แถมมีลักยิ้มด้วย อืมมๆ มุมนี้แสงกำลังสวยเลยครับ ทิ้งเงาผ่านกราม ทำให้หน้าดูเรียว ปากมันอิ่มใช้ได้เลย มันกำลังฮัมเพลงเบาๆกล่อมหลานผมที่เพิ่งกินนมเสร็จ
" อย่าขยับ กูร่างภาพมึงอยู่"
ผมสั่งเพราะเห็นมันจะลุกขึ้น ทำไมมันขยันหน้าแดงจังวะ รึไฟที่ส่องมามันร้อน ช่างมัน แสงกำลังดี ทนร้อนไปละกันนะมึง
มันยอมนั่งให้ผมวาดได้อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็หน้าแดงแจ๋ ค้อนผมปะหลักปะเหลือกก่อนโวยวายให้ผมจ่ายเงิน แล้วมันก็เดินลิ่วบอกว่าจะไปมาร์เก็ตแล้ว ผมที่เสียดายแบบดีๆที่หาได้ยากก็ได้แต่เก็บสมุดแล้วเรียกเก็บเงินก่อนเดินตามมันออกไป
" ทำไมมึงหน้าแดงบ่อยวะ อย่าด่ากูว่าโง่อีกนะมึง ไม่งั้นกูถีบแน่"
ผมรีบดักคอมันทันทีที่เห็นมันอ้าปาก มันไม่ยอมตอบครับ แต่บ่นอะไรพึมพัมๆไม่รู้ มึงจะคุยกับหลานกูที่หลับอยู่รึไงวะ แต่ในเมื่อมันไม่อยากตอบผมก็ไม่อยากเซ้าซี้ เดินลากรถเข็นตามมันไปเลือกพวกนมผง ผ้าอ้อม กระดาษชำระ ทั้งแบบเปียกแบบแห้ง อาหารเด็กอ่อน ของสด ผลไม้ ฯลฯ สรุปคือผมเดินจนขาลาก จ่ายเงินไปอีกหลายบาท นี่การมีลูกมันต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย งั้นชีวิตนี้ผมไม่มีลูกแล้วดีกว่า โครตจะเปลืองเงินเลย
-----//-----
" ว๊ากกกกก!!!!"
ไม่จริง! คอนโดรูหนูของผมไปไหนวะ! ไอ้ห้องสะอาดๆนี่มันห้องใคร กระป๋องเบียร์ผมไปไหน แจกันของผมล่ะ ขวดเหล้าของผม ไหนจะของอย่างอื่นอีก ม่ายยยย!!!
" หยุดแหกปากเลยมึง เอาของเข้ามา แล้วกูจะเลี้ยงหลานมึงที่ห้องนั่งเล่นนี่แหละ หลีกดิ๊มึง เห็นไหมว่าคนขนเตียงมาแล้ว.."
ไอ้ไพรซ์มันพูดอะไรอีกผมไม่รับรู้แล้วครับ วิญญาณผมลอยไปหาดาวินชี่แล้ว ไม่.. ทำไม..
บ๊อกๆๆๆ โฮ่งๆๆๆ งี๊ดๆๆๆๆ
" รีกาโลลูกพ่อ ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม พ่อนึกว่าลูกจะไปกับขวดแก้วซะแล้ว แกกัดแม่บ้านตายไปแล้วใช่ไหม ถ้ายังไม่ตายพ่อจะไปฆ่่ามัน! มันเอาสมบัติของพ่อไป มันอยู่ไหน! กูจะฆ่ามันนนน!"
โป๊ก!
" หุบปากมึงซักที! กูรำคาญ ถ้ามึงว่างมากมาช่วยกูดูของขวัญนี่ อย่าเอาแต่.."
" ม่ายยยย!!!"
ฮึก ไอ้พี่เลี้ยงใจดำ ผมไม่น่าจ้างมันมาเลย เพราะมันคนเดียวเลย มันบอกว่าห้องผมเน่ามาก มีแต่ขยะ ถ้าผมไม่จ้างแม่บ้านมามันจะไม่เลี้ยงหลานให้ ผมถึงต้องยอมจ้างแม่บ้านมา แถมต้องจ้างมาห้าคนด้วย เพราะมัน!!
" มึงจะจ้องกูอีกนานไหม หยุดอุ้มหมาแล้วมาดูของขวัญเดี๋ยวนี้ กูจะไปชงนมให้หลานมึง แล้วดูผ้าอ้อมหลานมึงด้วยว่าเต็มรึเปล่า.."
" ม่ายยยย!!"
ฮึก ผมไม่อยู่แล้ว! ผมขอหนีออกจากที่นี่ กูจะไม่อยู่ให้มึงโขกสับแล้ว!
พอคิดได้แบบนั้นผมก็หิ้วรีกาโลขึ้นชั้นสองแล้วปิดล๊อกห้อง(คอนโดผมมีสองชั้น สองห้องนอนสามห้องน้ำน่ะไม่รวมห้องสตูดิโออีก) ผมวางรีกาโลลงแล้วเปิดเพลงโศกสลดดังลั่นห้อง กะว่าใครมาเคาะกูก็ไม่ได้ยิน ผมขึงผ้าใบผืนใหม่ แล้วเริ่มวาดรูป ฮือ.. กูจะวาดรูปอยู่ในห้องไปจนตายเลยเว้ย จะไม่ออกไปนอกห้องเด็ดขาด!
อ่อ แต่อาจจะต้องลงไปตอนเอาอาหารไปให้รีกาโลนะ รึผมจะลองให้รีกาโลอดอาหารเหมือนผมดี พุงกลมๆของมันจะได้ยุบลงหน่อย
แฮ่ๆๆ โฮ่งๆๆๆ แฮ่ๆๆ
อุ่ย สงสัยรีกาโลจะรู้ว่าผมคิดอะไร เอาเถอะ กูค่อยย่องลงไปตอนมันสองตัวนอนก็ได้วะ ชิ ไอ้รีกาโลเบอร์สองกับเบอร์สาม จำไว้เลยนะมึง อย่าให้ถึงทีกูนะ จะเล่นให้ร้องไม่ออกเชียว
>> To Be Continue <<
TALK :: ไม่มีอะไรมากแค่อยากบอกว่า ตอนหน้ามี NC เฮ่อๆ