พิมพ์หน้านี้ - Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: teatimes ที่ 12-09-2013 21:37:09

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 12-09-2013 21:37:09
บทที่  6



THE  END


ผมชื่อยูอาร์  You  are   คุณคือ  หรือไอ้มึงที่ใครๆรู้จัก  ตอนนี้ผมอยู่กรุงมิวนิค  ประเทศเยอรมัน  ผมกำลังยืนอยู่กับไอ้ไพรซ์ผู้ชายที่โง่ที่สุด  แต่เป็นคนที่ผมรักที่สุดมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา

" นี่กูเหรอวะ"

" รีกาโลมั้งมึง  เห็นไหมว่ามันไม่มีหาง"

ป้าบ!

งื้อ...  ไอ้เมียโหด  ไอ้เมียสุดแสบ  เดี๋ยวกูทำให้ครางไม่ได้พูดไม่ออกเลยมึง

" กูหล่อขนาดนี้เลยเหรอวะ"  แน่ะ  มีชมตัวเองได้อีกเมียใครวะ

" มึงไม่หล่อ  มึงดูดี  มึงมันโง่  มึงมันไม่ฉลาด  มึงมัน..."

ป้าบ!

รอบที%
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้ามันไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 12-09-2013 21:38:24
Intro



ไอ้ตัวสีชมพูๆที่นอนหลับอยู่บนตักพี่กูนี่มันตัวอะไรวะ

" ยูอาร์  ตกลงมึงจะช่วยกูไหม"

" หือ? "

" ดีมาก  มึงตอบตกลงแล้ว  งั้นกูกับเมียไปขึ้นเครื่องก่อนนะ  เมียกูมีถ่ายแบบที่มิลาน"

" เหอ? "

" Chio~  Chio~"

" หา? "

ปัง!

" .... "

ใครช่วยบอกกูทีว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นวะ




งี๊ดๆ  บ๊อกๆๆ

" รีกาโล  ไปนอนกันต่อเถอะ  แม่ง  อะไรของมันวะ  จะมาก็มา  จะไปก็ไป"

ผมเรียกหมาพันธุ์แควาเลียร์คิงชาลส์สแปเนียล  สุนัขตัวโปรดสุดน่ารักเข้าห้องนอนดีกว่า  ผมไม่ได้นอนมาสามคืนแล้วครับ  เพราะมัวแต่อารมณ์ศิลป์บังเกิด  นั่งติสวาดรูปอยู่ในคอนโดรูหนูไม่พบหน้าใครนอกจากรีกาโลมาสองเดือนแล้ว (Regalo ภาษาสเปนแปลว่าของขวัญครับ)  ผมเป็นศิลปินครับ  ไม่ใช่ศิลปินใส้แห้งนะครับ  ผมทำเงินได้มากโขทีเดียวสำหรับงานแต่ละชิ้นที่ออกประมูลขาย  นามปากกา  Primo  Premio  (First  prize)  ในวงการศิลปะ  ถือว่ามีชื่อเสียงมากนะครับ  ถึงจะเริ่มดังมาได้สองปี  แต่ก็ถือว่าดังเร็วมากสำหรับคนที่เพิ่งจับพู่กันได้ไม่นาน

พูดมาตั้งนานผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองใช่ไหมครับ  ผมชื่อ  ยูอาร์ ครับ  ที่มาจากภาษาอังกฤษที่ว่า  You are  แปลวว่า  คุณคือ...  ใช่ครับ   คุณคือ..  แต่คุณคือใครนี่  ผมยังก็ไม่รู้ครับ  เพื่อนๆชอบเรียกผมว่า " ไอ้มึง "  ผมว่ามันก็โอดีนะ  มันฟังดูตลกๆดี  แต่ผมก็ยังสงสัยว่า  ตกลงไอ้  you are  เนี่ย  มันเป็นใครวะครับ  ผมว่าผมก็สับสนในตัวเองอยู่เหมือนกันนะ  ไม่ใช่สับสนทางเพศนะครับ  แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้ว่าต้องมีชีวิตหรือมีจุดมุ่งหมายอะไรกันแน่  ผมเริ่มสับสนในตัวเองมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ  เพระตอนที่ผมเป็นเด็ก  ผมสนใจหลายอย่างมาก  และทุกอย่างที่ผมสนใจผมก็ทำออกมาได้ดี  ไม่ว่าจะเป็น  ดนตรี  กีฬา  การเรียน  ศิลปะ  การท่องจำ  การคำนวณ  หรือแม้แต่ความคิดแหวกแนวแปลกๆผมก็คิดออกมาได้ 

พ่อแม่บอกผมว่าผมเป็นเด็กอัจฉริยะ  แต่ไอ้ไอเอ็ม (IM  พี่ชายผมเอง  เดี๋ยวผมค่อยเล่าประวัติมันให้ฟัง)  มันชอบด่าผมว่าผมเป็นเด็กเอ๋อ  เพราะผมคุยอะไรกับใครแล้วไม่ค่อยมีใครรู้เรื่อง  มีแต่ช่วงม.ปลายนี่แหละครับที่ดีหน่อย  พ่อแม่ผมส่งผมไปเรียนที่โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ  ผมเลยพูดกับคนอื่นรู้เรื่องบ้าง  แต่พอตอนจะเอ็นทรานซ์  ผมกลับไม่ได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอกตามที่อาจารย์แนะนำ  ผมอยากมาใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปมากกว่าใช้ชีวิตอยู่แต่ในสถาบัน  ผมเลยออกจากโรงเรียนพิเศษและเลือกเรียนที่มหาวิยทยาลัยในไทยแทน 

ผมเอ็นท์ติดวิศวะสาขาเคมีครับ  ผมว่าผมชอบการทดลองเคมีนะ  แถมชอบคำนวณด้วย  แต่เพราะผมเบื่อๆกับการเรียนที่มหาลัยอย่างเดียว  ผมเลยเลือกเรียนรามสาขามนุษย์ศาสตร์เอกเสปนด้วย  แต่พออยู่ปีสามผมก็เก็บหลักสูตรของรามจบก่อน  จากนั้นผมก็เบื่ออีก  ผมเลยยื่นเรื่องขอเรียนสาขาวิชาบริหารและบัญชีที่เคมบริจน์  ผมเรียนทางไปรษณีครับ (เอ่อ.. มันก็ไม่ใช่ว่าเรียนทางไปรษณีย์อย่างเดียวนะ  คือเรียนผ่านเน็ตกับรับหนังสือมาทางไปรษณีย์ไง  ผมเลยเรียกว่าเรียนไปรษณีย์)  แล้วพอผมเรียนจบวิศวะเคมีตอนปีห้า(ผมลงตามเพื่อนน่ะเลยจบพร้อมพวกมัน)  ผมก็จบบัญชีของเคมบริจน์พร้อมกัน 

แล้วพอถึงเวลาที่ต้องเลือกงาน..  ผมดันไม่เลือกงานที่มีคนมาเสนอซักงาน  เพราะผมดันอยากไปเป็นนักเขียนนิยายซะเฉยๆ  ผมเลือกเป็นนักเขียนนิยายแนวฆาตกรรมสยองขวัญครับ  ก็พอมีคนอ่านบ้างนะ  แต่มันไปดังเป็นเบสเซลเลอร์ที่เมืองนอกกว่า  แล้วพอที่เมืองนอกดัง  มันเลยค่อยมาดังที่เมืองไทยอีกที

ผมชอบเมืองไทยผมอยู่ที่ไทยมาตั้งแต่เกินจนถึงตอนนี้  มีบินไปต่างประเทศเพื่อพักผ่อนบ้าง  แต่หลักๆผมอยู่ที่ไทยมากกว่า  อ่อ..  อีกอย่างนึงคือ  ผมเป็นลูกเสี้ยวนะ  ลูกเสี้ยวไทย-ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น-รัสเซีย  เพราะพ่อเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น  ส่วนแม่เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศษ-รัสเซีย  ผมเลยเป็นลูกเสี้ยวไง  ผมพูดได้แปดภาษาเลยนะ  แต่ผมชอบพูดภาษาไทยกับภาษาหมามากที่สุด (ไว้พูดกับรีกาโลน่ะ)  ส่วนหน้าตา..  ผมก็จำหน้าตาตัวเองไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่ได้ส่งกระจกนานแล้ว  เห็นส่งที่ไรก็มีแต่ไอ้หนวดยาวเคราเฟิ้มทุกทีผมเลยเลิกส่อง  แต่ถ้าจำไม่ผิดผมรู้สึกว่าตัวเองจะสูงร้อยเก้าสิบนะ  ส่วนตานี่เป็นสีเขียวที่ได้มาจากฝั่งคุณแม่  ผิวผมก็รู้สึกว่าจะขาวๆซีดๆแบบคนฝรั่ง  คงเพราะแม่มีเชื้อคนเผือกมั้ง  ผมถึงเล่นกีฬายังไงก็ไม่ดำซักที 

เอ่อ..  ออกนอกเรื่องมาไกลไปหน่อย  เมื่อกี้ถึงไหนนะ  อ๋อ..  ผมเป็นนักเขียนใช่ไหม  แต่ตอนนี้ผมเป็นศิลปินด้วย  ผมเริ่มมาจับพู่กันตอนปีสาม(หลังจากหยุดวาดไปตอนเด็ก)  คือตอนนั้นผมว่างไงครับ  เพราะไอ้ที่อาจารย์จะสอนในคณะน่ะผมอ่านจบไปหมดแล้ว  พอผมเบื่อๆผมเลยไปเดินเล่นที่คณะศิลปกรรมแล้วขอลงเรียนวาดรูป  เรียนแบบเข้าคลาสเฉยๆน่ะ  ไม่ได้เก็บหน่วย  พอเรียนไปได้สองปี(ช่วงที่จบปีห้าพอดีเหมือนกัน)  อาจารย์ท่านหนึ่งเลยแนะนำว่าให้ผมส่งงานเข้าประกวดดู  แล้วผมก็ได้รางวัลจริงๆครับ  ผมเลยตั้งนามพู่กันว่า  Primo  Premio  ไง

ส่วนไอ้พี่ชายของผมที่เข้ามากวนผมตั้งแต่เช้าน่ะ  มันชื่อ ไอเอ็มครับ  I'm  ฉันคือ...  ไอ้ไอเอ็มนี่มันต่างกับผมสุดขั้ว  ไม่ใช่ว่ามันเอ๋อนะ  มันเองก็เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน  เพียงแต่มันพูดภาษาคนรู้เรื่องมากกว่า  และมันก็รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กแล้วว่ามันจะเป็นช่างกล้อง  มันมุ่งหน้าโกอินเตอร์ไปอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่จบม.หก(พ่อกับแม่บังคับมันให้อยู่ที่ไทยจนถึงตอนที่มันอายุสิบแปด)  มันฝึกฝีมืออยู่ไม่นานก็ได้เป็นช่างภาพประจำของนิตยสารชื่อดัง  มันได้บินไปบินมาจนทั่วยุโรปและเอเชียเลยครับ  แถมผู้หญิงก็เกาะมันตรึมยิ่งกว่าเห็นป้ายรถสปอร์ตแจกฟรี  แต่รู้สึกว่ามีหนึ่งปีหลังมานี่แหละครับที่มันไปติดนางแบบจากเวเนซูเอล่าน่ะ  มันไม่เคยสับสนในเส้นทางชีวิตเลยซักครั้ง  มันมีจุดมุ่งหมายมาตลอด  และมันก็สามารถทำให้สำเร็จตามที่มันต้องการได้ทุกครั้ง 

ผิดกับผมที่เพิ่งมารู้ตัวเองว่าชอบวาดรูปจริงๆก็ตอนได้รับรางวัลนี่แหละ  อาจเป็นเพราะผมฝึกฝีมือกับศิลปินชื่อดัง(ที่เขาพูดว่าไม่ใครพูดกับแกรู้เรื่องนอกจากผม)  ผมเลยได้รับแรงบันดาลใจจากอาจารย์  แล้วหันมาเอาดีทางด้านงานศิลปะแทน  ส่วนงานเขียนหนังสือผมก็ยังทำอยู่นะ  แต่เปลี่ยนไปเป็นเป็นงานอดิเรกแทน  พอเริ่มได้วาดรูป  ผมก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับใครเท่าไหร่แม้แต่กับที่บ้าน  โลกของผมตอนนี้มีแค่ผืนผ้าใบ  พู่กัน  และรีกาโลเท่านั้นครับ

บ๊อกๆ  โฮ่ง  บ๊อกๆๆๆ

" เห่าอะไรของแกหา"

รีกาโลดึงผมออกมาจากโลกส่วนตัวอีกแล้ว  กูกำลังเล่าประวัติกูอยู่เพลินๆเชียว

แฮ่...  บ๊อกๆๆๆๆ  แฮ่...  บ๊อกๆๆ

ผมเดินไปดูเจ้ารีกาโลที่เห่าอะไรซักอย่างบนโซฟาครับ  ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า  มีแค่ตัวอะไรไม่รู้ตัวขาวๆชมพูๆมีตาสีเขียวๆ 

แต่แปลกแฮะ  ทำไมมันจ้องตาผมตอบได้วะ

ผมลองเอียงคอไปทางซ้าย...  มันยังมองอยู่

เอียงคอไปทางขวา...  มันมองอยู่แต่หน้าเริ่มเบะ

กูขอลองเอาพู่กันเขี่ยๆมันหน่อยดิ๊...

แจ๊คพอต!!!  มันแหกปากลั่นห้องเลยครับ!!!

แงๆๆๆๆๆ  ฮือๆๆๆๆๆ  แงๆๆๆๆๆ

" ชิบหายแล้วรีกาโล  มึงไปคลอดเด็กมาตอนไหนวะ! "

ไอ้หมาท้องไม่มีพ่อมองหน้าผมแบบว่าผมช่างปัญญาอ่อนสิ้นดี  มันยกขาฉี่ใส่ผม  ผมถึงนึกขึ้นได้ว่าหมาผมเป็นตัวผู้  มันมีลูกไม่ได้  แล้วไอ้เด็กที่แหกปากร้องนี่ใครวะ!

หือ?  มีจดหมายแปะอยู่บนเสื้อไอ้ตัวแหกปากด้วย..


ถึง...  ยูอาร์

กว่ามึงจะนึกขึ้นได้ว่าต้องเลี้ยงลูกกู  กูก็อยู่บนเครื่องแล้วเพราะงั้นมึงไม่ต้องโทรหากู  กูปิดเครื่อง  แล้วไม่ต้องคิดเอาลูกมาส่งกูคืนที่มิลานเพราะเดี๋ยวกูต้องบินไปอังกฤษต่อ  หลานมึงเป็นลูกของกูกับโรซานน่า  นางแบบเวเนชูเอล่าที่กูไปถ่ายแบบให้ไง  แต่เธออายุแค่สิบเจ็ด  มันคงไม่ดีถ้านางแบบอนาคตไกลจะประกาศมีลูก  เพราะงั้นมึงที่อยู่แต่ในคอนโดจงเลี้ยงดูลูกกูซะ  ลูกกูชื่อ  ซีนาเฮอร์  เรียกซีน่าก็ได้

 กูเปิดบัญชีและวางบัตรไว้ให้มึงแล้ว  รหัสคือ  2606  มึงคงจำได้เพราะเป็นวันเกิดมึง  แล้วกูจะโอนเงินไปให้ทุกเดือนๆละสองแสน  เอาไว้ใช้เลี้ยงดูลูกกูและที่เหลือเป็นค่าแรงมึง  ดังนั้นมึงที่ได้รับเงินไปแล้วจงตั้งใจทำงานเลี้ยงดูลูกกูซะ   

จำไว้  เลี้ยงลูกกูให้ดี  แล้วปีหน้าแฟนกูอายุสิบแปดเมื่อไหร่จะไปรับกลับมาเลี้ยงเอง  ดูแลลูกกูดีๆ  ไม่งั้นกูจะกลับไปเผางานมึงให้หมดคอนโด!!!

ปล. อย่าบอกแด๊ดกับมัมเพราะกูกะทำเซอร์ไพร์ลูกพร้อมเมียในวันเกิดของมัมปลายปีหน้า

Bonne Chance 

จากพี่ของแก  IM



ฮึก...   กูอยากร้องไห้แหกปากพร้อมไอ้หลานกูจริงๆ


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้ามันไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 12-09-2013 21:40:44
บทที่  1



" ไอ้ไพรซ์  มึงมาหากูที่คอนโดเดี๋ยวนี้!!!!"

" คุณมึงเป็นใครครับ  มาตะคอกใส่หูกูทำ_่อ มึงเหรอ! "

" กูก็ไอ้มึงไง!  เพื่อนมึงจากวิศวะที่ช่วยมึงจากการถูกกระทืบไง  ยูอาร์!  มึงจำได้รึยัง!!!"

" .... "

" มึงไม่ต้องเงียบมาที่คอนโดกูเดี๋ยวนี้  กูอยู่คอนโดเดิม  รีบมา  ทิ้งงานทุกอย่างของมึงแล้วมาหากูเดี๋ยวนี้!!!!"

" กูไม่..."

" ไม่ต้องมาไม่  มึงเคยบอกเองว่าชีวิตที่เหลือของมึงยกให้กู  ตอนนี้กูจะเอาชีวิตมึงแล้ว  มาหากูเดี๋ยวนี้!!!!"


ผมพูดจบก็ตัดสายทิ้งครับ  ไม่รอให้มันปฎิเสธ  ไอ้ไพรซ์นี่เป็นคนที่ผมเคยช่วยไว้ตอนที่มันโดนลูกหลงระหว่างศึกวิศวะกับสถาปัตถ์ครับ  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ไพรซ์ที่เรียนบริหาร  ไปอยู่ในดงตีนได้ยังไง  ผมที่เห็นมันยืนเอ๋ออยู่เลยช่วยดึงมันออกมาจากดงตีนจนหัวแตกโดนเย็บไปหลายเข็ม  หลังจากนั้นมันก็สำนึกในบุญคุณแล้วบอกว่า  มันชอบผมมาก  จะขอยกชีวิตที่เหลือของมันให้  แต่ตอนนั้นผมยังไม่อยากได้ลูกน้อง  ไม่อยากเป็นหัวหน้าแก๊ง  เลยบอกมันไปว่าถ้าอยากได้มันเป็นลูกน้องเมื่อไหร่จะค่อยบอกอีกที  แต่หลังพูดจบมันก็ร้องไห้แล้วด่าผมว่าไอ้โง่  ถึงผมจะงงๆว่ามันด่าผมทำไม  แต่ผมก็ไม่ได้อะไรมากมันอยากวิ่งหนีก็วิ่งไป  แต่ตอนนี้ผมต้องการมันแล้ว  และมันต้องมาด้วย  มาเป็นพี่เลี้ยงให้หลานผมซะดีๆ

ผมเดินไปเดินมารอไพรซ์อยู่ที่หน้าประตูห้อง  ผมเพิ่งทำให้เจ้าตัวแหกปากหลับไปได้เมื่อกี้เองครับ  ความจริงผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ  แค่หนีไปที่ระเบียงแล้วปล่อยให้รีกาโลดูหลานไป  แต่เจ้าหมามันดันไม่รักดี  มันเห่าเรียกผมแล้วขอออกมาอยู่ด้วย  ผมก็เลยต้องพามันออกมาแล้วปล่อยให้ตัวที่แหกปากเงียบไปเอง 

ติ๊งต๊อง

แงๆๆๆๆๆๆ

ชิบหาย!!  เสียงดังหน่อยแหกปากเลยนะมึง

ผมรีบเปิดประตูไปหาคนที่กดกริ่ง  ผมมองไป..  ทำไมไม่เห็นใครวะ  แม่งใครกดกริ่งแกล้งกู

" มึงจะมองผ่านหัวกูอีกนานไหมหา  ไอ้เปรต  กูสูงร้อยเจ็ดสิบนี่มันเตี้ยมากใช่ไหม"

อ่าว...  ก็กูสูงร้อยเก้าสิบนี่หว่า  แต่นั่นมันใช่ประเด็นไหม!

" มึงเข้ามาเร็ว!  หลานกูแหกปากแล้ว  มึงไปทำให้มันเงียบเลยนะ  กูจะหนีไปอยู่ในห้อง  ทำให้มันเงียบแล้วค่อยมาเรียกกู  ไม่ต้องงงไปเร็ว!"

ผมลากมันไปที่โซฟา  เพื่อให้มันเห็นตัวที่กำลังแหกปาก  ส่วนผมก็อุ้มรีกาโลหนีเข้าห้อง

เฮ้อ...  สบายแล้วกู  วาดรูปต่อดีกว่า



ปังๆๆๆๆ

ใครมาขัดอารมณ์ศิลปินกูอีกวะ

" มึงเลิกเล่นมุกมองผ่านหัวกูซักที  บอกกูมาว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วที่อยู่บนโซฟาน่ะลูกใคร  อย่าบอกนะว่า...  ลูกมึง"

มันจะพูดเสียงเบาตอนท้ายทำไมวะ  หรือมันกลัวหลานผมที่มันอุ้มอยู่จะตื่น

" ลูกพี่ชายกูมันเอามาทิ้งไว้  แต่กูเลี้ยงเด็กไม่เป็น  กูจ้างมึงเดือนละแสนไม่รวมค่าของกินของใช้  เดี๋ยวกูหยิบบัตร  ATM  ให้  รหัส 2606  กดได้ตามใจมึง  ไม่พอค่อยมาบอกกู  ดูแลหลานกูให้ดี  กูจ้างมึงยาวหนึ่งปีเลย  ให้เบิกเงินได้ล่วงหน้าด้วย  อยากนอนที่ไหนในคอนโดก็ตามใจมึง  แต่ต้องดูหลานกูด้วย  แล้วอย่ากวนเวลากูวาดรูป  แค่นี้แหละ  ไปดูหลานกูได้แล้ว"


ปังๆๆๆๆ

มันจะเคาะอะไรอีกวะ  หรือมันไม่เครียร์

" มีอะไรอีกวะ"

" กูไม่ทำ!"

" มึงบอกเองว่าจะยกชีวิตให้กู  นี่กูขอแค่ปีเดียวนะ  ที่เหลือกูยกให้ฟรี  น่าไพรซ์  ช่วยกูหน่อย  กูมีแต่มึงคนเดียวเลย  กูไม่มีใครแล้ว"

ผมส่งสายตาลูกหมาแบบรีกาโลไปให้ครับ  มันหน้านิ่งก่อนแยกเขี้ยวใส่ผม

" มึงมันไอ้โง่!  ผ่านมากี่ปีก็ยังโง่เหมือนเดิม!  เออ!   กูเลี้ยงหลานให้มึงก็ได้..  เงินกูเอาแค่ห้าหมื่นพอ  แต่มีข้อแม้.."

" ข้อแม้ไรวะ"

" มึงต้องให้กูนอนด้วย!"

" อ๋อ... ได้ดิ  แต่มึงจะไม่ลำบากเหรอวะ  บางทีกูวาดรูปข้ามคืนไม่ได้นอนนะ  หรือมึงเปิดไฟนอนได้  ถ้ามึงนอนได้กูก็ไม่มีปัญหา  แค่อย่ากวนตอนกูวาดรูปก็พอ"

" มึง.."

" หือ?"

" มึงมันไอ้ไง่!!!!!"

มันจะตะโกนทำไมนักวะครับ  แล้วผมโง่ตรงไหน  ผมออกจะฉลาด  หรือคุณว่าไง?



-----//-----


" มึงว่าอะไรนะ!"

" กูสั่งให้มึงออกไปซื้อของพร้อมกู!"

" มึงจะให้กูไปทำไม  กูต้องวาดรูป  แล้วนี่แม่บ้านก็จะมาอีก  ถ้าแม่บ้านเก็บงานกูไปทิ้งจะทำไง  ไหนจะแบบวาดภาพกูอีก  มึงดูดิ  ไอ้กระป๋องเบียร์ที่กองอยู่อ่ะ  ไม่ใช่ขยะนะ  อยู่อุตสาห์กองไว้เพื่อฝึกฝีมือ  แล้วมึงดูแจกันที่มีดอกไม้ดิ  ถึงมันจะเหี่ยวแต่มันเป็นศิลป์นะโว้ย  คอมโพซิชั่นอย่างงาม  เกิดแม่บ้านเอาไปทิ้งจะทำไง  แล้วยังกองขวดแก้วอีก  กูต้องดื่มเหล้าไปตั้งหลายขวดกว่าจะได้คอลเล็คชั่นหลากสีมาเป็นแบบสีน้ำมัน  แล้วยัง..."

" มึงหุบปาก!  ไปโกนหนวดออกด้วย  ถ้ามึงไม่รีบจัดการให้เสร็จ  กูจะทิ้งมึงไว้กับหลานมึงแล้วกลับบ้าน!"

ทำไมมันที่เป็นลูกจ้างถึงมาบังคับได้ผมอ่ะ  แต่พอมันทำท่าจะทิ้งผมไว้กับตัวแหกปากจริงๆ  ผมก็ต้องวิ่งไปอาบน้ำ(หลังจากไม่ได้อาบมาห้าวัน)  โกนหนวดโกนเครา(หลังจากไม่ได้โกนมาสองเดือน)  เปลี่ยนเสื้อ(ที่ไม่ได้เปลี่ยนมาหนึ่งสัปดาห์)  ใครว่าผมซกมก  ผมแค่ติสต์!  ศิลปินมันต้องอยู่เซอร์ๆ  จะทำตัวสะอาดเหมือนพนักงานบริษัทได้ยังไง!

จะว่าไปพอเอาหนวดเคราออกก็สบายหนังหน้าดีเหมือนกันนะครับ  แล้วไอ้ผีดิบหน้าซีดในกระจกนี่ใครวะ  เอียงคอซ้ายเอียงคอขวาตามผมด้วย  อืมม  สงสัยจะเป็นผมเอง  การไม่ได้โผล่ออกไปนอกห้องสองเดือนทำให้ผมหน้าซีดเป็นผีดิบได้เลยนะ  เออ  ดีเหมือนกันแฮะ  ไม่ต้องเปลืองเงินค่ากลูต้า  ไม่ต้องกลัวตับพังเพราะกินยาให้ขาว  คราวหน้าผมอยู่ในห้องซักสามเดือนดีกว่า  ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง

" กูเสร็จแล้ว"

" .... "

" มึงจะจ้องหน้ากูทำไม  จะไปก็รีบไป  จดรายการของที่ต้องใช้แล้วใช่ไหม  กูไม่ชอบเดินห้างนานๆ  อย่าพากูเดินวนด้วย"

ผมบอกไอ้ไพรซ์ที่มันยังอ้าปากค้าง  มันจะอึ้งอะไรนักหนาวะ  รึผมโกนหนวดแล้วดูแปลกๆ  ก็ไม่นี่หว่า  ผมก็ยังมีสองตา  หนึ่งจมูก  หนึ่งปากช่างมันเถอะ  คิดมากเสียเวลา

" รีกาโล  เฝ้าคอนโดด้วยนะ  ถ้าแม่บ้านหยิบอะไรของพ่อ  กัดมันให้ตายเลยลูก  แล้วอย่าให้ใครแตะต้องงานศิลป์สุดที่รักของพ่อนะ  ห้องพ่อก็ห้ามแม่บ้านเข้า  พู่กันอย่าให้ใครเอาไปล้าง  ขี้ดินสออย่าเอาไปทิ้ง  รูปวาดอยู่ตรงไหนมันต้องอยู่ตรงนั้น  เสื้อผ้าให้เอาไปซักได้  ดูแม่บ้านตอนล้างจานด้วย  อย่าให้ทำจานพ่อแตก  เบียร์ในตู้เย็นก็ห้ามเอาไปทิ้ง  นมเน่าในตู้แกก็ห้ามกิน  เดี๋ยวซื้อกล่องใหม่มาให้  ซื้ออาหารซองยี่ห่อใหม่ดีไหม  ที่แกบ่นอยากกินไง  เอาซักสามลังดีกว่า  จะได้ไม่ต้องออกไปซื้อบ่อยๆ  แล้วเอาของเล่นไหม  CD  เพลงของเลดี้กาก่าป่ะที่แกชอบฟัง  งั้น..."

" เลิกร่ำลาหมามึงได้แล้ว!!!"

ชิ  ไอ้คนหัวใจหยาบกระด้างไม่รักสัตว์  แล้วนี่มันจะดูแลหลานผมได้ไหมเนี่ย  เกิดมันกินหัวหลานผมจะทำยังไง  ไอ้ไอเอ็มไม่มาป่วนคอนโดผมเหรอ

" มองหน้ากูทำไม  ไปขับรถ!"

ฮึก  ไอ้พี่เลี้ยงเด็กจอมโหด 


ผมต้องนั่งรถเท็กซี่ไปห้างครับ  สงสัยเพราะไม่ได้ใช้รถนาน  รถเลยสตาร์ทไม่ติด  ผมตามช่างมาแล้วครับเพราะขี้เกียจรอเลยฝากเรื่องไว้ที่ยามแทน  รถที่กรุงเทพนี่ติดทั้งปีทั้งชาติเลยจริงๆ  ผมถึงไม่ค่อยได้ออกไปไหนไงครับ  เวลาจะส่งผลงานไปขายก็ตามผู้จัดการให้มารับภาพ  แกจะช่วยจัดการให้เสร็จสรรพ  หักค่านายหน้าเรียบร้อย  พี่แกก็โอนเงินมาให้ 

ว่าแต่ง่วงจัง  ผมไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว  อยู่บนรถแบบนี้ขอผมนอนหน่อยดีกว่า...



" ยูอาร์  ถึงแล้ว"

" อือ..."

" ยูอาร์  ตื่นได้แล้ว"

" อืมม "

" ไอ้มึง!  ตื่นเดี๋ยวนี้!"

หา?  อะไรๆๆๆ  ใครตบหัวผมอ่ะ  อ๋อ..  ไอ้พี่เลี้ยงจอมโหดนี่เอง 

" ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย  มึงไม่น่ารักหรอก"

กูก็ไม่ได้อยากน่ารักซักหน่อย  ผมมองหน้าไอ้พี่เลี้ยงสุดโหด  ตามันจ้องผมเคืองๆแต่ทำไมแก้มมันแดงๆวะ

" ทำไมหน้ามึงแดง  เป็นไข้รึเปล่า  แล้วจะติดหลานกูไหมเนี่ย  มึงเล่นอุ้มมันติดอย่างกะมันเป็นจิงโจ้ในถุงหน้าท้อง  ถ้าหลานกูไม่สบายกูหักเงินมึงจริงๆด้วย" 

ผมถามแล้ววัดไข้ให้มันโดยการเอาหน้าผากตัวเองไปชน  แม่ผมชอบวัดไข้วิธีนี้ครับ  แม่บอกว่าใช้หน้าผากด้วยกันจะได้วัดไม่ผิด  มันก็ไม่มีไข้นะ  แต่ทำไมหน้ามันแดง  พอผมเอาหน้าผากออก  ก็เห็นมันหน้าแดงกว่าเดิมอีก

" มึงจะเป็นลมแดดรึเปล่า  ให้กูอุ้มหลานเองดีไหม  เดี๋ยวมึงเป็นลมล้มทับหลานกูแบนพอดี"

" มึงมัน.."

" หือ?"

" มึงมันไอ้โง่!!!!"

ทำไมมันต้องว่าผมอีกแล้วอ่ะ  ผมทำอะไรผิดกัน  ยูอาร์ไม่เข้าใจ...




ผมไม่เข้าใจเลยว่าสิ่งที่ไอ้ไพรซ์กำลังทำอยู่คืออะไร  มันลากผมมาที่แผนกเด็กอ่อนครับ  ก่อนจะเลือกซื้อเสื้อผ้า  ผ้าอ้อม  ขวดนม  ที่นอน  ของเล่น  และสารพัดของใช้เด็ก  มันเลือกไม่หยุดเลยครับ  ผมไม่เห็นว่าแต่ละอย่างจะต่างกันตรงไหน  เสื้อก็ดูเหมือนๆกับไปหมด  แล้วที่นอนต้องซื้อทำไมตั้งสองอัน  แล้วทำไมต้องมีที่ปูรองอีก  เอาเถอะ  ถ้ามันคิดว่าจำเป็นก็คงจำเป็นแหละครับ  ยังไงผมก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินอยู่แล้ว  แต่ไพรซ์ก็ดูรู้เรื่องพอตัวเลยครับ  ดูแลหลานผมเก่งมากด้วย  เพราะเจ้าตัวแหกปากไม่ร้องซักแอะ  ใครมาเล่นมาจับก็หัวเราะอารมณ์ดี  พนักงานสาวๆนี่เข้ามารุมดูกันใหญ่  ยิ่งพอเจอคุณแม่มือใหม่ยิ่งคุยกันยาว  แต่ผมเริ่มเมื่อยแล้วนะ  ทำไมผมต้องมายืนรอด้วยเนี่ย

" ยูอาร์  หลานมึงชื่ออะไรวะ"

ชื่อ...  จะว่าไปในจดหมายเหมือนจะมีบอกนะ  แต่ผมขยำทิ้งไปแล้ว  ผมมองหน้าคนถาม  มองหน้าหลาน  มองหน้าคนถามอีกทีก่อนยิ้มตอบไปว่า

" ชื่อของขวัญ" 

ผมว่าไอ้ไพรซ์นี่หน้าเหมือนรีกาโลเลยครับ  ตากลมๆโตๆ  ตัวเล็กๆ  ผิวขาว  ผมออกสีน้ำตาลๆเข้ม  คงไปย้อมผมมา  สรุปคือมันเป็นเจ้ารีกาโลเบอร์สองนี่เอง  งั้นผมตั้งชื่อหลานว่าของขวัญแล้วกันครับ  เพราะจะได้มีรีกาโลในห้องผมสามตัวเลย

" ...มึงเพิ่งตั้งเมื่อกี้ใช่ไหม"

" ใช่  กูอยากให้มีรีกาโลในห้องกูหลายๆตัว"

ผมยิ้มมุมปากแสดงความฉลาดในการตั้งชื่อให้มันฟัง  เห็นไหมว่าผมไม่โง่  กว่าจะตั้งชื่อสุดแสนจะบรรเจิดสอดคล้องกันได้นี่  ไม่ฉลาดทำไม่ได้หรอกเนอะ~

" มะ  แหม..  คุณอานี่น่ารักจังเลยนะคะ  มีแฟนรึยังคะเนี่ย"

หือ?  ชมที่ผมตั้งชื่อหลานได้เก่งเหรอ  แล้วถามทำไมว่าผมมีแฟนรึยัง  จะว่าไปพนักงานคนนี้ก็น่ารักดี  หรือว่าผมควรสานความสัมพันธ์ดี  ผมไม่ได้ควงใคร  หรือนอนกับใครมานานแล้วนะ

" แฟนก็ยืนอยู่ตรงนี้ไง  ใช่ไหมที่รัก"

เหอ? 

สรุปมันเป็นแฟนผม?  ไม่ใช่พี่เลี้ยง?  แต่พอเห็นสีหน้ารำคาญๆผมเลยตัดปัญหาบอกพนักงานไปว่าไอ้ไพรซ์มันเป็นแฟนผมจริงๆ  น่าสงสารพนักงานจัง  คงเสียใจมากพอดูเพราะน้องแกทำหน้าแบบรับไม่ได้มากๆ  ยิ่งพอไอ้ไพรซ์มาหอมแก้มผม  น้องพนักงานก็แทบกรี๊ดจนไม่อยากรับบัตรเครดิตไป  ไอ้ไพรซ์มันไปเกลียดน้องเค้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ  เมื่อกี้ยังเห็นคุยกันดีๆอยู่เลย

" ที่รักจ่ายเงินสิ  ต้องลงไปมาร์เก็ตข้างล่างอีกนะ"

ผมที่ยังงงๆก็ได้แต่ยื่นบัตรเครดิตไปให้  ส่วนของก็ฝากไว้ก่อน  ค่อยให้ทางห้างช่วยส่งไปคอนโด  เพราะมันเล่นซื้อเตียงไม้เด็กอ่อนมาทั้งหลัง  คงใส่รถเท็กซี่ไปไม่ได้แน่

" กินข้าวก่อนค่อยแวะมาร์เก็ตนะ  กูอุ้มหลานมึงจนเหนื่อยแล้ว"

" มึงเลือกร้านแล้วกัน  เอาร้านที่คนน้อยๆนะ"

ไพรซ์เลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูไฮโซร้านหนึ่ง  เลือกที่นั่งที่ในสุด  พอสั่งอาหารกันเรียบร้อยมันก็ชวนผมคุยครับ

" มึงเป็นไงบ้าง"

" ก็สบายดี  วาดรูปไปเรื่อยๆ  ไม่ค่อยได้ออกไปไหน  นอกจากอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปวาดรูปนอกสถานที่"

" ภาพยังขายได้ราคาใช่ไหม  กูเข้าไปดูรูปในเว็บมาแล้ว  ฝีมือไม่ตกเลยนี่"

" ก็พออยู่ได้  รูปนึงสองสามแสน  วาดเดือนละรูปกูก็พอกินแล้ว"

" ยังอยู่กับเอเจนซี่เดิมรึเปล่า"

" อืม  พี่ต้อมเขาก็เอาใจใส่ดี  ค่านายหน้าก็ไม่ได้หักเยอะมาก  กูเลยขี้เกียจเปลี่ยน"

" .... "

" .... "

" .... "

" .... "

" นี่มึงไม่คิดจะถามอะไรกูบ้างรึไง"

หือ?  แล้วจะให้ผมถามอะไรล่ะ  ถามว่าสบายดีไหม?  ก็เห็นอยู่ว่ามันสบายดี  ถามเรื่องงาน?  ก็ผมนี่ไงนายจ้างมัน  เรื่องเงิน?  ก็มันออกเองว่าจะเอาห้าหมื่น  แล้ว..

" แล้วอยากให้กูถามอะไรล่ะ"

" .... "

" .... "

" .... "

สรุปเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก  พออาหารมาก็ต่างคนต่างกิน  ผมกินส่วนของผม  มันกินส่วนของมัน  มีเล่นกับของขวัญบ้าง  เล่นเสร็จมันก็ป้อนนมให้หลานผม  ผมที่นั่งรอเฉยๆระหว่างรอมันให้นม  ก็เลยเอาดินสอกับสมุดสเก็ตภาพเล่มเล็กมาวาดภาพพวกมันสองคนพลางๆ  พอได้ลงมือวาดผมถึงได้รู้ว่าไอ้ไพรซ์มันมีโครงหน้าสวยมากเลยครับ  ตา  ปาก  จมูก  คิ้ว  ทุกอย่างรับกันดีหมด  แถมมีลักยิ้มด้วย  อืมมๆ  มุมนี้แสงกำลังสวยเลยครับ  ทิ้งเงาผ่านกราม  ทำให้หน้าดูเรียว  ปากมันอิ่มใช้ได้เลย  มันกำลังฮัมเพลงเบาๆกล่อมหลานผมที่เพิ่งกินนมเสร็จ 

" อย่าขยับ  กูร่างภาพมึงอยู่"

ผมสั่งเพราะเห็นมันจะลุกขึ้น  ทำไมมันขยันหน้าแดงจังวะ  รึไฟที่ส่องมามันร้อน  ช่างมัน  แสงกำลังดี  ทนร้อนไปละกันนะมึง

มันยอมนั่งให้ผมวาดได้อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็หน้าแดงแจ๋  ค้อนผมปะหลักปะเหลือกก่อนโวยวายให้ผมจ่ายเงิน  แล้วมันก็เดินลิ่วบอกว่าจะไปมาร์เก็ตแล้ว  ผมที่เสียดายแบบดีๆที่หาได้ยากก็ได้แต่เก็บสมุดแล้วเรียกเก็บเงินก่อนเดินตามมันออกไป

" ทำไมมึงหน้าแดงบ่อยวะ  อย่าด่ากูว่าโง่อีกนะมึง  ไม่งั้นกูถีบแน่"

ผมรีบดักคอมันทันทีที่เห็นมันอ้าปาก  มันไม่ยอมตอบครับ  แต่บ่นอะไรพึมพัมๆไม่รู้  มึงจะคุยกับหลานกูที่หลับอยู่รึไงวะ  แต่ในเมื่อมันไม่อยากตอบผมก็ไม่อยากเซ้าซี้  เดินลากรถเข็นตามมันไปเลือกพวกนมผง  ผ้าอ้อม  กระดาษชำระ  ทั้งแบบเปียกแบบแห้ง  อาหารเด็กอ่อน  ของสด  ผลไม้  ฯลฯ  สรุปคือผมเดินจนขาลาก  จ่ายเงินไปอีกหลายบาท  นี่การมีลูกมันต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย  งั้นชีวิตนี้ผมไม่มีลูกแล้วดีกว่า  โครตจะเปลืองเงินเลย


-----//-----



" ว๊ากกกกก!!!!"

ไม่จริง!  คอนโดรูหนูของผมไปไหนวะ!  ไอ้ห้องสะอาดๆนี่มันห้องใคร  กระป๋องเบียร์ผมไปไหน  แจกันของผมล่ะ  ขวดเหล้าของผม  ไหนจะของอย่างอื่นอีก  ม่ายยยย!!!

" หยุดแหกปากเลยมึง  เอาของเข้ามา  แล้วกูจะเลี้ยงหลานมึงที่ห้องนั่งเล่นนี่แหละ  หลีกดิ๊มึง  เห็นไหมว่าคนขนเตียงมาแล้ว.." 

ไอ้ไพรซ์มันพูดอะไรอีกผมไม่รับรู้แล้วครับ  วิญญาณผมลอยไปหาดาวินชี่แล้ว  ไม่..  ทำไม..

บ๊อกๆๆๆ  โฮ่งๆๆๆ  งี๊ดๆๆๆๆ

" รีกาโลลูกพ่อ  ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม  พ่อนึกว่าลูกจะไปกับขวดแก้วซะแล้ว  แกกัดแม่บ้านตายไปแล้วใช่ไหม  ถ้ายังไม่ตายพ่อจะไปฆ่่ามัน!  มันเอาสมบัติของพ่อไป  มันอยู่ไหน!  กูจะฆ่ามันนนน!"

โป๊ก!

" หุบปากมึงซักที!  กูรำคาญ  ถ้ามึงว่างมากมาช่วยกูดูของขวัญนี่  อย่าเอาแต่.."

" ม่ายยยย!!!"

ฮึก  ไอ้พี่เลี้ยงใจดำ  ผมไม่น่าจ้างมันมาเลย  เพราะมันคนเดียวเลย  มันบอกว่าห้องผมเน่ามาก  มีแต่ขยะ  ถ้าผมไม่จ้างแม่บ้านมามันจะไม่เลี้ยงหลานให้  ผมถึงต้องยอมจ้างแม่บ้านมา  แถมต้องจ้างมาห้าคนด้วย  เพราะมัน!!

" มึงจะจ้องกูอีกนานไหม  หยุดอุ้มหมาแล้วมาดูของขวัญเดี๋ยวนี้  กูจะไปชงนมให้หลานมึง  แล้วดูผ้าอ้อมหลานมึงด้วยว่าเต็มรึเปล่า.."

" ม่ายยยย!!"

ฮึก  ผมไม่อยู่แล้ว!  ผมขอหนีออกจากที่นี่  กูจะไม่อยู่ให้มึงโขกสับแล้ว!

พอคิดได้แบบนั้นผมก็หิ้วรีกาโลขึ้นชั้นสองแล้วปิดล๊อกห้อง(คอนโดผมมีสองชั้น  สองห้องนอนสามห้องน้ำน่ะไม่รวมห้องสตูดิโออีก)  ผมวางรีกาโลลงแล้วเปิดเพลงโศกสลดดังลั่นห้อง  กะว่าใครมาเคาะกูก็ไม่ได้ยิน  ผมขึงผ้าใบผืนใหม่  แล้วเริ่มวาดรูป  ฮือ..  กูจะวาดรูปอยู่ในห้องไปจนตายเลยเว้ย  จะไม่ออกไปนอกห้องเด็ดขาด! 

อ่อ  แต่อาจจะต้องลงไปตอนเอาอาหารไปให้รีกาโลนะ  รึผมจะลองให้รีกาโลอดอาหารเหมือนผมดี  พุงกลมๆของมันจะได้ยุบลงหน่อย

แฮ่ๆๆ  โฮ่งๆๆๆ  แฮ่ๆๆ

อุ่ย  สงสัยรีกาโลจะรู้ว่าผมคิดอะไร  เอาเถอะ  กูค่อยย่องลงไปตอนมันสองตัวนอนก็ได้วะ  ชิ  ไอ้รีกาโลเบอร์สองกับเบอร์สาม  จำไว้เลยนะมึง  อย่าให้ถึงทีกูนะ  จะเล่นให้ร้องไม่ออกเชียว



>>  To  Be  Continue  <<





TALK  ::  ไม่มีอะไรมากแค่อยากบอกว่า  ตอนหน้ามี  NC  เฮ่อๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้ามันไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 12-09-2013 22:11:28
ชอบยูอาร์อ่ะ บ๊องดี  o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้ามันไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 12-09-2013 22:25:55
ยูอาร์ นายมันโง่วววววววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 21-09-2013 21:37:23
รออยู่น่ะะะะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 21-09-2013 23:06:31
สงสารไพรซ์เหลือเกิน =_=
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น::ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: intro+ch1 (12/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 22-09-2013 01:07:40
ตลกดีอ้ะ พระเอกนี่ก็โง่จริงจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 23-09-2013 13:40:38

บทที่  2



แง้ม..  แง้ม...
 
ย่อง...  ย่อง...
 
" มึงจะย่องเบาบ้านตัวเองรึไงวะไอ้มึง  แล้วนี่...  มึงเสด็จออกมาได้แล้ว?"  ถามมาได้ว่าเสด็จออกมาได้แล้ว  กูไม่ได้ออกจากห้องมาเจ็ดวันแล้วนะเว้ย
 
" เออ  กูหิว" 
 
ชิ  นี่ขนาดผมย่องมาตอนตีหนึ่งแล้วนะ  ทำไมไอ้ไพรซ์มันไม่นอนวะ  จะว่าไปมันก็มาอยู่ได้ตั้งหลายวันแล้ว  นี่มันไม่หลับไม่นอนรึไง  เห็นกูย่องมาทีไรเจอหน้ามันตลอด
 
" มีอะไรเหลือให้กูกินบ้าง"
 
อืมม  แต่จะว่าไปแล้วตั้งแต่มีไอ้ไพรซ์มานี่  ผมเองก็สบายขึ้นเยอะนะ  เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องหาอาหารกินเอง  หิวก็แค่ออกมาจากห้อง  แต่ถ้าวาดรูปอยู่ไอ้ไพรซ์ก็จะเคาะประตูแล้ววางจานข้าวไว้ให้หน้าห้อง  พอผมกินเสร็จก็วางจานไว้ตามเดิม  พอมื้อถัดมาก็เป็นแบบนี้อีก  ถึงจะดูเหมือนการเคาะจานข้าวเรียกรีกาโลมากินข้าวไปหน่อย  แต่ผมก็ว่าโอนะ  เพราะนอกจากเรื่องที่มันบ่นผมว่าไม่ค่อยอาบน้ำโกนหนวด  มันก็ไม่มายุ่งอะไรกับผมอีก  แถมเลี้ยงหลานผมดีด้วย  เจ้ารีกาโลเบอร์สามไม่เคยแหกปากอีกเลยครับ  มีร้องไห้โยเยนิดหน่อย  ส่วนที่เหลือผมก็เห็นหลานเอาแต่หลับ 
 
ส่วนที่ว่าไอ้ไพรซ์มันทำอะไรบ้างนี้ผมไม่รู้นะ  เพราะผมเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้อง  ส่วนรีกาโลเบอร์หนึ่ง...  มันทรยศผมไปแล้วครับ  เพราะหลังจากที่ผมขังมันในห้องกับผมสองวัน  มันก็รีบวิ่งแจ้นออกไปหาไอ้ไพรซ์ทันที  แถมหลังจากนั้นมันก็อยู่ข้างนอกตลอด  ไอ้หมาทรยศ  กูอุตส่าห์เลี้ยงมึงมาตั้งหลายปี  เสือกทรยศกูได้นะมึง
 
" เอามึง  ข้าวน่ะจะแดกไหม  แค่มองข้าวมันไม่ลอยเข้าปากมึงหรอกนะ"  ไอ้พี่เลี้ยงสุดโหดพูดแล้วกระแทกช้อนชนปากผมครับ  เออดี  ป้อนกูด้วย  กูจับพู่กันมาทั้งวันแล้ว  กูเหนื่อย
 
แล้วผมก็ปล่อนให้มันป้อนจนหมดจานครับ  ส่วนไอ้ที่ว่ามันเป็นข้าวกับอะไรนี่ผมไม่รู้หรอก  แค่มันไม่วางยาพิษผมก็ดีแล้ว
 
" ของหวานล่ะ"  กูชอบกินของหวานตอนดึกๆนะ  มึงไม่รู้รึไง
 
โอ๊ะ!  มันรู้ด้วย  มันกรอกตาใส่ผมทีหนึ่งก่อนไปหยิบเค้กส้มมาให้  ของโปรดผมเลย  ตอนนี้ถ้าผมมีหางแบบรีกาโล  หางผมคงกระดิกแล้วล่ะ 
 
ผมนั่งรอแล้วทำตาใสมองเค้ก  มันเลื่อนช้อนไปทางซ้าย  ผมมองตาม  มันเลื่อนช้อนไปทางขวา  ผมมองตาม  มันเอาช้อนขึ้นลง  ผมยังมองตามอยู่  มันเลื่อนไปทางซ้ายอีกรอบ...
 
" ไอ้เชี่ยยย  แขนกูไม่ใช่เค้ก  ตาเขรึไงมึง" 
 
ไอ้ไพรซ์มันร้องครับ  ก็มึงอยากแกล้งกูทำไม  กูก็ต้องงับแขนมึงดิ 
 
ผมขึงตาใส่ไอ้ไพรซ์แล้วอ้าปากรอให้มันป้อน  แต่มันก็ยังไม่ป้อนผมซักที  แม่ง  จะรออะไรวะ
 
" เค้กมันไม่กระโดดออกจากช้อนมาเข้าปากกูหรอกนะ  ถ้ามึงไม่ป้อนดีๆก็เอามา  กูกินเองก็ได้"  ผมพูดเบาๆนะ  กลัวไอ้ตัวแหกปากมันตื่น
 
ไอ้ไพรซ์มันอิดออดไม่ยอมป้อน  สุดท้ายผมก็เลยเดินไปนั่งที่ๆนั่งของมันแทน  ก่อนยกตัวมันขึ้นแล้ววางมันลงที่ตัก  ก่อนเกยคางที่บ่าของมันแล้วรอให้มันป้อน
 
" ถ้ามึงไม่ป้อนกูดีๆ  กูจะงับหูมึง  แล้วกูจะกัดคอมึงด้วย  กูหิวแล้ว  แล้วถ้าน้ำตาลกูต่ำ  กูจะฆ่ามึง" 
 
ไอ้ไพรซ์นี่มันชอบเล่นตัวแบบนี้แหละครับ  ตอนแรกผมก็ไม่รู้นะ  เพราะตอนที่มันป้อนเค้กผมครั้งแรกมันก็ยอมป้อนแต่โดยดี  แต่ตอนหลังมันจะแกล้งผมก่อน  แล้วบังคับให้ผมจูบมันก่อนบ้าง  ให้ผมหอมแก้มมันบ้าง  มีหลังๆนี่แหละที่ผมต้องยอมให้มันนั่งบนตักก่อน  แล้วยิ่งถ้ามีเนื้อส้มหรือเนื้อผลไม้อยู่ในเค้กนะ  ผมนี่ต้องยอมจูบปากมันอีก  มันถึงจะยอมให้ผมกิน
 
ผมว่าไอ้ไพรซ์มันก็ออกจะเหมือนคนไทยนะ  แต่ทำไมชอบให้จูบจัง  หรือมึงเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศษแต่หน้าไทย  งั้นเดี๋ยวกูเฟรนซ์คิสดีไหม  กูจะได้รู้ว่ามึงเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสจริงรึเปล่า
 
พอผมคิดได้แบบนั้น  ผมก็ลองจูบมันเลยครับ  ปกติผมแค่เอาปากไปชน  เพราะอยากกินเค้กเร็วๆ  แต่วันนี้ผมอยากลองดูบ้างว่าตกลงมันเป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวฝรั่งเศสรึเปล่า  งั้นผมขอทดสอบเลยละกัน
 
อืมมม  จูบแรก...  ยังไม่ค่อยรู้แฮะ
 
จูบที่สอง...  อืมมม  ยังไม่ค่อยรู้อยู่ดี
 
จูบครั้งที่สาม...
 
" มึงป้อนเค้กจากปากมึงดิ๊  กูอยากกินเค้กไปด้วยจูบมึงไปด้วยว่ะ" 
 
ผมบอกไอ้ไพรซ์ที่ตอนนี้มันหน้าแดงแล้ว  ผมเริ่มชินแล้วนะที่มันหน้าแดงบ่อยๆ  สงสัยเลือดลมดี
 
พอไอ้ไพรซ์จูบผมพร้อมป้อนเค้กไปด้วยนี่ผมเริ่มจับสังเกตุได้ว่า  ถ้าจูบปกติ  มันก็เหมือนจูบแลกลิ้นธรรมดา  แต่พอเปลี่ยนเป็นจูบพร้อมเค้ก  ค่อยเหมือนเฟรนซ์คิสหน่อย 
 
ไม่รู้ว่าเพราะเค้กมันหวาน  หรือปากไอ้ไพรซ์มันหวาน  แต่ตอนนี้พอมีสองอย่างรวมกัน  มันหวานมากเลย  หวานและหอมแบบแปลกๆ  ยิ่งตอนที่มันจะเอาลิ้นออก  ผมต้องเกี่ยวลิ้นมันไว้แล้วเลียลิ้นมันซ้ำเบาๆ  เหมือนกับว่าถ้าผมไม่เลียซ้ำ  เค้กมันจะออกมาไม่หมดอย่างนั้นแหละ
 
ผมนั่งให้ไอ้ไพรซ์ป้อนเค้กด้วยปากจนเค้กหมดชิ้น  แต่พอหมดคำสุดท้าย  ไอ้ไพรซ์มันไม่ยอมเอาปากออกครับ  มันจูบผมต่อ  ก่อนหันตัวแล้วคร่อมผมทั้งตัว  ทีนี้ก็เป็นเรื่องเลย  คือกูเป็นผู้ชายนะมึง  มาชนๆกันแบบนี้กูมีอารมณ์นะ
 
" มึงจะให้กูกินมึงแทนเค้กรึไง  ลงไป  ไม่งั้นกูจะกินมึงแล้วนะ" 
 
ผมบอกไอ้ไพรซ์ที่ตอนนี้ตาปรอยหน่อยๆ  ผมลูบน้องชายมันที่ใต้ร่มผ้า  ไม่ใช่ว่าผมลามกนะ  ผมแค่อยากลองดูว่ามันมีอารมณ์ไหม  ถ้ามันมีอารมณ์ผมก็ต่อ  ถ้าไม่  กูก็จะไปอาบน้ำนอนแล้ว
 
สรุปคือ...  กูต่อกันครับ  ไอ้ไพรซ์มันเอาตัวมาเบียดผม  ก่อนจะเบียดส่วนล่างลงมา  แล้วผมจะรออะไรครับ  กูก็กินมันดิ
 
ผมจูบปากมัน  ก่อนที่จะไซร้ไปตามซอกคอ  ส่วนมือผมนี่ลูบน้องมันแล้วครับ  ผมใช้นิ้วไล้ขึ้นลงไปมาอยู่ภายนอก  ก่อนที่จะดึงกางเกงนอนมันลง  ว่าแต่...  มึงจะใส่กางเกงในนอนทำไมวะ!  รู้ไหมว่ามันถอดยาก!
 
โอ๊ย  ลำบากผมจริงๆเลยครับ  ผมต้องอุ้มไอ้ไพรซ์ไปวางบนโต๊ะกินข้าวก่อนที่จะดึงทั้งกางเกงนอนและกางเกงในมันออก  น้องชายมันดีดผึ่งเลยครับ  ผมมองน้องชายมันที่แดงๆดุๆ  ก่อนที่ผมอ้าปากไปครอบหัวน้องชายมัน  ไอ้ไพรซ์ครางฮือก่อนจิกทึ้งหัวผมออก  มันบอกว่าอย่า  เพราะน้องชายมันสกปรก  แต่มันจะสกปรกอะไรวะ  กูอาบน้ำสามวันครั้งยังไม่สกปรกเลย  แล้วไอ้ไพรซ์ที่อาบน้ำทุกวันมันจะสกปรกอะไรวะ 
 
อ่อ  แต่วันนี้ผมอาบน้ำแล้วนะ  เพราะทุกครั้งที่ผมออกจากห้องผมต้องอาบน้ำโกนหนวดออก  ไม่งั้นไอ้ไพรซ์จะบ่นแล้วไม่ยอมป้อนข้าวผม
 
อืมมม  ไอ้ระหว่างที่ผมคิดน่ะ  ปากผมก็ทำงานนะ  ทั้งดูด  ทั้งรูด  ทั้งอม  ยิ่งตอนเลื่อนปากมาที่ส่วนปลาย  ผมก็ลงลิ้นดูดและรัวเร็วๆจนไอ้ไพรซ์จิกหัวผมใหญ่  คือกูรู้ว่ามึงเสียวครับ  แต่กูเจ็บหัวโว้ย  ผมต้องรีบเร่งปากและอมน้องมันเข้าไปจนหมดเพื่อรูดยาวๆ  มันจะได้เสร็จเร็วๆเพราะผมเจ็บหนังหัว  น้องไอ้ไพรซ์นี่ตัวเล็กเหมือนมันเลยนะ  ผมอมน้องมันเข้าไปจนหมดก่อนรูดออก  ผมรูดเข้ารูดออกอยู่อีกซักพัก  มือก็เล่นกับลูกบอลมันไปด้วย  ไม่นานมันก็พ่นน้ำออกมา  น้ำมันเต็มปากผมเลยครับ  ผมถอนปากออก  ก่อนกินน้ำของมันเข้าไป
 
" อย่ากินนะมึง!  สกปรก..."  ไอ้ไพรซ์หน้าแดงหอบแฮกเลยครับ
 
ความจริงผมก็ไม่ได้ชอบกินนะ  แต่คราวนี้ผมอยากชิมว่าน้ำของมันจะหวานเหมือนปากมันรึเปล่า  แล้วมันก็หวานจริงๆด้วยครับ  ถึงจะหวานแบบปะแล่มๆแต่ก็ไม่คาว  ผมเงยหน้ามองมันมีตอนนี้ปากแดงเจ่อเพราะต้องกลั้นเสียงคราง  ผมป้อนจูบให้มันแล้วคายน้ำที่เหลือติดปากป้อนมันไปด้วย  ไอ้ไพรซ์มันกล้าๆกลัวๆนิดหน่อย  มึงจะกลัวอะไรวะ น้ำก็น้ำมึง  แล้วกูก็อุตส่าห์ใจดีป้อนให้  เพื่อว่ามึงอยากลองชิมบ้างไง 
 
เป็นไง  ผมใจดีใช่ไหมละ..
 
หลังจากที่ผมจูบมันจนได้รสหวานๆจากปากมันอีกครั้ง  ผมก็จับไอ้ไพรซ์พลิกตัวให้นอนคว่ำค้ำลงที่โต๊ะ  ผมยกก้นมันขึ้นเพื่อมองหารู  ไอ้ไพรซ์นี้เนื้อเนียนจริง  แถมเนื้อแน่นด้วย  ผมลองตีก้นเบาๆมันก็สู้มือ  ผมแหวกหนั่นก้นมันออกแล้วเอาจมูกดุนๆเพื่อพิสูจน์กลิ่น  อืมมม  ดูท่าไอ้ไพรซ์จะทาแป้งที่ก้นด้วย  ผมชอบนะแป้งเด็กหอมๆเหมาะกับไอ้ไพรซ์ดี  ผมลงลิ้นไปที่กลีบเนื้อของไอ้ไพรซ์  แต่ไอ้ไพรซ์นี่ขมิบถี่เลย  คือคุณกูเอาเข้าไม่ได้ครับ!  มึงจะเกร็งทำไมวะ!
 
ฮึ่ย!  ตอนนี้ผมหงุดหงิดแล้วนะ  มึงไปแล้วรอบหนึ่งแต่กูยังไม่ได้ไปเลยซักรอบ  แต่จะให้ใส่ไปเลยทีเดียวก็กลัวมันเจ็บเพราะตัวมันเล็ก  แถมรูมันก็แคบ  สุดท้ายผมต้องลากมันให้มานั่งที่ตักอีกรอบ  ก่อนที่จะเอามือรูดน้องชายมันอีกที 
 
คราวนี้ผมต้องใช้มันสมองแยกประสาทมากเลยนะ  เพราะมือผมข้างหนึ่งต้องรูดน้องมัน  อีกมือก็ไล่ไปตามหน้าอกหน้าท้องเพื่อกระตุ้นอารมณ์  ปากกับจมูกก็คอยดูดคอยไซร้  ส่วนข้างล่างของผมที่ยังไม่ถอดกางเกงก็เบียดก้นมันไปมา  ไม่นานมันก็ครางเสียงต่ำออกมา  ผมว่ามันอยากครางเสียงสูงนะ  แต่มันคงกลัวไอ้ตัวแหกปากตื่นไง  มันเลยร้องได้แค่เบาๆ
 
สุดท้ายมันก็ปลดปล่อยมาอีกรอบ  คราวนี้ผมไม่ปล่อยให้น้ำมันเสียเปล่าแล้ว  ผมเบามือไปบังไว้แล้วเอาน้ำของมันมาทานิ้ว  ก่อนที่จะเขี่ยไปมาที่ทางของมัน  อ่อ  ไอ้ไพรซ์มันยังไม่ได้ถอดเสื้อนะ  ผมกลัวมันเป็นหวัดไง  เดี๋ยวไม่มีใครดูไอ้ตัวแหกปาก
 
ผมกดนิ้วลงไปที่ช่องทางของมันครับ  คงเป็นเพราะมันเพิ่งเสร็จรูมันเลยไม่ค่อยเกร็ง  ผมกดนิ้วควานเข้าไปขยายทางก่อนที่จะเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว  ดูท่าไอ้ไพรซ์จะอึดอัดนะ  แต่มันก็พยายามผ่อนคลายตัวเองเพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เกร็งมาก  แต่ขนาดมันไม่เกร็งแต่รูของมันก็ตอดผมตุบๆ  ผมขยายทางอีกไม่นานผมก็ใส่นิ้วที่สามไป  ผมใส่นิ้วที่สี่ไปด้วยนะ  แต่ไม่ใช่ว่าของผมใหญ่มากหรอก  แค่กลัวว่ามันจะเจ็บไง  ผมเลยใส่ไปเพิ่มให้
 
พอคิดว่าเตรียมทางได้ที่  ผมจับไอ้ไพรซ์ไปค้ำที่โต๊ะอีกทีครับ  ก่อนถอดกางเกงและกดน้องผมที่ตั้งเด่มานานแล้วเข้าไป  อืมม  ขนาดใส่ไปสี่นิ้วแล้วยังแน่นอยู่เลย  ผมกดส่วนหัวเข้าไปก่อนคาไว้  โอยย  อยากใส่ทีเดียวหมดด้ามเลยครับ  แค่เข้าไปส่วนหัวมันก็ตอดตุบๆ  ผมกดน้องายตัวเองคาไว้แล้วรูดน้องชายมันอีกรอบ  พอคิดว่ามันทนได้ผมก็กดเข้าไปอีกครึ่งหนึ่ง  ไอ้ไพรซ์ครางพร่าเลย  ผมคาไว้อีกซักพักก่อนขยับน้องชายส่วนที่เหลือเข้าไปทีเดียวจนหมด  ตอนนี้ผมต้องรีบเอามือไปปิดปากมันไว้เพราะมันเชิดหน้าครางพร่าออกมาเสียงดัง  คือผมกลัวไอ้ตัวแหกปากตื่นน่ะ  แต่ไม่ใช่ว่าจักลัวมันมาขัดจังหวะนะ  แต่กลัวมันมาเห็นฉาก  18+  ต่างหาก 
 
ผมขยับตัวช้าๆอีกหน่อยก่อนกดปากไปตามลำคอ  ตอนนี้ผมไม่ได้รูดน้องชายมันแล้วครับ  แต่เอามือไปถอดเสื้อมันออกแทน  ไอ้ไพรซ์นี่ขาวมาก  ถึงจะไม่ขาวเท่าผมที่มีเชื้อคนเผือก  แต่ก็ถือว่าขาวสำหรับคนไทย  ผมไล่จูบไปตามหลังก่อนจะดูดสร้างรอยจนหลังมันแดงไปหมด  ผมไล่จูบไปและดูดดึงพลางขยับตัวไปมา  ไอ้ไพรซ์ครางพร่าทุกครั้งที่ผมลงลิ้นเลย  ยิ่งผมบี้หน้าอกมัน  มันยิ่งกระตุก  ไวสัมผัสจริงนะมึง  ผมควงน้องชายตัวเองเพื่อหาจุดของไอ้ไพรซ์เพื่อที่มันจะได้ตอดผมแรงขึ้น  พอผมหาเจอที่นี้ก็ง่ายเลยครับ  ผมเสยและกระแทกลงไปที่จุดของไอ้ไพรซ์ไม่ยั้ง  มันครางเสียงดังลั่น  แต่ยังดีที่ผมอุกปากมันไว้เสียงเลยไม่ดังมาก  ผมกระแทกตัวและเสยเข้าไปแรงๆจนช่องทางมันรัดผมแน่นไม่หยุด  ผมครางในลำคอก่อนกระแทกเข้าไปเน้นๆอีกที  ผมขยับตัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าได้ไอ้ไพรซ์มันใกล้ปลดปล่อยอีกรอบ  ผมเสยตัวแล้วทระแทกตัวเข้าไปซ้ำๆจนมันปลดปล่อยออกมา  ผมขยับแรงๆเข้าไปอีกสองสามทีก่อนปลดปล่อยตามมันบ้าง  อาาา  สุดยอดเลย  ขนาดมันเสร็จไปแล้วแต่ก็ยังกระตุกตอดรัดผมไม่หยุด  แต่ผมพอแล้วครับ  เพราะตอนนี้ไอ้ไพรซ์มันเสร็จไปสามรอบแล้ว  แถมมันเองก็หอบแฮกและขาสั่นไปหมดจนยืนไม่ไหว
 
ผมอุ้มมันไปล้างตัวที่ห้องน้ำ  ไอ้ไพรซ์มันหลับคาอกผมเลย  ผมต้องล้วงนิ้วเอาลูกตัวเองออกมาก่อนฉีดน้ำเข้าไปล้างและเช็ดตัวมันให้แห้ง  ใส่เสื้อให้มันก่อนจะจัดการตัวเองบ้าง  พอผมใส่เสื้อผ้าเสร็จ  ผมก็พาไอ้ไพรซ์ไปนอนที่โซฟาเบดที่ไอ้ไพรซ์นอนประจำ  ไอ้รีกาโลเบอร์หนึ่งยังไม่ตื่นเลยครับ  แม่ง  ไอ้หมาไร้ประโยชน์  กูกับไอ้ไพรซ์กินกันจนเสียงดังลั่นครัวมันยังไม่กระดิกตัวมาดูซักนิด
 
ผมเขี่ยรีกาโลเบอร์หนึ่งออก  ก่อนวางรีกาโลเบอร์สองลงไปแล้วห่มพาให้  ก่อนที่จะอุ้มเจ้าเบอร์หนึ่งขึ้นมาแล้วสอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มก่อนที่จะวางเจ้าเบอร์หนึ่งทับตัวเองอีกที  รีกาโลเบอร์หนึ่งปรือตามองนิดหน่อยก่อนย้ายก้นไปนอนทับรีกาโลเบอร์สองแทน  อืมมม  กูจะพูดเพื่ออะไรวะ  พูดไปพูดมากูชักงงเองแฮะ  เอาเป็นว่าผมนอนดีกว่าครับ  พรุ่งนี้ผมต้องเอารูปไปส่งอีกเพราะพี่ต้อมดันป่วยมารับรูปไม่ได้
 
ผมกอดไอ้ไพรซ์ให้เข้ามาชิดตัวแล้วหลับตา  แต่ก่อนที่ผมจะหลับ  ผมดันนึกได้ว่า...
 
ชิบหายแล้วกู!  กูยังไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้ไพรซ์เลยนี่หว่า  แต่นี่กูเอามันไปแล้ว! 
 
อืมมม  ไม่เป็นไร  พรุ่งนี้ผมค่อยขอมันเป็นแฟนก็ได้  แล้วไหนๆมันก็เป็นแฟนผมแล้ว  ผมก็ยกตำแหน่งเมียให้มันด้วยแล้วกัน  และในเมื่อมันเป็นเมียผมแล้ว  แต่มันก็เป็นเพื่อนผมด้วย  เพราะงั้น...
 
งั้นคราวหน้าผมพามันไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าดีกว่า  จะได้ให้มันไปหาเด็กมาเลี้ยงแล้วรับมาเป็นลูกบุญธรรม  ที่นี้  ผมก็จะมีทั้งเพื่อน  ทั้งเมีย  ทั้งแฟน  และแม่ของลูกผมในคนๆเดียวกัน  แถมไอ้ตัวแหกปากจะได้มีเพื่อนด้วย!
 
งืมๆๆ  แผนนี้ใช้ได้นะ 
 
เป็นไงล่ะ  ผมฉลาดล่ะสิ  ก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้โง่  ผมออกจะฉลาดเนอะ  ผมฉลาดจริงใช่ไหมล่า~


>>  To  Be  ConTinue  <<
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-09-2013 15:03:02
โอ้ ไม่โง่จ้าแปปเดียวไพรซ์เป็นทั้ง แฟน เมีย และแม่ของลูก555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: phuncha ที่ 23-09-2013 15:21:53
สนุกดีจร้า o13
ติดตาม  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 23-09-2013 16:10:48
ในที่สุดก็คิดได้ พระเอกช่างซื่อ จริงๆๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: minere_mi ที่ 23-09-2013 17:27:55
U R แกคิดได้ล้ำลึกมาก5555
สนุกดีจ้าาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-09-2013 17:53:37
ฉลาดสุดในสามโลก!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: จี้ซัง ที่ 23-09-2013 18:00:17
สุดยอดดด :katai2-1:
ได้กันเรียบร้อยแล้วพึ่งมานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เป็นแฟน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 23-09-2013 18:01:12
เป็นเอ็นซีที่ฮามาก

 :laugh:

เรารักไอ้มึงงงงงง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-09-2013 18:10:54
ล้ำเลิศมาก

 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-09-2013 17:06:25
แผนดีจริงจริ๊งงง
ดีจนน่ากระทืบ- -"

แต่ก็ดีล่ะนะ55555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 25-09-2013 18:14:30
5โอ้พระเจ้า บ้าไปแล้ว 555555555555555 แอบเครียด ควรสงสารไพรซ์ดีไหม 5555555555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch2 (23/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 25-09-2013 21:13:15
เฮ้ย มันไวจริงอะไรจริง ยังดีที่พระเอกมีสำนึก รีบๆบอกไวไวล่ะแก  :hao6:
เผื่อจะได้กินอีกรอบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 26-09-2013 20:31:12
บทที่  3



บทที่สาม

" มึงอยากมาเป็นแฟนกูไหม"  ผมให้โอกาสไอ้ไพรซ์มันเลือกว่าจะเป็นแฟนผมไหม  แต่ถ้ามันไม่เป็นแฟนผม  ผมจะให้มันเป็นเมียเลย

" .... "

อะไรวะ  มึงจะอึ้งนานไปไหม?  ตอนนี้ไอ้ไพรซ์มันอ้าปากค้างแล้วครับ  ทั้งที่มันกำลังป้อนนมของขวัญอยู่  แต่มันก็อ้าปากค้างมองผมไม่เลิก  ขนาดผมเอาไอ้ตัวแหกปากมาอุ้มไว้เอง  มันยังไม่หายอึ้งเลย

ว่าแต่ไอ้ตัวแหกปากนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ  พอผมเอียงคอไปทางซ้ายมันก็มองตาม  ผมเอียงคอไปทางขวามันก็มองตามอีก  ยิ่งได้เห็นแก้มขาวๆยุ้ยๆของมันผมยิ่งอยากหยิก  แล้วกูจะรออะไรล่ะครับ  กูก็หยิกแก้มมันทั้งสองข้างอ่ะดิ

แงๆๆๆๆ  โฮฮฮฮฮ  แง๊!!!!!

ชิบหายแล้วกู  มึงจะแหกปากทำไมวะ  กูแค่หยิกเบาๆเองนะ!

" ไอ้เชรี่ยมึง!  มึงทำอะไรลูกกูวะ!  เอาของขวัญมานี่!"  ตกลงนี่ลูกมึง  เออดี  กูจะได้ไม่ต้องพามึงไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  เดี๋ยวกูไปขอไอ้ไอเอ็มให้  ว่ามึงจะเอาลูกมันไปเลี้ยง

" ตกลงมึงว่าไง  จะมาเป็นแฟนกูไหม"  ผมถามมันอีกรอบ  ตอนนี้ผมกับมันกำลังกินข้าวเช้าครับ  วันนี้ถือเป็นวันแรกเลยนะที่ผมได้กินอาหารเช้าดีๆ  ปกติต้องรอไอ้ไพรซ์เคาะชามเรียกที่หน้าห้อง

" ...มึงเข้าใจสิ่งที่มึงพูดเหรอวะ  มึงรู้รึไงว่าเป็นแฟนกันหมายถึงอะไร"  อ่าวไอ้นี่  กูไม่ได้โง่นะมึง  ถ้ากูโง่  กูไม่เอามึงมาเป็นเมีย  เอ๊ย  เป็นเพื่อนกูหรอก

" แฟนกันคือคนที่จะอยู่ร่วมกัน  ทำข้าวเช้าให้กินตอนเช้า  อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกัน  ตอนกลางคืนนอนด้วยกัน  แล้วถ้ามึงสามารถมีลูกให้กูได้  มึงจะมีลูกซักสองคนก็ได้นะ  แต่กูบอกเลยว่ากูไม่เลี้ยง  มึงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว  แต่กูจะออกค่าใช้จ่ายให้  อ่อ  ถ้ามึงอยากจัดงานแต่งงานก็ได้นะ  บ้านกูไม่ถือถ้ากูจะมีแฟนเป็นผู้ชาย"

" .... "

ไอ้ไพรซ์ตาโตก่อนหรี่ตามองผม  อะไรวะ  กูก็ให้คำกำจัดความของคำว่าแฟนไปแล้วไง  มึงจะสงสัยอะไรอีก

" มึงอยากรับผิดชองเรื่องเมื่อคืน?  กูบอกมึงเลยนะว่า  กูไม่ต้องการ  เมื่อคืนกูแค่เมาจูบมึง  มึงไม่ต้องมารับผิดชอบกู" 

ไอ้ไพรซ์พูดแล้วเหมือนตาจะแดงๆนะ  มึงจะร้องไห้ทำไมวะ  หรือมึงซึ้งใจที่กูเป็นแฟนที่ดี?  ไม่น่าใช่  หรือว่ามันจะไม่เครียร์  คิดว่าผมไม่ได้ชอบมันจริง  แต่ผมชอบมันนะ  มันว่าง่ายดี  ถึงจะดุไปบ้าง  แต่ก็ว่าง่ายแถมดูหลานผมเก่งด้วย

" กูไม่ได้อยากรับผิดชอบมึง  กูชอบมึง  มึงเป็นเพื่อนที่ดี  เป็นแม่ของหลานกูได้  กูชอบเวลาที่มึงป้อนข้าวกู  กูชอบมึงเวลาร้องเพลงกล่อมของขวัญ  มึงไม่มายุ่งย่ามกับกูมาก  มึงดูแลกูดี  มึงทำอาหารเก่ง  กูชอบตอนมึงป้อนเค้กกูด้วยปาก  อ่อ  แต่ที่กูไม่ชอบคือ  มึงจะใส่กางเกงในนอนทำไมวะ  มึงไม่อึดอัด?  แต่กูว่าอย่าใส่ดีกว่า  มันถอดยาก  กู..."

โป้ก! 

ไอ้พี่เลี้ยงโหดดด  มึงเอาขวดนมหลานมาปาใส่หัวกูทำไมวะ!  มันเจ็บนะโว้ย!

" มึงไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย  มึงมันไม่น่ารักหรอกเว้ย!  แล้วมึงเป็นคนขอกูเป็นแฟนเองนะ!  ห้ามมึงบอกเลิกกูด้วย!  ไม่งั้นกูจะอาละวาดแม่งให้บ้านแตก  แล้วกูจะไม่ช่วยเลี้ยงหลานให้มึงแล้วด้วย!"  ไอ้ไพรซ์มันพูดแล้วหน้าแดง  ว่าแต่มึงจะยิ้มทำไมวะ  ยิ้มมากๆเดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวลากมึงไปปล้ำจะทำไง  หน้ามึงยิ่งแดงเหมือนมะเขือเทศอยู่  เดี๋ยวกูก็กินเป็นอาหารเช้าเลยหนิ

" มึงจะอาละวาดก็ได้นะ  แต่กูไม่มีบ้านว่ะ  มีแต่คอนโด  หรือมึงอยากให้กูซื้อบ้าน  มึงเลือกทำเลมาก็ได้นะ  เอาซักสามชั้น  ด้านบนเป็นเป็นดาดฟ้า  ต้องมีห้องให้กูวาดรูป  มีสระว่ายน้ำให้รีกาโลเล่นน้ำ  ห้องนอนใหญ่มึงต้องนอนกับกู  ห้องนอนเด็กจะเชื่อมกันไว้ก็ได้  แต่ห้ามให้ลูกแหกปากนะ  กูรำคาญ  แล้วถ้ามึง...."

" หุบปากแล้วล้างจานซะ!  ถ้ามึงไม่ล้าง  กูจะอาละวาดจนคอนโดมึงพังนี่แหละ!"

ชิ  นี่ผมคิดผิดรึเปล่าวะที่เอามันมาเป็นแฟน  เล่นใช้งานกันตั้งแต่วันแรก  แต่มันสั่งผมแล้วนี่ว่าห้ามบอกเลิกมัน  เอาไงดีวะ 

ผมมองหน้าไอ้ไพรซ์ที่ตอนนี้กำลังถลึงตาใส่ผมแต่ยังหน้าแดงไม่เลิก  เลือดลมมึงนี่เดินดีจริง  ผมถอนหายใจ  เอาวะ  ไหนๆผมก็ขอมันเป็นแฟนแล้ว  งั้น...

" ถ้ากูล้างจานเสร็จ  มึงต้องให้กูกินมึงนะ  แลกกับการล้างจาน  รีบๆกล่อมของขวัญให้หลับด้วย  เพราะเดี๋ยวกูจะพามึงไปกินที่ห้อง"

ผมบอกแล้วหอมแก้มมันไปที  มันอ้าปากค้างไปแล้ว  หน้าแดงยิ่งกว่าเดิมด้วย

" มึงมันไอ้ลามก!"

อ่าวๆ  ผมเปล่าลามกนะ  ผมแค่อยากให้มันทำหน้าที่แฟนไง  แถมหน้าที่เมียด้วย  อืมมๆ  ผมรีบล้างจานดีกว่า  เพราะเมื่อคืนกินมันไปแค่รอบเดียวเองยังไม่อิ่มเลย  แถมเมื่อกี้ผมก็ยังกินข้าวเช้าไม่เต็มท้อง  โอ๊ะ  รู้สึกว่าในตู้เย็นจะมีเค้กเหลืออีกสองชิ้น(เมื่อกี้แอบดูมา)  ผมให้มันเอามาป้อนผมด้วยดีกว่า  อืมๆ  แผนนี้ใช้ได้  กินเค้กแล้วออกกำลังกายจะได้ไม่อ้วน 

ดีมากๆ  ฉลาดสุดๆ  เอาตามนี้แหละ



อ่อ  ส่วนรีกาโลนี่ไม่ต้องไปสนใจมันนะครับ  เพราะตอนนี้มันกำลังเลียนมที่หกลงพื้นอยู่  มึงนี่เป็นหมาที่ประโยชน์จริง  กูถูกขวดนมปาใส่หัวจนหัวแทบแตก  มึงไม่เข้ามาช่วย  ดีแต่ช่วยเลียของที่ตกลงพื้นกิน

ผมเอาเท้าเขี่ยรีกาโลที่เลียพื้นจนสะอาด  ก่อนสั่งงานกับมันว่า

" เฝ้าของขวัญให้ดีนะลูก  อย่าให้มันมาขัดจังหวะพ่อกับไอ้ไพรซ์  แล้วพ่อจะเอาอาหารซองอย่างดีมาให้กินเลยนะลูก"

โป๊ก! 

ขวดนมใส่น้ำเปล่า...

" ไปล้างจาน!"

ชิ  ไอ้แฟนจอมใช้งาน  เดี๋ยวกูจะทำให้มึงใช้งานกูไม่ออกเลย

ว่าแต่รีกาโลมันจะเข้าใจที่ผมสั่งไหมนะ  เพราะตอนนี้มันกำลังเลียน้ำเปล่าล้างคอ  อืมมม  มันคงฟังรู้เรื่องแหละ  อยู่กับผมมานาน  มันคงฟังภาษาคนรู้เรื่องแล้วมั้ง


------//------

" อืออ  ยูอาร์  พอ... "

" อยากให้กูพอ  มึงก็เลิกครางสิ"

" ยูอาร์...  เอามันออกไป... "

" ไม่ชอบรึไง  ไม่ชอบก็อย่าร้องสิ"

" อาาา  ยูอาร์  อย่าแกล้ง...  จะใส่ก็ใส่เข้ามา  จะเอาออก..   ก็เอาออก...ไป  กู...  ไม่ไหวแล้ว..."

" หึ  ขอร้องกูก่อนดิ  ทีตอนมึงป้อนเค้กกู  มึงยังแกล้งกูได้เลย"

" อาาา..."

อืมมม  สงสัยไหมว่าผมกำลังทำอะไร  ผมแค่แกล้งไอ้ไพรซ์เองครับ  ตอนนี้ผมนอนคร่อมไอ้ไพรซ์อยู่  ในตัวมันมีของเล่นอันเล็ก  ที่ผมลงทุนขุดขึ้นมาจากลังเพื่อแกล้งมัน  ก็บอกแล้วไงว่า  ผมจะทำให้มันพูดไม่ออก  เป็นไงล่ะมึง  ชอบแกล้งกูดีนัก

ผมดึงของเล่นอันเล็กที่สั่นได้ออกจากช่องทางของไอ้ไพรซ์  มันครางฮือที่ผมเอาออก  ก่อนที่จะกดลงไปอีกที  อาา  ความจริงผมก็อยากเลิกแกล้งมันนะ  เพราะผมเองก็แทบทนไม่ไหวแล้ว  อาา  มึงจะรัดนิ้วกูทำไมวะ

" ครางดังๆหน่อยไพรซ์  เมื่อคืนอยากครางไม่ใช่เหรอ  หืมม  ของขวัญมันไม่ตื่นขึ้นมาหรอกน่า"

ผมบอกไอ้ไพรซ์ก่อนจะเร่งแรงสั่นของตัวของเล่น  ไอ้ไพรซ์ครางพร่า  มันกัดปากตัวเองแน่น  ก่อนที่จะแอ่นหลังหนีสัมผัสที่สั่นอยู่ในช่องทาง  แต่มึงแอ่นมาแบบนี้ก็เสร็จกูดิ  ผมฉกลิ้นเลียหน้าอกมัน  ก่อนตวัดลิ้นไปมาที่อกทั้งสองข้าง  อาา  ถึงจะไม่มีอกตูมๆ  แต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบแฮะ

" ว่าไงมึง..  จะขอร้องกูไหม  ไม่ร้องกูไม่หยุดนะ" 

ผมบอกแล้วสอดของเล่นเข้าไปลึกขึ้น  ตอนนี้ไอ้ไพรซ์น้ำตาไหลแล้ว  แต่มันก็ยังไม่ยอมร้องออกมา  ดื้อจริงมึง  ผมว่าผมเลิกแกล้งมันดีกว่า  เดี๋ยวมันนจะกัดปากตัวเองจนเลือดออก 

ผมเลือนตัวขึ้นไปจูบปากมันที  ก่อนที่จะลดตัวลงมาแล้วอ้าปากครอบน้องน้องชายมันเอาไว้  มันครางพร่า  น้องไอ้ไพรซ์นี่ตั้งตรงและมีน้ำใสๆออกนานแล้วนะ  แต่ผมอยากแกล้งมันไง  ผมเลยไม่ยอมให้มันแตะน้องชายมันเอง  ผมรูดปากก่อนตวัดลิ้นไล่เลีย  มีดูดและขบเบาๆด้วย  ไอ้ไพรซ์เริ่มครางออกมาเสียงดัง  ผมรีบรูดปากเข้าออก  จนมันขยับสะโพกตอบรับ  ไม่นานมันก็ปล่อยมมาเต็มปากผม  รสชาติน้ำของมันก็ยังหวานๆอยูเลยนะ  แต่รู้สึกว่าจะข้นน้อยกว่าเมื่อวาน  ผมคายน้ำออกมาใส่นิ้วก่อนจะคายส่วนที่เหลือไปที่รูของไอ้ไพรซ์  ไอ้ไพรซ์ครางห้าม  เมื่อผมดึงของเล่นออกและเริ่มไล่ลิ้นไปตามขาอ่อนก่อนจะหยุดที่รูมัน  แต่ไม่ทันแล้วมึง  คราวนี้กูเตรียมตัวมาดี  เมื่อกี้กูสอดนิ้วไปบ้างแล้ว  ต่อไปกูจะสอดลิ้นเข้าไปบ้างแล้วล่ะ

พอผมสอดลิ้นเข้าไปได้  ไอ้ไพรซ์ก็ครางเสียงดัง  ช่องทางของมันตอดรัดและดูดกลืนลิ้นผมเข้าไป  ผมแยงลิ้นเข้าออกไปมาซักพัก  มือก็รูดน้องชายมันไปด้วย  พอรู้สึกว่าไอ้ไพรซ์เริ่มกลับมามีอารมณ์ร่วมต่อ  ผมก็เริ่มสอดนนิ้วเข้าไปทั้งที่ลิ้นยังไล่เลียจีบเนื้อ  ผมสอดนิ้วจนครบสี่นิ้ว... 

หลังจากนั้น...

หลังจากนั้นก็เหมือนเมื่อคืนแหละครับ  ผมเล่นมันที่เตียงสองรอบ  ต่อรอบที่สามในห้องน้ำ  เพราะผมต้องล้างลูกชายตัวเองออกจากตัวไอ้ไพรซ์  แต่ในห้องน้ำนี่ไอ้ไพรซ์เสร็จไปสองรอบ  เพราะเล่นท่ายืน  สรุบผมไปสาม  มันไปห้า  กว่าจะออกจากห้องน้ำได้  ไอ้ไพรซ์ก็เข่าอ่อนแล้วครับ  ผมต้องอุ้มมันกลับเข้ามาในห้อง  ก่อนเช็ดตัวแล้วใส่เสื้อคลุมอาบน้ำให้มันก่อนเพราะเสื้อผ้ามันเปียก (คือผมเผลอเหยียบไปเมื่อกี้อ่ะ  เสื้อมันเลยเปียกน้ำเลย)  ผมห่มผ้าให้มันเพราะเห็นมันตัวสั่นๆ(ห้องผมเปิดแอร์ยี่สิบองศานะ  ก็ผมมันคนขี้ร้อนอ่ะ  ผมก็ต้องอยู่เย็นๆสิ)

" ลุกไหวไหมมึง"  ผมถามมันเพราะก่อนที่จะเข้าห้องมันบอกว่าจะออกไปส่งภาพกับผมด้วย  มันโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มก่อนขึงตาใส่ผม  มึงจะถลึงตาใส่กูทำไมวะ  เดี๋ยวลูกตาก็หลุดออกมาหรอก  ตามึงยิ่งโตๆอยู่

" ลุกไหวไหม  หรือจะนอนรออยู่ที่ห้อง  กูเอาภาพไปส่งคนเดียวก็ได้  แต่กูต้องเอาของขวัญมานอนกับมึงนะ  เผื่อมันร้อง  มึงจะได้ไม่ต้องลุกไปไหน"  ผมบอกมันที่ตอนนี้นอนเอาผ้าห่มปิดตัวอีกที  จะโกรธนะไรนักหนาวะ  กูเล่นไปแค่สามรอบเอง  แถมไม่ได้เล่นรุนแรงด้วย  กูถนอมมึงจะตาย  เห็นมึงตัวบางๆ

" มึงต้องเอารูปไปส่งกี่โมง"  ไอ้ไพรซ์ถามผมทั้งที่เสียงมันฟังดูง่วงสุดๆ  ง่วงนักก็นอนซะมึง  กูไม่หลงทางหรอก

" สิบเอ็ดโมง  ตอนนี้สิบโมงครึ่ง  กูไปเลทได้  เพราะพี่ต้อมไม่อยู่  กูแค่เอาของไปฝากที่ฮอลล์ก็พอ"

" ไปพรุ่งนี้ได้ไหม  กูอยากไปด้วย  แต่ตอนนี้กูไปไม่ไหว..."  มันบอกแล้วทำท่าจะหลับ  สรุปคือมึงเหนื่อยมาก?  แต่กูไปคนเดียวได้นะ  พรุ่งนี้วันเสาร์ผมไม่อยากไปตอนคนเยอะๆ  แถมรถมันติดด้วย

" เออ  กูลืมถามมึงไป  มึงเป็นเอดส์เปล่าวะ  พอดีกูลืมใส่ถุงยางว่ะ  แต่กูไม่ได้เป็นนะ  กูเพิ่งไปตรวจเลือดมาเมื่อหกเดือนก่อน  แล้วกูก็ไม่ได้นอนกับใครมานานแล้วตั้งแต่ตรวจเลือดครั้งสุดท้าย  ตกลงมึงปลอดภัยไหมวะ"  ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้  ไอ้เรื่องรูปที่จะเอาไปส่งน่ะ  ลืมมันไปก่อนก็ได้เพราะผมไม่รีบ  (แต่คนอื่นรีบรึเปล่าไม่รู้นะ  ผมไม่สนใจอยู่แล้ว)

อ่อ  แล้วที่ผมถามไอ้ไพรซ์น่ะไม่ใช่ว่า  ผมหาว่าไอ้ไพรซ์มันมั่วหรืออะไรหรอกนะ  แต่ถามตามภาษาผูชายไง  เพราะยังไงมันก็ต้องมีบ้างอยู่แล้วที่ต้องกินต้องเที่ยว   แล้วดูจากท่าทางของไอ้ไพรซ์  มันก็ไม่น่าจะใช่ครั้งแรก  ผมต้องถามเพื่อไว้ก่อน  เพื่อว่ามันเสี่ยง  คราวหน้าผมจะได้ป้องกัน  แต่มันจะทันไหมวะ?  ไม่เป็นไร  รอสามเดือนผมค่อยไปตรวจเลือดพร้อมมันก็ได้  แต่ยังไงผมว่ามันก็ไม่น่าจะเป็นโรคหรอก  แต่ผมก็ไม่ควรประมาท

แต่ดูท่าว่าไอ้ไพรซ์มันจะเข้าใจผมผิดนะ  มันโผล่ตาแดงๆของมันออกมาพ้นผ้าห่ม  น้ำตานี่ไหลนองเลย  เชรี่ยแล้วไงกู  มันจะแหกปากไหมวะ

" กูไม่เคยนอนกับใคร..  โดยที่ไม่ป้องกัน  แต่ถ้ามึงไม่เชื่อ  มึงจะพากูไปตรวจเลือด  ก็ได้..."  มันตอบเสียงสั่นแล้วน้ำตาไหลพราก  ดีนะที่มันร้องแบบไม่มีเสียง  ไม่งั้นผมทำอะไรไม่ถูกแน่

" ไปตรวจเลือดก็ดี  กูก็จะไปด้วยเหมือนกัน"  ผมบอกแล้วลูบหัวมัน  ก่อนที่จะหอมแก้มมันไปอีกที  ตัวหอมจริงมึง

ไอ้ไพรซ์มันทำตาโตที่ผมเริ่มเลื้อยอีกรอบ  มันพยายามดิ้นหนีมือผม  มึงจะดิ้นทำใมวะ  ยิ่งดิ้นกูยิ่งตื่นนะมึง  แล้วกูก็แค่อยากจูบปลอบใจมึงไงที่มึงร้องไห้อ่ะ

" ถ้ามึงไม่ไว้ใจกู  แล้วมึงจะเลื้อยทำไมวะ!  ออกไป!  อย่านะมึง!  อ๊ะ!"

ไม่ทันแล้วล่ะ  อยากดีดดิ้นดีนัก  ดูท่าผมคงได้ไปส่งรูปมันพรุ่งแล้วล่ะครับเพราะไอ้ไพรซ์มันทำตัวน่าฟัดเกิ๊นน  ผมขอกินมันอีกรอบได้ไหม?

" ใครบอกว่ากูไม่ไว้ใจมึงวะ  กูแค่อยากพามึงไปตรวจเลือด  แล้วกูก็จะตรวจด้วย  มึงจะได้สบายใจไง  แล้วถ้ามึงไม่ชอบเล่นสด  กูใส่ถุงให้ก็ได้นะ  จะได้ไม่ลำบากมึงเวลาล้าง" 

ผมบอกแล้วเริ่มขยับตัว  อืมม  เล่นมาสามรอบแล้วแต่รูไอ้ไพรซ์ยังฟิตอยู่เลย  อาา  ดีจริง  สุดยอดด

" มึง  อ๊ะ  อย่า  ฟัง..ฟังกูก่อน...  ฟังกูบ้างสิโว้ยย  อื้อ!!!"

กูไม่ฟัง  กูจะเอาแต่ใจ  และมึงต้องตามใจกู  อยู่ในห้องนี้กูใหญ่สุด! 

ว่าแต่มันจะพูดอะไรวะ  ช่างมัน..  กูขอกินมันก่อนแล้วกัน  ไม่ไหวแล้วว

" อ๊าาา  ยูอาร์  มึง...  อ๊าาา!"

" อย่าร้องดัง  เดี๋ยวรีกาโลขึ้นมาดู"

" ไม่อยากให้กูร้อง  มึงก็หยุดเด้!  อ๊าาา!!!"

เริ่มปากดีแล้วแฮะ  แถมดูท่ามันจะหยุดครางไม่ได้ด้วย  ไม่เป็นไร  ผมใช้ปากปิดมันให้ก็ได้  ผมใจดีใช่ม้า~ 

แล้วเมื่อกี้ผมพูดอะไรไปบ้างนะ  อ๋อ  ตรวจเลือด  งั้นพรุ่งนี้  ผมไปส่งภาพ  แล้วค่อยำามันไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลแล้วกัน  จากนั้นก็ค่อยแวะห้าง  ซื้อเจลกับถุงยาง  เพราะเมื่อกี้ตอนกินกันรอบแรก  ผมต้องใช้น้ำของไอ้ไพรซ์อีกแล้ว  สงสารมัน  ที่ต้องถูกรีดน้ำบ่อยๆ 

เป็นไงล่ะ  ผมใจดีใช่ม้า  ใจดีแถมฉลาดด้วย  ใครได้ผมเป็นแฟนนี่คุ้มสุดๆอ่ะเนอะ~

" อ๊าาาาา!!!...."



>>  To  Be  ConTinue  <<
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 26-09-2013 20:42:53
คุ้มสุดๆ เลยค่ะะะ  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: จี้ซัง ที่ 26-09-2013 20:58:03
สงสารไพรซ์อ่ะ เหนื่อยหน่อยนะลูก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: matilda.taon ที่ 27-09-2013 17:34:01
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 04-10-2013 01:15:13
ไพรซ์น่าสงสาร
ต้องมาอยู่กับพ่อคนฉลาดล้ำค้ำจุนโลกแบบนี้

 :hao5:

 :oo1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 05-10-2013 14:08:36
ฉลาดบ่อยๆนะ 55555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-10-2013 17:00:17
เฮ้อ!!
 :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: minere_mi ที่ 05-10-2013 17:37:00
5555 ยูอา นายแสบแบบมึนๆนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-10-2013 21:01:41
 :laugh:เขาชอบเรื่องนี้ พระเอกไม่โง่ (ตามเขาว่านะ) โอ้ยไม่ไหวจะฮา :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nomo9 ที่ 05-10-2013 23:54:06
เอิ่่มมม์ ได้แฟนแบบยูอาร์คงเพลียน่าดู ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 09-10-2013 19:18:18
ยูอาร์ติ๊งต้องง  :o8:
น่ารักมากเลย ไพรซ์คงมึน 55  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 15-10-2013 12:37:21
บทที่  4



วันต่อมาผมพาไอ้ไพรซ์  ของขวัญ  และรีกาโล  ไปแกลประจำที่ผมฝากรูปไว้  ปกติแกลนี้ห้ามพาหมาเข้า  แต่เพราะรีกาโลเป็นหมาของผมและมันก็มาบ่อยมาก  คนดูแลยอมให้เอามันเข้ามาได้เป็นกรณีพิเศษ 
 
หลังจากผมส่งภาพให้คนรู้จัก  ผมก็พาไอ้ไพรซ์ไปดูภาพที่จัดแสดงอยู่ตอนนี้  ภาพชุดนี้ไม่ใช่ภาพของผม  แต่เป็นของศิลปินคนอื่นที่รู้จักกัน  ผมเองก็ชอบงานของเขานะ  ถึงจะเป็นคนละแนวกับที่ผมวาด  แต่ก็ดูรู้เรื่องว่าเขาวาดอะไร
 
" ไอ้ภาพที่เอาสีมาสาดๆใส่แบบนี้มันสวยตรงไหนวะ  กูว่ามันก็คล้ายๆกัน  ถึงจะให้อารมณ์คนละแบบแต่กูดูไม่รู้เรื่องว่ะ" มึงอย่าไปพูดแบบนี้ให้เจ้าของภาพได้ยินนะ  เดี๋ยวมึงจะไม่ได้ออกจากแกล
 
" เขาเรียกภาพ  abstract  มันเป็นการใช้สีและรูปทรงถ่ายทอดเรื่องราวออกมา  เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึก  ไม่ใช่เอาสีมาสาดใส่"  ถึงจะมีบางคนเทสีใส่ภาพจริงๆก็เถอะ
 
" แล้วภาพนี้คืออะไรวะ  " มุมมอง "  กูมองมุมไหนก็เหมือนกันหมด"  มันมองรูปที่เป็นภาพวนๆลงแค่สองสีคือสีขาวกับดำ  มีสีที่ซ้อนทับกันบ้างเป็นสีเทา  มันไม่ใช่วงกลมมาตรฐานแต่เป็นวงกลมที่สมบูรณ์ที่สุดในสายตาผม
 
" มึงอาจมองมันเหมือนกัน  แต่ถ้ามองดีๆแต่ละเส้นจะไม่เหมือนกัน  น้ำหนักกับการลงแปรงแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน  บางวงลงทีเดียว  บางวงลงซ้ำหลายครั้ง  แล้วสีขาวกับดำก็มีหลายเฉด  มันไม่ได้ขาวหรือดำสีเดียวหมด  มันแสดงให้เห็นถึงมุมมองและความคิดของแต่ละคน  ถ้ามึงมองแค่ผิวเผินมึงจะมองไม่เห็นด้านลึก  ถ้ามึงมองแค่มุมเดียวมึงจะเป็นคนโลกแคบ  แต่ถ้ามึงมองทีเดียวหมด  มึงจะไม่เห็นอะไร  ภาพนี้วาดดีมาก  เรียกว่าดีที่สุดในแกลนี้  มึงนี่ตาแหลมนะ"  ผมชมแล้วมองภาพ  ไอ้ไพรซ์มันทำหน้าประมาณว่า  มึงพูดอะไรวะ  ช่วยพูดภาษาคนทีดิ๊
 
" ยังตาแหลมเหมือนเดิมนะคะ  คุณยูอาร์"
 
อยู่ๆก็มีผู้หญิงมาทักผมครับ  ผมว่าน่าคุ้นๆนะ  ผมนึกๆดู  ก่อนทักทายออกไป
 
" สวัสดีครับคุณออย  นึกอยู่เหมือนกันว่าจะได้เจอคุณไหม"  เพิ่งนึกตอนที่ได้ยินเสียงนี่แหละ
 
คุณออยนี่เป็นผู้ดูแลและเป็นตัวแทนของศิลปินคนนี้ครับ  เป็นสาวสวยเฉียบ  ถึงจะดูงานศิลปะไม่ค่อยเป็น  แต่ฝีปากและฝีมือการถ่ายทอดเรื่องราวดีมาก  คือพูดจนคนงงแล้วซื้อภาพไปแบบงงๆน่ะ
 
" วันนี้ดูหล่อจังเลยนะคะ  นานแล้วนะคะที่เราไม่ได้เจอกัน  แล้วนี่..." 
 
" ชื่อไพรซ์  เป็นแฟน  " คุณยูอาร์  "  เป็นเมีย  เป็นแม่ของลูก "  ไอ้ไพรซ์มันพูดตัดหน้า  ตอบหมดทุกข้อสงสัย  คุณออยอึ้งไปนิดหนึ่งก่อนยิ้มหวานให้ไอ้ไพรซ์
 
" แหม  น่ารักจังนะคะ  แต่ก็คงเป็นได้แค่  "แฟนชั่วคราว"  ล่ะนะคะ  ยูอาร์คะ  ยังจำห้องของออยได้ใช่ไหมคะ  ออยยังเก็บรูปที่คุณวาดไว้ให้อยู่เลยนะคะ"  คุณออยพูดกับไอ้ไพรซ์ก่อนพูดกับผม 
 
เอาตรงๆเลยคือ  ผมเคยนอนกับคุณออยมาหนหนึ่งแล้วก็เลิก  ไม่ใช่ผมเลิกนะ  คุณเธอเลิกไปเอง  เพราะหลังจากนอนกันคุณเธอก็ร้องขอให้ผมซื้อนั่นซื้อนี่  แต่พอดีผมไม่เห็นว่ามันเป็นของสำคัญไง  อย่างรองเท้ากระเป๋าอะไรอย่างนี้  พอผมไม่ซื้อให้คุณเธอเลยไม่ติดต่อผมอีกเลย  แถมคุณเธอก็ไม่คืนรูปที่ผมวาดไว้ด้วย  พอดีวันนั้นผมถือรูปติดมือไปด้วยว่าจะเอาไปเก็บ  แต่คุณเธอเล่นยึดไว้  ผมเลยขี้เกียจทวงคืน
 
" ไงมึง  จำ  "ห้องคุณออย" ได้ไหม " ไอ้ไพรซ์ถามย้ำ  เพราะเห็นผมไม่ตอบ
 
" ไม่ได้  ขอโทษนะครับคุณออย  พอดีตอนขาไปผมหลับน่ะ  แถมตอนกลับผมกลับแท็กซี่ผมเลยไม่ได้จำทาง" 
 
" คะ  คุณ... "  ติดอ่างทำไมอ่ะ  ผมพูดความจริงนะ
 
ก็วันนั้นผมโคตรง่วง  พอคุณออยชวนผมเลยพยักหน้ารับเพราะนึกว่าเธอจะพากลับคอนโด  ที่ไหนได้คุณเธอลากผมเขาห้อง  แล้วเริ่มจูบ  แล้วผมจะเฉยทำไมล่ะครับ  มีผู้หญิงมาเชิญชวนให้กินถึงที  ผมก็กินดิ  แถมตอนเช้าผมก็ต้องรีบกลับเพราะแม่โทรมา  ผมเลยไม่ได้จำทางเพราะมันเป็นคนละทางกลับที่ผมจะใช้กลับคอนโด
 
" อ๊ะๆๆๆ  อย่ากรี๊ดนะคุณ  เดี๋ยวลูกผมตื่นแล้วจะงอแง  อ่อ  แล้วผมต้องกลับไปผมต้องหน้าที่  "แม่และเมีย" อีก  ขอตัวนะ "  ไอ้ไพรซ์มันบอกแล้วลากผมเดินกลับไปเลยครับ
 
" กรี๊ดดดดด!!!!"
 
โอ๊ยยย  หนวกหู  นี่มันที่สาธารณะนะ  จะตะโกนทำไม
 
ว่าแต่...  รีกาโลไปไหนวะ
 
โฮ่งๆๆๆ 
 
ฉี่.... 
 
ไอ้รีกาโลมันฉี่ใส่คุณออย...
 
" กรี๊ดดด!!!! "
 
" ฮะๆๆ  เก่งมากรีกาโล  กลับไปพ่อจะเอาเนื้ออย่างดีให้กินนะ"  ไอ้ไพรซ์พูดกับรีกาโลที่วิ่งเข้ามาหาหลังฉี่เสร็จ
 
โฮ่ง!  โฮ่ง!
 
ไอ้หมานี่ก็ตอบรับไอ้ไพรซ์ได้อีก 
 
ว่าแต่ตกลงมึงเป็นพ่อ?
 
แล้วกูล่ะ?
 
เออ  กูให้มึงเป็นพ่อรีกาโลก็ได้วะ  แต่มึงต้องเป็นแม่ของของขวัญนะและต้องเป็นเมียกูด้วย
 
" กรี๊ดดดด!!!" 
 
อ่าว  นี่คุณออยยังไม่เลิกอีกเรอะ  เฮ้อ  หนวกหูว่ะ 
 
ผมว่าผมคิดถูกแล้วนะที่เอาไอ้ไพรซ์มาเป็นแฟน  ถึงมันจะดุแต่ไม่มีทางกรี๊ดใส่ผมแน่นอน
 
" กรี๊ดดดดด!!! "
 
เฮ้อ~  โชคดีแล้วกู  ลาก่อน  ลาขาดนะคุณออย 
 
ถึงผมจะลืมคุณทันทีที่ออกจากแกลก็เถอะ...
 
 


-----//-----

 



หลังจากออกจากแกล  ผมขับรถไปโรงพยาบาลเพื่อที่เราสองคนจะได้ไปตรวจเลือดกัน  โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลที่ผมมาเป็นประจำ  แต่เขาไม่ให้เอาหมาเข้า  ผมเลยต้องเอารีกาโลไว้ในรถแล้วเปิดหน้าต่าง  ก่อนจ้างยามให้ดูแลให้  ผมกับไพรซ์เดินไปที่แผนกต้อนรับและทำการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจเลือด  ไอ้ไพรซ์มันเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง  ตั้งแต่หาโปรแกรมการตรวจ  ตอบคำถาม  ถามราคา  จิกตามองนางพยาบาล  แยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ผม  ผมมองมันงงๆ  นี่ตกลงมึงเป็นรีกาโลจริงๆ?  ถ้ามึงเห่าออกมานี่  กูเชื่อมึงแล้วนะ  ว่ามึงเป็นหมา
 
" เอ่อ  เชิญที่ห้องตรวจเลือดได้เลยค่ะ"  น้องพยาบาลบอกแบบกล้าๆกลัว  แล้วเดินนำไปที่ห้องตรวจเลือดที่ชั้นหนึ่ง
 
สงสัยเมื่อกี้จะโดนไอ้ไพรซ์โวยวายใส่  น้องพยาบาลเลยไม่กล้าพูดอะไรมาก
 
" มึงติดเชื้อรีกาโลมาหรือไงวะ  กูเห็นมึงไล่กัดทุกคนที่เข้าใกล้  หรือมึงเป็นโรคหมาบ้า  ให้กูพาไปฉีดยาไหม"  ผมถามตอนที่นั่งรอคิว  แต่มันไม่สนใจผม  เอาแต่จิกตามองพยาบาลที่มองมาทางนี้
 
" ต่อไปเวลาออกจากบ้านมึงไม่ต้องโกนหนวดแล้วนะ  แมร่ง  อะไรวะ  มองมึงอย่างกับจะกินมึง  แล้วมึงอ่ะ  อย่าโง่นักดิ๊  เขาจะกินมึงไปทั้งตัวแล้ว  มึงยังไม่รู้ตัวอีก  โง่รึไงวะ"  มันบอกแล้วถลึงตาใส่ผู้ชายคนหนึ่งที่เดินผ่าน  สรุปนี่มึงกัดทุกคนไม่เลือกเพศ?  กูนึกว่ามึงจะกัดเฉพาะผู้หญิงซะอีก
 
" กูบอกมึงแล้วว่ากูไม่ชอบโกนหนวด  มึงก็ไม่เชื่อ  แล้วทีนี้มาโทษกู  อ่อ  แต่กูไม่เห็นใครเขาจะมากินกูซักคน  นอกจากมึงนี่แหละที่จะกินหัวคนอื่น"
 
" มึงมันไอ้โง่ไง  เคยรู้อะไรบ้างวะ  กูไม่น่าชอบมึงเลย"  มันตอบผมก่อนพูดเสียงหงุงหงิงประโยคหลัง
 
ทำไมไอ้ไพรซ์มันชอบหามาผมโง่นักวะ  หรือความจริงผมโง่?  แต่ไม่น่า...  ผมไปทดสอบไอคิวคราวก่อนที่มหาวิทยาลัยเยล*  ไอคิวผมก็เท่าเดิม  เขายังอยากให้ผมไปเป็นอาจารย์ฝ่ายเคมีท่ีเยลอยู่เลย  ผมไม่น่าจะโง่นา...
 
โฮ่งๆ  โฮ่งๆ 
 
อ่าว  รีกาโลมาได้ไงวะ  ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ  เขาไม่ให้เอาหมาเข้ามา!
 
ผมมองรีกาโลที่เห่าเรียก  แล้วมองเด็กผู้ชายที่เป็นคนจูงรีกาโล  พยาบาลเองก็มองเหมือนจะดุ  แต่พอเห็นหน้าคนจูงกับคนที่เดินตามมาเขาก็นั่งเงียบกัน  สงสัยเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล
 
ว่าแต่...ไอ้เด็กนี่ตาใสจังแฮะ  ตาสีน้ำตาลใสๆ  ดูน่ารัก  ถึงจะไม่ได้น่ารักเท่าไอ้ไพรซ์  แต่ดูแล้วท่าทางน่าจะเลี้ยงง่าย  มันมองผมตาแป๋วแล้วยิ้มให้  แต่ยังไม่ยอมพูดอะไรออกมา 
 
ผมมองน้องตาใสที่ว่าจะจับมาทำรีกาโลเบอร์สี่แล้วเอียงคอมอง
 
ผมเอียงคอไปทางซ้าย... 
 
มันมองตามงงๆ
 
ผมเอียงคอไปทางขวา... 
 
มันยังเอียงคอตามอยู่
 
ผมเอียงคอไปทางซ้ายอีกที  มันมองตามแล้วเริ่มยิ้มกว้าง 
 
ผมเอียงคอไปทางขวาอีกรอบ  โอ๊ะ  คราวนี้มันเอียงคอตามพร้อมยิ้มตาหยีเลย  เฮ้ยย  น่ารักว่ะ  กูจะเอาตัวนี้กลับบ้าน! 
 
พอคิดได้ผมก็อุ้มรีกาโลเบอร์สี่ขึ้นพาดบ่าเลยครับ  มันดิ้นหนีใหญ่  แต่ไม่โวยวาย  ท่าทางจะเลี้ยงง่ายแฮะ  ไม่ขี้โวยวายดี  กูชอบ  กูจะเอาตัวนี้กลับคอนโด!
 
" น้องพี!"
 
" ไอ้เชรี่ย  ยูอาร์!"
 
เสียงเรียกตะโกนดังลั่น  เสียงหนึ่งเป็นเสียงของไอ้ไพรซ์ที่เรียกผม  อีกเสียงน่าจะเป็นเสียงของไอ้คนที่เดินตาม  ส่วนไอ้รีกาโลที่ถูกปล่อยสายจูงก็เห่าเรียกผมใหญ่  ว่าแต่น้ำหนักตัวรีกาโลเบอร์สี่กูหายไปไหนวะ  ผมหันไปหันมาก็เจอรีกาโลอยู่ในอ้อนแขนของคนที่เดิมตาม  รีกาโลเบอร์สี่มองผมตื่นๆ  แต่ไม่นานมันก็ยิ้มออกมา
 
โป้ก! 
 
โอยย  เจ็บ..
 
" ไอ้เชรี่ยมึง!  มึงจะไปอุ้มแฟนชาวบ้านเขามาทำไมวะ!  เห็นไหมว่าน้องเขาตกใจ  ขอโทษนะครับ  เพื่อนผมมันเอ๋อๆ  มันไม่ค่อยเต็ม  อย่าโกรธเลยนะ"  ประโยคแรกนี่มันพูดกับผมแน่  ว่าแต่มันจะพูดเสียงอ่อนตอนหลังทำไมวะ  แล้วมึงจะหน้าแดงทำไม  ถึงไอ้พิทบลูมันจะหล่อ  แต่ก็หล่อน้อยกว่ากูนะเว้ย
 
อ่อ  ผมตั้งชื่อให้ไอ้คนเดินตามว่าพิทบลูนะ  เพราะตอนนี้มันจ้องผมเขม็ง  คงกะว่าถ้าผมเผลอ  มันจะพุ่งมากัด
 
ผมมองรีกาโลที่อยู่ในอ้อมแขนของไอ้พิทบลู  มันมองผมตาใส  แถมยิ้มไม่หยุด  ฮือ  กูอยากได้อ่ะ  กูอยากเอาไปเลี้ยง!   

" กูจะเอารีกาโลกูคืน  มึงไปเอามาให้กูดิ๊"  ผมสั่งไอ้ไพรซ์แล้วชี้ไปที่รีกาโล  รีกาโลตัวนี้น่ารักมากเลย  ตาใสๆ  แถมยิ้มไม่หุบท่าทางดูเลี้ยงง่ายสุดๆ  น่ารักว่ะ  กูชอบ!
 
" พี่เป็นเจ้าของหมาตัวนี้เหรอฮะ"
 
น้องมันเขียนข้อความใส่สมุดแล้วส่งมาให้ผมอ่าน  ก่อนชี้มือไปที่รีกาโล  อืมมม  ดูจากลายมือคงเป็นเด็กที่ซนใช้ได้  ท่าทางน่ารักแบบนี้  น่าเสียดายไม่น่าพูดไม่ได้เลยนะ  ไม่งั้นเสียงเห่าต้องน่ารักแน่
 
ผมส่งภาษามือที่เป็นภาษาใบ้แบบสากลไปให้  คือผมจะถามชื่อ  แต่สงสัยเจ้ารีกาโลเบอร์สี่จะแปลไม่ออก  เพราะผมเห็นมันทำหน้างงๆใส่
 
" เราชื่ออะไร"  ผมตัดสินใจถามรีกาโลเบอร์สี่แบบออกเสียงแทน
 
น้องมันยิ้มกว้าง  ก่อนเขียนชื่อว่า " พี " ลงบนสมุดมาให้ผมอ่าน
 
" ชื่อ  พี  เหรอ  ไปอยู่กับพี่ไหม  พี่เลี้ยงเราได้ดีกว่าไอ้พิทบลูตัวนี้นะ  ไปอยู่คอนโดกับพี่ดีกว่า  พี่มีอาหารให้  แถมคนทำกับข้าวให้ด้วย  ไปไหม"  ผมถามรีกาโลพี  ที่มองมาแบบอึ้งๆ  ก่อนยิ้มกว้าง  เฮ้ย  น่ารักว่ะ  ยิ้มทียิ้มจนตาหยีจนไม่เห็นลูกตา  กูจะเอาตัวนี้!
 
โป๊ก!
 
" ไอ้เชรี่ยมึง!  มึงจะอุ้มน้องเขาทำไมวะ!  ปล่อยน้องเขาลง  มึ๊ง!!"  ไอ้ไพรซ์ตะโกนตอนที่ผมอุ้มรีกาโลพีอีกรอบ  แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร  น้ำหนักรีกาโลพีก็หายไปอีก  ผมหันกลับมาจ้องไอ้พิทบลูที่อุ้มหมาผมไว้เขม็ง  มึงจะแย่งหมากูทำไมวะ  นี่หมากูโว้ย!
 
ป๊าบ!!
 
" มึงจะไปจ้องชาวบ้านเขาทำไม!  ขอโทษนะครับ  เพื่อนผมมันไม่ค่อยเต็ม  น้องตกใจมากไหม  พี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ  ขอโทษด้วยนะครับ  เอ่อ...  คุณ..."
 
" เพ้นท์ครับ  บอกแฟนคุณให้ระวังด้วยแล้วกัน  ผมกับน้องแค่เอาหมามาคืนเพราะเห็นมันเห่าเรียก  น้องพีเข้าไปเล่น  แต่มันกระโดดออกมาจากรถน้องพีเลยจูงมันมา  ผมขอตัวนะครับ  น้องพี  กลับห้องพักเถอะครับ"  ไอ้พิทลูมันบอกเสียงนิ่งแล้วลากรีกาโลพีไป 
 
รีกาโลพีมองมาแบบอาลัยอาวร  ก่อนเขียนหลังสือใส่สมุดแล้วยื่นไปให้ไอ้พิทบลูอ่าน  ก่อนยื่นมาให้ไอ้ไพรซ์อีกที
 
" พี่ๆชื่ออะไร  น้องผู้หญิงชื่ออะไร  หมาชื่ออะไร  น่ารักดี  พีชอบ"  รีกาโลพีส่งกระดาษมาให้อ่านแล้วยิ้มตาใส  ไอ้ไพรซ์เลยตอบคำถามแทน
 
" พี่ชื่อไพรซ์  นี่แฟนพี่ยูอาร์  ส่วนเเด็กนี่เป็นหลานพี่ชื่อของขวัญ  ส่วนหมาชื่อรีกาโล" 
 
" รีกาโลน่ารักดี  ฉลาดมาก  ซื้อมาจากที่ไหนฮะ  พีอยากเลี้ยง" 
 
รีกาโลพีถามไอ้ไพรซ์  ทำไมไม่มีใครสนใจผมเลยวะ  ผมเป็นคนที่อยากเลี้ยงรีกาโลพีนะ!
 
" เพื่อนพี่ซื้อมาจากอังกฤษน่ะ  แต่พี่รู้จักฟาร์มเลี้ยงนะ  เราจะเอาเบอร์ไหม  พี่จะหาบอร์ให้"  ไอ้ไพรซ์บอก
 
ว่าแต่มันรู้ได้ไงวะว่าผมซื้อรีกาโลมาจากอังกฤษ  หรือผมเคยบอกมัน?  น่าจะนะ...  ไม่งั้นมันจะรู้ได้ไง
 
แล้วมันสองคนก็คุยกันหงุงหงิง  เอ่อ  มีแต่ไอ้ไพรซ์ที่พูด  เพราะรีกาโลพีพูดไม่ได้ 
 
ผมมองไอ้พิทบลูที่จ้องผมไม่เลิก  ไอ้พิทบลูนี่ตาสวยแฮะ  ตาสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา  ตามันสีสวยใส  แต่ไอ้ตาใสแบบนี้มันไว้ใจไม่ไว้ว่ะ  เสือซ่อนเล็บชัดๆ
 
ผมจ้องตามันแบบไม่ยอมแพ้  จนกระทั่งรีกาโลพี  มาสะกิดเพราะจะกลับห้อง  ไอ้พิทบลูลูบหัวรีกาโลพีก่อนก้มลงจูบหน้าผาก

เฮ้ย!  นั่นหมากูนะ!  มาลวนลามหมากูได้ไงวะ 
 
รีกาโลพียิ้มรับไอ้พิทบลู  ก่อนโบกมือให้ผมกับไอ้ไพรซ์หยอยๆ  แล้วเดินจากไป  ผมมองตาละห้อย...
 
ป๊าบ! 
 
" มึงจะมองทำไมวะ  น้องเขาไปแล้ว  มองแต่กูนี่  ไม่ต้องมองคนอื่น!"
 
ไอ้ไพรซ์มันตบหัวผมแล้วดึงหูให้ผมลงไปนั่ง  ก่อนสั่งให้ผมอุ้มรีกาโลไว้  เพราะมันอุ้มของขวัญอยู่

ผมมองไอ้ไพรซ์แบบเคืองๆ
 
ชิ  ไอ้พี่เลี้ยงจอมโหด  ไอ้แฟนจอมแสบ  อย่าให้ถึงทีกูนะมึง  กูจะเอาให้ร้องไม่ออกเลยมึง
 
ว่าแต่...
 
ตกลงนี่มึงเห็นกูเป็นอะไรวะ  แอะอะทำร้ายกูตลอด  กูเป็นแฟนนะโว้ย  ไม่ใช่กระสอบทราย! 
 
 
 
-----//-----

 

มุ่ย...
 
มุ่ย...
 
กูหน้ามุ่ย...
 
" ไอ้มึง!  มึงจะแดกไหมหา  กูถือช้อนจนเมื่อยแล้วนะ!"  ชิ  กูไม่กินเว้ย!  กูจะอดข้าวประท้วง!  กูไม่กิน!
 
" เออ  ไม่แดกก็อย่าแดก  เสียเวลากู!  กูจะไปดูของขวัญแล้ว!"  มันว่าแล้วกระแทกช้อนใส่จาน  เออ  ดี  ไปเลยมึง  กูงอนมึงแล้ว  กูไม่สนใจมึงหรอก
 
ผมนั่งจ้องจานข้าวแต่ไม่ยอมกิน  ไอ้ไพรซ์มันก็ไม่สนใจผม  เอาแต่ป้อนนมไอ้ตัวแหกปาก  ก่อนมันจะพาไอ้ตัวแหกปากไปอาบน้ำแล้วพาเข้านอน  ส่วนรีกาโล...  มันนอนตั้งแต่กลับมาแล้ว  สงสัยจะเหนื่อยเพราะออกไปข้างนอกมาทั้งวัน
 
" เฮ้อออ  ยูอาร์  มึงจะนอยด์ทำไมวะ  กูนี่สิต้องนอยด์  กูเป็นแฟนมึงนะ  แต่มึงเล่นมองแต่คนอื่น  มึงเคยคิดถึงใจกูบ้างไหม"
 
" กูไม่ได้มองคนอื่น  กูมองรีกาโลพี  กูอยากได้  กูอยากให้มันมาอยู่เป็นเพื่อนรีกาโล"
 
" มึง...  เฮ้อ...  มึงนี่เป็นอะไรวะยูอาร์  น้องเขาเป็นคนนะ  ไม่ใช่หมา  แล้วมึงไม่เห็นแฟนน้องเขาหรือไง  แทบจะกินหัวมึงอยู่แล้ว  ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาล  เขาชกมึงไปแล้ว" 
 
" ก็กูอยากได้  น้องพีเหมือนมึงจะตาย  ถึงจะไม่น่ารักเท่ามึง  แต่กูก็ชอบ  กูอยากได้" 
 
" มึง...  มึงแค่เห็นกูเป็นหมาเหมือนน้องเขารึไงวะ  แล้วถ้ากูไม่เหมือนรีกาโล  มึงจะไม่เลี้ยงกู...  จะไม่เอากูเข้าคอนโดใช่ไหม"  แล้วมันจะพูดเสียงอ่อนทำไมวะ  แล้วมึงจะตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ทำไม
 
" กูไม่ได้เลี้ยงมึงเพราะมึงเหมือนรีกาโล  แต่มึงเป็นพี่เลี้ยงหลานกู  แล้วมึงก็ไม่เหมือนหมา  แต่มึงเป็นคนที่กูชอบ  มึงเป็นแฟนกู  มึงเป็นแม่ของลูกกู"  ผมทวนคำตอบตามที่มันบอกกับคุณออย
 
ไอ้ไพรซ์มันสีหน้าดีขึ้น  มันยิ้มแล้วบ่นหงุงหงิงแบบอารมณ์ดีก่อน  ป้อนข้าวผมต่อ
 
" เอาน่า  ถ้ามึงอยากเลี้ยงหมา  เดี๋ยวกูพามึงไปดูที่ฟาร์มคนรู้จักก็ได้  ถึงไม่ได้มาจากนอก  แต่ก็เป็นพันธุ์ดีนะ  สายพันธุ์แชมป์ทุกตัว  พรุ่งนี้เราไปดูกัน"
 
" มึงต้องเลือกที่เหมือนรีกาโลพีให้กูนะ  เอาตัวเมียก็ได้  รีกาโลจะได้มีลูกให้กูซะที"

" เออ  รู้แล้ว  ที่นี้ก็กินได้แล้ว  กูซื้อเค้กมาให้มึงแล้วด้วย  จะแดกไหม"

" ป้อนเค้กด้วยปากนะมึง"

" เออ"  มันบอกแล้วหน้าแดง  มึงนี้หน้าแดงง่ายจริง
 
ผมอ้าปากรอข้าวที่มันป้อน  ก่อนป้อนจูบให้กลับ  อร่อยจัง  อ้าม~
 

 
-----//-----

 
 
เช้าวันถัดมา  ผมตื่นตั้งแต่ตีห้า  แล้วปลุกไอ้ไพรซ์ที่นอนอยู่ในห้องนั่งเล่น  คือตอนนอนมันจะนอนในห้องนั่งเล่น  ส่วนเวลากินเราจะไปกินกันในห้องนอน  เมื่อวานผมก็กินมันไปอีกรอบ  แต่กินไปได้รอบเดียวเพราะเมื่อวานของขวัญมันงอแงจนไอ้ไพรซ์ต้องออกมาดู  ผมที่รำคาญเสียงร้องไห้เลยหนีไปวาดรูปอยู่ในห้อง
 
แต่เช้านี้ผมตื่นเช้าเพราะไอ้ไพรซ์มันบอกว่าจะพาผมไปดูหมาที่ฟาร์มหมาขอเพื่อน  ผมอาบน้ำแต่งตัว  แล้วนั่งสะกิดตัวไอ้ไพรซ์ที่หลับสนิท
 
" อืมมม... " 
 
" ไอ้ไพรซ์ตื่น  กูจะไปดูหมา"
 
" กี่โมงแล้ววะ "
 
" ตีห้า "
 
ป้าบ! 
 
งื้อ  มาตบหัวกูทำไมวะ
 
" ตีห้า  มึงจะปลุกกูไปช่วยเขาเปิดฟาร์มหรือไงวะ  นอนลง  กูจะนอนต่อ  กูเพิ่งกล่อมของขวัญหลับนะโว้ย  หลานมึงนี่มาเป็นโคลิกอะไรช่วงนี้วะ  จะห้าเดือนแล้วไม่ใช่หรือไง  กูง่วง  กูจะนอน"  มันบอกเสียงห้วนแต่เบา  สงสัยกลัวไอ้ตัวแหกปากตื่น
 
ผมหน้ามุ่ยมองหน้ามัน  ประมาณว่ากูจะออกจากคอนโดตอนนี้เลย  มันมองหน้าผมก่อนถอนหายใจ
 
" เออๆ  กูลุกก็ได้  หิวยังมึง  กูจะไปทำข้าวเช้าให้"
 
" หิวแล้ว"
 
ผมบอกแล้วอุ้มมันพาดบ่าก่อนเดินพามันไปที่ห้องนอนชั้นสอง  ผมโยนมันลงบนเตียง  มันมองผมตื่นๆ  แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้แหกปากถามผมก็ไขความกระจ่างให้มันก่อน
 
" กูหิวแล้วแต่จะกินมึง  เมื่อวานกูได้กินมึงไปหนเดียวเอง  กูยังไม่อิ่ม  ถุงยางกับเจลก็ยังไม่ได้ใช้  กูจะใช้เช้านี้นี่แหละ"  ผมบอกแล้วปิดปากมันก่อนจับมันลอกคราบ 
 
เมื่อวานหลังจากกลับมาจากตรวจเลือด  ผมแวะร้ายยา  ซื้อถุงยางกับเจลมาอย่างละสามแพค  สามแพคนะไม่ใช่สามกล่อง  ก็ผมบอกแล้วว่าผมขี้เกียจออกไปข้างนอกบ่อยๆ  ผมเลยซื้อมาทีเดียวสามแพค  แพคละสิบสองกล่อง  กล่องละสามชิ้น  สิบสองสาม  สามสิบหก  กินกันวันละสามรอบ  ผมก็จะกินมันได้หนึ่งเดือน  มีสามแพคก็กินได้สามเดือน  งืมมๆ  เป็นไง  ผมมองการณ์ไกลใช่ไหมล่ะ  ถึงจะมีเวลาคิดแค่ห้านาทีตอนอยู่ในร้านยา  แต่ผมก็คิดได้นะ  เห็นไหมว่าผมไม่โง่ 
 
ถ้าโง่ผมคิดไม่ได้หรอกจริงไหม
 
เนอะ~ 


>>  To  Be  ConTinue  <<



-----------------------------------------------------------------------------------------


ตอนนี้มีดารารับเชิญ  ใครไม่รู้จักน้องพีกับพี่เพ้นท์  ไปตามอ่านได้ที่   [sweety]//~รักนี้...ไม่ปล่อยให้หลุดมือ~  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38323.0;topicseen) นะคะ  ( โฆษณา ) :mew3:


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch3 (26/9/56)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-10-2013 13:32:48
อ๊ะ ทำไมน้องพีพูดไม่ได้

ตกใจหมดเลย

ยูอาร์.... นายฉลาดล้ำโลกจริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-10-2013 14:00:43
อะจ๊ะ ยูอาร์ไม้โง่หรอกเขาเชื่อเขารู้กันทุกคน :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 15-10-2013 15:36:11
โอ้~ยูอาร์ไม่โง่แต่หื่นแตกช่ายป่าว^_^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-10-2013 16:01:50
 :laugh: :laugh:

ยูอาร์ฉลาดที่สู๊ดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: dragonassist ที่ 15-10-2013 17:11:18
ค่ะ พ่อคนฉลาด :z6:


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-10-2013 18:22:31
โอ้ย อ่านแล้วเครียด 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 15-10-2013 18:33:42
อยากจับยูอามาสับๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 17-10-2013 22:04:03
อัจฉริยะนี่มีเส้นบางๆขั้นอยู่จริงๆเลย 5555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-10-2013 22:38:11
ทำไมน้องพีพูดไม่ได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch4 (15/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-10-2013 00:10:14
มีแฟนอย่างนี้ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี :mew5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]//คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 30-10-2013 14:06:12
บทที่  5





" กูจะเอาตัวนี้"
 
" .... "
 
" ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย  มึงไม่น่ารักหรอก  กูอยากได้ตัวนี้ไปจ่ายเงินด้วย"
 
" .... "
 
" ไอ้เชรี่ยมึง!  หูน่ะมีไหมหา!  กูจะเอาตัวนี้!  เห็นไหมว่ามติเอกฉันท์  กู  รีกาโล  ของขวัญ  ชอบตัวนี้!  พวกกูจะเอาตัวนี้!"
 
โฮ่งๆๆๆ
 
เอ๊~  เอ่  เอ๊ะ
 
ชิ  สามเสียง 
 
กูยอมแพ้ก็ได้วะ
 
แล้วผมก็ต้องหอบหิ้วไซบีเรียนขนขาวทั่วตัวตาสีฟ้ากลับคอนโดแทนที่จะได้คิงชาร์ลตัวที่สองกลับบ้าน ความจริงผมก็ไม่อยากยอมแพ้หรอกนะเพราะผมเป็นคนจ่ายตังค์  แถมไอ้ไซบีเรียนตัวนี้ก็โคตรแพง  เห็นว่ามันเป็นพันธ์หายากที่มีสีขาวทั่วตัวทั้งที่สีของมันจริงๆจะเป็นสีดำ  คือเม็ดสีมันทำงานผิดปกติเลยทำให้ให้สีดำออกมาเป็นสีขาวมันเลยหายากหน่อย  พูดง่ายๆก็คือ  มันคล้ายๆหมาเผือกครับ  แต่ไม่ใช่พันธุ์เผือกที่แท้จริงเพราะตามันสีฟ้า  สรุปคือ  มันตัวสีขาวเหมือนผม  ไอ้ไพรซ์มันเลยบอกว่า  อยากเลี้ยงเอาไว้ให้เป็นลูกของเรา  เพราะเรามีลูกที่หน้าตาเหมือนมันตัวหนึ่งแล้ว(คือรีกาโล)  ดังนั้นลูกตัวที่สองต้องหน้าตาเหมือนผม
 
สรุปคือ...
 
กูหน้าตาเหมือนหมาเลยต้องหาหมามาเพิ่ม  หรือว่าหน้าหน้าเหมือนกูมึงเลยอยากเลี้ยงวะ
 
แล้วกูต้องหน้าตาเหมือนหมากวนประสาทนี่ด้วยเรอะ!
 
" กูตั้งชื่อแล้ว  ชื่อ  เพรสเซนต์ ( Present )  ที่แปลว่าของขวัญไง  ทีนี้กูกับมึงก็มีของขวัญคนละตัว  ดีไหมเพรส"
 
หงิง~  โฮ่งๆ โฮ่ง!
 
เออนะ  อยู่บ้านกูมาไม่กี่เดือนไอ้ไพรซ์เริ่มพูดภาษารีกาโลได้เหมือนกูแล้วเนี่ย  เก่งจริงมึง
 
ผมมองไอ้ไพรซ์ที่เล่นกับไอ้เพรสระหว่างรอจ่ายเงินกับรับใบรับประกัน  อืมมม  ความจริงไอ้เพรสมันก็น่ารักดีน่ะนะ  ถึงจะไม่เหมือนรีกาโลพีที่ผมอยากได้  แต่ถ้าทั้งสามตัว(?)ชอบก็คงโอเคล่ะนะ
 
เมื่อเช้าหลังจากที่ผมกินไอ้ไพรซ์เสร็จไปสามรอบตามแผน  กว่าจะได้ออกจากคอนโดก็ตอนช่วงบ่ายพอดี  โชคดีที่รถไม่ติดผมเลยไม่เสียเวลามาก  ฟาร์มนี้เป็นฟาร์มหมาของเพื่อไอ้ไพรซ์ชื่อคุณแก้ว  เขามีหลายพันธุ์นะ  แต่ปกติจะเป็นหมาพันธุ์เล็กมากกว่า  มีเพรสนี่แหละที่หลงมาเพราะเขาเห็นว่ามันหายาก  นี่ก็เพิ่งเอาออกมาโชว์หลังจากที่มันปรับสภาพได้  ไอ้ไพรซ์เลยโชคดีไป  ที่เจอหมาที่ถูกในพอดี
 
" พอดีหมาตัวนี้มีคนสั่งไว้น่ะค่ะ  แต่เห็นว่าคนที่จะเลี้ยงเขาเป็นภูมิแพ้กับหอบเลยต้องเคนเซิลไปก่อน  โชคดีมากเลยนะคะเนี่ย  ตัวนี้หายากมากเลย"  คุณคนขายบอกครับ
 
ผมยิ้มรับให้นิดหน่อยในขณะที่ไอ้ไพรซ์เริ่มแยกเขี้ยวขู่  อะไรวะ  แม้แต่เพื่อนมึงก็ยังจะกัด?  ฉีดยากันหมาบ้าไหมมึง  ที่นี่เขามีหมอหมานะ
 
" ไพรซ์เขาขี้หึงน่ะ  เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่เรียนแล้ว  ยิ่งกับคุณ...  เอาเถอะ  แล้วไพรซ์คงบอกเอง  ยังไงก็ยินดีด้วยนะคะที่ได้คบกัน  ไพรซ์เอง..."
 
" แก้ว!!  หยุดพูดกับไอ้เอ๋อเลย!  มันจะรู้อะไร  ช่างหัวมัน...  มานี่ได้แล้ว  เดี๋ยวติดเชื้อโง่!"
 
มันบอกกับคุณแก้วที่หัวเราะขำแล้วตะโกนใส่หน้าผมต่อ
 
นี่ตกลง...
 
กูยังไม่หายโง่อีกเหรอวะ?
 
หรือความจริงแล้วผมไม่ได้โง่แต่ไอ้ไพรซ์มันฉลาด
 
เฮ้อ  ช่างมันเถอะ  อยากด่าอะไรก็ด่าไป  กูขี้เกียจคิดมาก
 
แล้วอีกอย่าง...
 
เพื่อเมีย  ยูอาร์ทนได้...
 
และจะยอมทน (เพราะเลิกไม่ได้)  ฮือออ
 
 
 


=====//=====




 
พอกลับมาถึงคอนโด  ผมก็รู้จักกับคำว่าหมาหัวเน่าอย่างแท้จริง
 
ผมนั่งหัวเด่อยู่ที่โซฟาในขณะที่รีกาโลทั้งสามตัวนั่งเล่นกับเพรส  ไอ้ไพรซ์นี่มันก็พยายามดีนะ  มันพยายามสอนเพรสทั้งที่มีของขวัญนั่งอยู่บนตัก  ตอนนี้ของขวัญนั่งได้แล้วและกำลังจะเริ่มคลาน  ผมมองรีกาโลทั้งสามตัวที่นั่งเล่นกัน
 
อืมมม
 
ก็น่ารักดีนะ
 
แถมไอ้ตอนที่รีกาโลเบอร์หนึ่งพยายามสอนไอ้เพรสให้ทำตามน่ะโคตรตลก  มันคงคิดว่าเพรสเป็นลูกมันมั้ง  มันพยายามสอนให้เพรสคลานหมอบเหมือนมัน  เห่าเหมือนมัน  แถมกลิ้งไปกลิ้งมาให้เหมือนมันอีก  โคตรฮาว่ะ
 
" ยูอาร์ มึง  ดูเพรสดิ  ฉลาดเหมือนมึงเลยว่ะ  สอนไม่กี่ทีก็จำได้  มึงดูนะ  เพรสขอมือ!  เพรสหมอบ!  เพรสหวัดดี!"
 
แล้วเพรสมันก็ช่างทำตามได้เนอะ  ฉลาดจริง
 
ว่าแต่...  นี่ตกลงกูฉลาดเท่าหมา?
 
เออ  ช่างเถอะ
 
เพื่อเมีย...
 
ยูอาร์ทนได้...
 
 
 


 
ผมนั่งมองทั้งสามตัวเล่นกับหมาหนึ่งตัว(ความจริงคือ  สองคน  สองตัว)  พวกมันเล่นกันแบบไม่มีท่าทีว่าจะแบตหมด  ผมที่นั่งว่างอยู่เลยเอาสมุดมาวาดรูปเล่น  แนวที่ผมถนัดที่สุดคือแนวเหมือนจริงแบบที่ต้องใช้สีน้ำมันลงในตอนท้าย  ผมวาดรูปทั้งสี่ตัวอยู่เงียบๆ  ผมชอบวาดรูปเหมือนจริงนะ  ยิ่งกับรูปที่มีลักษณะสีหน้าท่าทางมากมายทั้งทีมันมีไม่กี่อิริยาบทผมยิ่งชอบ
 
ผมสเก็ตรูปไอ้ไพรซ์สลับกับรูปของขวัญไปเรื่อย  มีเหมือนกันที่วาดทั้งสี่ตัวพร้อมกัน  คือความทรงจำผมเป็นแบบภาพถ่ายน่ะ  เห็นแค่แวบเดียวจะจำได้หมด  อาจไม่ได้เก็บทุกรายละเอียด  แต่สำหรับการร่างภาพ  ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้ว
 
" ไอ้ไพรซ์  มึงแก้ผ้าดิ๊  กูจะวาดภาพมึง"
 
มันหน้าแดงแล้วมันเขวี้ยงขวดนมมา
 
ตุบ!
 
ดีนะที่กูหลบทัน  ไม่งั้นภาพสเก็ตกูเละแน่
 
" มึงพูดเชรี่ยอะไร!"
 
" กูไม่ได้พูดเชรี่ยอะไร  กูอยากวาดรูปมึง  มึงแบบที่เป็นตัวมึง  ถอดเสื้อออก  กูจะไปขนผ้าใบลงมา  ถ้ากูลงมาแล้วมึงยังไม่ถอด  มึงถูกกูจัดหนักแน่"  ผมบอกแล้วเดินขึ้นห้อง  ไม่สนใจไอ้ไพรซ์ที่โวยวาย
 
" ไอ้เชรี่ย!!!!"
 
อืมม  คราวนี้ไม่มีคำว่าไอ้โง่สินะ  พัฒนาๆ  กูไม่ได้โง่แล้ว  ดีจัง
 
 
 
 
" มึงจะอายอะไรวะไอ้ไพรซ์"
 
" .... "
 
" กูถอดเป็นเพื่อนมึงก็ได้นะถ้ามึงอาย"
 
" .... "
 
" งั้นกู..."
 
" อย่าถอดนะมึง!  กูถอดแล้ว!"
 
เออ  ก็แค่นั้น  แล้วมึงจะอายอะไรวะ  มันเป็นเรื่องของศิลปะไม่ใช่ภาพโป๊ 
 
ผมมองไอ้ไพรซ์ที่ถอดเสื้อไปหน้าแดงไป  ตอนนี้อีกสามตัวที่เหลือหลับไปแล้ว  เหลือแต่ผมกับไอ้ไพรซ์ที่แหละ
 
ผมมองไอ้ไพรซ์ที่หน้าแดงเถือกลามไปถึงตัว  มึงนี่ขี้อายจริง  มันเป็นศิลปะมึงจะอายอะไรวะ
 
" มึงนั่งที่เก้าอี้สตู  กูจะจัดท่าให้  มึงจำไว้ด้วย  กูต้องวาดประมาณสองวันก่อนลงสี  นั่งลง  อ้าขาออก ถ้ามึงอายเอามือมาค้ำเก้าอี้ไว้แบบนี้  เงยหน้าขึ้นอีกหน่อย  มองตาตรง  ไม่เมื่อยใช่ไหม  กูจะเปิดซันลูปแล้วนะ  มันไม่ร้อนหรอกแต่จะมีแสงผ่าน  เงยหน้าขึ้นอีกหน่อย  มองมาที่ผ้าใบ  คิดว่ากูเป็นผ้าใบก็ได้  อย่ากัดปาก  แบบนั้นแหละดี  สวยมาก"
 
ผมบอกแล้วผมก็เริ่มร่างภาพไอ้ไพรซ์ลงบนพื้นผ้า  ตอนนี้มันนั่งหน้าแดงแยกขาออกเอามือค้ำไว้ที่ข้างหน้าเพื่อปกปิดส่วนสำคัญของร่างกาย  ผมจ้องหน้าไอ้ไพรซ์ที่มีแสงผ่าน  ห้องของผมเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุด  ผมติดกระจกไว้ที่เพดานเพื่อสำหรับการเพิ่มแสงหรือวาดภาพ
 
ตอนนี้ไอ้ไพรซ์เหมือนเทวดาตัวน้อยที่มีแสงลอดผ่าน  เรียกเทวดาคงไม่ถูก  มันดูเป็นเหมือนภาพคนที่ดูเหนือจริงมากกว่า  ฝุ่นผงที่พุ้งกระจายอยู่ภายใต้แสงทำให้ภาพขอวไอ้ไพรซ์ยิ่งดูมีมิติ  ผมมองแสงและเงาก่อนลงมือร่าง  มองมุมแต่ละมุมเพื่อหารายละเอียดที่ครบถ้วน  มองสีหน้าและท่างเพื่อร่างแบบลงบนพื้นผ้าใบ
 
" มึงวาดภาพแบบนี้บ่อยเหรอวะ"
 
" แบบไหน  ภาพเปลือยเหรอ  ก็วาดบ้างกูชอบวาดภาพคนมันให้ความรู้สึกถึงคำว่าชีวิตดี"
 
ผมตอบมันแล้วร่างภาพต่อ
 
ไอ้ไพรซ์เป็นคนที่ดูดี  ติดจะน่ารักเกินกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ  ผิวขาวตาสวย  ถึงจะไม่สวยเท่าไอ้พิทบลูเมื่อวานแต่ก็สวยมาก  ดวงตามันที่ฉายออกมาแสดงความคิดของมันออกมาหมดทุกอย่าง  ภายใต้ดวงตาที่กึ่งโกรธกึ่งอาย  ผมเห็นแต่ภาพสะท้อนเงาของตัวเอง
 
ผมนั่งวาดรูปมาตลอดสองชั่วโมง  ไอ้ไพรซ์เองก็ยังนั่งนิ่ง  คงเป็นเพราะท่าที่ไม่เมื่อยเท่าไหร่  มันเลยไม่บ่น
 
" มึง...  มึงอย่าเอาไปโชว์นะ  กูอาย"  มันบอกแล้วหลบตา  อ่าว  ไอ่นี่  กูวาดตามึงอยู่  หลบตาทำไมวะ
 
" กูจะเอาไปโชว์ที่มิวนิค  อย่าหลบตา  หุบปากไม่ต้องทำปากหวอ  แกลทางโน้นส่งเทียบเชิญมา  มึงไม่ต้องอายหรอกน่า  ที่โน่นเขาดูกันเป็นเรื่องปกติ  แล้วกูก็ไม่ขาย  กูจะวาดให้มึง"
 
ผมบอกแล้วสั่งให้มันหน้านิ่งๆ  อย่าขยับ  เดี๋ยวตาเขไม่รู้นะมึง
 
 " หัว...  หัวข้ออะไรวะ"
 
" Peace  ความสงบ  มึงเป็นความสงบและสันติภาพของกู  กูเลยอยากวาดรูปมึง"
 
" กูเนี่ยนะความสงบ  กูรักสันติตรงไหนวะ?"  มันบอกแล้วคำหน้างงๆ
 
" Peace  ของกูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น  มึงเป็นคนที่ทำให้กูอยากทำลายโลกนี้เพื่อที่จะทำให้มึงอยู่อย่างปลอดภัย  มึงเป็นคนที่ทำให้กูอยากรักษาโลกใบนี้ไว้เพื่อที่มึงจะได้อยู่อย่างมีความสุข  สันติและสงคราม ของคู่กันที่ไม่อาจแยกได้  เเหมือนโลกที่สามที่แก่งแยก  ต่างคนต่างมีเหตุ  ทุกคนสามารถสร้างและทำลายเพื่อสิ่งที่ตัวเองรักได้"
 
ผมบอกแล้ววาดภาพต่อ  ไอ้ไพรซ์ยังทำหน้างงอยู่  เหมือนมันจะไม่ค่อยเข้าใจเฮะ  ช่างมันเถอะ  ตอนนี้กูกำลังติส  ปล่อยกูบ่นไปก็พอ
 
" มึงจะทำลายโลกเหรอวะ  แค่กู  มึงก็จะทำร้ายทุกคนที่เข้าใกล้กูหรือไง"
 
" ทุกคนที่ทำร้ายมึงไม่สมควรมีค่าให้อยู่ต่อ  ถึงการฆ่ากันจะไม่ใช่ทางแก้ปัญญา  แต่สำหรับมึง  คนที่มาทำร้ายมึงไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ต่อ  กูไม่ได้จะลงมือฆ่า  แต่การอยู่อย่างลำบากในสังคนมันไม่ต่างอะไรกับความตาย  ค่านิยม  ความเชื่อ  และวัฒนธรรม  สามารถสร้างสังคมให้คนส่วนใหญ่มีความสุขได้  และสร้างความทุกข์ให้อีกคนได้มากพอกัน"
 
คราวนี้ไอ้ไพรซ์ทำหน้ามึนตึบ  ช่างมัน  กูเข้าใจของกูคนเดียวก็พอ
 
ผมนั่งวาดรูปต่อสี่ชั่วโมงไม่พัก  ไอ้ไพรซ์มีลุกออกไปบ้างเพราะของขวัญตื่น  ผมนั่งเก็บรายละเอียดตอนที่ไอ้ไพรซ์ไม่อยู่  ผมดึงความทรงออกมาแล้ววาดภาพต่อโดยไม่ต้องอาศัยนายแบบ
 
" นี่กูเหรอวะ" มันพูดเสียงทึ้งๆ
 
" ใช่  นี่แหละมึง  นึกว่าเป็นรีกาโลหรือไง  เห็นไหมว่ามันไม่มีหาง"
 
ป้าบ! 
 
งื้อ  ไอ้เมียนิยมความรุนแรง
 
" ไม่เห็นเหมือนกูเลยวะ  มึงมั่วรึเปล่า"
 
" อ่าว  มึงเป็นแบบ  ถ้าไม่ใช่มึงแล้วเป็นใครวะ  หรือจะให้เป็นของขวัญ  แต่หลานกูเป็นผู้หญิง  ไม่ใช่ผู้ชาย  เอ๊ะ  หรือว่าเป็นผู้ชายวะ  กูยังไม่เคยดู..."
 
ป้าบ!
 
" ไอ้ลามก!  กับหลานก็ไม่เว้นนะมึง  ลุกมากินข้าวได้แล้ว  นั่งนานๆเดี๋ยวก็เป็นง่อยหรอกมึง"
 
" มึงป้อนนะ"
 
" เออ!!!"
 
แค่พูดเบาๆ  กูก็ได้ยินแล้ว
 
กูไม่ได้หูหนวกนะ
 
ไม่ได้โง่ด้วย
 
เฮ้อ~  ยูอาร์เซ็ง
 
 
 
 
 
 
" แล้วมึงต้องวาดอีกกี่วันวะถึงจะเสร็จ"
 
" สิบกว่าวัน...  สิบกว่าวันสำหรับการร่างแบบ  สิบกว่ามันสำหรับเลือกสีและสร้างภาพ  สามเดือนสำหรับลงสีทั้งหมด  สองเดือนสำหรับรายละเอียด  รวมกันก็เจ็ดแปดเดือนรวมเวลาพัก  ผืนผ้านี้จะเป็น  masterpiece  ของกู  หลังจากท่ีกูวาดรูปภาพรูปแรกแล้วชนะ"
 
" ใช้เวลาขนาดนั้นเลยเหรอวะ  แล้วมึงจะวาดภาพนี้ตลอด?"
 
" เปล่า  กูวาดปนกับภาพอื่น  แต่หลักๆจะวาดภาพนี้  ช่วงนี้ฝากมึงดูของของขวัญกับรีกาโล  แล้วก็เพรสไปก่อนแล้วกัน  บางทีกูอาจหมกตัวอยู่ในห้อง  ไว้ตอนที่กูจะลงสีกูจะย้ายภาพไปลงสีที่ห้อง  ถ้ากูไม่ออกมาซักสามเดือนก็ไม่ต้องตกใจ  กูไม่ตายหรอก"
 
ผมบอกแล้วมองภาพต่อ
 
รูปนี้ของไอ้ไพรซ์ที่ผมวาด  จะต้องเป็นงาน  masterpiece  อีกชิ้นแน่  เหมือนภาพวาดภาพแรกของผมที่สามารถสร้างชื่อ  Primo  Premio  ให้ดังได้ชั่วข้ามคืน 
 
รูปภาพที่มีไอ้ไพรซ์เป็นแบบให้เหมือนกัน...
 
 


 
 
เวลาผ่านไปสองเดือน  สามเดือน  สี่เดือน  และเจ็ดเดือน  ไอ้ไพรซ์ยังคงทำหน้าที่เพื่อนที่ดี  แม่ที่สมบูรณ์แบบ  คุณภรรยาที่สมบูรณ์พร้อม 
 
มันอยู่เป็นเพื่อนรีกาโลกับเพรส  เป็นแม่ที่เลี้ยงลูกตั้งแต่ยังคลานไม่ได้มาเป็นเด็กตัวเล็กที่เริ่มส่งเสียงและวิ่งเล่นได้  เป็นเมียที่คอยเคาะจานข้าวเรียกสามีกินข้าวเหมือนเรียกหมา  ผมกับมันกินและอยู่ด้วยกันตามปกติ  ใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติ  เหมือนคนที่เป็นทั้งแฟนและเพื่อน  มันไม่เคยบ่นเวลาที่ผมไม่เคยออกจากห้องเป็นเดือนๆเวลาผมวาดรูป  ไม่เคยงี่เง่าใส่ทั้งที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้มัน  มีบ้างบางเดือนที่ผมไม่ออกจากห้องเลย  มันก็ไม่เคยด่าหรือแอบน้อยใจ  และพอผมออกมาทีไรก็จะเห็นห้องที่สะอาดและมีอาหารรอพร้อม 

เพรสกับของขวัญก็ตัวโตขึ้นเรื่อยๆ  เจ็ดเดือนมาแล้วเพรสตัวใหญ่กว่ารีกาโลท่วมหัว  ของขวัญก็ตัวโตอ้วนป้อมแบบเด็กสุขภาพดี  ผมเป็นคนพาไอ้ไพรซ์กับของขวัญไปโรงพยาบาลเวลาที่ของขวัญป่วยหรือต้องไปฉีดวัคซีน  พาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้างหรือที่ดาดฟ้าของโรงแรมบ้างเพื่อความผ่อนคลาย

มันไม่เคยเรียกร้องอะไร 

เหมือนกับว่า  ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกันก็พอ 
 
ชีวิตเจ็ดเดือนที่ผ่านมาผมรู้สึกเหมือนตัวเองมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ  มีลูกที่น่ารัก  มีแม่บ้านที่แสนดี  มีหมาสองตัวที่หมาตัวโตเป็นลูกน้องหมาตัวเล็ก  มีคนรัก  มีแฟน  มีแม่ของลูก  มีเพื่อน  ไอ้ไพรซ์เป็นคนเดียวที่สามารถให้ผมมีได้ทุกอย่างในตัวคนๆเดียว
 
ทุกครั้งที่ผมวาดภาพและลงสีที่บนพื้นผ้าใบ  ผมจะลงสีด้วยความรู้สึกแบบนี้ทุกครั้ง 

ลงสีด้วยหัวใจทั้งหมดที่อยากปกป้องมัน  และสามารถทำลายได้ทุกคนที่จะทำให้มันร้องไห้


 
ผมมองภาพวาดขนาด  เบอร์หกสิบ  ตามมาตรฐาน  French  sizes  (130 cm x   89  cm)  ด้วยอารมณ์และความรู้สึกทั้งหมด
 
" My  Prize   By  Primo  Premio " 


เสร็จสมบูรณ์แล้ว   
 
 


 
.
.
.
 
 
 
 
 
" เจ้าของภาพเขาได้ดูหรือยัง"  อันนี้พี่ต้อมถามครับ  ผมเรียกพี่แกให้มารับรูปเพื่อที่จะส่งไปที่มิวนิค
 
" ยัง  ผมจะพามันไปดูที่มิวนิคเอง  แล้วจะพามันไปนีซต่อ (เมืองท่องเที่ยวของฝรั่งเศส) "
 
" แล้วนี่เขารู้รึเปล่าว่าภาพแรกที่มึงวาดจนได้รางวัลเป็นภาพเขา"
 
" โง่ๆอย่างไอ้ไพรซ์มันจะไปรู้อะไร  ทั้งชื่อนามปากกา  ทั้งชื่อรูป  ผมแสดงออกขนาดนี้  มันยังไม่รู้ตัวเลย"
 
" ก็มึงชอบไปทำหน้าเอ๋อใส่มัน  มันก็หลงกลมึงอ่ะดิ  อย่าไปหลอกไอ้ไพรซ์นักเลย  สงสารมัน  มันก็ชอบมึงมาตลอดห้าปีเหมือนกันน่า"
 
" สงสารอะไรมัน  ผมสิน่าสงสาร  ต้องแกล้งโง่ให้มันด่า  แถมโดนซ้อมอีก  เจ็บจะตาย"
 
 " มึงนี่น้าา  ชอบเขามาตั้งนานแต่เสือกทำเป็นซึน  นี่ดีนะที่ไอ้ไพรซ์มันรอมึง  ไม่งั้นกูจะหัวเราะให้ฟันหัก"
 
" ไม่มีทาง  มันมองผมคนเดียว  สายตามันมีแต่เงาของผม  มันไม่ทางหนีไปไหนแน่"
 
" เหรออออ  ระวังกูจะไปฟ้องไอ้ไพรซ์  ว่าที่มึงทำเอ๋อน่ะมึง..."
 
" ถ้าพี่ฟ้องผมจะเปลี่ยนเอเจนซี่"
 
" โอเคคร้าบ  น้องยูอาร์  ไอ้เด็กแสบ  อย่าให้กูมีโอกาสนะมึง  กูจะฟ้องไอ้ไพรซ์  มีรูปเดียวใช่ไหม  จะให้กูจองตั๋วเลยรึเปล่า"
 
" มีรูปเดียว  รูปอื่นผมส่งไปนีซแล้ว  จองตั๋วเครื่องบินได้เลย  เอา  first  class นะ จองเพื่อ  รีกาโล  เพรส  กับของขวัญด้วย  ไปมิวนิคเสร็จผมจะไปนีซต่อเลย  ไอ้ไอเอ็มมันอยู่ที่ฝรั่งเศษแล้ว  แม่กับพ่อกำลังจะตามไป  วันเกิดแม่พอดี  ไอเอ็มมันจะไปเปิดตัวลูกกับเมีย  ผมจะเอาไอ้ไพรซ์ไปเปิดตัวเหมือนกัน"
 
" เหรอออ  น่าอิจฉาโว้ยย  ทำไมกูไม่มีแบบมึงบ้างวะ  รักๆเลิกๆจนผมหงอกแล้วกูยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนซักคน  อิจฉาว่ะ"
 
ก๊อกๆ  ก๊อกๆ
 
เสียงเคาะประตูทำให้ผมเอาผ้ามาคลุมผลงานก่อนตีหน้ามึนเหมือนเดิมจนพี่ต้อมจิ๊จ๊ะ
 
" คนของของมาแล้วครับ  ให้เข้ามาเลยไหม  ไอ้เชรี่ยมึงไปโกนหนวดดิ๊  เดี๋ยวเขาก็นึกว่ามึงเป็นโจรมาขโมยรูปหรอก"
 
" มึงทำดิ  กูขี้เกียจ"
 
" ขี้เกียจหายใจด้วยไหมมึง  ข้าวน่ะจะแดกไหม  พี่ต้อมกินข้าวด้วยกันนะ  ผมทำเพื่อไว้แล้ว" ทีกับกูพูดเสียงแข็ง  ที่กับคนอื่นล่ะพูดเสียงอ่อนเชียว
 
" พี่..."
 
" ป้อนกูด้วย  กูหิว  กูขี้เกียจถือช้อน  ส่วนพี่ต้อมแกรีบกลับ  เก็บส่วนของพี่ต้อมให้กูแดกพอ  ป้อนเค้กกูด้วย  กูเหนื่อย"
 
ผมบอกตัดหน้าพี่ต้อม  ก่อนมองไอ้ไพรซ์ที่หน้าแดงไม่เลิก  คบกันมาตั้งนาน  ยังหน้าแดงได้อีกนะมึง
 
" ไอ้หน้าด้าน!  กูไม่ป้อนมึงโว้ย!"
 
" ไม่ป้อนกูจูบ  แล้วเค้กอ่ะ  ป้อนกับปากนะ  เอาเค้กส้ม  กูอยากกิน"
 
" ไอ้เชรี่ย!!! "
 
ปัง!!!
 
แล้วมันก็ปิดประตูหนีไปครับ
 
หึหึ  เมียใครวะ  ขี้อายจริง
 
" มึงนี่น้าาา  ไปแกล้งไอ้ไพรซ์มัน  มันจะรู้ไหมวะ  ไอ้ท่าทางเอ๋อๆของมึงน่ะ  ซาตานในคราบเทพบุตรชัดๆ"
 
" ต่อให้รู้ตอนนี้ผมก็ไม่ปล่อยมันแล้ว  รอมาตั้งห้าปีกว่าจะได้มันมาเป็นเมีย  คราวนี้ผมไม่ปล่อยมันไปแน่ๆ"
 
" เหรออออ  แอบชอบเขามาตั้งแต่ปีสาม  ยอมเรียนวาดภาพก็เพื่อวาดภาพเขา  โรแมนติกเหี้ยๆ  แล้วมึงจะรอทำไมวะ  คบกันไปแต่แรกก็จบเรื่องไปแล้ว"
 
คราวนี้ผมไม่ได้ตอบพี่ต้อม  ได้แต่ส่งยิ้มแบบกวนส้นไปให้  ก่อนจ้องมองภาพ  My  Prize  ที่กำลังถูกห่อ
 
เหตุผลที่ผมชอบไอ้ไพรซ์และรอมาห้าปี  ผมจะบอกมันตอนที่ไปที่นีซ
 
ที่ซึ่งผมแขวนภาพของมันไว้ในห้อง
 
ภาพแรกที่ผมวาดและได้รางวัล

โดยที่มันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นนายแบบ

ภาพ...
 
" First  Prize "

ที่มาของนามปากกา  Primo  Premio
 
รางวัลชีวิตที่ผมได้มาไว้ในมือ 
 
รางวัลที่ผมจะไม่ปล่อยไปเป็นครั้งที่สอง











=========================================


ตอนหน้า...

ตอนจบ!



เย้ๆๆๆ  ในที่สุดก็จะจบซักที  เรื่องแรกที่จบเลยนะเนี่ยยย ฮือออ :heaven
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 30-10-2013 14:32:57
โฮ่ ยูอาร์ นายมันฉลาดมากกกกกกกกกกกกก ?  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 30-10-2013 14:48:10
โอ้~ไม่น่าเชื่อจะจบแล้ว ยังหนุกอยู่เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 30-10-2013 15:31:05
ยูอาร์ นายมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน



ขี้โกงสุดๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 30-10-2013 16:26:53
ยูอาร์ นายแน่มาก

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 30-10-2013 18:33:14
น่ารักจัง ชอบเรื่องนี้มากกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-10-2013 18:39:04
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ก็จะจบแล้ว - -" มาช้าไปปปปป

สรุปยูอาร์มันแกล้งโง่ 555555555


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-10-2013 19:13:31
ยูอาร์ฉลาดมากกกกกก หลอกทำหน้ามึน ๆ 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2013 12:29:17
แหมเนอะ ทำได้ :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: matilda.taon ที่ 31-10-2013 19:59:23
UR แกนี่มัน :hao7: :hao7: :hao7:
ชอบๆๆๆๆ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-10-2013 22:19:39
อร๊ายยยยยยยย
เขินอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 31-10-2013 22:30:17
ตอนแรกอ่านผ่านๆ รู้สึกว่า
"พระเอกเรื่องนี้มันบ้า หรือมันเอ๋อว่ะเนี้ย"
แต่ตอนสุดท้าย มันโรแมนติกอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 31-10-2013 23:39:43
ที่เอ๋อๆนี่แกล้งมาตลอดเลยหรอ ร้ายกาจวะ 55555555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 03-11-2013 19:05:25
โอ้ว เรื่องสั้นจริง ๆ พึ่งเปิดเข้ามาอ่าน อ่านไปเพลิน ๆ ถึงตอนล่าสุด  :a5: ห๋า !!! ตอนหน้า ตอนจบ 555
แล้วอ่านตั้งแต่ต้นมานี่  เราโดนหลอกเหมือนน้องไพรซ์เลยซิ ยูอาร์เค้าไม่ได้โง่จริงด้วย แต่โคตรฉลาดร้ายเลยล่ะ
ตอนแรกคิดว่ายูอาร์เหมือนพวกเด็กพิเศษที่ฉลาดมีพรสวรรค์หลายอย่างแต่คงโง่กับเรื่องง่าย ๆ มั่ง
หรือเพราะแค่เห็นเป็นเพื่อนเลยไม่เคยคิดอะไรกะน้องไพรซ์  ยังว่าถ้าไม่เคยคิดอะไรทำไมจับน้องไพรซ์กินไวจัง 555 
แอบสงสารนึกว่าน้องไพร์ชถูกกินทั้งที่ยูอาร์ยังไม่ได้รู้สึกรักซะอีก แต่นี่หลงรักน้องไพรซ์ตั้งแต่ปีสาม
ถึงขนาดเรียนวาดรูปเพื่อวาดน้องไพรซ์ด้วย อยากรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมต้องทำเอ๋อ ๆ แล้วรอเวลาตั้งห้าปี
ทั้งที่รู้ว่าน้องไพรซ์ก็แอบรักตัวเองอยู่แล้ว แค่บอกรักไปก็ใจตรงกันแล้วแท้ ๆ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า  :pig4:  :กอด1:
+ 1 และเป็ด สำหรับความเนียนของยูอาร์จ้า ชอบรีกาโลเบอร์ต่าง ๆ และรีกาโลพีด้วยอะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 07-11-2013 01:21:11
โหยย โรแมนติกเหี้ยๆ
ไม่รู้เลยนะเนี่ย ก็ว่าทำไมยอมง่ายจัง
อยากอ่านตอนต่อไปจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-11-2013 02:02:42
 :katai3:เมื่อไหรมา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-11-2013 11:07:56
เรื่องน่ารักๆๆ มากเลย รอตอนสุดท้ายนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 07-11-2013 12:09:01
    คนเขียนอยู่ไหนน้าาาาาา :o8:

    คิดถึงอยากอ่านแระะะ :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 07-11-2013 17:07:43
ทำไมน้องพีพูดไม่ได้ :hao4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch5 (30/10/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 15-11-2013 16:51:02
 :call: :call:
ของขวัญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 16-11-2013 18:00:18
บทที่  6



The end

ผมชื่อยูอาร์  You  are   คุณคือ  หรือไอ้มึงที่ใครๆรู้จัก  ตอนนี้ผมอยู่กรุงมิวนิค  ประเทศเยอรมัน  ผมกำลังยืนอยู่กับไอ้ไพรซ์ผู้ชายที่โง่ที่สุด  แต่เป็นคนที่ผมรักที่สุดมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา

" นี่กูเหรอวะ"

" รีกาโลมั้งมึง  เห็นไหมว่ามันไม่มีหาง"

ป้าบ!

งื้อ...  ไอ้เมียโหด  ไอ้เมียสุดแสบ  เดี๋ยวกูทำให้ครางไม่ได้พูดไม่ออกเลยมึง

" กูหล่อขนาดนี้เลยเหรอวะ"  แน่ะ  มีชมตัวเองได้อีกเมียใครวะ

" มึงไม่หล่อ  มึงดูดี  มึงมันโง่  มึงมันไม่ฉลาด  มึงมัน..."

ป้าบ!

รอบที่สอง...

งื้อ~  ไอ้โหด!  กูอยากจะร้องเป็นภาษารีกาโลหนึ่งกับเพรสเซนต์หนึ่ง  ไอ้เมียโหด  ไอ้เมียแสบ

แต่อยากมีเมียโหดต้องทำใจ

เฮ้อ~  ยูอาร์เซ็ง...




ผมมองไอ้ไพรซ์ที่มองรูปตัวเองอย่างตื่นตะลึง  เป็นไงล่ะ  ดูดีล่ะสิ  กูใส่อารมณ์ศิลปินลงไปหมด  แต่โง่ๆอย่างมึงดูไม่ออกหรอก  เอารีกาโลเบอร์หนึ่งเป็นตัวประกัน  ถ้ามึงดูออก...  กูยอมรอมึงไปอีกสิบปีเลยถ้ามึงดูออก

" มัน...  แปลว่าอะไรวะ  My  Prize  ชื่อกู?  กูไปเป็นของมึงเมื่อไหร่"

....ก็บอกแล้วว่ามึงน่ะมันไอ้โง่  โง่กว่ากูอีก  กูแสดงออกออกจะชัดมึงยังไม่รู้ตัวว่ากูแอบชอบอยู่  สมองเป็นโปรโตซัวหรือไงมึง  โง่กว่ารีกาโลอีก

" เอ้าตอบมา  ไม่งั้นกูเก็บเงินค่านายแบบนะมึง  พี่ต้อมบอกถ้าขายคงได้ราคาแพง  มึงวาดให้กูใช่ไหม  กูจะได้เอาไปขายเป็นทุนการศึกษาให้ของขวัญ"

ครับ...  คุณเมีย  จัดการชีวิตและบัญชีเสร็จสรรพ  แถมวางแผนอนาคตให้หลานอีก  ได้ข่าวว่าของขวัญเป็นลูกไอ้ไอเอ็ม  มึงไปขอไอเอ็มแล้ว?  แต่อย่างมึงมั่วนิ่มเองตลอด  เรื่องอื่นน่ะฉลาดหมด  ยกเว้นเรื่องกู  แม่ง  โง่ดักดาน

" กูวาดภาพให้มึง  กูมองแต่มึงมาตลอด  มึงเป็นไหมว่าสีของแปรงมันไม่สะเปะสะปะ  มันออกเป็นแนวทางเดียวตลอด  รูปมึงเป็นรูปขาวดำแต่ดูเป็นมิติ  เป็นเส้นแสงที่กูอยากแสดงออก  ส่วนประกอบอื่นของภาพมีแสงสีหมดแม้แต่ฝุ่น  แต่เห็นไหมว่าตัวมึงเป็นตัวเด่น  เพราะมีแต่มึงที่สำคัญที่สุด  ถึงกูจะไม่ลงสี  ไม่ลงแสง  แต่กูมองแต่มึงมาตลอด  มึงเป็นรางวัล  มึงเป็นคนเดียวที่ทำให้กูอยากให้โลกมีสันติ  เพื่อที่มึงจะได้อยู่อย่างมีความสุข 

ถ้าจะมีคนใส่สีต่างๆในตัวมึง  ควรเป็นตัวกูที่มีสิทธิ  ไม่ใช่คนอื่น  คนที่ไม่เคยมองมึงมาก่อน"

ผมบอกมันที่เม้มปาก  มันมองผมแบบหงุดหงิดแล้ว... 

ป้าบ!

งื้อ...  กูพูดอะไรผิด

" พูดภาษาคนสัด  กูแปลไม่ออก"


.....ไม่อยากจะบ่น  แต่มันจะงงไปถึงไหววะ!  ผมแสดงออกขนาดนี้  พูดภาษาคนขนาดนี้  มึงจะโง่ไปถึงไหนวะ  ไอ้ไพรซ์!

ป้าบ!

คราวนี้ผมตบไอ้ไพรซ์บ้าง  หมั่นไส้มึง  กูแสดงออกขนาดนี้มึงไม่รู้สึก  โง่ดักดาน  โง่กว่ารีกาโลอีก

ป้าบ!

มันตบกลับ...

แล้วก็เกิดสงครามตบตีระหว่างผัวเมีย...

มองอะไร!  ไม่เคยเห็นคนตบกันหรือไง!

" ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ย!  มึงมันไม่น่ารักหรอก!  แล้วบอกกูมา...  มึงรักกูตั้งแต่เมื่อไหร่!  เอาภาษาคน  กูแปลไม่ออก!"

มันแปลไม่ออกตรงไหน  ผมออกจะอธิบายเก่ง  หรือคุณ...  ว่าไง



ผมมองรูป  My  Prize  ที่มันเป็นแบบ  ภาพนี้เป็นภาพที่ผมวาดด้วยใจทั้งหมด  ผมลงสีตัวมันเป็นแบบขาวดำ  มีแสงและเงาตามมุมตกกระทบทั้งหมด  ผมอยากให้มันเป็นตัวมันที่ใสสะอาด  เป็นคนที่ไม่ถูกสาดสีใส่  เป็นคนที่ไม่ว่าจะอยู่ในที่แบบไหน  มันจะเป็นตัวมันที่ผมแอบรักมาตลอด

ผมมองมันที่ยังมองรูปภาพของตัวเองที่ตัวเปลือยเปล่า  ภาพที่มันเอามือค้ำอยู่ที่เก้าอี้สตูสีแดงทำให้มันดูเด่น  แต่จุดที่ทำให้มันดูเด่นที่สุดคือดวงตา  ดวงตาที่มองมาโกรธๆยิ่งทำให้มันดูโดดเด่น  ทั้งที่มันเป็นมุมที่หลบแดด  แต่กลับแสดงความรู้สึกออกมาหมด 

Primo  Premio...

คนที่เป็นรางวัลของผม 

คนที่มองผมอยู่คนเดียวมาตลอด

โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอย่างอื่น








" ฮึก..." 

เวรแล้วกู

" ฮึก  แง..." 

จบกันกู

" ฮึก  ฮึก  โฮๆๆๆๆๆ"

" แง๊  แงๆๆๆๆ  เอ๊!!!!  แงๆๆๆๆๆ"

โอย  กูปวดหู!!!

เฮ้ออ  ตอนนี้มีตัวแหกปากอยู่ในรถไฟความเร็วสูงสองตัว  ตัวหนึ่งตัวพ่อ  อีกตัวหนึ่งตัวลูก  ไพรซ์กับของขวัญ... 

แง๊!!!!!

เออ...  ดี  แหกปากกันใหญ่  กูรำคาญ

" ฮึก...  มึง  มึงไม่คิด....ถึงของขวัญหรือไง  ลูกกู....  ลูกเรา....."

" .... "  ได้ข่าวว่าของขวัญมันลูกไอเอ็มที่มันเอามาฝาก

" มึงจะร้องทำไม  มันแค่ไปอยู่ที่นีซ  มึงเองก็อยู่  พี่กูก็อยู่  แล้วถ้ามึงอยากอยู่  มึงอยู่ถาวรไปเลย  กูจะทำเรื่องขอให้มึงอยู่ฝรั่งเศษยาวให้"

ป้าบ!

เง้อ...  กูพูดไรผิด

" ไอ้ - ใจ - ดำ!  มึงมัน....ไม่รักของขวัญนี่  กูเลี้ยง  ของกูมา  เกือบหนึ่งปี  ลูกแม่...  โฮ!!!"

เอ๊!!!  แอ!!!!

เฮ้อ...  กูล่ะเซ็ง

ผมตัดปัญหาโดยการปิดตา  แล้วปล่อยตัวแหกปากสองตัวแหกปากกันไป  ส่วนรีกาโลกับเพรสนี่หลับสนิท  ดีจริง  สุดยอดความมีประโยชน์ 

ผมหรี่ตามองสองแม่ลูกที่กอดกันอยู่  ร่ำลากันอย่างกับจะไปออกรบ  ตั้งแต่ออกมาจากแกลโดยที่ไอ้ไพรซ์ยังงงๆอยู่  ผมก็ไปรับของขวัญ  รีกาโลกับเพรสที่โรงแรม (ฝากพี่ต้อมดูอยู่)  เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปที่นีซ  ตาของไอ้ไพรซ์นี่แดงก่ำ  ส่วนของขวัญก็เบะปากใส่  แค่ขึ้นรถไฟไปฝรั่งเศษมึงยังแหกปากกันขนาดนี้  ถ้าตอนพวกมึงแยกจากกัน  มึงไม่ร้องจนเป็นสึนามิถล่มหรือไงวะ



แง้!!!!!


.....โอเค  กูยอมแพ้  กูปวดหัว  กูเซ็ง...

สุดท้ายผมต้องเอาสองแม่ลูกจอมเผาเต่ามากอดปลอบ  แหมะ  พอกูกอดเงียบกันเชียว  ของขวัญนี่ทำหน้าตื่นๆ(ผมไม่ค่อยกอดบ่อย  เอาแต่แกล้งหยิก)   ส่วนไอ้ไพรซ์...  อายกระทั่งกับหลาน  ขี้อายจริงมึง  เดี๋ยวโดนจัดหนัก

" มึงปล่อย...  กูจะกล่อมของขวัญให้หลับ  กูไม่แหกปากแล้ว  มึงอย่าทำตาหื่น  กู...  กูจะหยุดแหกปาก"

ดี  กูรำคาญ  แต่กูไม่ปล่อย  กูจะกอด

อย่ามึง 

อย่าดิ้นมาก  เดี๋ยวกูจูบ 


เฮ้อ...  แล้วกว่าทั้งสองตัวจะหลับเล่นเอาเหนื่อย  เพราะกว่าจะหลับเล่นร้องแล้วอีก  ปลอบแล้วปลอบอีก  เพราะถ้าถึงฝรั่งเศษไอ้ไพรซ์ต้องส่งของขวัญคืนแม่จริงๆของของขวัญที่รออยู่  เมียไอเอ็ม  ไอ้ไพรซ์เลยบ่อน้ำตาแตก

ส่วนหมาๆนี่ก็เป็นหมาที่ดีมาตลอด  มันผงกหัวมาดูกันตัวละทีก็นอนต่อ  รีกาโลนอนอยู่บนตัวเพรส  เจ็ดเดือนนับตั้งแต่ผมซื้อมันมาตอนเป็นลูกหมา  ตอนนี้มันเป็นหมาไซบีเรียนตัวใหญ่  ใหญ่กว่าเดิมเกือบสี่เท่าตัว  สูงประมาณเกือบเข่า  ตัวโตได้อีก  เหมือนเจ้าของเลยว่ะ     


ผมกอดสองตัวที่แหกปากจนหลับ  ผมอยู่ในรถไฟความเร็วสูงแบบที่เป็นห้องเดี่ยวเพื่อเดินทางไปฝรั่งเศษ  ก่อเปลี่ยนเที่ยวใหม่ไปที่นีซ  ผมอยากให้มันดูวิว  ผมกอดทั้งสองตัวที่หลับสนิท  คนหนึ่งเป็นเหมือนเพื่อน  เป็นเหมือนแม่ที่ดี  เป็นแฟนที่สมบูรณ์แบบ  ส่วนของขวัญก็เป็นหลานที่ผมอยากมี  ความจริง...  เรื่องที่ไอเอ็มเอาของขวัญมาฝากน่ะ  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก  ผมเป็นคนสั่งมันให้เอาของขวัญมาเอง  ส่วนโจ๊กเรื่องจดหมายน่ะ  เป็นเกมส์ที่เราชอบเล่นกันบ่อยๆ

อะไร  ใครหาว่าผมโกหก

ผมเปล่าโกหก 

เพียงแต่เรื่องที่ไพรซ์มันไม่รู้  คุณเองก็ไม่มีสิทธิ์รู้



ผมกอดแฟนกับหลานที่นอนหลับ  มันสองตัวเหมือนเทวดากับของขวัญตัวน้อยๆที่สวรรค์ประทาน  ไอ้ไพรซ์ดูน่ารักมาก  น่ารักว่ารีกาโลพีอีก  แต่ที่ผมอยากหิ้วรีกาโรพีกลับมาน่ะ  แค่อยากแกล้งไอ้ไพรซ์ต่างหาก  ไอ้ไพรซ์น่ะขี้หวง  แถมขี้หึงอีก  ตอนที่ผมหิ้วรีกาโลพีน่ะ  มันเหมือนอ้าปากจะด่า  แต่พอเห็นตาดุๆของไอ้พิทบลูก็หุบปาก  ฮาว่ะ  ไอ้พิทบลูก็ขี้หึงแต่ไม่แสดงออก  ผิดกับไอ้ไพรซ์ที่ด่าฉะ 

ผมจับไอ้สองตัวแหกปากให้นอนอยู่บนเตียงดีๆ  ก่อนนั่งลงเตียงฝั่งตัวเอง  รีกาโลผงกหัวมาแล้วลงมาจากตัวเพรสก่อนมาทับผมต่อ

" เดี๋ยวแม่แกก็รู้แล้ว  รู้ทุกอย่าง  รู้ด้วยว่าที่กูซื้อหมามา  ก็เพราะมันบ่นอยากได้  มันเป็นคนบอกเองว่าจะซื้อแต่ไม่มีเงินเลยซื้ออย่างอื่นแทน  มันเป็นคนบอกเองว่ามึงตาเหมือนมัน  มันเลยอยากให้มึงมาเป็นตัวแทน  คนอะไร  โง่ชิบเป๋ง  แค่เอาตัวมันมาก็พอ  ไม่ต้องเสียเงินซักบาท  ปัญญาอ่อนได้อีก"

ผมบ่นแล้วเขกหัวไอ้ไพรซ์ที่งึมงำอยู่ไปที

" อืออ..."   

มันคราง  แต่ยังหลับสนิท

งื๊ดด  หงิงๆ

อืมม  ภาษาหมาของผมยังใช้ได้อยู่  รีกาโลเอาหัวมาไถแบบส่งกำลังใจ  มันเอง...ฟังผมบ่นมาตลอดสี่ปี  ตั้งแต่ตอนที่ผมซื้อมันว่าเพราะไพรซ์บ่นอยากชื่อมาหมาให้ผม  มันบอกว่าอยากให้ผมเห็นมันอยู่ในสายตา  อยากให้ผมมองมันอย่างที่มันมองมาตลอด  แต่มัน...  ไม่รู้หรอก  ว่าผมเองก็มองแต่มันมาตลอด  โดยที่มันไม่เคยรู้ตัวมาก่อน   


 







" นี่กูเหรอวะ"  มันถามเป็นรอบที่ล้าน

" มึงเห็นไหมว่ามันไม่มีหาง  มันมีแต่ตา  มึงจะ..."

ป้าบ!

งื้อ...  ไอ้เมียโหด

ตอนนี้ผมอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลที่อยู่ที่นีซ  ปราสาทที่เป็นหอคอยงาช้างเก่าแก่  มันเป็นอดีตป้อมปราการขนาดใหญ่ในสมัยก่อน  คฤหาสน์แห่งนี้เป็นของสืบทอดมานานหลายสิบปี  หมายถึงสิบๆปีที่รวมกันได้หลายร้อยปีน่ะ

ผมพาไพรซ์มาที่คฤหาสหลังจากพาไปทักทายกับที่บ้านเสร็จ  ไอ้ไพรซ์นี่แทบปวดตับเมื่อเห็นต้นแบบกับต้นฉบับของผมที่อยู่กันครบหมด  พ่อกับแม่  ปู่ย่า  ตายาย  ไอเอ็ม  อยู่กับครบหมด  โรซานน่า(เมียไอ้ไอเอ็ม)กับพ่อแม่ของโรซานน่าก็อยู่  เรียกได้ว่าอยู่กันครบหมด  พ่อกับแม่ดีใจมากที่ผมกับไอเอ็มเป็นฝั่งเป็นฝา  ท่านอยากอุ้นหลานน่ะ  ถึงหลานอีกคนต้องรอก่อนก็ไม่เป็นไร  ท่านแค่อยากเห็นเรามีความสุข 

" ไพรซ์เหรอลูก  น่ารักเหมือนที่ซีน่าบอก  แม่แปลเสียงอ้อแอ้ของหลานออกน่ะ  คุณมาดูสิ  น่ารักเชียว  my  prize..  เด็กผู้ชายใช่ไหม  ตัวเตี้ยไปหน่อย  แต่ไม่เป็นไร  แม่ไม่พาไปเคสหรอก  แม่เป็นอดีตนางแบบ  ส่วนคุณตากับคุณยายท่านเป็นอัจฉริยะที่อยู่สาขาเคมีฟิสิกซ์  ทำงานเกี่ยวกับสสาร  ยูอาร์น่ะเหมือนคุณตา  แต่ผิวเหมือนคุณยาย  เป็นคนเผือกน่ะ  แต่เราก็ขาวนะ  น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นมากกว่า  คุณดูสิขาวเหมือนคุณเลย  ขนาดคุณเป็นลูกครึ่งยังขาวไม่เท่าไพรซ์เลย  อิจฉาล่ะสิ"

....เป็นไงล่ะ  รู้รึยังว่าผมได้นิสัยพูดติดเป็นต่อยหอยมาจากใคร

หลังจากจบประโยคนั้นไอ้ไพรซ์ก็ลากผมแถกๆ  มันคงตกใจน่ะ  ตอนแรกมันกะขนของขวัญกับหมามาด้วย  มันบอกบ้านผมแปลก  แปลกแบบปัญญาอ่อนๆ

" แม่ง  ที่เขาว่าอัจฉริยะกับคนบ้านี่ห่างกันแค่เส้นกั้นนี่ท่าทางจะจริงว่ะ  แม่มึงจบสาขาเคมีฟิสิกซ์แต่ดันเป็นนางแบบ  พ่อมึงจบสถาปัตแต่เป็นผู้บริหารธุรกิจ  ปู่ยาเป็นนักการทูต  ตายายเป็นนักเคมี  เหมาะกันมากมึง  ไปจูนกันอีท่าไหนวะ"

ครับ..  อย่าถามดีกว่าไปจูนอีท่าไหน  เพราะกูก็ไม่อยากถาม  กูกลัวรู้คำตอบ

หลังจากที่ผมมาถึงนีซ  ก็พามันไปเปิดตัว  ก่อนที่มันจะลากผมแถกๆหนีออกมาจากบ้าน  ที่บ้านผมก็เห่อ  ของขวัญ(หรือซีน่า)  รีกาโล  เพรส  กับไพรซ์กันใหญ่  แต่ผมขอดึงตัวมันออกมาก่อน 

ผมดึงมันมาขึ้น  Vanquish  คันโปรดก่อนพามันทัวร์รอบหาด  ก่อนพาไปคฤหาสน์ที่อยู่ที่  Eze  มันเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีภูเขาหินโอบล้อม  คฤหาสน์หลังนี้อยู่ในมือตระกูลผมมาหลายชั่วอายุคน  อยู่บนเขาที่เห็นทะเลมอนติ  คุณยายท่านส่งต่อมาให้ผม  คนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนคุณตา  ส่วนไอ้ไอเอ็มที่เหมือนคุณยายได้ที่ดินแถบรัสเซียที่เป็นของคุณตาไป

" นี่ตากู?  มึงมองกูมาตลอด?"

" ใช่  กูมองมึงมาตลอด  มีแต่มึงที่กูมอง  แต่มึงมันไม่เคยรู้ตัว  กูต้องรอมึงมาตลอดห้าปี  มึงสำนึกผผิดหรือยัง..."

ป้าบ!

งื้อ  อะไรอีกว้า

" ได้ข่าวว่ากูเป็นคนขอมึงเป็นแฟนก่อนสัด!  แล้วทำไมมึง..."

" อ่อ...  กูอยากแกล้งมึงน่ะ  เห็นมึงเอ๋อดี  กูเลยอยากแกล้งมึง"

ป้าบ!


.
.
.


เพี๊ยะ  ผลั่วะ  ตุบตับ  ตุบตับ

งื้อ...  ผมถูกซ้อม  ถูกเมียซ้อม  กูแค่ล้อเล่นนิดหน่อย  ลงไม้ลงมือตลอด  ไอ้เมียโหด

" บอกกูมา!" 

แน่ะ  มีตะโกน  เห็นกูไม่ตอบหน่อย  เอาใหญ่ 

ผมกดปากแลกจูบกับมันไปที  โทษฐานที่มันตบ  มันครางแผ่ว  ดีมึง  หุบปาก  กูเจ็บปาก  ตบจนกูเกือบปากแตก 

" ไอ้มึง! "

" เออๆ  กูโกหก  กูโกหกมาตลอด  กูมองมึงมาตลอด  แต่กูไม่อยากให้มึงเสียใจ  กูไม่มั่นใจในตัวเอง  กูเลยรอไปก่อน"

" .... "

อ่าว  คราวนี้มันไม่ตอบ  มันไม่ด่า  แต่ตาแดงๆ  อย่าแหกปากนะมึง  กัดปากไว้  อ่าา...  เซ็กซี่ได้อีก  แต่ขืนผมจูบอีก  ผมคงโดนต่อย

" กู...  มองแต่มึงมาตลอด  ตั้งแต่ตอนมึงอยู่ในดงตีน  มึงแม่งเอ๋อ  เขาตีกันเพื่อแย่งมึง  มึงยังเอ๋อได้อีก  เออๆ  กูรู้ว่ามึงรำคาญ  ตามึงมันบอก  แต่ตอนที่มึงอยู่ในดงตีนน่ะ  มึงไม่รู้หรอกว่ามึงทำตาแบบไหน  ตามึงสวย  ใส  วาววับด้วยความโกรธ  ตามึงดูโกรธๆอยู่ตลอด  แต่ในนัยน์ตาโกรธๆของมึงน่ะ  มีความเบื่ออยู่  เออๆ  กูปล่าวโรคจิต  แต่ตามึงสวย  มันดูวับวาว  ทั้งที่เบื่อแต่กลับเต็มไปด้วยชีวิตเต็มไปหมด  ผิดกับกู  ตากูตายซาก  กูมองไม่เห็นสี  ไม่เห็นแสง  กูอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด  ถึงกูจะอยู่แบบคนปกติ  แต่กูไม่เคยปกติ  กูไม่เคยมีใคร  จนอยาก...  มีมึง"

ใช่  ผมอยู่คนเดียวมาตลอด  ตั้งแต่อดีตผมไม่เคยมีใคร  เพราะเป็นเด็กพิเศษที่เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ  ผมถึงอยู่อย่างโดดเดี่ยว  ผมไม่เคยมีใครนอกจากไอเอ็ม  จนกระทั่งมาเจอกับมัน

" ตามึงเป็นสีน้ำตาล  เป็นครั้งแรกที่ตากูเห็นสี  ทั้งที่เป็นดวงตาแบบธรรมดา  แต่กลับมีชีวิตอยู่เต็มไปหมด  ตามึงสวยใส  แค่เห็น...  กูก็ไม่อยากหลบตา  อยากมองตาอยู่ตลอด  จนมึงสบตากูจังๆ  มึงเสือกหลบตา  ตอนนั้นหน้าสามปลิวมาจนเกือบโดนมึงพอดี  กูเลยไปช่วย  กูไม่ได้ห่วงมึง  กูห่วงตามึงต่างหาก  กูพูดจริง  กูห่วงตามึงก่อน  ก่อนห่วงมึงอีกที  แต่สุดท้ายกูถูกรุมตีน  ฐานเป็นตาอยู่"

ผมบอกตอนที่มันหลุบตา  ผมมองตามันมาตลอด  มองแต่ดวงตา  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแสงสว่าง  เป็นครั้งแรกที่เห็นแสง  ผมอยู่คนเดียวมาตลอด  ท่ามกลางแสงขาว  มันดูสะอาด  แต่ว่างเปล่า  จนเมื่อเห็นตามัน  ผมถึงเห็นแสง  เห็นสี  เห็นแต่ตามันมาตลอด

" ....แต่รูปมึง  มันเป็นตาสีเขียว"

ใช่...  รูปที่ผมวาดจนรางวัลมา  รูป  First  Prize  เป็นรูปดวงตาสีเขียวดูวาววับเต็มไปด้วยความโกรธ  เป็นรูปตาที่ผมเห็นจากตามันครั้งแรกตอนที่มันกำลังโกรธ  แต่สีของดวงตาเป็นสีจากตาของผมเอง  เป็นสีตาที่มีภาพพิมพ์มาจากแบบตาของไอ้ไพรซ์อีกที

" มึงเป็นคนแรกที่ทำให้กูอิจฉา  มึงเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน  ถึงมึงจะดูเบื่อๆอยู่ตลอด  แต่มึงไม่เคยโดดเดี่ยว  มึงมีเพื่อนที่จริงใจอยู่ตลอด  ผิดกับกู  ที่มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลัง  แต่กูไม่เคยเห็นอะไรซักอย่าง  ไม่เคยเห็นความจริงใจ  เจอแต่คนตลบแตลง  กูอยากเป็นแบบมึง  เลยวาดสีตาแบบที่เป็นตัวกู  คนที่อยากเป็นแบบมึง  คนที่เป็นคนธรรมดา"

" แล้วกู...  ไปเป็นแบบให้มึงเมื่อไหร่  ทำไมมึงอิจฉากู  ทำไมมึงไม่เคยบอกกูมาก่อน"

" กู...ไม่แน่ใจตัวเอง  กูไม่เคยรักใครมาก่อน  กูไม่อยากทำให้มึงเจ็บปวด  กู...  ไม่เคยรู้จักความรัก  กูกลัวกูทำมึงเจ็บ  กูไม่เคยเห็นแสงแดดอันอบอุ่น  อยู่เมืองไทย  กูอาจเป็นคนปกติ  แต่พออยู่ที่อื่น  กูเป็นคนที่โดดเดี่ยว  อยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีขาวสว่าง  ต่อให้เป็นถนนเปื้อนเลือด  มันก็เป็นถนนสีขาว  กูฆ่าคนตาย...  ไม่ได้ยิงคนหรอก  กูเป็นนักธุรกิจ  ปีศาจแห่งวงการธุรกิจ  กูฆ่าคนผ่านธุรกิจ  กูเทคโอเวอร์มาหลายบริษัท  เหมือนเป็นเกมส์แก้เบื่อ  กูอยากเห็นคนอื่นสิ้นหวัง  ในเมื่อกูเบื่อกูเลยอยากเห็นคนอื่นสิ้นหวัง  แต่กูกลัว...  กูกลัวตัวเองว่าจะเข้าใจคำว่าความรักผิดไป  แล้วสุดท้ายจะเป็นตัวกูเองที่อยากทำให้มึงหลงทาง  อยากให้มึงทรมาน  แบบที่กูเคยเป็นมาก่อน"  ผมบอก

ผมกลัวตัวเองจริงๆ กลัวว่าจะเป็นผมเองที่อยากเห็นมันทรมานเจ็บปวด  ผมไม่เคยมีใครมาก่อน  ทุกอย่างที่ผ่านมาเหมือนมันเป็นเกมส์แก้เบื่อ  ผมชอบเห็นความผิดหวังของคนอื่น  ชอบเห็นเวลาที่คนล้มลง  ผมไม่ได้ดูถูกเหยียบย่ำ  แต่เหมือนมันเป็นเกมส์ที่พอจบเกมส์ก็เริ่มเกมส์ใหม่ 

ผมกลัวว่าพอผมเบื่อมัน  ผมจะเป็นคนทำลายมัน  ผมสามารถทำให้มันรักผมตอบ  และผมจะทรมานมันก่อน  ก่อนที่จะบอกเลิกมันให้มันอยู่อย่างเจ็บปวด  ผมสามารถนอนกับมันแล้วทำมันเหมือนเป็นเศษขยะ  แต่ผม...  ไม่อยากเห็นน้ำตาของมัน  ไม่อยากเห็นมันเจ็บปวด  ไม่อยากเห็นตาใสๆเปลี่ยนไปเป็นความว่างเปล่า  แบบที่ผมเป็นอยู่

ผมต้องใช้เวลาสามปีในช่วงที่อยู่มหาลัยในการหักดิบ  ทุกครั้งที่มันแอบมองมา  ผมต้องข่มใจไม่ให้อยากทำลายตาใสๆที่เปี่ยมไปด้วยความหวังแบบนั้น  ตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก  ทั้งที่มันเพิ่งเห็นผมตอนที่มันอยู่ในดงตีน  แต่มันก็รักผมมาตลอด  แต่เป็นผมที่ต้องถอยห่าง  เพราะผมกลัว  กลัวเผลอทำให้มันเจ็บ

ผมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก  ทำเป็นจำไม่ได้  ตอนที่มันมาขอเป็นแฟนผมก็แกล้งเอ๋อ  ผมรักมันมาตลอด  แต่ผมก็อยากเห็นเจ็บปวด  อยากเห็นมันเป็นเกมส์อีกเกมส์ที่ใช้แก้เบื่อ  แต่ทุกครั้งที่ผมจะลงมือ  ผมกลับลังเล  ผมไม่อยากทำลายมัน  ผมต้องข่มใจอยู่นาน  ต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นาน 

จนตอนที่ผมวาดภาพ  First  Prize  เสร็จ  ผมถึงได้ตัดสินใจ...  ที่จะอยู่ห่างมันมาอีกสองปี  ผมมองตาตัวเองในทุกวัน  เพื่อที่ว่าเมื่อผมไม่เห็นหน้ามัน  ผมจะได้รู้สึกรัก  และอยากปกป้อง  เพราะคงไม่มีใครอยากให้ตัวเองเจ็บ  ผมทนอยู่ต่ออีกสองปี  โดยไม่ฉุดกระชากลากถูมันให้มาหาก่อน  ผมรอ...  จนแน่ใจว่าผมคงปกป้องมันได้จริงๆ  ปกป้องมันจากตัวผมเอง  ที่เคยคิดร้ายกับมันมากที่สุด

" กูรออยู่อีกสองปี  วันที่มึงรับปริญญา  กูก็แอบดูอยู่  แต่กูไม่ได้เดินไปหา  กูกลัวกูทำมึงเจ็บ  กูกลัวว่ากูจะเป็นคนทำลายรอยยิ้มของมึง  มึงสดใส  มึงเป็นรางวัล  เป็นรางวัลแห่งความอดทน  กูไม่เคยอดทนรอใครมานานขนาดนี้มาก่อน  ตอนที่วาด  First  Prize  กูอยากให้กูเป็นแบบมึงมาตลอด  กูจะได้ไม่ต้องรออีกสี่ปี  สองปี  หรือหนึ่งปี  ถ้ากูเป็นคนปกติ  กูคงมีความสุขไปแล้ว  กูไม่อยากมีความสุขแค่เพียงชั่ววูบ  กูอยากมีมึง...  อยู่ตลอด"     

ผมบอกเสียงแผ่ว  ช่วงสองปีสุดท้าย  ผมฝันถึงมันมาตลอด  ตั้งแต่วันที่หักดิบไม่เห็นหน้า  ผมฝันถึงแต่มัน  เป็นมันที่มาปลุกผมตอนเช้า  เป็นมันที่คอยมาบอกรัก  เป็นมันที่อยู่กลางแสงสีขาวที่คอยบอกรักผมตลอด

" มึง...  กลัวกูหรือเปล่า  กูออกจะโรคจิต  ที่อยากทำมึงเจ็บ  แต่กู...  อดทนมาตลอด"

" กูไม่กลัว...  แต่กูโกรธ...  กูโกรธ  ที่มึง...  ทำร้ายตัวเองมาตลอด..."

มันบอกแล้วมัน...  ก็กระชากผมเข้าไปจูบ  น้ำตามันไหล  มันบอกผมน่าสงสาร  ทั้งที่ผมทำมันเจ็บ  จะทำมันเจ็บ  แต่มันกลับบอกสงสาร

" กูไม่รู้มาก่อน...  กูไม่รู้ว่าก่อนมามึงเจ็บ  มึงโดดเดี่ยว  เจ็บมากไหมที่ทำร้ายตัวเอง  มึงทำร้ายตัวเอง...  โดยการอดทนเพื่อกูมาตลอด  กูขอโทษ  กูไม่รู้มาก่อนว่ามึงเป็นแบบนี้  ทั้งที่กูมองมึงมาตลอด  แต่กูกลับ  ดูไม่ออก"

" กูเจ็บ...  เพื่อมึงคนเดียว  มึงอย่าร้อง  ยิ่งมึงร้องกูยิ่งเจ็บ"

" ฮึก  กูร้องไห้เพราะมึงเจ็บต่างหาก   มึงมันไอ้โง่  ถ้ามึงบอก...  มึงคงไม่เจ็บแบบนี้  กูรอมึงมาตลอด  มึงน่าจะบอก  มึงจะได้ไม่เจ็บอยู่คนเดียว  มึงจะมีกูช่วยเจ็บ  มึงจะได้...  มีกู"

มันบอกแล้วจูบ  จูบที่ออกเค็มๆจากน้ำตา  จากของผม  จากของมัน

" ....เป็นมึงได้ไหมที่จะไม่ทำกูเจ็บอีก  เป็นมึงได้ไหม  ที่จะไม่ทิ้งกูไป  ไม่ว่ากูจะเลว  หรืออยากทำลายมึงมากแค่ไหนก็ตาม"

" มึงน่ะไม่ได้เลวหรอก..  แต่โคตรเลว  แม่ง  เสือกทำตัวเองเจ็บ  ไอ้มาโซ  ไอ้ซาดิส "

มันบอกแล้วจูบ  จูบที่ดวงตา  จูบที่ริมฝีปาก  ก่อนกดปากลงมาอีก  แล้วบอกคำตอบ

" ขอบคุณ  ที่ไม่อยากทำกูเจ็บ  ขอบคุณที่เจ็บแทนกูอยู่ตลอด  ต่อไป...  กูจะอยู่กับมึงตลอด  เพราะกูจะไม่ปล่อยให้มึงเจ็บ  ไม่ปล่อยให้มึงปวด  และอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป"




You  are  my  prize  คนที่ทำให้ผมไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว

You  are  my  first  prize  คนที่ทำให้ผมเห็นว่าแต่ละชีวิตมีความหมาย

Only  You  I  want,  Only  you  I  need   คนที่ทำให้พ้นหลุดพ้นและไม่ต้องอยู่กับคำว่าโดดเดี่ยว 

คนเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อทำให้มันมีความสุข 

และเป็นคนเพียงคนเดียวที่ทำให้ผมรู้จักความหมายของคำว่ารัก




You  are  my  first  prize.

You  are  Primo  Premio.

คนที่ผม...  รักมากที่สุด




THE  END
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 16-11-2013 18:12:34
บทส่งท้าย 

UR' s  Dairy



ผมชื่อยูอาร์  You  are   คุณคือ  หรือไอ้มึงที่ใครๆรู้จัก...

ผมเป็นเด็กพิเศษที่เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ  ผมอยู่คนเดียวมาตลอด  ไม่เคยมีใครฟังผมเข้าใจนอกจากไอเอ็ม  มัมกับเด๊ดเองก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง  ผมเข้าใจและรู้เรื่องทุกอย่างแต่ไม่อาจสื่อสาร  ผมเริ่มพูดเป็นประโยคได้ตั้งแต่ตอนอายุไม่ถึงหนึ่งขวบ  แต่ภาษาสำเนียงกับภาษาที่ใช้กลับไม่มีใครฟังออก  ตอนแรกเขาบอกผมเป็นออทิสติก  แต่โครโมโซมผมที่ตรวจออกมามันปกติ  ผมถึงเป็นเด็กพิเศษ 

ผมไม่เคยคุยกับใครเพราะไม่มีใครอยากคุยด้วย  ผมอ่านหนังสือกับตำรามาตั้งแต่เด็ก  ผมอ่านแล้ววาดผังดวงดาวได้ตอนสามขวบ  ท่องสูตรคูณธรรมดายันสูตรเคมีฟิสิกซ์ได้ตอนอายุสี่ขวบ  เริ่มประดิษฐ์และทำจรวดรวมถึงแกะวงจรคอมได้ตอนห้าขวบ  ดนตรีกีฬาทุกอย่างผมเล่นได้หมด  แต่สิ่งที่ผมทำไม่ได้คือการคุย...  ภาษาที่มีในหัวเกือบสี่สิบภาษาผมพูดออกมาได้หมด  แต่กว่าผมจะพูดเป็นประโยคให้คนอื่นเข้าใจก็เป็นตอนที่ผมอายุแปดขวบ  ไอเอ็มเป็นคนสอนผม 

หลังจากนั้น...  ทุกอย่างเหมือนไม่มีความหมาย  ผมไม่เห็นคุณค่าของการอยู่ต่อ  เพราะการเป็นคนพิเศษหมายถึงไม่มีอะไรให้ต้องแก้ไข  ผมมีทุกอย่าง  ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าผมเองก็สามารถมองออกแล้วแก้ปัญหาได้ได้หมด  ไม่เคยมีอุปสรรค  ไม่เคยมีใครกล้าเถียง  ขนาดตากับยายที่เป็นอัจริยะด้านฟิสิกซ์เคมีเวลามีปัญหาก็มาถามบ่อยๆ  จนคุณพ่อกับคุณแม่เป็นกังวล  ท่านกลัวว่าจะมีคนมาจับผมไปถ้าผมยังฉลาดอยู่แบบนี้   

พวกท่านเริ่มหันมาเปลี่ยนแปลงชีวิตแล้วทำตัวเป็นคนปกติ  เป็นดารานางแบบ  เป็นผู้บริหารไม่ใช่สถาปนิก  ไม่ใช่นักฟิสิกซ์เคมีรุ่นใหม่ที่ใครๆก็อยากดึงตัว  พวกท่านพยายามสอนให้ผมเป็นคนปกติ  เป็นคนปกติธรรมดาที่สามารถมีที่อยู่และสามารถอยู่บนดาวแห่งนี้

" ยูอาร์  โตขึ้นหนูอยากป็นอะไร"

" .... "

นั่นสิ  โตขึ้นผมอยากเป็นอะไร  ผมที่สามารถทำได้ทุกอย่างแต่กลับอยู่อย่างไม่มีจุดหมาย  ผมไม่ได้อยากเป็นมดเอ็กซ์แบบในการ์ตูนญี่ปุ่น  ไม่มีความฝันที่อยากเป็นกะลาสี  ไม่อยากเป็นนักล่าสมบัติ  ไม่อยากเป็นครู  ตำรวจ  หรือทหาร  ทุกอย่างดู...  ว่างเปล่าไปหมด

จนเมื่อจบมอหกของโรงเรียนเด็กพิเศษ  ไอเอ็มมันบอกให้ผม " ลอง " เป็นคนปกติ  หลังจากที่มันเห็นผมฆ่าคนแบบไม่เสียเลือด  มันก็อยากให้ผมลองเป็นคนปกติ  เป็นคนที่จะได้เจอกับความรัก  แล้วอาจจะเจอกับความหมายของการอยู่ต่อ

" กูรักโรซานน่ามาตั้งแต่เขาสิบขวบ  แต่เห็นกูก็รัก  โรซาน่าเป็นคนที่ทำให้กูอยากเป็นคนถ่ายแบบ  กูอยากเห็นเขาอยู่ในมุมมองที่กูจัด  อยากเห็นเขาอยู่ในสายตาผ่านกล้อง  อยากเก็บเขาอยู่ในความทรงจำเท่าที่กูจะจำได้หมด  กูไม่ได้มีความทรงจำแบบภาพถ่าย  กูจำได้ไม่หมด  ดังนั้น..  กูจะเป็นตากล้อง  เพื่อที่กูจะได้เก็บภาพคนที่กูรักไว้ดูคนเดียวตลอด  โดยที่กูจะไม่ลืม"

ไอเอ็มบอกผมวันที่มันจะไปฝรั่งเศษเมืองแห่งแฟชั่น  ตอนนั้นผมเองก็ดีใจกับมันที่มันสามารถมีเหตุผลในการอยู่ต่อ  มันอยู่ต่อเพื่อถ่ายรูปคนที่มันรัก  ในขณะที่ผมยัง...  ว่างเปล่า

ผมลองสอบเอ็นท์แบบเด็กปกติ  พยายามทำข้อสอบให้สลับกันแบบผิดๆถูกๆซึ่งมัน...  ยากที่สุด  ตอนนั้นแหละที่ผมรู้ว่าการเป็นคนธรรมดามันยาก  ผมเริ่มเป็นเด็กเอ๋อเพราะทำอะไรไม่ถูก  คือ..  ผมพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ  มันก็เลยดูแปลกๆ  ก็ผมไม่รู้นี่หว่าว่าคนปกติเป็นแบบไหน  ใครมันจะไปรู้วะว่าคนปกติไม่อ่านหนังสือทั้งแถบ  ไม่ทำสิ่งแปลกๆอย่างการคิดสูตรเคมีสูตรใหม่  ทดลองสารตัวใหม่แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน  ทำตลาดหุ้นปั่นป่วนเพราะความเบื่อ  ดีนะที่มัมมาทำลายหลักฐานทัน  ไม่งั้นผมคงได้ออกข่าว  แล้วลำบากมัมให้ปิดข่าวอีก

แต่ถึงผมจะเริ่มสนุกกับการเป็นคนปกติ  แต่ผมก็ยังไม่รู้ความหมายของการอยากอยู่  ราวกับต่อให้มียูเอฟโอมาโผล่ด้วยความเร็วเหนือแสงผมก็คงทักทายมันตามปกติ  จนกระทั้งตอนผมอยู่ปีสาม  ที่ผมได้เจอกับไอ้ไพรซ์ 

ตอนนั้นมันดูเอ๋อกว่าผมอีก  มันที่เรียนบริหารไปทำอะไรอยู่ในดงตีนสถาปัตกับวิศวะวะ  อ่อ  ไอ้พวกนั้นมันรุมตบตีแย่งไอ้ไพรซ์กัน  แต่อย่างไอ้ไพรซ์น่ะเหรอจะรู้เรื่อง  มันแม่งยืนเด่นเป็นสง่าแบบไม่รู้ตัวว่ามันเป็นคนก่อเหตุ  ความจริงมันก็รู้แหละ  แต่มันทำท่าเหมือนเบื่อๆมากกว่า  ประมาณว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมาก  แล้วจากนั้นก็ส่งสายตาดูถูกให้กับคนที่ตีกันอยู่  ตาสีน้ำตาลออ่อนดูวาววับแต่เต็มไปด้วยความเบื่อ  แต่ในชั่วขณะที่มันหันมามองตบตา  สายตามันเปลี่ยนจากเบื่อ  ดูถูก  เป็นตกหลุมรัก  มันมองผมตื่นๆ  เหมือนกับมันเคยเห็นผมมาก่อน  มันหลบตาหน้าแดง  ก่อนที่ผมจะวิ่งออกไปช่วยมันตอนที่มีไม้หน้าสามปลิวมาพอดี

" ยูอาร์!"

เออ  มันรู้จักผมจริงด้วยแฮะ  ผมที่กำลังมึนเพราะเมาไม้หน้าสามไม่ได้ตอบกลับ  แต่กลายเป็นว่าไอ้ที่ตีกันอยู่น่ะหันมารุมผมแทน  หาว่าผมเป็นตาอยู่มาชิงพุงปลา  คือตอนนั้นผมยังอยู่ในสภาพหล่อน่ะ  ไม่เคยปล่อยตัวให้โทรม(เพราะคิดว่าคนปกติเป็นแบบนั้น)  นั่นแหละ  ผมเลยถูกยำตีนโทษฐานอยากเป็นพระเอกตัดหน้าพวกมัน  แล้วหลังจากนั้นผมก็แอบมองไอ้ไพรซ์อยู่ตลอด  ไม่รู้สิ  มันเหมือนกับเห็นแสงสว่าง  ดวงตามันที่มองผมวันนั้นผมจำได้ทุกรายละเอียด  ดวงตาที่เหมือนจะโกรธๆเบื่อๆ  ดวงตาที่ดูวาววับก่อนเปลี่ยนเป็นตกตะลึง  ก่อนเปลี่ยนเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเขินอายกึ่งโกรธ  มันที่มีคนเดียวแต่สามารถเปลี่ยนรูปแบบและสีตาได้ทำให้ผมอยากค้นหา  อยากค้นหาว่าอะไรทำให้คนๆหนึ่งที่เป็นคนธรรมดาถึงรักผมได้ขนาดนี้ 

และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักคำว่า " รัก "

ผมอยากตื่นมาแล้วได้ยินมันบอกรักทุกวัน 

อยากตื่นขึ้นมาในแสงสีขาวที่ว่างเปล่าแล้วมีมันกระซิบบอกคำรัก 

อยากมีมันแค่คนเดียว


ผมรีบโทรไปบอกไอเอ็มทันทีที่ได้สติ  ผมบอกมันว่าผมรู้จักคำว่ารัก  ไอ้ไอเอ็มก็ดีใจกับผม  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กสามขวบที่เริ่มเรียนฟิสิกซ์  เอ่อ..  ผมเรียนฟิสิกซ์ตอนสามขวบ  นั่นแหละ  ผมรู้สึกว่ามันน่าค้นหา  แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นความรักแน่รึเปล่า  ผมอาจจะแค่หลงเพราะเห็นสิ่งใหม่  ดังนั้นตอนที่ไอ้ไพรซ์มาขอคบผมเลยตอบไปแบบมึนๆไปก่อน  ผมไม่อยากทำมันเสียใจ  ไม่อยากให้มันถูกทิ้งเพราะผมอาจเบื่อ 

ตอนนั้นเองที่ผมเริ่มเรียนศิลปะ  ถึงผมจะเคยเรียนมาก่อน  แต่ผมก็เรียนไปแบบเกนๆไม่เข้าใจความหมายของมันเท่าไหร่  ถึงจะมีคนบอกว่างานผมเป็นงานชิ้นเอก  แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันเป็น  เพราะรูปที่ผมวาด  ต่อให้มันมีสีสันผมก็มองเห็นแต่ความว่างเปล่า

ผมเรียนศิลปะกับคนที่คุยกับผมรู้เรื่องผ่านภาพต่างๆ  อาจารย์เป็นคนสอนให้ผมถ่ายทอดเรื่องราวเป็นรูปถ่ายที่อยู่ในผืนผ้าใบสีขาว  ผมเริ่มวาดรูปและเขียนภาพผ่านความทรงจำทั้งหมด  ตั้งแต่เรื่งราวราวตอนเด็กจนมาถึงเรื่องราวตอนโต  แต่น่าแปลกที่เรื่องราวตอนเด็กเป็นเรื่องราวที่ไม่มีสีสัน  มันมีแต่สีขาวที่ว่างเปล่าอยู่บนพื้นผ้าสีขาวสะอาด

" สีขาวก็ไม่ใช่สีที่ไม่ดี  มันรอให้เธอมาเติมสีอยู่  เธอเจอสีแล้วหรือยัง"

นั่นเป็นประโยคเดียวที่อาจาร์บอก  เป็นครั้งแรกที่อาจารย์พูด  หลังจากมองดูผมลงสีที่มีแต่สีขาวลงบนผืนผ้าใบผืนใหม่ 

หลังจากนั้นมาผมก็เลิกที่จะลงสี  ผมเปลี่ยนมาเขียนเรื่องราวของสิ่งมีชีวิต  สิ่งที่ผมสนใจ  และสิ่งที่ผมสนใจมีเพียงอย่างเดียวคือมัน...

ผมเริ่มร่างแบบ  และร่างภาพมันที่แอบดูผมอยู่  ทุกครั้งที่มันมองมาแบบอายๆ  ทำอยากทำลายรอยยิ้มของมัน  ผมอยากทำลาย  เพราะกลัวคนอื่นจะชิงทำลายรอยยิ้มนั้นไปก่อน

" มันไม่ผิดปกติหรอก  ยูอาร์  เวลาเรารักใครเราก็อยากเป็นเจ้าของ  เหมือนที่กูอยากเป็นเจ้าของโรซานน่า  แต่มึง  ต้องรู้จักที่จะรักให้เป็น  รักให้ถูก  เพราะถ้ามึงรักไม่ถูก  มึงจะไม่เห็นสีของมึงอีกตลอด"

ไอเอ็มมันบอกผมตอนที่ผมอยู่คนเดียวโดยไม่แตะต้องมันไม่ไหว  ผมเกือบฉุดมันมาแล้ว  ตอนที่มันนอนกับคนอื่น  ถึงมันจะเป็นเรื่องปกติ  แต่ผมไม่อยากให้ใครแตะมัน  ไม่อยากให้ใครแตะ  แม้แต่ตัวผมเอง

" เดี๋ยวมึงก็ทำได้  มึงเก่งอยู่แล้ว  มึงเป็นน้องกู  เดี๋ยวมึงก็รัก" สี " ของมึงถูก  สีของมึงเป็นเหมือนรางวัลของเราทุกคนที่ทำให้มึงกลับมาเป็นคนปกติ"  ไอ้เอ็มบอก


สำหรับที่บ้านผม  ไอ้ไพรซ์คือรางวัลชิ้นใหญ่  คือของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้ผมที่เป็นเด็กพิเศษ  มันคือคนที่ทำให้ผมเป็นคนปกติ  เป็นคนที่ทำให้รู้ความหมายของคำว่ารัก  รู้จักความหมายของการอยู่ต่อ  มันเป็นคนเดียวที่จะไม่ทำให้ผมอยู่อย่างโดดเดี่ยว



You  are  my  prize.
you  are  my  first  prize.
รางวัลคนแรกและรางวัลคนเดียวที่ผมจะรักที่สุดตลอดไป 





You  Are  My  First  Diary  by  Primo  Premio
คนที่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาก่อน 
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-11-2013 18:16:25
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ขอตอนพิเศษ ได้มั๊ยคะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-11-2013 18:34:13
ยูอาร์สุดยอดมากกกกก  o13 o13
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 16-11-2013 18:35:49
หลงสายตาไปได้ไงเรื่ิงนี้. สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-11-2013 18:56:08
ตอนพิเศษอ่านแล้วตื้นตันมากเลยค่ะ
มองในแง่มุมมืดมนของยูอาร์แล้ว ตานี่น่าสงสารชะมัดเลยแฮะ
เหมือนคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ มีคนเยอะแยะ แต่ไม่มีใครเลย ยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าอยู่คนเดียวอีก

แต่วิธีที่ยูอาร์ทำนี่มันเพี้ยนสมกับที่เป็นอัจฉริยะทำจริงๆแฮะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 16-11-2013 20:03:06
ยูอาร์ รักยูอาร์ ชอบยูอาร์ หลงยูอาร์
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 16-11-2013 20:13:41
จบอย่างสวยงามมาก เก่งจังเลย  :katai2-1: :katai2-1: รอติดตามเรื่องอื่นจ้าเป็นกำลังใจให้  :3123: :3123: :3123:

ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ
 :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-11-2013 21:34:08
น่ารักจริงๆ
มีลูกเร็วๆ นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-11-2013 09:35:42
เรื่องนี้โรแมนติกสุดๆเลยอ่านแล้วยิ้มตามตลอด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-11-2013 10:18:27
เหมือนจะงงๆตอนพี่แกสารภาพรัก
โรแมนติกแบบงงๆ :mew5:

ยูอามันบ้าจริงๆเล้ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 17-11-2013 11:25:33
จบเสียแล้ว

ขอบคุณนะครับ

 :mew3:
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-11-2013 19:03:10
ซึ้งเนอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 19-11-2013 17:03:32
หนุกมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 20-11-2013 23:54:37
ชอบเรื่องนี้จัง คนธรรมดาที่พิเศษยิ่งกว่าพิเศษสำหรับเด็กพิเศษ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2013 02:15:51
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 22-11-2013 22:50:03
ความธรรมดาที่แสนวิเศษ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 23-11-2013 01:59:36
 :L2:สุดยอดมาก
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 24-11-2013 10:55:48
ลึกซึ้งมาก
จะติดตามผลงานนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 25-11-2013 10:59:20
ไหง่การสารภาพรักที่น่าจะซาบซึ้งกลายเป็นการตบตีกันไปได้ล่ะเนี่ย  :laugh:
เหตุผล และความคิดของยูอาร์ซับซ้อนดีจริง แบบต้องค่อย ๆ อ่านทำความเข้าใจ
สรุปว่าเพราะความสดใสในดวงตาของน้องไพรซ์ทำให้ยูอาร์รู้จักคำว่ารักสินะ ถึงจะอยู่ในดงตีนก็เถอะ
แล้วเด็กพิเศษอย่างยูอาร์ก็ได้น้องไพรซ์เป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่ฟ้าประทาน โอ้ว โรแมนติกมาก
ขอให้ทุกคนทุกตัวมีความสุขตลอดไปละกันจ้า เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเสมอค่ะ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 25-11-2013 13:39:50
ยูอาร์ทำเนียน แอบทำมึน ร้ายจริงๆ

ไพรซ์ก็โดนหลอกซะเปื่อยเลย
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 26-11-2013 10:33:13
โฮฮฮฮฮฮฮฮ น่ารักมากกกกกกกกเลยค่ะ
อยากอ่านต่อ แต่งต่อเถอะน่ะค่ะ พลีสๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 28-11-2013 21:27:33
ส ส สุดยอดเลยอ่ะ อ่านแล้ว อึ้ง  o13  ขอบคุณมากเลยค่ะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 02-12-2013 08:46:58
แง้ อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 05-12-2013 23:30:22
สนุกมากงะ เนื้อเรื่องน่าติดตาม  o13
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 16-12-2013 10:57:20
แง้ อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆ

ไว้ว่างๆจะเอาตอนพิเศษมาลงให้นะคะ  คงเป็นพาร์ทยูอาร์เหมือนเดิม  แต่ต้องรอหน่อยนะคะ  ตอนนี้งานดองเค็มมันเยอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 17-12-2013 20:41:18
ชอบค่ะ สนุกมากเลย
ทั้งซึ้งทั้งอิน
ชอบความรักที่ยูอาร์เฝ้าอดทนเป็นเวลา 5 ปี เพื่อไพรซ์ เพราะการที่คนๆ หนึ่งจะรักใครได้ยาวนานมากขนาดนี้โดยที่ไม่เจอหน้ากันนี่เป็นเรื่องยาก ยิ่งไพรซ์ซึ่งเป็นคนปกติพบผู้คนมากมายกลับมั่นคงในรักที่มีให้แก่ยูอาร์เพียงคนเดียว คงเรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นเนื้อคู่กันเลยล่ะค่ะ
ภาษาสวย บรรยายได้เป็นฉากๆ เลยค่ะ
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายสนุกๆ เรื่องนี้นะคะ

ปล.ต้องกลับไปอ่านแล้วว่ามันเเกิดอะไรกับน้องพีของแม่~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Miuki_me ที่ 17-12-2013 23:24:14
 o13 o13 o13

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก แวะมาแปะให้คนเขียนชื่นใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-04-2014 10:18:28
อ่านแรกๆจะรู้สึกเลยว่ายูอาร์นี่ติงต๊อง พออ่านจนจบแล้วต้องบอกว่ายูอาร์ร้ายไม่ใช่เล่น วางแผนทำทุกอย่างเพื่อให้ไพร้ท์ตกหลุมพลางมาอยู่ข้างๆตัวเอง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 30-04-2014 21:16:50
 o13
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 01-05-2014 17:06:03
น่ารักดี... ชอบน้องหมาทั้งสองตัวเลย แต่เรื่องพีกับพิทบลูมีแยกเป็นเรื่องตัวของคู่นั้นเองใช่ไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 01-05-2014 23:16:32
น่ารักทุกคนเลย รักยูอาร์ รักไพรซ์ รักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 02-05-2014 00:32:00
เป็นนิยายธรรมดาที่ไม่ธรรมดาดี ฮ่า  :ruready
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-05-2014 10:01:28
สรุปเราโดนยูอาร์หลอกมาตั้งแต่ต้นสินะ

นายนี่มันพิเศษจริงๆด้วย

ไพรซ์เองก็น่ารักนะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 02-05-2014 19:59:01
ถึงขั้นเพ้ออ่ะ :ling3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 02-05-2014 20:17:59
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 25-06-2014 15:31:01
เลิศเลอๆ
ซุปเปอร์แมนเลยนายยย
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 26-06-2014 12:54:25
จบได้ประทับใจมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 28-06-2014 00:21:45
เป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกอยากติดตามต่อไป
ว่าระหว่างสองคนนี้จะเป็นยังไงต่อนะ ในอนาคต
คนเขียนสามรถถ่ายทอดมุมมองและควารู้สึกของทั้งสองออกมาได้ดีมาก
บอกได้คำเดียวว่า...เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆค่ะ
รักไพร์ส รักยูอาร์ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-01-2015 19:56:05
สนุกมากเลยครับ ยูอาร์ ทีแรกนึกว่าเอ๋อ ดูมึน ๆ งง ๆ แต่เป็นอัจฉริยะนี่หว่า โรแมนติคด้วย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 12-05-2018 23:26:02
คือมันดีมาก ชอบเนื้อเรื่อง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 13-05-2018 20:43:33
สนุกมากๆๆๆ  o13
ตอนแรกเวียนหัวกับความทั้งฉลาดเกิน และโง่เกินของยูอาร์ และสงสารน้องไพร์ซมากๆๆๆๆ แต่พอรู้ว่านังยูอาร์ มันแอบมองลูกเรามาตั้งนาน แถมทั้งวาดรูป ตั้งชื่อนามปากกา ตั่งต่าง โอ้โห สุดยอดมากๆอะ ผช.คนนี้ถึงจะช้าไปหน่อย แต่เข้าทำเพื่อคนที่รักจริงๆ แบบเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ห่มหนังแกะเบาๆเด้อ 55555555555555555 ยกลูกให้ด้วยความยินดีเลย ขอบคุณที่เจอเรื่องนี้ ดีมากจริงๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]// คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา :: ch6 + บทส่งท้าย (16/11/56) จบจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 13-05-2018 22:44:06
 :mew1: :mew1:
อัจฉริยะจริงๆ