ตอนที่ 35เมลงี่เง่า เมลงี่เง่า เมลงี่เง่า!
“เท็น เป็นไรของมึงเนี่ย บ่นพึมพำอะไรอยู่ได้คนเดียว” ไอ้ฟิวละมือจากการถักเสื้อไหมพรมของมันมามองหน้าผม ก่อนจะเลื่อนถ้วยชาที่แม่ส่งมาให้จากอังกฤษไว้ตรงหน้าผม
“อิงลิช เบรคฟาสต์ เอาซะหน่อยจะได้สดชื่น แหกตาตื่นมาแต่เช้านี่คงทรมานคนความดันต่ำอย่างมึงมาก”
ใครได้ไอ้ฟิวเป็นเมียแม่งโคตรโชคดี ดูแลคนเก่งชะมัด
“ทะเลาะกับเมลมาอีกแล้วรึไง”
“ก็ไม่เชิง”
ไอ้ฟิวทำหน้าเอือมๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาถักเสื้อไหมพรมของมันต่อไป แม่ง...ให้อารมณ์แม่บ้านแม่เรือนจริงๆ ต่างจากไอ้กัสที่หัวฟูหน้าโทรมที่กำลังเดินมานั่งเบียดบนโซฟาเดียวกับผมชิบหาย ผีบ้านผีเรือนยังกลัวมันเลยอ่ะ ผมว่า -_-
“สามีไปไหน”
“ไม่มี”
“สมพรปาก”
ผมจัดการถีบไอ้กัสไปหนึ่งทีก่อนจะมาระลึกถึงใบหน้าของเมลต่อ แต่ยิ่งคิดผมก็ยิ่งหงุดหงิด เมลแม่งโคตรงี่เง่า เรื่องแค่นี้ก็เอามาทะเลาะกับผม แถมยังไล่ผมกลับบ้านด้วยนะ คิดแล้วมันน่า...
“ทะเลาะกันมาแหง มึงไม่ต้องทำหน้าสงสัยว่ากูรู้ได้ไง เพราะมีคนเดียวนั่นแหละที่ทำให้มึงทำหน้าแบบนี้ หึ กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำๆ ไม่เคยฟัง”
“ตัวกู กูมีสิทธิ์”
“โหะ เล่นพูดงี้มากูจะพูดอะไรต่อเนี่ย ไอ้เมลแม่งก็โทรมาว่ากูว่าทำไมไม่ห้ามมึง แต่กูอยากถามจริงๆ ว่าบนโลกนี้มีใครออกคำสั่งมึงได้บ้าง”
ก็มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องนั่นแหละ แบบ...คิดไม่ถึง
“ต่อไปทำไรก็ปรึกษามันหน่อย ตัวมึงก็จริงนะ แต่ไอ้เมลมันก็หวงของมัน” ไอ้กัสยังคงพูดต่อไป คงหวังว่าผมจะสำนึกผิดขึ้นมาได้บ้าง แต่เอาจริงๆ ก็ไม่มากหรอก ก็ไม่ได้โป๊นะตอนทำอ่ะ ปิดอะไรมิดชิดแล้วคนทำให้ก็เป็นทอมด้วย -_-
“กูว่าจะไม่ถามละ แต่ข้องใจมาก กูถามหน่อยเหอะ ตกลงมึงไปทำอะไรมาไอ้เท็น”
ถ้าไอ้ฟิวรู้เรื่อง ผมก็ต้องโดนมันบ่นอีกคนแน่ เรื่องแบบนี้ไอ้ฟิวมันไม่ชอบอยู่แล้วด้วย แต่กูก็เห็นไอ้มายด์ทำเหมือนกันนะ ร้านที่ไปทำมันก็แนะนำให้ -_-
พรึ่บ!
ไอ้ห่ากัสแม่งทรยศผม!
ไอ้ฟิวอ้าปากค้างกับผิวเนื้อบริเวณช่วงเอวของผมที่กำลังเปิดเผยสู่สายตามันเพราะไอ้กัสแม่งดึงเสื้อผมขึ้น
“กูจะโทรไปฟ้องแม่มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!”
ไอ้พวกนี้ทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบที่ชีวิตต้องอยู่ในการควบคุมของผู้ปกครองไปได้ -*-
“กูแค่ไปสักมา ไม่ได้ทำให้ใครตาย เอามือไปไกลๆ ไอ้กัส ไม่งั้นกูถีบ”
“เสียดายผิวสวยๆ ของมึง กูไม่แปลกใจที่เมลมันจะโกรธ” ไอ้ฟิวบอกพลางทำท่าจะเอาไม้นิตของมันตีหัวผม
“ไม่ได้มีแค่นี้! ไอ้บ้านี่สักตั้งแต่เอวลามลงไปถึงนี่!” ไอ้กัสชี้นิวไปที่ขาของผมเป็นท่าทางประกอบประโยคโดยมีไอ้ฟิวทำหน้าตะลึงตามมา
“มึงสักอะไรของมึงเนี่ย เป็นลายกราฟฟิคอะไรกูยังพอเข้าใจ แต่นี่ภาษาอะไรของมึง”
ผมไม่ชอบการสักลายกราฟฟิคหรือเอาเป็นแบบรูปภาพที่ก็ไม่รู้จะสักทำไมหรือสักเพื่อต้องการสื่ออะไร ผมแค่สักเป็นถ้อยคำที่เกิดจากการเอาอักษรรูนมาประกอบกันขึ้นเป็นประโยคที่มีความหมายว่า ‘หนึ่งเดียวในจักรวาล’
“ยุ่งอะไรกับรอยสักกู”
“เท็น มึงโตแล้วนะ ทำอะไรแบบนี้ คนอื่นจะมองมึงไม่ดีเอาได้นะ” ไอ้ฟิวบอกด้วยสีหน้ากังวล ไอ้นี่มันเป็นคนหัวโบราณ หรือแม้แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมนี้ก็ยังมองว่าพวกมีรอยสักเป็นพวกที่ไม่ดีอยู่ พอๆ กับที่เห็นคนเจาะหู เจาะคิ้ว เจาะปากนั่นแหละ
“กูพอใจอยากทำอะไรกูก็จะทำ ชีวิตกู กูไม่ต้องขออนุญาตใครว่าจะทำอะไร ขอบใจที่เป็นห่วง”
ผมตัดบทสนทนาด้วยการลุกเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เดินขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามายังห้องนอนของตัวเองที่พักหลังๆ ไม่ค่อยได้เข้ามานอนเท่าไหร่
ช่วงนี้ผมอาจจะทำตัวกลมกลืนมากไปจนใครๆ ต่างก็ทึกทักไปเองว่าผมจะต้องทำตามความต้องการของพวกเขา แต่ในความจริงแล้วผมยอมให้ก็ตราบที่พวกเขายังไม่ล้ำเส้นที่ผมขีดไว้...ก็เท่านั้น
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โหะ เคาะขนาดนี้มึงไม่พังประตูเข้ามาเลยวะ!
ผมละความสนใจจากท้องฟ้าเบื้องหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูให้มนุษย์ไร้มารยาทที่ตอนนี้กำลังก้าวยาวๆ เข้ามาในห้องอย่างไม่ได้รับคำเชิญ
“กูหาร้านลบรอยสักได้แล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัว”
ผมมองหน้าเมลนิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินมาที่ระเบียง ท้องฟ้ายังน่ามองมากกว่าหน้ามัน
“เท็น”
“ปัญญาอ่อนเหรอมึง กูเพิ่งไปสักมาได้อาทิตย์เดียว มึงจะให้กูไปลบออก ไม่รู้รึไงว่าตอนสักแม่งเจ็บแทบตาย”
“เจ็บแล้วไปทำทำไม กูเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบ ไม่ให้ทำ ทำไมยังดื้อ แล้วนี่มึงไม่ต้องไปแก้ผ้าให้คนอื่นดูเลยรึไง กูโมโหมากนะเท็น”
“ถ้ายังโมโหก็ไม่ต้องคุย”
“ห่างตากูไม่เท่าไหร่ ทำตัวแบบนี้ คำพูดกูมึงจะไม่ฟังแล้วใช่ไหม!”
“....”
“มานี่เท็น”
“....”
“กูบอกให้มา!”
ผมไม่ชอบเลยเวลามีคนมาออกคำสั่ง แต่ที่ไม่ชอบยิ่งกว่าคือผมยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างเต็มใจ
พอผมเข้าไปในระยะที่มือมันเอื้อมถึง คอเสื้อผมก็ถูกกระชาก ก่อนที่ทั้งตัวจะตกอยู่ในวงแขนของมัน
“ทำไมทำตัวแบบนี้ กูจะทำยังไงกับคนอย่างมึงดี”
“กูไม่ได้ทำใครเดือดร้อนนะเมล”
“กูนี่ไงเดือดร้อน”
“จะเดือดร้อนทำไม คนสักให้เป็นทอม แล้วตอนสักก็ไม่ได้โป๊ด้วย”
“มึงแน่ใจได้ยังไง เล่นสักตั้งแต่สีข้างยันต้นขา ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้วะ แม่ง...”
“มึงก็บ้า ไล่กูกลับบ้านแล้วตามมาทำไม”
“มึงไม่ต้องมาพลิกเกมนะเท็น เพราะมึงดื้อ กูถึงโมโหอย่างกะคนบ้าอย่างนี้ กูให้เวลามึงคิดนะว่าระหว่างลบออกกับแล่เนื้อทิ้ง มึงจะเลือกอย่างไหน”
“โหะ ไอ้บ้า กูไม่เลือกอะไรทั้งนั้นแหละ ไม่ชอบก็อยู่ห่างๆ กู ไม่ต้องมายุ่งด้วย”
เพียะ!
“เจ็บ!”
เมลแม่ง ตีปากผมซะแรงเลย ถ้าไม่ติดว่ามันยังตีหน้ายักษ์อยู่ผมคงได้สวนไปสักหมัดแล้ว คนบ้าอะไรมือหนักชิบ
“พูดอีกสิ กูจะตีให้ปากแตก”
“เหี้ย”
“เท็นเท็น”
“จะให้กูพูดขอบคุณรึไง เจ็บขนาดนี้อ่ะ”
พอเห็นว่าผมทำท่าว่าเจ็บจริง ท่าทางมันก็อ่อนลง แต่ถ้าพูดกันตรงๆ ผมก็ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก เทียบกับความเจ็บจริงๆ แล้วมีแค่ห้า อีกเก้าสิบห้าอ่ะโอเว่อแอคติ้งล้วนๆ
“เจ็บมากเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“มาๆ เป่าให้”
“ไอ้บ้า ใครเป่าแล้วหายบ้าง”
“งอแงตลอด ดื้อจริงๆ คนนี้”
“ว่าขนาดนั้นก็ไม่ต้องมากอด”
เมลยิ้มนิดๆ ก่อนจะก้มลงมาจนมาหน้าผากของเราสองคนแตะกัน
“มึงนี่เก่งนะ เมื่อกี้กูโมโหแทบบ้า แต่ตอนนี้ต้องมาง้อมึงเนี่ย”
“ไม่ได้ขอ”
“ไม่ขอก็อยากทำ ไม่รักไม่เป็นขนาดนี้หรอก รู้ไว้ด้วย”
“อะ...อืม -///-“
ผมยกมือโอบรอบคอของเมลไว้ เหมือนนานมากแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกันแบบนี้ เพราะต่างคนต่างยุ่งอยู่กับหน้าที่ของตัวเอง อาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมาผมก็ต้องไปทำหน้าที่เป็น visiting prof. ที่มหาลัยของคุณแม่เจน ส่วนเมลก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมินิโปรเจ็คของมัน ในแต่ละวันเราทำได้แค่คุยโทรศัพท์กันแค่ไม่กี่นาที แต่พอมาเจอกลับต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า จนทำให้ลืมไปเลยว่า...
ช่วงเวลาที่เราไม่เจอกัน...มันเหงาขนาดไหน
“คิดถึงนะครับเท็นเท็น”
“อือ”
“รักเมลมั้ยครับ”
“ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่ไง”
“อยากฟัง”
“....”
“....”
“เออๆ รักมากกกกกกก”
“ถ้างั้น...พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้?”
“ไปลบรอยสักนะครับ”
“ไม่เว้ย!”
“อ้าวววววว”
เมลแม่งบ้าป่ะวะ ลบยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม สู้ให้มีรอยสักสวยๆ นี่ต่อไปดีกว่าซะอีก แล้วเมลน่ะ...ถึงคำพูดจะบอกว่าไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในช่วงเวลาที่เรา...สัมผัสกัน...ปากมันไม่เคยอยู่ห่างจากรอยสักของผมเลย
.
.
.
“ได้ข่าวว่าเตียงเกือบหักเพราะรอยสักเหรอท่าน อิอิ”
ผมแค่ปรายตามองไอ้เต๋อโดยไม่ตอบคำถามของมัน
ด้วยเพราะคืนวันเสาร์นี้ไอ้พวกไฟฟ้ามันนัดมาเลี้ยงฉลองที่การนำเสนอมินิโปรเจ็คของพวกมันผ่านไปด้วยดี ผมถึงถูกเมลลากสังขารลงจากเตียงหลังจากที่โดนมันรีดน้ำออกจากตัวตั้งแต่ช่วงสายจรดบ่ายสอง -*-
“กูก็เตือนมันแล้วนะว่ามึงไม่ชอบ แต่มันฟังใครที่ไหนล่ะ” ไอ้มายด์บอกเมลพลางยักไหล่
แหม ไอ้นี่ ได้ทีล่ะรีบพูดเชียวนะมึง
“ช่างเถอะ กูลงโทษไปละ แต่แม่งดื้อไม่ยอมลบออก”
วันนี้พวกผมมากันครบเลยดูเหมือนจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในร้าน เพราะโต๊ะอื่นๆ ก็มากันแค่สามสี่คน มากสุดก็หก แต่นี่เล่นล่อมาเป็นสิบแถมแต่ละคนก็พกแฟนมาด้วยเกือบทุกคน จะมียกเว้นก็ไอ้เขตที่แฟนอยู่อังกฤษ ไอ้เต๋อที่แฟนยังอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าร้านไม่ได้ ไอ้แต้มที่ไม่มีเป็นตัวเป็นตนเพราะชอบคนของคนอื่น ไอ้ลินที่ผมยังไม่รู้แน่ชัดว่าตอนนี้มันอะไรยังไงกับใคร นอกนั้นก็มีมาครบ
“น้องอิง แฟนใหม่กู” ไอ้เต้บอกชัดถ้อยชัดคำ ในขณะที่น้องอิงก็ยกมือไหว้พวกผมรอบโต๊ะ
อ้อ...ถ้าอย่างนั้น ก็คงต้องเพิ่มไอ้แม็คเข้าไปด้วยที่ไม่ได้พาใครมา เพราะเมื่อกี้ผมมองไม่เห็นน้องอิงเลย
จะว่าสวยก็...ไม่นะ ดูไม่เหมือนคนที่ไอ้เต้คบที่ผ่านๆ มาเลย คือ เอาง่ายๆ ไอ้เต้มันมีสเปคที่เป๊ะสำหรับคนที่มันควงอยู่แล้ว แต่น้องอิงนี่ดูต่างไปหน่อย เพราะดูยังไงก็ออกแนวน่ารัก ทะนุถนอมมากกว่า แต่ผู้หญิงที่ผ่านมาของไอ้เต้ก็มีแต่พวกรอบจัด สาวล่าแต้มกันทั้งนั้น แต่เอาเถอะครับ...คนเรา มองที่ภายนอกได้ที่ไหนล่ะ น้องอิงนี่อาจจะไม่ใสอย่างหน้า...
“อย่าพูดในสิ่งที่คิดออกมานะเท็นเท็น รู้ว่าจะพูดอะไร” เมลดักคอผมไว้ซะก่อน
ความจริงก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่เห็นหน้าไอ้แม็คแล้วอยากถีบหน้าไอ้เต้จนอดใจแทบไม่ไหว
“เหี้ยเต๋อ”
“ครับท่านนนน”
“จัดเหล้าแก้โง่ให้ไอ้เต้สักสามช็อตซิ บอกว่า มอบให้จากกู”
“ตามบัญชา หึหึ”
ไอ้เต้มันได้ยินทุกคำพูดของผมนั่นแหละ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องทำหน้าเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าน้องอิงของมันอยู่ เลยทำได้แค่ชี้หน้าผมเท่านั้น ^^
“หน้าเพลียจัง เด็กป๋าเป็นอะไรเนี่ย หึหึ” ได้ทีล่ะแซวกูดีจัง แค่เอนหัวไปพิงไหล่มันแค่เนี้ย -*-
“เดี๋ยวป๋าได้ปากแตก”
“หึหึ”
“หิวข้าว”
“หืมมม หิวเหรอ กินไร ข้าวผัดมั้ย”
“ไม่เอา ร้านพี่เจ๋งข้าวผัดไม่อร่อย”
ผมเหลือบเห็นไอ้พี่เจ๋งมันเดินผ่านมาเลยแกล้งพูดให้ดังๆ หน่อย ผลปรากฎว่าโดนมือเท่าฝาหม้อของมันผลักหัวเข้าให้
“ออกจากร้านกูไปเลยไปเหี้ยเท็น หายหน้าหายตาไป กลับมานึกว่าจะเป็นคนดีขึ้น ไอ้น้องเวร”
“ฮ่าๆๆๆ คนวัยทองอารมณ์ร้อนทุกคนป่ะพี่ หึหึ เอาข้าวผัดคร้าบบบบ”
“กูไม่ขายให้มึง ชิ! -*-“
“เมลลลลลลลลลลล ดูไอ้พี่เจ๋งมันนนน”
“มึงก็ไปว่าเฮียแกก่อนนี่น้า พี่เจ๋งครับ ข้าวผัดรวมมิตรนะ ขอจานใหญ่ๆ”
นี่ดูนะ รอยยิ้มของเมลน่ะ พิชิตได้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เพศไหน แค่เห็นไอ้หล่อของผมยิ้ม ไอ้พี่เจ๋งแม่งยังเผลอหน้าแดง แต่มันไม่ได้เป็นตุ๊ดนะครับ ผมยืนยัน ฮ่าๆๆๆ
“เออ อย่างนี้สิ พูดจาให้น่าฟังอย่างแฟนมึงหน่อย ไอ้เมล หัดสั่งสอนมันซะมั่ง ไม่น่ารักขึ้นเลยให้ตายยย”
“บ่นๆ รีบๆ ไปทำข้าวให้น้องเลยไป”
“เออๆ”
“พี่ต้องทำนะ ห้ามให้พ่อครัวคนอื่นทำ ไม่งั้นผมไม่กิน”
พี่เจ๋งยกนิ้วกลางให้ผม ก่อนจะเดินหายเข้าไปทางหลังร้าน เมลยกมือขึ้นโยกหัวผมเล็กน้อยก่อนจะโน้มให้ลงไปพิงไหล่มันตามเดิม
“ทำไมชอบแกล้งคนอื่นนักนะ”
“อยากให้แกล้งเมลคนเดียวรึไง”
“ที่พูดไม่ได้หมายความถึงแบบนั้น”
“แล้วแบบไหนล่ะ”
“ทำตัวดีๆ หน่อย เวลาเท็นทำตัวน่ารัก มีแต่คนอยากเข้าใกล้”
“ก็อยากให้เมลเข้าใกล้คนเดียวอ่ะ ทำแค่กับเมลไม่ได้เหรอ”
“หึ แม่งอ้อนว่ะ หอมแก้มทีดิ๊”
แค่เพราะจมูกโด่งๆ ของเมลมาสัมผัสที่แก้ม หัวใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาทันที ยังไงซะ...ก็ไม่ชินเลยเวลาเมลทำตัวน่ารักอย่างนี้
“โอ้ยยยยยยยยยยยย โลกนี้มีเพียงเราสอง ถ้าพวกมึงจะตะกรองกอดกันขนาดนี้ ช่วยไปเปิดห้องที่ม่านรูดข้างๆ นี่ไป” ไอ้เต๋อพูดพร้อมกับส่งสายตาขี้อิจฉามาให้ มือก็ถือที่คีบน้ำแข็งเคาะแก้วไปด้วย
เหี้ยนี่แม่งขัดตลอด แทรกตลอดดดดด -_-
“หึหึ ทำกับแฟนบ้างสิ จะได้ไม่มาอิจฉาพวกกู” เมลบอกพลางส่งยิ้มไปให้นิดๆ ในขณะที่ไอ้เต๋อเตรียมสวนกลับมา แต่ผมชิงตัดหน้ามันพูดซะก่อน
“มันทำงั้นได้ที่ไหนอ่ะที่รัก แฟนแม่งอายุ 16 ผับก็เข้าไม่ได้ ขืนไปจิ๊จ๊ะมากๆ แม่งโดนลากเข้าคุก กูแม่งไม่เข้าใจว่าน้องโสนทนไอ้แก่แบบนี้ไปได้ยังไง เป็นกูแม่งคบวัยเดียวกันดีกว่าว่ะ เข้าใจกันมากกว่าคบกับไอ้แก่บางคน”
ไม่รู้ว่าแทงใจไอ้เต๋อไปกี่ดอก แต่สภาพหน้ามันเหมือนเลือดโชกไปทั้งตัวเลยนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆ เพราะไอ้เหี้ยนี่ชอบโทรมารบกวนตอนผมสอนแค่เพราะเรื่องแฟนมันมีคนมาจีบ แถมคู่แข่งมันก็เป็นเด็กมอสี่ที่เรียนดี กีฬาเยี่ยมอีกต่างหาก เทียบกับมันแล้ว...กระดูกคนละเบอร์เลย
“มึงคิดอย่างนั้นเหรอวะ”
อ้าว ไอ้สัด เผลอแป๊บเดียวแม่งเข้าโหมดดราม่า -_- ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนะ
“ไม่หรอกน่า อย่างคิดมากกับคำพูดของเท็นเลย เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึกเว้ย แล้วอีกอย่าง มึงกำลังจะแต่งงานกับน้องเขาอยู่แล้ว กลัวไรวะ” เมลแม่งทำตัวพระเอกตลอดอ่ะ -*- กูนี่ตัวโกงทุกที
“นั่นสิเนอะ”
“อืม แต่ก็ไม่แน่ว่ะ คนวัยเดียวกันเขาอาจจะเข้าใจกันมากกว่า”
เสียงของเมลเหมือนแค่พึมพำนะ แต่ผมว่าไอ้เต๋อได้ยินอ่ะ เพราะแม่งดราม่าหนักเข้าไปอีก เหอๆ
“เพราะเท็นอ่ะ ดูไอ้เต๋อเศร้าใหญ่แล้ว ชงเหล้าไม่หยุด” เมลกระซิบข้างหูผม ก่อนจะกัดเบาๆ ให้ผมต้องหยิกแขนมันคืน
“อ้าว โทษกันได้ไง เมลก็เห็นด้วยอ่ะ บอกมันพอได้แล้ว เปลืองเหล้า”
“ไม่ต้องทำท่ากระซิบไอ้พวกห่า เสียงดังขนาดนั้นไอ้มายด์นั่งเก๊กอยู่ตรงโน้นก็ยังได้ยิน” ไอ้เต๋อว่าพลางขว้างน้ำแข็งมา ก่อนจะส่ายหน้าอย่างปลงๆ เหลือบไปเห็นไอ้มายด์ก็เห็นมันชูนิ้วโป้งมาให้อยู่ แสดงว่าแม่งได้ยินจริง
“พวกมึงแม่งงงงง”
“โอ๋ๆๆ เหี้ยเต๋อ นิ่งซะนะนิ่งซะ” ไอ้แต้มที่นั่งข้างๆ ละสายตาจากอกสาวเสิร์ฟที่เพิ่งเอาน้ำแข็งมาเพิ่มให้ ยกมือทำท่าเด็กน้อยเสร็จยังดึงตัวถึกๆ ของไอ้เต๋อไปปลอบเองอีก
เอ่อ -_- อย่าให้กูเห็นโมเม้นนี้อีกนะ...
“ว่าแต่เลขาที่แม่หาให้มึงอ่ะ เป็นยังไง เข้ากันได้ดีป่ะ” เมลยกเหล้าขึ้นจิบไปอึกใหญ่ ก่อนจะถามถึงเลขาที่ที่ทำงานผม
“ก็ดี เป็นคนสวย ฉลาด ทำงานเก่ง เข้าใจอะไรง่าย” ผมตอบ มือก็ลูบเบาๆ ที่แขนของเมล โดยที่มือของมันก็ไล้วนอยู่บริเวณสีข้างที่ตอนนี้มีรอยสักอักษรรูนอยู่
“สวยด้วย?”
“อะฮะ”
“กูบอกแม่แล้วนะว่าให้หาธรรมดาๆ”
“ช่วยไม่ได้ ก็มีแต่คนสวยอยากทำงานกับกู”
“เอาเถอะ ก็อย่าให้เข้ากันดีเกินไป...”
“กลัวจะ...เข้าด้ายเข้าเข็มกันเหรอ หึหึ”
“ก็รู้นี่ว่ากูหมายถึงอะไร แต่ถ้ายังทำ กูก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว”
“หึหึ”
แค่เห็นสีหน้ามึงตอนนี้ กูก็ไม่คิดจะทำ หรือไม่ว่าจะตอนไหน ผมก็ไม่คิดทั้งนั้น ใครจะอยากเห็นเมลต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องงี่เง่าพรรค์นั้นกันวะ
“อย่านอกใจกูนะเท็น...เพราะถ้ามึงทำ กูต้องตายแน่ๆ”
“เชื่อใจกูได้...”
“ครับ ^_^”
“แต่กูยังไม่เชื่อใจมึงนะ กูยังเห็นมึงตอบไลน์พริมอยู่เลย”
“งั้น เอาไป” เมลหยิบเอาไอโฟนของมันที่วางอยู่ข้างแก้วเหล้ามาให้ผม “บล็อคได้เลย อยากบล็อคอยากลบคนไหน เอาตามใจเท็น โอเคมั้ย”
“ทำไมไม่ทำเอง”
“อยากให้แฟนทำให้”
“บ้า”
“บ้าตรงไหน ก็เวลาเห็นแฟนหึงแล้ว...กูรู้สึกดี ^^”
ผมกัดไหล่เมลไปแรงๆ หนึ่งที แต่มันก็ยังหัวเราะ ผมเลยรับไอโฟนจากมันมาแล้วจัดการบล็อคไลน์ของบุคคลไม่พึงประสงค์ทิ้ง พร้อมกับตั้งปฏิเสธสายกับเบอร์ที่เจ้าของมันไม่บริสุทธิ์ใจ ยกเว้นนาตาชาไว้คน เพราะยังไงซะ นาตาชาก็ไม่ได้คิดจะแย่งเมลไปจากผม เธอแค่รักเมลอยู่ในมุมเงียบๆ ของเธอก็แค่นั้น...
“โห อย่างนี้แลกมือถือกันใช้เลยดีมั้ยครับ”
“ไม่ดี เดี๋ยวกิ๊กกูโทรมาแล้วไม่ได้คุย”
เพียะ!
ผมหลบไม่ทันเลยโดนเมลดีดหน้าผากเข้าให้
“หึหึ ปากดีนัก ต้องเจอ”
“:-(”
“ว้า...เดี๋ยวพี่เจ๋งก็เอาข้าวผัดมาให้แล้ว อย่าหน้าบึ้งเลยนะครับที่รัก”
“กูหน้าบึ้งคนละเรื่องเหอะไอ้บ้า”
“อ้าว เหรอ ^^”
“ไอ้...”
“หืม ^^”
คำจำกัดความสำหรับเมลแล้ว มีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นล่ะ
กวนตีนมาก...
งี่เง่ามาก...
หล่อมาก...
แต่ผมก็...รักมาก -///-
เอ่อ...อันหลัง...เกี่ยวมั้ย?
...........................................To be continue........................................
ลงโทษเท็น เท็นดื้อ
ช่วงนี้เค้าหยุดอ่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะ ประกาศหยุดเพราะเจอม็อบ ฮี่ๆๆๆๆๆ 
ได้มาต่อเมลเท็นแล้วววววววววว กลัวทุกคนจะเบื่อจังเพราะมันเรื่อยๆ มากกกกกกกกกกกกกก ยังไม่มีอะไรมาให้สะดุดเพราะอยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหน่อย อยากฟิน อยากอินเลิฟง่ะะะะะะะะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจ้าาาาาา 