♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐  (อ่าน 62369 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบอ่านเรื่องนี้มากๆ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ๊ะ

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
พึ่งมาได้อ่านสนุกมากเลยค่ะ รีบมาต่อนะค้า ♡

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ชอบอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งหวานนะเนี่ย ทั้ง2คนดูน่ารักมากๆเลย
คนนึงก็พ่อศรีเรือน อีกคนก็เป็นคุณหลวง เหมาะกันสุดๆไปเลย
มาต่ออีกไวๆน้า คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย อยากอ่านต่อๆ >^<

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เห็นเรื่องนี้อัพแล้วต้องรีบมาอ่านเลยค้า สนุกๆ อิอิ
ปล.สู้ๆนะคะคนเขียน

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
คิดถึงอะ เมื่อไรจะมาอัพค่ะ  :ling1:

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ขอพ้นวันที่ 25 ส.ค.นี้ไปก่อนแล้วจะรีบมาอัพให้นะคะ คนเขียนติดงานรับน้องของม.
รับน้องคณะ สารพัดจะรับสารพัดจะลงตามประสาวินัยอ่ะค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาเลยย ><
เค้าจะรีบมาเน้ออออ คิดถึงคนอ่านเหมือนกัน คิคิ  :oo1:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
รับทราบก๊าบบบบ  :hao3:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จ้า รับทราบ
ไว้ว่างค่อยมาน้า สู้ๆน้า
เคลียร์งานก่อนดีกว่าเนอะ สู้ๆ

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

พยับที่ ๑๐

อ๋า...กระดาษเต็มโต๊ะทำงานผมไปหมด โอ้ย...บ้าบอจริงๆ เพราะผมดันไปอ่านหนังสือภาษาฝรั่งเศสให้คุณหลวงเห็นแท้ๆเชียว เลยต้องมารับงานเพิ่มแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว งานอะไรน่ะเหรอ? ฮึ ก็แปลหนังสือเหมือนเดิมแหละครับ แต่มันต่างจากเดิมตรงนี้ ตรงนี้กองเอกสารที่ส่งมาให้สุดหล่อนภทีป์แปลมันเพิ่มขึ้นแบบปุ๊บปั๊บ แบบอลังการดาวล้านดวง ฮึก...เพราะผมพลาดไปเองแหละครับ โธ่ ก็ไอ่หนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มนั้นมันน่าอ่านชิบหายเลยนี่หว่า ใครจะตัดใจไม่อ่านได้ลง

“พ่อทีป์ ทำกระไรจ้ะลูก?”อ่อ แต่แลกมาด้วยการเป็นลูกรักของคุณหญิงแม่แทนคุณหลวงก็ถือว่าคุ้มล่ะนะ คิกๆ ก็ได้กินขนมหวาน น้ำต้มนู้นนี่นั้นแปลกๆเต็มไปหมด แถมแต่ละอย่างมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย คึกๆ

“แปลหนังสือราชการให้คุณหลวงขอรับคุณแม่ คุณแม่กระไรหรือไม่ขอรับ? หรือว่าวันนี้จักชวนผมไปทำกับข้าวอร่อยๆ”ผมฉีกยิ้มกว้างให้คุณแม่ แหม กับคนแก่นี่ต้องประจบครับ จะได้รับความเอ็นดูล้นหลามแล้วก็ของสมนาคุณทั้งของกิน ขนม นม เนย ผลหมากรากไม้อีกมากมายหลายหลาก

“ห่วงแต่กินอยู่นั่นแลลูก แต่อ้วนเสียหน่อยก็ดี จักได้มีราศีผู้ดี เขาว่าผู้ดีนี่นะลูกต้องขาวเสียหน่อย อ้วนสักนิด”

“โธ่ คุณแม่ขอรับ อย่าให้กระผมอ้วนเลยน้า เดี๋ยวสาวไม่แลเอากระผมก็แย่น่ะซี”ผมทำหน้าออดอ้อนใส่คุณแม่ที่ยิ้มน้อยๆ น่าตาใจดีเหมือนคุณแม่ของผมเลยแหะ เฮ้อ ว่าไปก็คิดถึงบ้าน

“จักมองหาสาวๆที่ไหนได้หึลูก มาๆ ว่าเสียก่อนวันนี้แม่จักพาทำบัวลอย อยากกินหรือไม่จ้ะ?”บัวลอยเหรอ? ว้าว ของโปรดผมเลยแหละ สงสัยคุณแม่จะมองเห็นประกายตาอะไรบางอย่างจากผมถึงได้หัวเราะออกมาแบบกุลสตรีสี่แผ่นดินสุดๆ

“ไป แม่ให้บ่าวมันไปเตรียมของขึ้นมาให้แล้ว พ่อทีป์ไปนวดแป้งกับแม่เร็วลูก”ผมพยักหน้าหงึกหงักแบบเสียมารยาทสุดๆ แต่คุณแม่คงคร้านจะเตือนเลยยืนรอให้ผมเก็บข้าวของไปวางไว้ให้เป็นระเบียบแล้วหาอะไรมาทับๆสุมๆไว้กันพระพายท่านหอบเอกสารพวกนี้หนีไปเล่นน้ำซะก่อน

“ไปกันขอรับคุณแม่ ผมพร้อมแล้ว”คุณแม่เดินนำผมไปตรงหน้าหอนั่งที่ประจำสำหรับที่เรียนการครัวของผม วันนี้แดดร่มลมตก สายลมที่พัดเอื่อยๆพาให้สบายใจสุดๆ เฮ้อ...เวลาที่อดีตนี่อย่างกับเดินช้าลงเลยแหะ...

“เป็นอะไรจ้ะพ่อทีป์ เหม่อไปไหนกันลูก?”

“เปล่าขอรับคุณแม่ แล้วสามแสบนั่นนอนแล้วหรือขอรับ”

“ยังดอกจ้ะ แม่ให้บ่าวมันดูอยู่ ช่วงนี้ฟันกำลังขึ้น ช่างงับไปเรื่อยเชียวแลลูก ลางทีแม่ก็โดนเข้าบ้างเหมือนกัน สงสัยคงมันเขี้ยวเขาแลจ้ะ”

“แหม ว่าแล้วก็คิดถึง ไว้ทำขนมเสร็จผมเข้าไปเล่นกับเด็กๆได้หรือไม่ขอรับ”

“เอาซีลูก เอ้าแต่ตอนนี้พ่อทีป์ต้องช่วยแม่นวดแป้งเสียก่อนนา”

“ขอรับ”ผมฉีกยิ้มกว้างให้คุณแม่แล้วเริ่มทำตามคนตรงหน้า ฮ้า...บัวลอย บัวลอย

บัวลอย เจ้าเพื่อนยาก ทำไมจากข้าเร็วเกินปายยยย คึกๆๆ ผมน่ะชอบบัวลอยมากๆเลยแหละ

ชอบที่สุดในโลกเลย ฮ้า บัวลอย บัวลอยฉบับออริจินัล บัวลอยแบบโบราณ คิกๆ แค่คิดผมก็น้ำลายจะหยดแหมะๆลงพื้นแล้วล่ะครับ

“ทำกระไรกันหรือขอรับ หอมเชียว”คุณหลวงทักคุณหญิงกับนภทีป์ที่ง่วนกันอยู่หน้าเตา กะทิในหม้อเดือดปุดๆส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเรือน ทำเอาคนที่เพิ่งเลิกงานอย่างเขาท้องร้องโครกคราก...

“บัวลอยจ้ะพ่อนพ หิวหรือยังจ๊ะลูกแม่จักได้ให้นังพวกนี้ตั้งสำรับให้เสียก่อน แล้วค่อยรอทานของหวานอีกสักกระเดี๋ยวก็เสร็จแล้วแล”

“กระเดี๋ยวรอทานเสียพร้อมคุณแม่กับพ่อทีป์ก็ได้ขอรับ กระผมขอไปผลัดผ้าเสียก่อนนาขอรับคุณแม่ ทำงานมาทั้งวันเหนื่อยเหลือใจเชียวขอรับ”คุณหลวงบ่นกระปอดกระแปดตอนท้ายพลางเดินเข้าเรือนส่วนตัวไป

“เอ สงสัยวันนี้พ่อนพคงเหนื่อยมากเสียจริงๆกระมัง”

“ทำไมหรือขอรับคุณแม่?”

“พ่อนพน่ะ ไม่เคยบ่นว่าเรื่องอันใดดอกลูก หากฝืนใจก็ยังคงทำเยี่ยงนั้นแล คราวนี้คงเป็นเรื่องใหญ่ลวงกระมัง ถึงกับทำให้พ่อนพของแม่เหนื่อยนักหนาเสียจนต้องบ่นออกมาเทียว”

“อย่างนั้นหรือขอรับ คุณแม่ขอรับ วันหลังกระผมอยากลองทำมัสมั่นบ้าง ได้หรือไม่ขอรับ”นภทีป์ชวนคุยเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเชื่อย สายตายังคงวิบวับจับจ้องที่บัวลอยลูกกลมสวยที่ลอยอยู่ในน้ำกะทิ

“อยากทานหรือลูก ให้ในครัวเขาทำให้ก่อนเถิดลูก มัสมั่นนั่นทำยากนักนาลูก ไว้ฝึกเสียอีกหน่อยแม่ค่อยสอนทำก็ได้ จักได้เข้าที ดีหรือไม่จ้ะ”

“อย่างนั้นก็ได้ขอรับ คุณแม่ขอรับ อีกไม่ถึงเดือนเด็กๆก็จะครบขวบแล้ว เขาต้องทำอะไรกันบ้างหรือขอรับ?”นภทีป์ถามพลางปลงหม้อลงมาวางไว้ที่ตั่งข้างๆที่ถูกสั่งให้ยกมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

“คงต้องพาไปวัดกระมังจ้ะ แม่อยากให้พระท่านตั้งชื่อให้หลาน แต่คงไม่ได้ไปวัดเอาเสียวันเกิดพ่อสามคนนั่นดอกจ้ะ แม่ว่าจักพาพ่อทีป์ไปทำบุญเสียวันพระแล้วถือโอกาสปรึกษาหลวงพ่อท่านเสียเลย พาเด็กๆไปด้วย”

“เอ ถ้าเด็กๆโวยวายร้องไห้จักไม่เป็นกระไรหรือขอรับ?”

“มิเป็นไรดอกลูก ผู้คนเขาพาลูกหลานไปวัดออกครึ่ดไป แต่จักไปนั่งอยู่ใต้ร่มไม้บ้างให้พอได้ยินเสียงพระสวดแต่มิได้ขึ้นมาบนศาลา”

“อืม... อย่างนี้นี่เอง คุณแม่ขอรับ เวลาเจ้าคุณพ่อของคุณหลวงเหนื่อยๆกลับมาที่บ้าน...คุณแม่ทำอย่างไรหรือขอรับ?”

“เอ...แม่ก็คงจักเข้าครัวไปชงชาให้ท่านสักกา แล้วก็ทำกับข้าวอร่อยๆให้สักอย่างสองอย่างนั่นแลลูก แลลางทีแม่ยังพรมน้ำหอมเสียให้ฟุ้งในคืนนั้นด้วย”ประโยคสุดท้ายแฝงความนัยที่ทำเอาคนถามหน้าเริ่มเห่อร้อนหน่อยๆ เอาเป็นว่าเขาแค่ไปชงชากับทำกับข้าวให้ท่าจะดีกว่า


ก็เอกราชน่ะมันสำคัญนะเว้ย!!


สุดท้ายเค้าก็แอบดอดเข้ามาประน้ำอบสักนิดนึง...นิดเดียวจริงๆนะสาบานได้ โธ่ คนอย่างนภทีป์น่ะนะจะอยากให้ใครมาสนใจตัวเองมากมาย เออ...แล้วก็เข้ามาชงชาให้ด้วย ส่วนกับข้าว...

เอาไว้ก่อนแล้วกัน กลัวคุณหลวงท้องเสียตายน่ะนะ

“หืม...ชงชามาหรือพ่อทีป์ พี่ได้กลิ่น?”คุณหลวงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องมานั่งพับเพียบแปะลงข้างๆนภทีป์ที่นั่งอยู่กับคุณหญิงแขไข

“ก็ชงมานะซีขอรับ ดื่มสักหน่อยนะขอรับ ชามะลิกลิ่นหอมนักหนา จะได้ผ่อนคลาย”นภทีป์ว่าไปพลางรินชาใส่ถ้วยกังไสใบน้อยยืนให้คุณหลวง

“ขอบน้ำใจพ่อทีป์ คุณแม่ขอรับ เด็กๆเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ซนตามประสาแลจ้ะพ่อนพ อย่าห่วงไปเลยลูก ลูกทั้งคนแม่ยังเลี้ยงมาได้ นับประสาอะไรกับหลานอีกสามคนหือ? แม่นมก็หาได้ครึ่ดไปออกอย่างนี้”

“อย่างนั้นลูกก็สบายใจขอรับ”

“ผู้หญิงที่มีลูกอ่อนแถวนี้มีเยอะมากเลยหรือครับ?”นภทีป์ถามขึ้นมาเบาๆ ตอนแรกเขานึกว่าแม่นมหายากมาซะอีก ไม่นึกว่าคุณหญิงแม่จะบอกว่าหาได้ง่ายดายขนาดนี้

“อย่างนั้นซีลูก บ่าวในเรือนเรามีลูกเล็กๆออกครึ่ดไป แม่ก็คัดเอาคนที่สุขภาพดีๆมาสักสามคนก็ได้แล้วเล่า”

“อย่างนี้จักเลี้ยงไหวหรือขอรับ?”

“ข้าวปลาเราก็เลี้ยงเขาอยู่แล้วเล่าลูก ออกมาก็เป็นทาสในเรือนเบี้ยเขาก็ทำงานให้เราอยู่ดีเล่า”

“พ่อทีป์ วันนี้ใส่น้ำอบหรือจ้ะ?”

“หือ...เอ่อ...ก็ใส่น่ะขอรับเห็นตั้งอยู่เยอะแยะในห้องคุณหลวง ผมเลย...เอ่ออ อยากลองใส่บ้าง”

“อย่างนั้นหรือ? ปกติพี่เห็นพ่อทีป์หอมดี...”เสียงนุ่มๆทำเอา ใบหน้าของร่างโปร่งเริ่มขึ้นริ้วบางๆ ใบหน้าขาวเริ่มก้มต่ำด้วยไม่กล้าสู้หน้าคนตาคมที่จ้องมองมา


“พ่อทีป์ แต่งตัวเสร็จหรือยังจ้ะ?” เสียงคนตัวสูงกว่าทำเอาอีกคนหนึ่งสะดุ้งโหยงเพราะกำลังง่วนอยู่กับโจงกระเบนที่หลุดหลุ่ยไปมา

“อ่า...”

“ใส่ไม่ได้อีกแล้วหรือ มาดูทีพี่จักใส่ให้ ทุกทีก็ใส่ได้นี่นา?”

“เอ่อ...วันนี้ผ้ามันลื่นๆ ผมเลยไม่ค่อยชิน...แล้วก็ส่วนมากหลังๆมาก็ใส่กางเกงแพรแล้วด้วย”

“ไหนพี่ดูที”คุณหลวงเดินมาจับร่างโปร่งหมุนไปมา จับนั่นแต่งนี่อยู่สักพักจนคนที่ขอร้องให้ช่วยเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน

“เสร็จรึยังขอรับ”

“อือ เสร็จแล้วจ้ะ พ่อทีป์ลองขยับดูที แน่นหรือไม่จ้ะ?”นภทีป์หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกเดินไปสองสามก้าวแล้วหันมาพยักหน้าหงึกหงักให้คุณหลวงที่ยืนรออยู่

“เอ้างั้นไปกันเถิด คุณแม่ท่านรอทานข้าวอยู่ให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดี”

“ขอรับ” นภทีป์เดินตามคุณหลวงไปที่หอนั่ง ตอนนี้ยังเช้าตรู่ ยังไม่ทันสว่างดีด้วยซ้ำ แบบที่คนที่นี้เรียกว่าย่ำรุ่ง อากาศเย็นชื้นกระทบผิวกายทำเอาเขาต้องห่อไหล่น้อยๆ

ตอนนี้...ที่กรุงเทพฯในอีกร้อยกว่าปีข้างหน้า...

จะหนาวมั้ยนะ


“ถูกปากหรือไม่จ้ะพ่อทีป์”

“อร่อยดีขอรับคุณแม่”

“ดีแล้วจ้ะที่ชอบ รีบทานเถิดลูกกระเดี๋ยวไปถึงวัดสายจักไม่ทันพระท่านเอา”

“ขอรับ”


จ๋อม...จ๋อม...

วันนี้คุณแม่ยืนยันหนักแน่นว่าจักไปวัดให้จงได้ ด้วยลูกชายทั้งสามของฉันยังไม่มีชื่อแลก็อยากให้พระท่านตั้งให้ จึงตกลงใจไปวัดกันดูสักที วันนี้เป็นวันพระเสียด้วย คนคงครึ่ดเต็มศาลา คุณแม่คงอยากให้คนอื่นเห็นหลาน แล้วก็...พ่อทีป์กระมัง

พ่อทีป์นั่นหากไม่นับว่าเป็นชายแล้วดูงดงามไปเสียทุกส่วน ผิวหรือก็ขาวละเอียด นัยน์ตาสุกสกาว ริมฝีปากสีแดงสวย...หากพ่อทีป์เป็นผู้หญิงฉันคงไม่ต้องคิดกระไรให้วุ่นวายใจกระมัง...ฉันคงจะรัก...

“นั่นอะไรหรือขอรับ?”นภทีป์ชี้ไปตามริมน้ำที่มีลูกอะไรสักอย่างลอยตามน้ำมาเป็นสาย

“มะกอกน้ำ อยากชิมไหม?”

“ไม่เอาล่ะขอรับเดี๋ยวท้องเสียจะยุ่ง เออ จริงสิขอรับคุณหลวง แล้วขนกันไปเยอะขนาดนี้ที่วัดจะไม่แตกตื่นหรือขอรับ?”

“แตกตื่นอันใด”

“ก็ขึนศาลาทีอย่างกับจะไปท้าตีกับใครที่ไหน ขนคนไปเสียเยอะแยะ”

“ไม่หรอก หากไปถึงวัดพ่อทีป์คงเข้าใจ คหบดีมีเงินยามไปไหนก็เป็นเช่นนี้แล...หอบเอาบริวารไปด้วย เขาจักได้รู้ว่าเรามีเงิน”



“อย่างนั้นหรือขอรับ ค่านิยมแปลกดี”

“พ่อทีป์ ชอบลูกของพี่หรือไม่จ้ะ?”

“ชอบสิขอรับ เด็กๆน่ารักออก ผมอยากรู้จังว่าพวกเขาจะชื่ออะไรกันบ้าง”นภทีป์ทอดสายตามองไปท้ายเรือที่มีคุณหญิงแล้วก็แม่นมของพวกเด็กๆนั่งอยู่พร้อมๆกับเด็กน้อยสามคนที่นอนหลับปุ๋ย

“พี่ดีใจนะ”คุณหลวงพูดขึ้นเบาๆแล้วทอดสายตามองเสี้ยวหน้าของอีกคน...ขนตาพ่อทีป์ทำไมถึงได้ยาวนักนะ

“อะไรนะขอรับ?”นภทีป์หันมาถาม คุณหลวงเสหลบตาแล้วส่ายหน้าบอกว่าไม่มีอะไรพร้อมหยิบหนังสือเล่มบางออกมาอ่านเสียจะได้ไม่ถูกซักไซ้เอาความจากคนที่ตัวเองเพิ่งแอบมองมาหมาดๆ


“อ้าว ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะคะคุณหญิงแขไข”พอขึ้นศาลาปุ๊บ คุณแม่ก็ถูกเพื่อนๆคุณหญิงด้วยกันทักเสียงอ่อนเสียงหวาน

“จ้ะ นานทีเดียวแล้วนี่แม่มะลิเป็นอย่างไรบ้างหรือคะคุณพี่”

“สบายดีจ้ะ อยู่ในกรมกับสมเด็จฯท่าน วันนี้ก็ไม่ได้ออกมาเห็นว่าต้องเร่งงานร้อยมาลัยให้สมเด็จฯ แล้วนี่คุณหญิงมากับใครหรือจ้ะ?”

“มากับพ่อนพแล้วก็ลูกเขาแลจ้ะ อ้อ แล้วนี่ พ่อทีป์จ้ะ ฉันรับเป็นลูกบุญธรรมน่ะจ้ะ พ่อทีป์มาไหว้คุณป้าซีลูก นี่คุณหญิงนวลจ้ะ”

“ขอรับ”นภทีป์หันมาไหว้คุณหญิงนวลที่ยิ้มมองอยู่

“แล้วเป็นยังไงมายังไงเล่าจ้ะคุณหญิง ถึงได้ลูกบุญธรรมคนนี้มา”

“จะกระไรเล่าจ้ะ เขาจมน้ำแล้วจำอะไรไม่ได้เลย ฉันเห็นหน้าตาสะอาดสะอ้านหน้าเอ็นดูถึงได้รับเป็นลูก นี่ก็ช่วยงานพี่ชายเขาอยู่ พูดได้หลายภาษาเชียวจ้ะ”

“พ่อทีป์จ้ะ มากับพี่ทีซี”

“ไปกับพี่เขาเถิดจ้ะ อีกสักเดี๋ยวค่อยขึ้นมาก็ได้ลูก”


“อึดอัดหรือไม่จ้ะพ่อทีป์”

“ไม่เป็นไรขอรับ แต่จะว่าไม่อึดอัดเลยก็คงไม่ใช่ คุณหลวงขอรับ คุณหญิงคุณนายเวลาเจอกันเขาต้องพูดเรื่องแบบนี้ตลอดเลยหรือขอรับ”

“ไม่ดอกจ้ะ พี่พาไปเล่นกับลูกดีหรือไม่จ้ะ”

“เอาซีขอรับ”คุณหลวงแตะข้อศอกนภทีป์เบาๆแล้วพาเดินไปด้วยกัน เด็กๆสามคนกับแม่นมนั่งอยู่ที่ศาลาด้านล่างห่างจากศาลาการเปรียญเล็กน้อยพอให้ถ้ามีเสียงเด็กๆเอะอะอะไรจะไม่ดังไปถึงบนศาลาการเปรียญ

“ยังหลับกันอยู่เลยขอรับคุณหลวง”นภทีป์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆแม่นมคนหนึ่งที่กอดเด็กน้อยไว้แนบอกแกว่งแขนไปมาเบาๆ พอให้เด็กน้อยหลับสบาย

“ฉันขออุ้มลูกได้ไหมจ้ะ”นภทีป์ถามเอากับแม่นมที่มองดูยังสาว คงเพิ่งมีลูกคนแรก

“ได้ซีเจ้าคะ คุณทีป์ยื่นแขนมาเถิดเจ้าค่ะ”นภทีป์ยื่นแขนออกตามที่แม่นมว่า นางวางเด็กลงบนแขนนภทีป์อย่างระมัดระวัง นภทีป์ถึงค่อยหดแขนกลับเอาเด็กตัวเล็กๆนั่นมาไว้แนบอก

“น่ารักจังเลยนะขอรับ”คุณหลวงชะโงกหน้ามามองลูกตัวเอง ทำเอาคนที่โดนลมหายใจปัดผ่านไปมาหน้าเริ่มขึ้นสีหน่อยๆ

“ขอฉันอุ้มอีกคนบ้างซี”คุณหลวงหันไปเรียกร้องเอากับแม่นมเพื่อจะอุ้มลูกตัวเองบ้าง สุดท้ายเลยกลายเป็นกระเตงเด็กสองคนไว้กับตัว คนนึงก็อุ้มอยู่แนบอก อีกคนก็อุ้มพาดไหล่ ทำเอาคนมองอย่านภทีป์แทบกลั้นขำไม่อยู่กับคนที่กลัวลูกชายของตัวเองน้อยใจถึงได้เอามาพาดบนตัวเสียหมด...

“หนักหรือไม่ขอรับ?”

“ไม่หนักดอกจ้ะพ่อทีป์หนักแล้วหรือจ้ะ?”

“ยังหรอกขอรับ คุณหลวงขอรับนี่เริ่มสว่างแล้วพระจะสวดแล้วหรือไม่ขอรับ”

“นั่นซีนะ พี่ก็ลืมไปเสียสนิท เอ้า มาเอาลูกๆฉันไปที มาเถิดพ่อทีป์กระเดี๋ยวคุณแม่ท่านจักไม่สบายใจที่หายกันไปเสียนานสองนาน”

“ขอรับ”

หลังจากพระสวดเสร็จสิ้นทุกอย่างเราก็ตามหลวงพ่อไปที่กุฏิ คุณหญิงแม่ให้บ่าวไปตามแม่นมกับเด็กๆมาด้วยกันจะได้ให้หลวงพ่อท่านตรวจดวงชะตาให้ แหมไม่รู้ตอนผมเกิดคุณแม่จะทำแบบนี้บ้างรึเปล่า แต่คิดถึงบ้านจังเลยแหะ ป่านนี้ไม่รู้ไอ่ตฤณเสร็จไอ่ธามไปรึยัง...

“คุณหลวงขอรับ ชื่อคุณหลวงก็ให้พระตั้งให้หรือขอรับ?”

“เปล่าดอกจ้ะ เจ้าคุณพ่อท่านตั้งให้ ท่านว่าคุณแม่ชอบพลอยนพเก้ามาก เลยตั้งชื่อพี่ว่านพรัตน์จ้ะ”นพรัตน์ แต่ในชื่อนั่นมันนพเทพไม่ใช่เรอะ โอย คนโบราณนี่พางงจริงแหะ

“แต่คุณหลวงอวยศักดินานพเทพอัครานี่ขอรับ ไม่เห็นเป็นพรัตนอัคราล่ะ?”

“พ่อพี่ชื่อเทพ เขาอวยตามกัน”

“อ๋อ...แบบนี้นี่เอง คุณหลวงขอรับ แล้วทำไมคุณหลวงถึงไม่ตั้งชื่อลูกเองล่ะขอรับ? หรือให้คุณหญิงตั้งก็ได้”ผมเริ่มสงสัยตงิดๆแล้วว่าทำไมต้องเป็นพระเท่านั้นด้วยนะ?

“เพราะเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่อย่างไรเล่าจ้ะ หากเป็นลูกแท้ๆของพี่ พี่จักตั้งเยี่ยงไรย่อมเป็นมงคลแก่ลูกทั้งนั้น หากเขาไม่ใช่พี่จักตั้งส่งเดชได้อย่างไรเล่า”

“เอ... แต่คุณหลวงให้เขาเรียกว่าพ่อไม่ใช่หรือ? แบบนี้ไม่นับเป็นพ่อหรือขอรับ?”

“ช่างสงสัยเสียจริงนะเจ้า ก็นับเป็นพ่อแต่หาใช่พ่อแท้ๆไม่ เข้าใจหรือไม่จ้ะ”

“ขอรับๆ ที่นี้นี่เข้าใจยากจริงๆ”นภทีป์บ่นพึมพำ เดินกันสักครู่ถึงมาถึงกุฏิหลังน้อยที่อยู่ถัดมาทางด้านหลังวัด คุณหลวงเดินนำขึ้นไปพร้อมคุณหญิง ส่วนนภทีป์กับแม่นมนั้นก็หอบลูกตามขึ้นไป

“เอ้า มากันแล้วหรือคุณหลวง คุณหญิง มานั่งเถิด คุณหลวงรู้เวลาตกฟากของเด็กพวกนี้อยู่ฤาไม่?”

“ไม่ทราบได้ขอรับหลวงพ่อ กระผมไปรับมาตอนเจ้าหนูพวกนี้ได้สักครึ่งขวบแล้วขอรับ”

“กระนั้นหรือ...มิเป็นไรดอก อาตมาจับยามสามตาดูก็ย่อมได้ เอ้า เอามาดูทีฤา”


“คุณหลวง วันที่พาเจ้าพวกนี้มาด้วย คุณหลวงพาใครมาอีกหรือ?”

“พ่อทีป์ขอรับหลวงพ่อ กระผมเจอพ่อทีป์จมน้ำอยู่ตรงท่าน้ำวัดที่ไปรับเจ้าเด็กพวกนี้มาแลขอรับ ไม่ทราบได้ว่ามาจากที่ใด”

“หากจักคิดการณ์ใดขอให้คุณหลวงสบายใจเถิด หากเป็นคนผู้นี้แล้วไซร้อย่างไรก็ล้วนดียิ่ง เอ้า ไหนมาดูที เจ้าเด็กสามคนนี้เป็นลูกอีหรอบมันหรือ?”

“ขอรับหลวงพ่อ”

“ชื่อกระไรดีเล่า ขอข้าดูที”หลวงพ่อนั่งหลับตาลงสักพัก ถึงได้เงยหน้ามาแจ้งแก่คุณหลวงว่าให้เด็กน้อยชื่อ ระวิ  รวี และรพี

“พ่อพิ พ่อพี แล้วก็พ่อวี หลานย่า มีชื่อแล้วเป็นคนเต็มตัวแล้วหนาลูก หลวงพ่อเจ้าคะ ช่วยผูกข้อมือรับขวัญหลานให้อิฉันได้ฤาไม่เจ้าคะ”

“มาเถิด คุณหลวงกับพ่อทีป์นั่นด้วยซีเล่า คุณหญิงเองก็อย่าลืมผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญหลานของคุณหญิงเองเสียเล่า”

“ขอรับ พ่อทีป์ มานี่เถิดให้หลวงพ่อท่านผูกข้อต่อแขนให้”นภทีป์ขยับไปนั่งข้างๆคุณหลวง สายตามองไปทางพระเกจิฯชื่อดังของยุคนี้อย่างพินิจพิเคราะห์ พระท่านจะรู้ไหมวะว่าเราไม่ใช่คนยุคนี้...


“โยมชื่อนภทีป์ใช่ฤาไม่?”

“ขอรับ”

“หากมีอันใดเกิดขึ้นไซร้ ขอให้โยมอย่าได้สงสัยไป่ความให้มากนัก แลหากมีอันใดที่โยมจักปลงใจได้ในที่นี้ก็ขอให้โยมปลงใจเถิด โยมจักไม่ได้กลับไปที่ที่โยมจากมาอีกแล้วหนา...”

“อะไรนะขอรับ?”นภทีป์เบิกตากว้าง...หมายความว่ายังไง??

จะไม่ได้กลับไปที่ๆจากมาแล้ว...

หมายความว่าเขาต้องอยู่ในยุคนี้ตลอดไป ไม่ได้เจอหน้าธาม หน้าตฤณ คุณพ่อคุณแม่ หรือใครๆที่นั่นอีกแล้วใช่มั้ย?

“โยมอย่าได้คิดให้มากความเลย หากโยมปลงใจได้แล้วไซร้ โยมก็จักรู้แจ้งเองว่านี่คือฤทธาแห่งบุพเพสันนิวาส”

“หมายความว่า...ผมไม่มีทางได้กลับไปอีกแล้วใช่มั้ยครับ?”

“ถูกแล้วโยม โยมอย่าได้กังวลใจให้หนักไปเลยหนา ใช่ชีวิตให้ดีเถิด”

นภทีป์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง

เขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้าพ่อแม่ หน้าธาม หรือหน้าไอ่ตฤณอีกแล้ว...

ไม่มีทางได้เห็นกรุงเทพฯในอีกร้อยปีข้างหน้าอีกแล้ว...

“พ่อทีป์...”คุณหลวงร้องเรียกอีกคนเบาๆเมื่อร่างโปร่งมีเงียบซึมไป สุดท้ายเลยได้แต่พากันกราบลาลงจากกุฏิแล้วกลับเรือน เพราะใกล้เวลาเพลเต็มที


“พ่อนพไปดูพ่อทีป์เถิดลูก กระเดี๋ยวแม่จักดูแลพ่อสามคนนี้เอง”เมื่อมาถึงเรือนคุณหญิงแขไขจึงกล่าวกับลูกชายพร้อมพยักพเยิดไปทางชายหนุ่มอีกคนที่มาด้วยกันแต่กลับปิดปากเงียบกริบ ใบหน้าหมองเศร้าลงจนจิตใจท่านอ่อนยวบด้วยความสงสาร เพราะตั้งแต่มีพ่อทีป์มาอยู่ที่บ้านท่านก็หายเหงาไปได้เยอะ

“ขอรับ”คุณหลวงรับคำพลางเดินไปหาคนที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาทีหลังสุด ใบหน้าขาวๆนั่นยังคงเศร้าหมอง แต่ไม่มีรอยน้ำตาออกมาเลยสักหยดหากแต่ยิ่งทำให้คนมองสงสารเข้าไปใหญ่

“พ่อทีป์”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำพลางเงยหน้ามองคุณหลวงอย่างฉงนใจ จู่ๆก็มาเรียก...ไม่รู้ว่ามีอะไร

“มานี่เถิดพี่มีอันใดจักให้เจ้าดู”คุณหลวงฉุดแขนคนที่ยืนทำหน้างงอยู่ไปทางห้องหนังสือของตน ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาล่อให้คนตรงหน้าหายเศร้าเสียเลยด้วยซ้ำ

“อะไรหรือขอรับ?”
“บันทึกการเดินทางของพี่ดีหรือไม่ พ่อทีป์อยากจะอ่านหรือเปล่าเล่า พี่เขียนเมื่อครั้งไปเรียนที่อังกฤษ”นภทีป์ตาวาวขึ้นอย่างนึกชอบใจ

ก็แหม...

เรื่องราวความเป็นอยู่ที่อังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 5 มันน่าสนใจน้อยเมื่อไรกันล่ะ

“เอาซีขอรับ”เมื่อเห็นประกายตาซุกซนอยากรู้อยากเห็นกลับมาบ้างคุณหลวงก็พลอยเบาใจ พลาวส่งรอยยิ้มที่ทำให้อีกคนพลอยอุ่นใจขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

คุณหลวงนี่... ยิ้มสวยจังเลยแหะ


======
มาแล้วจ้า หลังจากหายไปหลายเดือน TT
คนเขียนไม่ได้เลิกแต่งเน้อ แต่เพราะเป็นคนแต่งช้าอยู่แล้วแล้วดันไม่มีเวลาอีก
ขอโทษจริงๆนะคะ T[]T ตอนต่อไปจะพยายามมาตามสัญญา 2 อาทิตย์เหมือนเมื่อครั้งกระโน้นนะคะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เข้ามาติดตามครับ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณหลวงก็ช่างรู้จักหาอะไรมาคลายเศร้าพ่อทีปภ์จังนะ
คนเขียนหายไปนานเลยนะ ดีใจที่ยังมาเขียนต่อจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้นะ (คนอ่านรออยู่นะจ๊ะ)

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
สงสารทีป์จัง ทำใจให้ได้ไวๆนะ

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สงสารพ่อทีป์จัง จะไม่ได้กลับไปแล้ว เฮ้อ~
มันคงเป็นบุพเพจริงๆนั่นแหละนะ แต่ว่าก็ดีนะที่ไม่ได้กลับ
ไม่รู้ว่าท้ากล้บได้จะเศร้าขนาดไหน อยู่กันคนละภพเลยนะ
มาต่อไวๆน้า คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย จะรอนะ >-<

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ก็สงสาทีป์รที่ไม่ได้กลับอยู่นะ
แต่ ดีแล้วหล่ะ กลัวคนบางคนช้ำใจ อิอิ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :katai2-1: เย้ๆๆ  มาแว้ว นึกว่าจิไม่ได้อ่านแล้วอะ ดีใจจัง  :mew1: 

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
แงงง ดีใจที่มีคนอ่านอยู่ T^T ทีแรกนึกว่าจะเข้ามาเจอความเงียบงันซะแล้ว
ขอโทษจริงๆนะคะที่หายไปนาน :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พยับที่ ๑๑
[/color]



‘วันนี้อากาศดี แดดแรงที่สุดในรอบเดือนที่เคยอยู่ที่นี่มา ผู้คนที่นี่ไม่ใคร่ออกจากบ้านช่องมันจับจ่ายใช้สอยมากนักในช่วงนี้ด้วยอากาศหนาวเย็น...’

นภทีป์นั่งเอนหลังพิงเสาเรือนอยู่ตรงศาลาเล็กหน้าเรือน สายตาจับจ้องไปที่ไดอารี่ชีวิตที่เกรทบริเตนหรืออังกฤษที่คุณหลวงเอามาให้อ่านเพราะทนเห็นตนเศร้าไม่ไหว ใบหน้าขาวๆระบายยิ้มน้อยๆ จะด้วยอิ่มเอมใจที่อีกคนใส่ใจตนขนาดนี้หรือเพราะในไดอารี่นั้นมีเรื่องราวสนุกๆอยู่ก็ตามแต่ แต่ก็ทำให้คุณหลวงที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาสบายใจขึ้นอีกอักโข


พ่อทีป์ยิ้มบ้างแล้ว


“กลับมาแล้วหรือขอรับ?”เสียงร้องถามจากคนที่โดนจับจ้องจนรู้ตัวเรียกรอยยิ้มกว้างขวางใจใบหน้าคมของคุณหลวงหนุ่ม ช่างน่าชื่นอกชื่อใจเสียนี้กระไร...

“กลับมาแล้วน่ะซี ทำกระไรอยู่ฤาพ่อทีป์”

“อ่านไดอารี่ของคุณหลวงนั้นแหละขอรับ วันนี้กลับไวไม่มีราชการอันใดหรือขอรับ?”

“มี แต่ยกกลับมาทำเสียที่บ้าน งานแปลหนังสือ ทำที่นู้นหามีคนช่วยไม่สู้กลับมาทำที่บ้านมิได้ดอก”ดวงตาคู่คมพราวระยับทำเอานภทีป์ได้แต่ส่ายหัวปลดปลง เอางานมาให้เขาทำแต่หัววัน ชิ!! กำลังอ่านไดอารี่เพลินอยู่เชียว

“ภาษาอะไรขอรับ?”

“ฝรั่งเศส มาดูทีฤาพ่อทีป์ อยากจักนั่งทำเสียตรงนี้หรือไปทำที่หอนั่ง?”คุณหลวงยังยืนคอยท่าถาม นภทีป์พยักพเยิดไปทางหอนั่งด้วยอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงตรงนี้ก็จะจนต้องย้ายไปนั่งที่หอนั่งอยู่ดี สู้ย้ายไปตอนนี้น่าจะดีกว่า

“ไปหอนั่งเถอะขอรับ”

“ไปเถอะ เออ จริงซี พ่อทีป์อยากจักไปเที่ยวชมบ้านชมเมืองบ้างฤาไม่?”

“จะพาไปหรือขอรับ?”นภทีป์เริ่มตาลุกวาวด้วยอยากไปเที่ยวเป็นทุนเดิม ยังไงๆก็จะกลับไม่ได้อยู่แล้วสู้เที่ยวดูบ้านเมืองสมัยนี้ให้ฉ่ำปอดดีกว่า

“ถ้าอยากไปก็จักหาเวลาพาไป ดีหรือไม่ล่ะ?”

“ดีซีขอรับ ไปเที่ยวใครเขาไม่ชอบบ้าง ผมอยากไปตลาด”

“เอาซี ไว้จักพาไป”

นภทีป์ยิ้มกว้าง ดวงตาพราวระยับ ก็เรื่องเที่ยวเนี้ยใครเขาไม่ชอบกันบ้างล่ะ!



“พ่อทีป์วันนี้ว่างหรือไม่ลูก?”ยามสายของวันหนึ่งคุณหญิงแขไขเดินเข้ามาถามนภทีป์ที่นั่งทอดอารมณ์อยู่ที่หอนั่ง ดวงตากลมๆดูง่วงงุนอยู่ไม่น้อย

แลดูก็รู้แล้วว่าว่างแต่คุณหญิงคงถามไปอย่างนั้นเองเผื่อว่าคนตรงหน้าจะไม่อยากขยับตัวไปไหนแล้วบอกว่าไม่ว่างขึ้นมา

“ว่างซีขอรับคุณแม่ วันนี้มีกระไรให้ทำหรือขอรับ?”นภทีป์หันมายิ้มกว้าง นึกถึงอาหารที่จะได้หัดทำ ไม่รู้วันนี้คุณหญิงมีอะไรมาให้ทำอีก

“วันนี้มิใช่ของกินดอกจ้ะ แม่จักให้ช่วยจีบหมากจีบพลูเสียหน่อย พ่อทีป์ทำเป็นหรือไม่ลูก?”

“ไม่เคยทำเลยขอรับ”คนตัวขาวส่ายหน้าดิกๆทำเอาคุณหญิงได้แต่ยิ้มเอ็นดูปนระอา ก็พูดจากับผู้หลักผู้ใหญ่ใครเขาส่ายหน้ากันเล่า!?

“มาเถิด แม่จักสอนให้ กระเดี๋ยวต่อไปจักได้จีบให้พ่อนพได้”

“แล้วเมียคุณหลวงจีบให้ไม่ได้หรือขอรับ?”

“ก็จีบได้ซีลูก แต่ตอนนี้พ่อนพยังไม่มีเมียก็ต้องให้น้องช่วยจีบให้ก่อนซีเล่า”

“อ๋อ ขอรับ”



“คุณแม่ ทำกระไรกันหรือขอรับ?”พอบ่ายแก่ๆคุณหลวงก็กลับมาที่เรือน สายตาคมกริบทอดมองไปยังคนตัวขาวๆที่นั่งง่วนกับใบพลูเขียวๆในมือเรียวยาว

“สอนพ่อทีป์เจียนหมากจีบพลูให้พ่อนพอย่างไรเล่า”คุณหลวงได้ฟังแล้วพลันขึ้นริ้วสีแดงๆที่ใบหน้า หึหึ พ่อทีป์จะรู้กระไรหรือไม่นะ ว่าการจีบพลูเจียนหมากยื่นให้ชายใดนั้นหมายความถึงกระไร...

“อย่างนั้นหรือขอรับ? คุณแม่มั่นใจแล้วหรือขอรับ?”

“เขาว่าเชื่ออาจารย์จักได้ดีกระไรเล่าพ่อนพ กลับมาเหนื่อยๆ ไปผลัดผ้าก่อนดีหรือไม่ลูก กระเดี๋ยวแม่ให้พ่อทีป์ไปชงชามาให้เสียด้วย”

“ขอรับ”คุณหลวงอมยิ้มกริ่มเข้าห้องไป ทำเอาคนที่จีบพลูเจียนหมากอยู่เบะปากใส่ตามหลังแทบไม่ทัน นภทีป์แทบอย่างจะเควี้ยงหมากใส่เสียเดียวนั้นคนอะไรทำหน้ากรุ่มกริ่มอยู่ได้

“เป็นกระไรพ่อทีป์? หน้าหงิกเชียวลูก”

“เอ่อ...หามีอันใดขอรับคุณแม่ เออจริงซีขอรับ เจียนหมากจีบพลูเสียอย่างนี้แล้วคนกินเขาไม่กินยากหรือขอรับ ยาวออกอย่างนี้??”นภทีป์ถามพลางพิจารณาพลูที่คุณหญิงบรรจงจีบออกมา ตัดหางไปต่อเสียอีกยิ่งยาวไปกันใหญ่ ไม่รู้จะทำให้มันยาวไปทำไมสุดท้ายก็ต้องยัดใส่ปากเคี้ยวเสียคำเดียวอยู่ดี

“ลำบากอันใดเล่าลูก สิ่งใดที่ล้วนเจริญตาเจริญใจนั้นคนเราก็ต้องเข้าหาทั้งนั้นแลลูก แลที่จีบหมากเสียยาวเยี่ยงนี้จักได้เป็นการอวดใครๆเขาได้อีกว่าเราเป็นผู้รากมากดี รู้หรือไม่ลูก หากเป็นชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปมีหรือจักจีบพลูเยี่ยงชาววังเยี่ยงนี้”

“ซับซ้อนจังเลยนะขอรับ จริงซีขอรับคุณแม่ แลที่คุณหลวงกับคุณแม่พูดกันเรื่องเจียนหมากจีบพลูเยี่ยงนี้คือเรื่องกระไรหรือขอรับ ฟังดู...เอ่อ เจ้าเล่ห์อย่างไรชอบกล”


“ไว้พ่อทีป์ไปถามเอาจากพ่อนพเถิด เอ้า รีบจีบเข้ากระเดี๋ยวพี่เขาอาบน้ำอาบท่าออกมาจักได้ทันเคี้ยวพอดี แลไปชงชามาเสียด้วยหนาพ่อทีป์ เวลาผัวกลับบ้านมาเหนื่อยๆต้องหัดเอาใจรู้หรือไม่ ตอนเจ้าคุณพ่อของพ่อนพยังอยู่แม่ทั้งชงชาจีบพลูเจียนหมากแลทำกับข้าวกับปลาเสียให้พร้อมพรัก”นภทีป์ขมวดคิ้วฉับ!! เดี๋ยวนะ? ไอ่ที่บอกว่าต้องเอาใจผัวนี่คืออะไรยังไง เขากับคุณหลวงไม่ใช่ผัวเมียกันซักหน่อย! อีกอย่างนภทีป์รูปหล่อคนนี้เป็นผู้ชายล้านเปอร์เซ็นนะเออ

“กระไรนะขอรับคุณแม่ แต่กระผมกับคุณหลวงหาใช่...เอ่อ”

“แม่รู้ดอกจ้ะ แม่แค่เปรียบเปรยเท่านั้นเอง ก็พ่อนพยังไม่มีเมีย แม่ก็แก่แล้ว ให้น้องทำให้แทนก็จักเป็นกระไรไปเล่า พ่อทีป์ไม่เต็มใจหรือจ้ะ?”

“เปล่าดอกขอรับ”นภทีป์ส่ายหน้าไปมาจนคนมากอายุกว่ามองค้อนตาคว่ำด้วยพร่ำสอนเหลือเกินว่าอย่าสั่นหน้าด๊อกแด๊กกับผู้หลักผู้ใหญ่แต่เหมือนคนอายุน้อยกว่าจะไม่ค่อยได้ใส่ใจจำสักเท่าไร

“พ่อทีป์นี่หนา สอนกระไรก็ดีเสียหมด เว้นไว้เสียแต่เรื่องมารยาทนี่เอง สอนเท่าไหร่ๆเหตุใดไม่จำบ้างหือ?”

“ขอโทษขอรับ”นภทีป์ทำหน้าสลดจนคุณหญิงอดสงสารไม่ได้ เพราะอย่างนี้นี่เองทั้งนางทั้งคุณหลวงถึงได้เอ็นดูเด็กหนุ่มผู้นี้นัก

“เอาเถิดๆ เอ้า ทีนี้พ่อทีป์ก็ไปชงชาให้พ่อนพเสีย หมากพลูเท่านี้คงพอเคี้ยวได้เป็นวันๆ แลพ่อนพเองก็มิได้ใคร่จักสูบบุหรี่สักเท่าใดดอก”
“ขอรับ”นภทีป์รับคำแล้วลุกขึ้นไปครัวที่อยู่ด้านหลังเรือน เนื่องจากเป็นครัวนายจึงตั้งอยู่บนเรือน ยามคุณหญิงจะลงครัวสักทีถึงได้ไม่ยุ่งยากอันใดมากนัก



        เพราะคุณหลวงเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่นี้ถึงได้มีชาเยอะแยะละลานตาไปหมดเพราะคนที่บ้านนี้กินประจำมาเสียตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของคุณหลวง เดิมก็คงมีแต่ชาจีนแต่พอคุณหลวงกลับจากอังกฤษมันถึงได้มีชาทางฝั่งยุโรปโผล่ขึ้นมาอยู่ในบรรดาชาพวกนี้ด้วย นภทีป์ยืนพิจารณาชาอยู่นานว่าจะชงอะไรให้ตาคนหน้าเจ้าเล่ห์นั่นกินดี สุดท้ายเลยลงเอยที่อู่หลงที่คุณหญิงเอามาผสมกับดอกมะลิตากแห้งกลายเป็นชาอู่หลงมะลิ กลิ่นคงจะหอมฟุ้งน่าดู นภทีป์ใช้เวลาชงชาอยู่สักครู่ใหญ่ๆ สุดท้ายมือขาวๆนั่นถึงได้หยิบกาชากับถ้วยกังไสใบน้อยเคียงกันไปให้คุณหลวงหนุ่ม พร้อมถามหาขนมกวนที่มีอยู่ติดครัวจากบ่าวแถวนั้น 

“คุณหลวงขอรับ ผมเอาชามาให้”เดินไปถึงหอนั่งก็เห็นคนตัวโตกว่าพับเพียบแต้อยู่ข้างคุณหญิง ถึงได้ยื่นถาดใส่กาชากับถ้วยกังไสไปวางแปะไว้ตรงหน้า คนตัวโตกว่าถึงได้หันมายิ้มกว้างขวางให้ จนนภทีป์เกิดทำตัวไม่ถูกขึ้นมา สุดท้ายเลยไปนั่งแปะข้างๆคุณหญิงอีกคน พลางจีบพลูที่ทำค้างอยู่ไปด้วย

“หื้อ ใกล้สวยแล้วแลลูกพ่อทีป์ หัดเข้าอีกท่าจะสวยมากเทียวลูก”คุณหญิงหันมาแลพลูที่นภทีป์เพิ่งจีบเสร็จหมาดๆแล้วกล่าวติชมเล็กน้อยก่อนจะจิบชากินขนมกวนต่อพลางเหลือบแลมาเรื่อยๆดูความก้าวหน้าของลูกศิษย์

“จักจีบให้พี่สักหน่อยได้หรือไม่จ้ะพ่อทีป์”นภทีป์เหลือบตาขึ้นมองคุณหลวงงงๆ แต่ปฏิกิริยานั่นทำเอาคนตัวโตกว่าใจเต้นแรงขึ้นมา ก็ช้อนตาขึ้นมองแบบนั้น...

ใช้ได้ที่ไหนกันพ่อทีป์นี่กระไรนะ ช่างไม่เข้าใจบ้างเลยว่าพี่รู้สึกอย่างไร!!

“ก็วางอยู่นี่กระไรเล่าขอรับ”นภทีป์บุ้ยปากไปยังพลูที่จีบไว้เรียบร้อยบนถาดสีเงินตรงหน้า ถึงมันจะเบี้ยวๆบูดๆไปหน่อยก็เถอะ

“ไฮ้ ได้กระไรเล่าลูก พ่อทีป์ต้องจีบให้พ่อนพเสียใหม่หนา จักให้มากินของลองทำอย่างนี้ได้กระไร เอ้า ไหนลองจีบดูอีกสักทีลูก จักได้ให้พี่เขาเคี้ยวแก้เปรี้ยวปากเสียหน่อย”นภทีป์เบ้ปากใส่คุณหลวงหน่อยๆ เชอะ ฟันก็ไม่ได้ดำ ปกติก็ไม่ได้เคี้ยวหมากสักหน่อย วันนี้เปรี้ยวปากอะไรขึ้นมาถึงต้องมาเดือดร้อนเขาจีบพลูให้อีก

นภทีป์ได้แต่ก้มหน้าก้มตาตั้งอกตั้งใจจีบพลูเจียนหมากใหม่ใส่จานที่ไม่รู้ว่าคุณหญิงสั่งให้บ่าวไปเอามาตอนไหน พลางดันจานน้อยนั้นไปตรงหน้าคุณหลวง

“คงจะสวยได้แค่นี้แลขอรับ”

“สวยแล้ว”คุณหลวงกล่าวตอบรับสั้นๆ นิ้วยาวหยิบหมากกับพลูเข้าปากเคี้ยวหยับ ปากที่เคยเป็นสีแดงอยู่แล้วยิ่งเป็นสีแดงสดไปอีกเพราะปูนที่ป้ายไปบนใบพลู ริมฝีปากที่ขยับเคี้ยวหมากไปมาทำเอาลมหายใจของนภทีป์สะดุดโดยไม่รู้ตัว


“อ่านกระไรอยู่หรือพ่อทีป์”คุณหลวงเดินมาชะโงกมองผ่านใหญ่คนตัวเล็กกว่าไปยังหนังสือเล่มหนาที่อยู่ในมือนภทีป์

“หนังสือการทูตของคุณหลวงนั้นแลขอรับ เล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ คุณหลวงมีหนังสือเยอะมากเลยนะขอรับ”

“ฉันชอบอ่านน่ะ ของคุณพ่อที่มีอยู่เดิม รวมกับของฉันมันถึงได้เยอะออกอย่างนี้ พ่อทีป์ชอบอ่านหนังสือมากเลยหรือ”

“ก็ไม่ได้ชอบกระไรมากมายหรอกขอรับ แต่อยู่ที่นี่มันว่างเสียจนไม่มีอะไรทำนอกจากการเรือน แปลหนังสือ แล้วก็อ่านหนังสือนี่แลขอรับ อยู่ว่างๆไม่รู้จักทำกระไรก็เลยอ่านหนังสือเสียดีกว่า”

“เหงาหรือ พ่อทีป์อยากกลับบ้านหรือไม่จ้ะ?”

“อยากซีขอรับ”

“อยู่ที่นี้ไม่ดีหรือ อยู่ไปตลอดเลยมิได้หรือจ้ะ?”คุณหลวงถามแผ่วเบา นภทีป์กัดริมฝีปากแน่น ใจหนึ่งเขาก็อยากจะตอบคุณหลวงเหลือเกินว่าอยากอยู่ที่นี้ไปตลอด แต่ถ้าวันนึง เขาหาวิธีกลับบ้านได้ละ วันนั้นเขาจะบอกคนคนนี้ว่าอย่างไรได้

“ไม่รู้ซีขอรับ...”

“เอาเถิด นี่ก็ดึกมากแล้วพ่อทีป์ไปนอนเถิดหนา”

“ขอรับ”นภทีป์ตอบรับอย่างว่าง่ายแล้วพับหนังสือเก็บเข้าชั้นเรียบร้อย ก่อนจะหันไปยิ้มให้คุณหลวงที่ยืนรออยู่

“คุณหลวงขอรับ ผมให้สัญญาไม่ได้หรอกว่าจะอยู่ไปตลอด เพราะผมมีบ้าน มีครอบครัวอยู่ที่นู้น ผมหมายถึงพ่อแม่พี่น้องน่ะขอรับ แต่ตราบใดที่ผมยังกลับไม่ได้ ผมก็จะอยู่ที่เรือนนี้ ที่นี่ กับคุณหลวง ไม่หนีไปไหนเด็ดขาด”

“พ่อทีป์สัญญากับพี่แล้วหนา”เสียงทุ้มแผ่วเบา ริมฝีปากมีรอยยิ้มจางๆ ดวงตาคมเข้มพราวระยับ ทำเอาคนมองใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างประหลาด

“สัญญาขอรับ”เสียงขานรับแว่วๆ หากแต่เป็นเสียงที่ดังก้องเหลือเกินในหัวใจของคุณหลวง ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ซี ที่ยามเขาอยู่กับพ่อทีป์ก็เหมือนกับต้องมนตร์ไปเสียทุกครั้ง...

ไม่รู้ว่าฟ้าหรืออะไรที่ส่งพ่อทีป์ลงมาให้เขา ถ้าหากฟ้าขีดดวงชะตาของเขากับพ่อทีป์ไว้ด้วยกันแล้วไซร้...ขออย่าให้พ่อทีป์จากเขาไปไหนเลย


หากถึงวันที่รักปักจิตปักใจไปแล้วไซร้ เขาเองคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีพ่อทีป์


“ไปนอนเถิด พ่อทีป์อยากย้ายไปนอนเสียที่ห้องอื่นหรือไม่ นอนตั่งเยี่ยงนี้จักสบายหรือ?”นภทีป์ขมวดคิ้ว นอนมาครึ่งปีแล้วเพิ่งมาถาม ไม่สบายก็นอนจนชินแล้วโว้ย ชายหนุ่มได้แต่บริภาษอยู่ในใจ เพราะอย่างไรนอนที่ตั่งเล็กก็ไม่ได้ลำบากลำบนอะไรมากด้วยคุณหลวงให้คนเอามุ้งปากเล็กมากางให้พร้อมฟูกที่ปูรองเรียบร้อย ทุกวันนี้เลยเป็นทั้งที่นอนและที่นั่งอ่านหนังสือในบางที ถึงแม้วันดีคืนดีเขาจะแอบไปงีบหลับบนเตียงคุณหลวงที่กว้างกว่าเยอะก็เถอะ

“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ ถึงอย่างไรผมก็ชินเสียแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณหลวง”

“ราตรีสวัสดิ์หรือ แปลว่ากระไร?”

“good night ครับคุณหลวง ฝันดีนะครับ”

“หากฝันถึงพ่อทีป์ก็คงจักเป็นฝันดีกระมัง” เสียงคุณหลวงพึมพำเบาๆ น่าเสียดายที่นภทีป์ได้ยินไม่ชัด เขาได้ยินเพียงเสียงทุ้มที่พูดอะไรงึมงำๆเท่านั้นเอง

“พ่อทีป์จ้ะ วันนี้อยากทำจ่ามงกุฎกับแม่หรือไม่ลูก?”วันนี้นภทีป์ก็ว่างตามเคยเพราะไม่มีหนังสืออะไรให้แปล ตอนนี้เขาเลยนั่งๆนอนๆเอกเขนกอยู่นี่

“เอาซีขอรับคุณแม่”

“พ่อทีป์นี่ช่างตามใจแม่เสียทุกเรื่อง เยี่ยงนี้จักไม่ได้แม่รักแม่เอ็นดูได้อย่างไรกันจ้ะ”

“คุณแม่ก็พูดเกินไปขอรับ กระผมเพียงอยากลองทำเท่านั้นเอง”

“จ้า มาๆ มาเถิดแม่ให้บ่าวมันเตรียมของไว้แล้วจ้ะ”

“ขอรับ”


บ่ายนั้นทั้งบ่ายนภทีป์เลยง่วนอยู่กับการทำขนม กว่าจะเสร็จก็เย็นย่ำจนแดดร่มลมตกเสียแล้ว คุณหญิงจึงไล่ไปอาบน้ำ จนกลับมานั่งพับเพียบแต้ที่สำรับข้าว ถึงได้นึกได้ว่ายังไม่เห็นคุณหลวงนพเทพอัครากลับมาเรือน

“คุณหลวงยังไม่กลับหรือขอรับคุณแม่”

“ยังจ้ะ เกรงว่าวันนี้คงจักมีงานให้สะสางเยอะกระมังลูก อย่ากังวลไปเลยจ้ะ กินข้าวกินปลาแล้วไปนอนเถิด พ่อนพน่ะเป็นอย่างนี้เสมอแลลูก

“กระนั้นหรือขอรับ”หากแต่นภทีป์ก็ยังคงกังวลใจว่าอีกคนจะเป็นอะไรไปหรือไม่อยู่ดี พอกินข้าวเสร็จถึงได้ปักหลักอยู่ที่หอนั่ง นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือรอคุณหลวงที่จนพระจันทร์ตรงหัวแล้วก็ยังไม่กลับมาเรือน สุดท้ายถึงได้ผล่อยหลับไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว


“ไอ่คงแกไปนอนเถิด ไม่ต้องตามขึ้นมารับใช้บนเรือนดอก กระเดี๋ยวลูกเมียจักร้อนใจ”คุณหลวงบอกแก่บ่าวที่ติดตามไปที่กรมแล้วเดินขึ้นเรือน พลันก็สะดุดตากับแสงตะเกียงที่ยังเรืองรองอยู่ที่หอนั่ง ทั้งที่ปกติเวลานี้ทุกคนจะเข้านอนแล้วแท้ๆ

“ใครกัน”เสียงทุ้มนุ่มพึมพำเบาๆแล้วเดินเข้าไปในหอนั่ง ถึงได้เจอร่างขาวๆนอนซบบนหมอนขวาน หนังสือเล่มหนาตกแปะอยู่ข้างๆตัวนั่นเอง


หัวใจคุณหลวงพลันอุ่นขึ้นอย่างประหลาด รู้สึกถึงอีกคนมากกว่าเคย เพราะมีคนรออยู่ที่บ้านอย่างนี้กระมัง ถึงทำให้จิตใจที่อ่อนล้าอุ่นซ่านและคลายเหนื่อยหน่ายอย่างประหลาด


พ่อทีป์ช่างน่ารักเหลือเกิน....



===================
เย่ๆ เอาพยับที่ 11 มาเสิร์ฟก่อนไปเรียนค่าาาา ><

ขอโทษด้วยน้าา ที่ไม่ได้ลงให้อ่านถี่ๆเพราะไม่มีเวลามาต่อจริงๆ T[]T

ยังไงคนอ่านก็อย่าเพิ่งทิ้งคนเขียนเน้ออออ

ปอลิง ถ้าไม่มียูสเซอร์แต่อยากคอมเม้นต์ ไปติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ว่า #คุณหลวงนพ ก็ได้น้าา

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ไม่เคยคิดจะทิ้งเลยรอติดตามมาตลอด อยากให้มาต่อบ่อยๆกว่านี้ด้วยซ้ำ. พ่อทีป์น่ารักมากอยากให้รักกับคุณหลวงเร็วๆใจจะขาด. ว่างเมื่อไหร่ก็มาต่อนะจ๊ะ. แต่ว่าคราวหน้าน่าจะใส่วันที่ด้วยนะจะได้รู้ว่ามีตอนใหม่มาลงแล้วนะจ๊ะ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คิดถึงคุณหลวงกับพ่อทีป์เนอะ :mew2:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า :3123: :กอด1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
น่ารักอ่ะ
พ่อทีป์ รู้ใจตัวเองเร็วๆนะ. พ่อนพเขาเริ่มใจเต้นแล้ว อิอิ
รอน้าาา

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ฮอลลลลลล ถ้าเป็นไปได้คนเขียนอาจจะลงให้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนน้าา
ช่วงนี้ผ่านมรสุมเคสสตัดดี้ เปเปอร์มา แล้วก็กำลังจะฝ่ามรสุมไฟนอล T[]T
เดี๋ยวช่วงปิดเทอมหน้าจะได้มาบ่อยขึ้นนะคะ

ปอลิง เรื่องนี้มันยาวนานมากเลย ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันนะคะ มีแต่เพื่อนถามว่าจะแต่งจบก่อนปีหกมั้ย  :katai1: (คิดว่าจบก่อนนะอีกตั้งสี่ปี :katai4:)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2014 11:22:52 โดย infernoA »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
รอได้จ้า
คิดถึงคุณหลวง อิอิ

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ    ภาษาเขียนสวยมากเลยค่ะ

พ่อนพ  แม่ทีป์   อิอิอิ   ชอบอ่าาาาาาาา  น่ารักที่สูดดดดดดดดดดดด    :-[

(อ่านไป  นึกถึงเรื่องทวิภพเลย  คุณหลวงอัครเทพวรากร  กับ  แม่มณีจันทร์)

มันเคล้ากลิ่นหอมหวนของการย้อนเพลา  กับเรื่องราวความรักต่างภพที่มาบรรจบกัน

โดยไม่มีอะไรขวางกั้น    :give2:



รีบมาต่อนะขอรับ  มันช่างเป็นเรื่องราวที่สนุกผสานกับความรู้ด้านประวัติศาสตร์เสียนี่กระไร

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:


ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พยับที่ ๑๒


เช้าตรู่ นภทีป์ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะทนอากาศหนาวไม่ไหวจนต้องลุกมาหาผ้าห่มเพิ่มตั้งแต่เช้า แต่สุดท้ายก็กลับไปนอนไม่ได้เลยได้ฤกษ์มานั่งแหมะอยู่ที่หอนั่งตั้งแต่บ่าวยังไม่ทันตื่นกันเสียด้วยซ้ำ

   “พ่อทีป์ ไยวันนี้ตื่นเช้านัก นอนไม่หลับหรือจ้ะ?”เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นด้านหลังคนที่นั่งเล่นอยู่ที่หอนั่ง เพราะที่นี้ไม่มีสามจี อินเทอร์เน็ต หรือโซเซียลเนตเวิร์กอะไรสักอย่างคนที่นอนไม่หลับอย่างเขาเลยต้องมานั่งแหมะอยู่ที่หอนั่งชมนกชมไม้ไปเรื่อย จะอ่านหนังสือก็คร้านจะจุดตะเกียงให้ได้เรื่องได้ราวอะไรอีกสุดท้ายเลยนั่งเฉยๆมันเสียเลย

   “หนาวจนนอนไม่หลับน่ะขอรับ”

   “หนาวมากเลยหรือ ที่ที่พ่อทีป์มาไม่หนาวแบบนี้หรือ?”

   “ที่กรุงเทพฯสมัยผม หนาวแบบนี้ได้แค่วันเดียวก็เป็นข่าวฮือฮาแล้วขอรับ”

   “แล้วพ่อทีป์ชอบอย่างไหนมากกว่ากันหรือ?”

   “จริงๆก็ชอบแบบนี้นะขอรับ เพียงแต่ว่าที่นี่ไม่มีครอบครัวของผม ไม่มีพี่ชาย ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีนม ไม่มีใครเลยน่ะขอรับ”นภทีป์ทอดสายตาไปไกล ตอนนี้...เขาก็ยังคงอยากกลับบ้าน หากแต่คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

   “มีพี่อย่างไรเล่าพ่อทีป์ กระไรเสียพี่ก็จักมิทอดทิ้งพ่อทีป์ดอก”คุณหลวงทรุดตัวนั่งลงข้างๆนภทีป์ ดวงตาคมทอดมองคนที่อ่อนวัยกว่า ใบหน้าเศร้าหมองนั่นน่าสงสารเหลือเกิน หากเขามิอยากให้พ่อทีป์กลับไป


   ไม่อยากเลย...

   “กระเดี๋ยวคุณหลวงก็ต้องแต่งงานแต่งการออกเรือนไปนี่ขอรับ คุณแม่ท่านเปรยให้ผมฟังบ่อยๆว่าคุณหลวงเองก็มีคู่หมั้นแล้ว มิใช่หรือขอรับ?”

   “พ่อทีป์ หากพ่อทีป์ยังอยู่ข้างๆพี่ พี่จักไปมีใครที่ไหนได้อีก พ่อทีป์มิรู้เชียวหรือ?”

“กระผมจะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อคุณหลวงมิเคยบอกกล่าวอะไรผมทั้งนั้นนี่ขอรับ”

“พ่อทีป์ พี่รู้ว่าพ่อทีป์รู้ คุณแม่เองก็ทราบดีว่าพี่คิดกระไรอยู่ หากพ่อทีป์ยังมิมีใจก็มิเป็นไรดอก แต่พี่ขอร้อง อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่นไกล อย่าทำเหมือนรังเกียจพี่ได้หรือไม่”

“ผมไม่เคยรังเกียจคุณหลวง”

“เอาเถิด ครานี้พี่จักมิคาดคั้นเอาความดอก แล้วออกมาเยี่ยงนี้มิหนาวหรือ เสื้อผ้าก็ใส่แต่บางๆเท่านี้ หากเจ็บไข้ได้ป่วยจักทำอย่างไร”

“ก็...หนาวอยู่บ้างขอรับ”

“พ่อทีป์นี่กระไรกัน เอาเถิดๆ พ่อทีป์อยากลงไปเดินเล่นหรือไม่ เช้าตรู่เยี่ยงนี้บ่าวไพร่มันชอบก่อกองไฟให้ลูกเต้าผิงนักแล อยากไปดูหรือไม่จ้ะ”

นภทีป์นิ่งคิดชั่วครู่ แล้วพยักหน้าตกลง

“ไปซีขอรับ”

“งั้นก็ไปกันเถิด”ร่างสูงลุกขึ้นก่อนแล้วยื่นมือมาตรงหน้านภทีป์ คนตัวเล็กกว่ามิได้ปฏิเสธความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ ยื่นมือของตนไปให้มือใหญ่กว่าเกาะกุมแล้วลุกขึ้นยืนตาม



“เปรี๊ยะๆ”เสียงไม้ในกองไฟแตกลั่น ท่ามกลางความเงียบสงบเสียงเบาๆนั่นจึงเด่นชัดขึ้นมา  นภทีป์ยกยิ้ม ที่นี่สงบมาก สงบกว่ากรุงเทพมหานครในยุคของเขา...

“อยากผิงดูหรือไม่?”คุณหลวงหันมาถามคนที่ยังคงยืนนิ่ง มุมปากของนภทีป์ยกยิ้มน้อยๆ แสงแดดบางๆที่ยอแสงผ่านทำให้ใบหน้าเรียวยิ่งดูอ่อนละมุน

“ไม่เอาหรอกขอรับ กระเดี๋ยวจักกลายเป็นไปแย่งพวกเด็กๆไป คุณหลวงขอรับหากพ่อพิ พ่อพี กับพ่อวีโตขึ้น เขาจักมิถามหาแม่หรือขอรับ”

“ถามหาแล้วอย่างไร พี่ต้องหาให้ด้วยหรือ...พ่อทีป์ เด็กๆน่ะ เขาขาดเขาก็อยากมีทั้งนั้นแล หากยามทั้งสามเติบโตเป็นหนุ่มเมื่อใด ครานั้นเขาคงมิร้องหาแม่ดอก จริงหรือไม่จ้ะ”

“นั่นซีขอรับ กระผมก็ลืมคิดไป จริงซีขอรับคุณหลวง ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ไม่แย่นักดอก แต่ก็หาได้ดีอันใด พวกอีหรอบจ้องจักตะครุบดินแดนของเราเยี่ยงนี้...”

“กระนั้นหรือขอรับ...กระผมนึกว่ายามนี้เหตุการณ์จะสาหัสนัก”

“มิต้องกังวลไปดอกพ่อทีป์...พ่ออยู่หัวท่านทรงต่อสู้จนถึงที่สุดเป็นแม่นมั่น พี่เชื่อนักหนา ว่าสยามประเทศจักมิต้องไปอยู่ใต้อำนาจผู้ใดให้มันเป็นเจ้าประเทศราชดอก”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำเบาๆ ถอนสายตาจากทิวทัศน์ตรงหน้ามามองคนตัวสูงกว่าแทน คุณหลวงทั้งหล่อเหลา หน้าที่การงานก็ดีพร้อม เขากลัว...

หากวันใดเผลอใจไป แล้วคุณหลวงจักต้องไปมีใครอีกคนเขาจักทำใจได้หรือ??

“คุณหลวงขอรับ แล้วพี่น้องต่างแม่ของคุณหลวง...ได้เจอกันบ้างหรือไม่ขอรับ?”

“เจอกันซี ลางทีคุณแม่ท่านก็เรียกมาไต่ถาม เรื่องที่ส่งไปเรียนนั้นแล หากเป็นหญิงท่านแม่ท่านก็เมตตานัก ให้บ่าวคนสนิทสอนการบ้านการเรือนให้ แต่พี่มิค่อยได้เจอพวกน้องสาวนักดอก คุณแม่ท่านว่าเดี๋ยวจักโดนตะครุบเอาเสียได้”

“พ่อเดียวกันแต่งกันได้ด้วยหรือขอรับ?”

“พ่อเดียวกันแล้วอย่างไรเล่า สหายพี่หลายต่อหลายคนนักที่ได้น้องสาวที่เป็นลูกเมียทาสมาเป็นเมียอีกคน คุณแม่ท่านเลยห่วงนักหนา เกรงว่าจักได้ลูกสะใภ้มิดีมิงามเข้า...”

“แล้วคู่หมั้นคุณหลวง”

“แม่มะลินั้นหรือ พี่มิใคร่ได้เห็นหน้านักดอก เขาอยู่ในวังข้างใน นานๆจักได้กลับมาเยี่ยมแม่เขาสักทีแลก็มาเยี่ยมแม่พี่บ้าง ด้วยแม่พี่กับแม่เขาเป็นมิตรกันแต่เยาว์”

“แปลว่าเขาต้องเพียบพร้อมมากเลยซีขอรับ?”

“โขอยู่กระมัง กระไร มิชอบใจหรือจ้ะ”คุณหลวงยกยิ้มล้อเลียน นัยน์ตาส่งประกายวิบวับที่ทำเอานภทีป์อยากเอานิ้วจิ้มให้เจ็บดูสักที คนอะไรตาเจ้าเล่ห์

“ใครว่า คุณหลวงคิดไปเองแล้วขอรับ”นภทีป์หันหน้าหนี พลางเดินกลับเรือนเพราะพระอาทิตย์เริ่มสาดแสงแรงขึ้นทุกที

“อายหรือจ้ะ”

“ยังไม่หยุดพูดอีก!!”นภทีป์เร่งสาวเท้าเดินหนีคนตัวสูงกว่าที่ยังเดินสบายๆ ชิ...อะไรมันจะไร้ความกังวลใจปานนั้นพ่อคุณ!! นภทีป์เบะปากกลอกตาใส่ลมใส่ฟ้าไปเรื่อยจนเมื่อยหน้านั่นแหละ ถึงได้หยุดไปเสียเอง เพราะคุณหลวงเอาแต่เดินชมนกชมไม้อยู่ข้างหลังไม่ได้รับรู้ความขุ่นเคืองใจของเขาแม้แต่น้อย...

จริงๆแล้วจะเรียกว่าขุ่นเคืองใจก็ไม่ค่อยถูกนัก... เรียกว่าเขินน่าจะเหมาะกว่าแหละมั้ง



“วันนี้มีจักมีแขกมาเรือนเราหนาลูกพ่อทีป์ แม่อยากให้พ่อทีป์ไปช่วยงานครัวเสียกับแม่สักชั่วยามได้หรือไม่ลูก แลกระเดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่ารอรับแขก”

“ใครหรือขอรับ?”นภทีป์เงยหน้าจ้องตาคุณหญิงที่กำลังใช้ผ้าแพรผืนบางที่เหน็บเอวมาเช็ดมุมปากที่เปื้อนน้ำหมากน้อยๆ

“แม่มะลิกับคุณหญิงจันทร์วาดลูก อดีตคู่หมั้นของพ่อทีป์กับสหายรักแต่เยาว์ของแม่ที่แม่เคยเล่าให้ฟังกระไรเล่าลูก”

“คู่หมั้นเก่าหรือขอรับ?”

“เพราะคุณหญิงจันทร์วาดเป็นสหายเก่าแก่ของแม่แต่เยาว์เลยเปรยกันว่าจักยกแม่มะลิให้พ่อนพแต่ยังน้อยนัก พ่อทีป์เป็นกระไรหรือไม่ลูก”

“หาเป็นอันใดไม่ขอรับคุณแม่ กระผมเพียงแต่รู้สึกเพลียขึ้นมาบ้างแต่เท่านั้นเองขอรับ แล้วเขามาทำอะไรที่เรือนเราหรือขอรับ”

“มาเยี่ยมเยียนแลลูก แม่วาดเขาคงอยากคืนดีกับแม่ พ่อทีป์ไปพักเสียหน่อยดีหรือไม่ลูก หน้าซีดเซียวเหลือเกิน”

“ไม่เป็นไรดอกขอรับคุณแม่”นภทีป์ส่งยิ้มไปให้คุณหญิงที่ยังเมียงมองใบหน้าขาวที่ซีดเซียวลงจนน่าเป็นห่วง แต่หากเจ้าตัวบอกว่าไม่เป็นไรนางก็ไม่อยากบังคับกะเกณฑ์อะไรให้มากความ

“เอาเถิด มิเป็นไรก็มิเป็นไร มาเถิดพ่อ กระเดี๋ยวแม่จักสอนกรองดอกไม้เสียก่อน ให้บ่าวมันเตรียมครัวบนเสียให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปทำก็ได้ แหมว่าไปแม่ก็อยากทำซิตูกับซิเต๊กนัก แต่เกรงว่าจักไม่อร่อยถูกปากแม่วาดกับแม่มะลิเขา”

“ซิตู?? กับซิเต๊กหรือขอรับ?”นภทีป์เอียงคอทำหน้าฉงนเมื่อได้ยินรายชื่ออาหารแปลกๆ ทำไมถึงคุ้นหูนัก ซิตู กับซิเต็ก....

“สตูกับสเต๊กสินะขอรับ”

“นั้นกระมังลูก แม่ไปเห็นพวกอีหรอบที่มากับมิชชันนารีเขาทำ เลยขอสูตรเขามา แต่ทำอย่างไรแม่ก็ว่ามิถูกปากแม่เสียที”

“ผมทำเป็นนะขอรับคุณแม่ หากคุณแม่อยากให้ทำรับแขกก็คงพอทำได้อยู่บ้าง”นภทีป์ฉีกยิ้มกว้าง ตอนแรกเขาคิดว่าสมัยนี้ไม่น่ามีอะไรพวกนี้ให้กินเสียอีก อย่างนี้ก็ลาภปากลาภท้องเลยทีเดียว

“อย่างนั้นหรือ ดีเทียวลูก กระเดี๋ยวแม่ทำต้มยำเพิ่มเสียอีกอย่างหนึ่งขึ้นสำรับ มาลูกนั่งเถิด เดี๋ยวแม่จักสอนกรองมาลัย”

สรุปแล้วทั้งเช้าวันนั้นนภทีป์ก็ได้นั่งกรองมาลัยห้อยหน้าต่างประตูกับคุณหญิงจนเอาไปติดได้เกือบครบทุกห้องในเรือน จะเว้นไว้ห้องนึงคือห้องของคุณหลวงนพเทพอัคราเพราะมิใคร่นิยมชมชอบดอกไม้ที่กรองอยู่ที่หน้าต่างนัก



“พ่อทีป์ อยากได้เครื่องกระไรเพิ่มอีกหรือไม่ลูก”คุณหญิงถามเมื่อทั้งคู่มาอยู่ที่ครัวบนเรือน ตรงหน้านภทีป์มีเนื้อหมูสด กับเครื่องเทศวางอยู่ ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในที่นี้เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วขอสากกับไม้ไผ่หนาๆสักแท่งกับไม้ไผ่เหลาปลาย

เมื่อได้อุปกรณ์พร้อมสรรพนภทีป์ก็ใช้สากทุบๆหมูที่บ่าวหั่นไว้ให้เป็นชิ้นใหญ่ๆ เอาไม้จิ้มไปจิ้มมาจนคิดว่าน่าจะนุ่มพอใช้ได้แล้ว ถึงเอาไปหมักเครื่องเรียบร้อย แล้วถึงไปช่วยคุณหญิงทำต้มยำ กลิ่นต้มยำหอมคลุ้งไปทั้งเรือนคนคนที่เพิ่งเลิกงานมาต้องเดินตามมาด้วยความหิว


“พ่อนพ กลับมาเหนื่อยๆ หิวหรือไม่ลูก หากหิวแม่จักให้บ่าวไปยกของว่างมาให้ก่อน ดีหรือไม่?”

“หิวขอรับคุณแม่ ลูกนั่งทานเสียที่นี้ก็ได้ขอรับ อยากอยู่กับคุณแม่กับพ่อทีป์”คนตัวโตกว่าส่งสายตาวิบวับยามเอ่ยถึงนภทีป์ ทำเอาคนแอบมองอยู่จนลืมต้มยำในหม้อหน้าแดงเป็นริ้วๆ

“เอ้า งั้นก็นั่งเสียลูก กระเดี๋ยวแม่ให้บ่าวไปยกมาให้ นังช้อย ไปยกขนมงากับน้ำชามาให้คุณหลวงท่าหน่อยไป เร็วๆเข้าละเอ็งอย่าไปเถลไถลอื้ออึงกับใครอยู่”

“เจ้าค่ะคุณหญิง”บ่าวช้อยรีบกราบลาแล้วลุกลงเรือนไปเอาขนมมาให้คุณหลวงเสียถาดใหญ่โต พร้อมชาหนึ่งกา คนหิวพอเห็นของกินเข้าก็ยิ้มชอบใจนั่งกินไปมองหน้าคนทำกับข้าวไปอยู่อย่างนั้นจนนภทีป์แทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่อถูกสายตาเจ้าเล่ห์ตามติด

“พ่อนพมาชิมต้มยำกับซิตูนี่ทีลูก”

“ขอรับ”คนตัวสูงเดินมาตามเสียงเรียกมารดาแล้วอ้าปากงับช้อนที่มารดาส่งให้ แต่สายตากลับจ้องมองแต่คนตัวเล็กกว่าที่กำลังคนสตูกับย่างสเต๊กอยู่อีกทางจนโดนคุณหญิงบิดเอวเข้าให้

“ให้มันน้อยๆหน่อยซีพ่อนพ วันนี้แม่มะลิกับคุณหญิงจันทร์วาดจักมา มัวแต่ทำกะลิ้มกะเหลี่ยน้องอยู่นั่นประไร หือ ยังมิได้เป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือยไร้พันธะผูกมัดหนาลูก”

“คุณแม่ขอรับ กระผมเพียงมองน้องเท่านั้นเอง”คุณหลวงกระซิบตอบพลางยิ้มประจบเอาใจจนคุณหญิงมิรู้จะว่ากล่าวลูกรักลงคอได้อย่างไร นางก็เป็นเสียอย่างนี้ เพราะลูกชายคนเดียวที่นานๆทีจักประจบเอาใจเสียเล่าทำเอานางไม่เคยขัดใจได้เสียที

“เวลาคุณหญิงกับแม่มะลิมาก็รักษากิริยาหน่อยแล้วกันลูก กระเดี๋ยวแม่จักเปรยๆกับคุณหญิงจันทร์วาดเขา...หากพ่อนพของแม่มิมีพันธะแล้วเมื่อใดจะรักใครชอบใครแม่จักมิขวางเลยหนาลูก”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงยิ้มใส่ตามารดาอีกครั้งแล้วหันไปหาคนที่คนสตูในหม้อมือเป็นระวิง หากแต่ก็หันมามองทางที่สองแม่ลูกคุยกันงุบงิบเป็นระยะ

“พี่ชิมหน่อยซี”

“นี่ขอรับ”นภทีป์ยื่นช้อนที่แตะสตูขึ้นมาส่งให้แต่อีกคนกลับไม่ยื่นมือมารับหากแต่ยื่นปากมางับช้อนนั่นแทน

“คุณหลวงขอรับ รับช้อนไปดีๆซี”นภทีป์ทักท้วงคนที่ช้อนยังคาปากหากแต่สายตาที่ส่งมานั้นทำเอาคนตัวเล็กกว่านึกว่าที่อยู่ไปคือมือของเขาเสียเองไม่ใช่ช้อนโลหะคันสวย...

“อยากให้ป้อน มิได้หรือ”คุณหลวงกระซิบเสียงเบาเมื่อปล่อยช้อนออกจากปาก คนที่หน้าแดงอยู่แล้วเลยยิ่งหน้าแดงไปกันใหญ่
 
“คุณหลวงนี่เจ้าเล่ห์ซะจริง!!”นภทีป์บ่นอุบอิบแล้วไม่ได้สนใจคนที่ยังยืนยิ้มกริ่มอยู่ใกล้ๆอีก จนคุณหลวงโดนแม่ตัวเองดุนั้นแหละถึงได้ยอมกลับไปนั่งดีๆ

“สบายดีหรือคุณหญิงจันทร์วาด แม่มะลิ”ครั้นพอพลบค่ำคุณหญิงจันทร์วาดกับลูกสาวก็มาเยือนถึงเรือนคุณหลวงนพเทพอัครา นภทีป์ได้ยินบ่าวสาวๆอึงกันให้ทั่วว่า พามายามเย็นเยี่ยงนี้เพราะอยากให้ใครๆเขาพูดกันว่าสนิทชิดเชื้อยิ่งนัก ทั้งๆที่ดูไม่งามเท่าไรที่จักพาลูกสาวไปเยือนเรือนชายหนุ่มเสียค่ำมืด

“สบายดีจ้ะคุณหญิงแขไข แม่มะลิก็สบายดี คราหม่อมท่านให้กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่ได้กว่าสัปดาห์ ฉันเลยพามาเยี่ยมเยียนแม่แขไข”แม่มะลิส่งยิ้มสวยพลางยกมือไหว้คุณหญิงแขไขที่ยืนรอรับอยู่ที่ชานเรือน นภทีป์ได้แต่มองตาม ผู้หญิงคนนั้น สวยหวาน ผิวก็ขาวเนียนเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ทั้งๆที่ทำผมทรงดอกกระทุ่มนั่นแท้ๆ แต่กลับงามถึงเพียงนี้

“มาเถิด วันนี้ฉันลงครัวเองเทียวนาอยากอวดฝีมือให้จันทร์วาดได้กินกัน แม่มะลิมาเถิดลูกกระเดี๋ยวแม่จักแนะนำคนให้รู้จักเสียด้วย”

“ใครหรือแม่แขไข?”

“ลูกบุญธรรมของฉันจ้ะ”คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นพี่น้องกับคนเจ้าเล่ห์จริงๆทำตาเหลือก ตอนอยู่ที่วัดก็นึกว่าพูดเล่นไปงั้นๆเพื่อรักษาหน้าหน้ารักษาเกียรติ ใครจะรู้ว่าคุณหญิงแขไขจะรับเขาเป็นลูกบุญธรรมจริงๆ คุณพระคุณเจ้า นี่ต้องทำตัวเป็นคุณชายขึ้นหรือเปล่าเนี้ย


“นี่พ่อทีป์จ้ะ พ่อทีป์นี่คุณหญิงจันทร์วาด แล้วนี่ก็แม่มะลิ”นภทีป์ยกมือไหว้คุณหญิงแลเก้ๆกังๆอยู่ว่าจะไหว้แม่สาวกระเบื้องเคลือบด้วยดีหรือไม่ จนคุณหลวงสังเกตเห็นนั้นแหละ

“จริงซี ปีนี้แม่มะลิอายุเท่าใดนะ พ่อทีป์คงจักลำดับอาวุโสมิใครถูกนักกระมัง”

“สิบแปดแล้วเจ้าค่ะ”คนที่กำลังเก้ๆกังๆทำตาโตพลางคิดฉงนอยู่ในใจ อายุสิบแปดเท่านี้จะมีผัวแล้วเหรอวะนั่น เด็กยุคนี้สมัยนี้ไวไฟจริงๆเลย


“กระนั้นพ่อทีป์คงแก่กว่ากระมัง ปีนี้อายุเท่าใดนะพ่อทีป์”

“ยี่สิบหกขอรับ เพิ่งเลยเบญจเพสมาพอดีเทียว”พอลำดับอาวุโสกันเรียบร้อยแม่มะลิถึงได้หันมายกมือไหว้นภทีป์ด้วยอีกคน

“อ้อ ฉันลืมฝากฝังลูกชายฉันไปเทียว คราก่อนเจอกับพี่นวลที่วัดแต่มิเจอแม่วาดเลยมิได้รู้จักกัน มัวแต่ลำดับอาวุโสกันอยู่นี่กระเดี๋ยวฉันได้ลืมฝากฝังลูกชายฉัน นี่พ่อทีป์จ้ะลูกชายบุญธรรมของฉัน”คุณหญิงจันทร์วาดพยักหน้ารับพลางส่งยิ้มให้นภทีป์ที่ยกมือไหว้เธอเป็นรอบที่สามของวัน

“ไหว้พระเถิดลูก แล้วนี่ทำงานทำการกระไรจ้ะ อยู่ที่กรมท่ากับพ่อนพหรือ? หรือมิรู้หนังสือ”

“มิได้ทำอันใดขอรับ ช่วงนี้กระผมก็อยู่กับบ้านช่วยงานคุณหญิงแลคุณหลวง”

“ช่วยงานกระไรหรือจ้ะพ่อนพ เผื่อวันใดพ่อตะวันว่างๆป้าจักได้ให้มาช่วยแบ่งเบากันได้ เราหาใช้คนอื่นคนไกลกัน พ่อทีป์จักได้มิเหนื่อยด้วย”

“แปลหนังสือขอรับคุณป้า หนังสือราชการของพวกอีหรอบน่ะขอรับ พ่อทีป์รู้ภาษาพวกมันหลายชาตินักเทียว”

“อย่างนั้นหรือ ดีจริง เอ...พ่อทีป์จ้ะ อย่างนี้แม่ให้พ่อตะวันลูกชายแม่มาเรียนกับพ่อทีป์บ้างได้หรือไม่จ้ะ”

“ได้ซีขอรับ กระเดี๋ยวกระผมจักช่วยสอนให้ ว่าแต่ลูกชายคุณหญิงอายุเท่าไรแล้วหรือขอรับ?”

“สักยี่สิบได้แล้วจ้ะ”

“เอ้า มัวแต่คุยกันเพลินเชียว สำรับมาแล้วจ้ะทุกคน เร่งทานกันเถิดกระเดี๋ยวเย็นหมดจักมิน่าทานเอาเสีย วันนี้พ่อทีป์ลงครัวด้วยนา”


“ค่ำมืดแล้วไยมิเข้ามานอนเล่าพ่อทีป์”คุณหญิงจันทร์วาดกับแม่มะลิกลับไปเสียนานแล้ว จนตอนนี้พระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะแต่นภทีป์ก็ยังไม่อยากเข้าไปนอน

ผู้หญิงที่เพียบพร้อม อ่อนหวาน สวยไปเสียหมดขนาดนั้น...แล้วยังมีผู้หญิงอีกมากหน้าหลายตาในแผ่นดินนี้ที่คุณหลวงจะได้เจอ
เขาจะกล้ารักได้หรือ

คุณหลวงจะไม่ทิ้งเขาไปไหนจริงๆดั่งปากว่าน่ะหรือ??

“นอนไม่ใคร่หลับขอรับ คุณหลวงเล่าขอรับเหตุใดยังไม่นอน”

“ออกมาตามคนแถวนี้ไปนอนน่ะซี พี่กลัวคนดีของพี่จักคิดมาก”คุณหลวงว่าพลางขยับตัวมายืนข้างๆ พลางเอาผ้าแพรผืนบางคลุมไหล่ให้คนตัวเล็กกว่าไปด้วย

“ผมไปเป็นของคุณหลวงเมื่อไรกัน...แล้วผมก็ไม่ได้คิดมากด้วย จะคิดมากเรื่องอะไรล่ะขอรับ?”

“เรื่องแม่มะลิน่ะซี พ่อทีป์จ้ะพี่จักมิทิ้งพ่อทีป์ไปที่ไหนดอก”

“แล้ว...”

“เรื่องหมั้นน่ะหรือ ก็ถอนหมั้นไปแล้วเสียเล่า อย่างไรก็คงมิได้กลับไปหมายกันอีก แลที่คุณป้ากับแม่มะลิมาครานี้คงเพียงมาเยี่ยมเยียนเท่านั้น คนดีอย่าคิดมากเลยนะจ้ะ”

“กระผมมิได้อยากได้คุณหลวงไว้กับตัวเสียหน่อยนี่ จะคิดมากด้วยความใดเล่าขอรับ”นภทีป์ไม่ยอมหันไปมองหน้าคุณหลวงหนุ่ม ทั้งยังตอบมิตรงกับใจตัวเองเสียอีกด้วย

“จริงหรือจ้ะ มิใยดีพี่จริงๆหรือ”

“ไม่ขอรับ”

“จริงๆน่ะหรือ จะมิใยดีพี่สักนิดเลยหรือจ้ะ”พอโดนออดอ้อนหนักๆเข้านภทีป์ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก คนตัวโตก็ได้แต่ยิ้มกริ่ม กระไรเขาจักดูพ่อทีป์มิออกกัน หากมิได้ใยดีมีหรือจักนอนไม่หลับเยี่ยงนี้

คิดได้ดังนี้คุณหลวงก็ได้แต่ลอบยิ้มในใจ

“ใยดีกระไรกันเล่าขอรับ คุณหลวงนี่กวนผมจริง”

“ก็กลัวคนแถวนี้จักไม่รักน่ะซีเลยกวน”

“คุณหลวง ไปนอนกันเถิดขอรับ มัวแต่มาพูดกระไรอยู่นี่ก็ไม่รู้”นภทีป์ไม่ได้หันไปมองหน้าคุณหลวงที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง พลางสาวเท้าเข้าห้องไปก่อนเพราะทนความเขินไม่ไหว


คนห่าอะไรไม่รู้ เสียงเจ้าเล่ห์ หน้าเจ้าเล่ห์ แล้วยังจะขี้หลีอีก!!


   
   



มาต่อให้แล้วจ้า >< หลังจากหายไปนาน  :hao5: :hao5:
เนื่องจากชีวิตปีสองช่วงนี้รุงรังมาก :katai1: :katai1: แต่เดี๋ยวช่วงปลายเดือนคนเขียนก็จะปิดเทอมแล้วน่าจะมาต่อได้ถี่ขึ้น :katai4: :katai4:
เพราะว่าไม่มีอะไรก่อกวนชีวิต ฮิฮิ :katai5: :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2014 22:49:29 โดย infernoA »

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
น่ารักมากกกกกก จีบกันทีนี้ มดขึ้นจอกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มาแล้วววววว
จิ้มก่อง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด