พิมพ์หน้านี้ - ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: infernoA ที่ 08-09-2013 23:33:07

หัวข้อ: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 08-09-2013 23:33:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

เรียน   ท่านสมาชิกทุกท่านทราบและโปรดดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เรื่อง  กฎกติกาและมารยาท

          กรุณาอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วยข้าล่างนี้   ด้วยความระมัดระวังยิ่ง

เพราะเป็นบรรทัดฐานที่พึงยึดและปฏิบัติตามอย่างไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่นได้

หากผู้ใดฝ่าฝืน  ทางเราจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป


      จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 นับถือ

                                                                            อิเจ้  โมดุเรเตอร์


..................................................................................................
 

เปิดทู้ใหม่เลยนะจ้ะ T^T ขอโทษจริงๆที่หายไป
รีไรท์ทั้งหมดเลย เนื้อเรื่องเปลี่ยนค่อนข้างเยอะนะ
แต่โครงเรื่องเหมือนเดิม  :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 08-09-2013 23:42:39
บทนำ

‘ฉันนั้นยิ้มลำพัง หัวเราะลำพัง สดชื่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา...’

       เสียงเพลงคลอเบาๆ ดังไปทั่วรถ ตอนนี้ ผมกำลังขับรถวนรอบเขตชานเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อหาบ้านเก่าๆ ริมแม่น้ำ

เจ้าพระยาสักหลังไว้เป็นที่พักกายพักใจพักไข่ (?) ของผม ผมขับรถวนรอบแถบๆนี้มาได้สองสามชั่วโมงแล้วล่ะมั้ง

ในที่สุดผมก็เจอบ้านที่ถูกตาต้องใจ ถูกโฉลกกับไข่ของผมในที่สุด บ้านริมน้ำหลังโต ติดประกาศขายไว้ตัวเบ้อเริ้มเทิ่มพร้อมเบอร์

โทรติดต่อซื้อขาย ราคาแม่งจะกี่บาทวะเนี้ย หลังอย่างใหญ่ มีสวนอยู่รอบๆบ้าน ดูร่มรื่นดี บางทีผมควรจะติดต่อหาเจ้าของเก่าเขา

สักหน่อย...


    หนึ่งเดือนหลังจากนั้นผมก็เจรจาซื้อขายบ้านหลังนั้นเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนไอ่ทีป์

ตอนนี้ก็เหลือแค่ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆบ้านกับย้ายเข้า และวันนี้ก็เป็นวันฤกษ์งามยามดีวันศรีอมิตสะโตโอโหใหญ่จังที่ผมจะ

ย้ายเข้า พร้อมกับนมนุ่มที่เป็นแม่นมของผมตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อยร้อย กับพี่ชายสุดที่รักที่ช่วยออกค่าบ้านให้ผม

เล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ พี่ชายผมมันโคตรของโคตรของโคตรงก ผู้หญิงที่ว่าแน่ยังแพ้ไอ่ธามผู้นี้เลยคิดดู)

   “มึงคิดอะไรมึงวะ ทำตัวอย่างกับเป็นพระเอกมิวสิกวีดิโอ”

   “ไม่ขัดอารมณ์สุนทรีย์กูสักวันนี่มึงจะขี้ไม่ออกรึไงวะตฤณ”คือแบบแม่งกวนตีนอ่ะ กวนตีนทุกวัน  แม่งตอนเด็กๆผมคิดไงไปคบกับ

เชี่ยนี่วะ

   “เอ่าห่า กูก็นึกว่ามึงดราม่าอุตส่าห์เป็นห่วง เชี่ยนี่แม่งไม่เคยเห็นความสำคัญของกูอ่ะมึง กูเสียใจ” สลิดสัสๆเลยนะจุดนี้ แหม

 อยากกระทืบเพื่อนรัก -_-  คือถ้าไม่คบกันมาแต่เล็กแต่น้อยนี่ผมกระทืบแม่งมิดตีนไปล่ะ

   “หน้ามึงนี่เสียใจมากเลยนะสลิด กวนตีนจริงๆวะแม่ง”

   “โว๊ะ! ด่ากูอยู่นั้นแหละ มึงจะเอาไงวะครับ กูไม่ได้มาบ้านมึงเพื่อโดนมึงโขกสับเหมือนละครจำเลยรักนะครับไอ่เพื่อนรัก”

   “แค่นี้ทำบ่นนะมึง ทีธามด่ามึงชิบหายตายห่ามึงไม่เห็นว่าอะไร ยังมาขออยู่กับกูอีก ทั้งๆที่รู้ว่าจะได้อยู่ใกล้มันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

สุดๆ”เรื่องของเรื่องที่ไอ่ตฤณมันมาบ้านผมวันนี้คือ นอกจากมาช่วยขนของแล้วมันจะย้ายมาสิงสู่บ้านผมอย่างเป็นทางการด้วยครับ

 มันเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหกที่ต้องออกมาระเห็จระเหเร่ร่อนฝึกงาน แล้วโรงพยาบาลที่มันจับฉลากได้อยู่แถวนี้พอดี เลยเข้าทาง

มัน น้ำไฟฟรีทีวีพร้อมไม่ต้องจ่ายเหี้ยอะไรเลยสักอย่าง เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆให้ตาย

   “กูอยากกินฟรีอยู่ฟรีมั้งสัด ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมันเลย แล้วก็ขนของกันเลยดีมั้ยครับมึงเดี๋ยวจะไม่ได้ขึ้นบ้านกันพอดี”มันลาก

กระเป๋าใบเท่าควายน้อยของผมขึ้นไปบนบ้านพร้อมกระเป๋าใบน้อยของมันส่วนผมก็แบกกระเป๋าของตัวเองอีกสองสามใบ นี่ถ้าพี่

ชายตัวดีของผมมาช่วยผมขนของบ้างอะไรบ้างมันจะดีกว่านี้นะ แม่งหนักเหี้ยๆ


   “โอ้ละหนอ...ดวงเดือนเอย...เจ้ามาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง...”หืม?? เสียงใครมาร้องเพลงไทยแถวนี้กันหว่า? ดังมาจากๆ

แถวๆบ้านนี่แหละ หรือไอ่ธามมันจะเฮี้ยน อยากร้องเพลงไทยเดิมขึ้นมา?

   “ไอ่ทีป์ เร็วๆดิวะ”เสียงเร่งเย้วๆดังมาจากบันไดขั้นบนสุด ไอ่เพื่อนสุดที่รักยืนปักหลักเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่แล้วเรียบร้อย

   “เออๆ นี่ก็เร่งกูจัง”คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง นมนุ่มคงเปิดเพลงไทยเดิมฟังตามประสาสาวสวยวัยทองเหลืองอร่ามร่ามเรืองไปตาม

เรื่องตามราว

   “แม่ง! อะไรของมึงวะ อยู่ดีๆก็หยุดยืนทำหน้าเป็นหมาอดแดกข้าว”แหม ดูมันเปรียบเทียบ เป็นเพื่อนรักที่น่ากระทืบให้มิดตีนจริงๆ
   
“เรื่องกูเหอะสัด เดี๋ยวสั่งธามปล้ำแม่ง”

   “ปล้ำมึงน่ะสิไอ่เหี้ย ไม่ต้องพูดถึงพี่หน้าหนวดของมึงเลย ชิบหาย ชอบรังแกเด็กตัวเล็กๆตาดำๆอย่างกู”

   “ตาดำๆหรือตัวดำๆ”จริงๆไอ่ตฤณมันก็ไม่ดำหรอกครับแต่ผมหมั่นไส้แม่งไง -3- มันชอบกวนตีนผมอ่ะ ต้องรังแกมันเยอะๆ รังแก

มันอีกบ่อยๆ

   “พ่องมึงไอ่ทีป์”

   “มันจับมึงซั่มแน่”แถมด้วยการยักคิ้วอีกสองจึ้ก ก็ผมหมั่นไส้มันอ่ะ แม่งไม่ได้รู้ตัวห่าอะไรเลย ถึงพี่ผมจะชอบทำไม่ดีกับมันแต่ผม

ว่ามันคงสนใจไอ่ตฤณอยู่หน่อยๆหรอกไม่งั้นไม่แกล้งได้แกล้งดีแกล้งแบบตล๊อดตลอดแบบนี้หรอก -3-

   “ถ้ากูโดนซั่มมึงก็ต้องโดนสัด”แม่งชูนิ้วกลางให้ผมด้วยอ่ะ ใจหมาชิบหาย TT ผมเสียใจโดนเพื่อนด่าพร้อมภาษากายว่าฟัคโยว่

 (ฟัคโย่วพ่องสิ ฟัคยู - -)

   “แม่ง เห้ยๆ ห้องข้างหน้าเนี้ยที่ประตูมันเปิดอยู่อ่ะ”ผมกำลังจะด่ามันต่อล่ะแต่พอดีถึงห้องก่อนเลยต้องหยุดการด่าไว้แต่เพียงเท่า

นี้แล้วไปเก็บของกันในห้องต่อ ผมจะไล่มันไปอยู่ปีกเดียวกับไอ่ธามให้มันโดนพี่ผมจับปล้ำซั่มทำเมียไปซะ

   “ห้องมึงวิวดีว่ะ ดูอากาศโปร่งๆดีด้วย เครื่องใช้ในห้องมึงนี้ของเก่าหมดเลยเปล่าวะ?”

   “เออ เห็นเจ้าของบ้านเขาว่าเป็นของเก่าหมดเลย ส่วนระบบไฟระบบน้ำนี่เขาเข้ามาทำใหม่”

   “มึงไม่กลัวไปเจอของเก่าท่านเจ้าคุณแบบนั้นบ้างเหรอวะ?”

   “ไม่รู้สิ อาจจะเจอหรืออาจจะไม่เจอ ใครจะไปรู้ว่าท่านเจ้าคุณอยู่ห้องนี้รึเปล่า นี่อาจจะห้องเมียเขาก็ได้”ผมกวนตีนมันอีกระลอก

แต่ก็จริงนั้นแหละ ใครจะรู้ว่าท่านเจ้าคุณอยู่ห้องนี้รึเปล่า

   “โหย สัสมึงก็คิดไปนู้น แล้วจะให้กูวางของตรงไหนครับคุณชาย?”

   “ปลายเตียงนั้นแหละ เดี๋ยวกูเก็บเอง มึงก็ไสหัวไปห้องมึงได้ละ”

   “ห้องไหนละครับไอ่เพื่อน แหม พูดเหมือนกูจะรู้ว่าตัวเองจะซุกหัวนอนที่ไหนเลยนะสาส”ทำมามองค้อนเป็นผู้หญิง ไอ่ห่านี่จริต

จะก้านเยอะครับ ผมว่าสักวันคงไม่แคล้วกลายเป็นเมียไอ่ธามพี่ชายหน้าหนวดของผมแน่นอน!

   “รีบวางของเดะ เดี๋ยวกูพาไปส่ง”ต้องรีบพามันไปให้ไอ่พี่ธามเจอหน้า มันทำความดีความชอบใหญ่หลวงไว้ครับถ้าผมไม่บอกว่า

ไอ่ตฤณได้ฝึกงานแถวนี้ถ้าผมซื้อบ้านแล้วจะย้ายมาอยู่ด้วย มีเหรอที่ไอ่ธามมันจะยอมออกตังก์ให้อ่ะ

   “เอ่าๆ เดี๋ยวๆสัส มึงจะให้กูนอนห้องไหนเนี้ย ไม่ใช่ห้องข้างมึงเหรอสัส”

   “โนว์ๆๆ ซอรี่นะจ้ะ ห้องมึงอยู่ปีกโน้นโว้ยครับ ปีกนี้มันมีห้องกว้างๆห้องเดียว”ผมไม่ได้หลอกมันนะ คือมันมีห้องเดียวจริงๆอ่ะ -3-

อีกสองห้องเป็นห้องทำงานกับห้องหนังสือ แล้วก็ห้องเล็กอีกห้องโดนเจ้าของบ้านคนเก่าทำเป็นห้องน้ำไปแล้ว 
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               
   “โหย สัส แปลว่าปีกนี้มึงอยู่คนเดียว แล้วปีกโน้นไอ่พี่ธามก็อยู่คนเดียว??”

   “นมนุ่มด้วยต่างหากล่ะ -3-“

   “เวรสัสๆ เวรเหี้ยๆ ไอ่เพื่อนเวรตะไล ถ้ากูรู้ว่ามึงจะให้กูอยู่ใกล้มันแบบเอ็กซ์คลูซีฟขนาดนี้มึงคิดว่ากูจะมาเหรอวะครับ?”

   “เอ่า กูจะรู้เหรอ กูนึกว่ามึงอยากใกล้ชิดแบบตูดแนบไข่กับพี่ชายกู”

   “ไอ่สัส พ่องตาย”มันจัดแจงยกนิ้วกลางให้ผมเสร็จสรรพ เถียงกันไปเถียงกันมาก็เดินมาถึงห้องนอนมันพอดี คือไม่อยากจะเอ่ย

ว่าอยู่ข้างๆห้องไอ่ธามเลยทีเดียว ใกล้ชิดสุดๆ ใช้ห้องน้ำเดียวกันด้วย มิมิ ขอให้มึงจงสุขสวัสดิ์นะจ้ะไอ่เพื่อนเลิฟ <3

   “เอ่า ถึงแล้ว เชิญเสด็จเข้าไปจัดห้องได้ตามสะดวก ห้องน้ำอยู่ถัดจากห้องธามไปนะ ส่วนนมนิ่มอยู่ถัดจากห้องน้ำไปอีกที”

   “เออ!”มันสะบัดบ๊อบเข้าห้องไปแล้วครับ สงสัยจะงอนที่ผมพยายามจะพรากเอกราชของมันมาให้พี่ผมเหลือเกิน

   “ปั้ง!!” แหมะ ปิดประตูห้องซะบ้านใหม่กูสะเทือนเลยนะสัส อย่างนี้ต้องแก้แค้น

   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”หึหึ โดนกูเอาคืนแบบเจ็บปวดแน่ไอ่ตฤณเพื่อนรัก

   “มีไรวะ กูกำลังจะนอนไอ่สัส -  -;;”คือแบบพี่กูเถื่อนมาก ทักน้องทักนุ่งแบบนี้ตลอดอ่ะสัส ทีสาวๆนี่เสียงอ่อนเสียงหวาน เดี๋ยวจะ

แช่งให้ไอ่ตฤณไปรักกับหนุ่มอื่นคอยดู!!

   “กูพาไอ่ตฤณมาล่ะ ห้องข้างๆมึงเนี้ย”

   “จริง??”

   “เออสิ มึงจะทำไรก็รีบทำนะครับสัส ช่วงปีนึงที่มันฝึกงานเนี้ย”

   “เออ เดี๋ยวกูก็ทำจนได้แหละ มึงไปจัดห้องมึงไป๊ เพิ่งมาถึงนี่”

   “เออ”เห้อ...ผมยัดเยียดเพื่อนให้เป็นเมียพี่มากไปปะวะ? แต่ถ้าไอ่ตฤณมันไม่รักผมก็ไม่บังคับกะเกณฑ์มันหนา


 :z13:มุ้งมิ้งจุ้งจิ้ง เค้าเอาบทนำมาฝากนะแจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 09-09-2013 10:27:47
ยังติดตามเป็นกำลังใจให้อยู่นะ
เพราะเราชอบเรื่องแนวนี้มากๆเลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 19-09-2013 10:49:00
กลับมาจัดหน้าให้ค่ะ เมื่อวานรีบจัด เพราะลงก่อนไปเรียน
เพื่อนมาเคาะห้องพอดีเลยไม่ได้จัดอะไรเลย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 03-10-2013 22:43:04

พยับที่ ๑ ความทรงจำในสมุดหนัง

          ผมอยู่บ้านนี้มาได้ประมาณสองสามเดือนแล้ว เจออะไรมาเยอะแยะทีเดียว คือไม่ใช่สิ่งลึกลับนะเว้ยหมายถึงพวกของ

เก่าๆน่ารักๆ กุ๊กกิ๊กไรงี้  บางวันเจอพัดงาช้าง เจอปิ่นปักผม แล้วแต่ว่าผมไปเก็บกวาดตรงไหน วันนี้ผมจะเก็บห้องทำงานที่ผมเอา

ทั้งของผม กับของเก่า   เขามาสุมๆกันไว้จนแทบจะล้นออกมานอกห้องนี่ซะก่อน ไม่งั้นผมจะไม่มีที่ทำงาน

           “ปั้ง โครม!!” เหยดดดดด คือผมแม่งจะปีนไปเอาของบนหลังตู้หนังสือลงมาครับ แล้วแม่งลื่น มือเลยกวาดเอาทุกอย่างลง

มากองทับบนตัวผมเลยทีเดียว เจ็บอ่ะ TT
       
            “โอ๊ย...เชี่ยแม่ง!”ผมสบถเบาๆ ผมตกเก้าอี้บ้านสะเทือนเลื่อนลั่นขนาดนี้ยังไม่มีใครได้ยินอีกเหรอวะ T[]T โธ่ชีวิตบัดซบ

ของไอ่ทีป์

            ลุกเองก็ได้วะ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมานั่ง ของบนตัวล่วงกราว แหมะ พื้นที่ร่างกายนี่มันรองรับได้หลายอย่างจริงๆ มี     

ตั้งแต่สมุด หนังสือ หีบเล็กๆ เหมือนกล่องแหวน นาฬิกาพกเรือนน้อยๆแบบแขวนคอ ทั้งของที่ใหม่ๆแบบของผมแล้วก็ของเก่าๆ

ของเจ้าของคนเก่า...

           “ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องอันศิวิไลซ์ของผม สงสัยคงเป็นใครสักคนที่ได้ยินเสียงการแลนดิ้งของผมเมื่อกี้

           “เปิดมาเลย ไม่ได้ล็อค”

           “เอ่า ไอ่เชี้ยมึงลงไปทำห่าอะไรตรงนั้นวะทีป์?”ไอ่ตฤณทักผมด้วยความเป็นห่วง (?) ก่อนจะค่อยๆเยื้องย่างมา

พยุงผมขึ้นอย่างอ่อนโยน (?)

          “โอ๊ย ไอ่เชี่ย มึงจะช่วยกูหรือจะฆ่ากูเนี้ยสัด”แม่งกระชากแขนผมขึ้นซะ -..- อย่างกับจะแยกร่างผมเสี่ยงๆนะครับแหม่

          “ช่วยสิไอ่เหี้ย มึงเห็นกูฆ่ามึงรึไงควาย!!”ซึ้งใจสัดๆเลยครับ  อย่างจะกระทืบเพื่อนรักคืนเป็นการตอบแทน  เอ๊ะ หรือ

ผมจะยุให้พี่ชายผมจับมันทำเมียดี??

          “ทำหน้าเจ้าเล่ห์นะไอ่สัส แล้วมึงจะบอกกูได้ยังว่าไปกองตรงนั้นได้ไง?”

         “กูจะปีนขึ้นไปเก็บของบนหลังตู้หนังสือลงมา แล้วเนี้ยเสือกลื่นไอ่เก้าอี้ตัวเนี๊ยะ เลยลงมากองอยู่เนี้ย”ผมอยากจะทำ

ปากยื่นแล้วชักดิ้นชักงอแบบที่ชอบทำใส่ไอ่ธามตอนเด็กๆอยู่เหมือนกัน แต่กลัวไอ่ตฤณกระทืบ ไม่เอาดีกว่า -..-
   
       “ควายจริงๆเลยมึง มากูช่วยเก็บ ละหัวไม่ได้กระแทบใช่มั้ย?”

         “เออ ไม่กระแทกมีแต่ตูดกับหลังเนี้ยกระแทกเต็มๆ ห่าเอ๊ย!”

        “โทษความโง่ของตัวมึงเองเถอะไอ่เพื่อนรัก”ปลอบซะกูหายเจ็บปวดเลยนะไอ่เหี้ย อย่างงี้อย่าเรียกปลอบเลยสัส แถวบ้านกู

เรียกซ้ำเติม - -;
      “เออ ไอ่สัสมาช่วยกูเก็บเลยมึง”
      “เออๆ”มันนั่งลงข้างๆผมแล้วหยิบของออกไปวางจำแนกเป็นกองๆ พวกหนังสือเก่า หีบเล็กหีบน้อย เครื่องประดับอย่างแหวน

เก่าๆ นาฬิกาพก แล้วก็พวกหนังสือใหม่ของผมที่ดันไปกองๆไว้ตอนแรก

      “ของแม่งอย่างเยอะเลยว่ะ เจ้าของเก่าเค้าไม่เก็บไปรึไงวะ ของๆต้นตระกูลเค้าแท้ๆ”ไอ่ตฤณมันพูดแถมพลิกหีบไม้สลักลาย

ที่มันเพิ่งรื้อออกมาไปมา สายตาเป็นประกายบิ๊วกิ๊ง มันชอบของเก่าครับ หมอวินเทจ

      “สงสัยเขาคงคิดว่าไม่สำคัญมั้ง ไม่งั้นเค้าคงไม่ขายบ้านหลังนี้ทิ้งหรอก บ้านก็เป็นบ้านต้นตระกูลเค้าเหมือนกันนะเว้ย”

      “เออจริง เห้ยมึง นี่อะไรวะ?”ไอ่ตฤณมันหยิบหีบแบนๆออกมาจากกองของแล้วยื่นมาให้ผม อย่างกับหีบเก็บคัมภีร์ ผมรับหีบ

นั้นมา เหมือนมันจะล็อคอยู่ กุญแจของหีบนี่จะอยู่ที่ไหนกันนะ?

      “วางไว้อีกกองละกัน มาๆแยกต่อจะได้เก็บถูก เออ แม่งแล้วกูจะเก็บของเก่าพวกนี้ไว้ไหนวะมึง??”บางอย่างแม่งเป็นหนังสือ

ครับ ผมจะเอาไปตั้งโชว์ก็ไม่ได้...แต่แปลก ทั้งๆที่บ้านเก่าขนาดนี้แต่หนังสือพวกนี้กลับดูไม่เก่าเท่าไหร่นัก ไม่มีรอบมอดหรือ

แมลงเจาะเลยด้วยซ้ำ

      “เอาของจุ๊กจิ๊กน่ารักไปตั้งโชว์ ส่วนหนังสือ กูว่าคงต้องหาตู้ในบ้านสักตู้ใส่ไว้โชว์แขก ว่าเนี้ย ของเก่านะเว้ยเห้ย”เออ ถึง

ความคิดมันจะดูไร้สาระไปหน่อย แต่ก็น่าสนใจ...

      ผมกับตฤณก้มหน้าก้มตาเก็บของที่หล่นลงมาต่อจนหมด แล้วจัดการเอาหนังสือเก่าๆไปไว้ที่มุมห้องก่อน ส่วนของที่เหลือก็

เอาใส่กล่องไว้ เอาไว้จัดต่อพรุ่งนี้ เพราะวันนี้มันก็จะค่ำล่ะ คงต้องแยกย้ายกันไปพักผ่อนเอาแรง


       20.20 น.

      ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอน ช่วงนี้งานผมยุ่งๆ ที่สถานทูตมีคนมาติดต่อเยอะแยะไปหมด ผมทำงานตามรอยคุณพ่อของ

ผม...ใช่แล้ว คุณพ่อของผมเป็นทูต ส่วนผมเป็นลูกชายคนเล็กของท่านทูตที่อยากจะเป็นนักการทูตเหมือนพ่อ ผมเลยเรียนด้าน

รัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ จากมหาลัยชื่อดังด้านการเมืองแห่งหนึ่ง ผมเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง ทำเอาคุณ

พ่อหน้าบานไปเจ็ดวัน -3- ส่วนไอ่ตฤณ มันไม่ได้เรียนหมอที่เดียวกับผม แต่อีกมหาลัยชื่อดังด้านการแพทย์อีกที่หนึ่งของไทย แต่

เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาลจนมัธยม สายสัมพันธ์มันเลยไม่ขาดไปไหน เรียกว่านัดเจอกันแทบทุกสัปดาห์ ถึงมันจะเจอหน้า

พี่ผมที่เป็นรุ่นพี่มันมากกว่าผมก็เหอะ...

      “หาววว...”ผมบิดขี้เกียจเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมา แหม ก็มันเมื่อยนี่ นั่งอยู่นานๆ ผมอาจจะตายก็ได้นะ เป็นแผลกดทับ

ตาย -..- (มึงคงต้องนั่งเป็นปีอ่ะค่ะแหม) ว่าไปไปเอาหีบนั่นมาดูหน่อยยดีกว่า

ผมหยิบหีบแบนๆที่เจอเมื่อตอนกลางวันมานั่งพิจารณา...อืมม...สวยดี ด้านบนหีบแกะเป็นรูปสิงโตสองตัวเคียงกัน ว่าแต่ผมจะเปิด

หีบนี่ยังไง? บางทีถ้าหีบอยู่ในห้องนี้กุญแจก็อาจจะอยู่ในห้องนี้ก็ได้ จะหาดูดีมั้ย? จะดูเสือกเรื่องของเค้าไปนิดนึงมั้ยวะ แต่ว่า

อยากรู้นี่หว่า...

      “เพล้ง!”เชี่ย! เสียงอะไรแตกวะ ผมหันไปตามที่มาของเสียง ดังมาจากด้านนอก สงสัยต้องออกไปดู ก็มันดังอยู่ในปีกของผม

นี่นาปีกนู้นคงนอนหลับสบาย

      “ฟู่ววว”พอผมเปิดประตูลมก็พัดใส่หน้าซะผมหลอนเลยครับ นึกถึงหนังผีน่ะ -..- สยองเลยทีเดียว ผมกดเปิดสวิตซ์ไฟด้าน

นอกจะได้เดินสำรวจเสียทีว่าอะไรมันตกลงมาแตก


      [ God eye view ]
   

      อีกด้านหนึ่งยังมีอีกสายตาหนึ่งที่จับจ้องนภทีป์อยู่ เขาไม่รู้ว่าเขามาอยู่บนเรือนลูกน้องคนหนึ่งในกรมได้อย่างไร...แล้วที่

ข้องใจคือ ทำไมบ้านลูกน้องถึงไม่เหมือนเดิม มีหลายอย่างผิดแผกไป อย่างเจ้านาฬิกานั่น เรือนกลมๆ ไม่มีนกกุ๊กกู๋เลยสักตัว

หรือเจ้าจอสี่เหลี่ยมที่คนในบ้านนี้เพิ่งดูอยู่เมื่อตอนเย็น และที่สำคัญหามีใครมองเห็นเขาไม่! เขาจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่

เขาถูกชะตาด้วยเป็นพิเศษ

     “ตึก ตึก ตึก”ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เดินได้เสียงดังเสียจริงกระดานลั่นจนหูเขาแทบระเบิด เห้อ อะไรทำให้ท่านเจ้าคุณแห่งกรมท่า

อย่างเขาต้องมาด้อมๆมองๆเด็กหนุ่มเหมือนเป็นพวกลักเพศเยี่ยงนี้นะ!! ว่าแต่ทำไมเด็กหนุ่มนี่ถึงมาอยู่บนเรือนของหลวงนพ ซ้ำ

ยังเดินเข้าออกห้องหลวงนพราวกับเป็นห้องของตัวเอง...แต่ดูที...เหมือนจักอยู่คนละภพกันอย่างไรอย่างนั้น เมื่อตะกี้เขาเผลอ

เดินไปชนรูปหลวงนพบนตู้หนึ่งตกลงมาแตกเสียงดัง คงเป็นเหตุให้เด็กหนุ่มนี่ต้องออกมาดู เขาได้แต่แปลกใจเหตุใดรูปหลวงนพ

ที่ยังหนุ่มแน่นถึงได้ดูแก่ขึ้นกว่าเดิมเสียเยอะ...คงน่าจะประมาณสามสิบกว่าๆ ทั้งๆที่ตอนนี้หลวงนพอายุแค่ยี่สิบเก้าเท่านั้น

      “อ๋อ ที่แท้ก็กรอบรูปตกนี่เอง แมวที่ไหนมาวิ่งชนวะ ลำบากกูเก็บอีก”เด็กหนุ่มบ่นเบาๆ ทำเอาเจ้าคุณที่แอบดูอยู่ใกล้ๆ (ก็เขา

มองไม่เห็น) ขมวดคิ้วมุ่น เจ้าเด็กนี่

      “เอ๊ะ นี่รูปใครวะ”เด็กหนุ่มหยิบกรอบรูปแตกๆขึ้นมา ก่อนจะลุกออกไป แล้วกลับมาใหม่พร้อมไม้กวาดกับที่ตักขยะ ที่คนที่

แอบดูอยู่ไม่ได้รู้เลยว่าไอ่ที่ตักขยะเนี้ย มันคืออะไร เขาเห็นแค่เด็กหนุ่มใช้ไม้กวาดหน้าตาประหลาดที่ไม่เหมือนกับไม้กวาดทาง

มะพร้าวที่เขาเคยเห็น บรรจงกวาดเศษแก้วจากรอบรูปใส่ในอะไรสักอย่างที่เขาไม่เคยเห็น...ก่อนจะเอาทุกอย่างไปเก็บ พร้อมกับ

ถือกรอบรูปเข้าไปในห้องด้วย...พิลึกจริงเชียวเจ้าหนุ่มคนนี้...

      “ตามไปดูที เขาจักทำอันใดกันนะ?”ท่านเจ้าคุณในวัยสามสิบปลายๆค่อยๆเยื้องย่างตามหนุ่มน้อยเข้าไปในห้องนอนของคุณ

หลวง

      สายตาที่ทอดมองจับภาพชายหนุ่มกำลังเพ่งพินิจพิจารณารูปภาพของลูกน้องในกรมของเขา ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งกรมท่าซ้าย

คุณหลวงนพเทพอัครา นักเรียนนอก ลูกชายของท่านพระยาเทพอัครากับคุณหญิงแขไข ช่วงนี้ในเมืองหลวงต่างก็พูดถึงคุณหลวง

หนุ่มผู้นั้น...รูปร่างสูงใหญ่ ออกจะผิดชายชาวสยามทั่วไปเสียหน่อย หน้าตาคมเข้มงดงาม กิริยาท่าทางหรือคุณหญิงท่านก็สอน

มาดีเหลือเกิน สุภาพ อ่อนน้อม พูดอะไรก็ไพเราะไปเสียหมด เฮ้อ...นึกไปนึกมาทำไปคุณหลวงถึงได้ดีไปเสียหมดเยี่ยงนี้นะ? ว่า

แต่เจ้าหนุ่มน้อยนั่นจะจ้องรูปหลวงนพทำไมกัน?

      “หล่อว่ะ”เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ แต่เจ้าคุณหนุ่มก็ได้ยิน แหมก็เขายืนอยู่ข้างหลังเจ้าเด็กนี่เองนี่นา ว่าแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

แล้วเขาจะกลับไปที่เรือนได้อย่างไรกันนะ?

       “ว่าแต่ทำไมรูปมันนูนๆอะไรดันขึ้นมาวะ? รึว่าจะเป็นภาพนูนต่ำ?”เด็กหนุ่มยังพึมพำต่อไป แถมด้วยการงัดแงะแกะเกากรอบ

รูปไปพร้อมๆกัน เจ้าคุณหนุ่มได้แต่มองแบบงงงัน เจ้าหนุ่มน้อยนี่มันจะทำอันใดของมัน?

       “เหี้ย!!”เสียงสบถลั่นทำเอาคุณหลวงสะดุ้งเฮือก ส่วนเด็กหนุ่มเบิกตาโพลงจ้องมองกุญแจดอกเก่าๆในมือ เด็กหนุ่มยกรูปที่มี

ข้อความเขียนด้วยหมึกจางๆอยู่ด้านหลังขึ้นมาอ่าน ท่านเจ้าคุณได้แต่หยีแต่เพ่งมองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดๆ

      “ความทรงจำของฉัน…เก็บไว้กับกุญแจดอกนั้น”เด็กหนุ่มอ่านจบก็ได้แต่ขมวดคิ้วงุนงง เก็บอะไรไว้กับกุญแจ กุญแจไม่

เห็นจะมีอะไร?

      “หรือว่า...”สายตาของเด็กหนุ่มรีบเก็บกรอบรูปไปไว้บนชั้นที่เดิม ส่วนรูปถือติดมือไปพร้อมกุญแจ เขาแทบจะวิ่งกลับเข้าไป

ในห้องไปหยิบหีบแบนๆที่ยังเปิดไม่ได้สักทีมาลองไขดูสักที

       “หึหึ ใช่แน่ๆ”เด็กหนุ่มจัดการใช้กุญแจลองสอดเข้าไปในรูกุญแจช้าๆ สีหน้าของเด็กหนุ่มดูลุ้นจนเหงื่อตก ท่านเจ้าคุณเองยัง

ลุ้นแทนอยู่ข้างๆ เหมือนว่าเป็นเรื่องของตัวเองยังไงยังงั้น

      “กริ๊ก”เสียงกุญแจลั่นเบาๆท่ามกลางความเงียบสงัดของบ้าน นภทีป์ยิ้มสมใจที่มุมปาก ดวงตาโตเริ่มหยีเป็นประกาย

      “หึหึ จะได้รู้กันสักทีว่าหีบนี่มันซ่อนอะไรอยู่”เขาค่อยๆเปิดฝาหีบออกช้าๆ ด้านในหีบมีสมุดบันทึกปกหนังสีน้ำตาลเก่าๆ

กระดาษเหลืองกรอบ...แหวนสองวง แล้วก็ดอกรักแห้งๆ กับพวงมาลัยกรอบๆกับกิ่งไม้แห้งๆอีกหนึ่งกิ่ง


เขาขมวดหัวคิ้วเข้าหากัน...

ของนี่เป็นของคนในรูปหรือ?

ส่วนท่านเจ้าคุณเอง ก็มีสีหน้าแปลกใจไม่แพ้กัน ถึงนภทีป์จะมองไม่เห็นท่านเจ้าคุณก็เถอะ ของๆหลวงนพ มิแปลกที่จะอยู่ในบ้าน

ของหลวงนพ แต่ว่าตอนนี้...เขาไม่เห็นหลวงนพเลย...ที่นี่ที่ไหนกัน

      “แอบอ่านสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง”นภทีป์หยิบสมุดขึ้นมา ส่วนแหวนกับดอกไม้แห้งๆพวกนั้นเขาทิ้งไว้ในหีบ ปิดแล้วไข

กุญแจปิดเหมือนเดิม ส่วนสมุดคงอีกสักพัก กว่าจะได้เอากลับไปไว้ในหีบ   นภทีป์เดินไปปิดไฟกลางห้อง...

เปิดเพียงโคมไฟหัวเตียงแสงนวลตา...ถึงจะดูเสือกเรื่องชาวบ้านไปนิด แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะอ่านไดอารีที่แสนดึงดูดใจนี่

มือขาวพลิกเปิดหน้าแรกออกดูช้าๆ หน้าแรกมีเพียงข้อความสั้นๆเขียนไว้กลางหน้ากระดาษ ลายมือหวัดปลายน้อยๆ แต่สวย...

                   ‘นพเทพอัครา’
   
เขาอ่านทวนชื่อนั้นในใจ...ไม่รู้ว่าทำไมชื่อนี้ถึงได้ดึงดูดให้เขาอยากเจอตัวคนนัก รวมทั้งหน้าคร้ามคมในรูป...เชอะก็แค่หล่อกว่า

เขาหน่อยเดียวเอง!!

      “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
     
      “อือ...”นภทีป์มุดหัวลงไปใต้ผ้าห่มแพรเนื้อบาง เหมือนพยายามหลบเลี่ยงเสียงเคาะประตูเบาๆที่ดังอยู่ข้างนอก...

      “คุณทีป์คะ นมเตรียมอาหารเช้าพร้อมแล้วนะคะ”เสียงผู้หญิงวัยกลางคนค่อนไปทางแก่ดังขึ้นจากอีกฝั่งของประตู แต่ไม่ได้

ทะลุเข้ากระดูกชิ้นไหนในรูหูของชายหนุ่มที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงเลยแม้แต่น้อย

       “นมครับ ปล่อยมันนอนไปเหอะ เดี๋ยวนมค่อยอุ่นให้มันก็ได้ ตอนนี้ธามหิวแล้วเดี๋ยว รีบไปราวน์วอร์ดเดี๋ยวธามกินก่อนกับไอ่

ตฤณ”เสียงทุ้มต่ำของชายอีกคนดังมาจากอีกฝากของประตู นั้นแหละไม่ได้เข้าหูคนที่นอนอยู่หรอก แต่...มีคนหนึ่งได้ยิน...

ท่านเจ้าคุณแห่งกรมท่าซ้าย...


      ไอ่หนุ่มนี่มันไม่เคยได้หลับนอนหรือไร สายจนตะวันแยงก้นเยี่ยงนี้ยังหารู้สึกตัวไม่...หากเป็นเขา...คนตื่นเสียก่อนย่ำรุ่ง ไม่

นอนกลิ้งเกลือกไปมาเยี่ยงนี้แน่ๆ ถึงอากาศจะน่านอนเพียงใดก็เถิด

      สายลมพลิ้วแผ่ว...พัดผ้าม่านสีขาวโปรงบางปลิวไสวตามแรงลม หอบกลิ่นหอมของดอกไม้หลังบ้าน ทั้งความเย็นจาก

เจ้าพระยามาแตะผิวกาย...เอ่อ  ถึงตอนนี้เขาจะดูโปร่งแสงแปลกๆก็เถิด


      ...ท่านเจ้าคุณสูดลมหายใจเข้าแผ่วเบา...

       เขาเหมือนจะเป็นลักเพศเข้าไปทุกที...เหตุใดจึงต้องมานั่งมองเจ้าหนุ่มนี่นอนด้วย...ถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจ้าหนุ่มนี่ก็

เถอะ

      เฮ้อ...

      เมื่อไรเขาจะได้กลับเรือนกันนะ...คิดถึงเรือน...

      “อื้มมมมม”นภทีป์พลิกตัว ขาขาวนวลลอดออกมาจากกางเกงนอนตัวบาง...

      เจ้าหนุ่มนี่มันคิดจักระวังตัวบ้างหรือไม่นะ? หากเขาเป็นลักเพศเห็นทีคงจะปลุกปล้ำไปเสียแล้วกระมัง

      “ฮ้าววววววววววววววว”นภทีป์เหยียดตัวขึ้น ปิดปากหาวเสียงดังจนน้ำหูน้ำตาเล็ดไปหมด ท่านเจ้าคุณปรายหางตามอง พลาง

สั่นหน้าเบาๆ

      เมื่อไหร่เขาจะได้กลับเรือนกัน...ต้องแอบมองเจ้าหนุ่มนี่ไปถึงเมื่อไร...



       หลังจากตื่นได้ไม่นานนภทีป์ก็กลับไปขลุกตัวอยู่ในห้องทำงาน แปลเอกสารที่ได้รับมอบหมายมา...เขาทำงานในสถานทูต

แปลเอกสารอะไรต่อมิอะไรให้วุ่นไปหมด...เขาอยากทำงานนี้เพราะพ่อ...พ่อที่เป็นเอกอัครราชทูตอยู่ต่างแดน พ่อเป็นฮีโรสำหรับ

เขา เป็นแบบอย่าง...อยากจะโคลนนิ่งออกมาเสียให้หมด

      “ก๊อกๆๆ”

      “ครับ”

      “นมเอาของว่างมาให้ค่ะคุณทีป์ จะรับไหมคะ?”

      “เอาครับ เอาเข้ามาเลยนมผมไม่ได้ล็อกห้อง”เจ้าคุณหนุ่มในร่างโปร่งแสงเดินอ้อมโต๊ะไปแอบมองสิ่งที่นภทีป์ให้ความสนใจ

นักหนา ก่อนตาคมๆจะเบิกโต ก่อนคิดอะไรบางอย่างพลางยิ้มสมใจ รอยยิ้มที่ไม่ว่าใครๆได้เห็นก็มักจะบอกว่าท่านเจ้าคุณช่างยิ้ม

เจ้าเล่ห์เหลือเกิน

      “แหม ทำงานคนหน้าตอบหมดแล้วนะคะคุณหนู ถ้าคุณผู้หญิงกลับมาเห็นคุณทีป์ผ่ายผอมขนาดนี้ป้าคงจะโดนคุณหญิงหัก

เงินเดือนแย่”หญิงวัยกลางคนกระเซ้ายิ้มๆ ก็คุณหนูคนเล็กของเธอน่ะ กินอยากเหลือเกิน เรื่องอื่นไม่เคยเรื่องมากจุกจิก เห็นจะ

เรื่องมากอยู่เรื่องเดียว เรื่องของกินนี่แหละ ผักก็กินอยู่แค่ผักกาดที่ต้องต้มเปื่อยๆ กินผักอย่างอื่นบ้างนานๆครั้ง เนื้อคาวๆบางครั้งก็

กินไม่ได้เสียเลย อ้วกออกเสียหมด

      “คุณแม่จะมาว่าอะไรนมของทีป์ได้ละครับ”นภทีป์พูดยิ้มๆก่อนก้มหน้าลงไปง่วนกับเอกสารต่อเป็นอันตัดบทสนทนากับแม่นม

เธอส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของคุณหนูคนเล็ก ส่วนท่านเจ้าคุณหนุ่มหลังจากเห็นเอกสารที่นภทีป์ง่วนกับ   

การแปลและอ่านอยู่ก็นึกอะไรได้บางอย่าง

      อยากให้เจ้าหนุ่มนี่มีชีวิตอยู่ในร.ศ.111 ที่เขาอยู่ยิ่งนักคงจะดีไม่น้อยถ้ามีคนที่เชี่ยวชาญด้านภาษาขนาดนี้มาช่วยถึงแม้ที่นั้น

จะมีหลวงนพแต่คุณหลวงนั้นหาได้เชี่ยวชาญในภาษาฝรั่งเศสเยี่ยงนี้ไม่ ตัวเขาเองก็ไม่ได้เก่งกาจมากไปกว่าคุณหลวงสักเท่าไร

เอกสารส่วนมากที่ได้มาจึงผ่านการแปลไปอย่างล่าช้า เพราะต้องแปลกลับไปกลับมาระหว่างกภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ

ฝรั่งเศส ยังดีที่เกรทบริเตนยังคงดูเชิงอยู่มิได้เข้ามารุกรานมากนัก หากกลับกันไปแล้ว ช่างแตกต่างจากฝรั่งเศสที่พร้อมจะหุบ

แผ่นดินสยามแทบจะทุกเวลา เขาจะต้องเช่นไร จึงจะรักษาแผ่นดินนี่ไว้ได้ ถึงรักษาได้ไม่หมดอย่างน้อยก็ขอให้มากที่สุด เท่าที่

บรรพบุรุษผู้หนึ่งจะทำให้ลูกหลานในอนาคตได้

เขาจะทำอย่างไรดี เขาจะพาเจ้าหนุ่มนี่กลับเรือนไปเสียพร้อมกันได้หรือไม่? เขาจะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไร เขามาที่นี่ได้

อย่างไร เขาจะกลับไปอย่างไร แล้วเขาจะพาเจ้าหนุ่มนี่ไปด้วยได้อย่างไร คิ้วเข้มขมวดเป็นปม ริมฝีปากคมหยักเม้มแน่น จะทำ

อย่างไรดี??

      “แกรกๆ”เสียงปากกาหัวแหลมแบบจุ่มหมึกขูดกระดาษไปมา ปากกาด้ามเรียวถูกบังคับให้ขีดเขียนด้วยมือกร้านคม ผิวขาว

เหลืองแบบคนโดดแดดบ้างหาได้ขาวซีด เจ้าของดวงหน้างามแบบรูปสลัก คิ้วเข้มปาดเฉียงเล็กน้อย ดวงตาคมโต หางตายกขึ้น

ตามหางคิ้ว ยิ่งทำให้ตาดูดุไปใหญ่ จมูกโด่งเป็นสันตรง ปากหยักลึก ที่ตอนนี้ไม่ค่อยงามเป็นรูปสลักแบบที่ชาวบ้านโจษจันกันเสีย

เท่าไร คิ้วคมเข้มขมวดเป็นปมแน่น


      เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าคุณกันแน่

      บ่าวที่เรือนท่านมาเรียนให้เขาทราบว่าท่านเจ้าคุณจู่ๆก็ล้มลง แล้วหาได้ตื่นขึ้นมาอีก เรือนนั้นยุ่งวุ่นวายกับการรักษากัน

เอิกเหริก ส่วนตัวเขาก็ได้แต่คิดว่าจะทำอย่างไรกับงานตรงหน้า ขาดท่านเจ้าคุณไปเสียคนเขาก็มิรู้ว่าต้องทำอย่างไร ท่านเจ้าคุณ

เป็นผู้ให้เอกสารลับฉบับนี้แก่เขา ยังมีเรื่องต้องหารือกันอีกมาก แต่ท่านเจ้าคุณมาล้มเจ็บเสียแบบนี้เขาจะทำอย่างไรได้ จะไปเฝ้า

สมเด็จฯในกรมหรือเขาก็หามีสิทธิมีเสียงขนาดนั้นไม่

เขาควรทำเช่นไร รอท่านเจ้าคุณฟื้นขึ้นมาได้เพียงอย่างเดียวเช่นนั้นหรือ หามีทางอื่นเลยเทียวหรือไร เห็นทีเขาคงต้องหาทางทำ

อะไรสักอย่าง หาไม่แล้วเกรงว่ากว่าท่านเจ้าคุณจักฟื้นคืนมา สยามประเทศจะขาดแหว่งไปหมดแผ่นดินเสียก่อน

ร่างสูงลุกคลายหัวคิ้วออก มือหนาปิดสมุดบันทึกเล่มหนาของเขา สมุดที่เริ่มขีดเขียนมันตั้งแต่สมัยไปเรียนที่

เกรทบริเตน ในแผ่นดินที่ตอนนี้กำลังรุกรานสยามประเทศ!!

     “พ่อนพจ้ะ แม่เอาน้ำมะตูมมาให้จ้ะ”คุณหญิงแขไข ภริยาของท่านพระยาเทพอัคราผู้เป็นบิดาของคุณหลวงนพเทพอัคราเดิน

เข้ามาในห้องช้าๆ กิริยามารยาทอย่างผู้ดีทุกระเบียด หากหาได้ถือยศถืออย่างไม่

      “ขอบคุณขอรับ เหตุใดแม่จึงเอาเข้ามาเอง ให้นางเล็กๆเอามาให้ลูกก็ได้”ชายหนุ่มละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้า หันมา

คุยกับมารดา ญาติสนิทที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของเขา

      “อยากเจอหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนะซี วันๆอยู่แต่กับงาน จะแต่งงานกับงานหรือจ้ะพ่อ?”คุณหญิงแขไขกระเซ้ายิ้มๆนั่ง

ลงตรงเก้าอี้มุมห้องทำงานของลูกชาย

      “โธ่ คุณแม่ขอรับลูกหาได้ยุ่งกับงานถึงเพียงนั้นไม่ เพียงแต่ลูกยังไม่อยากมีดอกขอรับ”

     “จ้ะ พ่อลูกชาย เอ่า กินเสียหน่อย แดดยังนายพ่อนพคงกระหายน้ำมาก”

      “จ้ะแม่”คุณหลวงหนุ่มรับแก้วใบโตที่ภายในบรรจุน้ำสีน้ำตาลอ่อนๆอยู่เต็มมาจิบช้าๆ น้ำมะตูมสูตรคุณแม่ ยังชุ่มคอเหมือนเคย

      “พ่อทีป์ มะรืนว่างหรือไม่ลูก?”
     
      “คุณแม่มีอะไรหรือขอรับ ลูกหาได้มีธุระอันใดสำคัญให้ต้องเข้ากรมฯ ยิ่งท่านเจ้าคุณมาล้มเจ็บเสียอีก งานทุกอย่างแทบจะ   

หยุดชะงักทีเดียวจ้ะ”

      “อย่างนั้นหรือ? ท่านเจ้าคุณยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ เหตุใดจึงมีอันให้ล้มเจ็บได้นะ”

       “ลูกเองก็จนใจจ้ะแม่ หามีใครรู้ไม่ว่าท่านเจ้าคุณล้มไปด้วยเหตุอันใด เหตุใดยามนี้ยังไม่ฟื้น แม่มีอะไรหรือจ้ะ ถึงถามลูก

เหมือนอย่างให้ลูกไปไหน?”

       “แหม...รู้ดีจริงเทียวลูกแม่ ไปวัดเป็นเพื่อนแม่ทีได้หรือไม่จ้ะ?”

      “ขอรับ ลูกเองช่วงนี้ก็ว้าวุ่นใจ เห็นทีจักต้องพึ่งใบบุญพระพุทธเข้าสักทีเสียเหมือนกัน”

      “ดี แม่จะได้ให้หลวงตาท่านทำนายทายทักเนื้อคู่ให้บ้างเสียที”คุณหญิงแขไขยิ้มสมใจ ส่วนคุณหลวงเมื่อรู้ตัวว่าพลาดเสีย

แล้วจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆให้มารดา โธ่ เขายังมิได้อยากแต่งงานถึงเพียงนั้นเสียหน่อย!



เอาพยับที่ ๑ มาเสิรฟค่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-10-2013 11:50:22
มาแล้วๆๆๆ
รอน้องทีป์พบกะคุณหลวง อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 16-10-2013 13:58:14
รอด้วยคนค่าาา
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 17-10-2013 19:47:41
พยับที่ ๒

‘แสงจันทร์ยามค่ำคืนนวลงามตา แสงจันทร์พาประหวัดถึงหนั่นเนื้ออนงค์นวล’

ลมยามค่ำคืนรำเพยเข้ามาเบาๆ ผ้าม่านโปร่งบางสีนวลตาพลิ้วไปตามแรงลม คุณหลวงนพเทพอัครายังคงนั่งอยู่ภายในห้องทำงาน

สายตาคมยังคอยไล่อ่านกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่า...

‘เกรทบริเตนและฝรั่งเศสมีดำริว่าจักแบ่งสยามประเทศออกเสียตรงกลาง’

ถ้อยคำนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของคุณหลวง เขาจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยง่ายมิได้ ถึงแม้จะเป็นประเทศเข้มแข็งขนาดไหน

ก็ต้องมีช่องว่างบ้าง ขอแค่ช่องว่างเล็กๆก็เพียงพอ พอที่จะหาประเทศใหญ่โตสักประเทศ เพื่อมาขยายรูโหว่นั้นให้ใหญ่ขึ้น ใหญ่

ขึ้น จนทั้งสองประเทศไม่สามารถช่วงชิงแผ่นดินสยามไปได้



เขาจะทำอย่างไรดี

“เฮ้อ...”คุณหลวงถอนใจ เห็นทีจะต้องไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย อยู่แต่ในห้องทึมทึบนี่เห็นทีจักเวียนหัวตายเสียก่อน
เปล่าๆ

คุณหลวงเดินออกมาเพียงที่เฉลียงด้านหน้าเรือนนอนฝั่งของตัวเอง ร่างสูงทรุดตัวพิงเสาเรือนเงียบๆ คืนนี้เดือนแจ่มจ้า คุณหลวง

มองท้องฟ้าที่ไร้ดาว มีเพียงดวงจันทร์ดวงโตสกาวพร่างอยู่ด้านบนฟ้า รัตติกาลมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด


บางทีเขาก็เหงา


อยากมีใครสักคนเคียงกาย หากแต่ว่าไม่เคยต้องตาหญิงงามคนไหนเสียที บรรดาคุณหลวงด้วยกันหากไม่แต่งเมียเสียก็มีนาง

เล็กๆเต็มไปหมด แต่เขายังไม่ต้องใจใคร เหมือนต้องรอ รอใครสักคน

“ฤาจักร้างไร้คู่อยู่เดียวดาย”เสียงทุ้มงึมงำเบาๆ คิ้วคมขมวดมุ่น เขาคงจักเหงาเกินไปแล้วสินะ แต่จักให้ไปคว้านางเล็กๆในเรือน

สักคนมาเป็นเมียหรือ? ไม่ละ เขายังไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสมภารกินไก่วัดอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกันคนอื่น ถึงเรือนอื่นจะชอบนินทาว่า

เขาไม่รู้จักเลี้ยงนางเล็กๆไว้ใช้อย่างที่เขาเรียกว่า ‘ร้อยเอาไว้ใช้’ ก็เถิด เอาไปทำไมเสียเป็นร้อย มีเมียเดียวเรื่องปวดหัวคงจะ

มากมายแล้วกระมัง?

“อันจันทราเคลื่อนคล้อยดุจลอยลับ

อยากสดับเสียงเนื้อเย็นเห็นไฉน

ฤาจะปล่อยให้พี่ร้างลาอยู่เดียวดาย

ทั้งหนาวกายหนาวใจไร้คู่เคียง”



“ก๊อกๆ ไอ่ทีป์ ทีป์โว้ย”โอ้ย เสียงใครมาโวยวายหน้าห้องแต่เช้าวะ โฮ นี่ผมยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยนะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตั้งนาน แม่งเอ๊ย

“อะไร ใครวะ?”ผมตะโกนตอบกลับไป ง่วงก็ง่วง บัดซบเอ้ย

“ไอ่ทีป์ ถ้ามึงจะลืมไอ่ตฤณเพื่อนรักมึงเนี้ยช่วยลืมวันอื่นไม่ใช่วันที่มึงบอกว่าจะไปส่งกูที่ทำงานได้ไหมไอ่สัส จะสายแล้วนะโว้ย”

โอ้ย พ่องตายไอ่เหี้ยตฤณ สุดท้ายผมก็ต้องจำใจลุกออกจากเตียงนุ่มนิ่มอุ่นสบายของผม ข้างนอกฝนยังคงตกปรอยๆ

“เออ ขอเวลากูสิบนาที เดี๋ยวไปส่ง”



“ได้แค่เกิดมาเป็นทั้งคนที่รักเธอ คนที่เธอทิ้ง”เสียงวิทยุครวญเพลงของสิงโต นำโชคเบาๆ ส่วนไอ่คนที่ไประเบิดประตูห้องผมเมื่อ

เช้าก็หลับไปแล้วเรียบร้อย ไอ่ห่าเอ๊ย ปลุกกูมาส่งละเสือกให้นั่งคนเดียวเปลี่ยวใจอีก เดี๋ยวยุให้ไอ่ธามปล้ำแม่งเลยซะดีมั้ย?

“ไอ่คุณตฤณครับ มึงช่วยตื่นมาคุยกับกูหน่อยได้ไหมครับสลัด”ผมขว้างซองบุหรี่ใส่หัวมันเบาๆ เผื่อมันจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะบ้าง

ถ้ารู้ว่ามีราวน์วอร์ดเช้าก็ควรจะซื้อรถไว้ใช้เองสิวะ

“โอ้ยย พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง กูขอร้องเลยนะ ขอร้องจริงๆอย่าเพิ่งปลุกกูได้ไหม กูเพิ่งได้นอนนะ วันนี้ถ้ากูเบลอจนอาจารย์หมอ

ด่ากูจะไปตบหัวพี่มึงให้ซีรีบรัมกระจุยเลยชิบหาย!”

“พี่กูทะลายประตูหลังมึงรึไงถึงไม่ได้นอน”

“ปั๊ก”

“โอ้ย ไอ่เหี้ย กูจะไปรู้มึงเหรอ เห็นไม่ได้นอนแล้วโทษพี่กู ตบหัวกูขนาดนี้มึงยังจะให้กูขับรถต่อไปได้อีกมั้ยหะไอ่สัส”ชิ! ผมจะยุ

ให้ธามปล้ำมันแล้วจริงๆด้วย แม่งเอ้ย ใครจะไปรู้วะ ก็เห็นไม่ได้นอนแล้วโทษไอ่ธาม ผมก็นึกว่ามันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนไอ่ธาม

ไปแล้วน่ะสิ

“ไอ่ควายเผือก พี่มึงมันเสือกเปิดเพลงเสียงดังลั่นบ้าน พอกูไปเคาะประตูด่ามันก็บอกว่ามันจะทำเคสสตัดดี้แต่ไม่อยากอยู่เงียบๆ

กูละอยากเอาแผ่นชาร์ตของอาจารย์หมอฟาดหัวมันให้กระจายเลยไอ่เหี้ย เคสสตัดดี้พ่องตาย ดูก็รู้ว่าแกล้งกู”

อ่ะหือ...ไอ่ห่าพ่องมันก็พ่องกูนะครับนั่น อย่าเพิ่งแช่งพ่อกูสิไอ่เวรนิ

“เอ่า แล้วมึงไม่ฟาดมันไปล่ะ?”ผมเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยรถเบาๆแล้วถามมัน

“ฟาดมัน พี่มึงก็...”มันไม่ได้พูดต่อ แต่สะดุ้งตกใจเหมือนว่าจะหลุดพูดอะไรออกมาแล้วเฉไฉไปมองนอกหน้าต่างซะเฉิ่ม

“อะไรจ้ะ น้องตฤณ พี่ชายของพี่ทีป์ทำอะไรจ้ะ?”ผมชะโงกหน้าไปพูดใกล้ๆมัน ฮ่าๆ เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วน่าดีใจแทนไอ่ธาม

จริงๆ สงสัยแผนกอร้อกอติกของมันจะได้ผลบ้างแล้วล่ะนะ รอแต่วันไอ่ตฤณมันยอมเป็นพี่สะใภ้ผมนั่นแหละ อันที่จริงทีแรกผมไม่

เคยรู้มาก่อนเลยว่าไอ่ธามพี่ชายผมมันจะเป็นเกย์ จนมันมาสารภาพว่าชอบเพื่อนสนิทผม ตอนนั้นผมแทบช็อกเชียวล่ะ แต่ทำไง

ได้ผมมันคนติดพี่ ต่อให้พี่ผมเป็นตุ๊ดผมก็รับได้แหละน่ะ

“พ่องตายไอ่สัส เงียบๆแล้วขับรถไปเลยจะไฟเขียวแล้ว”มันผลักหน้าผมออกซะแรง เกือบโขกกระจกรถแล้วไหมล่ะมึง ถ้าหัวทุยๆ

สวยๆของกูเป็นรอยโนขึ้นมากูจะให้ไอ่ธามเอาคืนให้มึงลุกไม่ขึ้นเลยไอ่ตฤณ!!

พอส่งพ่อคุณชายหมอที่โรงพยาบาลเรียบร้อยผมก็ต้องขับรถต่อไปที่ทำงานของผมน่ะ วันนี้ผมมีงานแปลเอกสารด่วน น่าเบื่อจริงๆ

อะไรๆในชีวิตผมก็ดูด่วนไปซะหมด เฮ้อ ถ้าผมไม่ต้องไปส่งไอ่ตฤณที่โรงพยาบาลนะ ผมจะมีเวลานอนอีกตั้งสี่สิบห้านาที ให้ตาย

เถอะ ผมอยากให้ชีวิตผมมันไหลช้าๆ เนือยๆดูบ้างเหมือนกันแฮะ แต่ทำไงได้เลือกมาทำงานแบบพ่อตามที่หวังไว้แล้วนี่ รู้งี้ผมใช้

เส้นสายใหญ่เบิ้มของพ่อไปเป็นเลขาฯพ่อไปเลยซะก็ดี ใครใช้ให้ผมบ้าอุดมการณ์จนต้องมาทำงานเยอะแยะเพื่อไต่เต้าเองด้วยล่ะ


“เฮ้อ”ผมถอนหายใจเบาๆ เซ็งห่านที่สุดในจักรวาล เบื่อชีวิตในเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ที่ซะจริ๊งจริง ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะนั่งไทม์

แมชชีนไปสักร้อยปีที่แล้วไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ใช้ชีวิตสงบๆ ชิวๆ ไม่ต้องมารีบทำงานแลกเงินขนาดนี้ เหอะ นั้นก็เป็นอีก

เหตุผลนึงที่ผมซื้อบ้านชานเมือง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เรือนไทยหลังใหญ่เบิ้ม สนองนี้ดตัวเองล้วนๆเลยแหละ

“ขอโทษครับวันนี้ผมมาช้าไปนิดนึง”ผมพงกหัวให้รุ่นพี่ที่ร่วมงานกัน พี่เขาไม่ว่าอะไรแต่ส่งเอกสารปึ้กหนาเบ้งมาให้ผมปึกหนึ่ง

“แปลเก็บความ ขอวันนี้ก่อนเลิกงาน”พี่เขาสั่งแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง ทำเอาผมแทบกระอักเลือดเอกสารกองเท่าบ้าน จะเอาภายในวันเดียว เฮ้อ...กูจะบ้า!!

กว่าจะทำงานของวันนี้เสร็จก็เฉียดเส้นตายพอดี ผมน่ะแทบจะไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะทำงานเลยด้วยซ้ำ ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กิน ชิ!!

จะลาออกแม่งก็ดูเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ อีกอย่างผมน่ะ อยากเป็นได้อย่างพ่อด้วย เลยต้องก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆอยู่นี่ โคตรเมื่อย

เมื่อยคอ เมื่อยไหล่ไปหมดผมรู้สึกเหมือนกระดูกจะหลุดออกเป็นสิบๆเสี่ยงเลยแหละ กว่าจะหอบสังขารกลับมาบ้านได้ผมแทบจะ

ตายคารถ ดีแค่ไหนที่ไม่หลับในแล้วแหกโค้งไปกระแทกเสาไฟฟ้าที่ไหนซะก่อน

“โอ้ยยยย ปวดตัวจะตายอยู่แล้ว นมนุ่มนิ่มคร้าบ ขอนมอุ่นๆให้ผมสักแก้วก่อนอาหารเย็นนะครับ”ผมตะโกนหานมนุ่มนิ่ม อยากนอน

แช่น้ำอุ่นจะแย่ แต่น่าเสียดายที่ที่นี่ไม่มีอ่างอาบน้ำให้เลยสักอ่างเดียว ผมเลยต้องเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ร้อนสุดๆแล้วก็ยืนแช่อยู่

อย่างนั้นแทน เอาน่ะ แก้ขัดไว้วันไหนว่างๆค่อยลงแช่เจ้าพระยาสักหน่อยคงไม่สายไปล่ะมั้ง

“ก๊อกๆ คุณทีป์คะ นมเอานมอุ่นๆที่คุณทีป์สั่งมาให้แล้วนะคะ”โอ้ย หลังจากอาบน้ำเสร็จผมเพิ่งจะทิ้งตัวไปได้ไม่ถึงสิบห้านาทีเลย

นะ แต่เอาน่ะ ก็ผมเป็นคนสั่งไว้เองนี่ว่าให้นมนุ่มนิ่มเอานมอุ่นๆมาให้สักแก้ว ผมลากสังขารไปเอานมอุ่นๆมากรอกปากอย่างรวดเร็ว

แล้วคืนให้นมนุ่มนิ่ม อยากนอนจะแย่

“พอถึงเวลาอาหารค่อยมาเรียกผมอีกทีนะครับ”

“ค่ะ”นมนุ่มนิ่มไปแล้ว ถึงเวลานอนสบายๆสักชั่วโมงสองชั่วโมงเสียที ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ฮ้า...อยากย้อนเวลาจริงๆเลย

อากาศในอดีตจะร้อนเหลือร้ายแบบยุคนี้หรือเปล่านะ? หรือจะเย็นยะเยือกพร้อมกลิ่นดอกไม้กัน ฮ่าๆเลื่อนเปื้อนไปใหญ่แล้วแหะเรา...



“พ่อทีป์ หายไปไหนมาหรือ?”จู่ๆผมก็มายืนอยู่ในพื้นที่ปริศนา เอาล่ะๆ ไม่ใช่ปริศนาขนาดนั้นหรอกมันก็ห้องนอนของผมเองนี่แหละ

แต่ผมรู้สึกว่า...มันแปลกตาไป เครื่องเรือนทุกชิ้นเป็นเงาตะคุ่มๆอยู่ในความมืด ลมรำเพยเอากลิ่นหอมจางๆมาจากนอกหน้าต่าง...ผมฝันอยู่หรือเปล่าน่ะ?

“คุณเป็นใคร?”ผมถามเบาๆ คนๆนั้นเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว เงยหน้ามองผม แต่ทำไมนะ ทำไมผมเห็นเพียงแค่เขาขยับเงยหน้าแต่ไม่เห็นหน้าเขาเลย เพราะอะไรกัน?

“พ่อทีป์ จะไม่ตอบฉันเสียหน่อยหรือ? หายไปไหนมาจ้ะ พี่คิดถึงเสียแทบแย่ อย่าหายไปแบบนี้อีกได้หรือไม่”ปลายเสียงทอด

หวานซะจนผมขนลุก นี่ผมอยู่ที่ไหนกันแน่... ผมอยากจะหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไป วิ่งออกไปจากดินแดนลึกลับนี่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ

ว่าผมอยู่ตรงหน้าใคร คุยกับใคร ถึงใจผมมันจะสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเขาก็เหอะ...

บ้าน่า...ผมไม่ใช่เกย์ ผมรู้ดี ถึงผมจะยุให้ธามงาบไอ่ตฤณเพื่อนผมบ่อยๆก็เถอะ แต่ผมไม่ใช่เกย์แน่ๆ ผมมั่นใจในตัวเองมากนะ

จู่ๆผมจะไปใจสั่นกับผู้ชายได้ยังไงกันเล่า!!

“พ่อทีป์ อย่า...อย่าหันหลังให้กับฉันเลย ขอร้องล่ะ อย่าจากฉันไปไกลอีกเลยได้หรือไม่...”เสียงทอดหวานไปกันใหญ่ มือใหญ่ๆเอื้อมออกมา


อีกนิด


อีกนิดจะถึงมือของผม


เฮือก!!

ฝันน่ะ แค่ฝัน ผมนอนไปนานขนาดนั้นจะฝันได้เลยหรือยังไงนะ? ผมหันไปมองนาฬิกา เพิ่งจะหกโมงครึ่ง ผมเลิกงานตอนสี่โมงครึ่ง

ถึงบ้านตอนห้าโมงเย็น ก่อนจะนอน ยังไม่ถึงเวลาอาหาร เวลาอาหารของบ้านเราจะอยู่ระหว่าง ทุ่มครึ่งถึงสองทุ่มครึ่ง ผมเพิ่งหลับ

ไปได้ไม่เท่าไหร่...ก็ฝันประหลาดแบบนั้นเข้าซะแล้วแหะ สงสัยต้องตื่นซะแล้ว ผมไม่อยากนอนแล้วฝันต่อนี่นา หมอนั่นน่ะใครก็ไม่รู้

ถึงจะทำให้จิตใจสั่นไหวก็เถอะ

“ร้อนชิบหาย”ผมมองไปรอบๆที่แท้ผมก็ลืมเปิดหน้าต่างก่อนนอนถึงว่าสิ ร้อนจนสติเตลิดฝันเลื่อนเปื้อนเลอะเทอะไปหมด ผมเดิน

ไปเปิดหน้าต่าง ลมจากแม่น้ำเจ้าพระยาพัดมาเบาๆ เจ้าพระยา...แม่น้ำสายนี้คงมีประวัติศาสตร์มากมายแน่ๆ

“ก๊อกๆ ไอ่ทีป์”เพิ่งจะดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องเจอตัวกวนตีนอย่างไอ่ตฤณอีกแล้วสินะ

“มีอะไร”ผมจ้องหน้ามัน...แดงเป็นริ้วๆเลยเว้ยเห้ย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันเพิ่งเจอพี่ผมมาแน่ๆ แล้วคงโดนทำอะไรๆมาถึงได้แจ้นมาหาผมนี่


“เออ...เอ...”

“เอ่าไอ่ห่าจะรู้เรื่องกันมั้ย ตกลงมึงมีอะไรวะครับคุณตฤณ โดนธามปล้ำมารึไงถึงมาหากูนี่”มันทำตาโตแล้วก็ฟาดมือใส่บ้องหูผม

เต็มๆเลยครับ โอ้ย...วันนี้โดนมันโบกไปกี่ครั้งแล้วเนี้ย จะบ้าตาย ทำไมผมต้องโดนมันทำร้ายตลอดเลยนะ

“อะไรของมึงเนี้ย ตบกูหาพ่อง?”ผมอยากจะกระโดดถีบยอดหน้ามันสักทีเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าถ้าผมแตะต้องมันนิดๆหน่อยๆแล้ว

จะโดนไอ่ธามกลั่นแกล้งคืนเป็นสองเท่าล่ะก็นะ ใช่สิ ผมมันแค่น้องชายตาดำๆ จะไปสู้อะไรกับคนที่มันหวังจะเอามาเป็นเมียใน

อนาคตได้

“มึงอ่ะ พูดเหี้ยอะไรเหี้ยๆ”

“กูยังไม่ได้พูดคำว่าเหี้ยสักคำไอ่สัส”มันทำท่าจะโผมาตบหัวผมอีกรอบ ดีที่เบี่ยงตัวหลบทัน ไอ่บ้านี่เขินแล้วรุนแรงชิบหายเลยให้ตาย

“มึงนี่วอนตีนจริงๆ กูมาตามมึงไปช่วยแปลเปเปอร์ให้กูหน่อย”

“โหยไอ่สัส จะใช้งานกูแต่มึงตบบ้องหูกูเป็นการขอร้องเนี้ยนะ มึงคิดว่ากูควรไปปะ?”

“น่านะไอ่ทีป์ มึงอย่าใจร้ายสิวะ ถ้ามึงช่วยแปลเปเปอร์นี้ให้กูโดยที่กูไม่ต้องไปพึ่งพี่ชายใจหมาก็มึงละก็ พรุ่งนี้กูจะหาผลไม้

หวานๆแถวนี้มากำนัลมึงเลย นะนะนะน้า”มันทำตาละห้อย เขย่าแขนผมยังกับว่าจะเป็นเด็กน้อยน่ารักแน่ะ ทั้งๆที่มันโตเป็นควาย

ขนาดนี้แล้ว

“เออ เดี๋ยวกูไปช่วยขอกูล้างหน้าล้างตาแปป ไอ่ห่าจะเรียนหมอแต่เป็นภาระกูตลอด”

กว่าผมจะช่วยไอ่ตฤณเพื่อนรักแปลเปเปอร์ที่มันไม่ยอมบอกตั้งแต่ตอนแรกว่าเป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ใช่ภาษาอังกฤษจบก็เล่นเอา

ผมอยากจะฉีกไอ่เอกสารวิชาการห่านี่ทิ้งไปซะหลายครั้ง ถึงว่าสิมันแจ้นมาหาผม คาดว่าคงไปหาไอ่ธามมาก่อนแล้วล่ะ แต่คงโดน

แทะโลมมาถึงได้มาหาผมถึงห้องนี่

“เอ่าไอ่ห่า เสร็จสักที มึงนะมึงศัพท์วิชาการห่าเหวหอกส้นตีนอะไรเต็มหน้ากระดาษไปหมด แทนที่มึงจะไปหาพี่กูนะ จะเสือกมาหากูทำไมก็ไม่รู้”

“มึงอ่ะ ก็พี่มึงมันนิสัยไม่ดี สู้น้องทีป์ของป๋าตฤณไม่ได้สักนิด”ทำมาฉอเลาะไอ่เวร ทีตอนแรกยังตบหัวผมซะกระโหลกแทบจะ

แยกส่วนออกจากซีรีบรัม

“ไม่ต้องมาตอแหลไอ่สัส ไปไกลๆกูเลยมึงน่ะ”

“แหม มึงอ่ะอย่างอนสิ เนี้ยๆ กูไปเก็บลูกจันทน์ในสวนมาให้มึงเลยนะ”มันยื่นจานใส่ลูกจันทน์สี่ห้าลูกเรียงๆกันอย่างงดงามบนจานกลมๆมาตรงหน้าผม

“แหมไอ่ที่หายไปไม่ช่วยกูนี่คือไปหาส่วยมาให้กูว่างั้น?”ผมเลิกคิ้วถาม ไอ่ตฤณพยักหน้ายิ้มๆ มันนั่งลงทำตาแป๋วตรงหน้าผม น่า

เอาตีนขยี้จริงๆเลยให้ตาย

“น่านะ มึงอย่าโกรธกูไปหน่อยเลยน่า กินสิมึง ลูกจันทน์เนี้ยคุณนมนุ่มนิ่มเขาบอกกูว่าอร่อยมากนะเว้ย กูเลยลงทุนไปเก็บลูกเหลืองๆ หอมๆ มาให้มึงสดๆร้อนๆเลย”

“เออ เดี๋ยวกูเอากลับไปแดกที่ห้อง มึงน่ะอาบน้ำนอนได้ล่ะ ก่อนพี่กูจะเข้ามาปล้ำทำเมียอีกรอบ”มันทำหน้าเหวอ แล้วถอยหลังไป

จนหล่นตุ้บลงบนเตียงนู้นเลย ฮ่าๆ สะใจพิลึก คิดว่าผมไม่เห็นรึไงกัน ไอ่รอยแดงๆตรงไหปลาร้ามันน่ะ


“ลมเอย เพียงเชยกลับเลยพ้นผ่าน ให้ใจสะท้านหวั่นไหวแล้วกลับลับไป...”ผมนั่งอ่านไดอารี่ของคุณหลวงมาได้สักพักนึงแล้ว ใน

ไดอารี่นี่บรรจุเรื่องราวอะไรไว้เต็มไปหมดในชีวิตของคุณหลวงนพเทพอัครา เขาเขียนว่าเขาเรียนยังไง ที่ไหน ผมว่าเขาคงเขียน

ไดอารี่ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ไฮสคูลที่อังกฤษ ที่เขาเรียกว่าเกรทบริเตนนั้นแหละ เขาเรียกฝรั่งว่าอีหรอบ ศัพท์แสงแปลกๆอีกเยอะ

แยะเต็มไปหมด

“อีกเดือนเดียวจักกลับสยามแล้ว เรียนจบเสียที...คิดถึงคุณแม่ยิ่งนักไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”ผมอ่านออกเสียงตามเบาๆ ตานี่นี่ดู

ท่าจะติดแม่ไม่เบาแฮะ ไม่งั้นคงไม่บ่นคิดถึงแม่ในไดอารี่ ไม่เห็นเขาพูดถึงพ่อเขาเลยแหะ เห็นพูดถึงแค่ช่วงอยู่บนเรือก่อนถึง

อังกฤษ หลังๆไม่เห็นเขียนถึง ส่วนมากก็เป็นชีวิตประจำวันของเขา เรื่องที่เขาเรียนมา เขียนเตือนตัวเอง เรื่องที่เขาไม่ชอบใจแต่

ไม่รู้จะระบายที่ไหน เมนูอาหารที่อยากกัน ผู้ชายสมัยก่อนก็มุ้งมิ้งเหมือนกันนะเนี้ย

“RRR”เสียงโทรศัพท์สั่นเป็นสัญญาณสั้นๆ ไลน์เข้าแหละมั้ง ผมหยิบมาดู เห็นข้อความจากไอ่ตฤณหน้าหมา


‘อย่าลืมกินลูกจันทน์ที่กูเก็บให้นะ : ))’


ผมไม่ได้ตอบกลับไป แต่หยิบลูกจันทน์สีเหลืองนวลมากัดกินเท่านั้นเอง

ฮ้า...หวานฉ่ำ...เนื้อนุ่มละมุนลิ้นอย่างกับจะละลายในปาก ผมหลับตาพริ้ม...ไดอารี่กับแหวนในกล่องที่ผมเอามาหมุนๆเล่นยังอยู่ในมือ...


จู่ๆผมก็เข้ามาอยู่ในอุโมงค์มืดๆ เอ่อ อันที่จริงก็ห้องผมเองนั้นแหละ แค่มันมืดๆไปหมด ผมมองเห็นแค่เตียงที่ผมใช้นอนทุกคืน รูป

ร่างเหมือนกับเปี๊ยบ...แต่คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในนั้นไม่ใช่ผม เป็นคนอื่น คนอื่นที่ผมรู้สึกคุ้นเคย

“พ่อทีป์ หายไปไหนมาอีกแล้ว มาให้พี่กอดได้หรือไม่ คิดถึงจนใจจะขาดอยู่แล้ว”เสียงนั้นเพรียกหา ผมขนลุกซู่ โอย นี่มันเรื่องบ้า

อะไรกัน ผมฝันแน่ๆ ผมมั่นใจว่าผมฝัน ว่าแต่คนที่เข้ามาในความฝันผมบ่อยๆอย่างอีตาคนนี้น่ะมันใครกัน?


“คุณเป็นใคร?”

“พ่อทีป์ มาให้พี่กอดเร็วซี ไม่รักพี่แล้วหรือ?”แน่ะ มีมาตัดพ้อ ไม่รู้จักกันซักหน่อย เอ๊ะ แต่หมอนี่เรียกผมว่าอะไรนะ? พ่อทีป์เหรอ? เขารู้จักผมได้ยังไง

จู่ๆ คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ตลอดก็ขยับตัวมานั่งห้อยขาประจันหน้ากับผม แต่ผมก็ยังมองไม่เห็นหน้าเขาอยู่ดี ก็เขาซ่อนหน้าไว้ในเงามืดนี่นา

“พ่อทีป์”เสียงอ่อนหวาน มือหนาๆนั่นเริ่มขยับออกมาไขว่ขว้าเหมือนคราวที่แล้ว ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ เหมือนเฝ้ารอ แต่ก็เหมือนจะตก

ตะลึงไปเหมือนกัน จะถึงแล้ว ผมอยากจะเอื้อมมือออกไป จะได้คว้ามาดูหน้าให้รู้แล้วรู้รอดว่าเขาเป็นใคร แล้วเขาก็แตะถูกมือผม

ผมพยายามจะดึงเขาออกมา แต่เขายังนั่งนิ่งอยู่ มือนั้นอบอุ่น...น้ำเสียงอ่อนหวานยังคงกระซิบแผ่วเบา

“พ่อทีป์ ในที่สุดก็กลับมาหาพี่แล้ว”


เฮือก!!

ฉันสะดุ้งตื่น เช้านี้ฉันต้องเข้ากรมไปหารืองานกับท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณเพิ่งฟื้นคืนสติกลับมาไม่ถึงวันก็เรียกหาฉันให้ไปพบที่กรม

เมื่อคืนฉันถึงได้ตระเตรียมเอกสารเสียเป็นกุรุฐเพื่อไปพบท่านเจ้าคุณ ข้างนอกหน้าต่างเริ่มเห็นแสงเรื่อๆจับขอบฟ้า


เช้าแล้ว...

ฉันฝันอะไรกันนะ ฝันว่าเรียกหาใครสักคนแล้วเขาก็มา แต่เขาเป็นผู้ชาย...ฉันคงใกล้วิปลาสเต็มที คงเพราะวิตกกับคำทำนายของ

พระคุณเจ้าในวันนั้นมาไปเสียแล้วกระมัง วันนั้นคุณแม่ให้ฉันพาไปที่วัด หลังจากกราบพระรับพร คุณแม่ก็ถามหลวงตาว่าจะตรวจ

ดวงให้ฉันได้หรือไม่

“ได้ซี โยมบอกวันเวลาตกฟากของลูกชายโยมมาซี ประเดี๋ยวอาตมาจะดูให้”พอคุณแม่บอกไป พระคุณเจ้าท่านก็นิ่งนาน หลับตา

แล้วลืมตาอยู่อย่างนั้น เหมือนท่านไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“โยม ช่วงนี้มีอะไรของโยมหายไปหรือไม่?”จู่ๆหลวงตาก็ผินหน้ามาถามฉัน อะไรของฉันที่หายไปหรือ? คงเป็นแหวนที่พ่อให้ไว้

เสียก่อนไปเกรทบริเตนกระมัง

“มีขอรับ มีแหวนของกระผมหายไปวงนึง พ่อท่านให้ไว้ก่อนกระผมไปเรียนต่อ แต่ไม่รู้ว่าหายไปเสียตั้งแต่เมื่อไร”

“กระนั้นหรือ...โยมแขไขอาตมาก็จนใจล่ะนะ ถึงโยมจักไม่ยอมรับโยมก็ต้องยอมรับ”ฉันได้แต่เลิกคิ้วทำหน้าฉงนเหตุใดคุณแม่จึง

ต้องยอมรับ? แล้วทำไม...

“ยอมรับอันใดเจ้าคะพระคุณเจ้า”

“เนื้อคู่ของโยมนพน่ะจะมาแล้วก็จริง...แต่เขา”

“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ? เขาหรือ? ไม่จริงกระมัง พระคุณเจ้าจะบอกอิฉันว่า...เนื้อคู่ของพ่อนพเป็นผู้ชายหรือเจ้าคะ?”

“นั้นแหละ เขาจะมาพร้อมของที่หายไป”

ตั้งแต่ที่กลับมาคุณแม่ก็เฝ้าครุ่นคิดตลอด ฉันก็ได้แต่ปลอบใจท่านไปว่าฉันหาใช่ลักเพศ แต่คุณแม่ก็ยังยืนยันว่าพระรูปนี้ท่านแม่นมาก

ตรวจดวงใครไม่เคยพลาดแม้แต่หนเดียว ตอนนี้เลยกลายเป็นฉันเสียอีกที่กลุ้ม


ถึงขนาดเก็บเอามาฝันเทียว!!

ผู้ชายในฝันเขาเป็นใครเสียก็ไม่รู้ ฉันรู้เพียงฉันเพรียกหาเขา โหยหาเขาเหลือเกิน อย่างกับว่ารักเขาไปแล้วแน่ะ แต่ฉันไม่ใช่ลักเพศนะ

 ถึงคนที่ไปเรียนด้วยกันส่วนมากแล้วจะเล่นเพื่อนกันก็เถอะ แต่ฉันยังไม่เคยกับเขาเสียที แล้วก็ไม่คิดจะลองเสียด้วย

“พ่อนพจ้ะ ตื่นแล้วหรือลูกแม่ได้ยินเสียงกุกกัก”

“ขอรับ ลูกตื่นแล้วประเดี๋ยวล้างหน้าแล้วจักออกไปรับสำรับนะขอรับ”

“จ้ะไม่ต้องรีบดอกลูก อีกประเดี๋ยวเทียวล่ะกว่าสำรับจะขึ้นมา นังแม้นมันว่าวันนี้แพลูกบวบแตกบ่าวไพร่แตกตื่นกันเสียหมด กว่าจะได้งานได้การกันก็สายโด่งเสียแล้ว”


“ขอรับ”เฮ้อ...ฉันคงต้องวางเฉยเรื่องนี้บ้างเสียแล้ว เขาในฝันของฉันหาได้มีตัวตนจริงๆไม่

--------------------------
ฮี่ๆ เอาพยับที่สองมาลงให้แล้วจะจ้าวววว
ช่วงที่หายไปนี่คือไฟนอลมรณะรังควาญอยู่ค่ะ แทบตายกว่าจะผ่านมาได้  :sad4:

หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-10-2013 20:47:17
แอร๊ยยยย   ใกล้จะได้เจอกันแล้วสิ
แอบหลอนคุณหลวงอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 17-10-2013 22:57:35
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นึกว่าจะไม่แต่งเรื่องนี้แล้วววว TT
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 18-10-2013 12:57:21
จะได้กันแล้วพ่อทีป์กะคุณหลวง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 22-10-2013 00:25:57
แอร๊ยยยย   ใกล้จะได้เจอกันแล้วสิ
แอบหลอนคุณหลวงอ่ะ 555

อย่าว่าแต่คนอ่านหลอนเลยค่ะ คนเขียนยังหลอน ฮ่าๆ
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นึกว่าจะไม่แต่งเรื่องนี้แล้วววว TT

ยังแต่งอยู่ค่ะ แต่ว่าชีวิตปีหนึ่งเทอมแรกมันยุ่งเหยิงมาก เพิ่งมีเวลาว่างๆบ้าง ต้องรีบแต่ง >< เดี๋ยวพอปีสูงๆเวลาจะหายไปเรื่องยาหมดแล้ว T^T
จะได้กันแล้วพ่อทีป์กะคุณหลวง

แง่ววว ยังไม่ได้กันเน้อ 555555 คนอ่านพิมพ์ผิดใช่มั้ยคะ ตกคำว่าเจอไปใช่มั้ย ><
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-10-2013 15:33:20
ดันๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ ลูกจันทน์
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-02-2014 13:04:08
พยับที่ ๓ ลูกจันทน์

         “ไอ่ทีป์เพื่อนเลิฟ มารับกูที่โรงพยาบาลได้เปล่าอ่ะ?”เสียงออดอ้อนลอดมาจากโทรศัพท์ในมือผม แหม กูเพิ่งเลิกงานยังไม่ได้กระดิกไปไหนไอ่เพื่อนที่รักก็โทรมาจองตัวซะละ         

         “เออ อีกสามสิบนาทีเป็นอย่างน้อยนะมึง รอไป รถติดชิบหายตายห่า”

          “คร้าบๆ รอได้คร้าบ”เสียงมันกวนตีนจริงๆเลย ผมค่อยๆเคลื่อนรถไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถนี่ โอ้ย รถติดชิบหาย เบื่อจริงๆเลยไอ่เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพพระมหานครเนี้ย!! ถ้าผมมีไทม์แมชชีนผมจะมุดลิ้นชักแบบโนบิตะกับโดเรมอนแล้วย้อนเวลาแม่ง จะได้หลุดพ้นความวุ่นวายชิบหายนี่สักที


           ผมขับรถกว่าชั่วโมงกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลที่ไอ่ตฤณกับธามทำงานอยู่ ว่าแต่ทำไมไอ่ตฤณมันไม่กลับกับไอ่ธามวะ บ้านก็อยู่บ้านเดียวกัน จะเรียกผมมารับทำหอกอะไรก็ไม่รู้ อ้อมโลกมารับมันกลับบ้านเนี้ย เปลืองน้ำมันสัสๆ

            “ฮัลโหล อยู่ไหนรถกูจอดอยู่ตรงหลังตึกวีไอพีอ่ะ”

             [อื้อ...อ่ะ...แปป...อื้อ...เดี๋ยวไป] เห้ยไอ่ตฤณ เสียงแบบ เป็นไรปะเนี้ย ผมกำลังจะอ้าปากถามแต่สายแม่งก็ตัดไปซะละ ชิบหาย เพื่อนชายของผมคงไม่โดนใครที่ไหนข่มขืนไปซะหรอกนะ!!


           [Thrin’s part]

           ผมเพิ่งวางโทรศัพท์เครื่องสวยลงหลังจากโทรไปตามให้ไอ่ทีป์เพื่อนเลิฟมารับกลับบ้านมัน ก็ผมไม่อยากกลับกับไอ่ธามนิ วันนี้มันแกล้งผมซะน่วมตอนราวน์วอร์ดด้วยกัน โดนอาจารย์สับแหละ แทบจะโดนกินหัวอยู่แล้ว!!

         “วันนี้รอกูอยู่นี้นะ เดี๋ยวกูลงวอร์ดแล้วมารับ”พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ผมหันไปมองหน้าไอ่คนใจหมาที่กลั่นแกล้งผมตอนราวน์วอร์ดอย่างชิงชัง เชอะ!!

         “ไม่รอ กูโทรให้ทีป์มารับกูแล้ว”อีกครึ่งชั่วโมงไอ่ทีป์เพื่อนรักสุดสวาทขาดใจก็จะมารับผมถึงที่แล้วด้วย ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องรอคนที่แกล้งผมให้คนอื่นต่อว่านี่นา ทีกับสาวๆนะมีแต่พูดสนับสนุนไอ่สัส!

          “ตฤณมึงอย่าดื้อได้ปะ?”
               
           “กูโทรบอกทีป์แล้วจริงๆ อย่ามายุ่งกับกูได้ปะ หะ? มึงเป็นอะไรกับกูไม่ทราบ”ผมเชิดหน้าหนีมัน เตรียมสะบัดก้นเดินหนีเต็มที่ด้วย

           “มึงอย่ามาอวดดีแถวนี้ตฤณ ถ้ามึงไม่อยากเจอดี”เสียงมันเริ่มเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆละ แม่งกูเริ่มกลัวละนะเว้ย แต่ไม่ยอมแพ้อ่ะจะทำไม

           “ทำไมมึงมีดีอะไรให้กูกลัวหะ เห้ย ไอ่เหี้ย จะเอากูไปไหน”มันกระชากลากถูผมไปตามทางเดินโรงพยาบาลอย่างโหดเหี้ยม? โอเค ผมเองที่เว่อไป มันลากถูลูถูกังผมไปแบบหลบๆซ่อนๆ ออกแรงซะสุดตัวแต่ค่อยๆเดิน ก็มันเป็นหมอ ส่วนผมก็ว่าที่หมอที่มาฝึกที่นี้ขืนทำอะไรโจ่งแจ้ง เป็นอันได้โดนข้อครหาอันยิ่งใหญ่พอดีสิครับ ผมก็เลยยอมโดนลากไป ขืนผมขัดขืน ก็นั้นแหละ โดนครหา นินทากันพอดี โอ้ย ผมรู้สึกปวดใจกับการที่เป็นหมอละขัดขืนมันไม่ได้เนี้ย เกิดมันข่มขืนผมในห้องตรวจขึ้นมาผมจะทำอะไรได้เนี้ย!!

           นั่นไงๆ มันเปิดเข้าไปในห้องพักแพทย์แล้ว โฮ! มันจะไม่ข่มขืนผมใช่มั้ย!?

           “โอ้ย”มันเหวี่ยงผมลงมาบนเตียงแข็งๆในห้องพักแพทย์ ผมกำลังจะวิ่งออกไปทางประตูได้อยู่แล้วเชียว ถ้ามันไม่กระชากขาผมกลับมาแล้วล็อกประตูซะแน่นหนา

           “กูบอกมึงแล้วว่าอย่าริมาลองดีกับกูไงตฤณ ทำไมมึงไม่ฟัง หรือว่า...มึงอยากลอง?”

            “พ่องตาย”โอ้ย ให้ตายผมไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน ฮือ พ่อแก้วแม่แก้ว ไอ่ทีป์มึงช่วยรีบมาที พี่ชายมึงจะจับกูทำเมียอยุ่แล้ว!!

            “พ่อกูยังไม่ตาย แต่ถ้ามึงปากดีกว่านี้มึงอาจจะโดนกูเอาจนตายคาอกนี่แหละ!”โอ้ย มึงจะเน้นคำว่า เอา ไปไหนวะครับ กูไม่ใช่เกย์นะไอ่เหี้ย!

             “กูไม่ยอมให้มึง อื้อ”



        [God eye]


             ธามประกบปากลงกับรุ่นน้องร่างบาง แบบไม่ปราณีปราศรัย ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบดขยี้รุนแรง

             “กูบอกแล้วว่าอย่าลองดี”ธามผละออกมาจากตฤณ ปากเล็กๆบวมเจ่อ มีรอยเลือดไหลซึมเล็กๆตรงมุมปาก ธามมองรอยเลือดนั้นอย่างเลือดเย็น ทำไมไอ่เด็กนี่มันชอบขัดใจเขานักนะ

             “กูไม่ได้อยากลองไอ่สัส”ตฤณตะโกนด่า ธามโถมตัวเข้าหา ร่างแกร่งๆทาบทับลงไปบนตัวตฤณทั้งตัว ตาโตๆเบิกกว้าง โว้ย นี่เขายังไม่อยากกลายเป็นเมียหมอทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้ชายแล้วก็เป็นหมอเหมือนกันหรอกนะ!

             “ไม่ได้อยากลองเหรอ? มึงอวดดีขนาดนี้ยังบอกว่าไม่อยากลอง เอ๊ะ หรือมึงอยากได้กูใจแทบขาดเลยแกล้งดื้อให้ท่ากูห้ะ!!”เสียงตวาดเบาๆด้วยเกรงว่าแพทย์คนอื่นๆที่ยังวนเวียนอยู่จะได้ยิน นัยน์ตาของตฤณเริ่มมีน้ำใสๆมาเอ่อคลอ ย้อมแววตานั้นให้วาววับ แต่คงเพราะโกรธมากเกินไปธามเลยไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงรุนแรง

              “กูเกลียดมึง...”เสียงกระซิบแผ่วๆ แต่กลับเหมือนสาดน้ำมันลงบนกองไฟ ไฟโทสะในดวงตาของธามลูกโชน ก้มลงมาฉกฉวยจูบไปอย่างรุนแรง

            “ฮื้อ...อ๊ะ...อย่าลูบไอ่สัส”

            “อื้อ...อ๊ะ”ยิ่งได้ยินเสียงคราง รับรู้ได้ถึงแรงขัดขืนมากเท่าไหร่ ธามยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น มือแกร่งลูบไล้อย่างหยาบคาย

             “พะ...พี่ธาม...ไม่เอา...อื้อ...อ๊ะ...ไอ่ทีป์จะมา...อ๊าซ์....”

            “ทำไม กูบอกแล้วว่าให้กลับกับกู ทำไมมึงไม่ฟังห้ะ?”

            “ก็...อ๊า....ตรงนั้น...อ๊ะ”นิ้วเรียวยาวของธามบดบี้ลงบนยอดอกของตฤณอย่างรุนแรง ริมฝีปากไล้เลียขบเล็มใบหูบางเบาๆ

            “ทำไม? กูบอกอะไรให้ฟังกูบ้าง ทีนี้จะเข็ดได้รึยัง”


                      [RRRR]

            ตฤณเห็นเบอร์ที่โทรเข้าก็รีบรับโทรศัพท์แบบเร่งรีบ เพื่อให้เพื่อนรักมาช่วยชีวิตน้อยๆของตัวเองที่กำลังจะถูกหมาป่าธามขย้ำจนต้องเสียเวอร์จิ้นประตูหลังให้หมาป่าธาม

            “อื้อ...อ่ะ...แปป...อื้อ...เดี๋ยวไป”เสียงพูดแทบจะไม่เป็นคำเพราะถูกขย้ำตรงโน้น เลียตรงนี้ สติของตฤณกระเจิดกระเจิงไปไกล เขาจะทำยังไงถึงจะรอดจากวิกฤตการณ์เสียเวอร์จิ้นให้ไอ่หมอหื่นเนี้ยนี่!??

            “กูไม่ให้มึงไป”ธามพูดเสียงเหี้ยม ยิ่งบดเบียดตัวเองเข้ากับธามอีกเรื่อยๆ แกนกายเริ่มขยายเบียดต้นขาของตฤณทำเอาคนตัวเล็กกว่าหน้าแดงเถือก

              “ไอ่สัส ปล่อยกูได้แล้ว ถ้าไอ่ทีป์มาเจอพี่มันกำลังจะเอาเพื่อนมันอยู่เนี้ย มึงคิดว่ามันจะรับได้เหรอ?”

             “หึหึ มึงไม่รู้อะไรอย่ามาพูด มึงคิดว่าบ้านหลังนั้นน่ะ ใครเป็นคนช่วยมันออกเงินซื้อกันหะ?”

              “ไอ่!!”

               “ก๊อกๆ ไอ่ตฤณ มึงอยู่ในนี้เปล่าวะ? กูรอนานแล้วเนี้ยไอ่เหี้ย ไข่กูแข็งหมดล่ะ”

              “อยู่ๆ แปปนึงกูไล่หมาก่อน”


               นภทีป์ที่อยู่ข้างนอกได้แต่ขมวดคิ้วงงๆ ไล่หมาอะไรของแม่งวะ ในเมื่อมันอยู่ในห้องพักแพทย์ บางทีเขาควรให้เพื่อนไปเช็กสมองดูบ้าง มันคงจะใช้สมองมากเกินไปสินะ เห้อ....เพื่อนของเขานี่น่าสงสารจริงๆ

               “ว่ากูเป็นหมาเหรอ? มึงเห็นของลับหมาไหมละ? ใหญ่พอใจมึงมั้ย?”

              “ไอ่สัส ไปไกลๆกูเลยไป เหี้ยเอ้ย แม่ง เหี้ยๆๆๆๆ กูจะกลับแล้ว!!”ตฤณสะบัดตัวออกจากธามแล้วเดินหนีออกไปหาทีป์ที่รออยู่หน้าห้อง แถมรีบเปิดปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว กลัวเพื่อนเห็นว่าเกือบจะเสียตัวได้เป็นพี่สะใภ้มันอยู่รอมร่อ!!


               “คอแดงแน่ะมึง”

               “ห้ะ??!”ตฤณตะปบคอตัวเองควับ รีบวิ่งไปส่องกระจกตรงทางเดินที่เห็นอยู่ลิบๆ

               “อ๊ากกกก ไอ่ธามพ่องตาย ทำรอยหาพ่องงงงงงงงงงงงง”เสียงกรีดร้องดังลั่นโรงพยาบาลที่เงียบสงบ จนคุณป้าพยาบาลต้องออกมาขมวดคิ้วใส่ว่าที่คุณหมอหนุ่มเป็นการตักเตือนไปในที

                “ฮ่าๆ พี่กูนี่เด็ดว่ะ”นภทีป์หัวเราะเบาๆ แล้วเดินนำออกไป เขาจะรีบกลับบ้านไปแปลงานของสถานฑูตน่ะสิ งานยุ่งชิบหาย ยังต้องมารอเพื่อนรักโดนพี่ตัวเองแทะโลมจนพอใจก่อนอีก เฮ้อ ชีวิตน้องทีป์นี่มันน่าสงสารจริงจริ๊ง

             “ฟ้าในเดือนฝนฉ่ำ คงนึกขำต่อคำสัญญา...”ผมฮัมเพลงโปรดเบาๆ ตอนแรกฟังเวอร์ชั่นคาราบาวก็ชอบแล้ว พอแทททูคัลเลอร์เอามาทำใหม่ก็ยิ่งชอบ มันดูไม่ใช่แนวนักการทูตเลยเนอะ แต่เทเลอร์ สวิฟท์ผมก็ชอบนะ จริงๆก็ชอบทั้งหมดทั้งมวลนั้นแหละ เผอิญผมมันคนสุนทรียภาพสูงเสียดฟ้าน่ะนะ

             “พ่องตาย มึงร้องเพลงนี้กี่รอบต่อวันวะ ห้ะ? กูฟังจนกูจะเปียกตามเพลงมึงละไอ่สลัดผักกาดขาว”

              “เอ่า กูชอบของกู ไม่ชอบฟังมึงก็ลงไปเดินกลับเลยปะ”

             “จิ๊ ไอ่สัส”มันสะบัดบ๊อบใส่ผมครับ แม่งเกย์ชิบหาย ถ้าไอ่ธามไม่รักไม่หลงไม่ปล้ำนี่ผมให้ถีบเลยเอ้า!!

             “เมื่อไหร่พ่อทีป์จะมาหาฉัน”เสียงทุ้มทอดเสียงเบาๆ ผมอยู่ที่ไหน??

             “ใครน่ะ ที่นี่ที่ไหน”ผมถามกลับ ผมมองเห็นเพียงที่นี่เป็นห้องที่คุ้นตา...แสงตะเกียงวับแวมทำให้มองเห็นพื้นไม้ได้รางๆ เตียงสี่เสา มุ้งถูกเอาลงทุกด้าน ผมถึงได้มองเข้าไปเห็นเพียงเงารางๆ

              “ที่นี่คือที่ของพ่อทีป์ ไม่คิดถึงฉันหรือ? จะให้ฉันรอถึงเมื่อไร...”ปลายเสียงออดอ้อน ทั้งๆที่เขาก็เป็นผู้ชายแต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกรังเกียจอะไรเลยนะ ออกจะแบบ...เขิน...มันคงใช้คำนี้ได้อยู่ล่ะมั้ง

              “คุณเป็นใครผมยังไม่รู้ แล้วผมจะคิดถึงคุณได้ยังไง?”

              “เหตุใดถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก...ฉันทรมานหัวใจเหลือเกินแล้ว”

              “คุณพูดอะไรน่ะ??”

              “พ่อทีป์จ๋า มาหาพี่เถอะ มาหาพี่นะคนดี มาอยู่ในอ้อมกอดพี่...”
              “คุณ???”บ้า...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน จะไปกันใหญ่แล้ว

              “ฉันจะรอ”เสียงนั้นถอดแผ่วเบาลง...



                “ไอ่ทีป์ๆ มึงจะนอนหลับลึกไปล่ะไอ่ห่า ตื่นๆ”

                  “หะ?? อะไร? นี่ที่ไหน?”

                “บ้านมึงไงไอ่ควายอย่ามาโง่ตอนนี้ ลุกเร็วมึง มึงนอนเพ้อห่าอะไรของมึงเนี้ย คนเค้าตกใจทั้งบ้านแล้วสลัด”ผมเลิกคิ้วงงๆ ผมเนี้ยนะเพ้อ??? หรือจะเป็นเพราะฝันเมื่อกี้?

                “กูเพ้ออะไรวะ?”

                “มึงเพ้อหาใครไม่รู้ เห็นเรียกพี่นพๆ นี่ตกลงมึงแอบไปมีสามีกกไว้ที่ไหนรึเปล่า”มันทำหน้ายียวนลอยหน้าลอยตาถาม ผมละอยากจะถีบแม่งให้จมตีนจริงๆ

                 “พ่อง จะไปมีที่ไหนละ ละมึงมาเรียกกูทำไมแต่เช้า??”

                 “เช้าบ้านพ่อมึงสิ นี่มันจะเที่ยงแล้วควาย คุณนมเขาให้มาปลุกมึงไปกินข้าวไง นี่มึงมีตาปะ? แหกตาดูข้างนอกดิ๊สัส แดดจ้าขนาดนี้มันเช้าตรงไหน??”

                “อ้าว...เวรกูตื่นสายขนาดนี้เชียว?”

               “เออสิ ลุกเหอะมึงนอนนานๆเดี๋ยวปวดหัว”

               “เออๆ มึงไปรอกูข้างนอกไป เดี๋ยวกูแปรงฟันละตามไป”

                “คร้าบๆคุณชาย” ผมได้แต่ส่ายหัวปลงๆกับความกวนตีนของมัน ไอ่หมอเพี้ยน



                ลูกจันทน์สีเหลืองนวลวางจัดเรียงไว้งดงามในถาดกลมใบหนึ่ง คุณแม่บอกว่าให้ฉันกินเสียก่อนมันจะงอมเสียหมดอร่อย...อืม บ่าวของคุณแม่ช่างเลือกเวลาเก็บลูกจันทน์ได้ดีเสียนี่กระไร กรอบ หวาน กำลังอร่อยเทียว...
วันนี้เป็นวันพักผ่อนของฉันหลังจากตรากตรำทำงานติดๆกันมาหลายมื้อหลายยาม คุณแม่ท่านดีใจนักเทียวที่ฉันอยู่ติดบ้านบ้างเสียได้ ท่านคงเป็นห่วง

            “ทด เอ็งไม่หิวหรือ? มานั่งมองข้ากินอยู่นานสองนาน?”

            “ยังดอกขอรับกระผมเพิ่งกินมาจากในครัวนี่เอง”

            “อย่างนั้นหรือ? ลูกชายเอ็งเป็นอย่างไรบ้าง ข้าได้ข่าวว่านังแดงเมียเอ็งเพิ่งคลอดลูกหรือ?”
           
             “ขอรับ แข็งแรงดีขอรับ แต่คนแม่มันท่าทางไม่ค่อยดีกระผมก็จนใจไม่รู้จะหายาที่ไหนมาให้มันกินอีกได้”

            “อย่างนั้นหรือ เอ็งเอาอัฐนี้ไปซื้อยูกยาให้ลูกให้เมียเอ็งเสีย แล้วก็ลางานไปเฝ้าเสียก็ได้ ข้าคงได้พักอีกนานโข ข้าจะจ่ายเบี้ยหวัดให้เหมือนอย่างเดิม แต่เอ็งไปอยู่ดูลูกเมียเอ็งเถิด ประเดี๋ยวเขาจะอื้ออึงกันว่าข้าพรากลูกพรากพ่อเขา”

            “ขอบพระคุณขอรับคุณหลวง คุณหลวงช่างเป็นนายที่ประเสริฐแท้ๆ”

            “เออๆ รีบไปหาลูกเมียเอ็งเถิด ไม่ต้องมายกยอปอปั้นอันใดข้าให้มากความหรอก ไปไป๊”คุณหลวงโบกมือไล่ลูกน้องคนสนิท เฮ้อออ เห็นทีช่วงนี้จักต้องวุ่นวายเสียยกใหญ่ ก็ลูกน้องคนสนิทก็ดันให้ไปดูแลลูกเมียมันเสียแล้ว
           
            “พ่อนพ อยากบุหรี่หรือไม่จ้ะ แม่มวนไว้ให้เสียหลาย งานหนักมากหรือลูกแม่เห็นทำหน้าทมึงถึง”

            “เปล่าจ้ะแม่ ลูกไม่ได้ทำงานหนักอันใดดอกจ้ะ แต่ว่ากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับห้องหับตัวเองดี ลูกให้อ้ายทดไปดูแลลูกกับเมียมันเสียแล้ว เมียมันเพิ่งคลอดลูกจ้ะ ลูกเห็นมันทำตาละห้อยแล้วลูกสงสาร”
         
           “ให้นางเล็กๆไปดูซีจ้ะ”
           
           “ไม่ดอกจ้ะ เขาจะได้อื้ออึงกันไปหัวคุ้งท้ายคุ้งว่าลูกจะเอาบ่าวในเรือนมาร้อยไว้ใช้เป็นเมียเสีย”

           “พ่อนพยังไม่อยากออกเรือนดอกหรือจ้ะ? แม่มะลิเขาก็รอมานมนานจนชาวบ้านร้านตลาดเขาอึงไปเสียหมดว่าจะเป็นหม้ายขันหมาก”
 
          “ลูกไม่ได้ชอบพอแม่มะลิเขาเสียหน่อยนี่จ้ะแม่ แม่ส่งของไปขอขมาเขาเถิดจ้ะ ชาตินี้ทั้งชาติลูกคงไม่ได้ดองกับเขา หากลูกไม่รักแล้วจะให้อยู่ด้วยกันฉันผัวเมีย มันยากนัก”

          “พ่อนพ แม่ก็เจอหน้าเจ้าคุณพ่อเสียวันแต่งงานนะจ้ะ”

         “โถ...คุณแม่ขอรับ ลูกไม่อยากฝืนใจตัวเองถึงเพียงนั้น ถ้าคุณแม่ไม่ส่งของไปขอขมาบ้านนู้นเขาเสียตอนนี้เกิดลูกไปรักชอบพอคนอื่นขึ้นมา คุณแม่ไม่กลัวคุณหญิงท่านมาถอนหงอกเอาหรือจ้ะ?”

          “แม่ก็คุณหญิงจะไปเกรงอะไร๊”คุณหญิงแขไขกล่าวเสียงสูงขัดใจลูกชายเสียเหลือเกิน มาว่าหล่อนจะเกรงกลัวคุณหญิงยมโดยแม่ของแม่มะลิเสียได้ เชอะ! หล่อนน่ะหรือจะกลัวใคร??

          “โธ่ คุณแม่ขอรับ  คิดเสียว่ากระผมขอร้องคุณแม่เสียก็ได้ ส่งของขอขมาไปถอนหมั้นเขาเถิดนะขอรับ ลูกไม่อาจทำใจรักชอบแม่มะลิได้จริงๆ”

          “ทำไมเล่าจ้ะ? แม่มะลิเขาไม่ดีตรงไหนหรือพ่อนพ? บอกแม่ได้หรือไม่จ้ะ?”

          “ลูกไม่ชอบเขานี่จ้ะ ไม่เคยรู้จักมักจี่กันเสียหน่อย อีกอย่าง เขาว่ากันว่าแม่มะลิเองก็เมียงๆหลวงบวรเทพอยู่เหมือนกัน ลูกไม่อยากได้เดนใครหรอกจ้ะ”

          “ต๊ายย พ่อนพ พูดจาเสียน่าเกลียด แม่มะลิก็กิริยางาม จะไปทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติอย่างนั้นได้อย่างไรเล่าลูก อีกอย่างแม่มะลิเขาทำงานอยู่ข้างใน จะทำเรื่องเสื่อมเสีย เสียอย่างนี้มิได้ดอกจ้ะลูก เห็นทีลูกแม่คงหวงแม่มะลิจนคิดมากไปกระมังจ้ะ?”

          “ลูกจะไปหวงแหนเขาได้อย่างไรเล่าขอรับคุณแม่ โถ่ คุณแม่พูดเสียอย่างกับมิเคยรู้ว่าสาวๆข้างในเขาลักลอบกันอย่างไร เอาเป็นว่าลูกรู้ แล้วลูกก็ไม่อยากไปพรากคนรักกันจากใครเขา นะขอรับท่านแม่ ลูกไม่อยากฝืนใจตัวเองไปรักไปชอบกับใครที่ไหน”ถ้าไม่ใช่คนในฝันคนนั้น...

           “เอาเถอะๆ ไว้แม่จะลองคิดดู”



          “เห้ยธาม! มึงเก็บลูกจันทน์มาให้กูเหรอวะ?”เสียงโหวกเหวกของนภทีป์ดังก้องไปทั่วหอนั่ง ทันทีที่เจ้าตัวล้างหน้าแปรงฟันแล้วลากสังขารอ่อนเปลี้ยเพราะนอนนานเกินไปมาจนถึงหอนั่งได้
 

          สายตาคมกริบจ้องมองลูกจันทน์ที่วางเรียงซ้อนไว้บนถาดกลมสวย ขอบถาดเป็นลายฉลุงามงดงาม ลายไม้เลี้ยนพันอยู่รายรอบดอกไม้...ไอ่ห่าตฤณมันไปหาถาดวินเทจสุดฤทธิ์สุดเดชนี่มาจากไหนวะ??

          “อะไร อ๋อ กูไม่รู้ว่ะ ก่อนกูไปเรียกมึงก็เห็นวางอยู่แล้วนมนุ่มนิ่มเขาเก็บมาให้มึงกินมั้ง เห็นรอบบ้านมีอยู่หลายต้น มีแต่ต้นใหญ่ๆ คงจะปลูกมานานโข”

         “กูก็ว่าหนังหน้าอย่างมึงไม่น่าจัดถาดออกมาซะสวยขนาดนี้ได้ ฮ่าๆ”

         “ไอ่ควายเผือกเดี๋ยวกูถีบกระดูกหลุด”ตฤณหันหน้ามายกนิ้วกลางให้เพื่อนรักด้วยความเสน่หาสุดๆ ส่วนคนที่โดนแสดงความรักนั้นลอยหน้าลอยตาใส่เต็มที่ เล่นเอาเท้าหมอกระตุกยึกๆ อยากกระทืบหน้าเพื่อน!!

        “ถ้าถีบกูหนึ่งทีกูจะยุให้ไอ่พี่ธามสุดที่ร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ของมึงปล้ำมึงสักหนึ่งยก ดีมั้ย? แฟร์ๆ”นภทีป์เลิกคิ้ว ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่เพื่อนที่หน้าแดงฉ่า ตฤณยกนิ้วกลางให้อีกรอบแล้วสะบัดตูกกลับห้องตัวเองไปซะเฉยๆ ปล่อยให้นภทีป์ยืนขำกลิ้งอยู่คนเดียว


          แหม...ไอ่หมอมันเขิน น่าดูน้อยเสียเมื่อไรกัน??

     
         “กูอุตส่าห์ลุ้นให้มันถีบมึง กูจะได้ปล้ำมันให้สมใจอยาก”เสียงงึมงำดังมาจากมุมมืด นภทีป์ยิ่งหัวเราะหนักเข้าไปใหญ่ ถุ้ย ไอ่พี่ชายตัวดีแทนที่จะปกป้องไม่ให้น้องโดนทำร้าย นี่ดันเสือกยุให้ไอ่หมอถีบกูเพื่อจะได้ปล้ำมันเนี้ยนะ? แหมควรซาบซึ้งใจจริงๆเล้ยยย
         “ควาย แล้ววันนี้มึงไม่ต้องขึ้นเวรรึยังไงวะ?”

         “ยังอ่ะ กูเวรดึก ไปพร้อมมันนั้นแหละ วันนี้มันเป็นเด็กกู แล้วมึงอ่ะตื่นซะสายตะวันโด่งเห็นนมนุ่มนิ่มว่ามึงเพ้ออะไรพี่นพๆ มึงไปเสียตูดให้ใครโดยที่กูไม่รู้ปะเนี้ย?”
 
         “พ่อง”

         “พ่อกูก็พ่อมึงอ่ะไอ่ควาย ไปหาไรแดกรองท้องก่อนไป เดี๋ยวอีกสักพักนมนุ่มนิ่มคงให้เด็กๆยกสำรับขึ้นมา”

          “เออๆ มึงอ่ะไม่กินรึไง?”ผมเลิกคิ้วถามพี่ชายหน้าหนวด หน้าตาแม่งไม่หน้าเป็นหมอเล้ยยย มองยังไงก็นึกว่าแม่งเรียนสถาปัตย์ไม่ก็วิศวะอะไรเทือกๆนั้น

           “ยังว่ะ เดี๋ยวกูเข้าไปทำงานแปป นมนุ่มนิ่มตั้งสำรับเมื่อไรมึงให้ไปถามกูด้วยละกัน” แปลว่าที่ออกมานี่มาส่งไอ่ตฤณล้วนๆสินะ โห้ย พี่กู หลงเขาหัวปักหัวปำเสือกเอาแต่แกล้งเขา ถ้าหมาคาบไปแดกเมื่อไหร่จะหัวเราะให้ฟันหลุดกระเด็น

            “เออๆ”สุดท้ายก็เหลือผมอยู่ที่หอนั่งคนเดียว...เดินกลับไปเอาหนังสือมาอ่านเล่นฆ่าเวลาละกัน

 

             นิ้วเรียวไล่มือไปตามหนังสือบนชั้นข้างผนังที่เจ้าตัวเพิ่งขนขึ้นมา หรือเขาจะอ่านนิยายเล่มโปรดดีวะ?? ไม่ได้อ่านมานานแล้วด้วย...เอ...มันดูไร้สาระไปแหะ


              ‘ร.ศ.๑๑๒’

            จู่ๆเขาเกิดสะดุดตาปิ้งปั้งกับหนังสือประวัติศาสตร์เล่มเก่าขึ้นมา...

            เห็นทีจะต้องอ่านซะแล้ว...ไม่ได้อ่านซะนานลืมไปหมดแล้วมั้งกู

             “กร๊อบ”เสียงกัดลูกจันทน์ดังมาเป็นระยะๆจากตรงกลางหอนั่ง ที่เจ้าของบ้านอนเอกเขนกอยู่ข้างหมอนขวาน แถมยังเลิกเสื้อขึ้นซะเต็มที่เพราะเจ้าตัวมันร้อนเสียเต็มประดา ในมือยังคงมีหนังสือประวัตศาสตร์คาอยู่ ส่วนมืออีกข้างก็หยิบลูกจันทน์ใส่ปากเอาๆ จนลูกจันทน์ที่แต่เดิมมีเต็มถาดหร่อยหรอลงเสียเกือบหมด ทำไมนมนุ่มนิ่มถึงไม่ยกสำรับขึ้นมาสักทีวะ!! เจ้าตัวคิดอย่างหงุดหงิดใจ นี่ครึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้วเขากินลูกจันทน์จนตอนนี้เหลือลูกสุดท้ายอยู่บนถาด...

         สายตาของนภทีป์นิ่งจดจ่ออยู่บนลูกจันทน์เนิ่นาน...

         ควรทิ้งไว้ให้เป็นชิ้นมารยาทมั้ยวะ?

          เผื่อว่ามีใครอยากกิน...

          แต่!!

           อย่าเลยดีกว่า แดกแม่งคนเดียวนี่แหละเสือกไม่มีใครแดกเป็นเพื่อนดีนัก (มีต่อ)


หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ ลูกจันทน์
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-02-2014 13:04:29
            คุณหลวงหนุ่มกำลังจ้องมองลูกจันทน์ลูกสุดท้ายในถาดอย่างแสนเสียดาย...จะหมดแล้วหรือนี่...เขาน่ะแสนจะชอบเจ้าลูกจันทน์เหลืองนวลรสชาดดีพวกนี้เหลือประมาณ คงอีกหลายวันเทียวกว่าจะได้กินอีก...

           มือขาวละเอียดของคุณหลวงยื่นไปหยิบลูกจันทน์ลูกสุดท้ายเข้าปาก...

            อืม...

           หวาน... อร่อยยิ่งนัก หามีใครสักคนมานั่งกินด้วยกันก็คงจะดี...

           เห้อ... นี่เขาคงเหงาใจมากจนอยากมีใครสักคนขึ้นมากระมัง?

         “หิวหรือยังลูก?”คุณหญิงแขไขที่นั่งจีบหมากอยู่ถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หล่อนนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหาร การจีบหมากจีบพลู กับมวนบุหรี่กลีบบัว จนเดี๋ยวนี้ยังต้องทำส่งเข้าไปข้างในบ่อยๆ ด้วยเจ้านายท่านชอบเหลือเกิน

         “คุณแม่จะตั้งสำรับหรือขอรับ ลูกเพิ่งกินลูกจันทน์เสร็จเทียว กินข้าวต่อเลยก็ได้จ้ะ”

           “จ้ะ แม่ม้วนไปเรียกนางเล็กๆมาตั้งสำรับเสียไป”สมัยเมื่อก่อน ตอนท่านเจ้าคุณคู่ชีวิตของหล่อนยังอยู่นั้น ท่านให้แต่บ่าวแก่ๆขึ้นมาบนเรือน หล่อนจะได้สบายใจ แล้วท่านก็ไม่เคยมีนางเล็กๆที่ไหนให้หล่อนช้ำใจเลยสักคนเดียว...แต่พอท่านเจ้าคุณเสีย และลูกชายหล่อนกลับมาอยู่เรือน หล่อนก็เปลี่ยนให้นางเล็กๆขึ้นมาเสียทั้งหมด หล่อนอยากมีหลาน...บ้านนี่มีแต่ลูกชายหล่อนเงียบเหงาเหลือเกิน หากมีเสียงเด็กเล็กๆวิ่งเล่นกันบ้างคงจะดีไม่น้อย

           สักพักก็มีสาวๆรูปร่างแน่งน้อยนุ่งผ้าแถบบางเบาสีน้ำตาอ่อน เต้านมแทบจะทะลักออกมาเสียทั้งเต้าเดินยกสำรับขึ้นมาบนเรือน ถึงคุณหญิงจะขัดใจแม่พวกนี้อยู่บ้างที่นุ่งผ้าเจียนหลุดปานนั้น แต่หล่อนก็ยังอยากได้หลานน่ารักๆสักคนอยู่ดี

          “บ่าวของคุณแม่นุ่งผ้าหมิ่นเหม่ไปเยอะเทียวนะขอรับ”เสียงลูกชายเปรยขึ้นเบาๆ ส่วนแม่สาวน้อยที่กำลังก้มหน้าวางสำรับได้แต่เอียงอายหน้าแดงซ่าน หล่อนอาจจะตกถังข้าวสารก็ได้นี่นา ใครๆที่ครัวก็พากันพูดว่าถ้ามีโอกาสขึ้นมาบนเรือนให้แต่งตัวงามๆ เผื่อคุณหลวงท่านจะต้องใจ

         “หรือจ้ะ แหม... แม่พวกนี้คงรีบร้อนกระมังจ้ะลูก อย่าไปถือโทษบ่าวมันเลย หรือลูกถูกใจแม่จะได้ให้พาขึ้นมาสักคน”

          “โธ่ คุณแม่ขอรับ ลูกหาใช่สมภาร”

           “แต่แม่อยากมีหลาน...”

           “ไปหารับเด็กจากบ้านอื่นที่เขาเลี้ยงไม่ไหวมาเลี้ยงไว้ดีหรือไม่เล่าขอรับ? ลูกจะรับเป็นลูกของลูกเสีย ถ้าคุณแม่พึงใจเด็กคนไหนลูกก็จะรับคนนั้น ดีหรือไม่ขอรับ?”

           “ใครเขาจะยกลูกเขาให้เราได้ง่ายดายปานนั้นลูก?”

           “ลูกจะลองถามคนที่กรมดู ดีหรือไม่เล่าขอรับ?”

            “เอาๆ ตามใจพ่อนพเถอะ หาหลานมาให้แม่ให้ได้แล้วกัน แล้วเอาลูกเขามาเลี้ยงแล้วจะเอานมที่ไหนให้เด็กมันกิน”

             “หาแม่นมสักคนให้ลูกคนแรกของคุณหลวงนพเทพอัคราคงไม่ยากเย็นถึงปานนั้นดอกกระมังขอรับ”
เห้อ... สงสัยเขาต้องไปหาเด็กมาให้ได้สักคนแล้วซี หากแต่ว่าจะไปหาจากที่ไหนกันเล่า...


             ไปวัดดูสักทีจะดีหรือไม่นะ ไปไหว้พระทำบุญเสียบ้าง เรื่องปวดหัวจะได้น้อยลงเสียที คุณหลวงหนุ่มทอดถอนใจ มือขาวผ่องได้แต่เปิดอาหารตรงหน้าเข้าปากช้าๆ กิริยาเนิบนาบงดงามจนนางเล็กๆที่นั่งรอท่าอยู่ไกลๆได้แต่มองตาค้าง...โอ้ย อยากจะตกใส่ถังข้าวสารของคุณหลวงเสียจริงๆ!!


              “มีเรื่องทุกข์ใจอันใดมาหาอาตมาได้เล่าโยม”หลวงตาทอดสายตาเมตตามาที่คุณหลวง วัดที่เขามาไม่ใช่วัดระฆังที่คุณหญิงแม่ชอบไปบ่อยๆ ที่นี่เป็นวัดใกล้ๆท่าน้ำบ้านเขานี่เอง พายเรือมาสักเดี๋ยวก็ถึงท่าน้ำของวัดแล้ว เขาชอบมาอุปถัมภ์วัดนี้เป็นพิเศษตั้งแต่กลับมา เพราะบังเอิญได้มาหลบฝนแล้วได้สนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสที่นี่ ท่านรอบรู้นัก...

              “เรื่องคุณแม่กระผมน่ะขอรับ ท่านอยากได้หลานแต่กระผมไม่อยากแต่งงาน”

              “อย่างนั้นหรือ? เหตุใดโยมไม่อยากแต่งงานออกเรือนไป มีคนมาใช้ชีวิตร่วมกันกับโยม มาคอยบรรเทาทุกข์โศกบ้าง ไม่ดีหรือ?”

              “ก็คงเหตุผลเดียวกับที่หลวงพี่บวชอยู่กระมังขอรับ”เจ้าอาวาสวัดนี้อายุยังน้อย ดูไปราวๆสามสิบกว่าๆเท่านั้นเอง แก่กว่าเขาเพียงไม่กี่ปี

             “อย่างนั้นหรือ แล้วโยมวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อ?”

              “คงรับเด็กสักคนมาอุปถัมภ์แล้วให้เขาเรียกกระผมเป็นพ่อกระมังขอรับ”

             “โยมไม่กลัวไปพรากพ่อพรากแม่เขาหรือ...เป็นบาปนะโยม”

         “โธ่ หลวงพี่ เช่นนั้นกระผมจะทำอย่างไรได้เล่าขอรับ”

         “โยมอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว?”หลวงพี่ถามฉันเบาๆ ท่านพูดราวกับว่า...จะหาลูกให้ฉันได้อย่างนั้นแหละ ถ้าเป็นลูกชายคุณแม่คงชอบใจมากกว่า

          “ลูกชายขอรับ คุณแม่ท่านคงจะชอบใจมากกว่า”หลวงพี่หลับตาลงชั่วครู่ ราวกับคิดอะไรบางอย่างไม่ตกดี

           “อาตมามีน้องสาว...”

            “ขอรับ?”

            “หล่อนตั้งคลอดเด็กออกมาทีเดียวกันสามคน...หัวแดง...พ่อมันเป็นฝาหรั่ง แล้วก็ทิ้งน้องฉันไปเสียแล้ว ตัวแม่มันเองพอคลอดเสร็จก็ทนเจ็บไม่ไหว อีกสองสามวันถัดมาก็เสียไป นี่อาตมาเพิ่งไปสวดศพให้น้องเสร็จเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง เรามีกันสองพี่น้อง พอฉันทิ้งน้องมาบวช หล่อนก็อยู่คนเดียว ถึงได้ทำงามหน้ากับฝาหรั่งได้ คุณหลวงจะรังเกียจเด็กพวกนั้นหรือไม่เล่า?”

          “สามคนหรือขอรับ”ฉันทวนคำหลวงพี่เบาๆ บ้านฉันคงคึกคักขึ้นเยอะถ้ามีเด็กสามคนมาเจี๊ยวจ๊าวอยู่ในบ้าน


            “สามคน แต่คุณหลวงจะเอาไปสักคนก็ได้ ตอนนี้ก็เหลือแค่อาตมานี่แหละที่จะเลี้ยงเจ้าเด็กพวกนี้”

           “ถ้ากระผมจะขอรับไปเป็นลูกเสียทั้งสามคนจะได้หรือไม่ขอรับ?”

           “สามคนเทียวหรือ??”

            “ขอรับ หรือหลวงพี่ขัดข้องอันใดหรือไม่ขอรับ”

             “เปล่าดอก อาตมาเองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเลี้ยงดูอย่างไร แต่โยมเป็นชายโสดจะรับเด็กไปเสียทั้งสามคน จะเลี้ยงไหวหรือ?”

              “ไหวซีขอรับ กระผมน่ะคุณหลวงนพเทพอัคราเชียวนา จะเลี้ยงดูเด็กสามคนให้ดีไม่ได้เชียวหรือ?”

             “เอาเถอะๆ ถ้าโยมว่าอย่างนั้น เด็กพวกนั้นอยู่ในกุฏิอาตมานี่เอง”

             “ไว้เย็นๆกระผมจะมารับแล้วกันขอรับ คงต้องกลับไปเตรียมที่อยู่ให้หลานของหลวงพี่เสียก่อน”

              “เอาๆ เอาไงเอากัน อย่างไรเสียมันก็หลานอาตมา มันได้อยู่ที่ดีๆอาตมาก็ดีใจ”





             “พ่อทีป์จ๋า เมื่อไรจะมาหาพี่...”

              “ใครน่ะคุณเป็นใคร...”ผมกลับมาอยู่ในความฝันนี่อีกแล้ว ผมได้แต่ห่อตัวลงตรงกลางห้อง ผมกลัว...กลัวว่าผมจะหลุดไปอยู่กับเขาจริงๆ เขาเป็นใครก็ไม่รู้ แต่ทำไมใจผมถึงเต้นเร้าๆ อยากจะให้ผมเดินผ่านประตูเข้าไปในโลกของเขา...



               “ทีป์ๆ มึงหายไปไหน ไอ่เหี้ยทีป์ ออกมานะเว้ย”เสียงตะโกนของตฤณดังขั้นในตอนเช้าของอีกวัน เขากลับมาจากราวน์วอร์ดพร้อมธามแล้วนมนุ่มนิ่มก็มาบอกว่าทีป์หายไป ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ข้าวของยังอยู่ครบทุกอย่าง
มีแต่เจ้าตัว...ที่หายไป

                “ฮือออ ไอ่ทีป์กูไม่สนุกนะเว้ย ออกมาสิวะ มึงหายไปไหน”เขาร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปหมด ส่วนธามนั้นรีบโทรแจ้งตำรวจท้องที่ แล้วก็แยกกันตามหาไอ่ทีป์

        แต่ไม่มีเลย
           ไม่มีร่องรอยอะไรเลย...
               เพื่อนรักของเขาหายไปไหนกัน...








----------------------------------------
ไม่รู้ยังมีคนตามอ่านอยู่หรือเปล่า TT แต่ขอโทษนะคะที่คนเขียนหายไปนานมาก ปัญหารุมเร้าหลายอย่างอ่ะค่ะ TT
แต่จากนี้ไปจะพยายามมาแต่งให้ได้มากขึ้นนะคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๔ พบหน้า...
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 12-04-2014 23:24:01
                       พยับที่ ๔



          เย็นย่ำแล้ว เสียงสกุณาแว่วมาแต่ไกลๆ คุณหลวงหนุ่มสั่งให้บ่าวไพร่ตระเตรียมเรือไว้รอท่าตัวเองที่กำลังวุ่นวายกับการจัดการหาที่อยู่ที่นอนให้ลูกชายฝาแฝดที่กำลังจะไปรับมา...ฝาแฝดสำหรับสยามมิได้มีให้เห็นบ่อยนัก...แต่คงไม่แปลกอันใดเพราะเด็กสามคนนั้นมีพ่อเป็นอีหรอบหัวแดงที่คงจักมาลงเรือทำอันใดสักอย่างแล้วปล่อยไข่ทิ้งไว้...

          น่าสงสารก็แต่น้องสาวของหลวงพี่....

          คงถูกอ้ายอีหัวแดงพวกนั้นหลอกลวงเอา


          คุณหลวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็นั้นแลหากว่าพ่อของเด็กสามคนไม่ทิ้งไป แม่ของเด็กๆพวกนั้นไม่ได้ตายจาก เค้าจะมีโอกาสได้มีลูกหรือ??

          “พ่อนพ”เสียงคุณหญิงแขไขดังขึ้นเบาๆเมื่อขยับร่างกายอวบอ้วนมาอยู่ข้างกายลูกชายตนได้ นางทั้งรักทั้งห่วงลูกชายคนนี้ยิ่งนัก...พ่อนพน่ะ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าพระยาเทพอัคราทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า สามีของนางสิ้นบุญไปเสียนานแล้ว นางเล็กๆที่เคยเลี้ยงดูไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มี ลูกเต้าของคนพวกนั้นก็ยังเลี้ยงดูอยู่ด้วยเห็นว่าเป็นลูกของสามีตน แต่ไม่เคยให้ขึ้นเรือนมาให้เห็นหน้าเสียเลย ด้วยไม่อยากให้ลูกชายขุ่นข้องหมองใจ...นางรู้ดีตั้งแต่พ่อนพเล็กๆ ลูกชายของนางเกลียดพวกเจ้าชู้หลายใจเยี่ยงพ่อของเขายิ่งนัก หากแต่คุณหลวงหนุ่มก็ยังรักแลเคารพพ่อของตนเสมอ...แลมิเคยไประรานลูกของนางเล็กๆพวกนั้น ยามนี้เด็กสาวหลายคนที่เป็นลูกของสามีเธอก็เติบใหญ่ขึ้น...เฮ้อออ หวังว่าลูกชายของนางจะไปคว้าเด็กพวกนั้นมาทำเมีย อย่างไรเสียก็พ่อเดียวกัน

          “ว่ากระไรขอรับคุณแม่”

          “หาแม่นมได้หรือยังลูก? แม่เห็นเมียอ้ายทัดมันเพิ่งคลอดลูกมิใช่หรือ ให้มันมาเลี้ยงลูกอยู่เสียที่เรือนนี่ดีหรือไม่ หลานแม่จะได้มีนมกิน”

          “จริงด้วยขอรับ ลูกก็ลืมคิดถึงเมียอ้ายทัดไป มิใยกลัดกลุ้มเสียนมนาน คุณแม่ขอรับ...หากลูกได้เจอเนื้อคู่เป็นผู้ชายเสียแล้ว คุณแม่จักรังเกียจลูกหรือไม่ขอรับ?”คุณหลวงหนุ่มมองหน้ามารดาของตนนิ่ง เขากลัวเหลือเกิน หากว่าวันใดการณ์ได้เป็นไปอย่างที่หลวงพ่อวัดระฆังทำนายเสียแล้ว คุณแม่จักรับไม่ได้ขึ้นมา เขาหาได้สนใจสายตาผู้อื่นมากมายนักดอก หากแต่อยากให้เพียงคุณแม่เข้าใจ หากว่าการณ์นั้นมันจักเป็นจริงดังว่า แม้นเขามิเคยหมายมาดในกายชายผู้ใดในสยามนี้เลยก็ตาม

          “ไฮ้! แม่จักไปรังเกียจลูกในไส้ของแม่ได้อย่างไรพ่อทีป์ เรื่องมันยังมิเกิด ใยต้องไปคิดให้มากมายเยี่ยงนั้นฤๅลูก”

          “กระผมเพียงเกรงว่ามันจักเกิดเท่านั้นเองขอรับ คุณแม่ขอรับ ลูกของลูกให้เขานอนเสียกับลูกได้หรือไม่ขอรับ?”

          “ทำเยี่ยงนั้นได้เยี่ยงไรเล่าพ่อทีป์ แต่ไรมาก็มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นดอกลูกที่เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าอยู่บ้าน พ่อทีป์ยังมีงานราชการต้องสะสาง หากจุดตะเกียงจนดึกดื่นเสียแล้วหลานแม่จักหลับได้เยี่ยงไรเล่า?”

          “กระผมเพียงแต่ไม่อยากไปหาเด็กมาเพื่อเป็นภาระคุณแม่เท่านั้นเองขอรับ ด้วยตัวลูกเองก็หาได้ออกเรือนไม่”

          “พ่อนพรักใครแม่ก็รักดอกจ้ะ เริ่มค่ำแล้วนาลูก รีบไปรับหลานแม่มาเถิด หากค่ำกว่านี้น้ำค้างลงจะพาลไม่สบายเอาทั้งพ่อทั้งลูก”

          “ขอรับคุณแม่ กระผมจักรีบไปรีบมา เกรงว่าใครแถวนี้จักร้อนใจอยากเห็นหน้าหลานไวๆ”

          “ช่างพูดนะยะเจ้าลูกคนนี้”คุณหญิงแขไขค้อนใส่ลูกชายตัวเองวงเบ้อเร้อ ก่อนจะพากันเดินออกจากยกพื้นที่ทำงานของคุณหลวงไป



          “อ้ายคม เอ็งรีบพายเข้า กระเดี๋ยวจักมืดค่ำไปเสียกว่านี้ คุณแม่จักไม่สบายใจ”เมื่อคุณหลวงขึ้นนั่งบนเรือเรียบร้อยก็ร้องสั่งนายคมเสียงดัง

           “ขอรับ”เสียงพายกระทบน้ำดังขึ้นเบาๆ ด้านท้ายมีคนคัดท้ายเรืออีกคนหนึ่ง แต่คุณหลวงหาได้สนใจเจ้าผู้นั้นมากมายนัก ด้วยมิเคยได้เสวนาด้วย ต่างจากนายคมที่เคยได้รับใช้คุณหลวงบ่อยๆ

          “ถึงแล้วขอรับคุณหลวง”เพียงเวลาหนึ่งก้านธูปก็มาถึงท่าน้ำวัด คุณหลวงเดินลงเรือมา ยามน้ำท้องฟ้าเริ่มเป็นสีส้มจัด คุณหลวงหนุ่มได้แต่เพียงคิดในใจว่า เห็นทีต้องรีบกลับเสียแล้ว พลันสายตาคมที่ทอดมองไปยังท้องฟ้าฝั่งตรงข้างกับท่าน้ำวัดก็

          สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง...

          เงาตะคุ่มๆลอยอยู่ในแม่น้ำฝั่งตรงข้าม...

          เหมือนของชิ้นใหญ่... 

          คุณหลวงเพ่งสายตามองสักครู่ ก่อนจะผงะอ้าปากค้าง ร้องสั่งนายคมอย่างรวดเร็ว



          “อ้ายคมๆ เอ็งเห็นหรือไม่ นั่นคนหรือไม่วะเอ็งดูที”

          “กระผมว่าน่าจักเป็นคนขอรับ คุณหลวงจักให้ไปช่วยขึ้นมาหรือไม่ขอรับ?”

          “ไปซี เอ็งจักรอช้าอันใด กระเดี๋ยวมันได้ตายเสียก่อน”

          “ขอรับ”นายคมรับคำรวดเร็วก่อนจะถกโจงกระเบนให้เป็นถกเขมรแล้วว่ายน้ำไปยังร่างนี่นอนติดตลิ่งอยู่ตรงนั้น ในใจพลันสงสัย มาได้อย่างไรกัน เมื่อกี้เขาพายเรือมาไม่ยักเห็นใครสักคน เพียงชั่วเวลาที่คุณหลวงลงเรือไปที่ท่า เจ้าคนนี้ดันมาติดอยู่ริมตลิ่งเลยอย่างนั้นหรือ?

          คิดไปคงไร้ประโยชน์อันใด เขาเป็นเพียงทาส มิสมควรจักยุ่งเรื่องของเจ้านาย...

          “มันยังหายใจหรือไม่อ้ายคม”เสียงตะโกนข้ามฝั่งน้ำ เมื่อเห็นบ่าวของตนไปถึงร่างนั้น

          “ยังหายใจอยู่ขอรับ กระผมจักลากกลับไปเดี๋ยวนี้แล้วขอรับ”นายคมเอาแขนตัวเองลากร่างที่ยังนอนแน่นิ่งมาจนถึงท่าน้ำวัด

          “เอ็งกับเจ้าคนคัดท้ายนั่น ไปตามมาที่เรือนกูเสีย เสร็จแล้วจึงค่อยมารับกู ฝากเรื่องกับบ่าวแถวท่าน้ำไปรายงานคุณแม่เสียด้วย กระเดี๋ยวท่านจะเป็นห่วง

          “ขอรับ”บ่าวทั้งสองรับคำแล้วรีบเร่งพายเรือออกไป ส่วนคุณหลวงได้แต่โอบประคองแขนเรียวๆของเจ้าหนุ่มที่เพิ่งให้บ่าวไปช่วยขึ้นมาจากลำน้ำไว้ที่คอ แล้วเข้าไปรอบ่าวพร้อมทั้งรับขวัญลูกชายทั้งสามคน


          “หลวงพี่ขอรับ กระผมมาแล้วขอรับ”คุณหลวงหนุ่มพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงนั้นให้ไปนอนอยู่เสียที่ใต้กุฏิของเจ้าอาวาส พลางเดินมาที่หน้าบันไดร้องเรียกเจ้าอาวาส

         “มาแล้วหรือคุณหลวง ขึ้นมาก่อนซี กระเดี๋ยวอาตมาจักผูกข้อแขนให้เสียก่อน”

         “กระไรนะขอรับ ผูกให้กระผมหรือ?”คุณหลวงมุ่นหัวคิ้วน้อยๆ หากแต่ก็ยอมเดินขึ้นนั่งพับเพียบแต้อยู่บนกุฏิ

         “ส่งมือมาซี คุณหลวงนี้กระไร มิเคยผูกแขนหรือ?”เสียงสัพยอกเบาๆดังขึ้นเมื่อคุณหลวงเอาแต่นั่งจดจ้องเด็กน้อยสามคมที่ถูกห่อไว้ในผ้าสีหม่นๆ

         “จะผูกให้กระผมจริงๆหรือขอรับ?”

         “เหตุใดจักไม่ได้เล่า?”

         “กระผมโตปานฉะนี้แล้ว มิคิดว่าจักมีผู้ใดมาผูกข้อแขนให้อีก คราแรกกระผมคิดไว้ว่าคงได้ผูกตอนออกเรือนเสียทีเดียว”

         “ตอนนี้ก็ผูกได้ ส่งข้อมือมาซี เสร็จแล้วคุณหลวงจักได้ผูกแขนรับขวัญหลานอาตมาอย่างไรเล่า”

         “ขอรับ” คุณหลวงยอมส่งแขนไปตรงหน้าเจ้าอาวาสโดยดี ท่านบริกรรมคาถาบางอย่างอยู่ชั่วครู่ก่อนจักผูกด้านสายสิญจน์ที่ขมวดปมตรงกลางแล้วเข้ากับข้อมือของคุณหลวง

         “เอ้า เสร็จแล้ว รอสักกระเดี๋ยวนาอาตมาจักทำสายสิญจน์เจ้าตัวเล็กให้”

          “ขอรับ”ว่าแล้วเจ้าอาวาสก็ยกสายสิญจน์ขึ้นมาทั้งม้วนโตๆ ก่อนจะบริกรรมคาถาเสียยาวยืด ก่อนตัดแบ่งเป็นเส้นเล็กๆสามเส้นให้คุณหลวงหนุ่ม

          “เอ้า เอาไปผูกรับขวัญเสีย”คุณหลวงยิ้มมุมปากน้อยๆ รับสายสิญจน์มาผูกให้เด็กทารกหัวแดงๆที่ยังนอนหลับสนิทกันอยู่
         
          “กระผมคงต้องรอให้อ้ายคมมันมาตามเสียก่อนขอรับถึงจักออกไปที่ท่า”

          “รอกระไรหรือ อาตมานึกว่าคุณหลวงจะพาหลานอาตมากลับเรือนไปเดี๋ยวนี้เสียอีก”

          “ให้มันไปตามหมอมาที่เรือนขอรับ กระผมช่วยคนได้ผู้หนึ่ง นอนอยู่ใต้กุฎินี่เองขอรับ”

          “อย่างนั้นหรือ เอ้า อย่างนั้นคุณหลวงไปดูคนที่ช่วยมาเสียก่อนเถิด กระเดี๋ยวอาตมาจะดูหลานไว้ให้ อย่างไรเสียก็เลี้ยงมาได้ถึงสามเดือนแล้ว หาได้ลำบากอันใด”

         “ขอรับ”คุณหลวงกราบเจ้าอาวาสแล้วเดินลงกุฏิมา

         “อือ..”เสียงครางเบาๆดังมาจากร่างที่นอนแผ่อยู่บนแคร่ คุณหลวงเพียงขมวดคิ้วแล้วก้าวเข้าไปนั่งเสียริมแคร่ มองหน้าคนที่ตนช่วยมาได้

          คุ้นเคยเหลือเกิน...

          ใบหน้าขาวจัด ริมฝีปากแดงเรื่อๆ จมูกโด่งคมไม่ต่างจากเขาเท่าไร แต่แต่งกายประหลาด...

          นุ่งผ้าเหมือนคนที่เขาเคยเห็นยามหลับฝัน...

          ที่ๆเขาคุ้นเคยดี เรือนของเขา แต่ทุกอย่างกลับแปลกตา

          เรือนไม้หลังงามที่เก่าครึ สีเริ่มหลุดล่อน...


          “นะ...หนาว”เสียงครางแผ่วๆดังขึ้นอีกครั้ง พลันร่างนั้นก็ตะแคงพลิกตัวไปเสียอีกทาง ขดตัวแน่น คงจะหนาวมากจริงๆกระมัง? คุณหลวงหนุ่มทำได้เพียงรั้งร่างนั้นมานอนใกล้ๆตัว ปากสีแดงเรื่อๆเมื่อครู่เริ่มซีดลงเรื่อยๆ ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว เกรงว่าคงจะหนาวยิ่งกว่าเดิมเข้าเสียแล้วกระมัง...

           จักทำอย่างไรดี...
            กอดอย่างนั้นหรือ...
           ไม่มีวันดอก เขาจักไปกอดผู้ชายได้อย่างไร คุณหลวงถอนหายใจเบาๆ ในใจภาวนาให้บ่าวของตนมารับเสียที จักได้พา    เจ้าหนุ่มนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย...


           “คุณหลวงขอรับกระผมมาแล้วขอรับ”เสียงอ้ายคมตะโกนมาแต่ไกลๆ คุณหลวงจึงขึ้นกุฏิไปลาเจ้าอาวาส อุ้มเด็กน้อยสามคนที่ถูกจับใส่ไว้ในห่อผ้าคาดบ่าลงมา

           “อ้ายคม เอ็งมาพยุงเจ้าหนุ่มนี่ไปที ข้าจักพาลูกข้าไปที่เรือเสียก่อน”

           “ขอรับ”นายคมรีบวิ่งทั่กๆมาพยุงร่างอ่อนเปลี้ยของชายหนุ่มที่เจ้านายเขาใช้ให้ไปลากมาจากน้ำเดินตามเจ้านายของตนไป

           “พ่อนพมาแล้วหรือ แม่ร้อนใจแทบแย่ คนเจ็บอยู่ในลูก แม่จักให้บ่าวมันพาไปเสียที่เรือนนก หมอก็มารออยู่แล้ว”

            “อยู่ในเรือขอรับ ลูกสั่งให้อ้ายคมพาลงมา กระเดี๋ยวคงได้เห็น นั่นกระไรขอรับ เดินมาโน่น”คุณหลวงตวัดสายตาไปทางท่าน้ำที่เห็นเงาตะคุ่มๆสองร่างเดินมา พร้อมหิ้วปีกคนที่อ่อนปวกเปียกไว้ตรงกลาง

             “อ้ายคม พาเขาไปเสียที่เรือนนก ส่วนพ่อนพ ส่งหลานมาให้แม่ก่อนลูก แม่จักพาไปนอนเสียเอง ลูกไปดูคนเจ็บเถิด”

             “ขอรับ”คุณหลวงปลดห่อผ้าออกจากกาย ส่งให้คุณหญิงแขไข และเมียอ้ายทัดบ่าวคนสนิทที่มารอรับอยู่ที่ท่าพร้อมกัน

             
             “เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

              “เห็นทีจักเป็นไข้จับสั่น เห็นบ่าวที่พามาบอกว่าช่วยมาจากน้ำหรือ”

              “ถูกแล้ว”คุณหลวงยืนอยู่ที่หัวเตียงสายตาทอดมองร่างที่ยังนอนนิ่ง แต่เสื้อผ้าถูกผลัดเปลี่ยนไปแล้ว บ่าวในบ้านเขาคงมาจัดการผัดให้ตามคำสั่งคุณแม่

               เสื้อคอจีนสีขาว กางเกงแพรสีน้ำเงินเข้ม...

                     เจ้าหนุ่มนี่หล่อเหลาเอาการอยู่...

          “ฉันจะเขียนเทียบยาให้ คุณหลวงให้บ่าวไปหามาต้มเถิด กินจนหมดหม้อน่าจักหายขาด”

          “อืม อ้ายคม เอ็งรับเทียบยาแล้วก็ไปให้เขาหามาเสีย ไปส่งหมอด้วย”

          “ขอรับ”หมอที่อ้ายคมตามมายังคงนั่งเขียนเทียบยาอยู่ชั่วครู่ ก่อนส่งกระดาษใบน้อยให้นายคม

          “เช่นนั้นกระผมคงต้องลาคุณหลวงแล้ว”

          “อืม”เสียงทุ้มตอบแบบขอไปที เมื่อหมอและอ้ายคมออกไปแล้ว จึงไปลากเก้าอี้มานั่งแหมะลงเสียข้างเตียง สายตายังคมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้านั้นมิได้ห่างหายไปไหน...

                        คุ้นเคย...
                       แต่นึกไม่ออกเสียทีว่าเป็นผู้ใดกัน...
                     คุณหลวงพินิจใบหน้าที่เริ่มขาวซีดดูอีกครา...
                  เอ็งคือผู้ใดกัน...


          “หนาว...”คุณหลวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลุกไปคุ้ยหาผ้าห่มนวมผืนหนามาคลุมร่างบนเตียงเสียจนเกือบมิด นอนไปเถอะเอ็ง



           ผมปวดหัวชิบหายเลยครับตอนนี้...
           แม่งกูอยู่ไหนวะเนี้ย อากาศหนาวชิบหายตาห่า แล้วนั้นใครไม่ได้ปิดก๊อก เสียงน้ำหยดเปาะแปะๆ เซอร์ราวน์รอบตัวเลยทีเดียว...

          เดี๋ยวนะ รอบตัวเหรอวะ?

          เพดานไม่คุ้นตา มองไปเห็นหลังคาสูงๆ กับม่านมุ้งบางๆที่แผ่คลุมเตียงนี่อยู่...

           ที่นอนแข็งสัสหมา

           หมอนก็แข็ง...

           ยังดีที่ผ้าห่มยังพอนุ่มบ้าง กลิ่นแปลกๆ ไม่เหมือนกลิ่นที่บ้าน...

            หอมเย็นๆ

             “ตื่นแล้วหรือ”

           “ห้ะ??”เสียงใครวะ นี่กูก็บ้าจี้ตอบรับเขาไปแบบไม่มีสะดุดคิดสักนิดเดียว...

           “ยังหนาวอยู่หรือไม่?”

           “หนาว”แล้วไอ่ตัวคนแม่งอยู่ไหนวะ เหมือนได้ยินเสียงมาจากมุมห้อง ไม่รู้ว่าเป็นใครด้วย แล้วไอ่ตะเกียงที่ไหววูบวิบวับอยู่ข้างตัวกูนี่อะไร๊ นี่หลุดมาเป็นตัวประกอบในหนังพีเรียดของช่องหลากสีปะวะ!??

           “รอสักเดี๋ยว ฉันให้บ่าวไปเอายากับข้าวต้มมาให้ เอ็งชื่อกระไร” เดี๋ยวๆๆๆ นี่มึงใช้ภาษาโบราณไปมั้ย แล้วนี่กูอยู่ส่วนในของโลกวะ!!

           “ชื่อทีป์ นภทีป์ ที่แปลว่าเมฆเคยได้ยินไหม?”

           “ชื่อเอ็งแปลก”ไอ่นี้ ยังไม่เลิกพูดจาโบราณๆใส่กูอีก แถมไม่โผล่หน้ามาให้เห็นด้วย เฮ้ออออ สุดท้ายเลยได้แต่ยันตัวเองมาพิงหัวเตียง รู้สึกไร้เรี่ยวแรงแปลกๆแฮะ...

           “ว่าแต่คุณชื่ออะไร”

           “ฉันชื่อนพ เอ็งมาจากไหน ทำไมถึงไปลอยอยู่ริมน้ำได้ เมาหัวราน้ำหรือกระไร”

           “บ้าสิ ผมไม่ค่อยถูกกับเหล้า ผมมาจากกรุงเทพฯ แล้วที่นี้ที่ไหน?”

           “กรุงเทพฯน่ะซี ข้าหมายถึงเอ็งเป็นลูกบ้านไหน จักได้ให้เขาพาไปส่ง”

          “เดี๋ยวนะ ทำไมคุณต้องพูดจาสำเนียงโบราณขาดนี้ด้วยวะ?”

           “โบราณอันใด คนอื่นเขาก็พูดจากันแบบนี้ เอ็งน่ะซีที่พูดแปลกแยกไป”

          “ห้ะ?? เดี๋ยวนะคุณ นี้มันยุค 2014 นะครับ ใครเขาพูดแบบคุณกันวะ?”

          “เพ้อเจ้อไปใหญ่เทียว นี้ร.ศ.111”

          “อะไรนะ??”เหยดดดดดด มึงอย่ามาหลอกลวงกูเลย ถึงกูไม่ได้ฉลาดมาก แต่ก็ไม่โง่นะเว้ย นี้หลุดเข้ามาในโลกลิเกที่ไหนปะเนี้ย??

          “ร.ศ.111 เอ็งวิปลาสเสียแล้วกระมัง”

         “บ้าพ่องสิ ปกติดี...เอาจริงๆนี่ร.ศ.111 จริงๆเหรอ?”

         “ถูกแล้ว นี่ก็เรือนฉัน แต่ที่เอ็งอยู่นี่เขาเรียกเรือนนก ทำแยกออกมาจากเรือน เอาไว้แขวนกรงนกไว้รอบๆชายคา”

         “ผมไม่ได้ยินเสียงนก”

         “ปล่อยไปหมดแล้ว คราแรกที่เรือนนกหาได้มีผู้ใดอยู่”

         “แล้วคุณจะสร้างไว้ทำไม”

           “เจ้าคุณพ่อชอบเลี้ยงนกมากเท่านั้นเอง เอ็งยังไม่ตอบว่าเอ็งมาจากไหน”ผมขมวดคิ้วแน่นขึ้น จะให้กูตอบไงวะ มากจากอนาคตอีกสองร้อยกว่าปีข้างหน้าวะครับ นี่กูได้โดนไล่กระทืบ ไม่ก็จับส่งไปอยู่ข้างถนนเพราะเป็นคนบ้าน่ะสิ

           “กรุงเทพฯ ผม...”จะบอกดีมั้ยวะ เขาจะเชื่อกูมั้ย? เฮ้ออ เป็นคนหล่อนี้มันก็มีเรื่องให้ลำบากเหมือนกันเว้ย

          “อะไร?”

          “มาจากอนาคต อีกสองร้อยกว่าปีข้างหน้ากรุงเทพยุค 2557...”

         “เอ็งวิปลาส”

         “ก็บอกแล้วว่าไม่ได้บ้า ผมมาจากอนาคตจริงๆ”

         “เอาเถอะ อย่างไรเสียเอ็งก็ยังคุยรู้เรื่องไม่เหมือนคนบ้าคนอื่น”เอ๊ะ ไอ่นี่ กูบอกว่าไม่ได้บ้าว้อยยยยยยยยย น่ากระทืบให้มิดตีนจริงๆ

         “คุณหลวงเจ้าคะ ยากับข้าวต้มได้แล้วเจ้าค่ะ”เอ๊ะ นี่ตกลงกูย้อนเวลามาจริงๆใช่มั้ย... เหยดดดดดดด นี่เผลอหลุดไปในลิ้นชักที่มีไทม์แมชชีนของโดเรมอนปะวะ?

         “เอาเข้ามา เดี๋ยวข้าจัดการเอง”

         “เจ้าค่ะ”

          ประตูห้องเปิดออกช้าๆ เห็นแม่สาวหุ่นเอ็กซ์แตกนางหนึ่งประคองถาดเข้ามา โอ้ยย แม่เจ้าโว้ยย นั่นใส่ผ้าแถบแล้วเรอะ ทำไมมันปลิ้นขนาดนั้น แล้วขาขาวๆตามรอยแยกตรงโจงกระเบนนั้นอีก

          ฮึ่ยยย ไม่เอาข้าวแต่เอาเขาแทนได้มั้ยวะ?

         “ออกไปได้แล้ว เรียนคุณแม่เสียด้วย ว่ากระเดี๋ยวฉันจะขึ้นไปรับสำรับพร้อมท่าน”

         “เจ้าค่ะ”แม่สาวหุ่นเซ็กซี่เดินออกไปแล้ว ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ตรงมาที่เตียงนี่แทน


         เหี้ย!!

         นั่นมัน...


         คนเดียวกับในรูปที่ผมเจอกุญแจหีบ

         เจ้าของไดอารี่ที่แอบอ่านเสียหมดเปลือก

          เจ้าของแหวนที่ตอนนี้ติดอยู่ที่นิ้วผมเพราะลองเอามาสวมเล่นๆ...

         คุณหลวงนพเทพอัครา..

         ตัวจริง เสียงจริงด้วย!!






กลับมาแล้วค่ะ >< ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนานมาก ทั้งกิจกรรมทั้งสอบไฟนอลรุมตีไปหมด ตอนนี้เกรดออกแล้ว แล้วก็พักช่วงกิจกรรมเลยมีเวลามาปั่นฟิกเสียที
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 13-04-2014 04:05:08
มาต่อแล้ว  :impress2:
ยังรออ่านอยู่เสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ 100%
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 13-04-2014 08:09:54
ตามมาชูป้ายไฟให้คุณหลวงค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๔ พบหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 17-04-2014 03:16:23
ชอบอ่ะ >.<  น้อยทีป์น่ารักมากๆเลย
พี่ธามก็เป็นหมอที่หื่นได้ใจ พี่น้องคู่นี้แสบได้ใจมาก
นายเอกของเราย้อนยุคไปนานเหมือนกันนะเนี่ย
แล้วจะเป็นไงต่อ อยากรู้ๆ มาอัพไวๆนะคะ >.<
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 18-04-2014 18:29:09
พยับที่ ๕ คุณหญิงแขไข


นภทีป์เบิกตากว้างอยู่อย่างนั้น...

“ตกใจอันใด ฉันเป็นคน!”ปลายเสียงห้วนสั้นบ่งบอกถึงความอารมณ์เสียสุดชีวิต โอเคครับ กูขอโทษ แต่จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงละวะ ก็ไอ่คนตรงหน้าผมเนี้ย มันคนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนนะเว้ย!!

“เอ่อ...เออผมรู้ว่าคุณเป็นคน ที่นี้ที่ไหน?”

“กรุงเทพฯ ฉันบอกไปแล้วมิใช่หรือ?”

“เออๆ อันนั้นผมรู้เว้ย ผมหมายถึงว่าอยู่ตรงไหนของกรุงเทพฯ”

“ถนนราชวงศ์”

“ห้ะ??”นั่นมันพิกัดเดียวกับบ้านผมนิ?? อาจจะคนละหลังก็ได้...ล่ะมั้ง

“งงอะไรของเอ็ง ท่าจักวิปลาสเสียจริงๆกระมัง?”

“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้บ้า เออ ช่างเถอะ”

“ช่างเถอะหมายความว่าอย่างไร?”โอ้ยยยยยย หล่อกลุ้ม หล่อเครียด นี่จะคุยกันรู้เรื่องไหมวะกู ต้องแอ๊บโบราณตามๆเขาไปมั้ย?

“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องนั้นแล้วน่ะ คุณไม่รู้จริงดิ?”

“อันใดคือจริงดิ?”

“โอ้ยยยย ช่างมันเถอะ ว่าแต่ข้าวนั้นผมกินได้หรือยัง หิวจะแย่”ท้องผมนี่แทบจะร้องครวญครางออกมาเป็นเพลงแร็ปแล้วเหอะ หิวชิบหาย

“อ้อ...ฉันเกือบลืมไป กินยาเสียก่อนค่อยกินข้าว”คุณหลวงส่งถ้วยกลมๆเล็กๆมาให้ เห็นน้ำสีน้ำตาลเข้มๆ กลิ่นพิลึกพิลั่นอยู่จนปริ่มขอบถ้วย

“มันขมรึเปล่า?”

“ขม เอ็งเป็นเด็กหรือไรถึงจักกินมิได้น่ะหือ?”

“ชิ”ผมได้แต่ก้มลงมองถ้วยยาในมืออย่างทำใจ ต้องขมสัสๆแน่ๆ เฮ้อออ กินก็กิน ถ้ามันจะทำให้ผมพอสบายเนื้อสบายตัวกว่านี้ได้หน่อยน่ะนะ

“พรูด!!”เป็นฝอยเต็มเตียงเลยครับ ขมเหี้ยๆ ขมสัสหมา!!

“เอ็งพ่นยาทำไม?”

“ขมอย่างห่า ผมก็เผลอพ่นน่ะสิ”

“เฮ้อออ จะหายไหมทีนี้ กินที่เหลือเข้าไปเสียให้หมด อย่าได้พ่นออกมาอีกเชียว หาไม่ฉันจะเอาหวายลงหลัง!”เหวยๆ นี่อยู่ในละครนางทาสปะวะ? มีหวายลงหลังด้วย กูไม่ใช่ทาสของคุณมึงนะครับนะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงยังไม่รู้ตัวเองเลย เวรจริงๆ

“ครับๆ”ผมพยายามกลั้นใจกรอกยาใส่ปากลงไปรวดเดียว อี๋...ขมสุดๆ ยังขมติดคออยู่เลย แหวะ

“เอ้า กินน้ำเสีย”คุณหลวงรินน้ำใส่ในถ้วยกังไสใบน้อยๆที่เหมือนจะหยิบมาจากแถวๆหัวเตียงให้ผม เออดีๆ อย่างน้อยก็ยังดูแลคนป่วยแบบกูบ้าง

“ขอบคุณครับ”ได้น้ำไปค่อยยังชั่วหน่อย ไม่งั้นผมคงขื่นคอตาย ยาหม้อนี่มันขมจริงๆ

“ทำไมพูดครับ”

“เอ้า ก็ไม่สนิทกันผมก็ต้องพูดสุภาพกับคุณหลวงสิ”

“รู้บรรดาศักดิ์ฉันได้อย่างไร ตั้งแต่พูดกันมาฉันหาได้บอกไม่?”

“เออ...”นี่ต้องตอบยังไงวะ บอกว่ากูรู้อนาคตครับพี่ ได้ถีบส่งผมออกนอกเรือนแหงมๆ เออ...เอาไงดีวะ จริงๆรู้เรื่องมึงโดยละเอียดเลยครับคุณหลวง ของที่ชอบ ไม่ชอบ ขนมที่ชอบกิน อาหารโปรด คือแม่งมีอยู่ในไดอารี่หมดไง ตั้งแต่มันเรียนยันทำงานจนถึงมีคนรัก แต่ไม่เห็นเคยเขียนบอกสักทีว่าคนรักเป็นคนแบบไหนยังไง

“เอออะไร เอาเถิดฉันจักไม่ซักไซ้เอาความ แต่เวลากล่าวกับผู้ใหญ่ให้พูดขอรับ”

“ขอรับ?”

“นั้นแหละ ขอรับ พูดเสียให้ชินปากจักได้มิโดนหาว่าวิปลาสแปลกแยกเข้าใจหรือไม่?”เมื่อกี้ยังด่ากูวิปลาสอยู่เลยนะครับ กูจำได้นะมึง

“ขอรับ ขอรับ”

“ล้อเลียนผู้ใหญ่ไม่ควร”โอ้โห รู้ได้ไงเห้ยว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า เห็นอย่างนี้ผมก็ ๒๖ ขวบล่ะเหอะ (ขวบพร่องส์)

“รู้ได้ไงว่าแก่กว่า?”

“ยอกย้อนก็ไม่ควร เอาเถอะ ดูอย่างไรก็รู้กระมัง เอ็งอายุเท่าไหร่ละ?”

“ยี่สิบหก”

“งั้นก็ถูกแล้ว ฉันอายุยี่สิบเก้าแล้ว อีกเดือนสองเดือนก็จักสามสิบเต็ม เยี่ยงนี้เอ็งว่าควรหรือไม่”อื้อหือ มีใครเคยบอกหมอนี่หรือเปล่าว่ากวนตีนหน้าตายสัสๆ แม่งเอ้ยยยยยย แก่ก็แก่สิวะ เชอะ!!



ติ๋ง ติ๋ง

เสียงหยดน้ำกระทบพื้นกระดานดังไปทั่วห้องนอนที่เรียกว่าเรือนนกของผม เออ...จริงๆก็ไม่ใช่ของผมที่ผมมาขออาศัยเขาอยู่นั้นแหละ บรรยากาศเงียบๆ วังเวงๆ หน้าต่างในห้องที่ผมนอนถูกปิดเรียบทั้งหมดทั้งมวล เห็นเขาว่ากันลมเข้ามาโดนตัว เดี๋ยวไข้จะกลับ...เวรกรรมจริงๆ

“ลุกได้แล้วหรือ”

“ยังมั้ง”

“เอ็งช่างยอกย้อน เอาเถิดลุกได้แล้วก็ดี แล้วนั่นทำอะไร”คุณหลวงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผม พลางชะโงกหน้ามาดูหนังสือในมือผมด้วย ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ มีบ่าวบ้านนี้มาจุดตะเกียงให้เรียบร้อย เลยค้นๆหาหนังสือในชั้นหนังสือของคุณหลวงเขามาอ่าน นี่จะไม่โกรธที่กูแอบเอาออกมาหรอกใช่มั้ย?

“หนังสือเล่มนี้ของคุณพ่อท่าน อ่านหนังสือเป็นหรือ?”

“เป็นสิ สมัยผมไม่ค่อยมีคนอ่านหนังสือไม่ออกแล้ว”

“เขียนก็เป็นหรือ?”

“เป็นสิ เขาบังคับให้เรียนกันทั้งแหละสมัยผมน่ะ พอจบภาคบังคับแล้ว ก็แล้วแต่ความใฝ่ความอยากกันไปว่าจะไปเรียนต่อทางไหน หรือจะไม่เรียน เลือกได้”

“อย่างนั้นเลยหรือ เอ็งนี้วิปลาสเป็นเรื่องเป็นราวเทียว”

“เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเลิกหาว่าผมบ้าสักที ช่างเหอะๆ ว่าแต่คุณหลวงมาทำอะไรที่นี่”

“มาดูคนป่วยซี เอ็งเขียนหนังสือได้จริงๆหรือ”

“เอ๊ะ ก็บอกว่าเขียนได้เขียนได้ ก็ต้องเขียนได้สิครับ เอ่อ ขอรับ ถ้าผมเขียนได้แล้วจะทำไม?”

“เอ็งกลับบ้านเอ็งไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?”เออ... กูเศร้าของกูเสร็จแล้วมึงไม่ต้องมาพูดแทงใจดำกูได้ครับว่ากูกลับบ้านไม่ได้แล้วเนี้ย

“อือ ทำไมล่ะ”

“ฉันมีงานให้ทำ...อยากทำหรือไม่? ทำที่เรือน เอ็งจักได้อยู่ที่นี่ต่อได้ไม่ต้องไประหกระเหเร่ร่อน”ออ...จะให้ทำงานแลกที่กินที่อยู่สินะ

“เอาสิ ดีกว่าออกไปจากที่นี้แหละนะ ว่าแต่งานอะไรขอรับ”

“งานคัดลอกหนังสือ”

“อืมๆ เอาสิๆ”

“ไว้เอ็งหายดีเมื่อใด จักให้เขาจัดห้องหับบนเรือนให้ เวลาทำงานจักได้ไม่ต้องเทียวเดินขึ้นลงเรือนให้ลำบาก บางวันฉันก็ทำงานที่เรือน”

“ไม่ต้องไปทำที่ทำงานก็ได้เหรอ?”

“ที่ไหนก็ทำได้ เออ คุณแม่ท่านว่าถ้าลุกได้แล้วจะให้บ่าวมาพาไปอาบน้ำ”

“ที่ไหน?”

“ท่าน้ำ เดินไปเพียงชั่วครู่ก็ถึงแล้ว เตรียมตัวไว้เสีย กระเดี๋ยวฉันจะออกไปเรียกบ่าวให้”

“ขอรับ”เยสสสส ในที่สุดก็จะได้อาบน้ำ ผมทนดมกลิ่นตัวเองมาได้สามวันนี่ก็น่าเหลือเชื่อสุดๆละ ดีที่อากาศยังเย็นๆ ผมจำได้ว่าตอนก่อนมาเพิ่งจะเดือนสิงหา ที่นี่จะเป็นเดือนสิงหาเหมือนกันรึเปล่าวะ? แต่ดูจะเย็นกว่ายุคปัจจุบันเยอะเลย


จ๋อม...

ฮ้า........ สดชื่นสุดๆ ผมจุ่มขันสีเงินลงไปจ้องน้ำขึ้นมาอาบบนท่า เพราะไม่กล้าลงน้ำ กลัวจม บ่าวผู้ชายที่พามายืนรออยู่ไม่ไกลนัก แต่ไม่ได้หันมาดูผมอาบน้ำ เครื่องอาบน้ำที่นี่แปลกดี มะขาม ใยบวบ แล้วก็ไม้อะไรสักอย่างทุบปลายๆจนแตกเป็นฝอยๆ ผมถามบ่าวที่พามาเขาว่าเอาไว้แปรงฟัน แถมยื่นกระปุกอะไรเล็กๆมาให้ผมด้วย บอกว่าให้จุ่มไม้นี่ลงไปแล้วแปรงฟัน ฟันจะได้เรียงแน่นสวย

อ่อ แล้วก็ที่ท่านี้มีแต่เจ้านายในบ้านมาอาบ ส่วนบ่าวทาสต้องไปอาบน้ำอีกท่านึง ท่านี้รอบๆดูมีต้นไม้รกครึ้มบังสายตาได้ดีเลยแหละ ผมเลยอาบอย่างสบายใจได้นิดหน่อย ผมอาบน้ำไปเพลินๆ จนท้องฟ้าเริ่มส้มจัดเรื่อยๆ เลยตัดสินใจว่าควรจะอาบเสร็จได้แล้ว

“เอ็งอาบน้ำนาน”

“คุณหลวงมาแอบซุ่มดูผมอาบน้ำรึไง?”สยองเลยนะเว้ย นี่อย่าบอกว่าอิคุณหลวงเป็นเกย์นะ ไม่นะๆ ถึงพี่แกจะมีกล้าม มีซิกแพ็คหล่อล่ำบึ้กขนาดไหนก็เหอะ

“เอ็งนี่นะ ฉันมารออาบน้ำน่ะซี อาบจนเปื่อยหมดแล้วกระมัง ถ้าไข้กลับขึ้นมาฉันจะหัวร่อให้ฟันหักทีเดียว”หัวเราะยังไงฟันมึงก็ไม่หักหรอก แต่ตอนนี้กูหมั่นไส้จนจะเอาศอกกระแทกปากเนี้ย ไม่แน่อาจจะได้หักสมใจอิคุณหลวง เชอะ!! ก็แค่ดื่มด่ำกับแม่น้ำใสๆหรอก ใสกว่ายุคที่ผมอยู่ ถึงจะหนาวกว่าหน่อยๆก็เถอะ

“กลัวที่ไหนล่ะ เป็นไข้ก็เป็นสิ”

“เอ็งนี่นะ! เออ เอาเถิดฉันคร้านจักหาความเต็มที แล้วคราวหน้าคราวหลังเอ็งก็ลงไปอาบเสียในน้ำ มาถูตัวอยู่บนท่าให้คนจรผ่านไปมาเห็นหรือไร?”

“ผมไม่เห็นจะมีเรือผ่านสักลำ”

“วันนี้ไม่มีหาใช่วันอื่นจักไม่มีไม่ เอาเถิดๆ เอ็งรีบไปผลัดผ้าเสียที่เรือนนก อีกกระเดี๋ยวบ่าวมันคงเอายากับข้าวต้มไปให้”
เฮ้อ...เมื่อไหร่ผมจะได้เลิกกินข้าวต้มวะ เบื่อฉิบ...ข้าวต้มเละๆจืดๆ แถมข้าวยังไม่ได้ขาวจั๊วะด้วย ดูๆแล้วเหมือนข้าวซ้อมมือ ระคายคอสุดๆ


คุณหญิงแขไขทอดสายตาไปที่เรือนนกอยู่นานแล้ว...

เธอนึกสังหรณ์ใจว่าผู้ชายคนนี้ที่ลูกชายเธอช่วยมา...อาจเป็นคนในคำทำนาย

ผู้ชายผิวขาวจัด ริมฝีปากเป็นรูปกระจับสวย จมูกโด่ง คิ้วเข้มคมสัน มองอย่างไรก็หาที่ติมิได้เลย นับว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง...

“แอ้...”คุณหญิงละสายตาจากหน้าต่างมาดูหลานชายตัวน้อยๆที่นอนอยู่ในเบาะนอน เจ้าสามคนนี้น่าเกลียดน่าชัง ตากลมๆ จมูกเล็กๆ ขัดตาอย่างเดียวก็ตรงหัวแดงนี่เทียว

“ว่าอย่างไรจ้ะ คิดถึงย่าหรือ?”คุณหญิงส่งนิ้วมือไปตรงหน้าหลานชาย หยอกเอินกันจนเด็กอีกสองคนตื่น เป็นที่สำราญใจของคนแก่ขี้เหงาอย่างคุณหญิงได้บ้าง

“คุณแม่ขอรับ ลูกเข้าไปได้หรือไม่ขอรับ”

“เข้ามาซี เจ้าตัวเล็กกำลังตื่นทีเดียว”

“งอแงหรือไม่จ้ะลูกพ่อ”คุณหลวงจับเด็กน้อยโยนขึ้นลงเบาๆ เจ้าตัวเล็กหัวเราะเอิ้กอ้ากเสียงดัง จนปลุกพี่น้องฝาแฝดอีกสองคนที่ยังนอนหลับปุ๋ยตื่นมาร้องไห้จ้าเสียงดังลั่นเรือนไปหมด

“แว้...ฮึก”คุณหลวงรีบอุ้มเจ้าตัวเล็กในมือในท่าทางปกติที่คุณแม่เพิ่งสอนเมื่อเย็นก่อนจะกอดปลอบลูกชายตัวน้อยเบาๆ เมื่อเจ้าคนในอ้อมแขนที่เมื่อครู่หัวเราะเอิ้กอ้ากเริ่มร้องไห้ตามพี่น้องฝาแฝด คุณหญิงตะโกนเรียกแม่นมลั่นเรือน ทำเอาวุ่นวายไปพักใหญ่ๆกว่าเด็กน้อยสามคนจะหลับลงได้ เด็กๆยังไม่มีชื่อ คุณหญิงว่าให้ได้สักขวบก่อนค่อยมีชื่อเรียกเสียก็ได้

“หลับเสียที หึๆ ไม่ได้เลี้ยงเด็กมานานแล้วซี พ่อนพก็ไม่ขี้งอแงกับแม่เยี่ยงนี้เสียด้วย”

“คุณแม่คงจะเหนื่อยมาก หากเข้าที่เข้าทางเมื่อใดกระผมจักพาลูกไปนอนด้วยกับกระผมนะขอรับ”เพราะตอนนี้เด็กน้อยยังเด็กเกินไป ยังต้องกินนมจากอกแม่นมที่พาลูกตัวเองมาเลี้ยงดูอยู่บนเรือนเสียด้วยกัน เลยต้องเอาไว้ฝั่งผู้หญิงอย่างนี้ โถ่ ก็จะให้เมียอ้ายทัดไปเปิดเต้านมให้ลูกเขาดูดในห้องนอนของเขามันใช้เรื่องเสียเมื่อไหร่กันเล่า...ไม่รู้เจ้าคนที่นอนอยู่เรือนนกนั่นจะเลี้ยงเด็กเป็นหรือเปล่า ถ้าเลี้ยงเป็นก็คงจักดีไม่น้อย จะได้ใช้งานเสียให้คุ้มค่าข้าวค่าน้ำ...เมื่อคิดถึงตรงนี้ริมฝีปากหยักลึกของคุณหลวงก็ค่อยๆคลี่ยิ้มสวยออกกว้าง

“หึหึ”

“พ่อนพรื่นเริงอะไรถึงเพียงนั้นลูก ไปนอนเสียเถิดไป เดี๋ยวแม่จักเข้านอนแล้ว”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงกล่าวรับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนของคุณหญิงแขไข ใบหน้าของคุณหญิงเบือนกลับมามองลูกชายคนเดียว...


เธอรู้สึกว่าเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อตะกี้ หาได้เกิดจากลูกชายตัวน้อยทั้งสามของลูกชายเธอไม่

หากแต่จะเกิดจากใคร หรืออะไรนั้น เธอก็อาจล่วงรู้อีกเช่นกัน....

นภทีป์ ที่แปลว่าเมฆกระนั้นรึ

หวังว่าเมื่อคล้อยเคลื่อนมาแล้ว อย่าได้เลื่อนลอยลับหายไปจนลูกชายเธอคลั่งใจขึ้นมา

เธอเป็นคนหัวโบราณ...จะว่ารับไม่ได้กับเรื่องลักเพศก็ว่าได้

หากแต่ว่า...

ถ้าเป็นลูกชายของตน แม่คนไหนจักรังเกียจเดียดฉันท์ได้เล่า...

หากคำทำนายของหลวงพ่อวัดระฆังเป็นจริง

เธอคงจักไม่มีหลานในไส้ให้ได้ยล...



วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติ สงสัยแปลกที่...มั้ง

เออจริงๆแม่งก็ไม่ได้แปลกที่อะไรหรอก ผมแค่รู้สึกว่านอนพอแล้วน่ะ ไม่รู้สิ จู่ๆผมก็กลายเป็นคนตื่นเช้า (ชิบหายวายวอด)ขึ้นมาซะเฉยๆ ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมเหมือนว่าจะหายดีแล้ว ถ้าจะเปิดหน้าต่างคงไม่มีใครว่าหรอก (มั้ง)

“ผลั่ก!”เอ่อ บางทีผมคงเปิดแรงไป ทำเอาคนที่อยู่แถวๆนั้นเงยหน้าขึ้นมาบนเรือนกันหมด

“ขอโทษทีครับ”ผมส่งรอยยิ้มเจื่อนๆไปให้ สงสัยจะทำเสียงดังเกินไปแหะกู...

“ก๊อกๆๆ”

“อ้าวทำไมเปิดหน้าต่าง เดี๋ยวลมพัดไข้จะกลับเอา”

“เออน่าผมไม่เป็นไรแล้ว แล้วคุณมาที่นี่ทำไม? ปกติเห็นมีแต่บ่าวคุณมาส่งข้าวส่งน้ำให้ผมนี่”

“อ้อ...ฉันน่ะรึ ว่าจะมาดูอาการ หายดีแล้วหรือ? ไหนมาดูที”เป็นหมอรึยังไงวะครับ! จริงๆผมก็แค่บ่นไปงั้นแหละสุดท้ายก็สาวเท้าไปยืนอยู่หน้าคุณหลวงอยู่ดี

หมับ..

เอ่อ คุณหลวงครับ กูว่ามันผิดท่าผิดทางไปหน่อยไหมวะครับ จู่ๆพี่แกก็เอามือมาวางทาบบนหน้าผากผมครับ อือ..มันคงจะอยากวัดไข้กูสินะ

“ตัวหายร้อนแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวสายๆจะให้บ่าวมาพาไปบนเรือน ไปกราบคุณแม่ แล้วก็ย้ายไปนอนเสียบนเรือน”

“อือ เอ่อ ขอรับ แล้วนี่คุณจะไปไหน”ผมผละออกมาถึงเพิ่งได้สังเกตว่าคุณหลวงแต่งตัวเต็มยศสุดๆ เสื้อราชประแตน โจงกระเบนผ้าม่วง ถุงน่องสีขาวนั่นก็ด้วย ยังไม่เห็นก็แต่รองเท้านี่แหละ แต่เขาคงถอดไว้ด้านหน้าเรือนล่ะมั้ง...

“เข้ากรม วันนี้ท่านเจ้าคุณเรียกปรึกษางานราชการ กระเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว เอ็งก็ลงไปอาบน้ำผลัดผ้าเสีย อย่าอาบนานแบบเมื่อวานอีก เข้าใจหรือไม่?”

“ครับๆๆๆๆๆ”ผมพยักหน้ารับคำรัวๆ คุณหลวงมุ่นหัวคิ้ว ดูท่าจะรู้ว่าผมประชด แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะเดินออกจากห้องไป ว่าไป อากาศในยุคนี้แม่งเย็นชิบหายวายวอดทำเอาอยากลงไปนอนกลิ้งเกลือกกับเตียงต่อเลยแหะ...

แต่ช่างเถอะ ไหนๆก็ตื่นแล้วนี่ ผมควรออกไปอาบน้ำอาบท่าเสียที

“ซู่”ร่างขาวๆนั่งอยู่ที่ท่าน้ำ ตักน้ำราดตัวเองเสียงดัง เรียกสายตาจากคนที่ใส่ชุดราชการเต็มยศให้หันไปมองได้ไม่ยาก คุณหลวงขมวดคิ้วมุ่น ยังไม่ยอมลงไปอาบน้ำในน้ำเหมือนเคย...

คงได้แต่ปลงตก

ไม่รู้หรือยังไงว่ามีคนมองอยู่ อย่างน้อยก็เขาคนหนึ่งล่ะ ก็ร่างขาวๆนั่นมาดึงดูดสายตาน้อยเสียที่ไหนกันเล่า เขาหาใช่ลักเพศนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจ้องมองเจ้าคนดื้อรั้นนั่นเหลือเกิน

จะไปกันใหญ่แล้วเจ้านพ เกิดมาไม่เคยแอบดูใครอาบน้ำ ดันมาแอบดูเจ้าเด็กนี่...

คุณหลวงสลัดหัวเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านไปเพื่อไปยังโรงรถลาก วันนี้ไปทางเรือคงไม่สะดวกใจเท่าไรนัก
ก็...ไม่อยากไปจับจ้องใครเขานานๆนี่


ผมอาบน้ำเสร็จขึ้นมาที่เรือนนก  ก็เห็นมีบ่าวรออยู่แล้ว เขาช่วยผมสวมเสื้อคอกลมสีขาวที่มีกระดุมผ่าตรงไหล่ แล้วก็สอนผมใส่โจงกระเบน กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็ใช้เวลาไปสักพัก นี่ผมมาจากยุคศิวิไลซ์นะครับ จะมาใส่โจงกระเบนได้คล่องแคล่วเสมือนหนึ่งอยู่ในรั้วในวังเมื่อสมัยสองร้อยปีก่อนก็คงไม่ใช่ล่ะ

สารภาพตามตรง

ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยใส่โจงกระเบนเลยสักครั้ง...

สงสารตัวเองจริงๆ ปวดตับปวดไต

“คุณหลวงท่านสั่งกระผมไว้ พอคุณทีป์แต่งตัวเสร็จแล้วให้ขึ้นไปกราบคุณหญิงบนเรือน ท่านว่าคงทันบนเรือนตั้งสำรับ”ผมพยักหน้ารับ ผมกะๆดูนี่เหมือนจะเพิ่งแปดโมงกว่าเอง ไม่รู้คุณหลวงมันจะรีบไปกรมอะไรแต่เช้ามืดขนาดนั้น ท่าจะบ้างานน่าดู ถ้ามันมีเมีย มีหวังเมียหนีไปมีชู้แน่มึง

“อือ นำไปสิ เอ้อ เดี๋ยวนะ พอผมเจอคุณหญิงผมต้องทำอะไรบ้าง?”

“ก็ไหว้ท่านซีขอรับ ไปเถิดขอรับ กระเดี๋ยวจะไม่ทันคุณหญิงท่านตั้งสำรับ”

“เออๆ นำไปๆ”ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินตามบ่าวออกมาจากเรือนนก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมยังไม่เคยขึ้นไปบนเรือนใหญ่ที่เห็นอยู่ลิบๆนั่นเลยสักครั้ง ตอนไปอาบน้ำก็ไม่ได้ผ่านเพราะเรือนนกอยู่ใกล้ท่าน้ำ เดินไปอีกทางนึงเลย

แหม...ว่าไปก็อดตื่นเต้นไม่ได้แฮะ

“คุณหญิงขอรับ กระผมพาคุณทีป์มาแล้วขอรับ”ยังไม่ทันพ้นบันไดดี เสียงของคนที่ไปรับผมมาก็ดังขึ้นเสียก่อน อื้อหือออ อย่างกับในหนังจีน ฟีลแบบ ฮ้องเต้เสด็จแล้ว...

เอ่อ...ผมว่าบางทีผมก็เพ้อเจ้อเกินไป

ผมกวาดสายตามองเข้าไปด้านในเรือน ตรงกลางมีหอนั่งยกพื้นสูงอยู่ อยู่ใกล้ๆบันไดบ้านนี่เอง ผมเห็นนายคนนั้นคลานเข่าเข้าไป...

เออ แล้วผมต้องคลานเข่ามั้ยวะ??

เอ้า คลานก็คลาน

เจ็บน้ำตาเล็ด ฮือ...เข่าน้อยๆของพ่อ พ่อขอโทษนะลูก

“เอ่อ สะ...สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้คนที่นั่งอยู่บนเบาะรองนั่งด้านในหอนั่ง เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนครับ ใส่ผ้าแถบสีสันสดใสเลยแหละ รูปร่างอวบๆ เห็นแล้วคิดถึงคุณแม่แฮะ....

ไม่รู้ป่านนี้ทุกคนที่โน้นจะเป็นยังไงบ้าง...

“สวัสดีแปลว่าอะไร?”เห...นี่กูคงไม่ได้หลงประเทศหรอกใช่มั้ย???

“ก็...คนเจอกันเค้าก็ต้องสวัสดีกันไม่ใช่เหรอครับ?”

“เปล่า เขาจะถามว่ากินอะไรมาหรือยัง สบายดีหรือไม่ ช่างเถิด พ่อหนุ่มชื่อทีป์ใช่หรือไม่จ้ะ”

“เอ่อ...ครับ”

“ฉันชื่อแขไข เป็นแม่ของพ่อนพเขา...ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหญิงก็ได้ เรียกแม่เถิดจ้ะ พ่อนพว่าพ่อทีป์ไม่มีที่ไปแล้วหรือ?”

“จะว่าอย่างนั้นก็คงใช่คะ...เอ่อ...ขอรับ...จริงๆผม...เอ้อ กระผมไม่รู้ว่าจะต้องกลับยังไงมากกว่า”พูดสำเนียงโบร๊าณโบราณนี่มันยากจริงๆเลยว้อย  โอ้ย ผมจะดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างปกติสุขจริงๆเหรอวะครับ!

“โถ พ่อคุณ งั้นก็อยู่ด้วยกันเสียที่นี่ เห็นพ่อนพว่าอ่านหนังสือออกเขียนหนังสือได้ พ่อทีป์คงเป็นเชื้อพระยากระมัง”

“เอ่อ...แหะๆ”ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ เชื้อพระยาอะไรกันเล่า พ่อเป็นนังการทูตนะ ไม่ใช่เจ้าพระยาที่ไหน เอ...แต่จะว่าไปแล้ว บางทีอาจจะใช่ ถ้าเทียบตามบรรดาศักดิ์ของสมัยนี้

“เอาเถิดจ้ะ เดี๋ยวฉันจะให้บ่าวมันจัดห้องหับไว้ให้บนเรือนนี่แหละ จะได้ช่วยงานพ่อนพเขาได้สะดวก”

“เอ่อ ขอบคุณครับ”

“พ่อทีป์พูดจาแปลกๆ ไม่ค่อยเหมือนคนอื่น”เหยย อย่าเปิดประเด็นครับคุณหญิงแม่ ผมไม่พร้อมจะตอบ ผมเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆไป คุณหญิงแม่เลยไม่ติดใจเอาความอะไรผม แต่บอกให้คนที่พาผมมาพาผมไปเดินดูเสียให้รอบบริเวณบ้านด้านล่าง จริงๆคือพาไปให้ทาสในเรือนรู้จักล่ะมั้งครับ เวลาไปไหนจะได้เรียกใช้ทาสได้ไม่ต้องมาท้าวความว่าเป็นอะไรกับเจ้านายของทาสเหล่านั้น

เฮ้อ....

คงต้องลองอยู่แบบโบราณๆดูสักทีแล้วล่ะมั้ง...


มาต่อแล้วค่าาา >< ช่วงมาต่อได้เร็วเพราะยังไม่เปิดเทอม แต่เดี๋ยวเดือนพ.ค.นี้ก็เปิดเทอมแล้ว ไม่รู้จะมาแบบนี้ได้รึเปล่า แหะๆ แต่จะพยายามนะคะ :katai4:

เรามีทวิตเตอร์ด้วยนะ เผื่อใครอยากเมนชั่นทวง T^T @Phittha_phitch
ใครไม่มียูสในเล้าเป็ดติชมในทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ ติดแฮชแท็ก #คุณหลวงนพ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 18-04-2014 19:46:42
อยากไปส่องใกล้ๆแม่น้ำื หุหุ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 19-04-2014 15:08:46
แค่พบกันไม่นาน
คุณหลวงก็็็็็เริ่มหลงพ่อทีป์ของเราซะแล้ว :hao7:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 19-04-2014 16:31:22
อยากแปลร่างเป็นปลาบู่ไปแอบดูทีป์อาบน้ำจริงๆ >.<
คุณหลวงกับคุณแม่นี่ผู้ดีสุดๆเลย 55555 ชอบๆๆๆ
มาอัพต่อไวๆน้า เราจิรออ่านน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 19-04-2014 20:33:12
พ่อทีป์ คิดถึงบ้านไหม
ดูเหมือนจะสนุกกับยุคก่อนจนลืมพี่ชายและพี่สะไภ้เสียแล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 29-04-2014 23:21:13








พยับที่ ๖




ผมอยู่ที่นี่มาได้สามอาทิตย์เข้าไปแล้ว...จริงๆก็ไม่ได้ลำบากอะไรเท่าไหร่ นอกจากต้องจุดตะเกียงตอนกลางคืน แล้วก็ไม่มีเกมส์หรือมือถือให้ผมเล่นแก้เซ็ง ผมเลยกลายเป็นคนติดหนังสือแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คืออ่านแม่งทุกอย่าง ตอนนี้ห้องหนังสือของบ้านนี้เลยเป็นที่สิงสถิตที่ดีที่สุดสำหรับผม แหงล่ะ หนังสือเยอะอย่างเหี้ย มีหลายภาษาด้วย  เปรมเลยสิผม

“คุณทีป์เจ้าคะ”

“หืม” โอ้โห!! บ่าวสาวๆบ้านนี้ ทำไมแต่งตัวได้หมิ่นเหม่กันทุกคนจริงๆเลยเว้ย แหมๆแต่นั่นแหละอาหารตาผมก็จ้องไปสิครับ อื้อหือ ชุดเสื้อผ้าสมัยนี้เหมาะแก่การถอดแต่ไม่เหมาะแก่การใส่จริงๆ

“คุณหญิงให้มาเรียนว่าจะตั้งสำรับแล้วเจ้าค่ะ”แหมะๆ แม่คุณเอ้ย มีอายหน้าแดงแต่ไอ้ที่ก้มต่ำลงเรื่อยๆจนนมหกแล้วหกอีกนั้นมันอะไรกันคร้าบบบบ โอ้ย นภทีป์หัวใจจะวาย แม่เจ้าพระคุณรุนช่อง คุณหลวงโดนแบบนี้บ่อยๆหรือเปล่าน่ะ? แล้วทนได้ยังไงวะ โอย สาวๆ ขาวๆแบบนี้

“จ้ะ นำทางฉันไปทีซี”จะได้แอบดูแผ่นหลังอีกสักหน่อย แหมๆ ผ้าแถบนั่นก็รัดแค่หน้าอกด้วย ตรงเอวก็เปิดโล่ง เฮ้อ...ถ้าผมเป็นคุณหลวงที่มีสิทธิเรียกสาวๆพวกนี้มารับใช้นะ ไม่เกินเดือนหรอก คงได้ลูกบ้างแหละ!!

ไม่ต้องไปรับลูกคนอื่นเขามาเลี้ยง แต่ผมชอบเด็กๆนะ ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะเรียกใครว่าอะไรเพราะยังไม่รู้ชื่อก็เถอะ แต่ผมชอบพวกแกนะ ผมแดงๆ แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าชัง ผมยังหาโอกาสไปนั่งเล่นที่หอนั่งด้วยบ่อยๆเลย

ผมน่ะฝันว่าอยากมีน้องตั้งแต่เด็กๆแต่ก็ไม่เคยได้มี มีแต่พี่ชายนิสัยเสียชอบแกล้งผมกับเพื่อนอยู่คนหนึ่งแค่นั้นแหละ แต่ผมรักไอ่ธามนะ

ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า

มันจะตามหาผมไหม แล้วไอ้ตฤณล่ะจะอยู่กับธามอยู่หรือเปล่า

คุณพ่อ คุณแม่จะรู้เรื่องหรือยัง

เฮ้อ...คิดถึงบ้านสุดๆเลยว่ะ

“เอ้า พ่อทีป์มาแล้วหรือ มานั่งซีแม่เพิ่งให้บ่าวมันยกสำรับขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง”

“ขอรับ”จริงๆนี่ก็เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของผมแหละ นั่งพบเพียบเรียบแต้เนี้ย...แม่งไม่ใช่แนวเลยครับ คงได้ข้อเข่าอักเสบกันไปข้างนึงแหละ ฮือ...วันๆไม่ได้นั่งแค่สิบนาทียี่สิบนาทีนะ ถ้าอยู่กับคุณหญิงผมก็ต้องนั่งแบบนี้ตลอด โอย รู้สึกเหมือนมาฝึกหัดเป็นนางใน!!

“หิวหรือยังลูก เห็นบ่าวมันว่าขลุกอยู่กับหนังสือทั้งวันเทียวหรือ?”แหม แม่ของคุณหลวงใจดีครับ แกคงเหงา ก็ผมไม่เคยเห็นคุณหลวงจะได้กินข้าวกับแม่เขาสักทีนอกจากตอนเย็น ถ้ามีเมียเมียคงมีชู้น่ะครับ พี่แกเล่นทำแต่งาน งาน งานแล้วก็งาน ผมว่าแกคงคิดถูกแล้วแหละที่ไปหาเด็กมาเลี้ยงไม่งั้นคงไม่ได้มีลูกมีเต้า

“ก็หิวๆบ้างขอรับ ผม เอ้อ กระผมเบื่อน่ะขอรับนั่งเฉยๆคงได้แต่คิดถึงบ้านเลยไปหาอะไรมาอ่านซะดีกว่า”

“จริงสินะ...พ่อทีป์อยากลองทำกับข้าวกับปลาดูไหมลูก?”

“หือ? อะไรนะขอรับ ผมเหรอ?”ผมชี้หน้าตัวเองงงๆ สมัยนี้เค้าไม่ได้มีแต่ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเหรอวะครับ หรือคุณหญิงแกจะสงสารที่ผมท่าจะเหงาจริงๆเลยหาอะไรให้ทำ


แต่ว่านะ ทำกับข้าวเนี้ยคงไม่แย่เท่าไหร่หรอก...มั้ง???

“ก็พ่อทีป์น่ะซี แม่เห็นว่าเหงา แม่ก็ทำอะไรอย่างอื่นที่ผู้ชายเขาทำกันมิได้เสียด้วย เว้นแต่พ่อทีป์จะมาศึกษาการเรือนกับแม่แก้เหงาเท่านั้นแลจ้ะ”

“จริงๆแล้ว...กระผมก็พอทำกับข้าวเป็นบ้าง ลองหัดทำอย่างอื่นบ้างก็ดีขอรับ”ผมยิ้มประจบ เขาว่าปฏิเสธความหวังดีของผู้ใหญ่นี่ไม่ดีครับ ทำกับข้าวก็ทำกับข้าววะถึงมันจะแต๋วไปนิด ไม่เหมาะกับชายไทยวัยฉกรรจ์แบบผมก็เถอะ


“ดีเทียวจ้ะ ไว้พรุ่งนี้แม่จะให้บ่าวมันยกเตาขึ้นมาเสียบนเรือน วันนี้พ่อทีป์คงต้องทนเหงาไปหน่อยแล้วล่ะลูก”

“ขอรับ จริงๆก็เหงามาเสียหลายวันแล้ว อีกสักวันคงไม่เป็นไร”

“จ้ะๆ เอ้า รีบกินเสียเถอะกระเดี๋ยวกับข้าวกับปลามันจะเย็นชืดเสีย หมดอร่อยกันพอดีนา เดี๋ยวแม่ต้องไปดูเจ้าสามแสบด้วย ไม่รู้จะงอแงกับแม่นมมากหรือไม่”

“ขอรับ”เอ่อ จริงๆก็ยังมีอุปสรรคใหญ่หลวงอีกข้อครับ การกินข้าวของผมที่ค่อยข้างจะ เลอะเทอะไปหน่อย ดูคุณหญิงแกกินไม่เห็นจะเลอะเลยแหะ เปื้อนมาถึงแค่ข้อนิ้วข้อแรก ผมนี่แทบจะเปื้อนทั้งมือ ให้ตายเถอะซาร่าห์ เรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้มๆ
เออ...พูดถึงเหล้าไม่รู้สมัยนี้เขากินเหล้าอะไรกัน ไม่พ้นยาดองแหงมๆ แต่ก็น่าสนใจ ฮี่ๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้วคงต้องหาโอกาสไปกินเหล้าให้เปรมปรีเข้าสักทีล่ะวะ!!

“คิดอะไรของเอ็งทำหน้าทำตาพิลึก”

“อ้ะ!!”อีตาคุณหลวงอยู่ดีๆก็โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ครับ นี่เพิ่งเที่ยงเองไม่ใช่เรอะ??

“ตกใจอันใด ฉันหาใช่ผีสางเสียหน่อย วันนี้งานเสร็จเร็วขอรับคุณแม่ ท่านเจ้าคุณได้ข่าวว่าลูกรับลูกเขามาเลี้ยงเลยว่าให้รีบๆกลับเรือนเสียหน่อยจะเข้าที”ว่าเสร็จคุณชายเขาก็ไปนั่งพับเพียบแต้ข้างๆคุณหญิง อื้อหือ ผู้ชายสมัยนี้สุภาพเรียบร้อยสุดๆ

“หรือจ้ะ พ่อนพกินข้าวกินปลาแล้วหรือยังจ้ะ นี่แม่กับพ่อทีป์กำลังกินกันเทียว”

“กินแล้วจ้ะแม่ กระเดี๋ยวลูกว่าจักไปดูเด็กๆเสียหน่อย ให้แม่นมดูคนเดียวท่าจะเหนื่อย ไหนจะลูกมันเองอีกเล่า กระเดี๋ยวไอ่ทัดได้แช่งชักหักกระดูกลูกในใจประไรว่าใช้งานเมียมันเสียหนัก ให้แต่นมลูกของลูกไม่ได้ให้นมลูกมันเอง”

“จ้ะ พ่อนพไปเถิดกระเดี๋ยวมากินเสร็จเมื่อใดจักตามไปนะจ้ะ”

“จ้ะแม่”อื้อหือออออ น่ารักจิบิโก๊ะจิบิกี๊ที่สุดครับ พูดจ้ะจ๋ากับแม่ แหม ถ้ามีเมียคงจะปากหวานน่าดู แหม...น่าปลื้มใจแทนแม่สาวน้อยคนนั้นจริงๆนะนี่นะ



ซู่...

วันนี้เมนูผัดครับ คุณหญิงแขไขแกแทบจะยกครัวมาไว้บนชานเรือนแล้ว แกคงอยากถ่ายทอดวิชาน่าดู ผมเริ่มร่ำเรือนการเรือนมาได้สองสามวันแล้วครับ สนุกดี

แต่...

ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากกลับไปทำอาหารกินกับไอ่ธาม ทำอวดมัน มันคงจะหัวเราะแน่ๆถ้าผมบอกว่าจะทำกับข้าวแบบไทยแท้ให้มันกิน

นึกหน้ามันออกเลยล่ะครับ...

แต่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหน้าของมันอีกหรือเปล่า หรือไม่ ก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดไป

ทั้งไอ่ธาม ไอ่ตฤณ พ่อ แม่ นมนุ่มนิ่ม พี่ที่ทำงาน ป้าร้านหมูปิ้งเจ้าอร่อย เจ้าของร้านกาแฟที่ผมชอบไปนั่ง เออ...ว่าไปชักจะดราม่าละกู ทำกับข้าวกับปลาต่อดีกว่า


“นี่พ่อทีป์ ไอ่เนื้อนี่มันต้องค่อยๆทำแบบนี้นะลูก จะได้กลมกล่อม...บลาๆๆ”

แล้ววันนั้นทั้งวันผมก็คลุกอยู่กับการทำกับข้าว จีบหมากจีบพลู

อื้อหือ นี่ถ้าผมใส่สไบ นุ่งโจงกระเบน ไว้ผมยาว

แล้วเกิดสวย มีนงมีนม มีตงมีตูด คงหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ผู้ชายคงแวะเวียนมามองหลังคาบ้านไม่หวาดไม่ไหวแหละครับ กุลสตรีเหลือเกิ๊น!!

ติดอยู่ที่ว่าไอ่กระผมนั้นเป็นผู้ชาย

แถมมีไอ่จ้อน!!

เออ...ไม่ใช่แถมสิ ปกติผู้ชายแม่งก็ต้องมีอยู่แล้ว ตอนนี้เลยเป็นกุลบุรุษไป คุณหลวงก็เอาหนังสือมาให้อ่านแล้วสรุปความให้บ้าง แต่นานๆจะมีมาเสียทีนึง ตอนนี้ผมเลยนั่งหง่าว เป็นกุลบุรุษอยู่แบบนี้

แหม...ถ้ามีหนังสือให้อ่านเยอะกว่านี้ท่าจะดี นี่เล่นมีแต่หนังสือวิชาการสมัยนี้ทั้งนั้น ผมอ่านจนแทบจะหมดห้องหนังสือ บางทีก็เบื่อนะครับแหม่ ไอ่เรารึก็ใช่คนรักประวัติศาสตร์อะไรมากมาย ถ้ามีนิยายสมัยนี้ให้อ่านบ้างคงดี


หรือไม่ก็...

หนังสือต่างประเทศ ผมว่าคุณหลวงมีแน่ๆ เคยถามเอากับไอ่ทัดบ่าวคนสนิทเขา เห็นนายคนนั้นเขาว่าคุณหลวงทำงานอยู่กรมท่า ฝ่ายต่างประเทศฯ จบจากอังกฤษ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย สาวๆหมายตากันทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าไม่ห่วงความเป็นกุลสตรีคงรีบประเคนตัวเองให้คุณหลวงไปแล้ว อะไรเทือกๆนั้น

ว่าไป อีตาคุณหลวงก็หล่อจริงๆนั้นแหละ

ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันๆ สรุปว่ามันหล่อนั้นแหละ ตอนเห็นรูปที่บ้านตอนเก็บของ ผมยังนึกว่าเขาอาจจะหล่อแต่เสือกเตี้ยตามมาตรฐานชายไทยสมัยสันทัดซะอีก แต่นี่เขาสูงทีเดียวแหละ สูงกว่าผมไปเป็นคืบ นี่ไอ่ตัวกระผมก็สูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ดไปแล้วนะขอรับ ดูท่าต้นตระกูลเขาคงเป็นคนสูง ผมเป็นสาวๆผมก็คงอยากได้

แต่นี่เผอิญผมเป็นผู้ชายมีโจ้ย ผมเลยอิจฉาเขาแทนแค่นั้นแหละ แม่ง หล่อกว่ากูครับ



เปาะ แปะ เปาะ แปะ...

นั่งๆไปสักพักฝนก็เริ่มโปรย เห็นบ่าวเขาคุยกันว่าช่วงนี้มีฝนไล่ช้าง ช้างไหนวะ?? ไม่เห็นจะมีแต่เห็นเขาเรียกฝนไล่ช้าง เอาไว้ผมมีโอกาสค่อยถามใครสักคนแถวนี้แล้วกัน

“ทั่กๆๆ”เสียงวิ่งดังมาจากหน้าบันไดโน้นเลยครับ

“คุณหญิง! คุณหญิงขอรับ คุณหญิง”เสียงเรียกดังลั่นบ้าน ผมเห็นคุณหญิงแขไขรีบร้อนเปิดบานประตูห้องออกมาแล้วเดินเร็วๆอ้อมไปตามระเบียงนั้นแหละครับ

เห็นเขาว่าไม่ควรรีบร้อนเดินผ่านระเบียงบ้าน มันไม่งาม...

เออ ช่างแม่งเหอะ นั่นเก็บไว้ให้กุลสตรีเขาทำกัน ตอนนี้ผมเลยก้าวยาวๆฝ่าลมฝ่าฝนไปทางหน้าบ้านแน่นอนถึงก่อนคุณหญิง
“อ้าว ทัดมีอะไรหรือถึงมาเรียกคุณแม่เสียลั่นบ้าน”

“คุณหลวงแย่แล้วขอรับคุณทีป์”

“พ่อนพเป็นอะไรอ้ายทัด รีบว่าไปซี เอ็งจะให้ข้าหัวใจวายตาก่อนหรือ”คุณหญิงตวาดเสียงดัง ทำเอาทั้งผมทั้งไอ่ทัดที่มาร้องแรกแหกกระเชอเมื่อตะกี้สะดุ้งเฮือก

“รถลากพลิกลงข้างทางขอรับ คุณหลวงท่าน...ยังไม่ฟื้นเลยขอรับ ตอนนี้ก็ยังพาออกมาจากตรงนั้นไม่ได้ เพราะรถลากมันหนักเสียยิ่งกว่าอะไร กระผมจึงต้องมาตามคนไปช่วยขอรับ”

“ตายจริง พ่อนพ พ่อนพของแม่”เห้ยๆ อย่าเพิ่งทรุดสิครับคุณหญิง ผมค่อยๆประคองแกไว้ ก่อนป้านวลจะมาประคองคุณหญิงไปนั่งหน้าเรือนนอนของคุณหญิง

“เอ้า เอ็งไปเกณฑ์คนไปให้มากหน่อย เดี๋ยวฉันจะไปด้วย”ผมสั่งนายทัดไป เขาก็ตะโกนเรียกพรรคพวกแถวนั้นรวดเร็วเชียวครับ ไม่ถึงห้านาทีเราก็ออกเดินจากเรือนคุณหลวง ฝนตกหนักมาก ผมว่าถ้าคุณหลวงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากก็อาจจะเป็นไข้หวัดกันไปข้างแหละวะ



กว่าเราจะมาถึงจุดเกิดเหตุก็เกือบๆยี่สิบนาทีแล้วครับ ในการคาดเดาเวลาของผมเองเท่านั้นด้วย ตรงนั้นเป็นท้องร่อง รถลากคว่ำทับตัวคุณหลวงอยู่ ตาเขายังปิดสนิท ข้างๆกันมีคนลากรถนั้นแหละมั้งที่เฝ้าคุณหลวงอยู่ แต่ไม่มีคนผ่านทางมา เพราะเริ่มเป็นสวนของชาวบ้านแล้วไม่ได้มีตลาดหรืออะไรแถวๆนี้

“พวกเอ็งรีบไปกู้รถลากขึ้นมา”ผมสั่งการ ก่อนนะเดินไปที่ท้องร่องแล้วสไลด์ตัวลงไปตรงที่คุณหลวงอยู่ บ่าวที่ลากรถตัวสั่นงันงก คงทั้งกลัวแล้วก็หนาวด้วยละมั้ง

“เอ็งขึ้นไปเสียก่อนไป ฉันจะดูคุณหลวงเอง”



ผมค่อยๆช้อนหัวพี่ท่านมาวางไว้บนตักแทนบนพื้น หวังว่าจะไม่ด่าผมเพราะไปยุ่งกับหัวที่เขาว่าเป็นของสูงหรอกนะ ได้ยินเสียงทาสออกแรกฮึบ ฮึบดังลั่น เพีบงครู่เดียวพวกนั้นก็เอารถลากออกไปจากตัวคุณหลวงได้ ผมเลยพยายามงัดตัวคุณหลวงให้ยืนขึ้นแทน นายทัดรีบลงมาช่วยผมประคองนายตัวเองไปบนรถลากที่ดูแล้วยังใช้การได้ดี  ส่วนผมก็ตามไปนั่งคู่กับเขาแหละครับ กระเป๋าเอกสารทรงเจมส์บอนด์นายทัดก็ไปเก็บมาแล้ว ตอนนี้เราเลยต้องเร่งฝีเท้ากลับบ้านกันอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน

หน้าซีดเชียว...


คุณหลวงเขาซบอยู่ตรงไหล่ผมนี่เองครับ รถลากมันแคบหน่อยเดียวก็เลยต้องนั่งเบียดๆกันไป ดีนะที่ผมผอมอยู่หน่อย เลยไม่เบียดมาก เรามาถึงเรือนคุณหลวงกันไวมาก คุณหญิงให้บ่าวไปตามหมอมารอท่าอยู่แล้ว เราเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณหลวงให้เป็นเสื้อผ้าแห้งๆ แล้วคุณหมอก็เริ่มตรวจไปตามเรื่องตามราว แต่คุณหลวงก็ยังไม่ฟื้น...คุณหญิงหน้าซีดเซียวจะเป็นลมแล้วจะเป็นลมอีก ผมเห็นท่านตาแดงๆ แน่ล่ะลูกชายคนเดียวเกิดเรื่องนี่ ส่วนเด็กๆก็ร้องไห้จ้าตั้งแต่พวกเรามาถึงเรือน เหมือนรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับพ่อตัวเอง ทำเอาวุ่นไปหมด กว่าทุกอย่างจะสงบลงฟ้าก็มืดสนิทแล้ว คุณหญิงให้นายทัดไปส่งหมอ ส่วนผมก็ถูกจัดการให้มาดูแลคุณหลวง


เจริญล่ะกู เกิดมาในชีวิตมีแต่คนดูแล แต่คงไม่อยากอะไรมั้ง นั่งเฝ้า ป้อนยา แค่นี้เอง

ล่ะมั้ง?? เนอะ!


“นะ...”ผมได้ยินเสียงครางมาจากเตียงสี่เสากลางห้องเบาๆตอนกลางดึก สงสัยจะฟื้นแล้ว เลือกเวลาได้ดีเหลือเกิน ผมเพิ่งเอนหลังได้หน่อยเดียวตรงตั่งเล็กๆข้างหน้าต่างที่ป้านวลเอาฟูกบางๆกับผ้าห่มมาคอยท่าไว้ให้ ฝนยังคงตกพรำๆ ประตูหน้าต่างห้องที่ถูกปิดสนิท ตามความเชื่อโบราณว่าอย่าให้ลมโกรก ไข้จะไม่หาย

แต่นี่มันโคตรอุดอู้!!

“ว่ายังไงครับ”ผมเดินไปริมเตียง ลากเก้าอี้ไม้เล็กๆหน้าตู้กระจกมาด้วย นั่งแหมะแม่งตรงนี้แหละกู คืนนี้ทั้งคืนคงต้องอยู่อย่างนี้

“หนาว...ฉันหนาว”เสียงพึมพำ แต่ไม่ได้ลืมตา ดูท่าจะละเมอ แล้วก็คงหนาวจริงๆ สงสัยต้องหาผ้าห่มเพิ่ม ไอ่ตัวผมก็ไม่ได้หนาวอะไร ยกๆให้เขาไปแล้วกัน



เหมือนจะสงบลงแต่ไม่เลยครับ

“หนาวเหลือเกินแล้ว”แหม...อุ่นขึ้นหน่อยทำมาบ่นหนาว ละเมอยาวขึ้นด้วย ผมคงได้แต่ถอนหายใจแหละครับจุดนี้ จะให้ทำยังไงเล่า ก็ผ้าห่มก็ไม่รู้จะไปหาจากไหนอีก ถุงน้ำร้อนก็ไม่มี วุ้ย!

“กูต้องทำยังไงวะ!!”


ปึก!!

เสียงร่างสูงๆกระแทกตัวลงบนเก้าอี้เสียอย่างจัง ใบหน้าเรียวๆบูดบึ้ง แม่งจะให้กูทำยังไงวะครับ หนาวเนื้อห่มเนื้อรึยังไงกัน! กูไม่ใช่นางเอกทรงโตนะว้อยยย จะได้เอานมเบียดหน้าให้ความอบอุ่นได้เนี้ย นภทีป์กรีดร้องอยู่ในใจ ส่วนคุณหลวงหนุ่ม ก็ยังคงละเมอว่าหนาวอยู่อย่างนั้น สุดท้ายนภทีป์ถึงตัดใจขยับตัวไปบนเตียง


ร่างบางกว่าค่อยๆถดตัวเข้าไปในผ้าห่ม เพียงแค่ครู่เดียวในใจก็กรีดร้องลั่น

ไอ่ห่า ร้อนแทบตายมึงยังจะหนาวอีกเรอะ!!

นภทีป์มองหน้าคุณหลวงแบบหงุดหงิดน้อยๆ ถดตัวลงไปจนสุดแล้วตัดสินใจนอนเบียดคุณหลวงเสียเลย ดี บ่นหนาวดีนัก จะเบียดให้ตกเตียงเลยมึง!


แสงแดดรำไรส่องเข้ามาผ่านช่องไม้ในห้องนอน...

ร่างสองร่างยังคงหลับสนิท คุณหลวงหนุ่มยังคงมีใบหน้าเผือดสี ส่วนชายหนุ่มอีกคนตอนนี้เหงื่อแตกพลั่กๆด้วยร้อนจัด

“ฮ้าวววววววววววววววว”นภทีป์รู้สึกตัวแล้วลุกขึ้นมาหาวหวอดใหญ่ๆ ส่วนคุณหลวงก็ยังคงหลับสนิท ชิผู้ชายอะไรคนตายาวชิบเป๋ง คนตัวบางกว่าได้แต่จดจ้องด้วยสายตาอิจฉาแกมหมั่นไส้ เชอะ!! อย่าให้เขาคนตายาวงอนแบบนี้บ้างละกัน

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

“ใครครับ?”นภทีป์ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู ถ้าเคาะอีกรอบสงสัยคุณหลวงได้ตื่นแน่ๆ ถึงจะเคาะเบาๆก็เหอะ แต่เมื่อกี้เห็นขมวดคิ้วไปแล้วนี่ อะไรจะไวต่อเสียงขนาดนั้น

“บ่าวเอาข้าวต้มกับยามาส่งเจ้าค่ะ คุณหญิงท่านว่ารอให้คุณหลวงตื่นแล้วก็ให้รับทานเจ้าค่ะ”เสียงเบาๆดังมาจากอีกฝากนึงของประตู นภทีป์ถึงได้เปิดประตูรับเอาสำรับเข้ามา ยี้ ไม่เห็นน่ากินเลย ข้าวต้มเละๆ ไม่มีหมู ไม่มีผักชี จริงๆคือไม่มีหอกหักคิตตี้อะไรเลยนอกจากข้าวเละๆ แล้วก็ยาที่ใส่มาในถ้วยใบโต อี๋ แค่กลิ่นก็ขมล่ะ ใบหน้านภทีป์แหยลงเรื่อยๆตามความคิดถึงรสชาติอาหารในสำรับ คุณหลวงแม่งกินเข้าไปได้ไงวะ?

“ยานี่กินก่อนหรือหลังข้าว”

“หลังเจ้าค่ะ คุณหญิงท่านยังว่าถ้าสายแล้วคุณหลวงยังไม่ลุก ให้คุณทีป์ไปรับสำรับพร้อมคุณหญิงที่หอนั่งก่อนเจ้าค่ะ”

“เออๆ ไปเถอะ”ชายหนุ่มรับคำแล้วถือสำรับเดินไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง มองคุณหลวงยังหลับสนิท ตอนนี้ตากลมๆจึงสอดส่ายไปทั่ว ก่อนจะเป็นประกายระยิบระยับ


เจอของดีล่ะกู!!

นภทีป์สาวเท้าเร็วๆไปที่ตู้หนังสือตู้ใหญ่ที่ตั้งเรียงกันอยู่จนเต็มผนังห้องด้านหนึ่งจนเต็มเอี๊ยด ด้านในมีหนังสือต่างประเทศเต็มไปหมด ตาโตๆยิ่งเบิกโตไปอีก ริมฝีปากเริ่มแย้มกว้าง

หึหึหึ เสร็จกูแน่ๆ

โอ้ยยย มีแต่หนังสือน่าอ่าน นภทีป์โอดครวญในใจ นิ้วมือค่อยๆไล่ไปตามสันหนังสือตามชั้น โง้ย... แอบอ่านแม่งเลยล่ะกัน เจ้าของแม่งอยากมัวเอาแต่นอน คิกๆ

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

“คุณทีป์เจ้าคะ คุณทีป์”เสียงเรียกเบาๆดังขึ้นจากอีกฟากของประตูห้องนอน แต่เจ้าของนามนั้นกลับหลับคาหนังสือไปเสียแล้ว ร่างสูงโปร่งนอนเอกเขนกอยู่ที่ตั่งเล็กริมหน้าต่าง แต่คนที่ตื่นตามเสียงเรียกกลับเป็นชายหนุ่มอีกคนเสียนี่...

คุณหลวงนพเทพอัคราลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงตาคมกริบฉายแววอ่อนล้า กระพริบปริบๆเพื่อปรับตัวเข้ากับแสงสว่าง ใครมาส่งเสียเอะอะอยู่หน้าห้องเขากัน??

“ใครน่ะ”เสียงแหบแห้งถามกลับออกไป แต่คนข้างนอกคงไม่ได้ยิน ถึงยังคงเคาะประตูไม่หยุด จนคนบนเตียงได้แต่ขมวดคิ้วหมุ่นเพราะความรำคาญ

โอ้ย บ่าวบ้านเขานี่ช่างน่าขัดอกขัดใจเสียจริง

แล้วพ่อทีป์ไปอยู่เสียที่ไหน มันเคาะเรียกเสียงดังจนหูเขากระเทือนออกอย่างนี้ยังไม่ยอมออกไปเปิดอีก จะให้เขาโมโหจนอกแตกตายหรือไรกันนะ!!

“พ่อทีป์...”

“พ่อทีป์”

นี่เขาเรียกไปสองครั้งแล้วนะ พ่อทีป์ไปอยู่เสียที่ไหน สุดท้ายคุณหลวงหนุ่มเลยได้แต่ขยับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งพิงเตียง สายตากวาดไปรอบๆห้อง แล้วไปสะดุดกับคนที่นอนพาดอยู่บนตั่ง

หลับคาหนังสือหรือนั่น...

เฮ้อ...จักง่วงนอนอะไรถึงเพียงนั้นนะ สุดท้ายด้วยจนใจคุณหลวงเลยเดินไปเปิดประตูเองเสีย ก็คนที่บ่าวเรียกเอาแต่หลับนี่ อีกอย่างเขายังเดินไหว หาได้พิกลพิการง่อยเปลี้ยเสียขาแต่ประการใดไม่

“มีกระไร”

“คุณหญิงให้มาตามคุณทีป์ไปรับสำรับเสียพร้อมกันเจ้าค่ะ คุณหลวงค่อยยังชั่วแล้วหรือเจ้าค่ะ”

“ฟื้นแล้ว ไม่หนาวแล้ว หากฉันออกจะอ่อนเพลียอยู่บ้าง บอกคุณแม่ท่านรอสักกระเดี๋ยว ฉันจะไปพร้อมพ่อทีป์นี่แหละ เอ็งไปบอกให้คนเอาน้ำล้างหน้ามาให้ฉันด้วยแล้วกัน”

“เจ้าค่ะ”บ่าวสาวร่างแน่งน้อยรับคำด้วยใบหน้าแดงซ่าน ด้วยไม่เคยได้พาทีกับคุณหลวงด้วยประโยคยาวๆเยี่ยงนี้มาก่อนเลย หัวใจสาวเต้นตึกตัก ก้มหน้าก้มตาเดินไปทางหอนั่งอย่างรวดเร็ว


“เสน่ห์แรง...”

“หึ ก็พ่อทีป์เอาแต่นอนเอง ถึงไม่ได้มาโปรยเสน่ห์อย่างฉัน”

“เฮอะ มาเรียกไปกินข้าวอ่ะดิ แล้วคุณหายแล้วรึไง”

“แค่ไม่ค่อยมีแรง แต่อย่างอื่นหายแล้ว เมื่อคืนโดนเบียดเสียร้อนนี่นา เหงื่อออกจนเปียกไปหมด คงต้องให้บ่าวมาเปลี่ยนผ้าปูฟูกเสียใหม่”

“ชิ ก็คุณเอาแต่บ่นหนาวๆนี่ ไปๆกินข้าว”นภทีป์หน้าซับเลือดฝาดน้อยๆ แต่คุณหลวงหนุ่มก็ทันสังเกตเห็น สงสัยจะขวยอายที่ต้องมานอนกับผู้ชายด้วยกันกระมัง?

“ไปซี ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน”



หอนั่ง


ผมเดินตามคุณหลวงต้อยๆ มานั่งแปะลงตรงโต๊ะบนพื้นยกของหอนั่ง สำรับข้าววางอยู่เรียงราย พอมาถึงสองแม่ลูกเขาก็คุยกัน

“พ่อนพ หายแล้วหรือลูก กระไรหายไวนัก แม่ว่าจักลุกไม่ขึ้นแล้วเสียอีก เมื่อคืนพ่อนพตัวร้อนเป็นไฟเชียวลูก แม่ร้อนใจไปหมดเชียว”

“สงสัยยาหมอท่านจักดีกระมังขอรับคุณแม่ คุณแม่อย่าร้อนใจไปเลยขอรับลูกเพียงตากฝนเล็กน้อยเท่านั้นเอง”

“จ้ะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว มากินกันเถิด วันนี้มีแต่ของโปรดพ่อนพเชียวนา...แต่อย่าเพิ่งกินแกงกะทิเลยนะลูกแม่เกรงจะระคายคอ”

“ขอรับคุณแม่ ทานกันเถิดขอรับ คุณแม่อย่าได้กังวลไปเลยขอรับ ลูกเพียงแต่ไม่ค่อยมีแรงบางเท่านั้นเองขอรับ”

“จ้ะๆ พ่อนพกินเยอะๆนะลูก พ่อทีป์ ลองกินนี่ดูซี อร่อยเชียวนา ของโปรดพ่อนพเขาแล”

“ขอรับ”ผมรับคำแล้วตักแกงกะทิมาจากถ้วยกลาง อร่อยจริงๆด้วยสิ แต่ลำบากตรงผมต้องเปิบมือกินนี่แหละ ตอนนี้ก็ยังคงเปื้อนเปรอะเหมือนวันแรกๆที่เปิบกินแบบนี้  ไม่มีพัฒนาการเอาซะเลยกู แต่นั้นแหละ กินๆไปก็คิดถึงบ้านขึ้นมา น้ำตาจะไหลเว้ยเห้ย แม่งไอ่ธามมันจะแดกข้าวตรงเวลาบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ เป็นหมอที่มีสุขอนามัยเหี้ยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยนะ

ไอ่ตฤณจะเสร็จไอ่ธามไปหรือยัง....

นมนุ่มนิ่มจะทำอะไรให้พวกมันกินกันนะวันนี้...

   คุณพ่อคุณแม่จะสบายดีหรือเปล่า

รู้หรือยังว่าผมหายไป....

หายไปจากโลกนั้น....

หายไปจากภพนั้น....

หายไปจากชีวิตของทุกคน....

เป็นการหายไปที่ผมรู้สึกว่า...

ชั่วนิรันดรนี้คงไม่ได้เจอกันอีก...

ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคน คิดถึงกรุงเทพฯยุคที่มีรถไฟฟ้า มีตึกสูงๆ

คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผมตอนนั้น

ขนาดรถติด...


ผมยังคิดถึงเลย....


เย่ๆ ในที่สุดก็เข็นตอนนี้ออกมาได้แล้ว ทีแรกเค้าว่าจะอัพให้ได้ทุกวันเสาร์หรืออาทิตย์ แต่อาทิตย์นี้ต้องขอโทษจริงๆนะคะ
กิจกรรมล้านแปด เพิ่งกลับมาม.ต้องไปซ้อมเชียร์แบบมาราธอน งือ

แต่เราจะพยายามเอามาลงให้ได้สม่ำเสมอที่สุดเน้อ
ถ้าไม่มียูสในเล้าเป็นคอมเม้นต์ใน twitter :: #คุณหลวงนพ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเค้าไปอ่านเอง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 30-04-2014 01:33:10
ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากก  :mew3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 01-05-2014 02:28:06
คุณหลวงฟื้นแล้ว เย้ๆๆ
ทีป์มีแอบเขินด้วย หุๆ
ฝึกไว้ๆ ต่อไปคุณหลวงจะได้รุกให้หนักๆ 555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 01-05-2014 18:15:37
ไหนพี่ทีป์บอกเบื่อ อุสามีย้อนเวลามาให้แล้สนะพี่ ดื้มด่ำนานๆหน่อย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 04-05-2014 06:51:21
ขอโทษนะคะ อาทิตย์นี้คงไม่ได้ลงจริงๆ อาทิตย์หน้าก็อาจจะไม่ได้ลง T^T
คนเขียนต้องไปซ้อมรับน้องของม.อ่ะค่ะ ไม่ว่างแต่งต่อเลยย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 04-05-2014 10:40:25
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-05-2014 10:54:31
จ้า ไม่เป็นไรๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 04-05-2014 14:31:23
ชอบเรื่องแนวนี้
+1
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 04-05-2014 22:10:30
สนุกมากกกกกก รอตอนต่อไป

จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 10-05-2014 16:14:21
อ๊ากกกกกกกกกก  :hao5: รอแล้วรอเล่า

ทำได้เพียงแค่รอ เรื่องมันเศร้า คนอ่านนะที่เศร้าอ่ะ อิอิ

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๗ มาแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 25-05-2014 20:09:41
พยับที่ ๗
[/b]


“พ่อนพ วันนี้ก็รีบนอนเข้าหนาลูก กระเดี๋ยวจักหายไข้ช้า”

“ขอรับคุณแม่”ฉันพยักหน้ารับคำคุณแม่ หลังจากที่เรานั่งกินข้าวเย็นกันที่หอนั่ง เห็นทีคงจักมิได้นั่งดูดาวเยี่ยงทุกทีแล้วกระมัง
ฉันเป็นคนชอบดูดาว เป็นมาตั้งแต่ครั้งไปเรียนที่อังกฤษ บนเรือนั้นไม่มีอันใดที่จักทำให้ฉันเจริญใจได้เลย นอกจากท้องฟ้า...

“ไปเถิดลูก กระเดี๋ยวนึงแม่ก็จักไปนอนแล้ว”

“ขอรับ คุณแม่ดูแลตัวเองดีๆหนาขอรับ อากาศก็เริ่มจักเย็นบ้างเสียแล้ว กระผมเกรงว่าคุณแม่จักป่วยไข้เอาเสียได้”

“จ้ะ ไปเถิดลูก แล้วก็ดูแลพ่อทีป์เขาดีๆหนา อย่างไรเสียก็รับเขามาอยู่เสียด้วยกันแล้ว”

“ขอรับคุณแม่ เกรงว่าตอนนี้จักเป็นพ่อทีป์เสียมากกว่าที่ต้องดูแลลูก”

“เอาเถิดๆ ไปเสียได้แล้วลูกกระเดี๋ยวพ่อทีป์เขาจักรอท่า”

“ขอรับ”ฉันเกรงว่า...คนที่คุณแม่ว่าจักรอท่าฉันจะแอบหลับไปเสียก่อนน่ะซี พ่อคนนั้นน่ะ วันๆก็อยู่แต่กับคุณแม่แล้วก็อ่านหนังสือไปตามเรื่องตามราวของเขาเท่านั้นเอง วันๆสนใจมาคุยกับฉันเสียบ้างที่ไหนกัน


   
“พรึ่บ”เสียงพลิกกระดาษอย่างแรงดังขึ้นทีหนึ่ง ทำเอาร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาในห้องตนเองหยุดชะงักสายตาทอดมองไปทางต้นเสียงทันทีทันใด

นภทีป์นั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือของเขาเอง...จุดตะเกียงให้ตัวเองเสียเรียบร้อย กำลังนั่งหน้าเคร่งอยู่หน้าหนังสือเล่มหนา...
นภทีป์ตกอยู่ในภวังค์ของหนังสือเล่มนั้นยาวนานหาได้สนใจผู้มาใหม่ไม่

“พ่อทีป์ ยังมิง่วงดอกหรือ?”

“ยังครับ...เอ้อ ขอรับ ยังไม่อยากนอนเท่าไร คุณนอนก่อนสิ เดี๋ยวผมไปนอนที่เดิมนั้นแหละ”

“ข้างหน้าต่างน่ะหรือ มันหนาว กระเดี๋ยวจักเป็นไข้”

“ให้ผมนอนเบียดคุณก็ร้อนได้ห่าสิครับแหม”

“ดูพูดเข้าซี เออ เอาเถิด อยากนอนหนาวๆก็ช่างพ่อทีป์ไปแล้วกัน ฉันจักนอนแล้วหนา คุณแม่ท่านว่าให้นอนเร็วเสียหน่อย จักได้หายไวๆ พ่อทีป์ก็รีบนอนเข้าล่ะ กระเดี๋ยวจับไข้ฉันจักไม่สงสารเลยเทียว”

“อื้อหือ คุณครับ แหมๆ นอนไปเถอะไป เดี๋ยวผมก็นอนแล้วเหมือนกัน อ่านไฟตะเกียงแบบนี้ก็ปวดตาอยู่ ห่มผ้าดีๆล่ะคุณเดี๋ยวหนาวตายผมไม่รู้ด้วย”

“แช่งฉันเสียอีกนะ”

“เปล่าแช่ง เขาเรียกว่าเป็นห่วงหรอกคุ๊ณ”

“เอาเถิดๆ พาทีกับพ่อทีป์นี่ทำฉันปวดหัวได้เหมือนกัน ฉันจักนอนแล้วเสียที”

“ขอร้าบบบ”

“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจอย่างระอาใจดังมาแว่วๆ เรียกรอยยิ้มให้จุดขึ้นที่มุมปากของคนที่นั่งอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี



“แปะ แปะ”เสียงน้ำค้างหยดลงบนพื้นกระดานแผ่วๆมาจากนอกเรือนนอน คุณหลวงนพเทพอัคราลืมตาตื่นช้าๆสายตาทอดมองไปริมหน้าต่าง เจอก้อนผ้านวมขยุกขยุยเป็นก้อนอยู่จนเต็มตั่ง หึหึ บอกแล้วเทียวว่าให้มานอนเตียง แล้วนี่ไปค้นผ้านวมมากจากหีบได้อย่างไรก็สุดรู้

“ก๊อกๆ คุณหลวงขอรับ ตื่นแล้วหรือยังขอรับ”

“ตื่นแล้ว เอ็งมีอะไร”

“กระผมเอาน้ำล้างหน้ามาเตรียมไว้ท่าขอรับ วันนี้คุณหลวงจักอาบน้ำหรือไม่ขอรับ”

“ไม่เอาล่ะ เกรงไข้จักกลับเอาเสียได้ ไปเอาน้ำมาอีกสักกะละมังเถิด กระเดี๋ยวข้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวคงพอสดชื่นขึ้นบ้าง”

“ขอรับ กระผมจักไปบอกนางพวกนั้นให้ยกเข้ามา”

“เออๆ ไปเถิด”

“ขอรับ”

“ฮ้าวววววววววว”เสียงหาวดังลั่นมาจากตั่งเล็กริมหน้าต่างก้อนผ้าขยุกขยุยขยายตัวออก ชายหนุ่มหน้ายุ่งหัวฟูโผล่ออกมาบิดขี้เกียจอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องแม้แต่น้อย

“ตื่นแล้วก็มาล้างหน้าเสีย ใช้น้ำอ่างเดียวกันนี่เสียก็ได้ นางเล็กๆเขาเตรียมไว้ให้”

“อือๆ”นภทีป์เดินเตาะแตะงัวเงียเซซ้ายป่ายขวามาจนถึงข้างเตียงคุณหลวง นั่งแปะลงบนเก้าอี้สัปหงกอยู่หลายหงึกกว่าจะยอมจุ่มมือลงไปในอ่างควานหาผ้ามาเช็ดหน้าได้

“เฮ้อ...เยี่ยงนั้นจักได้เรื่องหรือ? หืม อยู่มาเสียนานแล้วนายังเช็ดหน้าไม่เป็นหรือไร?”คุณหลวงส่ายหัวเบาๆ คว้าผ้าไปจากมือนภทีป์ นิ้วเรียวยาวจุ่มผ้าลงน้ำอีกรอบ บิดจนออกหมาดๆแล้วค่อยเช็ดหน้าให้คนที่นั่งสัปหงกอยู่แผ่วเบา


คิ้วเรียว

ตาโต

ปากแดงๆ

จมูกโด่งเป็นสัน...

พ่อทีป์นี่จัดว่ารูปงามมากเลยเทียว หากให้ไปเดินตามร้านตลาดสาวๆคงตามติดกันเกรียวกราว สูงหรือก็พอๆกับเขา ออกจะตัวบางกว่าตามประสาเท่านั้นเอง

“อือ เปียกหมดแล้วคุณ”เสียงงึมงำบ่นเบาๆ ทำเอาคนเช็ดหน้าให้อยากจะเขกกะโหลกสักที ง่วงงุนอันใดเสียขนาดนั้นก็หารู้ได้ไม่

“ง่วงมากหรือ? เมื่อคืนไม่ยอมนอนหรือไร?”

“นอนแล้ว หลังคุณเดี๋ยวเดียวเอง แต่ง่วงอ่ะ นอนอีกแปปได้ไหม”

“แปปแปลว่าอะไร?”

“กระเดี๋ยวของคุณแหละมั้ง เออ มันแปลว่าอะไรก็ช่างมันเหอะ แต่นอนต่ออีกหน่อยนะ”ไม่รอให้คุณหลวงอนุญาตแต่อย่างใดนภทีป์ก็ไถลตัวออกจากเก้าอี้ไปนอนแปะบนเตียงเจ้าของห้องเขาอย่างอุกอาจ เรียกได้ว่าไม่มีความเกรงใจกันเลยทีเดียว แค่หัวถึงหมอนคลี่ผ้าห่มคลุมตัวได้ คนง่วงจัดก็ผล็อยหลับไปทันที

“กระไรจักง่วงถึงเพียงนั้นพ่อทีป์เอ๋ย”คุณหลวงบ่นพึมพำ แต่ไม่ได้สนใจคนที่นอนอยู่อีก ไปเปิดประตูห้องเรียกบ่าวให้รีบๆเอาน้ำมาให้ด้วยเหนียวเหนอะหนะเสียเหลือเกินแล้ว

“คุณหลวงให้บ่าวช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ดีไหมเจ้าคะ”นางเล็กๆที่ขึ้นมาห่มผ้ามาหมิ่นเหม่เสียแทบจะหลุดออกจากเต้านมส่วนผ้านุ่งนั้นก็หยักรั้งขึ้นสูงกว่าปกติอยู่บ้างเผยขาอ่อนวับๆแวมๆ คุณแม่ยังไม่เลิกมาตรการนี้อีกหรือกระไรนะ คุณหลวงหนุ่มทำได้เพียงถอนหายใจแผ่วเบาแล้วเอ่ยปากไล่นางคนนั้นลงไปเสีย ด้วยรำคาญนัยน์ตาเสียเหลือเกิน

“เอ็งออกไปเถิดไป เรียนคุณแม่ด้วยว่าวันนี้ฉันจะออกไปรับข้าวเช้าด้วย”

“เจ้าค่ะ”นางบ่าวผู้นั้นทำหน้าหมองด้วยโดนไล่ออกไปอย่างไร้เยื่อไยแม้เพียงหางตาก็ไม่เหลือบแลมาแม้เพียงนิด

“ไปเสียได้ก็ดี เห้อ...”คุณหลวงถอดถอนใจ ค่อยๆจุ่มผ้าลงไปในน้ำแล้วบิดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตัวเอง หวังว่าคงจะสบายตัวขึ้นมาบ้างสักเพียงน้อยก็ยังดี

“ฟี้...ฟี้...”เสียงหายใจแผ่วๆดังมากจากที่เตียงเรียกรอยยิ้มจากคนที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวตัวเองอยู่ไม่น้อย...

พ่อทีป์เอ๋ยพ่อทีป์

เจ้าช่าง...

   น่าภิรมย์อันใดถึงเพียงนี้กัน...



หอนั่ง


“เอ้า มาแล้วหรือพ่อนพ วันนี้เหตุใดจึงมาทานข้าวพร้อมแม่ได้เล่าลูก ไม่เข้ากรมหรือ?”

“วันนี้ไม่ต้องเข้ากรมก็ได้ขอรับ เจ้าคุณท่านว่าหากมีเรื่องด่วนประการใดจักให้ม้าเร็วนำหนังสือมาให้ที่เรือนขอรับ”

“หรือจ้ะ ดีจริง แม่จักได้มีเวลาอยู่กับพ่อนพมากหน่อย แล้วพ่อนพจักได้อยู่กับเจ้าตัวเล็กสามคนนั่นด้วย ไม่ได้เจอจนเด็กๆจักลืมว่าพ่อตัวเองเป็นใครเสียแล้วกระมัง?”

“ขอรับ”คุณหลวงยิ้มบางเบา มองไปทางชานเรือนหน้าเรือนนอนของคุณหญิงแขไขที่แม่นมกับนางเล็กๆสองสามคนกำลังช่วยกันไกวเปลที่วางเรียงกันสามเปลไปมาอยู่ ด้วยเด็กน้อยกำลังหลับ พอเขาทานข้าวเสร็จ เข้าไปปลุกพ่อทีป์ เด็กๆคงตื่นพอดีกระมัง

“แล้วพ่อทีป์เล่า ยังไม่ตื่นหรือ? สายถึงเพียงนี้แล้ว”

“เมื่อคืนคงหลับมิใคร่สนิทกระมังขอรับ พ่อทีป์ไปนอนตั่งน้อยริมหน้าต่างห้องลูก เช้ามาเลยง่วงงุนหลับไปเสียอีกรอบ คราวนี้พ่อทีป์นอนบนเตียงลูกเลยเทียว”

“คงนอนมิใคร่หลับจริงๆกระมัง งั้นให้เขานอนไปเถิด เดี๋ยวพ่อทีป์ตื่นมาเมื่อไรมาจักให้บ่าวเขาจัดสำรับให้อีกรอบแล้วกัน มาๆ พ่อนพก็รีบกินเถิด จักได้ไปดูลูกๆเสียบ้าง เด็กพวกนี้น่าเกลียดน่าชังนักเชียวล่ะลูก”

“ขอรับ ลูกเองก็อยากจักใกล้ชิดเด็กๆพวกนั้นเช่นกัน หากว่ารับเขามาเป็นลูกแล้วหากลูกเอาแต่ทำกิจการราชการหาได้ใส่ใจครอบครัวของตัวเองเสียบ้างก็น่าสงสารเด็กมัน”

“ดีๆ คิดได้เช่นนี้ก็ดีแล้วลูก”


“ฮ้าวววว”ร่างสูงโปร่งลุกมาบิดขี้เกียจซ้ายขวา แถมด้วยการหาวเสียงดังจนปากกว้างจนแทบจะฉีกถึงรูหูนั้นอีก นภทีป์นอนหลับไปอีกหลายชั่วโมง เรียกได้ว่ากินบ้านกินเมือง ตะวันแยงหูแยงตาซ้ายขวาก็ยังไม่ตื่น ด้วยเมื่อคืนหลับไม่ค่อยสนิททั้งยังไม่ใคร่สบายเนื้อสบายตัวเสียอีก

“ตื่นแล้วหรือ ฉันว่าจักเข้ามาเรียกพอดีเทียว กระไรนอนนานนัก นึกว่าเจ็บไข้ไปเสียแล้ว คุณแม่ท่านเป็นห่วงท่านว่าพ่อทีป์หลับนานเหลือเกิน”

“เอาน่าๆ ผมก็นอนของผมแบบนี้แหละ ก็มันง่วงนี่ขอรับ เมื่อคืนนอนตัวแข็งเลยนะ ผมกลัวตกลงมาจากตั่งห้องคุณเนี้ย”
“คราวหลังก็มานอนเสียเตียงเดียวกับฉันท่าจะดี?”

“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวคุณหายป่วยผมก็กลับไปนอนห้องผมสิ แม่คุณก็จัดห้องไว้ให้ผมอยู่แล้วไมได้ให้อยู่กับคุณตลอดไปสักหน่อย เอ้อ แล้ววันนี้คุณหลวงไม่ไปทำงานหรือขอรับ?”

“ไม่ต้องไป ท่านเจ้าคุณท่านว่าให้อยู่บ้านกับลูกเสียบ้างกระเดี๋ยวเด็กมันจักลืมว่าใครเป็นพ่อมัน”

“ฮ่าๆ เจ้านายคุณตลกดีแหะ เออ ว่าแต่คุณไหนล่ะงานที่คุณบอกว่าจะให้ผมช่วย ผมอยู่มาจะครบเดือนอยู่แล้วยังไม่เห็นคุณเอางานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาให้ช่วยทำสักที มีแต่งานจุกจิก”

“อยู่เฉยๆไม่ชอบหรือ?”

“น่าเบื่อจะแย่ ดีหน่อยก็ตรงคุณแม่คุณเห็นผมเหงาแล้วยกครัวขึ้นมาสอนทำกับข้าวบ้างเท่านั้นแหละ”

“หึๆ พ่อทีป์น่ะหรือ ทำกับข้าว กินได้หรือไม่จ้ะ?”

“ต้องลองๆ อย่ามาดูถูกผมเชียว ไว้วันหน้าวันหลังจะทำให้กินล่ะกัน ขอฝึกปรือฝีมือกับแม่คุณก่อน เดี๋ยวไม่อร่อยละก็ขายหน้าตาย”

“หึๆ จ้ะๆ ตื่นแล้วก็ลุกมาล้างหน้าล้างตาเสียใหม่ คุณแม่ท่านเรียกหาโน้นแล้ว ว่าให้ไปรับทานข้าวได้แล้ว กระเดี๋ยวจักปวดท้องปวดไส้เอา”


“ขอรับๆ กระผมจะรีบล้างหน้าล้างตาแล้วรีบไปกินข้าวกับคุณเลย ดีไหม?”

“เอาแต่เล่น นู้น ฉันให้บ่าวยกอ่างมาให้แล้วล้างหน้าเสียเร็วเข้า”

“ขอรับๆ”



“พ่อทีป์ ออกจากห้องมาได้แล้วหรือลูก?”

“โธ่ กระผมหาได้เกียจคร้านอันใดนะขอรับ เพราะนอนไม่สบายเท่าไหร่เลยอยากนอนชดเชยเสียบ้างเท่านั้นเอง”

“เอาเถิดๆ เล่นลิ้นอยู่นั่น รีบมากินข้าวกินปลาเสีย แม่ให้บ่าวมันจัดอาหารอ่อนๆมาให้พ่อทีป์ด้วย เห็นว่าไม่ได้กินมาแต่เช้าแม่เกรงเหลือเกินว่าจักปวดท้องเอา”

“ขอรับ”นภทีป์นั่งลงตรงข้างคุณหลวง แล้วเริ่มกินข้าวพร้อมกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะคนตัวผอมไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้าเลยกินได้เยอะเป็นพิเศษทำเอาคุณหญิงปลื้มอกปลื้มใจยกใหญ่

“อร่อยหรือลูกวันนี้?”

“อร่อยด้วยหิวด้วยขอรับ”

“แน่ล่ะสิ ก็พ่อทีป์เอาแต่นอนเสียครึ่งค่อนวัน หากเป็นเด็กๆฉันจักเฆี่ยนให้หลังลายเชียว”

“คุณหลวงใจร้าย”นภทีป์เบ้ปากใส่คุณหลวง พร้อมสายตาขุ่นเคือง มีอย่างที่ไหนมาบอกว่าจะเฆี่ยนคนที่อายุขนาดเขาแล้วกัน ใจร้ายใจดำเกินไปแล้วนะเว้ย!

“พ่อนพนี่ล่ะก็ เอาๆ รีบกินกันเสียเถิดลูก กระเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กพวกนั้นก็จักตื่นมากวนกันบ้านแตกแล้ว แม่เกรงจักไม่ได้กินข้าวกินปลากัน”

“ฮะๆ ขอรับ”นภทีป์รับคำแล้วรีบเปิบข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว ทำเอาคุณหลวงได้แต่ส่ายหน้าปลง กระไรกันนะเจ้าคนนี้

“กระเดี๋ยวข้าวติดคอเถิด ฉันจักหัวร่อให้จงหนักเชียว”

“แค่กๆๆ”


“เห็นหรือไม่พี่เขาว่ายังมิทันขาดคำดีเทียว เอ่าๆ ดื่มน้ำนี่เข้าไปเสียก่อนลูก”

“แค่กๆ อึกๆๆๆ”

“หึ เป็นอย่างไรเล่า คราวหน้าคราวหลังต้องระมัดระวังกว่านี้รู้หรือไม่พ่อทีป์”

“ขอรับๆ”นภทีป์รับคำแล้วดื่มน้ำตามเข้าไปอีกอึกใหญ่ๆ ทำเอาจุกน้ำจนเลิกกินข้าว กลายเป็นว่าต้องเสียมารยาทรามือไปก่อนคุณหญิงทั้งอย่างนั้น

“มิเป็นไรดอกลูก กินไม่ไหวแล้วก็พอเถิด นั่งนิ่งๆเสียบ้างพ่อทีป์น่ะ กระเดี๋ยวจักไม่มีแรงไปสู้รบปรบมือกับเจ้าสามแสบนั่น แม่ล่ะปวดหัวนักเทียว หากได้ร้องสักคนล่ะก็ เป็นอันต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ปลอบเจ้าสองคนที่เหลือด้วยเพราะกลัวน้อยหน้ากัน”

“ฮ่าๆ กระนั้นเทียวหรือขอรับคุณแม่”คุณหลวงหัวเราะชอบใจแล้วพากันรามือจากสำรับข้าวไปทั้งแม่ทั้งลูก


“เอิ้กๆๆ”เสียงเด็กเล็กๆหัวเราะดังลั่นเรือนไปหมด ฉันล่ะดีใจเหลือเกิน คุณแม่คงพอคลายเหงาไปได้บ้างได้ทั้งพ่อทีป์ ทั้งเจ้าสามคนนี่มากวนใจ

“ว่าไงครับ หืม ฮ่าๆๆ โอ้ยไอ่แสบอย่าดึงๆ”เสียงพ่อทีป์ก็ดังไม่แพ้กับเด็กๆเลยเทียว เหมือนมีเด็กๆสี่คนกำลังตะลุมบอนกันให้วุ่นวายไปหมด

น่ารักจริงๆเชียว

น่ารักทั้งลูกฉัน

น่ารักทั้งพ่อทีป์

หึๆๆๆ

“ยิ้มกระไรนั่นพ่อนพ แลดูประหลาดเหลือประมาณเทียวนะลูก”

“กระไรหรือขอรับคุณแม่ กระผมเพียงยิ้มเพราะเห็นลูกชายสนุกสนานกันเท่านั้นเอง”

“หรือจ้ะ มิใช่มองเลยลูกชายไปเสียล่ะ”

“กระไรนะขอรับ?”

“แม่หาได้ห้ามอันใดดอกนะลูก แม่ศรัทธามหาเถรเหลือเกินลูกเองก็แจ้งแก่ใจ หากมหาเถรว่าอย่างไรแม่ก็จักเชื่ออย่างนั้นแลลูก”

“โถ่ คุณแม่ขอรับ หากเรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นเสียอย่าง มิใยคุณจักต้องคิดให้มากความด้วยขอรับ”

“แม่เพียงแต่บอกไว้เท่านั้นเองลูก ว่าแม่หาได้หมองใจอันใดหากจักรักกัน พ่อนพ รู้หรือไม่จ้ะว่าแม่พบเจ้าคุณพ่อของลูกเอาเสียวันเข้าหอ ตอนนั้นแม่มีแต่ความหวาดกลัว หากเจ้าคุณพ่อขับไล่แม่ไปแล้วไซร้แม่จักทำเยี่ยงไรได้ หากใครจักรักชอบใครแม่จักไม่ห้ามหักเอาเทียว”

“ขอรับ คุณแม่อย่าได้กังวลใจไปเลยขอรับ ลูกเองตอนนี้ก็หาได้รักชอบกันไม่ หากต่อไปจักเป็นเยี่ยงไรก็ให้เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าดินเถิดขอรับ หากมันเกิดขึ้นแม่จริงๆแล้วไซร้ ลูกจักมิปิดบังคุณแม่เลยแม้เพียงนิด”

“จ้ะพ่อนพ แม่รักลูกนะ หากพ่อนพจักเป็นกระไร มีเมียมีหลานในไส้ให้แม่หรือไม่กระไรนั้น แม่ก็ยังรักลูกของแม่แบบนี้ รู้หรือไม่ลูก”

“ขอรับ”

“ขอเพียงพ่อนพสุขใจแม่เองก็สุขใจ ใครจักว่ากระไรเราได้ ชาวบ้านนินทาไปก็เพียงนั้น เขาหาได้มาสุขกับเราไม่ รู้หรือไม่ลูก หากวันหน้าวันใดลูกรักกันขึ้นมาจริงๆแล้ว ขอให้บอกแม่ แล้วหากใครเขาว่ากระไรให้ก็ขอให้เข้มแข็งให้จงหนัก”

“ขอรับคุณแม่ กระผมโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นลูกของเจ้าคุณพ่อกับคุณแม่”

“แม่เองก็โชคดีเหลือเกิน ที่ได้ลูกชายที่แสนดีเยี่ยงพ่อนพ”

“ขอรับคุณแม่ ยามนี้ลูกหวังเพียงว่าเด็กๆสามคนนั่นจะเติบโตมาเป็นเด็กดี ไม่ทำให้คุณย่าของพวกแก กับพ่ออย่างตัวลูกเองช้ำใจ”

“แม่เองก็หวังใจไว้เช่นกันลูก”

“ยามนี้ก็คงเหลือแต่เพียงหาแม่ให้พวกเขากระมังขอรับคุณแม่”

“จ้ะ จักหาแม่หรือหาใครให้ก็แล้วแต่พ่อนพเถิด”


ฉันทอดสายตาไปทางเด็กๆกับเจ้าพี่เลี้ยงเด็กตัวโตที่กำลังหยอกเอินกันอย่างสนุกสนาน

ฉันน่ะหรือจักรักชอบกับพ่อทีป์ได้

กระไรนั่น...หากมันจักเกิดอันใดขึ้นก็ขอให้มันเกิดขึ้นมาเถิด

ติดเสียแต่ว่ายามนี้ ฉันเองยังรักชมชอบในสตรีเพศ และพ่อทีป์เองก็เห็นจักเป็นเฉกเช่นเดียวกัน

หากจักได้รักกันแล้วไซร้

ขอให้มันเป็นเรื่องของสันนิวาสเถิด


เอาคุณหลวงมาส่งแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆที่หายไปนาน (มากๆ) เพราะกิจกรรมล้นหลามเยี่ยงน้ำป่าไหลหลากจริงๆค่ะ T^T
ช่วงนี้เปิดเทอมล่ะด้วย รีพอร์ทจะมาอีกมหาศาล อาจจะมาได้อย่างเร็วที่สุดสองอาทิตย์ครั้งนะคะ แต่จะพยายามอัพให้ได้ทุกเดือนเน้อ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 25-05-2014 20:52:13
มาต่อแล้ว :hao7:
จะบอกว่าแค่เห็นว่ามาต่อ
ก็ดีใจสุุดๆในรอบวันเลย
เข้าใจจ้าว่างานเยอะอย่าเครียดนะ
เป็นกำลังใจให้ :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]]คุณหลวงไดอารี่;;(rewrite) พยับที่ ๖ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 25-05-2014 20:56:51
สู้ๆค่ะ  :mew1:
ว่าแต่เปลี่ยนหัวกระทู้ ลงวันที่หน่อยก็ดีนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๗ ๒๕.๕.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-05-2014 21:13:53
มาแว้ว
คุณหญิงแขไขเป็นแม่ที่ดีมากอ่ะ เข้าใจลูกชายที่สุดอ่ะ
ทีนี้รอให้คุณหลวงรักกับพ่อทีป์ อิอิ
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๗ ๒๕.๕.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 30-05-2014 23:50:51
2อาทิตย์ครั้งก็คือเดือนละ2ตอนใช่มั้ย ฮือออออ เราจะรอนะ เราจะรอทุกเดือนเบย
เราจะรอให้คุณหลวงกับทีป์คนรักกันไวๆ ให้ตฤนโดนพี่ธามปล้ำเร็วๆ ให้เรื่องลงเอยซะที
อิอิอิ เรารักนิยายเรื่องนี้จุง มาอัพไวๆน้า ตั้งใจเรียนด้วยนะคะ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๗ ๒๕.๕.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 31-05-2014 01:38:36
ว่าที่แม่สามีน่ารักมากมาย
+1
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๗ ๒๕.๕.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 31-05-2014 01:51:54
สู้ๆ จ้า เป็นกำลังใจให้เสมอ  :L2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๗ ๒๕.๕.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-06-2014 16:04:51
รอๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 08-06-2014 00:14:43







พยับที่ ๘


“พรึ่บ...”เสียงพลิกกระดาษหน้าหนังสือดังต่อเนื่องมาสักระยะแล้ว ต้นเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน วันนี้นภทีป์ได้งานคัดลอกหนังสือกองใหญ่มาจากทนายหน้าหอของคุณหลวงที่เอามาส่งให้ที่เรือนตอนสายๆ ทำให้ต้องละจากงานบ้านงานเรือนมานั่งทำงานหลวงอยู่อย่างนี้

“คุณทีป์เจ้าขา คุณหญิงท่านให้มาเรียนถามว่าอยากทานของหวานกระไรหรือไม่เจ้าคะ?”แม่นมของคุณหลวงที่เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุณหญิงหมอบราบอยู่ใกล้ๆแถวนั้น ทำเอาคนอายุน้อยกว่าเกรงใจไม่น้อย อย่างไรเสียแม่นมก็อายุมากกว่าเขานี่นะ

“วันนี้ผมไม่ได้อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรอกครับแม่นม แต่อยากได้อะไรเย็นๆเสียมากกว่า วันนี้อากาศหรือก็ร้อนเหลือใจ”

“กระนั้นรับน้ำมะตูมเสียหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ?”

“น้ำมะตูมหรือจ๊ะ เอามาเถิดตอนนี้น้ำอะไรฉันก็กินได้ทั้งนั้นแหละจ้ะ”

“เจ้าค่ะ สักกระเดี๋ยวบ่าวจักยกมาให้นะเจ้าคะ วันนี้ในครัวเขาทำน้ำมะตูมอยู่พอดีเทียว”แม่นมว่าแล้วคลานออกไป เฮ้อ...เห็นแม่นมที่นี่แล้วก็คิดถึงคุณนมนุ่มนิ่มอยู่เหมือนกันแฮะ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง แล้วก็ไม่รู้ว่าไอ่ธามกับไอ่ตฤณจะเป็นยังไงบ้าง...



“คุณหลวงขอรับ คุณหลวงจักให้บ่าวไปเอาหนังสือที่ให้คุณทีป์ไปลอกให้มาเสียตอนนี้เลยหรือไม่ขอรับ?”คุณหลวงหนุ่มเงยหน้ามองทนายหน้าหอคนสนิทที่มาเฝ้ารับใช้อยู่ใกล้ๆในกรมด้วย ด้วยจักใช้ส่งหนังสือไปมากระนั้น

“เออ จริงซี เอ็งเร่งไปเอามาเถิด หากยังไม่เสร็จเสียทั้งหมดก็ให้เอามาเสียแต่อันที่แล้วเสร็จแล้ว เข้าใจหรือไม่?”

“ขอรับ”

คุณหลวงหนุ่มทอดสายตามองไปยังทิศทางเรือนของตนด้วยสายตาอาดูรยิ่ง...

ไม่รู้ว่าพ่อทีป์จักกระทำอันใดอยู่บ้าง คัดลอกหนังสือเสร็จแล้วหรือยัง?

แดดข้างนอกร้อนแรงยิ่งนัก....

พ่อทีป์จักร้อนหรือไม่นะ?


กระไรกันนั้่น เหตุใดฉันถึงทำตัวเป็นอ้ายหนุ่มที่เพิ่งริลองรักครั้งแรกกระนั้น เหตุใดจึงคิดถึงแต่พ่อทีป์ได้ถึงเพียงนี้กันนะ
ไม่...

ฉันหาใช่ลักเพศ...

คงเป็นฉันที่คิดมากไปเองกระมัง...

   นี่เป็นแค่เพียงความห่วงใยต่อสหายคนหนึ่งเท่านั้นเอง
   


“อ้าว นายทดคุณหลวงให้มาเอาหนังสือหรือ?”

“ขอรับคุณทีป์ เสร็จแล้วหรือไม่ขอรับ”

“อือ เสร็จแล้วแหละ เอาไปสิ แล้ววันนี้คุณหลวงจักกลับเย็นมากหรือไม่?”

“คงค่ำอยู่เทียวขอรับ วันนี้มีหนังสือใหม่ที่ได้มา เป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยเทียว”

“กระนั้นหรือ งั้นเอ็งไปเถอะ ดูแลคุณหลวงให้ดีๆล่ะ อย่าให้ได้เจ็บไข้อย่างคราวนั้นอีก เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับ กระนั้นกระผมกราบลาแล้วหนาขอรับคุณทีป์”

“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณหลวงรอนานเข้าจักเสียการณ์ เอ็งนั้นแลที่จักโดนดุเอา”

“ขอรับ”นายทดคลานออกไปสักพักแล้ว ส่วนนภทีป์ได้แต่ทอดสายตาไปทางกรมท่าที่คุณหลวงทำงานอยู่อย่างหงอยเหงา ช่วงนี้คุณหลวงทำงานดึกทุกวัน กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืด อย่างกับจะทำโอทีแข่งกับพวกพนักงานออฟฟิซในยุคของเขาอย่างไรอย่างนั้น

“พ่อทีป์ เป็นกระไรไปจ้ะลูก แม่เห็นนั่งเหม่อลอย เบื่อหรือลูก?”

“เปล่าขอรับ กระผมเพียงแต่เหงาอยู่สักหน่อย...คิดถึงบ้านน่ะขอรับ ไม่รู้จักหาทางกลับไปยังไง”

“ก็คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านไปเสียกระไรเล่าลูก อยู่กับแม่เรียกแม่ว่าแม่ เรียกพ่อนพว่าพี่ก็ได้”

“ขอรับ ขอบคุณคุณแม่มากหนาขอรับที่เมตตาผมขนาดนี้”

“จ้ะ ก็พ่อทีป์น่ะน่าเอ็นดูออกขนาดนี้ เนื้อตัวหรือก็ดูขาวนวลเนียนไปเสียหมด หากไม่ติดว่าพ่อทีป์เป็นผู้ชายแล้วล่ะก็แม่คงจักต้อง
รีบส่งสินสอดทองหมั้นไปขอจองตัวไว้ก่อน พ่อนพเขาจักได้ออกเรือนไปเสียที”

“คุณหลวงยังไม่มีคู่หมั้นหรือขอรับ?”

“เคยมีจ้ะ แต่เขาขอให้แม่ไปบอกทางนั้นว่าจักยกเลิกสัญญาหมั้นหมายเสีย พ่อนพน่ะ หากไม่ต้องการจักทำอันใดแล้วหรือหากต้องการจักทำอันใดก็เด็ดขาดนักแล เหมือนเจ้าคุณพ่อเขานั่นแลจ้ะ”

“ทำไมเล่าขอรับ ผู้หญิงเขาไม่สวยถูกใจคุณหลวงหรือขอรับ?”

“ใครว่าไม่งามกันเล่าลูก แม่มะลินั้นหนา เป็นที่ลือไปทั่วคุ้งน้ำทั้งในวังนอกวังว่างามนัก กริยาก็เรียบร้อย เขาเป็นเอกด้านกรองมาลัยดอกไม้นักแลลูก แม่น่ะรู้จักมักจี่สนิทกับก๊กนั้นเขามาแต่น้อย ถึงได้เห็นแม่มะลิโตมากับตาเทียว ตอนจักไปยกเลิกสัญญาหมั้นหมายนั้นแม่ก็กลุ้มอกกลุ้มใจอยู่นานโข สงสารแม่มะลิเขา เฝ้ารอแต่พ่อนพมาเสียตั้งแต่พ่อนพไปเรียนต่อที่อังกฤษ ไฉนเลยจักฉุกใจคิดว่าสุดท้ายแล้วจักโดนถอนหมั้นเอาเสียดื้อๆ เพราะอย่างนี้แลแม่ถึงกับมองหน้ากับคุณหญิงแม่แม่มะลิเขาแทบไม่ติดเชียวลูก หาไม่คำนึงถึงความหลังครั้งยังเป็นเด็กน้อยแล้วเติบโตมาด้วยกันแล้วล่ะก็ แม่คงจักถูกเขาถอนหงอกจนหมดหัวเชียวแล”

“แล้วทำไมคุณหลวงเขาถึงไม่ชอบล่ะขอรับ?”

“เขาว่ายังไม่เคยพบหน้ากันแม้เพียงน้อยจักให้ไปนิยมชมชอบถึงขั้นออกเรือนไปด้วยกันได้อย่างไร แม่ก็ไม่รู้จักห้ามเขา
อย่างไร ตัวแม่เองก็เห็นหน้าเจ้าคุณพ่อของพ่อนพครั้งแรกตอนแต่งงานนี้แลจ้ะ แม่นั้นหนาเพิ่งจักมารู้เห็นว่าท่านเจ้าคุณท่านมีนางเล็กๆเลี้ยงไว้เสียมากก็เมื่อแต่งเข้ามาแล้ว แต่เจ้าคุณพ่อของพ่อนพน่ะรักใคร่เอ็นดูแม่ดี แม่จึงมิได้ลำบากใจอันใดมาก ท่านไม่เคยให้นางเล็กๆคนใดขึ้นเรือนมาอีกยามแต่งแม่เข้ามาเรือนเขาแล้ว แต่ก็หาได้เลิกกินเล็กกินน้อยอย่างเด็ดขาดอันใดไม่นา พี่น้องต่างพ่อของพ่อทีป์น่ะมีอีกหลายคนเทียวลูก หากท่านเจ้าคุณท่านปลูกเรือนให้อยู่แยกต่างหาก ยิ่งพอมีพ่อนพท่านยิ่งห่างออกมาจากเรือนเล็กๆ แม่ก็พลอยดีใจ”

“อย่างนั้นหรือขอรับ? คุณหลวงเขาไม่มีนางเล็กๆบ้างหรือขอรับ?”

“เขาเกลียดอย่างกับอะไรดีเชียวลูก พวกคนมากรักหลายใจน่ะ เขาว่าไม่อยากให้ใครต้องมาทนกล้ำกลืนอย่างแม่ ถึงไม่เคย
ชายตามองนางเล็กๆที่เพียรนุ่งน้อยห่มน้อยมาล่อเสืออยู่ทุกวันอย่างไรเล่า”

“ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณหลวงจะเกลียดคนมากรักถึงเพียงนั้น?”

“แม่เองก็ไม่เคยนึกถึงเหมือนกันลูก ด้วยว่าท่านเจ้าคุณน่ะไม่เคยกระทำอันใดให้ลูกชายคนเดียวของเขาขับข้องหมองใจเลย แต่เองก็ยังค้างใจอยู่ว่าด้วยเหตุกระไรกันพ่อนพถึงได้มิชอบคนมากรักหลายใจถึงเพียงนั้น”

“นั้นซีขอรับ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าอิจฉาผู้หญิงที่จะได้แต่งงานกับคุณหลวงนะขอรับ เขาคงโชคดีมาก เพราะคุณหลวงคงจะไม่ไปหาเศษหาเลยที่ไหนอีก คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ครอบครองทั้งหัวใจและร่างกายของคนที่เรารักให้เป็นของเราคนเดียว”

“แม่ก็กลัวแต่พ่อนพจักไม่แต่งงานแล้วน่ะซีจ้ะ”

“ทำไมล่ะขอรับ? เขาว่าเขาจะไม่แต่งงานแล้วหรือ?”

“จ้ะ เขาบอกไม่อยากมีพันธะ แล้วก็ไม่ได้ถูกตาต้องใจใครในยามนี้ พ่อนพถึงได้วิ่งโร่ไปขอเจ้าสามแสบมาเลี้ยงอย่างไรเล่าลูก ด้วยว่าแม่พูดกับเขาเสียบ่อยๆว่าอยากอุ้มหลาน ให้พ่อนพรีบแต่งงานแต่งการเสีย จักได้มีหลานให้แม่อุ้ม แต่พอเขาได้ยินเข้า แล้วไม่อยากแต่งงานถึงกับไปหาเด็กมาให้แม่เลี้ยงเชียงแลจ้ะ แม่เองก็คาดไม่ถึงพ่อนพในข้อนี้เช่นกัน “

“อย่างนั้นหรือขอรับ คุณแม่ขอรับเมื่อสักครู่นายทดเขามาเอาหนังสือจากกระผม แลบอกว่าวันนี้คุณหลวงคงจักกลับค่ำมืดเช่นวันก่อนๆ คุณแม่ทานข้าวเสียก่อนเถิดขอรับ กระผมจักรอทานพร้อมคุณหลวงเสียเองก็ได้”

“รอทำไมกันลูก ก็ทานไปเสียพร้อมแม่ ไว้เขากลับมาเขาหิวเขาก็เรียกบ่าวตั้งสำรับเองแลลูก”

“อย่างนั้นหรือขอรับ วันอื่นๆกระผมก็รอคุณหลวงตลอด เกรงว่าเขาจักไม่ชอบใจหากต้องทานข้าวเสียเพียงผู้เดียว”

“ไฮ้ กระไรกันลูก พ่อนพน่ะ ทานข้าวคนเดียวเสียจนเคยแล้วแลจ้ะ เมื่อก่อนพ่อทีป์มา เขาก็กลับมาเสียค่ำมืดแบบนี้แล เขาเพียง
ไปกราบแม่บอกว่ากลับมาแล้วแล้วก็ให้บ่าวตั้งสำรับเฉพาะตนขึ้นเท่านั้นแล ไม่ต้องห่วงพี่เขาดอกจ้ะ พ่อทีป์นั้นแล ทานพร้อมแม่แล้วรีบไปนอนเสียดีหรือไม่จ้ะ แม่เห็นนั่งเขียนกระไรขยุกขยิกทั้งวัน”

“หนังสือที่คุณหลวงเอามาให้คัดนั้นแลขอรับ”

“เฮ้อ หนุ่มๆนี่ช่างทำงานกันเสียจริงๆเชียว เอ้า พ่อทีป์นั่งพักไปเสียก่อนเถิด หากว่าตั้งสำรับเมื่อใดแล้ว แม่จักให้บ่าวมาเรียกนะ
ลูก”

“ขอรับ”นภทีป์พยักหน้ารับคำ คุณหญิงยิ้มพึงใจก่อนจะเดินออกไป ส่วนนภทีป์ก็นั่งทอดสายตาไปทางเดิม กรมท่า... ทิศทางนี้คุณหลวงเคยชี้ให้ดูว่ากรมท่าอยู่ทางนี้ แต่เขาเองก็ไม่เคยไปเห็นสักทีว่ากรมท่าที่ว่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มือขาวล้วงเข้าไปในคอเสื้อ ล้วงเอาสร้อยผ้าร่มของตนที่คล้องพระไว้พร้อมแหวนวงหนึ่งออกมา พระน่ะ เขาห้อยมาเสียตั้งแต่อยู่ในยุคโน้น ส่วนแหวน ด้วยเพราะจับต้องมันแล้วถึงได้ย้อนอดีตมา ถึงได้เก็บแหวนนี่ไว้กับตัว ไม่ได้บอกใครว่ามี ด้วยกลัวคุณหลวงขอคืน แล้วเขาจะกลับบ้านยังไงล่ะ ถ้าไม่มีแหวนตัวต้นเหตุ

“เฮ้อ...”เสียงทอดถอนหายใจดังแผ่วเบา นภทีป์ถอนสายตาออกมาจากทางกรมท่าแล้วหันไปหยิบหนังสือภาษาฝรั่งเศสที่ตนเพิ่งค้นเจอในตู้หนังสือของคุณหลวงขึ้นมาเปิดอ่านแทน



“คุณแม่ยังมิได้เข้านอนดอกหรือขอรับ?”คุณหลวงถามทันที่ที่ก้าวพ้นบันไดเรือนมาแล้วพบคุณหญิงแม่ของเขานอนเอกเขนกบนเบาะนั่งกับหมอนขวานมองตรงมาทางบันไดเรือนอยู่

“รอลูกชายแม่กลับบ้านน่ะซี เหตุใดกลับมืดค่ำนักเล่าลูก? พระจันทร์จักตรงหัวอยู่แล้วเทียวนา”

“วันนี้เพิ่งได้หนังสือลับมาใหม่ขอรับ แต่มีปัญหาหลายอย่าง หนึ่งเพราะหาได้มีผู้ใดเชี่ยวชาญภาษานั้นไม่ สองเพราะต้องแปลความไปมา ลูกเองหรือก็หาได้เชี่ยวชาญกระไรนัก สุดท้ายเลยเสียเวลาไปนานโขอยู่”

“กระนั้นหรือจ้ะ เอาเถิดหิวแล้วหรือไม่ แม่จักให้บ่าวตั้งสำรับให้”

“มิเป็นไรดอกขอรับคุณแม่ บ่าวมันจะพลอยมิได้นอนเอาเพราะนายมันกลับมาเสียดึกดื่นแล้วเรียกหาอะไรกิน กระผมคงจักต้อง
โดนสาปแช่งไปอีกนานโข”

“เอาเถิดๆ พ่อทีป์เขาว่าจักรอทานพร้อมพ่อนพเชียวนา ดีที่แม่กล่อมให้ทานเสียพร้อมแม่ได้ หากเช่นนั้นมิใยพ่อทีป์ต้องพาลไม่
ได้กินข้าวไปเสียด้วยพร้อมพ่อนพ”

“กระนั้นหรือขอรับ?”

“งั้นซี เอ้า ไปอาบน้ำพลัดผ้าแล้วนอนเสียเถิดลูก ดึกมาแล้วหนา...น้ำค้างลงแรงแล้ว แม่ก็ว่าจักนอนแล้วเทียวจ้ะ พ่อสามแสบนั่นนอนเสียแต่หัววัน ส่วนพ่อทีป์ก็เข้าห้องไปเสียแต่หัววันเหมือนกัน เห็นว่าจักอ่านหนังสือรอพ่อนพกลับมา”

“ขอรับ”คุณหลวงรับคำแล้วตรงไปยังท่าน้ำพร้อมสั่งการนายทดให้ไปเอาผ้ามาให้ผลัดเปลี่ยน



“แอ๊ดดด”

“กลับมาแล้วหรือขอรับคุณหลวง? อ้าว นายทด ฉันเองก็นึกเสียว่าเป็นคุณหลวงท่านกลับมาแล้วเสียอีก?”

“กลับเรือนมาแล้วขอรับ แต่ไปผลัดผ้าอาบน้ำเสียก่อน ท่านให้กระผมมาหยิบเสื้อผ้าไปให้ผลัดเปลี่ยนน่ะขอรับ คุณทีป์มาการณ์
อันใดจักสนทนากับคุณหลวงหรือขอรับ กระผมจักไปเรียนท่านให้”

“มิเป็นไรดอกจ้ะ ฉันเพียงแต่ถามถึงเท่านั้นเอง แล้วเอ็งไม่ต้องรีบกลับเรือนเอ็งหรือ ฉันได้ยินว่าเมียเอ็งเพิ่งคลอดลูก”

“ขอรับ เพิ่งคลอดได้ก่อนคุณทีป์มาไม่มานาน มิเป็นไรดอกขอรับ รอคุณหลวงผลัดผ้าเสร็จกระผมก็จักกลัลเรือนแล้ว”

“เอ้า งั้นกลับไปเถอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นคุณหลวงไปพรากลูกพรากเมียเอ็งเป็นบาปแก่คุณหลวงเสียเปล่าๆ เอาผ้ามาซีฉันจักถือ
ไปให้คุณหลวงผลัดเสียเอง”

“จะดีหรือขอรับ?”

“เอาเถิดน่า เอ็งไม่คิดถึงลูกหรือ? มิเป็นไรดอก อย่างไรเสียฉันก็มาอาศัยเรือนเขาอยู่เช่นกัน ก็ให้ได้งานได้การณ์กันบ้างเถิด อยู่
เฉยๆเปล่าๆปลี้ๆไปวันๆจนฉันเสียดายเรี่ยวแรงตัวเองนัก”

“คุณทีป์ช่างเป็นนายที่ประเสริฐเหลือเกินขอรับ กระผมวางผ้าไว้ที่นี่น่ะขอรับ มีเสื้อคอปาดกับกางเกงแพรที่หลวงท่านใส่นอน
แล้วก็ผ้าสำหรับไว้ผลัดผ้าอีกผืนขอรับ”

“อืม เช่นนั้นเอ็งก็กลับไปได้แล้ว คุณหลวงอาบน้ำอยู่ที่ท่าน้ำใช่หรือไม่?”

“ขอรับ ท่านล่วงไปทีท่าน้ำก่อน แล้วให้กระผมมาเอาผ้าตามไปให้ผลัดขอรับ”

“เออ...เอ้า ทีนี้เอ็งก็ไปได้แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าคุณหลวงจักตำหนิอันใดดอก หากคุณหลวงท่านว่ากระไรฉันจักปกป้องเอ็งเองดี
หรือไม่?”

“ขอบพระคุณคุณทีป์เหลือเกินขอรับ เช่นนั้นกระผมลาแล้วนะขอรับ”

“เอ้า รีบๆไปเถอะ มัวแต่มาไหว้ฉันอยู่ ลูกเมียได้หนีออกจากบ้านก่อนพอดี”

“ขอรับ”พอนายทดจากไปแล้ว นภทีป์ก็หอบเอาเสื้อผ้าของคุณหลวงขึ้นมาแล้วคว้าเอาคบไต้แถวๆนั้นเดินไปตามทางไปท่าน้ำ

“อ้ายทดมาแล้วหรือ? ชักช้าเชียวเอ็ง รีบเอาผ้ามาซี ฉันจักขึ้นแล้ว”

นภทีป์ไม่ตอบคำอันใดแล้วก้าวไปทางท่าน้ำ ยื่นผ้าให้คุณหลวง คุณหลวงหนุ่มเดินขึ้นมาจากน้ำ ผมที่เคยระตรงหน้าผากเปียกลู่
จนเห็นใบหน้าคมสันชัดเจน กล้ามเนื้อสีขาวหนั่นแน่นทั้งๆที่มิได้ทำงานออกแรกอะไรมากแท้ๆ ทำเอาผิวแก้มของนภทีป์ร้อนผะผ่าว

โธ่เว้ยยย ทำไมกูไม่เห็นมีกล้ามแบบนี้บ้างวะ?

นภทีป์ได้แต่บ่นอยู่ในใจ คุณหลวงมองหน้านภทีป์อย่างแปลกใจแต่ไม่ได้กล่าวคำใด นอกจากรับผ้าไปผลัดเอาของเดิมออก สวม
เสื้อคอปาด แล้วตามด้วยกางเกงแพรเนื้อนิ่ม

พอแต่งตัวเสร็จแล้วถึงได้ฤกษ์เอ่ยถามคนที่หอบผ้ามาให้ว่าจากอ้ายทดที่ใช้ไปเอาผ้าให้ในคราแรกกลับแปรเปลี่ยนเป็นพ่อทีป์ได้
อย่างไร...

“อ้ายทดเล่า”

“ผมอาสามาแทนน่ะ เห็นว่าเมียเขาเพิ่งคลอดได้ไม่นาน เขาคงเป็นห่วงอยากกลับบ้าน ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวผมจะเอาผ้ามาให้คุณ
เอง แล้วให้นายทดกลับไปเสียก่อน”

“ใจดีเสียจริงเชียวนะพ่อทีป์”

“กับบ่าวไพร่ก็ต้องเมตตามิใช่หรือขอรับ?”

“ถูกแล้วแล ไปเถิด ขึ้นเรือนกัน กะเดี๋ยวจักจับไข้เอาเสียง่ายๆ”

“ขอรับ”นภทีปืพยักหน้ารับคำ แล้วก้าวตามคุณหลวงที่เดินนำออกไป สายตาของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งติดตรึงอยู่ที่แผ่นหลังของ


คนตรงหน้า...


คุณหลวงนพเทพอัครา...


เหตุใดจึงรูปงามถึงเพียงนั้นนะ...

เหตุใดถึงได้มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบขนาดนั้น...

แล้วทำไม....

เขาถึงต้องใจเต้นแรงกับผู้ชายด้วยกันด้วย!!?

โอ้ย ตายล่ะ ไอ่ทีป์ นี่มึงเป็นเกย์แล้วหรือยังไงวะ บ้าเอ้ย!!
ชายหนุ่มได้แต่สบถลั่นอยู่ในใจ

เพราะเพิ่งค้นพบว่าหวั่นไหวหัวใจเต้นแรงกลับกล้ามท้องหนั่นแน่นของผู้ชายไปสดๆร้อนๆ

ยิ่งนึกถึงภาพกล้ามเนื้อที่มีหยดน้ำเกาะพราวก็ยิ่งทำให้นภทีป์เคอะเขิน ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ...

ส่วนคุณหลวงหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มกับจันทร์กับดาว ด้วยอารมณ์ดีเหลือเกินที่หันหลังขึ้นจากน้ำมาแล้วเจอเข้ากับนภทีป์ เหตุใดถึงได้

คิดถึงถึงเพียงนี้นะ เพียงแค่ได้เจอหน้าก่อนห้วงเวลาที่คาดว่าจักได้เจอเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก ทำให้เขาอารมณ์ดีถึงเพียงนี้
เชียวหรือ...

   นภทีป์...

บนร่างกายของพ่อทีป์ร่ายมนตร์อันใดไว้หรือไม่...

เหตุใดยิ่งเห็น ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวเข้าไปทุกที...

เขาจักเป็นลักเพศเช่นนั้นหรือ...ไม่หรอกกระมัง...

ไม่หรอก...

ไม่มีทาง...

จักเป็นได้เยี่ยงไรกัน



 :katai5:สวัสดีค่ะ มาต่อตามสัญญาสองอาทิตย์ งิงิ อาจจะฝืดๆไปบ้างนะคะตอนนี้ แต่งตอนงานสุมหัวเชียง ทั้งรีพอร์ตทั้งคอนเฟอร์เรนซ์เล่นเอาอยากซิ่ววันล่ะหลายๆรอบ 55 รอบถัดไปอาจจะช้ากว่าสองอาทิตย์นิดหน่อยนะคะ เพราะจะตรงกับช่วงสอบกลางภาคมหาภัย T^T ยังไงจะรีบมาต่อนะคะ

หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-06-2014 12:01:46
คุณหลวงงง ยอมรับเถอะ ว่าเป็น อิอิ  :oo1: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-06-2014 16:42:00
มีหวั่นไหวกันด้วยวุ้ย
เยี่ยงนี้คงไม่แคล้วได้รับขวัญสะใภ้ในเร็ววันเสียแล้วกระมัง คึๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 10-06-2014 18:24:20
 :hao6: คุณหลวง ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอก ฮิ้ววว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-06-2014 21:08:00
:-)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 26-06-2014 16:34:11
ฟินนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-07-2014 00:01:24
ขอโทษนะคะที่คราวนี้ต้องเบี้ยวสัญญาสองอาทิตย์ไป
 :hao5: :hao5: :hao5:
คนเขียนติดงานรับน้องของม.ค่ะ มีนัดตลอดซ้อมตลอดเลย
ยังไงจะพยายามเขียนมาให้อ่านให้ได้ในอาทิตย์นี้นะคะ  :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 02-07-2014 00:13:24
 :3123:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 02-07-2014 02:30:25
สนุกมากอยากให้มาต่อบ่อยๆจัง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-07-2014 17:29:24
ชอบเรื่องนี้อ่ะ อยากอ่านต่อๆ
เป็นกำลังใจให้นะ :)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-07-2014 18:57:03
จ้า ไม่เป็นไร
สู้ๆน้าคนแต่ง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ 25.7.57
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 25-07-2014 09:33:54
พยับที่ ๙



หายไปไหนกันนะ?

คุณหลวงหนุ่มขมวดคิ้วหมุ่นเดินไปมารอบๆห้องมาสักพักหนึ่งแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดราชการ เขาเองก็อยากจักอ่านหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาเสียหน่อย หากแต่ว่าหนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มโปรดเล่มนั้นไม่รู้ว่ายามนี้ไปอยู่เสียที่ใดแล้ว

“หาอะไรเหรอคุณหลวง?”

“หาหนังสือน่ะซี พ่อทีป์เห็นหนังสือฉันบ้างหรือไม่ ปกสีแดง เป็นภาษาฝรั่งเศส”

“เอ่อ แหะๆ ผมหยิบไปอ่านน่ะขอรับ ไม่ได้บอกคุณหลวง ไม่โกรธใช่หรือไม่ขอรับ?”

“จะโกรธอันใดพ่อทีป์ได้เล่า อ่านจบแล้วฤาไม่ ฉันใคร่จักอ่านเสียหน่อย”

“จบแล้วขอรับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”นภทีป์ว่าแล้วก็เดินออกไปนอกห้องตรงมุมประจำที่ทั้งนั่งทำงาน ทั้งนั่งอ่านหนังสือ

“ปกติพ่อทีป์นั่งเล่นตรงนี้หรือ?”

“ขอรับ ปกติก็ทั้งนั่งเล่นทั้งนั่งทำงานให้คุณหลวงตรงนี้แหละ นี่ขอรับ ผมหยิบเล่มอื่นมาอ่านอีกได้หรือเปล่า?”

“ได้ซีกระไรจักมิได้เล่า”

“คุณใจดี”

“กระนั้นหรือ พ่อทีป์เป็นคนแรกๆเชียวแลที่ชมว่าฉันใจดี หากเป็นลูกน้องที่กรมคงว่าฉันดุนัก ใครๆก็ว่าฉันเหมือนเจ้าคุณพ่อ ดุดันแลก็เฉียบขาดนัก”

“คุณไม่เคยดุกับผมนี่”นภทีป์ยิ้มแฉ่งใส่หน้าคุณหลวง ทำเอาใบหน้าสีนวลขึ้นสีระเรื่อ นี่เขาเป็นอะไรไปแล้ว เหตุใดจึงเคอะเขินกับพ่อทีป์ได้นะ

“กระนั้นหรือ? ฉันคงเอ็นดูพ่อทีป์เหมือนน้องกระมัง จึงไม่เคยดุเสียที เอ้า อยากอ่านก็ไปหยิบมาอ่านเสียซี มัวแต่ยืนจ้องหน้าพี่อยู่จะได้อ่านหรือจ๊ะ?”

“เอ่อ...ขอรับ”เพราะปลายเสียงอ่อนเสียงหวานนั่นแท้ๆ ทำเอานภทีป์จิตใจกระเจิดกระเจิงไปเสียหมด โอยย ไม่นะ อยู่มาตั้งยี่สิบกว่าปีไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเดินบนเส้นทางมีสี (ม่วง) วันดีคืนดีดันมาใจเต้นตึกตักกับคนแก่กว่าร่วมร้อยปีเนี้ยนะ ไปกันใหญ่แล้ว
ไอ่ทีป์!!


“หน้านิ่วคิ้วขมวด ไปเลือกเสียซี หรือจะให้พี่ช่วยบอกให้หรือไม่จ๊ะว่าเล่มไหนสนุก”

“มะ...ไม่ต้องขอรับ คือผม เอ้อ กระผมมีเล่มที่เล็งๆไว้แล้วน่ะขอรับ”

“เอ้างั้นก็รีบๆไป หาไม่แล้วเกิดพี่เปลี่ยนใจมิยอมให้หยิบยืมเสียแล้ว พ่อทีป์จะอดได้ลาภเอานา...”รอยยิ้มยั่วเย้าจุดขึ้นบนใบหน้า
คมๆของคุณหลวง ทำเอาคนมองยิ่งใจเต้นไปกันใหญ่

“ขะ...ขอรับ”คราวนี้นภทีป์เลยไม่รอให้คุณหลวงพูดอะไรรีบหันหลังปุบปับเข้าห้องไป

“หึๆ น่ารักเสียจริงเชียว”คุณหลวงพึมพำเบาๆ ถือหนังสือเล่มโปรดไปนั่งตรงหอนั่งอย่างอารมณ์ดี มัวแต่รื่นรมย์จนลืมฉุกใจคิดไป
ว่า หนังสือที่นภทีป์ยืมนั้นเป็นหนังสือภาษาฝรั่งเศส

และเขาเอง กำลังต้องการผู้รู้ภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่วไปช่วยงานเขาอยู่พอดี



“โอยยย หัวใจจะวาย ทำไมกูเป็นงี้เนี้ย ไอ่ทีป์มึงนะมึง ทำไมทำตัวแบบนี้ห้ะ!?? กลายเป็นผู้ชายใจง่ายไปแล้วกู”นภทีป์บ่นพึมพำระหว่างที่กรีดนิ้วไปตามสันหนังสือที่วางเรียงเป็นระเบียบอยู่บนชั้นหนังสือในห้องนอนของคุณหลวง

“เอ...นี่มันร.ศ.อะไรนะ?”


“คุณหลวงขอรับ”พอพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ได้ว่าคุณหลวงเคยบอกว่านี่ร.ศ.อะไรเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรก สุดท้ายนภทีป์เลยเดินออกไปถามให้หายค้างใจ

“ว่ากระไร? อยากได้อะไรเพิ่มหรือ?”

“เอ่อ เปล่าขอรับ กระผมแค่จะถามว่าปีนี้ร.ศ.เท่าไร?”

“ร.ศ.111 พ่อทีป์ถามไปทำไมหรือ”ตากลมๆเบิ่งโต ตกใจจนไม่ได้สนใจฟังคุณหลวงต่อไปแล้ว อะไรนะ!?? ร.ศ.111 นี่มันช่วงวิกฤตการณ์ที่ไทยเสียดินแดนนี่นา....

“ตอนนี้...มีเรื่องอะไรรึเปล่าขอรับ?”

“เรื่องกระไรล่ะ ช่วงนี้มีเยอะเทียว...พ่อทีป์ อยากรู้กระไรหรือ?”

“ตอนนี้...เอ่อ...มีปัญหากับอังกฤษกับฝรั่งเศสอยู่หรือเปล่า?”เสียงนภทีป์แผ่วเบา แต่คุณหลวงนพเทพอัครากลับได้ยินชัดเจน พ่อทีป์รู้แจ้งในเรื่องนี้หรือ??

“พ่อทีป์รู้ได้อย่างไร?”

“กระผม...เอ่อ...กะ...ก็เคยบอกไปแล้วไงว่าผมมาจากพ.ศ.2557”

“พ่อทีป์ ไข้อีกแล้วหรือ วิปลาสอันใดกันหือ?”นภทีป์ได้แต่ถอนใจแผ่วเบา... เมื่อไหร่ตาคนนี้จะเชื่อสักทีว่ากูไม่ใช่คนยุคนี้ว้อยยยยยย ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรแปลกๆไปซะเยอะหรอก ตอนมาแรกๆแทบจะกินน้ำล้างมือตอนกินข้าว รอดตัวไปฉิวเฉียดเพราะคุณแม่จุ่มมือลงไปล้างเสียก่อน จิ๊

“เฮ้อ...ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าผมรู้ว่าตอนนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้นก็พอแล้วขอรับ”

“นั่นสินะ...พี่จะไปคาดคั้นอันใดจากเจ้าได้กัน ไหนไปหยิบอันใดมาอ่านให้พี่ดูทีฤา”

“เล่มนี้ขอรับ”นภทีป์ยื่นหนังสือเกี่ยวกับการทูตของสมัยนี้ที่ไปเจอแล้วเกิดอยากศึกษาการทูตแบบโบราณขึ้นมาเลยหยิบมาอ่านให้คุณหลวงที่ยื่นรออยู่

“พ่อทีป์...รู้ภาษาอะไรบ้าง”

“อังกฤษ ฝรั่งเศส แล้วก็พอได้เยอรมันกับสเปนบ้างนิดหน่อยขอรับ”

“พ่อทีป์เป็นใครกันแน่!??”



“ฉ่า....”เสียงน้ำมันเดือดดังไปทั่วเรือนเมื่อคุณหญิงนึกอยากจะฝึกปรือนภทีป์ให้ทอดปลาให้น่าทานตามฉบับชาววังขึ้นมา นภทีป์ยืนถือตะหลิวอย่างเก้กังรอฟังคนสั่งจากคนที่วันนี้สถาปนาตัวเองเป็นอาจารย์ด้านการเรือนให้กับชายหนุ่มให้พลิกปลาไปมาอย่างไรอยู่

“พ่อทีป์ แม่ว่าปลาคงใกล้ได้แล้วแลลูก ไหนลองพลิกอีกสักที”

“เอ่อ...เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”นภทีป์เงยหน้าถาม

“อือ...แม่ว่ากำลังน่ากินเชียว เอ้าพอแล้ว ยกกระทะออกมาเสียลูก เอาปลาขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันตรงนี้ นั้นแหละ แหม พ่อทีป์เก่ง
การเรือนขึ้นเยอะ ไว้วันหลังแม่จักสอนทำต้มทำแกงเสียบ้าง”นภทีป์หน้าซีดเผือด โอ้ย กูนะกู เป็นผู้ชาย แถมยังเป็นนักการทูตอนาคตไกล ตอนนี้กลายเป็นพ่อศรีเรือนไปซะแล้ว

“หึหึ”เสียงหัวเราะขลุกขลักดังมาจากตรงชานเรือน ทำเอาคนตัวเล็กกว่าหันไปค้อนขวับใส่เสียวงเบ้อเร่อ เพราะถูกคนแก่กว่าหัวเราะเยาะใส่ ใช่สิ ก็ไม่ใช่นักการทูตยุคนี้นี่หว่า

“เอ้า เบะปากทำไมลูก พ่อนพนี่ล่ะก็ อย่าหัวเราะเยาะน้องซี”คุณหญิงแขไขหันไปดุลูกชายเบาๆเมื่อเห็นว่าสายตาขุ่นเคืองของนภทีป์พุ่งตรงไปที่ใคร

“โธ่ คุณแม่ขอรับ ลูกแค่หยอกน้องนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองขอรับ ใช่หรือไม่จ้ะพ่อทีป์ บอกคุณแม่ไปซีว่าพี่แค่หยอกเล่น”คุณหลวงพูดพลางสาวเท้ามายืนประกบด้านหลังนภทีป์แล้วชะโงกดูปลานิลตัวอวบอ้วนที่ถูกทอดเสียเหลืองกรอบ แลดูน่าทาน

“จ้างให้ก็ไม่พูด”

“หึหึ ไว้พี่จะคิดบัญชีทบต้นทบดอกทีหลังกับงานหนังสือนั่น ดีหรือไม่?”คุณหลวงพยักเพยิดไปตรงมุมประจำของนภทีป์ที่ตอนนี้บนตั่งตัวเตี้ยมีแต่กองหนังสือภาษาฝรั่งเศสวางอยู่เต็มเอี๊ยด

“กลัวตายแหละ”

“กระไรกันจ้ะสองคนนี้ มาๆลูก ไหนพ่อทีป์เอาปลามาใส่จานนี่มา นังใบเอาจานไปให้คุณทีป์เข้าสิ”บ่าวสาวร่างแน่งน้อยที่ยังคงรูปแบบนุ่งน้อยห่มน้อยจนแทบหลุดของบ้านนี้นวยนาดเอาจานมายื่นให้ บิดตัวยื่นอย่างพอเหมาะพอเจาะว่าถ้าคุณๆทั้งสองมองลงไปจักต้องเจอร่องหน้าอกที่เบียดกันอยู่อย่างแม่นมั่น

“ขอบใจจ้ะ”นภทีป์ยิ้มให้พร้อมรับจานมา สายตาจ้องมองไปด้านหลังปะทะกับร่องอกเข้าเต็มๆจนต้องกลืนน้ำลายเสียอึกใหญ่

“พ่อทีป์ รีบๆช้อนปลาใส่จานซี คุณแม่ท่านรอ”คุณหลวงที่มองมาอย่างขัดใจเอ่ยขึ้นขัดจังหวะ นภทีป์ถอนสายตาออกจากร่องอกใหญ่โตคู่นั้นแล้วหันมาสนใจปลาแทน

“เอ้า นังใบนั่งอยู่ทำไม เสร็จเรื่องของเอ็งแล้วก็ลงเรือนไปเสียซี กระเดี๋ยวข้าจักเรียกใช้เมื่อใดค่อยขึ้นมา”คุณหลวงหันไปสั่งนางบ่าวที่ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิมอย่างนั้น

“เจ้าค่ะ”นางใบชม้อยชม้ายชายตาให้สองหนุ่มอีกรอบ จนคุณหลวงได้แต่หงุดหงิดใจจนคิ้วขมวดมุ่นเป็นปมใหญ่ นางบ่าวนี้ กระไรนักนะ

“เป็นอะไรหรือขอรับคุณหลวง”

“กระไร ฉันเป็นอะไรหรือ?”

“เอ้า ก็ผมเห็นคุณหลวงทำหน้าบูดอยู่นี่ไงขอรับ”

“หน้าบูดคืออันใด?”

“เออ...หน้าตาไม่พอใจน่ะขอรับ”

“ฉันน่ะหรือ?ไม่พอใจ?”

“นี่ไง โกรธอะไรผมหรือขอรับ เมื่อตะกี้ยังเรียกพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้อยู่เลย??”

“ใครโกรธกระไรพ่อทีป์ หาได้มีแต่อย่างใดไม่”

“จริงนะขอรับ”นภทีป์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคุณหลวงต้องย่นคอหนีแล้วรีบร้อนตอบ

“จริงซี ฉันจะหลอกลวงพ่อด้วยเหตุอันใดเล่าจ้ะ”

“พ่อง”นภทีป์พึมพำเบาๆแล้วเบือนหน้าหนี เพราะคุณหลวงยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆบ้าง ทำเอาใบหน้าขาวๆแดงๆระเรื่อ



“แหม ไหนมาให้แม่ดูทีพ่อทีป์”คุณหญิงแขไขกวักมือเรียกไวๆเมื่อสองหนุ่มที่เดินมาทางหอนั่ง

“ไม่รู้ว่าจักถูกปากคุณแม่หรือไม่นะขอรับ กระผมเองก็ไม่เคยลองงานเรือนพวกนี้เลย”

“แหม กำลังน่าทานเชียวลูก”

“จริงหรือขอรับ"

“จริงซี แม่จักหลอกให้พ่อทีป์ดีใจเปล่าด้วยอันใดเล่า มา เดี๋ยวแม่จักให้นังม้วนมันสั่งให้เขายกสำรับขึ้นมาอีก”

“นังม้วน นังม้วน”

“เจ้าค้า”

“สั่งให้นังพวกนั้นยกสำรับมาที แล้วบอกพวกมันให้นุ่งผ้าห่มผ้าเสียให้เรียบร้อย อย่าให้มันประเจิดประเจ้อนัก”

“เจ้าค่ะ”



“แอ้ๆ”ตอนนี้ผมอยู่ที่นี้มาได้สักหกเดือนแล้วมั้ง...จริงๆก็ถึงบ้านอยู่ แต่ไม่รู้จะกลับยังไง เออ นั้นแหละก็เลยต้องรออยู่เฉยๆ ทำนั้นทำนี้ เลี้ยงลูกให้คุณหลวงก็เป็นอีกงานนึงของผม แม่ศรีเรือนสัสๆเลย

“ว่าไงครับ หืมม หิวแล้วหรือ”ผมหันไปถามเจ้าตัวเล็กที่จู่ๆก็ร้องโยเยชูไม้ชูมือขึ้นมา สงสัยจะหิว เด็กๆใกล้ๆจะครบขวบนึงในวันสองวันนี้แล้ว เพราะตอนคุณหลวงไปพามา แล้วก็เจอผมเด็กๆก็อายุหลายเดือนแล้ว

“ป้อ...”หึๆ ว้า น่าสงสารคุณหลวงจริงๆ เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านเด็กๆเลยติดเรียกผมว่าพ่อแทนคุณหลวงคนที่จะเป็นพ่อเจ้าตัวซนพวกนี้

“ว่าไงครับ หืมมมม”โอ้ยน่ารักจริงๆ เล่นเอาซะผมอยากมีลูกเลย เฮ้ออ ว่าไปก็คิดถึงที่บ้าน คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ผมร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว เลยเริ่มปลงๆไปซะบ้าง

“เอ้า พ่อทีป์ทำกระไรจ้ะ เด็กๆกวนหรือไม่ลูก?”

“ไม่เลยขอรับคุณแม่ เจ้าสามแสบนี่เลี้ยงง่ายออกจะตายไป คุณแม่ขอรับ เมื่อไหร่เด็กๆจะมีชื่อหรือขอรับ?”

“เขาว่ารอให้ครบขวบก่อนจ้ะถึงจักตั้งชื่อให้ ถ้านับตามที่พ่อนพบอกแม่มาตั้งแต่คราแรกว่าเจ้าพวกนี้อายุเท่าไรตอนมาเรือนเรา นี่ก็จวนแล้วแลลูก แม่ก็ดูๆไว้บ้างแล้ว แม่หวังใจให้เด็กๆเป็นเด็กดี อย่าได้กเฬวรากเหมือนเด็กๆบางบ้านเขา เพราะพอเขาเริ่มโต พ่อนพของจักมียศศักดิ์ใหญ่โตยิ่งแล้ว แม่เกรงว่าเจ้าพวกนี้จักติดนิสัยไม่ดีเพราะคิดว่าพ่อของตนใหญ่โตคับฟ้า”

“ผมเชื่อว่าเด็กๆต้องเป็นเด็กดีแน่ๆขอรับคุณแม่ คุณแม่ขอรับวันนี้คุณแม่ไม่มีกระไรจักสอนกระผมหรือขอรับ”อันที่จริงผมค่อนข้างชอบหลักสูตรการเรือนของคุณหญิงแขไขทีเดียวนะ ทำให้ผมหายเหงาไปได้เยอะ ว่างๆก็อยากจะเรียนบ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยก็ยังจะมีอะไรทำ

“อยากทำอันใดเล่าจ้ะ จีบบุหรี่ดีหรือไม่ เมื่อวานแม่เพิ่งให้บ่าวไปเก็บดอกบัวมาเด็ดกลีบตากไว้เทียว”

“จีบบุหรี่หรือขอรับ?”

“ก็จีบบุหรี่น่ะซี”

“ใช่กลีบบัวนี่หรือขอรับ?”

“ก็กลีบบัวน่ะซีลูก สูดเข้าไปจักได้หอมหวาน มากระเดี๋ยวมาจักสอน รอให้เด็กๆนอนเสียก่อนแล้วกัน จักได้ลองจีบให้พ่อนพเขาสูบดูบ้าง”

“คุณหลวงสูบบุหรี่ด้วยหรือขอรับ?”

“สูบบ้างจ้ะ แต่แม่เองก็มิได้เห็นพ่อนพจักหยิบบุหรี่มาสูบเสียเท่าไรดอกจ้ะ พ่อคนนั้นเขาทานแต่ข้าวกับชาก็เหลือเกินสำหรับวันๆ
นึงแล้ว ทั้งซิกาเร็ตฝรั่ง ทั้งบุหรี่ของแม่ ทั้งหมากทั้งพลู มิเห็นเขาค่อยสนใจสักเท่าใด”

“หรือขอรับ คุณแม่ขอรับกระผมว่าพาเด็กๆไปนอนเสียตอนนี้ดีหรือไม่ขอรับ แดดเริ่มแรงแล้วเดี๋ยวจักเพลียแดด”

“เขาเรียกแดดนายลูก มาเถิด เดี๋ยวแม่จักช่วยพาไป ให้หลับกันเสียในห้อง กระเดี๋ยวจักไม่สบายกันเสียอีก ใช่หรือไม่จ้ะหลานย่า”คุณหญิงแกดูมีความสุขมากครับเวลาอยู่กับพวกเด็กๆ ถ้าเป็นผมผมก็คงมีความสุข อยู่ดีๆได้หลานมาเสียตั้ง 3 คน ถึงจะเป็นฝรั่งหัวแดงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยก็เถอะ

“ลางที พ่อทีป์กับเด็กๆพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิตมาให้พ่อนพก็เป็นได้นาลูก”จู่ๆคุณหญิงก็พูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่ห้องคุณหญิง ผมกระเตงเจ้าตัวเล็กมาสองคน ส่วนคุณหญิงอุ้มอีกคนนึงไป เด็กๆไม่ค่อยงอแงเลย ดีจังเลยแฮะ ไม่รู้ว่าตอนเด็กๆผมเลี้ยงง่ายแบบนี้รึเปล่า


ไม่เคยถามคุณแม่ซะด้วยสิ...


   แล้วคิดว่าบางที ตอนนี้คงหมดโอกาสที่จะได้กลับไปถามแล้ว ผมไม่ได้ตายจาก ผมยังมีชีวิต แต่อยู่กันคนละภพชาติกับครอบครัวของผม บางทีก็ได้แต่เจ็บปวดในใจแหละนะ...

ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หรือบางที อาจจะเป็นฟ้าลิขิตแบบที่คุณหญิงว่าก็เป็นได้ล่ะมั้ง




“เด็กๆน่ะกระผมพอเข้าใจนะขอรับคุณแม่ แต่กระผมเองเนี้ย ฟ้าจักประทานมาให้คุณหลวงด้วยเหตุอันใดเล่าขอรับ หากกระผมเป็นกุลสตรีแม่เรือนที่ฟ้าประทานมาก็ว่าไปอย่าง”

“พ่อทีป์น่ะไม่รู้อันใดดอกจ้ะ แต่แม่จักไม่บอกดอกหนา โบราณเขาถือ”นภทีป์หัวเราะเบาๆกับอาการหวงความลับเรื่องฟ้าประทานมาของคุณหญิง

“เอาไว้กระผมรอให้ถึงเพลาที่กระผมจักได้รู้ก็ได้ขอรับคุณแม่”

“จ้ะ เอ้า วางเด็กๆลงเสียซี แล้วรอสักกระเดี๋ยว แม่จักสั่งบ่าวให้เตรียข้าวเตรียมของจักได้จีบบุหรี่ไว้รอรับพ่อนพเขา”

“ขอรับ กระผมเกรงว่าคุณหลวงจะไม่กล้าสูบเพราะมันดูน่ากลัวเกินไปน่ะซีขอรับ”

“พ่อทีป์นี่ล่ะก็ เอ้า ไปเอนหลังเสียหน่อยก็ได้ลูก กว่าบ่าวจักเตรียมข้าวของเสร็จของใช้เวลานานโขอยู่เทียว หาใช่เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกดอก”

“ขอรับคุณแม่”
นภทีป์นอนอยู่ริมเตียงกว้างในห้องคุณหลวง เขาเข้ามานอนในห้องนี้ได้สักพัก หลังจากที่คุณหลวงให้ช่วยงานบ้าง...นอนเตียงเดียวกันทุกคืน เฮ้อ...อย่างกับผัวเมีย

ตากลมโตกวาดไปรอบๆห้องด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากที่คุณหญิงบอกว่าให้มานอนพักเสียหน่อยเขาเลยตัดสินใจมานอนพักเอาจริงๆ ติดแต่ว่าเขานอนไม่หลับ เลยได้แต่เอนหลังลงเตียงแล้วก็พลิกตัวไปมาอยู่แบบนี้
นอนไม่หลับทั้งๆที่อยากจะนอนนี่มันแย่จริงๆเลย


ครืน...ครืน...

เสียงฟ้าร้องมาแต่ไกล ฝนคงตั้งเค้าจะตกอีกแล้ว...เขามาที่นี้ตอนหน้าฝน น้ำกำลังหลาก ฝนกำลังแรง แล้วก็อยู่มาเรื่อยๆ จนหน้าร้อนเข้าไปแล้ว อันที่จริงก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ในความคิดของนภทีป์ ด้วยต้นไม้ยังมากนัก ถึงร้อนอย่างไรก็ยังเย็นอยู่ดีนั้นแหละ


ซู่....

นั้นไง คิดยังไม่ทันขาดตอน ฝนก็เทลงมาซะแรงเชียว สงสัยจะไม่ได้จีบบุหรี่ซะแล้วล่ะมั้งนี่ บางทีฝนตกนี่อาจจะทำให้เขาอยากนอนขึ้นมาก็ได้...



“คุณแม่ขอรับ คุณแม่”

“จ๋า พ่อนพมีกระไรกับแม่หรือจ้ะ? กลับมาถึงก็ร้องทักเสียก่อนอย่างนี้”

“พ่อทีป์อยู่ในห้องหรือขอรับ?”

“จ้ะ เห็นจักเป็นเยี่ยงนั้นกระมัง หะแรกแม่ชวนเขามวนบุหรี่ จีบบุหรี่ กระเดี๋ยวเดียวยังตระเตรียมขอมิทันเสร็จอันใดฝนก็ตกเสีย
ยกใหญ่เชียวลูก แม่เลยให้บ่าวเก็บของไว้เสียก่อน ค่อยสอนพ่อทีป์เขาวันหลัง”

“กระนั้นหรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นกระผมขอไปดูพ่อทีป์เขาก่อนนาขอรับ”

“เอาซีลูก ไปเถิด แม่มิว่าอันใดดอก”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงหนุ่มเดินเข้าส่วนของเรือนตนไป ในห้องของเขาเงียบกริบ ค่ำแล้วไฟตะเกียงก็หาได้จุดไม่ พ่อทีป์จักทำ
กระไรอยู่นะ

“พ่อทีป์ พ่อทีป์จ๋า”คุณหลวงเรียกชายหนุ่มอีกคนเสียงเบา แต่ไม่มีการตอบรับอันใดนอกจากความเงียบที่รายล้อมอยู่รอบกายคุณหลวง

“พ่อทีป์”คุณหลวงเรียกย้ำอีกครั้ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบอันใดกลับมา

“พ่อทีป์ เหตุใดเงียบไปเล่า”คุณหลวงรีบสาวเท้าเข้าไปหลังฉากกั้น พลันสายตาก็เห็นร่างโปร่งของอีกคนนอนตะแคงอยู่บนเตียง คุณหลวงเดินไปจุดตะเกียงตรงโต๊ะหัวเตียง แสงไฟวับแวบสว่างกระจายเป็นวงไปทั่วห้อง พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงโปร่งของอีกคนที่นอนขดตัวอยู่ริมเตียง

“พ่อทีป์ เป็นกระไรนั่น”คุณหลวงขยับเข้าไปหาแล้วถามอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบไร้เสียงตอบรับ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอที่ดังต่อเนื่อง ทำให้คนมาปลุกพออุ่นใจได้บ้างว่าคนที่นอนอยู่ยังคงมีชีวิตไม่ได้เป็นอะไรไป

“อือ...”นภทีป์ส่งเสียงครางแผ่วเบาแล้วพลิกตัวกลับมา หากแต่เปลือกตายังคงปิดสนิท หน้าผากของคนที่นอนอยู่ยับย่น เหงื่อยังคงไหลไม่หยุด

“พ่อทีป์ เป็นกระไรไป ฝันร้ายหรือ หรือเป็นไข้จ้ะ เป็นกระไร บอกพี่ซี”

“ผม...ปะ...ปวดหัว”

“ปวดมากเลยหรือ?”

“มากเลยขอรับ คุณหลวงขอรับ อย่าไปไหนนะ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว”ร่างโปร่งพึมพำเบาๆ แล้วเงียบหายไปอีกรอบ คนตัวโตกว่าเลยอนุมานได้ว่าอีกคนหลับไปแล้วเรียบร้อย

“หากพี่ไม่ออกไปจักเอายาที่ใดมาให้พ่อทีป์ได้เล่า หือ...”คุณหลวงบ่นงึมงำกับคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง แล้วขยับไปสั่งการกับบ่าวหน้าห้อง


“อ้ายทดๆ”

“มีกระไรให้กระผมรับใช้หรือขอรับ”

“ไปเอามะนาวฝานทางปูนแดงมาให้ข้าที น้ำกับผ้าสักผืนด้วย”

“ขอรับ”นายทดรับคำแล้วรีบวิ่งแจ้นไปเตรียมของมาให้คุณหลวง



“ฮ้าวววว”ร่างโปร่งขยับเปลือกตาขึ้นพลางบิดขี้เกียจ ตากลมโตกระพริบปริบๆ เพราะเห็นใบหน้าของอีกคนอยู่เสียชิดจนหน้าใจหาย

“คุณหลวง”ริมฝีปากพึมพำเบาๆ ใบหน้าคมสันของคนตรงหน้าคล้ายมีมนตร์สะกดอะไรสักอย่างทำให้นภทีป์ถอนสายตาออกไปไม่ได้

“อือ...ตื่นแล้วหรือจ้ะ”

“ขอรับ ตื่นแล้ว”นภทีป์เอ่ยตอบคนที่อุตส่าห์ถามเขาแต่ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา

“หายปวดหัวแล้วหรือไม่จ้ะ?”เสียงทุ้มยังคงงัวเงีย

“ขอรับ หายแล้ว คุณหลวงขอรับ คุณหลวงเอาอะไรแปะหน้าผากผม?”

“มะนาวทาปูนอย่างไรเล่า เขาว่าแก้ปวดชะงัดนักแล พ่อทีป์ไปทำกระไรมาเหตุใดจึงปวดหัวเสียได้เล่า”

“อ่านหนังสือมากไปกระมังขอรับ คุณหลวงง่วงก็นอนต่อก็นะขอรับ กระเดี๋ยวกระผมจักเรียนคุณแม่ให้ ว่าคุณหลวงลุกไม่ใคร่ไหว”นภทีป์พูดขณะชันศอกขึ้นตั้งฉากกับหมอนแล้ววางหัวลงไปบนฝ่ามือ สายตายังคงจับจ้องไปบนใบหน้าคมสัน

“อือ บอกท่านว่าวันนี้ฉันไม่เข้ากรม ไม่ใคร่ตื่นแต่ย่ำรุ่งเสียเท่าใด”นภทีป์พึมพำรับคำ พลางผินหน้าไปมองนอกหน้าต่าง แสงสีทองเรื่อๆเพิ่งจะแตะขอบฟ้า เสียงน้ำค้างยังคงร่วงเปาะแปะลงกระทบพื้นบ้านอยู่เรื่อยๆ


“ก๊อกๆ คุณหลวงเจ้าคะ คุณหญิงให้มาเชิญเจ้าค่า”เสียงนังม้วนดังมาจากหน้าประตูห้อง นภทีป์มองหน้าคนที่หลับสนิทแล้วเลยตัดสินใจไม่ปลุก แต่เดินไปบอกยายม้วนเสียเองว่าคุณหลวงอยากจักนอนให้มากเสียหน่อยในวันนี้

“คุณหลวงหลับอยู่นะม้วน ท่านว่าอยากพักให้มากหน่อยวันนี้ ฉันฝากเรียนคุณหญิงทีนะจ้ะ กระเดี๋ยวสายๆคุณหลวงคงจักตื่น”

“เอ...กระนั้นหรือเจ้าค่ะ ม้วนจักเรียนคุณหญิงท่านให้นะเจ้าคะ”

“ขอบใจม้วนมาก กระเดี๋ยวสายหน่อยให้คนยกสำรับเข้ามาในห้องได้หรือไม่ ฉันว่าจักรับพร้อมคุณหลวงท่านน่ะ”

“เจ้าค่ะ”

“ขอบใจมากนะจ้ะ”นภทีป์ก้มหัวปลกๆให้นังม้วนซึ่งได้แต่ยิ้มปลาบปลื้มใจที่เจ้านายอ่อนโยนกับตนถึงเพียงนี้ นางจึงยิ้มกริ่มจากไป

นภทีป์เดินกลับไปในห้อง เอนหลังพิงหัวเตียงแล้วเริ่มอ่านหนังสือที่หยิบติดมือมาเมื่อวาน คุณหลวงยังคงหลับตาพริ้ม ด้วยเมื่อคืนอยู่เฝ้าไข้นภทีป์เสียดึกดื่น จนคนตัวบางกว่าหลับสนิทนั้นแหละ คุณหลวงถึงได้หลับลง

“ชอบหรือ?”จู่ๆเสียงนุ่มทุ้มก็เอ่ยถามคนที่อ่านหนังสืออยู่ นภทีป์เงยหน้าจากหนังสือมองตรงมายังคุณหลวงอย่างงงๆ จู่ๆก็ถาม ใครก็ตกใจแหละวะ

“ชอบอะไรขอรับ?”

“หนังสือที่อ่านอยู่นั่นอย่างไรเล่า ฉันเห็นพ่อทีป์อ่านไปยิ้มไป เลยคิดว่าน่าจะชอบกระมัง?”

“ออ...ชอบซีขอรับ เป็นหนังสือที่ดีเชียวแหละ แล้วคุณหลวงไม่นอนต่อแล้วหรือ? หิวหรือยังขอรับผมจะไปเรียกม้วนให้เค้าตั้งสำรับให้”

“อืม...ยังหรอกว่าแต่พ่อทีป์เถิด ตื่นมาก่อนฉันเสียนานเนิ่น ยังไม่หิวหรือไรจ้ะ?”

“ยังขอรับ จริงๆตอนอยู่บ้านผมก็ไม่ค่อยกินข้าวเช้าอยู่แล้ว ส่วนมากก็กินกาแฟแก้วเดียวกับขนมปัง”

“กินแบบอีหรอบมันหรือ?”

“งั้นมั้งขอรับ ตกลงคุณหลวงหิวแล้วหรือยัง?”

“ยังไม่หิวเท่าใดดอก ออกไปรับที่ศาลาเล็กก็คงได้กระมัง หรือพ่อทีป์อยากกินในห้องจ้ะ?”

“ศาลาเล็กก็ดีขอรับ จักได้ให้ลมโกรกเพลินๆเสียบ้าง...”

“ไป...งั้นไปกันเถิด”คุณหลวงผุดลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา เอาไม้ทุบปลายสีฟันสักเดี๋ยวก็ชักชวนให้นภทีป์ออกไปข้างนอกห้องพร้อมกัน นภทีป์ยังคงถือหนังสือติดมือ หากแต่ก็ตามคุณหลวงไปต้อยๆ ด้วยไม่เคยกินข้าวตรงศาลาเล็ก เลยอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศใจแทบขาด


คงจะดีมาก...


------------------------------
มาต่อให้แล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ผิดสัญญาหายไปเป็นเดือนเลย
เพราะยุ่งมากจริงๆ TT มีคอนเฟอเรนซ์ตลอดเลย งานบึ้มบั้ม
ตอนถัดๆไปคนเขียนจะพยายามให้มากขึ้นเน้อออออ
 :mew2: :mew2:







หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๘ ๘.๖.๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: hayatosan ที่ 26-07-2014 14:17:43
 :z13: :z13:

ชอบแนวนี้ค่ะ  แต่ยังไม่ได้อ่าน  ยังไงก็ขอจิ้มมมมมมมไว้ก่อนนะค่ะ

 :z2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-08-2014 19:35:43
งือออ แค่มีคนชอบก็ดีใจแล้วค่ะ ว่าแต่อ่านแล้วเป็นไงอ่าาา -///-

ปอลิง ขอโทษทีนะคะ ตอนแรกที่ลงลืมเปลี่ยนหัวเรื่อง -/////- อายไปอีก

ปอลิง 2 ช่วงรับน้องใกล้เข้ามาแล้ว คนเขียนเป็นวินัยอาจจะยิ่งไม่ว่างไปกันใหญ่นะคะ (แต่ต้องเอาชีวิตรอดผ่านช่วงสอบไปให้ได้ก่อน) แต่จะพยายามมาต่อให้บ่อยที่สุดในช่วงสองเดือนนี้น้าาาา
 :o8: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 02-08-2014 20:26:05
พึ่งเห็นนะเนี่ยยยย
ฝึกทำอาหาร พร้อมจะเป็นภรรยาสินะ   :katai3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 02-08-2014 23:43:03
สนุกมากเลยค่ะ ชอบสไตล์นี้ อ่านแล้วอินมากๆ

ผู้ชายสมันก่อนเค้าน่าร้ากกก น่ารักจัง

ส่งแรงใจให้คนเขียนมาต่อได้เร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 02-08-2014 23:47:08
รออยู่นานเลยนึกว่าลืมไปแล้วซะอีก. เนื้อเรื่องสนุกมากตอนที่คุณหลวงเรียกหาแล้วทีป์ไม่ตอบกลัวแทบตายว่าทีป์จะกลับไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-08-2014 00:18:24
เย้ๆ มาแว้ว
เริ่มพัฒนากันแล้ว อิอิ
มีการออกไปสวีท เอ้ย กินข้าวนอกเรือนเสียด้วย
ยังไงก็สู้ๆน้าคนเขียน เป็นกำลังใจให้น้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-08-2014 00:22:55
ชอบอ่านเรื่องนี้มากๆ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: allegiant1994 ที่ 03-08-2014 11:19:59
พึ่งมาได้อ่านสนุกมากเลยค่ะ รีบมาต่อนะค้า ♡
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 04-08-2014 03:53:19
ชอบอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งหวานนะเนี่ย ทั้ง2คนดูน่ารักมากๆเลย
คนนึงก็พ่อศรีเรือน อีกคนก็เป็นคุณหลวง เหมาะกันสุดๆไปเลย
มาต่ออีกไวๆน้า คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย อยากอ่านต่อๆ >^<
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 04-08-2014 09:09:37
เห็นเรื่องนี้อัพแล้วต้องรีบมาอ่านเลยค้า สนุกๆ อิอิ
ปล.สู้ๆนะคะคนเขียน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-08-2014 14:34:58
:-)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 21-08-2014 19:43:38
คิดถึงอะ เมื่อไรจะมาอัพค่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 22-08-2014 01:17:21
ขอพ้นวันที่ 25 ส.ค.นี้ไปก่อนแล้วจะรีบมาอัพให้นะคะ คนเขียนติดงานรับน้องของม.
รับน้องคณะ สารพัดจะรับสารพัดจะลงตามประสาวินัยอ่ะค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาเลยย ><
เค้าจะรีบมาเน้ออออ คิดถึงคนอ่านเหมือนกัน คิคิ  :oo1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 22-08-2014 08:31:45
รับทราบก๊าบบบบ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๙ ลงแล้วจ้ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-08-2014 21:10:18
จ้า รับทราบ
ไว้ว่างค่อยมาน้า สู้ๆน้า
เคลียร์งานก่อนดีกว่าเนอะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 05-10-2014 20:36:10

พยับที่ ๑๐

อ๋า...กระดาษเต็มโต๊ะทำงานผมไปหมด โอ้ย...บ้าบอจริงๆ เพราะผมดันไปอ่านหนังสือภาษาฝรั่งเศสให้คุณหลวงเห็นแท้ๆเชียว เลยต้องมารับงานเพิ่มแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว งานอะไรน่ะเหรอ? ฮึ ก็แปลหนังสือเหมือนเดิมแหละครับ แต่มันต่างจากเดิมตรงนี้ ตรงนี้กองเอกสารที่ส่งมาให้สุดหล่อนภทีป์แปลมันเพิ่มขึ้นแบบปุ๊บปั๊บ แบบอลังการดาวล้านดวง ฮึก...เพราะผมพลาดไปเองแหละครับ โธ่ ก็ไอ่หนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มนั้นมันน่าอ่านชิบหายเลยนี่หว่า ใครจะตัดใจไม่อ่านได้ลง

“พ่อทีป์ ทำกระไรจ้ะลูก?”อ่อ แต่แลกมาด้วยการเป็นลูกรักของคุณหญิงแม่แทนคุณหลวงก็ถือว่าคุ้มล่ะนะ คิกๆ ก็ได้กินขนมหวาน น้ำต้มนู้นนี่นั้นแปลกๆเต็มไปหมด แถมแต่ละอย่างมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย คึกๆ

“แปลหนังสือราชการให้คุณหลวงขอรับคุณแม่ คุณแม่กระไรหรือไม่ขอรับ? หรือว่าวันนี้จักชวนผมไปทำกับข้าวอร่อยๆ”ผมฉีกยิ้มกว้างให้คุณแม่ แหม กับคนแก่นี่ต้องประจบครับ จะได้รับความเอ็นดูล้นหลามแล้วก็ของสมนาคุณทั้งของกิน ขนม นม เนย ผลหมากรากไม้อีกมากมายหลายหลาก

“ห่วงแต่กินอยู่นั่นแลลูก แต่อ้วนเสียหน่อยก็ดี จักได้มีราศีผู้ดี เขาว่าผู้ดีนี่นะลูกต้องขาวเสียหน่อย อ้วนสักนิด”

“โธ่ คุณแม่ขอรับ อย่าให้กระผมอ้วนเลยน้า เดี๋ยวสาวไม่แลเอากระผมก็แย่น่ะซี”ผมทำหน้าออดอ้อนใส่คุณแม่ที่ยิ้มน้อยๆ น่าตาใจดีเหมือนคุณแม่ของผมเลยแหะ เฮ้อ ว่าไปก็คิดถึงบ้าน

“จักมองหาสาวๆที่ไหนได้หึลูก มาๆ ว่าเสียก่อนวันนี้แม่จักพาทำบัวลอย อยากกินหรือไม่จ้ะ?”บัวลอยเหรอ? ว้าว ของโปรดผมเลยแหละ สงสัยคุณแม่จะมองเห็นประกายตาอะไรบางอย่างจากผมถึงได้หัวเราะออกมาแบบกุลสตรีสี่แผ่นดินสุดๆ

“ไป แม่ให้บ่าวมันไปเตรียมของขึ้นมาให้แล้ว พ่อทีป์ไปนวดแป้งกับแม่เร็วลูก”ผมพยักหน้าหงึกหงักแบบเสียมารยาทสุดๆ แต่คุณแม่คงคร้านจะเตือนเลยยืนรอให้ผมเก็บข้าวของไปวางไว้ให้เป็นระเบียบแล้วหาอะไรมาทับๆสุมๆไว้กันพระพายท่านหอบเอกสารพวกนี้หนีไปเล่นน้ำซะก่อน

“ไปกันขอรับคุณแม่ ผมพร้อมแล้ว”คุณแม่เดินนำผมไปตรงหน้าหอนั่งที่ประจำสำหรับที่เรียนการครัวของผม วันนี้แดดร่มลมตก สายลมที่พัดเอื่อยๆพาให้สบายใจสุดๆ เฮ้อ...เวลาที่อดีตนี่อย่างกับเดินช้าลงเลยแหะ...

“เป็นอะไรจ้ะพ่อทีป์ เหม่อไปไหนกันลูก?”

“เปล่าขอรับคุณแม่ แล้วสามแสบนั่นนอนแล้วหรือขอรับ”

“ยังดอกจ้ะ แม่ให้บ่าวมันดูอยู่ ช่วงนี้ฟันกำลังขึ้น ช่างงับไปเรื่อยเชียวแลลูก ลางทีแม่ก็โดนเข้าบ้างเหมือนกัน สงสัยคงมันเขี้ยวเขาแลจ้ะ”

“แหม ว่าแล้วก็คิดถึง ไว้ทำขนมเสร็จผมเข้าไปเล่นกับเด็กๆได้หรือไม่ขอรับ”

“เอาซีลูก เอ้าแต่ตอนนี้พ่อทีป์ต้องช่วยแม่นวดแป้งเสียก่อนนา”

“ขอรับ”ผมฉีกยิ้มกว้างให้คุณแม่แล้วเริ่มทำตามคนตรงหน้า ฮ้า...บัวลอย บัวลอย

บัวลอย เจ้าเพื่อนยาก ทำไมจากข้าเร็วเกินปายยยย คึกๆๆ ผมน่ะชอบบัวลอยมากๆเลยแหละ

ชอบที่สุดในโลกเลย ฮ้า บัวลอย บัวลอยฉบับออริจินัล บัวลอยแบบโบราณ คิกๆ แค่คิดผมก็น้ำลายจะหยดแหมะๆลงพื้นแล้วล่ะครับ

“ทำกระไรกันหรือขอรับ หอมเชียว”คุณหลวงทักคุณหญิงกับนภทีป์ที่ง่วนกันอยู่หน้าเตา กะทิในหม้อเดือดปุดๆส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเรือน ทำเอาคนที่เพิ่งเลิกงานอย่างเขาท้องร้องโครกคราก...

“บัวลอยจ้ะพ่อนพ หิวหรือยังจ๊ะลูกแม่จักได้ให้นังพวกนี้ตั้งสำรับให้เสียก่อน แล้วค่อยรอทานของหวานอีกสักกระเดี๋ยวก็เสร็จแล้วแล”

“กระเดี๋ยวรอทานเสียพร้อมคุณแม่กับพ่อทีป์ก็ได้ขอรับ กระผมขอไปผลัดผ้าเสียก่อนนาขอรับคุณแม่ ทำงานมาทั้งวันเหนื่อยเหลือใจเชียวขอรับ”คุณหลวงบ่นกระปอดกระแปดตอนท้ายพลางเดินเข้าเรือนส่วนตัวไป

“เอ สงสัยวันนี้พ่อนพคงเหนื่อยมากเสียจริงๆกระมัง”

“ทำไมหรือขอรับคุณแม่?”

“พ่อนพน่ะ ไม่เคยบ่นว่าเรื่องอันใดดอกลูก หากฝืนใจก็ยังคงทำเยี่ยงนั้นแล คราวนี้คงเป็นเรื่องใหญ่ลวงกระมัง ถึงกับทำให้พ่อนพของแม่เหนื่อยนักหนาเสียจนต้องบ่นออกมาเทียว”

“อย่างนั้นหรือขอรับ คุณแม่ขอรับ วันหลังกระผมอยากลองทำมัสมั่นบ้าง ได้หรือไม่ขอรับ”นภทีป์ชวนคุยเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเชื่อย สายตายังคงวิบวับจับจ้องที่บัวลอยลูกกลมสวยที่ลอยอยู่ในน้ำกะทิ

“อยากทานหรือลูก ให้ในครัวเขาทำให้ก่อนเถิดลูก มัสมั่นนั่นทำยากนักนาลูก ไว้ฝึกเสียอีกหน่อยแม่ค่อยสอนทำก็ได้ จักได้เข้าที ดีหรือไม่จ้ะ”

“อย่างนั้นก็ได้ขอรับ คุณแม่ขอรับ อีกไม่ถึงเดือนเด็กๆก็จะครบขวบแล้ว เขาต้องทำอะไรกันบ้างหรือขอรับ?”นภทีป์ถามพลางปลงหม้อลงมาวางไว้ที่ตั่งข้างๆที่ถูกสั่งให้ยกมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

“คงต้องพาไปวัดกระมังจ้ะ แม่อยากให้พระท่านตั้งชื่อให้หลาน แต่คงไม่ได้ไปวัดเอาเสียวันเกิดพ่อสามคนนั่นดอกจ้ะ แม่ว่าจักพาพ่อทีป์ไปทำบุญเสียวันพระแล้วถือโอกาสปรึกษาหลวงพ่อท่านเสียเลย พาเด็กๆไปด้วย”

“เอ ถ้าเด็กๆโวยวายร้องไห้จักไม่เป็นกระไรหรือขอรับ?”

“มิเป็นไรดอกลูก ผู้คนเขาพาลูกหลานไปวัดออกครึ่ดไป แต่จักไปนั่งอยู่ใต้ร่มไม้บ้างให้พอได้ยินเสียงพระสวดแต่มิได้ขึ้นมาบนศาลา”

“อืม... อย่างนี้นี่เอง คุณแม่ขอรับ เวลาเจ้าคุณพ่อของคุณหลวงเหนื่อยๆกลับมาที่บ้าน...คุณแม่ทำอย่างไรหรือขอรับ?”

“เอ...แม่ก็คงจักเข้าครัวไปชงชาให้ท่านสักกา แล้วก็ทำกับข้าวอร่อยๆให้สักอย่างสองอย่างนั่นแลลูก แลลางทีแม่ยังพรมน้ำหอมเสียให้ฟุ้งในคืนนั้นด้วย”ประโยคสุดท้ายแฝงความนัยที่ทำเอาคนถามหน้าเริ่มเห่อร้อนหน่อยๆ เอาเป็นว่าเขาแค่ไปชงชากับทำกับข้าวให้ท่าจะดีกว่า


ก็เอกราชน่ะมันสำคัญนะเว้ย!!


สุดท้ายเค้าก็แอบดอดเข้ามาประน้ำอบสักนิดนึง...นิดเดียวจริงๆนะสาบานได้ โธ่ คนอย่างนภทีป์น่ะนะจะอยากให้ใครมาสนใจตัวเองมากมาย เออ...แล้วก็เข้ามาชงชาให้ด้วย ส่วนกับข้าว...

เอาไว้ก่อนแล้วกัน กลัวคุณหลวงท้องเสียตายน่ะนะ

“หืม...ชงชามาหรือพ่อทีป์ พี่ได้กลิ่น?”คุณหลวงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องมานั่งพับเพียบแปะลงข้างๆนภทีป์ที่นั่งอยู่กับคุณหญิงแขไข

“ก็ชงมานะซีขอรับ ดื่มสักหน่อยนะขอรับ ชามะลิกลิ่นหอมนักหนา จะได้ผ่อนคลาย”นภทีป์ว่าไปพลางรินชาใส่ถ้วยกังไสใบน้อยยืนให้คุณหลวง

“ขอบน้ำใจพ่อทีป์ คุณแม่ขอรับ เด็กๆเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ซนตามประสาแลจ้ะพ่อนพ อย่าห่วงไปเลยลูก ลูกทั้งคนแม่ยังเลี้ยงมาได้ นับประสาอะไรกับหลานอีกสามคนหือ? แม่นมก็หาได้ครึ่ดไปออกอย่างนี้”

“อย่างนั้นลูกก็สบายใจขอรับ”

“ผู้หญิงที่มีลูกอ่อนแถวนี้มีเยอะมากเลยหรือครับ?”นภทีป์ถามขึ้นมาเบาๆ ตอนแรกเขานึกว่าแม่นมหายากมาซะอีก ไม่นึกว่าคุณหญิงแม่จะบอกว่าหาได้ง่ายดายขนาดนี้

“อย่างนั้นซีลูก บ่าวในเรือนเรามีลูกเล็กๆออกครึ่ดไป แม่ก็คัดเอาคนที่สุขภาพดีๆมาสักสามคนก็ได้แล้วเล่า”

“อย่างนี้จักเลี้ยงไหวหรือขอรับ?”

“ข้าวปลาเราก็เลี้ยงเขาอยู่แล้วเล่าลูก ออกมาก็เป็นทาสในเรือนเบี้ยเขาก็ทำงานให้เราอยู่ดีเล่า”

“พ่อทีป์ วันนี้ใส่น้ำอบหรือจ้ะ?”

“หือ...เอ่อ...ก็ใส่น่ะขอรับเห็นตั้งอยู่เยอะแยะในห้องคุณหลวง ผมเลย...เอ่ออ อยากลองใส่บ้าง”

“อย่างนั้นหรือ? ปกติพี่เห็นพ่อทีป์หอมดี...”เสียงนุ่มๆทำเอา ใบหน้าของร่างโปร่งเริ่มขึ้นริ้วบางๆ ใบหน้าขาวเริ่มก้มต่ำด้วยไม่กล้าสู้หน้าคนตาคมที่จ้องมองมา


“พ่อทีป์ แต่งตัวเสร็จหรือยังจ้ะ?” เสียงคนตัวสูงกว่าทำเอาอีกคนหนึ่งสะดุ้งโหยงเพราะกำลังง่วนอยู่กับโจงกระเบนที่หลุดหลุ่ยไปมา

“อ่า...”

“ใส่ไม่ได้อีกแล้วหรือ มาดูทีพี่จักใส่ให้ ทุกทีก็ใส่ได้นี่นา?”

“เอ่อ...วันนี้ผ้ามันลื่นๆ ผมเลยไม่ค่อยชิน...แล้วก็ส่วนมากหลังๆมาก็ใส่กางเกงแพรแล้วด้วย”

“ไหนพี่ดูที”คุณหลวงเดินมาจับร่างโปร่งหมุนไปมา จับนั่นแต่งนี่อยู่สักพักจนคนที่ขอร้องให้ช่วยเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน

“เสร็จรึยังขอรับ”

“อือ เสร็จแล้วจ้ะ พ่อทีป์ลองขยับดูที แน่นหรือไม่จ้ะ?”นภทีป์หมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกเดินไปสองสามก้าวแล้วหันมาพยักหน้าหงึกหงักให้คุณหลวงที่ยืนรออยู่

“เอ้างั้นไปกันเถิด คุณแม่ท่านรอทานข้าวอยู่ให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดี”

“ขอรับ” นภทีป์เดินตามคุณหลวงไปที่หอนั่ง ตอนนี้ยังเช้าตรู่ ยังไม่ทันสว่างดีด้วยซ้ำ แบบที่คนที่นี้เรียกว่าย่ำรุ่ง อากาศเย็นชื้นกระทบผิวกายทำเอาเขาต้องห่อไหล่น้อยๆ

ตอนนี้...ที่กรุงเทพฯในอีกร้อยกว่าปีข้างหน้า...

จะหนาวมั้ยนะ


“ถูกปากหรือไม่จ้ะพ่อทีป์”

“อร่อยดีขอรับคุณแม่”

“ดีแล้วจ้ะที่ชอบ รีบทานเถิดลูกกระเดี๋ยวไปถึงวัดสายจักไม่ทันพระท่านเอา”

“ขอรับ”


จ๋อม...จ๋อม...

วันนี้คุณแม่ยืนยันหนักแน่นว่าจักไปวัดให้จงได้ ด้วยลูกชายทั้งสามของฉันยังไม่มีชื่อแลก็อยากให้พระท่านตั้งให้ จึงตกลงใจไปวัดกันดูสักที วันนี้เป็นวันพระเสียด้วย คนคงครึ่ดเต็มศาลา คุณแม่คงอยากให้คนอื่นเห็นหลาน แล้วก็...พ่อทีป์กระมัง

พ่อทีป์นั่นหากไม่นับว่าเป็นชายแล้วดูงดงามไปเสียทุกส่วน ผิวหรือก็ขาวละเอียด นัยน์ตาสุกสกาว ริมฝีปากสีแดงสวย...หากพ่อทีป์เป็นผู้หญิงฉันคงไม่ต้องคิดกระไรให้วุ่นวายใจกระมัง...ฉันคงจะรัก...

“นั่นอะไรหรือขอรับ?”นภทีป์ชี้ไปตามริมน้ำที่มีลูกอะไรสักอย่างลอยตามน้ำมาเป็นสาย

“มะกอกน้ำ อยากชิมไหม?”

“ไม่เอาล่ะขอรับเดี๋ยวท้องเสียจะยุ่ง เออ จริงสิขอรับคุณหลวง แล้วขนกันไปเยอะขนาดนี้ที่วัดจะไม่แตกตื่นหรือขอรับ?”

“แตกตื่นอันใด”

“ก็ขึนศาลาทีอย่างกับจะไปท้าตีกับใครที่ไหน ขนคนไปเสียเยอะแยะ”

“ไม่หรอก หากไปถึงวัดพ่อทีป์คงเข้าใจ คหบดีมีเงินยามไปไหนก็เป็นเช่นนี้แล...หอบเอาบริวารไปด้วย เขาจักได้รู้ว่าเรามีเงิน”



“อย่างนั้นหรือขอรับ ค่านิยมแปลกดี”

“พ่อทีป์ ชอบลูกของพี่หรือไม่จ้ะ?”

“ชอบสิขอรับ เด็กๆน่ารักออก ผมอยากรู้จังว่าพวกเขาจะชื่ออะไรกันบ้าง”นภทีป์ทอดสายตามองไปท้ายเรือที่มีคุณหญิงแล้วก็แม่นมของพวกเด็กๆนั่งอยู่พร้อมๆกับเด็กน้อยสามคนที่นอนหลับปุ๋ย

“พี่ดีใจนะ”คุณหลวงพูดขึ้นเบาๆแล้วทอดสายตามองเสี้ยวหน้าของอีกคน...ขนตาพ่อทีป์ทำไมถึงได้ยาวนักนะ

“อะไรนะขอรับ?”นภทีป์หันมาถาม คุณหลวงเสหลบตาแล้วส่ายหน้าบอกว่าไม่มีอะไรพร้อมหยิบหนังสือเล่มบางออกมาอ่านเสียจะได้ไม่ถูกซักไซ้เอาความจากคนที่ตัวเองเพิ่งแอบมองมาหมาดๆ


“อ้าว ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะคะคุณหญิงแขไข”พอขึ้นศาลาปุ๊บ คุณแม่ก็ถูกเพื่อนๆคุณหญิงด้วยกันทักเสียงอ่อนเสียงหวาน

“จ้ะ นานทีเดียวแล้วนี่แม่มะลิเป็นอย่างไรบ้างหรือคะคุณพี่”

“สบายดีจ้ะ อยู่ในกรมกับสมเด็จฯท่าน วันนี้ก็ไม่ได้ออกมาเห็นว่าต้องเร่งงานร้อยมาลัยให้สมเด็จฯ แล้วนี่คุณหญิงมากับใครหรือจ้ะ?”

“มากับพ่อนพแล้วก็ลูกเขาแลจ้ะ อ้อ แล้วนี่ พ่อทีป์จ้ะ ฉันรับเป็นลูกบุญธรรมน่ะจ้ะ พ่อทีป์มาไหว้คุณป้าซีลูก นี่คุณหญิงนวลจ้ะ”

“ขอรับ”นภทีป์หันมาไหว้คุณหญิงนวลที่ยิ้มมองอยู่

“แล้วเป็นยังไงมายังไงเล่าจ้ะคุณหญิง ถึงได้ลูกบุญธรรมคนนี้มา”

“จะกระไรเล่าจ้ะ เขาจมน้ำแล้วจำอะไรไม่ได้เลย ฉันเห็นหน้าตาสะอาดสะอ้านหน้าเอ็นดูถึงได้รับเป็นลูก นี่ก็ช่วยงานพี่ชายเขาอยู่ พูดได้หลายภาษาเชียวจ้ะ”

“พ่อทีป์จ้ะ มากับพี่ทีซี”

“ไปกับพี่เขาเถิดจ้ะ อีกสักเดี๋ยวค่อยขึ้นมาก็ได้ลูก”


“อึดอัดหรือไม่จ้ะพ่อทีป์”

“ไม่เป็นไรขอรับ แต่จะว่าไม่อึดอัดเลยก็คงไม่ใช่ คุณหลวงขอรับ คุณหญิงคุณนายเวลาเจอกันเขาต้องพูดเรื่องแบบนี้ตลอดเลยหรือขอรับ”

“ไม่ดอกจ้ะ พี่พาไปเล่นกับลูกดีหรือไม่จ้ะ”

“เอาซีขอรับ”คุณหลวงแตะข้อศอกนภทีป์เบาๆแล้วพาเดินไปด้วยกัน เด็กๆสามคนกับแม่นมนั่งอยู่ที่ศาลาด้านล่างห่างจากศาลาการเปรียญเล็กน้อยพอให้ถ้ามีเสียงเด็กๆเอะอะอะไรจะไม่ดังไปถึงบนศาลาการเปรียญ

“ยังหลับกันอยู่เลยขอรับคุณหลวง”นภทีป์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆแม่นมคนหนึ่งที่กอดเด็กน้อยไว้แนบอกแกว่งแขนไปมาเบาๆ พอให้เด็กน้อยหลับสบาย

“ฉันขออุ้มลูกได้ไหมจ้ะ”นภทีป์ถามเอากับแม่นมที่มองดูยังสาว คงเพิ่งมีลูกคนแรก

“ได้ซีเจ้าคะ คุณทีป์ยื่นแขนมาเถิดเจ้าค่ะ”นภทีป์ยื่นแขนออกตามที่แม่นมว่า นางวางเด็กลงบนแขนนภทีป์อย่างระมัดระวัง นภทีป์ถึงค่อยหดแขนกลับเอาเด็กตัวเล็กๆนั่นมาไว้แนบอก

“น่ารักจังเลยนะขอรับ”คุณหลวงชะโงกหน้ามามองลูกตัวเอง ทำเอาคนที่โดนลมหายใจปัดผ่านไปมาหน้าเริ่มขึ้นสีหน่อยๆ

“ขอฉันอุ้มอีกคนบ้างซี”คุณหลวงหันไปเรียกร้องเอากับแม่นมเพื่อจะอุ้มลูกตัวเองบ้าง สุดท้ายเลยกลายเป็นกระเตงเด็กสองคนไว้กับตัว คนนึงก็อุ้มอยู่แนบอก อีกคนก็อุ้มพาดไหล่ ทำเอาคนมองอย่านภทีป์แทบกลั้นขำไม่อยู่กับคนที่กลัวลูกชายของตัวเองน้อยใจถึงได้เอามาพาดบนตัวเสียหมด...

“หนักหรือไม่ขอรับ?”

“ไม่หนักดอกจ้ะพ่อทีป์หนักแล้วหรือจ้ะ?”

“ยังหรอกขอรับ คุณหลวงขอรับนี่เริ่มสว่างแล้วพระจะสวดแล้วหรือไม่ขอรับ”

“นั่นซีนะ พี่ก็ลืมไปเสียสนิท เอ้า มาเอาลูกๆฉันไปที มาเถิดพ่อทีป์กระเดี๋ยวคุณแม่ท่านจักไม่สบายใจที่หายกันไปเสียนานสองนาน”

“ขอรับ”

หลังจากพระสวดเสร็จสิ้นทุกอย่างเราก็ตามหลวงพ่อไปที่กุฏิ คุณหญิงแม่ให้บ่าวไปตามแม่นมกับเด็กๆมาด้วยกันจะได้ให้หลวงพ่อท่านตรวจดวงชะตาให้ แหมไม่รู้ตอนผมเกิดคุณแม่จะทำแบบนี้บ้างรึเปล่า แต่คิดถึงบ้านจังเลยแหะ ป่านนี้ไม่รู้ไอ่ตฤณเสร็จไอ่ธามไปรึยัง...

“คุณหลวงขอรับ ชื่อคุณหลวงก็ให้พระตั้งให้หรือขอรับ?”

“เปล่าดอกจ้ะ เจ้าคุณพ่อท่านตั้งให้ ท่านว่าคุณแม่ชอบพลอยนพเก้ามาก เลยตั้งชื่อพี่ว่านพรัตน์จ้ะ”นพรัตน์ แต่ในชื่อนั่นมันนพเทพไม่ใช่เรอะ โอย คนโบราณนี่พางงจริงแหะ

“แต่คุณหลวงอวยศักดินานพเทพอัครานี่ขอรับ ไม่เห็นเป็นพรัตนอัคราล่ะ?”

“พ่อพี่ชื่อเทพ เขาอวยตามกัน”

“อ๋อ...แบบนี้นี่เอง คุณหลวงขอรับ แล้วทำไมคุณหลวงถึงไม่ตั้งชื่อลูกเองล่ะขอรับ? หรือให้คุณหญิงตั้งก็ได้”ผมเริ่มสงสัยตงิดๆแล้วว่าทำไมต้องเป็นพระเท่านั้นด้วยนะ?

“เพราะเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่อย่างไรเล่าจ้ะ หากเป็นลูกแท้ๆของพี่ พี่จักตั้งเยี่ยงไรย่อมเป็นมงคลแก่ลูกทั้งนั้น หากเขาไม่ใช่พี่จักตั้งส่งเดชได้อย่างไรเล่า”

“เอ... แต่คุณหลวงให้เขาเรียกว่าพ่อไม่ใช่หรือ? แบบนี้ไม่นับเป็นพ่อหรือขอรับ?”

“ช่างสงสัยเสียจริงนะเจ้า ก็นับเป็นพ่อแต่หาใช่พ่อแท้ๆไม่ เข้าใจหรือไม่จ้ะ”

“ขอรับๆ ที่นี้นี่เข้าใจยากจริงๆ”นภทีป์บ่นพึมพำ เดินกันสักครู่ถึงมาถึงกุฏิหลังน้อยที่อยู่ถัดมาทางด้านหลังวัด คุณหลวงเดินนำขึ้นไปพร้อมคุณหญิง ส่วนนภทีป์กับแม่นมนั้นก็หอบลูกตามขึ้นไป

“เอ้า มากันแล้วหรือคุณหลวง คุณหญิง มานั่งเถิด คุณหลวงรู้เวลาตกฟากของเด็กพวกนี้อยู่ฤาไม่?”

“ไม่ทราบได้ขอรับหลวงพ่อ กระผมไปรับมาตอนเจ้าหนูพวกนี้ได้สักครึ่งขวบแล้วขอรับ”

“กระนั้นหรือ...มิเป็นไรดอก อาตมาจับยามสามตาดูก็ย่อมได้ เอ้า เอามาดูทีฤา”


“คุณหลวง วันที่พาเจ้าพวกนี้มาด้วย คุณหลวงพาใครมาอีกหรือ?”

“พ่อทีป์ขอรับหลวงพ่อ กระผมเจอพ่อทีป์จมน้ำอยู่ตรงท่าน้ำวัดที่ไปรับเจ้าเด็กพวกนี้มาแลขอรับ ไม่ทราบได้ว่ามาจากที่ใด”

“หากจักคิดการณ์ใดขอให้คุณหลวงสบายใจเถิด หากเป็นคนผู้นี้แล้วไซร้อย่างไรก็ล้วนดียิ่ง เอ้า ไหนมาดูที เจ้าเด็กสามคนนี้เป็นลูกอีหรอบมันหรือ?”

“ขอรับหลวงพ่อ”

“ชื่อกระไรดีเล่า ขอข้าดูที”หลวงพ่อนั่งหลับตาลงสักพัก ถึงได้เงยหน้ามาแจ้งแก่คุณหลวงว่าให้เด็กน้อยชื่อ ระวิ  รวี และรพี

“พ่อพิ พ่อพี แล้วก็พ่อวี หลานย่า มีชื่อแล้วเป็นคนเต็มตัวแล้วหนาลูก หลวงพ่อเจ้าคะ ช่วยผูกข้อมือรับขวัญหลานให้อิฉันได้ฤาไม่เจ้าคะ”

“มาเถิด คุณหลวงกับพ่อทีป์นั่นด้วยซีเล่า คุณหญิงเองก็อย่าลืมผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญหลานของคุณหญิงเองเสียเล่า”

“ขอรับ พ่อทีป์ มานี่เถิดให้หลวงพ่อท่านผูกข้อต่อแขนให้”นภทีป์ขยับไปนั่งข้างๆคุณหลวง สายตามองไปทางพระเกจิฯชื่อดังของยุคนี้อย่างพินิจพิเคราะห์ พระท่านจะรู้ไหมวะว่าเราไม่ใช่คนยุคนี้...


“โยมชื่อนภทีป์ใช่ฤาไม่?”

“ขอรับ”

“หากมีอันใดเกิดขึ้นไซร้ ขอให้โยมอย่าได้สงสัยไป่ความให้มากนัก แลหากมีอันใดที่โยมจักปลงใจได้ในที่นี้ก็ขอให้โยมปลงใจเถิด โยมจักไม่ได้กลับไปที่ที่โยมจากมาอีกแล้วหนา...”

“อะไรนะขอรับ?”นภทีป์เบิกตากว้าง...หมายความว่ายังไง??

จะไม่ได้กลับไปที่ๆจากมาแล้ว...

หมายความว่าเขาต้องอยู่ในยุคนี้ตลอดไป ไม่ได้เจอหน้าธาม หน้าตฤณ คุณพ่อคุณแม่ หรือใครๆที่นั่นอีกแล้วใช่มั้ย?

“โยมอย่าได้คิดให้มากความเลย หากโยมปลงใจได้แล้วไซร้ โยมก็จักรู้แจ้งเองว่านี่คือฤทธาแห่งบุพเพสันนิวาส”

“หมายความว่า...ผมไม่มีทางได้กลับไปอีกแล้วใช่มั้ยครับ?”

“ถูกแล้วโยม โยมอย่าได้กังวลใจให้หนักไปเลยหนา ใช่ชีวิตให้ดีเถิด”

นภทีป์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง

เขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้าพ่อแม่ หน้าธาม หรือหน้าไอ่ตฤณอีกแล้ว...

ไม่มีทางได้เห็นกรุงเทพฯในอีกร้อยปีข้างหน้าอีกแล้ว...

“พ่อทีป์...”คุณหลวงร้องเรียกอีกคนเบาๆเมื่อร่างโปร่งมีเงียบซึมไป สุดท้ายเลยได้แต่พากันกราบลาลงจากกุฏิแล้วกลับเรือน เพราะใกล้เวลาเพลเต็มที


“พ่อนพไปดูพ่อทีป์เถิดลูก กระเดี๋ยวแม่จักดูแลพ่อสามคนนี้เอง”เมื่อมาถึงเรือนคุณหญิงแขไขจึงกล่าวกับลูกชายพร้อมพยักพเยิดไปทางชายหนุ่มอีกคนที่มาด้วยกันแต่กลับปิดปากเงียบกริบ ใบหน้าหมองเศร้าลงจนจิตใจท่านอ่อนยวบด้วยความสงสาร เพราะตั้งแต่มีพ่อทีป์มาอยู่ที่บ้านท่านก็หายเหงาไปได้เยอะ

“ขอรับ”คุณหลวงรับคำพลางเดินไปหาคนที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาทีหลังสุด ใบหน้าขาวๆนั่นยังคงเศร้าหมอง แต่ไม่มีรอยน้ำตาออกมาเลยสักหยดหากแต่ยิ่งทำให้คนมองสงสารเข้าไปใหญ่

“พ่อทีป์”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำพลางเงยหน้ามองคุณหลวงอย่างฉงนใจ จู่ๆก็มาเรียก...ไม่รู้ว่ามีอะไร

“มานี่เถิดพี่มีอันใดจักให้เจ้าดู”คุณหลวงฉุดแขนคนที่ยืนทำหน้างงอยู่ไปทางห้องหนังสือของตน ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาล่อให้คนตรงหน้าหายเศร้าเสียเลยด้วยซ้ำ

“อะไรหรือขอรับ?”
“บันทึกการเดินทางของพี่ดีหรือไม่ พ่อทีป์อยากจะอ่านหรือเปล่าเล่า พี่เขียนเมื่อครั้งไปเรียนที่อังกฤษ”นภทีป์ตาวาวขึ้นอย่างนึกชอบใจ

ก็แหม...

เรื่องราวความเป็นอยู่ที่อังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 5 มันน่าสนใจน้อยเมื่อไรกันล่ะ

“เอาซีขอรับ”เมื่อเห็นประกายตาซุกซนอยากรู้อยากเห็นกลับมาบ้างคุณหลวงก็พลอยเบาใจ พลาวส่งรอยยิ้มที่ทำให้อีกคนพลอยอุ่นใจขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

คุณหลวงนี่... ยิ้มสวยจังเลยแหะ


======
มาแล้วจ้า หลังจากหายไปหลายเดือน TT
คนเขียนไม่ได้เลิกแต่งเน้อ แต่เพราะเป็นคนแต่งช้าอยู่แล้วแล้วดันไม่มีเวลาอีก
ขอโทษจริงๆนะคะ T[]T ตอนต่อไปจะพยายามมาตามสัญญา 2 อาทิตย์เหมือนเมื่อครั้งกระโน้นนะคะ

หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 05-10-2014 22:21:30
เข้ามาติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-10-2014 23:08:23
คุณหลวงก็ช่างรู้จักหาอะไรมาคลายเศร้าพ่อทีปภ์จังนะ
คนเขียนหายไปนานเลยนะ ดีใจที่ยังมาเขียนต่อจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้นะ (คนอ่านรออยู่นะจ๊ะ)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 05-10-2014 23:44:57
สงสารทีป์จัง ทำใจให้ได้ไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 06-10-2014 01:36:57
สงสารพ่อทีป์จัง จะไม่ได้กลับไปแล้ว เฮ้อ~
มันคงเป็นบุพเพจริงๆนั่นแหละนะ แต่ว่าก็ดีนะที่ไม่ได้กลับ
ไม่รู้ว่าท้ากล้บได้จะเศร้าขนาดไหน อยู่กันคนละภพเลยนะ
มาต่อไวๆน้า คิดถึงเรื่องนี้มากๆเลย จะรอนะ >-<
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-10-2014 00:49:12
แปะก่อง อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-10-2014 19:15:59
ก็สงสาทีป์รที่ไม่ได้กลับอยู่นะ
แต่ ดีแล้วหล่ะ กลัวคนบางคนช้ำใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 08-10-2014 21:01:38
 :katai2-1: เย้ๆๆ  มาแว้ว นึกว่าจิไม่ได้อ่านแล้วอะ ดีใจจัง  :mew1: 
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 09-10-2014 21:51:49
แงงง ดีใจที่มีคนอ่านอยู่ T^T ทีแรกนึกว่าจะเข้ามาเจอความเงียบงันซะแล้ว
ขอโทษจริงๆนะคะที่หายไปนาน :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๐ ลงแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-10-2014 16:09:11
:-) สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ มาแล้วจ้าา
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 05-11-2014 07:09:45
พยับที่ ๑๑
[/color]



‘วันนี้อากาศดี แดดแรงที่สุดในรอบเดือนที่เคยอยู่ที่นี่มา ผู้คนที่นี่ไม่ใคร่ออกจากบ้านช่องมันจับจ่ายใช้สอยมากนักในช่วงนี้ด้วยอากาศหนาวเย็น...’

นภทีป์นั่งเอนหลังพิงเสาเรือนอยู่ตรงศาลาเล็กหน้าเรือน สายตาจับจ้องไปที่ไดอารี่ชีวิตที่เกรทบริเตนหรืออังกฤษที่คุณหลวงเอามาให้อ่านเพราะทนเห็นตนเศร้าไม่ไหว ใบหน้าขาวๆระบายยิ้มน้อยๆ จะด้วยอิ่มเอมใจที่อีกคนใส่ใจตนขนาดนี้หรือเพราะในไดอารี่นั้นมีเรื่องราวสนุกๆอยู่ก็ตามแต่ แต่ก็ทำให้คุณหลวงที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาสบายใจขึ้นอีกอักโข


พ่อทีป์ยิ้มบ้างแล้ว


“กลับมาแล้วหรือขอรับ?”เสียงร้องถามจากคนที่โดนจับจ้องจนรู้ตัวเรียกรอยยิ้มกว้างขวางใจใบหน้าคมของคุณหลวงหนุ่ม ช่างน่าชื่นอกชื่อใจเสียนี้กระไร...

“กลับมาแล้วน่ะซี ทำกระไรอยู่ฤาพ่อทีป์”

“อ่านไดอารี่ของคุณหลวงนั้นแหละขอรับ วันนี้กลับไวไม่มีราชการอันใดหรือขอรับ?”

“มี แต่ยกกลับมาทำเสียที่บ้าน งานแปลหนังสือ ทำที่นู้นหามีคนช่วยไม่สู้กลับมาทำที่บ้านมิได้ดอก”ดวงตาคู่คมพราวระยับทำเอานภทีป์ได้แต่ส่ายหัวปลดปลง เอางานมาให้เขาทำแต่หัววัน ชิ!! กำลังอ่านไดอารี่เพลินอยู่เชียว

“ภาษาอะไรขอรับ?”

“ฝรั่งเศส มาดูทีฤาพ่อทีป์ อยากจักนั่งทำเสียตรงนี้หรือไปทำที่หอนั่ง?”คุณหลวงยังยืนคอยท่าถาม นภทีป์พยักพเยิดไปทางหอนั่งด้วยอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงตรงนี้ก็จะจนต้องย้ายไปนั่งที่หอนั่งอยู่ดี สู้ย้ายไปตอนนี้น่าจะดีกว่า

“ไปหอนั่งเถอะขอรับ”

“ไปเถอะ เออ จริงซี พ่อทีป์อยากจักไปเที่ยวชมบ้านชมเมืองบ้างฤาไม่?”

“จะพาไปหรือขอรับ?”นภทีป์เริ่มตาลุกวาวด้วยอยากไปเที่ยวเป็นทุนเดิม ยังไงๆก็จะกลับไม่ได้อยู่แล้วสู้เที่ยวดูบ้านเมืองสมัยนี้ให้ฉ่ำปอดดีกว่า

“ถ้าอยากไปก็จักหาเวลาพาไป ดีหรือไม่ล่ะ?”

“ดีซีขอรับ ไปเที่ยวใครเขาไม่ชอบบ้าง ผมอยากไปตลาด”

“เอาซี ไว้จักพาไป”

นภทีป์ยิ้มกว้าง ดวงตาพราวระยับ ก็เรื่องเที่ยวเนี้ยใครเขาไม่ชอบกันบ้างล่ะ!



“พ่อทีป์วันนี้ว่างหรือไม่ลูก?”ยามสายของวันหนึ่งคุณหญิงแขไขเดินเข้ามาถามนภทีป์ที่นั่งทอดอารมณ์อยู่ที่หอนั่ง ดวงตากลมๆดูง่วงงุนอยู่ไม่น้อย

แลดูก็รู้แล้วว่าว่างแต่คุณหญิงคงถามไปอย่างนั้นเองเผื่อว่าคนตรงหน้าจะไม่อยากขยับตัวไปไหนแล้วบอกว่าไม่ว่างขึ้นมา

“ว่างซีขอรับคุณแม่ วันนี้มีกระไรให้ทำหรือขอรับ?”นภทีป์หันมายิ้มกว้าง นึกถึงอาหารที่จะได้หัดทำ ไม่รู้วันนี้คุณหญิงมีอะไรมาให้ทำอีก

“วันนี้มิใช่ของกินดอกจ้ะ แม่จักให้ช่วยจีบหมากจีบพลูเสียหน่อย พ่อทีป์ทำเป็นหรือไม่ลูก?”

“ไม่เคยทำเลยขอรับ”คนตัวขาวส่ายหน้าดิกๆทำเอาคุณหญิงได้แต่ยิ้มเอ็นดูปนระอา ก็พูดจากับผู้หลักผู้ใหญ่ใครเขาส่ายหน้ากันเล่า!?

“มาเถิด แม่จักสอนให้ กระเดี๋ยวต่อไปจักได้จีบให้พ่อนพได้”

“แล้วเมียคุณหลวงจีบให้ไม่ได้หรือขอรับ?”

“ก็จีบได้ซีลูก แต่ตอนนี้พ่อนพยังไม่มีเมียก็ต้องให้น้องช่วยจีบให้ก่อนซีเล่า”

“อ๋อ ขอรับ”



“คุณแม่ ทำกระไรกันหรือขอรับ?”พอบ่ายแก่ๆคุณหลวงก็กลับมาที่เรือน สายตาคมกริบทอดมองไปยังคนตัวขาวๆที่นั่งง่วนกับใบพลูเขียวๆในมือเรียวยาว

“สอนพ่อทีป์เจียนหมากจีบพลูให้พ่อนพอย่างไรเล่า”คุณหลวงได้ฟังแล้วพลันขึ้นริ้วสีแดงๆที่ใบหน้า หึหึ พ่อทีป์จะรู้กระไรหรือไม่นะ ว่าการจีบพลูเจียนหมากยื่นให้ชายใดนั้นหมายความถึงกระไร...

“อย่างนั้นหรือขอรับ? คุณแม่มั่นใจแล้วหรือขอรับ?”

“เขาว่าเชื่ออาจารย์จักได้ดีกระไรเล่าพ่อนพ กลับมาเหนื่อยๆ ไปผลัดผ้าก่อนดีหรือไม่ลูก กระเดี๋ยวแม่ให้พ่อทีป์ไปชงชามาให้เสียด้วย”

“ขอรับ”คุณหลวงอมยิ้มกริ่มเข้าห้องไป ทำเอาคนที่จีบพลูเจียนหมากอยู่เบะปากใส่ตามหลังแทบไม่ทัน นภทีป์แทบอย่างจะเควี้ยงหมากใส่เสียเดียวนั้นคนอะไรทำหน้ากรุ่มกริ่มอยู่ได้

“เป็นกระไรพ่อทีป์? หน้าหงิกเชียวลูก”

“เอ่อ...หามีอันใดขอรับคุณแม่ เออจริงซีขอรับ เจียนหมากจีบพลูเสียอย่างนี้แล้วคนกินเขาไม่กินยากหรือขอรับ ยาวออกอย่างนี้??”นภทีป์ถามพลางพิจารณาพลูที่คุณหญิงบรรจงจีบออกมา ตัดหางไปต่อเสียอีกยิ่งยาวไปกันใหญ่ ไม่รู้จะทำให้มันยาวไปทำไมสุดท้ายก็ต้องยัดใส่ปากเคี้ยวเสียคำเดียวอยู่ดี

“ลำบากอันใดเล่าลูก สิ่งใดที่ล้วนเจริญตาเจริญใจนั้นคนเราก็ต้องเข้าหาทั้งนั้นแลลูก แลที่จีบหมากเสียยาวเยี่ยงนี้จักได้เป็นการอวดใครๆเขาได้อีกว่าเราเป็นผู้รากมากดี รู้หรือไม่ลูก หากเป็นชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปมีหรือจักจีบพลูเยี่ยงชาววังเยี่ยงนี้”

“ซับซ้อนจังเลยนะขอรับ จริงซีขอรับคุณแม่ แลที่คุณหลวงกับคุณแม่พูดกันเรื่องเจียนหมากจีบพลูเยี่ยงนี้คือเรื่องกระไรหรือขอรับ ฟังดู...เอ่อ เจ้าเล่ห์อย่างไรชอบกล”


“ไว้พ่อทีป์ไปถามเอาจากพ่อนพเถิด เอ้า รีบจีบเข้ากระเดี๋ยวพี่เขาอาบน้ำอาบท่าออกมาจักได้ทันเคี้ยวพอดี แลไปชงชามาเสียด้วยหนาพ่อทีป์ เวลาผัวกลับบ้านมาเหนื่อยๆต้องหัดเอาใจรู้หรือไม่ ตอนเจ้าคุณพ่อของพ่อนพยังอยู่แม่ทั้งชงชาจีบพลูเจียนหมากแลทำกับข้าวกับปลาเสียให้พร้อมพรัก”นภทีป์ขมวดคิ้วฉับ!! เดี๋ยวนะ? ไอ่ที่บอกว่าต้องเอาใจผัวนี่คืออะไรยังไง เขากับคุณหลวงไม่ใช่ผัวเมียกันซักหน่อย! อีกอย่างนภทีป์รูปหล่อคนนี้เป็นผู้ชายล้านเปอร์เซ็นนะเออ

“กระไรนะขอรับคุณแม่ แต่กระผมกับคุณหลวงหาใช่...เอ่อ”

“แม่รู้ดอกจ้ะ แม่แค่เปรียบเปรยเท่านั้นเอง ก็พ่อนพยังไม่มีเมีย แม่ก็แก่แล้ว ให้น้องทำให้แทนก็จักเป็นกระไรไปเล่า พ่อทีป์ไม่เต็มใจหรือจ้ะ?”

“เปล่าดอกขอรับ”นภทีป์ส่ายหน้าไปมาจนคนมากอายุกว่ามองค้อนตาคว่ำด้วยพร่ำสอนเหลือเกินว่าอย่าสั่นหน้าด๊อกแด๊กกับผู้หลักผู้ใหญ่แต่เหมือนคนอายุน้อยกว่าจะไม่ค่อยได้ใส่ใจจำสักเท่าไร

“พ่อทีป์นี่หนา สอนกระไรก็ดีเสียหมด เว้นไว้เสียแต่เรื่องมารยาทนี่เอง สอนเท่าไหร่ๆเหตุใดไม่จำบ้างหือ?”

“ขอโทษขอรับ”นภทีป์ทำหน้าสลดจนคุณหญิงอดสงสารไม่ได้ เพราะอย่างนี้นี่เองทั้งนางทั้งคุณหลวงถึงได้เอ็นดูเด็กหนุ่มผู้นี้นัก

“เอาเถิดๆ เอ้า ทีนี้พ่อทีป์ก็ไปชงชาให้พ่อนพเสีย หมากพลูเท่านี้คงพอเคี้ยวได้เป็นวันๆ แลพ่อนพเองก็มิได้ใคร่จักสูบบุหรี่สักเท่าใดดอก”
“ขอรับ”นภทีป์รับคำแล้วลุกขึ้นไปครัวที่อยู่ด้านหลังเรือน เนื่องจากเป็นครัวนายจึงตั้งอยู่บนเรือน ยามคุณหญิงจะลงครัวสักทีถึงได้ไม่ยุ่งยากอันใดมากนัก



        เพราะคุณหลวงเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่นี้ถึงได้มีชาเยอะแยะละลานตาไปหมดเพราะคนที่บ้านนี้กินประจำมาเสียตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของคุณหลวง เดิมก็คงมีแต่ชาจีนแต่พอคุณหลวงกลับจากอังกฤษมันถึงได้มีชาทางฝั่งยุโรปโผล่ขึ้นมาอยู่ในบรรดาชาพวกนี้ด้วย นภทีป์ยืนพิจารณาชาอยู่นานว่าจะชงอะไรให้ตาคนหน้าเจ้าเล่ห์นั่นกินดี สุดท้ายเลยลงเอยที่อู่หลงที่คุณหญิงเอามาผสมกับดอกมะลิตากแห้งกลายเป็นชาอู่หลงมะลิ กลิ่นคงจะหอมฟุ้งน่าดู นภทีป์ใช้เวลาชงชาอยู่สักครู่ใหญ่ๆ สุดท้ายมือขาวๆนั่นถึงได้หยิบกาชากับถ้วยกังไสใบน้อยเคียงกันไปให้คุณหลวงหนุ่ม พร้อมถามหาขนมกวนที่มีอยู่ติดครัวจากบ่าวแถวนั้น 

“คุณหลวงขอรับ ผมเอาชามาให้”เดินไปถึงหอนั่งก็เห็นคนตัวโตกว่าพับเพียบแต้อยู่ข้างคุณหญิง ถึงได้ยื่นถาดใส่กาชากับถ้วยกังไสไปวางแปะไว้ตรงหน้า คนตัวโตกว่าถึงได้หันมายิ้มกว้างขวางให้ จนนภทีป์เกิดทำตัวไม่ถูกขึ้นมา สุดท้ายเลยไปนั่งแปะข้างๆคุณหญิงอีกคน พลางจีบพลูที่ทำค้างอยู่ไปด้วย

“หื้อ ใกล้สวยแล้วแลลูกพ่อทีป์ หัดเข้าอีกท่าจะสวยมากเทียวลูก”คุณหญิงหันมาแลพลูที่นภทีป์เพิ่งจีบเสร็จหมาดๆแล้วกล่าวติชมเล็กน้อยก่อนจะจิบชากินขนมกวนต่อพลางเหลือบแลมาเรื่อยๆดูความก้าวหน้าของลูกศิษย์

“จักจีบให้พี่สักหน่อยได้หรือไม่จ้ะพ่อทีป์”นภทีป์เหลือบตาขึ้นมองคุณหลวงงงๆ แต่ปฏิกิริยานั่นทำเอาคนตัวโตกว่าใจเต้นแรงขึ้นมา ก็ช้อนตาขึ้นมองแบบนั้น...

ใช้ได้ที่ไหนกันพ่อทีป์นี่กระไรนะ ช่างไม่เข้าใจบ้างเลยว่าพี่รู้สึกอย่างไร!!

“ก็วางอยู่นี่กระไรเล่าขอรับ”นภทีป์บุ้ยปากไปยังพลูที่จีบไว้เรียบร้อยบนถาดสีเงินตรงหน้า ถึงมันจะเบี้ยวๆบูดๆไปหน่อยก็เถอะ

“ไฮ้ ได้กระไรเล่าลูก พ่อทีป์ต้องจีบให้พ่อนพเสียใหม่หนา จักให้มากินของลองทำอย่างนี้ได้กระไร เอ้า ไหนลองจีบดูอีกสักทีลูก จักได้ให้พี่เขาเคี้ยวแก้เปรี้ยวปากเสียหน่อย”นภทีป์เบ้ปากใส่คุณหลวงหน่อยๆ เชอะ ฟันก็ไม่ได้ดำ ปกติก็ไม่ได้เคี้ยวหมากสักหน่อย วันนี้เปรี้ยวปากอะไรขึ้นมาถึงต้องมาเดือดร้อนเขาจีบพลูให้อีก

นภทีป์ได้แต่ก้มหน้าก้มตาตั้งอกตั้งใจจีบพลูเจียนหมากใหม่ใส่จานที่ไม่รู้ว่าคุณหญิงสั่งให้บ่าวไปเอามาตอนไหน พลางดันจานน้อยนั้นไปตรงหน้าคุณหลวง

“คงจะสวยได้แค่นี้แลขอรับ”

“สวยแล้ว”คุณหลวงกล่าวตอบรับสั้นๆ นิ้วยาวหยิบหมากกับพลูเข้าปากเคี้ยวหยับ ปากที่เคยเป็นสีแดงอยู่แล้วยิ่งเป็นสีแดงสดไปอีกเพราะปูนที่ป้ายไปบนใบพลู ริมฝีปากที่ขยับเคี้ยวหมากไปมาทำเอาลมหายใจของนภทีป์สะดุดโดยไม่รู้ตัว


“อ่านกระไรอยู่หรือพ่อทีป์”คุณหลวงเดินมาชะโงกมองผ่านใหญ่คนตัวเล็กกว่าไปยังหนังสือเล่มหนาที่อยู่ในมือนภทีป์

“หนังสือการทูตของคุณหลวงนั้นแลขอรับ เล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ คุณหลวงมีหนังสือเยอะมากเลยนะขอรับ”

“ฉันชอบอ่านน่ะ ของคุณพ่อที่มีอยู่เดิม รวมกับของฉันมันถึงได้เยอะออกอย่างนี้ พ่อทีป์ชอบอ่านหนังสือมากเลยหรือ”

“ก็ไม่ได้ชอบกระไรมากมายหรอกขอรับ แต่อยู่ที่นี่มันว่างเสียจนไม่มีอะไรทำนอกจากการเรือน แปลหนังสือ แล้วก็อ่านหนังสือนี่แลขอรับ อยู่ว่างๆไม่รู้จักทำกระไรก็เลยอ่านหนังสือเสียดีกว่า”

“เหงาหรือ พ่อทีป์อยากกลับบ้านหรือไม่จ้ะ?”

“อยากซีขอรับ”

“อยู่ที่นี้ไม่ดีหรือ อยู่ไปตลอดเลยมิได้หรือจ้ะ?”คุณหลวงถามแผ่วเบา นภทีป์กัดริมฝีปากแน่น ใจหนึ่งเขาก็อยากจะตอบคุณหลวงเหลือเกินว่าอยากอยู่ที่นี้ไปตลอด แต่ถ้าวันนึง เขาหาวิธีกลับบ้านได้ละ วันนั้นเขาจะบอกคนคนนี้ว่าอย่างไรได้

“ไม่รู้ซีขอรับ...”

“เอาเถิด นี่ก็ดึกมากแล้วพ่อทีป์ไปนอนเถิดหนา”

“ขอรับ”นภทีป์ตอบรับอย่างว่าง่ายแล้วพับหนังสือเก็บเข้าชั้นเรียบร้อย ก่อนจะหันไปยิ้มให้คุณหลวงที่ยืนรออยู่

“คุณหลวงขอรับ ผมให้สัญญาไม่ได้หรอกว่าจะอยู่ไปตลอด เพราะผมมีบ้าน มีครอบครัวอยู่ที่นู้น ผมหมายถึงพ่อแม่พี่น้องน่ะขอรับ แต่ตราบใดที่ผมยังกลับไม่ได้ ผมก็จะอยู่ที่เรือนนี้ ที่นี่ กับคุณหลวง ไม่หนีไปไหนเด็ดขาด”

“พ่อทีป์สัญญากับพี่แล้วหนา”เสียงทุ้มแผ่วเบา ริมฝีปากมีรอยยิ้มจางๆ ดวงตาคมเข้มพราวระยับ ทำเอาคนมองใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างประหลาด

“สัญญาขอรับ”เสียงขานรับแว่วๆ หากแต่เป็นเสียงที่ดังก้องเหลือเกินในหัวใจของคุณหลวง ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ซี ที่ยามเขาอยู่กับพ่อทีป์ก็เหมือนกับต้องมนตร์ไปเสียทุกครั้ง...

ไม่รู้ว่าฟ้าหรืออะไรที่ส่งพ่อทีป์ลงมาให้เขา ถ้าหากฟ้าขีดดวงชะตาของเขากับพ่อทีป์ไว้ด้วยกันแล้วไซร้...ขออย่าให้พ่อทีป์จากเขาไปไหนเลย


หากถึงวันที่รักปักจิตปักใจไปแล้วไซร้ เขาเองคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีพ่อทีป์


“ไปนอนเถิด พ่อทีป์อยากย้ายไปนอนเสียที่ห้องอื่นหรือไม่ นอนตั่งเยี่ยงนี้จักสบายหรือ?”นภทีป์ขมวดคิ้ว นอนมาครึ่งปีแล้วเพิ่งมาถาม ไม่สบายก็นอนจนชินแล้วโว้ย ชายหนุ่มได้แต่บริภาษอยู่ในใจ เพราะอย่างไรนอนที่ตั่งเล็กก็ไม่ได้ลำบากลำบนอะไรมากด้วยคุณหลวงให้คนเอามุ้งปากเล็กมากางให้พร้อมฟูกที่ปูรองเรียบร้อย ทุกวันนี้เลยเป็นทั้งที่นอนและที่นั่งอ่านหนังสือในบางที ถึงแม้วันดีคืนดีเขาจะแอบไปงีบหลับบนเตียงคุณหลวงที่กว้างกว่าเยอะก็เถอะ

“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ ถึงอย่างไรผมก็ชินเสียแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณหลวง”

“ราตรีสวัสดิ์หรือ แปลว่ากระไร?”

“good night ครับคุณหลวง ฝันดีนะครับ”

“หากฝันถึงพ่อทีป์ก็คงจักเป็นฝันดีกระมัง” เสียงคุณหลวงพึมพำเบาๆ น่าเสียดายที่นภทีป์ได้ยินไม่ชัด เขาได้ยินเพียงเสียงทุ้มที่พูดอะไรงึมงำๆเท่านั้นเอง

“พ่อทีป์จ้ะ วันนี้อยากทำจ่ามงกุฎกับแม่หรือไม่ลูก?”วันนี้นภทีป์ก็ว่างตามเคยเพราะไม่มีหนังสืออะไรให้แปล ตอนนี้เขาเลยนั่งๆนอนๆเอกเขนกอยู่นี่

“เอาซีขอรับคุณแม่”

“พ่อทีป์นี่ช่างตามใจแม่เสียทุกเรื่อง เยี่ยงนี้จักไม่ได้แม่รักแม่เอ็นดูได้อย่างไรกันจ้ะ”

“คุณแม่ก็พูดเกินไปขอรับ กระผมเพียงอยากลองทำเท่านั้นเอง”

“จ้า มาๆ มาเถิดแม่ให้บ่าวมันเตรียมของไว้แล้วจ้ะ”

“ขอรับ”


บ่ายนั้นทั้งบ่ายนภทีป์เลยง่วนอยู่กับการทำขนม กว่าจะเสร็จก็เย็นย่ำจนแดดร่มลมตกเสียแล้ว คุณหญิงจึงไล่ไปอาบน้ำ จนกลับมานั่งพับเพียบแต้ที่สำรับข้าว ถึงได้นึกได้ว่ายังไม่เห็นคุณหลวงนพเทพอัครากลับมาเรือน

“คุณหลวงยังไม่กลับหรือขอรับคุณแม่”

“ยังจ้ะ เกรงว่าวันนี้คงจักมีงานให้สะสางเยอะกระมังลูก อย่ากังวลไปเลยจ้ะ กินข้าวกินปลาแล้วไปนอนเถิด พ่อนพน่ะเป็นอย่างนี้เสมอแลลูก

“กระนั้นหรือขอรับ”หากแต่นภทีป์ก็ยังคงกังวลใจว่าอีกคนจะเป็นอะไรไปหรือไม่อยู่ดี พอกินข้าวเสร็จถึงได้ปักหลักอยู่ที่หอนั่ง นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือรอคุณหลวงที่จนพระจันทร์ตรงหัวแล้วก็ยังไม่กลับมาเรือน สุดท้ายถึงได้ผล่อยหลับไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว


“ไอ่คงแกไปนอนเถิด ไม่ต้องตามขึ้นมารับใช้บนเรือนดอก กระเดี๋ยวลูกเมียจักร้อนใจ”คุณหลวงบอกแก่บ่าวที่ติดตามไปที่กรมแล้วเดินขึ้นเรือน พลันก็สะดุดตากับแสงตะเกียงที่ยังเรืองรองอยู่ที่หอนั่ง ทั้งที่ปกติเวลานี้ทุกคนจะเข้านอนแล้วแท้ๆ

“ใครกัน”เสียงทุ้มนุ่มพึมพำเบาๆแล้วเดินเข้าไปในหอนั่ง ถึงได้เจอร่างขาวๆนอนซบบนหมอนขวาน หนังสือเล่มหนาตกแปะอยู่ข้างๆตัวนั่นเอง


หัวใจคุณหลวงพลันอุ่นขึ้นอย่างประหลาด รู้สึกถึงอีกคนมากกว่าเคย เพราะมีคนรออยู่ที่บ้านอย่างนี้กระมัง ถึงทำให้จิตใจที่อ่อนล้าอุ่นซ่านและคลายเหนื่อยหน่ายอย่างประหลาด


พ่อทีป์ช่างน่ารักเหลือเกิน....



===================
เย่ๆ เอาพยับที่ 11 มาเสิร์ฟก่อนไปเรียนค่าาาา ><

ขอโทษด้วยน้าา ที่ไม่ได้ลงให้อ่านถี่ๆเพราะไม่มีเวลามาต่อจริงๆ T[]T

ยังไงคนอ่านก็อย่าเพิ่งทิ้งคนเขียนเน้ออออ

ปอลิง ถ้าไม่มียูสเซอร์แต่อยากคอมเม้นต์ ไปติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ว่า #คุณหลวงนพ ก็ได้น้าา

 
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ มาแล้วจ้าา
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 05-11-2014 08:27:51
ไม่เคยคิดจะทิ้งเลยรอติดตามมาตลอด อยากให้มาต่อบ่อยๆกว่านี้ด้วยซ้ำ. พ่อทีป์น่ารักมากอยากให้รักกับคุณหลวงเร็วๆใจจะขาด. ว่างเมื่อไหร่ก็มาต่อนะจ๊ะ. แต่ว่าคราวหน้าน่าจะใส่วันที่ด้วยนะจะได้รู้ว่ามีตอนใหม่มาลงแล้วนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 13-12-2014 15:27:08
คิดถึงคุณหลวงกับพ่อทีป์เนอะ :mew2:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-12-2014 22:12:40
น่ารักอ่ะ
พ่อทีป์ รู้ใจตัวเองเร็วๆนะ. พ่อนพเขาเริ่มใจเต้นแล้ว อิอิ
รอน้าาา
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 14-12-2014 12:58:42
:-)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 15-12-2014 11:02:21
ฮอลลลลลล ถ้าเป็นไปได้คนเขียนอาจจะลงให้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนน้าา
ช่วงนี้ผ่านมรสุมเคสสตัดดี้ เปเปอร์มา แล้วก็กำลังจะฝ่ามรสุมไฟนอล T[]T
เดี๋ยวช่วงปิดเทอมหน้าจะได้มาบ่อยขึ้นนะคะ

ปอลิง เรื่องนี้มันยาวนานมากเลย ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันนะคะ มีแต่เพื่อนถามว่าจะแต่งจบก่อนปีหกมั้ย  :katai1: (คิดว่าจบก่อนนะอีกตั้งสี่ปี :katai4:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-12-2014 12:54:12
รอได้จ้า
คิดถึงคุณหลวง อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่(rewrite) พยับที่ ๑๑ ลงแล้ว ๕/๑๑/๕๗
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 15-12-2014 23:35:03
เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ    ภาษาเขียนสวยมากเลยค่ะ

พ่อนพ  แม่ทีป์   อิอิอิ   ชอบอ่าาาาาาาา  น่ารักที่สูดดดดดดดดดดดด    :-[

(อ่านไป  นึกถึงเรื่องทวิภพเลย  คุณหลวงอัครเทพวรากร  กับ  แม่มณีจันทร์)

มันเคล้ากลิ่นหอมหวนของการย้อนเพลา  กับเรื่องราวความรักต่างภพที่มาบรรจบกัน

โดยไม่มีอะไรขวางกั้น    :give2:



รีบมาต่อนะขอรับ  มันช่างเป็นเรื่องราวที่สนุกผสานกับความรู้ด้านประวัติศาสตร์เสียนี่กระไร

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 17-12-2014 20:56:05
พยับที่ ๑๒


เช้าตรู่ นภทีป์ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะทนอากาศหนาวไม่ไหวจนต้องลุกมาหาผ้าห่มเพิ่มตั้งแต่เช้า แต่สุดท้ายก็กลับไปนอนไม่ได้เลยได้ฤกษ์มานั่งแหมะอยู่ที่หอนั่งตั้งแต่บ่าวยังไม่ทันตื่นกันเสียด้วยซ้ำ

   “พ่อทีป์ ไยวันนี้ตื่นเช้านัก นอนไม่หลับหรือจ้ะ?”เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นด้านหลังคนที่นั่งเล่นอยู่ที่หอนั่ง เพราะที่นี้ไม่มีสามจี อินเทอร์เน็ต หรือโซเซียลเนตเวิร์กอะไรสักอย่างคนที่นอนไม่หลับอย่างเขาเลยต้องมานั่งแหมะอยู่ที่หอนั่งชมนกชมไม้ไปเรื่อย จะอ่านหนังสือก็คร้านจะจุดตะเกียงให้ได้เรื่องได้ราวอะไรอีกสุดท้ายเลยนั่งเฉยๆมันเสียเลย

   “หนาวจนนอนไม่หลับน่ะขอรับ”

   “หนาวมากเลยหรือ ที่ที่พ่อทีป์มาไม่หนาวแบบนี้หรือ?”

   “ที่กรุงเทพฯสมัยผม หนาวแบบนี้ได้แค่วันเดียวก็เป็นข่าวฮือฮาแล้วขอรับ”

   “แล้วพ่อทีป์ชอบอย่างไหนมากกว่ากันหรือ?”

   “จริงๆก็ชอบแบบนี้นะขอรับ เพียงแต่ว่าที่นี่ไม่มีครอบครัวของผม ไม่มีพี่ชาย ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีนม ไม่มีใครเลยน่ะขอรับ”นภทีป์ทอดสายตาไปไกล ตอนนี้...เขาก็ยังคงอยากกลับบ้าน หากแต่คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

   “มีพี่อย่างไรเล่าพ่อทีป์ กระไรเสียพี่ก็จักมิทอดทิ้งพ่อทีป์ดอก”คุณหลวงทรุดตัวนั่งลงข้างๆนภทีป์ ดวงตาคมทอดมองคนที่อ่อนวัยกว่า ใบหน้าเศร้าหมองนั่นน่าสงสารเหลือเกิน หากเขามิอยากให้พ่อทีป์กลับไป


   ไม่อยากเลย...

   “กระเดี๋ยวคุณหลวงก็ต้องแต่งงานแต่งการออกเรือนไปนี่ขอรับ คุณแม่ท่านเปรยให้ผมฟังบ่อยๆว่าคุณหลวงเองก็มีคู่หมั้นแล้ว มิใช่หรือขอรับ?”

   “พ่อทีป์ หากพ่อทีป์ยังอยู่ข้างๆพี่ พี่จักไปมีใครที่ไหนได้อีก พ่อทีป์มิรู้เชียวหรือ?”

“กระผมจะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อคุณหลวงมิเคยบอกกล่าวอะไรผมทั้งนั้นนี่ขอรับ”

“พ่อทีป์ พี่รู้ว่าพ่อทีป์รู้ คุณแม่เองก็ทราบดีว่าพี่คิดกระไรอยู่ หากพ่อทีป์ยังมิมีใจก็มิเป็นไรดอก แต่พี่ขอร้อง อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่นไกล อย่าทำเหมือนรังเกียจพี่ได้หรือไม่”

“ผมไม่เคยรังเกียจคุณหลวง”

“เอาเถิด ครานี้พี่จักมิคาดคั้นเอาความดอก แล้วออกมาเยี่ยงนี้มิหนาวหรือ เสื้อผ้าก็ใส่แต่บางๆเท่านี้ หากเจ็บไข้ได้ป่วยจักทำอย่างไร”

“ก็...หนาวอยู่บ้างขอรับ”

“พ่อทีป์นี่กระไรกัน เอาเถิดๆ พ่อทีป์อยากลงไปเดินเล่นหรือไม่ เช้าตรู่เยี่ยงนี้บ่าวไพร่มันชอบก่อกองไฟให้ลูกเต้าผิงนักแล อยากไปดูหรือไม่จ้ะ”

นภทีป์นิ่งคิดชั่วครู่ แล้วพยักหน้าตกลง

“ไปซีขอรับ”

“งั้นก็ไปกันเถิด”ร่างสูงลุกขึ้นก่อนแล้วยื่นมือมาตรงหน้านภทีป์ คนตัวเล็กกว่ามิได้ปฏิเสธความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ ยื่นมือของตนไปให้มือใหญ่กว่าเกาะกุมแล้วลุกขึ้นยืนตาม



“เปรี๊ยะๆ”เสียงไม้ในกองไฟแตกลั่น ท่ามกลางความเงียบสงบเสียงเบาๆนั่นจึงเด่นชัดขึ้นมา  นภทีป์ยกยิ้ม ที่นี่สงบมาก สงบกว่ากรุงเทพมหานครในยุคของเขา...

“อยากผิงดูหรือไม่?”คุณหลวงหันมาถามคนที่ยังคงยืนนิ่ง มุมปากของนภทีป์ยกยิ้มน้อยๆ แสงแดดบางๆที่ยอแสงผ่านทำให้ใบหน้าเรียวยิ่งดูอ่อนละมุน

“ไม่เอาหรอกขอรับ กระเดี๋ยวจักกลายเป็นไปแย่งพวกเด็กๆไป คุณหลวงขอรับหากพ่อพิ พ่อพี กับพ่อวีโตขึ้น เขาจักมิถามหาแม่หรือขอรับ”

“ถามหาแล้วอย่างไร พี่ต้องหาให้ด้วยหรือ...พ่อทีป์ เด็กๆน่ะ เขาขาดเขาก็อยากมีทั้งนั้นแล หากยามทั้งสามเติบโตเป็นหนุ่มเมื่อใด ครานั้นเขาคงมิร้องหาแม่ดอก จริงหรือไม่จ้ะ”

“นั่นซีขอรับ กระผมก็ลืมคิดไป จริงซีขอรับคุณหลวง ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

“ไม่แย่นักดอก แต่ก็หาได้ดีอันใด พวกอีหรอบจ้องจักตะครุบดินแดนของเราเยี่ยงนี้...”

“กระนั้นหรือขอรับ...กระผมนึกว่ายามนี้เหตุการณ์จะสาหัสนัก”

“มิต้องกังวลไปดอกพ่อทีป์...พ่ออยู่หัวท่านทรงต่อสู้จนถึงที่สุดเป็นแม่นมั่น พี่เชื่อนักหนา ว่าสยามประเทศจักมิต้องไปอยู่ใต้อำนาจผู้ใดให้มันเป็นเจ้าประเทศราชดอก”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำเบาๆ ถอนสายตาจากทิวทัศน์ตรงหน้ามามองคนตัวสูงกว่าแทน คุณหลวงทั้งหล่อเหลา หน้าที่การงานก็ดีพร้อม เขากลัว...

หากวันใดเผลอใจไป แล้วคุณหลวงจักต้องไปมีใครอีกคนเขาจักทำใจได้หรือ??

“คุณหลวงขอรับ แล้วพี่น้องต่างแม่ของคุณหลวง...ได้เจอกันบ้างหรือไม่ขอรับ?”

“เจอกันซี ลางทีคุณแม่ท่านก็เรียกมาไต่ถาม เรื่องที่ส่งไปเรียนนั้นแล หากเป็นหญิงท่านแม่ท่านก็เมตตานัก ให้บ่าวคนสนิทสอนการบ้านการเรือนให้ แต่พี่มิค่อยได้เจอพวกน้องสาวนักดอก คุณแม่ท่านว่าเดี๋ยวจักโดนตะครุบเอาเสียได้”

“พ่อเดียวกันแต่งกันได้ด้วยหรือขอรับ?”

“พ่อเดียวกันแล้วอย่างไรเล่า สหายพี่หลายต่อหลายคนนักที่ได้น้องสาวที่เป็นลูกเมียทาสมาเป็นเมียอีกคน คุณแม่ท่านเลยห่วงนักหนา เกรงว่าจักได้ลูกสะใภ้มิดีมิงามเข้า...”

“แล้วคู่หมั้นคุณหลวง”

“แม่มะลินั้นหรือ พี่มิใคร่ได้เห็นหน้านักดอก เขาอยู่ในวังข้างใน นานๆจักได้กลับมาเยี่ยมแม่เขาสักทีแลก็มาเยี่ยมแม่พี่บ้าง ด้วยแม่พี่กับแม่เขาเป็นมิตรกันแต่เยาว์”

“แปลว่าเขาต้องเพียบพร้อมมากเลยซีขอรับ?”

“โขอยู่กระมัง กระไร มิชอบใจหรือจ้ะ”คุณหลวงยกยิ้มล้อเลียน นัยน์ตาส่งประกายวิบวับที่ทำเอานภทีป์อยากเอานิ้วจิ้มให้เจ็บดูสักที คนอะไรตาเจ้าเล่ห์

“ใครว่า คุณหลวงคิดไปเองแล้วขอรับ”นภทีป์หันหน้าหนี พลางเดินกลับเรือนเพราะพระอาทิตย์เริ่มสาดแสงแรงขึ้นทุกที

“อายหรือจ้ะ”

“ยังไม่หยุดพูดอีก!!”นภทีป์เร่งสาวเท้าเดินหนีคนตัวสูงกว่าที่ยังเดินสบายๆ ชิ...อะไรมันจะไร้ความกังวลใจปานนั้นพ่อคุณ!! นภทีป์เบะปากกลอกตาใส่ลมใส่ฟ้าไปเรื่อยจนเมื่อยหน้านั่นแหละ ถึงได้หยุดไปเสียเอง เพราะคุณหลวงเอาแต่เดินชมนกชมไม้อยู่ข้างหลังไม่ได้รับรู้ความขุ่นเคืองใจของเขาแม้แต่น้อย...

จริงๆแล้วจะเรียกว่าขุ่นเคืองใจก็ไม่ค่อยถูกนัก... เรียกว่าเขินน่าจะเหมาะกว่าแหละมั้ง



“วันนี้มีจักมีแขกมาเรือนเราหนาลูกพ่อทีป์ แม่อยากให้พ่อทีป์ไปช่วยงานครัวเสียกับแม่สักชั่วยามได้หรือไม่ลูก แลกระเดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่ารอรับแขก”

“ใครหรือขอรับ?”นภทีป์เงยหน้าจ้องตาคุณหญิงที่กำลังใช้ผ้าแพรผืนบางที่เหน็บเอวมาเช็ดมุมปากที่เปื้อนน้ำหมากน้อยๆ

“แม่มะลิกับคุณหญิงจันทร์วาดลูก อดีตคู่หมั้นของพ่อทีป์กับสหายรักแต่เยาว์ของแม่ที่แม่เคยเล่าให้ฟังกระไรเล่าลูก”

“คู่หมั้นเก่าหรือขอรับ?”

“เพราะคุณหญิงจันทร์วาดเป็นสหายเก่าแก่ของแม่แต่เยาว์เลยเปรยกันว่าจักยกแม่มะลิให้พ่อนพแต่ยังน้อยนัก พ่อทีป์เป็นกระไรหรือไม่ลูก”

“หาเป็นอันใดไม่ขอรับคุณแม่ กระผมเพียงแต่รู้สึกเพลียขึ้นมาบ้างแต่เท่านั้นเองขอรับ แล้วเขามาทำอะไรที่เรือนเราหรือขอรับ”

“มาเยี่ยมเยียนแลลูก แม่วาดเขาคงอยากคืนดีกับแม่ พ่อทีป์ไปพักเสียหน่อยดีหรือไม่ลูก หน้าซีดเซียวเหลือเกิน”

“ไม่เป็นไรดอกขอรับคุณแม่”นภทีป์ส่งยิ้มไปให้คุณหญิงที่ยังเมียงมองใบหน้าขาวที่ซีดเซียวลงจนน่าเป็นห่วง แต่หากเจ้าตัวบอกว่าไม่เป็นไรนางก็ไม่อยากบังคับกะเกณฑ์อะไรให้มากความ

“เอาเถิด มิเป็นไรก็มิเป็นไร มาเถิดพ่อ กระเดี๋ยวแม่จักสอนกรองดอกไม้เสียก่อน ให้บ่าวมันเตรียมครัวบนเสียให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปทำก็ได้ แหมว่าไปแม่ก็อยากทำซิตูกับซิเต๊กนัก แต่เกรงว่าจักไม่อร่อยถูกปากแม่วาดกับแม่มะลิเขา”

“ซิตู?? กับซิเต๊กหรือขอรับ?”นภทีป์เอียงคอทำหน้าฉงนเมื่อได้ยินรายชื่ออาหารแปลกๆ ทำไมถึงคุ้นหูนัก ซิตู กับซิเต็ก....

“สตูกับสเต๊กสินะขอรับ”

“นั้นกระมังลูก แม่ไปเห็นพวกอีหรอบที่มากับมิชชันนารีเขาทำ เลยขอสูตรเขามา แต่ทำอย่างไรแม่ก็ว่ามิถูกปากแม่เสียที”

“ผมทำเป็นนะขอรับคุณแม่ หากคุณแม่อยากให้ทำรับแขกก็คงพอทำได้อยู่บ้าง”นภทีป์ฉีกยิ้มกว้าง ตอนแรกเขาคิดว่าสมัยนี้ไม่น่ามีอะไรพวกนี้ให้กินเสียอีก อย่างนี้ก็ลาภปากลาภท้องเลยทีเดียว

“อย่างนั้นหรือ ดีเทียวลูก กระเดี๋ยวแม่ทำต้มยำเพิ่มเสียอีกอย่างหนึ่งขึ้นสำรับ มาลูกนั่งเถิด เดี๋ยวแม่จักสอนกรองมาลัย”

สรุปแล้วทั้งเช้าวันนั้นนภทีป์ก็ได้นั่งกรองมาลัยห้อยหน้าต่างประตูกับคุณหญิงจนเอาไปติดได้เกือบครบทุกห้องในเรือน จะเว้นไว้ห้องนึงคือห้องของคุณหลวงนพเทพอัคราเพราะมิใคร่นิยมชมชอบดอกไม้ที่กรองอยู่ที่หน้าต่างนัก



“พ่อทีป์ อยากได้เครื่องกระไรเพิ่มอีกหรือไม่ลูก”คุณหญิงถามเมื่อทั้งคู่มาอยู่ที่ครัวบนเรือน ตรงหน้านภทีป์มีเนื้อหมูสด กับเครื่องเทศวางอยู่ ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในที่นี้เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วขอสากกับไม้ไผ่หนาๆสักแท่งกับไม้ไผ่เหลาปลาย

เมื่อได้อุปกรณ์พร้อมสรรพนภทีป์ก็ใช้สากทุบๆหมูที่บ่าวหั่นไว้ให้เป็นชิ้นใหญ่ๆ เอาไม้จิ้มไปจิ้มมาจนคิดว่าน่าจะนุ่มพอใช้ได้แล้ว ถึงเอาไปหมักเครื่องเรียบร้อย แล้วถึงไปช่วยคุณหญิงทำต้มยำ กลิ่นต้มยำหอมคลุ้งไปทั้งเรือนคนคนที่เพิ่งเลิกงานมาต้องเดินตามมาด้วยความหิว


“พ่อนพ กลับมาเหนื่อยๆ หิวหรือไม่ลูก หากหิวแม่จักให้บ่าวไปยกของว่างมาให้ก่อน ดีหรือไม่?”

“หิวขอรับคุณแม่ ลูกนั่งทานเสียที่นี้ก็ได้ขอรับ อยากอยู่กับคุณแม่กับพ่อทีป์”คนตัวโตกว่าส่งสายตาวิบวับยามเอ่ยถึงนภทีป์ ทำเอาคนแอบมองอยู่จนลืมต้มยำในหม้อหน้าแดงเป็นริ้วๆ

“เอ้า งั้นก็นั่งเสียลูก กระเดี๋ยวแม่ให้บ่าวไปยกมาให้ นังช้อย ไปยกขนมงากับน้ำชามาให้คุณหลวงท่าหน่อยไป เร็วๆเข้าละเอ็งอย่าไปเถลไถลอื้ออึงกับใครอยู่”

“เจ้าค่ะคุณหญิง”บ่าวช้อยรีบกราบลาแล้วลุกลงเรือนไปเอาขนมมาให้คุณหลวงเสียถาดใหญ่โต พร้อมชาหนึ่งกา คนหิวพอเห็นของกินเข้าก็ยิ้มชอบใจนั่งกินไปมองหน้าคนทำกับข้าวไปอยู่อย่างนั้นจนนภทีป์แทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่อถูกสายตาเจ้าเล่ห์ตามติด

“พ่อนพมาชิมต้มยำกับซิตูนี่ทีลูก”

“ขอรับ”คนตัวสูงเดินมาตามเสียงเรียกมารดาแล้วอ้าปากงับช้อนที่มารดาส่งให้ แต่สายตากลับจ้องมองแต่คนตัวเล็กกว่าที่กำลังคนสตูกับย่างสเต๊กอยู่อีกทางจนโดนคุณหญิงบิดเอวเข้าให้

“ให้มันน้อยๆหน่อยซีพ่อนพ วันนี้แม่มะลิกับคุณหญิงจันทร์วาดจักมา มัวแต่ทำกะลิ้มกะเหลี่ยน้องอยู่นั่นประไร หือ ยังมิได้เป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือยไร้พันธะผูกมัดหนาลูก”

“คุณแม่ขอรับ กระผมเพียงมองน้องเท่านั้นเอง”คุณหลวงกระซิบตอบพลางยิ้มประจบเอาใจจนคุณหญิงมิรู้จะว่ากล่าวลูกรักลงคอได้อย่างไร นางก็เป็นเสียอย่างนี้ เพราะลูกชายคนเดียวที่นานๆทีจักประจบเอาใจเสียเล่าทำเอานางไม่เคยขัดใจได้เสียที

“เวลาคุณหญิงกับแม่มะลิมาก็รักษากิริยาหน่อยแล้วกันลูก กระเดี๋ยวแม่จักเปรยๆกับคุณหญิงจันทร์วาดเขา...หากพ่อนพของแม่มิมีพันธะแล้วเมื่อใดจะรักใครชอบใครแม่จักมิขวางเลยหนาลูก”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงยิ้มใส่ตามารดาอีกครั้งแล้วหันไปหาคนที่คนสตูในหม้อมือเป็นระวิง หากแต่ก็หันมามองทางที่สองแม่ลูกคุยกันงุบงิบเป็นระยะ

“พี่ชิมหน่อยซี”

“นี่ขอรับ”นภทีป์ยื่นช้อนที่แตะสตูขึ้นมาส่งให้แต่อีกคนกลับไม่ยื่นมือมารับหากแต่ยื่นปากมางับช้อนนั่นแทน

“คุณหลวงขอรับ รับช้อนไปดีๆซี”นภทีป์ทักท้วงคนที่ช้อนยังคาปากหากแต่สายตาที่ส่งมานั้นทำเอาคนตัวเล็กกว่านึกว่าที่อยู่ไปคือมือของเขาเสียเองไม่ใช่ช้อนโลหะคันสวย...

“อยากให้ป้อน มิได้หรือ”คุณหลวงกระซิบเสียงเบาเมื่อปล่อยช้อนออกจากปาก คนที่หน้าแดงอยู่แล้วเลยยิ่งหน้าแดงไปกันใหญ่
 
“คุณหลวงนี่เจ้าเล่ห์ซะจริง!!”นภทีป์บ่นอุบอิบแล้วไม่ได้สนใจคนที่ยังยืนยิ้มกริ่มอยู่ใกล้ๆอีก จนคุณหลวงโดนแม่ตัวเองดุนั้นแหละถึงได้ยอมกลับไปนั่งดีๆ

“สบายดีหรือคุณหญิงจันทร์วาด แม่มะลิ”ครั้นพอพลบค่ำคุณหญิงจันทร์วาดกับลูกสาวก็มาเยือนถึงเรือนคุณหลวงนพเทพอัครา นภทีป์ได้ยินบ่าวสาวๆอึงกันให้ทั่วว่า พามายามเย็นเยี่ยงนี้เพราะอยากให้ใครๆเขาพูดกันว่าสนิทชิดเชื้อยิ่งนัก ทั้งๆที่ดูไม่งามเท่าไรที่จักพาลูกสาวไปเยือนเรือนชายหนุ่มเสียค่ำมืด

“สบายดีจ้ะคุณหญิงแขไข แม่มะลิก็สบายดี คราหม่อมท่านให้กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่ได้กว่าสัปดาห์ ฉันเลยพามาเยี่ยมเยียนแม่แขไข”แม่มะลิส่งยิ้มสวยพลางยกมือไหว้คุณหญิงแขไขที่ยืนรอรับอยู่ที่ชานเรือน นภทีป์ได้แต่มองตาม ผู้หญิงคนนั้น สวยหวาน ผิวก็ขาวเนียนเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ทั้งๆที่ทำผมทรงดอกกระทุ่มนั่นแท้ๆ แต่กลับงามถึงเพียงนี้

“มาเถิด วันนี้ฉันลงครัวเองเทียวนาอยากอวดฝีมือให้จันทร์วาดได้กินกัน แม่มะลิมาเถิดลูกกระเดี๋ยวแม่จักแนะนำคนให้รู้จักเสียด้วย”

“ใครหรือแม่แขไข?”

“ลูกบุญธรรมของฉันจ้ะ”คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นพี่น้องกับคนเจ้าเล่ห์จริงๆทำตาเหลือก ตอนอยู่ที่วัดก็นึกว่าพูดเล่นไปงั้นๆเพื่อรักษาหน้าหน้ารักษาเกียรติ ใครจะรู้ว่าคุณหญิงแขไขจะรับเขาเป็นลูกบุญธรรมจริงๆ คุณพระคุณเจ้า นี่ต้องทำตัวเป็นคุณชายขึ้นหรือเปล่าเนี้ย


“นี่พ่อทีป์จ้ะ พ่อทีป์นี่คุณหญิงจันทร์วาด แล้วนี่ก็แม่มะลิ”นภทีป์ยกมือไหว้คุณหญิงแลเก้ๆกังๆอยู่ว่าจะไหว้แม่สาวกระเบื้องเคลือบด้วยดีหรือไม่ จนคุณหลวงสังเกตเห็นนั้นแหละ

“จริงซี ปีนี้แม่มะลิอายุเท่าใดนะ พ่อทีป์คงจักลำดับอาวุโสมิใครถูกนักกระมัง”

“สิบแปดแล้วเจ้าค่ะ”คนที่กำลังเก้ๆกังๆทำตาโตพลางคิดฉงนอยู่ในใจ อายุสิบแปดเท่านี้จะมีผัวแล้วเหรอวะนั่น เด็กยุคนี้สมัยนี้ไวไฟจริงๆเลย


“กระนั้นพ่อทีป์คงแก่กว่ากระมัง ปีนี้อายุเท่าใดนะพ่อทีป์”

“ยี่สิบหกขอรับ เพิ่งเลยเบญจเพสมาพอดีเทียว”พอลำดับอาวุโสกันเรียบร้อยแม่มะลิถึงได้หันมายกมือไหว้นภทีป์ด้วยอีกคน

“อ้อ ฉันลืมฝากฝังลูกชายฉันไปเทียว คราก่อนเจอกับพี่นวลที่วัดแต่มิเจอแม่วาดเลยมิได้รู้จักกัน มัวแต่ลำดับอาวุโสกันอยู่นี่กระเดี๋ยวฉันได้ลืมฝากฝังลูกชายฉัน นี่พ่อทีป์จ้ะลูกชายบุญธรรมของฉัน”คุณหญิงจันทร์วาดพยักหน้ารับพลางส่งยิ้มให้นภทีป์ที่ยกมือไหว้เธอเป็นรอบที่สามของวัน

“ไหว้พระเถิดลูก แล้วนี่ทำงานทำการกระไรจ้ะ อยู่ที่กรมท่ากับพ่อนพหรือ? หรือมิรู้หนังสือ”

“มิได้ทำอันใดขอรับ ช่วงนี้กระผมก็อยู่กับบ้านช่วยงานคุณหญิงแลคุณหลวง”

“ช่วยงานกระไรหรือจ้ะพ่อนพ เผื่อวันใดพ่อตะวันว่างๆป้าจักได้ให้มาช่วยแบ่งเบากันได้ เราหาใช้คนอื่นคนไกลกัน พ่อทีป์จักได้มิเหนื่อยด้วย”

“แปลหนังสือขอรับคุณป้า หนังสือราชการของพวกอีหรอบน่ะขอรับ พ่อทีป์รู้ภาษาพวกมันหลายชาตินักเทียว”

“อย่างนั้นหรือ ดีจริง เอ...พ่อทีป์จ้ะ อย่างนี้แม่ให้พ่อตะวันลูกชายแม่มาเรียนกับพ่อทีป์บ้างได้หรือไม่จ้ะ”

“ได้ซีขอรับ กระเดี๋ยวกระผมจักช่วยสอนให้ ว่าแต่ลูกชายคุณหญิงอายุเท่าไรแล้วหรือขอรับ?”

“สักยี่สิบได้แล้วจ้ะ”

“เอ้า มัวแต่คุยกันเพลินเชียว สำรับมาแล้วจ้ะทุกคน เร่งทานกันเถิดกระเดี๋ยวเย็นหมดจักมิน่าทานเอาเสีย วันนี้พ่อทีป์ลงครัวด้วยนา”


“ค่ำมืดแล้วไยมิเข้ามานอนเล่าพ่อทีป์”คุณหญิงจันทร์วาดกับแม่มะลิกลับไปเสียนานแล้ว จนตอนนี้พระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะแต่นภทีป์ก็ยังไม่อยากเข้าไปนอน

ผู้หญิงที่เพียบพร้อม อ่อนหวาน สวยไปเสียหมดขนาดนั้น...แล้วยังมีผู้หญิงอีกมากหน้าหลายตาในแผ่นดินนี้ที่คุณหลวงจะได้เจอ
เขาจะกล้ารักได้หรือ

คุณหลวงจะไม่ทิ้งเขาไปไหนจริงๆดั่งปากว่าน่ะหรือ??

“นอนไม่ใคร่หลับขอรับ คุณหลวงเล่าขอรับเหตุใดยังไม่นอน”

“ออกมาตามคนแถวนี้ไปนอนน่ะซี พี่กลัวคนดีของพี่จักคิดมาก”คุณหลวงว่าพลางขยับตัวมายืนข้างๆ พลางเอาผ้าแพรผืนบางคลุมไหล่ให้คนตัวเล็กกว่าไปด้วย

“ผมไปเป็นของคุณหลวงเมื่อไรกัน...แล้วผมก็ไม่ได้คิดมากด้วย จะคิดมากเรื่องอะไรล่ะขอรับ?”

“เรื่องแม่มะลิน่ะซี พ่อทีป์จ้ะพี่จักมิทิ้งพ่อทีป์ไปที่ไหนดอก”

“แล้ว...”

“เรื่องหมั้นน่ะหรือ ก็ถอนหมั้นไปแล้วเสียเล่า อย่างไรก็คงมิได้กลับไปหมายกันอีก แลที่คุณป้ากับแม่มะลิมาครานี้คงเพียงมาเยี่ยมเยียนเท่านั้น คนดีอย่าคิดมากเลยนะจ้ะ”

“กระผมมิได้อยากได้คุณหลวงไว้กับตัวเสียหน่อยนี่ จะคิดมากด้วยความใดเล่าขอรับ”นภทีป์ไม่ยอมหันไปมองหน้าคุณหลวงหนุ่ม ทั้งยังตอบมิตรงกับใจตัวเองเสียอีกด้วย

“จริงหรือจ้ะ มิใยดีพี่จริงๆหรือ”

“ไม่ขอรับ”

“จริงๆน่ะหรือ จะมิใยดีพี่สักนิดเลยหรือจ้ะ”พอโดนออดอ้อนหนักๆเข้านภทีป์ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก คนตัวโตก็ได้แต่ยิ้มกริ่ม กระไรเขาจักดูพ่อทีป์มิออกกัน หากมิได้ใยดีมีหรือจักนอนไม่หลับเยี่ยงนี้

คิดได้ดังนี้คุณหลวงก็ได้แต่ลอบยิ้มในใจ

“ใยดีกระไรกันเล่าขอรับ คุณหลวงนี่กวนผมจริง”

“ก็กลัวคนแถวนี้จักไม่รักน่ะซีเลยกวน”

“คุณหลวง ไปนอนกันเถิดขอรับ มัวแต่มาพูดกระไรอยู่นี่ก็ไม่รู้”นภทีป์ไม่ได้หันไปมองหน้าคุณหลวงที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง พลางสาวเท้าเข้าห้องไปก่อนเพราะทนความเขินไม่ไหว


คนห่าอะไรไม่รู้ เสียงเจ้าเล่ห์ หน้าเจ้าเล่ห์ แล้วยังจะขี้หลีอีก!!


   
   



มาต่อให้แล้วจ้า >< หลังจากหายไปนาน  :hao5: :hao5:
เนื่องจากชีวิตปีสองช่วงนี้รุงรังมาก :katai1: :katai1: แต่เดี๋ยวช่วงปลายเดือนคนเขียนก็จะปิดเทอมแล้วน่าจะมาต่อได้ถี่ขึ้น :katai4: :katai4:
เพราะว่าไม่มีอะไรก่อกวนชีวิต ฮิฮิ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 17-12-2014 22:13:47
น่ารักมากกกกกก จีบกันทีนี้ มดขึ้นจอกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-12-2014 22:22:20
มาแล้วววววว
จิ้มก่อง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-12-2014 23:24:03
ว๊ากกกก อิตาคุณหลวงขี้หลี 5555
ฟินอ่ะ ทำเอาอยากย้อนเวลาไปสมัยนั้นจริงๆ
ชอบสำนวนการพูดของคนสมัยก่อนจัง เพราะอ่ะ
ขอบคุณคนแต่งมากน้า  สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 18-12-2014 04:00:22
นี่อย่าบอกนะจะเอาตะวันมาเป็นก้างของคุณหลวงอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-12-2014 07:50:28
จีบกันไป เขินหันมา  หวานซะจริงเชียว    :-[ :-[ :-[


รีบมาต่อน้าาาาาาาาาา   รออ่านตลอด 24 ชั่วโมงเลย           :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-12-2014 18:03:51
รู้สึกงงหน่อยๆนะ ตอนแรกๆบอกไว้ว่าพ่อนพขอร้องให้แม่ถอนหมั้นแล้ว(ที่ว่าแทบจะมองหน้ากันไม่ติด...มั้ง)
แต่ตอนล่าสุดนี่ยังไง ตกลงว่าถอนหมั้นแล้วหรือยังไม่ได้ถอนกันแน่
ถ้าถอนหมั้นแล้ว การที่แม่มะลิมาหาผู้ชายถึงบ้านนี่ยังไงก็ดูไม่งามนะ
แล้วก็ที่คุณแม่ของพ่อนพพาหลานๆสามคนไปทำบุญ แล้วแนะนำกับเพื่อนว่าพ่อทีป์เป็นใครอ่ะ
ตกลงว่าจะบอกคนอื่นว่าเป็นหลานที่มาจากต่างจังหวัดหรือว่าเป็นคนที่เก็บได้กันแน่อ่ะ แบบงง

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 18-12-2014 21:39:42
จีบน่ารักจริงเชียวนะพ่อนพ...
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ 17/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 18-12-2014 22:33:00
งือววววววววววววววววววววววววว เค้าเขียนงงเองจริงๆด้วยแหละ  :ling1: :ling1: :ling1:
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


เดี๋ยวเค้าแก้ไขให้นะ งุยย รู้สึกผิดดด
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 18-12-2014 23:56:03
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:อ่านตามทันแล้ววววววววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-12-2014 00:38:02
การหลี(หนุ่ม)สาว สไตล์บางกอกรศ(จำไม่ได้) ของคุณหลวงนี่หวานนุ่มนวลดีสุดๆ  คุณแม่ก็ช่างเป็นใจด้วยแท้ๆ

ว่าแต่น้องชายของว่าที่อดีตคู่หมั้นนี่สิจะเป็นตัวป่วนในอนาคตหรือเปล่านะ

ภาษาสวยมากๆ  อ่านไปตอนถึงของทำของกินก็ชวนน้ำลายไหล ยิ่งอยู่ไกลบ้านด้วยยิ่งทรมาณ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 19-12-2014 13:08:57
อ๊ากกก คุณหลวง เดินหน้าไวไปใส่เกียร์ว่างก่อนเดี๋ยวไก่ตื่น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 19-12-2014 14:51:20
สงสัยจะมีตัวป่วนล่ะมั้ง แล้วเขาจะรักก้นเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าจะเจ็บช่ำใจกันไปอีกนานล่ะมั่งเนี้ย สงสารจัง ยิ่งไม่ชอบดราม่า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 21-12-2014 02:07:53
เจ้าเล่ห์จริงๆ   คุณหลวง     :-[
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 21-12-2014 18:23:33
สนุกฮะ

จะไม่ได้กลับจริงๆหรอ...น่าจะได้กลับชักครั้ง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๒ edit 18/12/14
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-12-2014 20:05:14
แวะมาเจิม อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-01-2015 12:02:22


พยับที่ 13



“พ่อตะวันนี่พ่อทีป์จ้ะ เป็นลูกบุญธรรมของคุณน้าแขไข ไหว้พี่เขาเสียลูก แล้วก็พ่อทีป์จ้ะ นี่พ่อตะวันหลานป้า ป้าฝากน้องหน่อยนะลูก เห็นว่าอยากเรียนภาษาอีหรอบมันเหลือเกิน ช่วยสอนให้ป้าที”

“ขอรับ”


หลังจากที่คุณหญิงจันทร์วาดกับแม่มะลิมาเยี่ยมเรือนเมื่อสามสี่วันก่อน วันนี้ก็พาตะวัน หรือพ่อตะวัน หรือน้องวันมาฝากให้เค้าสอนภาษา ตะวันเป็นผู้ชายตัวสูงประมาณหนึ่ง อาจจะสูงกว่าเขานิดหน่อย แต่ว่าไม่สูงกว่าคุณหลวงแน่ๆ หากแต่ว่าดูล่ำสันกว่าเขามากอยู่


“พี่ทีป์ขอรับ ตรงนี้กระผมมิค่อยเข้าใจนัก”

ถึงจะตัวเล็กกว่าคุณหลวงไปหน่อย แต่เรื่องหน้าตานี่พอสูสี จะว่าไปก็หล่อคนละแบบละมั้งคุณหลวงหล่อคมส่วนน้องตะวันเนี้ย หล่อเกาหลี ส่วนเขาเอง นายนภทีป์คนนี้ หล่อที่สุดในสามโลก

หึหึ...

“ไหนให้พี่ดูที”นภทีป์เท้าแขนตัวเองกับตั่งตรงหน้าโน้มตัวไปดูตัวหนังสือยึกยือที่ตะวันจดลงในสมุด อืม...จริงๆแล้วก็ตั้งใจเรียนดีแหะ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเด็กเห้วๆ เลวๆ แบดบอยซะอีก

“หือ ไม่เข้าใจอันใด? ไหนว่ามาที”


แล้วทั้งวันของเขาก็ผ่านไปกับการถ่ายทอดวิชาให้ตะวัน จริงๆแล้วเด็กนี้ก็ดูมีความรู้เก่าติดตัวอยู่บ้าง คิดว่าคงเคยไปเรียนกับมิชชันนารีในยุคนี้มาบ้าง พอเขียนได้ อ่านได้ เขาเลยสอนพูดเสียดีกว่า

“หิวหรือยังจ้ะหนุ่มๆ”

“กระผมยังมิหิวเท่าใดดอกขอรับคุณแม่ แต่น้องตะวันดูท่าจักหิวอักโขอยู่นะขอรับ เห็นว่ามิได้ทานข้าวมา”

“พ่อวันหิวแล้วหรือลูก กระเดี๋ยวป้าให้เขาตั้งสำรับให้แล้วมาทานเสียพร้อมกันนะพ่อ”

“ขอรับ”เด็กตะวันยิ้มแฉ่ง เออ จะว่าไปหมอนี่ก็น่ารักดี เห็นละอยากมีน้องชาย แล้วก็คิดถึงไอ่พี่ชายสุดเกรียนของผมขึ้นมา ไม่รู้ไอ่ธามจะเป็นไงบ้าง ไม่รู้ไอ่ตฤณจะยังได้อยู่บ้านหลังนั้นมั้ยถ้าไม่มีผมเป็นกันชนให้ แล้วก็ยังอยากรู้ด้วยว่าพวกมันได้กันหรือยัง

“พี่ทีป์คิดกระไรอยู่หรือขอรับ”

“คิดถึงบ้านน่ะ”ผมตอบตะวันสั้นๆแล้วเงียบไป ไม่อยากพูดอะไรให้มากความ จริงๆแล้วเจ้าตะวันก็น่ารักดีอยู่หรอก เสียแต่สายตาวิบวับๆที่ชอบมองมาเท่านั้นแหละ หวังว่าคงไม่ได้หวังเอกราชของเค้าเหมือนคนบ้านนี้หรอกนะ

“แล้วที่นี่ไม่ใช่บ้านหรือขอรับ คุณแม่ว่าพี่ทีป์เป็นลูกบุญธรรมของคุณน้าแขไข”

“ก็บ้าน แต่ก็มีบ้านที่จากมา เข้าใจหรือไม่”

“ทำกระไรกัน”เสียงแข็งมาแต่ไกลเชียว คุณหลวงนี่เป็นพวกชอบทำให้คนอื่นแตกตื่นหรือยังไงวะ

คุณหลวงมองไปทางสองหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ทำไมพ่อทีป์ต้องปล่อยให้พ่อตะวันเข้าใกล้ถึงเพียงนั้นด้วยก็มิรู้ ไม่รู้หรือไรว่าใจพี่คนนี้จักขาดรอน


สายตาตัดพ้อถูกส่งไปทางคนตัวขาวที่นั่งอยู่ข้างๆชายหนุ่มอีกคน หากแต่เพียงชั่วครู่คนตัวโตกว่าก็ผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเคียงนภทีป์ที่นั่งรอสำรับอยู่

“คุณแม่ล่ะ?”

“เห็นว่าจักไปเร่งบ่าวให้ตั้งสำรับขอรับ คุณหลวงกลับมาเหนื่อยๆ กระหายน้ำหรือไม่ขอรับ”

“กระหายมากอยู่”

“กระเดี๋ยวกระผมไปชงชามาให้ดีหรือไม่ขอรับ”

“เอาซี พ่อตะวันจักเอาด้วยหรือไม่”

“ไม่ล่ะขอรับ กระผมมิค่อยถูกกับรสชาเสียเท่าใด เพียงแต่น้ำลอยดอกมะลิก็หอมกรุ่นชื่นใจแล้วแลขอรับ”ตะวันไม่พูดเปล่ายังยกขันน้ำลอยดอกมะลิกระดกดื่มเสียจนคุณหลวงได้แต่ส่ายหน้าระอา พ่อตะวันยังเด็กอยู่มาก หวังว่าคงไม่ได้คิดกระไรกับพ่อทีป์ แลมิได้คิดร้ายกับพ่อทีป์ดอกนะ มิเช่นนั้น ต่อให้เป็นลูกใครมาจากไหนก็เถิด เขาจักมิไว้หน้าทั้งนั้น!!

“ถ้าอย่างนั้นคุณหลวงรอสักกระเดี๋ยวนะขอรับ ผมไปทำให้”



“พี่นพขอรับ”

“ว่าอย่างไรพ่อตะวัน?”

“พี่นพมิได้รักใคร่พี่สาวกระผมเลยหรือขอรับ”

“แม่มะลิน่ะหรือ...มิได้ดอก กระไรจักรักใคร่ได้ พี่เห็นเป็นเพียงน้องนุ่งเท่านั้นแล เห็นกันมาแต่น้อยจักให้คิดเป็นอื่นคงอย่างเย็นนัก”

“แต่พี่แลดูรักชอบพี่นพอยู่มากนะขอรับ เธอเสียใจมากคราคุณแม่แจ้งข่าวว่าพี่นพขอถอนหมั้น”

“กระนั้นหรือ พี่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่จักให้พี่ฝืนใจรักชอบฤาออกเรือนไปด้วยก็หาได้ไม่ หากไม่รักกันแล้วไซร้จักมีความสุขกันจนแก่เฒ่าได้เยี่ยงไร ลางทีแต่งกันไปทั้งที่มิรักแล้ว หากพี่พบหญิงอื่นถูกใจแลรับมาเป็นอนุเสีย แม่มะลิก็จักยิ่งเสียใจยิ่งกว่านี้”

“กระผมมิเคยคิดถึงข้อนี้เลยเทียวขอรับ พี่นพคิดการไกลยิ่งนัก หากเป็นดั่งคำพี่นพว่า เยี่ยงนี้ก็ดีแล้วแลขอรับ กระผมมิใคร่อยากให้พี่มะลิเธอเจ็บปวดเท่าใดดอก”

“นั้นแล ว่าแต่พ่อตะวันเถิด ยังมิได้มองสาวบ้านไหนไว้ดอกหรือ หรือว่าคุณหญิงทาบทามให้แล้ว?”

“มิได้ขอรับ กระผมยังมิได้ชอบพอผู้ใด”

“กระนั้นหรือ แลคุณหญิงได้ทาบทามผู้ใดไว้ให้หรือไม่?”

“ยังมิได้ทาบทามผู้ใดไว้เลยขอรับ พี่นพเองเถิด มิได้ออกเรือนกับพี่หญิงไปเสียเยี่ยงนี้ ไปชอบพอลูกสาวบ้านไหนเข้าหรือไม่ขอรับ”

“หึหึ มิใช่ดอก มิใช่ลูกสาวใครแถวนี้แน่ๆ เอาเถิด แล้วเรียนภาษาอังกฤษเป็นเยี่ยงไรบ้าง?”

“ดีเทียวขอรับ กระผมพอมีพื้นจากพวกมิชชันนารีมาบ้าง และมาได้พี่ทีป์ช่วยสอนเพิ่มเติมให้อีก ได้ความรู้มากเทียวขอรับ วันนี้พี่ทีป์ให้กระผมไปหาสมุดกับปากกามาคราหน้าด้วยนาขอรับจักได้เอาไว้จดคำศัพท์ไว้ทบทวน”

“ดีแล้วๆ จักได้เข้ารับราชการได้ง่ายๆขึ้นไปอีก เป็นลูกท้าวลูกพระยาแลมีภาษาอื่นติดกายเยี่ยงนี้ย่อมไม่ยากนักดอกหากพ่อตะวันจักเข้ารับราชการ”

“คงยังมิใช่เร็วๆนี้ดอกขอรับ กระผมยังมิอยากหาห่วงราชการมารัดตัว หากแต่คุณแม่ท่านก็เร่งอยู่เนืองๆว่าให้ไปรับราชการเถิด คงเกรงว่ายศอย่างจักมิได้เลื่อนกับใครเขากระมังขอรับ”

“นั้นแล วัยอย่างพ่อตะวันเหมาะนักเทียว เอาไว้อยากรับราชการเมื่อไรก็บอกท่านเจ้าพระยาท่านเสีย จักได้เริ่มทำงานทำการ ยามนี้ก็เล่าเรียนไปเสียก่อน ดีนักที่เป็นเด็กรักเรียนหาใช่นักเลงหัวไม้เยี่ยงลูกชายบ้านอื่น พี่ละอยากให้พ่อพิ พ่อพี แลพ่อวีเป็นเด็กดีเยี่ยงนี้ยิ่งนัก”

“ใครหรือขอรับ?”

“ลูกบุญธรรมของพี่น่ะ พี่ขันอาสารับมาเลี้ยงจากหลวงพี่ที่รู้จักกัน น้องสาวของท่านถูกพวกฝรั่งมังฆ้องมันหลอกลวงเอา เป็นแฝดสาม พี่ไปเห็นแลคิดว่าท่านคงมิได้สะดวกเลี้ยงเท่าใดนัก เลยอาสารับมาเลี้ยง นี่เพิ่งจักได้ฤกษ์ตั้งชื่อให้”

“กระนั้นหรือขอรับ แล้วอยู่ที่ใดเสียเล่าขอรับตั้งแต่ขึ้นเรือนมากระผมยังมิเห็นเลยสักครา”

“อยู่ปีกโน้น คุณแม่ท่านเลี้ยง แลมีแม่นมอีกสามคนเทียว ลางที่พ่อทีป์ว่างๆจากงานเอกสารของพี่ก็ไปช่วยคุณแม่ท่านเลี้ยงบ้าง ท่านว่าซนนัก กระเดี๋ยวโยเย กระเดี๋ยวก็คลานเสียทั่วชานไล่จับกันให้วุ่น นี่ท่านว่าเริ่มตั้งไข่กันแล้ว ตัวเริ่มเขียวช้ำเป็นจ้ำๆเทียวแหละ”

“หากเดินได้วิ่งได้บ่ายเรือนพี่นพคงได้วิ่งวุ่นทั้งวันเทียวขอรับ”

“นั้นน่ะซี”

“ชามาแล้วขอรับ เอ้า นั่นคุณแม่ขึ้นเรือนมาแล้วขอรับคุณหลวง”นภทีป์ป้านชาลงให้คุณหลวงแล้วเดินไปรี่ไปหาคุณหญิงที่ขึ้นเรือนมา


“อีกกระเดี๋ยวบ่าวจักยกสำรับมาแล้วลูก หากแม่ไม่ไปเร่งเอาเสียคงอีกพักใหญ่ มาเถิดมา พ่อวันมานั่งข้างป้านี่ลูกกระเดี๋ยวได้ทานข้าวกัน”

“ขอรับ”


“คืนนี้หนาวนัก พ่อทีป์ไยมานั่งอยู่นอกชานเยี่ยงนี้?”คุณหลวงเดินเข้ามาทรุดตัวนั่งข้างๆคนที่นั่งพิงเสาอยู่ นภทีป์เพียงยิ้มบางเบาไม่ตอบคำกระไรไป

“ไยไม่ตอบพี่ ไม่หนาวหรือ กระเดี๋ยวเป็นไข้หัวลม เข้าห้องเราเถิด”

“อีกสักเดี๋ยวเถิดขอรับ กระผมอยากดูดาว”

“งั้นเขยิบเข้ามาใกล้ๆพี่เถิด พี่เอาผ้าห่มมา”

สุดท้ายชายหนุ่มสองคนก็นั่งอิงกันอยู่ใต้ผ้าแพรผืนบาง นภทีป์ทำเพียงเอนตัวไปชิดคุณหลวง แต่อีกคนเหมือนจะไม่พอใจนักถึงได้ดึงอีกคนไปชิดจนเกือบจะขึ้นนั่งตักกันอยู่รอมร่อ

“คุณหลวง กระเดี๋ยวคุณหญิงท่านเห็นจักเข้าใจผิดเอาได้นะขอรับ”

“คุณแม่เข้าใจดีมาตลอดพ่อทีป์ไยต้องกังวลใจไปหืม ในว่าจักดูดาวมัวแต่ว่ากล่าวอยู่จักได้ดูหรือ”

“ขอรับ”นภทีป์ตอบรับแล้วเงยหน้าดูดาว แต่ไม่ถนัดนักจนสุดท้ายกลายเป็นว่าคนตัวเล็กกว่าไถลลงไปเอนกายอยู่บนตักอีกคน คุณหลวงเลยเอาผ้าห่มตามไปคลุมให้เสีย ด้วยกลัวอีกคนจะเจ็บไข้ขึ้นมา


“ง่วงหรือยัง”

“ดูอีกหน่อยนะขอรับ ผมชอบดูดาวแบบนี้นานๆ เผื่อว่าคนที่บ้านจะมองอยู่เหมือนกัน” ถึงจะรู้ว่าอย่างไรเสียก็คงไม่ได้มองฟ้าแบบเดียวกันแน่ๆ แต่อย่างน้อยฟ้าผืนนี้ก็เป็นผืนเดียวกันกับอีกสองร้อยกว่าปีข้างหน้าแหละนะ

“คิดถึงบ้านหรือ”คุณหลวงก้มลงมองหน้าคนที่หนุนอยู่บนตัก พ่อทีป์ชอบทำหน้าเศร้าๆแบบนี้...แต่หากจะให้เขาหาทางให้พ่อทีป์ได้กลับไป เขาก็ทำมิได้เช่นกัน

“คิดถึงขอซีขอรับ บ้านน่ะอย่างไรเสียก็เป็นบ้านจักให้ตัดเยื่อขาดใยได้อย่างไรกัน ผมมีพี่ชายอยู่คนนึง เป็นหมอชื่อธาม มันรักผมมากเลยนะครับถึงมันจะไม่เคยพูดก็เถอะ ตอนนี้ไม่รู้มันจะเป็นยังไงบ้าง”

“พี่ชายแท้ๆหรือ? หน้าเหมือนพี่ทีป์ไหม?”

“ไม่เหมือนเลยขอรับ ไอ่ธามน่ะ ตัวสูงกว่าผม ถึกกว่า ผมหมายถึงตัวใหญ่กว่า มีกล้ามด้วยนะขอรับ ว่าแล้วก็คิดถึงมัน...”

“คุณหลวงขอรับ”

“หืม”

“สัญญากับผมแล้วนะ ไม่ทิ้งผมนะ”นภทีป์พูดเบาๆ เงยหน้าสบตาคนตัวโตที่ก้มหน้าลงมามอง แววแก้วใสวาวจ้องกันอยู่นานเนิ่น ก่อนคุณหลวงจะกดจูบลงมาที่ขมับของคนถามเนิ่นนาน

“พี่จักทิ้งพ่อทีป์ลงได้อย่างไรเล่า”

“ใครจะรู้”นภทีป์พูดอุบอิบแล้วโน้มตัวเกี่ยวคอคนตัวสูงกว่า ใบหน้าขาวติดจะอ้อน ทำเอาคนตัวสูงกว่าใจเต้นระรัว คุณหลวงนพเทพอัคราเห็นทีจักสิ้นท่าให้ชายหนุ่มด้วยกันเสียแล้ว

“มิทิ้งดอกพี่สัญญา หรือพ่อทีป์อยากได้จูบสัญญาก็ได้”

“ทะลึ่ง”หน้าขาวใสแดงแปร๊ดเพราะประโยคกระลิ่มกระเหลี่ยของอีกคน ไม่ยักรู้ว่าคนโบราณก็ขี้หลีเป็นด้วย ชิ ตาคุณหลวงบ้า คนก็อายเป็นนะว้อย!!




“พี่ธาม”ตฤณเดินเข้ามาในห้องทำงานของอีกคน หลังจากที่นภทีป์เพื่อนของเขาหายไป ธามก็อยู่ไม่สุขอยู่เป็นเดือนๆ จนผ่านไปเกือบปีแล้ว ไม่มีวี่แววอะไรเกี่ยวกับเพื่อนเขาเลยแม้เพียงนิด คิดแล้วเขาก็เสียใจ เพื่อนหายทั้งคนใครจะทำใจได้ แล้วก็สงสารคนตรงหน้า

“ว่าไง มีเคสอะไรจะมาถามหรือไง”

“เปล่า คิดอะไรอยู่ หน้านิ่วคิ้วขมวด”ตอนนภทีป์ยังอยู่เขากับไอ่พี่หมอธามไม่ได้ถูกกันเลยสักนิดเดียว ทะเลาะกันทุกวัน ทั้งที่โรงพยาบาลยันกลับมาที่บ้าน...

บ้านที่ไอ่ทีป์อยากได้นักหนา จนต้องขอเงินพี่มันมาช่วยซื้อ แล้วเขาก็มาขออาศัยอยู่ช่วงที่ฝึกงาน แต่ตอนนี้ถึงเขาจะใกล้เรียนจบเต็มที เขาก็ยังไม่คิดจะย้ายไปไหน ไม่อยากทิ้งหมอบ้าไว้คนเดียว

“คิดถึงน้อง กูแม่งแย่ว่ะ อยู่บ้านเดียวกับมันทั้งวันมันหายไปไหนกูก็ไม่รู้”

“กูก็อยู่กับมึง ถ้าแย่ก็แย่ด้วยกัน อย่าคิดมากสิวะ หน้ามึงยิ่งแก่ๆ เดี๋ยวยิ่งแก่ไปใหญ่ หมอแอนตี้เอจจิ้งไม่รับทำหน้าแน่มึง รับมือไม่ไหว”

“สัส ตฤณ...มึงว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่มั้ย”

“อยู่สิไอ่ห่าทีป์หนังหนาจะตาย แค่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนแค่นั้นเอง มึงเชื่อกูนะธาม อย่าคิดมาก ถ้าทีป์มันรู้มันคงไม่สบายใจ”

“กูพยายามไม่คิด แต่มันทำยากว่ะ กูกับมันแทบไม่เคยห่างกัน”สายตาธามทอดไปไกล ทำเอาใจอีกคนที่ยืนอยู่ในห้องเจ็บหน่วงๆด้วยความสงสาร

“ธาม...”

“อย่าสงสารกูเลยเหี้ย เดี๋ยวกูจับทำเมียขึ้นมาจะลำบากมึงอีก”

“สัส”ตฤณด่าเบาๆ แต่ก็เดินเข้าไปใกล้อีกคนจนถึงโต๊ะทำงาน

“มึงอ่านแบบนี้ทุกวันเหรอวะ?”

“เดี๋ยวมึงก็ต้องอ่าน จะเรียนจบอยู่แล้วสัส เลิกทำตัวเกรียนได้แล้วมั้ง”

“มึงต้องบอกตัวเองเถอะไอ่ธาม มึง...อย่าแกล้งเข้มแข็งได้มั้ยวะธาม”

“กูไม่ได้แกล้ง”

“มึงยังมีกูนะ มีพ่อมีแม่มึง มีนมนุ่มนิ่ม มึงต้องใช้ชีวิตต่อไปได้ดิวะ...นะ ธามมึงอย่าทำแบบนี้ อย่าเศร้าแบบนี้ไม่ได้เหรอวะ”

“ขอบคุณ มึงเหมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ทีป์มันจะให้กูเลย”

“กูไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไร”

“ตั้งแต่มึงก้าวเท้าเข้าบ้านแล้ว ต่อให้มึงจะปฏิเสธมึงก็ทำไม่ได้แล้วแหละ”ธามยกยิ้มสวยที่ช่วงนี้นานๆจะได้เห็น ทำเอาตฤณหมั่นไส้จนอยากจะชกไอ่คนตรงหน้าเต็มแก่ กวนตีนกูสัสเลยนะธาม

“เอากูได้ก็ลองดู แต่กูว่าคงยากอ่ะ มึงแม่งไม่มีน้ำยา”ตฤณยักคิ้วสองจึ้กใส่คนที่ตัวเองปรามาส ส่วนธามก็ได้แต่มองอีกคนอย่างหมายมาดด้วยไม่อยากหักหาญน้ำใจ

“ระวังประตูหลังมึงไว้เถอะ”

“ไอ่หมอหื่น”

“ตอนนี้ระวังปากมึงแทนดีกว่า”

“ทำไมจะต่อยกูรึไง?”

“ไม่ได้จะต่อย กูจะจูบเอาให้ลืมไปเลยว่าหายใจเป็นยังไง”

“จูบขนาดนั้นก็เอากูเถอะไอ่เหี้ย”

“อย่ามาท้าเลยมึง เดี๋ยวกูทำจริงจะได้ครางจนนมตื่น”

“มึงแม่ง ไอ่หมอหื่น!!” ไม่น่าเป็นห่วงมันเลยจริงๆ คนห่าคนบ้าคนเหี้ยอะไรก็ไม่รู้แม่ง จ้องจะเอาอยู่นั่น เดี๋ยวจะแช่งให้หมดสมรรถภาพทางเพศเลยมึง!!




------------------------------------------
เย่ๆ เอามาเสิร์ฟแล้ว หลังจากมรสุดไฟนอลลและแบกของกลับพร้อมอีเว้นท์นู้นนี่นั้นผ่านไป คิๆ
ตอนแรกจะลงให้ทันส่งท้ายปีแต่ไม่ทันซะงั้นเลยมาลงวันนี้แทนอุอิ :hao7: :hao7:

สุขสันต์วันปีใหม่น้าคนอ่านทุกคน ขอบคุณที่ยังติดตามกันมายาวนาน  :mew1: :mew1: (เนื่องจากคนเขียนเวลาน้อย T^T)
 :mew6: :mew6:

   
    edit: เพิ่มทวิตเตอร์ไว้ให้คนอ่านทวงนิยาย คึกๆๆๆ Phittha_phitch อยากทวง อยากด่าอยากเตะอยากตี ตามไปได้เลยเน้อววว >////<

หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-01-2015 12:13:29
สวัสดีปีใหม่คนเขียนด้วยจ้า
แว่บไปอย่างไว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 02-01-2015 13:37:10
สงสารพ่อทีป์จังหายมาเป็นปีแล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-01-2015 13:40:17
หวานกว่าน้ำผึ้งเสียอีกคุณหลวงกัยพ่อทีป์ มีอิงแอบซบตักชมดาวกัน พ่อทีป์ก็รู้จักอ้อนคุณหลวงเป็นแล้ว ฟินเว่อร์เลยเรา

พี่ธามเราก็เอาแต่ขู่ แน่จริงก็จับปล้ำเลย คนจริงไม่ขู่แต่ทำเลยค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ  ขอบคุณมากสำหรับตอนใหม่น้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-01-2015 13:58:12
แหม คุณหลวงนี่เนียนนะ มีขอจูบสัญญา อิอิ
สงสารธามเหมือนกันนะ น้องตัวเองหายไปแบบนี้ แงๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 02-01-2015 14:51:11
อุ้ยๆ ฝั่งกระโน้นก็จะจูบฝั่งกระนี้ก็จะจูบ แหมๆพี่น้องบ้านนี้นี่  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Rattabb ที่ 03-01-2015 00:20:34
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า "สวัสดีปีใหม่นะครับบ"

แล้วก็ ติดตามอ่านตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนสุดท้าย

รบกวนขอ ทวิตเตอร์ เอาไว้เมนชั่นไปทวงนิยาย 5555ล้อเล่นครับ

สนุกดีครับ อ่านเพลิน ภาษาอ่านง่ายดี ชอบ

(เรื่องของตัวเองยังไม่ไปไหนเลย 555)

ติดตามนะครับ ชอบๆ ถ้าได้แบบคุณหลวงนพนี่จะตั้งใจเรียนเลย

 :mew1:  :katai3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 03-01-2015 17:52:05
ชอบคุณหลวงอ่ะ กะล่อนแบบน่ารักๆ เขินแทน ><
ตอนนี้แอบสงสารธามเล็กน้อย เฮ้อ~ ห่วงน้องสินะ
อยากได้ครูแบบทีป์บ้างจัง ถ้าได้แบบนั้นจะตั้งใจเรียนสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 04-01-2015 03:26:31
ชอบคุณหลวงงงงงงงงงงงงงงงง


รีบมาไวๆน้าาาาาาาาาาาาาา


 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 04-01-2015 09:53:05
แม้เดียวก็เศร้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 04-01-2015 11:37:33
พึ่งเจอเรื่องนี้ค่ะ สนุกมาก อ่านรวดเดียวตั้งแต่ตีสองยันเจ็ดโมง  :jul3:

ทำไมเรารู้สึกอยากให้ทีป์กลับไปปี 2557
อยากให้ทีป์กลับไปจริงๆ นะ อยู่ๆ ทีป์ก็จากมากเลย มันเป็นที่ที่ทีป์อยู่มากตั้งแต่เด็ก จนอายุเลยเบญจเพศมาเลยนะ
อยู่ดีๆก็ไปเลย ทิ้งไว้ทุกอย่าง พี่ พ่อ แม่ เพื่อน อีกหลายๆคน ที่ไม่รู้ว่าทีป์ไปไหน ไปยังไง ตอนนี้เป็นยังไง ปล่อยให้พวกเขาไม่รู้อะไรอยู่แบบนั้น
หน้าที่ การงาน อะไรอีกหลายๆอย่างที่ทีป์สร้างมา
ไปเลย ไม่มีโอกาสบอกลา สักคำ ปล่อยมันร้างไว้แบบนั้น

พระท่านบอกว่าจะไม่ได้กลับไปที่ที่เคยจากมา อ่านมาถึงตอนนี้เราใจหายเลยอะ ไม่มีแบบ แค่แวบไปเหรอ แค่ชั่วเดียว นี่ไม่ได้กลับไปเลยเหรอ
แค่ไปบอกคนอื่นๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นยังไม่ได้บอกเลย  เศร้าค่ะ  :z6: ไม่ได้กลับไปเลย บอกให้ปลง ราบรื่นดีค่ะ อยู่กับคุณหลวง ตลอดไป
มันไม่ค่อยตื่นเต้นนะ น่าจะมีแวบไปสัก เดือน สามเดือน ให้คุณหลวงใจหาย แต่พระบอกแล้วนี่เนาะ ว่าไม่ได้กลับไป

รักคนแต่งค่ะ ขอบคุณที่แต่งนิยายน่าสนใจมาให้อ่านน้า  :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 05-01-2015 23:36:36
ดันนนิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๓ 2/1/15
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 06-01-2015 10:08:13
 :impress2: :impress2: :impress2:

โอ้ยยยย   

คุณหลวง ครับ 


 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 14-01-2015 10:27:12
พยับที่ ๑๔



“ทีป์ ไอ่ทีป์ ทีป์”เสียงเรียกย้ำๆดังมาจากชายหนุ่มร่างสูงที่นอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอน ข้างๆยังมีหมออีกคนในบ้านนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

ธามป่วย...

จู่ๆก็ป่วย ไข้ขึ้นสูง ตัวร้อนแดงผ่าว แล้วก็ไม่ได้สติ ตฤณต้องลุกขึ้นมากลางดึกเพราะนมไปเคาะประตูเรียก เคาะไปร้องไห้ไป บอกว่าได้ยินเสียงของตกดังมากมาจากห้องธาม (แต่ทำไมเขาไม่ได้ยินวะ!!) เลยไปเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบอะไรถึงได้เปิดเข้าไปเจอธามนอนฟุบอยู่ปลายเตียง...

“ทีป์ ทีป์”

“ชู่ว...ธาม ได้ยินกูมั้ย ทีป์มันไม่ว่างมาหามึงมีแต่กูเนี้ย”ผมจับมือมันไว้แล้วพูดกับมัน ห่านี่ก็ตัวร้อนเกิ๊น ทั้งๆที่นมเช็ดตัวให้รอบนึงแล้วแท้ๆ ไข้ยังไม่ลดอีก

“ทีป์ ไอ่ทีป์มึงอยู่กับใคร...”โอ้ยไอ่เหี้ยธาม ดราม่ามั้ยละมึง ผมนี่จะกอดมันแล้วเนี้ยจะได้เลิกโวยวายสักที แม่ง ไอ่ห่านี่



ผมอยู่ที่ไหน...ที่นี่มีแต่คนแต่งชุดโบราณๆ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นผม

แต่ผมว่า บ้านมันดูคุ้นตาอยู่หน่อยๆนะ

ผมเดินวนดูรอบบ้าน มีแต่คนหน้าเก่าๆ ชุดเก่าๆ พูดภาษาอะไรไม่รู้ โบราณโคตร หรือผมจะดูหนังพีเรียดมากไปจนเก็บไปฝันวะ??

ตื่นสิธาม

ตื่นๆ

โฮ้ย โอเค ถ้านี่เป็นฝันผมก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่น เห้ย?? เดี๋ยวนะๆ นั่นมันไอ่ทีป์น้องชายผมนี่ ว่าแต่ทำไมมันแต่งตัวโบราณงี้วะ ชุดอะไรของแม่งนะ โจงกระเบนด้วย แล้วเดินมากับใคร?

“ทีป์”

“ไอ่ทีป์”

“ทีป์”เรียกจนคอแหกมันก็ไม่ได้ยินผมเลย แม่งเอ้ย!! อะไรวะเนี้ย เกิดอะไรขึ้นกับผม แล้วที่นี่ที่ไหน นั่นใช่ไอ่ทีป์น้องผมรึเปล่า

“ทีป์”

“ทีป์ ไอ่ทีป์”

แม่ง เรียกไปก็ไม่ได้ยินแล้วละมั้ง หรือจะลองเรียกอีกสักรอบดี

ก่อนอื่นผมต้องรวบรวมแรงให้มากพอที่จะตะโกนให้แม่งได้ยินซะก่อน รอไปก่อนเถอะมึง ได้หูแตกเพราะกูแน่ไอ่น้องชายอกตัญญู

เสือกทิ้งกูไปได้เป็นปีๆ

หึหึหึ

“ทีป์ ไอ่ทีป์มึงอยู่กับใคร”

กริบ...รอบตัวผมยังเคลื่อนไหว แต่มันไม่สนใจผมเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงก็ไม่มีใครสนใจผมแต่แรก หรือจะเดินไปโบกกะโหลกแม่งสักทีดีวะ

อืม เป็นความคิดที่ดีทีเดียว ผมจะได้ถือโอกาสสั่งสอนน้องอกตัญญูแบบมันด้วย

“ทีป์ ไอ่ทีป์มึงอยู่กับใคร”


เฮือก...นภทีป์สะดุ้งสุดตัวเหมือนมีไฟฟ้ามาช้อต เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงพี่ชายของเขา พี่ธาม...หรือเขาจะคิดถึงบ้านมากไปจนฟุ้งซ่าน จะมีไอ่พี่ธามอยู่ในยุครัชกาลที่ ๕ แบบนี้ได้ยังไง ถ้ามีก็แปลกเกินไปหน่อยล่ะมั้ง

“เป็นกระไรพ่อทีป์ ตัวกระไรกัดหรือ หรือเจ็บตรงไหนหรือไม่จ้ะ”คุณหลวงประคองให้นภทีป์นั่งลงตรงที่นั่งในหอนั่งเพราะคิดว่าอีกคนเจ็บตัว นภทีป์ได้แต่ส่ายหน้า จะบอกได้ยังไงว่าได้ยินเสียงพี่ชายเรียก ขืนบอกเขาได้กลายเป็นคนบ้าน่ะซี

“ปะ...เอ่อ สงสัยมดคงกัดน่ะขอรับคุณหลวง”

“กระนั้นหรือ เจ็บมากหรือไม่จ้ะ ให้พี่ดูทีได้หรือไม่”

“เอ่อ...ไม่ ไม่ ไม่ได้เป็นอะไรมากขอรับ แค่คันๆนิดหน่อยคุณหลวงไม่ต้องดูหรอก ว่าแต่คุณแม่ไปไหนขอรับวันนี้ทั้งวันกระผมยังไม่เห็น”

“ไปคุมช่างซ่อมโรงรถกระมัง”

“กระนั้นหรือขอรับ วันนี้พ่อวันไม่เห็นมาเรียนเลย”

“คิดถึงเขาหรือ”คนตัวโตกว่าทอดเสียงถามด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่าทำเอานภทีป์ไปแทบไม่เป็น อีตาคุณหลวงบ้า แบบนี้เรียกหึงมั้ยวะเนี้ย

“เปล่าขอรับ แค่สงสัยคุณหลวงนี่กระไรกัน”

“พี่หวงของพี่”

“เอ่อ...แหะๆ ขอรับ”





“ทีป์ ไอ่ทีป์มึงอยู่ไหนวะ”

“ธาม...นั่นมึงรึเปล่า ธาม ธาม ไอ่เหี้ยธาม เห้ยแล้วนี่มันหมอกอะไรนักหนาวะ!!”นภทีป์บ่นอย่างหงุดหงิดพลางเอามือปัดหมอกที่ปกคลุมอยู่รอบๆกาย...

หมอกสีขาวลอยอวลอยู่ทั่ว ขนาดยื่นมือออกไปข้างหน้ายังมองไม่เห็นแม้แต่ปลายนิ้วมือของตัวเอง...ที่นี่ที่ไหน แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วไอ่ธามล่ะ

“ธามๆ ได้ยินกูรึเปล่า”

“ทีป์ เห้ยมึงอยู่ไหนเนี้ย กูได้ยินเสียงมึง ไอ่เหี้ยทีป์ โอ้ยแม่งหมอกห่าอะไรนักหนาวะ”ธามได้แต่หงุดหงิดกับหมอกตรงหน้าที่ปกคลุมเสียหนาจนมองไม่เห็นอะไร

แต่แปลก...

เขาไม่รู้สึกหนาว หรือได้กลิ่นควันเลยสักนิดเดียว

“แม่ง กูว่าเรานั่งคุยกันเถอะ เดินหากันแบบนี้คงไม่ได้เจอ เสียงก้องไปหมดเลยว่ะ”สุดท้ายธามก็ตัดใจถึงอยากจะเจอน้องแค่ไหนแต่ก็คงไม่มีโอกาส นี่เขาเดินวนอยู่ในนี้มาไม่รู้นานเท่าไรแล้ว

“เออ ก็จริงว่ะ มึงมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ”

“กูจะไม่รู้เหรอ ว่าแต่...ทีป์มึงหายไปไหนมา”

“กูเหรอ ถ้ากูบอกมึงจะเชื่อมั้ยวะ”ทีป์ถามเสียงเบา

“เชื่อสิ มึงเป็นน้องกูนะ ถ้ามึงบอกว่ามึงอยู่ดาวอื่นตอนนี้กูก็เชื่อ ขอแค่มึงยังไม่ตายก็พอ...”

“กูยังไม่ตาย กูไม่รู้ว่าแม่งเกิดขึ้นได้ไง แต่ตอนนี้กูอยู่สมัยรัชกาลที่ ๕”

“ห้ะ”

“กูพูดจริงๆ กูยังหายใจ ไม่ได้บ้า ไม่ได้อยู่ศรีธัญญา”

“เออ...กูก็เคยไปตามหามึงแถวนั้นเหมือนกัน ทีป์ มึงสุขสบายดีมั้ย”

“สบายดีมากๆเลย มีคนช่วยดูแลกู กูว่ากูเจอคนที่เขาอาจจะดูแลกูไปได้ตลอดชีวิตแล้วล่ะ”

“มึงเป็นสาวน้อยรึไงสัส”

“เป็นแบบที่มึงอยากให้ตฤณที่รักของมึงเป็นนั่นแหละ”

“เหี้ย พูดจริงๆดิ แล้วเขาจะรับได้กันเหรอวะมึง”

“ควายธาม ไอ่คำว่าเล่นเพื่อนเนี้ยมันมีมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วมึง ว่าแต่มึงเถอะ สบายดีมั้ย”

“สบายดี บางทีก็ไม่ค่อยดี กูคิดถึงมึง”

“กูก็คิดถึงมึง อยากกอดมึงวะ แต่ตอนนี้มองหาปลายตีนตัวเองกูยังหาไม่เจอเลยแม่ง”

“กูก็อยากกอดมึง”ธามเอื้อมมือไปข้างหน้าสุดมือ หวังให้มีปาฏิหาริย์คว้าโดนใครสักคน แต่ก็ว่างเปล่า...มีเพียงสายหมอกที่สัมผัสอยู่กับปลายนิ้วของเขา

“แม่กับพ่อสบายดีไหม นมกับตฤณล่ะสบายดีรึเปล่า”

“สบายดี ช่วงแรกๆแม่ร้องไห้ทุกวันแต่ตอนนี้แกคงเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะมึง กูจะดูแลแม่กับพ่อ ดูแลนมกับไอ่ตฤณเอง มึงอย่าลืมสิ นี่กูเป็นพี่ชายซูเปอร์ฮีโร่กางเกงในแดงของมึงเลยนะ”ธามพูดไปน้ำตาไหลไป เขานึกถึงตอนเด็กๆ ตอนที่เล่นด้วยกันกับน้อง...



“พี่ธามฮะ พี่ธามเป็นซูเปอร์ฮีโร่ให้ทีป์น้า”นภทีป์ที่จู่ๆก็เดินถือกางเกงในสีแดงมาตรงหน้าธามแล้วทิ้งตัวแปะลงบนตักเขากอดคอเขาพร้อมโยกตัวไปมา

“ซูเปอร์ฮีโร่อะไรทีป์ ถ้าไม่เท่พี่ไม่เป็นให้นะ”ด.ช.ธามยิ้มให้น้องชายตัวเล็กๆที่นั่งแปะอยู่บนตัก เจ้าตัวเล็กชูกางเกงในสีแดงสดขึ้นมาแล้วพูดเสียงดัง

“เป็นซูเปอร์ฮีโร่กางเกงในแดงฮะ ทีป์เห็นในการ์ตูนฮีโร่ชอบใส่กางเกงในสีแดงทุกที”

“โธ่ ทีป์อ่ะ ไม่เห็นเท่เลย”ธามทำหน้ามุ่ย แต่คนเป็นน้องไม่ยอมให้พี่ได้ปฏิเสธง่ายๆ เงยหน้ามองธามตาใสวิ๊ง

“แต่พี่ธามเท่ที่สุดในใจทีป์เลยน้า....”ธามได้แต่จิ๊ปาก สุดท้ายเขาก็แพ้ทางน้องชายเขาอยู่ดีนั่นแหละ โอเค กางเกงในแดงก็กางเกงในแดง

“ธาม...ฮึก กูคิดถึงบ้าน”

“กูก็คิดถึงมึง ถ้ามึงกลับไปไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรนะ ใช้ชีวิตของมึงให้ดี ดูแลตัวเองดีรู้มั้ย ถ้าแม่รู้ว่ามึงสบายดีเขาก็คงดีใจ”

“ธาม...ฮือ ไอ่เหี้ยกูอยากกอดมึง”

“สัสอย่ามางอแง ฮึก...ไอ่เหี้ยแม่ง มึงแม่ง ไอ่น้องเวร จะให้กูปลอบไปจนแก่รึไง”

“ธาม...ฝาก ฮึก...บอกพ่อกับแม่ว่ากูสบายดี ฝากบอกไอ่ตฤณกับนมด้วย ดูแลพวกเขาดีๆนะมึง”

“เออ กูรู้สึกเหมือนเสียงมึงเบาๆไปเป็นอะไรรึเปล่าวะ”

“กู...กูพูดเสียงดังเท่าเดิมนะ หรือว่าเวลาของเราจะหมดแล้ววะ”

“แม่งเอ้ย กูไม่รู้ว่าจะถึงมึงไหมแต่กูจะให้”ธามถอดสร้อยจี้รูปงูพันคบเพลิงที่เขาได้มาตอนรับน้องออกจากคอ แล้วขว้างออกไปข้างหน้า ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงเหรียญบางอย่างกลิ้งมากระทบเท้า เหรียญเงินที่มีเส้นผมร้อยอยู่ตรงกลาง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนของเขา...



“ธามๆ อย่าเป็นอะไรนะมึง ธามตื่นสิ”จู่ๆธามก็เงียบไป ผมใจไม่ดี มันยังหายใจ ชีพจรปกติ ผมวัดความดันแล้วก็ปกติ ทุกอย่างปกติ แต่มันไม่ยอมตื่น นี่มันหลับไปเกือบวันแล้วนะ โอ้ย ธามแม่ง

“แค่กๆ”

“ธาม พี่ธามเป็นยังไงบ้าง เอาน้ำไหม”

“เอา”มันตอบสั้นๆแต่ยังไม่ยอมลืมตา หน้าแม่งซีดมาก แล้วยังมืออีกข้างของมันนั่นอีก มันกำมือแน่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ?

“ตฤณ...กูฝัน”

“ฝันอะไรวะ โตเป็นควายแล้วนะมึง”

“ฝันว่ากูคุยกับไอ่ทีป์ มันให้เหรียญกูมาด้วยเหรียญนึง ตลกนะมึง...กูคงคิดถึงมันจนเก็บไปฝัน”มันยิ่งพูดเสียงยิ่งสั่น ผมสงสารมัน...ตอนแรกๆก็แค่สงสาร แต่ตอนนี้ทำไมไม่รู้ ผมไม่อยากจากมันไปไหน ไม่อยากอยู่ไกลๆมัน...

“ไม่ตลกหรอก กูรู้ธาม ไม่เป็นไรนะมึง มึงยังมีพ่อแม่ ยังมีนม แล้วก็ยังมีกูนะ กูเชื่อว่าไอ่ทีป์ต้องสบายดี”ผมค่อยๆโอบมันไว้ทั้งตัว ทั้งๆที่มันตัวใหญ่กว่าผมแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มันถึงเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังร้องไห้โยเย

“มันก็บอกกูว่ามันสบายดี กูอยากเชื่ออย่างนั้นนะ เชื่อว่ามันสบายดีแล้วก็มีชีวิตอยู่ที่ไหนสักที มึงจะเชื่อเหมือนกูไหม”

“เชื่อสิ กูเชื่อแบบนั้นมาตลอดแหละ”

“ขอบคุณมึงมากนะ”

“ขอบคุณอะไร”

“ขอบคุณที่มึงเกิดมา ขอบคุณที่มึงเป็นเพื่อนรักกับไอ่ทีป์ ขอบคุณที่ตอนนี้มึงอยู่กับกู ขอบคุณนะ”มันค่อยๆคลายมือที่กำอะไรสักอย่างอยู่ คล้ายๆจะกอดผมตอบแต่แล้วก็ชะงักไป

“ตฤณ”

“หืม”

“กู...ไม่ได้บ้าใช่ไหมวะ?”ผมดันมันออก เป็นบ้าอะไรของมันขึ้นมา จู่ๆก็มาถามว่าตัวเองไม่ได้บ้าใช่ไหม หรือมันจะบ้าขึ้นมาจริงๆวะเนี้ย

“ตอนนี้ยัง ทำไมวะ”

“ทีป์มันให้เหรียญนี้กับกู...”มันยื่นมือที่เคยกำแน่นมาตรงหน้าผม ในมือมันมีเหรียญเล็กๆเหรียญนึง ตรงกลางเหรียญมีรูพอให้เส้นผมร้อยผ่านได้ ผมสีน้ำตาลเข้ม เหมือนผมไอ่ธามกับทีป์

มันนอนอยู่ตรงนี้ตลอดผมรู้ ผมดูแลมันมาทั้งวัน

แต่ผมไม่รู้เลยว่ามันได้เหรียญนี้มาตอนไหน...

“ตรวจ DNA มั้ยมึง”ผมถามเบาๆ มองเส้นผมที่ร้อยอยู่ตรงกลางเหรียญ มันพยักหน้าแล้วคลำหาถุงยาตรงหัวเตียงมาเทยาออกค่อยๆใส่ทั้งเหรียญทั้งผมลงไปในซองยาแล้วยื่นให้ผม

“หวังว่ากูคงไม่ได้ละเมอไปคว้าไอ่เหรียญนี่มาหรอกนะ”

“ไม่หรอก กูตื่นดูมึงอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนเห็นแต่มึงละเมอ...”

“ถ้ามันจริง แล้วกูไม่ได้บ้า...อย่างน้อยกูก็ได้รู้ว่าทีป์มันสบายดี”


“พ่อทีป์”คุณหลวงที่นั่งอยู่ข้างเตียงมาทั้งวันทั้งคืนเอาแต่เรียกนภทีป์ซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เมื่อคืนเขาเข้านอนกันตามปกติ แต่จู่ๆพ่อทีป์ก็ละเมอเสียงดัง ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น แล้วก็เงียบไปแบบนี้

เขาทั้งเป็นห่วง ทั้งร้อนรน กลัวพ่อทีป์จะเป็นกระไรไป

กลัวพ่อทีป์จะหายไป

“แค่ก”ร่างสูงรีบกระวีกระวาดไปประคองคนที่เหมือนจะรู้สึกตัวให้นั่งพิงตัวเองไว้ นภทีป์ขมวดคิ้วแน่น แสบคอไปหมด หรือเขาจะร้องไห้มากเกินไป

“กระหายหรือไม่พ่อทีป์”

“ครับ”คุณหลวงเอื้อมมือไปรินน้ำชาใส่ถ้วยกังไสข้างๆเตียงแล้วประคองให้อีกคนค่อยๆดื่มน้ำเข้าไปช้าๆ หน้าตาพ่อทีป์ซีดเซียวไปหมด เขาเป็นห่วงแทบแย่

“พ่อทีป์ฝันร้ายหรือ?”

“ไม่ร้ายหรอกขอรับ เกือบจะเป็นฝันดีทีเดียว”นภทีป์ก้มหน้าแต่ก็ยอมตอบคุณหลวง ใบหน้าขาวซีดซุกเข้าไปกับอกของคนตัวโตกว่า แขนบางๆโอบรอบคุณหลวงไว้แน่น

“เป็นกระไร”

“ผมกลัวคุณหลวงจะหายไป เหมือนที่ผมหายมาจากที่โน่น...คุณหลวงอย่าทิ้งผมนะ”

“จักทิ้งอย่างไร่เล่า แลพี่จักหายไปไหนได้”คุณหลวงปลอบโยนแผ่วเบา ฝ่ามือใหญ่ดันอีกคนออกแล้วจับมือทั้งสองข้างของนภทีป์มากุมไว้ ถึงได้สัมผัสว่ามือข้างนึงของนภทีป์ยังกำอยู่ตลอดเวลา...

“พ่อทีป์กำกระไรอยู่”นภทีป์ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ยักรู้ตัวว่ากำอะไรไว้ มือเรียวค่อยๆกางฝ่ามือออก ข้างในเป็นจี้รูปงูพันคบเพลิง...
จี้ที่เขาฝันเห็นว่าธามขว้างมาให้ผ่านเมฆหมอกแล้วตกลงข้างๆตัวเขา

ถ้าอย่างนั้นเขากับธามได้เจอกันจริงๆหรือ?

ได้พบกันจริงๆหรือ...

“พ่อทีป์ เป็นกระไรร้องไห้ทำไม”

“ผม..ฮึก..ฝันเห็นพี่ชาย ฮือ คุณหลวง”นภทีป์ได้แต่กอดคนตัวโตกว่าไว้แน่นอย่างขอที่พึ่งพิง เขาอยากกลับไป กลับไปที่บ้าน กลับไปหาทุกคน แต่เขาก็ไม่อยากจากไป ไม่อยากจากคนๆนี้ไปเลย


คุณหลวงนพเทพอัครา



--------------------------------
เอาตอนที่ 14 มาส่ง เดี๋ยววันจันทร์หน้าคนเขียนเปิดเทอมแล้วค่ะ ฮ่าๆ (หัวเราะขมขื่น)
อาจจะมีเวลาน้อยลงๆๆไปอีกเพราะว่าขึ้นปีสามแล้ว (มหาลัยคนเขียนเปิดเทอมแปลกๆนะคะ เลยเร็วกว่าชาวบ้านเทอมนึง)
แลปคณะมีเยอะม๊ากมาก (สี่ตัวนะเออ เทอมแล้วสามตัวยังเอาไม่รอด) กิจกรรมก็อาจจะเยอะเหมือนกันเพราะว่ารุ่นน้องคนเขียนยังเป็นปีหนึ่งเทอมสองอยู่ (ก็ยังต้องดูแลมันอยู่นั่นเอง)

จะพยายามมาต่อบ่อยๆนะคะ T[]T อย่าเพิ่งทิ้งกันนะะะะ (ทำตาวิ้งๆใส่)
 ถ้าอยากเมนชั่นด่าทวงนิยายตามไปได้ที่ทวิตเตอร์เน้อ @Phittha_phitch
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-01-2015 11:02:09
ใจจะขาดสินะพ่อทีป์ อยากกลับบ้านแต่ก็ไม่อยากจากคุณหลวงไป

home is where the heart is  นะคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 14-01-2015 12:30:51
 :o12: :o12: :o12:

กำลังอินจนน้ำตาไหลอยู่เลย   

แต่  ดัน  จบตอนซะละ   

เป็นกำลังใจให้ น่ะครับ  ผู้เขียน 

คุณเยี่ยมยอดมาก     โอ้ยยยย  คุณหลวง  พ่อทีป  ....

 :mew4: :mew4: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 14-01-2015 13:12:53
 :katai1:    น้ำตาไหลพรากๆ สงสารพี่น้องบ้านนี้สุดๆ คุณหลวงต้องดูแลทีป์ดีๆนะ ไม่งั้นเค้าจะฟ้องธามมาจัดการคุณหลวง

ปล.สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะจ๊ะคนเขียน มีความสุขมากๆ ได้เกรด A ทุกวิชานะ แล้วก็สุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 14-01-2015 16:40:28
ยังไงก็รออ่านอยู่เสมอนะค่าาาาาาาาาาาาาาาาา


 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 14-01-2015 16:52:13
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
ฮืออออ สงสารทุกคน อินจนน้ำตาไหลพรากๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-01-2015 18:41:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 14-01-2015 20:33:15
สงสารพ่อทีป์จริงๆ อยากกลับบ้านแต่ก็อยากอยู่กับคุณหลวง
เฮ้อ คุณหลวงดูแลทีป์ดีๆน๊า ได้ของเขามาแล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mawmeawmimo ที่ 14-01-2015 21:06:04
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

สงสารพ่อทีป์
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 17-01-2015 10:39:38
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-01-2015 12:10:31
สงสารทั้งธาม ทั้งทีป์
แต่อย่างน้อยยังดีที่ได้คุยกัน เง้ออออ
น้ำตาไหลอ่ะ แงงงงง
พี่น้องต้องไกลกัน อยู่คนละภพกันด้วย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 17-01-2015 14:00:44
น่าสงสารทั้งคู่เลย หายจากกันมาเป็นปีแต่ถ้าติดต่อกันได้จริงก็ขอให้ติดต่อกันได้อย่างนี้ตลอดไปนะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 17-01-2015 15:29:09
อัยยะ พึ่งเห็น ก็ยังดีที่มาต่อ  คนแต่งสู้ๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rattabb ที่ 17-01-2015 17:01:20
รอนะๆ ><' ตามต่อไปค้าบบบ :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 18-01-2015 07:37:39
ตามทันแล้วววว  สนุกดี  ภาษาสวยงาม ได้อารมณ์อีกแบบ   :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 18-01-2015 22:10:20
เย่ ขอบคุณทุกกำลังใจค่าาา
พรุ่งนี้คนเขียนจะเปิดเทอมอย่างเป็นทางการแล้ว (โถ)
คิดว่าอาจจะมาต่อได้แบบเดิม เดือนละครั้ง สองเดือนครั้ง สามเดือนครั้ง (นี่ฟิกหรือมะม่วงดอง)
หรือถ้าฟิตๆ (ถ้าไม่ได้คาฟาร์คอก ฟาร์เทค สารพัดฟาร์ซะก่อน) อาจจะได้สักสองสามอาทิตย์ครั้ง T[]T
แต่จะพยายามมาต่อบ่อยๆนะคะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน ฮี่ๆ
เค้าจะพยายามมาต่อให้บ่อยที่สุดนะตัวเอง คริๆ

เยิฟๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-01-2015 10:11:06
เย้
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-01-2015 13:46:39
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-02-2015 23:32:20
:)    :)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๔ 14/1/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-02-2015 14:07:05
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 27-02-2015 09:56:03
พยับที่ ๑๕



คุณหลวงนพเทพอัครากำลังอยู่ในภาวะลำบากใจอย่างยิ่ง

พ่อทีป์เอาแต่ร้องไห้มาสองสามวันแล้ว...แถมยังกำจี้ที่เขาไม่รู้ว่าพ่อทีป์ได้มาจากที่ใดอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย

ข้าวปลาก็แตะเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง...

นี่พ่อทีป์ของเขาเป็นกระไรไปนะ

“พ่อทีป์กินข้าวเสียหน่อยนะ พี่เป็นห่วง”

“คุณหลวง ผมอยากกลับบ้าน”นภทีป์พูดแผ่วเบา น้ำตาที่แห้งไปแล้วไหลลงมาซ้ำรอยเก่า คุณหลวงได้แต่มองอย่างร้าวราน เขาไม่อยากให้พ่อทีป์ไป แลก็ไม่อยากให้พ่อทีป์เศร้าโศกเยี่ยงนี้ ไม่อยากให้พ่อทีป์ตรอมใจ

“อยู่ที่นี่ก็เป็นบ้าน อยู่กับพี่อย่างไรเล่า”คุณหลวงกุมมือนภทีป์ไว้แผ่วเบา ตอนนี้พ่อทีป์ช่างเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเหลือเกิน... ลางทีหากเขาแตะต้องแรงเกินไปเสียหน่อย ตุ๊กตาตัวนี้อาจจะแตกลงมาเป็นเสี่ยงๆ...

“ผมคิดถึงบ้าน”นภทีป์ส่ายหัวไปมา น้ำตายังคงไหลนองอยู่อย่างนั้น คุณหลวงนพเทพอัคราได้แต่มองร่องรอยนั้นอย่างราวรานใจ


พ่อทีป์...

อยากไปจากฉันถึงเพียงนั้นเชียวหรือ...

“อยู่กับพี่พ่อทีป์ไม่มีความสุขสักนิดเลยหรือ?”น้ำเสียงตัดพ้อทำให้นภทีป์สะดุดใจแล้วเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมเพียงมีเพียงความเศร้าโศก...

“ไม่ใช่...แต่ผมคิดถึงบ้าน”

“อยู่กับพี่นะ อย่าไปไหน”คุณหลวงเอ่ยคำแล้วรวบคนตัวบางกว่ามาไว้ในอ้อมอก พ่อทีป์ของพี่...อย่าจากไปไหนไกลเลย

“อย่าทิ้งผมไปนะ”

“พี่จักทิ้งได้อย่างไร พ่อทีป์บอบบางถึงเพียงนี้ หากในโลกนี้ไม่มีใครยืนข้างพ่อทีป์ ขอให้พ่อทีป์จำไว้ให้มั่นว่าพ่อทีป์ยังมีพี่อยู่ตรงนี้”

“สัญญานะ”

“ด้วยเกียรติของพี่คุณหลวงนพเทพอัครา”คุณหลวงกระซิบตอบคำแล้วจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากนภทีป์ที่น้ำตายังไม่หยุดไหล ริมฝีปากรูปกระจับสวยไล้ลงมาที่เปลือกตา แก้มนวลที่มีน้ำตาไหลนองถูกดูดซับแล้วซับอีก สุดท้ายก็มาจรดลงที่ริมฝีปากสั่นระริกของนภทีป์

“ชอบหรือไม่?”คุณหลวงกระซิบถามข้างหูขาวแล้วไล้ลิ้นลงบนใบหูเล็กๆนั่น

“อือ..ชะ..ชอบขอรับ”นภทีป์ขานรับแผ่วเบา แต่ฝ่ามือกลับพยายามดันอกคนตัวโตออกจากตัว ก็ยังไม่อยากเสียตัวตอนนี้นี่นา...

“ชอบแล้วไยผลักไส?”

“ผม...อ๊า...คุณหลวงไม่เอา”นภทีป์ขัดขืนเมื่อคุณหลวงไล้มือหนาไปตามแผ่นหลังแล้วหยุดอยู่ตรงสะโพก กางเกงแพรของเขาถูกปลดจนแทบหลุดจากเอวเสียให้ได้

“หึหึ ไม่เอาก็ไม่เอา เลิกเศร้าเถิดพ่อทีป์ อยู่กับพี่เสียที่นี่เถิดนะ อย่าไปจากพี่เลย...”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำหน้าแดงก่ำ คุณหลวงยันตัวไปนอนข้างๆแล้วรวบคนตัวบางกว่าไปกอดไว้เสียแทบมิด กลัวเหลือเกิน ว่าคนในอ้อมกอดนี่จักเลือนหายไปกับตา...



“รับข้าวได้แล้วหรือพ่อทีป์ ผอมเหลือเกินแล้วลูก แม่เป็นห่วงเสียแทบแย่ พ่อนพว่าเอาแต่ร่ำไห้มิใคร่รับทานหรือ เป็นกระไรลูก ไหนมาใกล้ๆแม่ให้แม่ดูที”

“ขอรับ”นภทีป์คลานเข่าเข้าไปหาคุณหญิงแขไขที่นั่งแต้อยู่ตรงหน้า คุณหญิงลูบหลังลูบไหล่เสียยกใหญ่ด้วยความอาดูร พ่อหนุ่มตรงหน้าเป็นคนที่ลูกนางรัก แลเป็นคนที่นางเอ็นดูหนักหนา จักมิให้ห่วงใยอาทรเลยได้อย่างไร

“ซูบไปหนักหนาเทียวพ่อ แม่เตรียมสำรับไว้ให้มากเทียว พ่อทีป์มานั่งนี่เถิด ไปอีแย้มไปยกสำรับมาเสีย”

เพียงชั่วครู่บรรดาบ่าวก็เริ่มชักแถวสำรับขึ้นมาบนเรือน วันนี้คุณหญิงเตรียมอาหารไว้มากมายดังว่าทั้งยำใหญ่ ข้าวตังกับแกง ต้มยำ ปลาทอดตัวเหลืองกรอบน่าทานก็วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า นภทีป์ที่แทบไม่ได้กินอะไรเลยมาเสียนานท้องร้องโครกครากเพราะกลิ่นยวนใจของอาหารตรงหน้าเลยทีเดียว

“กินเยอะๆนะลูก ผ่ายผอมไปจักไม่งาม” 

“อ้วนไปก็ไม่งามเยี่ยงกันขอรับคุณแม่”นภทีป์ตอบแผ่วเบา พลางเปิดข้าวกับยำเข้าปาก จริงๆเขายังไม่หายคิดถึงบ้านหรอก แต่ที่นี่ก็มีคนรักเขาเหมือนกัน บางทีมันอาจจะไม่แย่นักก็ได้ (ละมั้ง)

“ผอมเยี่ยงนี้ กินเข้าไปมากๆเถิดพ่อทีป์กระเดี๋ยวผอมเป็นไม้เสียบผีประไร”

“ผมไม่ผอมขนาดนั้นสักหน่อย”

“ผู้ใหญ่สอนเขาให้ฟังไม่ได้ให้เถียง กินเข้ามากๆ”คุณหลวงบิข้าวตังสีเหลืองนวลไปจิ้มแกงข้นให้นภทีป์เสียแผ่นใหญ่ ทำเอาคนได้รับความหวังดีได้แต่เบ้หน้า ผู้ใหญ่อะไรกัน รังแกเด็กเห็นๆ


แถมยังคิดจะกินเด็กอีกต่างหาก!!

“แก่กว่าผมกี่ปีกันเชียว”

“แน้ พ่อทีป์อย่าเถียงพี่เขาเยี่ยงนี่ซีลูก ไม่งามเลย”

“ขอรับ”นภทีป์ได้แต่รับคำหน้าจ๋อย แต่ไม่วายหันไปค้อนใส่คุณหลวงเสียวงใหญ่ เชอะ! เป็นผู้ใหญ่ตายแหละ ตาคุณหลวงขี้เก็ก ขี้เก็กอย่างเดียวไม่พอยังจะหื่นอีก!!

“หึหึ”

“ขำอะไรของคุณหลวงน่ะ”

“พี่ใคร่หัวร่อมิได้หรือจ้ะ”

“ไม่ได้!!”

“เอ่าๆ มัวแต่เถียงกันอยู่นั่นเชียวลูก รีบกินเสียเถิด กระเดี๋ยวพ่อนพต้องเข้ากรมมิใช่หรือ พ่อทีป์กินเข้าเยอะๆหนาลูก อิ่มแล้วจักได้ไปเอนหลังต่อเสียป่วยไข้อยู่นั่งตากลมนานๆมิใคร่ดีดอก”

“ขอรับคุณแม่/ครับคุณแม่”



หมอกควันหนาๆนี่คืออะไรกัน...ผมจำได้ว่าผมเข้ามาเอนหลังตามคำสั่งปนเป็นห่วงของคุณแม่...แล้วจู่ๆผมมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง
หมอกนี่มันหมอกพิษหรือยังไงกันวะ

อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก ทรมานเหมือนจะตาย....

หรือผมจะตายขึ้นมาจริงๆ??

“โยมหาได้ตายดอก เพียงแต่มีสิ่งที่ผูกพันกับกำลังประหวัดดึงโยมอยู่เนืองๆ”

“หลวงพ่อ??”นี่หลวงพ่อที่เคยดูดวงให้ผมนี่นา...แล้วอะไรที่บอกว่าประหวัดดึงอยู่เนืองๆ ไม่เข้าใจเลยเว้ย!

“มิต้องเป็นห่วงไป กระเดี๋ยวลางทีโยมอาจจักรู้ได้ว่าสิ่งใดประหวัดดึงโยม โยมหาหยั่งรู้ได้ดอกว่าความรักจากบิดรมารดานั้นมากมายถึงเพียงไหน”

“หลวงพ่อหมายความว่าผมจะได้กลับไปหาพ่อกับแม่หรือขอรับ?”ผมอยากกลับบ้านแต่ผมไม่อยากจากคุณหลวงไปเลย...

“มิได้ดอก อาตมาเคยบอกโยมแล้วอย่างไรเล่าว่าโยมไม่ได้กลับไปในที่ที่จากมาดอก หากแต่นั่นหมายถึงกายหยาบของโยมเท่านั้นเอง หากตอนนี้โยมมีโอกาสจักไป...”

“ด้วยกายทิพย์นี่หรือขอรับ”

“ถูกแล้วไปด้วยกายทิพย์นี่แล หากถ้าโยมกลับมามิทันในเจ็ดราตรีนี่ละก็ กายหยาบของโยมก็จะดับเสียในครานี้เช่นกัน”

“เจ็ดวันนั่นเหลือเฟือมิใช่หรือขอรับ?”

“เวลาของสองภพย่อมสั้นยาวไม่เท่ากัน...หากโยมมิได้ระลึกว่าโยมต้องกลับมาแล้วละก็ โยมจักต้องสูญเสียกายหยาบไปตราบสิ้นกาล”

“ถ้าหากกระผมไม่ไป?”

“โยมย่อมจักมิได้เห็นพ่อแม่ของโยมอีกตราบสิ้นกาลนานเยี่ยงกัน”

“เช่นนั้นผมจักนึกรู้ได้อย่างไรขอรับ ว่าจวนเพลาที่ต้องกลับมาแล้ว”

“ขึ้นอยู่กับความประหวัดถึงของคนทางนี้ แลดวงใจของโยมเอง ว่าใครจักกลับมาที่นี่ฤาไม่”

“ถ้าหากไม่มีสิ่งที่ว่ามาเล่าขอรับ กระผมจักทำอย่างไรได้อีก”

“ยอมรับว่าจักมิได้ตื่นขึ้นมาอย่างไรเล่า เอ้า ยังอยากจักไปอยู่หรือไม่”

“อยากขอรับ”

“เช่นนั้นจงหลับตาเสีย”

“ขอรับ”

คุณหลวงขอรับ คิดถึงผมให้มากๆนะ ผมอยากกลับมา กลับมายิ้มให้คุณหลวง มองตาคุณหลวง...เพราะอย่างนั้น คิดถึงผมให้มากๆนะครับ อีกแค่เจ็ดวัน อย่าลืมผม...

รักผมให้มากพอด้วยเถอะครับ

ผมอยากกลับมาเจอคุณ

อยากตื่นจากฝันมาเห็นคุณเป็นคนแรก...

ขอร้องนะครับ



“กระไรหนาขอรับคุณแม่ พ่อทีป์มิยอมตื่นหรือขอรับ?”

“ใช่จ้ะลูก แม่ให้พ่อทีป์ไปเอนหลังหลังจากที่กินข้าวกัน และไม่รู้ด้วยเหตุใดพ่อทีป์จึงไม่ตื่นมาอีกเลย นี่ก็ค่อนวันแล้ว แม่ให้บ่าวเข้าไปดู มันว่าพ่อทีป์หลับอยู่อย่างนั้น มันไม่กล้าจับโดนตัว แต่บ่าวมันว่าเห็ฯพ่อทีป์ยังหายใจหนาลูก”

“อย่างนั้นหรือขอรับ บ่าวเรียกปลุกก็มิตื่นเลยหรือขอรับ”

“มิตื่น แลมิได้รู้ตัวเลยแลลูก พ่อนพรีบเข้าไปดูพ่อทีป์เถิด แม่จักเข้าไปด้วยเยี่ยงกัน”

“ขอรับ”คุณหลวงสาวเท้ายาวๆไปทางเรือนของตน รีบร้อนเข้าห้องจนแทบจะเหยียบธรณีประตูเสียให้ได้ เมื่อเดินพ้นฉากไม้ เขาก็เห็นอีกคนนอนราบอยู่บนเตียง ใบหน้านั้นยังปลั่งด้วยสีเลือด มิได้ซีดเซียวอย่างที่เข้ากลัว หน้าอกราบเรียบยังสะท้อนแผ่วเบา...
เขาถอนใจแล้วนั่งลงข้างๆเตียงนั่น

“พ่อทีป์จ้ะ กระไรยังไม่ตื่น เพลียมากหรือ”

นภทีป์ไม่ได้ตอบ ลมหายใจมิได้สะดุดเลยแม้แต่น้อย ยังมีลมหายใจ แต่ราบเรียบเหลือเกิน...ราวกับมีร่างกาย มีหัวใจ แต่ไร้วิญญาณกระนั้น

“พ่อทีป์ พ่อทีป์ ใยเจ้าไม่ตอบพี่”คุณหลวงยื่นมือไปเขย่าร่างสูงโปร่งที่บอบบางกว่าตรงหน้า หากนภทีป์ยังคงนอนนิ่ง

“อ้ายคง ไปตามหมอมาบัดเดี๋ยวนี้ ข้ากับลูกจักรออยู่ที่นี้”คุณหญิงตะโกนสั่งบ่าวที่รออยู่หน้าห้องเสียงอื้ออึง หากเสียงดังถึงเพียงนั้น นภทีป์ก็ยังไม่รู้สึกตัว

นางได้แต่ภาวนาให้พ่อทีป์ตื่นขึ้นมาไวๆ หากหนุ่มน้อยนั่นไม่ตื่นขึ้นมาชั่วกาลแล้วไซร้ ลูกชายของนางคงจักอยู่มิได้ ฤาไม่ ก็หลับไปชั่วนิรันดรเยี่ยงกัน

“พ่อทีป์ กระไรไม่ตอบพี่จ้ะ โกรธกระไรพี่หรือ ตื่นมาเถิด ตื่นมาหาพี่”

“พ่อนพ กระเดี๋ยวพ่อทีป์ก็ตื่นแลลูก คนหลับธรรมดาจักเป็นกระไรไปได้เยี่ยงไร พ่อนพไปอาบน้ำผลัดผ้าก่อนดีหรือไม่ ส่วนพ่อทีป์กระเดี๋ยวแม่จักแลให้ หนาลูก ไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อน จักได้สดชื่นมีแก่ใจคิด”

“แต่ว่า...”

“เชื่อแม่เถิดหนาลูก มิเหนียวเนื้อเหนียวตัวหรือ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ไปเถิดลูก พ่อทีป์มิเป็นกระไรดอก เชื่อแม่หนา”

“ขอรับ คุณแม่ขอรับ หากพ่อทีป์รู้ตัวขึ้นมาคุณแม่ต้องให้บ่าวไปตามลูกนะขอรับ”

“เอาเถิดๆ หากพ่อทีป์ตื่นแม่จักให้บ่าวมันไปตาม ไปอาบน้ำเถิดหนาลูก”

“ขอรับ”


“คุณแม่ขอรับ สองวันแล้วกระไรพ่อทีป์ยังมิตื่นอีกเล่าขอรับ”

“หมอก็บอกแล้วอย่างไรเล่าลูกว่าพ่อทีป์เพียงแค่หลับไปเท่านั้น เราทำได้เพียงรอเท่านั้นแลลูก จักทำกระไรได้ พ่อนพได้นอนแล้วฤาไม่ลูก”

“ยังมิได้หลับเต็มตาดอกขอรับคุณแม่ กระผมมิใคร่นอน กระผมเป็นห่วงพ่อทีป์ กลัวจักสะดุ้งตื่นขึ้นมา”

“เอาเถิดๆ มิใคร่นอนก็ต้องนอนบ้างหนา กระเดี๋ยววันนี้แม่จักลงครัว ทำกับข้าวมาให้ พ่อนพต้องกินเสียให้มากๆ จักได้มีแรงดูแลพ่อทีป์ หากใคร่นอนต้องนอนหนาลูก หากพ่อทีป์ตื่นขึ้นมาเห็นพ่อนพเจ็บไข้ พ่อทีป์จักต้องมิชอบใจแน่”

“ขอรับคุณแม่”

“พ่อทีป์จ้ะ ใยมิตื่นขึ้นมาหาพี่หืม”คุณหลวงพึมพำเมื่อคุณหญิงออกไป ร่างสูงใหญ่เอนตัวลงข้างๆนภทีป์ แล้วโอบกอดไว้แผ่วเบา
ยามนี้พ่อทีป์ช่างบอบบางเหลือเกิน จนกลัวจักแตกหักเสียคามือเขาในยามนี้

“พ่อทีป์ ตื่นเถิดอย่าให้พี่คอยอีกเลย”



“คุณแม่ ได้ยินผมไหมครับ”นภทีป์ยืนอยู่ในบ้านของตัวเอง ตอนเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็อยู่ในโลกของเขา ที่บ้านที่เขาเติบโตมา ไม่ใช่บ้านทรงไทยที่ไปซื้อใหม่ บ้านที่เคยของเป็นของคุณหลวงนพเทพอัครา...

“ตาทีป์ไปอยู่ที่ไหนลูก ทำไมไม่กลับมาหาแม่”คุณหญิงท่านทูตได้แต่พึมพำถึงลูกชายคนเล็ก เธอรู้ข่าวจากธาม ลูกชายคนโต ว่านภทีป์ลูกชายคนเล็กของเธอหายไป เธอรีบกลับมาก่อนสามีของเธอ ตอนนั้นทั้งเธอและสามีพยายามตามหาลูกชายทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่เจอ

จนเกือบจะครบขวบปีนี้ เธอก็ยังไม่ได้เจอแม้เพียงขนสักเส้นของลูกชายคนเล็ก

“คุณแม่ครับ”

“ตาทีป์ ตาทีป์เหรอลูก”

“คุณแม่ คุณแม่ได้ยินเสียงผมมั้ยครับ”ร่างโปร่งแสงมีน้ำตาเปรอะหน้าออกมาช้าๆ...เขาอยากกอดแม่แบบที่เคยทำ อยากบอกแม่ว่าเขาคิดถึงแม่แค่ไหน

“คุณ คุณ เป็นอะไรน่ะ ร้องไห้ทำไม?”ร่างสูงแต่ดูล่ำสันกว่าลูกชายเดินเข้ามาในห้อง เขาลาพักร้อนอยู่สักพักเพื่อตามหาลูกชายแต่เมื่อหาไม่เจอสุดท้ายจึงต้องหยุด และดูแลจิตใจของภรรยาให้เข้มแข็งขึ้นมาแทน

“ฉันได้ยินเสียงลูกค่ะ”ยิ่งเล่าให้สามีคู่ชีวิตฟัง น้ำตายิ่งไหลพราก เธอคิดถึงลูกชายคนเล็กของเธอ นภทีป์เด็กตัวน้อยๆที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างดี เธอยังจำวันแรกที่ลูกเกิดได้ดี เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก แทบไม่ร้องโยเยเลยสักนิด เด็กน้อยยิ่งเติบโตยิ่งน่ารักจนเธอไม่อยากให้ลูกเธอจากไปไหนไกล ไม่อยากให้ไปอยู่หอ ไม่อยากให้แต่งงาน ไม่อยากให้ไปทำงานไกลๆ เธอเป็นห่วง ลูกชายของเธอเป็นคนดี เธอกลัวเขาจะถูกรังแก ถูกหลอกลวง...

หากบัดนี้ลูกเธอหายไม่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้เลย ไม่มีแม้แต่ร่างเหลือให้พ่อแม่ทำศพ...

“คุณคงคิดถึงเขามากไป เราก็ทำศพปลอมไปแล้วนะคุณ เขาตายไปแล้ว หรืออย่างน้อยเขาก็ตายจากเราไปแล้ว คุณตัดใจเสียเถอะนะ เขาไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่แล้วแหละคุณ”

“คุณพ่อ คุณแม่ผมยังไม่ตายได้ยินมั้ยครับ”นภทีป์ตะโกนก้อง แต่กลับไม่มีใครได้ยินเลยแม้แต่น้อย...ในโลกใบนี้เขาได้ตายไปแล้ว ตายไปจากทุกคน คุณพ่อ คุณแม่ พี่ธาม ไอ่ตฤณ จริงสิ...พี่ชายของเขาอาจจะมองเห็นเขาได้ก็ได้ แค่เพียงนึกถึงพี่ชายเพียงคนเดียวของเขา ร่างโปร่งใสก็เหมือนถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา รู้ตัวอีกทีเขาก็อยู่ที่บ้านทรงไทยที่เขาซื้อไว้เพราะชอบหลังนั้นเสียแล้ว

บ้าน...ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่าง...

“ธามๆ พี่ธาม”เขาตะโกนเรียกเมื่อเห็นพี่ชายเดินออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามกับหอนอนตัวเอง แต่ก็เหมือนเดิมไม่มีใครได้ยินเสียงของเขาเลย

เขาคงตายไปจากภพนี้แล้วจริงๆ...

“ตฤณๆ มึงได้ยินกูมั้ย โอ้ย แม่ง!!”ร่างสูงโปร่งโวยวายเมื่อพยายามเรียกใครไปก็ไม่มีใครได้ยินเขาอยู่ดี แล้วจะให้เขากลับมาที่ภพนี้ทำไม



“ถูกแล้วไปด้วยกายทิพย์นี่แล หากถ้าโยมกลับมามิทันในเจ็ดราตรีนี่ละก็ กายหยาบของโยมก็จะดับเสียในครานี้เช่นกัน”

“เจ็ดวันนั่นเหลือเฟือมิใช่หรือขอรับ?”

“เวลาของสองภพย่อมสั้นยาวไม่เท่ากัน...หากโยมมิได้ระลึกว่าโยมต้องกลับมาแล้วละก็ โยมจักต้องสูญเสียกายหยาบไปตราบสิ้นกาล”


จู่ๆร่างโปรงใสก็สะดุ้งสุดตัว ใจประหวัดถึงใครอีกคน...

เจ็ดวันหรือ?? นี่มันผ่านมากี่วันแล้ว???

แล้วเขาจะกลับไปได้อย่างไรกัน...

จักกลับไปมองหน้าคนตาคมนั่นได้อย่างไรกัน...


   
...........................................

ต้องขอโทษคนอ่านที่หายหัวไปนานมากๆสำหรับตอนนี้ -3- เนื่องจากคนเขียนติดงานคณะ 55
จริงๆก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่เปิดเทอมแล้วรีพอร์ทหมาศาลขึ้นเรื่อยๆ มีเปเปอร์มาให้แปลด้วยนะเอออ
แต่มาต่อให้แล้วน้าา ตอนนี้อาจจะดูซึนๆ อึนๆ มึนๆ (เนื่องจากคนเขียนมันมึนๆแต่ง)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 27-02-2015 16:02:12
เฮ้อ แล้วจะมาต่อให้อีกตอนไหนครับ ผมรออยู่ คนแต่งสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 27-02-2015 16:51:32
กลับมาให้ทันนะพ่อทีป์
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-02-2015 11:06:11
จะกลับได้ไหม
อ๊ากกก...คุณหลวงรอแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 28-02-2015 12:40:05
ใจจะขาดแล้วคาบบบบบบบบบบบบบบบบบ

มีน้ำไหลออกมาจากดวงตาด้วยอ่ะ

อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้สื่อสารกับคนของทีป์ บ้างเถอะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 05-03-2015 13:08:00
ใจจะขาด สงสารทั้ง2คนเลย คนนึงก็กลับมาได้แค่วิญญาน อีกคนก็รอให้ฝื้น
ทำไมมันเศร้าแบบนี้ ครายแปป มาต่ออีกไวๆน้า คิดถึงเรื่องนี้มากเลยยยยย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 05-03-2015 17:41:45
 :hao4:    นึกว่ากลับมาแล้วได้คุย ประมาณเข้าฝันอะไรแบบนี้ แต่ไหงกลายเป็นวิญญาณคุยก็ไม่ได้แบบนี้แหละ 

กลับไปตรงโน้นดีกว่านะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 05-03-2015 19:30:10
พ่อเอัย.... ถ้าคุยกับพ่อแม่ไม่ได้ก็ไปกราบแล้วกลับมาที่ของเราดีกว่าลูก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: gimini ที่ 05-03-2015 22:25:16
เพิ่งได้มาอ่านค่าา สนุกมากๆๆๆๆ ตอนนี้ลุ้นมากๆเลย ทีป์จะกลับไปหาคุณหลวงทันมั้ย >□< มาต่อไวๆนะค้า เป็นกำลังใจให้น้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 07-03-2015 21:05:04
สนุกมากๆเลย มาต่อเร็วๆน้า

กลับไปหาพ่อนพเถอะนะ ทีป์ เดี๋ยวกลับไม่ได้แล้วล่ะแย่เลย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-03-2015 23:59:25
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-03-2015 18:54:46
:-)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-03-2015 21:55:06
มาต่อด่วนค้างมากครับ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 17-03-2015 22:47:13
เมื่อไหร่จะมาน้าาาาาาาาาาาาาาาาา

รอนะค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

อย่าหายไปนานน้าาาาาาาาาาาาาา

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 20-03-2015 19:48:22
ถ้าไม่มีก่อนสอบก็อาจจะมาหลังสอบนะคะ ช่วงนี้ติดสอบมิดเทอม ซึ่งจะยาวไปถึง 10 เมษา (นัดนอกตารางอื้อเลยค่ะ) TT หรืออาจจะโผล่มาช่วงสอบเลยก็เป็นได้ค่ะเพราะเก็บกด 55 แต่สัญญาว่าจะรีบมานะคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 20-03-2015 20:16:40
สู้สู้  ในการสอบค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  คนเขียน

คิดถึง  คุณหลวงมากกกกกกกกกกกกก     รอนะค่าาาาาาาาาาา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๕ 27/2/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-03-2015 17:24:41
สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 25-03-2015 17:21:27
พยับที่ ๑๖



ล่วงเข้าวันที่หกแล้วที่พ่อทีป์หลับไปเยี่ยงนี้ พ่อทีป์ของพี่จักให้พี่ทำเยี่ยงไรพ่อถึงจักกลับมา...ฤาเราจักสิ้นวาสนากันเท่านี้เสียแล้ว...

“พ่อนพ รับข้าวเสียหน่อยเถิดลูกกระเดี๋ยวล้มเจ็บไปอีกคนจักทำเยี่ยงไรเล่า?”

“ให้บ่าวยกมาเสียในเรือนนี้ได้หรือไม่ขอรับคุณแม่”

“เอาเถิด หากกระวนกระวายใจกับพ่อทีป์เสียหนักก็รับเสียในห้องนี้ พ่อทีป์จักมิเป็นอันใดไปหรอกลูกเชื่อแม่เถิด”

“ขอรับคุณแม่ ขอบพระคุณคุณแม่มากหนาขอรับ”

“มิต้องขอบน้ำอกน้ำใจอันใดแม่ดอก พ่อนพเป็นลูกของแม่หากพ่อนพไม่สบายใจ กระวนกระวายใจ เสียใจ เจ็บปวดอันใด แม่คนนี้ย่อมเจ็บปวดกระวนกระวายไปพร้อมกับลูกเยี่ยงกัน”

“ขอรับคุณแม่ ลูกบาปหนานักที่เป็นเสียเยี่ยงนี้ให้คุณแม่ต้องเป็นห่วง”

“พ่อนพ ความรักนั้นเป็นทุกข์หนักหนาหนาลูก หากลูกของแม่จักรักใครสักคนหนึ่งก็หาได้ผิดอันใดไม่ แลหากลูกของแม่จักต้องกระวนกระวายใจเพราะรักนั้นก็หาได้ผิดอันใดเยี่ยงกัน พ่อนพ แม่รู้ดีว่าพ่อนพคิดเยี่ยงไรกับพ่อทีป์ หากพ่อนพต้องดูแลตัวเองบ้างหนาลูก หากพ่อทีป์ตื่นขึ้นมาแล้วพ่อนพล้มป่วยไป พ่อทีป์คงไม่สบายใจเป็นแม่นมั่นมิใช่หรือลูก?”

“ขอรับคุณแม่ ลูกโชคดีนักที่มีแม่ที่ประเสริฐเยี่ยงคุณแม่ หากไปเป็นลูกบ้านอื่น เห็นทีคงโดนหวายลงหลังหนักๆเสียหลายยกด้วยเป็นลักเพศเป็นแน่แท้”

“เป็นกระไรกัน ลักเพศอย่างไรเสียพ่อนพก็เป็นลูกของแม่ แลมีหลานให้แม่ถึงสามคนเชียวหนา พ่อวิ พ่อวี แลพ่อพีนั้นน่ารักน่าชังยิ่งแล้วแลลูก หากมิใช่เชื้อไขของแม่ก็มิเห็นเป็นอันใด”

“ลูกรักคุณแม่เหลือเกินขอรับ”

“แม่ก็รักพ่อนพ แลแม่จักรักคนที่พ่อนพรักเยี่ยงกัน เอ้า มัวแต่ขอบน้ำอกน้ำใจแม่อยู่กระเดี๋ยวแม่มิได้ไปลงครัวเสียที กระเดี๋ยวจักมิได้กินกัน”

“นั่นซีขอรับลูกเองก็เริ่มจักหิวๆบ้างแล้วซี”

“กระเดี๋ยวแม่ทำกับข้าวกับปลาของโปรดพ่อนพมาให้ ดีหรือไม่ลูก พ่อนพก็ดูน้องอยู่ตรงนี้ พ่อทีป์มิเป็นไรดอกลูกเชื่อแม่เถิด”

“ขอรับคุณแม่”



พ่อทีป์ ใยยังไม่ตื่นขึ้นมามองหน้าพี่เสียที จักทิ้งพี่ไปเสียตอนนี้แล้วหรือ... มาบอกพี่ว่าอย่าทิ้งกัน แล้วไยพ่อทีป์ทิ้งพี่เสียเยี่ยงนี้เล่า...

มิได้เห็นใจกันแม้เพียงนิดเลยหรือพ่อทีป์ของพี่....

กลับมาเถอะ...อย่าให้พี่ต้องรออีกเลย



‘พ่อทีป์ พ่อทีป์อยู่ที่ใด เหตุใดมิมาหาพี่?’

ร่างโปร่งแสงที่ทำได้เพียงติดตามคนในครอบครัวไปมาสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงที่คิดถึง ไม่คิดว่าจะได้ยินหรือได้เจอหน้ากันอีกแล้ว อยากเจอเหลือเกิน...แต่ไม่รู้จักกลับไปได้อย่างไร...

“คุณหลวง...ผมคิดถึงคุณหลวง ฮึก...ยะ...อยากเจอเหลือเกิน”นภทีป์กลั้นสะอื้น หวังเพียงว่าเสียงนี้จะดังไปถึงคุณหลวงของเขา...เหมือนที่เขาได้ยินเสียงคุณหลวง

“ทำไมละครับ ให้ผมมาทำไม ให้ผมมาแล้วทำอะไรไม่ได้เลยให้ผมมาทำไมกัน...”

“ทีป์ นั่นทีป์รึเปล่าลูก ร้องไห้ทำไม”ร่างโปร่งแสงเงยหน้าใบหน้าที่เขาคุ้นเคยเหลือเกิน...คุณแม่...ทำไมคุณแม่ถึงเห็นเขาละ??

“คุณแม่มองเห็นผมเหรอครับ?”

“พูดอะไรอย่างนั้นละทีป์ แม่จะไม่เห็นลูกได้ยังไง แล้วนี้ตื่นแล้วเหรอลูก ทำไมตื่นเช้าจริง นี่เพิ่งตีห้าเอง?”ร่างโปร่งใสขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถึงคาดเดาเอาว่านี่คือความฝันของคุณแม่ของเขา...

“อยากใส่บาตรน่ะครับ คุณแม่ครับผมคิดถึงคุณแม่จัง”นภทีป์ลองโอบรอบร่างของมารดาที่เห็น...เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ นี่น่าจะเป็นความฝันของคุณแม่ของเขา...เพราะหากเขาไม่ได้เข้ามาในฝันของคุณแม่มีหรือจะได้กอดแบบนี้

“เด็กคนนี้ พูดอะไรกัน เมื่อคืนก็ยังออเซาะแม่อยู่จะมาคิดถึงอะไรหือ?”

“ฮะๆ อ้าวนั้นธามกับพ่อนี่ครับ?”นภทีป์เบิกตากว้าง นี่คงไม่ใช่ฝันรวมญาติของเขาหรอกนะ??

“แหม วันนี้วันอะไรเนี้ยตื่นกันไวจริง? ไหนๆก็ไหนๆไปใส่บาตรกันหมดนี่เลยดีไหม ไปด้วยกันนะคะคุณ”คุณแม่หันไปส่งยิ้มให้คุณพ่อ คุณพ่อพยักหน้าให้น้อยๆแล้วเราทุกคนก็ลงไปข้างล่าง ปกติแล้วแม่บ้านจะจัดสำรับอาหารสำหรับใส่บาตรไว้ทุกวัน ถ้าคุณแม่ไม่อยู่ก็จะเป็นผมหรือไม่ก็แม่นมออกมาตักบาตรแทน...

แต่ผมคงไม่มีโอกาสใส่บาตรแทนแม่อีกแล้วแหละ

เอ๊ะ...ผมยังอยู่ที่นี่ นี่ผมอยู่ที่นี่มากี่วันแล้ว

ยัง...ยังไม่เกินเจ็ดวันใช่ไหม? หรือว่านี่มันเกินเจ็ดวันมาแล้ว โอ๊ย นี่ผมอยู่ในช่วงนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดเหมือนผู้หญิงมีประจำเดือนหรือยังไงกัน


“ทีป์เหม่ออะไรน่ะลูก พระมาโน้นแล้วเตรียมตัวใส่บาตรเร็ว”คุณแม่สะกิดแขนผมยิกๆ (ในฝันนี่สะกิดได้ด้วยแหะ) ผมถอดรองเท้าออกแล้วยืนเหยียบบนรองเท้าแตะตัวเอง พนมมือนิมนตร์พระอยู่ข้างๆทุกคน


ข้างๆครอบครัวของผม

“นิมนตร์เจ้าค่ะหลวงพ่อ”

“ใส่บาตรกันทั้งบ้านเลยหรือโยม ดีจริง วันนี้มีโอกาสพิเศษอะไรของบ้านโยมหรือ?”

“ไม่มีหรอกค่ะหลวงพ่อ เผอิญลูกๆกับสามีดิฉันเขาตื่นมาพร้อมหน้าพร้อมตาแต่เช้าเลยมาใส่บาตรรด้วยกันน่ะค่ะ เอ...ดิฉันไม่เคยเห็นหลวงพ่อเลย หลวงพ่อเพิ่งมาจำวัดใหม่หรือคะ”คุณแม่ไม่เคยเห็นน่ะถูกแล้วครับ ก็นี่...หลวงพ่อวันระฆังฯ ที่เคยดูดวงให้ผม...

“ฉันจะมาแค่วันนี้แหละโยมจะหมดเวลาแล้ว”ผมขมวดคิ้ว...หมายความว่า วันนี้คือวันที่เจ็ด?

“หมดเวลาอะไรหรือคะ?”

“เอ่า มัวแต่ถามไถ่กระเดี๋ยวไม่ได้ใส่บาตรกัน มาเถอะ เดี๋ยวอาตมาผูกข้อมือให้เสียด้วย”หลวงพ่อยกยิ้มอย่างใจดีแล้วเลี่ยงไม่ตอบคำถามแม่ของผม


จะหมดเวลาแล้ว...

แล้วผมจะกลับยังไงกันละ!!



“รับพรนะโยม”

“เอ่า มาผูกข้อมือกันเสียด้วย วันนี้อาตมาเพิ่งมาบิณฑบาตแถวนี้กะจะผูกให้ทุกบ้านเชียวแหละ”



“แหม...ดีจริงค่ะ คุณคะมาผูกก่อนซี”คุณแม่ดึงคุณพ่อไปให้หลวงพ่อผูกข้อมือให้ก่อน แล้วจึงเป็นคุณแม่ พี่ธามแล้วก็ผม

“ถ้าอยากกลับไปที่นู้น โยมก็คิดถึงคนที่นู้นให้มากๆ คนที่นี่ก็บอกลาเสีย เวลาเหลืออีกมิกี่ชั่วยามดอกหนา”

“ขอรับ”ผมรับคำที่หลวงพ่อพูดกันเบาๆ ก่อนจะเดินตามกลับเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน เรานั่งกินอาหารเช้าคุยกันสัพเพเหระ แต่จิตใจผมไม่สงบเลย

ผมคิดถึงทุกคน และก็รู้ว่าเวลานี้กำลังจะหมดไปแล้ว ผมต้องพูดอะไรสักอย่างก็ที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

“คุณพ่อ คุณแม่ครับ”

“หืมว่ายังไงตาทีป์ เป็นอะไรลูกทำหน้าเครียดขมึงทึงเชียว”

“ผมสบายดีนะครับ มีความสุขดี ไม่ต้องเป็นห่วง ผม...มีคนที่ผมรักแล้วก็เอ่อ...คิดว่าเขาน่าจะรักผมอยู่ด้วย เออ...ตอนนี้มันอาจจะฟังดูแปลกที่จู่ๆผมก็พูดแบบนี้ แต่เดี๋ยวคุณแม่ก็เข้าใจเองนั่นแหละครับ”

“อะไรกันลูกคนนี้ อยากอ้อนคุณแม่เขารึไง”คุณพ่อพูดติดตลกแล้วลูบหัวผมเบาๆ ผมกับคุณพ่อเราเจอกันน้อยมาก เพราะส่วนมากคุณพ่อก็อยู่ที่สถานทูตที่อื่น นานๆจะได้เจอกันสักครั้ง ตอนผมปิดเทอม หรือตอนพักร้อมของคุณพ่อ แต่คุณพ่อก็ยังเป็นฮีโร่ของผม

“คุณพ่ออิจฉาคุณแม่เหรอครับ”ฮ่าๆ ถูกจุดจริงๆด้วยคุณพ่อลูบคางแบบเขินๆทำเอาไอ่ธามขำก๊าก คุณพ่อเลยต่อยเข้าที่ท้องคุณหมอของบ้านเบาๆ จิ๊ ไม่ใช่ลูกรักอย่ามาแหยมเลยน่าธาม

“โธ่ คุณพ่ออ่ะ ต่อยผมทำไมละครับ ใช่สิ๊ ผมมันลูกคนโต ใครๆก็ไม่สนใจ พอมีไอ่หมาหน้าแป้นนี่ผมก็กลายเป็นหมาหัวเน่า”ธามทำสะดีดสะดิ้งงอนคุณพ่อคุณแม่จนโดนฝ่ามือจากคุณแม่ฟาดไปอีกยก

คิดถึงจังเลยแหะ แต่ผมรู้ว่าผมคงกลับมาอยู่ในยุคปัจจุบันไม่ได้แล้ว

ดีแค่ไหนแล้วที่ได้มีช่วงเวลาแบบนี้อีกสักครั้ง

“เอ้ยย จะสายแล้วผมไปทำงานแล้วนะครับคุณแม่ ทีป์มึงจะไปพร้อมกูเปล่า?”

“เออ ไปๆ ธามรอด้วยดิ แปปนึง”ผมหันไปบอกธามที่สะดุ้งเพราะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสายแล้วกุลีกุจอไปเอากระเป๋าเอกสารกับเสื้อกาวน์ที่พาดอยู่ตรงโซฟาใกล้ๆมาถืออย่างรวดเร็วพร้อมจะออกจากบ้านทุกๆเสี้ยววินาที เป็นหมอก็งี้ละนะ

“ผมไปก่อนนะครับคุณพ่อ ไปก่อนนะครับคุณแม่ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ ผมสบายดี แล้วก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในภพนี้แล้ว ผมรักพ่อกับแม่นะครับ”ผมพูดเร็วๆคุณแม่กับคุณพ่อทำหน้างงๆแล้วก็หัวเราะใส่ผม

ก็แหงละ ในโลกปกติมันคงแปลกน่าดูแต่เดี๋ยวตอนตื่นเขาก็รู้กันเอง


“ทีป์เร็วๆดิ คนไข้ตายนี่กูโทษมึงเลยนะ”ธามมันเร่งผมยิกๆ ผมเลยรีบสาวเท้าไปหามัน ผมเป็นคนขับรถไปส่งมันที่โรงพยาบาลก่อนแล้วจะไปที่สถานทูต โอเคก็คงไปไม่ถึงสถานทูตหรอก ถ้าผมคิดวิธีกลับไปโลกนู้นได้ก่อนน่ะนะ ผมแค่อยากไปเจอไอ่ตฤณด้วยแค่นั้นเอง ปกติผมก็เข้างานสายกว่าธามอยู่แล้ว ถือโอกาสเดินเข้าไปส่งมันเลยแล้วกัน



“ลมอะไรหอบมึงมาเนี้ยทีป์  คิดถึงมึงจังไม่ได้เจอตั้งหลายวัน”ตฤณยิ้มตอแหลใส่หน้าผม ก็แหงแหละ จะมาคิดถงคิดถึงอะไรกันละ ตัวจะติดกันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว (ในความคิดของตฤณตอนนี้น่ะนะ)

“ตอแหลสิมึง คิดถึงมึงเหมือนกัน เออ ว่าแต่มึงเสียตูดให้ธามยัง”ผมยิ้มใส่ตาไอ่ตฤณ

“ไอ่ห่า พูดจากวนตีน”

“ฮ่าๆ แปลว่ายัง กูมาส่งธามมันอ่ะ มึงไม่เตรียมตัวราวน์วอร์ดพร้อมพี่กูรึไง”ผมพยักเพยิดไปทางไอ่ธามที่ลุกลี้ลุกลนใส่เสื้อกาวน์กับหยิบของที่จำเป็นอยู่

“เออ ราวน์พร้อมกันนี่แหละ กูเตรียมเสร็จนานแล้วเอ็กซ์เทิร์นมาที่หลังพวกเรสซิเดนท์ก็ตายห่าสิมึง กูพร้อมนานละ ละทำไมวันนี้มันเกือบสายได้วะ ปกติมาเร็วตายห่า”

“มัวแต่คุยกันเพลินว่ะ พ่อกูกลับมาพอดี เออ มึงไปราวน์วอร์ดเถอะเดี๋ยวกูไปละ”

“เออๆ ขับรถดีๆนะมึง”

“เออ มึงก็รู้กูระวังจะตาย มึงก็เหมือนกัน มีชีวิตอยู่ดีๆนะ ดูแลไอ่ธามด้วยนะมึง”

“บ้า มันสิต้องดูแลกู”

“เออ จะยังไงก็ช่างเถอะ กูไปแล้วนะ”ผมรวบมันเข้ามากอดทีนึง ไอ่ธามมองมาตาเขียวปั๊ด โธ่ ไอ่พีชายเห็บหมา แค่นี้ยังไม่กล้าจีบแล้วยังมีหน้ามาทำตาเขียวใส่แม้กระทั่งในฝัน จิ๊ ผมแลบลิ้นให้มันก่อนจะโบกมือลาไอ่ตฤณแล้วเดินออกมา

หาทางกลับไปหาคุณหลวง...

แต่ผมก็นึกไม่ออก หรือผมจะลองไปบ้านริมน้ำดี


สุดท้ายผมก็พาตัวเองมาอยู่ที่บ้านของผม ผมเดินขึ้นไปบนบ้านแล้วนั่งแหมะลงในห้องนอน โอ๊ย...แล้วผมจะกลับยังไงละเนี้ย

คุณหลวงครับ...คิดถึงผมรึเปล่า

คิดถึงผมบ้างไหม


ร่างโปร่งที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นเรือนลูบไล้พื้นเรือนแผ่วเบา ตาโตหรี่ลงพลางนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่อีกภพหนึ่ง ตอนที่พื้นกระดานยังใหม่กว่านี้เยอะ ริมฝีปากบางยกยิ้มอ่อนๆ

หึ จะคิดถึงผมบ้างไหมนะคุณหลวง

พี่นพ...พี่นพของผม

คิดถึงกันบ้างรึเปล่าครับ...



“พ่อทีป์ เหตุใดยังไม่กลับมาหาพี่เสียทีเล่า ไม่คิดถึง ไม่รัก ไม่สงสารพี่บ้างหรือ”คุณหลวงทรุดตัวอยู่ริมเตียง นี่ก็ล่วงวันที่เจ็ดมาจนเย็นย่ำแล้วที่พ่อทีป์หลับไป

เป็นกระไรกันนะ พ่อทีป์ของพี่

“คิดถึงพี่บ้างไหมคนดี ไม่อยากลุกมาคุยกับพี่แล้วหรือ”คุณหลวงหนุ่มก้มหน้าลงไปมองหน้าคนที่หลับอยู่ชัดๆ น้ำเสียงหยอกเย้ากึ่งตัดพ้อ เสียดใจคุณหญิงแขไขที่ฟังอยู่หน้าฉากยิ่งนัก

พ่อทีป์เอ๋ย รีบกลับมาเถิดลูก พี่เจ้าจะเป็นบ้าเป็นหลังไปเสียวันนี้อยู่เชียว...

ร่างสูงใหญ่กว่ามัวแต่มองหน้าคนที่เอาแต่หลับจนไม่ได้สังเกตนิ้วมือเรียวที่กระตุกแผ่วเบา...นภทีป์กำลังจะฟื้น กลับมาหาคนในยุคนี้

คนที่เขาคิดถึงเหลือเกิน

“แค่ก”


“พ่อทีป์!?”

“แค่กๆ โอ้ย คอแห้งขอน้ำหน่อยสิครับ”

“ค่อยๆจิบนะพ่อทีป์”คุณหลวงยื่นถ้วยกังไสใบน้อยให้นภทีป์ที่ลืมตาขึ้นมา เขาดีใจเหลือเกิน...นึกว่าชาตินี้พ่อทีป์จักไม่ตื่นขึ้นมาอีกเสียแล้ว

“คุณหลวง...คุณหลวง คุณหลวงจริงๆด้วย”นภทีป์กระซิบซ้ำไปซ้ำมา สองมือแปะลงมาบนหน้าคม ลูบไล้แผ่วเบา น้ำตาเริ่มไหลออกมาทีละน้อย

เขานึกว่าจะกลับมาไม่ได้เสียแล้ว...

เขานึกว่าจะสายไปเสียแล้ว...

นึกว่าชาตินี้จักไม่ได้พบไม่เจอกันอีก...

คุณหลวงนพเทพอัคราทำเพียงจับมือของนภทีป์ไว้แล้วซับน้ำตาให้แผ่วเบาด้วยมืออีกข้าง...ดีใจเหลือเกินแล้วที่เจ้ายังอยู่กับพี่
พ่อทีป์เอ๋ย...

จักรู้หรือไม่ว่าใจพี่เจ็บเพียงใดยามเจ้าเอาแต่นอนอยู่อย่างนั้น...

จักรู้หรือไม่ว่าอกชายสามศอกผู้นี้เจ็บปวดเพียงใด...

พี่คงรักเจ้าเข้าจริงๆเสียแล้วกระมังพ่อทีป์เอ๋ย...

จะให้พี่ถอดถอนใจเยี่ยงไรคงไม่ได้แล้วเทียว...


คุณแขไขที่อยู่หน้าฉากจะถลันเข้ามาถามไถ่ด้วยความห่วงใย หากแต่หะแรกที่เธอก้าวพ้นฉากมาก็ต้องชักเท้ากลับเสียแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาดูพ่อทีป์ยังมิสายดอกกระมัง

นางยิ้มกับตัวเอง หากพ่อนพลูกชายที่รักของนางจะต้องทนทุกข์เพราะไม่ได้รักกับคนที่รัก สู้นางทนทุกข์เสียหน่อยที่ต้องฟังคำติฉินนินทา ดีกว่าให้เลือดในอกของนางต้องทุกข์ทนเป็นไหนๆ

“มิเข้าไปหรือคะคุณหญิง”
“ไม่ละ ไปกันเถิดพ่อวิพ่อวีกับพ่อพีคงอยากให้คุณย่าไปส่งนอนแล้วกระมัง”

“ร้องไยเล่าพ่อทีป์ พี่อยู่ตรงนี้อย่างไรเล่าจ้ะ”

“ผมคิดถึง”นภทีป์พูดเสียงแผ่ว นัยน์ตาสะท้อนภาพคุณหลวงชัดเจน เขาลูบแขนลูบหน้าคุณหลวงซ้ำไปซ้ำมา จนคนโดนลูบชักจะทนไม่ไหว

“จะลูบจะคลำพี่อีกนานหรือไม่หือ พี่มิอยากชิงสุกก่อนห่ามหนา”

“ทะลึ่ง”

“ก็พ่อทีป์เอาแต่ลูบพี่อยู่นั่น พี่มิใช่พระอิฐพระปูนหนาเจ้า คิดถึงพี่มากหรือ ตัวเองเป็นคนชิงหลับไปแท้ๆเชียวหนา”

“คิดถึงซี พี่นพไม่คิดถึงผมหรือ”นภทีป์ทอดเสียงแผ่วเบา แต่คนที่ถูกเรียกชื่อกับใจเต้นระรัวแรง ดีเหลือเกินทีพ่อทีป์เรียกเขาด้วยชื่อนี้ มิใช่บรรดาศักดิ์ที่ได้รับแต่งตั้ง

“เรียกอีกได้หรือไม่”

“เรียกกระไรขอรับ?”

“เรียกชื่อพี่”

“พี่นพ...”

“เรียกอีกซี”

“พี่นพ”

“เรียกอีก เรียกพี่อีกได้หรือไม่จ้ะ”

“พี่นพ”

“เด็กดี”คุณหลวงก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากนภทีป์ ที่สุดท้ายก็กลายเป็นจูบรุกเร้ารุนแรง...เขาคิดถึงพ่อทีป์เหลือเกิน คิดถึงจนแทบจะทนไม่ไหว

คิดถึงจนแทบจะไม่อยากอดกลั้นอะไรไว้แม้แต่นาทีเดียวเลยแหละ!!


“พี่นพ พอแล้ว อื้อ”นภทีป์เริ่มประท้วงเมื่อคุณหลวงเริ่มถอดเสื้อผ้าของทั้งตัวเองและของเขา สุดท้ายก็เปลือยล้อนจ้อนกันทั้งคู่

“พี่นพครับ พอแล้วน่า อ๊ะ...”นภทีป์สะดุ้งตกใจเมื่อริมฝีปากนั่นครอบลงบนยอดอกสีนวล นี่คุณหลวงเป็นคาสโนว่ายุคโบราณรึเปล่าเนี้ยทำไมเชี่ยวชาญจังวะ!!

“อยากให้หยุดจริงๆหรือ ทำไมตรงนี้ไม่เห็นอยากให้พี่หยุดเลยเล่า”คุณหลวงรวบเอาแก่นกายของนภทีป์ไว้แล้วกระตุกแผ่วๆ ทำเอาร่างโปร่งบนเตียงที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเพราะไม่ได้กินอะไรมากว่าเจ็ดวันสะดุ้งเฮือก

“พี่นพครับ อ๊า อย่าครับพี่นพ อ๊ะ”ฝ่ามือใหญ่ขยับขึ้นลงเป็นแก่นกายขาวเนียน ยิ่งเห็นหน้าแดงๆกับคนใต้ร่างบิดเร่าๆยิ่งสมใจ คุณหลวงก้มลงจูบนภทีป์ซ้ำไปซ้ำมา

เขามิใช่ชายไม่ประสา ยามเป็นหนุ่มก็พากันไปขึ้นครูกับสหายสนิทเสียตั้งแต่นมยังไม่แตกพานดีด้วยซ้ำ ดีแต่ว่าเขาไม่เอาบ่าวในบ้านมาทำเมียก็เท่านั้น

“ฮ๊า...”ฝ่ามือหนากระตุกรัวเร็วจนสุดท้ายก็ทำอีกคนถึงฝั่งจนได้ แต่เขายังไม่สมใจนี่ จะลงโทษให้สาสมเชียวที่พ่อทีป์ทำให้เขาทรมานใจมาเสียหลายวันแล้วมายั่วกันเสียอย่างนี้

“อ๊ะ ยังไม่พออีกหรือขอรับพี่นพ ผะ...อ๊า...ผมเหนื่อยแล้วนะ”ร่างโปร่งเริ่มดิ้นเร้าเมื่อมือใหญ่ไม่ยอมหยุดยังคงปลุกเร้าเขาอยู่อย่างนั้น

“พ่อทีป์สมใจแต่พี่ยังไม่สมใจนี้”คุณหลวงกระซิบริมหูบางแล้วขบเบาๆ ร่างโปร่งสะท้ายเฮือก มือหนาจับมือเรียวของอีกคนไปตะปบที่แก่นกายตัวเอง

“ช่วยพี่ทีสิจ๊ะพ่อทีป์”


“อ๊ะ คะ...ครับ”นภทีป์หลับตาปี๋เมื่อมองไปที่แก่นกายของอีกคนชัดๆ...ใหญ่...ใหญ่อะไรขนาดนั้นว่ะน่ะ แล้วเขาจะรับไว้ได้ยังไง ฮือ...เสียวก็เสียว กลัวก็กลัว!!



---------------------------------------------
ตัดจบปิ๊งงงง แบบเก๋ไก๋สไลด์เดอร์ ฮ่าๆ เอามาส่งค่ะ เนื่องจากวันนี้เป็นวันพักครึ่งของการสอบ
เกือบตายแล้วนะเออ อาจจะมีต่อได้อีกทีหลังสิบเมษาหรือก่อนหน้านั้นะคะ มีนัดสอบนอกตารางอื้อ
มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลานนะคะว่าอย่ามาเรียนเภสัชฯ ฮ่าาาา สอบทีเป็นซอมบี้ก็มิปาน

จริงๆแล้วก็อยากจะเขียนฉากอัศจรรย์ให้สะเทือนเลื่อนลั่นถึงชั้นฟ้าเหมือนกันนะคะ
ติดอยู่ที่ว่าไม่เคยเขียนนนน ไม่รู้อันนี้ออกมาเป็นไง (ช่วยติฉากนี้ให้ทีนะคะ)

สุดท้ายที่ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน อาจจะนานๆลงบ้างอย่าเพิ่งทิ้งกันนะคะ จะพยายามใหนิยายจบก่อนคนเขียนเรียนจบ (คือเรียนหกปี) ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 25-03-2015 18:12:54
อย่าบอกนะว่าเรียนหกปีปีนี้เรียนอยู่ปีหนึ่ง --"
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-03-2015 19:10:23
คือจะเข้าคณะนี้พอดีเลย ตายแน่เลย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 25-03-2015 19:40:17
อุโธ่!!!!!!!!!  ค้างเห็นวิมานกลางอากาศเลย  อยากจะกระทืบเท้าเสียให้กระดานลั่น!!! :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 25-03-2015 20:18:05
อย่างน้อยๆก็ได้ลาคนที่เรารัก

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 27-03-2015 01:09:25
อย่าบอกนะว่าเรียนหกปีปีนี้เรียนอยู่ปีหนึ่ง --"
ปีสองถ้านับตามม.อื่นค่ะ แต่จริงๆเรียนเนื้อหามาถึงปีสามแล้วววว 55 อยากให้จบก่อนรับเสื้อกาวน์เหมือนกันค่ะ แต่อาจจะไม่ทัน TT
คือจะเข้าคณะนี้พอดีเลย ตายแน่เลย
คณะนี้น่ารักนะเอออ กินเอ็มร้อยแล้วอ่านหนังสือซะ -..- /เปปทีนไม่ใช่ทางเราจริงๆนะพูดเลย
อุโธ่!!!!!!!!!  ค้างเห็นวิมานกลางอากาศเลย  อยากจะกระทืบเท้าเสียให้กระดานลั่น!!! :hao5:
คงจบแค่นี้แหละตัววว เค้าไปต่อมิได้ล้าววว /อู้เล่นบ่าดาย 555
อย่างน้อยๆก็ได้ลาคนที่เรารัก

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
เนอะะะะ -3- แล้วก็มาวิดวิ้วกิ๊บกิ้วกิ้วก๊าวกับคุณหลวงต่อ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 27-03-2015 02:25:01
มาแล้วๆๆ อย่านะคุณหลวง รอแต่งก๊อนนนน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 27-03-2015 06:01:04
 :a5:แม้พี่นพเนี้ยเขาขึ้นครูยังไม่แตกหนุ่มด้วยซ้ำ เจ้าชู้ไม่เบาเทียวพ่อ มิหน้าพ่อทีป์เห็นเอาสะตกใจกันเลยทีเดียว พ่อทีป์สู้ๆล่ะกัน ช่วยพี่นพเขาหน่อย คึคึ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 07-04-2015 09:54:47
 :o11: มารอคุณหลวงค่าาาา เมื่อไรจะมาน้ออออ :dont2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-04-2015 18:55:37
คิดถึงจังเลยมาต่อเถอะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 08-04-2015 23:40:51
สู้ๆนะคนเขียน....ไว้ว่างๆค่อยมาต่อก็ได้จ้า

แหมะ อิคุณหลวง หื่นแตกนะแก
สงสัยเฮียแกอดมานาน เลยจัดเต็มให้ทีป์ซะเลย5555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-04-2015 07:59:46
วันนี้วันที่ 13 แล้วนะยังไม่มาต่ออีกเหรอมาทวงสัญญา
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: gintama66 ที่ 25-04-2015 14:59:06
จะหมดเดือนเมษาแล้วนะ ตัวเองหายไปไหนอ่า
นี่รอฟินกับ พี่นพพ่อทีป์อยู่นะคะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 26-04-2015 17:31:03
สวรรค์ล่มต่อหน้ากันทีเดียวเทียว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-04-2015 16:34:02
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 29-04-2015 17:29:26
 :ruready :เฮ้อ: :m16: :m31:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 02-05-2015 18:44:03
มารอว่าคุณหลวงจะหวานขนาดใหน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 02-05-2015 19:08:04
หายไปเลยยยยย

ยังรอพยับ๑๗ อยู่นะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๖ 25/3/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 02-05-2015 21:46:08
มารอคุณหลวง  น้องทีป์     

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 08-05-2015 21:49:39
พยับที่ 17



ลมเย็นๆพัดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาไล้เลียคนที่หลับอยู่ช้าๆ คนตัวโตกว่าขยับตัวขึ้นเล็กน้อย...นี่ตะวันคงจะขึ้นเสียแล้วกระมัง...เพราะเขามัวแต่กกกอดคนข้างๆจนแทบจะรุ่งสางแท้ๆเชียว

“ฮ้าว....อ้าว ตื่นแล้วหรือขอรับคุณหลวง”

“ตื่นแล้วซี เจ็บหรือไม่?”

“เจ็บสิ!! ของตัวเองออกจะใหญ่โตยังมีหน้ามาถาม”ท้ายประโยคเสียงก็แผ่วลงเรื่อยๆ เพราะคุณหลวงแท้ๆเชียว ทำเอานภทีป์ไม่กล้าขยับตัวแรง กลัวสะโพกจะหลุดออกจากเอว

คนบ้าอะไรไม่รู้ ชิงสุกก่อนห่ามสิ้นดี!!

ทำเป็นคนดี ชิ ที่แท้นี่มันหมาป่าในคราบพ่อพระชัดๆ คุณหลวงคนชั่ว!! นภทีป์ได้แต่ก่นด่าในใจเพราะความเจ็บที่ช่องทางด้านหลัง แถมจะไปหายาแก้อักเสบกินในยุคนี้ก็ไม่มีให้เขากินเสียอีก มีแต่ทนกับทนเห็นๆ

“พี่จะให้อ้ายทดไปขอตำรับแก้ปวดหมอมาให้ดีหรือไม่?”

“แล้วจะไปบอกหมอว่าอะไรขอรับ บอกว่าพี่นพข่มเหงผมจนลุกไม่ไหวเพราะปวดสะโพกหรือ”เสียงสะบัดน้อยๆ เรียกร้อยยิ้มมุมปากให้คุณหลวง ร่างสูงเพียงตวัดแขนโอบคนข้างๆมาในอ้อมกอด นภทีป์หน้าแดงเรื่อ แต่ไม่ยอมมองหน้าคุณหลวงอยู่นั่นเอง ก็ใครใช่ให้คุณหลวงไม่ยอมหยุดสักทีละ!!ตั้งแต่เข้านอนจนเกือบเช้าใครมันจะไปรับไหว ตาคุณหลวงบ้า

“เอ...กระนั้นก็ดีเหมือนกันนา เดี๋ยวพี่บอกอ้ายทดไปแบบนี้ดีฤาไม่?”

“โอ้ย พี่นพ คนอะไรหน้าไม่อาย!!”นภทีป์ตวัดเสียงใส่ พลางทุบไปอีกหลายๆทีบนหน้าอกคนตัวโตกว่า ไม่น่าเสียทีปล่อยให้เขาปล้ำได้เลย ไอ่ทีป์เอ้ยย มึงนี่มันโง่จริงๆ เจ็บก็เจ็บ แถมยังไม่ทันฟื้นตัวดีก็โดนปล้ำเอา ปล้ำเอา ไม่ป่วยไปอีกรอบก็ดีเท่าไรแล้ว

“โธ่ พี่มิทำเยี่ยงนั้นดอกจ้ะ ไหนให้พี่ดูที พ่อทีป์ของพี่ เจ็บตรงไหนอีกฤาไม่จ้ะ”

“เจ็บทั้งตัวเลย...เพราะพี่นพนั้นแหละขอรับ”

“ทำบ่อยๆกระเดี๋ยวก็ชิน ดีหรือไม่?”

“ทะลึ่ง”นภทีป์ได้แต่แอบปวดหัวเงียบๆ จิ๊ ใครจะไปรู้ว่าภายใต้ท่าทางสุภาพๆแบบนั้นจะซ่อนหมาป่าจอมหื่นกามไว้แบบนี้
 
“ทะลึ่งแปลว่ากระไร?”คุณหลวงหนุ่มเลิกคิ้วถาม พลางมองมาอย่างรอคอยคำตอบ ทำเอานภทีป์หลุดหัวเราะคิกคัก แหม...ใครจะไปรู้ว่าไม่รู้จักละ

“หมกหมุ่นในกาม ประมาณนี้มังขอรับ”

“พี่ดูเป็นตาแก่ตัณหากลับถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”

“ก็แน่ละสิขอรับ ดีไม่ดีก็จักแย่กว่าตาแก่อีก เพราะอย่างน้อยตาแก่คงไม่มีเรี่ยวมีแรงมาข่มเหงผมทั้งคืนหรอก”

“ปากคอเราะร้ายเสียจริง เอ้า ลุกเถิด เดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำ พ่อทีป์คงยังเดินไม่ใคร่สะดวก หรืออยากจักเช็ดตัวเสียเฉยๆ ดีหรือไม่จะได้ไม่ต้องลุก”

“อาบน้ำดีกว่าขอรับ เหนอะหนะจะแย่”นภทีป์พูดแผ่วเบา ใบหน้าขาวแดงซ่าน ก็ใครจะกล้าบอกว่าที่จะไปอาบน้ำดีกว่าเนี้ยเพราะจะเอาไอ่น้ำเหนียวๆที่ค้างคาอยู่ในตัวออกกันละ ขยับทีก็ไหลออกมาทีไม่รู้มีค้างอยู่เยอะขนาดไหน ผ้าปูนี้เขาคงเก็บซักเอง ขืนให้บ่าวซักเปลี่ยนให้เขาคงอายไปถึงไหนต่อไหน

“มาเถิด”คุณหลวงให้นภทีป์เอาผ้าคลุมตัวแล้วอุ้มออกไปทั้งอย่างนั้น ก่อนไปยังสั่งให้ทนายหน้าหอเตรียมเสื้อผ้าไปให้ผลัดเปลี่ยนที่ท่าน้ำ



“พ่อทีป์ ยืนไหวหรือไม่?”คุณหลวงถามหลังจากอุ้มนภทีป์ลงน้ำมาด้วยกัน

“ไม่แน่ใจขอรับ แต่ว่าถ้านั่งที่ท่าก็คงพอไหว”

“งั้นหรือ มาเถิดเดี๋ยวพี่พาไป”คุณหลวงตระกองกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไปที่ท่าน้ำ ยกคนตัวบางกว่านั่งบนบันไดที่ตีนท่า พลางปลดเอาผ้าที่คลุมร่างกายอีกคนออก มือหนาหยิบใยบวบแต้มขมิ้นแล้วค่อยๆขัดเนื้อตัวให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแผ่วเบา ด้วยกลัวเนื้อตัวขาวผ่องนั้นจะมีริ้วรอย

“ผมอาบเองก็ได้นะขอรับพี่นพ”

“ให้พี่ทำให้เถิด พี่อยากทำให้”คุณหลวงว่าพลางขยับมือไปแถวๆช่วงกลางลำตัวแล้วออกแรงขัดถูให้เสียทุกซอกทุกมุม ทำเอาใบหน้าขาวแดงจัด ยิ่งกว่านั้นยังล้วงไปถึงช่องทางด้านหลังเพื่อเอาน้ำที่ตัวเองทิ้งไว้ในตัวอีกคนออกจนสะอาดเอี่ยม

“เอาละพี่อาบให้ตัวเองบ้าง พ่อทีป์นั่งรอพี่เสียหน่อยกระเดี๋ยวพี่จักสระหัวให้ นอนซมอยู่หลายวันคงเหนียวเนื้อตัวเต็มทีกระมัง”

“ขอรับ”นภทีป์รับคำเสียงแผ่ว พลางเงยหน้ามองตาอีกคน แต่ดันเงยหน้าจังหวะที่คุณหลวงค่อยๆไล้มือบนร่างตัวเองพอดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไรน้องชายเขาถึงคึกคักขึ้นมาเสียจนปวดหนึบ คุณหลวงอาบน้ำให้ตัวเองจนเสร็จแล้วเรียกนภทีป์ลงมาจากท่า ยืนซ้อนคนตัวบางกว่าแล้วสระผมให้จนเสร็จ แล้วจึงสระของตัวเองบ้าง คุณหลวงบอกว่าเขานอนอยู่จนเจียนจะครบเจ็ดวันเอาก็วันนี้ พอสระผมอีกทีถึงได้รู้สึกแสบยิบๆเพราะมะกรูดที่ตะโบมลงมาใส่ผม เล่นเอาแสบหัวหูไปหมด

“เอ้าเสร็จแล้ว ไปเถิดกระเดี๋ยวพี่แต่งตัวให้”คุณหลวงที่นุ่งผ้าข้างล่างขึ้นท่าไปก่อนแล้วถึงอุ้มนภทีป์ตามขึ้นไปพร้อมคลุมผ้าให้ นภทีป์ได้แต่หนาวสั่นงกๆด้วยยังเช้าอยู่อักโข

“เสร็จแล้วจ้ะ”คุณหลวงเงยหน้ามายิ้มให้นภทีป์หลังจากผูกหูกางเกงจีนให้คนตัวบางกว่าเสร็จพลางละไปแต่งตัวให้ตัวเอง แล้วรีบขึ้นเรือนไปทั้งคู่ เพราะคุณหญิงให้บ่าวมาตามไปกินข้าว




“พ่อนพนี่กระไร น้องเพิ่งฟื้นไข้มากันไปแช่น้ำนานเพียงนั้น กระเดี๋ยวไข้กลับจักว่าอย่างไรหือ มันน่าจับมาตีให้ก้นลายทั้งคู่นักเชียว”พอนั่งได้ยังไม่ทันไรคุณหญิงก็เอ็ดขึ้นเสียงเขียว

“กระผมอยากไปอาบน้ำเองแหละของรับคุณแม่ อย่าว่าพี่นพเลยนะขอรับ”นภทีป์เคลื่อนกลายไปชิดพลางบีบต้นขาอวบเบาๆ ทั้งยังส่งสายตาออดอ้อนจนคุณหญิงใจอ่อน

“เอาเถอะๆ แม่จักไม่ว่ากระไรเสียก็ได้ ทานข้าวเสร็จแล้วพ่อทีป์ก็ทานยาแล้วก็ไปนอนพักเสีย แล้วนี่หายไข้แล้วใช่ฤาไม่ลูก”
“หายแล้วขอรับ แค่ไม่ค่อยมีแรง”

“คงเพราะไม่ได้กินไม่ได้อยากอยู่เสียเจ็ดวันกระนั้นกระมัง เอาเถิด พ่อนพเองก็รีบกินเข้า เห็นอ้ายทดว่าคุณพระให้คนมาตามมิใช่หรือ

“ขอรับคุณแม่”สองเสียงที่พร้อมใจกันประสานเสียงตอบรับทำคุณหญิงหมั่นไส้จนอดมองค้อนใส่ชายหนุ่มทั้งสองในวงอาหารไม่ได้


“พี่ไปแล้วหนา อยู่บ้านวันนี้ก็พักผ่อนเสียก่อนเถิดนะพ่อทีป์ อย่าไปเล่นซนนัก กระเดี๋ยวจักเจ็บไข้เสียอีกเข้าใจพี่หรือไม่จ้ะ”

“ขอรับ พี่นพก็ไปดีๆ เดินทางปลอดภัยนะขอรับ”

“พี่อยากจะขอหอมให้ชื่นใจก่อนไปทำงานยิ่งนัก หากมิเห็นบ่าวไพร่ออกครึ่ดไปเยี่ยงนี้แล้วล่ะก็ พี่จักหอมเสียให้แก้มช้ำเชียว”

“พี่นพนี่พอออกลายแล้วหนักหนาเชียวนะครับ”

“ออกลายกระไร”

“ก็ตอนแรกพี่นพทำท่านิ่งๆ ไม่เห็นจะออกท่าออกทางพิศวาสกระไรกระผมมากมาย จู่ๆ พอเรา...เอ่อ...นั้นแหละ พี่นพก็รุ่มร่ามพูดจาเกี้ยวผมไปมาเสียเฉยๆ”

“หึหึ จริงๆเหตุผลมันก็มีอยู่แต่หากพี่จะชี้แจงเสียเดี๋ยวนี้ก็เกรงว่าจักไปไม่ทันนัดกับท่านเจ้าคุณกระมัง รอพี่เถิดกระเดี๋ยวพี่จักกลับมาบอก เย็นนี้จะกอดหอมเสียให้ชื่นเชียว”

“ไปเสียทีเถอะขอรับ กระเดี๋ยวจักไม่ทันขึ้นมาเสียจริงๆ”

“ไปแล้วจ้ะไปแล้ว รอพี่นะคนดี กระเดี๋ยวพี่จักรีบกลับมา”ผมพยักหน้ารับแล้วโบกมือบ๊ายบายให้คุณหลวง ช่วงนี้ขยันหยอดคำหวานเสียจนผมจำคุณหลวงคนที่เพิ่งเจอกันแรกๆแทบไม่ได้แหนะ

“คุณทีป์เจ้าขา คุณหญิงให้มาเรียนว่าวันนี้คุณทีป์ใคร่จักมาหัดทำแกงบวบฮังเลกับคุณหญิงหรือไม่เจ้าคะ”

“เอาสิครับ คุณแม่ท่านจักทำตอนไหนหรือ?”

“ท่านว่าสายๆเจ้าค่ะ ให้เรียนว่ายามนี้ก็ให้คุณทีป์ช่วยงานเอกสารคุณหลวงไปก่อน เห็นคุณหลวงท่านหอบมาทำที่เรือนเสียเยอะแยะเทียวเจ้าค่ะ ตอนที่คุณทีป์หลับไป”

“พี่นพคงลำบากมากเลยนะครับ”ผมหันไปถามแม่นมของคุณหลวงซึ่งเป็นคนสนิทของคุณหญิง หน้าตาเธอดูในดีเทียวแหละครับ แต่ผมว่าตอนดุก็คงใช่น้อยเหมือนกัน (แอบเห็นตอนแกดุทาสที่อายุรุ่นสาวๆครับ ผมนี่ขนพองสยองเกล้านึกว่าดูหนังเรื่องนางทาสอยู่)

“หาได้ลำบากกายดอกเจ้าค่ะ แต่คุณหลวงคงเจ็บในหัวใจยิ่งนัก เจ็ดวันนั้นเอาแต่นั่งซึมกระทืออยู่ข้างเตียงคุณทีป์ หากมิได้มีงานเร่งด่วนอันใดก็จักมิลุกออกมาเลยแลเจ้าค่ะ”

“ถึงเพียงนั้นเลยหรือขอรับ?”

“ก็ถึงเพียงนั้นน่ะซีเจ้าคะ คุณหลวงท่านเฝ้ามิยอมห่าง เกรงว่าคุณทีป์ตื่นขึ้นมาแลจักไม่พบใครเจ้าค่ะ เอาแต่นั่งมองหน้าคุณทีป์แทบทุกเวลาเลยนะเจ้าคะ ยามท่านต้องไปราชการจริงๆก็จักให้อ้ายทัดเฝ้าไว้เจ้าค่ะ”

“คุณหลวง...”ผมพึมพำเบาๆ ส่วนคุณนมพอเห็นผมเหมือนอยากอยู่กับตัวเองเงียบๆแกก็เลยเดินเลี่ยงออกไป แต่ก่อนออกไปยังอุตส่าห์บอกว่าถ้าคุณหญิงจะเริ่มทำกับข้าวเมื่อไหร่จะให้บ่าวมาตามผม

“คิดกระไรเหม่อลอยเชียวพ่อทีป์ แล้วอย่างนี้งานพี่เขาจักเสร็จหรือลูก? เหนื่อยหรือจ้ะ แม่เห็นพ่อทีป์นั่งอยู่แบบนี้สักพักแล้วนา”
“อ้ะ ขอโทษขอรับคุณแม่ กระผมแค่นั่งคิดอะไรเพลินๆ คุณแม่จักเริ่มทำแกงฮังเลแล้วหรือขอรับ?”

“ยังดอกจ้ะ พ่อทีป์เป็นกระไรกันลูก เหตุใดถึงเหม่อลอยเสียจนเรียกมิได้ยินเยี่ยงนี้ได้หือ?”

“ผมแค่คิดว่า... คุณหลวงคงจะเหนื่อยมากเลยนะขอรับ เจ็ดวันที่ผ่านมา”

“พ่อนพเขาเต็มใจดอกลูก หากแม้นพ่อทีป์เป็นกระไรไปแล้ว...พ่อนพเองนั้นแลที่แทบจักแดดิ้นตาม เพียงแค่จู่ๆพ่อทีป์หลับไปเสียเจ็ดวันเจ็ดคืนเยี่ยงนี้ หากพ่อนพไม่ได้เฝ้าพ่อทีป์เสียเอง ก็คงจักเป็นพ่อนพนั้นแลที่ทำการอันใดไม่ได้ด้วยความคิดถึงกระวนกระวายใจ”

“คุณแม่มิหนักใจบ้างหรือขอรับ...ที่เอ่อ...”

“ที่พ่อนพรักผู้ชายด้วยกันน่ะหรือ? ไม่เลยลูก ครั้งแรกที่แม่เริ่มระแคะระคายใจแม่เองก็แทบใจสลายแต่ก็คิดว่าหากเป็นคนที่พ่อนพรัก ก็ย่อมดียิ่งนักที่ลูกชายคนเดียวของแม่จะมีคนที่รักและที่รักเขา อย่างนั้นก็ดีมิใช่หรือลูก... แม่เข้าใจดี การแต่งงานโดยไร้ซึ่งความรักนั้นเจ็บปวดเพียงไร พ่อของพ่อนพเองก็เอ็นดูแลดูแลแม่อย่างดี แต่รู้หรือไม่พ่อทีป์ ใจของเจ้าคุณพ่อพ่อของพ่อนพ ไม่เคยเป็นของแม่เลย... รอบเรือนนี้ถึงได้มีเรือนเล็กเสียมากมายอย่างไรเล่าลูก ความรักความห่วงใยของคนๆนึงนั้นพ่อทีป์ว่ามันจักแบ่งกันได้ถึงเท่าไรเชียว ดังนั้นแม่จึงเข้าใจอย่างดีเทียวลูก แลก็ไม่อยากให้ลูกชายคนเดียวของแม่เป็นเยี่ยงนั้น ถึงแม้พ่อนพจักเคยลั่นวาจาเสียหนักแน่นว่าจักไม่ทำเยี่ยงนั้น... แต่ใครเล่าจักรู้ หากแม้ว่าวันหนึ่งพ่อนพรับความกดดันนั้นไม่ไหว ใครเล่าจักรู้ จริงหรือไม่ลูก”

“แล้ว...คุณแม่ไม่กลัวคนอื่นจักว่าร้ายคุณหลวงเอาหรือขอรับ?”

“ปากคนยืดยาวอย่างปากกา เราจักห้ามคำคนได้สักเท่าใดเชียวลูก เราห้ามไฟมิให้มีควันมิได้ดอกหนา มิต้องกังวลใจไปดอกนะพ่อทีป์”

“นั้นสินะขอรับ ผมไม่น่าคิดมากอย่างนี้เลย”

“เอาล่ะ ถ้าไม่คิดมากแล้วก็ทำงานเสียดีหรือไม่หือ แม่มิอยากเห็นคนโดนเอ็ดตอนเย็นเพราะงานไม่เสร็จดอกหนา เอ้า รีบทำเสีย อีกสักพักเทียวแลกว่าแม่จักให้บ่าวเตรียมข้าวของเสร็จ จักได้ทำกับข้าวกับปลารอรับพ่อนพกัน”

“ขอรับ”ผมพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นส่งคุณแม่ แล้วกลับมานั่งแหมะลงที่เดิมค้นกองเอกสารที่กองเป็นตั้งสูงๆตรงหน้ามาเปิดดู ในนี้มีทั้งเอกสารซื้อขาย จดหมายโต้ตอบ และจดหมายลับ (นี่ไม่รู้พี่แกไปได้มาได้ยังไง? บางทีผมก็สงสัยนี่ผมทำงานกับโจรในคราบนักการทูตรึเปล่าวะ?)



“กลิ่นหอมตลบไปถึงบันไดเรือนเชียว ทำกระไรกันหรือขอรับคุณแม่ พ่อทีป์”

“แกงฮังเลจ้ะ แม่ได้สูตรมาจากเจ้านายฝ่ายเหนือ ช่วงนี้เห็นพ่อทีป์ว่างๆเลยหัดให้เสียเลย หิวหรือยังลูกนี่ก็ใกล้เที่ยงเต็มทีแล้ว”

“ยังดอกขอรับ รอทานแกงในหม้อนี่ก็ได้ แลดูน่าอร่อยยิ่งนักยิ่งเป็นฝีมือคุณแม่ของกระผมแล้วด้วย จักต้องอร่อยมากแน่ๆเลยหนาขอรับ”

“ปากหวานเสียจริงลูกคนนี้ ไปผลัดผ้าเสียเถิดลูกแล้วค่อยออกมาทานข้าวด้วยกัน อีกชั่วธูปก็น่าจักทานได้แล้วแล”

“ขอรับ”


“ไหนดูทีงานเสร็จแล้วฤาไม่”คุณหลวงหนุ่มก้าวไปยืนซ้อนหลังอีกคนที่นั่งอยู่บนพื้น ร่างสูงก้มมองกระดาษในมือของอีกคนแล้วก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

พ่อทีป์เชี่ยวชาญด้านภาษายิ่งนัก...

“จะเสร็จแล้วขอรับ คุณหลวงรีบใช้หรือ?”

“ยังดอก แล้วใยเรียกคุณหลวงอีกแล้ว มิเรียกพี่นพแล้วหรือ หืม?”คุณหลวงนั่งลงซ้อนหลังของอีกคนอยู่อย่างนั้น ขายาวเหยียดออกไปด้านข้างลำตัวอีกคนเพื่อจะกระชับคนตรงหน้าเข้ามาประชิดอ้อมอกได้ถนัดถนี่

“มิให้ผมทำงานแล้วหรือขอรับ”

“ให้ทำซี แล้วใยไม่เรียกพี่นพอีกเล่า”

“ผมแค่ชินน่ะขอรับ ก็เรียกคุณหลวงมาตั้งนาน จู่ๆ จะให้มาเรียกพี่นพกะทันหัน มันก็ต้องสับสนบ้างแหละครับ”

“เยี่ยงนี้ต้องซ้อมบ่อยๆดีหรือไม่ ซ้อมเรียกชื่อพี่บ่อยๆ เวลาเรา...อยู่ด้วยกัน พ่อทีป์จักได้เรียกพี่ได้ถนัดปาก”ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงจัดทันทีที่คุณหลวงพูดจบ เพราะจู่ๆ คนที่ไม่เคยหยอดคำหวานดันพูดจาสองแง่สองง่ามขึ้นมากลางเรือนเสียอย่างนั้น

“ชิ คนอะไรทะลึ่งลามก คิดจักปล้ำผมทุกวันหรือยังไงขอรับ”


“ก็อย่างนั้นซี... คิดถึง....พี่คิดถึงพ่อทีป์ใจแทบขาด รู้หรือไม่จ๊ะ ตอนที่พ่อทีป์หลับไป พี่กระวนกระวายใจถึงเพียงไหน ในหัวจิตหัวใจพี่มีแต่ความทุกข์ตรม กลัวเหลือเกินว่าเจ้าจักไม่กลับมา...”

“เอ่อ...”

“เพราะอย่างนี้พี่ถึงเปลี่ยนไปนัก หากพี่มัวแต่สงวนท่าทีแล้วจักต้องเสียพ่อทีป์ไปขึ้นมา พี่คงมีชีวิตอยู่ต่อไปมิได้ดอกหนาพ่อทีป์”

“ผมเองก็คิดถึงพี่นพนะขอรับ...คิดถึงมาก ตอนแรก...ผมหาทางกลับไม่ได้เลย นี่นั่นผมก็ไม่มีตัวตน...ไม่มีใครมองเห็นผม ที่ภพโน้น สำหรับพวกเขา ผมตายไปแล้วแหละครับ”

“แต่สำหรับพี่ ไม่ว่าพ่อทีป์จักอยู่ที่ไหน พ่อทีป์ก็จักอยู่ในนี้ ในดวงใจของพี่ พ่อทีป์ได้ยินเสียงมันเต้นหรือไม่ หากพี่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าใครก็จักมาพรากพ่อทีป์ไปจากใจพี่ได้ดอก ญาติมิตรของพ่อทีป์ก็คงคิดเยี่ยงกันนี้แล พ่อทีป์มิต้องเศร้าโศกไปดอก”

“พี่นพเป็นคนน้ำเน่าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ?”

“ตอนแรกพี่ก็มิใคร่พูดคำหวานนักดอก แต่ไม่รู้อย่างไร พอมีพ่อทีป์เข้ามาก็อยากจักพูดให้ฟังเสียบ่อยๆ กลัวหนุ่มน้อยแถวนี้จักเปลี่ยนใจ”

“ผมจะไปรักใครได้อีกหือ?”

“ใครจักรู้กันเล่า สาวๆสวยๆออกครึ่ดไปในพระนคร จักไม่ต้องตาพ่อทีป์สักคนเลยหรือ?”


“ไม่ดอกขอรับ ถึงสวยเป็นนางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่มีใครเทียมคุณหลวงของผมได้หรอก หล่อปานเทวดาขนาดนี้ ใบหน้าแบบนี้ จมูกแบบนี้ใครหรือจะเทียมพี่นพได้ หืมม หรือพี่นพมีฝาแฝด ถ้ามีเผื่อผมจักได้ไปพิจารณาแฝดพี่นพบ้าง”

“ปากหวาน ไม่มีแฝดที่ไหนดอก มีแต่ก็เจ้าสามแสบนั้นแล พี่ดีใจยิ่งนักที่พี่ได้เจอพวกเขา พี่จักได้มีคนสืบสายทายาทต่อไป แม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่ แต่พี่จักเลี้ยงดูพวกเขาอย่างดีเทียว ให้เป็นลูกของเรา ดีหรือไม่จ้ะ”

“หัวแดงถึงเพียงนั้นอย่างไรก็ดูไม่เหมือนเราสักนิดเทียวขอรับ แต่กระผมรักพวกเขานะ พ่อวิพ่อพีกับพ่อพิน่ารักนัก เลี้ยงง่ายเทียว แต่พี่นพขอรับ หากวันใดพี่นพรักใครอื่นขึ้นมา... แล้วเขาเป็นผู้หญิงพี่นพจักมีเขาอีกสักคนก็ได้นะขอรับ ผม...ไม่อยากทำให้พี่นพไม่มีโอกาสแม้แต่มีลูกในไส้เป็นของตัวเอง”

“พ่อทีป์จ๋า วันนั้นไม่มาถึงดอก มิว่าจักงามถึงเพียงใด พี่ก็ไม่มีสายตาไปมองใครอื่นแล้ว...พ่อทีป์รู้หรือไม่ ดวงใจของบุรุษหนึ่งนั้นมั่นคงได้ถึงเพียงไหน พี่สัญญากับตัวเองไว้ว่า พี่จักไม่มีใครอื่นอีกนอกจากคนที่พี่รัก พี่ไม่อยากให้ใครเป็นเหมือนคุณแม่ แม้คุณพ่อจักดูแลให้เกียรติเป็นอย่างดี แต่พี่ก็เห็นคุณแม่นั่งอยู่หน้าเรือนจนดึกดื่นทุกคืนยามคุณพ่อเรียกใครขึ้นมานอนด้วย ยังดีที่คุณพ่อมิเคยให้เมียเล็กๆเข้ามาอยู่ในเรือนใหญ่แต่ปลูกเรือนให้ต่างหาก มิเช่นนั้นพี่ไม่รู้เลยว่าคุณแม่จักเจ็บปวดถึงเพียงใด”

“เอาไว้ค่อยพูดกันเถิดขอรับ ตอนนี้ผมมีพี่นพ พี่นพมีผม แค่นี้ก็ดีเหลือเกินแล้ว...จริงหรือไม่ขอรับ?”

“ขอให้หนุ่มน้อยของพี่ไม่คิดเปลี่ยนใจจากพี่ก็แล้วกัน”คุณหลวงหอมขมับคนในอ้อมกอดเบาๆ เพียงแค่มีพ่อทีป์อยู่ตรงนี้เขาก็มีความสุขเหลือเกินแล้ว...


----------------------------
แหะๆ ขอโทษนะคะที่หายไปนาน (ผิดสัญญาด้วย TT)

ไม่มีคำแก้ตัวววววว

แต่เค้าจะปิดเทอมแล้วนะเออ อาจจะได้มาบ่อยขึ้น (เหรอ?) ก็เป็นได้

ขอโทษที่ตัดเอ็นซีเอาดื้อๆ (แหม เป็นคนใสๆ แต่งฉากแบบนี้ไม่เป็นจริงจริ๊ง)

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-05-2015 22:31:28
นึกว่าตาฝาดแต่โครตดีใจอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 08-05-2015 23:13:29
ในที่สุดก็มา    :mc3: :mc3: :mc3: 

คิดถึงคุณหลวง  น้องทีป์  มากกกกกกกกกกก        :c3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 09-05-2015 01:49:28
ในที่สุดก็เสียตัวซะหลายยกเลยนะพ่อทีป์
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 09-05-2015 08:43:17
ทั้งคืนกันเลยทีเดียวถ้าจะนุ่มนวลน่าดูเนอะถึงไม่ป่วยอีกรอบ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 09-05-2015 09:05:38
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-05-2015 11:43:33
อิตาคุณหลวงหื่นนนนนน

นี้ถ้ามีใครมาหยอดเราแบบนี้นะ เขินตัวแตกแล้ว

คนสมัยก่อนพูดหวานๆฟังแล้วมันเขิน×2 5555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 09-05-2015 21:57:24
 :mew1:

ชอบมากๆ เลย รอๆ ตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 09-05-2015 23:46:46
 :-[ :jul1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 10-05-2015 09:25:02
ยกมือขี้น มีคำถามค่ะ เราอ่านภาษาไทยบางครั้งไม่ค่อยแตกก็เลยต้องถาม

อ้างถึง
ยามเป็นหนุ่มก็พากันไปขึ้นครูกับสหายสนิทเสียตั้งแต่นมยังไม่แตกพานดีด้วยซ้ำ

จากประโยคนี้แสดงว่าคุณหลวงนพไปขึ้นครูกับสหายสนิทที่เป็นชาย(ทำกับเพื่อน)มาใช่ไหมคะ ไม่ใช่ว่าไปขึ้นครู(กับผู้หญิง)ด้วยกันกับเพื่อนที่ชวนกันไป
คุณหลวงนพถึงได้เชี่ยวชาญภาคปฏิบัติไปจนถึงการทะนุบำรุงดูแล(จัดการทำความสะอาดด้านหลัง) ใช่ไหมเอ่ย นางเชี่ยวมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 10-05-2015 14:07:06
ยกมือขี้น มีคำถามค่ะ เราอ่านภาษาไทยบางครั้งไม่ค่อยแตกก็เลยต้องถาม

อ้างถึง
ยามเป็นหนุ่มก็พากันไปขึ้นครูกับสหายสนิทเสียตั้งแต่นมยังไม่แตกพานดีด้วยซ้ำ



จากประโยคนี้แสดงว่าคุณหลวงนพไปขึ้นครูกับสหายสนิทที่เป็นชาย(ทำกับเพื่อน)มาใช่ไหมคะ ไม่ใช่ว่าไปขึ้นครู(กับผู้หญิง)ด้วยกันกับเพื่อนที่ชวนกันไป
คุณหลวงนพถึงได้เชี่ยวชาญภาคปฏิบัติไปจนถึงการทะนุบำรุงดูแล(จัดการทำความสะอาดด้านหลัง) ใช่ไหมเอ่ย นางเชี่ยวมากค่ะ

อันนี้คือนางเคยไปขึ้นครูกับผู้หญิงค่ะ แบบไปเที่ยวผู้หญิงกับเพื่อนไรงี้ แต่นางเป็นผช.อ่อนโยน (ปนหื่น) เลยดูแลพ่อทีป์อย่างดี (ตามประสานาง)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Misakiiz ที่ 11-05-2015 21:48:10
ชอบจังนิยายแนวนี้ 555
คุณหลวงร้ายกาจจริงๆค่ะ
 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: baslowbatt ที่ 11-05-2015 22:09:53
คุณหลวง กริ๊ดดดดดด บทจะหื่น ท่านก็หื่นนะเจ้าค่ะ 555 :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-05-2015 23:52:54
รอรอ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-05-2015 21:12:30
เข้ามารอเผื่อมีหวัง
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-05-2015 11:37:50
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-05-2015 23:56:27
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 14-06-2015 01:22:34
เมื่อไหร่น้อที่เทอจะกลับมาาาาาาา :ling1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-06-2015 07:59:22
แล้วมะไรจะได้แต่งงานกานนนนนน

ปูเสื่อรออีกคน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-06-2015 21:53:00
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-06-2015 15:19:15
แวะมาดันคุณหลวง อิอิ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-06-2015 15:41:05
เรื่องนี้จะจบไกมเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 27-06-2015 19:45:44
มาแล้วววววววววว แหะๆ หายไปนาน อันเนื่องมาจากอีเว้นท์อันมากมายก่ายกองของคนเขียนเองแหละ TT เก๊าขอโต๊ดดดด



พยับที่ ๑๘

“ไหน รวิมาหาป๋าสิ”นภทีป์กวักมือไหวๆเรียกเด็กชายตัวน้อยที่ตอนนี้กำลังหัดเดินให้เดินเข้าไปหา เด็กชายยิ้มแล้วเดินเตาะแตะไปหาป๋าของตัวเอง

“แอ๊”เสียงร้องดังขึ้นเมื่อรพีเด็กชายที่หน้าเหมือนรวิเปี๊ยบเดินเตาะแตะมาจากอีกทางแล้วจงใจชนฝาแฝดตัวเองเข้าเต็มไป ก็ทำไมล่ะ!! เขาหวงป๋านี่นา

“ฮือออ ฮึกกกก ฮืออออออออออออออ”สุดท้ายเสียงร้องไห้จ้าก็ดังลั่น แถมพอคนนึงร้องคนนึงก็ร้อง ทำเอาแตกตื่นกันทั้งเรือนเพราะนึกว่าคุณหนูเป็นอะไรกัน

“มีกระไรกันหรือพ่อทีป์ เด็กๆล้มหรือลูก?”

“เปล่าขอรับคุณแม่ ตาพีเดินชนตาวิล้มทั้งคู่เลยร้องไห้จ้า ส่วนตาพินั่นร้องตามพี่น้องเขาครับ”นภทีป์เล่าให้คุณหญิงฟังพลางยิ้มเอ็นดู แหม ลูกๆของเค้านี่น่ารักจังเลยแฮะ

“โอ๋ๆ ไหนมาดูทีสิพ่อวิ พ่อพี เจ็บมามั้ยลูก”รพีส่ายหัวดุ๊กดิ๊กพร้อมกับรวิ แต่ก็ได้แต่เบ้ปากในใจ ก็เขาหวงป๋านี่

“ตาพิมาหาป๋ามา ไหน ร้องทำไมครับ โอ๋ ไม่ร้องน้า รพิของป๋าเก่งที่สุดเลย”นภทีป์ยกตัวรพิขึ้นมาโยกตัวอยู่ในอ้อมกอด ทำเอาลูกอีกสองคนตาลุกวาว แต่โดนคุณย่ารวบตัวไปก่อนทั้งคู่เลยไม่มีโศกนาฏกรรมแย่งคุณป๋าเกิดขึ้นอีกรอบ

“อ้าว กระไรกันขอรับ? ไยเด็กๆตาแดงเหมือนเพิ่งร้องไห้โยเยมาเยี่ยงนี้”คุณหลวงที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเดินตรงมาที่หอนั่ง นั่งลงข้างๆคุณหญิงพลางยื่นมือไปรับเอารวิมาอุ้มไว้อีกคน

“ตาพีเดินชนตาวิน่ะขอรับพี่นพ เลยพากันร้องไห้จ้าทั้งคู่ ตาพิเลยร้องตามเขาอีกคน”

“เสียงลั่นบ้านเลยซี คุณแม่เหนื่อยหรือไม่ขอรับ ต้องรับมือเด็กเล็กๆมากถึงสามคนเพียงนี้”

“จะเหนื่อยกระไรกันเล่าพ่อนพ หลานแม่แม่เลี้ยงของแม่ได้ดอก จริงไหมจ้ะ ตาพิของย่า หือ”

“คุณแม่นี่ละก็ ถ้าเหนื่อยก็บอกกระผมหนาขอรับ เดี๋ยวกระผมจักไปหาแม่นมมาช่วยเลี้ยงอีกสักคน”

“ไม่ต้องยุ่งยากไปดอก แค่ที่มาให้นมเด็กๆพวกนี้ก็ช่วยกันดูแลได้แล้วลูก เมียอ้ายทดนั้นมันก็ดีหนา มันก็เลี้ยงลูกมันบ้างลูกเราบ้าง ทางนี้ก็มีทั้งแม่แลพ่อทีป์จักดูไม่ไหวได้เยี่ยงไรเด็กตัวแค่นี้ แปปๆก็โตกันหมดแล้วแลลูก”

“เอ้า ไหวก็ไหวนะขอรับ แล้ววันนี้ไม่มีเรียนการเรือนกันหรือขอรับ?”

“วันนี้แม่ให้พ่อทีป์เขาหยุดพักบ้างน่ะซี ไหนจักเข้าครัวกับแม่ ไหนจักแปลหนังสือให้พ่อนพ”

“จริงด้วยซีนะขอรับ พ่อทีป์อยากไปเที่ยวเล่นบ้างหรือไม่ บ่ายนี้พี่ว่างหนา”พอได้ฟังคำนภทีป์ก็ตาลุกวาว เที่ยวเล่นหรือ ที่กรุงเทพฯสมัยรัชกาลที่ ๕ เนี้ยนะ แค่คิดก็อดตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว

“เอาซีขอรับ แต่ต้องรอพาเจ้าตัวแสบพวกนี้เข้านอนก่อนหนาขอรับกระเดี๋ยวจักร้องห่มร้องไห้ตามกันจนคุณแม่ดูไม่ไหว”

“จ้ะ กระเดี๋ยวพี่ไปผลัดผ้าก่อนหน้า เอ้า ตาวิไปหาป๋าไป”คุณหลวงจับรวิยืนตั้งไข่สักเดี๋ยวจึงปล่อยมือ รวิเดินเตาะแตไปเกาะแข้งเกาะขานภทีป์อีกคน พอเห็นน้องอยู่กับป๋าหมดรพีจึงพยายามยันตัวออกมาจากคุณย่าอีกคน ก็เขาหวงป๋าของเขานี่ สุดท้ายเลยกลายเป็นลิงสามตัวเกาะแข้งเกาะขานภทีป์เต็มไปหมด

“เอ้า กระไรมาเกาะป๋ากันหมดเยี่ยงนี้ ป๋าจะลุกยังไงเล่าลูก ไม่ง่วงกันหรือหือ?”

“แอ้ะ แอ้ะ”นภทีป์ส่ายหัวปลงๆเขาก็ลืมนึกไปว่าลูกยังพูดไม่ได้ อยากให้เรียกป๋าได้ไวๆจังนะ

“อ้าว กลายเป็นลูกลิงกันหมดเสียแล้ว ไหนพ่อพาไปนอน”คุณหลวงที่ผลัดผ้าเสร็จแล้วเดินมายกตัวรพิกับรพีออกจากตัวนภทีป์ แล้วเดินนำเข้าไปในเรือนนอนของเด็กๆกับคุณหญิงเสียก่อน



“จับมัดให้หลับยังมิรู้จะหลับหรือไม่เลยนะขอรับ”นภทีป์ว่าตอนวางลูกลงบนเปลนอนหวายเรียงกันสามคน แต่เด็กๆยังคงทำตาใสแป๋วใส่พ่อกับป๋าตัวเองอยู่อย่างนั้น คนเป็นพ่อได้แต่ทอดถอนใจ จักพาเมียไปเที่ยวเสียทีนี่ยากจริงๆเลยนะ

“มาไกวเปลเถิด กระเดี๋ยวคงหลับ”สุดท้ายก็ต้องนั่งกล่อมลูกกันอยู่เสียพักใหญ่กว่าจะยอมหลับยอมนอนกันได้


“นั่งเรือไปหรือขอรับ?”

“จ้ะ นั่งเกวียนไปท่าจะไม่เหมาะ เดี๋ยวพี่จักพาลงเรือชมเมืองดีหรือไม่ อยากไปวัดอรุณไหมจ้ะ หรือไปตลาดน้ำดี?”

“ไปวัดดีกว่าขอรับ”

“มาลงเรือเถิดกระเดี๋ยวจักกลับมามืดค่ำกันพอดี”

“ขอรับ”นภทีป์ก้าวตามคุณหลวงไปติดๆ มือหนายื่นมาตรงหน้าเพื่อรับเขาลงเรือไปด้วยกัน...เมื่อไรกันนะ ที่เขาโหยหาสัมผัสจากมือนี้เหลือเกิน...

“อ้ายทดไปวัดอรุณหนา กระเดี๋ยวข้าจักพาพ่อทีป์ไปไหว้พระ แล้วแวะดูผ้าที่ตลาดกันเสียหน่อยค่อยกลับ พ่อสามคนนั้นเสื้อผ้าเริ่มคับเสียแล้ว”

“ขอรับ”



“คุณหลวงขอรับ ช่วงนี้การบ้านการเมืองเป็นอย่างไรบ้างหรือ?”

“ก็ปั่นป่วนเหลือใจ พวกฝาหรั่งมันคิดจักหักชิงแผ่นดินเราเสียให้ได้ พ่อทีป์รู้หรือไม่ การณ์ที่พ่อทีป์มาอยู่กับพี่อย่างกับเทวานำพามาให้ คราแรกพี่คิดว่าโชคดีเหลือเกินที่พ่อทีป์รู้ภาษาพวกมันเสียปรุโปร่งมาอาศัยเรือนพี่เยี่ยงนี้คงช่วยพี่ได้มาก แลพ่อทีป์อาจจักเข้ารับราชการได้เลยเชียวหนา แต่ครานี้ใจพี่กลับคิดว่า...ดีเหลือเกินที่พ่อทีป์มาอยู่ที่นี้ อยู่เป็นดวงใจของพี่เยี่ยงนี้”

“ปากหวานจังเลยนะขอรับ พูดแล้วคืนไม่ได้นะ พูดในวัดด้วย”นภทีป์หัวเราะแผ่วเบา มองหน้าคนตรงหน้าเต็มๆตา ดีเหลือเกิน...

“มิคืนคำดอกจ้ะ พี่น่ะหรือจักหักใจจากพ่อทีป์ได้ เพียงไม่เห็นหน้าสักวันพี่ก็แทบขาดใจแล้วแล พ่อทีป์จ๋า พี่หวังใจเหลือเกินว่า เราจักอยู่กันไปเยี่ยงนี้ พี่ไม่ต้องมีใคร แลพ่อทีป์ก็อยู่เป็นของพี่เยี่ยงนี้เรื่อยไป เลี้ยงลูกสามคนของเรา เป็นอาป๋าของเจ้าตัวเล็กพวกนั้น เอ...ว่าแต่พ่อทีป์มีเชื้อจีนเชื้อเจ๊กหรือ กระไรให้ลูกเรียกตัวว่าป๋า”

“ฮะๆ มีแบบเจือจางมากทีเดียวขอรับ แต่ผมนึกคำอื่นนอกจากคำว่าพ่อไม่ได้นี่นาตอนนั้น ก็เลยให้เด็กๆเรียกว่าป๋าไปเสียเลย”



“พี่นพมาวัดบ่อยหรือขอรับ?”

“กระไรถึงถามเยี่ยงนั้น?”

“ก็...เห็นพี่นพดูเชี่ยวชาญทั้งลู่ทางในวัดแล้วก็...”

“สวดมนต์น่ะหรือ? ก็เคยบวชเรียนที่นี่จักไม่ให้รู้มากได้อย่างไร?”

“อ๋อ นั่นสินะ ผมก็เกือบลืมไปเลยว่าพี่นพบวชเรียนแล้ว”

“พี่ดูไม่แก่หรือ?”ถามพลางยิ้มพราวระยับ นภทีป์ได้แต่เบ้ปากใส่เงียบๆ หน้าจะสามสิบห้าอยู่แล้วยังมีหน้ามาถามว่าตัวเองดูไม่แก่ได้อีก คนอะไร!!

 “ทำหน้าเยี่ยงนี้เท่ากับจักบอกว่าพี่แก่นักหนาล่ะซี ฮึ ถึงจักแก่อย่างไรเสียก็มัดคนแถวนี้เสียไปไหนไม่รอดแล้วกัน”คุณหลวงพูดพลางเชิดหน้าพลางทำเอาคนหนุ่มกว่าได้แต่กุมขมับ ให้ตายเถอะ นี่เขาอยู่กับเด็กช่างเอาชนะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!

“ขอรับๆ อยู่หมัดก็อยู่หมัดระวังเถ้อออ  มั่นใจมากๆเข้าจะเสียของรักไปไม่รู้ตัว”นภทีป์ลอยหน้าลอยตาใส่พลางเดินลงเรือไปก่อน ใครจะคิดว่าพอเข้ามาในหลังคาเรือปลอดสายตาคนเพียงนิดกลับถูกรวบไปกอดทั้งตัว

“จะหนีพี่ไปไหนหรือหือ ไม่กลัวคนแก่ตรอมใจตายหรือ?”คุณหลวงกระซิบข้างหูนภทีป์ คนตัวบางกว่าได้แต่ขนลุกเกรียว ฮือ...พี่นพจอมหื่นกามกลับมาอีกแล้ว นี่มันการพูดยั่วโมโหเสือร้ายให้เข้าขย้ำตัวเองชัดๆ!!

“ตรอมใจกระไรกันขอรับก็เห็นอยู่นี่อย่างไรว่ายังมีแรงมาลวนลามกอดปล้ำคนอื่นเขากลางวันแสกๆ ไม่อายบ่าวมันหรือขอรับ”

“หึ ใครจักกล้าอึงอันใดไป พี่เป็นนายมันจักปิดปากบ่าวบ้านตัวเองให้เงียบไม่พูดเรื่องเจ้าเรื่องนายมิได้เชียวหรือ?”พอพูดจบคุณหลวงก็แค่นเสียงในลำคอเสียทีนึงแล้วเงียบไป นภทีป์เห็นคนที่กกกอดตนอยู่เงียบนานๆเข้าเลยแหงนหน้าขึ้นดู ถึงเห็นว่าใบหน้าหล่อคมนั้นงอง้ำ

“หือ...โกรธเสียแล้วหรือขอรับ กระไรกัน พี่นพขอรับ พี่นพ”

“โกรธหรือขอรับ”นภทีป์ยันตัวขึ้นมานั่งหลังตรงอยู่บนตักคุณหลวง พลางหมุนตัวหันหน้าเข้าหาอีกคนที่นั่งหน้างอง้ำอยู่

“จักไม่คุยกับผมจริงๆหรือ”นภทีป์โอบรอบคอคุณหลวงพลางเอนตัวเข้าหา คนตัวโตกว่าเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ทำไมจู่ๆพ่อทีป์ถึงกลายร่างเป็นนางแมวยั่วสวาทไปได้นะ!

“ทนได้จริงๆหรือขอรับ”ร่างด้านบนขยับตัวเล็กน้อยคล้ายเมื่อย แต่ใครจะไปรู้ว่าคุณหลวงต้องใช้ความอดกลั้นขนาดไหนที่ไม่จับอีกคนมาปล้ำจูบกันเสียตรงนี้

ปั๊ดโธ่!! ทำไมถึงกลายเป็นแมวน้อยช่างยั่วไปได้ล่ะนี่พ่อทีป์ของฉัน!! แต่เรื่องอะไรจะยอมคุยด้วยง่ายๆ คุณหลวงยังคงเบือนหน้าหนีไม่สนใจอยู่อย่างนั้น นภทีป์เห็นได้โอกาสเลยกระซิบข้างหูแผ่วเบาอีกรอบ

“ไม่คุยจริงๆหรือขอรับ”พลางขยับลิ้นไปเลียริมหูอีกคนจนสะท้ายเฮือก

ไม่ทงไม่ทนมันแล้วโว้ย!!!   


“อื้อ...”คนช่างยั่วได้แต่ป่ายไม้ป่ายมือไปมาเพราะคนตัวโตกว่าจับกดลงไปบนพื้นเรือแล้วปล้ำจูบ คนผีทะเล ไม่อายบ่าวอายไพร่บ้างหรือไงวะ!! (ไม่ได้นึกถึงตอนตัวเองยั่วเขาอยู่ตะกี้เลยแม้แต่น้อย)

“ทำไมถึงช่างยั่วนักหือ? กลัวพี่ไม่หลงหัวปักหัวปำหรือไร”คุณหลวงกระซิบพลางซุกซอกคอขาว ดีว่าในเก๋งเรือที่เป็นส่วนที่นั่งนั้นมีม่านโปร่งๆกั้นสายตาจากบ่าวไพร่อยู่บ้าง มิเช่นนั้นคงได้อายกันอีกคำรบใหญ่

“ปะ..เปล่าขอรับ ก็คุณหลวงไม่ยอมคุยกับผม”

“ก็ง้อดีๆปะไร ไยต้องเอาตัวมาคลอเคลีย เยี่ยงนี้จักให้พี่คิดเช่นไรได้”

“เอ่อ...คุณหลวงขอรับ ละ...ลุกไปก่อนดีไหม”

“แล้วไยกลับไปเรียกว่าคุณหลวงอีกแล้ว?! หรือต้องให้พี่ทวนความทรงจำให้ว่าเราหาใช้คืนอื่นคนไกล”แล้วนี่ยังไม่เรียกว่าทวนความจำอีกเรอะ!! นภทีป์ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันในใจ อีตาคุณหลวงหื่นกาม ผีทะเลเข้าสิงแน่ๆ

“แหะๆ ไม่ต้องทวนความจำก็ได้ขอรับ ไยกระผมจักจำพี่นพไม่ได้ ว่าแต่...พี่นพขยับตัวขึ้นสักนิ๊ดด ก่อนดีหรือไม่ขอรับ?”

“หึหึ ยังมิใคร่อยากลุกเท่าใดดอก เห็นว่าพ่อทีป์ช่างยั่วพี่นัก พี่ก็นึกว่าอยากจักให้พี่กอด...เสียตรงนี้”แล้วทำไมตรงคำว่ากอดต้องมองด้วยสายตาระยิบระยับขนาดนั้นด้วยวะขอรับ?!!

“ลุกเลยพี่นพ คนหื่นกาม”

“หึหึ ก็ใครให้แมวแถวนี้มายั่วพี่ถึงเพียงนี้หือ เอาเถิดไว้คืนนี้ค่อยคิดบัญชีเสียทีเดียวก็ได้”คุณหลวงว่าพลางกลั้วหัวเราะแล้วลุกออกจากตัวคนตัวบางที่นั่งแหมะอยู่


ชิ!!

ไอ้คุณหลวงบ้า คนหื่นกาม หมกมุ่นสุดๆ!! ก่อนหน้านี้อยู่มาได้ยังไงโดยไม่มีเมียวะ!


“กลับกันเสียค่ำเชียวลูก ไปแวะที่ใดมาอีกหรือ?”คุณหญิงทักเมื่อเห็นสองหนุ่มเดินขึ้นเรือนพร้อมขบวนบ่าวไพร่ที่แบกของพะรุงพะรังขึ้นมาพร้อมกัน

“เสียเวลาวนเรือกลับน่ะขอรับคุณแม่ เพราะมัวแต่คุย...กันจนลืมบอกบ่าวให้แวะตลาดผ้าเลยต้องวนไปอีก ได้ผ้ามาตัดชุดให้เด็กๆเสียหลายพับเชียวขอรับ ได้ผ้ามาฝากคุณแม่ด้วยหนาขอรับ ผ้าลายกลีบบัวงามมากทีเดียว”

“เช่นนั้นหรือ ไหนเอามาให้แม่ดูที”คุณหญิงแย้มยิ้มตามประสา พลางกวักมือเรียก คุณหลวงให้บ่าวเอาผ้าไปวางบนหอนั่งด้านหน้าคุณหญิง พลางตามไปเปิดหีบห่อส่งให้ผู้เป็นแม่ดู

“งามมากทีเดียวลูก แล้วของพ่อสามคนนั้นเล่า ไหนแม่ดูที”คุณหญิงพิศดูผ้าเสียครบทุกม้วนแล้วจึงสั่งบ่าวผู้หญิงมารับผ้าไปตัดเย็บเสื้อให้หลานชาย ส่วนผ้าลายกลีบบัวก็ให้แบ่งตัดมาอัดกลีบทำสไบ

“วันนี้เด็กๆตื่นมางอแงหรือไม่ขอรับ”นภทีป์ถามพลางมองไปทางเด็กสามคนที่เล่นกันอยู่อีกปีกหนึ่งโดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแล ยิ่งโตยิ่งเผยให้เห็นว่ามิใช่คนไทยแท้ๆ

“ไม่งอแงอย่างไรไหวลูก ตื่นมาก็ร้องไห้จ้าเอะอะกันทั้งเรือน เรียกหาแต่ป๋า ป๋า ติดพ่อทีป์เสียงอมแงม ดูทีไม่เห็นร้องหาย่าบ้าง”คุณหญิงบ่นพลางยิ้มเอ็นดู นางมิได้น้อยอกน้อยใจถึงเพียงนั้นดอก กระไรก็รู้ว่าเด็กน้อยพวกนั้นต้องเกาะติดพ่อทีป์แจแน่ๆ ก็ไม่เคยบ่นไม่เคยดีเลยสักแปะ หากไม่มีนางคอยปรามยามดื้อยามซนบ้างเห็นทีจักได้กลายเป็นนักเลงหัวไม้กันเสียทั้งสามคน

“ก็ป๋าเขาเลี้ยงตามใจนี่ขอรับคุณแม่จักไม่ติดได้อย่างไร”

“โธ่ พี่นพอ่ะ ก็ผมสงสารลูกนี่นา ไม่เห็นต้องตีเลย”

“ดูที เด็กผู้ชายไม่ฟาดกันเสียบ้างจักกำราบอยู่หรือ?”

“คนแก่ใจร้าย”นภทีป์ค่อนขอดแล้วลุกไปหาลูก ทิ้งคุณหลวงกับคุณหญิงที่ได้แต่มองตามปลงๆ จะทำอย่างไรได้ ก็พ่อทีป์เขารักของเขานี่นา จักปรามกันอย่างไรไหวคงได้แต่รอดุลับหลังป๋าของเด็กๆนั้นแหละ


อย่างไรเสียคุณหลวงก็พึงใจที่จะอยู่อย่างนี้ยิ่งนัก...เหมือนพ่อ แม่ ลูกเปี๊ยบเลย!!


-----------------------------
มาแล้วจ้า หลังจากหายไปนาน -3- แหะๆ
เรื่องนี้แต่งจบแน่ๆนะเออ แต่ยังไม่รู้จะจบตอนไหนแค่นั้นเอ๊งงงงง
 ;-;
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 27-06-2015 20:27:38
งานนี้พ่อกับย่ารับบทเป็นตัวร้ายแน่ๆ 55555 คุณป๋าเธอตามใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 27-06-2015 20:31:59
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 27-06-2015 20:44:33
นั้นแร้ว ก็อย่าให้นานเกินปีเลยครับ อ่านตอนนี้แล้วสมใจอยากอยู่นะ ดูมีความสุขมากทีเดียวเลย เขาดูเปฌนครอบครัวพ่อแม่ลูกมาก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 27-06-2015 21:33:00
ใช่ ลูกใคร ใครก็รัก

ห้ามมาตีลูกพ่อทีป์นะพี่นพ

รอออออ

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-06-2015 21:52:59
อยากได้ฉากครอบครัวแบบนี้เยอะๆอ่ะมันดูอบอุ่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 28-06-2015 01:20:33
ตอนแรกนึกว่าตาฝาด ที่ไหนได้มาจริงๆ แหมคุณหลวงพอมีเมียขึ้นมาอะไรๆมันก็ดูเด็กลงเชียวนะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: haruki666 ที่ 28-06-2015 04:19:33
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ
พอได้เจอก็อ่านไม่ได้หลับได้นอนกันเลย แหะๆ
จะตามอ่านเรื่อยๆนะคะ  :man1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-06-2015 14:32:46
อิจฉาาาาา ดูท่าโตไปคุณป๋าตามใจลูกสุดๆแน่

งานนี้คุณหลวงคงได้สวมบทบาทพ่อโหดหล่ะ 5555

ปล.สู้ๆน้าคนเขียน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 28-06-2015 20:25:03
คราวนี้ขุ่นแม่ เอ้ย คุณป๋าเค้าใจดี 555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-06-2015 07:18:28
ชอบๆๆ
น่ารักสุดๆ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: winmania ที่ 05-07-2015 11:46:41
โอยยย ดีใจที่ได้มาอ่านเรื่องนี้ ภาษาสวย เรื่องละมุน
ขอมาเป็นแฟนคลับติดตามกันไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 06-07-2015 15:09:58
รออออออออออออออออ

อยู่นะะะะะะะะะะะะะะะ

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-07-2015 15:45:02
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 16-07-2015 23:41:49
เราพึ่งเข้ามาอ่านค้าาา

ชอบมากเลย คุณหลวงหวานมากกกกกกกก แต่นิยายเรื่องนี้รอโหดมาก แต่ก็ขอรอด้วยคนนะคะ

รอตอนต่อไปนะคะ  :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 18-07-2015 05:02:38
เรารอเธออยู่นะคนเขียน
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-07-2015 23:49:04
:) :)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 31-07-2015 14:47:43
เมื่อไหร่จะมาน้อออออออ ใจจะขาดรอนๆแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 31-07-2015 14:52:26
รอด้วยคน
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๘ 27/6/2015
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 31-07-2015 15:47:07
หายไปเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ ๒/๘/๒๕๕๘
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 02-08-2015 17:31:13
พยับพิเศษ เมื่อสามแฝดโตเป็นหนุ่ม




หลังจากที่คุณหลวงนพเทพอัครา รับเด็กลูกครึ่งแฝดสามมาอุ้มชูเลี้ยงดูในครานั้น เวลาก็ล่วงมากว่าสิบห้าปีแล้ว จากทารกน้อยก็กลายเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่ทำเอาทั้งคุณพ่อ คุณป๋า และคุณย่าปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ก็ตอนเด็กๆดื้อแบบไหน ตอนโตก็คูณเข้าไปเถอะ!!


   “พ่อทีป์ พ่อทีป์ อยู่รึไม่จ้ะ”

   “อยู่ในเรือนขอรับพี่นพ มีกระไรหรือขอรับ”

“จักถามว่าพ่อสามคนนั้นไปไหนกันเล่า พี่ขึ้นเรือนมาไม่เห็น ไปที่วัดก็ไม่เห็นเยี่ยงกัน”

“เอ...คงไปที่ตลาดกระมังขอรับ”

“อีกแล้วหรือ พ่อทีป์ทำไมตามใจลูกนักนะหืม”

“ก็ผมรักของผมนี่ขอรับ”นภทีป์อ้อนพลางดึงคนตัวสูงที่ตอนนี้ยังหุ่นฟิตเปรี๊ยะผิดตำราพระยาบ้านอื่นมากอดพลางซบหน้าลงกับท้องอีกคน

“ดูเอาเถิด ก่อเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ยังดีที่มันรักเรียนกันบ้าง มิอย่างนั้นพี่คงจักฟาดเสียให้เข็ดเชียว”

“โธ่ จักไปฟาดกระไรมันขอรับ ลูกออกจะฉลาดเฉลียว เอางานเอาการ เสียแต่ชอบเที่ยวเล่นสนุกเสียหน่อยเท่านั้นเอง”

“พ่อทีป์นี่ละก็ ไยตามใจลูกมันนัก ยากจักฟาดทีก็หลบหลังพ่อทีป์ที สักห้าปีจะลงหวายสักทียังยาก เยี่ยงนี้มันถึงได้เกกมะเหรกเกเรกันนัก”เจ้าคุณนพ(อัพเกรดเวอร์ชั่นจากคุณหลวง)บ่นกระปอดกระแปดพลางพ่นลมหายใจพรู ลูกๆสามคนโตเป็นหนุ่มรุ่นกระทง รูปร่างสูงใหญ่ตามที่คาดไว้ เอ่อ ผิดไว้ก็แต่พ่อรพีกระมังที่ออกจะตัวเล็กเสียหน่อย แต่หน้าตาที่ถอดแบบกันมาทั้งสามคนนั้นก็หล่อเหลาดังที่คาด ผมสีน้ำตาลทอง จมูกโด่งเป็นสัน ไม่มีกระไรคล้ายเขาเลยสักนิดเดียว ยามนี้ข่าวลือเรื่องที่เขาเป็นลักเพศก็ซาไปแล้ว ด้วยเพราะชาชินกันทั่วพระนคร แลคุณหญิงแม่ของเขาเองก็มิได้ออกมาเดือดเนื้อร้อนใจอันใดด้วยมีหลานชายให้รบราด้วยถึงสามคน พ่อสามคนนั้นตั้งแต่เด็กก็มีเรื่องวุ่นมิได้ว่างเว้นเลยสักวัน

“พี่นพขอรับ พวกเขาเป็นเด็กดี”นภทีป์ว่าพลางดึงร่างสูงใหญ่ลงมานั่งข้างๆกาย รั้งใบหน้าคมลงมาใกล้ๆแล้วประทับจูบออดอ้อนแผ่วเบาที่ริมฝีปาก คลอเคลียกันจนลืมไปว่า ตอนที่เข้ามาในห้องท่านเจ้าพระยาเทวนพวิสูตรวัตรมิได้ลั่นดาลประตู อีกทั้งมิได้ปิดประตูเลยเสียด้วยซ้ำ!!

รวิ รวีและรพีมองหน้ากันพลางยิ้มกริ่ม มองคุณป๋ากับคุณพ่อคลอเคลียกันแผ่วเบาอยู่ในห้อง ตอนแรกพวกเขาว่าจะมาอ้อนป๋าขอไปเที่ยวกันในวันพรุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าจะมาเจอฉากเด็ดเข้าเต็มตาแบบนี้ รพีคนตัวเล็กสุดอยู่ด้านล่างสุดของฝาแฝดสองคน มองคุณป๋ากับพ่อตัวเองพลอดรักกันด้วยใบหน้าแดงซ่าน

“เอ่อ วิ วี ฉันว่าเราออกไปก่อนดีไหมวะ”ระพีกระซิบถามพี่น้องสองคนที่เหลือ เพราะพ่อกับคุณป๋าเริ่มเร่าร้อนขึ้นทุกที นี่ไม่ได้รู้ตัวเลยรึไงนะว่าตัวเองไม่ได้ปิดประตูลั่นดาลน่ะคุณพ่อ เป็นเจ้าพระยะประสาอะไรกัน!!

“เออ ฉันก็เริ่มคิดแบบนั้นแล้วแหละ แต่ว่าอีกนิดได้ไหมวะ”รวิเอ่ย สายตาไม่ได้ละจากภาพตรงหน้า คุณป๋าเชิดหน้าสูงส่วนคุณพ่อก็เอาแต่หอมซอกคอคุณป๋าอยู่นั่นแหละ ให้ตายเถอะ นี่พวกผมยังไม่ได้ขึ้นครูนะครับพ่อ คุณป๋า ทำไมจะทำลูกใจแตกเสียแล้วล่ะ

“ฉันว่าพอเถอะน่า อีกนิดพ่อกับคุณป๋าก็จะอ๋า แค่คิดฉันก็เสียวซ่านไปหมดทั้งตัวเลยแหละ”

“ป๊าบบบ”เพราะตัวแต่ก้มหน้าสุมหัวซุบซิบกันไปมา จนไม่ทันดูว่าคุณพ่อพระยาของพวกตนที่ตะกี้คลอเคลียอ้อ  ร้ออยู่กับคุณป๋าเดินใกล้เข้ามาจนฟาดเข้าให้ที่หัวกบาลเหม่งๆของรวีที่ยืนอยู่บนสุด

“โอ้ยยยยยยย เห้ยย คุณพ่อไหงมาอยู่ตรงนี้ได้เล่าขอรับ”

“มาสั่งสอนเด็กดื้อให้มันรู้จักเรื่องรู้จักราวเสียบ้างน่ะซี มีอย่างทีไหนมาแอบดูคนเขาพลอดรักกัน หือ? ป๋าตามใจจนเคยตัวแล้วกระมัง!!”

“คุณพ่อไม่ลั่นดาลเองต่างหากเล่าขอรับ พวกกระผมแค่จะมาหาคุณป๋าแต่ดันมาเจอคุณป๋าอ้อนคุณพ่ออยู่ แล้วก็...”รพีเถียงเบาๆทำเอาคนเป็นพ่อได้แค่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“น่าจักฟาดให้รู้จักหลาบเสียบ้างนะเจ้าเด็กพวกนี้ มาหาป๋ามีกระไรมาอ้อนอีกเล่าหือ??”

“จักขอไปเที่ยวน่ะขอรับ”รวีรีบเข้าไปกอดเอาป๋าพลางเอาหน้าหล่อๆซุกไปที่หน้าอก ส่วนรวิก็กอดอยู่อีกทาง รพีเลยได้แต่ยืนมองตาปริบๆ จะไปกอดขาเหมือนตอนเล็กๆก็คงไม่ดีกระมัง

“ขอพ่อเขาซี ป๋ามิช่วยพูดให้เด็กไม่ดีดอกนะ”

“โธ่ คุณป๋าขอรับ ถ้าคุณป๋าไม่ช่วยมีหวังพวกกระผมอดไปแน่ๆนะขอรับ”รวิกระซิบข้างๆหูป๋าพลางทำหน้าอ้อนวอนสุดฤทธิ์

“นะครับคุณพ่อ”รพีกอดแขนผู้ที่เรียกว่าพ่อมาตั้งแต่เล็กๆพลางเกยหน้าเข้ากับไหล่ผู้เป็นพ่อส่งสายตาหวานเชื่อมทำหน้าน่าเอ็นดูสุดฤทธิ์สุดเดช

“จักไปเที่ยวเล่นที่ไหนกัน?”ประมุขของบ้านถามเสียงเรียบ ทำเอาลูกๆขนลุกซู่ จากที่เตรียมจะอ้อนก็กลัวจนความอยากหายไปแล้วเกินครึ่ง ก็ใครใช้ให้คุณพ่อดุเป็นที่หนึ่งอย่างนี้ล่ะ ถึงจะไม่เคยได้เอาหวายมาลงที่หลังพวกเขาสักรอย (เพราะบารมีคุณป๋าแท้ๆ จะเรียกว่ากลัวเมียก็ว่าได้) แต่เขาก็กลัวอยู่ดีนั้นแหละ หน้าดุอย่างกับโจรแหนะ สามแฝดมองหน้ากันไปมาเป็นเชิงให้อีกคนพูด สุดท้ายก็เป็นรพีที่กอดแขน

“ก็ อันที่จริงวันพรุ่งพวกกระผมต้องเรียนภาษาอังกฤษกับคุณป๋านี่ขอรับ แต่ว่า...พรุ่งนี้มีงานมหรสพที่วัดน่ะขอรับ แลพวกกระผมก็อยากจักไปเดินเที่ยวเล่นกันเสียหน่อย”รวิพูดพลางพยักเพยิดกับพี่น้องอีกสองคน ที่พยักหน้าถี่ๆแบบขุนพลอยพยักเต็มที่จนคนที่เด็กๆเรียกว่าคุณป๋าได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ หรือเพราะเขาตามใจลูกมากไปแบบที่พี่นพบอกจริงๆนะ


“ตั้งแต่หัววันเลยหรือ?”

“โธ่ คุณพ่อขอรับ ก็ตอนกลางวันเขามีงานแข่งเรือกันด้วยนี่ขอรับ”

“เอาเถิดไปก็ไป แล้วไปกับใครบ้างเล่าลูก?”คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยรูปว่าลูกตัวเองมีสหายที่เป็นลูกขุนน้ำขุนนางด้วยกันอยู่ เรียกว่าพากันซุกซนได้ที่

“ก็ไปกับพ่อเทพ แลพ่อเดชขอรับ”รพีตอบพลางยิ้มหวาน แค่นี้แผนการไปเที่ยวของพวกเขาก็สำเร็จ สุขกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

“ระมัดระวังตัวให้มากหนาลูก แลอย่ากลับให้ค่ำมืดมากนัก ป๋าจะรอ”นภทีป์เอ่ยดักทางด้วยรู้ว่าเจ้าเด็กพวกนี้ซุกซนยิ่งนัก เกรงจะไปเที่ยวกันดึกดื่นเลยบอกว่าจะอยู่รอเสียลูกจะได้ไม่กล้าไปนาน

“ขอรับป๋า พวกกระผมจะรีบไปแลรีบกลับมาอย่างปลอดภัยครบสามสิบสองประการแน่นอนขอรับ”รวีพูดพลางทำหน้าทะเล้น สี่พ่อลูกหยอกกันสักพักก่อนคุณป๋าของเด็กๆจะไล่ให้ไปอ่านหนังสือ ด้วยว่าอายุก็ใกล้วัยจะรับราชการได้แล้วสมควรให้ลูกมีความรู้มากๆเข้า



“วิ วี เสร็จกันรึยังพีรอนานแล้วนะ”รพีที่รออยู่ที่หอนั่งเดินมาตามรวิกับรวีที่หอนอน พวกเขาสามคนนอนด้วยกันตั้งแต่เด็ก จนโตเป็นหนุ่มรุ่นก็ยังไม่ได้แยกกันนอนแต่วันนี้เขาตื่นก่อน ไปช่วยป๋าพับดอกกลีบดอกบัวไปใส่บาตร ช่วยป๋าคุมบ่าวทำกับข่าวเพราะว่าคุณย่าแก่ตัวลงมากแล้วปีนี้เลยไม่ค่อยได้หยิบจับงานเรือนมากอย่างเคย แต่ยังดุมากเหมือนเคยละนะ

“อีกเดี๋ยวสิพี วีมันนุ่งผ้าอยู่ เดี๋ยวไม่หล่อทำไงเล่า”รพีได้แต่ส่ายหัวกับคำตอบของฝาแฝดตัวเอง ไอ่พวกนี้

“หล่ออยู่แล้วล่ะน่า รีบๆออกมาได้แล้วกระเดี๋ยวไม่ทันได้ดูแข่งเรือกันพอดี”

“เออน่า เสร็จแล้วๆ”รวิกับรวีเปิดประตูอกมาจากหอนอน สองหนุ่มแต่งตัวเหมือนกันเปี๊ยบ จะว่าไปก็เหมือนที่รพีแต่งอยู่แหละ ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงชอบแต่งตัวเหมือนกันนัก ผมสีอ่อนถูกใช้น้ำมันจับเสยจนเรียบแปล้กันทั้งคู่

“กลัวเขาไม่รู้รึไงว่าเป็นฝาแฝดกันถึงได้แต่งตัวเหมือนกันเยี่ยงนี้หือ?”นภทีป์เอ่ยกระเซ้าลูกชายเมื่อหนุ่มๆเดินผ่านหอนั่ง ลูกของเขาเริ่มโตจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าอีกปีหรือสองปีข้างหน้าเขากับพี่นพของเขาคงต้องเตรียมสินสอดทองหมั้นไว้แต่งเมียให้ลูก

“พวกนี้แต่งตามพีขอรับ เพราะพีตื่นก่อนแต่งตัวก่อน”รพีพูดพลางส่ายหน้าระอา มันเป็นแบบนี้แทบจะทุกครั้งแหละ เขามักจะตื่นก่อนพี่น้องตั้งแต่เล็กๆ ไปใส่บาตรกับคุณป๋า ช่วยคุณป๋ากับคุณย่าคุมบ่าวทำกับข้าว หรือไม่ก็ลงครัวเองบ้าง สายมาก็ไปเรียนกับพี่น้องอีกสองคน

“เชอะ ก็ใครใช้ให้พีตื่นก่อนตลอด พวกเราก็เลยต้องแต่งตามพีน่ะซี ถ้าพีไม่อยากโดนแต่งตัวตามพีก็ต้องตื่นทีหลังเสียบ้างรู้หรือไม่”รวีเอ่ยพลางโยกหัวรพีไปมา พวกเขาไม่รู้ว่าใครเกิดก่อนเกิดทีหลัง หลวงลุงที่วัดก็ไม่รู้เพราะตอนที่รับพวกเขามาก็ไม่ได้คุยกับแม่มายมาย สุดท้ายเลยถือว่าเกิดพร้อมกันเสียหมดเนี้ยแหละ

“ก็วีกับวิตื่นสายเองต่างหากเล่า แล้วมาแต่งตัวตามทำไมก็ไม่รู้ ไม่เห็นต้องแต่งตัวเหมือนกันแบบนี้ก็ได้นี่นา”

“เอ้าๆ มัวแต่เถียงกัน กระเดี๋ยวไปไม่ทันแข่งเรือพ่อไม่รู้ด้วยหนา”ประมุขของบ้านที่เพิ่งเดินมาที่หอนั่งเอ่ยกับลูกชายที่ดูท่าจะเถียงกันไม่เลิกรา

“งั้นพวกกระผมไปแล้วนะขอรับคุณพ่อ คุณป๋า แล้ววันนี้คุณย่าไปไหนเสียเล่าขอรับ”รวิถามพ่อกับป๋าพลางสอดส่ายสายตาหาคุณหญิงย่าที่ตั้งแต่ออกมาจากห้องนอนยังไม่เห็นเลยสักแวบเดียว

“คุณย่าลงไปที่ครัวน่ะลูก อย่าลืมไปบอกคุณย่าเสียก่อนล่ะท่านจะได้ไม่เป็นห่วง แล้วก็รีบๆกลับมาเล่า อย่าให้ดึกดื่นมากนัก”

“ขอร้าบบบบบบ”พอประสานเสียงรับคำพร้อมกันเสร็จก็รีบวิ่งลงเรือนด้วยเกรงจะโดนดุอีกยกข้อหากวนประสาทพ่อกับป๋าเสียเหลือเกิน นภทีป์ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจกับลูกชายทั้งสามคน เห็นทีจะจริงอย่างที่พี่นพชอบค่อนเขาว่าตามใจลูกเหลือเกิน

“เป็นอย่างไรเล่า ลูกคนดีของพ่อทีป์หืม”

“พี่นพขอรับ จะค่อนว่ากระผมอีกแล้วหรือ ว่ากันมาตั้งสิบห้าปีเข้าไปแล้วไม่เบื่อบ้างหรือขอรับ”

“ก็เบื่อน่ะซี เพราะพ่อทีป์ตามใจลูกเสียอย่างนี้ เฮ้อ...ยังดีที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหาไม่พี่คงได้ฟาดพ่อทีป์แรงๆสักสองสามที”

“จะฟาดได้ลงคอเทียวหรือขอรับ?”

“หึคิดว่าพี่ไม่กล้าหรือจ้ะพ่อคุณ กระเดี๋ยวถ้าพี่ฟาดด้วยไม้เรียวพี่ก็ฟาดด้วยอย่างอื่นเท่านั้น”เจ้าคุณนพกระเซ้าพลางรั้งคนตัวบางกว่าเข้ามากอดไว้เบาๆ

“พี่นพ กระไรถึงลามกเยี่ยงนี้ขอรับ แก่จนป่านนี้แล้วยังจะคิดแต่เรื่องพรรค์นี้อยู่อีก”

“กระไรมาว่าพี่เล่า หากไม่ฟาดด้วยไม้เรียวพี่ก็ฟาดด้วยแส้ ไม่ได้หมายถึงอย่างอื่นเลยสักนิด ไยพ่อทีป์ถึงได้เขินอายเยี่ยงนี้เล่าจ้ะ คิดถึงกระไรอยู่หรือ”เจ้าคุณนพกระเซ้าเมียรักที่นั่งอยู่อ้อมแขนพลางรัดอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด ดีเหลือเกินที่พ่อทีป์ไม่ได้จากเขาไปไหนจวบจนวันนี้...

“พี่นพ!!”นภทีป์ได้แต่ดิ้นเร้าๆอยากจะฟาดคนตัวโตกว่าให้เป็นรอยหนักๆ คนอะไรแถนัก ไม่รู้สีข้างถลอกไปแล้วรึยัง ทำหน้าตาทะลึ่งตึงตังอยู่เห็นๆยังจะมาพูดอีก



“วี วิ พี ทางนี้โว้ยทางนี้”เสียงเอะอะมะเทิ่งของเทพดังขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสามเดินเข้ามา สามคนนี้เป็นที่เตะตาของผู้คนนักแลด้วยใบหน้าแบบฝรั่งแต่แต่งตัวอย่างไทย พูดไทยชัดถ้อยชัดคำเสียขนาดนั้น

“อ้าว ไอ่เทพแล้วเดชละ?”รพีเอ่ยถามเมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นวี่แววของเดชเพื่อนอีกคนที่นัดกันว่าจะมาดูแข่งเรือด้วยกัน

“เดี๋ยวมันก็ตามมาน่า คงไปเกี้ยวสาวอยู่แถวๆนี้ พีก็รู้ว่าเดชมันเจ้าชู้ประตูดินจะตาย”

“เออ งั้นเราไปหาที่นั่งกันเถอะ”รพีนำทุกคนไปใต้ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ ปูเสื่อกกพลางทรุดตัวลงนั่ง แถวๆนี้มีของมาขายบ้างล้วนน่ากินไปหมดทั้งนั้น รออีกสักเดี๋ยวเถอะพ่อจะฟาดให้หนำใจ

“อ้าว นั้นไอ่เดชมาแล้วนี่ เดชโว้ยเดช ทางนี้ๆ”รวีกวักมือเรียกเพื่อนหยอยๆ เรียกให้สาวๆแถวนั้นหันมามองตามไปด้วย พอเห็นหน้าคนส่งเสียงก็ได้แต่เมียงมองสะเทิ้นอายไปเป็นแถบๆ

“เสียงดังน่าวี แล้วนี่มากันนานแล้วหรือ”

“มาก่อนกระเดี๋ยวเดียวเอง พ่อเดชไปไหนมาเล่า คงมิได้ไปเกี้ยวพาสาวบ้านไหนมาดูแข่งเรือด้วยกันดอกหนา?”รวิถามเสียกระเซ้าเย้าแหย่พลางขยิบตาไปมาเป็นที่น่าหมั่นไส้จนเดชแทบอยากจะยกเท้ามายันเพื่อนดูสักยก

“เกี้ยวสาวกระไร ฉันไปส่งหนังสือให้คุณพ่อดอกจึงมาสายเสียหน่อย เขายังไม่เริ่มแข่งกันอีกหรือ”

“เริ่มก็เห็นแล้วซีเอ็ง ตาถั่วจริงๆเลยเพื่อนเรา”เทพเอ่ยพลางส่ายหัวจนได้รับฝ่ามือจากเดชไปประทับอยู่บนหัวเกรียนๆนั้นถึงสองที จะว่าห้าหนุ่มนี่เป็นหนุ่มงามแห่งพระนครเลยก็ว่าได้ในยามนี้ ทุกผู้ล้วนเป็นบุตรของขุนนางชั้นสูงทั้งนั้น แลหล่อเหลาเอางานเอาการกันเสียทุกคนเสียด้วย

   “เป็นกระไรหรือพีทำไมหน้ามุ่ยเยี่ยงนั้นเล่า”เดชถามพลางยื่นนิ้วไปเขี่ยแก้มคนตัวเล็กกว่าเบาๆ รพีน่ารักเสมอสำหรับเขาถึงหน้าตาจะเหมือนกับรวิกับรวีอย่างกับแกะก็เถิด แต่ถึงอย่างไรเขาก็ว่าไม่เหมือนกันอยู่ดีนั้นแหละ

“เปล่า พีไม่ได้เป็นกระไรเสียหน่อย เดชไปส่งหนังสือที่ไหนมาหรือ”

“กระทรวงน่ะ คุณพ่อท่านวานให้เอาไปส่งให้ เรามิได้เถลไถลอื่นไกลแลมิได้ไปเกี้ยวพาใครที่ไหนเลยนะ”

“พวกเราก็มิได้ว่ากระไรเดชนี่”รพีหันมายิ้มให้เพราะคิดว่าเพื่อนนึกว่าพวกตนโกรธที่มาสาย ทางข้างเดชก็ได้แต่นึกในใจปลงๆด้วยคนตรงหน้าไม่รู้ตัวเสียทีว่าเขามีใจให้ เมื่อไหร่จักรู้กันนะพ่อพี

“นี่สองคนนั้นน่ะมิดูแข่งเรือหรือไร”เทพตะโกนถามเพราะพอเรือเข้าที่พวกเขาก็รีบถลาไปที่ริมตลิ่งจนลืมดูไปว่าเพื่อนยังมิได้มาด้วย

“ดูซี ไปกันเถิดเดช กระเดี๋ยวพลาดละแย่เลย”

“อืม”เดชรับคำในลำคอพลางลุกขึ้นยืน หึ ตอนนี้ยังมิรู้ตัวก็มิเป็นไรให้รู้ตัวเมื่อไหร่เถิดพ่อพี พี่เดชคนนี้จักขย้ำมิให้เหลือเชียว!!



========================================

กลับมาแล้วพร้อมตอนพิเศษค่าาา ขอโทษที่หายไป (อีกแล้ว อีกแล้ว อีกแล้ว อีกแล้ว) ส่วนตอนปกติจะตามมาในไม่ช้าอาจจะหลังจากปั่นวิดีโอแนะนำคณะเสร็จ  :katai1: :katai1: :katai1:


เค้ามาง้อละน้าาา อย่าโกรธเค้าเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากให้สามแสบมันเกรียนกว่านี้แต่ไม่รู้จะทำยังไง พวกนางโตมาแบบค่อนข้างเรียบร้อย -..-


หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-08-2015 17:33:07
จิ้มจึกๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 02-08-2015 18:26:10
โห รุ่นลูกเขาก็ไม่เบาเหมือนกันนะไอ้พ่อเดชนี้ดูร้ายไม่เบา เจ้าชู้มากๆพ่อพีเขาก็ออกจะฮอตนะ พ่อพีต้องทันเกมพ่อเดชนะ แอบสงสารพ่อพีล่วงหน้านะเยี้ย ดูพ่อเดชจะร้ายอ่ะ รีบๆมาต่อเลยนะทิ้งไปนานจนนึกว่าจะไม่มาต่อซะละ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 02-08-2015 20:16:49
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 02-08-2015 20:33:36
เด็กๆโตแล้ว   :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 02-08-2015 20:49:32
มาช้าได้ แต่อย่าหายไปนานน้าาาาา เค้ารออยู่!!!!!
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-08-2015 22:18:58
มาต่อไวนะเราคิดถึงมากเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 03-08-2015 02:38:10
ตายๆได้ลูกสาวมาหนึ่งด้วย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 03-08-2015 10:50:21
มาแล้วววววว

รุ่นลูกน่าติดตามมากกกกก มีอีกคู่บังเกิดแล้วว กิกิ

ขอบคุณที่ม่ต้อนะคะ เรารอตอนต่อไปน้าาา

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-08-2015 00:22:55
พ่อกับป๋าคงไม่ต้องเตรียมสินสอดไป1คน
ดูท่าพ่อพีคงจะพาเขยเข้าบ้านกระมัง 5555
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่๑๗ 8/5/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 04-08-2015 03:46:21
ยกมือขี้น มีคำถามค่ะ เราอ่านภาษาไทยบางครั้งไม่ค่อยแตกก็เลยต้องถาม

อ้างถึง
ยามเป็นหนุ่มก็พากันไปขึ้นครูกับสหายสนิทเสียตั้งแต่นมยังไม่แตกพานดีด้วยซ้ำ



จากประโยคนี้แสดงว่าคุณหลวงนพไปขึ้นครูกับสหายสนิทที่เป็นชาย(ทำกับเพื่อน)มาใช่ไหมคะ ไม่ใช่ว่าไปขึ้นครู(กับผู้หญิง)ด้วยกันกับเพื่อนที่ชวนกันไป
คุณหลวงนพถึงได้เชี่ยวชาญภาคปฏิบัติไปจนถึงการทะนุบำรุงดูแล(จัดการทำความสะอาดด้านหลัง) ใช่ไหมเอ่ย นางเชี่ยวมากค่ะ

อันนี้คือนางเคยไปขึ้นครูกับผู้หญิงค่ะ แบบไปเที่ยวผู้หญิงกับเพื่อนไรงี้ แต่นางเป็นผช.อ่อนโยน (ปนหื่น) เลยดูแลพ่อทีป์อย่างดี (ตามประสานาง)
ขอบคุณมากค่ะ

แหมพี่นพก็บนเรือก็ไม่เว้นนะ  ดีนะที่เรือไม่พลอกคว่ำตอนหยอกกัน   คุณแม่ก็น่ารักมากๆเลย  แถมตัวเล็กที่ไม่ทันไรก็หวงป๊าแล้ว  แล้วคนอ่านอย่างเราไปจะไหนได้ 
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-08-2015 01:08:43
ขอมาตามอ่านด้วยคนน้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-08-2015 10:48:32
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-08-2015 00:14:00
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-10-2015 21:39:45
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-11-2015 14:17:13
รอๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 15-11-2015 18:12:01
กราบอ้อนวอนแทบเท้า
ลงมาให้อ่านต่อเต๊อะ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-11-2015 18:32:54
มาต่อเหอะรอนานมาก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับพิเศษ 2/8/2558
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-11-2015 16:56:52
 :call: แวะมารอ  :ruready
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 29-11-2015 18:04:32
   พยับที่ 19

นภทีป์นั่งร้อยดอกไม้อยู่บนหอนั่งกับคุณหญิงแม่ของคุณหลวง อ๋อใช่แล้วล่ะ ไม่ผิดหรอก นภทีป์ ไอ่ทีป์คนนี้นี่แหละที่ร้อยดอกไม้ ก็ใครใช้ให้คุณหญิงแม่อยากจะให้เขาเรียนการเรือนแบบเข้มข้นขึ้นจากทำกับข้าวกับปลาก็ขยับมากรองดอกไม้ปักผ้าบ้าง

โธ่ คุณหญิงแม่ขอรับ ขอความเป็นชายคืนให้ทีป์ด้วยขอรับ ไอ่ทำกับข้าวก็ยังพอทำไหวอยู่หรอก ก็ผู้ชายทำกับข้าวมีอยู่ถมถืดไม่เห็นแปลก แต่ผู้ชายร้อยมาลัยกรองดอกไม้นี่เริ่มเหลือใจแล้วนะขอรับคุณแม่!!

“เบี้ยวอีกแล้วแหน่ะพ่อทีป์ กระไรลูก เมื่อยแล้วหรือ? ไยเหม่ออยู่นั่น?”

“เปล่าขอรับคุณแม่ กระผมเพียงแต่คิดอะไรเพลินๆ ว่าแต่ช่วงนี้จักมิสอนกระผมทำกับข้าวแล้วหรือขอรับ?”

“อยากกินมากกว่าร้อยดอกไม้ละซี แม่รู้ทันดอก เอาไว้กรองดอกไม้ให้คล่องมือเสียก่อนค่อยเริ่มทำของหวานอีก ดีหรือไม่ลูก จักได้เป็นเสียทุกๆอย่าง แม่จักได้คลายใจ”นภทีป์ได้แต่ลอบถอนหายใจ...เขารู้ตัวดี หากเขาไม่มาโผล่อยู่ที่ริมน้ำตอนนั้นละก็ ป่านนี้คุณหลวงคงได้แต่งเมียไปสมใจคุณหญิงแม่ ถึงคุณหญิงจะไม่เคยพูด แต่เขาก็พอจะเดาได้ เขารู้ว่าคุณหญิงเองก็รักและเอ็นดูเขาไม่น้อย แต่การจะยอมรับว่าลูกชายตัวเองรักกับผู้ชายด้วยกันในยุคนี้มันง่ายซะที่ไหนกัน

ไหนจะสังคมยุคนี้

ไหนจะบ่าวไพร่


ถ้าเรื่องมันแพร่ออกไปจริงๆคงลือกันหัวคุ้งท้ายคุ้งให้ครึ่ดไป

คุณหลวงจะยอมรับได้จริงๆน่ะเหรอที่มารักเขาคนนี้ แล้วคุณหญิงล่ะ...คุณหญิงจะรับได้จริงๆใช่ไหมนะ ที่จะไม่ได้อุ้มหลานที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองไปตลอดชีวิต

ทุกคนจะยอมรับได้ จริงๆน่ะหรือ?


“คุณแม่ขอรับ”

“กระไรลูก? สงสัยกระไรหรือ”

“กระผมเพียงแต่คิดว่า...คุณแม่เอ่อ...”

“ว่ามาเถิด แม่จักมิถือโทษดอก แลจักมิบอกความแก่พ่อนพหากพ่อทีป์มิอยากให้แม่พูดแล้วไซร้”

“คุณแม่มิอยากมีหลานหรือขอรับ”

“ก็มีพ่อสามคนนั้นแล้วกระไร เพียงเท่านี้ก็เลี้ยงแทบไม่หวาดไม่ไหวแล้วเล่า”

“กระผมหมายถึง ลูกแท้ๆของคุณหลวงน่ะขอรับ หลานที่เป็นเชื้อไขของคุณแม่”

“ถึงแม่อยากให้มีพ่อนพก็คงมิยอมดอกลูก กระไรเสียแม่ก็มิได้รังคัดรังแคกระไรหากจักมีพ่อทีป์มาเป็นลูกเสียอีกคน”

“กระผมซึ้งน้ำใจคุณแม่นักขอรับ หากเป็นลูกของกระผมเองบ้างไม่รู้ว่ากระผมจักทำได้อย่างคุณแม่หรือไม่”

“คนเป็นพ่อเป็นแม่หนาลูกกระไรลูกก็คือลูกอย่างไรเสียก็ตัดมิขาดดอก พ่อทีป์ไยต้องคิดให้มากความ หากพ่อสามคนนั้นมีคนใดเป็นลักเพศขึ้นมา พ่อทีป์จักไล่ลูกออกจากบ้านหรือ หรือจักบังคับให้ลูกแต่งงานเสียกับแม่หญิงที่งามพร้อม พ่อทีป์ทำลงหรือลูก?”

“นั้นซีนะขอรับ กระผมคงจักคิดมากความไปเสียเอง”

“เอาเถิดลูกไหนมาให้มาดูอีกทีซีว่าร้อยงามหรือยัง”นภทีป์ยื่นพวงมาลัยในมือให้คุณหญิงพลางทำหน้าสลด ก็แหม เขาก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าไอ่พวงมาลัยนั่นมันห่างไกลคำว่างามอยู่อีกอักโข

“ยังบูดๆเบี้ยวๆอยู่นาพ่อทีป์ มิต้องคิดพิรี้พิไรกระไรดอกหนาพ่อ ไว้ร้อยบ่อยๆเข้าก็งามขึ้นเองแลลูก หากร้อยงามเมื่อไรแม่จักเอาไปถวายพระ ดีหรือไม่”

“ดีขอรับ แต่คุณแม่คงต้องรออีกนานเทียวขอรับ”

“กระไรกันพ่อทีป์นี่ เอาเถิดๆ เอ้าร้อยเข้ากระเดี๋ยวตอนบ่ายแม่จักพาลงครัว วันนี้ทำแกงส้มดูดีหรือไม่ลูก”

“ขอรับ”



ปัจจุบัน

ธามนั่งทอดสายตาไปไกล น้องชายที่เขาฝันถึงเมื่อคราวที่แล้วพร้อมพ่อกับแม่ ดูท่า...เขาคงไม่ได้ไอ่ทีป์น้องชายใจหมาคนนั้นคืนมาแล้ว มีแต่เพื่อนสนิทที่มันทิ้งไว้ข้างๆตัว จนตอนนี้ก็สลัดไม่หลุด ตั้งแต่เขาเป็นเอ็กซ์เทิร์นจนเรียนจบมาขนาดนี้แล้วก็ยังต้องเห็นหน้ามันอยู่อีก

“ไอ่ตฤณ มึงนี่ทำยังไงถึงตามกูไปได้ทุกที่ได้เนี้ย?”

“กูเหรอ? บุพเพสันนิวาสไงมึง อะไร? ถามงี้มึงเบื่อกูเหรอ?”ดูมันทำท่างอนอย่างกับผู้หญิง เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่ ผมว่ามันเริ่มเหมือนเมียทางพฤตินัยของผมเข้าไปทุกที ทั้งรีดผ้า ซักผ้า ทำกับข้าว นอนด้วยกัน (แต่ไมได้ซั่ม) กินข้าวพร้อมกัน วันดีคืนดีผมถึงขนาดหยิบเสื้อกาวน์ไปผิดตัวด้วยซ้ำ ก็ใครใช้ให้มันใช้ตู้เสื้อผ้าเดียวกับผมแล้วแขวนเสื้อกาวน์ไว้ฝั่งเดียวกัน เวลารีบๆนี่มีพังพินาศ ต้องตอบคำถามกันไปทั้งวันว่าทำไมผมถึงใส่เสื้อของแพทย์รุ่นน้องอย่างมันได้

“ไม่ได้เบื่อ อะไรหืม เดี๋ยวนี้มึงชักจะเหมือนเมียกูเข้าไปทุกทีแล้วนะตฤณ”

“ไม่อยากให้กูเป็นเหรอ”มันทำตามเชื่อม ชอบพูดแบบนี้แล้วสุดท้ายก็ไม่ยอมให้ผมทุกที ผมก็คิดอยู่นะว่ามันคิดจริงหรือมันแค่สงสารผมที่เพื่อนมันหายไปจนผมเสียผู้เสียคนตอนนั้น จากดูแลชั่วคราวที่บ้านริมน้ำก็ดูแลกันมาถึงตอนนี้ หรือเพราะอะไร...

ทำไมเพื่อนมึงแม่งไม่ชัดเจนเลยวะไอ่เหี้ยทีป์ ไอ่เรารึอุตส่าห์ไม่เร่งรัดมัน แล้วดูมันทำสิ!!

หรือผมจะจับแม่งปล้ำเลยดี ตัดปัญหา จริงๆเราก็จูบกันบ้าง แต่ไม่เคยเกินเลยกว่านั้นสักที หรือว่ามันจะวางตัวเป็นคิสเฟรนด์???
 
“อยากเป็นปะละ เดี๋ยวกูจัดให้มึงคืนนี้เลยเป็นไง?”

“หื่นจริงมึงอ่ะ”

“มึงแม่งไม่เคยจริงจังอ่ะ”

“แต่กูจริงใจนะ”

“พ่อง!!”ไว้มึงเผลอเมื่อไหร่เถอะไอ่ตฤณ มึงเสร็จกูแน่

“ทำหน้าแบบนี้มึงคิดเรื่องเหี้ยๆอยู่ละสิ ไอ่หมอหื่น เพลาๆลงบ้างนะมึงน่ะ”

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะเพลาได้ยังไงละ คิดถึงไอ่ทีป์ว่ะ”

“กูก็คิดถึงมันเหมือนกัน... อยู่ที่นู้นไม่รู้จะมีใครดูแลมันไหม...”ตฤณพูดพลางมานั่งชิบกับธาม หัวกลมๆซบลงไปที่ไหล่ของคนตัวโตกว่า

“นั่นสินะ”ธามเอื้อมมือขวามาลูบหัวที่วางแหมะอยู่บนไหล่เบาๆ ริมฝีปากบางเฉียบผินมาแนบกับหน้าผากมน

“อย่าทิ้งกูไปได้ไหม”ธามพูดเบาๆ ริมฝีปากยังคงจ่อชิดกับหน้าผากของตฤณ นิ้วเรียวเกลี่ยข้างแก้มของคนตัวบางกว่า

“ไม่ทิ้งหรอก...กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไล่ส่งกูเลย ดีไหม?”

“ดี...แต่กูคงไม่ไล่มึงหรอก อยู่แบบนี้ไปตลอดเลยแล้วกันนะ”

“มึงไม่อยากมีเมียมีลูกบ้างรึไง”ตฤณถามเบาๆ ธามหัวเราะแผ่วๆ สัมผัสได้ว่าคนในอ้อมอกกำลังน้อยใจที่เกิดมาเป็นเพศเดียวกับเขาเสียแบบนี้

“ไว้เราค่อยไปดูที่ห้องคลอดดีไหม...ว่ามีเด็กถูกทิ้งบ้างหรือเปล่า”

“อื้อ”


สมัยรัชกาลที่ ๕

วันนี้นภทีป์ถูกคุณหญิงสั่งให้บ่าวทาน้ำอบน้ำปรุงเสียทั่วตัว ทาแล้วทาอีก อย่างกับจะทำให้มันซึมเข้าไปในเนื้อในหนังกระไรกระนั้น กลิ่นน้ำอบบนตัวเขาคงหอมตลบไปสามคุ้มน้ำนู้นแหละ!!

“วันนี้มีงานกระไรหรือขอรับคุณแม่ ไยต้องให้ผมแต่งเนื้อแต่งตัวเสียประณีตทั้งพรมน้ำปรุงเสียทั่วตัวเชียว”

“วันนี้แม่จักพาไปงานแต่งงานลูกสาวพระยาสาครวิเทศหะจ้ะ กระเดี๋ยวรอคุณหลวงกลับมาก็แต่งตัวรอเสียก่อนเป็นไร”

“กระนั้นหรือขอรับ ว่าแต่เขาแต่งกับใครหรือขอรับ?”

“แต่งกับเพื่อนๆรุ่นๆกันกับคุณหลวงนั้นแลลูก เห็นว่าคบหาสนิทชิดเชื้อกับพ่อนพมานานโขอยู่นา แลไปเรียนที่อังกฤษด้วยกันเสียด้วยกระมัง”

“เนื้อตัวหอมนักพ่อทีป์ กระไรน้ำอบบนตัวถึงได้ยั่วใจพี่ยิ่งนัก”คุณหลวงนพเทพอัครากล่าวเมื่อลงเรือมาด้วยกันสักพัก คุณหญิงแขไขนั่งอยู่ทางด้านหน้าแลไม่ได้สนใจลูกชายแลนภทีป์เท่าไรนัก

“คุณหลวง คุณแม่ก็นั่งอยู่ข้างหน้านี้ กระไรพูดจาเยี่ยงนี้ขอรับ”

“เย้าเล่นก็มิได้เชียวหรือหือ ต้องยกขันหมากไปขอเสียกระมัง”

“จะยกไปขอที่ใครละขอรับ!”

“อ้าว... ก็ยกจากเรือนฟากโน้นมาขอพ่อทีป์จากคุณแม่ที่ฟากขะนี้น่ะซี”

“พี่นพ อย่าพูดเลื่อนเปื้อนไปซีขอรับ”

“เลื่อนเปื้อนที่ไหน ไม่อยากแต่งกับพี่หรือ?”

“จะให้แม่หาฤกษ์ให้ไหมลูก”

“คุณแม่ขอรับอย่าเป็นไปกับพี่นพซี ชาวบ้านเขาจะว่าอย่างไรเล่าขอรับจัดงานเยี่ยงนี้”

“ใครจักมาว่าอะไรคุณพระอย่างพี่ได้หืม”นภทีป์สะดุดหูกับยศที่เปลี่ยนไป ผินหน้าไปมองคนที่นั่งลงข้างๆตัวเองเมื่อสักครู่

“ว่ากระไรนะขอรับ พี่นพได้เลื่อนขั้นแล้วหรือ?”

“อย่างนั้นซี ตอนนี้เป็นพระแล้วแลได้เลื่อนตำแหน่งด้วยหนา จึงใคร่อยากจะแต่งเมียสักคนอย่างไรเล่า”

“พี่นพ พูดกระไรอย่างนั้นขอรับ”

“พี่พูดจริงหนาพ่อทีป์ อย่างน้อยก็ให้ได้ผูกข้อต่อแขน ให้ผู้หลักผู้ใหญ่รับรู้”

“แล้วถ้าหากว่าแต่งกับผมแล้วพี่นพไม่ได้เลื่อนขั้นในหน้าที่การงานอีกเล่าขอรับ...เราอยู่กันแบบนี้ก็ได้ กระผมมิได้เป็นไร มิได้เรียกร้องให้มายกผมขึ้นเป็นหลวง”

“พ่อทีป์ อย่าพูดเยี่ยงนี้ได้หรือไม่ อย่าพูดเมืองจะเป็นแค่บำเรอของพี่ได้หรือไม่ พี่จะไม่ทำแบบนั้นกับพ่อทีป์เด็ดขาดหากแม้นไม่ได้ตบแต่งเป็นพิธี กระไรเสียพี่ก็จักไม่ยอมมีใครอื่น จักไม่ยอมให้ใครมาทัดเทียมพ่อทีป์ของพี่ได้ เข้าใจแล้วหรือไม่ อย่าพูดเยี่ยงนี้อีกเลยหนา”

“ขอรับ กระผมเข้าใจแล้ว จะไม่คิดมากอีกแล้วนะขอรับ”นภทีป์ยิ้มละไมให้หากในใจกลับทบทวนคำพูดของตัวเองไปมา หากเขาอยู่ตรงนี้พี่นพก็คงจักไม่ยอมมีใครเป็นแน่ และเขาก็รู้ดี ว่าการแต่งงานเพื่อนหน้าที่การงานมีอยู่ทั่วไป หากพี่นพต้องมาตกต่ำเพราะเขาเขาคงทำใจไม่ได้

และคงจะไม่ให้อภัยตนเองเป็นอันขาด

แต่จะทำอย่างไรดี นอกจากเรือนแห่งนี้เขาก็ไม่มีที่ไปที่ไหนอีก แม้เขาจะรู้หนังสือแต่หากไม่มีเส้นสายจะไปทำงานที่ไหนได้
จะทำอย่างไรดี

เขาไม่อยากเป็นอย่างนี้เลย

ทั้งไม่อยากจากพี่นพไป และไม่อยากทำให้พี่นพลำบากเยี่ยงกัน...



-------------------------------------------------------------------
ฮัลโหลลล อิสมีวววว

ฮือออ ต้องขอโทษจริงๆนะคะที่หายไป นี่ไม่ได้ตาย ไม่ได้ป่วยนะคะ แต่ว่าไม่มีเวลาจริงๆ สอบทุกอาทิตย์เลย
เวลานอนยังไม่ค่อยมี T^T (ปีสามหนักมากจริงๆนะเออ)

มาต่อแล้วน้าา าอย่าโกรธกันเลยยย ยกโทษให้ฉันถ้าทำผิดไปปปป อย่าโทษฉันเลยยยยยย ใกล้จบแล้วนะเอ้อออออ

(ไม่จบตอนปีหกแน่ๆค่ะ 555)






หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ice.sp0211 ที่ 29-11-2015 19:50:48
ทำไมคิดแบบนี้เล่าาาาาาา~~~~

อย่าไปนะ สงสารพี่นพ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-11-2015 20:19:20
อ่านนานแล้วพอมาต่อเลยรู้สึกว่ามันแปลกๆ
สงสัยว่าทำไมนภทีป์ต้องพูดภาษาโบราณด้วยอ่ะ ฟังดูเหมือนไม่ใช่นภทีป์ เข้าใจว่าคนเราพออยู่ด้วยกันแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนลักษณะคำพูดให้คล้ายกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าถ้าพูดภาษาสมัยใหม่แล้วคนสมัยก่อนจะไม่เข้าใจนี่นา
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-11-2015 10:21:55
สู้ๆน้าคนแต่ง

อย่าคิดมากสิทีป์ เดี๋ยวคุณพระก็ไม่สบายใจไปด้วยหรอก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 30-11-2015 22:05:16
รอตอนต่อไปค่าาา

พี่นพหยอดจนเขินแทนน งื้อออ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 01-12-2015 06:56:09
มาต่อแล้วววว :hao7:
คิดถึงนะ
พ่อทีป์อย่าคิดมากสิ
พี่นพรักพ่อทีป์ที่สุดอยู่แล้ว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 01-12-2015 10:37:16
จะหนีไปไหน อย่าไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 01-12-2015 12:34:45
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: yaoiyuri56 ที่ 01-12-2015 17:43:09
ขอบคุณมากครับ


รอต่อๆ >< น่ารักมาก :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 02-12-2015 01:13:57
คุณพระ   :o :o :o :o :o :o :o

นึกว่าคนเขียนหายไปซะแล้วววววววววว    :serius2: :serius2: :serius2:

ขอบคุณที่มาต่อนะค่าาาาาาาาาาาา    :call: :call: :call:

อย่าทิ้งเรื่องนี้ไปนะ        :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 02-12-2015 03:19:52
ช็อกกกกกกกกกกกกกกกก แปปปปปปปปปปปปปปปปปปป

ขอบคุณที่มานะคะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-12-2015 00:37:07
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Killian ที่ 06-12-2015 09:50:08
แปะไว้ก่อน ยังไม่ได้อ่านเลย ชื่อเรื่องน่าสนใจดี
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 15-12-2015 20:45:11
จงมาต่อออ ฮือออ คิดถึงพ่อธีร์แล้ววววว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-12-2015 13:58:05
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-01-2016 21:55:26
:)
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Lili405 ที่ 17-02-2016 08:22:46
อ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว ชอบมากเลยค่ะ
เมื่อไรจะมาต่อน้า... :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: .B.F.I.R.S.T. ที่ 29-04-2016 16:23:13
ฮือออ~ ไม่มาต่อแล้วเหรอคะ.... :hao5:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 06-05-2016 23:57:11
เรื่องนี้หายไปนานมากๆเลยอ่ะ จะไม่มาต่อแล้วจริงๆหรอ? เสียใจจัง ฮืออออออออออ :mew6:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 10-05-2016 01:01:29
น่อวว ขอโทษทุกคนนะคะ ยังจะมาต่ออยู่น้าา แต่ว่าช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆ T^T
เสาร์นี้จะมาต่อให้นะคะ ถ้าไม่มีงานด่วนอะไรเข้ามา
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-05-2016 09:18:23
รอได้จ้า
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: .B.F.I.R.S.T. ที่ 21-05-2016 13:44:25
จะรอน้าาา :mew2:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Neonjuthamas ที่ 28-05-2016 18:55:50
ยังรอคุณหลวงกับหนูทีป์นะคะ งื้อออออ คนเขียนสู้ๆ  :impress3: :hao5: :hao5: :katai4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๑๙ 29/11/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Midnight. ที่ 13-07-2016 21:25:06
 :katai2-1:สนุกมากครัช อยากให้มาต่ออีกจังเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 20-09-2016 00:28:26
พยับที่ 20

คุณพระรู้สึกแปลกไป...ช่วงนี้พ่อทีป์ดูท่าทางแปลกพิกล บ่าวในเรือนว่า นภทีป์มักจะออกไปตลาดทุกๆ 2-3 วัน แลหายไปเสียทั้งวัน ไม่รู้ว่าไปทำการอันใด เห็นทีคงจักต้องสั่งให้บ่าวติดตามไปเสียบ้าง

เขาเองมั่นใจว่าพ่อทีป์มิมีทางปันใจให้ใครดอก แต่ใครจักรู้ว่าพ่อทีป์คิดการณ์ใดอยู่ในใจ

“อ้ายคง เอ็งว่าพ่อทีป์ออกไปตลาดบ่อยๆหรือ”

“ขอรับคุณพระ ช่วงนี้คุณทีป์ออกเรือนบ่อยเทียวขอรับ กระผมถามก็ได้ความเพียงว่าจักเข้าไปในตลาด กระผมเองก็จนด้วยปัญญาว่าท่านไปย่านไหน คงไปย่านพวกคนจีนกระมังขอรับ”

“เอ พ่อทีป์คิดการณ์ใดอยู่กัน หากพ่อทีป์ออกไปคราวหน้าเอ็งลองตามไปดูที ว่าคุณเขาไปที่ใด แลให้คนไปบอกข้าที่กรม”

“ขอรับคุณพระ แลวันนี้คุณพระจักมิเข้ากรมแล้วหรือขอรับ”

“ไม่ละ ข้าเองมิได้มีการณ์อันใดที่กรมให้เร่งรีบทำดอก หากวันนี้พ่อทีป์ออกไปคงจักดีไม่น้อย ข้าจักได้ตามไปเสียเอง แล้ววันนี้คุณทีป์ของเอ็งอยู่ที่ไหนหรือ”

“กระผมเห็นตามคุณหญิงลงเรือนไปขอรับ ได้ยินแว่วๆว่าจักไปคุมโรงครัวทำอาหาร”

“กระนั้นหรือ เอาล่ะเอ็งไปได้แล้ว แลอย่าลืมเรื่องที่ข้าสั่งความไว้ อ่อ วันนี้หากผู้ใดถามให้เอ็งบอกไปเสียว่าข้าเข้ากรม”

“ขอรับ”นายคงรับคำแล้วจึงลงเรือนไป ส่วนคุณพระผู้นึกแผนการติดตามคนรักอยู่ในใจนั้นก็แต่งกายเหมือนจะเข้าไปทำงานที่กรมและลงเรือนไป

เขาเองคงซุ้มดูอยู่แถวๆทางออกหน้าเรือน ด้วยพ่อทีป์นั้นพายเรือไม่เป็น แลหากไปด้วยการณ์ที่มิอยากให้ใครล่วงรู้เยี่ยงนี้คงจักเดินออกไปทางหน้าเรือนเป็นแน่


บ่ายแก่ๆวันเดียวกัน

นภทีป์เดินออกจากเรือนมาในยามบ่ายแก่ๆ ช่วงนี้เขากำลังติดต่อกับร้านหนังสือในตลาด ขอรับงานแปลหนังสือแอบเอามาทำที่เรือนบ้าง นั่งทำที่ร้านเลยบ้างเพื่อให้มีเงินเก็บ นภทีป์วางแผนไว้ในใจว่าหากว่าเขาเก็บเงินได้มากพอเมื่อไรก็จะจากไป ลองถามลู่ทางจากคนในตลาดได้ความว่าหากไปที่ท่าเรือไกลๆก็ยังพอจะหางานทำได้ เพราะมีพวกฝรั่งไม่น้อยที่ติดต่อพูดคุยกับชาวสยามไม่รู้เรื่อง เถ้าแก่ร้านยังแนะนำให้เขาไปขอช่วยงานมิชชั่นนารีที่โบสถ์ในเมืองด้วยซ้ำไป ด้วยเห็นภาษาอังกฤษของเขานั้นดีมากโขหากเทียบกับคนสยามยุคนี้ เขาเองก็คิดอยู่เหมือนกัน บางทีถ้าไปอยู่เสียในโบสถ์พี่นพคงจักตามไม่ได้ ด้วยคงมิได้คาดว่าเขาจักหนีไปอยู่เสียในโบสถ์คริสต์อย่างนั้น

แล้วก็...คงพอจะมีข้าวกินจนกว่าจะหาที่ไปใหม่ได้

หากไม่ได้กลับไปในโลกของเขาก็คงจะต้องหนีพี่นพไปเรื่อยๆแบบนี้

เพราะเขาไม่อยากเป็นตัวถ่วง หากพี่นพแต่งงานแต่งการไปเสียกับลูกสาวพระยาบ้านอื่น ป่านนี้คงจักได้เลื่อนยศเสียจนใครๆก็อิจฉาเป็นแน่

“อ้าว อาทีป์มาแล้วหรือ วันนี้มีหนังสือเข้ามาเสียเยอะแยะ มีจดหมายให้ช่วยแปลด้วยนา เข้าไปในร้านซี อั๊วะให้อาง๊อมันเตรียมวางไว้ให้บนโต๊ะนั้นแหละ”

“ขอรับเถ้าแก่ ขอบคุณมากนะขอรับที่ช่วยหางานให้”

“ไม่ต้องเกรงใจหร๊อก ว่าแต่ลื้อเถอะเก็บเงินได้มากแล้วหรือยัง วันก่อนอั๊วะเห็นพวกที่ท่าเรือมันว่าจักมีเรือสินค้าไปแถวปากแม่น้ำนา ลื้อจักไปด้วยพวกมันหรือไม่เล่า อั๊วะจะช่วยถามให้”

“ปากแม่น้ำหรือขอรับ?”

“ใช่ซี แถวนั้นคงพอมีงานให้ลื้อทำบ้าง ได้ยินว่ามีเรือฝาหรั่งเทียบท่าแลต้องการคนที่รู้ภาษาพวกมันด้วยนา”

“ถ้าไม่รบกวนเกินไป กระผมฝากเถ้าแก่ถามให้ทีนะขอรับ กระผมพอจักมีเบี้ยอยู่บ้าง หากจากไปเสียตอนนี้คงมิถึงแก่ลำบากมากนัก”

“เอาซี ไปๆ ลื้อไปทำงานเถิดวันนี้หากพวกมันผ่านมาอั๊วะจักถามให้”

“ขอบพระคุณขอรับ”

คุณพระที่ซุ่มดูอยู่ร้านมองอย่างฉงนใจ เขาได้ยินเสียงสนทนานั้นไม่ถนัดนัก แต่มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำสำคัญเป็นแน่ หากลองไปถามเถ้าแก่นั่นดูอาจจักรู้ได้ คุณพระคิดแล้วจึงเดินเข้าไปถามเอากับเถ้าแก่ร้านที่ยังคงยืนขายของอยู่ด้านหน้า

“เถ้าแก่”

“อ้าว พ่อหนุ่มมีอาไรให้อั๊วะช่วยหรือ”

“คนตะกี้ที่ชื่อทีป์ เขามาทำอะไรที่ร้านเถ้าแก่หรือ”

“รู้จักกันเรอะ ให้อั๊วะเรียกให้เอาไหมละ?”คุณพระส่ายหน้าแล้วจึงถามย้ำเอากับเถ้าแก่ที่ยังไม่ยอมบอกว่านภทีป์มาทำอะไรที่ร้านนี้กันแน่

“รู้จัก แต่ไม่ต้องเรียกมาดอก ฉันแค่อยากรู้ว่าเขามาทำกระไรก็เท่านั้น”

“อาทีป์น่ะหรือ อีมาขอแปลหนังสือแลกเงิน อีว่าต้องการไปเสียจากบางกอก วันนี้อั๊วะก็เพิ่งบอกไปเรื่องเรือสินค้าที่ปากแม่น้ำโน้น”

“ไปจากบางกอกหรือ? แล้วเถ้าแก่หาทางไปให้เขาได้แล้วหรือยัง?”

“ยังน่ะซี คงต้องรออ้ายพวกที่มากับเรือสินค้าฝาหรั่งมันผ่านมาเสียก่อนอั๊วะถึงจาได้ถามให้”

“กระนั้นข้าฝากเถ้าแก่ดูที ว่าเขาจักไปกับเรือลำไหน ข้าเป็นญาติผู้พี่ของเขาน่ะขอรับ เรื่องที่เขาจักไป พ่อแม่เขาก็หารู้ไม่ ข้าเองก็เป็นห่วง อัฐนี้ข้าให้ท่านไว้ หากท่านรู้แล้วว่าพ่อทีป์จักไปกับเรือลำไหน ยามใด ให้ท่านส่งคนไปแจ้งข้าที่เรือนคุณพระนพเทพวรากรทีนะขอรับ”

“ได้ซีๆ หากข้ารู้แลจะบอกกล่าวให้”

“อ้อ อีกอย่างนึงนะขอรับ เถ้าแก่อย่าได้บอกเรื่องนี้ให้พ่อทีป์รู้เป็นเด็ดขาด”

“ขอรับๆ”เถ้าแก่โค้งหัวรับคำรัวๆ ด้วยอัฐที่คุณพระวางให้นั้นมากโข มากจนพอค่าหนังสือหลายสิบเล่ม ส่วนคุณพระหนุ่มได้แต่ทอดสายตามองเข้าไปในร้าน ด้วยความคิดสับสนวุ่นวายในหัวใจ ไยพ่อทีป์ถึงอยากไปจากเขากัน เขาดูแลพ่อทีป์ไม่ดีหรือ หรือเขาทำกระไรให้เจ็บช้ำน้ำใจ เขาเองก็ไม่ทราบได้ ด้วยพ่อทีป์ไม่เคยแสดงอาการน้อยอกน้อยใจอันใด วันๆหากไม่ร้อยดอกไม้ ทำกับข้าวกับคุณแม่ ก็ออกมาที่ตลาดนี่ หากเขารู้ว่าการอนุญาตให้พ่อทีป์ออกมาเที่ยวตลาดจักเป็นการเปิดทางให้พ่อทีป์ไปจากเขาเยี่ยงนี้ละก็ เขาจักไม่มีทางยอมให้พ่อทีป์ออกมาเป็นเด็ดขาด

เย็นย่ำวันเดียวกัน

“พ่อทีป์ไปที่ใดมาหรือ”นภทีป์สะดุ้งสุดตัวเมื่อก้าวขึ้นเรือนแล้วเสียงทุ้มใหญ่ถามขึ้น น้ำเสียงราบเรียบเสียจนเขาเองใจสั่นรัว ด้วยไม่รู้ว่าคุณพระคนใหม่โกรธเคืองกันด้วยเรื่องอะไร

“ไปตลาดขอรับ เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย พี่นพมีอะไรจะพูดกับผมหรือ”

“ไปเดินเล่นแล้วไยอยู่แต่ที่ร้านหนังสือเล่า?”นภทีป์เสหลบตาคมที่มองมาด้วยความขุ่นเคืองนั้น เขาเองก็ไม่รู้จะตอบอีกคนเช่นไร จะตอบว่าเพราะอยากจะจากไปเต็มแก่ถึงได้ทำเรื่องแบบนั้นหรือ เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณพระรู้เรื่องราวแค่ไหน รู้แล้วหรือยังว่าเขากำลังจะไป...

“ผม...”

“อยากไปจากพี่เสียจนตัวสั่น ยอมเดินไปเสียไกลเผื่อหาเงินใช้ที่ตลาด ใช่หรือไม่”นภทีป์นิ่งเงียบ ไม่ตอบคำและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองอีกคนที่นั่งอยู่บนตั่งในหอนั่ง เสียงที่พูดคุยกันไม่ใช่เสียงดังเอ็ดตะโรอะไรเลย แต่น้ำเสียงบาดใจคนฟังนัก เขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบคุณพระได้อย่างไร จะกล้าบอกได้อย่างไรว่าอยากจะไปจากกัน...

“ไยไม่พูดกระไรเล่า พ่อทีป์จะไม่แก้ตัวเสียหน่อยหรือ จะไม่บอกให้ฉันได้รู้เสียหน่อยหรือว่าเพราะเหตุใด ไยจึงทำเยี่ยงนี้กัน?”

“พี่นพขอรับ ผม...”พูดได้เท่านี้ร่างสูงโปร่งของนภทีป์ก็พูดไม่ออกเสียดื้อๆ เขาจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าอยากจากไป จะกล้าพูดได้อย่างไร

“อยากจากไป จะพูดอย่างนี้ใช่หรือไม่ เตรียมการไว้แล้วมิใช่หรือว่าจะไปที่ท่าเรือ หรือว่าเปลี่ยนใจอยากจะไปโบสถ์มิชชั่นนารีในพระนครกันเล่า เลือกแล้วหรือยังล่ะว่าจะหนีไปเสียที่ใด”

“พี่นพ”

“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ ในเมื่อไม่รักกันก็อย่าเรียกอย่างนี้!!”เสียงตัดพ้อนั้นดังมากพอให้คุณหญิงที่อยู่กับหลานๆได้ยินชัดเสียจนต้องรีบวิ่งมาดูว่าเหตุใดลูกชายผู้เยือกเย็นถึงได้ตวาดเสียลั่นเรือน

“พี่นพ ฮึก”นภทีป์กลั้นสะอื้นลงคอ พยายามฝืนน้ำตาที่คลออยู่ในหน่วยตา เงยหน้ามองคนที่ตอนนี้ลุกขึ้นมายืนค้ำหัวกันอยู่อย่างเจ็บปวด เขาอยากจากไปก็จริง แต่เขาไม่ได้ไม่รัก

“ทำไม เรียกชื่อฉันทำไม รักฉันหรือ สิ่งที่พ่อทีป์กำลังจะทำ มันเป็นสิ่งที่คนรักกันควรทำหรือ”เสียงว่ากล่าวที่ดังขึ้นจนลูกๆเริ่มสะดุ้งตื่น เสียงร้องกระจองอแงดังลั่นเรือน บ่าวไพร่บนเรือนได้แต่ก้มหน้า ด้วยเกรงว่าหากเงยหน้ามองเพียงสักนิด หวายจักลงหลังเอาด้วยข้อหาสาระแนในเรื่องของเจ้านาย

“เสียงดังกระไรกันพ่อนพ พ่อทีป์ มีเรื่องอันใดไยไม่พูดจากันดีๆลูก”

“ไม่มีกระไรดอกขอรับคุณแม่ เพียงแต่มีคนอยากจะทิ้งลูกทิ้งผัวไปจนตัวสั่น ถึงกับยอมเดินไปหางานเก็บเบี้ยเก็บอัฐเสียไกลโขเชียวนะขอรับ”นภทีป์พอได้ฟังคำก็ยิ่งพาลให้เสียใจจนน้ำตาร่วงเผาะๆ รีบวิ่งหนีเข้าเรือนไป ส่วนคุณพระหนุ่มนั้นทำเพียงชายตาตามแล้วนั่งลงที่เดิม เขาสับสน เสียใจและน้อยใจนักที่คนรักคิดจะจากกันไป ซ้ำยังไม่ยอมบอกด้วยซ้ำว่าโกรธเคืองกันด้วยเรื่องอะไร

“ไยพูดอย่างนั้นกับน้องเล่าลูก”คุณหญิงที่เพิ่งเคยเห็นลูกชายโมโหจนตัวสั่นได้แต่เดินไปลูบหลังบึกบึนของลูกชายคนเดียวเบาๆ พลางจูงมือไปนั่งเหมือนลูกยังเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งที่หลงทางจนอยากจะร้องไห้เท่านั้น

“เขาจะทิ้งลูกไปขอรับคุณแม่”คุณพระตอบเสียงค่อย ใบหน้าคมเบือนหลบไม่ยอมสบตากับแม่ที่มองตรงมาเหมือนพยายามจะค้นหาอะไรบางอย่างจากเขา

“แล้วได้รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด”

“ไม่รู้เลยขอรับ กระผมเพียรคิดมาตลอดบ่าย คิดจนหัวแทบระเบิดก็มิรู้ได้ว่าเหตุใดพ่อทีป์ถึงได้อยากทิ้งกันไป กระผมก็รักแลดูแลอย่างดีมิใช่หรือ ไยยังอยากจะทิ้งกันไปอีก”

“พ่อนพไยไม่ถามน้องดีๆ ตวาดใส่กันเยี่ยงนี้แล้วเรื่องราวมันจักดีขึ้นหรือลูก”

“กระผม...”

“ไปเถิด ลองไปพูดคุยกันให้ดีเสียก่อน ลองเปิดตาให้กว้างๆดูสิลูก อย่าได้คิดเพียงแต่เขาอยากจะหนีไป เพราะไม่รัก ลองดูทีฤาว่าคนที่ไม่รักเขาจักวิ่งหนีไปร้องห่มร้องไห้เพราะพ่อนพเสียงดังใส่เขาหรือไม่”

“ขอรับ”คุณพระหนุ่มรับคำแล้วนึกตามที่มารดาบอก ก็จริงอย่างที่คุณแม่ว่าหากพ่อทีป์ไม่รักเขาดังเก่า มีหรือจักร้องไห้ร้องห่มเพียงแค่เขาทำเสียงดังใส่ แต่ว่า ถ้าหากพ่อทีป์รักกันดังเก่าแล้วไซร้ ไยจึงอยากจะทิ้งเขาไป เขาละอยากจะรู้นัก



จนยามศศิธรแย้มหน้ามาเยือนแล้ว คุณพระก็ยังไม่ได้เข้าไปปรับความเข้าใจกับคนที่ร้องห่มร้องไห้ไปเสียในห้อง แม้กระทั่งสำหรับเย็นก็มิได้ออกมารับเสียด้วยกัน เขาอยากจะใช้เวลาตรองดูสักหน่อย ว่าเหตุใดพ่อทีป์ของเขาจึงมีท่าทีเยี่ยงนั้น เหตุใดจึงอยากจะทิ้งขว้างกันไปนัก

“เฮ้อ...”เสียงทอดถอนใจดังสะท้อนไปทั่วเรือน แต่เจ้าของร่างก็ยังมิได้ลุกไปปรับความเข้าใจกับหนุ่มหน้ามนในห้องแบบที่คุณหญิงแขไขอยากให้ลูกชายทำหนักหนา นางเองก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเรื่องของหนุ่มสาวมากนัก ทำได้เพียงแต่มองอยู่ห่างๆ แลหวังว่าพ่อทีป์จะหนักแน่นพอที่จะรักลูกของนาง แม้นางจักเพียรย้ำหนักหนาว่ามิเป็นไรดอก กระไรก็มีหลานแล้ว แต่มิไยคนคิดมากก็หาได้สนใจไม่ ยังคงคิดแต่จักหนีลูกชายนางไปอยู่ร่ำไป นางเอกก็อยากจะรู้นักว่าลูกจักทำเช่นไรให้เขารู้ แลเข้าใจได้เสียทีว่าหากเขาไปคงมิมีใครในเรือนนี้จักมีความสุขรื่นเริงอยู่เสียได้

“คุณหลวงขอรับ”นายมั่นคลานเข่าเข้ามาหานายที่นั่งจมจ่อมอยู่ที่หอนั่ง ด้วยตนเห็นคุณทีป์แอบลงเรือนทางบันไดหลังเรือนไปเสียแล้วพร้อมห่อผ้าห่อน้อย เขาเร่งบอกให้อ้ายคงสหายที่อยู่รับใช้คุณพระร่วมกันมานานเร่งตามคุณทีป์ไปส่วนตนเองก็เร่งรุดมาแจ้งเรื่องให้คุณพระรับทราบ

“มีกระไรอ้ายมั่น ไยรีบร้อนหน้าตาตื่น”

“คุณทีป์ขอรับ”

“พ่อทีป์มีกระไรหรือ”

“คุณทีป์หอบห่อผ้าลงเรือนไปแล้วขอรับ แต่บ่าวให้อ้ายคงตามไปแล้ว คุณพระจักตามไปหรือไม่ขอรับ” คุณพระหนุ่มนิ่งอึ้ง ด้วยไม่คิดว่านภทีป์จะรีบร้อนหนีไปแบบนี้ ใบหน้าคมซีดเผือด หากยังคิดว่านภทีป์คงทิ้งอะไรไว้ให้บ้าง

“ยัง ข้าจักยังไม่ตามไป หากอ้ายคงกลับมาแล้วให้มาหาข้าที่เรือนด้วยเล่า ส่วนเอ็งก็ไปนอนเสียดึกมากแล้ว”คุณพระสั่งความบ่าวแล้วเร่งเข้าไปในเรือนนอนของตน

จริงอย่างที่คิดไว้ พ่อทีป์ทิ้งจดหมายฉบับหนึ่งไว้บนหมอน บนกระดาษแผ่นบางมีดอกรักช่อหนึ่งวางทับไว้ ยางรักแห้งไปเนิ่นนานแล้ว เหลือเพียงรอยเล็กๆหยดอยู่บนแผ่นกระดาษ
ไยพ่อทีป์ถึงทำกับพี่ได้ลงหรือ

พี่จักมิยอมให้พ่อทีป์ไปดอก มิมีวัน!!



หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 20-09-2016 01:43:39
กรี๊ดดดด กลับมาแล้ววว กลับมาพร้อมมาม่า
น้องทีป์จะไปไหนนนน  :sad4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 20-09-2016 03:50:19
นึกว่าตาฝาดดดดดดด 
พ่อทีป์อย่าหนีไปเลยนะ  :hao5:

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-09-2016 13:20:46
ทีป์ไปหนายยยย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-09-2016 14:52:37
จะหายไปไหนก็ได้นะแต่คนเขียนห้ามหาย
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: flowerloveyaoi ที่ 20-09-2016 15:15:30
รอมาแสนนานจนนึกว่าไม่มาแล้วว อ่านรอไปหลายรอบมากกก

ต้องเป็นเพราะละครพิษสวาทแน่ๆที่ทำให้นักเขียนกลับมาต่ออีก ฮือออออ อย่าหายไปไหนอีกนะเจ้าคะ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: .B.F.I.R.S.T. ที่ 02-10-2016 17:02:38
วันนี้ที่รอคอย... :sad4:
วันที่คนเขียนกลับมาต่อ !!!
ปลื้มปริ่มสุดๆเลยค่ะ~
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 03-10-2016 21:16:37
หายไปนานเลยนึกว่าเลิกเขียนไปแล้ว.ะอีก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 12-10-2016 18:31:38
ชอบเรื่องนี้มากจิงๆนะ ตามมานานแล้ว
แต่กว่าจะมาต่อก็นานเหลือเกิน
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 25-10-2016 07:41:37
กับมา  แล้วก็ทิ้งค้างได้เจ็บปวดหัวใจกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-11-2016 15:09:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-11-2016 20:44:43
ค้างงงงง มาต่อเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: .B.F.I.R.S.T. ที่ 19-02-2017 00:29:25
รอชั้นรอเธออยู่~  แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด...~
รออยู่อยูนะคะ รีบมาต่อน้าาา :mew6:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๐ 20/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: GiGee ที่ 09-04-2017 09:07:11
รออยู่นะะ ถึงแม้จะผ่านมาเนินนานแล้ว งื้อ;--;
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ 15/05/60
เริ่มหัวข้อโดย: infernoA ที่ 15-05-2017 20:32:33
   พยับที่ ๒๑

   นายคงเดินตามนภทีป์มาจนถึงโบสถ์คริสต์แล้วรอดูอยู่สักพักว่าคุณทีป์ที่มันถูกสั่งให้ตามมาจนถึงโบสถ์จะอาศัยที่นี่เป็นที่พึ่งแน่แล้วจึงค่อยๆเดินกลับเรือน

   “อ้ายคงกลับมาแล้วขอรับคุณพระ”นายมั่นเดินรายงานคุณพระที่นั่งเหม่อลอยอยู่ที่หอนั่งตั้งแต่สั่งความออกไป พี่ทำกระไรผิดถึงเพียงนั้นเชียวหรือพ่อทีป์ ลูกที่ร่วมกันอุ้มชูมาจนถึงบัดนี้ไม่มีความหมายต่อเจ้าเลยหรือ

   “เรียกมันขึ้นมาหาฉันที แล้วนายมั่นไปนอนเถอะ ฉันฟังความนายคงสักกระเดี๋ยวคงจักให้มันไปนอนแล้ว มิต้องห่วงดอก”

   “ขอรับ”

   นภทีป์ได้อาศัยอยู่ในโบสถ์คริสต์ที่อยู่ห่างจากคลองบางหลวงไม่มากนัก และใช่ โบสถ์แห่งนี้ไม่ได้ห่างจากบ้านคุณพระอีกด้วย แต่เขาไม่รู้จะเดินไปได้ไกลแค่ไหนในสภาวะที่อ่อนล้าไปทั้งกายทั้งใจแบบนี้ และคุณพ่อของที่นี่ก็ดีต่อเขามาก

   “ลูกว่าลูกทำกระไรได้บ้างนะ”คุณพ่อรูปร่างสูงใหญ่ ยังดูดีอยู่มากแม้จะอายุมากแล้ว อีกทั้งยังอยู่ในสยามมานานจนพูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว

   “แปลหนังสือได้ทั้งภาษาอังกฤษแลฝรั่งเศสขอรับ”

   “พูดได้หรือไม่”

   “ได้ขอรับ แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็มิค่อยได้พูดเสียนานแล้ว อาจจะมิค่อยคล่องปากมากนัก แต่ฟังแลคุยได้แน่ๆขอรับ หากคุณพ่อจักให้ช่วยเป็นล่าม เกรงว่าลูกต้องทบทวนตัวเองอีกนานเทียวขอรับถึงจะพูดได้คล่องอย่างเก่า” ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาแทบไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสเลยจนรู้สึกว่าคงพูดไม่คล่องเหมือนเก่าแล้ว

   “งั้นช่วยแปลหนังสือให้พ่อทีแล้วกัน กระเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพ่อจักให้เด็กเอาหนังสือกระดาษและหมึกไปให้ลูกแต่เช้า ลูกสะดวกใจจักทำตอนไหนก็ทำเถิด แลพ่อจักให้ค่าจ้างตามสมควร ดีหรือไม่ เผื่อลูกอยากจักใช้ซื้อข้าวของส่วนตัวบ้าง”

   “เป็นพระคุณแล้วขอรับ”นภทีป์กล่าวลาบาทหลวงแล้วจึงเข้าห้องนอนที่มีเด็กรับใช้ภาษามาส่ง เขาไม่ได้อยากจากมาเลยสักนิด แต่พี่นพคงโกรธเขานัก ถึงได้ตวาดเสียเรือนแทบพัง เขาเพียงไม่อยากให้พี่นพต้องมาเสียอนาคตเพราะเขา


   วันนี้อากาศสดใสไม่น้อย ยังคิดถึงบ้านเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าพี่ธามกับตฤณยังจำทีป์ได้ไหม แต่มั่นใจว่า ๒ คนนั้นไม่มีทางลืมทีป์หรอก ทุกวันนี้ต้องพยายามเก็บเงินไว้เพราะไม่อยากถ่วงพี่นพ ไม่อยากให้พี่นพเป็นขี้ปากใคร แต่คงเสียใจมากหากต้องจากพี่นพกับลูกไป เด็กๆกำลังหัดเดิน หัดพูด น่ารักน่าชังสุดๆไปเลย

   ตอนเย็นนี้อากาศดีมากๆเลย ตอนเดินกลับน่าจะไม่ร้อนมากนัก ดีจริงๆ แต่ตอนนี้เลยเวลามานานแล้วยังไม่ได้ออกจากร้านเถ้าแก่เลย คงต้องเร่งมือหน่อยแล้ว

   ทีป์ขอโทษนะครับพี่นพ ขอโทษ พี่นพคงเกลียดทีป์แล้ว แต่ทีป์ยังรักพี่นพเหมือนเดิม เป็นผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่นพเป็นร้อยๆครั้ง ถ้าพี่นพจะโกรธ จะเกลียด ก็ไม่ใช่ความผิดพี่นพเลยสักนิด เป็นเพราะตัวผมเอง ผมเองที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันต้องจบแบบนี้ แต่ก็ดีแล้วแหละครับ พี่นพจะได้ไม่ต้องถูกใครหน้าไหนนินทา แล้วยังไม่ต้องมาหมดอนาคตเพราะผม ทีป์จะรักพี่นพตลอดไปนะครับ

   มือเรียวปิดสมุดบันทึกที่เพิ่งเขียนจบลง เขาเขียนบันทึกมาสักพักเพราะอยากจะเก็บความทรงจำต่างๆเกี่ยวกับที่นี่ไว้ และคิดว่าคงจะเก็บไว้บนตู้ ตอนที่เขากลับไปในที่ที่จากมาอย่างน้อยก็ยังมีบันทึกพวกนี้อยู่ ก่อนนี้เขาคิดว่าเขาอยากจะถ่ายรูปกับพี่นพ กับลูกๆเก็บทิ้งไว้ เผื่อว่าเขาต้องจากไปจริงๆอย่างน้อย เขาก็จะยังจดจำพี่นพ จำรวิ รพิ รพี ได้ จำคุณหญิงและทุกๆคนในบ้านได้ คงจะดีไม่น้อย

   
   เช้านี้คุณพระนพยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิมแต่บรรยากาศบนเรือนคุณพระเหมือนถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาที่ทำเอาทุกคนหัวใจหนักอึ้ง คุณพระปิดปากเงียบ แทบไม่พูดจากับใคร คุณหญิงรู้เรื่องราวนี้ในเช้าวันถัดมา ท่านได้แต่กล่าวอันใดไม่ออก สงสารลูกชายยิ่งนัก แลสงสารหนุ่มน้อยคนนั้นเช่นกัน เธอรู้ดีว่านภทีป์เป็นคนคิดมากนัก เคยเปรยเรื่องนี้กับเธออยู่หลายครา หากไม่คิดว่าพ่อทีป์จะตัดใจไปจากลูก จากคนรักได้ลงคอ เด็กๆร้องไห้งอแงบ่อยกว่าเดิมหลายเท่านัก เพราะไม่เห็นคนโปรดมาหาที่เรือนฝั่งนี้เหมือนอย่างเคย ข้ารับใช้ในบ้านได้แต่ทำงานอย่างกลัวเกรงเพราะคุณพระน่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่าที่เดียว เกรงว่าทำกระไรไม่ต้องใจไปสักเล็กน้อย หวายอาจจะลงหลังได้

   “พ่อนพ กับข้าวไม่อร่อยหรือลูก ไยกินน้อยนัก”

   “อร่อยเหมือนเคยแลขอรับ คุณแม่อย่าคิดมากไปเลย”

   “ไม่สบายใจแล้วไยไม่ตามน้องกลับมาเล่าลูก ถามอ้ายคงแล้วมิใช่หรือว่าพ่อทีป์อยู่ที่ใด”

   “คนเขาไม่อยากอยู่ตามมาอย่างไรเขาก็คงจักหนีกระผมไปอีกอยู่ดีขอรับคุณแม่”

   “พ่อนพมั่นใจหรือว่าพ่อทีป์เขาไม่อยากอยู่ วันนั้นยังมิได้คุยกันเลยมิใช่หรือลูก”

   “กระผมว่าจักไปดูอยู่บ้างขอรับว่าพ่อทีป์เป็นอยู่อย่างไร อยู่ได้หรือไม่ กระไรเสีย พ่อทีป์ก็มิมีญาติพี่น้องที่ไหน คุณแม่อย่าห่วงไปเลยขอรับ”

   “พ่อนพยังโกรธน้องอยู่หรือ?”

   “กระผมมิเคยโกรธเคืองอันใดน้องเลยขอรับ กระผมเพียงแต่เสียใจยิ่งนักขอรับคุณแม่ พ่อทีป์ทำเหมือนมิเคยมีใจรักให้กระผมเลย นึกจักทิ้งก็ทิ้งขว้างกันไปง่ายๆ”

   “พ่อทีป์เองก็รักพ่อนพมากนะลูก”

   “คุณแม่อย่าพูดไปเลยขอรับ กระผมมิเป็นไรดอก มิต้องปดลูกเพื่อให้คลายใจดอกขอรับ”

   “เอาเถิดๆ พ่อนพจักไม่เชื่อแม่ก็ได้ แต่พ่อนพต้องเชื่อดวงใจรักของตัวเองบ้างหนาลูก ทิฐิที่มีก็วางมันลงเสียเถิด ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจเพราะสำนึกได้ก็สายไปแล้วหนา”

   “ขอรับๆ กระเดี๋ยวรอข้าวเรียงเม็ดสักหน่อยกระผมก็จักไปแล้วขอรับ คุณแม่ไม่ต้องโน้มน้าวกระผมถึงเพียงนี้ก็ได้ขอรับ”

   “จ้าพ่อ รีบๆเข้าเถอะ”คุณพระได้แต่ส่ายหัวแล้วรีบกินข้าว แต่ใจเขาเองยังยืนยันเหมือนเดิม เขาจักมิตามพ่อทีป์กลับมาดอก คนอยากไป กระไรก็คงมิได้อยากกลับมาเท่าไรนัก


   นภทีป์ออกมานั่งแปลหนังสือที่ศาลาหน้าโบสถ์ ทั้งๆที่ปกติเขาชอบที่จะทำงานแบบนี้ในห้องมากกว่าแท้ๆ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกลียดห้องสี่เหลี่ยมนัก สุดท้ายก็เลยต้องออกมาทำหน้าโบสถ์รับลม ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบเสียงดังจ้อกแจ้กแท้ๆ

   “แกรก”เสียงกิ่งไม้หักดังสะดุดหูจนคนที่นั่งเขียนหนังสืออยู่ต้องหันไปมอง แต่พบเพียงหลวงพ่อที่รับเขาเข้ามากำลังยืนอยู่กับลูกศิษย์ลูกหาข้างต้นไม้ใหญ่เท่านั้น ทำไมเขารู้สึกแปลกๆนะ ตั้งแต่ออกมานั่งตรงนี้ ก็เหมือนมีคนคอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

   นภทีป์ขมวดคิ้วมุ่น นี่หรือที่โบสถ์นี้จะมีผีกันนะเนี้ย ร่างโปร่งเริ่มหวาดระแวงจนต้องสอดส่ายสายตาไปมา น่ากลัวว่าคืนนี้จะนอนไม่หลับซะแล้วเขา

   “แลซ้ายแลขวาหาอะไรหรือลูก”บาทหลวงเดินเข้ามาถามนภทีป์หลังจากเห็นเขาสอดส่ายสายตาไปมาอย่างไม่สบายใจอยู่ซักพัก

   “เปล่าขอรับ เมื่อครู่ตอนที่นั่งทำงานอยู่ จู่ๆกระผมก็รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมอง เลยหวาดระแวงขึ้นมาน่ะขอรับ”นภทีป์กล่าวด้วยท่าทางหวาดระแวง ใบหน้านิ่วลงด้วยความกลัว

   “ไม่มีผีสางดอก พ่ออยู่มานานยังไม่เคยเจอ ส่วนคน...”บาทหลวงเงียบไปแล้วปรายตาไปทางต้นไม้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ยืนอยู่

   “ก็มีแต่ลูกศิษย์ลูกหาทั้งนั้นแหละ ชาวสยามที่ไม่ได้นับถือพระผู้เป็นเจ้าไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่นักดอกลูก เว้นแต่จะมาเรียนภาษา เขาเกรงว่าจะถูกหาว่าเป็นพวกนอกรีต”นภทีป์ได้ยินดังนั้นก็พรูลมหายใจออกอย่างสบายใจมากขึ้น ถ้าบาทหลวงพูดแบบนี้ คงแปลว่าพี่นพคงไม่ได้มาแถวนี้ดอก นี่เขาคิดอะไรกันนะ พี่นพน่ะหรือจะมาแถวนี้ โบสถ์คริสต์นี่ เพราะภาษาอังกฤษของคนผู้นั้นก็ดีมากอยู่แล้วนี่นา

   “อย่างนี้นี่เอง กระผมคงเหนื่อยจนคิดมากไปเองแท้ๆเชียวขอรับ”

   “นั่นน่ะซี พักเสียหน่อยเถิดลูก ไม่ต้องเร่งร้อนทำดอก พ่อก็มิได้เร่งอันใดนี่นา”

   “ขอรับ เอาไว้กระผมแปลบทนี้เสร็จคงจะพักเสียหน่อยแล้วละขอรับ”

   “เออ จริงสิ วันมะรืนจักมีงานมหรสพที่วัดฟากขะโน้น พ่อได้ยินลูกศิษย์เขาพูดกันให้ขรมว่าอยากไป แลยังถามพ่อด้วยนาว่าไปแล้วจักผิดต่อพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่”

   “กระนั้นหรือขอรับ แล้วจักผิดหรือไม่ขอรับ”

   “ไม่ผิดดอก เพียงไม่กราบไหว้พระเจ้าพระองค์อื่นก็เพียงพอแล้วแลลูก ลูกอยากไปหรือไม่ กระไรเสียเจ้าก็ยังเป็นคนพุทธ คงอยากไปกราบไหว้พระที่พึ่งทางใจของลูก”

   “ไว้กระผมคิดดูอีกทีก่อนหนาขอรับ แล้วจักเรียนให้คุณพ่อทราบภายในวันพรุ่งนะขอรับ”

   “เอาเถิดๆ ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจนะลูก พ่อเข้าใจ”นภทีป์ทอดสายตาตามบาทหลวงไป ดีเหลือเกินที่สมัยนี้ยังมีคนจิตใจดีขนาดนี้อยู่ ดีเหลือเกินที่ทุกศาสนาสอนให้ผู้คนรักกัน


   “คุณพระจักมิเข้าไปหาคุณทีป์หรือขอรับ”นายคงถามเจ้านายที่แอบอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ ตะกี้มีบาทหลวงมาถามเสียยกใหญ่ ว่าด้อมๆมองๆอะไร ดีที่คุณทีป์ไม่หันมาเจอ ไม่งั้นเจ้านายเขาคงเสียฟอร์มแย่

   “ไม่ละ ฉันแค่อยากมาดูว่าพ่อทีป์อยู่สบายดีหรือไม่เท่านั้นแหละ”

   “กระนั้นหรือขอรับ งั้นเรากลับกันเลยดีหรือไม่ขอรับ กระเดี๋ยวคุณหนูและคุณหญิงจะชะเง้อชะแง้หาเสียก่อนนาขอรับ”นายคงถามพลางกลั้นยิ้ม คนไม่กล้าง้อเมียคงเป็นอย่างคุณพระนี่เอง มองเขาสายแต่เชื่อม แต่พอถามว่าจักเข้าไปหาหรือไม่กลับไม่เข้าไปเสียอย่างนั้น

   “อย่าเสือกการณ์ของข้าน่า เอ็งก็รอเงียบๆไปเถิด อีกกระเดี๋ยวข้าก็จะกลับแล้ว”คุณพระหันมาดุลูกน้องเบาๆแล้วหันไปมองร่างโปร่งต่อ เขาคิดถึงพ่อทีป์เหลือเกิน เพียงวันเดียวที่ไม่ได้พบไม่ได้คุยแท้ๆ ไยจึงคะนึงหาเขาขนาดนี้กันนะ เป็นเอามากแล้วเชียวไอ่นพเอ๋ย

   “ขอรับๆ กระเดี๋ยวกระผมจักรอเงียบๆเลยเทียวขอรับ”นายคงพูดพลางยิ้มในหน้า ดูทีฤา ไม่เกินสามวันเจ็ดวันนี้ กระเดี๋ยวคุณพระก็ต้องวิ่งมาง้อคุณทีป์แน่ๆ นี่ก็ไม่รู้จะนั่งไปอีกนานแค่ไหน นั่งมาตั้งแต่หลังรับสำรับเสร็จจนตะวันจะคล้อยแล้วก็ยังไม่เลิกมองเขาอีก จักให้เขาเชื่อได้อย่างไรกันว่าคุณพระจะไม่เข้าไปตามคุณทีป์กลับไปอยู่ที่เรือน

   คุณพระมองนภทีป์เงียบๆอยู่อย่างนั้นจนร่างนั้นเดินเข้าไปในโบสถ์ถึงได้เลิกมองแล้วมานั่งเหม่อออกไปทางแม่น้ำแทน นายคงที่ตามมาด้วยได้แต่มองแม่น้ำตามเจ้านายไปก็เท่านั้น จักลุกไปทำการณ์อันใดก็มิได้นี่นา ได้แต่แอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่อยู่อย่างนี้ ไม่รู้คุณพระจะหมดความอดทนเมื่อไร ขอให้เป็นไวๆนี่เถิด ไอ่คงก็เบื่อเป็นเหมือนกันนาขอรับ

   “ไป กลับกันเถิดอ้ายคง”จนตะวันลับขอบฟ้าเหลือไว้เพียงแสงสีส้มเรืองๆที่ขอบฟ้าเท่านั้น คุณพระถึงได้กลับเรือน นายคงพรูลมหายใจออกอย่างโล่งอก ในที่สุดก็จะได้กลับเสียที หลังจากนั่งมองแม่น้ำมานาน จนอ้ายคงคนนี้แทบจะหันไปคุยกับมดแทนอยู่แล้วเชียว เพราะเจ้านายเอาแต่นั่งเงียบกริบ

   “กลับมาแล้วหรือลูก เจอน้องหรือไม่ ได้คุยกันแล้วหรือยังลูก”คุณหญิงรีบปรี่เข้ามาถามลูกชายหลังจากเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนขึ้นเรือนมา

   “เจอขอรับ แต่กระผมเห็นพ่อทีป์ทำงานเคร่งเครียดนัก จึงมิได้กวนน้องขอรับ”นายคงผู้ตามนายขึ้นมาบนเรือนได้แต่ส่ายหัวอยู่ในใจ โถ คุณพระ ไม่กล้าเข้าไปง้อคุณทีป์เองแท้ๆ ไฉนตอนกล่าวกับคุณหญิงกลายเป็นคุณทีป์ทำงานหนักไปเสียชิบ อ้ายคงหรือก็ไม่เห็นคุณทีป์จะทำงานหนักหนาอันใด เพียงแค่เขียนหนังสือไปมาเท่านั้นเอง

   “อย่างนั้นหรือ แล้วพ่อนพจะไปหาน้องอีกไหมลูก แม่อยากให้พ่อทีป์กลับมาเหลือเกิน ช่วงนี้ตาวิ ตาวี ตาพีเอาแต่งอแงจนแม่อ่อนใจเชียวลูก”

   “คงไปบ้างขอรับ หากมีงานกระผมคงมิได้ไป กระเดี๋ยวเด็กๆก็คงชิน คุณแม่อย่าไปหวังให้พ่อทีป์กลับมาเลยขอรับ”

   “ทำไมพูดจาแบบนี้เล่าพ่อนพ ไม่รักไม่ห่วงน้องแล้วหรือลูก”

   “ลูกจะรักจะห่วงแล้วอย่างไรเล่าขอรับ คนเขาจะไปต่อให้ลูกเอาช้างทั้งตัวฉุดก็ฉุดพ่อทีป์ไว้ไม่อยู่หรอกขอรับ”

   “พ่อนพ กระไรพูดเช่นนี้อีกแล้ว เอาเถิดๆ แม่ไม่พูดละ พูดกับคนมีทิฐิแม่จะเหนื่อยเอาเสียเปล่า ไปๆ เตรียมอาบน้ำเถิดลูก กระเดี๋ยวค่ำแล้วน้ำค้างลงจักไม่สบาย”

   “ขอรับ”


   ผ่านมา ๒ วันแล้ว ชีวิตที่โบสถ์เรียบสงบดีนัก พรุ่งนี้เขาว่าจะไปงานวัดเสียหน่อย ดีเหลือเกินที่บาทหลวงที่นี่เข้าใจ ไม่ห้ามแล้วยังสนับสนุนให้เขาไปหาที่พึ่งทางใจอีก พี่นพกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้างนะ เด็กๆคงจะงอแงมาก คุณแม่คงต้องเหนื่อยเหมือนเดิมเพราะไม่มีทีป์คอยช่วยแล้ว ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ

   นภทีป์วางปากกาลง แววตาหม่นเศร้า เขาคิดถึงพี่นพ คิดถึงคุณแม่ คิดถึงเด็กๆ จริงๆพวกเขาคือครอบครัวเดียวของเขาที่โลกนี้ เขาเสียใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ทุกอย่างดีขึ้น ถึงกลับไปตอนนี้พี่นพก็คงโกรธเกลียดเขาไปแล้ว คงไม่ต้อนรับเขาอย่างเดิม จริงๆแล้วตอนนี้เขาก็สบายดี ทำงานแปลหนังสือไม่ได้หนักหนาอะไร แถมบาทหลวงก็ให้เงินเสียเยอะ คงจะดีกว่านี้ถ้าเขาอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ต้น

   ถ้าเขาไม่ได้มีใจรักให้พี่นพ ไม่ได้มีใจรักให้คุณพระรูปงามแห่งพระนคร ข้าราชการหนุ่มอนาคตไกลที่ใครๆก็จับตามอง หากมารักกับเขา ก็คงแทบจะหมดอนาคต เป็นที่ติฉินนินทาไปทั่วทั้งบาง

   “ก๊อกๆ”

   “มีอะไรหรือ”นภทีป์เปิดประตูให้เด็กรับใช้วัยรุ่นเข้ามาในห้อง

   “บาทหลวงให้มาเรียนว่าพรุ่งนี้คงต้องรบกวนให้คุณไปทำงานที่ศาลาด้านหน้าน่ะขอรับ ท่านเชิญช่างมาซ่อมแซ่มภายในโบสถ์เกรงว่าคุณทีป์จะทำงานไม่สะดวก แลช่างคงจักทำงานไม่สะดวกเยี่ยงกัน”

   “อ่อ กระนั้นหรือ ได้ซี ฉันต้องเร่งออกไปแต่เช้าหรือไม่”

   “ท่านว่าไปแต่ย่ำรุ่งเลยก็ได้ขอรับ คงจะรบกวนคุณทีป์เสียหน่อย ท่านฝากเรียนว่าขอโทษด้วยขอรับ”

   “กระนั้นหรือ ฝากบอกท่านว่าไม่เป็นไรดอก ฉันทำงานที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอบใจนะที่มาบอกข่าว”

   “มิเป็นไรขอรับ เป็นหน้าที่กระผมอยู่แล้ว เช่นนั้นกระผมกวนคุณทีป์แค่นี้แลหนาขอรับ”

   “จ้ะ ไปเถิด” ทำงานที่สวนหรือ แม้จักเสียงดังจอแจไปสักหน่อย แต่คงพอไหว คงต้องเตรียมของใส่ย่ามไว้ก่อนกระมัง ตอนออกไปตอนเช้าจะได้ไม่ฉุกละหุกมากนัก นภทีป์คิดแล้วก็เก็บข้าวเก็บของใส่ย่ามเล็กๆที่ขอเข็มกับด้ายมาพยายามเย็บเองเมื่อวาน

   
.        ย่ำรุ่ง

   คุณพระหนุ่มกับอ้ายคงมาที่โบสถ์แต่เช้า จะต่างจากครั้งก่อนๆตรงที่ครั้งนี้คุณพระพามาทั้งอ้ายมั่นและอ้ายคง แถมยังมาแต่ย่ำรุ่ง เพราะเมื่อวานบาทหลวงส่งข่าวไปบอกว่าวันนี้พ่อทีป์จะไปงานวัด เขาเป็นห่วง อยากตามไปดู ช่วงนี้โจรปล้นเยอะนักเกรงว่าพ่อทีป์จะประสบเคราะห์ภัยเข้า

   “นั่น คุณทีป์ออกมาแล้วขอรับคุณพระ”

   “เงียบๆซีอ้ายมั่น กระเดี๋ยวข้าตัดเบี้ยเอ็งดีหรือไม่หือ จักตื่นเต้นอันใด มิเคยเห็นพ่อทีป์หรือ”คุณพระหันไปดุลูกน้องเบาๆแล้วหันไปดูนภทีป์ต่อ ดีนักที่วันนี้เขาไม่มีงาน จึงมาเฝ้าได้ตั้งแต่เช้า

   อ้ายมั่นกับอ้ายคงคุยกันจุกจิกตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดีนักที่วันนี้คุณหญิงลงครัวทำกับข้าวมาให้คุณพระทานระหว่างวันแต่เช้า ทั้งของหวานของคาว เหมือนมาเที่ยวเล่น ทำเอาพวกเขาได้อานิสงค์ไปด้วยจนปรีเปรมดิ์ แบบนี้ให้เฝ้าคุณทีป์อีกยี่สิบสามสิบวัน อ้ายมั่นกับอ้ายคงก็ยอมตามมาแบบถวายหัวละ

   “นั่น คุณทีป์จักออกไปแล้วขอรับคุณพระ”อ้ายมั่นรีบสะกิดบอกเจ้านายที่เหม่อมองแม่น้ำมาได้พักใหญ่หลังจากคุณทีป์หายเข้าไปในโบสถ์ คุณพระก็เอาแต่มองไปทางแม่น้ำ อย่างกับว่าคุณทีป์จะไปโผล่ที่กลางน้ำได้เสียอย่างนั้น

   “เออ ไปอ้ายมั่นรีบไปเตรียมเรือ อย่าให้คุณทีป์เห็นเข้าเล่า คงอีกพักกว่าคุณทีป์จักไปลงเรือ”

   “ขอรับ”


=========
มาแล้วค่าาา พ่อทีป์ไม่ได้ไปไหนน อยู่ใต้จมูกพี่นพตลอดเลย หุหิ
 :katai5:
   
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 15-05-2017 21:47:05
ฮืออออ มาแล้ววว คิดถึงเรื่องนี้มากเลยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 19-05-2017 19:48:54
เขาก็ยังไม่เข้าใจกันอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-05-2017 20:27:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-05-2017 09:22:43
สงสารคุณหลวงจังเลยอ่ะ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 21-05-2017 20:22:42
คิดถึงคุณหลวง  พ่อทีป์       :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 26-05-2017 02:22:12
ชอบอ่ะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: SkyinSea ที่ 05-09-2017 20:58:32
ฮืออ คิดถึงคุณหลวง คิดถึงพ่อทีบป์ รอนะคะ สนุกมว๊ากกกก
หัวข้อ: Re: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
เริ่มหัวข้อโดย: .B.F.I.R.S.T. ที่ 29-03-2019 00:56:41
ฮืออออ ยังรออยู่นะคะ..


Sent from my iPhone using Tapatalk