พิมพ์หน้านี้ - So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Snufflehp ที่ 16-08-2013 19:01:07

หัวข้อ: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-08-2013 19:01:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
 

สารบัญ

ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2458843#msg2458843)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2458850#msg2458850)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2458852#msg2458852)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2459625#msg2459625)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2459879#msg2459879)
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2460692#msg2460692)
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2461330#msg2461330)
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2462586#msg2462586)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2463379#msg2463379)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2466119#msg2466119)
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2466510#msg2466510)
ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2467246#msg2467246)
ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2468140#msg2468140)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2469495#msg2469495)
ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2472988#msg2472988)
ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2475426#msg2475426)
ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2476269#msg2476269)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2478099#msg2478099)
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2478865#msg2478865)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2480327#msg2480327)
Special Inside Extra (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2481004#msg2481004)
ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2481976#msg2481976)
ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2483079#msg2483079)
ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2483987#msg2483987)
ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2488394#msg2488394)
ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2491287#msg2491287)
ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2495260#msg2495260)
ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2512528#msg2512528)
ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2519626#msg2519626)
ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2521433#msg2521433)
ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2533521#msg2533521)
ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2542097#msg2542097)
ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2552451#msg2552451)
ตอนที่ 33  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2553248#msg2553248)
ตอนที่ 34  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2554150#msg2554150)
ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2559792#msg2559792)
ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2570388#msg2570388)
ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2615113#msg2615113)
ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2618954#msg2618954)
ตอนที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2619774#msg2619774)
ตอนที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2620592#msg2620592)
ตอนที่ 41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2624268#msg2624268)
ตอนที่ 42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2624879#msg2624879)
ตอนที่ 43 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2625939#msg2625939)
ตอนที่ 44 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2627027#msg2627027)
ตอนที่ 45 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2627178#msg2627178)
ตอนที่ 46 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2627848#msg2627848)
ตอนที่ 47 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2628007#msg2628007)
ตอนที่ 48 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2628758#msg2628758)
ตอนที่ 49 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2630189#msg2630189)
บทส่งท้าย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2631203#msg2631203)


Special มายด์+ฟิว Ch1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2473815#msg2473815)
Special มายด์+ฟิว Ch2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2489231#msg2489231)
 Special : TheTenth  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2545023#msg2545023)
 Special : Loy Krathong Festival  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2545797#msg2545797)
Special เต้+แม็ค Ch1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2557689#msg2557689)
Special เต้+แม็ค Ch2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2567509#msg2567509)
Special มายด์+ฟิว Ch3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2574291#msg2574291)
Special มายด์+ฟิว Ch4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2575131#msg2575131)
Special มายด์+ฟิว Ch5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2612305#msg2612305)


 ชี้แจง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38876.msg2543420#msg2543420)
..............................Thank you...........................................
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 1 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-08-2013 19:10:06
สวัสดีค่ะ  :-[
ก็เขินๆ ยังไงไม่รู้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ฝากติชมด้วยนะคะ
 o22 พูดไม่ค่อยเก่ง

ตอนที่ 1

ผมคิดว่าเป็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่ง เดินก็ได้ ลอยน้ำก็ได้ มีปีกบินได้อีกด้วย ต่อให้จะว่ายน้ำไม่เก่งเท่าปลา บินไม่เก่งเท่านก หรือเดินเป๋ไปเป๋มาก็เถอะ ผมก็ชอบมองอยู่ดี

“โดดเรียนอีกแล้วนะมึง จารย์ต่อฝากมาบอกว่าครั้งหน้าถ้ามึงไม่โผล่หัวไปเรียน มึงมสแน่”

ผมละสายตาจากเป็ดน้อยตรงหน้า หันไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่กับผู้หญิงมาดเท่

“ก็วันนี้มันไม่มีอารมณ์”

“กูก็ไม่มี แต่เหี้ยฟิวแม่งบังคับ”

ไอ้กัสหรือที่แม่มันชอบเรียกว่ากัสจังทำหน้าเอือมใส่ไอ้ฟิวแล้วเดินมานั่งข้างผม ไอ้กัสนี่เป็นผู้หญิงแค่เพียงกายแต่ใจนั้นชายเกินร้อย หน้าตาก็ไม่ธรรมดา ผู้ชายบางคนยังหล่อไม่เท่ามัน ส่วนไอ้ฟิวเป็นชายหนุ่มร่างเล็ก ตัวเตี้ยผิวขาวปากแดงนัยน์ตาแฝงความขี้อ้อน รวมๆ คือความเป็นชายมีน้อยกว่าไอ้กัส แถมยังจู้จี้จุกจิกเป็นที่หนึ่ง  สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของผม ตั้งแต่หัดเดินผมก็มีพวกมันอยู่ด้วยแล้ว

“พวกมึงจะทำอะไรให้มันมีขอบเขตบ้าง โตๆ กันแล้วทำไมยังให้กูบ่น เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาตลอด ไม่เคยมีหรอกที่จะทำตัวให้พ่อแม่เบาใจ ทีเรื่องเหี้ยๆ นี่ขยันทำกันเหลือเกิน”

“กูล่ะสงสารคนที่จะได้มึงไปทำเมียจริงๆ”

“ห่าาาาา กูเป็นผู้ชาย”

“พวกไม่ยอมรับความจริง เทอมที่แล้วหมาไหนอกหักเพราะผู้ชายวะ หึหึ”

“ไอ้เหี้ยกัส ไอ้จัญไร”

สองคนนี้เถียงกันประจำ ถ้าไอ้ฟิวเป็นแม่ ไอ้กัสก็เป็นลูกชายคนโตที่ไม่เอาอ่าวอะไรสักอย่าง เถียงคำไม่ตกฟากประมาณนั้น

“หุบปากเถอะน่าฟิว ไม่ใช่มึงคนเดียวที่บ่นจนเบื่อ พวกกูก็เบื่อ เออ ไอ้เท็น แล้วคืนนี้ตกลงว่าไง ไปป้ะ” ไอ้กัสหันมาลากผมเข้าสู่บทสนทนา ไอ้ฟิวเลยรีบเสนอหน้าเข้ามาสอดทันที

“พวกมึงจะไปไหนกันอีก พรุ่งนี้มีควิซแล็ปนะ แปดโมงเช้า แค่พวกมึงไม่ออกไปแรดที่ไหนก็ตื่นกันจะไม่ทันอยู่แล้ว คืนนี้กูห้าม สั่งห้ามเด็ดขาด”

ผมทำหูทวนลม พยักหน้าพร้อมให้คำตอบกับไอ้กัส

“ไปดิ พวกไอ้เต๋อมันจะไปรอที่ร้านตอนสองทุ่ม”

“โอเค งั้นไปเจอกันที่ร้าน ครั้งนี้เท่าไหร่”

“สองหมื่น”

“รับเละแน่งานนี้ หึหึ”

“นี่พวกมึงฟังกูกันบ้างมั้ยห้ะ! ออกไปคืนนี้กูล็อคบ้านไม่ให้เข้าจริงๆ ด้วย”

“เรื่องของมึง”

คำตอบของไอ้กัสทำเอาไอ้ฟิวกระทืบตีนเร่าๆ คงขัดใจมาก แต่ทำไงได้ นัดกับพวกไอ้เต๋อไว้แล้ว ไม่ไปก็เสียหน้าแย่ แถมช่วงนี้เบื่อๆ ไปเล่นสักหน่อยคงจะหายเซ็ง ผมเป็นพวกเบื่อง่าย งานอดิเรกเลยมีเยอะ เป็นคนไม่ค่อยมีไฟ เลยต้องหาอะไรที่ตื่นเต้นทำไปเรื่อย มีไอ้กัสเป็นตัวหนุน และไอ้ฟิวเป็นตัวรั้ง รั้งอยู่บ้างไม่อยู่บ้างตามเรื่องตามราว

“เท็น มึงหัดทำตัวให้ปกติอย่างชาวบ้านเขาบ้างไม่ได้ไงวะ แม่มึงจะบ้าตายวันละสิบแปดรอบอยู่แล้ว” ถึงคราวที่อะไรก็รั้งไม่ได้ ไอ้ฟิวจะอ้างแม่ขึ้นมาทันที

“แม่กูไปเที่ยวกับเพื่อนที่ปารีส คงไม่เครียดอะไรเท่าไหร่หรอก” ผมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ มองการเคลื่อนไหวของเจ้าเป็ดน้อยไปด้วย

“เอออออ ถึงอย่างงั้นก็เถอะะะะะะะ”

“หึหึ”

ไอ้กัสแสยะยิ้มอย่างชอบใจ เพราะไอ้ฟิวไม่เคยต่อปากต่อคำกับผมได้เกินสามประโยค

“วันนี้แดกข้าวร้านเดิมป้ะ” ไอ้กัสถาม คุ้ยหาขนมในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ของผม

“เปลี่ยนบ้าง กูอยากแดกหมูจุ่ม” ไอ้ฟิวตอบ คว้าเยลลี่รสบลูเบอร์รี่ที่ไอ้กัสเพิ่งหยิบออกจากกระเป๋าผมไป

“เหี้ยนี่นิสัย เออ งั้นพวกมึงไปรอที่ร้าน กูแวะรับเด็กแล้วตามไป”

“เหมียวล่ะ” เหมียวที่ไอ้ฟิวพูดถึงนี่เป็นแฟนคนล่าสุดของไอ้กัสที่เพิ่งพามาเปิดตัวกับพวกผมเมื่อสามวันก่อน

“ไปดูหนังกับเพื่อน”

“แล้วเด็กที่มึงว่านี่ใคร”

“น้องรหัสกูน่า ไม่มีไรในกอไผ่”

“เดี๋ยวมึงก็ทำให้มันมีเองแหละ”

พวกผมรู้นิสัยไอ้กัสดีว่ามันใช้ผู้หญิงเปลืองขนาดไหน แถมแฟนแต่ละคนของมันก็สวยชนิดที่ว่าผู้ชายมองตามจนเหลียวหลัง แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับผมเท่าไหร่ เพราะนอกจากตัวเองแล้วผมก็ไม่คิดว่ามีใครน่าสนใจอีก ผมเลยเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่เคยมีแฟนมาตั้งแต่เล็กจนโต คู่นอนก็มีบ้างตามประสาคนชอบหาอะไรตื่นเต้นทำ ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับใคร

“เท็น เก็บของ มึงนั่งมองเป็ดมาเกือบสามชั่วโมงแล้วนะ”

ถึงปากไอ้ฟิวมันจะบอกให้ผมเก็บ แต่มันก็เป็นคนเก็บให้ ผมลุกขึ้นยืนให้มันพับเสื่อ และเก็บถุงขนมกับขวดชาเขียวที่หมดแล้วไปทิ้ง

“มึงไม่เข้าใจหรอก กูกำลังหาแรงบันดาลใจ”

“แรงบันดาลใจห่าไร เพิ่งเปิดเทอม งานอะไรก็ไม่มี”

“แรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่”

“เออ ไอ้เหี้ย ไม่โดดน้ำตายไปเลยล่ะควาย”

“โดดไปก็ไม่ตาย น้ำตื้น แล้วกูก็ว่ายน้ำเป็น”

“เออออออออออออ เรื่องของมึงเหอะะะะะะะะะะ!”

ผมสะพายเป้ที่ใส่ขนมที่ผมชอบจนเต็มไว้บนหลัง แล้วเดินตามไอ้ฟิวที่ไม่รู้ว่าโกรธอะไรนักหนาถึงได้เดินกระทืบเท้าไปตลอดทาง

.
.
.

“วันนี้ห้ามสั่งหมู กูจะแดกไก่” ผมบอกพลางยื่นเมนูข้ามโต๊ะไปให้ไอ้ฟิว

“ไอ้เหี้ย นี่ร้านหมูจุ่ม” ไอ้ฟิวแยกเขี้ยวกลับมาให้ มองๆ ไปก็เหมือนหมาชิวาว่ากำลังขู่ หึ เอาเท้าบี้ก็แบนติดพื้นละตัวเธอ

“กูรู้ว่าร้านอะไร แต่กูจะแดกไก่ ถ้ามึงสั่งหมู มึงต้องไปนั่งอีกโต๊ะ”

“เออ ประชาธิปไตยมากชีวิตกู แค่สั่งมาอีกชุดมันจะไปยากไรวะ”

“โนๆๆๆๆ ถ้ากูเผลอไปตักที่หม้อมึงล่ะ ห้ามสั่งหมู เอาปลาหมึก กุ้ง เต้าหู้ แล้วก็ไข่มาด้วย น้ำซุปเอาแบบต้มยำมาชุดหนึ่ง ที่เหลือรอไอ้กัส”

ไอ้ฟิวหมดสิทธิ์คัดค้านเลยสั่งตามที่ผมบอก ระหว่างรอไอ้กัสกับของที่สั่งไปมันก็นั่งสาปแช่งผมไม่หยุด แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมันหรอก เดี๋ยวมันเหนื่อยก็หยุดไปเอง

“นั่นเมลนี่หว่า มากับใครวะ”

ผมมองตามสายตาไอ้ฟิวไปจบที่ผู้ชายคนหนึ่งเดินควงแขนมากับผู้หญิงหน้าตาสะสวย ผมคุ้นหน้ามันอยู่เพราะเห็นตามป้ายตามวีดีโอแนะนำมหาลัยบ่อยๆ แต่เพิ่งเห็นตัวจริงเป็นครั้งที่สองเองมั้ง ครั้งแรกเห็นตอนมันประกวดเดือนมหาลัยเมื่อปีก่อน

“เฮ้ย นั่นเหมียว” ไอ้ฟิวตาโต หันมาบอกผมเสียงตื่น

“หืม แฟนไอ้กัสหน้างี้เหรอวะ” ผมถามอย่างสงสัย ตอนไอ้กัสพามาแนะนำผมไม่ได้สนใจ

“เออ สนใจโลกภายนอกบ้างนะมึง ว่าแต่เมลมันไม่รู้ไงวะว่าที่มันควงนั่นแฟนไอ้กัส”

“มึงไปถามมันสิ”

“เรื่องเหรอ กูว่าเปลี่ยนร้านเหอะว่ะ เดี๋ยวไอ้กัสมาเห็นแล้วจะยุ่ง”

ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ถือว่าไม่ใช่เรื่องของผม ไอ้กัสก็คงไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นเท่าไหร่หรอก อย่างมากก็แค่เสียหน้า แล้วคนอย่างมันก็ไม่โง่พอจะไปต่อยกับใครแย่งผู้หญิง ยิ่งเป็นผู้หญิงใจโลเลแบบนั้นด้วยแล้ว

พอพนักงานเอาของที่สั่งมาเสิร์ฟไอ้ฟิวก็จัดการยัดทุกอย่างลงหม้อ ส่วนผมรอกินอย่างเดียว แอลกอฮอล์หมดไปสองก้อนไอ้กัสกับน้องรหัสมันก็โผล่มา เห็นมันเหลือบไปมองที่โต๊ะของไอ้หล่อนั่นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นว่าอะไร

“พี่เท็นคะ เพื่อนแนงฝากมาให้ค่ะ”

ผมรับช็อกโกแล็ตราคาแพงที่ผูกริบบิ้นติดโบว์ไว้อย่างดีมาใส่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะยื่นกระดาษที่มีเบอร์โทรของผมส่งให้น้องแนง

“ฝากให้เพื่อนด้วย”

“อ้ายยยยยย ขอบคุณค่ะพี่”

ผมพยักหน้าแล้วจัดการจิ้มปลาหมึกตัวอ้วนที่ไอ้ฟิวลวกแล้วเอามาใส่ในถ้วยให้ลงน้ำจิ้มซีฟู้ด ก็พอดีกับที่เหมียวกับไอ้หล่อนั่นเดินมาที่โต๊ะ แต่เหมือนฝ่ายหญิงไม่ค่อยเต็มใจมาเท่าไหร่ ผิดกับฝ่ายชายที่หน้าระรื่นทีเดียวเชียว

“อ้าว ฟิว ไอ้กัส มานานยังวะ” ไอ้หล่อนั่นทัก

“สองชั่วยามละเพื่อนเอ๋ย แล้วมึงพาใครมาด้วยวะ เมียใหม่” ไอ้กัสถาม แสยะยิ้มมุมปาก

“เพื่อนน่ะ มึงก็น่าจะรู้จักดี หึหึ อ้าว เหมียว เป็นไรครับ หน้าซีดเลย”

เออ กูพอจะเดาได้ละว่าพวกมึงเล่นห่าไรกัน ผมเลยรีบแดกแล้วรีบชิ่งหนีออกมาจากสถานการณ์ที่อาจนำพาความวุ่นวายมาให้ตัวเอง ส่วนตัวผมแล้วไม่รู้จักมักจี่อะไรกับไอ้หล่อนั่นหรอก ไอ้ฟิวกับไอ้กัสคงรู้จักอาจถึงขั้นสนิทเพราะไอ้สองตัวนี่ก็ดังใช่เล่น รู้จักคนเยอะและคนรู้จักพวกมันก็เยอะ

ผมมาถึงร้านที่นัดกับพวกไอ้เต๋อไว้ ไม่ลืมที่จะไลน์ไปบอกไอ้กัสให้รีบตามมา เพราะยังไงไม้คิวของผมก็อยู่ที่มัน ไม้ของทางร้านมันไม่เหมาะมือผมเท่าไหร่

“สวัสดีครับพี่ คนเยอะป้ะวันนี้” ผมยกมือไหว้พี่เจ๋งเจ้าของร้านโต๊ะสนุ๊กที่ผมเคยมาสิงอยู่ช่วงหนึ่ง แต่พักหลังๆ ก็นานๆ มาทีตามประสาคนเบื่อง่ายหน่ายเร็วอย่างผม

“ก็เหมือนทุกวัน แล้วมึงหายหัวไปไหนมาไอ้เท็น กูนึกว่าตายห่าไปแล้วซะอีก” พี่เจ๋งยังปากหมาเหมือนเดิม แต่เอาเถอะ ให้อภัยเพราะช่วงที่มาสิงที่นี่พี่แกเลี้ยงเบียร์ผมบ่อย

“ผมก็ล่องลอยอยู่แถวหลังมอนี่แหละพี่ หาแรงบันดาลใจ แล้วนี่พวกไอ้เต๋อมายัง”

“ไอ้เต้ ไอ้คิม ไอ้แม็คมาแล้ว แต่ไอ้เต๋อยังไม่เห็น”

ผมพยักหน้ารับรู้ ดื่มเบียร์ที่พี่เจ๋งส่งมาให้เข้าไปอึกใหญ่

“แล้วน้องกัสกูอ่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอวะวันนี้” พี่เจ๋งแกแอบชอบไอ้กัสครับ แถมยังปิดหูปิดตาไม่รับรู้ว่าไอ้กัสมีเมียด้วย ความรักมันทำให้คนเป็นควายได้จริงๆ

“เดี๋ยวมันตามมา วันนี้พลาดไม่ได้ วางเงินไปแล้ว”

พี่เจ๋งขมวดคิ้วแล้วตบหัวรับขวัญผมไปหนึ่งที “หาคุกหาตะรางมาให้กูอีกแล้วนะพวกมึง คราวนี้เท่าไหร่ล่ะ”

“หึ มัดจำไปแล้วหมื่นหนึ่ง ถ้าคืนนี้กวาดหมดโต๊ะก็ได้อีกสองหมื่น รวมค่ามัดจำของทั้งเขาทั้งเราด้วยก็สี่หมื่น”

“เล่นหนักนะไอ้ห่า งั้นมึงไม่ต้องแดกเยอะ เดี๋ยวแทงไม่ลงสักลูกจะหมดตูดเอา”

ผมหัวเราะกับท่าทีกระวนกระวายของพี่เจ๋ง หนึ่งในงานอดิเรกของผมก็คือแทงสนุ๊ก แทงเฉยๆ ไม่สนุกมันต้องมีเงินมากระตุ้น จะได้รู้สึกแพ้ชนะได้ชัดเจนหน่อย

นั่งฟังพี่เจ๋งโม้เรื่องสาวที่แกได้ให้ฟังอยู่ไม่นานไอ้กัสก็โผล่หัวมาพร้อมกับกล่องเก็บไม้คิวของผม ที่ตามหลังมาคือน้องแนงและไอ้หล่อที่หน้าซีกซ้ายมีรอยนิ้วมือห้านิ้วแดงเป็นปื้น

“ไอ้เหี้ยเท็น ชิ่งหนีมาก่อนตลอดนะมึง ไม่อยู่ช่วยกันบ้าง” ไอ้กัสมาถึงก็โวยใส่ผม เอ้า อยู่ช่วยทำไม เรื่องกูก็ไม่ใช่ แถมยังมีเรื่องกับผู้หญิง กูไม่ตีเพศแม่

“คนนี้เหรอที่ฟิวพูดถึงบ่อยๆ ชื่อเท็นใช่ป่ะมึง กูชื่อเมล” ไอ้หล่อทักผม ผมเลยพยักหน้า แล้วยื่นแก้วเบียร์ในมือให้มัน มันยิ้มแฉ่งจนเห็นเขี้ยวซี่สวยมุมปากและรับไปดื่มจนหมด

“ไอ้เมลเรียนภาคไฟ มันเป็นเดือนมหาลัยปีเราไง มึงโดดเรียนบ่อยเลยไม่ได้เจอมัน” ไอ้กัสบอกข้อมูล

“เออ มึงนี่ก็กว้างขวางดีนะ รู้จักคนดังระดับเดือนด้วย”

แล้วไอ้กัสก็เล่าให้ฟังว่ารู้จักไอ้เมลตอนเรียนวิชาทูล จากนั้นก็เริ่มมาสนิทกันในวิชาแคลคูลัส เรื่อยมาจนถึงฟิสิกส์ เคมี ดรออิ้ง หรือวิชาห่าไรก็ตามที่วิศวะเขาเรียนรวมกันพวกมันก็เสร่อมานั่งเรียนใกล้ๆ กัน และที่ผมไม่รู้จักมันเพราะผมไม่ชอบเข้าเรียนเลคเชอร์ คือกูก็เข้าบ้างตามอารมณ์ ส่วนชั่วโมงแล็ปก็ถูกแบ่งกลุ่มตามที่อาจารย์ท่านจัดให้ เลยไม่มีโอกาสได้เจอมันเลย

“ฟิวบ่นให้กูฟังว่ามึงขี้เกียจแต่เรียนเก่ง” ตอนนี้ไอ้เมลนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ผม ส่วนไอ้พี่เจ๋งพอไอ้กัสมามันก็ทิ้งภาระหน้าที่เจ้าของร้านทั้งหมดให้ลูกน้องแล้วตัวมันเองก็ไปนั่งป้อไอ้กัสที่กำลังม่อน้องแนงอยู่เช่นกัน

“มันไม่บอกเหรอว่ากูหน้าตาดีด้วย”

“หึหึ ถึงมันบอกกูก็ไม่เชื่อ ต้องเห็นเองกับตา”

“มึงเห็นแล้วนี่ คิดว่าไง”

ไอ้เมลไม่ตอบ แต่อมยิ้มได้โคตรกวนตีน ผมเลยเลิกสนใจมันมามองไอ้เนลูกน้องรองมือรองตีนพี่เจ๋งที่ตอนนี้กำลังผสมเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่นอยู่ อืม...ผมว่างานแบบนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ไว้ขอมาช่วยงานพี่เจ๋งซักวันสองวันดีกว่า ช่วงนี้ก็ว่างๆ อยู่ด้วย

“มึง ช่วยติวแคลให้กูหน่อยดิ แคลสามนี่สุดตีนกูจริงๆ เลคเชอร์แม่งก็ฟังไม่รู้เรื่อง มึงว่างอยู่ใช่ป่ะช่วงนี้” ไอ้เมลเหมือนอ่านใจผมออก ทั้งๆ ที่ผมเพิ่งจะคิดในใจว่าจะหาอะไรมาทำฆ่าเวลา

ผมหันไปมองหน้าหล่อๆ ของไอ้เมล พิจารณาดูดีๆ แล้วหน้าแม่งก็ไม่ได้โง่สักหน่อย

“กูไม่ว่าง” เรื่องไรกูจะทุ่มเวลาในชีวิตกูไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้านล่ะ

“เออ งั้นก็ไม่เป็นไรว่ะ โทษที่ถาม กูเรียนไม่รู้เรื่องจริงๆ จารย์แม่งพูดเร็ว สูตรเดียวแม่งพิสูจน์สามหน้า กูจะบ้าแล้ว”

ดูๆ ไปแม่งก็น่าสงสาร ไอ้กัสที่ติดเอฟสามตัวเมื่อเทอมก่อนยังไม่ทำหน้าเครียดเท่ามัน ถ้าไม่ช่วยเหมือนผมจะทำบาปรังแกเพื่อนร่วมโลกทั้งๆ ที่ไอ้ที่รังแกมันเป็นวิชาที่ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้คิดค้นขึ้นมาแท้ๆ

“ก่อนสอบมิดเทอมมึงมาติวกับพวกกูละกัน”

ไอ้เมลกระดิกหางทำหน้าระรื่นทันที เหมือนเมื่อกี้มันจะเฟคใส่ผม แต่เอาเถอะ ยังไงผมก็ต้องอ่านเลคเชอร์ที่ไอ้ฟิวอุตส่าห์จดมาให้อ่านอยู่แล้ว แถมไอ้กัสยังต้องเกาะชายกางเกงผมให้พ้นการรีไทร์ด้วย เพิ่มไอ้เมลไปอีกคนกางเกงผมคงไม่หลุดหรอกครับ

“ไอ้เท็น ไอ้เต๋อไลน์มาบอกว่ามันอยู่ที่โต๊ะแล้ว ขึ้นไปได้เลย” ไอ้กัสตะโกนบอกก่อนมันจะพาน้องแนงเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของร้านที่เปิดเป็นโต๊ะสนุ๊ก ผมเลยสะพายเป้เดินตามมันไป ไม่ลืมวางเงินสำหรับค่าเครื่องดื่มของผมกับไอ้เมลให้ไอ้เนเก็บเข้าเก๊ะ

“กูเลี้ยง” ผมบอกเมื่อเห็นไอ้เมลรีบควักกระเป๋าตังค์เตรียมส่งเงินมาให้ผม

“ขอบใจว่ะ งั้นมึงเอานี่ไป”

ผมรับนามบัตรสีสวยมาไว้ในมือ จ้องหน้าไอ้เมลอยู่สักครู่ เหี้ยนี่ยิ้มหล่อก็จริงแต่กวนตีนอยู่ไม่น้อย แล้วนี่มันคงคิดว่าผมอยากได้มากล่ะสิ เบอร์โทรมันเนี่ย

“แล้วกูจะโทรหาทุกคืนก่อนนอนละกันไอ้ห่า”

“กูจะรอ :)” ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากูประชด

.
.
.

เมื่อคืนไม่รู้ว่ากลับบ้านถูกได้ยังไง เพราะหลังจากอยู่ฉลองเงินสี่หมื่นกับพวกไอ้เต๋อแล้วสติสตังผมก็เหมือนจะหลุดออกไปนอกโลก ไม่เคยแดกเหล้าแล้วโดนเหล้าแดกอย่างนี้มาก่อน มารู้ตัวว่านอนอยู่บันไดทางขึ้นชั้นสองก็ตอนที่ไอ้ฟิวมาแว้ดๆ ใส่หูนี่แหละ ส่วนไอ้กัสแม่งหายไปกับน้องแนงที่มันนั่งยันนอนยันว่าเป็นแค่น้องรหัส กระชับสายแนบแน่นคาตากูเมื่อคืนขนาดนั้นคงเชื่อลงหรอกมึง -*-

“ไอ้เท็น กูจะโทรไปฟ้องแม่มึง กูจะฟ้องแน่ๆ ล่ะคราวนี้ แล้วนี่ไอ้กัสหายไปไหน ยังไงแม่งก็เป็นผู้หญิงทำไมมึงไม่ดูแลมัน ไปด้วยกันทำไมไม่กลับด้วยกันห้ะ ห้ะะะะะะะ! จำบ้าง คิดบ้าง มีสมองไว้คั่นหูรึไงไอ้พวกควายเผือกกกกกกกก!”

“โอ้ยยยยยยยย หูจะขาดแล้ว” ยังดันทุรังเขย่งเท้ามาบิดหูกูอีกนะไอ้สั้นนนนนน

“ให้พิการไปเลย กูว่ากูบ่นอะไรไม่รู้จักฟัง กูจะฟ้องแม่มึง ฟ้องป๋ามึงด้วย แล้วไอ้กัสนะ กลับมาเมื่อไหร่โดนดีแน่ มอง มองทำไม ไปอาบน้ำ จะได้ไปเรียน”

กูขอป๋าไปอยู่คอนโดยังทันมั้ยวะ เหี้ยฟิวเริ่มเหมือนแม่เข้าไปทุกวัน แม่กับป๋าผมยังไม่เคยทำร้ายร่างกายผม ด่าผม โขกสับผมเท่ามันอ่ะ บ้านหลังนี้มีผม ไอ้ฟิว ไอ้กัส อยู่ด้วยกัน ไม่รวมแม่บ้านอีกสองคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อิสระอย่างที่คิดหรอกครับ ไอ้ฟิวพอถึงคราวมันระเบิดผมก็ขี้เกียจจะต่อกรกับมันเหมือนกัน ไม่อยากมากความด้วย น่าเบื่อ

ผมอาบน้ำเสร็จก็โดนลากมามหาลัย สมุดเลคเชอร์กับสมุดจดผลแล็ปของไอ้ฟิวถูกยัดมาใส่มือ

“นั่งอ่านไป เดี๋ยวกูไปหาซื้อข้าวเช้ามาประเคนให้”

“กูเอาโจ๊กหมูนะ หมูไม่เด้งไม่เอา”

“เออ เรื่องมากอีกไอ้สัด”

ผมยักไหล่ ยังรู้สึกง่วงๆ อยู่ แถมหัวก็มึนนิดหน่อย เมื่อคืนเหมือนกูคลุกวงในกับใครสักคน เสียน้ำไปเยอะเหมือนกัน ดีที่ไม่ถูกทำประตูหลัง

อ่านจบไปหนึ่งรอบไอ้กัสก็โผล่หน้ามึนๆ อึนๆ ของมันมาที่โต๊ะหินอ่อนที่ผมนั่งอยู่

“ไอ้เหี้ยฟิวไปไหนวะ” ไอ้กัสถาม ก้มอ่านสมุดในมือผมหน้ายุ่ง

“ซื้อข้าว กูอ่านจบแล้ว มึงเอาไปอ่านซะ คะแนนน้อยเดี๋ยวไอ้ฟิวบ่นอีก”

“เออ แม่งโทรไปด่ากูตอนหกโมงเช้าอ่ะ มันบ้ามากกูพูดจริงๆ” ไอ้กัสบ่นเซ็งๆ ก่อนจะตาโตร้องเสียงดัง “อื้อหืออออ ไอ้สัด เยอะชิบ ถ้าจะออกขนาดนี้กูว่ามิดเทอมไม่ต้องสอบเหอะควาย”

ผมควักไอโฟนขึ้นมาเล่นเกมฟังไอ้กัสบ่นไปพลางๆ เก็บเหรียญได้เกือบสองพันไอ้ฟิวก็กลับมาพร้อมของกินนอกเหนือจากโจ๊กหมูที่ผมสั่ง เห็นไอ้เมลเดินทำหน้าหล่อตามหลังมาด้วย ปกติเวลานี้ผมไม่เจอมันเลยนะ พูดจริงๆ

“แปลกมากที่เจอมึงเวลานี้ อืมมมม เพิ่งเจ็ดครึ่ง ไม่ใช่เวลาลงจากเตียงนี่หว่า หึหึ” ดูเหมือนไม่ใช่แค่ผมที่สงสัย ไอ้กัสก็ใคร่รู้เหมือนกัน

“กูเจอแม่งยืนหล่อซื้อถุงยางในเซเว่น หน้าไม่ด้านกูว่าทำไม่ได้” เออ กูก็เห็นด้วยกับมึงนะฟิว ดูแม่งเดินถือกล่องถุงยางมาเหมือนถือถ้วยรางวัล มึงไม่คิดจะให้พนักงานเขาใส่ถุงอะไรให้เลยไงวะ

“ถุงหมดกูเลยถือโอกาสชิ่งมา ขับผ่านเซเว่นพอดีเลยแวะซื้ออ่ะ ให้กดจากตู้ใต้หอกูไม่เอาหรอก มีแต่แบบธรรมดา ไม่ชอบ” ไอ้เมลตอบเหมือนเรื่องธรรมดามาก ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ผม หน้าหล่อๆ ของมันยื่นเข้ามาใกล้จนผมต้องเบี่ยงหลบ

“เล่นไรวะ สนุกเหรอ ไม่ทักกูเลย”

“หวัดดี”

“แค่เนี้ย เมื่อคืนกูอุตส่าห์แบกมึงไปส่งที่บ้าน”

ผมกดหยุดเกมแล้วหันมามองหน้าหล่อๆ ของมัน นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงแล้วเห็นในระยะประชิดอย่างนี้คงได้ระทวยบ้างแหละ หืมมม เอ๊ะ เออ ใช่มัน เห็นระยะนี้กูก็นึกออกละว่าเมื่อคืนเกือบได้เสียกับใคร

“ขอบใจ แล้วนี่มึงมาทำไร”

“มาเอาคำว่าขอบใจจากมึงไง หึหึ”

“ประสาท”

“อะแฮ่ม! แดกข้าวได้แล้วไอ้เท็น”

ผมรับโจ๊กหมูจากไอ้ฟิวที่มองผมกับไอ้เมลแปลกๆ อาจจะเพราะไอ้ห่าเมลที่นั่งควบขากับม้าหินอ่อนหันหน้ามาทางผมก็ได้

“รอยดูดเห็นชัดเลยนะมึง ไปเสียท่าให้ใครทำรอยไว้ล่ะ” ไอ้กัสถามไอ้เมลพลางโยนสมุดลงบนโต๊ะแล้วหันไปหยิบขนมปังมากิน

“ความลับ” ตอนมึงพูดว่าความลับนี่ทำไมต้องมองหน้ากูแล้วยิ้มกริ่มด้วยวะ ไม่ค่อยอยากให้ใครจับพิรุธมึงได้เลยนะ เหอะๆ

“หึ กูว่ากูพอจะรู้ ฝากปลาย่างไว้กับแมวจริงๆ”

ไอ้ฟิวทำหน้างง มองไอ้กัสกับไอ้เมลสลับกัน ส่วนผมก็ไม่ได้สนใจ รอยที่คอไอ้เมลไม่ได้มาหนักสมองส่วนไหนของผม ต่อให้ผมจะจำได้ลางๆ ว่าผมเป็นคนทำก็เถอะ

ไอ้เมลอยู่กวนได้สักพักก็ขอตัวกลับไปนอน ส่วนพวกผมก็ขึ้นตึกเรียนเตรียมควิซแล็ป ที่จริงมันก็ไม่ได้ยากหรอกครับ ถ้าผมเข้าเรียนคงพอมีคะแนนเก็บบ้าง แต่นี่มีกูคนเดียวที่ช่องคะแนนควิซโล่งซะน่ากลัว ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะคะแนนพวกนี้เก็บเป็นพันแต่ส่วนหารเป็นหมื่น สิบคะแนนเต็มสำหรับคนทำได้และเข้าทุกคาบ ฮ่าๆ ควิซแล็ปเสร็จก็นั่งฟังอาจารย์ดริฟแล็ปอีกครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ล่องลอยตามยถากรรมของเซลล์สมอง รู้ตัวอีกทีก็เลิกคลาสแล้ว เหมือนไม่ได้เรียนอะไรเลยนะเนี่ยผมน่ะ

..............................To be continue...............
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 2 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-08-2013 19:16:23
ตอนที่ 2

“เมล เมลทำอย่างนี้กับฝนไม่ได้นะ”

“.......”

“เมลพูดอะไรบ้างสิ ฝนไม่ยอมนะ เราคบกันไม่ใช่เหรอเมล ทำไมเมลทำอย่างนี้”

“.......”

“เมลใจร้าย!”

เพียะ!

พวกมึงเลือกโลเคชั่นทะเลาะกันได้ใจกูมาก ทำเอาเป็ดน้อยที่แสนน่ารักของกูตกใจตีปีกพั่บๆ เลยดอกกกกกก เสียงผู้หญิงนี่จะแหลมไปไหน นี่ล่ะที่ผมไม่อยากมีแฟน เสียงดัง น่าเบื่อ

“ไอ้เหี้ย เจ็บชิบ มือหรือตีนวะนั่น” ไอ้เมลบ่นหลังจากที่ฝ่ายหญิงเขาวิ่งหนีไปไกลแล้ว อ้อ นี่มึงคงเลิกเป็นใบ้แล้วสินะ

“เขาไม่ให้มึงอมตีนก็บุญแล้วสัด เงียบได้กวนส้นตีนมาก” ผมพ่นควันออกจากปาก ยักคิ้วให้ไอ้เมลที่ดูจะตกใจที่เห็นผม

“มึงมายืนอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ห่า ต้นไม้บังจนมิด”

“ที่ประจำกู แล้วมึงไม่วิ่งตามไป เผื่อเหมือนในหนังอินเดีย วิ่งตามง้อกันแล้วส่ายคอยึกยัก”

“ตลก”

ไอ้เมลหน้าบึ้ง เดินมาดึงบุหรี่ออกจากปากผมแล้วเอาไปสูบแทน ผมส่ายหน้ามองมันเอือมๆ

“โดดเรียนอีกแล้วสิมึง ไม่เห็นในห้อง” มันกล่าวหา แถมยังมองผมเหมือนฆาตกรโรคจิต แค่กูโดดเรียนเนี่ยต้องถึงขนาดมองกันอย่างนี้เลย?

“มึงก็โดด”

“เปล่า แม่งลากกูออกมาจากห้องเรียน นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่แท้ชวนมาทะเลาะ ผู้หญิงแม่งน่าเบื่อ”

“มึงทำตัวไม่ดีเอง จะไปโทษผู้หญิงเขาก็ไม่ถูก”

“กูทำตัวไม่ดีตรงไหน”

“จะรู้เหรอ กูไม่ใช่แฟนมึง”

“งั้นก็เป็นสิ”

“ส้นตีน”

“หึ”

ผมเงียบมองลูกเป็ดว่ายน้ำตามแม่ ดูน่ารักน่าชังดี เห็นเด็กผู้ชายห้อยป้ายสีเขียวสองสามคนให้อาหารพวกมันอยู่อีกฟากหนึ่งของบึง คงเป็นเด็กปีหนึ่งคณะเกษตรฯ ผลัดเวรกันมาให้อาหารเพราะผมไม่คุ้นหน้าเลยสักคน

“เท็น เย็นนี้กูไปหาที่บ้านนะ”

ผมละสายตาจากลูกเป็ดมามองไอ้เมลอย่างแปลกใจ ปกติแม่งก็มาอยู่แล้ว ทำไมต้องขอ

“แปลกนะ มึงมีมารยาท ปกตินึกจะมาก็มา”

“คำตอบล่ะ”

“อยากมาก็มา เย็นนี้ไอ้ฟิวจะทำยำทะเล มึงซื้อเบียร์มาด้วยละกัน”

“งั้นเย็นนี้เจอกัน กูไปเรียนละ”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อไอ้เหี้ยเมลมันก้มหน้าลงมาหอมแก้มผม ไม่ทันจะได้ด่าอะไรมันก็วิ่งไปนู่นแล้ว ไอ้นี่ชักจะประสาทเข้าทุกวัน ถือสามันผมอาจจะบ้าตาม

.
.
.

ท้องฟ้าตอนเย็นน่ามองไม่แพ้ตอนใกล้รุ่ง ความงามตามธรรมชาติไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็คงเห็นไม่ต่างกัน แต่ผมว่าอาจเปลี่ยนได้ถ้าได้มองจากบนฟ้า กูอยากนั่งบอลลูนมองมากตอนนี้ แสงได้ลมได้จริงๆ

“เท็น ทำไรวะ อาบน้ำยัง” ไอ้เมลที่ไม่รู้ว่าโผล่มาได้ยังไงแล้วมาตอนไหนถามขึ้น ผมเหลือบตามองมันเล็กน้อย ไอ้ห่านี่ใส่เหี้ยไรก็หล่อไงวะ แค่เสื้อยืดกางเกงบอลมึงก็หล่อได้แล้วเหรอ -_-

“มึงมานานยัง” ผมถามพลางลุกขึ้นนั่ง นี่กูมานอนสังเคราะห์แสงที่ระเบียงนานเท่าไหร่แล้ววะ

“มาตอนสี่โมง พวกไอ้เต๋อก็มา เสียงดังอยู่ข้างล่าง”

“เออ เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วตามลงไป”

“งั้นกูรอ”

“เออๆ เล่นเกมรอกูก็ได้ กูอาบน้ำแป๊บเดียว”

ผมเป็นคนอาบน้ำตามอารมณ์ วันไหนนึกอยากขัดทุกซอกทุกมุมของร่างกายก็นานหน่อย แต่ไม่บ่อยหรอกครับแบบนั้น เพราะส่วนใหญ่ผมขี้เกียจ ออกจากห้องน้ำก็เห็นไอ้เมลนอนเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่บนเตียง

“มองไร” จะไม่ให้ถามได้ไง เล่นมองกูตาไม่กะพริบ

“มึงขาวว่ะ” เหตุผลน่าฟาดด้วยส้นตีน

“มึงก็ขาว”

ผมหาเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นมาใส่ อยู่บ้านก็แต่งตัวสบายๆ ดีกว่า

“เท็น ทำไมมึงตัวเล็กจังวะ” ถ้าตามึงไม่บอดกูก็ขนาดตัวตามมาตรฐานที่กูกำหนดไว้นะ อีกอย่างกูสูงกว่าไอ้ฟิวละกัน

“ทำเหี้ยไรของมึง” ผมถามไอ้เมลพลางจ้องมันผ่านกระจก ไอ้นี่สูงกว่าผมอยู่ไม่น้อย ดูจากที่ผมสูงถึงแค่ปลายคางมัน แถมแขนที่กอดรอบคอผมก็คนละขนาดกับแขนผมเลยทีเดียว

“มึงอาจจะลืมเรื่องคืนนั้น แต่กูลืมไม่ได้ ทำไมมึงไม่ถามอะไรกูเลยวะเท็น”

ไอ้เมลตัดพ้อ แถมหน้าหล่อๆ ก็แฝงความน้อยใจจนผมทำหน้าไม่ถูก

“กูไม่ได้ลืม แต่กูก็ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหน มึงเมา กูก็เมา แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลย”

ไม่รู้ว่าไอ้เมลต้องการอะไร อยากรับผิดชอบผม หรือให้ผมรับผิดชอบมัน? แค่เกือบได้เสียกันผมไม่ถือ คือกูก็เต็มใจ จะให้เรียกร้องไรวะ แม่งก็แฟร์ๆ ด้วยกันทั้งคู่

“มึงใจร้ายว่ะเท็น ตั้งแต่คืนนั้นกูก็คิดถึงแต่มึง อยากกอดมึง อยากจูบมึง”

“หมกมุ่นไอ้สัด”

“กูยอมรับ แต่มึงจะให้กูทำไงวะ แค่เห็นหน้ามึงกูก็คิดถึงแต่เรื่องคืนนั้น”

คือ มึงพูดเหมือนกูเสียตัวให้มึงแล้วอะไรประมาณนั้น ทั้งๆ ที่ความจริงแค่น้องนางทั้งห้าของกูเองที่มึงได้เสีย

“เงี่ยนมากนักก็หาเมียมาเอาสักคนสิวะ มาลำบากอะไรกูเนี่ย”

“คืนนั้นก็เพราะมึง เล่นจนถุงยางกูหมด”

“พูดให้มันดีๆ ไม่ได้หมดเพราะกูไอ้เหี้ย”

“โธ่ ถ้าคืนนั้นมึงไม่หลับไปซะก่อนก็ต้องหมดเพราะมึงนั่นแหละ ชิงหลับไปก่อนปล่อยให้กูค้างอยู่คนเดียว”

“แต่มึงก็หาที่ลงได้ไม่ใช่ไง”

“แต่กูอยากทำกับมึงมากกว่า”

ไอ้หล่อที่เถียงข้างๆ คูๆ นี่น่าถีบมาก ในเมื่อมันกอดผมจากด้านหลังผมจึงถีบมันไม่ได้ ผมเลยกัดแขนไอ้เมลแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้แทน มันร้องโอดโอยแต่ก็ไม่ยอมปล่อยผม

ปึงๆๆๆๆ

“ไอ้เหี้ยเท็น ลงไปข้างล่างได้แล้ว ต้องให้กูจุดธูปเชิญมั้ยไอ้ควายยยยย”

ไอ้เมลผละออกจากตัวผมไปที่ประตูทันที แรงทุบจากไอ้ฟิวอาจพังประตูเข้ามาได้ ไอ้สั้นแคระนั่นมันพลังเหลือเฟือจริงๆ แถมเสียงก็ไม่ได้น่ารำคาญน้อยไปกว่าผู้หญิงเลย ไอ้เมลเลยรีบเปิดประตูให้มัน ไอ้ฟิวมองหน้าไอ้เมลก่อนจะมองมาที่ผมอย่างสงสัย

“ทำไรกันวะ ทำไมต้องล็อคประตู”

“กูล็อคประตูห้องตัวเองนี่แปลกเหรอ”

ไอ้ฟิวทำหน้าเหมือนโดนใครเหยียบตีน “ปกติมึงไม่ล็อค”

“วันนี้กูมีอารมณ์ล็อค” ผมยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งๆ ที่ไอ้ตัวที่ล็อคคือไอ้เมล แม่งคิดห่าไรไม่รู้ล็อคประตูห้องกูโดยไม่ปรึกษา

“เออ ช่างแม่ง ลงไปได้แล้ว เมล เดี๋ยวเมลออกไปซื้อน้ำแข็งกับฟิวนะ”

ไอ้เมลพยักหน้าอย่างว่าง่าย ผมเลยเดินตามพวกมันลงมาชั้นล่าง เห็นไอ้เต้กำลังเต้นเป็นลิงเป็นค่างอยู่หน้าทีวีมีไอ้คิมกับไอ้แม็คคอยช่วยเหยียบปุ่มลูกศร พวกแม่งไปขุดเอาเกมเต้นมาจากไหนวะ

“ไอ้คิมมมม ซ้ายบน ซ้ายบน เออออออ นั่นแหละๆ โอ้ยยยยย ไอ้คิมเหยียบตีนกูไอ้ควายยยยย”

ไอ้เต้ร้องเสียงดังลั่นผมเลยเดินไปถีบมันด้วยความหมั่นไส้เต็มประดา

“เกมใครวะ สมัยนี้เขาเลิกฮิตไปแล้วมั้งน่ะ” ผมถามไอ้เต๋อที่นั่งปาถั่วใส่พวกไอ้เต้อยู่ที่โซฟา

“ของน้องเตย ไอ้เต้จิ๊กของน้องมันมา” ไอ้เต๋อตอบ ส่งแก้วเบียร์มาให้ผม ผมรับแก้วไว้แล้วนั่งลงมองไอ้พวกสมองกำลังพัฒนาทั้งเต้นทั้งหอบอยู่หน้าทีวีอย่างสมเพชใจ

“แล้วนี่ไอ้กัสไปไหน”

“พาเมียไปแดกไอติม”

“เออ ช่วงโปร แม่งดูแลเทคแคร์ดียิ่งกว่าบุพการีตัวเอง ว่าแต่ไอ้ซิงมันสั่งของให้กูยัง”

“สั่งแล้ว เมื่อคืนกูอยู่ช่วยมันเช็ครายการสั่งของอยู่”

“เออดี เมล ซื้อซาลาเปามาให้กูด้วย หน้าปากซอยอ่ะ”

ไอ้เมลหันมาพยักหน้าให้ก่อนจะเดินตามไอ้ฟิวออกไป หน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านผมมีซาลาเปาเจ้าอร่อยอยู่เจ้าหนึ่งครับ ผมชอบมาก ถ้ามีโอกาสก็จะซื้อกินทุกเย็น ความจริงฝากไอ้ฟิวก็ได้หรอก แต่ผมอยากให้ไอ้เมลซื้อมาให้มากกว่า หึหึ

นั่งแดกเบียร์กับไอ้เต๋อไปพลางมองไอ้พวกบ้าคลั่งเกมเต้นไปพลาง ยิ่งเมาไอ้พวกเวรนั่นก็ยิ่งมั่ว เหยียบเท้ากันแหลกลานจนไม่มีใครสนใจลูกศรแล้วด้วยซ้ำ ตบตีกันอยู่นานพวกมันก็เลิกเล่นด้วยสำนึกถึงสังขารตัวเอง

“พอแล้ว กูเหนื่อย กูไม่ไหวแล้วเบเบ้” ไอ้เต้โซซัดโซเซเข้ามา ยกแก้วของมันที่น้ำแข็งละลายแล้วละลายอีกขึ้นดื่มอึกใหญ่

“กูว่าถ้าน้องมึงเล่นทุกวันมีสิทธิ์ผอมอ่ะแสรด” ไอ้คิมที่เดินตามมาออกความเห็น

น้องเตยเป็นน้องสาวที่น่ารักมากครับ อาจจะมีเนื้อมีหนังมากไปหน่อย ผมเคยให้น้องขี่คอ คอแทบหัก -_-

“ก่อนน้องผอมกูว่าแป้นเหยียบพัง” ไอ้แม็คออกความเห็นด้วยอีกคน ไอ้เต้พยักหน้าเห็นด้วยแต่ก็ตบหัวไอ้แม็คคู่หูไปฉาดใหญ่

“อย่าว่าน้องกู”

“พี่ชายดีเด่นมากอ่ะมึง แล้วหมาไหนล้อน้องว่าหมูอ้วนๆ เกือบทุกวัน”

ไอ้เต้ทำไม่ได้ยิน เลยโดนไอ้แม็คถีบไปเต็มๆ ตีน ผมส่ายหัวแล้วถือแก้วออกมายืนที่ระเบียง ตอนนี้ไม่มีแสงอาทิตย์แล้ว ต้นวาสนาในสวนก็เอนไปเอนมาเล่นลมอย่างน่ามอง อืมมมม จิบเบียร์ไปด้วยนี่สุนทรีย์จริงๆ

“ทำไมมึงชอบเหม่อจังวะ อ้ะนี่ ซาลาเปา แถมขนมจีบด้วย” เสียงของไอ้เมลดังใกล้ๆ ผมหันไปมองก็เห็นมันชูถุงใส่ซาลาเปากับขนมจีบให้ดู

“กูไม่ได้เหม่อ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

“เถอะ ล่องลอยอย่างกะวิญญาณออกจากร่าง ไม่ได้เหม่อเลยเนอะ อ่ะ กินตอนร้อนๆ จะได้อร่อย”

ผมดึงกระดาษออกก่อนจะกัดซาลาเปาเข้าปากไปครึ่งลูก อื้มมมมมม อร่อยมากกกกกกกกก หมูสับไข่เค็มนี่แหละของโปรดผมเลย

ไอ้เมลอมยิ้มแล้วขยี้หัวผม “อย่าลืมกินขนมจีบด้วย กูตั้งใจซื้อมาให้”

“หึ หล่อระดับมึงนี่ ยังต้องใช้มุกนี้เหรอ”

“แล้วมึงชอบมั้ย”

“ก็แดกได้”

ผมยักคิ้วให้ ไอ้เมลเลยผลักหัวผมก่อนจะกัดซาลาเปาที่ผมยื่นให้ไปคำใหญ่

“กูรู้หรอกว่ามึงอยากให้ซื้อขนมจีบให้ด้วย หึหึ”

“ไม่ได้โง่เหมือนหน้ามึง นับว่ากูคิดถูก”

“ปากมึงนี่นะ”

ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจกับหน้าบึ้งๆ ของมัน ไอ้เมลผลักหัวผมอีกทีแต่ผมจับมือมันไว้ได้ทัน ไอ้นี่ยิ่งมองยิ่งหล่อ ในชีวิตผมเป็นครั้งแรกที่ชมคนอื่นนอกจากตัวเอง เอาจริงๆ ถ้าได้ลองคบดูก็ไม่เลว ผมไม่เคยคบกับผู้ชายด้วย เออ ผู้หญิงก็ไม่เคยนั่นแหละ แต่ก็น่าจะมีอะไรต่างกันอยู่ ไอ้เมลก็ดูจะอยากรู้อยากลองกับผู้ชายอยู่ไม่น้อย

“มึงก็น่าสนใจดี เอาไงเมล แก้เบื่อกับกูสักพักมั้ย”

“หึ เหลือเกินนะมึง”

“สนมั้ยล่ะ”

“ไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ”

ผมจิ้มขนมจีบเข้าปาก ไอ้เมลโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ผมเลยยัดขนมจีบใส่ปากมันไปหนึ่งลูก ได้ยินไอ้เต๋อกับไอ้ฟิวไอเสียงดังเหมือนมีส้นตีนติดคอ ไอ้เต้ ไอ้คิม ไอ้แม็คก็โห่รับกันเป็นทอดๆ คือพวกมึงไปรับจ้างนำหน้าขบวนขันหมากได้เลยนะ กูพูดจริงๆ

..............................To be continue...............
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 3 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-08-2013 19:18:24
วันนี้ลงแค่นี้ก่อนนะคะ แฮ่ๆ  :o8:

ตอนที่ 3

“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนน กูไม่ได้ให้มึงมานั่งเฝ้าประตู ควายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย รับลูกสิวะ รับลูกกกกกกกกกกกกก หยุดก่อน กรรมการ กรรมการ ไอ้เหี้ยกรรมการ กูขอเวลานอก!!!!”

ไอ้เหี้ยเต๋อตะโกนโหวกเหวกมาจากอีกฟากของสนาม แม่งพลังเสียงสุดยอดจริงๆ มันวิ่งมาหยุดตรงหน้าผมแล้วทำหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่

“กูไม่มีอารมณ์ กูจะแดกขนมชมนกก็เรื่องของกู” ผมเบ้ปากใส่มันอย่างรังเกียจ เหี้ยนี่มีแต่เหงื่อก็มาสะบัดหัวใส่ผมอยู่ได้

“ไอ้เท็น มึงฟังกูนะ ฟังกูให้ดีๆ เราฟอร์มทีมกันมาเพื่อวันนี้ วันที่เราจะได้แก้แค้นพวกไอ้เจน นัดประวัติศาสตร์ล้างตาเลยนะเว้ย ถ้าวันนี้เราแพ้ เราเสียหมื่นห้า มึงได้ยินมั้ยไอ้คว้ายยยยยยย”

ไอ้เจนภาคโยธาเป็นศัตรูคู่แค้นทางเกมกีฬาฟุตบอลของพวกผมมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่งตอนแข่งกีฬารวมเกียร์ ดวลกันมาหลายนัดผลัดกันได้ผลัดกันเสียมาก็หลายรอบ แต่ไม่มีนัดไหนที่กูเซ็งเท่านัดนี้ ไอ้เหี้ยเต๋อก็ทำอย่างกะนัดชิงแชมป์ลีกอังกฤษ กูบอกเลยว่ามึงผิดเองที่ไม่ให้กูไปนอนดูรายการโปรด วันนี้ดาราขวัญใจกูมาด้วย ลากกูมาอย่างน่ารังเกียจมาก บอกตรงๆ

“ไอ้เจนนนนนนน กูขอเปลี่ยนตัวได้มั้ยวะ ขออีกคนเดียว”

“เหี้ยเต๋อ ทีมมึงเปลี่ยนตัวเกินโควต้าแล้วไอ้ห่า เล่นบอลนะเว้ยไม่ใช่เปลี่ยนผ้าอนามัย”

“ใช่ซี้ มึงนำแล้วนี่”

“ไม่ใช่ความผิดกูที่ไอ้เท็นเอาแต่นั่งพิงเสาโกล์แดกขนม”

ใช่ ไม่ใช่ความผิดมึงหรอกไอ้เจน ความผิดเหี้ยเต๋อมันที่ขัดขวางการดูทีวีของกู

“กรรมการฝ่ายมึงก็แจกใบเหลืองทีมกูเป็นว่าเล่นไอ้เหี้ย เชี่ยแดนวิ่งสะดุดอากาศเองก็มาโทษทีมกูหายใจเสียงดัง ไม่รู้แหละ มึงต้องให้กูเปลี่ยนตัว!”

“เออออออออออออ กูไม่รู้เว้ยเรื่องนั้น กูไม่ใช่กรรมการ”

ทั้งกรรมการทั้งไลน์แมนเป็นของภาคโยธาหมด คือต่อให้พวกผมเล่นสะอาดแค่ไหนก็โดนใบแดงอยู่ดีอะครับ แม่งโกงได้น่าเกลียดมาก เออ เมื่อนัดที่แล้วพวกผมก็โกงย่อยยับเหมือนกัน แต่เอาเถอะ นี่ไม่ใช่เวลามาว่าใครถูกใครผิด รายการโปรดกูจะจบแล้วไอ้เหี้ยยยยยยยย

“ไอ้เท็น มึงนะมึง ออกไปเลยไป เอาถุงขนมมึงไปด้วย แล้วไปเรียกไอ้ซิงมาเป็นโกล์ให้กู”

“มึงคิดได้อย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ไม่เสียประตูหรอกไอ้ควาย”

ไอ้เต๋อแทบถลาเข้ามาตบหัวผม แต่ผมไหวตัวทันเลยเดินออกจากสนามมาบอกไอ้ซิงให้ลงไปแทน ไอ้ซิงนี่ก็เล่นเกมอยู่ได้ อีกไม่นานผมทำนายได้เลยว่ามันคงประกาศแต่งงานกับสาวทูดี

ผมเดินสะพายเป้มาถึงรถที่จอดไว้ใต้ต้นจามจุรีใกล้สนามฟุตบอล เห็นไอ้หน้าหล่อยืนเก๊กอยู่ใกล้ๆรถก็ต้องรีบสำรวจกระจกข้าง แม่งกูเพิ่งเอาไปเปลี่ยนมาใหม่หลังจากที่ไอ้กัสยืมไปขับแล้วเสือกเอาไปนัวเนียกับประตูบ้านเด็กเก่ามัน อย่าคิดขโมยเชียว นี่ของนอก กว่าจะลงเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาหากูได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะมึง

“เสียงไอ้เต๋อเรียกชื่อมึงดังไปถึงตึกภาคกู นึกว่ามึงโดนมันจับหัวโขกพื้นสนามไปแล้วนะเนี่ย” ไอ้เมลที่ยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกง หลังพิงต้นจามจุรีอย่างเท่บอกผม หน้าหล่อๆ ของมันก็ยิ้มอย่างที่มันคงคิดว่าดูดีมาก

“มึงมาทำไรที่นี่ คงรู้ล่ะสิว่ากูเพิ่งเปลี่ยนกระจกข้างใหม่”

“ไม่ได้จะมาขโมยกระจกข้างเว้ย ถ้ายังไม่ได้นอนกับมึงกูไม่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงคุกหรอก”

เหตุผลน่าภูมิใจแทนพ่อแม่มึงเนอะ -_-

“แล้วมึงมาทำไม”

“มาขโมยหัวใจมึง”

ไอ้เมลยิ้มร้าย แต่ผมขยับถอยห่างจากมัน ขนทั้งตัวก็ลุกพรึ่บพรั่บ ไอ้เมลนอกจากหล่ออย่างไม่เกรงใจใครแล้วมันยังน้ำเน่าไม่เกรงใจผมอีกด้วย

“หนักแล้วนะมึงน่ะ”

ไอ้เมลยักคิ้วแบบโคตรกวนตีนให้ ก่อนจะเดินเข้ามาประชิดตัวผม หน้าหล่อๆ ของมันก้มลงมาใกล้ จนตอนนี้กูลืมไปแล้วว่ากำลังรีบกลับไปดูทีวี

“กูหิว ไปแดกข้าวเป็นเพื่อนหน่อย”

“แต่กูไม่หิว”

“กูเลี้ยง”

“งั้นไป มึงขับ”

ผมยื่นกุญแจรถให้ไอ้เมล มันรับไปพลางแสยะยิ้ม มองยังไงก็ไม่น่าไว้ใจ แต่ทำไงได้ กูไม่ชอบขับรถให้คนอื่นนั่ง

“ไปพัทยา กูอยากแดกอาหารทะเล”

ไอ้เมลหันมามองหน้าผมแว๊บหนึ่งแล้วก็รีบหันกลับไปมองทางต่อ “มึงอย่ามาตลก”

“มึงก็ไม่เห็นขำนี่ ไปพัทยาโลดดดดดด”

“มึงบ้าป่ะเท็น ไปตอนนี้เนี่ยนะ อาหารทะเลที่ไหนก็แดกได้”

“จุ๊ๆๆ มึงนี่ขาดความละเอียดอ่อนนะเมล อาหารทะเลถ้าได้แดกที่ทะเลนั่นแหละที่สุดของที่สุด เสียงคลื่นกระทบฝั่ง เสียงใบมะพร้าวเสียดสีกันตามแรงลม ค่ำคืนที่มีแต่แสงดาว ก่อไฟย่างปลาย่างกุ้ง เผลอๆ ได้มีโอกาสออกทะเลตกหมึกกับชาวประมง”

“มึงแน่ใจเหรอว่าที่มึงพูดถึงนี่คือพัทยา อีกอย่าง กูหิวและอยากแดกตอนนี้ มึงเลือกมาซักร้าน เร็ว”

“โนววววววววววววววววว กูจะไปทะเล!”

“มึงจะไปทำบ้าอะไรตอนนี้วะ ห้ะะะะะะะะ! ใช้ชีวิตแบบมีสติหน่อยเถอะ”

เวลาไอ้เมลหงุดหงิดนี่โคตรน่ากลัวเลยให้ตาย ผมยังไม่อยากโดนมันถีบลงรถตอนนี้เลยสงบปากสงบคำไว้ ให้มันแดกข้าวเสร็จพามันกลับมอไปเอารถแล้วผมค่อยขับรถไปเองก็ได้ กูแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเท่านั้นเองทำไมต้องเสียงดังใส่ด้วยวะ แม่กูยังไม่เคยตะคอกกูสักคำ

“เงียบทำไม โกรธกูเหรอ”

“........”

“กูขับรถไปให้ก็ได้ แต่มึงต้องให้กูหาอะไรลงท้องก่อน โอเคมั้ย”

“มึงหิวมากเหรอ”

“กูแดกควายได้ทั้งตัวแล้วตอนนี้”

“งั้นมึงแวะร้านข้าวข้างหน้านั่นก็ได้ กูเคยมากินกับไอ้ฟิว รสชาติใช้ได้ ร้านสะอาดน่านั่ง”

พวกผมเลยจอดรถไว้ริมทาง ก่อนจะเข้ามานั่งในร้าน ไอ้เมลยื่นเมนูให้ผมเป็นคนสั่ง มันบอกว่ามันกินอะไรก็ได้ ไม่เรื่องมาก ผมเลยสั่งต้มยำปลาเมนูประจำที่เวลามากินกับไอ้กัสไอ้ฟิวต้องสั่ง เพราะร้านนี้น้ำต้มยำเขาเข้มข้นมาก ซดน้ำทีน้ำตาแทบไหล ยำปลาหมึกวุ้นเส้นก็อร่อยเพราะปลาหมึกตัวอ้วนน่ากินแถมยังสด ปูผัดผงกะหรี่ก็ไม่ควรพลาด แล้วที่ผมชอบที่สุดคือแกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่สาหร่าย น้ำซุปใสมากแต่รสกลมกล่อมกำลังดี

“กูเปลี่ยนใจไม่ไปทะเลละ เห็นหน้ามึงแล้วหมดอารมณ์” ผมบอกเซ็งๆ

ไหนๆ ก็ได้กินข้าวที่นี่แล้วก็ไม่รู้จะถ่อไปถึงทะเลอีกทำไม

“ไม่อยากไปกับกู” ไอ้เมลถาม อมยิ้มกวนตีนมาก

“ไม่รู้ กูเซ็ง มึงแดกเสร็จก็นั่งแท็คซี่ไปเอารถที่มอละกัน กูไม่ไปส่ง”

“แล้วมึงจะไปไหน”

“ไปตามหาแรงบันดาลใจ”

ไอ้เมลขมวดคิ้วมองหน้าผม ผมเลยจ้องมันกลับ หน้าตามันจัดอยู่ในระดับเทพเจ้าเลยล่ะไอ้นี่น่ะ แต่นิสัยมันนี่ไม่ขอออกความเห็นละกัน

“อยู่กับกูมึงยังจะไปตามหาที่ไหนอีก”

“เพราะอยู่กับมึงนั่นแหละกูถึงต้องไป”

ไอ้เมลทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็เถียงอะไรกลับมาไม่ได้เพราะพนักงานเริ่มเอาอาหารมาเสิร์ฟ

“เวลาแดกห้ามชวนกูคุย”

ผมบอกแค่นั้นก็ตักเนื้อปลาใส่จาน ไม่ชอบหรอกเวลาที่กำลังกินอยู่แล้วมีใครมาชวนคุย มันเสียรสชาติไม่พอยังทำให้เสียอารมณ์ พาลไม่อยากกินเอาดื้อๆ จะอยู่กับผมต้องรู้กฎข้อนี้และจำมันให้ขึ้นใจ

.
.
.

“ไง หน้าระรื่นกลับมาเลยนะมึง ทิ้งกูอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว”

ไอ้ฟิวทักขึ้นในขณะที่ขาซ้ายผมกำลังก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก มันกำลังถือแก้วน้ำเดินออกมาจากห้องครัว หยุดท้าวสะเอวมองผมเหมือนแม่กำลังจะดุลูกชายที่กลับบ้านผิดเวลา

“แล้วนี่ไอ้กัสยังไม่กลับ”

“เฝ้าเมีย เมียเป็นไข้ พวกมึงนี่ไม่คิดจะอยู่ติดบ้านบ้างรึไงวะ แล้วนี่มึงแดกข้าวอะไรมารึยัง กลับมาเกือบตีสามคงไม่ต้องให้กูหาอะไรให้แดกใช่มั้ย”

“กูกินมาแล้วน่า ไปนอนละ พรุ่งนี้เจอกัน”

“เดี๋ยวนี้ทำตัวแปลกๆ นะมึง”

“เออน่ะ กูก็หาไรทำแก้เซ็งไปเรื่อย ”

ผมว่าไอ้ฟิวนี่เอาไปฝึกซักหน่อยแม่งคงดมหายาบ้าได้ไม่ยาก เซ้นมันดีเกินไปจนกูกลัว

ครืดดดดดด ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดด

กำลังจะถอดเสื้อโยนลงตะกร้า ไอโฟนก็สั่นอยู่บนเตียงอย่างกะผีเข้า ผมขมวดคิ้วมองเบอร์โทรเข้าก่อนจะตัดสินใจรับสาย

“มึงมีไร”

(ถึงบ้านแล้วใช่มั้ย)

“เออ”

(แล้วมึงไปไหนมา หลังจากทิ้งให้กูนั่งแท็คซี่ไปเอารถ)

“กูบอกแล้วไงว่าไปตามหาแรงบันดาลใจ”

(ไอ้แต้มบอกว่าเห็นมึงไปกับน้ำทิพย์ดาวบัญชี)

ไอ้แต้มไหนกูไม่รู้จัก สงสัยเพื่อนไอ้เมล

“อือ กูไปจริงๆ แล้วไงวะ”

ไอ้เมลเงียบไปเลยครับ นี่แม่งคงจินตนาการอะไรแปลกๆ อยู่แน่ๆ สมองไอ้เมลไม่เคยคิดพ้นเรื่องใต้สะดือหรอก มันเงียบ เงียบ และเงียบ จากนั้นแม่งก็ตัดสายไป ผมมองไอโฟนในมืออย่างงงๆ

อะไรของมัน -_-

ผมครุ่นคิดความผิดปกติของไอ้เมลตั้งแต่อาบน้ำจนเข้านอน ฝันก็ยังเก็บเรื่องมันไปฝันอีก เอาจริงๆ คือผมไม่เคยเจอมันโหมดนี้ ไอ้ที่เงียบใส่แล้วตัดสายไปดื้อๆ นี่มันไม่เคยทำ ตื่นนอนอีกทีก็ตอนตีห้า ผมนอนไปแค่ชั่วโมงกว่าเอง ไม่รู้ทำไม

“เป็นไรวะ” ไอ้ฟิวถามขณะที่กำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้

“นอนไม่พอ”

“แล้วรีบตื่นทำไม มีเรียนบ่ายโน่น”

“ไม่รู้ กูนอนไม่ค่อยหลับ”

“แปลกนะมึง”

“เออ คงงั้น”

ไอ้ฟิวส่ายหน้าเอือมๆ ก่อนจะนั่งลงจัดการข้าวต้มถ้วยตัวเอง ผมกินเสร็จก็มานั่งดูข่าวรอบเช้า แปดโมงครึ่งไอ้กัสก็โผล่หัวมา โดนไอ้ฟิวเจริญพรรอบเช้าไปหนึ่งบทแต่มันก็รีบแจ้นขึ้นห้องไปได้อย่างรวดเร็ว

“เท็น ไปซื้อของกับกูหน่อย ของในตู้เย็นเริ่มหมดแล้ว”

ไอ้ฟิวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มือถือกระเป๋าตังค์กับกุญแจรถ เรื่องอาหารการกินนี่ไอ้ฟิวเป็นคนจัดการเอง แม่บ้านสองคนที่จ้างมาก็แค่ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ดูแลสวนก็แค่นั้น

“เออ ออกไปรอที่รถ กูขึ้นไปหยิบกระเป๋าตังค์เดี๋ยวตามไป”

ไอ้ฟิวพยักหน้าแล้วเดินออกไป ผมรีบขึ้นห้องมาเอากระเป๋าตังค์แล้วรีบลงไปหามัน เห็นมันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ผมเลยไปเปิดประตูรั้วรอ

“เท็น มีคนจะคุยกับมึง”

“ใครวะ”

จะคุยกับกูทำไมไม่โทรเข้าเครื่องกูล่ะ

“ไอ้เขต กูก็ไม่รู้ว่ามันรู้จักมึงได้ไง แล้วอยากคุยด้วยทำไม”

ผมรับเอสสามมาจากไอ้ฟิวที่ทำหน้างงไม่แพ้กัน ว่าแต่ไอ้เขตนี่เป็นใคร

“ดี”

(มึงเท็นใช่ป้ะ)

“ใช่”

(ช่วยมาหาไอ้เมลได้มั้ยวะ มันเมาเป็นหมาแล้วเนี่ย)

“มึงเพื่อนไอ้เมลเหรอ”

(อืม เฮ้ยยย พอแล้วไอ้เหี้ย จะแดกให้ตายไปเลยไงวะ เอ่อ เท็น มึงรีบๆ มานะ เดี๋ยวกูบอกที่อยู่ให้)

“แล้วเกี่ยวไรกับกูวะ”

(เออน่า มารับมันหน่อย ถือว่ากูขอร้อง)

“มึงขอร้อง?”

กูต้องทำตามคำขอร้องของคนที่แม้แต่หน้ากูก็ไม่เคยเห็นเหรอ ตลกแดกแล้วมึง -_-

(มึงนี่กวนตีนใช่เล่น มึงมารับมันหน่อยเถอะ มันนั่งแดกตั้งแต่ตีสี่แล้ว กูรีบไปเรียน ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียว)

ผมมองนาฬิกาข้อมือก็ต้องขมวดคิ้ว ไอ้ห่าเมลเหลวไหลมากขนาดนี้เลยเหรอวะ หน้าตาก็ไม่ได้โง่จนคิดไม่ได้สักหน่อย

“เออ เดี๋ยวกูไปรับมันละกัน”

ผมรับปากไปทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะไปรับมันทำไม เพื่อนคนอื่นมันไม่มีไงวะ -_-

“กูไปทำธุระก่อน มึงขึ้นไปปลุกไอ้กัสให้ไปเป็นเพื่อนละกัน แล้วเจอกันที่มอ”

“อ้าว ธุระไรวะ”

“ธุระส่วนตัว”

ผมต้องขึ้นห้องไปเอากุญแจรถตัวเอง ไอ้ห่าเมลนี่จะเป็นภาระกับชีวิตกูไปถึงไหน ไม่มีใครสั่งใครสอนมันรึไงว่าไม่ให้แดกเหล้ายันเช้าแบบนี้

ผมมาถึงคอนโดไอ้เขตตามที่มันบอกทางให้ ขึ้นไปที่ห้องมัน เคาะแค่ครั้งเดียวประตูก็เปิด ไอ้ตี๋หน้าขาวที่บอกผมว่ามันชื่อเขตชี้ให้ดูสภาพไอ้เมลบนโซฟา ก็ไม่ถึงกับแย่เพราะมันยังนั่งกินได้อยู่ ไม่ถึงกับนอนกอดขวด

“กูไปนะ ให้มันสร่างก่อนแล้วมึงค่อยพากลับก็ได้ ถ้าออกไปก็ล็อคประตูให้กูด้วย” ไอ้เขตรีบแจ้นออกไปทันที

ผมเดินมาที่โซฟาใช้ตีนสะกิดขาไอ้เมล แต่มันไม่สนใจ

“พอ ไม่ต้องแดก” ผมคว้าแขนมันไว้แล้วดึงแก้วออกจากมือมัน ไอ้เมลเงยหน้าขึ้นมองผม หน้าแดงตาแดง แต่เหมือนยังมีสติ

“มาได้ไง”

“เพื่อนมึงโทรเรียกกูมา”

ไอ้เมลปัดมือผมออกจากแขนมัน แล้วยกดื่มทั้งขวด หึ ไอ้ห่านี่ ขวดเหล้าฟาดหัวให้แตกซะดีมั้ยวะ

“เป็นเหี้ยไร”

“อย่างกะมึงสน”

“กูแค่ถาม จะตอบไม่ตอบก็เรื่องของมึง”

มันหันมามองผมนิ่ง ไม่พูดอะไรต่ออีก เอาแต่ยกเหล้ากรอกปากอย่างเดียว ส่วนผมก็ขี้เกียจห้าม อยากแดกนักกูก็จะนั่งมองมึงแดกนี่แหละ เรื่องกดดันคนผมถนัดแบบไม่ต้องมีใครสอนเลย เป็นมาตั้งแต่เกิด

เพล้ง!

ขวดเหล้าบินผ่านหน้าผมไปกระทบกับผนังข้างหลัง ถ้าโดนหัวกูนี่ไม่รู้จะเย็บกี่เข็ม

ไอ้เมลที่โกรธขนาดนี้ผมเพิ่งเคยเห็น ปกติมันอมยิ้มกวนตีนหรือไม่ก็ทำหน้านิ่งเก๊กอวดสาว

“มึงบอกกูมา มึงไปทำอะไรกับอีนั่น”

“มึงพูดถึงใคร”

“ผู้หญิงที่มึงไปด้วยเมื่อคืน”

“คนไหน”

“ไอ้เหี้ยเท็น!”

เอ้า กูพูดอะไรผิด เมื่อคืนนอกจากน้ำทิพย์แล้ว ผมก็พาน้องขิมไปขับรถเล่น ปิดท้ายด้วยพาน้องเมย์ไปนั่งฟังเพลง คือ กูไม่ใช่ผู้ชายที่จะอยู่กับผู้หญิงคนไหนได้เกินสามชั่วโมงหรอกนะ -_-

“งี่เง่าว่ะเมล กูแค่ตอบแทนที่เขาเอาของให้กู กูผิดตรงไหน แค่พาไปแดกข้าว ฟังเพลง ขับรถเล่น”

“ก็กูไม่ชอบ!”

“เออๆ แค่เห็นหน้ามึงกูก็รู้แล้ว ใจเย็นๆ หน่อยสิวะ”

เวลาน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางครับ ยิ่งเรือเล็กๆ อย่างเราแล้วต้องไหลตามกระแส

“ไป ลุก กูจะกลับแล้ว ถ้าไม่ไปมึงก็นั่งแท็คซี่กลับเองละกัน”

ไอ้เมลยังคงหน้าบึ้ง แต่ก็ยอมเดินตามผมออกมา ไอ้ห่านี่สงสัยจะเป็นตัวก่อกวนความสงบสุขในชีวิตผมแน่ๆ กูทำนายอนาคตไว้ได้เลย -*-

..............................To be continue...............
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 3 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 16-08-2013 20:56:49
สะใจจริงๆนายเอกไม่สนใจพระเอกเนี่ย5555 ชอบเท็นอะ คาแลคเตอร์แปลกดี มึนๆไม่สนใจโลกภายนอก

เมลนี่ต้องตามรักตามก้นเท็นเลยทีเดียว ขี้หึงด้วย เผลอๆอาจจะหึงเป็ดก็ได้นะ เพราะเท็นดูท่าจะให้ความสนใจมากกว่า กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 3 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 17-08-2013 00:24:29
โอ๊นคนแต่งคะ ชอบมากเลยขอบอก นิสัยมันตรงรสนิยมเราจริงๆ อ๊ากๆๆๆ
อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่อยากให้หมดตอนเลย เห็นเขียนว่าเอามาลงเท่านี้ มีอีกสินะที่ไหนยังไงบอกด้วยจะตามไปอ่าน!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 3 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 17-08-2013 02:56:22
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-08-2013 18:04:44
มาอีกตอนแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำติชมนะคะ แหะๆ
เพิ่งสังเกตว่าตัวหนังสือมันติดกันเป็นพรืดเลย ดูแล้วอ่านยาก มีอะไรไม่ดีหรือต้องปรับแก้ตรงไหนบอกได้นะคะ
เรื่องนี้ลงที่เล้าเป็ดที่เดียวนะคะ ไม่มีที่อื่น ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ


ตอนที่ 4

ปึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เจ้าของห้องแม่งทำเหี้ยไรอยู่วะ ทำไมไม่รีบมาเปิดประตู กูเคาะจนมือจะหักอยู่แล้วไอ้สัด ผมทุบประตูต่อไปอีกสักพักประตูก็เปิด

“เอาไก่มาส่ง ทำไรอยู่ครับคุณ” ผมยื่นของที่ลูกค้าโทรสั่งให้ อ๋อ ไม่ต้องงงครับ ผมว่างเลยมาทำงานพาร์ทไทม์ส่งไก่ตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง

“อ้าว เฮ้ยยยยย!” ไอ้เมลที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้ผืนเดียวร้องเสียงดัง ดูหน้าก็รู้ว่าแม่งคงตกใจมากกว่าผม

ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน ก่อนจะพยายามมองเข้าไปในห้องที่มันเอาตัวล่ำๆ ขาวๆ ของมันบังไว้

“หึ ได้ของครบนะครับ ทั้งหมด สามร้อยแปดสิบเก้าบาท”

“เท็น มึงมาทำไรที่นี่”

“ส่งไก่ไงครับไอ้ควาย คุณเห็นว่าผมถือเหี้ยมาให้รึไงครับ”

ไอ้เมลมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูมันยังคงตกใจและไม่เชื่อว่านี่เป็นผม หึ ไอ้เหี้ยนี่คอนโดตัวเองมีไม่อยู่

“เอาเงินมาครับ กูจะได้รีบไป”

“เดี๋ยว มึง กูไม่ได้...”

“เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวอะไรกับกู เอาเงินมา”

“เท็น อย่าพูดงี้สิวะ”

“เมลคะ มีอะไรกันเหรอ”

มาได้จังหวะเหมือนมีคนวางวอล์คกิ้งให้ เถอะ ค่าไก่แค่นี้กูจ่ายให้ถือว่าทำบุญให้เหี้ยละกัน ไอ้เมลทำตัวได้กวนส้นตีนผมมากไปแล้ว ตังค์ไม่จ่ายแถมยังจะหน้าด้านแก้ตัวทั้งๆ ที่หลักฐานมัดตัวแน่น

“พนักงานร้านนี้มารยาทแย่จังเลยนะคะ”

ขนาดผมเดินมาไกลแล้วยังได้ยิน ตบปากผู้หญิงนี่ติดคุกมั้ยวะ เอาเถอะ ผมว่าจะลาออกพอดี อยากทำอะไรใหม่ๆ บ้าง งานต่อไปผมเล็งไว้แล้วล่ะว่าจะทำอะไร

.
.
.

“คราวนี้คิดจะทำอะไรอีกล่ะ” ไอ้ฟิวถาม

ผมกำลังใส่รองเท้ากีฬาเตรียมไปเต้นแอโรบิกที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน เช้านี้อากาศกำลังดี เหมาะแก่การออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เอาเหงื่อออกบ้างจะได้หายหงุดหงิด แค่พังไอโฟนทิ้งยังไม่พอหรอก ต้องโทษไอ้เหี้ยเมลที่หน้าด้านไม่มีใครเกิน กระหน่ำโทรมาไม่หยุด รู้ว่ากูไม่อยากคุยก็โทรมาอยู่ได้

“กูจะไปเรียนทำเค้ก กูอยากเปิดร้านเค้ก”

“คือ กูพูดจริงๆ นะเท็น มึงหยุดคิดทำอะไรสักทีเถอะ ไปเรียนบ้างมันจะตายไงวะ”

“ก็กูไม่ว่าง”

“ไอ้เหี้ยนี่ ที่ไม่ว่างเพราะมึงมัวแต่ไปทำงานห่าอะไรก็ไม่รู้ มึงคิดแบบปกติอย่างที่ชาวบ้านเขาคิดบ้างได้มั้ยวะ หยุดทำตัวให้แม่มึงปวดหัวซะทีเถอะ”

“ตอนนี้แม่กูอยู่ลอนดอน หายห่วง”

“เฮ้อ เรื่องของมึงละกัน ขากลับซื้อน้ำเต้าหู้มาให้กูด้วย กูขึ้นไปนอนต่อละ”

วันไหนที่ไม่ได้ยินไอ้ฟิวบ่นเรื่องผมวันนั้นหิมะคงตกที่เมืองไทย ไอ้กัสเดี๋ยวนี้ก็ไม่อยู่ติดบ้าน เลยมีแต่ผมที่ต้องฟังมันบ่น

ผมกำลังขึ้นขี่จักรยานก็พอดีกับที่เบนซ์สปอร์ตคันหนึ่งมาจอดขวางประตูรั้ว แค่เห็นหน้าคนขับตอนมันลดกระจกลงกูก็แทบอยากจะเดินกลับเข้าบ้าน

“มึงจะไปไหนแต่เช้า” ไอ้เมลถามผม มันดูหล่อในชุดนักศึกษาที่ไม่ผูกไท เปิดประตูลงจากรถมายืนขวางหน้าจักรยานของผม

“เรื่องของกู”

“คุยกันหน่อย ไม่นาน”

“กูไม่ว่าง ถอยไป ไม่หลีกกูชน”

“เท็น ฟังกูหน่อยได้มั้ยวะ”

“มึงจะมาเห่าอะไรล่ะ กูฟังภาษาหมาไม่รู้เรื่อง”

ไอ้เมลทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ยอมถอย

“ไอ้เหี้ย เสียเวลากู มึงจะพูดไรก็พูดมา”

“ไปนั่งคุยกันดีๆ”

“ตรงนี้ก็ได้นี่ มึงบอกว่าไม่นาน”

“มึงอยากให้ไอ้ฟิวรู้”

ผมจ้องตาวัดใจกับไอ้เมลอยู่สักพักก็ตกลงยอมพามันขึ้นมาคุยบนห้อง พอประตูปิดลงไอ้เมลก็เข้ามาชาร์ตตัวผมทันที

“มึงโกรธกูเหรอ กูขอโทษนะ”

“กูไม่ได้โกรธ จะโกรธมึงเรื่องไร”

“ถ้าไม่โกรธแล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์กู”

“กูไม่ว่าง”

“กูไม่เชื่อ ที่มึงเห็นนั่นไม่ใช่อย่างที่คิดนะ”

“กูคิดอะไร ไหนมึงพูดมาซิ”

“มึงคิดว่ากูกับน้ำมีอะไรกันใช่มั้ย มันไม่จริงเลยนะ น้ำเขาเอารายงานมาให้กู ตอนนั้นกูกำลังจะอาบน้ำ เขามาก่อนมึงแป๊บเดียวเอง แล้วมึงก็ทุบอย่างกะจะพังประตูเข้ามา กูเลยต้องรีบไปเปิดให้”

“นั่นคอนโดมึงเหรอ”

“อืม”

“บังเอิญจนเหมือนไม่จริงเลยไอ้เหี้ย แล้วคอนโดมึงที่พากูไปก็ไม่ใช่ที่นั่นด้วย”

“เตี่ยกูซื้อทิ้งไว้หลายที่ เท็น เชื่อกูสิว่ามันไม่มีอะไร”

ไอ้เมลมันเฟคเก่ง ต่อให้มันทำหน้าซื่อ ยืนยันหนักแน่นว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริงผมก็ทำใจเชื่อไม่ลง แต่เอาเถอะ ในเมื่อมันกล้าพูดขนาดนี้ ผมก็ไม่รู้จะเล่นตัวไปทำไม

“มึงไม่ต้องมาขอโทษจริงจังอะไรขนาดนี้ก็ได้ เราก็แค่คบกันเล่นๆ ไม่ต้องเกรงใจอะไรกูมากหรอก”

ไอ้เมลหน้าบึ้งขึ้นมาทันที ผมพูดอะไรผิดอีกล่ะ ก็ตกลงกันไว้แบบนี้ไม่ใช่ไงวะ วันที่มันซื้อขนมจีบมาให้ผมน่ะ ผ่านมาแค่ไม่กี่สัปดาห์แม่งทำลืมแล้วเหรอ

“มึงใจร้ายมากนะ”

“เหี้ยนี่ชอบดราม่าใส่กู แล้วนี่มึงแดกไรมารึยัง”

“แดกไม่ลง มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ตายหรอก อยู่แก้เบื่อให้มึงได้อีกนาน”

“เออ แม่งงงงง พูดแค่นี้ต้องประชด”

ครืดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดด

โนเกียอาช่าข้างซากไอโฟนของผมสั่นกราวแบบไม่เกรงใจใคร เครื่องนี้ไว้สำหรับสาวๆ ที่ต้องการติดต่อกับผม ส่วนไอโฟนที่ผมพังไปน่ะไว้สำหรับคนในครอบครัว ไอ้กัส ไอ้ฟิว และไอ้เมลเท่านั้น ผมยังมีอีกเครื่องไว้สำหรับเพื่อนในคณะ ต่างคณะก็ว่ากันไป

“ว่าไงครับเดียร์ โทรหาพี่แต่เช้ามีอะไร เฮ้ยยยยยย”

ไอ้เมลเล่นอะไรของมัน ผมเกือบหัวฟาดพื้น ดีที่มันจับผมเหวี่ยงลงบนเตียง ผมเลยนอนแผ่หรามีไอ้บ้าหน้าหล่อคร่อมอยู่ข้างบน ขาสองข้างโดนกดไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

(เดียร์อยากชวนพี่เท็นไปดูหนังเย็นนี้ค่ะ เดียร์จองตั๋วไว้แล้ว พี่เท็นไปกับเดียร์นะคะ)

น้องเดียร์นี่เป็นพวกชอบมัดมือชกแล้วพูดเองเออเองซะส่วนใหญ่ ถ้าเลี่ยงได้ผมก็เลี่ยงทุกครั้ง แต่น้อยครั้งที่จะเลี่ยงได้ เพราะถึงยังไงน้องก็ยังมีประโยชน์กับผมอยู่ ตอนนี้ผมกำลังใช้เส้นน้องเดียร์ขอเข้าไปเรียนทำเค้กกับร้านที่ทางบ้านน้องเป็นเจ้าของ

“อา...ครับ ได้สิครับ ไม่มีปัญหา งะ...งั้นพี่ไปรับนะครับ”

(ดีใจจังเลยค่ะ งั้นเดียร์จะรอนะคะ พี่เท็นต้องพาเดียร์ไปทานข้าวด้วยนะ)

“คะ...ครับ แล้วเจอกันครับ”

ผมวางสายจากน้องเดียร์แล้วก็รีบทึ้งหัวไอ้เมลที่ทำอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ แล้วกางเกงผมนี่ถอดง่ายขนาดนั้นเลยไงวะ ผมว่าผมมัดแน่นแล้วนะเชือกกางเกงเนี่ย

“ไม่คุยต่อล่ะ น้องเดียร์อะไรนั่นคงอยากได้ยินเสียงมึงคราง”

“เหี้ย พูดมาก รีบๆ ทำ กูจะไปเต้นแอโรบิก”

“หึ ให้ทำจริง”

“กูหมายถึงให้ทำเหมือนทุกครั้ง ยังไม่ถึงเวลาที่มึงจะข้ามขั้น”

ไอ้เมลทำหน้าขัดใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าที่ผมอนุญาต ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากลอง แต่มันคงเจ็บไม่คุ้มกัน ของไอ้เมลก็ไม่ใช่ขนาดของเด็กอนุบาล ขืนให้มันทำจริงๆ ผมได้เดี้ยงคาเตียงแน่

.
.
.

“มึงนวดเลยไอ้เหี้ย โคตรเมื่อยอ่ะ” ผมยื่นแขนไปให้ไอ้เมลนวด มันอมยิ้มทำหน้าระรื่นแล้วก็ยอมนวดให้

“เมื่อยขนาดนี้มึงจะขับรถไหวเหรอ เย็นนี้ให้กูขับไปให้มั้ย”

“เออ ยังดีที่รู้จักรับผิดชอบ”

“ถ้ายอมให้กูทำมึงก็ไม่ต้องเมื่อยแล้ว”

“กูคงได้เดี้ยงแล้วลุกไม่ขึ้นเลยดิ ผิดที่มึงนั่นแหละ แตกกี่รอบก็ไม่รู้จักสงบ”

“ไม่เกี่ยว มึงใช้ปากไม่เก่งเอง”

“เออ ไม่เก่งเลย แตกคาปากกูไปสองรอบ ห่า ดูถูก”

“อ้าวเหรอ”

ทำหน้าได้ตอแหลมากไอ้เมล ผมทุบอกมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ มันทำหน้าสำออยใส่แล้วก็เข้ามาจูบปากผม สรุปแล้วเต้นแอโรบิกผมก็ไม่ได้ไป แถมไอ้ฟิวคงนอนฝันว่าได้ดื่มน้ำเต้าหู้ตอนตื่นนอนอยู่แน่ๆ

“มึงมีเรียนกี่โมง” ผมถาม มองดูเสื้อนักศึกษาที่ยับยู่ยี่ของมัน เหลือบมองนาฬิกาก็เกือบเที่ยงแล้ว

“บ่ายสอง”

“งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อได้แล้วไป อุ๊บ!”

ให้กูพูดให้จบประโยคหน่อยเถอะ มึงติดใจอะไรลิ้นกูนักหนา เดี๋ยวตัดให้ไปดูดเล่นที่บ้านเลยมั้ยล่ะ -*-

“เมล พอแล้ว ไอ้บ้านี่ รีบไปก่อนไอ้ฟิวมันจะตื่น”

“มึงก็อย่างนี้ตลอด มึงจะให้กูหลบๆ ซ่อนๆ ไปถึงไหนวะ กูมีอะไรให้มึงอาย”

“ไอ้ควาย ดราม่า”

ไอ้เมลหน้าบึ้ง กระฟัดกระเฟียดลงจากเตียง คว้ากางเกงมาใส่แบบกระแทกกระทั้น เหมือนกำลังบอกให้ผมรู้ ว่ากูไม่พอใจมาก อะไรประมาณนั้น

“กูไม่ได้อาย แต่แบบนี้มันตื่นเต้นดีนี่หว่า น้อยใจไปได้ไอ้บ้า”

“ขอให้คิดอย่างที่มึงพูดเถอะ”

“ทำโกรธๆ กลับไปเปลี่ยนเสื้อแล้วมารับกูด้วย”

“ทำไมกูต้องวนรถไปๆ มาๆ วะ มึงก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปกับกูเลยดิ”

“เออ มึงฉลาดว่ะ”

ด้วยเหตุฉะนั้นผมจึงรีบอาบน้ำแต่งตัว ไอ้เมลหยิบชีทลงกระเป๋าสะพายให้ มันคงคิดว่าผมจะไปเรียน ผมเลยปล่อยให้มันคิดอย่างนั้นไปก่อน เพราะถ้ามันรู้ว่าผมจะโดดเรียนมันคงใช้กำลังลากผมไปเรียนแน่ ไอ้เมลมันไม่พูดมากเหมือนไอ้ฟิว แต่มันจะใช้กำลังบังคับเลยทีเดียว

“เมล ซื้อเครื่องใหม่ให้กูด้วย เมื่อเช้ากูละเมอขว้างมันใส่ผนัง” ผมชี้ไปที่ซากไอโฟนของตัวเอง ไอ้เมลเหลือบตามองผม หยิบลูกรักอาช่าที่ใช้รับสายเฉพาะสาวๆ ของผมขึ้นมา

“จะซื้ออีกทำไม มึงทำพังเอง หึ ละเมอ ไม่อยากรับสายกูล่ะสิไม่ว่า แล้วนี่ก็ยังมีอีกเครื่อง”

ผมล่ะเกลียดคนรู้ทัน

“ชีวิตกูใช้มือถือเครื่องเดียวไม่ได้ เข้าใจมั้ย”

“ชีวิตสิ้นเปลืองล่ะสิมึง เดี๋ยวแวะห้างก่อนเข้ามอละกัน”

“มึงซื้อให้กูนะ”

“เออ ไปกันได้ยัง”

“ก็เดินออกไปดิ กูจะล็อคห้อง”

ไอ้เมลผลักหัวผมก่อนจะเดินออกไป ผมเดินตามหลังมัน จัดการล็อคประตูก็พอดีกับที่ประตูห้องที่อยู่เยื้องกันเปิดออกมา ไอ้ฟิวในชุดนักศึกษาถูกระเบียบมองมาทางผมเรื่อยไปถึงไอ้เมลแล้วกลับมามองผมอีกที

“เมลมาเมื่อไหร่” ไม่รู้มันถามใครเพราะมันมองหน้าผมแต่เอ่ยชื่อไอ้เมล ผมเลยไม่ตอบ ไอ้เมลก็เงียบ เมื่อไม่ได้คำตอบไอ้ฟิวเลยถามต่อ

“พวกมึงนี่ แปลกๆ นะ มีอะไรปิดกูรึเปล่าวะ สนิทกันผิดปกติ บางทีก็ขลุกอยู่ด้วยกันทั้งวันในห้องแถมยังล็อคประตู”

สงสัยอะไรก็เก็บไว้บ้างก็ได้ ไม่เห็นต้องพูดออกมาเลยนี่หว่า

“กูติวแคลสามให้ไอ้เมล ไม่อยากให้ใครกวนเลยล็อคประตู แปลกตรงไหนวะ”

“จริงเหรอเมล” ไอ้ฟิวทำหน้าไม่เชื่อผม มันหันไปถามไอ้เมลที่ไม่รู้อมยิ้มเหี้ยไร

“คงงั้น”

“แล้วนี่พวกมึงจะไปมอใช่ป่ะ กูไปด้วยดิ”

“รถมึงล่ะ” ไอ้ฟิวแม่งก้างชีวิตผมจริงๆ

“กูขี้เกียจขับ มึงยังไปกับเมลได้ กูไปไม่ได้ไงวะ”

“หึ ขี้อิจฉาไอ้สัด”

ผมตบหัวไอ้ฟิวด้วยความหงุดหงิด ไอ้ห่าเมลก็ไม่คิดจะห้ามไอ้ฟิวหรอก ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีจนเกินจำเป็นเลยมันน่ะ ฟิวกินข้าวรึยัง เพิ่งตื่นเหรอ พอไอ้ฟิวตอบว่านอนดึก แม่งก็รีบถามหน้าตาเป็นห่วงเป็นใยว่าเป็นไรถึงนอนดึก ดูแลสุขภาพบ้างนะ บลาๆๆๆๆๆ แล้วไอ้ฟิวนี่ก็พูดจาภาษาดอกไม้เลยนะคุณ กับผมนี่มึงๆ กูๆ กับไอ้เมลนี่ เมลอย่างนั้น ฟิวอย่างนี้ ไอ้เหี้ยเมลก็ไม่ต่างกัน เจริญพรเถอะพวกมึง

“พวกมึงไปเรียนกันเลย กูมีธุระต้องไปทำ” ผมบอกเมื่อมาถึงมอ เรื่องที่จะแวะห้างเป็นอันต้องยกเลิกไปเพราะไอ้ฟิวมันนั่งตาแป๋วอยู่เบาะหลัง หาข้ออ้างจะแวะไม่ได้

“ธุระอะไร ตั้งแต่เปิดเทอมมึงยังไม่เข้าวิชานี้เลยนะเท็น” ไอ้ฟิวแว๊ดๆ ขึ้นมา แต่วันนี้เสียงมันรำคาญหูผมเป็นพิเศษ

“เรื่องของกู” ผมตอบ จ้องหน้ามันนิ่ง ไอ้ฟิวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะไม่บ่อยที่ผมจะมองมันแล้วใช้น้ำเสียงแบบนี้

“เท็น ฟิวก็แค่เป็นห่วงมึงนะ พูดอย่างนี้ได้ไงวะ”

“มึงก็หุบปากได้แล้วไอ้สัด น่ารำคาญ”

“เท็น!”

ผมหงุดหงิดแบบไม่ทราบสาเหตุ เลยรีบเดินออกมาเพราะกลัวจะพาลคนอื่นมากกว่านี้ ธุระเหี้ยอะไรนั่นก็ไม่มีหรอก ขอให้ผมเดินออกมาให้พ้นหน้าสองคนนั้นผมก็คงคิดออกเองแหละว่าจะต้องมีธุระอะไร

ผมเดินเตร่ออกจากลานจอดรถของตึกคณะมาจนถึงบึงขนาดใหญ่หลังตึกคณะเกษตรฯ ในที่สุดผมก็มาจบอยู่ที่นี่อีกจนได้ ผมไม่อยากหาสาเหตุของอาการหงุดหงิดที่เกิดขึ้นเฉียบพลันนั่นหรอก มันน่าอายแถมยังเป็นเรื่องที่ไม่อยากยอมรับ

“ไงมึง คิดแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่ หงุดหงิดใส่ไอ้ฟิวเหรอวะ มันโทรหากูเสียงเครือซะ” ไอ้กัสที่ผมเพิ่งจะได้มีโอกาสเห็นหน้ามันในรอบห้าวันโผล่มายืนอยู่ข้างหลัง

“ไม่มีไร แล้วมึงไม่เข้าเรียน”

“กูโดดเป็นเพื่อนมึงไง หึหึ”

ผมมองหน้าตอแหลของไอ้กัสก่อนจะจุดไฟสูบบุหรี่ ตอนนี้อารมณ์ผมติดลบมาก มองอะไรก็น่าเบื่อ ไม่อยากทำห่าไรซักอย่าง แค่เสียงใบไม้โดนลมพัดผมยังนึกรำคาญ

“ไอ้ฟิวชอบไอ้เมล” จู่ๆ ไอ้กัสมันก็พูดขึ้นมา เรื่องที่ไอ้ฟิวชอบไอ้เมลนั้นเป็นข่าวใหม่สำหรับผม

“บอกกูทำไม”

“กูพูดลอยๆ แค่คิดว่ามึงน่าจะอยากรู้ มันชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง มึงมันพวกไม่สนใจโลก มันเลยมาปรึกษาแค่กับกู ไอ้ฟิวบอกชอบไอ้เมลเมื่อเทอมก่อนแต่ไอ้เมลบอกว่าคิดกับมันแค่เพื่อน ช่วงนั้นมึงไปคาสิโนเกือบสองเดือนเลยไม่รู้เหี้ยไร”

“กูไม่อยากรู้เรื่องชีวิตรักของใคร”

“กูก็แค่พูดให้ฟัง แล้วมึงมีไรก็น่าจะบอกมันหน่อย ไอ้ฟิวมันอ่อนไหวง่ายมึงก็รู้”

ผมรู้สิ ก็รู้จักมันมาตั้งแต่จำความได้ ไอ้กัสด้วยนั่นแหละ พวกเราเป็นเพื่อนที่ไม่ค่อยมีอะไรเหมือนกัน ความคิดเห็นต่างกันเกือบทุกครั้งที่มีเรื่องต้องตัดสินใจร่วมกัน ความชอบก็ไม่เหมือนกันเลย ขัดแย้งกันทะเลาะกันรุนแรงก็บ่อย แต่พวกเราก็ไม่เคยเลิกคบกัน

น้อยครั้งที่ผมจะทะเลาะกับไอ้ฟิวเพราะมันขี้แย แค่เห็นผมกับไอ้กัสทึ้งหัวกันมันก็ร้องนำเป็นคนแรกแล้ว มีแต่มันที่คอยดูแลผมกับไอ้กัสเหมือนแม่ที่ดูแลลูกชายอะไรอย่างนั้น ให้มันเป็นพี่ชายผมก็นึกภาพไม่ออกหรอก

ผมยอมรับว่าผมไม่ได้สนใจเรื่องอะไรของไอ้ฟิวกับไอ้กัสมากนัก ผมถือว่าเป็นการใช้ชีวิตของแต่ละคน ผมก็มีชีวิตของผม จะยื่นมือเข้าไปยุ่งกับชีวิตของพวกมันก็เมื่อได้ยินพวกมันเอ่ยปากให้ช่วยเท่านั้น

“ไอ้ฟิวบอกว่ามึงอยากเปิดร้านเค้ก” ไอ้กัสเมื่อไม่ได้คำตอบจากผมมันก็เปลี่ยนเรื่องคุย มันรู้ดีว่าผมไม่ชอบให้พูดอะไรซ้ำซาก

“กูแค่คิดไว้ ว่าจะเริ่มไปเรียนทำเค้กวันเสาร์นี้ น่าจะหายเบื่อบ้าง”

“เดี๋ยวมึงก็เลิกทำ หาอะไรที่มันเวิร์คกว่านี้ไม่ดีเหรอวะ ถ้าไปเรียนนั่นกูเห็นด้วยนะ แต่ถึงขนาดเปิดร้านนี่กูไม่เห็นด้วย ไม่ใช่แค่มึงเปิดแล้วจะขายได้ มึงต้องศึกษาตลาด เงินลงทุน ทำเลที่ตั้ง ความต้องการของลูกค้า จะจ้างพนักงานก็ต้องหาคนที่เป็นงาน ไหนจะหาซื้ออุปกรณ์ แล้วห่าอะไรอีกตั้งเยอะ วุ่นวายขนาดนี้มึงยังอยากทำ?”

พูดซะผมเห็นภาพเลย นี่ผมลองโทรไปถามไอ้เต๋อดีมั้ยว่าไอ้ฟิวยังหายใจอยู่ในห้องเรียนโดยปกติ ไม่ได้ถอดร่างมาสิงไอ้กัส

ผมยืนมองเป็ดว่ายน้ำพลางคิดตามที่ไอ้กัสมันพูด ที่มันพูดก็ดูจะถูกทุกอย่าง แต่ผมก็อยากไปเรียนทำเค้กอยู่ดี มันน่าสนุกใช่เล่น

“เท็น ตั้งแต่เด็กมึงก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ พวกกูชอบอยู่กับมึงเพราะมึงชอบหาอะไรมาทำได้เรื่อยๆ มึงเป็นคนเบื่อง่าย ทำอะไรได้ไม่นานมึงก็เบื่อ แล้วที่มึงทำเล่นๆ มันก็ออกมาดีอย่างไม่น่าเชื่อ มึงใช้ชีวิตได้เต็มที่มากในสายตากู แต่ไม่ใช่กับความรัก มึงเล่นไม่ได้หรอกนะเรื่องนี้ กูขอเตือน”

“ไอ้ฟิวเข้าสิงมึงแน่ๆ”

“กูก็พูดมีสาระเป็นเว้ย แค่ไม่อยากพูด”

“คนที่มีเมียเด็กชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่เหรอวะ หึหึ”

“ต้องลองเองแล้วมึงจะติดใจ”

“ติดใจหรือติดสัด ปล่อยให้กูฟังไอ้ฟิวบ่นอยู่คนเดียว”

“เออน่า มันห่วงนั่นแหละถึงได้บ่น”

ผมยืนเงียบมองไปตามผิวน้ำอยู่นาน ครอบครัวชาวเป็ดก็ว่ายน้ำกันอย่างสำราญใจ ผมสงสัยว่าเป็ดมันจะต้องมาคิดโน่นคิดนี่อย่างคนมั้ย ที่มันว่ายน้ำอยู่ทุกวันมันมีเหตุผลอะไรรึเปล่า หรือแค่ทำไปเหมือนกับที่นกต้องบิน

“คืนนี้มึงนอนหอในใช่มั้ย” ผมถามไอ้กัสที่ยืนอยู่ข้างๆ มันเหมือนคนหลับในมากกว่าดื่มด่ำกับธรรมชาติ

“คงงั้น โปรโมชั่นจัดเต็มหน่อย”

“ก็ดี งั้นมึงเอากุญแจรถมา”

“ทำไมวะ มึงจะไปไหน”

“กูอยากเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ”

ไอ้กัสทำหน้าเอือมระอาใส่ผม ก่อนจะยอมส่งกุญแจรถให้

“ขับรถดีๆ ละกัน มึงนี่มันเหลือเกิน นึกจะไปก็ไปซะเดี๋ยวนั้น เพราะไอ้นิสัยบ้าๆ นี่แหละ คุณหญิงแม่ของมึงถึงได้ห่วงนักห่วงหนา”

“กูรู้ขอบเขตตัวเองน่า”

“มึงไม่รู้หรอกเท็น มึงขยายขอบเขตตามความต้องการของมึง ไม่งั้นมึงไม่หายไปคาสิโนเกือบสองเดือนหรอกไอ้สัด จะไปก็ไม่มีบอกใครไว้ ทั้งป๋าทั้งแม่มึงเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร”

“เรื่องมันแล้วไปแล้ว มึงอย่าคิดมาก”

“พูดซะเหมือนว่ากูเป็นคนก่อเรื่องนะ แล้วมึงไปคราวนี้ก็กลับด้วย อย่าให้ต้องไปแจ้งตำรวจกันอีก”

ผมพยักหน้ารับส่งๆ ไป ไอ้กัสมองผมอย่างไม่แน่ใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนมันจะถอนหายใจออกมา

“ถ้ากูไปถึงแล้วจะไลน์มาบอก ถึงตอนนั้นมึงค่อยบอกไอ้ฟิวละกันว่ากูไปไหน ขี้เกียจวุ่นวาย”

“เออ ขากลับซื้อปลาหวานมาให้กูด้วย”

“ถ้ากูไม่ลืม”

ไอ้กัสเดินเป็นเพื่อนผมมาถึงรถของมันที่ลานจอดรถ มันบอกผมให้ไปเช็คลมยาง ตรวจสภาพรถอะไรให้เรียบร้อยก่อนไป ถึงผมจะไม่ได้บอกมันว่าผมจะไปที่ไหน แต่มันคงรู้ว่าผมต้องไปไกลแน่ ความจริงมันก็เดาถูกเพราะผมคิดจะไปทะเลทางภาคใต้แต่ยังไม่แน่ว่าจังหวัดไหน ผมชอบขับไปเรื่อยๆ ถูกใจที่ไหนก็แวะที่นั่น เอาแน่เอานอนไม่ได้

หลังจากที่ขับรถมาหลายชั่วโมงผมก็ตัดสินใจแวะพักโรงแรมเพราะขืนขับต่อไปได้ตายก่อนเกณฑ์ทหารแน่ ทั้งเมื่อยทั้งเพลีย ก่อนนอนก็ไลน์ไปบอกไอ้กัสว่าไม่ต้องห่วง มันส่งสติ๊กเกอร์หมีทำหน้าเซ็งกลับมาให้ จากนั้นผมก็จัดการปิดมือถือป้องกันการรบกวน เพราะไอ้เมลกับไอ้ฟิวแม่งกระหน่ำโทรเข้ามารวมๆ ก็เกือบร้อยสายแล้ว ไอ้เมลนี่ยิ่งหนักกว่าไอ้ฟิวเพราะมันทั้งไลน์ ทั้งข้อความ ทั้งวอทแอป แทงโก้ คาคาโอ คือทุกอย่างที่มันจะติดต่อผมได้ มันส่งมาหมด ผมนับถือในความพยายามของมัน แต่ไม่ได้เห็นใจ

..............................To be continue...............
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-08-2013 20:36:49
เมลทำไมต้องทำให้เท็นหึงด้วย ไม่ชอบๆ เมลต้องหึงเท็นสิเอ้อ

แล้วฟิวชอบเมลจริงเหรอ? หรือแค่โกหกหลองใจเท็นกันนะ ฮึ่ย

ยังไงก็ชอบนายเอกอะ เอฟซีเท็น

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 17-08-2013 21:52:26
เท็นน่ากลัวตรงที่น้องจะลอยได้ตลอดเวลา คนที่คิดจะรักน้องต้องรู้จักว่าควรปล่อยน้อง หรือตามติดน้องแค่ไหน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 17-08-2013 22:16:02
ตอนก่อนหน้าแอบหงุดหงิดเท็น ทำไมต้องไปกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาขนาดนั้น
ทั้งๆ ที่ทิ้งเมลให้กลับเอง แต่พอมาตอนนี้ไม่พอใจเมลอย่างแรง
ถึงจะไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่เมลว่า แต่เพื่อนผู้หญิงมาห้องนี่ไม่คิดจะแต่งตัวให้เรียบร้อยเลยเหรอ
หรือถ้ากระทันหันจริงๆ ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ให้เท็นเข้าใจผิด

ส่วนเรื่องที่ฟิวชอบเมล ถ้าเราเป็นเท็น เราก็คงถอยออกมานิดหนึ่ง
ให้เขาสองคนได้มีเวลาร่วมกันหรือศึกษากันบ้าง ให้โอกาสทั้งฟิว เมล และตัวเอง
เพราะฟิวคือเพื่อนที่โตมาด้วยกันเป็นเหมือนคนในครอบครัว
ถึงจะหงุดหงิดหรือไม่ชอบใจยังไงแต่ก็ฟิวก็สำคัญกับเรามากกว่าเมลที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน
ส่วนเขาสองคนจะไปถึงขั้นไหนก็แล้วแต่เขา เราถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-08-2013 22:24:41
เท็นนี่มันเรื่อยๆมาเรียงๆได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-08-2013 22:38:42
ตอนที่ 5

“ถ้าไม่อยากเรียนมึงก็ไปยื่นใบลาออกเลยไอ้ควายยยย สอบมิดเทอมอีกสองสัปดาห์เพิ่งจะโผล่หัวมา มึงแย่แล้วนะเท็น เหลวไหลมาก!”

เสียงไอ้ฟิวแว๊ดๆ มาเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ แต่ผมไม่ได้สนใจ ไอ้กัสที่ยังคงตาลุกวาวกับของฝากก็ไม่คิดจะช่วยพูดอะไรสักนิด

“ปิดมือถือไม่ติดต่อใคร ถ้ามึงตายห่าไปพวกกูจะรู้มั้ย ทำไมมึงไม่คิดบ้างวะว่าทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงขนาดไหน!”

ผมละสายตาจากดอกกุหลาบในสวนมามองหน้าไอ้ฟิว ไอ้กัส และคนสุดท้ายที่ไม่อาจละสายตาได้...ไอ้เมล มันเป็นคนเดียวที่ไม่ยอมทักผม ไม่ยอมมองหน้าผม และที่มันมานั่งเสนอหน้าอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะมาต้อนรับผมกลับหรอก มันคงมาหาไอ้ฟิว

แน่ล่ะว่าช่วงที่ผมไม่อยู่คงเกิดอะไรขึ้นมากมายระหว่างไอ้เมลกับไอ้ฟิว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของผม และผมก็ไม่อยากยุ่ง แค่ตอนเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเห็นพวกมันนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันผมก็ไม่ต้องการคำอธิบายจากใคร

“แล้วนี่มึงไปไหนมาบ้าง ทำไมกูให้คนไปตามถึงไม่เจอ”

“กูก็เที่ยวไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีอยู่มาเล” ผมยักไหล่ตอบไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปสนใจดอกไม้ในสวนต่อ

เห็นหน้าไอ้เมลแล้วกูหมดอารมณ์จะคุย

“ทำตัวไม่รู้จักโต มึงหายหัวไปสิบกว่าวัน ไม่รู้เลยสินะว่าคนทางนี้เขาวุ่นวายกันขนาดไหน ทั้งรายงาน ทั้งโปรเจ็คก่อนมิดเทอม งานตั้งสามชิ้นที่กูกับไอ้กัสช่วยกันปั่นส่งให้มึง มึงคิดบ้างสิวะว่าไอ้ช่วงที่มึงหายหัวไปนี่คือช่วงที่คนปกติเขานั่งเรียนกัน!”

“เอาน่าไอ้ฟิว มันก็กลับมาแล้ว อย่าพูดอะไรอีกเลยน่า”

“กูจะพูดจนกว่าจะได้ยินคำว่าขอโทษจากมัน มึงหยุดให้ท้ายมันเลยนะกัส ไอ้เท็นมันทำอะไรตามใจตัวเองมากไปแล้ว ไม่เห็นหัวใคร นึกอยากทำอะไรมันก็ทำ! โลกไม่ได้หมุนรอบตัวมึงนะไอ้เท็น”

ผมเดาะลิ้นเล่น มองผีเสื้อติดใยแมงมุม ในขณะที่ทั้งห้องเงียบจนได้ยินเสียงแอร์ ไอ้กัสสะกิดตีนผมยิกๆ ผมเลยตัดสินใจทำลายความเงียบนี้ลง

“โทรเรียกพวกไอ้เต๋อด้วย ไปเจอกันร้านเดิม”

ผมบอกแค่นั้นก่อนจะคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกมา ได้ยินเสียงไอ้กัสร้องอ้าว และเสียงเหมือนแก้วแตกดังตามมา แต่ผมไม่ได้หันกลับไปมอง

ร้านพี่เจ๋งตอนห้าโมงเย็นลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่ ผมเลยเลือกนั่งโต๊ะไหนก็ได้ที่อยากนั่ง ไอ้พี่เจ๋งปีนออกจากหลังเคาน์เตอร์มาสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนมือเท่าฝาหม้อจะตบผลัวะเข้าที่ไหล่

“เขาลือกันว่ามึงโดนลักพาตัว หายหัวไปเหมือนเมื่อเทอมก่อน กูก็นึกว่าตายห่าไปแล้วซะอีก”

“เชื่ออะไรกับแค่ข่าวลือ คนอย่างผมไม่ตายง่ายๆ หรอกพี่ รอเผาผีพี่ก่อน”

“ไอ้เด็กเวร แช่งกู แล้วนี่มาแต่หัวค่ำ มึงกะมาอาบเหล้าต่างน้ำรึไง”

“เออ คงงั้น จัดเบียร์มาซักโปรพี่ อยากเมา เบื่อ”

ไอ้พี่เจ๋งจัดมาให้ตามคำขอ มันอยู่คุยด้วยนิดหน่อยก่อนจะขอตัวไปเทคแคร์ลูกค้าโต๊ะอื่น ผมนั่งกระดกเบียร์ลงคอไปได้สองแก้วพวกไอ้เต๋อก็แห่กันมา มาถึงก็ทำหน้าตอแหลแอคติ้งใส่ผมกันใหญ่

พวกมึงนี่ไม่ได้อายชาวบ้านชาวช่องเขาเลย

“โอ้ววว ก๊อดดดดดดดด ท่านเทพพะชอน มึงกลับมาเยือนโลกมนุษย์ได้แล้วหรืออย่างไร คราวนี้ไปเยือนที่ไหนอีกหรือท่าน อเมซอนหรืออียิปต์ หื้ออออ หื้ออออออ” ไอ้เต๋อจีบปากจีบคอถาม ชื่อพชรกูก็ไม่เคยเรียกถูกไอ้ควาย

“หน้ามึงตอแหลมากไอ้เหี้ย ไอ้คิมไอ้แม็ค มองกูทำส้นตีนไร”

“มึงผมยาวขึ้นอ่ะ น่ารักขึ้นด้วยยยยยยยยยยย แล้วต่างหูนี่มึงได้แต่ใดมา เท่ค่อดดดด กูขอออออออ”

ถ้าไอ้แม็คมันกรี๊ดได้ผมว่ามันกรี๊ดไปแล้ว ส่วนไอ้เหี้ยคิมนี่เข้ามาเกาะแข้งเกาะขาอย่างกะเด็กๆ สงสัยอยากเลียหัวแม่ตีนกูมาก

“ไปไกลๆ ตีนกูไอ้พวกเวร แล้วนี่ไอ้เต้ไปไหน”

“ไปรับน้องเตยที่เซน เดี๋ยวคงตามมา”

ผมนั่งชนแก้วกับพวกไอ้เต๋อได้พักใหญ่ก็ขอตัวออกมาสูบบุหรี่หน้าร้าน สวนทางกับไอ้กัสที่เดินจูงมือผู้หญิงไม่คุ้นหน้าเข้ามาในร้าน มันกระซิบบอกผมว่าเด็กใหม่ก่อนจะพาเดินไปที่โต๊ะ นี่ก็แน่ชัดแล้วว่าน้องแนงกลับคืนสู่สถานะน้องรหัสของมันแล้ว

“มึงโกรธไอ้ฟิวเหรอวะ” ไอ้กัสโผล่มายืนอยู่ข้างๆ ผมหันมองมันเล็กน้อยแล้วหันกลับมามองรถราบนถนนต่อ

“กูแค่รำคาญ ไม่ได้โกรธ”

“อืม” ท่าทางเหมือนมันไม่ได้อยากตอบแค่อืมหรอก หน้าแม่งอยากพ่นอะไรมามากกว่านั้น

“มึงอยากพูดไรก็พูดมา”

“ถ้ากูถามมึงจะตอบป้ะ”

“ก็อยู่ที่คำถามมึงว่าน่าตอบมั้ย”

ไอ้กัสเงียบไปชั่วอึดใจ แล้วมันก็ถามคำถามที่ไม่มีวันจะได้คำตอบจากผมว่า

“มึงหงุดหงิดเรื่องไอ้ฟิวกับไอ้เมลใช่มั้ย ก่อนมึงไปก็เพราะพวกมันใช่ป่าววะ”

ผมอัดควันเข้าเต็มปอดแล้วพ่นออกมา

“เรื่องแบบนี้มึงจะมาคิดเองเออเองไม่ได้นะเว้ย มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด อาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิดก็ได้”

“กูคิดอะไร”

“เท็น ไอ้เมลมันเป็นห่วงมึงมากนะ มันเหมือนคนบ้าเลยตอนที่ติดต่อมึงไม่ได้ ถ้าพวกกูไม่รั้งมันไว้มันคงออกไปตามหามึงแล้ว มึงคิดเหรอว่ามันจะอะไรๆ กับไอ้ฟิวในช่วงที่มึงไม่อยู่ นี่กูบอกเลยนะว่าถ้าไอ้เมลมันจะคบไอ้ฟิวมันคงคบกันไปตั้งแต่ตอนที่
ไอ้ฟิวบอกชอบมันแล้ว”

ผมโยนบุหรี่ที่เพิ่งจะสูบไปได้ครึ่งตัวลงบนพื้นแล้วขยี้จนมันบี้แบนด้วยปลายรองเท้า

“ไปบอกพี่เจ๋งให้เอาเหล้าไปเพิ่มที่โต๊ะ”

ผมตบไหล่ไอ้กัสไปสองสามทีก่อนจะเดินเข้าร้าน

เรื่องที่มึงพูดกูไม่ได้อยากจะฟังจากมึงหรอกกัส และกูก็ไม่ได้โกรธอะไรไอ้ฟิวมันด้วย

วันนี้เป็นวันศุกร์ คนแน่นร้าน แค่สามทุ่มก็แทบไม่มีโต๊ะนั่งแล้ว ดีที่พวกผมมาแต่หัวค่ำ นั่งแดกกันไปพอกรึ่มๆ ไอ้เต๋อก็เกิดกระเหี้ยนกระหือรือท้าแข่งสนุ๊กกับเจ้าชายบิลเลียดอย่างผม ผมเลยให้เกียรติขึ้นไปแทงสนุ๊กกับมันอยู่สองสามเกมก็ชักเบื่อเพราะความอ่อนที่ขาดพัฒนาการของมัน ก็พอดีกับที่ไอ้เต้เดินขึ้นมาบอกให้กลับโต๊ะ ผมเลยได้มีโอกาสชิ่ง ไม่งั้นไอ้เต๋อมันก็จะตื้อเล่นอยู่นั่นแหละ ไอ้ห่านี่ถ้าไม่ชนะมันไม่ยอมหรอก

ผมเดินผ่านโต๊ะที่ส่งเสียงดังไม่แพ้โต๊ะอื่น แต่เป็นที่จับตามองของผู้หญิงแทบทุกคนในร้าน อยู่ห่างจากโต๊ะของพวกผมไม่มาก ผมหยุดชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสบตากับไอ้เมลที่นั่งอยู่ติดกับทางเดิน เพื่อนมันแต่ละคนหน้าตาดีอย่างกะใช้เกณฑ์คัดหน้าตาเข้ากลุ่ม ไม่มีใครที่ผมรู้จักสักคน จะมีคุ้นหน้าก็แค่ไอ้ตี๋หน้าขาวที่นั่งอยู่ข้างไอ้เมล แต่ผมจำชื่อมันไม่ได้

ทั้งๆ ที่สบตากันอย่างจังแต่มันก็ทำเหมือนไม่เห็นผม หน้ามันนิ่งสนิท ไม่มีรอยยิ้มหรือทำหน้ากวนตีนใส่เหมือนทุกที ในเมื่อมึงอยากให้เป็นอย่างนั้น กูก็ไม่ขัดข้อง

“มึงๆ นั่นพวกไอ้เมลป่าววะ” ไอ้คิมถามขึ้นทันทีที่ผมทรุดตัวนั่งลงข้างมัน

“เมลไหน กูไม่รู้จัก”

“อ้าว เหี้ย ทำมึน ก็ไอ้เมลน่ะ ไอ้เมลที่ซื้อขนมจีบซาลาเปาให้มึงไง ภาคไฟฟ้า เดือนมหาลัย มึงคุ้นขึ้นมาบ้างยัง”

“คนหน้าเหมือนมั้ง”

“ตลกแดกเหี้ยเท็น ไอ้แม็คๆ มึงเข้าไปทักทายพวกมันหน่อยดิ ไอ้พวกคุณชายกลุ่มนั้นนานๆ จะเห็นรวมตัวกันที อยู่ครบองค์ไม่บ่อยนะเว้ย ไม่น่าเชื่อว่าจะเห็นพวกมันในร้านซอมซ่อของพี่เจ๋ง” ถ้าไอ้พี่เจ๋งมาได้ยินมึงกระเด็นออกจากร้านแน่ไอ้คิม

“เออๆ ไปกันไอ้เต้ ไอ้เต๋อ เผื่อจะได้ท้าแข่งบอลกับพวกมันถอนทุนคืนหน่อย นัดล้างตากับพวกโยธาคราวนั้นหาเงินเข้าสโมไม่ได้ แถมยังเสียประตูให้พวกมันในบ้านตัวเอง อีเชอร์รี่เกือบแดกหัวจับกูไปขายตัวหาตังค์เข้าสโม คิดแล้วยังสยองไม่หาย”

“เรื่องนั้นต้องโทษไอ้เหี้ยเท็นกับไอ้หมาซิง พวกเราน่ะเล่นดีแล้ว แต่พวกมันนั่นล่ะไม่ป้องกันประตูซักลูก เออ แต่จะว่าไปความคิดมึงก็ไม่เลวนะไอ้แม็ค ถ้าไอ้พวกนั้นยอมแข่งด้วยล่ะก็ ไม่รับเละงานนี้จะรับเละงานไหน พวกเรายังไม่เคยชนกับพวกไฟฟ้าเลยนะเว้ย น่าลอง”

เป็นเพราะมึงด้วยนั่นแหละไอ้เหี้ยเต๋อ แม่งชอบโชว์พาวเลี้ยงลูกไม่ยอมส่ง บางทีสับขาหลอกตัวเองล้มกลางอากาศก็มี ถุย!

ผมไม่สนใจแผนการส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีของพวกมัน ภาคไฟฟ้าเป็นภาคเดียวที่พวกผมสนิทด้วยน้อยที่สุด ที่นั่นเขาร่ำลือกันว่ามีพวกรูปหล่อพ่อรวยอยู่เพียบ แถมกีฬาที่พวกมันเล่น ชมรมที่พวกมันเข้าก็จัดว่าไฮคลาสประเภทที่คนธรรมดาเขาไม่เล่นกันทั้งนั้น ขี่ม้า ยิงธนู ยิงปืน รักบี้ นี่ถ้ามีจัดดอกไม้ชงชาด้วยกูก็เชื่อ สาวค่อนมหาลัยก็โดนพวกมันคาบไปแดกเกือบหมด เถอะ แต่ใช่ว่าผมจะเดือดร้อนกับเรื่องนี้

“อ้าว พวกไอ้เหี้ยเต๋อไปไหนกันวะ” ไอ้กัสถามเมื่อเห็นผมนั่งหัวโด่อยู่คนเดียว มันเพิ่งกลับจากพาน้องดิวไปส่งบ้าน

“ไปหาคนมาแข่งบอล”

“ไอ้พวกนี้นี่ไม่เข็ด วันก่อนแพ้พวกแวดล้อมไป กูเห็นเกาะกลุ่มแดกมาม่าคัพหน้าเซเว่น แล้วนี่มันจะเอาอีกแล้วเหรอ อีเชอร์รี่มันตัดงบไม่ซื้อเอ็มร้อยให้แล้วนะ มันบอกว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ”

อีเชอร์รี่ที่พูดถึงนี่คือกะเทยถึกควบตำแหน่งนายกกะเทยของชั้นปีสองและเป็นตัวที่เพื่อนๆโหวตให้เข้าไปทำงานในสโมฯเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ทางภาคคอมฯ ของเรา พวกลูกๆ ของมันตอนนี้แพร่พันธุ์ไปทั่วคณะแล้ว เว้นแต่ภาคเครื่องกลที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับคณะคือไม่มีลูกหลานของอีเชอร์รี่อยู่เลย อาจจะแฝงตัวอยู่อันนี้ผมก็ไม่ทราบได้ แต่ภาคคอมฯ กูนี่ชี้หน้าบอกได้เลยว่าใครแอ๊บบ้าง

ผมมองไปทางโต๊ะของพวกไอ้เมลก็เห็นพวกไอ้เต๋อมันไปนั่งระริกระรี้ชนแก้วกับพวกนั้นเหมือนรู้จักกันมาสิบแปดชาติ จากที่โต๊ะนั้นเสียงดังอยู่แล้วเพิ่มไอ้พวกผีเจาะปากมาพูดเข้าไปอีกก็ยิ่งดัง ผมเลื่อนสายตามาหยุดที่แผ่นหลังของไอ้เมล มองขึ้นไปตรงไหล่ของมันที่มีผู้หญิงนั่งซบอยู่

ไม่รู้ความหมั่นไส้มาจากไหน แต่ที่รู้ตอนนี้กูหมั่นไส้แม่งเต็มแม็ค คิดว่าทำอย่างนี้มึงหล่อมาก มึงเท่มาก หึ ส้นตีน

เพล้ง!

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

รู้ตัวอีกทีผมก็ถือขวดที่ตอนนี้แตกเป็นรูปปากฉลามอยู่ในมือแล้ว ผู้หญิงที่เคยซบไหล่ไอ้เหี้ยเมลเด้งตัวออกจากมันราวกับมีสปริงติดเหมือนโดนผมเตะฟรีคลิกไปสิบห้าหลา ทั้งเพื่อนไอ้เมลและเพื่อนผมอ้าปากค้าง มองผมอย่างกะเห็นผี

“ไอ้เท็น! ทำไรของมึงวะ เฮ้ยยยยย ไอ้เมล เป็นไรป่าว! เลือดดดดด ไอ้เหี้ย กูกลัวเลือดดด”

เสียงไอ้กัสเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในร้านตอนนี้ ไอ้พี่เจ๋งตาหลีตาเหลือกเข้ามาหาถามว่ามีเรื่องไรกัน มีเพื่อนไอ้เมลคนหนึ่งเข้ามาผลักอกผม แต่ไอ้เต๋อก็ช่วยล็อคตัวมันไว้ให้

“ไม่มีไรพี่เจ๋ง มือผมลื่น”

“มือลื่นเหรอวะ กูเห็นมึงเดินเอาขวดมาตีหัวเพื่อนกู ใครๆ ก็เห็นว่ามึงตั้งใจ” ไอ้คนที่ผลักอกผมมันพูดเสียงดัง

“ไอ้ลิน ใจเย็นๆ ก่อน เมล ไอ้เมล มึงไหวป่าววะ เป็นไงบ้าง”

ผมเห็นไอ้เมลสะบัดหัวไปมา มันคงยังมึนๆ งงๆ แต่เห็นเลือดหัวมันออกแล้วผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

“ไอ้เหี้ย เลือดเข้าตากู” ตั้งแต่กลับมาผมเพิ่งได้ยินเสียงมัน

ทุกคนรุมกันถามอาการไอ้เมลแต่ไม่มีใครคิดจะพามันไปโรงบาล แถมไอ้พวกโต๊ะอื่นก็อยากมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ซะเหลือเกิน ผลัดกันชะโงกหน้ามาดูว่าเกิดไรขึ้น พี่เจ๋งแกรีบไกล่เกลี่ยสถานการณ์ ตะโกนสั่งลูกน้องให้เปิดเพลงต่อได้ จากนั้นก็หันมาตบหัวผมแล้วให้ผมรีบขอโทษไอ้เมล แต่อะไรที่ผมตั้งใจทำลงไปแล้วผมไม่พูดขอโทษเด็ดขาด

เพื่อนๆไอ้เมลมองหน้าผมเหมือนพร้อมจะเข้ามาแจกตีนให้ หึ กูกลัวพวกมึงมากกกกกไอ้สัดดดดดดดด

“ค่ายา มึงพามันไปโรงบาลด้วยละกัน กูกลับล่ะ” ผมยื่นเงินให้ไอ้กัสห้าพัน ก่อนจะเดินออกจากร้านมา

ผมขับรถไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่อยากกลับบ้าน เสียงไลน์ดังไม่หยุด ส่วนมากเป็นพวกไอ้เต๋อที่ส่งมาถามเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้กระทำการอุกอาจอย่างนั้น บอกแผนการถึงกระทั่งจะเอาข้าวผัดโอเลี้ยงไปให้ผมสร้างฟิลลิ่งในห้องขัง ผมเลยปิดมือถือตัดรำคาญ

ขับไปขับมาก็มาหยุดอยู่ที่คอนโดหรูใจกลางเมือง ผมลงจากรถมายืนทำเท่พิงกระโปรงหน้า เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีทึบตอนนี้ ไม่เห็นดาวสักดวงเพราะรอบตัวสว่างเกินไป

พอลมเย็นๆ ปะทะใบหน้าแล้วไม่รู้ว่าความสะใจเมื่อสองชั่วโมงก่อนที่ได้เอาขวดฟาดหัวไอ้เมลมันหายไปไหนหมด หลงเหลือแต่ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยากรู้สึกเลยสักนิด

มันสมควรโดนแล้ว ผมกล่อมตัวเองให้เชื่ออย่างนั้น แต่ข้อความในไลน์จากไอ้กัสก่อนผมจะปิดมือถือมันติดตาจนทำใจเชื่อไม่ลง

‘กูถามมึงจริงๆ มึงทำมันทำไมวะ ไอ้เมลทำผิดอะไร มึงโกรธมันทำไมไม่พูดกับมันดีๆ แล้วที่จริงนะเท็น มึงต่างหากล่ะที่ผิด'

ผมคงต้องคุยกับมัน ไม่รู้จะคุยอะไร แต่กูก็มาแล้ว ถอยกลับไปนั่นไม่ใช่นิสัย

“มึงมาทำไม” เสียงเรียบๆของไอ้เมลปลุกผมจากภวังค์ มันคงไม่ได้อยากทักผมเท่าไหร่ แต่เพราะผมยืนพิงผนังข้างประตูห้องมันอยู่

ไฟในห้องติดอัตโนมัติเมื่อประตูถูกเปิด ผมเลยเห็นหน้ามันได้ชัดกว่าเมื่อตอนอยู่ในร้านพี่เจ๋ง เสื้อนักศึกษาของมันเปื้อนเลือด แถมหน้าหล่อๆ ของมันก็ซีดเซียว มองดีๆมันโทรมมาก ไม่เหมือนครั้งสุดท้ายที่ผมเดินหันหลังหนีมันมา

“เดี๋ยวนี้กูมาไม่ได้ ต้องเป็นใครวะถึงจะมาได้ ไอ้ฟิวเหรอ หรือผู้หญิงที่นั่งสิงมึงที่ร้าน”

ปึง!

กำปั้นไอ้เมลเฉียดหน้าผมไปโดนผนังปูนข้างหลัง มันจ้องหน้าผมเหมือนอยากฆ่าให้ตายแต่ก็ทำไม่ได้

“มึงกำลังเล่นอะไร ปั่นหัวกูสนุกมากนักรึไงวะ!!” ไอ้เมลตวาดเสียงดัง หน้าซีดๆ ของมันเริ่มขึ้นสี

สถานการณ์นี้ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องตามันกลับไป

“พอแล้วเท็น มึงมันใจร้ายเกินไปแล้ว”

อะไรที่มันบอกว่าจะพอ ผมไม่เข้าใจ

“อะไร มึงจะพูดอะไรเมล”

“มึงกลับไปเท็น กลับไป แล้วไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก”

ส้นตีนเถอะไอ้ห่า

“กูไม่กลับ!”

“มึงจะเอาอะไรจากกูอีกวะ!”

“นั่นมันเรื่องของกู”

ไอ้เมลบีบแขนผมจนเจ็บ แต่ผมไม่ได้ปัดออก ปล่อยให้มันบีบจนพอใจ เอาให้หักคามือมันเลยก็ได้ผมไม่ว่า

“กูไม่อยากเห็นหน้ามึง”

“หึ หน้าเพื่อนกูคงน่ามองมากกว่างั้นสิ ช่วงที่กูไม่อยู่ พวกมึงดูใจกันไปถึงไหนแล้วล่ะ ถึงใจกันไปกี่ท่า”

ผมยอมให้มันต่อย ดีกว่าการที่โดนมันมองด้วยสายตาผิดหวังแบบนี้

“ไม่มีใครเขาคิดต่ำๆ เหมือนมึง แล้วที่มึงดูถูกนั่นก็เพื่อนที่รักมึงมาก เพื่อนที่ไม่เป็นอันกินอันนอน ปั่นงานส่งให้มึง เช็คเวลาเรียนให้มึง คอยตามหามึงในช่วงที่มึงหายหัวไป ไม่เห็นความรู้สึกกูกูไม่ว่า แต่นั่นเพื่อนที่อยู่กับมึงมาตั้งแต่เกิด มึงไปว่าเขาอย่างนั้นได้ไงวะ!”

คนอย่างกูไม่ต้องให้ใครมาพูดใส่หน้าแบบนี้ กูก็คิดของกูเองได้ กูรู้ว่าตัวเองทำผิด แต่ไม่รู้จะเริ่มขอโทษยังไง เพราะกูรู้ว่าแค่คำขอโทษคงไม่พอ

“แหม ปกป้องกันจังเลยนะ เห็นอกเห็นใจกันดีนี่ มึงจะเปลี่ยนจากกูเป็นเพื่อนกูก็ได้นะ กูไม่มีปัญหา”

เพียะ!

แก้มผมชาไปทั้งซีก ไอ้เมลดูตกใจที่ตบผม ผมปัดมือมันที่กำลังยื่นมาใกล้ก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปากด้วยหลังมือ

“ก็ถือว่าหายกัน กูไม่อยากได้ยินคำขอโทษจากมึงหรอก อีกอย่างเราก็ไม่ได้คบกันจริงจัง ไม่ได้มีใครรู้ มึงจะคบเพื่อนกูต่อจากนี้ก็ไม่มีใครว่า ถ้ามึงอยากพอ กูก็จะหยุดให้ กูก็เบื่อแล้วเหมือนกัน”

ผมอาจจะตาฝาดที่ได้เห็นน้ำตาของไอ้เมลก่อนจะหันหลังเดินออกมา คนอย่างผมคงไม่เหมาะจะมีแฟน เพราะผมมันชอบพัดไปนั่นมานี่ อยู่กับที่นานๆ ไม่ได้ คนที่ทนผมได้คงต้องใช้ความเข้าใจและความอดทนอย่างมาก เอาเถอะ ก็สนุกดีกับไอ้เมล น่ารำคาญบ้างแต่...ไม่น่าเบื่อ



..........................................To be continue...................................

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยนะคะ วันนี้มาลงให้สองตอนค่ะ เรื่องนี้เขียนตุนไว้ได้หลายตอนแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าจะเขียนไว้อ่านเอง เพราะแต่งเป็นเรื่องแรกก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แต่หลังๆ มา ก็เริ่มคิดอยากให้คนอื่นรู้จักเท็นบ้าง ผู้ชายคนนี้มีบุคลิกที่เกิดจากความสับสนของคนเขียนค่ะ อาจจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย ฮ่าๆๆ แต่ยังไงก็ฝากเขาไว้ในใจด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-08-2013 23:52:15
คือจะดราม่าไหมอะคะ ไม่กล้าอ่านนะเนี่ย กลัวร้องไห้

แต่โดยส่วนตัวแล้ว ชอบเท็นอะ ไม่รู้ดิ ถึงเท็นจะทำผิด แต่เราก็เข้าข้างเท็นอะ55555 ทำดีแล้วลูก

ปล.ไม่ชอบฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 18-08-2013 00:12:51
โอ๊ย คือ สุดโต่งมากอะเท็น โหยเฮ๊ย พูดได้เลยว่าเราไม่เข้าใจหรือเคยเจอคนแบบนี้มาก่อนเลย!!
โอ๊ย อ่านแล้วพูดไม่ออก แต่สงสารเมลจับใจ
อยากจะเชียร์ให้เมลเลิกทิ้งซะเหมือนที่เท็นทำ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยจริงๆ
อยากรู้ว่าจะมีอิมแพคอะไรที่จะทำให้เท็นเปลี่ยน หม่สิคงเปลี่ยนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็คงทำได้ดีกว่านี้
รอนะคะ ต่ออีกนะ :L1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 18-08-2013 17:41:28
จากตอนก่อนที่ไม่ชอบเมล มาตอนนี้สงสารอ่ะ
แต่เราเข้าใจเท็นนะ ว่าเท็นเป็นพวกแสดงความรู้สึกไม่เก่ง
ถ้าหงุดหงิด เหงา หวง จะไม่อยู่กับร่องกับรอย พาลคนอื่นไปทั่ว
ที่ร้ายแรงที่สุดคือทำร้ายคนที่ตัวเองชอบเพื่อประชดและเรียกร้องความสนใจ
อยากให้คุยกันดีๆ มากกว่า ถ้าเมลอ่อนเข้าหาแทนที่จะเมินใส่
เชื่อว่าเท็นคงไม่แสดงอารมณ์ร้ายๆ ออกมาหรอก

ส่วนฟิว เข้าความห่วงและหวังดีของฟิวนะ
แต่ว่าทั้งคู่โตมาด้วยกันก็น่าจะรู้นิสัยกันดีกว่าใคร
คือ ก็บ่นมาตั้งนานแล้ว ถ้าฟัง เท็นมันก็ฟังไปตั้งนานแล้ว
แต่นี่คือเท็นมันไม่ฟังไง ก็รู้อยู่ว่าบ่นไปก็เท่านั้น
มันจะยิ่งทำให้เพื่อนหงุดหงิดและรำคาญเสียเปล่าๆ

ถ้าไม่อยากจะช่วยเรื่องทำงานส่ง เรื่องเช็คเวลาเรียน เรื่องงานกลุ่มต่างๆ นาๆ
ก็ไม่ต้องช่วยเท็นหรอก ชีวิตใครก็ชีวิตของคนนั้น รับผิดชอบกันเอาเอง
แต่ไม่ต้องมาบ่นเป็นวรรคเป็นเวร ถ้าห่วงเขาจริงๆ แค่เตือนๆ ก็พอมั้ง
เพราะเราเป็นเพื่อนเขาไม่ใช่แม่

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 18-08-2013 20:54:37
เหมือนคนหาตัวเองไม่เจอ....

มองไปทางไหนก็เคว้งคว้าง  ไม่มีจุดหมาย

เหมือนมีจุดยืน แต่สั่นคอนมากอ่ะ  .......

มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่รู้มีเหตุผลไหม  ..... หรือมีปมอะไรที่ซ่อนอยู่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 18-08-2013 22:07:27
ตอนที่ 6

“ไอ้เท็น ไม่ลงไปกินข้าวเหรอวะ ไอ้ฟิวให้กูมาตาม” ไอ้กัสถามด้วยเสียงที่มันพยายามปั้นให้ร่าเริง คงเพราะช่วงนี้ผมหงุดหงิดใส่คนอื่นบ่อย หายใจผิดจังหวะผมก็รำคาญแล้วเลยไม่มีใครเข้าหน้าผมติด

“กูไม่หิว มึงลงไปเถอะ แล้วล็อคประตูให้กูด้วย”

“ถ้ามึงไม่อยากเจอไอ้เมล กูยกขึ้นมาให้ก็ได้นะ”

“ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน กูบอกว่ากูไม่หิว”

ไอ้กัสพยักหน้าแล้วรีบเผ่นออกจากห้องไป ผมหันกลับมาสนใจเมฆบนท้องฟ้าตามเดิม ช่วงนี้ผมพอใจแค่ได้นอนมองท้องฟ้าไปเรื่อยๆ จะพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนยังขี้เกียจ อะไรรอบตัวดูน่าเบื่อและน่ารำคาญแถมยังขวางหูขวางตา
อย่างน่าประหลาด ยิ่งไอ้หน้าหล่อที่เสนอหน้ามาแดกข้าวเช้าที่บ้านนี้ทุกวันยิ่งสะกิดต่อมหงุดหงิดของผมให้เต้นตุบๆ

ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่อยากเห็นมันสองคนอยู่ด้วยกัน เมลอย่างนั้น ฟิวอย่างนี้ อันนี้เมลชอบมั้ย แดกอันนี้สิอร่อยนะ ไอ้เหี้ยเมลก็
เหมือนกับว่าตอนที่โดนขวดฟาดหัวจะไม่ใช่แค่หัวแตก มันยังเป็นง่อยด้วย ถือช้อนส้อมเองไม่ได้ต้องให้คนอื่นถือให้ เถอะ คบกันรึเปล่าอันนี้ไม่รู้ แต่เช้าถึงเย็นถึงขนาดนี้กูว่าคงไม่รอด

เกือบเที่ยงที่ผมลงมาหาอะไรกินในครัว ไม่เห็นเงาหัวใครสักคนในบ้าน คงออกไปกันหมดแล้ว ผมถือจานสับปะรดออกมานั่งกิน
ที่ม้านั่งในสวน นั่งมองต้นวาสนาไหวไปตามแรงลมในตอนเที่ยงก็เพลินดี แต่วันนี้ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก และไม่นานมันก็ตกลง
มาจริงๆ ผมเงยหน้ามองฟ้า เม็ดฝนกระทบหน้าจนเจ็บ เมฆเคลื่อนที่เร็วจนน่ากลัว ท้องฟ้าไม่ได้น่ามองเหมือนเมื่อเช้าที่ผมเห็นอีกแล้ว

ผมนั่งพิงหลังกับม้านั่ง หลับตาฟังเสียงลม เสียงฝนและเสียงฟ้าร้อง สักพักก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่พร้อมกับเม็ดฝนที่เคยตกใส่ตัวผมหายไป ลืมตาขึ้นก็เห็นไอ้เมลยืนอยู่ตรงหน้า มือถือร่ม ทำหน้าบึ้งเหมือนมีใครไปเหยียบหัวแม่ตีนมัน

“เข้าบ้าน”

“ยุ่งไรด้วย”

“มึงอยากหนาวตายรึไง”

“เรื่องของกู”

“มึงเป็นอะไรเท็น เกลียดกูมากถึงขนาดเป็นเพื่อนกันไม่ได้เลยเหรอวะ!”

“ใครเขาอยากจะเป็นเพื่อนกับมึง”

กูหมดอารมณ์จะทำเท่นั่งตากฝนแล้วไอ้สัด แตกคาปากกูไม่รู้กี่รอบ ยังอยากจะเป็นเพื่อนกับกูเหรอวะ ช้าไปมั้ยไอ้ควาย!

“กลับบ้านมึงไปได้ละ ไอ้ฟิวไม่อยู่ กูไม่รู้ว่ามันไปไหน โทรถามเอาเองละกัน”

ผมขึ้นห้องมาได้ก็ถอดเสื้อผ้าเปียกๆ ออก ส่วนไอ้เมลผมไม่รู้ว่ามันไปรึยังเพราะตอนเดินหนีมันมาไม่ได้สนใจ แค่เห็นหน้ามัน อารมณ์ดีๆ เมื่อตอนนั่งตากฝนของผมก็หายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น การที่ได้เห็นมันยิ้ม เห็นมันหัวเราะกับคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ผม
อยากเห็นจากมัน มันถึงได้เป็นตัวน่าหงุดหงิดที่ผมอย่างกำจัดทิ้งไปให้เร็ว

แกร๊ก!

ผมกำลังจะหันไปด่าคนที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องผมโดยไม่เคาะประตู แต่ก็ต้องเงียบเมื่อเห็นไอ้เมลยืนหน้าขรึมอยู่กลางห้อง

“กูเอายามาให้ กินกันไว้ จะได้ไม่เป็นหวัด”

“เออ ขอบใจ วางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ”

ผมชี้ไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหันกลับมาเลือกเสื้อต่อ

“มึงไม่รีบเช็ดผมล่ะ”

“เดี๋ยวค่อยเช็ด”

“กูเช็ดให้เอามั้ย”

ผมหันไปมองมันพลางขมวดคิ้ว มึงมาทำดีกับกูทำไมวะ ละเมอเหี้ยไรรึเปล่า

“อะไรของมึง ตาลายรึไง กูไม่ใช่ไอ้ฟิว”

“เท็น เมื่อไหร่มึงจะเลิกคิดแบบนี้ซักทีวะ กูกับฟิวไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“นั่นเรื่องของมึง”

“เรื่องของมึงด้วย กูไม่เข้าใจว่าทำไมมึงต้องพูดประชด ยัดเยียดกูให้เพื่อนมึงอยู่เรื่อย กูกับฟิวเราเป็นแค่เพื่อนกัน”

“ถ้ามึงไม่ชอบมัน มึงจะมาทำไมบ่อยๆ วะ ตากูไม่ได้บอดไอ้เหี้ย สิงกันได้พวกมึงสิงกันไปแล้วมั้ง”

“มึงเข้าใจผิดนะ”

“ผิดหรือไม่ผิดนั่นกูไม่รู้ แต่สิ่งที่กูเห็นคือสิ่งที่มึงไม่ควรทำกับคนที่เป็นเพื่อนกู มึงก็รู้ว่ามันชอบมึง แล้วมึงจะให้ความหวังมันทำไม มึงทำดีกับมันทำไมถ้ามึงไม่ได้คิดอะไร”

ผมฟาดเสื้อที่อยู่ในมือลงกับพื้น ถ้าไม่ยั้งใจตัวเองไว้ผมคงฟาดใส่หน้ามันไปแล้ว สี่ห้าวันมานี้กูนอนไม่หลับ แดกข้าวไม่ค่อยลงก็เพราะมึง ไอ้เหี้ยเมล

“แล้วที่กูทำอะไรให้มึง ทำไมมึงไม่คิดบ้างวะ” ไอ้เมลจ้องหน้าผม ตามันแดงจนน่ากลัว ผมก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่มันก็ก้าว
ตามเข้ามาใกล้จนชิดแล้วจับแขนผมไว้แน่น

“มึงหายหัวไปเป็นสิบๆ วัน ปิดมือถือ ไม่ติดต่อมาหากู มึงไม่คิดถึงความรู้สึกกูเลย กูมาที่นี่ทุกวันเพราะคิดว่ามึงน่าจะติดต่อมา
หาเพื่อนมึงบ้าง แต่มึงก็หาย มึงบอกกูมาว่าถ้ามึงเป็นกูมึงจะทำยังไง จู่ๆ ก็หายไป จู่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันคือมึง
กำลังโกรธ มึงเข้าใจผิดแต่ก็ไม่ยอมฟังคำอธิบายจากใครเลย แล้วกูผิดเหรอวะที่อยากจะโกรธมึงบ้าง กูก็คนนะเท็น! กูก็โกรธเป็นเหมือนมึง”

ผมอึ้ง พูดอะไรไม่ออกสักคำ ผมยอมรับว่าตอนที่ผมกำลังสนุกกับการได้พบเจออะไรใหม่ๆ ผมลืมคิดถึงความรู้สึกของคนที่ผมทิ้งไว้ข้างหลัง ผมคิดแค่ว่าไอ้กัสกับไอ้ฟิวคงชิน กลับมาก็ทนฟังไอ้ฟิวบ่นแค่วันสองวัน แต่...ไม่ได้คิดถึงไอ้เมลเลย

“กูไม่สำคัญเลยเหรอเท็น”

“เมล กูเจ็บ” แขนผมเจ็บเพราะแรงบีบของมัน แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย ผมรู้มาตลอดว่าไอ้เมลเวลาโกรธจัดนั้นน่ากลัว มันโกรธยิ่งกว่าวันที่ตบหน้าผมซะอีก

ไอ้เมลเงียบไปนานมาก เหมือนว่ามันได้พูดสิ่งที่มันอยากพูดออกมาจนหมดแล้ว มันคลายแรงที่บีบแขนผมลงแต่ก็ไม่ยอมปล่อย

“ขอโทษ”

ไอ้เมลยังคงนิ่ง แต่นิ้วยาวๆ ของมันก็แตะลงบนหน้าผากผมเบาๆ ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ในที่สุดก็ได้พูดคำนี้ออกมา

“ขอโทษนะเมล กูขอโทษ”

ผมไม่ได้หวังให้มันยกโทษให้ แค่อยากให้มันรับไปก็เท่านั้น เพราะกว่าผมจะพูดมันออกมาได้ต้องใช้พลังกายพลังใจมาก
เหลือเกิน

ไอ้เมลพยักหน้า ผมเลยยิ้มให้มันแต่มันกวนตีนตีหน้าขรึมใส่

“ทีนี้ก็เคลียร์กันจบแล้ว มึงปล่อยกูได้ยัง”

“ยัง”

“มึงจะเอาอะไรอีก จะให้กูกราบขอโทษเลยมั้ยไอ้ห่า”

“ได้ก็ดี”

“กูประชดไอ้ควาย”

“หึ แล้วเรื่องที่มึงเข้าใจกูผิดล่ะ” ไอ้เมลแม่งกัดไม่ปล่อยจริงๆ แต่กูไม่ได้เข้าใจผิดนะเว้ย มึงให้ท่าให้ความหวังไอ้ฟิวขนาดนั้น แต่ก็เถอะ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน จะไปพูดมากให้ได้อะไรขึ้นมา

“ไม่เกี่ยวกับกู”

“เกี่ยวสิ ไม่งั้นมึงไม่หงุดหงิดหรอกเท็น มึงจะประชดกูทำไม จะโกรธกูทำไมถ้าไม่เกี่ยวกับมึง”

“เฮ้ยๆๆๆ ออกไปห่างๆ นะมึง ไม่ต้องมากระซิบข้างหู พูดปกติกูก็ได้ยิน”

ไอ้เหี้ยเมลเมื่อกี้ยังโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟแล้วไฉนมันมาทำอีโรติกใส่ผมได้วะ บรรยากาศเป็นใจแถมเสื้อผ้าผมก็ถอดง่าย
อย่างกะสมยอม และคงเพราะฝนตกที่ทำให้บ่ายวันนี้อากาศเย็นจนผมต้องจำใจเบียดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของมัน

.
.
.

ผมตื่นขึ้นมาทั้งห้องก็มืดแบบโคตรมืด ไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยามแล้วตอนนี้ แต่รู้ว่าพระอาทิตย์ตกไปแล้วแน่ๆ เพราะก่อนผมจะหลับก็เห็น
มันเคลื่อนเกือบลับขอบฟ้า ฝนหยุดตกไปราวๆ สี่โมงเย็น ผมกับไอ้เมลเลยมีโอกาสได้เห็นแสงอาทิตย์สุดท้ายของวันแล้วเผลอ
หลับไปทั้งคู่

“กี่โมงแล้ววะ” ไอ้เมลถาม มันคงตื่นเพราะแรงพลิกตัวของผม ไอ้นี่ตื่นง่ายจนบางทีผมก็คิดว่ามันอาจจะแกล้งหลับ

“ไม่รู้ มึงตื่นแล้วก็อาบน้ำ กลับคอนโดมึงไปได้ละ”

“ตื่นมาก็ไล่เลยนะมึง”

“โวะ ไม่ได้ไล่ จะค้างก็เรื่องของมึงสิ”

“พูดจาไร้เยื่อใย กูได้มึงแล้วนะ จะไม่รับผิดชอบเหรอ โอ้ยยย เท็น กูเจ็บบบบ”

เจ็บไม่ได้ครึ่งกูหรอกไอ้ควาย กระดิกนิ้วตีนยังลำบากเลยตอนนี้ ยังมีหน้าจะให้กูรับผิดชอบ ไม่ถีบตกเตียงก็บุญหัวมึงเท่าไหร่แล้ว

“กูไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้นล่ะ แล้วมึงก็ไม่ต้องคิดจะมารับผิดชอบอะไรกูด้วย กูไม่ต้องการ”

ผมปล่อยมือจากแก้มไอ้เมล แล้วสบตากับมันอย่างจริงจัง

“มึงหมายความว่าไงเท็น”

“เป็นเพื่อนกันดีแล้วน่า”

ไอ้เมลผุดลุกขึ้นนั่ง เงียบไปทันที ผมมองเห็นแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือของมัน

“เพื่อน...เหรอวะ”

ผมพยักหน้าแต่มันคงไม่เห็นเพราะยังนั่งหันหลังให้ ...ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร กับไอ้เมลผมรู้สึกดี รู้สึกว่ามองมันพิเศษกว่าคนอื่น แต่ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันจะพัฒนาขึ้นเป็นความรักได้ไหม

ผมไม่มั่นใจเลยว่าแค่ที่รู้สึกอยู่ตอนนี้มันจะพอให้ไอ้เมลมาเสียเวลากับผมรึเปล่า ไอ้เมลมันจริงจังมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก แล้วคนที่จริงจังกับเรื่องของผมถึงขนาดนี้ ผมจะทำเล่นๆ กับเขาได้ยังไง เป็นเพื่อนกันไปก่อนน่ะดีแล้ว จะพัฒนาหรือไม่ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต

....เพราะถ้าต้องคบกันจริงจัง ผมก็ไม่อยากจะเลิกกับมันเหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว

“เมล ถ้าออกไปก็ล็อคประตูให้กูด้วยนะ”

“อืม”

.
.
.

“สวัสดีค่ะพี่เท็น หนูชื่อวาสิตา มั่งมี ชื่อเล่นชื่อตะนอย อยู่ชั้นปี 1 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หนูเป็นน้องรหัสของพี่ค่ะ ขอโทษที่เพิ่งมาแนะนำตัวนะคะ คือหนูรู้จักพี่นานแล้วค่ะ ป้ากับปู่เป็นคนบอก แหะๆ”

ผมมองสำรวจน้องรหัสตัวเอง ชื่อตะนอยนี่จะโกหกขนาดตัวไปไหนวะ เออ แต่เอาเถอะ มันน่ารักดี ดูซื่อๆ ไร้พิษภัย

“กว่าจะเจอกู มึงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง” ไอ้กัสเจอน้องรหัสมันตั้งแต่สามวันแรกที่เปิดเทอม ก็น้องแนงที่มันเลื่อนสถานะให้เป็นเมียอยู่ช่วงหนึ่งนั่นแหละครับ ส่วนไอ้ฟิวนั่นผมไม่รู้ แต่กูว่าแค่สองสัปดาห์แรกคนอื่นเขาก็รู้จักสายตัวเองก่อนจะถึงวันเฉลย
สายรหัสทั้งนั้น

“พี่เท็นอ่ะ ก็พี่ตามหาตัวยากจะตาย แว๊บไปนั่นมานี่ ถามเพื่อนพี่ดูก็ได้ หนูมาหาแล้วแต่พี่ไม่อยู่”

“ช่างเถอะๆ แล้วนี่ปู่รหัสมึงนัดเลี้ยงเมื่อไหร่”

“ก็รอพี่เท็นกลับมาอ่ะ” ยังดีที่รอผม แต่ไอ้พี่กันกับเจ๊พิมแกไม่ค่อยเรื่องมากอยู่แล้ว จะเลี้ยงเมื่อไหร่ก็ได้

“เออๆ ไว้กูนัดเวลาอีกทีละกัน”

ไอ้ตะนอยยิ้มร่า ยื่นถุงขนมถุงใหญ่มาให้ผม มันบอกว่าแบ่งให้กิน ก่อนจะขอตัวขึ้นไปเรียนฟิสิกส์ เออนะ กูก็ลืมไปเลยเรื่อง
สายรหัสอะไรเนี่ย ถ้าไอ้ฟิวกับไอ้กัสไม่บังคับให้ผมมานั่งรอพวกมันที่โรงอาหารคณะ ไอ้ตะนอยคงไม่มีบุญได้เห็นหน้าหล่อๆ ของผมหรอก

ระหว่างรอไอ้เหี้ยสองตัวไปจดแนวข้อสอบแคลสาม ผมก็นั่งกินขนมที่ไอ้ตะนอยอุตส่าห์แบ่งให้ไปพลางๆ

“ไอ้เมล เหม่อเหี้ยไรวะ กูถามว่าคืนนี้ร้านเดิมป่าว”

เสียงใครไม่รู้ดังอยู่ข้างหลังผม แต่เพราะเป็นชื่อไอ้เมลผมถึงหันไปมอง เห็นมันกำลังยืนต่อคิวซื้อก๋วยเตี๋ยวอยู่ มีผู้ชายอีกสามสี่
คนล้อมหน้าล้อมหลัง หนึ่งในนั้นผมจำได้ว่าคือไอ้คนที่ผลักอกผม ไอ้เมลหันมาสบตากับผมพอดี ไม่ได้เจอกันสามวันมันก็ยังหล่อเหมือนเดิม หรือหล่อขึ้นรึเปล่าอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ

“ถามไอ้แต้มสิ คืนนี้มันเป็นคนออกค่าเหล้า เดี๋ยวกูมา ฝากซื้อด้วย กูเอาเล็กน้ำใส”

ไอ้เมลบอกเพื่อนมันก่อนจะเดินมาหาผม มันนั่งลงข้างๆ แล้วก้มลงมากัดช็อคโกแล็ตแท่งที่ผมถืออยู่

“ทำไมนั่งคนเดียว เพื่อนไปไหน”

“ไปเรียน ไม่เจอพวกมันเหรอ เห็นว่าวันนี้อาจารย์บอกแนวข้อสอบ”

“ไม่อ่ะ วันนี้กูนั่งข้างหลัง แล้วมึงกินไรยัง”

“ยัง รอพวกมัน”

เอ่อ แปลกอ่ะ คือผมก็ไม่รู้จะชวนมันคุยอะไร ไอ้เมลก็เหมือนพอใจแค่ได้นั่งมองหน้าผม พวกเราเลยสามัคคีกันเงียบ

“อ้าว เมล วันนี้ไม่เข้าเรียนเหรอ ทำไมฟิวไม่เห็นเลย” เสียงไอ้ฟิวทักขึ้น ผมหันไปมองก็เห็นมันเดินหอบหนังสือมากับไอ้กัส

“พวกเมลนั่งข้างหลังอ่ะวันนี้ เข้าสาย”

“วันนี้ฟิวก็เกือบสาย ไอ้เท็นเพิ่งกลับมาเมื่อเช้า เลยพาคนอื่นสายกันหมด แล้วมึงกินไร” ตอนคุยกับไอ้เมลนี่เสียงอ่อนเสียงหวาน ทำหน้าอย่างกะนางเอกหนัง แต่พอหันมาทางผมนี่หน้าอย่างกะนางยักษ์

“เอาเหมือนมึง”

“เออๆ กัส มึงไปซื้อน้ำละกัน แล้วเมลกินข้าวยัง”

“ยังเลย แต่ฝากเพื่อนซื้อไว้แล้วล่ะ”

“อ๋อ งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ ไปซื้อข้าวก่อน”

ไอ้กัสกับไอ้ฟิวแยกย้ายกันไปซื้อข้าวซื้อน้ำ แต่ไอ้เมลยังไม่ไปไหน ไม่รู้มันจะจ้องหน้าผมหาหวยรึยังไง -_-

“มึงไปไหนมา” ทำเสียงเข้มใหญ่เลยนะ

“เชียงใหม่”

ไอ้เมลหน้าเครียดทันที ผมเลยยื่นช็อคโกแล็ตให้มัน เผื่อมันจะเลิกคิดแดกหัวผม

“ใครใช้ให้มึงปิดมือถือล่ะ กูโทรหาแล้วนะ” สีหน้าไอ้เมลดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังไม่ยิ้ม มันยกมือลูบหัวผม ผมเลยเอนตัวไปทางมันให้ไหล่เบียดแขนมันเล็กน้อย คือต้องบอกว่าถึงความสูงเราไม่ได้ห่างกันมาก แต่ก็ทำให้ไหล่เกยกันไม่ได้หรอกนะ

“ไม่ได้ปิด เบอร์เดิมมึงโทรไม่ติดหรอก กูหักซิมทิ้งไปแล้ว”

“อ้าว ทำไมวะ”

“โมโหคน”

“โมโหแล้วไปลงกับของ”

“ว่าคนอื่นได้เหรอมึงน่ะ แล้วห้ามไปไหนนะวันนี้ ตอนเย็นกูไปรับ”

“ตามใจมึง”

ไอ้เมลยิ้ม ผลักหัวผมเบาๆ แล้วเดินไปหาเพื่อนมันที่กวักมือเรียกจากอีกโต๊ะ เห็นไอ้ตี๋หน้าขาวที่ผมจำชื่อมันไม่ได้โบกไม้โบกมือ
มาให้ ผมเลยยิ้มให้มันไปตามมารยาท

“คบกันแล้ว?” ไอ้กัสกลับมาที่โต๊ะ เลื่อนแก้วใส่น้ำแข็งมาตรงหน้าผมในขณะที่มือมันก็แกะพลาสติกออกจากฝาขวดน้ำเปล่า

“เปล่า ก็เพื่อนกันเหมือนเดิม”

“เชื่อยาก กูเห็นนะ ไอ้เมลออกมาจากห้องมึงตอนตีสอง เพื่อนแบบไหนเหรอ”

“แปลกตรงไหนวะ มึงก็เคยออกจากห้องกูตอนตีห้า”

“ก็คงงั้น เอาเถอะ ยังไงก็อย่าทำเหมือนกูละกันนะเพื่อนรัก”

ผมมองหน้าเจ้าเล่ห์ของไอ้กัสอย่างงงๆ

“ทำอะไร”

“ไม่รักแต่กั๊กไว้ไงล่ะ หึหึ”

“ส้นตีน” คนอย่างกูไม่คิดอะไรก็ไม่กั๊กไว้หรอกเว้ย -*-

.
.
.

“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย ล็อคกูขนาดนี้มึงฆ่ากูเลย” ไอ้แม็คโวยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ผมเตะตูดมันอย่างสะใจ ทีนี้ไอ้ถึกนี่ก็ออกไป
คนหนึ่งแล้ว หึหึ ทีมกูชนะใส

“มึงแพ้ตั้งแต่คิดแข่งแล้วเพื่อนเอ๋ย นี่ใครครับมึง ท่านเทพพะชอนมือกาวระดับเทพเจ้า มึงอย่าคิดจะมีปากมีเสียงในเขตพวกกูได้นาน หึหึ” ไอ้เต๋อเพื่อนร่วมทีมของผมได้ทีเกทับใหญ่

“พวกมึงโกงอ่ะ กติกาเขาห้ามปิดปาก ห้ามจั๊กจี้ แต่กูโดนหมดเลยอ่ะ ไม่ยุติธรรม ไอ้เหี้ยกรรมการมาเคลียร์ดิวะ” ไอ้แม็คยังไม่ยอม มันเรียกไอ้ฟิวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะให้มาเคลียร์ ไอ้เหี้ยนี่ก็รับเป็นกลางแต่ก็ไม่ได้สนใจการแข่งขันเลย

เออ ใช่ครับ ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าพวกผมกำลังเล่นตี่กันอยู่ เพื่อนร่วมทีมผมก็มี ไอ้เต๋อกับไอ้กัส ส่วนอีกทีมก็มีไอ้แม็ค ไอ้คิม ไอ้เต้ เล่นกันแค่นี้ล่ะครับ แต่ก็สนุกดี ทีมแพ้ก็ไม่ต้องทำไรมาก แค่ออกค่าเหล้าคืนนี้ก็เท่านั้น โฮะๆ

ไอ้ฟิวมองพวกผมอย่างเอือมระอาแล้วมันก็เข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ ให้ทุกอย่างเป็นโมฆะแล้วไอ้ห่าแม็คก็สามารถลงเล่นต่อได้ เห็นพวกมันสามคนซุบซิบแผนการกันใหญ่ พวกผมเลยเอาบ้าง โธ่ ไอ้พวกมือไม่ถึง คิดจะต่อกรกับกูยังเร็วไปร้อยปีน้องเอ๋ย

พอเล่นตี่จนเบื่อ เราก็เปลี่ยนมาเล่นเตยกันบ้าง แต่เกมนี้พวกผมเสียเปรียบเพราะไอ้ทีมคู่แข่งมีแต่ตัวควายๆ ทั้งนั้น กางแขนแต่
ละทีผมยังคิดว่ามดสักตัวพวกมันก็ไม่ให้ผ่านอ่ะ ถ้าใครไม่รู้จักตี่กับเตยก็ไปหาเอาในกูเกิลนะครับ ฮ่าๆๆ

“เฮ้ย กูไปก่อนนะเว้ย คืนนี้เจอกันร้านพี่เจ๋ง” ผมบอกลาพวกมันเพราะไอ้เมลไลน์มาบอกว่าให้ไปหาที่ลานจอดรถ ไอ้นี่ก็ตอน
บ่ายแม่งบอกจะมารับ ตอนนี้ดันให้ผมไปหาเองซะงั้น

“อย่าเถลไถลนะไอ้เท็น ห้ามกลับดึกด้วย!” ไอ้ฟิวตะโกนตามหลังมา ผมเลยโบกมือกลับไปให้มัน

ผมมาถึงลานจอดรถก็เห็นไอ้เมลยืนพิงกระโปรงรถกดโทรศัพท์เล่นอยู่แล้ว

“ทำไรมา หน้าแดงเลยมึง”

“เล่นกับพวกไอ้เต๋อ แล้วบอกจะไปรับ ให้กูเดินมาหาเนี่ยนะ ไกลก็ไกล”

“บ่นๆ”

“ก็กูเหนื่อย”

“ถ้ากูไปรับแล้วมึงจะตอบเพื่อนมึงว่าไง”

“ก็บอกว่าไปกับมึง เพื่อนกันคิดไรมากวะ”

ไอ้เมลผลักหัวผมก่อนจะเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ เออนะ ดีจริง ไม่มีจะเชิญกูขึ้นรถสักคำ ผมเลยต้องเชิญตัวเองมานั่งเป็นตุ๊กตา
หน้ารถให้มัน

หลังจากนั้นก็ไปกินข้าว ดูหนังกัน ผมไม่ได้ขัดอะไรหรอก มันอยากพาไปไหนก็ไม่มีปัญหาเพราะมันเป็นคนขับ เกือบสองทุ่ม
มันก็พาผมมานั่งกินนมแถวหลังมอ ร้านนี้คนเยอะครับ อร่อยแล้วก็ถูก สายรหัสส่วนใหญ่ถ้าไม่พาไปกินหมูกะทะก็จะมาที่นี่นั่น
แหละ เมื่อตอนผมอยู่ปีหนึ่งเจ๊พิมพี่รหัสผมก็พามาเลี้ยงนมเลี้ยงเค้กที่นี่เหมือนกัน

เดินมากับไอ้เมลผมก็พลอยโดนมองไปด้วย มันดังพอตัวเลยนะ มีคนเข้ามาทักมันไม่ขาด ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนร่วมรุ่น บางคนผม
คุ้นหน้าจากเวทีประกวดดาวเดือนมหาลัย บางคนก็ไม่รู้จักเลย ไอ้เมลมันก็ยิ้มบ้าง ทำหน้างงบ้างเพราะผมก็คิดว่ามันคงจำไม่ได้ว่า
คนที่มาทักมันชื่ออะไร

“คืนนี้มึงอยู่ร้านพี่เจ๋งใช่ป่ะ” ไอ้เมลถามพร้อมกับตักเค้กคำเล็กมาจ่อที่ปากผม ผมอ้าปากรับก่อนจะพยักหน้า

“พวกกูจะไปฟองเบียร์”

“เปิดใหม่เหรอวะ กูไม่เคยได้ยินชื่อร้าน”

“อืม โปรเบียร์ถูกดี”

“ก็คงถูกเฉพาะช่วงเปิดใหม่”

“อือ ถึงวันนี้แหละ พรุ่งนี้ก็ราคาตามปกติ ไปด้วยกันมั้ย”

“ไม่ว่ะ กูนัดพวกไอ้เต๋อให้ไปเจอที่ร้านพี่เจ๋งแล้ว คืนนี้ว่าจะจัดเบาๆ เพราะตั้งแต่กลับมากูยังไม่ได้นอนเลย มาถึงก็โดนบังคับให้อาบน้ำมามอ”

“งั้นห้าทุ่มกูไปรับดีมั้ย”

โธ่ ไอ้เมล แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ว่ามันคิดอะไร ผมโขกหัวกับไหล่มันอย่างหมั่นไส้ มันหัวเราะชอบใจก่อนจะตักเค้กมาป้อนให้ถึงปาก

“หกโมงเช้าไปส่งกูได้มั้ยล่ะ ไอ้ฟิวบอกห้ามกลับดึก”

“ถ้ามึงตื่นไหว กูก็ไม่มีปัญหา”

ไอ้เหี้ยนี่ยิ้มได้กวนตีนมาก เปลี่ยนใจไม่ให้มันไปรับจะทันมั้ยวะ -*-

............................. To be continue.......................

เรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ เนื้อเรื่องขึ้นๆ ลงๆ ตามความรู้สึกนึกคิดของเท็น ติดตามต่อไปเรื่อยๆ จะเข้าใจเขามากขึ้น แหะๆ ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยนะคะ วันนี้มาดึกหน่อย ติดภารกิจทั้งวัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-08-2013 22:40:33
โล่งใจที่ไม่มีมาม่า แต่ตอนนี้ขุ่นๆเทาๆเนอะ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยเพราะหนูเท็นขอโทษคนอื่นเป็น ทำตัวน่ารักขึ้น อย่างนี้เมลจะไม่หลงได้ไงหล่ะ อิอิ

ส่วนเมลนี่ตรงกับความรู้สึกดี ไม่มีการคบซ้อนหรือคบเพื่อประชดเท็น เอาใจไปเลย

เป็นกำลังใจให้จ้าาา +1เป็ด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: polartotty ที่ 18-08-2013 22:44:11
มาต่อเร็วมาก ดีจังเลยค่ะ อิอิ  เมื่อวานดราม่ากระจาย วันนี้กลับมาหวานแหละ หุหุ เหมือนเท็นก็พยายามปรับตัวอยู่นะ แอบน่ารักนะเนี่ย รู้สึกจะหวานกว่าตอนคบกันด้วยซ้ำ 5555 มาต่อเร็วๆนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 18-08-2013 22:50:06
เพื่อน(เอา)กันมันส์ดี  :laugh:

เท็นเอ๊ย จะบอกว่าเป็นเพื่อนได้อีกสักกี่น้ำ อุ๊ย >///<
เดี๋ยวพอมีคนมาเกาะแกะเมล อารมณ์ก็พุ่งปรี๊ดอีก
ขนาดตอนนั้นยังไม่ถึงไหนกันยังทำเอาเมลหัวแตกเลย

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 18-08-2013 23:13:53
ฮ่าๆๆ   มาหวานกันซะงั้น

อิอิ  ชอบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 18-08-2013 23:17:58
อ๊ากมีมุมน่ารักวุ๊ย 


รอจร้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 18-08-2013 23:27:03
เข้าใจยาก แต่พูดตรงๆเลยว่ามีเสน่ห์มากคะเท็น เมลปล่อยวางแล้วจะพบความสุขในชีวิตเชื่อคนอ่าน!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 19-08-2013 00:10:03
เราชอบเท็นนะ ลอยไปลอยมา ดูเป็นตัวของตัวเองดี
เหมือนคาดหวังให้มีใครสักคน(ในที่นี้คือ เมล)ทนรับนิสัยลอยไปลอยมาของตัวเองได้และรอคอยเท็นกลับมา
แต่เท็นไม่กล้าทุ่มหมดใจ เพราะตอนนี้เท็นแค่คาดหวัง
และคงผิดหวัง ที่เมลเมินตัวเอง และเหมือนสนใจคนอื่นมากกว่า เลยพาลไปตีหัว
คิดว่า เมลคงต้องใจเย็นๆ และทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ ถ้าหวังจะคบกับเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 19-08-2013 00:28:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 6 :: 18-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: rungravee ที่ 19-08-2013 11:34:18
อิเท็นนนนนนนนนนนนนนนนน !!!  แก่หึงได้โหดมาก ล่อฟาดด้วยขวดแก้ว >__<
เสียตัวให้เมลแล้สยังจะมาบอกมาเป็นเพื่อน หึหึหึ ย้ำว่าเพื่อนมากๆ เด่วเจอเมลจัดดอกใหญ่ๆให้จะระทวยนะอิเท็น
 :hao7:

(  ' ' )  อยากอ่าน ฉากอีโรติก ><   :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 19-08-2013 19:16:54
ตอนที่ 7

ไอ้เจมมันหล่อไม่แพ้ผมเลยนะ พูดจริงๆ ไม่เสียแรงที่ไปไกลถึงเชียงใหม่ ขนก็งามนามก็เพราะ บอกเลยว่าลูกผมนี่อนาคตไกล ทั้งเตะทั้งจิกไม่เป็นไก่รองบ่อนแน่นอน

อ่ะ สงสัยล่ะสิ คืออย่างนี้ ไม่กี่วันก่อนผมบังเอิญได้ดูทีวีรายการหนึ่งแล้วเกิดไอเดียขึ้นมาว่านี่แหละคือสิ่งที่อยากทำ หลังจากไปเรียนทำเค้กแล้วรู้สึกไม่ค่อยเวิร์คสำหรับตัวเองเท่าไหร่ ว่าจะหันมาเอาดีทางเลี้ยงไก่ชน ก็ดีครับ ผมอาจจะเป็นมือใหม่ แต่ก็จะตั้งใจศึกษาเต็มที่เลยล่ะ

“เสียงขันเอ็งไพเราะจริงๆ ลูกพ่อ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วค่อยกินข้าวนะเอ็ง พ่อจะจัดมื้อใหญ่ให้ อยู่นิ่งๆ ลูกอยู่นิ่งๆ”

วันนี้ผมว่างเลยพาไอ้เจมมาตากแดดแปรงขน ลุงชิดคนสวนของบ้านผมเพิ่งพามันมาให้เมื่อบ่ายนี้ ไอ้เจมนี่ประวัติมันไม่ใช่ไก่กานะครับ กว่าจะได้มันมาผมหมดเงินไปเป็นแสนแล้ว ตอนนี้ผมฝากให้ลุงชิดแกเป็นคนรับผิดชอบเลี้ยงดูมันอยู่ ให้เอามาเลี้ยงที่นี่ไอ้ฟิวได้บ่นไปเจ็ดวันเจ็ดคืนแน่

“ไอ้เท็น นั่นมึงเอาไก่ที่ไหนมาวะ”

คิดถึงผีผีก็มา ไอ้ฟิวที่เพิ่งลงจากรถ หอบชีทหอบหนังสือเต็มอ้อมแขนทักผม วันนี้พวกมันมีเรียนครับ ทั้งมันทั้งไอ้กัสเลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน แต่ทำไมผมที่เรียนสาขาวิชาเดียวกับมันถึงว่างน่ะเหรอ หึ ไม่น่าถาม

“ชื่อเจม หล่อมั้ยล่ะ กูไปเอามาจากเชียงใหม่”

“ไอ้เหี้ย ไร้สาระใหญ่แล้ว ที่มึงหายหัวไปเชียงใหม่สามวันนี่เพื่อไก่ตัวเดียว แล้วบอกไว้ก่อนเลยไอ้เท็น กูไม่อนุญาตให้เลี้ยงไก่ไว้ในบ้านนะเว้ย”

“เออน่ะ กูให้ลุงชิดเลี้ยงให้ ไม่มีปัญหา”

“มึง กูว่ามึงกลับไปคิดเปิดร้านเค้กเหมือนเดิมเถอะว่ะ”

“ทำไมวะ ไอ้กัสบอกกูว่าไม่รุ่ง นี่ไง กูหาไอเดียใหม่ได้แล้ว กูจะเป็นเจ้าพ่อไก่ชน มึงดูลูกกูนี่ สง่ามั้ยล่ะ ขันแต่ละทีนี่กูรับรองว่าคู่ต่อสู้มีตีปีกพั่บๆ ด้วยความกลัวอ่ะ วันนี้กูก็ว่างด้วย เลยว่าจะพามันไปลองสนามซักหน่อย”

“ว่างพ่องงงง โดดเรียนมานั่งอาบน้ำให้ไก่นี่นะไอ้ควาย แม่มึงคงดีใจจนน้ำตาไหลอยู่แอลเอโน่น กูบอกมึงแล้วนะว่าช่วงนี้อาจารย์จะบอกแนวข้อสอบ ให้เข้าเรียนๆ เคยฟังมั้ยวะ”

“ชัทอัพมายเฟรนด์ เก็ทเอ้าพลีส”

“ฟัค!”

ไอ้ห่าฟิวนี่นับวันยิ่งหยาบคายใส่ผม แต่ก็ช่างเถอะ คำพูดไร้สาระของมันผมไม่เก็บเอามาคิดให้รกสมอง

ผมอาบน้ำให้ไอ้เจมเสร็จ ไอ้กัสก็โผล่มา มันเข้ามาทักทายไอ้เจมพร้อมกับบอกผมว่าไอ้ฟิวโทรไปฟ้องมันเรื่องผมจะเลี้ยงไก่ มันเลยรีบกลับบ้านมาดู ก่อนจะพูดวกเข้าเรื่องไอ้เมลอย่างไม่ให้ผมได้ตั้งตัว

“เมื่อเช้ากูเห็นมันมาส่งมึง สรุปไม่ได้นอนบ้าน ไหนมึงบอกว่าเพลีย จะรีบกลับมานอน”

“ก็กลับจริงๆ กูก็ไม่ได้ไปต่อที่ไหน ออกจากร้านพี่เจ๋งมาก็ไปนอน”

“แต่ไม่ได้นอนบ้าน?”

“เออ กูไปนอนกับไอ้เมล”

“ไหนบอกไม่ได้คบกัน”

“ก็ไม่ได้คบกันจริงๆ กูพูดไรผิด”

“เออไอ้เหี้ย ไม่ผิด แต่กูไม่เข้าใจ ไม่ได้คบกันแล้วมึงไปนอนกับมันทำไม”

“ความพอใจส่วนตัว”

“ดอก กูไม่รู้จะพูดไงเลยเนี่ย”

ผมยักไหล่ไม่สนใจไอ้กัส ได้เวลาพาไอ้เจมไปเปิดตัวละ ผมนัดกับลุงชิดไว้แล้วว่าบ่ายสามจะไปรับแล้วไปบ่อนด้วยกัน ได้ยิน เสียงไอ้กัสด่าไล่หลังมาแต่ผมไม่ได้หันกลับไป

.
.
.

“ไอ้พะชอน หายหัวไปเลยนะมึง ติดสาวไงวะ” ไอ้เต๋อมองสำรวจผมด้วยความสงสัย ผมล่ะเบื่อจะบอกมันว่าชื่อจริงผมชื่อ พชร ที่อ่านว่า พะชะระ ไม่ใช่พะชอนอะไรนั่น ชื่อกูเท่ขนาดนี้เรียกซะเสียไอ้ห่า

“ติดสาวเหมือนไอ้เหี้ยคิมก็ดีสิวะ แต่ไอ้ห่านี่ติดไก่ ช่วงนี้แม่งกินนอนอยู่ที่บ่อนไก่โน่น ถ้าไอ้ฟิวไม่ตามไปจิกหัวมันมา มึง มึง มึง และมึง ไม่มีบุญได้เห็นหน้ามันหรอก” ไอ้กัสแถลงการณ์แทนผม ไอ้เต๋อ ไอ้แม็ค ไอ้คิมและไอ้เต้ทำหน้าเก็ทขึ้นมาทันที

“ถึงว่า ช่วงนี้ไอจีมึงมีแต่รูปไก่ กูถามจริงๆ เถอะไอ้เท็นมึงไม่คิดทำอะไรสักพักจะตายไงวะ เลคเชอร์ก็ไม่เข้าเรียน แล็ปก็ขาดแล้ว ขาดอีก แต่สอบมาแม่งได้คะแนนดีกว่ากู แล้วเรื่องที่ต่อศักดิ์จะให้ มส มึงอ่ะ เคลียร์ยังวะ”

ดร.ต่อศักดิ์เป็นคนเดียวที่เช็คชื่อเข้าเรียนเลคเชอร์ แกสอนวิชาของสาขาที่เทอมนี้ผมมีเรียนอยู่สองตัว แล้วผมก็นะ อย่างที่รู้ ขาดสะบั้นหั่นแหลก แกเลยฝากไอ้ฟิวมาบอกว่าจะไม่ให้เข้าสอบมิดเทอมวิชาแก

“แม่กูเขียนจดหมายบอกอาจารย์แล้วว่ากูไปทำธุระกับครอบครัวที่ต่างประเทศ จารย์แกเลยยอมความ แต่ความจริงกูว่าท่านต่อเขาไม่เชื่อหรอกว่ะ เพราะวันก่อนกูยังยกมือไหว้แกที่โรงอาหารอยู่เลย เหอะๆ”

“ดีนะที่อาจารย์เขาไม่ถอนหงอกแม่มึง” ไอ้แม็คพูด

“ไม่มีปัญหา ท่านต่อเป็นเพื่อนป๋ากู คุยง่ายอยู่แล้ว แม่กูแค่เขียนจดหมายเผื่อมีคนประท้วงเรื่องความไม่ยุติธรรม จะได้มีหลักฐาน แย้งว่ากูมีใบลา”

“เออ ก็สรุปว่ามึงรอดตัว”

ผมพยักหน้า ก่อนจะมองไปรอบๆ ร้าน วันนี้ร้านพี่เจ๋งคนไม่เยอะเท่าไหร่ ดูสบายตาดี ส่วนไอ้ห่าฟิวที่ไปตามด่าผมถึงบ่อนมันก็เป็นเด็กดีอ่านหนังสืออยู่กับบ้าน ก่อนผมออกมามันยังบ่นผมไม่เลิกเลย

หืมมม กับไอ้เมลน่ะเหรอ ก็หลังจากที่ไปค้างกับมันเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะผมหมกมุ่นกับการพาไอ้เจมมุ่ง สู่ชัยชนะ เลยได้แค่คุยโทรศัพท์ มันก็บ่นบ้าง โกรธบ้าง แต่ก็ยังโทรมาทุกวัน แล้ววิธีสื่อสารของเราก็ไม่ซ้ำในแต่ละวันเลย แทงโก้บ้าง ไลน์บ้าง สไก๊ผ่านมือถือบ้าง เฟซทามบ้างตามแต่อารมณ์ผม ก็ไม่ได้คุยกันบ่อยหรอกครับ แค่สองชั่วโมงครั้งเอง เหอะๆ

ไอ้เมลมันบ้า ผมยังคิดเลยว่ามันจิกเก่งกว่าไอ้เจมซะอีก คืนนี้มันก็บอกจะมาหาที่ร้าน แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัว

“มองหาไอ้เมลเหรอวะ ก่อนมานี่กูเจอมันนั่งแดกข้าวกับพี่บีมเภสัช กว่าจะแดกเสร็จคงอีกนานมั้ง เพราะแม่งคงพาไปแดกตับด้วย หึหึ” ไอ้กัสพูดขึ้นมา ผมเลยหันไปยักคิ้วให้มันประมาณว่า แล้วไง กูไม่ได้อยากรู้ แต่มันก็ยังหัวเราะ ผมเลยเลิกเสวนากับมัน

ก็ไม่รู้นะว่าเป็นอย่างที่ไอ้กัสมันบอกรึเปล่า แต่กว่าไอ้เมลจะโผล่หน้ามาหาผมก็เกือบเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ผมยอมรับว่าผมหงุดหงิด แต่ก็พยายามระงับความหงุดหงิดนั้นไว้เพราะยังไงผมก็เป็นแค่เพื่อนมัน จะไปถามว่ามึงไปแดกข้าวกับสาวเภสัชมาจริงๆ เหรอวะ ก็ไม่ใช่เรื่อง

“เมาเหรอมึง นั่งเงียบเชียว” ไอ้เมลถาม

“เปล่า กูขี้เกียจพูดเฉยๆ มึงข้อง?”

“หึหึ”

“หัวเราะเหี้ยไร แล้วไอ้เหี้ยเต๋อ กูบอกว่าวันนี้จะแดกช้าง มึงเอาลีโอมาเพื่อ? ปัญญาอ่อนไอ้สัด”

“อ้าว ก็ตอนแรกมึงบอกวันนี้ให้เปลี่ยนยี่ห้อเบียร์ ไอ้คิม มึงก็ได้ยินใช่ป้ะ”

ผมส่งสายตาไปกดดันไอ้คิมจนมันเปลี่ยนจากพยักหน้าเป็นส่ายหน้าแทบจะทันที

“เออออ เดี๋ยวกูเดินไปเอาช้างมาให้ คราวนี้ถ้ามึงร้องจะแดกลีโอล่ะก็ กูจะเอาช้างฟาดหน้ามึง”

เห็นไอ้เต๋อกระฟัดกระเฟียดแล้วผมก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย

ไอ้เมลจากที่แม่งกวนตีนผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมันก็ยิ่งกวนมากขึ้นไปอีก มองหน้ากูแล้วยิ้มนี่มันหมายความว่าไงวะ

“คืนนี้ค้างกับกูนะ พรุ่งนี้เช้ากูไปส่งบ้าน” ไอ้เมลก้มลงมากระซิบข้างหู ผมเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย เพราะเห็นไอ้กัสกับไอ้แม็ค สามัคคีกันมองมาอยู่

“ไม่เอา คืนนี้กูจะนอนบ้าน”

“ทำไมวะ ไม่คิดถึงกูไง”

ไอ้เหี้ยเมลเก่งนักล่ะเรื่องทำหน้าให้ดูน่าสงสาร เฟคเก่งระดับเทพเจ้า ให้จัดเลเวลมันคงอยู่ระดับพิเศษอ่ะ แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่ามัน ตอแหลผมก็อดจะตามใจมันไม่ได้ ไม่รู้ทำไมถึงไม่ชอบให้มันทำหน้าแบบนี้เลย

.
.
.

“ไม่รู้ทำไมมึงยังเรียกไอ้เมลว่าเพื่อนได้เต็มปาก ได้กันไม่รู้กี่ท่าแล้วทำไมยังไม่คบกันอีกวะ” ไอ้กัสถามผมขึ้นในเย็นวันหนึ่ง
ผมกำลังนั่งกินฝอยทองอยู่ก็ต้องชะงักกับคำถาม เดี๋ยวนี้ไอ้กัสมันอยู่ติดบ้านมากขึ้นเพราะกำลังหาข้ออ้างเลิกกับแฟนคนล่าสุดอยู่ ส่วนไอ้ฟิวเวลานี้มักจะขลุกอยู่ในครัว

“มึงเห็นเหรอว่ากูกับมันได้กัน”

“หายหัวไปอยู่กับมันเกือบทุกคืน มึงคงไม่บอกกูหรอกนะว่าแค่ไปนอนจับมือกัน”

“ก็ไม่ได้จะพูดอย่างนั้น”

ผมแค่ว่างมากเท่านั้นเอง เพราะอีกสามวันจะเริ่มสอบวิชาแรกแล้ว ไอ้ฟิวเลยยื่นคำขาดไม่ให้ผมพาไอ้เจมลูกรักไปที่บ่อนจนกว่าจะสอบเสร็จ ช่วงนี้เลยมีเวลาให้ไอ้เมลมันหิ้วไปนั่นมานี่ ไปค้างกับมันบ้าง แต่ไม่ใช่เกือบทุกคืนอย่างไอ้กัสพูดหรอก มันก็ไม่ได้อยู่บ้านทุกคืนเหมือนกันนั่นแหละ จะไปรู้ได้ไงว่าคืนไหนผมไปอยู่กับไอ้เมลบ้าง

“แล้วคืนนี้มึงออกไปไหนมั้ย” ไอ้กัสถามขึ้นมาอีก

“คงไม่ กูตั้งกล้องดูดาวไว้ คืนนี้ในข่าวบอกว่าจะเห็นดาวเสาร์ได้ชัด”

“ที่ไหน ดาดฟ้า?”

“อือ”

“คอนโดไอ้เมลจะไม่เห็นชัดกว่าเหรอวะ หึหึ”

ผมไม่สนใจความเห็นของไอ้กัส เพราะต่อให้แบกกล้องไปเคาะประตูห้องไอ้เมล มันก็ไม่เปิดให้ผมหรอก ไอ้ห่านั่นโกรธผมอยู่ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกนะว่าเรื่องอะไร แต่ที่คิดออกก็มีอยู่เรื่องเดียวคือมันไปเห็นผมจูบกับน้องหญิง สาวหมวยคน ล่าสุดที่ผมตกลงรับนัดไปกินข้าวด้วย ผมก็ไม่ได้คิดไรกับน้องเขาหรอกนะ เขาชวน ผมก็ไปแค่นั้นเอง ไอ้เมลนั่นแหละตีโพย ตีพายไปคนเดียวว่าผมมีอะไรๆ กับน้องหญิง ทั้งๆ ที่ความจริงได้แตะปากแค่เสี้ยววินาที -_-

“แดกข้าวครับไอ้พวกคุณชาย หรือจะให้กูยกไปประเคนถึงที่”

ไอ้ฟิวโผล่หัวออกจากครัวมาเรียกแถมแดกดันอีกพอหอมปากหอมคอ ผมกับไอ้กัสเลยรีบไปกินข้าวโดยไม่ต้องให้ไอ้ฟิวเรียกอีกเป็นรอบที่สอง เพราะถ้ามีรอบสองอาจโดนด่าถึงบุพการีได้

ทานข้าวเสร็จผมก็ขึ้นห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วขึ้นไปที่ดาดฟ้าของบ้าน นอนมองท้องฟ้าสลับกับลุกขึ้นไปส่องกล้องเป็นระยะๆ ระหว่างนั้นก็ลองโทรหาไอ้เมลดูแต่มันก็ไม่ยอมรับสาย แถมสายสุดท้ายก่อนที่ผมจะเลิกพยายาม หน้าจอไอโฟนยังขึ้นว่ารอสายอีกต่างหาก

งั้นก็ช่างหัวมันเถอะครับ ผมไปนอนดีกว่า เสียอารมณ์

วันรุ่งขึ้นผมก็ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตร ไอ้ฟิวมองผมอย่างกะเห็นผี มันเดินเข้ามาแตะหน้าผากผม สำรวจทั่วเนื้อทั่วตัวแล้วก็ยกมือ ไหว้ ผมตบหัวเรียกสติมันไปหนึ่งทีมันถึงได้ยอมเข้าครัวไปทำข้าวเช้าต่อ

เช้านี้ผมก็โทรหาไอ้เมลอีกรอบ แต่ไอ้จัญไรเมลมันก็ยังไม่รับสาย นี่ถ้าผมไม่เพิ่งทำบุญมานะ จะนั่งเผาพริกเผาเกลือด่ามันให้รู้สำนึกซะบ้าง กูไม่เคยกระหน่ำโทรหาใครแบบที่โทรหามึงเลยนะไอ้เหี้ยเมล แม่งสำคัญมาจากไหนวะ

ผมทานข้าวเช้ากับไอ้ฟิวเสร็จก็ออกมามหาลัยกับมัน ส่วนไอ้กัสไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน ตอนกำลังดูดาวผมเห็นมันขับรถออกไป ตั้งแต่เมื่อคืน และเพราะวันนี้ผมเริ่มต้นวันด้วยการทำบุญ เป็นวันเรียนวันสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ช่วงสอบมิดเทอมในวันจันทร์ด้วย ผมเลยทำความดีเพิ่มเพื่อสร้างความภาคภูมิใจแก่บุพการีคือเข้ามานั่งเรียน

เพื่อนในเสคหันมามองผมถึงสองครั้ง สะบัดหน้าเหมือนพวกตลกชอบทำ แถมพวกไอ้เต๋อก็โห่ต้อนรับเสียงดังอย่างกะหงส์ติดปีก แซงหน้าผีได้ถ้วยพรีเมียลีกซึ่งชาตินี้อาจไม่มีวันมาถึง หึหึ ไม่เว้นแม้กระทั่งอาจารย์ที่แซวออกไมค์ว่าดีใจมากที่ผมหาทาง กลับมาโลกมนุษย์ได้แล้ว

ที่จริงวันนี้อาจารย์ก็ไม่ได้สอนอะไรเลยครับ แค่บอกแนวข้อสอบก็เท่านั้น ผมเลยเล่นเอ็กโอกับไอ้เต้ในกระดาษ ใครแพ้โดนดีดหู พออาจารย์เลิกคลาสหูไอ้เต้ก็แดงอย่างกะเรืองแสงได้ หึหึ มือคนละชั้นแล้วน้องเอ๋ย

“ไอ้เท็น นั่นมึงจะไปไหนวะ เดี๋ยวจะไปแดกข้าวแล้วนะมึง” ไอ้เต๋อตะโกนไล่หลังมา ผมเลยหันกลับไปตอบคำถามมัน

“กูไปทำธุระแป๊บ พวกมึงไปก่อนเลย”

“เออ ทีหลังจะไปไหนก็บอกกันก่อนไอ้เหี้ย จู่ๆ ก็ลุกเดินออกไปพวกกูตกใจ งั้นเจอกันที่โรงอาหารนะเว้ย”

ผมพยักหน้าแล้วรีบเดินออกมาก่อนไอ้ฟิวจะทันได้ถามว่าผมจะไปไหน ผมเดินมาถึงตึกภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เห็นคนนั่งอยู่ที่ ม้าหินอ่อนหน้าตึกเยอะเหมือนกัน แต่ไม่เห็นเจอไอ้คนที่ผมตั้งใจมาหาเลย ผมยืนมองซ้ายมองขวา กวาดตามองทั่วแล้วแต่ไม่มีใครเลยที่หน้าตาเหมือนไอ้เมล กดโทรหามันมันก็ไม่รับ

“ไอ้เมล” เสียงเรียกชื่อไอ้เมลดังมาจากทางเข้าตึก ผมหันไปมองก็เห็นเพื่อนมันสะกิดแขนแล้วพยักพะเยิดหน้ามาทางผม พวกมันมากันกลุ่มใหญ่แต่ละคนมีชีทอยู่ในมือ คงเพิ่งเรียนเสร็จ

ผมกำลังจะทักมัน แต่มันก็เบือนหน้าไปมองทางอื่นทำเหมือนไม่เห็น ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนมันแต่ละคนมองผมเหมือนอยากจะเข้ามา แจกตีนล่ะก็ ผมคงต่อยหน้านิ่งๆ หยิ่งๆ นั่นไปสักหมัดสองหมัดแล้ว

“มึงมาหาเรื่องเพื่อนกูถึงนี่เลยเหรอวะ” ผมไม่รู้ว่าใคร แต่ไอ้เหี้ยนี่ถามผมพร้อมกับมองหน้าแบบโคตรหาเรื่อง

“กูมีธุระจะคุยกับไอ้เมล” ผมบอกแล้วจ้องหน้ามันกลับไป เหอะ คิดว่ากูกลัวมึงไงวะ

“มีอะไรพูดกับพวกกูก็ได้ ที่ตีหัวเพื่อนกูคราวก่อน กูยังไม่ลืมหรอกนะ”

“กูไม่ได้ตีหัวมึง มึงเสือกไรด้วย” เรื่องสมัยปีมะโว้แล้วมั้ง ขุดมาพูดอีก มึงตุ๊ดป่ะวะไอ้สัด

“ไอ้นี่!” มันกระชากคอเสื้อผม ส่วนผมเตรียมปล่อยหมัดแล้ว ถ้าเพื่อนมันไม่ดึงมันออกไปคงได้ปากแตกกันบ้างล่ะ

“ไอ้ลิน พอแล้วมึง ไอ้เท็นขอโทษแทนเพื่อนกูด้วยนะ แล้วไอ้เมล เขามาหามึง ก็ไปคุยสิวะ” ไอ้ตี๋หน้าขาวนี่พอจะพูดภาษาคน รู้เรื่องบ้างแถมมันยังรู้จักชื่อผมด้วย

แต่ไอ้เมลก็ยังคงยืนนิ่ง เอาเถอะ ขนาดเพื่อนมันกำลังจะต่อยกับผมมันยังไม่สนใจ ผมพูดอะไรไปมันคงไม่ฟัง

“ช่างเถอะ แล้วมึงชื่อไรวะ”

“กูชื่อเขตไง ที่เดือนก่อนมึงไปคอนโดกู”

ผมนึกอยู่นานก่อนจะจำได้ว่ามันคือไอ้คนที่เรียกผมให้ไปรับไอ้เมล

“อ๋อ ไอ้เขต โทษทีว่ะ กูจำคนไม่เก่ง ขอบใจมึงที่ช่วยไม่ให้กูโดนหมากัด”

“มึงว่าใครหมา!”

ผมยักไหล่ ไม่ใส่ใจหมาที่มันพยายามดิ้นให้หลุดจากไอ้เขต

“กูไปละ เสียอารมณ์ มึง ชื่อไอ้ลินใช่มั้ย ไม่พอใจนัดตัวๆ กับกูได้ แต่ต้องเป็นนอกมหาลัย กูไม่อยากเสียประวัติในนี้ แล้วไอ้เมล ถ้ามึงคิดว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้ว กูกับมึงก็ไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก”

ไม่ต้องคิดว่าผมจะทำสโลโมชั่นให้มันคว้าแขนผมไว้แล้วบอกว่าไปคุยกันหรือวิ่งหนีให้มันวิ่งตามมาหรอกนะ ผมก็เดินตาม ปกติของผมนี่แหละ ผมไม่ใช่คนซับซ้อนอะไร ที่พูดบอกมันไปก็จริงทุกคำ คือถ้ามันพอใจจะหลบหน้า ไม่คุยกันอย่างนี้ ทางออกเดียวที่ผมคิดได้คือต่างคนต่างไป

“เท็น! กูโกรธมึงอยู่นะ” เสียงเข้มๆ ของไอ้เมลดังมาจากข้างหลัง ผมไม่ได้หันไปมองมัน แต่สักพักก็โดนมันจับแขนไว้แล้วลากให้เดินตาม

ไอ้เมลพาผมมาคุยข้างสระบัวที่ค่อนข้างปลอดคน หน้ามันนี่หงุดหงิดชนิดที่ว่าถ้าพูดอะไรขัดหูนิดเดียวมันถีบผมตกน้ำแน่

“มึงจะเอายังไง” ผมเปิดประเด็น ส่วนไอ้เมลเข้าสู่โหมดใบ้แดกไปแล้ว

“เพื่อนกันเขาไม่ต้องมาตามง้อกันอย่างนี้หรอกนะไอ้เมล” แล้วพอกูมาง้อแม่งก็งี่เง่าอย่างนี้ไง เกือบได้วัดตีนกับเพื่อนมึงอีก ต่างหาก

“กูไม่ลืมหรอกว่าเป็นอะไรกับมึง ไม่ต้องย้ำ”

“ถ้าไม่ลืม แล้วมึงโกรธกูทำไม กูผิดตรงไหนที่ไปกินข้าวกับคนอื่น”

“มึงไม่ใช่แค่กินข้าวเท็น กูเห็นว่ามึงทำอะไร”

“กูจูบคนที่กูไปกินข้าวด้วยไม่ได้เหรอวะ”

“ถ้ากูบอกว่าไม่ได้”

“งั้นกูต้องถามมึงแล้วล่ะว่าทำไม กูไม่มีแฟนนะเมล กูไม่ได้ทำผิดกับใคร”

“มึงใจร้ายมากกว่าที่กูคิดซะอีกนะเท็น”

ผมเบือนหน้ามองไปอีกทาง ไม่อยากเห็นไอ้เมลทำหน้าแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าทำไมมันยังต้องทนกับผม คนอย่างมันไม่ต้องพยายาม ทำอะไรก็มีคนมากมายที่พร้อมจะทำให้มันมีความสุข

“ถ้ารู้ว่ากูใจร้ายแล้วจะทนกับคนอย่างกูทำไมวะเมล”

ไอ้เมลไม่ตอบ และผมก็ไม่คิดจะคาดคั้นอะไรจากมัน

ผมไม่เข้าใจตัวเอง พูดจริงๆ เลยว่าผมก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง ผมให้อิสระกับตัวเอง ผมยึดตามความต้องการของตัวเองมาเป็นอันดับแรกเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะทำตามสิ่งที่ผมคิดอยากจะทำเท่านั้น ผมไม่เคยต้องรู้สึกผิดเลยถ้าผมจะจูบหรือมีอะไรกับใคร แต่เพราะไอ้เมลทำให้สิ่งที่ผมเคยทำหรือเคยเป็นมันผิดเพี้ยนไปหมด ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลยเพราะผมเหมือนจะค่อยๆ กลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวผม

ที่ผมกลัวที่สุดคือการสูญเสียความเป็นตัวเอง

“คืนนี้ไปค้างคอนโดมึงนะ มารับกูด้วย”

“อืม”

...............................To be continue...............................

ตอนท้ายเรื่องเราจะต้องกล่าวคำว่า ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยค่ะ  :o8: ดีใจจริงๆ ที่มีคนติดตามเท็นกับเมลขนาดนี้ เกินที่คาดหวังไว้จริงๆ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ  :กอด1:
ฝากติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ เลยนะคะ อาจจะมาวันละตอนสองตอน หรือสองวันตอน แต่ไม่ให้ค้างแน่นอนค่ะ

สุดท้ายนี้ก็ดีใจจริงๆ เลย อยากกรี๊ดดดดดดดดดดดด ฮ่าๆ  :hao5:
เท็น เท็น เท็น เย้!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-08-2013 21:33:40
พระเจ้าช่วย//ลูบอกอย่างตกตะลึง
มองเห็นเค้าลางแห่งความเปลี่ยนแปลง
พยายามเข้านะเมล เวลาช่วยได้แน่นอนจากเคจของเท็น
โฮ่ยๆๆๆๆๆๆ
ปล.เมลงี่เง่าจนเกือบจบแน่ะ!
ปล.2ก็ยังชอบความเป็นเท็นอยู่ดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 19-08-2013 23:15:03
คุณ Snufflehp ทำเราอารมณ์ปรวนแปรอย่างรุนแรง
ตอนก่อนโน้นเราหงุดหงิดเท็น ตอนก่อนเราไม่พอใจเมล มาตอนนี้ทำเราเซ็งเท็นอีกรอบ
เอิ่ม คือทำเราอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ

เออ ถ้าเท็นมันอยากจะเป็นเพื่อนนักก็ให้มันเป็นไปเลย
ทำตัวปกติแบบที่ทำกับเขต กับลินเลย ไม่ต้องไปใส่ใจมัน
ถ้าเท็นอยากจะมานอนด้วยก็บอกว่าเพื่อนกันไม่นอนด้วยกันหรอก
จะคอยดูว่ามันจะเป็นเพื่อนได้อีกนานเท่าไหร่

เราจำได้นะว่าตอนนั้นที่เมลถามเท็นว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ
แล้วเท็นมันตอบว่า ใครอยากจะเป็นเพื่อนกับมึง
แล้วยังคิดในใจอีกว่าแตกคาปากกูไม่รู้กี่รอบยังคิดจะเป็นเพื่อนกันอีก
แต่พอมาตอนนี้ได้กันมาไม่รู้กี่รอบ ยังจะย้ำอยู่นั่นว่าเพื่อนกันๆ
ตกลงจะเอายังไงกับเมลกันแน่
จากหงุดหงิดเป็นพัก ตอนนี้เรารำคาญเท็นจริงๆ จังๆ ละ




หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-08-2013 23:24:49
อิอิรักเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 19-08-2013 23:53:12
คุณ Snufflehp ทำเราอารมณ์ปรวนแปรอย่างรุนแรง
ตอนก่อนโน้นเราหงุดหงิดเท็น ตอนก่อนเราไม่พอใจเมล มาตอนนี้ทำเราเซ็งเท็นอีกรอบ
เอิ่ม คือทำเราอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ

เออ ถ้าเท็นมันอยากจะเป็นเพื่อนนักก็ให้มันเป็นไปเลย
ทำตัวปกติแบบที่ทำกับเขต กับลินเลย ไม่ต้องไปใส่ใจมัน
ถ้าเท็นอยากจะมานอนด้วยก็บอกว่าเพื่อนกันไม่นอนด้วยกันหรอก
จะคอยดูว่ามันจะเป็นเพื่อนได้อีกนานเท่าไหร่

เราจำได้นะว่าตอนนั้นที่เมลถามเท็นว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ
แล้วเท็นมันตอบว่า ใครอยากจะเป็นเพื่อนกับมึง
แล้วยังคิดในใจอีกว่าแตกคาปากกูไม่รู้กี่รอบยังคิดจะเป็นเพื่อนกันอีก
แต่พอมาตอนนี้ได้กันมาไม่รู้กี่รอบ ยังจะย้ำอยู่นั่นว่าเพื่อนกันๆ
ตกลงจะเอายังไงกับเมลกันแน่
จากหงุดหงิดเป็นพัก ตอนนี้เรารำคาญเท็นจริงๆ จังๆ ละ






จะ...ใจเย็นๆ นะคะ *ลูบขา* ก็เพราะมันเป็นคำถามขึ้นมาว่า...ตกลงเอาไง ^_^ ยังไงล่ะคะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 20-08-2013 00:57:22
อ๊ากกก  อ่านแล้วกดดันแปลกๆ     :z3:
ความสัมพันธ์แบบนี้มันคืออะไรกันนน   :hao7:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: jum ที่ 20-08-2013 13:35:09
เมื่อไรจะชัดเจนซักทีง่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 20-08-2013 14:26:39
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-08-2013 01:01:10
เข้ามาอ่านรวดเดียว 7 ตอน
ทำไมเราไม่รู้สึกเลยว่าเท็นเป็นอิสระ


เรามองว่าเท็นเคว้งคว้างไม่กล้ารักใคร เหมือนไม่มั่นใจกับความผูกพันธ์ทุกแบบ
มองแบบอาการทางจิต เหมือนไม่เคยมีพัฒนาการด้านอารมณ์ในครอบครัว
ไม่เคยมีการแสดงออกว่ารักคนอื่นเป็นยังไง
โลกของเท็นเหมือนกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุด แต่โลกใบนั้นมีเท็นแค่คนเดียว
นานๆทีมีคนมาเคาะเรียก ก็แล้วแต่ว่าตอนนั้นเท็นอยากเปิดประตูออกไปทักทายหรือทำเป็นไม่ได้ยิน

ถ้าเมลจะเข้าไปในนั้นก็ต้องอดทนเข้าใจเท็นอีกเยอะล่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-08-2013 13:03:03
ตอนที่ 8

“เมลลลลลล กูหิวววว มึงรีบลุกไปอาบน้ำเลย พากูออกไปกินข้าวเดี๋ยวนี้”

คืนนี้ผมมาค้างกับไอ้เมล แบบจริงจังเลยคือนอนอย่างเดียว แม่งไม่คิดจะพาผมไปหาอะไรกินเลย แถมมันที่นอนพันแข้งพันขาผมอยู่นี่ตื่นมามันก็ไม่คิดทำอย่างอื่นหรอกนอกจากรังแกร่างกายผม ตั้งแต่เข้าห้องมาจนถึงเมื่อสิบนาทีก่อนหน้านี้ นับนิ้วแล้วก็เกือบสามชั่วโมง ถ้าตอนนี้ไม่ใช่กลางคืนนะ ท้องฟ้าที่กูเห็นมีสิทธิ์เป็นสีเหลืองอ่ะ

“มันดึกแล้วนะ กูขี้เกียจออกไปไหน” ไอ้เมลตอบเสียงเพลีย ผมเลยหยิกแขนมันเข้าให้

“มึงนั่งแดกเหล้าอยู่ที่ร้านกลับดึกกว่านี้อีก”

“ไม่เหมือนกัน แดกเหล้าไม่เหนื่อย แต่เอามึงกูเหนื่อย”

“ไอ้เหี้ยเมล มึงจะให้กูนอนหิวไปจนเช้าเหรอ พากูมาแล้วก็ดูแลหน่อยสิวะ มึงทิ้งๆ ขว้างๆ กูอย่างนี้ได้ไง”

ในที่สุดไอ้เมลก็ยอมลุกขึ้นนั่ง มันขยี้หัวตัวเองแรงๆ

“ไข่ดาวได้มั้ย กูทอดให้”

“อือ อะไรก็ได้ ตอนนี้กูกินได้หมดแหละ”

“ดี เลี้ยงง่าย งั้นต้มมาม่าละกัน”

“อ้าว ไหนบอกไข่ดาว”

“ก็ถ้าทอดไข่ ก็ยังขาดข้าว แล้วกูก็ต้องหุงข้าวอีก มึงจะรอเหรอ”

“เออ มาม่าก็ได้”

“หึ น่ารักนะมึงเนี่ย”

ไอ้เมลก้มลงมาจูบผม ก่อนมันจะนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวออกจากห้องนอนไป ผมลุกขึ้นไปหาเสื้อยืดของมันมาใส่แล้วก็เดินตามมันออกมา ลงบันไดเดินมายังส่วนของห้องครัว แล้วภาพแรกที่เห็นก็คือไอ้เมลเดินไปเดินมาอยู่ในครัว เปิดตู้เย็นหานั่นหานี่ของมันไปเรื่อย ผมมานั่งท้าวคางมองมันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว อืม...ยอมรับนะว่าเห็นแล้วรู้สึกดีแปลกๆ

“แล้วมึงไม่กินเหรอ” ผมถามเมื่อมันเลื่อนถ้วยมาม่ามาให้ มันใส่หมูใส่ผัก แถมใส่ไข่ให้ซะน่ากินเลย

“มึงกินเถอะ”

“เฮ้ย กินด้วยกันดิ เผื่อมันมีไรผิดพลาดขึ้นมา กูจะได้ไม่ตายคนเดียว”

“มันจะผิดพลาดได้ไงวะ แค่ต้มมาม่า กินๆ ไปเถอะ ไม่ตายหรอก ถ้าไม่กินกูจะเอาไปเททิ้ง”

“กินจ้า แค่นี้ทำน้อยใจ อ่ะ กูป้อน” ผมคีบเส้นมาม่าขึ้นมา เป่าให้หายร้อนแล้วยกขึ้นสูงเล็กน้อย ไอ้เมลยิ้มแล้วก้มลงมารับเส้นเข้าปากไป

“เป็นไง” ผมถามพลางรอลุ้นคำตอบ

“อร่อย”

“งั้นกินเยอะๆ”

“นี่เท็น มึงคิดว่ามึงเป็นคนทำรึไงวะ มาม่าถ้วยนี้กูต้มเองกับมือ มันก็ต้องอร่อยอยู่แล้วดิ”

ผมส่งยิ้มให้ไอ้เมล คีบหมูสับเข้าปากตัวเอง แล้วคีบผักป้อนให้มัน

“ที่มันอร่อย...ก็เพราะกูเป็นคนป้อนไม่ใช่เหรอ”

“หึ ไม่เกี่ยวเลย” ไอ้เมลพูดก่อนจะก้มลงมาจูบปากผม

ถึงมันจะบอกไม่เกี่ยว แต่ก็บังคับให้ผมป้อนมันจนหมดถ้วย มันบอกให้ผมล้างถ้วยก่อนที่มันจะเดินขึ้นไปนอนต่อ ผมเลยต้องเก็บกวาดครัวให้มันด้วย ทิ้งไว้อย่างนี้คงไม่ดี เพราะกว่าแม่บ้านจะมาทำความสะอาดก็ตั้งพรุ่งนี้ตอนสายๆ

“เมล พรุ่งนี้ไปไหนป้ะ” พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ ผมว่างเลยอยากไปดูหนัง

“พรุ่งนี้เหรอ อ่านหนังสือดิ วันจันทร์จะสอบแล้ว ถามทำไม” ไอ้เมลที่นอนคว่ำ หันหน้ามาทางผม ตอบเสียงง่วงๆ ทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่

อะไรวะไอ้นี่ คุยกันก่อนดิวะจะรีบหลับไปไหน ผมเลยขึ้นไปนอนบนตัวมัน ไอ้เมลส่งเสียงไม่พอใจแต่ผมก็มึนใส่

“พาไปดูหนังหน่อยดิ สอบตั้งวันจันทร์อ่ะ กูอยากดูเรื่องนี้มาก เข้าโรงวันสุดท้ายแล้วด้วย”

“แล้วมึงไม่อ่านหนังสือเหรอเท็น มัวแต่เที่ยวเดี๋ยวก็โดนรีไทร์หรอก”

“กูอ่านคืนวันอาทิตย์ พรุ่งนี้เลยว่าง”

“งั้นมึงไปคนเดียว เพราะพรุ่งนี้กูจะอ่านหนังสือ”

“ไม่ มึงต้องไปกับกู”

“กูไม่ว่าง”

“เมลอ่ะ”

“ลงมานอนดีๆ เร็ว”

“เมลลลลลลลลลลลล”

“อย่ามาดื้อกับกูนะเท็น”

“เออ จำไว้เลยนะมึง”

ไอ้เมลแม่งชอบขัดใจผมทุกที ความจริงผมก็ไม่ได้กลัวมันหรอกนะ แค่ไม่อยากทะเลาะด้วย เวลาไอ้เมลหงุดหงิดมันน่ากลัวจะตาย อ้าว เออ นั่นแหละ เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากขัดใจมันหรอกครับ

เช้าวันเสาร์ พอตื่นมาก็ไม่เห็นไอ้เมล ไม่รู้ว่ามันไปไหน ผมไม่มีอารมณ์จะใส่ใจเลยเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วออกมายืนมองท้องฟ้า รับลมที่ระเบียง วันนี้ท้องฟ้าครึ้มอีกแล้ว ชวนหดหู่ใจยังไงชอบกล ผมชอบฝนตกเฉพาะเวลาที่ไม่มีธุระที่ไหน เพราะการที่ได้นอนอยู่ใต้ผ้าห่มฟังเสียงฝน มันสบายสุดๆ ไปเลยล่ะ

พอมองจากตรงนี้ ก็แทบไม่เห็นพื้นเลย รถก็คันเล็กลงจากปกติมาก ลมเย็นๆ แบบนี้ผมก็อยากจะลองกางแขนกางขาท้าแรงโน้มถ่วงเหมือนกันนะ มันจะรู้สึกยังไงวะถ้าได้ลอยอยู่ในอากาศจริงๆ

“เท็น นั่นมึงจะทำอะไร!” เสียงตวาดพร้อมกับแรงกระชากจากด้านหลังทำผมตกใจเหมือนตอนลงบันไดลืมเหยียบไปหนึ่งขั้น

“อะไรของมึงเนี่ย” ผมถามอย่างงงๆ

“ก็มึงจะทำอะไร” เสียงไอ้เมลสั่น หลังผมพิงอยู่กับอกมันก็รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นเร็วมาก

“กูเหรอ กูก็ยืนมองท้องฟ้า”

“แต่กูเห็นว่ามึงกำลังปีนราวระเบียง!”

“อ๋อ กูอยากลองลอยอยู่ในอากาศดู มึงตกใจไร”

“ไอ้เหี้ย! มึงไปตายเหอะไป มึงคิดว่าตัวมึงมีกี่ชีวิตวะ! นี่เราอยู่กันชั้นที่ห้าสิบห้านะ แค่ตึกสามชั้นโดดลงไปมึงก็เดี้ยงแล้ว แล้วสูงขนาดนี้พูดมาได้ว่าอยากลอง โดดลงไปมึงก็ตาย จะไม่มีอีกชีวิตให้มึงลองหรอก! กูหมดคำพูดกับคนอย่างมึงจริงๆ” ไอ้เมลผลักผมจนล้มลงกับพื้น ผมมองมันอย่างไม่เชื่อสายตา

ไอ้บ้านั่น จะผลักให้ล้มตรงไหนไม่ผลัก มือผมไปฟาดใส่กระถางกระบองเพชรที่ไอ้เมลเลี้ยงไว้ที่ระเบียงจนแตก ได้แผลไม่พอหนามยังปักมือกูอีก ซวยเช็ดดดดดดดดดดด

“เมล เมล มึงอยู่ไหน” ผมเข้ามาในห้องนอนก็ไม่เห็นมัน ไม่รู้เดินหนีไปไหนแล้ว

ผมเดินออกจากห้องนอนลงบันไดมาก็เจอมันยืนพิงประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดไปที่ระเบียงได้ ระเบียงตรงนี้กว้างกว่าที่ห้องนอนที่อยู่อีกชั้นมาก ไอ้เมลมันทำเป็นสวนไว้ ปูหญ้าเทียมแล้วก็ปลูกต้นไม้ดอกไม้ที่มันไปหาซื้อเอง กระถางทุกใบมันก็เลือกลายเองด้วย มีโต๊ะเก้าอี้จัดไว้อย่างดี เวลามาค้างกับมันผมก็จะมาขลุกอยู่ที่นี่ซะส่วนใหญ่ ถึงนอนบนหญ้าเทียมจะไม่ได้รู้สึกดีเท่ากับของจริงก็เถอะ แต่ผมก็ชอบนะ

“เมล ทำแผลให้หน่อย” ผมยื่นมือไปให้ไอ้เมลดู มันตกใจก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการตีหน้าเฉย แต่มันก็พาผมไปล้างแผลในห้องน้ำ

“มึงโกรธมากเลยเหรอวะ กูขอโทษนะ”

ไอ้เมลที่กำลังตั้งใจดึงหนามกระบองเพชรออกให้ชะงักไปเล็กน้อย

“อยู่นิ่งๆ”

“อย่าดุสิ ทำเบาๆ ด้วย”

ไอ้เมลไม่พูดอะไรกับผมเลย มันทำแผลให้ผมเสร็จก็นั่งเงียบ

“ไม่หายโกรธอีกเหรอวะ ขอโทษๆๆๆๆๆๆ”

ถ้าคลอเคลียขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมพูดด้วย ผมก็หมดมุกแล้วนะ

และในที่สุดไอ้เมลก็ถอนหายใจออกมา มันใช้นิ้วแตะหน้าผากผมแล้วพูดว่า “รู้ตัวบ้างมั้ยว่ามึงเป็นอันตรายกับตัวเอง”

“มึงพูดเรื่องอะไรเนี่ย”

“กูหมายถึงสิ่งที่มึงคิด รวมไปถึงการกระทำที่ผ่านๆ มาของมึง เท็น ถ้ามึงยังไม่รู้จักวางขอบเขตให้กับความคิดตัวเอง มึงอาจต้องตายเข้าสักวัน”

“คงไม่หรอกน่า ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

“มึงป่วยรึเปล่าวะ”

“อะไรนะ ป่วยเหรอวะ ก็เปล่านี่” ดูจากสีหน้าแล้วมันคงคิดว่าผมเป็นบ้า ป่วยทางจิต พวกไม่เต็มเต็งอะไรประมาณนั้น

“ตอนมึงยืนมองท้องฟ้าเป็นชั่วโมงๆ นั่น มึงบอกกูซิว่ามึงกำลังคิดอะไร”

“กูก็คิดไปเรื่อยเปื่อย บางทีก็ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากมอง ทำไมวะ แปลกตรงไหน”

“เหมือนที่มึงนั่งมองเป็ดที่มหาลัย มองต้นไม้ที่บ้าน นั่งเงยหน้าขึ้นฟ้าตากฝนเป็นสองสามชั่วโมงนั่นเหรอวะ”

ผมมองไอ้เมลอย่างงงๆ

“ก็ใช่ แปลกตรงไหนวะ”

“เพราะอย่างนี้กูถึงได้บอกให้มึงรู้จักวางขอบเขตความคิดตัวเอง สิ่งที่มึงทำนั่นน่ะเขาเรียกว่าเกินพอดี มึงให้อิสระกับตัวเองมากเกินไปนะเท็น มากจนกลายเป็นการไม่ยั้งคิดไม่ยั้งทำ บางครั้งมึงก็ต้องเข้มงวดกับตัวเองบ้าง ไม่ใช่เพื่อใครเลย แต่เพื่อตัวมึงเองทั้งนั้น”

ผมเข้าใจทุกอย่างที่ไอ้เมลพูด และไม่คิดเถียงอะไร เพราะผมกับมันถึงจะมองไปที่จุดเดียวกันแต่ก็ยืนอยู่คนละมุม ผมไม่เห็นในสิ่งที่มันเห็น และมันก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมเข้าใจ

...ถ้ากูยั้งคิดยั้งทำสักนิดนะเมล เรื่องของกูกับมึงคงไม่เลยเถิดมาถึงขนาดนี้หรอก

“มึงไม่ต้องห่วงนะเมล ต่อไปกูจะระวัง”

“กูไม่อยากจะคิดว่าถ้าเมื่อกี้กูไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้น กูโกรธมึงมากนะรู้มั้ย”

“แต่ก็ไม่เห็นต้องผลักกูอ่ะ ปวดไปทั้งตัวเลย มือก็เป็นแผล โดนหนามตำอีกต่างหาก มึงเลือกโลเคชั่นได้เจ๋งมาก”

“ขอโทษ” ดีนะที่มันยอมพูด ผมเลยไม่ต้องโกรธมันกลับ

“จะรับไว้ละกัน แผลหายเมื่อไหร่กูถึงจะให้อภัยมึง”

“โหวววว เล่นงี้เลย”

“อือ งั้นกูไปนอนนะ ตอนเย็นไปส่งกูที่บ้านด้วย”

“อยู่กับกูอีกคืนสิ”

“ไม่เอา ไอ้ฟิวได้แหกอกกูดิ เมื่อคืนก็ไม่ได้กลับ”

ไอ้เมลพยักหน้าแต่เหมือนไม่ค่อยเต็มใจ ก่อนจะถามว่า “แล้วมึงบอกเรื่องเรากับฟิวรึยัง”

“จะให้บอกอะไรวะ”

“มันไม่ถามอะไรเลยรึไง มึงไปไหนมาไหนกับกูก็บ่อย”

“ก็ถาม กูก็แค่บอกว่าไปเป็นเพื่อนมึง แค่นั้น เพื่อนสนิทไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่เห็นแปลก ใช่ป้ะ”

ไอ้เมลหน้าบึ้ง ก้มหน้าลงมาจูบผมแรงๆ แทบดูดเอาลิ้นผมติดปากมันไปด้วย

“แล้วมันไม่ถามเหรอว่าสนิทแบบไหน” ไอ้เมลถามเมื่อถอนริมฝีปากออก ผมหายใจหอบเพราะตอนจูบกับมันเมื่อกี้ลืมหายใจไปชั่วขณะ

“ไม่ถาม โอ้ย เหี้ยเมล ปากกูบวมหมดแล้ว”

“ไอ้ฟิวไม่ถามแต่กูอยากถามว่ะเท็น”

“ถามไรวะ” แค่ถามมึงไม่ต้องเข้ามานัวเนียกับกูก็ได้ โอ้ยยยยย ไอ้เหี้ย กัดคอกู

“เพื่อนสนิทแบบไหนที่มึงยอมให้ทำได้ขนาดนี้”

ผมหลบสายตามัน ไอ้เมลแสยะยิ้มก่อนจะก้มลงมาจูบผม มือมันก็จับนั่นจับนี่ไปเรื่อย

“ว่าไงเท็น ทำได้แบบนี้เฉพาะกูรึเปล่า”

ผมปล่อยให้ไอ้เมลถอดเสื้อออกให้ มันจูบไปทั่วแผ่นอกผม ลากลิ้นไปนั่นมานี่ได้ไม่หยุด

“อื้ออออ เมล ห้ามกัดนะมึง โอ้ยยยย ก็บอกว่าห้าม” ไอ้เมลเวลาอย่างนี้นี่จะสื่อสารกับมันยากมาก บอกอะไรไปมันทำตรงกันข้ามหมด

ช่วงแรกๆไอ้เมลก็อ่อนโยนดีอยู่หรอก เหมือนทำให้ตายใจอะไรประมาณนั้น แต่ช่วงหลังๆ มันจะเริ่มทำตามใจตัวเองแบบไม่ฟังเสียงท้วงใดๆ ที่มันฟังก็มีแค่เสียงครางเท่านั้นแหละ ผมปล่อยให้ไอ้เมลเอาแต่ใจจนมันพอใจสุดๆ แล้วมันก็ใจดีพาผมไปอาบน้ำก่อนจะอุ้มผมไปนอนบนเตียง มันบอกว่าจะอ่านหนังสืออยู่ห้องนั่งเล่นข้างล่าง ถ้าตื่นแล้วให้ลงไปหา ผมพยักหน้ารับรู้ มันก้มลงมาหอมแก้มแล้วเดินออกจากห้องไป

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกปวดหัวนิดๆ ยังง่วงอยู่มากแต่เพราะหิวจนนอนต่อไม่ได้ เลยต้องลุกจากเตียง เดินออกมาข้างนอกห้องก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน

ใครวะ ก็ในห้องนี้มีแค่ผมกับไอ้เมลสองคน ถ้าผมอยู่นี่แล้วไอ้เมลคุยกับใคร

“เมล ใครมาวะ” ผมตะโกนถามไอ้เมล ยืนอยู่เชิงบันไดก็มองเห็นได้ทั่วห้อง

ห้องไอ้เมลเป็นแบบชั้นครึ่งน่ะครับ ครึ่งข้างบนจะมีแค่ห้องนอนกับห้องน้ำเท่านั้น ผมขยี้ตามองไปที่ส่วนของห้องนั่งเล่นมีคนอยู่สามสี่คน แต่ผมเห็นหน้าไม่ชัดเพราะลืมตาแทบไม่ขึ้น

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ เฮ้ย อยู่ตรงนั้น เดี๋ยวกูไปหา”

ผมขยี้ตาอีกครั้ง เห็นไอ้เมลเดินขึ้นบันไดมา

“มึงจะหลับตาเดินลงบันไดรึไง ได้ตกไปคอหักตายหรอก ไปล้างหน้าไป”

“กูง่วงอ่ะ แต่หิวมากกว่า หาไรให้กินหน่อย” ผมกอดเอวไอ้เมลไว้แล้วซบหน้าลงกับอกมัน

ไอ้เมลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพาผมลงมาชั้นล่าง

อ้าว กูลืมไปสนิทว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เพื่อนไอ้เมลทั้งนั้น อันประกอบไปด้วยไอ้เขตหน้าตี๋ ไอ้ลินที่มีเรื่องกับผม อีกสองคนไม่รู้จัก พวกมันสามัคคีกันมองผม ทำหน้าช็อคนิดๆ

“เอ่อ หวัดดี” พวกมึงจะจ้องกูไปถึงไหนวะ

“มึง...” ไอ้ลินพูดได้แค่นั้นก่อนจะหันไปมองไอ้เมล

“ชื่อเท็น” ไอ้เมลตอบ มองหน้าเพื่อนมันแล้วหันมามองหน้าผม “กูยังไม่ได้แนะนำสินะ นั่นไอ้เขต มึงรู้จักแล้ว นี่ไอ้ลิน แล้วก็ไอ้แต้ม ไอ้มายด์ พวกมึง นี่ไอ้เท็น เพื่อนสนิทมากของกู” มึงไม่ต้องย้ำคำว่าสนิทมากจนฟังแล้วสะดุดหูก็ได้นะไอ้เมล

“มึงสองคน...เอ่อ” ไอ้มายด์เหมือนจนคำพูด

“ก็อย่างที่เห็น”

ผมเหลือบตามองหน้าไอ้เมล มันก็ยิ้มใส่ตา ผมเลยต้องมองไปทางอื่น

“สรุปไม่ใช่ศัตรูกันเหรอวะ” ไอ้ลินถามขึ้น “มึงไม่ชอบหน้าเพื่อนกูหนิ ไม่งั้นจะเอาขวดมาฟาดหัวไอ้เมลทำไม”

ไอ้ห่านี่ดูจะฝังใจกับเรื่องนี้มาก ไอ้ห่าเมลมันไม่บอกอะไรเพื่อนมันเลยไงวะ

“กูกับมันมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะ” ไอ้เมลไขข้อข้องใจ “ไอ้เท็นมันเข้าใจผิดกูหลายเรื่อง”

“แล้วทำไมมึงไม่รีบบอกพวกกูตั้งแต่แรกวะ กูก็นึกว่าไอ้เตี้ยนี่ทำตัวเปรี้ยวตีน อยากมีเรื่อง”

เออใช่ ทำไมไม่รีบอธิบายวะ ปล่อยให้เพื่อนมึงเกลียดขี้หน้ากูได้ตั้งนาน แต่ความจริงผมก็ชักเกลียดขี้หน้าไอ้ห่านี่ขึ้นมาแล้วนะ สูงกว่าหน่อยทำมาเรียกกูว่าเตี้ย ดอกกกกก

“ไอ้เขตกับไอ้แต้มมันรู้ กูก็นึกว่ามึงรู้แล้ว”

“เออ ไอ้เหี้ย แล้วก็ปล่อยให้กูเข้าใจผิดตั้งนาน กูขอโทษนะมึง”

เออแฮะ ไอ้ลินนี่มันก็เป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว

“ไม่เป็นไร กูก็ต้องขอโทษมึงเหมือนกัน”

แฮปปี้เอ็นด์ครับงานนี้ อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องมีเรื่องกับเพื่อนไอ้เมล ถึงไอ้เขตกับไอ้แต้มมันจะบอกอย่างจริงจังว่าเคืองที่ผมชอบทำให้ไอ้เมลเสียใจก็เถอะ คือตอนแรกผมก็อยากจะเถียงหรอกนะ แต่พอไอ้เขตสาธยายถึงเรื่องที่ผมทำกับไอ้เมลออกมาในระหว่างที่เจ้าตัวไปหาข้าวให้ผมกินนั้นก็ทำให้ผมเถียงไรไม่ออก เป็นผมผมก็โกรธวะ ถ้ามีใครมาทำกับไอ้กัสและไอ้ฟิวขนาดนี้ ผมคงตามไปกระทืบมันด้วยซ้ำ

“ตอนมึงจูบกับสาวที่มึงไปกินข้าวด้วยวันนั้น พวกกูก็เห็น ถ้าเป็นกูนะไอ้เท็น ไม่ทนมองอยู่หรอก มึงโดนต่อยจนหน้าแหกไปแล้ว” ไอ้ลินที่แม่งเก็ทในเรื่องราวทั้งหมดแล้วพูดขึ้นมาด้วยท่าทีอินจัด เหมือนเป็นเรื่องของมันเอง

“อ้าว จะต่อยกูทำไมวะ กูทำไรผิด”

“ก็นอกใจ”

“กูไม่มีแฟนนะเว้ย จะนอกใจใครวะ”

“แล้วไอ้เมลล่ะ พวกมึงไม่ได้คบกันรึไง” ไอ้มายด์ถาม

“ไอ้เมลก็บอกแล้วนี่ ว่ากูเป็นเพื่อนสนิทมากของมัน”

“มึงไม่ยอมคบล่ะสิ” ไอ้เขตว่า

“เล่นตัว” ไอ้แต้มเสริม

“ไม่ใช่เว้ย”

“คบๆ ไปเถอะน่า มึงไม่รู้รึไงว่าใครๆ ก็อยากเป็นแฟนไอ้เมลทั้งนั้น กูเห็นมีแต่มึงนี่แหละที่ไม่ยอมเป็น ทั้งๆ ที่ก็อยู่กินด้วยกันซะขนาดนี้”

“ถ้าคบกันจริงๆ เพื่อนมึงทนกูไม่ได้หรอก แบบนี้ก็ดีแล้ว ถ้ามันทนไม่ไหวมันก็ทิ้งกูไปเองแหละ”

“ไร้อนาคต” ไอ้เขตพูด

“มืดมน” ไอ้แต้มออกความเห็น

“ดราม่า” ไอ้มายด์บอกแล้วหันไปมองไอ้ลินที่ถอนหายใจปิดท้าย

ไอ้เมลกลับมาหลังจากที่ผมโดนเพื่อนมันรุมถามนั่นถามนี่ได้ไม่นาน มันซื้อข้าวกล่องมาแล้วก็ขนมกับผลไม้ ผมกับพวกเพื่อนๆ ของมันต้องเดินตามมันไปที่โต๊ะกินข้าวเพราะไอ้เมลไม่ยอมให้นั่งกินที่ห้องนั่งเล่น

“แล้วนี่มึงไม่อ่านหนังสือเหรอวะเท็น มึงก็สอบวันจันทร์เหมือนพวกกูหนิ” ไอ้ลินถาม ผมชะงักจากการแย่งหมูจากกล่องข้าวของไอ้เมล

“การอ่านหนังสือมันก็เหมือนการวาดรูปเว้ยมึง ถ้าไม่มีอารมณ์อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ”

ไอ้ลินทำหน้าไม่เชื่อ ก่อนจะหันไปขอความเห็นจากไอ้มายด์ที่นั่งอยู่ข้างมัน

“จริงเหรอวะมึง กูนึกว่าอ่านหนังสือมันต้องใช้สมาธิ”

“มึงอย่าไปฟังมันมากไอ้ลิน ไอ้นี่มันก็หาข้ออ้างไปเรื่อยนั่นแหละ มันแค่ขี้เกียจ” ไอ้เมลพูดซะกูเสีย แถมยังมาดีดหน้าผากกูอีก

“เจ็บนะ มึงคิดว่าแรงมึงเท่ามดไง ไอ้เมลนิสัยไม่ดี”

ไอ้เมลทำหน้าเอือมใส่ผม แต่มันก็ใช้มือลูบๆ หน้าผากให้

“แค่นี้ทำสำออย”

“งั้นมึงไม่ต้องมาแตะเลย ชอบว่ากู”

“หึหึ” หัวเราะไรของมึง ผมดึงแก้มไอ้เมลอย่างหมั่นไส้ แต่เสียงกระแอมไอของเพื่อนมันก็ทำให้ผมต้องปล่อย ไอ้พวกนี้ก็ตั้งใจฟังกันเชียว

“ความจริงกูก็ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่พริกน้ำปลากูเริ่มไม่เค็มแล้วอ่ะ มันหวานแปลกๆ” ไอ้แต้มท่าจะบ้า แต่ผมไม่ถือสาหรอก เพราะดูยังไงเพื่อนไอ้เมลก็เหมือนจะไม่เต็มกันซักคน

..........................................To be continue....................................

 :hao5:
เมื่อวานไปตักบาตรมาค่ะ ใครมีโอกาสได้ไปบ้างคะ ตักบาตรที่วัดตอนเที่ยงคืน  :mew1:
แล้วก็อย่างทุกครั้ง ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยค่ะ ติดตามต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าผู้ชายที่ชื่อเท็นนี่น่ารักมากเลยนะคะ ไม่ได้โม้นะ 555555555555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-08-2013 13:23:36
อยากให้เท็นกล้ารักเหมือนคนอื่นซักที



เมนท์ปิดหัวท้ายตอนที่ 8 เลยนะเนี่ย XD
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: polartotty ที่ 21-08-2013 16:40:53
ตอนนี้น่ารักอ่ะ อร๊ายยยยย อยากให้มีฉากแบบนี้เยอะๆ มาต่อได้ทันใจมากเลยค่ะ รักคนแต่งสุดๆอิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 21-08-2013 17:44:38
ชอบทั้งคู่ เพื่อนๆเมลด้วยน่ารัก^^ หวานเชียวตอนนี้อิอิ

อย่ากระตุ้นเท็นด้วยการไปควงหรือคบคนอื่นนะเมล เราไม่ชอบ อิอิ เอาเป็นวิธีอื่นนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 21-08-2013 20:10:52
เฮ้อ  :เฮ้อ:
ถ้าไม่คิดที่จะคบกับเมลอยู่แล้ว ก็อย่ารั้งกันด้วยคำว่าเพื่อนเลย
เลิกยุ่งเกี่ยวกันไปให้จบๆ คนที่ไม่ได้เป็นฝ่ายรอ ไม่รู้หรอกว่ามันเหนื่อยแค่ไหน
ต่อให้วิ่งจนสุดกำลังก็ยังไม่รู้ว่าจุดหมายอยู่ตรงไหน สงสารเมล  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: mind223 ที่ 21-08-2013 22:53:30
"เพื่อนไอ้เมลก็เหมือนจะไม่เต็มกันซักคน" เอิ่มมม... - -
.


.

....ใครกันแน่ที่ไม่เต็มวะ :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 21-08-2013 23:35:45
แปลกคนจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 22-08-2013 00:39:28
ขอแตกหน่อออกมาหน่อยนึง....
ชอบฟิวค่าาาา ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่าโครตชอบเลยอ่า

ขอคู่ให้ฟิวหน่อยนะคะ>< รออ่านค่ะ :)
อยากเห็นฟิวมีคนมาดูแลบ้าง นี่เห็นแต่เป็นฝ่ายดูแลคนอื่น
คงเพลียแย่เลย 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 NC-18
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-08-2013 19:04:00
ตอนที่ 9 มีฉากที่ไม่เหมาะสม อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรได้รับการแนะนำ อายุเกินกว่านั้นก็ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน  :-[

ตอนที่ 9

สอบมิดเทอมคราวนี้ก็ไม่แย่ซะทีเดียว เทอมนี้ผมเรียนเจ็ดตัวยี่สิบเอ็ดหน่วยกิต เบาสุดเลเวลวันก็ตัววิชามอ หนักสุดก็เห็นจะเป็นวิชาเอกของสาขาอย่างวิชาอัลกอริทึ่มเบื้องต้นที่ไอ้กัสบอกผมตอนออกจากห้องสอบว่าคงมีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยมันรอดเอฟได้

ตอนช่วงสอบก็มีโครงการแลกเปลี่ยนติวเตอร์เกิดขึ้นระหว่างภาควิชา ก่อนที่พวกผมจะสอบแคลคูลัสสาม พวกไอ้เมลก็แห่กันมาขอร่วมติวด้วย อันนี้ถือว่าพวกมันได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็มีวิชาที่อิงอาศัยกันเหมือนกันนะครับ

เมื่อพวกผมสอบวิชาดิจิตอลสองเสร็จไป ก็ต้องมาหน้าดำคร่ำเครียดกับวิชาสุดท้ายในตาราง สำหรับผมไม่มีปัญหา แต่พวกไอ้ฟิวไอ้เต๋อนี่แย่หน่อย เพราะอย่างนี้ถึงต้องไปขอให้พวกไอ้เมลมาช่วยติววิชาเซอกิตที่ไอ้พวกไฟฟ้ามันสกิลสูงกว่าแลกกับการที่ผมติวดิจิตอลให้พวกมันแถมวิชาภาษาซีให้ไอ้ลินกับไอ้มายด์ที่แม่งเอฟมาตั้งแต่ปีหนึ่งเทอมสอง

กูล่ะไม่สงสัยว่าทำไมพวกแม่งถึงเอฟ แค่สะกด #include ยังผิด โปรแกรมมึงก็สมควรเออเร่อแล้วไอ้ควาย

“นี่แค่มิดเทอมพวกมึงจะมานั่งห่อเหี่ยวไรกันวะ เอ้า ชนๆ ไอ้กัส มึงเชื่อกูสิว่าดาต้าสตรัคอาจารย์ป้าไม่ให้ใครเอฟหรอก แถมยังมีรอบไฟนอลให้แก้ตัว” ไอ้เต๋อพูดอย่างมีเหตุมีผล แต่ไอ้กัสก็ยังคงทำหน้าเหี่ยวไม่เลิก

“แต่กูทำไม่ได้เลยอ่ะมึง ถ้าเอฟกูมีสิทธิ์เรียนห้าปีเลยนะเว้ย แม่งงงง กูจะตั้งใจเรียนแล้ว” ก่อนที่ไอ้กัสมันจะเอฟฟิสิกส์ตอนปีหนึ่งมันก็พูดอย่างนี้แหละ

วันนี้พวกผมมาฉลองสอบเสร็จที่ร้านพี่เจ๋ง คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะบางคณะก็ยังสอบไม่เสร็จ อย่างพวกแพทย์ เภสัชไรพวกนั้น แต่พวกนั้นก็นานๆ จะเห็นมาที่ร้านนี้ทีละครับ อ้อ ไอ้เมลก็ยังสอบไม่เสร็จนะ มันเหลือสอบนอกตารางอีกวิชาเดียว ตอนนี้ก็คงนั่งอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ที่ห้องมัน

ช่วงสอบที่ผ่านมานี่ผมกับมันพูดได้ว่า ห่างกันสักพัก เลยก็ว่าได้ เจอกันก็แค่ตอนติวแคล ซึ่งนั่นเรียกว่าเจอรึเปล่าผมก็ยังไม่แน่ใจ เพราะคุยภาษาคนกันน้อยมาก

“พี่เท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน กรี๊ดๆๆๆ ดีใจจังเลยที่เจอพี่ ฮิๆๆ”

อะไร เกิดไรขึ้นวะ! โอ้ยยย ตาย ไอ้เหี้ย น้องรหัสกู

“ไอ้ตะนอย มึงจะเสียงดังทำไมเนี่ย แล้ววิ่งมาจากไหน” ผมถาม เบี่ยงตัวหลบจากการถูกชาร์ตของน้องรหัส นี่ถ้ากูโดนมึงกอดเต็มๆ มีกระดูกหักอ่ะ

“ตะนอยมากับเพื่อน โต๊ะนู้นนนนน ดีใจที่ได้เจอพี่เท็นอ่ะ พี่เป็นแรร์ไอเทมเลยนะขอบอก อ้ายยย สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูชื่อตะนอย เป็นน้องรหัสพี่เท็นค่ะ พี่เท็นๆ เห็นเพื่อนตะนอยป้ะ นู่นๆ สวยๆ ทั้งนั้น พี่เท็นชอบคนไหน เลือกเอาเลย โสด สวย กันทุกคน” มันหันไปยกมือไหว้พวกไอ้เต๋อที่ทำหน้าเหมือนเจอช้างตกมัน ฮ่าๆ เฮ้ย นี่น้องรหัสผม ผมต้องปกป้องมันสิ

แต่ที่มันมาเร่ขายเพื่อนอยู่นี่ก็ขอปาดเหงื่อออกจากหน้าผากหน่อย คือน้องกูแม่งรักเพื่อนมากกกกก คงอยากให้เพื่อนได้ดิบได้ดี เพราะถ้าได้ควงผมเนี่ยเห็นสวรรค์รำไรเลยนะครับ หึหึ

“เอ้ออออ สวัสดีครับ แหม ตะนอยสมชื่อเลยนะครับเนี่ย” ไอ้เต๋อพูดยิ้มๆ

“หึ ไอ้ห่า แซวน้องกู ไอ้ตะนอย นี่เพื่อนพี่ พี่เต๋อ พี่แม็ค พี่เต้ พี่คิม แล้วนี่พี่กัส มึงรู้จักแล้วนะ”

“เยสสสมายบร้าเธ้อ”

คือผมไม่อยากจะบอกเลยว่าสภาพไอ้ตะนอยตอนนี้เป็นยังไง หูตามันเยิ้มแถมยังเข้าไปนั่งเบียดไอ้เต้อีกต่างหาก

“พี่เท็นนนนน พี่คนนี้หล่อดีเนอะ อิอิ”

ไอ้เต้ทำหน้าเหมือนถูกช้างเหยียบ ผมกลั้นขำ แต่ไอ้กัสกับไอ้แม็คนี่หัวเราะงอหงายไปแล้ว

“มึงเพิ่งมาร้านนี้เหรอวะ ทุกทีไม่เห็นเจอ” ผมถาม เพราะยังงงกับการปรากฎตัวของมันอยู่

“ใช่พี่ เพื่อนตะนอยมีเรื่องที่ร้านประจำ มีผู้ชายต่อยกันแย่งมันเลยต้องเปลี่ยนที่สิงกัน เห็นมั้ยล่ะ ตะนอยบอกแล้ว นี่ถ้าพี่เท็นสนใจนะ ไม่ต้องไปตบตีกับชาวบ้านเขาหรอก ตะนอยช่วยได้ แล้วเมื่อไหร่พี่เท็นจะนัดเลี้ยงสายอ่ะ”

“ใจเย็นๆ สิวะ พี่รหัสมึงคิวทองไม่รู้รึไง เอางี้ คืนนี้มึงอยากกินไรก็สั่งที่พี่เจ๋งได้เลย เดี๋ยวพี่ไปจ่ายให้”

“จริงนะ”

“เอออออออ พี่เลี้ยงเอง”

“เลี้ยงเพื่อนตะนอยด้วยได้ป่าว” โหว น้องกู -_-

“เออๆ แดกๆ ไปเถอะ มีปัญญาจ่าย”

“งั้นขออนุญาตให้เบอร์พี่กับเพื่อนได้ป่าว เพื่อนตะนอยสวยนะ มันชอบพี่อ่ะ” ตั้งแต่มาเนี่ยก็ย้ำว่าเพื่อนมึงสวยเป็นรอบที่สามแล้วมั้งน่ะ -_-

“จัดไปตามน้องเห็นสมควรเถอะครับ”

ไอ้ตะนอยยิ้มกว้าง มันถลาเข้ามากอดผมซึ่งเหมือนโดนกระแทกด้วยลูกตุ้มเหล็ก เอ่อ ความจริงมันก็ไม่หนักมากหนักมายอะไรหรอกครับ แค่เจ้าเนื้อนิดๆ น้ำหนักเริ่มต้นที่เจ็ดสิบกิโลกรัมเท่านั้นเอง -_-

ไอ้ตะนอยนั่งจ้อกับพวกผมได้สักพักเพื่อนมันก็มาตามกลับโต๊ะ เห็นไอ้เต้ถอนหายใจโล่งอกเลยครับเพราะน้องรหัสผมมันพยายามรุกจีบไอ้เต้แบบไม่สนความเป็นหญิงของมันเลย

พวกผมก็นั่งดื่มนั่งกิน คุยกันไปพลางๆ เหล้าวันนี้กินแล้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มองขวดก็ไม่ได้ต่างจากทุกทีนี่หว่า แต่ทำไมมันเปรมนักวะ ให้อารมณ์แบบอยากพูดดีๆ กับใครสักคนประมาณนั้น แถมใครสักคนที่ว่ายังเป็นไอ้ห่าเมลที่ไม่คิดจะโทรมาหาผมอีกต่างหาก ผมส่ายหัวกับตัวเองเพราะเดี๋ยวนี้ชักจะแปลกขึ้นทุกวัน

“กูออกไปดูดบุหรี่แป๊บ” ผมบอกก่อนจะลุกออกมาหน้าร้าน ยืนมองถนนพร้อมกับพ่นควันขาวๆ ออกจากปากได้สักพักก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาขอต่อไฟ

“มาคนเดียวเหรอคะ” เริ่มประโยคคลาสสิคอย่างนี้ ผมก็พอรู้จุดประสงค์

“มากับเพื่อนครับ โต๊ะหน้าเวที”

“อ๋อ นั่งกันหลายคนน่าสนุกนะคะ มิ้งมาคนเดียว เบื่อจะแย่ เอ่อชื่อมิ้งนะคะ แล้วคุณ”

หึ ผู้หญิง บอกว่ามาคนเดียวแต่เมื่อกี้ผมยังเห็นนั่งเม้าอยู่ที่โต๊ะไอ้ตะนอยน้องรหัสผมอยู่เลย -_-

“ได้เหรอคะ แต่...มิ้งไม่รบกวนดีกว่า”

“งั้นมิ้งก็เหงาแย่เลยสิ มาคนเดียว ให้ผมไปนั่งเป็นเพื่อนมั้ย”

“แล้วเพื่อนๆ เท็นล่ะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ใช่ผู้ชายที่จะปล่อยให้ผู้หญิงสวยๆ นั่งคนเดียวอยู่แล้ว หรือมิ้งคิดว่าผมรบกวน”

“ไม่รบกวนเลยค่ะ มิ้งดีใจซะอีกที่เท็นมานั่งเป็นเพื่อน”

ตามสเต็ปครับ ผมก็ไปนั่งดื่มกับมิ้งที่โต๊ะมุมในแสงสลัวหน่อย เห็นพี่เจ๋งยักคิ้วหลิ่วตามาให้ ผมเลยยักไหล่ตอบกลับไปประมาณว่าแค่นี้เด็กๆ

มิ้งเป็นผู้หญิงคุยเก่ง แต่ผู้หญิงที่เข้าหาผมก็คุยเก่งหมดทุกคนนั่นแหละ และเกือบทุกคนที่เข้ามาก็เพราะหน้าตาทั้งนั้น แล้วเมื่อรู้ฐานะการเงินก็จะยิ่งอยากทำความรู้จักผมมากขึ้น แถมยังเชิญชวนจนดูน่าเกลียด

“อื้ออออ อ๊ะ อ๊ะ เท็น เท็นคะ” มิ้งครางแผ่ว เมื่อนิ้วผมกำลังคลึงอยู่บนยอดอกของเธอ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องน้ำกำลังทำอะไรคงไม่ต้องบอก แต่ไม่รู้ทำไมหน้าไอ้เมลแว๊บเข้ามากวนใจอยู่เรื่อย

ครืดดดดดด ครืดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดด

ผมโล่งใจที่โทรศัพท์สั่นขึ้นมา มิ้งที่กำลังจะรูดซิบกางเกงผมลงหยุดชะงักทันที ผมบอกให้เธออยู่เงียบๆ ก่อนจะรับสายคนที่โทรเข้ามาขัดจังหวะ

“ว่าไงเมล”

(อยู่ไหนวะ เสียงก้องซะ)

ได้ยินเสียงไอ้เมล ผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที มองหน้ามิ้งที่อารมณ์คงค้างเต็มที่ แต่ตอนนี้ผมต้องหยุด ผมปิดไมค์บอกขอโทษมิ้งแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ ไอ้เต๋อกำลังจะถามว่าผมหายไปไหนมาแต่ผมส่ายหน้าไม่ให้มันพูด ผมเดินออกมาหามุมสงบๆ แล้วกดเปิดไมค์

(เท็น ฟังอยู่ป่าววะ มึงกดปิดไมค์เหรอ เมื่อกี้กูไม่ได้ยินเสียงไรเลย มึงทำไรอยู่วะ แล้วอยู่ที่ไหน)

โหว ไอ้เมล ใส่มาเป็นชุดเลยนะมึง

“เออน่ะ อยู่ร้านพี่เจ๋ง มึงมีไร”

(ก็ไม่มีไร กูจะนอนแล้วเลยโทรหา)

“หึ เหมือนรู้เวลานะมึง กูกำลังจะเอาสาวพอดี”

ไอ้เมลเงียบไปเลยครับ ผมเลยรีบพูดกลัวมันจะกดตัดสาย

“แล้วอ่านหนังสือเป็นไงบ้าง”

(ไม่รู้ กูวางแล้วนะ)

“จะนอนแล้วเหรอวะ”

(ไม่รู้ ไม่นอนมั้ง นอนไม่หลับ)

“อ้าว ก็แล้วมึงจะวางทำไม”

(ก็บอกไม่รู้ไง)

เออ ไอ้เหี้ย เวลาไอ้เมลเป็นอย่างนี้นี่ผมเพลียจริงๆ

“มารับหน่อย”

(ไม่ไป ไปทำไม มึงไปเอาสาวต่อดิ)

“กูพูดเล่น คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้”

(กูไม่เชื่อ เสียงมึงโคตรจริงจัง แล้วเมื่อกี้ก็ปิดไมค์ไปตั้งนาน)

“คิดมากละมึง” ไอ้เมลมันผูกเรื่องเก่งหรือผมโง่เองที่เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นกับมันวะ

(กูวางนะ)

“ไม่ให้วาง มารับหน่อย”

(......)

“เมลจ๋า มารับหน่อยนะ นะๆ ไม่คิดถึงกูเหรอ”

(หึ ไอ้บ้า รออยู่หน้าร้านนั่นแหละ)

อย่างไอ้เมลไม่มีทางเอาชนะลูกอ้อนผมได้หรอก หึหึ

ผมโทรกลับไปบอกไอ้กัสว่าขอตัวกลับก่อน มันก็ไม่ได้ถามอะไรมากคงกำลังยุ่งแค่บอกว่าให้กลับบ้านก่อนไอ้ฟิวตื่น ผมยืนรอไอ้เมลไม่นานมันก็โผล่มาในชุดเสื้อยืดกางเกงนอน มันผลักหัวผมหนึ่งทีก่อนจะออกรถ

มาถึงคอนโดผมก็ขอตัวมันเข้าห้องน้ำ คือกูค้างมาตั้งแต่ที่ร้าน ความจริงก็สงบลงไปบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเห็นหน้าไอ้เมลแล้วมันถึงตื่นขึ้นมาอีกเลยอยากระบายสักหน่อย แถมกลิ่นน้ำหอมมิ้งยังติดตามตัวผม ไม่อาบน้ำคงไม่หาย

“เดี๋ยว คุยกันก่อน” โธ่ คุยไรวะ ใช่เวลาที่ไหนเล่า

“เออๆ รีบๆ พูด”

“ทำไม รีบไปไหน”

“ก็เปล่า”

“มึงไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ย”

“เรื่องไรวะ”

ผมหลบตาไอ้เมล แต่มันเข้ามาประชิดตัวแล้วล้วงมือเข้ามาในกางเกงผม

“ซี้ดดดดด เมล อย่าจับ”

“แข็งสู้มือกูขนาดนี้ แถมกลิ่นน้ำหอมคลุ้งเต็มตัว มึงคิดจะมีอะไรกับคนอื่นจริงๆ เหรอวะ”

โอ้ยยย ไอ้บ้า ทรมานมาก นี่ไม่ใช่ของที่มึงจะมาลูบเล่นได้นะเว้ย

“ไม่ได้คิด ซี้ดดดดดด ถ้ากูคิดจะคะ..ค้างขนาดนี้เหรอวะ”

“แต่ถ้ากูไม่โทรไป มึงคงทำไปแล้ว”

“คิดมากว่ะเมล”

ผมทนไม่ไหวเลยโน้มคอไอ้เมลลงมาจูบ แค่ดูดลิ้นมันก็รู้สึกดีโคตรๆ แล้ว ไอ้เมลปลดเข็มขัด รูดซิบกางเกงผมลง แค่มือมันลูบผ่านเนื้อผ้าผมก็สั่นไปทั้งตัว ผมเลยเบียดตัวเข้าหามือมัน

“ช่วยกูหน่อย ซี้ดดดด อ้ะ อ้ะ เมล เร็วอีก อื้อออออ อ้ะ อ้าาาาาาาาาาาาาา”

ไอ้เมลอุ้มผมเดินขึ้นบันได เข้ามาในห้องนอนมันก็จัดการถอดเสื้อผ้าผมออกทันที ก่อนจะอุ้มผมเข้าไปในห้องน้ำ

“มึงอาบน้ำซะ กูเหม็นกลิ่นน้ำหอม”

“อาบให้หน่อย”

“มึงนี่นะ”

หึหึ ไอ้เมลเอ้ย นอกจากหน้าจะหล่อแล้วนิสัยมึงยังน่ารักอีกนะ

“เท็น อยู่เฉยๆ กูเปียกหมดแล้วเห็นมั้ย”

“ก็อยากกอด”

“ผีเข้าหรือมึงเมาเนี่ย”

ผมไม่ได้เมานะ แค่กรึ่มๆ สติครบถ้วนแต่ความกล้ามีมากกว่าปกติไปหน่อย ไอ้เมลแยกเขี้ยวใส่เมื่อผมลูบน้องชายมันผ่านกางเกงนอน แรกๆ มันก็พยายามไม่สนใจหรอก แต่พอผมล้วงมือเข้าไปในกางเกง หูมันก็แดงขึ้นมาทันที ผมยิ้มให้มันแล้วเลิกเสื้อมันขึ้นก่อนจะละเลงลิ้นลงบนยอดอกของมัน

“ซี้ดดดดดด ซนนะมึง”

“ดีมั้ยเมล”

“ครับ เท็นนนน อืมมมมมม” ไอ้เมลครางยาวเมื่อผมใช้นิ้วเขี่ยลงบนส่วนหัวของน้องชายมันที่มีน้ำปริ่มออกมาจนเลอะนิ้ว มันยืดตัวขึ้นให้ระดับหน้าผมอยู่ตรงกึ่งกลางลำตัวมันพอดี ผมอ้าปากรับแก่นกายร้อนที่ไอ้เมลดันเข้ามาให้

“อ่าาาาาาาาาา เท็น เท็น อย่าดูดแรง อืมมมมมมม อ่าาา”

ไอ้เมลขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะในขณะที่ผมก็ใช้ลิ้นตวัดส่วนหัวน้องชายมันพร้อมกับดูดแรงๆ มันเริ่มซอยถี่ขึ้นจนผมรู้สึกว่าฟันครูดกับน้องชายมันเบาๆ อยู่หลายครั้ง

“อืมมมม เท็น พอ พอ” ไอ้เมลกระตุกแรงๆ สามสี่ที พยายามจะถอนแก่นกายออกจากปากผม แต่ไม่เป็นผล ผมดูดจนน้ำรักมันออกมาหมด ไอ้เมลจิกหัวผมเพราะคงเสียวมาก ดูจากหน้าที่แดงก่ำของมัน

“แทบหยุดหายใจเลยไอ้บ้า” มันว่าเสียงหอบแล้วก้มลงมาจูบผม ผมโผตัวเข้าไปกอดมันไว้ ทั้งเสื้อทั้งกางเกงไอ้เมลเลยเปียกไปกับผมด้วย

“เมล เมล อื้อออออออ อ้ะ อ้ะ”

ไอ้เมลเลื่อนตัวลงเลียยอดอก ส่วนนิ้วมันก็หายเข้าทางช่องลับด้านหลังผมไปสองนิ้วแล้ว มืออีกข้างของมันก็รูดน้องชายผมขึ้นลงไม่หยุด

“ไม่ใส่ถุงนะ ให้ทำมั้ย” มันกระซิบข้างหู มาถึงขนาดนี้แล้วไม่น่าถาม ผมจูบมันแทนคำตอบ ก่อนไอ้เมลจะถอนนิ้วออกแล้วดันอย่างอื่นเข้ามาแทน มันให้ผมกอดคอมันไว้ ขาข้างหนึ่งยกเกี่ยวรอบเอวของมัน

“เท็น คลายหน่อย อื้มมมมม ดีครับ”

ไอ้เมลขยับเข้าออกช้าๆ ปากก็จูบผมไปด้วย ส่วนมือสองข้างก็บีบคลึงสะโพกของผมตามจังหวะเข้าออก ผมยิ้มให้มันที่แยกเขี้ยวกลับมา

“เมลลลลล อ๊ะ ชะ...ชอบมั้ย”

“หื้อออออ ชอบครับ”

“แล้วเท็นล่ะ...ชอบมั้ย”

ไอ้เมลชะงักไปนิด มันยิ้มแต่ไม่ตอบ กลับกระแทกเข้ามาหนักๆ จนผมต้องจิกหัวมันให้เลิกแกล้ง

“เมลจ๋าาา ชอบเท็นรึเปล่า อ่าาา เมล เจ็บนะ”

“ถ้าบอกว่าชอบ เท็นจะทำยังไง”

“ไม่รู้”

“หึหึ งั้นไม่บอก”

“เมลนิสัยไม่ดี”

ไอ้เมลยิ้มรับ ก่อนจะเร่งจังหวะเร็วขึ้น ผมตัวสั่นจิกหลังมันแน่น เหมือนลืมหายใจไปเลยตอนไอ้เมลกระตุกหนักๆ ครางเสียงพร่าลั่นห้องน้ำผสานไปกับเสียงหอบและเสียงครางของผม ผมรู้สึกมึนไปเล็กน้อย หัวโล่งตัวเบาเพราะได้รีดน้ำออกเป็นรอบที่สองแล้ว แต่ครั้งนี้ออกมามากเหมือนเขื่อนแตก ไอ้เมลจูบผม ดูดลิ้น งับริมฝีปากเบาๆ แล้วถอนริมฝีปากออกไป

“เมลเก่งมั้ย” ไอ้เมลยิ้มหล่อถามผม มันขยับสะโพกเข้ามาจนชิด เบียดให้แก่นกายของมันดันเข้ามาลึกกว่าเดิม ยังรู้สึกได้ว่ามีน้ำทะลักออกมาอยู่เลย

“ที่สุดในสามโลก”

“ขนาดนั้นเลย”

“อือ พรุ่งนี้พาไปดูหนังด้วย”

“ครับ”

ถ้าไอ้เมลจะน่ารักขนาดนี้นะ ผมยอมขายไอ้เจมแล้วมาอยู่กินกับมันเลยเอ้า!

..........................................To be continue.................................

ฉากนี้คิดว่าควรมีบ้างให้พอมีจิตวิญญาณ (เกี่ยว?) ฮ่าๆ ความจริงมีเหตุผลนะคะ อ่านๆ ไป จะเข้าใจค่ะ ^^ อะแฮ่ม!!! อยากตอบความคิดเห็นหลายๆ คนนะคะ แต่ก็กลัวจะทำให้มันยาวจนรกเกินไป เอาเป็นว่า ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณพวกคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-08-2013 19:37:35
ไม่เข้าใจ แถมไม่อยากยอมรับ แบบนี้ก็ใช้ร่างกายเป็นคำตอบแทนเหอะเท็น

อ่านไปลุ้นไปทุกตอนว่าเมื่อไหร่จะรู้ตัว และหวังว่าไม่มีอะไรมาแทรกให้เรื่องมันโหดร้ายไปกว่านี้

รออ่านตอนต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 22-08-2013 22:19:47
 :jul1:

นี่แค่กรึ่มๆยังน่ารักขนาดนี้นะเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 22-08-2013 22:51:55
ถ้าเมลไม่โทรไปเท็นจะหยุดหรือเปล่า  :undecided:
แล้วเมลก็ใจอ่อนทุกที ไม่เคยจะโกรธเท็นได้จริงๆ จังๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-08-2013 23:34:05
รักเท็น อยากมห้เท็นตกลงรับรักเมลไวๆ ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-08-2013 23:44:58
สนุกดีนะคะ แต่อ่านไปใจก็เต้นตุบๆเพราะความลุ้นว่ามันจะดราม่าไหม :z3:
เมลคงรักจริงหวังแต่งเลยนะเนี่ย ถึงทนได้ทนดี เราว่าเท็นไม่น่ารักเลย แต่นั่นมันแค่มุมมองของเรา
เท็นน่าจะมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะเลย และเราจะรออ่านนะคะ :impress2:
คิดว่าเท็นเริ่มเปลี่ยนแล้วแหละ แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับเท่านั้นเอง เอาใจช่วยเมล อย่าเพิ่งเปลี่ยนใจนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-08-2013 03:45:28
 :haun4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 23-08-2013 08:28:10
เพิ่งเข้ามาติดตามค่า!!!
รู้สึกว่าเท็นมันมีอะไรหลายๆอย่างน่าค้นหามากกกกกกกกใช้ชีวิตอิสระดีชอบอ่ะชอบคนแบบนี้//ส่วนเมลก็น่ารักเอาใจเท็นดีแต่ง้องอลกันโหดนะถึงขั้นใช้ขวดตีหัวอ่ะ สรุปว่าชอบเรื่อวนี้มากๆๆมาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 23-08-2013 12:22:37
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-08-2013 23:04:44
ไหงไอเจมถูกรักประเดี๋ยวประด๋าวจังอ่ะ ฮ่าๆๆ
แหม ทำขนาดนี้เลื่อนสถานะขึ้นจากเพื่อนสนิทมากซะทีเถอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 24-08-2013 03:47:31
เท็น นี้เปนคนที่แปลกจริงไรจริง หวังว่าจะไม่มาม่านะไม่อยากกิน :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 24-08-2013 04:23:01
 :mew5: กลัวใจเท็นอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 24-08-2013 08:34:09
รอจร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 24-08-2013 13:18:08
ไม่เปนแฟนกันไปเลยน้า จะได้เคลียร์ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 24-08-2013 14:44:38
เท็นอินดี้มากก แต่ก็น่ารักดีนะ

ไม่อยากให้มีดร่ามาเลย แค่นี้ก็อึนๆมึนๆกันจะแย่แล้วว

 :katai2-1: :katai2-1:  o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 24-08-2013 18:05:19
อ่าน 9 ตอนรวดเลย


ชอบมาก นิสัยเท็นคล้ายเรามากเลย ชอบนายเอกแบบนี้อ่ะ


รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 24-08-2013 19:40:26
ติดเลยนะ...อ่านรวดเดียว

เท็นไม่รู้ใจตัวเองซะที แอบขัดใจ

รอตอนอ่านต่อไปน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 25-08-2013 00:24:19
 :angry2:รอกันอีกนิดนะคะ สอบ กพ เสร็จ จะรีบเอามาลงให้ทันทีค่ะ   :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 (NC-18+ Page.2)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-08-2013 06:45:18
สอบวันนี้ใช่ไหมคะ สู้ๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 26-08-2013 09:24:49
ตอนที่ 10

“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยนอนบ้านเลยนะ มึงไปติดหญิงที่ไหนอีกล่ะ” ไอ้ฟิวโผล่หัวออกจากครัวมาถาม

ผมเพิ่งกลับจากคอนโดไอ้เมล มันสอบวันนี้บ่ายสองเป็นวันสุดท้ายเลยพาผมมาส่งบ้านก่อนจะไปมหาลัย

ไอ้กัสแสยะยิ้มมองหน้าผมแล้วหันไปสนใจทีวีต่อ

“กูเคยติดผู้หญิงด้วยเหรอวะ” ผมถามกลับ เดินไปนั่งโซฟาอีกตัว

ตั้งแต่จำความได้ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมนอนด้วยเกินหนึ่งครั้งเลยนะ จะเรียกว่าติดได้ไง

“เรื่องของมึงเถอะ เที่ยงนี้ราดหน้าหมี่กรอบนะ จะกินด้วยมั้ย”

“อือ กินด้วย”

ผมเอนหลังกับโซฟา รู้สึกง่วงๆ เพลียๆ ไอ้กัสเลยส่งจานสับปะรดให้

“หนักเหรอเมื่อคืน”

“อะไร”

“หึ ไอ้เท็นเอ้ย ปากก็บอกว่าเพื่อน แต่ทั้งตัวทั้งใจนี่ให้เขาไปหมดละ”

“พูดมากว่ะมึง”

ไอ้กัสยักไหล่ ผมเลยถีบหน้าแข้งมันด้วยความหมั่นไส้ ตัวอ่ะกูให้ แต่ใจนี่ไม่รู้เว้ย เถอะ ผมออกไปนอนรับลมที่สวนหน้าบ้านดีกว่า

ผมนอนบนพื้นหญ้า มองท้องฟ้าไร้เมฆพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ช่วงนี้ชีวิตผมก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อ ออกจะเรื่อยๆ มากกว่า ถึงจะสอบมิดเทอมเสร็จมาได้สองวันแล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีอารมณ์พาไอ้เจมไปบ่อน ที่จริงผมอยากอยู่กับไอ้เมลมากกว่า ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แอบรู้สึกผิดกับไอ้เจมนิดหน่อย แต่ลุงชิดคงเลี้ยงดูมันแทนผมได้ดีอยู่แล้ว

เฮ้ออออ บางทีงานอดิเรกอันล่าสุดของผมคงน่าตื่นเต้นได้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วล่ะมั้ง

“เท็น สังเคราะห์แสงเสร็จแล้วก็เข้ามาแดกอาหารคนได้ละ” เสียงไอ้ฟิวตะโกนมาจากในบ้าน ผมเลยต้องลุกไปกินราดหน้าหมี่กรอบหนึ่งในเมนูที่ไอ้ฟิวชอบทำให้กินตอนเที่ยงมากที่สุด

“มึง กูจะทำไรต่อดีวะ” ผมถามความเห็นจากไอ้กัสกับไอ้ฟิว พวกมันมองหน้ากันก่อนจะสามัคคีมองหน้าผม

“มึงเบื่อแล้วไง ไอ้เจมลูกรักมึงน่ะ” ไอ้กัสถาม

“ไม่เบื่อหรอก แต่มันถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแล้ว” ผมไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเบื่อ มันเหมือนผมเป็นพวกทำอะไรหยิบโหย่ง ทั้งๆที่ก็เริ่มเบื่อจริงๆนั่นแหละ

“งั้นมึงก็ตั้งใจเรียนไปก่อน หรือจะเอาสมองฉลาดๆ ของมึงไปช่วยงานป๋ามึงก็ได้” ไอ้ฟิวออกความเห็น

“กูอยากทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่ว่ะ แบบเวลากูตายไปคนทั้งโลกจะได้ไม่ลืมกูไรเงี้ย”

“มึงเอาความคิดบ้าๆ นี่ออกจากสมองเลยนะ แค่ที่มึงเป็นทุกวันนี้พวกกูก็ลืมมึงไม่ลงแล้วไอ้เหี้ย”

ไอ้ฟิวแม่งชอบขัดความคิดผม น้อยครั้งมากที่มันจะสนับสนุน

“ยังไงก่อนไฟนอลกูก็ต้องตามหาแรงบันดาลใจกูให้เจอ”

“จะทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่อย่าหายหัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าว โอเค๊?”

ผมเสมองไปที่จานหมี่กรอบ ก่อนจะตักมาเติมให้ตัวเอง ไอ้ฟิวเลยเริ่มบ่นที่ผมไม่รับปากมัน ก็ผมไม่ชอบรับปากในเรื่องที่ไม่แน่ใจนี่นา

ทานราดหน้าจนอิ่ม ก็มีผลไม้ล้างปาก ผมนั่งกินไปพลาง คุยกับไอ้กัสไปพลาง มันบ่นเรื่องน้องเอมแฟนคนล่าสุดของมันที่ขี้หึงมากเกินไป แต่ผมว่ามันเรื่องปกติของผู้หญิงนะ ยิ่งผู้หญิงที่เป็นแฟนไอ้กัสนี่จะมีความขี้หึงมากกว่าผู้หญิงทั่วไปมาก เพราะไอ้กัสมันชอบม่อไปเรื่อย มันเจ้าชู้ยิ่งกว่าผู้ชายอีกนะครับ ถ้ามันมีไอ้นั่นนะ ผมว่าแม่งคงเป็นพ่อคนตั้งแต่อายุสิบสามแล้ว

“กูไปนอนก่อนนะมึง ตอนเย็นขึ้นไปปลุกด้วย จะไปเตะบอล” ผมสั่งไอ้ฟิวไว้ เพราะยังไงมันก็ไม่ออกไปไหนอยู่แล้ว

เมื่อกี้ไอ้เต๋อเพิ่งโทรมาชวนไปเตะบอลอุ่นเครื่องกับพวกอุตสา

เดี๋ยวนี้เกมฟุตบอลเราไปไกลแล้วนะครับคุณ เพราะอีเชอร์รี่แม่งเอาเรื่องนี้เข้าประชุมสโม แล้วพวกบิ๊กๆ ของแต่ละภาควิชาก็ตกลงกันว่าจะจัดเป็นการแข่งขันฟุตบอลภายใน ทำตารางคะแนนเหมือนชิงถ้วยพรีเมียลีก ชนะไม่ได้ถ้วยครับ แต่ได้เหล้า จะแบล็ค จะบลู จะเร้ดก็รีเควสกันไป

ผมขึ้นมาบนห้องก็มานอนกลิ้งอยู่ที่ระเบียง มองต้นวาสนาเอนไปตามแรงลมปะทะกับต้นโกสนที่สูงกว่าจนเพลินแล้วก็เผลอหลับไป

“เท็น เท็น เป็นไรป่าววะ”

ผมตื่นเพราะแรงตบเบาๆ ที่แก้ม ลืมตาขึ้นก็เห็นไอ้เมลในชุดนักศึกษานั่งคุกเข่าทำหน้าตกใจอยู่

“มึงเป็นลมเหรอ มานอนอยู่นี่ได้ไง ไม่สบายเหรอวะ เจ็บตรงไหนป่าว หัวมึงฟาดมั้ยเนี่ย” ไอ้เมลนี่ชอบตีโพยตีพายซะจริงๆ

“เปล่า กูตั้งใจมานอนรับลมเอง แต่เผลอหลับไป” ผมขยี้ตามองมัน ไอ้เมลถอนหายใจพร้อมกับทำหน้าเอือมระอาใส่ มันทรุดตัวลงนั่งพิงประตูกระจกบานเลื่อนด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อยใจเป็นอย่างมาก

“มึงนอนเข้าไปได้ยังไง หมอนก็ไม่มี พื้นแม่งก็แข็ง กูขับรถเข้ามาเห็นมึงนอนเหมือนตายอยู่นี่ก็ตกใจสิวะ”

“โอ้ย กูไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก มึงนี่ก็เว่อ แล้วขึ้นมาได้ไง ไอ้ฟิวล่ะ”

“ไม่เห็นนะ ออกไปข้างนอกมั้ง”

ผมเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ออกมาก็เห็นไอ้เมลนั่งเล่นไอโฟนอยู่ที่ปลายเตียง

“สอบเป็นไง”

“ก็ดี แล้วจะไปดูหนังกี่โมง”

“รอบทุ่มครึ่งดีมั้ย เย็นนี้กูไปเตะบอลก่อน”

“อือ ตามใจมึง”

เพราะตื่นก่อนเวลามาก ผมก็ไม่รู้จะทำไร เลยชวนไอ้เมลออกไปขับรถเล่น ไม่ลืมเอาเสื่อกับขนมไปด้วยเผื่อเจอที่เหมาะๆ จะได้นั่งชิวกันได้ มันบ่นร้อน บ่นขี้เกียจอย่างนั้นอย่างนี้แต่ก็ยอมตามใจผม ขับไปขับมาก็มาหยุดที่บึงของคณะเกษตรฯ ที่ผมชอบโดดเรียนมานั่งมองเป็ดเป็นประจำ แต่ช่วงที่เข้าบ่อนไก่ผมก็ไม่ได้มามหาลัยเลยไม่ได้มาที่นี่สักพักเหมือนกัน

ผมปูเสื่อ จัดที่จัดทางโดยไอ้เมลไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยืนเป็นคุณชายจิ้มไอโฟนยิกๆ สาธุ ขอให้นิ้วมึงล็อค

พอผมนั่ง มันก็ถือโอกาสใช้ขาผมหนุนต่างหมอน ผมขี้เกียจจะบ่นเลยนั่งมองผืนน้ำไปเงียบๆ ไอ้เมลมันก็เล่นไอโฟนของมันไป มียิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีกต่างหาก

“เล่นไรวะ คุยสาวไงไอ้เหี้ย” ผมถามพลางตบหน้าผากมัน กล้าดีมากที่มานอนหนุนตักกูแล้วคุยหัวเราะกับคนอื่น

“แล้วคุยไม่ได้?”

ผมมองสบตาไอ้เมล ก่อนจะยกมือปิดตามัน

“เรื่องของมึง”

“ไม่อยากให้คุยก็บอกดิวะ”

ไอ้เหี้ย เรื่องแค่นี้รู้เองไม่ได้เหรอวะ ต้องให้บอก

ผมเลยเงียบ ไม่อยากสนใจมัน ไอ้เมลที่โดนผมปิดตาไว้ก็เล่นมือถือต่อไม่ได้ ซึ่งถ้ามันแค่ปัดมือผมออกก็เล่นต่อได้แล้วแท้ๆ แต่มันก็ไม่ท้วง ไม่ว่า ไม่ทำอะไร นอนยิ้มกวนตีนผมอย่างเดียว

“เพื่อนกูขี้หวงว่ะ หึหึ”

ผมหงุดหงิดขึ้นมาทันที ได้ยินคำว่าเพื่อนจากปากมันแล้วรู้สึกตะหงิดในใจ

กูพูดได้ แต่มึงห้ามพูด!

“หุบปากไปเลยไอ้สัด”

“ดุซะด้วย โอ้ยยยย เท็น กูเจ็บ เท็น ปล่อยยยยย”

ตายไปเลย มึงตายๆ ไปซะ ยิ้มกวนตีนกูดีนัก ถลกหนังหัวโยนให้เป็ดแดกเลยแม่ง

.
.
.

“เหี้ยเท็นนนนนน มึงกลับไปเป็นโกล์เลยไอ้ควายยยยยยย!!! กรรมการโว้ย กูขอเวลานอกกกกกก”

ไอ้เต๋อมันจะเอาไงกับผมวะ เมื่อกี้กูก็นั่งเป็นโกล์ให้ แม่งก็เปลี่ยนกูมาเล่นกองหน้า ผ่านไปยี่สิบนาทีแม่งเปลี่ยนกูให้มาอยู่กองหลัง ตอนนี้แม่งมาไล่ให้ไปเป็นโกล์อีกละ ควายเอ้ย เมนไม่มาไงวะ

“มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้!” ไอ้เจจากภาควัสดุตะโกนตอบกลับไอ้เหี้ยเต๋อเสียงดังลั่น พร้อมกับเป่านกหวีด

ทีมของพวกอุตสาแยกไปรวมกลุ่มกันอีกทาง ส่วนผมเดินมานั่งพักข้างสนามอย่างฉุนๆ ไอ้เมลยื่นผ้าเย็นมาให้ ผมรับมาเช็ดหน้าก่อนจะโยนทิ้ง

ไอ้เหี้ยเต๋อทำท่าหัวเสียในขณะที่คนอื่นๆ แม่งทำหน้าขำเหี้ยไรไม่รู้ แต่คนที่หัวเสียควรจะเป็นกูนี่ ไม่ใช่มึงไอ้เต๋อ

“มึงลดความติสท์ของมึงหน่อยได้มั้ยวะไอ้เท็น กูกราบล่ะ กลับมาโลกมนุษย์ซะทีเถอะ คราวนี้มึงไปเป็นโกล์ก็ตั้งใจป้องกันประตู กูจะให้ไอ้แพ็ทมาเป็นกองหลังแทน”

“ไรของมึงเนี่ย เปลี่ยนกูไปๆ มาๆ กติกาบอลบ้านไหนเขาเขียนบอกไว้วะไอ้ควาย”

ถึงจะอุ่นเครื่องกันเล่นๆ ไม่ถือว่าแข่งจริงก็เถอะ แม่งมอปลายโรงเรียนมันไม่มีกีฬาฟุตบอลสอนไงวะ เรื่องกติกามารยาทเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญนะครับคุณๆ

“มึงว่ากูได้เหรอไอ้เหี้ย กูให้เป็นโกล์ก็ไปนั่งพิงเสาแดกอิชิตัน ให้มาอยู่กองหน้าก็ไปเดินเล่นอยู่หน้าโกล์คุยกับไอ้เบย์โกล์ของพวกอุตสาโน่น พอกูย้ายให้มาอยู่กองหลังแม่งเสือกวิ่งขึ้นหน้า โดนเป่าล้ำหน้าไปกี่รอบแล้วไอ้สัด โว้ยยยย กูปวดหัววววว!”

ไอ้พวกที่ได้ยินแม่งฮากันงอหงายไม่เว้นแม้แต่ไอ้เมลที่หัวเราะได้ไม่เกรงใจผม ก็อะไรวะ กูผิดไง ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์เว้ย

“ไปๆ ลงสนาม คราวนี้ใครเสือกเอาอิชิตันไปให้ไอ้เท็นแดกอีกกูจะตามจองเวรจนลูกบวชเลยมึง”

แหม ไอ้เต๋อ ทำเป็นนักเลงไปได้

“ตั้งใจเล่นนะ ไม่งั้นไอ้เต๋อได้แดกหัวมึงแน่” ไอ้เมลลูบหัวผมพลางยิ้มหล่อ

“ไอ้เหี้ยซิงก็มีไม่เอามันลงอ่ะ กูเห็นแม่งนั่งเก็บเหรียญมาตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว กูอยากเป็นตัวสำรองบ้าง”

“ก็มึงเก่งไงเท็น ไอ้เต๋อเลยอยากให้มึงเล่น มานั่งเป็นตัวสำรองก็เสียดายความสามารถ”

“เออว่ะ จริงของมึง”

ไอ้เมลนี่มันตาถึง สมแล้วที่แม่งเป็นเพื่อนสนิทมากของผม พรสวรรค์ด้านกีฬาที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดของผมเนี่ยไม่ได้จะโชว์ให้ใครดูง่ายๆ นะครับขอบอก มันต้องดูสภาพอากาศ อารมณ์ ทรงผม หรือสถานการณ์รอบข้าง ณ ขณะนั้นด้วย ไอ้เหี้ยเต๋อผู้ซึ่งขาดความละเอียดอ่อนนั่นคงไม่มีบุญจะได้เห็น หึหึ

เตะบอลเสร็จผมก็เข้ามาอาบน้ำในห้องอาบน้ำของชมรมฟุตบอล พอกำจัดเหงื่อไคลเรียบร้อยก็ไปหาข้าวกินกับไอ้เมล จากนั้นก็เข้าไปดูดปากกันในโรงหนัง ฮ่าๆ หนังสนุกรึเปล่าผมไม่รู้ เท่าที่รู้คือกูรู้สึกดีและก็ตื่นเต้นมาก คือมันต้องคอยระวังกลัวว่าใครจะมองมาไงครับ อาจจะทะลึ่งไปหน่อย แต่ผมชอบดูดลิ้นไอ้เมลนะ ชอบเห็นตาเยิ้มๆ ของมันที่บอกว่าชอบให้ผมทำอย่างนี้มาก หึหึ อยู่กับมันผมไม่เบื่อจริงๆ

................................................To be continue.............................................

กลับมาแล้วค่า ตอนดึกๆ จะมาอีกตอนนะคะ
ปล. ข้อสอบยากมาก คำถามบางข้อก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เขาถาม ฮ่าๆๆๆ หวังว่าคงสบายดีกันทุกคนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันเรื่อยมาค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 26-08-2013 09:52:41
เท็นแอบหึงเมลอ่ะ น่ารักนะเราเนี่ย คิคิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-08-2013 09:57:50
จำเริญเถอะเท็น
เมลยังคงเป็นได้แค่เพื่อนสนิทมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 26-08-2013 12:39:55
เท็นเริ่มจะติดเพื่อนอย่างเมลละ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 26-08-2013 20:37:44
ตอนที่ 11

“เท็น จารย์ต้นฝากมาบอกให้ไปพบตอนบ่าย”

ไอ้ฟิวพูดขึ้น ตอนนี้พวกผมกำลังนั่งเฮฮากันอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าตึก พวกมันเพิ่งไปเรียนมาครับ ส่วนผมก็ตามเคยโดดต้อนรับการเรียนวันแรกหลังจากสอบมิดเทอม ไปนั่งมองน้องเป็ดแล้วโดนไอ้ฟิวตามไปจิกหัวมานี่แหละ

“เรียกไมวะ”

“คงให้ไปช่วยงานมั้ง เห็นว่าจะให้มึงเทรนเด็กที่จะส่งไปแข่ง มีค่ายระบบสมองกลฝังตัวด้วย อาจารย์ล็อคตัวมึงไว้แล้วนะ กูบอกว่ามึงว่างไม่มีปัญหา จัดเดือนหน้า ยังไงก็ไปคุยกับอาจารย์อีกทีละกัน”

อ้าวไอ้ฟิว หาเหามาใส่หัวผมแล้วมั้ยล่ะ ผมไม่ได้ว่างนะเว้ย โครงการตามหาแรงบันดาลใจยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยเนี่ย

“ฮ่าๆๆ ขี้เกียจแต่เสือกเก่ง สมน้ำหน้ามึงแล้วล่ะไอ้เท็น” ไอ้แม็คทำท่าสะอกสะใจ ผมเลยชูนิ้วกลางให้มัน

“กูว่าเดือนหน้าจะบินไปฮ่องกง อย่างนี้ก็ต้องโดดค่ายดิวะ”

ไอ้ฟิวตวัดหางตามามองทันที “มึงอย่าแม้แต่จะคิดไอ้เท็น ถ้ามึงไปกูจะบินไปลากคอมึงกลับทันที”

“ทำไมวะ ก็กูเบื่อ”

“เบื่อก็หาอะไรที่มีประโยชน์ทำ ห้ามไปคาสิโนอีก กูยื่นคำขาด”

“เอาแล้วไงไอ้เท็น แม่มึงพิโรธแล้ว หึหึ” ไอ้เต๋อนี่ก็ทับถมกูดีจริงๆ

ผมยักไหล่ไม่สนใจ เลยโดนไอ้ฟิวหยิกแก้มเข้าให้เต็มแรง

“โอ้ยยยยยยยยย เจ็บนะเว้ย”

“กูพูดอะไรหัดฟังมั่ง อย่าให้กูต้องฟ้องแม่มึงนะ”

ไอ้ฟิวนี่มันก็แปลก มันก็รู้ว่าแม่ตามใจผมขนาดไหน แล้วมาขู่อย่างนี้ถามจริงๆ เหอะ กูจะกลัวเหรอวะ -_-

“เออๆ พูดมาก ไอ้คิม สั่งพิซซ่าซิมึง กูหิว”

“อ้าว เดี๋ยวก็จะไปกินข้าวเที่ยงแล้ว” ไอ้คิมเงยหน้าขึ้นจากชีทเรียนมามองหน้าผม มันกับไอ้แม็คกำลังตั้งหน้าตั้งตาลอกโน๊ตจากชีทไอ้ฟิวอยู่ ไม่รู้ว่าตอนเรียนพวกมันนั่งทำอะไรถึงไม่ยอมจด

“กูจะแดกพิซซ่า เก็ทป้ะ หรือมึงข้อง?”

“เออๆ ไอ้เต้ จัดการสั่งมาให้ไอ้เท็นมันแดกหน่อย เอาเป๊บซี่กับไก่มาด้วยล่ะมึง”

ไอ้เต้หน้าเหวอรับคำสั่ง มันกำลังทำตัวเป็นหมาเห่าเครื่องบิน คอยเห่าพวกน้องผู้หญิงปีหนึ่งที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่

ครืดดดดดด ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดด

ผมควักไอโฟนออกจากกระเป๋าเสื้อช็อป เห็นไอ้ฟิวเหลือบตามองมาผมเลยรีบลุกเดินมาคุยข้างบ่อปลา ห่างจากโต๊ะที่นั่งมาหน่อย

(อยู่ไหนเท็น ทำไมรับช้าจังวะ)

ช้านิดช้าหน่อยล่ะทำบ่น

“หน้าตึกภาคกูดิ”

(กินข้าวยัง)

“ไอ้เต้สั่งพิซซ่าแล้ว ทำไมวะ จะชวนไปกินเหรอ”

(เปล่า กูถามเฉยๆ)

“กวนตีน ว่าแต่มึงเรียนเสร็จแล้วเหรอวะ”

(ถ้าเรียนอยู่กูจะโทรหามึงทำไมล่ะ)

“เหี้ยเมล เดี๋ยวมึงโดน” ทั้งๆ ที่มันกวนตีน แต่ไม่รู้ว่าผมยิ้มทำไม ผมต้องหงุดหงิด ต้องโกรธมันสิ ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ

(กลัวจังเลย หึหึ)

“กวนอยู่ได้ แล้วมึงกินข้าวยัง”

(ไม่บอก อยากรู้ก็มาหา)

“นี่มึงสำคัญตัวผิดป่าววววว ไม่บอกกูก็ไม่อยากรู้เว้ย”

(เออ งั้นกูวาง)

“เฮ้ย ไรของมึงเนี่ย อย่าเพิ่งวางดิ” อะไรวะ ได้ยินเสียงไม่เท่าไหร่เอง นี่มันไม่อยากคุยกับผมให้นานกว่านี้รึไงเนี่ย -*-

(ทำไม)

“เดี๋ยวกูไปหา มึงอยู่ไหนล่ะ”

(ไม่บอก ไม่ต้องมา ไม่อยากสำคัญตัวผิด)

เออ ไอ้ห่า น้อยใจเก่งเหลือเกินนะมึง

“ขอคุยกับเพื่อนมึงหน่อย คนไหนก็ได้”

(คุยทำไม กูไม่ให้คุย)

“งั้นมึงก็บอกมาว่าอยู่ไหน”

(ไม่)

ไอ้เหี้ยนี่เล่นแง่ มันนึกว่าตัวเองเป็นนางเอกหนังช่องสามไงวะ -_-

“หืมมมม ไม่อยากเจอเท็นเหรอจ้ะเมลจ๋า” เจอมุกนี้เข้าไปไอ้เมลไม่เคยรอด เชื่อผม

(หึ ไอ้บ้า อยู่คณะศึกษา มาหาดิ เดินมาโรงอาหารแล้วเนี่ย)

นั่นไง หึหึ ว่าแต่แบกหน้าไปแดกข้าวไกลจังนะครับมึง

“ไกลว่ะ ไปทำไมวะ”

(ส่องสาว)

“เออ งั้นก็ส่องเผื่อกูด้วยละกันไอ้สัด วางละ”

(หึหึ ล้อเล่นน่า มาเรียนภาษาไทย จะมามั้ย ถ้ามาจะไปรับ)

“ไปไม กูไม่ได้มีธุระที่นั่น”

(เดี๋ยวพวกมึงก็ต้องมาเรียนภาษาไทยด้วยไม่ใช่เหรอ นี่มันวิชามอนะ แต่คนอย่างมึงคงไม่รู้หรอกว่าเขามาเรียนกันที่นี่หรือมึงอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้มีเรียน อืมมม จะว่าไป มึงรู้รึเปล่าวะว่าคณะศึกษามันอยู่ส่วนไหนของมหาลัย)

ผมนิ่งคิดไปนิด คือที่จริงผมก็รู้นะว่าเทอมนี้มีเรียนวิชาทักษะภาษาไทย แต่ก็ไม่รู้ว่าปกติแล้วเขาเรียนกันที่ไหนเวลาใด

“แค่คณะศึกษากูรู้จักเว้ย เดี๋ยวมึงเจอๆ กูไปรับไปส่งสาวคณะนั้นบ่อยไอ้สัด รู้จักดีกว่าตึกคณะตัวเองซะอีกมึงรู้ไว้ด้วย” หนอย ไอ้เมล ทำมาดูถูก ปากมันนี่น่าจับล้างน้ำจริงๆ

(หึ งั้นก็มาให้ถูกทางละกันนะ กูจะรอที่ห้องเรียน)

“เออ วางไปได้ละ รีบๆ ไปแดกข้าวซะไป”

ไอ้เมลหัวเราะก่อนสายจะตัดไป ผมเก็บไอ้โฟนใส่กระเป๋าเสื้อช็อปตามเดิม เดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นเพื่อนๆ มองมาด้วยสายตาแปลกๆ แต่ที่สำคัญพวกแม่งเขมือบพิซซ่าไปแล้วครึ่งถาด ห่า ไม่รอกูเลย

“แปลกเนอะ” ไอ้แม็คหันไปถามไอ้เต้

“ใช่ แปลกมาก” ไอ้เต้ตอบกลับ

“ไอ้พะชอนมันคุยกับใครวะมึง กูไม่เคยเห็นมันคุยโทรศัพท์ได้นานเกินสามนาที สงสัยเป็นบุคคลวีไอพีว่ะ” ไอ้เต๋อถามไอ้คิม ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผม

“ฮูอีสสสสฮี ฮูอีสสสฮี ฮีอีสเท็นสึบอยเฟรนนนนนน เท็นสึบอยเฟรนนนน เยสออร์โนว์ มิสพาริยะ” ไอ้ห่าคิมนี่กวนตีนผมสุดแล้ว มันลอยหน้าลอยตาพูดก่อนจะโยนบทสนทนาไปทางไอ้กัสที่พิซซ่ายังคงเต็มปาก

“อึกกกก! น้ำๆ ไอ้เหี้ยติดคอ เออ ขอบใจไอ้ฟิว ค่อยยังชั่ว เมื่อกี้มึงถามกูว่าไงนะมิสเตอร์ชัชวาลย์ อ๋ออออ อืมมมมมม ก็คงต้องบอกว่ายังไม่ถึงขั้นแฟน แค่ควงแขนแบบเพื่อนสนิทมวากกกกกกกกกกกกกกก!”

“เออ ไอ้พวกเหี้ย พูดกันขนาดนี้ไม่ถามกูตรงๆ เลยวะ” ผมว่าอย่างเหลืออด คว้าพิซซ่ามาสองชิ้น เอามาประกบกันทำเป็นสองชั้นแล้วกัดเข้าปาก ช้าไม่ได้ครับไม่งั้นผมไม่ได้กินแน่ ไอ้พวกนี้มีสกิลในการเขมือบด้วยกันทุกตัว ยิ่งไอ้ห่าเต๋อยิ่งเลเวลสูง

“งั้นถาม!” ประสานเสียงกันเชียวนะพวกมึง

“ไอ้ออกกกกกกกกก ออกกกกกกกกกไอ้โอ้อิ” (ไม่บอก บอกให้โง่ดิ)

“วุ้ยย ไอ้เหี้ยเท็น ค่อยๆ กินดิวะ แม่ง สับปะรดกระเด็นโดนเสื้อกูแล้วไอ้ควาย” ทำมาโวยวายไอ้เต๋อ เดี๋ยวกูเตะกลิ้งไปนู่นเลยไอ้นี่

เที่ยงครึ่งโดยประมาณพวกผมก็ยกโขยงกันไปที่คณะศึกษา ตอนขับรถไปจอดนี่สาวๆ มองกันตรึมครับ จะมองใครถ้าไม่ใช่มองผม หน้าตาดีสุดแล้วในกลุ่ม หึหึ

ผมเดินเข้าห้องสโลปขนาดใหญ่ งงๆ เล็กน้อยว่าจะไปนั่งตรงไหน คือคนมันไม่เคยมาเรียนไง แล้วไอ้คนที่นั่งในห้องอยู่ก่อนแล้วก็จ้องกันใหญ่ เพื่อนในภาคเดียวกับผมปรบมือต้อนรับกันเกรียวกราวเลยทีเดียว

เออ ขอบใจมากนะสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นของพวกมึง แต่ไม่โห่ใส่กูจะดีมากไอ้พวกเหี้ย นี่ไม่ใช่วิชาสาขาที่มีแต่พวกมึงเรียนนะเว้ย เด็กคณะอื่นก็มี คณะเดียวกันแต่ภาคอื่นก็มา จะให้กูดังไปไหน

“บ๊ะ! ของเขาดีจริงๆ แค่ลมปากก็สามารถเคลื่อนขุนเขา หึหึ ไอ้เมลมันเก่งเนอะมึง” ไอ้กัสพูดเบาๆ ข้างหูผม ก่อนมันจะรีบเผ่นไปไกลจากระยะตีน

พวกผมเดินเข้าไปสมทบกับพวกไอ้เมลที่นั่งอยู่เก้าอี้แถวกลางๆ ห้อง ไม่ต้องมีการแนะนำตัวอะไรกันเลยครับเพราะพวกมันรู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว คงมีแต่ผมนี่แหละที่เพิ่งจะรู้จักเพื่อนไอ้เมล

“เมล มาเร็วจัง กินข้าวยังอ่ะ” ไอ้ฟิวถามแถมด้วยรอยยิ้มหวาน ผมเลยแอบเบ้ปากไม่ให้ใครเห็น

“กินแล้ว ฟิวล่ะ”

“พิซซ่านี่ถือว่าเป็นข้าวได้มั้ยอ่ะ ไอ้เท็นมันเผด็จการ ร้องจะกินพิซซ่าท่าเดียว คนอื่นเลยต้องกินตามมัน”

“ฮ่าๆ กินอิ่มก็ดีแล้วล่ะ ตอนเรียนสมองจะได้แล่น”

“จะคุยกันอีกนานมั้ย ไอ้ฟิว มึงรีบๆ เดินดิวะ จะนั่งไหนก็เลือกเอาสักที่ ยืนขวางทางอยู่ได้”

“เออๆ งั้นกูนั่งตรงนี้ละกัน มึงไปนั่งกับไอ้กัสไป”

ผมพยักหน้า ไอ้ฟิวเลยนั่งลงข้างไอ้เมลที่มีเก้าอี้ว่างไว้หนึ่งที่ พวกไอ้เขตมันนั่งแถวหลังถัดจากพวกผม และข้างๆ พวกมันก็มีพวกคณะอื่นนั่งอยู่แล้ว ผมเลยพยายามเดินเข้าไปนั่งถัดจากไอ้กัสตามแต่ช่องว่างระหว่างที่นั่งจะอำนวย ผมเกลียดห้องสโลปก็เพราะอย่างนี้แหละ เข้ายากออกยาก ตอนปวดฉี่กูจะกล้าลุกไปเข้าห้องน้ำป่าววะเนี่ย

“มึงต้องเข้าใจมันหน่อยนะ มันชอบของมันแล้วมันก็ไม่รู้เรื่องมึงกับไอ้เมล” ไอ้กัสบอกเบาๆ ผมพยักหน้าเพราะก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่ แค่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดใจให้รู้สึกแปลกๆ ก็แค่นั้น

ห้องเรียนใหญ่ นักศึกษาเรียนกันเยอะเสียงเลยค่อนข้างดัง และเพราะมาก่อนเวลาเรียนไปเกือบครึ่งชั่วโมงเลยต้องมานั่งรออาจารย์อีก ผมนั่งท้าวคางมองไปรอบห้องอย่างเบื่อๆ สบตากับไอ้เมลบ้างบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ผมก็เห็นมันเอียงหัวไปคุยกับไอ้ฟิว บางทีก็คุยกับผู้หญิงที่เดินเข้ามาทักมัน ซึ่งผมสังเกตเห็นว่าพวกนางพยายามส่งสายตาให้ไอ้เมลทุกครั้งเวลาเดินผ่านเลย แล้วก็เดินผ่านกันบ่อยมากนะ ไม่รู้ว่ามีธุระอะไรต้องเดินไปเดินมานักหนา

“ไอ้เท็นๆ แก้โจทย์ข้อนี้ให้กูหน่อยดิวะ” ไอ้ซิงที่นั่งอยู่แถวหน้าผมยื่นกระดาษมาให้

“นี่มึงยังไม่ผ่านแคลหนึ่งอีกไง”

“ความจริงถ้ากูจะทำให้ผ่านก็ง่ายนิดเดียวเว้ยมึง แต่ได้เอมันเท่ตรงไหนวะ” โหว ไอ้นี่มันกล้าพูดเว้ย

“มึงเลยเอฟมาสองรอบแล้วงั้นสิ” ผมเขียนวิธีทำพร้อมคำตอบลงกระดาษให้ไอ้ซิงอย่างเบื่อๆ

“จุ๊ๆ อย่าพูดอย่างง้านนน เพื่อนเลิฟ น้อยคนนะเว้ยที่จะทำได้อย่างกู”

“เออ น้อยคนมากไอ้สัด เอ้า เอาไป”

“โหววว ท่านเทพ ขอบใจว่ะมึง เออ ไอ้เท็น ก่อนควิซครั้งหน้ามึงติวให้กูได้มั้ยวะ”

“มึงเห็นกูว่างมากไง”

“นะๆ ถ้ามึงอยากได้อะไรกูจะหามาให้ทุกอย่างเลย กูขี้เกียจเรียนอีกรอบแล้วอ่ะ”

ข้อเสนอของไอ้ซิงนี่ก็น่าสนอยู่ไม่น้อย ผมว่าสร้างบุญคุณกับมันไว้ก็ไม่เสียหาย

“ก็ได้เว้ย จะควิซเมื่อไหร่ก็บอกกูแล้วกัน”

“น้ำใจงามจริงๆ เพื่อนเลิฟกู อิอิ งั้นช่วยกูแก้โจทย์ฟิสิกส์ด้วยนะ แหะๆ”

ผมจ้องหน้าไอ้ซิงก่อนจะดีดหน้าผากมันสองทีติด มันทำหน้าจ๋อยมองผมเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง ไอ้เหี้ยนี่เอฟวิชาหนักทั้งนั้น กูสงสัยจริงว่ามันรอดจากการรีไทร์มาได้ยังไง

“จะให้กูทำไรก็ได้อ่ะ แต่ช่วยกูหน่อย ส่งเย็นนี้แล้ว มึงเขียนวิธีใส่กระดาษนี้ก็ได้ เดี๋ยวกูลอกลงใบงานเองนะ”

“ไม่รวมกับที่มึงขอให้กูติวแคล”

“ไม่รวมๆ”

“กัส กัส” ผมสะกิดเรียกไอ้กัสที่กำลังนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ไอ้นี่ก็จริงๆ เลย อาจารย์ยังไม่ทันเข้ามันก็หลับรอซะแล้ว

“ไรมึง ปลุกไมวะ จารย์เข้าแล้วเหรอ”

“ยัง มึงเป็นพยานให้กูหน่อย ไอ้เหี้ยซิงเป็นหนี้กูสองครั้ง ไอ้เต๋อ มึงก็ด้วย พยานครบสองคน ถ้าเบี้ยวกูมึงไม่รอดแน่”

ไอ้กัสทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมพยักหน้า ส่วนไอ้เต๋อที่นั่งถัดจากไอ้กัสก็คงงงไม่แพ้กัน เพราะมันกำลังคุยกับไอ้แม็คอยู่ ผมแสยะยิ้มให้ไอ้ซิงที่หน้าเสียไปแล้ว

“ไอ้เท็น มึงคงไม่ให้กูไปทำอะไรแปลกๆ ใช่มะ อย่างค้ายา ค้าอาวุธสงครามอะไรเนี่ย” ผมยกตีนฟาดปากมันดีมั้ยวะ ปากวอนหาคุกหาตะรางจริงๆ ไอ้นี่

“พ่อมึงสิ กูดูเป็นคนที่คิดจะทำอะไรแบบนั้นเหรอวะ”

“ก็เออสิวะ!” ทั้งไอ้ซิง ไอ้เต๋อและไอ้กัสตอบพร้อมกัน ผมตวัดตามองพวกมันทีละคนจนพวกมันหัวเราะออกมาแก้เก้อ

“โธ่ ไอ้เท็น เขารู้กันทั้งภาคแล้วว่ามึงชอบคิดชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง กูทำอะไรก็ได้นะเว้ย แต่ไม่เอาผิดกฎหมาย ไม่เอาอาย และไม่เอาที่เหนือความเข้าใจของคนด้วย” ไอ้ซิงพูดไปยิ้มประจบผมไป

“กูไม่ให้ทำอะไรที่เกินความสามารถมึงหรอกน่า”

“มึงพูดแล้วนะ”

“เออ”

สิบนาทีต่อมาอาจารย์ก็เข้าสอน แต่ผมไม่ได้ฟังเพราะเขียนวิธีทำกับคำตอบลงในกระดาษให้ไอ้ซิงอยู่ ไอ้กัส ไอ้เต๋อ ไอ้แม็คก็พร้อมใจกันไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนไอ้คิมกับไอ้เต้ไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่อาจารย์เข้าห้องมาตอนนี้ยังไม่กลับ ในกลุ่มผมคงมีแต่ไอ้ฟิวคนเดียวที่มีความสุขกับการเรียน เพราะหันไปมองกี่ทีก็ทำหน้าระรื่นคุยกับไอ้เมล

“เท็น มีคนฝากมาให้” เสียงกระซิบพร้อมแรงสะกิดจากข้างหลัง ผมเลยหันไปมอง ก็เห็นไอ้แต้มที่นั่งข้างหลังไอ้กัสยื่นช็อคโกแล็ตมาให้

“ใครวะ”

“คนที่มึงก็รู้ว่าใคร”

“ลอร์ดโวลเดอร์มอร์?”

“พ่อง เกี่ยวไรกับไอ้หน้างูนั่น กูหมายถึงเพื่อนสนิทมากกกกกของมึงอ่ะ รับๆ ไปได้ละ กูเมื่อย แล้วตอบไลน์มันด้วยล่ะ”

ผมรับช็อคโกแล็ตมาจากไอ้แต้ม หันไปมองไอ้คนให้ก็ยังเห็นมันคุยกับไอ้ฟิวอยู่ คุยไรกันนักหนา ทำไมไม่ตั้งใจเรียนวะ ผมเลยเลิกสนใจมันสองคนแล้วหันกลับมาเปิดดูไลน์ในมือถือ

C-A-R-A-M-E-L: ตาบอดเหรอมึง ไม่ทักกู
      12:35

C-A-R-A-M-E-L: เท็น ทำไรวะ ไม่ตอบอ่ะ
      12:37

C-A-R-A-M-E-L: โกรธไรวะ ไม่ยิ้มให้กูเลย
      12:45

C-A-R-A-M-E-L: ทำไม ทำไม ทำไม
      สนใจแต่คนอื่น มองกูบ้าง
      12:49

C-A-R-A-M-E-L: เพิ่งเคยเห็นมึงในห้องเรียน อยากนั่งข้างๆ
       ตอบไลน์กูหน่อย
      12:54

C-A-R-A-M-E-L: เลิกคุยกับเพื่อนได้แล้ว อาจารย์มาแล้วนะ ตั้งใจเรียนล่ะมึง
      13:12

C-A-R-A-M-E-L: คิดไรอยู่ หน้านิ่งเชียว
      13:20

C-A-R-A-M-E-L: จดโน๊ตด้วยเหรอ หรือเขียนไรอยู่
       ไม่ตอบกูเลยนะ อยากคุยด้วย
      13:24

โฮะ ตาย ทำไมไอ้เมลมันน่ารักงี้วะ ผมกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ ยิ่งเห็นสติ๊กเกอร์ที่มันส่งมาแล้วอยากจะหัวเราะ มีหมีสะบัดหน้า หมีกำลังคิด หมีงง หมีตีเข่า หมีซึม กระต่ายหน้าบึ้ง ปิดท้ายด้วยกระต่ายโกรธ -_-

ผมส่งสติ๊กเกอร์หมีกับกระต่ายกอดกันกลับไป แล้วไม่กี่วินาทีมันก็ตอบแค่ ‘...’ กลับมา

THE@TEN: ห้ามโกรธ ไม่ได้เล่นมือถือเลยไม่ได้ตอบ โอเค้?

C-A-R-A-M-E-L: ก็มัวแต่สนใจคนอื่น ไม่รู้มีเรื่องคุยกันอะไรนักหนา แล้วได้ช็อคโกแล็ตยัง

THE@TEN: อือ ไอ้แต้มเอาให้แล้ว เย็นนี้ไปกินข้าวกัน

C-A-R-A-M-E-L: โอเค แล้วคืนนี้นอนไหน

THE@TEN: บ้านดิ จะให้ไปนอนไหน

C-A-R-A-M-E-L: คอนโดกูไง ตอนเช้ากูไปส่งบ้าน

THE@TEN: ไม่เอา ไว้วันศุกร์ วันนี้ไม่ค้าง

C-A-R-A-M-E-L: ตามใจ :(

THE@TEN: ไอ้บ้า :P ตั้งใจเรียนดิ อย่าให้เห็นอีกว่าคุยกับใคร

C-A-R-A-M-E-L: หวงเหรอ :)

THE@TEN: หึ หวงมาก ไม่รู้เหรอ :(

ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อทันที มองไปทางไอ้เมลก็เห็นมันยิ้มกว้างกับไอโฟนของมันอยู่ โธ่ ดีใจกับเรื่องแค่เนี้ย

“ไอ้เท็น ยิ้มไรวะ เป็นบ้าเหรอมึง” ผมสะดุ้งนิดๆ กับเสียงของไอ้กัส ไม่รู้มันตื่นตั้งแต่ตอนไหน เลยตบหัวมันไปหนึ่งทีโทษฐานที่ทำให้ตกใจและมาหาว่าผมบ้า

ผมไม่ได้บ้านะ แค่เห็นไอ้เมลยิ้ม...เลยยิ้มตาม

........................................To continue....................................

รักเท็นรักเมลกันให้มากๆ นะคะ ฝากติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ และขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยค่ะ ดีใจที่อย่างน้อยก็มีคนที่ตามอ่านเป็นประจำ พวกคุณทำให้เวลาเปิดหน้าเว็บมาแล้วยิ้มได้ทุกครั้งเลยค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 26-08-2013 20:55:27
หาสามีให้น้องฟิวซักคนซิ  :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 26-08-2013 21:04:00
น่าร๊าาากกอ่ะ ชอบๆๆๆๆๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 26-08-2013 21:43:32
อ่านแล้วเขิน

ถึงเท็นจะยังไม่รู้ตัวก็เถอะ แต่ก็ชอบอ่ะ

ชอบตอนที่เท็นคุยกับเมลที่สุดและ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 26-08-2013 21:50:27
น่ารว้ากกกกกง่ะ  :hao3:

รอมาต่อนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 26-08-2013 22:09:36
เห็นเค้าหวานใส่กันแล้วมีความสุขไปด้วย  :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 26-08-2013 22:18:43
รู้สึกสงสารฟิวขึ้นมานิดๆ
ถ้าถึงวันที่รู้ความจริง ไม่รู้ว่าฟิวจะเสียใจแค่ไหน
คนนึงก็คนที่ชอบ อีกคนก็เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน
แต่ไม่มีใครคิดที่จะบอกฟิวเลย ถึงเท็นจะบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันก็เถอะ
อย่างน้อยก็สะกิดให้ฟิวรู้ตัวสักนิด  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 26-08-2013 22:19:03
หึหึ  เมื่อไหร่จะเปิดตัวกันสักทีนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-08-2013 22:50:55
อ่านแล้วยิ้มแก้มแตกแต่สักพักมึนอีกแล้ว
อยากโบกหัวเท็นเป็นที่สุด ยิ่งกว่าติสตัวพ่อหรือแม่ดี
 :ling2: :ling2: :ling1: :ling1:
รอวันเท็นเป็นแฟนเมลที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 26-08-2013 23:43:31
เพิ่งเข้ามาอ่าน อ่านแล้วติด
กลายเป็นติดเรื่องนี้เรียบร้อยไปแล้ว
รอๆๆๆๆ อยากให้มาต่อทุกวันเลยค่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 27-08-2013 00:07:21
ก็แค่เพื่อนที่สนิทมากกกกกกกกกสินะ  เหอะๆ  :ruready
รอตอนต่อไปฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 27-08-2013 00:48:27
 :hao3: คิดได้เน๊าะเพื่อนสนิทมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: khunniejang ที่ 27-08-2013 02:43:30
อ่านมา 11 ตอนรวด ตาแฉะ 5555555.
เราเข้าใจเท็นนะ เท็นออกจะเป็นพวกไม่อยู่กับร่องกับรอย
พอมาเจอเมล ก็เลยคิดมากออกแนวกลัว กลัวว่าเมลจะทนตัวเองไม่ได้
กลัวจะเสียเมลไปในวันที่ขาดเมลไม่ได้ เป็นคนที่ไม่จริงจังกับอะไร พอคิดจะจริงจังมันเลยกลัว
เราว่าเท็นอ้ะน่าเห็นใจนะ เพราะไม่ได้พูดความในใจให้ใครฟัง ไม่คิดอธิบาย เลยรับบทผู้ร้ายไปเลย
เฮ้อ สู้ๆนะเท็นนะ จุ๊บ-3-

แต่เมลเราก็น่าเห็นใจมิใช่น้อยเหมือนกันอะเนอะ -..-
ต้องมาหัวปั่นกับอารมติสของเท็นคงจะลำบาก 55555555. อย่าคิดมากถ้าเท็นจะให้เริ่มจากการเป็นเพื่อน
เท็นอาจจะกำลังฝึกตัวเองและเมลอยู่ก็ได้ ให้เมลรับได้ให้เมลชินกับการหายไปแวบมาของเท็น
ให้เท็นฝึกการอยู่กับร่องกับรอย อะไรๆกำลังดีขึ้นแล้วตอนนี้
ขออย่างเดียวเมลอย่าเพิ่งงี่เง่าควงผู้หญิงให้เท็นเห็นละ กร๊ากกกกก คงมีเลือดตกยากออกไม่ก็น้ำตานองกันบ้างละ
คือก็ไม่ได้จะว่าเท็นหรอกนะ แต่จะว่าไงดีละ มันจะมีอยู่ช่วงอารมนึงอ่ะ ที่เรารู้สึกว่าขนาดนี้แล้วยังบอกคนอื่นว่าเพื่อนอีกหรอ ไรงี้ แล้วก็จะจบลงด้วยกันโกรธ ประชด จนเสียเรื่องเสียราว ก่อดราม่า คึคึ เจอมาหลายเรื่อง นี่แหละหนาความรัก ฮรอลลลล

แต่ชอบเวลาเมลเท็นเค้าคุยกันอ้ะ น่ารักมุ้งมิ้งมากกกกกกก 55555.

มาเรื่องของฟิวบ้าง จะว่าเท็นผิดก็ไม่ถูกนะที่ไม่บอก
คือเรื่องนี้มันละเอียดอ่อนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยอ้ะ คนนึงก็เพื่อนสนิท คนนึงก็เกือบจะเป็นแฟนอยู่รอมร่อ
จะให้บอกยังไงเล่าเออ แต่ฟิวจะไม่สงสัยเลยก็แปลกแล้ว น่าจะพอรู้แต่แกล้งไม่รู้มากกว่า
ฝ่าฝันอุปสรรคกันต่อไปสินะ 555555555555555.

สรุปแล้วง่ายๆ เราเป็นแม่ยกเท็น เลยเม้นเข้าข้างลูกตัวเอง เอิ๊กกกกกกกกกกก
มาต่ออีกเยอะๆ นะคะ ดูดลิ้นคนเขียนนนนนนน <<เท็นชอบทำเลยทำบ้าง กร๊ากกกก เอาลิ้มมาให้เราดูดสะดีๆ #เอาปืนจี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-08-2013 03:22:40
 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-08-2013 06:21:42
เมลรอฉลองได้เลยนะเนี่ย ดูเท็นจะเริ่มมีหึงมีหวงอย่างออกนอกหน้าบ้างแล้วล่ะ :laugh:
สงสารแต่ฟิวที่ป่านนี้ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 27-08-2013 19:35:04
ตอนที่ 12

ครืดดดดดดดด ครืดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดด

ใครมันโทรมาตอนนี้วะ ผมมองเบอร์ที่หน้าจอแล้วก็ต้องทิ้งเสียมในมือเพื่อรับสาย

“ว่าไงเมล กูยุ่งอยู่”

(มึงทำไรวะ สามสี่วันมานี้กูโทรหาก็บอกแต่ว่ายุ่ง แล้วนี่มึงอยู่ไหน)

“อยู่บ้านดิ”

(กูไปหาที่บ้านแล้วแต่ไม่เจอ)

“มึงไปบ้านไหน”

(ก็บ้านมึงไง)

“เอ้า จริง ไปผิดบ้านป่าววววว”

(ไม่ผิดเว้ย กูยังเจอกัสกับฟิวเลย แต่มึงอ่ะหายหัว เพื่อนมึงก็บอกว่าไม่รู้ว่ามึงไปไหน มึงบอกความจริงมาว่าอยู่ไหน อยู่ในไทยรึเปล่า)

หึหึ ผมชอบเวลาที่ไอ้เมลทำน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างนี้จริงๆ

“อยู่ในไทยจ้า ยังไม่มีแผนบินไกล กูวางแล้วนะเมล ยุ่งจริงๆ”

(เดี๋ยวๆ มึงจะไม่บอกไงวะว่าอยู่ไหน)

“ก็บอกไปแล้วว่าอยู่บ้าน จะมามั้ย เดี๋ยวให้คนไปรับ”

ไอ้เมลนี่ถ้ามันยังไม่เห็นหน้าผมก็คงจะโทรมาไม่เลิกล่ะครับ เพื่อไม่ให้เสียงานเสียการที่ผมกำลังทำ เลยว่าพามันเข้าบ้านก็คงไม่เป็นไร พวกแม่บ้านบ้านผมคงไม่โทรไปรายงานป๋ากับแม่หรอกมั้ง เพราะไม่งั้นคงเป็นเรื่องใหญ่ แม่คงได้บินกลับไทยมาทำความรู้จักกับไอ้เมลแน่ คือก็อย่างที่น่าจะรู้ว่าผมเป็นพวกไม่สนใจโลก นอกจากไอ้กัสกับไอ้ฟิวที่เข้าออกที่นี่มาตั้งแต่หัดคลานแล้ว เพื่อนคนอื่นผมก็ไม่เคยเชิญมาบ้านเลย

(กูขับรถไปเองได้ มึงบอกที่อยู่มาดิ)

“มึงมาไม่ถูกหรอกน่า รออยู่ที่คอนโดนั่นแหละ แล้วเดี๋ยวเจอกัน”

(เออ ก็ได้)

ผมวางสายจากไอ้เมลก็โทรหาน้าหมายคนขับรถให้ไปรับไอ้เมลที่คอนโด ก่อนจะลงมือขุดดินต่อ ไม่รู้จะทำเสร็จทันรึเปล่า ตอนที่คิดนี่ผมก็ไม่ทันได้นึกถึงเรื่องเวลา แต่ไหนๆ ก็ทำแล้ว ก็คงต้องลองกันสักตั้ง ถ้าเสร็จไม่ทันก็ยังมีแผนสำรองอยู่

ขุดดินต่อไปได้อีกสักห้าเมตร ผมก็มานั่งพักใต้ร่มชายหาดที่แม่บ้านอุตส่าห์เอามากางไว้ให้ นั่งมองผลงานตัวเองที่ลงแรงทำมาอยู่สี่วันได้สักพักก็เห็นน้าหมายพาไอ้เมลนั่งรถกอล์ฟมา มันทำหน้างงๆ เล็กน้อย แต่พอเห็นผมก็ยิ้มกว้างทันที พอรถจอดมันก็บอกขอบคุณน้าหมายแล้วเดินมาหา

“มึงทำไรวะ รับจ๊อบทำสวนบ้านตัวเองรึไง” ไอ้เมลมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สภาพผมตอนนี้ก็ชาวไร่ชาวสวนดีๆ นี่เองล่ะครับ

“ทำของขวัญวันเกิดให้แม่” ผมบอก แต่ไอ้เมลทำหน้างงใส่ ผมเลยต้องอธิบายต่อ

“คุยกับป๋าพุธที่แล้วเรื่องของขวัญวันเกิดแม่ กูไม่รู้จะให้อะไร แม่กูมีทุกอย่างแล้ว แต่รู้ว่าแม่ชอบดอกกุหลาบมาก กูเลยว่าจะให้เป็นของขวัญวันเกิดปีนี้ แต่ให้จัดดอกกุหลาบเป็นช่อก็ธรรมดาไป กูไม่ชอบ แถมมันก็เหี่ยวได้ด้วย เลยว่าจะทำเป็นสวนให้ แม่จะได้เห็นของขวัญวันเกิดกูทุกเช้าเวลาตื่นขึ้นมาแล้วมองจากหน้าต่างห้องนอน”

ผมหยิบกระดาษที่ร่างแปลนไว้จากกระเป๋าเสื้อให้ไอ้เมลดู มันทำหน้าอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะลูบหัวผมแล้วยิ้ม

“แม่มึงต้องชอบของขวัญนี้มากแน่ๆ แล้ววันเกิดแม่วันไหน”

“ยี่สิบสี่สิงหา”

“อีกสามสัปดาห์ จะทันเหรอวะ”

“ก็ต้องทำให้ทัน”

“แล้วนี่คนงานไปไหนหมด”

“ก็มีแค่กู แต่ตอนนี้กูพักเหนื่อยอยู่”

ไอ้เมลมองหน้าผมเหมือนมันมองคนเสียสติ

“ทำไมไม่จ้างคนวะ หรือไม่งั้นก็เรียกคนงานในบ้านมาช่วยก็ได้ เห็นอยู่กันเต็มบ้าน มึงทำคนเดียวไม่ไหวหรอก”

“กูอยากทำคนเดียว แม่จะได้รู้ว่ากูตั้งใจให้จริงๆ แล้วมึงก็ไม่ต้องคิดช่วยนะเมล” ผมเอนหัวซบไหล่ไอ้เมล มันจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

“มึงมันบ้า”

“มึงเพิ่งรู้เหรอ”

“รู้นานแล้วว่าบ้า แต่ไม่คิดว่าจะบ้าขนาดนี้”

“หึ ไอ้เหี้ย แล้วนี่กินข้าวมายัง”

“เรียบร้อย ว่าแต่มึงจะเซอร์ไพรส์แม่ได้ไงวะ ของขวัญมึงใหญ่ขนาดนี้ท่านก็ต้องเห็นอยู่แล้ว”

“ไม่เห็นหรอก แม่กูไม่อยู่บ้าน ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ล่าสุดไอ้ฟิวบอกอยู่แอลเอ แม่กูเขาชอบเที่ยวน่ะ ส่วนป๋าก็ดูงานอยู่ฝรั่งเศส ตอนนี้อาจจะไปหาแม่แล้ว เพราะกูโทรไปบอกให้ป๋าพาแม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ อย่าเพิ่งกลับไทยจนกว่าจะถึงวันเกิด”

“อือ ถ้ามีไรให้ช่วยก็บอก มึงอย่าฝืนทำอะไรเกินตัวล่ะ เพราะถ้าเป็นอะไรไปแม่มึงคงไม่ดีใจกับของขวัญนี้หรอก”

“แล้วมึงล่ะ” ผมสบตากับไอ้เมล “ถ้ากูเป็นอะไรไปมึงจะเสียใจมั้ย”

ไอ้เมลเงียบอยู่นานก่อนจะพูดว่า

“บางทีมึงก็ตั้งคำถามแบบที่กูคาดไม่ถึง”

“ขนาดนั้นเลย” ผมถามพลางยักคิ้วให้

“หึหึ ไอ้บ้า มาจูบที”

ผมยื่นหน้าเข้าไปประกบปากกับไอ้เมล มันส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นผมเล่นก่อนจะดูดเบาๆ

“อืออ อืมมม เมล พอๆ”

เมื่อได้ยินเสียงท้วง ไอ้เมลมันก็ทำหน้าไม่เต็มใจแต่ก็ยอมหยุด เฮ้อ ไอ้นี่ บอกว่าจูบแต่มันไม่เคยหยุดแค่จูบหรอกไอ้เมลน่ะ มือมันซนจะตาย ถ้าไม่เรียกสติไว้ผมกับมันคงได้เล่นหนังสดกันอยู่ตรงนี้แน่

“ไม่เจอกันตั้งสี่วัน ไม่มีอะไรจะบอกกูเลยเหรอ” มันถามยิ้มๆ ผมเลยดึงแก้มมันเล่นด้วยความหมั่นไส้ แต่มันก็ยังคงยิ้ม

หึ ไอ้เหี้ยเมล รู้ว่ายิ้มหล่อล่ะก็ขยันยิ้มให้กูหลงจังนะมึง

“บอกอะไร”

“ไม่มีเหรอ ถ้าไม่มีงั้นกูกลับ”

“จ้ะ ไอ้เหี้ย ขู่จริงเลย คิดถึงนะจ้ะมึง คิดถึงมากกกกกก คิดถึงมากจ่ะเมลจ๋า”

“หึ กวนตีนเท็น”

ไอ้เมลผลักหัวผมทีหนึ่งแต่มันยังคงยิ้มกว้าง ผมเลยหยิกแขนมันกลับ ก่อนจะจับเสียมไปขุดดินปลูกดอกกุหลาบต่อ

.
.
.

“เฮ้ยยยย มึง ไปทำไรมา ไอ้เหี้ย หายหัวไปเกือบอาทิตย์ แถมกลับมาสภาพนี้อีก” ไอ้กัสร้องทักผมอย่างตกใจ มันกำลังนอนดูทีวีกินขนมอยู่ที่โซฟา แล้วด้วยพลังเสียงของไอ้กัสก็เรียกให้ไอ้ฟิวโผล่หน้าออกจากครัวมาอีกคน

“เท็น มึงกลับมาได้แล้วเหรอวะ หายไปไหนมาอีกล่ะคราวนี้ เฮ้ยยยยยยยยย มือมึงไปโดนไรมา”

ก็ยังดีที่ไอ้ฟิวมันไม่บ่นผมต่อ แต่ก็เข้ามาพันแข้งพันขา ดูนั่นตรวจนี่จนผมต้องผลักมันออกไปห่างๆ

“กูไปรับจ๊อบทำสวน” ผมตอบเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของพวกมันสองคน ความจริงที่กลับมาวันนี้ก็แค่โผล่หน้ามาให้พวกมันเห็นแค่นั้นล่ะ เดี๋ยวผมก็จะกลับไปทำงานต่อ คือไปคราวนี้ผมลืมบอกพวกมันว่าผมไปไหนไง เลยต้องกลับมาก่อนพวกมันจะไปแจ้งตำรวจ

“โอ้ยยยยย ไอ้เท็น มึงหยุดสร้างความลำบากให้ตัวเองไม่ได้ไงวะ ตัวก็ดำ แถมมือมีแต่แผล แม่มึงคงดีใจมากที่ลูกชายโดดเรียนไปทำสวน” ไอ้ฟิวบ่นขึ้นมา คราวนี้ไอ้กัสก็พยักหน้าเห็นด้วยกับมัน

“ห้ามบอกเรื่องนี้กับแม่ ถ้าแม่โทรมาถามอะไรก็ห้ามพูด บอกว่ากูไปเที่ยวไหนก็ได้ แต่ห้ามบอกว่ากูกำลังทำอะไร” ไอ้ฟิวนี่คุยกับแม่ผมบ่อยกว่าผมซะอีก เพราะมันเป็นคนคอยรายงานความประพฤติของผม

“ทำไมวะ” ไอ้ฟิวกับไอ้กัสถามขึ้นมาพร้อมกัน หน้าพวกมันแสดงออกชัดว่าสงสัยมาก คงเพิ่งเป็นครั้งแรกที่ผมสั่งห้ามไม่ให้มันฟ้องแม่ว่าผมกำลังทำอะไร

“เออน่ะ กูกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่ พวกมึงรอดู หึหึ”

“ชักหนักละๆ แล้วใส่ยาบ้างยัง” ไอ้ฟิวคงอยากบ่นต่อ แต่ความเป็นห่วงผมเอาชนะได้

“ใส่แล้ว แต่มึงทำให้ใหม่ก็ดีนะ กูพันผ้าเองเลยไม่แน่น หายามานวดให้กูด้วย”

“เออๆ งั้นรอกูแป๊บ กูออกไปซื้อยาก่อน”

แล้วไอ้ฟิวมันก็เดินเร็วๆ ออกจากบ้านไป ส่วนไอ้กัสมองสำรวจผมอีกครั้งแล้วถอนหายใจ

“ชอบหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ นะมึง แล้วเจอไอ้เมลบ้างมั้ย สองสามวันแรกที่มึงหายหัวไปมันมาหามึงที่นี่ด้วยนะ”

“เจอแล้ว”

ก็เจอวันที่ให้น้าหมายไปรับมันมาบ้านใหญ่เมื่อสามวันก่อน จากนั้นถ้ามันว่างๆ มันก็มาหา กวนตีนอยู่จนดึกมันก็กลับ แถมไอ้เมลนี่ตัวถ่วงผมดีๆ นี่เองล่ะครับ มันโวยวายใหญ่เรื่องที่มือผมมีแต่แผลเลยไม่ยอมให้ทำต่อ ตอนมันหงุดหงิดนี่งัดไม้ไหนมาใช้ก็ไม่ค่อยได้ผล ผมเลยต้องตกลงกับมันว่าจะปลูกแค่ดอกกุหลาบ แล้วส่วนอื่นๆที่ผมเตรียมจะทำก็จะให้คนงานในบ้านมาทำแทน คือที่จริงผมมาคิดแล้วล่ะว่าผมทำคนเดียวไม่ได้หรอก แค่ขุดดินลงต้นกุหลาบก็จะเดี้ยงแล้ว

ระหว่างรอไอ้ฟิวไปซื้อยา ผมก็เอาแบบแปลนสวนกุหลาบที่ร่างไว้ขึ้นมาดู เดี๋ยวนี้ผมพกติดตัวไว้ตลอดเพราะถ้ามีไอเดียดีๆ ก็จะได้เพิ่มเข้าไปได้

สวนนี้ผมจะเน้นกุหลาบสีขาวเป็นหลักเพราะแม่ชอบ พรุ่งนี้ว่าจะชวนไอ้เมลไปเลือกกระเบื้องปูทางเดิน กับหาซื้อของตกแต่งอย่างอื่นที่จะเอามาจัดไว้ในสวน ผมออกแบบไว้เป็นรูปวงกลม แบ่งครึ่งวงกลมเป็นบนกับล่างที่จะลงกุหลาบขาวกับแดงไว้ ใช้สีขาวเป็นพื้นแล้วใช้สีแดงทำตัวอักษร ครึ่งบนจะปลูกเป็นคำว่า LOVE แล้วครึ่งล่างจะเป็น MAMA ความจริงผมจะเอาเป็น HAPPY BIRTHDAY แต่บอกตรง มันยาวไป ทำออกมาอาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง ส่วนตรงกึ่งกลางจะปูกระเบื้องไว้เป็นทางเดิน รั้วที่ใช้ล้อมสวนก็จะใช้ต้นไม้เตี้ยๆ เพราะถ้าสูงไปมองจากหน้าต่างห้องนอนคงไม่เห็นข้างในสวนชัด ส่วนที่เหนือขึ้นไปจากวงกลมครึ่งบนผมจะทำน้ำตกเล็กๆ ไว้ ให้น้ำไหลลงไปตามร่องน้ำที่ทำเป็นลำธารโอบล้อมวงกลมไว้อีกที ทางเข้าสวนจะทำเป็นซุ้มประตูโค้ง ตลอดทางจะลงกุหลาบขาวกับแดงสลับกันไป

“กระดาษไรวะมึง” ไอ้กัสถามขึ้น มันชะโงกหน้ามาดูกระดาษในมือผม

“เอสองไง”

“กวนตีนไอ้เหี้ย ไหนดูซิ อืมมม อย่าบอกว่านี่คือสิ่งที่มึงกำลังทำอยู่”

“ใช่ ของขวัญวันเกิดแม่ปีนี้”

“โหวววว ไอ้เท็น มึงทุ่มทุนสร้างอีกแล้ว แล้วนี่มึงไปทำไว้ที่ไหน”

“ที่บ้านใหญ่ดิ ขอใช้ที่จากสนามกอล์ฟของป๋านิดหนึ่ง”

“เออออ แล้วที่บอกว่าทำสวนนี่ คือทำอันนี้ชะ?”

ผมพยักหน้ารับ “กูขุดดินปลูกกุหลาบเอง”

“เจ๋งว่ะ นึกว่ามึงแม่งไปทำงานพาร์ทไทม์แปลกๆ อีก คราวนี้ถือว่ามึงมีสาระนะ ให้กูช่วยไรมั้ย”

“ไม่ต้องๆ” ไอ้กัสพยักหน้ารับ ตาก็กวาดมองแบบแปลนของผมไปด้วย

“แล้วมึงจะเซอร์ไพรส์แม่ยังไงปีนี้ เอาอย่างปีที่แล้วก็โอเคนะ” ไอ้กัสเสนอ

 ปีที่แล้วผมปิดตาแม่พาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงที่ท่าเรือ ส่วนของขวัญวันเกิดที่ป๋ากับผมให้คือเรือสำราญ บนเรือเราก็เตรียมงานไว้พร้อมแล้ว พอแม่ไปถึงก็แค่เปิดผ้าปิดตา แม่ร้องไห้ออกมาเลยครับตอนนั้นเมื่อเห็นชื่อตัวเองสลักอยู่ด้านข้างเรือ เราวางแผนกันเป็นปีๆ และมันก็คุ้มค่ามาก

“ก็คงธรรมดาๆ ปิดตาพาไปยืนกลางสวน”

“งั้นให้กูไปช่วยจัดงานนะ อยากเห็นสวนที่มึงทำเองกับมือด้วย”

“อือ เอาดิ”

พอไอ้ฟิวกลับมาไอ้กัสมันก็สาธยายให้ไอ้ฟิวฟัง มันใส่ยาให้ผมไปด้วยทำตาแดงๆ ใส่ผมไปด้วย แถมยังบริการนวดให้เป็นอย่างดี
ราวๆ บ่ายสามผมก็ขอตัวไปทำงานต่อ ไอ้ฟิวบอกว่าอีกสองวันผมจะต้องเข้าค่ายระบบสมองกลฝังตัว มันถามว่าผมจะเอายังไง ผมเลยบอกให้มันพาไอ้ซิงลูกหนี้ผมไปขัดตาทัพให้ก่อน ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ค่อยโทรมาเรียก

“ฮัลโหลเมล อยู่ไหนจ้ะที่รัก” ผมออกมาจากบ้านก็กดโทรหาไอ้เมล ไม่รู้วันนี้มันหายหัวไปไหนทั้งๆ ที่เป็นวันเสาร์ ก่อนมาหาไอ้กัสไอ้ฟิวผมแวะคอนโดมันก่อน แต่มันเสือกไม่อยู่

(กล้าเรียกต่อหน้าป้ะ หึหึ)

“ถามว่าอยู่ไหน” เออ หัวเราะไปเถอะมึง เรียกเล่นๆ อ่ะพอได้ แต่ถ้าเอาเข้าจริงใครจะกล้าวะ กระดากปากจะตายห่า

(อยู่เอ็มเคกับพวกไอ้เขต มึงอ่ะพักบ้างยัง)

“เออ พักแล้ว เมื่อเช้ากูไปที่คอนโดไม่เจอ มึงออกเที่ยวแต่เช้าเลยไง”

(เปล่า ไอ้แต้มชวนเล่นเกมห้องมัน มันเพิ่งได้แผ่นใหม่มา มึงอยู่ไหนตอนนี้ ให้ไปหามั้ย)

“ไม่ต้องอ่ะ กูจะกลับไปทำงานต่อแล้ว พรุ่งนี้เก้าโมงมึงทำตัวให้ว่างไว้แล้วกัน”

(หืมมม ทำไมวะ จะมาหาเหรอ)

น้ำเสียงมึงจะกรุ้มกริ่มไปไหน -_-

“เปล่า จะชวนไปเดท”

ผมแสยะยิ้มเมื่อได้ยินเสียงมันเฮ้ยเบาๆ ไอ้เมลเงียบไปไม่นานก็ตอบกลับมาว่า

(ชอบทำให้คิดนะมึง งั้นเก้าโมงกูไปรับที่บ้าน)

แล้วมันก็วางสายไป ...ถ้ากูทำขนาดนี้แล้วไม่คิดมึงก็ควายแล้วล่ะไอ้เมล หึหึหึ

.......................................................To continue....................................

ขอบคุณความคิดเห็นทุกความคิดเห็น ทั้งสั้น ทั้งยาว มีหลายคนที่เข้าใจเท็น หลายคนสงสารฟิว หลายคนเอาใจช่วยเมล ดีใจมากเลยค่ะ แต่ชีวิตมันก็แบบนี้ ขึ้นๆ ลงๆ ไม่เป็นเส้นเรียบที่ทอดไปแบบไม่มีสิ้นสุด
ดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าป่วยอย่าไข้ จะได้ติดตามเรื่องนี้ไปนานๆ
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 27-08-2013 19:46:35
ชอบเมล-เท็น น่าร๊าาาาาากอ่ะ หวีทหวานๆๆ

อยากอ่านต่อจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 27-08-2013 19:58:52
ชอบมากกก รอนะคะ จะสอบฟิสิโอวันพฤหัส  ก็ยังย่องมารีเฟรชทุก2 ชั่วโมง รู้ตัวอีกทีก็  :a5: แต่ก็จะรีเฟรชต่อไป  :katai4: 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-08-2013 20:02:40
เท็นมันน่ารักแหะ เรื่องขวัญวันเกิดแม่ ทุ่มทุนร่างกายปลูกเองเลย
ชวนเมลไปเดท หรือพาใช้งานกันนะ เมลน่ารักขึ้นทุกวันห่วงเท็นตลอด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 27-08-2013 20:36:44
พาเมลเข้าบ้านแล้วเหรอจ๊ะ
ถึงเท็นจะไม่ได้คิดอะไร แต่เชื่อเหอะป๋ากับแม่เท็นคิดแน่ๆ
ก็ลูกตัวเองทั้งคน มีหรือป๋ากับแม่จะไม่รู้ว่าเท็นเป็นคนยังไง  :katai5:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 27-08-2013 21:07:45
เท็นน่ารักกับคุณแม่และเมลมากๆเลยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 27-08-2013 21:22:11
นี่เท็นอ่อยใช่ป่ะ ฮิฮิฮิ :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 28-08-2013 00:35:19
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ตอนหน้าเรามา  :beat: :beat:  :z6: :z6: เท็นกันนะ หึหึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-08-2013 01:15:10
แอบหวีดนะช่วงนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 28-08-2013 19:18:38
ตอนที่ 13

“เดทบ้านมึงสิเท็น หลอกกูมาหิ้วของให้ชัดๆ” ไอ้เมลบ่นทำนองนี้มาสักสามรอบแล้ว ผมเลยละสายตาจากสมุดแค็ตตาล็อคตรงหน้ามายิ้มให้มัน

“ไม่ได้หลอก ก็ชวนมาซื้อของด้วยกัน ไม่เรียกว่าเดทไงวะ”

ไอ้เมลทำหน้าบึ้งพร้อมกับผลักหัวผม ผมเลยดึงมือมันให้นั่งลงข้างๆ

“ช่วยเลือกหน่อย เอาแบบไหนดีเมล”

ผมพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ ตอนแรกไอ้เมลมันก็เล่นตัวให้รู้ว่าเคืองแต่หลังๆ มามันก็ช่วยเลือก มันบอกว่าถ้าจะทำเป็นทางเดินเอาเป็นแผ่นหินดีกว่า แข็งแรงกว่าด้วย ผมเลยให้ไอ้เมลมันจัดการไป ตกลงราคากับทางร้านพร้อมกับเขียนที่อยู่สำหรับให้ไปส่งของแล้ว ก็ลากไอ้เมลออกจากร้านมา

“หนักป้ะ กูช่วยถือมั้ย” ผมถามยิ้มๆ มันตวัดตามามองแล้วก็ทำหน้าบึ้ง

“ไม่ต้อง มือมึงเจ็บ จะถือได้ไง เดินไปเฉยๆ เถอะ”

ก่อนมาที่นี่เราไปแวะที่ร้านขายต้นไม้มาแล้ว ต้นไม้ที่จะเอาไปทำรั้วผมสั่งให้ไปส่งที่บ้านก็จริง แต่ต้นดอกแก้วกับกระถางนี่จะซื้อไปปลูกที่คอนโดไอ้เมลเลยว่าเอากลับเองดีกว่า เพราะยังไงวันนี้ผมก็จะค้างกับมันอยู่แล้ว ไอ้เมลเลยต้องเดินหิ้วกระถางกับต้นดอกแก้วเองไงล่ะ

“ไปไหนต่อ หรือกลับ” ไอ้เมลถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถ หน้ามันแดงนิดๆ เพราะเดินตากแดดมาตลอดช่วงเช้า

“ไปกินข้าวก่อน มึงจะกินไร” ผมบอก เดินเข้ามานั่งในรถ ไอ้เมลเร่งแอร์จนเย็นเฉียบ คือมึงจะเปิดให้หมีขั้วโลกมาทำรังอยู่รึไง

“แล้วแต่มึงอ่ะ”

“แดกไก่ดีมั้ย ไม่รู้จะกินไร”

“พักเที่ยงคนจะไม่เยอะเหรอวะ”

“งั้นเอาไงล่ะ”

คิดอะไรไม่ออกไอ้เมลเลยขับรถกลับมาตั้งหลักที่บ้านผม มันบอกว่าไอ้ฟิวน่าจะทำอาหารไว้ และก็ตามมันว่า ไอ้ฟิวกำลังเข้าครัวทำมักกะโรนีไก่สำหรับมื้อเที่ยงนี้

“อ้าว เมล ไปไหนกันมาเหรอ” ไอ้ฟิวถาม มองผมกับไอ้เมลด้วยสีหน้าเหมือนอยากร้องไห้ผสมกับเจ็บใจอยู่หน่อยๆ

“ไปเป็นเพื่อนเท็นซื้อของอ่ะ หิวข้าวเลยแวะมาที่นี่ ฟิวไม่ว่าไรใช่ป่ะถ้าจะมาขอกินด้วย”

โอ้ย แค่มึงยิ้มหล่อให้มัน มันก็ไม่ว่าอะไรแล้ว

“ไม่ว่าหรอก ดีใจด้วยซ้ำ เมลไปนั่งดูทีวีรอก็ได้”

“ไม่มีไรให้ช่วยเหรอ”

“อืมมมม งั้นช่วยล้างแครอทให้หน่อยละกันนะ”

ผมเดินหลบฉากออกมาจากห้องครัว ไม่อยากอยู่เป็นก้าง เห็นผมเดินมากับไอ้เมลแต่ไม่ทักผมสักคำ เอาเถอะ ช่วงก่อนหน้าที่ผมจะหายไปทำสวนมันก็ทำตัวแปลกๆ กับผมอยู่แล้วไอ้ฟิวน่ะ ชอบทำหน้าหงุดหงิดใส่เหมือนผมไปเหยียบหัวแม่ตีนมัน

ผมเดินมาหาไอ้กัสที่นั่งจิ้มเครื่องคิดเลขอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“ทำไรวะ”

“การบ้านแคลสองดิ กูเอฟเทอมที่แล้วจำไม่ได้ไง เลยต้องมาลงเรียนเทอมนี้ เซ็งจริง”

“เออ แค่ดูหน้ามึงก็รู้ละ”

“หน้ามึงก็เซ็ง ไปไหนมาวะ”

“ซื้อของ”

ไอ้กัสมองผมพลางเลิกคิ้ว ก่อนมันจะก้มหน้าลงทำการบ้านต่อ ผมเลยล้มตัวนอนลงบนโซฟา เอาจริงๆ คือช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยไหว ปวดไปทั้งตัว ยิ่งหลังกับคอนี่ปวดมากเพราะต้องก้มๆ เงยๆ ทั้งวัน

ไอ้กัสหันมามองผมอย่างสงสารเมื่อได้ยินผมร้องโอดโอยตอนกำลังหาท่านอนสบายๆ

“มาๆ เดี๋ยวกูไปเอายามานวดให้”

มันรีบวิ่งไปเอายามานวดให้ผม ส่วนผมก็นอนคว่ำ เปลือยท่อนบนให้มันนวดหลังให้

“ซี้ดดดดดดดดด เบาดิวะ มือหนักนะมึงเนี่ย” แต่ไหนแต่ไรมาไอ้กัสจะเป็นคนสุดท้ายเลยที่ผมจะยอมให้ทำแผลให้ มือหนักอย่างกะตีนตั้งแต่สมัยมันยังนุ่งกระโปรงแล้วล่ะ

“แลกกัน มึงทำการบ้านให้กูเลย” ผมขมวดคิ้ว นึกอยู่แล้วว่าคนอย่างมันคงไม่ทำให้ฟรี

“เออ เอามาๆ ซี้ดดดดดด เหี้ย เบาๆ”

“โห เท็น ไม่ได้อาบน้ำด้วยกันแค่ไม่กี่ปี ผิวสวยว่ะไอ้ห่า นุ่มลื่นมือ”

“อย่าหน้ามืดปล้ำกูนะเว้ย หึหึ เออออ ตรงนั้นแหละ เน้นหน่อยมึง อื้มมมม นั่นแหละๆ ใช้ได้ๆ”

“เหี้ยเท็นเอวเล็กกว่ากูอีก” ไอ้กัสแม่งเล่นเอาเสียววูบเลยครับ

“ห่ากัส ให้นวดไม่ใช่ให้ลูบ กูเสียว ของขึ้นแล้วมึงจะซวย”

“ไอ้เวร เพื่อนก็ไม่เว้น”

ผมยื่นมือไปผลักหัวมัน แต่ไอ้กัสรู้ทันเลยเบี่ยงหลบ

“ทำไรกัน” เสียงเข้มๆ ดังขึ้น แรงบีบจากมือของไอ้กัสหยุดชะงักลง มันก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า งานเข้า

“ทำเสร็จแล้วเหรอวะ” ผมลุกขึ้นนั่งช้าๆ หันไปถามไอ้เมลที่ยืนหน้าบึ้งคิ้วชนกันอยู่ตรงหน้า ไอ้กัสแม่งเผ่นหนีเข้าครัวไปแล้ว

“กูถามว่าทำไรกัน”

เอ้า ไอ้นี่ ตาบอดไงวะ มันก็คงเห็นว่าไอ้กัสนวดให้ผม แต่ไอ้คนที่เห็นแล้วถามนี่ล่ะ คือคนกำลังจะหาเรื่อง

“นวดไง กูปวดหลัง ไอ้กัสเลยนวดให้”

ไอ้เมลทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้แดกเข็มพันเล่ม มันเตะหน้าแข้งแล้วก็ผลักหัวผม

“เมล เจ็บนะเว้ย”

ไอ้ห่านี่ใบ้แดกไม่พอยังหูหนวกอีก กูบอกว่าเจ็บก็ยังไม่หยุด แล้วจะผลักหัวไปถึงไหน

“หยุด มึงไม่พอใจไรก็พูดมา ไอ้เหี้ย กระดูกคอกูจะเคลื่อนมั้ยเนี่ย”

ไอ้เมลหยุดผลักหัวผมก็จริงแต่มันเปลี่ยนมาล็อคตัวผมไว้แทน

“โอ้ย เมล อะไรของมึง”

“กูโมโหมากนะเท็น มึงไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่นิ่งๆ”

เพราะน้ำเสียงที่จริงจังของมันทำให้ผมหยุดดิ้น

“มึงจะโมโหทำไมวะเมล ไอ้กัสมันก็เพื่อนกู”

“ก็กูไม่ชอบ ทำไมต้องให้คนอื่นจับตัวมึงง่ายๆ ด้วยวะ”

“นั่นเพื่อนสนิทกูนะ ไม่ใช่คนอื่น”

พอผมพูดอย่างนี้ไอ้เมลก็เหมือนจะอ่อนลงมาหน่อย แต่มันก็ยังหน้าบึ้งยืนกรานคำเดิมๆ ว่า “กูไม่ชอบ”

“ไว้คุยกันทีหลังได้มั้ยวะ มึงลืมแล้วไงว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เรา ไอ้ฟิวไอ้กัสก็อยู่”

ไอ้เมลมองผม สายตามันเจ็บปวดจนผมทำอะไรไม่ถูก

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกใจร้ายกับกูซะทีวะเท็น” มันถามเบาๆ แล้วเดินหนีเข้าครัวไป

ผมคว้าเสื้อขึ้นมาใส่ ยืนเรียกสติตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะนั่งลงดูทีวี สักพักไอ้ฟิวก็เรียกให้ไปกินมักกะโรนีไก่ที่มันเพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ มันมองหน้าผมแปลกๆ แว๊บหนึ่งที่ผมคิดว่ามันอยากต่อยหน้าผมมาก คงได้ยินที่ผมทะเลาะกับไอ้เมลแน่ เพราะเถียงกันเสียงดังขนาดนั้น

ผมนั่งลงที่หัวโต๊ะ กินไปเงียบๆ ฟังพวกมันสามคนคุยกันเรื่องเรียนบ้าง เรื่องสถานที่เที่ยวบ้าง ไอ้เมลมันคุยปกติกับไอ้กัสไอ้ฟิว แต่มันไม่มองมาทางผมเลย

“เท็น ไปช่วยกูยกจานขนมกับผลไม้หน่อย” ไอ้ฟิวพูดขึ้นหลังจากที่มันเห็นผมกินจนหมดจานแล้ว

ผมเดินตามมันเข้ามาในครัว ไอ้ฟิวหยุดอยู่หน้าตู้เย็น ผมเลยยืนพิงเครื่องล้างจานที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ มีไว้ประดับครัวเฉยๆ รอว่ามันจะพูดอะไร ผมรู้ว่าไอ้ฟิวมันต้องมีเรื่องจะพูดกับผม เพราะร้อยวันพันปีมันไม่เคยให้ผมเข้ามายุ่งในครัว

“มึงกับเมล เป็นไรกัน” ไอ้ฟิวถามเสียงสั่นน้อยๆ

“เพื่อนกัน”

“ทำไมมึงต้องโกหกกูด้วยวะเท็น มึงเห็นกูโง่มากรึไง”

ผมขมวดคิ้วมองแผ่นหลังไอ้ฟิว มันคงกำลังเข้าใจอะไรผิดสักอย่าง

“กูไม่ได้โกหก”

“มึงโกหก!”

“แล้วกูจะโกหกมึงทำไม”

ไอ้ฟิวหันมามองหน้าผม น้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้างของมัน สายตาที่มองผมเต็มไปด้วยความโกรธ

“มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูชอบเมล มึงถึงไม่บอกกูว่าพวกมึงคบกัน แต่กูไม่ได้โง่นะเท็น กูรู้ทุกอย่างนั่นแหละแค่กูไม่พูด กูรอให้มึงเป็นคนบอกกูเอง แต่มึงก็ไม่พูดอะไรเลย มึงยังโกหกกูว่าเป็นเพื่อน กูอยากอดทนให้มากกว่านี้แต่กูไม่ไหวแล้ว กูไม่อยากเห็นมึงทำร้ายเมลอีกแล้ว”

ผมยืนนิ่งมองไอ้ฟิว เพื่อนสนิทที่เมื่อวานยังหายามาใส่แผลให้ผมดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคน เป็นอีกคนที่ผมหาความห่วงใย ความเข้าใจ จากสายตามันไม่เจอ

“มึงเล่นอะไรของมึงอยู่กันแน่ ไม่รักแล้วทำไมไม่ปล่อยเมลไป มึงบอกกับทุกคนว่าเมลเป็นแค่เพื่อน แต่การกระทำมึงมันไม่ใช่เลยเท็น มึงนอนกับคนที่เป็นเพื่อนมึงด้วยเหรอวะ เมลไม่ใช่ของเล่นของมึงนะ ที่พออยากเล่นมึงก็ทำดี พอมึงเบื่อมึงก็ทำร้าย กูพยายามแทบตายเพื่อให้เมลมีความสุข แต่มึงเป็นใครวะถึงได้กล้าทำร้ายคนที่กูรักได้ขนาดนี้”

ไอ้ฟิวทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ ส่วนผมอยากจะหัวเราะ ไอ้ฟิวที่อยู่กับผมมาตั้งแต่จำความได้กำลังถามว่าผมเป็นใครถึงได้กล้าทำร้ายคนที่มันรัก

“มึงกำลังเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ฟิว เสียใจที่กูไม่บอกมึงเรื่องกูกับไอ้เมล เสียใจที่กูทำร้ายไอ้เมล หรือเสียใจที่คนที่ไอ้เมลเลือกไม่ใช่มึง”

ไอ้ฟิวกรีดร้อง สภาพมันเหมือนนกที่ถูกยิงให้ร่วงตกจากฟ้า มันสะอื้นจนตัวโยนแต่ผมก็ทำแค่ยืนมอง ไอ้กัสถลาเข้ามาในห้อง มันมองผมทีไอ้ฟิวทีแล้วก็นั่งลงไปกอดไอ้ฟิวไว้

“พอไอ้เท็น! ไอ้ฟิวมันเจ็บจะตายอยู่แล้วไม่เห็นรึไง”

ก็ร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตายจริงๆ แต่ไหนๆ ก็เป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว ผมก็ไม่อยากให้ค้างคาอะไรอีก

“กูเห็น แต่มันต้องฟัง มึงก็รู้จักกูดีนะฟิวว่ากูไม่ใช่คนที่จะโกหกเพื่อความสบายใจของใคร กูรู้ว่ามึงชอบไอ้เมล แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่กูบอกมึงว่ามันเป็นแค่เพื่อน เป็นเรื่องของกูที่พอใจจะคบกับมันในสถานะนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับใคร กูมีปัญหาของกูเอง กูไม่ได้โกหกหรือเห็นว่ามึงโง่หรอกนะ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ”

ผมหวังว่าไอ้ฟิวจะเข้าใจในเรื่องที่ผมพูด ไม่ได้อยากจะใจร้ายอะไรกับมัน แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับมันเลย ผมไม่ได้ให้มันเป็นตัวแปรหลักในเรื่องของผมกับไอ้เมล มันจะชอบหรือไม่ชอบไอ้เมล ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน

“ขึ้นไปคุยกับกูข้างบน” ผมบอกไอ้เมลที่ยืนอยู่นอกห้องครัวเงียบๆ มันคงลำบากใจน่าดูกับสิ่งที่ได้ยิน

ไอ้เมลเดินตามผมเข้ามาในห้อง มันยืนกอดอกพิงประตู ส่วนผมทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา เงยหน้ามอง ก็ยังเห็นมันทำหน้านิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

“มึงชอบว่ากูใจร้าย แต่ทำไมมึงถึงยังทนวะ” หลังจากที่ปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอยู่นาน ผมก็ตัดสินใจพูดกับมันก่อน

ผมถามแต่ไอ้เมลไม่ยอมตอบ

“ทำไมถึงไม่ไปคบกับคนที่เขารักมึง คนที่เขาให้ความชัดเจนกับมึงได้ อย่างไอ้ฟิวที่มันรักมึงมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ถ้าเป็นมันมึงอาจจะมีความสุขกว่านี้”

“กูพยายามแล้วเท็น แต่กูก็กลับมาที่เดิม” ไอ้เมลยกมือขึ้นปิดหน้า ผมจับน้ำเสียงได้ว่ามันเหนื่อยใจแค่ไหนกับเรื่องนี้

“มึงคงยังพยายามไม่พอ”

ไอ้เมลลดมือลง มันมองมาทางผมแล้วสืบเท้าเข้ามาใกล้

“มึงอยากให้กูไปจากมึงนักเหรอเท็น มึงทนได้รึไงถ้าไม่มีกู ถ้ามึงทนได้มึงก็พูดออกมาเลยว่าไม่ได้รัก ไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วกูจะไปจากมึงทันที” สีหน้ามันจริงจังไม่ต่างจากน้ำเสียง

ไอ้เมลยิ้มกับความเงียบของผม มันยิ้มแบบที่ผมเห็นแล้วอยากจะร้องไห้ออกมา

“เพราะแบบนี้ไงกูถึงได้บอกว่ามึงใจร้าย มึงไม่ยอมปล่อย...แต่มึงก็ไม่รัก”

“ถ้ามึงจะสรุปเอาเองอย่างนี้ ทำไมมึงไม่ไปซะเลยล่ะ”

“ไม่ให้สรุปเอาเองมึงก็พูดมาสิว่ารู้สึกยังไง หลายครั้งแล้วนะที่ชอบพูดเหมือนว่ามึงคิดอะไร แต่สุดท้ายก็เอาคำว่าเพื่อนมาอ้างกับกู! มึงช่วยชัดเจนหน่อยได้มั้ยวะ! จะปั่นหัวกูไปถึงไหน! เหี้ยเอ้ย!”

ผมสะดุ้งกับเสียงตวาดของไอ้เมล จับมือมันมันก็ปัดออก ผมเลยไม่รู้จะทำยังไง กลัวมันจะเดินหนีเลยจับชายเสื้อมันไว้

“ก็มึงจะให้กูทำยังไง ถ้าคบกันกูก็กลัวมึงจะทนกูไม่ได้แล้วต้องมาขอเลิกเหมือนครั้งนั้นอีก เมล กูยังอยากมีอิสระนะ กูไม่อยากต้องมานั่งรายงานใครว่ากูจะไปไหน ไปทำอะไร จะกลับเมื่อไหร่ กูมีอะไรที่อยากทำหลายอย่างซึ่งบางครั้งอาจจะไม่มีเวลาให้มึง กูไม่อยากต้องรู้สึกผิดที่ดูแลมึงไม่ดี อยู่กับมึงเท่าที่มึงต้องการไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่กู ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราคบกันไม่วันใดก็วันหนึ่งมึงต้องทนไม่ไหวแล้วทิ้งกูไปแน่ แต่ถ้าเป็นเพื่อนกัน กูจะทำอะไรก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับใคร”

ผมรู้ว่าผมเห็นแก่ตัว แต่ผมก็ไม่อยากให้อิสระที่ผมเคยมีมันหายไป ผมอยากใช้ชีวิตของผมให้เต็มที่ ไม่อยากต้องมานั่งระแวงว่าแฟนที่ผมไม่มีเวลาให้เขาจะนอกใจผมรึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากให้ไอ้เมลอยู่ข้างๆผม ไม่ว่าผมจะเดินไปไกลแค่ไหนก็อยากให้เวลาที่หันกลับไปมองก็ยังเห็นมัน

“กูรักมึงนะเมล แต่ไม่อยากคบกับมึง”

ไอ้เมลทำหน้าอึ้งแบบจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จะร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ได้

“มึงกวนตีนกูมากไปแล้วไอ้เท็น”

“กูพูดจริงๆ นะ ไม่ได้กวนตีน อย่างน้อยก็ตอนนี้อ่ะ กูยังเป็นวัยรุ่นนะเว้ย กูมีกิจกรรมในชีวิตให้ทำอีกเยอะแยะ”

“กูก็ไม่ได้บอกว่าถ้าคบกันแล้วจะห้ามทำนั่นทำนี่ กูไม่ใช่ไอ้บ้าที่ล่ามคอแฟนไว้ในห้องนะเว้ย มึงอยากทำไรก็เรื่องของมึง กูไม่ก้าวก่ายอยู่แล้ว แค่ว่าอย่านอกใจกันก็พอ”

ก่อนเป็นแฟนใครก็พูดได้ทั้งนั้นแหละแบบนี้ แต่พอเป็นจริงๆ ก็เยอะกันทุกคน ผมอาจจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็เห็นตัวอย่างจากคู่อื่นๆ

“ก็นั่นไง ถ้าวันไหนกูเกิดพอใจอยากไปกินข้าวกับผู้หญิงน่ารักๆ สักคนล่ะ ก็ต้องมานั่งทะเลาะกับมึงอีก”

“เหตุผลจริงๆ ของมึงคืออย่างนี้ใช่มั้ย”

นี่ดูนะครับ ขนาดยังไม่ได้คบกันมันยังดุอย่างกะหมาขนาดนี้

“โอ้ย เหี้ยเมล มึงจะเอายังไงว่ามาเลย จะหยุดมั้ย หรือจะเป็นเพื่อนกันต่อ”

ไอ้เมลแสยะยิ้มมองหน้าผม มันใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมจนหน้าผมเกือบหงาย

“กูพอแล้วกับคำว่าเพื่อนของมึงไอ้เท็น ถ้ามึงไม่คบ เราก็จบกัน”

โหว ไอ้ห่า มึงคิดว่ามึงเท่มากที่พูดประโยคนี้ เท่มากเลยไอ้ควายกับทางเลือกของมึงเนี่ย ให้กูเลือกแต่ไม่บอกรักกูสักคำ

“มึงข้ามขั้นแล้วเหี้ยเมล” ผมว่ามันอย่างเคืองๆ

“ข้ามขั้นอะไร กูคงไม่ต้องไปสู่ขอมึงกับทางบ้านหรอกใช่มั้ย”

“เมื่อกี้ยังตวาดถามกูว่ารู้สึกยังไง ทีตัวเองนี่กลับเงียบ” ผมลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับไอ้เมล มันผงะถอยหลังไปนิดหน่อย ผมเลยขึ้นไปยืนบนโซฟาเพื่อไม่ต้องเขย่งเท้าในการกระชากคอเสื้อมัน

“ว่าไงไอ้เหี้ยฐาปกรณ์ มึงรู้สึกยังไงก็พูดออกมาดังๆ ให้มันแมนสมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อย”

จนถึงวันนี้ ต่อให้มันจะแสดงออกมากแค่ไหน ก็ไม่เคยเลยที่จะพูดให้ผมฟัง คำๆ เดียวที่ผมอยากได้ยินจากมัน

“หึ กวนตีนไอ้สัด”

มึงจะยิ้มก็ยิ้ม จะเขินก็เขิน แล้วก็พูดมาสักที อย่ามาทำลีลา

“ไม่พูดกูก็ไม่คบ แถมจะไม่ยอมจบด้วย เอาดิ”

“เออๆ กูรักมึง”

“ดูทำหน้า กูบังคับมึงพูดเหรอ”

ไอ้เมลขมวดคิ้วใส่ ผมเลยแกล้งตีหน้าขรึมใส่มัน

“เปล่า รักมึงจริงๆ รักมานานแล้วด้วย เป็นแฟนกูนะ”

ไอ้เมลหน้าแดงหูแดงเลย

“ก็ไม่ขัดข้อง”

ไอ้เมลยิ้มกว้าง ผมเลยต้องยิ้มตาม ก็ไม่ได้จะดีใจอะไรมากหรอกนะครับ(หราาาา) ก็แค่คบกัน มันจะต่างจากที่ผ่านมาเท่าไหร่เชียว แล้วอยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมถึงอยากใช้นัก ไอ้คำว่าแฟนเนี่ย มีแล้วดอกเบี้ยในธนาคารขึ้นเหรอครับ หึ!

.........................................To be continue...................................
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 28-08-2013 19:44:57
เขินอ่ะๆๆๆๆ เปนแฟนกันแว๊วๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-08-2013 19:48:53
กว่าจะเป็นแฟนกันได้ ลุ้นตัวโกร่ง
รอแค่เมลบอกรัก  :กอด1:

แล้วฟิวล่ะจะทำยังไงต่อ :mew4:
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 28-08-2013 20:25:21
โลกไม่ได้หมุนรอบเท็นตลอดเวลาหรอกนะ
ยังคงเป็นตัวเอกที่ให้ความรู้สึกอึมครึมไม่ชัดเจนอยู่สม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะคบกันด้วยเหตุผลอะไรแต่เราแน่ใจว่าเสี้ยวเล็กๆ เท็นกลัวว่าเมลจะไปหาฟิว
เราอาจจะไม่ได้รู้สึกดีกับฟิวมาก แต่ตอนนี้เราสงสารฟิวจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-08-2013 20:52:21
คึคึคึคึคึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 28-08-2013 21:50:51
แว้กกกก  คบกันแล้วอ่ะๆ   :m3:
รอตอนต่อไปฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 28-08-2013 22:33:13
ไม่ชอบฟิวอ่ะ เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน อะไรจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 28-08-2013 22:34:59
ฟิวเปนไร ???
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 29-08-2013 04:22:36
เพื่อไรว่ะฟิว!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-08-2013 06:16:44
 เป็นแฟนกันแล้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 30-08-2013 16:48:55
ตอนที่ 14

“ไปถึงไหนแล้ววะ สวนในฝันมึงน่ะ” ไอ้กัสถามพลางยกแก้วขึ้นชนกับแก้วผม

ผมดื่มเบียร์เข้าไปสองอึกก่อนจะทบทวนสิ่งที่ยังต้องทำ

“ก็เหลือแค่ทำน้ำตก น้ำพุล้อมสวน แล้วก็จัดไฟ กับลงต้นกุหลาบตามทางเดินอีกนิดหน่อย”

“เออ ถือว่าเสร็จก่อนกำหนดเร็วกว่าที่คิดนะ อย่างนี้ก็มีเวลาเตรียมงานหลายวันดิ”

“อือ แล้วไอ้ฟิวเป็นไงบ้าง”

หลังจากวันที่มีเรื่องต้องตะโกนใส่กันผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย ไม่ได้โกรธอะไรมันนะ ผมต้องเร่งทำสวนเลยไม่ได้กลับบ้านหรือไปมหาลัย

“มันก็ซึมๆ ตามประสาคนผิดหวังนั่นแหละ แต่กูว่ามันคงอยากขอโทษมึงมากกว่าว่ะ” ไอ้กัสบอก พลางรินเบียร์ใส่แก้วให้ผม

“ขอโทษทำไม ที่มันว่าก็มีส่วนถูกอยู่ กูไม่ได้เก็บมาคิด แค่ทุกวันนี้ก็เหนื่อยจะตายห่า”

“ก็ใครใช้ให้มึงทำคนเดียวล่ะวะ ออกแบบไว้ซะใหญ่”

“นี่ไง กูถึงบอกว่ากูกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

“เออ มันคนละใหญ่ล่ะมั้งมึง ว่าแต่ปวดหลังนักก็มีคนนวดให้แล้วนิ ยังจะกลัวไร ทั้งนวดทั้งนาบ ครบวงจร หึหึ”

ไอ้กัสนี่มันต้องมีแซวนิดกัดหน่อยทุกที ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟังนะ คือที่จริงผมก็ทำตามปกติ ใครจะถามหรือไม่ถาม ถ้าผมไม่มีอารมณ์จะพูดพวกมันก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ไม่เห็นจำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ซะหน่อยว่าคบกันแล้ว

อืมมม หลังจากคบกันน่ะเหรอ คบมาได้สี่วันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนนะ ผมกับไอ้เมลเราก็เลยเถิดกันมาตั้งแต่ใช้คำว่าเพื่อนอยู่แล้ว ตอนเป็นแฟนก็แค่มันกล้าพูดมากขึ้นว่าชอบไม่ชอบให้ผมทำอะไร ก็ดีครับ ผมก็ยังมีอิสระเหมือนเดิม มันไม่ได้ล่ามคอผมไว้กับห้องอย่างที่มันบอกจริงๆ หึหึ

“แล้ววันนี้พวกเหี้ยเต๋อไปไหน” ตั้งแต่มายังไม่เห็นเงาหัวพวกมัน ปกติถ้านัดกันไอ้พวกนี้ไม่มีพลาดนะครับ นอกจากมันจะป่วยจริงๆ หรือที่บ้านเรียกตัวด่วนเท่านั้นแหละ

“เห็นบอกมีประชุมกลยุทธ์ที่สบายตังค์ แต่ที่จริงพวกเหี้ยนี่ไปงานวันเกิดเมียไอ้เจมัน”

“แล้วงานที่ผู้หญิงเยอะอย่างนี้มึงพลาดได้ไง”

“อย่างน้อยสามคนที่เป็นเพื่อนเมียไอ้เจ ก็เด็กเก่ากูล่ะ จบกันไม่สวยเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยอยากเจอ”

“กูก็ไม่เห็นแฟนคนไหนของมึงจะจบกันดีๆ สักคน” อย่างน้องแนงน้องรหัสของมันนี่ก็คุยกันดีๆ ไม่ได้เลยครับ เจอหน้ากันจะต้องแขวะตลอด

“อืม ชีวิตรักกูมันอาภัพ ไม่เหมือนมึงเนอะ โสดมาได้ตั้งเกือบยี่สิบปี แต่พอจะมีแฟนทั้งทีแม่งเล่นของสูง”

“ไอ้เหี้ยเมลมันของสูงตรงไหน”

“หึหึ ยอมรับล่ะสิว่าคบกันแล้ว”

ผมยักไหล่ให้ไอ้กัส “ก็คบกันแล้ว แปลกตรงไหน”

“เออ ห่า ไม่แปลกเว้ย กูล่ะเบื่อกับคำว่าแปลกตรงไหนของมึงจริงๆ แล้วนี่ กูจะบอกให้ ผัวมึงคนนี้นี่มึงอาจจะคิดว่ามันเดินตามมึงต้อยๆ ทำตัวเป็นของตายให้มึงไม่เห็นค่ามาได้ตั้งนานนะ แต่ไอ้อย่างนี้ล่ะอันตราย มึงก็รู้ไอ้เหี้ยเมลมันหล่อระดับเทพเจ้า มีผู้หญิงคนไหนมองตามันแล้วไม่หลงเสน่ห์บ้าง ไม่มี ถ้ามึงยังทำเป็นทิ้งๆ ขว้างๆ มันเหมือนที่ผ่านมานี่มึงได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ มีคนอยากเป็นผู้โชคดีแทนมึงอีกเป็นพันๆ คน”

“มึงไซโคกูป่ะวะเหี้ยกัส” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ คือผมก็ไม่ได้ทิ้งๆ ขว้างๆ มันนะ แค่ผมก็มีเรื่องที่ตัวเองก็ต้องทำอยู่ ในหนึ่งวันเราอาจจะได้โทรคุยกันแค่สามนาทีก่อนนอนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก...มั้ง

“จริงงงง มึงไม่รู้อะไร ไอ้เหี้ยเมลนี่มีแฟนเพจ บอร์ดแฟนคลับส่วนตัวมันด้วยนะ เฟซบุ๊คมันนี่คนติดตามหลักแสนเลยนะมึง ผัวมึงไม่ใช่จะธรรมดานะเหี้ยเท็น มึงต้องหัดสนใจโลกภายนอกบ้าง เฟซบ้งเฟซบุ๊คอะไรก็ต้องสมัครเล่นซะ จะได้ตามทัน เดี๋ยวนี้กิ๊กในช่องแชทมันเยอะ”

ผมรู้สึกว่าแค่มีไอจีก็พอแล้วนะ เฟซบุ๊คถึงมีได้ผมก็อาจจะไม่มีเวลาเล่น

“กิ๊กในช่องแชทนี่ประสบการณ์ตรงของมึงเหรอ”

“หึ ไอ้เหี้ย รู้ทัน”

“เขาจับมึงได้หรือมึงจับเขาได้”

“ทั้งสอง กูเลยโสดอยู่ ณ บัดนาวไง”

ผมส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจกับชีวิตรักของไอ้กัส ก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกับมัน นั่งดื่มกันสองคนก็งี้ล่ะครับ คุยปัญหาชีวิตกันแล้วก็ชนแก้ววววว

ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผมทำมือบอกไอ้กัสว่าจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก เมื่อมันพยักหน้าผมเลยรีบเดินออกมาหน้าร้านหามุมสงบๆ ไอ้เหี้ยเมลนี่ไปแดกเหล้ายังไงของมันถึงมีเวลาโทรมา

“ว่าไงเมล”

(อยู่ไหนอ่ะ)

“ร้านพี่เจ๋งไง ก็บอกก่อนออกมาแล้ว”

(อ้าว ก็เจอพวกไอ้เต๋ออยู่สบายตังค์เนี่ย แล้วมึงนั่งกินกับใคร)

“กับไอ้กัส”

(เออๆ งั้นวางละ)

“อะไรของมึง เสียเวลากูเดินออกมาหน้าร้าน”

(บ่นๆ ก็นึกว่านั่งอยู่คนเดียว ว่าแต่มาที่นี่มั้ย เดี๋ยวไปรับ)

“ไม่อ่ะ มึงวางไปได้ละ แล้วเที่ยงคืนก็รีบๆ มา ห้ามไปที่อื่น”

(ครับๆ // โทรเช็คเมียไงว้า // พ่อมึงไอ้มายด์ เท็นห้ามเถลไถลนะมึง วางละ)

แล้วสายก็ตัดไป ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง เดินเข้ามานั่งก็โดนไอ้กัสกัดเล็กน้อย

“สักเกมมั้ยมึง” ไอ้กัสถาม ชี้ขึ้นชั้นบน

“จัดไป พี่เจ๋ง ฝากโต๊ะด้วยนะพี่”

“ได้ๆ ค่าฝากกูรวมกะค่ามิกเซอร์นะเว้ย”

“อย่ามามึนพี่ วันนี้กูแดกเบียร์”

จากที่คิดว่าเล่นกันเกมเดียวมันก็ดันเพลินเป็นสองสามสี่ เล่นกันเกือบเที่ยงคืนก็ลงมานั่งจิบเบียร์ที่โต๊ะตามเดิม ไอ้กัสตอนนี้เริ่มสอดส่องสายตาหาเหยื่อแล้ว ประมาณเที่ยงสิบนาทีไอ้เมลก็พาเพื่อนมันยกโขยงมา มีไอ้เต๋อกับไอ้แม็คตามมาด้วย

“เหงาปากกันมั้ยพวกเหี้ยยยยย ไม่มีกูเนี่ย หึหึ” ไอ้เต๋อมาถึงก็แรดทันที ผมพยักหน้าทักทายไอ้เขต ไอ้ลิน ไอ้มายด์ พวกมันนั่งกระจัดกระจายโซฟาละคนสองคน ส่วนไอ้ห่าเมลเนี่ยถ้ามันสิงผมได้มันคงทำ

“กูรู้สึกโล่งใจกว่าตอนมึงอยู่อีกไอ้สัด แล้วนี่ไอ้เต้ไอ้คิมไปไหน พวกมึงก็ไม่ครบองค์นิ หายไปไหนคน” ไอ้กัสว่าไอ้เต๋อ ก่อนจะกวาดมองไปทั่วโต๊ะ

“มึงไม่ต้องถามถึงพวกมัน พวกห่านั่นตอนนี้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วมั้ง” ไอ้แม็คบอกหน้าบึ้ง สงสัยอารมณ์เสียที่คู่หูอย่างไอ้เต้หายไป
“พวกมันตาย?” ไอ้กัสถามต่อ

“มึงคิดเหรอว่าอย่างพวกมันถ้าตายแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ หึหึ พาสาวไปแดกตับเว้ย เพื่อนเมียไอ้เจน่ารักๆ ทั้งนั้นมึง ถ้าไม่ติดว่าต้องมาหาพวกมึงที่นี่กูก็คงไม่พลาด” ไอ้เต๋อตอบ มันทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง

“กูว่าที่มึงพลาดไม่ใช่เพราะพวกกูหรอกเหี้ยเต๋อ แต่เป็นเพราะหนังหน้ามึง หึหึ”

“เออไอ้เหี้ยเท็น ไอ้หน้าตาดี ไอ้อัปปรีย์ส่องแสง แดกๆ ไปเลยมึง พูดมาก”

ผมยักไหล่ยักคิ้วให้ไอ้เต๋อ มันกระทืบตีนทำหน้างอแงขัดใจ หึ ว่าใครก็ไม่สะใจเท่าว่าไอ้เต๋อ ไอ้เหี้ยนี่เป็นพวกยอมรับความจริงไม่ได้ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยนะถ้ามีการจัดอันดับ ฮ่าๆๆ

“เท็นๆ กูมีไรจะฟ้อง” ไอ้ลินยิ้มกริ่ม ส่งสายตาไปหาไอ้เมลที่นั่งพิงโซฟาโอบเอวผมอยู่

“ว่า”

“ตอนอยู่สบายตังค์ไอ้เมลออกไปเต้นกับผู้หญิงด้วยนะ นัวเนียกันกลางฟลอร์ไม่อายใครเลยนะมึง กูเห็นมากับตา” ไอ้ลินทำหน้าเจ้าเล่ห์ แต่ผมว่าไอ้ห่านี่โม้มากกว่า อย่างไอ้เมลถ้าจะทำจริงๆ มันลากผู้หญิงเข้าห้องน้ำไปเอาให้ถึงใจยังดีกว่าไปโชว์ใครให้เรตติ้งตก

“เออ แล้วไงวะ”

“มึงไม่เชื่อล่ะสิ”

ผมหันไปมองไอ้เมลก็เห็นมันนิ่งๆ ไม่มีจะแก้ตัวหรืออะไร นั่งจิบเบียร์สบายๆ ของมันไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ถ้ามันร้อนตัวบ้างกูก็จะเชื่ออยู่หรอกนะ”

“ไอ้ห่านี่มันทำจนเป็นนิสัยแล้ว มันไม่มีพิรุธให้มึงจับได้ เชื่อกูสิ”

“เออๆ เอาเป็นว่ากูเชื่อมึงแล้วกัน” ผมบอกแล้วยกแก้วชนกับไอ้ลิน มันทำหน้าเซ็งๆ ควักกระเป๋าตังค์ออกมา

“จ่ายมาห้าร้อยไอ้ลิน กูบอกแล้วว่าไอ้เท็นมันไม่โมโหหรอกเว้ย หึหึ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะคร้าบบบบบ” ไอ้มายด์รับตังค์จากไอ้ลินแล้วก็เอามาโบกไปมา

ผมเลิกสนใจมันสองคน คนหนึ่งก็โง่ คนหนึ่งก็บ้า เพื่อนไอ้ห่าเมลจะมีใครใกล้ความเป็นคนบ้างมั้ยวะ เออ แต่ว่ามันก็ไม่ได้เต็มปาก เพราะไอ้เต๋อกับไอ้แม็คนี่ก็เป็นพวกหลุดโลกเหมือนกัน ตอนนี้พวกมันทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเกาะแข้งเกาะขาไอ้ลินกับไอ้มายด์ไม่ยอมปล่อย

“ทำไมเหรอมึง ทำไมไอ้เท็นต้องโกรธวะ มันมีซัมธิงรองอะไรอย่างงั้นเหรอระหว่างไอ้เมลกับไอ้เท็น บอกกูมาเลยนะพวกมึง” ไอ้เต๋อลงทุนไปนั่งเขย่าขาไอ้ลินกับพื้นเลยครับ อย่าไปบอกใครล่ะว่าเป็นเพื่อนกู

“นี่มึงยังไม่รู้เหรอวะ หืมมมมมม เอาไงดีวะ อืมมมมม ห้าร้อยสำหรับค่าข่าว” โหว ไอ้เหี้ยลินมันคิดถอนทุนคืน

ว่าแต่ไอ้พวกนี้มันเอาเรื่องของผมไปเล่นสนุกปากเลยนะครับ นี่มึงไม่เกรงใจกูกับไอ้เมลที่นั่งหัวโด่อยู่นี่เลยใช่มั้ยวะ

“แพงว่ะมึง ลดหน่อยไม่ได้ไงวะ ไอ้มายด์ มึงบอกมาฟรีๆ เลย เมื่อกี้มึงก็ได้ห้าร้อยจากไอ้ลินไปแล้ว” ไอ้แม็คต่อรองราคา ดีหน่อยที่มันยังนั่งอยู่บนโซฟา

“กูว่ามึงไปถามไอ้เท็นเองดีกว่านะ ข่าวชัวร์กว่า หึหึ”

เมื่อไอ้ห่ามายด์โยนไม้มาทางผม ผมไม่รับไว้ไม้คงตกใส่หัว แถมไอ้ลินก็ยักไหล่แบบไม่สนใจตังค์ห้าร้อยแล้ว ผมเลยต้องจำใจเผชิญหน้ากับไอ้หมาสองตัวที่หูตั้งหางกระดิกพร้อมรับฟัง

เฮ้อ ผมก็ไม่เคยต้องแนะนำแฟนให้เพื่อนรู้จักเลยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เอาเป็นว่า

“ก็คบกัน”

“แบบไหน” พูดพร้อมกันเลยนะพวกมึง ตอนเตะบอลไม่มีจะสามัคคีอย่างนี้บ้าง

ผมถอนหายใจ ก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัดว่า “แฟน”

“เอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย มึงสอยเดือนร่วงเหรอวะ แน่จริงๆ เพื่อนกู มาๆๆๆ ชนแก้วววววววววววววววววว”

ผมยกแก้วขึ้นดื่ม มองไอ้พวกบ้าที่ชนแก้วกันเคร้งคร้างเสียงดังไม่เกรงใจโต๊ะข้างๆ ไอ้กัสยักคิ้วกวนตีนมาให้ผม ผมเลยเตะหน้าแข้งมันไปหนึ่งที

“หน้าแดงเป็นด้วยเหรอ หึหึ” ไอ้ห่าเมลนี่ก็กวนตีนกูจริง

“พูดมากไอ้ห่า”

ไอ้เมลหัวเราะพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

“นอนไหนคืนนี้”

“บ้านใหญ่ดิ พรุ่งนี้ต้องคุมคนงานทำรั้ว”

“กว่ามึงจะขับรถไปถึงคงไม่ได้นอนกันพอดี ไปนอนห้องกูมั้ย”

“ไปกับมึงกูก็ไม่ได้นอน”

“ทำไมจะไม่ได้นอน มึงคิดว่ากูจะทำอะไร หืมมม ว่าไงเท็นเท็น”

หน้ายิ้มๆ ของมึงนี่น่าเอาขวดเบียร์ช้างฟาดหัวให้แตกอีกสักรอบ

“เออๆ ไปห้องมึงก็ได้ แต่ตีห้าต้องไปส่งกู”

ไอ้เมลพยักหน้าก่อนจะก้มลงมาจูบปากผม ได้ยินเสียงไอ้พวกสัมภเวสีร้อง อู้ววววววว กวนตีน ผมเลยยกนิ้วกลางเจริญพรพวกมันไป

ประมาณตีสองก็แยกย้ายกันกลับไปนอน ไอ้เต๋อแซวไม่หยุดปากเมื่อเห็นไอ้เมลเอากุญแจรถให้ไอ้เขตขับกลับ ผมเลยเดินไปตบหัวมันแทนคำว่าฝันดีไปสองทีติด ในขณะที่ไอ้เมลก็บอกลาเพื่อนมันพร้อมกับรับปากว่าจะไม่หักโหม ถุย! กูคงยอมมึงหรอกไอ้เหี้ย

“เมล ไอ้บ้า เดี๋ยวก่อน อ๊ะ” เหมือนไอ้เมลมันคิดไว้แล้วว่ากลับถึงห้องมันจะทำอะไรเพราะตั้งแต่ประตูปิดลงมันก็นัวเนียผมไม่หยุด
ให้กูถอดรองเท้าก่อนก็ไม่ได้ ไอ้บ้า -*-

“คิดถึงกูมั้ยเท็น” เสียงไอ้เมลแหบพร่า มันไซ้ไปตามซอกคอผมในขณะที่นิ้วก็เขี่ยเล่นที่ยอดอก ผมพยักหน้าให้มัน แต่มันคงไม่เห็นเพราะมัวแต่ดูดคอผมอยู่นั่น

“คนหรือปลิงเนี่ย อื้อ ไม่เจอแค่ไม่กี่วันมึงอดอยากขนาดนี้เลย”

ไอ้เมลไม่ตอบแต่ล้วงมือเข้าไปในกางเกงผม นิ้วยาวๆ ของมันเริ่มลุกล้ำแบบไม่ทันตั้งตัว ผมมองหน้ามันเคืองๆ แต่คนอย่างมันหรือจะสำนึก ยิ้มหล่อใส่ตาผมไม่พอยังมาแลบลิ้นทำหน้าทะเล้นให้อีก

“ให้ทำมั้ย หรืออยากนอน” มาถึงขนาดนี้แล้วมันจะมาถามผมทำเพื่ออะไร ให้นอนตอนนี้น้องชายกูได้อึดอัดตายแน่

“มึงกวนตีนกูเหรอเมล”

“ก็มึงเหนื่อยมาทั้งวัน คงอยากพักผ่อน”

“อ้ะ อื้ออออ ไอ้บ้า ถ้าจะไม่ทำก็ถอนนิ้วออกไปสิวะ”

“ว้า หงุดหงิดซะแล้ว หึหึ”

มันหัวเราะแล้วอุ้มผมเดินขึ้นบันไดเข้ามาในห้องนอน อารมณ์ไอ้เมลดีซะจนผมที่โกรธที่เหวี่ยงใส่มันดูเหมือนเป็นคนบ้าไปเลย

“กูดีใจนะที่มึงกล้าบอกกับเพื่อนว่าเราเป็นอะไรกัน” มันบอกพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของผมออก

“ถ้ากูไม่บอกก็ต้องมานั่งทะเลาะกับมึงอีก”

“นอนทะเลาะต่างหาก กับคนที่ชอบทำลืมว่าเป็นของกูน่ะ ต้องย้ำบ่อยๆ ถึงจะจำ”

“อื้ออออ เมล อ้ะ โอ้ยยยย เมล เจ็บ เหี้ย พ่อมึงตาย กูเจ็บ เอาออกก่อน”

อยู่ๆ ก็แทงพรวดเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว ไม่มีจะส่งนิ้วมานำล่องอะไรเลย ผมฟาดมือลงบนไหล่มัน แต่ไอ้เมลก็จับมือผมไว้ได้ทันแล้วก้มลงมาจูบ มันขบริมฝีปากล่างผมเบาๆ ก่อนจะส่งลิ้นของมันเข้ามาทักทายกับลิ้นผม มือที่คิดจะตีมันเลยต้องโอบรอบคอมันไว้ ตาคู่สวยของไอ้เมลที่มองมาทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“ผ่อนหน่อยเท็น กูแตกก่อนไม่รู้ด้วยนะ”

“ยังมีหน้ามาพูด มึงลองมาเป็นกูมั้ยล่ะ”

ผมกระตุกนิดๆ เมื่อไอ้เมลก้มลงเลียยอดอก นิ้วของมันก็เขี่ยส่วนหัวของน้องชายผมเล่นทำเอาผมต้องเชิดหน้าอ้าปากร้องไม่เป็นภาษา

“ดีมั้ยเท็น”

“อื้อ ที่สุด อ้ะ อ้ะ อ๊าาาาาาห์ ขยับหน่อยเมล”

ไอ้เมลเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ บางทีก็เร่งเร็วจนลืมหายใจ ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังมัน ข่มอารมณ์แปลกๆ ที่ทำให้สมองไม่ค่อยสั่งงาน

“เมล เมล อ้ะ ไม่ไหวแล้วเมล อื้อออออ อ้ะ อ่าาาาาาาห์”

ผมยกขาโอบรอบเอวไอ้เมลไว้ หน้ามันแดงก่ำไปด้วยแรงอารมณ์ กระตุกอีกสามสี่ทีมันก็หยุดปล่อยให้น้ำทะลักอยู่ในร่างกายผม

“ชอบกัดนะมึง เป็นหมาไง” ผมถามเมื่อรู้สึกแปล๊บๆ ที่ไหล่ ไอ้เมลมันชอบกัดเวลาใกล้จะเสร็จ ผมบอกไม่รู้กี่ครั้งว่าเจ็บแต่มันก็ยังทำ

“งั้นมึงก็เมียหมา”

“เดี๋ยวมึงโดน”

“กลัวจังเลย โอ้ยยยย เท็น ทำไมชอบดึงผมกูวะ อยากมีผัวหัวล้านไงมึง”

“ถึงตอนนั้นกูคงมีผัวใหม่ไปแล้วมั้ง”

เพียะ!

ไอ้เมลตบปากผม ผมเลยทึ้งหัวมัน เอาดิ กูสู้คนนะมึง

“ปากดีอย่างนี้มึงก็ไม่ต้องนอน”

อ้าว ซะงั้นเลย พูดเล่นพูดจริงแยกไม่ออกแล้วแฟนกู -*-

..................................To be continue.....................................

อีกสามวันเจอกัน
  :bye2:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 30-08-2013 17:33:42
 :oo1:  กันทุกตอนเลยนะ!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 30-08-2013 18:17:02
เท็นโดนจัดหนักเลยจ้า ตี5จะได้กลับไม๋เนี่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-08-2013 19:14:06
เมลไม่ค่อยหื่นเลยนะ :oo1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 30-08-2013 20:52:38
บรรยากาศดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ทะเลาะกันงุ้งงิ้ง มุ้งมิ้ง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-08-2013 21:20:18
เมลหื่นจริงๆ
พออะไรๆมันชัดเจนนี่มุ้งมิ้งกันจังนะคู่นี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 31-08-2013 02:11:28
 :hao6:2คนนี้ตกลงใครหื่นกว่ากัน แต่ที่แน่ๆคนอ่านอ่ะหื่นกว่า55+
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 31-08-2013 03:35:13
ไม่ต้องนอน5555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 31-08-2013 03:43:09
เรียน"แฟน"ได้เต็มปากมากเท็น  ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 31-08-2013 04:36:34
 :hao6:

เอะอะ ย้ำๆ ตลอด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 31-08-2013 20:10:16
โว๊ะ คู่นี้รักกันรุนแรงเหลือเกิน :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 31-08-2013 22:50:05
รักรุนแรงกันจิงจิ๊ง ง ง ง    :hao6:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 3-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 03-09-2013 17:19:50
ตอนที่ 15

“เอ้า เมล พร้อมนะ วันทู!”

ไอ้เมลพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมเมื่อเจอผมยิ้มให้

“เธอเชื่อไหมความรักเหมือนทำให้เราหลับตา
ปล่อยหัวใจช้าช้า ล่องลอยข้ามคืนแห่งฝัน
หมอกดูคล้อยลอยผ่าน ใจดวงนี้ก็มีแต่เธอเท่านั้น
ทุกๆ คำรำพันเอ่ยผ่านใจ”


“ให้เธอรู้ ให้เธอรู้ อยากให้เธอรู้ คือความรัก
จะกอดเธอไปจนเช้า แสงดาวกระทบที่ข้างฉัน
ให้ไออุ่นกายเราผูกกัน ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน
จะกอดเธออยู่อย่างนี้ ข้ามคืนผ่านพ้นราตรีนี้
จวบจนสิ้นแสงแห่งชีวี ก็ยังรักเธอเหลือเกิน...”


“ต่อไปจากนี้ทุกคืนที่เธอตื่นมา
จะมีมือฉันคนนี้นั่งกุมหัวใจเอาไว้
ไกลสุดฟ้าแสนไกล ใจดวงนี้ก็จะไม่ลอยไปไหน
ขอให้เธอเชื่อใจ...ฉัน”

“ให้เธอรู้...”

“ว่าเธอมีค่าแค่ไหน”

“ให้เธอรู้...”

“ทั้งชีวิต หัวใจ”

“อยากให้เธอรู้”

“จะมอบให้เธอเท่านั้น”

“คือความรัก...”

ไอ้เมลหยุดร้อง ผมหยุดเล่นกีต้าร์ เราสบตากันชั่วครู่ ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายหลบไป

“จะกอดเธอไปจนเช้า แสงดาวกระทบที่ข้างฉัน
ให้ไออุ่นกายเราผูกกัน ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน
จะกอดเธออยู่อย่างนี้ ข้ามคืนผ่านพ้นราตรีนี้
จวบจนสิ้นแสงแห่งชีวี ก็ยังรักเธอเหลือเกิน”

            (ทราย – วัชราวลี)

ไอ้เมลเงียบไปชั่วอึดใจ มันหน้าแดงนิดๆ ผมเลยยื่นมือไปผลักหัวมัน

“เขินเหรออออ”

“ใครเขินมึง กูแค่ไม่ชอบร้องเพลงเว้ย”

“เสียงออกจะเพราะ ทำไมไม่ชอบ เอาอีกเพลงดิ๊”

“มึงร้องบ้างดิ อยากฟัง”

“เมื่อกี้ก็ร้องไง ฟีชเจอริ่งกับมึงไปแล้วง่ะ”

“แค่นั้นอ่ะนะ”

ผมหัวเราะ ไอ้เมลเลยเข้ามาล็อคคอจากข้างหลัง มันก้มลงงับหูผมเบาๆ

“เหี้ย เสียว”

“หึหึ”

“อากาศดีว่ะวันนี้ ไปว่ายน้ำกันมั้ยเมล”

“กูทำงานเสร็จค่อยไป”

“ก็รีบๆ ทำดิ”

“เออๆ อย่ากวนละกัน”

ผมยักไหล่ ไอ้เมลเลยปล่อยตัวผมแล้วคลานกลับไปที่ใบงานของมัน

วันนี้ผมสั่งงานคนงานไว้แล้วเลยมีเวลาว่างมานั่งปูเสื่อเล่นกีต้าร์อยู่ใต้ร่มไม้หน้าบ้าน ไอ้เมลมันก็หอบงานมาทำด้วย แต่เพิ่งจะได้ทำเพราะผมบังคับให้มันร้องเพลงให้ฟัง

ผมก็นั่งร้องเพลงเล่นกีต้าร์ของผมไป ไอ้เมลมันก็เขียนอะไรไม่รู้ของมันไป เห็นมันอย่างนี้มันขยันนะครับ ไม่เคยปล่อยให้งานค้างเหมือนผม ฮ่าๆ

“อยากบอกเธอว่าฉันอยากเป็นคนนั้นของเธอ
อยากอยู่ในสายตาเธอ เวลาเธอไม่มีใคร
อยากทำให้เธอยิ้ม ปลอบเธอยามทุกข์ใจ
อยากเป็นอะไรมากมาย...
ที่ฉันเป็นแล้วทำให้เธอ...รู้สึกดี”

      (อยากเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกดี – โตโน่)

“รู้สึกดีป้ะเมล”

ไอ้เมลเงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนมันจะยิ้มหล่อ ยักคิ้วให้

“ก็ดีมั้ง”

“มีมั้งด้วยยยย จริงง่ะะะะ แล้วแบบนี้ล่ะ”

ผมก้มลงไปจูบปากไอ้เมล ดูดลิ้นมันเล่นจนมันครางเสียงแผ่ว งับริมฝีปากล่างของมันเบาๆ แล้วผละออกมา

“ดีมั้ย”

“หึ จนได้นะเท็น งานกูจะเสร็จมั้ยเนี่ย”

“นั่นเป็นปัญหาของมึง ฮ่าๆ”

ไอ้เมลชี้หน้าคาดโทษ ก่อนมันจะจมลงสู่วิชาเซอกิตหนึ่งของมัน ผมก็เบื่อจะแกล้งมันแล้วเลยล้มตัวลงนอนมองท้องฟ้ายามบ่ายที่มีเมฆอยู่เล็กน้อยแต่ก็เป็นสีฟ้าอ่อนสวย

“เท็น คุยกับฟิวบ้างยัง” คำถามของไอ้เมลเรียกสติที่กำลังล่องลอยของผมให้กลับเข้าที่

“มีไรต้องคุย”

“กูไม่สบายใจเลยนะเท็นที่พวกมึงต้องทะเลาะกันเพราะกู มึงไม่โกรธฟิวไม่ได้เหรอวะ”

ผมเลิกคิ้ว ไม่รู้จะบอกไอ้เมลยังไงว่าผมไม่ใส่ใจสักนิดเรื่องไอ้ฟิว ผมก็ยังเหมือนเดิม ผมเคยทะเลาะกับไอ้ฟิวแรงกว่านี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม แต่สำหรับไอ้ฟิวผมไม่รู้

“ฝ่ายที่โกรธไม่ใช่กู เลิกคิดมากแล้วทำงานของมึงไป”

“แต่เท็น ถ้ามึงเริ่มคุยกับฟิวก่อน อะไรๆ มันอาจจะดีขึ้น”

“เมล กูไม่ใช่คนผิด ทำไมกูต้องเริ่มคุยก่อน มันโกรธเพราะมึงเลือกกู ไม่ใช่โกรธเพราะกูไม่ได้บอกมันเรื่องเรา”

“มันสำคัญที่ใครผิดไม่ผิดเหรอเท็น มึงก็รู้ว่าฟิวโกรธเรื่องอะไร แล้วทำไมไม่พยายามเข้าใจความรู้สึกมัน”

“งั้นมึงก็เลิกกับกูซะ มันจะได้ไม่โกรธ แค่นี้ก็หมดปัญหา”

ผมว่าอย่างเหลืออด ไอ้เมลบีบปากผมทันที

“อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ กูโมโหจริงๆ นะเท็น”

ผมปัดมือมันออก ไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้ ผมขี้เกียจทะเลาะกับไอ้เมลเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อกี้แค่พลั้งปากไปเท่านั้น

“โกรธเหรอวะ”

“......”

“เท็นเท็นครับ”

“......”

ผมขมวดคิ้วมองหน้าไอ้เมลที่ขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ หน้ามันโน้มเข้ามาใกล้จนผมต้องเบี่ยงหลบ ไอ้เมลเลยกดจมูกโด่งของมันลงบนแก้มผมแทนริมฝีปากที่มันพลาดไป

“เหี้ยเมล ออกไป” ผมว่าเสียงแข็ง แต่ไอ้เมลไม่ขยับเขยื้อน

“ดูทำหน้า ยิ้มเดี๋ยวนี้”

“พ่องงงง! มึงคิดว่ากำลังสั่งใคร”

“สั่งเมียกูไง”

“_วย!”

“อยากได้ไง เอายัดปากซะดีมั้ยเนี่ย ดื้อนัก”

ไอ้เมลทำท่าจะรูดซิบกางเกงยีนมันลง ผมเลยรีบจับข้อมือมันไว้ ไอ้ห่านี่กะจะล่วงละเมิดทางเพศกูหน้าบ้านเลยไงวะ

“จะทำอะไร”

“หึ อยากรู้ก็ปล่อยมือ”

ผมมองมันอย่างเคืองๆ แต่ไอ้เมลก็ยิ้มหล่อไม่สะทกสะท้าน ก่อนมันจะก้มหน้าลงมาจูบปากผมได้สำเร็จ แลกลิ้นกับมันอยู่นาน ทั้งดูดทั้งขบจนผมเคลิ้ม

“อะแฮ่ม! นี่หน้าบ้านนะพวกมึงงงงง ช่วยเกรงใจสถานที่กันหน่อย” เสียงไอ้กัสลอยมาให้ได้ยิน ผมเหลือบตาไปมองก็เห็นมันนั่งอยู่ที่ระเบียง ทำหน้าสนอกสนใจใหญ่

ผมดูดปากไอ้เมลต่ออีกหน่อยก่อนจะถอนริมฝีปากออก ไอ้เมลยิ้มนิดๆ ส่วนผมลุกขึ้นนั่งแล้วยักคิ้วให้ไอ้กัส

“ไม่มีอายเลยนะมึง” ไอ้กัสบ่นผมเบาๆ

“อายทำไมวะ พวกกูเอากันให้มึงดูยังได้เลย หึหึ”

“เออไอ้เหี้ย หน้าไม่มียางจริงๆ ไอ้เมล มึงก็เป็นไปกับมันด้วย พวกมึงนี่พอกัน”

“ก็เมียกูน่ารัก” ไอ้เมลตอบยิ้มๆ

“ผัวกูก็น่าเอา” ผมโน้มคอไอ้เมลลงมาจูบโชว์ไอ้กัสอีกรอบ

“ไอ้พวกบ้า! พอเลยๆ” ต่อให้มีเมียมาไม่รู้กี่คนแต่ไอ้กัสมันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

ผมขยับที่ให้ไอ้กัสนั่ง มันคว้ากีต้าร์ขึ้นมาตั้งท่าจะเล่น

“พวกมึงมานานยัง” ไอ้กัสถาม มือก็เปิดดูหนังสือเพลง

“ตั้งแต่มึงยังไม่ตื่น”

“ไอ้ฟิวล่ะ”

“ออกไปข้างนอกตั้งแต่กูเดินเข้าบ้านมาแล้ว”

ไอ้กัสพยักหน้ารับรู้ มันไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องระหว่างผมกับไอ้ฟิว หลังจากที่มันบอกเรื่องไอ้ฟิวให้ฟังที่ร้านพี่เจ๋งวันนั้น มันก็ไม่พูดถึงอีกเลย

“อ้าว อย่างนี้ข้าวเที่ยงกูจะทำไงอ่ะ” ไอ้นี่ก็ห่วงกินตลอด

“มีมือมีตีนก็หาแดกเองดิ”

“มึงจะไม่รับผิดชอบหน่อยรึไง”

ผมมองหน้าไอ้กัสนิ่ง มันเลยยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้

“โอเคๆ กูหาแดกเองได้ ไอ้เมลทำไรวะ” ไอ้กัสเปลี่ยนพิกัดไปที่ไอ้เมลที่กำลังทำตัวเป็นบุคคลตัวอย่าง มันยังไม่เลิกความพยายามที่จะทำการบ้านครับ เป็นพ่อที่ดีได้เลยนะมึงเนี่ย

“มีตามั้ย” ไอ้เมลถามกลับ

“มี กูไม่ได้พิการนะมึง”

“แล้วถามทำไม”

โวะ เจ๋ง ไอ้เมลมันก็ปากใช่ย่อย ผมหัวเราะใส่หน้าไอ้กัส มันเลยทำท่าจะยกกีต้าร์ขึ้นฟาดหัวผม

“ของขวัญวันเกิดจากป๋ากูนะมึง มีรอยนิดเดียวมึงเจ็บ”

“เออ ไอ้พวกบ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ” ทำหน้างอนเหมือนผู้หญิงไม่พอ ยังมาพูดประโยคโบราณใส่อีก

ระหว่างรอไอ้เมลทำงานของมัน ผมกับไอ้กัสก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย มีไอ้เมลแทรกบทสนทนามาบ้างเป็นครั้งคราว นั่งโม้กันจนถึงเย็น ไอ้กัสก็ทนความหิวไม่ไหว ขอตัวออกไปหาเห็บหาหมัดกินกับแฟนสาวคนล่าสุด

“คืนนี้กูไปร้านพี่เจ๋งนะ” ผมพับเสื่อเสร็จ เงยหน้าขึ้นบอกไอ้หน้าหล่อที่ยืนสะพายเป้ค้ำหัวอยู่

“ไปอีกแล้วเหรอวะ ไม่เบื่อมั่งไง”

“เออน่ะ ถ้าเลิกไม่ดึกมากกูจะแวะไปหา”

ไอ้เมลทำหน้าแบบที่ผมเดาไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไร

“พวกไอ้เขตนัดกูที่สบายตังค์ ห้าทุ่มมึงก็มาหากูละกัน”

“กูไม่รับปากนะว่าจะไป”

ไอ้เมลคว้าคอผมดึงเข้าไปใกล้แล้วก้มลงมาจูบอยู่นาน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป ไม่รู้โมโหอะไรของมัน -_-

.
.
.

“เอ้า! ชนแก้วววววววววววววววว ไว้อาลัยแด่คะแนนมิดเทอมสุดยอดแย่ของพวกเรา เหี้ยเท็น มึงห้ามชน มึงมันไม่ใช่ปุถุชนคนอย่างพวกกู ไป๊ ขับออกจากกลุ่มแล้ววววว ผ่านคนเดียวไม่พอยังมาฉุดมีนให้สูงอีก ไอ้สาดดดดดดด” ไอ้เต้ตัดพ้อต่อว่า แถมยังส่งสายตาชิงชังรังเกียจมาให้ผม

ผมยักไหล่พร้อมกับยกเบียร์ขึ้นดื่ม ไอ้พวกเพื่อนบ้ามันก็ชนแก้วกันกวนประสาทผมต่อไป เออนะ ทำไปเหอะ เพื่อความสบายใจของพวกมึง กูไม่แคร์

“เหี้ยกัส มึงอย่าเศร้าใจไปเลยเพื่อน อย่างน้อยดาต้าสตรัคมึงก็ได้มากกว่ากูวะ” ไอ้เต๋อตบไหล่ปลอบใจไอ้กัสที่อาการห่อเหี่ยวเข้าคุกคามจิตใจมันตั้งแต่คะแนนออกมาได้สามชั่วโมงแล้ว

“แค่ศูนย์จุดสองห้ากูคงดีใจมากกกกกกกกกกกก มึง ไปดร็อปวิชานี้กันดีมั้ยวะ ถ้าเอฟอีกกูแม่งไทร์แน่อ่ะ” ไอ้กัสชักชวนไอ้เต๋อ

“เราต้องสู้ต่อไปนะมึง!!!! ต้องสู้ให้ถึงที่สุด สู้เพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา!” ไอ้เต๋อฮึกเหิม ชูแก้วเบียร์ขึ้นสูง หน้าตาเหมือนคนถือดาบเตรียมออกรบ

คือ...กูก็ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่เรียนจบไปมึงก็ต้องรับช่วงกิจการโรงน้ำแข็งของเตี่ยมึงอยู่ดีไม่ใช่เหรอวะ?

“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!” เสียงเฮดังลั่น เรียกขวัญกำลังใจกลับมา ผมมองพวกมันยิ้มๆ เพราะดูเหมือนไม่ต้องมีใครมาปลอบใจ พวกมันก็ลุกขึ้นมากันได้เอง

“วันนี้กูเลี้ยง อยากแดกไรก็สั่ง” ผมบอก เลยทำให้ไอ้เต้ที่เคยตัดพ้อต่อว่าผมพลิกลิ้นกลับมาประจบทันที

“เพื่อนผู้ประเสริฐเลิศเลอเพอร์เฟ็คของกู หน้าตาดีไม่พอ มึงยังใจดีอีก เหี้ยเต๋อ จัดไปครับมึงครับ เปิดบลู แบล็ค เร้ด จัดเต็มมิกเซอร์ ไฮเนเก้นจัดมาอีกสี่กล่อง แล้วบอกพี่เจ๋งว่าเอาอาหารที่แพงที่สุดในร้านมาเลย!”

ผมอ้าปากค้าง ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คือ มึงเกรงใจกูบ้าง กูบอกว่าเลี้ยงก็จริง แต่ไม่ได้ให้พวกมึงถล่ม ผมแอบปาดเหงื่อ ควักกระเป๋าตังค์ออกมาดู เออ เงินสดกูพกไม่เยอะ ร้านไอ้พี่เจ๋งมันมีให้รูดบัตรป่ะวะ ออกจะลูกทุ่งขนาดนี้

“สั่งมาแล้วแดกให้หมดนะไอ้พวกเหี้ย ถ้ากูได้ยินใครบอกไม่ไหว เจอตีน” ผมชี้หน้าขู่เรียงตัว แต่พวกมันก็ยิ้มกริ่มหาได้สะทกสะท้านไม่

หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมร้องรำทำเพลง ใครมีปัญญากินก็กินให้เต็มที่ ไอ้กัสอาการหนักสุด เล่นของหนักไม่พอแม่งยังแดกผสมอีก คือแค่เบียร์สี่กล่องนี่ก็เดินกันไม่ตรงแล้ว ยังมีเหล้าดีกรีแรงราคาแพงเหงื่อตกอีกสามกลม

“เอื้อกกกกกกก กูอิจฉาเมิงงงงเจงๆ อ้ายยยเทนนนน ทามมายยยยยกูม่ายยยยเกิดมาชาหลาดอย่างเมิงบ้างว้าาาาา” กว่าไอ้กัสจะพูดจบประโยคผมก็นั่งลุ้นจนเยี่ยวแทบเล็ด

“เหี้ยคิม พอ ไม่ต้องเอาให้มันแล้ว มันจะไม่เป็นคนอยู่แล้วเนี่ย” ผมร้องบอกไอ้คิมที่กำลังหยิบแก้วเปล่าของไอ้กัสไปเติมน้ำแข็ง

“ม่ายยยยยยยยย กูยางม่ายมาววววว กูจะอาวววอีกกกกกก อึ่กกก”

“ตายๆๆๆๆ ใครมอมน้องกัสจังของกูวะ เอ้าไอ้เท็น สาวโต๊ะนู้นฝากมาให้” ไอ้พี่เจ๋งโผล่มาจากตรงไหนก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้มันยืนหน้าเป็นส่งเหล้าไฟมาให้ผม

ผมมองไปทางที่พี่เจ๋งชี้ให้ดู เห็นน้องนางอกอึ๋มส่งสายตาเชื้อเชิญมา ผมเลยรับแก้วจากพี่เจ๋งมาดื่มเข้าไปรวดเดียว

“ฝากบอกขอบคุณด้วยพี่”

“เอ้า ไมมึงไม่ไปบอกเองวะ”

ผมส่ายหน้า แค่นึกหน้าไอ้เมลตอนโมโหขึ้นมาก็พาลหมดอารมณ์จะเกี้ยวสาวแล้วล่ะ

“มันมีแฟนแล้วเฮีย อย่าหาเรื่องให้มันเลย หึหึ” ไอ้แม็คที่คอแข็งสุดในกลุ่มบอกพี่เจ๋งพลางยิ้มกริ่มมาทางผม

“เอ้า จริง มึงไปตกร่องปล่องชิ้นกับใครที่ไหนวะ อยากเห็นหน้าจริงๆ คนที่เอามึงอยู่เนี่ย” หน้าตาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของพี่เจ๋งฉายแววเสือกออกมาฉับพลัน

“ระดับเดือนครับพี่ พี่ก็รู้อย่างไอ้เท็นมันเคยเล่นของธรรมดาซะที่ไหน คุคุ” ไอ้เต๋อเสือกเข้ามาด้วยอีกคน

ผมไม่ได้สนใจว่าไอ้พวกบ้านั่นจะพูดจะแซวอะไร ปล่อยให้พูดกันไปถึงยังไงผมก็ไม่สึกหรอ แถมตอนนี้ไอ้กัสเริ่มทำตัวไม่มีกระดูกสันหลังแล้ว ถ้าไม่ดูมันให้ดีคงได้หนีไปทำความรู้จักกับพื้นกระเบื้องแน่

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้เต้ เอามันขึ้นมานั่งบนโซฟา” หน้าไอ้กัสเกือบจูบกับรองเท้าไอ้คิมอยู่แล้วตอนที่ผมเห็น ก็รู้ว่าตัวเองแดกผสมไม่ได้ก็ยังจะทำเก่ง เดี๋ยวเบียร์เดี๋ยวเหล้า ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่แฮงค์กูให้เอามีดมาฟันคอได้เลย

“เฮ้ย เท็น นั่นพวกไอ้เมลนี่หว่า พาใครมาด้วยวะ”

ผมหันไปมองตามคำบอกกล่าวของไอ้เต๋อ พวกไอ้เมลกำลังเดินเข้าร้านมาจริงๆ แต่ที่มากับพวกมันด้วยคือคนที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืน...ไอ้ฟิว

“เหลือเชื่อ ไอ้ฟิว มันเมาด้วยนี่หว่า เฮ้ย เท็น มึงโอเคนะ” ที่ไอ้เต้ถามแบบนี้เพราะไอ้ฟิวกำลังกอดแขนไอ้เมลอยู่ ถ้าเข้าสิงกันได้คงทำไปแล้ว

ไอ้เมลกับเพื่อนมันครบองค์ และตัวแถมอย่างไอ้ฟิวเดินมาถึงโต๊ะพวกผม ทักทายกันพอเป็นพิธีก็ขยับขยายที่ให้พอที่ไอ้พวกที่มาใหม่จะนั่งได้

“ฟิว เมลพามาหาพวกเท็น เดี๋ยวฟิวกลับกับกัสเลยนะ” ไอ้เมลบอกเสียงอ่อนโยนกับไอ้ฟิวที่ตอนนี้นั่งโดยไม่มีกระดูกสันหลังพิงอกมันอยู่

“ไม่เอา เมลพาฟิวมาที่นี่ทำไม ฟิวจะกลับบ้าน เมลไปส่งฟิวนะ” เสียงอ้อแอ้ของไอ้ฟิวทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ

“ฟิว เมลไปส่งฟิวไม่ได้นะ ถึงต้องพามาหากัสนี่ไง”

“ทำไมล่ะ เมลอยู่กับฟิวไม่ได้เหรอ คืนนี้อยู่กับฟิวนะ”

อื้อหือ เพื่อนสนิทกู เพิ่งรู้ว่ามึงแรดเงียบ จะด้วยความเมาหรืออะไรก็ช่างที่ทำให้มันกล้าพูดอย่างนี้ แต่บอกตามตรงว่าผมหงุดหงิดอย่างที่ถ้าลุกขึ้นถีบพวกมันออกจากกันได้ผมคงทำ ไม่ติดว่าจะทำให้วงแตกล่ะก็ กูคงได้บู๊สักตั้งล่ะคืนนี้

“แม่จ้าวววววววว นี่พวกมึงไปรวยมาจากไหน เปิดบลูเลยเหรอเนี่ย กูขอสักแก้วเพื่อเป็นเกียรติแห่งวงศ์ตระกูลได้รึเปล่า” ไอ้ลินพูดขึ้นด้วยเสียงที่ร่าเริงเกินปกติ มันทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลงได้เล็กน้อย

“ท่านเท็นเขาเปิดเลี้ยงปลอบใจพวกกู ถ้าแคลสามมึงตกมีนเหมือนกันกูก็จะให้ชิมนะ แต่ถ้าไม่ กูให้แค่เบียร์ขวดเดียว ว่าไงล่ะ” ไอ้เต๋อช่วยเสริมไอ้ลินขึ้นอีกคน

“ระดับกูมีหรือจะผ่าน ใช่มั้ยมึง พวกกูมีแค่ไอ้เมลกับไอ้มายด์เท่านั้นที่ผ่าน มาๆ จัดมาแก้เครียดหน่อย” ไอ้ลินตอบ หันไปชักชวนไอ้แต้มกับไอ้เขตให้เออออตาม

“เมล กลับกันเถอะ” แต่แค่เสียงใสๆ อ้อนๆ ของไอ้ฟิวดังขึ้น บรรยากาศก็กลับสู่โหมดเงียบแดกอีกครั้ง

“เท็น เท็นพาฟิวกลับได้มั้ย” ไอ้เมลหันมาคุยกับผม แต่ผมไม่ได้สนใจมัน อย่ามาทำให้เหล้าแพงๆ ของกูจืดไปมากกว่านี้เลยว่ะ

“ไม่เอาเท็น ไม่เอา เมลเข้าใจมั้ย!”

“ฟิว! เมาแล้วพูดไม่รู้เรื่องเลยนะ”

เพล้ง! ผมไม่ได้ตั้งใจแต่มือดันไปปัดแก้วของไอ้กัสตกจากโต๊ะเอง ไอ้คิมรีบยกตีนไอ้กัสที่สลบไปแล้วขึ้นพาดขามันเพราะกลัวจะโดนเศษแก้ว แต่แค่เสียงแก้วแตกก็เรียกสายตาคนทั้งร้านให้มารวมอยู่ที่โต๊ะพวกผมแล้ว พี่เจ๋งเดินเข้ามาถามว่ามีเรื่องไรกัน แต่พอรู้ว่าแค่แก้วตกแตกใบเดียวแกก็กลับไปเทคแคร์ลูกค้าต่อ ไม่ลืมที่จะเข้ามากระซิบข้างหูผมว่า ถ้าเครียดนักก็ออกไปดูดบุหรี่ข้างนอก อย่าก่อเรื่อง ฮ่าๆ หน้าผมมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่

“มึงจะไปไหนก็ไปเมล พาไอ้ฟิวไปด้วย ส่งมันให้ถึงบ้านซะ หรือจะถึงเตียงก็ตามใจมึง แต่อย่ามาขวางตีนกู” ผมบอกเสียงเรียบ ไอ้เต๋อกระตุกเสื้อให้ผมนั่งลง

“เท็น มึงพูดอย่างนี้หมายความว่าไงวะ! ฟิวมันเมากูเลยพามาที่นี่ ไม่ได้มีอะไรอย่างที่มึงคิดนะ แล้วมันก็เมามาก พูดอะไรออกมาคงไม่ทันได้คิด มึงจะโกรธคนเมาไปทำไม” ไอ้เมลลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับผม มีไอ้เขตกับไอ้แต้มดึงมือไว้คนละข้าง

“เพราะมันคิดอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ ตอนที่สติมันคุมไม่ได้ถึงได้พ่นออกมา มึงอย่ามาพูดว่าคนเมาจะทำเหี้ยไรก็ไม่ควรถือสาหน่อยเลยเมล เพราะถ้าอย่างนั้นกูไปเอาใครตอนเมามึงก็อย่ามาว่าละกัน”

“นี่มันคนละเรื่องนะเท็น! ฟิวนี่ก็เพื่อนมึง กูไปเจอมันนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่สบายตังค์เลยพามาที่นี่ มึงไม่ห่วงเพื่อนมึงเลยเหรอวะ”

“กูต้องห่วงเพื่อนที่เห็นผู้ชายอย่างมึงดีกว่ากูด้วย เหอะ ตลกแดกไอ้สัด เป็นเพราะมันรักมึงมากไม่ใช่ไง ถึงได้โกรธกูเป็นฟืนเป็นไฟอยู่อย่างนี้น่ะ เหี้ยเอ้ย ปล่อยกูไอ้เต๋อ อารมณ์เสียแม่ง”

ผมสะบัดแขนให้หลุดจากมือไอ้เต๋อ ก่อนจะเดินออกจากร้านมาหามุมสงบๆ ดูดบุหรี่

ไอ้เหี้ยเมลสมองคงมีปัญหา มันคิดว่าผมเป็นคนใจกว้างมากนักรึไงถึงได้นั่งให้ไอ้ฟิวซุกซบมันอย่างนั้น

“เท็น”

ผมอัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นออกมาใส่หน้าไอ้เมลที่ยืนขวางตรงหน้า

“มึงตามมาทำไม ไม่อยู่ให้มันซุกไซ้ซะให้พอใจล่ะวะ”

“อย่าพูดอย่างนี้เท็น มึงก็รู้ว่ากูตามมาทำไม”

“มึงมีอะไรก็รีบๆ พูดมา”

“เราไม่ทะเลาะกันได้มั้ยวะ ทำไมต้องทะเลาะกันเพราะคนอื่นด้วย”

“คนอื่นที่มึงนั่งให้เขากอดให้เขาซบนั่นเหรอ มึงแน่ใจเหรอว่าคนอื่น”

“เท็น! กูกับฟิวเป็นแค่เพื่อนกันนะ”

“มึงย้ำให้กูฟังหลายรอบแล้วไอ้ควาย แต่การกระทำมึงเพื่อนนักนี่ กูบอกมึงแล้วนะว่าถ้าไม่คิดอะไรก็อย่าไปทำดีกับมัน มึงคิดว่ามึงทำอย่างนี้พ่อพระมากงั้นสิ”

ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้วตอนนี้ ถ้ามีอะไรที่ทำให้ไอ้เมลเจ็บได้ผมก็จะทำ ผมโกรธหน้าหล่อๆ ที่มีแต่คนหลงใหลของมัน ผมโกรธความใจดีที่เผื่อแผ่ไปทั่วของมัน ผมโกรธที่มันทำให้ไอ้ฟิวต้องโกรธผม

และที่โกรธที่สุดคือไอ้เพื่อนไม่มีสมองนั่น มันเห็นผู้ชายดีกว่าผมที่อยู่กับมันมาตั้งแต่จำความได้ได้ยังไง

เพราะผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมถึงหลับหูหลับตาทำตัวเป็นคนดีไม่โกรธการกระทำของไอ้ฟิวคืนนี้ไม่ได้

“ฟิวดีกับกูมาตลอดนะเท็น ทำทุกอย่างเพื่อกูมาตลอด แล้วมึงจะให้กูใจร้ายกับมันได้ยังไงวะ”

“ในเมื่อมีคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดนั้น แล้วมึงมาคบกับกูทำไม”

“......”

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”

ไอ้เมลหน้าซีดเผือด แต่ผมก็ไม่อยู่มองนานให้เสียสายตา เลยรีบเดินกลับเข้าไปในร้าน

..............................To be continue...........................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L1:
ดูแลตัวเองด้วยค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 03-09-2013 17:41:16
ถึงจะเข้าใจฟิวว่าแอบรักเมลมานาน ยังทำใจไมไ่ด้
แต่เคืองว่ะ แรดเงียบจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: nan53 ที่ 03-09-2013 18:30:59
หึ เมลนิสัยอ่ะ เลิกอีกสักรอบแล้วตลอดไปเลยก็ดีนะทั้งแฟนทั้งเพื่อน 555
ปล. ค้างมาก ช่วยต่อเลยได้มั้ยคะผู้แต่ง please!!!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 03-09-2013 18:52:25
จบบทสนทนาได้เจ๋งมากค่ะ เท็น

ฟิว.....นางแรงนะ เมาแล้วอ่อย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-09-2013 19:08:50
อะไรกัน!!! เพิ่งหวานกันได้ไม่นานก็มาทะเลาะกันอีกแล้ว

แต่เราก็แอบเข้าข้างเท็นนะ

ก็จริงอ่ะทั้งที่เท็นเป็นเพื่อนแต่ฟิวกลับโกรธเท็นเพราะเมลไม่เลือกตัวเอง

เหมือนอิน ฮิฮิ รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 03-09-2013 19:20:23
ไม่ชอบฟิวจริงๆนะ

เมลก็อย่าใจดีเกินไปเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 03-09-2013 19:30:28
“ในเมื่อมีคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดนั้น แล้วมึงมาคบกับกูทำไม”

“......”

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”


ถูกใจมากค่ะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 03-09-2013 19:44:36
เอ๊ย ปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน
ตอนต้นๆ นี่หวานกันจนปากแทบจะไม่ห่างกัน
แต่พริบตาเดียวนี่ทะเลาะกันจนถึงขั้นเลิกอ่ะ

ตอนนี้เท็นกับฟิวให้ความรู้สึกเหมือนคนปกติที่พบเห็นได้โดยทั่วไป
คือ เพื่อความรักสามารถทำได้ทุกอย่าง อย่าว่าแต่เพื่อนกันเลย
แม้กระทั่งพี่น้องก็คงยอมกันไม่ได้หรอก
แตกต่างจากนิยายทั่วไปตรงที่ถ้าเพื่อนกับตัวเอกรักคนๆ เดียวกัน
ตัวเอกก็มักที่จะเสียสละให้เพื่อน ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะสนิทน้อยสนิทมาก
คือจะเห็นเพื่อนสำคัญเสมอ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ มันเหมือนชีวิตคนจริงๆ อ่ะ

จริงๆ แล้วทุกคนน่าเห็นใจหมดนะ ไม่ว่าจะเป็นเมลที่สงสารฟิวเพราะอีกฝ่ายดีกับตัวเองมาตลอด
ฟิวที่รักเมลมานานจนทนไม่ได้ที่เมลจะคบกับเท็น และเท็นที่ต้องบาดหมางกับฟิวเพราะคบกับเมล
แต่เราชอบเท็นตอนนี้นะ เพราะเท็นไม่เก็บความไม่พอใจไว้คนเดียว
คือไม่ชอบหรือหงุดหงิดก็แสดงออกมาตรงๆ ไม่มีการบอกว่าเราไม่เป็นไร เมลอยู่เป็นเพื่อนฟิวเถอะ
แล้วมานั่งเสียใจคร่ำครวญอยู่คนเดียว ที่สำคัญชอบประโยคสุดท้ายของเท็นมากๆ

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”

ให้คะแนนเท็นเต็มสิบเพราะประโยคนี้ แรงสมเป็นเท็นจริงๆ  :katai2-1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-09-2013 20:32:14
อินมากสำหรับตอนนี้ อย่างกับเรื่องจริงแน่ะ เห็นด้วยกับเท็นทุกอย่างเลยอะ :katai1:
ยังดีที่เท็นมองฟิวเป็นเพื่อนอยู่ แต่ถ้าเป็นคนอื่น อาจไม่เอาทั้งคู่อะ
โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายของเท็นถูกใจมาก อิความสงสารนี่แหละตัวดี ทำให้คนเจ็บมานักต่อนักแล้ว
แอร๊ยยย บอกแล้วว่าอินมากเลยฮ่ะ :ling3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 03-09-2013 21:48:22
อู๊ยยยยยยมาม่ามั๊ยนิ เมลก็รู้อยู่ว่าฟิวชอบเมลถึงฟิวจะดีกับเมลแค่ไหนแต่สุดท้ายคนที่เป็นแฟนเมลคทอเท็นนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-09-2013 00:34:55
เมลพ่อพระตลอด
เป็นแบบนี้ต่อไปได้เลิกกันแน่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 04-09-2013 01:55:30
เท็นทำถูกมากบอกเลย  เพลียกะฟิว ต้องการอะไรจากเรื่องนี้?? ตอบ!!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 04-09-2013 05:13:27
“ในเมื่อมีคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมึงขนาดนั้น แล้วมึงมาคบกับกูทำไม”

“......”

“แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะเมล”


ถูกใจมากค่ะ  :angry2:



 o13 ใช่ค่ะ เห็นด้วยที่สุด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: cuteymummy ที่ 04-09-2013 06:48:43
ถ้าสงสารฟิวมากนักก้คงไม่มีอะไรต้องพูด
ใจดีกับคนทีีรักตัวเองแบบนี้มันทำร้ายแฟนตัวเองไม่รู้รึไง :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-09-2013 08:48:10
แร็งส์ :angry2: สะใจมากที่เท็นพูดแบบนี้กับเมล
คนกลางอย่างเมลไม่เด็ดขาด มันจะกลายเป็นรักสามเส้า
เท็นพูดตรงๆแบบนี้แล้ว เมลจะทำยังไงต่อไปก็ตัดสินใจ
จัดที่ยืนของตัวเองให้ชัดเจน อยากเป็นแฟนเท็นก็ได้เป็นแล้ว

ส่วนฟิวจะเสียเพื่อนที่คบมาตั้งแต่เด็ก เพราะรักคนที่เป็น
แฟนเพื่อนตัวเอง ถ้าได้มาก็เสียเพื่อนและอาจจะได้แค่ตัวเขาไม่ได้ใจ

เป็นเราคงไม่ชอบหรอก ที่เห็นแฟนตัวเองคลอเคลียกับคน
ที่เรารู้ว่าคิดยังไงกับแฟนตัวเอง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Hooh ที่ 04-09-2013 14:29:50
กดเป็ดให้ข้อความโดนๆ "แฟนที่แยกระหว่างความสงสารกับความรักไม่ออก กูไม่ต้องการว่ะ" o13

หากคนเรายังแยกแยะหว่างความรักกับความสงสารไม่ได้
ก็ไม่สมควรที่จะมีแฟนครับ เบื่อมากที่คบกับคนหนึ่งแล้วบอกว่าเลิกกับอีกคนไม่ได้
เพราะว่าเขาดีกับเราตลอด คบไปก็ชีช้ำ เด๋วเจอคนทำดีให้อีกก็มีอีก
พูดแล้วเศร้า ใครไม่เจอกับตัวมิรู้หรอก
เขารักเราแต่ยังคั่วกับคนอื่น ยังทำดีให้ยังคอยเอาใจให้กัน
เบื่อมากกับนิยายกลัวผัวทิ้ง เราเป็นเคะต้องไว้ลาย :katai3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-09-2013 16:06:25
15 รวด
เม้นท์ตอนล่าสุดละกัน
หวานกันแม็บๆ ทะเลาะจนจะเลิกกันซะละ
ชอบฟิวที่รักและห่วงใยเพื่อน  แต่ก็นะ ลดความงี่เง่าเรื่องผู้ชายที่เป็นของเพื่อนจะดีมากกว่านี้เยอะ
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 04-09-2013 16:45:08
แรดเงียบ....สะใจ สมน้ำหน้าเมล

กลับไปล่องลอยกับตัวเองเหมือนเดิมดีกว่าเท็น ปล่อยให้ "เพื่อน" เขารักกันดีกว่า เชิดใส่เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 04-09-2013 17:27:34
เราชอบเท็นจัง ส่วนตัวชอบตัวละครอปนิสัยคล้ายๆเท็นอยู่แล้ว..

โอยสะใจตอนล่าสุดมากค่ะ เข้าใจฟิวนะ แต่ก็แบบ... :angry2:

ยังไงประเด็นมันก็อยู่ที่เมลด้วยล่ะ เมลไม่ชอบ เมลปฏิเสธ แต่เมลก็ยังอ่อนโยนใจดีให้ความหวังฟิวไม่เลิก..

เป็นเราเราก็ตัดใจไม่ลงอะค่ะ ถ้ายังแบบพอเจอก็ยิ้มให้ พูดจาน่ารัก ทำอะไรดีดีให้ไม่เลิก ใครมันจะไปตัดใจลง

เราเป็นเท็นเราว่าเราก็โกรธ..
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 04-09-2013 18:56:29
Special Inside : ฟิว วิทวัส

“อ๊ะ อ๊ะ เมล เมลจ๋าาาา อ๊ะ ไม่ไหวแล้วเมล อื้ออ อ๊ะอ๊ะอ๊ะ อ่าาาาาาาาาา”

เสียงของเท็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมดังลอดออกมาจากประตูที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย ผมนั่งพิงผนังซุกหน้าลงกับเข่าตัวเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไว้

ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะหิวน้ำ กำลังเดินผ่านห้องเท็นเพื่อลงไปห้องครัวแต่ก็ต้องหยุดชะงัก เสียงเหมือนคนกำลังร่วมรักกันดังมาจากในห้องของคนที่ไม่เคยพาใครมานอนด้วยเลยตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้

เท็นเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวชีวิตใครหรือให้ใครเข้าไปวุ่นวายในชีวิตมัน ห้องนอนของมันก็เป็นพื้นที่หวงห้าม ต่อให้มันไม่ล็อคประตูผมกับกัสก็ไม่กล้าเข้าไปถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ

“อื้อออ พอแล้วเมล กลับไปได้แล้ว”

เมล...เมลไหน ไม่ใช่เมลที่ผมคิดไว้ใช่มั้ย แต่รูปหน้าหล่อๆ กับหุ่นนายแบบอย่างนั้นคงมีอยู่คนเดียว ผู้ชายที่ผมแอบรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ผู้ชายที่ผมพยายามหาทางเข้าไปทำความรู้จักจนได้เป็นเพื่อนกัน ผู้ชายที่ผมทำทุกอย่างเพื่อจะได้เห็นรอยยิ้มของเขา ผู้ชายคนนั้นกำลังนอนกับเพื่อนสนิทที่สุดของผม

ไหนเท็นบอกผมว่าเมลเป็นเพื่อน แล้วทำไม...คนเป็นเพื่อนถึงได้มีอะไรกัน ทำไมคนเป็นเพื่อนถึงจูบ ถึงกอดกันได้ ภาพตรงหน้าทำผมช็อคจนพูดอะไรไม่ออก มีแต่เสียงออดอ้อนของเมล กับเสียงหัวเราะมีความสุขของเท็นดังอยู่ในหัว

“พรุ่งนี้ไปค้างที่ห้องนะ”

“ไม่เอา ไปทำไมบ่อยๆ”

“ไม่คิดถึงกันบ้างไง หืมมมมมม โอ้ยยย เท็น เจ็บนะ”

“ไม่ตัดมือทิ้งก็บุญหัวมึงแล้วไอ้เมล ทำไม งอน งอนเหรอ หึหึ มาจูบหน่อยเร็ว”

“มึงไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังกู”

“เมลลล เมลจ๋าาาา จูบหน่อยๆ อื้มมมม อีกแล้วเหรอ อ๊ะ บอกก่อนนะว่าตีห้าต้องกลับ”

“คร้าบบบบ”

ผมดึงประตูปิดให้เบาที่สุด มือสั่นจนควบคุมแทบไม่ได้ ผมเจ็บ ผมไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เมลกับเท็น เป็นสองคนที่ผมคาดไม่ถึงว่าจะทำอะไรแบบนี้

ทำไมถึงไม่เป็นผม...ทำไมถึงต้องเป็นเท็น เท็นที่ผมไม่มีอะไรเทียบติด ผมรู้ว่าเมลดูสนอกสนใจเรื่องของเท็นตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เจอหน้ากัน เมลแค่รู้จักเท็นผ่านการบอกเล่าของผมเท่านั้น แล้วทำไมเมลถึงเลือกเท็นล่ะ ผมทำอะไรให้เมลตั้งมากมาย ผมทำเพื่อเมลได้ทุกอย่าง แต่ทำไมเมลถึงคิดกับผมแค่เพื่อน รู้จักเท็นได้ไม่นานแท้ๆ ทำไมถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้กันได้ ผมมาก่อนนะ...ผมมาก่อนเท็น รู้จักเมลก่อนเท็น...

หลังจากวันนั้นผมก็คอยสังเกตคนทั้งคู่ เท็นก็ยังใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไปนั่นมานี่ได้ไม่หยุด โดดเรียนเป็นประจำ แต่ที่แปลกไปคือไม่ค่อยกลับมานอนบ้าน ทุกคืนวันศุกร์จะต้องหายไป แล้วจะโผล่หน้ามาอีกทีก็คือเช้าวันจันทร์ ผมได้แต่คิดอย่างเจ็บใจว่าเท็นคงไปอยู่กับเมล ผมอยากให้ตัวเองคิดผิด แต่ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง เท็นกับเมลไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เหมือนคนที่คบกันมากกว่าคนเป็นเพื่อน และที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือเมล

เมลเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ผมแอบรักเมลมานาน เห็นเมลควงใครมาแล้วก็เยอะ แต่ไม่เคยเห็นเมลจะดูจริงจังกับใครมากเท่านี้ ทุกครั้งที่เข้าเรียนเมลจะต้องถามถึงเท็น พอรู้ว่าเท็นไม่มาเรียนก็จะทำหน้าผิดหวัง เวลาที่ได้คุยกันก็ต้องมีเรื่องเท็นเข้ามาแทรกด้วยทุกครั้ง เมลอยากรู้ว่าเท็นชอบไม่ชอบอะไร แต่ไม่เคยอยากรู้เรื่องของผมเลย

ผมเจ็บปวดมากขึ้นทุกวันเมื่อรู้ว่าเมลจริงจังกับเท็นมากขนาดไหน ผมเก็บความเสียใจของตัวเองไว้ ทุกคืนต้องแอบร้องไห้อยู่คนเดียว กัสก็เหมือนจะรู้ แต่มันก็ไม่ถามหรือพูดอะไร ผมว่ามันก็คงจะรู้เรื่องของเท็นกับเมล ถึงได้ไม่พูดถึงความสนิทเกินเพื่อนของทั้งสองคนให้ผมฟัง

ผมยอมรับว่าผมโกรธเท็น ผมโกรธที่เท็นไม่ต้องพยายามอะไรก็ได้ความรักจากเมลไปง่ายๆ

ตั้งแต่เด็กๆ แล้วที่ผมอิจฉาเท็น ผมกับกัสเป็นเพื่อนเล่นกับเท็นมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันตอนเรียนมหาลัย พวกเราเลยพลอยสนิทกันไปด้วย แต่เท็นไม่เหมือนพวกผม เท็นต่างออกไปเพราะไอคิวที่มีมากกว่าคนธรรมดา อัจฉริยะกับออทิสติกต่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น แต่เท็นโชคดีที่ไม่ใช่อย่างหลัง เราไม่ได้เจอกันพักใหญ่ตั้งแต่เท็นถูกพาไปสถาบันสำหรับเด็กที่มีไอคิวสูง ตอนผมเจ็ดขวบเท็นก็เรียนอยู่ต่างประเทศแล้ว เท็นเรียนจบปริญญาเอกแค่อายุสิบสามปี และตอนนั้นผมก็รู้แล้วว่าผมไม่มีทางตามคนๆ นี้ทัน

พ่อแม่เท็นฝากให้ผมกับกัสดูแลเท็นที่กลับมาอยู่เมืองไทยด้วยเหตุผลทั่วไปคือไม่มีอะไรทำที่ต่างประเทศแล้ว ตอนเด็กที่เป็นเด็กเบื่อง่าย เจอกันอีกครั้งยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม และการใช้ชีวิตก็หลุดโลกมากกว่าที่คิด เพราะเป็นประเภทที่ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย เลยไม่มีอะไรที่เท็นจะทำได้นาน ที่เข้าเรียนตามพวกผมก็เพื่อหาอะไรแก้เบื่อเท่านั้น ตั้งแต่เริ่มเรียนก็โดดเรียนสะบั้นหั่นแหลก ขึ้นเหนือลงใต้ตามแต่ใจตัวเอง มามหาลัยบ้างตามแต่อารมณ์

แต่เหตุผลจริงๆ ผมรู้ว่าเท็นเข้าเรียนเพราะอยากมีเพื่อนวัยเดียวกัน เพื่อนที่สามารถไปไหนมาไหนด้วยกันและพูดเรื่องที่ตัวเองชอบได้อย่างสบายใจ ผมไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ต่างประเทศเท็นมีชีวิตแบบไหน แต่มาอยู่ที่นี่ ก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป ทำตัวธรรมดาจนผมเกือบลืมไปเลยว่าเราต่างกัน ผมไม่มีวันจะทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้เหมือนเท็น

ผมเหมือนคนที่ใกล้บ้าเพราะต้องเก็บความรู้สึกมากมายไว้ในใจ มีแต่เรื่องเมลเท่านั้นที่ผมคิดว่าผมจะชนะเท็นได้ ผมมาก่อน ผมทำเพื่อเมลตั้งมากมาย ผมจะใช้ความดีของผมเอาชนะใจเมลให้ได้ ให้เมลรู้ว่าคนที่รักเมลจริงๆ คือผม ไม่ใช่เท็น ...แต่มันก็ไม่ได้ผล ต่อให้ถูกเท็นทำให้เสียใจยังไง เมลก็ไม่เคยหยุดรักเท็นได้เลย ผมอยู่ปลอบใจเมลทุกครั้ง แต่เมลแค่มองว่ามันเป็นน้ำใจจากเพื่อนเท่านั้น เมลไม่เคยเล่าให้ฟังว่ากลุ้มใจเรื่องอะไรและเพราะใคร แต่ผมก็รู้ และเพราะผมรู้ ผมถึงได้โกรธเท็นมากขึ้นไปอีก

ทำไมเมลไม่เลือกผม...ถ้าเลือกผม ผมจะไม่ทำร้ายเมลเหมือนที่เท็นทำ...ผมเฝ้าคิดแบบนี้ซ้ำๆ

ความรู้สึกทั้งโกรธทั้งเจ็บใจของผมมากขึ้นจนเกือบระเบิด เมลเหม่อบ่อยๆ ไม่ค่อยยิ้มเหมือนทุกที ชอบนั่งเงียบๆ เหมือนมีเรื่องมากมายให้คิด ผมพยายามเรียกรอยยิ้มเมลกลับมา หาเรื่องมาคุยหรือชวนไปเที่ยวให้เมลสบายใจ ...แต่มันก็ไม่ได้ผล ทว่าแค่ได้เห็นหน้าเท็น เมลก็ยิ้มออกมาง่ายๆ คุยเล่นเหมือนคนไม่มีเรื่องกลุ้มใจอะไร ....ผมได้แต่คิดอย่างเจ็บใจว่ามันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ผมจะต้องทำยังไงให้เมลหันมาสนใจผมบ้าง

และในที่สุดผมก็ทนเก็บความรู้สึกที่มีอยู่ในใจไม่ไหว ผมทะเลาะกับเท็น มีผมฝ่ายเดียวที่ตะโกนใส่ ผมร้องไห้ในขณะที่เท็นได้แค่ยืนมอง ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆ เลยแม้แต่น้อย ผมรู้สึกแย่มากที่ตัวเองเป็นแบบนี้

“ฟิว มึงต้องยอมรับความจริงนะ เรื่องนี้มันไม่ได้มีใครผิดใครถูกเลย อย่าร้องนะมึง กูปลอบไม่เก่ง” กัสกอดผมไว้ นานแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้ในอ้อมกอดของมัน

“ทำไมถึงไม่เป็นกูวะกัส ทำไมถึงต้องเป็นเท็น ทำไมเมลไม่รักกูบ้าง ฮึกกกก ฮือออออออ กูไม่ดีตรงไหน กูทำเพื่อเมลได้ทุกอย่าง ทำไมล่ะกัส ทำไม! ฮืออออออออออ” ผมรู้คำตอบ แต่ผมรับไม่ได้ ผมเจ็บปวดมากเกินกว่าจะรับมันไหว

“เพราะไอ้เมลมันไม่ได้รักมึง เงียบซะฟิว เงียบซะ กูอยู่ตรงนี้นะ ไอ้เมลมันไม่รักมึง ก็ยังมีกูที่รักมึงนะ”

ผมเจ็บเหมือนกำลังจะตาย ผมรู้ว่าตัวเองได้กรีดร้องออกมาสุดเสียง ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้หายไปกับน้ำตาเลย มันยังคงอยู่กับผม ตอกย้ำให้ต้องร้องไห้อยู่ทุกวัน

เมลกับเท็นคบกันหลังจากนั้น และผมก็ไม่กล้าสู้หน้าเท็น ผมดีใจที่ช่วงนั้นมันยุ่งกับเรื่องทำสวนถึงไม่ค่อยได้มีเวลากลับบ้าน แต่ผมก็รู้ว่าผมเลี่ยงมันได้ไม่นาน

เท็นไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เรียกว่ามันไม่เคยคิดอะไรเลยจะถูกกว่า มันไม่ใช่คนจะมานั่งคิดว่าผมจะรู้สึกยังไงเรื่องมันคบกับเมล มันยังคงพาเมลมาที่บ้าน ทำตามชีวิตปกติของมัน ไม่มีความเกรงใจผมเลยแม้แต่น้อย ผมรู้ว่ามันไม่ได้เยาะเย้ยผม เพราะเรื่องของผมไม่ได้อยู่ในสมองมันด้วยซ้ำ แต่ผมก็อดที่จะโกรธแค้นมันไม่ได้

เท็นมันไม่เคยคิดถึงความรู้สึกผมเลยรึไง ขนาดเมลที่ไม่ใช่เพื่อนผม ยังดูจะเป็นห่วงผมมากกว่ามัน แล้วถ้าผมจะทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง ก็คงไม่ผิดอะไร ในเมื่อเท็นก็ไม่เคยคิดถึงใจผมเลย

แต่ผลลัพธ์ที่ผมได้ ไม่ใช่เท็นที่เจ็บปวด แต่กลับเป็น...เมล

“ฟิว เมลอยากให้ฟิวเข้าใจ เมลขอบคุณสำหรับความรู้สึกที่ฟิวมีให้ ทุกอย่างที่ฟิวทำให้ แต่เมลตอบแทนอะไรฟิวไม่ได้เลย ขอโทษนะ” เมลบอกผมหลังจากหายออกไปตามเท็นได้ไม่นาน เราออกมาคุยกันหน้าร้าน ผมสร่างเมาไปแล้วเพราะหน้าเศร้าๆ ของคนตรงหน้า

“ไม่เป็นไร ฟิวต่างหากที่ต้องขอโทษ เมลทะเลาะกับเท็นใช่มั้ย”

ไม่มีคำตอบจากเมล แต่ผมก็เดาได้จากความกังวลบนหน้าหล่อๆ นั่น

“เท็นเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว ตอนนี้มันอาจจะโมโห แต่พอผ่านไปสักพักมันก็หายเอง เมลอย่าคิดมากเลยนะ”

“เมลไม่คิดมากหรอก ฟิวอยากกลับเลยมั้ย หรือจะเข้าไปในร้านต่อ”

“กลับดีกว่า แต่เมลไม่ต้องไปส่งหรอกนะ ฟิวกลับเองได้”

“แต่มันดึกแล้ว งั้นเดี๋ยวเมลบอกไอ้มายด์ไปส่งฟิวละกันนะ”

ผมไม่อยากเรื่องมากเลยพยักหน้าตกลง เมลหายเข้าไปในร้าน ไม่นานผมก็เห็นมายด์เดินหน้าบึ้งออกมา

“นอกจากทำให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉานแล้ว มึงยังมาลำบากกูอีก เก่งแต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นจริงๆ นะมึง”

หน้าผมชาไปเหมือนโดนตบแรงๆ ริมฝีปากสวยที่เหยียดยิ้มมาให้ไม่ได้น่ามองเลยสักนิด ผมไม่เคยคุยกับผู้ชายคนนี้เลย เพราะมันเป็นคนเงียบๆ ไม่ร่าเริงและยิ้มง่ายเหมือนเมล

“กูกลับเองได้” ผมบอกมันก่อนจะรีบเดินหนีมา แต่ไอ้มายด์ก็ยังเดินตามมาจับแขนผมแล้วกระชากเข้าหาตัวมัน

“จะทำตัวเรียกร้องความสงสารจากเพื่อนกูรึไง ถ้ากูปล่อยให้กลับเองเดี๋ยวไอ้ห่าเมลคงมาโวยวายใส่อีก แต่มึงนี่ก็เก่งนะ ทำตัวเรียบร้อยอยู่ได้ตั้งนาน ไม่คิดว่าจะดีแตกเอาตอนนี้ คิดจะแย่งผัวเพื่อนเหรอครับคุณ”

“ไอ้เหี้ย! ปล่อยกูนะ! กูบอกให้ปล่อยไง! อย่าเอามือสกปรกของมึงมาจับกูนะ! คนคิดต่ำๆ อย่างมึงตายไปก็คงไม่ได้ผุดได้เกิด”

“มึงจะเถียงเหรอว่าที่กูพูดมันไม่จริง ที่ทำตัวสิงเพื่อนกูเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงนั่นเขาเรียกว่าอะไร รู้ทั้งรู้ว่าไอ้เมลมันคบกับไอ้เท็นมึงก็ยังทำ กูรังเกียจคนที่ทำตัวอย่างมึงว่ะฟิว ต่ำยิ่งกว่าความคิดกูซะอีก!”

เพียะ!

ผมสะใจมากที่เห็นหน้าหล่อๆ ของไอ้มายด์แดงเถือก แถมยังมีเลือดไหลออกจากมุมปาก มันยกมือขึ้นเช็ดเลือดก่อนจะกระชากหัวผมจากข้างหลังจนหน้าหงาย

“ไปเถอะฟิว กลับบ้านกัน กูจะไปส่งมึงถึงเตียงเลยล่ะ”

ผมทั้งเตะทั้งข่วนไอ้มายด์ไปตลอดทางเท่าที่จะมีปัญญาทำได้ มันพาผมขึ้นรถ แต่พอผมทำท่าจะหนี มันก็ยกปืนขึ้นจ่อที่เอวผมทันที ผมหันไปมองหน้าไอ้มายด์ด้วยความตกใจ

“ปืนมีลูก กูพกไว้ยิงหมา แต่ถ้ามึงอยากตายก่อนหมา มึงก็ลองหนีดู” หน้าตามันบอกว่าเอาจริง ผมเลยไม่กล้าขัดขืนอีก

“โอ้ย! ไอ้เหี้ย! มึงจะทำอะไร! อย่าเข้ามาใกล้กูนะ!” ไอ้มายด์ที่ตอนอยู่บนรถว่าบ้าแล้ว แต่พอมาถึงบ้านผมมันบ้ามากกว่าหลายเท่า

“กูอุตส่าห์จะช่วยเอามึงมาทำเมีย ไม่นึกขอบใจกูบ้างเหรอ มึงจะได้ไม่เที่ยวร่านไปยุ่งกับเพื่อนกูให้มันต้องทะเลาะกับแฟนมันอีกไง กูอาจจะหล่อสู้ไอ้เมลไม่ได้แต่กูก็โสดนะ แถมไม่เคยลองกับผู้ชาย ไม่ดีใจไงที่จะได้รับเกียรติเป็นคนแรก”

“พ่อมึงสิดีใจ กูไปเอากับหมาดีกว่าเอากับมึง! ไอ้เหี้ยมายด์ ปล่อยกู!!!!”

ผมโดนมันจับไว้ทั้งตัว ไอ้มายด์ก้มลงมาจูบผมอย่างรุนแรง กัดปากผมจนได้เลือดแต่มันก็ไม่ได้สำนึก เสื้อที่ผมใส่ถูกฉีกกระชากออกจากตัว ก่อนมันจะก้มลงกัดยอดอกผมเต็มแรง น้ำตาผมไหลด้วยความเจ็บ ผมทั้งผลักทั้งทึ้งหัวมันแต่ไอ้มายด์ก็ไม่สะทกสะท้าน

“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้เหี้ย! กูเจ็บ มึงทำอะไร ฮืออออออออ เอาออกไป กูขอร้อง เอาออกไป”

ไอ้มายด์เหมือนหยุดชะงักกับการกระทำของมันไปนิด ผมเจ็บเหมือนโดนมีดกรีดเข้าผิวหนัง รู้สึกถึงการฉีกขาดจากช่องทางด้านหลัง ความทรมานแบบนี้ทำไมต้องเกิดขึ้นกับผม

“อ่าาาาาาา เหี้ย ผ่อนคลายสิวะ เกร็งทำบ้าอะไรของมึง กูจะแตกแล้วไอ้สัด อ่ะ อ่าาาา”

“อย่าทำกู มายด์ ปล่อยกู กูขอร้อง อย่าทำกู”

“เดี๋ยวดีเอง เชื่อกู ทำกูแตกตั้งแต่ยังไม่ทันขยับเลยไอ้ห่า ห้องมึงอยู่ไหน บอกกูมาเร็ว”

“ไม่ มายด์ อย่า อ๊ะ ขอร้อง หยุดเถอะ”

“อยากให้เพื่อนมึงกลับมาเจอรึไง บอกมาว่าห้องนอนมึงอยู่ไหน”

น้ำตาผมไหลออกมาเป็นสาย แต่ไอ้มายด์ไม่ได้นึกเห็นใจเลยแม้แต่นิดเดียว มันยังคงทำตามใจตัวเองต่อไป ผมไม่ได้มีความสุขไปกับมันเลย ทั้งเจ็บกายและเจ็บใจไปพร้อมๆ กัน ผมไม่เคยมีเรื่องอะไรกับมัน เราไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำไป แล้วทำไมมันถึงทำกับผมแบบนี้

“อาาาา สุดๆ เลยว่ะมึง ร่อนให้กูหน่อย อื้มมมม อ่าาาาาา ไปต่อกันบนห้องนะ”

“ไม่! เท็น กัส ช่วยกูด้วย ฮืออออออ พวกมึงอยู่ไหน มาช่วยกูด้วย กูเจ็บ เท็น กูเจ็บ ฮึก! ฮืออออ”

ผมนึกถึงแต่หน้าเท็น คนที่มาช่วยผมเสมอเวลาผมถูกรังแก มันต่อยกับเด็กคนอื่นเพื่อผม แต่มันไม่เคยปลอบใจ หน้าที่ปลอบใจไม่ให้ผมร้องไห้จะเป็นกัสทุกครั้ง

เท็น...ช่วยด้วย กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว

“เงียบ! ร้องไห้ทำบ้าอะไรวะ!”

ผมสะดุ้งกับเสียงตวาดของไอ้มายด์ มือที่จับสะโพกผมบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บ ไอ้มายด์มันเป็นสัตว์นรกมาเกิดจริงๆ ไม่คิดว่าคนเลวๆ อย่างมันจะเป็นเพื่อนกับเมลได้

ผมจะไม่โทษเวรกรรมที่ทำให้ผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะทั้งหมดมันเกิดจากอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำของไอ้ระยำมายด์คนเดียว!

“ฟิว ฟิว เฮ้ย! เป็นไรไปวะ” เสียงร้อนรนของไอ้มายด์เป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน

...............................To be continue...........................
 :pig4: :pig4: :pig4:
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็น ทั้งคนที่ติดตามมาตั้งแต่ต้น และยินดีต้อนรับท่านผู้อ่านหน้าใหม่  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 03-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 04-09-2013 19:05:53
อยากรู้ว่าเมลกับเท็นจะเปนไงต่อ

รอๆๆๆเท็นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-09-2013 19:22:43
มาในมุมฟิว ความคิดด้านมืดฟิวที่มีต่อเท็น
เวลาที่คับขันกลับนึกถึง เท็น กัส

ส่วนมายแค่โมโหแทนเพื่อนหรือแอบชอบฟิว
ถึงกับข่มขืนฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 04-09-2013 19:23:29
ไม่สงสารฟิวได้ไหม555555555555555555555555555555555

รอเท็นด้วยคน  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 04-09-2013 19:39:37
ไม่สงสาร ไม่สะใจ

โกรธเท็น แค้นเท็น แต่ถึงเวลาลำบากกลับคิดให้เท็นมาช่วย

ขอโทษนะคะ ไม่ชอบสเปของฟิวจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 04-09-2013 19:44:19
ไม่สงสาร ไม่สะใจ

โกรธเท็น แค้นเท็น แต่ถึงเวลาลำบากกลับคิดให้เท็นมาช่วย

ขอโทษนะคะ ไม่ชอบสเปของฟิวจริงๆ

ไม่ต้องขอโทษหรอกค่าาาาา ดีใจมากจริงๆ ค่ะ ที่แวะเข้ามาอ่านแล้วยังมีความคิดเห็นให้อีก


 :กอด1:

ทุกคนเลยนะคะ อยากตอบทุกความเห็นจริงๆ อยากพูดคุยเรื่องตัวละครกับทุกคนเลย แต่คุยไม่เก่งเลยไม่รู้จะเริ่มยังไง ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 04-09-2013 19:44:36
ทำไมอ่านแล้วสะใจ :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-09-2013 19:55:03
น่าจะคิดได้นะว่าเวลาโดนกระทำ ใครช่วยแล้วนึกถึงใคร เท็นมันก็เป็นแบบนี้ มาตั้งแต่เด็กๆ

เพื่อนกันประสาอะไร น่าจะรู้นะว่าเท็นเป็นคนยังไงแต่ก็ดีแล้วมีคู่สักที ก็สมควรแล้วที่โดนแบบนี้

แต่ตอนนี้อยากอ่านเท็นแล้วอ่ะ อยากรู้ว่าเป็นไงต่อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 04-09-2013 20:02:48
คิดว่ามามองมุมฟิวจะทำให้รู้สึกน่าสงสารหรือเข้าใจซะอีก

แต่ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าก็ไม่รู้อ่ะ ก็เข้าใจนะว่าฟิวชอบเมลก่อนเท็น

แต่แบบนี้เหมือนคนจะเอาให้ได้อย่างเดียวไม่เปิดรับหรือทำใจเลย

โอ๊ย คิดว่าอินไหมล่ะ...อินมากกกกกกก (กอไกอีกพันตัว)

อยากอ่านตอนต่อสเปเชี่ยลนะเพราะอยากรู้ว่าฟิวเป็นอะไรและมายด์จะทำยังไง

เห็นพี่มายด์เงียบๆกลับมาส่อยฟิวซะงั้น

รอตอนต่อไปจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 04-09-2013 20:03:36
สงสารฟิวจัง :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 04-09-2013 20:11:58
รอเมล-เท็น ต่อ อยากรู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 04-09-2013 20:14:52
เอ่อ แบบนี้ไม่ไหวนะคะ
ถึงฟิวจะทำตัวไม่ดียังไง แต่ไอ้เรื่องให้โดนข่มขืน เราสะใจไม่ลงหรอก
มันเป็นบาดแผลที่ไม่มีทางลืมได้

เจ็บทั้งกายทั้งใจ ถ้ารับไม่ได้ขึ้นมาก็ถึงขั้นมีอาการทางจิต

มายด์มันเลวมาจากไหนเนี่ย??
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 04-09-2013 21:10:53
ตั้งแต่อ่านมานึกว่าฟิวเป็นผู้หญิงมาตลอดเลย5555 เข้าใจฟิวนะแต่ฟิวก็ต้องเข้าใจเมลด้วยเพราะเมลรักเท็นไม่ได้รักฟิว//แต่มายด์ก็นะเราว่ามายด์ไม่ควรทำรุนแรงกับฟิวขนาดนั้นนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 04-09-2013 21:30:50
อ่านแล้วก็อยากสงสารนะ แต่ทำใจไม่ได้ ชริ

หมั่นใส้แทน พยายามเข้านะหนู

เรียกคะแนนจากคนดู(อ่าน)ไม่ง่ายหรอก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: nice_nice ที่ 04-09-2013 21:41:33
โดยรวมแล้ว  เราสงสารฟิวนะ 
มันเหมือนคนที่มีปมด้อย  :mew4:
คอยเอาตัวเองไปเทียบกลับเท็นตลอดเวลา
รู้ทั้งรู้ว่า สู้ไม่ได้แต่ยังดันทุลัง
ซึ่งในชีวิตจริงคนประเภทนี้มีมากนะ

ส่วนตอนท้าย  เราคิดว่ามายด์จะมองฟิวอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
พอมาเจอเหตุการณ์นี้  คงเกิดอาการอยากเอาชนะมากกว่า
อยากบอกว่า  คนอย่างฟิวนะน่าสงสารที่สุดเลย :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 04-09-2013 22:25:23
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 04-09-2013 23:49:28
 :เฮ้อ: ไม่คิดสงสารอ่ะตอนนี้ คิดได้เมื่อสายนะฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-09-2013 06:19:02
เราว่าฟิวทำไม่ถูก แต่ฟิวโดนแบบนี้เราก็สงสารอะ.. :ling2:

เดาว่ามายด์น่าจะชอบฟิวมาก่อนแต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ  :beat: แกไม่มีสิทธิ์ขืนใจคนอื่นนะคะ

ละเหี่ยใจกับฟิวอย่างบอกไม่ถูก ตอนฟิวเจ็บใจเพราะเท็นฟิวดันนึกถึงความดีของเท็นไม่ได้

 แต่พอเจ็บเพราะคนอื่นฟิวถึงนึกได้ว่าคนที่คอยช่วยตัวเองเสมอสุดท้ายก็คือเพื่อน..  :เฮ้อ:


เรารู้สึกว่าฟิวเห็นเท็นแต่เปลือกยังไงไม่รู้ ทั้งๆที่คบกันมานาน

ก็เข้าใจนะว่าเท็นเข้าใจยาก แล้วก็ไม่ได้ทำตัวให้น่าสงสารเห็นใจอะไร

ออกจะน่าหมั้นไส้นิดๆ แต่เราว่าคนแบบเท็นน่าสงสารนะ เขามีโลกของเขา โลกที่ใครก็เข้าไม่ถึง แล้วเขาก็เข้าหาใครไม่ถึงด้วย

หวังว่าสุดท้ายแล้วคำว่าเพื่อนยังไงก็คงตัดกันไม่ขาดนะคะ 
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-09-2013 06:27:54
เราเป็นพวกใจอ่อนนะคะ สงสารที่ฟิวถูกข่มขืน ไม่สะใจเลยกับเรื่องนี้
ถึงจะขี้อิจฉาเพื่อนแบบเด็กๆ แต่ฟิวไม่ได้คิดร้ายกับเท็นนี่คะ แค่อยากให้เมลหันมารักตัวเองก็เท่าน้ัน
มาโดนมายด์ทำร้ายแบบนี้น่าสงสารออก ต่อไปทุกอย่สงคงไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเท็น เมล หรือฟิว :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: kira_love_y ที่ 05-09-2013 11:08:56
 :L3: น่าสงสารน้องฟิวคนแอบรัก ทำยังไงเมลก็ไม่รัก เราเข้าใจหัวอกรักคนที่เขาไม่มีวันรักเราไม่่ว่าจะพยายามแค่ไหน :hao5: ถึงตอนแรกจะหมั่นไส้ แต่ว่าโทษของน้องไม่ควรจะโดนข่มขืนอ่ะ  โดนข่มขืนมันเกินไปป่าว :pighaun:


 :hao4: เพลียก่ะน้องมายด์อินกับเพื่อนไปป่าวเนี่ย :fire: ทำยังกับเขาแย่งแฟนตัวเอง


ลุ้น ลุ้น ลุ้น ลุ้น เทนก่ะเมล  :ling1: เป็นนิยายเรื่องแรกที่รีเฟรชรอตอนใหม่ทุกวัน :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 05-09-2013 11:56:26
อ่านในมุมของฟิว  แล้ว เออ นี่มันเป็นคนธรรมดาที่มีกิเลสทั่วไปจริงๆ
เพราะมีเพื่อนที่เพอร์เฟ็กแบบเท็น มันเลยทำให้ฟิวรู้ด้อยค่า ไร้ตัวตนใช่มั้ย ถึงได้อิจฉาเท็นคนที่ไม่เห็นต้องทำอะไร ต้องพยายามทำอะไร ก็ได้รับความสนใจง่ายๆ แต่ฟิวก็เก่งที่ระงับใจมาได้ตั้งนาน มาดีแตกเรื่องเมลนี่เอง แต่นะมายด์โมโหอะไรฟิวขนาดนั้น  แอบรักฟิวรึไงฮึ!!!! เล่นบทพิศาลไปนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 05-09-2013 12:23:47
เอิ่ม มายด์ ถึงจะเกลียดหรือไม่ชอบฟิวยังไงก็ไม่สมควรทำแบบนั้นนะ
มันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ อย่างน้อยเล้าโลมก่อนก็ยังดี << อ้าว

ได้สามีโดยไม่ตั้งใจเลย แต่ไม่ใช่มายด์ได้ฟิวแล้วจะทิ้งนะ
ไม่งั้นคงเจอเท็นอ่ะ ทะเลาะกันยังไงแต่ก็เพื่อนกันละเน๊าะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special-Ch 1 :: 04-09-2013 (Page.5)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-09-2013 15:17:03
ชอบนายเอกเรื่องนี้มากๆ แบบว่าแนวดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 06-09-2013 18:16:09
ตอนที่ 16

ผมลืมตาขึ้นมาในห้องที่สมองยังระบุพิกัดแน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นที่ไหน แต่เมื่อกะพริบตาอีกสามสี่ครั้งจนตาชินกับแสงแล้วก็รู้ว่าที่นี่คือห้องนอนของผมเอง แล้วแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่วางพาดตรงเอวผมอยู่นี่ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นของใคร

เมื่อคืนดื่มกันหนักมาก แก้วแล้วแก้วเล่าที่ยกขึ้นกรอกปาก ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงถามนิ่งๆ จากคนที่นอนอยู่ข้างๆ ทำให้ผมต้องหันไปมอง

ไอ้เมลที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันขยับตัวเข้ามากอดผมไว้ มันซุกไซ้หน้าลงไปตามซอกคอ แรงกัดทำให้ผมนิ่วหน้า พยายามดึงหน้ามันออกก็ไม่เป็นผล

“ปล่อย”

“หื้มมมม ยังโกรธอยู่เหรอ” ทั้งหน้าทั้งเสียงอ่อนโยนจนผมเกือบหลงกล แต่จำได้ว่าเพราะทะเลาะกับมันเมื่อคืนนั่นแหละ ผมถึงเมาเหมือนหมาขนาดนั้น เลยพยายามทั้งผลักทั้งข่วนให้มันปล่อยตัวผม

“มึงกลับคอนโดมึงไปได้แล้วเมล”

“ไม่เอาน่าเท็น จะทะเลาะกันอีกรึไง มีความสุขเหรอที่ทำอย่างนั้น” ทำมาพูดดีไอ้ห่าเมล

“กูว่ากูพูดกับมึงชัดแล้วนะว่ากูไม่ต้องการแฟ... อุ๊บ! อื้อออออออออออ”

ไอ้เมลขึ้นคร่อมผมพร้อมกับก้มลงมาจูบปิดปากโดยที่ผมพูดยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนๆ ของมันสำรวจไปทั่วโพรงปากผม แววตานิ่งๆ จ้องมองมาทำเอาผมต้องหลบสายตาเสมองไปทางอื่น

“ขออย่างเดียวนะเท็น ไม่ว่ามึงจะโกรธมากแค่ไหน ก็อย่าพูดเหมือนจะเลิกกับกู”

“......”

“ถ้าวันหนึ่งเราต้องเลิกกันจริงๆ กูอยากให้เลิกเพราะเราไม่รักกัน ไม่ใช่เพราะเราโกรธหรือทะเลาะกันเรื่องคนอื่น”

“.......”

“นะครับที่รัก”

ขนลุกพรึ่บเลยให้ตาย ผมไม่ชอบคำพูดเลี่ยนๆ พวกนี้เลยจริงๆ ไอ้เมลมันก็กล้าพูด

“หน้าแดงด้วย หึหึ”

“หยุดพูดไปเลยไอ้บ้า เพราะมึงพูดแปลกๆ นั่นแหละ”

“หื้มมมม แปลกตรงไหนครับที่รัก เท็นก็เคยเรียกเมลอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ”

“นั่นกูแกล้งมึงเล่นเว้ย ลุกเลยๆ”

ผมพยายามผลักร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าออกจากตัว คือทั้งผมทั้งมันก็ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อคืนผ่านอะไรกันมาบ้าง

“อื้อออออ อ๊ะ เมล ไอ้บ้า เช้าแล้วนะ มึงไม่ไปเรียนไง”

ลิ้นที่เลียลงบนยอดอกยังไม่ทำให้ผมเสียวเท่านิ้วที่ขยับเข้าออกในช่องทางด้านหลัง ผมจิกมือลงบนไหล่มัน ไอ้เมลยิ้มพลางดุนดันลิ้นกับยอดอกผมจนรู้สึกเจ็บน้อยๆ แต่ก็เสียวมากกว่า ก่อนมันจะเคลื่อนริมฝีปากขึ้นมาคลอเคลียที่ริมฝีปากผมพร้อมๆ กับถอนนิ้วออกไปและดันสิ่งอื่นเข้ามาแทน ไอ้เมลยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดบ่าของมันแล้วเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ

“อ้ะ เมล เมล อื้มมมมม อ่าาาา ดะ...เดี๋ยว”

“เท็น ลึกดีจัง อ่าาา ที่รัก...อาาาา รักเท็นนะครับ รักมากเลยรู้มั้ย”

ผมหายใจหอบเพราะแรงสะเทือนจากช่วงล่าง เข้าออกแต่ละทีแทบหยุดหายใจ

“เมล เมล ระ...เร็วอีก อ้ะ อ้ะ อาา...า..าา แรงอีกเมล”

ไอ้เมลยิ้มเครียดเมื่อผมร่อนสะโพกเข้าหามัน หน้าหล่อเหลาดูสุขล้ำแต่มันก็ทำให้ผมสุขยิ่งกว่า ไอ้เมลสนองผมได้ตามที่ผมต้องการ เราจูบกัน ผลัดกันดูดดุนลิ้น และพอใกล้จะถึงฝั่งมันก็ถอนริมฝีปากออกไป เปลี่ยนไปดูดเลียอยู่ที่ซอกคอแทน

“อ้ะ เมล เมลจ๋าาา”

ไอ้เมลกัดลงบนคอผม มันกระตุกหนักๆ ก่อนจะปล่อยให้น้ำรักของมันทะลักเข้ามาในช่องทางของผม

“หื้อออออ เมล อย่าทำรอย อื้ออออ เสร็จแล้วก็เอาออกไป”

“เอาออกได้ไง เท็นยังรัดแน่นอยู่เลย”

“เท็นผิดเหรอ”

“อื้อ ผิดเต็มๆ เมลพาไปอาบน้ำนะ”

ผมพยักหน้า ไอ้เมลเลยอุ้มผมขึ้นทั้งๆ ที่ช่วงล่างยังคาราคาซังกันอยู่ ผมนิ่วหน้ากับความลึกที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังดีกว่าคนที่อุ้ม รายนั้นทำหน้าทรมานซะจนผมนึกสมน้ำหน้ามันในใจ

.
.
.

“ไงครับคุณพชร เมื่อคืนโดนจัดหนักจัดเต็มเหรอ หน้าตาท่าทางเพลียเชียวนะ หึหึ” ไอ้เต๋อเอ่ยทัก ยิ้มกริ่มไม่พอยังทำหน้ากวนตีนใส่ผมอีก

“เมื่อคืนนี่จำไม่ได้ แต่ถ้าเมื่อเช้าก็ใช่นะ ทำไมเหรอ คนไม่มีคู่อย่างมึงอิจฉารึไง” ผมยักคิ้วถามมันกลับ ไอ้เต๋อทำหน้ารับไม่ได้แต่ก็เลิกแหย่ไป

“มึงอย่าไปคิดว่าคนอย่างเหี้ยเท็นมันจะสะทกสะท้าน แซวมันให้อายยากกว่าทำข้อสอบแคลสามอีกเว้ย” ไอ้กัสบอกอย่างคนรู้จริง ไอ้พวกบ้านั่นเลยพยักหน้ารับแบบเห็นทางสว่างกันทุกคน

ครืดดดดด ครืดดดดดดดด ครืดดดดดดดดด

ผมเดินห่างออกจากม้าหินอ่อนเพื่อรับโทรศัพท์ ได้ยินเสียงพวกสัมภเวสีตะโกนแซวไล่หลังมา

“ว่าไงเมล”

(อยู่ไหนเท็น)

“หน้าช็อปเจ็ด รอเรียนแล็ปเซอกิต มีไร”

(เข้าเรียนด้วยเหรอวะ)

“อ้าว ไอ้นี่ เป็นนักศึกษามีหน้าที่เรียนก็ต้องเรียนสิครับ”

(เพิ่งสำนึกได้เหรอเท็นเท็น หึหึ งั้นบ่ายสองเจอกันนะ มึงคงไม่โดดแคลคูลัสใช่ป้ะ)

ผมกำลังคิดว่าจะกลับไปดูคนงานทำสวนอยู่พอดี เหลือเวลาอีกแค่ห้าวันเท่านั้น แต่งานก็คืบหน้าไปมากแล้ว คงเสร็จก่อนวันเกิดแม่สองสามวัน

(นะเท็น มาเรียนนะ กูอยากนั่งเรียนข้างมึงสักครั้งหนึ่งในชีวิตน่ะ)

ไอ้เมลนี่ก็เว่อไม่มีใครเกิน

“เออๆ ไปก็ได้ แต่กูอยู่ไม่นานนะ มีธุระต้องไปทำ”

(ธุระอะไร ที่ไหน)

“วางละๆ จะไปเรียน”

(เฮ้ย เดี๋ยวเท็น)

ผมตัดสายแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อช็อป เดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นไอ้ฟิวนั่งสงบเสงี่ยมอยู่แล้ว ท่าทางมันดูเพลียเหมือนคนอดหลับอดนอน ตาโตๆ ของมันก็บวมช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ที่คอก็มีรอยแดงแปลกๆ

ไอ้เต๋อกับไอ้เต้ชำเลืองมองหน้ากัน ส่วนไอ้คิมกับไอ้แม็คก็สามัคคีกันมองไปทางอื่น คงมีแต่ไอ้กัสเท่านั้นที่นั่งแดกเกี๊ยวกุ้งอย่างไม่สนใจบรรยากาศรอบโต๊ะ

“ใบงานมึง” ไอ้ฟิวยื่นใบงานแล็ปวันนี้มาให้ผม มันคงไปถ่ายเอกสารมาให้เหมือนทุกที

“อืม” ผมรับมาแล้วเก็บใส่กระเป๋า

“เอ้อออออออ เข้าไปรออาจารย์ในห้องกันดีมั้ยวะ นั่งข้างนอกนี่ร้อนเนอะไอ้แม็ค เข้าไปตากแอร์กันดีกว่า ไปกันๆ ไอ้เท็นไอ้ฟิว”

ผมลุกขึ้นตามคำชวนของไอ้เต๋อ เห็นไอ้ฟิวตาแดงๆ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่ผมก็ยื่นมือไปขยี้หัวมันซะก่อน

“กูไม่ชอบให้ใครมาทำดราม่าใส่ เข้าห้องได้แล้ว”

“อือ ขอโทษนะมึง”

“เรื่องอะไร”

“ก็เรื่อง...”

“อะไรกันว้าพวกมึง มาซุบซิบอะไรกันสองคน หืมมม ไม่บอกกูเลย เดี๋ยวมีงอนๆ”

ไอ้กัสกระโดดเข้ามากอดคอผมกับไอ้ฟิว ผมผลักหัวมันไปหนึ่งที ก่อนจะเดินหันหลังเข้าห้องเรียน ให้ไอ้กัสมันเช็ดน้ำตาให้ไอ้ฟิวเถอะ ผมไม่ถนัดเรื่องนี้สักเท่าไหร่

ไม่ใช่ว่าผมไม่โกรธในสิ่งที่ไอ้ฟิวทำ แต่เพราะผมไม่ได้เกลียดมัน ถึงไม่อยากเห็นมันเสียใจกับเรื่องนี้อีก

.
.
.

“สวัสดีครับนิสิต เป็นยังไงกันบ้าง พอใจกับคะแนนมิดเทอมมั้ย” เสียงอาจารย์ประจำวิชาแคลคูลัสสามดังผ่านลำโพงออกมาให้นักศึกษาที่นั่งอยู่ในห้องเรียนจำนวนร้อยกว่าชีวิตโห่ประท้วงด้วยความไม่พอใจ

“เอาล่ะครับๆ ผมยินดีเซ็นใบดร็อปให้ตอนนี้เลยนะ ไม่รีบมาพบผมระวังหมดเขตดร็อป วิชาผมไม่มีคะแนนช่วยนะครับ อย่างที่บอกไปตั้งแต่เริ่มเรียนคือผมตัดเอฟที่สี่สิบห้า ไม่มีน้อยไปกว่านี้แล้ว อิงเกณฑ์ด้วยนะครับไม่ได้อิงกลุ่มเหมือนที่ใครเอาไปลือกัน มิดเทอมสี่สิบห้าคะแนน ไฟนอลอีกสี่สิบห้าคะแนน อีกสิบคะแนนผมให้สำหรับใบงานที่พวกคุณทำส่งผมในแต่ละคาบ กับคะแนนจากรายงานที่ให้ทำ ไม่มีคะแนนพิสวาสใดๆ ทั้งสิ้น”

คราวนี้เสียงโห่ดังขึ้นกว่าครั้งแรกมาก ผมนั่งเฉยมองไอ้เมลที่ก็ร่วมโห่ไปกับคนอื่นเขาด้วย

“กูว่าดักตีหัวอาจารย์แก้คะแนนดีมั้ยวะ แม่งเคี่ยวขนาดนี้พ่อค้าขายปลาเก่ารึเปล่าจารย์! ตัดตั้งสี่สิบห้า เอามีดมาแทงคอผมเถอะครับ” ไอ้แต้มที่นั่งถัดจากไอ้เมลบ่นออกมาเสียงดัง

“ขอบคุณสำหรับฟีดแบ็คนะครับ ก่อนสอบมิดเทอมผมบอกไว้แล้วว่าจะให้รางวัลกับคนที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด ถ้าผมขานชื่อก็ปรบมือให้กับเพื่อนด้วยนะครับ”

ผมเบ้ปากทันที เพราะรู้ยังไงก็ไม่มีใครได้คะแนนมากไปกว่าผมแน่นอน นอกจากอาจารย์จะให้คะแนนโบนัสถ้าเขียนรหัสวิชาถูก

“มึงได้เท่าไหร่วะเท็น” ไอ้เมลหันมาถามผม

“กูได้เต็ม”

“เรื่องจริงเหรอวะ มึงที่ไม่เข้าเรียนซักคาบนี่นะ กูไม่เชื่ออ่ะ”

“เรื่องของมึงสิ”

ผมเลิกสนใจไอ้เมลก่อนจะเดินออกไปหาอาจารย์ที่หน้าชั้น ของรางวัลที่ได้รับคือดินสอกดสองแท่งกับชุดวงเวียนครบเซ็ต รวมราคาแล้วคงมากกว่าหลักร้อย

“ข้อสอบผมก็ไม่ได้ยาก ไม่งั้นก็คงไม่มีคนทำได้คะแนนเต็ม ถ้าพวกคุณมีความพยายาม ตั้งใจเรียน ก็ไม่เกินความสามารถหรอกครับ แต่ยังมีรอบไฟนอลให้พวกคุณแก้ตัว เอาล่ะครับ เรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่า”

มีคนตะโกนขัดอาจารย์มาว่าไอ้คนที่ทำได้มันไม่ใช่คน และไอ้คนที่ตะโกนไม่ใช่ใครครับ ไอ้เหี้ยเต๋อเพื่อนกูนั่นเอง

“มึงไม่ต้องโทษตัวเองว่ามึงเกิดมาโง่หรอกไอ้เมล มึงเป็นคนปกติเหมือนพวกกูนั่นแหละ แต่ไอ้เหี้ยเท็นมันไม่ปกติไง ไม่ใช่แค่แคลนะ ทุกวิชาที่พวกกูมีเรียนเทอมนี้มันก็ทำคะแนนเต็มอยู่คนเดียว” ไอ้เต๋อที่นั่งอยู่ข้างหลังบอกไอ้เมล ทำหน้าเห็นอกเห็นใจกันอย่างสุดซึ้ง

“ที่กูเข้าเรียนทุกวันหมดความหมายไปเลยว่ะมึง เซ็งจริงๆ” ไอ้เมลยื่นมือมาผลักหัวผม ผมเบี่ยงหลบแต่ก็ไม่พ้น

“มึงพยายามต่อไปก็ดีแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากซะหน่อย”

“กูท้อไปเลยนะเนี่ย พยายามแทบตายแต่ผ่านมีนมาแค่ไม่กี่คะแนน”

ไอ้เมลทำหน้าบ้าอยู่ได้เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่ยอมจดเลคเชอร์หรือฟังอาจารย์พูดเลยแม้แต่น้อย ดูมันห่อเหี่ยวและท้อแท้เอามากๆ จนผมอดสงสารมันไม่ได้

“เดี๋ยวกูเลคเชอร์ให้ มึงจะได้เอาไปอ่าน แล้วก็เลิกทำตัวบ้าๆ แบบนี้ซะทีเถอะ”

นี่กูยอมจดเลคเชอร์ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งมากูไม่เคยทำเลยนะ อาศัยไอ้ฟิวทำให้อย่างเดียว

ผมไม่ใช่คนตัวหนังสือสวย แถมยังเขียนตัวใหญ่เทอะทะ ไม่รู้ไอ้เมลมันจะเอาไปอ่านรู้เรื่องรึเปล่า

“มึงมีเสน่ห์มากนะเวลานั่งเรียนแบบนี้อ่ะ กูอยากเห็นมึงอย่างนี้ทุกวัน ทำไมมึงทำอะไรก็ดูดีไปหมดเลยวะ”

ผมเคาะดินสอลงบนหน้าผากไอ้เมลที่นั่งฟุบโต๊ะหันหน้ามาทางผม ดีหน่อยที่อาจารย์เขาไม่เข้มงวดอะไร ใครอยากเรียนก็เรียน ใครไม่อยากเรียนก็ไม่ว่า ขอแค่ไม่ส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นก็พอ

“เพราะกูหน้าตาดีไง”

“อือ หน้ามึงสวย”

“สวยพ่อมึงสิ ชวนคุยอยู่ได้ กูจดเลคเชอร์ให้มึงอยู่นะ”

“ดีใจจัง กูอยากให้แฟนมานั่งจดเลคเชอร์ให้อย่างนี้นานแล้ว รักเท็นนะ”

“หึ ไอ้บ้า”

“อะแฮ่ม ตั้งใจเรียนครับนักศึกษา จีบกันในคาบเรียนผมหักคะแนนนะครับ หึหึ”

ไอ้เต๋อนี่เป็นมารขัดความสุขผมจริงๆ พวกสัมภเวสีที่เหลือก็ส่งสายตามาล้อเลียนกันทุกตัว ถ้าไม่ติดว่าอาจารย์ยังพล่ามอยู่หน้าห้องพวกมันคงโห่แซวผมไปแล้ว มีแค่ไอ้ฟิวที่นั่งถัดจากไอ้กัสเท่านั้นที่พยายามยิ้มให้ผมแล้วก็ก้มลงไปเพ่งชีทเรียนของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย


.........................................To be continue..............................

ตอนนี้ถ้ามีชื่อตอนคงต้องบอกว่าไม่มีอะไรจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ถ้าเข้าใจเท็นจะรู้ค่ะว่าปัญหานั้นมันเรื่องเล็ก  :กอด1: :กอด1:

 :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 06-09-2013 19:07:02
รู้สึกเนื้อเรื่องมันขาดตอนไปหรือเปล่าคะ :ling1:
 :L1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 06-09-2013 19:17:20
รู้สึกเนื้อเรื่องมันขาดตอนไปหรือเปล่าคะ :ling1:
 :L1:

ไม่ขาดค่ะ ^^ จริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-09-2013 19:28:52
คืนดีกันเร็วมาก แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วนะ รักกันๆ :กอด1:
สงสารก็แต่ฟิวนี่แหละ สามีคืนเดียวจะเปลี่ยนใจมารับผิดชอบฟิวไหมเนี่ย :mew5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 06-09-2013 19:32:53
เข้ามารออ่านเรื่องนี้ทุกวัน ชอบเท็น เมล อยากให้ทั้งคู่รักมั่นคงตลอดไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-09-2013 19:34:44
ถ้าอ่านจากเรื่องของฟิวเมลวิ่งออกไปง้อเท็น
ก่อนที่ฟิวจะเกิดเรื่อง

เท็นตื่นเช้ามาก็โดนล้างหน้าไก่แต่เช้า
เมลชอบทำอะไรๆร่วมเท็น เพื่อนๆร่วม
ด้วยช่วยแซวตลอด ส่วนเท็นกับฟิวก็คุยกันแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 06-09-2013 19:58:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 06-09-2013 20:39:11
ชอบเมลกับเท็นจัง น่าร๊าาาาากกกกก

ดีแล้วที่เข้าใจกัน หวานๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: himecrazy ที่ 06-09-2013 20:48:29
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: kira_love_y ที่ 06-09-2013 21:12:55
 :haun4: :katai2-1: :mc4: :pighaun: :jul1: ดีกันแล้ว อิอิอิอิ มีความสุข
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 06-09-2013 21:24:45
แอบกังวลว่าจะทะเลาะกันนาน
ลืมไปว่าเท็นเป็นคนไม่คิดอะไรจุกจิก
แต่ผิดคาดนิดหน่อยตรงที่เท็นเมาจนไม่รู้ตัวเพราะทะเลาะกับเมล
แสดงว่าเมลมีอิทธิพลกับเท็นแล้วใช่ไหม
ดีใจที่เท็นกับฟิวดีกันแล้ว

อยากได้ตอนพิเศษของฟิวอีกค่ะ
อยากรู้ว่ามายด์จะยังไงต่อ จะรับผิดชอบฟิวมั้ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 06-09-2013 21:34:05
เท็นนายมันไม่ปกติเหมือนเพื่อนๆบอก ทำได้ไงคะแนนเต็มอ่ะสุดยอด!!!! ฟิวพยายามทำใจนะ ฟิวสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 06-09-2013 22:24:21
คืนดีกันแล้ว แค่คืนเดียวเองนะ!!! ฮิฮิฮิ

แอบอยากรู้ของฟิวว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น

สู้ๆนะจ๊ะคนเขียน :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 06-09-2013 23:16:18
เขาดีกันแล้ว  :hao7:

อันนี้ให้ฟิวกับกัส  :กอด1: /เราไม่ชอบคนนิสัยแบบฟิวแต่ในเมื่อมาขอโทษแถมโดนขนาดนั้นก็อภัยได้จ้ะ

ส่วนกัสรายนี้น่ารักสม่ำเสมอ (หยิกแก้มหนึ่่งที)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-09-2013 23:36:47
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 07-09-2013 03:12:33
มาต่อไวๆนะคะ อ่านจนถึงตีสามแหน่ะ

เก็บทุกเม็ด เก็บทุกตัวอักษร จะพยายามคิดว่ามายด์ก็คงแอบรักฟิวเหมือนที่ฟิวรักเมลใช่มั้ย ฮื้ออออ

มายด์ดูเถื่อนดีนะ คึคึคึ ขอให้มายด์รักฟิวอย่างจริงใจด้วยเถ๊อะะะะ

ปล.อยากให้กัสมีแฟนเป็นผู้ชาย ณ จุดๆนี้ คือ กัสจะได้ไม่ผิดหวังอีกไง 5555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 07-09-2013 04:55:49
 :haun4: อ้าวเคลียกันบนเตียงซะงั้น นี่ละน๊าเค้าว่าเตียงสามารถจัดการปัญหาชีวิตคู่ได้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-09-2013 10:45:40
เคลียร์ที่ไหนจะสุขเท่าเคลียร์บนเตียง :z1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 07-09-2013 11:17:00
้นับเป็นโชคดีของเมลที่เท็นไม่ใช่คนคิดเยอะ

สงสารแต่ฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 07-09-2013 11:39:08
เขินเว่อ ^^ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 16 :: 06-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 07-09-2013 16:41:01
สงสารฟิววว   :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 07-09-2013 17:44:39
ตอนที่ 17

“เหี้ยเท็น มึงเอียงหูมานี่ดิ๊”

“อะไรของมึง”

ผมมองไอ้กัสอย่างสงสัยพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้มัน ไอ้กัสป้องปากพูดเสียงเบา

“มึงดูไอ้ฟิวดิ กูว่าหลายวันมานี้มันเงียบผิดปกตินะ ลำพังแค่อกหักมันไม่จะเป็นจะตายขนาดนี้หรอก มึงก็รู้จักมันดี แล้วสังเกตดูที่คอ นั่นมันรอยดูดชัดๆ”

ผมขมวดคิ้วกับข้อสันนิษฐานของไอ้กัส

“รอยดูดเหรอวะ แต่ไอ้ฟิวมันไม่มีแฟน มันจะไปนอนกับใครได้”

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รอยมันยังใหม่ๆ อยู่เลยนะ”

ผมก็เห็นเหมือนที่ไอ้กัสเห็น แต่ไม่รู้จะสรุปประเด็นนี้ยังไง ผมเห็นรอยแดงๆ แปลกๆ นี้เมื่อหลายวันก่อน ก็วันที่ทะเลาะกับไอ้เมลเรื่องไอ้ฟิวนั่นแหละ แต่ผมไม่คิดว่าไอ้เมลมันเป็นคนทำหรอก ก็มันอยู่กับผมทั้งคืนแถมช่วงเช้ายังจัดหนักด้วยกันอีก คงไม่สามารถแว๊บหายไปทำอะไรไอ้ฟิวได้

“มึงอยากรู้ก็ถามมันไปตรงๆ เถอะ ง่ายกว่ามานั่งเดา” ผมบอกพลางเช็คระบบน้ำที่ต่อตรงมาจากบ้านใหญ่

“แล้วมึงไม่อยากรู้ไงวะ”

“ไม่อ่ะ เป็นเรื่องของมัน ถ้ามันอยากบอกก็คงบอกเองแหละ มึงเลิกอู้งานได้ละ ไปดูตรงนั้นให้หน่อย ทำไมน้ำมันไม่ขึ้น”

“เออๆ ได้ทีล่ะชี้นิ้วสั่งเลยนะมึง”

ผมยักไหล่ไม่สนใจเสียงบ่นของไอ้กัส วันนี้พวกผมมาจัดสถานที่เตรียมงานวันเกิดแม่ที่จะเริ่มวันพรุ่งนี้ ส่วนไอ้เมลบอกว่าเรียนเสร็จจะพาเพื่อนๆ มันมาช่วย ตอนนี้เลยมีแค่พวกผมที่ลุยงานกันอยู่

พวกคนงานในบ้านตื่นเต้นกันใหญ่ที่ผมเปิดบ้านต้อนรับแขกมากขนาดนี้ ความจริงก็คิดว่าจะมีแค่ไอ้กัสกับไอ้ฟิว แต่ที่ไหนได้ พวกไอ้เต๋อก็ดันอยากตามมาด้วย ก็ไม่มีปัญหาครับ ตามจิตศรัทธาคนอยากช่วย เราไม่ควรขัด

ไอ้ฟิวเป็นแม่งานตกแต่งสถานที่ โดยมีลูกทีมอย่างไอ้เต๋อ ไอ้แม็ค ไอ้คิมและพวกแม่บ้านอีกสามสี่คนช่วยกันสูบลูกโป่ง หาของมาตกแต่งกระโจมผ้าที่ตั้งไว้รอบๆ สวน ใกล้สระว่ายน้ำผมก็ให้ตั้งไว้ด้วย เพราะวันเกิดแม่ในแต่ละปีคนไม่เคยต่ำกว่าร้อย ส่วนไอ้เต้กับไอ้กัสเป็นลูกมือผมในการเช็คความเรียบร้อยของสวน

“การ์ดเชิญคุณลุงจัดการให้แล้ว น้ำแข็งก็สั่งจากบ้านไอ้เต๋อ ส่วนเรื่องอาหารกูสั่งจากภัตตาคารของปู่ไอ้คิม เรื่องเครื่องดื่มเราค่อยปรึกษากันอีกที มึงโอเคมั้ย” ไอ้ฟิวเดินมาถามผม

“ตามนั้นเลย เดี๋ยวมึงช่วยไปจัดการเรื่องดอกไม้ด้วย อย่าลืมเรื่องของตอบแทนให้กับคนที่มางานด้วยล่ะ”

“อืมๆ เดี๋ยวกูจัดการให้” มีไอ้ฟิวก็สบายไปร้อยแปดอย่าง

“เหี้ยเท็น ว่างๆ กูมาออกรอบบ้านมึงได้ป่ะเนี่ย ไม่คิดว่าบ้านมึงจะถึงขั้นมีสนามกอล์ฟ” ไอ้เต้ถามขึ้นพร้อมกับกวาดตามองไปทั่ว

“เอาดิ ค่าผ่านประตูสามพัน มึงจ่ายที่ลุงยามได้เลย”

“_วย เคี่ยวจริงนะมึง”

ผมยักไหล่ ไม่ได้พูดเล่นครับพวกคุณ พูดจริง หารายได้เข้ากระเป๋าบ้างจะได้ไม่เกาะพ่อแม่กินไปตลอดชาติ หึหึ

ตอนบ่ายแก่ๆ พวกไอ้เมลก็โผล่หัวกันมา แต่เพราะแดดแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ผมเลยสั่งพักงานแล้วให้แม่บ้านเปิดห้องรับแขกต้อนรับพวกมัน ปกติผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในบ้าน แม้แต่ไอ้เมลที่มาหาผมบ่อยๆ ระหว่างที่ผมรับจ็อบเป็นคนสวน มันก็ไม่มีโอกาสได้เข้ามา แต่ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ

“เหี้ยเท็น นี่รางวัลมึงหมดเลยเหรอวะ” ไอ้เต๋อที่ยืนสำรวจอยู่หน้าตู้กระจกเอ่ยปากถาม เรียกให้ความสนใจของคนอื่นๆ พุ่งไปที่มัน

“อืม แต่สองชั้นล่างของป๋ากับแม่กู”

ไอ้เต๋อพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะร้องเสียงดังทำเอาทุกคนตกใจไปตามๆ กัน

“มีอะไรไอ้เหี้ยเต๋อ!” ไอ้แม็คถามขึ้นหลังจากเรียกขวัญกลับเข้าร่าง

“พวกมึงมาดูนี่!” ไอ้เต๋อชักชวนคนอื่นๆ ไปรวมตัวที่มัน ก่อนเสียงประสานของพวกมันจะดังลั่นบ้าน

“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย! ไอ้เท็น! มึงบอกความจริงมาเดี๋ยวนี้ว่ามึงเป็นใครกันแน่!”

ผมมองพวกมันอย่างงงๆ พวกมันก็มองตอบผมเหมือนเห็นผี ผมหันไปขอความเห็นจากไอ้กัสกับไอ้ฟิว แต่พวกมันก็ยักไหล่ตอบกลับมา

“อะไรวะ กูก็เป็นกูไง”

“มึงชื่อ พชร” ไอ้เต้บอก

คือ กูรู้ว่ากูชื่อพชร แล้วมึงจะบอกทำไมวะ -_-

“ใช่ ทำไมวะ”

“คนในตระกูลมึงมีใครชื่อพชรอีกมั้ย” ไอ้ลินถาม

“จะมีได้ไง ทำไมกูต้องไปชื่อซ้ำญาติกูด้วยล่ะ”

“งั้นมึงดูนี่ ทำไมคำนำหน้าชื่อมึงเป็น ดร. ล่ะ” ผมรับแฟ้มขนาดใหญ่ที่แม่ทำไว้เพื่อเก็บสะสมผลงานของผมจากไอ้แต้มมาดู ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพวกมันทีละคนจนไปหยุดอยู่ที่ไอ้เมล

“อ้าว แปลกตรงไหน ก็กูจบเอกแล้ว”

“พ่องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!”

ผมสะดุ้ง ผงะถอยหลังเล็กน้อยกับเสียงตะโกนดังคับบ้านอย่างพร้อมเพรียงของพวกมัน

“มึงพูดมาได้ไงว่าแปลกตรงไหน เหี้ยเท็น นี่มึงอายุเท่าไหร่ แดกยาอายุวัฒนะให้เด็กลงใช่มั้ย” โห ไอ้เขต จินตนาการมึงจะล้ำเกินไปละ

“กูเพิ่งสิบเก้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็พอๆกับพวกมึงบางคนในนี้”

ไม่รู้ว่าจะนับเป็น 19 ได้ไหม เพราะปีนี้ไม่มีวันที่ 29 กุมภา ถัดจากห้าทุ่มห้าสิบเก้าของวันที่ 28 ก็เป็นวันที่ 1 มีนาแล้ว ผมเลยไม่ได้ฉลองวันเกิด เพราะให้ไปฉลองวันที่ 28 หรือวันที่ 1 ก็ไม่ดูเหมือนเป็นวันเกิดตัวเองนี่หว่า เลยสั่งงดของขวัญและการฉลองทุกอย่าง -*-

“แต่มึงจบเอก ได้ไงอ่ะ ไม่ใช่ละกูว่า ต้องมีการอำกันเล่น” ไอ้เต๋อส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้

“กูว่ามันไม่ได้อำหรอกว่ะมึง ดูรูปนี่สิ” ไอ้แม็คค้าน ส่งอัลบั้มรูปให้ไอ้เต๋อดู

ผมเลิกสนใจไอ้พวกบ้าที่กรูกันไปมุงดูนั่นดูนี่ ไม่ได้จะถามความเห็นกูเลยว่าอนุญาตไหม ก่อนจะลากไอ้เมลออกมานั่งด้วยกันที่โซฟา ใครจะบ้าก็บ้าไป แต่แฟนกูห้าม

“เป็นอะไรเมล” ผมถามเมื่อเห็นมันมองหน้าผมตาไม่กะพริบ

“มึงเป็นใคร”

ผลัวะ!

ผมตบหัวไอ้เมลเรียกสติไปหนึ่งที

“แฟนมึงไงไอ้ควาย จ้องอยู่ได้ ทำอย่างกะกูไม่ใช่คน”

“ก็มึงไม่ใช่”

“เดี๋ยวโดนๆ แล้วพวกมึง ถ้าทัศนศึกษาเสร็จแล้ว พวกมึงก็มานั่งแดกน้ำกันได้ละ เดี๋ยวมีงานต้องไปทำต่อ”

“มึงอธิบายหน่อยดิวะ ว่าอะไร ทำไม คือกูงงมาก ดอกกกกก” ไอ้เต๋อทำหน้าละเหี่ยใจ พาชาวคณะของมันกลับมานั่งโซฟาตามเดิม

“มายุ่งอะไรกับชีวิตกู”

“ก็กูอยากรู้อ่ะ อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ”

เวลาไอ้เต๋อมันบ้าขึ้นมา จะดูน่าถีบมากกว่าน่ารัก เพราะไอ้ห่าเต๋อมันโวยวาย และผมก็หาได้สนใจมันไม่ ไอ้กัสเลยเตะหน้าแข้งผมหนึ่งทีก่อนจะเป็นคนเฉลยให้ทุกคนฟัง

“มันจบเอกตอนพวกเราเรียนมอหนึ่ง เก็ทมั้ยไอ้ควาย”

“เฮ้ยยย จริง งั้นมึงก็เป็นไอ้พวกอัจฉริยะอะไรพวกนั้นป่ะวะ ไอ้เหี้ยยย กูมีเพื่อนเจ๋งขนาดนั้นเลย โหววว งั้นไอ้พชรที่ทำคะแนนแอดมิชชั่นได้สูงสุดของประเทศเมื่อปีที่แล้วก็มึงอ่ะดิ โอ้ยยย ท่านเทพ มาให้กูกราบที”

ผมยกตีนขึ้นแทบไม่ทันเมื่อไอ้เต๋อกับไอ้แม็คถลาเข้ามาใกล้

“เดี๋ยวกูถีบ ไปไกลๆ ตีนกูเลยไอ้พวกบ้า”

“แล้วอย่างนี้มึงจะเรียนอีกทำไมวะเท็น” ไอ้มายด์ถามอย่างสงสัย

“ก็กูไม่มีอะไรทำ แล้วไอ้กัสกับไอ้ฟิวก็อยู่กับกูตลอดไม่ได้ กูเลยตามมันไปเรียน”

ผมมีเพื่อนวัยเดียวกันก็แค่ไอ้กัสกับไอ้ฟิวเท่านั้น แต่พอเข้าเรียนก็เจอพวกไอ้เต๋อมาร่วมป่วนในชีวิต แล้วไม่นานนรกก็ส่งไอ้เมลมาให้ ถึงการเรียนจะน่าเบื่อและผมจะโดดเป็นประจำ แต่อย่างน้อยผมก็เจอเพื่อนที่สามารถคุยเล่นกันได้

“แล้วมึงก็โดดเป็นประจำ ให้พวกกูต้องตามว่าปากเปียกปากแฉะ บางทีก็หายไปเป็นเดือนสองเดือน” ไอ้ฟิวพูดแขวะขึ้นมา

“ก็กูบอกแล้วว่าจะไปตามหาแรงบันดาลใจ แล้วเวลามึงโกรธก็ตลกดี”

“มึงมันนิสัยไม่ดี”

ผมยักไหล่ไม่สนใจคำต่อว่าของไอ้ฟิว จากนั้นพวกมันก็ผลัดเปลี่ยนกันซักถามผม ผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์

“มึงไม่คิดจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อโลกหรือประเทศชาติบ้างไงวะ แบบวิจัยนั่น คิดค้นนี่ อะไรอย่างงี้” ผมฟังคำพูดที่ดูจะยิ่งใหญ่มากของไอ้ลินแล้วขนลุก

“จะให้กูทำอะไร กูไม่ชอบอะไรสักอย่าง กูเลยต้องมาตามหาแรงบันดาลใจของตัวเองไง”

“ด้วยการที่ไปเป็นพนักงานส่งไก่บ้าง ทำงานร้านพิซซ่าบ้าง ฝนมาก็ไปช่วยชาวบ้านไถนาทางภาคเหนือบ้าง หายไปคาสิโนเกือบสองเดือนบ้าง ล่าสุดนี่มึงทำอะไรนะ อ้อ เลี้ยงไก่ชน” ไอ้เต๋อสาธยายมาเป็นฉากๆ

“คือ เท็น กูพูดจริงๆ นะ เสียดายความฉลาดของมึงจริงๆ ว่ะ” ไอ้เขตบอกด้วยหน้าตาที่รับไม่ได้อย่างจริงจัง

“โอ้ย มีมากกว่านี้อีกพวกมึง เด็กในภาคกูคิดว่ามันเรียนผิดคณะด้วยซ้ำ เพราะมันอินดี้ไม่พอ ยังอาร์ตตัวพ่ออีกต่างหาก ถ้าวันดีคืนดีมันชวนมึงไปนั่งมองเป็ดแถวบึงของพวกเกษตรมึงก็ไม่ต้องตกใจไปนะ งานอดิเรกอย่างที่ร้อยของมันล่ะ” ไอ้เต๋อยังคงพล่ามต่อไป อืม จะว่าไปไอ้นี่ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ผมจริงๆ จัดตีนให้งามๆ สักสามทีดีมั้ยวะ

ผมปล่อยให้คนอื่นๆ ฟังไอ้เต๋อมันพล่ามไป ก่อนจะพาไอ้เมลขึ้นห้องมา มันยังดูมึนๆ งงๆ อยู่

“เป็นไรมากมั้ยมึง กลัวกูเหรอวะ”

“เปล่า ไม่ได้กลัว แต่ก็ ไม่รู้ดิ บอกไม่ถูก แล้วนี่ห้องนอนมึงเหรอ”

ไอ้เมลกวาดตามองไปทั่วห้อง ผมพามันเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินมาหาน้ำในตู้เย็นเล็กให้มัน

“เอ้า แดกๆ เข้าไป” ผมแนบกระป๋องโค้กกับแก้มไอ้เมล มันสะดุ้งนิดๆ แต่ก็รับไว้

เรานั่งเงียบกันอยู่สักพัก ผมก็จมอยู่กับความคิดตัวเอง นานแล้วที่ไม่ได้กลับมา ก็ตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งแล้วย้ายไปอยู่บ้านกับไอ้กัสไอ้ฟิว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม คงมีแต่ผมที่เปลี่ยนไป

“เท็น” เสียงไอ้เมลเรียกขึ้นเบาๆ

ผมหันหน้าไปมองมันที่ทำหน้าแบบเดาความคิดไม่ออก

“อะไร”

“เท็น”

“ว่าไง”

“เท็น”

ผมดึงไอ้เมลมากอดไว้ มันเป็นไรของมัน ทำไมต้องทำหน้าแบบนี้ใส่ผมด้วย ผมไม่ชอบเลย

“กูก็คือกูไม่ใช่รึไงเมล”

ไอ้เมลพยักหน้ากับไหล่ผม มันรัดตัวผมแน่น

“กูอยากเดินไปพร้อมๆ กับมึง แต่พอรู้ว่ามึงไปไกลเกินกว่าที่กูจะตามทันแล้วมันก็พูดอะไรไม่ออก”

“กูไปไกลที่ไหน ก็อยู่กับมึงนี่ไง กูก็เป็นนักศึกษาปีสองคณะวิศวะเหมือนมึง กูไม่มีอะไรต่างจากมึงเลยตอนนี้ อย่าคิดมากดิวะ”

“ขอโทษ”

“เรื่องอะไร หืมมม ว่าไง หรือเรื่องเด็กที่ทักไลน์มึงมาเมื่อเช้า”

ไอ้เมลหน้าเหวอทันที ผมเลยดีดหน้าผากมันก่อนจะจูบลงบนรอยแดงๆ ที่ดีดไป

“กูพูดเล่น หรือมีจริงๆ หือออออ”

“หึ กวนตีนเท็น”

ไอ้เมลเวลามันยิ้มความหล่อมันจะเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า เพราะฉะนั้นผมถึงอยากให้มันยิ้มบ่อยๆ ไม่อยากเห็นมันทำหน้าเศร้าเหมือนเมื่อกี้เลยจริงๆ

.
.
.

24 สิงหาคม....

ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ป๋ากำลังพาแม่นั่งเฮลิคอปเตอร์มา เราตกลงกันว่าจะปิดตาแม่ตั้งแต่ที่สนามบิน เพราะไม่อยากให้แม่รู้ว่าจะถูกพาไปที่ไหน

ผมไม่ได้เจอกับแม่มาเกือบปีแล้ว ตั้งแต่งานวันเกิดท่านเมื่อปีที่แล้วเราก็ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง

ผมรออยู่ครึ่งชั่วโมงไอ้กัสก็โทรมาบอกว่าป๋ากับแม่มากันแล้ว ป๋ากำลังพาแม่มาที่ห้องนอนของแม่ ที่ที่ผมสิงสถิตย์อยู่ ณ ตอนนี้ เสียงเปิดประตูเบาๆ  ผมรีบเดินไปที่ประตู ก่อนจะจับมือแม่มาวางไว้บนแขนตัวเอง

“อะไรกันคะคุณ เมื่อไหร่จะเปิดผ้าได้ซักทีคะ แล้วพามาที่ไหนกันคะ”

ผมพาแม่เดินมาหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่างที่สามารถเห็นสวนที่ผมทำไว้ชัดเจน ผมทำสัญญาณมือให้ป๋าปิดไฟในห้อง จนทั้งห้องมืดสนิท ก่อนจะแก้ผ้าผูกตาให้แม่

“ที่ไหนกันล่ะเนี่ย แล้วทำไมมืดอย่างนี้ล่ะ คุณคะ คุณอยู่ไหน”

“ลองมองไปตรงนั้นสิครับ”

“ใครน่ะ เท็นเหรอคะลูก ทำอะไรกันนะพ่อลูกคู่นี้...”

แล้วเสียงแม่ก็เงียบไป บริเวณรอบข้างที่มืดสนิทมีเพียงสวนที่ผมทำขึ้นเท่านั้นที่มีไฟส่องสว่าง

“สุขสันต์วันเกิดนะครับแม่ ปีนี้ธรรมดาไปหน่อย แม่ชอบมั้ยครับ”

แม่ผมเป็นผู้หญิงที่ขี้แยแต่เวลามีใครมารังแกผมก็จะกางปีกปกป้องอย่างไม่กลัวใคร แม่โผตัวเข้ามากอดผมไว้ ร้องไห้ออกมาเงียบๆ

“โธ่ ร้องไห้อย่างนี้ แม่ไม่ชอบเหรอครับ”

“ชะ..ชอบ ชอบมากเลยค่ะ เท็นแกล้งแม่อีกแล้วนะคะ”

“เท็นเปล่านะ แม่อยากไปดูใกล้ๆ มั้ย เท็นพาไป”

“ไปค่ะๆ แม่อยากไปยืนตรงกลางสวนเลย”

ผมกดส่งข้อความที่พิมพ์เตรียมไว้ในมือถือแล้วไปให้ไอ้กัส ให้มันจัดการดับไฟและซ่อนคนในงานไว้ ทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันดีครับ พอออกไปทั่วบริเวณก็เงียบกริบแล้ว ผมพาแม่เดินไปตามทางที่ทอดสู่ซุ้มประตูโค้ง ปล่อยให้แม่เดินเข้าไปยืนตรงกึ่งกลางสวน แม่หมุนตัวไปรอบๆ มองดูนั่นดูนี่อย่างสนใจ

“หลับตาสิครับแม่”

แม่หลับตาลงตามที่ผมบอก พอผมดีดนิ้วเป็นสัญญาณให้ไอ้กัส มันก็จัดการตามที่เตี๊ยมกันไว้ทันที

“ลืมตาได้แล้วครับคนสวย”

น้ำพุเล็กๆ พุ่งขึ้นมารอบสวนพร้อมกับไฟสลับสีที่ส่องมาจากใต้น้ำ น้ำตกที่ต้องจ้างพวกนักตกแต่งสวนมาทำให้ถึงสองวันก็สวยสมราคา มีน้ำตกลงมากระทบกับหินก้อนใหญ่ ก่อนจะตกลงสู่แอ่งน้ำขนาดเล็กแล้วไหลไปตามลำธารที่โอบล้อมสวนนี้ไว้ ผมจัดไฟไว้ที่ต้นดอกกุหลาบด้วย เลยเรียกเสียงกรี๊ดเบาๆ จากแม่ได้เป็นอย่างดี

“เท็น ขอบใจมากนะคะลูก แม่ชอบมาก แม่รักเท็นที่สุดเลย”

“เท็นก็รักแม่ครับ แม่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ นะ ถึงจะได้เห็นของขวัญวันเกิดที่เท็นตั้งใจทำให้ เท็นปลูกดอกกุหลาบทุกต้นเองเลย”

“เท็น” แม่กอดผมอีกครั้ง คราวนี้ร้องไห้ออกมาเสียงดัง

“ว้า...เจ้าของงานร้องไห้ซะแล้ว ทำไงดีล่ะเนี่ย ร้องเพลงปลอบใจดีมั้ยครับป๋า!!” ผมตะโกนถามออกไปเสียงดังๆ

เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงเพลงที่ทุกคนที่มางานช่วยกันร้อง ป๋าเดินเข้ามาพร้อมกับเค้กก้อนเล็กๆ

“Happy birthday to you Happy birthday to you Happy birthday Happy birthday Happy birthday…to…you”

“ดูซิ ลูกโตขนาดนี้แล้วยังขี้แยไม่เปลี่ยน ผมรักคุณมากนะรู้มั้ย อยู่กับผมไปนานๆ นะ สุขสันต์วันเกิดครับ อธิษฐานก่อนเป่าด้วย”
ซีนนี้ป๋าผมหล่อได้ใจไปเลย ผมยิ้มให้แม่ที่หันมามอง

“มีความสุขมากๆ ครับแม่ อยู่กับเท็นกับป๋าไปนานๆ เลยนะ”

เมื่อแม่เป่าเทียนดับ ก็หมายถึงสัญญาณเริ่มงานเลี้ยง

หลังจากนี้ก็หมดหน้าที่ผมแล้ว ปล่อยให้ป๋ากับแม่ไปรับแขกกันต่อ ส่วนผมก็แยกตัวมาอยู่กับเพื่อนๆ

“ไงเหี้ยเต๋อ ซึ้งจนน้ำตาไหลเลย” ผมแซวไอ้เต๋อที่รีบเช็ดน้ำตาออกทางหางตา

“เมื่อกี้กูหาวเว้ย ไม่ได้ซึ้ง วันเกิดแม่กูกูก็จะทำเซอร์ไพรส์แม่บ้าง ไม่ให้น้อยหน้ามึงแน่”

“ก็เรื่องของมึงสิ”

“ไอ้...”

ผมเลิกสนใจไอ้เต๋อ ก่อนจะหันมายิ้มให้ไอ้เมล มันลูบหัวผมแล้วยิ้มตอบกลับมา

“มึงสวยเหมือนแม่เลยเท็น”

“โวะ ไอ้ห่า ทำไมไม่บอกว่ากูหล่อเหมือนป๋าวะ”

“หึหึ อย่าทำหน้าบึ้งดิวะ”

กระโจมผ้าสองตัวตรงนี้พวกผมยึดพื้นที่ไว้แล้ว ก็นั่งกินนั่งดื่มกันไป จนป๋ากับแม่เดินเข้ามา ตามมาด้วยแม่บ้านที่ช่วยกันยกจานเค้กมาให้ ทุกคนถึงต้องวางเครื่องดื่มทุกอย่างแล้วยกมือไหว้ ผมเห็นไอ้เมลทำหน้าประหม่านิดหน่อย

“สวัสดีคร้าบบบบบบบบบบบคุณลุงคุณป้า ขอให้คุณป้ามีความสุขมากๆ นะคร้าบบบบ” เหมือนพวกมันเตี๊ยมกันมาเพราะพูดพร้อมกันเป๊ะ ป๋ากับแม่ผมหัวเราะออกมาเลยทีเดียว

ผมแนะนำเพื่อนๆ ให้ป๋ากับแม่รู้จัก เริ่มจากไอ้เต๋อที่นั่งข้างไอ้กัส ไปจนถึงไอ้เขตที่นั่งหัวโต๊ะอีกฝั่ง เว้นไอ้เมลไว้เพราะมันไม่ใช่เพื่อนผม ฮ่าๆ

“ค่ะ ขอบใจนะคะลูกๆ แม่ดีใจที่เท็นพาเพื่อนมางานของแม่ด้วย ฝากดูแลเท็นของแม่ด้วยนะคะ แล้วนี่ทานกันอิ่มมั้ยคะลูก ต้องการอะไรก็บอกเด็กได้นะคะ”

“ขอบคุณครับคุณป้า นี่ของขวัญจากพวกผมครับ ขอให้คุณป้ามีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงอยู่กับเท็นไปนานๆ นะครับ” ไอ้เมลยื่นกล่องของขวัญที่ห่อด้วยริบบิ้นสีสวยและติดโบว์อย่างดูดี

แม่ยิ้มแล้วรับของขวัญมาถือไว้ ไอ้เมลยิ้มเขินเล็กน้อย แหม พวกมึงนี่ช่างเลือกตัวแทนมอบของขวัญกันดีซะจริงๆ

“ขอบใจมากนะคะทุกคน ความจริงไม่ต้องมีของขวัญอะไรมาก็ได้ แค่ช่วยกันจัดงานให้แม่ แม่ก็ดีใจมากแล้ว”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกผมเต็มใจ แล้วจะปล่อยให้เท็นทำคนเดียวก็ไม่ได้ ชอบทำอะไรเกินตัว” ไอ้เมลพูด มันหันมายิ้มให้ผมในขณะที่แม่ลูบหัวมันเบาๆ

“แม่ดีใจที่เห็นเท็นมีเพื่อนดีๆ ตั้งหลายคน แล้วกัสกับฟิวเป็นไงบ้างคะลูก เท็นดื้อมากมั้ย”

“ดื้อมากครับคุณป้า ชอบหนีเที่ยวบ่อย บางครั้งก็หายไปเลยไม่ยอมบอกว่าไปไหน ตอนที่เท็นแอบมาจัดสวนให้คุณป้า ก็หายออกจากบ้านไปเป็นอาทิตย์ กลับมามือก็มีแต่แผล” ไอ้ฟิวได้ทีล่ะฟ้องใหญ่เลย

แม่น้ำตาคลอ มองผมก่อนจะก้มลงมากอด

“ไม่มีอะไรต้องห่วงครับแม่ เรื่องเล็กน้อย”

“ไม่เล็กเลย แล้วแม่ก็บอกเท็นแล้วว่าถ้าจะไปไหน ลูกต้องบอกกัสกับฟิวไว้ ทุกคนจะได้ไม่เป็นห่วง เข้าใจมั้ยคะ”

“แม่ ก็เท็นโตแล้ว ทำไมต้องวุ่นวายบอกเรื่องตัวเองให้คนอื่นรู้ด้วย”

“เท็น เชื่อที่แม่พูดเถอะน่า แล้วกัส ทำไมหนูไม่ใส่กระโปรงที่ลุงให้คนส่งไปให้ล่ะลูก” ป๋าพูดกับผมก่อนจะเปลี่ยนพิกัดไปที่ไอ้กัส มันนั่งตัวตรงแล้วยิ้มแหยๆ ป๋าก็เหมือนพี่เจ๋ง ที่ยังหน้ามืดตามัวเชื่อว่าไอ้กัสเป็นผู้หญิง

“คือหนูไม่ถนัดค่ะคุณลุง ไม่มีใครช่วยแต่งตัวด้วย หนูเลยว่าแต่งสบายๆ ดีกว่า”

เวลาได้ยินไอ้กัสมันพูดคะพูดขาแล้วจั๊กจี้หู ต่อหน้าพ่อแม่มัน กัสจังก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงที่แสนอ่อนโยน กลัวกระทั่งชิวาว่าตอนเห่า ความคิดนั้นถูกส่งตรงมายังสมองป๋ากับแม่ผมด้วย แต่ความจริงที่แสนโหดร้ายก็คือ ไอ้กัสมีเมีย และสามารถเตะชิวาว่าให้กระเด็นไปไกลได้ถ้ามาเห่าให้มันรำคาญ

“เป็นงั้นไป แล้วนี่เท็นมีแฟนยัง พวกลูกๆ รู้กันบ้างมั้ย หน้าอย่างลูกป๋านี่มีคนมาสนใจบ้างรึเปล่า”

เห็นพวกเพื่อนๆ ลอบมองตากัน และไอ้เมลที่นั่งอยู่ข้างผมก็เกร็งขึ้นมาทันที

“มีแล้วป๋า” ผมตอบ

ก็ไม่เห็นต้องปิดบังอะไร ป๋ากับแม่ผมเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย อีกอย่างแม่ก็อยากให้ผมมีแฟนมาตั้งนานแล้ว แม่คงไม่สนใจหรอกว่าแฟนผมจะเป็นใคร แค่ให้ผมสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเองก็พอ

“จริงเหรอคะลูก เป็นใครมาจากไหนคะ ลูกเต้าเหล่าใคร เท็น ไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ยคะ โอ้ยยย ตายแล้วค่ะคุณ ลูกชายฉันมีแฟนแล้ว”

คือ ถ้าแม่กรี๊ดได้ก็คงกรี๊ดไปแล้วล่ะ

“แม่กังวลอยู่ตั้งนาน กลัวเท็นจะต้องอยู่คนเดียว เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”

เพราะคำถามของแม่ผมทำให้คนอื่นๆ พากันอ้าปากค้าง ยกเว้นไอ้กัสกับไอ้ฟิวที่รู้นิสัยแม่ผมดี

“ผู้ชายแม่ หล่อป้ะ คนนี้อ่ะ ชื่อเมล” ผมจับหน้าไอ้เมลยื่นไปให้แม่ดู มันร้องเฮ้ยเบาๆ แถมยังทำหน้าได้โคตรตลก

“เท็น เบาๆ สิคะ เจ็บมั้ยคะน้องเมล ว่าแต่อายุเท่าไหร่ ส่วนสูง น้ำหนัก กรุ๊ปเลือด ความชอบ หรืออะไรก็ได้ บอกมาให้หมดเลยค่ะ แม่อยากรู้ คุณคะ ทำยังไงดี เท็นมีแฟนแล้ว”

ถ้าแม่จับไอ้เมลไปเข้าเครื่องสแกนได้แม่คงทำไปแล้ว ไอ้เมลหันหน้ามาทางผมเหมือนขอคำอธิบาย มันดูเขินๆ ยังไงชอบกล
ป๋าเลิกคิ้วมองผม ก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่ไอ้เมล

“ไปกันเถอะคุณ ตอนนี้ต้องไปคุยกับแขกคนอื่นก่อน เราหายมานานแล้ว”

“แต่คุณคะ ฉันอยากอยู่คุยกับพวกเด็กๆ ต่อ”

“ไม่ได้ คุณต้องไปกับผม”

แม่เดินจากไปด้วยหน้าตาที่เสียดายอย่างสุดซึ้ง ผมหัวเราะเบาๆ แต่ไอ้เมลกับชาวคณะยังไม่หายตกใจ

“มึงไม่ต้องคิดมาก แค่กูมีแฟนแม่ก็ดีใจมากแล้วล่ะ จะหญิงหรือชาย ถ้ากูรัก ก็ไม่มีปัญหานี่ ใช่ป้ะ”

“คือ กูไม่คิดว่า เอ้อ เหมือนป๋ามึงจะรับไม่ได้” ไอ้เมลบอกหน้าตากังวล

“เมลอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ” ไอ้ฟิวช่วยพูดอีกแรง เพราะงั้นสีหน้ามันเลยดีขึ้นมา

ผมผลักหัวไอ้เมลเล่น เห็นไอ้ฟิวมองมาด้วยสายตาเศร้าๆ แต่พอผมหันไปเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มันก็แค่ส่ายหน้าแล้วหันกลับไปสนใจกับขนมเค้กในจานต่อ

“ชีวิตมึงมีอะไรให้พวกกูตกใจอยู่เรื่อยนะเหี้ยเท็น ไม่มีใครกล้าเปิดตัวแฟนอย่างมึงหรอกเว้ย ดีนะที่ป๋ากับแม่มึงไม่ช็อค” ไอ้ลินตะโกนมาจากอีกฟากหนึ่งของโต๊ะตัวยาว

“อ้าว แปลกตรงไหนวะ ก็นี่แฟนกูอ่ะ ไม่เห็นต้องปิดบังใคร ถามมาก็ตอบไป แค่นั้น”

“มาอีกละ ไอ้วลีแปลกตรงไหนของมึงเนี่ย! กูล่ะเพลีย” ไอ้เต๋อทำหน้าเพลียจริงๆ จนคนอื่นๆ หัวเราะกับหน้าตลกๆ ของมัน

ผมนั่งมองบรรยากาศรอบงาน ในขณะที่พวกเพื่อนๆ ก็กินกันไปคุยกันไป เรื่องบอลบ้าง เรื่องผู้หญิงบ้าง หมาที่บ้านตายบ้าง ตามแต่จะขุดมาพูดกัน

และเพราะมันต่างจากทุกๆ ปี ผมถึงอยากเก็บภาพความทรงจำนี้ไว้ ปีก่อนๆ ผมไม่มีใครที่อยากเชิญมา กัสกับฟิวก็ต้องมากับครอบครัวพวกมันอยู่แล้ว แต่ปีนี้ผมมีเพื่อน มีคนรักที่อยากจะแนะนำให้ป๋ากับแม่รู้จัก

ผมไม่ได้อยู่คนเดียวให้แม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้วนะครับ...เป็นของขวัญวันเกิดอีกชิ้นที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้ แต่คิดว่าแม่คงชอบมากเหมือนกัน


..................To be continue......................

 :กอด1: :กอด1: มาถึงตอนนี้ ใครพอจะเข้าใจว่าเท็นเป็นคนแบบไหนบ้างคะะะะ ถ้าเข้าใจคุณจะรู้ว่าเพราะนิสัยนี้แหละที่จะทำให้อะไรๆ มันยุ่งยากขึ้นนนนนน แต่อย่าเบื่อ หรือเอือมเขาเลยนะคะ

ฝากติดตามกันต่อไป  :pig4: :pig4:

ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่  :pig2:
และกอดด้วยความห่วงใยสำหรับนักอ่านขาประจำ  :-[ :oo1: อุ่ยย ผิด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-09-2013 18:10:53
แม่ถามมา ลูกก็ตอบตรงๆ เปิดตัวลูกเขยแล้ว
นิสัยเท็นที่เป็นแบบนี้ จะมีไรตามมาอีกไหม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 07-09-2013 18:14:43
เปนครอบครัวที่น่ารักมากอ่ะ


ชอบเมล-เท็นมากอ่ะๆๆๆๆๆ :L1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-09-2013 18:23:29
เมื่อเท็นทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ คุณแม่ย่อมปลื้มเป็นธรรมดา  :impress2:
ชีวิตดูเข้ารูปเข้ารอย แต่ทำไมคนเขียนบอกเหมือนจะมีเรื่องยุ่งๆน้อ  :katai1:
มายด์หายไปเลย ไม่มารับผิดชอบฟิวเลยเน้อ :m16:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 07-09-2013 19:29:13
คือติดใจตั้งแต่กัสบอกเท็นว่ารอยที่คอฟิวยังใหม่ๆ อยู่
ทั้งๆ ที่จากวันนั้นก็ผ่านมาประมาณสองอาทิตย์ละ
แปลว่าอะไร มายด์ตอบด่วน ไม่ใช่ว่ามาบังคับขืนใจฟิวอีกนะ
แต่ในงานก็เห็นทั้งคู่ทำตัวปกติดีนี่นา หรือเราคิดไปเอง

อ่านตอนเมลคุยกับเท็นในห้อง ก็รู้สึกอึนๆ ไงไม่รู้
แอบสงสารเมลนิดๆ  :mew3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 07-09-2013 19:53:41
แหม่ เปิดตัวลูกเขยซะแล้ว
ไอ้กร๊วกมายด์ไม่รับผิดชอบไรเลยนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 07-09-2013 20:09:32
นับถือเท็น :call:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 07-09-2013 20:17:21
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 07-09-2013 21:47:45
เท็นนนนนายจบเอกตอน ม.1 เนี่ยนะสุดยอด!!!!!//ชอบๆๆเท็นตรงไปตรงมาดีเปิดตัวแฟนได้เยี่ยมเลยทีเดียวววววว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 07-09-2013 21:56:02
ชอบคุณแม่ของเท็น ไอดอลในดวงใจ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 07-09-2013 22:20:27
เป็นคนประเภทแปลกตรงไหน?

คือ สำหรับเรามันไม่แปลกอะ แต่มองจากคนในสังคมที่มีกรอบพฤติกรรมแบบไทยๆ คงโคตรแปลกอ่ะ = =

ที่จริงเราแคร์แค่คนที่รักเราและเรารักก็พอแล้ว คิดมากไปก็ยุ่งยากเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 08-09-2013 02:24:32
 :ruready แรงส์มากอ่ะเท็น เปิดตัวได้แรงจิงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 08-09-2013 06:47:27
 :pig4: :L1: :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 08-09-2013 08:34:34
คุณแม่เท็นน่ารักจังค่ะ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 08-09-2013 17:24:00
สนุกอ่ะ  รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 08-09-2013 19:27:24
 :impress:  เอ้อ .......... เท็นเปิดเผยดีเนอะ :HBD3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 08-09-2013 19:42:12
ชอบมาก รอตอนต่อไปจ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 08-09-2013 22:05:26
 :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 09-09-2013 19:04:55
ตอนที่ 18

“นี่เมล เมลรู้มั้ยว่าไอ้มายด์ไปทำไมที่บ้านบ่อยๆ”

ผมกำลังเข้าครัวทำอาหารเช้าอยู่ก็นึกขึ้นได้ว่าไอ้กัสบอกช่วงนี้ไอ้มายด์มันเข้าออกที่บ้านผมบ่อยเหลือเกินให้ถามเมลให้หน่อยว่ารู้อะไรบ้างมั้ย ผมก็รับปากมันมาได้สองวันแล้วแต่ก็ลืมทุกที

จะว่าไปคนบุคลิกอย่างไอ้มายด์ไม่น่ามีธุระอะไรกับคนในบ้านผมหรอก ถ้าเป็นไอ้ลินก็ว่าไปอย่าง อืมมม ไอ้กัสมันจะสงสัยก็ไม่แปลก

“เห็นว่ามันไปขอให้ฟิวติวภาษาซีให้ มีควิซมั้ง” ไอ้เมลเทนมใส่แก้วเสร็จก็หันมาบอกผม

“อือ แปลกใจนะที่เห็นคนอย่างมันรักเรียน หึหึ”

ผมเลื่อนถ้วยข้าวต้มกุ้งไปตรงหน้าไอ้เมล แล้วยืนพิงขอบโต๊ะลูบหัวมันเล่น

“ก็คงไม่อยากเอฟอีกรอบ แล้ววันนี้เท็นออกไปไหนป้ะ”

“ไป นัดกับไอ้แม็คจะไปดูพันธุ์กล้วยไม้”

หลังจากมีข้อแลกเปลี่ยนกันเล็กๆ น้อยๆ กับไอ้แม็ค วันนี้มันก็เต็มใจโดดเรียนพาผมไปโรงเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ของตามัน คือช่วงนี้ผมสนใจอยากเลี้ยงอยู่ แต่ยังขาดความรู้และพันธุ์กล้วยไม้ดีๆ

“ทั้งวันเลย?”

“ก็คงไม่ ไปเฉพาะช่วงเช้า ตอนบ่ายจะไปสนามยิงปืน”

“แล้วมหาลัย จะไม่ไปเลยเหรอวันนี้” ไอ้เมลส่งสายตาออดอ้อนมาให้

ผมเลยก้มลงไปจูบหน้าผากมันหนึ่งที“ตอนเย็นไง ไปรับเมล ดีมั้ย”

“มันก็ดีอยู่หรอก แต่อยากให้ไปเรียนด้วยกันมากกว่า”

ผมลูบแก้มไอ้เมลอย่างไม่สบายใจ มันชอบทำสีหน้าแบบนี้อยู่เรื่อย ผมตามใจมันตลอดไม่ได้หรอก เพราะผมก็มีสิ่งที่ผมอยากทำ แต่พอไม่ตามใจก็เป็นแบบนี้

“อร่อยมั้ย”

“เปลี่ยนเรื่องอ่ะ”

“อร่อยมั้ยเมล”

“อือ”

“ดีแล้ว กินเยอะๆ กูไปนะ”

“ขับรถดีๆ ด้วย”

“จ้าาา”

ต่อให้ไอ้เมลจะทำหน้าไม่สบอารมณ์แค่ไหน แต่พอผมก้มลงจูบปากมัน มันก็จูบตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ...ก็เพราะมันเป็นแบบนี้ ผมถึงค่อยๆ เสียความเป็นตัวเองมากขึ้นทุกวัน

.
.
.

“เหี้ยเท็น มึงไปคุยกับกูหน้าร้านหน่อย” เพราะหน้าไอ้กัสมันจริงจังมากแบบที่ในชีวิตนี้พวกไอ้เต๋อเพิ่งเคยเห็น พวกมันเลยนั่งสงบปากไม่ถามอะไร ปล่อยให้ผมเดินตามไอ้กัสไปหน้าร้านพี่เจ๋งอย่างเงียบๆ

พอมาถึงหน้าร้าน ผมก็ยืนคอย แต่ไอ้กัสก็เอาแต่ยืนดูดบุหรี่ หน้าตามันดูเครียดๆ เหมือนตอนสมัยมันเรียนมัธยมที่พ่อมันกับป๋าผมจะให้เราสองคนหมั้นกัน

“มึงถามไอ้เมลยัง เรื่องไอ้มายด์น่ะ”

“อืม มันบอกว่าไอ้มายด์ไปให้ไอ้ฟิวติวภาษาซี”

ไอ้กัสทำหน้าเหมือนว่าผมกำลังล้อมันเล่น

“หึ ติวกันหลายท่าเลยล่ะพวกมัน”

ผมขมวดคิ้วมองไอ้กัสที่อัดควันเข้าไปเต็มปอด

“มึงรู้มั้ยว่าทุกคืนที่กูนอนบ้านกูเห็นอะไร...”

ผมจะไปรู้กับมันได้ไง ช่วงนี้ผมก็นอนคอนโดไอ้เมลซะส่วนใหญ่ ผมเลยส่ายหน้า รอให้มันเฉลยคำตอบ

“ไอ้มายด์กับไอ้ฟิวกำลังมีอะไรกัน”

“มึงหมายความว่า...”

“พวกมันมีเซ็กส์กัน กูเห็นกับตาตัวเอง ได้ยินกับหูกูด้วย”

ผมแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ตกใจหรือมองว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ การมอบความพอใจให้ใครสักคน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนะสำหรับผม

“แล้วไงวะ มันก็เรื่องของไอ้ฟิว ถ้ามันจะมีอะไรกับใคร”

“ถ้าทุกครั้งไอ้ฟิวจะไม่แอบร้องไห้คนเดียว กูจะไม่ยุ่งเลยเท็น มึงว่ามันไม่แปลกรึไงที่คนอย่างไอ้ฟิวจะยอมนอนกับคนที่มันไม่รัก มึงก็รู้ว่ามันรักไอ้เมล รักมาตั้งเป็นปี แล้วจะทำใจได้แค่ไม่กี่สิบวันนี่นะ ตลกแล้ว”

ก็ถูกของไอ้กัส แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะผมว่า ปุบปับเราจะเข้าไปแทรกเลยได้ที่ไหน ไม่รู้อะไรสักอย่างแล้วจะเข้าไปยุ่งอาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

“เอาเถอะ รอดูไปก่อน ปล่อยให้มันได้จัดการชีวิตมันเอง ถ้าไม่ไหวขึ้นมา ตอนนั้นก็ให้เป็นหน้าที่เรา”

“จะดีเหรอวะเท็น”

“เออน่ะ ชีวิตตัวเองถ้าไม่จัดการด้วยตัวเอง จะไปสนุกอะไรวะ ไปๆ เข้าร้าน”

“แต่ไอ้ฟิวมันร้องไห้นะเท็น”

ผมหยุดขาที่กำลังจะก้าวเดินไปที่ประตูแล้วหันกลับไปมองไอ้กัส หน้าตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของมันทำให้ผมต้องยื่นมือไปผลักหัวมันเบาๆ

“ชีวิตนี้ใครก็เคยร้องไห้ และมึงก็ไม่ได้มีหน้าที่ตามเช็ดน้ำตาให้มันตลอด มันต้องเช็ดน้ำตาด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่มึงหรือใครที่จะอยู่กับมันไปได้ตลอดชีวิต มีแต่ตัวมันเองเท่านั้น”

“กูก็เข้าใจอยู่หรอก”

“ถ้ามันยังไม่มาร้องไห้ต่อหน้าพวกเรา กูก็คิดว่าตอนนี้มันยังไหว ไม่มีอะไรต้องห่วง”

ผมเดินกลับเข้ามาในร้านก็เห็นพวกไอ้เต๋อนั่งหน้าสล่อนเหมือนรอตั้งคำถามอยู่แล้ว แต่ผมส่ายหน้าไม่ให้พวกมันพูดหรือถามอะไร พวกมันก็เหมือนจะเข้าใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่วายซุบซิบกันเสียงดังให้ผมได้ยิน

“มีความลับว่ะ กูว่าไอ้กัสมันต้องสารภาพรักกับไอ้เท็นแน่ๆ มันอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ารักไอ้เท็น มึงก็เห็นหน้ามันตอนเดินออกไป กูว่าต้องใช่แน่ๆ ร้อยวันพันปีไอ้กัสมันเคยทำหน้าแบบนั้นที่ไหน” ไอ้เต้ทำมือป้องปากขยับเข้าไปพูดใกล้หูไอ้เต๋อที่พยักหน้าทุกครั้งที่ไอ้เต้เว้นจังหวะหายใจ

“ไม่แน่หรอกพวกมึง อาจจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย อย่างเรื่องแย่งผู้หญิงกันแล้วไอ้กัสขอเคลียร์อะไรแบบนั้น มึงก็รู้ เหี้ยเท็นต่อให้มันมีผัวเป็นตัวเป็นตน แต่สันดานเจ้าชู้ของมันก็ยังอยู่ คราวนี้อาจคั่วหญิงคนเดียวกันกับไอ้กัสก็ได้” ไอ้แม็คพูดขึ้นอีกหนึ่งความเห็น

เออนะ พวกมันก็คิดไปได้ พูดกันตรงนี้ผมไม่โกรธนะ แต่ถ้าไปพูดให้ไอ้เมลได้ยินล่ะก็ เพื่อนก็เพื่อนเถอะ กูสั่งเก็บ -_-

และก่อนที่ไอ้คิมมันจะทันได้พ่นอะไรออกมา ไอ้กัสก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ พาน้องแฟร์แฟนคนล่าสุดของมันมาด้วย

“ป๊าดดดดดดดด ไอ้กัส นี่น้องแฟร์ที่กูเคยเห็นควงกับไอ้เมฆาเดือนถาปัตย์นี่! มึงไปแย่งเขามาเหรอ!” ไอ้เต้หน้าหงายไปทันทีที่ไอ้เต๋อกับไอ้แม็คพร้อมใจกันปิดปากมัน

ไอ้เต้แม่งปากเปราะ แถมยังปากไว น้องแฟร์หน้าเสียไปเลย

“เอ่อ แฟร์กับพี่เมฆาไม่เคยเป็นแฟนกันค่ะ เราเป็นแค่พี่น้องกัน”

ก็ว่ากันไปตามนั้นล่ะครับ ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าน้องแฟร์จะเป็นใคร สวยระดับไหน หรือผ่านชายใดมา สนใจแค่ว่าน้องจะอยู่ในโปรโมชั่นไอ้กัสได้สักกี่วัน เพราะน้องดิวรายล่าสุดทำสถิติได้ถึงหนึ่งเดือนกับอีกสองวัน ก่อนจะต้องเลิกลากันไปด้วยเหตุผลที่ว่าน้องสวยเกินไป พี่อยากคบกับคนธรรมดาไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์

บอกเลยครับว่าไอ้เต๋อกับไอ้แม็คหมั่นไส้ไอ้กัสมาจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ -_-

“ไอ้เมลไปไหนล่ะวันนี้ ไม่เห็นตามมาเฝ้ามึง” ไอ้เต๋อที่ส่งรังสีอิจฉาไปให้ไอ้กัสจนพอใจแล้วก็หันมาถามผม

“ฟองเบียร์ งานวันเกิดเพื่อนมัน”

“อ้าว แล้วทำไมมึงไม่ไปกับมัน”

“ไปทำไมวะ ไม่ใช่เพื่อนกู”

ไอ้เต๋อทำหน้าเอือมระอาใส่ผมก่อนจะหันไปทำหน้าเป็นเด็กขี้อิจฉาใส่ไอ้กัสต่อ

ผมใช้นิ้วคนน้ำแข็งในแก้วพลางก็นึกไปถึงหน้าหงิกงอของไอ้เมลเมื่อผมไม่ยอมไปงานวันเกิดเพื่อนมัน ไอ้เมลมันมีเพื่อนต่างคณะเยอะ และไม่จำเป็นที่ผมต้องรู้จักทุกคน ใช่เรื่องของผมที่ไหนล่ะ

ผมนั่งดื่มนั่งคุยกับเพื่อนๆ จนถึงตีสองไอ้เมลก็มารับ กลับไปคอนโดมันก็ไม่ทำอะไรนอกจากกิจกรรมเข้าจังหวะ คือเวลาต่างคนต่างเมาแล้วดึงดูดกันแปลกๆ ผมไม่ได้เมาเหล้าเหมือนไอ้เมลเพราะปกติผมจะดื่มแค่พอกรึ่มๆ ให้ยิ้มง่ายหัวเราะคล่องแค่นั้น แต่เป็นไอ้เมลต่างหากที่ทำให้ผมเมา

“ฟิวกับไอ้มายด์คบกันเหรอเท็น”

ผมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจกับคำถาม ก่อนจะดึงหน้าไอ้เมลให้ออกห่างจากอก

“ไม่รู้นะ ทำไมเหรอ”

แล้วไอ้เมลก็เล่าให้ฟังว่างานวันเกิดเพื่อนมัน ไอ้มายด์มากับไอ้ฟิว เพื่อนที่มันว่าก็คือไอ้เมฆาเดือนถาปัตย์ที่ไอ้กัสไปแย่งแฟนมันมานั่นแหละครับ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ไอ้มายด์มากับไอ้ฟิว แต่ปัญหาอยู่ที่ไอ้มายด์มันชกกับไอ้เมฆาเพราะไอ้ฟิวต่างหากล่ะ -_-

“ศึกชิงนาย”

“เหมือนจะอย่างนั้น เคลียร์กับไอ้เมเสร็จไอ้มายด์ก็ลากฟิวออกจากร้านไปเลย อาาา คลายหน่อยเท็น อืมมมม ดีครับ”

“อีกนิดเมล ลึกอีก... อ่าาาา อ๊ะ...อา..อาาา เดี๋ยวเท็นคุยไลน์กับกัสแป๊บนะ เมลเอามือถือมาให้หน่อย”

ไอ้เมลพยักหน้า เอื้อมไปหยิบไอโฟนบนโต๊ะข้างหัวเตียงมาส่งให้ผมแล้วก็ทำกิจกรรมของมันต่อไป

ผมปรับเปลี่ยนท่าตามที่ไอ้เมลบอกส่วนมือก็พิมพ์ข้อความไปหาไอ้กัสให้มันกลับบ้านไปดูว่าไอ้ฟิวกลับถึงบ้านหรือยัง ดีที่คืนนี้มันพาน้องแฟร์ไปเยี่ยมชมห้องนอนมัน ผมเลยรอคำตอบไม่นาน ไอ้กัสบอกเห็นรถไอ้มายด์จอดอยู่ในโรงรถ เคาะเรียกไอ้ฟิวแล้วซึ่งไม่มีเสียงขานตอบ แต่ไอ้กัสก็ยืนยันกับผมว่าไอ้ฟิว อยู่ในห้องเพราะมันได้ยินเสียง ดูจากสติ๊กเกอร์รูปหมีทำหน้าเขินแล้วคงไม่ต้องเดาว่าเสียงอะไร

เอาเถอะ ไอ้ฟิวกลับถึงบ้านก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องอื่นผมไม่สนใจ...

.
.
.

“อ้ายยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนน คัมมอนนนนพลีสสสสสสสสส”

ผมเพิ่งปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังมาแต่ไกล หันไปมองก็เห็นไอ้ซิงวิ่งหน้าตั้งใกล้เข้ามา

“แฮ่ก แฮ่ก โอ้ยยยย เหนื่อยยยยย กูนึกว่าวันนี้มึงจะไม่มาซะแล้ว ติวให้กูหน่อย ขอแบบหลักสูตรเร่งรัด ไอ้เม้งภาคเครื่องเพิ่งบอกกูมาว่าบ่ายสามอาจารย์จะควิซ”

ผมสำรวจไอ้ซิงตั้งแต่หัวจรดเท้า ในมือมันยังถือแผ่นเกมจีบสาวทูดีอยู่เลย

“ใบงานกูมึงทำให้หมดรึยัง”

“เรียบร้อยเพื่อน กูลอกไอ้ฟิวให้แบบไม่มีตกหล่น”

“ดีมาก แล้วรายงานกู”

“ส่งครบหมดทุกเล่ม ตามที่ไอ้ฟิวร่างไว้ให้เป๊ะ”

“เยี่ยม งั้นมึงเลือกสถานที่ได้ เดี๋ยวกูเอาขนมไปให้แฟนกูแป๊บ แล้วตามไป”

“อุ้ยยยย มึงมีแฟน”

ผมเหลือบตามองหน้าไอ้ซิงนิ่งๆ จนมันหน้าจ๋อยสนิท ตอนนี้ไอ้ซิงมันขึ้นสถานะเบ๊ผมโดยสมบูรณ์แล้วนะครับ งานหลวงงานราษฎร์ที่ผมไม่อยากทำก็โยนไปให้ไอ้ซิงโดยมีไอ้ฟิวกำกับดูแลอีกที อย่างนี้ผมก็เบาใจที่ไม่ต้องฟังไอ้ฟิวบ่น แถมยังมีงานส่งครบอีกต่างหาก

“งั้นมึงตามไปที่หอสมุดนะ กูไปรอที่นั่น”

“เออๆ”

หลังจากไอ้ซิงวิ่งหางจุกตูดออกไปไกลแล้วผมก็เดินถือถุงใส่กล่องโดนัทไปที่หน้าตึกเลคเชอร์ของคณะ ไอ้เมลมันคงสิงอยู่ที่นั่นเพราะต้องรอเรียนเลคเชอร์วิชาเซอกิต ผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ หึ ก็ตอนที่กำลังนั่งมองน้องเป็ดอยู่ริมบึงผมก็ได้รับโทรศัพท์จากมันที่พูดด้วยเสียงออดอ้อนว่าอยากกินโดนัท ถ้าไม่ได้กินจะตายภายในสามนาที ผมเลยต้องลำบากขับรถไปซื้อให้แล้วกลับเข้ามอเอามาให้มันนี่ไง

“โหยยยยย เหี้ยเท็น มึงซื้อมาประชดรึเปล่านี่” ไอ้ลินทำตาโตร้องทัก

“เปล่า กูกลัวมันจะแดกไม่อิ่มแล้วดิ้นตายขึ้นมา ขี้เกียจหาผัวใหม่” ผมบอกพลางจิกตามองไปทางไอ้เมลที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

“ไอ้เมลมันแค่อยากเห็นหน้ามึงเลยหาข้ออ้างไปเรื่อย แค่มึงมาให้มันเห็นหน้ามันก็อิ่มแล้วล่ะ” ไอ้เขตทำหน้าเอือมระอาใส่เพื่อนมันแล้วหันมารับกล่องโดนัทไปจากผม

“กินให้หมดนะ แล้วก็ตั้งใจเรียน” ผมผลักหัวไอ้เมลไปสองทีติด มันยิ้มแล้วจับมือผมไว้

“ไม่คิดว่าจะซื้อมาให้ เท็นมีเรียนมั้ย ถ้าไม่มีอยู่กับเมลนะ”

ผมไม่รู้จะยิ้มหรืออะไรดี เพราะไอ้เมลมันน่ารักมากแต่มันก็บ้ามากเช่นกัน พวกเพื่อนๆ บอกว่ามันป่วยเป็นโรคเท็นลิซึ่ม อาการจะปรากฎก็ต่อเมื่อขาดการติดต่อจากผมเกินสองชั่วโมง แถมโรคนี้ถ้าไม่ได้รับการเอาอกเอาใจอย่างถูกวิธีแล้วจะเป็นอันตรายถึงชีวิต หมายถึงชีวิตผมนะ ไม่ใช่ชีวิตไอ้เมล -_-

“กูว่าเอาไอ้เท็นไปเลี่ยมใส่กรอบทองให้มันห้อยคอดีมั้ยมึง อาการหนัก” ไอ้แต้มหันไปขอความเห็นจากไอ้ลินที่เปิดกล่องกินโดนัทเป็นคนแรก

ให้ไอ้เมลมันกินก่อนไม่ได้ไงวะ อุตส่าห์ซื้อมาให้มัน -_-

“นัดกับเพื่อนไว้หอสมุดแล้ว เมลเลิกเรียนก็ไปหาที่นั่น โอเคมั้ย”

“เพื่อนคนไหน”

“เพื่อนในสาขาเดียวกันนี่แหละ”

“บอกชื่อดิเท็น”

ผมยักคิ้วให้หน้าบึ้งๆ ของไอ้เมล หึ ดูมัน ชักหนักขึ้นทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่รู้สึกรำคาญมันเลย ผมกลับชอบที่เห็นมันเป็นแบบนี้

“ไม่บอก หึหึ ไปนะ แล้วเจอกัน”

ไอ้เมลมันน่าแกล้ง ถึงมันจะบอกว่าเชื่อใจผมแต่มันก็ตามเช็คนั่นนี่ไม่มีหยุด ไม่รู้มันกลัวอะไรในเมื่อมันเป็นผู้ชายที่ใครๆ ก็อยากได้ไปเป็นแฟน ผมต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว

ผมไปถึงหอสมุดก็เห็นไอ้ซิงนั่งรออยู่ที่ม้านั่งตรงทางเข้าแล้ว พอผมไปถึงมันก็จัดการเอากระเป๋าผมไปเก็บให้ที่ล็อคเกอร์ บริการดีประทับใจ นี่ถ้ามันหาพรมแดงมาปูให้ผมเดินได้มันก็คงทำ

“ความจริงมึงให้ไอ้ฟิวติวให้ก็ได้ กูฝากมึงไว้กับมันแล้ว” ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ เพราะอยู่ในหอสมุดใช้เสียงมากไม่ได้ครับ

ไอ้ฟิวมันเรียนดีระดับหนึ่งแล้วก็ขยันด้วย ไม่งั้นทั้งใบงานและรายงานของผมคงไม่ได้คะแนนเกือบเต็มทุกครั้งหรอก ซึ่งการฝากไอ้ซิงไว้กับไอ้ฟิวนั้นผมไม่ได้ปัดความรับผิดชอบในเบ๊ของตัวเอง แต่เพราะผมมาเรียนตามอารมณ์ที่ส่วนใหญ่แล้วไม่อยากมา ไอ้ซิงเลยตามหาตัวผมได้ยาก ไอ้ฟิวที่เข้าใจในจุดนี้ก็รับหน้าแทนผมในการช่วยเหลือมันมาตั้งแต่มันไปเป็นตัวตายตัวแทนให้ผมในค่ายระบบสมองกลฝังตัว

“ช่วงนี้ไอ้ฟิวไม่ค่อยมีเวลาให้กูเลยมึง” ไอ้ซิงพูดพลางทำหน้าเหมือนเมียกำลังมีชู้

“ทำไมวะ”

“ก็มีไอ้หน้าหล่อภาคไฟมานั่งเฝ้า กูเข้าไปหามันทีไรเป็นได้โดนจ้องอย่างกะจะขู่ฆ่าอ่ะ กูไม่เคยมีเรื่องกับมันเลยนะ”

ไอ้หน้าหล่อภาคไฟคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้มายด์ เพราะงั้นเมื่อกี้ถึงไม่เห็นมันนั่งเสนอหน้าอยู่กับพวกไอ้เขต

“เออ เอาเถอะ แล้วมึงไม่เข้าใจเรื่องไหน”

ไอ้ซิงยิ้มหวานมองหน้าผมก่อนจะไล่เรียงหัวข้อให้ฟัง

“ก็ไม่กี่เรื่องอ่ะครับท่าน อินทิกรัลไม่จำกัดเขตนี่ทฤษฏีกูพอโอเคนะ แต่พอเจอโจทย์ปุ๊บกูงงเลย แล้วอินทิเกรตฟังก์ชันพีชคณิต ตรีโกณมิติ ไฮเพอร์บอลิกนี่ กูไม่เข้าใจตั้งแต่ต้นเลยอ่ะ”

“ไม่กี่เรื่องพ่องงงงง มึงบอกกูมาว่าบทนี้ทั้งบทมึงไม่เข้าใจเลยก็คงจะไม่เสียเวลา ทีภาษาญี่ปุ่นล่ะอ่านคล่องอย่างกะเป็นภาษาแม่”

ไอ้ซิงมันไม่ได้โง่หรอกครับ มันเล่นเกมจีบสาวเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นของมันซะจนอ่านฟังภาษาญี่ปุ่นได้โดยปริยาย นี่ถ้ามันสนใจเรียนบ้างก็คงจะไม่เอฟเป็นสองสามรอบอยู่อย่างนี้หรอก

“ก็กูไม่ชอบวิชาคำนวณอ่ะ”

“เรื่องของมึงเถอะ”

ผมติวให้ไอ้ซิงจนถึงเที่ยงไอ้เมลก็ไลน์มาบอกให้ไปกินข้าวกับมัน ผมกับไอ้ซิงที่ดูเหมือนสมองจะรับอะไรไม่ไหวแล้วเลยแยกย้ายกันไปคนละทาง ตอนแรกมันก็ขอจะเลี้ยงข้าวแต่ผมบอกจะไปกินข้าวกับแฟนมันเลยบอกจะเลี้ยงเหล้าแทน คืนนี้ให้ผมไปเจอมันที่สบายตังค์เพราะมันนัดพวกไอ้เต๋อไว้แล้ว

“ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน” ไอ้ลินพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าผม

“ยามชังน้ำตาลยังว่าขม” ไอ้แต้มปิดท้ายประโยค

ผมนั่งลงข้างๆ ไอ้เมล มันซื้อราดหน้ากับชาเขียวรสเก๊กฮวยไว้ให้แล้ว เหลือแค่เคี้ยวและป้อนเข้าปากผมเท่านั้นที่มันยังไม่ทำให้ -_-

“คืนนี้นอนบ้านนะ” ผมบอกพลางตักหมูให้ไอ้เมลแล้วเอาผักคะน้าจากจานมันมากิน ไอ้นี่เห็นหล่อๆ แต่กินยาก ผักนั่นก็ไม่กิน นี่ก็ไม่แตะ มันเรื่องมากเอาเรื่องอยู่นะครับไอ้เมลน่ะ

“ไม่เอา วันเสาร์ค่อยกลับดิ”

นี่มันจะรู้มั้ยเนี่ยว่าผมแค่บอก ไม่ได้ขออนุญาตหรือถามความเห็นมัน

“กูไม่ได้กลับไปนอนบ้านนานแล้วนะเมล แค่คืนสองคืนเอง”

“ไม่ ไม่ให้ไป”

ชักเพลียละ ไอ้เมลเหมือนยิ่งตามใจมันก็ยิ่งเหลิง

“เมล”

“ก็บอกว่าไม่ให้ไปไงเท็น”

“ขึ้นเสียงทำไม ไม่ได้บอกว่าจะไปคนเดียว เมลก็ต้องไปด้วย โอเคมั้ย”

“ขอโทษ ก็เท็นพูดเหมือนจะกลับไปคนเดียว”

ตอนแรกก็คิดอย่างนั้นล่ะครับ แต่ถ้าไม่เอามันไปด้วย ไอ้เมลได้ชักดิ้นชักงอตายคาคอนโดแน่ๆ

“แต้ม คืนนี้เค้าไปนอนคอนโดน้องดิ้งนะ” ไอ้ลินเริ่มทำหน้าล้อเลียนมาให้ผม

“ไม่เอา พรุ่งนี้ค่อยไปดิ” ไอ้แต้มสวมบทต่อ

“เค้าไม่ได้ไปเอาน้อง อุ้ย ไปนอนคอนโดน้องดิ้งนานแล้วนะแต้ม แค่ทีสองที เอ้ย คืนสองคืนเอง”

“ก็บอกว่าไม่ให้ไปไงลินนี่”

“ขึ้นเสียงทำไม ไม่ได้บอกว่าจะไปคนเดียว แต้มก็ต้องไปกับเค้าด้วย โอเคมั้ยจ้ะ” แค่เห็นท่าขยิบตาของไอ้ลินนี่ผมก็ขนลุกชัน ส่วนไอ้เมลกับไอ้เขตหน้าเหวอกันไปแล้ว

“ขอโทษ ก็ลินนี่พูดเหมือนจะไปคนเดียว น้องดิ้งก็แฟนเค้าน้า”

ปึง!

“หุบปาก ใครกล้าเอาน้องกูมาเล่นอีกกูจะฟาดปากให้แตกเลยเอาสิ” ไม่ใช่ผมหรือไอ้เมล แต่เป็นไอ้เขตที่ตบโต๊ะแล้วชี้หน้าไอ้ตอแหลสองคนให้เงียบเสียง เหมือนมันจะเพิ่งเข้าใจว่าน้องดิ้งที่ไอ้สองตอพูดถึงเป็นใคร

“หวงก้างว่ะไอ้เขต ไหนมึงบอกไม่ชอบน้องเขาไง” ไอ้แต้มไม่สำนึก มันยังคงใช้ปากมันแกว่งหาตีนต่อ

“น้องสาวกูห้ามเอามาพูดเล่น”

“อะโธ่”

“ไอ้แต้ม”

“โอเค รู้แล้วน่า เล่นกันเฉยๆ เนอะลินนี่”

ไอ้แต้มหันไปทางไอ้ลินที่พยักหน้าเออออตาม

“เขตตี้อ่ะซีเรียสไปได้”

ผมก้มหน้ากินราดหน้าของตัวเอง ปล่อยไอ้เขตตี้ ไอ้ลินนี่กับไอ้แตมมี่มันกัดกันไป ส่วนน้องดิ้งที่เป็นประเด็นนี่ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ น้องชายข้างบ้านของไอ้เขต

ไอ้เมลเล่าให้ผมฟังหลังจากศึกฝีปากของพวกมันว่าน้องดิ้งเป็นเด็กน้อยวัยมัธยมต้นที่น่ารักเรียบร้อย ตัวบางไม่สมชาย น้องเป็นน้องสาวมากกว่าน้องชายข้างบ้านของไอ้เขตตี้ แต่งหน้าทาปากบางๆ ให้ดูน่ารักสมวัย อ้อนแอ้นอรชรยิ่งกว่าผู้หญิงวัยเดียวกัน ไอ้เขตมันก็เอ็นดูเหมือนน้องล่ะครับ ถึงน้องดิ้งจะชอบมันมากกว่าพี่ชายก็เถอะ

ไอ้เขตมีแฟนเป็นผู้หญิงครับ สวยมากด้วย ผมเคยเห็นรูปในโทรศัพท์มัน ตอนนี้แฟนมันเรียนอยู่อังกฤษ มันเลยทำตัวเหมือนคนไม่มีใครลอยไปลอยมา นอนคอนโดคนนั้นบ้างคนนี้บ้างตามสันดาน

ผมเข้าใจนะ ก็ผู้ชายนี่ครับ ห่างแฟนนานๆ อย่างนี้มันก็ต้องมีบ้าง ตราบใดที่ไอ้เขตมันยังเป็นผู้ชายอยู่น่ะนะ หึหึ

.........................To be continue...........................

 :mew1:

มาช้าไปมั้ยคะ แหะๆ เป็นหวัดค่ะ เซ็งจริงๆ  :hao5:

รับสารภาพตามตรงว่าอีกไม่กี่ตอนก็จะหมดสต็อกที่เขียนไว้แล้ว แต่ก็จะพยายามมาให้เร็วเหมือนเดิมค่ะ

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและการติดตามของพวกคุณที่เป็นขาประจำ

และ ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่นะคะ

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 09-09-2013 19:38:39
ตกลงมายด์กับฟิวอยู่ในสถานะไหนกัน!!!

ความสัมพันธ์เริ่มซับซ้อน

ตลกเขตตี้ ลินนี่ แตมมี่ ฮิฮิฮิ

ชื่อเข้าท่าเลยนะ :-[

สู้ๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 09-09-2013 19:57:45
ตอนนี้เมลน่ารัก นึกว่าเป็นนายเอก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 09-09-2013 19:58:06
รู้สึกว่าเมลเริ่มง้องแง้งมากขึ้นเรื่อยๆ
คนที่เสียความเป็นตัวเองไม่น่าจะใช่เท็นนะ
กลัวว่าเมลทำตัวติดเท็นแบบนี้จะทำให้ทะเลาะกันอ่ะดิ
ส่วนมายด์จริงจังกับฟิวจริงๆ ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 09-09-2013 20:20:12
เมล อ้อนเท็นๆๆ

ชอบเมล-เท็นมากๆๆๆๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 09-09-2013 20:27:16
อยากอ่านพาท ฟิว มายด์ คะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-09-2013 21:04:20
เมลขี้อ้อน น่ารัด เอ๊ย น่ารักจริงวุ้ย :o8:
เท็นเลยไปไหนไม่รอดแล้วตอนเนี้ย :z1:
รอให้ฟิวกับมายด์มาแถลงข่าวเรื่องความสัมพันธ์ฮ่ะ ดูท่าว่าจะมีการสานต่อจากคืนนั้นนะฮะ :haun4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 09-09-2013 21:58:00
ใกล้หมดสต็อกแล้วเหรอ :a5:
อย่าหายไปนานๆน้า..
มาทำให้เค้าติด ต้องให้เค้าได้อ่านถึงตอนจบน้า :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-09-2013 22:12:26
ฟิวกับมายด์มันยังไง

ส่วนเมลมันติดเท็น ส่วนเท็นก็ยอมตามใจเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-09-2013 10:38:54
เมลขี้อ้อนขนาดนี้
เท็นจะไปไหนรอด :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 10-09-2013 11:04:32
เมลหวงเว่อออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-09-2013 11:55:23
มายด์นี่ยังไงเน้อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 10-09-2013 12:15:00
  o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-09-2013 13:09:16
มายด์แม่งเลวว่ะ
เมลเท็นก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 10-09-2013 19:15:41
ตอนที่ 19

(เท็น มึงมารับกูที่...)

เสียงกระซิบด้วยความรีบร้อนของไอ้กัสทำให้ผมลืมตาขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น คือตอนนี้ผมง่วงมาก มันตีสี่เข้าให้แล้วแต่ไอ้กัสก็ยังโทรมารบกวนการนอนของผม

“อือออ เท็น ใครโทรมา” เสียงง่วงๆ ของไอ้เมลดังขึ้น ผมเลยต้องก้มลงไปจูบหน้าผากมันพลางลูบหัวมันเบาๆ

“กัสโทรมา เมลนอนนะ คุยแป๊บเดียว”

ไอ้เมลพยักหน้าพร้อมกับหลับตาลง ผมถอนหายใจก่อนจะลุกออกจากเตียงมาคุยที่ระเบียง

“มีไรวะ ไม่สำคัญจริงมีตัดเพื่อนนะมึง” ลำพังแค่รบกวนการนอนผมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าทำให้ไอ้เมลตื่นนี่เป็นเรื่องนะ เพราะกว่ามันจะยอมนอนได้ผมเหนื่อยแทบตาย

(สำคัญสิวะ มึงมารับกูหน่อยเท็น กูกลัวอ่ะ มาเร็วๆ นะ)

ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ

“เออๆ ที่... ใช่มั้ย กูจะรีบไป”

ไว้ไปรับมันแล้วค่อยถาม ผมไม่อยากเสียเวลาถามมันจากทางโทรศัพท์

ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อกับกางเกงเสร็จก็ควานหากุญแจรถ

“เท็น จะไปไหน”

“มีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวกลับมา”

“ไอ้กัสเกิดเรื่องเหรอ”

“อืม เมลนอนนะ ไปไม่นาน”

ผมรีบออกมาก่อนที่ไอ้เมลจะได้ท้วงหรือขอตามมาด้วย ขับรถไปตามที่ไอ้กัสบอกก็มาหยุดอยู่หน้าอพาตเม้นแห่งหนึ่ง ผมสังเกตเห็นไอ้กัสยืนอยู่กับใครสักคนที่ตัวสั่นเทาในอ้อมกอดมัน

“เท็น โอ้ยยย ทางนี้มึง”

นานแล้วที่ไม่ได้เห็นไอ้กัสทำหน้าหวาดกลัวเหมือนผู้หญิง หน้ามันซีดเผือด มือก็กอดผู้หญิงคนหนึ่งไว้ ผู้หญิงที่ผมจำได้ว่าเป็นน้องรหัสมัน

เอ้า รีเทิร์น?

“ขึ้นรถก่อนไป”

ไอ้กัสพยักหน้า ท่าทางมันไม่ค่อยมีแรง ผมเลยรีบเข้าไปช่วยพยุงน้องแนง พอพาทุกคนขึ้นรถก็รีบขับออกมาทันที ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร แค่เห็นหน้าไอ้กัสที่อยากจะบินออกจากที่นั่นเต็มแก่แล้วผมก็ไม่อยากเสียเวลาถาม

“แฟร์น่ากลัวมากเท็น กูไม่คิดเลยว่าจะขนาดนี้ กูจะทำไงดีวะ กูบอกเลิกไปแล้วแต่น้องเขาไม่ยอม”

ผมขับรถต่อไปเงียบๆ “น้องเขาตามทำร้ายแฟนเก่ากูเกือบทุกคน ดีที่คืนนี้กูอยู่กับแนง ไม่งั้นก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน ถือมีดเข้ามาเหมือนฆาตกรอ่ะ กูไม่เคยเจอแบบนี้เลย ทำไงดีวะเท็น”

ได้ยินเสียงน้องแนงร้องไห้อยู่ที่เบาะหลัง ไอ้กัสที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็กระสับกระส่ายอย่างคนจนตรอก

จากนั้นมันก็เล่าเหตุการณ์โดยละเอียดให้ผมฟัง ข้ามฉากเลิฟซีนของมันกับน้องแนงไปโดยที่ผมไม่ต้องบอก เริ่มจากได้ยินเสียงเคาะประตูที่ห้องน้องแนงประมาณตีสองตามด้วยเสียงกรีดเสียงข่วนประตูอีก ครึ่งชั่วโมง ที่มันไม่ยอมเปิดเพราะเห็นจากตาแมวที่ประตูแล้วว่าเป็นใคร

“มาทุกคืนค่ะพี่เท็น หนูไปแจ้งตำรวจแล้วแต่ก็แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่คืนนี้เขาทุบลูกบิดประตูจนพังแล้วก็เข้ามาในห้อง” น้องแนงเสียงสั่นก่อนจะหยุดเล่าไป

“ถือมีดเข้ามา แล้วก็ขู่จะฆ่ากูกับแนง เตะต่อยเก่งด้วยนะมึง กูไม่รู้จะทำยังไงเลยผลักเขาล้มแล้วพาแนงหนีออกมา” ไอ้กัสบอกอย่างไม่สบายใจ

“กูจะทำยังไงดีวะเท็น กูไม่อยากเจอแบบนี้เลย”

“เดี๋ยวกูพากลับไปนอน แล้วพอมึงตื่นก็มาคิดกันอีกที”

“กูกลัวว่ะเท็น”

ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!

เสียงบีบแตรลากยาวดังมาจากข้างหลัง ไอ้กัสมองกระจกข้างแล้วก็หน้าซีดเผือด

“เท็น รถแฟร์อ่ะ ช่วยกูด้วยเท็น อย่าให้เขามาใกล้กูนะเท็น ช่วยกูด้วย”

ปรี๊นนนนนนนนนนนน ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

“ใจเย็นๆ กูจัดการเอง”

น้องแนงปล่อยโฮออกมา ไอ้กัสเลยปีนไปที่เบาะหลังเพื่อไปกอดน้องแนงไว้

ผมกดโทรศัพท์โทรหาลูกน้องคนสนิทของป๋าที่เป็นทั้งเลขาฯและบอดี้การ์ด แต่จะคอยจัดการเรื่องทุกอย่างตามความต้องการของผม ไม่ได้เจอกันนาน งานวันเกิดแม่ปีนี้เขาก็ไม่ได้มาเพราะอยู่จัดการธุระให้ป๋าที่ฝรั่งเศส ครั้งสุดท้ายที่เจอคือตอนเขาไปรับผมที่ฮ่องกงหลังจากที่ทุกคนพลิกแผ่นดินหาผมเกือบสองเดือน

(สวัสดีครับคุณเท็น ตอนนี้เมืองไทยคงเพิ่งตีห้า มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่าครับ)

“คุณเคน ส่งคนมาที่บ้านผมสักสองคน ตอนนี้เลย”

(ได้ครับ ผมจะจัดการให้ คุณเท็นมีเรื่องเหรอครับ ให้ผมบินกลับไปจัดการให้มั้ยครับ)

“ไม่หรอก คุณเคนอยู่ดูแลป๋าเถอะ ผมต้องวางแล้ว”

(ครับคุณเท็น ถ้ามีเรื่องร้ายแรงต้องโทรบอกผมทันทีเลยนะครับ ดูแลตัวเองด้วยครับคุณหนู)

ผมวางสายก่อนจะเหลือบมองไอ้กัสจากกระจกมองหลังที่มองตอบผมกลับมาด้วยความหวาดหวั่น

“กูจะพาไปที่บ้าน จะให้ลูกน้องป๋าเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ มึงกับน้องแนงพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วเราค่อยมาคิดกัน โอเคนะ”

รถของน้องแฟร์ขับตามพวกผมมาจนถึงบ้าน แต่น้องก็ไม่ได้มีท่าทีจะตามเข้ามาในบ้าน แค่นั่งอยู่เฉยๆ ในรถแล้วจ้องเขม็งมาที่พวกผม

“อย่าให้ผู้หญิงในรถนั่นเข้ามาในบ้านผมนะครับ ถ้าเห็นท่าไม่ดียังไงให้โทรแจ้งตำรวจ พวกพี่อย่าทำอะไรรุนแรง”

“ครับคุณเท็น”

อย่างน้อยไอ้กัสก็คิดว่าน้องแฟร์คงฝ่าผู้ชายร่างยักษ์สองคนเข้ามาไม่ได้ง่ายๆ เพราะงั้นเมื่อหัวถึงหมอนมันกับน้องแนงก็หลับไปทันที ผมล็อคประตูให้มัน ก่อนจะเดินไปเคาะห้องไอ้ฟิว แต่คนที่เดินมาเปิดคือไอ้มายด์

“บอกไอ้ฟิวด้วยว่าไอ้กัสมีเรื่องนิดหน่อย กูเลยให้คนมาเฝ้าที่หน้าประตู ถ้ามันตื่นแล้วให้มันหาข้าวหาน้ำให้พวกพี่เขาด้วย”

“อืม แล้ว เอ่อ มึงจะไม่อยู่เหรอ” ไอ้มายด์ดูกระดากยังไงชอบกล มันคงไม่รู้จะทำหน้ายังไงเมื่อผมยืนจ้องหน้ามันอยู่อย่างนี้

“กูมีธุระต้องไปทำ ว่าแต่...มึงคิดยังไงกับเพื่อนกู”

"....."

"ไม่ใช่เรื่องของกูก็จริง แต่ถ้ามึงทำเหี้ยๆ ใส่มัน มึงเจอกูแน่ไอ้มายด์"

“เออ คนอย่างกูกล้าทำก็กล้ารับ ถึงเวลานั้นกูจะไม่สู้มึงเลยจริงๆ”

"ให้ได้อย่างมึงว่า จำไว้ให้ดี"

ไอ้มายด์พยักหน้าก่อนจะปิดประตู

ผมลงมาชั้นล่าง ก็ได้รับรายงานว่าผู้หญิงคนนั้นขับรถกลับไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะย้อนกลับมาอีกรึเปล่า แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายผมเลยให้พี่เขาเฝ้าต่อไป

ผมกลับมาถึงคอนโดในตอนเจ็ดโมงนิดๆ ก็เจอไอ้เมลนอนอยู่ที่โซฟา มันยังหลับอยู่เลยตอนที่ผมเดินเข้าไปสะกิดไหล่มัน

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ตีห้าครึ่งขึ้นรอสาย เท็นคุยกับใคร” ลืมตาได้ก็เหมือนเปิดสวิตช์

“ก็คุยธุระอยู่”

“กับใคร”

“เมลไม่รู้จักหรอก”

“ก็อย่างนี้ทุกที”

“อย่างนี้น่ะอย่างไหน หืมมมม”

“หึ ไม่ต้องมาอ้อนเลย เดี๋ยวโดนรอบเช้า”

ผมยักคิ้วให้ ไอ้เมลเลยผลักหัวผมกลับ

นึกถึงเรื่องที่เจอมาแล้วก็อยากถอนหายใจสักพันครั้ง เมลนี่ผมว่าขี้หึงมากแล้วนะ เจอน้องแฟร์เข้าไปเมลกลายเป็นคนปกติไปเลย ถึงว่าทำไมไอ้เมฆามันไม่ตามมาทวงคืน หึ ไอ้กัสเจอเคราะห์ใหญ่เข้าแล้วมั้ยล่ะ

.
.
.

“เป็นไงล่ะมึง เจ้าชู้ดีนัก คราวนี้เจอตัวแม่เข้าไปยังจะซ่าอีกมั้ย” ไอ้ฟิวกำลังทับถมไอ้กัสระหว่างพวกผมกำลังปรึกษากันเรื่องน้องแฟร์ อ่ะ พูดให้ถูกก็คือพวกมันต่างหาก ตอนนี้หูผมฟังก็จริงแต่มือกำลังเคลียร์เกมที่ไอ้ซิงให้ยืมมาอยู่

ลงทุนไปซื้อ PSP มาเลยนะ ไม่แปลกใจทำไมไอ้ซิงมันติด เพราะเล่นแล้วมันวางไม่ได้นี่สิ ปัญหา

ส่วนเรื่องไอ้กัสน่ะเหรอ ก็จากที่ฟังคร่าวๆ ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้กัสกับน้องแนงไม่ได้เลิกกันเด็ดขาดอย่างที่ใครเข้าใจ ทั้งคู่ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กันเปรียบเสมือนถ่านไฟเก่าที่ยังคุร้อน แอบพบแอบนัดเจอแต่ไม่พร้อมจะรีเทิร์น

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ใช่ประเด็นของเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะประเด็นมันอยู่ที่ไอ้กัสพอคบกับคนใหม่ก็เริ่มออกสันดานเมื่อหมดโปร นางแล้วนางเล่าที่ยอมเชื่อเหตุผลบอกเลิกโง่ๆ ของมันโดยไม่ระแคะระคายเรื่องน้องแนง แต่น้องแฟร์ไม่ใช่ครับ ห่างไกลจากคำว่าโง่และมาเหนือเมฆมาก

แฟนสาวคนล่าสุดของไอ้กัสไม่ใช่ลูกตาสีตาสาแต่ดันมีอำนาจบารมีพ่อทำให้บันดาลทุกอย่างได้ตามใจ สืบรู้เรื่องไอ้กัสแทบทุกเรื่อง แล้วพอน้องรู้ว่าโดนหักหลังคราวนี้เลยเป็นเรื่องขึ้นมา

“กูว่าไปเชิญน้องเขาเข้ามาดีมั้ยวะ พวกเราทำแบบนี้มันออกจะเกินไปนะเว้ย น้องอาจจะไม่ร้ายอย่างที่คิดก็ได้” ไอ้เต๋อพูดด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

คนอื่นๆคิดเหมือนมันแต่ไอ้กัสที่เจอมากับตัวก็ยืนกรานเสียงแข็งว่าไม่ยอมให้น้องแฟร์เข้าบ้าน

ตอนนี้น้องแฟร์จอดรถอยู่หน้าบ้าน เมื่อบ่ายสามผมได้รับรายงานจากทางโทรศัพท์ว่าน้องแฟร์ย้อนกลับมาอีกแล้วเลยรีบขับรถมาที่บ้านทันที ตอนที่มาถึงผมเดินเข้าไปเคาะกระจกรถแต่น้องก็ไม่มีท่าทีอยากพูดคุยด้วย มีแต่ตาแดงก่ำที่จ้องเขม็งเหมือนแค้นผมมาสักสิบชาติ

“กูก็เห็นด้วยกับไอ้เต๋อนะ คิดไปแล้วกูว่าน้องน่าสงสาร เรื่องมันเพราะมึงนอกใจน้องเขานะกัส เรียกให้เข้ามาคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ” ไอ้ฟิวออกความเห็น

“เรื่องนี้กูก็รู้ แต่กูก็ขอเลิกกับน้องไปแล้ว มันก็ควรจะจบสิวะ เรื่องอะไรมาถือมีดไล่ฆ่ากูอ่ะ กูผิดกูก็ยอมเลิกให้ กูผิดแต่กูไม่สมควรตายซะหน่อย แนงก็ด้วย แนงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ” ไอ้กัสรับผิด แต่ผมฟังแล้วเหมือนมันไม่ได้คิดว่ามันผิดหรอก

“แล้วมึงถามน้องมั้ยว่าน้องอยากเลิกรึเปล่า เวลามึงจะเลิกกับใครมึงก็มีข้ออ้างเป็นร้อยเป็นพันข้อ ไม่รู้แหละ เท็น มึงไปพาน้องเข้ามา ถ้ามึงไม่คุย กูจะคุยเองกัส” ไอ้ฟิวพูดเด็ดขาด

“อย่านะเว้ยไอ้เท็น”

“เท็น! ไอ้เท็น”

“ไม่ อย่านะมึงงงงง”

ชิบบบบบบบบบ เอาใจยากจริงแม่หญิงทูดี =_=

“เหี้ยเท็น!! มึงฟังพวกกูอยู่มั้ยห้ะ เดี๋ยวๆ กูยึดซะเลย มันใช่เวลามาเล่นเกมเรอะ!!!”

ผมวนลูปอยู่เหตุการณ์นี้หลายรอบแล้ว แต่ก็ตอบคำถามไม่ตรงใจเจ้าหล่อนซะที นี่แสดงว่าสกิลจีบหญิงผมต่ำกว่าไอ้ซิงอย่างนั้นหรือออออ

“เท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

อะไรใครเรียก?

“ว่า”

ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้ฟิวที่เหมือนมีไฟลุกท่วมตัวคล้ายพวกซุปเปอร์ไซย่า แถมคนอื่นๆ ยังส่ายหน้าระอามาให้ผมอีก

อะไรของพวกมัน -_-

“ยึดนะ เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา” ไอ้เมลยื่นมือยาวๆ ของมันมาจับเครื่องเกมของผมไว้แล้วก็ฉกกลับไปอย่างรวดเร็ว

“ยึดไม่ได้นะ ยังไม่เคลียร์เลย”

“เอาเรื่องกัสให้เคลียร์ก่อน โอเคมั้ย” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเรื่องกัส ไม่ใช่เรื่องผมซะหน่อย เกี่ยวไรกับผมล่ะ เมลมันบ้าป่าว

“ก็ให้ไอ้กัสเคลียร์ไปดิ เกี่ยวไรกับกู”

“อ้าว ไอ้เท็น ช่วยกันมาตั้งแต่ต้นก็ช่วยให้มันถึงที่สุดสิวะ” ไอ้กัสโวยกลับมา

“ช่วยไรวะ ให้กูเอาแฟร์เป็นแฟนแทนมึงรึไง”

ป๊าบ!

ลืมไปว่าสุดยอดดวงใจนั่งข้างๆ -_-

ผมลูบแขนตัวเองป้อยๆ ก่อนจะยกมือยอมแพ้สายตากดดันของทุกคน ไล่ตั้งแต่ ไอ้เต๋อที่บังเอิญแวะมาเยี่ยมเมื่อตอนเที่ยง ไอ้มายด์ที่สิงอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เมื่อคืน ไอ้ฟิวผู้ตื่นตูมไปซะทุกเรื่อง ไอ้กัสตัวต้นเหตุกับน้องแนงผู้สมรู้ร่วมคิด และสุดท้ายที่กำลังตีหน้าขรึมใส่ผม อดีตเดือนมหาลัยที่สาวๆ ทั้งในและนอกคณะต่างก็โหวตให้ได้รับตำแหน่งผู้ชายที่ผู้หญิงอยากเป็นแฟนด้วยมากที่สุดสองปีซ้อน

“ไอ้กัสมันบอกเลิกไปแล้ว ฝ่ายเราจบ เขาไม่จบก็ปล่อยเขาสิ ไม่ใช่เรื่องต้องไปแก้ปัญหาอะไรสักหน่อย ไม่เข้าใจว่าจะมานั่งกังวลอะไรกัน ถามจริงๆ นะ ที่จะคุยนี่อยากคุยอะไรกับเขา จะบอกให้เลิกยุ่งเหรอ ก็บอกไปแล้วไม่ใช่ไง แต่เขาไม่เลิกเอง บอกไปก็เท่านั้น พวกมึงนี่คิดอะไรแปลกๆ ไม่ใช่ว่าไอ้กัสมันจะอยากคบกับเขาอีกสักหน่อย เลิกก็คือเลิกดิ จะให้มาคุยอะไรกันอีกล่ะ มาทำบ้าๆ แบบนี้แจ้งตำรวจให้มาจัดการไปเลยไม่ง่ายกว่าเหรอวะ”

ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก ผมก็พูดตามที่ผมคิด จะให้ผมไปพูดกับน้องแฟร์แทนไอ้กัสแล้วจะให้ผมพูดอะไร จะให้น้องแฟร์มาคุยด้วย แล้วจะให้คุยอะไร ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเพราะยังไงไอ้กัสก็ไม่เปลี่ยนใจมันอยู่แล้ว

“ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่นี่หว่า ถึงยังไงก็ไม่อยากทำลายอนาคตน้องเขาเพราะเรื่องบ้าๆ พวกนี้ ถึงโรงถึงศาลมันจะลำบากกันทั้งเราทั้งเขานะมึง แค่ขอร้องให้เขาเลิกทำตัวโรคจิตเที่ยวทำร้ายคนอื่นก็น่าจะพอ” ไอ้ฟิวตอบกลับมาด้วยเสียงอ่อยๆ เหมือนไม่ค่อยมั่นใจ

“ถ้ามึงคิดว่าเขาจะฟังก็ลองดูได้นะ แต่จะหาเหตุผลอะไรมาโน้มน้าวล่ะ น้องแพ้แล้วนะ อย่ามาทำขี้แพ้ชวนตีเลย อย่างนี้เหรอ หรือจะบอกว่าขอโทษนะ เพื่อนพี่มันมีคนที่มันรักอยู่แล้ว อยากให้น้องเข้าใจแล้วปล่อยมันไป เอาอย่างนี้มั้ย กูว่าคงฟังหรอก” ผมพูดพลางยักไหล่ไม่ใส่ใจกับสีหน้าไม่สบายใจของพวกมัน

“แล้วจะทำยังไง ปล่อยไว้แบบนี้มันก็ไม่ดีนะเว้ย น้องแนงเขาต้องการชีวิตแบบปกตินะ ไอ้กัสก็ด้วย กูว่าลองพูดกับน้องแฟร์ดีๆ อาจจะได้ผล น้องก็เป็นคนสวยมีการศึกษา”

ไอ้พวกมีการศึกษานี่ล่ะตัวดี มีเรื่องทีก็อ้างแต่ว่าเป็นคนมีการศึกษา เพราะรู้มากกันทั้งนั้นแหละถึงได้มีปัญหา ส่วนตัวผมแล้วผมว่าแจ้งตำรวจไปซะก็จบ ดีกว่ามานั่งแก้ปัญหาให้มันยุ่งยาก

“ก็เอาสิ ลองดูก็ได้”

ผมแย่งเกมจากเมลมาเล่นต่อ ปล่อยให้พวกนั้นจัดการกันเอง ตอนน้องแฟร์เดินเข้ามาผมก็แค่เหลือบมองเล็กน้อย

การสนทนาดำเนินไปได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะน้องแฟร์ทำตัวเหมือนคนหูหนวกไม่ได้ยินอะไร เอาแต่จ้องไปที่ไอ้กัสกับน้องแนง ส่วนคนที่เจรจาตอนแรกก็เป็นไอ้ฟิวอยู่ดีๆ แต่พอเจอโหมดใบ้แดกของน้องเข้าแต่ละคนก็ช่วยกันพูดเหมือนพวกมันอยากประสานเสียงให้น้องได้ยิน ซึ่งก็ไม่มีอะไรดีขึ้นและที่แย่ไปกว่านั้นความเคืองแค้นจากน้องแฟร์ที่ตอนแรกก็โฟกัสแค่ที่ไอ้กัสกับน้องแนงแต่ตอนนี้ดันกราดมองไปทั่ว

“ใช่สิคะ พวกพี่ก็เข้าข้างเพื่อนพี่กับนังหน้าด้านนี่ พวกพี่ไม่ใช่แฟร์ พวกพี่ไม่เข้าใจหรอกว่าแฟร์รู้สึกยังไง!”

“แฟร์ครับ พี่ว่าแฟร์ยอมรับความจริงเถอะนะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรั้งคนที่เขาไม่ได้รักเราไว้หรอกครับ” ไอ้เมลพยายามเกลี้ยกล่อม

“แฟร์ยังต้องเจอคนอีกมากนะ มีคนที่ดีกว่าไอ้เหี้ยนี่เป็นร้อยเป็นพันคน แฟร์อย่าทิ้งอนาคตของตัวเองเพราะคนเลวๆ อย่างไอ้กัสเลย เชื่อพี่นะ ที่แฟร์ทำอย่างนี้มันผิดกฎหมายนะครับ การข่มขู่ให้คนอื่นเกิดความกลัวหรือการทำร้ายคนอื่นเป็นคดีอาญานะครับ” ไอ้ฟิวพูดเสริม

“แฟร์ไม่กลัว! ถ้าแฟร์เจ็บ คนที่ทำมันต้องเจ็บมากกว่าแฟร์เป็นร้อยเท่า! คอยดู!”

การเจรจาล้มเหลวเมื่อน้องแฟร์เดินปึงปังออกจากบ้านไปพร้อมกับที่ผมเคลียร์สาวคนแรกได้พอดี ...หัวใจผู้หญิงยากแท้หยั่งถึง อารมณ์ที่แปรปรวนดั่งพายุ กับพลังในการสร้างสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ มันช่างน่ากลัว

“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย โว้ยยยยยยยย” ไอ้กัสร้องออกมาอย่างเหลืออด

“น้องแฟร์เขาให้เราคอยดูอะไรวะ บ้าไปแล้วรึไง กับเรื่องแค่นี้อ่ะ ทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาด้วยวะ” ไอ้เต๋อมีสีหน้ากังวล มองเพื่อนๆ แต่ละคนแล้วก็ถอนหายใจ

“สำหรับบางคนมันไม่ใช่เรื่องเล็กหรอกนะมึง” ไอ้ฟิวบอกเสียงอ่อน

“เท็น มึงต้องช่วยกูนะ อย่าทิ้งกูนะเว้ย ไม่งั้นกูจะฟ้องป๋ามึงจริงๆ ด้วยถ้ามึงทิ้งกู”

ผมชะงักนิ้วที่กำลังกดปุ่มลูกศรพร้อมกับพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากการเขย่าของไอ้กัส

“จะให้ช่วยอะไรวะ แล้วดูทำหน้า”

สีหน้าไอ้กัสตอนนี้ถ้าเอาไปเทียบกับศพก็คงวัดไม่ได้ว่าอันไหนคนเป็นอันไหนคนตาย ผมถอนหายใจอย่างเบื่อๆ

“เฮ้อ กูจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ละกัน”

ผมไม่ใช่ไอ้กัส ไม่เคยรักหรือรู้สึกดีๆ อะไรกับน้องแฟร์ ผมถึงไม่ได้คิดว่าต้องมีความเห็นใจอะไรให้กับเขา จากมุมมองคนนอกอย่างผมสิ่งที่น้องทำนั้นผิด เพราะฉะนั้นถ้าให้ผมช่วยผมก็จะจัดการตามกฎหมาย ไม่งั้นจะมีตำรวจไว้ให้กินเงินเดือนฟรีหรือไง อีกอย่างผมไม่ชอบแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แถมเรื่องแบบนี้ก็แก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ เพราะต่อให้ผมเป็นพระเจ้าผมก็เปลี่ยนใจไอ้กัสให้รักน้องแฟร์ไม่ได้อยู่ดี

มีทางเดียวคือฝ่ายไหนพูดไม่รู้เรื่องก็แค่กำจัดทิ้งไปแค่นั้น -_-

ผมควักมือถือออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะต่อสายไปถึงลูกน้องคนสนิทของป๋า

“คุณเคน ผมมีเรื่อง ช่วยกลับมาจัดการให้ด้วย” แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องถึงมือผมหรอก

.........................................To be continue...................................


 :mew3:
 :กอด1:
ใครตามไม่ทันยกมือขึ้นนนนน ใครไม่เข้าใจเนื้อเรื่องก็บอกได้นะคะ บางทีมันอยู่ในหัวแต่ไม่พิมพ์ออกมา ไอ้เราก็คิดว่าคนอ่านคงรู้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ  :a5:

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 10-09-2013 19:33:14
เท็นจะจัดการให้วิธีไหนอ่ะ

รอๆๆๆๆๆๆ


ชอบเมล-เท็นมากๆๆคร๊าา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 10-09-2013 20:19:48
ผู้หญิงแบบแฟร์นี่น่ากลัวเนอะ 
แล้วเท็นจะจัดการยังไงอ่ะ

ว่าแต่เดี๋ยวนี้มายด์มาสิงอยู่ที่บ้านนี้อีกคนแล้วเหรอ
อยากอ่านตอนพิเศษของฟิว อยากรู้ว่าตอนนี้มายด์กับฟิวเป็นยังไงกัน เขารักกันหรือยัง
แล้วก็อยากอ่านตอนมายด์ต่อยกับเมฆาเพราะฟิวด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-09-2013 20:20:43
ต่างคนต่างผิดนะ น้องแฟร์เค้าอาจจะรับไม่ได้ที่โดนหักหลัง เราก็แอนตี้พวกนอกใจเหมือนกัน
จริงๆงานนี้อยากให้กัสสำนึกผิดอยู่นะ เพราะเราว่ากัสผิดอะ ถ้าไม่มีเท็นเป็นเพื่อนจะทำยังไงเหรอ :ling3:
อย่าให้เรื่องราวมันใหญ่โต แต่ก็อยากให้มันจบๆไป จะรอดูว่าเท็นให้คุณเคนทำยังไง :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 10-09-2013 20:23:38
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 11-09-2013 01:15:39
ตามอ่านรวดเดียวจบ เย้ๆ
อารมณ์แรกที่อ่านคือ เท็นจะอารมณ์แปรปรวนไปไหน -_-*
แต่พออ่านๆ ไป อ่อ เป็นอัจฉริยะนั่นเอง คนกลุ่มนี้มักจะเบื่อง่าย เพราะทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด
พอเจอเมลเข้า กลับทำให้ชีวิตไม่ง่าย ดูมีสีสันให้ชีวิต
รอตอนต่อไปค่าาา
มีคนเคยบอกว่า เวลาผู้หญิงโกรธ หรือโมโห เป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าพายุทอนาโดซะอีก งานเข้าแล้วกัสจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 11-09-2013 02:15:19
เท็นนี่ตรงและเด็ดขาดมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 11-09-2013 02:56:19
 o22 เค้ารออยู่นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-09-2013 03:42:49
กัสเจ้าชู้จนได้เรื่อง
ไม่พ้นเท็นต้องเข้ามาช่วย
แล้วคุณเคนคือใคร
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 11-09-2013 06:06:58
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยัยแฟร์น่ากลัวอ่ะ เท็นเท็นนายมันอินดี้ว่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 11-09-2013 15:43:22
อ๊ากกก เมลเท็นน่ารักจังเลย  แต่กัส บอกได้คำหนึ่ง สมควร ^^"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-09-2013 23:07:39
กัสเจอบ้างก็ดีนะ..

/เราชอบแบบเท็นแหะ ทำอะไรเด็ดขาดดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 12-09-2013 18:39:29
ตอนที่ 20

“เธอไม่ต้องขอบใจกับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ไม่ต้องมองว่ามันเลิศเลอก็ดีใจ
เพียงในวันอ่อนแอให้คนอย่างฉันได้ยื่นมือไป
อยากเห็นเธอมีความสุขใจเท่านั้นเอง”


ผมหยุดร้องและหยุดเล่นกีต้าร์ เห็นเมลที่กำลังก้มหน้าอยู่เหนือหนังสืออมยิ้มแก้มแทบแตก

“โปรดคิดถึงฉันเวลาที่เธอไม่มีผู้ใด
ไม่ต้องมากมายเหมือนอย่างคนรักกัน
โปรดคิดถึงฉันทุกวันเวลาที่เธอนั้นต้องการ
ฉันพร้อมจะเคียงข้างเธอเธอรู้ไหม”


“อยู่ตรงนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใจเธอ
เพียงเธอหันมาเธอก็จะเจอ”


“หันมาหน่อยสิครับสุดหล่อ หึหึ”

“ว่างมากเหรอเท็น”

ถึงจะถามอย่างนั้นแต่รอยยิ้มก็ยังไม่หายไปจากหน้าหล่อๆ ของมัน ผมย้ายไปนั่งใกล้ๆ เมล พิงหัวลงกับไหล่แข็งแรงแล้วเริ่มร้องเพลงต่อ

“อย่ามองฉันเป็นคนไกล จะรอตรงนี้เสมอ
ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา เรียกหาฉันเลยนะเธอ...ไม่ต้องกลัว”

“วันที่เธอสุขใจจะไม่ไปพบให้รบกวนใจ
จะไม่ทำให้ลำบากใจฉันสัญญา
แต่วันที่เธอปวดร้าวจะคอยเป็นเงาช่วยซับน้ำตา
จนเมื่อเธอนั้นดีขึ้นมาฉันก็ไป”

“โปรดคิดถึงฉันเวลาที่เธอไม่มีผู้ใด
ไม่ต้องมากมายเหมือนอย่างคนรักกัน
โปรดคิดถึงฉันทุกวันเวลาที่เธอนั้นต้องการ
ฉันพร้อมจะเคียงข้างเธอเธอรู้ไหม”

         (ไม่ใกล้ไม่ไกล – JETSET’ER)

“รู้มั้ยวะ”

“ครับ”

เมลน่ารักว่ะ >_<

ผมพิงกีต้าร์ไว้กับโซฟา ก่อนจะจับผมเมลมามัดเล่น มันก็ไม่ว่าอะไร แค่ขมวดคิ้วแล้วก็พึมพำกับหนังสือของมันไป

“หิวยัง เดี๋ยวไปทำกับข้าวให้”

นอกจากแม่กับป๋าผมแล้วเมลเป็นเพียงคนเดียวที่ได้กินกับข้าวฝีมือผม วันนี้ไม่ใช่วันพิเศษอะไรหรอกครับ ก็เหมือนชีวิตปกติทุกๆ วัน เพียงแต่พรุ่งนี้เมลมีควิซวิชาเอกของสาขา มันเลยไม่คิดจะทำอะไรนอกจากการอ่านหนังสือ ผมเลยต้องเป็นคนหาข้าวหาน้ำให้มัน

“เท็นล่ะ”

“ก็ยัง แต่กูไปทำไว้ให้ละกัน เดี๋ยวจะออกไปข้างนอก”

“ไปไหนอีกล่ะ”

“เออน่ะ จะกินไรว่ามา”

“บอกมาก่อน”

“ข้าวผัดละกัน มีข้าวเหลืออยู่ในตู้เย็น ใส่กุนเชียงด้วยเนอะ”

เมลไม่ตอบ มันหน้าบึ้ง แถมยังจ้องผมตาไม่กระพริบ

“ทำไมบอกไม่ได้ว่าจะไปไหน มันยากมากไง แค่พูดออกมา”

ผมไม่อยากจะทะเลาะกับมันเลยเดินหนีมาทางครัว ผมจะบอกได้ไงว่าจะขึ้นเหนือ เมลมันคงรับฟังเงียบๆ แล้วไม่โวยวายหรอกนะ อีกอย่างผมนั่งเครื่องไปแค่สองสามชั่วโมงก็ถึง ทำธุระเสร็จ ดึกๆ ก็กลับมาแล้ว ผมก็เลยไม่รู้จะบอกมันให้เป็นเรื่องขึ้นมาทำไม

ช่วงนี้ผมก็ใช้ชีวิตของผมไปเรื่อยๆ เรียกว่าเรื่อยซะจนน่าเบื่อ โลกของผมไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่หลังจากที่มีแฟน จากที่ตอนแรกมันมีอะไรให้ตื่นเต้นบ้าง แต่ตอนนี้ผมกลับพบว่ามันหมดรสชาติเอาดื้อๆ

ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้เบื่อเมล มันยังคงเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสนุกเหมือนเดิม ทว่าก็ยังมีความรู้สึกที่ผมไม่สามารถอธิบายได้อยู่เหมือนกัน ไม่รู้สินะครับ เราทำอะไรดีๆ ให้กัน เวลาที่เมลยิ้มผมก็ยิ้มตาม เราอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา แต่จากที่เคยมองว่ามันพิเศษ ผมกลับคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย...เพราะคนเป็นแฟนกัน เขาก็ทำกันแบบนี้

ผมเริ่มกลัวความคิดตัวเอง ผมไม่อยากให้ผมคิดอะไรแบบนี้ ผมรู้สึกแย่มาก ผมไม่อยากทำในสิ่งที่จะทำให้เมลเสียใจ เพราะเมลเป็นคนสำคัญของผม

แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง...ให้โลกของผมกับโลกของเมลหมุนไปพร้อมๆ กัน

“เมล อย่าลืมกินข้าวนะ กูไปก่อน” ผมตะโกนบอกขณะกำลังใส่รองเท้า เมลไม่ตอบอะไรกลับมาเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้แต่ผมรู้ว่ามันได้ยิน

“ทะเลาะกับไอ้เมลไงวะ” ไอ้กัสถามขึ้นทันทีที่เห็นผมเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ มันอาสาไปส่งผมที่สนามบินเอง
ผมไม่ตอบคำถาม มันเลยออกรถทันทีที่ผมคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ

“เออ ไอ้เท็น เมื่อเช้าแฟร์ส่งข้อความมาขอโทษกูว่ะ”

“อืม ก็ดีแล้ว”

“มึงทำยังไงวะ สามวันก่อนแม่งยังให้คนมาดักตีหัวกูอยู่เลย ถ้าไม่ได้พวกไอ้เมลช่วย กูได้เป็นผีเฝ้าคอนโดไปแล้ว”

ผมเงียบเป็นคำตอบให้มัน เรื่องน้องแฟร์นี่อยู่นอกเหนือความสนใจของผมมาก ถ้าสามวันก่อนเมลไม่บังเอิญกลับห้องมาด้วยมุมปากช้ำๆ ผมก็คงไม่ต้องทำอะไรผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นหรอก คุณเคนคงจัดการไม่เด็ดขาดพอ ผมเลยสนองให้แบบไม่ต้องมารบกวนสายตาอีกนาน เพราะน้องรนหาที่เอง อะไรที่เป็นของผม คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เพราะตั้งแต่เป็นแฟนกันมา ทำให้มันเจ็บสักครั้งผมยังไม่เคย แล้วคนอื่นมีสิทธิ์อะไร -_-

“มึงดูเบื่อๆ นะ เป็นไรไปวะ” ไอ้กัสถามขึ้นอีก ผมละสายตาจากคนขายพวงมาลัยมามองหน้ามัน

“ไม่รู้”

ผมไม่รู้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร...

“มีเรื่องอะไรที่ทำให้มึงกำลังฝืนใจตัวเองรึเปล่าเท็น”

“...”

“อย่าลืมนะ...การเป็นแฟนกับใครสักคน ไม่เหมือนกับมึงทำงานอดิเรกอะไรสักอย่างที่พอเบื่อก็เลิกทำได้ มึงรู้ใช่ไหม ไอ้เมลต่างจากไอ้เจมตรงที่ไอ้เมลมันพูดได้ แต่ไอ้เจมมันพูดออกมาเป็นภาษาไม่ได้ยังไงล่ะ”

ผมรู้...และเพราะผมรู้ ผมถึงไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น แค่คิดว่าเมลจะเสียใจ ผมก็ทุรนทุรายแล้ว แต่อิสระของผมมันหายไปทุกวัน มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนผมก็จำไม่ได้ รู้ตัวอีกที ผมก็ต้องคอยรายงานเมลทุกเรื่อง ผมรู้ว่าเมลเป็นห่วง ผมถึงพยายามเข้าใจ ทว่าความอึดอัดมันกลับเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น

โลกของผมเหมือนถูกบีบให้เล็กลง อะไรที่ผมอยากทำกลับไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผมแค่คนเดียว ถ้าเมลบอกว่าไม่และผมยังดื้อทำ สุดท้ายมันจะจบลงด้วยการที่เราทะเลาะกันทุกที ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับผม

“แล้วครั้งนี้จะไปนานรึเปล่า”

“ดึกๆ ก็กลับ”

“มึงมีธุระไรที่นั่นวะ”

“เรื่องงานน่ะ”

“งาน?”

ผมปล่อยให้ไอ้กัสทำหน้าสงสัยต่อไปโดยไม่ได้ตอบคำถามมัน เพราะถ้าได้หลุดปากพูดออกไปก็ต้องอธิบายอีกยาว

ผมขึ้นเหนือครั้งนี้ด้วยเพราะต้องไปคุยเรื่องงานวิจัยกับเพื่อนเก่าที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อสองวันก่อน เป็นเพื่อนต่างวัยที่เคยอยู่ในทีมวิจัยด้วยกัน ผมไม่ได้ติดต่อเขามาหลายปีแล้วเพราะตั้งแต่กลับไทยผมก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย หาอะไรทำไปวันๆ อีเมลฉบับสุดท้ายที่ได้รับจากเขาก็เป็นตอนที่ผมเข้าเรียนมอปลายตามไอ้กัสกับไอ้ฟิว เขายังหัวเราะและบอกว่าเป็นเรื่องตลกมากที่ผมจะทำอย่างนั้นพร้อมกับชวนผมไปทำวิจัยเกี่ยวกับอายุรศาสตร์เมืองร้อนที่แอฟริกาใต้ แต่เพราะผมไม่ได้สนใจเลยไม่ได้ตอบอีเมลเขากลับไป

เมื่อสองวันก่อนเขาส่งอีเมลมาหาผมอีกครั้งบอกผมว่าเขากลับไทยและมีบริษัทหนึ่งที่ให้ทุนเขาทำวิจัยซึ่งเขาสนใจอยากสานต่องานวิจัยของผมที่ทำค้างไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่เขาต้องบินขึ้นเชียงใหม่ไปหาคุณย่าที่กำลังป่วยหนัก ผมถึงรับปากว่าจะไปเจอเขา

“กลับมาถึงก็โทรหากูละกัน แล้วจะมารับ”

ผมควักกระเป๋าตังค์ออกมา ก่อนจะยื่นแบงค์พันไปให้ไอ้กัสที่ทำหน้างงๆ

“ตอนเย็นซื้อข้าวไปให้ไอ้เมลด้วย มันคงอ่านหนังสือจนลืมเวลา”

“โอเค ไปดีมาดีว่ะ”

.
.
.

“คุณจะกลับเลยเหรอ อยู่เที่ยวด้วยกันก่อนสิ ผมมีร้านที่อยากพาคุณไป รับรองคุณภาพความงามแบบที่คุณชอบ เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันหลายปีแล้ว อยู่ต่อเถอะนะ”

หลังจากคุยงานกันเสร็จ เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีก็คะยั้นคะยอให้ผมอยู่เที่ยวต่อ แต่เพราะไม่มีการติดต่อใดๆ จากเมลเลยทำให้ผมรู้สึกกังวลและอยากกลับให้เร็วขึ้น

“คุณไม่ได้กลับไทยมาตั้งหลายปี แต่น่าแปลกที่รู้จักที่ทางแถวนี้ดี แล้วผมก็คงสู้เสน่ห์ของผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ อย่างคุณไม่ได้หรอกภู ไปกับคุณคงไม่มีผู้หญิงคนไหนมองผม”

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยน่า ผมต่างหากที่สู้คุณไม่ได้ ยังหนุ่มยังแน่นแบบคุณใครๆ ก็ชอบ ว่าแต่คุณเถอะ รีบกลับกรุงเทพทำไมล่ะ มีใครรออยู่รึเปล่า”

“ก็...มีนะ”

“แฟน?”

“ทำนองนั้น”

“ฮ่าๆ ผมแปลกใจกับเรื่องนี้นะ พูดจริงๆ ไม่เคยคิดสักทีว่าจะมีผู้โชคดีที่ได้ครองหัวใจคุณ”

“อาจจะเป็นผู้โชคร้ายมากกว่า”

“ต้องโชคดีสิ ผมแน่ใจว่าเขาต้องรู้สึกโชคดีมากที่ได้รับความรักจากคุณ ^_^”

คนตรงหน้าผมยังเป็นคนมองโลกในแง่บวกเช่นเดิม ต่อให้จะดูไม่ไฟแรงเหมือนตอนที่เขายังอายุยี่สิบสามก็เถอะ เขาเหมือนพี่ชายมากกว่าจะเป็นเพื่อน เพราะผมอายุน้อยที่สุดในทีมเขาเลยดูแลเทคแคร์ผมดีกว่าคนอื่น

“คุณอยู่เที่ยวต่ออีกวันนะ พักผ่อนสักหน่อยค่อยกลับไปสู้ปัญหาที่กรุงเทพต่อ สีหน้าคุณไม่ได้ดูมีความสุขนักหรอกจากที่ผมเห็น”

“....”

“ดีกว่ามั้ยที่จะคลายเชือกที่มันตึงจนใกล้จะขาดลงบ้าง ^^”

อาจจะดีกว่า...ล่ะมั้ง

.
.
.

(ทำแบบนี้ทำไมเท็น)

น้ำเสียงของเมลทำให้ผมสร่างเมาทันที

คืนนี้เป็นคืนที่สามแล้วที่ผมโบยบินอยู่เชียงใหม่ วันแรกก็ไปกับคุณภูนั่นแหละครับ วันต่อมาผมก็ไปของผมเองเพราะคุณภูเขาต้องไปเฝ้าคุณย่า

ส่วนเมล...ผมเพิ่งตัดสินใจรับสายมันวันนี้ ไม่ธรรมดาเลยกับสองร้อยกว่ามิสคอลและอีกห้าสิบข้อความที่มันส่งมา

“กินข้าวยัง”

(มึงเบื่อกูมากเหรอ ไม่รักกูแล้วหรือไง)

“เมล ไม่เอาน่า มันไม่ใช่อย่างนั้น กูมาทำธุระก็เลยถือโอกาสอยู่เที่ยวต่อ”

เป็นครั้งแรกที่ผมโกหกเพื่อความสบายใจของคนอื่น...

(ธุระสำคัญมากจนไม่มีเวลารับสายกูเลยเหรอ)

“.....”

(กูวางนะ ขอโทษที่รบกวน)

สายถูกตัดไปในทันที ผมไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้เลย ทำไมเสียงของเมลถึงสั่นได้ขนาดนั้น มันร้องไห้เหรอ หรือมันเป็นอะไร
ผมโทรกลับไปก็พบว่าติดต่อไม่ได้ มันทำให้ผมหวั่นใจอยู่เหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้ผมควรจะเก็บของเตรียมตัวกลับกรุงเทพ แต่สิ่งที่ผมทำคือนอนนิ่งๆ มองรูปของเมลที่หน้าจอมือถือพลางคิดสงสัยว่า ตลอดสามวันที่ผ่านมานี้...กี่ครั้งกันนะที่ใบหน้าของมันแว๊บเข้ามาในความคิด

ผมตอบได้เลยว่าเป็นหมื่นๆ ครั้ง ...แต่ทำไมผมถึงรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่คนเดียวก็ไม่รู้เหมือนกัน

ก๊อกๆๆๆ

ผมเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นคุณภูที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า แถมในมือยังหิ้วถุงมาพะรุงพะรัง

“ผมกลัวคุณหิวกลางดึกเลยไปซื้อมาให้ มีเรื่องอะไรรึเปล่า” ผมแน่ใจว่าไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาแต่ไม่รู้ทำไมคุณภูถึงได้รู้ว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจ

“เปล่า แล้วคุณย่าคุณเป็นไงบ้าง”

“ก็เหมือนเดิม อ่า...ว่าแต่ ไปเดินเล่นกันมั้ย”

“เดินเล่นตอนสามทุ่ม?”

“อากาศกำลังดีเลยตอนนี้ ไปนะๆ ผมจะพาคุณไปแถวประตูท่าแพ คุณต้องชอบแน่ๆ ผมรับรอง”

ผมมองรูปหน้าดูดีของคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ แว๊บหนึ่งที่ใบหน้าของเมลซ้อนทับขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรเหมือนกันเลย ผมคงจะเผลอคิดเรื่องเมลมากไป

“ก็ถ้าคุณรับรองขนาดนั้นผมไปด้วยก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะชอบรึเปล่า”

คนตรงหน้าผมยิ้มกว้าง แต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่ทำให้ผมอยากยิ้มตามเหมือนเมล คงไม่ปฏิเสธว่ารอยยิ้มของคุณภูเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนยอมสยบ ทว่า...กลับไม่ใช่กับผม แปลกดีเหมือนกัน

“ผมรู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร ไม่มีวันที่ผมจะพาคุณไปในที่ที่ไม่ชอบหรอกเท็น คุณก็รู้”

ผมรู้...เพราะผมไม่ได้โง่ เพื่อนเก่าผมคนนี้มีท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากที่รู้ว่าแฟนผมเป็นผู้ชาย เขาแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าสนใจผม และถ้าไม่ติดว่าเขาต้องไปเฝ้าคุณย่า เขาคงตามผมไปทุกหนทุกแห่ง

“แต่ผมไม่อยากรู้สักเท่าไหร่หรอก เข้ามาก่อนเถอะ ผมไม่คิดว่าคุณจะยืนรอผมอยู่หน้าประตูในระหว่างที่ผมไปอาบน้ำนะ”

“นึกว่าคุณจะให้ผมยืนรออยู่ตรงนี้ ^^”

“ก็ไม่ขัดข้องนะถ้าจะไม่เข้ามา”

“โธ่ เท็น”

ผมผละจากหน้าประตูเดินมาที่ตู้เสื้อผ้า ความจริงผมไม่ได้เตรียมของอะไรมาเลย ก็ได้ผู้ชายที่ยิ้มหน้าระรื่นอยู่ที่โซฟานั่นแหละเป็นคนหามาให้

“คุณจะกลับเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้”

“ทำไมกลับเร็วจัง อยู่ต่ออีกหน่อยสิ”

ผมเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจกับเสียงออดอ้อนที่ลอยข้ามห้องมา มันฟังดูน่ารำคาญและก้าวก่ายในเรื่องของผมมากทีเดียว จะอยู่หรือจะไปผมจำเป็นต้องให้เหตุผลไว้กับใครด้วยเหรอ?

แต่ก็น่าแปลกที่เวลาเมลอ้อนผมทีไร ผมไม่ได้รำคาญมันเลย...

...........................................To be continue.........................................

ขอละเรื่องกัสไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ถ้าติดตามต่อไปจะกระจ่างเอง (อาจจะ) เมื่อวานวันเกิด เลยไปล่องลอยมา แหะๆ ไม่ช้าไปนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 12-09-2013 18:50:32
อ้าวเท็น :ling2:

รอดูเมลกับเท็นเคลียกัน...

/แต่เอาจริงๆเราก็เข้าใจเท็น เราเลิกกับแฟนเพราะเรื่องอิสระของเรากับความไม่เข้าใจของแฟนบ่อยเหมือนกัน..orz
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 12-09-2013 18:57:47
แอบสงสารเมล

HBD ย้อนหลังค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 12-09-2013 19:01:08
อ้าวดีกันแปปๆ มาม่ามาเฉยยยย  --"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-09-2013 19:27:35
เท็นก็ยังเป็นเท็น

แต่สงสารเมลจัง กลับมาเคลียร์กันไวไวนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 12-09-2013 19:35:08
เท็นอย่าทำกับเมลแบบนี้

สงสารเมลๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 12-09-2013 20:12:54
จะให้เม็ลเปลี่ยนแปลงตัวเองมันยากนะ ต้องค่อยๆปรับจูนเข้าหากัน ให้เวลา อย่าใจร้อนนะเม็ล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 12-09-2013 20:52:29
งงเบย ย ย เท็นแลสับสนนะคะลูก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 12-09-2013 21:45:53
เมลน่าสงสารนะ ตั้งแต่แรกเริ่มก่อนจะจะคบกันเลยล่ะ  :เฮ้อ:
มันจุก มันหน่วงอยู่ในอกยังไงไม่รู้
ถ้าเท็นมีความสุขกับการอยู่คนเดียวก็ปล่อยเมลไปเถอะ
เพราะตอนนี้คงถึงจุดอิ่มตัวของเท็นแล้ว การมีเมลเป็นแฟนมันไม่น่าสนใจอีกต่อไป
ถ้ายังคบกันไปเรื่อยๆ คงมีสักวันที่เท็นเบื่อเมลจริงๆ จังๆ จนถึงขั้นรำคาญ
ถึงวันนั้นแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็คงไม่เหลืออีกต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 12-09-2013 22:23:56
สงสารเมลจัง :hao5:โกรธเท็นจริงๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 12-09-2013 22:37:35
ถ้าได้ทำในสิ่งที่รัก เธอจะไม่รู้สึกเบื่อหรอก
คนรักก็เหมือนกัน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-09-2013 22:58:29
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 12-09-2013 23:21:18
 :fox2:  เล้าเป็ด เป็นแหล่งที่รวมนักแต่งดีๆแบบมืออาชีพมากเลยครับ   :c4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 13-09-2013 02:03:19
 :เหอะ1: :เหอะ1: HBD ย้อนหลังค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: kira_love_y ที่ 13-09-2013 02:24:35
 :really2: เป็นนิยายที่ให้ลุ้นตลอดเวลาจริงๆว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปเป็นยังไง  :hao4: สงสารเมลจังเลย :hao5:สำหรับเท็นแล้วคำว่ารักคงยังไม่พอจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 13-09-2013 08:11:19
รีบกลับไปง้อเมลได้แล้ว
นอนร้องไห้ตาบวมไปหมดแล้วมั๊ง :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-09-2013 10:43:08
HBD ย้อนหลังจ้า
ขอมีให้สุขภาพแข็งแรงน้า
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยระวังเป็นหวัด
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 13-09-2013 10:59:20
มันคงต้องคุยกันใหม่ระหว่างเท็นกะเมล  ต้องพบกันครึ่งทาง
เท็นจะไปไหน ทำอะไรควรบอกเมล และเมลต้องเข้าใจว่าไม่ควรห้าม ถ้าเรื่องนั้นๆไม่คอขาดบาดตายจริงๆ

แฟร์ๆเนาะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 13-09-2013 12:54:52
เท็นสู้ๆนะ อยู่ห่างกันให้ทำความเข้าใจตัวเองแบบนี้ก็ดีนะ

แต่แอบสงสารเมล คงคิดว่าถูกเบื่อ โอย ทำไมตอนนี้รู้สึกปวดใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 13-09-2013 17:21:14
อ้าว  ยังไงล่ะเนี่ย  เท็นอย่าเพิ่งเบื่อเมลน๊าาาาาา    :z3:
รีบๆกลับบ้านได้แล้วเท็นนน   :hao7:
รอตอนต่อไปฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 13-09-2013 18:29:11
Special Inside : เมล ฐาปกรณ์

ผมเคยมั่นใจในตัวเอง เคยหลงตัวว่าโดดเด่นและเป็นที่ต้องการของใครๆ ไม่เคยเลยสักครั้งในชีวิตที่จะรู้สึกว่าตัวผมนั้นด้อยค่าและไม่มีความสำคัญ

แต่...เมื่อผมได้รู้จักกับคนๆ หนึ่ง ผมกลับพบว่าโลกใบเดิมๆ ที่ผมเคยอยู่มันผิดเพี้ยนไป ความมั่นใจของผมลดหายไปแทบไม่เหลือเพราะคนเพียงคนเดียวที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ผมก็ต้องคอยวิ่งตามเขา

ทำไมผมถึงไม่เคยจำสักครั้ง ไม่เคยเข็ดหลาบเลยไม่ว่าเขาจะใจร้ายยังไง ผมก็ยังเอาแต่วิ่งตามเขาอยู่อย่างนั้น วิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งไปจนกระทั่งผมแน่ใจแล้วว่าตัวเองได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ยังเห็นเพียงแผ่นหลังของเขา เขาที่ไม่เคยหยุดรอผมเลยไม่ว่าระหว่างเราจะใช้คำจำกัดความว่าอะไรก็ตาม

ผมกำไอโฟนในมือแน่น อยากจะขว้างทิ้งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่ของผม แต่รูปเท็นที่ยิ้มอยู่กับไอ้เวรที่ไหนไม่รู้นั่นสร้างความเจ็บปวดให้ผมมาสามวันแล้ว ไม่มีสักครั้งที่ผมได้เห็นรูปนี้แล้วผมจะไม่รู้สึกอยากฆ่าใครสักคน

“เมล ให้ฟิวโทรคุยกับเท็นให้มั้ย อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เมลคิดนะ ฟิวว่าเมลใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า” ผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน สีหน้าของฟิวดูจะเป็นกังวลไปกับผมด้วยทุกครั้งเวลาผมทำหน้ากลุ้มใจแบบนี้

ใช่...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมกลุ้มใจเรื่องของเท็น คนเพียงคนเดียวที่ทำให้ผมกลายเป็นผู้ชายงี่เง่า น่ารำคาญและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน

ผมไม่ได้นัดฟิวออกมาเจอ หรือเล่าอะไรให้ฟิวฟัง แต่ผมบังเอิญเจอฟิวนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่ร้านพี่เจ๋ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกตินักหากวัดจากนิสัยของฟิว เราสองคนต่างก็มีเรื่องกลุ้มใจเหมือนกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่าฟิวมีเรื่องอะไร แต่ฟิวกลับรู้ทุกครั้งในเรื่องของผม

“กัสบอกเหรอ” ผมถามฟิวพลางยกเหล้าขึ้นดื่ม พี่เจ๋งเจ้าของร้านชำเลืองมองมาเล็กน้อยแล้วก็หันกลับไปเทคแคร์ลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ

“ถึงกัสไม่บอก ฟิวก็รู้ มีแค่เรื่องเท็นไม่ใช่เหรอที่ทำให้เมลเป็นแบบนี้” น้ำเสียงเศร้าๆ ของฟิวไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลย ผมกลับยิ่งรู้สึกแย่ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ฟิวก็ยังเจ็บปวดเพราะผม

“ไม่มีอะไรหรอกฟิว ไม่ต้องห่วง”

ผมรู้ว่าฟิวไม่เชื่อเพราะผมแน่ใจว่าตัวเองฝืนยิ้มได้ไม่ดีนัก มันเป็นอย่างนี้มาตลอดสามวันที่เท็นหายไป ผมเรียกว่าหายไปได้ใช่ไหม ในเมื่อเขาไม่ได้บอกผมเลยว่าเขาไปไหน ไม่มีโทรศัพท์สักสายหรือแม้แต่ข้อความสักฉบับ เขาไม่ยอมรับสายหรือตอบกลับข้อความผมเลยด้วยซ้ำ เขาแค่หายไปเฉยๆ หายไปแบบที่เขาเคยทำ

“อย่าเป็นแบบนี้เลยเมล พอแล้ว ฟิวไม่ให้ดื่มแล้ว”

แก้วถูกแย่งไปจากมือผม ฟิวจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

“ไม่มีใครก็ยังมีฟิวนะ เมลลืมไปแล้วเหรอ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ฟิวก็พร้อมจะอยู่ข้างๆ เมล เพราะฉะนั้น ขอร้องล่ะนะ อย่าทำหน้าแบบนี้เลย”

ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงกับความรักที่ฟิวมีให้ ผมไม่เคยเจอใครที่ทำทุกอย่างเพื่อผมขนาดนี้ เวลาที่ผมเศร้าเสียใจหรือกลุ้มใจจนแทบบ้า ข้างกายผมทุกครั้งจะมีผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้นั่งอยู่ข้างๆ คอยกุมมือและพูดปลอบใจ

มันไม่เคยเป็นเท็นที่ผมรักเลยสักครั้ง...

“ฟิวรู้จักผู้ชายคนนั้นมั้ย...” ผมถามขึ้น แต่เมื่อเห็นฟิวทำหน้างงเล็กน้อย ผมเลยพูดต่อว่า “คนที่อยู่กับเท็นในรูป”

“ไม่รู้จักหรอก”

“เหรอ”

“ก็แค่รูป แค่รูปที่ใครก็ไม่รู้แท็คมา เมลอย่าใส่ใจเลย”

ผมจะไม่ใส่ใจก็ได้ถ้าในรูปนั้นไม่ได้มีคนที่ผมตามหามาตลอดสามวัน ผมจะไม่ใส่ใจก็ได้ถ้าคนในรูปนั้นไม่ใช่แฟนของผม ไม่มีเวลารับสายผมแต่มีเวลาไปเที่ยวกับไอ้บ้านั่น ไม่มีเวลาตอบกลับข้อความผมแต่มีเวลาไปอี๋อ๋อกับไอ้เวรนั่นน่ะเหรอ! ผมคงต้องไปบวชถ้าเห็นรูปบ้าๆ นั่นแล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไร!

ผมนั่งดื่มโดยมีฟิวนั่งกุมมืออยู่ข้างๆ ไปสักพักกัสก็โผล่มาพร้อมกับน้องแนงที่สถานะยังคลุมเครือกันอยู่

“ปิดมือถือทำไมวะไอ้เมล” มาถึงก็ตั้งคำถามโลกแตกกับผมทันที

“ก็ไม่ทำไม”

“เออ ดีเนอะมึง อ้าว ไอ้ฟิว มีคนรอมึงอยู่ที่บ้านแหน่ะ”

ผมเห็นฟิวชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนฟิวจะตัดสินใจทำหูทวนลมมากกว่าจะรับรู้ในสิ่งที่กัสบอก

“แล้วรู้ได้ไงว่ากูอยู่นี่” ผมถามพลางยกมือบอกเด็กให้เอาแก้วมาเพิ่มให้กัส

“มีสายรายงานละกัน ว่าแต่ติดต่อเหี้ยเท็นได้รึยัง”

ผมเลือกจะยกเหล้าขึ้นดื่มเป็นคำตอบ การได้ยินชื่อเท็นในตอนนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากเท่าไหร่

“แปลกใจนะที่มึงรับสาย เออ บอกกูว่าจะกลับตอนไหนมึงลืมไปรึยัง กวนตีนเท็น เออ อยู่ อยู่กับกูกับฟิว ใช่ ร้านพี่เจ๋ง เออน่ะ สั่งเก่งจริงมึง เดี๋ยวกูจัดการเอง จะคุยกับมันมั้ย”

หลังจากที่ละสายตาจากกัสไปได้สักพัก ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันกำลังคุยโทรศัพท์ และตอนนี้ก็ยื่นไอโฟนในมือมาให้ผม รูปเจ้าของเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ผมไม่ยอมรับไอโฟนมาจากมัน

“กูไม่มีอะไรจะคุย” ผมปัดไอโฟนที่ยื่นมาจนเกือบจะทิ่มจมูกให้ออกห่าง แต่กัสก็ยังดันทุรังเอามันมาอยู่ตรงหน้าผม

“คุยหน่อย เร็วๆ เลย ค่าโทรกูแพง”

ผมทำไม่สนใจได้แค่สามนาทีก็ทนลูกตื้อของกัสไม่ไหว หรือไม่...ก็ทำใจแข็งกับรูปเท็นที่หน้าจอไม่ได้นาน ไม่รู้ว่ากัสถ่ายไว้ตอนไหน แต่เป็นรูปที่เท็นผมยาวกว่าเท็นคนปัจจุบัน นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ดูฉลาดหาตัวจับยาก ริมฝีปากมันฉีกยิ้มกวนๆ ผมยาวๆ ของมันทำให้หน้าที่หวานอยู่แล้วค่อนไปทางสวยมากกว่าหล่อ

ผมจ้องหน้าจอไอโฟนอยู่ชั่วครู่ เก็บซ่อนความคิดถึงที่มันแทบล้นอยู่ในอก เก็บทุกความรู้สึกที่จะทำให้ผมกลับไปใจอ่อนให้กับเท็นอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจรับไอโฟนจากกัสมาคุย

“มีอะไร”

(พรุ่งนี้กลับแล้ว)

เสียงเรียบเรื่อยของเท็นบอกมาแค่นั้นแล้วก็เงียบไปนานจนผมคิดว่าสายถูกตัดไปแล้ว แต่พอมองดูหน้าจอก็ยังเห็นเวลากำลังนับอยู่ และในเมื่อเท็นไม่พูด ผมก็คิดว่าผมควรจะเงียบเช่นกัน

(เมล เปิดมือถือหน่อย เดี๋ยวโทรหา)

“จะโทรมาทำไม”

สำหรับเท็น ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยแล้ว ผมเจอมามากพอแล้วกับความใจร้ายของเท็น ก็เป็นแบบนี้ทุกทีเวลาที่เท็นรู้ว่ากำลังจะเสียผมไป เป็นแบบนี้ทุกครั้งถ้ารู้ว่าผมเหนื่อยมากและจะไม่ยอมวิ่งตามอีก

(คิดถึง)

“ไม่ช้าไปเหรอสำหรับคำนี้”

(เมล เปิดมือถือนะ ไม่ทำอย่างนี้)

“ทำอย่างไหน อย่างที่มึงทำน่ะเหรอ”

ผมไม่ได้อยากทะเลาะกับเท็น นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่ผมคิดจะทำ แต่ผมก็ลืมความทุรนทุรายตลอดสามวันที่ผ่านมาไม่ได้

ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อัดแน่นอยู่ในอก ปวดแปลบทุกครั้งกับจินตนาการต่างๆ นานาที่ผมคิดว่าจะเกิดกับเท็น ผมเป็นห่วง ผมอยากรู้ว่าเขาไปไหน อยู่ยังไง แต่สิ่งที่ผมได้รับก็คือการที่ได้เห็นรูปเขาอยู่กับคนอื่น ได้เห็นเขาหัวเราะ มีความสุขอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่รู้จัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะติดต่อมาหาผม

ไม่มีเลยแม้สักวินาทีที่เขาจะคิดถึงความรู้สึกของผม...

(เราต้องคุยกัน)

“ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วเท็น ทุกอย่างมันชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

(หมายความว่าไงเมล)

“มึงก็รู้ว่ากูพูดถึงอะไร มึงเบื่อมึงก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องหายไปกับคนอื่นแบบนี้ กูเป็นคนนะเท็นกูพูดจารู้เรื่อง แค่มึงบอกว่ามีใครกูก็พร้อมจะปล่อยมึงไปอยู่แล้ว ทำแบบนี้กับกูทำไมวะ”

(พูดเรื่องอะไร)

น้ำเสียงเรียบๆ ของเท็นไม่ได้ทำให้ผมรู้เลยว่ามันกำลังทำหน้าแบบไหนตอนตั้งคำถาม

(เราต้องคุยกันเมล ไม่ใช่ทางโทรศัพท์)

“ไม่!”

(คืนนี้กลับไปนอนห้อง อย่าทำอะไรโง่ๆ ประชดกัน เข้าใจไหม แล้วพรุ่งนี้เราคุยกัน)

“เรื่องของมึง”

(พูดไม่สวย แต่ช่างเถอะ เปิดมือถือด้วย)

“จะเปิดหรือไม่ก็เป็นเรื่องของกู”

(เมล)

“อะไรล่ะ”

ผมอยากจะชกหน้าตัวเองที่เผลอถามเสียงอ่อนกับเท็นไป

“วางนะ เปลืองค่าโทรไอ้กัส”

(อือ งั้นเดี๋ยวโทรหานะ)

“จะโทรมากวนทำไม อยู่ร้านพี่เจ๋ง จะกินเหล้า”

ผมรู้ว่าผมพูดแรงไปเพราะเท็นเงียบอยู่นานเลยทีเดียว แต่ผมก็คิดไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะผมคนเดิม...ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อเท็นเลย

(ไว้กลับห้องก็ได้)

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่กดตัดสายแล้วส่งไอโฟนคืนให้กัสที่ไม่ได้เดือดร้อนใจกับยอดค่าโทรที่มันจะต้องจ่ายในสิ้นเดือนนี้เลย

“จะเลิกเหรอวะ” กัสถามพลางเลิกคิ้ว

“คงงั้น”

“แน่ใจว่าไหว”

ผมยักไหล่แทนคำตอบ กัสอมยิ้มเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าผมอาจจะทำไม่สำเร็จ ส่วนฟิวแค่ส่งยิ้มเศร้าๆ มาให้

“อย่าลืมวันที่พวกมึงมีความสุขด้วยกัน กูบอกได้เท่านี้”

กัสยกแก้วขึ้นมาชนกับผมที่กำลังรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตด้วยคำพูดของมัน

ผมไม่ลืม...และไม่คิดว่าชีวิตนี้จะลืมมันได้ด้วย อยู่กับเท็นผมมีความสุขมาก เราไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ เลยตั้งแต่ที่เริ่มคบกัน อาจจะเพราะว่าเท็นตามใจผม ยอมในเรื่องที่จะทำให้ผมโกรธหรือไม่พอใจ ยอมจนพักหลังๆ ไม่เคยพูดหรือบอกอะไรผมเลย มันเป็นความห่างเหินเล็กๆ ที่ผมก็รู้สึกได้ ถึงเท็นจะยังคงทำตัวน่ารักกับผมแต่ไม่ได้ช่วยให้ช่องว่างที่เกิดขึ้นนั้นมันหดเล็กลงเลย...

แล้วผมต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปในทิศทางไหนถึงจะพอดีกับเท็น...เรื่องนี้ผมก็ยังไม่รู้

“ไม่ว่าเมลจะตัดสินใจยังไง ฟิวก็ขอให้เมลนึกถึงความสุขของตัวเองบ้างนะ ถ้าทำไปแล้วมันเป็นการทรมานตัวเอง เมลก็อย่าฝืนทำ เพราะเท็นน่ะ รักเมลมากเลยนะ” ฟิวบอกผมเสียงเบา ตาโตๆ แดงนิดๆ แถมยังวาววับเหมือนน้ำตาพร้อมจะหยดลงมาได้ทุกเมื่อ

“เมลเช็ดน้ำตาให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าร้องไห้เพราะเมลอีกเลยฟิว ฟิวควรจะมีความสุขกับใครสักคนที่รักฟิวได้อย่างที่ฟิวรัก”

“แค่เมลมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว แต่ถ้าวันไหนเมลไม่มีใคร อย่าลืมนึกถึงฟิวนะ เมลก็รู้ว่าฟิวจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างๆ อย่างนี้”

ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เคยคิดจะตอบแทนความรักของฟิว คนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ให้ความรักและทำทุกอย่างให้ผมไม่เปลี่ยน แต่ความพยายามของผมไม่เคยสำเร็จพอๆ กับที่ผมไม่เคยเลิกรักเท็นได้

ในขณะที่ผมทุ่มเทความรักให้กับเท็น ฟิวก็คอยทุ่มเทให้กับผมเช่นกัน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่สามารถรู้สึกกับฟิวได้อย่างที่รู้สึกกับเท็น ผมรู้จักกับฟิวตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ได้เจอได้นั่งเรียนกับฟิว ได้รับสิ่งดีๆ ที่ฟิวคอยทำให้

ตรงกันข้ามกับเท็นที่ผมแค่รู้จักผ่านเรื่องเล่าของฟิวกับกัส ไม่เคยมีโอกาสได้เจอกันเลยจนกระทั่งขึ้นปีสอง และเหมือนมีใครสักคนเล่นตลกกับชีวิตผม ให้เท็นผ่านเข้ามาและไม่ให้ผ่านเลยไป ให้แฟนที่ผมคิดจริงจังกับเขาคนแรกเป็นผู้ชาย และให้คนๆ นั้นใจร้ายกับผมมากเหลือเกิน

“กลับห้องเลยมั้ย กูไปส่ง”

ผมเลิกคิ้วมองกัสอย่างแปลกใจ

“เพื่อ?”

“ไอ้เท็นสั่ง มันกลัวมึงเมาแล้วขับรถกลับไม่ไหว”

“ไม่ได้ดื่มจนขาดสติ”

“แต่หน้ามึงก็ไม่ค่อยมีสตินะไอ้เมล จะเอาไง ไหวมั้ย”

“ทำหน้ากวนตีนอีกกูจะบอกไอ้แต้มมาปล้ำมึง”

“เหี้ย พูดอะไรเกรงใจคนข้างตัวกูหน่อย”

น้องแนงที่สนใจนักร้องบนเวทีอยู่ตั้งแต่ก้นแตะโซฟาหันมาส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะพูดว่า “แนงไม่ถือหรอกค่ะพี่เมล คนอย่างพี่กัสนานๆ ทีให้โดนซะบ้างก็คงไม่เป็นไร”

“อ้าว พูดงี้เดี๋ยวมีเคลียร์ยาว”

น้องแนงหยิกแขนกัสแรงๆ จนมันเบ้หน้าแล้วยกมือทำท่ายอมแพ้

“เคลียร์อะไร เรื่องยัยแฟร์โรคจิตเด็กเก่าพี่รึไง เตรียมรับมือหลังจากมันออกจากโรงบาลได้ยังล่ะ”

“คงไม่ซ่าอีกนานล่ะน่า”

ผมนั่งดื่มต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับ ฟิวยังคงยืนยันว่าจะอยู่ต่อ กัสกับน้องแนงเลยอยู่เป็นเพื่อน

ผมกลับมาถึงคอนโดก็เกือบตีสองแล้ว พอเปิดมือถือหลังจากอาบน้ำเสร็จก็มีสายเข้าทันที ผมปล่อยให้มันสั่นอยู่อย่างนั้นจนสายตัดไป และก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปสักครึ่งชั่วโมงได้โดยที่ผมได้แค่นั่งมอง จนสุดท้ายต้องตัดสินใจรับสาย

(จะนอนยัง)

“อือ”

(กวนรึเปล่า)

“อืม”

(เมาเหรอ)

“เปล่า”

(ไม่อยากคุยเหรอ)

“อืม”

(งั้นก็ฟังอย่างเดียว)

ผมเกือบหัวเราะออกมาแล้ว แต่ก็เก็บเสียงไว้ได้ทัน แถมในหัวยังมีแต่คำว่า คิดถึง คิดถึง คิดถึง ลอยอยู่เต็มไปหมด

(พรุ่งนี้มารับได้มั้ย เมลมีเรียนรึเปล่า)

“ตอนไปก็ไม่ได้ไปส่ง ตอนมาก็หาทางกลับเอง”

(อยากให้มารับ)

“ไม่ไป ไม่ว่าง วางได้รึยัง อยากนอน”

(ไม่วาง)

“เพื่ออะไรวะเท็น”

(ก็ไม่อะไร แค่อยากคุยด้วย)

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ถึงจะรู้สึกดีใจที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น แต่มันกลับยิ่งทำให้ผมจำความรู้สึกของสามวันที่ผ่านมาได้แม่น

“สามวันที่กูโทรหา มึงไม่แม้แต่จะรับสายหรือโทรกลับ แล้วตอนนี้มาบอกว่าอยากคุย หึ! กูต้องทำตามความอยากของมึงรึไง”

(ไม่ต้องก็ได้ แค่อย่าวางสายก็พอ)

“อะไรที่มึงขอ ต่อไปนี้กูจะไม่ทำ เข้าใจมั้ยเท็น”

ผมพูดจบก็กดตัดสายทิ้งทันที และคาดว่าอีกสามวินาทีเท็นต้องโทรกลับมา ซึ่งมันก็ตามนั้น แต่ผมตัดสินใจสอดมันไว้ใต้หมอนอีกใบที่เจ้าของมันอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ แล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงไปอีกทาง

แค่ตัดสินใจเปิดมือถือตามคำขอร้องของมึงนี่ก็มากเกินไปแล้ว รู้มั้ยวะ -_-

.............................................To be continue.........................

เอ้า เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่  :a5:

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ  :ruready

อ่า.. Special Inside เพิ่งเอาเมลออกมาพูดเป็นครั้งแรก เป็นไงกันบ้างคะ พ่อหนุ่มคนนี้ เขาน่ารักใช่ม้าาาาาา  :impress2:


หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 13-09-2013 18:39:25
ไม่นะๆๆๆๆๆๆ



จงคืนดีกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 13-09-2013 19:09:32
ความรักเป็นเรื่องของคน2คนนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว มีอะไรเคลียกันดีกว่า ถ้าคิดว่ามันไม่โอเคแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-09-2013 19:49:14
เหนื่อยไหมเมลเท็น นอนพักสักคืนให้อารมณ์เย็นลง
กว่าจะรักและเป็นแฟนกันได้ แล้วหันหน้าคุยกันก่อน
ถ้ามันไม่เวิร์ค ก็ค่อยจบ

เอาใจช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 13-09-2013 20:10:43
ดูนิสัยสองคนนี้เเล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้  :เฮ้อ:
แต่ก็เชียร์ 5555555
เอาใจช่วยให้จูนติดกันไวๆ ปรับความเข้าใจ ทำข้อตกลงที่โอเคกับทั้งสองฝ่าย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 13-09-2013 20:37:11
เมลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลต่องเข้าใจเท็นนะเผื่อเท็นมีธุระต้องทำเลยบอกเมลไม่ได้ ค้างงงงงงงงงงงงอย่างแรง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 13-09-2013 21:08:25
ทำไมรู้สึกเมลงี่เง่าจัง

ก็เมลบอกเองว่าเท็นยอมเมลทุกอย่าง

แล้วไหงงี่เง่างอนไม่เลิกราล่ะ

แถมจะเลิกอีก ไม่ไว้ใจเท็นเลย

ไม่ถามเท็นด้วยซ้ำ ไม่ฟังอะไรเลย

รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ


ป.ล.อยากบอกว่าเป็นแฟนคลับเท็น ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 13-09-2013 21:20:23
อูยยยยย เค้าชอบเมลเวอร์ชั่นนี้อ่ะ   :katai2-1:
อย่างน้อยก็แข็งกับเท็นบ้าง เท็นจะได้รู้ว่าเมลรู้สึกยังไง
จะได้ทำอะไรนึกถึงจิตใจคนอื่น ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ
อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากคุยก็ไม่คุย
เข้าใจว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่อย่างน้อยจะทำอะไรก็บอกเมลบ้าง
ไม่ใช่ว่าคนห่วงก็ห่วงไปเหอะ ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น
ใจแข็งให้นานๆ นะเมล เท็นจะได้รู้ว่าโลกก็ไม่ได่หมุนรอบตัวเท็นคนเดียว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-09-2013 21:24:30
บางทีต้องดัดนิสัยเท็นบ้างนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 13-09-2013 21:28:26
แล่ว แล่ว แล้ววววว เอาไงน้องเท็น น้องเมลโกรธแล้วนะ --"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 13-09-2013 21:37:31
เมลไม่เข้าใจเท็นเลย

เหนื่อยแทน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-09-2013 21:51:59
ต่างคนต่างมีเหตุผลนะ แต่ยิ่งนานไป ทำไมรู้สึกว่าทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้อะ :z3:
สงสัยต้องพบกันคนละครึ่งทาง ต่างคนต่างรัก อย่าทะเลาะกันเลย :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-09-2013 22:03:48
เลิกไปก็ดีรู้สึกว่ายิ่งอ่านไป เหมือนเมลจะยิ่งใจเสาะ

เหมือนผู้หญิงขึ้นทุกวัน โทษว่าวิ่งตามไม่ทัน หรือไม่เอาใจใส่เหมือนฟิว ไม่ดีแบบฟิว

ถามหน่อยเหอะว่าไม่ชอบเท็นที่ตรงนี้หรือไง เท็นก็เป็นแบบนี้ตลอด ถ้าเท็นเอาใจใส่แบบคนอื่นจะชอบเท็นหรอ

ถ้าคิดว่าเท็นใจร้าย ก็อย่ามายุ่งเลยสิตั้งแต่แรก ไปชอบฟิวโน่น

ทำไมถึงไม่รู้จักแฟนตัวเอง ไม่เข้าใจเท็นบ้าง ว่าเท็นอัจฉริยะก็ทำให้ความคิด

การใช้ชีวิตต่างจากคนปกติ แต่เท็นก็พยาปรับเข้าหาเมลแล้ว ทำไมไม่ดูบ้าง

มีแต่ถามจุกจิก งอนไม่พอใจ ทำนิสัยเหมือนผู้หญิง ห่างกันแค่สามวัน ทำอย่างจะเป็นจะตาย

เห็นรูปแล้วไง คิดเองเออเองต่างๆนา โดยไม่คิดจะฟังเท็นบ้าง มีแต่ประชด ไม่รับโทรศัพท์ปิดเครื่อง

เท็นเลิกเหอะๆ ไม่ชอบเลยผู้ชายแบบนี้ หาใหม่คนดีๆมีเยอะแยะ คิดว่าตัวเองเป็นระบบสุริยะจักรวาลหรือไง

ที่ใครๆต้องสนใจ ต้องวิ่งตาม หล่อตายล่ะ ไม่แมนเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 13-09-2013 22:26:17
 :jul3:สะใจจริง เมลเอาคืนซะบ้าง.เท็นตามใจตัวเองเกินไป. :a2:
มาต่ออีกนะ :ling1:มันค้าง :call:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 13-09-2013 22:35:52
ง่ะ  งานงอกกกก    :katai1:
รีบกลับมาเคลียร์ด่วยเลยเท็นนนนน    :z3:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 14-09-2013 00:11:15
ห่างกันซักพักก็ดีนะ แต่ต้องคุยกัน

พี่ชายตาเท็นชักออกลาย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 14-09-2013 00:50:16
อึน  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 14-09-2013 00:55:47
 :เหอะ1:  นับว่าเมล  เป็นคนที่ใจเย็นและรักเท็นจริง สงสารในความรู้สึกเมล
             เท็นทำตัวเองมากไป  เริ่มกลัวที่จะต้องสูญเสีย  เข้าใจว่ากำลังปรับตัว
             รักคนแต่ง  ใช้ภาษาในการแต่งดีครับ                                               :c4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-09-2013 01:20:59
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 14-09-2013 02:28:17
 o22 ตัดสินคนอื่นเพียงแค่รูปถ่าย คิดงั้นก็ตามสบายไม่แคร์ ชิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 14-09-2013 02:29:30
เมลใจเด็ดแฮะ แต่ก็นะ เพื่อให้เท็นได้รู้ใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-09-2013 13:21:45
เท็นโดนซะบ้างก็ดี  แต่นะก่อนจะโดนอะไรแบบอย่างน้อยฟังเท็นมันก่อน  ก่อนที่จะโกรธ จะเลิก จะอะไรก็ได้ที่เมลตั้งใจไว้ ระวังเท็นมันตัดใจเมื่อไหร่ เมลจะอ้อนวอน เท็นจะไม่ทันมามองอีกเลย

ปล.อ่านตอนนี้ แล้วนึกถึงเพลง "ดีพอให้รอไหม"เลย  http://www.youtube.com/watch?v=3KCPBmDn2YQ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-09-2013 18:22:48
กดเล่นเพลงด้านล่าง อาจไม่เข้ากันแต่อยากให้ฟัง นะคะ  :กอด1:

ตอนที่ 21

“จะไปเรียนเหรอ”

คำถามของผมไม่ได้รับคำตอบ เมลเดินผ่านหน้าผมไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองหรือเอ่ยทักสักคำ

“เมล กินข้าวรึยัง กินก่อนไปเรียนดีมั้ย”

เป็นเช่นเดิมที่ทั้งห้องยังมีแต่ความเงียบ เมลแค่ยืนกลัดกระดุมเสื้อช็อป หน้าหล่อๆ ของมันขรึมอย่างที่ปกติไม่เคยเป็น

“ไปทำให้นะ”

“ไม่ต้อง จะมาลำบากอะไรกับกู ไม่กลับบ้านมึงไปล่ะ”

ผมไม่คุ้นกับเมลในโหมดนี้เท่าไหร่ เลยไม่มีคำตอบดีๆ กลับไปให้มัน

ถึงจะรู้ว่ากลับมาต้องเจอแบบนี้และเตรียมใจไว้แล้วระดับหนึ่ง ทว่าไม่คิดว่าจะทำให้รู้สึกแย่ขนาดนี้เลย แต่ผมทำผิดเองก็ต้องยอมรับ เมลมีสิทธิ์จะโกรธผม หรือแม้กระทั่งอยากเลิกกับผม...

ถ้าถามผมว่าในเมื่อรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างนี้แล้วทำไมถึงทำน่ะเหรอ... บางทีในทุกการกระทำของผมก็ไม่เคยจำกัดเหตุผลไว้เลย ในอารมณ์นั้นผมแค่อยากอยู่ไกลๆ จากเมล อยากมีอิสระกับชีวิตเดิมๆ ของผม

แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตั้งแต่มีอีกคนเข้ามาในชีวิต มันก็ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว และผมต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับความเอาแต่ใจของตัวเองในราคาแพงเลยทีเดียว

“รอได้มั้ย เดี๋ยวไปเรียนด้วย”

“ทำไมกูต้องรอ”

เมลจ้องผมผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้ามัน ไม่ได้ดูมีความสุขเหมือนทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้ๆ

“เราห่างๆ กันบ้างก็ดีนะ จะได้มีเวลาทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง”

ผมได้แต่รับฟังโดยที่สมองไม่ทำการประมวลผลความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นเลยสักนิด

“ออกไปแล้วก็ล็อคประตูให้ด้วย”

ประโยคฟังดูคุ้นๆ เหมือนครั้งหนึ่งผมเคยพูด ตอนพูดเองก็คิดว่าแค่ประโยคธรรมดา แต่พอเป็นคนฟัง ทำไมมันหน่วงหัวใจอย่างนี้ก็ไม่รู้!

.
.
.

“เดี๋ยวมันก็หายโกรธ คนคบกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แล้วผู้ชายที่แท็ครูปมาให้มึงมันเป็นใคร”

ผมละสายตาจากเป็ดน้อยตรงหน้ามามองไอ้กัสที่ยืนดูดบุหรี่อยู่ใกล้ๆ มันบอกว่าวันนี้ไอ้ฟิวอนุญาตให้โดดเรียนมาอยู่เป็นเพื่อนผม

“เพื่อนเก่ากู ไม่รู้ถ่ายตอนไหน เป็นเรื่องขึ้นมาเลยเนี่ย เซ็งแม่งจริงๆ”

“ก็ถ้ามึงกลับมาตามกำหนดที่บอกกูไว้ มันจะเป็นเรื่องขึ้นมามั้ยล่ะ”

“ต่อให้กูกลับมาตามกำหนดมันก็ยังเป็นเรื่องอยู่ดีนั่นแหละ เพราะก่อนไปแม่งก็โกรธกูอยู่แล้ว”

ไอ้กัสแสยะยิ้มแล้วถามด้วยหน้าตากวนตีนว่า

“มึงทำหน้าอย่างนี้ก็เป็นด้วยเหรอวะ”

“อะไรของมึง”

ไอ้กัสหัวเราะเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

“ทำหน้าเหมือนว่าโลกกำลังจะแตก นี่แหนะไอ้เท็น อย่างแรกเลย มึงรู้ตัวรึยังว่าตัวเองผิด”

ผมเงียบมองเป็ดน้อยว่ายน้ำตามหลังแม่ไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ไอ้กัส

“ในเมื่อผิด ก็ต้องขอโทษ ถ้าขอโทษแล้วมันยังไม่หายโกรธ ก็ต้องขอโทษต่อไป แต่ถ้ามึงคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว ต่างคนต่างกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง มึงก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น อยู่เฉยๆ มองไอ้เมลโดนหมาคาบไปแดก”

“...”

“ไม่เคยมีไม่ใช่รึไง คนที่มึงบอกว่าเป็นแฟนได้เต็มปากขนาดนี้น่ะ”

“...”

“คิดดีๆ นะเท็น”

“...”

“คนคบกันมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกันบ้าง กูกับแนงบางครั้งก็ยังเบื่อๆ กันเลย มีคู่ไหนบ้างที่คบกันแล้วจะหวานกันตลอดเวลาวะ มึงดูอย่างไอ้คิม เมียมันตามจิกเช้าจิกเย็น มันก็บ่นให้ฟังประจำแต่ก็ไม่เคยเลิกกับเมียมันสักทีไม่ใช่เหรอ”

“กัส”

ผมหันไปมองหน้าไอ้กัสที่ยิ้มกริ่มทำหน้าเป็นผู้เชี่ยวชาญกลับมาให้ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นอยากถีบผมตกน้ำเมื่อผมถามมันว่า

“ทำไมวันนี้มึงพูดมากจังวะ”

“เออ ไอ้ห่า เวรของกูจริงๆที่เป็นเพื่อนกับคนอย่างมึง”

“ทำโกรธไปได้สาวน้อย”

“สาวน้อยพ่องงงงงง!”

“หึหึ”

“มึง !@#$%@^#^*&$&^%#”

ผมปล่อยให้ไอ้กัสด่าต่อไปเท่าที่มันจะสามารถหาคำพูดมาด่าผมได้ ความจริงทฤษฎีเรื่องรักนี่มันก็เป๊ะนะ แต่ทำไมผมไม่เห็นมันจะเคยมีความรักดีๆ เหมือนคนอื่นเขาสักครั้งเลยวะ -_-

“แล้วจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ยนี่”

“มึงจะรู้ไปทำไม”

“เอ้า แล้วมึงจะตอบโดยไม่ตั้งคำถามไม่ได้รึไงวะ”

ผมชายตามองไอ้กัสก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ใส่หน้ามัน เห็นมันโวยวายแล้วอารมณ์ผมก็ค่อยดีขึ้นหน่อย

เดินกลับมาที่คณะโดยมีไอ้กัสบ่นไปด้วยตลอดทางทำให้พอจะหายเซ็งได้บ้าง เพราะพักหลังมานี่ไอ้ฟิวไม่ค่อยเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมเท่าไหร่ เอาจริงๆ คือขนาดไอ้กัสยังแปลกใจที่มันไม่โดนบ่นโดนว่าเหมือนกัน จนตอนนี้พวกผมชักเริ่มเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้วเพราะผิดปกติมากเกินไป

“โฮะ ตาย ใครออกแบบทรงผมให้มึงวะไอ้เต๋อ” ผมถามขึ้นทันทีเมื่อมาถึงโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกภาค

จะไม่ให้ถามได้ไง ก็จากผมรากไทรเกาหลีทำสีของมัน ตอนนี้แม่งหยิกไปทั้งหัว แถมชี้ไปชี้มาไม่เป็นทรงอีกต่างหาก คือ...นี่แนว? หรือเทรน ณ ปัจจุบันเหรอ? -O-;

“ตามรอยไอดอลกูเว้ย เป็นไงวะ หล่อมากเลยเหรอ อืม ความจริงกูก็พอเข้าใจในรูปโฉมของตัวเองดีน่ะนะว่าทำทรงไหนก็เกิด มึงอย่าคิดจะมาพูดให้กูเปลี่ยนทรงผมเสียให้ยาก”

“ไอดอลมึงน่ะใคร”

นึกไม่ออกเลยว่ามีดารานักร้องที่ไหนที่ทำผมทรงเดียวกับมัน คือ ต้องมาเห็นเองอ่ะ แบบ...เหนือความเข้าใจของมนุษย์มาก

“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ไอ้เต๋อทำหน้าเหมือนข้ารู้ ข้าเห็นใส่ผม ก่อนจะหันไปลอกโน๊ตจากชีทไอ้ฟิวต่อ

“ไม่มีใครห้ามมันเลยไงวะ” ผมถามอย่างแปลกใจ แต่ไอ้เต้กับไอ้คิมก็พร้อมกันทำหน้าละเหี่ยใจมาให้แทน

สงสัยกูได้เลิกคบมึงเพราะผมทรงนี้นี่แหละ -_-

“หน้าเหี้ยไม่พอเหรอมึง” ไอ้กัสถามขึ้นอีกคน แต่โดนไอ้เต๋อตบหัวเข้าให้มันเลยหุบปากที่กำลังจะพูดประโยคต่อไปทันที

ผมใช้ตีนเขี่ยไอ้แม็คให้ขยับพอให้มีที่นั่ง ก่อนจะนั่งลงมองพวกมันตั้งหน้าตั้งตาจดโน๊ต อาจจะเพราะใกล้ไฟนอลแล้วพวกมันถึงได้ขยันเหมือนไปอัพยามาอย่างนี้

ผมจมอยู่ในโลกของตัวเองอยู่สักพัก ไม่ได้ต่อบทสนทนากับใคร ก่อนที่ประโยคระคายหูจะดังลอยมาให้นึกอยากถือมีดไว้ในมือ

“ได้ข่าวว่าสามีขอหย่าเหรอคุณพะชอน ไม่ยอมเซ็นดีๆ ระวังโดนฟ้องหย่านะครับ หึหึ”

นอกจากทรงผมจะกวนตีนผมแล้ว คำพูดมันยังมาจี้เส้นประสาทให้ตีนกระตุกอีกต่างหาก

“พูดอีกทีกูจะบอกอีเชอร์รี่ให้อัดตูดมึง”

“ขอโทษคร้าบบบบบบ แต่ว่าก็ว่าเถอะมึง เป็นกูก็ไม่ทนอ่ะ อยู่ๆ แม่งเล่นหายหัวไป มึงไม่รู้หรอกว่าตอนที่ไอ้เมลมันวิ่งหน้าตั้งมาตามหามึงที่คอนโดกูน่ะ มันทำหน้ายังไง”

ผมมองหน้าไอ้เต๋ออย่างชั่งใจ เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้แรงขนาดไหนที่จะทำให้หัวมันโขกกับพื้นแล้วความจำเสื่อมไปซะ

“รู้มั้ยว่าทำไมมึงไม่มีเมียเหี้ยเต๋อ”

“มึงรู้เหรอวะ?” ไอ้เต๋อถามหน้าเหวอๆ ปนงงๆ ที่จู่ๆ ผมก็พูดคนละเรื่องกับมัน

“รู้ เพราะมึงเป็นผู้ชายพูดมากอย่างนี้ไง ผู้หญิงเขาเลยไม่เอา เขากลัวมึงไปแย่งเขาพูด”

“ห้ะ!”

“อ้อ หนังหน้ามึงด้วย”

“เหี้ยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนน!!”

“กูไปละ มัดหมาด้วยไอ้กัส”

ผมลุกออกจากโต๊ะ ดูเวลาแล้วเมลคงใกล้จะเลิกเรียน ไปชวนกินข้าวสักหน่อยดีกว่า

“มึงว่าใครหมาาาาาาาาาาาาาาา” เสียงไอ้เต๋อตะโกนตามหลังมา ผมเลยหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองมันที่มีไอ้กัสกับไอ้คิมช่วยกันดึงแขนไว้

“ต้องให้บอกอีกเหรอออออออ หืออออ ไอ้หมาเต๋อออออออออออออออ หึหึ” ผมตะโกนตอบกลับไปแล้วยกมือขึ้นบายๆ ให้มัน

มองดูไอ้เต๋อกระฟัดกระเฟียดจนพอใจแล้วผมก็หันหลังเดินจากมา

เฮ้อ ทำไมมันหน่วงอย่างนี้วะ ผมเพิ่งรู้ว่ากลัวการเจอเมลมากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมไม่มีความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ไม่ใช่ข้อสอบหรือทฤษฏีความรู้อะไรที่ผมจะใช้สมองผมแก้ปัญหามันได้

เมลน่ะ...ซับซ้อนยิ่งกว่านั้น

ผมมาถึงหน้าตึกเลคเชอร์ของคณะด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ไอ้ตอนจะทำใจกล้าเดินเข้าตึกไปนี่ก็นานอยู่เหมือนกัน ผมตั้งใจไว้ว่าจะไปดักรอมันหน้าห้องเรียนเลย แต่ความตั้งใจก็เป็นอันล่มไปเมื่อพบกับห้องเรียนที่มันร้างผู้คน

อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาหรือว่าเขาย้ายที่เรียนกันแน่วะ? -_-

โทรหาก็ไม่รู้ว่าจะรับรึเปล่า แต่ก็ต้องลองดูนั่นล่ะถึงจะรู้ เพราะวันสองวันมานี้มันไม่ค่อยรับโทรศัพท์ผม ต้องโทรจนเกือบห้าสิบสายนั่นแหละมันถึงจะรับ

และคราวนี้กว่ามันจะรับสายได้ผมก็สร้างสถิติใหม่อีกแล้ว ห้าสิบเก้าสายเป็นตัวเลขที่น่าเอ็นดูภูธรมาก โทรแม่งตั้งแต่สิบเอ็ดโมงยันเที่ยงล่ะครับ

“อยู่ไหนเมล กินข้าวยัง”

(กำลังจะกิน โทรมาทำไมนักหนา มีธุระอะไร)

“จะชวนไปกินข้าว”

เมลเงียบไปสักพัก ผมก็รอให้มันพูด แต่ผ่านไปสามนาทีแล้วมันก็ไม่พูดอะไร

“อยู่ไหนเหรอ ไปหาได้มั้ย”

(จะมาทำไม)

“อยากเจอ”

(รำคาญว่ะเท็น กูวางนะ จะกินข้าว)

แล้วมันก็กดตัดสายทิ้งทันที ผมได้แต่ฟังเสียงสัญญาณก่อนที่มือถือจะเข้าสู่การสิ้นสุดการโทรไปเอง ผมก็แค่อยากเจอเท่านั้น ไม่ได้จะไปทำให้รำคาญเลย ทำไมต้องพูดถึงขนาดนี้ด้วยวะ

ผมยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนมือถือจะสั่นเพราะมีข้อความเข้า เปิดอ่านก็เห็นเป็นไอ้เขตที่ส่งมา

‘อยู่โรงอาหารคณะ รีบมานะ เดี๋ยวมีเรียนต่อ’

และด้วยเหตุนั้นผมจึงมาถึงโรงอาหารคณะในอีกสิบนาทีต่อมา พักเที่ยงอย่างนี้คนเต็มโรงอาหาร แถมเสียงก็โหวกเหวกโวยวาย แต่มองหาได้ไม่ยากหรอกโต๊ะของพวกเมล แค่เดินตามสายตาของผู้หญิงไปก็คงเจอ

ผมชะงักเท้าไปนิดกับผู้หญิงที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างเมล น่ารักนะ โดดเด่นกว่าทุกคนรอบข้างที่ส่งสายตามาให้มัน แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมแค่อยากรู้ว่ามานั่งกับเมลทำไม

“อ้าว เท็น กินไรมายังวะ” ไอ้ลินทักเสียงร่าเริงเกินปกติ

“ยัง”

“ไปซื้อมาดิ มานั่งกินด้วยกัน”

ผมกำลังจะไปซื้อข้าวตามที่ไอ้ลินบอก แต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียงทุ้มๆ ของเมล

“ตาบอดเหรอไอ้ลิน แค่นี้ก็เบียดกันจะตายอยู่แล้ว ชวนมาอีกคนไม่ต้องเกยตักกันเลยรึไง”

“ก็ยังเหลือที่ข้างๆ ไอ้เขต มึงน่ะหุบปากไป นั่งเขี่ยข้าวมาตั้งนานละไม่รู้จักแดก ไปซื้อข้าวเถอะเท็น” ไอ้แต้มบอกพลางทำหน้าหงุดหงิด แต่เพราะผมเห็นสายตาของเมล ผมเลยเปลี่ยนใจ

“ไม่เป็นไรว่ะแต้ม กูยังไม่หิว”

“เมลคะ นี่ใครเหรอ” เสียงใสๆ ที่สอดแทรกบทสนทนาขึ้นมาทำให้ทั้งโต๊ะเงียบกริบ

ผมยังคงยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะเพราะไม่อยากไปเบียดที่นั่งกับไอ้เขต เพราะม้านั่งฝั่งมันก็มีไอ้แต้มกับไอ้ลินนั่งอยู่แล้ว คงว่างแต่ฝั่งของเมลเท่านั้นที่นั่งอยู่กับสาวหมวยอกอึ๋มแค่สองคน ไม่ปรากฎร่องรอยของไอ้มายด์แต่อย่างใด

ไม่มีคำตอบจากเมล เพราะมันคงหาคำจำกัดความมาให้ผมไม่ได้ ไอ้ลินเลยแก้สถานการณ์ให้แทน

“คนนี้ชื่อเท็นครับแพร เท็นวิดวะคอม ปีสอง”

“อ๋อ สวัสดีค่ะเท็น ชื่อแพรนะคะ พยาบาลปีสองค่ะ”

“ครับ”

สาวพยาบาลมากินข้าวไกลถึงนี่ คงต้องมีคนไปรับมาล่ะครับ แค่ดูกิริยาของฝ่ายหญิงก็รู้ว่ามากับใคร ผมไม่ต้องถามอะไรให้มากความ

“งั้นกูไปนะ มีธุระต้องไปทำ”

“เอ่อ...จะไปแล้วเหรอวะ กินข้าวก่อนดิเท็น” ไอ้เขตพูดขึ้น

“ไม่ดีกว่าว่ะ กูต้องรีบไป”

ผมเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนมามาก เหมือนมีอะไรถ่วงอยู่ในท้องชอบกล

คำว่าห่างกัน...มันหมายความว่าอย่างนี้เหรอวะเมล

.
.
.

ร้านพี่เจ๋งตอนสามทุ่มกับตอนเที่ยงคืนไม่ได้แตกต่างกันเลย ลูกค้าแม่งนั่งครบทุกโต๊ะอย่างกะนัดกันมาเช็คชื่อ ความจริงร้านนี้ตอนเปิดกิจการชื่อนั่งชิว แต่เด็กในมอเรียกติดปากว่าร้านพี่เจ๋ง หนึ่งเดือนหลังจากเปิดกิจการพี่แกเลยขึ้นป้ายใหญ่ๆ หน้าร้านว่า ‘ร้านพี่เจ๋ง’ ไปซะเลย เพราะเวลารุ่นพี่นัดรุ่นน้องไปเลี้ยงร้านนั่งชิว เด็กมักหากันไม่เจอ แต่ถ้าบอกว่าร้านพี่เจ๋ง พวกมันบอกว่าหลับตาเดินมาก็ยังถูก -_-

“ไงมึง ทำหน้าเป็นปลาน้ำจืดไปได้ ไอ้เต๋อโชว์กากอยู่ชั้นบน สนใจก็ขึ้นไป” พี่เจ๋งบอกพลางยื่นแก้วเบียร์มาให้ผม แกเป็นเจ้าของร้านนะแต่ชอบมาทำเนียนนั่งดื่มกับพวกผมอยู่เรื่อย -_-

“ไม่ว่ะพี่ เบื่อๆ”

“ทะเลาะกับแฟนไงมึง”

ผมดื่มเบียร์แบบไม่สนใจจะตอบคำถาม พี่เจ๋งเลยเปลี่ยนเรื่องไปหาน้องกัสจังของแก

“น้องกัสกูไปไหนอ่ะวันนี้”

“ไม่รู้ดิพี่ วันนี้มาไม่ได้นัดใคร”

“หน้าตาท่าทางเหมือนคนอกหัก ถ้ากูไม่เห็นกับตากูก็ไม่เชื่อนะว่าคนอย่างมึงจะมีมุมดราม่าแบบนี้”

“พูดมากว่ะพี่ ผมก็คน”

“ด่ากูซะงั้น”

พี่เจ๋งทำหน้าเอือมๆ แต่ก็นั่งดื่มเป็นเพื่อนผมต่อไป คุยเรื่องสัพเพเหระให้ฟังแต่ก็ไม่ได้เข้าหัวผมเลย เรื่องเมื่อกลางวันยังสะเทือนอารมณ์ผมอยู่ทุกขณะจิต หายใจเข้าก็เจ็บ หายใจออกก็ปวด ถุย! ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่รู้สึกหน่วงๆ เหมือนยืนอยู่ดีๆ ก็มีอะไรหนักๆ ใหญ่ๆ มาชนให้วูบไป

แต่ผมรู้ว่าเรื่องนี้ต้องใจเย็น เพราะที่เป็นอย่างนี้ผมเป็นคนก่อเอง

ครืดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผมขมวดคิ้วกับเบอร์ที่หน้าจอ ก่อนจะกดตัดสายทิ้งและบล็อคเบอร์นี้ไว้ ทั้งงานวิจัยและเงินที่ตกลงกันไว้ก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว ผมก็ไม่มีธุระอะไรจะรับสายเพื่อนเก่าคนนี้อีก แม่งถ่ายรูปลงไอจีตอนไหนผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ก็รูปปกติล่ะนะ ไม่ได้จะกอดจูบกันถ่าย ลับหลังก็ไม่มีอะไร ผมไม่ได้ชอบผู้ชายมาโดยกำเนิดนะครับถึงจะได้มองเพศเดียวกันแล้วพิศวาสไปซะทุกคน แต่แฟนผมมันไม่ใช่คนคิดปกติไง มันเลยเป็นเรื่องเป็นราว แต่เอาเถอะ ผมก็มีส่วนผิดด้วยนั่นแหละ

ช่างมันละกัน ผ่านมาแล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต่อให้ย้อนกลับไปผมก็จะทำตามนั้นอยู่ดี ก็คนมันไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากตอบคำถาม แล้วจะรับโทรศัพท์ให้มันโวยวายใส่ทำไมวะ -*-

สามทุ่มครึ่งไม่รู้เมลจะอยู่ไหน ผมยกเบียร์ดื่มอีกสองแก้วก่อนจะขอตัวพี่เจ๋งออกมาโทรศัพท์ ลังเลอยู่ชั่วอึดใจ นิ้วก็กดโทรหามันไปแล้ว แต่คราวนี้แปลกที่มันรับสายไว

(แบ็ตจะหมด รีบๆ พูด)

อ้อ อย่างนี้เอง แต่มันก็ทำให้ผมแน่ใจนะว่า ถึงมันจะปล่อยให้ผมกระหน่ำโทรหายังไงสุดท้ายมันก็จะรับสาย

“ชาร์ตสิ ไม่ได้อยู่ห้องเหรอ”

(อยู่ห้อง)

“กับใคร สาวพยาบาลคนนั้นรึเปล่า”

(หาเรื่องรึไง)

“อย่าเพิ่งหงุดหงิดเลยน่า ไปชาร์ตแบ็ตเร็ว”

(ขี้เกียจ)

“เร็วๆ เมล อยากคุยด้วย”

(แต่กูไม่อยากคุย)

“งั้นเดี๋ยวไปหา”

(ไม่ต้องมา)

“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”

(พูดไม่รู้เรื่อง)

“ก็คิดถึง อยากอยู่ด้วย ไม่ได้รึไง”

เมลไม่ตอบในทันที มันปล่อยให้ผมรออยู่สักพัก ก่อนจะพูดกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ ว่า

(ถ้าเมาก็ไม่ต้องมาหากู)

“จ่ะ ไม่เมาแน่นอน”

ผมรีบเดินไปที่ลานจอดรถ ในระหว่างนั้นก็โทรหาไอ้เต๋อเพราะถ้าไปแบบไม่บอกใครเดี๋ยวไอ้พี่เจ๋งจะหาว่าผมชักดาบ เสียเครดิตเปล่าๆ

“เออ เหี้ยเต๋อ มึงแทงสนุ๊กอยู่ใช่มั้ย”

(ใช่ อยู่ร้านพี่เจ๋ง ทำไมวะ มึงจะมาเหรอ)

“กูต้องไปทำธุระ มึงจ่ายค่าเบียร์ให้กูด้วยนะ ร้านพี่เจ๋งนั่นแหละ สองทาว แล้วไปเอาเงินที่ไอ้กัส”

(อ้าว เหี้ยเท็น แดกกูก็ไม่ได้แดก)

“เออน่ะ แล้วเดี๋ยวกูบอกไอ้ตะนอยขอเบอร์น้องแจมให้”

(งั้นก็จัดไปครับเพื่อน จุ๊บๆ)

“จุ๊บพ่องงงง!”

จัดการค่าเบียร์เสร็จก็มาจัดการปัญหาชีวิตตัวเองต่อ ผมมาถึงคอนโดของเมลก็เกือบห้าทุ่มแล้ว คือครึ่งชั่วโมงที่บอกมันไว้ก็เลทมาอีกหนึ่งชั่วโมงเต็ม ผมไม่ได้เถลไถลที่ไหนเลยนะ เพราะมีอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนรั้วกั้นทางด่วนนั่นแหละ มันถึงได้ติดกันเป็นพรืดตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวเลยจริงๆ

ผมเปิดประตูเข้าไปด้วยคีย์การ์ดอีกใบที่เมลให้ไว้ ห้องชั้นล่างมืดสนิท ผมเดินเบาๆ ขึ้นไปชั้นบน ได้ยินเสียงทีวีดังลอดมาจากในห้องนอน และพอเปิดประตูเข้าไปก็เจอเมลนอนดูทีวีอยู่ที่เตียง มันหันมาสนใจผมแค่ไม่กี่วินาทีก็หันกลับไปดูทีวีต่อ

“อาบน้ำรึยัง”

คำถามของผมทำให้เมลยกรีโมทขึ้นมาเพิ่มเสียงทีวีให้ดังขึ้น

“คุยกันหน่อยได้ไหม”

เสียงจากในทีวีกลบเสียงของผมไปจนหมด

“เมล”

เมื่อเห็นความนิ่งเงียบจากคนตรงหน้า กับสายตาที่จ้องเขม็งอยู่ที่หน้าจอทีวี ผมก็จำใจยอมแพ้ เดินออกจากห้องมาแล้วปิดประตูเบาๆ

คงต้องใช้เวลาสักหน่อยล่ะมั้ง...กับเรื่องแบบนี้ แต่พูดจริงๆ นะ

หายใจไม่ออกเลยกับความเย็นชาของมัน...


...........................................To be continue...........................................

อืมมม เคยรึเปล่าคะ ที่เรื่องบางเรื่อง คำขอโทษก็คงไม่พอ  :z6:

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ขอบคุณๆ ทุกๆ การติดตาม ต่อให้เรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหน ก็อย่าลังเลใจที่จะเข้ามาอ่านเลยนะคะ

ฟังเพลงที่คุณ sukie_moo ให้ลิ้งไว้แล้วรู้สึกหน่วงจังเลยค่ะ  :z3:


http://www.youtube.com/v/BtgdWlhPKOA
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 14-09-2013 18:45:43
>..................... :mew6:  ไม่มีคำตอบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 14-09-2013 18:46:17
ไม่ชอบเมลโหมดนี้เลย เยอะเกิน รำคาญอ่ะ ค้างงง  เป็นเราทนไม่ไหว ถ้าเมลเลือกแบบนี้เลิกกันเลยเถอะเท็น
//แหวกกระแส รึเพราะเราเป็นคนคิดคล้ายๆเท็น(บางเรื่อง) เราก็เลยไม่ค่อยเข้าใจความคิดเมลเท่าไหร่
ขอตอนต่อไปคร๊าบบบบ  จะหยุดดราม่า หรือจบๆไปเลย หงุดหงิด อินกะเรื่อง :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 14-09-2013 18:57:45
ตอนนี้หน่วงมากเลยค่ะ

อยากให้เมลกะเท็นคืนดีกันเร็วๆจัง


 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 14-09-2013 19:19:57
ถ้าจะให้เมลหายโกรธ
คงต้องพยายามให้มากเท่าที่เมลเคยทำซินะ

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-09-2013 19:26:06
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ  หน่วงมากๆๆๆๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 14-09-2013 19:29:37
เลิกไหม เหนื่อยและปวดใจแทนทั้งคู่  :เฮ้อ:

ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เลิกเถอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 14-09-2013 19:35:34
เมลเล่นตัวมากเกินไป ระวังเท็นจะเบื่อจริงๆ แล้วจะรู้สึก

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 14-09-2013 19:38:56
เราไม่เห็นว่าเมลจะงี่เง่าตรงไหนเลย เมลทำอย่างนี้ก็สมควรแล้ว หายไปสามวัน โทร.ไปไม่รับสายเลยทำอย่างกับไม่ว่างแต่มีเวลาไปเที่ยวเริงร่ากับคนอื่น กะอีแค่รับสายสักนาทีมันจะตายเหรอ อยากได้อิสระก็เอาไปดิแต่ก็ต้องให้เมลบ้าง นี่เมลแค่ไม่รับสายแต่ก็ยังได้รู้ว่าเมลอยู่ไหนเป็นยังไงไม่ใช่หายไปเลย ตายไปแล้วหรือเปล่าใครจะไปรู้ มันน่าโมโหตรงมีเวลาไปเที่ยวแต่ไม่มีเวลารับสายเหมือนมีความสุขที่ไม่มีเมลอยู่ข้างๆ อย่าลืมว่าเมลไม่ได้รู้ว่าในตอนนั้นเท็นคิดอะไรยังไง แต่เราเป็นคนอ่านได้อ่านความคิดของเท็นถึงทำให้ไม่โกรธเท็น แต่เมลไม่รู้ ก็ต้องตัดสินจากการกระทำและสิ่งที่เห็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: cuteymummy ที่ 14-09-2013 19:41:12
เมลงอนมันก้ไม่แปลกนะ
แต่มีผู้หญิงมากินข้าวด้วยต่อให้ไม่ตั้งใจหรือไงก้แล้วแต่มันก้ไม่ใช่อยุ่ดี

เริ่มสงสัยว่าเมลไม่ได้รักเท็นที่เป็นเท็นแล้วหรอ
คือรุว่าเหนื่อยแต่นี่ก้เกินไป :z6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 14-09-2013 19:52:44
ก่อนหน้าที่จะคบกันเมลพยายามและเจ็บปวดกับเท็นมากกว่าเท็นตอนนี้สองเท่า
บางอย่างที่มันเสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ อย่างเช่น ความรู้สึก
ถ้าเท็นพยายามแค่นี้แล้วคิดว่าเยอะไป ก็เลิกกันตอนนี้ซะเถอะ
เพราะต่อให้กลับมาคืนดีกันได้ก็เหมือนเดิม ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ
สู้เจ็บตอนนี้ให้มันจบๆ ไปซะดีกว่า สงสารเมล
แต่ดูแล้วเท็นก็ไม่ได้เสียใจอะไรเท่าไหร่ แค่หน่วงๆ เท่านั้นเอง นานไปก็คงหาย

อีกนิดนึง

"ช่างมันละกัน ผ่านมาแล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต่อให้ย้อนกลับไปผมก็จะทำตามนั้นอยู่ดี ก็คนมันไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากตอบคำถาม แล้วจะรับโทรศัพท์ให้มันโวยวายใส่ทำไมวะ "

ถ้าเท็นจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำสักนิด เราก็คงสงสารเท็นอยู่หรอก
แต่เห็นชัดๆ ว่าไม่ได้แคร์อะไรเมลเลย แล้วยังจะคบเมลอีกทำไม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 14-09-2013 20:11:07
เท็นน่าสงสารจางงง
เหมือนเป็นธาตุอากาศเลย -_-^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 14-09-2013 20:17:56
อย่าให้เท็นไปคบคนอื่นอ่ะ โครตเบื่อเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 14-09-2013 20:31:54
รู้สึกเมลโหมดนี้งี่เง่า
แก้เผ็ดเท็นโดยการพาสาวมานั่งด้วย
ถึงสุดท้ายอาจจะมีเหตุผลไรก็ตาม แต่ก็คือจงใจทำ
ทำไมตอนไม่มีเรื่องทะเลาะถึงไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยว
พอทะเลาะที ก็เอาผู้หญิงเข้ามาเกี่ยว ไปนั่งกับเค้า
ต้องการอะไรจากเท็นหรอ เรียกร้องความสนใจ? แก้เผ็ด? ให้เท็นหึง?
หึ่ยยยยยย ขัดใจ


หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 14-09-2013 21:02:33
หน่วงอ้ะบอกเลย แอบสงสารเท็น เอาจริงๆคือเมลต้องเข้าในเท็นด้วยอ่ะว่าเท็นไม่เหมือนคนอื่น เท็นคิดอะไรไม่เหมือนใคร แต่เท็นก้ยอมเมลขนาดนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 14-09-2013 21:21:02
 :katai2-1:  ทำดีมาก  ทั้งเท็นและเมล

                                                 ว่าแล้ว ....รีบแต่งต่อ..........น้าครับ     :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 14-09-2013 21:26:05
สะใจจัง :jul3:ตอนหน้าขอให้ตกลงกันได้ :call:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 14-09-2013 21:28:19
เป็นเรา เราคงทำใจยอมรับกับการตัดสินของเมล์ไปแล้วล่ะ

ถ้าเค้าอยากไปก็ไป  เราจะห้ามเขาได้ยังไง

แต่เพื่อนเราคงตามกันให้วุ่น(แบบว่าหายไปไม่บอกใคร ทำใจคนเดียวไรงี้)

T^T

เพลงนี้อยากให้น้องเท็นร้องให้น้องเมลฟังนะ สู้ๆนะ ^^

http://www.youtube.com/v/0c1i-6idFo0
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 14-09-2013 21:48:54
เป็นสิคะ  เคยเป็นแบบเท็น


แต่มองในตอนนี้ในเมื่อเมลรู้เมื่อก่อนตัวเองรู้ยังไง ก็คงอยากให้เท็นรู้สึกบ้าง

แต่

เมลลืมไปเรื่องหนึ่งนะ  ใจตอนนั้นเมลเจ็บยังไง เท็นก็เจ็บนั้น แต่ว่าขอบเขตของเท็นจะสูงเท่าเมลรึเปล่าก็เท่านั้น


มองในมุมเมล คนเป้นแฟนกัน นี่แทบบ้าตายเลยนะ เราไม่คิดว่าสิ่งที่เมลทำมันผิด เพราะเป็นเราก็ทำแบบนั้นแต่อยากให้คุยกันทีหลังด้วย

ไม่ใช่ปากแข็งปากค้าง กันทั้งคู่  การกระทำสำคัญกว่าคำพูดนะจริง  แต่ ไม่มีคำพูดเลย ก็ไม่เข้าใจกันอยู่ดี


ปล.จริงแล้วพอเท็นเดินออกไปปุ๊บ เมลมาเกาะประตูฟังเสียงกันเลยทีเดียว#ผิดละ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-09-2013 21:54:57
เพลงนี้จากเมลนะคะทุกท่าน

http://www.youtube.com/v/4tnv9hfqu7g


และนี่จากท่านเท็นของเรา
:z3: :z3:

http://www.youtube.com/v/0EDqL6BJuHc

เท็น :  :เฮ้อ:

เมล :  :angry2:

เท็น:  :serius2:

เมล:  :z6:

เท็น:  o22

เมล:  :beat:

เท็น :  :hao5:

คนเขียน :  :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 14-09-2013 22:00:59
ในมุมของเมล มันไม่ผิดที่จะโกรธ หายไปหลายวันไม่มีติดต่อมาหา ไปโดยไม่บอกลา
คนเป็นแฟนกัน เขาไม่ทำกันแบบนี้ อันนี้ก็เข้าใจ แต่ที่โกรธมากๆ เพราะเห็นเท็นอยู่กับชายอื่น หรือเรียกว่า หึงมาก!
ส่วนในมุมของเท็น คนที่เคยมีอิสระ ใช้สมองคำนวนเรื่องต่างๆ และทำตามใจมาตลอด
คงรู้สึกเริ่มเบื่อ อึดอัดกับเรื่องเดิมๆ ที่วนเวียนไปมาทุกๆ วัน เลยอยากออกไปทำแบบเดิม
แต่พอได้ทำตัวแบบเดิมแล้วมันเริ่มไม่ใช่ เพราะหัวใจมันเริ่มทำงานแข่งกับสมอง
เท็นคงต้องใช้เวลาและหัวใจในการง้อเมลสักหน่อย เพราะตัวเท็นเองก็ยังรู้ว่าตัวเองผิด
ดังนั้น ง้อเมลให้ได้ อย่าให้นังหน้าไหนมาแย่งไปเด็ดขาด ^^
รอตอนต่อไปค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: tremor ที่ 14-09-2013 22:02:21
เกินไปมั้นเมล เราไม่ค่อยชอบแบบนี้เลย มันเหมือนเปลี่ยนอิมเมลตัวละครเลย เยอะเกินไปนะเมล
ถึงแม้เท็นจะทำแบบนี้ก็เถอะ มันก็เป็นสิทธิ์ของเท็นตอนแรกก็ตกลงกันแล้วนี่ แม่งขัดใจ
เราขออนุญาต  ข้ามฉากนี้ไปแล้วก็น รอให้เนื้อเรื่องเป็นปกติก่อนแล้วค่อยอ่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-09-2013 22:29:34
คืนดีกันนะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: nan53 ที่ 14-09-2013 22:46:05
เข้าใจนะที่เมลจะโกรธ จะนอยด์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีผญ เข้ามาเกี่ยว หรือเพราะเท็นมีผช เข้ามา ไม่รู้สิ เพราะเท่าที่ดูปัญหาคือความเป็นตัวตนของเท็น ความรักอิสระ แต่เมลกลับมีผญ อีกคนเข้ามา ไม่ไหวมั้ง คนคบกันมันคือคำว่าเรา แต่ตอนนี้มีอีกคนเข้ามาเกี่ยวมันก็คงไม่ใช่คำว่า"เรา"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 14-09-2013 22:48:45
ขออย่างเดียวเท็น อย่าให้ใครคาบเมลไปแด_
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 14-09-2013 22:55:15
ถ้าคบใครซักคนแล้วทำให้เหนื่อยขนาดนี้ก็เลิกเถอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 14-09-2013 22:58:19
 :pig4: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-09-2013 23:43:53
เราว่าเมลไม่ได้เล่นตัวแหะ..

มันเป็นความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างอยากตัดจริงๆแต่ก็ยังตัดไม่ลงแล้วก็ประชดปนแอบเหวี่ยงนิดๆ..

ความรู้สึกมันแบบว่ามาทำแบบนี้อะไรแบบนี้ไม่ก็ กลับไปเดี๋ยวก็เหมือนเดิม ไรงั้นมั้งคะ..

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 14-09-2013 23:48:43
อย่าปล่อยให้ค้างแบบนี้เลยข่าาา

เท็นเปลี่ยนเหอะนิสัยแบบนี้ นี่ก็เชียร์ให้เมลโดนหมาคาบไปแดกละนะ

คือกัสก็เตือนแล้วเตือนอีกละนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-09-2013 00:27:49
อยากจะมั่นใจว่ายังไงทั้งสองคนก็จะกลับมาสวีตกันเหมือนเดิม
แต่ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้นะ หน่วงเหลือเกิน :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 15-09-2013 00:37:13
อยากรู้ถ้าเท็นเหนื่อยที่จะง้อ

เมลจะเป็นยังไง จะเฉยชาเหมือนตอนนี้ไหม

อ่านแล้วจะร้องเลย สงสารเท็น

ก็รู้ว่าเท็นผิดนะ แต่เมลทำแบบนี้ได้เลิกกันจริงแน่ๆ

รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-09-2013 01:04:59
ประชดเท็นคบผู้หญิงเหรอ แล้วได้อะไร
งั้นก็เลิกกันไปเลย เจ็บทั้งคู่ดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 15-09-2013 01:23:01
 :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 15-09-2013 02:07:09
สงสารเท็นจัง สู้ต่อไปนะเท็นนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 15-09-2013 02:38:38
NO com.เพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมันเป็นเรื่องที่คนสองคนจะเรียนรู้ที่จะก้าวไปข้างหน้ารึถอยหลัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-09-2013 11:34:00
เมลไร้สาระอ่ะ
โกรธ งอน จะอะไรก็แต่พอควร มันเยอะเกิน

เท็นไม่ได้พึ่งเป็น เป็นมานาน ก่อนจะเป็นแฟนก็แบบนี้ คือ หวังจะให้เท็นเปลี่ยน
ก็เลิกหวังเหอะ จะรักขนาดไหนคนเราก็เปลี่ยนไม่ได้

ถ้าทนไม่ไหวก็เลิกรัก ไม่ใช่ทำร้ายอีกฝ่ายแบบนี้นะ
ถึงเท็นจะทำผิด ไม่ถูกใจก็ถามตรงๆ ไม่ใช่ประชดทำร้ายกันแบบนี้
มาแบบนายทำชั้นก็ทำได้  ถ้าคิดได้แค่นี้เลิกกันดีกว่า หลุดจากคราวนี้ มีอีกก็ทะเลาะอีก
ชีวิตจะบัดซบมาก -*-
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-09-2013 11:48:23
เห้อเห้อโทษใครดี
โทษตัวเองแล้วกัน
ที่เข้ามาอ่านหน่วงได้ใจจริงๆ :mew5:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 15-09-2013 12:32:16
อ่านทันแล้วววววววววววววววววววว 21ตอนรวดดดดดดดดดด  :katai2-1:

บอกก่อน ตอนแรกที่่อ่านคิดว่าเรื่อวนี้แบบ ดราม่าอึมครึม
ออกแนวจิตๆด้วยซ้ำ จากนิสัยของเท็น
คือเอ็งจะติสท์ไปหนายยยยยยยยยยยยยยย
นับถือกัสกับฟิวมาก ที่ทนเท็นได้ และ คอยช่วยเหลือเท็นตลอด

แต่พออ่านไปเรื่อยๆ แล้วรู้จักเท็นเพิ่มขึ้นก็เริ่มเข้าใจเท็นมากขึ้น
เท็นเป็นคนที่แปลกอ่ะ แต่น่าเข้าใกล้ น่ารู้จักมากขึ้น
แม้จะต้องตามนิสัยและอารมณ์ของเท็นให้ทันก็เถอะ

ส่วนเมล กรี๊ดดดดดดดดดดดดด อิป้าขอเป็นแม่ยก น่ารักมากกกกกกกกกก
แรกๆคือ คิดว่าเมลคงไม่จริงจัง แล้วไหงสุดท้ายคือหัวปักหัวปรำขนาดนี้ละหนู  :hao5:  เมลน่ารักอ่ะ
แต่บางทีก็ขี้หึงไปนะ แอบเห็นใจเท็นนะบางที
แต่ก็แอบกลัวใจเท็นไปด้วย กลัวใจเท็นทุกตอนอ่ะ
อยู่ๆจะหายจากเมลไปเลยก็ได้ นี่กลัวววววววว :mew2:

อ่านตอนล่าสุดแล้วอาการแบบนี้เลย  :z3: :z3: :z3: :z3:

คือเราไม่สงสารเท็นอ่ะ สิ่งที่เท็นทำคือผิดจริงอะ
และมันก็หลายครั้งแล้ว เท็นเบื่อได้ แต่ก็โทรมาคุยกับเมลบอกเมลก็ได้ว่าไปทำอะไรกับใคร
สุดท้ายพอเมลมาเห็นเอง เลยเข้าใจเรื่องแค่บางส่วน
เข้าใจไปเองคิดไปเอง ถ้าเท็นบอกเมลไว้แต่แรก เรื่องก็คงไม่ขนาดนี้
เฮ้ออออออออออ อิน 55555555

ส่วนเมลเราว่าทำแบบนี้ถูกแล้วนะ ดั
ดนิสัยเท็นบ้าง แต่ให้แค่ตอนเดียวเท่านั้นนะ
ถ้าตอนหน้าแกยังโกรธเท็นอยู่ แ
ละไม่อธิบายเรื่องผญ พยาบาลคนนั้น
คราวนี้ คือจะเกลียดแกแน่ๆ เมล !   :m16:

ปล. คิดดูอ่านตอนล่าสุดแล้วเก็บไปฝันค่ะ คิดดูว่าอินขนาดไหน 5555555555555
ปล.2 เราชอบกลุ่มเพื่อนๆอ่ะ ฮาดี อ่านแล้วฮา ยิ่งเต๋อ นี่เอาใจไปเลย 555

มาต่อไวๆน้า เป็นกำลังใจให้ สู้ๆน้าคนแต่ง  :3123:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9) + Emotion (Page.10)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-09-2013 13:12:46
เมลใจแข็งสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 15-09-2013 18:46:37
เราขอแนะนำว่า ให้ไปหาน้ำแข็งมาเตรียมไว้สำหรับตอนนี้....เพราะมันจะช่วยดับความโมโหได้
ด้วยความปราถนาดีจาก...ท่านเท็น
  :a5:

http://www.youtube.com/v/DOKAQhHmo8g

กดฟังไปด้วยก็ดีนะคะ เพลงเพราะดี


ตอนที่ 22

“Our seperation has it's faults
But I don't wanna leave it all
So write the letters in teary ink
I just need some time to think
And I just need some time to breathe”

“Baby just say goodnight
I'll be gone tomorrow
Baby just close your eyes
I can't take the sorrow
Baby just walk away
You know I can't stay
There's no easy way to say goodbye
So baby just say goodnight”

“We're in a spell that never ends
The empty hourglass wore me thin
So let the phone do it's work
Your voice is heaven
But it hurts
Your words are memories
But they burn”

“Baby just say goodnight
I'll be gone tomorrow
Baby just close your eyes
I can't take the sorrow
Baby just walk away
You know I can't stay
There's no easy way to say goodbye
So baby just say goodnight”

“Baby don't say goodbye
Baby just close your eyes
And dream,tomorrow's on it's way
So just walk away”

“Baby just say goodnight
I'll be gone tomorrow
Baby just close your eyes
I can't take the sorrow
Baby just walk away
You know I can't stay
There's no easy way to say goodbye
So baby just say goodnight”

         Say Goodnight – The Click Five

อารมณ์สีเทายามเช้าแบบนี้เป็นการเริ่มต้นวันที่ไม่สดใสนักสำหรับผม แต่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนแล้วเล่นเพลงสะเทือนอารมณ์ บอกตรงๆ ว่าฟีลลิ่งเต็มปรอทเลยทีเดียว

สวนเล็กๆ ตรงระเบียงที่เมลจัดไว้ยังคงความสดชื่นและสดใสเช่นเดิม คงมีแต่เจ้าของมันล่ะมั้งที่เปลี่ยนไป ต้นไม้ดอกไม้ไหวไปตามแรงลมที่เริ่มพัดมา ผมดีดกีต้าร์ไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้ทำนองพร้อมกับจ้องมองไปที่ท้องฟ้ากว้างใหญ่

“มาทำอะไรแต่เช้า” ผมหันไปมองเจ้าของคำถามที่ยืนยกมือกอดอกพิงประตูกระจกบานเลื่อน หน้าหล่อๆ นั่นก็ยังไม่มีรอยยิ้มให้ผมเช่นหลายๆ วันที่ผ่านมา

“ทำข้าวเช้าไว้ให้ เห็นรึยัง”

“เห็น เททิ้งหมดแล้ว”

“ไม่หิวเหรอ งั้นไปทำให้ใหม่เอามั้ย”

“ไม่ต้อง มึงมาทำไมบ่อยๆ ไม่เบื่อบ้างรึไง”

ผมเลือกจะไม่ตอบคำถาม เพราะตอบอะไรไปก็คงไม่ถูกใจอยู่ดี หลายวันมานี้ผมไม่เคยทำอะไรถูกใจมันเลยสักอย่าง

“วันนี้กูไม่กลับห้อง มึงก็กลับบ้านไปได้แล้ว”

ผมชะงักนิ้วที่กำลังจะเปลี่ยนคอร์ด ก่อนจะรับคำกลับไป

“อืม” คำว่าห่างกันของเมลไม่ได้มีสิทธิ์ให้ผมถามว่ามันจะไปไหน จะไปกับใครและจะกลับเมื่อไหร่ ผมไม่มีสิทธิ์นั้นเลย

“รีบกลับไปก่อนฝนตกล่ะ”

ผมกลับมาเล่นกีต้าร์ต่ออย่างไม่สนใจมัน ลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้า พัดเข้ามาจนแสบตาทำให้ภาพเบื้องหน้าไม่ค่อยชัด และฝนคงกำลังตกหนักเพราะมันทำให้แก้มผมเปียกไปด้วยน้ำมากขนาดนี้

ตอนผมยังเด็กป๋าเคยบอกไว้ว่า ถ้าสักวันผมได้มีคนรักอย่างที่ป๋ามี ผมจะกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเหมือนป๋า

แต่ป๋าไม่เคยบอกเลยว่า...คนรักจะทำให้เจ็บปวดใจมากเหลือเกิน

.
.
.

“มึงไปตกน้ำที่ไหนมาวะ ดูๆๆๆ พรมเปียกน้ำหมด ไปๆ ขึ้นไปอาบน้ำ เดี๋ยวจะเป็นหวัด” เสียงไอ้ฟิวแว้ดๆ ขึ้นมาเหมือนทุกครั้งที่ผมกลับบ้านมาด้วยสภาพไม่ปกติ

“เท็น อาบน้ำเสร็จลงมากินยาด้วยนะ เดี๋ยวกูทำอะไรง่ายๆ ไว้ให้กิน” เสียงไอ้ฟิวตะโกนตามหลังมา แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป

อาบน้ำตามที่ไอ้ฟิวสั่งแล้วก็ลงมากินยากับของรองท้องที่มันเตรียมไว้ให้

“กัสไปไหน”

“ไม่รู้ เมื่อคืนก็ไม่กลับ ชอบสีนี้มั้ย” ไอ้ฟิวถามพลางโชว์สิ่งที่มันกำลังถักอยู่ให้ดู

ไอ้ฟิวมันตัวเล็กไม่สมชายอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มงานอดิเรกที่ชอบถักนิตติ้งของมันไปอีกยิ่งตอกย้ำความไม่ใช่ชายอกสามศอกไปใหญ่ แต่ก็นั่นล่ะนะ สำหรับผมแล้วชายแท้ไม่ได้วัดกันที่การทำงานบ้านเหมือนผู้หญิงไม่เป็น

“ชอบสีน้ำตาล เอาเหมือนปีที่แล้วก็ได้”

ปีที่แล้วมันก็ถักผ้าพันคอให้ผมกับไอ้กัส ปีนี้มันก็จะถักอีกแล้วล่ะนะ เอาเถอะ ต่อให้จะไม่เข้าใจว่ามันทำไปทำไมทั้งๆ ที่เมืองไทยหิมะก็ไม่ตก แถมกรุงเทพยังจัดเป็นเมืองที่ร้อนชิบหายอีกต่างหาก -_-

“อ้าว งั้นสีนี้จะทำไงเนี่ย ใกล้จะเสร็จแล้ว ไอ้กัสก็บอกจะเอาสีน้ำเงิน”

“ให้ไอ้มายด์สิ เห็นมันบอกปิดเทอมใหญ่จะไปซัมเมอร์ที่อังกฤษ”

“เสียของ เอาให้ไอ้เจคอปละกัน”

“มันได้กัดขาดตั้งแต่ยังไม่ทันได้พันคออ่ะ”

ไอ้เจคอปที่กำลังพูดถึงอยู่นี่เป็นสุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิสส์ สีขาวหิมะ วัย 8 เดือนที่ผมเพิ่งได้มาเมื่อสามวันก่อน ป๋าให้คุณเคนเอามาให้ บอกว่าเลี้ยงหมาไว้ เผื่อมีหมามากัดหรือมีใครทำให้ขุ่นข้องหมองใจให้ไอ้เจคอปมันจัดการ ฮ่าๆๆ แหลมคมนักป๋าผม

ถ้าโชคดีมันไม่จัดการผมซะก่อนน่ะนะ -_-

“ถ้าทำหน้าทุกข์ใจขนาดนั้น ไม่ไปคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยล่ะ”

“ไม่ใช่ทุกเรื่องที่คุยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นหรอก”

“แล้วจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้รึไง”

ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ผมพยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้ระหว่างเราดีขึ้นหรือกำลังซื้อเวลาที่จะอยู่กับเมลกันแน่ มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผม นอกเหนือการควบคุมเหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส

“หน้าแดงๆ นะ จะมีไข้เหรอเนี่ย หืม คนบ้าไม่เคยป่วยไม่ใช่ไง” ไอ้ฟิววางมือจากการถักผ้าพันคอของมันแล้วเอามือมาแตะๆ หน้าผากผม

“ตัวรุมๆ นะมึง วันนี้ห้ามออกไปไหนละกัน มึงอ่ะ ปกติก็ไม่ค่อยป่วย แต่ป่วยทีไรเป็นหนักทุกที”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า”

“ห้ามดื้อ เข้าใจมั้ย”

ผมผลักหน้าผากไอ้ฟิวให้มันออกไปห่างๆ พร้อมกับดีดหน้าผากมันแถมไปอีกหนึ่งที โทษฐานที่พูดเหมือนผมเป็นเด็ก

นอนไปสักพักโดยมีไอ้ฟิวนั่งบ่นนั่นบ่นนี่ให้ฟังอยู่ข้างๆ มันก็ถักผ้าพันคอของมันไป ส่วนผมก็ตาดูทีวีมือคุยไลน์กับเมลไป ความจริงจะเรียกว่าคุยก็ไม่ใช่ เพราะผมพิมพ์ไปเป็นแสนประโยคได้มั้ง มันตอบกลับมาแค่ อืม เออ อือ ได้อย่างน่าเอ็นดูภูธรมาก ผมเลยตัดสินใจโทรหาเผื่อจะคุยกันรู้เรื่องกว่านี้ ที่จริงผมก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยนะ แค่อยากได้ยินเสียง

“อยู่ไหนเหรอ”

(ถามทำไม)

น้ำเสียงเมลนิ่งๆ ฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน ผมเลยทำใจกล้าถามในเรื่องที่อยากรู้ออกไปได้

“วันนี้จะไปไหน ทำไมจะไม่กลับห้อง”

(จำเป็นต้องบอกด้วย?)

“ก็ไม่ แค่อยากรู้”

(แปลกนะ ปกติมึงไม่เคยอยากรู้ว่ากูจะไปไหน ไปทำอะไร)

‘ก็ตอนนี้มึงปกติที่ไหนล่ะ’ ผมอยากจะตอบกลับไปแบบนี้อยู่หรอกนะ แต่ก็กลัวจะกลายเป็นการโต้เถียงกันขึ้นมาเลยเปลี่ยนประโยคที่จะพูดแทน

“กลับห้องได้มั้ย เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนด้วย”

(คงไม่ได้ว่ะเท็น กูจะพาแพรไปพัทยา)

ทั้งกระเพาะทั้งลำไส้ผมเหมือนตีลังกาสักแปดตลบ

“มึงคบกับแพรเหรอ”

ผมเคยใช้ความเงียบเป็นคำตอบของคำถามที่ไม่อยากตอบ และเพิ่งรู้วันนี้ว่ามันเป็นคำตอบที่ทำให้คนตั้งคำถาม...ทรมานเหลือเกิน

“กูจะรอที่ห้อง”

(เรื่องของมึง)

“อืม”

ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจ...ว่าระหว่างเลิกกันไปกับยังคบกันอยู่ อย่างไหนมันทุกข์ใจมากกว่ากัน คำว่าห่างกันของมัน...เริ่มจะห่างมากขึ้นไปทุกที

(เท็น เป็นอะไร)

ผมนึกว่ามันวางสายไปแล้วซะอีก

“เปล่า”

(จะคุยมั้ย ไม่คุยจะได้วาง)

“อยากคุย แต่ไม่รู้จะคุยอะไร แล้วมึงก็คงอยากวาง”

เมลไม่ได้พูดอะไรกลับมา แต่มันยังคงไม่วางสาย ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้พูดคุยกันแต่กลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด แค่รู้ว่าอีกฟากของสายยังมีมันอยู่ ผมก็ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่ายังไง

เพราะมันมากกว่าคำว่า...ดี มากกว่านี้จริงๆ

(เท็น หลับเหรอ)

“เปล่า อยู่กับไอ้เขตเหรอ เมื่อกี้ได้ยินเสียงมัน”

ถึงไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ก็ได้ยินเสียงคนอื่นดังลอดมาตามสาย เมื่อกี้ไอ้เขตโวยวายอะไรสักอย่าง เหมือนจะสาปแช่งไอ้แต้มกับไอ้ลินอยู่

(อืม ก็อยู่กันครบ มาทำรายงาน)

“อ้าว งั้นมึงไปทำงานต่อเถอะ”

(อืม กินยาด้วยล่ะ เสียงแปลกๆ)

ผมรู้ว่ายากมากที่จะกลั้นยิ้ม และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปฝืนมัน

“เมล”

(หืม)

“เรายังไม่เลิกกันใช่มั้ย”

เป็นคำถามที่ผมอยากถามมาตลอดหลายวันที่ผ่านมาและเป็นคำถามที่ผมยอมรับอย่างหมดท่าว่าผมกลัวคำตอบมากเหลือเกิน

(มึงคิดว่าเราควรจะคบกันต่ออีกเหรอเท็น)

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทั้งยังกดตัดสายทันที เมลคงแค่ล้อเล่น ไม่ใช่สิ่งที่มันอยากพูดจริงๆ หรอก ผมแน่ใจ คงเป็นมุกตลกอะไรสักอย่างที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่...เพราะผมไม่ขำเลยสักนิด และยังแปลกใจที่น้ำฝนนอกตัวบ้านมันสาดเข้ามาถึงในนี้

“ปิดหน้าต่างหน่อยฟิว ฝนสาดเข้ามาหมดแล้ว”

ผมบอกทั้งๆ ที่ยังใช้ฝ่ามือปิดตาทั้งสองข้าง ไอ้ฟิวดึงมืออีกข้างของผมไปกุมไว้ ก่อนจะบอกเสียงเบาว่า

“ฝนหยุดตกนานแล้วนะเท็น...”

ถ้าอย่างนั้น...แก้มของผมมันเปียกเพราะอะไร...


....................................To be continue....................................

หลายคนคงแอบแช่งในใจว่าทำไมเป็นอย่างนี้วะะะะะะะะะะะะะะะะะ  :angry2: ค่ะ ทางเราก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเร็ววันเช่นกัน แต่เคยสงสัยมั้ยคะว่า ถ้าทั้งคู่ยังเป็นอย่างนี้ ทางเราคงต้องหาพระเอกคนใหม่ หรือเปลี่ยนแม้กระทั่งนายเอก????? แต่ ช้าก่อน อย่าเพิ่งตกใจไป  :a5: คนๆ หนึ่งมีหลายมุมนะคะ บางครั้ง...หรือบางทีเราก็รู้จักบางคนแค่บางมุม เพราะฉะนั้น ติดตามกันไปเรื่อยๆ นะคะ อย่าท้อกับนิสัยของใครเลยยยยย

และะะะะะะะะะะะะะ ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจเลยนะคะ

ที่ลืมไม่ได้ก็คือ ขอบคุณความคิดเห็นที่ทั้งยาวทั้งสั้น ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นไหนก็ทำให้รู้ว่าพวกคุณอินมากจริงๆ น่ารักจังเลย  :กอด1:

สุดท้าย ขอความคุณเพลงดีๆ ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 15-09-2013 18:59:48
เท็นๆๆๆๆๆอย่าร้องนะๆๆๆ


เมลก็อย่าใจแข็งมากสิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 15-09-2013 19:01:47
อย่าร้องนะเท็นนะ อย่าร้อง.. ฮือออออออออออออ ออออ ออ



 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 15-09-2013 19:06:22
ฮือออออออออออออออออออออออออ ไมมันหน่วงยังงี้อ่ะ สั้นด้วย เศร้าด้วย งื้อออออออ  :ling1: :ling1: :ling1:

เมลอีกนิดนะอีกนิด อีดนิดฉันจะเกลียดแกแล้วนะ :serius2:

เราไม่ยอมให้เปลี่ยนตัวใครทั้งนั้นอ่ะ เรามั่นใจว่าสองคนนี้ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปได้
จะต้องรักกันมากขึ้นไปอีกแน่ๆ :กอด1:

สู้ๆ นะเท็น ตอนนี้ชัดเจนกับตัวเองแล้วสินะ
ส่วนเมล แน่ใจแล้วหรอ ว่าจะทำอย่างนี้ต่อไป

ต่างคนก็ต่างรักกันมากขนาดนี้ แล้วทำไม ...... :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 15-09-2013 19:08:36
น้ำตาจะไหลตามเท็น  :sad4: :sad4:

คนเขียนใจร้ายยย มาต่อให้หายเศร้าวันนี้เลยได้แมะ อิอิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 15-09-2013 19:10:49
เท็นเลิกกับเมลเถอะ เอาเวลาตามหาสิ่งที่ชอบ หรือใช้ควาามสามารถพิเศษทำประโยชน์แก่ประเทศชาติดีกว่า เสียเวลาเปล่าๆ กับเมล (มันเยอะไป นี้หรือพระเอก) :call:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 15-09-2013 19:11:26
ตามอารมณ์เมลไม่ทันอะ
ไม่แน่ใจว่านี่กำลังประชดอยู่หรืออะไรกันแน่่่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: praew_meng ที่ 15-09-2013 19:11:47
ตอนนี้บีบหัวใจจริงๆค่ะ YY อ่านแล้วอินมากๆเลย
เข้าใจมุมมองของทั้งคู่  แต่แอบสงสารเท็น
รู้สึกเหมือนเท็นกำลังเป็นเด็กน้อยหัดเดินเรื่องความรัก
การที่เกิดมามีไบรท์มากๆนี่ก้ไม่ใช่จะดีเนาะ 55


มาต่อเร็วๆนะคะ รออยูาทุกวันเลยยย กิกิ


 :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 15-09-2013 19:22:45
เมลสั่งสอนแรงมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

ใครสั่งใครสอนให้เมลเป็นแบบนี้คะเนี่ยยย โว้วววว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: sweety_nn ที่ 15-09-2013 19:26:37
โอ้ยยยย ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงมาต่ิอด่วนน
จะร้องไห้ตามล้ะนะ ฮืออออ ทำไมเป็นงี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 15-09-2013 19:33:43
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 15-09-2013 19:37:19
จะดูซิว่าเมลมันจะเก๊กหลุดเมื่อไหร่
นายเอกเราช่วงนี้อ่อนแอทั้งร่างกาย และจิตใจขาดคนดูแลค่ะ :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Hooh ที่ 15-09-2013 19:38:32
ซู้ดๆๆๆๆๆ ขณะนี้เสพมาม่ากำลังอร่อย
มาม่ามีเป็นลัง เสพต่อไป อย่าให้คืนดีง่าย
เด๋วเมลมันเบื่ออีก   :hao5: :hao5:
เราจะกัดผ้าเช็ดหน้ารอเธอ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 15-09-2013 19:43:22
จะบอกว่า อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ เริ่มสงสารเท็นนะ
การกระทำทุกอย่างมันมากกว่าคำว่าขอโทษซะอีก
เมลอาจลืมไปว่า ที่ชอบเท็นเพราะอะไร เพราะความเป็นเท็นไม่ใช่เหรอ
ถ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วเท็นจะทรมาน เมลทำได้แล้วล่ะ
แล้วถ้าไม่อยากโดนเท็นที่เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่แรกที่เมลชอบ
ก็เลิกเถอะ บอกเท็นให้จบๆ อย่าให้ค้างคา
เพราะฉันสงสารเท็น  :sad4:
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่าาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-09-2013 19:52:13
คนแต่งบอกว่าให้ติดตามต่อไป

แต่คนแต่งรู้มั้ยว่าคนอ่านอึดอัดมาก

อยากจะเชียร์ให้เลิกกันไปเลยอ่ะ

เราไม่ชอบเมล บอกตรงๆ

แต่ถ้าสรุป เท็นยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเมล

เรามีเคืองอ่ะ เราชอบที่เท็นเป็นแบบนี้ เท็นเป็นแบบนี้เมลถึงชอบไม่ใช่หรือไง

แล้วจำเป็นหรอที่เท็นต้องเปลี่ยน ต้องเหมือนใคร นี่แหละจุดเด่นของเรื่อง

นิสัยของนางเอกเรื่องนี้ คือสิ่งดึงดูดของนิยาย

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 15-09-2013 19:58:00
ณ จุดๆนี้ต้องการพาทเมลด่วน

กอนตัดสินใจเชียร์ให้เท็นเลิก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 15-09-2013 20:01:55
เีราว่าเราเข้าใจเมล แบบคนมันรอ คนมันตาม วิ่งจนเหนื่อยแต่ยังไปไม่ถึงอ่ะ ที่เท็นแสดงออกมามันยังคงไม่พอสำหรับการเป็นคนรักอ่ะ เราต้องปรับต้องเปลี่ยนเข้าหากันอ่ะ ที่เมลใจแข็งบางทีอาจจะหยุดวิ่งเพื่อให้เท็นหยุดเดินหน้าแต่ถอยหลังกลับมาเพื่อเดินไปพร้อมกันไง ความเจ็บปวดที่ได้รับมันคือบทเรียนชั้นดีที่เตือนใจ มั้งแฮ่ รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 15-09-2013 20:09:46
เท็นคงได้บทเรียนราคาแพงมากจากการเอาแต่ใจตัวเองครั้งนี้
คงรู้แล้วสินะว่าการที่เท็นไม่อยากคุย อีกฝ่ายรู้สึกยังไง
การที่ต้องเป็นฝ่ายไล่ตาม อีกฝ่ายเหนื่อยขนาดไหน
การที่แสดงออกว่าเบื่อ มันลดทอนความมั่นใจอีกฝ่ายได้แค่ไหน

ก็ อดทนต่อไปอีกนิดละกัน เชื่อว่าตอนนี้เมลอ่อนลงบ้างแล้วล่ะ
ไม่งั้นคงไม่บอกให้กลับก่อนฝนตก ไม่บอกให้กินยาก่อนนอน
ถ้าเมลไม่สนใจคงไม่รู้แม้กระทั่งเสียงที่แปลกไปของเท็นหรอก
เมลก็คงกลัวแหละว่ากลับไปก็จะเป็นเหมือนเดิม
อดทนและให้เวลาเมลอีกนิด เหมือนที่เมลอดทนและพยายามกับเท็นมาตลอด

ปล. กดบวกให้คุณ Snufflehp น่ารักมากๆ มาต่อทุกวันเลย ขอบคุณนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: 6YYY9 6YYY9 ที่ 15-09-2013 20:26:35
เราตามอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกนะ แต่เพิ่งจะเข้ามาคอมเม้น คือหงุดหงิดจริงๆ กับตอนนี้ (ความจริงหงุดหงิดมาหลายตอนแล้ว-w-) ที่ติดตามเรื่องนี้เพราะชอบนิสัยเท็น ชอบที่เท็นเป็นเท็นอ่ะ คนที่อยากจะทำอะไรก็ทำแล้วอยู่ๆก็ต้องมาเปลี่ยนไปเพราะเมล เราว่าเลิกดีกว่า เปลี่ยนพระเอกแม่งเลย รำคาญมาก แล้วแพรนี่เอามาเกี่ยวด้วยทำไม บอกตรงๆเลย เราอ่านข้าม อ่านผ่านๆ เลยไม่รู้ว่าแพรเป็นใคร แต่ก็พอเดาๆได้อ่ะนะ 55555555 เม้นยาวไปมั้ย? สรุปเลยคือไม่ปลื้มเมล . แต่ถ้าเอาพาร์ทเมลมา เราจะลองพิจารณาดูว่าควรจะชอบเมลหรือไม่ชอบต่อไป มาต่อเร็วๆนะคะ อย่าให้ค้างนานเลย เราอึดอัด ช่วงนี้จะสอบแล้วอยากได้เท็นมาเป็นกำลังใจค่ะ 555555555555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 15-09-2013 20:44:21
ถ้าจะดัดนิสัย ก็ต้องใจแข็ง
เราว่าเมลก็ทรมานไม่ต่างกัน ..
แต่ถ้าดีด้วยง่ายๆ นิสัยของเท็นก็จะเหมือนเดิม
ต้องฝึกให้รู้.. ใจเขาใจเรา เท็นจะได้รู้ว่าควรปรับและควรทำอย่างไร
นิสัยเป็นตัวบอกอนาคตของเท็นด้วยนะ.. ดัดตั้งแต่ตอนนี้อ่ะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 15-09-2013 21:07:47
อ่านตอนนี้แล้วใจเสียเลย

ทำกันเหมือนเลิกแล้วจริงๆนะ

เมลใจแข็งเกินไปแล้ว

ฮือ เศร้าอ่ะ แต่รออ่านตอนต่อไปอยู่นะจ๊ะ

รีบให้คืนดีกันสักทีสิ :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 15-09-2013 22:00:13
คือถ้าจะบอกว่าดัดนิสัยเท็น เราว่าที่เมลทำมันแรงเกินไป ยิ่งเอาผู้หญิงมาเกี่ยวด้วยนี่ไม่ไหวนะ
อยากจะถามเมลนะว่ารักเท็นที่เป็นเท็นรึป่าว เมื่อก่อนเท็นก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ ทำไมยังรักยังรอ แต่พอได้คบกันในฐานะคนรักกลับอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยพอซะที เพราะเท่าที่อ่านมาเท็นให้และยอมเมลหลายอย่างมาก อ่านแล้วยิ่งไม่ชอบเลยที่เมลเอาเท็นไปเปรียบกับฟิว ว่าฟิวดีอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าอยากได้คนดีคนเอาใจทำไมไม่คบกับฟิวไปซะล่ะ คือถ้าเหนื่อยกับเท็นมากก็ปล่อยเท็นไปซะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: nan53 ที่ 15-09-2013 22:11:08
เหอะ! บทลงโทษของเท็นที่รักอิสระ มีโลกของตัวเอง คือการที่แฟนตัวเองจะไปกับผญ อีกคน ตลกนะ
ถ้าเป็นเราคงหยุดแล้ว หยุดที่จะรั้ง หยุดที่จะยื้อ เพราะเหมือนอีกฝ่ายกำลังจะหมดใจ
เชื่อเสมอนะว่า คนจะไป แค่เราหายใจก็ยังผิด และเค้าก็ไปอยู่ดี
ตอนจะคบ จะขอเป็นแฟนยอมรับทุกเงื่อนไข บอกว่าให้เป็นตัวเอง แล้วไงล่ะ พอได้เป็นแฟนแล้วสุดท้ายเป็นไง จำได้สักพยางค์ที่บอกไปมั้ย สงสารเท็นสุดๆๆ
ปล. อินสุดๆค่ะ 555 รอติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-09-2013 22:12:58
คนเขียนบอกให้อดทน เราก็ทนได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงนี่ไม่ทนอะ :m31:
บอกว่าห่างกันแต่เมลดันไปยุ่งกับคนอื่น แถมยังทำเท็นเสียใจ ไม่เข้าใจว่ามันจะดัดนิสัยเท็นได้จริงๆเหรอ
ถ้าเท็นไม่รักมากจริงๆ ก็คงไม่แคร์ขนาดนี้หรอก ต้องทำให้เท็นเจ็บเจียนตายก่อนเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ :angry2:
คือไม่ชอบที่เมลทำแบบนี้อะ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าขนาดนี้ ถามหน่อย อยากให้เท็นเป็นยังไงเหรอ แล้วตัวเองไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาเท็นบ้างหรือไง
อ๊ากกก อินเกิ๊น! แบบอยาก :beat: เมลมาก ณ ตอนนี้ จะดัดนิสัยเท็นกเอาแค่พอดีนะ คนเรามันก็มีขีดจำกัดของความอดทนอยู่นะฮะ :m16:
ขอน้ำแข็งด่วนๆค่ะ แทบลุกเป็นไฟเหมือนที่คนเขียนว่าซะแล้ว :fire: :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-09-2013 22:18:06
ถ้าเท็นตัดเมลทิ้งจริงๆ

ถามว่าใครจะเจ็บกว่า
งานนี้ไม่ใช่คนลงมือก่อนได้เปรียบนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 15-09-2013 22:27:56
เยอะะเมล เยอะละๆ :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 15-09-2013 23:05:32
อ่านตอนนี้แล้วสะท้อนความรู้สึกของเมลมาประโยคนึงก่อนหน้านี้
ก่อนหน้าที่เท็นจะไปเหนือ ที่เมลถามเท็นว่าจะไปไหน แล้วเท็นตอบว่าจะรู้ไปทำไม
ตอนนี้มันสะท้อนกลับมาที่เท็นแล้วล่ะ

หาก 2 คนนี้จะเลิกกัน ก็ได้แต่หวังว่าเท็นจะได้ปรับเปลี่ยนนิสัยที่ไม่สนใจจิตใจคนอื่นบ้าง

ตอนนี้อยากอ่านพาร์ทของเมลค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: trafu ที่ 15-09-2013 23:12:51
รู้ว่าอยากดัดนิสัยเท็นนะเมลแต่ถ้าเป็นอย่างนี้  อย่าเลยดีกว่าจะเลิกก็เลิก  ดึงคนอื่นมายุ่งทำไม
ถึงเท็นจะนิสัยเสียก็เหอะ
 :z6: :z6: :z6:เมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 16-09-2013 01:09:57
โมโห เมลสุดๆ

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 16-09-2013 01:24:00
ถ้าเป็นชีวิตจริงคนอย่างเท็นคงต้องอยู่คนเดียวจนตายอะ เอาจริง555 จะมีใครทนคนอย่างเท็นได้
แต่นี้เป็นนิยายสุดท้ายก็คงได้กลับมารักกันหล่ะมั่ง

ตอนนี้เหมือนเท็นได้รับบทเรียนคืนเลย บางคนบอกเมลทำเกินไป แต่ที่เมลทำคือทุกอย่างที่เท็ยเคยทำทั้งน้านนน
เท็นจะเป็นคนแบบไหนไม่เกี่ยวกับว่า เท็นจะสามารถทำร้ายจิตใจใครก็ได้ ไม่ผิด เพราะเป็นตัวของตัวเองหรอกนะ
เพราะฉะนั้นถือว่ารับผลของการกระทำตัวเองไปหล่ะกัน55555

ไม่ชอบเมลอย่างเดียว คือที่ทำอยู่หนิแค่ประชดหรืออยากเลิกจริง
ถ้าแค่ประชดก็อย่าเองผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวเลย สงสารเขา
แต่ถ้าอยากตัดใจ อยากเริ่มใหม่กับใครสักคนจริงๆก็โอเค
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 16-09-2013 01:26:30
 :katai1: ถ้าให้ใครคนใดเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครอีกคนแล้วเสียความเป็นตัวตนไปสู้อย่าคบกันเลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 16-09-2013 01:40:02
ไม่ได้เข้ามาอ่านแป๊บเดียว ไหงมาม่าอืดเพียบขนาดนี้อ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-09-2013 10:15:17
ชักจะเซ็งเมล เริ่มเยอะ จะดัดนิสัยเท็นเหรอ
หันหน้าคุยกันดีๆ พบกันครึ่งทางดีกว่ามั้ง

ถ้าตอนหน้ายังไม่เคลียร์ ยุให้เท็นมีผัวใหม่แม่งเลย
เท็นเสียน้ำตาบ่อยเกินไป

ส่วนเมล ถ้ายังเป็นแบบนี้ รับที่เท็นเป็นอย่างนี้ไม่ได้
ก็เลิกเด็ดขาดไปเลย ไปหาเมียใหม่ไป๊
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-09-2013 11:32:03
..น้ำตาไหลกับบรรทัดสุดท้ทย หน่วงๆมาทั้งตอนเลยค่ะ

 :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 16-09-2013 14:01:48
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 16-09-2013 17:01:58
งือออ  อาการหน่วงๆนี่มันคืออะไรกันนนนนน   :z3:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-09-2013 18:59:52
เชื่อในรักและขอให้เชื่อในเรา นะคะ  :กอด1:
http://www.youtube.com/v/pgEFfZOV9GQ

ตอนที่ 23

ผมรู้ว่าถ้าเมลพาแพรไปพัทยาจริง คืนนี้ก็คงไม่กลับคอนโดแน่นอน แต่ผมก็ยังมาที่นี่ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ผมแค่ทนให้ไอ้ฟิวมองมาด้วยความเป็นห่วงไม่ไหว มันคงไม่เคยเห็นผมร้องไห้ เพราะนั่นเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ผมบังเอิญร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น

แน่ล่ะ...ผมค่อนข้างไม่ยอมรับกับเรื่องนี้ มันเป็นปรากฎการณ์ที่นานๆ ครั้งจะเกิดขึ้นกับชีวิตผม

ห้องของเมลก็เหมือนเช่นทุกวันที่ผมมา ข้าวของทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมของมันรวมไปถึงเสื้อผ้าผมที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเมลเกือบครึ่งตู้ แชมพูที่ผมใช้ ครีมอาบน้ำที่ผมชอบ และสารพัดอาหารเสริมกับยาบำรุงที่เมลเอามาบังคับให้ผมกิน ทุกอย่างยังอยู่ในที่ของมัน

ผมมายืนรับลมที่ระเบียง อาการปวดศีรษะทุเลาลงหลังจากได้ยาสองเม็ดที่ไอ้ฟิวยืนยันว่าถ้าไม่กินมันจะไม่ให้ผมออกจากบ้าน แถมยังขู่ว่าจะโทรไปรายงานแม่ผมอีกต่างหาก ก็ยอมๆ มันไปล่ะครับ เพื่อสุขภาพของผมและเพื่อลดความวุ่นวายในชีวิตด้วย เพราะถ้าแม่รู้ว่าผมป่วย แน่นอนว่าทีมแพทย์ที่ดีที่สุดในประเทศจะต้องแห่กันมารุมล้อมผมแน่นอน -_-

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูที่ดังมาจากข้างหลังสร้างความแปลกใจให้ผมเล็กน้อย ไม่น่าจะมีใครมาในเวลานี้นี่หว่า...

ร่างสูงในชุดเชิ้ตดำกับกางเกงยีนยืนอยู่ที่ประตูห้องนอน ถึงไม่เห็นหน้าด้วยความมืดจากการที่ผมไม่ได้เปิดไฟในห้อง แต่ผมก็จำรูปร่างของคนๆ นั้นได้ดี

“อ้าว... ทำไม...” ผมพูดได้แค่นั้น เมลก็เดินเข้าห้องน้ำไปซะก่อน

ตกลงมันไปพัทยามาแล้ว หรือเปลี่ยนใจไม่ไป?

ผมยืนพิงผนังข้างประตูห้องน้ำ รอเมลที่คงกำลังอาบน้ำอยู่ ได้ยินเสียงมันฮัมเพลงเบาๆ คงอารมณ์ดีด้วยเรื่องอะไรสักอย่าง ซึ่งผมแน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องผมหรอก เพราะเดี๋ยวนี้มันอารมณ์เสียบ่อยๆ ที่เห็นหน้าผม

รออยู่เกือบสิบนาที ร่างสูงสมส่วนก็ออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำ ผมคว้าแขนเมลไว้ก่อนที่มันจะเดินผ่านไป

“ไหนบอกไม่กลับ”

“ต้องตอบไหม”

“ตามมารยาทก็ต้องตอบ”

“ขี้เกียจขับรถ เลยไม่ไป จะถามอะไรอีกมั้ย”

“ไปใส่เสื้อผ้าเถอะ”

จะบอกว่าผมดีใจก็ไม่เชิงหรอก มันโล่งใจมากกว่า...

“กินยารึยัง”

ผมไม่ได้ตอบในทันทีเพราะกำลังเดินหารีโมททีวีอยู่ ไม่รู้เอาไปวางไว้ตรงไหน เวลาเมลดูแล้วมันชอบเอาวางไว้ไปเรื่อย บางทีมาอยู่ใต้หมอนผมก็มี

“ถามน่ะ ไม่ได้ยินหรือไง”

“กินแล้ว เอารีโมทไว้ไหน”

“ใต้หมอนมั้ง หาๆ ดู”

ผมใช้เวลาอีกสามนาทีกว่าจะเจอสิ่งที่ต้องการ ส่วนเมลก็สำรวจหน้าตาตัวเองอยู่หน้ากระจก แต่หน้าใสๆ อย่างมันหายังไงก็ไม่เจอแม้แต่สิวหรือรอยด่างดำ ไม่รู้จะส่องหาอะไร

“ชอบเขาหรือยัง แพรน่ะ”

เมลไม่ตอบคำถาม มันทำเหมือนไม่ได้ยินแต่ผมเห็นคิ้วเข้มๆ ของมันขมวดเข้าหากันผ่านทางกระจก

ผมคบกับเมลมา อาจจะไม่นานเป็นปีแต่ผมก็รู้ว่าที่มันทำทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชดผม เมลไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น มันทำทุกอย่างตามความต้องการของมันจริงๆ ผมรู้ว่ามันอยากตัดใจจากผม ความเข้ากันไม่ได้ของเรามันเด่นชัดขึ้นทุกวัน มันเหมือนกับที่ผมคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสักวันเมลต้องทนไม่ไหว และเพราะรู้อย่างนั้นผมถึงทั้งดีใจและโล่งใจที่มันกลับมา

“มึงยังจำได้มั้ย ที่บอกกับกูว่า ถ้าวันหนึ่งเราต้องเลิกกันจริงๆ อยากให้เลิกเพราะเราไม่รักกัน ไม่ใช่เพราะเราโกรธหรือทะเลาะกันเรื่องคนอื่น”

“จำได้”

“แล้วทำไม...” ผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะถามอะไรเลยหยุดพูดไปซะอย่างนั้น

ปล่อยให้เสียงจากในทีวีเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ตอนนี้ ผมอยากคุยกับเมลให้เข้าใจแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี มันสับสน วกวนและเต็มไปด้วยคำถาม ไม่เคยเลยที่ชีวิตผมจะเจอกับเรื่องที่จัดระเบียบไม่ได้แบบนี้

“เพราะมึง...ไม่รักกูแล้วไม่ใช่เหรอเท็น มึงเบื่อกูแล้ว ถึงได้หนีไปแบบนั้น เหมือนที่มึงเคยทำ ครั้งนั้นกูทำทุกอย่างเพื่อจะหาตัวมึง เพื่ออยากรู้ข่าวมึง และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันเลยเท็น กูไม่ได้สำคัญไปมากกว่าเมื่อสองเดือนก่อนเลย มันแย่พออยู่แล้วกับเรื่องนี้ แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้น มึงกลับกำลังหัวเราะอยู่กับคนอื่นทั้งๆ ที่กูทุรนทุรายอยู่ที่นี่”

ผมเห็นความเสียใจที่ต่อให้คำขอโทษเป็นร้อยเป็นพันจากผมก็คงไม่ทำให้มันหายไปจากแววตาของเมลได้ มันยังเด่นชัดเหมือนเพิ่งเมื่อวานนี้เองที่ผมได้ทำร้ายจิตใจมันไป

“เขาเป็นเพื่อนเก่า กูขายงานวิจัยเก่าของกูให้เขา เลยมีเรื่องต้องพูดคุยกันและเขาไม่สะดวกจะลงมาที่กรุงเทพ กูเลยต้องขึ้นเชียงใหม่เพื่อไปคุยกับเขา ไม่มีอะไรอย่างที่คิดเลย แล้วถ้ากูบอกมึง แน่ใจมากแค่ไหนว่าเราจะไม่ทะเลาะกัน”

“มึงเห็นกูเป็นคนยังไง ถ้ามึงบอกว่ามึงไปเรื่องงานกูจะขัดขวางมึงใช่ไหม เพราะมึงฉลาดเกินไปถึงได้คิดว่าคนอื่นเขาคิดไม่เป็นอย่างมึงสินะ กูนี่โคตรไม่มีเหตุผลเลยใช่ไหม”

สิ่งที่คิดว่ารู้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าอาจไม่ใช่ทุกครั้งที่ผมจะคิดถูก อารมณ์และความคิดของมนุษย์ไม่คงที่และไม่แน่นอน ตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวว่าเมลคงไม่ยอมแน่ คงโวยวายและเราต้องทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่คนรักของผมเขาก็เป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลพอที่จะรับฟัง

ผมต่างหากที่ไม่ยอมพูดอะไรและคิดแทนเขา...

หลังจากเสียงตะโกนของเมล เราทั้งคู่ต่างก็ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้บทสนทนา เรายืนห่างกันไม่มากแต่ก็ไม่ให้ความรู้สึกว่าใกล้กันเลย ความเข้าใจที่ปรับเข้าหากันไม่ได้นี้...ทำให้ผมเหมือนเดินชนกำแพงที่มองไม่เห็นเข้าเต็มๆ แล้วก็เหมือนโดนต่อยหนักๆ เข้าที่ขมับเมื่อได้ฟังการตัดสินใจของคนตรงหน้า

“ความรักของกูมันยังไม่พอที่จะทำให้มึงมีความสุขหรอกเท็น และเพราะเป็นอย่างนั้นกูถึงได้แน่ใจว่าสิ่งที่มึงต้องการในตอนนี้ก็คืออิสระ” เสียงของเมลแผ่วเบา

ผมมองรูปหน้าหล่อๆ นั่นอย่างเลื่อนลอย ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเข้าใจว่าเมลหมายความว่าอย่างไร

อิสระ...ที่คืนมาช้าไป ผมคงเต็มใจรับไว้ไม่ได้...

“ที่กูต้องการ ก็คือมึง แค่มึง...เมล”

เมลเงียบไปหลายอึดใจ ก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างไม่น่ามอง

“มึงก็แค่พูดเพราะรู้ว่ากำลังจะเสียกูไป มึงเป็นอย่างนี้ทุกครั้งแหละเท็น ทุกครั้งที่ของเล่นพังก่อนที่มึงจะโยนทิ้ง”

ผมจ้องหน้าเมลโดยไม่ละสายตา เพราะผมไม่ชอบเวลาที่ใครสักคนเอาคุณค่าของตัวเองไปเปรียบกับสิ่งอื่นแล้วทำให้ตัวเองดูไร้ค่า งี่เง่าสิ้นดี

“มึงเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับของเล่น” ผมเลิกคิ้วให้เมลที่ยังคงนิ่งเงียบ

“กูขอโทษที่ความรักของกูทำให้มึงหมดความภูมิใจในตัวเองไปอย่างนี้ แต่ให้เหตุผลดีๆ กับกูสักล้านข้อได้มั้ยถ้าอยากจะเลิกกันจริงๆ ไอ้กัสเคยบอกกูว่าเวลาคนมันอยากเลิก เหตุผลเป็นร้อยข้อก็หามาพูดได้ แต่คนอย่างกู ร้อยข้อไม่พอหรอกว่ะเมล”

“มึงหมายความว่ายังไง”

ผมไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วบอกกับมันว่า

“กูไม่เลิกจนกว่ามึงจะบอกกูได้ครบล้านข้อ จะใช้เวลากี่ปีก็ตามใจมึง แต่อย่ามาคิดว่าคบกับกูแล้วจะเลิกกับกูได้ง่ายๆ ไม่เกี่ยวหรอกว่ามึงจะอยากมีใคร อยากจะตัดใจจากกูมากแค่ไหน แต่รู้ไว้เลยว่ากูไม่เลิก!”

เมลอ้าปากค้าง มองผมอย่างไม่เชื่อสายตา มันคงคิดอะไรง่ายๆ คิดตื้นๆ ว่าผมจะยอม ผมไม่ใช่นางเอกนิยายโง่ๆ ที่พอโดนบอกเลิกแล้วจะยอมจากไปง่ายๆ ยอมรับความจริงเหรอ ยอมรับอะไรล่ะ เห็นชัดๆ ว่ามันก็ยังรักผมอยู่

ผมเข้าใจว่าเมลเสียความรู้สึกมาก ความรู้สึกของมันในตอนนั้นผมเรียกกลับคืนมาไม่ได้ แต่ผมก็อยากจะทำอะไรอีกสักหน่อย ไม่ใช่ไถ่โทษหรืออยากให้เมลยกโทษให้

ผมก็แค่รัก...และไม่อยากเสียมันไปก็เท่านั้นเอง

“บอกไว้ก่อนเลยนะว่ากูไม่รับเหตุผลซ้ำ อยากเลิกเพราะอะไรก็เขียนใส่โพสอิทแปะหน้าตู้เย็นไว้ละกัน ข้อเสียอะไรของกูจะเอามาใช้เป็นเหตุผลก็ได้นะ แต่เตือนไว้ก่อนว่าจากนี้ไปมันจะมีไม่ถึงห้าข้อหรอก แล้วมึงจะลำบากมากถ้าต้องหาให้ครบล้าน มึงอาจต้องติดแหง็กอยู่กับกูไปจนแก่”

“ไม่ตลก” เมลกัดฟันพูด หน้าหล่อๆ ของมันดูหงุดหงิดงุ่นง่าน  คงอยู่ในอารมณ์พร้อมจะระเบิดใส่ผมเต็มที่

“ไม่ได้ให้ตลก กูพูดจริง หน้าอย่างกูเคยเล่นตลกหรือไง -_-”

แน่นอนว่าผมเปลี่ยนตัวเองไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ผมก็แน่ใจว่าสักวันความเข้าใจของผมกับเมลจะตรงกัน เพราะตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกับเบื่อหรือไม่เบื่อ ใช่หรือไม่ใช่ ทำได้หรือทำไม่ได้ แต่มันอยู่แค่...รักหรือไม่รัก เท่านั้นเอง

และในเมื่อผมยังรัก และมันก็ยังรัก แล้วทำไมเราถึงจะไปต่อด้วยกันไม่ได้ล่ะ...

“มานอนได้แล้ว”

เมลทำหน้าขัดใจกับคำสั่งของผม ซึ่งตอนแรกผมคิดว่ามันจะไม่ยอมทำตาม แต่ก็เกินคาดที่มันเดินเข้ามาผลักหัวพร้อมกับบอกว่า

“กินยาก่อนนอนด้วยก็แล้วกัน จะได้ไม่ไข้ขึ้นกลางดึกให้กูลำบาก”

มันเดินออกจากห้องไป หายไปได้สักสี่ห้านาทีก็กลับมาพร้อมยากับน้ำหนึ่งแก้ว ผมกินยาเสร็จก็เอนตัวลงนอนโดยที่เมลกระชากผ้าห่มมาคลุมให้ อ๋อ...ต้องเรียกว่ากระชากแหละครับ เพราะมันทำเหมือนไม่เต็มใจ ใส่อารมณ์เข้าไปเต็มที่...แต่ประเด็นอยู่ตรงไหน หึหึ ก็อยู่ตรงที่อย่างน้อยมันก็ห่มผ้าให้ผมยังไงล่ะ ^^

“เมล”

“อะไร”

เดี๋ยวนี้ถนัดทำหน้ารำคาญใส่กูจริงๆ เลย -_-

“ขออะไรอย่างได้มั้ย”

“แน่นอนว่าไม่”

“ช่วยนึกให้ออกที...ความรู้สึกแรกที่เราเป็นแฟนกัน” ผมยังคงพูดต่ออย่างไม่สนใจคำปฏิเสธของมัน

“....”

“กูดีใจนะ...ที่มึงไม่ไปกับแพร”

“....”

“แล้วก็ดีใจที่มึงรู้ว่ากูรออยู่ที่นี่ก็ยังกลับมาหา”

“....”

“กูขอโทษที่ทำให้เสียใจ....ฝันดีนะเมล”

ผมยกหัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้หอมแก้มเมลให้ถนัด ก่อนจะขยับตัวเข้าไปซุกกับอกของมัน เมลไม่ได้ว่าอะไร แถมยังไม่ผลักหนี แค่ได้ยินมันตอบกลับมาว่า

“อืม...ฝันดี”

ผมก็ดีใจแล้ว ^_^


Special Inside: เมล ฐาปกรณ์

เท็นแม่งบ้า บ้ามากแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน เหตุผลล้านข้อของมันทำเอาผมปวดหัวจนนอนไม่หลับ แต่ไอ้คนที่ตั้งเงื่อนไขกลับหลับลงได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา

ตอนมันหลับก็ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่ยามตื่น แค่สบตาผมก็รู้แล้วว่าผมไปไหนไม่รอด...

หลายวันที่พยายามตัดใจจากมัน แต่ละครั้งที่พยายามเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักคนอื่นบ้าง ผมไม่เคยทำสำเร็จ ผมยังคงคิดถึงแต่เท็น ไม่ว่าใครจะพยายามเหนี่ยวรั้งผมไว้แค่ไหน พอรู้ว่าเท็นอยู่ไม่ไกล ใจผมก็คิดแต่จะไปหา แล้วความพยายามตลอดหลายวันที่ผ่านมาของผมก็พังครืนลงแค่เพราะได้ยินคำว่า ‘ขอโทษ’ จากมัน

และไม่เคยเลยที่เท็นจะพูดแล้วทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้อย่างนั้น...

ผมควรจะทำยังไงดี...

ผมไม่ได้อยากเห็นเท็นเสียใจ แต่ผมก็ไม่อยากให้เรื่องราวมันวนกลับไปแล้วผมต้องเสียใจเหมือนเดิมอีกเช่นกัน

ทว่า...ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมมีความสุข ผมหลอกตัวเองไม่ได้ว่าการไม่มีเท็นจะทำให้ความเสียใจของผมลดน้อยลง มันกลับมากขึ้นและมากขึ้นทุกที จนผมสงสัยว่าตัวเองทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อไม่ว่าจะอยู่กับใครผมก็คิดถึงแต่เท็น

เหมือนวันนี้ที่ผมต้องเปลี่ยนใจกะทันหัน...ผมจะไปเที่ยวกับคนอื่นให้สนุกได้ยังไง ถ้าใจคอยแต่จะห่วงเท็นอยู่อย่างนี้ ผมรู้ว่ามันต้องไม่สบายแน่เพราะน้ำเสียงแปลกไป สาเหตุคงไม่ใช่อะไรนอกจากเวลาที่ฝนตกทีไรชอบไปนั่งบ้าตากฝนมองท้องฟ้าทุกที

ผมนอนมองเท็นจนเกือบตีห้า แค่มองจริงๆ เพราะมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เหตุผลมองแล้วทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อคงไม่มีวันได้ใช้เป็นเหตุผลขอเลิกแน่

“เมล” เรียกชื่อผมทั้งๆ ที่ยังหลับตา แถมเสียงก็แหบมากกว่าเดิมเสียอีก

เท็นขยับเข้ามากอดผม ไอร้อนจากตัวมันทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ตัวร้อนขนาดนี้ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ

คิดอะไรไม่ออกก็คว้ามือถือขึ้นมากดโทรหาไอ้เขตเป็นรายแรก

(เหี้ยเมล นี่มึงจะรบกวนการใช้ชีวิตกูไปถึงไหนหือออออ โทรหากูเวลานี้กูชักจะคิดอย่างที่ไอ้แต้มมันว่าแล้วนะว่ามึงแอบชอบกู ตั้งแต่ทะเลาะกับเมียก็เช้าถึงเย็นถึงกับกูตลอด) ไอ้เขตสาปแช่งมาตามสายแต่ผมรีบเบรกมันก่อนที่บทสนทนาจะเลยเถิดไปกว่านี้

“เท็นไม่สบาย ทำไงวะ”

ไอ้เขตหยุดพูดไปทันที ก่อนเสียงหัวเราะเหมือนฟ้าร้องจะดังมาตามสาย ไอ้นี่หน้าตาก็ดีอยู่หล่อ แต่พอแม่งหัวเราะแม้แต่สาวเทียมยังไม่กล้าเข้าใกล้ -_-

(โฮ่ๆ ถึงว่าทริปพัทยาล่ม คืนดีกันแล้วเหรอจ้ะหนุ่มน้อยยยยย แหมๆๆๆๆ เมื่อวานยังหอบข้าวมากินกับกูอยู่เลย วันนี้คืนดีกันซะละ อดแดกข้าวฟรีเลยกู)

กับข้าวที่เท็นทำไว้ให้ผมเอาใส่กล่องไปกินกับไอ้เขตที่คอนโดมัน เห็นตอนมันตั้งใจทำให้แล้วใครจะเททิ้งลงวะ ผมก็แค่บอกเท็นไปงั้นแหละว่าเอาทิ้ง แต่จะทิ้งทำไมให้เสียของ ของโปรดของผมทั้งนั้นเลยนี่นา แถมไอ้เขตกับไอ้แต้มยังบอกอีกว่าอร่อยมาก วันหลังจะแสล๋นหน้ามาขอให้เท็นทำให้กิน -O-;

“ก็ไปบอกน้องดิ้งทำให้สิวะ แล้วนี่มึงจะบอกมาได้รึยัง แม่งลีลา เปลืองค่าโทรกูอีกต่างหาก”

(นี่คือคำพูดของคนที่โทรมาปลุกกูตั้งแต่ไก่โห่แถมยังขอความช่วยเหลือจากกูงั้นเหรอวะ หึหึ เออๆ ไม่ต้องแช่งกูในใจ อันดับแรก เช็ดตัวก่อนเลยมึง)

“แล้วจากนั้นล่ะวะ”

(หาข้าวหายาให้กิน เรื่องข้าวนี่ต้องเป็นอะไรที่ย่อยง่ายนะ เอาพวกโจ๊ก ข้าวต้มอะไรพวกนั้นก็ได้ ให้นอนเยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ แล้วถ้าไข้ไม่ลดมึงพาไปโรงบาลได้เลย โอเคมั้ยหนุ่มน้อย)

“เสียงมึงดีดดิ้นมากเหี้ยเขต เออๆ งั้นกูวางละ”

(หึหึ ดูแลเมียดีๆ ละกันมึง คืนดีกันก็ดีละ พวกกูขี้เกียจนั่งแดกเหล้าเป็นเพื่อนมึง)

“พูดมากไอ้ห่า”

วางสายจากไอ้เขตแล้วผมก็มาเริ่มดำเนินการตามที่มันบอก เท็นปรือตามองแถมยังอมยิ้มในขณะที่ผมกำลังเช็ดตัวให้ อยากจะเอานิ้วจิ้มหน้าผากมันแรงๆ อยู่หรอก

แต่แก้มแดงๆ ตาปรือๆ เหมือนกำลังอ้อนนั้นน่ารักเกิน ทำไม่ลง -_-;

“เหตุผลข้อแรกของกูเลย ตากฝนจนไข้ขึ้นนี่ แย่มาก!”

“แค่ไม่เป็นไข้ก็พอใช่ป่าว”

ผมเหลือบตามองเท็นเล็กน้อย

“เป็นหรือไม่เป็นก็ไม่ควรทำ ฝนตกหนักขนาดนั้นมึงไม่กลัวฟ้าผ่าตายบ้างหรือไง”

เท็นชูสองนิ้วกลับมาให้เหมือนกับบอกว่ามันไม่เป็นไร ผมเลยยกนิ้วกลางกลับไปให้มัน

“จะกินไร”

“ไม่หิว”

“ต้องกิน จะได้กินยา”

“ไม่กิน ไม่หิว จะนอน”

“เท็น”

“ไม่”

“ไม่กินจะไม่สนใจแล้วนะ”

เท็นทำหน้าบึ้ง ตีนมันถีบหน้าขาผมสองที แถมยังฟาดหมอนของผมใส่หัวผมอีกต่างหาก -_-

“เมลนิสัยไม่ดี”

“มึงก็นิสัยไม่ดี”

“เอาโจ๊ก หมูเด้งด้วยนะ ใส่ไข่ด้วย ไม่ต้องสุก ไม่เอาขิงนะเมล”

ผมพยักหน้ารับ เก็บกะละมังกับผ้าขนหนูเรียบร้อยก็ออกมาซื้อโจ๊กให้คนป่วย

เช้านี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากทุกวัน ต่อให้ท้องฟ้าจะปกคลุมไปด้วยเมฆฝน แต่ชีวิตของแต่ละคนก็ยังคงก้าวเดินไปตามปกติ เพราะทุกคนรู้ว่าถ้าหยุดอยู่กับที่ก็จะไม่ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ หลายชีวิตต้องดิ้นรน และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

ความต้องการของผมอาจจะต่างไปจากอาแปะขายโจ๊กข้างคอนโด แต่การดิ้นรนเพื่อให้ได้มาก็คงจะไม่ต่างกัน แปะต้องเหนื่อยทุกวันเพื่อหาเงินมาส่งเจ้าตัวเล็กของแปะเรียนหนังสือ ส่วนผม...เหมือนจะไร้สาระไปสักหน่อย แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า ผมดิ้นรนเพราะความรัก

ซื้อโจ๊กเสร็จผมก็กลับขึ้นห้อง เท็นยังนอนอยู่ตอนที่ผมถือถ้วยโจ๊กกับยาเข้าไปให้

“ไปนาน”

“ไม่นาน ลุกขึ้นมากินโจ๊ก จะได้กินยา”

“อือ”

ระหว่างรอเท็นกินโจ๊ก ผมก็เปิดทีวีดูข่าวรอบเช้า บางทีก็แอบมองคนข้างๆ บ้าง มันคงไม่รู้ตัวว่าผมกำลังมองอยู่ เพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตากิน

ความรู้สึกแรกที่เป็นแฟนกันเหรอ...

ผมจำได้ว่ามันเป็นยังไง ดีใจจนแทบบ้า...นึกไม่ออกว่าในชีวิตนี้เคยดีใจอะไรอย่างนั้นมาก่อนรึเปล่า แต่ตอนนี้...ได้มองเท็นอยู่เงียบๆ ผมก็เข้าใจ

คำว่ารักของเราสองคนตั้งอยู่บนความไม่พอดี ไม่ใช่ว่าไปด้วยกันไม่ได้ แต่ทุกอย่างมันมากเกินไป... ตั้งแต่เริ่มคบกัน ผมก็รักเท็นมากขึ้นทุกวัน รักจนเพดานความต้องการของตัวเองสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ผมห่วง อยากให้อยู่ในสายตาตลอดเพราะเท็นไม่เหมือนใคร ยิ่งรู้จักผมก็ยิ่งคิดว่าถ้ามันอยู่คนเดียวแล้วเกิดทำอะไรไม่ยั้งคิดเหมือนตอนที่อยากลองลอยตัวในอากาศทั้งๆ ที่เราอยู่กันบนชั้นห้าสิบห้าจะเป็นยังไง

ผมหวงเพราะผมรู้ว่าไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้เท็นต้องชอบมันแน่ๆ และผมก็ไม่มั่นใจว่าตัวผมเองจะดีพอให้เท็นไม่สนใจคนพวกนั้นหรือเปล่า ยิ่งเท็นทำตัวน่ารักกับผมมากเท่าไหร่ มันกลับยิ่งทำให้ผมกลัวจะเสียมันไปมากเท่านั้น...

“ไปเรียนรึเปล่า...” เสียงของเท็นทำให้ผมหลุดจากห้วงคิดของตัวเอง ผมไม่เคยนั่งมองมันนานๆ อย่างนี้มาก่อนเลย

“อืม”

“ไปด้วยนะ”

“ไม่สบาย ก็นอนพักที่ห้อง”

“อยากอยู่ด้วย”

ผมผลักหัวเท็นเบาๆ เพราะมันเป็นอย่างนี้ผมถึงใจอ่อนกับมันทุกที และนี่แหละที่ทำให้มันเคยตัว แต่ผมไม่เคยคิดจะดัดนิสัยมัน ผมแค่อยากให้มันรู้ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่ผมจะให้อภัยมันง่ายๆ ได้ ไม่ได้อยากให้มันต้องมาเจ็บเหมือนกับผม การกระทำของผมไม่ใช่การแก้แค้น แค่อารมณ์นั้นผมรู้สึกว่าผมทำแบบไหนจะดีที่สุด

“คิดอะไร หืม” เท็นขึ้นมานั่งบนตักผม หันหน้าเข้ามาหาและสองมือก็โอบรอบคอผมไว้ น้ำเสียงอ้อนๆ กับริมฝีปากนุ่มๆ ที่คอยจูบลงบนซอกคอทำให้ผมต้องรีบหยุดมันไว้ก่อนที่อะไรจะตื่น

ไม่อยากรังแกคนป่วย -_-

“ลงไปนอนดีๆ”

“ไม่เอา”

“ดื้อ”

“อยากอยู่ใกล้ๆ ทำไมต้องทำเหมือนรำคาญด้วย”

“คิดไปเอง”

“ไม่ได้คิดไปเอง มึงอ่ะใจร้าย จะโกรธนานๆ ก็ได้ ไม่ได้ว่า แต่ทำไมต้องขอเลิกด้วย”

เอ้า วกเข้าเรื่องนี้ได้ยังไง -*-

“งอแงอะไรของมึงเนี่ย”

“ก็มันจริง แล้วคนชื่อแพรนั่นมึงก็ห้ามไปหาอีก เข้าใจมั้ย”

ผมอยากจะกัดแก้มป่องๆ ของมัน แต่ก็ยั้งใจไว้ได้ทัน เพราะขืนทำลงไปตัวผมหยุดไม่ได้แน่ -_-

“กูหวงนะ ไม่ใช่ไม่หวง ถ้ามึงไม่อยากให้ใครเจ็บตัวก็อย่าทำอีก เห็นว่าโกรธอยู่หรอก กูเลยไม่อยากเอาเรื่องนี้มาทะเลาะให้เรื่องมันไปกันใหญ่ แต่ถ้ามึงยังไม่หยุดนะเมล กูกับมึงได้ตายกันไปข้าง”

ผมรู้ว่าเท็นทำจริงๆ แน่ มันเป็นคนคิดเหนือความเข้าใจของผมอยู่แล้ว เอาเถอะ ถึงมันไม่บอกผมก็ไม่มีหน้ากลับไปหาแพรหรอก เพราะพอฟิวโทรมาบอกว่าเท็นเหมือนจะป่วยแต่กลับไปอยู่คอนโดผมคนเดียว ผมก็ใจไม่ดีแล้ว เลยขอให้แพรขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปเอง แพรก็เข้าใจในเรื่องนี้

ผมไม่ได้ปิดเรื่องที่ผมมีแฟน และแพรคงจะรู้จากไอ้แต้มว่าผมอยู่ในช่วงระหองระแหงกับแฟนในระยะสุดท้ายอยู่เลยเข้ามาทำความรู้จัก (ไอ้แต้มตอนนี้ควงกับเพื่อนของแพรอยู่ มันเลยขายผมเต็มที่ -_-) ผมไม่ได้คิดจะปฏิเสธหรือตอบรับ ไปพัทยาก็ไม่ได้จะมีแค่ผมไป พวกไอ้เขตก็จะไปด้วย คิดเหรอครับว่ามันจะปล่อยให้ผมไปกับแพรสองคน ไอ้เขตมันเป็นแฟนคลับของเท็นนะ รักษาผลประโยชน์ให้เท็นมากกว่าผมที่เป็นเพื่อนมันซะอีก -_-

“ปิดเทอมไปเชียงใหม่ด้วยกันนะ กูเจอที่เที่ยวเยอะเลย รับรองว่ามึงต้องชอบ”

ผมเอนหลังพิงกับหัวเตียงโดยมีเท็นนั่งอยู่บนตัก มันเอียงหัวซบกับอกผม ส่วนมือก็ลูบแก้มผมเล่น

“อืม ตามใจมึงเถอะ”

เท็นเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม มันจูบริมฝีปากผมเบาๆ แล้วผละออกไป

“แบ่งกัน มึงจะได้ป่วยด้วย ^^”

“หึหึ นอนได้แล้วไป”

“จะไปเรียนด้วยไง”

“วันนี้กูไม่ไป โอเคมั้ย”

“ถ้าอย่างนั้นก็โอเค รักเมลจังเลย”

“ตอนนี้ล่ะทำมาพูดดี”

“ผิดไปแล้วไง ขอโทษ”

“เหรอ”

“ขอโทษทุกเรื่องเลย”

การสบตากันครั้งนี้มีความหมายมากสำหรับผม มันไม่ใช่ว่าเราเข้าใจกันมากขึ้น แต่มันทำให้ผมรู้ว่าเท็นก็เจ็บปวดมากไม่ต่างจากผมเลย

“เมล...กูคงเปลี่ยนไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่กูแน่ใจว่าจะทำให้ดีขึ้น เราจะได้ไม่ต้องเสียใจกันอีก”

เพราะน้ำตาหยดหนึ่งที่ไหลลงมากระทบกับหลังมือ ทำให้ผมต้องรวบตัวมันมากอดไว้ ช่องว่างระหว่างเราดูเหมือนจะลดน้อยลงเมื่อผมเข้าใจแล้วว่า เท็นก็แค่คนธรรมดาที่เจ็บปวดได้และร้องไห้เป็น

“กูก็ขอโทษที่ทำให้มึงเป็นอย่างนี้ ...ขอโทษนะเท็น”

..................................To be continue.......................................


อ่านแต่ละความคิดเห็นแล้วถึงกับ  :a5:

จะกลับมาอีกทีวันเสาร์นะคะ มีธุระต้องไปทำที่เชียงใหม่แล้ววนไปกรุงเทพอีก  :ruready

รอกันได้มั้ย ไม่ค้างนะคะ

ดูแลตัวเองด้วยนะทุกคน

รักเมลกับเท็นให้มากๆ นะคะ

บอกไว้ก่อนเลยว่า....ต่อไปขอให้เชื่อใจท่านเท็นเถอะ  :z6: 55555

ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกค่ะ เพราะเท็นเอาอยู่!! จริงๆๆๆๆๆ

สุดท้ายนี้ขอบอกว่า เมลเป็นของคนเขียนน้าาาาา ไม่ใช่ของเท็นหรอก หึหึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 16-09-2013 19:06:26
 เหตุผลล้านข้อ สุดยอดเลยเท็นคิดได้ไงอ่ะ!!!! ดีกันแล้ววววววเย้ๆๆๆ ปล.หาคู่ให้เขตมั่ง เขตน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 16-09-2013 19:32:50
คนรักกันก็ต้องมีผิดใจกันบ้าง แต่ก็ต้องรับฟังเหตุผลและเชื่อใจกันมากๆๆ


ชอบเมล-เท็นมาก ๆๆๆ อย่ามาม่าเยอะนะ ชอบหวานๆๆๆ

จะรออ่านจร้าา แต่ถ้าว่างก็อัพก่อนได้นะ รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 16-09-2013 19:34:25
เมลใจอ่อนแล้วใช่ไหม ใช่ไหม  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-09-2013 19:41:25
เข้าใจกันนิดนึง วันนี้อ่านแล้วสบายใจ หลังจากหน่วงกับมาม่ามาพักนึง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-09-2013 19:54:20
ปีนขึ้นมาอยู่บนปากชามมาม่าแล้ว อย่าตกลงไปอีกละ
เมลก็เหมือนกันเท็นยอมลงให้แล้ว คุยกันดีๆนะ
จะได้กลับมาสวีทหวานเหมือนเดิม

แฟนคลับเท็นนะจ๊ะ  รอให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-09-2013 20:03:26
เข้าใจกันแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 16-09-2013 20:04:13
ถ้ายังรักกันอยู่ ก็ต้องสู้ไหวนะ
ดีกันแล้ว ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมม

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 16-09-2013 20:06:43
ดีกันแล้วใช่ไหมมมมมม

พอมาเห็นแบบนี้แล้วค่อยยังชั่วหน่อย

ปวดใจกันมาเยอะ ไม่อยากให้มีแบบนี้แล้วน้า :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-09-2013 20:17:16
เฮ้อ..เข้าใจกันก็ดีแล้วค่ะ

ความรักคู่นี้มันคลอนๆน่าหวาดเสียมชอบกล เหมือนแขบนบนเส้นสลิงไม่มั่นคงเอาซะเลย

แต่ก็ชอบอยู่ดี /เรานี่สับสนในตัวเองจังเลยค่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 16-09-2013 20:49:37
เข้าใจกันดีเเล้ว :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: aiaea83 ที่ 16-09-2013 21:18:24
ความรักชนะทุกสิ่งสินะ
ต่อไปนี้เท็นก็มีบทเรียนในสิ่งที่ตัวทำกับเมลแล้ว
ต่อไปคงจะไม่ทำอีก เมลทำเท็นร้องไห้ได้นี่ เก่งจริงๆ =_=;

รอตอนต่อไปค่าาา  :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 16-09-2013 21:25:49
ได้เวลาเลิกกินมาม่าซะที  :เฮ้อ:
ต่อไปจะทำอะไรก็คิดถึงใจของกันและกันเยอะๆ นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 16-09-2013 21:38:52
 อ่านแล้วติดเลย รวดเดียว ปวดตาาาาาา
แรกๆขอไม่พูดถึงละกัน เนื่องจากลืมฟิลนั้นและ เราต้องอยู่กับปัจจุบันสิ

ก้อเข้าใจทั้งสองฝ่ายแหละ เพราะมองกันในมุมของตัวเอง
ดีแล้วอย่าตามอีกฝ่ายมาก มันจะทำให้เปนการฝืนมากไป
ชอบไม่ชอบก้อบอกไป จะได้ค่อยๆปรับเข้าหากัน :กอด1:
ดีนะเปนคนมีเหตุผลทั้งคู่เลยคุยง่าย
แต่เท็นนี่ยังไง เวลาง้อนี่เอาตัวเข้านัวเนียตลอดอ่ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 16-09-2013 21:46:47
งิอออ  ดีกันแล้วสินะๆๆๆๆ   :hao5:
รอตอนต่อไปฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 16-09-2013 21:55:48
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดรักคนเขียนนนนนนนน  :mew1:

ไม่ค้างเลยยยย แต่มาวันเสาร์เลยหรอ คิดถึงแย่เลยอ่ะ  :hao5: :hao5:

บอกแล้วๆๆๆ ว่าถ้าสองคนนี้ผ่านช่วงนี้ไปได้ ก็ต้องรักกันมากขึ้นแน่ๆ น่ารักที่สุดดดดดดดดด

รักเท็นเเพิ่มขึ้นนนนนนนนนนเลยอ่ะ ส่วนเมล รักอยู่แล้วก็รักไปอีกกกกกกก อิอิ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 16-09-2013 22:34:32
เมลกับเท็นเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยค่ะ

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 16-09-2013 23:36:05
 :bye2:  เที่ยวเชียงใหม่  ...... ให้สนุก น้าครับ  .........
 
            เป็นอีกตอนที่อ่าน.......  แล้วมีความสุขมาก            :-[

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 16-09-2013 23:43:37
เท็นก็ยังเป็นเท็น เหตุผลล้านข้อ คิดได้นะ

อ่านพาร์ทเมลแล้วดีใจนะที่เมลไม่ได้ทำเพราะต้องการดัดนิสัย หรือแก้แค้นเอาคืนเท็นให้เจ็บเหมือนที่ตัวเองเคยเจ็บ เพราะถ้าเมลคิดแบบนั้นเมลคงไม่ได้รักเท็นหรอก เพราะถ้าเรารักใครจริงๆ ซักคนเราคงไม่มีทางยอมให้คนที่เรารักเจ็บแม้แต่น้อย แล้วยิ่งเป็นคนกระทำเองยิ่งไม่มีทาง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 16-09-2013 23:49:17
  :mew4:เค้าดีกันแล้ว :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 17-09-2013 03:12:06
รอมาต่อนะคะ สนุกมากเลย
อ่านยาวรวดเดียว
เลิกไม่ได้เลย  :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-09-2013 06:18:08
ค่อยยังชั่วหน่อย ตอนนี้กับตอนที่แล้วนี่ความรู้สึกต่างกันมากเลยนะคะ :laugh:
รู้สึกดีจังเลยค่ะที่เมลกับเท็นเริ่มเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว รักกันๆเนอะ :กอด1:
รอตอนต่อไปค่า :man1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 17-09-2013 08:37:07
ดีแล้วที่ดีกัน :เฮ้อ:คนอ่านลุ้นจริงๆ :z2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: cuteymummy ที่ 17-09-2013 09:53:59
อ่านตอนนี้แล้วชอบมากกก
เหมือนพยายามเข้าใจกันมากขึ้น
ไม่มีใครกำลังตามใคร
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 17-09-2013 11:50:55
โอ่ยยยย
มาติดเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมากกกกก
 :katai1:
อ่านๆไป พอถึงบางโมเม้นท์ก็แบบ
"เฮ้ย!!!!!เท็นแม่งงงงงง  :angry2: "
แต่บางโมเม้นท์ก็  :-[

ขอคอมเม้นท์ตอนล่าสุดเลยแล้วกัน
อ่านแล้วโล่งอะ
ตอนที่ทะเลาะกันรู้สึกว่า เท็นโดนซะบ้างก็ดี
ทำอะไรจะได้คิดถึงใจคนที่อยู่ข้างหลังบ้าง
ไม่ใช่ว่าจะทำตามใจตัวเองไปได้ซะทุกอย่างนะ
แต่พอคืนดีกันแล้วก็ดีใจอะ
เพราะไม่อยากให้สองคนนี้เลิกกันจริงๆ
เวลาอยู่ด้วยกันแล้วมันคือความน่ารัก น่าเอ็นดูอะ
ชอบเวลาที่เมลเท็นอยู่ด้วยกัน

สงสารเมลมาตลอด
คนที่วิ่งตามความรัก
โดนความรักทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก
เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่อยากปล่อยมือ

เราเคยเป็น เราเข้าใจนายนะ  :hao5:

หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่งนะ
ตอนนี้เราตกหลุมรักทั้งคู่เลย  :กอด1:

+1จ้าา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 17-09-2013 14:24:32
ดีกันแล้ววว  ลุ้นแทบแย่  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-09-2013 16:51:35
พบกันครึ่งทางดีที่สุดเนาะ ค่อยๆปรับมาหากันแต่ต้องอยู่ในภาวะที่ไม่ทิ้งตัวตนไปมากมาย ไม่งั้นจะวนลูปมาที่เดิม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 17-09-2013 22:55:59
เค้ารออออ คืนนี้จะมาหรือเปล่า  :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-09-2013 01:08:39
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 19-09-2013 10:22:16
อ่านรวดเดียวจบ ชอบเท็นมาก ถึงเท็นจะเข้าใจยาก เอาแต่ใจแต่ก็ยังมี
มุมคนธรรมดานะ เมลน่าจะเข้าใจอยู่แล้วก่อนที่จะมารักเท็นอะ ว่าต้องเจอ
อะไรบ้าง จริงๆแล้วน่าจะคุยกันให้เคลียร์ ว่าไม่ชอบอะไรและอยากให้ทำอะไร
ทะเลาะกันโกรธกันมีแต่ทุกข์รักๆกันดีกว่าเนอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 19-09-2013 11:25:35
หน่วงงงงงงงง  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-09-2013 18:17:40
หน่วงมาหลายตอน รอตอนใหม่ขอแบบว่าอารมณ์แบบ :hao6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 19-09-2013 22:35:43
หายไปหลายวันเลยยยยย คิดถึงงงงงง  :ling1:
คุณ Snufflehp ติดธุระหรือว่าไม่สบายหรือเปล่า
ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ เทคแคร์  :mew3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-09-2013 06:52:13
หายไปหลายวันเลยยยยย คิดถึงงงงงง  :ling1:
คุณ Snufflehp ติดธุระหรือว่าไม่สบายหรือเปล่า
ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ เทคแคร์  :mew3:

ไปทำธุระมาค่ะ กลับมาถึงเช้านี้เอง เย็นนี้จะรีบพาเมลกับเท็นมาให้นะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 21-09-2013 09:34:52
^
^
เย้ รอๆๆๆ  :m4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 21-09-2013 13:08:43
มารอด้วยคน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-09-2013 19:26:09
ตอนที่ 24

วันนี้มีปาร์ตี้ ว่ากันว่าเลี้ยงฉลองการคืนดีกันของคู่รักคู่หนึ่ง แต่ผมบอกเลยว่าไอ้เหี้ยเต๋อกับไอ้เหี้ยเขตที่เป็นคนต้นคิดมันแค่อยากหาเรื่องแดกเหล้า -_-

“ไอ้เต๋อออออออ มาช่วยกูทางนี้ด่วน มึงนั่งสมาธิส่งสัญญาณเรียกจานแม่อยู่รึไง เร็วๆ ให้ว่อง” เสียงไอ้กัสตะโกนโหวกเหวกขึ้นมา มันถูกมอบหมายงานให้ตั้งเตาบาร์บีคิว แต่เหมือนสกิลยังไม่ถึงขั้น เพราะผ่านไปครึ่งชั่วโมงผมก็ยังเห็นอุปกรณ์กระจัดกระจายกันอยู่ที่เดิม

“กูบอกมึงแล้วไงไอ้กัสว่าผมทรงนี้มันไม่เอื้ออำนวยสำหรับงานนั้น เดี๋ยวไฟบึ้มหัวกูใครจะรับผิดชอบ”

“ไปโกนหัวซะไอ้ควาย! ผมมึงทรงนี้อ้อนตีนกูมาก เหี้ยเท็น มึงมาเลย นอนดูดบุหรี่อยู่ได้ สำลักควันตายไปซะเถอะมึง”

ไอ้กัสแม่งดุพอๆ กับไอ้เจคอปเลยมั้ง -*-

“ไอ้กัสแม่งขี้โวยวายอย่างกะผู้หญิง เอออออ ความจริงมึงก็ผู้หญิงล่ะนะ ถึงมึงจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนก็เถอะ” ไอ้ลินที่เพิ่งถือจานแตงโมออกจากครัวมาตะโกนแซวจนไอ้กัสต้องยกนิ้วกลางกลับไปให้

จากนั้นพวกมันก็ไปปะทะริมฝีปากกันอยู่สองคน ผมส่ายหน้าอย่างเอือมๆ ก่อนจะนอนมองท้องฟ้าต่อไป ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของบ้านก็วุ่นวายและเสียงดัง เพราะคนอยู่กันเต็มบ้าน ไล่ตั้งแต่ไอ้มายด์กับไอ้แต้มที่ตามก้นไอ้ฟิวไปให้อาหารไอ้เจคอป ไอ้เต๋อที่นั่งสมาธิรับพลังงานธรรมชาติอยู่ในห้องนั่งเล่น บางทีแม่งส่งเสียงตะโกนขึ้นมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไอ้กัสเถียงกับไอ้ลินอยู่หน้าเตาบาร์บีคิว ไอ้แม็ค ไอ้เต้ ไอ้คิม และไอ้เขตถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานในครัว และเจ้าภาพงานอีกคนคู่กับผมนั้นขึ้นไปอาบน้ำชั้นบนหลังจากที่ไปขนเหล้าขนเบียร์มาจากร้านพี่เจ๋ง

ซื้อเหล้าซื้อเบียร์ที่ไหนก็ไม่ถูกเท่าซื้อกับพี่เจ๋งครับ แค่ให้ไอ้กัสไปด้วย ทุกอย่างจะได้ลดถึงสิบเปอร์เซ็น

“เท็น ขึ้นมาหากางเกงให้หน่อย” เสียงเมลตะโกนมาจากระเบียงห้องผม ผมเลยต้องจำใจลุกจากการนอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้าขึ้นไปหามัน

“อยู่ในตู้เสื้อผ้าไง ไม่มีเหรอ”

“หาไม่เจอ มึงส่งซักไปรึเปล่า”

“เออ วันก่อนกูเอาไปใส่เตะบอลกับพวกไอ้เต๋อว่ะ ส่งซักไปแล้วล่ะ”

“อ้าว แล้วทีนี้กูจะใส่อะไร”

“เดี๋ยวกูไปยืมของไอ้มายด์ให้”

“ไม่ใช่ว่าฟิวเผาทิ้งไปหมดแล้วหรอกนะ”

“ลองไปถามดูก่อนละกัน”

ผมบอกก่อนจะเดินออกจากห้องมา ไอ้ฟิวกับไอ้มายด์นี่ตกลงคบกันรึเปล่าผมก็ไม่รู้ อยู่ด้วยกันนี่ไอ้มายด์โดนไอ้ฟิวด่าประจำ แถมคำด่าแต่ละคำนะได้ยินแล้วหน้าชากันเลยทีเดียว แต่ไอ้มายด์มันก็ทน ไม่รู้มันทนไปเพื่ออะไร เดี๋ยวนี้มันก็แทบจะมาสิงที่บ้านผมอยู่แล้ว ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ไอ้ฟิวมันก็ไม่ท้วงอะไรมาก ถึงปากมันจะไล่ไอ้มายด์กลับทุกๆ สามชั่วโมง แต่บางครั้งผมก็ยังเห็นมันเก็บเสื้อผ้าไอ้มายด์ไปซักให้อยู่เลย

ซับซ้อนเกินกว่าที่จะเข้าไปยุ่ง เห็นเค้าลางความวุ่นวายแล้วผมคงต้องพูดว่า ‘เรื่องของพวกมึง’ ดีที่สุด -_-

ผมเดินไปยังห้องที่สั่งทำพิเศษสำหรับไอ้เจคอปโดยเฉพาะ ต่อเติมออกมาจากส่วนของห้องน้ำชั้นล่างนั่นแหละครับ เห็นไอ้มายด์กับไอ้แต้มเกาะกระจกดูไอ้ฟิวให้อาหารไอ้เจคอปกันอยู่

“ไอ้เจคมันตัวใหญ่ไปมั้ยเท็น กูว่าถ้ามันตะครุบไอ้ฟิวนี่ ได้ตายคาที่แน่อ่ะ” ไอ้แต้มพูดกับผมแล้วทำหน้าสยองใส่

“มันไม่ทำอะไรคนให้อาหารมันทุกวันหรอกน่า แต่ถ้าเป็นพวกมึงก็ไม่แน่ เออไอ้มายด์ มีกางเกงมั้ยวะ ขอยืมหน่อย”

“อืม อยู่ในตู้ของฟิวน่ะ มึงไปหาดูละกัน”

“เออๆ ขอบใจ”

ผมแวะเข้าไปลูบหัวไอ้เจคอปมันก่อนแล้วขึ้นมาหากางเกงของไอ้มายด์ที่ห้องไอ้ฟิว และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าห้องไอ้ฟิวตอนนี้เหมือนห้องของคนที่แต่งงานแล้วเลยครับ ปกติมันมีหมอนใบเดียว เตียงก็ขนาดธรรมดา ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ ผมก็ไม่ได้คิดจะสำรวจหรอก แต่มันแปลกใจไง ไม่ได้เข้าห้องมันมาแค่ปีกว่าๆ  เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยนะ เสื้อช็อปสองตัว เสื้อโค้ดของคณะและภาคอย่างละสองตัว แปรงสีฟันสองอัน คือ ของที่ใช้ในชีวิตประจำวันมันมีอย่างละสองขึ้นไป

นี่ถ้าบอกกูว่าไม่ได้อยู่กินด้วยกัน กูก็ไม่เชื่อล่ะ -_-

ผมเอากางเกงไปให้เมล แล้วก็อยู่ช่วยมันโกนหนวด ความจริงมันไม่อยากโกนหรอก ไม่รู้ไปเอาความคิดใครมาที่ว่าไว้หนวดแล้วเท่ ไอ้เท่มันก็เท่นะ แต่เวลามันหอมแก้มผมทีไร ผมได้หัวเราะก๊ากออกมาทุกที

ความจริงผมเส้นตื้น ถึงจะดูตลกแล้วไม่ขำก็เถอะ -_-

ครืดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด

“สวัสดีครับ ครับ ผมไม่ว่างครับแพร ครับ อยู่กับแฟนครับ อ๋อ ใช่ครับ มีปาร์ตี้กันที่บ้าน ไอ้แต้มก็อยู่ครับ ไม่มีผู้หญิงหรอกครับ บอกเมย์สบายใจได้ ครับ ไว้เจอกันครับ”

“อะไรคือไว้เจอกันเหรอเมล” ผมถามทันทีที่มันวางสาย การที่แพรทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนี่มันน่ากลัวกว่าที่เธอจะเข้ามาในฐานะอื่นอีกนะครับ

“ไม่ได้นัดอะไรกันหรอก ก็ตามมารยาทไง เขาบอกว่าไว้เจอกันที่มหาลัย กูก็ตอบกลับไปแค่นั้น”

“เหรอ”

“หึหึ งอแงอะไร มานั่งนี่มา”

เมลตบตักตัวเองเบาๆ ผมเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย มันเลยโอบผมไว้แล้วก้มลงมาหอมแก้ม

“ตอนที่คิดจะเลิกกับมึง กูอาจจะเคยคิดว่าจะคบกับเขา แต่ไม่ใช่ตอนนี้นี่เท็น เข้าใจมั้ย”

ก็เข้าใจอยู่หรอก แต่ก็อดคิดไม่ได้ เพราะถ้าเมลคิดจะคบกับแพรเพื่อประชดผม มันจะต่างจากการที่มันคิดจะเลิกกับผมไปคบกับแพรมาก แต่ผมรู้ว่าเมลไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรประชดใคร ไม่งั้นก่อนหน้านั้นมันก็คบกับฟิวประชดผมไปแล้ว แต่เพราะมันไม่ได้ประชดและคิดจะทำจริงๆ นั่นแหละ ตอนนี้ผมถึงกลัว...

“เลิกติดต่อกับเขาไม่ได้หรือไง”

“กูก็ไม่ได้สนิทอะไรกับแพรมาก”

“แต่มึงก็ถึงขั้นไปรับเขามาทานข้าวไม่ใช่หรือไง”

“ใครบอก ไอ้แต้มมันพามาต่างหาก แลกกับที่แพรช่วยง้อเมย์ให้มัน”

“อือ”

ดีใจอ่ะ...

“ยิ้มแล้ววววว ^_^ แต่ถ้ามึงไม่ชอบ กูก็จะไม่ทำ ดีมั้ย”

“ดีมากเลย”

ผมเงยหน้าขึ้นจูบที่ริมฝีปากของเมล มันดูดลิ้นผมเบาๆ ก่อนจะผละออกแล้วส่งยิ้มมาให้

“แหม คืนดีกันเข้าหน่อย ตัวติดกันไม่ห่างเลยนะพวกมึง จะทำอะไรก็ไม่ล็อคประตู” เสียงของไอ้กัสดังขึ้นที่ประตู ผมหันไปมองก็เห็นมันยักคิ้วกวนตีนอยู่

“เหี้ยกัสขัดจังหวะจริง มีอะไร”

“ลงไปช่วยกันสิวะ ใช้ไม่ได้จริงๆ พวกมึงนี่ ห่างสายตาเข้าหน่อยก็ตั้งท่าจะเอากันอย่างเดียว”

โห ดูมันพูด นี่หรือผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งป๋าผมจะให้แต่งงานด้วย -_-

“หึหึ วันนี้ฟาดหัวฟาดหางจริงๆ นะกัส ทะเลาะกับน้องแนงมารึไง” เมลพูดอย่างรู้ทัน ผมก็เดาว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แถมไอ้กัสยังหน้าหงิกขึ้นมาทันที

“อย่าได้พูดถึงมัน พวกมึงจะทำอะไรก็รีบทำละกัน เสร็จแล้วก็ลงไปช่วยกัน”

แล้วมันก็จากไปพร้อมกับอารมณ์ของผมด้วย หมดอารมณ์ตั้งแต่เห็นหน้าไอ้กัสแล้ว เมลหันมายิ้มให้ผม ก้มลงมาดูดเนื้อตรงหน้าอกผมหนึ่งทีแล้วก็ผลักหัวผมเบาๆ

“ลงไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ใช่แค่ไอ้กัสที่ขึ้นมา”

ผมลงมาก็ไม่ได้ไปช่วยใครทำอะไรหรอก ฟ้าครึ้มๆ แบบนี้ขอมานอนใกล้ชิดธรรมชาติดีกว่า ส่งเมลเป็นตัวแทนไปแล้วคงไม่มีปัญหา เพราะผมกับมันก็คนๆ เดียวกันนั่นแหละ ฮ่าๆๆ

กำลังนอนนับมดที่ขนเศษอาหารไต่ผ่านหน้าไปทีละตัว เสียงไอ้ลินกับไอ้แต้มก็โวยวายมาจากในห้องนั่งเล่น

“กูจะไปเอง!” ไอ้ลินพูดเสียงดัง

“ไม่! กูจะไป” ไอ้แต้มสวนขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้

“กูจะฟ้องเมย์”

“ไอ้เหี้ยลิน มึงอย่าเอาของสูงมาเล่น”

“ไม่รู้แหละ กูจะไปรับน้องดิ้งเอง”

“แต่เมื่อกี้กูคุยกับน้องแล้วน้องบอกว่าจะมากับกู!”

ก็ยังเถียงกันต่อไป ผมว่าจะเลิกสนใจแล้วเชียวถ้าไอ้เขตไม่โผล่หน้าออกมาจากครัวพร้อมกับถือกระทะในมือ

“อย่ามายุ่งกับน้องสาวกู!” ไอ้เขตพูดเสียงเฉียบแถมหน้ามันก็ไม่ได้บอกว่าพูดเล่น ไอ้แต้มกับไอ้ลินเลยหุบปากสนิท

“ถ้าไม่ฟัง กูจะบอกให้ไอ้เจคมาจัดการมึง”

เห็นอยู่ว่าไอ้ ตล. (ย่อมาจากแต้มลินหรือตอแหล 555) ทำหน้าสยองแต่ไอ้ลินที่มีความด้านระดับลิงยังอายไม่ยอมเสียเหลี่ยมง่ายๆ

“โด่! กลัวตายแหละ ไอ้เจคมันฟังแต่ไอ้เท็น”

ไอ้เขตยกกระทะขึ้นชี้หน้า ก่อนจะตะโกนมาถามผมว่าจะช่วยบอกไอ้เจคให้จัดการไอ้ ตล. ได้มั้ย ผมเลยตอบกลับไปว่าได้ ไม่มีปัญหา ณ จุดนั้น เพราะจะได้ลองกำลังของไอ้เจคมันด้วย

“ไอ้เมลลลลลลล มึงดู ไอ้เท็นจะบอกไอ้สิงโตนั่นมาจัดการพวกกูอ่ะ!!!” ไอ้ลินเข้าไปง้องแง้งกับเมลที่กำลังนั่งปอกเปลือกสับปะรดอยู่ ซึ่งเมลทำแค่หัวเราะแล้วก็ไล่ไอ้ลินไปไกลๆ ตีนมัน

มองจากระยะนี้แล้วเมลน่ารักจัง *O*

ผมลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ใส่หัวไอ้กัสที่กำลังนั่งอยู่กับพื้นพยายามทำการศึกษาเตาบาร์บีคิวอยู่ แล้วเดินไปหาเมล

“เหี้ยเท็นนิสัยเสีย! ไม่ช่วยแล้วยังจะแกล้งกูอีก” ไอ้กัสโวยวายตามหลังมา ผมได้แต่หันไปหัวเราะเยาะเย้ยให้มัน

หือ? ทำไมถึงไม่มีใครช่วยมันน่ะเหรอครับ? ก็เพราะว่าการแกล้งไอ้กัสเป็นเรื่องสนุกของทุกคนยังไงล่ะ ^^ ตอนนี้ก็ไม่ได้รีบอะไร ไว้จะกินค่อยไปจัดการทีหลัง

“มึงก็ไปแกล้งมัน หึหึ”

“ไม่ได้แกล้ง” ผมบอกก่อนจะนั่งลงพิงหัวกับไหล่ของเมล มันหันมาหัวเราะใส่เล็กน้อย ยักไหล่นิดๆ ให้หัวผมหลุดจากไหล่มัน แต่ไม่ได้ผลหรอก หึหึ

“ระวังมีดบาดมือ”

“ระดับนี้ มีหรือจะพลาด”

เมลยักคิ้วส่งมาให้ ผมเลยผลักหัวมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

“เหลืออีกหลายลูกเลย มาๆ เดี๋ยวกูช่วย”

“ไม่ต้องหรอก มึงอยู่เฉยๆ เถอะ นั่งเป็นกำลังใจก็พอ”

“อือ”

เมื่อเมลบอกอย่างนั้นผมก็ทำตามอย่างเคร่งครัด ก็นั่งอยู่เฉยๆ มองมันปอกเปลือกสับปะรดไป ได้ยินพวกสัมภเวสีส่งเสียงไอค่อกๆ แค่กๆ มาได้ไม่หยุด แต่ผมไม่สนใจหรอก ก็เมลน่าสนกว่าพวกบ้านั่นตั้งเยอะ

“ยิ้มทำไม” ผมถาม เพราะริมฝีปากสวยของเมลฉีกยิ้มไม่หยุด

“แล้วมึงล่ะยิ้มทำไม”

“ก็มึงยิ้มก่อน.. กูเลยยิ้มตาม ถึงได้ถามนี่ไงว่ายิ้มทำไม”

“เพราะรู้ว่ามึงมองอยู่ไง กูเลยยิ้ม ^^”

“น่ารักตลอด”

“งั้นรักให้ตลอดเลยนะ ^^”

“อือ ^____^”

“อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!” เสียงนำคือไอ้แต้มและเสียงประสานอย่างพร้อมเพรียงก็มาจากไอ้กัสกับไอ้ลิน

“อะไร ท้องแล้วหรือไง ตกลงใครเป็นพ่อเด็กล่ะ ไอ้แต้มหรือไอ้ลิน หือออออ แต่พวกมันแพ้ท้องแทนมึงทั้งสองคนนี่ สงสัยว่าเด็กแฝด คนหนึ่งลูกไอ้แต้ม อีกคนลูกไอ้ลิน หึหึ”

“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!” เสียงไอ้กัสตะโกนลั่นบ้านในขณะที่พ่อเด็กทั้งสองคนได้แต่ยกนิ้วกลางมาให้ผม

หลังจากทำหูทวนลมใส่ไอ้กัสแล้วผมก็มานั่งมองหน้าเมลต่อ ผมไม่เคยบอกใช่ไหมว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ที่บอกให้รู้บ่อยๆ ก็คือมันหล่อมาก หล่อชนิดที่ผู้หญิงถ้ารู้ว่ามันมีแฟนเป็นผู้ชายจะต้องร้องไห้กันไปเจ็ดวันเจ็ดคืนเลยล่ะ แต่ผมไม่บรรยายให้ฟังหรอกนะว่าคิ้วมันเข้มขนาดไหน ตามันสวยยังไง ริมฝีปากเวลาจูบนุ่มมากแค่ไหน และไม่บอกหรอกว่าจมูกโด่งที่สัมผัสแก้มผมบ่อยๆ น่ะสวยกว่าพวกไปทำศัลยกรรมมาเสียอีก ไม่บอกนะเพราะถ้าบอกไปแล้วคุณจินตนาการตาม ผมคิดว่าคุณต้องหลงในรูปโฉมของมันและกลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของผมแน่นอน

“จูบมั้ย” เมลถามยิ้มๆ มันใช้ส้อมจิ้มสับปะรดชิ้นหนึ่งมาจ่อที่ปากผม

“ได้เหรอ”

“หึหึ”

“แถวบ้านเรียกอ่อย”

“บ้านไหนเนี่ย หืมมมม” เมลยิ้มแล้วก้มลงมาจูบที่ปากผมเบาๆ “รู้หรือยังว่าไม่ได้อ่อย”

“อือ”

ผมซุกหน้าลงกับไหล่ของเมล เพราะขืนมองมันมากกว่านี้ได้ละลายหายไปกับอากาศแน่

“อะไรกันนี่พวกมึง ตั้งท่าจะซั่มกันอยู่ได้ ลุกๆๆๆ ไปช่วยกันขนของในครัว!” ไอ้เต๋อโผล่หัวออกมาจากในครัวหลังจากที่โดนไอ้คิมดึงหูให้ไปช่วยงานแล้วมันก็เห่าใส่ผมทันที

“หนังหน้าก็ไม่ดียังแยกไม่ออกระหว่างเซ็กกับความโรแมนติกอีก ไปดีกว่า เสร็จแล้วออกไปเรียกนะ กูออกไปสูดอากาศข้างนอกแป๊บ”

“ไอ้...”

ผมลุกเดินออกมาทั้งๆ ที่ไอ้เต๋อยังหาคำด่าไม่ได้ แอบเห็นไอ้ฟิวแว๊บๆ ที่ประตูครัว กำลังจะถามว่าทำไมมันตาแดงแต่ก็เห็นไอ้มายด์ลากแขนขึ้นบนห้องไปเลย

อะไรของพวกมัน -_-

ผมนอนดูท้องฟ้าจนถึงบ่ายกว่าๆ ก็โดนเรียกตัวให้ไปดื่มเหล้าแก้วแรกเป็นการเปิดงาน ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแต่ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน แต่เมื่อผมไม่ได้ตบมุกไปกับพวกมัน ไอ้เต๋อเลยทำหน้าที่กล่าวเอง

“ผมดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากเลยครับที่จะได้กล่าวเปิดงานแทนบุคคลที่ตอนนี้นั่งแดกแบบไม่สนใจใครทั้งๆ ที่แม่งก็ไม่ได้ทำห่าอะไรสักอย่าง งานวันนี้จะไม่เกิดขึ้นได้เลยถ้าไอ้เหี้ยเท็นเพื่อนเลิฟผมมันไม่ก่อเรื่องยุ่งๆ ขึ้น เกือบได้ดราม่ากันถ้วนหน้า น้ำตาท่วมจอกันเลยทีเดียว แต่ในเมื่อโจรกลับใจฝ่ายโจทย์ก็พร้อมจะให้อภัยนั่นแหละครับ ถึงจำเลยจะไม่ได้ดูสำนึกผิดอะไรมากก็เถอะ เฮ้ยๆๆๆๆ ไอ้เท็น นี่ไก่กู!!!”

เป็นอันว่าไอ้เต๋อที่ตั้งท่าจะสาธยายอะไรออกมามากกว่านั้นต้องหยุดพูดไปเพราะไก่พริกไทยดำที่กำลังสุกและถูกแอบอ้างว่าเป็นของมัน ได้เข้ามาอยู่ในปากผมเป็นที่เรียบร้อย หึหึ พูดมากดีนัก ไม่ต้องแดกหรอกมึงอ่ะ

เมนูวันนี้ก็เป็นหมูกระทะกับบาร์บีคิว เพราะกินได้เรื่อยๆ นั่นแหละไอ้ฟิวเลยยกเลิกอาหารจานเดียวที่ไอ้เต๋อกับไอ้เขตเสนอเมนูมา แต่ก็มียำวุ้นเส้นกับยำมาม่านะที่ไม่ได้ถูกถอดออกจากรายการ

พวกเรานั่งล้อมวงรอบกระทะสามกระทะกันเกือบครบ ยกเว้นไอ้กัสกับไอ้ลินที่รับหน้าที่ปิ้งบาร์บีคิวให้ ความจริงแล้วไอ้กัสมันกำลังโม้เรื่องการตั้งเตาให้กับคนที่ยอมรับฟังมัน ซึ่งก็ไม่มีใครอื่นที่จะทนฟังมันได้ไปมากกว่าไอ้ลินอีกแล้ว ทุกคนเลยพร้อมใจกันไล่ให้มันสองคนไปคุยกันที่อื่น -_-

“ระวังร้อน” เมลบอกพร้อมกับตักเต้าหู้กับผักมาให้ ก่อนจะคีบหมูกับกุ้งตามมาอีก

“เอาไก่ป่ะ”

“ไม่เอาของไอ้เต๋อนะ เดี๋ยวมันโวยวาย”

“ไม่มีป้ายชื่อมันติดไว้นี่ อ่ะ สุกละ”

เมลยิ้มนิดๆ แล้วรับไก่ที่ผมเป่าให้จนอุ่นแล้วเข้าปาก เห็นทางหางตาว่าไอ้เต๋อขมุบขมิบปากใส่ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ

นานๆ ทีจะมาอยู่กันครบอย่างนี้ เลยมีการเก็บภาพกันเล็กน้อย ตากล้องก็เปลี่ยนๆ กันไปแหละครับ แต่ผมกับเมลไม่ได้ไปเป็นตากล้องกับเขาหรอก เหตุผลเพราะอะไรน่ะเหรอ? ไม่น่าถาม

ก็ผมไงคือเหตุผล ^.^

“สัปดาห์หน้าก็ไฟนอลแล้ว วิชาไหนที่เรียนเหมือนกันพวกเรามาติวด้วยกันดีมั้ยวะ” ไอ้ลินที่นั่งอยู่ข้างไอ้กัสเสนอความคิดเห็น ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียงก่อนไอ้ฟิวจะเสนอให้ใช้บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ติว ส่วนผมโนคอมเม้น เรื่องนี้ผมจะไม่ยุ่ง ฮ่าๆๆ

“ไม่ต้องมองกูไอ้ฟิว กูมีธุระ” ผมบอกก่อนไอ้ฟิวจะทันได้ออกปาก รู้แน่ว่าไอ้นี่มันต้องหาเรื่องมาให้ผมแน่นอน

“ธุระอะไร! จะสอบแล้วนะ ยังมีธุระอะไรอีก ห้ามไปนะ ไม่ให้ไป” ไม่ใช่เมลหรอกที่พูด ไอ้ฟิวต่างหากที่แว๊ดๆ ข้ามกระทะมา

“มึงดูจริงจังเกินไปมั้ยเนี่ย -_-“

“ไม่รู้แหละ สอบเสร็จก่อนค่อยไป ถ้าไม่ฟังจริงๆ ก็พาเมลไปด้วย”

ผมเลิกคิ้วมองไอ้ฟิว ในขณะที่ไอ้มายด์ทำตะเกียบหักคามือ

“ไปคนเดียวเดี๋ยวก็เกิดเรื่องยุ่งๆ อีก” ไอ้ฟิวพูดเสริมเบาๆ แต่ผมก็ได้ยิน และแน่ใจว่าไอ้มายด์ก็ได้ยินด้วย เพราะมันดูเหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ

“เอ้อ...กูแค่จะกลับบ้านใหญ่ไปดูไอ้เจมมันหน่อย เห็นลุงชิดบอกว่ามันไม่ค่อยกินอะไร”

ผมเข้าใจแล้วว่าไอ้ฟิวมันห่วงใคร มันคงกลัวว่าผมจะทำให้เมลเสียใจอีก ...แต่มันคงไม่รู้เลยว่ามันก็กำลังทำให้ใครอีกคนเสียใจเหมือนกัน

“เอาปลาหมึกอีกมั้ย” เมลหันมาถามผม หน้ามันแดงน้อยๆ เพราะความร้อนจากเตา

ระหว่างที่ผมกับไอ้ฟิวคุยกันมันก็แค่ฟังเงียบๆ ทำหน้าที่ปิ้งนั่นย่างนี่ให้ผมกิน ไม่ได้ถามอะไรเหมือนทุกที

“อือ เอาเต้าหู้ด้วย”

“ครับ”

คงเป็นโชคดีของผม ที่คนข้างๆ เขาก็รักผมไม่น้อยไปกว่าที่ผมรัก แต่โชคดีของผมต้องแลกกับความโชคร้ายของอีกหลายๆ คน หนึ่งในคนที่โชคร้ายเหล่านั้นก็เป็นเพื่อนสนิทของผมเอง...


......................................To be continue................................

มาช้าไปหน่อย ขอโทษค่ะ วอลเล่ย์บอลหญิงเอาชนะสองเซ็ตแล้วนะคะ ฮี่ๆๆๆ

ตอนนี้ปั่นสดๆ เลยค่ะ ตอนต่อไป อาจต้องรอกันอีกนิดนะคะ เสียใจจริงๆ ที่ทำให้หลายๆ คนต้องรอ  :o12:

สุดท้ายนี้ขอบคุณความคิดเห็นและกำลังใจนะคะ  :z2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 21-09-2013 19:35:41
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 21-09-2013 19:52:23
 :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 21-09-2013 19:53:39
ดีกันแล้ว หวานกันเยอะๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-09-2013 20:21:19
พอคืนดีกันก็หวานกันสุดๆ อ้อนกันน่ารักเชียว
มาสะดุดตรงฟิวแอบมอง แล้วคำพูดที่ยังห่วงเมล
มันทำร้ายใจมายด์อีกด้วย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 21-09-2013 20:24:55
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 21-09-2013 20:47:37
ฟิวส์ใจเย็นๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 21-09-2013 21:41:43
สงสารมายน์ แล้วก็รำคาญฟิวจังเลย
มีปั๋วเป็นตัวเป็นตน ยังจะพูดไม่รู้จักถนอมน้ำใจ
ชอบเมลกับเท็นตอนนี้สุดๆ น่ารักมาก (ฟินอ่ะ กัดมุมปลอกหมอนแบบกลั้นกรี๊ดไว้สุดฤทธิ์)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-09-2013 21:55:57
แหมะะะะะะะะะะะ

หวานจริ๊งงงงงงงงงง

 :-[

สงสารมายด์ :o12:

 แต่ก็สงสารฟิวเหมือนกัน
รักมาตั้งนานนี่เนอะ  :hao5:
แต่ก็นั่นแหละ มองเห็นมายด์ได้แล้วนะฟิว
ตัดใจจากคนที่เค้าไม่มีวันมองเราได้แล้ว
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 21-09-2013 22:15:19
ตอนนี้มาแบบเบาๆ เท็นเมลน่ารักมากก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 21-09-2013 22:24:59
น้องเท็นน่ารัก

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 21-09-2013 23:35:09
หวานกันสุดๆเลย ฟิวน่าจะตัดใจได้แล้ว เพราะมันมีแต่ทำให้ตัวเองเจ็บ
รู้สึกไม่ชอบมายที่ทำแบบนั้นกับฟิว น่าจะค่อยๆ พยายามให้ฟิวมาชอบตัวเองดีกว่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 21-09-2013 23:55:18
พอดีกันแล้วก็หวานไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเลยนะ
แหม โลกสดใสซะจริงเชียว

อะไรกันอีกกับคู่ของฟิวกะมายด์
เห็นอยู่กินด้วยกันนึกว่าตกลงกันแล้วซะอีก
มายด์ก็ดูจริงจังกับฟิวนี่ ปัญหาคงอยู่ที่ฟิวคนเดียวแล้วล่ะ  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 22-09-2013 00:34:45
เห็นด้วยว่าเมลน่ารักมากกกกกกก ยิ้มตามแก้มตุ่ยแล้วเนี่ย

แล้วก็ฟิวนะ ทำไมไม่เห็นค่าคนที่นั่งอยู่ข้างนายเลยล่ะ


 :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 22-09-2013 01:27:07
เมลนายเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดเลยเอาใจแฟนตลอด!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 22-09-2013 01:29:34
ฟิวกับมายด์ดราม่าอะไรกันค๊าาาา :katai4:

อกอิแป้นจะแตกค่าาาาาา ค้างมากข่าาาาาาาาาาาาาาาาาา :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-09-2013 02:30:39
เมลเท็นน่ารักผุด ผุด ตามอ่านทันในวันเดียวสนุกอะ มีหลากหลายอารมณ์เนื้อเรื่องเข้มข้น เพื่อนแต่ละคนก็ฮาๆ แปลกๆ5555 รออ่านตอนต่อไปจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-09-2013 05:57:03
พอหวานมากก็เริ่มกลัวคนเขียนจะทำให้หน่วงอีก :ling3:
เริ่มวิตกจริตไปซะแล้ว :laugh:
แต่ยังไงก็ชอบตอนนี้นะ หวานเจี๊ยบ มะกัน อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-09-2013 08:57:32
อ่านตอนที่หกแล้วงงๆ ค่ะ สองคนนี้ผลัดกันเหรอคะ หรือว่าเมลโดนเท็นถีบ

เมลโดนดึงแก้มค่ะ แหะๆ ^^ ไม่นิยมผลัดกันได้ค่ะ รู้สึกไม่ชัดเจน ฮี่ๆๆๆ

ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ มีอะไรสงสัยอีกถามได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-09-2013 11:00:08
พอดีกันก็หวานเกิ๊น :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-09-2013 15:54:20
เจมส์ซึมเหรอคะเท็น...อาจจะเหงา...(ไก่ชนนี่เหงาไหมคะไม่ค่อยแน่ใจ.. :z10:)

หวานกันจังเลย แต่ไม่ค่อยวางใจ อาจจะได้มีหน่วงอีก ทั้งแบบนั้นก็รักทั้งคู่นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 22-09-2013 16:37:13
เท็นเป็นคาแรคเตอร์ที่ทั้งนาารักและน่าหงุดหงิดในคราวเดียวกันค่ะ
พอเขาเดินเขาหา ตัวเองกลับวิ่งหนี แต่พอเขาถอยกลับ จัวเองกลับวิ่งตาม
แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงนะ เมลเองก็เป็นพระเอกที่มีเสน่ห์มากกกกก คืออบอุ่นมาก ชอบดูแล
คนอ่านบอกเลยอย่างหลง ฮาาาาาา แต่ตอนที่ทำตัวงี่เง่า ระหองระแหงจะเลิกกับเท็นนี่ก็น่าเตะอัดข้างฝาเหมือนกันนะคะ หึหึ
สนใจคู่มายด์กับฟิวมากกกกกกกก ได้กันกี่ท่าแล้วนั่น แต่สถานะไม่ชัดเจนอยู้ #ถถถถถถถถถถถถ
กัสนี่น่าเชียร์ให้ได้แฟนเป็นผู้ชายนะคะ กร๊ากกกกกกกกกกกกก


คนเขียนสู้ๆ ขอให้เขาหวานกันทุกตอน ไม่อยากให้ดราม่าเลออออออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-09-2013 18:31:47
Special Inside : มายด์ เมธัส

การได้จ้องมองใบหน้ายามหลับของคนตรงหน้าเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับชีวิตผม แต่จะมีสักกี่ครั้งกันที่ผมจะถูกเขาจ้องมองแบบที่ผมกำลังทำบ้าง ผมตอบได้ว่าคงไม่มี...

เพราะในสายตาของเขามีแต่เพื่อนสนิทของผมคนเดียวเท่านั้น

“เมล...เมล...” แม้แต่ในยามหลับ คนที่เขาต้องการก็ไม่ใช่ผม

“ตื่น!” ผมพูดเสียงดังเล็กน้อยก่อนจะตบแก้มคนที่นอนหลับอยู่เบาๆ ตาโตๆ ลืมขึ้นมาพร้อมกับความชิงชังที่ถูกส่งมาให้

“อยู่อีกทำไม สมใจมึงแล้วไม่ใช่เหรอ”

ผมรู้ว่าแม้สักหนึ่งวินาทีเขาก็ไม่อยากเห็นหน้าผม คนๆ เดียวที่เขาอยากเจอคงเป็นเพื่อนสนิทผมที่ตอนนี้เป็นแฟนกับเพื่อนสนิทเขาล่ะมั้ง

“กูบอกมึงแล้วไงว่าห้ามพูดชื่อไอ้เมลเวลาที่อยู่กับกู แม้แต่คิดถึงมันมึงก็ห้ามทำ!”

“แล้วทำไมกูต้องเชื่อตามที่มึงบอก มันธุระอะไรของมึงที่จะมาห้ามกู ไม่ใช่เรื่องของมึงเลยไอ้เหี้ย!”

ก็จริงที่ไม่ใช่เรื่องของผม แต่เวลาที่เห็นมันเสียใจ มันเจ็บปวดเพราะไอ้เมล เป็นผมทุกทีที่ต้องรู้สึกไปกับมัน ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันในเรื่องนี้

“ออกไปห่างๆ กู ไม่ต้องมาแตะ!”

มือของผมถูกปัดออกแรงๆ แต่ผมก็ใช้มืออีกข้างจับแขนมันไว้แน่น

“เพราะไอ้เมลมันอยู่ที่นี่หรือไง มึงถึงได้ทำท่ารังเกียจกูนัก”

“....”

เมื่อมันเงียบผมก็ยิ่งเดือดขึ้นมา ฟิวเป็นของผม ตัวของมันเป็นของผม แต่ใจของมันไม่เคยเป็นของผมเลย ผมมีอะไรที่สู้ไอ้เมลไม่ได้? ผมมั่นใจว่าผมก็มีดีไม่น้อยไปกว่าไอ้เมลเลย แต่ฟิวไม่เคยจะเห็น มันเรียกหาแต่ไอ้เมล เป็นห่วงไอ้เมล รักแค่ไอ้เมลคนเดียวมาตลอด

“มึงไม่ละอายใจบ้างรึไงฟิว! ร้องเรียกแต่ชื่อของแฟนเพื่อนมึง ไม่ว่าจะตอนหลับ หรือตอนมีอะไรกับกู มึงก็เอาแต่เรียกชื่อมัน! ทำไมวะ!”

“เรื่องของกู”

“มึงมันน่าสมเพช!”

เพียะ!

ผมถูกฟิวตบ แน่นอนว่าแรงตบของมันมากกว่าผู้หญิงหลายเท่า แต่ไม่ได้ทำให้ผมเจ็บไปมากกว่าใจที่เจ็บแปลบตลอดเวลา

ผมรู้ว่าผมผิดตั้งแต่ต้น แต่ผมก็พยายามแก้ไข แต่ผมไม่เคยได้รับโอกาสจากมันเลย ผมถูกทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยชื่อของไอ้เมล ตัวตนของไอ้เมล และความรักของฟิวที่มีต่อไอ้เมล มันมากมายจนผมได้กลายเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่เคยมีค่าเลยสำหรับฟิว

“มึงมันก็สัตว์นรก น่าสมเพชไม่ต่างจากกูเท่าไหร่หรอก!”

ฟิวคงไม่มีวันจะรู้สึกดีๆ กับผม...ผมแน่ใจ

“กูขอโทษ”

“มึงคิดว่าสิ่งที่มึงทำกับกู มันเป็นเรื่องที่ยกโทษให้ง่ายๆ ได้งั้นเหรอ! มึงมันก็แค่คนเห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่นเลย!”

และผมแน่ใจว่าฟิวคงไม่มีวันให้อภัยผม เหมือนอย่างที่ผมไม่มีวันที่จะลืมความรู้สึกผิดที่เหมือนบาปในใจได้

“จะให้กูทำยังไง”

“กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ามึงก็แค่ไปตายซะ ไปให้พ้นหน้ากู ไปจากชีวิตกู!”

ผมรู้ว่าคนที่จะไล่ให้อีกคนไปตายได้ คนๆ นั้นคงเกลียดอีกคนมาก เกลียดมากจนไม่อยากเห็นหน้ากันอีก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟิวพูดอย่างนี้กับผม มันจะพูดทุกครั้งที่มีโอกาสเลยล่ะ

ความเงียบเข้าครอบคลุมในห้องเพราะทั้งผมและฟิวต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ได้ยินเสียงกีตาร์ดังมาจากสวนข้างล่าง คงมีใครสักคนที่รอดจากฤทธิ์เหล้าและเบียร์ แต่คงไม่ใช่ไอ้แต้ม ไอ้ลิน และไอ้กัสแน่นอน เพราะก่อนขึ้นห้องมาผมเห็นพวกมันนอนสลบกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้วยความสงสัยผมจึงลุกเดินไปดู เห็นเท็นกำลังดีดกีตาร์ มีไอ้เมลเป็นคนร้อง บางครั้งก็หยุดร้องหยุดเล่นแล้วคุยกันงุ้งงิ้งสองคน ผมเป็นเพื่อนกับไอ้เมลมาตั้งแต่อยู่อนุบาล ยอมรับจริงๆ ว่าไม่เคยเห็นมันมีความสุขมากขนาดนี้

“มึงไม่เห็นหรือไงว่าสองคนนั้นเขารักกันขนาดไหน”

“....”

“ถ้ามึงยังไม่ยอมตัดใจ เรื่องนี้ก็จะมีแต่มึงคนเดียวนั่นแหละที่ต้องร้องไห้”

“....”

“ไอ้เมลมันรักไอ้เท็น”

“ไม่ต้องย้ำ กูรู้”

“รักมากด้วย รักจนมันอาจจะตายได้ถ้าเลิกกับไอ้เท็น”

“กูรู้!”

“ตัดใจเถอะ มึงกำลังรักคนที่ไม่มีวันจะรักมึง”

“เรื่องนั้นกูก็รู้! มึงหยุดพูดได้แล้วมายด์!”

ใบหน้าของฟิวเต็มไปด้วยน้ำตา ถึงจะเห็นบ่อยครั้งแต่ผมก็ยังไม่ชิน ไอ้เมลคงไม่รู้ว่าระหว่างที่มันกำลังหัวเราะอยู่กับคนที่มันรัก ยังมีคนที่รักมันกำลังร้องไห้แทบจะขาดใจอยู่ตรงนี้

“ห้ามร้องไห้! กูเคยบอกกี่ครั้งว่าไม่ชอบให้มึงร้องไห้เพราะมัน!”

แต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาเหมือนเขื่อนแตก ผมต้องเดินเข้าไปใกล้แล้วดึงมันมากอดไว้ ฟิวขัดขืนเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมซบหน้าร้องไห้กับอกผม

“อย่าร้องเพราะมันอีก หรือกับคนอื่นก็ห้าม ร้องเพราะกูคนเดียวก็พอ”

“ฮึก! มึงมันชั่ว!”

“กูยอมรับ...แต่กูก็ไม่เคยให้มึงไปเช็ดน้ำตาที่อื่นไม่ใช่เหรอ กูทำให้มึงร้องกูก็จะเป็นคนเช็ดน้ำตาให้เอง ที่บอกไว้จำไม่ได้หรือไง”

“ไม่อยากจำ”

“ปากเก่งจริงๆ นิ่งซะ เดี๋ยวตื่นเช้าตาบวมอีก”

“เรื่องของกู”

ประโยคยอดฮิตของฟิวเลยล่ะครับ แต่ผมแค่ยักไหล่แล้วพามันนอนลงกับเตียงก็แค่นั้น ฟิวร้องไห้อยู่บนอกผมอยู่สักพักก็หลับไป

ผมรู้ว่าการรักใครสักคนสุดชีวิตนั้น ถึงเวลาต้องตัดใจมันทำได้ยากขนาดไหน เหมือนผมกำลังเป็นอยู่ตอนนี้... ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่รัก แต่ก็ตัดใจไม่ได้สักที

“อ้าว ไอ้มายด์ ยังไม่นอนอีก” ไอ้เมลหันมาทักผม มันกำลังเล่นกีตาร์โดยเปลี่ยนให้ไอ้เท็นเป็นคนร้องบ้าง ไอ้เท็นมันก็ร้องนะ แถมแต่ละเพลงที่ร้องนี่ถ้าไอ้เมลเป็นผู้หญิงคงได้มีอายจนตายไปข้าง

“ยังไม่ง่วง แล้วทำไมเหลือกันอยู่สองคน” ผมถามก่อนจะนั่งลงข้างๆ ไอ้เมลที่รีบขยับที่ให้

ไอ้เมลเห็นอย่างนี้ขี้หวงมากนะ ถึงหลังๆ มานี่มันจะลดลงนิดหนึ่งก็เถอะ แต่ไอ้เท็นก็ยังเป็นบุคคลที่มนุษย์ทั่วไปแตะต้องไม่ได้อยู่ดีแหละครับ เพราะหนึ่งแฟนหวง และสองคงไม่มีใครคิดอยากเข้าไปอยู่ในโลกของมัน เหอๆ

“ไอ้มายด์แม่งมาขัดจังหวะ มึงรู้มั้ยเนี่ยว่ากำลังแทรกแซงเวลาของคนอื่นเขา” ไอ้เท็นมันเป็นคนพูดตรงๆ ซึ่งบางทีแม่งก็ตรงมากเกินไปจนผมรู้สึกหน้าชาไปเลยทีเดียว

“เออ งั้นกูไป”

“ไหนๆ ก็นั่งละ ไม่ต้องลุก กูหมดอารมณ์จะจีบแฟนแล้ว เชิญรบกวนต่อตามสบาย”

แล้วมันก็หันไปจิบเบียร์ชมจันทร์ของมันต่อไป ไอ้เมลแค่หัวเราะแล้วก็ยื่นมือไปขยี้หัวแฟนมัน เออนะ ตามใจกันจนเสียคนเลยพวกมึงเนี่ย -*-

หลังจากงุ้งงิ้งกับแฟนมันเสร็จ ไอ้เมลก็หันมาสาธยายให้ผมฟังว่าทำไมเหลือมันกับไอ้เท็นอยู่สองคน คือส่วนมากก็สลบกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งตอนลงจากชั้นบนมาผมไม่ได้มองอะไรมาก แค่เห็นไอ้กัสนอนเคี้ยวน้ำลายอยู่บนโซฟาก็โล่งอกแล้ว เพราะคนอื่นเป็นผู้ชายผมไม่ห่วงเท่าไหร่

“ไอ้แต้มไปหาเมย์ เดี๋ยวคงกลับมาพร้อมกับรอยตบอีกตามเคย ได้ไอ้เขตขับรถไปส่ง ไอ้เต้กับไอ้แม็คคงอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านนี่แหละ กูไม่เห็นมาสักพักละ แต่คนอื่นๆ ก็อยู่ที่ห้องนั่งเล่นครบ”

“เออ ดีละ ว่าแต่ไอ้เขตมันไม่เมามากใช่ไหม ไปกับไอ้แต้มไหวใช่ป่ะ”

“ไหว ไอ้เขตพูดรู้เรื่องอยู่ แต่ไอ้แต้มถ้าให้ขับไปเองก็เสาไฟฟ้าหน้าซอยสักต้นนี่ล่ะที่จะโดนมันชน”

“สงสัยเมย์เรียกไปทะเลาะอีกตามเคย เออ เท็น เดี๋ยวแบกกัสขึ้นห้องด้วยล่ะ”

ไอ้เท็นหลุดจากโลกของตัวเองมาชายตามองผมแล้วมันก็พยักหน้าหนึ่งที คือ ผมพูดจริงๆ นะ ไอ้เท็นนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ อยู่กับไอ้เมลมันก็ดูเหมือนคนธรรมดา แต่ไม่รู้ทำไม กับคนอื่นถึงได้ทำอึนๆ ใส่แบบนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นแฟนเพื่อนคงได้ต่อยกับผมไปสักยกล่ะ กวนตีนเกิน -*-

“เพื่อนกูอีกคนล่ะ เห็นมึงพาขึ้นห้องไปตั้งแต่ห้าทุ่ม” ทุกครั้งเวลาโดนไอ้เท็นตั้งคำถาม ผมจะต้องรู้สึกหายใจติดขัดทุกที อาจจะเพราะตาสีดำที่ดูฉลาดๆ ของมันก็ได้ที่สร้างความกดดันแปลกๆ ขึ้น

“หลับไปแล้ว”

“เหรอ เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน”

“แค่พูดกันเสียงดังนิดหน่อย แต่ตอนนี้หลับไปแล้ว”

มันจ้องผมสักพักแล้วก็ยักไหล่เหมือนกับจะบอกว่า ‘เรื่องของมึง กูแค่ถามไปอย่างนั้น’

ผมถีบแฟนเพื่อนตกเก้าอี้นี่จะบาปมั้ยครับ -_-

“แล้วนี่พวกมึงยังไม่ง่วงกันไง” ผมเลิกสนใจไอ้เท็นแล้วหันไปถามไอ้เมลที่กำลังมองแฟนตัวเองอยู่

“ยัง รอไอ้แต้มกับไอ้เขตกลับมาก่อน” ไอ้เมลตอบทั้งๆ ที่ยังไม่ถอนสายตาจากไอ้เท็น

คือ...ผมควรจะอยู่เป็นก้างพวกมันต่อมั้ยวะ?

“เท็น พอแล้ว เดี๋ยวก็เมา”

“ไม่เมาน่า อีกนิด เบียร์เหลือ เสียดาย”

“จะเสียดายทำไมเนี่ย ของมันไม่เสีย เหลือก็เก็บไว้กินวันอื่น”

“จ้าๆ หน้าบึ้งดีจริงๆ เลย กลัวพี่เมาแล้วจะไม่มีแรงรึไงจ้ะ หึหึ”

“ดูพูดเข้า มานั่งนี่มา ตรงนั้นยุงเยอะ”

ผมมองตามไอ้เท็นที่ย้ายตัวเองไปนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆ ไอ้เมล พอมันนั่งลงได้ก็เริ่มเป็นงูเลื้อยไปตามตัวเพื่อนผมทันที

“หึหึ” ไอ้เมลเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีนะจากสายตาผม แม่งยิ้มไปลูบหัวไอ้เท็นไป

คือ...อยากถาม ลืมไปแล้วรึไงว่ากูก็นั่งด้วย -_-

“ทำตัวเหมือนเพิ่งรักกันใหม่ๆ เลยเนอะพวกมึง”

“อ้าว นี่มึงยังไม่ไปอีกเหรอ”

-*- เข้าใจหรือยังว่าทำไมผมถึงอยากถีบมัน

“ทำหน้าบูดไปได้ไอ้มายด์ ขี้อิจฉานะมึงเนี่ย หึหึ”

แม้แต่เพื่อนผมก็เป็นไปกับไอ้เท็นด้วย

“เออออ กูไปแล้ว ทนไม่ไหวก็ขึ้นห้อง อย่ามาเอากันตรงนี้นะเว้ย”

“ไอเดียดีทีเดียวนะ กูก็อยากลองว่ะ จัดเลยมั้ยเมล”

“บ้าไงมึง หึหึ”

ผมปล่อยให้สองคนนั้นบ้ากันต่อไป ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมความรักทำให้คนที่เคยจริงจังกับชีวิตแต่ไม่เคยคบกับใครจริงจังอย่างไอ้เมลเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ผมไม่เห็นว่าไอ้เท็นมันจะน่ารักตรงไหน ผมว่าเรื่องความน่ารักนี่ไอ้เท็นแพ้ฟิวไปหลายขุม แต่ถ้าความหล่อที่ค่อนไปทางสวยต้องยกให้มัน คือหน้าตาไอ้เท็นมันจะเจ้าเล่ห์หน่อยๆ ตาคมๆ ของมันฉายแววฉลาดออกมาทุกอณู ยิ่งตอนมันยิ้มนะ ตัวโกงในละครไทยยังต้องชิดซ้าย ผู้ก่อการร้ายยังต้องชิดขวา

แต่ฟิวต่างออกไป หน้าตามันดูเอ๋อๆ ก็จริงแต่มันน่ารัก ไม่รู้สิ ผมก็ไม่เคยชมผู้ชายคนไหนว่าน่ารัก แต่ตอนเจอมันครั้งแรกก็เผลอจ้องอยู่นานเหมือนกัน ผิวมันอมชมพูโดยธรรมชาติเลย ตัวก็เตี้ย น่าฟัดน่ากอดชะมัด

ในหลายๆ เรื่องฟิวอาจจะไม่มีอะไรสู้ไอ้เท็นได้ แต่ผมคิดว่าเท่าที่ฟิวมีก็พอแล้ว เมื่อไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับไอ้เท็น ฟิวน่ะเพอร์เฟ็คเกินไปด้วยซ้ำ ผมถึงไม่เข้าใจว่าไอ้เมลมันทนไม่รักฟิวได้ยังไงในระหว่างที่ฟิวทำอะไรดีๆ ให้มัน ทำไมเป็นแบบนั้นผมก็ยังสงสัย...

ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็มาถึงห้องของฟิวแล้ว ผมเดินไปนอนลงบนเตียงที่สั่งซื้อเข้ามาเมื่อเดือนก่อน ฟิวโวยวายอยู่เหมือนกันแต่มันก็ขัดผมไม่ได้

“ไปไหนมา” ฟิวถามเสียงเบาทั้งๆ ที่หลับตา พร้อมกับขยับเข้ามากอดแขนผมไว้ หน้าเล็กๆ ของมันซุกลงกับต้นแขนของผม

“ข้างล่าง”

“เหรอ เมลเมาหรือเปล่า”

“....” ผมน่าจะชินได้แล้ว เพราะเวลาที่ฟิวเข้ามาพูดดีๆ กับผม มันมักจะมีชื่อไอ้เมลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ

“เมลยังไม่นอนอีกเหรอ นั่งอยู่กับเท็นใช่มั้ย”

“....”

“น้ำค้างตอนดึกๆ ลงแรงนะ มึงไม่บอกให้รีบขึ้นนอนล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“....”

“แล้วเมล...”

“เงียบซะฟิว! กูจะนอน”

“มึงอารมณ์เสียอะไร กูก็แค่ถาม”

“มึงห่วงทำไมไม่ลงไปเอง”

“ก็เท็นอยู่”

“รู้ว่าไอ้เท็นอยู่ มึงก็เลิกห่วงเลิกคิดถึงไอ้เมลมันซะที! นอน!”

ฟิวสะดุ้งเล็กน้อย แล้วก็พยายามขยับตัวออกห่าง แต่ผมไวกว่าเลยคว้าตัวมันมากอดไว้

“หยุดคิดถึงไอ้เมลซะทีเถอะ”

“....”

“แค่เวลาที่อยู่กับกูก็ได้”

“....”

“กูขอร้อง”

คงเป็นอย่างที่ฟิวว่า...ผมต่างหากล่ะที่น่าสมเพช


....................................End Chapter...........................

อืมมมมมมมมมมมม เอาหนูเมธัสมาคั่นกลาง ได้ใช่มั้ยคะ? หึหึ

ตอนหน้าก็กลับมาที่ท่านเท็นกันต่อแหละค่ะ ที่เอามายด์มาคั่นนี่เพราะฟังเพลงแล้วเกิดอารมณ์แบบ นี่เลย นี่แหละ ต้องน้องมายด์เท่านั้นนนนนน เลยจัดมาให้หนึ่งตอน

 :z6:

รักทุกคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 22-09-2013 18:51:02
 :z13:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 22-09-2013 18:51:43
บทจะหวานก็หวานซะน้ำตาลเรียกพี่เลย

น่าสงสารมายด์ อยากรู้ถ้ามายด์ตายไปจริงๆฟิวจะรู้สึกยังไง

รอตอนต่อไปจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-09-2013 19:14:01
ฟิวตัดใจจากเมลเหอะ สงสารตัวเองบ้าง
ไหนจะมายด์ที่เจ็บ เพราะฟิวคิดถึงแต่เมล
ให้โอกาสมายด์บ้างได้ไหมฟิว

เห็นใจมายด์มาก  บางทีน่าจะให้มายด์หายไปจากชีวิตฟิวสักพัก
ให้ฟิวได้คิดทบทวนเรื่องของตัวเอง เผื่อจะเห็นคุณค่าคนที่รักตัวเองบ้าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 22-09-2013 19:22:56
หน่วงจริงๆกะความรู้สึกของทั้งสองคน

สงสารฟิวนะ แต่บางทีฟิวอาจจะต้องได้รับบทเรียน ถึงจะรู้ตัวว่ารักมายด์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 22-09-2013 19:33:20
เรื่องของหัวใจ มันบังคับกันไม่ได้หน่า
หากเปลี่ยนใจไปรักใครได้คงทำไปแล้ว~~~
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 22-09-2013 19:36:16
ฟิวควรจะมองมายด์บ้างก็ดีนะสงสารมายด์ที่ต้องอยู่กับฟิวแต่ฟิวพูดหาแต่เมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 22-09-2013 19:57:53
สงสารมายด์  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 22-09-2013 20:11:35
ฟิวควรจะตัดใจได้แล้ว ดีนะที่เท็นเป็นคนแบบไม่ใส่ใจใคร
เลยไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องเมล เท็นน่ารักอะตรงและฮาดี ชอบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-09-2013 20:42:49
ความรักหนอความรัก  :เฮ้อ:
หวังว่าฟิวกับมายด์จะมีช่วงเวลาดีๆด้วยกันเร็วๆนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 22-09-2013 20:44:19
โถ่ววว มายยย น่าสงสาร

ฟิวชอบบอกว่าเท็นไม่ใส่ใจกับคนที่รักเท็น แต่ฟิวเองจะรู้ไหม

ว่าฟิวก็ไม่เคยใส่ใจมายเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ที่ 22-09-2013 21:33:56
คือที่มายด์ทำกับฟิว (ข่มขืนงี้) มันก็ยากที่จะให้อภัยอะ แต่เราก็แอบสงสารมายด์ว่ะ กร้ากกกกกก  :impress2:

แต่แบรรบบบบ ฟิวจะเป็นห่วงนู่นนี่กับเมลมากไปป่ะ คือดูไม่พยายามตัดใจเลยอะ แฟนเพื่อนนะเว้ย เฮ้อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 22-09-2013 21:46:55
ตอนล่าสุดนี่แบบบบบบบบบบบบบบ อ่านวนหลายรอบมาก


เท็นน่ารักขึ้นเป็นกองเลยยยยยยยยยย แล้วคู่นี้จะหวานกันไปมั้ยยย ปลื้มมมมมมมมมมมมม

อยากให้หวานๆอย่างนี้ใส่กันทุกตอนอ่ะ ดราม่าอย่าจงบังเกิดเลยนะ แอบกลัวใจเท็น 5555

ตอนพิเศษ เราอ่านแล้วสะดุด ตรงที่มายด์ บอกว่า เห็นกัสนอนบนโซฟาแล้วโล่งใจ เพราะกัสเป็นผญคนเดียว

คือแบบบเห้ยยยยผชคนนี้ ยังเป็นห่วงให้หิ้วกัสไปนอนบนห้องอีก

มายด์ดูมีอะไรๆ น่ารักไม่เบาเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 22-09-2013 22:39:16
ฟิวอาจจะเดินตามรอยเท็นแบบไม่รู้ตัว
ประเภทที่ว่า ไม่สูญเสียสิ่งนั้นไปก่อนก็ไม่รู้ว่ามันสำคัญ

จะดีหรือจ้ะฟิว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 22-09-2013 22:43:43
มายด์จะทนได้นานแค่ไหน  แล้ววันนึงฟิวจะเสียใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 22-09-2013 23:00:19
ชอบเท็นอ่ะ

มาต่อเร็วๆน้า เป็นกำลังใจให้ :|
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-09-2013 23:04:06
ฟิวใจร้ายว่ะ เลิกรักเมลแล้วรักคนที่เขารักเราดีกว่านะ พยายามเข้านะฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 22-09-2013 23:20:34
น่าอนาถพอกัน :mew5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-09-2013 23:54:49
โถ่มายด์ :ling2:


ก็เล่นเปิดตัวรุกใส่เขาซะน่าประทับลงความทรงจำซะเหลือเกินนี่คะ เราว่าเท่าที่ฟิวยอมให้ตอนนี้นี่ก็เยอะแล้วนะ

ข่มขืนเขาจะให้ปุปปัปเขารักตัวเลยไม่ได้หรอกค่ะมายด์ มันต้องใช้เวลา แล้วก็ความอดทน

ถ้าคิดว่ารักจริงก็ต้องทนค่ะ เพราะเลือกเปิดหมากกระดานแรกพลาดไปแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 23-09-2013 00:18:39
คือตอนก่อนๆร้องไห้ให้กับเมลและฟิวนะ

แต่ตอนนี้ มายด์พระเอกมากค่ะ ร้องไห้ให้มายด์ได้มั้ย โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ปล.เรื่องนี้ทั้งเมลทั้งมายด์น่าสงสารทั้งคู่เลย ไม่สิต้องเหลือมายด์คนเดียวแล้วววว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 23-09-2013 00:57:32
 :เฮ้อ: ความรัก!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 23-09-2013 01:36:24
รักเค้า แต่เค้าไปรักคนอื่น เฮ้อออ
สู้ๆนะ มายด์
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 23-09-2013 13:51:09
ใจแข็งเช่ดดดดดดด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 24-09-2013 01:19:55
เพิ่งมาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ ชอบเมลมากอ่ะ
มีความพยายามที่จะทนเท็นมากๆ
ถ้าเรานะบอกได้คำเดียวเลยว่า "พี่จะไม่ทน"
ตัดหางปล่อยวัดตั้งแต่หนีไปคราวแรกแล้ว 555

แรกๆรู้สึกไม่ชอบเท็นเลยโลกส่วนตัวสูงจนไม่สนใจคนรอบข้าง
ไม่คิดถึงใจคนอื่น เอาตัวเองเป็นใหญ่ เห็นแก่ตัวแบบร้ายกาจ ทำร้ายจิตใจเมลได้ตลอดเวลา
แต่หลังๆตั้งแต่โดนเมลเกือบเลิกนี่ดีชึ้นมาละ น่ารักมาก จะยอมให้อภัยที่ผ่านมาละกัน 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 24-09-2013 16:38:15
กลับมาดีกันแล้ววว  หวานกันเชี่ยวๆ  :-[
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-09-2013 18:22:53
ตอนที่ 25

“ป๊าดดดดดดดด ไอ้เท็น มาให้กูกราบสักทีเถอะไอ้น้องรัก” พี่กันต์ลุงรหัสผมแทบจะถลาเข้ามากราบจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเจ้พิมพ์แกยื่นตีนไปขวางไว้

“กว่าจะนัดพวกพี่มาได้ ไอ้ตะนอยก็เกือบจบเทอมหนึ่ง ดีใจนะที่มึงยังไม่ลืมว่ามีสายรหัส” เจ้พิมพ์ พี่รหัสผมบ่นอีกพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินเข้าไปลูบหัวลูบหางไอ้ตะนอยแล้วพากันเดินเข้าร้านไป ไม่สนใจชายไทยวัยกำลังมันส์อย่างผมกับพี่กันต์เลยแม้แต่น้อย

อ้อ ผมบอกหรือยังว่าวันนี้มาเลี้ยงสายรหัส ที่จริงผมเห็นว่าถึงกาลอันสมควรแล้วที่จะได้พาไอ้ตะนอยไปกราบปู่กราบป้ามันสักที ถึงมันจะรู้จักแล้วก็เถอะ

“ทำไมเป็นร้านหมูกระทะ ผมรีเควสไปว่าขอเป็นร้าน R&D ที่หน้ามอไม่ใช่ไง” ไม่อยากเสื้อเหม็นควันเลยครับ ตัวนี้เมลซื้อให้ด้วย อยากจะใส่ให้นานๆ หน่อย (ความจริงขี้เกียจอาบน้ำ)

“สิ้นเดือนแบบนี้กูก็เหมือนสิ้นใจนั่นแหละ งบหมด” พี่กันต์บอกพร้อมกับทำหน้าละเหี่ยใจ แต่เจ้พิมพ์แกกระซิบบอกผมว่าเฮียแกเอาตังค์ไปซื้ออะไหล่แต่งรถหมดแล้วต่างหากล่ะ

“พี่เท็นๆ หนูได้ยินเพื่อนๆ เขาลือกันอ่ะ พี่เท็นเป็นแฟนกับพี่เมลภาคไฟที่เป็นเดือนมหาลัยปีก่อนใช่ป้ะ”

คำถามของไอ้ตะนอยเรียกความอึ้งมาอยู่บนใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสอง

“จริงเหรอวะ นี่ไม่เจอหน้ามึงแค่สองสามเดือน มึงมีแฟนไปแล้ว แถมยังเป็น...” พี่กันต์หยุดคำถามไปโดยพลันเหมือนโดนใครเหยียบหัวแม่ตีน ซึ่งผมเดาว่าเจ้พิมพ์นั่นแหละที่เป็นคนเหยียบ

“ทำไมไม่พามาด้วย จะได้แนะนำให้พวกพี่รู้จัก”

“มันไม่ว่าง อ่านหนังสือเตรียมสอบ แล้วนี่เพื่อนมึงอ่ะใคร ที่ลือกันน่ะ”

“ก็เพื่อนกลุ่มเดียวกันแหละพี่ พอดีมันไปเที่ยวร้านพี่เจ๋งเมื่อสามวันก่อนแล้วบังเอิญไปเห็นพี่จูบอยู่กับพี่เมลพอดี”

“เออนะ ตามนั้น”

ผมยักไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ เรื่องที่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ผมไม่กังวลนะ เพราะผมก็ไม่ได้ปิดบังว่าคบกับใคร ดีซะอีก พวกที่จ้องจะงาบเมลมันจะได้ถอยไปห่างๆ

จากนั้นก็นั่งกินนั่งคุยกันไป ส่วนมากก็เรื่องเรียนนั่นแหละครับ เหมือนจะตามธรรมเนียมมารยาทที่ต้องถามน้องว่า ไหวมั้ย ดร็อปอะไรบ้าง แนะนำแนวการเรียน บลาๆๆ ผมก็ได้แค่ฟังกับคีบหมูขึ้นย่าง พี่กันต์ก็พยักหน้าหงึกหงักตามช้างเท้าหน้าอย่างพี่พิมพ์อย่างเดียว อ้อ ผมบอกรึยังว่าลุงรหัสกับพี่รหัสผมเป็นแฟนกัน ^_^

“แล้วนี่พี่ได้ข่าวว่าไอ้กัสมันไปแย่งแฟนไอ้เมฆามา เรื่องจริงรึเปล่า พี่รหัสไอ้เมฆาเป็นเพื่อนกับพี่กันต์ เห็นมันเอามาคุยให้ฟัง” เจ้พิมพ์หันมาถามผมพร้อมกับรินเบียร์ใส่แก้วให้

“ไม่รู้ว่ะพี่ ไม่ได้สนใจ” ผมตอบกลับไปแบบขี้เกียจขยายความ พี่กันต์เลยเป็นคนสาธยายแทน

“พี่เจอไอ้เมตอนไปฟิตเนส ได้คุยกับมันอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่ถึงขนาดว่าแย่งหรอกเพราะไอ้เมก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร เหมือนมันโล่งใจซะมากกว่าที่เลิกได้”

จากที่ไอ้กัสเจอผมก็คิดว่าอย่างนั้นนั่นแหละ ตอนนี้น้องแฟร์ก็หายหน้าหายตาไปเลยนะ หลังจากที่ถูกผมพูดอะไรด้วยเล็กน้อยแล้วเสือกเดินถอยหลังไปสะดุดก้อนหินตกจากส้นสูงห้านิ้วเอง อันตรายนะรองเท้าผู้หญิงนี่ น้องหัวฟาดพื้นแตกเลยนะครับ พูดจริงๆ ว่าตอนนั้นผมก็ตกใจเล็กน้อยเหมือนกัน แต่นางก็สมควรโดนอ่ะ เสือกมาทำเมลก่อนทำไม -O-

“เดี๋ยวนี้เหมือนเป็นเทรนนะที่ภาคเราจะควงกับภาคไฟ” เจ้พิมพ์เหลือบตามองมาทางผมก่อนจะพูดต่อ “เห็นน้องมายด์ก็มานั่งเฝ้าน้องฟิวอยู่เหมือนกัน สงสัยผู้หญิงภาคเราจะขายไม่ออกกันแล้วล่ะ”

“ของดีๆ เขาก็อยากจะเอาเก็บไว้ในภาคให้นานๆ ล่ะนะเจ้ เดี๋ยวนี้ผู้ชายมันไว้ใจไม่ค่อยได้ ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อให้โดนรังแกเยอะ ดูอย่างพี่กันต์ วันก่อนผมยังเห็นไปนั่งจีบสาวบาร์”

“เฮ้ยยยย! มึงจำผิดคนแล้วไอ้เท็น!”

ผมปล่อยให้เจ้พิมพ์ส่งสายตาจิกกัดไปให้พี่กันต์อยู่สักพัก ก่อนจะยอมบอกว่าผมจำผิด นั่นแหละพี่กันต์เลยแทบจะเอาขวดเบียร์ฟาดหัวผม

“พี่เท็นๆ ว่างๆ พี่ถ่ายรูปพี่เมลมาให้หนูหน่อยสิ หนูปลื้มพี่เมลมานานแล้วอ่ะ”

“ไม่ได้ เป็นเด็กเป็นเล็กมาขอรูปผู้ชายได้ยังไง”

“หนูโตแล้วนะ!!! จริงๆ”

ผมก็ไม่อยากเถียงหรอกว่ามันไม่โต คือ...อยากถามเหมือนกันว่าตอนนี้มึงน้ำหนักเท่าไหร่ แต่ก็เหมือนจะเสียมารยาทไป แต่จากการวัดทางสายตาผมว่าน่าจะขึ้นมาอีกสี่ห้าโลเลยมั้ง -_-

“ไม่ได้ๆ แล้วห้ามไปแอบถ่ายรูปมันด้วย ถ้ากูรู้มึงโดนตัดสาย”

“พี่เท็นขี้หวงอ่ะ!!!”

“ก็แฟนกูอ่ะ -O-“

“พี่เท็นนนนนนนนนน”

“ไอ้ตะนอยยยยยยยยยย”

“พวกมึงนี่ปัญญาอ่อนกันป่ะเนี่ย เลิกเล่นๆ หมูสุกละ แดกๆ ไปไอ้เท็น” เจ้พิมพ์ห้ามทัพไว้หรอก ไม่งั้นผมไม่ยอมมันแน่ หึหึ แกล้งไอ้ตะนอยสนุกจะตายไป

ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“รับโทรศัพท์แป๊บนะพี่” ผมบอกก่อนจะลุกเดินออกมาหน้าร้าน

“จ๋า ว่าไงจ้ะ”

(ไปห้องไอ้เขตนะ ห้าทุ่มกลับ)

“อือ แล้วกินข้าวหรือยัง”

(เรียบร้อย)

“อร่อยมั้ย”

(เท็นทำให้ต้องอร่อยอยู่แล้ว)

“หึหึ ขับรถดีๆ นะ ขับกลับไม่ไหวก็โทรมา จะไปรับ”

(ครับ ดูแลตัวเองนะ ไปละๆ)

“อือ”

วางสายจากเมลแล้วผมก็เข้ามานั่งในร้านต่อ ฟังเจ้พิมพ์กับพี่กันต์บ่นเรื่องเรียนอีกเล็กน้อย ไอ้ตะนอยถามเรื่องไอ้เมลอีกหน่อย ก็ได้เวลาแยกย้ายกันกลับ ผมรับอาสาไปส่งไอ้ตะนอยเพราะมันมากับผม ส่วนเจ้พิมพ์กับพี่กันต์ก็กลับหอใครหอมัน ถึงจะเป็นแฟนกันแต่เจ้แกไม่มีนโยบายอยู่กินกันก่อนแต่งหรอกครับ

ผมแวะไปส่งไอ้ตะนอยที่ร้านสบายตังค์เพราะเพื่อนมันโทรมาบอกให้ไปหาที่นั่น ไปถึงมันก็จัดการลากผมเข้าไปด้วย แนะนำกับเพื่อนมันเสร็จสรรพว่าผมเป็นใคร อยู่ในฐานะไหนกับมัน เห็นเพื่อนมันบางคนกรี๊ดออกมาเลยก็มี

เออนะ...นี่ผมเป็นดาราเหรอ -_-

“อิจฉาแก อิจฉาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!! มาแลกพี่รหัสกัน!!!!” น้องผู้หญิงตาโตคนหนึ่งพูดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับทำหน้าเพ้อๆ ใส่ผม

“ได้ไง!!! ไม่ให้ย่ะ! พี่เท็นคะ ขอบคุณมากๆ ที่มาส่ง พี่กลับไปได้แล้วล่ะ เพื่อนหนูจะคลั่งตายอยู่แล้ว ฝากบอกฝันดีพี่เมลด้วยนะคะ อิอิ”

“ตัดสาย!”

“โอ้ย พี่เท็นอ่ะ”

“ฮ่าๆๆ ไปละๆ พี่ไปนะครับน้องๆ”

“ค่าาาาา ขับรถดีๆ นะคะพี่เท็นนนนน”

“ครับ ^_^”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จะเอาคนนี้!!!!”

ฮ่าๆๆๆ เพื่อนๆ ของไอ้ตะนอยตลกดีนะ ดูจะไม่ค่อยเต็มเหมือนมันนั่นแหละ เมื่อก่อนเห็นกลุ่มมันใหญ่กว่านี้ แต่เดี๋ยวนี้คงคัดสรรมาแล้วถึงได้เหลือกันอยู่สี่ห้าคน

ผมกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าก่อนจะไปคอนโด เข้าบ้านไปก็เห็นไอ้กัสนั่งดูทีวีอยู่คนเดียว โดยไม่ต้องถามถึงไอ้ฟิวมันก็ชี้มือขึ้นข้างบน

“กับไอ้มายด์”

เป็นอันว่าเข้าใจ ไอ้มายด์มันตัวติดไอ้ฟิวตลอดเวลาอย่างนี้ คงไม่นานหรอกที่พวกมันจะออกมาประกาศว่าคบกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าไอ้ฟิวจะทำใจลืมเมลได้เมื่อไหร่ก็เท่านั้น

ผมกลับถึงคอนโดตอนห้าทุ่มครึ่ง เจอเมลนอนเอาหนังสือปิดหน้าอยู่ที่โซฟาแล้ว

“ง่วงก็ขึ้นไปนอน” ผมยกหนังสือออก เมลขยับเปลือกตาเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นมองผม

“ก็รอ”

“แวะไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมา แล้วนี่กลับมาเมื่อไหร่”

“เกือบห้าทุ่มแล้ว ไอ้เขตไล่กลับ”

“มันไม่อยากให้มึงขับรถดึกๆ น่ะสิ”

“เปล่า มันจะสไก๊คุยกับแฟนมัน -*-“

เมลตอบหน้าบึ้งๆ ทำตัวเหมือนเด็กโดนแย่งของเล่นไปได้

“มาๆ กอดปลอบ”

“กูไม่ใช่เด็กนะเท็น”

“ไม่เด็กหรอกน่า กูหาข้ออ้างกอดมึงไง”

“รักเท็นจังเลย”

แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน บางทีความสุขก็เกิดขึ้นได้เพียงเพราะเราพูดอะไรดีๆ ให้กัน

“ไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวสระผมให้”

“ขี้เกียจเดิน”

ผมกอดเมลไว้พร้อมกับคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอหอมๆ ของมัน แต่กลิ่นควันหมูกระทะนี่ติดตามเนื้อตัวผมไปหมด ผมคงไม่หอมสำหรับมันเท่าไหร่หรอก

“อ้อนตลอด งั้นเกาะดีๆ นะ ระวังตก”

“กล้าทำตกเหรอ”

“ทำไมจะไม่กล้า”

“งั้นจะทำเหรอ”

เมลอมยิ้มนิดๆ ก่อนจมูกโด่งๆ ของมันจะกดลงบนแก้มผม

“ไม่ทำหรอก เดี๋ยวเท็นเจ็บ”

“น่ารักเกิน แฟนใครเนี่ย”

“แฟนของคนนี้ไง”

เมลก้มลงมาจูบผมก่อนจะอุ้มผมเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน...

.
.
.

(อยู่กับใครน่ะเรา)

“แฟนสิครับ ป๋าจะให้อยู่กับใคร”

(นี่ยังไม่เลิกกันอีกเหรอ)

ดูป๋าผมพูด -_- เฮียแกโทรทางไกลมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามธรรมเนียมของครอบครัวเราคือต้องโทรหากันอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อเดือน แต่ก็พูดไม่เข้าหูมาได้หลายนาทีละ

“อะไรของป๋า แปลกมากรึไงที่ยังไม่เลิก”

(ก็ปกติเห็นแกทำอะไรก็เบื่อ ไม่คิดว่าจะคบนาน)

“ทำไม ป๋าอยากให้เลิกหรือไง”

(ถ้าเลิกได้ก็ดี แกก็รู้ว่าป๋าอยากให้แต่งกับหนูกัส)

-_- ผมล่ะเอือมกับเรื่องนี้จริงๆ

“หนูกัสของป๋ามันเป็นผู้หญิงมีเมียนะ แล้วอีกอย่างแฟนผมไม่ดีตรงไหน ป๋าคิดว่าคนที่ผมเลือกเป็นแฟนนี่ธรรมดามากนักเหรอ”

เมลที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ชะงักไปเล็กน้อย หน้าหล่อๆ ของมันเริ่มปรากฎความกังวล  จนผมต้องยื่นมือไปผลักหัวมัน

(จะบอกว่าธรรมดาก็คงไม่ได้ เพราะแฟนแกมันเป็นผู้ชาย ป๋าอยากให้แกคิดนะเท็น คนฉลาดๆ อย่างแกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าธรรมชาติสร้างชายมาให้คู่กับหญิง)

“มันเป็นแค่ความคิดนะป๋า บางคนบอกพระเจ้าเป็นผู้สร้าง บางคนบอกธรรมชาติเป็นผู้สร้าง แต่ความจริงอาจจะมีใครสักคนที่เป็นโคตรของโคตรบรรพบุรุษระบุไว้ว่าชายต้องคู่กับหญิงก็ได้ ประชากรโลกทุกคนถึงได้รับความคิดนั้นสืบต่อกันมา ก็แค่มนุษย์จำเป็นที่ต้องสืบพันธุ์เพื่อขยายจำนวนประชากร เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ และเพศหญิงก็เป็นเพศที่ให้กำเนิดได้ แต่นั่นเป็นแค่เรื่องของการสืบพันธุ์นะป๋าไม่เกี่ยวกับความรัก ไม่มีใครบอกไว้ว่าเราจำเป็นต้องรักกับผู้หญิงเท่านั้น แค่เพราะมันมีมาอยู่แล้วคนถึงได้ปักใจเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูก และมองพวกรักเพศเดียวกันว่า ‘ผิดปกติ’”

(พูดมาซะยาวขนาดนี้ สรุปคือ ยังไงแกก็จะไม่เลิก)

“ผมก็ยืนยันไปตั้งแต่แรกแล้ว ทุกอย่างมันอยู่แค่หนึ่งห้วงคิดเท่านั้น แทนที่ป๋าจะคิดว่าแฟนของผมเป็นผู้ชาย ทำไมป๋าไม่คิดว่าเขาเป็นคนที่ผมรักล่ะ มันจะง่ายกว่าไหม และมันก็จะดูธรรมดาไปเลยจริงๆ เพราะเวลารักใคร เราเป็นแฟนกับเขา อยู่กับเขาก็คงไม่แปลกใช่ไหมล่ะ”

(แต่...)

“ป๋าไม่รักแม่หรือไง”

(รักสิวะ)

“ถ้าป๋ารักแม่ ป๋าก็ไม่ควรจะหาเรื่องทะเลาะกับผม”

(นี่แกกำลังขู่พ่อบังเกิดเกล้าแกนะ)

“ผมไม่ได้ขู่ ผมแค่อยากเตือนความจำ สัญญาลูกผู้ชายเมื่อตอนผมอายุหกขวบจำได้ไหม”

(จำได้ ก่อนแกไปเรียน แต่สัญญานั่นมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าตอนนี้แกไม่ใช่ลูกผู้ชาย แกมีแฟนเป็น...)

“ผมก็ยังเป็นผม ไม่ว่าผมจะรักใคร ผมก็ยังเป็นคนที่ให้สัญญากับป๋าไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน และจะบอกให้รู้ว่าทุกวันนี้ผมก็ยังมองผู้หญิง แค่เพราะแฟนผมเป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นว่าทุกคนที่ผมชอบจะเป็นผู้ชายนี่ -*-”

(เออๆ ก็ได้ๆ คราวนี้จะยอมให้ก่อน แต่เดี๋ยวแกก็เบื่อ ความจริงป๋าก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องของแกนักหรอก แต่มันอดไม่ได้ไงเลยต้องพูดซะหน่อย แต่ยังไงป๋าก็อยากได้หนูกัสเป็นลูกสะใภ้)

“เชิญไปฝันเอาเองเถอะ”

(เฮอะ ดูแลตัวเองด้วยก็แล้วกัน โทรหาแม่บ้าง เขาเป็นห่วง)

“ครับ”

(ไว้เดือนหน้าค่อยคุยกันใหม่ หวังว่าตอนนั้นแกจะเลิกกับ...แฟนแกชื่ออะไร)

“เมล รู้ชื่อแล้วก็ไม่ต้องแช่งทุกวันนะป๋า เรื่องแบบนี้แช่งยังไงก็ไม่ได้ผล บอกเลยว่า ยากกกกก หึหึ”

(คุยกับแกแล้วความดันจะขึ้น)

แล้วป๋าก็วางไปแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ผมยังไม่ทันได้ลาด้วยซ้ำ

“กูเคยบอกแล้วว่าป๋ามึงคงรับไม่ได้” เมลพูดขึ้นเมื่อเห็นผมวางไอโฟนไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้ว

“ไม่มีเรื่องอะไรที่มึงต้องกังวลหรอก อ่านหนังสือต่อเถอะ พรุ่งนี้จะสอบแล้ว”

“กูไม่กังวลไม่ได้หรอก ก็มึงเป็นลูกเขา กูรักลูกเขาก็ต้องทำให้เขายอมรับกูด้วย”

“งั้นไปเตรียมเงินไว้ห้าร้อยล้านนะ ไปขอกูกับป๋า ค่าตัวกูแพง”

เมลอ้าปากค้าง ก่อนจะผลักหัวผมหนึ่งทีเมื่อเห็นผมหัวเราะใส่มัน

“ตอนนี้กูมีเก็บแค่ไม่กี่ล้าน ขอผ่อนก่อนได้มั้ย”

“จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวงจ่ะ ^_^”

“ใจร้ายตลอด”

“หึหึ อารมณ์ดีแล้วก็อ่านหนังสือไป เร็วๆ เลย เดี๋ยวเกรดไม่ดีก็มานั่งเครียดอีก”

“อือ”

เมลกลับไปอ่านหนังสือต่อ ส่วนผมก็มองมันอ่านหนังสือพร้อมกับจมไปกับความคิดของตัวเอง...

ป๋าคิดได้ยังไงว่าผมจะเลิกกับเมล ก็ดูสิ หล่อๆ ดีๆ แบบนี้จะหาได้ที่ไหนอีก ไม่ว่าจะมองมุมไหนผมก็ละสายตาจากมันไม่ได้ เวลาเมลตั้งใจอ่านหนังสือจะเป็นอะไรที่แบบ...น่าถ่ายรูปเก็บไว้มาก คือมันแผ่ออร่าออกมามากอ่ะ ณ จุดนี้ใครจะหาว่าผมหลงแฟนก็ว่ามาเถอะครับ ยอมรับและจะไม่เถียงอะไรด้วย ^_^

ส่วนเรื่องของป๋าก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ตราบใดที่แม่ยังโอเคกับเรื่องของผมอยู่ ผมก็ยังคบกับเมลต่อไปได้

สัญญาลูกผู้ชายระหว่างผมกับป๋าก็ไม่มีอะไรมาก แค่เราสัญญากันว่าจะไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจ ผู้หญิงคนเดียวที่เราทั้งคู่ต่างก็รักมากจะต้องไม่เสียน้ำตาเพราะพวกเรา ผมให้สัญญาก็ตอนที่นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยที่แม่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล แม่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วแต่กำเนิด การตั้งครรภ์ผมก็เสี่ยงมากอยู่แล้ว และหลังจากคลอดผมสุขภาพก็อ่อนแอมาตลอด ที่เข้าโรงพยาบาลครั้งนั้นก็เพราะผมทะเลาะกับป๋าเรื่องไม่ยอมไปเรียนต่างประเทศ แม่เป็นลมล้มพับไปเมื่อเห็นป๋าตะโกนใส่ผม...และตอนนั้นเองที่ผมได้ให้สัญญาไว้กับป๋า

“คิดอะไรอยู่ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้” เสียงของเมลดึงผมออกจากความคิดของตัวเอง มันยื่นมือมาลูกหัวผมเบาๆ ผมเลยถือโอกาสจับมือมันมาแนบกับแก้ม

“อุ่นดีจัง”

“เป็นอะไร หืมมม”

“เปล่า อ่านเสร็จหรือยัง จะได้ออกไปกินข้าว”

“หิวแล้วเหรอ”

“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ดึกกว่านี้ก็ขี้เกียจออกไป”

“งั้นขออีกห้านาที ให้บทนี้จบก่อน”

“เหลืออีกเยอะมั้ยนั่น”

“หนึ่งบรรทัด”

“แล้วแม่งขอตั้งห้านาที”

“ก็...”

เมลโน้มหน้าเข้ามาใกล้ สบตากันก็พอรู้ว่ามันต้องการอะไร

“เผื่อเวลาจูบด้วยไง”

“ไอ้บ้า”

“หึหึ”

“ห้านาทีพอหรือไง”

“ให้มากกว่านั้นก็โอเค ^_^”

แล้วคิดว่าผมควรจะโอเคมั้ยล่ะนี่ ทำตัวน่ารักซะขนาดนี้... หึหึ

..............................................To be continue.....................................

ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก เราไปกันแบบเบาๆ เรื่อยๆ เอื่อยๆ  :กอด1:

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ  :bye2:

ปล. อยากกินมาม่ากันไหมคะ  :z6: หึหึ :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 24-09-2013 18:38:18
เมล-เท็น น่าร๊าาากกกกมากๆๆๆๆๆอ่ะๆๆๆ


หวานกันตลอด>///////////<
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 24-09-2013 18:48:40
ไม่ชอบกินมาม่าอ่ะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 24-09-2013 18:56:41
OK จ้า แฟนดีๆ หายากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก... มาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 24-09-2013 19:06:18
ขอมาม่า ชามเล็กๆพอ เเล้วขอต่อด้วยของหวาม  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 24-09-2013 19:22:36
อ๋อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หวานที่สุด มดเดินเต็มจอเลยเนี่ย  :hao6: :hao6:

ไม่เอามาม่านะคนแต่ง ยังไม่หิววววววววววววววว  :mew5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 24-09-2013 19:24:42
เมลเท็นหวานเบาเบา :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 24-09-2013 19:52:31
รุสึกเลี่ยน
พอเข้าใจกันนี่หวานไม่เกรงใจเลยนะ!
หมั่นไส้ มาม่าสักห่อดีกว่าม้างงงงง :hao7:  :L3:
5555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-09-2013 20:02:57
+1แต้มแถมเป็ดเอามาสกัดมาม่า :laugh:
เรื่อยๆเรียงๆนะดีแล้วชอบมากกกกก
ขอของหวานเยอะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 24-09-2013 20:08:02
ไม่อยากกินมาม่านะคะะะะ เรื่องนี้พอช่วงมาม่าละหดหู่มาก
แต่เอาเถอะค่ะ ดราม่าระหว่างทางนั้นรับได้ ขอแค่ตอนจบแฮปปี้ก็พอ คริคริ
ฟิวลืมเมลได้เร็วๆนะ จะได้แฮปปี้กับมายด์ซักที ....
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 24-09-2013 20:12:18
เค้าไม่ชอบกินมาม่าาาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: พิรุณสีเงิน ที่ 24-09-2013 20:14:10
อ่านแล้วอิจฉาเท็น

แฟนน่ารักกว่านี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะคะ เมลน่ารักมากมาย :o8: :o8:

ปล.แอบฮาคุณป๋าของเท็น คือยังหวังว่าจะได้(หนู)กัสมาเป็นสะใภ้อยู่อีกหรอคะนั้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-09-2013 21:15:37
น่ารักอีกแล้ววววววววว
 :-[

มองผ่านมุมเท็น ทำไมรู้สึกว่าเมลน่ารัก น่าทะนุถนอมจังฟะ
 :laugh:

ถ้าจะมาม่า ขอแค่กลิ่นพอได้มั้ย ไม่อยากได้แบบจัดเต็ม
มาม่าจากคร้งก่อนยังไม่ย่อยเลยยยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 24-09-2013 21:24:58
เมลลลลลลลลน่ารักอ่ะอ้อนเท็นตลอดดดดด!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 24-09-2013 21:42:59
ป๋า เมลน่ารักขนาดนี้เท็นไม่เบื่อหรอกเน๊อะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 24-09-2013 21:43:31
ไม่กินมาม่าๆ เบื่อเเล้วมาม่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 24-09-2013 21:49:59
กลับสู่หมวดหวานแหวว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 24-09-2013 22:09:55
 :3125: :3125: วิ่งเอาถุงมาม่าไปซ่อนน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-09-2013 22:37:50
หวานกันขนาดนี้ อย่าให้กินมาม่าเลยค่ะ :mew6:
คู่อื่นไม่ว่า แต่เมลเท็นไม่เอาน้า งอแงๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 24-09-2013 22:48:09
ช่วงนี้ไปทางไหนก็เจอแต่มาม่า ผมร่วงแล้วนะสงสารกันเถอะ


ขอกรี๊ดเท็นด้วยคน จะเอาาาาาาาาาาาาคนนี้
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 24-09-2013 23:03:21
โอ้ย ย ย ตอนนี้หวานมากก ก ก ก อ่านแล้วแอบยิ้ม ขอให้หวานอย่างนี้ไปนา อย่ามีมาม่าเล้ย ใม่อยากกิน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-09-2013 23:06:04
 :กอด1:
ไม่อยากกินอ่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 25-09-2013 00:59:09
Noooooo!! มาม่ากินบ่อยแล้ว
ชอบกินของหวานมากกว่าา
 :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 25-09-2013 14:14:31
ขอหวานๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ชอบกินมาม่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-09-2013 14:34:49
เป็นคู่ที่น่ารักมาก
ต่างฝ่ายต่างหลงอีกคนสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 25-09-2013 14:45:08
เท็นน่ารักเวอร์อะ :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 25-09-2013 15:08:39
เท็นก็ขี้อ้อนเหมือนกันนะเราาาาาา    :impress2:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 25-09-2013 15:26:23
หวานมาก เท้นขี้อ้อนนะเราอ่ะ หึหึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 25-09-2013 21:02:09
ณ จุดๆนี้บอกได้เลยว่าน่ารักมากกกกกกกก  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 25-09-2013 21:27:01
ไม่อยากกินมาม่าซักคู่ค่ะ

ทั้งคู่ เท็นเมล ทั้งคู่ฟิวมายด์ คือหน่วงที่ใจมว๊ากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 25-09-2013 22:25:10
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-09-2013 20:51:48
มารอตอนต่อไป :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-09-2013 06:19:24
 :katai5: รอร๊อรอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-09-2013 17:52:37
 :3059: :3059:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 28-09-2013 15:57:21
ตอนที่ 26

คุณคิดว่าแฟนเก่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทไหนครับ?

สำหรับผมแล้วผมไม่รู้ เพราะผมไม่เคยเป็นแฟนเก่าใคร หรือจะมีใครมาเป็นแฟนเก่าผม ชีวิตผมมีแฟนอยู่แค่คนเดียวซึ่งก็คือเมล แต่เมลน่ะ... เมลน่ะ....

“บีบแก้วทำไม แก้วมันไปทำอะไรให้มึง” เสียงไอ้เต๋อดังลอยมา นั่นทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร

“เพราะมันสะท้อนหนังหน้ามึงไง กูเลยเผลอ”

“ไอ้ !@#$%@#^#&%^”

ผมปล่อยไอ้เต๋อง้องแง้งของมันไป ก่อนจะส่งแก้วให้ไอ้เต้ชงเหล้าแก้วที่เจ็ดมาให้

วันนี้พวกผมมาจัดกันเบาๆ ที่ร้านพี่เจ๋ง เพราะอีกตั้งสองวันกว่าจะสอบวิชาสุดท้าย ส่วนไอ้พวกภาคไฟมันมีสอบพรุ่งนี้เลยต้องแยกทางกันสักวัน ผมอาจจะไม่เข้าใจนะอารมณ์ที่ต้องตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือนี่ แต่มันต้องถึงขนาดแยกกันนอนด้วยเหรอวะ? เมลแม่งงงงงงงงง!!

“มึงเป็นไรเนี่ยไอ้เท็น ไหนบอกพวกกูมาดิ๊ ทำหน้าอย่างกะจะวางแผนฆาตกรรมคน” ไอ้คิมที่นั่งฝั่งซ้ายมือผมพูดขึ้นพร้อมกับยกแก้วมาชนด้วย

ผมไม่ได้ตอบ แค่ชายตามองพวกมันทีละคนแล้วยกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว

“เออๆ ไม่บอกก็เรื่องของมึงเถอะ ว่าแต่ไอ้เต้ขอกูถามไรสักคำถามดิ”

“อะไรวะ?” ไอ้เต้ทำหน้ามึนๆ แล้วหันไปหาไอ้คิม

“วันก่อน ทำไมแฟนเก่ามึงต้องมาตบหน้าไอ้แม็คด้วยวะ”

ผมรู้สึกได้ว่าคำถามเดียวของไอ้คิมทำเอาไอ้แม็คกับไอ้เต้หลอดเสียงพิการอย่างเฉียบพลัน เห็นพวกมันนั่งขยับตัวกันอย่างอึดอัดแล้วก็พอรู้ว่าไอ้คิมจะไม่ได้คำตอบ

“เหล้าหมดแล้วนี่หว่า กูเดินไปบอกพี่เจ๋งก่อนนะ” แล้วไอ้เต้ก็ชิ่งหนีไปเลยเหลือเพียงไอ้แม็คที่ถูกประทุษร้ายนั่งอึนอยู่คนเดียว

“จะว่าก็ว่านะเว้ย ประเด็นแฟนเก่านี้เกิดขึ้นกับคู่รักทุกคู่อ่ะ กูแบบ ยังไงดีวะ ทุกวันนี้ก็ทะเลาะกับต่ายเรื่องนี้แหละ กูก็ไม่ได้ติดต่ออะไรเขานะ แต่ผู้หญิงแม่งคิดมากไง แค่เห็นกูกับเขาคุยกันดีๆ เข้าหน่อยแม่งคิดละ -_-“

ต่ายที่ไอ้คิมพูดถึงนี่คือแฟนคนล่าสุดของมันครับ เห็นบอกว่าคนนี้รักจริงหวังแต่ง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะหวังแต่งไปได้อีกกี่ปี

“เขาก็คงคิดว่ามึงยังอาลัยอาวรณ์คนเก่าของมึงอยู่นั่นแหละ ผู้หญิงถ้าเขาไม่รักเขาก็ไม่หวงไม่หึงมึงหรอกนะ” ไอ้แม็คพูดอย่างผู้รู้

“แค่เพื่อนที่ดีต่อกันเว้ย ถ้ากูยังอาลัยอาวรณ์เขา กูจะเลิกกับเขาทำไมล่ะ -_- แม่งไม่คิดบ้างอ่ะ กูล่ะเซ็ง ถ้าเขาทิ้งกูไปก็น่าคิดสิ แต่นี่กูเป็นคนขอเลิกนะ ต่ายแม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”

“ไอ้เพื่อนที่ดีต่อกันนี่แหละน่ากลัว มึงไม่รู้ไงว่าผู้หญิงบางคนแม่งก็ใช้ความเป็นเพื่อนบังหน้าทั้งนั้น”

ผมเบือนหน้าจากบทสนทนาปัญหาเมียของไอ้คิม ไม่รู้จากปัญหาแฟนเก่าของไอ้เต้ตบหน้าไอ้แม็คกลายไปเป็นเรื่องพี่ต่ายของมันได้ยังไง แต่ก็คงต้องขอบใจมันที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะมันทำให้ความหงุดหงิดของผมเบาบางลงไปบ้าง

ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดด

“ว่า?”

(เสียงเหวี่ยงจังเลย โกรธอะไรอยู่รึเปล่าครับ)

“ถ้าบอกว่าโกรธ?”

(เรื่อง?)

“ไม่รู้”

(ไม่รู้แล้วจะง้อถูกได้ยังไง หึหึ)

“ตลกมากไง”

(โห พาลซะงั้น)

ผมเผลอยิ้มออกมากับน้ำเสียงกลั้วหัวเราะของเมล คนอะไรแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้ความหงุดหงิดผมหายไปได้ ไม่ยุติธรรมเลยยยยยย -*-

(ถ้าเมาก็โทรมานะ จะไปรับ)

“งั้นถ้าไม่เมาก็จะไม่มาใช่ไหม”

(เอ้...เป็นอะไรเนี่ย)

“งี่เง่าเหรอ”

(เปล่า ก็น่ารักดี งั้นเดี๋ยวไปรับนะ)

“อ่านหนังสือเสร็จแล้วไง”

(สามรอบได้แล้ว อ่านเยอะเดี๋ยวเบลอ)

“อือ”

(โอเคนะ เดี๋ยวเจอ...)

“ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวไปหา” ผมตอบสวนกลับไปก่อนที่เมลจะทันพูดจบประโยค โลกแม่งกลมจริง ร้านเหล้ามีตั้งเยอะไม่เสือกจะมา ทุกทีก็ไม่เห็นหรือเพราะรู้ว่านี่เป็นร้านประจำของผมนางถึงมา -_-

(อ้าว)

“ไม่ให้มา จะไปหาไง”

(เออนะ หึหึ ขับไหวมั้ย)

“ไม่ได้เมา”

(โอเค รีบๆ มานะ)

“อือ”

ผมวางสายจากเมลก่อนจะกระดกเหล้าลงคออีกแก้ว ก็อยากให้มาอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าสายตาผมเหลือบไปเห็นผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งเดินผ่านโต๊ะไป ผมก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเธอคนนั้นหรอกนะ แค่รู้จักผ่านทางช่องแชทในเฟซบุ๊คของเมล ผมจะไม่สนใจก็ได้ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่บังเอิญเจอผมกับเมลบ่อยๆ แล้วชอบเข้ามาทักแบบสนิทสนม ทำตัวเหมือนคนคุ้นเคยอะไรเทือกๆ นั้น คือผมอยากจะถามนางเหมือนกันว่าต้องการอะไรจากสังคม -_-

“กลับไปเถอะพ่อคุณ ไปให้ไอ้เมลมันกล่อมนอนซะนะ กูกลัวแม่งจะเอาแก้วเหล้าทุบหัวตัวเองจริงๆ” ไอ้เต๋อพูดพลางส่ายหน้าเอือมๆ

“ทุบหัวมึงดีกว่ามั้ง -_-“

“เหี้ยเท็น อะไรๆ ก็มาลงที่กู”

“^_^ ไปละ”

“เออออออออออออ ได้ว่ากูเข้าหน่อยก็อารมณ์ดีตลอดแหละห่า -*-“

ผมวางเงินไว้สำหรับค่าเหล้าก่อนจะลุกออกมา ผ่านโต๊ะของผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่แต่งตัวได้น่า...มาก อกเป็นอก เอวเป็นเอว กันเลยทีเดียว แต่ถ้าจะมีแฟนเป็นผู้หญิงสักคนผมขอไม่เลือกพวกเธอล่ะครับ เพราะผมไม่ชอบให้แฟนตัวเองโชว์ของมากเกินไป ^_^

“อุ้ยยย เท็น มาคนเดียวเหรอคะ เมลไม่มาด้วยเหรอ” หญิงนางหนึ่งในกลุ่มนั้นทักผมที่กำลังจะเดินผ่านไป

“แล้วเห็นมั้ยครับ” บางคนก็แปลก เห็นเดินอยู่คนเดียวก็ยังถาม

“แหม เท็นก็ ตลกอยู่เรื่อยเลยนะคะ เนสฝากบอกเมลด้วยนะคะว่าดินเนอร์เมื่อวันก่อนขอบคุณมาก เนสชอบมากเลยค่ะ”

ผู้หญิงสวยนี่ตอแหลเก่งทุกคนรึเปล่าครับ??

“^^ หึ แล้วจะบอกให้ครับ”

“ค่าาาาาาาา”

ผมคอตั้งหลังตรงเดินออกมาจากร้าน ผู้หญิงชื่อเนสคนนั้นเป็นแฟนคนก่อนของคนก่อน ซึ่งก่อนน้ำฝนรายล่าสุดที่ก่อนจะมาคบกับผมอีกที ถึงเมลจะยืนยันว่าไม่จริงจังแต่ก็ถึงขั้นใช้คำว่าแฟน โปรโมชั่นแฟนนี่มีอะไรบ้างนะ เหมือนผมรึเปล่า? -_-

ผมมาถึงคอนโดของเมลตอนตีหนึ่งครึ่ง ความหงุดหงิดใจทำให้เห็นหน้าหล่อๆ ของมันแล้วอยากชกแรงๆ สักที

“หงุดหงิดอะไรมา”

“เจอแฟนเก่ามึง”

“อีกละ โลกจะกลมไปไหน -_-“

“ไปถามโลกดูสิ แล้วนี่จะนอนแล้วหรือไง”

“ก็นึกว่าจะไม่มาแล้ว”

“แล้วไม่โทรตาม”

“ไม่อยากวุ่นวาย”

“พ่องงงงงงง!”

“เท็น ไม่เอาน่า มาๆ มานั่งก่อน จะโกรธอะไรขนาดนั้น”

“ไม่ได้โกรธ แค่ไม่ชอบหน้าแฟนเก่ามึง”

“ทุกทีก็เห็นพูดดีกับเขา”

“มารยาทไง มารยาทน่ะรู้จักไหม”

“ครับๆ ใจเย็นๆ นะ”

ผมเอนหลังพิงกับอกของเมลก่อนจะถอนหายใจออกมา คบกันมาก็สองสามเดือนไม่มีชะนีหน้าไหนจะโผล่หัวมา แล้วนี่อะไร กูดีกับแฟนแป๊บๆ แม่งโผล่มาจากไหน จับปล่อยป่าให้หมดเลยดีมั้ยเนี่ย เซ็งจริงๆ

ต่อให้รู้ว่าเมลไม่ได้คิดอะไรแต่ผมก็ไม่ชอบเห็นใครมาเกาะแกะมัน ผมหงุดหงิดและไม่ชอบใจเลยที่คนอื่นจะต้องมาบอกผมว่าแฟนตัวเองชอบไม่ชอบอะไร ไม่ใช่หน้าที่ของใครเลยนะที่จะเสือกเรื่องนี้

“เก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิดก็เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ”

“งั้นก็ไปบอกให้แฟนเก่ามึงหยุดสร้างเรื่องเสียสุขภาพจิตให้กูสักทีสิ พูดมาได้ว่าไปดินเนอร์กับมึง เย็นวันก่อนมึงยังนอนเอากับกูอยู่เลยจะแยกร่างไปแดกข้าวกับมันได้ยังไง แฟนเก่ามึงจะตอแหลไปไหน แม่งดูละครไทยมากไปป่าวดอกกกกกก”

“โห เพิ่งรู้จริงๆ ว่าปากจัด”

“ก็กูไม่ชอบ”

“ครับๆ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ”

“อื้ออออ มือน่ะอยู่เฉยๆ เลย”

อะไรของมัน คนกำลังหงุดหงิดมาบิ้วอารมณ์อีโรติกอะไรกันตอนนี้วะ -*-

“คิดถึง” เมลกระซิบข้างๆ หู ก่อนริมฝีปากมันจะระดมจูบไปทั่วซอกคอผม

“คิดถึงแต่ก็ไล่กูไปนอนบ้าน”

“ก็อยู่กับเท็นแล้วไม่มีสมาธิ”

“เห็นหน้ากูแล้วอยากขนาดนั้นเลยไง”

“ก็รู้นี่ แล้วจะงอนทำไม หึหึ”

“งอนเรื่องอื่นเหอะ -*-“

“งั้นเดี๋ยวง้อหลายๆ ทีเลยดีป้ะ ^_^”

“ง้อหรืออะไรของมึง ไม่เอาอ่ะ พรุ่งนี้มึงสอบ ทีเดียวก็พอ”

“นึกว่าจะไม่ให้ทำ”

“ฮ่าๆ ก็คิดถึงเหมือนกันนี่”

“^_^ น่ารักอีกแล้ว”

เห็นเมลอย่างนี้แล้วผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของใครหลายๆ คนที่อยากมาแทนที่ผม แต่ใครหลายๆ คนทำไมไม่เข้าใจสักทีล่ะว่า ยังไงผมก็ไม่มีวันยกเมลให้กับใครแน่นอน ^^

.
.
.

“เมลคะ เนสซื้อเค้กมาฝากค่ะ จำได้ว่าเมลชอบ”

ผมเบือนหน้าไปอีกทางเพื่อเบ้ปาก กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ก็ไม่รู้ว่านางโผล่มาจากไหน แต่กล้านะ เดินเข้ามาทักผู้ชายถึงโต๊ะที่ก็มีผู้ชายนั่งกันอยู่เกือบสิบคน แล้วนี่อุตส่าห์ถ่อมาจากคณะอักษรที่ห่างจากคณะผมตั้งแสนโยชน์ คงบอกได้ว่า ‘ตั้งใจ’ มาหานั่นล่ะ

“ขอบคุณครับ”

“นั่งด้วยได้มั้ยคะ”

“ไม่เห็นเหรอครับว่าแค่นี้ก็จะเบียดกันตกเก้าอี้อยู่แล้ว มีว่างอยู่บนโต๊ะ จะนั่งก็เชิญนะครับ”

ทั้งโต๊ะเงียบกริบเพราะประโยคเมื่อกี้ไม่ใช่เมลพูด แต่เป็นผมต่างหาก ผมก็ถามตามความจริงนะไม่ได้จะกระแนะกระแหนใคร เนสหน้าเสียไปเล็กน้อยแถมรอยยิ้มหวานหยดยังดูเจื่อนลง

“ว่างเหรอครับเนส ไม่มีสอบเหรอ”

“ก็มีอีกทีตอนบ่ายค่ะ ว่าจะมาหาข้าวกินก่อน”

“โอ้โห -_- แล้วมาไกลถึงนี่เลยนะครับ ผมว่ากินที่คณะตัวเองดีกว่านะ มาเสียเวลากินที่นี่ก็ไม่อิ่มหรอก แถมยังไกล”

“เท็น”

“อะไรเหรอ -O-;”

ผมทำหน้าซื่อหันกลับไปมองเมล มันทำแค่ส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมกับส่งสายตาปรามๆ มาให้

“เอ่อ...งั้นเนสไม่รบกวนแล้วนะคะ”

“ครับ เชิญ ว่าแต่เนสไม่รู้เหรอครับว่าตอนนี้เมลแพ้วานิลลา”

เมลหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถามว่ามันไปแพ้ตอนไหน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจจะตอบอะไรมัน

“จริงเหรอคะเมล”

“เอ่อ...จริงครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับที่มีน้ำใจ”

“อ่า...ค่ะ งั้นเนสขอตัวนะคะ”

เมื่อเนสเดินจากไปด้วยท่าทีรีบร้อนนิดๆ พวกเพื่อนๆ ที่ออกอาการใบ้แดกอยู่เมื่อครู่ก็พากันถอนหายใจ ก่อนไอ้เต๋อจะเปิดประเด็นร้อนขึ้นมาว่า

“มึงคิดว่าถ้าเมื่อกี้ไอ้เมลมันไม่ตอบว่าจริงจะเกิดอะไรขึ้น?”

“บึ้ม!” ไอ้ลินตอบพลางทำหน้าสยอง

“มึงต้องเข้าใจนะเหี้ยเท็นว่าพอข่าวที่มึงคบกับไอ้เมลกระจายออกไป สาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็อกหักรักคุดไปตามๆ กัน และที่รับไม่ได้สุดๆก็คงจะเป็นสาวแท้หรือแฟนคนแรกคนที่สองที่สามที่สี่ของไอ้เมลนั่นแหละ แล้วล่าสุดแฟนกูก็บอกว่าแพรร้องไห้ตาบวมอยู่สามสี่วันเมื่อรู้เรื่องนี้ เข้าใจป่ะ” ไอ้แต้มพูดขึ้นมา

แต่นี่เป็นความผิดของผมเหรอ? ก็ไม่ใช่ เรื่องกระจายข่าวคงเป็นไอ้ตะนอยนั่นแหละที่มันเอาไปเล่าไปลือกัน ส่วนเรื่องใครจะร้องไห้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับผม ผมไม่ได้ไปตบไปตีเขาซะหน่อย ทำไมต้องไปเห็นใจ มัวแต่ห่วงคนทั้งโลกผมก็ไม่มีวันมีความสุข คนที่ผมต้องห่วงคือเมลต่างหาก ในเมื่อเรายังมีความสุขกันดี ก็ไม่จำเป็นที่ต้องทะเลาะกันเพื่อให้คนอื่นมีความสุข

“เรื่องของกูมันไปหนักหัวใคร”

“อย่าเพิ่งหงุดหงิดน่า กูแค่ชี้แจงไง”

“ยุ่งวุ่นวายมากๆ กูสั่งเก็บแม่ง อยากให้เขารักก็ทำตัวดีๆ สิวะ มาแย่งหน้าด้านๆ แบบนี้เจอตีนกูก่อนเหอะ”

ผมทิ่มไส้กรอกในจานตัวเองแรงๆ ในขณะที่เมลยกมือขึ้นลูบหัว เหลือบมองก็เห็นมันยิ้มอยู่

-O- หล่ออ่ะ

“หงุดหงิดอีกแล้ว เอาน้ำแตงโมปั่นมั้ย เดี๋ยวไปซื้อให้”

“ไม่เอา อยากกินโกโก้ปั่น”

“ครับ”

เพื่อการนั้นเมลถึงได้ลุกออกจากโต๊ะไป ผมเลยต้องทนฟังไอ้พวกบ้านั่นคุยเรื่องหน้าอกผู้หญิงพร้อมกับกินไส้กรอกไปด้วย

“เออ เท็น แทงสนุ๊กป่ะเย็นนี้ กูนัดพวกไอ้เจนไว้”

“กินตังค์?”

“เยส”

“จัดไป”

“พรุ่งนี้สอบแล้วนะ พวกมึงยังจะเที่ยวกันอีกไง” ไอ้ฟิวที่นั่งเขี่ยข้าวอยู่ข้างไอ้มายด์อดไม่ได้ที่จะสอดขึ้นมา

“โอ้ยยยย วิชานี้กูอ่านยังไงก็ทำข้อสอบไม่ได้หรอก สู้หาอะไรคลายเครียดให้สมองปลอดโปร่งดีกว่าว่ะ” ไอ้เต่อตอบหน้าระรื่นเลยโดนไอ้ฟิวปาทิชชู่ใส่หัวมัน

“ว่าแต่พวกมึงมีใครเห็นไอ้กัสป่ะวะ ตั้งแต่สอบภาษาไทยเสร็จวันนั้นกูก็ไม่เห็นอีกเลย” ไอ้ลินถามขึ้น

“มันไปซุ่มอ่านหนังสือที่บ้านมันโน่น แม่มันเรียกตัวกลับ คงโดนบังคับไปดูตัวนั่นแหละ” ไอ้ฟิวเป็นคนตอบ

“โฮะ สมัยนี้ยังมีอยู่รึไง ไอ้การแต่งงานคลุมถุงชนเนี่ย”

“ถามไอ้เต๋อสิ เตี่ยมันก็จะจับแต่งงานกับลูกเจ้าของโรงสี” ไอ้เต้ให้คำตอบพลางยักคิ้วให้ไอ้เต๋อที่ทำหน้าลุกลี้ลุกลน

“จริงงงงงงงงงงงงงงเหรอวะ???” ไอ้เขต ไอ้แต้มและไอ้ลินประสานเสียงกัน เห็นไอ้เต๋อหน้าซีดแล้วกูสะใจ

“เชื่ออะไรไอ้เต้วะ” ไอ้เต๋อตอบไม่เต็มเสียง หน้าตาแม่งมีพิรุธมาก

“อ้าว ไม่ใช่มึงเหรอที่มาดี๊ด๊าบอกกับกูว่าจะได้แต่งงานกับน้องปลาบู่ทองที่แอบรักมาตั้งแต่เด็ก ลูกเจ้าของโรงสีเพื่อนเตี่ยมึงไง”
โห รักอมตะ รักนิรันดร รักมาตั้งแต่พ่อแม่สอนหัดเดิน ดูจากหน้าแล้วไอ้เต๋อไม่น่าจะมีมุมแอ๊บแบ๊วอย่างนี้นะ -_-

“น้องไม่ได้ชื่อปลาบู่ทองไอ้ควาย น้องชื่อโสน!”

“ว้า เรื่องจริงล่ะสิ ^^” ไอ้แต้มถามตาพราวระยับ

“เปลี่ยนชื่อเป็นพระวิจิตรจินดาดีมั้ยเหี้ยเต๋อ หึหึ” ไอ้เขตนัยน์ตาพราวไม่ต่างกัน

“ไอ้พวกเวรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรตะไลลลลลลลลลลลลล!!!”

แล้วไอ้เต๋อก็โดนล้อเรื่องนี้ไปประมาณครึ่งชั่วโมง เมลที่กลับมาพร้อมโกโก้ปั่นยังช่วยกันย่ำยีไอ้เต๋อด้วย แต่ผมบอกเลยว่าถ้ามีโอกาสก็จะเอามาล้อมันตลอดชีวิต ฮ่าๆๆๆ

“ยิ้มอะไรฐาปกรณ์” จะไม่ให้ถามได้ไง ก็แม่งมองหน้าผมแล้วยิ้มมาเป็นสิบนาทีแล้วเนี่ย

“ต้องมีเหตุผล?”

“แล้วไม่มีหรือไง”

“มี แต่ไม่บอก ^^”

“เออนะ จำไว้”

เมลก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า “ไว้บอกตอนที่อยู่กันสองคนนะ ไม่อยากให้ใครเห็นเท็นเขิน”

“ไอ้บ้า”

“หึหึ”

“ตลอดดดดด ตลอดเลยยยยยยยย ทำเหมือนโลกนี้มีกันอยู่สองคน เพื่อนนั่งกันอยู่เต็มโต๊ะ ไม่มีจะกลัวเพื่อนโดนมดกัดหรอกกกกก” ไอ้เต๋อเป็นบุคคลที่สมควรได้รับฝ่าตีนเป็นรางวัลจริงๆ พอหยุดแซวได้ไม่เท่าไหร่มันก็ซ่าทันที เมื่อกี้แม่งยังนั่งหูแดงใบ้แดกอยู่เลย -_-

“มึงอยากจะให้กูเรียกชื่อใหม่มึงจริงๆ ใช่ไหม หือออออ พระวิจิตรจินดา”

“พ่องงงงงงงงงงงงงงงง!”

“หึหึ”

“อย่าแกล้งมันเลยไอ้เท็น แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าเหี้ยนี่จะติดคุกอีกกี่ปี” ไอ้เต้ผู้รู้แจ้งเรื่องไอ้เต๋อบอกพลางทำหน้าเศร้าใจ ทุกๆ คนเลยตั้งใจรอฟังมันพูดต่อ แต่ไอ้ห่าเต้เสือกคว้าชาเย็นขึ้นดูดอย่างโคตรลีลา จนไอ้ลินที่อดรนทนต่อไปไม่ไหวต้องถามว่า

“ทำไมวะมึง”

“ก็น้องโสนอายุสิบหกเอง”

“ห้ะ!!!!! ไอ้เหี้ยพรากผู้เยาว์!!!” โดยไม่ได้นัดหมายไอ้เขตกับไอ้แม็คผสานเสียงกันขึ้นมาทันที ก่อนไอ้เต๋อจะตะโกนอย่างคับแค้นใจเรียกชื่อไอ้เต้ดังลั่นแถมยังหลุดปากเรื่องไม่ควรหลุดออกมาอีกต่างหาก

“ไอ้เหี้ยเต้ ไอ้ปากปีจอออออออออ ขอให้ไอ้แม็คไม่รักมึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!”

ขอปิดท้ายการเล่าด้วยหน้าอึ้งๆ ของชาวคณะและหน้าซีดเผือดของไอ้แม็คและไอ้เต้ล่ะครับ สวัสดี -_-

.................................................To be continue...................................................

รอนานมั้ยคะ ช่วงนี้ชีวิตๆ วุ่นๆ นิดหน่อยค่ะ กำลังจะเตรียมตัวทำงาน พรุ่งนี้ต้องไปตรวจสุขภาพอีก ตอนต่อไปอาจจะช้าหน่อย แต่จะมาแน่นอนค่ะ ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ ยังรักพวกคุณเสมอ  :กอด1:

เต้กับแม็คมีแววสีม่วงมาหลายตอนแล้วมีใครพอสังเกตได้บ้างคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ปล. เท็นเมลมาแบบสบายๆ เราไม่รีบร้อนกันนะคะ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 28-09-2013 16:12:51
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 28-09-2013 16:14:08
ตอนนี้อ่าสบายๆคลายเครียจดี
มาต่อไวนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 28-09-2013 16:19:18
เมล-เท็นทำเราเขินตลอดๆๆๆๆๆ


ชอบคู่นี้จัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 28-09-2013 16:23:36
คู่นี้น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-09-2013 16:25:21
คู่ใหม่ได้บังเกิดอีกแล้วสินะ
แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าเต๋อจริงๆ  ว่าแต่ติดคุกกี่ปีอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 28-09-2013 16:32:48
อรั๊ยยยย ชอบตอนนี้ ชอบเวลาเท็นหึงเมลอ๊ะ น่ารักกกกกกก
เข้าใจเมลเลย ไม่รู้จะทำไง 555555
คือบางทีก็ไม่เข้าใจผู้หญิงที่อยากจะแย่งผู้ชายที่มีแฟนเเป็นผู้ชาย ไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชบางเหรอ
อย่ายุ่งกับเมลเลย เพราะเท็นเขาไม่เหมือนชาวบ้านนะ 55555555555555555

ว่าแต่แม๊คกับเต้นี่ยังไง......ยังไง...... หึหึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 28-09-2013 16:51:09
แม็ก กะเต้ 5555555555 เอ้าแล้วเผาเต๋อมากๆๆๆโดนนนนนนนน 55555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 28-09-2013 17:14:10
หลุดที หลุดเป็นยวง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-09-2013 17:21:05
เท็นเมลน่ารักมากกกกกกก. รู้สึกจะเห็นฉากที่แม็คเต้หายไปด้วยกันตอนไปงานคืนดีของเท็นเมลนะ จำได้ฉากนี้อะ(มะรู้ถูกอะป่าวอิอิ) o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 28-09-2013 17:46:14
เมลอย่าพลาดนะ โดนเท้นจัดหนักแน่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-09-2013 18:32:02
เมล มีแฟนแล้วเรตติ้งไม่ตก ระวังตัวให้ดี
เท็นขี้หึงเหมือนกันนะ
หลุดมาอีกคู่ เรื่องนี้ต้องขยาย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 28-09-2013 19:39:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 28-09-2013 19:42:01
เมลนายเป็นผู้ชายที่น่ารักกับแฟนมากอ่า~ชอบบบบบบบบบ//เปิดตัวคู่ใหม่ แม็ค-เต้ จ้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-09-2013 20:36:20
โอ๊ยยยยยยยยยยย

ขำอะ

พระวิจิตรจินดาาาาาา  :laugh:

เมลเท็น สองคนนี้น่ารักเกินไปละนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 28-09-2013 21:14:47
เต้กับแม็คไปพลาดกันตอนไหนคะเนี่ย :hao6:

คู่ฟิวกับมายด์ยังไม่เคลียร์เลยนะคะนะ โอยยย ค้าง มาต่อไวๆนะคะ  :katai1:

อยากอ่านไม่ไหวแล้วววว มันสั้นไปปป :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 28-09-2013 21:23:12
ในที่สุดเหตุผลที่โดนแฟนเก่าตบแม็คก็เฉลย :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-09-2013 22:45:30
ติด จน โง หัวไม่ขึ้น

5555 รอจ้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 29-09-2013 01:20:49
เท็นขี้หวงอ่ะ น่ารักกกก  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 29-09-2013 02:44:36
 :hao6: เอ๊าโลกสีม่วงอีกคู่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 29-09-2013 03:43:44
"ผมหงุดหงิดและไม่ชอบใจเลยที่คนอื่นจะต้องมาบอกผมว่าแฟนตัวเองชอบไม่ชอบอะไร ไม่ใช่หน้าที่ของใครเลยนะที่จะเสือกเรื่องนี้" เออว่ะ คือเข้าใจอ่ะความรู้สึกนี้ แต่ก็หวังว่าเมลจะพลาดให้ชะนีน้อยทั้งหลาย ไม่งั้นเท็นคงสั่งเก็บแน่ทั้งผัวทั้งชู้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-09-2013 10:38:39
โดนกันไปทุกคน :laugh:
+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 30-09-2013 12:32:21
ขอบอกเลยว่า เต้กับแม็ค แย่งซีนสุด :z1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 30-09-2013 13:58:28
555 จัดตอนพิเศษเต้แม็กมาดีกว่านะคะ
ของเท็นมันเรียเรื่อยและ อย่าไปเลย คึคึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 30-09-2013 14:45:24
ไม่สังเกตคู่เต้-แม็คเลยอ่ะ
เพราะเท็น-เมลดึงความสนใจเราไปหมดเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 30-09-2013 16:17:55
ไม่ได้สนใจใครเลย สนใจแต่เมล  พ่อเทพบุตร พ่อชายในฝัน ของช้านนนน :กอด1: :กอด1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 30-09-2013 18:34:16
เต้ แม็ค อีกคู่  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 30-09-2013 19:42:48
อ๊ากกก แม็คกับเต้นายแอบมีซัมติงกันจิงๆด้วยยย   :impress2:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 01-10-2013 17:32:07
เท็นขี้หึงนะนี่ แต่น่ารักอะ เต้ แม็ค มีอะไรกันนนน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 04-10-2013 22:08:38
แจ้งให้ทราบนะคะว่าไม่ได้หายไปไหน พอดีทำงานค่ะ แล้วมากะทันหันมาก โน๊ตบุ๊กอยู่ที่บ้าน แต่พรุ่งนี้จะกลับไปเอาค่ะ  :mew4: เพราะบ้านไกลจาก กทม.มากเลยลำบากหน่อย  :m20: รอกันอีกหน่อยนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-10-2013 22:45:09
รอได้จ้า ขอแค่ไม่ทิ้งคนอ่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: wickedwoman ที่ 05-10-2013 17:11:44
อยากรีดร้องมากค่าาา :sad4:
เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงตั้งนาน สนุกมากกก อ่านรวดเดียวเลย มันหยุดไม่ได้
นายเอกแบบเท็นนี่ละที่เราต้องการ ติสไม่มีใครเกิน
เมลก็น่ารักมากเลย ชอบเวลา2คนนี้อยู่ด้วยกัน หวานกันไม่เกรงใจใครเลย :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-10-2013 19:56:20
หายไปหลายวันเลย มาต่อเร็วๆนะ คิดถึง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-10-2013 21:16:06
มาอ่านด้วยคนสนุกมาก

ชอบๆเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 05-10-2013 21:58:56
หายไปนานเลย คิดถึงเมลแล้วนะคะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 06-10-2013 08:17:35
แม็คกับเต้ไปมีซัมติงรองกันตอนไหนคะะะะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 07-10-2013 00:04:35
สวีทหวานไม่เกรงใจใคร
รักเมลกะเท็นมากมาย
ชอบตอนเท็นหึงอ่ะ แถมพอหึงแล้วเมลก็จะมาเอาใจ ฟิน คริๆๆ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 07-10-2013 20:58:49
สนุกมากเลยครับ อ่านบางทีมันเศร้า ยิ่งฟังเพลงเศร้าๆ ไปด้วยนี่อินมากๆเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ที่นำมาให้อ่านนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 07-10-2013 23:32:34
ยังรออยู่น๊า  :hao3: คิดถึงเมลจังเลยยย  :hao4:
อยากอ่านเมลหวานๆๆกับเท็นอีกง่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-10-2013 20:00:32
อ่าครับเมื่อไรจะมาครับ

รอๆๆอยู่น้าาาาา

คิดถึงเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-10-2013 20:41:36
แจ้งให้ทราบนะคะว่าไม่ได้หายไปไหน พอดีทำงานค่ะ แล้วมากะทันหันมาก โน๊ตบุ๊กอยู่ที่บ้าน แต่พรุ่งนี้จะกลับไปเอาค่ะ  :mew4: เพราะบ้านไกลจาก กทม.มากเลยลำบากหน่อย  :m20: รอกันอีกหน่อยนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ

เข้ามาส่องอีกวัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 09-10-2013 23:27:39
ตามมาอ่านนนนนน  :hao7:

เห็นเรื่องนี้นานแล้วนะ แต่เพิ่งอ่าน รวดเดียวจบค่าาาาาาาา

ไม่รู้จะเม้นอะไร แต่ชอบเท็นมากกก อวยค่ะอวย  :laugh:

ปล. :กอด1: :L2:
ปล2.เค้าไม่เอามาม่าแล้วนะ ทรมานนนนนน :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 11-10-2013 21:31:51
รออยู่น้าาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 12-10-2013 20:29:16
ช่วยด้วยยยย!!
เค้าคิดถึงเท็น.. มว๊ากก
เจ้าข้าเอ้ย..คนแต่งอยู่หนายยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 12-10-2013 21:50:16
หายไปนานเลย คิดถึงงงงง  :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-10-2013 21:31:39
ตอนที่ 27

“สอบเสร็จไปไหนดีวะ” ไอ้เต๋อเปิดประเด็นเมื่อทุกคนมานั่งเกือบครบองค์ในร้านพี่เจ๋งที่เวลานี้แน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ผมไม่คุ้นหน้าสักคนเพราะไม่นิยมจำหน้าใคร ผมจำได้เฉพาะคนที่ผมสนใจเท่านั้น เลยลำบากตอนที่เขาเข้ามาทักนี่แหละ -_-

“มึงไม่คิดจะให้เพื่อนกลับไปหาพ่อหาแม่บ้างรึไง คิดแต่หาที่เที่ยวตลอด” ไอ้ฟิวบ่นขึ้นมา ปกติไอ้นี่ก็ไม่เที่ยวหรอกครับ แต่พักหลังๆ ติดรถออกมากับไอ้มายด์ตลอด

“นั่นสิไอ้เต๋อ อย่าเพิ่งจัดทริปเลยว่ะ พ่อกูเรียกกลับบ้าน เห็นบอกว่าปิดเทอมนี้ไม่กลับจะให้กูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลคนสวนที่บ้านแล้ว” ไอ้คิมทำหน้าเซ็ง ครอบครัวมันอยู่เชียงใหม่แต่โดนพ่อเตะโด่งมาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มัธยม เหตุเพราะคุณปู่ระดับเจ้าสัวเจ้าของภัตตาคารที่ถึงจะไม่ชอบหน้าแม่มันและไม่ยอมรับการแต่งงาน แต่ก็ยังรักหลานที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล พ่อมันเลยส่งมาเป็นตัวแทนรับมรดกล่ะมั้งครับ ฮ่าๆๆ

“เออๆ เอาไว้ปิดเทอมใหญ่ก็ได้เว้ย” ไอ้เต๋อทำหน้าเซ็งอีกคน สงสัยมันขี้เกียจช่วยงานโรงน้ำแข็งของเตี่ยมันถึงได้หาเรื่องเที่ยว -_-

“วันนี้ไอ้กัสก็ไม่มาอีกแล้วไงวะ” ไอ้ลินถามขึ้น

“เห็นออกจากห้องสอบก็ขึ้นรถของที่บ้านกลับไปเลย กูว่าชีวิตมันชักหนักละ แล้วนี่ไอ้เต้หายหัวไปไหนอีกคน” ไอ้คิมตอบก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาไอ้เต้

ผมเหลือบมองไปทางไอ้แม็คก็เห็นมันนั่งเงียบเป็นบื้อมานานสองนานแล้ว เออนะ ปีชงของชีวิตรึไงนะพวกผม -_-

“นั่งเงียบเลย เหนื่อยเหรอ” เสียงทุ้มของเมลดังขึ้นข้างๆ ผมเลยเอนหัวไปพิงไหล่มัน

“คิดไรไปเรื่อยเปื่อย”

“มึงบอกปิดเทอมอยากไปเชียงใหม่?”

“อือ”

“วันเสาร์นี้เลยมั้ย”

ผมเกือบจะตอบตกลงกลับไป แต่ก็คิดเรื่องที่น่าตกใจขึ้นมาได้ฉับพลัน พูดถึงพ่อแม่...ผมไม่เคยรู้จักครอบครัวเมลเลย ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของมันเป็นใคร มีชีวิตครอบครัวแบบไหน ญาติพี่น้องมีบ้างมั้ย หรือแม้แต่บ้านมันอยู่ที่ไหน...ผมไม่รู้เลย และไม่เคยถามด้วย
มันแปลกมั้ยนะ...สำหรับคนที่เป็นแฟนกัน

“มึงไม่กลับบ้านเหรอ”

ผมเห็นเมลชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา

“ครั้งแรกเลยนะที่ถาม”

“ไม่ได้ลืมนะ จริงๆ แค่คิดไม่ถึง”

“ไม่เป็นไรน่า กูก็ไม่เคยพูดถึงด้วย ว่าแต่เอาไง ทริปเชียงใหม่เนี่ย”

“ยังไม่ไปดีกว่า ให้มึงกลับบ้านก่อน”

“เอ้า ทำไมอ่ะ”

“ก็อยู่แต่กับกู เดี๋ยวมึงเบื่อ กลับไปอยู่กับพ่อแม่บ้างดิ”

“เอางั้นเหรอ...จะไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

“ทำไมอ่ะ บ้านมึงอยู่ไกลเหรอ”

“ก็นะ...”

คำตอบแบบนี้มันหมายถึงอะไร? ผมเห็นความกังวลบนใบหน้าหล่อๆ นั่นเพียงเล็กน้อย แต่พอรู้ว่าผมมองอยู่มันก็ยิ้มหวานมาให้ทันที

“กูอยู่กับมึงก่อน ไว้ก่อนเปิดเทอมสองสามวันค่อยไป”

ถึงผมจะสงสัย แต่ถ้าถามไปเมลคงไม่บอก เรื่องครอบครัวคงเป็นเรื่องเดียวที่เมลไม่อยากพูดถึง เพราะมันไม่เคยปิดผมสักเรื่องจริงๆ ตั้งแต่คบกันมา ผมเลยไม่อยากเซ้าซี้อะไร

คิดๆ ไปก็ไม่เคยเห็นเมลคุยโทรศัพท์กับพ่อหรือแม่ของมันเลย แล้วเรื่องที่ลูกชายคบกับผู้ชายด้วยกันนี่...พวกเขารู้หรือยังนะ

“คุยไรกันสองคน หน้าเครียดเชียวพวกมึง” เป็นครั้งแรกที่ผมไม่หงุดหงิดกับความเสือกของไอ้เต๋อ เพราะเสียงของมันทำให้ตัวตนของเมลกลับมาอยู่ข้างๆ ผมอีกครั้ง เมลคงไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน

“ก็คุยเรื่องที่มึงพาเด็กสิบหกไปนั่งแดกไอติมที่ห้างเมื่อวันก่อน บอกตรงๆ นะเหี้ยเต๋อ เหมือนไอ้เฒ่าหัวงูเลยว่ะ แถมโรคจิตด้วย ^^”

จบประโยคของผมก็ต่อด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของชาวคณะและเสียงด่าของไอ้เต๋อที่ดังแข่งเสียงเพลง

“เฮ้ย กูกลับนะ พาเด็กไปนอนก่อน” ผมบอกก่อนจะดึงแขนเมลให้ลุกขึ้นตาม มันทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ขัดอะไร พวกห่านั่นแค่สะบัดมือไล่เป็นเชิงว่าจะไปไหนก็ไปอย่างโคตรกวนตีน

“จะกลับแล้ว?” เมลถามเมื่อเดินมาถึงรถ

“เปล่า ไปหาอะไรอย่างอื่นกินดีกว่าว่ะ”

“กินไร? กินตับป้ะ ^^”

“ทะลึ่งละมึง”

“หึหึ เขินอ่ะดิ”

“เปล่า อายแทนต่างหาก แม่งกล้าพูด”

“เหรออออออออ”

แค่มึงอารมณ์ดีขึ้นมากูก็ไม่ต้องการอะไรละ ^^

“ไอ้บ้า ขึ้นรถได้ละ ชักช้า”

“เร็วตลอด”

“พูดคนละเรื่องป่ะเนี่ย”

“มั้ง”

“กวนตีนว่ะเมล ไปๆ”

“^^”

ดูมัน มึงอารมณ์ดีไปป่ะเนี่ย -_-

แต่พอขึ้นรถมาได้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน ดีหน่อยที่ขับออกมาแล้วติดไฟแดงถึงได้มีเวลาคิดกัน จนสรุปแล้วว่าไปหานมกินดีกว่า ร้านนมหลังมอคงยังเปิดอยู่เพราะนี่ก็ยังไม่ดึกมาก

“นั่นไอ้เต้” เมลบอกพลางชี้ให้ผมดูผู้ชายที่นั่งเล่นไอโฟนอยู่ที่โต๊ะในสุดของร้าน

“โฮะ มันเป็นเด็กดีตั้งแต่เมื่อไหร่”

“คงตั้งแต่ไอ้เต๋อหลุดปากล่ะมั้ง”

“เออว่ะ”

ความจริงหลังจากวันนั้นไอ้เต้ก็หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกผม ถ้าไอ้แม็คอยู่ไอ้เต้จะหาย ถ้าไอ้แม็คหายไอ้เต้ก็หายเหมือนกัน (พูดทำไม?) แล้วนี่มันคงคิดว่ามานั่งร้านนมจะไม่เจอพวกผมสินะครับ แหม โชคร้ายหน่อยล่ะนะที่คืนนี้อารมณ์อยากกินนมมันดันพุ่งขึ้นมา

“ไงมึง” ผมเดินเข้าไปทักในขณะที่เมลไปสั่งนมที่เคาท์เตอร์

“อ้าว...เออ เป็นไงวะมึง ไม่คิดว่าจะเจอ”

“อะฮะ”

ผมตอบแค่นั้นก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามมัน ไอ้เต้ดูอึดอัดเล็กน้อยแต่ผมไม่ได้สนใจ

“เอ้อ...มึงไม่กินเหล้าเหรอวะวันนี้ ไอ้เต๋อนัดไม่ใช่เหรอ”

“กูไปมาแล้ว แล้วมึงล่ะ”

“กูติดธุระ”

“แดกนม?”

“คือ...”

ผมเบือนหน้ามองออกไปนอกร้านอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ใช่เรื่องของผมที่จะถามว่าหลังจากคำว่า ‘คือ’ มันต้องการพูดอะไร ผมไม่ชอบบังคับให้ใครพูด เพราะสิ่งที่ได้ยินอาจจะเป็นเรื่องโกหก

“ไงไอ้เต้ เมื่อกี้ไอ้คิมยังบ่นถึงมึง” เมลกลับมาพร้อมนมร้อนสองแก้วกับขนมปังอีกหลายแผ่น

“เหรอวะ” หน้าไอ้เต้ตอนถามนี่แม่งเอ๋อได้ใจจริงๆ

“มึงเป็นไรวะ หลบหน้าหลบตาพวกกู”

“ไม่ได้หลบ แค่กูไม่ว่าง”

ผมเห็นเมลยักไหล่แล้วบทสนทนาก็จบลงแค่นั้น ไอ้เต้ทำหน้าอึดอัดใจมากขึ้นไปอีก

“คือ...เอ้อ...ไอ้แม็คเป็นไงมั่งวะ”

“ก็ไม่เป็นไง มันสบายดี” ผมตอบก่อนจะรับขนมปังที่เมลป้อนให้เข้าปาก

“ไม่ได้เจอกันเหรอพวกมึงน่ะ” เมลถามต่อ

“ก็ไม่นะ...”

“ทำไมวะ มึงหลบหน้ามัน?” ผมเลิกคิ้วมองไอ้เต้ สำรวจหน้าตามันดีๆ แล้วแม่งโทรมยิ่งกว่าผีดิบ

“กูยังไม่พร้อม”

“ไม่พร้อมอะไร?”

“ไม่พร้อมจะคุย”

“ยากอะไรแค่คุย”

“ก็กู...”

“มึง?”

“อย่ากดดันกูสิวะ”

“อ้าว กูทำงั้นเหรอวะเมล”

“เท็น ไม่เอาน่า”

ผมยักไหล่แล้วก็ซดนมของตัวเองต่อไป

“กูไม่แน่ใจ คือ...กูอาจจะไม่ได้รักไอ้แม็คก็ได้ จริงมั้ยวะ อาจจะแค่สนิทแล้วรู้สึกแบบว่าผูกพันธ์ ขาดไม่ได้ กูเลยอยากลองห่างๆ มันดู”

ผมมองสำรวจไอ้เต้อยู่สักพัก ก่อนความรู้สึกที่อยากถีบหน้ามันจะแล่นขึ้นมาจนจุก เมลเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรมันเลยยื่นมือมากุมไว้พลางส่ายหน้าเล็กน้อย

“ไปเถอะว่ะเมล ยิ่งฟังแม่งยิ่งไร้สาระ”

“เท็น”

“ไปรอที่รถนะ”

ผมเดินออกจากร้านมา เมลไม่ได้ตามมาทันที คงอยู่คุยอะไรกับไอ้เต้ แต่ไม่นานมันก็เดินหล่อออกมาพร้อมกับเดินเข้ามาผลักหัวผม

“มึงหงุดหงิดอะไร”

“กูแค่หมั่นไส้มัน”

“เพราะมันเคยทำอย่างที่มึงทำน่ะเหรอ”

“กูใจร้ายก็จริงแต่กูไม่เคยโกหกตัวเองว่าไม่รักมึงซะหน่อย”

“พูดดี”

“หึหึ เถียงไม่ได้ เรื่องจริง”

“ครับๆ กลับได้ละ เดี๋ยวคืนนี้จัดเต็มให้”

“อะไรๆ ใครขอ”

“ไม่?”

“เดี๋ยวเมลจะโดน”

“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะโดน หึหึ”

เมลแม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ทำหน้าหื่นยังหล่อเลย T_T ชักหนักไปละผมเนี่ย

.
.
.

“เป็นไรของมึง” หลังจากเงียบอยู่เกือบชั่วโมงเต็มผมเลยเห็นสมควรว่าต้องถามเสียหน่อย ไอ้แม็คที่โทรมาปลุกผมตั้งแต่ตีห้ากำลังนั่งหน้าซึมอยู่บนโซฟาอีกตัว

“ไม่อยากอยู่คนเดียว”

“เลยมาเป็น กขค ของกูกับไอ้เมลนี่นะ ไอ้ห่า จะจัดรอบเช้ากันสักหน่อยแม่งเสือก เออๆ ไม่ต้องมาทำหน้าตุ๊ดร้องไห้ใส่กู พูดความจริงก็รับไม่ได้ มนุษย์โลกนี่ชักแปลก”

“บ่นอะไรแต่เช้า เอ้า กินนี่ก่อนมึง ได้นอนมั่งป่ะเนี่ย” เมลโผล่ออกจากครัวมาพร้อมกับโจ๊กร้อนๆ สามถ้วย ปกติเมลไม่ชอบให้เอาอะไรมากินที่โซฟามันนะ แต่ตอนนี้คงกรณียกเว้นเพราะไอ้แม็คเหมือนคนที่แทบไม่มีแรงหายใจ

“ยังไม่ได้นอน”

“งั้นกินนี่เสร็จก็ไปนอน นอนซะหน่อย ให้สมองได้พักผ่อน จากนั้นจะเอายังไงค่อยว่ากัน”

ไอ้แม็คทำหน้าซาบซึ้งใส่เมลก่อนจะจัดการกินโจ๊กเข้าไปทีละคำ ผมเห็นรอยคล้ำใต้ตาบวมๆ ของมันแล้วก็ว่าอะไรต่อไม่ลง

“มึงมาไง”

“bts”

“bts บ้านมึงให้ขึ้นตอนตีห้าไง?”

“ทำไมต้องด่ากู T_T”

“นี่กูด่า?”

“เท็นเท็น”

ผมยักไหล่พลางยกแข้งขึ้นพาดขาเมล มันตีขาผมทีหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนไอ้แม็คแค่มองมาเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ากินโจ๊กในชามของมัน แอบเห็นน้ำตาร่วงใส่ชามด้วย ซึ่งผมก็ทำเป็นไม่เห็นไป

“พวกมึงเจอไอ้เต้บ้างป่ะวะ” ไอ้แม็คถามทั้งๆ ที่ยังก้มหน้า

“เจอ” ผมตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะขยายความไปเพื่ออะไร ไม่ใช่เพราะเห็นหน้าอยากรู้อยากเห็นของไอ้แม็คเลยอยากแกล้งมันหรอกนะ ^^

“เจอแล้วยังไงวะ?”

“ก็แค่เจอ จะให้แล้วยังไงวะ?”

“ไอ้เท็น”

“เค้าพูดไรผิดเหรอที่รัก” ผมหันไปถามเมลที่กำลังดูข่าวรอบเช้า สุดหล่อของผมเลยทำหน้าเอือมใส่ผมเล็กน้อยก่อนมือเรียวยาวขาวๆ ของมันจะผลักหัวผมสองทีติด

“ทำตัวดีๆ เท็นเท็น”

ผมแลบลิ้นใส่ก่อนจะรีบเอามือบังไว้เมื่อเมลทำท่าจะเข้ามากัด ไอ้แม็คกระแอมไอเสียงดังแต่ผมไม่สนใจ พอมันทำอีกคราวนี้แม่งสำลักจริงๆ เดือดร้อนเมลต้องรีบไปหาน้ำมาให้มันอีก -_-

ไอ้เต้อยู่ไหนวะ มาเอาเมียมันกลับไปทีเถอะ ไอ้ตุ๊ดนั่นก็เหลือเกิน จะมาไม่รู้ใจตัวเองทำหอกหักอะไรตอนนี้ครับ -*-

“เท็น มึงว่ากูไปหามันที่บ้านดีป่ะวะ” หลังจากที่ไอจนหน้าดำหน้าแดงเสร็จแล้ว ไอ้แม็คก็ถามเรื่องที่ผมคิดว่ามันอยากจะพูดออกมามากที่สุด

บางทีคนเราก็ต้องการแรงสนับสนุนในเรื่องที่อยากทำแต่ก็ยังลังเลล่ะมั้งครับ

“ไปหาทำไม?” แต่บังเอิญไอ้แม็คมาขอผิดคน

“ก็...”

“อยากเจอ? อยากคุย? อยากเคลียร์?”

“ไม่รู้”

“ไม่รู้แล้วจะไปเพื่อ?”

“แต่กูอยู่ไม่ได้”

“แล้วไอ้คนที่อยู่คุยกับกูนี่มันใครวะ”

“มึงไม่เข้าใจเท็น”

“ไม่เคยบอกว่าเข้าใจ”

“มึง...”

“กู?”

“ไอ้เพื่อนเวร ฮึก! ฮืออออออ มึงกวนตีน”

จู่ๆ ไอ้แม็คก็ร้องไห้ เอ่อ...ร้องไห้เลยนะ ร้องแบบเด็กที่เถียงไม่ได้เลยร้องไห้แม่ง -*- เมลทำหน้าอึ้งเล็กน้อย แถมยังทำหน้าไม่ถูกด้วย มันเลยจ้องเขม็งที่หน้าจอทีวีอย่างเดียว

“หน้ากูเหมือนไอ้เต้เหรอ มองหน้ากูแล้วร้องไห้ เพื่อไรครับประชาชน”

“ไอ้บ้า”

ไอ้แม็คแหกปากเสียงดังขึ้นไปอีก คือ กูพูดจริงๆ นะ ไม่คิดว่าจะเห็นมึงในโมเม้นนี้ -_-

“บางทีมึงแม่งก็ตุ๊ด แอ๊บแบ๊วเหมือนไอ้ฟิว”

“เท็น เพื่อนมันร้องไห้จะไปพูดให้ยิ่งร้องทำไม” เมลคงทนไม่ไหว มันปิดทีวีแล้วก็รีบหากล่องทิชชู่ยื่นให้ไอ้แม็ค

“ถามมันสิว่าร้องเพราะอะไร เพราะกูหรือเพราะคนอื่น หึหึ”

เมลส่ายหน้า ตีขาผมไปหนึ่งทีก่อนจะบอกให้ไอ้แม็คไปนอน ไอ้ผู้ชายเจ้าน้ำตานั่นก็เชื่อฟังแต่โดยดี แต่ก่อนไปมันขว้างหมอนอิงโซฟาใส่หน้าผมด้วย -*-

“ชอบแกล้งเพื่อน” เมลว่าเมื่อไอ้แม็คหายไปนอนที่ห้องนอนแขกแล้ว

“ไม่ได้แกล้ง”

“เออนะ ไม่แกล้ง แต่พูดจนมันร้องไห้นี่เรียกว่าอะไร”

“เรียกว่าช่วยต่างหาก”

“ช่วยยังไง”

“ช่วยให้ร้องไห้ไง ^^”

“จะกวนตีนกูอีกคนใช่มั้ยเนี่ย”

“ถ้าใช่?”

“เดี๋ยวจะโดน”

“ฮ่าๆๆ เอาดิ”

“แถวบ้านเรียกทอดสะพาน”

“งั้นจะไม่ข้ามเหรอ ^^”

“ข้ามสิครับ หึหึ”

ความสุข...บางทีก็เกิดขึ้นง่ายๆ เพียงเพราะใครอีกคนส่งยิ้มมาให้นะครับ ผมเชื่ออย่างนั้น ^_^

......................................................To be continue.............................................

ก่อนอื่นเลย ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ค่ะ หน้าจอมืดค่ะ เพิ่งไปแบกหน้าจอมาจากพันธุ์ทิพย์ โคตรหนัก T_T เอามาต่อโน๊ตบุ๊ค จะเปลี่ยนหน้าจอโน๊ตก็ไม่มีปัญญา เลยว่าซื้อจอแยกดีกว่า แหะๆ

ตอนนี้ก็ยังงงงงงงงงงงงเรื่อยๆ เหมือนเดิมนะคะ อาจจะไม่สมกับที่รอคอยแต่ก็ นะะะะะะะะะะะะะะะ

ขอบคุณทุกคนที่ยังรอค่ะ  o13

ปล. เต้แม็ค โมเม้นเล็กๆ จากตอนอื่นๆ ก็อย่างเช่นตอนช่วงแรกๆ ตอนที่ 2 ที่เท็นบอกว่าเต้แม็คเป็นคู่หูกัน คือบ้านสองนางนี่อยู่ใกล้กันค่ะ ฮ่าๆๆ มีตอนที่เท่าไหร่หว่า วันเกิดของแฟนน้องเจภาควัสดุที่เต้หายไปกับผู้หญิงไงคะ :) คู่นี้ไม่ใช่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นนะเอออออ อิอิ  :hao7:

สุดท้ายนี้  :กอด1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 14-10-2013 21:50:11
มาต่อแล้ววว :hao5:
เท็นไปแกล้งเพื่อนทำไมอ่ะ ดูดิร้องไห้ใหญ่เลย 55555
เอาจริงๆตอนแรกเรานึกว่าเต้เป็นเคะ กลับกันซะงั้น :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-10-2013 21:52:54
กลับมาอัพแล้ววววววววว ดีใจดีใจ
เท็นกระตุ้นเพื่อนจนร้องไห้เลย
สมเป็นเท็น ตรงๆ

เมลกับทางบ้านเป็นยังไงเหรอ
เมลถึงไม่ค่อยเอ่ยถึง เท็นเป็นห่วงเมลเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-10-2013 21:56:11
เมล-เท็น น่ารักๆๆๆๆๆๆ เลิฟๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 14-10-2013 21:56:36
มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววว  :hao5: :hao5:

ชอบอ่ะ ชอบที่มันเรื่อยๆแบบนี้แหละ

ชอบเมลเท็นจังเลยอ่ะ เท็นน่ารักมากถึงมากที่สุด โอ๊ยยยยยยยยยยยย ชอบเวลาเมลไม่ยอมใครแต่ยอมให้เท็นคนเดียว น่ารักๆๆๆ

เมลนี่ก็หล่อเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

ปล. ให้คนแต่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 14-10-2013 22:32:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 14-10-2013 22:48:02
เต้-แม็ค เค้าไม่เคยสังเกตเลยอ่ะ  :ling1:
เพิ่งจะมารู้สึกตอนนี้ว่าเท็นกวนแล้วก็ขี้แกล้งจริงๆ
แอบสงสารแม็คนิดๆ ถ้าเต้มันอยากจะห่างก็ให้มันห่างซะให้พอเลย

เมลมีปัญหากับครอบครัวเหรอ ถึงไม่เคยเอ่ยถึงเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 14-10-2013 23:19:43
กรี๊ดๆๆ มาต่อแล้ว ดีใจมากค่า
เมลเท็นน่ารักเหมือนเดิม ฮริ๊ววววววววววว
แม๊คน่าสงสารอ่ะ ;_; ถ้าเต้ยังเป็นแบบนี้ แม๊คหาใหม่เหอะ 555555

คนเขียนสู้ๆค่าาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 14-10-2013 23:25:05
บรรทัดสุดท้ายคือความจริง
แค่รอยยิ้มของเธอที่ส่งมา ฉันก็ไม่ต้องกินข้าวอีกแล้ว


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 14-10-2013 23:38:48
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 15-10-2013 00:08:17
บางทีก็รู้สึกเห็นใจเพื่อนๆ เท็นนะ 555555555555555

แต่เราอวยเท็น ถึงจะกวนยังไงก็รักค่ะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 15-10-2013 00:33:39
เท็นกวนมากอ่ะ - -"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-10-2013 01:11:34
สงสารพวกนั้นจัง
มีเพื่อนอย่างเท็น

 :laugh:

โธ้วววว

แม็คเถียงสู้ไม่ได้ ร้องไห้ใส่แม่งเลย
นั่นก็ไม่ได้สนใจเพื่อนเล้ยยย
อ่อยแต่เมลเนี่ย

 :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 15-10-2013 04:11:38
สู้ๆนะ แม๊ค
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 15-10-2013 05:45:22
เท็นมีพฤติกรรมการปลอบ(??) เหมือนเพื่อนเราคนหนึ่งเลยค่ะ แบบนี้เลยอยากตบมันมากเวลาโดนปลอบ  :z3:

หวานไม่เกรงใจกันเหลือเกินค่ะพ่อคู๊ณณณ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 15-10-2013 06:27:05
เท็นเท็นเราสงสารเพื่อนนายเลยว่ะ 'ก็แกล้งให้ร้องไง' ฮ่าๆๆบางทีนายก็หื่นนะเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-10-2013 07:06:09
เป็นแฟนเท็นต้องทำใจแล้ว เป็นเพื่อนเท็นก็ต้องทำใจเหมือนกันนะเนี่ย :m20:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-10-2013 07:46:08
ปวดตับเลยประชาชนเจอเท็นเท็นเนี่ย
สงสารแม็คว่ะ  มาหาคนผิดคนแล้วลูกเอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 15-10-2013 07:49:43
ดีใจจังมาต่อแล้ว :hao7:
ตอนนี้เมลสุดที่รัก(ของเท็น)มีบทแค่ตัวประกอบเองอ่ะ :mew2:
ยังไม่หายคิดถึงเลย

อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงคำว่า "เป็นแฟน(เพื่อน)พี่ต้องอดทน"เลยอ่ะ
เท็นแบบว่า กวนมากอ่ะ แต่ก็เข้าใจนะ คนตรงๆอย่างเท็น ก็พูดอะไรตรงๆอย่างที่คิด
และรู้สึกว่าการอ้อมไปอ้อมมาของเพื่อนมันไร้สาระและเสียเวลามากๆ
แต่นี่แหละคือมนุษย์ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ซื่อตรง แม้กระทั่งกับใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 15-10-2013 07:53:43
เท็นตรงเกิน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 15-10-2013 11:28:35
อ่านตอนนี้ แล้วอุทานในใจเบาๆ ว่า "แม่ง!!!! เท็นขี้แกล้งว่ะ แถมกวนตีนเป็นอย่างยิ่ง" 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 15-10-2013 14:25:49
เท็นเท็นแกล้งเพื่อนอ่ะ  :laugh:
หวังว่าคู่นั้นจะเคลียร์กันได้เร็วๆนี้นะ  :hao5:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 15-10-2013 14:54:02
น่าสงสารแม็คเลยตอนนี้

แต่พอเจอพี่เท็นของเราเข้าไป

ทำไมกลายเป็นฮาไปได้ฟร่ะ

เท็นโคตรกวนอวัยวะเบื้องล่างเลยอ่ะ

แต่ชอบ เชียร์ให้เต้รู้ใจตัวเองเร็วๆ

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-10-2013 21:53:21
ว้าวๆๆๆ มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-10-2013 17:13:48
ตอนที่ 28


“เหี้ยเท็น ส่งๆๆๆ ไอ้เต้ว่างอยู่ แฮ่กๆๆๆ ไอ้คิม วิ่งขึ้นหน้าไปเลย”

เสียงไอ้เต๋อดังโหวกเหวกมาทางด้านหลัง ผมจัดไปตามคำขอของมัน ก่อนจะนึกสมเพชมันในใจ ที่เหนื่อยไม่ใช่เพราะแม่งวิ่งหรอกครับ เพราะมันเอาแต่ตะโกนสั่งคนอื่นนี่แหละ แม่งงงงง ไม่ผันตัวเองไปเป็นโค้ชซะเลยวะ

“เก๋าไงมึง เก๋าไง” ผมถามพลางยักคิ้วส่งไปให้กองหน้าของฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะโดนอีกฝ่ายยักคิ้วตอบกลับมาอย่างกวนตีน

“ก็พอตัว หึหึ”

“ไปสกัดคนอื่นบ้างสิวะ แม่งงงง พุ่งมาที่กูคนเดียวอยู่ได้ คิดจะขวางกูไปถึงไหนไอ้สัด”

“ก็กัปตันทีมกูบอกว่ามีแต่กูที่เอามึงอยู่”

“กัปตันมึงไม่มีสมองเหอะ”

“ก็ไม่รู้สินะ”

มึงจะไม่รู้ได้ไงไอ้ควาย ก็มึงนั่นแหละที่เป็นกัปตัน กูล่ะเพลียจริงๆ -_-

“เหี้ยเท็นนนนนน!! จีบกันอยู่นั่นแหละพวกมึง วิ่งหน่อยโว้ยยย วิ่งหน่อยยยยยยยยยยย”

ผมอยากจะหันไปว๊ากใส่ไอ้เต๋ออยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าโดนกัปตันทีมฝ่ายตรงข้ามล็อคคอไว้นะ ไอ้เต๋อมึงได้เจอกู!

“เย็นนี้กินไร”

“ไอ้พวกนั้นชวนไปกิน hotpot อ่ะ เห็นว่ามีบัตรส่วนลด”

“อือ”

“พวกมึงสองคนจะเล่นมั้ยห้ะะะะะะะะะะะะ!!”

คราวนี้ทั้งไอ้ลินกับไอ้เต๋อตะโกนขึ้นพร้อมกัน เมลเลยปล่อยผมแล้วหันไปชูนิ้วกลางให้ไอ้บ้าสองตัวนั่น ก่อนจะหันมาผลักหัวผมหนึ่งที ไม่พอยังขยี้ซ้ำอีก

โมเม้นนี่น่ารักไปป่ะมึง -*-

“พอๆ พักก่อนเว้ย” ไอ้แต้มที่หอบหน้าดำหน้าแดงตะโกนบอกทุกคน แล้วมันก็วิ่งไปข้างสนามเป็นคนแรก

วันนี้พวกผมยกโขยงกันมาเตะบอลกันที่สนามกีฬาแห่งชาติ เหตุผลพิเศษสำหรับผมน่ะไม่มีหรอกครับ แต่สำหรับไอ้เต๋อน่ะสิมี ไอ้เฒ่าหัวงูนี่มันมาเฝ้าว่าที่สะใภ้ของเตี่ยมันซ้อมลีด เลยหาเรื่องชวนพวกผมมาเตะบอลอุ่นเครื่องก่อนกีฬาภายในที่จะจัดขึ้นตอนต้นเทอมสองจะมาถึง

ความจริงก็ต้องซ้อมแหละครับเพราะเชอร์รี่มันบอกว่าอุตส่าห์เอาเรื่องเข้าที่ประชุมให้แล้วก็อยากให้พวกผมตั้งใจเล่นกันหน่อย เพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ภาควิชา พวกภาคไฟมันบอกว่าจะมาขอแจมด้วย ไอ้เต๋อเลยได้ทีโทรหาลูกทีมคนนั้นคนนี้ให้มารวมตัวกัน โชคดีที่ปิดเทอมสัปดาห์แรกยังไม่มีใครกลับบ้าน ไม่งั้นล่ะก็แป้กแน่ล่ะงานนี้ ไอ้เต๋อก็จะอดโชว์พาวต่อหน้าน้องโสนของมันด้วย

“เหี้ยเมลแอบไปเล่นหนังเล่นละครหรือถ่ายแบบมาป่ะวะ ทำไมเด็กแม่งกรี๊ดมึงกันจังเลย” ไอ้คิมส่งสายตาขี้อิจฉามาให้ไอ้หล่อที่นั่งดื่มน้ำข้างๆ ผม

“กูหล่อ” ครับ เป็นคำตอบสั้นๆ ที่ได้ใจความมาก และมันก็ได้ขวดเปล่าอีกสามสี่ขวดโยนมาใส่หัวจากเพื่อนๆ ของมันเหมือนกัน

สมควรว่ะมึง -*-

“ดูแฟนกู ทำหน้าสะใจซะจริงจังเลยนะมึง” มันคงอยากได้ขวดเปล่าจากผมอีกขวด

“มึงมันน่าหมั่นไส้”

“ไม่ชอบให้ใครมองกูล่ะสิ”

“กวนตีนว่ะเมล เดี๋ยวกูทิ่มตาบอด”

“อยากมีผัวพิการไง”

“ก็ดีนะ กูจะได้มีชู้โดยที่มึงไม่รู้ได้”

“เดี๋ยวมีเฮนะครับคุณ”

“โอ้ยยยย เจ็บนะ”

เดี๋ยวนี้เมลมันชอบดึงแก้ม บางทีก็ดึงจนยืด แล้วมันไม่ดึงเบาๆ แบบหยอกเล่นด้วยนะครับ ไอ้บ้านี่ดึงจริงเจ็บจริงอ่ะ -*-

“เอ่อ...พี่คะ” เสียงเล็กๆ ใสๆ ดังขึ้น ผมหันไปมองก็เห็นเด็กผู้หญิงถักเปียสองข้างยืนอยู่ใกล้ๆ ไอ้เต๋อที่นั่งอยู่ห่างจากผมไม่มากนัก

อาจจะเพราะพวกผมเงียบเพื่อรอให้น้องพูด น้องเลยเหมือนยิ่งกดดันแถมยังหน้าแดงก่ำราวกับเลือดไปกองกันอยู่ที่หน้า น้ำแร่ขวดใหญ่ในมือก็ถูกบีบจนแน่น

“เอ่อ...ขิงเอาน้ำมาให้พี่เมลค่ะ”

“โว้วววววววววววววววววว หวยออก!”

เสียงตะโกนของไอ้แต้มทำให้น้องขิงสะดุ้งกับความเถื่อนของมัน น้องขยับถอยหลังเล็กน้อย แต่ก็ยังมองตรงมาที่ไอ้หล่อที่ทำหน้างงๆ อยู่ข้างๆ ผม

“ให้พี่ ทำไมครับ” เมลชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะถามด้วยสีหน้าแปลกใจ

คุณว่ามั้ยว่าแฟนผมแม่งตั้งคำถามได้ควายมาก -*-

“ขิง...เอ่อ...ขิง”

“ครับ?”

พี่ยอมรับนะว่าน้องใจกล้ามากที่เดินบุกมายืนอยู่กลางฝูงชายฉกรรจ์แบบนี้ แต่น้องต้องมีความกล้ามากกว่านี้นะครับถ้าจะคุยกับไอ้หล่อมึนของพี่ -_-

“เอ่อ....”

“พี่รับไว้ให้แทนนะครับ ได้ใช่มั้ย” ไอ้ฟิวทำหน้าประหนึ่งเทวดา น้องขิงเลยพยักหน้ารัวยื่นขวดน้ำแร่ให้ไอ้ฟิวแล้วก็รีบวิ่งกลับไปในกลุ่มเพื่อนทันที ได้ยินเสียงกรี๊ดดังลอยลมมาอีกต่างหาก

ผีเข้าเหรอ -O-;

“ดีนะที่ท่านเท็นองค์ไม่ลง อิอิ” ไอ้เต๋อทำหน้าโล่งใจ นำให้คนอื่นๆ ต้องถอนหายใจตาม

ผมไม่สนใจอากัปกิริยาของพวกบ้านั้นหรอก ไม่เกี่ยวสักหน่อยว่าจะมีใครมาชอบเมลบ้าง แค่ไม่ล้ำเส้นที่ผมขีดไว้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไปวีนไปเหวี่ยงใส่เขานี่

ไม่มีเลย! แต่กูแค่หมั่นไส้แฟนกู มึงจะฮอตไปถึงไหนไอ้สัด -*-

“ไปไหนเท็น”

“ซื้อน้ำ”

“ไปด้วยดิ”

“ลุกสิ”

“ดึงหน่อย”

ผมจับมือเมลแล้วดึงให้มันลุกขึ้น หน้าหล่อๆ ของมันยิ้มกริ่ม ก่อนแขนขาวๆ ของมันจะเหวี่ยงมาคล้องคอผมไว้

“เดินห่างๆ ไม่ได้ไง”

“โกรธอะไรอยู่”

“ไม่ได้โกรธ กูร้อน”

“ให้จริง”

“เออ”

“ดูทำเสียง เดี๋ยวคืนนี้โดน”

ทำไม่ทำยังไงกูก็โดน จะขู่ทำเพื่ออะไรวะ -_-

เดินผ่านกลุ่มไหนก็มีแต่คนส่งสายตาเมียงมองมา อีกอย่างผมเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าแฟนเก่าเมลมีเยอะ แถมความบังเอิญบนโลกใบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยจนน่ากลัว

“อ้าว เมล ไม่เจอกันเลย เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ยคะ” สาวสวยคณะสหเวชต่างมหาลัยเดินตรงรี่เข้ามาขวางทางพวกผมไว้

“สบายดีนะ แป้งล่ะเป็นไง”

ดูหน้านางสิ ไม่สบายดีคงไม่หน้าตาอิ่มเอิบอย่างนี้หรอก แม่งถามอะไรโง่ๆ -*-

“แป้งก็สบายดี แต่ช่วงนี้เรียนหนัก”

“ยังไม่ปิดเทอมเหรอ”

“ยังเลย เพิ่งเริ่มสอบ แป้งจะบ้าแล้วเมล :(”

ผู้หญิงตรงหน้าทำหน้าบึ้งได้อย่างน่ารัก เธอหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อยแต่ผมไม่ได้ยิ้มตอบกลับไป ไม่จำเป็นนี่ใช่ไหม? ไม่อยากรู้จักสักหน่อย

ผมแยกตัวออกมาโดยสะบัดมือของเมลที่จับแขนผมไว้ ไม่รู้จะอยู่ฟังเขาคุยกันทำไม ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิตกูเลย

ผมซื้อน้ำเปล่ามาสองขวด เผื่อไอ้หน้าหล่อที่กำลังเดินตรงมาหาด้วย ไม่รู้มันใช้วิธีไหนสลัดสาวสวยนั่นไปได้ ปกติถ้าเจอแฟนเก่าจะต้องคุยกันนานสองนานคล้ายกำลังรำลึกความหลังกันน่ะครับ

ทำไมผมรู้น่ะเหรอ? ไม่เห็นยากนี่ แค่เอ่ยปากถามไอ้เขตว่าแฟนเก่าเมลมีใครบ้าง ทั้งรูปทั้งโปรไฟล์ของผู้หญิงพวกนั้นก็พร้อมส่งตรงถึงมือผมแล้ว

ส่วนตัวนะไม่อยากดราม่ากับเมลเพราะแฟนเก่าหรอกว่ะ แม่งเป็นปัญหาเบสิคมาก แต่เหี้ยนี่มันมีเยอะเกินไปไง แถมไอ้พวกที่กลายเป็นอดีตไปแล้วยังกระเสือกกระสนอยากกลับมาเป็นปัจจุบันอีก นี่แหละที่ทำให้น่าปวดหัว -_-

“ไปคุยกันหน่อย” เมลทำหน้าอ้อนๆ แต่ผมส่งขวดน้ำให้มันแล้วเบือนหน้ามองไปอีกทาง

รู้ไงว่าแพ้ทาง ถึงต้องมองไปทางอื่น -*-

“เฮ้ย จะไปไหน”

เมลไม่ตอบ มันตั้งหน้าตั้งตาลากผมให้เดินตามอย่างเดียว จนมาหยุดอยู่ที่รถ มันเปิดประตูหลังแล้วดันผมเข้าไปก่อนตัวมันจะตามเข้ามา

“ทำไมต้องมาคุยในนี้ ร้อนจะตายห่า”

“คุยที่อื่นเดี๋ยวมึงหนี”

“กูจะหนีไปไหนได้ล่ะ มึงมันบ้า”

“กูบ้าก็เพราะมึง”

“โทษกู ไอ้ห่าเมล”

“เท็นเท็น”

ทำเสียงดุใส่ตลอด -*-

พอเห็นผมเงียบเมลก็เลยส่งยิ้มมาให้ ก่อนหน้าหล่อๆ ของมันจะขยับใกล้เข้ามา ผมหลับตารับสัมผัสนุ่มๆ จากคนตรงหน้า ความอ่อนโยนที่ได้รับทำให้ความหงุดหงิดเล็กๆ ในใจหายไปอย่างฉับพลัน

“กูรักใคร มึงก็รู้ อย่าโกรธเลยนะเท็น เวลามึงโกรธ กูทำอะไรไม่ถูกทุกที” เมลกระซิบใกล้ๆ ริมฝีปากผม หน้าตามันดูเป็นกังวลจริงๆ นั่นเพราะมันแคร์ผมมากใช่ไหม?

“ไม่ได้โกรธ”

“ไม่ได้โกรธแต่เหวี่ยงกูตลอดเลย”

“ก็มึงน่าหมั่นไส้ หล่อตรงไหนวะ ทำไมมีแต่คนอยากได้”

เมลยิ้มกริ่ม แถมมือมันก็ลูบไล้ไปทั่วจนผมต้องจับไว้

ไอ้นี่ล่ะเผลอไม่ได้ ตลอดเลยนะมึง

“ก็เห็นทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่รู้เหรอว่าหล่อตรงไหน”

“ไม่รู้ไงถึงได้ถาม”

“แบบนี้ต้องให้ดูบ่อยๆ หึหึ”

ครืดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด

“ไอ้เขตโทรมา” ผมชูไอโฟนในมือให้เมลดู มันขมวดคิ้วใส่แล้วก็มองผมด้วยสายตาแปลกๆ

“ทำไมต้องโทรหามึง จะสนิทกันเกินไปป่ะวะ”

“อย่าคิดอะไรทุเรศๆ เมล กูไม่เหมือนแฟนเก่ามึงบางคนที่พอได้มึงแล้วจะไปออนทัวร์กับเพื่อนมึงด้วย”

“มึงนี่ได้ทีล่ะจิกใหญ่เลย คนที่กูจริงจังด้วยก็มีแต่มึงนะเท็น มึงจะเอาคู่นอนกูมาดราม่ากันทำไมวะ”

“เหี้ยเมลใช้ร่างกายเปลือง ไม่ต้องมากอดกูเลยไอ้บ้า”

“ทำงอนๆ เดี๋ยวกูจัดให้ในรถเลยดีมั้ยเนี่ย”

“เอะอะอะไรก็จะเอากู กูเป็นแฟนนะ ไม่ใช่คู่นอน”

“นั่นไง พาลไปคนละเรื่อง คิดฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว”

“เรื่องของกู :(”

ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดด

ไอ้เขตนี่ยังไม่เลิกความพยายามจะติดต่อผมซะที อะไรของมันคนกำลังดราม่ากันอยู่ -*-

“เอามานี่ กูรับเอง”

เมลแย่งไอโฟนไปจากมือผม แขนยาวๆ ของมันก็ล็อคคอผมไว้ ก่อนจะกดรับสายไอ้เขต

“โทรหาเมียกูทำไม เออ อยู่ด้วยกัน จะกลับแล้ว ไม่ตลกไอ้เขต เออๆ ทุ่มครึ่งเกตเวย์เอกมัยใช่ไหม ไปๆ เออไอ้เหี้ย พูดมาก แค่นี้เว้ย”

เมลโยนไอโฟนของผมไว้ข้างๆ ตัว แล้วกดริมฝีปากกับหน้าผากผม ตามด้วยแก้มและปลายคาง มันกัดให้เจ็บเล็กน้อยก่อนจะผละออกไป

“อื้อ กัดกู”

“หมั่นไส้”

“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“มึงทำ ทำตลอดแต่มึงไม่รู้ตัว”

“ใส่ร้าย”

“หายโกรธยัง จะได้ไปทำมาหาแดกอย่างอื่นต่อ”

“ก็บอกแล้วไงไม่ได้โกรธ”

“โอเค มึงไม่ได้โกรธ แค่หงุดหงิด เข้าใจละ ห้ามเถียง หุบปาก”

ผมอึ้งไปเลยกับนิ้วที่กำลังชี้หน้าและถ้อยคำสุดท้ายของมัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าใช้กิริยาวาจาอย่างนี้กับผมเลยนะ!!!

มึงเป็นใครเนี่ย กล้ามาก!

ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

ผมกำลังจะยื่นมือไปทึ้งหัวเมลก็ต้องชะงักเพราะมีไอ้บ้าหน้าไหนไม่รู้มาเคาะกระจกรถรัวอย่างไร้มารยาท หันไปดูก็เป็นไอ้แม็คยืนทำหน้าซีดเหงื่อตกอยู่

“มะ...มึงยังไม่กลับเหรอ นึกว่ากลับไปแล้ว กูกลับด้วยดิ” ลดกระจกลงได้ยังไม่ถึงครึ่ง ไอ้แม็คก็พูดรัวเร็วอย่างกะท่องบท

“แล้วมึงมาไง ไอ้เต้ล่ะ?”

“กูมา bts อ่ะ”

ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมไอ้แม็คมันถึงชอบใช้บริการรถไฟฟ้า ความจริงแม่งเพิ่งมาใช้พักหลังๆ ก็ตอนที่ไอ้ห่าเต้เสือกทำตัวเป็นพระเอกไม่รู้ใจตัวเองนั่นแหละ ปกติมันกับไอ้เต้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ด้วยเหตุที่ว่าไอ้แม็คขับรถไม่แข็ง พ่อกับแม่มันเลยฝากฝังไว้กับไอ้เต้ บ้านเสือกอยู่ใกล้กันด้วยเลยไม่เป็นปัญหา

แต่มันมาเป็นปัญหาก็ตอนที่เกิดซัมติงรองขึ้นนี่แหละครับ

“ขึ้นมาสิ”

ผมกับเมลเลยพร้อมใจกันลงจากรถ ยกที่นั่งเบาะหลังให้ไอ้แม็คครอบครอง แล้วเนรเทศตัวเองมานั่งเบาะหน้าคู่กับคนขับ แต่ยังไม่ทันออกรถ คู่กรณีไอ้แม็คก็มายืนท้าความแข็งแรงของรถอยู่ตรงหน้า

ถ้ากูเป็นคนขับก็อยากลองเหมือนกันว่ากันชนหน้าที่เพิ่งไปแต่งมาใหม่กับสังขารของไอ้เต้ อันไหนแม่งจะทนกว่ากัน

“กูไปด้วย!” ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่หรอกครับเวลาที่ไอ้เต้ทำหน้านิ่งๆ แบบนี้น่ะ

“อะไรของพวกมึงวะ” เมลถามพร้อมกับปลดล็อคประตูหลังให้ไอ้เต้ โดยไอ้แม็คขยับตัวไปชิดกับประตูอีกฝั่งอย่างแสดงชัดว่ารังเกียจ

นี่กูพลาดอะไร? ทำไมไอ้แม็คที่คอยตามตูดไอ้เต้ถึงได้แสดงกิริยาเยี่ยงนี้? หือ?

“ไปอาบน้ำก่อนมั้ย แล้วค่อยไป Hotpot กัน” เมลถามขึ้นขณะที่กำลังติดไฟแดงกันอยู่

“กูไม่ไปนะ เดี๋ยวมึงส่งกูที่ป้ายรถเมล์ก็ได้” ไอ้แม็คบอกเสียงเรียบ

“ทำไมไม่ไป เพราะกูไปด้วยรึไง” ไอ้เต้ถามเสียงเข้ม

“กูไม่อยากไปให้มึงแดกอะไรไม่ลง”

“มึงมากกว่าที่เป็นอย่างนั้น”

“อย่ามาพูดหมาๆ นะไอ้เหี้ยเต้”

“เดี๋ยวนี้กูพูดอะไรก็ไม่เข้าหูมึงหรอก ไม่เหมือนพี่มาโปรดของมึงนี่”

“ไอ้เต้!”

ผมทำหูทวนลมกับบทสนทนาปะทะคารมของเพื่อนทั้งสอง เห็นเมลแอบถอนหายใจอยู่เหมือนกัน

“เมล พรุ่งนี้กูพาไอ้เจมไปบ่อนนะ”

เมลหันมาพยักหน้าให้ ก่อนจะกลับไปมองทางข้างหน้าต่อ

“มันป่วยหายแล้วเหรอ”

“อือ ก็ดีขึ้นแล้ว เห็นลุงชิดบอกว่ากินข้าวเยอะขึ้น”

“ก็ดีแล้ว”

“ไปด้วยกันมั้ย”

“พรุ่งนี้นัดไอ้เขตกับไอ้แต้มไว้แล้ว”

“อือ”

“บอกไอ้เจมด้วยว่าพ่อคิดถึง”

“ลูกกูคนเดียวเหอะ”

“มึงอยากเป็นซิงเกิลมัมหรือไง”

“ไอ้บ้า กูเป็นพ่อมันเว้ย”

“เดี๋ยวลูกสับสนนะเท็น มึงเป็นแม่ต่างหาก ส่วนกูน่ะเป็นพ่อ”

“มึงเอาอะไรมาตัดสินเนี่ย”

“อ้าว ก็มึงเป็นเมียกูไม่ใช่ไง”

ทำไมเมลมันเป็นคนแบบนี้วะ -*-

“ไอ้เมล! คืนนี้นอนโซฟาเลยมึง :(”

เมลหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยื่นมือมาผลักหัวผม ได้ยินเสียงไอ้เต้กระแอมไอมาจากทางด้านหลังแต่ผมก็ไม่สนใจ ทะเลาะกับไอ้แม็คต่อไปสิวะ มายุ่งอะไรกับโลกส่วนตัวของพวกกูเนี่ย

“ช่วยสนใจพวกกูบ้างก็ได้นะ เหี้ยเท็น” ไอ้เต้กับไอ้แม็คบ่นขึ้นมาพร้อมกันเบาๆ

ผมเห็นผ่านกระจกมองหลังว่าพวกมันจ้องหน้ากันอยู่เพียงครู่ก็ต่างฝ่ายต่างเบือนหน้าหนีกันไปคนละทาง

....................................................To be continue...........................................

คงต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ได้อาทิตย์ละตอนเอง จะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ

ไม่คิดว่าชีวิตวัยทำงานจะเหนื่อยและน่าเบื่อขนาดนี้

คิดถึงทุกคนเลยนะคะ คิดถึงจริงๆๆๆ :กอด1:

อยากทำให้ดีกว่านี้ค่ะ อยากให้ทุกคนสนุกกว่านี้  :heaven

แล้วพบกันตอนหน้านะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามค่ะ  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 21-10-2013 17:34:05
บางทีคู่นอนเมลก็เยอะไปนะ เสน่ห์แรงงงงงง เท็นยิ่งขี้หึงอยู่ 5555555555

แล้วเต้แม็กเมื่อไหร่จะเคลียร์? ชั้นละเพลีย  :katai1:

ปล.คนเขียนสู้ๆ ค่ะ  :katai4:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 21-10-2013 17:43:41
ชอบเมล -เท็นที่สู้ดๆๆๆ

สวีทกันได้น่าร๊ากกกกกมากกกกกๆ

>////////<
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 21-10-2013 18:50:12
หมั่นไส้ความหล่อของเมลแล้วเหมือนกัน :mew5: สาวเยอะละเกิล กลัวว่าเท็นมันจะเริ่มเก็บไปคิดทีละนิดนี่ดิ :m16:
คนเขียน  :L2: :impress2: สู้ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 21-10-2013 18:56:08
ปัญหาครอบครัวชัดๆ  :ruready
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-10-2013 19:36:36
เมล กิ๊กเก่าเยอะเกิ๊นนนนน
เจอบ่อยๆ อาจทำให้เท็นองค์ลงได้

แม็คเต้เป็นอะไร
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 21-10-2013 19:40:17
เต้แม็คนีเค้าทะเลาะกันเรื่องอะไรอ่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 21-10-2013 19:52:59
เอ้าๆๆๆ เต้แม็ค อย่าเมินกันสิ เมินที่ไรต้องได้กันทุกที อุ๊บ!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 21-10-2013 20:15:51
เอาแล้วไงแม็คเต้!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 21-10-2013 20:24:03
ชอบเรื่องนี้มาก มาต่อบ่อยๆนะ

แฟนคลับเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 21-10-2013 20:31:40
เถียงกันน่ารักดี 555

ชอบบุคลิกเท็น~ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 21-10-2013 20:35:52
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดชอบบที่สุด

ชอบมากเวลาเมลเรียกเท็นว่า เท็นเท็น น่ารักอ่ะ  :ling1: :ling1:

ชอบสองคนนี้จังเลย เวลาเมลอ้อน เวลาเท็นงอน เวลาเมลดุ เวลาเท็นง้อ โอ๊ยยยมาต่อเรื่อยๆนะ ชอบมากที่สุด  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-10-2013 20:48:56
เมลติดเท็นขนาดนี้ ทั้งรักทั้งหลง วางใจเหอะ :z1:
น่ารัก งุ้งงิ้งจนเต้กับแม็คแย่งซีนไม่สำเร็จอ่ะ :m20:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 21-10-2013 21:28:55
เจอยัยผมเปียน่ะแค่หวง แต่เจอยัยสาวมหาลัยน่ะแค่หึงเองงงงงงงงงงงง!!!


สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-10-2013 22:07:08
ไม่มีอะไรหยุดความมุ้งมิ้งของ2คนนั้นได้สินะะะะ  :hao7:

เต้แม็ค ยังไงงงงงงง :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-10-2013 22:21:33
 :pig2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: helios-ag ที่ 22-10-2013 10:08:04
 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-10-2013 10:55:26
เมลแม่งฮ็อต
เต้แม็คนี่ยังไง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 22-10-2013 11:25:35
บางทีก็เริ่มจะหมั่นไสเมลเหมือนเท็นเท็นล่ะ  หล่อไปนะ  :ruready
เต้กับแม็คยังไม่ดีกันอีกกก   :z3:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-10-2013 12:35:30
เท็นทำถูกแล้วค่ะ นี่มันรถเราจะเกรงใจพวกอาศัยรถเราทำไม :hao7:

หวานเย้ยเลยค่ะ หวานเย้ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 22-10-2013 13:01:29
คู่เต้แม็ค กำลังมาคุ เถียงกันหน้าแดงหน้าดำ
เท็นเท็น กะ เมลสวีทแย่งซีนซะงั้นอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 22-10-2013 13:10:52
 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 23-10-2013 11:45:22
ตอนที่ 29

แต่ไหนแต่ไรผมเป็นคนประเภทที่ปากฉีกยิ้มแต่ดวงตาไม่เคยยิ้มตาม ไอ้เต๋อเลยชอบกัดผมบ่อยๆ ว่ายิ้มเหมือนตัวโกงในละคร น้องสาวไอ้เต้เคยร้องไห้เวลาโดนผมจ้องหน้า ทีนี้เวลาน้องสาวมันดื้อก็เลยได้ทีเอาชื่อผมไปขู่ น้องเตยน่ะอยู่มัธยมกูพอเข้าใจ แต่ไอ้พวกตัวเท่าควายวัยมหาลัยที่นั่งเบียดชิดกันบนโซฟาตรงข้ามกับผมนี่มันหมายความว่าไงวะ??

ปึก!

แค่ผมวางแก้วลงบนโต๊ะ ไอ้พวกบ้านั่นก็สะดุ้งกันทั้งฝูง แม้แต่ไอ้เต๋อก็ไม่รู้ว่าผีตัวไหนไปอุดปากมันไว้ มันถึงไม่ปากมากเหมือนทุกที

“เหี้ยเต้”

“คะ..ครับท่านครับ”

ผมคิดนะว่าอีกนิด ไอ้ห่าเต้จะก้มลงกราบผมละ -_-

“เหล้าหมด เดินไปบอกพี่เจ๋งไป แล้วนี่พวกมึงเป็นห่าอะไรกัน”

“ปล๊าวววววววววววววว!”

พร้อมใจตอบกันจริงๆ

“พอแล้วเมล มึงจะแดกให้ตายไปเลยไง” ผมเบือนสายตามามองคนข้างๆ ที่ตั้งแต่เข้าร้านมาก็นั่งกรอกเหล้าเข้าปากอย่างเดียว

“เรื่องของกู”

“มึงอยากทะเลาะกันอีกใช่ไหม”

เมลไม่ตอบคำถาม มันยอมวางแก้วลง ก่อนจะเอาหัวเกรียนๆ มาไถกับไหล่ของผม ผมปรายตามองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักออก

“เอ้อ...ตกลงมึงจะบอกพวกกูได้ยังวะว่ามึงได้ผมทรงนี้มาได้อย่างไร?” ไอ้เต๋อที่ดูเหมือนจะถูกคนอื่นๆ แต่งตั้งให้เป็นหน่วยกล้าตายถามขึ้น


ผมมองไล่ตั้งแต่ ไอ้คิม ไอ้เต้ ไอ้เขต ไอ้แต้ม ไอ้ลิน ก่อนจะหยุดสายตาลงที่ไอ้เต๋อที่ได้แต่ส่งยิ้มแหยมาให้ผม ไอ้หน้าหล่อผมทรงสกินเฮดที่นั่งข้างๆ ตอนนี้แม่งเริ่มทำตัวเป็นโรงกลั่นเหล้าอีกละ


“ถามไอ้เท็นดูสิวะว่ามันทำไรกับผมกู” เมลตอบเสียงเข้ม พลางมือขาวๆ ก็ลูบท้ายทอยตัวเอง

เออ ถ้ากูรู้ว่ามึงตัดสกินเฮดแล้วจะหล่อน่าจับทำผัวขนาดนี้ กูไม่ก่อเรื่องให้มึงต้องตัดหรอกเว้ย จากผมทรงเดิมที่ทำเอาหญิงแท้หญิงเทียมหลงกันหัวปักหัวปำแล้ว มาเจอผมทรงนี้กูว่าได้มีคลั่งตายกันไปข้าง ดีหน่อยที่มันคิ้วแตกแก้มช้ำอยู่ แต่ถึงยังไงก็ดร็อปออร่าของมันลงไม่มากหรอกวะ

“อะ...เอ่อ...รวมแผลที่หน้ามึงด้วยป่ะ”

เมลไม่ตอบแต่พวกไอ้เต๋อก็ทำหน้าเหมือนได้รับคำตอบแล้ว

“เกิดไรขึ้นวะ พวกมึงทะเลาะกันถึงขั้นลงมือลงไม้เลยเหรอ” ไอ้แต้มถามพร้อมกับทำหน้าไม่เชื่อ

แต่ความจริงก็ยังเป็นความจริง ผมนั่งจิบเบียร์เงียบๆ ต่อไป หวนนึกถึงเรื่องเมื่อเย็นวานแล้วยังเหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในอก

ต้นเหตุมันเกิดจาก...เสียงโทรศัพท์ที่ดังตอนตีห้าของเมื่อสามวันก่อน

ผมยังงัวเงียอยู่มากตอนนั้น แต่ที่ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังลั่นห้อง เมลเป็นคนรับสาย ผมเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ที่ต้องกลับมาสนใจก็หลังจากที่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเมลก็ยังไม่วางสาย มันพูดคุยด้วยหน้าตาเคร่งเครียด พูดแค่ไม่กี่คำและเงียบฟังซะเป็นส่วนใหญ่

ผมแปลกใจแต่ก็ไม่อยากถามอะไรเพราะพอเมลวางสายก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่ามันไม่ได้คุยธุระสำคัญ ทั้งที่จริงๆ แล้ว หลังจากนั้นมันก็เหม่อลอยบ่อยๆ ถ้าระหว่างเราปราศจากบทสนทนา เมลก็จะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ทั้งๆ แบบนั้นผมก็ยังไม่ถามอะไรมัน

ที่ไม่ถามเพราะผมไม่อยากก้าวก่าย ผมเคารพในการใช้ชีวิตของมันจนทำให้เป็นข้อกล่าวหาทีหลังว่าผม ‘ไม่ใส่ใจ’

“เย็นนี้กูกลับบ้านนะ” เมลบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนไม่มีอะไรใช่ไหมล่ะ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ปกติ เพราะตอนบอกมันไม่มองหน้าผมเลย

“อืม งั้นกูกลับไปนอนบ้านละกัน”

“ครับ ไว้พรุ่งนี้กลับมาแล้วจะไปหา”

“อือ”

“คงดึกหน่อยนะ รอได้ใช่มั้ย”

“ได้น่า ไอ้ฟิวไอ้มายด์ก็อยู่”

“ดูแลตัวเองนะ”

“คร้าบบบบ”

ตอนนั้นผมรู้แล้วล่ะว่ามันผิดสังเกต มันแปลก ถึงเมลจะทำตัวปกติ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันแปลกไป

และผมก็ไม่ได้คิดผิด เมลกลับบ้านไปเย็นวันนั้น ก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย วันที่มันบอกจะมาหาก็ไม่ได้มาอย่างที่พูดไว้ ผมโทรไปก็ปิดเครื่อง ไอ้มายด์ก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไรมาก แค่บอกว่าทางบ้านของเมลเข้มงวดมาก แต่เพราะมันไม่ขยายความว่าเข้มงวดยังไง ผมเลยตีความอะไรมากไม่ได้

เลยได้แต่รอ...

อีกวันที่ยังคงไร้การติดต่อ ผมไม่ได้ทุรนทุรายหรือกระวนกระวายอะไร ผมห่วง แต่ไม่ได้ตื่นตูมคิดไปไกลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน ผมไม่ใช่คนมีเหตุผลเท่าไหร่ ว่ากันตามจริงผมใช้ชีวิตตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกมากกว่า และอะไรที่ทำไปแล้วไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตผมก็จะเลี่ยงไม่ทำ

โลกนี้มีความบังเอิญซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด ผมแน่ใจว่าถ้าเมื่อวานไม่ตกลงรับปากจะไปกินข้าวกับไอ้ลินไอ้กัสล่ะก็ เรื่องก็คงไม่เกิด

พวกผมนัดกันที่ภัตตาคารของปู่ไอ้คิมโดยเลือกสาขาที่ใกล้บ้านไอ้กัสที่สุด เนื่องด้วยตอนนี้ไอ้กัสถูกกักบริเวณเลยออกไปแรดไกลไม่ได้

“เออไอ้ลิน เมื่อกี้มึงเดินไปห้องน้ำ มึงเห็นไอ้เมล...” ไอ้กัสพูดยังไม่ทันจบหน้าตาแม่งก็เหยเกเหมือนโดนใครเหยียบตีน

“เท็น อิ่มยังวะมึง เดี๋ยวไปแดกไอติมต่อ” ไอ้ลินถามผมด้วยหน้าตาแปลกพิกล แต่ปกติไอ้ห่านี่ก็น่าตาแปลกๆ อยู่แล้วน่ะนะ ตอนนั้นผมเลยไม่สะกิดใจเท่าไหร่

“เออ พวกมึงเช็คบิลด้วยละกัน กูไปเข้าห้องน้ำก่อน”

“เฮ้ย! อย่าไปเลย ไปเข้าที่ห้างก็ได้ ถามไอ้กัสดู กูไปเมื่อกี้คนเยอะ”

ผมฟังคำว่าคนเยอะของไอ้ลินแล้วก็ต้องเลิกคิ้ว คือ กวาดตามองทั้งชั้นที่กูนั่งเนี่ยก็มีแค่ไม่กี่โต๊ะที่ยังนั่งแดกกันอยู่ เอาง่ายๆ คือราคาระดับนี้ไม่ค่อยมีใครเลือกแดกเป็นอาหารกลางวันหรอกครับ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมื้อใหญ่ตอนเย็นโน่น

“จริงๆ ไปเถอะน่า เร็วๆ เดี๋ยวกัสต้องกลับบ้านก่อนห้าโมงเย็นนะมึง”

“รู้เวลาขนาดนี้มึงตามจีบไอ้กัสมันรึไง”

ผมก็แค่พูดไปงั้นแต่ไอ้ห่าลินเสือกเงียบรับ

“อย่าทำให้โลกที่กูอยู่มันเอียงไปมากกว่านี้เลยว่ะ ไม่เม้กเซ้น”

ในจังหวะที่ไอ้ลินกำลังใบ้แดกและไอ้กัสก็ตั้งหน้าตั้งตากินมากเป็นพิเศษนั้น ผมก็แยกตัวออกมาเพื่อไปเข้าห้องน้ำ

ผมเคยบอกไปแล้วว่าโลกนี้มีความบังเอิญมากจนเกินไป บางทีก็เกิดขึ้นบ่อยจนน่ากลัว แต่ครั้งนี้มันทำเอาผมลืมไปเลยว่าตั้งใจจะเดินไปที่ไหน

ภาพของชายหญิงคู่หนึ่งจากโต๊ะมุมติดกระจก วิวดีเยี่ยมด้วยความสูงของชั้นที่ห้า และความหล่อความสวยของคนทั้งคู่ก็ทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหันกลับมามองความเหมาะสมนี้อีกครั้ง

เหมาะสม...จนผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้

ป๋าบอกผมว่าผมไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าผู้ชายถูกสร้างมาให้คู่กับผู้หญิง ...ตอนนั้นผมเถียง เพราะผมมั่นใจว่าความรักนั้นไร้กฎเกณฑ์ แต่ต่อหน้าความเหมาะสมนี้แล้ว...ผมก็ชักไม่แน่ใจ

“ไง” ผมเลือกที่จะเข้าไปทัก แค่อยากรู้ว่า...คนรักของผมเขาจะทักตอบกลับมาว่ายังไง

“เท็น”

ผมไม่สนใจสีหน้าของเมล หันไปมองผู้หญิงสวยเรียบร้อยที่นั่งอยู่ตรงข้ามมันก่อนจะฉีกยิ้มเป็นมารยาทออกไป

“อร่อยไหมครับ...ว่าแต่คุณ?”

“พริมค่ะ”

“หน้าคุ้นๆ นะครับ”

“พริมเป็นฝาแฝดของแพรค่ะ... เท็นใช่มั้ยคะ”

“ใช่ครับ อ่า...แพรที่เรียนพยาบาล?”

“ใช่ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะเท็น พริมอยู่แพทย์ปีสองค่ะ แพรบอกว่าเท็นเป็นเพื่อนสนิทของเมลจริงรึเปล่าคะ”

“เพื่อน? เหรอครับ”

“ค่ะ แพรบอกอย่างนั้น ยังไงฝากตัวด้วยนะคะ”

ผมสังเกตเห็นว่าพริมมองผมแปลกๆ แต่นั่นไม่ได้สะเทือนอะไรชีวิตผมหรอกครับ ผมเลิกคิ้วก่อนจะมองหน้าเมลแล้วขอตัวออกมา

ผมโกรธนะ แต่ไม่อยากทำอะไรที่เป็นการไม่ให้เกียรติเมล

ทุกอย่างมันมีเหตุผลผมเชื่ออย่างนั้น และในทุกๆ การกระทำมันก็ต้องมีที่มาที่ไป

จะให้ผมเชื่อว่าคนที่บอกรักผมทุกวัน นอนกอดกับผมทุกวันเขาเปลี่ยนใจไปจากผมเพื่อไปหาผู้หญิงหน้าจืดคนนั้นน่ะเหรอ ใครจะเชื่อลงวะ?

ตัวแปรไม่ได้อยู่ที่ผม แต่อยู่ที่หลังจากมันกลับบ้านแล้วเกิดเหี้ยอะไรขึ้นต่างหาก

ผมเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาที่โต๊ะ ไอ้ลินเหมือนจะได้สติแล้วว่าผมไปไหนมา มันเหลือบตามองผมบ่อยๆ อ้าปากทุกครั้งราวกับจะตั้งคำถาม แต่พอผมหันไปเลิกคิ้วให้มันก็เบือนหน้าหนีทุกที

ก่อนกลับผมเขียนข้อความฝากไปถึงไอ้เหี้ยเมลที่นั่งอี๋อ๋ออยู่กับยัยหน้าจืดนั่นด้วย ในเมื่อติดต่อมือถือไม่ได้ ใช้วิธีนี้ก็ไม่เลว และผมรู้ว่ามันได้ผลเพราะพอเมลเห็นข้อความมันก็หน้าซีดทันที

‘ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงกูไม่เจอมึงที่คอนโด...มึงจะไม่ได้เจอกูอีกเลย’

มันคบกับผมมามันก็ย่อมรู้ว่าผมไม่เคยล้อเล่น -_-

.
.
.

“มึงสายหนึ่งนาที!” ผมเลิกคิ้วมองไอ้หล่อที่ยังคงหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้า มันจับสีข้างตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดสภาพ

“นาฬิกามึงเร็วไปป่ะวะ ของกูยังเหลืออีกสี่นาที”

“หน้ากูตอนนี้ให้มึงพูดตลกได้ไง”

“โอเคๆ ใจเย็นๆ ครับที่รัก”

ผมให้เวลาเมลได้พัก ก่อนจะเข้าประเด็นที่ต้องเคลียร์

“มันเป็นใคร”

“ชื่อพริม”

“กูรู้ว่าชื่อพริม แต่กูอยากรู้ว่าสำหรับมึง มันเป็นใคร”

เมลหลบตาผม นั่นทำให้ประสาทโต้กลับอัตโนมัติเริ่มทำงาน

ปึก!

“เท็น”

ผมไม่ใช่ประเภทชอบใช้กำลัง ไม่ใช่ประเภทที่ไม่ยอมฟังอะไรเลย แต่ผมเป็นประเภทที่ถ้าถามแล้วไม่ได้คำตอบจะทำให้ยิ่งโมโหจนคุมตัวเองไม่อยู่ แถมยังมีความหงุดหงิดเป็นทุนเดิม บอกตามตรง ตอนนี้กูอยากบวกแม่ง!!!

“กูถามว่ามันเป็นใคร”

“ลูกเพื่อนแม่”

“ลูกเพื่อนแม่แล้วมาเกี่ยวเหี้ยอะไรกับมึง”

เมลยังคงไม่มองผม มันถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อไปว่า

“แม่ให้กูพาเขามาทานข้าว”

“ปัญญาอ่อนเหรอ แดกข้าวเองไม่ได้ไงวะ ต้องให้คนมาพาไปแดกข้าว”

“เท็น ใจเย็นๆ น่า”

“กูอาจไม่เคยบอก แต่มึงก็น่าจะรู้ว่ากูเป็นคนแบบไหน ไม่ติดต่อมากูไม่ว่า แต่มึงเล่นโผล่มาพร้อมผู้หญิง มึงคิดว่ามึงสมควรจะโดนอะไร!”

ปึก!

ผมถีบมันไปอีกที แต่เมลก็ไม่ตอบโต้ มันทำหน้าสำนึกผิด ก่อนจะรวบแข้งผมไว้แล้วลูบเบาๆ

“มึงตอบกูมาให้ตรงประเด็นนะเมล กูจะถามอีกที”

“....”

“มันเป็นใคร”

เมลเงียบอยู่นาน มันถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบว่า

“ว่าที่คู่หมั้น”

เสียงเบาๆ ของเมลทำให้ผมแสยะยิ้ม เข้าอีหรอบนี้เหมือนกูคิดไว้เด้ะ

“โฮะ ตาย แฟนกูกำลังจะหมั้น”

“เท็นเท็น”

“เรียกชื่อกูทำไม กลัวจำไม่ได้ตอนพิมพ์การ์ดแจกรึไงวะ”

“ใจเย็นๆ ก่อน”

“ให้กูใจเย็นแล้วเห็นมึงโดนหมาคาบไปแดกรึไง ปล่อย ไม่ต้องมาจับกู”

ผมดีดตัวออกห่างจากเมล แต่มันก็เข้ามารวบตัวผมไปกอดไว้ ตอนนี้ผมโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ไม่รอตอนพวกมึงหมั้นกันแล้วค่อยมาบอกกูล่ะวะ ไอ้สัด!

เพียะ!

มือข้างหนึ่งของผมฟาดไปโดนแก้มของเมลเข้า แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย

“ทำมากกว่านี้ก็ได้ แต่เท็นใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม”

“ต่อให้กูใจเย็น มึงก็สมควรโดนไอ้เหี้ย เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมมึงไม่บอก กะจะบอกวันที่กูไปยืนหน้างานมึงเลยรึไงวะ! ปล่อยกูไอ้ห่าเมล!”

ผลัวะ!

“เท็น!”

เพราะเมลเสียงแข็งขึ้นมา ผมเลยหยุดทำร้ายร่างกายมัน ผมเป็นคนมือหนัก เพราะฉะนั้นตอนนี้คิ้วของเมลเลยแตกจนเลือดไหลซึมออกมาแล้ว

“เอาให้พอใจมึงเลย หยุดทำไม ไม่คิดจะฟังกันแล้วนี่”

“ตอนที่กูถามแล้วทำไมไม่ตอบกูมาตรงๆ ตั้งแต่แรก มึงทำให้กูโมโหเองนะ ปล่อยได้แล้ว จะไปหายามาให้”

สุดท้ายก็ต้องหายามาใส่ให้มัน นี่ถือว่ากูยังเมตตามึงอยู่หรอก ไม่งั้นปากมึงได้แตกอีกที่แน่ -*-

“โอ้ย ต้องเย็บป่ะเนี่ย แตกเยอะป่าววะ”

ผมไม่ตอบ เก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จก็ปล่อยให้เมลโอดครวญตามเรื่องตามราวของมันไป ผมนั่งพิงหลังกับโซฟา จมลงไปในความคิดของตัวเองที่ตอนนี้หมุนวนแต่เรื่องคู่หมั้นของเมล

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมในการปฏิเสธที่จะหมั้นกับใครสักคน ป๋ากับแม่เคารพในการตัดสินใจของผมเสมอ แต่สำหรับเมลผมไม่รู้ ถ้ามันยอมทำตามทางบ้าน...แล้วผมล่ะ...จะทำยังไงต่อไป ผมอาจจะแค่อกหัก อาจจะแค่เสียใจไปอีกสองสามปี แต่นั่นใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นจริงอย่างนั้นไหม ผมอาจจะรักใครอีกไม่ได้ไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

ผมไม่เคยคิดว่าการคบกันของเราสองคนจะมีอุปสรรคมากมายอย่างนี้ ผมอาจจะเห็นไม่ชัดเจนเพราะป๋าไม่ได้ต่อต้านอย่างออกนอกหน้า ยังอยู่ในขอบเขตที่ผมรับมือได้ แต่พ่อกับแม่ของเมล ผมไม่รู้จักพวกท่านเลย ไม่รู้ว่าพวกท่านมีทัศนคติแบบไหนเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ชายรักกัน ตามตรรกะทั่วไปก็คงจะรับไม่ได้อยู่แล้ว...

ผมจนมุมนะ...เอาจริงๆ ก็ไม่รู้จะทำยังไง แค่คิดภาพว่าตลอดชีวิตของมันจะไม่ใช่ผมอยู่เคียงข้าง ผมก็หายใจแทบไม่ออก ทุกอย่างที่มันทำให้ ทุกความอ่อนโยนที่ผมเคยได้รับ กลับต้องเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่จะได้รับแทน แบบนั้นให้ผมความจำเสื่อมจำมันไม่ได้ไปซะดีกว่าที่จะต้องตกนรกทั้งเป็นแบบนั้น

“ที่ไม่บอกเพราะไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้ไง ขอโทษนะ” ความอบอุ่นจากทางด้านหลังที่สัมผัสได้ทำให้ผมหลับตาลงช้าๆ แค่อ้อมแขนของเมลเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่าปลอดภัยและวางใจได้

“กูจัดการได้น่า ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วกูจะดูแลมึงไปตลอดชีวิตได้ยังไง”

“....”

“ยิ้มหน่อยนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้พาไปกินกระเพาะปลาดีมั้ย”

“ไม่กิน”

“แล้วจะกินไร หืมมมม ร้านไหนดี”

ผมเอียงหน้าเข้าหาริมฝีปากที่เบียดอยู่ตรงแก้มเล็กน้อย ก่อนจะลูบต้นคอของเมลเล่น

“เอาร้านแพงกว่าที่มึงพาผู้หญิงคนนั้นไปกิน”

“หึหึ ได้สิครับ ดูๆ หน้าบึ้งอีกละ”

“กูหวง” ผมกอดรอบคอเมลให้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก “ไม่อยากให้ใครมายุ่ง”

“งอแงตลอด”

“ก็แค่กับมึง”

“กูโชคดีใช่มั้ย”

“โชคดีมั้ยไม่รู้ แต่ในโลกนี้มีแค่มึงเท่านั้นที่ได้เห็น”

“รักเลยแบบนี้ ^^”

“บอกไม่รักสิ มึงได้คิ้วแตกอีกข้าง”

“เหอๆ”

ผมกลั้นยิ้มไว้ นานๆ ทีจะได้เห็นเมลทำหน้าเกรงผมแบบนี้ ฮ่าๆๆ

ส่วนเรื่องที่มาของทรงผมที่เปลี่ยนเป็นสกินเฮดของเมลก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แค่ตอนไปกินข้าวกันเย็นวันนั้นผมกับมันบังเอิญไปเจอครอบครัวของคนที่(แอบอ้างว่า) เป็นว่าที่คู่หมั้นมัน มาทั้งแฝดพี่แฝดน้อง แรดพอกัน กูบอกไม่ถูกเลยว่าคนไหนแรดกว่า เอาจริงๆ แฝดพี่เหมือนเรียบร้อย อารมณ์ประมาณกูเรียนแพทย์ กูเทพ กูเก่ง เจ๋งสาดอะไรประมาณนั้นเลยดูเชิดๆ หยิ่งๆ หน่อย ส่วนคนน้องมาแนวใสๆ แอ๊บหน้าเป็นเพื่อนเหมือนที่นางทำมาตั้งแต่ครั้งกระโน้น แต่เชื่อเถอะ ดูจากท่าทางการอ่อยแล้วแม่งอยากเลื่อนจากเพื่อนขึ้นมาเป็นเมีย

แล้วด้วยสันดานที่ไม่คิดไม่ถึงว่ากำลังโดนผู้หญิงลวนลาม มันเลยปล่อยให้ผู้หญิงเขาแตะเนื้อต้องตัวไปทั่ว แต่ภาพที่บาดใจกูมากที่สุดคือแม่งยืนระริกระรี้หัวเราะกัน มีจับมือปัดผมเหมือนเป็นแฟนกันปานฉะนั้นทั้งๆ ที่กูนั่งแทงสเต็กจานแทบแตกอยู่ตรงนี้ -_-

ผมไม่ได้เข้าไปเหวี่ยงอะไรเขา แค่เดินเข้าไปตัดกลางแล้วลากมือคนของผมให้เดินตามก็แค่นั้น แล้วพอกลับถึงห้องผมก็แค่เดินไปหยิบกรรไกรออกมา เมลก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว มันคงคิดว่านิยายเรื่องนี้จะกลายเป็นนิยายฆาตกรรมไปซะแล้ว

“เท็น กูรู้ว่ามึงโกรธ แต่มันก็ตามตรรกะทั่วไป เขาดีมาเราก็ดีตอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบกูกูจะชอบเขาซะหน่อย ใจเย็นๆ ก่อนนะ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กูต้องให้คนอื่นมาบอกให้ใจเย็นๆ กูใจเย็นพอนะเมล ขยับมานี่!”

“จะทำไร”

“กูไม่เอามาแทงคอมึงหรอก”

เมลทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็ยอมขยับเข้ามาใกล้ผมอีกก้าวหนึ่ง

“จะใช้แทงได้ยังไง มันไม่คม”

“เท็นเท็น!”

“กูบอกให้ขยับมา!”

“มึงจะทำไร”

ผมดึงแขนของเมลให้ขยับเข้ามาใกล้พอที่ผมจะจัดการอะไรได้สะดวก

ชับบบบบบ!

“เท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!! ตัดผมกูทำไม”

“มันจับมึงตรงไหนอีก”

“โอ้ยยยย กูจะบ้า! ห้ามตัดดดดด”

ชับๆๆๆๆ

“เท็น! ไม่หยุด กูโกรธนะ”

“ตอนนี้กูโกรธมากกว่า หรือมึงจะไฟว์กับกู จะเอารึไง”

เมลเงียบไปเพียงครู่ แต่พอผมจะตัดอีกมันก็จับมือผมไว้

“พอแล้วน่าที่รัก นะครับ”

“ไม่ตัดแขนมึงด้วยก็บุญเท่าไหร่แล้ว อย่าไปให้มันจับอีกนะ”

“ทำไมคนนี้มึงตั้งท่ารังเกียจเขาจังเลยวะ”

“เพราะมันเล่นเข้าทางแม่มึงนี่”

“เออนะ ซวยกูอีก มีเรื่องทีไรลงที่กูตลอด”

“ก็ต้องลงที่คนของตัวเองสิวะ กูถือคติว่าก่อนจะโทษคนอื่น ต้องโทษตัวเองก่อน แต่บังเอิญกูเกิดมาพร้อมเครื่องหมายถูก ฉะนั้นถ้ามีเรื่องอะไรมึงนั่นแหละผิด ไม่ทำตัวดีๆ ล่ะก็มึงเจอกูแน่เมล”

 “ดุยิ่งกว่าไอ้เจคอีกนะมึง” เมลบ่นพึมพำ ผมเลยเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“พูดให้มันดังๆ ฐาปกรณ์”

“กูบอกว่าเดี๋ยวพากูไปร้านตัดผมด้วย”

พอมองสำรวจเมลตอนนี้ดีๆ แล้วแม่งฮามาก ผมหน้าแหว่งไปเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หน้ามึงฮาว่ะเมล ก๊ากกกกกกกกกกกกกก”

“เออ หัวเราะไปเถอะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเมียกูกระทืบแม่งไปแล้ว”

“เก่งจริงๆ เลย หึหึ ^^”

ก็แค่นี้แหละครับที่มาของทรงผมสกินเฮดหล่อลากตับไตไส้พุงของเมล พอตัดสกินเฮดแม่งดูหล่อเลวขึ้นมาทันที เห็นทุกส่วนบนใบหน้าชัดขึ้นแล้วไม่ว่าใครเดินผ่านเป็นต้องหันมามองอีกรอบ บางคนสองรอบก็มี แต่เจ้าตัวมันไม่ชอบผมทรงนี้ มันบอกว่าตัดแล้วสร้างความวุ่นวายให้ชีวิตขึ้นจากเดิมอีกสิบเท่า -_-

ครับ ไอ้หล่อ มึงตัดทรงไหนคนก็สนใจ เว้นแต่มึงจะตัดหัวทิ้งนั่นแหละ เขาถึงจะเลิกสนใจมึง เปลี่ยนเป็นไว้อาลัยแทน -*-

“เท็น มองใคร” เห็นมันเงียบอยู่ตั้งนาน นึกว่าตายเพราะฤทธิ์เหล้าไปแล้ว

“เปล่า”

“หันมา”

“อะไร”

“ก็บอกให้หันมา”

ผมจำต้องหันไปตามคำสั่ง แต่เมลเกิดนึกบ้าอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมา แม่งพุ่งเข้ามาจูบแบบไม่เกรงใจไอ้พวกที่นั่งเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บนโซฟาอีกฝั่งหนึ่งเลย

“อู้วววววววววววววววววววววววววววววววววว”

ผมปล่อยให้พวกไอ้เต๋อมันร้องขอส่วนบุญต่อไป ไม่ได้นึกอายอะไรพวกมันหรอก เพราะไม่ได้อยู่ในสายตา ฮ่าๆๆๆ

“แดกแต่เหล้า ขมชิบหาย”  ผมบ่นออกมาหลังจากที่เมลผละออกไป มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือมาขยี้ผมของผมเล่น

“หายโกรธละไง” ผมถามพลางยื่นปลาเส้นไปป้อนให้

“หึ”

“ยังเหรอ”

“^^”
“เมลลลลล”

“ใครจะโกรธคนบ้าๆ อย่างมึงลง”

“ที่รักกกกกก”

ผมกำลังจะโผตัวเข้ากอดมันอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าโดนนิ้วชี้เรียวยาวของมันดันหน้าผากไว้

“แต่คาดโทษไว้นะเพราะทำอะไรไม่คิด”

“อื้อออ ^^”

เมลก็คาดโทษไว้อย่างนั้นแหละ มันใจดีกับผมจะตายไป ถึงบางทีจะดุไปบ้างก็เถอะ...

“สถานการณ์ปกติแล้วสินะครับบบบบ พวกกูกลับไปนั่งตามปกติได้แล้วใช่มั้ย เบียดกันอย่างนี้ร้อนชิบบบบ ไอ้ห่าแต้มเมื่อกี้มึงแอบจับตูดกูด้วย”

ไอ้เต๋อผีออกแล้วสินะ -_-

ผมว่าผมทำได้ดีทีเดียวสำหรับการเลือกคบแฟน แต่การเลือกคบเพื่อนคงยังต้องพยายามกันอีกเยอะ หึ!

......................................To be continue...................................................

ผลกระทบจากพายุนารี (เหรอ?) พายุลูกใหม่กำลังจะเข้ารึเปล่า? โปรดติดตาม ฮ่าๆๆๆๆ

เหมือนจะเป็นตอนที่ยาวที่สุดตั้งแต่เริ่มเรื่องมา แต่ก็ไม่อยากตัดแบ่งตอนให้เสียอารมณ์กันค่ะ

มีหลายคนตั้งคำถามมาว่า เต้แม็ค ยังไง???

งั้นตอนหน้าเราไปจัดคู่นี้กันค่ะ จะได้ออกอีเว้นคู่ซะที 55555555555555 (หรือจะเอามายด์ฟิว? เอ๊ะ แต่คู่นั้นดราม่ามากนะ จะเอาจริงเหรอ ? อืมมมม มายด์ฟิวไว้ออกตอนพายุเข้าดีกว่า :) )

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเลยนะคะ ไว้ว่างๆ จะมานั่งคุยด้วยค่ะ  :กอด1: :ling3:

ปล. ฉลองวันหยุดเลยรีบปั่นเพื่อให้ทุกคนได้อ่านกัน  :katai4:

 :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: akira334 ที่ 23-10-2013 12:14:20
อร๊ายยย แฝดชะนี!!  แม่เอ็งได้แต่ใดมา ส่งมันกลับเข้าป่าเถอะแม่เอ็ง :katai3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 23-10-2013 12:28:52
เอิ่มมม เท็นๆ โหดจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 23-10-2013 12:36:50
ใจละลายกับผู้ชายตัดสกินเฮด
รีบเคลียร์ยัยพอพาลลลลลทั้ง2คนนั่นทิ้งเร็วๆนะจ้ะ จะได้ไม่เจ็บตัวเพิ่ม


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 23-10-2013 12:39:03
5555ตอนนี้หึงโหดดดด ชอบบบบ (อย่ามาม่าถ้วยใหญ่นักน่าขอมาม่าแค่เบา เบา)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 23-10-2013 13:12:03
ชอบเท็นตอนนี้มากกกกกกกก
ถึงจะโมโหถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ก็ไม่ดราม่า
แบบจะเลิกกับเมล จะหลีกทางให้งั้นงี้
กลับกันเป็นแบบของๆ เรา ห้ามใครแตะ
เท็นสุดยอดจริงๆ เป็นอื่นคงดราม่าน้ำตาแตกไปแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 23-10-2013 13:16:54
 เท็น โหด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 23-10-2013 13:34:21
เอาเมลเท็นต่อๆ อย่าพึ่งเอาคู่อื่นมาขั้ง
โฮกกกกกก  :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 23-10-2013 13:36:01
เท็นตอนนี่หึงโหดโคตรรรรรรรรรรรรรรร แต่น่ารักอ่ะ

เอาเข้าจริง ชอบที่เท็นบอก ว่านึกไม่ออกเลยถ้าคนข้างเมลไม่ใช่เท็น งื้ออออ ลืมเท็นก่อนหน้านี้ไปเลยอ่ะ  :hao5: :hao5:

เพิ่งได้เจอผู้ชายสกินเฮดแล้วหล่อโคตรมา แล้วนี่อิมเมจเมลก็กลายเป็นสกินเฮดอีก โอ๊ยยยย ฟินนน  :ling1: :ling1:

ขำประโยคนี้อ่ะ ครับ ไอ้หล่อ มึงตัดทรงไหนคนก็สนใจ เว้นแต่มึงจะตัดหัวทิ้งนั่นแหละ เขาถึงจะเลิกสนใจมึง เปลี่ยนเป็นไว้อาลัยแทน เห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 23-10-2013 13:41:10
คือเท็นนายแน่มาก ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-10-2013 13:47:06
หึงโหดมากกกก
เมลมันเผลอไปหักอกเมื่อไรนี่มีตายเลยนะนั่น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 23-10-2013 15:36:49
ยังไม่เอาคู่อื่นได้มั้ยค๊า คนเขียน
ขอเป็น เมล เท็น เท็น เมล จนจบมาม่าบุพการี กับ แฝดนรกพริม แพร ก่อนได้มั้ย?  please.... :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 23-10-2013 15:46:06
เท็นอย่างโหดดด เล่นซะเมลหงอเลย  :m20:

 :z6: << แด่แฝดชะนี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 23-10-2013 16:34:31
คู่รักคู่ฮาๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 23-10-2013 17:00:39
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-10-2013 18:54:23
ความหล่อของเมล พาเรื่องมาให้เท็นองค์ลงอีกแระ
มาแบบ ว่าทีคู่หมั้น ด้วย สงสัยพวกนี้ต้องเท็นจัดการขั้นเด็ดขาด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 23-10-2013 18:56:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-10-2013 19:04:28
เท็นเท็นดุมาก แฟนข้าใครอย่าแตะของจริง :laugh:
จะรอดูว่าเมลจะจัดการกับว่าที่คู่หมั้นตัวเองยังไง :hao7:
ถ้าจัดการไม่ดี อาจถึงมือเท็น แต่จะเห็นศพไหม ไม่รู้ อ๊ากกกก โหด ไม่ใช่แล้ว :m20:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 23-10-2013 19:31:45
เท็น เด็ดขาดดีมากจ้ะ  o13
ไม่ชอบประเด็นเรื่องผู้หญิงและแม่เลย พวกนางมักจะมาพร้อมดราม่า  :hao7: เมลโดนตัดสินเฮด ฮอลลลล พี่เมลฮอร์โมน :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 23-10-2013 19:56:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-10-2013 20:13:17
ฝนกำลังตั้งเค้าแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 23-10-2013 20:58:30
บอกว่าจะโทร แต่ก็ไม่โทร ไม่รักษาคำพูด ปิดเครื่อง ไม่ติดต่อ บอกคนอื่นว่าเท็นเป็นแค่เพื่อน ยอมให้คนอื่นทำอะไรที่เท็นไม่ชอบ ทั้งๆที่ตัวเองจะปัดป้องสักนิดก็ยังได้

 :เฮ้อ:

เบื่อเมลเเล้วอ่ะ
ไม่โทษเท็น เท็นทำไรก็ไม่ผิด (ไม่ค่อยจะลำเอียง  :hao6: 555555555)

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-10-2013 20:59:40
หึงได้โหดมาก 5555
หัวข้อ: คั่นเวลากันก่อนนะคะ ^_^
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 23-10-2013 21:06:00
พออ่านกฎเล้าอีกครั้งก็พบว่าคนเขียนสามารถคุยกับคนอ่านได้ภายในหนึ่งคอมเม้น ดีใจจัง ในที่สุดก็ได้มาคุยกันสักที แฮ่ๆ

บอกว่าจะโทร แต่ก็ไม่โทร ไม่รักษาคำพูด ปิดเครื่อง ไม่ติดต่อ บอกคนอื่นว่าเท็นเป็นแค่เพื่อน ยอมให้คนอื่นทำอะไรที่เท็นไม่ชอบ ทั้งๆที่ตัวเองจะปัดป้องสักนิดก็ยังได้

 :เฮ้อ:

เบื่อเมลเเล้วอ่ะ
ไม่โทษเท็น เท็นทำไรก็ไม่ผิด (ไม่ค่อยจะลำเอียง  :hao6: 555555555)




กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด คนเขียนแฟนคลับเมลนะค้าาาาาาาาาาาา

เมลไม่ได้บอกจะโทรหาน้า ไม่ได้บอกยัยพริมว่าเท็นเป็นแค่เพื่อนด้วย คนอื่นบอกนะค้าาาา แล้วคนเป็นผู้ชาย จะปัดมือผู้หญิงออกแบบโจ่งแจ้งก็ดูแปลกๆ น้าาาา ผู้หญิงต่างหากที่ควรจะสำรวมทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา


ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ ดีใจจัง ><



ฝนกำลังตั้งเค้าแล้วสินะ

พายุเข้าแน่ๆ ค่ะ
  :laugh:

เท็น เด็ดขาดดีมากจ้ะ  o13
ไม่ชอบประเด็นเรื่องผู้หญิงและแม่เลย พวกนางมักจะมาพร้อมดราม่า  :hao7: เมลโดนตัดสินเฮด ฮอลลลล พี่เมลฮอร์โมน :-[

นางมาพร้อมพายุแน่ๆ ค่ะ  :z2:

เท็นเท็นดุมาก แฟนข้าใครอย่าแตะของจริง :laugh:
จะรอดูว่าเมลจะจัดการกับว่าที่คู่หมั้นตัวเองยังไง :hao7:
ถ้าจัดการไม่ดี อาจถึงมือเท็น แต่จะเห็นศพไหม ไม่รู้ อ๊ากกกก โหด ไม่ใช่แล้ว :m20:

ขอบคุณคุณ BeeRY ที่ติดตามมาช้านาน เรามีบัตรกำนัลมอบท่านเท็นให้ไปออกเดทด้วยหนึ่งวัน  :hao7:

ความหล่อของเมล พาเรื่องมาให้เท็นองค์ลงอีกแระ
มาแบบ ว่าทีคู่หมั้น ด้วย สงสัยพวกนี้ต้องเท็นจัดการขั้นเด็ดขาด


เดี๋ยวรู้เลย ฮ่าๆๆ  :ruready

เท็นอย่างโหดดด เล่นซะเมลหงอเลย  :m20:

 :z6: << แด่แฝดชะนี

  :z6: :z6: แด่ด้วยคน หมั่นไส้ๆๆๆ

ยังไม่เอาคู่อื่นได้มั้ยค๊า คนเขียน
ขอเป็น เมล เท็น เท็น เมล จนจบมาม่าบุพการี กับ แฝดนรกพริม แพร ก่อนได้มั้ย?  please.... :serius2:

  :katai4: :katai4: อยากเข้าสู่พายุกันแล้วใช่มั้ยคะเนี่ยยยย คนเขียนยังไม่พร้อมเลยน้า  :hao3:

เท็นตอนนี่หึงโหดโคตรรรรรรรรรรรรรรร แต่น่ารักอ่ะ

เอาเข้าจริง ชอบที่เท็นบอก ว่านึกไม่ออกเลยถ้าคนข้างเมลไม่ใช่เท็น งื้ออออ ลืมเท็นก่อนหน้านี้ไปเลยอ่ะ  :hao5: :hao5:

เพิ่งได้เจอผู้ชายสกินเฮดแล้วหล่อโคตรมา แล้วนี่อิมเมจเมลก็กลายเป็นสกินเฮดอีก โอ๊ยยยย ฟินนน  :ling1: :ling1:

ขำประโยคนี้อ่ะ ครับ ไอ้หล่อ มึงตัดทรงไหนคนก็สนใจ เว้นแต่มึงจะตัดหัวทิ้งนั่นแหละ เขาถึงจะเลิกสนใจมึง เปลี่ยนเป็นไว้อาลัยแทน เห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยยย

อยากบอกว่าหลงรักเมลมากๆ ค่ะตอนนี้ ตั้งแต่เปลี่ยนทรงผม ฮีก็เริ่ดกว่าเดิม อร้ายยยยยย  :ling1: :ling1:

เอาเมลเท็นต่อๆ อย่าพึ่งเอาคู่อื่นมาขั้ง
โฮกกกกกก  :sad4:

  :hao5: :hao5: จริงเหรอ?

ชอบเท็นตอนนี้มากกกกกกกก
ถึงจะโมโหถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ก็ไม่ดราม่า
แบบจะเลิกกับเมล จะหลีกทางให้งั้นงี้
กลับกันเป็นแบบของๆ เรา ห้ามใครแตะ
เท็นสุดยอดจริงๆ เป็นอื่นคงดราม่าน้ำตาแตกไปแล้ว

คุณ Aoya คอยสนับสนุนกันมาอย่างช้านาน ขอบคุณมากๆ นะคะ ไม่มีดราม่าหรอกค่า ขอให้เชื่อในตัวท่านเท็น อิอิ   :laugh:

ใจละลายกับผู้ชายตัดสกินเฮด
รีบเคลียร์ยัยพอพาลลลลลทั้ง2คนนั่นทิ้งเร็วๆนะจ้ะ จะได้ไม่เจ็บตัวเพิ่ม


 :กอด1:

กอดคืน  :กอด1: ชอบเหมือนกันนนนนนนน ผู้ชายที่ตัดสกินเฮดแล้วน่ามอง แสดงว่า หล่อจริง  o13


สุดท้ายนี้ขอบคุณนักอ่านหน้าเก่าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น คุณ poisongodx, maemix, My_yunho, yuuri, Ella Killer, HISY, Ouizz, vahoo22, full69, mooping-7, mur@s@ki, Nano PL, akira334, บ๊ายบายโพ, นอนกินแรง, kimY, sukie_moo, JustWait, พลอยสวย, และสุดท้าย คุณ Aoya (อาจจะยังมีอีกหลายท่าน ถ้าจะให้ไล่เรียงก็คงกล่าวถึงไม่หมด
) ที่ไม่เคยทิ้งเท็นกับเมลไปไหน ยังคงรอแม้ว่าคนเขียนจะมาช้ามากแค่ไหนก็ตาม ขอบคุณมากๆ ค่ะ  แค่เห็นความคิดเห็นของพวกคุณก็มีกำลังใจแต่งต่อ แค่หนึ่งความคิดเห็นก็ดีใจมากแล้วค่ะ

แล้วก็ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกคนนะคะ ทุกคนเลยจริงๆ ค่ะ มากอดหน่อยยย  :กอด1:

 :pig2: :pig2: :pig4: :pig4:

ปล. ว่างๆ ไปส่องดูแถวสนามกีฬาแห่งชาตินะคะ 55555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-10-2013 21:22:50
ชอบนิสัยเท็น อ่า อ่านแล้วหลงรักเลย อ๊ากกก >.<
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 23-10-2013 23:39:00
เท็นจะโหดหรือจะฮา
 :laugh:

สงสารเมลอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 24-10-2013 00:31:13
แวะมากอดก่อนนอน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 24-10-2013 12:03:00
เท็นคือไอดอล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-10-2013 14:28:58
บางทีเมลก็ใจดีกะคนอื่นเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 24-10-2013 21:54:55
เท็นน่ากลัวนะ หึงโหดมาก

แต่ชอบที่ตัดผมเมล ขอฮาก่อน

ตัดแล้วดูดีนี่คิดผิดเลยนะ :hao7:

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-10-2013 22:13:53
เท็นหึงโหดแต่เราชอบ เมลก็อย่าใจดีกับคนอื่นมากนัก เดียวคราวหน้าเท็นจัดหนักอีกนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19) + พูดคุยเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 28-10-2013 20:51:37
เท็นนน  เอ็งโหดมากกกกกกกกก   :a5: :a5:   แต่ไม่หนักใจ  เพราะเมลทนมือทนเท้ามาก ซะคิ้วแตกก็ยังมีกะใจอ้อนเอา ๆ  :laugh:
น่ารักอะเรื่องเนี้ย  น่ารักแปลก ๆ   ไม่ใช่ว่าแปลกไม่ดีนะ ดูมีตัวตนดีอะ  คือตัวละครอย่างเท็นเนี่ย มีที่ไหน ไม่มีแล้วแหละเราว่า 555555 
อ่านมาต้น ๆ สงสารเมลตลอดเลยนะ คือเมลดูเป็นมนุษย์ปกติ แต่ดันมาชอบอาร์ทตัวพ่ออย่างเท็นซะงั้น  กว่าเท็นจะรู้ตัวรู้ใจคนอ่านซดมาม่ากันท้องอืดไปข้าง ถึงอย่างนั้น จะบอกว่าสงสารเท็นแต่แอบสะใจนะ  เราไม่อยากให้เมลเป็นทาสรักเท็นแบบไม่มีอนาคต  ถ้าจะรักเท็น อยากให้รักเพราะตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะรัก ตัดสินใจกลับมา แล้วก็อยากให้เท็นเอาใจใส่เมลเหมือนกัน  ความรักมันเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันดูแลนี่นา  :กอด1:
แววมาม่าบ้านเมลมาแต่ไกล  ไม่น๊า  ไม่ได้เห็นเมลอยู่กับเท็นแล้วทำใจไม่ล่าย :o12:  แต่เราเชื่อน้ำมือเท็น ตราบใดที่เมลยังมีใจรัก  ดราม่าจะมาจากฝ่ายไหน เจอเท็นได้ระเบิดตู้มกลายเป็นโกโก้ครันช์แทนแน่ ๆ 5555  สองคนนี้ยิ่งอยู่ด้วยกันแล้วน่ารัก ไม่เบื่อเลยอะ 

ฟิวกับมายด์ไปถึงไหนกันแล้ว  ยังไงก็ไม่ปลื้มที่มายด์เริ่มต้นกับฟิวด้วยวิธีแบบนั้น ได้ตัวแต่ไม่ได้หัวใจน่ะสมควรแล้ว :m16:  แต่ฟิวเป็นคนชอบดูแลคนอื่นเนอะ ขี้ใจอ่อนด้วย ยอมอยู่กินแถมไปไหนมาไหนกับเขาอย่างนี้แล้ว  แสดงว่าคุ้นชินคุ้นตัว แล้วเริมคุ้นหัวใจรึยังอันนี้แอบอยากรู้เหมือนกัน  :-[    แล้วมายด์มีความดีอะไร ถึงจะให้ฟิวใจอ่อนได้กันล่ะ

ส่วนเต้แม็ค  มันต้องมีทริกเกอร์อะไรสักอย่าง อยู่ ๆ มันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ ใช่ไหมคะ  :a5:

อ่านรวดเดียวเลยนะเนี่ย ชอบมากเลยอะเรื่องเนี้ย  เก๊าอยากอ่านต่อแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 04-11-2013 16:14:22
ตอนที่ 30

“ไงไอ้เกรียน”

ผมทักขึ้นในขณะที่ไอ้หล่อหัวเกรียนมันกำลังเก็บรองเท้าเข้าตู้

“พูดอีกมีตบปาก” มันใช้นิ้วกลางชี้หน้าผมก่อนจะเดินไปส่วนของครัว เปิดตู้เย็นหาน้ำกินไปตามเรื่องตามราวของมัน

“หึ แล้วนี่คุณหญิงแม่ของมึงเขาเรียกไปทำอะไรล่ะ”

“แดกข้าว”

ผมยักไหล่กับคำตอบ ช่วงสามสี่วันที่ผ่านมานี้เมลมักจะโดนที่บ้านเรียกตัวให้กลับบ้านบ่อยๆ แต่ไม่มีคืนไหนที่มันจะไม่กลับมาคอนโด วันก่อนตีสามแล้วก็ยังกระเสือกกระสนกลับมาหาผมอีก ไอ้ดีมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง

“เท็นกินข้าวยัง”

“ก็รอมึง”

“งั้นป่ะ”

“กินมาแล้วไม่ใช่ไง”

“เถอะน่า เร็วๆ ลุกเลย”

“ไม่เอา มึงไปกินกับว่าที่คู่หมั้นมึงมาแล้วนี่”

“กูไม่มีทางเลือก”

ด้วยคำตอบนั้นทำให้ผมชำเลืองมองใบหน้าหล่อเหลาของมันเล็กน้อย ก็ใช่ว่าจะไม่มีหรอกแต่มันเลือกที่จะไม่ทำมากกว่า
มีใครบ้างที่ต้องเลือกระหว่างแม่กับแฟนแล้วจะเลือกได้ทันที

ก็ไม่รู้นะว่าสถานการณ์เป็นยังไง เพราะผมไม่เคยได้เจอครอบครัวเมลเลย ถึงเดาไม่ได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาในทิศทางไหนถ้าเลือกจะบอกพวกท่านว่าเมลคบอยู่กับผม

ผมอาจจะไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ผมก็มั่นใจว่าผมมีดีพอตัว ทว่ามันจะดีขึ้นมาในสายตาพ่อกับแม่เมลได้อย่างไร ในเมื่อผมเป็นผู้ชาย... แต่ผมไม่สนใจหรอก...ถ้าการรักใครสักคนแล้วทำให้ตัวผมดูด้อยค่า...ผมอาจจะเลือกทางที่ทำให้ตัวผมมีค่ามากกว่าก็เป็นได้

มันเป็นความคิดที่ฝังในหัวผมมาตั้งแต่เด็ก...และยากที่จะเปลี่ยนมัน

“อย่าทำหน้าเหมือนว่าจะทิ้งกูไป”

เมลเดินเข้ามากอดรอบคอผมจากทางด้านหลัง สัมผัสแผ่วเบาที่หลังต้นคอทำให้ผมตัวสั่นเล็กน้อย ริมฝีปากของเมลไม่ยอมถอนออกไปง่ายๆ จนผมต้องคลายแขนที่โอบรอบคอออกแทน

“เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปกินข้าวกันพอดี”

“สัญญามา”

“สัญญาอะไร”

“สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกู ไม่บอกเลิกกู จะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไม่ว่าใครจะไม่เห็นด้วยก็ตาม”

“....”

“สัญญามาเร็ว”

พอผมแกล้งนิ่ง เมลก็เริ่มทำตาดุใส่

“กูไม่อยากสัญญาในเรื่องที่ยังไม่แน่ใจ”

“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“ก็ตามนั้น”

เมลเงียบไปสักพัก ผมเสมองไปทางอื่น เราต่างคนต่างเงียบ จนในที่สุดผมก็เริ่มรู้แล้วว่าคงแกล้งมันแรงไป

“ถ้ามันปัญหามากนัก มึงก็ไปคบกับคนอื่นเถอะ”

ท่าทางและน้ำเสียงที่จริงจังแบบนั้นทำให้ผมอึ้งไปเกือบสามนาที มารู้ตัวก็ตอนที่เมลกำลังจะเดินหนีไป ผมยื่นมือจะดึงผมมันไว้แต่แม่งดันตัดสกินเฮดซะได้ เลยต้องกระชากคอเสื้อมันจากข้างหลังจนไอ้คนตัวสูงมันเกือบหงายหลังมาทับผม

“ไล่กูเหรอ”

“เปล่า”

“เปล่าแล้วเมื่อกี้พูดทำไม”

“ก็มึงอยากจะไป”

“กูพูดตอนไหนไอ้เหี้ย”

“หน้าตามึงฟ้อง”

“หน้าผากกูมีคำว่าอยากเลิกเขียนติดอยู่รึไง เก่งจริงๆ เรื่องทึกทักไปเอง ไม่เห็นจะเก่งเรื่องขัดใจแม่มึงบ้าง”

“เออ กูก็ทำได้แค่นี้ล่ะวะ”

ผมเห็นความตึงเครียดในแววตาของมัน แต่ผมจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อมันไม่เริ่มจัดการอะไรสักที

“กูไม่ได้เดือดร้อนนะถ้าพ่อกับแม่มึงจะไม่รู้เรื่องของกู แต่ตอนนี้ เขากำลังจะจับคู่มึงกับผู้หญิงคนอื่น มึงจะทำยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ มีทางออกที่ดีแล้วหรือไง”

“เออ ไม่มีหรอก กูมันโง่ กูไม่มีทางออกดีๆ อะไรทั้งนั้นล่ะ มึงอยากจะไปก็ไปเลย!”

“เมล!”

โครม!

เมลเตะโต๊ะตัวเล็กที่ใช้สำหรับวางโคมไฟล้มกลิ้งไป ผมได้แต่มองตามการกระทำของมัน ก่อนจะหันหลังเดินไปที่ประตู

เป็นช่วงเวลาที่แย่สำหรับเราทั้งคู่ ผมไม่เคยทำใจรับกับเรื่องนี้ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรจะมาทำให้ความกระวนกระวายของผมหายไปเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเมลกำลังอยู่กับใคร ความหึงหวงนั้นทำให้ดวงตามืดบอดเห็นจะจริง ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองไร้เหตุผลแบบนี้เลย เราทะเลาะกันตลอดสามสี่วันที่ผ่านมาและก็ยิ่งทวีความแรงขึ้นทุกที เพราะความไม่เข้าใจและไม่ชอบใจของผมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ตั้งแต่จำความได้ผมก็เพิ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้ ถึงได้ตั้งรับและจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ไม่ทัน

ปึก!

แผ่นหลังของผมกระแทกติดกับบานประตูเพราะถูกคนตัวสูงกว่าผลักด้วยแรงที่ไม่ใช่น้อยเลย ผมพยายามขยับตัวหนีสัมผัสจากเมลแต่ก็ไม่เป็นผล สัมผัสของมันดุดันแบบที่ไม่เคยเป็น ริมฝีปากที่จูบย้ำแรงๆ ลงมาที่ริมฝีปากผมก็ทำเอาเจ็บแปลบ ผมปล่อยให้มันทำตามใจตัวเองอยู่สักพัก ไม่ได้ขยับหนีหรือผลักมันออก

“ไม่ให้ไป” เมลกระซิบเสียงเบา ก่อนจะกอดผมไว้แน่น

“....”

“ขอโทษ”

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ผมก็ไม่เคยได้พูดขอโทษเมลก่อนเลย มันจะพูดขึ้นก่อนและนั่นทำให้ความงี่เง่าของผมหายไปทุกที

“ไม่ทะเลาะกันได้มั้ย กูขอโทษ”

พอผมพยักหน้าเมลก็ก้มลงมาจูบที่หน้าผากเบาๆ

“เชื่อใจกูนะเท็น”

มันเป็นพื้นฐานของคู่รักทุกคู่ผมแน่ใจ แต่ความเชื่อใจของผมถูกบดบังด้วยความอิจฉาที่มีต่อผู้หญิงคนนั้นทุกที

ด้วยเพราะกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังจะถูกกดที่โซฟา คือ? นี่มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? แถมไอ้คนที่กำลังคร่อมผมอยู่นี่ มือหนึ่งถือโทรศัพท์ ส่วนอีกมือกำลังปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเอง

“ไปไม่ได้ครับแม่ ผมอยู่กับแฟนครับ ครับ ผมบอกพ่อแล้วครับ ครับ ไว้จะพาไปแนะนำครับ แล้วแม่จะรักเท็น สวัสดีครับ”

พอเมลวางสายผมก็บอกมันทันทีว่า “แม่มึงไม่มีทางรักกู”

“ไม่มีใครที่รู้จักมึงแล้วไม่รักหรอก”

“อย่างน้อยก็ไอ้เป๊บ”

เมลยิ้มขำ ก่อนจะขยี้หัวผม ไอ้เป๊บที่ว่านี่ชื่อเต็มๆ ของมันคือเปเปอร์ เป็นแมวเปอร์เซียตัวอ้วนกลมที่เมลเอาไปฝากให้ไอ้ฟิวเลี้ยงเมื่อหลายวันก่อนเพราะคอนโดเลี้ยงไม่ได้ (ผมก็ไม่เข้าใจนะ ในเมื่อมันรู้ว่าเลี้ยงไม่ได้แล้วมึงจะซื้อมาทำเพื่อ?) แล้วไอ้เป๊บก็ดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าผมสักเท่าไหร่ เชิดใส่กูไม่ยั้ง ยังดีที่ผมพอมีเมตตาไม่เอาไปขังรวมกับไอ้เจคอปลูกรัก ไม่งั้นล่ะมึง เห็นนรกแน่ หึหึ

“แล้วนี่จะถอดกางเกงทำไม”

“อยากรู้?”

“ไม่อยาก กูหิวข้าว”

หน้าตายิ้มๆ ของมึงนั่นคืออะไรเนี่ย -*-

“กินอย่างอื่นรองท้องก่อนมั้ย”

“ไม่เอา หิวข้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“โอเคครับๆ งอแงดีจังเลยมึงเนี่ย”

“เรื่องของกู”

“หึหึ ทำหน้างอนก็เป็น”

“เมล!”

“ไม่แกล้งแล้ว ไปครับๆ เดี๋ยวป๋าพาหนูไปกินข้าวนะ”

“หนูพ่องงงง!”

“หึหึ”

เมลแม่งกวนตีน เวลาโมโหใส่ใครแล้วไอ้คนนั้นมันเอาแต่ยิ้มแต่หัวเราะนี่น่าเตะอัดซะจริงๆ -*-

.
.
.

นานๆ ผมจะเข้าเช็คเฟซตัวเองสักที ความจริงก็เพิ่งสมัครได้ไม่นาน ตอนไอ้กัสไซโคก็ยังไม่คิดจะสมัครหรอกครับ แต่นานๆ ไป เริ่มมีบุคคลที่สามที่สี่ที่ห้าถามว่ามีเฟซมั้ย เล่นป่าว ทำไมไม่เล่น บลาๆ นี่กูก็อยากถามว่าแม่งเป็นหุ้นส่วนกับเฟซบุ๊คหรือไง แต่บุคคลเหล่านั้นไม่สามารถโน้มน้าวผมได้ ผมจำเป็นมั้ยที่ต้องเล่นตามที่ทุกคนต้องการ? ไม่นี่ จริงมั้ย? จนกระทั่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งแกเกิดอินดี้สั่งงานผ่านทางกลุ่มในเฟซเท่านั้น ไอ้ฟิวเลยจัดการสมัครให้ผมไปโดยปริยาย นั่นเลยเป็นตำนานเปิดฉากโลกโซเชียลของผม

แล้วไอ้เหี้ยเต๋อนี่ขยันแทคขยันแชร์รูปจังเลย วันๆ มันทำอะไรบ้าง อยากรู้จริง -*-

ด้วยความที่ไม่รู้จะเม้นใต้รูปหน้าตาพิลึกของไอ้เต๋อยังไง ผมเลยพิมพ์ไปว่า ‘ไอ้เหี้ย’ เท่านั้นแหละไม่ถึงหนึ่งนาทีเหี้ยเต๋อเม้นตอบกลับมาเป็นรูปภาพที่มีข้อความประมาณว่า

‘เวลาด่ากู อย่าด่าว่าไอ้เหี้ย มันไม่มีทางเลือก ช่วยด่าว่าไอ้สัตว์ กูจะได้เลือกบ้าง เผื่ออยากเป็นผีเสื้อ’

‘สัตว์บก!’ << TheTen

‘กูบอกอยากเป็นผีเสื้อ!’ << สุดหล่อ พ่อให้มาเยอะ

ผมเลยปิดรูปหน้าตาพิลึกของไอ้เต๋อลงทันทีก่อนจะเปลี่ยนหน้าเพจไปยังเฟซของเมลที่ไม่ว่าเข้ามาเมื่อไหร่ก็ฮอตแบบไร้คำบรรยายทั้งๆ ที่สเตตัสเป็น In relationship แล้วนะคุณ

Primmy Sexy >> ‘ฝันหวานนะคะเมล’

Primmy Sexy >> ‘ตื่นแล้วหาอะไรกินด้วยนะคะ’

Primmy Sexy >> ‘ขอบคุณสำหรับดินเนอร์ค่ะ อาหารอร่อยมาก ขับรถดีๆ นะคะ ถึงคอนโดแล้ว Line มาด้วยน้า’

Primmy Sexy >> ‘โทรหาไม่รับเลย แต่ยังไงคืนนี้ก็ฝันดีน้า ^O^’

Primmy Sexy >> ‘คิดถึงเมลอีกแล้ว ทำยังไงดีคะ :) ฝันดีนะคะ (ว่าที่) ที่รัก’

เอ่อ...ถ้าถามผมนะ ผมคงไม่กล้ามาโพสอะไรแบบนี้บนเฟซแฟนคนอื่นเขาหรอก มันน่าอายและก็ทุเรศด้วยว่ะ

“เหี้ยเมล!”

เพราะเสียงตะโกนของผมทำให้เมลวิ่งหน้าตื่นออกมาจากครัว

“อะไรครับ? หงุดหงิดอะไรอีก”

“กับคนที่ชื่อพริม เมื่อไหร่จะจบ ถ้ามึงไม่ยอมจัดการซะทีนะเมล กูจะจัดการเอง”

“มันเรื่องอะไรเท็น”

ยิ่งเห็นหน้าที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมลแล้วผมก็ยิ่งโมโห เพราะมันเป็นแบบนี้ไง ถึงได้มีเรื่องต้องผิดใจกันแทบทุกวัน

“ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ เราพูดกันเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือไงเท็น”

“กูเข้าใจแต่ดูเหมือนผู้หญิงไม่มียางอายคนนั้นมันไม่เข้าใจ ตรรกะที่ว่าใครดีมาดีตอบของมึงน่ะ อย่าเอาไปใช้กับคนที่จ้องจะงาบมึงได้มั้ยวะ ซื่อบื้อไม่เข้าเรื่องไอ้ห่าเมล”

“เอ้า ด่ากูซะงั้น แล้วต้องทำยังไงถึงจะถูกใจท่านล่ะครับ”

“ทำยังไงก็ได้ให้ยัยพริมมี่เซ็กซี่เหี้ยไรนี่หายไปจากชีวิตมึง”

“....”

“ถ้ามันยังมาแรดอยู่ในชีวิตมึง ก็อย่าหวังว่าจะมีกู”

ผมไม่อยากยื่นคำขาดนะ แต่การปล่อยให้ตัวเหี้ยอะไรสักอย่างมาบ่อนทำลายความสุขในชีวิตนานๆ คงไม่ดี

“กูจะออกไปข้างนอก คืนนี้มึงนอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอ”

“จะไปไหน”

“เรื่องของกู เอาเวลาไปจัดการปลิงในชีวิตมึงเถอะ!”

“เท็นเท็น!”

ผมรู้ว่าอารมณ์ตัวเองไม่คงที่เลย ผมต้องการเวลาเพื่อที่จะปรับให้ทุกอย่างคงที่ ให้เป็นอย่างที่ผมเคยเป็นมา ปัญหาอะไรก็ไม่น่ากลัวเท่ากับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเมล ในเมื่อเรายังจับมือกันแบบสนิทใจไม่ได้แล้วเราจะผ่านอุปสรรคที่เข้ามาได้ยังไงผมก็ยังสงสัย

ผมขับรถกลับมาที่บ้าน เจอไอ้มายด์กำลังป้อนนมไอ้เป๊บอยู่ที่โซฟา มีไอ้ฟิวนั่งท่องตำราเรียนเทอมสองอยู่ข้างๆ กัน

“ทะเลาะกับเมลมาอีกแล้วรึไง”

ผมไม่ได้ตอบคำถามของไอ้ฟิว เพราะเวลาที่อารมณ์พลุ่กพล่านแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของไอ้ฟิวเวลาเอ่ยชื่อเมลหรอก ผมเดินมายังห้องของไอ้เจคอป มันกำลังนอนแทะกระดูกของเล่นอันที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว เพราะแม่งแทะทีพังแบบครั้งต่อไปใช้ต่อไม่ได้เลยนั่นแหละ ไอ้ฟิวเลยตัดสินใจซื้อมาสำรองไว้หลายอัน ตุ๊กตาหมีที่ไอ้แต้มซื้อมาอย่างสิ้นคิดในวันครบรอบเดือนของมันก็หัวขาดไปเรียบร้อย ตอนนี้ขนาดตัวก็พอๆ กับสิงโตวัยรุ่นเลยแหละครับ -_-

ถึงใครๆ จะกลัวมัน แต่ไอ้เจคมันน่ารักกับผมมากนะ มันขี้อ้อน อยู่กับผมมันน่าเอ็นดูกว่าไอ้เป๊บแมวเปอร์เซียน่าหมั่นไส้นั่นหลายเท่าเลย แถมช่วงนี้ไอ้เจคเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เข้าหน้าผมติดเวลาผมหงุดหงิดจนคุมตัวเองไม่อยู่

“เป็นไงวะเจค มึงไม่ชอบตุ๊กตาหมีใช่ไหมล่ะ แต่ก็ดีกว่าตุ๊กตาบาร์บี้ของไอ้เต๋อล่ะนะ คิดถึงเหรอ หึหึ พ่อมึงแอบมีชู้ว่ะเจค ถ้ามันมาคราวหน้ากัดหัวมันให้ขาดเลยนะ เข้าใจป่ะ”

ผมว่ามันเข้าใจนะ เพราะมันก็ส่งเสียงตอบกลับมา หึ คราวหน้ามึงเดี้ยงแน่ไอ้ห่าเมล

ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“ครับแม่ แปลกใจนะครับที่โทรมา คิดถึงเหรอครับคนสวย หุหุ”

(คิดถึงสิคะ แล้วเท็นเป็นไงบ้างคะลูก คุยกับป๋าคราวก่อนทะเลาะกันเหรอคะ)

ป๋าไปแสดงท่าทีอะไรให้แม่คิดแบบนั้นเนี่ย

“เปล่าครับ แค่ความเห็นไม่ตรงกันนิดหน่อย แต่ป๋าเข้าใจแล้วครับ ไม่มีอะไรหรอก”

(เท็นต้องรักป๋าให้มากๆ นะคะ ถ้าวันไหนที่แม่ไม่อยู่ เท็นกับป๋าต้องดูแลกันให้ดีๆ นะ เรามีกันอยู่แค่นี้ต้องรักกันให้มากๆ นะคะ)

“ครับ อย่าห่วงไปเลยครับแม่”

(เท็น ช่วงนี้มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่าคะ ได้ยินน้องฟิวว่าทะเลาะกับน้องเมลบ่อยๆ)

ไอ้ฟิวปากมากไม่เข้าเรื่อง!

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

(มีอะไรเท็นบอกแม่ได้ทุกเรื่องนะคะ แม่อยากเห็นเท็นมีความสุข)

“ครับ”

(ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะมีหลายๆ สิ่งที่เปลี่ยนไป แต่เท็นอย่าลืมนะคะ อย่าลืมความภูมิใจในตัวเอง แม่อาจจะเป็นแม่ที่ไม่ดีนัก เพราะไม่เคยเข้าใจเท็นเลยสักครั้ง แต่แม่ก็รักเท็นมากนะคะ)

“แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดแล้วครับ ผมก็รักแม่ แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องของผมหรอกครับ ไม่มีอะไรให้กังวลเลย ผมจัดการได้อยู่แล้ว”

ผมได้ยินเสียงสูดน้ำมูกเล็กน้อย ...แม่คงร้องไห้อีกแล้ว ...คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะร้องไห้และเจ็บปวดไปพร้อมกับผมได้เท่าผู้หญิงคนนี้

“ว้า ร้องไห้อย่างนี้ป๋าได้โทรมาบ่นผมอีกแน่เลย”

(ถ้าป๋าบ่นเท็นแม่จะจัดการให้ ดีมั้ยคะ)

“ดีครับ แม่อย่าลืมรักษาสุขภาพตัวเองนะครับ ไปตามที่หมอนัดทุกครั้งด้วย”

(ค่ะลูก แม่ต้องวางแล้วนะคะ มีอะไรไม่สบายใจโทรมาทันทีนะคะเท็น ดูแลตัวเองนะ แม่กับป๋าเป็นห่วง)

“ครับคนสวย แล้วเจอกันนะครับ ผมอาจจะบินไปหาเร็วๆ นี้”

(ค่ะ รักนะคะ)

ไอ้เจคไถหัวโตๆ ของมันกับหน้าขาผม พร้อมกับครางหงิงๆ ไม่สมขนาดตัว ผมเลยลูบหัวมันเบาๆ อีกมือก็เก็บไอโฟนใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม

ก่อนหน้าที่จะเจอเมล ผมเคยเป็นยังไงก็จำแทบไม่ได้แล้ว แต่มันดีแล้วเหรอที่เป็นอยู่อย่างนี้ ผมยึดติดกับมันมากไปหรือเปล่า...

“เจค อยากได้พ่อใหม่มั้ยวะ?”

“โฮ่ง!”

“หรือแม่ใหม่?”

“โฮ่งๆ”

“มึงอยากกำพร้าพ่อเหรอ?”

“โฮ่ง!”

มันฟังรู้เรื่องหรือเห่าอะไรวะ? -_-

“มึงเสี้ยมอะไรผิดๆ ให้ลูกวะเท็น”

อ้อ พ่อมันโผล่หน้ามา ถึงว่าเห่าไม่หยุดเลย

“กูบอกว่าถ้าไอ้เป๊บลอดเข้ามาให้มันแดกได้เลย”

“ดูสอนไอ้เจคแต่ละอย่าง ดีๆ ทั้งนั้น”

“แล้วมึงมาทำไม”

“มาหาเมีย”

ผมเบื่อหน้าหล่อๆ ของมันจริงๆ ยิ่งมันส่งยิ้มมาด้วยนะ ยากมากที่จะไม่ยิ้มตาม

“ใครเมียมึง”

“ไอ้ขี้งอนแถวนี้แหละ”

“ไอ้เจคเหรอ”

“ไม่ใช่ แต่ก็พันธุ์เดียวกัน ดุเหมือนกันด้วย”

“เหี้ยเมล หลอกด่ากู”

“หึหึ ยอมรับแล้วไง”

“ไม่ต้องเบียดได้มั้ยเล่า! ร้อนนะไอ้เหี้ย”

“มึงอุตส่าห์ลงทุนติดแอร์ให้หมา ยังจะบ่นร้อนอีกไง”

ผมไม่อยากต่อปากต่อคำกับมันเลยเบือนความสนใจมาที่ไอ้เจคที่กำลังแทะของเล่นอีกแล้ว คราวนี้เป็นรถบังคับที่ไอ้เต้ซื้อมาให้ (อยากถามเพื่อนกูเหมือนกันว่ามันเห็นไอ้เจคเป็นตัวอะไร -_-)

“พรุ่งนี้ไปทานข้าวเย็นบ้านกูนะ”

ประโยคบอกเล่าของเมลทำเอาผมสตั้นไปสิบวินาที เมื่อกี้มันพูดอะไรนะ?

“ไปมั้ย?”

“......”

“ไปเถอะนะ กูอยากให้พ่อกับแม่เห็นว่าแฟนกูน่ารักขนาดไหน”

“......”

“เท็นเท็นครับ”

“อือ”

เมลจับมือผมไว้ ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มทั้งซ้ายและขวา แถมมีไอ้เจคเห่าเป็นซาวด์ประกอบด้วย

“อะแฮ่ม! นี่ห้องไอ้เจคนะครับคุณ จะเอากันเชิญข้างบน”

ขอแช่งให้ไอ้มายด์มีชีวิตที่ดราม่าต่อไป! เข้ามาขัดซีนอารมณ์ดีนัก!

...........................................................To be continue...................................................

กลับมาแล้วค่าาาาาาาาาาาา คงต้องสารภาพว่าคงได้แค่อาทิตย์ละตอนจริงๆ มีอะไรหลายๆ อย่างที่ยังลังเลค่ะ เลยต้องขัดเกลาอยู่หลายรอบ

คิดถึงทุกคน  :กอด1:

ไม่ดราม่าแน่นอนค่ะ!!! เชื่อในเท็น! เชื่อในรัก เชื่อในเรา! 555  :z2:

 :ruready

 :katai4: :katai4:

ขอบคุณความคิดเห็นยาวๆ จากคุณ ReiSei ค่ะ ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกท่านเลยนะคะ และก็ขอกอดแน่นๆ สำหรับขาประจำ แหะๆ

เท็นงี่เง่ารึเปล่า? แต่บางครั้งคนเราก็จะมีช่วงที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้นะคะ เลยนำพามาซึ่งปัญหาชีวิตคู่ ใครที่มีแฟน เคยมั้ยคะที่มีช่วงแบบนี้ ถ้าตั้งชื่อตอนได้ก็คงจะเป็นชื่อว่า ปัญหาที่ยืดเยื้อและเรื้อรัง 555 เท็นไม่เคยมีความรักมาก่อนเลยค่ะ คงจะยากสำหรับเขาหน่อยที่ต้องเจอความรู้สึกแปลกใหม่ ความหึงหวงที่มากเกินไปเหมือนเด็กหวงของสำคัญ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยดีค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 04-11-2013 17:03:12
เมลต้องเคลียร์ตัวเอง เพื่อให้เท็นเชื่อมั่นและเชื่อใจได้เต็มร้อย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: evilbluesky ที่ 04-11-2013 17:05:14
+ เป็ดจร้า

เอาใช่วยความรักของเท็นเท็น น๊า

อย่าให้มีมาม่าเลยแค่ตามความรุสึกเท็นเท็น

แค่นี้ก็ นอย แล้วอ่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 04-11-2013 17:15:34
เท็นเท็นสู้ๆนะกำจัดนังชะนีพริมให้ได้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-11-2013 17:26:04
เอาใจช่วยเท็นเท็นกับเมล  :L2:
เมลจะพาไปเปิดตัวที่บ้านขอให้ผ่านไปด้วยดีนะเท็น :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 04-11-2013 17:33:32
ชะนี นางนี้ก็มั่นหน้าจริงๆเนาะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 04-11-2013 17:55:10
โชคดีนะเมล เท็นเท๊น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-11-2013 18:51:07
เมลน่ารักยอมเท็นตลอดอ่ะ
คราวนี้ก็เลิกงอนได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 04-11-2013 19:17:58
5555  เท็นอารมณ์มันขึ้นๆๆลงๆๆ จริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 04-11-2013 19:40:26
เมล-เท็น ๆๆ ชอบๆๆๆๆๆ^______^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-11-2013 19:45:56
เมลชัดเจนไปเลยดิ ใจดีเกินไปแล้วนะ เท็นอย่าหนีเมลไปนะ สู้ๆสิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 04-11-2013 19:49:21
เชื่อในเท็นเท็น ศึกนี้ช่างใหญ่หลวงนัก  :a2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 04-11-2013 19:49:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 04-11-2013 20:01:42
โอ่ยยยยยยยยยยชอบเท็นจัง หลงเมลด้วย

น่ารักกันมากอ่ะคู่นี้ คือหวานพอดีในแบบที่ทั้งคูยังเป็นผู้ชายอยู่อ่ะ ยังไงดี อ่านแล้วดูไม่เว่อเกินไป แต่ก็คือหวานอ่ะ (ห๊ะ 55)

ไม่ดราม่าอะดีแล้วค่ะ อิอิ

มารอทุกวันเลย มาอาทิตย์ละครั้งก็จะติดตามน้าาา  :bye2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 04-11-2013 20:05:42
เท็นใจเย็นๆ คิดให้มาก โกรธได้แต่ห้ามทิ้งเมลไป เพราะดูท่าทางเมลจะต้องรับศึกหนักจากหลายๆทาง
โดยเฉพาะขุ่นหญิงแม่ที่กำลังจะมีบท   :serius2:
ที่สำคัญอย่าเหนื่อยที่จะง้อเท็นนะ พลีสสส  :hao5:

ยัยพริมมี่เซ็กซี่  ยูสเฟสนางแบบมั่นมากนะ หมั่นไส้จริงพวกสร้างความร้าวฉาน  :angry2: กลับป่าไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 04-11-2013 20:12:44
เราไม่คิดว่าเท็นงี่เง่าเลย
จริงๆ น่าจะจัดการเมลและยัยพริมมี่เซ็กซี่นั่นให้หนักสักครั้ง  :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 04-11-2013 20:18:31
ใครทนไม่หึงไม่หวงได้บ้างล่ะ ณ จุดนี้ สถานการณ์นี้ เราว่าเท็นก็เป็นเหมือนกับที่คนอื่นๆเป็นนั่นแหล่ะ
ทดลองเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วอยู่กับมันให้ได้นะ เราเอาใจช่วย


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 04-11-2013 20:34:45
ดีใจที่วันนี้ได้อ่าน เข้ามาเปิดดูทุกวันเลย  :mc4:
แต่ทำไมรู้สึกตอนนี้มันสั้นๆไงไม่รู้
รอมานาน พอได้อ่านยังไม่ทันจะอิ่ม ก็จบตอนซะละ อิอิ
อยากอ่านตอนหน้าแล้วอ่ะค่ะ อยากรู้ว่าพ่อแม่เมลจะรับเท็นได้มั้ย?
จริงๆแล้วเท็นก็ไม่ได้มีข้อเสียอะไรนอกจากเป็นผู้ชาย
นอกนั้นก็ออกจะเหนือกว่าพริมมี่ เซ็กส์เสื่อม ไปซะทุกอย่าง คึคึ
สบายใจจังที่คุณคนเขียน คอนเฟิร์มว่าไม่ดราม่า  :mew1:
รออ่านอยู่นะค๊า^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 04-11-2013 21:40:08
ตอนหน้าจะพาเท็นไปไหว้พ่อแม่สามีใช่ป่ะ


ขออย่าให้บ้านโน้นใจร้ายเลยนะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 04-11-2013 22:28:41
ง้องอนกันตลอดคู่นี้ แต่ยังคงความหวานอยู่

อยากรู้ข่าวคู่มายด์ฟิวบ้าง จะเลิฟเลิฟกันหรือยัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 04-11-2013 23:08:47
เข้ามาจิ้มคนเขียนโทษฐานหายไปหลายวัน
:z13:
กำลังบิ้วอารมณ์ได้ที่แล้วเว้นช่วงนานไม่ดีๆ
เปรียบเหมือนดูลำยองอยู่แล้วไฟดับ
เข้าใจอารมณ์มั้ยค่ะ?
 
หุหุ เค้าไม่ได้เร่งน้าแต่เร็วๆหน่อย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ จุ๊บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 04-11-2013 23:29:01
เมลน่ารักอะ ยิ่งอ่านยิ่งอยากเอาใจช่วยให้ไปกันได้ตลอดรอดฝั่ง :monkeysad:
เ้ข้าใจเท็นนะ เรื่องแบบนี้มันอ่อนไหวมากง่ะ  แต่เมลก็ดีดี๊ดี  สมกับที่เราเข้าข้างมาัตั้งแต่ต้น 555
คอยลุ้น พ่อกะแม่เมลจะว่ายังไงบ้างเนี่ย  :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 05-11-2013 00:57:38
หมามีห้องด้วย ติดแอร์อีกต่างหาก


แล้วตกลงขึ้นข้างบนมั๊ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-11-2013 09:37:13
เท็นหึงโหด เมลรีบเคลียร์ตัวเองด่วน
ปลิงเกาะไม่ปล่อย อย่าให้เท็นต้องลงมือเอง

ไปง้องอนกัน ให้เจคมันมองให้มายด์อิจฉาเล่นๆ หึหึ

เท็นจะไปทานข้าวกับพ่อแม่เมล เจอไรบ้างนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 05-11-2013 18:05:17
เมลเป็นผู้ชายที่แสนดีมว๊ากกกกกกกกกกก
เท็นเท็นก็น่ารักอะ ชอบเวลาที่ทำตัวงี่เง่าเวลาหึงเมลนะ น่ารักดี ถ้าเป็นเมลก็คงอาจจะปวดหัวหน่อย ปต่ก็ทำตัวอย่างนี้กับเมลคนเดียวนิน่า

เอาใจช่วยให้ผ่านด่านแม่เมลไปได้นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 06-11-2013 16:13:54
รักเมลมากขึ้นทุกที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-11-2013 21:43:15
จะพากันไปบ้านแล้ว

เป็นห่วงว่าครอบครัวเมลจะไม่ยอมรับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 07-11-2013 22:11:48
มันจะมีมาม่าไหมนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-11-2013 00:13:53
ถ้ามีมาม่า
ฉันจะฆ่าคนแต่ง ==
กำลังน่ารักเลย
เอามาม่ามาฉันไม่ยอม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 08-11-2013 11:47:20
เมลใจดีพร่ำเพรื่อ มันเลยทำเหมือนให้ความหวังคนอื่นเรื่อยไป  มันอาจทำให้เสียเท็นๆไปก็ได้นะ

สู้ๆนะเท็นเท็น น่ารักขนาดนี้(?)พ่อแม่เมลต้องรักแน่(แต่ไม่รู้ว่าตอนไหนอ่ะนะ)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 09-11-2013 21:21:35
งานจะเข้าเท็นเท็นไหมนี่ อุปสรรคก้อนใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 11-11-2013 23:01:40
อ่านทันแล้ววววว สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-11-2013 02:36:49
ทนอ่านจนจบหน้า1 และก็จะเลิกอ่าน
แต่ขอเม้นหน่อย
เท็นนิสัยแย่มาก นิสัยเสีย เหนแก่ตัว เอาแต่ใจ
ไม่เคยเจอนายเอกที่นิสัยแย่เท่านี้มาก่อน
แล้วตอน 5ที่ขอโทดเมล อ่านจนถึงตอน 7หมดหน้า1 ก็ไม่เหนขอโทดฟิวสักคำ
แถมยังทำนิสัยเสียใส่ฟิวอีก
ถามจริงมีเพื่อนคบได้ไง
นิสัยอย่างนี้มีคนรักด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 12-11-2013 12:52:35
ทนอ่านจนจบหน้า1 และก็จะเลิกอ่าน
แต่ขอเม้นหน่อย
เท็นนิสัยแย่มาก นิสัยเสีย เหนแก่ตัว เอาแต่ใจ
ไม่เคยเจอนายเอกที่นิสัยแย่เท่านี้มาก่อน
แล้วตอน 5ที่ขอโทดเมล อ่านจนถึงตอน 7หมดหน้า1 ก็ไม่เหนขอโทดฟิวสักคำ
แถมยังทำนิสัยเสียใส่ฟิวอีก
ถามจริงมีเพื่อนคบได้ไง
นิสัยอย่างนี้มีคนรักด้วยเหรอ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เสียใจจริงๆ ค่ะที่ทำให้รู้สึกแย่ ทางคนเขียนคิดว่าบุคลิกนี้มันก็เหลือรับจริงๆ ค่ะ แต่คนเรามองแค่มุมๆ เดียวคงไม่สามารถเข้าใจและรู้จักเขาได้ทุกมุมหรอกค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-11-2013 20:29:44
ว่างยังนะ มาต่อเถอะ
อยากอ่านนิยาย เพราะมันคือนิยาย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 12-11-2013 21:59:50
ทนอ่านจนจบหน้า1 และก็จะเลิกอ่าน
แต่ขอเม้นหน่อย
เท็นนิสัยแย่มาก นิสัยเสีย เหนแก่ตัว เอาแต่ใจ
ไม่เคยเจอนายเอกที่นิสัยแย่เท่านี้มาก่อน
แล้วตอน 5ที่ขอโทดเมล อ่านจนถึงตอน 7หมดหน้า1 ก็ไม่เหนขอโทดฟิวสักคำ
แถมยังทำนิสัยเสียใส่ฟิวอีก
ถามจริงมีเพื่อนคบได้ไง
นิสัยอย่างนี้มีคนรักด้วยเหรอ
เอ่อม เลิกอ่านไวไปง่า...หลังๆเท็นก็นิสัยดีขึ้นเยอะน๊า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 13-11-2013 19:36:26
อ่านทันแล้วววว
สนุกมากๆเลย ถึงตอนแรกๆจะหมั่นไส้เท็นก็เถอะนะ
แต่ตอนนี่อ่ะ โคตรรักเท็นเลยยยย อ้อเมลด้วย แฮะๆ

ตอนหน้าก็จะไปบ้านเมลแล้วใช่มั้ย จะเป็นยังไงน้า
รออยู่นะคะ รีบมาต่อโดยด่วนเลยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 13-11-2013 19:50:03
ชอบเรื่องนี้
หลากอารมณ์ดี
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 13-11-2013 22:29:34
http://www.youtube.com/v/-gg5ns2fd4U


ตอนที่ 31

“พรุ่งนี้บุกบ้านแฟนเหรอครับท่าน อิอิ”

ผมชำเลืองมองไอ้เต๋อเล็กน้อยก่อนจะสนใจเบียร์ในแก้วต่อ

เกือบห้าทุ่มที่พวกผมนัดกันมารวมตัวที่ร้านพี่เจ๋ง ไม่ครบคนหรอกครับ เพราะเดี๋ยวนี้ไอ้กัสโดนกักบริเวณ ไอ้คิมเพิ่งบินไปเชียงใหม่เมื่อวาน ไอ้แม็คช่วงนี้ก็เก็บตัว ไอ้ฟิวยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่จำเป็นมันไม่โผล่หัวมาร้านเหล้าหรอก ไอ้ลินก็หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ส่วนไอ้เขตก็บินไปหาแฟนที่อังกฤษเมื่อคืนวาน ที่เหลือๆ อยู่ก็มีแต่พวกที่ยังไม่มีเป้าหมายในชีวิตว่าปิดเทอมนี้จะไปไหน

แต่สำหรับผม ปิดหรือไม่ปิดก็ไม่แตกต่างอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปเรียนอยู่แล้ว -_-

“ไปเที่ยวกันเถอะพวกมึง ที่ไหนก็ได้ น้ำตก ภูเขา ทะเล กูไปได้หมดอ่ะ ณ ตอนนี้อยากไปที่ไหนก็ได้ให้ไกลจากกรุงเทพ กูเบื่อออออออ” ไอ้แต้มโวยวายขึ้นตามประสาคนเริ่มเมา

“กูเห็นด้วยยยยยยยยยยยย!!” ไอ้เต้แหกปากขึ้นอีกคน ช่วงนี้หาตัวมันไม่ยาก ไม่ร้านพี่เจ๋งก็คอนโดไอ้แต้ม เมาหัวราน้ำเกือบทุกวัน

“จะไปกันวันไหนตกลงวันเวลากันไว้เลย กูจะได้ลางานเตี่ยล่วงหน้า” ไอ้เต๋อผู้ที่ตอนนี้เตี่ยมันลดตำแหน่งให้เป็นคนงานขับรถส่งน้ำแข็งบอกพลางทำหน้าละเหี่ยใจ มันพูดปลอบใจตัวเองบ่อยๆ ว่าเตี่ยอยากให้เรียนรู้งานทุกระดับ แต่ไม่มีใครเชื่อมันหรอกครับ เพราะใครก็รู้ว่ามันไปทำเรื่องอะไรไว้

ผมก็ไม่บอกพวกคุณนะ ความลับน่ะ...มันไม่ให้บอกใคร ^^

“ให้มากันครบแล้วค่อยไป กูไม่อยากฟังไอ้ห่าเขตมันง้องแง้ง” ไอ้มายด์พูดขึ้นหน้านิ่งตามบุคลิกประจำตัวของมัน แต่หน้าแม่งดูดผู้หญิงได้ไม่แพ้ไอ้หน้าหล่อข้างๆ ผมเลย

“ไอ้เขตกว่าจะกลับก็อีกหลายวันเลยอ่ะ!!! กูอยากไปพรุ่งนี้!!!!” ไอ้เต้เริ่มดีดดิ้น

“พรุ่งนี้ไม่ได้ อยากไป ไปเอง -_-“ ผมบอกพลางยักคิ้วให้ไอ้เต้ที่หยุดทำหน้าเป็นเด็กอยากได้โลมาเป่าลมทันที

“ครับท่าน เชิญท่านแด๊กเบียร์ต่อครับ”

เป็นอันว่าปิดประเด็นเรื่องนี้ ไอ้เต้ขมุบขมิบปากมาทางผม แต่พอชายตามองไปมันก็หัวเราะแหะๆ ส่งมาให้

“เหี้ยเท็นนะ อยู่กับไอ้เมลแม่งอย่างกะคนละคน สองมาตรฐานอ่ะ” ไอ้เต๋อกระเง้ากระงอดขึ้นมา เลยโดนเมลหัวเราะใส่หน้ามันไป

“อิจฉาไงวะ?? หึหึ”

“อิจฉามากกกกกกไอ้สลัด! จะมีใครโชคร้าย เอ้ย โชคดีเท่ามึงบ้างวะ ไม่มี๊! ในจักรวาลนี้!”

“พลิกลิ้นเก่งจริงนะพวกลิ้นสองแฉกเนี่ย” ผมว่าพลางเอนหัวไปซบกับไหล่ของเมล พร้อมกับที่มันยกแขนขึ้นโอบตัวผมไว้

“มึงด่ากูเหี้ยเหรอไอ้เท็นนนนนนนน”

“แล้วจะทำไมวะ ไอ้โจรพรากผู้เยาว์”

“มึง...มึง”

ไอ้เต๋อสะอึกไปชั่วครู่ก่อนจะยอมรับความพ่ายแพ้ สงสัยจะเป็นปมชีวิตมันไปอีกนาน

“เครียดทำไม ยังไงพ่อแม่น้องเขาก็ไม่ได้จะแจ้งความจับมึง เรื่องเงี่ยนมันเรื่องธรรมชาติ ถ้าฝ่ายหญิงไม่สมยอมมีหรือมึงจะได้แทง ไม่ได้ไปปลุกปล้ำเขาเสียหน่อย มึงอย่ามาโลกสวยคิดว่าเด็กสมัยนี้เขาไม่เคย มึงมันไก่อ่อนเกินไปละ อย่ามาคิดว่ากูพูดดูถูก กูเอาเรื่องจริงมาพูด ใครรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็เรื่องของพวกมัน แต่เป็นลูกผู้ชายกล้าทำก็กล้ารับ ในเมื่อมึงก็รักน้องเขาจะแต่งเร็วแต่งช้ายังไงก็ได้แต่ง คิดมากทำเหี้ยไร”

“ก็น้องเขาเพิ่งสิบหก อาจจะได้เจอคนที่ดีกว่ากู เหมาะสมกันมากกว่ากู แต่เตี่ยจะให้แต่งงานกันตอนนี้ มันจะดีเหรอวะ”

“คนที่ดีกว่ามึง เหมาะสมกันมากกว่ามึง แล้วเขาจะรักได้เท่ากับที่มึงรักป่ะวะ เหี้ยนี่คิดไรโง่ๆ”

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ เมื่อกี้คุยเรื่องอื่นกันอยู่ดีๆ วกเข้ามาเรื่องชีวิตดราม่าของไอ้เต๋อได้ไงเนี่ย” ไอ้เต้เสือกขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ดราม่าไม่ต่างกัน

“กูไม่เหมือนมึงนะไอ้เท็น กูคิดแบบที่เหนือฟ้าใต้พิภพข้าเจ๋งสุดแบบมึงไม่ได้หรอกว่ะ” ไอ้เต๋อพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นกรอกปากรวดเดียวหมด ไม่บ่อยนะที่คนบ้าบออย่างมันจะมีซีนอารมณ์แบบนี้

“ก็แล้วแต่มึง แต่กูจะบอกอะไรไว้อย่าง มึงไม่ต้องไปคิดเหี้ยอะไรมาก แค่ถามใจตัวเองว่าต้องการอะไร แค่นั้น แล้วก็ทำตามใจที่อยากทำซะ”

ผมอยากจะบอกไอ้เต๋อว่าไม่ใช่ทุกครั้งหรอกที่ผมจะคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุด อย่างที่ถ้าเย็นพรุ่งนี้มาถึง ผมก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะผ่านไปด้วยดี บางทีผมก็คิดว่าผมยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้

“เออนี่ ไอ้เท็น กูว่าจะถามมึงนานละ มึงเคยเรียนอะไรมาวะ ที่ได้ด๊อกมาเนี่ย”

ไอ้ห่าแต้มจะเติมคำว่าเตอร์ในคำถามไปด้วยก็ไม่ได้ พูดออกมาลิ้นไก่มึงจะสั้นเหรอ -*-

“รู้ไปทำไม มีประโยชน์อะไรกับชีวิตมึงบ้างเหรอ”

ไอ้แต้มทำหน้าสตั้นไปหนึ่งนาที

“ปากนี่เหลือเกิน เพื่อนมันถามดีๆ” เป็นเหตุให้พระเอกต้องออกโรง

ผมแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ความจริงผมไม่ใช่คนที่น่าคบอะไรเลยนะ แต่ไม่รู้ทำไมไอ้พวกนี้ถึงไม่คว่ำบาตรผมซะที

“กูเรียนหมอ ตอนต่อโทผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย เคยสอนหนังสืออยู่สามปีก็เลิกสอน จากนั้นก็กลับมาทำวิจัยต่อ มีคนแนะนำให้ต่อเฉพาะทางก็ลองเรียนดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร สุดท้ายก็กลับไปสอนหนังสืออีกครั้งหลังจบเอก ทำงานวิจัยไปด้วย ต่อจากนั้นอีกสามปีผลงานวิจัยกูได้รับรางวัล อิ่มตัวเลยเลิกทำแล้วก็กลับไทย ความจริงมึงต้องเรียกกูว่า Professor ถึงจะถูก”

“มึงโปรดรับการคารวะจากกูสักแก้วครับเพื่อนครับ” ไอ้แต้มขยับตัวเข้ามารินเบียร์ใส่แก้วผมจนเกือบล้น ก่อนจะขยับตัวถอยห่างด้วยท่าทางนอบน้อม

“เหี้ยเท็นแม่งเจ๋งว่ะ ตอนอายุเท่ามึงพวกกูยังชวนกันเตะบอล วินนิ่ง ตีดอทอยู่เลยไอ้สัด” ไอ้เต๋อเปลี่ยนโหมดจากดราม่ามาเป็นเทิดทูนบูชาผมทันที

“แล้วอะไรทำให้มึงผันตัวเองมาเรียนทางนี้วะ” ไอ้เต้ถามด้วยหน้าตาสงสัยอย่างที่สุด

“ก็ไม่มีไรมากนี่ กูว่าง”

“เหตุผลแม่งงงงงง! น่าหมั่นไส้มากกกกก” ไอ้แต้มพูดขึ้น พร้อมกับได้รับการพยักหน้าเป็นการสนับสนุนจากไอ้มายด์

ผมอาจจะน่าหมั่นไส้อย่างที่ไอ้แต้มพูดก็จริงแต่ไม่เคยพิเศษกว่าคนอื่น อาจจะได้เปรียบเรื่องไอคิวอยู่บ้าง แต่โดยทั่วไปผมก็ใช้ชีวิตเช่นคนธรรมดา ผมเคยมีช่วงที่ตั้งใจเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย เคยมีช่วงที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแล็ป มุ่งมั่นอยู่กับงานวิจัยของตัวเอง เคยมีช่วงที่เงินไม่พอใช้จนถึงกับต้องกินพวกอาหารจั๊งค์ฟู๊ดประทังชีวิต เพราะผมไม่ได้ขอเงินทางบ้าน ป๋าบอกว่าในเมื่อมีสมองดีกว่าคนอื่นทำไมไม่ใช้มันเลี้ยงตัวเองล่ะ และนั่นก็เป็นเหมือนการบังคับให้คนขี้เกียจอย่างผมต้องกระเสือกกระสนหาเงินมาด้วยตัวเอง การได้เงินจากป๋าแต่ละครั้งก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนว่าผมต้องทำงานให้ป๋าเท่าไหร่ถึงจะคุ้มกับเงินที่ได้มา

มีหลายคนมองว่าการเลี้ยงดูแบบนี้มันแปลก แต่ผมว่าป๋าคิดถูกแล้วที่ใช้วิธีนี้ เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นคนยังไง

กลับไทยมาผมก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน อาศัยกินเงินเก่าเก็บที่นับวันก็ชักจะลดจำนวน ของขวัญวันเกิดแม่ปีนี้ถึงจะเจ็บไม่หนักเท่ากับปีก่อนแต่ก็ทำให้เงินในบัญชีธนาคารผมหายไปหลายหลักเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร ถ้ามันซื้อความสุขให้แม่ได้ ผมก็โอเค

ความจริงก็คิดว่าอีกไม่นานก็จะรับงานแล้วนะ มีลูกศิษย์ที่เคยทำงานวิจัยกับผมคนหนึ่งเขามาขอให้ไปช่วยสอนที่มหาลัยของภรรยาของเขาหน่อย แค่ไปเป็น Visiting Professor คงไม่กินเวลาในชีวิตผมมากนักหรอก อย่างน้อยก็คงมีเงินเก็บสักก้อนก่อนงานวันเกิดเมล

“พ่อกูก็เป็นหมอเหมือนกัน” เมลหันมาบอกพร้อมกับยิ้มหล่อ “พ่อต้องชอบมึงแน่”

“มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน”

ไม่รู้ว่าแม่งเอาตรรกะอะไรมาคิดสรุปผลได้อย่างนี้ แต่พอเห็นรอยยิ้มของมันแล้วความกังวลที่เกิดขึ้นในใจเล็กๆ ก็หายไปฉับพลัน

“พ่อกับแม่ชอบคนเก่ง พูดกรอกหูกูมาตั้งแต่เด็กว่าต้องเรียนให้เก่ง ต้องได้ที่หนึ่ง จบมาต้องเป็นหมอเหมือนพ่อกับแม่ แต่บังเอิญกูไม่เทพไง เอ็นไม่ติด เหอๆ”

ถึงว่าทำไมไอ้มายด์บอกว่าบ้านเมลเข้มงวด แม่งเคี่ยวเข็ญลูกอย่างนี้นี่เอง เอาเถอะ พ่อแม่แต่ละคนก็มีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันล่ะครับ

“มึงเป็นคนน่าอิจฉานะเท็น น่าอิจฉามาก” เมลบอกเสียงเบา เสี้ยวหน้าที่หล่อเหลาของมันฉายแววเศร้าออกมาเล็กน้อย ผมเลยสอดมือเข้าไปกอดรอบเอวมันไว้

“ก่อนหน้านี้มันไม่เคยน่าอิจฉาเลยเมลจนกระทั่งกูได้เจอกับมึง”

“ไม่ใช่หรอก”

“ไม่ใช่ได้ยังไง มีแต่คนอิจฉากูที่มีมึงเป็นแฟน”

“ไม่เห็นน่าอิจฉาตรงไหน ก็กู...”

“เดี๋ยวมีปากแตก ความรักของกูมันไม่ได้ทำให้มึงเห็นความสำคัญของตัวเองขึ้นมารึไง มึงคิดว่าคนที่กูเลือกรักกระจอกเหรอ หืมมมม นี่ใคร”

ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เมลเลยยิ้มหล่อส่งมาให้

“เท็นเท็น”

“ใช่ กูคือเท็น กูเจ๋งที่สุดและคนที่กูเลือกมันจะไม่เจ๋งกว่ากูได้ยังไง แต่ขอล่ะ ต่อหน้าคนอื่นอย่าเรียกเท็นเท็นได้มั้ย แม่งดูแอ๊บแบ๊วไงไม่รู้”

“หึ มึงมันบ้า”

“แต่มึงก็รักคนบ้า”

“รักจนจะบ้าแล้ว ^^”

ก่อนที่ผมจะเชื่อในตัวมัน ผมต้องทำให้มันเชื่อในตัวผมก่อน เชื่อว่าผมเลือกคนไม่ผิด เชื่อว่ามันมีดีพอที่ผมจะหยุดทุกอย่างและฝากทุกอย่างในชีวิตผมไว้ที่มัน

“งุ้งงิ้งกันสองคนจนเหล้ากูหวานเลย ไอ้ห่าเต้นี่ก็ตั้งใจฟังจั๊งงง ถ้ามึงอิจฉานักก็ไปเล่นบทพิศาลกับไอ้ห่าแม็คเลยไป มันจะเล่นตัวยังไงก็ไม่รอด เชื่อกู ถามไอ้มายด์ดู มันเคยทำ”

“สัด!”

ต้องขอบใจไอ้มายด์ที่ด่าคำว่าสัตว์ได้หนักหน่วงจนไอ้แต้มต้องหุบปาก แต่มันก็ยังไม่วายหันไปเห่าใส่ไอ้เต๋อต่อ

“เหี้ยเต๋อแม่งแดกเอาแดกเอา เจ้าบ่าวสายฟ้าแลบจะมีเมียก่อนเพื่อนก็อย่างนี้ล่ะว้า”

“ดีกว่ามึงที่ชอบไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านเขาล่ะวะ” ไอ้เต๋อสวนกลับไปหนึ่งดอก คราวนี้ไอ้แต้มหุบปากสนิทราวกับโดนตะกร้อครอบปากเลยทีเดียว

“กูว่าแม่งปีชงของพวกเราว่ะ หาเวลาไปทำบุญกันหน่อยดีป่ะวะ” ไอ้เต๋อเสนอไอเดียขึ้นมา

“ยังไงก็ได้ กูเป็นคนไม่มีศาสนา แต่ถ้ามึงอยากไปก็นัดเวลามาละกัน”

“งั้นวันศุกร์นี้นะ ชวนไอ้กัสไปด้วย กูไม่เจอหน้ามันนานแล้ว ไม่รู้จะเปลี่ยนเพศถาวรไปแล้วรึยัง”

“หึ ชีวิตดราม่าหนักขนาดนี้ยังปากเก่งเรื่องคนอื่นอีกนะมึง”

“เหี้ยเท็นกูอุตส่าห์เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแล้วววว ยังสะกิดอยู่ด้ายยยยยยยยยย”

ผมยักไหล่ การที่ไอ้เต๋อยังโวยวายได้ก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

“ผมยาวแล้วนะ” เมลหันเหความสนใจของผมไปจากไอ้เต๋อ มันกำลังลูบผมที่ระต้นคอของผมเล่น

“อยากให้ตัดมั้ย”

“ไม่อ่ะ อย่างนี้ดีแล้ว น่ารักดี”

“งั้นตัด”

“ขัดใจกูตลอด”

“ก็อยากหล่อ ใครอยากจะเป็นผู้ชายน่ารักวะ แอ๊บแบ๊วตายห่า”

“งั้นมึงก็แอ๊บแบ๊วทุกคืนเลยนะ เพราะหน้ามึงตอนมีอารมณ์น่ะ น่ารักมาก หึหึ”

“ทะลึ่งใหญ่แล้วไอ้ห่าเมล”

เมลหัวเราะก่อนจะก้มลงดูดต้นคอผมเบาๆ ลิ้นร้อนของมันที่กำลังดุนดันผิวเนื้อสร้างความรู้สึกแปลกๆ แถมมันยังเล่นอยู่นานทำเอาผมเกือบเคลิ้ม แต่สุดท้ายก็ผละออกไปแถมยังเงยหน้าขึ้นพูดด้วยวาจาน่าถีบว่า

“กูบอกแล้วว่ามึงน่ารัก หึหึ”

“ไอ้บ้า -///-“

.
.
.

ร่วมรักอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปแล้วสำหรับเราสองคน เราไม่เคยมีคำว่าพอเลยเมื่อได้เริ่มสัมผัสกัน ก่อนหน้าที่เราจะเจอกันผมอาจจะมีเซ็กส์กับคนอื่นมาบ้าง แต่ไม่เคยพูดเต็มปากเลยว่ามันคือการร่วมรัก คำนี้ผมอาจจะใช้แค่กับเมลคนเดียวเท่านั้น

“มึงจะทำยังไงถ้าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด ถ้าพ่อกับแม่มึง...”

“กูจะเป็นคนอกตัญญูไหมถ้าเลือกจะอยู่กับมึง”

ผมจูบเบาๆ ลงบนแผ่นอกกว้างของเมล ก่อนจะแนบแก้มลงตรงพื้นที่ที่ริมฝีปากเพิ่งสัมผัสไป

“ความจริงมันง่ายอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะเมล”

“กูอยู่แต่ในกรอบที่เขาขีดไว้ให้ไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกเท็น อย่างน้อยกูก็อยากเลือกคนรักด้วยตัวเอง”

“รักกูมากเลยเหรอ”

“ไม่มั้ง ^^”

“งั้นเย็นนี้กูไม่ไป”

“เฮ้ยยย ได้ไง”

“ล้อเล่น ^^”

“ยิ้มยั่วเลยนะมึง เดี๋ยวโดนอีกรอบ”

“ก็ยิ้มปกติ มึงแหละคิดไปเอง”

“เหรออออออออออออออออ”

ทำหน้าได้...เฮ้อ ผมอาการหนักแล้ว

“เมล”

“ครับ”

“คุณแม่เป็นคนยังไง”

เมลยิ้ม มือเรียวยาวของมันยกขึ้นลูบหัวผมเบาๆ

“ท่านอาจจะเข้มงวดไปหน่อย แต่ก็ใจดีนะ”

“อืม แล้วเมลสนิทกับใครมากที่สุด พ่อหรือแม่”

“ก็คง...ไม่ทั้งสองคนเลยมั้ง ส่วนใหญ่ก็อยู่กับปู่กับย่ามาตั้งแต่เด็ก”

ผมไม่ชอบเวลาที่เมลทำหน้าแบบนี้เลย อ้อมกอดผมคงอุ่นพอให้มันคลายความเหงาลึกๆ ในใจได้บ้าง

“พ่อกับแม่พลาดมีกูตอนกำลังเรียนน่ะ กูเลยไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่ เหมือนไปขัดขวางอนาคตพวกเขามั้ง ความจริงก็คงคิดว่ากู
ไม่น่าเกิดมา”

“ถ้าเขาคิดอย่างนั้นจริง เขาไม่ลำบากอุ้มท้องมึงมาตั้งเก้าเดือนหรอกเมล”

“เอาเถอะ...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกน่า กูไม่คิดมากเรื่องนี้หรอก”

“มึงคิด”

“แสนรู้”

“เดี๋ยวได้มีคนปากแตก”

“หึหึ”

.
.
.

ความหล่อแบบสุดหยั่งถึงของเมลมาจากไหนผมก็เพิ่งจะได้รู้วันนี้ นี่ถ้าตอนเข้ามาในบ้านของมันแล้วไม่เห็นกับตาว่ามันสปีคภาษารัซเซียกับคุณปู่สุดคมเข้มของมันล่ะก็ มันไม่มีทางบอกผมหรอกครับว่ามันเป็นลูกเสี้ยว ไอ้เหี้ยนี่พ่อมันเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-รัซเซีย แต่ที่มันโง่อิ้ง สปีคอิ้งลิชไม่ได้นี่ไม่ต้องไปโทษมันนะ เพราะปู่กับย่ามันไม่เคยพูดภาษาอังกฤษกับมันเลย ส่วนแม่มันเป็นคนไทยนี่แหละ ไทยแบบมียศนำหน้าด้วยนะครับ -*-

“พ่อกับแม่ไปรับเพื่อนที่สนามบิน เดี๋ยวคงมา” สุดหล่อหันมาบอกผมหลังจากที่แนะนำตัวผมให้ปู่กับย่ามันรู้จัก

ย่าของเมลน่ารักนะครับ ท่านพยายามพูดไทยกับผมด้วย ปู่ก็ไม่อะไรมาก ใจดี สบายๆ เป็นกันเองมากด้วย แถมยังทำท่าชอบใจที่ผมก็พอจะพูดภาษารัซเซียได้บ้าง

“กูไม่เคยเห็นปู่หัวเราะเสียงดังๆ แบบนี้เลย ดูท่าจะชอบมึงมาก” เมลบอกพลางยิ้มกว้าง

“แน่ล่ะ ก็กูหล่อ”

“หึหึ ครับ ไอ้หล่อ”

เมลกอดคอผมไปตลอดทางที่เดินตามหลังปู่กับย่าไปยังห้องรับแขก ท่านสองคนออกไปรับผมกับเมลที่หน้าประตูบ้านเลยล่ะครับ ตอนแรกผมตกใจนะ แต่พอเมลบอกว่าเป็นเรื่องปกติก็หายตื่นตูมไปทันที เมลเล่าว่าเวลามันกลับบ้านมาก็มีปู่กับย่ามายืนรอรับแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เป็นโมเม้นเล็กๆ ที่น่ารักน่าอบอุ่นในครอบครัวที่แม้แต่ผมก็ไม่เคยได้เจอเลยล่ะ

“อ้าว เมล กลับมาแล้วเหรอคะ สวัสดีค่ะเท็น” เสียงใสไร้ความจริงใจทักขึ้นเมื่อเท้าผมก้าวพ้นธรณีประตู

ฝาแฝดพริมแพรพร้อมครอบครัวนั่งหน้าสลอนกันอยู่ที่โซฟา สังเกตจากน้ำแข็งในแก้วน้ำผลไม้ที่แทบจะไม่มีเหลือแล้วก็ประมาณได้ว่าคงมานานพอสมควร แต่...ทำไมเมลไม่บอกผมว่าต้องมาเจอกับ...คนพวกนี้ด้วย

“เห็นวันนี้คุณอาหญิงบอกว่าเมลจะพาเพื่อนมาด้วย แพรก็ไม่นึกเลยนะคะว่าจะเป็นเท็น” แพร แฝดคนน้องยิ้มใสมาให้ผม

“เพื่อน...แบบผมนี่ เมลมีหลายคนเหรอครับ ถึงไม่ได้นึก ^^”

“ก็...ไม่หรอกค่ะ”

ผมยิ้มเป็นการปิดท้ายบทสนทนา ก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่อีกสองท่านที่อยู่ในห้องด้วย เมลยกมือไหว้ตาม แล้วดึงมือผมให้เดินตามไปนั่งที่โซฟาถัดจากฝาแฝดพริมแพร

บรรยากาศในห้องรับแขกไม่ได้แตกต่างไปจากก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามา ปู่กับย่าของเมลก็คุยกับพ่อแม่ของฝาแฝดคู่นั้น ส่วนเมลก็โดนลากเข้าสู่วงสนทนาของสองสาว มีแต่ผมที่นั่งกดเกมในไอโฟนเล่น นานๆ ครั้งคำถามจะถูกส่งมาถึงที

“เท็นเรียนวิศวะคอมฯ รึเปล่าคะ” คำถามจากพริมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอไอโฟน

“ครับ”

“พริมก็มีเพื่อนเรียนสาขานี้เหมือนกันค่ะ เรียนหนักรึเปล่าคะสาขานี้”

“พริมไม่ถามเพื่อนที่เรียนล่ะครับ”

สังเกตเห็นว่านางหน้าเสียไป แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ ประเด็นคือนางต้องการชวนผมคุยเหรอ?

“แหม เท็นเป็นคนตลกดีนะคะ แหะๆ แล้วนี่เท็นเคยเจอคุณอาหญิงรึเปล่าคะ คุณอาหญิงท่านชอบออกงานสังคมบ่อยๆ น่ะค่ะ บางทีครอบครัวเราก็ไปด้วยกัน อย่างงานเดินแบบการกุศลวันเสาร์ที่จะถึงนี้คุณแม่กับคุณอาหญิงก็เป็นแม่งานเลยนะคะ”

“อ๋อ เหรอครับ ผมไม่คุ้นกับงานพวกนี้เท่าไหร่ คงจะไม่เคยเจอหรอกครับ”

แค่เพราะคำตอบนี้ สายตาประเมินค่าจากครอบครัวของสองแฝดก็ถูกส่งตรงมายังผมทันที

“พ่อแม่ทำงานอะไรเหรอจ้ะหนู”

“พ่อก็ค้าขายครับ ส่วนแม่ไม่ได้ทำงานอะไร”

“ลำบากหน่อยนะจ้ะ”

“อ๋อ ครับ ก็พอควร เพราะผมต้องหาเงินใช้เอง”

“แล้วนี่รู้จักกับน้องเมลได้ยังไงจ้ะ”

“ก็เรียนคณะเดียวกันน่ะครับ”

“อ๋อ จ่ะ ขาดเหลืออะไรบอกน้าได้นะ เพื่อนของน้องเมลน้ายินดีช่วยเหลือจ่ะ”

“ครับ”

เมลเหลือบมองผมเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมก็กลับมาเล่นเกมในมือถือต่อ ฟังสองสาวนั่นจ้อ กับคุณแม่ที่อวดอ้างสรรพคุณลูกสาวให้ปู่กับย่าของเมลฟัง

“น้องพริมปีนี้ก็เรียนแพทย์ปีที่สองแล้วค่ะ ส่วนน้องแพรก็เรียนพยาบาล คุณแม่ห้ามก็ไม่ฟัง บอกว่าอยากเป็นเหมือนคุณอาหญิง น้องแพรก็อยากเรียนจบมาช่วยงานคุณอเล็กซ์ ไม่มีใครคิดอยากช่วยงานที่บ้านกันสักคน ตอนนี้ก็ชักจะคิดว่าลูกๆ อยากเป็นลูกสาวหญิงเหมือนกันแล้วล่ะค่ะ โดยเฉพาะน้องพริม”

ด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงคนไทย แถมปนคำไทยมาอีกโข ทำให้ปู่กับย่าของเมลทำหน้ามึนๆ ใส่ แต่แม่ของสองแฝดนั่นก็ยังคงพูดต่อไป โดยมีสามีนั่งทำหน้าเอือมและลูกสาวทั้งสองทำท่าเหนียมอายอยู่ข้างๆ

เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่เรื่องน่าเบื่อแบบนี้ดำเนินต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนกระทั่งมีเสียงรถยนต์ดังแว่วเข้ามาทำให้สุนทรพจน์ของคุณแม่ลูกสองนั่นหยุดลงได้ แต่มันกลับลั่นกลองในใจผมให้เต้นโครมครามขึ้นมาฉับพลัน เมลยกมือขึ้นลูบหัวผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตามมันออกไป

ในขณะที่ผมก้าวไปทีละก้าว เสียงคนคุยกันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เห็นอยู่ไกลๆ ว่ามีคนมากกว่าสามคนยืนทักทายกันอยู่ตรงเชิงบันไดที่ทอดสู่ประตูบ้าน ปู่กับย่าของเมลยังคงรับไหว้แบบไทยและยิ้มแย้มอย่างใจดีเหมือนเคย ครอบครัวของฝาแฝดนั่นก็ทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้านซะเอง ส่วนผมกับเมลยืนอยู่ห่างออกมา

“อ้าว!! เท็น! คุณมาทำอะไรที่นี่” ทั้งหน้าทั้งเสียงแสดงความประหลาดใจเมื่อแขกของพ่อแม่เมลเห็นหน้าผม

เอาเข้าจริงผมก็ตกใจเหมือนกันว่าคุณภูที่ผมบล็อคการติดต่อไปแล้วโผล่มาที่นี่ได้ยังไง

“เท็น? เฮ้ จริงๆ ใช่ไหม! ผมไม่อยากจะเชื่อ ผมจำคุณแทบไม่ได้เลยก็ตอนนั้นคุณยังตัวกะเปี๊ยก ไม่ได้เจอคุณมาเกือบสิบปี ให้ตาย! คุณดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะครับ เมื่อเดือนก่อนที่ผมส่ง e-mail ถึงคุณ คุณได้รับไหมครับ Professor เรื่อง Visiting Prof. น่ะครับ อ้อ เผื่อคุณจำผมไม่ได้ ผมอเล็กซานเดอร์ครับ Ph.D รุ่นที่ XXX อยู่ในทีมวิจัยเดียวกับคุณ แมทธิวเพิ่งบอกผมว่าคุณอยู่เมืองไทย แล้ว...”

พ่อของเมล ใช่ครับ ผู้ชายที่กำลังพูดๆ และพูด อยู่ตรงหน้าพร้อมกับจับมือผมเขย่านี่คือพ่อของเมล แถมถ้าไม่มีใครเบรกเขาไว้นี่เขาคงจะไม่หยุดพูดล่ะครับ -_-

“ยินดีที่ได้เจออีกครั้งค่ะ Professor เชิญข้างในดีกว่าค่ะ ก่อนที่ใครบางคนจะดีใจจนเป็นลมอยู่ตรงนี้ ^^” ผู้หญิงสวยเฉียบที่ยื่นมือมาให้ผมสัมผัสพร้อมกับช่วยเบรคพ่อของเมลให้ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้ให้กำเนิดคนที่ผมรักล่ะครับ

แล้วถ้าเข้าอีหรอบนี้...ผมควรจะแสดงตัวดีป่ะวะว่าคบกับลูกชายเขาอยู่ -*-

เมื่อมาถึงห้องรับแขก บทสนทนาก็เริ่มเปิดฉากด้วยเรื่องของผมทันที แต่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมต้องมากินข้าวเย็นที่นี่หรอกนะ แม่ของเมลสนใจอยากรู้ว่าชีวิตหลังจากที่ผมกลับไทยเป็นยังไงมากกว่า -_-

“จริงเหรอคะ เหลือเชื่อเลยที่คุณกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยอีก แถมยังเป็นเพื่อนกับน้องเมล คุณไม่ติดต่อมาหาพวกเราบ้างเลยนะคะ หลังจากงานรับรางวัลของคุณ เราก็ไม่ได้ข่าวคุณอีก แมทธิวเพิ่งบอกเราเองค่ะว่าคุณอยู่เมืองไทย อเล็กซ์เลยลองส่ง e-mail เข้า account ที่คุณเคยให้ไว้ เรารอการตอบกลับแต่ก็เงียบหาย”

“ผมไม่ค่อยได้เช็คเมลเท่าไหร่ครับ แต่ก็ได้อ่านเมลแล้ว”

“แล้วคุณตกลงใช่ไหมคะ Professor”

“ก็คิดไว้อย่างนั้นล่ะครับ แต่ผมยังไม่ขอให้คำตอบแน่นอนนะ ผมยังอยากใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่อีกหน่อย”

“ฮ่าๆๆ พอเข้าใจค่ะ แต่หวังว่าจะได้ร่วมงานกันนะคะ”

“ครับ”

“เอ่อ...หญิงเหมือนคะ จะไม่แนะนำให้...” คุณแม่ของฝาแฝดพูดขึ้นก่อนจะเหลือบมองมาทางผมเล็กน้อย

“ตายจริง! เผลอคุยเพลิน เธอรู้จักแมทธิวแล้วใช่มั้ย เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียน Ph.D ของฉันกับคุณอเล็กซ์”

“เรียกภูก็ได้ครับ”

“นั่นแหละ เขาชอบให้เรียกชื่อไทยมากกว่า ^^ แล้วนี่ศาสตราจารย์ นายแพทย์พชร เขาเป็นอาจารย์ของทั้งฉันและคุณอเล็กซ์”

“ดะ...เด็กขนาดนี้”

ผมเคยชินกับการที่โดนใครหลายๆ คนจ้องมองมาด้วยสายตาทึ่งจัด แต่ไม่เคยชินเลยกับสายตาที่อ่านไม่ออกของเมล

บทสนทนาอื่นๆ ไม่เข้าหูผมเลยสักนิด การที่มือของคนข้างๆ ค่อยๆ ปล่อยจากการเกาะกุมกันนั่นมันหมายความว่ายังไง

เมลกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ?

“ต่อไปฝากคุณดูแลน้องเมลด้วยนะคะ ดีจริงๆ เลยค่ะที่น้องเมลได้มีเพื่อนอย่างคุณ”

เป็นแค่เพื่อนคงไม่ดีหรอกมั้งครับ...

“ได้ครับ...แล้วผมจะดูแลอย่างดี”

..................................................To be continue...........................................

มันมีอะไรมากกว่านั้นนนนนนนนนนนนน!! (จริงเหรอ?)

แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี เอาวะ โปรดติดตามตอนต่อไป 555555555555

ช่วงนี้งานหนักค่ะ T_T ไม่ใช่ข้อแก้ตัวหรือข้ออ้างนะคะ เข้ามาดูตลอด แต่แค่แป๊บเดียว ก็ต้องกลับไปขุดชีวิตตัวเองต่อ ขลุกขลักหน่อยนะคะช่วงนี้ แต่เราจะทำให้เต็มที่ค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ

เท็น...ตัวเอกอยู่ในอุดมคติ เป็นอุดมคติที่...สุดยอดดดดดดดดดด แบบว่า มีหลายมิติดี ไม่รู้เหมือนกันนะ (จะสื่ออะไร? 555)


ปล. ไม่เป็นไรนะคะ ถ้าไม่ชอบเท็น แต่จะบอกความลับให้ค่ะ เท็นน่ารักมากเลยนะ จริงๆ  :ling1:  :a5:  :o8:

 :กอด1:

 :pig2: ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกท่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 13-11-2013 23:01:12
เมลลลลลลล โอกาสแกมาถึงแล้วนะ พ่อแม่ก็รู้จังเท็น

โอกาสมาแล้ว อย่าคิดทำอะไรบ้านะแก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 13-11-2013 23:14:23
สงสารเมล เมลคงรู้สึกด้อยลงไปอีกแน่ๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 13-11-2013 23:15:09

เมลจะรู้สึกว่าเท็นเกินเอื้อมหรือเปล่า  เมลจ๋า อย่าไปสนใจเลย  ถึงเ็ท็นมันจะยอดมนุษย์ก็มีหัวใจ  หัวใจที่ว่าก็ยกให้เมลแล้วไงงง
มองจากมุมของตัวเอง ไม่ใช่มุมจากคนอื่นสิ จะได้รู้ว่าเท็นน่ารัก ฮ่าๆๆ  ไหน ๆ ก็พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว เมลสู้ ๆ
จากเอาใจช่วยเท็น  ต้องมาเอาใจช่วยเมลแล้วหรือนี่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-11-2013 23:21:29
เมลเป็นอะไร ชอคที่พ่อกับแม่รู้จักเท็นเหรอ
หรือเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเรียน เห็นความแตกต่างพ่อแม่ชื่นชมเท็น
โลกมันกลมแท้ๆ
เมลมีไรก็คุยกับเท็นนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-11-2013 23:26:06
ถ้าเมลจะรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์แบบนี้ก็เข้าใจเลยล่ะ :mew4:
แต่ถ้าตามนิสัยเท็นแล้วคิดว่าคงกล้าพูดอยู่นะว่าเป็นแฟนกับเมล กลัวแต่เมลจะน้อยเนื้อต่ำใจที่มีแฟนเริ่ดเกินอย่างเท็น
อย่าคิดมากนะเมล ความรักชนะทุกสิ่ง แม้แต่ใจตัวเอง :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 13-11-2013 23:35:39
ถ้าเมลไม่เต็มที่ และกล้าพอ  เชียร์ให้เท็น Good bye
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 13-11-2013 23:47:14
อร๊ายยยยย โลกกลมเกินไปนะ
แต่เมลนี่ซิ คิดอะไรอยู่น้า
หรือจะคิดว่าตัวเองคงตามเท็นไม่ทันแล้วใช่มั้ยเนี้ย
อย่าเอาเรื่องแค่นี้มาเป็นปัญญหาเลยนะ
ถ้าคิดในแง่ดี นี่เป็นถือว่าเป็นโอกาสที่จะบอก
ขอให้เมลคิดได้ด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 13-11-2013 23:48:13
อืม...เข้าใจอารมณ์เมลเลยนะ
คนอย่างเมลที่รู้สึกว่าทำให้พ่อแม่ผิดหวังเพราะสอบหมอไม่ติด
มีแฟนอย่างเท็นที่เป็นถึงโปรเฟสเซอร์ เหอๆ เป็นเราก็คงรู้สึกตัวเองด้อยไปเยอะเลยอ่ะ
แต่ก็นะ มันก็เป็นโอกาสดีนะเมล อย่างน้อยเท็นคงไม่โดนเตะโด่งออกบ้านถ้าพ่อแม่รู้ว่าเป็นแฟนเมลจริงมั้ย?
เมลสู้ๆ อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับเท็นเลย เท็นมันเป็นยอดมนุษย์
ยังไงเท็นก็สู้เมลไม่ได้หรอกเพราะเราเป็น FC เมล 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 14-11-2013 00:05:05
เข้าใจเมลนะ แบบแฟนเก่งยิ่งมาเป็นแบบนี้ยิ่งนอยจัวเอง สู้ๆสิเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 14-11-2013 00:16:24
แง๊งงงง
เมลแลดูเป็นคนอ่อนไหว กับอะไรง่ายๆเลยนะเนี่ย
สะใจอีแฝดคูนี่จัง

เอามาต่อไวๆๆๆๆๆๆ  o11
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-11-2013 00:22:19
เมลอย่าคิดมากนะๆๆ


รักกันๆๆๆ เปิดตัวเลยๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 14-11-2013 00:33:15
 :o12: ถ้าเป็นเมลก็คงรู้สึก ว่าเท็นสูงเกินเอื้อมจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 14-11-2013 00:43:52
หนักแน่นหน่อยนะเมล อย่าลดค่าตัวเองสิ เท็นรักนาย เลือกนายแล้ว จำแค่นี้พอ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 14-11-2013 02:00:24
เข้าใจความรู้สึกเมลเลย
อารมณ์ว่าตัวเองแตกต่างกับแฟนเหมือนฟ้ากับดินเลยใช่มั้ย  :hao5:

สู้ๆนะทั้ง2 คน

หนักแน่นหน่อยนะเมล เท็นไม่ใช่คนที่จะมาย้ำคิดย้ำทำนะ
ไม่ใช่คนที่จะมานั่งพูดซ้ำๆด้วยว่าเลือกเมลแล้วงั้นงี้
เพราะฉะนั้นมันเป็นหน้าที่ของเมลแล้วแหละที่จะต้องเชื่อมั่นในตัวเองหน่อย
เท็นเองก็เข้าใจเมลหน่อยนะ อย่าเพิ่งเหนื่อยกับเมลล่ะ


รักทั้งคู่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 14-11-2013 06:22:55
เหมือนเมลจะคิดมากนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 14-11-2013 07:56:53
หมอ ไม่มีปริญญาโท มีแต่เรียนแพทย์เฉพาะทางค่ะ
ซึ่งนิสัยอย่างเท็นไม่มีทางต่อเฉพาะทางได้
ชื่นชมผู้เขียนมาตั้งนานว่าทำให้เราติดเรื่องนี้ได้ ดันมาตกม้าตายเรื่องรายละเอียด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-11-2013 08:27:05
หมอ ไม่มีปริญญาโท มีแต่เรียนแพทย์เฉพาะทางค่ะ
ซึ่งนิสัยอย่างเท็นไม่มีทางต่อเฉพาะทางได้
ชื่นชมผู้เขียนมาตั้งนานว่าทำให้เราติดเรื่องนี้ได้ ดันมาตกม้าตายเรื่องรายละเอียด

เอ่อ คุณ mutoo คะ ตอนโทเท็นไม่ได้เรียนหมอค่ะ อย่างที่เท็นได้บอกไว้ว่าผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย

“กูเรียนหมอ ตอนต่อโทผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย เคยสอนหนังสืออยู่สามปีก็เลิกสอน จากนั้นก็กลับมาทำวิจัยต่อ มีคนแนะนำให้ต่อเฉพาะทางก็ลองเรียนดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร สุดท้ายก็กลับไปสอนหนังสืออีกครั้งหลังจบเอก ทำงานวิจัยไปด้วย ต่อจากนั้นอีกสามปีผลงานวิจัยกูได้รับรางวัล อิ่มตัวเลยเลิกทำแล้วก็กลับไทย ความจริงมึงต้องเรียกกูว่า Professor ถึงจะถูก”

ตรงนี้ค่ะ แหะๆ เราทำให้งงใช่ไหมคะ ขอโทษด้วยน้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 14-11-2013 09:49:33
เพิ่งมาอ่านค่ะ เรื่องนี้สนุกฝุด ๆ  o13

ที่เมลเงียบมีหลายประเด็นให้น่าคิดน่าเดามากเลยค่ะ เพราะได้เจอภูคนที่ทำให้เมลโกรธเท็น , เพราะเรื่องที่เท็นไม่ยอมบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมล์ที่ส่งมา หรือ เพราะเพิ่งรู้ว่าพ่อแม่ตนรู้จักกับเท็นอยู่แล้ว เอ่อ! อันหลังไม่น่าใช้เนอะ

ตอนแรกอ่านก็หมั่นไส้เท็นเหมือนกันค่ะ แต่เท็นเป็นบุคคลิกที่น่าสนใจมากกกก อ่านมาเรื่อย ๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบเท็นจัง ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวโดนเมล :z6: 555

จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-11-2013 10:26:49
โลกกลมพรหมลิขิตจิงๆ
ไม่เอามาม่านะคะ ขอร้อง
ชอบความหวานนนนนน
ไม่ชอบเห็นเท็นกับเมลเสียใจ
เมลอย่าคิดมาก เลยยยยยยน้าาา
เพราะยังไงเท็นก็รักเมลคนเดียวววว
รอนะคะ รีบมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-11-2013 10:37:39
เฮ้ย!!! เมล  อย่าเพิ่งตีค่าตัวเองต่ำไปล่วงหน้า

จริงๆต้องภูมิใจนะที่คนรักของเราดีและเก่ง แถมยังรักเรามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 14-11-2013 13:17:57
เมลสู้สู้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 14-11-2013 17:06:28
เข้าใจความรู้สึกเมลเลยนะ จะคิดว่าตัวเองดีไ่พอสำหรับเท็นละสิ
แต่รักเท็นก็ต้องสู้ ห้ามท้อ  มาๆกอดๆๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
แนะนำให้ยัยฝาแฝดและครอบครัวกลับป่าไปค่ะ เราไม่ต้องการเธอ :angry2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-11-2013 17:35:22
เหมือนเรื่องชักไปกันใหญ่แล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 14-11-2013 18:54:26
มันเป็นเรื่องดีใช่ไหม ที่พ่อแม่เมล ชอบเท็น รึเปล่า
เมลก็อย่ามัวแต่น้อยเนื้อต่ำใจดูถูกตัวเอง ตอนนี้
เรื่องทำให้พ่อแม่ ปู่ย่า ยอมรับ และขจัด
ครอบครัวแฝดมันใหญ่กว่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 14-11-2013 19:42:12
เกร้ดดดดดดดดดดดดด มาต่อแล้ววววววววววววว ดีใจอ่ะ

เรารักเรื่องงนี้ไปแล้วอ่ะ ทำไงดี

ตอนแรกไม่ค่อยปลื้มกับเท็นนะ แต่พอหลังๆดูเท็นทำตัวดิ สนใจแต่เมลคนเดียวโอ่ยยยยยยยยยย น่ารักที่สุด  o13

เมลจ๋า เมลอย่าคิดมากนะ เมลควรเชื่อในตัวเมล อย่างที่เท็นเชื่อ

ชอบเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกัน พูดกัน รักกัน โอ๊ยยชอบไปหมด 5555 น่าจะเป็นเอามาก

ปล. เราแอบดีใจแทนคนเขียนนะ ที่แต่งเรื่องนี้ออกมาแล้วมีคนอ่านอินกับมันจริงๆ555
 สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 14-11-2013 20:11:28
เมลคิดมากแน่ๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 14-11-2013 20:26:44
สู้ๆนะเมล์ รักเท็นๆที่สุด เอ๊ะไม่เกี่ยว 555

ขอให้ผ่านไปได้นะเมล์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: minoza ที่ 14-11-2013 23:10:28
คืองงอ่า เท็นจบด็อกตอนอายุเท่าไรอ่ะ เเล้วอยู่เมืองนอกกี่ปีอ่ะ ตอนนี้เท็น18ใช่ป่ะ  :really2: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: princessrain ที่ 14-11-2013 23:36:39
สวัสดีค่าา คุณนักเขียน
เาราเพิ่งหลง(??) เข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก
ตอนเข้ามาอ่านนะ ยังคิดว่า มีตั้งเยอะ คงอ่านได้นาน
ที่ไหนได้ อ่านหมดร็วมาก!!! (ในความรู้สึก)
ตอนนี้หลงน้องเท็นเท็น จนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วค่ะ
ไปคลุกข้าวให้น้องหมา ก็คิดแต่เรื่องน้องเท็นเท็น
นี่หลงพอๆกับเมลแล้วมั้งคะ ฮ่าๆ

ตอนล่าสุดนี่สุดยอดมาก
เราก็เกร็งๆลุ้นๆ ไปกลัวพ่อกับแม่น้องเมลจะรับไม่ได้
แต่ดันผิดคาด! จะว่าหน่วงก็หน่วงนะคะ ...
ไม่รูู้ว่าเมลเป็นอะไร ที่ค่อยๆปล่อยมือ คืออะไร...
มาต่อเร็วนะคะ อารมณ์กำลังอิน  :-[

ปล. น้องเท็นเท็น เป็นนายเอกในอุดมคติจริงๆค่ะ
ชอบมากทั้งคาแรคเตอร์ ทั้งวิธีการคิด ทั้งสิ่งที่น้องเป็น
มันทำให้นิยายเรื่องนี้สนุกและมีรสชาดมากกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 15-11-2013 00:14:19
อ้างถึง
“กูเรียนหมอ ตอนต่อโทผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย เคยสอนหนังสืออยู่สามปีก็เลิกสอน จากนั้นก็กลับมาทำวิจัยต่อ มีคนแนะนำให้ต่อเฉพาะทางก็ลองเรียนดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร สุดท้ายก็กลับไปสอนหนังสืออีกครั้งหลังจบเอก ทำงานวิจัยไปด้วย ต่อจากนั้นอีกสามปีผลงานวิจัยกูได้รับรางวัล อิ่มตัวเลยเลิกทำแล้วก็กลับไทย ความจริงมึงต้องเรียกกูว่า Professor ถึงจะถูก”

ย่อหน้านี้ค่ะ ตอนต่อโทหมายถึงต่อโททางไหนคะ ถ้าไม่ได้ต่อโท ทำไมไม่ใช้คำว่า ต่อมา หรือ ตอนต่อแพทย์เฉพาะทาง
เพราะประโยคที่ผู้แต่งใช้น่าจะหมายถึงว่าขณะที่เท็นเรียนต่อหลังจากจบแพทย์ฮีผันตัวเองไปเป็นนักวิจัยนะคะ
เราก็เลยรู้สึกแปลกๆว่า ถ้าไม่ต่อเฉพาะด้านให้จบ จะกลายเป็นนักวิจัยได้อย่างไร
ที่สงสัยเพราะที่บ้านเรามีทั้งคนเป็นหมอ(เพิ่งจบเฉพาะทาง) แล้วก็คนที่เป็นนักวิจัยค่ะ จึงทำให้รู้แนวทางบ้าง ซึ่งพออ่านย่อหน้านี้เลยสะดุดอย่างแรง ว่าความจริงมันไม่น่าจะเป็นแบบที่คุณแต่ง แม้เท็นจะเป็นอัจฉริยะก็ตาม
สีฟ้าที่ทำตัวหนาไว้ เป็นคำดูถูกแพทย์เฉพาะทางอย่างแรง
แนะนำว่าย่อหน้านี้ทั้งหมด ผู้แต่งควรปรับเปลี่ยนใหม่ เราเสียความรู้สึกมาก ไม่ได้เสียความรู้สึกจากตัวละคร แต่จากผู้แต่งเอง
ไม่ผิดหรอกค่ะที่ผู้แต่งไม่ทราบหรืออาจจะคิดไม่ถึง แต่ถ้าไม่รู้เรื่องใดก็อย่าเอามาใส่รายละเอียดให้มันแย่เลยนะคะ
ยิ่งไม่ใช่แฟนตาซี แต่งดี คนอ่านก็อิน .. พอรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็ทนไม่ไหวที่จะไม่โวย

ตอนที่เพื่อนเท็นไปที่บ้านเห็นปริญญาเอกของเท็น ผู้แต่งรู้มั้ยคะ คนเรียนแพทย์เค้าไม่มีปริญญาเอกค่ะ
ดังนั้นรบกวนให้เท็นไปเรียนอย่างอื่นเหอะคะ ถ้าให้เท็นเรียนแพทย์มันไม่สมจริงอย่างที่สุด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 15-11-2013 02:46:22
เมลเป็นอะไร!!!!!!นายต้องเชื่อเท็นสิว่าเท็นรักนายถึงแม้เท็นจะเก่งเกินคนธรรมดาก็ตามแต่คนที่เท็นเลือกคือเมลนะเมลต้องถามเท็นก่อนอย่าเพิ่งคิดไปเองฝ่ายเดียว
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจงค่ะ (Page 22)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 15-11-2013 11:00:36
ชี้แจง สำหรับข้อสงสัยนะคะ

เท็นนางเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็กค่ะ อย่างที่ผู้เขียนได้ระบุไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่านางไม่ได้อยู่ไทย เพิ่งกลับมาเจอกัสกับฟิวตอนช่วงวัยรุ่นกลางๆ ระบบแพทย์ที่ไทยผู้เขียนหาข้อมูลโดยละเอียดค่ะ ซึ่งอาจจะมีเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ทั้งนี้มันติดหลายๆ อย่างผู้เขียนเลยให้น้องเท็นอยู่ต่างประเทศ เพราะระบบการเรียนแพทย์ที่นั่นจะต่างจากประเทศไทยค่ะ ตอนต่อโท นางเรียนวิทยาศาสตร์มหาบันฑิตค่ะ รวมทั้งปอเอกของนางด้วย ที่เท็นบอกว่า 'ไม่เห็นจะมีอะไร' ผู้เขียนอยากให้นึกถึงนิสัยและบุคลิกของนางที่เอาจริงๆ คือไม่ได้ชอบเรียนทางแพทย์อยู่แล้ว ที่พูดว่าไม่มีอะไร ไม่ใช่ว่าดูถูกทางการแพทย์นะคะ นางเข้าเรียนแค่ไม่กี่เดือนก็เลิก แต่บุคลิกและความคิดของตัวละครผู้เขียนก็ต้องสื่อออกมาด้วย พ่อแม่ของเมลก็ไปทำ ปอเอกค่ะ เลยเจอกับเท็นตอนที่นางเป็นอาจารย์สอนอยู่มหาลัยที่เรียน เท็นนางจบปอตรีอยู่ก่อนแล้วนะคะ

ปล. คงจะเปลี่ยนให้เท็นเรียนอย่างอื่นไม่ได้ เพราะถ้าเปลี่ยนก็คงต้องเปลี่ยนทั้งหมด ได้วางโครงเรื่องไว้อย่างนั้นมาตั้งแต่ต้น
มีเว็บอ้างอิงค่ะ

http://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/study-guides/medical-degrees-regional-differences/
http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2009/07/H8091312/H8091312.html

และได้อ้างอิงจากประวัติของศาสตราจารย์ นายแพทย์ หลายๆ ท่านที่พอจะหาได้จาก google บางท่านทำ Ph.d ด้วยค่ะ เรียนหมอต่อเอกได้นะคะ โดยพาสชั้นปริญญาโทไปเลย อันนี้ดูจากบางกระทู้ แต่เป็นวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตอะไรก็ว่ากันไป

***ความจริงไม่อยากลงรายละเอียดเรื่องนี้มากเพราะกลัวจะผิดเหมือนกัน แต่คิดว่าในไทยผู้เขียนรู้พอสมควรค่ะ ถึงจะจบวิศวะ แต่ก็ติดตามอ่านอาชีพของหมอมาตลอด ประกอบกับลูกพี่ลูกน้องก็เรียนหมอด้วย ตอนนี้ไปต่างประเทศแล้ว อีกอย่างเท็นไม่ใช่คนชอบเล่าเรื่องส่วนตัวด้วย การมานั่งชี้แจงว่าตัวเองจบอะไรตอนไหน ไม่ใช่ image ของเท็นเลยค่ะ กว่าตอนนี้จะออกมาได้ก็หาข้อมูลอยู่นานเลยค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ยอมรับคำท้วงติง หากมีข้อมูลใดผิดพลาดก็แจ้งได้อีกนะคะ แต่ขอทาง PM นะคะ จะได้พูดคุยกันได้

หากใครยังงงๆ ตอนหน้าจะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ

ปล. นิยายในจินตนาการเว่อไปหน่อย แต่ก็อยากอิงข้อมูลด้วย แจ้งได้เลยค่ะว่าอันไหนผิดพลาด
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 15-11-2013 14:52:36
เราอ่านแบบ  ผ่านๆ ส่วนเรื่องข้อมูลการเรียน คนแต่งอย่าเครียดเลยค่ะ

เราอ่านเอาความสนุก เรื่องบางเรื่องที่เรา ไม่รู้ ก็อ่าน ผ่านๆ ไปซะ เพื่อ ความบันเทิง

คนแต่งอุส่า แต่งมาให้ อ่านแล้ว เอา ตามข้อ มูลคนแต่งนั่นแหละค่ะ  ไม่ต้องเปลี่ยน โครงเรื่อง หรทอ เครียดนะค่ะ

รอตอนต่อไป ค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: princessrain ที่ 15-11-2013 14:57:22
อาาา เราเข้าใจคุณนักเขียนนะคะ
ด้วยคาแรคเตอร์ของน้องเท็นเท็นเองที่นางไม่ค่อยแคร์โลกเท่าไหร่
ทำให้มุมมองของน้องเป็นแบบนั้น
อีกอย่าง นี่แค่นิยาย ที่ใกล้ๆจะกึ่งแฟนตาซี
เอาแค่จรรโลงใจ(?) ก็พอเนอะ
รักทุกคน (โดยเฉพาะคุณคนเขียนกับน้องเท็น :กอด1:)
เข้าใจทุกความรู้สึกค่ะ
 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 15-11-2013 15:37:44
เราว่าเรื่องนี้มันไม่ใกล้หรือแฟนตาซีหรอก ดูจากหลายเรื่องในเล้าก็มี พระ-นาย ที่เป็นคนพิเศษหรืออัจฉริยะอยู่หลายเรื่องนะ

เด็กไทยเราคนหนึ่งที่เป็นเด็กพิเศษที่เล่นไวโอลินได้ตั้งแต่อายุแค่ 4 ขวบ ปัจจุบันทำงานวิจัยร่วมกับมหา'ลัยมหิดล ยังมีอยู่จริงเลย

เราว่าเนื้อหาในท่อนนั้นนะ บอกความรู้สึกทั้งเท็นทั้งเพื่อนเท็นไว้ได้ดีแล้ว

เท็น - นิสัยไม่ค่อยพูดหรือพูดน้อยและไม่ค่อยมีใครเข้าใจนอกจากคนที่สนิทจริง ๆ โลกส่วนตัวสูงมาก อารมณ์อินดี้อุปนิสัยโคตรติสท์ แต่จริง ๆ โคตรจะมีความคิดสุด ๆ จึงไม่แปลกที่เท็นจะพูดแค่นั้น และดูเหมือนไม่เคลียร์

แล้วก็เข้าใจเหล่าผองเพื่อนที่ไม่ได้ซักถามเพิ่มเติม เพราะคงจะชินกับนิสัยแบบเท็น(?) แล้วล่ะ 555+
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 15-11-2013 15:47:59
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ความจริงแล้วนิยายก็คือนิยายค่ะ ไม่ใช่เรื่องเล่า
ไม่จำเป็นต้องถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะนิยายเกิดจากจินตนาการไม่ได้มาจากความจริง
จะเขียนให้ผู้ชายท้องได้ จะเขียนให้มนุษย์บินได้ ก็ยังทำได้
ทุกตัวอักษรทุกเรื่องราวที่อยู่ในนิยายคนเขียนล้วนเป็นคนกำหนดทั้งหมดค่ะ มันเป็นโลกที่คนเขียนเป็นคนสร้างขึ้น
จะชี้ไม้ให้เป็นนก หรือจะชี้นกให้เป็นไม้ก็ไม่ผิด


หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 15-11-2013 17:17:26
มีเพื่อนเรียนหมอและผันตัวเองไปเป็นนักวิจัย ต่อโท เอก
ปริญญาที่ได้ก็อย่างที่คนแต่งชี้แจงค่ะ เอาเป็นอ่านเพื่อความ
บันเทิงดีกว่าค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 15-11-2013 17:34:16
รักเมล-เท็นๆๆๆๆๆ


ชอบคนแต่งมากจร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-11-2013 17:51:20
นิยายเวอร์นี่ๆแหละดี สนุกดี

เราเองก็มองผ่านๆไปนะ ถ้าไม่มีประเด็นก็ไม่นึกเอะใจ

รอติดตามต่อไปนะ

หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 15-11-2013 19:23:28
ขอบคุณผู้เขียนมากๆ ที่เข้ามาชี้แจงนะคะ
ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-11-2013 19:57:03
คนแต่งอย่าซีเรียสไปเลยนะคะ
ขอบอกเลยว่าชอบนิยายเรื่องนี้มาก
สนุกดี ชอบนิสัยเท็น มีอะไรให้ลุ้นตลอด
อย่าเปลี่ยนโครงเรื่องเลยนะคะ ขอร้อง
เท็นจบหมออะดีแล้ววววว เค้าชอบบบ
...
รอตอนต่อไปนะคะ
ไม่เอามาม่าน้า รอคะรอ
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 15-11-2013 21:39:58
ชอบเรื่องนี้ สนุกมาก รอตอนต่อไป

อยากจะบอกว่าเท็นเป็นไอดอลของผมเลย
หัวข้อ: Re: So what : ชี้แจง 15-11-2013 (Page. 22)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-11-2013 23:21:05
รอตอนต่อไปค่ะ ชอบมากเลย  :กอด1:  :3123:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-11-2013 21:58:09
Special: TheTenth


“หลงทางเหรอ”

“......”

“ทำไมไม่พูด”

“......”

“เป็นใบ้?”

“......”

“ไม่ได้ว่าสักหน่อย จะร้องไห้ทำไม”

“......”

“อ้าว! ร้องใหญ่เลย แค่ถามเอง”

เด็กชายเท็นวัยห้าขวบครึ่งกำลังทำหน้างงอย่างหนักกับสถานการณ์ตรงหน้า เด็กชายวัยไล่เรี่ยกันที่บังเอิญเจอกำลังทำท่าจะแหกปากร้องไห้เสียงดัง เขาขมวดคิ้วอย่างรำคาญใจ หมุนตัวกลับจะเดินหนีแต่เสื้อเชิ้ตที่ใส่ก็ถูกมือที่เห็นเมื่อกี้ว่าเจ้าของใช้เช็ดน้ำมูกดึงไว้

นี่มันอะไรกัน! ป๋าบอกเขาว่าช่วงวันหยุดยาวจะพากลับไทย กลับมาหาแม่ แต่ผ่านมาแล้วครึ่งวันยังไม่เจอแม่เลย ป๋าพาเขามาปล่อยเกาะอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งแต่หกโมงเช้า ยัดแซนวิชใส่มือให้ บอกว่าต้องรีบไปประชุมแล้วก็ขึ้นรถของลูกน้องไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เขาต้องเดินวนอยู่ในสวนแห่งนี้จนมาเจอกับเด็กผู้ชายตัวขาว ปากแดง กำลังนั่งซึมอยู่ข้างๆ สนามเด็กเล่น แต่พอเขาเข้าไปถามมันกลับร้องไห้ใส่เขาซะงั้น

“รถบังคับ T^T”

“อะไรล่ะ”

“รถบังคับของเค้า T^T”

“ปัญญาอ่อน”

“ฮืออออออออออออออออออ”

“โตแล้ว จะแหกปากทำไม”

“ฮืออออออออออออออออออออออออ ตัวว่าเค้า!”

เด็กชายเท็นผู้เห็นสิ่งมีชีวิตประเภทนี้น่ารำคาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งแยกเขี้ยวเตรียมจะงับหัวเจ้าของมือเปื้อนน้ำมูกที่จับชายเสื้อเขาไว้แน่น

“ปล่อย”

“รถบังคับอ่ะ T^T”

“บอกให้ปล่อย!”

“รถบังคับบบบบบบ!”

“รถบังคับอะไรเล่า! พูดมาเลย ร้องไห้อยู่ได้ เป็นกะเทยหรือไง ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้นะ”

“ฮึก! มีคนเอารถบังคับเค้าไป”

เด็กชายเท็นถึงกับนิ่งไปสามนาทีเศษ ด้วยความงงอย่างท่วมท้นในสมองที่ใครต่างก็ยกย่องว่ามีรอยหยักมากกว่ามนุษย์ทั่วไป

“แล้วบอกทำไม”

“เค้าอยากได้รถคืน”

“ไปเอาเอง!”

“ตัวต้องช่วยเค้า”

“เรื่องไร ไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย”

“ตัวทำเค้าร้องไห้ ตัวว่าเค้าปัญญาอ่อน ตัวว่าเค้าเป็นใบ้ ตัวว่าๆๆๆๆๆ ว่าเค้า”

“ไอ้กะเทยเอ้ย!”

“นาตาชาบอกว่าพูดไอ้ไม่ดี เป็นคำหยาบ ห้ามพูด”

ด้วยความหมั่นไส้ตาแป๋วๆ ที่จ้องมองมา เด็กชายเท็นเลยยกมือผลักหน้าผากคนตัวเตี้ยกว่าจนอีกฝ่ายล้มไปนั่งกับพื้นหญ้า ก่อนจะสำนึกได้ว่าไม่น่าทำเพราะไอ้ตุ๊ดนั่นแหกปากร้องไห้เสียงดังยิ่งกว่าเดิม

“ตัวทำเค้าาาาาาาา เค้าเจ็บบบบบบบบบบบ เค้าจะฟ้องนาตาชาาาาาา”

นาตาชาเป็นใครไม่สำคัญ เขาไม่ได้นึกกลัวแต่อย่างใด แต่ทำยังไงให้ไอ้ตุ๊ดนี่หุบปากเสียที เสียงของมันน่ารำคาญมาก!

“หยุดร้องนะ!”

“ฮือออออออออออออออออออออ”

“หยุด!”

“ฮืออออออออออออออออออออออออออ”

“หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่หยุดจะเตะให้กลิ้งเลย!”

เด็กชายตัวขาวตรงหน้ายกมือขึ้นปิดปากทันที ด้วยเพราะเห็นแข้งขาวๆ ของเด็กชายเท็นเตรียมจะเตะให้กลิ้งจริงๆ

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ปกติ เด็กชายเท็นก็หันหลังเดินหนีมาทันที แต่ไอ้ตุ๊ดนั่นก็ยังเดินตามเขามาไม่เลิก

“จะไปไหน เค้าไปด้วย” คนตัวเตี้ยร้องเรียกเสียงดัง มือก็ยังเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ

จากเดินช้าๆ กลายเป็นต้องสับขาให้ไว แต่คนตัวเล็กกว่าก็ไม่ยอมแพ้ วิ่งตามเหมือนเขาไปขโมยของของมันแล้วมันตามมาทวงคืน

“ห้ามตามมานะ! จะกลับบ้านแล้ว”

“รถบังคับของเค้าาาาา ไปเอามาให้เค้าด้วย”

“บอกว่าอย่าตามมาไง!”

“รถบังงงง โอ้ยยยยยยยย”

เด็กชายเท็นถึงกับต้องชะงักเท้า หมุนตัวกลับไปมองก็เห็นไอ้ตุ๊ดนั่นล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ลุกขึ้นนั่งได้มันก็แหกปากร้องไห้อีกแล้ว แต่คราวนี้เห็นทีจะเจ็บจริงเพราะทั้งแขนทั้งหัวเข่าถลอกจนมีเลือดไหล

“โง่เอ้ย ปัญญาอ่อน เจ็บมั้ยล่ะนั่น”

“เจ็บบบบ ฮือออออออออออ”

เด็กชายเท็นกลอกตาอย่างนึกเอือม ก่อนจะเดินมาหาร่างเล็กที่ยังคงน้ำตาร่วง หน้าซีดสนิทที่เห็นเลือดตัวเองไหล

“ลุกเลย นั่งขวางทาง เดี๋ยวก็โดนจักรยานชนตายหรอก”

“ลุกไม่ไหว”

“ชอบทำตัวให้เป็นภาระ ไม่รู้จักกันสักหน่อย ปัญญาอ่อน”

“ฮึก!”

“ไหนมาดู”

เด็กชายเท็นสำรวจแขนขาวๆ กับหัวเข่าที่ถลอกของคนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะสรุปความโดยเร็วว่าไม่ถึงตาย สามารถยืดการทำแผลไปได้อีกหลายชั่วโมง

“เป่าหน่อย”

“อายุเท่าไหร่ ทำไมถึงคิดว่าเป่าแล้วจะหาย ตามทฤษฎีมันไม่หายหรอกนะไอ้ตุ๊ด”

“เค้าไม่ใช่ตุ๊ด นาตาชาบอกว่าพูดเพราะแล้วคุณแม่จะรัก แต่เป่าให้หน่อย คุณย่าเป่าให้ยังหายเลย แล้วดีๆ อะไรของตัวเหรอ”

เจ็บแล้วยังพูดมาก แล้วตาแป๋วๆ นั่นจะแอ๊บแบ๊วไปถึงไหน มนุษย์โลกอายุเท่านี้มองทุกอย่างสวยงามไปหมดหรือไง

“ทฤษฎี”

“ทิดดี”

“เป็นกะเทยแล้วยังลิ้นไก่สั้นอีก ชีวิตน่าสงสารนะ -_-“

“......”

“ร้องไห้อีกจะตีให้ตายเลย”

“ไม่ร้องๆ”

ท่าปิดปากแล้วส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กของมันนี่ทำเอาเขาตวาดใส่ไม่ลง

“ชื่ออะไร”

“คาราเมล”

“ปัญญาอ่อน ชื่อยาว ไม่ชอบ ชื่อเมลก็พอ เราชื่อเท็น”

“อื้อ เท็น! เท็นเรียกว่าเมลก็ได้”

เด็กชายเท็นพยักหน้าอย่างพอใจ สำรวจตาแป๋วๆ ที่ดูเชื่องขึ้นมาอย่างฉับพลันแล้วก็แสยะยิ้ม

“ใครเอารถบังคับไป รู้จักรึเปล่า”

“ไม่รู้ แต่ตัวเท่ายักษ์เลย คุณพ่อเพิ่งซื้อให้เค้า ของขวัญวันเกิด”

“เกิดวันนี้?”

เด็กชายเมลส่ายหน้า ใบหน้าขาวดูซึมกระทือขึ้นมาจนเด็กชายเท็นต้องตบหัวเรียกสติ

ผลัวะ!

แต่พอเด็กชายเมลกำลังจะเบะปากร้องไห้ ก็โดนเด็กชายเท็นชี้หน้าขู่ไว้ซะก่อน เลยต้องแอบเช็ดน้ำตา

“วันเกิดเค้าเดือนธันวา คุณพ่อจำผิด นาตาชาบอกว่าคุณพ่องานยุ่ง เค้าเลยเพิ่งได้ของขวัญ”

“เด็กงี่เง่าเท่านั้นแหละที่จะคิดมากเรื่องแค่นี้ เราไม่เคยได้ของขวัญวันเกิดจากป๋าเลย โดนลืมก็บ่อย แต่เราดูแลตัวเองได้ ไม่เห็นต้องไปรอให้ใครเขามาช่วยดูแล ช่วยสงสาร ไม่จำเป็น เป็นผู้ชายต้องเข้มแข็ง ทำตัวเป็นตุ๊ดต่อไปโตมาจะไม่มีเมีย ผู้หญิงไม่ชอบคนแบบนี้ ขึ้นคานแน่”

“น่ากลัวจัง แล้วเมียคืออะไร”

“สิ่งมีชีวิตที่เราสืบพันธุ์ด้วยได้และยอมรับอย่างเต็มใจ เข้าใจไหม เป็นระบบการขยายจำนวนประชากรของมนุษย์ ผัว ก็คือตัวผู้ชาย เมียก็คือตัวผู้หญิง ถ้าสองสิ่งมีชีวิตนี้ทำการปฏิสนธิกันจะทำให้จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น อย่างเมลก็เกิดจากการสืบพันธุ์เหมือนกัน”

“ไม่เข้าใจ”

“กลับบ้านไปถามนาตาชาสิ -_-“

“อื้อ แล้วอย่างเท็นเป็นเมียได้ไหม”

ผลัวะ!

“เท็นตีเค้าทำไม ฮืออออ”

“บอกว่าอย่าร้อง!”

“ก็เท็น...”

“ผู้ชายเป็นเมียไม่ได้ เข้าใจไหม! สิ่งมีชีวิตเพศเดียวกัน ทำการขยายเผ่าพันธุ์ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถทำการสำเร็จความใคร่ได้หากว่ามีความเต็มใจทั้งสองฝ่าย”

“ยังไงเหรอ”

ยิ่งพูด เด็กชายเท็นก็คิดว่าตัวเองกำลังสีซอให้ควายฟัง ท่าทางของเด็กชายเมลที่กระตือรือร้นอยากฟังคำตอบมันช่างน่าหมั่นไส้เสียจริงๆ

“ถามอยู่ได้! จะเอามั้ยรถบังคับ!”

“เอาคับ!! แต่เมลว่าเท็นเป็นเมียได้นะ เพราะเท็นสวย”

“สวยบ้านแกสิไอ้ตุ๊ด!”

“เท็นพูดไม่เพราะ นาตาชาบอกว่า...”

“ช่างหัวนาตาชา!”

“เท็นนนนนนนนนนนนน”

“หยุด!”

เด็กชายเมลเงียบกริบ ในขณะที่เด็กชายเท็นกวาดตามองไปรอบๆ บริเวณ

“จะเอารถบังคับคืนให้ แล้วห้ามมาวุ่นวายกับเราอีกนะ”

“ทำไมเหรอ เมลอยากเล่นกับเท็น”

“ใครจะอยากเล่นกับกะเทย กลับบ้านไปหานาตาชาไป”

“นาตาชาพาคุณปู่กับคุณย่าไปหาหมอ”

“แล้วใครเอาเมลมาปล่อยที่นี่”

“เดินมาเอง เมลเก่งมั้ย”

“เก่งนักก็ไปเอารถบังคับคืนเองสิ แล้วไอ้ยักษ์นั่นไปไหนแล้ว”

เด็กชายเมลชี้ไปทางขวามือ ซึ่งเป็นทางไปสู่ลานเต้นแอโรบิกและโซนเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง

“เห็นยักษ์กับหมีเดินไปทางโน้น”

“ไม่ได้มีแค่ยักษ์หรือไง”

“มีหมีด้วย”

เด็กชายเท็นพยักหน้าพร้อมประเมินสถานการณ์ ด้านกำลังแล้วไม่ได้ได้เปรียบเลย การเดินมาตามทางที่ไอ้ตุ๊ดนี่ชี้ให้ก็ทุลักทุเลไม่น้อยเพราะมีมือขาวๆ คอยดึงเสื้อเชิ้ตไม่ยอมห่าง

“นั่นรถบังคับของเค้า” เด็กชายเมลชี้ให้ดูรถบังคับคันใหญ่ที่มีเด็กอ้วนตาตี่สองคนกำลังแย่งกันบังคับอยู่

ด้วยนิสัยข้าแน่ข้าเก่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของเด็กชายเท็น ทำให้เขาก้าวยาวๆ ไปผลักหัวเด็กอ้วนคนที่หนึ่งจนหน้าคมำ

“ขอรถคืน” ว่าจบก็ฉวยเอารีโมทบังคับมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว

“แกเป็นใคร ไม่ใช่เด็กโรงเรียนเรานิ หน้าไม่คุ้น ถึงว่าไม่รู้จักบิ๊กกับเบิ้มห้อง 3/1 ไอ้คาราเมล ไม่บอกมันรึไงว่าอย่ามามีเรื่องกับพวกพี่ อ๋อ นี่แกไปขอให้มันมาช่วยใช่มั้ย ทำไมวะ หวงนักไง ของเล่นแค่นี้แบ่งให้พวกพี่ๆ เล่นไม่ได้เหรอ” เด็กอ้วนอีกคนที่คาดว่าจะชื่อเบิ้มพูดขึ้นด้วยเสียงโกรธๆ เมื่อเห็นคู่หูบิ๊กโดนกระทำการอุกอาจ

“ผม...ผม...”

ผลัวะ!

เด็กชายเท็นผู้ไม่ชอบความวุ่นวายและการฟังคนอื่นสาธยายแบบยืดเยื้อปล่อยหมัดเล็กๆ เข้าที่เบ้าตาเด็กเบิ้มเต็มเหนี่ยว

“พูดมาก! ของตัวเองก็ไม่ใช่ จะมายึดได้ยังไง ขอเจ้าของเขาหรือยัง ทำไม มองหน้าทำไม จะเอาอีกข้างหรือไง หรือแกอยากโดนต่อยด้วย”

จบประโยคของเด็กชายเท็น เด็กอ้วนทั้งสองก็เริ่มเข้ามาตะลุมบอน เด็กชายเมลที่เกาะติดอยู่ด้านหลังคอยดึงชายเสื้อโดนถีบ
หงายหลังเป็นคนแรก จากนั้นก็ชุลมุนวุ่นวายจนแยกไม่ออกว่าหน้าใครโดนหมัดใครบ้าง

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!

เสียงนกหวีดจากรปภ.นายหนึ่งดังขึ้นมาแต่ไกล เด็กชายเท็นที่รู้ว่าอีกไม่นานจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้น แขนหนึ่งจึงคว้ามือเด็กชายเมลขึ้นมาจับ อีกแขนก็หอบรถบังคับไว้ ก่อนจะวิ่งหนีกลับทางเดิม

“แฮ่ก! แฮ่ก! โอ้ย!! เหนื่อยยยย! ทำไมเจอแต่เรื่องซวยๆ วะ เจ็บก็เจ็บ ไอ้อ้วนนั่น เจออีกทีมันตายแน่!”

“เค้าเจ็บบบบบ”

“ห้ามร้อง! กะเทยเอ้ย น่ารำคาญจริงๆ เอ้า เอาไป แล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว ปัญญาอ่อน!”

“ฮือออออออออออ”

เด็กชายเท็นส่งสายตารำคาญไปให้เด็กชายเมลที่นั่งกุมแก้มตัวเองอยู่ข้างๆ สภาพของเด็กชายเท็นที่มีรอยแดงตรงมุมปากทั้งสองข้างยังดูดีกว่าเด็กชายเมลที่เสื้อเปื้อนรอยรองเท้า ปากบวมเจ่อ เบ้าตาขวาเริ่มเป็นรอยช้ำ แถมตรงขมับยังเหมือนบวมปูดขึ้นมาซะอย่างนั้น

“เป็นผู้ชายจะร้องไห้ทำไมนักหนา เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก!”

“แต่ก็เจ็บบบบบ!!”

“เถียง! เถียงอีก!”

“ไม่เถียงก็ได้”

เด็กชายเท็นที่ชีวิตมีแต่ออกคำสั่งและบงการคนรอบข้างได้แต่พยักหน้าอย่างพึงพอใจกับความว่าง่ายของเด็กชายเมล

“เป็นผู้ชาย ถ้ารู้ว่าของที่มีอยู่สำคัญก็ต้องเข้มแข็งพอที่จะปกป้องมันไว้ให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่มีสิทธิ์จะดูแล เข้าใจไหม”

“อื้อ เค้าจะเข้มแข็ง!”

“ดีมาก”

“เท็นช่วยเอารถบังคับมาคืนให้ ขอบใจนะ”

“ไม่ได้เต็มใจ”

“ไปเล่นบ้านเค้ามั้ย นาตาชาทำขนมอร่อยนะ”

“ไม่เล่นกับกะเทย”

“เค้าไม่ใช่กะเทย! เค้าเป็นผู้ชาย”

“ผู้ชายที่ไหนร้องไห้ แล้วก็พูดเค้าๆ อยู่ได้ ปัญญาอ่อน”

“นาตาชาบอกว่า...”

“ไม่เอานาตาชา! มีความคิดเองไหม!”

เด็กชายเมลทำหน้าตกใจกับเสียงที่ดังกว่าปกติของเด็กชายเท็น ก่อนที่มือเล็กๆ ของเด็กชายเมลจะจับตรงชายเสื้อของเด็กชายเท็นอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“เค้ามีนะ...เค้าคิดว่าเท็นเท่ที่สุด เป็นฮีโร่ เหมือนซุปเปอร์แมน”

“นาตาชาคงให้ดูอะไรไร้สาระสินะ ยอดมนุษย์ไม่มีในโลก เข้าใจไหม แล้วเราก็ไม่เหมือนใคร เรามีคนเดียวในโลก เราคือ The Tenth!”

เด็กชายเมลทำแก้มป่อง เอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับตั้งคำถาม

“เดอะเท็น คืออะไรเหรอ”

“คือเราไง จบมั้ย! ไม่เก็ทไม่ต้องถามอีก จะกลับแล้ว”

เด็กชายเมลหน้าเหวอเมื่อเด็กชายเท็นจู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้น แล้วกำลังเดินหนีอีกครั้ง

“เดอะเท็นจะมาอีกไหม เค้าอยากเล่นด้วย”

“ไม่มาแล้ว ไม่อยากเล่นกับกะเทย”

ในขณะที่แผ่นหลังของเด็กชายเท็นกำลังห่างออกไปเรื่อยๆ เด็กชายเมลที่เจ็บแผลที่หัวเข่าจนไม่มีแรงจะวิ่งตามแล้วก็ตะโกนขึ้นมาว่า

“งั้นถ้าเค้าเป็นผู้ใหญ่ เดอะเท็นมาเล่นกับเค้านะ เค้าจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้ จะไม่แทนตัวเองว่าเค้า! มานะะะะะะ เค้าจะรออออ!”

เด็กชายเท็นที่ได้ยินเสียงแหลมแสบแก้วหูตะโกนปาวๆ ตามหลังมาก็รีบหันกลับไปให้คำตอบทันทีเลยว่า

“ไม่อย่างเด็ดขาด!!”

...................................To be continue...........................................

เราเอามาคั่นกลางแหละตัวเธอ ทำไมน่ะเหรออออออ อืมมมมมมม ยังไม่พร้อมสำหรับตอนต่อไปมั้ง 555555555555

น้องเมลน่ารักจัง  :ling1:

ขอบคุณสำหรับคำติชม กำลังใจ ความคิดเห็นทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ

ยินดีชี้แจงค่ะ ไม่ได้อยากให้เป็นประเด็น แต่ก็อยากให้เข้าใจตรงกัน ไม่อยากให้อ่านแล้วมีเท็นหลายคน เพราะนางคือ The Tenth!!

ตอนพิเศษอาจจะมีมาอีกถ้าคิดว่าพวกเรายังไม่พร้อมสำหรับตอนต่อไป!!!  :a5:

 :กอด1: ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอมาค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 16-11-2013 22:17:34
ตอนเด็กนี่เท็นแมนมากเลยนะ ส่วนเมลก็ง้องแง้งตามประสาเด็ก
แต่ตอนโตนี่สิ แหม พลิกบทบาทกันเชียวนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-11-2013 22:27:01
เท็นแมนมากกกกกก
เมลตอนเด็กมีแววเคะ พอโตมากลับกันซะงั้น
คู่นี้เขาน่ารักกันตั้งแต่เด็ก

รอตอนปัจจุบัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 16-11-2013 22:36:50
แหมมมมมมมมมมมมมม เท็นเท็น กับ คาราเมลในอดีต

แต่พอมาดูปัจจุบัน เดอะเท็นก็ตกเป็นเมียของคาราเมลน้า อิอิ  :katai2-1:

เมลตอนเด็กน่ารักอ่ะ 55555

คนเขียนยังไม่พร้อมตอนต่อไปคือยังไงอ่ะ คือจะดราม่าหรอยังไง ไม่เอานะ  :hao5:

นี่กลัวไปแล้ว 5555555555555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 16-11-2013 22:39:15
น่ารักมาก  งื้อออออออ  :-[ เดอะเท็นฮาร์ดคอร์มาแต่เด็กจริงๆ
เมลใสมากข่าาา น่าฟัด   :man1:
  แต่เมลว่าเท็นเป็นเมียได้นะ เพราะเท็นสวย  :กอด1: ตาถึงแต่เด็กเลยอ่ะ 555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 16-11-2013 22:44:35
คาราเมลๆๆๆๆๆๆๆ น่าร๊าาากกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 16-11-2013 23:14:01
เดาว่า คาราเมลต้องจำ เดอะเท็นได้แน่ๆเลยอะ แบบตกหลุมรักไรงี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-11-2013 23:16:12
แหม่ เดอะเท็นวัยเยาว์นี่มาดแมนมาก
ไหงโตมาเสร็จคาราเมลล่ะจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 16-11-2013 23:33:45
ไม่รู้จะเม้นต์อะไร
เอาเป็นว่า เมล "น่ารักดีเนอะ"
เท็น "แก่แดดจังเนอะ" 555
ถึงเท็นจะบอกว่าเท็นเป็นเมียไม่ได้ แต่เมลก็จับเท็นทำเมียจนได้ 
"ก็...ไม่รู้สินะ"  :hao3:

จริงๆแล้ว เค้าพร้อมละนะ สำหรับตอนต่อไปน่ะ ^^ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: minoza ที่ 16-11-2013 23:52:23
ขอบคุณที่มาชี้เเจงนะค่ะ
 o13 o13 o13 o13
เราชอบเรื่องนี้มากๆเลย พอเราอ่านเราจะพยายามทำความเข้าใจกะตัวละครเลยอาจจะดูจริงจังกะบทบาทของตัวละครไปนิดนึง
มันอินจัดอ่ะ 5555 เเล้วก็เเบบว่าเท็นเเมร่งสุดยอดอ่ะ ดูหลุดโลกเเละเป็นตัวเองดี
อ่านครั้งเเรกก็ปิ๊งเเล้ว เป็นกำลังใจให้นักเขียนต่อไปนะค่ะ สู้ๆค่า

รอตอนต่อไปอยู่น้า
 :z3: :z3: :hao3: :hao4: :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 17-11-2013 01:41:11
แล้ว เดอะเท็นก็เสร็จเดอะเมลล์เมื่อตอนโต
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 17-11-2013 05:29:31
เข้าใจผู้แต่งนะ  และก็...คอมเม้นท์ของคนอ่านมีผลกับคนแต่งมากๆเลยล่ะ
คนเข้าใจก็ดีไป  คนไม่เข้าใจก็บั่นทอนเราได้เหมือนกัน
ก็คงต้องบอกว่า...นานาจิตตัง  เพราะคนเรามีสมองก็เลยคิดไม่เหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้...ยืนหยัดในแนวทางของตัวเองต่อไป
อย่างไรเสียก็เชื่อว่า...คนที่อ่านนิยายเรื่องนี้ต้องชอบนิยายเรื่องทุกคน  ไม่อย่างนั้นคงไม่มาตามอ่านกัน
และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น...ที่ชอบนิยายเรื่องนี้มากๆ  (เคยคิดพล็อตนายเอกแนวนี้เหมือนกัน)
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 17-11-2013 05:48:56
กลัวตอนต่อไปได้กินมาม่าจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-11-2013 07:27:13
 :z2:  เป็นไงละเท็นโตขึ้นก็ได้มาเป็นเมียเมลอย่างสมบูรณ์ 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 17-11-2013 08:03:19
น้องเมลน่ารักแต่เล็กแต่น้อย :-[

ส่วนน้องเท็นก็เกินบรรยายแต่เด็ก :mew5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-11-2013 08:10:29
เมลตอนเด็กน่ารักวุ๊ย
เดอะเท็นนิสัยไม่ต่างจากตอนโตเลย
5555555
จอมบงการ ปากร้าย แต่ใจดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-11-2013 08:16:34
อ่านแล้วก็นั่งขำ เด็กๆน่ารักมากเลย เจอกันตั้งแต่เด็กๆเป็นเนื้อคู่กันจริงๆ :z1:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-11-2013 08:17:34
สมกับเป็นเท็น นี่มันเปรี้ยวตั้งแต่ห้าขวบเลยเรอะ  :a5: :jul3:
น้องเมลน่ารักง่าา  ทำดีมากเท็น ที่รู้จักสั่งสอนว่าที่ฝาละมีตั้งแต่เด็ก ตามคำว่าไม้อ่อนดัดง่าย 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 17-11-2013 12:39:43
ว๊าวว! น่ารักอ่ะ เคยเจอกันตอนเด็กแล้วเหรอเนี่ย แล้าโตขึ้นมามีใครจำได้หรือยังว่าเคยเจอกันในสมัยเด็ก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 17-11-2013 13:29:44
กร่าง เอ้ย!เก่งแต่เด็ก
เท่จุงเบยยยยย  o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 17-11-2013 16:17:58
มั่นใจในตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง เท่ที่สุด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special The Tenth : 16-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 17-11-2013 18:05:27
เท็นแก่แดดมากๆ อ่ะ  :laugh:

เมลน่ารักมากกกกกก คิคุสุดๆ 555 :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-11-2013 18:13:53
Special: Loy Krathong Festival

ผมไม่เคยสนใจงานเทศกาล ไม่เคยให้ความสำคัญ แต่ที่ต้องมานั่งช่วยไอ้ฟิวกับไอ้กัสทำกระทงนี่เกิดจากความผิดพลาดเมื่อผมดันตอบปฏิเสธคำชวนของไอ้เต๋อเมื่อเย็นวานอย่างรวดเร็ว

"ปีสุดท้ายของพวกเราแล้ว มึงไม่อยากสร้างความทรงจำดีๆ กับพวกกูก่อนจะหนีตามสามีไปอยู่อังกฤษรึไงวะ หืออออ ท่านเท็น กว่าจะกลับมาก็ไม่รู้อีกกี่ปี"

มันอาจจะจริงที่ว่าผมวางแพลนจะไปอยู่อังกฤษกับเมลหลังเรียนจบ ถึงเจ้าตัวมันจะไม่เอ่ยปากชวนหรือแสดงความต้องการว่าอยากให้ผมไปด้วยก็เถอะ แต่ไอ้เต๋อกับพวกบ้าแต่ละคนก็ไม่เห็นต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นเลยนี่หว่า

"ใบตองพอมั้ย ไม่พอจะได้ไปตัดมาเพิ่มอีก" ไอ้ลินถามพลางวางห่อดอกกุหลาบที่จะเตรียมใส่กระทงลงข้างไอ้กัส

มันเพิ่งกลับมาจากร้านขายดอกไม้ล่ะมั้งครับ แถมแม่งยังเนียนซื้อดอกลิลลี่มาให้ไอ้กัสอีกต่างหาก เออนะ จีบมาตั้งสองปีแต่ก็ยังไม่มีวี่แวว มันก็ไม่เคยท้อถอยเลยจริงๆ

"ไม่พอ แต่ไอ้เต๋อพาไอ้คิมกับไอ้เต้ไปตัดมาเพิ่มแล้ว" ไอ้แม็คตอบ

"แล้วไอ้เมลกับไอ้แต้มยังไม่กลับจากโรงพยาบาลอีกไง?" ไอ้ลินถามต่อ แต่พอเหลือบเห็นสีหน้าไอ้ฟิวก็เปลี่ยนเรื่องทันที

"มาๆ มีไรให้กูช่วยบ้าง กูพอทำเป็นนะ เคยช่วยยายทำบ่อยๆ แหะๆ"

"เดี๋ยวก็เสร็จ ทำเกือบครบแล้ว มึงเข้าไปช่วยไอ้เขตในครัวไป" ไอ้กัสบอกพลางสะบัดหัวทุยๆ ของไอ้ลินให้หลุดจากไหล่

"ไล่ตลอดๆ ไม่มีพี่แล้วน้องกัสจะรู้สึก"

"กูไม่เคยมีพี่อยู่แล้ว จะรู้สึกอะไร ไปไกลๆ ตีนไอ้ลิน"

"เมนมาละหงุดหงิดตลอด"

ผลัวะ!

ไอ้กัสตบหัวไอ้ลินไปหนึ่งทีโทษฐานลามปาม มันสองคนง้องแง้งใส่กันอีกนานจนโดนไอ้ฟิวด่านั่นแหละไอ้ลินถึงจะเลิกแหย่ไอ้กัสแล้วเข้าไปช่วยไอ้เขต

"เหม่ออะไรไอ้ฟิว รีบๆ ทำ ตอนเย็นมึงต้องแวะไปโรงพยาบาลก่อนไม่ใช่ไง" ไอ้กัสเตือนโดยไม่มองหน้าไอ้ฟิว ก่อนมันจะลงมือเย็บใบตองต่อไป

"อ่อ อือๆ"

ทำกระทงเสร็จไปเจ็ด ใบตองก็หมด เลยต้องรอให้พวกไอ้เต๋อกลับมา ระหว่างนั้นไอ้เขตก็ได้ฤกษ์เอายำกับน้ำหวานเย็นๆ มาเสิร์ฟ ไอ้นี่ทำอาหารเก่งไม่แพ้ไอ้ฟิวครับ แถมสกิลมากกว่าด้วยซ้ำเพราะบ้านมันเปิดร้านอาหาร

"ได้เจ็ดแล้ว ยังเหลืออีกเท่าไหร่วะ" ไอ้เขตสอบถามพร้อมกับตรวจดูผลงานชิ้นโบแดงที่มีไอ้ฟิวเป็นแม่งานและมีผม ไอ้กัส ไอ้แม็คเป็นลูกมือ

"ห้า" ไอ้ฟิวตอบเสียงเรียบก่อนจะบรรจงม้วนวุ้นเส้นเข้าปาก

"อ้าว ทำไมห้า ก็เราไปกันสิบเอ็ดคน... เอ่อ ใช่ๆ ห้า กูลืม ขอโทษว่ะ"

"ช่างเถอะ ไม่เป็นไร"

คำว่าไม่เป็นไรของไอ้ฟิวเหมือนคำโกหกคำโตที่มันใช้บ่อยที่สุดในชีวิต เพราะช่วงหลายเดือนมานี้มันพูดคำนี้บ่อยซะจนคนฟังเขารู้ว่ามันไม่ได้ 'ไม่เป็นไร' อย่างที่พูด

เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกินจะยอมรับได้จริงๆ ผมคิดนะว่าไม่มีใครที่ยอมรับได้หรอก ไม่ว่าจะเป็นผมหรือกับเพื่อนคนอื่นๆ ผมไม่เคยเชื่อว่าโลกนี้มีปาฏิหาริย์อยู่จริง ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่ผมสัมผัสไม่ได้ แต่การได้เห็นไอ้ฟิวต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนคนตายทั้งเป็นแบบนี้ ผมก็อยากให้เกิดปาฏิหาริย์ที่ผมไม่เคยเชื่อเหมือนกัน

"เป็นไร" เพราะเสียงทุ้มที่คุ้นเคยทำให้ผมถอนสายตาจากใบหน้าไอ้ฟิว หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วก็ต้องส่ายหน้ากลับไปเป็นคำตอบ

"ขนาดกูมามึงยังไม่รู้ตัว ไม่เป็นไรแน่นะ"

"อือ แล้ว... เป็นไงบ้าง"

เมลยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะตอบผมเสียงเบาๆ ว่า

"ก็เหมือนเดิม ไม่ดีขึ้น"

"แต่ก็ดีที่มันไม่แย่ลง"

"คงจะดีที่สุดสำหรับตอนนี้แล้วล่ะ ถ้าตอนนั้นกูคอยเตือนมัน..."

"ไม่ใช่ความผิดของมึง กูบอกเรื่องนี้ไปแล้วสักล้านรอบ มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด และก็โชคดีมากแล้วที่มึงไม่เป็นอะไรไปอีกคน"

"กูโชคดี...แต่ไอ้มายด์กลับ..."

"กูไปเข้าห้องน้ำนะ" เสียงไอ้ฟิวดังแทรกเข้ามา ผมหันไปมองก็เห็นตาโตๆ ของมันแดงก่ำ

มันเดินไวๆ หายเข้าไปในตัวบ้านคงจะแอบไปร้องไห้เหมือนอย่างที่มันทำเป็นกิจวัตรประจำวัน

.
.
.

"คนเยอะชิบหายยยยยยย รู้อย่างนี้กูมาลอยตอนเที่ยงคืนก็ดีหรอก!!!! โอ้ยยยย ไอ้แต้ม เหยียบรองเท้ากู!" ไอ้เต๋อเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบโวยวายไม่เคยเปลี่ยน ขนาดแม่งแต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนมาได้ปีกว่าๆ แล้ว กูยังไม่เห็นภาวะผู้นำครอบครัวในตัวมันเลย -_-

แต่ความจริงก็สมควรที่ไอ้เต๋อมันจะโวย เพราะคนเยอะอย่างกะมดรุมตอมของหวาน ทางที่ทอดนำไปสู่ท่าน้ำยิ่งมีคนเยอะ นี่ถ้ามีคนพลัดตกน้ำไปบ้างผมก็จะไม่แปลกใจเลย เป็นอะไรที่วุ่นวายจริงๆ

"ลอยเสร็จแล้วอย่าเพิ่งไปไหนกันนะพวกมึง พวกเรามีแพลนต้องไปปล่อยโคมกันต่อ" ไอ้เต๋อตะโกนมาจากหัวขบวน มันส่งสายตามากดดันผมที่ไม่ได้พยักหน้าเออออเหมือนคนอื่น

"ไอ้เท็น ได้ยินที่กูบอกมั้ยยยยย!"

"ได้ยิน กูไม่ได้หูตึง มึงรีบๆ เดินเลย คนข้างหลังเขารออยู่ตาบอดรึไง"

"ชิ! ปากจัดจริงๆ"

ท่าสะบัดหน้าของมันได้รับนิ้วกลางไปจากผมเต็มๆ แต่เพราะคนที่เดินข้างๆ มันรวบมือผมไปกุมไว้ เลยต้องหยุดความหยาบคายไว้แค่นั้น

"อย่าอารมณ์เสียเลยน่า"

"คนเยอะ กูหงุดหงิด"

"เอาน่า นานๆ ทีนะ ^^ แล้วนี่มึงทำให้กูเองเลยป่ะ"

"มึงเห็นกูมีสกิลด้านนี้รึไง"

"โห ไอ้เราก็นึกว่าทำให้"

"ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่คนทำซะหน่อย"

"หึหึ ขอบคุณนะครับ"

ทำหล่อใส่กูตลอดเลย

เมลก้มลงมาหอมแก้มผม ก่อนมือที่กุมมือผมไว้จะกระตุกเบาๆ ให้เดินไปพร้อมกัน ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ จากข้างหลังแต่ผมก็ไม่ได้หันไปมอง

ด้วยพื้นไม้ที่พวกคณะวิทย์มันจัดทำขึ้นมามีพื้นที่ไม่มากนัก และจากสภาพแล้วเหมือนรองรับน้ำหนักได้ไม่เกินสี่คน พวกผมจึงทยอยกันลอย รอนานที่สุดก็เห็นจะเป็นตอนไอ้เต๋อกับไอ้แต้มนี่แหละ ไม่รู้มันขอขมาอะไรนักหนา ถึงได้นานจนคนข้างหลังตะโกนด่ามาขนาดนี้ แล้วไอ้คนตะโกนก็ไม่ใช่ใครครับ

ผมเอง :)

"อธิษฐานให้ฟังด้วยนะ" เมลบอกพลางยิ้มหล่อส่งมาให้

"ไร้สาระ"

"ขวางโลก"

พอเห็นหน้าหล่อๆ ของมันบึ้งตึงขึ้นมาแล้วผมก็เลยยื่นมือไปผลักหัวมันเบาๆ

"อยากให้ขออะไร? แฟนใหม่สักคน สองคน สามคน สี่..."

"กูถีบตกน้ำแม่ง"

"หึหึ"

"หัวเราะไร ขำมาก ตลกมาก"

"โหะ น้อยใจๆ โอ๋ๆๆ มาๆ กอดปลอบ"

กว่าเมลจะยิ้มได้ก็ถึงคิวพวกผมได้ลอยพอดี ไอ้ฟิว ไอ้กัส ไอ้ลินที่ลอยไปก่อนหน้านี้ก็บอกว่าจะไปรออยู่ใกล้ๆ ร้านขายสายไหมของพวกวิทยาฯสถิติ เพราะพวกเหี้ยเต๋อไปรุมกันอยู่ที่นั่น

ผมช่วยเอามือบังลมไว้ระหว่างที่เมลกำลังจุดเทียน มุมก้มอย่างนี้มันก็หล่อ ไม่แปลกใจทำไมสาวๆ ที่รออยู่ข้างหลังถึงได้ทำหน้าฟินและกรี๊ดเบาๆ เป็นระยะอย่างนั้น

"กูรู้ว่าคนอย่างมึงไม่อธิษฐาน แต่ขอขมาพระแม่คงคาก่อนแล้วค่อยลอย"

เรื่องแค่นี้ไม่ต้องบอกก็รู้น่า แต่ผมไม่ใช่คนที่จะฝากความหวังไว้กับการอธิษฐาน ภาวนา หรือรอคอยปาฏิหาริย์ที่ไม่รู้ว่าในชีวิตมันจะเกิดขึ้นไหม ทว่า...สำหรับใครหลายๆ คนคงไม่ใช่ เมลคงจะอธิษฐานอะไรที่ผมก็พอจะเดาออกได้ เรื่องครอบครัว เรื่องของไอ้มายด์ หรือแม้กระทั่งเรื่องของเรา แต่สำหรับผมแล้ว...ผมไม่ต้องอธิษฐานก็รู้ว่ายังไงมันก็มีทางเป็นไปได้จริง เพราะสิ่งที่ผมต้องการก็แค่...

"รักเมล"

"ห้ะ?"

"รักเมล"

"อะ...อะไร -///-"

"รักเมลไง"

"อื้อ"

"มีความสุขมั้ย?"

"-///- ครับ"

"ก็..ดีแล้ว ^^"

เมลยิ้มนิดๆ ก่อนจะพูดว่า "รักเท็น รักมากๆ อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"

"แน่อยู่แล้ว"

"ตอบทำไม กูคุยกับพระแม่คงคา"

"หึ กวนตีนไอ้สัด! กูไม่ตอบจริงๆ เดี๋ยวมีร้องไห้"

"ใครจะร้องเหรอออออออออ"

ถ้าผมถีบเมลตกน้ำตอนนี้คงเป็นการเปิดโอกาสให้สาวๆ ที่กำลังทำหน้าฟินอยู่ข้างหลังโดดลงไปคลุกวงในกับมันในน้ำแน่ๆ ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากแบ่งให้ใคร แค่มองน่ะได้นะ แต่ถ้าจับต้องอาจมีคนตาย หึหึ -_-

หลังจากที่ลอยกระทงเสร็จ ฝ่าฝูงคนออกมาได้เป็นที่เรียบร้อย การนัดเจอที่ร้านขายสายไหมก็มีอันตกไป เพราะอะไรน่ะเหรอ?

"พี่เมลคะ ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ นะๆๆ ขอรูปเดียวค่ะ"

แฟนผมกำลังโดนรุมด้วยแฟนคลับขนาดย่อมของมัน แล้วไอ้ที่ว่าขอรูปเดียวนี่ มีสักสี่ห้าคนน่ะครับ แต่ละคนก็พูดขอรูปเดียวหมด แต่เอาเข้าจริง แม่งเนียนไง มีแผน ถ่ายรูปแรกเบลอ รูปสองหลุดเฟรม หึ!

"เหี้ยเมล ถ้ามึงไม่รีบ กูจะทิ้งไว้ที่นี่"

ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากเสวนากับใคร พอรุ่นน้องหันมาส่งยิ้มให้เลยเหมือนโดนผมแยกเขี้ยวใส่ ยิ้มเจื่อนแล้วขอตัวลี้ภัยไปจนไกลสายตา

"บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบ เรื่องเดิมๆ อย่าให้พูดบ่อย กูเบื่อ"

"ขอโทษ"

"ขอโทษมากี่ครั้งก็ไม่เห็นจะดีขึ้น ถ้ายังเป็นอย่างนี้คราวหน้าก็อย่าหวังว่ากูจะไปไหนมาไหนกับมึง"

"ไม่ทะเลาะกันนะ เมลขอโทษ"

"ครั้งสุดท้าย มีอย่างนี้อีก กูบอกเลยว่าจะไม่ทน"

เห็นมันทำหน้าจ๋อยแล้วผมใจอ่อนทุกที แต่ไม่พูดไม่ว่าบ้างมันก็จะซื่อบื้ออยู่อย่างนั้น ไอ้สันดานปฏิเสธใครไม่เก่งนี่ไม่เคยแก้หาย เฟรนลี่ตลอด แต่พอโกรธกับผมแต่ละทีนี่ตีบทเย็นชา ปากร้ายได้แตกเลยจริงๆ

"รอเป็นชาติ หายไปไหนกันมาวะ" ไอ้แม็คถามพลางงับสายไหมที่ไอ้เต้ถือให้เข้าปาก

"ถามไอ้เหี้ยเมลดูสิ ช้าเพราะมัน"

"อ้าว นี่ทะเลาะกันมาเหรอเนี่ย อะไรกันวะพวกมึง ไปๆ ไปหาที่ปล่อยโคมกัน" ไอ้เต๋อเดินนำขบวนไป แต่ยังไม่วายหันมาแซวไอ้หล่อมึนหน้าซึมข้างๆ ผมว่า

"คราวหน้ากูทำป้าย 'เมียดุ' ให้คล้องคอมั้ยมึง หึหึ"

"เลิกซักกางเกงในให้เมียก่อนเถอะ แล้วค่อยมาทำให้กู!"

ผมเกือบลืมไปแล้วว่าไอ้เมลมันก็ปากจัดเหมือนกัน ฮ่าๆๆ ด้วยเหตุนั้นไอ้เต๋อเลยหุบปากสนิทแล้วหันไปกระซิบกระซาบกับไอ้แต้มที่เดินข้างๆ

"เท็นเท็น ยิ้มหน่อยน่า"

"เกี่ยวไรกับมึง ปากก็ปากกู โอ้ยยย บีบทำไม"

"ชอบพูดแบบนี้ คนฟังเสียใจนะ"

"เซ้นซิทีฟมาก ตอแหล"

"ดูนะ ว่ามาแต่ละคำ"

ผมเลยเงียบ ขี้เกียจเสวนากับมัน แต่เมลก็คอยกวนนั่นกวนนี่ไม่หยุด ระหว่างทางก็เจอคนเข้ามาทัก เข้ามาพูดคุย แต่ก็ดีขึ้นหน่อยที่มันไม่หูตั้งหางกระดิกไปกับคนอื่นเขา

"พี่มากับแฟนครับ ไม่สะดวกจริงๆ" มันพูดไม่พอ ชี้นิ้วมาทางผมอีก สาวหลายนางยิ้มเจื่อนแล้วล่าถอยไปเพราะหน้านิ่งๆ ของผม
 
เออนะ ตอนนี้คงมีคนตั้งคลับแอนตี้ผมหลายคลับแล้วล่ะ ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงหรอกครับ กะเทยก็มา เกย์สาวก็มี บางคนก็แรงและมั่นหน้ามาก เดินเข้ามาขอเบอร์ แต่เจอผมแจกเบอร์รองเท้าไปเลยรีบบอกว่ามีธุระขึ้นมาทันที

"ฮอตนักนะมึง โอ้ย กัดแก้มกู"

"อารมณ์เสียให้ได้อะไรขึ้นมา คบกันมาก็นานแล้ว ยังไม่มั่นใจอะไรอีก"

"ไม่ใช่ไม่มั่นใจ แต่กูบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ มายุ่งอะไรนักหนาวะ รู้อย่างนี้กูหาแฟนหน้าเหี้ยๆ ก็ดี ไม่ใช่ตัวเหี้ย"

"โหะ ด่าได้เจ็บปวดมาก"

"ยิ้มอะไรของมึง ไอ้โรคจิต ชอบโดนด่าไง"

"ไม่ชอบ แต่ชอบที่โดนหึง ^^"

"เหอะ ไปไกลๆ เลย ไม่ต้องมากอด คนเยอะ ร้อน อึดอัดด้วย"

"ข้ออ้างๆ"

"พวกมึงสองคนรีบๆ เดินได้มั้ย งุ้งงิ้งๆ ใส่กันอยู่นั่นแหละ อย่าให้มีแฟนอยู่ใกล้บ้างนะมึ้งงงง" ไอ้เขตสวมบทตัวอิจฉา แต่ได้ข่าวว่ามึงเลิกกับแฟนที่อังกฤษแล้วนิ? ไม่ใช่ว่าโสด?

"ไอ้ที่ว่าใกล้นี่ น้องดิ้งรึเปล่าว้าาาา" ไอ้ลินที่คอยป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวไอ้กัสหันมาแซว พร้อมกับได้รับนิ้วกลางจากไอ้เขตกลับไป

"ถ้าไอ้มายด์อยู่ด้วย...ก็คงดี กูรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยที่พวกเรามีความสุขอยู่อย่างนี้ แต่ในมุมเล็กๆ ยังมีฟิวที่ทุกข์ทรมานอยู่" จู่ๆ เจ้าของแขนที่โอบอยู่รอบเอวผมก็เปลี่ยนเข้าโหมดดราม่าไปซะงั้น

แต่ที่เมลพูดก็ไม่ได้ผิดจากความจริงเลย ในขณะที่คนอื่นๆ หัวเราะกัน ไอ้ฟิวกลับดูแตกต่างออกไป เหมือนมันไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้กัส ตัวตนของมันอยู่ตรงนี้ แต่หัวใจและความรู้สึกนึก

คิดของมันคงไปอยู่ที่ไหนสักที่ อาจจะเป็นที่ที่ได้อยู่กับคนที่มันเฝ้าภาวนาให้ตื่นขึ้นมาอยู่ทุกวันก็เป็นได้

เป็นความทรงจำที่ดี...ผมกล้าพูดได้ พวกผมยืนล้อมรอบโคมที่กำลังจะเตรียมปล่อยให้ลอยขึ้นฟ้า เหลือบมองคนข้างๆ ก็เห็นมันส่งยิ้มหล่อมาให้ ผมเคยมองว่าการทำอะไรแบบนี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่มาถึงตอนนี้...ผมว่าความคิดของผมได้เปลี่ยนไป มันไม่ได้ไร้สาระเลยเมื่อได้ทำร่วมกับทุกคนที่ผมรัก และคงดีอย่างที่เมลว่า หากไอ้มายด์มายืนอยู่ตรงนี้ด้วย...

แสงไฟจากโคมที่กำลังถือทำให้ผมเห็นใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาของไอ้ฟิวอย่างชัดเจน ไอ้กัสจับมือมันไว้ข้างหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างก็มีมือผมกุมไว้

ใช่...ก็อย่างที่เมลว่าอีกเช่นกัน มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

"ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ปีหน้า...พวกเราจะต้องได้มาเจอกันอีก จะไม่มีที่ว่างเหลืออย่างนี้...จะต้องมาเจอกันให้ครบทุกคน"

"ทำซึ้งว่ะเหี้ยเต๋อ" ไอ้แต้มพูดขัด แต่มันเป็นอีกคนที่แอบป้ายน้ำตาออกจากใบหน้าตัวเอง

หวังว่าในปีหน้า...ที่ว่างข้างๆ ไอ้ฟิวจะไม่ว่างอีกต่อไป

หายเร็วๆ นะไอ้มายด์...จะได้เอารอยยิ้มมาคืนให้เพื่อนกูซะที

................................End Special..................................

อันนี้เป็นตอนพิเศษนะคะ อย่ากังวลหรือตกใจ เป็นเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้อ่านก่อน แหะๆ

ตอนปัจจุบันรอกันหน่อยนะคะ  :ling2:

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่าาาาา วันนี้มีใครไปลอยกระทงบ้างน้าาาา คนเขียนไม่มีคู่ คงไปซื้อข้าวที่เซเว่นแล้วกลับมานอนฟินอยู่ห้อง  :hao5:

เที่ยวกันให้สนุกนะคะ แต่ก็ดูแลตัวเองกันด้วยน้าาาาา คนเยอะ ระวังอุบัติเหตุไม่คาดฝันด้วยนะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 17-11-2013 18:40:25
เห้ยยยยยยย เดี๋ยวมายด์จะเป็นอะไรอ่ะ ???

ตอนนี้สงสารฟิวมากเลยอ่ะ ชอบเมลก็ผิดหวัง แล้วยังมาโดนมายด์ขืนใจอีกไม่พอ พอรู้สึกดีกับมายด์แล้ว แล้วเหมือนมายด์จะเป็นอะไรไปรึป่าว ไม่นะ  :ling1:

สงสารฟิววววววววววววววววว

อ่านตอนนี้แล้วแอบน้ำตาซึมอ่ะ

แต่ก็ดีใจอยู่ลึกๆ ที่เท็นกับเมลยังอยู่ด้วยกัน เท็นเวลาหึงนี่น่ารักดีนะ เราเป็นเมลเจอเท็นเหวี่ยงน่ารักๆแบบนี้ก็ได้แต่ยิ้มเหมือนกัน 555

แอบหน่วงๆแทนฟิวแหะ  :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 17-11-2013 19:02:32
เมล-เท็น หวีทหวานได้ทุกสถานการณ์^^

ชอบคู่นี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 17-11-2013 19:23:06
มายด์ประสบอุบัติเหตุ เป็นไรมากป่าวคะ หายไว ๆ นะ

อนาคตฟิวยอมรับและรักมายด์แล้วชิมิ อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้ฟิวนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-11-2013 19:33:19
มายด์เป็นอะไรอะ เกิดไรขึ้ง
สงสารฟิวมากเลยยย
แล้วกัสกับลินมีซัมติงกันหรอ?
ส่วนเมลกับเท็นก็หวานตลอดดดดด
มุ้งมิ้ง น่ารัก
เต๋อพูดตอนปล่อยโคมได้ซึ้งมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-11-2013 19:39:17
ม่ายยยยยยยยย เกิดอะไรขึ้นกับมายด์เหรอออ เราสงสารฟิว  แงงงง :hao5: :hao5:
เท็นกะเมลน่ารักเหมือนเดิม  คู่นี้อ่านแล้วสบายใจดีอะ รักกันไปด่ากันไป อยู่กันชิว ๆ แต่หวานซะ  เมลทำใจเหอะ เมียแกดุตั้งแต่ห้าขวบจำได้ไหม  ชะตาตกเป็นรองตั้งแต่เจอกันหนนั้นแล้วล่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-11-2013 19:56:31
เมลกี่ปีก็ยังฮอตเหมือนเดิม น่าจฉาเท็น
แต่อึ้งคู่มายด์ฟิวส์ สงสารทั้งคู่มาก

สุขสันต์เทศกาลลอยกระทง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 17-11-2013 20:09:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 17-11-2013 20:54:21
มายยยยยยยยยยยยยด์  :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 17-11-2013 21:12:12
คนเขียนไปแอบแต่งมาตอนไหนเนี่ยยย มาเร็วมากกก  :katai2-1:

สงสารฟิว  :hao5: เมลเท็นน่ารักเหมือนเดิมมมมมมม  :man1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 17-11-2013 22:39:28
มายด์เป็นอะไรรรรร

 :hao5:

โอ๋ๆนะฟิว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 17-11-2013 22:59:42
อ่านตอนนี้แล้วสงสารฟิว :เฮ้อ:
แต่ก็อยากรู้เข้าไปใหญ่ แปลว่าต่อไปบ้านเมลรับเท็นได้ใช่ป่ะ ถึงจะไปอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ  :hao6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-11-2013 23:38:57
เอาใจช่วยฟิวให้มายด์หายดีแล้วมาลอยกระทงด้วยกันปีหน้านะ :hao5:
แต่เมลเท็นเขาก็หวานตามประสาเขาล่ะ น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 18-11-2013 00:36:18

หลงเท็นเท็นซะแล้ว ทำไงดีเมล ทำไงดี  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 18-11-2013 00:52:10
หน่วงแทนฟิวเลย โอ๋ๆ มาๆกอดๆๆๆ :กอด1:

เวลาเท็นหึงเมลมันเป็นอะไรที่เราว่ามุ้งมิ้งดีอ่ะ น่ารักๆๆๆๆ  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 18-11-2013 01:32:12
มายเป็นอะไร  o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-11-2013 07:56:22
มายด์เป็นอะไรอ่ะ
สงสารฟิว TT
เมลเท็นยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 20-11-2013 05:42:20
ท็นกับเมลตอนเด็กนี่...น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก
 :m3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 20-11-2013 11:09:57
ฟิวน่าสงสารมากๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 20-11-2013 12:43:31
น้องเมลติดเท็นตั้งแต่เด็กจนโตเลยน๊า :กอด1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 21-11-2013 20:41:16
ตอนเด็กเท็นโหดมาก ๆ ฮ่าๆ  โตมายังไงยังงั้น

เท็นเคะมากตอนเด็ก สุดท้ายจับเท็นทำเมียจนได้ อิอิ


มาย์!!!!!!!!!เป็นไรอ่ะ สงสาร ฟิว
กระทงเท็ดน่ารักมุมิ  +1ค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 22-11-2013 01:03:26
อ่านแล้วฟินมากกก เรื่องนี้
ชอบทุกคู่เลยย โดยเฉพาะคู่เอกก
อ่านไปเขินไป อิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special Loy Krathong Festival : 17-11-2013 (Page. 23)
เริ่มหัวข้อโดย: duckool ที่ 23-11-2013 16:48:02
ชอบเนื้อเรือง
ชอบเท็นที่คาเรคเตอร์ไม่เหมือนใคร
สุดโต่ง คาดคิดไม่ถึง
ตอนเศร้าก็ร้องไห้จนคิดว่าตัวเองเป็นเอามาก
ตอนหวานก็ยิ้มค้างเหมือนคนบ้า ห้าๆ
อ่านแล้วสนุกมาก ขอบคุณคนเขียนค่ะ
 :L2: :L2: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page. 24)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-11-2013 23:19:24
http://www.youtube.com/v/1_374c5JFv8

ตอนที่ 32

“วันนี้ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ”

“อ้าว ค้างที่นี่ก็ได้นี่คะ ให้แม่บ้านขึ้นไปทำความสะอาดห้องไว้ให้แล้วด้วย กว่าจะกลับไปถึงคอนโดน้องเมลก็คงดึก ค้างที่นี่เถอะนะคะ”

ผมเหลือบมองหน้าหล่อๆ ของคนข้างๆ ที่ตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมาไม่ได้มองมาทางผมเลย

การทานข้าวกับครอบครัวของเมลไม่ได้แย่นัก ทุกคนน่ารักกับผม ถึงระหว่างการทานอาหารจะมีพูดถึงงานหมั้นของเมลกับพริมบ้าง แต่เรื่องนี้ก็ถูกหันเหความสนใจด้วยการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของผมตลอดหลายปีที่ไม่ได้เจอกัน คุณอเล็กซ์พ่อของเมลเคยชื่นชอบผมยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน คุณภูก็ทำเหมือนการขาดการติดต่อจากผมจะเป็นแค่เรื่องเด็กล้อเล่น เพราะก็ยังเทคแคร์และพูดคุยกับผมตามปกติ พอทานอาหารเสร็จก็มานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกสักพัก ครอบครัวของฝาแฝดก็ขอตัวกลับ ผมน่ะคิดอยากกลับตั้งนานแล้วครับ แต่...

คุณแม่ของเมลคะยั้นคะยอให้นอนค้าง และไม่รู้ว่าท่านรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่คอนโดเดียวกับเมล -_-

“นะคะน้องเท็น ค้างที่นี่เถอะนะคะ คุณภูก็จะมาพักกับเราก่อนบินไปแอฟริกาใต้ด้วย ไม่ได้เจอกันนานแบบนี้ แม่มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลย”

คุณแม่ของเมลยอมแทนตัวเองว่าแม่กับผมแล้ว ตอนแรกผมเรียกคุณน้าเพราะยังไงตอนนี้ผมก็เป็น ‘เพื่อน’ กับลูกชายของเขา จะมาเรียกผมว่าคุณอย่างนั้นอย่างนี้ก็แปลกๆ แต่คุณแม่เจน (แม่ของฝาแฝดพริมแพรเรียกหญิงเหมือน แต่ตอนเรียนคุณแม่ใช้ชื่อว่าเจนน่ะครับ เพื่อนที่ต่างประเทศรู้จักกันในชื่อเจน) ขอเรียกแทนตัวเองว่าแม่แทน ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม -_-

“เอ่อ...ก็ได้ครับ”

“งั้นให้น้องเมลพาไปที่ห้องนะคะ น้องเมลคะ...”

แต่เมลที่อยู่นอกวงสนทนามาตลอดกลับเปลี่ยนไปถามอีกเรื่อง “นาตาชาอยู่ไหนเหรอครับแม่”

“ออกไปทำธุระให้แม่จ่ะ อีกเดี๋ยวคงกลับ”

“งั้นให้แม่บ้านพาเท็นไปที่ห้องนะครับ ผมจะไปรอนาตาชา”

ผมไม่เคยชินกับการเห็นเมลเป็นอย่างนี้ เวลาที่ทะเลาะกันรุนแรง เมลจะเย็นชา เหินห่าง และไม่ยอมมองหน้าผม แต่นี่...เราไม่ได้ทะเลาะกันเลย แล้วทำไม...ต้องทำแบบนี้กับผม

ผมทำอะไรผิด?

“น้องเท็น เดี๋ยวแม่พาไปเองนะจ้ะ น้องเมลก็อย่างนี้แหละ ติดนาตาชามาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลี้ยงดูกันมานี่นะ ไปค่ะๆ หรือจะไปคุยกับคุณพ่อกับคุณภูที่ห้องสมุดดีคะ”

“ไปที่ห้องดีกว่าครับ”

เสียงของคุณแม่เจนที่ชวนคุยไปตลอดทางไม่ได้เข้ามาในหัวผมเลยสักนิด ทำไมกันนะ...ทำไมความหงุดหงิดใจถึงประดังประเดเข้ามาไม่ขาดสาย ตั้งแต่เมลเดินออกจากห้องรับแขกไป ผมก็แน่ใจแล้วว่ามันไม่ปกติ

“น้องเท็น เดี๋ยวแม่เอาเสื้อผ้ามาให้นะคะ นอนห้องนี้ได้ใช่มั้ย หรือจะนอนห้องน้องเมล”

“ผมนอนห้องนี้ดีกว่าครับ ขอบคุณ”

“จ้า งั้นเดี๋ยวแม่มานะ”

“ครับ”

คุณแม่เจนเดินเข้ามาขยี้หัวแล้วก็ออกจากห้องไป... ผมมองตามจนประตูปิด ก่อนจะเดินออกมาที่ระเบียงห้อง มีลมพัดนิดหน่อยพอให้อากาศไม่ร้อนมากนัก

ผมกำลังสงสัยว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ ทานข้าวกับพ่อแม่แฟน? พบปะพูดคุยกับเพื่อนเก่า? หรือ...แก้ปัญหาที่กำลังเรื้อรังอยู่ระหว่างผมกับเมลให้จบ

ผมคิดว่าไม่มีคำตอบไหนเลยที่ถูกในตอนนี้ ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำกับจุดประสงค์ที่มาที่นี่ และดูเหมือนเมลก็จะลืมไปแล้วเช่นกัน เพราะยังไงตอนนี้ผมกับมันก็ยังคงสถานะ ‘เพื่อน’ ในความคิดของพ่อแม่มันอยู่ดี และก็เหมือนเดิมที่สถานะของมันก็ยังคงเป็น ‘ว่าที่คู่หมั้น’ ของลูกเพื่อนสนิทแม่

ไม่มีอะไรเปลี่ยน...

หรืออาจจะมี...แต่ผมมองไม่เห็นมัน?

“นาตาชา แม่ให้ไปทำอะไร ทำไมต้องกลับดึกๆ ดื่นๆ”

เพราะเสียงทุ้มที่คุ้นเคยนั่นทำให้ผมต้องถอนสายตาจากพระจันทร์ตรงหน้าแล้วมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกอดกันกลมอยู่ที่สนามเบื้องล่าง

“คุณชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

“เมลมาตั้งนานแล้ว บอกมาก่อนว่าแม่ให้ไปทำอะไร เป็นผู้หญิงทำไมไม่กลับให้เร็วกว่านี้ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะว่ายังไง”

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่งานเอกสารนิดหน่อย”

นาตาชา...งั้นเหรอ?

ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยจัดชนิดที่สองแฝดนั่นเทียบไม่ติด นัยน์ตาสีชาที่แฝงความอบอุ่นยามทอดมองแฟนของผม มือเรียวสวยที่คอยลูบผมนุ่มๆ นั่นก็ด้วย

ทำไมกันนะ...ภาพตรงหน้าทำให้อกผมเจ็บแปลบขึ้นมา

มีอะไรบางอย่างที่บอกว่าผมไม่สามารถเข้าไปแทรกกลางคนสองคนนั้นได้ ความห่วงใย ความอ่อนโยนที่ทั้งสองคนแสดงออกมาให้กัน...ความเหมาะสมนั่น...ธรรมชาติให้มางั้นเหรอ?

แล้วผมล่ะ...เป็นใคร

“อาจารย์บอกว่าวันนี้คุณชายจะพาแฟนมาทานข้าว...ไปไหนซะล่ะคะ”

“ทำไมต้องเปลี่ยนเรื่อง กำลังคุยเรื่องนาตาชาอยู่นะ คุณย่าบอกว่านาตาชาไปกินข้าวกับอาจารย์ที่มหาลัยของแม่มาเหรอ ทำไมล่ะ แม่จับคู่ให้อีกแล้วรึไง”

“อาจารย์เห็นว่าคุณดนัยเขาเป็นคนดีน่ะค่ะ เลยแนะนำให้รู้จัก แต่ท่านไม่ได้บังคับหรอกนะคะ”

“นาตาชาไม่ต้องมาเข้าข้างแม่ เขาน่ะจอมบงการ ทำไมต้องไปยอมด้วย ไม่เอานะ ไม่ให้ไปแล้ว”

“เอ๊...คุณชายโตแล้วนะคะ เอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ”

“ก็ไม่ชอบ ไม่อยากให้ไป”

“ค่ะๆ ไม่ไปแล้วนะคะ ยิ้มหน่อยนะคะคนดี”

“ไม่ใช่เด็ก”

“^^ เข้าบ้านกันนะคะ หิวข้าวจะแย่”

“ครับ งั้นเดี๋ยวเมลนั่งกินเป็นเพื่อนนะ”

“อ้าว ยังไม่อิ่มอีกเหรอคะ”

“ก็กินไปนิดเดียว รอนาตาชานั่นแหละ ไม่มาสักที”

“ใจดีจัง”

“ก็นะ...นานๆ กลับมาที ก็อยากกินข้าวด้วยกัน”

“ค่าๆ ^^”

ผม...เหมือนมาอยู่ผิดที่ผิดทางซะแล้วล่ะ

“น้องเท็น...อยู่ไหนคะ ทำไมไม่เปิดไฟ”

“ผมอยู่นี่ครับ”

“เป็นอะไรไปคะ...สีหน้าไม่ดีเลย”

“เปล่าครับ...”

“มีอะไรก็บอกแม่นะคะ ตอนนี้น้องเท็นก็เหมือนลูกชายอีกคนของแม่ งั้นเดี๋ยวอาบน้ำนอนนะคะ จะได้พักผ่อน”

“ครับ”

คุณแม่เจนจูบหน้าผากผมเบาๆ หนึ่งที หอมแก้มอีกสองข้างแล้วก็ขอตัวออกไป

ผมอยู่รับลมอีกสักพักก็เข้าไปอาบน้ำ ใส่ชุดนอนที่คุณแม่เจนหามาให้ แต่พอล้มตัวลงบนเตียงก็เสือกนอนไม่หลับ เพราะในหัวเอาแต่คิดว่าตอนนี้เมลกำลังทำอะไร แยกจากนาตาชารึยัง...หรือกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่ไหนสักแห่งของบ้านหลังนี้...เฮ้อ...ผมออกไปเดินเล่นคงดีกว่านอนฟุ้งซ่านอยู่ที่นี่ล่ะมั้ง

“ไง เด็กใจร้าย” เป็นคำทักทายที่ไม่ค่อยเข้าหูเท่าไหร่ แต่ผมก็พยักหน้าตอบกลับไปเป็นเชิงว่าสบายดี เอ็งมีอะไร -*-

“โลกกลมจริงๆ นะ ผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณอีก แต่เราก็เจอกันจนได้ ^^”

“ก็มีคนพิสูจน์ทฤษฏีโลกกลมไว้แล้วนี่ครับ คงไม่มีอะไรต้องสงสัย”

“ก็คงทำนองนั้น ...ว่าแต่ ลูกชายของอเล็กนั่นน่ะ แฟนคุณเหรอ”

“ก็คงทำนองนั้น”

“หึหึ เขาดูไม่มีความสุขเลยนะครับ เพราะอะไรกันนะ?”

“....”

“คุณเปลี่ยนไปมากนะเท็น รู้ตัวรึเปล่าว่าตอนนี้กำลังทำอะไร”

“ผมรู้”

“คุณรู้จริงๆ น่ะเหรอ ผมสงสัยนะ แฟนคุณดูไม่ภูมิใจเลยที่มีคนรักอย่างคุณ เขาไม่พูดด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรกับคุณ แล้วทำไมคุณถึงยังบอกผมว่าคุณรู้ล่ะ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“เท็นที่ผมรู้จัก ไม่ใช่คนที่ทำหน้าพ่ายแพ้อย่างนี้หรอกครับ ผมหลงใหลในความเชื่อมั่น อุดมการณ์ ความคิด และทุกๆ อย่างของคุณนะ แต่ตอนนี้คุณกำลังทำให้ผมผิดหวัง”

“....”

“ผู้หญิงที่ชื่อนาตาชาคนนั้น เป็นรักแรกของแฟนคุณไม่ใช่เหรอครับ”

“อยากพูดอะไรกันแน่คุณภู”

“ก็บังเอิญว่าเมื่อกี้ผมอยู่ตรงนี้พอดี เลยเห็นในสิ่งที่คุณก็คงเห็นเหมือนกัน ไม่แปลกใจเหรอครับว่าทำไมอเล็กกับเจนที่ดูยังไงก็ไม่ใช่คนที่จับลูกคลุมถุงชนแบบนั้นถึงลุกมาหาคู่ให้ลูก”

ผู้ชายตรงหน้าผมกำลังจะพูดอะไร...

“ก็คงเพราะไม่อยากให้ลูกชายตัวเองลงเอยกับพี่เลี้ยงสมัยเด็กล่ะมั้ง ^^”

“งั้นเหรอครับ”

“ผมกับอเล็กน่ะเพื่อนเก่า ก็รู้นั่นรู้นี่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่กับคุณที่เป็นแฟนน่ะ เขาไม่บอกอะไรเลยเหรอครับ...แฟนของคุณน่ะ”

“.....”

“ไม่คิดบ้างเหรอครับว่า...ทำไมเขาเลือกคุณ ทั้งๆ ที่คุณเป็นผู้ชาย เพราะรัก หรือเพราะอะไร?”

“ขอบคุณคุณภูนะครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างผมกับแฟน ไม่เกี่ยวว่าใครจะพูดอะไร ไม่เกี่ยวกับคุณหรือนาตาชา”

เป็นเรื่องของคนสองคน ผมเชื่ออย่างนั้น และถ้ามันจะจบจริงๆ ผมจะทำให้จบเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาบอก

“ผมทำให้โกรธเหรอครับ...ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้น ว่าแต่คุณจะตอบรับคำชวนของผมเป็นครั้งที่ร้อยมั้ย ไปแอฟริกาใต้น่ะ”

“คงต้องขอปฏิเสธครั้งที่ร้อยเหมือนกันล่ะครับ”

“ฮ่าๆๆ แต่ยังไงผมก็จะรอนะ”

“ถ้าคุณไม่ป่วยตายไปซะก่อนล่ะก็ ผมก็ไม่ขัดข้อง”

“โหยยย ปากจัดจริงๆ”

หลังจากที่คุณภูเปลี่ยนเรื่อง บรรยากาศระหว่างผมกับเขาก็ดีขึ้น มีหลายเรื่องที่ผมฟังแล้วก็สำนึกตัวเองขึ้นมาบ้างว่าเมื่อเทียบกับเขา ผมไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ผมไม่มีอะไรเลย...แม้แต่ความฝันของตัวเองก็...ไม่เคยมี

“ผมอาจจะตายไปทั้งอย่างนี้เลยก็ได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่งที่ผมหรือคุณก็ต้องหายไปจากโลกนี้ แต่ต่อให้คิดอย่างนั้น...ผมก็ไม่มีอะไรที่อยากทำเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายเลย”

“ฮ่าๆๆ แล้วแฟนคุณล่ะ ไม่อยากตายในอ้อมกอดเขาหรือไง”

“สำหรับผมแล้ว...ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตหรอกครับ ผมไม่ได้มีความคิดน้ำเน่าขนาดว่าต้องตายไปในอ้อมกอดของใคร...ความตายน่ะโดดเดี่ยว...เหมือนโลกของผมที่ไม่เคยมีใครเข้ามาได้”

ความจริงก็ทำท่าเหมือนจะมี...แต่ผมคงคิดไปเอง

“เพราะคุณไม่เคยเชื่อใจใคร”

“ก็คง...ทำนองนั้น”

ผมไม่มีความเห็นเรื่องรักแรกของเมล จะจริงหรือไม่จริงผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมไม่เคยมีพี่เลี้ยงสมัยเด็กเลยไม่เข้าใจความสัมพันธ์แบบนั้น ผมไม่ได้มีพ่อแม่ที่เป็นลูกศิษย์ของแฟนตัวเองผมถึงไม่เข้าใจว่าควรรู้สึกยังไง และผมไม่ใช่เมล...เลยไม่รู้ว่าตอนนี้มันกำลังคิดอะไร

เพราะผมก็คือผม ที่เห็นแล้วว่ามันคงจะไปกันไม่รอดจริงๆ ถึงต้องหยุด...

ความรักน่ะ...เป็นแค่ภาพลวงตาชัดๆ

.
.
.

ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาแต่ผมก็ไม่ได้ถามออกไปว่าเป็นใคร ผมขึ้นมานอนได้สักพักแล้วหลังจากแยกกับคุณภูที่หน้าห้องสมุด เขาบอกว่ามีงานวิจัยที่ต้องปรึกษากับคุณพ่อของเมลเลยต้องบอกฝันดีกับผมที่ตรงนั้น

“เท็น”

“.....”

“เท็น”

“.....”

“รู้ว่ายังไม่นอน มาคุยกันหน่อย”

ผมขมวดคิ้วกับไฟในห้องที่ติดสว่าง ปรับสายตาเล็กน้อยก็เห็นเมลในชุดนอนลายทางสีน้ำเงินเข้มกำลังยืนกอดอกจ้องเขม็งมาที่ผม

“มันเป็นใคร ไอ้คนที่มึงออกไปเดินเล่นด้วยน่ะ ดึกขนาดนี้ออกไปนั่งคุยนั่งหัวเราะกับมันอยู่ได้ กูจำได้นะว่าเป็นคนที่อยู่ในรูปกับมึง”

“ก็เพื่อนพ่อมึง ชื่อภู”

“มันชอบมึง”

“ก็คงใช่”

“ถ้ารู้แล้วทำไมยังออกไปเดินเล่นกับมันดึกๆ ดื่นๆ คุยหัวเราะกันจนดังมาถึงในบ้าน”

ผมแค่ยักไหล่แล้วก็ล้มตัวลงนอน ปล่อยเมลมันบ้าไปคนเดียวเถอะ

“เท็น! คุยกันให้รู้เรื่องนะ”

เพราะเมลมันเข้ามากระชากผ้าห่มออกจากตัวผม เลยโดนเท้าผมถีบเข้าที่ท้องเต็มๆ แต่ไอ้ห่านี่แม่งถึก จับข้อเท้าผมแน่นไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่ตัวเองก็งอตัวอยู่อย่างนั้น

“ปล่อย”

“เป็นอะไร...”

“บอกให้ปล่อย”

“ทำไมแค่นี้ต้องขึ้นเสียง”

“แล้วดึกขนาดนี้ใครมาชวนกูทะเลาะ รอพรุ่งนี้เช้าก็ได้นะ กูพร้อมจะทะเลาะกับมึงทุกเมื่อ”

“......”

“.....”

ผมเกลียดช่วงเวลาแบบนี้ ทั้งอึดอัดและไม่สบายใจ ผมอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร อยากถามในทุกเรื่องที่สงสัย ต้นเหตุที่ทำให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่แย่สำหรับผม

“นาตาชาเป็นใคร”

เมลทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยกับคำถามของผม มันเงียบไปสักพักก่อนจะตอบว่า

“พี่เลี้ยง”

“อืม”

“นาตาชาอยากรู้จักมึงนะ พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆ หน่อย จะพาไปแนะนำ”

“แนะนำกู?”

“อือ”

“มึงจะแนะนำกูในฐานะอะไร?”

“.....”

ความเงียบคืออะไร? ผมไม่เข้าใจ สีหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง ลำบากใจอะไรอยู่?

“รักแรกเหรอ?”

“อะไร”

“นาตาชาน่ะ รักแรกของมึงเหรอ”

“.....”

สำหรับผมแล้ว...รู้สึกอยู่บ้างว่ารักแรกน่ะ สำคัญกับคนทุกคน รักมากและลืมยากที่สุด แต่นั่นน่ะมันจะสำคัญเท่ากับ...

“มึงยังรักอยู่มั้ย”

“หมายถึงนาตาชาน่ะเหรอ...”

ผมจะหมายถึงคนอื่นได้ยังไง...ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องของเราสองคน จะมีอะไรสำคัญมากเท่ากับว่ามันยังรักผมอยู่มั้ย...

แต่แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่ารักแรกของมันก็คือนาตาชาจริงๆ

แล้วผม...ล่ะ เป็นรักที่เท่าไหร่...จะเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม...หรือจะแค่...คิดไปเอง

“กูง่วงแล้ว มึงกลับห้องไปเถอะ”

“เท็น...”

“....”

“นอนด้วยนะ”

“อืม”

ผมล้มตัวลงนอนแล้วพลิกตัวมาอีกทาง แต่แค่ไม่กี่นาทีก็โดนเมลดึงไปกอดไว้ แผ่นหลังผมชิดอยู่กับแผ่นอกของมัน แขนยาวๆ ของมันก็กอดรัดผมไว้แน่น

“ฝันดี”

“อืม”

“รักเท็นนะครับ”

“.....”

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกไม่สบายใจกับคำบอกรักของเมล...

..........................................To be continue...............................

อึนๆ มึนๆ งงๆ หน่วงๆ กันบ้างมั้ยคะ

ความรักคืออะไรกันแน่...ก็สุดแล้วแต่ใครจะนิยาม

 o22 o22

มาช้ามากเพราะหนักใจกับตอนนี้ อ่านเองยังหน่วงเอง ไม่เฉยนะคะตอนนี้ ไม่เฉยยยยยย  :a5:

เป็นไงกันบ้างคะ สบายดีกันมั้ย???? ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกท่านนะคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ช่วยเป็นกำลังใจ แต่ไม่เม้นไม่เป็นไรนะคะ เพราะเราเข้าใจว่าคุณคือนักอ่าน เชิญเสพกันตามสบาย ฮี่ๆๆๆ (แต่พอเม้นขึ้นทีนางคนเขียนดีใจโคตรๆ  :laugh: :laugh:)

ปล. รักไม่ใช่ทุกอย่าง!! เจรงงงงงงงง :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 24-11-2013 23:40:47
อ่านช่วงแรกๆของเรื่องไม่เครียด
แต่ตอนนี้เริ่มเครียดแระ :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 24-11-2013 23:42:12
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 24-11-2013 23:47:02
ฮึ้ยยยย ขัดอกขัดใจ
คนแต่งมาต่อไวๆนะ
และโปรดคำนึงไว้เสมอว่า
ไม่ว่าคนแต่งจะ เดิน ยืน นั่ง นอน อาบน้ำ กิน ข้าว แต่งตัว เหล่หนุ่ม ไม่ว่าเวลาไหน
ยังคนมีคนอ่านตาดำๆ ที่มารอให้คนแต่งมาต่อนิยาย
เนื้อเรื่องมันหน่วงใจ อัด อั้น ทรมาณ จนนอนหลับไม่สนิทอยู่เสมอ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :o211:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 24-11-2013 23:55:51
ตอนที่แล้วเราสงสารเมลนะ
เมลเหมือนถูกเหวี่ยงออกมานอกวงสนทนาที่มีแต่ลูกศิษย์ อาจารย์ และเพื่อนวิจัย

แต่มาตอนนี้มันคืออะไร เมลทำให้เราผิดหวังมาก
เมลง้องแง้งอย่างที่เราไม่เคยเห็น อ้อนพี่เลี้ยง หวงพี่เลี้ยงเหมือนเด็กตัวเล็กๆ
แต่พอมาหาเท็นก็พร้อมที่จะหาเรื่องและชวนทะเลาะได้ทุกเมื่อ
แถมไม่เคยปริปากบอกเรื่องรักแรก เรื่องพี่เลี้ยง หรือเรื่องที่บ้านกับเท็นเลย
คนที่โดนเหวี่ยงออกมาคงไม่ใช่เมลแล้วล่ะแต่เป็นเท็น

ตอนเท็นคุยกับคุณภู เมลยังรู้ ยังเห็น ยังได้ยิน
แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าเมลอ้อนนาตาชา กอดนาตาชา เท็นจะไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินอะไรเลย

ถ้าอยากจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนตอนเด็ก ก็กลับไปสู้อ้อมอกของนาตาชาเถอะ
คิดว่าเท็นก็คงไม่รั้งเมลไว้หรอก

ปล เค้าหน่วงมาก มาต่อเร็วๆ เถอะได้โปรด อยากเห็นเท็นจัดการขั้นเด็ดขาด

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 25-11-2013 00:03:21
เหยยยยยยยยยยยยยอ่านตอนนี้แล้วจะร้องไห้อ่ะ

นาตาชา ในความคิด คือแก่มากแล้วไง แบบเออไม่ใช่งี้อ่ะ แบบเป็นรักแรกเลยอ่อ  :a5:

มันหน่วงๆอ่ะ โหวงๆด้วย แต่ก่อนคือเป็นแม่ยกเมลมาตลอดนะ

แต่ตอนนี้ เมลแกกกกกกกกกกกกก !!!

ขอมอบให้เท็น  :กอด1:

ปล.ช่วงหลังมา เราจะกลับไปอ่านแต่ละตอนมากกว่าหนึ่งรอบนะ ระหว่างรอตอนใหม่

แต่ตอนนี้นี่แบบ กลับไปอ่านอีกรอบไม่ไหวจริงๆ ฮือออออ :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 25-11-2013 00:49:06
โอ้ยยยยย อึดอัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: duckool ที่ 25-11-2013 01:19:10
เท็นเป็นคนชัดเจนในความคิด ความรู้สึกของตัวเองดี
ชอบค่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 25-11-2013 01:36:31
 :เฮ้อ: รักเราสองสามคน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 25-11-2013 02:00:39
เห้ออออออ
หัวข้อ: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 25-11-2013 02:02:38
 :ling1: :ling1:ไม่ชอบกินมาม่านะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 25-11-2013 02:09:36
โอ้ยยยยยย  เมลเอ้ย  ไมดู ไม่จริงใจ หยั่งงี้อ่ะ

เริ่มสงสารเท็น อ่ะ เก่ง เกินไป มัน ก็ไม่ดีนะ เห้อออออ

เครียดดีแท้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 25-11-2013 05:58:35
เอิ่มมมม แบบว่าเราก็อธิบายไม่ถูกอ่ะ คือเมลนายคิดอะไรอยู่เราอยากรู้มากกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 25-11-2013 06:47:02
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 25-11-2013 09:02:16
เมล อิรุยของแกฟร่ะ

เริ่มจะเบื่อแกละนะ คิดไรไม่พูดฟร่ะ

มาถึงตอนนี้เราไม่รู้จักเมลเลย บางทีแอบอยากให้เท็น

เลิกเมลซะเลย ช่วงแรกๆเห็นใจเมลนะ

แต่ตอนนี้เราสงสารเท็น เท็นชัดเจนในตัวเอง

กลับกัน เมลกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าหวงรักแรกมาก

ก็ปล่อยเท็นเถอะ แค่นี้แระ  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

มันหน่วงจริงๆ 5555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 25-11-2013 09:21:17
โนคอมเม้นท์ค่ะ
แต่ขอให้เข้าใจกันเร็วๆนะ
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-11-2013 10:46:57
เมลแกๆๆๆๆๆ
สงสารเท็นๆๆๆๆๆ
เฮ้อ ความหวานไปไหนหมดๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-11-2013 10:58:39
อึมครึมสุดๆ
เมลงี่เง่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 25-11-2013 13:55:23
ทิ้งเลยๆๆๆๆๆ
คนโลเลอย่าไปเอา
เท็นต้องกลับมาเป็นคนเดิม สู้ๆ :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 25-11-2013 16:22:51
คุยกันให้เครียร์ เมลหนักแน่นและชัดเจนหน่อย  ก่อนจะตกลงเป็นก็รู้อยู่แล้วว่าเท็นเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 25-11-2013 18:18:49
ไม่รักคงไม่เจ็บอย่างนี้



:กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 25-11-2013 18:29:40
 :katai1:  โอ้ยยยนอ่านตอนนี้แล้วปวดตับ ส่อแววดราม่าขั้นสูง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: polartotty ที่ 25-11-2013 18:55:40
อยากเตะเมล์ บอกตง!!!!!!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page.24)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 25-11-2013 20:21:46
ทำไมมันหน่วงแบบนี้ ฮอลลลลลลล  :ling1: :ling1:
ไม่เอาอ่ะ เมลอธิบายเร็วๆเลย อย่าทำให้เท็นไม่แน่ใจเซ่
อิคุณภู แก่แล้วนะคะไมทำตัวแบบนี้อ่ะ มาเสี้ยมเท็นทำไม จะทำครอบครัวเค้าแตกแยกเหรอ นิสัยไม่ดี :angry2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 25-11-2013 21:24:04
ตอนที่ 33

“สวัสดีค่ะคุณเท็น ได้ยินคุณชายบอกว่าน่ารักมาก ดิฉันเลยอยากรู้จัก ต้องขอโทษด้วยนะคะที่คุณชายปลุกคุณเช้าขนาดนี้” ผู้หญิงสวยตรงหน้า อายุราวๆ สามสิบปีส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ผม

“ไม่เป็นไรครับ”

“อะไรล่ะนาตาชา เมลไม่ได้ทำอะไรผิดนะ”

“คุณชายเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ดีนะคะ”

“ก็นาตาชาบอกว่าอยากรู้จัก ก็พามาให้รู้จักแล้วไง ห้ามโกรธนะ อยากกินข้าวต้ม นาตาชาทำให้หน่อย”

“ค่าๆ คุณเท็นจะรับด้วยมั้ยคะ”

ผมเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย

“อ๋อ ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวผมว่าจะกลับแล้ว”

“อ้าว...ทำไมล่ะคะ ยังเช้าอยู่เลย รอทานข้าวพร้อมกับอาจารย์ก่อนนะคะ”

“นั่นสิเท็น จะรีบกลับทำไม ยังไงก็ต้องกลับพร้อมกัน”

“กูมีธุระ”

“ธุระอะไร”

“ไม่เกี่ยวอะไรกับมึง”

ด้วยเพราะน้ำเสียงและสีหน้าของผมทำให้นาตาชาและคนข้างๆ นิ่งเงียบไป ผมไม่มีธุระอะไรที่นี่อีกแล้ว มันอาจจะเสียมารยาทไปหน่อยที่ไม่ได้บอกลาเจ้าของบ้าน แต่ผมแน่ใจว่าผมคงทนอยู่ที่นี่ไม่ได้แม้อีกสักวินาทีเดียว

“โกรธอะไร” เสียงของเมลดังขึ้นมาจากข้างหลัง มันเดินตามผมจนทัน แต่ผมไม่ได้หันกลับไปใส่ใจ

“อย่าเดินหนี ตอบมา”

ผมเหลือบมองมือที่กำลังจับแขนก่อนจะเลื่อนสายตาไปสบตากับเมลจนมันต้องปล่อย

“แล้วจะกลับยังไง...”

“ไอ้กัสมารับ”

“งั้นรอที่คอนโดนะ”

ผมอยากถามว่าจะให้ผมรอทำไม...ในเมื่อตอนนี้มันก็ไม่ได้คิดจะกลับไปกับผม

เมลจูบเบาๆ ที่หน้าผากผมก่อนจะยิ้มหล่อส่งมาให้ แต่ผมไม่ได้ยิ้มให้มันเหมือนทุกที ผมอยากจะถ่วงเวลาให้นานกว่านี้ แต่ไอ้กัสก็ดันมาเร็วซะจนผมคิดว่าแม่งคงเหยียบมิดมาอีกตามเคย แต่เอาเถอะ...ยังไงผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไรต่อไป

“เมล”

“ครับ”

“ไม่ผิดใช่ไหม...ถ้ากูจะไม่รอ”

“....”

ผมเห็นความตกใจบนใบหน้าหล่อเหลาของมัน แต่ก่อนที่มันจะทันได้พูดหรือคว้าแขนผมไว้ได้ทัน ผมก็รีบมาขึ้นรถของไอ้กัสที่จอดรอไว้ซะก่อน

“จอดรถมั้ย” ไอ้กัสถามอย่างไม่แน่ใจเพราะเมลกำลังวิ่งตามมา รถยังแล่นไม่เร็วเท่าไหร่เพราะยังอยู่ในบริเวณบ้าน กว่าจะถึงประตูใหญ่ก็ยังอีกไกล

“ไม่ต้อง กูยังไม่มีอะไรจะพูดกับมัน”

“เท็น”

“ไปเถอะกัส...ก่อนทุกอย่างมันจะแย่กว่านี้”

ผมหึง...ผมยอมรับ ผมหวง...ผมยอมรับ และยิ่งไปกว่านั้นผม...เสียความรู้สึก

มันเจ็บแปลบไปทั้งอกเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างชกออกมาจากข้างใน ทั้งปวดทั้งร้อนรุ่ม ผมกลัวความใกล้ชิดของพวกเขา กลัวความสัมพันธ์ที่ผมไม่เคยรู้ กลัวระยะเวลาที่เขาอยู่ด้วยกันมามากกว่าผม กลัวทุกสิ่งอย่างที่จะพรากเอาคนของผมไป

ทำไมกลับบ้านถึงติดต่อไม่ได้ ทำไมถึงไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟัง ทำไมเรื่องสำคัญแบบนี้ถึงไม่บอกให้ผมรู้...ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง...เมลน่ะ...รักคนอื่นอยู่ก่อนแล้วใช่ไหม...

.
.
.

“เท็น จะไปไหน เป็นอะไรไปเนี่ย” เสียงไอ้ฟิวดังขึ้นมาขัดจังหวะการก้าวเท้าของผม มันโผล่หัวออกมาจากครัวพร้อมกับมือที่ถือมีด

“ไปพักร้อน”

“พักร้อนอะไรของมึง แล้วนี่กลับมาคนเดียวรึไง ไปบ้านเมลไม่ใช่เหรอ”

“พูดมาก รีบไปทำข้าวเช้าให้ไอ้มายด์แดกเถอะ”

“ใครบอกกูทำให้มัน! ทำเผื่อมึงเนี่ย”

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูจะกลับ”

“ก็...ก็...”

อาการน้ำท่วมปากแบบนี้ก็ยากจะบอกแล้วล่ะว่าไอ้มายด์มันไปเล่นของสำนักไหน

“ไม่มีกำหนดกลับนะ ไม่ต้องถามด้วยว่ากูจะไปไหน กูไม่บอก!”

“เท็น!! เท็น! ไอ้เท็นนนนน กลับมาาาาาา โว้ยยยย ไข่อย่าเพิ่งมาไหม้ตอนนี้ได้มั้ยวะะะะะ!!”

ก่อนออกจากบ้านผมใช้เท้าเขี่ยไอ้เป๊บให้ตื่นจากการหลับใหลไปหลายที หมั่นไส้พ่อมันกูเอามาลงกับมึงละกัน หึหึ!

ยัดสัมภาระของตัวเองลงรถได้ก็ขับออกมาทันที ไม่งั้นไอ้ฟิวได้ตามมากัดล้อรถแน่ ไม่นานก็ถึงทางเข้าออกของหมู่บ้านแต่เห็นว่าอีกนานกว่าจะไฟเขียว ผมเลยว่าโทรบอกแม่ก่อนว่าจะติดต่อผมไม่ได้สักระยะ

“สวัสดีครับคนสวย”

(เท็นของแม่ ดีใจจัง ทำไมวันนี้โทรมาได้คะเนี่ย เอ๊ ตอนนี้ที่ไทยคงจะยังเช้าอยู่เลยน้า)

“ผมจะบอกว่าจะไปพักร้อน คงติดต่อผมไม่ได้สักพักนะครับแม่”

(อ้าว จะไปไหนละคะ แหนะๆ จะไปกับน้องเมลเหรออออ)

“อย่าแซวครับๆ ผมโทรบอกกลัวคนสวยติดต่อไม่ได้แล้วจะเป็นห่วง ไม่อยากเป็นเรื่องให้ตำรวจต้องมาตามหาอีก นะครับ ไปแป๊บเดียว”

(ค่ะๆ งั้นเท็นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ มีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้โทรหาแม่เป็นคนแรกเลยนะคะ เที่ยวให้สนุกน้า)

“ครับแม่”

ปึก!

กระจกรถถูกทุบด้วยมือขาวๆ ของคนคุ้นหน้า

ปึง!

กระโปรงรถถูกทุบอีกเช่นกันด้วยมือข้างเดิม

“ลงมา!”

ปึง!

“บอกให้ลงมา!”

นี่ไอ้ห่าเมลมันคิดจะทุบรถผมให้พังคามือมันเลยรึไง ถึกมาจากไหนไอ้บ้านี่ ดูนะ มือแดงหมด -_-

“แค่นี้ก่อนนะครับแม่”

(เกิดอะไรขึ้นคะเท็น)

“ไม่มีอะไรครับ ไว้ผมโทรกลับ”

ก่อนที่ไอ้บ้าเมลมันจะพังรถผมมากไปกว่านี้ ผมต้องรีบลงไปเจรจากับมันก่อน ตามมาเร็วขนาดนี้แม่งเหยียบทะลุไมล์มาเลยมั้งน่ะ

“จะไปไหน!”

“เที่ยว”

“ที่พูดน่ะหมายความว่าไง”

“พูดอะไร”

“อย่ามารวนนะเท็น”

เพียะ!

ผมปัดมือเมลก่อนที่มันจะทันได้จับแขนผม

“ไม่ต้องมาแตะกู”

“หวงตัวอะไรนักหนา กูเป็นผัวมึงนะ หรือเพราะเจอไอ้ห่านั่นเข้าหน่อยก็ทำมาหวงตัวกับกู”

ผลัวะ!

ผมชี้หน้าเมลที่ล้มคว่ำไปเพราะแรงหมัดของผม เห็นรอยแดงๆ แล้วผมก็อยากจะถามว่าเจ็บมั้ย แต่ความหงุดหงิดใจที่เกิดขึ้นเพราะมันดันลบความห่วงใยของผมไปจนเกลี้ยง

“อย่าเอาใครมาเกี่ยว มึงถามตัวเองก่อนว่าทำอะไรไว้บ้าง ก่อนที่จะลากคนนั้นคนนี้เข้ามา!”

“แล้วมึงล่ะ มึงเป็นอะไร โกรธอะไรกูนักหนาถึงต้องพูดเหมือนจะเลิกกันอย่างนี้”

เมลถ่มเลือดออกจากปากก่อนจะมองมาที่ผมด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยโทสะไม่แพ้กัน

“มึงก็อยากจะเลิกกับกูอยู่แล้วนี่ จะช้าหรือเร็วก็ต้องจบอยู่ดีไม่ใช่ไง ตอนนี้มึงคงมีเหตุผลให้กูครบล้านข้อแล้วล่ะมั้ง”

“มึงอย่ามาพูดง่ายๆ นะเท็น ไม่ใช่มึงรึไงที่รั้งให้กูอยู่ แล้วตอนนี้อะไร บอกจะเลิกก็เลิกง่ายๆ แบบนี้ กูต้องทำตามความเอาแต่ใจของมึงด้วยรึไงวะ!”

“....”

ความรักไม่ใช่การเอาชนะกัน ไม่ใช่สงครามที่ต้องฆ่าฟันอีกฝ่ายให้ตายกันไปข้าง แต่มันคือการที่เราห่วงใยกัน ให้อภัยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วผมกับเมลล่ะ...ตอนนี้...ระหว่างเราคืออะไร

“งั้นให้โอกาสมึงเป็นฝ่ายพูดละกัน จะได้จบๆ กันไป”

“ไม่...เท็น กูขอโทษ”

“อยู่ตรงนั้น! ไม่ต้องเข้ามา!”

“ไม่เอาอย่างนี้นะเท็น...”

“ขอบใจที่พูดออกมา กูไม่รั้งไว้แล้ว มึงอยากไปไหนก็ไป แต่มึงแม่งเก่งว่ะ ฝืนใจขนาดนั้นก็ยังแสดงว่ารักกูได้เนียนจริงๆ”

“ไม่ใช่ อย่าพูดแบบนี้...กูขอโทษ”

“.....”

ไม่ทันแล้วว่ะเมล...กูโคตรเสียความรู้สึก...กับคำพูดของมึง

ที่รั้งให้มึงอยู่...เพราะกูคิดว่าเรายังรักกัน... ไม่ได้รั้งให้มึงต้องฝืนใจ

.
.
.

“เทอมสองเรียนหนักจริงๆ โว้ยยยยยยยยยยยยย!! กูไม่มีเวลาไปหาแฟนเลยเนี่ยยยยย” ไอ้แต้มแม่งบ่นยิ่งกว่าผู้หญิง ผมกลับจากพักร้อนสามอาทิตย์ก็โดนไอ้พวกเวรนี่ลากมาร้านพี่เจ๋งที่ตอนนี้คนแน่นร้าน

เปิดเทอมมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว แต่พวกอาจารย์ยังไม่ได้รับเกียรติเข้าเรียนจากผมสักคน เอาจริงๆ คืองานที่รับปากพ่อของชายผู้นั้น (?) ไว้ก็ยังไม่ได้เริ่ม

“ที่ถูกคือมึงไม่มีเวลาไปหาแฟนชาวบ้านมากกว่าว่ะ โชคดีของผัวแฟนมึงจริงๆ โหะๆๆๆ”

“ไอ้ห่าเต้ มึงหุบปากกกกกก!!”

ไอ้พวกห่านี่ก็ยังเสียงดังไม่เคยเปลี่ยน อยากถามจริงๆ ว่าเป็นไรมากป่ะวะชีวิตพวกมึง

“แล้วนี่ไปพักร้อนมาเป็นไงบ้างวะ แต่เอาจริงๆ นะไอ้เท็น ช่วงนี้เขาไม่เรียกว่าพักร้อนนะเว้ย มึงแม่งหลงฤดูเปล่าวะ” ไอ้เต๋อที่ในอีกสี่เดือนข้างหน้าจะต้องเข้าหอแล้วถามด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นมา นำให้คนอื่นๆ ต้องคิดตามมัน ลำบากผมต้องมานั่งตอบคำถามอีก

“กรุงเทพมีฤดูอื่นนอกจากร้อนมั้ยล่ะไอ้สัด”

“แหม ชัดเจนเลยครัชชช!”

“แล้วนี่เหี้ยเมลไปไหน ไม่มีใครเฝ้ามันไว้ระวังแม่งไล่กัดชาวบ้านเขาอีกล่ะ”

ชื่อของชายผู้นั้น (?) ทำเอามือผมกระตุกไปวินาทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้นำพา ก็ถือว่าเป็นเพื่อนฝูงกลุ่มเดียวกันนะครับ ผมไม่มีนโยบายที่ว่าเลิกกันแล้วก็เป็นศัตรู ถ้าอย่างนั้นมันจะทำให้เพื่อนกลุ่มเดียวกันลำบาก

ว่าแต่ว่า...ผมกับชายผู้นั้น(?) เลิกกันรึยังนะ?

“เดี๋ยวก็มา อ่านหนังสือทำบ้าอะไรไม่รู้ทุกวัน ก็อย่างนี้ มีเมียเป็นอัจฉริยะ ลำบากหน่อย” ไอ้ลินตอบพลางเทเบียร์ใส่แก้วให้ไอ้กัสที่ตอนนี้ได้รับอิสรภาพคืนจากบิดามารดรของมันแล้ว

ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างผมกับเมล ไม่มีใครถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมไม่บอก และเมลคงไม่พูด

มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง...

เป็นเหมือนฝันร้ายที่ต้องทำใจยอมรับว่าเรายิ้มให้กันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว...

“โทษทีว่ะ รถติด” เสียงทุ้มที่ได้ยินไม่ได้ทำให้ผมละความสนใจไปจากแก้วเหล้าตรงหน้า หรือแม้แต่มีคนนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ ผมก็ไม่ได้สนใจหันไปมอง

“จะกลับห้องเลยมั้ยครับพวกมึง ไอ้เท็นมันเพิ่งมาถึงนี่ อิอิ” ไอ้เต๋อแซวแถมยังยิ้มล้อ แต่มันก็ต้องยิ้มค้างเมื่อทั้งผมและเมลไม่ได้รับมุกไปกับมัน

“เอ่อ...”

“กูไปแทงสนุ๊กสักสองเกม เดี๋ยวมา”

มองทางหางตาผมก็รู้ว่ามันผอมลงนิดหน่อย แถมหนวดก็ไม่ยอมโกน ดวงตาที่เคยสดใสของมันก็ต่างจากทุกที ดูดีๆ กูนึกว่าหมีแพนด้า =_=

“พี่เท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!! พี่เท็นนนนนนขาาาาาา”

ผมโดนชาร์ตตรงบันไดขั้นที่หนึ่ง อยู่ในท่ากำลังจะก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สอง ไอ้ตะนอยน้องรหัสโผล่มาจากส่วนใดของโลกไม่ทราบได้ แต่แม่งตัวใหญ่กว่าที่เจอกันคราวก่อนมาก!

“พี่เท็นทำอะไรพี่เมลของหนู!!! ทำไมพี่เมลของหนูเป็นจังซั่นนนนน!!!!!!! ผ๊อมมมผอมมม โซ้มมมโทรมมมม ทำไมอ่าาาาาาา!!”

ผมต้องโบกหัวเรียกสติอันน้อยนิดของไอ้ตะนอยเข้าร่างไปหนึ่งที ก่อนมันจะสั่นทั้งร่างผมให้สติกระเจิงไปกว่านี้

“เกี่ยวอะไรกับกู”

“ก็พี่เมลเป็นแฟนพี่อ่าาาาา ใครเขาก็ลือกันว่าพี่เท็นทิ้งพี่เมลลลลล พี่เท็นใจร้ายยยย หนูเสียจายยย ทำอย่างนี้กับสุดหล่อของหนูได้ยังไง รับไม่ด้ายยยยย”

“โวะ ใครบอกกูทิ้งมัน แล้วนี่มากับใคร เมาตั้งแต่ต้นเทอม ระวังรีไทร์นะมึง อย่าทำสายกูขาด”

“โหยยยย คนเรา ดูปากอ่ะ ไม่ทิ้งก็ดีแล้ว หนูจะไปยืนยันกับคนที่กล้าว่าพี่รหัสหนูใจร้ายเลย สรุปไม่ทิ้งนะ แล้วก็ห้ามทิ้ง โอเคมั้ย พี่เมลหนูน่ารักที่สุดแล้วรู้มั้ย”

นี่เอ็งเป็นน้องรหัสใครกันแน่วะ อะไรเข้าสิงให้มันมาพูดเรื่องนี้กับผม แต่เอาเถอะ อย่าได้ใส่ใจ

กว่าจะสลัดไอ้ตะนอยหลุดไปได้ ผมก็ต้องเลี้ยงเบียร์มันไปหนึ่งแก้ว พี่เจ๋งชูนิ้วโป้งมาให้เป็นสัญญาณบอกว่ามีสาวแจ่มๆ อยู่ชั้นบนให้ผมไปยลโฉมได้ตามสบาย หรือจะเป็นสัญญาณอะไรก็ไม่รู้ คือกูแค่สรุปเอาเอง -_-

แต่พอมาจริงๆ กลับไม่มีโต๊ะไหนที่ว่างสักโต๊ะ มีแต่พวกโชว์กากเก๊กท่าอวดสาวที่ก็วี๊ดว้ายอย่างไร้เหตุผลซะงั้น กูกลับไปนั่งแดกเหล้าแก้เซ็งก็ได้วะ

พลั่ก! ปึก!

“โอยยย” ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อแผ่นหลังกระทบเข้ากับผนังปูนแข็งๆ

นึกไม่ออกว่าไปสร้างศัตรูที่ไหนไว้ถึงได้โดนดึงเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดของร้านไอ้พี่เจ๋งมันได้ แล้วไอ้บ้านี่แรงควายมาจากไหน กดไหล่กูทีไหล่กูแทบหัก

“อื้ออ! อื้ออออออ!”

มือทั้งสองข้างโดนจับไพล่ไว้ข้างหลัง เข่าทั้งสองข้างก็ถูกอีกฝ่ายกดแนบไว้กับผนัง ไอ้บ้านี่มันเป็นใครใหญ่มาจากไหนวะ กูหลุดไปได้มึงไม่ตายดีแน่!

“ปละ...ปล่อยกู แฮ่กๆๆ” เล่นเอาหอบซะหมดท่า เพราะแม่งจูบไม่ให้โอกาสผมหายใจเลยสักนิด

“ไม่ปล่อย...ไม่ให้หนีกูไปอีกแล้ว ไม่แล้วเท็น กูไม่ยอมอีกแล้ว”

ด้วยน้ำเสียงเข้มๆ นั่นทำให้ผมหยุดดิ้นรน แรงดูดจากต้นคอไม่ได้ทำให้ผมตกใจหรือส่งเสียงท้วงใดๆ ออกมา

“อย่าทรมานกูแบบนี้เท็น...กูขอโทษ”

“.....”

“กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”

ตอนผมดูละคร ผมคิดว่านี่เป็นคำถามที่งี่เง่ามาก หลังจากที่พระเอกได้ทำเรื่องแย่ๆ กับนางเอกไปแล้ว แต่พอมาเจอกับตัวจริงๆ ผมก็ยังคิดว่ามันงี่เง่าอยู่ดี

“แล้วความรู้สึกที่กูเสียไป มึงเอากลับคืนมาให้ได้มั้ยล่ะ”

“ขอโทษ”

“มึงพูดแต่คำนี้ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้มันดีขึ้นเลย กูเป็นใครตอนที่มึงอยู่กับนาตาชา กูอยู่ในฐานะอะไรระหว่างที่เราอยู่กับครอบครัวมึง ...มึงบอกว่ามึงจัดการได้ และกูก็อยากเชื่ออย่างนั้น แต่ที่ผ่านมากูไม่เห็นความชัดเจนจากมึงเลยเมล มันทำให้กูไม่เห็นอนาคตที่เราจะอยู่ด้วยกัน ...ไม่ใช่เด็กๆ ที่จะพากันหนี ในเมื่อครอบครัวมึงก็สำคัญ และตัวตนของมึงที่อยู่ต่อหน้านาตาชาน่ะ กูหนีไปด้วยไม่ลงจริงๆ ว่ะ”

“.....”

“มันเหนื่อยเกินไปรึเปล่าเมล...สำหรับเรื่องของเรา”

ใช่...ผมน่ะคิดว่าเราเหนื่อยกันมามากแล้วสำหรับเรื่องของเราสองคน มีแต่เรื่อง เรื่อง เรื่องเข้ามาไม่หยุดหย่อน เข้าใจกันเรื่องนี้ก็ต้องมาทะเลาะกันเรื่องนั้น เราต่างวิ่งไปพร้อมๆ กัน แต่ไม่ยอมหันหน้ามาถามกันเลยว่าตอนนี้อีกฝ่ายเป็นอย่างไร

“แล้วจะให้ทำยังไง กูต้องทำยังไง กูรักมึงคนเดียวนะเท็น รักมึงคนเดียว อย่าทำแบบนี้...อย่าทิ้งกูไว้คนเดียว กูขอโทษ”

เพราะคนที่กำลังกอดผมไว้เขาร้องไห้ ผมถึงทำใจแข็งกับมันไม่ลง

ทำไมต้องร้องไห้เหมือนจะขาดใจอย่างนี้...

ทำไมต้องทำเหมือนกับว่าผมใจร้าย...ผมกำลังทำร้ายมัน

ทั้งๆ ที่ผม...ก็เจ็บไม่ต่างไปจากมันเลย

.........................................To be continue.................................

เฮ้ยยยยยยยยยยยยย อย่าตกใจค่าาาา ไม่มาม่าาาา รับรองงงงงงงงงงงงงง แค่จะมีกลิ่นมาหน่อยเอง

ไม่เลิกค่ะไม่เลิกกกกกกก อะไรจะรักจะเลิกกันบ่อยปานนั้น แค่มีปัญหาที่บางครั้งก็ต้องใช้คำว่าถอยคนละก้าวเท่านั้นเองนะคะ

ใจเย็นๆ น้าาาาาาาาาา

น้องเมลเขาก็คิดไปอีกทาง ท่านเท็นเขาก็คิดไปอีกทาง คนสองคนที่จับมือเดินร่วมทางกันมาแต่ไม่เคยหันหน้ามาถามไถ่กันว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงน่ะ รู้สึกอึดอัดสุดๆ เลยนะคะ (ไม่ใช่อะไร ช่วงนี้อกหักเลยอยากมีคนเศร้าเป็นเพื่อน  :sad4:)

 :ruready

พบกันใหม่ตอนหน้านะคะะะะะะะะ รับรองว่าวันเสาร์ได้อ่านกันแน่นอน ฟันธงงงงง!!!

แล้วเจอกันจ้า ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกท่านเล้ยยยยยย (เอ๊ะ? ว่าแต่มีมั้ยวะะะะ  :angry2:)

ดูแลตัวเองนะคะทุกคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-11-2013 21:56:22
โหอะไรเนี่ยๆๆๆๆ
พอมาถึงตอนนี้ดันมีม่ามา
ฉันชอบความหวานนนนนนน
ไม่เอาๆ สงสารเมล สงสารเท็น
กลับมาเคลียร์ด่วนๆเลยนะคะคนแต่ง
อย่าปล่อยให้ฉันค้างคา
แค่ถอยคนละก้าวก้อไม่เอา
ไม่ยอม :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: evilbluesky ที่ 25-11-2013 22:16:05
อ้ากๆๆ  :fire:  ตอนนี้ยังไงก็สงสารเท็น

เมลไม่น่าพูดหยังงั้นเลยน๊า ไม่ชัดเจนเลย

เป็นใครก็เสียใจน่ะ  :o12:

เค้าค้างอ่ะ :ling1: ขอพรุ่งนี้เลยได้ไหม พรีสๆ :mew2:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: princessrain ที่ 25-11-2013 22:20:26
แอบหน่วงแบบ งงๆ
ไม่รู้จะโกรธเมลหรือเท็นดีที่ทำให้มันเป็นแบบนี้..(อะไรของตู?)
เอาเป็นว่าโกรธตัวเองที่อดหน่วงตามเนื้อเรื่องไม่ได้ละกัน
 :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 25-11-2013 22:23:04
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 25-11-2013 22:24:34
 :เฮ้อ: หน่วงนิด ๆ เนอะ ก็จริงของเท็นนะ เมลควรเด็ดขาดมากกว่านี้ ก็เข้าใจเมลนะรักแรกแถมอยู่บ้านเดียวกัน แต่นั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว กลายเป็นคนที่อยู่ข้างหลัง แต่เท็นคือคนที่อยู่ข้าง ๆ นะเมล

ควรจะพูดออกไปให้ชัดเจน ว่าเท็นคือแฟน ใจเขาใจเราอ่ะเมล ถ้าเท็นไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเมลคือแฟนเมลจะรู้สึกยังไงล่ะ เรื่อง พบพ่อแม่ก็เหมือนกัน ตอนแรกก็ยังดีอยู่ แล้วเหมือนจะเกิดอาการ 'ป๊อด' ซะงั้น

เมล 'ป๊อด' มากเลยนะ ไม่แปลกที่เท็นจะ 'นอยด์' และด้วยนิสัยของเท็นเป็นแบบนี้จึงไม่แปลกเลยถ้าเท็นจะขอเลิก

ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเมลมีปัญหาอะไรหนักอกบ้าง แต่อาการที่เมลแสดงออกมามันคือ หึง หวง ลืมตัว เมลควรจะพูดอธิบายออกมาบ้างเท็นจะได้เข้าใจ เรื่องนาตาชาก็ไม่เคยเล่าให้เท็นฟัง บางทีการที่เราไม่คิดอะไรและไม่ทันคาดคิดว่ามันจะเกิดปัญหา มันก็เกิดปัญหาได้เช่นกัน

ครั้งนี้ก็คงเป็นบทเรียนได้ดีเลยล่ะ แต่ยังไงก็สู้ ๆ นะ เอาใจช่วยให้ปรับความเข้าใจกันได้ไว ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 25-11-2013 22:43:13
สงสารเท็น เมลพูดไม่คิด พูดเหมือนว่าจำใจ จำทน ต้องอยู่กับเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 25-11-2013 22:47:04
อกหักแล้วอย่ามาหักอกคนอ่านสิค่ะ
โอ๋ๆ ไม่ต้องเศร้านะคะ ดีแล้วค่ะ ดีแล้วที่อกหัก
ลองเป็นคนไม่เคยอกหักสิคะ เศร้ากว่า
กรี๊ดดดด จะ 20 อยู่แล้ว ชีวิตนี้ยังไม่เคยได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแฟนเลย
คานมารำไรๆ
เฮ้อ....เอาละนอกเรื่องพอแล้ว

ดีแล้วค่ะที่ไม่มีมาม่า
แต่กลิ่นมันไม่ค่อยพึงประสงค์เท่าไหร่
น่าๆไปมันจะเป็นกลิ่นตุๆ รีบๆเคลียร์ให้คนแต่งโล่งใจซะที
และมาต่อไวๆ ถ้าพรุ้งนี้มาเดียวจุ๊ปทีนึงเลย
 :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 25-11-2013 23:12:49
เง้ออออออออออออออออออออออออออออออออ

ยังไงก็ขอให้เมล ช่วยเคลียเรื่องนาตาชา แล้วก็ อาการวันนั้นที่บ้านเมลด้วยนะ

สงสารเท็นอ่ะ เมลลลเราไม่เข้าใจเมลแล้ว

จริงๆนะ ต้องถอยคนละก้าว อาจจะทำให้เราได้เห็นอะไรชัดขึ้น

สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 25-11-2013 23:19:35
ผมเป็นเท็นผมก็บอกเลิกเมลนะ
ทำตัวน่ารำคาญมาก
ไม่ชัดเจนอะไรซักอย่าง
เบื่อมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: minoza ที่ 25-11-2013 23:22:03
มาวันเสาร์ ขาดใจตายเเปป จะรออย่างทุรนทุรายนะค่ะ
 :ling1: :ling1: :katai1: :z10: :z10: :z3: :z3: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 25-11-2013 23:44:29
ไม่มีมาม่าา แต่กลิ่นนี่แรงจนเค้าแอบจุกเลยนะตัวเองงงงง  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 25-11-2013 23:59:25
เมล์เอาแต่ใจตัวเองไปหรือเปล่า คิดถึงความรู้สึกของเท็นบ้างป่ะ  เมล์ดูเหมือนจะชัดเจน แต่ไม่เลย เมล์ไม่ชัดเจนเรื่องเท็นกับตรอบครัวและไม่ชัดเจนมากกับนาตาชา เราเป็นเท็นเราก็เหนื่อยเว่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 26-11-2013 00:01:31
นี่สิเท็นเท็นของเค้ากลับมาแล้วววว :katai3
อย่าให้เมลมันกำเริบเยี่ยงนี้ต่อไป
กำราบเสียให้สิ้นซาก
จักต้องดูความประพฤติให้นานนัก จึงจักอภัย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 26-11-2013 00:32:32
เราอยู่ข้างเท็นเหมือนเดิม
เมลมันไม่ชัดเจนสักอย่าง
คนรักกันมีไรต้องแชร์กัน
ในขณะที่เมล รู้ความเป็นของเท็น
เจอพ่อแม่เท็นในฐานะแฟนเท็น
กลับกันเมล อึมครึม ไม่เคลีย
ไม่ชัดเจนสักอย่างว่ะ จะบอกว่ารักเท็น
คนเดียว ตอนนี้อมวัดมาพูดก็ไม่เชื่อว่ะ
เพราะฉะนั้น ห่างกันสักพักเหอะ
3 อาทิตย์ ยังน้อยไป เมลกลับไปทบทวน
ตัวเองให้เคลียเหอะว่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 26-11-2013 05:56:53
 :เฮ้อ:

มาต่อวันเสาร์  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 26-11-2013 06:53:13
อย่าสักแต่พูดว่ารักเลยเมล
ถ้าไม่ยอมจัดการอะไรให้ดีขึ้น
ถ้ายังเห็นนาตาชาสำคัญกว่าเท็น
ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งเท็นไว้
อยากให้เท็นใจแข็งให้มากๆ
ถึงแม้ยังไงก็ไม่เลิกกันแต่อยากให้เมลได้รับบทเรียนบ้าง
ว่าคนที่อยู่ข้างๆ คนที่เดินไปด้วยกันข้างๆ ก็ความรู้สึก
มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคนที่เลี้ยงมาอย่างนาตาชาหรอก
แต่ถ้าเมลคิดว่านาตาชาสำคัญกว่าเท็น
ก็เชิญจับมือนาตาชาเดินไปด้วยกันเถอะ 

ปล. เราชอบคำพูดประโยคสุดท้ายของเท็นมาก มีเหตุผลแล้วก็โดนสุดๆ
      เมลง้องแง้งแบบนั้นใครจะอยู่ด้วยลง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 26-11-2013 07:12:39
ทำไมมีแต่คนว่าเมลของช้านนนอ่ะ
เมลยังไม่ได้บอกว่ารักนาตาชา หรือนาตาชาคือรักแรกเลยซักคำ
มีแต่เท็นที่คิดเอาแต่ตีความจากบรรยากาศ และ คำป้ายสีของคุณภูเท่านั้นไม่ใช่หรอ?
เมลยังไม่ได้เล่าไม่ได้อธิบายอะไรเลยนะ
แต่เมลก็บอกว่า รักเท็นคนเดียว
ความสัมพันธ์ของเมลกับนาตาชาอาจจะไม่ใช่ความรักแบบชู้สาวก็ได้
ยังไงก็ยังยืนข้างเมลอยู่ ถึงแม้จะรู้สึกว่า เมลทำไมไม่พูดให้เครียร์อธิบายมาซิ พูดแต่ขอโทษอยู่ได้
แต่ก็นะ พอมีปัญหาเท็นก็หนีไม่อยู่รอฟังอะไรเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-11-2013 07:12:59
 :m15:  ตอนนี้เคลียยัง 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 26-11-2013 07:51:08
โธ่น้องเมลยังเด็กอยู่นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 26-11-2013 08:17:49
 :serius2: :serius2: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-11-2013 08:20:27
..เมลไม่ได้ตอบว่านาตาชาใช่รักแรกไหม ยังรักไหม แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

เท็นถาม ไม่ใช่ไม่ถาม แต่เมลไม่ปฏิเสธ...

เป็นเราเราก็ไม่ทนอยู่หรอก ยิ่งเป็นเท็นเราว่าเท็นก็ไม่อยู่

เท็นอยู่ด้วยความมั่นใจมาตลอด เขาเป็นที่หนึ่ง เป็นที่รักของพ่อแม่ เป็นคนสำคัญของคนรอบตัว เขาได้รับความสำคัญมาตลอด

เขาคงไม่คิดจะลดค่าตัวเองลงเพื่อคนที่ไม่ชัดเจนคนนึงหรอก...

อยู่กับเท็นมันยากนะ แต่เมลเลือกเท็นแล้วอะ ก็รู้ว่าเท็นปรับได้ไม่มาก เขาปรับเขายอมให้ที่สุดเท่าที่เขาทำได้แล้ว

เมลเป็นคนทำโอกาสตัวเองเสียเพราะความนอยของตัวเองเอง แล้วยังมามีเรื่องนาตาชาอีก

ก็ที่ผ่านมาเท็นแทบไม่เคยคาดหวังกับคนอื่นไง เมลเป็นไม่กี่คนที่เขามอบความคาดหวังให้ แล้วมาเจอแบบนี้..

เท็นจะเสียความเชื่อมั่นในตัวเมลก็ไม่แปลกอะค่ะ

เข้าใจอารมณ์เมลแหละค่ะ อยู่กับเท็นจะใครก็แอบรู้สึกด้อยค่าไร้ความสามารถกันหมดแหละ

แตถ้ารักเท็นจริงควรจะภูมิใจสิคะ ภูมิใจที่คนสุดยอดขนาดนี้มายอมให้ตัวเองได้ตั้งเยอะ ทั้งที่ปกติเขาไม่ยอมใคร


ไม่รู้ค่ะ เข้าข้างเท็น เราลำเอียง(โดนตี)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 26-11-2013 10:15:28
เมลชัดเจนหน่อยสิ กล้าๆๆหน่อยๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 26-11-2013 17:02:46
โอ๊ยย ทำไมมันหน่วงๆแบบนี้น้า
เมลก็ไม่ชัดเจน เท็นก็คิดเองเออเอง
น่าจะคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่ามั้ย
อย่างตอนที่เท็นถามเมลว่า ยังรักอยู่มั้ย เป็นเราก็คิดว่าเป็นนาตาชานะ
และสิ่งที่เมลตอบมันก็ทำให้คิดว่านาตาชาเป็นรักแรกของเมลเหมือนกัน
ก็เลยออกแนวงงๆว่าทั้งสองคนอยู่ในอารมณ์ไหนเนี้ย
เหมือนจะเลิกแต่ไม่ได้บอกเลิกกัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 26-11-2013 20:22:54
กลับมาอ่านตอนนี้ซ้ำก็ยิ่งหงุดหงิดเมล
พร่ำพูดซ้ำๆ แต่ขอโทษๆๆ
แต่ก็ไม่บอก ไม่อธิบาย ไม่ทำอะไรเลย
อยู่ห่างๆ กันสักพักเถอะ
ถ้าเมลยังโตไม่พอก็อย่าคิดที่จะรับผิดชอบใครเลย
กลับไปซบอกนาตาชานั่นแหละดีแล้ว

อย่าให้รอจนถึงวันเสาร์เลย ใจจะขาดดดดด  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 26-11-2013 20:39:14
ตอนที่ 34

“เออ ไอ้เต๋อ กูกลับก่อนละกัน”

(อ้าว ทำไมวะ แล้วไอ้เมลล่ะ)

“มันอยู่กับกู”

(ไอ้หยาาาาา โอเคคร้าบบบบ อย่าหักโหมล่ะพวก บายๆ คุคุ)

ไอ้ห่าเต๋อนี่ดัดจริตไม่เคยเปลี่ยน ผมเหลือบมองคนข้างๆ ที่นั่งตาแดงก่ำไม่พูดไม่จาแล้วก็ต้องถอนหายใจ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะเนี่ย ชีวิตกูกำลังทำอะไรอยู่ครับ อยากถาม!

ผมไม่เคยปล่อยให้ชีวิตตัวเองมีปัญหาเรื้อรังแบบนี้มาก่อนเลยนะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ไอ้ห่าเมลมึงเก่งมาก!

“จะกลับมั้ยคอนโด ถ้ากลับก็เอากุญแจรถมา”

ตอนเปิดรถกุญแจก็อยู่กับผมนั่นแหละ แต่พอเผลอไม่ทันไรไอ้เหี้ยเมลแม่งก็แย่งไปซะงั้น

“แล้วมึงล่ะ”

“กูก็มีบ้านของกู”

“งั้นกูไม่กลับ”

“เล่นแง่อะไรของมึง กูไม่ใช่นาตาชา อย่ามาดื้อกับกู”

“อย่าลากคนอื่นเข้ามา ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน นาตาชาก็เป็นแค่พี่เลี้ยง คนที่มีแม่เลี้ยงดูมาอย่างมึงไม่เข้าใจคนอย่างกูหรอก คนอย่างมึงน่ะ...ไม่เข้าใจหรอกเท็น”

ผมอยากจะหัวเราะกับคำพูดของมัน...คนที่มีแม่เลี้ยงดูมาอย่างผมน่ะเหรอ คนอย่างผมที่แม่เริ่มป่วยตั้งแต่คลอดผม คนอย่างผมที่พออายุได้ไม่กี่ปีก็มีแต่เรียนกับเรียน ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกับคนสนิทของป๋า... คนอย่างผมน่ะเหรอที่มีแม่เลี้ยงดูมา...

เราทั้งคู่...ต่างก็ไม่รู้จักกันเลย

และความไม่รู้มันทำให้เราต่างก็ทำร้ายกัน...

“มึงน่าสมเพชว่ะเมล เป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโต มองแต่สิ่งที่มึงไม่สามารถเป็นได้ ...มึงอิจฉากู อยากเป็นเหมือนกู เรื่องแค่นี้ทำไมกูจะมองไม่ออก”

“....”

“มันแย่ไม่ใช่รึไงตอนที่มึงเริ่มเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร กูไม่ได้ทำให้มึงมั่นใจเลยรึไงว่ามึงเป็นมึงน่ะดีที่สุด มึงอยากได้ความรักจากแม่ อยากเป็นความภูมิใจของพ่อ แล้วทำไมไม่ทำให้ตัวมึงดีที่สุดล่ะ ทำไมต้องพยายามเป็นในสิ่งที่มึงไม่สามารถเป็นได้”

“....”

“ความรักที่มีให้กูไม่มากเท่ากับความอิจฉาที่มึงมีหรอกเมล เราถึงได้เจ็บปวดด้วยกันแบบนี้”

อาจจะไม่ใช่ต้นเหตุทั้งหมด แต่ผมก็รู้สึกได้ตั้งแต่ที่ได้เห็นสายตาของเมลเมื่อเย็นวันนั้น สายตาที่อยากเป็นความภูมิใจของพ่อแม่...สายตาของเด็กคนหนึ่งที่อยากให้พ่อกับแม่สนใจในตัวตนของตัวเองบ้าง

“กูขอโทษ...ขอโทษที่ทำให้เราเป็นแบบนี้”

สมัยเรียนผมไม่เคยมีเพื่อนสนิท กัสกับฟิวเป็นเหมือนเพื่อนภาคบังคับที่ต้องเล่นกับผม เพราะพ่อกับแม่ของเราสนิทกัน แต่เพราะสิ่งที่ผมมีทำให้ผมต้องอยู่ห่างจากพวกมัน ไม่ว่าจะตอนไหน พอหันไปมองรอบตัวผมก็ไม่เจอใคร มีแต่คนมาขอคำปรึกษา มีแต่คนถามความเห็น มีแต่คนชื่นชมและบอกว่าถ้าเป็นผมไม่ว่าปัญหาอะไรก็จัดการได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่มีใครเลย...ที่ผมสามารถปรึกษาได้ ถามความเห็นได้

ผมอยู่คนเดียวมาตลอด...ด้วยเพราะใครหลายๆ คนต่างก็กลัวว่า ‘ความเป็นผม’ จะทำลายพวกเขา

“คนอย่างกูไม่มีอะไรให้มึงต้องอิจฉา กูไม่มีอะไรเลยแม้แต่ความฝันที่อยากจะเป็น ชีวิตของกูมันว่างเปล่ากว่าที่มึงคิด มีแต่มึงที่กูคิดว่าน่าจะเข้าใจ ในเมื่อเป็นคนแรกที่เข้ามาใกล้ได้ขนาดนี้ แต่มันกลับไม่ใช่...กูแค่...คิดไปเอง”

ผมปล่อยให้ความเงียบเข้ามาคั่นกลางระหว่างผมกับเมลในตอนนี้ การที่เราเลิกคบกันมันทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ผมเอ่ยปากออกไป แต่ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าที่ผมจะเลิกรักมันได้ กว่าความทรมานที่ไม่มีมันจะหมดไปได้...ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี

“ไม่ใช่อย่างนั้นทั้งหมดหรอกเท็น...กูยอมรับว่ากูอิจฉา กูรู้สึกแย่ที่ไม่มีอะไรเทียบมึงได้เลย แต่มันแย่กว่านั้นมากเมื่อได้เห็นคนอื่นเขาเหมาะสมกับมึงมากกว่ากู คุยกันแต่เรื่องที่กูไม่รู้ ช่วงเวลาที่ไม่มีกูอยู่ด้วย ช่วงเวลาที่มึงเป็นอีกคนที่กูไม่รู้จัก ...พอหันมามองตัวกูแล้ว กูมีอะไรบ้าง กูก็แค่เด็กที่ยังเรียนไม่จบ...เลี้ยงตัวเองยังไม่ได้”

“....”

“กูรู้ว่าไม่ควรคิดอย่างนั้น แต่ก็อดไม่ได้ ยิ่งมีคนที่ดีกว่ากูมาอยู่ตรงหน้าแล้วทำท่าเหมือนจะรู้จักมึงมากกว่า กูก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก มันทำให้กูรู้สึกว่ามึงเหมือนคนที่อยู่ไกลออกไป กูยื่นมือไปสุดแขนก็ยังเอื้อมไม่ถึง”

ผมไม่รู้ว่าเราควรทำยังไงต่อไป ตอนนี้ผมไม่แน่ใจอะไรเลย...

“เราถอยกันคนละก้าวดีมั้ย...”

“ไม่ กูไม่เลิก”

โวะ ไอ้ห่าเมล มึงจะตอบเร็วไปไหน

“ไม่ได้หมายความว่าเลิก...”

“แล้วมันยังไง”

“แค่กลับไปเป็นเหมือนก่อนที่เราจะคบกัน เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งพูด หมายถึงว่าค่อยๆ เรียนรู้กันไป กูว่าเราอาจจะข้ามรายละเอียดของอีกฝ่ายมากไปหน่อยจนทำให้ไม่เข้าใจกันอย่างนี้”

“จะยังไงก็ได้ แต่กูไม่เลิก”

“เออๆ กูก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกไง เก็ทมั้ย ชักสีหน้าใส่เดี๋ยวกูถีบแม่ง”

“เอะอะอะไรเดี๋ยวนี้มึงก็ชอบลงไม้ลงมือ กูจะน่วมอยู่แล้ว เป็นผัวนะไม่ใช่กระสอบทราย”

“ก็เพราะปากแบบนี้ไง พูดว่าผัวๆ อยู่ได้ ถ้าวันไหนกูพลิกขึ้นมาเมื่อไหร่มึงจะรู้สึก”

“หึ ก็แค่เสียว เอาเดะ ตอนนี้เลยได้นะ หายหัวไปนาน จัดสักหน่อยก็ดี”

ไอ้ห่านี่ กูอ่อนให้หน่อยได้ทีเชียวนะมึง ทั้งเรื่องนาตาชา ทั้งเรื่องคู่หมั้น มึงก็ยังไม่เคลียร์ อย่านึกว่าจะได้เสียบกู ! มันง่ายไป!

.
.
.

“พอแล้วไอ้บ้า มึงจะลูบให้หวยขึ้นรึไง กูหมดแรงจะครางแล้ว อื้อออออ ไม่ต้องมากอด ร้อน”

“ข้ออ้างๆ แอร์เย็นขนาดนี้”

“เถียง! เถียงอีก!”

“อย่าเสียงดังสิครับที่รัก ประตูระเบียงเปิดอยู่นะ เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็ได้ยินหรอก”

ไอ้เหี้ยเมลลากผมมาไกลถึงบ้านมันขนาดนี้ด้วยเหตุผลแค่เพราะอยากให้ผมคุ้นกับบ้านมัน แล้วคราวที่แล้วใครมันทำงี่เง่าใส่กูจนไม่อยากกลับมาวะ นี่ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนเจอคุณแม่เจนเลยนะ ไปคราวก่อนไม่ได้ลา ผมคงกลายเป็นเด็กไร้มารยาทไปแล้วแน่ๆ

“มึงไปอดอยากมาจากไหน พอแล้วเมล”

“ก็เมียไม่อยู่ตั้งหลายอาทิตย์ กูก็อยากจะจัดชดเชยช่วงที่ขาดไป”

“เอามีดมาแทงกูเหอะไป ยังไม่ทันดีกันก็ลากกูขึ้นเตียง สันดานมึงนี่เหลือรับจริงๆ”

“ดูพูดเข้า ยังไม่หายโกรธอีกไง หลายเรื่องเหรอเนี่ยที่โกรธกูน่ะ”

“มึงมันซื่อบื้อไง ไม่เคยรู้หรอกว่ากูโกรธอะไร”

“เออ ครับ กูโง่ครับ แต่คนทั่วไปก็ไม่มีใครเข้าถึงความคิดของมึงนะ ช่วยแปลงออกมาเป็นคำพูดด้วย กูจะได้ง้อถูก”

ทำไมกูต้องพูดต้องบอกอ่ะ มึงจะตรัสรู้เองไม่ได้รึไง

“มึงหึงกูกับนาตาชาเหรอ?”

ทำหน้าซื่อบื้อได้ถนัดจริงๆ แฟนกู

“ไม่ตอบแสดงว่าใช่ กูยอมรับนะว่าเคยมีช่วงหนึ่งตอนที่ยังวัยรุ่น กูก็คิดว่ากูชอบนาตาชานะ เพราะใจดีแล้วก็ดูแลกูดีมากๆ เคยคิดขนาดว่าถ้ามีแฟนจริงๆ กูจะหาให้ได้อย่างนาตาชา แต่มันก็แค่ความคิดของเด็กมัธยม พอเจอสาวสวยๆ กูก็ลืม ตอนนี้กูรักเขาเหมือนพี่สาว เขาอยู่กับครอบครัวกูมานาน เหมือนคนในครอบครัวมากกว่าจะคิดในแบบคนรัก”

“แต่ตอนที่กูถาม มึงทำไมเงียบ ทำเหมือนลำบากใจไม่อยากตอบ พอกูถามว่ายังรักอยู่มั้ย มึงก็แม่งพูดถึงนาตาชา แล้วจะให้กูคิดยังไง”

“ก็ประโยคคำถามของมึงมันไม่มีอะไรมารองรับ กูจะรู้ได้ไงว่าที่ถามน่ะหมายถึงใคร อยู่ๆ ก็มาถามว่านาตาชาเป็นรักแรกของกูเหรอ กูก็งงสิครับ รักแรกกูเป็นความลับระดับโลก ไม่มีใครรู้นอกจากนาตาชากับคุณย่า มึงเล่นมาถามอย่างนั้นกูแม่งสตั้นไปเลยสัด”

“อะ...อะไร อย่าเข้ามาใกล้นะ ตอนนั้นมึงอยากทำตัวให้คิดอย่างนั้นทำไมล่ะ”

“กูหมั่นไส้มึงกับไอ้เหี้ยภู จบไหม! ต่อไปมีอะไรให้คุยกัน ไม่ใช่เข้าใจไปเอง”

“ถามไปแล้วมึงโกหก ก็ไม่ต่างอะไรกับเข้าใจไปเอง”

“ดูพูด กูตบปากแม่ง ตั้งแต่คบกันมากูดูเป็นคนชอบโกหกรึไง”

“มะ...ไม่รู้เว้ย อื้อออออออ”

เหี้ยเมลใส่เข้ามาไม่ยั้งเลย มันดูหงุดหงิดจนผมไม่กล้าท้วงอะไร

แต่ถึงมันจะพูดอย่างนั้นผมก็ยังคลางแคลงใจอยู่ดี และไม่ชอบเลยที่เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน มันเหมือนผมกลายเป็นส่วนเกิน เมลที่ออดอ้อนคนอื่นน่ะ...ผมไม่ชิน

“ถ้ากูรักคนอื่นอยู่นะเท็น...กูไม่คบกับมึงมานานอย่างนี้หรอก ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครทนอยู่กับคนที่ตัวเองไม่รักได้หรอกว่ะ จำไว้ด้วย ว่ากูไม่ได้ฝืนใจ ฉลาดแต่เรื่องอื่น เรื่องอย่างนี้ล่ะโง่จริง -_-”

ผมจับใจความได้ไม่มากนักเพราะอารมณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นทำให้สมองเริ่มว่างเปล่า แรงกระแทกที่มีเข้ามาไม่หยุดทำให้ต้องวาดแขนไปโอบรอบคอคนตรงหน้าไว้ดึงให้ก้มลงมาจูบได้อย่างถนัด

“เชื่อใจกูนะเท็น กูจะทำให้ดีกว่านี้ รอหน่อยนะ...”

“....”

“นะ...อย่าพูดอีกว่าจะไม่รอ”

“....”

“กูทรมาน”

“อือ”

“ขอบคุณครับ”

“ไม่ต้องยิ้ม ไม่ได้บอกว่าหายโกรธ แค่นอนให้มึงเอาอยู่นี่ก็ถือว่ายอมให้มากแล้วนะ”

“เมียกูพูดตรงเกิน -_-“

“ก็อยู่กันสองคน หรือเดี๋ยวนี้กูต้องเกรงใจมึง? หืออออ”

“นี่ก็พร้อมจะทะเลาะอยู่เรื่อย พอๆ ขึ้นมานั่งตักพี่นี่มา”

“ใครเป็นน้องมึง”

“กูเกิดก่อนนะครับน้องเท็นเท็น เร็วๆ เลย ให้ไว”

“โถะ ไอ้แก่”

“เออนะ พูดอะไรเข้าตัวกูตลอด”

เห็นหน้าเซ็งๆ ของเมลแล้วผมเลยอารมณ์ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น หรือจะเพราะเมลกลับมาเป็นเมลที่ผมรัก...อันนี้ก็ไม่แน่ใจ ผมไม่ชอบเมลที่อยู่กับนาตาชาเลย...ไม่ชอบเมลที่อยู่ต่อหน้าครอบครัวเพื่อคุยเรื่องหมั้นกับพริมด้วย ...หรือแม้แต่เมลที่กำลังยิ้มหัวเราะกับใครก็ตามที่ไม่ใช่ผม ผมก็ไม่ชอบทั้งนั้น

ต้องเป็นเมลที่อยู่กับผม ยิ้ม หัวเราะ...มีความสุขกับผมเท่านั้น

คนนั้นแหละคือเมลที่ผมต้องการ...

.
.
.

ก๊อกๆๆๆ

“เข้าไปนะคะคุณชาย อาจารย์ให้มาตามไปทานอาหารเช้า เห็นเมื่อคืนท่านบอกว่าได้ยินเสียงรถขับเข้ามา อุ้ยยยยยยยยยยยยยย!!”

เสียงอุทานที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องพยายามลืมตาขึ้นดู

“คุณเท็น...เอ่อ -///- เดี๋ยวดิฉันไปเรียนอาจารย์ว่าทั้งสองคนยังไม่พร้อมลงไปนะคะ ไปล่ะค่าาา”

ผมยังตั้งตัวไม่ทันนาตาชาก็ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว มองสำรวจตัวเองก็ไม่ได้โป๊มากโป๊มายอะไรนี่หว่า นาตาชาน่าจะดีใจที่ได้เห็นซิคแพ็คของผมนะ ไม่ใช่ของที่จะได้เห็นกันง่ายๆ

“เมล” เท้าเขี่ยไปหนึ่งที

“....”

“เมล ตื่นสิวะ” ทึ้งหัวไปสองทีติด

“....”

“จะตื่นมั้ย ไม่ตื่นกูบีบน้องชายมึงให้ตายคามือเลยเอาสิ”

“จะโหดไปไหน เดี๋ยวก็ไม่มีให้ใช้งานหรอก”

“ทำหน้าอึนอยู่ได้ ไปอาบน้ำล้างหน้าได้แล้ว”

“แล้วมึงอ่ะ”

“สภาพกูนี่วิ่งสี่คูณร้อยได้งั้นสิ พากูไปอาบด้วยสิวะ”

“พูดอ้อนกูหน่อยก็ไม่ได้ มาๆ เดี๋ยวป๋าอุ้มหนูไปนะ”

ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับมันเลยสงบปากสงบคำให้มันทำหน้าที่อุ้มไปตามเรื่องตามราว

“เมื่อกี้นาตาชาเข้ามา”

“อือ”

ผมสังเกตเห็นหน้าเรียบเฉยของเมลแล้วก็ตัดสินใจว่าไม่พูดขึ้นมาดีกว่า

...ต้องทำยังไงผมถึงจะเลิกระแวงได้สักที

ผมน่ะ..ใจแคบเกินไปรึเปล่านะ...

อาบน้ำกันเสร็จ ก็ลงมาชั้นล่าง ที่โต๊ะอาหารมีคุณพ่อกับคุณแม่ของเมลนั่งทานกันอยู่ก่อนแล้ว นาตาชายืนอยู่อีกมุมหนึ่ง ตาบวมแดงเล็กน้อยอย่างที่ผมไม่ทราบสาเหตุเพราะตอนเจอกันก็ยังเห็นปกติ

“น้องเท็น มาๆ ค่ะ มานั่งตรงนี้กับแม่ ทำไมคราวก่อนไปไม่บอกแม่เลยล่ะคะ แล้วก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย เป็นห่วงนะคะ นึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นซะอีก” คุณแม่เจนยังคงอ่อนโยนกับผมเหมือนเดิม

“ผมสบายดีครับ แค่ตอนนั้นมีธุระด่วน ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แต่คราวหน้าไม่เอาแล้วนะคะ แม่เป็นห่วง แล้วนี่น้องเมลพากลับมาดึกมากเลย ทีหลังถ้าดึกแล้วก็นอนที่คอนโดนะคะ ขับรถดึกๆ มันอันตราย”

“ครับแม่”

ผมปล่อยให้แม่ลูกเขาสนทนากันไป ก่อนจะหันมาคุยกับคุณพ่ออเล็กที่ยังคงลืมตัวเรียกผมว่าอาจารย์อยู่บ่อยๆ คุณปู่กับคุณย่าไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกันแต่เช้าแล้วล่ะครับผมเลยไม่มีโอกาสได้สวัสดีท่าน

“แล้วนี่เรื่องหมั้นกับหนูพริม...”

“ผมไม่หมั้นครับ”

การสวนกลับที่รวดเร็วของเมลทำเอาคุณแม่เจนนิ่งไปทันที

“ผมคุยกับพ่อแล้วว่าผมไม่หมั้น ผมไม่ได้ชอบพริม ผมมีแฟนอยู่แล้วครับ”

ผมไม่แน่ใจว่าคุณแม่เจนรับรู้หรือไม่ เพราะจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นซะอย่างนั้น แต่แอบเห็นว่าหน้าสวยๆ ของท่านช็อคไปเล็กน้อยที่ลูกชายที่เคยอยู่ในโอวาท ทำตามคำสั่งแม่มาตลอดอย่างเมลจะพูดแบบนั้นออกมา

“ตกลงน้องเท็นจะเข้าไปอาทิตย์หน้าใช่มั้ยคะ แม่จะได้หาเลขาไว้ให้ แล้วจะได้เตรียมทุกอย่างให้พร้อมด้วย”

“ครับ”

“ดีค่ะ งั้นเดี๋ยวแม่ต้องขอตัวก่อนนะคะ ...ตอนนี้ยังพอมีเวลา น้องเมล...ไปคุยกับแม่หน่อยนะคะ”

“ครับแม่”

ในระหว่างที่เมลเดินตามคุณแม่เจนขึ้นไปชั้นบน ผมก็ขอตัวออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้าน มีนาตาชาเดินตามมาด้วย ทำท่าเหมือนมีเรื่องจะพูดกับผม แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ

“คุณเท็นคะ...”

“....”

“ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะ”

“พูดมาสิครับ ผมฟังอยู่”

“ฝากดูแลคุณชายด้วยนะคะ”

เพราะน้ำเสียงที่อ่อนแรงเหมือนคนที่ใกล้จะหมดอากาศหายใจทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง ใบหน้าสวยดูเจ็บปวดทรมานอย่างที่ผมเห็นแล้วก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง...

“คุณ...รักเมลมานานเท่าไหร่แล้วครับ”

รอยยิ้มเศร้าๆ นั่นกำลังทำให้ผมสงสารเธอ

“ตลอดเวลาที่รู้จักคุณชายมาค่ะ...”

ความคิดผมกำลังทำงานอย่างหนัก ผมกำลังจะทำตัวเป็นคนดีในเรื่องโง่ๆ ใช่ไหม อย่าพิมพ์แบบนั้นเชียวนะครับคนเขียน เพราะผมรับไม่ได้!

“เขาก็รักคุณนะ...ผมคิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวหรอกว่าเขารักคุณ...เขาแค่คิดไปเองว่าเขารักผม”

อื้อหือออออออ นางเอกได้โล่เลยดอก แต่เดี๋ยวครับ ผมแค่คิดว่ายังเร็วไปกับการวางหมากครั้งนี้

“เป็นคำปลอบใจเหรอคะ”

“ไม่ใช่หรอกครับ...ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เวลาที่ได้เห็นพวกคุณอยู่ด้วยกัน”

“....”

“พยายามอีกหน่อยเถอะครับ... ผมไม่ได้อยากเปิดโอกาสให้คุณหรอกนะ ผมทำเพื่อตัวผมเองด้วย”

“....”

“ผมแค่อยากจะเข้าใจอะไรให้มากกว่านี้...เพราะฉะนั้น อย่าหลีกทางให้ผมเลยครับ ทำตามที่คุณต้องการได้เลย”

“คุณเท็น...”

“เพราะถ้าคุณหลีกทางให้แบบนี้...มันก็จะเหมือนกับว่าผม ได้เขามาเพราะความต้องการของคุณ...เพราะความเสียสละของคุณ ไม่ใช่เพราะตัวผมเอง”

นาตาชามองหน้าผมอย่างต้องการคำอธิบาย แต่ผมก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกลับไป ความรักน่ะ...ใครที่ถูกรักก็จะมีความสุข มันก็แค่เท่านั้นเองไม่ใช่เหรอครับ...

มาก่อนมาหลัง รักแรกหรือรักที่เท่าไหร่ หรือจะรักมานานแค่ไหนมันไม่สำคัญสำหรับผมหรอก

ที่สำคัญน่ะ...ผมแค่อยากมั่นใจว่าเมลรักผมอย่างที่มันพร่ำพูดจริงๆ

ผมจะได้..เชื่อใจมันได้สักที ต่อให้สุดท้ายแล้วอาจจะเป็นผมเองที่ต้องเจ็บปวด แต่ผมก็อยากที่จะลองเสี่ยง

เพราะลึกๆ แล้ว...ผมก็อยากเชื่อใจเมลเหมือนกัน

“ตอนที่คุณชายบอกกับดิฉันว่ามีแฟน เขาเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่เคยวิ่งมาถามดิฉันว่า โตมาเขาจะแต่งงานกับเด็กผู้ชายได้ไหม ใบหน้าในตอนนั้นกับตอนที่เขาเล่าเรื่องคุณให้ดิฉันฟังบอกได้เลยว่าเขามีความสุขมาก เขาบอกดิฉันว่าเขาเจอแล้วคนที่เขาอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นดิฉันถึงอยากเจอคุณ”

รอยยิ้มเศร้าๆ ของนาตาชามันสื่อออกมาให้ผมรู้ว่าเธอทุกข์ทรมานกับความรักของเธอมาโดยตลอด

“ไม่ใช่ความบังเอิญใช่ไหมคะ...ที่คุณมีชื่อเดียวกันกับรักแรกของคุณชาย”

“.....”

ชื่อเดียวกัน? รักแรกที่เป็นความลับระดับโลกของเมลที่มีแต่นาตาชากับคุณย่ามันที่รู้น่ะเหรอ?

“คุณชายเคยบอกคุณไหมคะคุณเท็น...ว่ารักแรกของเขาชื่อ...เดอะเท็น”

นาตาชายิ้มอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับความมึนงงในหัวผม รักแรกของไอ้ห่าเมลทำไมชื่อลิเกขนาดนั้นวะ เดอะเท็นนี่ผู้ชายใช่ไหม เอาจริงๆ คือกูก็เคยใช้ชื่อนั้นเมื่อสมัยที่ยังซ่าอยู่นะครับ ถ้ารู้ว่าแม่งซ้ำแล้วโตมาจะคิดว่ามันดูลิเกขนาดนี้ ผมคงไม่ใช้!! แต่ในความทรงจำของผมไม่มีส่วนไหนที่จำได้เลยว่าเจอเมล อยากบอกนาตาชานะว่าไม่บังเอิญหรอก โลกนี้มีคนชื่อเท็นอีกเป็นล้านคนเลยมั้ง -_-

แต่นิยายเรื่องนี้คงจะไม่น้ำเน่าขนาดที่พระเอกแม่งมาคบกับกูเพราะแค่ชื่อเหมือนรักแรกมันใช่ไหม ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนตาย! ไม่ไอ้ห่าเมลก็คนเขียนล่ะครับ -_-! โมโห!

“คุยอะไรกับนาตาชาเหรอ” มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ -_-

“เรื่อยเปื่อย ว่าแต่มึงคุยอะไรกับแม่”

“เรื่อยเปื่อยเหมือนกัน”

“หึ! กวนตีน”

“หงุดหงิดอะไรอีกวะ ตานี่จิกจังเลย”

“มึงมันเด็กแก่แดด มีความรักตั้งแต่กี่ขวบห้ะ แล้วเสือกรักไอ้เหี้ยชื่อลิเกอีกสัด!”

“อะ...อะไร -///- พูดเรื่องอะไร”

แดงไปทั้งหูทั้งหน้าเลยนะมัน ไม่ชอบจริงๆ เวลาที่มันเขินเพราะคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเนี่ย!

“ถามว่าพูดเรื่องอะไรแล้วทำไมต้องหน้าแดง”

“ก็อะไรล่ะ”

“มึงจะอายทำไม แค่เพราะรักแรกเป็นเด็กผู้ชาย ไม่เห็นต้องปิด”

“เหี้ยเท็นพูดมากไปแล้วนะมึง -///-“

“อย่ามาทำเขินต่อหน้ากูไอ้ห่าเมล แล้วไอ้เหี้ยเดอะเท็นนี่มันเป็นใคร เรียนอยู่ที่ไหน ตอนนี้คงมีลูกมีเมียไปแล้วมั้ง มึงนี่ก็ไร้สาระทำเขินอยู่ได้ กูโมโห ไม่ ไม่ต้องเถียง กูรู้ว่าเป็นอดีต แต่ที่มึงเขินอยู่นี่คืออะไรห้ะ”

“โธ่ ที่รัก มันปกติที่ไหนกัน ใครจะมีรักแรกเป็นผู้ชายอย่างกูบ้าง! เพื่อนๆ รู้แม่งล้อกูยันลงโลงแน่”

“กูนี่ไง หัดจำไว้ซะบ้างว่ามึงเป็นคนแรก เดี๋ยวกูปั๊ด เตะกลิ้ง”

เมลถอยห่างไปจากระยะตีนผมทันที ไอ้นี่ดีอย่าง ต่อให้ผมเตะต่อยมันยังไงมันก็ไม่ทำคืน นอกจากทะเลาะกันจริงๆ จังๆ นั่นแหละที่มันจะเผลอตบหน้าผมบ้าง แต่ก็แค่สองครั้งเองมั้ง

“ครับๆ แต่เดอะเท็นไม่ใช่ชื่อลิเกนะมึง เท่จะตาย กูเห็นไลน์ไอดีของมึงก็เป็น The@Ten เลยนะ”

“กูจะเปลี่ยนแล้ว แม่งซ้ำ ซ้ำใครไม่ซ้ำ ไปซ้ำไอ้ห่ารักแรกมึงอีก โมโห! -*-”

“คร้าบๆ ดุยิ่งกว่าไอ้เจคอีกนะคร้าบ โดนมันกัดมาป่ะเนี่ย”

“ตลกแดกไอ้สัด”

“หึหึ มาๆ ป๋ากอดปลอบนะ จะได้อารมณ์ดี”

“ไม่ต้องเลยไอ้บ้า ประเจิดประเจ้อ เดี๋ยวคนในบ้านมึงมาเห็น”

“แค่เสียงครางของมึงเมื่อคืนเขาก็รู้กันทั้งบ้านล่ะมั้ง มาน่า เล่นตัวมากๆ ไม่ดีครับ”

เหี้ยเมลก็ปากจัดไม่แพ้ผมนะครับ แต่มันชอบสร้างภาพเลยไม่ค่อยหลุดมากเท่าไหร่

“กูก็เล่นแต่พองามไปงั้นแหละ ช่วงนี้สวมบทนางเอกอยู่”

“ตัวโกงสิไม่ว่า”

“พูดอะไรก็พูดให้ดังๆ”

ผมได้ยินแล้วล่ะ แต่ขี้เกียจจะอารมณ์เสียใส่มัน ไอ้ห่าเมลคดีติดตัวเยอะ ผมไม่ปล่อยผ่านเรื่องเล็กๆ ไปบ้าง ได้ประสาทแดกตาย

“อารมณ์เสียบ่อยจังเลย ท้องป่ะเนี่ย”

“เพื่อนเล่น เพื่อนเล่น” กูว่าจะไม่ขึ้นแล้วเชียว -*-

“ป่าวครับท่าน อารมณ์เสียนี่อยู่ในช่วงเมนมาสินะครับ อิอิ โอยยยยย อย่าดึงแก้มป๋าสิครับบบ”

“แล้วป๋ามาลอยหน้าลอยตาอยู่นี่ ไม่มีเรียนรึไงวะ”

“ง้อเมียก่อน ค่อยไป”

“เจริญเนอะชีวิตมึงนี่ ไปๆ ไปเอารถมา กูจะได้กลับไปนอนต่อที่บ้านสักที”

“สั่งจั๊งงง ได้ทีล่ะสั่งจังเลย เพราะรักหรอกถึงยอม ^_^”

“พูดดี”

มันส่งยิ้มหวานปิดท้ายแล้วก็รีบวิ่งไปยังโรงจอดรถ ผมหันมองไปรอบตัวอีกครั้ง สูดดมอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอีกเฮือกใหญ่ ก็รีบก้าวไปขึ้นรถที่เมลเอามาจอดรอไว้

จะอีกกี่พันนาตาชา หรืออีกกี่ล้านพริม แม้แต่จะท้าให้ไอ้เด็กเดอะเท็นนั่นมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้า ตอนนี้ผมก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ผมเลือกที่จะเสี่ยงแล้ว ก็ต้องเดินไปตามทางที่เลือกให้ถึงที่สุด

แม้ว่าสุดท้ายแล้วความเชื่อใจของผมจะทำให้ตัวเองเจ็บปวด...ผมก็จะยอมรับมัน


..............................To be continue.............................

ด้วยความที่เราเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า มันทิ้งช่วงไม่ได้จริงๆ นางคนเขียนเลยรีบปั่นรีพอร์ตรายเดือนแล้วมาก๊อกแก๊กกับเมลเท็นต่อ  :katai4: :katai4:

ขอบคุณหลายๆ คนที่เข้าใจเมล ขอบคุณหลายๆ คนที่โกรธแทนเท็น และขอบคุณทุกๆ คนที่รักพวกเรา  :กอด1:

บอกแล้วค่ะว่าไม่มีอะไรหรอก แต่ช่วงนี้จะไม่หวานหน่อยนะคะ ความเชื่อใจของเท็นมันยังเหมือนเด็กหัดเดิน อาจมีล้มบ้าง ก็ต้องค่อยๆ ว่ากันไป ส่วนเมลนั้น ฮีเป็นประเภทซื่อบื้อนะคะ อย่าลืม 5555555 ฮีไม่ค่อยละเอียดอ่อน เป็นผู้ชายทั่วๆ ไปที่หาได้จากในชีวิตจริง ส่วนเท็นนั้นบางช่วงนางจะมีโมเม้นแบบคนปกติบ้าง แต่บางช่วงก็จะไม่เข้าใจแม้แต่คนเขียนเองยังงงว่าเขียนอะไร  :ruready

ใครคิดว่าเมลยังรับโทษไม่สาสมขอให้ยกมือขึ้นนนนนนนนนนนนนนนน!!!  :hao7:

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นที่ส่งกำลังใจมาให้กันนะคะ แค่ได้รู้ว่าพวกคุณรู้สึกยังไง ก็ดีใจมากแล้ว  o13

แล้วพบกันใหม่  :bye2:

จะอึมครึมต่อไปหรือไม่...ต้องติดตาม!!!

ปล. ชีวิตคู่นี่ปัญหาเยอะจังน้า มันคงไม่ราบรื่นหรอกสำหรับสองคนนี้  :beat:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 26-11-2013 20:59:36
 :pig4: :pig4:  คนเขียน

อิ่มแล้วนะครัช มาม่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 26-11-2013 21:08:15
จุใจกันเลยทีเดียว  :katai2-1:

ตอนนี้เหมือนๆจะหวานแต่ก็ไม่หวาน ดูอึมครึมๆ  :o11:

คนเขียนต้องมาต่อเร็วๆ นะคะ คนอ่านรอให้เมลเท็นกลับมาหวานเหมือนเดิม

ปล.เท็นหึงเดอะเท็น  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 26-11-2013 21:17:03
 :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 26-11-2013 21:22:20
555รักแรกแต่จำกันไม่ได้

เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 26-11-2013 21:26:32
นาตาชาจะกินไก่วัดซะงั้น


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 26-11-2013 21:26:49
แหม่ เมลมีคดีติดตัวตั้งเยอะแยะ โดนแค่นี้น้อยไปหรือเปล่า
คุณแม่เจนนี่ตกลงรู้หรือไม่รู้

เท็นนี่ที่สุดของความคาดไม่ถึง
มีการบอกนาตาชาอย่าเพิ่งตัดใจด้วย
ถึงจะทำเพื่อความสบายใจของตัวเอง
แต่จะมีสักกี่คนที่คิดและทำแบบเท็น สุดยอดมากอ่ะ

อย่าเพิ่งไปยอมเมลมันเยอะนะน้องเท็น
ต้องกำหราบไว้บ้าง  :hao3:

ขอบคุณที่เข้ามาต่อได้รวดเร็วมากๆ
ไม่งั้นเราคงอึดอัดแล้วก็นอยด์ไปจนถึงวันเสาร์แน่ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 26-11-2013 21:33:27
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: เย้ๆๆๆๆมาแล้วๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 26-11-2013 21:36:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เฮ้อออ ค่อยหายใจได้คล่องหน่อย ทนหน่วงมาหลายวัน 5555

ชอบประโยคนี้ขอเท็นที่พูดกับนาตาชาที่สุด
“เพราะถ้าคุณหลีกทางให้แบบนี้...มันก็จะเหมือนกับว่าผม ได้เขามาเพราะความต้องการของคุณ...เพราะความเสียสละของคุณ ไม่ใช่เพราะตัวผมเอง”

เราเห็นด้วยเลยที่เท็นใช้วิธีนี้ ยังอยากให้เมลชัดเจนไปเลยว่าไม่คิดอะไรกับนาตาชาแล้วจริงๆ

เพราะแค่อ่านเวลาเมลอ้อนนาตาชา เรายังไม่ชอบเลย อินหนัก555

จะมีโม้เม้นให้เท็นเมลรู้มั้ย ว่าเดอะเท็นรักแรกของเมล คือเท็นคนนี้ คิดแล้วเขิลลลลแทนน้องคาราเมล  :mew1:

สู้ๆนะ ทั้งเท็นทั้งเมล แล้วก็คนแต่ง  o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 26-11-2013 21:37:10
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ดีกันแว๊วววว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 26-11-2013 21:39:31
เอาของหวานมาเบรคบ้างนะคะ มาม่า หลายตอนแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-11-2013 22:01:15
555 เท็นหึงรักแรกน้องเมลอะ มาแบบต่อเนื่องเลย o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 26-11-2013 22:33:06
เท็นนนนนนนนนนนนนนนนน
แกหึงตัวเองรึ 555555555
จะจำกันได้ไหมนั่น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 26-11-2013 23:46:37
อัพถี่แบบนี้รักตายเลย  :man1: :man1:  :L2: :L2:
นาตาชา ... แนะนำนะ คุณภูยังว่าง ปล่อยให้เมลได้มีชีวิตรักที่ดีกับเท็นเถอะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 26-11-2013 23:57:17
แหม!! ผัวเมียก็เงี่ย ต้องใช้ภาษากายในการคืนดีกัน ตกลงเราไปเสือกกับเขาเองใช่ไหม  :a14:  :laugh: ดีใจที่ดีกันแล้วค่ะ เพราะปล่อยไปยิ่งแย่ ทั้งเมลทั้งเท็นเลย รักมากหลงมากก็เงี่ย

ชอบอ่ะตอนนี้ที่แสดงให้เห็นถึง เมล ที่กล้าเผชิญหน้าปฎิเสธแม่ได้ จากตอนแรกที่ยัง ป๊อด และมีความคิดแบบเด็กที่ยังจมอยู่กับตนเองในอดีต แต่ตอนนี่คือปัจจุบัน ถ้าเมลทำสำเร็จเมลจะรู้ว่าความคิดแบบนั้นเป็นแค่เรื่องขี้ผง

ความหึงของเท็นนั้น ตามอารมณ์อันนี้เข้าใจนะเพราะเป็น เดอะเท็น  :laugh3: ตัวเองแท้ ๆ นะนั่น แต่เท็นนะคงปรับไม่ได้มากหรอกเมลต้องทำใจ  :z3:  :z2:


แล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 27-11-2013 00:03:37
มาไวมากเลย. เทนหึงตัวเองใช่มั๊ย :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 27-11-2013 00:06:48
เท็นเอ๋ยยยย แกจะมาหึงตัวเองทำไม 5555555
ชอบตอนนี้อ่ะ ถึงปัญหาจะยังไม่คลี่คลายแต่ก็มีออร่าชมพูวิ้งวิ้ง  :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: duckool ที่ 27-11-2013 01:53:11
เท็นใจอ่อนกับเมลตลอด
น่าจะโกรธนานกว่านี้อีกนิด เพื่อความสะใจ 55
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 27-11-2013 03:44:01
เง้ออออ จะรอนะคับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-11-2013 06:33:19
เท็น ใจเย็นเย็น ฟังเมลบ้าง หันหน้ามาคุยกันมากขึ้น จะได้รู้
เรื่องของกันไง เท็นมันขี้หึงมาก แต่ฮาที่หึงเดอะเท็นนี่แหละ
เท็นลืมเรื่องตอนเด็กไปแล้ว พอดีกันแล้วก็หื่นขึ้นมาเลยเมลเท็น

ปล. กลับตจว.หลายวัน กลับมาได้อ่านหลายตอนเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-11-2013 08:25:42
เท็นหึงเดอะเท็น 55555555
 ฮาแตกเลยตอนนี้
น่าสงสารนาตาชาจุง แอบรักคุนชายเมลมานานมาก
แอบตกใจนะ ที่รู้ว่ารักแรกของเมลคือเดอะเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 27-11-2013 11:17:08
ไม่หวาน ไม่ว่าแต่อย่าอึมครึมและค้างเป็นพอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 27-11-2013 11:40:03
 :katai4: อึมครึมกันต่อปายย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 27-11-2013 12:32:16
อยากเห็นหน้าเท็นตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นรักแรก และรักเดียวของเมลจัง
พระเอกเรามันน่ารักกว่านางเอกอีกน้อ (เวลาอ้อนเท็นนะ)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 27-11-2013 16:01:55
เท็นเท็นหึงตัวเองเหรอ  555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 27-11-2013 16:34:00
จิ้มไว้ก่อน :z13: :z13:

อ่านตอนแรกไปคร่าวๆ ยังไม่รู้ว่าไง แต่ชอบนิสัยเท็นนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 27-11-2013 18:18:24
อ่าาา  ดีกันแล้วว  ดราม่าซะล้นจอ ฮื่อๆ  :katai2-1:
ยังไงก็ต้องดูกันต่อไปๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้  เฮ้ออ   :try2:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 27-11-2013 19:40:14
เท็นหึงแม้แต่ตัวเองงง
บ้าไปแล้ววว 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-11-2013 21:08:45
เท็นลองขอรูปสมัยเด็กเมลมาดูสิคะ....


อาจจะจำได้ทันที..
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 27-11-2013 21:43:15
ตามทันแล้ว เย้  :katai2-1: ขอเม้นรวบยอด
ชอบเท็นมากเลย นิสัยเหมือนเราเด๊ะเลย (แต่ไม่สุดกู่ขนาดที่ว่าไปหาแรงบันดาลใจที่คาสิโนหรอกนะ่) มีความเป็นตัวเองสูง มีโลกส่วนตัว หมุนรอบตัวเอง ไม่ค่อยแคร์คนอื่น ไม่ชอบการผูกมัด ชอบอิสระ อยากรู้ว่ากรุ๊ปเลือดเอบีเหมือนกันอ่ะเปล่า เพราะคนกรุ๊ปนี้เป็นอะไรที่เหนือโลกอ่ะ มิติที่สี่สุดๆ

แต่นะเด๋วนี้เท็นเปลี่ยนไปล่ะ เพราะมีเมลเข้ามาเปลี่ยนแปลงนิสัยบางอย่างไป ทำให้เท็นน่ารักขึ้นเยอะเลย แต่เมลรู้สึกเหมือนกับยังจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรมาเรื่อยๆ อ่ะ มีความลับ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนจะหวั่นไหวไปน่ะ (รึตรูคิดมากไปเองฟร่ะ) แต่ยังไงก็รักเมลอยู่ดี (ก็มันเป็นพระเอก  :ruready )

แล้วตอนพิเศษที่ว่ามายด์ไม่อยู่ นี่คืออะไรคร่า   จะมีเรื่องดราม่าให้น้องฟิวของอิฉันอีกแล้วหรอ มีได้แต่อย่านานน่ะ สงสารน้อง เจ็บมาเยอะล่ะ แล้วคู่แม็คเต้นี่ยังไง ขอตอนพิเศษมาเคลียร์ด่วน ข้องใจอ่ะ  :katai1:

รอตอนต่อไปน่ะ รักคนแต่งสุดๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 28-11-2013 02:16:28
เว้นช่วงอ่านไปหลายวัน
นึกถึงเรื่องนี้
รีบเลย  หนุกมากๆ
รอต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 28-11-2013 05:19:39
เท็นเท็น แกความจำสั้นสินะ 555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-11-2013 07:58:20
ไหงเดอะเท็นจำเมลตอนเด็กไม่ได้อ่ะ
เมลน่ารัก รักแรกของเมล คิคิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: acorntan ที่ 28-11-2013 19:04:05
เรื่องของเรื่อง เท็นไม่เคยเล่าเรื่องตัวเองให้เมลฟัง เพราะเมลไม่เคยถามเลยคิดว่าไม่จำเป็น   เมลไม่เคยเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังเพราะกลัวว่าเท็นจะรับไม่ได้ของความเป็นเด็กของตัวเอง  เออเนอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch.1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 01-12-2013 20:37:58
Special: เต้ พิสุทธิ์

“เตเต้! นี่แกกล้าเถียงแม่เหรอห้ะ! นี่แม่นะแม่!”

“รู้คร้าบบบบ รู้ครับรู้ แต่ผมไม่ได้เถียงนะ แล้วบอกกี่ครั้งว่าผมโตแล้ว ห้ามเรียกว่าเตเต้! เพื่อนได้ยินมันล้อตายเลย”

เหอะ เตเต้ แบ๊วซะ ไอ้เต๋อได้ยินมีหัวเราะหงาย แม่ทำไมไม่เข้าใจว่าผู้ชายแมนๆ อย่างผมนี่ไม่ชอบที่โดนเรียกอย่างนี้เอาซะเลย

“ทำไม แม่จะเรียก เตเต้เป็นลูกชายแม่ ชื่อนี้แม่ตั้งให้ แม่มีสิทธิ์ทุกอย่างอย่างชอบธรรม! เป็นคนให้ชีวิตแกนะ รู้ไว้ด้วยรู้ไว้!!!”

“โอยยยย เจ็บคร้าบบบบบ อย่าหยิกหูผมมมมม”

อายุจะยี่สิบอยู่แล้วทำไมผมยังต้องมาโดนแม่บ่นแถมยังหยิกเหมือนเด็กๆ ด้วยวะ ซวยจริงๆ เออ แต่ชีวิตผมก็ซวยอย่างนี้มาตลอดแหละตั้งแต่มี ‘มัน’ เข้ามาในชีวิต คงตั้งแต่จำความได้เลยมั้ง

“โกรธกันก็ไปปรับความเข้าใจ ทำตัวไม่แมนนะเตเต้ น้องมีมาหาก็ไม่ยอมออกมาพบน้อง เป็นเพื่อนกัน พ่อแม่สอนให้รักกัน จำได้ไหม!”

“จำได้” แต่ไม่อยากจำ... อยากจะลืมหน้าแม่งด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมชอบมากวนในฝันทุกที -*-

“ครับไปไหน! แม่บอกกี่ครั้งว่าพูดกับผู้ใหญ่ต้องมีหางเสียง”

“จำได้ครับแม่”

“ดี ถ้าว่าง่าย แม่จะคืนบัตรเครดิตให้ แต่! ไปปรับความเข้าใจกับน้องมีซะ! แม่มีนัดกับลูกความ  ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น แกเตรียมตัวเก็บข้าวของไปอยู่กับตาที่เยอรมันได้เลย”

“คร้าบบบบบ”

เอะอะอะไรแม่ก็เข้าข้างแต่มัน ถามผมสักคำมั้ยเนี่ยว่าน้องมีของแม่มันทำอะไรกับผมไว้บ้าง!

“คือ...”

ผมตวัดตามองไปตามเสียง จำได้ว่าเป็นเสียงใคร หลับตาฟังก็ยังรู้ น้องมีของแม่ยืนทำหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ตรงประตู คงจะมาทันได้ยินแม่ดุผมเพราะมัน ถึงได้ทำหน้ารู้สึกผิดอย่างนั้น

“มาทำไม”

“จะมาชวนไปกินข้าว” เป็นเรื่องปกติที่เวลานี้มันจะโผล่หัวมา ไม่ว่าจะมีเรื่องทะเลาะกับผมรุนแรงแค่ไหน แต่ถ้าถึงเวลากินข้าว มันก็จะมาหาทันที ซึ่งบางทีผมแม่งก็ไม่เข้าใจความคิดของมันเหมือนกัน

“เห็นหน้ามึงกูก็แดกอะไรไม่ลงแล้ว” ผมตั้งใจจะพูดให้แรงกว่านี้ แต่พอเห็นหน้าของมันสลดลง ก็พูดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ

หลังจากเงียบอยู่นานหลายนาที ผมก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้

“เออๆ ไปก็ได้วะ” แค่คำพูดนี้ของผมก็เรียกรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้ามันได้ทันที

ผมรู้...ว่าผมมีอิทธิพลกับมันมากแค่ไหน... ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร...

“อยากกินกุ้งเผา ไปนะเตเต้ หิวมากกกกก”

“ไม่กิน”

แค่คำปฏิเสธของผม มันก็หุบยิ้มฉับ เหมือนมีคนมากดปิดสวิชต์ ก่อนจะถามผมเบาๆ ว่า “แล้วอยากกินอะไร”

“ก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย แดกได้ก็ไป ถ้าเรื่องมากก็ไม่ต้องไป”

“กินได้ๆ ไม่มีปัญหา”

มัน...เป็นตัวน่ารำคาญสำหรับผมเสมอ ตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องบังคับให้เล่นกับมัน ดูแลมัน ทำดีกับมัน หรือเพราะบ้านเราอยู่ใกล้กัน ก็อาจจะใช่ ในละแวกนี้มีแต่มันที่รุ่นเดียวกับผม เราเข้าเรียนอนุบาลพร้อมกัน ตั้งแต่นั้นก็เรียนที่เดียวกันมาโดยตลอด ครอบครัวมันสนิทกับครอบครัวผมมาก อาจจะเพราะพ่อแม่ของเราเคมีตรงกัน คุยกันถูกคอ เลยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตลอดหลายปี...มันเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายโอ๋ มีน้องสาวคอยตามใจ ต่างจากผมที่ต้องคอยตามรับใช้น้องสาวงกๆ เพราะพ่อบอกว่าเป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายที่ต้องปกป้องและดูแลครอบครัว

แล้ว...สำหรับคนนอกครอบครัว ทำไมแม่ต้องบอกให้ผมดูแลมันด้วย ผมเคยไม่เข้าใจ เคยอิจฉาคิดว่าแม่รักมันมากกว่าผม
แต่พอเห็นรอยยิ้มของมันทีไร...ความไม่เข้าใจและคำถามมากมายของผมมักจะหายไปทุกที ราวกับว่า...เจอแล้วสำหรับคำตอบของคำถามเหล่านั้น...

“หมูอ้วน! พี่ไปกินก๋วยเตี๋ยวนะ เอาไรมั้ย” ผมตะโกนถามขึ้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงตึงตังเหมือนพื้นจะถล่มตามมา

“พี่เต้! บอกแล้วไงว่าห้ามเรียกว่าหมูอ้วน เตยกำลังลดน้ำหนัก! พี่เต้แย่มาก! พูดกับน้องสาวผู้บอบบางอย่างนี้ได้ไงอ่ะ พี่มีดูเลยนะ คนนิสัยไม่ดี ขากลับซื้อช็อคโกแล็ตมาให้ด้วย ไปดูซีรีส์ต่อละ”

มาไวไปไวเหมือนจรวดแต่หุ่นของน้องสาวผมไม่เคยเพรียวลมเลยตั้งแต่เริ่มขึ้นประถมห้า =_=

“ไอ้เท็นมันเคยให้น้องกูขี่คอได้ไงวะ อยากรู้จริงว่าแม่งคิดไรอยู่ คอไม่หักก็เป็นบุญของมัน”

ไอ้เท็นเป็นคนแปลกมากสำหรับผม เอาจริงๆ คือชีวิตผมเพิ่งเคยเจอคนหลุดโลกเหมือนมัน แต่มันเท่ มันแมน มันเป็นประเภทที่มีทั้งไอแคนและไอคิวจนผมอดรู้สึกไม่ได้ว่าโชคดีที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับมัน ถึงช่วงนี้มันจะปลีกวิเวกไม่ค่อยรวมกลุ่มเท่าไหร่ก็เถอะ ล่องลอยไปตามประสาบุรุษพเนจรนั่นล่ะ

“เดี๋ยวปั่นให้ แล้วเตเต้ซ้อนท้ายนะ”

เดินมาถึงหน้าบ้าน มันก็เสนอตัวปั่นจักรยานให้ แอบเห็นหน้าตาที่ทั้งดูตื่นเต้นและกระตือรือร้นของมันแล้วผมแอบหน่ายจริงๆ

“ตัวเท่าลูกหมา คิดจะเอากูซ้อน แล้วปั่นเป็นรึไง จักรยานมึงเอาล้อเสริมออกก่อนเถอะ”

“ดูถูกๆ ปั่นปล่อยมือยังได้ ลองมาแล้ว!”

“อ๋อ ที่หัวเข่าแตกมาเมื่อวานเพราะมึงไปซ่ามา รู้อย่างนี้เหยียบซ้ำให้หักไปเลยก็ดี งี่เง่า”

“เรื่องแค่นี้ทำไมต้องด่างี่เง่าด้วย พี่เรบอกจะให้สองพันเลยนะถ้าทำได้”

“เงินสองพันคุ้มกับที่มึงเจ็บตัว?”

“ก็...ไม่ แต่...ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนี่”

ผมเป็นคนไม่ชอบพวกที่เถียงอะไรข้างๆ คูๆ เอาสีข้างเข้าแถแบบไม่สำนึกยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ พอมันรู้ตัวว่าโดนผมจ้องด้วยสายตายังไง ก็รีบเข้ามากอดแขนเหมือนที่ชอบทำประจำ

“เตเต้ ขอโทษ หายโกรธนะ ไม่บอกก็เพราะรู้ว่าต้องโดนว่าอย่างนี้ไง พี่เรก็ขอไม่ให้บอกเตเต้ด้วย ไม่เป็นไรเลยนะ ไม่เจ็บเลย”

พี่ชายมันโอ๋มันมากก็จริง แต่ในอีกมุมแม่งก็ชอบแกล้งน้อง เลยโดนผมแกล้งคืนอยู่บ่อยๆ เพราะเวลาน้องมันร้องไห้ ก็ผมนี่แหละที่ต้องปลอบ แล้วไอ้ห่านี่ก็ชอบมาร้องไห้กับผม ไล่ยังไงก็ไม่ไป แรกๆ ก็รู้สึกรำคาญ แต่พอนานๆ เข้ากลับกลายเป็นผมที่ทนเห็นมันร้องไห้ไม่ได้...

“สุดท้ายมึงก็ต้องบอก แล้วเมื่อวานจะเงียบทำไม”

“ที่บอกก็เพราะเตเต้กำลังโกรธ อยากให้ดีกัน ผิดเหรอ”

“มึงมันดีแต่สร้างปัญหา น่าเบื่อ”

ผมคิดแค่ว่า...เพราะมันชอบผมมาก ถึงได้ยิ้มรับทุกครั้งเวลาที่ผมทำตัวแย่ๆ ใส่มัน ผมไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วมันจะเสียใจบ้างไหมกับคำพูดแย่ๆ ของผม หรือแม้แต่การกระทำของผมที่ผลักไสมันให้ออกห่าง และไล่มันออกไปจากชีวิตผมตลอดเวลา

มันคงเข้าใจว่าผมเกลียดมัน...ซึ่งผมอยากให้เข้าใจอย่างนั้น... เราจะได้เป็นแค่เพื่อนกันอย่างที่พ่อกับแม่หวังไว้ตลอดไป

ครืดดดดดดดด...ครืดดดดดดดดดดดดดดดดด

“ว่าไงเหี้ยเต๋อ”

(กำลังอารมณ์ไม่ดีเหรอครับคุณชาย ฮี่ๆๆๆ)

“มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”

(แม็คอยู่ด้วยป่ะ)

“อยู่”

(หึหึ คืนดีกันเร็วนะพวกมึง)

“จะพูดมั้ย ไม่พูดกูจะได้กดวาง”

(แดกหัวไอ้แม็คไม่อิ่มรึไงถึงจะมาแดกหัวกูด้วยเนี่ย โอเคๆ กูจะบอกว่าเหี้ยเท็นกลับมาแล้ว ไอ้กัสนัดเจอกันที่ร้านพี่เจ๋ง แค่นี้แหละ บายยยยย)

ไอ้เต๋อเป็นประเภทที่พูดเรื่องของตัวเองเสร็จก็จะวางไปแบบไม่รอคำตอบ ผมได้แต่ขมวดคิ้วมองโน๊ตสองที่ถืออยู่ ก็เห็นหน้าจอกลับมาเป็นรูปของไอ้ ‘แม็ค’ ที่ยืนหน้าจ๋อยอยู่ข้างๆ แล้วเลยรีบเก็บใส่กระเป๋าก่อนที่มันจะเห็น

แม็ค เป็นชื่อที่มันตั้งขึ้นเองหลังจากตอนปอสามที่มีแต่คนเรียกมันว่า ‘มีมี่’ (พี่ชายมันนั่นแหละที่เป็นตัวปลุกระดม ผมไล่เตะไอ้ห่าพี่เรอยู่หลายชั่วโมงเลยนะตอนนั้น) มันเลยตั้งชื่อตัวเองใหม่บอกว่าเป็นชื่อที่ดูแมนดี แต่ถ้าอยู่กันสองคน มันไม่ชอบให้ผมเรียกว่าแม็คเลย กูเรียกทีไรโดนโกรธทุกที

“ไอ้เต๋อว่าไง”

“คืนนี้นัดกันร้านพี่เจ๋ง มันบอกไอ้เท็นกลับมาแล้ว”

คนข้างตัวผมพยักหน้า ก่อนจะเดินไปจูงจักรยานออกมา

“เตเต้ปั่นก็ได้ แต่ต้องซ้อนท้าย”

“เออๆ ตามใจเถอะ”

บางครั้งผมก็ไม่ชินกับการที่ได้อยู่กับมี มันอึดอัดมากกว่าตอนที่กอดคอกินเหล้ากับไอ้แม็คซะอีก ...เพราะกับมีผมทำตัวไม่ถูก ผมดีใจนะที่มันกลับมาเป็นมีทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน แต่นั่นมันก็ทำให้ผมต้องคิดมากขึ้น...ผมอึดอัดที่มันเอาแต่ยิ้ม เอาแต่อ้อนและก็ตามใจผม มันแปลกใช่ไหมสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน...ใช่ ผมรู้ว่ามันแปลกและผมก็รู้ว่าเพราะอะไร และนั่นยิ่งทำให้ผมสับสน และคิดสกปรกกับมัน

มีจะยังอ้อนผมอีกมั้ย...ถ้ารู้ว่าทุกครั้งเวลาที่ผมช่วยตัวเอง ผมมักจะจินตนาการถึงมัน

มีจะยังตามใจผมอีกมั้ย...ถ้ารู้ว่าทุกครั้งที่ผมมีอะไรกับใคร ชื่อของมันจะเผลอหลุดออกจากปากจนทำให้ผมไม่เคยคบใครได้นาน

“เตเต้ กอดเอวก็ได้ จะได้ปั่นได้ถนัดไง” แม้แต่เสียงของมัน ก็ทำให้ผมคิดไปถึงไหนต่อไหน

“แค่นี้คนก็มองจะแย่ ผู้ชายสองคนมาปั่นจักรยานกันแบบนี้”

“ขอโทษ”

“อย่ามาทำเสียง...”

“อะไรก็ผิดตลอดแหละ ไม่เคยถูกใจ”

“ไม่ต้องมางี่เง่า”

“ขอโทษ”

หมับ!

“แบบนี้พอใจมั้ย”

“อืม”

มีงี่เง่า มันเป็นคนงี่เง่าอย่างนี้ตลอด มันแค่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง ถึงได้คิดอะไรก็แสดงออกมาแบบนั้น แต่ถ้ามันรู้ว่าผมคิดอะไร...มันจะยังเป็นแบบนี้ไหม สำหรับมันแล้ว อาจจะเป็นแค่ความเคยชินที่มีผม ความผูกพันธ์ที่เราอยู่ด้วยกันมา ถึงได้ไม่ระวังตัว...แต่กับผม...มันไม่ใช่

“เมื่อไหร่จะเลิกกับนาว”

นาวเป็นแฟนคนล่าสุดของผม ก็คบกันมาได้เกือบอาทิตย์ เป็นคนสวยและเข้าใจอะไรง่ายๆ คุยกันเข้าใจและฝ่ายหญิงเขาชอบผม เราเลยคบกัน

“ยังไม่เบื่อ”

“เตเต้รักนาวเหรอ”

“ไม่รู้”

“ต้องรู้”

“อย่ามาคาดคั้นเรื่องส่วนตัว”

“ขอโทษ”

เพราะเรื่องของนาว มีถึงหลบหน้าผม แต่กลับกลายเป็นว่าผมเป็นฝ่ายโดนแม่ดุและคิดว่าหลบหน้าน้องมีของแม่ ทั้งๆ ที่ฝ่ายนั้นต่างหากที่ไม่ยอมโผล่หน้ามาให้ผมเห็นเลยจนมันไปซ่าได้แผลมานั่นแหละ ผมถึงพลิกกลับมาเป็นฝ่ายโกรธได้ -_-

“ไม่หิวแล้ว เตเต้จอดตรงนี้แหละ มีจะเข้าไปดูหนังสือ เตเต้ก็อย่าลืมไปซื้อช็อคโกแลตให้น้องเตยล่ะ”

ผ่านหน้าร้านหนังสือพอดี แถมจักรยานที่ผมซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายทำหน้าที่ปั่นก็จอดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คนที่นั่งเบาะข้างหน้าลงจากรถไปแล้วก็หันหลังเดินเข้าร้านหนังสือทันที

“อย่าลืมนัดล่ะ”

“ไม่ไป” มันหันกลับมาตอบ เห็นตาแดงๆ แล้วผมหงุดหงิด

“กูจะไปรับที่บ้าน!”

“กูไม่ไป จะมาก็เรื่องของมึง”

ใช่เรื่องมั้ย!! ใช่เรื่องมั้ยเนี่ย โวะ! หงุดหงิดเว้ย!

ตึ๊ดดดดดดดดดดดดด ตึ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

(คร้าบบบบ สุดหล่อรับสายคร้าบ ไม่ทราบว่ากิ๊กคนไหนเอ่ย)

“กระแดะครับเพื่อนครับ”

(อ้าว มีไรเหี้ยเต้ ได้ข่าวว่าเพิ่งโทรไป ไม่ทันไรคิดถึงกูซะแระ)

“ช่วยรอให้กูเข้าเรื่องก่อนได้ไหมแล้วมึงค่อยไร้สาระ”

(โหะ งั้นมาว่าโลดดด)

“คือ...นัดวันนี้กูกับไอ้แม็คไปช้าหน่อยละกัน บอกเหี้ยเท็นด้วย เดี๋ยวมันแม่งแดกเหล้าไม่รอกู”

(เออ ได้ๆ แล้วมึงกับไอ้แม็คจะไปไหน)

“แม็คไม่ได้ไปไหน”

(แล้วมึงล่ะ)

“กูจะไปบอกเลิกนาวว่ะ”

ผมจะโกรธมากเวลาที่มีใครทำมันร้องไห้ แต่ที่โกรธยิ่งกว่าคือมันต้องร้องไห้...เพราะผม

.....................................To be continue...............................................

เมลเท็นเรารู้สึกว่าโล่งใจนิดๆ เลยมาที่คู่นี้กันบ้าง ตอนนี้เป็นช่วงที่เท็นกับเมลยังคาราคาซังกันอยู่นะจ้ะ คู่นี้เขามาแนวชัดเจนเลยว่าอะไรยังไง แต่เต้จะซึนหน่อย เจ้าชู้แต่ปากแข็ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เอามาคั่นนาน เพราะยังไงเมลเท็นก็ต้องล่องเรือต่อไป จะเจอพายุเมื่อไหร่ ไว้แจ้งอีกที เหอๆๆๆๆ


คิดถึงจ้า เว็บไปเมื่อวานแทบขาดใจ

ยินดีต้อนรับนักอ่านทุกคนนนน  :กอด1:


 :katai4: :katai4:  :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 01-12-2013 20:56:25
เศร้าตั้งแต่เด็ก เหอ ๆเท็นดผล่มาแว๊บให้หายคิดถึง กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 01-12-2013 21:06:47
เห้ย ... คู่่นี้แลดูงงๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 01-12-2013 21:08:05
ถึงกับต้องไปบอกเลิกนาว 555555555 ชัดเจนดี  o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-12-2013 21:21:14
คู่นี้แลดูสับสน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 01-12-2013 21:51:41
เอาดีๆ คู่นี้ ชอบกันทั้งคู่แต่แบบ  :ling1: :ling1: :ling1:

ต้นเหตุของความเสียใจ
ก็คือความจริงที่สองเราไม่พูดกัน~~~~~~~~~~~~~~~~

เพลงนี้ลอยขึ้นมาเลยจ้าาา 555555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-12-2013 22:14:33
เต้จะเลิกกับนาวเพราะมีเสียใจ
รักกันแต่ไม่บอกกัน อึดอัดแทน
ขอให้เต้มีบอกกันเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 01-12-2013 22:21:30
เย้ อัพแล้ว (แต่ยังไม่อ่าน)
เพราะสงสัยจะไม่มีเมล
เก็บไว้อ่านรวดเดียว ตอนอัพเมล+เท็น ละกัน หุหุ
ไม่ค่อยจะลำเอียงเลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอนะจ้า
รอเมลอยู่...ถ้าเมลได้ออกเมื่อไหร่จะกลับมาอ่าน
..........................................................เมล FC

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 01-12-2013 22:35:58
คิดถึงคนแต่งมากๆค่า เอาเท็นเมลมาเสริฟเร็วๆ  o11 o11
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 01-12-2013 23:18:07
 :sad4:  ทำไมน้องมีน่ารักอย่างนี้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 02-12-2013 03:02:34
สู้ๆนะมีมี่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 02-12-2013 05:13:42
แม็ค มี น่ารักอ่ะแต่เต้ปากแข็งไปป่วววสุดท้ายก็บอกเลิกสาวตอนที่เห็นแม็คจะร้องให้ แม็คนายน่ารักมากกกก รอๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-12-2013 05:37:46
จะคิดอะไรให้มากมายล่ะเตเต้ ถ้ายอมเป็นเบี้ยล่างน้องมีซะขนาดนี้ ก็มาดูแลท้ังตัวและหัวใจเถอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch1 : 1-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 02-12-2013 21:01:23
เท็นๆต้องกำราบเมลต่อไป

เต้ดีละๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 03-12-2013 19:40:53
ตอนที่ 35

เมลงี่เง่า เมลงี่เง่า เมลงี่เง่า!

“เท็น เป็นไรของมึงเนี่ย บ่นพึมพำอะไรอยู่ได้คนเดียว” ไอ้ฟิวละมือจากการถักเสื้อไหมพรมของมันมามองหน้าผม ก่อนจะเลื่อนถ้วยชาที่แม่ส่งมาให้จากอังกฤษไว้ตรงหน้าผม

“อิงลิช เบรคฟาสต์ เอาซะหน่อยจะได้สดชื่น แหกตาตื่นมาแต่เช้านี่คงทรมานคนความดันต่ำอย่างมึงมาก”

ใครได้ไอ้ฟิวเป็นเมียแม่งโคตรโชคดี ดูแลคนเก่งชะมัด

“ทะเลาะกับเมลมาอีกแล้วรึไง”

“ก็ไม่เชิง”

ไอ้ฟิวทำหน้าเอือมๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาถักเสื้อไหมพรมของมันต่อไป แม่ง...ให้อารมณ์แม่บ้านแม่เรือนจริงๆ ต่างจากไอ้กัสที่หัวฟูหน้าโทรมที่กำลังเดินมานั่งเบียดบนโซฟาเดียวกับผมชิบหาย ผีบ้านผีเรือนยังกลัวมันเลยอ่ะ ผมว่า -_-

“สามีไปไหน”

“ไม่มี”

“สมพรปาก”

ผมจัดการถีบไอ้กัสไปหนึ่งทีก่อนจะมาระลึกถึงใบหน้าของเมลต่อ แต่ยิ่งคิดผมก็ยิ่งหงุดหงิด เมลแม่งโคตรงี่เง่า เรื่องแค่นี้ก็เอามาทะเลาะกับผม แถมยังไล่ผมกลับบ้านด้วยนะ คิดแล้วมันน่า...

“ทะเลาะกันมาแหง มึงไม่ต้องทำหน้าสงสัยว่ากูรู้ได้ไง เพราะมีคนเดียวนั่นแหละที่ทำให้มึงทำหน้าแบบนี้ หึ กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำๆ ไม่เคยฟัง”

“ตัวกู กูมีสิทธิ์”

“โหะ เล่นพูดงี้มากูจะพูดอะไรต่อเนี่ย ไอ้เมลแม่งก็โทรมาว่ากูว่าทำไมไม่ห้ามมึง แต่กูอยากถามจริงๆ ว่าบนโลกนี้มีใครออกคำสั่งมึงได้บ้าง”

ก็มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องนั่นแหละ แบบ...คิดไม่ถึง

“ต่อไปทำไรก็ปรึกษามันหน่อย ตัวมึงก็จริงนะ แต่ไอ้เมลมันก็หวงของมัน” ไอ้กัสยังคงพูดต่อไป คงหวังว่าผมจะสำนึกผิดขึ้นมาได้บ้าง แต่เอาจริงๆ ก็ไม่มากหรอก ก็ไม่ได้โป๊นะตอนทำอ่ะ ปิดอะไรมิดชิดแล้วคนทำให้ก็เป็นทอมด้วย -_-

“กูว่าจะไม่ถามละ แต่ข้องใจมาก กูถามหน่อยเหอะ ตกลงมึงไปทำอะไรมาไอ้เท็น”

ถ้าไอ้ฟิวรู้เรื่อง ผมก็ต้องโดนมันบ่นอีกคนแน่ เรื่องแบบนี้ไอ้ฟิวมันไม่ชอบอยู่แล้วด้วย แต่กูก็เห็นไอ้มายด์ทำเหมือนกันนะ ร้านที่ไปทำมันก็แนะนำให้ -_-

พรึ่บ!

ไอ้ห่ากัสแม่งทรยศผม!

ไอ้ฟิวอ้าปากค้างกับผิวเนื้อบริเวณช่วงเอวของผมที่กำลังเปิดเผยสู่สายตามันเพราะไอ้กัสแม่งดึงเสื้อผมขึ้น

“กูจะโทรไปฟ้องแม่มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!”

ไอ้พวกนี้ทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบที่ชีวิตต้องอยู่ในการควบคุมของผู้ปกครองไปได้ -*-

“กูแค่ไปสักมา ไม่ได้ทำให้ใครตาย เอามือไปไกลๆ ไอ้กัส ไม่งั้นกูถีบ”

“เสียดายผิวสวยๆ ของมึง กูไม่แปลกใจที่เมลมันจะโกรธ” ไอ้ฟิวบอกพลางทำท่าจะเอาไม้นิตของมันตีหัวผม

“ไม่ได้มีแค่นี้! ไอ้บ้านี่สักตั้งแต่เอวลามลงไปถึงนี่!” ไอ้กัสชี้นิวไปที่ขาของผมเป็นท่าทางประกอบประโยคโดยมีไอ้ฟิวทำหน้าตะลึงตามมา

“มึงสักอะไรของมึงเนี่ย เป็นลายกราฟฟิคอะไรกูยังพอเข้าใจ แต่นี่ภาษาอะไรของมึง”

ผมไม่ชอบการสักลายกราฟฟิคหรือเอาเป็นแบบรูปภาพที่ก็ไม่รู้จะสักทำไมหรือสักเพื่อต้องการสื่ออะไร ผมแค่สักเป็นถ้อยคำที่เกิดจากการเอาอักษรรูนมาประกอบกันขึ้นเป็นประโยคที่มีความหมายว่า ‘หนึ่งเดียวในจักรวาล’

“ยุ่งอะไรกับรอยสักกู”

“เท็น มึงโตแล้วนะ ทำอะไรแบบนี้ คนอื่นจะมองมึงไม่ดีเอาได้นะ” ไอ้ฟิวบอกด้วยสีหน้ากังวล ไอ้นี่มันเป็นคนหัวโบราณ หรือแม้แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมนี้ก็ยังมองว่าพวกมีรอยสักเป็นพวกที่ไม่ดีอยู่ พอๆ กับที่เห็นคนเจาะหู เจาะคิ้ว เจาะปากนั่นแหละ

“กูพอใจอยากทำอะไรกูก็จะทำ ชีวิตกู กูไม่ต้องขออนุญาตใครว่าจะทำอะไร ขอบใจที่เป็นห่วง”

ผมตัดบทสนทนาด้วยการลุกเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เดินขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามายังห้องนอนของตัวเองที่พักหลังๆ ไม่ค่อยได้เข้ามานอนเท่าไหร่

ช่วงนี้ผมอาจจะทำตัวกลมกลืนมากไปจนใครๆ ต่างก็ทึกทักไปเองว่าผมจะต้องทำตามความต้องการของพวกเขา แต่ในความจริงแล้วผมยอมให้ก็ตราบที่พวกเขายังไม่ล้ำเส้นที่ผมขีดไว้...ก็เท่านั้น

ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โหะ เคาะขนาดนี้มึงไม่พังประตูเข้ามาเลยวะ!

ผมละความสนใจจากท้องฟ้าเบื้องหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูให้มนุษย์ไร้มารยาทที่ตอนนี้กำลังก้าวยาวๆ เข้ามาในห้องอย่างไม่ได้รับคำเชิญ

“กูหาร้านลบรอยสักได้แล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัว”

ผมมองหน้าเมลนิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินมาที่ระเบียง ท้องฟ้ายังน่ามองมากกว่าหน้ามัน

“เท็น”

“ปัญญาอ่อนเหรอมึง กูเพิ่งไปสักมาได้อาทิตย์เดียว มึงจะให้กูไปลบออก ไม่รู้รึไงว่าตอนสักแม่งเจ็บแทบตาย”

“เจ็บแล้วไปทำทำไม กูเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบ ไม่ให้ทำ ทำไมยังดื้อ แล้วนี่มึงไม่ต้องไปแก้ผ้าให้คนอื่นดูเลยรึไง กูโมโหมากนะเท็น”

“ถ้ายังโมโหก็ไม่ต้องคุย”

“ห่างตากูไม่เท่าไหร่ ทำตัวแบบนี้ คำพูดกูมึงจะไม่ฟังแล้วใช่ไหม!”

“....”

“มานี่เท็น”

“....”

“กูบอกให้มา!”

ผมไม่ชอบเลยเวลามีคนมาออกคำสั่ง แต่ที่ไม่ชอบยิ่งกว่าคือผมยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างเต็มใจ

พอผมเข้าไปในระยะที่มือมันเอื้อมถึง คอเสื้อผมก็ถูกกระชาก ก่อนที่ทั้งตัวจะตกอยู่ในวงแขนของมัน

“ทำไมทำตัวแบบนี้ กูจะทำยังไงกับคนอย่างมึงดี”

“กูไม่ได้ทำใครเดือดร้อนนะเมล”

“กูนี่ไงเดือดร้อน”

“จะเดือดร้อนทำไม คนสักให้เป็นทอม แล้วตอนสักก็ไม่ได้โป๊ด้วย”

“มึงแน่ใจได้ยังไง เล่นสักตั้งแต่สีข้างยันต้นขา ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้วะ แม่ง...”

“มึงก็บ้า ไล่กูกลับบ้านแล้วตามมาทำไม”

“มึงไม่ต้องมาพลิกเกมนะเท็น เพราะมึงดื้อ กูถึงโมโหอย่างกะคนบ้าอย่างนี้ กูให้เวลามึงคิดนะว่าระหว่างลบออกกับแล่เนื้อทิ้ง มึงจะเลือกอย่างไหน”

“โหะ ไอ้บ้า กูไม่เลือกอะไรทั้งนั้นแหละ ไม่ชอบก็อยู่ห่างๆ กู ไม่ต้องมายุ่งด้วย”

เพียะ!

“เจ็บ!”

เมลแม่ง ตีปากผมซะแรงเลย ถ้าไม่ติดว่ามันยังตีหน้ายักษ์อยู่ผมคงได้สวนไปสักหมัดแล้ว คนบ้าอะไรมือหนักชิบ

“พูดอีกสิ กูจะตีให้ปากแตก”

“เหี้ย”

“เท็นเท็น”

“จะให้กูพูดขอบคุณรึไง เจ็บขนาดนี้อ่ะ”

พอเห็นว่าผมทำท่าว่าเจ็บจริง ท่าทางมันก็อ่อนลง แต่ถ้าพูดกันตรงๆ ผมก็ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก เทียบกับความเจ็บจริงๆ แล้วมีแค่ห้า อีกเก้าสิบห้าอ่ะโอเว่อแอคติ้งล้วนๆ

“เจ็บมากเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“มาๆ เป่าให้”

“ไอ้บ้า ใครเป่าแล้วหายบ้าง”

“งอแงตลอด ดื้อจริงๆ คนนี้”

“ว่าขนาดนั้นก็ไม่ต้องมากอด”

เมลยิ้มนิดๆ ก่อนจะก้มลงมาจนมาหน้าผากของเราสองคนแตะกัน

“มึงนี่เก่งนะ เมื่อกี้กูโมโหแทบบ้า แต่ตอนนี้ต้องมาง้อมึงเนี่ย”

“ไม่ได้ขอ”

“ไม่ขอก็อยากทำ ไม่รักไม่เป็นขนาดนี้หรอก รู้ไว้ด้วย”

“อะ...อืม -///-“

ผมยกมือโอบรอบคอของเมลไว้ เหมือนนานมากแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกันแบบนี้ เพราะต่างคนต่างยุ่งอยู่กับหน้าที่ของตัวเอง อาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมาผมก็ต้องไปทำหน้าที่เป็น visiting prof. ที่มหาลัยของคุณแม่เจน ส่วนเมลก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมินิโปรเจ็คของมัน ในแต่ละวันเราทำได้แค่คุยโทรศัพท์กันแค่ไม่กี่นาที แต่พอมาเจอกลับต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า จนทำให้ลืมไปเลยว่า...

ช่วงเวลาที่เราไม่เจอกัน...มันเหงาขนาดไหน

“คิดถึงนะครับเท็นเท็น”

“อือ”

“รักเมลมั้ยครับ”

“ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่ไง”

“อยากฟัง”

“....”

“....”

“เออๆ รักมากกกกกกก”

“ถ้างั้น...พรุ่งนี้”

“พรุ่งนี้?”

“ไปลบรอยสักนะครับ”

“ไม่เว้ย!”

“อ้าวววววว”

เมลแม่งบ้าป่ะวะ ลบยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม สู้ให้มีรอยสักสวยๆ นี่ต่อไปดีกว่าซะอีก แล้วเมลน่ะ...ถึงคำพูดจะบอกว่าไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในช่วงเวลาที่เรา...สัมผัสกัน...ปากมันไม่เคยอยู่ห่างจากรอยสักของผมเลย

.
.
.

“ได้ข่าวว่าเตียงเกือบหักเพราะรอยสักเหรอท่าน อิอิ”

ผมแค่ปรายตามองไอ้เต๋อโดยไม่ตอบคำถามของมัน

ด้วยเพราะคืนวันเสาร์นี้ไอ้พวกไฟฟ้ามันนัดมาเลี้ยงฉลองที่การนำเสนอมินิโปรเจ็คของพวกมันผ่านไปด้วยดี ผมถึงถูกเมลลากสังขารลงจากเตียงหลังจากที่โดนมันรีดน้ำออกจากตัวตั้งแต่ช่วงสายจรดบ่ายสอง -*-

“กูก็เตือนมันแล้วนะว่ามึงไม่ชอบ แต่มันฟังใครที่ไหนล่ะ” ไอ้มายด์บอกเมลพลางยักไหล่

แหม ไอ้นี่ ได้ทีล่ะรีบพูดเชียวนะมึง

“ช่างเถอะ กูลงโทษไปละ แต่แม่งดื้อไม่ยอมลบออก”

วันนี้พวกผมมากันครบเลยดูเหมือนจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในร้าน เพราะโต๊ะอื่นๆ ก็มากันแค่สามสี่คน มากสุดก็หก แต่นี่เล่นล่อมาเป็นสิบแถมแต่ละคนก็พกแฟนมาด้วยเกือบทุกคน จะมียกเว้นก็ไอ้เขตที่แฟนอยู่อังกฤษ ไอ้เต๋อที่แฟนยังอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าร้านไม่ได้ ไอ้แต้มที่ไม่มีเป็นตัวเป็นตนเพราะชอบคนของคนอื่น ไอ้ลินที่ผมยังไม่รู้แน่ชัดว่าตอนนี้มันอะไรยังไงกับใคร นอกนั้นก็มีมาครบ

“น้องอิง แฟนใหม่กู” ไอ้เต้บอกชัดถ้อยชัดคำ ในขณะที่น้องอิงก็ยกมือไหว้พวกผมรอบโต๊ะ

อ้อ...ถ้าอย่างนั้น ก็คงต้องเพิ่มไอ้แม็คเข้าไปด้วยที่ไม่ได้พาใครมา เพราะเมื่อกี้ผมมองไม่เห็นน้องอิงเลย

จะว่าสวยก็...ไม่นะ ดูไม่เหมือนคนที่ไอ้เต้คบที่ผ่านๆ มาเลย คือ เอาง่ายๆ ไอ้เต้มันมีสเปคที่เป๊ะสำหรับคนที่มันควงอยู่แล้ว แต่น้องอิงนี่ดูต่างไปหน่อย เพราะดูยังไงก็ออกแนวน่ารัก ทะนุถนอมมากกว่า แต่ผู้หญิงที่ผ่านมาของไอ้เต้ก็มีแต่พวกรอบจัด สาวล่าแต้มกันทั้งนั้น แต่เอาเถอะครับ...คนเรา มองที่ภายนอกได้ที่ไหนล่ะ น้องอิงนี่อาจจะไม่ใสอย่างหน้า...

“อย่าพูดในสิ่งที่คิดออกมานะเท็นเท็น รู้ว่าจะพูดอะไร” เมลดักคอผมไว้ซะก่อน

ความจริงก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่เห็นหน้าไอ้แม็คแล้วอยากถีบหน้าไอ้เต้จนอดใจแทบไม่ไหว

“เหี้ยเต๋อ”

“ครับท่านนนน”

“จัดเหล้าแก้โง่ให้ไอ้เต้สักสามช็อตซิ บอกว่า มอบให้จากกู”

“ตามบัญชา หึหึ”

ไอ้เต้มันได้ยินทุกคำพูดของผมนั่นแหละ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องทำหน้าเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าน้องอิงของมันอยู่ เลยทำได้แค่ชี้หน้าผมเท่านั้น ^^

“หน้าเพลียจัง เด็กป๋าเป็นอะไรเนี่ย หึหึ” ได้ทีล่ะแซวกูดีจัง แค่เอนหัวไปพิงไหล่มันแค่เนี้ย -*-

“เดี๋ยวป๋าได้ปากแตก”

“หึหึ”

“หิวข้าว”

“หืมมม หิวเหรอ กินไร ข้าวผัดมั้ย”

“ไม่เอา ร้านพี่เจ๋งข้าวผัดไม่อร่อย”

ผมเหลือบเห็นไอ้พี่เจ๋งมันเดินผ่านมาเลยแกล้งพูดให้ดังๆ หน่อย ผลปรากฎว่าโดนมือเท่าฝาหม้อของมันผลักหัวเข้าให้

“ออกจากร้านกูไปเลยไปเหี้ยเท็น หายหน้าหายตาไป กลับมานึกว่าจะเป็นคนดีขึ้น ไอ้น้องเวร”

“ฮ่าๆๆๆ คนวัยทองอารมณ์ร้อนทุกคนป่ะพี่ หึหึ เอาข้าวผัดคร้าบบบบ”

“กูไม่ขายให้มึง ชิ! -*-“

“เมลลลลลลลลลลล ดูไอ้พี่เจ๋งมันนนน”

“มึงก็ไปว่าเฮียแกก่อนนี่น้า พี่เจ๋งครับ ข้าวผัดรวมมิตรนะ ขอจานใหญ่ๆ”

นี่ดูนะ รอยยิ้มของเมลน่ะ พิชิตได้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เพศไหน แค่เห็นไอ้หล่อของผมยิ้ม ไอ้พี่เจ๋งแม่งยังเผลอหน้าแดง แต่มันไม่ได้เป็นตุ๊ดนะครับ ผมยืนยัน ฮ่าๆๆๆ

“เออ อย่างนี้สิ พูดจาให้น่าฟังอย่างแฟนมึงหน่อย ไอ้เมล หัดสั่งสอนมันซะมั่ง ไม่น่ารักขึ้นเลยให้ตายยย”

“บ่นๆ รีบๆ ไปทำข้าวให้น้องเลยไป”

“เออๆ”

“พี่ต้องทำนะ ห้ามให้พ่อครัวคนอื่นทำ ไม่งั้นผมไม่กิน”

พี่เจ๋งยกนิ้วกลางให้ผม ก่อนจะเดินหายเข้าไปทางหลังร้าน เมลยกมือขึ้นโยกหัวผมเล็กน้อยก่อนจะโน้มให้ลงไปพิงไหล่มันตามเดิม

“ทำไมชอบแกล้งคนอื่นนักนะ”

“อยากให้แกล้งเมลคนเดียวรึไง”

“ที่พูดไม่ได้หมายความถึงแบบนั้น”

“แล้วแบบไหนล่ะ”

“ทำตัวดีๆ หน่อย เวลาเท็นทำตัวน่ารัก มีแต่คนอยากเข้าใกล้”

“ก็อยากให้เมลเข้าใกล้คนเดียวอ่ะ ทำแค่กับเมลไม่ได้เหรอ”

“หึ แม่งอ้อนว่ะ หอมแก้มทีดิ๊”

แค่เพราะจมูกโด่งๆ ของเมลมาสัมผัสที่แก้ม หัวใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาทันที ยังไงซะ...ก็ไม่ชินเลยเวลาเมลทำตัวน่ารักอย่างนี้

“โอ้ยยยยยยยยยยยย โลกนี้มีเพียงเราสอง ถ้าพวกมึงจะตะกรองกอดกันขนาดนี้ ช่วยไปเปิดห้องที่ม่านรูดข้างๆ นี่ไป” ไอ้เต๋อพูดพร้อมกับส่งสายตาขี้อิจฉามาให้ มือก็ถือที่คีบน้ำแข็งเคาะแก้วไปด้วย

เหี้ยนี่แม่งขัดตลอด แทรกตลอดดดดด -_-

“หึหึ ทำกับแฟนบ้างสิ จะได้ไม่มาอิจฉาพวกกู” เมลบอกพลางส่งยิ้มไปให้นิดๆ ในขณะที่ไอ้เต๋อเตรียมสวนกลับมา แต่ผมชิงตัดหน้ามันพูดซะก่อน

“มันทำงั้นได้ที่ไหนอ่ะที่รัก แฟนแม่งอายุ 16 ผับก็เข้าไม่ได้ ขืนไปจิ๊จ๊ะมากๆ แม่งโดนลากเข้าคุก กูแม่งไม่เข้าใจว่าน้องโสนทนไอ้แก่แบบนี้ไปได้ยังไง เป็นกูแม่งคบวัยเดียวกันดีกว่าว่ะ เข้าใจกันมากกว่าคบกับไอ้แก่บางคน”

ไม่รู้ว่าแทงใจไอ้เต๋อไปกี่ดอก แต่สภาพหน้ามันเหมือนเลือดโชกไปทั้งตัวเลยนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆ เพราะไอ้เหี้ยนี่ชอบโทรมารบกวนตอนผมสอนแค่เพราะเรื่องแฟนมันมีคนมาจีบ แถมคู่แข่งมันก็เป็นเด็กมอสี่ที่เรียนดี กีฬาเยี่ยมอีกต่างหาก เทียบกับมันแล้ว...กระดูกคนละเบอร์เลย

“มึงคิดอย่างนั้นเหรอวะ”

อ้าว ไอ้สัด เผลอแป๊บเดียวแม่งเข้าโหมดดราม่า -_- ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนะ

“ไม่หรอกน่า อย่างคิดมากกับคำพูดของเท็นเลย เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึกเว้ย แล้วอีกอย่าง มึงกำลังจะแต่งงานกับน้องเขาอยู่แล้ว กลัวไรวะ” เมลแม่งทำตัวพระเอกตลอดอ่ะ -*- กูนี่ตัวโกงทุกที

“นั่นสิเนอะ”

“อืม แต่ก็ไม่แน่ว่ะ คนวัยเดียวกันเขาอาจจะเข้าใจกันมากกว่า”

เสียงของเมลเหมือนแค่พึมพำนะ แต่ผมว่าไอ้เต๋อได้ยินอ่ะ เพราะแม่งดราม่าหนักเข้าไปอีก เหอๆ

“เพราะเท็นอ่ะ ดูไอ้เต๋อเศร้าใหญ่แล้ว ชงเหล้าไม่หยุด” เมลกระซิบข้างหูผม ก่อนจะกัดเบาๆ ให้ผมต้องหยิกแขนมันคืน

“อ้าว โทษกันได้ไง เมลก็เห็นด้วยอ่ะ บอกมันพอได้แล้ว เปลืองเหล้า”

“ไม่ต้องทำท่ากระซิบไอ้พวกห่า เสียงดังขนาดนั้นไอ้มายด์นั่งเก๊กอยู่ตรงโน้นก็ยังได้ยิน” ไอ้เต๋อว่าพลางขว้างน้ำแข็งมา ก่อนจะส่ายหน้าอย่างปลงๆ เหลือบไปเห็นไอ้มายด์ก็เห็นมันชูนิ้วโป้งมาให้อยู่ แสดงว่าแม่งได้ยินจริง

“พวกมึงแม่งงงงง”

“โอ๋ๆๆ เหี้ยเต๋อ นิ่งซะนะนิ่งซะ” ไอ้แต้มที่นั่งข้างๆ ละสายตาจากอกสาวเสิร์ฟที่เพิ่งเอาน้ำแข็งมาเพิ่มให้ ยกมือทำท่าเด็กน้อยเสร็จยังดึงตัวถึกๆ ของไอ้เต๋อไปปลอบเองอีก

เอ่อ -_- อย่าให้กูเห็นโมเม้นนี้อีกนะ...

“ว่าแต่เลขาที่แม่หาให้มึงอ่ะ เป็นยังไง เข้ากันได้ดีป่ะ” เมลยกเหล้าขึ้นจิบไปอึกใหญ่ ก่อนจะถามถึงเลขาที่ที่ทำงานผม

“ก็ดี เป็นคนสวย ฉลาด ทำงานเก่ง เข้าใจอะไรง่าย” ผมตอบ มือก็ลูบเบาๆ ที่แขนของเมล โดยที่มือของมันก็ไล้วนอยู่บริเวณสีข้างที่ตอนนี้มีรอยสักอักษรรูนอยู่

“สวยด้วย?”

“อะฮะ”

“กูบอกแม่แล้วนะว่าให้หาธรรมดาๆ”

“ช่วยไม่ได้ ก็มีแต่คนสวยอยากทำงานกับกู”

“เอาเถอะ ก็อย่าให้เข้ากันดีเกินไป...”

“กลัวจะ...เข้าด้ายเข้าเข็มกันเหรอ หึหึ”

“ก็รู้นี่ว่ากูหมายถึงอะไร แต่ถ้ายังทำ กูก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว”

“หึหึ”

แค่เห็นสีหน้ามึงตอนนี้ กูก็ไม่คิดจะทำ หรือไม่ว่าจะตอนไหน ผมก็ไม่คิดทั้งนั้น ใครจะอยากเห็นเมลต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องงี่เง่าพรรค์นั้นกันวะ

“อย่านอกใจกูนะเท็น...เพราะถ้ามึงทำ กูต้องตายแน่ๆ”

“เชื่อใจกูได้...”

“ครับ ^_^”

“แต่กูยังไม่เชื่อใจมึงนะ กูยังเห็นมึงตอบไลน์พริมอยู่เลย”

“งั้น เอาไป” เมลหยิบเอาไอโฟนของมันที่วางอยู่ข้างแก้วเหล้ามาให้ผม “บล็อคได้เลย อยากบล็อคอยากลบคนไหน เอาตามใจเท็น โอเคมั้ย”

“ทำไมไม่ทำเอง”

“อยากให้แฟนทำให้”

“บ้า”

“บ้าตรงไหน ก็เวลาเห็นแฟนหึงแล้ว...กูรู้สึกดี ^^”

ผมกัดไหล่เมลไปแรงๆ หนึ่งที แต่มันก็ยังหัวเราะ ผมเลยรับไอโฟนจากมันมาแล้วจัดการบล็อคไลน์ของบุคคลไม่พึงประสงค์ทิ้ง พร้อมกับตั้งปฏิเสธสายกับเบอร์ที่เจ้าของมันไม่บริสุทธิ์ใจ ยกเว้นนาตาชาไว้คน เพราะยังไงซะ นาตาชาก็ไม่ได้คิดจะแย่งเมลไปจากผม เธอแค่รักเมลอยู่ในมุมเงียบๆ ของเธอก็แค่นั้น...

“โห อย่างนี้แลกมือถือกันใช้เลยดีมั้ยครับ”

“ไม่ดี เดี๋ยวกิ๊กกูโทรมาแล้วไม่ได้คุย”

เพียะ!

ผมหลบไม่ทันเลยโดนเมลดีดหน้าผากเข้าให้

“หึหึ ปากดีนัก ต้องเจอ”

“:-(”

“ว้า...เดี๋ยวพี่เจ๋งก็เอาข้าวผัดมาให้แล้ว อย่าหน้าบึ้งเลยนะครับที่รัก”

“กูหน้าบึ้งคนละเรื่องเหอะไอ้บ้า”

“อ้าว เหรอ ^^”

“ไอ้...”

“หืม ^^”

คำจำกัดความสำหรับเมลแล้ว มีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นล่ะ

กวนตีนมาก...

งี่เง่ามาก...

หล่อมาก...

แต่ผมก็...รักมาก -///-

เอ่อ...อันหลัง...เกี่ยวมั้ย?

...........................................To be continue........................................

:beat:  :z6: ลงโทษเท็น เท็นดื้อ

ช่วงนี้เค้าหยุดอ่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะ ประกาศหยุดเพราะเจอม็อบ ฮี่ๆๆๆๆๆ  :o8:

ได้มาต่อเมลเท็นแล้วววววววววว กลัวทุกคนจะเบื่อจังเพราะมันเรื่อยๆ มากกกกกกกกกกกกกก ยังไม่มีอะไรมาให้สะดุดเพราะอยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหน่อย อยากฟิน อยากอินเลิฟง่ะะะะะะะะ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นจ้าาาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-12-2013 20:11:46
เท็นสักมา 55555
เมลยั่วใหญ่ 555555
สองคนนี้หวานกันไปไหน
แล้วเต้แม็คจะรักกันเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 03-12-2013 20:14:41
โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยเมลเท็นน่ารักอ่ะงื้อออออออออออออออออ  :ling1: :ling1: :ling1:

เรื่อยๆอย่างนี้ไปจนจบเลยก็ได้นะคะ เราหนับหนุน  :hao5: :hao5:

ชอบเวลาเท็นอ้อนเมลที่สุด

โลกนี้มีเพียงเราสองจริงๆ สำหรับสองคนนี้ น่าร๊ากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 03-12-2013 20:18:12
รัก เท็น เมล

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-12-2013 20:25:53
เมลหึงเท็นที่ไปสักมา หวงจริงอะไรจริง
ก็เท็นมันน่าหวงนี่
เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันสวีทลืมเพื่อนทุกที
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 03-12-2013 20:38:35
สุดท้ายเมลก็ต้องยอมเท็น

รักเมล-เท็นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 03-12-2013 20:54:21
2คนนี้เวลาจู๋จี๋กันแล้วไม่สนใจใครเลย
โลกนี้มีเพียงเราเท่านั้น
ฮา  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 03-12-2013 21:27:47
เท็นดื้อมากกกกกกกกกก

เมลเหมือนจะเคืองๆ แต่ก็ยอมอ่ะ 55555

ปล.แบบเรื่อยๆ อ่ะดีแล้ว พายุไม่ต้องมานะ เอาแบบหวานๆ สวีทๆ เลยนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 03-12-2013 21:29:35
ชอบตอนนี้จัง น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 03-12-2013 21:47:39
 :กอด1: รักเมลว่ะ แย่งเท็นดีม่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 03-12-2013 22:24:35
หวานกันบ้าง หลังจากเครียดมาหลายตอน

แต่ก็ชอบนะ ปวดตับ กระตุ้นต่อมอยากอ่านดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 03-12-2013 23:22:53
น้องเท็นเบาๆหน่อยนะ 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 04-12-2013 03:42:21
เมลเท็นน่ารักขึ้นทุกวันนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-12-2013 05:29:49
ปากบอกให้ลบแค่ก็ชอบรอยสัของเท็นเท็นใช่ไหมล่ะเมล
ตอนนี้น่ารักอ่ะ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 04-12-2013 09:28:58
ตอนนี้น้ำตาลท่วมเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 04-12-2013 09:37:45
ให้คู่นี้หวานต่อไปอีกหน่อย
แปลว่าต่อไปจะมีมาม่าใช่ป่าว
ม่ายยยยยยยน้า  :ling1:

อยากอ่านมายด์ฟิวอ่ะ
ที่เห็นตอนนี้คือฟิวเริ่มใจอ่อนแล้วใช่มั้ย
อยากรู้ว่ามายด์ทำไง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 04-12-2013 11:08:42
อ๊ากกกกกกก น่ารักมากเลย :o8:

เท็นเท็นนี่ดื้อจรงๆนะ ไม่ฟังเมลบ้างล่ะเอ้อ
ส่วนเมลของเรา(?) ก็หล่ออออออมาก
หล่อตลอดเวลาเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: sulsul ที่ 04-12-2013 12:39:58
เย้ๆๆ ดีกันแล้ววว
แต่เท็นก็ยังเสมอต้นเสมอปลายนะ เรื่องเอาแต่ใจตัวเองนี่ 555
เปิดมาเจอ เต้ มี งงเลยยย ต้องมาอ่านตอนท้ายถึงจะเก็ต
แต่ก็ยังอึมคึมคะ เต้ แม็ค หึหึ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 04-12-2013 12:49:44
ชอบอ่านที่ไอ้สองคนนี้มันงุ๊งงิ๊งกันสองคนจัง
น่ารักที่สุด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 04-12-2013 14:13:13
งื้อออออ น่ารักอ่า  :man1: :man1:
เท็นเท็นดื้อๆๆๆให้เมลจับฟัดเลย
 อ่านไปยิ้มไป  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 04-12-2013 17:00:10
 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 04-12-2013 23:33:37


หืมมมมมมมมม  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 05-12-2013 17:26:48
คู่นี้หวานมดขึ้น แต่เรื่องเหมือนโดดมาม่าไป อยากรู้ว่าพ่อแม่เมลรับได้ไหมแฟนคุณลูก


ปล  ขอตอนพิเศษเต้มีหน่อย อึมครึมนะอยากให้รู้ตัวรู้ใจไวๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 05-12-2013 21:29:57
แอร๊ยยยยยย  รู้สึกความหวานจะเพิ่มขึ้นนะ  :m3:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 06-12-2013 00:37:27
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ เรื่องนี้ตัวละครกลมดีอ่ะ รอตอนต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-12-2013 13:22:56
หวานจรมดเป็นแอลกอฮอลิซึ่มแล้ว เท็นเท็น-เมล

เตเต้ ทำร้ายจิตใจ มี ทำไม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-12-2013 17:14:28
รอตอนต่อไป  :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 06-12-2013 23:56:35
คู่นี้หวานก้นจริง ฟินไปเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 07-12-2013 16:13:59
ก็ยังคงความน่ารัก

ง้องอนกันตลอด :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-12-2013 06:23:34
โอยอิสองคนนี้ยยยยยย

หมั่นไส้  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้ พิสุทธิ์ CH.2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 12-12-2013 19:17:03
Special: เต้ พิสุทธิ์ CH2.

“ไอ้เท็นเป็นไงมั่ง มันหายบ้ารึยัง” ผมตัดสินใจถามเมื่อเจอหน้าไอ้ฟิวที่เดินเคียงคู่มากับไอ้กัส แต่เมื่อเห็นหน้าเหนื่อยใจของพวกมันแล้วก็คงไม่มีคำตอบอื่นนอกไปจาก

“ยัง”

“มันไม่มาเรียนเลยแบบนี้มีสิทธิ์รีไทร์ได้เลยนะเว้ย แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนอ่ะ” คนที่นั่งข้างๆ ผมถามขึ้นอีกคน มีเป็นเท็น FC ตัวพ่อเลยครับ ไม่ว่าไอ้เท็นจะทำเหี้ยไรก็ดูดีไปซะหมด มันชอบเพ้อให้ผมฟังบ่อยๆ ว่าไอ้เท็นแม่งเทพ เหนือมนุษย์ สุดจะพรรณนาถึง -_-

“มันกำลังตามหาแรงบันดาลใจอยู่แถวภาคเหนือ แต่ต่อให้มันอยู่กรุงเทพก็ไม่เข้าเรียนอยู่ดี พวกมึงไม่ต้องไปกังวลอะไรมากหรอก เหี้ยนี่เอาตัวรอดได้ทุกครั้งแหละ เดี๋ยวมันพอใจมันก็กลับมาเอง” ไอ้ฟิวต่อให้จะบอกพวกผมอย่างนั้นแต่มันก็ยังทำหน้ากังวลไม่หาย

“มันบอกกูก่อนไปว่าอยู่ในช่วงจำศีล คล้ายๆ กับคอมพิวเตอร์ที่เข้าโหมด sleep เพื่อประหยัดพลังงานน่ะ มันบอกว่าถึงจะเป็นชีวิตมันมันก็ไม่ได้อยากเป็นตัวละครหลักหรอก มันอยากเป็นแค่คนที่นั่งมองเรื่องราวเฉยๆ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนั้นกูเมา กูเลยไม่เข้าใจ” ไอ้เต๋อคาบปลาเส้นไว้ในปากพร้อมกับสาธยาย

“ตอนนี้กูไม่เมานะ แต่กูก็ไม่เข้าใจ” ไอ้คิมทำหน้าละเหี่ยใจพร้อมกับแย่งปลาเส้นจากไอ้เต๋อมากิน

อึ๋ยยย ผมแอบเห็นไอ้เต๋อทำตกด้วยนะของที่มันกินอยู่น่ะ -_-

“ช่างมันเถอะ ปล่อยไอ้เท็นไปตามยถากรรมของมัน ส่วนพวกเรามาปรึกษาเรื่องรายงานกันต่อ คราวนี้อาจารย์ให้แบ่งสามคนก็ได้ สองคนก็ได้ เพราะฉะนั้น กูได้แบ่งกลุ่มตามอุปนิสัยของพวกมึงแล้ว เหี้ยเท็นยังไงก็ต้องเอาชื่อใส่กลุ่มกู กูเลยมีสาม พวกมึงก็แบ่งสองๆ ไปละกัน ไอ้คิมกับไอ้แม็ค ไอ้เต้กับไอ้เต๋อ”

ไอ้ฟิวเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่องรอบตัวมัน มันมีคุณสมบัติความเป็นแม่อยู่ในตัว (เพราะแม่งชอบสั่ง) แต่ทุกครั้งเวลามันแบ่งกลุ่มมักจะไม่เคยได้ตรงตามความต้องการเลยสักครั้ง เพราะ...

“กูอยู่กับไอ้เต้เอง บ้านกูกับมันใกล้กัน สะดวกกว่าไอ้ห่าเต๋อที่อยู่ไกลกันประมาณกรุงเทพกับประเทศเพื่อนบ้าน”

“บ้านกูไม่ได้อยู่พม่าไอ้ห่าแม็ค”

“โหะ แต่หน้ามึงนี่ได้เลยนะ ฮ่าๆๆๆ”

“เชียะ! กูจะอยู่กับไอ้เต้ มึงอยู่กับไอ้คิมเลย!”

มีแต่ไอ้เท็นเท่านั้นที่สั่งไอ้เต๋อได้ กับมีนี่เป็นคู่กัดกันแย่งผมกันเลยทีเดียว ไอ้เต๋อมันก็รู้นะ แต่แม่งชอบแกล้งมีอยู่เรื่อย

“งั้นพวกมึงอยู่กันไปสามคน กูไปหาคนอื่นอยู่ก็ได้วะ” สุดท้ายเป็นไอ้คิมเองที่ออกอาการงอนให้เพื่อนๆ ได้ทำหน้าสยองกัน

“เพราะมึงเลยไอ้แม็ค ไอ้คิมมันถึงน้อยใจคิดว่าเพื่อนไม่รัก”

“มึงนี่ไม่ผิดเลยนะ ไอ้ประเสริฐ ไอ้เลิศเลอ”

“พอๆ ไม่ต้องเถียงกัน สรุปไอ้คิมอยู่กับไอ้เต๋อไปละกัน” ไอ้กัสตัดบทแล้วก็ลงมือเขียนรายชื่อเตรียมส่งอาจารย์ เลยไม่มีใครพูดขัดอะไรขึ้นมาอีก

พวกผมนั่งโม้นั่งมองสาวไปตามปกติโดยมีไอ้ฟิวนั่งอ่านหนังสือและไอ้กัสฟุบหลับ เหมือนเป็นภาพที่เคยชินไปแล้วสำหรับชีวิตผม ถ้ามีไอ้เท็นมานั่งวางท่าเป็นราชาของจักรวาลอีกคนนี่ภาพจะสมบูรณ์เลยทีเดียว

“แม็คๆ มึงว่าคนนั้นเป็นไงวะ แจ่มมะๆ” ไอ้คิมตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อมันจับเรดาร์ได้ ผมเลยหันไปดูตามสายตาของมันด้วย

อ๋อ...มินนี่ อักษร ก็ถือว่าแจ่มในระดับหนึ่ง ผมเคยควงอยู่สักพัก แต่พอมีรู้เข้าก็โบกมือลากันไป

“ก็ดี สวย ถามไอ้เต้สิว่าเป็นยังไง เด็กเก่ามัน” มีตอบเรียบๆ ในขณะที่ไอ้คิมทำหน้าเสียดายโดยไม่ปิดบัง

ได้ข่าวว่ามึงมีแฟนอยู่แล้วนะครับเพื่อน

“ไอ้ห่าเต้แม่งงงเจ้าชู้ว่ะ กูจะเคลมคนไหนก็เป็นเด็กเก่ามึงทั้งนั้น แย่ๆๆๆๆๆ”

ก็แย่อย่างที่มันว่า เพราะเด็กเก่าผมส่วนใหญ่ก็เคยควงกับไอ้เมลเดือนมหาลัยที่เดี๋ยวนี้เห็นไปไหนมาไหนกับไอ้เท็นบ่อยๆ เหมือนกัน ดีนะที่ไอ้หมอนั่นมันไม่คิดว่าผมไปทับเส้น ไม่งั้นล่ะก็ได้มีเรื่องกันเพราะผู้หญิงแน่

“มึงจะเคลมใครนี่ขออนุญาตพี่ต่ายมึงรึยัง”

“อย่าพูดชื่อนี้!! เล่นไม่ดีนะมึง ชื่อเมียเป็นชื่อต้องห้าม โฮะๆ ว่าแต่เด็กมึงมีใครบ้างเนี่ย คบแต่ละทีไม่เคยพามาเปิดตัวกับเพื่อนเลยนะ”

ผมไม่ใช่อยากปิดเพื่อน แต่เพราะเพื่อนบางคนในนี้มันไม่สมควรรู้ต่างหากถึงเลือกตัดปัญหาด้วยการไม่พามาดีกว่า เพราะยังไงก็คบไม่นานอยู่แล้ว

“ก็ไม่ได้จริงจัง พามาทำไมให้เสียเวลา ไปแดกข้าวกันเถอะว่ะ กูหิว” ผมบอกก่อนจะดึงแขนมีให้ลุกตาม มันสะบัดแขนออกจากมือผมเล็กน้อย แต่เพราะผมไม่ยอมปล่อย มันเลยทำได้แค่ทำหน้าไม่พอใจใส่

“อย่ากัดกันน่าพวกมึง มีไรไปเคลียร์กันที่บ้านนะจ้ะ” ไอ้เต๋อโผล่เข้ามาแทรกกลางก่อนจะปัดมือผมออกจากแขนมีและจากนั้นมันก็เดินกอดคอมีไปเนียนๆ

อย่าให้ถึงทีกูนะไอ้เหี้ยเต๋อ... -_-

.
.
.

“อาส์....มี...มี...”

เพราะน้ำขาวขุ่นที่เลอะใบหน้าใสและปากแดงๆ ที่ยังปิดสนิท ผมถึงได้รีบไปหาทิชชู่มาเช็ดให้คนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวมากว่าชั่วโมงแล้ว

นี่...ผมกำลังทำอะไร...ทำเรื่องน่าอายอย่างนี้ลงไปได้ยังไง หรือเพราะมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้...

ช่วยไม่ได้ที่ดันตื่นขึ้นมาแล้วเจอมีนอนอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งพาดเอวผม ใบหน้าก็อยู่ใกล้มากจนผมอดใจไม่ไหว ...ไม่ได้ถือว่าเป็นการลักหลับใช่ไหม ก็ผมแค่...ช่วยตัวเองเท่านั้น

มีไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็ก มันสูงกว่าไอ้เท็นนิดหน่อยเลยโดนไอ้เท็นว่าบ่อยๆ ว่าถึก (ไอ้เท็นเรียกทุกคนที่สูงกว่ามันแม้จะหนึ่งเซ็นว่าถึกหมดนั่นแหละ -_-) โครงหน้าไม่ได้สวยหวาน แต่ก็มองนานๆ ได้ไม่เคยเบื่อ เนื้อตัวไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิง ก็ปกติของผู้ชายทั่วๆ ไป แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงอยากสัมผัสมัน อยากรู้ว่าถ้าได้จูบกับริมฝีปากนี้จะเป็นยังไง อยากรู้ว่าถ้าได้สัมผัสไปทั่วทั้งตัว...จะรู้สึกดีแค่ไหน

ผมก็แค่...

“อืออออ เตเต้...ทำไม...ไม่ใส่เสื้อผ้า”

เพราะผมเช็ดแรงไปเหรอ มีถึงได้ตื่นมาทำหน้าแดงใส่ผมอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ชั่วโมงกว่าๆ ที่ผ่านมา ผมทั้งจูบ ทั้งไซ้ไปทั่วตัวมัน มันยังไม่รู้สึก -_-

“ร้อน”

“อือ”

“แล้วมานอนอยู่นี่ได้ยังไง ใครอนุญาตให้ขึ้นมา”

“ก็มาชวนทำรายงาน คุณน้าบอกให้ขึ้นมาได้ เลยขึ้นมา แล้วก็ง่วง ก็แค่นอน...”

“คราวหน้าให้เตยมาเรียก มึงไม่ต้องขึ้นมา”

“ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงมาไม่ได้ เมื่อก่อนยังมาได้เลย”

เพราะถ้ามึงมา กูก็จะทำอะไรบ้าๆ แบบที่ทำไปเมื่อกี้ไง

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ อย่าเซ้าซี้น่า มันน่ารำคาญ”

“ขอโทษ”

ผมไม่อยากมองหน้าเศร้าๆ ของมัน เลยลุกมาหากางเกงใส่ ก่อนจะหาผ้าขนหนูเอาไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้มัน

หน้าไม่เลอะแล้วก็จริง แต่คงได้กลิ่นคาวอยู่ล่ะครับ -_-

แต่ไม่ง่ายเลยจริงๆ นะ กับการที่ต้องมาจ้องตากับมีในระยะประชิดอย่างนี้ มีที่อยู่บนตักผมหน้าแดงนิดๆ แต่ก็อยู่นิ่งๆ ปล่อยให้ผมเช็ดหน้าให้ มันไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะเวลามันตื่นผมก็ทำอย่างนี้ให้อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ คงไม่รู้ถึงขนาดว่าผมตั้งใจเช็ดอะไรออกไปหรอก

“อื้ออออ เจ็บ” เพราะผมเผลอเช็ดปากมันแรงไป ถึงได้โดนทุบอกประท้วง แต่ถ้าไม่เช็ดแรงๆ ผมจะอดใจไม่ก้มลงจูบมันไหวได้ยังไง

“เตเต้ หน้ามีจะถลอกหมดแล้ว โกรธอะไรนักหนา”

“อยู่นิ่งๆ”

“ทำไมต้องดุตลอด มีน่ารำคาญมากเหรอ”

“เออ น่ารำคาญ”

“ขอโทษที่ทำให้รำคาญ”

“รู้ตัวแล้วทำไมยังมาวุ่นวายกับกู”

“ก็มีอยากอยู่กับเตเต้”

“ไม่...” ผมเห็นสายตาของมันแล้วก็หยุดพูดไปซะอย่างนั้น...

ทำไม...ถึงไม่เข้าใจว่าผมกำลังอดทนกับอะไร

พ่อแม่พวกเราจะคิดยังไง...ถ้าวันหนึ่งผมบอกพวกท่านว่าอยากคบกับมี

มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว...เพราะอย่างนั้นผมถึงต้องใจร้ายกับมัน

“เตเต้รักคนอื่นแล้วเหรอ ถึงได้ไม่อยากให้มีอยู่ข้างๆ”

“....”

“นาวใช่มั้ย”

“เลิกไปแล้ว...”

“งั้นใคร...”

“พอแล้ว! นี่มันเรื่องส่วนตัว”

“ขอโทษ”

ทำไมมีต้องเอาแต่ขอโทษผม คำขอโทษของมันทำให้ผมรู้สึกผิดทุกครั้ง ทั้งๆ ที่มันนั่นแหละผิด มันผิดที่ทำให้ผม...รักมันมากขนาดนี้

“มี อยู่นิ่งๆ”

ด้วยเพราะผมใส่แต่บ๊อกเซอร์ พอโดนเสียดสีจากคนบนตักเข้าหน่อยก็เริ่มรู้สึก แถมไอ้ตัวดีมันก็ไม่ยอมนั่งนิ่งเลย

“เตเต้บอกมาสิว่าไม่อยากให้มีอยู่ข้างๆ ไม่อยากเห็นหน้ากันอีก แล้วมีจะไม่มากวนเตเต้อีกเลย” เป็นครั้งแรกที่มีพูดกับผมอย่างนี้ มีเป็นคนพูดจริงทำจริงมาแต่ไหนแต่ไร แล้วแค่ผมพูดออกไป ทุกอย่างก็จะจบ

แค่ผมพูดออกไป...มีก็จะไม่มาหาผมอีก ก็แค่...

“รู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไร” ผมเลือกที่จะไม่ตอบ..

“รู้”

“ลุกออกไป”

“ไม่ จนกว่าเตเต้จะพูดอะไรให้มันชัดเจนซะที”

มีเอาขาเกี่ยวกับเอวผมไว้แน่น แขนก็โอบรัดตัวผมไว้ไม่ยอมห่าง ผมผลักมันออกแรงๆ ไม่ได้เพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเจ็บ แต่ผมก็จะแย่เหมือนกันถ้าขืนมันยังทำอย่างนี้

“มี อย่าดื้อกับเต้นะ ลุกออกไป”

“มีรู้นะว่าเตเต้ทำอะไร...มีตื่นตั้งนานแล้ว”

ผมนิ่งไปพักใหญ่ เลยเป็นโอกาสให้มีเริ่มทำบ้าๆ เหมือนเด็กที่ยังไม่ประสา แต่ไม่รู้ทำไมปลุกอารมณ์ผมได้ดีทีเดียว

“ให้มีทำให้นะ...”

“ไม่...พอแล้วมี...เราเป็นเพื่อนกัน จำไม่ได้...”

“จำได้ แต่ไม่อยากเป็น เตเต้ก็ไม่อยากเป็นไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคงไม่ทำอย่างนั้นกับมี”

“ก็แค่...”

“ไม่อยากฟังข้ออ้าง...มีรู้สึกยังไงเตเต้ก็รู้ ทำไมถึงไม่ยอมรับซะที”

แล้วทำไมถึงไม่ยอมเข้าใจว่าผมทำไปเพราะอะไร มันจะเป็นยังไงถ้าเราคบกัน พ่อกับแม่จะผิดหวังแค่ไหนที่เราสองคนลงเอยอย่างนี้ ผมไม่อยากเห็นมีต้องร้องไห้เพราะเรื่องของเรา ไม่อยากเห็นมีต้องเจ็บปวดกับความรักที่ไม่มีใครยอมรับ...

“เตเต้ มีรัก...อื้ออออออออออ”

ถ้าผมได้ยินคำว่ารักจากมัน ความอดทนของผมคงหมดลงแน่ แต่ผมคิดถูกมั้ยวะที่ปิดปากมันด้วยวิธีนี้

จินตนาการว่าได้จูบมีเป็นพันๆ ครั้ง ยังไม่รู้สึกดีเท่ากับการที่ผมได้จูบมีจริงๆ ....ความรู้สึกท่วมท้นในใจนี่มันคืออะไร...

“ตะ..เต้ อื้อออออออ หะ..หายใจไม่ทัน อื้ออออออ เตเต้ หยุดก่อน”

แค่เห็นแก้มแดงๆ ของมีผมก็อดใจแทบไม่ไหว น้ำใสๆ ที่ไหลออกจากมุมปากผมก็ก้มลงไปดูดซับจนหมด มีทุบอกผมประท้วงเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ผลักออก

“ห่วย” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะเริ่มจูบมีอีกครั้ง เนิ่นนาน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอ

“หึ แค่นี้ก็ไม่ไหว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวมันคนที่ปากเจ่อแก้มแดงเบาๆ มันก็ถูจมูกลงกับหน้าอกผม ก่อนจะครางรับยังไม่พอใจ

“เด็กอย่างมึงเอาแค่นี้ไปก่อน คิดจะทำให้กูยังเร็วไป”

“ปากเจ่อเลย”

“สมน้ำหน้า แล้วมือน่ะอยู่นิ่งๆ รู้มั้ยว่ากำลังจับอะไร”

มีไม่ตอบ แต่แก้มแดงซะจนผมต้องก้มลงไปกัด

“มี อยากให้กูโกรธจริงๆ ใช่มั้ย”

“ก็อยากทำให้”

“ไม่ต้อง กูจัดการเองได้ ลงไปรอข้างล่างไป”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ ลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวกูตามลงไป”

ผมจูบหน้าผากมันไปหนึ่งที มีถึงว่าง่าย ก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มผมแล้ววิ่งออกจากห้องไป

เฮ้อ...เกือบไปแล้ว

กว่าผมจะจัดการธุระตัวเองเสร็จก็นานอยู่เหมือนกัน เพราะเพิ่งจูบกับมีมาหมาดๆ เลยทำให้จินตนาการของผมไม่หยุดสักที น้องชายก็เลยไม่ยอมหยุดตามไปด้วย ออกจากห้องน้ำได้ก็แขนแทบล้าแล้ว

“เตเต้ ทำไมนานจัง มีหิวข้าว”

ยังมาถาม เพราะมึงนั่นแหละ เพราะมึงงงง -_-

“เตยก็หิว รอพี่เต้คนเดียวเลยเนี่ยยยย พี่มีจ๋า เตยอยากกินราดหน้าอ่ะ เราทำกินกันมั้ย”

“ไอเดียดี งั้นไปตลาดกัน เตเต้ ขับรถให้ด้วย”

“ครับๆ ตามนั้นครับพวกคุณ”

ยังไงซะ สำหรับผมแล้ว...การไม่มีมันอยู่ในชีวิต ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจมากกว่า...

................................................To be continue..........................................

ห้ามงงนะห้ามงง ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก เอามาคั่นเฉยๆ

มาช้ามากๆ ขอโทษนะคะ ยังอยากอ่านเมลเท็นอยู่มั้ยคะขาประจำทั้งหลาย แหะๆ ยังมีอีกหลายมุมของเท็นที่ท่านผู้อ่านยังไม่รู้จัก มีอีกหลายมุมของเมลที่จะทำให้ทุกคนหลงรักแบบโงหัวไม่ขึ้น (จริงเหรอ?)

วันนี้มาแค่นี้ วันอาจจะมานะคะ ถ้าปั่นทัน เดือนนี้วุ่นๆ ค่ะ ใกล้สิ้นปี แหะๆ

รักและคิดถึง :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ  :pig4:

 :pig2: ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ (หวังว่าจะมี 555)  :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-12-2013 19:56:10
มีอ้อนเตเต้จังเลยนะ
จะรักกันทั้งทีก็มีเรื่องครอบครัวมาทำให้คิดหนัก
กว่าจะได้รักกัน มันไม่ง่าย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-12-2013 20:29:24
มีอ้อนน่ารัก แอบไวไฟด้วย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 12-12-2013 20:40:05
แหมมมมมมมมมมมมม่

เตเต้กับมีจะน่ารักไปแล้ววว  :hao6: :hao6:

คิดถึงเมลเท็นแล้วน้าาาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 12-12-2013 21:44:13
เตเต้กับมีน่ารักอ่ะ  :impress2:

ปล.อยากอ่านเมลเท็นนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: mahaki ที่ 12-12-2013 23:38:47
อ่านตอนแรกๆก็ขัดใจเท็นนะติสเกินแต่พอหลังจากตอนที่มียัยพลินโผล่มาแล้วเริ่มไม่ชอบใจเมลแทน :angry2: ไม่ชัดเจนอะไรซักอย่าง พอถึงเวลาหนึ่งก็ทำตัวเหมือนเท็นไม่ค่อยมีความหมายแล้วก็ทะเลาะกันแล้วตัวเองก็กลับมาง้อพอคืนดีกันก็กลับไปทำอย่างเดิมใหม่ :katai1: เราว่าตอนแรกๆที่เท็นทำให้เมลเจ็บนี่มันดูจะไม่เท่าที่เมลทำเลยนะเพราะอย่างน้อยเท็นก็ทำแค่ครั้งเดียวพอแก้ไขแล้วก็ไม่กลับไปทำอีกแต่เมลแก้แล้วแก้อีกจนเรายังคิดว่าเท็นใจอ่อนง่ายเกินไปมากเลย  :เฮ้อ: แล้วไอสำนวนว่าเขาดีมาเราก็ควรดีตอบตลอดนี่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เท็นต้องตอกกลับแบบนี้บ้างจัง อยากรู้ว่าถ้าเมลได้ยินแล้วยังจะคิดแบบนี้อยู่อีกไหม :angry2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-12-2013 07:51:10
ขอบคุณ  :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 13-12-2013 11:19:12
มีน่ารักมากๆเวลาอยู่ที่เตเต้ตามลำพัง มีทางไหนที่คู่นี้จะลงเอยด้วยดีซักที

รอเท็นเท็นกะเมลอยู่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-12-2013 12:33:06
เค้าตามมาอ่านตอนที่พลาดดดดด คริคริ

คิดถึงสุด ๆ เท็นยคงเส้นคงวาเหมือนเดิม ชีวิตเป็นของเราเจง ๆ

อ่านแล้วอยากสักตามเลยล่ะ 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 13-12-2013 13:40:43
คิดถึงเดอะเท็นกับคาราเมลแล้ว อัพอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 13-12-2013 21:06:07
มีน่ารักอ้อนเต้ด้วยยยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 14-12-2013 18:57:08
สู้ๆนะมีมี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special เต้+แม็ค Ch2 : 12-12-2013 (Page.28)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 14-12-2013 19:22:49
น่ารักจังงงง
น้องมีกับพี่เต้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-12-2013 00:45:29
ตอนที่ 36

ในขณะที่คุณกำลังหลับตา ถ้าคนที่คุณกำลังคิดถึงมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าคุณทันทีที่คุณลืมตา นั่นก็หมายความว่า...เขากำลังคิดถึงคุณเช่นกัน

มันก็แค่...ความคิดของคนเขียนบทความคนหนึ่งที่ผมอ่านเจอ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เชื่อนะ ^^

“ว้า...นึกว่าใคร คิดถึงกูอยู่เหรอ ^^” ผมถามคนที่ในมือถือหนังสือเล่มหนาและกำลังมองหน้าผมอย่างสงสัย

“อาการกำเริบเหรอ กูบอกแล้วให้กินยาๆ ก็ไม่เชื่อ -_-“ ดูปากมันนะ น่าถีบจริงๆ

“ไอ้ห่าเมล”

“ฮ่าๆๆๆ ก็จริงอ่ะ คุยกันอยู่ดีๆ แม่งหลับตาเฉย พอลืมตาขึ้นมาก็ตั้งคำถามแปลกๆ”

“มึงไม่เข้าใจหรอกว่ะ มึงไม่ใช่สไตล์เดียวกับกู”

“ครับๆ กูดีใจครับที่ไม่ใช่สไตล์เดียวกับมึง แล้วนี่เอาแสตมป์เยอะแยะนี่มาจากไหน”

“กูไปไถไอ้แม็คกับไอ้ฟิวมา”

“เพื่อ?”

“อยากได้ของอ่ะ”

เมลทำหน้าเอือมๆ ก่อนจะกวาดตามองสมุดสะสมแสตมป์ที่ผมหยิบของไอ้ฟิวกับไอ้แม็คมาแบบไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ เอาจริงๆ คือพวกมันไม่รู้หรอกว่าแสตมป์เซเว่นที่พวกมันสะสมหายไป

“มึงนี่ อยู่เฉยๆ ไม่ไปแกล้งพวกมันจะได้มั้ยเนี่ย”

“ไม่ได้อ่ะ กูไม่มีอะไรทำ”

“เออนะ เจริญจริงๆ เดี๋ยวฟิวกับไอ้แม็คได้มาโวยวายใส่กูอีก ไหน ของอะไรที่อยากได้”

“กล่องนี่กับโต๊ะนี่อ่ะ”

“เอาแบบนี้ป่ะ เดี๋ยวกูซื้อให้ แต่ต้องเอาแสตมป์ไปคืนพวกมัน”

“มันไม่เหมือนกันอ่ะเมล มึงเข้าใจฟิลลิ่งการสะสมแสตมป์แล้วไปแลกเป็นของป่ะ มันแบบ ไม่เหมือนของที่ซื้ออ่ะ”

“แต่นี่มึงก็ไม่ได้สะสมเองนะ ยังไงก็ไม่ได้ฟิลอะไรอยู่แล้ว เอาไปคืนเถอะน่า”

“ไม่”

“-_- คนที่ซวยอ่ะกู ถ้ารักกู อย่าทำกูลำบาก”

“มึงก็เว่อไปนะเมล เดี๋ยวกูมา ไปเซเว่นแป๊บ”

“ดูนะ ดื้อไม่ฟังกูเลย แม่สอนมาว่าไงห้ะ”

ทั้งแม่ผมและคุณแม่เจนฟังความข้างเดียวจากเมลประจำอ่ะ ความจริงผมก็ไม่ได้ดื้ออะไรเลยนะ โตแล้ว คิดได้ ใช้ชีวิตเป็น -_-

“ไม่ฟังไม่สน เก็ทมั้ย”

“เออๆ งั้นซื้อกาแฟมาให้กูด้วยละกัน”

“โอเค ไปละ”

ผมเดินอ้อมโซฟาไปหาเมล ก้มลงจูบหน้าผากมันหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องมา

ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด

โอ๊ะ ไอ้ฟิวโทรมา รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างมาตามสายเลยแฮะ

(เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน)

“โอ้ สวัสดีตอนเช้ามายเฟรนด์”

(มึงงงงไอ้เลวววววววว แสตมป์เซเว่นกูหายไปไหน!!!! สมุดสะสมสิบห้าเล่มของกูหายไปจากเซฟ!! มึงใช่มั้ยที่เอาไป ห้ะ! ไอ้โจรชั่ว!)

“ใส่ร้ายกูอ่ะ”

(มีแต่มึงกับกูที่รู้รหัสเซฟ อย่ามาเนียนไอ้เท็น ไอ้กัสบอกว่าเห็นมึงมาที่บ้านเมื่อคืน เอามาคืนกูเลยนะ ไอ้ห่า กูเก็บมาหลายเดือน เอาคืนมาาาาาาาาาา!!)

“กูไม่ได้ขโมยนะ มันอยู่ในตู้เซฟกูก็เป็นของกูสิ ใครใช้ให้มึงเอามาใส่ไว้ล่ะ หือออออ”

(กูแค่ฝากไว้เฉยๆ เว้ยยยยย!! เอาของกูคืนมานะ)

“อยากได้คืนจริงง่ะ?”

(มึงไม่ต้องมาทำเสียงแอ๊บแบ๊วกวนตีน มันไม่เข้ากับหน้ามึงไอ้เท็น)

“งั้น...กูทิ้ง”

(เดี๋ยวๆๆๆ โอเคๆๆ มึงต้องการอะไร กรุณาอธิบายและเอาของของกูมาคืนด้วย!)

“ก็ไม่อะไรมาก แค่ไปดูตัวแทนกูหน่อย แค่นั้นแหละ”

(ห้ะ! มึงว่าไงนะ!)

“ก็อย่างที่บอกไป ป๋ากูแม่งเริ่มวุ่นวายละ เรื่องนี้แม่ไม่รู้ด้วย เอาเป็นว่าดูตัววันเสาร์หน้ามึงไปแทนกูละกัน คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ผัวน่ารักกว่าตัวเองหรอก หึหึ”

ผมจะไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้ แต่ผมยังหวังผลประโยชน์ระยะยาวกับป๋าอยู่ล่ะนะ ขัดใจป๋าคงไม่ใช่เรื่องดีตอนนี้

(ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ กูไม่ไปเด็ดขาด)

“มึงไม่เสียดายแสตมป์ที่สู้อุตส่าห์เก็บสะสมมาหลายเดือนจริงอ่ะ? ไม่เอาจริงๆ น่ะเหรอ? หืมมมม”

(มึงนี่มัน...)

“เอาน่ะ แค่ไปบอกปฏิเสธฝ่ายหญิงให้กูแค่นั้น แล้วมึงจะได้สมุดของมึงคืนไปครึ่งหนึ่ง”

(เฮ้ย! ทั้งหมดสิวะ)

“ไม่ได้ กูก็อยากได้ของเหมือนกันนะ”

(แล้วทำไมมึงไม่เก็บเองเล่า!)

“ก็ไม่รู้สิ”

(กวนตีนมากเหี้ยเท็น มึงเอาของกูคืนมาให้หมดเลยนะ แล้วกูจะไปไถของไอ้เต๋อมาให้ โอเคมั้ย)

“ยังไงก็ได้ ให้กูได้กล่องครบสิบกล่องเป็นพอ แค่ของไอ้แม็คที่กูได้มาก็ได้แค่สามกล่อง”

(นี่ไอ้แม็คก็โดน? โหยยย ไอ้ชั่ววววววว!!)

ผมตัดสายหลังจากปล่อยให้ไอ้ฟิวด่าว่าไอ้ชั่วอยู่หลายนาที ความจริงผมก็ไม่อยากได้อะไรมากหรอก เห็นไอ้แม็คกับไอ้ฟิวมันซึมๆ เลยอยากเพิ่มสีสันให้ชีวิตพวกมันแค่นั้น จริงๆ นะ เชื่อเถอะ ^^

หลังจากเดินสำรวจของในเซเว่นแล้วหยิบขนมใส่ตระกร้าได้สักพักใหญ่ผมก็จ่ายเงินและเดินไปร้านประจำใต้คอนโดเพื่อซื้อกาแฟให้เมล แต่ใครๆ ก็รู้ว่าโลกนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ผมเลยซื้อนมปั่นสองแก้วกับเค้กอีกสองชิ้นแทน

“ดีจริงแฟนกู สั่งกาแฟแต่ไม่เคยได้กาแฟ -_-“

“แล้วจะให้ทิ้งมั้ย”

“เสียดายของน่า แล้วนี่ทำไมไปนาน ไม่ใช่ไปขายขนมจีบให้ลูกป้าเจ็งอีกล่ะ”

ป้าเจ็งคือป้าเจ้าของร้านซักรีดใต้คอนโดนี่เอง แล้วลูกสาวป้าก็เป็นเด็กมัธยมตัวเล็กน่ารัก ตอนแรกผมก็ไม่รู้จักหรอก แต่เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาน้องหมวยเอากล่องดนตรีมาให้ผมด้วยท่าทางเขินจัดโดยมีเมลจ้องเขม็งตาไม่กระพริบ นั่นล่ะถึงเป็นจุดที่ทำให้เมลคิดว่าผมไปขายขนมจีบให้น้องหมวย -_-

ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ผมน่ะ อยู่เฉยๆ ก็มีผู้หญิงมาแอบชอบ ไม่เห็นต้องไปจีบให้เสียเวลาเลยนี่หว่า

“เมลอ่า กูเบื่อ ขอไปเที่ยวสักอาทิตย์หนึ่งได้ป่ะ”

ผมคิดมาได้สักพักแล้วว่าอยากออกไปตามหาความฝันของตัวเอง ผมคิดจริงๆ นะว่าถ้ายังล่องลอยอยู่แบบนี้ ผมจะตายไปแบบไร้ค่ามาก ตายไปทั้งๆ อย่างนี้คงไม่มีใครจดจำผมได้แน่ เฮ้อ

“จะไปไหนล่ะ แล้วงานสอนที่รับปากแม่ไว้ จะทำยังไง”

“ก็นั่นแหละปัญหา กูไม่น่าเอาเชือกมาผูกตัวเองเลยเนี่ย”

“หึหึ มานี่มา ปล่อยให้อยู่เงียบๆ คนเดียวทีไร แม่งฟุ้งซ่านทุกที”

ผมเดินไปตามมือที่กวักเรียก ก่อนจะนั่งลงบนตักของเมล มันวางหนังสือที่กำลังอ่านอยู่แล้วโอบรอบเอวผมไว้

“เมื่อกี้ฟิวกับไอ้แม็คโทรมาถามเรื่องสมุดสะสมแสตมป์ คงอยากแน่ใจว่าอยู่ที่มึงนั่นแหละ กูเลยบอกว่าให้โทรถามมึงเอง”

“อือ ไอ้ฟิวโทรมาแล้ว แต่ไอ้แม็คยัง”

“คงกำลังคิดหาคำด่าเจ๋งๆ อยู่มั้ง”

ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ไอ้พวกนี้อ่ะแปลก เวลาโดนผมแกล้ง เมลเป็นคนแรกที่พวกมันจะโจมตี แต่พอแน่ใจว่ายังไงเมลก็ไม่จัดการผมนั่นแหละ พวกมันถึงจะกล้ามาคุกคาม ฮ่าๆๆๆ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรนะ พวกมันกลัวกันไปเองมากกว่า บางทีผมก็คิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มีผม เพื่อนๆ คงสนุกมากกว่านี้

“เมล เปลี่ยนน้ำหอมเหรอวะ หอมอ่ะ” ผมฝังจมูกลงบนซอกคอขาวๆ ของเมล กลิ่นนี้ดีกว่ากลิ่นที่มันเคยใช้ประจำแฮะ

“ได้ผลแฮะ แม่มึงส่งมาให้ บอกว่ามึงชอบกลิ่นแบบนี้”

“ดีจริงเลยคุณแม่ที่รัก ลูกชายตัวเองไม่ส่งให้ ”

“เอ้า ทำหน้าบึ้ง ฮ่าๆๆๆ ว่าแต่กู แล้วเสื้อที่ใส่นี่คืออะไร หือออ แม่กูไม่ได้ซื้อจากฝรั่งเศสมาให้มึงรึไง กูยังได้แค่บ๊อกเซอร์เลยนะ”

“ช่วยไม่ได้”

เมลดีดแก้มผมเบาๆ ก่อนจะแกล้งเอาจมูกโด่งๆ ของมันมาไซ้ที่แก้มผม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ จั๊กจี้อ่ะ

“เขินเหรอ แก้มแดงเลย”

“เพราะมึงอ่ะ เอาผิวหยาบๆ มาถูแก้มกู”

“ไหนๆ มาทดสอบอีกทีดิ๊”

“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย อย่านะ!!”

“หึหึหึ”

ผมไม่ได้ตัวเล็กแรงน้อยเหมือนไอ้ฟิวนะ แต่สู้กับเมลนี่ขอยอมแพ้จริงๆ ถ้าโดนมันกดแขนกดขาไว้แล้วก็ดิ้นไม่หลุดอ่ะ เลยจำต้องโดนมันทรมานอยู่นาน หัวเราะจนปวดท้องเลยนะคิดดู แล้วมันก็ไม่สงสารผมเลย นี่ถ้าผมหัวเราะจนขาดใจตายไปจะเป็นผีมาหักคอมัน -*-

“น้องเท็นเป็นอะไรครับ นั่งแก้มแดงปากแดงเลยเนี่ย ฮ่าๆๆ”

“ตลกมากกกกกก เดี๋ยวๆ มึงเจอ”

“เจออะไรเหรอครับ ^^”

“ไม่รู้เว้ย ยังคิดไม่ออก แต่มึงเจอแน่ ไม่ต้องมากอดเลย จะกลับบ้านแล้ว คิดถึงไอ้เจค”

“ลุงชิดพามันไปออกกำลังกายไม่ใช่ไง มึงบอกเองว่าให้มันลดน้ำหนัก ป่านนี้แดกไอ้เจมไปแล้วมั้งน่ะ”

“ปากเสีย สักวันไอ้เป๊บมึงได้โดนแดกเหมือนกันนั่นล่ะ”

“-_- มึงนี่ไม่ถูกกับไอ้เป๊บจริงๆ นะ เกลียดมันเหรอ”

“เปล่า แค่หมั่นไส้ มันก็ไม่ชอบหน้ากูอ่ะ เจอทีไรจะข่วนกูทุกที”

“คิดไปเอง ไอ้เป๊บมันรักมึงนะ มันเลยอยากเล่นด้วย”

เวลาพูดถึงไอ้เป๊บทีไรเมลจะทำหน้าอ่อนโยนทุกที นั่นล่ะ...ผมถึงหมั่นไส้มัน -*-

“ไม่เห็นเป็นอย่างที่มึงว่า”

“จะไม่เป็นอย่างนั้นได้ไง ก็กูรักมึงนี่...ไอ้เป๊บก็ต้องรักด้วย”

เหมือนโดนหมัดอัปเปอร์คัทเข้าที่คางอย่างจัง ผมก้มหน้าหลบสายตาเลี่ยนๆ ที่มองมา ก่อนจะทุบอกเมลเบาๆ

“อ..อะไรของมึง”

“เขินตลอดเลย ว่าแต่แมวหิมาลายันของคุณย่าที่ท่านบอกว่าจะฝากไว้ก่อนบินไปรัซเซียอ่ะ เอาไง”

“ก็ต้องดูแลให้อยู่แล้ว ระหว่างนั้นเราก็ไปอยู่ที่บ้านละกัน ที่นี่เลี้ยงไม่ได้”

“อือ กูยังไงก็ได้อยู่แล้ว ถ้ามึงโอเคก็ไม่มีปัญหา”

ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจเมล และไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจไอ้ฟิว แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากพาเมลไปค้างที่บ้านนักหรอก ผมก็แค่...สงสารไอ้มายด์

“ว่าแต่แมวของคุณย่าชื่ออะไรนะ”

“เบลล่า”

ดูชื่อ -_- กูหวังว่าไอ้เจคจะไม่จับแมวทำเมียนะ

.
.
.

“มึงมันน่าตีจริงๆ เป็นเด็กรึไงถึงได้เที่ยวแกล้งคนนั้นคนนี้ ไอ้แม็ค มึงก็พูดอะไรบ้างสิ เดี๋ยวไอ้เท็นมันก็ได้ใจกันพอดี”

พอไปรับเบลล่ามาจากคุณย่าของเมลแล้ว ผมกับมันก็ตรงมาที่บ้าน แต่ก็พบว่าตอนนี้แม่งวุ่นวายอย่างกะตลาดสด หาใช่บ้านที่เคยสงบสุขของผมไม่

ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งแหละเวลาไอ้พวกเวรนี่บุกบ้าน -_-

“เอาน่าไอ้ฟิว แสตมป์ก็มีเยอะแยะ แบ่งๆ กันน่า” ไอ้แม็คว่าก่อนจะหันมายิ้มแฉ่งให้ผม “เหี้ยเท็น ดูนี่ ตากูเพ้นให้ เป็นลายกล้วยไม้ที่ได้รับรางวัล ตาฝากมาให้มึงด้วยหนึ่งตัวววว แท่นแท้นนนนน สวยใช่มั้ยล่ะ!!!”

ไอ้แม็คโชว์เสื้อยืดสีดำที่มีดอกกล้วยไม้สีสวยอยู่บนเสื้อ ผมตาลุกวาวแล้วรีบคว้าเสื้อมาจากมือไอ้แม็คทันที อะห้า!!! นี่แหละ! นี่แหละ!!

“สวยยยยยว่ะ! ไอ้แม็คคค กูขอด้วยยยยย” ไอ้เต๋อเสือกหน้าเข้ามาทันที

“มันเป็นของทำเองเว้ยยย อยากได้ต้องรอตากูมีอารมณ์ศิลป์อีกครั้งงง ครั้งนี้ให้ไอ้เท็นก่อน”

ไอ้แม็คนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ผมเลยคืนสมุดสะสมแสตมป์ให้มัน ก่อนจะรับเสื้อมาชื่นชม เมลผลักหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไป

“เมล ไม่ต้องจัดเสื้อผ้าเข้าตู้นะ เดี๋ยวกูไปทำให้” ผมตะโกนตามหลังไป ก่อนจะหันมาพิจารณาลายของกล้วยไม้ต่อ

เอาจริงๆ คือมันน่าทึ่งมาก ชีวิตผมมีอยู่สองอย่างที่ทำไม่ได้ ก็ไม่เชิงว่าไม่ได้ แต่ทำแล้วมันห่วยแบบไม่น่าเชื่อ และหนึ่งในนั้นคืองานศิลป์

“มึงชอบล่ะสิ อิอิ”

“ชอบ สวยว่ะมึง แต้งกิ้ววววว”

“ไอ้แม็คคคค กูอยากได้บ้างงงง” ไอ้เต๋อยังไม่เลิกความพยายาม

“หุบปากไปเลยเหี้ยเต๋อ แล้วนี่ ตากูฝากมาให้ด้วย ตาชอบมึงมากนะเนี่ย ตั้งแต่ที่มึงไปดูโรงเพาะกล้วยไม้คราวนั้น ตากูก็พูดถึงมึงไม่หยุด” (มีสักตอนนี่แหละที่เท็นไป ฮ่าๆ)

“ตามึงเป็นคนดีจริงๆ ว่ะ ไม่เหมือนมึง ฮ่าๆๆ”

“เหี้ยเท็น ฟัคคคคค!”

ผมหอบเสื้อกับกระถางกล้วยไม้ขึ้นชั้นสองโดยมีเสียงด่าของไอ้แม็คไล่หลังและเสียงบ่นของไอ้ฟิวที่คร่ำครวญถึงแสตมป์ของมันไม่หยุด

“อ่านหนังสืออีกละ มึงกลายเป็นหนอนหนังสือไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เข้ามาในห้องก็เห็นเมลตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออยู่ก่อนแล้ว

“ใกล้สอบกลางภาคแล้ว”

“อีกตั้งนาน -*- เพื่อนอยู่กันเต็มบ้าน ลงไปข้างล่างดีกว่าน่า”

“อือ ก็รอมึงจัดเสื้อผ้าเข้าตู้นี่ไง เดี๋ยวลงไปพร้อมกัน”

“ไม่อ่ะ กูจะนอน”

“-_- มึงนี่”

เมลลุกออกจากห้องไปเลยครับ ไม่รู้ว่าโมโหอะไรของมัน ขว้างหมอนมาโดนหัวผมด้วยอ่ะ นิสัยไม่ดีจริงๆ -*-

ผมเอาเสื้อที่ไอ้แม็คเพิ่งให้มาไปแขวน ก่อนจะยืนพิจารณาลายบนเสื้ออยู่สักพัก ตาของไอ้แม็คแม่งเทพจริง ลงสีได้โคตรสวยแถมภาพยังมีมิติ ผมต้องไปปวารณาตนเป็นศิษย์ของคุณตาแล้วล่ะ เผื่อสกิลทางด้านนี้จะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง

ความจริงนี่เป็นจุดอ่อนเพียงไม่กี่อย่างในชีวิตผม และมีแค่สี่คนเท่านั้นที่รู้ ป๋าเป็นหนึ่งในนั้นและวันเกิดของป๋าทุกปี ป๋าจะรีเควสมาเลยว่าอยากได้อะไร และของที่ป๋าอยากได้ก็คือรูปที่ผมวาด จะเป็นรูปอะไรก็ได้ แต่ขอแค่ผมวาดให้ ป๋าก็พอใจทั้งนั้น

เป็นสิ่งที่ผมทำออกมาได้ไม่ดี...แต่ป๋ากลับชอบมัน ตอนอายุสี่ขวบผมอดถามป๋าไม่ได้ว่า ทำไมถึงพอใจกับของขวัญห่วยๆ ของผม และเพราะคำตอบในตอนนั้น ผมก็ไม่คิดจะถามอีกเลย

‘ป๋าไม่ได้คิดว่ามันไม่ดีที่เท็นเป็นคนเก่งแบบนี้ แต่การที่ชีวิตของคนเราไม่มีความผิดพลาดเลยก็เป็นเรื่องที่น่าหนักใจอยู่เหมือนกัน ป๋าไม่ได้ต้องการของที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องการของที่เท็นพยายามทำมันให้ดีที่สุดเพื่อป๋า เพราะมันไม่สวย ป๋าถึงดีใจและพอใจกับของขวัญที่เท็นให้’

นั่นเป็นคำตอบของป๋า ...พ่อที่ไม่เคยพูดชมผมเลยเวลาที่ผมได้รับรางวัลหรือเป็นที่หนึ่งในทุกๆ เรื่อง กลับแค่ดีใจกับรูปวาดห่วยๆ ของผม

‘ไม่มีใครพิเศษไปกว่าใคร ไม่ว่าลูกจะเก่งแค่ไหน แต่ลูกก็ยังเป็นมนุษย์ ป๋าไม่อยากให้เท็นลืมว่าสิ่งสำคัญของตัวเองคืออะไร ไม่อยากให้หลงระเริงไปกับคำพูดเยินยอของคนอื่น’

ผมไม่มีวันมีปีกงอกขึ้นมาจากหลังได้ และสุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องตายเหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆ ...

“เท็น ลุงชิดพาไอ้เจคมาแล้วนะ มึงมาช่วยกูดูไอ้เป๊บกับเบลล่าที รอจนกว่าไอ้เจคจะเข้าห้องก่อนค่อยปล่อยแมว”

เพราะเมลอุ้มแมวทั้งสองตัวเข้ามาในห้องผมนั่นล่ะ ผมถึงได้หลุดจากภวังค์

“เร็วๆ ด้วย ลุงชิดจะพาไอ้เจมไปบ่อนอีก กูว่าสิ้นเดือนมึงควรจะให้โบนัสลุงแกด้วยนะ นอกจากเป็นหัวหน้าคนสวนแล้วยังต้องมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมาให้มึงอีกเนี่ย”

“บ่นจริงเลย แล้วก็รีบๆ พาแมวออกไป ก็รู้ว่ากูไม่ชอบให้เอาสัตว์เข้าห้อง”

“มึงยังเลี้ยงปลาหมอสีไว้ในห้องเลยนะ”

“ไอ้ห่าเมลมึงปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย กูหมายถึงสัตว์มีขน”

“กูก็มีขน”

“เออ ไอ้สัตว์ เป็นคนไม่ชอบอยากเป็นสัตว์ดีนัก ไปไกลๆ ตีนกูเลย เอาเบลล่ามานี่”

เบลล่าตัวสีขาวน่ารักกว่าไอ้เป๊บเยอะ มันชอบมาพันแข้งพันขาผมเวลาผมไปหาคุณย่าของเมล นี่ก็เรื่องจริงสินะที่ผมมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม หึหึ

“มึงไม่เปิดสวนสัตว์ไปเลยอ่ะไอ้เท็น แม่งงง กี่ตัววะเนี่ย” ไอ้เต๋อแกว่งปากขึ้นคนแรกหลังจากที่เห็นผมเดินลงบันไดมาพร้อมเมล

“รวมมึงด้วยก็ห้าตัว เบลล่า ไอ้เป๊บ ไอ้เจค มินนี่ แล้วก็มึงไง หึหึ”

“!$!@%@$^#&^%@#$%”

“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ติดต่อยานแม่เหรอ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงของไอ้เท็นว่ะ หน้ามึงแม่งงงง ต่างดาวชัดๆ” ไอ้แต้มละความสนใจจากเกมที่กำลังดวลอยู่กับไอ้มายด์มาสนับสนุนผมอีกคน

“ไอ้เมลลลลล มึงดูมันนนนนนนนน”

“แฟนกูไม่ใช่พ่อทุกสถาบันนะ ถึงมีอะไรก็ต้องฟ้องมันเนี่ย เดี๊ยะๆ หลังแหวน”

ไอ้เต๋อรีบกระโดดออกจากโซฟาไปหลบอยู่หลังเมล อ่า...แผนชิงที่นั่งสำเร็จ ฮ่าๆๆๆ

“ตัวก็ไม่ใช่เล็ก แล้วมาหลบหลังกู -_- อ่ะ ฝากอุ้มไอ้เป๊บแป๊บนะ ไปหาข้าวให้เท็นกินก่อน”

ไอ้เต๋อหน้าเหวอนิดๆ แต่ก็ท้วงอะไรไม่ทันเพราะเมลเดินลิ่วเข้าห้องครัวไปแล้ว ผมหัวเราะก๊ากใส่มัน ก่อนจะเปิดสงครามขว้างหมอนอิงใส่หัวกันจนโดนไอ้ฟิวด่าไปหลายรอบ เพราะไปรบกวนการถักเสื้อไหมพรมของมันเข้า

“ว่าแต่ไอ้เต้ไปไหนวะ” ผมถามถึงบุคคลที่ไม่ปรากฎตัว ณ ที่นี้ แต่ไอ้เต๋อรีบทำท่าจุ๊ปากใส่ซะก่อน แล้วก็เหลือบไปมองหน้าไอ้แม็คนิดๆ

“พาน้องอิงไปสวนสนุก นี่บอกเลย ปัญญาอ่อนชิบหาย มึงว่าป่ะ” ไอ้เต๋อก้มลงมากระซิบกระซาบกับผม

“เออว่ะ ความเห็นตรงกัน สงสัยแม่งยังไม่เลิกโง่”

“เขางอกเต็มหัวแล้วมัน กูว่าจะหาแฟนให้ไอ้แม็คสักคน จะได้ชัดเจนกันไปเลยว่าพวกมันจะเอายังไง”

“มึงอย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเลยน่า”

“ไม่ได้เว้ย เห็นแล้วอดเสือกไม่ได้ กูเบื่อพวกซึนชิบหาย ดูอย่างกูนี่”

“ดูอย่างมึง? เออว่ะ ชัดเจนจนโดนจับแต่งงานนี่ดีสินะ เรียนก็ยังไม่จบ”

“แหมะ สวนมาทีเล่นเอากูจุกเลยนะมึง”

“ไอ้ห่าเต้ก็แค่หมาในรางหญ้า แดกไม่ได้แต่เสือกไม่ให้คนอื่นแดก อนิจจาคงเป็นเวรกรรมของไอ้แม็ค”

“กูว่าก่อนจะโทษเวรกรรมต้องโทษสันดานไอ้เต้ก่อนว่ะ”

“ถูกของมึง พูดได้ใจว่ะเหี้ยเต๋อ ไปจัดเบียร์มาสักสามขวดซิ ออกตังค์ก่อนนะ ไว้ไปเอาที่เมล”

“จัดไปครับท่าน”

แต่พอเหลือบไปเห็นสีหน้าของไอ้แม็คแล้ว คิดว่าสามขวดคงไม่พอ เลยตะโกนไล่หลังไอ้เต๋อที่ลากไอ้แต้มออกไปเป็นเพื่อนด้วยว่า

“เหี้ยเต๋อ ไปยกมาจากร้านพี่เจ๋งสักสองลังละกัน เห็นหน้าตาสมาชิกบางคนแล้วคงไม่จบแค่สามขวด”


......................................................To be continue............................................

ตอนนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่...มันมีนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเป็นยังไงต่อไป รอติดตาม  :z2:

มาดึกเลย  :a5:

อยากให้เรื่อยๆ อย่างนี้ต่อไป เนื้อเรื่องจะได้ไม่วกวน แต่อีกไม่นานคงจบแล้ว ฮาาาาาาาาาาาา

 o22

 :กอด1: :กอด1:

ยินดี ยินดี ยินดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 16-12-2013 08:08:11
ตลกดีตอนนี้ กวนเขาไปทั่วนะเท็น เมลนี่ก็พยายามจริงๆ ฮฺๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 16-12-2013 08:17:19
เมลเท็นคู่รักคู่ฮา น่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-12-2013 08:35:42
มันต้องมีอะไรสักอย่างอยู่ในตอนนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-12-2013 10:01:58
เท็นมาเอาสแตมป์จากเราก็ได้นะคะ ตกอยู่ตามหลืบห้อง

รอค่ะ :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 16-12-2013 11:00:27
มี มีเท็นเท็นเป็นไอดอลจริงๆ  ขนาดเท็นเท็นขโมยแสตมป์ไปยังไม่โกรธ แถมยังเสื้อมาให้อีก

เตเต้จะทำร้ายจิตใจมีกับตัวเองไปถึงไหน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-12-2013 11:02:07
เท็นกวนมากกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2013 12:52:36
เท็นกวนตีนมากอะ 55555
ขโมยแสตมป์เพื่อน
แต่เมลน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-12-2013 13:12:00
เท็นกวนอ่ะ แต่น่ารักน่าหยิกมากกกกกกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 16-12-2013 15:11:08
เท็นชอบแกล้งงงงงงงงง
แต่น่ารักที่สุดอ่ะ น่ารัก ใสๆ นะตอนนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 16-12-2013 18:28:41
อยากอ่านฟิวมายด์><
รอตามลุ้นคู่นี้อยู่
ว่าเมื่อไหร่จะฟินเสียที 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 16-12-2013 18:33:37
เท็นน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ที่ว่ามีอะไรคือ

เกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์มั้ย ฮา 5555

เราว่าน่าจะเกี่ยวกับการไปดูตัวของเท็นปะ ?

โอยเรื่องนี้ ไว้ใจไม่ได้จริงๆ

ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ คิดถึงแย่  :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-12-2013 19:41:01
รู้ว่ามีแต่ยังมองไม่เห็นนี่ดิ..
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 16-12-2013 23:18:26
อิเต้ โอ๊ยยยยยยยย  :ling1: เพลียค่ะ หนูมีจะเป็นไงบ้างล่ะเนี่ย

แต่เท็นนี่ไม่ได้ดื้อจริงเหรอ? 5555555
เมลก็น่ารักตลอดดดดดดด

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 16-12-2013 23:54:16
เรื่องอะไรที่มันอยู่ตอนนี้ละ
ป๋าจับเท็นดูตัว?
หรอๆๆๆๆๆ? ค้างคาอ่ะ
 :katai5: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 17-12-2013 00:09:58
ผู้ชายเดี๋ยวนี้เค้าสะสมสแตมป์กันด้วยเรอะ 5555555555 โมเอร้เชียว น่ารักดี

ป๋าเท็นนี่ยังไงอ่ะ รูู้ว่าเท็นมีเมลอยู่่แล้วยังจะให้ไปดูตัวอีก :m16: มันต้องคืออะไรที่บอกว่ามีอะไรแน่ๆ
เอาจริงๆ เราติดเรื่องนี้มากเลย ฮอลลลล ยังไม่อยากให้จบ :hao7: 
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 17-12-2013 00:51:34
เท็นๆ กับคาราเมล โอ้ยย น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 17-12-2013 01:44:12
ตามทันแล้ว เย้ๆๆๆๆ เนื้อเรื่องน่ารักดีอ่ะ แต่ก็หน่วงเป็นพักๆ เหมือนกัน
แล้ววี่แววว่าจะต้องต้มน้ำรอมาม่าอีกแล้วมั้งเนี่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 18-12-2013 07:21:53
เต้แม็ค อึมครึมจริงงงง :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 18-12-2013 21:29:39
เท็นเหมือนเด็กๆชอบแกล้งเพื่อน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 18-12-2013 22:54:26
ก็จะไม่ให้ฟ้องเมลได้ไง ก็มีเมลคนเดียวที่เท็นพอจะฟังบ้างง่ะ
ใช่มั้ยเท็น ไอ้ดื้อ ไอ้โลกส่วนตัวสูง หมั่นไส้!! :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-12-2013 16:00:24
เข้ามาบอกว่า วันนี้มาค่ะ ตอนดึกๆ เจอกัน :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-12-2013 21:26:50
Special Inside: มายด์ เมธัส

“มึงเงียบไปนะครับเพื่อนครับ มีไรบอกกันได้ ให้มานั่งหล่อล่อสาวนะครับ ไม่ใช่ให้ไล่สาว” ไอ้แต้มงุ้งงิ้งขึ้นข้างหู ผมปรายตาไปมองเล็กน้อยก่อนจะรับแก้วเหล้าจากมันมา

“ปกติกู”

“ปกติมึงไม่ใบ้แดกขนาดนี้น่า เป็นไรวะ” ไอ้เขตว่าขึ้นอีกคน แต่ผมก็ไม่สนใจจะตอบ

ในหัวเอาแต่คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียวที่ได้ยินจากปากของเด็กเอ๋อเมื่อคืน มันบอกผมว่ามันจะไป...ดูตัว ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของมันเลยสักนิด แต่มันก็บอกว่าจะไป ผมสั่งห้ามแล้วแต่มันก็ไม่ฟัง เพราะเป็นคำสั่งจากไอ้เท็น มันบอกผมว่าอยากได้แสตมป์ที่ไอ้เท็นคืน บอกเหตุผลผมสารพัดว่ามีความจำเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ผล ผมไม่ได้บ้าพอที่จะปล่อยมันไป เราถึงทะเลาะกัน

‘เป็นบ้าอะไร มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกูนะ กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู’

แค่ที่มันตะโกนใส่หน้าผมตอนนั้น...ผมก็เหมือนโดนค้อนหนักๆ ทุบเข้าที่หัว

ผมนึกว่าผมมาได้ไกลแล้ว เข้าใกล้มันมากขึ้นแล้ว แต่ก็เปล่าเลย...

‘กูจะปล่อยให้ไอ้เท็นไปได้ยังไง เมลรู้เข้าพวกมันก็ต้องทะเลาะกันอีก ไอ้เท็นมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ นั่นแหละกูถึงต้องไปจัดการให้มัน! มึงจะชอบใจหรือไม่ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับกู’

ก็แค่เพราะ...ไอ้เมลจะเสียใจ ที่มันห่วง...ก็มีแค่นั้นจริงๆ สำหรับผมแล้วจะรู้สึกยังไงก็ไม่สำคัญ

“นานๆ จะมาเจอกันที ครื้นเครงหน่อยดิวะ นั่งใบ้แดกกันอยู่ได้ไอ้พวกนี้” ไอ้ลินบู้ปากก่อนจะชกไปที่ไหล่ไอ้เมลที่ก็นั่งกดมือถืออย่างเอาเป็นเอาตายอยู่

“มึงนี่ก็อีกคน ไม่ต้องตามเช็คเมียตลอดเวลาก็ได้ ไอ้เท็นมันก็คงไปวางท่าเป็นราชาของจักรวาลอยู่ที่ไหนสักที่แหละ ไม่หายไปไหนหรอก”

“ไม่หายบ้านมึงสิ มึงดูนี่!” ไอ้เมลกระแทกไอโฟนของมันลงบนโต๊ะ (ได้ข่าวมึงเพิ่งซื้อมา -_-) ก่อนที่ไอ้เขต ไอ้แต้ม และไอ้ลินจะเข้าไปมุงดู

“เฮ้ยยยย ได้ไงวะ เมื่อวานกูเพิ่งเจอ...” ไอ้เขตทำหน้าอึ้งๆ แล้วหันไปทางไอ้เมลที่กำลังใช้มือถืออีกเครื่องโทรหาใครสักคนอยู่ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น...

“มึงไปทำไรที่นั่น ห้ะ! แล้วผู้หญิงในรูปเป็นใคร เลขาเหี้ยไร หน้าเลขามึงไม่ใช่คนนี้ มึงอยากทะเลาะกับกูมากใช่มั้ย เงียบทำไม พูดมาเท็น เท็น โวะ! ไอ้เหี้ยยยย ตัดสายกู”

เห็นไอ้เมลแทบจะพ่นไฟแล้วผมเลยหยิบไอโฟนของมันขึ้นมาดู อ่า...IG ของไอ้เท็นอัพรูปสวนดอกไม้แล้วก็เช็คอินที่เชียงรายจริงๆ ครับ แถมในรูปยังมีผู้หญิงยืนทำหน้าแอ๊บแบ๊วอยู่ข้างๆ อีกต่างหาก

“กูไปเชียงรายแป๊บ!”

“พ่องงงงงงงงงงงงงง! เชียงรายนะไอ้ห่า ไม่ใช่พัทยาที่ชั่วโมงเดียวถึง นั่งลงๆๆๆ อย่าใจร้อนสิวะ”

ไอ้เขตกับไอ้แต้มรีบคว้าแขนไอ้เมลไว้ ส่วนผมนั่งจิบเหล้าของตัวเองไปเงียบๆ

ไอ้เท็นแม่งบ้า แต่ไอ้เมลบ้ากว่าที่เต้นตามการกระทำของเมียมันไปซะทุกเรื่อง แล้วที่บ้ามากกว่าไอ้เมลก็เห็นจะเป็นเด็กเอ๋อนั่นที่เดือดร้อนทุกครั้งเวลาที่ไอ้คู่นี้มันทะเลาะกัน

พอคิดถึงตาโตๆ นั่นแล้ว... โทรหาหน่อยละกัน

ระหว่างฟังเพลงรอสายผมก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้โฟกัสที่จุดไหนเป็นพิเศษ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีคนรับสาย สงสัยมันคงยังไม่หายโกรธหรือไม่ก็นอนหลับไปแล้วก็ได้

“เท็นแม่งตัดสายกูทิ้ง นี่มันหมายความว่ายังไง กูโทรไปกี่ทีๆ ก็ไม่รับ เหี้ยเอ้ย!” ไอ้เมลทำหน้าใกล้บ้าเต็มที ส่วนผมตัดใจวางมือถือลงก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบ

“ลองโทรหาไอ้ฟิวให้ช่วยดิ ยังไงไอ้ฟิวมันก็เป็นคนเดียวที่ตามตัวไอ้เท็นได้ มึงใจเย็นๆ ก่อนน่า” ไอ้เขตทำหน้าที่ชี้ทางสว่าง ในขณะที่ไอ้เมลพยักหน้ารับแล้วกดโทรศัพท์ทันที

ผมใช้นิ้วเคาะแก้วไปตามเสียงเพลงสักพักก็ต้องชะงักเมื่อไอ้เมลพูดขึ้นว่า

“ฮัลโหล เมลกวนมั้ย อ่า...ครับ ใช่ ฟิวติดต่อให้ได้มั้ย เมลโทรไปเท็นไม่รับเลย อืม ไม่ๆ เมลโอเค ไม่เป็นไร อยู่สบายตังค์ ใช่ เมลไม่รู้จัก ก็เมื่อเช้าก่อนไปเรียนเท็นก็ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน แล้วนี่ไปโผล่ที่เชียงรายได้ไงล่ะ ใช่ ไม่รู้ดิ อืม จะมาเหรอ ครับ เดี๋ยวให้ไอ้มายด์ไปรับ ครับ เดี๋ยวเจอกัน”

ผมเกลียดความรู้สึกนี้จริงๆ จุกจนพูดไม่ออก ได้แต่แค่นยิ้มตอนที่ไอ้เมลหันมาบอกว่าให้ไปรับไอ้เอ๋อนั่น...ผมควรยอมรับสักทีใช่ไหม...ว่าคนมันไม่รัก ทำยังไงก็ไม่รัก

“เออ งั้นเดี๋ยวกูมา” ผมพูดได้แค่นั้นก็เดินออกจากร้านตรงมายังลานจอดรถ

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหน้าประตูรั้วบ้านของไอ้เอ๋อ ผมจอดรตรงหน้าเจ้าของร่างเล็กที่ยืนพิงประตูรั้วรออยู่ก่อนแล้ว

“เมลโอเคมั้ย” เปิดประตูขึ้นรถมาได้มันก็ถามถึงไอ้เมลทันที ผมแค่พยักหน้าแล้วก็ขับรถออกมา

ขับมาจนถึงหน้าร้าน จอดรถสนิทแต่ยังไม่ดับเครื่อง เพราะผมอยากกลับไปนอนแล้วคงไม่เข้าไปกับมัน

“โต๊ะเดิม ถามเด็กที่ร้านก็ได้” ผมบอกก่อนจะช่วยปลดเบลให้มัน ฟิวเหลือบมามองเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ลงจากรถ

“แล้ว...”

“แล้ว?”

“แล้วมึงจะไปไหน”

“นอน”

“อ๋อ...อืม...กูเปิดแอร์ไว้ให้แล้ว ชุดนอนอยู่บนเตียง แล้วก็อาบน้ำก่อน ไม่งั้นมึงนอนโซฟา”

เพราะมันใจดี ผมถึงคิดเอาเองว่ามาได้ไกลแล้ว แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย ไม่ว่ายังไง...ไอ้เมลก็สำคัญที่สุดสำหรับมันอยู่ดี

“ครับ”

“แล้วก็...ตอนที่มึงโทรมา กูอาบน้ำอยู่”

“อืม...ไปเถอะ”

ฟิวมองผมอีกครั้งก่อนจะลงจากรถไป

เป็นไปได้...ผมก็อยากพูดว่า ‘อย่าไป’ อยู่เหมือนกัน

แต่มัน..คงไม่มีความหมายอะไรหรอก

.....................................................To be continue........................................

ก็...ไม่รู้สินะ

สั้นจัง  :katai4: :katai4:

แต่มันก็...แค่นี้จริงๆ

สุดจะเอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ

คนไม่รัก...ยังไงก็ไม่รักล่ะเน้อ

เอาไงดีคะ ใจจริงอยากดราม่ากับเท็นอีกรอบนะ แต่ยังไม่พร้อม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้ไม่มีอะไรค่ะ เมลเท็นไม่มีอะไรในกอไผ่แน่นอน ฟันเฟิม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 21-12-2013 21:41:15
เราเข้าใจฟิวน้าาาา
คนมันรักนี่ ทำไงได้....
จะตัดใจก็ตัดได้ยากกกกกกก

แค่ไม่ทำให้เขาแตกแยกกันก็โอแล้ว
แต่...เมื่อไหร่คู่นี้มันจะหวานนนนนนนกันเสียทีเนี่ยยย???

มายด์เอ๊ย...ลูกคนต้องใช้ความพยายามมากๆๆๆๆๆๆหน่อยนะลูก
มีแต่ใช้ความรักที่มากกว่าเท่านั้น จึงจะชนะใจฟิวได้ อิอิ

อยากให้คู่นี้ลงเอยกันไวๆจัง แต่ยังไม่อยากหวังให้ถึงช่วงลอยกระทงนะ
ฟิวนี่ เศร้าแล้วเศร้าอีก เมื่อไหร่จะมีความสุขแบบยาวๆนานๆบ้างกับเขาล่ะเนี่ย....

เอาน่ะฟิว ตัดอะไรตัดได้ แต่ความรักเนี่ยยากจะตัด เราเข้าใจดี
ไม่ได้บอกให้ฟิวเลิกรักเมลหรอกนะ แต่แค่อยากให้ฟิวลองให้โอกาส
ทั้งกับตัวเอง และมายด์ดูบ้าง ....บางที มันอาจจะเวิร์คกว่าที่มานั่งตามรักคนอื่นอยู่ก็ได้นะ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-12-2013 21:45:46
มายด์ฟิวบรรยายกาศยังแย่เหมือนเดิม
ฮาเมลอ่ะเมียหนีเที่ยวตลอด เมลก็เต้นตามตลอด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: BBlabong ที่ 21-12-2013 22:32:43
สงสารมายด์  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 21-12-2013 23:07:46
อยากสงสารมายด์นะ แต่ที่มายด์ทำกับฟิวตอนแรกมันก็มากอยู่  :hao4:
แต่ถ้าลองมองดีๆเหมือนฟิวก็เริ่มใจอ่อนแล้วอะนะ
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 21-12-2013 23:10:45
เมื่อเปิดเจอการอัพเดท  :z2: :z2: :z2:


เมื่ออ่านจบ  :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 22-12-2013 00:46:31
เราสงสารมายด์นะ
แต่ก็สงสารฟิวด้วย

ไม่รู้ดิ ก็อยากให้สองคนนี้แฮปปปี้เอนดิ้ง แต่พอนึกถึงที่ฟิวต้องเจอ ที่มายด์ทำกับฟิวในตอนแรกแล้วมันก็แบบ ...

เฮ้อออ อีกไกลแค่ไหนกว่าจะใกล้ สินะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-12-2013 01:41:40
เออนะ พอเค้าอ่อนให้ก็ดันสติแตกคิดไม่ได้ไปซะงั้น

แต่ก็นั่นแหละเริ่มต้นได้เหี้ยระดับแม๊กซ์แบบนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ไม่น่าจะรู้สึกดีเท่าไหร่
ฝังใจมองในแง่ร้ายไปแล้ว แถมยังเป็นพวกคิดมาก คิดลบ ซับซ้อนแบบกดดันตัวเองอีก
ถ้าไม่เลิกคิดคงไปไม่ถึงไหนหรอก สงสารทั้งสองคนเลย
ฟิวก็ไม่กล้าจะยอมรับ
มายด์นี่ก็ประสาทหน่อยๆนะ ตอนแรกมาแรงจัดเต็ม แต่พอถึงตอนนี้ป๊อดสุดๆ (- -"
สงสารฟิวนะ ถ้าอยู่ๆมายด์หายไปดื้อๆ คงเสียศูนย์เพราะเปิดใจรับใครก็ถูกปฏิเสธ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 22-12-2013 02:19:57
สั้นจัง  :katai4:
ฟิวก็คงจะเริ่มใจอ่อนมาบ้างแล้วล่ะมั้ง ดูจากที่คอยทำอะไรๆ ให้
แต่ไอ้ประโยคที่ทะเลาะกันมันก็พาให้คนได้ยินเสียใจเหมือนกันนะ
เพราะฉนั้นตอนนี้เราสงสารมายด์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-12-2013 07:50:31
ก็ไม่รู้สินะ  :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-12-2013 08:29:33
 :z3:  สั้นมากกกอะ อ่านแล้วสงสารมายด์ เบาๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 22-12-2013 10:08:40
เจ็บจี๊ดๆ สงสารมายด์~
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 22-12-2013 10:22:56
สงสารมายด์  :mew2: แต่มายด์ก็ทำไว้เยอะเหมือนกัน  :ling1:

ฟิวก็ยึดติดอยู่แต่กับเมลอ่ะ โอ๊ยยย อึมครึมค่ะ  :mew5:

ปล.ขอเมลเท็นน้าาาา พลีสสสสส
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 22-12-2013 10:38:40
อยากอ่าน มาด์ย-ฟิว ต่อๆๆๆๆ เคลียให้ชัดเจน :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 22-12-2013 12:17:49
ช่างคู่เท็นมันก่อน มันแค่ง๊องแง๊งไปเรื่อย
เอาคู่มายด์ดีฝ่า ให้ลงตัวไปเลย
ฟิวเล่นตัวนักอย่าไปง้ออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-12-2013 20:11:37
Special Inside: ฟิว วิทวัส

(กูไม่ได้ตัดสายมันทิ้ง ที่นี่แค่ไม่ค่อยมีสัญญาณ กว่าจะเดินหาสัญญาณมือถือได้นี่มันยากนะ)

เสียงไอ้เท็นตอบกลับมาสบายๆ ถ้าเป็นคนอื่นพูดผมคงคิดว่าเป็นข้ออ้าง แต่สำหรับผู้ชายคนนี้แล้วมันไม่ใช่ อย่างไอ้เท็นไม่ต้องหาข้ออ้างอะไรมาใช้กับการกระทำในชีวิตมันหรอกครับ แค่มันพอใจ อะไรก็หยุดมันไว้ไม่ได้ แม้แต่...เมล

“แล้วมึงอยู่เชียงรายจริงๆ ใช่มั้ย ไปตอนไหนวะ แล้วไปทำไม ผู้หญิงในรูปนั่นก็อีก”

(ฮ่าๆๆ กูแค่เช็คอินที่เชียงรายเล่นๆ กูอยู่สวนของตาไอ้แม็คเนี่ย ผู้หญิงก็น้องฟาไง น้องสาวไอ้แม็คมัน มึงจำไม่ได้ไงวะ)

พอไอ้เท็นพูดแบบนั้นผมเลยเปิด IG ขึ้นมาอีกรอบ ดูๆ ไปก็คล้ายจริงๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอน้องฟาบ่อย เด็กสมัยนี้โตเร็วจริงๆ

“สรุปก็คือมันไม่มีไรใช่มั้ย กูจะได้บอกเมล”

(ไม่ต้อง กูเคลียร์เอง มึงอยู่เฉยๆ เถอะ)

มันดูเหมือนประโยคธรรมดา แต่ผมกลับเจ็บจี๊ดขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้...นั่นสิ ผมควรอยู่เฉยๆ เพราะหน้าที่อธิบายหรือปรับความเข้าใจมันไม่ใช่หน้าที่ของผม...เรื่องของพวกมันสองคน ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย ผมเข้าใจ

แต่...ก็ยังอดห่วงไม่ได้

“อืม เข้าใจแล้ว เมลอยู่ที่สบายตังค์ มึงมาที่นี่ละกัน”

(โอเค)

ไอ้เท็นวางสายไป ผมเดินกลับเข้าไปในร้าน บอกเมลว่าเดี๋ยวเท็นจะมา แค่นั้น...ผู้ชายตรงหน้าก็ยิ้มกว้างขึ้นมาได้แล้ว... นั่นล่ะ...ผมถึงได้วางใจ และขอตัวกลับ

ผมกลับมาถึงบ้านด้วยแท็กซี่ที่กว่าจะหาได้ก็ต้องยืนโบกเกือบครึ่งชั่วโมง เห็นไฟในห้องนอนตัวเองยังเปิดอยู่ มัน...คงรอผมกลับ

“เป็นไง พวกมันเคลียร์กันรึยัง” พอผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง คนที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงก็ถามขึ้นทันที

“อืม ก็ไม่มีอะไร แค่เข้าใจผิด” ผมตอบแค่นั้นแล้วก็ไปอาบน้ำ

น้ำอุ่นๆ ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี ความรู้สึกที่หน่วงในใจก็ทุเลาลงได้มาก ผมไม่เคยคิดที่จะตัดใจจากเมลเลยนั่นแหละถึงทำให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ เพราะผมรู้...ว่าเมลคงไม่มีวันรักผม แต่ผมก็แค่อยากเห็นเมลมีความสุข แค่ได้เห็นรอยยิ้มของเมล ผมก็ไม่ต้องการอะไรอื่นแล้ว ...ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ผมก็ตอบไม่ได้ หรือเพราะผม...ไม่เคยเปิดใจรับใครอื่นเลย

“ดึกขนาดนี้ยังจะสระผมอีก” ไอ้มายด์ว่าเสียงห้วน ตาดุๆ จ้องมาที่ผม แต่ก็วางหนังสือแล้วเดินไปหาไดร์เป่าผมให้

“เรื่องของกู” มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ผมจะตอบกลับมันแบบนี้...แต่ไอ้มายด์มันไม่สะทกสะท้านหรอก ไอ้นี่มันตีมึนทำตามความพอใจของตัวเองเท่านั้นแหละ เอาแต่ใจน้องๆ ไอ้เท็นเลยก็ว่าได้

แต่ก็แปลก...เพราะในเรื่องที่มันเอาแต่ใจ...กลับเป็นเรื่องที่เกิดผลดีกับผมซะส่วนใหญ่

ผมอาจจะไม่ลืมในเรื่องที่มันเคยทำกับผมไว้ แต่การที่มันเอาตัวเองเข้ามาผูกติดกับผม...เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ก็ทำให้ความเกลียดที่ผมมีต่อมันลดลงไปได้บ้าง ถ้ามันไม่ทำแบบนั้น...เราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ เพราะบางที...ผมก็คิดว่ามันเป็นคนดีมากทีเดียว

“อยู่นิ่งๆ” เสียงดุๆ ของมันมาพร้อมกับมือที่ถือผ้าขนหนูคอยเช็ดผมให้

“เมื่อไหร่มึงจะกลับไปอยู่บ้านตัวเองสักที คิดจะอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่กัน” เป็นคำถามครั้งที่ร้อยของผมแล้วก็ว่าได้ แต่ไอ้มายด์ตีมึนไม่ยอมตอบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

ผมปล่อยให้มันเช็ดผม และใช้ไดร์เป่าผมให้ มันตัวโตกว่าผมมาก มือก็ใหญ่ แต่ทำไมสัมผัสของมันถึงอ่อนโยนนักก็ไม่รู้

ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา มันทำอะไรให้ผมมากมาย นอกเหนือจากความรู้สึกผิดที่มันแสดงออกมาแล้ว...ผมยังรู้ถึงความรู้สึกที่มากกว่านั้น ผมอาจจะตอบแทนมันบ้าง...แต่ก็ไม่ได้เกินไปกว่า...ความสงสารเลยสักนิด

ผมทำไม่ดีกับคนที่เขาทำดีต่อผมไปตลอดไม่ได้หรอก...เพราะผมรู้ว่าการให้ความรักกับคนที่เขาไม่มีวันรักเรา...มันเจ็บปวดแค่ไหน

“วันก่อนมึงบ่นอยากดูหนัง ไปดูกันมั้ย พรุ่งนี้กูว่าง”

ผมบ่นกับไอ้กัสจริงๆ มันนั่งเล่นกับไอ้เป๊บอยู่ข้างๆ คงได้ยินไปด้วยเหมือนกัน

“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปดูตัว”

“หนังรอบทุ่มไง กูจองตั๋วไว้แล้ว”

“ถึงงั้นก็เถอะ กูไม่ได้บอกว่าจะไปกับมึงนะ ทำไมรีบจองวะ”

“กูไปรอที่หน้าโรงหนังละกัน เสร็จธุระแล้วก็รีบๆ ตามไป”

“กูไม่ไป”

“กูจะรอ”

“เหี้ยไรของมึงเนี่ย”

ไอ้มายด์เก็บไดร์เป่าผมไว้ในลิ้นชักตามเดิม ก่อนจะเดินไปนอนอ่านหนังสือต่อ ผมเหลือบมองมันด้วยความหงุดหงิด

“อยากรอก็เรื่องของมึง กูจะไปหรือไม่ไปก็เรื่องของกู”

“อืม”

ถ้ามันโมโหกลับมา อาจจะดีกว่าคำว่า ‘อืม’ สั้นๆ นั้นก็ได้ เพราะมันตอบมาแค่นั้น ผมถึงรู้สึกแปลกใจ...ปกติมันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ...

“มานอนได้แล้ว นั่งเอ๋ออยู่ได้”

“ไม่ต้องมายุ่ง”

“นอนไม่พอก็บ่นปวดหัวอีก จะมาดีๆ หรือให้ใช้กำลัง”

“มึงมันป่าเถื่อน”

ไอ้มายด์แค่ยิ้มแล้วตบที่นอนข้างๆ ผมเลยจำใจต้องไปนอนตามมันสั่ง ล้มตัวลงนอนได้ก็ถูกมันคว้าตัวไปกอดไว้ ไอ้นี่เป็นแบบนี้ตลอดแหละ นอนห่างกันแล้วมันจะดิ้นตาย

“หลับตาซะ”

“ไม่ต้องมาสั่ง”

“หึหึ ฝันดีนะมึง”

“เออ มึงก็ฝันร้ายละกัน”

มันลูบหัวผมเบาๆ แล้วก็จูบหน้าผากไปหนึ่งที เหมือนทุกครั้งหลังจากที่บอกฝันดีแล้ว...

.
.
.

ผมเคยเป็นฝ่ายที่ดูแลคนอื่นมาตลอด แต่มันก็หลายเดือนมาแล้วที่ผมเป็นฝ่ายถูกดูแลซะเอง มัน..ทำให้ผมทุกอย่างจริงๆ ทำทุกอย่างโดยที่ผมไม่เคยขอเลย

“เจ็บมั้ย เข้าเนื้อรึเปล่า”

ไอ้กัสเคยบอกผมว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ผู้ชายนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดอย่างไอ้มายด์จะมีมุมแบบนี้

“เออ เจ็บดิ ทำเบาๆ ไม่เป็นไง” ผมก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงมันไม่ได้เจ็บอะไรเลย ผมทำเองยังเจ็บกว่าด้วยซ้ำ

“อดทนหน่อยน่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ไอ้มายด์บอกเสียงดุ แต่ก็ก้มหน้าก้มตาตัดเล็บเท้าให้ผมต่อไป

“บอกให้อดทนแล้วมึงจะถามทำไม รีบๆ ตัดเลยนะ เดี๋ยวกูไปดูตัวสาย”

“ครับๆ”

“โอ้ย! เบาๆ ดิ”

“ขอโทษๆ” มันหน้าเสียไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงเป่าให้ ผมเลยพยายามชักเท้าหนี อะไรของมันเนี่ย นั่นเท้านะ ไม่รังเกียจเลยรึไง

“เย็นนี้อย่าลืมนัดนะ”

“กูบอกแล้วไงว่าไม่ไป”

“ก็บอกว่าจะรอ”

“กูไม่ไป ไม่มีใครอยู่บ้านใครจะดูไอ้เป๊บกับเบลล่าล่ะ มึงอยากไปก็ไปคนเดียวสิ”

ใครจะเอาข้าวให้พวกมันกินล่ะ...ไหนจะไอ้เจคอีก ...เมลรักพวกมันมากเลยนะ ปล่อยให้อดอยากได้ที่ไหน

“ถ้ากูขอร้อง...”

ผมชะงักไปเล็กน้อยกับสีหน้าของมัน แววตาที่จ้องตรงมา แล้วความเจ็บปวดนั่นคืออะไร...

“ทำไมกูต้องฟังคำขอร้องของมึงด้วย อยากดูก็ชวนคนอื่นไปสิ” ผมบอกพร้อมกับหลบสายตาของมัน

“เพราะมึงอยากดู กูถึงจองตั๋วไว้ให้ ยังไงกูก็จะรอ อ่ะ เสร็จแล้ว ไปอาบน้ำไป”

“เออ งั้นมึงไปเอาข้าวให้ไอ้เป๊บกับเบลล่าหน่อยละกัน ไอ้เจคกูจัดการเอง เพราะมันไม่เชื่องกับมึง”

ไอ้มายด์พยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป วันนี้มันทำตัวแปลกๆ มาตั้งแต่เช้าละ เพราะตื่นไปใส่บาตรด้วย ร้อยวันพันปีเพิ่งจะเคยเห็นคนอย่างมันทำบุญ -_-


...................................To be continue.......................................

ไม่มีใครแทนใครได้ แต่ความรักก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้น้องฟิวตัดใจได้เร็ววัน


ฝากผู้ชายคนใหม่ด้วยค่ะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40513.msg2575039#msg2575039

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

เรื่องของคนนี้แต่งก่อนเท็นอีก แต่ยังไม่อยากเอาลง เพราะต้องคิดอะไรหลายอย่าง

แต่มาวันนี้...อยากให้ทำความรู้จักเขาดูค่ะ พี่โปรดน่ารักนะคะ <3

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 22-12-2013 20:39:14
โถ่วววมายยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 22-12-2013 20:57:56
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 22-12-2013 21:49:14
ลองห่างไหมมายด์ ลองตัดใจไหม?
ถ้าเค้าไม่รักจริงๆก็ต้องปล่อยเค้าไป..เนอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 22-12-2013 21:58:15
คนที่รอมันจะหมดแรงเอา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 22-12-2013 22:03:55
ง่ะเศร้า สงสารมายด์อ่ะ ฟิวส์สักวันไม่มีมายด์แล้วจะรู้สึก

ได้แต่มองตามเงารั้งแต่จะทำให้เจ็บปวด แต่คนที่อยู่ใกล้ตากลับไม่เปิดใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เปิดรับเขาเขามาแล้วแท้ ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 23-12-2013 00:49:29
มายด์ น่าสงสารวะ รักเค้าข้างเดียวมันเจ็บปวดนะฟิว ฟิวก็เคยเป็นนิ คิดสิๆๆๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-12-2013 06:55:53
รักคนที่เขาไม่รักเรา  มันก็เจ็บอย่างนี้
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-12-2013 07:28:42
ฟังคำฟิวแต่ล่ะคำแล้วแปลบเหลือเกิน :ling2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-12-2013 09:21:41
การดูหนังวันนี้จะเป็นการตัดสินใจอะไรของมายด์หรือเปล่า  หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆนะ

ฟิวรู้แต่ไม่รับความรู้สึกของมายด์  จริงๆตัวเองก็โอนอ่อนไปกะมายด์ตั้งเยอะแล้ว ปากแข็งๆ ถ้าเสียมายด์ไปแล้วจะรู้สึก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 25-12-2013 15:52:20
อันนี้อัพตอนไหน ทำไมเราเพิ่งเห็น  :really2:
อ่านพาร์ทฟิวแล้วสงสารมายด์เพิ่มไปอีก ฮอลล  :mew2:
 :กอด1 อยากอ่านสเปเมลเท็น 
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-12-2013 12:43:55
 :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-01-2014 12:42:15
เราเพิ่งเห็นว่าอัพไปเยอะขนาดนี้  :a5:   จนต้มมาม่า ล้างจานชามคว่ำแล้วกินของหวานแทนกันแล้ว แฮ่ ๆ
เท็นกะเมลก็น่ารักเหมือนเดิม  อย่างน้อยสองคนนี้ก็พยายามประคองความรักด้วยกัน   :กอด1:  ความเชื่อใจและเข้าใจมันต้องใช้เวลาเนอะ
แต่เวลาเค้าทะเลาะกันไปด่ากันไปหวานกันไปมันโดนใจจัง  มันฮาาาาา   :laugh:


ส่วนมายด์กะฟิว  ไม่ลืมหรอกว่ามายด์เคยทำอะไรไว้ แล้วก็จำได้ว่าฟิวรักใคร  แต่สงสารมายด์จังเลย   :m15:   
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 02-01-2014 13:00:37
คิดถึงเท็นค่ะ เมื่อไหร่จะมาต่อเรื่องนี้ล่ะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-01-2014 14:07:28
อ่านเสี่ยโปรดก่อนแล้วค่อยมาอ่านเรื่องนี้ เอาจริง ๆ นะชอบคู่หลักคู่เดียวอ่ะ
คือแม็ค เต้ ออกแนวปรับตัวไม่ทันเวลามันอยู่กันสองคน แล้วแม็คมุ้งมิ้งมากอ่ะ
ให้ความรู้สึกแบบ เฮ้ยย  นี่มันคนเดียวกันจริง ๆ เหรอฟระ  แต่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคู่นี้นะ
เพียงแต่เฉย ๆ อ่ะ  ส่วนคู่ของฟิว มายด์ มันผิดที่มายด์ข่มขืนฟิวในครั้งแรกนั่นแหละ
และพยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาในชีวิตฟิว  แต่ไม่ชอบฟิวที่มากไปอ่ะ
ความรู้สึกของฟิวที่มีให้เมลมันส่งผ่านออกมาแบบไม่เกรงใจเท็นที่เป็นแฟนเมลเลยนะ
ชาวบ้านรู้กันหมด  เพื่อนกันน่ะนะ ต้องห่วงความรู้สึกของกันด้วยสิ
อาจมีคนแย้งว่าแล้วเท็นล่ะไม่ห่วงความรู้สึกของฟิวบ้างเหรอ ฟิวชอบเมลก่อนนะ
แล้วไงล่ะ ก็เมลไม่ชอบด้วยซักหน่อย ประเด็นมันอยู่ทีเมลชอบเท็น รักเท็นต่างหาก
ซึ่งฟิวควรเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในซอกที่ลึกที่สุดของหัวใจ แล้วเป็นแค่เพื่อนที่ดีพอ
แต่แบบที่ทำอยู่มันล้ำไปนิดอ่ะ  มายด์เมื่อชอบแล้วก็พยายามทำเพื่อฟิวจัง
แต่ฟิวก็ตั้งหน้าตั้งตาชอบแฟนเพื่อนต่อไป โอ๊ยยย อยากโบกซักที
รอตอนต่อปายยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 02-01-2014 23:00:39
คู่มายด์กะฟิวนี่ดูหน่วงๆยังไงชอบกล ชอบคู่เมลกับเท็นอะ ชอบตอนที่หวานๆกัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 03-01-2014 20:31:45
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 03-01-2014 20:41:35
 :o12:  เมื่อไหร่จะหายมาม่านะ คู่นี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 08-01-2014 19:11:20
มาตามหาตัวแม็คจากเรื่องมาโปรด =_______________=
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-01-2014 19:15:23
เจอแม๊คแล้ว แต่พี่โปรดทำแบบนี้ไปเพื่อ


สมใจแล้วสิ ที่ทำให้น้อยเสียใจ และร่างกายน้องแย่ลง


คิดถึงเท็นเมื่อไรจะได้อ่านนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 08-01-2014 19:21:10
ย่องมาแอบดู แม็ค ให้น้องปลื้ม TT :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoke ที่ 08-01-2014 19:51:22
มาส่องแม็ก  :ling1:
แทนน้องปลื้มมม  :angry2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-01-2014 20:17:35
มาตามหาตัวแม็คเหมือนทุกคน ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 08-01-2014 20:32:28
มาช่วยสอดแนมแทนน้องปลื้มด้วยคน  :m24:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: yochiokissme ที่ 08-01-2014 21:28:30
มาส่องแม็ค แต่แอบคิดถึงน้องเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 08-01-2014 22:21:22
เราเชียร์ฟิวนะ

ในมุมมองของเรานะ ฟิวไม่จำเป็นต้องตัดใจหรอก
จำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องตัดใจ
การรักใครสักคนหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้รักเรา
แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องตัดใจจากเขานี่

แค่ทำใจก็พอแล้ว แต่จะดีกว่านี้ถ้าฟิวจะสงวนท่าทีลงอีกนิด
เราว่ามันเป็นรักที่ดีนะ ไม่ได้หวังให้เขามารักเรา ขอแค่รักเขาต่อไปก็พอ

คนบางคน มีหัวใจดวงเดียวไว้เพื่อคนเพียงคนเดียวนะคะ
เมื่อรักไปแล้ว ก็จะมอบความรักทั้งหมดให้คนๆนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ความรักตอบก็ตาม
มันไม่ไดัหมายความว่าฟิวโง่นะ ที่ดันทุรังรักเมลต่อ ในเมื่อฟิวไม่ได้ต้องการให้ทั้งคู่เลิกกัน
แค่อยากให้คนที่รักมีความสุขมากเท่านั้น แต่อาจแสดงออกมาไปนิด ก็ลดๆหน่อยนะลูก
หัวใจเมื่อมันเต็มแล้ว ก็เหมือนน้ำเต็มแก้วนั่นแหล่ะ เพิ่มเข้าไปอีกก็เอ่อล้นออกมา

คนที่บอกว่าทำไมไม่ตัดใจเสียที ถ้าความรักมันตัดได้ง่ายคงตัดแล้วล่ะค่ะ
ถ้ามายด์อยากรักฟิว ก็ต้องรักให้มากกว่าที่ฟิวรักเมล
รักที่แท้จริง ใช่ว่าจะต้องอยู่คู่กันนะคะ มันอยู่ที่ใจค่ะ ว่าเรานิยามความรักของเราว่ายังไง

เม้นอาจจะขัดแย้งกับคนอื่นไปบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเอง
เราคิดว่า บางคนเกิดมาเพื่อรักคนแค่คนเดียวนะคะ แม้จะไม่ได้ความรักตอบ
แต่ความรู้สึกรักก็ยังคงมั่นคงไม่มีแปรเปลี่ยน :) มันยากนะคะ ที่จะมาทำให้คนประเภทนี้
เปลี่ยนใจได้ มายด์อาจจะน่าสงสาร แต่ฟิวทำถูกแล้วนะคะ ที่ไม่ได้ให้ความหวังมายด์ทั้งๆที่ยังไม่ได้รัก

บางคนยังพูดเลยว่า ถ้าไม่รักก็อย่าให้ความหวังสิ ดังนั้นตอนที่ฟิวยังไม่รักมายด์แล้วทำตัวแบบนี้เราว่าไม่ผิดหรอก
กลับกันถ้าทำตัวดีด้วยให้ความหวังด้วยแล้วยังนึกถึงเมล นี่สิถึงจะน่าติ
ข่มขืน ไม่ว่าจะรักมากแค่ไหนก็ไม่น่าอภัยนะคะ
ถ้าเป็นเราเองที่โดน ชาตินี้อย่าหวังจะรักกันเลย
นี่ฟิวยังยอมคุยด้วย ก็ถือว่าดีแล้วนะ

ได้แต่รอดูแล้วว่ามายด์จะทำยังไงถึงจะสั่นไหวใจของฟิวได้
เป็นกำลังใจให้มายด์ล่ะกัน สู้ๆนะ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนได้ นับประสาอะไรกับใจคนกัน จริงไหม^^

เว้นแต่มายด์จะถอดใจเสียก่อน ถ้าถอดใจแสดงว่าความรักของมายด์ยังมั่นคงไม่พอ
ถ้ารักเสียอย่าง มีหรือจะถอดใจ คนที่ถอดใจหมายถึงยังรักไม่เพียงพอนะ
อาจท้อบ้างล้าบ้างอันนี้ไม่ว่าแต่อย่าถอดใจนะ แต่ถ้าเหนื่อยเมื่อไหร่อันนี้เราว่าหยุดและพักเถอะ
จากนั้นก็ไตร่ตรองให้ดีว่ายังรักอยู่ไหม ถ้ายังยืนยันตัวเองว่ายังรักอยู่ไม่เปลี่ยนก็เดินหน้าต่อโลด
ไม่อย่างนั้นก็หยุดเท่านี้เถอะ แต่เราว่ามายด์น่าจะเข้าใจฟิวมากกว่าใครนะ ในเมื่อตัวเองยังตัดใจไม่ได้
มีหรือที่ฟิวจะตัดใจได้กับความรักที่แอบรักมานาน ฟิวเองยังเข้าใจเลยว่าการให้ความหวังกับคนที่ไม่รักมันเจ็บแค่ไหน

แต่ถ้าทั้งสองรักกันได้ก็จะดีมากกก แต่หลังจากนั้นมายด์ก็จะเป็นเจ้าชายนิทรานี่
คนที่ต้องโศกในท้ายสุดก็คือฟิวอีกอยู่ดี

รักข้างเดียวก็เจ็บแล้ว
พอตัดใจมามีรักที่สองได้ คนรักก็เดี้ยงเป็นเจ้าชายนิทราอีก
อ่านแล้วร้องไห้ตอนฟิวทำกระทงให้มายด์แล้วต้องไปลอยคนเดียว

สู้ๆนะฟิว รักนะลูกกก><
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 08-01-2014 22:36:33
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงเมลเท็นแล้วววววววววววววววววน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 09-01-2014 00:58:22
แม๊กจับได้ว่าเต้มีซัมติงกะน้องมี
เลยประชดด้วยการไปยุ่งกับมาโปรดหรือป่าว
คิดถึงเท็นนะ เมื่อไหร่จะมา
สงสารปลื้ม รำคาญเต้กะแม๊ก มึงไปรักกันไกลๆน้องปลื้มกับมาโปรดไป๊
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 11-01-2014 21:27:52
สนุกดีค่าา ชอบเท็นเท็น ~
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 12-01-2014 14:16:42
มีแต่คนตามมาส่องแม็คอะค่ะ ยกมือเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

แต่อ่าน SoWhat ถึงตอนปัจจุบันแล้ว แม็ค/มี ไม่มีทางมี อะไรกะเสี่ยแน่นอน

ตอนนี้สงสารมายด์มากๆ เหมือนฟิวส์ไม่เคยมองเห็นมายด์เลย ในมโนของมายด์เองอะนะ อ่านตอนspecial ไป เหมือนมายด์จะหลับไม่ตื่นเพราะอะไรสักอย่างอ่ะ กลัวไปล่วงหน้าแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 16-01-2014 00:18:37
มาต่อเรื่องนี้เร็วๆ นะ ชอบมากเลย ♥
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 20-01-2014 12:16:00
ตอนแรกมาเป็นสปาย ส่องกิ๊กเสี่ยโปรดให้น้องปลื้ม
แต่อยู่ๆ หลงรัก เท็น เท็น ตอนไหนไม่ร้ตััวเรยยยย  :-[ :กอด1:

มาต่อเร็วๆ นะคะ

รักคนเขียนจัง  :กอด1:  :L2:

# ติ่งเสี่ยโปรดแต่แอบปันใจให้เท็นเท็น อิอิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 20-01-2014 20:26:25
เมื่อไหร่ฟิวจะใจอ่อนซะที
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 22-01-2014 22:32:46
 :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 22-01-2014 22:34:44
ท่านเทพเท็นนนนนนนน หายไปไหน รุ้มั๊ยเค้าคิดถึงงงงงงงงงง  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 25-01-2014 11:42:01
ตามมาจากมาโปรด แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่ามาหลงรักเท็นอีกคนล่ะ กร๊ากกก
คู่นี้เวลามันดีกันก็น่ารักงุ้งงิ้งกันอยู่สองคน เพื่อนนั่งหัวโด่อยู่เต็มก็ไม่สนใจ เราชอบตรงนี้ๆ  :laugh:
แต่พอมันทะเลาะกันก็ใจหาย ต้องนั่งอ่านทั้งน้ำตาตกใน  :hao5: รักๆกันไว้อ่ะดีแล้วพวกเอ็งเอ๊ยยยย  :hao7:

ยังคงลุ้นอยู่กับคู่ของ มาย์ฟิว และ เต้แม็ค   :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-02-2014 19:37:02
http://www.youtube.com/v/U2Z3SafhoxI
เพลงเพราะค่ะ

Special Inside : มายด์ เมธัส

(สุขสันต์วันเกิดเว้ยมึง แล้วอยู่ไหนวะ ให้ไปหามั้ย)

เสียงของไอ้เมลงุ้งงิ้งมาตามสาย มันไม่ได้ลืมเวลาหรืออะไรหรอก แต่มักจะโทรมาตอนเกือบเที่ยงคืนในวันที่ 15 มกราคมของทุกปี เพราะมันเคยบอกผมว่าอยากเป็นคนสุดท้ายที่อวยพรวันเกิดให้

ตั้งแต่อายุห้าขวบเป็นต้นมาผมไม่เคยมีงานวันเกิด เพราะในวันเกิดของผมคือวันที่แม่จากไป พ่อไม่เคยยินดีกับวันนี้เลยสักครั้งตั้งแต่ผมจำความได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้น้อยใจอะไร ผมรู้ว่าพ่อรู้สึกยังไง และผมเองก็ไม่ต่างกัน

ถ้าในวันนี้ของเมื่อสิบห้าปีก่อนแม่ไม่ออกไปซื้อเค้กวันเกิดให้ผม อุบัติที่ผมไม่เคยอยากจำก็คงไม่เกิดขึ้น...

ในวันเกิดของผมเป็นวันเดียวที่จะได้เจอหน้าพ่อ เราสองคนจะไปเยี่ยมหลุมศพของแม่ นำดอกไม้ที่ท่านชอบไปวางไว้ให้ แล้วจากนั้นก็จะแยกย้ายกันไปคนละทาง ทุกๆ ปี ไอ้เมลจะมาอยู่เป็นเพื่อนผม ไม่ออกไปเที่ยวด้วยกัน ก็แค่นั่งเล่นเกมกันยันสว่าง

แต่ปีนี้...ผมบอกมันว่ามันไม่ต้องมาแล้ว ผมมีคนที่อยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยในวันนี้ ทว่า...คนที่ผมรอเขากลับไม่มา

ตั๋วหนังที่ซื้อไว้ก็ต้องทิ้งเพราะเลยเวลามาหลายชั่วโมง แต่ผมก็ยังคงนั่งอยู่หน้าโรงหนัง ยังคงเฝ้ารอ...เพื่อหวังว่าคนที่นัดไว้ จะมาสักที

ซึ่งความจริงแล้วผมก็แค่ทึกทักเอาเองว่าเรา...นัดกันไว้

“ไม่ต้องเว้ย อยู่ได้ ไม่เป็นไร”

(บอกมาเถอะน่า นี่อยู่ข้างนอกกับเท็น กำลังหาที่เที่ยวกันอยู่พอดี)

พวกมันเที่ยวกันตอนเกือบเที่ยงคืนนี่นะ =_=

“ไม่หลับไม่นอนวะ”

(แฟนกูแม่งเสือกหิวขึ้นมา นี่ก็ตระเวนหากระเพาะปลากันอยู่ แต่พูดเลย ใครแม่งจะเปิดขายให้ตอนเกือบเที่ยงคืนวะ เท็นแม่ง // บ่นอะไรเมล รีบๆ เดินดิวะ)

เพลียแทนไอ้เมล =_=; ไอ้เท็นไม่ใช่จะเป็นอย่างนี้ครั้งแรกนะครับ แต่มันเป็นบ่อยมาก มันเคยเกือบพังประตูเข้าห้องฟิวกลางดึกเพราะอยากกินราดหน้าหมี่กรอบ โดนด่าไปชุดใหญ่แต่สุดท้ายมันก็ได้กินนั่นแหละ

“กูอยู่หน้าโรงหนังว่ะ”

(อ่ะ มีเดทเหรอ)

“เปล่า กำลังจะกลับ พวกมึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา”

(แถวหลังมอ งั้นเดี๋ยวไปเจอกันหน้าร้านพี่เจ๋งนะ)

“โอเค”

สุดท้ายแล้วเมื่อนาฬิกาบอกเวลาวันใหม่ วันเกิดผมก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเหมือนวันธรรมดาวันหนึ่งเท่านั้น
ข้อความของไอ้แต้มไอ้เขตก็เหมือนทุกปี คือขอให้ชีวิตผมพบเจอแต่สิ่งดีๆ จนผมแอบคิดว่าพวกมันเซฟไว้แล้วตั้งเวลาส่งมาให้รึเปล่า ส่วนของไอ้ลินก็ไม่ได้ต่างไปจากไอ้พวกนั้นมาก ปีที่แล้วขอให้ผมถูกหวย ปีนี้มันขอให้ผมถูกล็อตเตอร์รี่ ปีหน้าคงขอให้ผมถูกหวยนิเคอิแหละครับ =_=;

ผมมาถึงหน้าร้านพี่เจ๋งในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ไอ้เมลกับไอ้เท็นยืนคุยกันอยู่ ในมือซ้ายของไอ้เมลมีกล่องใส่ทาโกยากิ ส่วนมือขวาทำหน้าที่จิ้มทาโกยากิป้อนไอ้เท็น

“อ้าว มาแล้ว จะเข้าร้านพี่เจ๋งมั้ย หรือไปเดินเที่ยวกัน” ไอ้เมลถามขึ้นเมื่อเห็นผม

“แล้วแต่พวกมึง”

“นั่นไงกูบอกแล้วว่าไอ้มายด์มันไม่เรื่องมากหรอก พากูไปหาซื้อกระเพาะปลาซะดีๆ” ไอ้เท็นว่าพลางผลักหัวแฟนมัน ก่อนจะอ้าปากรับทาโกยากิที่ไอ้เมลส่งไปให้

“ร้านมันปิดหมดแล้ว มีแต่โจ๊กที่ขาย”

“นี่มึงยังไม่ได้กินกระเพาะปลาอีกเหรอไอ้เท็น”

“ยัง ได้แดกแต่ทาโกยากิเนี่ย ไอ้เมลแม่งกากสัด หาร้านไม่เจอก็มาอ้างว่าร้านปิด”

“กูไม่ได้อ้าง”

“เฮ้ อย่าตีกันดิวะ” ผมรีบห้ามก่อนมันสองคนจะทึ้งหัวกัน

“กูรู้จักร้าน เดี๋ยวพาไป”

“นั่นไง ไอ้มายด์แม่งเทพว่ะ ไปๆ กูหิว”

ทาโกยากิแปดลูกมึงคงไม่เรียกว่ากินสินะ -_-

ผมพาไอ้เมลกับไอ้เท็นมาร้านโจ๊กโต้รุ่งที่ขายก๋วยจั๊บและกระเพาะปลาด้วย ไอ้เท็นถลาเข้าไปนั่งโต๊ะทันที มันคงอยากของมันมาก ในขณะที่ไอ้เมลทำหน้าเซ็งๆ ส่วนผมเดินไปสั่งเมนูที่พวกมันรีเควสกับอาแปะคนขายแล้วเดินไปตักน้ำมาบริการพวกมัน

“กูไม่เห็นเคยรู้จักร้านนี้” ไอ้เมลบอกอย่างเด็กที่ไม่ยอมรับความจริงว่ามีร้านนี้เปิดขายกระเพาะปลาอยู่

“ก็ไม่แปลก เด็กมอเราส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรู้จัก”

“แล้วมึงรู้จักได้ไง”

“เคยมากินกับฟิวบ่อยๆ”

“เออ ไอ้ฟิวแม่งรู้จักร้านของกินเยอะ ไม่แปลก แล้วนี่มึงไม่ได้ออกมาดูหนังกับมันเหรอ” ไอ้เท็นที่นั่งยัดทาโกยากิเข้าปากเงยหน้าขึ้นมองผม

“เปล่า กูมาคนเดียว”

“อ้าว ไหนมึงบอกว่า...”

ไอ้เมลพูดขึ้นมาได้แค่นั้น ก่อนจะโดนไอ้เท็นเอาทาโกยากิลูกสุดท้ายยัดเข้าปาก มันเลยหยุดพูดแล้วหันไปตีกันเอง =_=;

ผมล่ะเพลียกับพวกมันจริงๆ

“เดี๋ยวคืนนี้มึงโดนของกูยัดปากแน่ รู้ว่ามันร้อนแต่ไม่มีจะเป่าให้กูหรอก เหี้ย ปากพองเลย”

“เรื่องของมึงดิ”

ไอ้เมลผลักหัวแฟนมันเลยครับ แต่โดนไอ้เท็นทึ้งหัว ก็ด่ากันไปแกล้งกันมานั่นแหละ แต่คู่นี้แม่งชอบเล่นอะไรแรงๆ จนบางทีคนนอกอย่างผมก็กลัวพวกมันจะตีกันจริงๆ -*-

“พอๆ พวกมึงนี่ อยู่กันดีๆ ไม่ได้ไงวะ”

“ก็มึงดูมันดิ นิสัยเสียว่ะ” ไอ้เมลหันมาฟ้องผม แต่ไอ้เท็นทำแค่ยักไหล่ไม่สนใจกับสภาพหัวฟูๆ ของแฟนมันเลยสักนิด

นั่งกินกันไปจนเสร็จก็พากันกลับ คืนนี้ไอ้เมลไอ้เท็นนอนที่บ้าน ส่วนผมคงไม่กลับไปกับพวกมัน เพราะมีที่ที่หนึ่งต้องแวะไป

เมื่อเช้าหลังจากทำบุญตักบาตรแล้วผมก็ไปเยี่ยมหลุมศพของแม่ แต่ปีนี้ผมกับพ่อไปคนละเวลากันเลยไม่ได้เจอกัน ผมนับถือศาสนาพุทธตามคุณย่าที่เลี้ยงผมมา ที่ผมรู้จักไอ้เมลได้ก็เพราะย่าผมกับย่าไอ้เมลเป็นเพื่อนสมัยไฮสกูล ย่าไอ้เมลเป็นคนรัซเซีย ถึงจะไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ แต่กับย่าของผมพวกท่านก็สื่อสารกันด้วยภาษาสากล

ผมขับรถมาถึงสามแยก สถานที่ที่เมื่อสิบห้าปีก่อนมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วจนชนคนที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายเข้า คนๆ นั้นก็คือแม่ที่กำลังจะข้ามถนนมาหาผมที่รออยู่ที่รถพร้อมกับพ่อ

ผมจำรายละเอียดไม่ได้มากนัก แต่ที่จำได้ไม่เคยลืมคือสถานที่แห่งนี้ได้พรากแม่ไปจากผม

วางดอกลิลลี่สีขาวที่เริ่มเฉาแล้วลงตรงเสาไฟจราจร ยืนมองท้องถนนอยู่สักพัก ก่อนจะขึ้นรถขับออกมา

ผมกลับมาถึงเกือบตีสอง เห็นรถของไอ้เมลจอดอยู่ก่อนแล้ว พวกมันคงไม่ได้ไปต่อที่ไหนอีก มาถึงห้องที่ผมอาศัยอยู่มาหลายเดือนก็พบว่าไฟไม่ได้เปิดอยู่ ฟิวคงนอนไปแล้ว

เข้าไปอาบน้ำก่อนจะออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นเตียงนอน

ผมรู้ตัวว่าในสักวันก็คงต้องพาตัวเองออกไปให้ห่างจากชีวิตของฟิว เพียงแต่ว่าในวันนี้ผมยังคงไม่พร้อม ผมอยากจะมองใบหน้านี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำอะไรดีๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะพอทำให้ได้ แต่ผมรู้ดีว่าสักวันก็ต้องจบ ถ้าวันหนึ่งฟิวได้เจอคนที่รักฟิวอย่างที่ฟิวรัก วันนั้นผมก็คงต้องไป

เพราะถึงยังไง...คนที่ฟิวรักก็ไม่มีวันเป็นผมอยู่ดี

“กลับมาแล้วเหรอ”

“อืม”

“มึงไปไหนมาล่ะ”

“เที่ยว”

“ไม่ได้รอใช่ไหม”

“อืม”

“ดีแล้ว นอนเถอะ”

“อืม”

เพราะฟิวเป็นคนขี้สงสาร ผมจึงไม่อยากบอกว่าผมรออยู่เกือบหกชั่วโมง ไม่อยากให้มันรู้สึกผิดในเมื่อผมเต็มใจที่จะรอเอง

“ฝันดีนะ”

ไม่ใช่เพราะความเคยชินที่ผมพูดกับฟิวอย่างนี้ทุกคืนก่อนนอน แต่เพราะผมอยากให้ฟิวฝันดีจริงๆ ไม่ต้องฝันถึงผมก็ได้ แค่ตื่นเช้ามาให้ฟิวรู้สึกดีที่ได้เริ่มต้นวันดีๆ ในทุกๆ วัน

ถึงแม้ว่าตัวผม...จะฝันแต่เรื่องร้ายๆ ซ้ำๆ ก็ตาม ความฝันที่มีแต่คนที่ต้องเจ็บปวดเพราะผม ทั้งแม่ที่ต้องจากไปเพราะผม ทั้งพ่อที่ต้องเจ็บปวดเพราะผม และฟิว...ที่ถูกผมทำร้าย

ให้มีแต่ผม...ที่ต้องจดจำเรื่องพวกนี้ก็พอ

...........................................End Special............................................

สเปเชี่ยลมายด์ฟิวขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ ไม่ใช่ทุกคู่ที่จะสมหวังในเรื่องความรักนะคะ คนไม่รัก ยังไงก็คงไม่รักอยู่ดี

ขอบคุณคนรอค่ะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-02-2014 19:45:23
 นึกว่าตาฝาด
 แอบสงสารมายด์ คนไม่รักทำยังไงก็ไม่รัก
 เจ็บดีแหะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: puna ที่ 02-02-2014 20:05:46
น้ำตาไหล  มันเจ็บนะ!! :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-02-2014 20:10:05
มาแล้วววว
ดีใจมากแต่ก็ยัง คถ.เมลเท็น.
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 02-02-2014 20:19:52
เศร้าเนอะ T_T
แต่เป็นจบแบบเรียลมากเลย ให้ฟิวหันมาชอบคนที่ข่มขืนตัวเองมันก็คงเป็นไปได้ยากจริงๆอ่ะแหละ

คิดถึงเมลเท็นมากกๆๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 02-02-2014 20:29:58
เอ่อ
ขอถามนักเขียนหน่อยนะคะ
ที่บอกว่าไม่ใช่ทุกคู่ที่จะสมหวัง

แต่จากที่อ่านตอนพิเศษลอยกระทง
เราคิดว่าทั้งคู่สมหวังกันแล้วนะคะ
มายด์รักฟิว ฟิวเองก็รักมายด์
เพียงแต่เวลาที่ได้อยู่อย่างคนรักกันมันมีน้อยมากกกกกกก
เพราะมายด์กลายเป็นเจ้าชายนิทราเสียก่อน =_=;;

เราหวังว่าจะได้อ่านฉากหวานๆระหว่างทั้งคู่บ้างแม้ว่าจะได้ไม่มากก็เถอะ
เพราะถ้าจำไม่ผิด ทั้งคู่รักกันไม่ทันไรมายด์ก็เดี้ยงเสียก่อน (เราเข้าใจถูกหรือเปล่าคะเนี่ย หรือมันเป็นความคิดของเราคนเดียวหว่า???)

เอาเป็นว่าถ้าใช่ก็ดี ถ้าไม่ใช่ ฟิวก็รู้ใจตัวเองแล้ว รอแค่มายด์ฟื้นมายด์ก็จะมีฟิวคอยดูแลไปตลอด อิอิ
ฟิวไม่มีคนรักอื่นหรอกมายด์ โอ๋โอ๋
เพราะในอนาคต (ตอนนายใกล้จะเดี้ยง) ฟิวก็รู้ใจตัวเองแล้วววววว

คนแต่งอย่าใจร้ายมากเลยนะคะ
เราอาจไม่เหมือนใคร เพราะเป็นติ่งมายด์ฟิวที่มีอยู่น้อยนิด 555
ไม่หรอกเพราะคู่นี้อ่านแล้วมันหน่วงดี เลยชอบน่ะค่ะ
อาจเป็นเพราะคู่เท็นรู้อยู่แล้วว่ายังไง๊ยังไงก็ต้องคู่กับเมลล์และรักกันอย่างมีความสุข

เลยอดเป็นกำลังใจให้มายด์ฟิวจนเกินเหตุไม่ได้
เอาเป็นว่าคอยคู่นี้จนกว่าจะมีความสุขแล้วกันค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-02-2014 20:35:34
เอ่อ
ขอถามนักเขียนหน่อยนะคะ
ที่บอกว่าไม่ใช่ทุกคู่ที่จะสมหวัง

แต่จากที่อ่านตอนพิเศษลอยกระทง
เราคิดว่าทั้งคู่สมหวังกันแล้วนะคะ
มายด์รักฟิว ฟิวเองก็รักมายด์
เพียงแต่เวลาที่ได้อยู่อย่างคนรักกันมันมีน้อยมากกกกกกก
เพราะมายด์กลายเป็นเจ้าชายนิทราเสียก่อน =_=;;

เราหวังว่าจะได้อ่านฉากหวานๆระหว่างทั้งคู่บ้างแม้ว่าจะได้ไม่มากก็เถอะ
เพราะถ้าจำไม่ผิด ทั้งคู่รักกันไม่ทันไรมายด์ก็เดี้ยงเสียก่อน (เราเข้าใจถูกหรือเปล่าคะเนี่ย หรือมันเป็นความคิดของเราคนเดียวหว่า???)

เอาเป็นว่าถ้าใช่ก็ดี ถ้าไม่ใช่ ฟิวก็รู้ใจตัวเองแล้ว รอแค่มายด์ฟื้นมายด์ก็จะมีฟิวคอยดูแลไปตลอด อิอิ
ฟิวไม่มีคนรักอื่นหรอกมายด์ โอ๋โอ๋
เพราะในอนาคต (ตอนนายใกล้จะเดี้ยง) ฟิวก็รู้ใจตัวเองแล้วววววว

คนแต่งอย่าใจร้ายมากเลยนะคะ
เราอาจไม่เหมือนใคร เพราะเป็นติ่งมายด์ฟิวที่มีอยู่น้อยนิด 555
ไม่หรอกเพราะคู่นี้อ่านแล้วมันหน่วงดี เลยชอบน่ะค่ะ
อาจเป็นเพราะคู่เท็นรู้อยู่แล้วว่ายังไง๊ยังไงก็ต้องคู่กับเมลล์และรักกันอย่างมีความสุข

เลยอดเป็นกำลังใจให้มายด์ฟิวจนเกินเหตุไม่ได้
เอาเป็นว่าคอยคู่นี้จนกว่าจะมีความสุขแล้วกันค่ะ

ใจเย็นๆ นะคะ มันยังคงขึ้นอยู่กับระยะเวลา แต่ก็ต้องยืนยันว่ามันไม่ใช่ทุกคู่ที่สมหวังจริงๆ ค่ะ ระหว่างเกิดเหตุการณ์นั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าทั้งสองคนรู้สึกยังไง ตอนนั้นก็ปีสี่กันแล้ว อดทนรอนะคะ แต่นี่เป็น last special แล้วจริงๆ รักหรือไม่นั้น ไว้ว่ากันอีกที
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 02-02-2014 20:39:53
แล้วต่อไปจะมีแฟนกันมั้ย ใครจะได้ใครเป็นแฟนล่ะ อยากรู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 02-02-2014 21:03:26
รักไม่ช่ทุกอย่างจริงๆเน้อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 02-02-2014 21:30:26
ก็เข้าใจอะนะว่าไม่ทุกคู่หรอกที่จะสมหวังแต่ก็สงสารมายด์อะ  :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 02-02-2014 21:44:02
 :เฮ้อ:
หดหู่แท้
เดี๋ยวเราปลอบใจมายด์ให้เอง #ไม่ใช่ละ = =
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 02-02-2014 21:50:43
เศร้าเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 02-02-2014 21:54:31
สงสารมายด์ อ่านตอนนี้แล้วหน่วงๆ อยากให้ผู้ชายคนนี้พบเจอกับความสุขบ้าง   :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-02-2014 22:00:11
เศร้าๆกับตอนพิเศษไม่พอ มาเศร้ากับประโยคของคนเขียนอีก :ling3:
จะใจเย็นๆรอดูว่าทั้งคู่จะเป็นยังไงต่อไป (ใจเย็นพอไหมเนี่ยเรา :z3:)
แต่เท็นเท็น อยากกินกระเพาะปลากลางดึก ลำบากเมลเลย :m20:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: mahaki ที่ 02-02-2014 22:43:13
ฟิวก็ต้องอะไรกับมายด์บ้างแหละไม่งั้นจะยอมซักผ้าหรือทำอะไรๆให้มายด์ทำไม คนหรือเกลียดกันแม้แต่หน้าก็ไม่มองหรอกค่ะ ดูจากพฤติกรรมของมายด์ที่ดีขึ้นๆแต่ฟิวก็ยังยอมนอนห้องเดียวด้วยแบบนี้ มันก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างแหละ ถึงจะได้ยินจากปากก็อย่าเพิ่งคิดไปไกล ฟิวอาจเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจก็ได้  :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 02-02-2014 23:20:15
สงสารมาย ก็จริงคนไม่รักยังไงก็ไม่รัก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 03-02-2014 00:13:56
มายด์ น่าสงสาร  :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 03-02-2014 07:31:30
สงสารมายด์อ่ะ :ling1: :ling1: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-02-2014 08:35:00
เข้าใจมายด์ เข้าใจฟิว แต่ทุกอย่างมีเส้นทางของมันเอง..
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-02-2014 08:44:20
สงสารมายด์ แงงงงง้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 03-02-2014 09:01:51
เสียใจอ่ะ อยากให้คู่นี้สมหวัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-02-2014 09:08:29
ฟังเพลงไปอ่านไป  ร้องไห้เลยอ่ะ ขนาดเท็นเมลมายังเบรกอารมณ์ไม่ได้เลย  สงสารมายด์จัง  เข้มแข็งเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 03-02-2014 11:24:51
มาตอนค้างงงงง  เจ็บปวดดดด.....
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 03-02-2014 13:16:32
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล  :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 03-02-2014 15:06:36
ปาดน้ำตากับมายด์ก่อนนะ ทำไมฟิวส์ใจร้ายแบบนี้ล่ะ

ใจร้ายมากเลยนะ ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป อยากให้เมลมารับผิดชอบสัตว์เลี้ยงของเมลกับเท็นมาก

คืออยากตัดให้ขาดเลยอะ ฟิวส์จะได้ไม่ใส่ใจกับเมลมากเกินไป สงสารมายด์ทำไมเรื่องนี้คู่นี้ดราม่ารุนแรงแบบนี้ ร้องไห้แปปปป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: oaTahcaK ที่ 03-02-2014 18:20:57
จะบอกว่า
มาจากเรื่องมาโปรด
นี่ก็เพ้อคู่พี่มาโปรดน้องปลื้มแล้วนะ  :hao3:
แต่ก็แอบชอบความติสต์ของพี่เท็น 

พอตามมาอ่านเรื่องนี้เท่านั้นแหละ
หลงเมลเท็นโงหัวไม่ขึ้นเลย
อ๊ากกกกกกกกก
ชอบคนแบบเท็น  :impress2:
อยากมีแฟนแบบเมล  :-[
(จะบอกว่าตอนแรกนี่แอบนึกว่าเท็นเป็นเมะ  :a5:)

อ่านรวดเดียวนี่
อารมณ์หลากหลายมาก
ยิ่งตอนเมลจะเลิกกับเท็น หรือเท็นจะเลิกกับเมลนะ
หน่วงข้ามคืนเลย
แต่ก็สนุกดี หวานๆขมๆเผ็ดๆ
ยังไงก็ได้ Happy Ending เป็นพอ  :hao7:

คู่แมคกับฟิวก็อยากให้สมหวังนะ
แต่แล้วแต่ไรท์เลย
เราเชื่อมือไรท์ เพราะไรท์เขียนสนุก  :heaven

รออ่านต่อทุกคู่เลย โดยเฉพาะคู่เมน  :hao3:
และแอบลุ้นว่าจะมีคู่พี่โปรดน้องปลื้มหลุดมาเรื่องนี้ไหม (ไม่มากก็น้อย)  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 03-02-2014 19:25:18
เย่ อ่านทันแล้ว  :hao7:
มาต่อไวๆ นะฮะ  :mew3:
ไฟทติ้งงงงง  :really2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 03-02-2014 23:39:33
มานิดเดียวแต่ ปวดใจเหลือจะกล่าว  :เฮ้อ:
น้ำตาไหลพรากเลยอ่ะ  รู้สึกเศร้าในจิต โศกในใจ
เขาพร้อมรับมาม่าได้ทุกรสเลยนะไม่ว่าคู่ไหน  ฮ่าๆๆ จัดมา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 04-02-2014 01:10:58
ตามทันแล้ววววว

ยังไม่จบใช่ไหมครับ
ตามมาจากเรื่องมาโปรด


อ่านตามสารบัญเลยครับ
แต่แอบงงๆ ว่า มายด์ประสบอุบัติเหตุตอนไหน?
ไม่ได้เล่าใช่ไหมครับ นอกจากบอกตอนลอยกระทง งงอะ TT
อ่านเจอประโยคที่ว่า คนไ่ม่ใช่ ยังไงก็ไม่รัก คือแบบ เจ็บอะ



มาถึงคู่หลักกันดีกว่า

หวานมาก น่ารักมาก

แม้จะเป็นคู่รักแปลกประหลาด โดยเฉพาะนิสัยเท็นเท็นก็ตาม ฮ่าๆ
แต่ตอนดราม่ากันนี่ หน่วงมากกกกกกก
ยิ่งตอนจะเลิกกัน ตอนที่เมลรู้ว่าเท็นเคยเป็นอ.ของพ่อแม่นะ โอว...
ไหนจะพี่เลี้ยง ไหนจะคู่หมั้น ชลมุนน่าดู T_T



ปล. ช่วยบอกหน่อยเถิด ว่ามายด์ทำไมประสบอุบัติเหตุ ยังไง ฮือๆๆ ค้างอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 05-02-2014 11:37:22
หน่วงนัก เจ็บนัก ก็เลิกเหอะมายด์ ;(

ไม่รู้สิ ความรู้สึกเราอยากให้มายด์คู่กับคนอื่นมากกว่าแฮะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 05-02-2014 20:06:22
ตอนที่ 37

วันนี้มาสิงสถิตย์ ณ คอนโดไอ้เขต ด้วยไอ้พวกภาคไฟมันมีโปรเจ็ค เลยต้องมาสุมหัวกันอยู่ที่นี่ เอาจริงๆ ผมก็แปลกใจนะที่เห็นไอ้แต้มกับไอ้ลินเปิดหนังสือเป็น สาระเลย ไม่ได้ว่าใคร -O-;

“ไอ้เท็นกับไอ้ฟิวนี่กูไม่แปลกใจนะ แต่ทำไมมึงลากกูมาด้วยวะไอ้ลิน” ไอ้กัสถามด้วยความสงสัยสุดขีด

“ก็กลัวมึงเหงา ที่บ้านไม่มีใครอยู่ ถ้าไม่มาแล้วมึงจะเล่นกับใคร” ไอ้ลินตอบพร้อมกับปิดหนังสือ ท้าวคางมองหน้าไอ้กัสอย่างที่พยายามทำให้ตัวมันเองดูดีที่สุด

“กูก็มีแฟนมั่งเหอะ อะไรกับกูนักหนาก็ไม่รู้มึงเนี่ย”

“เอาน่าๆ มาอยู่กับเพื่อนบ้าง อยู่กันเยอะๆ อบอุ่นดี”

“มีปัญหาครอบครัวรึไง เป็นเด็กมีปมเหรอมึง” ผมอดไม่ได้เลยถามด้วยความสงสัยจริงๆ

“เหี้ยเท็นหุบปากไป ชอบตีหน้าซื่อถามแต่วาจาเชือดเฉือน!”

ผมยักไหล่นิดๆ ก่อนจะเอนหลังหยิบหนังสือมาอ่านต่อ ไอ้ลินหันหน้าไปฟ้องเมลแต่ก็แค่นั้น เวลาเมลทำงานมันจะไม่สนใจอะไรรอบตัวเลย เห็นหน้าเครียดเขียนสมการกับไอ้เขตมาได้สักพักแล้ว

“หิวยัง” ถ้าตอบไปว่าแค่เห็นหน้ามึงก็อิ่มแล้ว ไอ้พวกนั้นจะอ้วกกันป่ะวะ?

“ยัง”

“ถ้าหิวก็บอกนะ”

“รู้น่า ทำงานไป”

“หึหึ ว่าง่ายนะวันนี้”

“อยากให้ยากมั้ย เดี๋ยวจัด”

“พอๆ ขอผมมีสาระแป๊บนะครับคุณ”

พักนี้เมลมีสาระบ่อย ไม่รู้จริงจังอะไรกับชีวิตนักหนา ผมไม่ได้หมายถึงคำพูดมันเมื่อกี้หรอกนะ นั่นน่ะมันแค่กวนตีน แต่ผมหมายถึงพฤติกรรมของมันในช่วงนี้ต่างหาก ไม่รู้จะขยันเอาโล่หรือไง เห็นแล้วมันก็น่าสนับสนุนนะ มีแฟนรักดีอย่างนี้ แต่เอาจริงๆ กูหงุดหงิด เอะอะอะไรก็นอนก่อนเลยนะ อ่านหนังสือเสร็จเดี๋ยวตามไป เข้าใจนะ แต่บางทีก็ไม่เข้าใจว่ะ -*-

“ทำหน้ากริ้วใครครับท่าน แตงโมหน่อยมั้ยครับจะได้ใจเย็นๆ” ไอ้แต้มนำเสนอจานผลไม้ที่มันครอบครองแต่เพียงผู้เดียวมาเป็นเวลานานให้ผม

“ให้กูแดกอะไร วิญญาณแตงโมหรือหัวมึง”

“ง่ะ เค้ามาผิดจังหวะ โทดคร้าบบบบบ”

“กินขนมหน่อยมั้ย เดี๋ยวกูไปเอาใส่จานมาให้” ไอ้ฟิวที่นั่งถักนิตติ้งตั้งแต่มาถึงเงยหน้าขึ้นถามผม

ผมส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลุกเดินออกมาที่ระเบียง

“เบื่อเหรอวะ” ไอ้กัสที่ตามมาด้วยถามขึ้น

“อืม”

“งั้นลงไปเดินเล่นกันมั้ย กูก็เบื่อเหมือนกัน”

“คิดว่าไปกับกูแล้วไอ้ลินมันจะไม่ตามหรือไง หึหึ”

“เออ คงงั้น จะไปมั้ยล่ะ”

“ไม่ขัดข้อง”

ผมผลักหัวไอ้กัสไปสองทีเพราะหมั่นไส้มันที่ทำตัวกระดี๊กระด๊าเกินเหตุ มันสูงแค่ปลายคางผมเองนะ ผอมบาง ตัวเล็กแต่เสือกเป็นทอม ความจริงมันก็หล่อในแบบที่มันคิดว่าหล่อ และอย่างน้อยผมก็คิดว่าหล่อกว่าไอ้ฟิว -_-

“กูสังเกตนานละ ว่าจะไม่พูดแต่อดไม่ได้ เหี้ยเท็นแม่งถ้าไม่มีไอ้เมลอยู่ข้างๆ นี่ก็ผู้ชายแมนๆ คนหนึ่งเลยว่ะ แต่พออยู่กับไอ้เมลนะเหมือนมีพลังงานบางอย่าง” ไอ้แต้มหันไปพูดกับไอ้ลิน

ผมที่กำลังจะบอกเมลว่าจะลงไปเดินเล่นเป็นอันต้องเงียบฟังพวกมันเพื่อรอจังหวะสวนกลับ

“ความรักทำให้คนอ่อนโยนเว้ยมึง นั่นแหละพลังงานที่มึงว่า” ไอ้ลินชักน้ำเน่าใหญ่แล้ว

“อ่อนโยนเหรอวะ” ไอ้แต้มทวนคำก่อนจะเหลือบมองหน้าผมแล้วก็ส่ายหน้ากับตัวเองด้วยท่าทางที่บอกว่ามันรับไม่ได้

“จากการวินิจฉัยของกูแล้ว กูไม่พบร่องรอยความอ่อนโยนในตัวบุคคลดังกล่าวเลยว่ะ”

หึ! เดี๋ยวมึงได้รับความอ่อนโยนจากกูเต็มๆ แน่ไอ้แต้ม

“กูมีรูปของมึงกับเด็กไอ้เมถาปัตย์ ถ้าขืนยังพูดมาก กูเชือดไม่เลี้ยงแน่”

คราวนี้ไอ้แต้มทำท่าเหมือนโดนผีหลอก รีบคลานเข่าเข้ามากอดขาผมทันที

“หุบปากสนิทเลยครับท่าน ได้โปรดทำลายรูปที่ว่าทิ้งด้วยเถิด กูยังไม่อยากไฟท์กับไอ้เมนะ”

“เป็นไงล่ะมึง สันดานดีนัก” ไอ้ฟิวตอกย้ำอย่างพวกที่อดเห็นความไม่ถูกต้องไม่ได้ ต้องลุกมาทำอะไรสักอย่าง

“หึหึ กูจะเป็นตัวแทนดวงจันทร์ลงทัณฑ์มึงเอง ^_^”

“ไอ้เมลลลลลลลล ช่วยหยุดเมียมึงที!!!”

“สมควรโดนล่ะมึง อู้งานดีนัก แล้วก็อย่าทำให้แฟนกูอารมณ์เสีย คนนี้ห้ามเล่นไอ้สัด ปล่อยขา! อย่าให้กูเข้าไปถีบ”
เมลขยับแว่นที่กำลังใส่อยู่เล็กน้อย เออนะ ตอนมันทำหน้าจริงจังนี่หลงรักอีกครั้งเลยทีเดียว

“อะไรก็ผิด ทุกคนรังแกช้านนนน!” ว่าเสร็จไอ้แต้มก็รีบสะบัดก้นกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง =_=; เห็นแล้วเครียดนะ ผู้ชายสะดีดสะดิ้งก็ยังมีอยู่บนโลกใบนี้

“เมล กูไปข้างล่างกับไอ้กัสนะ เดี๋ยวมา”

“อืม แดดแรงเอาหมวกไปด้วย แล้วตอนเที่ยงก็รีบๆ ขึ้นมา จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน”

“สั่งจริงเลย พ่อป่ะเนี่ย”

“เป็นแฟน แต่เป็นห่วง ไม่ต้องบ่น”

จบแบบไม่ต้องสวนต่อ

ผมไหวไหล่เล็กน้อย หยิบหมวกขึ้นมาใส่ ก่อนจะเดินกอดคอไอ้กัสลงมาข้างล่าง

วันนี้โลกก็ยังคงเป็นเหมือนเช่นทุกวัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ละคนที่ผ่านตาก็ยังคงก้มหน้าใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป ไม่ต่างจากผมที่แม้ในวันนี้ก็ยังว่างเปล่า ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะเรียนจบอย่างที่เมลคิด ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้เกียรตินิยมอย่างที่ไอ้ฟิวตั้งใจ ผมกลับกลัวที่ทุกอย่างมันจะจบลง กลัวว่าถ้าผมไม่ต้องเรียนแล้ว...ผมจะทำอะไร

มันเป็นความกลัวอย่างที่ถ้าเล่าให้ใครฟังก็ต้องมีแต่คนหัวเราะ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ไม่มีสิ่งที่ผมอยากทำ ไม่มีเรื่องให้ต้องดิ้นรน ผมอยู่เฉยๆ ได้โดยไม่อดตาย ไม่ต้องหวังเงินจากพ่อแม่ เพราะมันเป็นแบบนั้น...ชีวิตของผมถึงได้น่าเบื่อ

“กัส กูให้ลุงชิดไปดูที่ที่พะเยาให้ ป้าเนียมแกขายพร้อมบ้าน มึงว่าโอเคป่ะวะ” ผมยื่นไอโฟนไปให้ไอ้กัสเพื่อให้มันได้ดูรูปบ้านทรงไทยที่ผมเห็นครั้งแรกก็ถูกใจทันที

“สวยว่ะ อากาศคงดีมากอ่ะ แล้วทำไมเขาขายวะ”

“ความพอใจส่วนตัวมั้ง”

“=_=; มึงไม่รู้ล่ะสิ”

ผมรู้นะ แต่ไม่ใช่ธุระอะไรที่ต้องบอกเล่าเรื่องของคนอื่นให้คนอื่นฟัง บ้านหลังนั้นกำลังจะถูกธนาคารยึด เพราะเงินกู้นอกระบบของป้าเนียมถูกชักดาบ หมุนเงินไม่ทันเลยไปกู้นั่นมาโปะนี่ สุดท้ายก็ไม่รอด ผมเลยทำการเปลี่ยนมือเจ้าหนี้ บ้านหลังนั้นเลยตกมาเป็นของผม และผมไม่ได้ใจดีช่วยคนพร่ำเพรื่อหรอกนะ เพราะลุงชิดแกทำงานให้ผมแบบยอมถวายหัว ผมเลยช่วยน้องสาวของลุงก็แค่นั้น

โลกนี้ไม่มีคำว่าฟรีหรอก อยากได้อะไรก็ต้องแลกมันมาด้วยความเท่าเทียม ทำดีก็ได้ดีตอบ มันไม่มีหรอกที่อยู่ๆ ใครสักคนคิดจะทำอะไรเพื่อคนที่ไม่ได้รู้จักกันเลย ถ้าจะมีก็คงมีแต่การทำบุญเท่านั้นแหละครับ

“กูจะดร็อปเรียน”

“ห้ะ”

“-_-”

“จะดร็อปทำไม จะปีสามแล้วนะเฮ้ย เกิดเหี้ยนอะไรขึ้นมาอีกวะ”

“กูจะไปสร้างเนื้อสร้างตัวที่พะเยาสักพัก ถ้าคิดว่าดีคงไม่กลับมาเรียนละ”

“=_= เท็น สติจงกลับมา”

“มึงบ้าป่ะ”

“มึงสิบ้า แล้วบอกไอ้เมลรึยัง”

“ยัง”

“มันไม่ยอมแน่ มึงไม่ต้องหาเรื่องดราม่าอีกหรอก เลิกคิดซะ”

ผมแค่ยักไหล่ให้เป็นคำตอบ ไอ้กัสที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ

ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำให้ใครหลายๆ คนไม่สบายใจ แต่ผมก็ไม่อยากต้องเลิกทำในสิ่งที่ตั้งใจเพียงเพราะแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากเกินไป ผมอาจจะต้องไฟท์กับเมลอีกแน่ แต่ไม่เป็นไร สุดท้ายมันต้องเข้าใจว่าผมก็มีสิ่งที่ผมอยากทำเหมือนที่มันมี

ผมไม่ใช่ไม่แคร์ ไม่ได้บอกว่าเมลไม่สำคัญ ...เมลสำคัญแต่ยังไม่ใช่ทุกอย่าง ผมรักแต่ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของผมต้องอยู่ภายใต้ความเห็นชอบของมันไปซะหมด ผมมีความตั้งใจของผม ความคิดของผมและความชอบของผม

มันอาจจะเห็นแก่ตัวที่ต้องพูด แต่มันก็ไม่เกินจริงเลยว่า

ถ้าหากรักผม...ก็ต้องเข้าใจ

..................................................To be continue.................................................

มาแบบสั้นๆ มาแบบมึนๆ  :กอด1: ขอบคุณที่ให้กำลังใจ  :pig4: เอาดอกไม้ไปเลยยย อิอิ  :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 05-02-2014 20:28:20
ตามมาอ่านเท็นเท็นจากมาโปรด
ชอบเท็นเท็นมาก ชอบแนวความคิด
รักกัน ไม่ใช่ต้องยอมทิ้งตัวตนของเรา
ต่างคนต่างทำสิ่งที่ตัวรักได้ ภูมิใจในตัวเอง
และร่วมแชร์ในความสำเร็จกับคนที่เรารัก
 :pig4: นักเขียน รักษาคาแรคเตอร์ได้ดีมั่กมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 05-02-2014 20:28:43
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 05-02-2014 20:47:30
ใช่ รักกันก็ต้องเข้าใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-02-2014 20:54:06
อ่าา เป็นช่วงที่จะพาน้องปลื้มไปกบดานแน่เลย  :hao3:
เท็นเท็นเก่งมาก แต่ก็ยังหาสิ่งที่ชอบไม่เจอ :hao5:
แต่คนที่ชอบนี่มีแค่เมล งี้ดดด น่ารัก :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-02-2014 20:59:08
เท็นจะหนีไปสร้างตัวแบ้ววววว
เข้าใจเท็นนะ
และหวังว่าเมลจะเข้าใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 05-02-2014 21:32:39
อ่าานะ ในเมื่อเท็นได้ทุกอย่างแล้วนี่
ถึงเวลาทำตามความต้องการของตัวเองซักที
ขอให้เมลเข้าใจเท็นด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: oaTahcaK ที่ 05-02-2014 21:42:33
อั๊ยหยา
เด็กติสต์ของเราเอาอีกแล้ว :katai4:

ดรอปไปหาแรงบันดาลใจ
เหนื่อยเมลอีกแล้ว สู้ๆน้า
ความฝันอยากจะนั่งเรียนกับเท็นเท็นว่ายากแล้ว :serius2:
นี่จะดรอปไปอยู่ตจวอีก

เป็นกำลังใจให้เมล
เอาเท็นเท็นให้อยู่หมัดน้า

(เปลี่ยนมาเมนเมลแระ สงสารเมะผู้แสนดี :mew1:)
แต่เดี๋ยวต้องมีมุกอะไรให้เราตกหลุมรักรอบที่ล้านอีกแน่ๆ
ไม่เมล ก็เท็นเท็น
กรี๊สสสสสส :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 05-02-2014 21:45:43
เมล-เท็น มาแว๊ววววว ^______^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-02-2014 22:00:23
หวังว่าเมลจะเข้าใจเท็นนะ
เท็นไปคราวนี้ คงเอาปลื้มไปด้วยมั้ง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-02-2014 22:12:21
ถ้าคิดแล้วว่าดีก็ทำเถอะ!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 05-02-2014 22:17:55
รักไม่ใช่ทุกอย่างก็จริง
แต่ก็อยากให้ยังรักกันนะ ทำไมนี่ต้องเศร้า 55555555555555555555  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 05-02-2014 22:24:17
เข้าใจนะ แต่ก้อไม่เข้าใจว่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 05-02-2014 23:09:40
เมลเท็นมาแล้วววว คิดถึงนะ รู้มั้ย คิดถึงนะ รู้มั้ย คิดถึงนะ รู้มั้ย คิดถึงนะ รู้มั้ย คิดถึงนะ รู้มั้ย คิดถึงนะ รู้มั้ย :man1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 05-02-2014 23:36:51
ตั้งแต่อ่านนิยายมา เท็นเป็นตัวละครที่ชอบมากเลยก็ว่าได้
เป็นตัวละครที่ดูสมจริงด้วยตัวของมันเอง

อยากเจอคนแบบนี้ในชีวิตจริง
 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 06-02-2014 04:50:14
จะได้เจอกัยปลื้มแล้วใช่ไหม  :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 06-02-2014 07:43:06
เราเข้าใจเท็นแหะ

เราะเรามีหลายวูบความคิดเหมือนกันที่ถามเราว่า ถ้าไม่เรียนแล้วชีวิตเราจะทำอะไร :ling2:

อยากไปตั้งตัวบ้างจังค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-02-2014 14:01:08
เมล เท็นกลับมาแล้ว คิดถึงจริง ๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-02-2014 15:10:58
ถูกต้องนะเท็นเท็น รักไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ยังไงก็ต้องบอกเมลนะ เชื่อว่าเมลเข้าใจแน่ๆแม้จะมีงอแงบ้าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 06-02-2014 18:31:57
ท่านเท็นนนนนนนนน ไอดอลของช้านนนนนน  o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 06-02-2014 20:50:26
รอดราม่าน้องเมลสินะT^T
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 08-02-2014 01:51:13
 :hao3: ชอบเท็นเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 08-02-2014 09:52:08
เท็นติสสุดๆ
อะไรก็ฉุดไม่อยู่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 08-02-2014 11:20:11
เห้ออออออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 08-02-2014 17:23:54
รอตอนต่อไปนะ
 :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 08-02-2014 21:03:57
สำหรับเท็นเมลอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่สำหรับเมลเท็นอาจจะเป็นทุกอย่างเลยก็ได้นะ

ทำแบบนี้เมลเสียใจแน่ๆ

ถ้าเท็นรอต่อไปได้อีกนิดก็ดีสิ เชื่อว่าเมลคงอยากอยู่​กับเท็นมากกว่า

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 08-02-2014 23:29:56
 :a5: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 09-02-2014 00:47:24
 :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 09-02-2014 08:22:38
สนุกค่ะ น่าติดตามากกๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 09-02-2014 20:13:21
ตอนที่ 38

เรื่องดร็อปเรียนผมไม่ได้บอกใครนอกจากไอ้กัส ความวุ่นวายจึงยังคงไม่เกิด ไอ้ฟิวผมคงจะบอกมันหลังจากทำเรื่องเสร็จแล้ว ส่วนเมล...คงต้องรีบบอกเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าวันไหน ตอนไหน

เพราะจู่ๆ ก็เกิดความกลัวขึ้นมา...ผมไม่ได้กลัวที่จะบอกกับมัน แต่ผมกลัว...หากเรื่องที่บอกจะทำให้เราทะเลาะกันแล้วต่างฝ่ายต่างก็ต้องเสียใจ

ผมเตรียมเอกสารไว้พร้อมแล้ว คิดว่าสอบไฟนอลเสร็จ ก็คงทำเรื่องดร็อปปีการศึกษาหน้าต่อ ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ระเบียบการหรอกว่ามหาลัยเปิดให้ดร็อปช่วงไหน

(แกจะเอายังไงต่อกับชีวิตของแก ป๋าว่ามาช่วยงานที่บริษัทเราเถอะ เพราะไม่ว่ายังไงสักวันหนึ่งมันก็ต้องเป็นของแก แกเป็นลูกคนเดียวของเรา ไม่สานต่อแล้วจะให้ใครทำ)

ช่วงนี้ป๋ากรอกหูผมด้วยเรื่องนี้บ่อยๆ มันก็จริงที่ผมเป็นลูกคนเดียวของพวกเขา ก็จริงที่ถ้าผมไม่ทำแล้วทุกอย่างที่ป๋าสร้างมาก็คงไม่มีใครสานต่อ แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะทำแบบนั้น ผมไม่ชอบธุรกิจ ไม่ชอบการใส่หน้ากากเข้าหากันของคนในแวดวงนี้ ไม่ชอบ...การที่ต้องเห็นผลประโยชน์ของบริษัทเหนือกว่าความต้องการของตัวเองทั้งหมด ถ้าหากผมเป็นประธานบริษัทอย่างที่ป๋าเป็นแล้ว ผมก็ต่อยหน้าใครอย่างอิสระไม่ได้อีกต่อไปแน่

“ป๋าโทรมาคุยแค่นี้เหรอ? แม่เป็นไงบ้าง”

(เปลี่ยนเรื่องตลอด แม่ก็สบายดี อยู่กับป๋านี่แหละ ว่าแต่เมื่อไหร่แกจะเลิกกับ...ใครนะ แฟนแกน่ะ)

ผมกลอกตาไปมาอย่างเบื่อๆ

“ผมบอกป๋าไปสักล้านครั้งแล้วว่าแฟนผมชื่อเมล เมล เมล จำให้ได้สิครับ แล้วผมก็จะไม่เลิกด้วย ป๋ายอมรับซะทีเถอะว่าผมไม่มีทางเลิกกับผู้ชายคนนี้หรอก”

(แกมันหัวแข็ง ผู้หญิงดีๆ ที่ป๋าหามาให้ก็ไปทำหยาบคายใส่เขา แกเป็นผู้ชายนะเท็น ต้องมีลูกสืบสกุลให้ป๋าสิ เข้าใจไหม // หาเด็กมาเลี้ยงก็ได้นี่คุณ ทำไมต้องไปพูดกับเท็นแบบนั้นคะ ลูกโตแล้วนะ อย่ามาทำตัวเป็นคนใจแคบหน่อยเลย // แล้วธุรกิจของผมใครจะสานต่อ หวังลูกไม่ได้ก็ต้องหวังกับหลาน // ปล่อยให้มันเจ๊งไปสิ ไม่รู้แหละ ห้ามเถียงนะ เอาโทรศัพท์มานี่)

แม่ผมนี่ชนะเลิศจริงๆ -O-; เห็นเอาแต่ใจกับป๋าแบบนั้น กับผม แม่ตามใจมากเลยนะ เพราะงั้นป๋าถึงหมั่นไส้แล้วชอบขัดใจผมตลอดยังไงล่ะ

(เท็นของแม่ อย่าคิดมากนะคะ ไม่ต้องรีบหรอก ไม่ว่าเรื่องอะไรเท็นทำตามใจตัวเองได้เต็มที่เลยค่ะ ใช้ชีวิตของเท็นให้สนุกนะคะ ว่าแต่น้องเมลไม่อยู่เหรอคะลูก)

แม่ผมน่ารักแบบนี้เสมอ ผมถึงรักท่านมาก ผมพร้อมจะทำตามคำขอของแม่ทุกอย่าง แต่แม่ก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมเลย...แม่บอกว่า ท่านแค่อยากเห็นผมมีเพื่อน มีคนรัก มีความสุขในแบบของผม

“เมลไปอ่านหนังสือที่ห้องเพื่อนครับ ใกล้สอบแล้ว”

(น้องเมลขยันจังเลย แล้วเท็นของแม่ไม่อ่านบ้างเหรอคะ อ่านหนังสือแล้วถ่ายรูปส่งมาให้แม่หน่อยสิคะ แม่อยากเห็น)

“ฮ่าๆๆ ได้สิครับ เดี๋ยวให้ไอ้กัสส่งไปให้นะ”

(โอเค เจ๋งเลย)

“งั้นเดี๋ยวผมออกไปหาอะไรกินก่อนนะครับ แม่ก็พักผ่อนเยอะๆ น้า ห้ามป่วยเด็ดขาดเลย”

(จ้า แม่รักเท็นนะลูก)

“ผมก็รักแม่ รักมากกกกด้วยยย”

ผมจุ๊บโทรศัพท์เบาๆ ก่อนวางสาย เดี๋ยวคงต้องไปหาไอ้กัส สร้างภาพอ่านหนังสือแล้วให้มันส่งไปให้แม่แล้วล่ะ แม่ผมท่านอยากจะเห็นโมเม้นธรรมดาๆ เหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ท่านไม่เคยได้มีฟีลลิ่งแบบแม่คนอื่นๆ เลย ไม่เคยทำอาหารมื้อดึกให้ผมกินระหว่างอ่านหนังสือสอบ ไม่เคยขับรถไปส่งผมไปเรียนพิเศษ ไม่เคยได้ไปงานโรงเรียนเหมือนแม่ของไอ้กัสและไอ้ฟิว ไม่เคย..แม้แต่จะได้สอนผมทำการบ้าน...แต่ท่านก็บอกผมว่า ท่านมีความสุขมาก ที่ได้ถ่ายรูปกับผมในวันที่ผมประสบความสำเร็จในการเรียน

ผมเรียกว่าเป็นความสำเร็จในชีวิตไม่ได้...เพราะผมยังไปไม่ถึงจุดนั้น

ผมกำลังไขว่คว้าหาอะไรอยู่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็ยังหวังว่าสักวันจะได้รู้และได้เจอ...

ผมลงมาหาอะไรกินใกล้ๆ คอนโด เห็นสิ่งแวดล้อมรอบข้างแล้วก็ได้แต่คิด ไม่มีใครในโลกนี้เลยที่เป็นคนธรรมดา ทุกคนต่างก็มีความพิเศษ แปะที่กำลังลวกเส้นบะหมี่หลังจากรับเมนูบะหมี่หมูแดงพิเศษจากผมไปนั้นก็คงมีความพิเศษไม่ต่างกัน แปะคงมีสิ่งที่ต้องทำ มีความฝันที่กำลังพยายามไปให้ถึง มีครอบครัวให้ต้องดูแล

ย้อนกลับมามองตัวเองแล้ว ผมมีอะไรบ้าง... ใช่ ผมมีสิ มีครอบครัว มีความรับผิดชอบที่ต้องทำ มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมสามารถจะทำมันได้ มีคนรักที่ผมต้องคอยประคับประคองความสัมพันธ์ของเราให้เป็นไปด้วยดี มีเพื่อนที่สนุกสนานเฮฮาไปด้วยกัน

แต่ความฝัน ความชอบ หรือสิ่งที่อยากจะเป็น...ผม..ไม่มี

อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับผมมันสำคัญ ผมกำลังพยายามหาเหตุผลว่าตัวเองเกิดมาเพื่อทำอะไร ผมไม่ใช่คนที่ชอบคิดว่าตัวเองอยู่เพื่อใคร ถ้าคำตอบนั้นผมมีอยู่แล้ว ผมอยู่เพื่อป๋ากับแม่ อยู่ให้พวกท่านได้เห็นการเติบโตของผม และเมื่อเร็วๆ นี้...ก็คงมีเมลอีกคน...ที่ยังคงเป็นเหตุผลอีกข้อของผมอยู่

“แปะ ผมช่วยเก็บถ้วยเอาไหม ผมว่างอ่ะ ไม่มีไรทำ”

แม้ร้านจะเป็นเพียงรถเข็นคันไม่เล็กไม่ใหญ่ มีโต๊ะแดงกางไว้สี่ห้าโต๊ะ แต่ร้านนี้ก็ขายดีและเป็นที่รู้จัก ซึ่งบางทีแปะเขาทำคนเดียวหลายหน้าที่ ทันบ้างไม่ทันบ้าง จึงสมควรจะมีผู้ช่วย แต่หลายครั้งที่ผมลงมาซื้อบะหมี่หมูแดงของแก ก็ยังคงเห็นแปะทำอยู่คนเดียว

“อาเท็งเท็ง ลื้อไม่ต้องช่วยก็ล่าย เดี๋ยวแปะเก็บเอง”

“โอ้ย ไม่เป็นไร ผมไม่มีไรทำ เดี๋ยวช่วยล้างให้ด้วย แต่แปะต้องใส่เกี๊ยวให้ผมเยอะๆ นะ แล้วก็หมูแดงด้วย เอาแบบโคตรพิเศษอ่ะ”

“ล่ายๆ เดี๋ยวแปะทำให้อาเมลอีกถุงแล้วกัง”

“แต้งกิ้วววววว”

เพราะความดีของผมเลยนะที่ทำให้เมลได้กินบะหมี่ฟรี หึหึ

ผมอยู่ช่วยแปะเก็บถ้วย เช็ดโต๊ะ ล้างถ้วย รับออร์เดอร์ ช่วยเสิร์ฟ ปิดท้ายด้วยการปิดร้านและช่วยเข็นไปส่งที่บ้านแกเสร็จสรรพ แปะจะควักเงินจ่ายให้เพราะแกบอกว่าค่าก๋วยเตี๋ยวสองถุงมันน้อยไป แต่ผมก็ไม่ได้รับมา

มันเป็นความสุขเล็กๆ นะ ที่ได้ทำอะไรที่แตกต่างกันบ้างในแต่ละวัน ไม่นานมานี้ผมก็เพิ่งไปยืมมอไซค์ไอ้เต๋อมารับจ้างขับวินละแวกนี้ ก็ดีครับ ได้ใส่เสื้อสีส้มสกรีนข้างหลังเป็นเขตที่ตัวเองอยู่แล้วแม่งโคตรเท่ แต่ผมรับเฉพาะลูกค้าผู้หญิงนะ เลือกด้วย เพราะคนสวยๆ ชอบลวนลามผม ต้องเลือกผู้สูงวัยหรือป้ามหาภัยวัยย่างสี่สิบปี

ก็ดีครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งหมดหรอกนะ ทุกอาชีพแหละที่ต้องผจญกับการแก่งแย่ง แต่ผมก็ไม่มายด์หรอก ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมปัจจุบัน

แค่กูเอาดูคาติกมารับลูกค้าแค่นี้ ก็โดนหมั่นไส้ -O-;

ผมไม่ใช่ว่ามีตังค์แล้วคิดจะเบียดเบียนใครหรือเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุกนะ ผมมีเหตุผลของผม ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้หรอก หมั่นไส้ต่อไปเถอะ ใครสน?

กลัวมาห้องพร้อมกับบะหมี่หมูแดงพิเศษโคตรๆ สองถุง เมลคงกลับมาแล้วเพราะเห็นรองเท้ามันวางบนชั้น แต่ไฟห้องนั่งเล่นไม่ได้เปิดไว้ มันคงอยู่ชั้นบน

ผมเดินมาที่ครัว เทบะหมี่ลงในถ้วยตัวเองก่อนจะยกมากินที่หน้าทีวี

“ไปซื้อบะหมี่มาเหรอ” เมลกำลังเดินลงบันไดมาถามขึ้น

“อือ ของมึงอยู่ในครัว”

เมลพยักหน้าแล้วก็เดินไปที่ครัว ส่วนผมก็หันกลับมาสนใจรายการสารคดีตรงหน้าต่อ

มันก็โอเคนะ สารคดีสัตว์โลกน่ารู้นี่ แต่จะมีสักกี่คนที่ตามติดชีวิตคนแบบเรียลลิตี้บ้างวะ? เอาแบบที่ไม่ใช่ดารา นักร้อง หรือบุคคลสำคัญของโลกอ่ะ คงไม่มีใช่ป่ะวะ?

“เท็น เดี๋ยวมึงติวเซอกิจให้กูหน่อยสิ”

“มึงไปอ่านกับพวกไอ้มายด์มาแล้วไม่ใช่ไง”

“ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่”

“แล้วหายหัวไปเป็นวันทำเพื่อ? ถ้าสุดท้ายจะให้กูติว”

“ไม่ได้เหรอวะ?”

“แดกบะหมี่ไปเงียบๆ เถอะมึง”

เมลแม่งชอบทำให้หงุดหงิด ออกไปติวหนังสือกับเพื่อนตั้งแต่ผมยังไม่ตื่น หายไปเป็นวันแล้วกลับมาบอกไม่รู้เรื่อง จะให้ผมติวให้ นี่คือไร? กูควรปล่อยให้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมมั้ยวะ

“เท็น”

“กูดูทีวีอยู่ไม่เห็นไง”

“หงุดหงิดอะไรนักหนา”

เมลทำตัวน่าหงุดหงิดและไม่ได้ดั่งใจผมมาสักพักแล้ว เคยบอกแล้วว่ามันไม่ใช่ไม่ดีที่มันทุ่มเทให้กับการเรียน เป็นสิ่งที่ดีทีเดียวล่ะ แต่มันก็ต้องมีความพอดีบ้างป่ะวะ?

ตั้งใจเรียนก็ดีนะเว้ย แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกละเลย =_=;

นี่ถ้ามันมีงานทำ ไม่บ้างานไปเลยเหรอวะ?

“ช่วงนี้เห็นเข้ามอบ่อยๆ แต่ไม่แวะมาหากูที่ตึกภาคบ้าง”

ที่ผมเข้ามอบ่อยๆ ก็เพราะไปสอบถามเรื่องจะดร็อปเรียนนี่แหละ =_=;;;;

“กูก็มีธุระของกูน่า”

“ธุระอะไร ไม่เห็นบอก”

“ต้องบอก?”

“ทำไมพูดแบบนี้”

เมลขมวดคิ้วมองมา ผมถอนหายใจเพื่อคลายความหงุดหงิดก่อนจะปิดทีวีแล้วเดินขึ้นห้องมา

มันยากที่จะอธิบายความรู้สึกผมในตอนนี้ เรารักกัน...ไม่ใช่ไม่รู้ แต่อะไรหลายๆ อย่างในตอนนี้ทำให้ผมหงุดหงิดใจ
แฟนที่ดีเกินไป ไม่ใช่ว่ามันน่าเบื่อ แต่บางทีผมก็อยากบอกว่า มึงเกเรบ้างก็ได้ ชีวิตแม่งไม่ต้องเป๊ะอะไรขนาดนั้นหรอก
แต่ก็น้ำท่วมปาก...จะไปขัดคนทำดี...ผมก็ทำไม่ลง เลยได้แต่ปลงแล้วก็แอบหงุดหงิดใจ

“เท็นเท็น มึงโกรธอะไรกูวะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้มั้ย”

“ไม่ได้โกรธ”

“ไม่ได้โกรธก็หันมาพูดกันดีๆ”

“กูหาเสื้อผ้าอยู่ไม่เห็นไง จะอาบน้ำนอน”

“อืม...งั้นกูไปอ่านหนังสือข้างล่างนะ”

“เออ อยากทำไรก็ทำไปเถอะ ไม่ต้องบอกกูหรอก”

ผมไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะ แต่เคืองว่ะ แล้วแม่งเดินหอบหนังสือลงไปอ่านข้างล่างแบบไม่หันมาสนทนากับผมอีกนี่คือไร?

ทำแบบนี้ผมหงุดหงิดจริงๆ -_-;

อาบน้ำแล้วค่อยหัวเย็นลงหน่อย เดินออกจากห้องแอบมองมันอยู่ที่ระเบียงก็เห็นกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำโจทย์เซอกิจของมันไป

เฮ้อ คิดๆ ไปแล้วผมก็แม่งเลวแล้วแถมยังงี่เง่าที่อยากให้มันสนใจผมมากกว่าหนังสือ

“ขยับไปดิ” ผมใช้เท้าเขี่ยเท้าเมลที่เงยหน้าขึ้นมองผมพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

“จะนอนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“กูนอนไม่หลับ”

“ให้กล่อมมั้ย? ^^”

“ไม่ต้อง -_-” ผมนั่งลงเบียดมันเล็กน้อย เอาหมอนอิงโซฟามากอดไว้แล้วก็นั่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมัน “ไม่เข้าใจตรงไหน”

“จะติวให้เหรอ?”

“ก็มึงขอให้ติวไม่ใช่ไง”

“ไม่ต้องก็ได้ เท็นง่วงก็ไปนอนเถอะ”

“ก็บอกแล้วไงว่านอนไม่หลับ -*- พูดไม่รู้เรื่องไง”

“โอเคๆ อย่าเพิ่งหงุดหงิดเลยน่า”

ทำไมผมเหมือนตัวร้ายเข้าไปทุกที -_-;

เมลมันไม่ใช่เรียนไม่เก่งนะ แต่ก็มีบางวิชาที่มันไม่ได้เอาซะเลย หนึ่งในนั้นก็วิชาเอกของภาคมันนั่นแหละ ผมไม่ได้เทพอะไรหรอกนะ แค่ว่าเชี่ยวชาญด้านการคำนวณก็เท่านั้น ส่วนเมลถ้าเป็นเรื่องพวกนี้มันจะมึนๆ อึนๆ หน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ก็เหมือนกับผมที่เมื่อก่อนวาดรูปไม่สวย ตอนนี้ก็ยัง...โอเค มันอาจจะไม่สวยสำหรับสายตาของคนอื่น แต่สำหรับผม ผมเรียกมันว่า 'การพัฒนาที่ก้าวกระโดด' สวยงามกว่ารูปตอนที่วาดเมื่อห้าขวบเยอะ (' ')Y

“อย่างแรกที่มึงต้องทำเวลาเห็นโจทย์ภาษาอังกฤษยาวๆ แบบนี้มึงต้องตั้งสติ แล้วก็มองว่าแม่งต้องการให้หาอะไร ขั้นต่อไปก็คิดว่าแม่งให้อะไรมาบ้าง เพียงพอที่จะเอาไปใช้กับสูตรไหน หรือถ้าไม่ มันเกี่ยวอะไรกับบทที่อาจารย์สอน”

นักศึกษาไทยมีปัญหาเรื่องการเรียนกับ Text ครับ คนที่อยู่ต่างประเทศมานมนานอย่างผมไม่เข้าใจฟีลลิ่งนี้เท่าไหร่ แต่กับเมลคงเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าโยนก้อนหินข้ามภูเขาสูง

ถ้าเป็นภาษารัซเซียหรือภาษาไทยมันคงไม่มานั่งหน้าเครียดอย่างนี้หรอกครับ =_=;

“แต่อันดับแรก มึงต้องเข้าใจว่ากูกำลังพูดอะไร มานั่งมองหน้ากูแล้วทำหน้าอึนมึงจะเข้าใจมั้ยห้ะ”

“ก็เวลามองมึงพูดแล้วเพลินดี”

“แล้วอย่างนี้จะรู้เรื่องมั้ย!”

“เพราะอย่างนี้ไงกูถึงต้องไปติวกับพวกไอ้มายด์ -*- อย่าเสียงดังสิ เท็นเป็นแบบนี้กูไม่สบายใจเลยนะ”

“....”

ผมเกลียดตัวเองเวลาทำให้เมลต้องทำหน้าแบบนี้จริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงเลยดึงมันมากอดไว้

จะทำให้รักไปถึงไหนกันนะ...ถ้ามึงทำเลวกับกู กูคงไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเมื่อไหร่กูจะทำให้มึงเสียใจบ้าง

ผมไม่รู้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมต้องระวังพฤติกรรมของตัวเอง ผมอาจจะดูไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ ทำตามความต้องการของตัวเองต่อไปแบบไม่มีวันจบสิ้น แต่สุดท้ายแล้ว คนที่ผมต้องหันกลับมามองก็ยังคงเป็นเมลอยู่ดี

ผมกลุ้มใจกับตัวเองนะ...พูดจริงๆ

“เมล ถ้าสักวัน...ความต้องการของกูมันสำคัญกว่ามึง...มึงจะยังเข้าใจกูมั้ยวะ”

เป็นคำถามที่เห็นแก่ตัวมาก ผมแน่ใจ แต่ก็อยากถาม เพื่ออยากจะรู้ว่า...ถึงวันนั้นแล้ว ผมจะยังคงมีมันอยู่ไหม

เมลมองหน้าผม ไม่ได้พูดอะไรอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็คลี่ยิ้มออกมา

“เข้าใจ...แต่กูก็อาจจะน้อยใจ เสียใจบ้าง ...เพราะยังไง กูก็อยากที่จะสำคัญที่สุดสำหรับมึง”

“....”

“แต่มึงไม่ต้องกังวลอะไรหรอกนะ...มันก็แค่ความโลภของกู ให้มาเท่าไหร่ ก็เต็มใจรับไว้ทั้งนั้น มึงที่เป็นมึงน่ะดีที่สุดแล้ว...”

“อืม”

“แค่ไม่นอกใจกันก็พอ กูขอแค่นี้”

“อื้อ น่ารักว่ะมึงเนี่ย”

“^^ แต่ทำอะไรก็คิดถึงใจกูด้วยนะ”

“อ่ะ...อือ =_=;;;”

ปิดท้ายรอยยิ้มแบบนี้ทำเอาผมชักเครียดกับเรื่องที่จะบอกมัน จะให้ผมบอก เฮ้ยเมล กูดร็อปเรียนปีหนึ่งนะ ขอเวลาไปใช้ชีวิตอยู่พะเยาไม่กลับกรุงเทพสักปี มันจะยังคงยิ้มอย่างนี้อยู่มั้ยวะ?

=O=; เดาใจไม่ถูกเลย

.............................................To be continue.............................................

กลุ้มใจกับท่านเท็น =_= เขาก็มีความต้องการของเขา ความคิดของเขา และความชอบของเขานั่นแหละ ด้วยเพราะชีวิตเขาทำอะไรก็สำเร็จไปซะเกือบทุกอย่าง มันจึงยากมากที่จะทำให้เขาหยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ  :เฮ้อ:

 แฟนเพจ  (https://www.facebook.com/Snufflehp) เอาข่าวสารไปไว้ในนี้หมดแล้ว ทุกเรื่องนิยายของเราลงที่เล้าเป็ดแห่งเดียวเท่านั้นนะคะ  :กอด1: เพราะเรารักบอร์ดแห่งนี้ ถึงได้มาเจอนักอ่านน่ารักๆ อย่างพวกคุณ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 09-02-2014 20:36:15
เสียดายความฉลาดเท็นนะเนี่ย ทำกิ๊ฟสิ อยากเห็นลูกเท็น

จะติสต์จนตัวพ่อเครียดมั้ย  :laugh:

เท็นเท็น อย่าคิดแทนใคร เมลชอบเท็นเพราะเท็นเป็นแบบนี้แหล่ะ

แค่มีอะไร ก็พูดก็บอกไปตรงๆเลย อย่าให้รู้ทีหลัง เด๋วมีน้อยใจ ฮา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 09-02-2014 20:41:52
เท็นจะเจอปลื้มแล้ว ใช่หรือเปล่า

เมลต้องเข้าใจเท็นนะ เท็นน่ะไม่เหมือนคนทั่วไป ความคิดล้ำไปนิด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 09-02-2014 21:05:48
มาแล้วเย้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 09-02-2014 21:09:41
ยิ่งช้ายิ่งจะโกรธนะ
บอกไปเหอะะะะะ :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 09-02-2014 21:37:56
งื้ออออออออออ อยากให้รีบบอก เราเข้าใจเท็นนะ แต่ก็ไม่อยากให้เท็นทำลายรอยยิ้มของเมลอ่ะ

เวลาอ่านตอนนี้ นี่กลัวจะดราม่ามาก กลัวมากว่าสุดท้ายแล้วเท็นจะไม่มีเมลก็ได้อะไรประมาณนั้นนน

อ่านเรื่องนี้ ก็รักเมลเท็น ไม่แพ้กับที่เค้าสองคนรักกันเองเลย 555555555555 อิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-02-2014 22:02:50
บอกเมลไปเถอะเท็นเท็น จะช้าหรือเร็วก็ต้องบอกอยู่ดีนี่นา แต่ถ้ายิ่งช้า ความเสียใจ น้อยใจของเมลก็จะยิ่งมากขึ้นนา :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 09-02-2014 22:22:04
เราชอบที่เมลเป็นคนดี เมลน่ารัก เมลใส่ใจคนอื่น แต่เราก็อยากให้เมลเห็นแก่ตัวบ้าง อยากให้เมลรั้งเท็น บอกว่าไม่ให้ไป
บอกว่าอยากเป็นคนสำคัญที่สุด อยากอยู่ด้วยกันตลอด แบบนี้อ่า T_____T
บางทีถ้าเป็นคนดีแล้วจะทำให้เจ็บ เราก็อยากให้เมลเป็นคนไม่ดีบ้าง อย่างที่เท็นบอกอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 09-02-2014 22:31:56
เท็นนนนน เปลี่ยนใจทันนะ.... แต่คงไม่เปลี่ยนใช่ม่ะ งั้นรีบบอก เดี่ยวเมลโกธรนะะะะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-02-2014 00:35:16
เท็นไม่ค่อยนึกถึงใจเมลเลย
ติสแตกเกินนนน
เพลียยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 10-02-2014 01:03:55
มาอ่านรวดเดียว เอาเป็นว่าเราเข้าใจเท็นอยู่หน่อยๆล่ะนะ
ถึงความเป็นตัวเท็นซึ่งชีวิตเราบางส่วนก็เป็นแบบนี้ เมลคงต้อง
ทำใจรับให้ได้ เหนื่อยหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: minus27 ที่ 10-02-2014 09:24:01
สนุกม๊วกกกกก ชอบเท็นเท็น - เมล ม๊วกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-02-2014 09:48:37
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-02-2014 09:53:46
เท็นเท็นเอ้ยยย อาร์ตตัวแม่จริง ๆ สงสารเมลชะมัด เฮ้อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-02-2014 10:32:18
จริงๆเท็นเท็นก็คือมนุษย์ธรรมดาที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรเลยต้องแสวงหา แต่เพราะความไม่ธรรมดาของสติปัญญา ฐานะ และ หน้าตา การที่เท็นเท็นค้นหาตัวตน เลยเป็นที่แปลกประหลาดของคนทั่วไปซินะ 
แม่เท็นเท็นน่ารักและเข้าใจลูกที่สุด
เท็นเท็นเข้าใจเมลแล้วซินะว่าทำไมเมลต้องไปอ่านหนังสือที่อื่น.....
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 10-02-2014 18:39:41
ตอนที่ 39

ปึก!!!

แผ่นหลังของผมชนเข้ากับผนังห้องเต็มแรง อยากร้องบอกว่าเจ็บ แต่เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยโทสะของคนตรงหน้าแล้ว คิดว่าคงไม่ฟัง

“มึงคิดจะบอกกูเมื่อไหร่!”

“....”

“ตอบ!!!”

ผมไม่ได้อยากกวนตีนเมล แต่กำลังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นมันโกรธขนาดนี้ เคยแต่ทำหน้าอ่อนโยน ริมฝีปากคลี่ยิ้ม ไม่ว่าอะไรก็ตามใจผมเสมอ

แต่วันนี้...หลังจากที่มันเจอเอกสารพักการเรียนในกระเป๋าของผม ผมก็นึกภาพไม่ออกเลยว่า...มันจะเข้าใจผมได้ยังไง

“ทำอะไรคิดถึงใจกูบ้างมั้ยวะ”

“โอเค กูขอโทษ ก็คิดว่าจะบอก แต่มึงเสือกมาเจอก่อนไง”

“กูผิดใช่ไหม”

ผมพลาดเพราะปากผมเองเลยโดนมันกดไหล่แทบหักอย่างนี้ เพราะเมลอ่อนโยนตลอด จนผมลืมนึกไปว่ามันเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าผม แรงเยอะกว่าผม และเวลาโกรธก็น่ากลัวมากด้วย

“กูคิดว่าทำเรื่องเสร็จก็จะบอก ให้มึงรับรู้ไว้เท่านั้น เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องนี้กูก็ไม่ต้องขอความเห็นจากมึงนี่ ปล่อยได้แล้วเมล กูเจ็บ”

เมลมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา ความผิดหวังฉายชัดอยู่บนใบหน้าของมัน มือที่ยึดไหล่ผมไว้ ตกลงข้างตัวราวกับคนหมดแรง

“กูเป็นใครวะเท็น...สำหรับมึง กูเป็นตัวอะไรกันแน่วะ”

“....”

“กูไม่สำคัญอะไรเลยเหรอ”

ผมยื่นมือไปจับมือเมลไว้แต่ก็ถูกมันสะบัดออก ผมเลยเปลี่ยนเป็นการกอดตัวมันไว้แทน มันพยายามผลักออกเหมือนกัน แต่ไม่หลุดหรอก ผมกอดไว้แน่น

“สำคัญ มึงสำคัญมากนะ”

“แล้วทำไมทำแบบนี้ สำคัญแต่ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรในเรื่องของมึงเลยใช่ไหม”

“....”

“ถ้าอย่างนั้นเท็นจะทำอะไรก็ทำเถอะ”

“....”

“ปล่อยได้มั้ย อยากอยู่คนเดียว”

“ไม่โกรธใช่ไหม...”

“อืม”

“กูอาจไม่ได้กลับมาสักพักนะ...”

“อืม”

“เมล...หันหน้ามาหน่อยได้ไหม”

แต่คำขอของผมก็ไม่ได้รับการตอบสนอง โอเค...เมลคงกำลังโกรธ ไม่เป็นไร...ไว้มันอารมณ์ดีกว่านี้ เราค่อยมาคุยกัน

.
.
.

แต่ผ่านไปหลายวัน...อารมณ์ของเมลก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น ระหว่างเรากลับมาแย่อีกครั้งเมื่อไม่ได้มองหน้าและยิ้มให้กันเหมือนเดิม อยู่ห้องเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน แต่ทำราวกับเป็นคนแปลกหน้า ผมพยายามเข้าใจว่าที่เมลเป็นแบบนี้ ต้นเหตุก็มาจากผมเอง

ผมไม่ได้คิดหรอกนะว่าถ้าบอกเร็วกว่านี้เมลมันจะไม่โกรธ เพราะต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ผมก็ยังคงจะทำอย่างนั้นอยู่ดี ผมไม่ใช่คนที่จะเสียใจกับการกระทำของตัวเองเมื่อเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น ความคิดผมเมื่อเวลาเปลี่ยนแล้วก็ไม่ได้จะเปลี่ยนตาม ผมยังคงฝังหัวกับสิ่งที่ผมเชื่อ และต้องการ

มันถึงลำบากสำหรับเราสองคนในตอนนี้...

ผมไม่อาจบอกได้ว่าผมเป็นคนเดียวในโลกที่จะทำให้เมลมีความสุข ความรักของผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่จะทำให้ใครรู้สึกว่าเขาต่างจากคนอื่นได้

แต่ผมก็อยากให้เมลเชื่อในความรักในแบบของผม อยากให้เมลเข้าใจว่าผมพยายามปรับแล้ว แต่ผมเข้าไปใกล้มากกว่านี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากเมลทนต่อไปไม่ไหว...ผมก็พร้อม...จะปล่อยมือ

ไม่ใช่ว่าผมไม่รัก...มันไม่ใช่แบบนั้นเลย

“อยู่ที่นี่เถอะ เดี๋ยวกูไปเอง” ผมบอกเมลที่กำลังเก็บเสื้อผ้า มันไม่ได้บอกว่าจะไปไหน เพราะหลังจากที่สอบเสร็จเราก็กลับห้องมาพร้อมกัน ระหว่างอยู่ในรถก็ต่างฝ่ายต่างเงียบ เราไม่ได้คุยกันถึงข้อสอบที่ทำไปวันนี้เหมือนอย่างทุกที มันขับรถไปเงียบๆ ส่วนผมก็นั่งฟังเพลงที่เปิดตามวิทยุไป

ผมยังเหลืออีกสามวิชาสำหรับไฟนอล เมลก็ไม่ต่างกัน มันไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอกในเรื่องสอบ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะมีสมาธิสอบไหม

“มึงจะไปไหน”

“กลับบ้าน มึงตั้งใจอ่านหนังสือไปเถอะ แล้วเจอกัน”

“อืม”

ผมมองแผ่นหลังของเมลแล้วก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตัวเองยังไง... มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ...ถ้าเราดับเครื่องชนใส่กันไปซะ คงไม่ต้องมารู้สึกอิหลักอิเหลื่อกันอยู่แบบนี้ แต่ที่มันเงียบ และผมก็เงียบ มันเลยทำให้...ไม่รู้จะพูดอะไรกันดี

“เมล...ถ้าเจอใครที่ให้มึงได้มากกว่ากู...ก็อย่าลังเลที่จะทำความรู้จักเขานะ”

“พูดแบบนี้มึงหมายความว่าไง!”

“....” ผมมองหน้าเมลที่ขึ้นสีนิดๆ เสียงตวาดของมันเมื่อกี้ทำเอาผมพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว

“มึงพูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังบ้างวะ!! อยากให้กูไปจากมึงมากใช่ไหม! ต้องการอย่างนั้นใช่ไหม! แล้วมึงจะได้ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องมีกูคอยเกะกะอีก ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็ได้! กูจะทำให้! จะได้จบๆ กันไปสักที! กูก็เหนื่อยมามากแล้วเหมือนกัน”

ผมทำได้แค่เงียบ เพราะสมองอยู่ๆ ก็คิดอะไรไม่ออก ความรักสำหรับผมแล้วเป็นอะไรที่เข้าใจยากและซับซ้อน แต่คนรักนั้น...มันซับซ้อนมากยิ่งกว่า

“ไปเถอะเท็น...ปล่อยกูไว้แบบนี้เถอะ กูไม่เป็นไร”

ผมสวมกอดเมลจากข้างหลัง มันทำแค่ยืนนิ่งๆ ปล่อยให้ผมซบหน้าลงกับแผ่นหลังของมันอยู่อย่างนั้น ความเงียบไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลยสำหรับผม แต่ตัวที่สั่นเทาของเมลต่างหาก...ที่ทำให้ผมกลัว

“ถ้ามันจะดีกับเราทั้งสองคน...เอาอย่างนั้นก็ได้”

ผมคลายแขนออกจากตัวของเมล ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องมา แต่คำพูดของเมลที่ดังตามมา มันทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะไปเหมือนกัน

“มันไม่ดีกับกูเลยเท็น มันดีกับมึงคนเดียวต่างหาก”

...ผมกำลังแลกความต้องการของตัวเองกับความรู้สึกของคนรักของผมใช่ไหม...

.
.
.

ผมกลับมาที่บ้าน เจอไอ้กัสนั่งป้อนปลาแห้งให้ไอ้เป๊บอยู่แต่ก็ไม่ได้ทักมัน ไอ้ฟิวที่เพิ่งออกจากครัวมาพร้อมกับแพนเค้กจานใหญ่ๆ กำลังอ้าปากจะพูดกับผมแต่ก็ชะงักไป

ผมเดินขึ้นห้องมา เจอเตียงก็ล้มตัวลงนอนแผ่หรา ดวงตาจ้องมองเพดานห้อง รู้สึกตอนนี้ไม่อยากแม้แต่จะกระดิกตัว

แค่สมองกำลังคิด...ผมก็เหนื่อยมากแล้ว

เมลไม่เห็นด้วยที่ผมจะพักการเรียน...อันนั้นผมรู้ดีอยู่เต็มอก แม้เรื่องนี้จะมีทางออกให้เลือกอีกมากมาย แต่สุดท้ายมันก็หลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้เลยว่า ความต้องการของเราไม่ตรงกันตั้งแต่แรก

จากที่คิดว่าดีหากจะพักการเรียนไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ ตอนนี้มันกลับดูไร้สาระมากเมื่อพบว่าผมต้องแลกกับอะไรบ้างสำหรับความต้องการในครั้งนี้ แย่ว่ะ...แย่มากด้วย ในสมองผมมีแต่คำนี้ลอยวนอยู่เต็มไปหมด

ปล่อยมือจากเมลน่ะเป็นความคิดง่ายๆ แต่ทำจริงๆ ไม่ว่าผมจะเก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้อยู่ดี ความผูกพันธ์ ความรัก และความทรงจำระหว่างผมกับเมลมีมากเกินไป มากจนมันสามารถทำให้ผมทุรนทุรายได้ถ้าหากต้องพบว่าหันมองไปทางไหนก็ไม่เจอมัน

“เท็น กูเข้าไปได้ไหม” ไอ้กัสยืนอยู่หน้าประตูห้องที่ก็ไม่รู้ว่ามันเปิดอ้ากว้างอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมคงจมอยู่กับความคิดของตัวเองมากเกินไปจนไม่ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา

“มีอะไร?”

“เป็นไรไปวะ”

“เปล่า”

ไอ้กัสเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ มันหันมามองก่อนจะล้มตัวลงนอนหนุนแขนผม

“อ้อนอะไรของมึง” ผมถามพลางลูบหัวมันเบาๆ ถึงจะดูห่ามๆ มากแค่ไหน ยังไงมันก็เป็นผู้หญิง

“เห็นมึงทำท่าจะไม่ไหว เลยอยากกอด”

“น้ำเน่า”

“ทะเลาะกับไอ้เมลมาเหรอวะ”

“เปล่า”

“โกหก”

“ถามมากอีกกูจะไล่ออกห้อง”

ไอ้กัสกัดแขนผม ผมเลยผลักมันออกจนมันกลิ้งแทบตกเตียง

“ไปๆ เป็นสาวเป็นนาง เข้าห้องผู้ชายได้ไง ออกไปได้ละ”

“เหี้ยเท็นแม่ง -*-”

“หึหึ บอกไอ้ฟิวทำผัดไทยกุ้งสดให้กูด้วย”

“เออๆ กลับมาไม่ทันไรก็ใช้กูเลยนะมึง”

“ฝึกไว้ไง เผื่อป๋ากูยังไม่ถอดใจจับมึงมาเป็นเมียกู จะได้ใช้งานคล่องหน่อย”

“ถุยยยยย ชาติหน้ากูก็ไม่ยอมมึงหรอก”

ผมหัวเราะไล่หลังไอ้กัสที่ยกนิ้วกลางมาให้ แต่หลังจากที่ประตูปิดลง ความเงียบก็เข้ามาครอบงำผมตามเดิม

เอาไงดีวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย! กูแม่งเก่งแต่เรื่องอื่น พอมาเรื่องเมลนี่โง่ตลอด แต่ก็อยากไปพะเยาอ่ะ จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว จะไม่ได้ไปเหรอวะ?

อยากกรีดร้องจริงๆ ไอ้เป๊บอยู่ไหน มาให้ผมเตะระบายอารมณ์สักทีเถอะ

...........................To be continue........................................

เท็น  :เฮ้อ:

อารมณ์ประมาณ เข้าใจแต่ทำไม่ได้ รักเราไม่เท่ากัน บลาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 10-02-2014 18:56:29
นิสัยว่ะเท็น
นอกจากเมลจะมีใครทนได้วะเนี่ย
บอกก่อนทำน่ะเป็นมั้ยมรึง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 10-02-2014 19:00:27
เอาล่ะ เตรียมรอระเบิดลูกใหญ่กะลังจะมาาาา :ling3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 10-02-2014 19:08:59
 :o12:
คิดดี ๆ นะเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-02-2014 19:15:31
เพราะว่า"รัก"
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-02-2014 19:16:27
เท็นไม่เหมาะที่จะหยุดตัวเองไว้ที่ใคร ไม่ควรทำให้ใครรัก
อาจจะรักใครได้ แต่อย่าให้เขารักด้วยเลย สงสารเมลจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 10-02-2014 19:17:41
บางทีก็เข้าใจเท็นน่ะ เคยมีซีนแบบนี้ด้วยแหละ คนไม่เคยมีแฟน เคยทำอะไรอิสระ ไม่ต้องปรึกษาใครนึกอยากจะทำอะไรก็ต้อง แต่พอมีแฟนก็ต้องคิดให้มากเป็นสองเท่า ไปไหนก็ไม่อิสระ แต่มันก็ดีอย่างเสียอ่ะ
แต่อยากให้เท็นนึกใจเมลมากกว่านี้น่ะ เล่นทำไรไม่เห็นหัวกันเลยอ่ะ ตัวเล่นจัดการเรื่องหมดแล้วแล้วค่อยบอก มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ล่ะ แค่บอกให้รู้แต่ไม่ได้ถามความเห็นว่าดีไหม เฮ้อออออออออออออออออออออออออ อาร์ตที่สุดในจักรวาลลลล  :ling2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 10-02-2014 19:35:58
  สงสารเมล :sad4: ต่างคนก็ต่างมีเหตุผล แต่แบบนี้มันฮาร์ดคอไปนะเท็นๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 10-02-2014 19:42:39
เอาจริงๆๆเท็นเป็นคนเห็นแก่ตัวนะเห็นแก่ตัวเองจนลืมความรู้สึกของคนอื่น :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-02-2014 19:51:34
กลับมาสู่วังวนเดิมๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 10-02-2014 20:00:11
เท็น... จะว่าเท็นเห็นแก่ตัวก็ไม่เต็มปาก ก็เป็นคนที่เคยทำอะไรก็ทำ แต่พอมีเมลเลยลืมคิดถึงใจเมล... ไม่เข้าใจพวกสมองอัจฉริยะะเลยจริงๆ  :เฮ้อ:


ถ้าเท็นยังเป็นงี้อีกนะ... ยังไงสักวันก็ต้องทะเลาะกันอีก  บอกแต่แรกก็แล้วปะวะ เท็น  :katai4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 10-02-2014 20:03:35
ก่อนจะทำอะไรควรนึกถึงใจเขาใจเราบ้างนะเท็น ตอนนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ

สงสารเมลจัง อยากจะไปปลอบใจ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-02-2014 20:11:23
สงสารเมล แต่เข้าใจเท็น
คือความคิดเราคล้ายกันอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 10-02-2014 20:13:59
ถึงเราจะเมนเท็นก็เถอะนะ
แต่ในกรณีนี้เข้าข้างเมล อย่าเป็นแบบนี้เลย กลับไปง้อไปคุยกับเมลให้เข้าใจเถอะขอร้อง T____T
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 10-02-2014 20:19:14
อืม... ทางแก้มันก็มีนะ แต่เท็นดันไม่ทำเนี่ยสิ?
แต่คนมีรักมักจะคิดไม่ได้เป็นปกติจริงๆนะ

มันไม่ใช่บอกหรือไม่บอก แต่เป็นบอกไม่หมด
น่าจะเป็นความไม่มั่นใจของตัวเท็นเองนั่นแหละ ชอบทำไรค้างๆคาๆ
สงสารเมลอ่ะ แต่ก็ใช่ว่าเมลไม่ผิดนะ นี่ก็ชอบคิดแล้วนอยด์ก่อน
กร๊ากกกกกกกกกกก เอาเถอะ รักกันมันอารมณ์นี่นะ ใช้เหตุผลมากไปก็ไม่ใช่รักแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 10-02-2014 20:22:35
สงสารเมล มาก
เมลรักเท็นมากจริงๆ
ไม่รู้จะคอมเม้นอะไรดีเลย
เข้าใจเท็นนะ แต่คิดอีกทีก็ไม่เข้าใจอ่ะ  :เฮ้อ:

อีกแล้วนะเท็น....
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 10-02-2014 20:36:49
เท็น เท็น นายเป็นใครเนี่ย!!

ใช่คนที่ทำให้ปลื้มกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งเปล่า

มองไม่เห็น ตัวตนเท็น เท็น ที่เราเคยชอบเลย ผิดหวัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: ♫~Eristneth~♪ ที่ 10-02-2014 21:24:37
จะเป็นแบบนี้จริงๆเหรอ  :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 10-02-2014 21:33:30
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่คนๆเดียว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 10-02-2014 21:47:49
เข้าใจเท็น แต่สงสารเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 10-02-2014 22:11:41
สงสารเมลอ่า รักเราไม่เท่ากันจริงๆ T^T

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 10-02-2014 22:30:16
เมลน่าสงสารรร
น้องเทนทำไรไม่คิดถึงใจเมลเลยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 10-02-2014 22:56:43
 :hao3: ด้านหนึ่งก็คน..ที่รัก อีกด้านก็สิ่ง..ที่รัก (จะทำ)

เฮ้อออ..

สู้ๆเท็นเท็น !
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-02-2014 23:06:38
เท็นไม่ยอมเปลี่ยน  ส่วนเมลก็คิดแค่อยากให้อีกคนเปลี่ยน
ความคิดมันสวนทางกันชัดเจน 
ต่างคนต่างคิดแบบนี้ 1+1=1+1 ไม่มีทางรวมเป็น2ได้หรอก  เพราะมันแยก และแตกต่าง กันอย่างชัดเจนมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 11-02-2014 00:11:59
ค่อยๆคิด หันหน้ามาคุยกันดีๆ จะได้เข้าใจกันนะ อย่าเงียบใส่กัน อย่าเป็นแบบนี้เลยย ฮือออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 11-02-2014 00:52:18
เท็นใจร้ายยยยย

สงสารเมลอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-02-2014 11:16:27
จนได้นะเท็น สุดท้ายเมลเห็นเอกสารก่อนบอกจนได้
พอเกิดเรื่องก็เจ็บทั้งคู่ แต่แอบสงสารเมลมากกว่านะตอนนี้

เท็นนายจะทำยังไงต่อไปนะ กว่าจะเป็นอาจารย์เท็นของน้องปลื้ม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 11-02-2014 11:55:02
สงสารเมลตลอดดดดดดดดดดดดดดดด
เท็นใจร้ายได้คงเส้นคนวามากกกกกกกกกกกกก  โป้ง!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 11-02-2014 12:21:20
เท็นก็พูดน้อยไป  ถ้าพูดคุยกันเยอะๆเมลก็น่าจะเข้าใจ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 11-02-2014 13:14:13
ไม่รู้นะ แต่เข้าใจเท็นอ่ะ ผ่านโมเม้นนั้นมาแล้วเลือกที่จะรักก็ต้องรักตัวเค้าให้ได้ รอให้ไหว ไม่ไหวก็เลิก- -
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 11-02-2014 19:11:52
สวัสดีค่า หน้าใหม่จ้า ฝากตัวเป็นแฟนคลับด้วยคน

ตั้งแต่ตอนแรกๆที่อ่าน ทอร์คของคนเขียนบอกไว้ว่า เรื่องนี้ไม่มีดราม่า! แล้วนี่มันอาร้าย การที่ฉันอ่านมาจนถึงตอนปัจจุบันพร้อมสภาพตาที่บวม แดง ช้ำ มันคือว้อททททท โคตรมาม่าอ่ะแกกกกกกก อืดแล้วอืดอีก ไม่หยุดสักที แต่ถามว่าอ่านมั้ย ก็อ่าน ถามว่าชอบมั้ย ก็ชอบ แต่มันเศร้าอ่ะเว้ยยย

ตัวละครแบบเท็นเท็นนี่ไอดอลเราเลย ชอบมาก เก่ง ฉลาด เพอร์เฟค ไม่แคร์คนที่ไม่สนใจ มันใช่อ่ะ หรือเราคล้ายๆกันพอยิ่งอ่านมันยิ่งโคตรชอบ เราก็ประมาณเท็น แต่ไม่ได้เป็นอัจฉริยะว่ะ 5555 การที่ไม่มีแรงบันดาลใจนี่แม่งน่าเบื่ออ่ะ คือไม่รู้จะทำไรดี เวลามีแฟนก็อารมณ์ประมาณนี้ เบื่อง่าย แต่ก็โคตรรัก แล้วก็ไม่รู้จะทำไงดี

เอ่า บ่นอะไรมาซะยาวเชียว เออ ยังไงก็อยากเห็นว่าตอนจบเรื่องนี้ คู่นี้มันแฮปปี้นะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า ^^

 :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 11-02-2014 19:40:10
ตอนที่ 40

“เหี้ยเท็น กูถามจริงๆ มึงกับไอ้เมลมีปัญหาไรกันป่าววะ” ไอ้เต๋อที่กำลังชงเหล้ามือเป็นระวิงถามขึ้นด้วยความสงสัยที่มันคงเก็บจนอัดอั้นมานานหลายวัน

ไม่ต้องป่าวประกาศก็คงมีคนสังเกตเห็นได้ว่าผมกับเมลไม่ได้คุยกันเหมือนเดิม เอาง่ายๆ คือเมลหลบหน้าผม โอเคครับ เข้าใจ =_= ว่าเพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น

ผมก็หาวิธีง้ออยู่นะ แต่ตอนนี้จนปัญญา

“เรื่องในครอบครัวกู”

“-*- ไม่ถามแล้วก็ได้ เออไอ้แม็ค ไอ้พี่มาโปรดที่มึงเคยเอาไปเพ้อให้ไอ้เต้ฟังนี่มันหน้าตาเป็นไงวะ พอผ่านป่ะ”

“มึงไม่เคยเจอพี่เขาเหรอวะ ดังนะคนนี้ แต่กูก็แค่บอกไอ้เต้ว่าคนที่มันกำลังควงเป็นเด็กเก่าพี่มาโปรดก็แค่นั้น ไม่ได้เพ้ออะไรสักหน่อย ไอ้ห่าเต้มันเอาไปตีความเองว่ากูเอามันไปเปรียบเทียบกับพี่มาโปรด ถึงได้แขวะกูจนถึงทุกวันนี้ -_-” ไอ้แม็คทำหน้าหงุดหงิดใจมองไปทางไอ้เต้ที่นั่งชนแก้วอยู่กับผู้หญิงวัยทำงานตรงเคาท์เตอร์บาร์ มีไอ้พี่เจ๋งยืนทำเหล้าไฟพลางมองนมผู้หญิงคนนั้นไปด้วย -_-

“มาโปรดนี่คือพี่ไอ้เปรมน้องรหัสกูป่ะ?”

“ใช่”

“แต่กูไม่เคยเห็นแม่งพูดถึง หน้าตาก็ไม่ค่อยเหมือนกันด้วย”

“แล้วมึงเคยเห็นหน้าพี่มาโปรดแล้วเหรอถึงคิดว่าไม่เหมือน”

“ไม่เคย”

“ไอ้ห่า =_=;”

ผมเลิกสนใจไอ้แม็คกับไอ้เต๋อที่สาดน้ำลายใส่กัน ตอนนี้ความสนใจต่อสิ่งรอบข้างของผมติดลบถึงขั้นถ้าเป็นอุณหภูมิตอนนี้ประเทศไทยคงหิมะตก

“มาแดกเหล้ากันแค่นี้ ไอ้เต้ก็เสือกหาเรื่องเคลมสาวอีก กูล่ะเพลียจริงๆ” ไอ้เต๋อบ่นออกมาเบาๆ เพราะบรรยากาศมันไม่ครื้นเครงเหมือนมาครบแก้งที่มาทีเป็นสิบ ร้านไอ้พี่เจ๋งเกือบเจ๊งเพราะแม่งชอบแจกเหล้าฟรีให้พวกผมบ่อยๆ

“ไม่มีใครมากินเหล้าก่อนวันสอบหรอกไอ้สัด นอกจากพวกเราเนี่ย เหี้ยเต้! ถ้ามึงจะแดกนมแทนเหล้า คืนนี้กูกลับกับไอ้เต๋อนะ!” ไอ้แม็คหันไปตะโกนบอกไอ้เต้แล้วหันกลับมากินเหล้าต่อ

ร้านพี่เจ๋งวันนี้คนไม่เยอะครับ ไม่วุ่นวาย แค่เปิดเพลงคลอบรรยากาศให้ลูกค้าเบาๆ เพราะยังสอบไม่เสร็จกัน เลยมีแต่พวกไม่สนใจโลกอย่างผม ไอ้เต๋อ ไอ้แม็ค และไอ้เต้ออกมากินเหล้ากัน ส่วนคนอื่นๆ เขาก็อ่านหนังสือกันอยู่นั่นแหละ อ้อ ยกเว้นไอ้คิมนะ ไอ้ห่านั่นไปหาเมีย

“ไอ้เหี้ยเต้แม่งนับวันมันยิ่งไปกันใหญ่ กูว่ามึงทำอย่างที่กูบอกเถอะไอ้แม็ค ลองเสี่ยงไป ดีกว่ามาอยู่ในสถานะที่ไม่ชัดเจนอย่างนี้ เชื่อกูเถอะ กูเคยลองทำมาแล้ว มันเวิร์ค”

“เวิร์คจนอีกสองเดือนมึงจะต้องเป็นเจ้าบ่าวทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบใช่มั้ยไอ้สัด?”

“เหี้ยเท็นหุบปากไปเลยมึง กูกำลังเสี้ยมไอ้แม็คอยู่”

“ช่างมันเถอะ ดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวเดี๋ยวมันจะยิ่งยุ่ง”

“ก็ต้องหาคนที่เขาว่างพอจะช่วยมึงได้สิวะ แฟร์ๆ ทั้งเขาทั้งเรา”

“เหี้ยเต๋อมึงก็คิดเป็นนิยายไปได้ไอ้สัด มันไม่ใช่ว่าทำให้หึงแล้วไอ้ห่าเต้มันจะคิดได้ขึ้นมาซะหน่อย มันคิดได้มานานแล้ว แต่มันเลือกจะทำอย่างนี้ก็เท่านั้น” ผมว่าก่อนจะกระดกเหล้าจนหมดแก้ว ไม่ได้สนใจสีหน้าของไอ้แม็คที่ผมเผลอพูดความจริงออกไป

แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้นี่ ไอ้เต้ไม่ใช่มันไม่รู้ตัวว่ามันรักใคร แต่ที่มันเลือกจะทำอย่างนี้ ก็ชัดเจนพอแล้วว่ามันยังขี้ขลาดที่จะแสดงความรักกับคนที่มันรักก็เท่านั้น

หึ เรื่องคนอื่นกูฉลาดนักล่ะ -_-;

“ถ้าเป็นอย่างที่มึงว่านะเท็น กูก็อยากจะลองทำอย่างที่ไอ้เต๋อคิดดู สุดท้ายแล้วถ้ามันไม่มีอะไรเปลี่ยน...กูก็จะตัดใจแล้ว”

“ก็ตามใจ ทำตามที่มึงต้องการเถอะ สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง มึงก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำและยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิด”

ผมว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ ผมไม่ห้ามหากเพื่อนต้องการจะทำสิ่งไหน ดีหรือไม่ดีอยากให้มันตัดสินเอาเอง พลาดบ้าง เสียใจบ้าง สุดท้ายมันก็จะเป็นบทเรียนที่ดี ผมจะทำแค่ดูอยู่ห่างๆ ไม่ให้ความผิดพลาดมันเกินเลยขอบเขตที่จะรับไหวก็เท่านั้น

ในความคิดของผมไม่เกี่ยวว่าเป็นเพื่อนกันแล้วต้องคอยห่วงคอยช่วยเหลือไปซะทุกเรื่อง ถ้าหากวันไหนที่ไม่มีผม แล้วมันจะประคองตัวเองได้ยังไง ผมจะยื่นมือไปช่วยก็ต่อเมื่อพวกมันสู้สุดกำลังแล้วไม่ไหว คนเรามันต้องเรียนรู้และเติบโตด้วยตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดและปฏิบัติต่อคนที่ผมเรียกว่าเพื่อนมาตลอด

มันอาจจะดูแล้งน้ำใจ...แต่อะไรคือตัวตัดสิน แค่เพราะมุมมองของคนอื่นเขาคิดแบบนั้น ผมว่าบางที...คนที่ดูมีน้ำใจมากเกินไป ก็ทำให้เรื่องยุ่งขึ้นมาได้เหมือนกัน

“กูกลับละ เจอกันพรุ่งนี้” ผมว่าก่อนจะวางแบงค์พันลงบนโต๊ะ แล้วลุกเดินออกมา ไอ้เต๋อกับไอ้แม็คยังคงมึน อึน และเอ๋ออยู่ เลยไม่มีใครทันพูดอะไรขึ้นมา

พรุ่งนี้ก็สอบวันสุดท้ายแล้ว แต่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเอกสารที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ควรจะเอาไปยื่นให้กองกิจการนิสิตเมื่อไหร่

ยังคงลังเลใจว่า...ถ้าผมทำลงไป จะยังคงพอมีทางกลับไปหาเมลได้ไหม

ถึงมันจะไม่เคยพูดเลยว่าไม่ชอบ แต่ผมก็รู้ว่าเมลไม่เคยเห็นด้วยกับการใช้ชีวิตโผล่ไปนั่นมานี่ของผม เพราะคบกัน มันถึงพยายามเข้าใจและผมก็พยายามปรับตัว

แต่ตอนนี้...ดูเหมือนความพยายามของเราทั้งสองคนจะไม่มีวันจบสิ้น

มันมีขีดจำกัดอยู่ว่าเราพยายามกันได้มากขนาดไหน อย่างไหนที่เข้าใจได้ หรืออย่างไหนที่เข้าใจแต่ก็ไม่สามารถยอมรับได้

โอเค...ผมไม่ใช่ไม่เข้าใจเมล ผมรู้ว่ามันยากมากหากจะต้องทำใจว่าเราต้องห่างกัน มันคงจะไม่เป็นไร ถ้าหากเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ว่าจำเป็นต้องไป แต่สำหรับเมลแล้วเรื่องพักการเรียนแล้วไปทำอะไรแบบนี้...คงไม่ใช่สิ่งจำเป็นและคงเป็นเรื่องเข้าใจได้ยาก

=_=; เพลียจริงๆ ผมเพลียกับตัวเองเนี่ย ไม่ใช่คนอื่นเลย

ถ้าลองขัดใจตัวเองบ้างผมก็คงไม่ตายหรอกมั้งวะ แต่ถ้าหากพรุ่งนี้เช้าโลกเกิดถล่มลงมา หรือผมอาจจะหัวใจวายตายขึ้นมา ผมก็จะจากไปด้วยความรู้สึกที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ทำอย่างที่หวัง -O-;

มันแย่ตรงที่ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังเลือกที่จะทำให้คนอื่นผิดหวัง...หรือผมควรเสียสละเพื่อความสุขของคนที่รัก

นี่มันเครียดจริงๆ แล้วนะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย -*-

ครืดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดด

“ว่าไงครับป๋า” แปลกแต่จริงที่ว่าเดือนนี้ป๋าโทรมาหาผมถึงสองครั้ง

(ได้ข่าวว่าแกเลิกกับแฟนแล้ว) เสียงของป๋าฟังดูร่าเริงจนน่าหมั่นไส้

“ข่าวมั่ว แค่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย ไม่ได้เลิก”

(ปัญหามากนักแกก็เลิกๆ ไปซะเถอะ ป๋าทาบทามผู้หญิงไว้ให้แกแล้วสองสามคน ลูกเพื่อนๆ ป๋าทั้งนั้น สวยตรงใจแกทุกคนรับรองได้)

“ป๋าอยากไฟท์กับผมใช่มั้ยครับ -_-”

(ป๋าหวังดีกับแกนะเท็น)

“ถ้าหวังดีกับผมป๋าจะไม่ทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าป๋าโทรไปว่าอะไรให้เมลบ้าง ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าป๋ากดดันมันยังไงบ้าง ผมรู้นะ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูด เพราะผมให้เกียรติป๋า ถึงได้ยอมให้ป๋าทำร้ายคนสำคัญของผม แต่ถ้าป๋าทำเกินไปกว่านี้ ผมก็มีสิ่งที่ผมสมควรต้องทำ อย่าบังคับให้ผมต้องทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ เพราะผมก็รักป๋าเหมือนอย่างที่ผมรักแม่ ป๋าเป็นครอบครัวของผม ไม่ใช่ศัตรู และผมก็ไม่อยากจะขู่พ่อของตัวเองแค่เพราะคนรักของผมด้วย”

ป๋านิ่งเงียบไป แต่เวลาที่กำลังนับต่อไปบนหน้าจอมือถือก็ทำให้ผมแน่ใจว่าป๋ายังไม่ได้วางสาย

(แต่แกกำลังขู่ป๋าอยู่นะเท็น มันใช่สิ่งที่คนเป็นลูกควรจะทำไหม แกโตมาได้เพราะใคร)

ผมไม่ชอบจริงๆ ที่ได้ยินป๋าพูดแบบนี้ ผมไม่ได้อกตัญญูจนไม่รู้ว่าผมยืนอยู่จุดนี้ได้เพราะใคร แต่การพูดขึ้นมาให้รู้สึกแย่นี่คืออะไร

“ผมรู้ครับว่าผมมีวันนี้ได้เพราะใคร แต่ผมขอร้องได้มั้ยครับ อย่าทำให้ผมต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรที่จะรักเมลต่อไปเลยนะครับ แค่เพราะนิสัยของผม เมลก็เจ็บจะแย่อยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ใครทำให้เมลต้องรู้สึกไม่ดีอีก”

(ในเมื่อแกเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว งั้นป๋าก็ขอยื่นคำขาดว่าถ้าแกเลือกแฟนแก ก็อย่ามาให้ป๋าเห็นหน้าอีก)

ตอนนี้กลับเป็นผมที่นิ่งบ้าง ถึงผมจะคาดเดาไว้แล้วว่ายังไงสักวันก็คงจะได้ยินคำขาดนี้จากป๋า แต่พอได้ยินจริงๆ ก็เล่นเอาจุกไปเลยเหมือนกัน

“งั้นก็อย่าพูดสิครับ ป๋าก็รู้ว่ามันไม่ตลกเลยจริงๆ จะมาทำเหมือนในละครที่ตัดขาดพ่อลูกเหรอ ป๋าลองคิดดูให้ดีว่าใครจะเสียใจกับการกระทำนี้บ้าง ถ้าผมเลือกทางของผมแล้วป๋าก็มีคำตอบของป๋า ครอบครัวเราจะเป็นยังไง อาการของแม่คงจะทรุดลงอีก แน่นอนว่าผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ถ้าผมเลือกที่จะทำตามที่ป๋าสั่งผมก็ทำได้ แต่ทั้งหมดนั้นก็เพื่อแม่”

(งั้นก็ทำซะ ไม่ว่าทั้งหมดจะเพื่อใคร แกก็ต้องทำ ป๋าไม่เคยบังคับอะไรแกเลยนะเท็น แต่ขอแค่เรื่องนี้ได้ไหม)

“ก็ได้นะ ขอมาทั้งทีทำไมผมจะทำให้ไม่ได้ แต่ป๋าอย่าลืมนะครับ ว่าผมทำเพื่อใคร...ผมไม่ได้ทำเพื่อป๋าที่ไม่เห็นความสุขของผม ผมทำเพื่อแม่ของผมที่รักและอยากเห็นผมมีความสุข ในเมื่อตอนนี้ป๋ากำลังทำเพื่อตัวเอง ผมก็อยากจะบอกว่านี่เป็นคำขอแรกและคำขอสุดท้ายที่ผมจะทำให้”

(แก...)

“แล้วก็อย่าลืมนะว่าแม่อยากเห็นผมมีความสุข ถ้าป๋าคิดว่าให้ผมทำแบบนี้แล้ว...ทุกอย่างมันจะดี ผมก็ไม่มีปัญหา แค่นี้นะครับ ผมจะไปหาแฟนผม อ้อ ป๋าครับ ให้แต่งงานผมก็จะแต่ง แต่ผมจะไม่เลิกกับเมลหรอกนะ บอกไว้เลย”

ผมไม่รู้ว่าป๋าพูดอะไรต่อบ้างเพราะผมกดวางสายไปแล้ว มองโทรศัพท์ในมือก่อนจะขว้างมันลงพื้นแรงๆ

ผมรู้นะว่าป๋าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ที่ว่าออกไปแบบนั้นเพราะหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ผมมีทางออกให้เรื่องนี้แน่ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้แม่รู้เรื่องด้วย รังแต่จะทำให้ท่านไม่สบายใจซะเปล่าๆ ผมเคยบอกแล้วว่าแม่ผมท่านป่วยเป็นโรคหัวใจ กว่าจะมีผมได้ท่านก็เสี่ยงมากแล้ว ขนาดหมอบอกว่ามันอันตรายมากที่จะตั้งครรภ์ แต่ท่านก็ยังเสี่ยงเพื่อที่จะได้เจอกับผม เพราะอย่างนั้น ผมจึงไม่อยากให้ท่านต้องอาการกำเริบเพราะผมกับป๋าทะเลาะกันอีก

ผมขับรถมาถึงคอนโดของเมล ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความว่าตอนนี้เราทะเลาะกันอยู่ มันคงไม่อยากเห็นหน้าผม แต่ผมอยากมา ผมก็มา แค่นั้นแหละเหตุผล ตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรขอดับเครื่องชนหมดล่ะวะ -_-

ปลดล็อคด้วยคีย์การ์ด เปิดประตูเข้ามาก็เห็นเมลนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซนนั่งเล่น มีแต่เสียงพลิกหน้าหนังสือกับเสียงขีดเขียนของปากกาเท่านั้นที่ดังอยู่ในห้องนี้ มันเหลือบตามามองผมแต่ก็ไม่ได้ทักหรือถามอะไร

ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ จับหน้าเมลให้หันมามอง ก่อนจะแนบริมฝีปากลงไปที่ปากมันเบาๆ มันเบี่ยงหน้าหลบเล็กน้อย แต่ก็ไม่พ้น

“อยู่นิ่งๆ” ผมว่าเสียงเข้ม เมลมองมาอย่างไม่เข้าใจ แต่ผมก็ไม่อธิบายอะไรให้มากความ

ผมจูบมันจนพอใจ ก่อนจะผละออกมาแล้วลุกเดินมาที่ประตู โอเค ผมมาแค่นี้แหละ ไม่ต้องพูดอะไรกันให้ลึกซึ้งหรอก เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าคิดถึงมากขนาดไหน อย่างนี้ผมจะไปเสียบคนอื่นให้ท้องได้ไงวะ ป๋าแม่ง พูดอะไรคิดก่อนรึเปล่าเนี่ย -_-

ปึก!

เป็นอีกครั้งที่แผ่นหลังของผมปะทะเข้ากับผนังห้อง เคลื่อนจากจุดเดิมมาไม่มาก แต่ความแรงไม่แตกต่างกัน เมลจ้องหน้าผม ก่อนจะก้มลงมาจูบ ลิ้นของมันดุนดันเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว เป็นจูบที่รุนแรง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกดี...
มันดีมากเลยต่างหาก...

แค่เพราะระหว่างเราไม่มีคำพูดต่อกัน ไม่ใช่ว่าความรู้สึกมันจะจืดจางลง มันกลับยิ่งย้ำว่าในความเงียบนั้น...เรารู้สึกถึงกันมากขนาดไหน

ที่บอกว่าจะปล่อย...ผมโกหก

ถึงผมจะไม่ชอบโกหกคนอื่น...แต่ผมชอบที่จะโกหกตัวเอง...ผมยังคงยอมรับตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้ทุกเรื่องของผมต้องมีความรู้สึกของใครอีกคนมารวมอยู่ด้วย...

..................................................To be continue.............................................

 :กอด1: คนเขียนรักเมลมากกว่าเท็นอีก เพราะเท็นซี้กัน บางครั้งก็หมั่นไส้นาง =_=;
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: Rose_Apple ที่ 11-02-2014 19:42:18
จะตอนไหนก็ชอบเท็นค่ะ ฮาได้ตลอดไม่เว้นซีนอารมณ์ ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 11-02-2014 20:00:52
เฮ้อออออออออออออออ ปวดใจแทนทั้งสองคน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 11-02-2014 20:04:35
พูดกับป๋าตรงมากๆๆๆ  เอาใจช่วยนะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 11-02-2014 20:09:02
คุณป๋านี่อยากมีแอนตี้แฟนอ่อคะ  :m31:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: oaTahcaK ที่ 11-02-2014 20:11:54
ขออนุญาตเม้นตอน 38 / 39 /40 ในเม้นเดียวนะคะ
เพิ่งตามทัน ไรท์อัพถี่ขนาดนี้ กระโดดกอดรัวๆเลย 555

ตอนที่ 38
มันคลื่นใต้น้ำจริงๆ
เหมือนช่วง 10นาทีสุดท้ายก่อนพายุเข้า
อ่านแล้วแบบโอยยย
เมลเอ๊ย แกรู้มั้ยอะไรรอแกอยู่ 5555  :katai1:
ท่านเท็นอาร์ตตัวพ่อไม่เปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 39
ระเบิดบรึ้ม :katai4:
คิดเหมือนหลายๆความเห็นเลย
คือสงสารเมลนะ เป็นใครก็อยากอยู่ใกล้ๆคนรักอยู่แล้ว นี่อยู่ดีๆจะดรอปหนีไปอาร์ตตัวพ่อตั้งปีนึง ใครจะไม่ปรี๊ด

แต่ก็เข้าใจเท็นนะ พื้นเดิมเป็นคนรักอิสระ พอมีแฟน และจริงจังกับแฟน ก็พยายามปรับตัวเพื่อรักษาความสัมพันธ์
แต่คนมันอาร์ตและรักอิสระอะ นิสัยเก่าใช่จะรักษาง่ายๆ ไม่รู้จะโทษใครจริงๆ

ไม่รู้จะโทษใคร แต่ฉากที่เท็นบอกว่าถ้าเลิกกันแล้วดีกับทั้ง 2ฝ่ายก็ไม่เป็นไรนี่แบบ ................. :a5:
ไม่เอาไม่ให้เลิก!!!! (แกเป็นอะไรกะเค้า 5555)
ยิ่งพอเมลบอกดีกับเท็นฝ่ายเดียวแหละ ไม่ดีกับเท็นหรอก
แบบ โอย!!! อยากจะวิ่งเข้าไปกอดเมล (และสกัดขาคู่ไม่ให้เท็นกลับบ้าน) :laugh:

ตอนที่ 40
ตอนนี้รักเท็นขึ้นเยอะเลย
คุณป๋าจะยัดเยียดชะนี เอ๊ย ผู้หญิงให้เท็นเท็นหรอ
ฝันไปเถอะ ถ้าจะรักเท็นเท็นต้องรักเมลเท่านั้น
เถียงคุณป๋าได้แซ่บมาก ค่อยรู้สึกถึงความรักของเท็นที่มีต่อเมลหน่อย
(ถ้าเมลรู้นี่เมลปลื้มตายเลย  :impress2:)
แถมยังขับรถมาหากลางดึกเพราะคิดถึงอีก แอร๊ยยย น่ารัก
ดีกันเร็วๆน้า อย่าโกรธกันนาน
รออ่านต่อนะคะไรท์ ไม่ว่าจะม่าต่อหรือดีกัน
เราจะรอเม้นยาวเป็นหางว่าวอย่างนี้ต่อไป 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-02-2014 20:12:59
อุปสรรคเพียบ เฮ้อ เหนื่อยแทนเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-02-2014 20:14:31
บางครั้งเราก็ต้องเข้าใจตัวเองให้ได้ก่อน..
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: mammysoma ที่ 11-02-2014 20:19:26
ป๋าาาาาาาาาาาาาาาาา :m31: :m31: :m31: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:

มันใช่เรื่อมั้ย??

ที่ให้คนนรักกันเค้าเลิกกันอ่ะ!!!!


  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 11-02-2014 20:33:01
หมั่นไส้เท็น เท็น แต่ก็เลิกติดตามไม่ได้ นี่เราหลงเท็นใช่มั้ย  :z3:

ป๋าอย่ากดดันเมลเลย แค่เท็น เท็น คนเดียว เมลมันก็จะตายแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-02-2014 20:35:14
 :กอด1:
ทุกอย่างจะมีทางออกเสมอ หาให้เจอนะเท็น
แต่ป๋าออกจะใจร้ายไปหน่อยนะคะ แต่ความคิดผู้ใหญ่ก็ใช่ที่จะเปลี่ยนกันง่ายๆ อะไรที่เลี่ยงได้ก็คงเลี่ยงไป แต่บางเรื่องก็ต้องพูดกันตรงๆอย่างนี้แหละเนอะ :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 11-02-2014 20:51:51
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซักทีน้า ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-02-2014 20:55:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 11-02-2014 21:04:47
ปัญหารุมเร้า  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-02-2014 21:05:06
ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว ความคิดถึงมันรุนแรงจริงๆ
ขอให้เมลเท็นพอทางออกที่ดี

ช่วงนี้จะเป็นติ่งเมล เท็นก็อย่าน้อยใจนะ ยังรักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 11-02-2014 21:21:06
เก็ทเลยว่าทำไมเท็นต้องทำสิ่งที่ตัวเองคิดให้ได้ เป็นกำลังใจให้เท็น ช่วงนี้มรสุมเข้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 11-02-2014 21:30:17
ความห่างทำให้รู้ว่าคิดถึงกันแค่ไหน จริงๆเท็นก็ปล่อยเมลไม่ได้หรอก ยังไงต้องมีทางออกแน่ๆ สู้ๆนะเท็นเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 11-02-2014 21:33:12
เป็นเท็นมันเหนื่อยจริงๆนะ 55555555555

สู้ต่อไปเมลเท็น เรารักนายทั้งสองคนจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2014 22:00:47
หมั่นไส้ป๋าของเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 11-02-2014 22:16:33
สู้ๆนะทั้งสองคน อุปสรรคก่อให้รักบังเกิดนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 11-02-2014 22:19:38
อย่างที่บอกไปว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่คนๆเดียว

บางทีเท็นอาจจะลืมอะไรไป.....ความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างๆเท็น

ปล.เก๊าหวังว่าเท็นจะยกเลิกแผนไปพะเยานะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 11-02-2014 22:26:09
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 11-02-2014 22:27:14
เท็นเท็น สู้ๆ ต้องหาทางออกที่ดีได้เราเชื่อ
เพราะเดอะเท็น คือไอดอลของเรา  :laugh: :กอด1:

รักคนเขียน...แต่รักพี่มาโปรดมากกว่า <---- ไม่เกี่ยว  :z6:
ขอบคุณคนเขียนคร่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2014 22:28:04
จากเรื่องมาโปรด ในตอนพิเศษ 2
บอกว่ามายด์ตาย ฮือๆ
แล้วฟิวส์จะอยู่กับใคร?
จะดราม่าเกินแล้ว
ใจร้ายฝุดๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 11-02-2014 22:34:45
 :hao5: รักเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 11-02-2014 22:42:26
มาอ่านต่อจากพี่มาโปรดคนหล่อของคนแต่ง 555555555555555555
ติดเลยติดเลย จนตอนนี้ก็อ่านมาถึงตอนล่าสุดแล้ว
(แอบเปรยของสเปเชียลพี่มาโปรดด้วยถถถถถถ)อยากจะบอกจริงๆว่า
เราเสียใจเรื่องมายด์จริงๆนะ (ชื่อเดียวกับเราอีกแหนะ)
เรารู้สึกว่ามายด์สมควรจะได้รับความรักบ้างอะ ถึงแม้จะเคยทำเรื่องแย่ๆก็ตาม
แล้วแบบก็รู้ว่ารักเมล แต่แบบก็เพราะไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครแบบนี้ไง
สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่เจ็บเอง และมายด์ก็เจ็บเหมือนกัน
เสียใจกับคู่นี้ T_______T' เราว่าถ้ารักกันต้องน่ารักมากแน่ๆ จากที่เห็นแบบ
บางโมเมนท์ของสองคนนี้ง่ะะะะ เสียใจที่มายด์ตายจริงๆนะ เราน้ำตาไหลเลย
ปล. มันจะมีเฉลยใช่มั้ยว่าทำไมมายด์ถึงตาย.. เรารอน้าา ว่าเกิดอะไรขึ้น :)



ส่วนเมลเท็น ชอบชื่อคาราเมลมากค่ะ (ไม่ใช่ประเด็นมั้ย 5555555555)
มันน่าร้ากกกอ้ะ บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจทั้งสองคน ก็คงเป็นเพราะนิสัยของเท็นเนอะ
ที่เป็นคนแบบนี้ มีอะไรก็ไม่ได้พูดไปซะทุกอย่าง แต่บางที คนรักกันมันควรจะพูดกันบ้างใช่ปะ
ไม่ใช่แค่ความเชื่อใจ หรือว่าคิดไปเองอยู่นั่น สองคนนี้ชอบคิดไปเองเสมอเลย
โดยเฉพาะเท็น ชอบคิดแทน โดยไม่สนใจเมลเลย เท็นบางทีก็เห็นแก่ตัวไป สงสารเมลอ้าาา
5555555555555555555 อ่านละก็เศร้าาาาา ทำไมไอสองคนนี้มันเอะอะทะเลาะๆๆๆๆ 555555555
ปล. โคตรอิจฉาความฉลาดของเท็นเลย แบ่งมาให้เราบ้างจะได้ม้ายย ก้ากกกกกกกกกกก

เราชอบเมลนะ แต่คนแบบเมลเนี่ยแหละที่จะเจ็บ แต่ก็เข้าใจว่ารัก แต่เท็นเห็นแก่ตัวเกินไปนิดนึงจริงๆ
5555555 ทำเมลเจ็บตลอดเลย เราแทบไม่เคยเห็นเมลทำอะไรร้ายแรงมากๆใส่เท็นเลยจริงๆ
เมลเป็นคนน่าร้ากกกกกกก จนเรารู้สึกว่า นิสัยสองคนนี้แบบ สลับโพสิชั่นท่าจะดี 55555555555555
เมลอย่างคิ้ววววท์ เท็นนี่ก็หลุดโลกไป่ไหนนนน๊ ถถถถถถถถถถ

อ่านเรื่องนี้ของคนแต่งละเราอยากจะบ้าจริงๆนะ มันทำให้เราแอบมีความคิดโคตรอินดี้ตามเท็นเลยอะ
แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าเดอะเท็นกับน้องคาราเมลจะจำกันได้มั้ยน้าาา อิอิอิ ตำนานโคตรคิ้ววววววท์
555555555555


สุดท้าย ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว แต่อยากจะบอกว่า
เราชอบฟิคเรื่องนี้ของคนแต่งเหมือนกันน้าาา อิอิ ติดตามมาจากมาโปรด
ละเรื่องนี้ก็ทำให้เราหลงรักได้อีกเหมือนกันน้าา :D
เราจะติดตามติดตามต่อไปนะจ้ะ <3


แก้ไขขข 555555 ลืมไปคู่นี้
เต้แม็ค ชอบเวลาเรียกกัน เตเต้กับมี มาก น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก
อยากให้รู้ใจตัวเอง(มันก็รู้นี่หว่า) แต่เอาชนะอะไรหลายๆอย่างได้สักทีนะะะ!
เราจะติดตามมม ฮี่ฮี่ฮี่
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 12-02-2014 00:39:29
เห้อเหนื่อย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 12-02-2014 06:11:01
มายยยยยยยด์ (โหยหวนจากอีกเรื่อง)  :sad4:

คู่นี้ก็น่าปวดหัว = =
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 12-02-2014 07:20:35
คุณป๋าขาาาาาาาาาาาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 12-02-2014 11:48:07
ถ้าเท็นอยากตามหาความมหายของชีวิตนะ พูดจริงๆ...ไปบวชเหอะ!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 12-02-2014 15:09:46
หวังว่าคู่นี้จะปรับความเข้าใจกันได้เร็วๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: Nae_Nae ที่ 12-02-2014 20:32:43
ดีใจจจ มาต่อแล้วว เท็นเท็น  เมลลล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 12-02-2014 20:40:54
หน่วงได้อีก อุปสรรคเยอะจริงๆคู่นี้

เหนื่อยแทนเมลอ่ะ ทั้งเท็น ทั้งคุณป๋า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 12-02-2014 21:28:07
หน่วงเกิ้นนนนนนนน


กดดันนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 14-02-2014 17:00:49
 :katai1: :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 15-02-2014 21:14:26
ตอนที่ 41

“คุณเคนช่วยส่งรายละเอียดของผู้หญิงที่ป๋าหาไว้มาให้ผมด้วยครับ”

(คุณเท็นคงจะไม่ไปทำอะไรพวกเธอนะครับ ไม่อย่างนั้นผมถูกนายท่านเล่นงานแน่)

“ป๋าไม่กล้าทำอะไรคุณเคนหรอกครับ แล้วผมก็ไม่ทำอะไรผู้หญิงพวกนั้นด้วย แค่อยากรู้จักเฉยๆ ส่งมาที่เมลของไอ้ฟิวนะครับ”

(เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่นัดดูตัวครั้งหน้าคุณเท็นอย่าเบี้ยวอีกเลยนะครับ)

“ผมรับปาก งั้นแค่นี้นะครับ พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ผมกำลังเตรียมเก็บภาพอยู่”

(ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ)

พระอาทิตย์ยามเช้าเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับมนุษย์ความดันต่ำที่เกลียดการตื่นเช้าอย่างผม แต่มันก็มีบางทีที่ผมอยากดูมากจนต้องแหกตาตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อมารอเจอแสงแรกของวัน

ผมเริ่มเก็บภาพตั้งแต่มีแสงเริ่มสาดไปทั่วฟ้าจนกระทั่งเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวง พอใจแล้วผมก็ทำแค่ยืนนิ่งๆ จ้องมองแสงสีทองที่อาบไล้ไปตามตึกต่างๆ ซึมซับภาพที่นานๆ ครั้งจะได้เห็น ก่อนจะค่อยๆ สูดลมหายใจรับอากาศสดชื่นยามเช้า

“เท็น” เสียงเรียบๆ ของเมลดังขึ้นจากข้างหลัง ผมไม่ได้หันไปมองในทันที แต่รอจนกระทั่งมันเดินมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ

“อากาศดีนะ” ผมพูดขึ้น ยิ้มอย่างที่คิดว่าเท่ที่สุด แล้วหันมาสนใจนกฝูงใหญ่ที่กำลังบินไปเรียงกันเป็นรูปตัว V

“จะดร็อปจริงๆ ใช่ไหม”

สุดท้าย...เมื่อเรื่องนี้มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงได้อีก เราก็จำเป็นต้องหันหน้าคุยกัน บางทีที่ผมกับมันอาจจะอารมณ์ร้อนไปบ้าง ผลีผลามตัดสินใจหรือเลือกทางออกแย่ๆ ให้แต่ละฝ่าย แต่ที่สุดแล้วเราก็ไม่ลืมว่าเราเป็นคนรักกันไม่ใช่ศัตรู ที่จะต้องโกรธต้องเกลียดกันหรือทำร้ายกันให้ตายไปข้าง

“ถ้าเป็นสิ่งที่มึงต้องการ กูก็จะพยายามเข้าใจ”

ผมมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้แล้ว แค่ได้เห็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนเดิมของเมล ผมก็รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง

“งั้น...ถ้าอะไรที่ทำให้มึงไม่สบายใจ กูก็จะไม่ทำ โอเคมั้ย?”

เมลทำหน้างงไปเพียงครู่ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมานิดๆ ในตอนแรก และหลังจากนั้นมันก็เริ่มกว้างขึ้นจนสุดท้ายก็กลายเป็นรอยยิ้มที่ผมเห็นจนชินตา

มันคงจะดี...หากผมสามารถรักษารอยยิ้มนี้ไว้ได้ตลอดไป...

“ขอบคุณนะเท็น”

“อืม”

ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ..ขอบคุณกับความรักมากมายที่มันมีให้ผมตลอดเวลาที่คบกันมา

“เมล...”

“ครับ?”

“ถ้าสักวัน...กูต้องกลายเป็นของคนอื่น มันไม่ใช่ว่ากูไม่รักมึงนะ”

“....”

เทียบกับเรื่องพักการเรียนแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากพูดมากที่สุด แต่ผลจากการไม่พูด มันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ

“กูอาจจะต้องแต่งงาน...กับคนที่ป๋าเลือกไว้ให้”

“มึงจะทิ้งกูเหรอ” เมลดูเหนื่อยมากเมื่อตั้งคำถามนี้กับผม แววตาที่อ่อนล้าของมันทำให้ผมรีบเข้าไปกอดมันไว้

“ถ้ามึงรอ...กูก็สัญญาว่าจะกลับมา”

“ให้กูรออะไร...รอให้มึงหย่า? หรือรอให้ป๋าของมึงยอมรับเรื่องของเราให้ได้? ...แล้วมึงบอกกูได้มั้ย ว่ากูต้องรอไปอีกนานแค่ไหน”

“....” ผมไม่รู้ระยะเวลา ไม่อาจบอกได้ว่าทางออกที่ผมเลือกมันจะเป็นทางที่ถูก

ผมกำลังเจอทางตัน ชีวิตที่ไม่เคยต้องแก้โจทย์ยากๆ ของผม กลับมาเจอปัญหาพื้นๆ ของมนุษย์ทั่วไป แต่กลับเป็นปัญหาที่ยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เมื่อครอบครัวของผมก็สำคัญไม่ต่างจากเมล ถ้าป๋ายื่นคำขาดมาแล้ว ไม่ว่าผมหรือแม่ ป๋าก็พร้อมชนทั้งนั้น

...เพราะในสายตาของป๋า ผมก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่มีความคิดต่างจากเขา ไม่ได้พิเศษไปจากคนอื่น ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนไปยังไง เติบโตขึ้นมากแค่ไหน แต่สุดท้าย...ผมก็ยังคงเป็นลูกของเขาอยู่ดี

“แต่ถ้ามึงบอกให้รอ...กูก็จะรอ มึงพูดแล้วนี่ว่าอะไรที่กูไม่สบายใจก็จะไม่ทำ เพราะฉะนั้นกูจะเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

ถ้ากลับกัน...ผมคงทำอย่างที่เมลทำไม่ได้ ผมมันใจแคบเกินไป และเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะมองคนที่รักเป็นของคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา

“คงมีแต่มึง...ที่ยอมกูมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กูเห็นแก่ตัว”

“กูยอมก็เพราะกูรักมึง... กูบอกมึงแล้ว...ว่าถ้าเป็นสิ่งที่มึงต้องการ กูจะพยายามเข้าใจ”

ผมคงไม่ต้องอายอีกแล้วหากจะต้องซบหน้าร้องไห้ลงกับอกของผู้ชายคนนี้ เมลมีแต่ให้ผมมาตลอด อ่อนโยนและใจดีเกินไป จนโดนผมเอาเปรียบซ้ำๆ ซากๆ

“รอนะ...ในระหว่างที่กูกำลังพยายาม มึงต้องรอนะ”

“ครับ... เท็นเท็น ไม่ร้องไห้น้า ขี้แยอย่างนี้จะไปเป็นสามีใครได้เนี่ย” เมลเช็ดน้ำตาให้ผม มันโอบตัวผมไว้แล้วโยกไปมาเล็กน้อย

“กูเป็นได้แค่เมียมึงเท่านั้นแหละ ไม่ไปเป็นผัวใครหรอก”

“หึหึ เข้าข้างในกันเถอะ ไปช่วยกันทำข้าวเช้าดีกว่า”

“อื้อ”

เมลจับมือผมไว้กระชับแน่นนิดหน่อย บีบเบาๆ ให้ผมรู้ว่าต้องเดินไปพร้อมกัน...

แค่เท่านี้ ผมก็ไม่ต้องผ่านมันไปคนเดียวแล้ว...เมลไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากหรอกกับเรื่องในครอบครัวของผม แค่เมลยืนยันว่าจะไม่ไปไหน จะรอ แค่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว...

.
.
.

จากวันที่คุยกัน สำหรับผมกับเมลแล้วไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก เรายังคงอยู่ด้วยกัน แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กันเหมือนเดิม แต่ลึกๆ แล้วผมรู้สึกได้ถึงเรื่องที่ยังคงตกตะกอนอยู่ภายใน

...เรื่องที่เมื่อเรียนจบ...ผมต้องแต่งงานกับใครสักคนที่ป๋าเลือกไว้ ความสัมพันธ์ของพวกเราจึงเหมือนกับระเบิดเวลาที่กำลังเริ่มนับถอยหลัง

ตลอดช่วงปิดเทอม ผมไปดูตัวมาแล้วหกครั้ง แต่ละคนที่ได้ทำความรู้จัก ไม่มีคนไหนเลยที่ผมอยากจะสานสัมพันธ์ด้วย เมลจะหัวเราะทุกครั้งเวลาผมเล่าให้ฟังว่าใครเป็นแบบไหน และสุดท้ายแล้วผลของการดูตัวก็จะเป็นเพราะฝ่ายหญิงปฏิเสธที่จะคบหากับผมต่อทุกครั้งไป ป๋าคงเงิบไปเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไรกับป๋าไปมากกว่าแค่ฝ่ายหญิงเขาไม่ชอบขี้หน้าผม

เอาจริงๆ แล้ว ไม่มีคนไหนหรอกที่ไม่ชอบผม แต่เป็นเพราะผมบอกพวกเธอแล้วว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย และก่อนหน้านั้นก็ให้ไอ้กัสส่งรูปของผมกับเมลไปให้พวกเธอก่อนแล้วด้วย ตามที่อยู่ที่ได้จากคุณเคนมานั่นแหละครับ

วิธีนี้มันก็ดำเนินมาด้วยดีได้สักพักแล้ว...แต่ดันมาแป้กตอนรายที่เจ็ด =_=;

รายนี้ขนาดผมบอกว่ามีผัวแล้วก็ยังยิ้มแล้วตบท้ายด้วยว่า 'น่าสนใจดี' โอเคครับ ถ้าเธอสนใจ ผมก็จะหยุดการดูตัวไว้แค่นี้ จะได้ตัดปัญหาการไปเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตาเหมือนกัน

อย่างน้อยก็อาจจะหยุดความวุ่นวายไปได้สักพัก เพราะผู้หญิงคนที่เจ็ดนี่เรียนอยู่ออสเตรเลีย แต่ก็ถูกพ่อแม่บังคับให้บินมาดูตัวกับผมโดยเฉพาะ ตอนนี้ก็กลับไปแล้วล่ะครับ หายห่วงไปได้จนกว่าป๋าจะลั่นวาจาให้มีงานหมั้น

แต่ผมจะพยายามไม่ปล่อยให้ปัญหามันยืดเยื้อไปมากกว่านี้หรอกครับ เพราะยังไงก็ไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับผู้หญิงที่แม้แต่หน้ากับชื่อผมก็ยังจำไม่ได้หรอก ไว้หาอะไรไปชนกับป๋าได้ค่อยว่ากัน

“เมล เมาแล้วเหรอ” ผมถามคนข้างๆ ที่นั่งเงียบมาสักพักแล้ว มือถือแก้วเหล้าที่ตอนนี้สีจางไปมากแต่ก็ไม่ยกดื่มสักที

“อืม” รู้หรอกว่ามันโกหก แต่ผมก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรให้มากความ

“เหี้ยเต๋อ มึงจะแดกให้ตายไปเลยไงวะ คืนนี้มาเลี้ยงสละโสดให้มึงนะเว้ย” ไอ้ลินว่าพลางพยายามแย่งแก้วออกจากมือไอ้เต๋อที่ตั้งแต่ก้นแตะเก้าอี้มันก็ยกแก้วไม่หยุด

“ทำมาพูดดีว่าสละโสดให้กู พวกมึงแค่จะฉลองที่เกรดออก เอาแก้วกูคืนมาาาาาาาา”

“พอแล้วไอ้เหี้ย มึงอยากเป็นเจ้าบ่าวกลิ่นละมุดรึไงวะ พรุ่งนี้ก็จะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย” ไอ้แต้มว่าขึ้นอีกคน

ใช่ครับ...พรุ่งนี้ไอ้เต๋อจะแต่งงาน จะเรียกว่าความรักหรือความผิดพลาดก็ยังยากจะระบุได้

“กูพลาดแค่ครั้งเดียว ทำไมต้องเป็นงี้ด้วยวะ T_T กูไม่อยากแต่งงงงงงง”

ผลั่วะ!

ไอ้ฟิวลุกขึ้นพร้อมกับยื่นแขนสั้นๆ ของมันข้ามโต๊ะมาตบหัวไอ้เต๋อเลยครับ

“มึงจะมาร้องอะไรตอนนี้ห้ะ! ให้เกียรติผู้หญิงบ้าง ตอนทำทำไมไม่คิด!!!”

“ก็กูเมาอ่ะ”

“พลาดเพราะเมาแต่ก็ไม่เคยโทษเหล้าไอ้สัด” ไอ้ฟิวบ่นเป็นจริงเป็นจัง จนไอ้มายด์ต้องดึงมันให้นั่งลงแล้วหาน้ำอัดลมมาประเคนให้

“พะชอนนนน ช่วยกูด้วยยยย”

-_- กูจะช่วยมึงได้ยังไงล่ะ ในเมื่อพ่อกูก็บังคับกูแต่งงานอยู่นี่ จะคิดจะทำอะไรไม่ปรึกษาผัวกูเลย -*-

“มันเป็นกรรมว่ะมึง ต้องทำใจ”

“TT_TT”

ปล่อยไอ้เต๋อน้ำตาคลอให้ไอ้เขตกับไอ้ลินปลอบอกปลอบใจเถอะ

วันนี้ยกกันมาครบทุกคน เพราะเกรดออกและฉลองคืนสละโสดให้ไอ้เต๋อด้วย แม้แต่ไอ้ฟิวก็ห้ามขาด โต๊ะผมเลยเป็นกลุ่มที่เยอะที่สุดในร้าน แถมวันนี้ไอ้กัสไปหยอดคำหวานพี่เจ๋งเลยได้แบล็คมาสองกลม เห็นทีงานนี้เหล้าไม่หมดไม่กลับล่ะครับ

“คิดมากอะไรว้า” ผมถามพลางดึงหน้าเมลให้หันมา

“^^ แค่เหนื่อยนิดหน่อย”

“กลับห้องมั้ย”

“เป็นห่วง?”

“มากกกก”

เมลยิ้มก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม “แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว”

“^^”

ป๋าครับ...ถ้าป๋าเป็นผม ป๋าจะรู้ว่า คงไม่มีใคร...รักผมได้มากเท่านี้อีกแล้ว

..............................To be continue................................

สำหรับคนที่อ่านมาโปรดมา ก็จะรู้แล้วว่าพี่เท็นไม่ได้ดร็อปเรียน นางก็ไปๆ กลับๆ พะเยาอย่างที่ปลื้มกล่าวไว้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 15-02-2014 21:31:16
เรื่องมันเศร้า เฮ้อ.... :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 15-02-2014 21:32:04
ปวดตับ   :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-02-2014 21:34:14
ยิ่งอ่านยิ่งรักเมล ประมาณยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ  :กอด1:

สู้ๆนะเท็นเท็น   :3123:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 15-02-2014 21:34:55
 :katai1:

หน่วงงงงงงงงงงง

TT


ปล. เห็นชื่อมายด์ทีไร เจ็บทุกทีเล้ยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 15-02-2014 21:39:05
รึผู้หญิงคนที่เจ็ดนางจะเป็นสาววาย รู้ว่าผู้ชายเค้ามีสามีอยู่แล้วยังว่าน่าสนใจ เอ้ออออ  o22
บรรยากาศสุดจะอึมครึม ตอนนี้เราก็เป็นแอนตี้แฟนคุณป๋าไปละ =___=
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 15-02-2014 21:40:25
มาม่ามาแล้ว เศร้าๆๆๆๆๆ

เมลเท็นสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 15-02-2014 21:42:33
ท่านเทพเท็นที่คารวะของน้องๆ เรื่องแค่นี้คิดว่าไม่น่าจะจนปัญญาได้นะ

อัจฉริยะใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก แค่นี้สิวๆน่า  เอารอยยิ้มกว้างๆของเมลกลับมาให้ได้นะ

สู้สิ!!   :a2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 15-02-2014 21:47:11
 :mew2: อยากรู้เรื่องมาย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 15-02-2014 21:47:24
เอ่อ...เท็นบอกว่ามีผัวแล้วแต่ชะนีนางนั้นก็ไม่ถือสืารึว่าจะเป็นสาววายยย :katai3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-02-2014 21:55:46
อาจไม่ใช่สาววาย แต่น่าจะเป็นทอม หุ หุ หุ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 15-02-2014 22:38:08
ทุกปัญหามีทางออกเสมอ เราต้องผ่านมันไปให้ได้ สู้ๆนะเมลเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2014 22:56:55
มาจิ้มก่อนอ่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 15-02-2014 23:01:35
น้องเมล แกต้องมั่นคงเหมือนที่ชอบเดอะเท็นนะ เอาชนะใจพ่อตาให้ได้ล่ะ 555
 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 15-02-2014 23:06:47
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 15-02-2014 23:21:47
 :z3: :z3: :z3: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
อีโมติคอนที่ใช้บ่อยสำหรับเรื่องนี้คือ  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 15-02-2014 23:35:25
โฮฮฮฮ~ ทำไมคุณป๋าไม่เห็นใจเท็นเท็นบ้างเลย
แล้วแบบนี้ทั้งสองคนจะทำยังไงต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 15-02-2014 23:43:15
ป๋าต้องเข้าใจแน่....ซักวัน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 16-02-2014 00:50:26
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-02-2014 07:48:27
ป๋าจะบังคับลูกทำไมเหรอ เข้าใจว่าหวังดี แต่จริงๆแล้วมันเป็นแค่การอยากเอาชนะเท็นเท็นหรือเปล่า :hao5:
เหมือนพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวยังไงไม่รู้ รอเวลามันถล่ม แง้ๆ :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 16-02-2014 08:46:18
เมลจะทนได้อีกนานแค่ไหนน่ะ

เหมือนนับถอยหลังรอเวลาระเบิดเลย

คุณป๋ารีบๆ เข้าใจซักทีสิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-02-2014 09:27:48
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-02-2014 10:14:36
สงสารเมลจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 41 : 15-02-2014 (Page.36)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-02-2014 15:30:43
หม่นสุดๆ  อ่านแล้วสงสารเมลมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 16-02-2014 17:29:19
ตอนที่ 42

“เหี้ยมายด์ เห็นเมลมั้ยวะ”

เมื่อคืนกลับมานอนบ้านเพราะต้องพาเบลล่าของคุณย่ามาอยู่ด้วย แต่ตื่นเช้ามาคนที่นอนข้างๆ กันตั้งแต่เมื่อคืนดันไม่อยู่ โอเค ผมอาจจะตื่นสายไปหน่อย แต่เดินหาทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ กรงไอ้เจคก็ไม่มี ไอ้เป๊บก็ยังนอนกลิ้งอยู่บนพรมหน้าทีวี ไอ้ฟิวก็อบคุกกี้อยู่ในครัว นี่เดินออกมาข้างนอกไอ้มายด์ก็รดน้ำกล้วยไม้ให้ผมอยู่

“มันออกไปเอาชุดกับไอ้กัส เดี๋ยวจะไปงานแต่งไอ้เต๋อไม่ใช่ไง”

โหะ เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าวันนี้วันลงทัณฑ์ไอ้เต๋อ ไม่ครับๆ วันมงคล เรียกอย่างนี้ไม่ได้

“เออ จริงด้วยว่ะ”

ไอ้มายด์ส่ายหน้าหน่ายๆ ใส่ผม ก่อนจะหันไปสนใจกล้วยไม้ตรงหน้าต่อ นี่เป็นกล้วยไม้ที่ตาของไอ้แม็คให้ผมมาครับ สวยมากกกก ผมเป็นเจ้าของก็จริง แต่ส่วนใหญ่ไอ้มายด์จะเป็นคนดูแลให้ ไอ้นี่มันเป็นคนเงียบๆ ครับ แต่แอบมีน้ำใจ ไอ้เจคอปกับไอ้เป๊บก็ได้มันนี่แหละช่วยไอ้ฟิวให้อาหาร

จะว่าไปผมนี่สร้างภาระให้เพื่อนๆ นะ =_=;

“เท็น กูว่าพรุ่งนี้ดอกมันคงบานว่ะ มึงจะถ่ายวิดีโอเก็บไว้ป่ะ”

“เฮ้ย มันจะบานแล้วเหรอวะ เชร้ดดด สุดยอด งั้นค่ำๆ ตั้งกล้องไว้เลยละกัน นี่ถ้าไม่ติดว่ามีงานแต่งไอ้เต๋อ กูจะมานั่งเฝ้าให้รู้แล้วรู้รอด”

การได้เห็นดอกกล้วยไม้บานเป็นอะไรที่ปริ่มมากครับ ประมาณลูกสาวกำลังจะได้แต่งงานเลยทีเดียว คือ ก็เลี้ยงมานาน อยากเห็นความสวยงามของมันสักครั้ง ก็คงไม่แปลก ถึงผมจะไม่ใช่คนให้น้ำมันทุกเช้าก็เถอะ =O=;

“เท็น...มึงกับเมลช่วงนี้ทะเลาะกันเหรอวะ” คำถามของไอ้มายด์ทำให้ผมหยุดมือที่กำลังจะดึงหางไอ้เป๊บที่เพิ่งวิ่งผ่านหน้าไป

“อยากรู้เองหรือไอ้ฟิวใช้ให้ถาม”

“ทั้งสองอย่าง”

ผมมองเสี้ยวหน้าไอ้มายด์อยู่สักพัก ...มันก็คงเจอความรักที่ไม่สมหวังเหมือนกัน แต่ที่มันยังคงอยู่ตรงนี้...ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าความพยายามหรือความดันทุรังกันแน่

“มีปัญหานิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็คงโอเค กูจัดการได้อยู่แล้ว”

“อืม...อย่าทำให้ไอ้เมลเสียใจก็แล้วกัน มันรักมึงมาก”

“กูจะพยายาม”

“ฝากดูแลมันด้วย เพื่อนกูมันเป็นคนดีนะ มึงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วล่ะ”

“กูรู้น่า”

ไอ้มายด์มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่ชายของเมล เพราะมันเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่ก็ดูแลคนอื่นได้ดี เวลาเมลมีปัญหาหรือทะเลาะกับผมทีไร ชื่อแรกที่ออกจากปากของมันก็คือชื่อไอ้มายด์ เวลามันโกรธจนไม่กลับห้อง ไม่ห้องไอ้มายด์ก็ห้องไอ้เขตนั่นแหละที่มันจะไป

“มายด์ กูถามหน่อย”

“?”

“มึงไม่ตัดใจวะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีหวัง ทำยังไงมันก็ไม่รักมึง”

ไอ้มายด์นิ่งไปเพียงครู่ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาแล้วบอกด้วยหน้าตาที่เต็มไปด้วยความสุขปนเศร้าของมันว่า

“แล้วถ้าไอ้เมลมันไม่รักมึง...มึงจะยังรักมันอยู่มั้ยวะ”

“รักดิวะ -_-”

“กูก็เหมือนมึง กูรักไปแล้ว ต่อให้มันไม่รักกู...กูก็จะรักมันอยู่อย่างนี้แหละ”

“ซึ่งบางทีมันก็รำคาญมึงน่ะนะ”

“ฮ่าๆๆ ปล่อยให้รำคาญไปเถอะ เดี๋ยวมันก็ชินที่มีกูเองนั่นแหละ”

“ไอ้หน้าด้าน”

“ยอมรับว่ะ หึหึ”

โถะ ไอ้ฟิว เกิดมามีกรรมละมึง คาดว่าไอ้มายด์คงจะเกาะติดมึงไปชั่วชีวิตแน่

ผมเลิกสนใจไอ้มายด์หันมาวิ่งไล่จับไอ้เป๊บแทน ไอ้แมวตัวนี้มันซนมากนะ ไม่เหมือนเบลล่าสุดน่ารักของผมเลย เบลล่าขี้อ้อน ชอบมาพันแข้งพันขาเหมือนสาวน้อยวัยกำลังมีความรัก ตัวก็นุ่ม ผมหลงมาก ต่างจากไอ้เป๊บที่อยากจะเตะเช้าเตะเย็นเพราะเมลชอบโอ๋มัน -*-

“แกล้งอะไรไอ้เป๊บอีกแล้วเนี่ย ตื่นมาก็ง้องแง้งใส่แมวเลยนะ”

เมลคงมาถึงสักพักแล้ว เพราะผมได้ยินเสียงรถขับเข้ามา ผมรีบปล่อยไอ้เป๊บเป็นอิสระทันทีหลังจากจับมันคลุกกับฝุ่นไปสองรอบ

“ก็คนไม่อยู่ให้ง้องแง้งใส่”

“กูออกไปเอาสูทมาให้มึงไง”

“งานไอ้เต๋อนี่กูใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบอลก็ได้มั้งวะ”

“=_= สงสารมันหน่อยเหอะ แล้วนี่ทำไมไอ้เป๊บมันมอมแมมอย่างนี้”

“มันซน”

“เฮ้อ มึงนี่นะ เข้าบ้านเถอะ ไปเตรียมตัวได้ละ งานเริ่มเก้าโมง”

เวลาไอ้เป๊บมอมแมมนะ เมลจะเอาเท้าเขี่ยมันให้ไปไกลๆ ทันที ฮ่าๆๆๆ

“มายด์ ย่าอยากเจอมึงอ่ะ แวะไปหาท่านบ้างนะ” เมลหันไปตะโกนบอกไอ้มายด์ก่อนจะล็อคคอผมให้เดินตาม

“เออๆ ไว้ว่างๆ ละกัน แล้วนี่ไอ้เป๊บมึงไปเปื้อนอะไรมา กูเพิ่งอาบน้ำให้เมื่อวานเองนะ =_=;”

ได้ยินไอ้มายด์พูดอย่างนั้นแล้วผมก็รีบทำหูทวนลมแล้วยอมให้เมลลากเข้าบ้านแต่โดยดี

“กูไม่ใส่เดรสเด็ดขาดดดดดดด” เสียงไอ้กัสลอยมาให้ได้ยิน ผมกับเมลชะงักเท้าพลางหันมองหน้ากัน

=_=; ไอ้ฟิวคงกำลังบังคับให้ไอ้กัสใส่เดรสอยู่สินะ

“เพื่อนแต่งงานทั้งทีน่า ดูชุดนี้สิ สวยนะ แม่มึงนี่ตาถึง”

ผมเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นก็เห็นไอ้ฟิวชูเดรสสีชมพูอ่อนให้ไอ้กัสดู ในขณะที่ผู้หญิงเพียงคนเดียวของบ้านส่ายหน้าหวือ แล้วพอเห็นผมก็รีบวิ่งมาหลบข้างหลังทันที

“ไอ้ฟิวกำลังทำร้ายกู” ไอ้กัสฟ้อง

“ทำร้ายที่ไหน แม่มึงเป็นคนส่งชุดมาเองแล้วก็กำชับให้มึงใส่ให้ได้ด้วย ใส่แป๊บเดียวก็ได้น่า กูจะได้ถ่ายรูปส่งไปให้แม่มึงดู” ไอ้ฟิวยิ้มกริ่ม คงสนุกที่ได้แกล้งไอ้กัส

“มึงติดสินบนกับแม่กูใช่มั้ยยยยยย”

“เออ รูปละสองพันห้า มึงมาซะดีๆ ช่วยกันทำมาหากิน”

“เท็นนนน ช่วยกูด้วย”

ผมเบี่ยงตัวเล็กน้อย ยื่นมือไปจับแขนไอ้กัสแล้วส่งตัวมันให้ไอ้ฟิว

“แบ่งกูห้าร้อย”

“เชี่ยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ”

เมลส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินไปที่โซฟา เวลาพวกผมอยู่ด้วยกันจะรุมหัวแกล้งไอ้กัสแบบนี้แหละครับ เพราะรองจากไอ้เต๋อแล้ว แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่ามัน สักพักไอ้มายด์ก็อุ้มไอ้เป๊บมาสมทบอีกคน

“มายด์ ช่วยกูด้วยยยย ไอ้ฟิวมันบ้าไปแล้วววว”

ไอ้มายด์กลายเป็นรายต่อไปที่โดนไอ้กัสเข้าสิง ไอ้หล่อหน้านิ่งทำหน้างงๆ เล็กน้อย

“เล่นอะไรกัน”

“มันจะให้กูใส่เดรสไปงานไอ้เต๋อ”

“เอ้า ก็ใส่ไปสิ งานไอ้เต๋อทั้งที กัสใส่คงน่ารักน่าดู”

“ไว้ไอ้เต๋อแต่งคราวหน้ากูค่อยใส่ไปไม่ได้รึไงเล่า -*-”

“ปากมึงไม่เป็นมงคลจริงๆ เลยนะ” ไอ้ฟิวบ่นไม่จริงจังนัก ก่อนจะตัดใจวางเดรสสีชมพูลงบนโต๊ะ

“มายด์ ข้าวเช้ากูทำไว้ให้แล้ว อยู่ในครัว” นานๆ ทีไอ้ฟิวจะเรียกชื่อไอ้มายด์ต่อหน้าพวกผม มันเลยทำหน้าเก้อๆ แปลกๆ

“ทำให้แต่ไอ้มายด์อ่ะ พวกกูล่ะ” ไอ้กัสเรียกร้องขึ้นทันที

“กูจะรู้มั้ยว่าพวกมึงยังไม่ได้กิน -*- ไปทำกินเองดิวะ”

“มึงแม่ง @#!$#%^%#$%”

พอไอ้กัสกับไอ้ฟิวเริ่มปะทะกัน ไอ้มายด์ก็เลยปล่อยไอ้เป๊บให้เดินด๊อกแด๊กมาหาเมลที่กำลังดูข่าวรอบเช้าอยู่เพื่อระงับสงครามขนาดย่อม

อ่า...ไอ้เป๊บมันกลับมาหล่อเหมือนเดิมแล้ว สงสัยไอ้มายด์พาไปอาบน้ำ เพราะมันกลับมาสะอาดน่าหมั่นไส้ดังเดิม -*-

“ไปกัส อยากกินอะไร เดี๋ยวทำให้”

“มึงตามใจมันตลอด ให้ท้ายตลอด” ไอ้ฟิวพูดเหมือนไม่จริงจัง แต่หน้ามันนี่น้อยใจไปแล้วครับ

“โฮะๆๆๆ กูกินแซนวิชทูน่ากับไข่ดาว นี่ถ้าไม่มีมึงนะมายด์ กูอดตายแน่ๆ อ่ะ ไอ้ห่าฟิวแม่งงงนิสัย”

ผมที่กำลังเล่นเลโก้อยู่ อดที่จะส่งสายตารำคาญไอ้พวกบ้าที่เอาแต่เถียงกันไม่ได้

“ไปทะเลาะกันไกลๆ ตีนกู เดี๋ยวมีด่ารอบเช้า”

เท่านั้น ไอ้กัสก็ตามไอ้มายด์เข้าครัวไป ในขณะที่ไอ้ฟิวทำหน้าน้อยอกน้อยใจเรื่องอะไรก็ไม่รู้ของมัน -_-

“เท็น ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้ละ จะแปดครึ่งแล้ว” เมลละสายตาจากหน้าจอทีวีมาบอกผม

“อีกแป๊บนึง”

“แต่งตัวอะไรเสร็จแล้ว ค่อยกลับมาเล่นต่อ”
“-*- ไม่”

“-_-; เท็นเท็น”

ทำไมต้องดุ ทำไมต้องบังคับ ต่อให้ผมรีบไป ก็ไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวมันอยู่ที่งานแล้วรึยังเหอะ เมื่อคืนเมาเหมือนหมา ไม่รู้ใครหิ้วมันกลับ ไม่ไอ้แต้มก็ไอ้คิมแหละ เพราะไอ้เต้ไอ้แม็คแม่งลากกันหายไปไหนไม่รู้ตั้งแต่ตอนห้าทุ่มแล้ว ส่วนผมกับเมลก็กลับพร้อมกับไอ้ลิน วนรถไปส่งมันอีกเพราะมันเมาขับกลับไม่ไหว ไอ้ฟิวก็กลับกับไอ้มายด์ไอ้กัส

“เออๆ สั่งกูจริงเลย -_-; นิสัยเสียว่ะเหี้ยเมล มาอาบให้กูด้วย”

เมลอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกจากโซฟาแล้วเดินมาผลักหัวผมที่กลิ้งอยู่บนพื้นพร้อมกับกองเลโก้

“เมลรีบๆ พามันไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฟิวเก็บของเล่นมันให้เอง”

“อืม แต่ฟิวไม่ต้องเก็บก็ได้ ให้เท็นมันลงมาเก็บเองบ้าง ทำให้มันจนเคยตัว”

“ไม่เป็นไรๆ”

“มึงไม่ต้องทำหน้าดุใส่กูเลยเมล กูไม่ได้ทำอะไรผิดนะ -*-”

“เออ ขึ้นไปอาบน้ำได้ละ”

ผมแลบลิ้นให้มัน แต่พอมันทำท่าจะเข้ามากัด เลยต้องยกมือปิดปากทันที เมลมันซาดิส มันกัดจริงๆ นะ ผมเคยโดนมาแล้ว -_-

.
.
.

งานแต่งไอ้เต๋อไม่ได้จัดยิ่งใหญ่อะไรหรอกครับ เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ เชิญแต่คนกันเอง เอาจริงๆ ไอ้ที่ว่าคนกันเองเนี่ย แค่ญาติไอ้เต๋อก็ปาเข้าไปแล้วเกือบสามสิบคน =_=;

เจ้าสาวก็น่ารักดีครับ ไม่ได้แต่งตัวเว่อแบบชุดสีขาวฟูฟ่อง ดูๆ ไปก็ไม่ได้คล้ายงานแต่งงานเลย ถ้าไม่มีป้ายหน้างานว่าเป็นงานมงคล ผมก็คงคิดว่าเป็นงานกินเลี้ยงในเครือญาติธรรมดา เพราะเจ้าบ่าวก็ไม่ได้แต่งหล่ออะไรมากมาย เอาให้พอดูเป็นทางการ ส่วนน้องโสนใส่ชุดจีนแล้วเหมือนอาหมวยตัวน้อยๆ ที่ไม่น่าจะเสียท่าให้ไอ้เต๋อเลยจริงๆ

แต่ผมเกลียดงานแต่งที่เลี้ยงโต๊ะจีนว่ะ เพราะแม่งไม่อิ่ม กินได้น้อย -*-

“ขอบใจที่มากันนะเว้ย กินเต็มที่ น้ำแข็งไม่อั้น” ไอ้เต๋อบอกพลางหัวเราะเบาๆ สลัดคราบชายหนุ่มผู้โหยหวนไม่อยากสละความโสดเมื่อคืนไปจนหมด

“เออ ดีที่งานมึงไม่แจกน้ำแข็งให้แดกแทนข้าว” ไอ้แต้มว่าพลางตักขาหมูเข้าปาก

“แล้วนี่มึงเอาเจ้าสาวไปทิ้งไว้ไหน” ไอ้ฟิวถามพลางมองหาเจ้าสาวตัวเล็กของไอ้เต๋อที่เจอหน้าแค่ตอนเข้างานมาแค่นั้น

“อยู่คุยกับญาติๆ กู” ไอ้เต๋อยักไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ มันมาแรดอยู่โต๊ะพวกผมนานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่จบพิธีไหว้ฟ้าดินตามประเพณีชาวจีนของมันนั่นล่ะ

“งานมึงจะจัดแบบไหนวะเท็น”

ผมที่กำลังสนใจกับหนังหมูตรงหน้าต้องหันไปให้ความสนใจกับผู้ชายที่นั่งข้างๆ ทันที

“ถามอะไรแบบนี้วะ”

“ก็อยากรู้ เผื่อกูไม่มีโอกาสได้ไป”

ผมวางช้อนแล้วมองหน้าเมลอย่างจริงจัง “แล้วมึงล่ะ ชอบงานแบบไหน”

“ทำไมต้องถามกู”

“ก็ถ้าเป็นไปได้...อยากแต่งกับมึง”

“มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนี่”

“ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้”

เมลไม่ตอบ มันแค่ยกมือลูบหัวผม ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น ผมมองมันอย่างชั่งใจ

จะมีทางไหน...ทำให้เมลเลิกคิดถึงเรื่องแย่ๆ นั่นสักที

“คนที่กูอยากแต่งด้วย มีแต่มึงเท่านั้นนะ”

อยากให้เมลเชื่อในคำพูดของผม ...เชื่อว่าผม...จะจับมือของมัน...ไม่มีวันปล่อย

............................To be continue...............................................

 :กอด1: ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ

อยู่ด้วยกันมานานแล้วเน้อ กับเรื่องนี้ ถึงจะมีหายไปช่วงหนึ่ง แต่ก็ยังคงรอ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-02-2014 17:41:21
โถ่ เต๋อ ทำเป็นไม่อยากแต่งนะ มายด์กับฟิวนี่ยังไง ฟิวแอบน้อยใจหรือเปล่า เท็นเท็นสู้ๆนะ ผ่านไปให้ได้ล่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 16-02-2014 17:53:19
พ่อเท็นกับพ่อปลื้มเป็นคนประเภทเดียวกันใช่ไหม ไม่ยอมรับลูกเขย แต่พยายามหาลูกสะใภ้มาให้  :hao4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 16-02-2014 18:16:11
"อยากให้เมลเชื่อในคำพูดของผม ...เชื่อว่าผม...จะจับมือของมัน...ไม่มีวันปล่อย"

ชาบูท่านเทพเท็น ทำให้ได้อย่างที่พูดให้ได้นะ Fighting!!
 
 :กอด1: นักเขียน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 16-02-2014 18:24:51
เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออ พ่อพี่เท็นแม่ง  :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 16-02-2014 19:04:30
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 16-02-2014 19:24:37
สงสารเมลจังเลย
ความรักนี้ต้องอดทนนาน เพราะเท็นเท็นผีเข้าผีออก
อิพ่อก็นะ จะอะไรนักหนา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 16-02-2014 20:53:30
น่ามีหักมุมแบบเมลบุกเข้าไปงานแต่งเท็นฆ่าปาดคอสาวนิรนามแล้วพาเท็นหนีไปด้วยกันอะไรงี้  :hao7: อยากเห็นคุณป๋าที่รักอกแตก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-02-2014 21:06:15
สงสารเมล
พ่อหนิก็ทำตัวปัญหามาก
เพลียแปป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-02-2014 21:08:24
ในชีวิตจริง คนเราไม่ได้สมหวังกันทุกคน แต่นี่มันก็เป็นนิยายเนอะ อยากให้สองคนนี้สมหวังจัง :mew2:
สุขๆเศร้าๆมาตลอดเลย เราล่ะกลัวใจคนเขียนที่สุด ขนาดกับน้องปลื้มยังทำเอากินไม่ได้ นอนไม่หลับไปด้วยเลย :sad4:
แต่ยังไงก็จะติดตามต่อไปค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 16-02-2014 21:13:41
เมลจ๋า เมลต้องเชื่อใจเท็นนะลูก
ยังไงเท็นก็รักเมลที่สุดน้า อย่าคิดมากสิ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 16-02-2014 21:54:11
 :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-02-2014 22:03:27
รักต้องชนกับทุกสิ่งครับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 16-02-2014 23:01:17
เฮ้อออออออออออออออ
ม่ะเอามาม่าได้ไหมมมมม
55555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-02-2014 10:10:42
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-02-2014 11:13:07
สงสารเมล หงอยไปเยอะ
พ่อเท็นเมื่อไรจะใจอ่อน ยอมให้ทั้งคู่รักกัน
หวังว่าท่านเท็นจะจัดการได้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 17-02-2014 11:30:01
สงสารเมลจัง  :m15: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 17-02-2014 14:19:23
ฟิวส์มายด์ก็กระอักแล้วนะคะ

นี่เมลเท็นยังเป็นเรื่องที่กระอักยิ่งกว่า โอยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 42 : 16-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 17-02-2014 16:42:18
“คนที่กูอยากแต่งด้วย มีแต่มึงเท่านั้นนะ”

อยากให้เมลเชื่อในคำพูดของผม ...เชื่อว่าผม...จะจับมือของมัน...ไม่มีวันปล่อย

  :กอด1: เอาใจไปเลยเท็น เท็น สู้ๆ นะ เดอะเท็นซะอย่างผ่านไปได้อยุ่แล้ว
ชีวิตก็ต้องเจอปัญหากันบ้างไม่มากก็น้อย สู้ต่อไปนะ

ขอบคุณคนเขียนจ้าาา รักนะจุ๊วฟฟฟ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-02-2014 17:28:21
ตอนที่ 43

ปีสามสำหรับผมเริ่มต้นขึ้นด้วยความน่าเบื่อ เพื่อนผมแต่ละคนก็เพลียๆ มึนๆ กันถ้วนหน้า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษในช่วงนี้ แต่ละคนก็ดำเนินชีวิตกันไปตามปกติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเวลามันไม่สามารถย้อนกลับได้ ผมก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ทั้งยังถูกจำกัดความสุขด้วยความหวังของพ่อ

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ มากนัก เพราะหมกมุ่นอยู่กับการทำสารคดีชีวิตที่เพิ่งคิดขึ้นมาหลังจากเห็นหน้าไอ้เต๋อที่ผ่านคืนเข้าหอมาได้สามคืน

สารคดี...อืม...ที่จริงมันก็เป็นเพียงชื่อเรียกเก๋ๆ เท่านั้นเวลามีใครถามว่าผมกำลังทำอะไร เพราะจริงๆ ผมก็แค่ถ่ายอะไรก็ตามที่อยากถ่าย แม้แต่หมายืนฉี่รดเสาไฟฟ้าผมก็ตามบันทึกเทปไว้หมดแล้ว ผมยังโฟกัสไม่ได้ว่าใคร หรืออะไร ที่จะเป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทำ มันดูมั่วซั่วจนหลังๆ เมลถึงกับพูดขึ้นมาว่า 'พอเถอะ ไร้สาระ'

โอเค ผมยอมรับแหละว่ามันไร้สาระ แต่มันก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้ผมหยุด เพราะถ้าหากผมหยุด...บางทีก็อาจจะไม่มีวันเจอสิ่งที่มีสาระขึ้นมาเลยก็ได้ อารมณ์ประมาณหยุดฝันก็ไปไม่ถึง อะไรทำนองนั้น

คืนนี้ผมแบกกล้องมาทำการถ่ายทำที่สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อากาศเยี่ยม แสงได้ ลมเย็นกำลังดี ทอดอารมณ์ได้เพียงครู่หลังจากปะทะคารมณ์กับป๋าผ่านทางโทรศัพท์ ว่าด้วยเรื่องเดิมๆ ที่ไฟท์กันไม่จบสิ้น ซึ่งผมยอมรับว่าผมเบื่อมาก และใกล้จะถึงจุดที่ทนไม่ได้เต็มที

'แกมันถูกตามใจจนเคยตัว! ป๋าพูดอะไรก็ไม่ฟัง นี่เหรอคือสิ่งที่ลูกตอบแทนคนเป็นพ่อ'

'แล้วป๋าจะเอาไง ผมบอกแล้วว่าผมไม่เลิก!! ผมไปดูตัวให้แล้ว ทำตามที่ขอแล้ว ป๋ายังจะเอาอะไร บอกว่าจะหมั้นก็จะหมั้นให้ จะมาเซ้าซี้อะไรอีก รักใครแล้วมันเลิกง่ายๆ หรือไง ถ้าผมให้ป๋าไปหย่ากับแม่ตอนนี้ป๋าทำได้ไหม!'

'แกอย่ามาขึ้นเสียงกับป๋านะ'

'ผมหมดความอดทนเข้าไปทุกทีแล้วนะ ผมรักของผม ป๋าก็จะมาบังคับให้เลิกอยู่ได้ ผมบอกป๋าแล้วไงว่าต่อให้ผมต้องแต่งกับใครหรือหมั้นกับใคร ผมก็จะไม่เลิกกับเมล'

'แกมัน...'

'จุดประสงค์ของป๋าจริงๆ แค่อยากให้ผมเลิกกับเมลใช่ไหม มันไปทำอะไรให้ป๋าวะ มันเป็นคนดี และก็ดีกับผมมาก แค่เพราะมันเป็นผู้ชาย ป๋าก็มีอคติกับมัน'

'แกไม่เข้าใจ'

'ผมไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ เพราะยังไง ชาตินี้ผมก็คงไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อคน'

ผมตัดสินใจจบบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้น แต่ความหงุดหงิดยังคงอยู่ ผมเกลียดที่ทุกอย่างมันต้องวนเวียนซ้ำซาก แม่ก็เริ่มระแคะระคายแล้วด้วยว่าผมกับป๋ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ท่านโทรมาถามบ่อยๆ แต่ผมก็ได้แค่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่อยากให้ท่านกังวล แล้วเดี๋ยวอาการจะกำเริบอีก

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำให้ใจเย็นลง หันมองไปรอบตัวก็สะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่สภาพดูไม่ได้เลยจริงๆ เพราะไม่ค่อยมีแสงสว่างมากนัก ผมถึงมองเห็นหน้าไม่ชัด รู้แค่ว่า เตี้ย เสื้อผ้าที่ใส่ก็มอมแมม สะพายถุงย่ามที่มีเสื้อผ้าเกือบทะลักออกมา เอาง่ายๆ คือ สภาพมันเหมือนคนที่หนีออกจากบ้านแล้วตัดสินใจมาจบชีวิตลงที่นี่มาก =_=

“นี่...” ผมลองทักไป แต่ไอ้เตี้ยตรงหน้าก็ไม่ตอบสนอง

“โดดให้ดูหน่อยสิ...”

มันหันมามองทำหน้าเหลอหลา สภาพตื่นตูมอย่างกะเห็นผีของมันทำให้เท้าผมกระตุกนิดๆ ตาโตๆ ถลนออกมาเมื่อมันจ้องมองมาที่ผม หน้าก็เอ๋อเหมือนพวกไม่เต็ม =_=; คนบ้ารึเปล่าวะ ดูจากสภาพ

แต่ไอ้การที่มันมองผมเหมือนผมเป็นคนบ้านี่คืออะไร การแต่งตัวและหน้าตามึง มองคนอื่นด้วยสายตาแบบนี้ได้ด้วยเหรอ -_- แถมยังมาเดินหนีอีก ผมรีบตามไปดักหน้ามัน มองๆ ไปแล้วถุงย่ามที่มันสะพายอยู่ก็แนวดี สีแม่งก็เขียวซะสะใจผมจริงๆ

ประกาศชื่อที่สุดแสนจะคลาสสิคของผมให้มันรู้ไป ทำความรู้จักกันนิดหน่อยถึงได้รู้ว่ามันเด็กกว่าผม แต่จากสภาพของมันและแผลที่มือที่ผมเผลอเห็นแว๊บๆ เมื่อกี้แล้วก็อยากจะเดินหนี เหมือนเค้าลางความวุ่นวายเริ่มปรากฎ เพราะแผลที่ยังมีเลือดไหลนั่นดูน่ากลัวไม่ใช่น้อย แต่พอถามไถ่ด้วยมารยาททางสังคมว่ามันเป็นอะไรเท่านั้นแหละ ไอ้เตี้ยหน้าเพลียนี่ก็เป็นลมล้มพับไปทันที

เชร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! แม่งงงงง โคตรซวยเลยกู!

ตอนมันล้มผมไม่ได้พุ่งตัวไปรับเหมือนพระเอกในหนังชอบทำหรอกครับ ปล่อยให้มันล้มแล้วกลิ้งตกฟุตบาทนั่นแหละ เพราะผมกำลังตกใจ แถมเลือดมันออกอย่างนั้น จะมีโรครึเปล่าก็ไม่รู้ ผมไม่มีถุงมือป้องกันด้วย ปลอดภัยไว้ก่อนครับ คนไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าและยังสภาพแบบนี้ยิ่งไม่น่าไว้ใจ เผื่อแม่งเป็นเอดส์ พ่อจับได้แล้วหนีออกจากบ้าน เตรียมใจจะตายด้วยการกรีดมือตัวเองแต่ดันไม่ตายแล้วจะมาตายที่นี่อ่ะ ใครจะไปรู้ โอเค ผมรู้ว่าผมคิดเอาเองทั้งหมด แต่ด้วยสามัญสำนึกแล้วก็ต้องช่วย ผมล่ะเกลียดที่ตัวเองเป็นคนดีจริงๆ

“เมลลล เมลลลล มารับกูเลย ตอนนี้อ่ะ มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาเป็นลมต่อหน้ากูเนี่ย”

(ห้ะ? มึงไปก่อเรื่องอีกแล้วเหรอวะ)

“เปล่า กูไม่ได้ก่อเรื่อง ไอ้เหี้ยนี่จู่ๆ ก็เป็นลมไปอ่ะ มาช่วยกูหน่อย เรียกรถพยาบาลให้ด้วย”

(ได้ๆๆ เดี๋ยวจะรีบไป มึงยังอยู่ที่เดิมที่กูไปส่งใช่ไหม)

“ใช่ๆๆๆ”

ผมอยากจะเตะไอ้เตี้ยนี่ซ้ำสักทีหรอก เพราะแม่งทำกูวุ่นวาย รู้จักแค่ชื่อ ดันมาเป็นลมต่อหน้ากูอีก

“โอ้ยยย ในที่สุดก็เจอ”

เอ้า อะไรอีก -_-; อยู่ๆ ก็มีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจสองคนวิ่งมาทางผม มาถึงก็หอบฮักแถมยังบ่นอะไรไม่รู้กันสองคน จับใจความว่าถามทางแท็คซี่คันหนึ่งมา แต่อะไรคือสิ่งที่พวกเขาตามหา โปรดติดตามตอนต่อไปครับ!

ถุยยยย!

“เฮ้ยๆๆ พวกคุณจะทำอะไร” ผมถามทันทีที่เห็นผู้ชายต้องสงสัยสองคนกำลังจะอุ้มไอ้เตี้ยหน้าเพลียนี่ไป

“จะพาไปโรงพยาบาลครับ คุณนี่ไม่มีน้ำใจเลย ทำไมไม่ยอมช่วย!”

“ก็รอรถพยาบาลอยู่นี่ไงวะ เคลื่อนย้ายสุมสี่สุมห้า เดี๋ยวก็ได้ตายจริงๆ หรอก เมื่อกี้มันล้ม หัวฟาดหรือคอเคล็ดไปรึเปล่าไม่รู้”

“แล้วทำไมไม่รีบบอก!”

“กูจะตามความเร็วระดับพนักงานประกันภัยของพวกมึงทันมั้ยครับ”

“โอ้ยยย ตายแล้วคุณหนู คุณท่านต้องเล่นงานพวกเราแน่ๆ มึงโทรไปรายงานคุณท่านก่อน แล้วจะยังไงค่อยว่ากัน”

“โอเคๆ”

ไอ้ผู้ชายสองคนนั่นวุ่นวายอยู่สักพัก เมลก็มาพร้อมกับรถพยาบาลที่เปิดหวอตามมันมา พ่อของเมลตามมาด้วย ท่านพยักหน้าทักทายผม ก่อนจะตามพยาบาลไปดูผู้ป่วย

“เมล นี่พ่อมึงออกสถานที่มาด้วยรึไงวะ” ผมถามอย่างข้องใจ พ่อมันเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลครับ ไม่น่าจะมากับรถพยาบาลได้แค่เพราะเคสนี้

“กูบอกพ่อว่าเท็นเกิดเรื่อง ให้หารถพยาบาลให้หน่อย พ่อก็เลยตามมาด้วย =_=;”

นี่พ่อของเมลคงไม่ได้คิดว่าผมเดี้ยงหรอกนะ -O-; แต่ก็ดีใจครับ ที่ท่านเป็นห่วงผม

หลังจากนั้น ร่างเล็กๆ ของไอ้เตี้ยก็ถูกเคลื่อนย้าย มาถึงโรงพยาบาลกันในไม่กี่นาที ทุกอย่างถูกจัดการอย่างรวดเร็วเพียงเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน พ่อของเมลขอร้องให้ผมอยู่ช่วยทำการผ่าตัดด้วย ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหา เพราะเราต้องผ่าตัดเพื่อดามกระดูกแขนที่ร้าวก่อนจะทำการเข้าเฝือก รอยแผลที่มือที่ยังคงมีเลือดไหลก็ได้รับการเย็บอย่างดี นานมากแล้วที่ผมไม่ได้สัมผัสกับคนไข้แบบนี้ ตามระเบียบการของโรงพยาบาลแล้วผมไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องผ่าตัดด้วยซ้ำ แต่เพราะได้รับการอนุญาตพิเศษจากหุ้นส่วนโรงพยาบาล

แต่ที่น่าตกใจในลำดับต่อมาคือไอ้เตี้ยนี่มีเลือดกรุ๊ปพิเศษแถมยังป่วยเป็นโรคที่มาถึงตอนนี้มันไม่ตายผมก็คงเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ เพราะมันเกือบไม่รอดเมื่อเสียเลือดไปมากแล้วก่อนหน้านี้ การผ่าตัดจึงยังต้องรอให้ได้เลือดกรุ๊ปของมันมา แต่เลือดกรุ๊ปพิเศษที่ว่าหายาก ก็ส่งตรงมาให้ทันเวลาที่กำลังต้องการด้วยเพราะไอ้ผู้ชายวุ่นวายสองคนที่ผมเจอและพวกมันขอติดตามมาด้วย -_-;

กว่าผมจะได้พักก็เกือบเช้า ออกจากห้องผ่าตัดมาได้ เมลก็ยื่นน้ำให้หนึ่งขวดพร้อมกับรอยยิ้ม

“มึงรู้ป่ะว่าน้องเป็นใคร น้องเป็นญาติกูอ่ะ กูโทรถามแม่แล้ว เยี่ยมไปเลยยยยยย ในที่สุดกูก็มีญาติ”

=_=; ที่ผมทำก็แค่ทำหน้าเพลียๆ ส่งไปให้มัน คือเอาจริงๆ กูก็ไม่เข้าใจอารมณ์ดีใจที่พบญาติหรอกนะ แต่เมลมันมีปม เป็นคนไม่มีญาติ ซึ่งความจริงมันมีนะ แต่เพราะพ่อกับแม่มันมีมันก่อนวัยอันควร ทางตายายมันเลยไม่ยอมรับ แถมพ่อมันยังเป็นคนต่างชาติ สำหรับมันก็เลยเหมือนเด็กที่ไม่มีลูกพี่ลูกน้องมาตลอดนั่นแหละ ก็มีแต่นาตาชาที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ

“น้องชื่อปลื้มอ่ะ น่ารักใช่มั้ยล่า แม่ส่งรูปตอนเด็กๆ ของน้องมาทางไลน์ให้กูด้วย นี่ๆๆๆๆ”

น่ารักอะไรล่ะ เตี้ยก็เตี้ย หน้าก็เอ๋อ แล้วสาบานจริงๆ นะว่านั่นญาติมึง เมื่อคืนกูเจอสภาพเหมือนพวกเร่ร่อนมาก -_- ไม่มีออร่าลูกคนมีตังค์เกาะเลยว่ะ

แต่ผมก็ได้แค่คิดในใจ สิ่งที่พูดออกจากปากคือ “เออ น่ารักว่ะ ไปซื้อกาแฟมาให้กูได้ละ”

“ครับๆ งั้นเดี๋ยวมานะ”

“เออๆ แล้วไม่ต้องระริกระรี้เอาไปอวดคนขายกาแฟล่ะ ไปแล้วก็รีบๆ กลับ”

“-*- กูไม่เห่อขนาดนั้นหรอกน่า”

น้อยไปล่ะสิมึงอ่ะ แฟนกูทำไมกูจะไม่รู้นิสัยมึง

.
.
.

ด้วยเพราะความวุ่นวายและอะไรหลายๆ อย่าง ผมถึงขอให้พ่อของเมลเคลื่อนย้ายตัวไอ้เตี้ยหน้าเพลียมาอยู่ที่บ้านใหญ่ของตัวเอง ซึ่งมันก็ยังคงนอนไม่ตื่นแต่อย่างใด เมลคัดค้านอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่เสียงข้างน้อย พ่อของไอ้เตี้ยนี่มาเยี่ยมเหมือนกัน เข้ามาคุยอะไรกับผมนิดหน่อย ซึ่งผมก็รับปากจะทำให้

ตอนมันตื่นก็ได้แค่เมกเรื่องขึ้นมาว่าไม่ได้พามันไปโรงพยาบาล ซึ่งมันก็เชื่ออย่างไม่คลางแคลงใจเพราะบ้านใหญ่ของผมก็มีอุปกรณ์ครบพร้อม ห้องที่มันใช้คือห้องที่ป๋าสร้างขึ้นไว้เตรียมพร้อมสำหรับอาการที่จะทรุดของแม่ แต่หลังจากที่เปลี่ยนลิ้นหัวใจไปก็ไม่ได้ใช้ห้องนี้อีกเลย ไอ้เตี้ยเป็นรายแรกที่ได้รับเกียรติ มันนอนไปนานเหมือนกัน แต่ก็แปลกที่ไม่ถามตามตรรกะทั่วไปที่อยากรู้ว่าตัวมันสลบไปนานเท่าไหร่ เอาง่ายๆ คือสีหน้ามันพร้อมจะตายจากโลกนี้ไป เล่นเอาผมเห็นแล้วหงุดหงิดไปเหมือนกัน

“ระริกระรี้เหลือเกิน น่าหมั่นไส้มากกกกกกก”

ถึงผมจะพูดอย่างนี้ แต่ก็ดีใจที่เห็นเมลกลับมามีชีวิตชีวา ก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกว่าเพราะไอ้เตี้ยนั่นปรากฎตัว แต่โอเค กูขอบใจละกัน เพราะมันทำให้เมลลืมเรื่องที่ผมต้องแต่งงานไปได้ อาจจะแค่เวลาสั้นๆ แต่ก็ยังดีที่มันมีเรื่องอื่นให้คิด

“อิจฉากูเหรอ มึงก็ไม่มีลูกพี่ลูกน้องนี่”

“ใครบอกกูไม่มี”

ผมมีนะ แค่ไม่เคยพูดถึงเท่านั้น ผมก็เป็นคนมีญาติพี่น้องเหมือนกันนะครับ ไม่งั้น บริษัทที่ใหญ่โคตรๆ ของป๋า จะดำเนินมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง ถ้ามีแค่คนแก่ๆ คนหนึ่งบริหารกิจการ โอเคที่ว่าป๋าผมเก่ง แต่ถ้าไม่มีลุงป้าน้าอาคอยช่วย ต่อให้มีแค่สิบก็คงล้นมือ

“มึงมี?”

“มี แต่ไม่สนิท กูไม่สนิทกับใครอยู่แล้ว กูมีโลกส่วนตัว”

“=_=; พอเข้าใจและเห็นภาพ”

“เข้าใจอะไร พูดให้มันดีๆ” ผมผลักหัวเมลไปหนึ่งที ก่อนมันจะจับมือผมไว้แล้วเอาไปแนบที่แก้มตัวเอง

“เท็น กูดีใจจริงๆ นะ มันเหมือนกับว่าโลกนี้ มีคนเพิ่มมาอีกคนที่มีสายสัมพันธ์กับกู น้องปลื้มจะเป็นคนแบบไหนนะ”

“จากหน้าตาแล้ว กูว่าแม่งคงไม่เต็ม มึงก็อย่าไปหวังมาก ปัญญาอ่อนรึเปล่าก็ไม่รู้ ตอนกูทักครั้งแรกแม่งยังทำหน้างงๆ ใส่”

“จริงเหรอวะ แต่แม่บอกว่าน้องเรียนอยู่คณะเดียวกับพวกเรานะ เรียนภาคเดียวกับมึงด้วย”

ผมทำแค่ยักไหล่กับคำบอกเล่าของเมล จริงไม่จริงผมก็ไม่รู้หรอก เพราะไม่ค่อยได้เข้าคณะหรือร่วมกิจกรรมภาคเลย

“มึงก็อย่าเห่อให้มาก เดี๋ยวไอ้เตี้ยนั่นจะคิดว่ามึงเป็นโรคจิต เสียภาพพจน์มาถึงกู”

“ไม่ใช่โรคจิตเหอะ -*- แล้วนี่น้องตื่นยัง”

“เห็นแม่บ้านบอกว่าตื่นแล้วเมื่อเช้า แต่มันก็นอนต่อ”

“อือ ดีแล้ว จะได้พักผ่อนเยอะๆ”

“มึงชักจะออกนอกหน้าเกินไปละ กูหึงนะไอ้สัด -*-”

เมลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอาหัวมาไถกับไหล่ผม โอเค มึงชนะ จะเห่ออะไรก็ตามใจเลย

ผมก้มลงไปจูบริมฝีปากสีชมพูสุขภาพดีของเมล มันเงยหน้าขึ้นรับก่อนจะเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้ามา ผมดูดเบาๆ จนได้ยินเสียงครางอย่างพอใจ งับริมฝีปากล่างของมันอีกเล็กน้อย แล้วค่อยถอนริมฝีปากออกมา

“อะไร เคลิ้มเลย อยากเหรอ?”

เมลขมวดคิ้ว แล้วก้มลงดูดที่ซอกคอผมแรงๆ จนรู้สึกจี๊ดนิดๆ แต่ก็...ดีว่ะ หึหึ

“ปากดีว่ะเท็นเท็น เดี๋ยวจัดชุดใหญ่ตอนเช้าแล้วจะร้อง”

“ร้องไรวะ? ร้องคราง?” ผมยิ้มกริ่มมองหน้าเมล เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้แล้วกระซิบข้างหูมันเบาๆ “ประมาณแบบ เมล แรงอีก ลึกอีก งี้ป่ะ”

“หึหึ เดี๋ยวรู้เลย”

ผมไม่ได้สะทกสะท้านอะไรไปกับคำขู่ของเมล ที่ทำก็แค่โอบแขนรอบคอของมันไว้ แล้วเชิดหน้าขึ้นรับจูบจากมันก็แค่นั้น
ก็มีเพียงแค่อย่างเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยไปซะทีเดียวหรอก เพราะอย่างน้อย รองจากความสุขของแม่แล้ว...ความสุขของเมลก็เป็นอีกเพียงอย่างเดียวที่สำคัญกับผม

“ในห้องเก็บของนะ...กูคงอดใจจนขึ้นไปที่ห้องนอนไม่ไหว”

“ครับ ^^”

....................................To be continue.....................................

 :กอด1:

 :เฮ้อ:

 :pig4: ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ

ไม่มีอะไรจะกล่าวจริงๆ ไว้พูดรวบในตอนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 17-02-2014 17:55:11
แหม แร..ดเปิดเผยนะเท็น
มีหน้าไปว่าน้องนะ ตัวนะล้นสุด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 17-02-2014 18:10:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-02-2014 18:24:39
เยสสสสสสสสส แรงได้ใจ แต่ปลอดภัยเสมอนะเนี่ย เท็น


เราชอบเท็นตรงเนี้ยล่ะ อาจเข้าใจยากเพราะไม่ยืดหยุ่นให้ใครเลย
มีแต่ตรรกะและเหตุผล
แต่ก็น่าค้นหา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 17-02-2014 18:26:13
หวานๆนะตอนนี้ หนูเท็นนี่จะออกนอกไปมั้ยคะ อิอิ
ดีจังเมลจะได้ไม่คิดมากเนอะ มีน้องปลื้มมาให้เห่อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-02-2014 19:10:18
เดอะเท็นน่ารักตรงนี้แหละ
มีเหตุผลเสมอเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 17-02-2014 19:10:53
เห่อน้องปลื้มมากเลยอ่ะเมล
โอ้ยตายแล้วๆ ตอนท้ายแบบว่า ฟินฉึกๆอ่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: ความรักเหมือนดอกมะนาว ที่ 17-02-2014 19:14:34
ตามมาลุ้นคู่เท็น เมล ค่ะ

อันที่จริง เห็นใน fb ว่าอัพแล้ว แต่ไม่กล้าอ่าน เรากลัวดราม่าอ่ะ ต้องทำใจก่อนอ่าน คนเขียนแต่งเก่งเกิ๊น เราอ่านตอนก่อนๆรวมทั้งสปอยด์แล้วเครียดไปสามวันเลย นอยด์จนเพื่อนด่าว่ามันเป็นนิยาย จะเครียดอะไรขนาดนั้น

แต่เค้าเครียดจริงๆนะ ขอบคุณตอนหวานๆ ตอนนี้ค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 17-02-2014 19:19:56
งือออออออออออออออ
ไม่รู้จะเม้นอะไรดีเลยยย
แต่จะจบแล้วหรออออออออออออ ไม่นะะะะะะะ  :ling1: :ling1:

ฮืออออ รักเท็นเพิ่มขึ้นไปอีกกกก
ดีใจที่คนแต่งมาต่อไวมากไม่ให้ความรู้สึกค้างเลยยยยย ขอบคุณนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 17-02-2014 19:35:02
ตอนนี้น่ารักเชียวเมล เห่อน้อง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 17-02-2014 19:38:27
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารมาย ยิ่งอ่านยิ่งรักเมล  :katai2-1:
เมลดูเป็นผู้ชายที่แบบ ฮืออออ นุ่มนวลและโอนอ่อนอย่างง่ายดาย
เหมือนเป็นเด็กคนนึง ที่มีรักเป็นครั้งแรก แบบ ป้อปปี้เลิฟ โซคิ้วท์ 55555555555
ทำไมเป็นคนน่ารักแบบนี้ ไม่รู้สิ เราว่า เพราะความอ่อนโยนของเมลนี่แหละมั้ง
ทำให้เท็นยิ่งรักเมล และยอมใจอ่อนให้กับความต้องการของตัวเองบ้าง อิอิ
ดีอะ อ่านแล้วเขิ๊นนนเขิน 55555 เท็นนี่ก็แสดงออกดีเนอะ รักก็รัก หึงก็หึง ตลกกก 5555555
ขนาดญาติยังหึงไม่เลิก 5555555 มาอ่านมุมของเท็นเมลที่เคยเกิดขึ้นในมาโปรดละก็ทุกอย่างชัดเจนขึ้นดีแฮะ

แต่ยังไงก็ยังเซงพ่อของเท็นมากอยู่ดี ทำไมไม่เข้าใจความสุขของลูกเลยอะ หรือว่า
ความจริงแล้วพ่อมีปมอะไรบ้างอย่างรึเปล่า พ่อเท็นดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากให้เลิก
แต่เหมือนไม่ยอมพูดออกมา มันดูน่าจะมีอะไรกว่านั้นเนอะ เซ็งพ่อแล้วอะ ทำไมพ่อไม่เข้าใจความรักของเท็นเลย
ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่ามันจะเป็นยังไงกับการที่ไม่มีคนรักอยู่ แต่ก็ไม่เข้าใจพ่อ ก็แอบดูเห็นแก่ตัวไปบ้างเหมือนกันนะ :(
จุดนี้สงสารเท็น!! 55555555555

และเราก็สงสารมายด์ไม่เลิกจริง ๆ ยิ่งอ่านยิ่งสงสาร แต่ก็รู้สึกดีไอตรงที่ฟิวบอก ฟิวทำอะไรให้มายกิน
และหงุดหงิด..อะไรบางอย่าง o18 มันโอเคอะ มันเหมือนทำให้เห็นว่า ฟิวก็แคร์มายด์เหมือนกันนี่นาาา งี้!
แต่แล้วยังไง ... ฟิวก็ไม่พูดไม่อะไรออกไป มายด์ก็เสียใจ :( และสุดท้ายก็...  :sad4:

สุดท้าย อยากรู้เรื่องเดอะเท็นอีกนะะ :P เห็นพูดถึงนาตาชาละนึกได้ทุกทีเลย
อยากรู้ว่าเมลจะรู้มั้ยว่าเดอะเท็นกับเท็นเท็นในตอนนี้คือคนเดียวกัน .. ตกหลุมรักรักแรกของตัวเองอีกครั้ง
มันต้องน่ารักมากแน่ๆ คิคิคิ คุคุคุ

รอนะค้าบบบบ :D :z1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 17-02-2014 19:48:32
น้องปลื้มโผล่มาแล้ว  :katai5:

พี่เท็นเหมือนไม่สนใจน้องนะ แต่ก็ห่วงน้องกว่าใคร  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-02-2014 19:52:12
อาจารน์เท็นได้เจอศิษย์ปลื้มแระ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 17-02-2014 20:06:04
ณ ตอนนี้ยังสงสัยเรื่องมายด์อยู่ ตกลงมายด์ตายยังไงหนอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-02-2014 20:30:51
รักเปิดเผยมากเท็นเท็น :haun4:
เมลก็น่ารักเชียว เห่อน้องด้วย ตอนเค้ามีน้องเค้าก็เห่อ แต่ตอนนี้ตีกันเกือบตาย :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 17-02-2014 20:45:55
คู่นี้นี่น่า..จริงๆ 
ถึงขนาดไปไม่ถึงห้อง      :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 17-02-2014 22:17:46
เท็นสู้ๆ มากอดๆๆ :man1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 17-02-2014 23:58:52
อะไร อะไร ห้องเก็บของ อือหืม = . =
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-02-2014 09:18:22
เมลเห่อน้องปลื้ม น่ารักอ่ะ

“หึหึ เดี๋ยวรู้เลย” อันนี้ฮา  :m20:
 
 :กอด1: นักเขียน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-02-2014 09:21:56
นางแรงจริงไรจริง ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 18-02-2014 09:30:24
อยากตามเข้าห้องเก็บของ  :hao6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 18-02-2014 10:14:49
ไอ่เปี๊ยกนั่นคงไม่สร้างเรื่องนะ
เท็นเท็นเดี๋ยวนี้ขยันยั่วเนาะ คิคิ ชอบกัสอ่ะ น่าร้ากกกกกก

 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-02-2014 11:58:51
ถึงตอนเจอกับน้องปลื้มแล้ว คิดถึงจังเลยลูกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 43 : 17-02-2014 (Page.37)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 18-02-2014 12:19:15
ก็น่าให้น้องมันทำหน้างงๆเอ๋อๆใส่หรอกเท็นเท็น  แหมไปทักให้ โดดน้ำจากสะพานสูงๆให้ดูหน่อย  เป็นคนไหนใครก็งงทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 18-02-2014 20:04:23
ตอนที่ 44

“เท็น ตัดอกตัดใจซะเถอะว่ะ มันไปดีแล้วนะ” มือของเมลที่จับอยู่ที่บ่า ไม่ได้ทำให้ความเสียใจหายไปได้เลยสักนิด ผมยังคงมึนงงกับภาพของไอ้เจมที่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้า

“ไอ้เจมมันป่วยมาได้สักพักแล้ว ลุงต้องขอโทษด้วยครับที่ดูแลมันไม่ดี”

“ลุงชิดอย่าโทษตัวเองเลยครับ เมื่อถึงคราวที่ต้องไป ยังไงมันก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีชีวิตไหนบนโลกที่หนีความตายพ้น ลุงทำดีที่สุดแล้วครับ”

ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง สังขารเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเห็นจะจริง ผมไม่ค่อยได้ยินเสียงขันที่สดใสของไอ้เจมมาได้สักพักแล้ว เพราะผมละเลยมันรึเปล่า มันถึงได้ด่วนจากไปอย่างนี้ เปิดดูรูปในไอจีที่ผมเคยถ่ายกับมันแล้วน้ำตาพาลจะไหล

กร่อยและง่อยแดกไปเลยกับบรรยากาศในชีวิต ผมเกลียดการสูญเสียมาก และเคยคิดอยากเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องเจอกับมัน ผมอยากแตกต่าง อยากให้ความพิเศษเกิดขึ้นกับตัวเอง แค่เพียงอย่างเดียวที่อยากให้มี คือการที่ผมไม่ต้องสูญเสียอะไรก็ตามที่ผมรักไป

“ไอ้เจมมันไปดีแล้วนะ” เมลบอกเบาๆ

“มึงรู้ได้ยังไงว่ามันไปดี ใครจะรู้ว่าตายแล้วจะไปไหน ไปดีหรือเลวไม่มีใครกลับมาบอกได้ แล้วพูดได้ยังไงว่าไปดี มันอยู่กับกูต่างหากถึงจะดี”

แค่เพราะไม่รู้ ใครต่อใครก็ได้แต่พูดปลอบใจว่าคนที่ตายไปแล้วเขาไปสบาย มันเป็นคำปลอบใจของคนที่อยู่เท่านั้นแหละ แค่เราเชื่อว่าที่เขาไปเป็นที่ที่มีความสุข

ถ้ามันจะช่วยให้ความรู้สึกสูญเสียมันลดลงไปบ้าง...ผมจะทำใจเชื่ออย่างนั้นก็ได้

“ลุงชิดไปหาเสียมมาให้ผมด้วยครับ ผมจะฝังเขาเอง”

“ครับคุณเท็น”

เพราะลุงชิดพาร่างไอ้เจมมาหาผมแต่เช้า ไอ้ฟิว ไอ้กัส ไอ้มายด์เลยยังไม่มีใครตื่น มีแต่ผมกับเมลที่ใส่ชุดนอนและลุงชิดยืนไว้อาลัยให้มัน แต่ไม่นาน พวกที่เหลือก็ตื่น ไอ้มายด์ชะโงกหน้ามองมาจากหน้าต่างห้อง เห็นบรรยากาศหดหู่แล้วมันก็รีบลงมา พร้อมกับยอมสละดอกกล้วยไม้สวยๆ จากกระถางของมันมาวางไว้ให้ไอ้เจม ผมเห็นดังนั้นเลยบอกให้มันตัดดอกกล้วยไม้ของผมมาด้วย

ไอ้ฟิวกับไอ้กัสตามมาสมทบ พวกมันถามกับลุงชิดเบาๆ เพราะไม่กล้าถามผม ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือผมไว้คนละข้าง

“พวกเราจะคิดถึงมึงนะไอ้เจม” ไอ้มายด์วางกล้วยไม้ไว้บนเนินดินเล็กๆ ที่มีร่างไอ้เจมนอนอยู่ข้างใต้ ก่อนจะถอยออกมา ยืนสงบนิ่งไปกับพวกผมด้วย

“เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ต้องเจอ ไม่เป็นไรนะเท็น ไอ้เจมมันไปสบายแล้ว” ไอ้ฟิวพูดด้วยตาแดงๆ แล้วกอดผมไว้

ถึงมันจะไม่อนุญาตให้เลี้ยงไก่ในบริเวณบ้าน แต่มันก็ไม่ได้เกลียดไอ้เจม ไอ้ฟิวมันใจดี รักสัตว์ ไอ้ที่มันรักไม่ลงจริงๆ ก็คงมีแค่หนอน แมลง แล้วก็แมลงสาบเท่านั้นล่ะครับ และเพราะอย่างนั้น มันถึงได้ร้องไห้ให้ไอ้เจม

ผมกอดมันอยู่สักพัก ก่อนจะส่งต่อหน้าที่ปลอบใจให้ไอ้มายด์ที่มองมาอย่างเป็นห่วง

“พวกมึงเข้าบ้านเถอะ ลุงชิดก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วครับ ผมขออยู่ที่นี่ คนเดียวสักพัก”

ทุกคนทำตามคำขอของผม แต่เมื่อได้อยู่คนเดียวแล้ว ความรู้สึกจุกแน่นก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ขอบตาที่ร้อนผ่าวทำให้ผมตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ยังไร้แสงแดดเพราะยังเช้าอยู่มาก

ผมเกลียดความผูกพัน เกลียดความทรงจำ เมื่อเกิดการสูญเสีย ผมไม่ได้แบ่งแยกว่าอันไหนสำคัญน้อยสำคัญมาก คนหรือสัตว์หรือสิ่งของ แต่เมื่อผมรักมัน ผูกพันและมีความทรงจำดีๆ ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร เมื่อสูญเสียไป มันก็ทำให้เจ็บปวดได้ไม่ต่างกัน

หลายต่อหลายครั้งที่เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นในชีวิตผม ผมก็เลือกที่จะแอบร้องไห้อยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง ไม่อยากให้ใครเห็นหรือปลอบใจ แต่ตอนนี้...ไม่รู้ทำไม ผมถึงคิดอยากให้เมลยืนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา

“ไม่ร้องนะ...ไม่ร้องนะเท็น” เสียงของเมลทำให้ผมต้องหันไปมอง ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือมันจะไม่ได้ไปไหนเลยกันแน่ ผมก็ไม่อาจรู้ได้ ที่รู้ได้เพียงอย่างเดียวคือตอนนี้นิ้วของมันกำลังปาดน้ำตาออกจากใบหน้าผม

“บอกให้เข้าบ้านไปได้แล้ว ทำไมยังอยู่”

“จะทิ้งให้เท็นต้องรู้สึกแย่อยู่คนเดียวได้ยังไง”

นี่เป็นเพียงหนึ่งในล้านๆ เหตุผลที่ทำให้ผมรักเมล...

.
.
.

“เท็น วันนี้ไปหาน้องปลื้มนะ ปล่อยน้องอยู่ที่บ้านคนเดียวคงเหงาแย่” เมลเพิ่งไปเรียนกลับมา เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ แล้วก็ขึ้นเตียงมานอนกลิ้งอยู่ข้างๆ ผมที่หยุดการเรียนการสอนเป็นวันที่สี่เพื่อทำใจกับการจากไปของไอ้เจม แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ไปมอนะ ก็ไปบ้าง หากว่าคิดถึงเป็ดที่บึงของคณะเกษตรฯ -O-;

“เอาสิ เออเมล กูเพิ่งได้ประกาศนี่มาว่ะ แว๊บไปที่คณะมา เห็นน้องรหัสไอ้คิมมันยืนแจกอยู่หน้าตึก”

“อืม กูก็เห็นเหมือนกัน มึงว่าเราไม่ควรบอกเพื่อนน้องเหรอว่าน้องอยู่กับเรา”

“ปัญหาบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่คนไม่รู้อะไรอย่างเราจะเข้าไปยุ่ง อยู่เฉยๆ ไว้ดีกว่า”

“อือ แล้วนี่มึงกินอะไรรึยัง”

“กินแล้ว ไอ้มายด์ทำแซนวิชให้”

“แค่นั้นจะอิ่มเหรอ”

“ไม่อิ่ม รอมึงมาพาไปกินข้าวอยู่นี่ไง”

เมลหัวเราะเบาๆ แขนยาวๆ ของมันพาดมาที่เอวของผม “เท็นอยากกินอะไรล่ะ หรือจะไปกินที่บ้านใหญ่พร้อมน้องปลื้ม”

“ยังไงก็ได้”

“ว่าง่ายอ่ะวันนี้ เป็นไร ยังคิดถึงไอ้เจมอยู่เหรอ”

“ก็นิดหน่อย”

“เดี๋ยวก็ดีขึ้น มันต้องใช้เวลา”

“อือ”

เมลหอมแก้มผม ก่อนจะใช้มือปัดผมหน้าที่ปรกตาให้ “ไม่ว่าเรื่องอะไร...เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น กูอยู่ตรงนี้ ขอแค่มึงไม่ทิ้งกู กูก็ไม่ทิ้งมึงแน่นอน”

ผมไม่ได้ให้คำมั่นอะไรไว้ เพียงแค่ขยับตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเมลเท่านั้น

เที่ยงวันนั้นก็ไปเจอไอ้เตี้ยหน้าเพลียที่เดี๋ยวนี้อาการก็เริ่มดีขึ้นมาหน่อย แต่หน้ามันยังเพลียและก็ชวนดราม่าได้ไม่สร่างซา เมลค่อนข้างจะสปอยล์มันมากทีเดียว เพราะหนึ่งด้วยความที่มันเตี้ย แลดูจะบอบบาง หน้าตาติดไปทางเอ๋อเล็กน้อย แต่สำหรับผมมันเอ๋อค่อนข้างมาก รวมๆ แล้วมันก็โอเค ไม่วีนไม่เหวี่ยง ดูติ๋มๆ และเชื่องๆ จนน่าหงุดหงิด เหมือนชีวิตเป็นเบี้ยล่างคนอื่นมาแล้วจนชินอะไรเทือกๆ นั้น บางทีแม่งนั่งอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ คือกูงงมากและไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ แต่ก็พอเข้าใจว่ามันอาจจะเจออะไรร้ายๆ มา

ตอนที่ผมบอกว่าจะพาขึ้นเหนือไปด้วยกัน มันก็ทำหน้าช็อค ตาโปนออกมาอย่างที่ทำให้รู้ว่ามันตกใจจริงๆ ไม่ต่างจากเมลที่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรล่วงหน้าเหมือนกันว่าจะไป

“ไหนบอกว่าจะไม่ไปแล้ว ทำไมยังจะไปอีก แล้วจะพาน้องไปด้วย อะไรของมึงวะเท็น” เมลเดินตามเข้ามาใส่เป็นชุดเลยครับ หลังจากที่ผมทิ้งให้มันกับไอ้เตี้ยนั่นมึนงงได้สักพัก

“กูไม่ได้บอกว่าจะไม่ไป แค่บอกว่าอะไรที่มึงไม่สบายใจกูก็จะไม่ทำ กูไม่ดร็อปเรียนแล้วนะ แต่เรื่องไปพะเยาก็ไม่ได้ยกเลิก กูจะกลับมาแน่ ไม่ได้ไปแล้วไปเลยหรอก ก็เหมือนทุกทีไง อย่าโมโหเลยน่า”

“มึงแม่ง !%@^@!$@^%#%&# ...เหี้...”

หลายครั้งที่ผมใช้วิธีนี้ แต่มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เมลหุบปากได้

“เท็น...อืม... น้องอยู่ห้องข้างๆ เดี๋ยวเสียงดัง” เพราะทางเดินไปยังห้องครัวต้องผ่านห้องหนังสือ ผมเลยดึงแขนเมลให้เข้ามาในนี้

“ใครสน กูกำลังง้อแฟนกู”

“กูไม่ได้โกรธที่มึงจะไป แต่แม่งเล่นบอกกะทันหัน กูก็ตกใจดิวะ ในกระเป๋าตังค์กูมีถุง”

“พกไว้ตลอดนะมึง จะเอาไปใช้กับใคร”

ผมทึ้งหัวเมล มันร้องโอดโอยเล็กน้อย มือก็พยายามรั้งมือของผมไว้

“มีแค่มึงเนี่ย ก็เท็นแม่งชอบอยู่ดีๆ เป็นงี้ไง ไม่เตรียมพร้อมไว้ เดี๋ยวแฟนค้าง”

“ทำดี มีเหตุผล แต่อย่าให้กูรู้ว่ามึงเอาไปใช้กับคนอื่น”

“ไม่มีจ่ะที่รัก”

“ดีมาก ^^”

.
.
.

ก่อนเดินทางขึ้นเหนือ ผมพาไอ้ปลื้มไปจัดการดร็อปเรียนตามประสงค์ของมันที่เอ่ยปากออกมาเองเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรื่องเสื้อผ้า แฟนที่แสนดีของผมก็เป็นคนเก็บใส่กระเป๋าให้ ก่อนวันเดินทางมันก็ทั้งสอนทั้งสั่งให้ดูแลตัวเอง ดูแลน้อง นั่นนี่อีกเยอะแยะ จนตอนนี้มาถึงพะเยาได้หลายวันแล้วมันก็ยังโทรมากำชับตลอด ซึ่งบางทีผมก็ให้ไอ้ปลื้มมันเป็นคนรับสายแทน

ที่พะเยานี่โอเคเลยนะครับ ถือว่าผมคิดไม่ผิดที่เลือกที่นี่เป็นโลเคชั่นในการจัดทำสารคดีชีวิต ตามติดกันแบบเรียลลิตี้ มันดูเหมือนไม่มีสาระ แต่มันก็มีนะ ผมคิดไว้แล้วว่าจะนำเสนอเรื่องราวออกมาในแง่มุมไหน มันอาจจะไม่โดดเด่นหรือโดนใจผู้ชม แต่ใครว่าเทปนี้ผมจะให้คนอื่นดูล่ะ =_=; กูทำแล้วก็ดูของกูเอง แค่นั้นล่ะครับ

เรียลลิตี้ครั้งนี้ไอ้ปลื้มกลายเป็นตัวเอกของเรื่องอย่างที่ผมตั้งใจไว้ ก็ให้มันลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ให้มันได้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้น เอาจริงๆ คือไอ้เด็กเตี้ยนี่แม่งทำอะไรแทบไม่เป็น แม้แต่ทำอาหารประทังชีวิตมันเองมันยังทำได้แค่ต้มมาม่า ณ จุดนี้ ผมเพลียมาก โอเคนะถ้าคิดว่าชีวิตมันอยู่มาอย่างสุขสบาย มีคนคอยปรนนิบัติ แต่เอาเข้าจริง ถ้าสักวันมันเกิดไม่มีอะไรขึ้นมา เกิดสักวันต้องหาเลี้ยงตัวเอง ปากกัดตีนถีบ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดไปจนแก่ ผมอาจจะมองโลกในแง่ลบเกินไป แต่มันก็เป็นมุมต่างที่เกิดขึ้นจริง

เด็กที่มีความคิดอย่างไอ้ปลื้ม คงคิดว่าโลกนี้แม่งอยู่กันง่าย หันมองไปทางไหนคงเจอแต่คนดีมีน้ำใจ โนๆๆ ชีวิตนี้มันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ ถึงผมจะได้ฟังเรื่องราวชีวิตของมันมาจนถึงขั้นละเอียดแล้ว ก็ยังคงมองว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลยจริงๆ หนีออกจากบ้านด้วยอายุแค่นั้นไม่ได้เรียกว่าฮีโร่นะครับ เขาเรียกว่าคนโง่ มีจุดยืนของตัวเองกับเด็กหัวแข็งต่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น แต่ความคิดเห็นผมก็ใช่จะถูกต้องไปซะหมดหรอก เพราะบางส่วนในใจแล้วผมก็แอบนับถือในความเด็ดเดี่ยวของมัน ผมเชื่อว่าหากมันโตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ ไอ้ปลื้มจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดน่าคบมากเลยทีเดียว แค่ตัดไอ้ที่ไม่ดีออกไปแล้วยังเหลือสิ่งดีๆ เก็บไว้ ผมก็แน่ใจว่าความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลจากตัวมัน

แต่พอมองย้อนถึงตัวผมแล้ว ผมก็เป็นคนหัวแข็งไม่ต่างจากไอ้ปลื้มนักหรอก เรียกให้เท่ก็คือมีความคิดเป็นของตัวเองมากเกินไป แต่ถ้ามองอีกมุมคือกูแม่งไม่ฟังใครเลย ผมรู้ตัวและเข้าใจดี เพราะบางทีผมก็เป็นเพียงตัวประกอบในชีวิตของตัวเองอยู่บ่อยๆ การได้นึกย้อนและเฝ้ามองการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง เฝ้าหาบทสรุปและผลลัพธ์ที่จะเกิด ทำให้เห็นอะไรมากขึ้น มันไม่ใช่การย่ำอยู่กับที่หรืออยากย้อนเวลากลับไป เพราะผมก็แค่...เรียนรู้ความเป็นตัวของตัวเองที่บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจและหลงลืมมันไปอยู่บ่อยๆ

“คนสวย เป็นยังไงบ้าง เห็นคุณเคนบอกว่าไม่สบาย หายดีรึยังครับ” ผมกำลังยืนมองท้องนาที่กว้างและทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ความสวยงามของมันทำให้ผมต้องออกมายืนที่ระเบียงนี้บ่อยๆ

(ดีขึ้นแล้วค่ะ เท็นล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง เห็นน้องเมลบอกแม่ว่าเท็นไปพะเยาเหรอคะ)

“ครับ ตอนนี้ผมก็อยู่พะเยา พาน้องของเมลมาเปิดหูเปิดตา แม่คุยกับเมลเมื่อไหร่ครับ”

(เมื่อวานค่ะ แล้วเท็นคุยกับป๋าบ้างรึยังคะ เห็นป๋าบอกว่าเท็นไม่ยอมรับโทรศัพท์ป๋า)

เพราะบทสนทนาแย่ๆ ครั้งนั้นผมก็ไม่รับโทรศัพท์ป๋าอีกเลย ผมเบื่อที่ต้องพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ในเมื่อพูดยังไงความเข้าใจก็ไม่ตรงกัน ผมก็ขออยู่เงียบๆ ดีกว่าครับ

“ผมไม่ว่างครับ”

(เท็นคะ)

“ครับแม่”

(ทะเลาะอะไรกับป๋ารึเปล่าคะ บอกแม่ได้นะคะ)

“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอกครับ”

บอกไป...แม่ก็จะทะเลาะกับป๋าซะเปล่าๆ เรื่องนี้คงเป็นเรื่องเดียวที่ป๋าไม่ยอมแม่ ผมไม่แน่ใจว่าอะไรที่สำคัญกว่ากัน ระหว่างไม่มีทายาทสืบสกุลกับอาการป่วยของแม่ เมื่อก่อนผมอาจจะไม่ลังเลกับคำตอบของคำถามนี้ แต่ตอนนี้ ป๋า ดูไม่เหมือนผู้ชายที่จะเลือกผู้หญิงที่ตัวเองรักมาก่อนเลยจริงๆ

และผมก็ไม่อยากยอมรับ ว่าผม ผิดหวังกับการกระทำของป๋ามาก

“แม่ครับ ดูแลตัวเองนะครับ อย่าป่วยอีกนะ ผมไม่สบายใจ”

(ค่ะ แม่ไม่เป็นไรอยู่แล้ว แข็งแรงมากเลย)

“ดีแล้วครับ แม่ต้องแข็งแรงก่อนการผ่าตัดครั้งหน้านะ”

(รับทราบค่ะ)

“งั้นแม่พักผ่อนนะครับ ผมต้องไปทำธุระก่อน”

(ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะลูก มีอะไรไม่สบายใจก็บอกแม่ได้นะคะ)

“ครับแม่”

ผมวางสายก่อนจะถอนหายใจออกมา ลิ้นหัวใจที่แม่ผ่าตัดเปลี่ยนไปมันคงใกล้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะเมื่อสิบสองปีก่อนพวกเราตัดสินใจร่วมกันว่าจะใช้ลิ้นหัวใจวัวในการเปลี่ยนลิ้นหัวใจให้แม่ แต่ตอนนี้อาการของแม่กำเริบบ่อยๆ จนมีกำหนดการว่าจะเปลี่ยนลิ้นหัวใจเร็วกว่ากำหนดถึงหนึ่งปี

เรื่องนี้ทำให้ผมคิดนะว่า...มันคงถึงเวลาที่ผมควรจะเลือกทางของชีวิตตัวเองหลังจากที่ปล่อยให้มันลอยไปตามลมมานานพอควร

มันไม่ใช่ว่าผมชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะถ้าเอาตามความชอบของผม ชีวิตผมก็ไม่ต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ...แต่ถ้ายึดตามหลักที่ว่า ผมทำอะไรได้บ้าง สิ่งไหนที่ผมทำแล้วเกิดประโยชน์กับคนอื่นต่างหาก คือสิ่งที่ผมควรต้องคิด แน่นอนว่าผมไม่สามารถกู้โลกได้หรอก เพราะผมไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ และผมก็แน่ใจว่าผมไม่สามารถเปลี่ยนโลกสีเทาใบนี้ให้กลายเป็นสีขาวสะอาดไปได้

แต่อย่างน้อย...ผมก็มีความคิดหนึ่งแล้วว่า ผมจะไปเรียนต่อเฉพาะทาง อาการของแม่เป็นเรื่องที่ผมคิดวนเวียนมากที่สุดในตอนนี้ สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอ บ่อยครั้งก็จวนตัวจนตั้งหลักไม่ทัน เรื่องไอ้เจมเป็นตัวอย่างที่ดี และผมก็ไม่อยากทำได้แค่ยืนมองอย่างช่วยอะไรไม่ได้อีก เพราะถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะยื้อสิ่งที่รักไว้จนสุดกำลัง ซึ่งมันคงคุ้มค่ามากแล้วกับการมีชีวิตอยู่

ผมคงต้องหาทางเรียนจบให้ได้ภายในเทอมหน้า เพราะจะได้เริ่มทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ มันอาจจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมาก แต่ผมก็จะทำจนสำเร็จ เพราะมันเป็น ความตั้งใจแรกในชีวิตของผม

...........................................To be continue...........................................

ใกล้เข้ามาทุกทีๆ  :กอด1:

กอดทุกคนนะ กอดดดดดดดดดดด :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นยาวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-02-2014 20:23:48
ความตั้งใจของเท็นเท็นเรามีมาเรื่อยๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-02-2014 20:29:02
เท็นมีจุดมุ่งหมายขึ้นมาอีกแล้ว
ขอให้คุณแม่เท็นปลอดภัยด้วยนะ

ส่วนเมลเป็นแฟนที่น่ารักมากและเป็นพี่
ที่ของน้องปลื้มด้วย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 18-02-2014 20:33:16
หวงหล่ะสิๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 18-02-2014 20:43:20
รักเท็นเท็นนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 18-02-2014 20:48:16
เท็นน่ารักมากๆๆๆๆ มองในมุมคนอื่นเหมือนไม่มีความรู้สึก ไม่แคร์ใคร แต่เอาจริงๆคือนางคิดเผื่อคนอื่นเยอะมากใส่ใจคนอื่นเยอะมาก มายเมนนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 18-02-2014 20:52:43
น่าจะคิดให้ได้เร็วกว่านะเท็นเท็นจะได้ไม่ต้องมีปัญหา
แต่ก็ดีแล้วล่ะ ที่คิดจะทำอะไรจริงๆจังๆสักที
เอาใจช่วยเท็นเท็นๆเต็มที่เลยน้าาาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 18-02-2014 20:53:56
เท็นเท็นในแบบที่ชอบมาแล้ว


แต่............

ใกล้เข้ามาทุกทีๆ  :กอด1:

กอดทุกคนนะ กอดดดดดดดดดดด :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นยาวๆ นะคะ

ไอ้ทิ้งท้ายไอ้ทิ้งท้ายนี่ทำจิตตกนะคนเขียน :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-02-2014 21:16:03
หน้ามันยังเพลียและก็ชวนดราม่าได้ไม่สร่างซา  :m20: คิดถึงน้องปลื้ม

เท็นเท็นแบบที่เราชอบกลับมาแล้ว ชอบแนวความคิดเท็นที่สุด
 
 :กอด1: นักเขียน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 44 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 18-02-2014 21:59:51
เท็นเวลาตั้งใจทำอะไรละเท่ห์จุงงงงง ขอให้คุณแม่อย่าเป็นอะไรนะะะ :<
ไม่ชอบเวลาป๋าเป็นแบบนี้เลย ป๋าคนเก่าที่คิ้วท์ๆ หายไปไหนนน คนแต่งบอกมานะ!
ว่าป๋ามีปมอะไร 55555555555 เอาตรงๆตอนแรกที่เปิดตอนมา.. นึกว่ามายด์ตาย - -
ที่ไหนได้ คุณเจมตาย ข่าาาา 5555555555 อ่านตอนน้องปลื้มทีไรก็ตลกเมลทุกที
คนอะไรโคตรเห่อเลย หื้มมมม  :mew3: ช่วงปลื้ม ถึงจะเป็นอะไรที่อ่านมาแล้วในมาโปรด
แต่ว่าพอมาเจอในเวอร์เท็นละก็เป็นอีกมุมนึงดี 5555 ชอบความคิดเท็นนะ ทั้งคำพูดคำจา

ละก็ แก้คำผิดนะฮะะ ผูกพัน นะะ ไม่ใช่ผูกพันธ์ :D

รอต่อไปน้าาาา <33

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 18-02-2014 22:13:21
ตอนที่ 45

“เชี่ยพะชอน อะไรเข้าสิงมึงวะ มึงอ่านหนังสือออออ!!” คำทักทายของไอ้เต๋อทำเอาไอ้แม็ก ไอ้เต้ และไอ้คิมที่เดินตามหลังมารีบปรี่เข้ามาล้อมโต๊ะหินอ่อนที่ผมนั่งอยู่ทันที

ผมกลับมาสอบไฟนอล โดยทิ้งให้ไอ้ปลื้มอยู่เฝ้าบ้านที่พะเยา แต่มันไม่เหงาหรอกครับ มีไอ้จิ๊บไอ้เจี๊ยบ ไอ้เจมที่สอง ป้าเนียมและลุงชิดอยู่ด้วย แถมไอ้ปาล์มเด็กเกรียนที่รับทำพาร์ทไทม์แบกกล้องถ่ายสารคดีให้ผมก็อยู่ เพื่อนมันเยอะจนพี่ชายมันบ่นแล้วบ่นอีกว่าไอ้ปลื้มลืมมันไปแล้ว

“เหี้ย หนังสือซอฟต์แวร์เอ็น? มึงอ่านเพื่อ วิชาปีสี่ แต่เราอยู่ปีสามนะเพื่อนครับ มึงจะล้ำไปแล้ว” ไอ้คิมทำปากยื่นปากยาว ตาแทบจะติดกับชื่อหนังสือในมือผม

“เรื่องของกู มึงเสือกไร”

“เย้ดดดดด เจอดีเลย เพื่อนขอโทษคร้าบบบ”

“เออ กูให้อภัย”

“-*- กูประชด”

ผมเลิกสนใจความไร้สาระของไอ้คิม หันกลับมาอ่านหนังสือต่อ นี่เป็นเล่มที่อาจารย์แนะนำมา เรื่องทำเรื่องจบภายในสามปีครึ่งของผม ผมเอาไปปรึกษาอาจารย์แล้ว ซึ่งผมได้รับเป็นกรณีพิเศษ ด้วยผลคะแนนที่ผ่านๆ มาและอะไรหลายๆ อย่างที่ผมมี แต่ไม่ใช่เงินทองนะครับ เรื่องเงินใช้ซื้อปริญญาที่นี่ไม่ได้ มันก็ต้องความสามารถอยู่แล้ว

ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้เรื่องนี้ เพราะผมรอบอกเมื่ออยู่พร้อมหน้ากันดีกว่า จะได้ไม่บอกหลายรอบ แต่อันดับแรกต้องบอกเมลก่อนอยู่แล้ว

“เป็นไงบ้างวะ บรรยากาศที่พะเยา โอเคมั้ย” ไอ้แม็คถามขึ้น มันกำลังรื้อเอกสารในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะทีละวิชา

“อืม อากาศดี ไม่วุ่นวายด้วย”

“น่าสนว่ะ กูอยากไปบ้าง” ไอ้เต๋อระริกระรี้ทันที

“ขอเมียมึงก่อนมั้ยไอ้เต๋อ หึหึ” ไอ้เต้ยิ้มล้อ ก่อนจะโดนมือไอ้เต๋อตบเข้าที่หน้าผากเต็มๆ

หลังจากนั้นสงครามขนาดย่อมก็เริ่มขึ้น ไอ้แม็คที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยก็ยังช่วยไอ้เต๋อเอากระดาษฟาดหัวไอ้เต้ไปหลายที อันนี้คงเป็นความแค้นส่วนตัวแหละครับ =_=;

ผมนั่งอ่านหนังสือท่ามกลางความวุ่นวายโดยไม่สนใจจะห้ามแต่อย่างใด จนไอ้ฟิวกลับจากซื้อขนมมาพร้อมไอ้กัสด่าพวกมันเรียงตัวนั่นแหละถึงได้หยุดกัน

“เท็น พักหน่อยมั้ย กินข้าวก่อน” ข้าวกล่องทำเองบายไอ้ฟิวถูกเลื่อนมาตรงหน้า ผมพยักหน้าเล็กน้อย มือขวารับช้อนมาถือไว้ มือซ้ายจับหนังสือ

มันเคยเป็นท่าปกติของผมเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้พวกเพื่อนๆ คงเพิ่งจะเคยเห็นเป็นบุญตาครั้งแรก ถึงได้เบิ่งตามองกันใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้พวกภาคไฟที่ตามมาสมทบด้วยทีหลัง

“พยากรณ์อากาศวันนี้บอกว่าน้ำกำลังจะท่วมโลก ประเทศไทยกำลังจะเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ไอ้เหี้ยยย บอกกูทีว่ากูไม่ได้ฝันไป เชี่ยเท็นอ่านหนังสืออ่ะ” วาจากวนส้นเท้าส่งตรงมาจากไอ้ลิน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ

“เฮ้ย เกิดไรขึ้นกับเพื่อนมึงวะ ไอ้กัส หรือมันป่วย” ไอ้แต้มก็อีกคน

เอาจริงๆ คือแค่ผมอ่านหนังสือเรียนพวกมันต้องจ้องเหมือนเป็นของหายากติดอันดับโลกเลยเหรอวะ =_=;

“กินข้าวก่อนเท็น เดี๋ยวค่อยอ่าน”

ผมยอมปล่อยหนังสือในมือที่กำลังถูกมือขาวๆ ของอดีตเดือนมหาลัยดึงออกไป เมลยิ้มให้พลางนั่งลงข้างๆ

“มึงกินไรมายัง” ผมถามพร้อมกับตักข้าวผัดกุ้งเข้าปาก

“เรียบร้อยแล้ว สอบเสร็จก็ไปกินกับพวกมันมา”

“อืม แล้วนี่ตอนบ่ายมึงมีสอบอีกป่ะ”

“มีบ่ายสาม เท็นอ่ะ”

“บ่ายโมง”

“งั้นก็รีบๆ กิน”

“อืม”

ผมนั่งกินข้าวไปเงียบๆ ฟังพวกเพื่อนๆ คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันแต่ก็ไม่ได้ออกความเห็น

ถึงจะเป็นเวลาไม่นานที่รู้จักพวกมัน แต่ผมก็สนุกมากตลอดช่วงเวลาที่พวกเราเรียกกันว่าเพื่อน

“เฮ้ย พวกมึง สอบเสร็จแล้วไปเจอกันร้านพี่เจ๋ง กูเลี้ยง”

อาการสะบัดหน้าพรึ่บหันมามองผมอย่างพร้อมเพรียงเกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีที่คำพูดของผมถ่ายทอดไปถึง

“ห้ามใครขาด เพราะกูมีเรื่องจะพูด”

“รับทราบครับท่าน!!!”

ตอนเล่นฟุตบอลพวกมึงสามัคคีกันอย่างนี้รึเปล่าวะ อยากรู้จริงๆ =_=;

“ว่าแต่เรื่องอะไรวะ?” ไอ้เขตถามขึ้นด้วยความสงสัยเป็นคนแรก ต่อจากมันก็มีอีกหลายคนที่พึมพำขึ้นมา

“ถ้าให้กูบอกตอนนี้พวกมึงก็อดแดก หรือจะเอา?”

“ไม่ๆๆๆ โอเคๆ พวกกูรอได้” ไอ้เต๋อรีบปฏิเสธทันที ก่อนจะชี้หน้าให้คนอื่นๆ ระงับคำถามของตัวเอง

เมลก็กำลังจะอ้าปากถามเหมือนกัน แต่มันก็ต้องหุบปากตามนิ้วที่ชี้มาของไอ้เต๋อ ก่อนจะมาง้องแง้งอยู่ข้างๆ ผมเหมือนเด็กที่เพิ่งถูกแม่ปฏิเสธจะซื้อของเล่นให้

“เดี๋ยวคืนนี้บอก มึงต้องรู้ก่อนคนอื่นอยู่แล้วน่า” ผมยิ้มแล้วยกมือตบหน้าผากเมลเบาๆ มันคลี่ยิ้มกว้าง แล้วแก้มขาวๆ ก็แนบลงกับไหล่ผม

อ่า...น่ารักจริงๆ วุ้ย -O-;

.
.
.

“กูดีใจนะ...ที่ในที่สุด มึงก็มีสิ่งที่อยากทำสักที” ไม่รู้ทำไม คำพูดของเมลถึงทำให้ผมภูมิใจในตัวมัน ภูมิใจที่ผมเลือกรักคนไม่ผิด

ผมบอกเมลไปแล้วว่าผมจะทำยังไงกับชีวิตของตัวเอง ผมเลือกทางไหนให้กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่เมลก็ยังยิ้มรับและบอกว่าจะอยู่ข้างผม

“แล้วนี่ จะไปเมื่อไหร่”

“ปลายปีหน้า”

ผมตัดสินใจจะไปต่อเฉพาะทางที่อเมริกา อาจจะต้องเตรียมตัวอะไรอีกมาก แต่ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วถ้าคิดจะทำ

“กูเรียนจบแล้วจะตามไป”

“อืม”

“แต่กูคงคิดถึงมึงมากแน่ๆ ตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

“ก็ลองไม่คิดถึงสิ กูจะเตะให้ -*-”

“หึหึ แล้วนี่...มึงต้องหมั้นทันทีที่เรียนจบเลยมั้ย”

“ไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้มั้ยวะ”

“เอ้า...ซะงั้น”

เมลยิ้มเนือยๆ แขนที่กำลังโอบรอบตัวผมไว้ยิ่งกระชับแน่นเข้ามาอีก

“รักมึงว่ะเท็น”

ถึงมันจะบอกบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อเลย ตรงกันข้าม อยากให้เมลพูดให้ฟังทุกวัน

“อ้อนตลอด กูหลงจะตายอยู่แล้วไอ้บ้า”

“ก็อยากให้หลง ^^ ว่าแต่น้องปลื้มให้ไปรับเมื่อไหร่อ่า”

“ใกล้ๆ เปิดเทอม”

“น้องพร้อมแล้วเหรอ”

“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแหละ ถ้ารอจนกว่าจะพร้อมจริงๆ มันคงได้ดร็อปเรียนอีกปีแน่”

“อ่า...สงสารน้องจัง”

“สงสารมึงเองก่อนดีมั้ย เมียกำลังจะไปเป็นผัวคนอื่นเนี่ย”

“เชร้ดดดดด จริงด้วย TT_TT”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

ถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงมากนัก แต่พอเราเอามาล้อกันทีไร มันก็ตลกจริงๆ คือป๋าแม่งคิดได้ไงวะ เฮ้อ~~

“อยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ เลยว่ะเท็น มึงเก่งไม่ใช่เหรอ ทำเครื่องหยุดเวลาให้กูได้มั้ย”

“=_= ไปหมดละสะหมงสมอง อยากหยุดไว้ทำไมวะ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่เวลานี้สักหน่อยที่เราอยู่ด้วยกัน อีกสิบปี ยี่สิบปี มึงได้อยู่กับกูไปจนเบื่อนั่นแหละ แต่ช่วงนี้อาจจะขลุกขลักหน่อย ห่างกันบ้างอะไรบ้าง จะได้รู้จักคำว่าคิดถึง”

“อร้ายยยย พี่เท็นเท่จัง”

ผมร้องไห้ทันมั้ย ทำไมเมลนับวันยิ่งตุ๊ดวะ -*-

“สาวแตกแล้วมึงอ่ะะะ”

“อร้ายยยย”

“ไหนมาทดสอบหน่อย กูขอพลิกบ้าง”

“ทำได้ก็ลอง” โห ทีเรื่องนี้ล่ะมาเสียงเข้มเลย -_-;

แต่ลองดูก็ไม่เสียหายนะ ยังไงพรุ่งนี้ผมก็จะกลับพะเยาแล้ว จัดสักหน่อยคงดี หึหึ

.
.
.

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีผมก็ต้องมานั่งร่ำลาไอ้เจมที่สอง ลูกรักของตัวเองแล้ว เพราะยังไงต่อไปคงไม่ได้กลับมาที่นี่บ่อยนัก

“เป็นเด็กดีนะลูก พ่อไม่อยู่ก็อย่าเที่ยวเล่นให้มากนัก เดี๋ยวรถจะชนเอา ค่ำๆ ให้กลับบ้าน แล้วก็ดูไอ้จิ๊บกับไอ้เจี๊ยบให้พ่อด้วย อยู่กันดีๆ รู้มั้ยครับ”

ไอ้เจมที่สองขันอยู่ในลำคอ มันคงไม่รู้เรื่องหรอกครับ แต่ผมก็อยากจะพูดอะไรกับมันสักหน่อย เพราะไอ้ปลื้มเป็นคนให้อาหารมันด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้มันชอบตีมึนเหมือนไอ้เด็กเอ๋อนั่นเข้าไปทุกที

“เท็นเท็น เสร็จรึยัง มีของฝากที่ต้องแวะซื้ออีก ยังไงออกก่อนน่าจะดี” เสียงของเมลดังมาจากข้างหลัง มันอาสาขับรถมารับเองเลย ไม่รู้ว่าอยากมารับผมหรือรับไอ้ปลื้มกันแน่ -_-;

“เออๆ เร่งจริงๆ เลยมึงเนี่ย” ผมบ่นไม่จริงจังนัก ก่อนจะมาลาลุงชิดที่ผมให้แกย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว นานๆ ทีก็ให้ลงกรุงเทพบ้างตามแต่แกสะดวกแหละครับ ยังไงก็อยากให้ลุงอยู่ใกล้กับครอบครัวมากกว่า งานที่กรุงเทพมันก็ไม่หนักหนาอะไร ไม่จำเป็นต้องลงไปคุมตลอดก็ได้

ส่วนป้าเนียมผมก็สวมกอดไปหนึ่งที พร้อมกับขอบคุณที่ดูแลไอ้ปลื้มให้เป็นอย่างดีมาตลอด

หลังจากนั้นก็ขับรถกลับกรุงเทพครับ แวะซื้อของฝากที่พิษณุโลก แล้วก็ขับยาวกันมาเลย ไอ้ปลื้มที่เหมือนจะคิดได้อยู่นิดๆ ก็บอกให้ผมกับเมลไปส่งมันที่บ้าน มันก็คงอยากเคลียร์กับทางบ้าน ซึ่งเป็นความคิดที่ดีเลยนะ เพราะถ้ามันไม่กลับบ้าน แน่นอนว่าปัญหาที่มันต้องเจอเป็นอันดับแรกคือการไม่มีที่อยู่ ถึงผมจะแน่ใจว่าเมลจะช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ก็เถอะ -_-; เอาจริงๆ ผมว่าการมีพี่ชายอย่างไอ้เมลนี่ก็ทำให้เด็กเสียนิสัยได้นะ แม่ง...ไม่รู้จะตามใจอะไรกันนักหนา

“น้องมันจะเป็นอะไรมั้ยวะ หรือเราควรอยู่รอก่อน” เมลถามขึ้นเมื่อเห็นไอ้ปลื้มเดินผ่านประตูรั้วบ้านมันเข้าไปแล้ว

“ถ้ามึงจะรอ งั้นกูเรียกไอ้กัสให้มารับละกัน”

“งั้นกลับก็ได้”

“เออ ดี รีบๆ ออกรถสิวะ กูอยากนอนเต็มแก่แล้ว เหนื่อย”

“ครับๆ”

ผมผลักหัวเมลไปหนึ่งที ก่อนจะกอดอกหันหน้ามองตามข้างทาง เวลาผมอยากพักแล้วไม่ได้พักจะหงุดหงิดมาก เมลมันก็รู้ดี ยังจะมาท่ามากนั่นนี่อยู่ได้

“เท็นเท็น ขอโทษนะ ไม่อารมณ์เสียนะ เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”

“มึงขับรถไปเงียบๆ เถอะ”

“เมลขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษ กูไม่ได้โกรธอะไรมึง กูแค่เหนื่อย โอเคมั้ย เลิกทำหน้าหงอยได้แล้ว”

“อืม”

มาถึงบ้าน หิ้วกระเป๋าตัวเองขึ้นบนห้อง ผมก็กระโดดลงแพลงกิ้งบนเตียงทันที ใครนั่งรถนานๆ จะเข้าใจอารมณ์เลยครับว่าแม่งโคตรเมื่อย โคตรเพลีย และโคตรอึนขนาดไหน

“อาบน้ำก่อนมั้ย จะได้สบายตัว”

“ไม่ กูจะนอนแล้ว”

“ตามใจๆ”

“มึงก็มานอนได้ละ”

“ไม่ง่วงอ่ะ เดี๋ยวขอไปหาไอ้เป๊บก่อน”

“ไม่ให้ไป มึงมานอนเดี๋ยวนี้”

“เท็นเอาแต่ใจว่ะ -*-”

“จะตามใจมั้ย”

“...”

“เออ ดี ไปไหนก็ไปเลยมึง”

ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับมัน ผมถอดแจ็คเก็ตออกได้ก็เปิดแอร์นอนแผ่หราเลยครับ แต่นอนไปสักพักไอ้ผู้ชายที่ขัดใจผมเมื่อกี้ก็ขึ้นมานอนด้วย

“รักจะบ้าอยู่แล้ว ใครจะกล้าขัดใจ” เมลกระซิบเบาๆ ก่อนริมฝีปากนุ่มจะจูบเบาๆ ลงบนหน้าผากผม “นอนนะครับ”
ผมขานรับในลำคอ เพราะหน้ากำลังซุกอยู่กับแผ่นอกของเมล

“ฝันดีนะ”

ผมยิ้มรับกับเสียงทุ้มนุ่มที่ดังขึ้น

...ที่เอาแต่ใจ ผมก็แค่อยากนอนกอดเมลไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าตื่นมาจะได้เจอหน้าเมลเป็นคนแรก ก็เท่านั้นเอง...


...........................................................To be continue.................................................

ขอบคุณสำหรับคำผิดจ้า แล้วจะรีบแก้ไขเน้อออออออ  :กอด1:

วันนี้มาลงอีกตอน ยังไงก็ยืนยันว่าจบภายในอาทิตย์นี้จ่ะ  :a5: ไม่อยากให้อ่านแบบติดๆ ขัดๆ มีอะไรมันสะดุดก็บอกได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2014 22:22:39
จิ้มก่อนอ่านนะคะ
จุบบบบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 18-02-2014 22:24:08
...ที่เอาแต่ใจ ผมก็แค่อยากนอนกอดเมลไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าตื่นมาจะได้เจอหน้าเมลเป็นคนแรก ก็เท่านั้นเอง...

ฮือออออออออออออออออออออออออออ


จะจบแล้วจริงๆอ่ะ เราผูกพันกับเรื่องนี้มากๆอ่ะ
เท็นตอนหลังๆ น่ารักมากไปแหละ เชื่อแล้วว่าเท็นก็รักเมลไม่น้อยไปกว่ากันหรอกกก  :hao5: :hao5: :hao5:

ดีใจเหมือนเมล เหมือนกัน ที่สุดท้าย เท็นก็มีอะไรที่อยากทำสักที

แล้วงงี้ สุดท้ายจะรู้กันมั้ยอะคะ ว่า เท็นคือรักแรกของเมล ที่ได้เจอันตอนเด็กๆ อยากให้รู้จังงงงง  :mew3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 18-02-2014 22:27:19
ใกล้จะจบอีกเรื่องแล้ว ยังไม่หายคิดถึงเลย อยากอ่านยาวกว่านี้สักนิด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-02-2014 22:29:49
ขอบคุณที่มาลงให้อ่านอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 18-02-2014 22:33:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 18-02-2014 22:51:54
ไม่มีอะไรจะติในตอนนี้ น่ารักมากเลย ละมุนนนน  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 18-02-2014 23:02:54
อเมริกา.. หมั้น.. -_____-)' เมลทนได้ยังไงเนี่ยยยยยยยยยยยยยย
เหนื่อยมั้ยเมล มาซบอกเราดีกว่านะ ถถถถถถถถถ
ถ้าจะต้องหมั้นจริงๆนี่มรสุมชีวิตเลยนะ .. T_T' ไม่เอาอะ
อย่ามีฉากหมั้นนะะะะ 5555555555555  ละเมลนี่ก็ นับวันก็สาวแตกเหมือนที่เท็นว่าจริงๆด้วย
ตลกอะ อร้ายย อะไรคือ อร้ายยย 55555555555555555555 พี่เมลล! ไม่ไหวนะะะะ
ถ้าเมลสาวแตกต่อไปแบบนี้ เท็นรุกแน่! 5555555555 ตลกง่ะะะ ะ ละก็ .. .
หวานเนอะ .. มดขึ้นจอหมดละ คึคึ บางทีเวลาอ่านก็เริ่มไม่มั่นใจละ ใครเมะ ใครเคะกันแน่วะ
นิสัยนี่บางทีก็สลับกันเกิ๊นน ถถถถถถถ แต่ก็ชอบนะ ไม่ใช่ไม่ชอบ  :-[
พี่เมลคิ้วท์เสมอเวลาอยู่กับพี่เท็น อะคุอะคิ

ส่วนตอนจบ.. อีกไม่กี่ตอนใช่มั้ย T^T ถ้าจะจบแล้วก็ขอสเปเชี่ยลเยอะๆนะ
แล้วอย่าลืมมายด์ฟิวนะ.. อย่าลืมเดอะเท็นกับไอเด็กปัญญาอ่อนติดนาตาชาคนนั้นนะะ. .. .
อยากรู้จีจี คริคริ :D รอฮับบบบบ!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 18-02-2014 23:20:01
ชอบความคิดเท็นอ่ะ เท็นเป็นคนที่จิตใจดีมากคนนึงเลยถึงแม้จะไม่ค่อยฟังใคร  :a5:

ใกล้ที่ว่านี่ใกล้อะไรหรอคะ ..... เรื่องเท็น หรือพี่มายด์.....  o22 o22
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 18-02-2014 23:25:08
 :serius2: ทำไมรีบจบจังงงงง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 19-02-2014 00:15:15
จะจบแล้วเหรอ
เราชอบเรื่องนี้มาก
ขอบคุณที่มีเรื่องดีๆมาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-02-2014 00:43:07
เท็นน่ารักอย่างนี้ เมลรักตายเลย อิจฉาๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 19-02-2014 07:22:34
เท็นก็อ้อนเหลือเกิน อย่างนี้เมลจะไปไหนรอด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 19-02-2014 07:58:12
น่ารักสุดๆอ่ะตอนนี้  :-[

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 19-02-2014 08:43:14
มุมิ มุ้งมิ้ง น่ารักอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 19-02-2014 09:57:46
เท็นแอบหวานนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-02-2014 10:14:53
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-02-2014 11:13:20

สะดุด เพราะมันจะจบนี่แหละค่ะ
พอจะจบแล้วก็คิดถึงเรื่องมายด์ตลอดเลย

 แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :sad4:   ยังทำใจบ่ได้ก่ะ   :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 19-02-2014 11:54:51
 :a5: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 19-02-2014 14:41:00
จากนอกจะรักเท็นเท็น กะ เมลมากๆแล้ว ตอนนี้เราหลงรักมายด์ ผู้ชายแสนที่อ่อนโยน(ที่ฟิวมองไม่เห็น)คนนี้แล้ว  เสียดายที่พล๊อตเรื่องต้องให้มายด์จากไปเร็วมากๆ  :sad4: เปลี่ยนได้ไหมพล๊อตอ่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 45 : 18-02-2014 (Page.38)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 19-02-2014 15:47:05
ต่อไวๆ ><
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 19-02-2014 19:59:00
ตอนที่ 46

วันนี้นัดไอ้ปลื้มให้มันพาแฟนมันมาให้ผมกับเมลรู้จัก ถึงเมลจะบอกว่าเคยเห็นหน้าแล้ว แต่ผมยัง เพราะผมไม่ได้สนใจใคร ช่วงนี้นอกจากคร่ำเคร่งกับการเรียนแล้ว ผมก็มีไปผ่อนคลายบ้าง ขึ้นเหนือบ้าง เมื่อสองเดือนก่อนก็เพิ่งไปสวีทกับเมลที่สิงคโปร์มา เป็นช่วงที่ชีวิตผมได้ใช้อย่างเต็มที่มาก เรื่องที่จะไปเรียนต่อและต้องจบก่อนเพื่อนก็ได้แถลงการณ์บอกพวกมันหมดแล้ว ก็มีบ่นกันบ้างแต่ไม่มีเสียงไหนเลยที่จะคัดค้าน พวกมันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่ผมจะเลิกไร้สาระสักที ผมเลยตบหัวไอ้เต๋อเป็นตัวแทนเพื่อให้มันไปตบคนอื่นๆ ด้วย

แต่สำหรับเมลคงมีเรื่องกวนใจมันนิดหน่อย เพราะน้องปลื้ม น้องชายสุดที่รักของมันโดนไอ้โรคจิตที่ไหนก็ไม่รู้ตามรังควาน สาเหตุคงไม่ใช่เพราะหน้าของไอ้ปลื้มมันหรอกครับ เพราะมันไม่ได้หน้าตาดีถึงขั้นมีแฟนคลับโรคจิตตามติดชีวิตมันขนาดนั้น คิดว่าคงมาจากแฟนรูปหล่อหน้าเทวดาของมันมากกว่า

จะว่าไปไอ้หมอนี่มันเป็นตัวซวยของชีวิตไอ้ปลื้มจริงๆ นะ เหมือนเคราะห์กรรมอะไรทุกอย่างของไอ้ปลื้มจะเกิดจากไอ้หมอนี่ทั้งหมด

“เท็นเท็น มานี่!!!! น้องพาแฟนมาแหนะ รีบๆ มา มัวแต่ไปสีผู้หญิงอยู่ได้ มึงนี่มันน่าถีบจริงๆ” เสียงของเมลดังฝ่าเสียงเพลงจังหวะหนักที่ร้านของไอ้พี่เจ๋งมันเปิดมา ผมที่เพิ่งลงจากชั้นสองแต่ก็ถูกไอ้พี่เจ๋งมันใช้เอาเครื่องดื่มไปให้ผู้หญิงอกบึ้มก็ต้องชะงัก

อะไรคือการไปสีผู้หญิงอย่างที่มันกล่าวหาวะ? แค่ปลายเส้นผมกูยังไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้เลยเหอะ!

“สีเหี้ยไร ไอ้พี่เจ๋งใช้กูเอาเบียร์ไปเสิร์ฟโต๊ะเขา ไอ้พี่ห่านั่นก็เห็นลูกค้าเป็นเด็กในร้านไปได้ กูล่ะเซ็ง เออ แล้วไหนวะ คนที่ทำมึงอกหัก” ผมด่าเมลก่อนจะหันไปหาไอ้ปลื้มที่นั่งหน้าเอ๋ออยู่ใกล้ๆ กวาดสายตามองไปยังคนที่นั่งข้างๆ มันก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าแม่งเกิดมาเพื่อให้ผู้หญิงฆ่ากันตายชัดๆ

ผมไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ให้ดูหยาบคายมากเกินไป ความสูงนี่บอกเลยว่าสูงกว่าเมลมาก ขนาดตัวก็ดูจะล่ำกว่า โอเคนะที่ว่าเรื่องความสูงมันไม่มีผลกับแนวราบ แต่พอผมเหลือบมองขนาดตัวไอ้ปลื้มที่แทบจะตัวลีบเล็กมากเมื่อนั่งข้างกันแล้ว

มึงทำกรรมมาเยอะจริงๆ ว่ะปลื้ม =_=;

“คนนี้ป่ะ สวัสดีครับคุณ มาโปรดนี่ใช่คนที่เคยควงกับไอ้แม็คป่ะครับ”

ผมไม่ได้อยากแสกหน้าใครนะ แต่มันสงสัยจริงๆ นี่หว่าว่านี่ใช่บุคคลที่ไอ้เต๋อมันเจ้ากี้เจ้าการเอามาลองใจไอ้เต้รึเปล่า เพราะผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องรายละเอียดความรักอึนๆ ของพวกมันมากนัก

“ใช่ครับ” ถือว่าดีครับที่ไม่ตอบผมกลับมาด้วยหมัด แต่หน้าตาท่าทางก็ดูจะเป็นคนจริงอยู่เหมือนกัน

“ที่ไอ้ปลื้มอกหักนี่เพราะคุณมาชอบเพื่อนผมเหรอครับ?”

“พี่เท็น...”

ไอ้ปลื้มนี่มันบุคคลที่ตลกแดกเอาการนะ ดูหน้าก็รู้ว่าแม่งก็คงอยากรู้เหมือนกัน ที่ผมถามก็ไม่อะไรนะ เห็นสีหน้าไอ้เต้ไอ้ปลื้มและไอ้แม็คแล้ว มันจำเป็นต้องพูดว่ะ

“มึงเงียบ”

ไอ้ปลื้มหุบปากฉับ ก่อนจะส่งสายตามาหาพี่ชายของมันที่นั่งข้างผมแถมเท้าหน้าก็สะกิดแขนยิกๆ ให้หยุดพูด

“กูแค่สงสัย จะตอบก็ได้ไม่ตอบก็ได้ ไม่ได้ว่า แต่กูค้างคาใจก็ต้องถาม เพราะมันเกี่ยวกับเพื่อนและน้องกู ไม่อยากให้เหล้าคืนนี้กร่อย โอเคกับเหตุผลของผมมั้ยครับคุณ” ผมถามก็เพราะสงสัยจริงๆ ไม่ได้จะตั้งท่ารังเกียจไอ้พี่มาโปรดอะไรนี่หรอกนะ คือต่อให้ผมเกลียดหรือไม่เกลียดมัน มันก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตผมนี่ครับ มันเคยทำร้ายไอ้ปลื้ม นั่นก็เป็นส่วนของไอ้ปลื้ม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด แค่สงสัยและอยากให้บรรยากาศดีขึ้น ถ้ามันรู้จุดประสงค์ผม ไอ้พี่มาโปรดนี่ก็คงพอคบได้

“พอรับได้” คนหล่อร้ายตรงหน้าตอบกลับอย่างไว้ท่า ยกเหล้าขึ้นดื่มไปอึกใหญ่ก่อนจะตอบอย่างมีเชิงว่า “มันมีเหตุผลหลายๆ อย่างที่จะพูดตรงนี้ก็คงไม่ดี แต่ที่ปลื้มต้องเสียใจก็เพราะผมแน่นอน ส่วนเรื่องของน้องแม็ค สำหรับผมแล้วไม่มีอะไร มันเป็นความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น”

“ค่อนข้างเคลียร์ครับ ชนแก้ว”

โอเคแล้วสำหรับผม ใครไม่เคลียร์ก็เรื่องของเขา เพราะสำหรับผม แฟนไอ้ปลื้มดูน่าคบขึ้นมานิดๆ เมื่อถามก็ตอบ ไม่มีแววโกหกตอแหลให้เห็น ถือว่าเป็นคนจริงทีเดียว มันจะเคยเลวยังไงมาไม่รู้นะ แต่ ณ จุดนี้ ผมให้ผ่าน เพราะแค่มันยอมรับความจริงที่ว่า ไม่ว่าต้นเหตุมันจะมาจากอะไร แต่ไอ้ปลื้มก็เสียใจเพราะมัน ดีครับที่ไม่ปัดความรับผิดชอบหรือแก้ผ้าเอาหน้ารอดให้ความผิดพ้นตัว

“เพื่อนเต้ครับ ถ้ามึงยังโง่อยู่ ระวังเหี้ยเต๋อจะหาผัวให้ไอ้แม็คอีกรอบนะครับมึง” ผมหันไปบอกไอ้เต้ที่ตอนนี้แม่งทำตัวโคตรน่าหมั่นไส้ เพราะตั้งแต่เห็นแฟนไอ้ปลื้มมาก็ทำมาโอบเอวไอ้แม็คไม่ยอมปล่อย ได้นิ้วกลางจากไอ้เต้มาแล้วผมก็ทำแค่ยักไหล่แล้วหันไปชนแก้วกับไอ้เต๋อ

“ขอบใจในความหวังดีที่กูไม่ต้องการนะครับพวกมึง เมียกู กูดูแลเองครับ ไม่ต้องให้พวกมึงเหนื่อยหาใครมาให้ แสรดดดดด”

โว้ววววว! นี่เป็นครั้งแรกเลยครับที่ไอ้เต้แม่งปากกล้า ถือว่ากูบรรลุแล้วก่อนจะไปเรียนต่อ ฮ่าๆๆ

“เอ้า! ปรบมือครับทุกคน เพื่อนเต้ของเราถือกำเนิดเป็นสปีชีส์มนุษย์โลกแล้วครับ หลังจากเขางอกไปอยู่ดาวบัฟตั้งนาน”

“ว่าแต่ดาวบัฟนี่คือไรวะ? นาซ่าแม่งเจอดาวอีกแล้วไง?”

กูล่ะเกลียดเวลาที่เพื่อนแม่งไม่เก็ทมุกจริงๆ ไอ้เขตนี่มันก็เป็นติ่งผมมาตั้งนานนะ แต่ก็ไม่เคยเก็ทมุกผมเลยสักครั้ง คือกูเข้าใจยากหรือมึงแม่งลึกไปเองวะเขต -_-

“โถะ ไอ้เขตตี้ ชีวีมึงจะซีเรียสไปป่ะวะ ดาวบัฟมันก็คือดาวบัฟฟาโล่ไง มีเหี้ยเต้เป็นประมุข ประชากรดาวก็หน้าเหมือนมันหมดนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ขอบใจในคำบรรยายอย่างลึกซึ้งของไอ้ลินครับ แต่แม่งลึกซึ้งจนผมกลัวเลย ผมยังไม่คิดเลยนะว่าประชากรดาวจะต้องหน้าเหมือนไอ้เต้ทุกคน ฮ่าๆๆๆ

หลังจากนั้นไอ้เต้กับไอ้ลินก็เปิดสงครามน้ำลายกัน ผมเลยเลิกสนใจพวกมันไปโดยปริยาย

“เท็นเท็น คืนนี้นอนคอนโดนะ อยากอยู่กับมึงสองคนว่ะ” เมลบอกด้วยเสียงอ้อนๆ

“ทุกทีก็อยู่สองคน” ผมมองหน้ามันงงๆ เพราะเวลาอยู่ที่บ้านก็นอนด้วยกันสองคนอยู่แล้วนี่หว่า

“มันไม่เหมือนกัน...นะ ไปคอนโดนะ”

“อือๆ ตามใจๆ”

“น่ารักมาก” เมลก้มลงมาหอมแก้มผม มือที่โอบเอวผมอยู่แล้วก็ลูบขึ้นลูบลง เล่นเอาเสียวไปเหมือนกัน -*-

“เมียกูยิ่งดูยิ่งสวยว่ะ ทำไมมึงสวยขนาดนี้วะเท็น”

“สัดเมล เดี๋ยวกูต่อยปากแตก สวยบ้านมึงสิ”

“คนสวยโหดจังเลย”

“เหี้ยเมล”

“หึหึ”

แม่งหล่อว่ะ ยิ้มแล้วหล่อ ยิ้มแล้วละลาย ยิ้มแล้วอยากทุรนทุรายอยู่ในอ้อมกอดมันเลย

“กลับห้องเถอะว่ะ กูไม่ไหวแล้วเมล”

“^^ ใจร้อนตลอดคนนี้”

“เพราะมึงเอาแต่ลูบ...กูไม่ขึ้นก็ไม่ใช่คนแล้วไอ้บ้า”

“อ่า...เมลผิดเหรอ งั้นยอมให้เท็นลงโทษนะ” เมลยิ้มกริ่มก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า “เต็มที่เลยนะครับ อยู่ห้องเรา เสียงดังยังไงก็ได้”

อ๋ออออ ที่มึงอยากกลับคอนโดก็เพราะอย่างนี้สินะไอ้เมล -*-

.
.
.

“น้องรหัสมึงน่ะตัดไปได้เลย กูให้คนตามแล้ว แค่คนประสาทที่ส่งจดหมาย แต่น้องรหัสไอ้ปลื้มน่ะ มึงให้คนดูให้ดีๆ กูว่าไอ้เหี้ยนี่มันแปลกๆ” ผมบอกไอ้พี่โปรดที่กำลังนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟาอีกตัว เดี๋ยวนี้มันมาหาเมลบ่อยๆ เพราะไอ้เด็กเอ๋อมันโดนหมายหัว

“ไอ้เดย์น่ะเหรอ กูว่ามันไม่เห็นจะมีอะไรนะเท็น” เมลตอบกลับมาอย่างผู้ชายที่มองโลกสวยงาม ที่จริงก็ไม่แปลก ถ้าเมลจะคิดว่าไม่มีอะไร เพราะไอ้เด็กนั่นมันก็ดูปกติ ดูเป็นน้องรหัสที่ใสๆ ซื่อๆ ตามตื้อไอ้ปลื้มแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่เมื่อสามวันก่อน ระหว่างที่กำลังนั่งดูเป็ดน้อยเล่นน้ำ ณ บึงคณะเกษตรฯ ซึ่งเป็นที่ค่อนข้างเงียบ เปลี่ยว และไร้ผู้คน ผมบังเอิญเห็นไอ้เด็กนั่นกับน้องรหัสไอ้พี่โปรดมันกำลังยืนคุยกันหน้าตาเคร่งเครียด แถมไอ้เด็กนั่นมันไม่ใช่กระจอกนะครับ มีลูกน้องตัวควายๆ คอยยืนดูเชิงด้วยอีกสองคน

“มีไม่มีก็ให้คนดูไปก่อน”

“ตามนั้น คนอื่นๆ ที่เคยด่าปลื้มในแชทเฟซ หรือคนที่ไม่ชอบปลื้มกูก็เช็คหมดแล้ว เหลือแต่ส้มนี่แหละที่น่าจะเป็นไปได้ แล้วก็คงต้องเพิ่มไอ้เดย์เข้าไปอีกคน เพราะถ้ามันชอบปลื้มจริงๆ มันก็คงอยากให้ปลื้มเลิกกับกู” ไอ้พี่โปรดสาธยายเสร็จ ก็โยนรูปที่มันให้คนของมันไปตามถ่ายมาลงบนโต๊ะ

“เป็นแฟนมึงนี่มีกรรมเนอะ”

“เออ แต่เป็นแฟนมึงนี่กรรมเยอะกว่าว่ะ”

“อย่างไอ้เมลเรียกว่าคนมีบุญเหอะ”

“มึงมันคนไม่ยอมรับความจริงว่ะเหี้ยน้องเท็น”

“มึงก็ไม่ต่างกูวะไอ้เหี้ยพี่โปรด”

“โอ้ย อย่าเถียงกัน กำลังใช้ความคิด”

ผมกับไอ้พี่โปรดหันไปมองเมลที่กำลังทำหน้าเครียดอยู่ จนต้องผลักหัวมันไปคนละที

“เครียดเหี้ยไรมึง หน้าแก่ขึ้นมากูเลิกนะไอ้สัด”

“เออๆ ไม่เครียดแล้วก็ได้วะ แต่กูกลัวว่าปลื้มจะโดนทำร้ายเอา มันดูเหมือนไม่ใช่เรื่องเล็กเลยอ่ะ”

“กลัวไรวะ ยังไงไอ้เหี้ยพี่โปรดมันก็ตายแทนได้อยู่แล้ว คิดมาก มึงเอาเวลามาสนใจกูนี่”

ทั้งเมลและไอ้พี่โปรดทำหน้าเอือมๆ ใส่ผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ เหนื่อยจะคุยกับพวกมันแล้วผมก็เดินไปหยิบตะกร้าเลโก้มาเทลงบนพื้น

ผมชอบต่อเลโก้ฆ่าเวลา มันสนุกนะ ที่ได้ต่อมันออกมาเป็นรูปต่างๆ

“บางทีแฟนมึงก็ทำให้กูรู้สึกว่ามันยังไม่โต ขนาดเด็กกู กูยังไม่เคยเห็นมันนอนเล่นท่ามกลางกองของเล่นเลยนะ -_-”

“ฮ่าๆๆ เขาชอบของเขา ปล่อยเขาไปเถอะครับ แล้วนี่น้องปลื้มอยู่ไหนครับพี่”

“ปลื้มกลับบ้าน”

“อ่า ดีแล้วครับ ผมไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่โทรมาบอกผมด้วยนะครับ ช่วงสอบผมอาจจะไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ไหนจะโปรเจ็คอีก”

“ได้ๆ แล้วลูกน้องไอ้เท็นมันได้อะไรคืบหน้ามาบ้าง”

“ก็หลายเรื่องนะครับ แต่พวกเขารายงานให้เท็นฟัง ผมก็ไม่รู้ด้วย เพราะเท็นไม่ยอมบอกอะไร”

“อืม ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแย่ๆ ละกัน แฟนมึงนิ่งไปแล้วนะ มันหลับในรึเปล่าวะ”

“ไม่หรอกพี่ เขาก็เป็นอย่างนี้แหละ”

“พวกมึงนี่เข้าอกเข้าใจกันดีนะ -_-;”

“ก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ บางทีก็ต้องปรับกันแทบแย่”

“นี่ขนาดกูเอายางลบขว้างโดนหัวมันมันยังไม่สะเทือน มึงแน่ใจเหรอว่ามันไม่ได้หลับ”

“เขากำลังมีสมาธิครับ พี่อย่าไปแกล้งสิ -*-”

“มึงนี่กลัวเมียนะไอ้เมล ลูกผู้ชายมันต้องสู้สิวะ”

“สู้เพื่อให้ได้อะไรอ่ะพี่ ถ้าสุดท้ายแล้วเขาต้องร้องไห้เพราะเรา ผมยอมดีกว่าอ่ะ”

“ไอ้ห่าเมลพูดซะกูเหมือนตัวร้ายไปเลยว่ะ”

“ก็เรื่องนี้ผมเป็นพระเอก -O-;”

“อะไรของมึงเนี่ย =_=;”

“แหะๆ”

ระหว่างต่อเลโก้ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันเกิดของเมลก็ใกล้จะถึงแล้ว ของขวัญที่จะให้ผมคิดไว้แต่ยังไม่ได้ทำ ไอ้พี่โปรดมันรับปากไว้แล้วว่าจะหาคนทำให้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว ไม่รู้จะเชื่อได้แค่ไหน แต่ก็หวังว่าจะทันงานวันเกิดมันในเดือนธันวาคมนี้

ไม่ยิ่งใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ก็จะทำให้...ก่อนผมบินไปเรียนต่อ

.................................To be continue.................................

 :กอด1: ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะะะะะะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 19-02-2014 20:04:22
เท็นนนนนนนนนนน คิดถึงงงงงงงงง :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-02-2014 20:18:42
แอบเตรียมของขวัญอะไรให้เมล
สงสัยมันต้องเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
เท็นสะอย่าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 19-02-2014 20:26:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดกับเมลประโยคนี้

“สู้เพื่อให้ได้อะไรอ่ะพี่ ถ้าสุดท้ายแล้วเขาต้องร้องไห้เพราะเรา ผมยอมดีกว่าอ่ะ”

ฮืออออออออออออออออออออออออออ พ่อพระเอก พ่อสุภาพบุรษมาจุติ ยอดชายนายเมล  :z3: :z3:

แต่ตอนนี้แอบหน่วงๆอ่ะ เฮ้อออออออออออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 19-02-2014 20:31:11
 o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-02-2014 20:41:03
โอ๊ยยยยยยยย พอเข้าใจกันแล้วนี่มัน ชีวิตนี้อยากพลีให้จริงๆ
แง่งงงงงงง น่ารักไปไหน

เท็นๆ เลิกเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วสิ ฮืดดดดด ไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 19-02-2014 20:42:37
เย้  พี่โปรดมาแล้ว
พี่เท็นกับเมลหวานมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 19-02-2014 21:17:19
พี่เมลแม่งพระเอกจริงเลยยยยยยย  :katai2-1:

ทำใจนะเสี่ยนะเรื่องนี้เสี่ยไม่ใช่พระเอกอ่ะ 5555555555555  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-02-2014 21:28:08
อิพี่โปรด  รังแกพี่เมียอย่างงี้  เดี๋ยวเจอดีหรอก  555+
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-02-2014 21:34:12
ชอบเมลอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 19-02-2014 21:49:44
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก


^_____________________^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 46 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 19-02-2014 22:01:31
 :hao5: เมลเท็น  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 19-02-2014 22:03:58
ตอนที่ 47

โครม! โครม! โครม! ผลั่วะะะะะะะะ!

“เท็น นี่เรียกว่าบุกรุกแล้วนะ”

ไม่รู้ว่าเมลมันจะมาห่วงเรื่องบุกรุกไม่บุกรุกอะไรตอนนี้ เพราะไอ้ที่ว่าบุกรุกน่ะมันเริ่มตั้งแต่ที่ไอ้พี่โปรดให้ลูกน้องมันขู่พนักงานต้อนรับที่เคาท์เตอร์ชั้นล็อบบี้ของคอนโดแล้ว นี่ผมแค่ช่วยไอ้พี่โปรดมาถีบประตูเองนะ

“กูไม่ได้ทำ ไอ้พี่โปรดมันทำ อึ่ยยย ไอ้เหี้ยยย นี่ห้องเหี้ยไรวะเนี่ย มีแต่รูปเหี้ยเต็มไปหมด”

เข้าห้องมาได้ขนแขนยันต้นคอของผมก็ลุกพรึ่บ คือนี่มันน่าสะอิดสะเอียนมาก ไม่เคยเห็นห้องไหนที่เอียนขนาดนี้มาก่อน รูปไอ้เหี้ยพี่โปรดติดอยู่เกลื่อนห้อง มีทำเป็นวอลเปเปอร์ด้วยนะคุณ

งงกันใช่ไหมครับว่าพวกผมโผล่มาทำอะไรกันที่นี่ หึหึ ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่เพราะเพื่อนไอ้ปลื้มวิ่งหน้าตั้งมาบอกว่าไอ้ปลื้มหายไป มีคนเห็นว่าเดินไปกับไอ้เด็กเดย์ เท่านั้นแหละ ไม่ต้องสืบถามเรื่องราวอะไร ไอ้พี่โปรดที่เพิ่งสอบเสร็จพอดิบพอดีก็ดิ่งตรงมายังคอนโดนี้ด้วยที่อยู่ที่ลูกน้องผมหามาได้

แต่กว่าจะมาถึงที่นี่แทบจะขอหวอรถพยาบาลมาเปิดขอทางเลยทีเดียว ไอ้พี่โปรดนี่ถ้าให้มันเป็นคนขับรถคงได้คว่ำตายก่อนมาถึงที่นี่ ผมเลยเป็นคนขับเอง โทรให้ลูกน้องของผมตามมาเหมือนกัน แต่คนใจร้อนอย่างไอ้พี่โปรดมันรอไม่ได้ มันคงนึกว่ามันเป็นคนเหล็กกลับชาติมาเกิดมั้งครับ จัดแจงให้ลูกน้องมันขู่พนักงานตัวล่ำเรียบร้อยแล้วมันก็บุกขึ้้นมาชั้นบนทันที

เอาจริงๆ คือผมก็ไม่คิดนะว่าชีวิตจะต้องมาบู๊ล้างผลาญอะไรกับคนอื่นเขา แต่เพราะเมลแม่งห่วงน้องเว่อ แถมไอ้ปลื้มแม่งก็เป็นเด็กเอ๋อที่ก็ใช้ชีวิตอยู่กับผมมาหลายเดือน ก็โอเคครับ กูยอมเอาชีวิตมาเสี่ยงก็ได้

เหตุการณ์ในห้องมันไม่ได้มันส์หยดเหมือนในหนังแอคชั่นที่ผมเคยดู แต่แม่งโคตรน่ากลัวและขนลุกพิลึก พอเห็นมีดเห็นปืนของจริงแล้วผมชักจะอยากถอยกลับบัดเดี๋ยวนั้น คือกูไม่ได้ป๊อดนะครับ แต่โคตรไม่อยากให้อะไรมาโดนผิวเลยว่ะ -*- มันไม่เท่และคงเจ็บมากด้วย

แต่เพราะคนรักก็อยู่ตรงนี้ ไอ้ปลื้มเด็กเอ๋อก็ตัวสั่นหน้าซีดอยู่อีกฝั่ง จะโดนเสียบแหล่ไม่เสียบแหล่ ผมก็ต้องทำใจกล้าล่ะครับ เป็นไปได้กูอยากให้มีคนอื่นมาช่วยมาก ยามก็ได้ ใครก็ได้ แต่ไม่มีโผล่มาสักคน ก็ต้องลุยกันเอง

ผลั่วะะะะะ! พลั่กกกก!

ใจผมกระตุกไปวูบหนึ่งเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกจากขมับของเมล ความรู้สึกต่างจากตอนที่ผมใช้ขวดฟาดหัวมันมาก จู่ๆ ความเกลียดชังที่มีต่อใครสักคนก็พุ่งขึ้นมา

กล้าดียังไง...มันกล้าดียังไงมาทำร้ายคนของผม

“เท็น พาน้องออกไป! เดี๋ยวกูตามไป พวกมันมีปืนนะ! เร็วๆ”

เหี้ยเมลมันคิดว่ามันตายไม่เป็น เจ็บไม่เป็นไงวะ ไอ้เหี้ยนี่มึงเป็นคนดีไม่ถูกเวลาและไม่ถูกใจกูจริงๆ

“ก็รู้ว่าพวกมันมีปืนแล้วมึงจะโง่อยู่ทำไม ไปด้วยกันสิวะ ไอ้เหี้ย ข้างหลัง!”

ผลั่วะะะะะะ!

ก่อนที่ผมจะรู้ตัวว่าในมือตัวเองกำลังถืออะไร ผมก็ฟาดไอ้ลูกน้องหน้าโง่ของไอ้เด็กเดย์นั่นไปซะแล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ถ้ามันตายไปซะตอนนี้ผมก็ยอมติดคุก เพราะไอ้เหี้ยนี่มันไม่มีสิทธิ์อะไรเลยที่จะมาทำให้เมลเจ็บ

“ไอ้พวกนั้นเมื่อไหร่จะมา กูเกลียดการจราจรกรุงเทพ กว่าจะมาได้คงตายห่ากันไปหมดแล้ว ไอ้พี่โปรด คนนั้นมึงจัด อย่าให้มันมาล่อหัวกูข้างหลัง ส่วนมึงเข้ามาตัวๆ กับกูเลยไอ้เดย์ เข้ามา!”

แต่สภาพของไอ้เด็กเดย์มันน่าเวทนามาก ตัวสั่นเทิ้ม ปากก็เอาแต่เรียกชื่อไอ้พี่โปรดอยู่อย่างนั้น ผมเพิ่งจะได้เห็นกับตาตัวเองว่าความรักเมื่อรักไม่เป็นแล้ว...มันก็ทำร้ายคนๆ หนึ่งได้มากจริงๆ

ผมปล่อยไอ้เดย์ให้ไอ้พี่โปรดมันจัดการ ก่อนจะรีบมาดูเมลที่ถึงแม้จะเลือดไหลอาบหน้า มันก็ยังส่งยิ้มเนือยๆ มาให้

“เดี๋ยวไอ้กิมคงพาตำรวจมาแล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้เถอะ ไปหาอะไรมามัดมันไว้ก่อนละกัน เผื่อมันคลั่งอีก ปลื้ม ไปเอาผ้าชุบน้ำมาให้กูหน่อย กูจะปฐมพยาบาลให้ไอ้เมลก่อน ส่วนไอ้พี่โปรด มึงรอไป ลำดับความสำคัญของมึงอยู่สุดท้าย”

ถึงไอ้พี่โปรดมันจะเจ็บไม่น้อย แต่สำหรับผมแล้วเมลต้องมาก่อน อย่างน้อยก็ห้ามเลือดที่หัวมันก่อนก็ยังดี ไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยนั่นฟาดจนเอ๋อไปแล้วรึเปล่า เพราะแฟนผมแม่งทำหน้าอึนๆ งงๆ ตลอดเลย -*-

เพราะมัวแต่สนใจกับอาการของเมล ผมถึงลืมไปว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนเห็นคนสองคนสามคนเข้าชาร์ตกัน คนหนึ่งกระเด็นไปอีกทาง ส่วนสองคนล้มลงใกล้ๆ ผม ความมึนงงแล่นวาบเข้ามาในหัว เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน หน้าของไอ้ปลื้มขาวซีดจนผมกลัวว่ามันจะช็อคมาก

มี...จริงๆ เหรอวะ

ยอมแลกชีวิตเพื่อคนอีกคน...มีด้วยเหรอวะ

ความคิดนี้ลอยวนอยู่ในหัวผมเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบปล่อยเมลแล้วลุกขึ้นไปช่วยไอ้พี่โปรดที่ล้มทับตัวของไอ้ปลื้มอยู่ ไอ้เดย์กำลังกรีดร้องลั่น มันช็อคไปแล้วกับการกระทำของตัวเอง มีดที่เสียบจนเกือบทะลุมันก็ดึงออกไปโดยพลการแถมยังเอาไปกอดไว้

“ไอ้เหี้ยนี่ มึงจะดึงออกทำไมวะไอ้ควาย! แผลมันจะยิ่งเปิดมึงไม่รู้รึไง บ้าไม่ถูกสถานการณ์ไอ้สัด” ผมรู้ครับว่าด่าไปมันก็ไม่รับรู้ แต่ขอกูระบายความเครียดหน่อย

“พี่เท็น ผมขอร้อง...ช่วยพี่โปรดด้วย ช่วยพี่โปรดด้วย เลือดไหลไม่หยุดเลย พี่เท็น ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยพี่โปรดด้วย”

“ปลื้ม ใจเย็นๆ ตั้งสติ รถพยาบาลกำลังมา ใจเย็นๆ ทุกอย่างจะเรียบร้อย ปล่อยพี่โปรดก่อนนะ พี่จะห้ามเลือดให้ก่อน ปลื้มชวนคุยอย่าให้พี่โปรดหลับก็พอ”

เสียงของไอ้ปลื้มราวกับคนกำลังขาดใจ มันร้องไห้สะอึกสะอื้นจนผมอยากจะร้องตาม แต่ ณ ตอนนี้ ผมต้องตั้งสติและทำทุกอย่างที่ตัวเองพอจะทำได้ เลือดที่ไหลทะลักออกจากแผลกว้างทำให้ผมไม่ต้องเสียเวลาคิดหาถุงมืออะไรมาก เพราะตอนนี้ชีวิตคนสำคัญที่สุด ถึงพยายามกดปากแผลไว้แต่เลือดก็ยังไม่หยุดไหล ปากได้แต่พร่ำบอกกับไอ้ปลื้มว่าไม่เป็นไร ทั้งๆ ที่ในใจผมไม่แน่ใจเอาซะเลยว่าไอ้พี่โปรดมันจะไม่เป็นไรจริงๆ

“เท็น รถพยาบาลใกล้ถึงแล้ว พยายามอีกหน่อยนะ” เมลส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้ผม ทั้งๆ ที่มันก็เจ็บอยู่ไม่น้อย ผมพยักหน้าให้มัน แต่เพราะจู่ๆ ไอ้พี่โปรดมันก็หยุดหายใจไปซะอย่างนั้น ไอ้ปลื้มกรีดร้องลั่นจนสลบไป เมลถลาเข้าไปหาน้องมันเพื่อเรียกสติ

“เมล ปล่อยไอ้ปลื้มไว้ก่อน มึงมากดปากแผล เร็วๆ”

เพราะต้องมีคนห้ามเลือดไว้ระหว่างที่ผมกำลังทำ CPR มันแย่มาก ตอนนี้ทุกอย่างแย่ไปหมด ผมจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าช่วยไว้ไม่ได้...ไอ้ปลื้มจะเป็นยังไง ผมมองเห็นผลลัพธ์ แต่ก็ไม่อยากที่จะยอมรับมัน

“พี่เท็นครับ มาแล้วครับพี่ มาแล้วครับบบบบบบ!! พยาบาลครับ ทางนี้เลยครับ คนเจ็บอยู่ตรงนี้ครับ”

หลังจากที่ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนมาช่วยพวกเราเสียที ผมอยากถามมากว่าทำไมพึ่งมาเอาตอนนี้ มาเอาตอนที่เกือบจะต้องเสียทุกอย่างไปแล้ว...

ทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพากันเข้ามาในห้อง จัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ไอ้ปลื้มกับไอ้พี่โปรดถูกพาออกไปก่อน ตามด้วยไอ้เดย์ที่ถูกตำรวจคุมตัวออกไป พร้อมกับลูกน้องของมันอีกสองคนที่เพิ่งได้สติเมื่อไม่นาน

“มึงเก่งมากเท็น เก่งมาก ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างโอเคแล้ว” เมลเข้ามากอดผมไว้ มือที่ยังเปื้อนเลือดของผมยกขึ้นกอดมันไว้แน่นเช่นกัน

“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ...มึงต้องทำแผล เรื่องไอ้เดย์ให้ไอ้กิมมันจัดการ”

“อืม” เมลพยักหน้า ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ “ขอบคุณนะเท็น ขอบคุณจริงๆ”

ผมไม่ชอบบรรยากาศระหว่างที่ต้องนั่งรออยู่หน้าห้องผ่าตัด เต็มไปด้วยความกังวล หวาดกลัว และตึงเครียด คนเป็นแม่เป็นลมไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่รอบ น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย คงกำลังรออยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ

ผมยืนอยู่เงียบๆ ข้างๆ เมลที่ตอนนี้ทำแผลเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เมลก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน มันแค่จับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

“น้องเมล น้องปลื้มอยู่ไหนคะ พาน้าไปหาน้องได้มั้ยคะ” แม่ของไอ้ปลื้มที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ของเมลเดินเข้ามาหา ท่านคงเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน เพราะดูจากหน้าตาตื่นๆ แล้วคงยังไม่รู้ชะตากรรมของลูกตัวเอง

“ได้ครับน้า”

ผมเดินตามหลังเมลกับแม่ไอ้ปลื้มมายังห้องพักผู้ป่วยพิเศษ เพราะให้ยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้นก็คงจะไม่ไหว

ไอ้ปลื้มยังคงหน้าซีด แม้แต่ตอนที่ยังไม่ได้สติ ใบหน้าของมันก็ยังไม่คลายกังวล ผมไม่รู้ว่าถ้าผมเป็นมันในตอนนั้นที่เห็นคนรักหยุดหายใจไปต่อหน้าต่อตา...ผมจะทำยังไง ผมจะยังคงมีสติและเป็นที่พึ่งให้ใครได้ไหม ผมก็ตอบไม่ได้เลย

ทำไมชีวิตคนเรามันถึงสั้นนักก็ไม่รู้...ความตายอยู่ใกล้คนเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ …ถึงที่ผ่านมาผมจะใช้ชีวิตแบบที่คิดว่าวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของตัวเอง แต่ผมก็ไม่เคยคิดอยากให้ชีวิตจบลง ถึงจะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วก็คงไม่มีใครหนีมันพ้น

.
.
.

“กินยาแล้วใช่มั้ย” ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ส่วนเมลอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว กำลังคลานขึ้นเตียงมานอนข้างๆ

คำถามของผมได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้า จนผมต้องวางหนังสือลงแล้วเดินไปเอายาที่หมอสั่งจ่ายมาให้มันกิน

“ไม่กินเดี๋ยวคืนนี้มึงได้ปวดแผลจนตายแน่”

“ไม่เอา เม็ดใหญ่ ใครจะกลืนลง”

“ต้องกิน -*-”

“ไม่เอา”

“เมล อย่าให้กูโมโห”

“ก็เม็ดมันใหญ่ ขมด้วย”

“มึงเป็นเด็กสองขวบรึไงห้ะ จะกินดีๆ หรือให้กูจับกรอกปาก”

เมลทำหน้าลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะบอกผมอย่างเซ็งๆ ว่า “กินก็ได้วะ นิสัย ชอบบังคับกูตลอดนะมึง”

“บ่นๆ เดี๋ยวกูตบกะโหลก ยื่นมือมา”

“รุนแรงอ่ะ นี่เจ็บอยู่นะ”

แต่ผมก็ทำแค่ยักไหล่ใส่คนเจ็บที่ทำหน้าสำออยให้เห็น

จัดการให้เมลกินยาเสร็จ ผมก็กลับมาอ่านหนังสือตามเดิม เมลมันก็นอนอยู่ข้างๆ เล่นเฟซอะไรของมันไป นานๆ ถึงจะชวนผมคุยที

“เท็น เท็นว่าพี่โปรดจะเป็นอะไรมั้ยวะ”

“ไม่รู้สิ ตอบยากว่ะเรื่องนี้”

“สงสารน้องปลื้ม อยากให้น้องเข้มแข็ง”

“เราก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้ว ที่เหลือก็ให้เป็นเรื่องของพวกมัน มึงไม่ต้องไปคิดเผื่อคนอื่นเขาหรอก”

เมลจับมือข้างที่ว่างของผมไปแนบกับแก้มอุ่นๆ ของมัน ผมเหลือบตามองเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากไปกว่าเนื้อหาของหนังสือในมือ

“หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” เมลบอกเบาๆ

“อืม”

“อีกสองเดือนเท็นก็จะไปแล้ว... เวลาเร็วเนอะ”

เสียงหงอยๆ ของเมลทำให้ผมต้องเบนความสนใจอีกครั้ง ก้มลงมอง ก็เห็นว่ากำลังหลับตาพูดอยู่

“จะตามไปไม่ใช่เหรอ”

“ยังไม่แน่ใจเลย ว่าจะจบรึเปล่า โปรเจ็คยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”

“ตั้งใจสิ สู้เพื่อแม่ สู้เพื่อเมีย ทำไม่ได้หรือไง”

“อือ จะพยายามละกัน”

“แค่พยายามมันไม่พอ มึงต้องทำให้ได้ กูไม่ได้กดดันนะ แต่ต้องรีบๆ ตามไป เข้าใจไหม”

“ครับๆ”

เมลลืมตาขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ “เดือนหน้าไปลอยกระทงกันนะ ไอ้เต๋อมันเกริ่นๆ ไว้ว่าอยากอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา”

“โอเค ^^”

“เท็น...”

“หืม?”

“รักเท็นนะ ถึงจะบอกบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย เท็นล่ะ...รักกันน้อยลงรึเปล่า”

คำพูดของเมลทำให้ผมต้องวางหนังสือในมือลง ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดตามันไว้ แล้วก้มลงจุ๊บที่ปากมันไปสองที

“รักมากกว่าเดิม...”

“ครับ”

“ถึงจะได้ยินบ่อยๆ แต่ก็ยังอยากฟัง”

เพราะไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่... เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำเอาใจแกว่งไปเหมือนกัน ก็ถ้าหากเป็นเมลที่นอนอยู่ในห้องไอซียูตอนนี้ คนที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องก็คงไม่ใช่ไอ้ปลื้ม...แต่คงเป็นผมเอง

คำบางคำ...ได้ฟังบ่อยๆ ก็ยังดีกว่า...รอฟัง จากคนที่ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมารึเปล่า...

มันไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ

“นอนซะเมล ฝันดีนะ”

“ครับ ^^”

เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ... คงดี...

............................................To be continue...........................................................

โอ้ เย้ =_=; ค่ะ ตอนหน้าค่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วค่ะ แค่จะบอกว่า แล้วพบกันตอนหน้า

เท็นก็แค่คนธรรมดา...เหตุและผลไม่ได้อยู่คู่กับเขาตลอด เพราะฉะนั้น พลั้งพลาดอะไรไป ก็ให้อภัยเขาด้วย  :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-02-2014 22:07:02
ยังไงก็ให้อภัยเท็นเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 19-02-2014 22:19:30
ทิ้งท้ายได้น่าหวั่นใจอีกแล้ว....   :z10:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 19-02-2014 22:20:17
โอย...

ตอนนี้ในหัวแต่คำว่ามายด์ 55555555555555

บ้าไปแล้ว พอคำว่าลอยกระทงมา นี่คิดเลย กร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 19-02-2014 22:25:54
โอ๊ยยยยยย ผู้ชายอย่างเมลนี่ทำไงจะได้อ่าาา :man1: :man1:
ต้องทำบุญด้วยอะไร มันแบบบ คือเป็นผู้ชายที่มุ้งมิ้งน่ารักมาก จิตใจดี ความคิดก็ดี หน้าตาก็ดีอีก พ่อยอดขมองอิ่ม บอยเฟรนด์ที่ประเสริฐเลิศเลอ ละดูเวลาที่พูดถึงเท็นเท็นนะคือนางโคตรเอ็นดูอ่ะ โคตรน่ารักเลย :heaven
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 19-02-2014 22:33:11
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 19-02-2014 22:44:58
เง้อออออออออออออออออออออออออออออออออ

ตอนหน้าไปลอยกระทง

มายด์หรอ มายด์มั้ย

โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หรือมีอะไรมากกว่านั้น วิตกไปหมดแล้วววววววววววววว  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 19-02-2014 23:12:58
มายด์สินะ  :hao5:

ยังไงก็เลิฟเท็นๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 20-02-2014 01:47:01
=.=เลือดพุ่ง น่ากลัวจิงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-02-2014 05:26:03
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-02-2014 06:15:09
โอยหน่วงค่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 20-02-2014 07:58:47
ยังงัยก็รักเท็นเท็นเสมอ :กอด1: ปากกับใจตรงกันตลอดๆ

เก่งมากด้วย สมกับเป็นที่รักของเมล

ตอนหน้าไม่อยากคิด สงสารมายด์ อ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-02-2014 10:28:57
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 20-02-2014 12:33:07
ตอนหน้า จะมีเรื่องมายด์ใช่ป่ะ  จะเตรียมทิชชู่ไว้เยอะๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 47 : 19-02-2014 (Page.39)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 20-02-2014 19:32:56
ยังไงก็ยังคงรักเท็น ชอบเท็น ปลื้มเท็นที่สู๊ดดดดดดดด
 :katai2-1: :katai2-1: :hao5: :hao5:
ต่อไวๆนะคะ
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-02-2014 22:42:03
http://www.youtube.com/v/TNsX6M9g0xQ

ตอนที่ 48

“เท็นชอบแบบไหนคะ เทียนหอมก็ดีนะคะ เก๋ไปอีกแบบ”

การกลับมาของผู้หญิงหมายเลขเจ็ดทำให้ชีวิตผมสะกดคำว่า 'บัดซบ' ได้เป็นครั้งแรก เธอหอบเอารูปแบบการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย หนังสือคอลเลคชั่นชุดแต่งงาน ไปจนกระทั่งรายชื่อแขกที่ทางพ่อกับแม่ของเธอลิสท์มาให้

เหมือนโดนสิบล้อเข้าชนโครมแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะหลังจากที่เธอหายหน้าไปก็กลับมาพร้อมหายนะ อะไรคืองานแต่ง? ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หมั้น อะไรจะข้ามขั้นตอนกันขนาดนั้นวะ? หมั้นเช้าแต่งเย็นนี่แผนการรัดกุมไปมั้ย?

“คุณเคนครับ ต่อสายถึงป๋าให้ผมทีครับ ผมมีเรื่องจะคุย”

คุณเคนที่ถูกส่งมาจัดการกับเรื่องนี้พยักหน้ารับทันที ผมเบือนหน้ามองออกมาดูวิวนอกหน้าต่างแทนใบหน้าของผู้หญิงที่กำลังพร่ำพูดอย่างไม่สนใจว่าผมจะฟังไหม อะไรดลใจให้คิดการใหญ่ขนาดนั้นก็ไม่ทราบได้

“คุณเท็นครับ ท่านอยู่ในสายแล้วครับ”

“ขอบคุณครับ

ผมรับโทรศัพท์จากคุณเคน แล้วเดินออกมาคุยนอกห้องรับแขก

(หลังจากที่ไม่ยอมรับสายฉันมาหลายเดือน ตอนนี้แกมีธุระอะไร)

“ผมมากกว่าที่ต้องถามว่าป๋าให้ผู้หญิงคนนั้นมาทำธุระอะไรที่นี่กันแน่ เล่นตลกเหรอ? บอกเลยว่าผมขำมาก”

(แกเจอหนูเฟื่องแล้วเหรอ)

“ใครคือเฟื่อง ผมไม่รู้จัก เห็นแต่ผู้หญิงน่ารำคาญที่ป๋าอยากได้ไปเป็นสะใภ้จนตัวสั่นน่ะครับ เหตุผลดีๆ สักข้อมีไหม หรือเพราะพ่อแม่ยัยนั่นมีธุรกิจใหญ่ที่พอจะทำให้บริษัทป๋าก้าวหน้าขึ้นไปอีกงั้นเหรอครับ”

(แกกล้าดียังไงมาพูดจาดูถูกฉันแบบนี้!)

“แล้วป๋ามีสิทธิ์อะไรมาบงการชีวิตผม!! ผมรักษาสัญญาจนถึงที่สุดแล้ว แต่ป๋าไม่เคารพในการตัดสินใจของผมเลย ผมบอกแล้วว่าถ้าผมเรียนจบ ผมจะทำตามที่ขอ แล้วนี่อะไร ป๋าให้ผู้หญิงคนนี้มาบอกผมว่าผมต้องแต่งงานต้นเดือนหน้างั้นเหรอ ถ้าป๋าจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็อย่ามาเรียกร้องอะไรจากผม! ที่ผมเคยบอกว่าจะทำให้ถือว่าไม่ได้พูดก็แล้วกัน!”

(แก...)

ผมไม่ชอบคนที่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ชอบคนที่ใช้วิธีอย่างนี้เพื่อบีบบังคับคนอื่น ผมเกลียดการมัดมือชก เกลียดเวลาที่เจอปัญหาแล้วไม่มีตัวเลือกไหนให้เลือกสำหรับเป็นทางออกได้นอกจากยอมจำนน

“ขอบคุณที่เลี้ยงดูผมมา แต่ผมคงต้องเนรคุณป๋าแล้วล่ะครับ ...ผมอยากให้ป๋าเข้าใจว่าผมไม่ได้เลือกคนอื่น หรือเห็นคนอื่นดีกว่าป๋า แต่ผมเลือกความสุขของตัวผมเอง ผมเห็นแก่ตัวผมยอมรับ แต่ผมคงฝืนตัวเองไม่ได้จริงๆ ผมจะไม่ไปให้ป๋าเห็นหน้าอีก ดูแลตัวเองนะครับ ส่วนแม่ของผม ผมจะดูแลท่านเอง ไม่ต้องห่วง”

คนที่ยื่นคำขาดมาก่อนไม่ใช่ผม และตอนนี้ในเมื่อผมเลือกคำตอบของผมแล้ว ก็คงต้องยอมทำตามเงื่อนไขของป๋า คือเราคงต้องหันหลังเดินกันคนละทาง

ส่วนแม่...ผมก็หวังว่าป๋าคงไม่ใจร้ายพอจะพูดเรื่องนี้ให้แม่ฟัง อย่างน้อยก็ให้ผมได้เป็นคนไปบอกท่านเอง แม่น่ะ...เข้าใจผมอยู่แล้ว ท่านจะต้องไม่เป็นไร

หลังจากวางสายจากป๋าแล้ว ผมก็ทำแค่ยื่นนิ่ง มือที่ไร้แรงทั้งสองข้างยังคงสั่นเทา

นี่คงเป็นครั้งที่สอง...ที่ผมกับป๋าทะเลาะกันรุนแรงอย่างนี้

ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร...ผมน่ะ โคตรเสียใจเลย เพราะผมก็รักป๋าไม่น้อยไปกว่าที่รักแม่เลยสักนิด

“คุณเท็น! คุณเท็นครับ!!! คุณเท็นอยู่ไหนครับ!” เสียงของคุณเคนดังก้องไปทั่ว จับน้ำเสียงได้ว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เพราะน้อยครั้งที่คุณเคนจะมาดหลุด ทำเสียงดังขนาดนี้

“ผมอยู่นี่ครับ”

หน้าตาตื่นๆ ของคุณเคนทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้

“มีอะไรเหรอครับ”

“เมื่อกี้คุณกัสโทรมาครับ บอกว่า คุณเมลกับคุณมายด์ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล! รีบๆ ไปดีกว่าครับ”

ผมเคยแปลกใจว่าทำไมเวลาคนที่ตกใจถึงชอบปล่อยของที่อยู่ในมือให้หล่นพื้น พอมาเจอกับตัวจริงๆ ผมถึงได้เข้าใจ เพราะทั่วทั้งร่างมันชาจนแทบไม่มีแรง ปากได้แต่อ้าค้าง อยากพูดออกมาแต่ก็ไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดให้เป็นประโยคได้

“คุณเท็นครับ ทำใจดีๆ ไว้ ไปกันเถอะครับ ผมจะขับรถให้”

ต้องขอบคุณคุณเคนที่มาส่งผมที่โรงพยาบาล เพราะลำพังตัวผมเองคงขับรถมาไม่ถึงแน่ ความกังวลมาพร้อมกับคำถามมากมายว่าตกลงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมบอกให้มันรออยู่ที่บ้าน สี่ทุ่มจะรีบกลับ แค่ออกมาคุยธุระ แล้วอุบัติเหตุบ้าๆ นั่นมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ถ้ามันเชื่อผม ถ้ามันฟังสักนิด จะเป็นอย่างนี้มั้ย! ทั้งเป็นห่วง ทั้งโกรธ แต่ในใจก็ยังอยากให้มันปลอดภัย

ผมมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เห็นไอ้กัสยืนรอกับไอ้ฟิวอยู่ก่อนแล้ว ไอ้กัสดูเหมือนคนบ้า แต่ไอ้ฟิว สภาพมัน...

“เท็น!” ไอ้กัสเรียกชื่อผมดังลั่นก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผมไว้ มันดูไม่ไหวจริงๆ เมื่อกำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดผม คงอดทนมานานมากแล้ว ไอ้กัสจะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่อต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งให้ไอ้ฟิว

“มันเกิดอะไรขึ้น...เล่าให้กูฟัง กัส มันเกิดอะไรขึ้น”

ไอ้กัสพยายามเช็ดน้ำตา กลั้นเสียงสะอื้นจนสำเร็จแล้วก็เริ่มเล่าด้วยเสียงที่บังคับไม่ให้สั่น

“ไอ้ฟิว...ทะเลาะกับไอ้มายด์ กูไม่เคยเห็นพวกมันเถียงกันเสียงดังขนาดนั้นมาก่อน แล้วไอ้มายด์มันก็ออกไป ไอ้เมลมันบอกให้กูอยู่ดูฟิว แล้วมันก็ไปตามไอ้มายด์ กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น รู้อีกทีก็ตอนที่ตำรวจโทรมาบอกว่ารถของไอ้มายด์ชนกับรถตู้ ให้ตามมาที่โรงพยาบาล...” ไอ้กัสตาแดงก่ำ มันยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ “เมลมันยังมีสติ ก่อนเข้าห้องไป มันถามหาแต่มึง แต่ไอ้มายด์...”

ไอ้กัสพูดอะไรต่อไม่ได้อีก ผมหันมองไอ้ฟิวที่นั่งคุดขู้อยู่บนพื้น ซบหน้าลงกับเข่าตัวเอง ตัวสั่นเทาจนน่ากลัว ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา แต่ผมรู้ว่ามันคงกำลังร้องไห้อยู่เงียบๆ

ผมเดินเข้าไปหามัน รวบตัวมันมากอดไว้ แค่เห็นว่าเป็นผม มันก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง เอาแต่พูดโทษตัวเอง จนถึงตอนนี้...ถ้าจะบอกว่าคนในใจของไอ้ฟิว...ไม่ใช่เมลอีกต่อไปแล้วคงจะไม่ผิด

“คำพูดสุดท้ายที่กูพูดกับมัน...กูไล่มัน กูบอกว่าถ้ามันตายไปซะกูคงมีความสุข แต่กูไม่ได้ตั้งใจ กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย กูอยากขอโทษ... อยากขอโทษ มันจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย บอกกูสิเท็น ว่ามันจะไม่เป็นไร”

ผมยืนยันอะไรกับไอ้ฟิวไม่ได้เลยได้แต่กอดมันอยู่เงียบๆ ไม่นานนัก พวกไอ้เต๋อก็ตามมาสมทบ พวกมันบอกผมเบาๆ ว่าเพิ่งไปโรงพักกันมา สภาพรถคันละหลายล้านของไอ้มายด์มีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก ที่นั่งฝั่งคนขับยุบไปกว่าครึ่งด้วยแรงกระแทกของรถที่ขับด้วยความเร็วเกินร้อยมาทั้งสองคัน คนขับรถคู่กรณีเสียชีวิตคาที่เพราะคอหัก ...เรื่องที่ได้รับรู้ทำเอาผมใจกระตุกวูบไปทันที

จากกล้องวงจรปิดที่ ไอ้แต้มบอกว่ารถตู้มันพุ่งมาทางเลนที่รถของไอ้มายด์กำลังวิ่งอยู่ ตำรวจบอกว่าที่ศพของคนขับรถตู้ชันสูตรแล้วพบแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นจำนวนมาก คงดื่มมาพอสมควรนั่นแหละครับ

“พวกมันเข้าไปนานยังวะ” ไอ้เต๋อถามขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ มันอยู่ในชุดนอน คงเตรียมตัวจะเข้านอนแล้ว แต่คนอื่นๆ ที่มาด้วยยังอยู่ในชุดออกเที่ยวเต็มยศ

“อืม”

“พวกมึงกินอะไรหน่อยมั้ย เดี๋ยวกูไปซื้อนมซื้อน้ำอะไรมาให้” ไอ้แต้มที่หน้าซีดไม่แพ้ไอ้กัสถามขึ้น

“ฟิว เอาอะไรหน่อยมั้ย น้ำเปล่าก็ยังดี” ผมก้มลงถามคนที่นั่งเอาหัวพิงไหล่ผม หน้าตามันดูอ่อนเพลียมาก คงเพราะร้องไห้มานาน จนถึงตอนนี้น้ำตาของมันก็ยังคงไม่หยุดไหล

“พวกมึงซื้อน้ำเย็นๆ มาให้กูสักขวดละกัน เอานมมาด้วยก็ดี เผื่อไอ้ฟิวมันอยากกิน” ผมสรุปความตามนั้นถึงไอ้ฟิวมันจะส่ายหน้าบอกถึงความไม่ต้องการก็เถอะ

ไอ้แต้มกับไอ้เขตอาสาไปซื้อที่เซเว่นในโรงพยาบาลมาให้ คล้อยหลังพวกมัน ความเงียบก็เข้ามาปกคลุมดังเดิม

ไม่คิดเลยว่าผมจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ถึงสองครั้งสองครา บอกไอ้ปลื้มก็คงไม่ดีหรอก ให้เมลหายดีแล้วค่อยบอกมัน เพราะลำพังแค่เรื่องของไอ้พี่โปรด ไอ้ปลื้มก็แทบจะไม่กินไม่นอนอยู่แล้ว

ผมรู้สึกไม่ดีจริงๆ เพราะไม่ได้เห็นว่าเมลกับไอ้มายด์เป็นอย่างไรก่อนเข้าห้องฉุกเฉินไป เลยได้แต่นั่งกระวนกระวายรอคำตอบจากหมอเพียงเท่านั้น

“มันนานเกินไปแล้วนะ ถ้าหมอไม่รีบออกมากูจะพังประตูเข้าไปจริงๆ ด้วย!” อยู่ดีๆ ไอ้ลินก็โวยวายขึ้นมา ทำท่าจะพังประตูห้องฉุกเฉินเข้าไปจริงๆ แต่ไอ้คิมกับไอ้เต้ก็รั้งตัวมันไว้ได้ทัน

“มึงจะเข้าไปรบกวนหมอทำไม เขากำลังช่วยเพื่อนพวกเราอยู่นะ” ไอ้คิมตบหัวไอ้ลินเพื่อเรียกสติ

“โทษทีว่ะ กูใจคอไม่ดีจริงๆ”

ไม่ใช่แค่ไอ้ลินที่รู้สึกอย่างนั้น ไม่ว่าใครที่รออยู่ที่นี่ ผมก็คิดว่าคงรู้สึกไม่ต่างกัน แต่ไอ้ฟิวคงจะมากกว่าใครเพื่อน มันอ้วกออกมาเลอะกางเกงเต็มไปหมด เสื้อของผมก็โดนไปด้วย แต่ผมก็ทำได้แค่นั่งลูบหลังมันโดยไม่ขยับหนี

“ไอ้เขตมาพอดี มึงรีบๆ เอาน้ำมา เร็วๆ” ผมร้องบอกไอ้เขตที่รีบวิ่งมาหาทันที ส่วนไอ้แม็คอาสาไปตามพยาบาลกับแม่บ้านมาให้

“ใจเย็นๆ ฟิว ไอ้มายด์ต้องไม่เป็นไร พ่อของไอ้เมลเก่งจะตายไป เดี๋ยวทุกอย่างต้องเรียบร้อย” ไอ้แต้มพูดปลอบ แต่ใบหน้ามันกำลังฝืนยิ้มเต็มที

ไม่รู้ว่าทุกอย่างต้องเรียบร้อยของไอ้แต้มจะมาถึงเมื่อไหร่ นั่งรอกันจนเกือบตีสาม เตียงของเมลก็ถูกเข็นออกมา แผลที่หัวที่เคยโดนด้ามปืนฟาดคงแตกอีกที เพราะผมเห็นเลือดยังซึมออกมาตำแหน่งเดิมที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ แขนซ้ายถูกเข้าเฝือกอ่อนไว้ นอกนั้นก็ดูจะปลอดภัยดี แต่มันยังคงไม่ได้สติ คงเพราะถูกยาสลบ

“พ่อครับ...” ผมรีบเข้าไปหาพ่อของเมลทันที เขาเดินตามหลังเตียงของเมลมา

“เท็น เมลปลอดภัย ทุกอย่างโอเค หายห่วง พรุ่งนี้เช้าก็ตื่น”

“แล้วไอ้มายด์...”

“เดี๋ยวเท็นตามไปคุยกับพ่อที่ห้อง”

ผมเหลือบมองหน้าเพื่อนๆ พวกมันพยักหน้าให้ ก่อนจะเข้าไปรุมเตียงของเมลที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เข็นไปที่ห้องพิเศษ เว้นแต่ไอ้ฟิวที่ยังคงนั่งมองประตูห้องฉุกเฉินอยู่คนเดียว

ผมตามคุณพ่ออเล็กมาที่ห้องทำงาน ท่านดูเครียดและมีแต่ความกังวล มันทำให้ผมแน่ใจว่า...เรื่องที่จะได้รับรู้ คงไม่ใช่ข่าวดี

“มีใครพอจะติดต่อพ่อของน้องมายด์ได้บ้างมั้ยเท็น”

“ทำไมเหรอครับ”

คำตอบที่ผมได้รับหลังจากได้เห็นรอยยิ้มเศร้าๆ ของคุณพ่ออเล็กคือ สมองของไอ้มายด์ตายไปแล้ว มีเลือดออกและคั่งอยู่ในสมอง กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลก็สายเกินไป ตอนนี้ไอ้มายด์มีลมหายใจอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น... ผมพูดอะไรไม่ออกไปหลายนาที ได้แต่ทบทวนถึงสิ่งที่กำลังได้ยิน

“พ่ออยากปรึกษาพ่อของน้องมายด์...เรื่องถอดเครื่องช่วยหายใจ มันคงยากที่จะยอมรับ แต่อยู่อย่างนี้ น้องมายด์ก็ทรมาน”

เรื่องแบบนี้คงต้องให้ผู้ปกครองของไอ้มายด์เป็นคนตัดสินใจ

“อาการอื่นๆ ล่ะครับพ่อ”

“ซี่โครงหัก คงถูกกระแทกแรงน่าดู เมลยังพอมีสติบ้างตอนที่พ่อเรียก แต่น้องมายด์ไม่รู้สึกตัวเลย ยังไงเดี๋ยวพ่อขอตัวไปโทรศัพท์ก่อนนะ”

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าคิดผิดมากที่ต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้แต่เพียงลำพัง...เพราะผมไม่รู้ว่าจะบอกพวกเพื่อนๆ ยังไง ผมไม่รู้เลยว่าจะบอกไอ้ฟิวยังไงไม่ให้มันต้องร้องไห้มากไปกว่านี้

แต่สุดท้าย...ความจริงก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหนีมันพ้น

ไม่ว่าผมจะพยายามปลอบใจใครยังไง...แต่ความจริงก็มีเพียงแค่...ไอ้มายด์กำลังจะจากพวกเราไป

ผมเดินกลับมาที่หน้าห้องฉุกเฉิน ที่ตอนนี้พวกเพื่อนๆ ยังคงอยู่กันครบ เตียงของเมลคงถูกเข็นไปที่ห้องพิเศษแล้ว แต่ที่พวกมันยังไม่ไปไหน คงเพราะกำลังรอเพื่อนอีกคน

“เท็น...คุณลุงว่าไงบ้าง ไอ้มายด์ล่ะ ทำไมมันยังไม่ออกมา” ไอ้เขตถามด้วยสีหน้าที่แย่เต็มที

คำถามของไอ้เขตตามมาด้วยความเงียบที่ไม่มีใครตั้งใจก่อ แต่เพราะผมไม่ได้ตอบและพวกมันยังคงรอ บรรยากาศในตอนนี้ถึงได้แย่เต็มที

“มันยังอยู่ข้างใน...”

ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหน...แต่การได้เห็นไอ้แต้มกับไอ้ลินปาดน้ำตาออกจากแก้มก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า...สีหน้าผมกำลังแย่เต็มที

“แค่รอพ่อของไอ้มายด์มาตัดสินใจ...ว่าจะถอดเครื่องช่วยหายใจออกตอนไหน” ผมบอกก่อนจะเบือนหน้ามองไปอีกทางที่ไม่ต้องเห็นสีหน้าของเพื่อนแต่ละคน

“ไม่จริง! มึงโกหก! ไม่จริง! กูไม่เชื่อ! มึงโกหก โกหก”

เพราะมันรวดเร็วเกินจะตั้งตัวกันไหว ไม่มีใครสามารถปลอบใครได้ พวกผมทำได้แค่ยืนให้น้ำตาไหลลงมาเงียบๆ ในขณะที่ไอ้ฟิวร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร มันนั่งอยู่หน้าประตู ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาแนบชิดอยู่กับบานประตู ปากได้แต่พร่ำเรียกหาแต่ไอ้มายด์อยู่อย่างนั้น

“กูขอโทษ...ไม่พูดอีกแล้ว กูขอโทษ มายด์ มายด์ได้ยินมั้ย...ได้ยินมั้ย...”

ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองยืนมองไอ้ฟิวร้องไห้อยู่นานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีมันก็ช็อคไปแล้ว มือที่กำลังเกร็งแน่น และน้ำตาที่ไหลไม่หยุดของมัน ทำเอาผมกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปอีกคน พี่พยาบาลรีบมาช่วยตามที่ไอ้เขตวิ่งไปตามมา โชคดีที่ได้ผ้าเช็ดหน้าของไอ้กัสมาให้มันกัดไว้ ไม่อย่างนั้นก็คงลิ้นขาดไปแล้ว

“พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอวะ... ทำไมกูมันโคตรไร้ประโยชน์เลย เพื่อนจะเป็นจะตายแต่ทำได้แค่ยืนดู” ไอ้เต๋อตาแดงก่ำ มันร้องไห้ออกมาตอนเห็นไอ้ฟิวชักไปต่อหน้าต่อตา

พวกผมมาออกันอยู่หน้าห้องที่ไอ้ฟิวถูกพาตัวเข้าไป แต่ละคนดูอ่อนเพลียและเหมือนพร้อมจะสติแตกได้ทุกเมื่อหากเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนคนอื่นๆ อีก

“ไม่ใช่ความผิดมึง แล้วก็ไม่มีใครผิดด้วย... พวกมึงกลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้ตอนเช้าๆ ค่อยมากัน เดี๋ยวกูจะไปหาเมล”

“เราจะเข้าเยี่ยมไอ้มายด์ได้เมื่อไหร่” ไอ้เขตถาม

“ไว้กูถามพ่อของเมลให้ ตอนนี้มีใครพอจะติดต่อพ่อมันได้บ้าง หรือญาติคนอื่นๆ ของมันก็ได้”

“ไอ้มายด์ไม่มีใครแล้วนอกจากพ่อมัน แต่พ่อมันตอนนี้คงอยู่ต่างประเทศ” ไอ้ลินเป็นคนให้คำตอบ

“อืม ไว้ยังไงพรุ่งนี้เจอกัน กูไปหาเมลก่อน”

แยกย้ายกับคนอื่นๆ แล้ว ผมก็มาที่ห้องพักผู้ป่วยของเมล มันยังคงหลับอยู่ ผมเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียง ยกมือข้างที่ไม่บาดเจ็บของเมลขึ้นแนบกับแก้ม

อุ่นดีจัง...ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจมากแค่ไหนที่มือคู่นี้ยังคงอุ่นเช่นเคย แต่ในอีกความรู้สึก...ที่ต่อให้จะรู้ว่าดีใจมากแค่ไหน ก็ยังคงยิ้มไม่ออก

จะบอกเมลยังไงเรื่องไอ้มายด์... จะบอกยังไงว่าเพื่อนที่มันรักที่สุดกำลังจะจากมันไปแล้ว

“เมล...เครื่องหยุดเวลาที่มึงอยากได้ กูจะสร้างได้มั้ยนะ...”

คงดีนะ...ที่จะหยุดเวลาไว้... แต่ผมไม่ได้อยากหยุดเวลาของผมหรอก ผมอยากหยุดให้ไอ้ฟิวมันต่างหาก...

หยุดไว้...แค่เวลาที่พวกมันสองคน ได้มีความสุขด้วยกัน

...........................................To be continue.................................................

 :กอด1: มายด์!!!  :a5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 20-02-2014 22:49:37
ตายเลย
น้ำตาท่วมตอนอ่าน ถึงจะรู้ว่าต้องมีฉากนี้แต่ว่า..  ก็ใช่ว่าจะรับไหว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 20-02-2014 22:54:15
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
 :ling3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-02-2014 22:56:00
 :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 20-02-2014 22:56:19
รู้สึกเรื่องดำเนินไปเร็วมาก เมื่อเทียบกับเรื่องของน้องปลื้ม
ช่วงประมาณนี้หรือเปล่าที่เท็นจะหายตัวไปอีก??? เทียบกะตอนพิเศษของน้องปลื้ม
คงเป็นเหมือนตราบาปในใขฟิวเลยนะ ไล่ให้เค้าไปตายแล้วเค้าก็กำลังจะตายจริงๆ
ฟิวคงโทษตัวเองน่าดู ดูๆไปฟิวก็เหมือนๆจะมีใจให้มายด์อยู่นะ นี่สินะรู้ตัวว่ารักก็อยู่ก็สายเกินไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 20-02-2014 23:01:48
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

โอยยยยยยยย ทำใจไม่ได้ มายด์ ทำไมน่าสงสารยังงี้

นี่ขนาดบรรยายแค่นี้ น้ำตาก็ไหล รู้สึกผูกพันธ์อ่ะ ถึงรู้มาก่อนแต่ก็ยังทำใจไม่ได้

 :o12: :o12: วิ่งร้องไห้ซบหมอน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 20-02-2014 23:02:21
น้ำตาคลอแต่ไม่ไหลลงมา

เพราะเตรียมใจไว้แล้ว

มันเลยหน่วงๆ อัดอั้น มากกว่าจะร้องไห้โฮ

T____________________T
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 20-02-2014 23:05:52
น้ำตาคลอเลยอ่ะ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

สงสารฟิวอ่ะ สงสารมาก ไม่รู้อะ มันแบบ ตัน หน่วงคิดไรไม่ออก

มายด์อีก พออ่านตอนนี้ แล้วคิดถึงตอนก่อนที่พูดถึงความรู้สึกมายด์แล้วมันแบบ .....

ฟิวต้องรู้สึกผิด ที่พูดให้มายด์ไปตาย ไปทั้งชีวิตแน่ ฮือออออออออออ คนแต่งใจร้ายยยย  :z3:

 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 20-02-2014 23:07:41
สงสารมายด์...... แต่สงสารฟิวมากกว่า ฟิวคนที่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คือจะอยู่ต่อไปยังไงวะกับการที่ต้องอยู่กับความรู้สึกที่เหมือนกับทำให้ใครสักคนตาย...  รู้สึกแย่รู้สึกผิด ฮือออออออออออออออออออออ
มันอาจจะไม่ใช่ความผิดฟิว แต่ยังไงก็คิดว่าฟิวต้องโทษตัวเอง..... ฟิวต้องเข้มแข็งนะ  :hao5:

ฮืออออ มายด์   :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 20-02-2014 23:19:52
เศร้าโว้ยยยยยยยยยยยย
ฮืออออออออ
คือหลังจากที่อ่านตอนพิเศลอยกระทงก็เศร้าแล้วล่ะ คิดไว้ว่าเดี๋ยวต้องได้อ่านแน่ตอนมายด์เจอเรื่องเนี่ย แต่ไม่คิดว่าแม่งจะเศร้าทำเอาใจกระตุกขนาดนี้ สงสารทุกคน แม่งเอ้ยยยยย //อินไปละ

พ่อเท็นก็โอ้ย ทำไรเนี่ย เท็นต้องเจอแต่เรื่องพร้อมกัน แต่ก็ดีที่เข้มแข็งพอ

เศร้าว่ะ อ๊ากกกกก เมลนี่รู้ละว่าไม่เป็นไร แต่มายด์ งืออออ ต้องไม่เป็นไรนะ ต้องหายนะ :o12:

มาต่ออีกนะๆ ฮืออออ พิมพ์ไปปาดน้ำตาไป เศร้าว้อยยย

 :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 20-02-2014 23:22:18
ทำไมต้องทำกับมายด์แบบนี้  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 20-02-2014 23:34:59
โอยยยยย  น้ำตาไหลพรากเลยข่าาาาาาาา
มายด์อ่าาาาาาาาาาาาาา   T_______T
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 20-02-2014 23:43:18
ฟังเพลงนึงอยู่พอดี อ่านตอนนี้ปุ๊ป หดหู่ไปเลย
ทำไมชีวิตโหดร้ายขนาดนี้
T____T
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 20-02-2014 23:49:02
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 20-02-2014 23:51:37
 :hao5: :hao5: :hao5:
มันสุดจะบรรยายอ่ะ
คือมันมาหลายทางเกินไป
สงสารทุกคนเลย ขอเยอะให้ เท็น เมล ฟิว มายด์ พิเศษหน่อย
มันจุก หน่วง ไปหมดอ่ะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 20-02-2014 23:55:32
ทำใจไม่ได้  สงสารฟิวด้วย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-02-2014 00:03:42
สงสารมายด์ฟิวส์ :sad4: :sad4:
กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 21-02-2014 00:09:43
ก็รู้ว่ามายด์จะตาย แต่มาอ่านฉากนี้ก็น้ำตาไหลอยู่ดี ฮึกกกก  :mew6: :mew6:
มาต่อเรื่อยๆ นะคะๆ รอๆ  :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 21-02-2014 01:07:52
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: magicaltai ที่ 21-02-2014 01:14:12
ทำใจไว้สักพักแล้วนะสำหรับเรื่องของมายด์ แต่ก็พอมาถึงจริงๆแล้ว มันไม่ได้ช่วยได้เลยจริงๆ  :hao5:
สงสารฟิว สงสารมายด์ แต่....
ฟิวส์สู้ๆ นะ ต้องผ่านไปให้ได้นะ  :กอด1:

เพลงนี้สำหรับมายฟิวส์   :กอด1:
"จะเก็บมันเอาไว้ในใจ เมื่อครั้งมีเธอ
และฉันรู้สึกครั้งนี้ยังไง.....
ให้เป็นความคิดถึง แม้นานเท่าไหร่
เธอจะอยู่ในใจ เป็นเรื่องจริงในความทรงจำ"

http://www.youtube.com/v/qnGTC8EUUes

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ปล คิดถึงพี่โปรดจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 21-02-2014 01:22:38
 :sad4:ว่าจะไม่อ่านตอนนี้แล้วแท้ๆถึงจะรู้เรื่องมายด์จากเรื่องเสี่ยโปรดแล้วก็เถอะ ทำใจยากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Ari ที่ 21-02-2014 05:16:23
ไม่เอาน้าาาาาาาา มายด์ไม่ตายได้มั้ย TT
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 21-02-2014 06:00:44
มายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยด์  :z3: :z10: :sad4: :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-02-2014 06:11:42
ขนาดเป็นแค่คนอ่านยังอึ้งเลยอ่า แล้วฟิวจะเป็นยังไง ทรมานแค่ไหนกัน :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2014 06:49:04
เศร้ามาก
ไม่อยากให้มายด์ตายเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 21-02-2014 07:42:43
 :o12: มายด์
ขนาดรู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ก็น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 21-02-2014 08:04:40
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ทรมาน สงสารมายด์
ทำไมอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
จะมีปฎิหารไหม
ขอไว้สักคู่ได้ไหหม ไม่ใช่แค่ ฟิวและผ่องงเพื่อนที่ทรมาน
อิคนอ่านก็ทรมานไปด้วย
คุณคนเขียน ขอร้องละ ขอมายด์ไว้สักคน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 21-02-2014 08:05:29
น้ำตาท่วมเลยตอนนี้อ่ะ  :sad4: :sad4:

มายด์ไม่ตายได้ไหมอ่ะ ทำใจไม่ได้ :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 21-02-2014 08:28:31
อ่านอย่างสงบเสงี่ยม พูดได้คำเดี๋ยว "มันสายเกินไป"
ฟิวคงแย่หนักเลยเพราะคิดว่าเป็นความผิดตัวเอง
เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 21-02-2014 08:34:51
มายด์ตาย  :hao5: ทำไมต้องตายหลังจากที่ฟิวพูดแบบนั้นด้วย

ฟิวคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ แถมยังรู้ใจตัวเองเมื่อสายไปแล้วอีก

อยากให้เท็นหาทางช่วยให้สมองมายด์กลับมาทำงานได้มากกว่าทำเครื่องหยุดเวลาอ่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-02-2014 10:15:16
 :mew4: สงสารมายด์ ชีวิตที่ไม่รู้สึกว่าเป็นที่รักของใคร มันเจ็บมากอยู่แล้ว  ยังมาได้คำพูดของคนที่รักไล่ให้ไปตาย มันคงปางตาย
แล้วยังต้องมาจากไปด้วยความรู้สึกนี้อีก

 :monkeysad: ฟิวความรู้สึกผิดบาปคงติดตัวไปตลอด ยิ่งถ้าเพิ่งรู้ว่ารักมายด์ด้วยแล้วคงไม่มีอะไรเจ็บปสดได้เท่านี้อีกแล้ว

ปาติหารย์ไม่มีสินะ .......

ทิชชู่หมดไปหลายแผ่นแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 21-02-2014 10:18:57
 :hao5: :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-02-2014 13:54:13
สงสารมายด์ แต่ไม่สงสารฟิว
อย่าว่าเค้านะ ...
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-02-2014 20:13:05
อย่าเพิ่งจากไปเลยนะมายด์ อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยมือจากฉันไป.. ขอบคุณ :(
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: minus27 ที่ 22-02-2014 00:58:52
ใจร้ายที่สุดเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: mommee ที่ 22-02-2014 21:13:05


ตามมาจาก มาโปรด  อ่านรวดเดียวจนถึง ณ ปัจจุบัน
ก่อนอื่นต้องบอกว่าชอบมากกกก มุมน้องเท็นตอนที่อ่านจากมาโปรดอิมเมจยังไม่ชัดเจนคงเพราะโผล่มาเป็นเกสต์ เลยยังไม่ค่อยรู้สึกไรอะไรกับเท็นเท่าไหร่

แต่ แต แต่ พอมาอ่านเรื่องที่น้องเป็นตัวนำ เออ อิมเมจมันชัดขึ้น มันน่ารักขึ้น น่ารักมาก น่ารักฝุดๆ  ท่านพะชอนที่ร้าก ท่านเทพ ท่านเก่ง ชาบูวววววว  :impress2:

คืออยากจะบอกว่าเราชอบนางเอกของคุณคนแต่งเป็นพิเศษค่ะ ทั้งสองเรื่องแล้วที่สะดุดกับนิสัยของนายเอกมากๆๆๆ คือปกติเราจะเป็นพวกอวยเคะ อวยนายเอกอยู่แล้ว ยิ่งมาแบบ ซึนๆ มึนๆ เอ๋อๆ นี่โคตรจะหลงเลย มันทำให้เราอยากตามเรื่องนั้นเพราะอิมเมจของนายเอกแบบนี้

แต่บอกเลยว่า ในความชอบนั้น ตัวละครของคุณพิเศษขึ้นมาหน่อยตรงความซื่อ ซื่อจริงๆ ไม่มีแบ๊ว ซื่อสัตย์กับหัวใจและความรู้สึกตัวเองมาก  ไม่ชอบนางเอกที่เป็นนางเอก ติดภาพนางเอกจัดๆ ทำอะไรต้องมีภาพนายเอกอ่านแล้วแบบนั้นไม่ชอบ พาลจะหมันไส้ด้วย

(ตอนที่อ่านช็อตที่เท็นเท็นด่าพี่เมล์ว่าเป็นพระเอกหรือไงอิตอนที่ทำใจดีกับฟิวพร่ำเพรื่อ เป็นไรที่เราตบเข่าดังป้าปเลย โอยย ถูกใจ นี่แหละเราไม่ชอบแบบนี้ คืออย่ามาพระเอก อย่ามานายเอกได้ปะ  เรื่องบางเรื่องทำตามหัวใจบ้างก็ไม่ได้มีใครว่าเป็นตัวร้ายนะ อย่ามาทำตัวแสนดี หงุดหงิดๆๆ)

แต่ทั้งน้องปลื้ม และ เท็นเท็น นี่เกินคาด ในความซื่อทั้งสองคนไม่ได้โง่ ไม่ได้อ่อนแอตามที่คนภายนอกเห็น แต่แบบ นางคิดเป็น นางรู้ว่าต้องทำอะไร นางรู้ว่าอะไรที่ตัวเองต้องการ แต่ในกรณีของท่านเท็นอาจจะซับซ้อนหน่อยๆ ในตอนแรกเพราะว่านางก็นะ อย่างที่รู้กัน,,,,นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ชอบน้องปลื้มน้องเท็นมากเลย   :o8: :-[

คือบอกได้เลยว่าตั้งแต่อ่านมาทั้งมาโปรดและเท็นเท็นเนี่ย ไม่ว่าจะเจอมาม่าแบบไหน (โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินเท่าไหร่  แต่มาม่าที่คุณเสิร์ฟเป็นอะไรที่เริ่ดรส คือมันไม่เลี่ยน มันไม่เอียนและไม่อืด  ไอ้ความหน่วงที่ได้จากเรื่องนี้เป็นความรู้สึกของตัวละครจริงๆ ไม่ใช่แบบจับยัดเยียดให้มาม่า)

อย่างมาโปรดนั่น กระทั่งมีตัวละครที่หลงพระเอกมากจนโรคจิตแต่แบบอ่านแล้วมันไม่รู้สึกแย่ ไม่รู้สึกรำคาญ กลับรู้สึกมันส์ กลับรู้สึกลุ้น เออ แปลกดี คือมันทำไปเพราะโรคจิต คือไม่ได้มาแว้ดๆๆๆๆๆ แบบตัวร้ายละครหลายช่อง คือแบบนั้นเรารับไม่ได้เพราะตัวละครบางตัวก็เรียนดีพื้นฐานสังคมดี แต่มาจะเอาๆ ทั้งๆที่อีกคนไม่เล่นด้วยเราดูแล้วมันเอียน มีทุกเรื่อง คือไอ้อิจฉา ไอ้ชอบแย่งเข้าใจ ถ้าเขาเล่นด้วยนั่นมันพอมีเหตุผลให้ทำตัวแบบนั้น แต่นี่เขาไม่เล่นด้วยแล้วจะด้านเอาเรารับยากอะ ไม่ชอบตัวละครแบบนั้น   แต่ตัวละครของคุณกลับหักมุมตรงที่มันโรคจิต  เออแฮะ แปลกดี (แต่แอบมีน่าเบื่ออีพี่น้องคู่นั้น นั่นก็ด้านเกิ๊นนน แต่ก็นะ เขาเข้าทางแม่พอรับได้)

อย่างตอนที่กัสโดนน้องอะไรนะ(เราลืมชื่อ) ที่ตามมาแบบจะจัดให้หนักทั้งกัสทั้งน้องรหัส เป็นไรที่อ่านแล้วกลัว แล้วก็แอบอิน แอบคิดนิดๆ ว่า สมน้ำหน้า  555 เจ้าชู้ดีนัก  แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณเลวร้าย แล้วท่านเทพพะชอนท่านก็มีมุมมองที่เรากรี๊ดมากกก คิดได้ไงว่าเรียกมาคุยไม่มีประโยฃน์ แจ้งความไปเลย คือแบบเป็นนางเอกคนแรกที่อ่านมาแล้วเอาเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องหนักเรื่องอันตรายที่จะแค่เรียกมาคุยไม่ได้ต้องเอาจริง  คือเราอ่านแล้วเหวอ เพราะมันคิดตามน้องเท็นไงว่า เออ เรียกเขามาเพื่อบอกว่าอย่ายุ่งกับเขามันเป็นอะไรที่บ้าอะ ใครจะฟังพวกแก สมแล้วที่น้องมันด่ากลับมา  เราไม่คิดว่าน้องเท็นร้ายเลย  กลับคิดว่าเขารู้ตัวว่าอะไรเอาอยู่อะไรไม่อยู่ อย่าเสี่ยงดีกว่า

 คือมุมมองหลายอย่างของเท็นทำเอาเราอึ้ง แล้วที่สำคัญนางไม่ใช่พวกคิดสวย โลกสวย แต่ทำไม่ได้แบบที่ตัวเองคิด  นางมีมุมที่คิดสูง แต่พอนางแพ้ นางก็ยอมรับแล้วยอมเปลี่ยน ปรับปรุงตัวเองให้เข้ากลับความคิดใหม่ คือนางแพ้เป็น ชนะเป็น ชอบมากเลยขอบอก มันดูเป็นมุนษย์ดี  มันดูติดดินดีทั้งๆที่นางออกจะไอคิวล้ำหน้าขนาดนั้น  แต่...ไอ้ความบ้า บ๊อง เด็กๆ ของนางเราก็ชอบนะ ดูใสๆดี  น่าร้ากกกกอะ

คืออ่านเรื่องนี้แล้วมองเห็นความแตกต่างของวุฒิภาวะของทั้งแก๊งเลย  ว่า...เด็ก  เด็กจริงๆ  คือมันน่าสนใจมากที่นายเอกเก่งระดับที่คิดได้ทุกอย่าง คิดเป็น แล้วมาจมกับผู้ชายที่ได้แต่หึง ได้แต่น้อยใจ เหมือนจะหงอกับเท็น แต่เมล์ที่มีมุมที่เด็กกว่าเท็นๆเยอะเลย แต่มันก็เป็นอะไรที่แปลกดีค่ะ  เราชอบนะ  ความต่างของสองตัวละครมันกลับดึงดูดเข้าหากันได้แบบว่า  โอยยย อ่านแล้วฟิน

แม้ว่าเวลาอ่านอะเท็นจะอวยเมล์เยอะมากว่าหล่องั้นงี้ แบบแต่เราที่อ่านมาโปรดมาก่อนรู้สึกว่าในมหาลัยพวกมันนี่ไม่น่ามีใครหล่อกว่าเฮียโปรดละ แต่แบบเราอ่านแล้วเรากลับยิ้ม เพราะมันเป็นมุมมองของเท็น เมล์หล่อในสายตาเราเพราะเรามองผ่านสายตาเท็นเท็น   :-[

แต่กว่าจะเห็นความหล่อของเมล์ยอมรับว่าเรารำคาญเมล์ในช่วงแรกๆ  จริงๆ เรารำคาญทั้งกลุ่มเลย  ขอโทษนะ  แต่เราอ่านแล้วกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้มันเหมือนมีไว้แค่ให้ความฮากับเท็น คือแต่ละคนนี่แทบไม่มีประโยชน์  มีแต่สร้างปัญหา 5555 

เริ่มจากฟิว เรารำคาญนางมากกกก นางรู้ว่าทำไมเท็นไม่เข้าเรียนแต่นางก็จู้จี้จนบางทีเราแอบเพลียกะนาง ยิ่งตอนหลังมารู้ว่านางอิจฉาเท็นๆทุกอย่างเลยเข้าใจว่าหลายอย่างที่ทำนี่เหมือนเอาคืนมากกว่าจะเป็นการทำเพื่อเท็นๆ  เลยแอบไม่ชอบนางนิโหน่ยยย (ขอโทษแม่ยกฟิว)  จนกระทั่งถึงตอนล่าสุดที่มายด์กำลังจะจากไปเรากลับไม่สงสารฟิวเลยบอกตรงๆ

เรากลับคิดว่า( อันนี้เป็นความรู้สึกที่เราได้รับสารจากการอ่านนะ อาจจะไม่ตรงกับที่คนแต่งพยายามเสนอ) แต่ต้องบอกว่าเราไม่อินฟิวมายด์เลย  เราเลยขอบคุณคนเขียนที่เขียนให้คู่นี้ไม่สมหวัง(แต่ก็โหดไปนิดที่ทำให้ถึงกับตาย แต่ก็นะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้) เพราะเรารู้สึกว่าระหว่างสองคนไม่มีเคมีความรักต่อกันเลย

เรากลับคิดว่าฟิวทำดีกับมายด์ไม่ใช่เพราะมีใจ แต่เพราะเห็นใจ เพราะหลังๆนางรู้ว่ามายด์รักนาง แต่นางรักตอบไม่ได้เพราะหัวใจมีแต่เมล์  มันเลยเหมือนกับมองเห็นตัวเองพยายามไง ก็เลยพอจะนึกถึงมายด์บ้างบางครั้ง

และเพราะเรื่องเมล์ เราในฐานนะแม่ยกเท็นก็ออกตัวก่อนว่าไม่ชอบบเลยจริงๆค่ะ  แบบว่า เราไม่ชอบที่นางแสดงความเป็นห่วงเมล์เกินหน้าเกินตา ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือรับหลังเท็น  เราเข้าใจว่านางมาก่อน แต่คนเขาไม่รักไม่มีใจให้ ไม่ว่ามาก่อนนานแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ การที่นางไปโกรธเพื่อนตอนนั้นเราเซงนางมากอะ แล้วเท็นมันก็ไม่รู้ด้วยว่าเพื่อนรักเมล์ เห็นด้วยกับเท็นที่น้อยใจเพื่อนนะ  เพราะเพื่อนเห็นผู้ชายดีกว่าตัวเอง แต่นางเก่งไง นางก็พยายามมองผ่าน เพราะถ้าฟิวไม่ใช่เพื่อนนะ เราว่าคงโดนปากขวดฟาดละ  กร๊ากกกก (ยิ่งตอนเมาเราหมันไส้มาก นี่เพื่อนนายเอกหรือตัวโกง 555)

แล้วอีพี่เมล์ก็ผิดด้วยเรื่องนี้ที่ยังยอมให้นางแสดงความหวังดี 

คือเราเข้าใจนะ ก็คนมันรักอะ ให้ทำไงได้ แต่เขามีแฟนแล้วอะ คนที่ควรจะห่างๆไปคือฟิว ฟิวควรเว้นระยะจากเมล์ ไม่ใช่เพื่อเพื่อนอย่างเดียว แต่เพื่อตัวเองด้วย  เพราะฟิวไม่ยอมทำ นางล้ำเส้นตลอด นั่นก็ใจดีตลอดเหมือนกัน นางเลยจมปรักกับเมล์ แล้วอีพี่เมล์ก็พระเอกเกิน จริงอยู่ว่าเป็นเพื่อน แต่ตราบใดที่เขายังคิดกับเราแค่เพื่อนไม่ได้เราต้องถอยแล้วละ  เราปฏิบัติแบบเดิมไม่ได้ นี่มันปัญหาระดับชาติ  คือไม่ได้บอกให้ทิ้งเพื่อนหรือเลิกคบ แต่ต้องไม่ทำให้เขาเกิดความหวัง จะสงสารไม่ได้ เพราะไม่งั้นก็ฉุดให้เขารักเราแบบนี้ไปตลอดอะ เราคิดแบบเท็น อย่าไปใจดีด้วย การไม่ใจดีด้วยไม่ใช่การทำร้าย แต่คือการช่วยเขาตัดใจ  ทำไมไม่มองกลับบ้างว่าฟิวเป็นคนที่ทิ้งคำว่าเพื่อนก่อนนะ ถ้าพี่เมล์จะปฏิบัติกับนางห่างเหินหน่อยเราก็ไม่คิดว่าพี่ผิดอะ  อย่าพระเอกมากนักเลย

นางจมปรักจนไม่สามารถรับความรักของมายด์ได้ ไม่ว่ามายด์จะทำผิดกับนางหรือไม่ เราก็ไม่คิดว่าฟิวจะรักมายด์  คือเราอ่านแล้วเรารู้สึกว่านางควรเว้นช่องว่าง เพราะบางทีเราเป็นเท็นเราก็สงสารนะ ทำไรมากไม่ได้เพราะฟิวคือเพื่อน กลายว่าคนที่ต้องมาเกรงใจคือเท็น ไม่ใช่ฟิว แบบนางร้ายเงียบเราไม่ชอบเลย  เพราะงั้นเลยไม่สงสาร แต่เรากลับเบลมนางเต็มๆ คำพูดนั้นอะ 'ไปตายซะ' ไม่ควรจะพูดกับคนในกลุ่มเพื่อนด้วยซ้ำ  จะสนิทไม่สนิทแต่คำพูดแบบนี้คือร้ายกาจมากที่จะพูดกับใครสักคนหนึ่ง

ยิ่งถ้ามองมุมที่ว่า เกลียดการกระทำที่โดนขืนใจก็เหอะ มันยิ่งแสดงให้เห็นว่านางเกลียดมายด์ใหญ่เลย ไม่ได้รักแน่นอน ไม่งั้นนางไม่กล้าพูดคำนี้ออกมา เราก็เลยรู้สึกกว่าดีแล้วที่ไม่ลงเอยกัน ไม่งั้นมันดูไม่เนียนมากๆ

เราก็หวังว่านางจะได้บทเรียนนะ อย่ายึดติดกับเมล์มาก เพราะนางอาจจะพลาดคนที่รักนางจริงๆไป ถึงคนนั้นจะไม่ใช่มายด์แต่ถ้ายังมัวแต่คิดถึงเมล์ตลอดเวลาจะมองหาคนที่ใช่ของตัวเองได้ไหม  นางต้องยอมรับความจริงแล้วล่ะ
  (ขอโทษฟิวด้วยนะ  แต่ไม่ชอบตัวละครตัวนี้จริงๆ)

แล้วก็แม็คกับเต๋อด้วย การกระทำปัญญาอ่อนมาก  เราไม่ชอบไอ้เรื่องที่จะเอาใครมาประชดเพื่อให้อีกคนรักเลย เรากลับคิดว่า ถ้าเต้ไม่รักก็คือไม่รักเปล่า ที่เราทำได้คือมั่นคงในรักต่อไป ตราบใดที่เขายังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แล้วนี่นางเองก็รู้ว่าเต้รักนะ แต่มีบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายไม่ยอมเปิดใจ นางน่าจะหาหนทางเข้าใจ แล้วก็เอาชนะใจเต้ให้ได้ แต่นี่นางกลับบ้าตามเพื่อน เปิดใจคนที่ตัวเองรักด้วยการทำให้หึง คือเราว่าอ่อนมาก และเด็กมาก เฮ้อ ที่โกรธคือ ทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกด้วย ฮึ่มๆ แต่ก็เอา  ตามที่น้องปลื้มว่า ถ้าคนของเราไม่บ้าจี้ไปด้วยก็คงไม่เกิดปัญหา ผิดคนละครึ่งละกัน

สุดท้ายคือพระเอกของเรา  คือเราอยากบอกว่าเด็กมากกกกก ทั้งความคิดและการกระทำ ตอนแรกเราก็เหมือนจะเห็นใจนะเพราะเท็นมันทำร้ายความรู้สึกของเมล์ตลอด แต่เราอ่านไปแล้วกลับคิดว่านางไม่ได้ไปมีใคร นางแค่เป็นตัวของตัวเอง เราเข้าใจว่าเมล์เป็นแฟนกันแล้วก็อยากให้ทำอะไรแบบที่แฟนเขาทำ แต่เมล์ผู้ไม่รู้ว่าเท็นเท็นไม่เหมือนชาวบ้าน กว่าจะเข้าใจเท็นได้ถึงตอนนี้ก็เป็นอะไรที่ โอยย รำคาญพระเอก เด็กไปไหนจ๊ะพี่จ๊ะ เป็นพระเอกที่แอ๊บแบ๊วมากกก อ่านไปอ่านมานับวันยิ่งแบ๊วอะ กลายเป็นเท็นโหดห้าวไปซะงั้น (อ่านแล้วอิมเมจทำให้เรานึกถึงพี่มาร์ก GOT7 เลยค่ะ แบบหล่อแต่แอ๊บแบ๊วตล้อดตลอด)

แล้วแบบพี่เมล์กับฟิวนี่แปลก ไอ้ตรงอิจฉาเท็นเท็น  คือเราเข้าใจว่าเจอใครที่เก่งกว่ามันอาจจะรู้สึกอิจฉา  ยิ่งเป็นแฟนกัน ฝ่ายเคะดันเหมือนจะนำหน้ากว่า เป็นช้างเท้าหน้าเลยทำเมล์ขาดความมั่นใจ แต่แบบมันเป็นอะไรที่กิ๊กก๊อกมากอะ คนพวกนี้ลืมมองไปหรือเปล่าว่าไอ้เท็นมันไม่ธรรมดา  มันคืออัจฉริยะ  มันแทบจะบ้าได้อยู่แล้วไปอิจฉามันทำม้ายยยย  คืออิจฉาคนที่มาตรฐานเดียวกันมันพอเข้าใจ แต่คนระดับเท็นๆนี่ไม่ต้องแล้ว ปล่อยมันอยู่ที่ของมันไปเถอะ 555

แต่พี่เมล์ก็สมควรเป็นช้างเท้าหลังนะ  คือเรื่องพี่เคลียร์อะไรไม่ได้สักอย่าง นาตาชาเอย หมั้นเอย  ชะนีเอย คือต้องมาลงที่ท่านพะชอนจัดการให้ เราเลยรู้สึกพี่เมล์เด็กเข้าไปใหญ่ ยิ่งมาเจอท่านเท็นที่ต่อกรกับพ่อเพราะไม่อยากแต่งงานนี่แบบว่า  ช่วยสลับตำแหน่งเถอะค่ะ  ท่านพะชอนท่านแมนมากกกกกกกกก  พี่เมล์สู้ไม่ได้เลยจริงๆนะตัวเอง :laugh:


แต่ แต่ แต่.....ทั้งนี้ทั้งนั้นเรากลับคิดเหมือนเมนต์บางเมนต์ว่า....เนื่อเรื่องตอนหลังๆ มันดูเร็วไป ตัดกระโดดจนขนาดเราอ่านต่อกันไม่ได้อ่านที่ละตอนแบบเรียลไทม์เรายังว่ามันโล่งเกินไปในแต่ละตอน อ่านแล้วดูรีบๆ เหนื่อยๆ  ผิดกับตอนช่วงต้นเลยที่เราอ่านแบบละเมียดละไม อ่านอิ่มไปทุกตัวอักษร   ไม่รู้ว่าคนเขียนจำเป็นต้องรีบให้จบด้วยเหตุผลใด  แต่แอบเสียดายนี่บอกเลย เพราะเรื่องของเมล์เท็นเราว่ายังต่อไปได้อีกไกลอะ  คือเรายังอยากเห็นพัฒนาการของพี่เมล์ว่าสักวันหนึ่งจะก้าวมายืนเทียบกับเท็นได้ ดูแลเท็นได้ เลยเสียใจที่มันจะจบแล้ว  แต่เราก็เคารพคนแต่ง และหวังว่าจะจัดเรื่องใหม่นางเอกน่ารักๆ มาให้เราอ่านอีกนะคะ  ชอบจังเลย อ่านแล้วยิ้ม อ่านแล้วชอบ  อยากขอน้องปลื้มมาเลี้ยง  กร๊ากกกก


เอาเป็นว่ารอต่อไปค่ะ  แล้วก็ขอโทษด้วยที่เม้นต์ยาว ค่อนข้างเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายแล้ว  แฮ่ ทนอ่านเอาหน่อยนะคะ  ^ ^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-02-2014 21:17:20
ตอนที่ 49

โรงพยาบาลในตอนเช้าดูวุ่นวายไม่น้อยเลย เพราะแค่เจ็ดโมงก็เริ่มมีคนมารับคิวรักษาแล้ว ผมกลับจากกินโจ๊กที่ขายอยู่หน้าโรงพยาบาล เดินผ่านหน้าห้องเวชระเบียนที่มีคนนั่งรอคิวอยู่ด้านหน้าจนเก้าอี้แทบไม่พอก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะปกติโรงพยาบาลเอกชนไม่ได้ฮิตอะไรขนาดนี้นะ ค่ารักษาก็แพง แต่ที่นี่แปลก คนแห่มากันอย่างกะได้ยาฟรี

มาถึงห้องพักพิเศษที่ผมใช้เป็นที่นอนสำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา คนป่วยตื่นอยู่ก่อนแล้ว และกำลังมีหมอกับพยาบาลรุมตรวจอาการอยู่ ผมนั่งรอที่โซฟาได้ไม่นาน ทั้งห้องก็เหลือเพียงผมกับเมล

“ไง”

“เพิ่งมาเหรอ” เมลถามเสียงเรียบ ผมเลิกคิ้วกับคำถามของมัน

“แล้วคิดว่าไง”

“ไม่รู้”

ถ้าไม่ติดว่าหัวเมลมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบ ผมคงได้แจกมะเหงกรับขวัญมันไปแล้ว

“เดี้ยงอย่างนี้มึงยังมีอารมณ์มางอนอีกเหรอ แทนที่จะสำออยอ้อนกู”

ผมเลิกสนใจมัน เดินมาเปิดตู้เย็นหาน้ำกิน ก่อนจะกลับมานั่งโซฟา เปิดทีวีดูข่าวรอบเช้าที่รายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เอาจริงๆ คือเห็นสภาพรถแล้วไม่น่ามีใครรอด แต่โชคดีมากที่เมลมันแค่กระดูกแขนร้าว เข้าเฝือกอ่อนไว้หนึ่งอาทิตย์ก็หาย ส่วนแผลที่หัวก็แตกซ้ำรอยเดิม ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทว่าไอ้มายด์มันโชคร้ายจริงๆ และเพราะในข่าวรายงานว่าคนขับรถตู้เสียชีวิตและคนขับอีกคนอยู่ในอาการสาหัส เมลถึงได้เลิกงี่เง่าแล้วหันมาหาผมทันที

“เท็น...ไอ้มายด์...”

“มึงทำใจไว้เถอะ มันไม่กลับมาแล้วล่ะ”

ผมคิดว่าจะเห็นเมลโวยวาย หรือแสดงอาการรับไม่ได้ออกมา แต่ความจริงมันทำเพียงแค่พยักหน้า

“กูทำใจไว้แล้ว...”

ขนาดบอกว่าทำใจ น้ำตามันก็ยังไหลลงมาตามแก้ม ผมรีบเข้าไปใกล้ๆ เตียง ใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้มันเบาๆ

เพราะเมลเป็นคนที่อยู่กับไอ้มายด์จนถึงตอนที่ประสบอุบัติเหตุ มันคงเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับไอ้มายด์ และเป็นคนแรกที่ได้เห็นไอ้มายด์หลังจากที่รถชน

“แต่มันเร็วเกินไป...เมื่อวานกูยังคุยกับมัน ปรึกษากับมันเรื่องจะไปเรียนต่อด้วยกัน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้”

“มันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ไม่มีใครอยากให้เกิด”

“แต่กูเป็นต้นเหตุให้ไอ้มายด์กับฟิวทะเลาะกัน”

“มึงไม่ใช่ต้นเหตุนะเมล เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของพวกมันสองคน เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เลิกคิดมาก”

ไม่รู้ว่าเมลเชื่อที่พูดรึเปล่า ซึ่งผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่โทษตัวเองเหมือนที่ไอ้ฟิวกำลังเป็นอยู่ตอนนี้

“เดี๋ยวพวกไอ้เต๋อจะมา มึงอยากกินอะไรมั้ย”

“ไม่อ่ะ”

“อืม งั้นก็นอนซะ”

ไม่กินก็ไม่บังคับ เพราะเมลคงกินไม่ลง ดูจากสีหน้าแล้วผมก็รู้ว่าในหัวของมันคงเต็มไปด้วยเรื่องไอ้มายด์

“อยากได้อะไรก็เรียกนะ กูอ่านหนังสือก่อนละ”

“อืม”

กับเพื่อนสนิทที่เห็นกันมาตั้งแต่จำความได้ คงจะเป็นเรื่องยากหากต้องทำใจยอมรับว่าคนๆ นั้นกำลังจะจากไป... ผมช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ ในเรื่องนี้ ก็ได้แต่หวังว่าการที่ผมยังอยู่ข้างๆ จะทำให้เมลก้าวข้ามความรู้สึกนี้ไปได้...

.
.
.

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของพวกผม แต่เอาเข้าจริงเดือนพฤศจิกายนก็ผ่านไปได้สิบกว่าวันแล้ว กลางเดือนธันวาคมถ้าหากเป็นเมื่อปีที่แล้ว พวกผมคงจะตื่นเต้นที่จะได้ฉลองวันสิ้นปีพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ปีนี้แตกต่าง เพราะไม่มีใครยิ้มหรือหัวเราะได้เต็มเสียง ยังคงมีความเศร้าเจือปนอยู่ไม่จางหาย

ถึงผมหรือเพื่อนๆ จะเริ่มทำใจยอมรับได้ แต่ไอ้ฟิวนั้นต่างออกไป มันยังคงแย่ และดูเหมือนจะแย่ลงทุกวัน แม้ว่าไอ้มายด์ยังไม่ไปไหน แต่ก็เรียกได้เกือบเต็มปากว่ามันไม่อยู่แล้ว...แค่รอให้พ่อของมันกลับมาจากต่างประเทศก็แค่นั้น ทีแรกผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อไอ้มายด์ถึงได้ใจจืดใจดำ ไม่ยอมมาดูมันเลย แค่บอกทางโทรศัพท์ว่าให้ทำตามที่หมอเห็นสมควรและบอกว่าจะรีบกลับมา ผมเกือบแย่งโทรศัพท์จากคุณพ่ออเล็กมาคุยด้วยตัวเอง แต่พอเมลบอกว่าคนที่ไอ้มายด์มันเรียกว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของมัน ผมก็ยอมใจเย็นลงบ้าง

แล้วเหตุผลที่ว่าไม่ใช่พ่อแท้ๆ มันเพียงพอกับการที่จะไม่มาดูลูกชายที่ตัวเองใช้เงินเลี้ยงดูมากำลังจะจากไปเลยเหรอ? มีคนที่ใจร้ายอย่างนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอวะ? มันน่าหงุดหงิดจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น เมลก็ยังยืนยันว่าพ่อไอ้มายด์รักไอ้มายด์

ผมก็หวังอย่างนั้น...หวังอยากให้ไอ้มายด์ได้จากไปพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่ค้างคาอีก ไม่ต้องติดค้างกับข้อสงสัยที่ว่าในโลกนี้มีใครที่ต้องการมันบ้างก็เท่านั้น

ถึงผมจะรู้ว่ายังไงไอ้มายด์ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้แล้วก็ตาม แต่ผมเชื่อนะ...เชื่อว่าความรักและความคิดถึงที่พวกผมมี จะส่งไปถึงมัน

“เหี้ยเท็น ช่วงนี้มึงหายหน้าไปไหนทีละหลายวันวะ เรียนจบก่อนพวกกูไม่พอ ยังจะเที่ยวไม่เกรงใจกันอีก ฟัคคคคคคค” ไอ้เต๋อตัวอิจฉาส่งสายตาเชือดเฉือนมาให้ผม แต่ผมก็ทำแค่เชิดคิ้วกวนตีนให้มันไป

“แล้วมึงจะไปเมื่อไหร่...” ไอ้เต้ถามขึ้น

“สิ้นปี”

“แล้วเรื่องไอ้มายด์...”

“ก็คงรอให้เรื่องของมันเรียบร้อยก่อน”

“อืม”

วันนี้มากันแค่สามหนุ่มสามมุม ณ ร้านนมปั่นหลังมอ เพราะช่วงนี้พวกผมงดเรื่องสังสรรค์เฮฮากันไปโดยปริยาย

“หน้ามึงโทรมๆ นะเท็น อดนอนเหรอวะ”

“นิดหน่อยว่ะ”

ช่วงนี้ผมเร่งทำของขวัญวันเกิดให้ไอ้เมลอยู่ เพราะไอ้พี่โปรดถึงมันจะยังเดี้ยงอยู่ที่โรงพยาบาล มันก็จัดการส่งของที่ผมอยากได้มาให้แล้ว ความจริงผมไปหาช่างทำเองก็ได้นะ แต่เพราะช่างฝีมือดีที่ทำเขาสนิทกับพ่อไอ้พี่โปรด เลยได้ราคาพิเศษ ประหยัดได้ก็ประหยัดล่ะครับ เพราะผมไม่ค่อยมีงบเท่าไหร่แล้วตอนนี้ ของที่ให้ผมก็ไม่ได้จะเน้นว่ามันต้องแพงนี่นา เน้นการทำให้ด้วยใจมากกว่า อาจจะไม่มีประโยชน์หรอก แต่คงทำให้เมลประทับใจได้บ้างล่ะมั้ง

“มึงทำไรวะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเห็นอยู่กับไอ้เมลด้วย” ไอ้เต๋อถามพลางจิบนม =_=; ไม่ชินจริงๆ นะ เวลาเห็นไอ้เต๋อมันถือแก้วนมเนี่ย

กับเมลก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้คุย ได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ เพราะมันไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ไปทีก็อยู่นานเป็นวัน บางวันก็ไปนอนค้างที่นั่น ผมโอเคนะ ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้โกรธด้วยหากมันจะดูแลไอ้ฟิวในช่วงนี้ เรื่องของผมอาจจะหายไปจากความคิดของมันบ้างก็ไม่เป็นไร

ไม่รู้นะ...มันเป็นความรู้สึกที่ก็บอกไม่ได้ ผมรู้ว่าเมลรักใคร จะให้ไปบอกว่าที่มึงทำอยู่ทุกวันนี้มันไม่ถูก ก็คงไม่ใช่ เมลมันจะรู้สึกผิด หรือจะเป็นเหตุผลที่มันบอกว่าไอ้มายด์ฝากให้มันดูแลไอ้ฟิว หรือจะเป็นเพราะความรับผิดชอบอะไรก็ช่าง...สำหรับผมมันไม่สำคัญเลย เมลโตพอที่จะคิดเองได้ว่าควรทำอะไร ถ้ามันเลือกที่จะทำ ผมก็จะเคารพในการตัดสินใจของมัน

ผมเคยบอกแล้วว่าสำหรับผมความรักมันไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะชีวิตมันต้องก้าวต่อไป ต่อให้มีหรือไม่มีก็ตาม ต่อให้สุดท้ายแล้วเราจะไม่ได้คบกัน ผมก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป...

แค่ทุกวันนี้ ผมทำส่วนของผมในฐานะของคนที่รักมันได้อย่างเต็มที่ก็พอ

“กูกลับก่อนนะ มีงานต้องไปทำ” ผมบอกก่อนจะวางค่านมของตัวเองไว้บนโต๊ะ

“เออๆ จะบินเมื่อไหร่อย่าลืมบอกพวกกูละกัน ไม่ใช่นึกจะไปก็หายไปเลยนะ” ไอ้เต้พูด ชำเลืองมองหน้าผมเล็กน้อย

“ไม่แน่ว่ะ กูไม่อยากเห็นไอ้เต๋อร้องไห้ตอนไปส่งกู”

“เอออออออออ กูไม่ร้องหรอก มึงไปนี่กูจะจัดขบวนเชิดสิงโตไปส่งเลยสัด -*-”

“ไร้สาระนะมึงอ่ะ เอาเวลาไปเร่งทำโปรเจ็คเถอะ โฮะๆ”

แกล้งไอ้เต๋อจนพอใจแล้วผมก็ขับรถกลับบ้าน แต่ไม่ใช่บ้านผมนะครับ เป็นบ้านเมลต่างหาก ช่วงนี้ผมมาอยู่ที่นี่ โดยบอกให้คุณแม่เจนและคุณพ่ออเล็กช่วยปิดเมลให้ด้วย มันเลยไม่รู้ว่าทุกวันนี้ผมนอนที่นี่ ความจริงก็ไม่ต้องปิดอะไรมากหรอก เพราะมันก็ไม่ได้สนใจจะถามอยู่แล้ว

ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าต่างคนต่างยุ่งเรื่องของตัวเอง ผมเข้าใจ...

“คุณเท็น ทานข้าวมารึยังคะ” นาตาชาเป็นคนเดินมารับผมถึงรถ เธอทำเป็นเรื่องปกติครับ ชอบมาช่วยถือกระเป๋า ถือของ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่แม่บ้านของที่นี่ แต่ก็ยังปฏิบัติตัวกับผมแบบนี้ จนผมต้องแกล้งโกรธบ่อยๆ เพราะนาตาชาก็เหมือนพี่สาวของเมล

“ผมไปกินนมกับเพื่อนมาแล้วครับ แล้วนี่พวกคุณพ่อกับคุณแม่กลับมากันรึยังครับ”

“กลับมากันแล้วค่ะ คงนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น”

“ครับ”

ผมเดินเข้าบ้านมาพร้อมนาตาชา พ่อแม่ของเมลคงจะอยู่ในห้องนั่งเล่นกันจริงๆ เพราะได้ยินเสียงพูดคุยกันดังมาจากทางนั้น ผมเลยแวะเข้าไปทักทาย ตามมารยาทที่มาอาศัยบ้านเขาอยู่

อยู่คุยกับพ่อแม่ของเมลสักพักผมก็ขอตัวขึ้นมาบนห้องที่เกลื่อนไปด้วยตัวเลโก้

ของขวัญวันเกิดเมลปีนี้ผมให้ไอ้พี่โปรดติดต่อหาช่างมือดีทำหุ่นขี้ผึ้งของตัวผมเองให้ เป็นหุ่นที่กำลังทำท่านั่งวาดรูป ถามว่าเหมือนมั้ย ก็คงตอบได้ว่าโคตรเหมือน ส่วนรูปที่หุ่นตัวนี้กำลังทำท่าวาดนั้น ผมก็กำลังวาดอยู่ ที่ไม่ได้หลับได้นอนมาหลายคืนก็เพราะเรื่องวาดรูปนี่แหละ เพราะวาดกี่ใบๆ ก็ฉีกทิ้งหมด สกิลผมต่ำมาก ต่อให้ฝึกฝนเท่าไหร่ หน้าคนก็ไม่ได้ดั่งใจเลยจริงๆ เพราะผมกำลังตั้งใจจะวาดเรื่องราวของผมกับเมลออกมาตั้งแต่แรกเริ่มที่เจอกัน เก็บเป็นความทรงจำดีๆ มันไม่ง่ายเลยนะ แต่ผมก็กำลังพยายามอยู่ -*-

ภาวนาให้เสร็จก่อนวันเกิดของเมลละกัน ถึงปีนี้เจ้าตัวจะออกปากไว้แล้วว่าไม่ฉลองก็ตาม แต่ผมก็ยังอยากให้อยู่ดี เพราะมันจะได้เอาไว้ดูเวลาที่คิดถึงผมตอนที่ห่างกัน

...อยากให้มันดีใจกับสิ่งที่ผมตั้งใจทำให้ ต่อให้หน้าหล่อๆ ของมันในรูปจะบิดเบี้ยวไปเพราะสกิลการวาดของผมก็ตามที -O-;

.
.
.

คริสมาสต์เป็นวันธรรมดาของผมมาตลอดหลายปี แต่ปีนี้...ผมคงต้องบอกว่ามันเป็นวันที่แย่ที่สุดและเลวร้ายที่สุด

ผมกำลังยืนอยู่ในห้องที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยา น้ำยาฆ่าเชื้อ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้สถานที่นี้ไม่น่าเข้าใกล้ เครื่องมือทางการแพทย์ครบพร้อมอยู่มุมหนึ่ง สายระโยงระยางจากร่างของเพื่อนที่นอนนิ่งอยู่อย่างนี้มาตลอดเกือบสามเดือน คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ เตียงก็ไม่มีใครส่งเสียงคุยออกมา มีแต่เสียงสะอื้นของไอ้กัสกับไอ้ฟิวเท่านั้นที่ดังคลอไปกับเครื่องช่วยหายใจ

เมลยืนอยู่ข้างๆ ผม กุมมือผมไว้แน่น ตาแดงก่ำของมันมีน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย

พ่อของไอ้มายด์เพิ่งมาถึงเมื่อเช้ามืด เขาตรงมาที่โรงพยาบาลทันทีและเซ็นยินยอมให้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกเป็นที่เรียบร้อย

วันนี้เลยเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอไอ้มายด์...แต่การบอกลาเป็นเรื่องที่ทำยากจริงๆ

“ทำไมต้องถอดออกด้วย เดี๋ยวมายด์ก็ตื่น พวกมึงดูสิ มันก็แค่หลับไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นแล้ว” ไอ้ฟิวยังคงยืนยันเสียงแข็ง มันพูดไปพลางร้องไห้ไปพลางมาได้สักชั่วโมงแล้ว

ถึงไอ้มายด์จะดูเหมือนแค่นอนหลับไป...แต่ความจริงก็มีแค่ว่า...มันจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วก็เท่านั้น

“กูไม่ยอมหรอก...ไม่ยอมให้ไปหรอก...ฮึก...มายด์ยังไม่เข้าใจกูเลย กูยังไม่ได้ขอโทษ... ยังไม่ได้บอกอะไรมันตั้งเยอะ ฮึก...ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้ทำด้วยกัน...”

“ฟิว...พอแล้ว พอแล้วนะ...” ไอ้กัสปล่อยโฮออกมา มันกอดไอ้ฟิวไว้แน่น

เสียงร้องไห้ เสียงคร่ำครวญ และเสียงเรียกหา... ต่อให้ดังลั่นห้อง...คนที่อยากให้ฟัง เขาก็คงไม่ได้ยิน

พวกเราบอกลาไอ้มายด์กันทีละคน ...ไอ้เขตเป็นคนแรกที่พูดและเดินออกไปเป็นคนแรกเช่นกัน คนต่อๆ ไปก็ทำเหมือนมัน เพราะคงไม่มีใครทนแบกรับความรู้สึกนี้ได้ไหว พวกมันคงไปกอดคอร้องไห้กันที่ไหนสักที่ ทั้งๆ ที่ต่อหน้าไอ้มายด์ก็ฝืนยิ้มและบอกได้เพียงแค่ว่า 'หลับให้สบายนะเพื่อน'

ผมกับเมลหันมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะพร้อมใจกันหันไปมองไอ้มายด์ คงเป็นวันสุดท้ายที่จะได้ส่งยิ้มให้มัน...ผมถึงไม่อยากร้องไห้

“ขอบคุณที่ดูแลไอ้เจคไอ้เป๊บให้ คอยรดน้ำกล้วยไม้ให้กูตลอด มึงทำทุกอย่างให้เงียบๆ โดยไม่บ่นสักคำ... แล้วกูก็หวังนะมายด์...หวังว่าที่ที่มึงไป...จะมีแต่ความสุข ส่วนไอ้ฟิว...พวกกูจะดูแลมันให้ ให้ดีเหมือนที่มึงเคยทำ...”

ผมพูดแค่นั้น บีบมือเมลเบาๆ ก่อนจะเดินออกมา เมลคงอยากอยู่กับไอ้มายด์ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ไอ้ฟิวก็คงเช่นกัน ให้คนสำคัญของไอ้มายด์ทั้งสองคนได้อยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย...

ถึงจะรู้ว่าไอ้มายด์มันไม่ได้อยากจากไป...แต่เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็ภาวนาให้ไอ้มายด์ไปในที่ที่ดี ไปโดยไม่มีห่วง
อะไรอีก ถึงผมจะไม่เคยเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง หรือเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะทำให้รอดพ้นจากอันตราย แต่ผมก็ยังยืนภาวนาไปกับเพื่อนๆ ทุกคน

...ต่อให้ร่างกายจะไม่อยู่ แต่ไอ้มายด์ก็ยังจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคน ตราบใดที่พวกผมยังไม่ตาย ไอ้มายด์ก็จะยังมีชีวิตอยู่...

'หลับให้สบายนะมายด์...'


.................................................To be continue....................................................

จบในตอนหน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ครัชชชชชชชชชชชช :a5:

 :กอด1:

เพลีย  :เฮ้อ:

ขอกรี๊ดกับคอมเม้นของคุณ mommee ค่าาา ตอนแรกตกใจอ่ะ นึกว่าเราลงตอนไปแล้วเหรอ แต่ความจริง อ้าว เฮ้ยย ไม่ใช่ คอมเม้นนี่หว่าาาา พออ่านแล้วแบบ กรี๊ดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เอาจริงๆ เรื่องนี้คนเขียนไม่ได้คิดลึกซึ้งอะไรมาก เพราะความคิดเห็นส่วนใหญ่สื่อผ่านเท็นเกือบหมดแล้ว นิสัยตัวละครแต่ละตัวคนเขียนเจอบ้าง ไม่เจอบ้าง ตามปกติของชีวิต เพื่อนที่หลากหลายรูปแบบ และบุคลิกที่แปลกแยกบ้างบางอย่าง

ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กัััับคอมเม้นยาวๆ

ส่วนเนื้อเรื่องช่วงหลังๆ ที่ทำให้รู้สึกว่ามันเร็วไปไหม... อันนี้ตอบเลยว่า ไม่ได้เร่งให้จบน้า เพราะมันเป็นอะไรที่แบบว่า ถ้าเรายังจะยืดเยื้อต่อไป เรื่องมันจะวนและไม่ยอมไปไหน อาจจะรู้สึกว่าโล่งและเร็วไป แต่มันมีแค่นี้จริงๆ ค่ะ ไว้จะปรับปรุงนะคะ...เท็นกับคนเขียน ไอคิวอาจจะต่างกัน แต่เราเป็นเพื่อนที่ซี้กันจนแทบจะเรียกว่าเป็นคนๆ เดียว เพราะฉะนัััััััััััั้นจะไม่อ้างความไม่อยู่กับร่องกับรอยของเท็น แต่ขออ้างว่ามันมีแค่นี้จริงๆ แหะๆ จะพยายามอ่านทวนค่ะ ว่ามันเร็วหรือขาดอะไรไป เพื่ออรรถรสของผู้อ่าน  :mew1:

***แก้ไข น้ำยาฆ่าเสื้อ เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ =_= พิมพ์ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 22-02-2014 21:29:49
พี่มายด์.......... หลับให้สบายนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-02-2014 21:31:07
เศร้า  :monkeysad:
การบอกลาเจ็บปวดเสมอ โดยเฉพาะการบอกลาที่ไม่มีวันได้เจอกันอีกแบบนี้ :hao5:
หลับให้สบายนะมายด์ ขอให้ไปดี :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSwifties ที่ 22-02-2014 21:35:16
ห่ะ จบแล้ว?  :a5:

สงสารมายด์อ่ะ เสียใจๆ แล้วนี่ฟิวจะอยู่ยังไงล่ะลูก

รับบทน่าสงสารตลอด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 22-02-2014 21:35:33
มายยยยยยยยด์   
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :sad4: :sad4: :sad4:


แงๆๆๆๆๆๆ
 :dont2: :dont2: :dont2:


เม้นไม่ถูกเลยทีเดียว
 :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 22-02-2014 21:36:41
ทำไมต้องให้มายด์ตายด้วยยย คนเขียนใจร้ายจังงง  :z3:

สงสารฟิวส์ แต่ในอีกแง่ต่อไปนี้เวลาฟิวส์จะพูดอะไรคงคิดก่อนมากกว่านี้เนาะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 22-02-2014 21:37:45
หลับให้สบายนะมายด์ :m15:

แต่ที่เศร้าใจกว่าคือตอนหน้าจบแล้วววววววววววววววววววววววว :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 22-02-2014 21:43:04
อย่าจบเศร้านะ  :hao5: :hao5: :hao5:
ไม่ขอจบค้างนะ  :hao5: :hao5: :hao5:
รอจ้ะรอ...
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 22-02-2014 21:59:16
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

เศร้าจัง

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: mommee ที่ 22-02-2014 22:04:48
 :hao5: :hao5: หลับให้สบายนะมายด์นะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: BBlabong ที่ 22-02-2014 22:10:33
ทำไมล่ะ ๆๆๆๆๆๆๆ ร้องไห้จริง ๆ นะ หยุดไม่ได้เลย TT^TT
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 22-02-2014 22:11:25
คนเขียนใจร้ายยยยยย
จะให้มายด์จากไปจริงๆเหรอ แงงงงงงงงงงงง เศร้าง่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้จริงๆ สู้ๆนะเมล ทำใจให้ได้นะฟิว
 :o12: :o12:
ส่วนคนเขียน
 :z13: นี่แน่ะๆ เศร้าไปแล้วเฟ้ย!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: BBlabong ที่ 22-02-2014 22:19:44
ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 22-02-2014 22:21:40
 :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-02-2014 22:26:30
มายด์กำลังจะจากไปแล้ว เศร้า :monkeysad:

ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ สู้รักกันไว้ดีกว่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 22-02-2014 22:28:38
ตัดจบแบบนี้คือน้ำตาท่วมจอ :hao5:

ทำไมมายด์เป็นคนที่อาภัพแบบนี้ ฟิวคงเข้าสำนวนที่ว่ารู้ตัวเมื่อสายสินะ :mew6:

โอ้ยย นี่ไม่ร้องไห้เพราะเท็นเมลเลยสักนิด โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 22-02-2014 22:29:18
สงสารมายด์  :hao5:

ทำไมเรารู้สึกว่าฟิวมันยังไม่รักมายด์แบบคนรักเลยฟะ
ตอนที่แล้วเรา เออ นึกว่าฟิวมันคงสำนึกได้ว่ารักมายด์แล้วมั้ง
แต่พออ่านตอนนี้ประกอบเข้าด้วยกัน มันกลายเป็นว่า
ฟิวเหมือนแค่รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุและฟิวกำลังจะเสียคนที่ดีกับฟิวไป
สำหรับฟิว มายด์คงเป็นได้แค่คนที่ดี? ไม่ใช่คนรัก
โอยเสียใจแทนมายด์จริงๆ

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 22-02-2014 22:34:37
พอนึกถึงสิ่งที่มายด์ได้เจอแล้วก็ยิ่งเศร้ามากไปอีก  :o12: :o12: :o12:

หน่วงไปอีกสามวันเจ็ดวัน

ตอนหน้าจบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววไม่นะะะะะะะะ  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

รักเท็นเมล รักทุกๆคนในเรื่อง ใจหายแล้วตอนนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 22-02-2014 23:00:55
 :o12:  :o12: :sad4: เท็นๆจะไปไหน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 22-02-2014 23:15:39
ผมพูดแค่นั้น บีบมือเมลเบาๆ ก่อนจะเดินออกมา เมลคงอยากอยู่กับไอ้มายด์ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ไอ้ฟิวก็คงเช่นกัน ให้คนสำคัญของไอ้มายด์ทั้งสองคนได้อยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย...


จบประโยคนี้ น้ำตารื้นเลย


หลับให้สบายนะมายด์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 22-02-2014 23:52:09
 :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-02-2014 00:45:41
 :sad11:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 23-02-2014 00:49:10
 ชีวิตเศร้า ㅠ........ㅠ รู้สึกใจหายไปด้วยเลยถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องแต่งก็เหอะ  :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-02-2014 01:38:32
เธอหน่ะใจร้าย

สงสารมายด์อะ ตอนแรกที่รู้ว่ามายด์จะตาย

ตอนนั้นสงสารฟิว พออ่านตอนนี้สงสารมายด์

เหมือนฟิวไม่เคยรักมายเลย มันเหมือนประมาณ

มายด์คือคนที่ดี รู้สึกดี แต่ฟิวไม่รัก

เจ็บแทนนนนนนนนน

คนแต่งก็ใจร้ายทำกันได้ลงคอ...

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 23-02-2014 02:41:52
หลับให้สบายนะมายด์ เราจะคิดถึงนาย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 23-02-2014 02:48:47
พูดไม่ออกเลยว่าจะจบแล้ว

สงสารมายด์ แต่อย่างที่เท็นว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว และปาฏิหารย์ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเราอยากให้เกิด
อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า อยากทำอะไรก็รีบๆ ทำ อย่ารอเวลา รอความพร้อม เอามาอ้าง
อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียใจทีหลัง

ส่วนจะจบแล้ว..... โฮวววววววววว ไม่อยากให้จบเลย มาต่อตอนพิเศษเป็นพักๆ ไปบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 23-02-2014 07:13:48
คนที่อยู่ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 23-02-2014 08:37:13
 :serius2: :a5:  :o12:
ยังไม่อยากให้รีบจบเลยอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-02-2014 10:38:38
ขอบคุณ :(
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 23-02-2014 10:51:21
ชอบที่คุณmommeeเม้นมาก ตรงใจเลย o13

ตอนหน้าจะจบแล้ว แอบใจหายเหมือนกันนะ ชอบเท็นเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 23-02-2014 10:59:33
หลับให้สบายนะคะมายด์  :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-02-2014 11:02:33
มายด์น่าสงสารมาก ทิฏฐิจะทำให้ฟิวต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: corn_rain ที่ 23-02-2014 11:20:41
เอาจิงดิ :mew4:
เกลียดคนเขียนแล้ว โป้ง :z6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 23-02-2014 21:35:20
ตอนที่ 50

งานศพเป็นธรรมดาที่ต้องเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แขกเหรื่อที่มางานส่วนใหญ่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจของพ่อไอ้มายด์ เพื่อนๆ ในภาคไอ้มายด์มากันครบทุกคน มีหลายคนตกใจ มีหลายคนที่ไม่ได้ตามข่าวถึงกับหน้าถอดสีเมื่อรู้เรื่อง

ตลอดห้าวันผมกับพวกเพื่อนๆ อยู่กันที่วัดตลอด แม่ของไอ้มายด์นับถือคริสต์ก็จริง แต่มายด์มันก็ถูกย่าเลี้ยงดูมาเหมือนเมล เลยนับถือตามย่ามัน เมลบอกว่าเมื่อก่อนพวกมันไปวัดด้วยกันบ่อยๆ

คนเก่งของผมตอนนี้ทำใจได้บ้างแล้ว อาจจะเงียบบ้าง เหม่อบ้าง แต่พอผมกุมมือมันไว้ มันก็ส่งยิ้มมาให้ตลอด จนถึงวันเผา ผมก็ยังไม่เห็นน้ำตาสักหยดจากเมล แต่ที่คาดไม่ถึงคือพ่อของไอ้มายด์ที่ดูเหมือนจะใจจืดใจดำ แต่ผมก็เห็นเขาแอบร้องไห้

ความคิดและความรู้สึกของคนเรา ซับซ้อนกว่าที่ตาเห็น ทั้งความรักความเสียใจ คงมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่าเป็นความรู้สึกที่แท้จริงหรือเปล่า

เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่รักหรอก...ผมว่าเขาก็คงมีเหตุผลของเขา ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรื่องในครอบครัวมันเป็นยังไง...แต่สุดท้ายที่ผมดีใจคืออย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพ่อไอ้มายด์...ก็รักไอ้มายด์อย่างที่เมลบอกจริงๆ

“เท็น...ขอกอดหน่อย” จู่ๆ คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นเบาๆ

ผมอ้าแขนออกกว้าง ก่อนจะรับคนตัวสูงกว่าให้เข้ามาในอ้อมกอด เมลดูเหนื่อยและไม่มีเรี่ยวแรงเอาซะเลย

วันนี้พวกผมมาลอยอังคารกันที่ทะเลใกล้ๆ กรุงเทพ มากับพ่อไอ้มายด์ และพ่อแม่ของเพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ละคน ยกเว้นแม่ผมที่ตอนนี้อาการไม่สู้ดีนัก คุณเคนเพิ่งโทรมาบอกผมว่าแม่ไม่สบาย แอดมิดโรงพยาบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนป๋า...คุณเคนคงบอกเขาแล้ว แต่คงบินมาไม่ทัน

ตอนนี้พวกผู้ใหญ่กลับกันไปแล้ว จึงเหลือแต่พวกผมที่ยังอยู่ ผมกับเมลพากันเดินเลียบชายหาดในตอนเช้าที่ยังคงร้างผู้คน แล้วมาหยุดมองทะเลด้วยกัน น้ำทะเลที่ซัดมาโดนเท้าให้ความรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ

“ไหวมั้ย” ผมถามเบาๆ คนที่กำลังกอดผมแน่น พยักหน้าอยู่กับไหล่ของผม

“มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไง สักวัน ทั้งมึงทั้งกู ก็ต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดี แค่อาจจะต้องมีคนไปก่อนก็เท่านั้น”

“อืม...เป็นไปได้ก็อยากจะไปก่อนมึง เพราะถ้าถึงวันที่ต้องขาดมึงไป กูคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ”

“=_= เมลแม่ง นิสัยว่ะ”

“ฮ่าๆ ดูทำหน้าเข้า โอ๋ๆ ไม่งอนนะ”

“ใครจะงอนเรื่องงี่เง่า”

“จ่ะ ^^”

เมลผละออกจากตัวผม ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ เป็นยิ้มที่ไม่ได้ฝืนแต่ก็ไม่ได้ร่าเริงมากนัก เมลหันไปมองทะเลเบื้องหน้า สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะหันมาพูดกับผมว่า

“กูกับมายด์คิดๆ ไปแล้วก็รู้จักกันมาเกือบเท่าอายุกู เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นกูขี้แย ไม่ค่อยมีเพื่อน มีแต่คนมาแกล้ง ย่าเลยพาไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ ถึงได้เจอกับมัน พูดแล้วก็คิดถึงตอนนั้น ตอนที่ยังไม่ต้องคิดอะไรให้กับชีวิตมากมายอย่างตอนนี้...มึงรู้มั้ย มายด์มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูเลยนะ”

“กูรู้”

“แต่มึงคงไม่รู้หรอกว่า...ถ้าตอนนี้...ที่ตรงนี้ไม่มีมึงยืนอยู่ข้างๆ กูคงแย่กว่านี้”

ผมทำแค่ส่งยิ้มให้เมลไป...โดยเก็บเรื่องที่จะต้องบินในคืนนี้ไว้ เพราะผมต้องรีบกลับไปหาแม่ให้เร็วที่สุดทันทีที่เรื่องทางนี้เสร็จสิ้น ของขวัญวันเกิดของเมลผมทำเสร็จแล้ว...แต่คงไม่ได้อยู่บอกสุขสันต์วันเกิดกับมันด้วยตัวเอง

“เมล”

“หืม?”

“จะตามไปใช่ไหม”

หลังจากที่ผ่านเรื่องแย่ๆ กันมา ผมรู้ว่ายังเร็วไปที่จะเอาคำตอบที่แน่นอนจากเมล แต่ผมจำเป็นต้องถามในตอนนี้ เพราะผมจะได้ไม่ต้องรอ หากว่าคำตอบของมันไม่ใช่อย่างที่หวัง

“ไปสิ” เมลตอบเสียงเบา แต่ก็หนักแน่น รอยยิ้มของมันทำให้ผมต้องยิ้มตาม

“แต่ไม่รู้ว่าจะจบรึเปล่า แถมมหาลัยที่โน่นก็สอบเข้ายาก อยากเรียนที่เดียวกับที่เท็นเคยเรียน อยากรู้ว่าเมื่อก่อนเท็นใช้ชีวิตในมหาลัยยังไง แต่คงยาก”

“ถ้าตั้งใจ...ยังไงก็ทำได้”

“อืม”

“ถ้าบอกว่าจะตามไป กูก็จะรอ”

“ครับ”

ผมผลักหัวเมลเบาๆ เลยโดนมันผลักคืนมา พอผมกำลังจะทึ้งผมมัน มันก็จับมือไว้ได้ทัน ก่อนจะเอาไปกุมไว้

“แล้วช่วงก่อนหายไปไหนมา”

=_=; นึกว่ามันลืมไปแล้ว และคงไม่สนใจ แต่ไอ้การที่มันย้อนรอยตั้งคำถามนี่คืออะไร?

“เออน่า ก็แถวๆ นี้แหละ”

เมลหันมามองหน้าผมทันที “มีพิรุธ”

“-_-; ไม่มี”

“มีแน่ๆ แอบไปก่อเรื่องอะไรรึเปล่า”

“มึงนี่ เดี๋ยวปั๊ดเตะตกทะเล เห็นกูชอบก่อเรื่องรึไงห้ะ”

“ก็เวลาเท็นไปทีไหนก็มีเรื่องทุกทีนี่หว่า -*-”

“อ้าววว พูดงี้ก็สวยดิวะ”

“กูหล่อเหอะ”

“เหี้ยเมลกวนตีน”

“หึหึ บอกมาได้ละว่าไปนอนที่ไหนมา”

“ทำไมเพิ่งมาถามเอาตอนนี้”

“ก็ตอนนั้นในหัวคิดแต่เรื่องไอ้มายด์”

“อ๋อออออ เลยไม่สนใจกูสินะ สำคัญมากกกู สำคัญมากกก”

“อย่าประชดดิ เท็นสำคัญตลอดนะ”

“อ๋อเหรอ -_-;”

ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้ปลื้มมันชอบพูดคำว่าอ๋อเหรอ เพราะแม่งให้ความรู้สึกสะใจเวลาเห็นคนที่เราอยากเตะแต่เตะไม่ได้มันทำหน้าเหมือนกำลังโดนเล็บข่วนหน้าอยู่นั่นเอง

“เมล...”

“ว่า?”

“คืนนี้กูต้องบินแล้ว”

เมลหันมามองหน้าผมราวกับเห็นผี สีหน้าตกใจตาค้างของมันทำให้ผมต้องตบแก้มมันเบาๆ เพื่อเรียกสติ ปากที่อ้าค้างนิดๆ เลยปิดสนิทแล้วก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยเป็นนานหลายนาที

“แม่กูไม่สบาย...ต้องรีบไป”

เมลกระชับมือผมให้แน่นขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา

“อืม ช่วยไม่ได้นี่นะ กะทันหันมากด้วย แม่ไม่สบายอีกแล้วเหรอ”

“ใช่ ช่วงนี้ป่วยบ่อย”

“ครับ งั้นฝากบอกแม่ว่าหายเร็วๆ ด้วยนะ กูอยากไปด้วย แต่คงยังไปไม่ได้ มีเรื่องอะไรก็โทรมาบอกกูนะ อย่าหายไป”

“รู้แล้วล่ะน่า”

“เฮ้อ”

“เป็นไร”

“ก็พรุ่งนี้อยากอยู่กับมึงทั้งวัน”

“ทำไม? มีอะไรพิเศษป่ะ?”

ผมแกล้งถาม ทั้งๆ ที่รู้ว่าความพิเศษของวันพรุ่งนี้คืออะไร แต่ต่อให้พิเศษยังไง ก็อยู่ด้วยไม่ได้...

“มึง...ลืมเหรอ”

“หืม? ลืมไร?”

“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก”

“หึหึ กลับกันเลยมั้ย เย็นนี้ไปหาร้านดีๆ นั่งกินข้าวด้วยกันหน่อย กูรู้สึกเหมือนไม่ได้กินข้าวกับมึงนานละ”

“อืม”

ถึงเมลจะทำหน้าหงอยๆ แต่ผมก็ไม่บอกให้มันดีใจหรอกว่าผมจำได้ ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษ แค่ถ้าบอกว่าจำได้ เมลอาจจะคิดไว้แล้วก็ได้ว่าผมเตรียมของขวัญไว้ให้มัน แล้วมันจะไม่รู้สึกแปลกใจหากว่าเห็นของขวัญของผม ก็นะ...อะไรที่คาดไม่ถึงมันมักจะทำให้ความรู้สึกที่ได้รับถึงขั้นแม็กซ์เลยไม่ใช่เหรอ ^^

พอเดินไปสมทบกับเพื่อนคนอื่นๆ ก็พากันขับรถกลับกรุงเทพ ผมกับเมลขับรถมาด้วยกันแค่สองคน เพราะเอารถของผมมา ที่นั่งสำหรับบุคคลที่สามเลยไม่มี

“แล้วไปนานมั้ย หรือเท็นจะอยู่เรียนต่อเลย”

ระหว่างอยู่ในรถเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อย จนวกกลับมาเรื่องที่ผมต้องบินในคืนนี้

“ยังบอกไม่ได้ว่ะ ถ้าแม่ไม่เป็นอะไรมาก กูอาจจะกลับมาเร็วหน่อย”

“อืม”

“คืนนี้ไม่ต้องไปส่งกูนะ”

“ทำไม?”

“เออน่า ไม่ต้องไปหรอก”

“ทำไม”

“เมล”

“ทำไม”

ผมไม่ตอบคำถามของมัน แต่หันออกไปมองข้างทางแทน

“ทำไมไปส่งไม่ได้ ทำไมวะเท็น”

“จะโมโหทำไมเนี่ย”

“แล้วมึงมีเหตุผลดีๆ มั้ยล่ะ”

“กูบินดึกไง ไม่อยากให้ขับรถกลับดึกๆ เป็นห่วง โอเคมั้ย”

ก็เป็นห่วงจริงๆ นะ แต่ถ้ามันมาส่งผม แล้วกลับไปไม่ทันตอนเที่ยงคืน ของขวัญที่ตั้งใจจะให้มันเห็นตอนเที่ยงคืนก็แป้กดิวะ เวลาอื่นก็โอเคนะ แต่ผมตั้งเวลาให้วิดีโอที่ผมอัดเก็บไว้มันเริ่มทำงานตอนเที่ยงคืนนี่หว่า ยังไงก็ต้องให้แน่ใจว่ามันกลับถึงห้องตัวเองก่อนเที่ยงคืนอ่ะ

ยุ่งยากจังวะของขวัญกูเนี่ย -*- ก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้านี่หว่าว่าจะต้องบินคืนนี้

“โอเคก็ได้วะ -*- แต่มึงต้องรีบๆ กลับมา”

“เออๆ”

“ติดต่อกลับมาด้วย อย่าหายไป มีอะไรต้องบอกกูนะเท็น เข้าใจไหม”

“ครับๆ มึงพูดย้ำหลายรอบแล้วครับ”

“คนอย่างมึงต้องย้ำ กูคบกับมึงมานานนะเท็น ทำไมจะไม่รู้ว่ามึงเป็นยังไง”

“-*-”

“ตั้งใจฟังอยู่ไหม ถ้าคราวนี้ไปแล้วไม่ติดต่อกลับมา กูจะโกรธจริงๆ นะ”

“จ่ะๆ ไม่หายจ่ะ”

“ดี”

เมื่อพอใจแล้วเมลก็กลับมาอารมณ์ดีตามเดิม แต่ถ้ามันรู้ว่าในใจผมคิดยังไงคงได้โวยวายอีกแน่ ก็อย่างที่เมลบอกว่าผมชอบหาย แต่ที่จริงผมไม่ได้หายไปไหน ผมก็แค่ทุ่มเทความสนใจของตัวเองมากเกินไปจนลืมที่จะติดต่อกลับมาหามันไปบ้าง เมลบอกว่ามันรู้ว่าผมเป็นแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้มันคงทำใจชินไม่ได้ เพราะมันเป็นห่วง

“งั้นเย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านกูนะ”

“ยังไงก็ได้อ่ะ”

ตามใจเมลเลยครับ เพราะยังไงผมก็อยากลาพวกท่านอยู่แล้ว ไม่ได้ดินเนอร์กันสองต่อสองก็ไม่เป็นไร กินกันแบบครอบครัวก็คงรู้สึกดีไปอีกแบบ

กลับมาถึงบ้านก็หลบเลี่ยงไอ้กัสมาอยู่ด้วยกันสองคนในห้อง ส่วนไอ้ฟิวพ่อกับแม่มันให้กลับไปอยู่ที่บ้านก่อนครับช่วงนี้ เพราะที่ไหนที่เคยมีไอ้มายด์ ไอ้ฟิวก็จะเอาแต่ร้องไห้ไม่เป็นอันทำอะไร ผมว่าก็ดีนะ จะได้ให้มันกลับไปพักฟื้นบ้าง อยู่คนเดียวที่นี่คงแย่เกินไปสำหรับมัน เพราะบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับไอ้มายด์ คงเร็วเกินไปที่จะกลับมา

“ไม่เห็นเอาอะไรไปเลย มึงไปไม่นานใช่ไหม” เมลหันกลับมาถามอย่างแปลกใจเมื่อมันเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วยังเห็นเสื้อผ้าของผมอยู่ครบ

“ไม่รู้ แต่กูขี้เกียจขนอะไรไป -*- ไม่มีค่อยหาซื้อเอา”

“ใช้เงินเป็นเบี้ยเลยนะมึงเนี่ย เอาไปบ้างสิ เผื่อเวลาฉุกเฉิน”

แต่ผมก็ไม่ได้สนใจจะทำตามที่เมลบอก เพราะสำหรับผม แค่แบกเป้เข้าเกตใบเดียวก็รู้สึกว่าหนักบ่ามากแล้ว -*-

“มึงนี่จริงๆ เลย” เมลเดินมานั่งลงข้างๆ ผมเลยขยับตัวขึ้นไปนอนหนุนตักมัน เมลตีหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บที่ริมฝีปาก

“โอยย ไม่อยากให้ไปเลย”

ผมหัวเราะออกมาเพราะขำกับสีหน้าของคนตรงหน้าจริงๆ

“งอแงตลอดดดด”

“ไม่รักไม่งอแงหรอก -*-”

“หึหึ น่ารักนะมึงเนี่ย”

“^_^”

ผมกับเมลนอนเล่นนอนคุยกันไปจนถึงเย็น ก็พากันมากินข้าวที่บ้านของเมล ได้พูดคุยกับครอบครัวเมลแล้วรู้สึกโชคดีมากที่ได้เป็นแฟนกับลูกชายของบ้านนี้ พวกท่านไม่ได้พูดออกมาหรอกครับว่าผมกับเมลเป็นอะไรกัน มันเหมือนรู้กันอยู่แล้วว่าพวกเราคบกันในฐานะไหน แต่คงไม่ถึงกับแนะนำให้คนอื่นรู้จักผมในฐานะแฟนของลูกชาย อย่างมากก็แค่บอกว่าผมเป็นลูกชายอีกคนของพวกเขา ผมว่าดีนะ แล้วก็น่ารักมากด้วย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รักผม ^^

คุณเคนมารับผมตอนสามทุ่มครึ่ง เมลออกอาการเงียบๆ ซึมๆ ตามประสามัน แต่พอผมจะขึ้นรถ ก็กอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนคุณเคนต้องบอกเบาๆ ว่าผมต้องไปแล้ว มันถึงได้ก้มลงมาจูบผมอย่างไม่อายพ่อแม่มัน นาตาชาและแม่นมของมันเลยสักนิด

“ก่อนจะขึ้นเครื่องกูจะโทรหา อย่าออกไปไหน โอเคมั้ย”

“ทำไมล่ะ?”

“เออน่า”

“-*- ก็ได้”

ถึงมันจะหน้าบึ้ง แต่ผมพอใจแล้วที่มันรับปาก ถึงได้ขึ้นรถมากับคุณเคน

ผมมาถึงสนามบินตอนสี่ทุ่มครึ่ง เครื่องออกห้าทุ่มครึ่ง เลยยังพอมีเวลาเดินซื้อของบ้างหลังจากเช็คอินอะไรเรียบร้อยนั่นล่ะ

“คุณเท็นครับ ใกล้ได้เวลาแล้วครับ”

ผมหยุดการเดินดูของไว้แต่เพียงเท่านั้น ต้องโทรหาเมลก่อนขึ้นเครื่อง เพราะคนซื่อบื้ออย่างมันคงไม่รู้หรอกว่าตอนเที่ยงคืนต้องอยู่ที่ไหน

(ฮัลโหล)

“จะขึ้นเครื่องแล้ว มึงอยู่ไหน”

(ดูทีวีอยู่กับพ่อ)

“แม่ล่ะ”

(ขึ้นนอนแล้ว)

“อืม เที่ยงคืนขึ้นห้องนะ ให้ตรงเวลาด้วย”

(ทำไมอ่ะ)

“ไม่ถามว่าทำไมสักครั้งจะได้มั้ยวะ”

(ก็สงสัย)

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า”

(เออๆ)

“จะไปแล้วนะ อย่าลืมที่บอกล่ะ”

(ครับๆ เดินทางปลอดภัย)

“โอเค”

(เท็น...)

“หืม?”

(พรุ่งนี้น่ะ...ลืมจริงๆ เหรอ)

“อ่า...ต้องวางแล้ว เป็นเด็กดีนะ”

นึกออกเลยว่าเมลกำลังทำหน้าแบบไหน คงทำหน้าซึมๆ อยู่แน่ๆ แต่เดี๋ยวมันก็จะยิ้มกว้างๆ ได้เอง เชื่อผมสิ

...สุขสันต์วันเกิดนะเว้ย ^^

.
.
.

'สุขสันต์วันเกิดนะเมล แก่ขึ้นอีกปีแล้ว รู้สึกเขินๆ แฮะ จะพูดอะไรต่อดีวะ???' ใบหน้าขาวเนียนที่ค่อนไปทางสวยซะส่วนใหญ่กำลังขึ้นสีระเรื่อจนคนที่กำลังมองหลุดยิ้มออกมา

เกือบเที่ยงคืนพ่อก็ไล่เขาให้ขึ้นมานอน อีกหนึ่งนาทีจะถึงวันเกิดเขาแล้ว... มันไม่ใช่วันพิเศษอะไรหรอก ก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง อีกทั้ง...ปีนี้คงไม่ได้รับคำอวยพรจากเพื่อนสนิทที่สุดอีกแล้ว มันก็อดใจหายไม่ได้ ขึ้นห้องมาตามที่พ่อบอก อดน้อยใจไม่ได้ที่ไม่มีใครอยู่กับเขาเลย แต่พอมาเจอกับภาพตรงหน้าแล้ว...ความน้อยใจที่มีต่อพ่อก็หายไปฉับพลัน

วินาทีแรกที่เปิดประตูเข้าห้องมา ห้องก็มืดสนิท ทั้งๆ ที่ปกติไฟจะติดอัตโนมัติ แต่มันแปลกไป พอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น จอภาพขนาดใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามีตั้งแต่ตอนไหนก็ฉายภาพของคนสำคัญที่จำไม่ได้ว่าวันนี้คือวันอะไร ห้องที่ค่อยๆ มีไฟติดสว่างขึ้นทีละดวง ทำให้เขาเริ่มเห็นว่าห้องนอนที่ไม่ได้กลับมานานนั้น ตอนนี้มีหลายๆ อย่างแปลกไป แต่ที่ทำให้ตกใจจนเกือบเผลอร้องออกมาคือเท็นกำลังนั่งวาดรูปอยู่มุมหนึ่งของห้อง เขาร้องถามอย่างแปลกใจว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แต่เท็นก็ไม่ตอบ พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้รู้ว่ามันเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่ขนาดเท่าตัวจริงและรูปร่างหน้าต่างก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากเท็นตัวจริงเลยสักนิด

'เมล...' เสียงของเท็นทำให้เขาต้องกลับไปสนใจหน้าจออีกครั้ง 'เราก็คบกันมาเกือบสามปีแล้วนะ กูแค่อยากจะบอกว่าขอบคุณมาก ที่รักและทนกับคนอย่างกูมาตลอดเลย ต่อให้กูจะทำตัวไม่ดีแค่ไหนมึงก็ยังให้อภัย ของขวัญที่ให้อาจจะไม่มีประโยชน์มากนัก แต่กูก็ตั้งใจทำให้ กูวาดรูปไม่เก่งเลย มึงก็รู้ แต่ก็อยากให้มึงมองว่าสวยนะ เพราะนั่นเป็นรูปที่กูคิดว่าวาดสวยที่สุดแล้วตั้งแต่เกิดมา สุขสันต์วันเกิดนะเว้ย อยู่ด้วยกันไปนานๆ เลยนะ ^^'

น้อยครั้งจริงๆ ที่เท็นจะพูดอะไรแบบนี้ เป็นไปได้ก็อยากจะคว้าตัวเจ้าของรอยยิ้มสวยมากอดไว้ แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้...คงต้องรอให้เจ้าตัวกลับมาเท่านั้น

รูปที่เท็นวาด...มันก็ไม่สวยจริงๆ นั่นแหละ แต่เอาเข้าจริงเขากลับชอบในทุกๆ ตัวละครที่อยู่ในสมุดภาพเล่มนี้ เริ่มตั้งแต่การเจอกันครั้งแรกของพวกเขา ตอนที่ทะเลาะกันเท็นก็วาดเขาเป็นปีศาจเลยทีเดียว ทั้งมีเขี้ยวทั้งหางงอกออกมาจนเดาไม่ออกว่ามันคือตัวอะไร คนวาดรูปไม่เก่งยังอุตส่าห์ใส่รายละเอียดหรือแม้แต่เพิ่มเติมสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ...เหมือนสมุดภาพนี้เล่าผ่านมุมมองของเท็นที่มีต่อเขาตลอดมา

'รักเมลนะ ^O^' ตัวหนังสือไก่เขี่ยในหน้าสุดท้ายของสมุดภาพ ทำให้เขายิ้มกว้างออกมา ก่อนจะหันไปดีดหน้าผากหุ่นขี้ผึ้งที่แฟนตัวดีของเขาทำไว้เพื่อให้ดูต่างหน้าเวลาคิดถึง

“มึงมันบ้ามาก รู้มั้ยเท็นเท็น”

แต่คนที่บ้ายิ่งกว่าคงจะเป็นเขาที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าหุ่นขี้ผึ้งจนเกิดความรู้สึกอยากจูบขึ้นมาสักครั้ง...

.
.
.
 
….. 1 ปีผ่านไป …..

นานแล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้กลับมาที่นี่ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผมก็ไม่ต่างกัน...อายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ผมไม่อาจจะทำอะไรเล่นๆ เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

เพราะฉะนั้น วันนี้ผมถึงกลับมา...เพื่อจะมารับใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะยังคิดถึงผมอยู่ไหม

อาจจะลืมผมไปแล้ว หรือโกรธจนไม่อยากมองหน้าก็ไม่อาจรู้ได้

เวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ติดต่อกับใคร เพราะทันทีที่ผมไปถึงโรงพยาบาลที่แม่เข้ารักษาตัว ผมก็เจอโจทย์ใหญ่ในชีวิตที่ต้องตัดสินใจ

'หนึ่งปี แค่หนึ่งปี ถ้าแกยังยืนยันว่ายังรักแฟนของแก ป๋าก็จะไม่ขัดขวางอะไรอีก ทำให้ป๋าเห็นสิว่าแกจริงจังมากขนาดไหน กับความรักของแก'

ป๋าพูดกับผมต่อหน้าแม่ที่กำลังมองมาด้วยความไม่สบายใจ ท่านรู้เรื่องทั้งหมดแล้วจากคำสารภาพของผมกับป๋าว่าเราทะเลาะกัน

'เท็น...ทำตามที่ลูกต้องการเถอะ แม่ไม่เป็นไร'

'คุณ...'

'เงียบนะ!! อย่ามาเรียกฉัน ฉันไม่เคยมีสามีที่ใจร้ายอย่างคุณ'

'แม่...แม่ครับ ไม่เอานะ ไม่โกรธ ใจเย็นๆ ครับ'

ป๋าดูเสียใจมาก ผมรู้ว่าป๋าหวังดี ป๋าทำเพื่อผมกับแม่มามาก พวกเราไม่เคยลำบากเพราะป๋ายอมเหนื่อยอยู่คนเดียว ถึงผมจะหาเงินได้เองแล้ว แต่ตอนยังเด็ก ถ้าไม่มีป๋า ก็คงไม่มีผมเหมือนอย่างทุกวันนี้ ผมจะทำอะไรตามใจตัวเองได้ไหมหากไม่มีป๋าคอยสนับสนุน...

'ผมตกลงครับ และหวังว่าป๋าจะไม่ผิดสัญญากับผมอีก'

'เท็น...ลูกไม่ต้อง' แม่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่ผมก็กุมมือท่านเอาไว้

'ไม่เป็นไรครับ... สบายมาก'

แต่คำว่าสบายมากที่บอกกับแม่คงจะดูอวดเก่งมากไปหน่อย เพราะการที่ถูกห้ามเจอ ห้ามคุย ห้ามติดต่อกับเมลตลอดหนึ่งปีทำให้ผมเกือบเสียหลักไปเหมือนกัน...

และเพราะอย่างนั้น...เมลถึงไม่ทำตามที่บอกว่าจะมาหา ผมรู้แค่ว่ามันเรียนจบแล้ว และเข้าทำงานกับบริษัทของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง

“โย่ววววว!” ผมเข้าไปทักทายพี่เจ๋งที่ยังคงดำเนินกิจการมอมเมานักศึกษามาได้ดีจนถึงเดี๋ยวนี้

พี่เจ๋งหันมาเห็นผมก็ถึงกับปล่อยแก้วในมือร่วงลงพื้น แตกดังเพล้งจนแขกโต๊ะอื่นหันมามองกันเป็นแถว

“เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!น้องเท็นนนนนน!! กูนึกว่ามึงตายไปแล้ว!!!”

“=_=; พี่ยังปากไม่เป็นมงคลเหมือนเดิมเลยนะ”

“โอ้ยยยยยยยยยยยย กูคิดถึงมึงงงงงงงงงงง”

ผมปล่อยให้ไอ้พี่เจ๋งมันกอดคอโห่ร้องด้วยความดีใจไป เอาจริงๆ คือผมก็ดีใจที่เจอมันนะ แต่ไม่ได้เว่ออะไรขนาดนี้อ่ะ -_-
เพราะนัดเจอพวกไอ้เต๋อที่นี่ พอลงจากเครื่องผมก็ตรงดิ่งมาร้านเหล้าทันที

รอไม่นานพวกไอ้เต๋อก็แห่กันมาพร้อมหน้าด้วยเพื่อนต่างภาคที่เดี๋ยวนี้แม่งหล่อพราวเสน่ห์กันเกือบทุกคน คือ..กูก็ไม่อยากจะวิจารณ์หรอกนะ พวกมึงเพิ่งเรียนจบไปได้แค่ครึ่งปี แต่หน้าตาพวกมึงล้ำไปถึงอายุสามสิบเลยว่ะ =_=;

“ตอนที่มึงบอกว่ามาถึงแล้ว กูแทบกรี๊ดอ่ะ ยังงงๆ ว่าใครแม่งโทรมา เอาจริงๆ คือมึงยังไม่ตายอ่ะะะ กูโคตรดีใจ เพราะแม่งเหมือนบุคคลหายสาบสูญไปเป็นปี” ไอ้เต๋อบอกพร้อมกับทำหน้ากวนตีนส่งมาให้

“พูดมากว่ะ แล้วพวกมึงเป็นไงกันมั่ง” ผมถามก่อนจะมองหน้าเพื่อนแต่ละคน ถึงจะมาไม่ครบ แต่ก็โอเคล่ะครับที่ได้เจอ เพราะไอ้กัส ไอ้เขต  ไอ้ลิน และไอ้ฟิว ไปเรียนต่อที่อังกฤษ ไอ้กัสกับไอ้ลินน่ะเมืองเดียวกัน แต่ไอ้เขตกับไอ้ฟิว ก็ต่างคนต่างไป ที่เหลือเลยมีแค่ ไอ้แต้ม ไอ้เต๋อ ไอ้เต้ ไอ้แม็ค และก็ไอ้คิมเท่านั้น

“ก็ดีว่ะ แต่กูเริ่มเบื่อชีวิตวัยทำงานละ ปีหน้าจะไปเรียนต่อแล้ว” ไอ้แต้มทำหน้าเบื่ออย่างจริงจัง จนผมอดเอาถั่วขว้างหัวมันไม่ได้

รวมๆ แล้วพวกมันก็สบายดี ไอ้เต้ไอ้แม็คสบายดีมากด้วยซ้ำเพราะพ่อแม่พวกมันโอเคกับความสัมพันธ์แล้ว ก็ดีครับ ดีใจกับพวกมันด้วย

“เออ...เท็น มึงรู้ป่ะวะ นาตาชาแต่งงานแล้วนะ”

“หืม? นาตาชาพี่เลี้ยงเมลน่ะนะ”

ผมเลิกคิ้วมองไอ้แต้มอย่างแปลกใจจริงๆ ใครเป็นผู้โชคดีได้ผู้หญิงคนนี้ไปวะ? เมื่อปีที่แล้วผมยังหึงนาตาชากับเมลอยู่เลยนะ =_=;

“ใช่”

“แล้วเจ้าบ่าว?”

“คนที่มึงก็รู้ว่าใคร”

เพราะคำพูดของไอ้แต้มทำเอาใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม คนที่ผมก็รู้ว่าใครนี่หมายถึงใคร? แล้วท่าทางไอ้แต้มที่ยิ้มกริ่มขนาดนั้นคืออะไร?

“อ้าว...เป็นไรวะมึง หน้าซีดๆ” ไอ้เต๋อถาม แต่ผมก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้มันไป

“กูคงเมาเครื่อง”

“=_=; ได้ข่าวว่าลงเครื่องมาตั้งนานแล้ว มึงดีเลย์มากไปป่ะวะ” ไอ้แม็คถามขึ้นอีกคน

“เออ -*- กูออกไปสูบบุหรี่แป๊บนะ”

ผมเดินออกมาทางหน้าร้าน ชนกับผู้ชายใส่หมวกที่เพิ่งเดินสวนไปเมื่อกี้ค่อนข้างแรง แต่ก็ไม่ได้สนใจจะขอโทษ ตอนนี้ผมกำลังกังวลว่าตัวเองกำลังมาสายเกินไป

ผมไม่รู้หรอกว่าหนึ่งปีที่ทรมานของผม เมลจะเป็นเหมือนกันไหม หรือมันลืมผมได้แค่ไม่กี่เดือนแล้วเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับคนอื่นไปแล้ว...มันแย่มากที่ทุกวันจะต้องคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าการที่กลับมาแล้วพบว่ามันกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว

ถ้าวันนี้มันไม่รักและไม่ได้รอผมอีกต่อไป...พรุ่งนี้ผมจะทำยังไงกับชีวิตตัวเองต่อไปดีก็ยังคิดไม่ออก เพราะตลอดเวลาหนึ่งปี ผมเฝ้ารอวันที่จะกลับมาหามันโดยตลอด

แต่มันคงไม่มีใครหรอกครับ...ที่จะรอคนที่อยู่ๆ ก็หายไป โดยไม่ติดต่ออะไรมาเลย

“ขอต่อไฟหน่อยได้มั้ยครับ”

ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากแบ่งปันให้เพื่อนร่วมโลกมากนัก เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

“คุณครับ...”

“....”

“ใจดำจังเลยนะครับ”

“....”

“ใจดำไม่เปลี่ยนเลย...”

เพราะเสียงตัดพ้อที่คุ้นหูทำให้ผมต้องหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายใส่หมวกที่ผมเดินชนเมื่อกี้ยืนไม่ห่างผมมากนัก ถึงบริเวณนี้จะค่อนข้างมืด แต่พอเพ่งตามองดีๆ ก็จำได้ว่าเป็นใคร

“เมล...”

“ไง”

“มึง...”

แค่รอยยิ้มที่ส่งมา ผมก็พูดอะไรไม่ได้อีกเลย ทั้งอยากร้องไห้และอยากยิ้มในเวลาเดียวกัน

รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า...

“ปล่อยให้กูรอตั้งนาน...แล้วยังจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกเหรอ มานี่สิเท็น”

ผมไม่เคยลืมเลยว่าอ้อมกอดของเมลอบอุ่นขนาดไหน ไม่เคยลืมเลยว่าเวลาที่ได้กอดกันแล้วหัวใจของเราสองคนใกล้กันมากขนาดไหน

“ขอโทษนะ...ขอโทษที่ให้รอ กูขอโทษนะเมล”

“ไม่เป็นไร ^^ เต็มใจรอ”

ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนจะยืนแทบไม่ติดพื้น ความรู้สึกตอนนี้มันลบความกังวลใจเมื่อก่อนหน้านี้ไปจนหมด แค่เพราะคำว่า 'เต็มใจรอ' ของเมล ผมก็รู้แล้วว่ามันคงไม่ใช่เจ้าบ่าวของนาตาชา และที่ยิ่งไปกว่านั้น...เมลยังคงเป็นคนของผม

ยังคงรัก...และรอผมอยู่ตลอด

“เมล...”

“ว่า?”

“ไม่โกรธเลยเหรอ”

“โกรธสิ” เมลอมยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผม “แค่ช่วงสามสี่เดือนแรก โกรธจนแทบบ้า แต่พอนานวันเข้า ความคิดถึงมันมีมากกว่า...ตอนนี้แค่มึงกลับมา กูก็ดีใจมากแล้ว”

“T_T น่ารักจัง”

“ฮ่าๆๆ ร้องไห้ทำไมเนี่ย ไม่เอานะ ไม่ร้องๆ”

“ไม่ได้ร้อง T_T”

“ครับๆ”

เมลยังคงกอดผมไว้แน่น คนที่รักผมได้อย่างมัน ชาตินี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว...

“เท็น...ขอบคุณที่กลับมา”

ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่มันยังคงรอ

“ต่อจากนี้...จะไม่ห่างกันแล้วใช่ไหม”

“อืม...แน่นอน”

“^^”

“ไม่ห่างกันอีกแล้ว กูสัญญา”

เมลพยักหน้า คลายแขนที่กอดผมออก ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บที่ปากผมหนึ่งที

“ของขวัญที่มึงให้ กูชอบมากเลย ช่วยให้หายคิดถึงได้เยอะ เวลาช่วยตัวเองแล้วมองหุ่นนั่นแล้วกูโคตรพีคอ่ะ”

-*- อะไรคือการที่มึงมาพูดขัดความโรแมนติกอย่างนี้วะ?

“ไอ้ลามก”

“หึหึ ล้อเล่นหรอก”

“หน้ามึงไม่ได้ล้อเล่นเลยเมล เปลี่ยวมากไง”

“พอสมควร ฮ่าๆๆๆ อย่าทำหน้าบึ้งเลยน่า”

“-*-”

“รูปที่มึงวาดก็สวยมากนะ”

จากที่กำลังแกล้งโกรธมัน ผมก็ต้องหลุดยิ้มออกมาทันที มันเป็นคนแรกเลยนะที่ชมว่าผมวาดรูปสวยอ่ะะะะ!!

“จริงดิ?”

“ไม่จริง -_-”

“เมลลลลลลลลลลลลลลลลลลล”

“ฮ่าๆๆ”

“ตกลงยังไงเนี่ย”

“สวยครับสวย มีพรสวรรค์มาก เยี่ยม ^^b” เพราะนิ้วโป้งที่แปะตรงหน้าผากผมทำให้ผมรู้ว่าเมลมันพูดยอไปอย่างนั้นเอง โถ อย่าให้สกิลกูเลเวลอัพนะมึง ขี้คร้านจะมาขอมาเป็นแบบให้ผมวาด หึหึ

“แต่ถึงยังไงกูก็ชอบมากนะ ^_^”

“อ่า...ก็ดีแล้ว -///-”

พอมองหน้าแล้วสบตากันตรงๆ แล้ว ผมดันเขินขึ้นมา ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่า ไม่เจอหน้ากันมาเป็นปีนะ มาโดนจ้องแบบนี้คงมีเก้อเขินกันบ้างแหละ

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ”

“อื้อ”

ที่ไหนที่มีคนสำคัญ คนที่ยังคิดถึง เป็นห่วง และเฝ้ารอให้กลับไปหา ที่นั่น...ก็คือบ้าน ในความคิดของผม เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมได้กลับบ้านแล้ว...

และขอบคุณที่เจ้าบ้าน...เขาเปิดประตูต้อนรับผมอย่างอบอุ่น

“ฝากตัวอีกครั้งนะเมล ^^”

“ครับ”

ไม่จำเป็นต้องตลอดไปหรอก แค่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ และวันต่อๆ ไป เราได้อยู่ด้วยกัน ทำสิ่งดีๆ ให้กัน ในทุกๆ วันที่ยังคงมีลมหายใจ...ก็พอแล้ว

...........................................The end.............................................

เมื่อฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอเองจะเป็นเช่นไร  :กอด1:

ขอปิดฉากลงแต่เพียงเท่านี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างในเรื่องนี้ที่ยังคงดำเนินต่อไป ชีวิตของใคร คนนั้นก็ต้องใช้และตัดสินใจกันเอาเอง ความรักของฟิวมายด์ เราปิดฉากลงแต่เพียงเท่านั้น อนาคตฟิวจะทำอย่างไรต่อไป ก็คงตอบไม่ได้ ส่วนเมลเท็น พวกเขาก็ยังจะรักกันอย่างนี้ ดูแลกันอย่างนี้ และเข้าใจกันอย่างนี้ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพราะฉะนั้นก็ใช้ชีวิตในทุกวันให้เต็มที่กันนะคะ

 :pig4: ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงบทสรุปค่ะ ขอบคุณมากกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 49 : 22-02-2014 (Page.41)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-02-2014 21:47:45
ขอบคุณเช่นกัน สำหรับนิยายดี ๆ ขอตอนพิเศษด้วยก็ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 23-02-2014 21:49:43
กดเป็ดรัวๆ

โฮววววววววววววววว ป๋าเข้าใจแล้ว เท็นเองก็แสดงออกว่ารักเมลเป็นเรื่องเป็นราวซักที
นี่คือดีมากแล้วสำหรับเราที่ลุ้นนิสัยของเท็นมาตลอดค่ะ ^O^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 23-02-2014 22:04:11
อย่าหนีเมลไปไหนอีกนะเท็น ต่อไปพ่อของเท็นคงยอมรับความรักของเมลเท็นได้แล้วนะ

รักกันแบบนี้ตลอดไปนะ  :กอด1:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ แต่ถ้าให้ดีขอตอนพิเศษด้วยนะคะ :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-02-2014 22:06:27
จบแล้ววววววววว
ขอบคุณที่แต่งนิยายมาให้อ่านกัน
จบแล้วคงคิดถึงเท็นเมลเหมือนกันนะ

รออ่านเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 23-02-2014 22:14:03
ตอนสุดท้ายนี่เราก็ยังนั่งร้องไห้กับเรื่องพี่มายด์อีกอยู่ดี  :m15:

รักเมลรักเดอะเท็นนะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 23-02-2014 22:24:05
 :call: ขอขอบคุณมากที่จบแบบนี้

เวลาหนึ่งปีที่จากไปและไม่ได้ติดต่อกัน? แต่ทั้งสองก็ยังมั่นคงในความรัก
มีความสุขมากๆนะเมลเท็น

โอย อยากได้ after story
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 23-02-2014 22:25:15
 :hao5: อยากอ่านตอนพี่เศษษษษ
คิดถึงเมลเท็นนนน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: AfternoonTea ที่ 23-02-2014 22:26:07
ขอบคุณคนแต่งมาๆเลยนะคะ ที่แต่งเรื่องดีอย่างนี้มาให้ติดตามกัน ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณจากใจ  o13 o13 o13

เราได้รับแนวคิดใหม่ๆในแบบเท็นไปเยอะเลยยย

ตอนนี้เราน้ำตาซึมเลย ชอบมากรักมากจริงๆ

จะหาคนที่รักเราได้เท่าเมลอีกมั้ยหนอออ

รักเท็นรักเมล และสมาชิก so what ทุกๆคนในเรื่องๆ รักคนแต่งด้วย  :กอด1: :กอด1:

การรอคอยแต่ละตอนให้มาอัพเรื่องนี้ ของเราได้สิ้นสุดลงแล้ว ใจหายมากกกกกก  :hao5:

เพราะฉะนั้น มีตอนพิเศษด้วยน้าาาาาาาาาาาา พลีสสสสสสสสสสสส 5555555555

พออ่านจบก็คิดถึงเมลเท็นอีกแล้ว คงได้กลับไปอ่านใหม่อีกหลายรอบแน่  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: BBlabong ที่ 23-02-2014 22:27:06
น้ำตาไหลไม่หยุดเลยยย

ทั้งคิดถึงมายด์ ทั้งสงสาร ทั้งซึ้ง ทั้งแฮปปี้ คือดีอ้ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-02-2014 22:27:51
ดีใจที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 23-02-2014 22:33:54
จบแล้วววว  :กอด1: เอาจริงๆใจหายเหมือนกัน กับเท็นเมลรู้สึกอยู่ด้วยกันมานานมาก จะไม่ได้อ่านคู่นี้อีกแล้ว ขอสเปในวาระพิเศษด้วยนะะ  :hao5:
เท็นเท็นร้องไห้ด้วย ซังนัมจาเค้าก็ร้องไห้ได้ไม่ใช่เรื่องแปลกเนอะ 55555 เรารักเท็นมากเลยยยย มากกว่าอพปเมนอันดับ2อีก
ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้ให้เราได้อ่าน เมลเท็นมีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วย  :กอด1:  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2014 22:38:06
จบซะแล้ว ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: super.babasbasz ที่ 23-02-2014 22:40:16
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 23-02-2014 22:41:30
อ่านจบ  ค้างด้วยอาการนี้อย่างเดียวเลยค่ะ
คืองง
  :m28:


ว่า เอ๊ะ! ตกลงแล้วมันเป็นใครอ่ะ เจ้าบ่าวของนาตาชาเนี่ย  ?
คนที่เท็นก็รู้ว่าใคร  จะเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์ก็คงไม่ใช่  คือเท็นมันรู้(หรอ?)  แต่ว่าเค้าไม่รู้อ่ะ  ถ้าไม่ใช่เมลแล้วมันจะเป็นใครได้เนี่ย  เค้างงมากกกกก 
 :z3:


จบด้วยอารมณ์งง กับตรงนี้อย่างเดียวเลยค่ะ
 :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 23-02-2014 22:45:47
ครบทุกรสจริงๆสำหรับเรื่องนี้ มาดราม่าตอนใกล้จบ แบบว่าน้ำตาแตกมากก แต่จบได้happy ending ซึ้งมากจริงๆ ขอบคุณที่แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-02-2014 23:41:06
ขอบคุนนะคะสำหรับนิยายดีๆ
ชอบเท็นกันเมลมาก
อยากให้มีตอนพิเศษจะมีมั้ยคะ??
ปล.แอบซึ้งกับตอนท้ายๆ ขอให้ทั้งสองคนรักกันนานๆ ตลอดไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Nano PL ที่ 24-02-2014 00:14:14
อ่านจบ  ค้างด้วยอาการนี้อย่างเดียวเลยค่ะ
คืองง
  :m28:


ว่า เอ๊ะ! ตกลงแล้วมันเป็นใครอ่ะ เจ้าบ่าวของนาตาชาเนี่ย  ?
คนที่เท็นก็รู้ว่าใคร  จะเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์ก็คงไม่ใช่  คือเท็นมันรู้(หรอ?)  แต่ว่าเค้าไม่รู้อ่ะ  ถ้าไม่ใช่เมลแล้วมันจะเป็นใครได้เนี่ย  เค้างงมากกกกก 
 :z3:


จบด้วยอารมณ์งง กับตรงนี้อย่างเดียวเลยค่ะ
 :katai1:

ช่ายแล้วเจ้าบ่าวนาตาชาคือใคร ?

แต่จบน่ารักๆก็พอล่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 24-02-2014 00:40:27
ตอนพิเศษษษษษษษษษ โฮก อยากอ่านตอนพิเศษ

สนุกมากๆค่ะ คุณนักเขียนเขียนตัวละครมีมิติทุกเรื่องเลย นับถือๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: timeturbo ที่ 24-02-2014 04:15:41
อ่านจบแล้วววว ขอบคุณมากๆเลย

เป็นอีกเรื่องที่สร้างความประทับใจ  :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 24-02-2014 04:46:42
ขอตอนพิเศษค่าาาาา
จบได้น่ารักมากกกกกกก หวานสุดดดด
แต่อยากเติมน้ำตาลเพิ่มอีกง่ะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-02-2014 06:05:55
ซึ้งงงงงง :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 24-02-2014 09:19:35
ขอบคุณนักเขียนสำหรับเรื่องดีๆค่ะ

รักเมลเท็น คงคิดถึงมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-02-2014 09:33:39
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 24-02-2014 10:03:10
ขอบคุณมากค่า สำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-02-2014 10:15:31
้้happy ending เนาะ
ความรักของเมลเท็นที่ทั้ง 2 บ้านต่างให้การยอมรับ และ ทั้ง 2 คนก็มั่นคงในรัก ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล :L2:

ส่วนมายด์ ใครพูดถึงทีไร ก็น้ำตาปริ่มทุกครั้ง  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mommee ที่ 24-02-2014 11:29:47
จบแล้วจริงๆ  แต่จะมีตอนพิเศษให้อ่านใช่ไหมคะ  โอยยย นิยายจบแต่อารมณ์เรายังไม่จบ เดี๋ยววนอ่านอีกรอบแบบรวดเดียว

ของขวัญน้องเท็นเจ๋งเป้งเลยค่ะ คิดได้ไม่ธรรมดาเลย 55

ในขณะที่พี่เมล์น่ารักมาก  ที่อดทนรอ  คือเราดีใจที่พี่ไม่ไปวอกแวกเพราะโกรธเท็นเท็น คือแบบน่าสงสารอะที่ไม่รู้อะไร ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ตัดใจ ซึ่งเป็นเราก็ไม่ทำจนกว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายหายไปไหน ไม่งั้นคาใจแย่

พอมาเห็นผลลัพท์ที่รอมาแล้วดีใจแทนทั้งคู่ด้วย

แอบเซงคุณพ่อนะคะ  คือเราเข้าใจอารมณ์คุณพ่อ  แต่ไอ้การห้ามเจอกันเพื่อพิสูจน์นั่นใจร้ายเกิน สั่งให้เลิกคบยังง่ายกว่า คุณพ่อจะรู้ไหมว่าทรมาณลูกเมียตัวเองอะ  คือ  เฮ้อออ  เอาๆ  ไหนๆก็สมหวังกันแล้ว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-02-2014 11:49:10
มายยยยด์ โอยย มายยด์


(ขอดิฉันโอดครวญซักครู่)

เฮ้อ บแล้วสินะคะ หน่วงทั้งเรื่องเลยจริงๆค่ะแต่ก็มีเหงาๆสุขๆน่ารักๆกรุบกริบๆ

บรรยากาศอุ่นๆหน่วงๆที่ทำให้เรารักเท็นและเมล ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องค่ะ

รักทั้งเท็นและคนเขียนค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: pummy09 ที่ 24-02-2014 14:03:48
อ่านทีเดียวสองเรื่องรวด เรื่องนี้กะพี่มาโปรด สนุกมากทั้งสองเรื่องเลยค่ะ
ชอบค่ะ นายเอกทั้งสองบุคลิกต่างกันโค่ดๆๆ อะ ฮ่าาาาา

ขอบคุณนะคะ ที่เขียนเรื่องสนุกๆ ให้ได้อ่าน ได้ติดตามกัน ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 24-02-2014 14:05:00
เจ็บปวด ฮือออออ สงสารพี่มายด์ (ร้องไห้ย้อนหลัง  :hao5:)
ว่าแต่จบแล้วหรอ ขออีกได้ป่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 24-02-2014 16:21:54
รักเมล-เท็นจังๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 24-02-2014 16:42:51
จบหวานนะ ตอนจบแบบรักเมลเลยอ่ะ

แต่สารภาพว่ายังคิดถึงมายด์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 24-02-2014 16:51:38
ขอบคุณสำหรับ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา สำหรับเรื่องนี้ค่ะ
ขอบคุณมาก อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุข (ในตอนจบ)
ชอบมากค่ะ เดี๋ยวขอไปวนอีกสักรอบ (^_^)
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 24-02-2014 20:09:09
อ๊ายจบแล้ว ฟิน~~
ขอให้มีตอนพิเศษเถอะนะ  สาธุ
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 24-02-2014 22:09:49
น้ำตาคลอคืออัลไลลลลลลลลล


T______________________T


ซึ้งอะ


ขอตอนพิเศษด้วยนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 24-02-2014 22:44:31
เป็นตอนจบที่มีความสุข และได้คิดต่อ

ขอบคุณมากๆ สำหรับเรื่องนี้ รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปครับ

รักน้องปลื้ม บูชาน้องเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 25-02-2014 02:35:35
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ
ช่วง10ตอนท้ายสั้นมาก 555
อยากอ่านตอนพิเศษ 5 ปีผ่านไ
ชอบเท็นเท็นกับเมลคู่นี้รักกันดี
ไม่ค่อยทรมานใจเหมือนคู่เสี่ยโปรด
มีน้ำตาซึมตอนมายด์ ฟิวรู้ตัวช้าไปหน่อย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ChaBuShi ที่ 25-02-2014 08:56:55
 :m15: :m15:  สงสารฟิว มายด์น้ำตาไหลเลย :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 25-02-2014 15:10:52
 :pig4:


ตอนพิเศษด้วยน้า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Mrl● ที่ 26-02-2014 02:51:21
อ่านจบแล้วววว
ตามมาจากเรื่องมาโปรดนะคะ
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะอ่านดีมั้ย เพราะจากเรื่องมาโปรดเราเฉยๆกับเท็นมากกก แบบไม่ใช่สไตล์ที่ชอบเลย แต่มาอ่านแล้วกรี้ดมากกกกก ชอบเท็นมากกกก ชอบเมลมากๆๆๆๆด้วย
ทะเลาะกันไม่เข้าใจกันบ่อย แต่ก็ยอมลงให้กันทุกครั้งเลย

เรื่องนี้เราอ่าน2วันรวดเลย น้ำตานองเลยจ้าา
สงสารฟิว สงสารมายด์แม้จะทำใจแล้วก็ตาม ฮึก

ขอตอนพิเศษด้วยน้า 55555
แล้วก็ถ้ามีเรื่องใหม่เราวัญญาว่าจะตามไปอ่าน
เพราะชอบแนวนี้ แล้วก็หลงพระเอกของคนเขียนทุกเรื่องเลย ทั้งพี่โปรดทั้งเมล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 26-02-2014 07:55:23
อ่านรวดเดียวเลย หลงรักเมลเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 02-03-2014 23:12:37
อ่าา  เข้ามาอีกทีจบซะแล้วววว   :hao5: 
แต่ซึ้งได้ใจ  ชอบบ   o13

 :L2: :L2: :bye2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 02-03-2014 23:39:31
จบลงไปแล้ว อ่า ชอบจัง ประทับใจ ตื้นตัน แง อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 05-03-2014 19:22:25
ถึงใครจะว่างยังไง...รักฟิวกับมายด์มาก ๆ ...
แม้จะเป็นคู่รองงงงงงงงงงง.....แต่ก็รัก.....
ใจอยากให้แต่งภาคของมายด์ที่กลับมาเกิด..
และมาพบกับฟิว..เออ...แบบรุ่นลุงมาเจอหลาน
มันคงจะดีเนอะ....แต่ก็รักเท็นกับเมลเหมือนกันนะ
(ถึงจะรักคู่รองมากกว่านิด ๆ ..)...รอเรื่องใหม่ต่อไป... :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ferrari_L ที่ 06-03-2014 22:29:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-03-2014 11:19:49
 :กอด1: :3123:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nayne ที่ 07-03-2014 13:25:02
พึงอ่านตังแต่เมื่อวาน จนถึงตี 4 อ่านจบแล้วเม้นต์ไม่ไหวเลยมาเม้นต์ตอนนี้
เท็นสุดยอดอ่ะ แบบว่าเธอช่างอารมณ์ยิ่งกว่าศิลปินจริงๆ
สงสัยที่เขาพูดกันว่าอัจฉริยะกับบ้านี่มันต่างกันนิดเดียว
อ่านพี่โปรดแล้วมาอ่านเรื่องนี้ ก็เลยรู้ว่าจริงๆเท็นมันก็มีโมเมนต์น่ารักเหมือนกัน(ถึงจะเป็นแต่กับเมลก็เถอะ)
ถึงบางตอนจะอยากตบนางมาก แต่ท่านก็ช่างเทพจริงๆ

สงสารเมลแทบทุกตอน แทบอยากจะยกสโลแกน 'เป็นผัวเท็นต้องอดทน' ให้
แอบร้องไห้ดพราะสงสารเมลไปหลายรอบมาก(อินจัดจริงๆ)
เรื่องนี้พระเอกรันทดสินะๆ :hao5:

พึ่งรู้ว่าในสายตาเท็น ปลื้มมันก็แค่ไอ้เด็กหน้าเอ๋อสินะ 555
แล้วของที่เสี่ยติดสินบนเท็นก็คือหุ่นขี้ผึ้งนี่เอง

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 07-03-2014 23:16:29
ฮือ มาพีคต่อมน้ำตาแตกตอนมายด์จากไปค่ะ สงสารมาก เหมือนยังไม่ได้พูดอะไรก็จากไปก่อน
น้ำตาท่วมเลยตอนมายด์ T _ T

สนุกมากค่ะ อารมณ์เรื่องนี้หน่วงมาก อ่านไปก็กัดผ้าไป ทำไมมันหน่วงแบบนี้!!! :angry2:
หน่วงตั้งแต่เท็นที่คิดอะไรไม่ค่อยคิดถึงใจเมล(ในตอนแรกๆ) แล้วก็ยังคงหนักหน่วงมาจนถึงหยดสุดท้ายค่ะ ฮือออออ

แต่งอารมณ์หน่วงเกง่มากจริงๆ ปกติไม่อ่านนะคะ เศร้าเกิน รับไม่ได้ ชีวิตต้องมีแต่ความสุขค่ะ T v T

รอติดตามผลงานเรื่องอื่นๆนะคะ ไปตามเก็บเรื่องมาโปรดก่อนแล้ว เฟี้ยววว :katai5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 08-03-2014 00:03:44
เมลเท็นน่ารักกกก~

แต่สงสารคู่มายฟิวจังเลย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 08-03-2014 02:44:17
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า  "ขอบคุณนะ ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ที่ให้ทุกอารมณ์ความรู้สึก ถ่ายทอดได้ครบรสครบเครื่องมากๆ "

สำหรับเรื่องของฟิว ก็คงอยู่ที่เจ้าตัวเค้าแล้วแหละว่าจะเป็นไงต่อไป แต่ก็น่าสงสารตรงท่ี่ว่า ตอนที่อยู่ด้วยกันเรื่องดีๆที่ทำให้กันมีน้อยมากถ้าเทียบกับบุคคลอื่นๆ เป็นบทเรียนที่มีค่า และราคาแพงที่สุด

สำหรับคู่เอกเรา เมล เท็น บอกได้แค่ว่า พวกนายสองคนจะล้ำไปไหนอะ ความคิดความอ่านแต่ละอย่าง อยากจะร้องไห้ แน่ใจว่าเป็นมนุษย์ คิดแต่ละอย่างทำแต่ละอย่าง โหยยยย

อย่างน้อยก็มีความสุขในแบบของเค้าละนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 08-03-2014 13:40:05
สงสารมายด์ ไม่เคยได้ช่วงเวลาที่ดีๆกับฟิวเลย T T :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 09-03-2014 01:17:40
 :เฮ้อ:
อ่านเรื่องนี้จบแล้วได้แต่ถอนหายใจไปมา
อารมณ์ขึ้นลงจนงงตัวเอง แทบจะติสท์แตกตามเท็นไป 5555

เราชอบนิสัยเท็นนะ ไม่ตามโลก ไม่ตามใคร ตามใจฉัน
คนเรามันมีความแปลกในตัวทั้งนั้นแหล่ะ อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
ซึ่งบางอารมณ์เราก็เป็นแบบเท็น อิอิ เลยพอเข้าใจอยู่บ้าง :laugh:
และเมลก็คงเข้าใจเหมือนกัน มันไม่ได้เข้าถึงยากหรอกนะ อยู่ที่ว่าพยายามเข้าถึงแล้วรึเปล่า

ส่วนคู่มายด์ฟิวนี่โนคอมเมนท์ละกันเน้อออ บางทีการสูญเสียก็ให้อะไรมากกว่าน้ำตาและความเสียใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ^^KENTA^^ ที่ 09-03-2014 06:45:47
สงสาร มายด์ ฟิว ¥_¥~~~~
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 12-03-2014 00:46:38
 o13 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: maamookii ที่ 14-03-2014 11:35:09
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมากค่ะ
ติดตามมาตั้งแต่เรื่องมาโปรดแล้ว
ชอบตัวละครทุกตัวเลย
จะติดามผลงานของคุณผู้เเต่งเรื่อย ๆ นะคะ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mommee ที่ 14-03-2014 16:04:19
คิดถึงงงงงง....ตอนพิเศษ  แฮ่  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: - lloJ!จิ้a - ที่ 15-03-2014 19:45:49
หน่วงเศร้าน้ำตาเล็ดเช็ดหัวเข่า  :hao5:

แต่อัลไลคือนิยามของคำว่า ' เท็น ' ห๊ะะะะะ!  :z3:

ว่าแต่คนเขียนนี่ชอบแต่งนิยายช้ำใจเนอะ คราวพี่มาโปรดก็โคตรชอกช้ำระกำจิต มาเรื่องนี้ก็ต้องกินน้ำเกลือเพื่อทดแทนน้ำที่ขาดไปกันเลยทีเดียว  :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 16-03-2014 19:20:48
เพิ่งใด้รู้จัก
นิยายเรื่องนี้
คนแต่งเก่งมากกกกกกกกกก
ตอนพี่โปรดกับนัองปลื้ม  เราก็รัองให้ตาบวมมาแล้ว
พอมาเรื่องนี้  หน่วงมากกกกกกก
เพราะความติดส์แตกของเท็น
สงสารฟิวเป็นที่สุด
ไม่เคยสมหวังในความรักเลย
อยากอ่านตอนพิเศษ
แต่ถ้าให้ดี
อยากอ่านเรื่องใหม่ด้วย  ^  ^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 17-03-2014 14:20:50
เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆโดยเฉพาะเท็นคือโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงเกินคนปกติ(แน่ละซิเธอคืออัจฉริยะ)

ดูเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกทำอะไรไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นซักนิดยิ่งกับฟิวที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก

เอาตรงๆฟิวดูแลเท็นแทบจะทุกอย่างเป็นห่วงเป็นใยแต่คำพูดกับการกระทำของเท็นเห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยห่วงความรู้สึกฟิวซักเท่า

ไหร่..ยกความอดทนให้เมลที่สามารถทนเท็นได้นะ(ชั้นจะโดนแม่ยกเท็นเท็นด่ามั๊ย555)

ส่วนมายด์น่าสงสารมาก..จากไปทั้งๆที่เจ็บปวดฟิวก็อยู่แบบคนที่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง....
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: lakza651 ที่ 19-03-2014 23:47:04
อ่านจบแบ้วววววววันเดียวรวดดดดดดดดดดดดดด สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชอบเท็นเราว่าเป็นตัวละครที่แบบ...ตรงกับความคิดเรามากมายแหงะ แล้วก็ชอบเมลน่ารักจริ๊งงงงงงงงงงงงงง
ส่วนคู่มายฟิว เรารู้สึกว่าหน่วงงะ หน่วงมากกกกกกก ยิ่งตอนที่วันถอดเครื่องช่วยหายใจนะแบบ เอามากรีดใจเราเคอะ
คือจริงๆ เราชอบเสพมามู่นะ ชอบมากๆแต่เราไม่ชอบให้มีคนตายแหงะ ซึ่งการที่มีคนใดคนหนึ่งทำให้เรารู้สึกเขาไม่มีโอกาสที่จะเจอกับความสุขแล้วอะ ให้เลิกกันแล้วตอนจบเรายังรู้สึกไม่หน่วงเท่ากับมีคนตายเลยยยยย ซึ่งในชีวิตอ่านนิยายที่มีคนตาย 3 เรื่อง(รวมเรื่องนี้)
เอาจริงๆเราก็แอบอ่านหลายๆคห ก่อนนะ ก็ชั่งใจอยู่ว่าจะอ่านหรือไม่อ่านดูแต่ก็ได้อ่าน(บอกทำไมเคอะ)
และสุดท้าย ท้ายสุดก็คงไม่มีไรนอกจากคำว่าขอบคุณผู้แต่งที่แต่งออกมาได้แบบเรารู้สึกแบบนั้นไปด้วย เพราะเราค่อนข้าง(เยอะ)อยู่เพระามีหลายๆเรื่องที่อ่านแล้วไม่อิน แต่เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่อ่านจบแล้วอินมาก :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 23-03-2014 16:04:08
T^T อ่านตอนท้ายๆน้ำตาไหลพราก... (เพื่อนหันมาตบหัวที หาว่าบ้า)

จะตามอ่านเรื่องอื่นๆต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 06-04-2014 02:06:36
ไม่คิดว่าเรื่องของมายด์ฟิวจะเศร้า ฟิวต้องเข้มแข็งให้มากๆนะ ส่วนคู่เมลเท็นรักกันนานๆน๊าา

ขอบคุณคนแต่งที่ได้มีเรื่องราวดีๆและสนุกสนานแบบนี้มาให้ได้อ่าน ขอเป็นFCติดตามไปตลอดเลยนะๆๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: one ที่ 06-04-2014 16:02:37
 :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 06-04-2014 21:16:46
อ่านรวดเดียวจนตอนจบ เลยรู้สึกว่าเหมือนเรื่องไม่จบซะทีเดียว เพราะมีแต่ตัวละครหลักอย่างเท็นและเมลที่เล่ามาถึงตอนปัจจุบัน แต่อย่างน้องปลื้มพี่โปรด ฟิว กัส หายไปเลย

เข้าใจบุคลิกเท็นนะ เพราะคล้ายตัวเองมาก แม้จะไม่ติสหรือกล้าเสี่ยงทำอะไรเท่าเท็นก็ตาม

ส่วนมายด์ก็เสียดายตัวละครอย่างมายด์อะ คือพอเข้าใจว่าจะให้ลงเอยกับฟิวเลยก็ยาก แต่รู้สึกว่าไม่น่าถึงกับต้องให้
มายด์ตายเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 07-04-2014 14:31:00
...เขียนได้ดีมากๆๆ พี่อ่านเรื่องมาโปรดก่อน แล้วถึงได้อ่านเรื่องนี้
...เรื่องนี้อ่านแล้วตื้นตัน น้ำตาซึมในหลายๆคู่ โดยเฉพาะคู่ของฟิวกับมายด์
...ส่วนคู่หลักก็ชอบเท็นนะ มันบ้าๆเหนือมนุษย์ อย่างว่าแหละเค้ามันพวกเด็กพิเศษ
...พระเอกก็สุขุมดี ดูนิ่มๆมาตั้งแต่เด็กๆสมกับเป็นคุณชาย แต่ไหงโตแล้วดันกลายเป็นรุกไปได้หว่า55
...สรุปว่าเรื่องของมีกับเต้จบหรือยังหว่า อ่านแล้วก็จำไมได้
...ยังไงก็ขอบคุณมากที่เขียนนิยายดีๆให้อ่านจะตามเป็น fc ในเรื่องต่อไปด้วย ขอบคุณอีกครั้ง :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 08-05-2014 15:01:53
เสียใจเรื่องมายด์จัง
สงสารฟิว พอจะมีคนรักทั้งทีก็ดันจากไป

เมลเท็น คู่นี้เข้ากั๊น เข้ากันได้ดีเหลือเกิน
55555555555555555555555
คนนึงก็เกิน อีกคนแลขาดๆ 5555555555 โดนเมลตบ

สรุปว่าเรื่องนี้น่ารักมากๆเลย  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 13-05-2014 02:17:53
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก 
เข้ามาอ่านแบบไม่รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องพี่เท็น ของน้องปลื้ม
ชอบน้องเท็น กับ เมล มาก น่ารัก :o8:
อ่านไป อ่านมา มีพี่มาโปรดดดดดดดดดดด   
แต่ณ.จุดนี้ ที่อ่านจบ :hao5:
ข้าพเจ้า ก็ยังร้องไห้อยู่ สงสารมายด์
ทำไมอ่ะ แม่ก็ตาย  ตายเพราะสาเหตุเกิดจากตัวเอง  พ่อก็ไม่ใกล้ชิดด้วย
ไปรักฟิว  ฟิวก็ไล่ให้ไปตายทุกวัน  ข้าพเจ้าอินมากอ่ะ  ขอบอก
แต่งเก่งมากกกกกกกกกกก  สนุกมากเลย ขอบคุณค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: beerr1998 ที่ 16-05-2014 01:01:24
ชอบมากเลยครับ  :katai2-1: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 18-05-2014 22:36:44
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ มีหลายๆอย่างที่อยากจะบอกแต่บางคอมเมนท์ก็บอกไปหมดแล้ว เพราะงั้นขอสรุปนิดๆละกันนะ เรื่องนี้...สนุกค่ะ แต่ช่วงหลังดำเนินเรื่องเร็วไปนะคะ ตั้งแต่น้องปลื้มโผล่มา อยากจะบอกว่าไออ่านไม่รู้เรื่องเลย พี่โปรดอะไรนี่ด้วย ใครกัน?! เหมือนตอนมันถูกวาร์ป ถ้าเป็นไปได้อยากให้อ่านแบบรู้เรื่องโดยที่ไม่ต้องไปอ่านอีกหลายๆเรื่องนะคะ คราวหลังหรือถ้าคิดรีไรท์ช่วยเกริ่นแทรกที่มาที่ไปหน่อยเถอะ / อืมมมม...แบบว่าแต่ละคนนิสัยเด็กกันจังเลย 555+ ไอชอบเท็นนะ เป็นตัวของตัวเองดีจริงๆ เมลก็เป็นคนดีที่แคร์คนใกล้ตัวเกินไปนะแต่ก็เป็นซูเปอร์แฟนล่ะ ไอมองว่าคู่นี้เป็นสมการที่ลงตัวนะคะ ^^ และก็นะ อยากจะบอกว่าไม่ชอบฟิวเลยยยยยย แต่ในชีวิตจริงแบบฟิวนี่ล่ะเยอะ การไม่สมหวังในรักทั้งสองครั้งของฟิวยิ่งทำให้ดูเรียลยิ่งขึ้น แต่ไอก็เสียใจกับการจากไปของมายล์จริงๆนะ เฮ้อ!

ขอตอนพิเศษหน่อยสิคะ  :hao3:

   :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 21-05-2014 12:39:08
สนุกมากจริงๆ ขอบคุณมากๆนะครับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ckk ที่ 22-05-2014 13:48:23
สนุกมากเลยค่ะ
แต่ตอนมายด์ตายนี่น้ำตาไหลพราก
สงสารฟิวมากอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 23-05-2014 01:16:21
 :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 03-06-2014 14:41:06
 :oo1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 04-06-2014 17:33:10
อ่านจบแล้วสนุกปนเศร้า
สงสารมายและฟิวมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 13-06-2014 01:12:55
สนุกมากๆ ตอนหลังๆน้ำตาไหลตามเลย ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่านจ้า เลิฟ เมลเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 14-06-2014 13:34:22
ลุ้นมาทุกฉากสำหรับเท็นเมล
ขนาดตอนจบยังมีให้ลุ้นเลย 55555555555
ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่คนเขียนแต่งแต่เราดันอ่านมาโปรดและสุดโต่งก่อน 55555
ชอบค่ะ ชอบทุกเรื่องที่แต่งเลย สนุกมาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 15-06-2014 23:59:39
สนุกมากกกกกก ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ


ฟิว+มายด์ ก้อทำซะปวดใจสุดๆๆๆๆๆ  :m15:


เมลน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก เท็นเท็นก้ออินดี้หลุดโลกไปเลย 


สนุกค่าาาาาา   :katai2-1:


หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-06-2014 14:05:08
อ่านมา20กว่าตอนละคิดได้ว่านี่คือนิยายจริงๆ เพราะถ้าเป็นชีวิตจริงเท็นที่เป็นตัวของตัวเองเกิ๊น โลกส่วนตัวก็สูงลิบลิ่ว อาตร์ตัวพ่ออีกต่างหากขนาดนี้น้อยคนนักที่จะทนได้ แต่ในเมื่อมันคือนิยายฉะนั้นก้อจัดไปเราทนได้ :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-06-2014 15:25:25
เท็นนี่ตั้งแต่คืนดีกันกับเมลนางน่ารักขึ้นเย๊อะ ยิ่งเรื่องแฟนเก่าของเมลที่นางจัดหนักไปนะมันใช่อ่ะโดนสุดๆเท็นนายเยี่ยมมาก ของของเราก็คือของเราเน๊อะ o13 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-06-2014 16:59:03
เมลแม่งไม่มีรความเป็นผู้นำเลยอ่ะ หลายเรื่องละไม่เคยเด็ดขาดอะไรเลย เสียความรู้สึกแทนเท็น เข้าใจและพร้อมจะยอมรับนะถ้าเท็นจะเลือกทางเดินที่ไม่มีเมล แต่ก้อนะแอบอ่านตอนสุดท้ายแล้ว :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-06-2014 18:57:57
ตอนนู้นเคืองเมลที่ไม่ค่อยเด็ดขาดแต่มาตอนนี้หมั่นใส้เท็นที่คิดถึงแต่ตัวเองเกินไป รู้ว่าเท็นมีมุมมองและใช้ชีวิตต่างจากคนอื่นแต่ตราบใดที่เท็นยังไม่พร้อมที่จะปรับตัวเองและพยายามเข้าใจเห็นใจและทำเพื่อใครซักคนเท็นก็ไม่สมควรที่จะให้ใครคนนั้นมายืนเคียงข้างถึงแม้เมลจะบอกว่าพร้อมจะรับได้กับทุกอย่างที่เป็นเท็น แต่เท็นเข้าใจมั้ยว่าคำว่าคนรักกันคือคนสองคนฉะนั้นทุกเรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องชีวิตคู่เท็นก็ต้องพร้อมที่จะแบ่งปันรับฟังแชร์กับคู่ชีวิตด้วย ไม่ได้หมายถึงให้เท็นเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเมล แต่อยากให้เท็นเอาใจเขามาใส่ใจเรามั่ง ก่อนจะทำอะไรหันมามองคนข้างๆบ้างซักนิดก็ดีนะเท็น บางทีมันก็น่าเอือมที่เท็นเป็นแบบนี้เหมือนกันเหนื่อยแทนเมล :seng2ped: :katai1: :katai1: :katai1: :เฮ้อ: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-06-2014 19:52:13
บอกไม่ถูกว่าสงสารฟิวมั้ย เพราะคิดว่าถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุกับมายถ้ามายไม่จากไปฟิวจะคิดได้รึเปล่าว่ามายสำคัญ :mew4: :mew4: :monkeysad: :monkeysad: ถ้าจะสงสารคงสงสารมายมากกว่าที่เป็นผู้ร้ายเป็นคนเลวโดยไม่ได้รับการอภัยแม้แต่วันที่จากไปก็ยังจากไปอย่างเจ็บปวด :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 20-06-2014 15:47:26
 :L2:
ปล. แล้วเจ้าบ่าวของนาตาชาเป็นใครล่ะนี่  :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 24-06-2014 17:07:15
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีตอนพิเศษเหรอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: uchikas ที่ 26-06-2014 11:53:15
พลาดนิยายเรื่องนี้ไปได้ยังไงตั้งนาน เปิดผ่านไปก็หลาย
จนเมื่อวานก็ได้ฤกษ์อ่านจริงๆจังๆ
สนุกมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจกับความอินดี้ของเท็นเท็น สักเท่าไหร่
แต่ก็เข้าใจถึงความรักที่เมลและเท็นมีให้กัน
มายด์ฟิว คือฉากเรียกน้ำตาจริงๆ ถึงจะไม่ได้เจาะลึกก็เถอะ
เรื่องนี้ครบทุกรสจริงๆ


ขอบคุณสำหรบนิยายดีๆ ครับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 27-06-2014 02:21:39
อ่านตั้งแต่ตอนแรกคือแบบ..เฮ้ย เทนเมลหวานมาก สีชมพูสุดๆ :-[
พอมาใกล้จะจบ มันเกิดอารายยยขึ้น
มายด์ไปซะแล้ว...น้ำตาร่วงกราว มีซาวด์เป็นเสียงฝนพรำๆ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 28-07-2014 00:27:04
อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกหลังจากอ่าน มาโปรดจบ แต่อ่านไปสักพัก เจอตอนของมายด์ฟิว เข้าไปจึงหยุดอ่าน ไม่ใช่อะไร คือไปอ่านคอมเมนท์มาแล้วรู้ว่ามายด์....คือไม่ค่อยถูกกับแนวโศกนาฏกรรม จากกันชั่วชีวิต แก้ไขอะไรไม่ได้แบบนี้มากก เคยหลงอ่านอยุ่เรื่องหนึ่งมาเจอตอนจบร้องไห้ไปสามวันเจ็ดวัน จากนั้นมาก่อนจะอ่านนิยายเรื่องไหนต้องสแกนตอนจบด่อนว่ามันจะไม่มีโศกนาฏกรรมแบบนี้ จบแบบไม่รักกัน จากกันไปคนละที่ ยังดีกว่า จบแบบ แก้ไข บอกอะไรอีกฝ่ายไม่ได้แล้วแบบนี้ จริงๆๆ ทีแรกที่ตัดสินใจอ่านเรื่องนี้หลังอ่านคอมเม้นท์เพราะไม่ใช่คู่หลักที่โดน เป็นคู่สเปข้ามอ่านเอาก็ได้ แต่เผอิญคู่สเปเป็นเพื่อนกับคู่หลักแถมยังเกี่ยวโยงกันอีกเลยต้องรุ้เรื่องไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในครั้งแรกนั้นจึงหยุดอ่านไปครึ่งทาง แต่เพราะมันเปนนิยายของคุณsnufflehd ที่มีแค่ไม่กี่เรื่อง ฮือออๆๆ บอกตรง เราหานิยายที่มีอรรถรสเหมือนนักเขียนคนนี้แต่งไม่ได้เลย มาโปรดนี่ เราอ่านเกินห้ารอบอ่ะ ซึ่งไม่เคยมีนิยายเรื่องไหนทำให้เป็นแบบนี้ คุณsnufflehdแต่งนิยายได้ถูกปากเอ้ยถูกใจเรามากอ่ะ คือเรานิยมมาม่าหน่วงจิตแต่ไม่โปรดโศกนาฏกรรม. แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เราก็มาต่อจนจบ ฮือ แม้จะข้ามสเปคู่มายด์ฟิวไป แต่เราก็ร้องไห้อยู่ดีตอนที่ถอดเครื่องช่วยหายใจ ฮืออ นี่ถ้าเราอ่าน สเปด้วยมิร้องหนักกว่านี้หรือ  :o12:  สุดท้าย คนเราก็มักเห็นค่าของสิ่งที่มีอยู่เมื่อต้องสูญเสียไป แต่คู่มายด์ฟิวนี่ สายมากๆๆ แก้อะไรไม่ได้อีกเลยจริงๆ ฟิวต้องรุ้สึกผิดไปชั่วชีวิตอ่ะ มายด์ก็จากไปแบบไม่รับรุ้อะไรอีก นี่หรือบทลงโทษ ไม่มีโอกาสแก้ตัว ไม่มีเลย ไม่มีๆๆ ฮือออออ ดีนะที่ไม่ได้อ่านทั้งหมด อ่านแค่นี้ยังร้องขนาดนี้ ถ้าอ่านโมเมนต์ที่เขาอยุ่ด้วยกันอีก ความเจ็บปวดของฟิวที่โดนคนที่ไม่ได้รักขมขื่น ความเจ็บปวดของมายด์ที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรัก รักแต่คนอื่น ไม่รวมตอนที่อาจจะหวานๆตอนที่เขาดูแลกัน ฟิวที่ทำข้าวให้มายด์ มายด์ที่ไปนั่งเฝ้าฟิว โฮๆๆๆ ไม่เอาแล้ววว นี่ขนาดไม่ได้อ่านยังเพ้อขนาดนี้ พอๆๆๆๆ :o12:
คู่เมลเท็น เป็นคู่ที่น่ารักอีกคู่ คุณsnufflehd สร้างตัวละครหลักให้มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันดีไม่ซ้ำ น้องปลื้มกับพี่เท็นนี่คนละโยชน์เลย อ่านตอนพี่เท็นแล้วต้องวกไปดูหัวกระทู้ซ้าว่าใช่นักเขียนคนเดียวกับที่มาโปรดรึเปล่า ไมมันคนละฟีลแบบนี้ แต่สิ่งที่คงไว้ไม่เปลี่ยนคือ อารมณ์  อรรถรส ของนิยาย อ่านแล้วปวดจิตปวดใจ แซบกับมาม่า กลมกล่อมๆ  o13 ขอบอกว่าจะตามอ่านทุกเรื่องค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ รวมเล่มด้วยก็ดีนะคะ อิอิ ขอบคุณสำหรับนิยายมากๆๆค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 28-07-2014 00:47:00
คิดถึงเมล-เท็นจังเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 12-08-2014 22:41:37
มาขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ เสียดายที่จบแล้ว
ชอบทุกตัวละครในเรื่องนี้อ่านเรื่องนี้ก่อนมาโปรด
เลยชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องนั้นนิดนึง
ชอบเท็น นายเอกที่ไม่เหมือนใคร
เมลหนุ่มหล่อโคตรรักเมีย
ชอบโมเม้นต์ที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน
เสียใจที่มายด์ตาย สงสารน้องฟิว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: M_April ที่ 02-09-2014 08:23:52
ถ้าเข้าใจเท็นคุณจะรักเท็น  เมลก้อน่ารักที่สุด

ขอบคุณคนเขียนนะคะ รอติดตามผลงานดีๆ ต่อไปค่ะ o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: teamkoyza ที่ 03-09-2014 14:16:21
เป็น อะไรที่ หลากรสชาติจริงๆค่ะ
มุมมองต่างๆที่ถ่ายทอดออกมาเนี่ย
บอกเลยว่า "ปลื้มมาก" ค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: lionnoi ที่ 07-09-2014 02:30:49
รักคนเขียนมากค่ะ  :mew1:
ตามมาจากน้องชงโค และ พี่ทอง น้องเดซี่ ลูซี่ และเซ็กซี่ อิอิ :hao7:
เป็นนิยายที่รักหัวปักหัวปำ คุณsnufflehp เก่งจริงๆ เราอิน เราชอบ เราฟิน
เท็นเก่งมากๆ จบดร.  :really2: อาร์ต สุดๆ ตรง แรง ได้ใจมาก
คาราเมล น่ารักมากๆ เข้าใจ เท็นตลอด ถึงจะมีน้อยใจในบางครั้ง ซึ่งเราก็เข้าใจ ในอารมณ์นะ
ส่วนใหญ่ คนไอคิวสูง อีคิว จะต่ำ 5555
รักเมล อยากรู้ว่าเท็นจะจำน้อง คาราเมล รถบังคับ ได้มั้ย
เกลียด ฟิวช่วงแรกๆ คนมันรักห้ามยาก ยิ่งเจอกันตลอด ยิ่งตัดใจยาก
แต่ตอนหลังสงสารอ่ะ ก็เข้าใจชีวิตคนเรามันไม่ได้ ได้มาง่ายๆ
แต่จบแบบนี้ก็โอเค หน่วง แต่ก็สมเหตุ สมผลดี ฟิวได้รับบทเรียนจากการกระทำ
หวังว่าจะไม่เสียใจ จนรักใครไม่ได้อีก
พี่มาโปรด สุดหล่อ ขอไปติดตามก่อนนะคะ ปลื้มมาตั้งแต่เรื่องพี่ทอง ชงโค แล้ว :กอด1:
ให้คนเขียนค่ะ
 :L2: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: lionnoi ที่ 07-09-2014 19:28:34
ไปตามโปรด ปลื้มมาแล้วคร่า
เท็นก็ยังเป็นเท็น รักตัวละครนี้
อยากถามคนเขียนค่า
มีเรื่องเท็นตอนเด็กๆมั้ยคะ
อยากรู้ความเป็นไป ทำไมเหนือโลกได้ขนาดนี้

แล้วเรื่องนี้มีตอนควบ ระหว่างเท็นกะปลื้ม
แล้วเท็นกะชงโค ที่ควบกันจะมีมั้ยคะ อยากรู้ที่เท็นคุยกชงโค คือตอนอยู่พะเยา ??
ทำไมมีแชตไอดีกันได้ งง
หรือจะเป็นเรื่องวิจัยที่อาจจะมีใครติดต่อมา??
อยากอ่านความเป็นไปของแต่ตัวเอก รักเลยค่ะ ตัวแสดงทุกตัว เพื่อนๆของตัวเอก  o13
อยากขอบคุณเป็นพันๆครั้งสำหรับเรื่องดีๆๆๆๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 14-09-2014 11:46:13
อ่านกี่รอบ ๆ ก็ยังสนุกเหมือนเดิม สงสารมายด์อ่ะ แง ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 26-09-2014 21:58:54
ขอบคุณน้าาา  o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 27-09-2014 21:43:28
 :katai4:อ่านถึงตอนเมลงอนเท็นแล้วหน่วงแทน เท็นง้อเท่าไรเมลก็เย็นชา เท็นร้องไห้คนอ่านจิร้องตามค่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 28-09-2014 22:58:35
อ่านจบแล้วร้องไห้กับการจากไปของมายด์เศร้าจังเลยคะ ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อาานนะคะหลงรักเมลเท็นและพองเพื่อนทุกคนเลยคะ  เริ่มไล่อ่านจากมาโปรดมาต่อด้วยso whatและกำลังจะตามไปอ่านสุดโต่งค่า จะคอยเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 14-11-2014 01:20:52
จบแล้วว อ่านสลับกับหนังสือเรียน 555555 ชีวิตรันทดติดนิยายตอนใกล้สอบ 5555555
เรื่องนี้ดีมากก มันเรียล หลายๆคำพูดอ่านแล้วทำให้คิดไปพร้อมๆกับน้องเท็นตลอด
จบไม่ได้แฮปปี้สุดๆ แต่ก็ไม่ได้แซดหน่วง

ปล. สามีนาตาชาเป็นใครรคะ ?? 5555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-11-2014 22:21:15
คิดถึงเท็นเท็น กับ เมล จังงง :hao5: :hao5: :hao5: o7 o7 o7 o6 o6 o6 :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: starfish ที่ 18-11-2014 19:59:38
ขอบคุณ สำหรับนิยายดีๆนะคะ สนุกมากๆ  :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-11-2014 15:15:29
เพิ่งอ่านจบรวดเดียว  สนุกมากค่ะ

ชอบเท็นเป็รนายเอกที่แปลกสะใจดี มาพร้อมกับเมลที่ดูเสริมและเติมแต็มให้กันและกัน รวมกัน 2 คนถึงจุะสมบูรณ์

เรื่องของมายด์นี่ทำเอาเราน้ำตาร่วง    เชื่อไหมว่าเรามโนถึงฉากที่ทุกคนมาลามายด์ว่าในเมิ่อไม่เห็นฉากถอดอุปุกรณ์ช่วยก็อาจจะเป้นไปได้ที่ทีหลังมายด์อาจจะไม่ตาย ฟื้นทีหลังแบบเสียความทรงจำเพราะว่าชีวิตมายด์เจ็บปวดเหลือเกิน  จนมาตอนต่อไปที่เป็นงานศพน้ำตาร่วงอีกรอบ มโนอิฉันสลายสิ้น  มาโปรดก็ทำเอาเราน้ำตาซึม มาเรื่องนี้ก็น้ำตาร่วงมากกว่า  สงสัยว่าคงต้องเตรียมทิสชู่ไว้รองรับน้ำตาคราที่อ่านนิยายคุณคนเขียนงวดต่อไป บ่อน้ำตาอิฉันตื้นมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับนิยายดีๆ ชอบทั้งเรื่องนี้กับมาโปรด ชอบพระเอกแบบเท่ห์ เริ่ด แต่ less than perfect ค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 26-12-2014 19:19:46
บอกเลย ชอบมากๆๆๆ ชอบที่สุด เวลาพีคคือพีคมากอ่ะ บีบหัวใจ ตัวละครทุกตัวคือชัดเจนในมุมของมัน สนุกมากจริงๆๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 27-12-2014 06:06:40
รู้สึกว่าเรื่องนี้มีมาม่าทั้งเรื่ิองเลย แต่ก็สนุกดีค่ะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: VOODOO DOLL ที่ 04-01-2015 14:35:02
นี่กระผมแวบเข้ามาอ่านเรื่องนี้อีกแล้วเหรอเนี่ย...
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-01-2015 20:24:19
คิดถึงเท็นเท็นอ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 17-01-2015 00:42:36
โอยยยยย ร้องไห้เยอะเลยเรื่องนี้!! :hao5: :hao5: :hao5:
โดยเฉพาะเรื่องของมายด์ เศร้าจริงอะไรจริง  :mew4: :mew4:
โดยส่วนตัวเค้าชอบทั้งเท็นและเมลเลยนะ!!
ให้อารมณ์แบบว่าเข้าใจทั้งคู่อ่ะ เลยรักพอๆกัน(แต่แอบเอียงไปหาเท็นนิ๊ดหน่อย :hao6: )

*****อยากได้ตอนพิเศษค่าาาาา คนเขียนนนนน :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 21-01-2015 00:05:53
ในที่สุดก็อ่านจบ ใช้เวลาวันนึงเต็ม ตาแฉะกันเลอไง555555555
โอ้ยยยย อยากจะบอกว่าชอบ แบบว่าชอบมากอ่ะะะ >;<
อ่านแล้วเพลิน คือสนุก คือเกรียนตามเท็นเท็นกันจิงจัง #เท็นนี่ไอดอลเลย
ชอบเมลมว๊ากกกกกก อยากมีผู้ชายแบบนี้บ้างอ่ะ รักมากอดทนมากกก
แล้วก็ชอบความรู้สึกความห่วงใยของกลุ่มเพื่อนที่มีให้กันอ่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี!!
แล้วตอนเศร้านี่แบบเล่นเอาหน่วงอ่ะ แต่ที่เล่นเอาเสียน้ำตานี่คือตอนที่ต้องเสียนายไปอ่ะ
โอ้ยยยเศร้ามาก ที่เดียวรู้เรื่องอ่ะ ร้องไห้ตามเลยไงง T T
แอบสงสารฟิวนะ เจ็บทั้งเรื่อง ผิดหวังงตลอดดด  แต่ก็นะ มีสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง
อยากให้มีตอนพิเศษตอนที่เท็นกับเมลไปอยู่เมืองนอกด้วยกันจัง 555 แบบว่าคิดถึงคู่นี้อ่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆอีกเรื่องนะค่ะ จะรอติดตามผลงานเรื่องอื่นต่อไปนะคร๊าา 

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-02-2015 03:36:58
พ่อเท็นยอมทำตามสัญญาสินะ ดีจังเลยเมลเท็น เต้มีพ่อแม่ก็ยอมรับแล้วดีจัง สงสารมายด์มาก ๆ เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 03-02-2015 21:56:27
ตามมาจากมาโปรดค่าา
ไม่เคยคิดว่าคนที่ดูไม่ค่อยจะเต็มอย่างพี่เท็นจะฉลาดขนาดนี้
นี่อ่านไปก็แอบอิจฉาไปนะคะ
เหมือนเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่ง่ายจนน่าเบื่อเลยทีเดียว
รักตัวละครที่แปลกๆแบบนี้เหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยเห็นคนแต่งแนวนี้
จะตรงก็ตรงจริงๆ ทำอะไรทำจริง เมลรักเมลหลงสุดๆ
เรื่องนี้จะสุดๆก็คงเป็นเรื่องความหึงโหดแหละ อูวว จำเลยรักมาเองอะ
แต่คงไม่เท่าพี่โปรดอะค่ะ รายนั้นแบบหมาตัวผู้เข้าใกล้ปลื้มก็อาจจะโกรธ
ตอนนี้ตามอ่านผลงานของนักเขียนอยู่นะคะ
อยากให้นักเขียนมีผลงาน และแรงบันดาลใจดีๆต่อไป
จะสนัลสนุนการเขียนค่ะ ชอบมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nongyo ที่ 08-02-2015 17:29:02
ก่อนอื่นเลยนะคะ ขอบคุนนิยายดีๆจากคนเขียนค่ะ :L2:
นิยายมีหลายอารมจริงๆบอกเลย :เฮ้อ:
จากที่เคยอ่านนิยายหลายๆเรื่องมา จะชอบติว่ามันน้ำเน่ามากเลย จากที่ไกล้ตายอยู่แล้ว แต่แค่ได้ยินเสียงคนที่รักเรียกร้องให้กลับมา  :hao4: :hao4: เครื่องช่วยหายใจแม่งก็จะตี๊ตตตตตมาล่ะ แต่...
มาเจอเรื่องกับเรื่องนี้ เฮ้ยยยย :a5: :a5: :a5: ทำไมมันไม่เน่า แม่มเล่นเอาน้ำตาท้วมจอ  :sad4: สงสารฟิวที่สวดดด :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 28-02-2015 09:53:10
ร้องไห้เลยยยยสงสารมายด์ TT สนุกมากค่ะขอบคุณนะค่ะ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 03-03-2015 12:35:13
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะค่ะ
เป็นที่แต่งได้ดีมากๆเลยค่ะ
เรียกว่าสะกดอารมณ์คนอ่านได้ทุกตอนจริงๆ
แถมมีหลากหลายรสชาติ ความรู้สึก ชีวิต และแง่มุมต่างๆ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอให้เมลเท็นคงความรักที่มีต่อกันไปนานๆนะค่ะ
แล้วก็ขอให้กัสทำใจเรื่องมายให้ได้ไวๆแล้วมีความสุขต่อไปเพื่อให้มายไปดีนะค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 13-03-2015 21:26:37
อ่านรวดเดียวจบเลยค่าาาา
ในที่สุดเมลเท็นก็กลับมาอยู่ด้วยกันนะ

ฮือออ สงสารมายด์  :sad4:

ปล.เดี๋ยวต้องไปอ่านพี่มาโปรดต่อละ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Sandyy ที่ 14-03-2015 20:02:06
พึ่งอ่านจบวันนี้ สนุกมากกกกกกกกกก
ชอบมากๆๆ ตามอารมณ์เท็นเท็นไม่ทันเลยบางที55555
เศร้ามากตอนเรื่องของมายด์ เราร้องไห้ตามเลย อินจัด555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Maylita ที่ 27-03-2015 20:06:43
สงสารทั้งมายด์ทั้งฟิว
แต่แอบสงสารมายด์มากกว่านะ เพราะยังไงถึงมายด์จะทำไม่ถูกที่ทำแบบนั้นกับฟิว
ก็อยากให้ฟิวให้อภัย ลองให้โอกาสมายด์บ้างนะ

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Maylita ที่ 27-03-2015 20:49:49
รู้สึกขัดใจจริงๆที่ให้มายด์จากไปด้วยความรู้สึกที่ตัวเองไม่ได้เป็นที่ต้องการของใคร
ฮือๆๆมันเจ็บจริงๆนะ แต่ก็อย่างที่คนเขียนว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้ต้องจบแบบสวยงามเสมอไป
แต่สุดท้ายอยากให้มายด์ได้รู้สักนิดว่าบ้างว่าฟิวก็เริ่มที่จะรักมายด์แล้วนะ
อยากให้มายด์รู้จังเลย


 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 11-04-2015 22:21:13
ชอบความอินดี้ของคู่เท็นเมลมาก กร๊ากกกกกก พวกนายช่างโดนใจ
สงสารคู่มายฟิวมากเลยอ่ะ คือก็เข้าใจนะว่าชีวิตจริงคำว่าปฎิหารไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่เราก็ได้แค่หวัง :mew6:
ปล. ชอบทุกเรื่องที่แต่งเลยค่ะ

ให้กำลังใจคนแต่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 13-04-2015 23:23:47
วันนี้นั่งอ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ชอบเท็นและเมล

และชอบการดำเนินเรื่องมากค่ะ สนุกมาก แต่ก็อดสะเทือนใจเรื่องของมายด์ กับ ฟิว ไม่ได้

ที่ยังไม่รู้แม้กระทั่งใจตัวเอง แต่ก็สะท้อนว่าชีวิตจริงคงมีหลายคู่ที่ยังละเลยความรู้สึกของกัน

ขอบคุณผู้เขียนมากนะคะ เป็นหนึ่งในเรื่องโปรดค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Pinkungmama ที่ 29-04-2015 21:23:34
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนแต่งม่กเลยที่มีนิยายดีๆแบบนี้มาให้ เราเพิ่งได้มาอ่านเรื่องน คือแบบรักมาก มทุกอารมณ์ ตอนแรกเกลียดเทน ต่อมาหมั่นใส่เมล เบื่อฟิว รำคาญไอ้เต้ และอารมณ์สุดท้านคือเสียใจที่มายตายตอนนั้นต้องหยุดอ่านแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอ่ะ จนอ่านมาถึงตอนจบยังทำใจไม่ได้เลย แต่ก็เข้าใจำม่มีใครสมหวังทุกคน ทุกคนย่อมมีเหตุผลในการใช้ชีวิตต่างกัร เฮ้ยยยย ไม่อยากให้จบ แม้จะจบมาเป็นปีแล้วก็เถอะ สุดท้ายรักนิยายเรื่องนี้และรักคนเขียนด้วยนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 01-05-2015 21:18:44
กลับมาอ่านใหม่อีกรอบน้ำตาก็ยังร่วงอยู่ดี ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 27-05-2015 17:41:24
บางทีก็แอบสงสารเมลเหมือนกันนะเท็นก็โลกส่วนตัวสูงเกิน แต่ที่สงสารมากที่สุดคือมายด์ สงสารจนน้ำจำตาไหลให้เลย ชอบงานของคุณนักเขียนจัง ทุกๆเรื่องต้องมีดราม่าให้น้ำตาไหลตลอดเลย :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 18-06-2015 18:38:31
 :katai2-1:
สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 22-06-2015 02:57:39
ตามมาจากหลายๆที่ค่ะ อ่านใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ
แวะนอนแปดชั่วโมงแล้วตื่นมาอ่านต่อ ดีนะเป็นวันอาทิตย์
เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราอ่านแล้วเราร้องทั้งที่ฉากไม่ได้เศร้าเลย
อินเนอร์มาเอง ตัวละครมีมิติอ่านแล้วคิดถึงเพื่อนๆสมัยเรียน
คาราเมลและเท็นเท็น เป็นคู่ที่น่ารักเวลาอยู่ด้วยกันแล้วมุ้งมิ้ง
แต่พอทะเลาะกันมันอึนๆมาก เราร้องทุกทีทั้งที่ตัวเมลเท็นไม่มีน้ำตาสักนิด
แล้วยิ่งตอนมายด์ฟิว เราอ่านเนื้อเรื่องหลักจบก่อนถึงมาอ่านสเปเชล
ตอนสุดท้ายเราร้องจริงๆจังๆมาก เพราะเรารู้แล้วว่าเกิดอะไรกับคู่นี้
ได้แต่เอาใจช่วยฟิวนะ เข้มแข็งแล้วเดินต่อ
ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ ถึงจะจบไปพักใหญ่แล้ว โปรแกรมต่อไปจะไปอ่านมาโปรดล่ะนะ  :กอด1:
 
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 25-06-2015 19:07:12
กลับมาอีกครั้ง..ก็ยังชอบ^^
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 10-07-2015 00:54:47
กลับมาอ่านอีกละ เผลอมาก มือมันพาไป....
คิดถึงเมลเท็นนนนนน  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นวงกลม ที่ 10-07-2015 08:43:29
พี่เท็นนี่โลกส่นตัวสู้งงงสูง เทพเท็นจริงๆ o13 o13 เมสน่ารัก
อ่านเรื่องนี้หลายรอบมากก็เป็นนิยายสนุกๆ ขอบคุณคนแต่งมากคะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 17-07-2015 23:04:59
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ตามมาจากไร้พ่ายและมาโปรด นี่กะว่าจะไปอ่านสุดโต่งต่อ
เมลกะเท็นน่ารักมากกก ชอบมากเลยคู่นี้ เทพเท็นนี่อินดี้ติสท์แตกตลอด วาดรูปไม่เก่งแต่ติสท์ได้นะเออ 555+
อึ้งตรงของขวัญวันเกิดเมลนี่ล่ะ คิดได้ไงวะให้หุ่นขี้ผึ้งเนี่ย สมเป็นท่านเทพ 55
ขนาดรู้ว่ามายด์จะตายแต่พออ่านแล้วก็ร้องไห้อยู่ดี... คนแต่งใจร้ายมาก โป้ง!
ปล. ใครคือเจ้าบ่าวนาตาชาอ่ะ?
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 21-07-2015 18:03:27
 :pig4: ในที่สุดสองคนนี้ก็ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 27-07-2015 09:56:51
อยากอ่านตอนพิเศษจัง
คิดถึงอ่า
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 10:18:18
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: sixoc98 ที่ 27-07-2015 13:05:52
 :z3: :z3: ตายแล้ววว จะไปเดทกัน
บ่าวอิจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 13:19:56
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :impress2: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: mymicky ที่ 23-08-2015 22:37:30

ยังอ่านไม่จบค่ะ นี่เพิ่งจะเข้าตอนที่ 3 เอง แต่คุณพระ ขำกรามจะค้างแล้วววววว~ 5555555555555++++ ชีวิตมนุษย์เพื่อนทุกคนที่อยู่รอบตัวเท็นฮาและป่วงมาก จนงง งงว่าทนคบกับเพื่อนติสแตกอย่างเท็นได้ยังไง

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ ไปอ่านต่อละ ฮึ๊บๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 50 : 23-02-2014 (Page.42) The end
เริ่มหัวข้อโดย: ice-cream ที่ 05-09-2015 19:01:16
อ่านจบแล้วววว เป็นเรื่องที่ใช้เวลานานมากเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย รู้สึกหน่วงๆปนเศร้ากับเรื่องของมายด์มาก มันทำให้เรายิ่งเห็นความสำคัญของคนรอบข้างมากขึ้น วันไหนจะเป็นวันสุดท้ายไม่มีใครรู้เลย ก็ได้แต่ทำทุกวันให้เป็นวันดีๆจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง แล้วก็รู้สึกขอบคุณเมลมากๆๆเลยที่ยังรอ สำหรับเรา การรอคอยมันทรมานจริงๆนะ เราคงทำไม่ได้อ่ะ
หัวข้อ: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนพิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-11-2015 20:08:16
Special 1

“ไอ้เมลลลลล กูคิดถึงงงงงงง” เสียงไอ้แต้มดังขึ้น พร้อมกับพาร่างหนาๆ ของมันถลาเข้ามาหาเมลที่เพิ่งจะนั่งลงบนโซฟาแล้วถอดหมวกที่ใส่อยู่ออก เมลหน้าเหวอไปเล็กน้อย ก่อนจะยกเท้าขึ้นเป็นเชิงบอกว่าถ้าไอ้แต้มยังคืนเสนอหน้าเข้ามาใกล้กว่านี้ โดนถีบแน่!

ไอ้แต้มทำหน้าหงอย ยอมล่าถอยกลับไปนั่งที่ตัวเองแต่โดยดี ส่วนผมนั่งลงข้างๆ เมล พลางยกแก้วของตัวเองส่งให้ไอ้เต๋อจัดการชงเหล้ามาใหม่ เพราะแก้วเดิมน้ำแข็งละลายจนสีอำพันในแก้วซีดจางไปมาก

“ไปเจอกันที่ไหนวะ” ไอ้คิมถามขึ้นพลางมองผมกับเมลสลับกัน

“หน้าร้าน” ผมตอบเรียบๆ รับแก้วมาจากไอ้เต๋อแล้วยกขึ้นจิบ “มองอะไรไอ้คิม”

“คุยกันยัง?” ไอ้คิมถามอย่างมึนๆ งงๆ ปนไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วผมกับไอ้เมลตอนนี้คือยังไง เพราะตอนเดินเข้ามาก็ต่างคนต่างเดิน

“หึ ถามอะไรของมึง” ผมหัวเราะเล็กน้อย กวาดมองสายตาเพื่อนแต่ละคนที่ค่อนข้างกังวลแล้วก็ไม่อยากอธิบายอะไร เห็นพวกแม่งไม่สบายใจแล้วผมอารมณ์ดี

“เฮ้ย พวกมึงไม่ได้เจอกันมาตั้งปี ไม่ปรับความเข้าใจกันหน่อยเหรอวะ” ไอ้เต๋ออดรนทนไม่ได้ที่เห็นผมยังคงเงียบ และเมลก็เอาแต่ดื่มเหมือนคนกระหายน้ำที่เดินทางกลางทะเลทรายมาครึ่งค่อนวัน

“ไอ้เท็น” ไอ้เต้สอดปากขึ้นมา ส่งสายตากดดันอีกคน

ผมถอนหายใจ มองตั้งแต่หน้าไอ้เต๋อไล่เรียงไปจนถึงหน้างงๆ ของไอ้คิม “เออ คุยกันแล้วน่า”

“คุยว่า?” ไอ้แม็คสะกิดแขนผมยิก

“เสือก ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกมึง” ผมปัดมือไอ้แม็คออก ก่อนจะหันไปมองเมลที่ตอนนี้เปลี่ยนมากินกับแกล้มแล้ว...คือมึงหิว?

“ไอ้เมล อย่าเอาแต่แดก ตอบมาดิวะ พวกกูรอลุ้นจนเยี่ยวเหนียวอยู่เนี่ย” เมื่อเค้นเอาจากผมไม่ได้ผล ไอ้แต้มก็ล็อคเป้าหมายที่เมล

“ตอบไรวะ” เมลมองแต่ละคนอย่างงงๆ ก่อนจะหันมามองหน้าผมเพื่อขอคำอธิบาย แต่ผมก็ได้แค่ส่ายหน้าแล้วยกนิ้วเช็ดริมฝีปากที่เลอะซอสมะเขือเทศออกให้มัน

“อื้อหือออ ไม่ต้องตอบละ พวกกูเก็ท มาๆ แดกๆ” ไอ้เต๋อยิ้มกริ่มแล้วชักชวนคนอื่นๆ ยกแก้วขึ้นชน “สุดซอยยยยย”

เมลหัวเราะแล้วก็ต้องยกหมดแก้วตามที่ไอ้เต๋อมันป่าวประกาศลั่น แต่มืออีกข้างรั้งข้อมือที่กำลังจะยกแก้วของผมไว้ ผมหันมองมันพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เดี๋ยวเมา” มันบอกแค่นั้น ก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนๆ ต่อ ผมก็ทำแค่ยกขึ้นจิบแล้ววางแก้วลงตามเดิม

“เมลกลับไปอีกวันไหนวะ” ไอ้แม็คถามขึ้น ตอนนี้หัวข้อที่คุยเป็นเรื่องในที่ทำงานแต่ละคน ไอ้เต๋อเรียนจบก็ตามที่ผมคาดไม่ผิด ดูแลโรงน้ำแข็งของเตี่ยมัน ไอ้เต้กับไอ้แม็คก็หวานชื่นกันอยู่ที่บริษัทของพ่อไอ้เต้กันทั้งคู่ ไอ้คิมเป็นโปรแกรมเมอร์ให้บริษัทผลิตซอฟท์แวร์ ทำงานอยู่ที่สาขาเชียงใหม่เพราะใกล้บ้านมัน มาวันนี้ก็ลางานเพื่อมาหาผมโดยเฉพาะ ไอ้แต้มเป็นวิศวกรประจำโรงงานที่ระยอง แต่ทำเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย เพราะมันเกริ่นไว้แล้วว่าจะไปเรียนต่อ ส่วนเมลนั้น...ผมเพิ่งรู้ว่ามันทำงานอยู่กลางทะเล ทำสี่สัปดาห์พักสี่สัปดาห์ ค่าตอบแทนดี แต่มึง...มันไม่ไกลไปเหรอวะ?

“เดือนหน้า” เมลตอบเรียบๆ พลางปลดกระดุมเม็ดที่สองของเชิ้ตสีดำที่มันใส่อยู่ออก สงสัยดื่มไปหลายแก้ว คงจะเริ่มร้อนขึ้นมา
ผมลอบมอง อยากมองมันให้ชัดๆ เต็มตาเหมือนกัน เพราะตอนยืนคุยกันอยู่หน้าร้านก็ได้แต่ปล่อยให้มันกอด แล้วก็พูดคุยกันนิดหน่อยเท่านั้น อีกทั้งแสงสว่างก็ไม่ได้เอื้อสักเท่าไหร่ แต่ที่โต๊ะที่ผมนั่งตอนนี้มันก็ไม่ได้เอื้อมากนักหรอก ถึงยังไงก็มองเห็นได้ชัดกว่า

เมลแตกต่างจากเมื่อหนึ่งปีก่อนค่อนข้างมาก รู้สึกว่าขนาดตัวของมันหนาขึ้น มีกล้ามมากขึ้น แถมผิวอย่างคล้ำลง เปลี่ยนทรงผมจากที่เคยยาวแบบที่ไอดอลต่างประเทศฮิตกัน ตอนนี้กลับสั้นเปิดหู เห็นท้ายทอยชัด ผมหน้าก็ไม่ได้ยาวมาก เปิดหน้าผากสวยอวดสายตาสาวๆ ให้หันมองอีกต่างหาก การแต่งตัวก็ดูเรียบง่าย ไม่ได้เยอะเหมือนพ่อหนุ่มฮอตเดือนมหาลัยที่มันเคยเป็นมาตลอด ถึงอย่างนั้น...ไม่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน แววตาที่อ่อนโยนของมันก็ไม่เคยเปลี่ยน

“เท็น”

ผมสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเมลหันมาแล้วเรียกชื่อผมด้วยเสียงทุ้มน่าฟังของมัน

“หืม”

“หิวรึเปล่า” มันคลี่ยิ้ม ชี้ข้าวผัดที่มีไอร้อนขึ้นให้เห็น “พี่เจ๋งเอามาให้”

“อืม” ผมตอบรับ เมลยิ้มอีกครั้ง แล้วหันกลับไปจัดการตักแบ่งข้าวผัดใส่จานเล็กๆ ให้ ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมัน ในใจเกิดคำถาม...มันทรมานมากไหม เวลาที่ผ่านมา นอนหลับเต็มอิ่มบ้างรึเปล่า ที่ไปทำงานไกลถึงกลางทะเล...ส่วนหนึ่งมาจากผมหรือเพราะความต้องการอยากจะไปของมันกันแน่

มันคงดี...ถ้าเมลต่อยผมสักหมัดสองหมัด หรือสาดถ้อยคำเจ็บๆ เพื่อเป็นการลงโทษ แต่เมลกลับไม่ทำ มันอ้าแขนรับผมด้วยรอยยิ้มยินดีที่ผมกลับมา ตัดพ้อเล็กน้อย แต่ไม่มีคำพูดต่อว่าใดๆ

“เมล พอแล้ว กูกินไม่หมดหรอก” ผมท้วง เมื่อเห็นว่ามันตักจนพูนจาน

“กูกินด้วยไง เอ้า ไอ้แต้ม เอาไป” มันหันมายิ้มให้ แล้วยกจานข้าวผัดส่งไปให้ไอ้แต้ม ส่วนมันก็ขยับจานเล็กมาตรงหน้าผม ก่อนที่ตัวของมันจะขยับเข้ามาใกล้ด้วย

“อูยยย เข้าผัดนี่หวานเนอะพวกมึง” ไอ้เต๋อแสล๋นหน้าพูดขึ้นมาจนผมต้องหาฝาขวดเหล้าขว้างใส่หัวมัน

“แซวเหี้ยไร” ผมถีบขาไอ้เต๋อไปอีกที “กลับบ้านไปดูดนมเมียมึงได้แล้วไป”

“แหนะๆ ทำมาไล่ จะรีบกลับไปรำลึกความหลังกันสิท่า โอ้ย! มึงเตะหน้าแข้งกูทำไมเนี่ย เจ็บอ่ะ เต้ เต๋อเจ็บบบบ”

“ไอ้เชี่ย! ขนลุก เอาหน้าไปไกลๆ กูไอ้เหี้ยเต๋อ!”

ถ้าไม่เจ็บคงไม่หยุดพูด มึงไม่เห็นไงว่าพวกกูเงอะๆ งะๆ ใส่กันอยู่เนี่ย คนมันไม่เจอกันมาเป็นปี จะให้ทำเหมือนปกติ มันได้ที่ไหนวะ!

เออ...หรือที่จริงเป็นผมที่เงอะงะอยู่คนเดียวก็ไม่รู้ เมลก็ยังเห็นมันปกติดี แม่งนั่งกินข้าวผัดโคตรชิว คือเอาจริงๆ มึงหิวมากเหรอวะ?

“ไม่กิน?” ขอบใจมากที่ยังมีน้ำใจหันมาถามกู “อร่อยนะ”

“อืม กินเถอะ กูยังไม่หิว” ผมตอบอ้อมแอ้ม ยกเหล้าขึ้นจิบอีกนิดหน่อย ไม่รู้ความมั่นใจหมื่นๆ ล้านในตัวเองหดหายไปไหนหมด ตอนผ่าตัดเคสยากๆ ผมยังไม่เครียดมากเท่านี้เลย

“ป้อนไหม”

ผมไม่ตอบ แต่อ้าปากรับตอนที่เมลส่งช้อนที่บรรจุข้าวผัดหอมๆ มาให้ เราสบตากัน นานชั่วอึดใจ มือใหญ่ของเมลก็เกลี่ยไปตามแก้มผมเบาๆ

“เคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่งั้นติดคอ” มันบอกพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะตักให้อีกช้อน ผมกลืนข้าวที่เคี้ยวละเอียดแล้วลงคอ ก่อนจะรับเข้ามาอีกครั้ง

“เก่งครับ”

“ไม่ใช่เด็กแล้ว” ผมท้วงกลับเสียงเบา “มึงก็กินด้วย”

“อืม”

ผมไม่สนใจ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของไอ้พวกสัมภเวสีร่วมโต๊ะ เสียงครางหงิงๆ ของไอ้เต๋อก็ไม่ได้เข้ามาในโสตการได้ยินแต่อย่างใด หรือตอนนี้ไม่ว่าใครจะพูดคุยกับใครผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญทั้งนั้น...เพราะสำหรับผมตอนนี้แล้ว แค่ เมล เมลเท่านั้นที่สำคัญ เมลเท่านั้นที่ผมให้ความสนใจ

“คืนนี้นอนไหน” เมลวางช้อนไว้บนจาน ยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบแล้วพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ไหล่ของมันเบียดกับไหล่ของผมเล็กน้อย “กัสกับฟิวก็ไปเรียน บ้านไม่มีใครอยู่คงมีแต่ฝุ่น”

บ้านที่ผมอยู่กับไอ้กัสไอ้ฟิวสมัยเรียน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกคลุมผ้าไว้ ...คงตั้งแต่ที่ไอ้มายด์จากไป บ้านหลังนั้นก็ไม่มีใครกลับไปอีกเลย

“อืม กูคงกลับบ้านใหญ่ ลงเครื่องมายังไม่ได้เข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ มึงล่ะ”

“กลับบ้านเหมือนกัน มาถึงไอ้แต้มก็โทรเรียกเลย ยังไม่ได้ไปหาพ่อกับแม่”

“ลูกดีเด่นเนอะมึง กลับมาทั้งทีน่าจะไปเจอพ่อแม่ก่อน เสนอหน้ามาแดกเหล้าซะอย่างนั้น”

เมลหัวเราะแล้วยกมือขึ้นโยกหัวผมเล่น “ก็เพราะมีคนสำคัญที่กูต้องมาเจอก่อน”

คำตอบของมัน ฟังแล้วหัวใจเต้นแรงดีจริงๆ

“อ่าฮะ”

เมลอมยิ้ม หยุดโยกหัวผม แต่ดึงรั้งให้ไปซบกับไหล่มันแทน “คิดถึงว่ะ”

“อื้ม”

เมลจูบที่หน้าผากผม กดริมฝีปากค้างไว้อยู่อย่างนั้น ความอุ่นนุ่มจากริมฝีปากของมันทำให้ผมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ

“คอนโดมึงขายไปรึยัง” ผมถามขึ้นเบาๆ ไม่อยากพูดเสียงดังให้บางอย่างที่กำลังลอยวนเราสองคนตอนนี้กระเจิงหายไป

“ยัง ตอนแรกแม่บอกให้ปล่อยเช่า แต่กูเสียดายห้อง ไม่อยากให้ใครเข้ามาอยู่ กลัวดูแลไม่ดี”

“งั้นให้กูเช่าได้ไหม บ้านกูอยู่ไกล”

“หืม เอาจริง?”

“อือ คอนโดมึงอยู่ใจกลางเมืองด้วย ไปไหนก็สะดวก มึงคิดค่าเช่ายังไงล่ะ แต่ห้ามแพงนะ กูไม่มีตังค์”

“หึ ไม่เอาตังค์หรอกน่า” เมลยิ้มนิดๆ “จ่ายด้วยตัวเท็นก็พอ”

ผมหยิกแขนเมลไปแรงๆ สองทีจนมันร้องโอ้ยๆ พลางส่งสายตาตัดพ้อมาให้อีก

“เจ็บนะครับเท็น” มันว่าเสียงนุ่ม ลูบแขนตัวเองแล้วยกมือขึ้นดึงแก้มผมคืน “นี่ เจ็บไหม”

ผมส่ายหน้า แล้วปัดมือเมลออก มันไม่ได้ดึงแรงเลย แต่ผมก็ตีมันกลับอยู่ดี ลงโทษที่กล้าหือ

“คือ พวกมึง” เสียงไอ้คิมดังแทรกโลกส่วนตัวของผมกับเมลเข้ามา “ลืมพวกกูป่ะวะ”

“อ้าว พวกมึงยังไม่ไสหัวกลับกันอีกเหรอ” ผมหันไปถามอย่างแปลกใจจริงๆ “เรียนก็จบกันหมดแล้ว ยังให้กูต้องพูดอีกใช่ไหมว่าอยากอยู่กันสองคน”

พวกไอ้เต๋อต่างช่วยกันปากระดาษทิชชู่มาใส่ผม พร้อมกับเสียงประท้วงไม่พอใจกันอีกจนน่าหนวกหู

“ไอ้เท็น ไอ้นิสัยไม่ดี จิ๊!” ไอ้เต๋อเบะปาก สะบัดหน้าราวกับสาวรุ่น

“ไม่เจอกันเป็นปี นิสัยมึงนี่ก็ยังกระตุกตีนกูเหมือนเดิม” ไอ้เต้พูดขึ้นบ้าง “ไอ้เมลมันก็เพิ่งกลับมาด้วย นานๆ เจอกันที กินเหล้ากับพวกกูก่อน หลังจากนั้นพวกมึงจะไปขึ้นสวรรค์กันที่ไหนก็ไป โอเคไหม”

“ถ้ากูไม่โอเคล่ะ” ผมยังคงยักคิ้วกวนตีนพวกมัน ความจริงก็ไม่ได้จะลืมพวกมันหรอก แต่พออยู่กับเมลแล้ว ความสนใจของผมก็พุ่งตรงไปที่มันแค่คนเดียวทุกที

“หึ มึงนี่น้า” เมลผลักหัวผมเบาๆ ยิ้มใส่ตาจนผมชะงัก แล้วมันก็หันไปชนแก้วกับไอ้พวกส่วนเกิน

พวกผมนั่งกินกันอยู่หลายชั่วโมง พูดคุยในเรื่องทั่วๆ ไป ก่อนจะลามไปถึงชีวิตส่วนตัวเมื่อแอลกอฮอล์ในเลือดเริ่มเยอะขึ้น ไอ้เต๋อฟูมฟายว่ามันถูกเมียด่าเช้าด่าเย็น ไอ้คิมตอนนี้วางแพลนจะแต่งงานแล้วด้วย แฟนที่เคยคบตอนเรียนมหาลัยนั้นเลิกกันไปสองปีแล้ว ตอนนี้มันกำลังปลูกต้นรักกับหญิงสาวชาวเหนือตัวเล็กขาว หน้าจิ้มลิ้มที่เปิดเฟซบุ๊คให้ผมดูเมื่อครู่ ไอ้แม็คกับไอ้เต้ข้ามรายละเอียดไป เพราะพวกมันก็รักกันแบบสามวันดีสี่วันทะเลาะ ซึ่งไอ้เต้ยืนยันแล้วว่าเป็นอะไรที่มันค่อนข้างชอบ ก็พอไอ้แม็คโกรธมันก็ลากไปเคลียร์บนเตียงเลย แฮปและยังได้ปี้ด้วย เอ็นดิ้งทุกฝ่าย แต่ที่ไม่น่าเชื่อเลยก็คือไอ้แต้มที่เมื่อสมัยเรียนแม่งชอบคั่วกับเมียชาวบ้าน แต่ตอนนี้พิชิตใจพี่เลี้ยงสมัยเด็กของเมล ใช่ครับใช่...ไอ้ห่านี่แหละที่ยิ้มกริ่มแล้วบอกว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครที่ได้แต่งงานกับนาตาชา

“ไม่อ่ะ กูไม่เชื่อ” ผมส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับ คือไอ้หูดำนี่นะ? ที่เมลมันยอมให้เป็นคู่ชีวิตกับพี่เลี้ยงของมัน คือเมลมันก็รู้สันดานเพื่อนมันป่ะวะ? แล้วทำไมถึงยังยอม

“กูหยุดทุกอย่างแล้วเว้ย หยุดไว้ที่เธอคนเดียว มึงไม่เคยได้ยินประโยคนี้เหรอวะไอ้เท็น” ไอ้แต้มว่าด้วยสีหน้างอน

“เมล มึงปล่อยให้ไอ้คนไม่ดีนี่แต่งงานกับพี่เลี้ยงมึงได้ไง มันเป็นคนไม่ดีนะเว้ย”

เมลหัวเราะ แล้วหยิบเฟรนฟรายจิ้มซอสแล้วยัดเข้าปากผม “ไอ้แต้มมันกลับตัวกลับใจได้เป็นปีแล้ว อีกอย่าง นาตาชาก็รักมันด้วย”

“นาตาชารักมึง” ผมพูดสวนไปทันที ไอ้แต้มยิ่งหน้าบึ้งสนิท

“เหอะ ไม่ได้รักแล้วเว้ย ไอ้เมลมันเป็นพาสเท้นไปแล้ว แต่นี่ กูนี่ พรีเซ้นแอนด์ฟิวเจอร์”

“กูจะไปบอกนาตาชาให้หย่ากับมึง”

คือผมไปแค่ปีเดียวอ่ะ แค่ปีเดียวจริงๆ นะเว้ย แล้วนาตาชาก็รักเมลมาไม่รู้กี่ปี จะตัดใจจากเมลไปแต่งงานกับเพื่อนไอ้เมลแค่ในระยะปีเดียวที่ผมไม่อยู่นี่นะ ไม่จริงอ่ะ กูโคตรไม่เชื่อ

“นาตาชารักไอ้แต้มมันจริงๆ ครับ” เมลบอกเสียงนุ่ม ลูบหัวผมด้วยมือที่มันใช้หยิบเฟรนฟรายเมื่อกี้นั่นแหละครับ ไอ้สัดผมกู! ผมปัดมือมันออก แต่มันก็ยังตามมาลูบ เอาวะ สระผมก็ได้คืนนี้

“แค่ไม่กี่เดือน แต่งงานเลยเหรอวะ มึงทำเขาท้องป่ะเนี่ย”

“เปล่าๆ ไอ้เมล มึงดูแฟนมึงดิ แม่งงง”

“ฮ่าๆ เอาน่าๆ” เมลไกล่เกลี่ยแล้วยิ้มละมุนอีกครั้ง “คนรักกันอ่ะ มันไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากหรอก ถ้าใช่ก็คือใช่ จะแต่งช้าแต่งเร็ว กูว่ามันไม่สำคัญนะ คู่ที่คบกันมานาน พอแต่งงานได้แค่ไม่กี่เดือน เลิกกันก็ยังมี เพราะฉะนั้น ไม่ได้อยู่ที่ระยะเวลาหรอก มันอยู่ที่ใจ เข้าใจไหมครับเท็นเท็น”

“อื้อ เข้าใจแล้ว มือก็ไม่ได้ล้าง ลูบหัวกูอยู่ได้”

“หึ งั้นคืนนี้สระผมให้นะ”

“แผนมึงเหรอ”

“ครับ” ยอมรับอีก

“ไหนบอกกลับบ้าน”

“เปลี่ยนใจ พาเท็นไปดูคอนโดดีกว่า จะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเช่าไหม”

เมลยักคิ้วมาให้ ในขณะที่ไอ้แต้มเบ้ปากใส่พวกผม จากนั้นก็หันกลับไปชนแก้วกับไอ้เต๋อที่กำลังคร่ำครวญชีวิตรักของมันให้ไอ้คิมฟัง

“แล้วมึงมายังไง” ถ้าเมลมันยังไม่ได้กลับบ้านแล้วตรงมาที่นี่ ก็ไม่น่าจะขับรถมาได้เอง ส่วนผมนั้นให้คนที่บ้านเอารถไปให้ที่สนามบินแล้วก็ขับตรงมาที่นี่เลย

“แท็กซี่”

“กระเป๋าเสื้อผ้า?”

“อยู่ท้ายรถไอ้แต้ม ฝากมันเอากลับบ้าน ยังไงมันต้องไปรับนาตาชาอยู่แล้ว”

“อืม”

ผมละบทสนทนาไว้แค่นั้น แล้วมาให้ความสนใจกับแก้วเหล้าในมือแทน นานๆ ทีถึงจะได้มาเจอกันอย่างที่ไอ้เต้ว่าก็เลยต้องจัดให้สุดๆ ซะหน่อย เสียดายที่ไม่ได้อยู่กันครบทุกคน...ถ้าอยู่กันครบคงวุ่นวายและเสียงดังหนวกหูมากกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าผมจะ...ไม่ชอบ

ต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนพิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-11-2015 20:08:52
“ขับรถกลับดีๆ นะมึง ไอ้คิม พาไอ้เต๋อไปให้ถึงบ้านด้วย” เมลกำชับ เปิดประตูรถของไอ้คิมให้ไอ้แต้มกับไอ้คิมช่วยกันยัดไอ้เต๋อเข้าไปนั่งเบาะหลัง

งานเลี้ยงเลิกราตอนตีหนึ่งครึ่ง เพราะตีสอง ร้านไอ้พี่เจ๋งมันต้องปิดตามกฎหมายกำหนด พวกผมจึงแยกย้ายกันก่อนเวลา เคลียร์บิลเสร็จก็พากันมานอกร้าน เดินตามกันไปที่ลานจอดรถ ไอ้แต้มช่วยไอ้คิมหิ้วปีกไอ้เต๋อที่เมาเหมือนหมามากกว่าชาวบ้านเขา ส่วนไอ้เต้กับไอ้แม็คยังคงดูชิวๆ พวกมันมารถคันเดียวกันก็คงกลับด้วยกัน ส่วนไอ้คิมรับอาสาไปส่งไอ้เต๋อ

บอกลากันอีกรอบแล้วก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถ เมลเดินตามผมมาหลังจากที่ไปเอากระเป๋าเป้จากท้ายรถไอ้แต้มมาแล้ว
ผมปลดล็อคประตู เมลเปิดขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ส่วนผมวันนี้รับหน้าที่เป็นสารถีให้มัน เพราะมันดื่มเข้าไปเยอะเหมือนกัน ถึงจะเหมือนไม่เมา แต่ไม่เสี่ยงให้มันขับคงดีที่สุด

“ยังจำทางได้อยู่ไหม”

ผมตอบคำถามของเมลด้วยการพยักหน้า รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันกับคำถามของมัน หนึ่งปีสำหรับบางคนอาจจะนาน...สำหรับบางคนอาจจะทำให้ลืมเรื่องบางอย่างไป แต่กับผม...ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเมลแล้ว ผมไม่เคยลืม

เสียงแอร์กับเสียงเครื่องยนต์กลบความเงียบในรถ ไม่มีเสียงเพลงจากวิทยุหรือซีดี ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมกับเมล มันนั่งเงียบๆ ในขณะที่ผมก็ตั้งสมาธิอยู่กับการขับ

เกือบยี่สิบนาทีก็มาถึง... ทุกอย่างที่นี่ยังคงเดิมเกือบทุกอย่าง ที่จะเห็นเปลี่ยนก็คงมีแค่ รปภ.ที่ปากทางเข้า ไม่ใช่ลุงแก่ๆ ท่าทางใจดี แต่ตอนนี้เป็นชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งพิงเก้าอี้หลับอย่างสบายใจ ผมขับรถเข้าไปจอดในช่องจอดรถที่เมลซื้อไว้ มันอมยิ้มดีใจ  คงไม่คิดว่าผมจะจำได้แม้กระทั่งที่จอดรถของห้องมัน

“มึงได้ทำความสะอาดห้องบ้างรึเปล่า” ผมถามในระหว่างที่เรากำลังขึ้นลิฟท์ ตัวเลขเลื่อนขึ้นไปไม่ช้าไม่เร็วนัก อยู่ในจังหวะพอดีที่ไม่ทำให้คนโดยสารเกิดอาการเวียนศีรษะ

“แม่ให้คนที่บ้านมาทำให้สัปดาห์ละสองสามครั้ง เพราะบางทีนาตาชากับไอ้แต้มมันก็แวะมาค้างบ้าง”

“ว่าแต่ไอ้แต้มมันมีเรือนหอรึเปล่าน่ะ แต่งงานทั้งที”

เมลหัวเราะ หันมามองหน้าผมแล้วยกมือขึ้นโอบไหล่ “มีอยู่แล้วสิ แต่อยู่แถวชานเมือง เวลามีธุระแถวนี้ก็ให้มาค้างที่ห้อง”

“เอาจริงๆ กูไม่อยากเชื่อว่ามันจะแต่งกับนาตาชา” ผมพูดจากใจจริงเลยนะ นาตาชารักเมลมาก แล้วจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง แถมคนอื่นที่ว่าก็เป็นไอ้หูดำหน้าหม้อเพื่อนเมลมันด้วย

เมลแตะคีย์การ์ดปลดล็อคประตูแล้วดึงมือผมเข้าไปในห้อง ไฟทุกดวงและเครื่องปรับอากาศติดขึ้นมาอัตโนมัติ ทุกอย่างในห้องยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมจากเมื่อหนึ่งปีก่อน  ไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งหรือย้ายที่วาง ผมเดินไปนั่งโซฟา ก่อนจะเหยียดตัวนอนลงไปอย่างเพลียๆ

นั่งเครื่องมาก็หลายชั่วโมง ยังไม่ได้พักเลย  พอได้นอนแล้วบิดขี้เกียจนี่โคตรสวรรค์

“ป่ะ อาบน้ำ” เมลชวนง่ายๆ จนผมเผลอใจกระตุกเล็กน้อย มันสอดแขนเข้ามาช้อนตัวผมให้ลุกขึ้น “อาบน้ำ จะได้นอนสบายๆ นะครับ”

“มึงไปอาบก่อนก็ได้ กูอยากนอนอีกแป๊บนึง”

เมลจ้องตาผม โน้มหน้าเข้ามาใกล้ หน้าผากของเราแตะกันเบาๆ “จะสระผมให้”

“...”

“ได้รึเปล่า” เมลยังคงใช้น้ำเสียงทุ้มนุ่มของมันกระซิบที่ข้างๆ หู “อยากให้ทำให้ไหม”

ผมจะตอบอะไรได้ นอกจากพยักหน้าแล้วพึมพำในลำคอ ...มันอ่อนโยนมากจริงๆ มากจนหัวใจของผมสั่นไหว มากจนความอายที่ผมแทบไม่เคยมีถูกปลุกขึ้นมา

เมลจูงมือผมเดนขึ้นบันไดไปยังห้องนอน เดินผ่านเตียงใหญ่ไปยังห้องอาบน้ำ

“เท็นครับ” เมลเรียกเสียงเบา ยิ้มแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มของผม “ถอดเสื้อผ้านะ เดี๋ยวไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้”

“อื้ม”

ผมเคย...แก้ผ้าต่อหน้าเมลมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เคยทำเรื่องลามกด้วยกันมาไม่รู้กี่รอบ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ใจผมสั่นเท่าครั้งนี้ หนึ่งปี...หนึ่งปีที่ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบ ไม่ได้แนบชิดกันเลย มันทำให้ผมประหม่า ความกล้ากำลังถูกความอายทำให้พ่ายแพ้ เพราะฉะนั้นเมื่อเมลกลับมายืนตรงหน้า ผมถึงยังใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น

“อายกันเหรอ” เมลยิ้มอีกแล้ว ตั้งแต่เจอกัน ไม่รู้ว่ามันยิ้มใส่ตาผมไปกี่รอบ “เคยเห็นหมดแล้วนะ”

“...”

“ถอดเถอะครับ”

“...”

“อยากเห็น”

“ไอ้เมล ทะลึ่งละมึง” ผมแยกเขี้ยวใส่มัน แต่ไอ้หล่อละมุนก็ยังหัวเราะด้วยเสียงนุ่มๆ คือหนึ่งปีที่ผ่านมามึงไปทำอะไรมารึเปล่าวะ ทำไมแม่งดูมีเสน่ห์ ดูน่าดึงดูด อ่อนโยน นุ่มนวล แถมยังทำให้กูอายได้อีก มึงไปทำอะไรมา! อยากถาม...แต่ก็นะ...มันเหมือนผมบ้าไปเองว่ะ

“เท็น ดึกแล้ว รีบอาบดีกว่าไหม” เสียงนุ่มๆ ของมันยังหลอนไม่หยุด

“รู้น่า” ผมขมวดคิ้วมองมันพลางยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อ โดยที่เมลถือวิสาสะปลดเข็มขัดแล้วรูดซิบกางเกงยีนให้

ไม่นานผมก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเมล มันใช้สายตาไล้มองไปทั่ว ผมแสร้งไม่สนใจสายตานั้นทั้งๆ ที่หัวใจกำลังทำงานอย่างหนัก ยิ่งรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของมันยิ่งทำให้ผมแทบบ้า

“เท็น”

“อือ”

“ถอดให้ด้วย”

“ถอดเองดิ”

ผมเบือนสายตาหลบ แต่เมลก็ยังจับหน้าผมให้หันไปมอง “ได้โปรด”

เมื่อก่อน...มันไม่หวานกับผมขนาดนี้ ไม่ใช่อย่างนี้เลยนะ ไม่ใช่ มันกำลังแกล้งผมอยู่รึเปล่าวะ

“โอเคๆ”  ผมแสร้งว่าอย่างรำคาญ ยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตมันทีละเม็ด แต่แค่เห็นแผงอกกำยำของมันที่ตอนนี้ไม่ได้ขาวเหมือนเมื่อตอนสมัยเรียน แต่กลับน่าหลงใหลยิ่งกว่าก็ทำให้ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ กล้ามท้องของมันเป็นลูกชัดเจน เอวก็หนาขึ้น ดูเป็นสมชายอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหุ่นของมันน่ามองมากจริงๆ

“กางเกงด้วยครับ” เมลจับมือของผมให้ลดลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเข็มขัด ผมจัดการปลดเข็มขัดแล้วปลดกระดุมกางเกงยีน

“เท็น”

“อือ”

“เป็นอะไรไป”

เพราะผมนิ่งค้าง ไม่กล้าไปต่อมากกว่านั้น เมลจึงเลิกคิ้วมองมา

“ถอดเอง กูหนาวแล้วจะไปแช่น้ำ”

“โอเคครับ” เมลจูบแก้มผมแล้วยอมปล่อยให้ผมเดินเข้าห้องอาบน้ำก่อน ผมล้างตัวใต้ฝักบัวแบบ Rain Shower ให้น้ำอุ่นๆ ไหลผ่านร่างกาย ชำระความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน ก่อนจะสะดุ้งกับสัมผัสของมือใหญ่ที่สอดเข้ามาโอบเอวจากทางด้านหลัง

“สบายตัวไหม” เสียงกระซิบเบาๆ พร้อมกับแรงน้ำที่ถูกลดระดับให้พอมีสายน้ำเอื่อยๆ ไหลรดเราสองคนได้

“อือ”

“สระผมก่อนแล้วค่อยลงอ่างนะครับ”

“รู้แล้วน่า” ผมตอบ ก่อนจะหลับตาช้าๆ รับสัมผัสจากสายน้ำและมือใหญ่ของคนที่กำลังโอบกอดจากข้างหลัง เมลวางคางลงบนไหล่ซ้ายของผม สองมือบีบนวดไปตามจุดต่างๆ ...ไล่จากแผ่นอกลงไปเรื่อย ผมเกร็งตัวเล็กน้อยเมื่อมือของมันวนเวียนทักทายอยู่กับจุดกลางลำตัวของผม

“เมล” ผมกระซิบเรียก โดยที่เมลขานรับในลำคอตอบกลับมา “อาบน้ำ”

“อืม แถมบริการสระผมให้ด้วย”

“แต่ตอนนี้มึง...”

“หืม?”

“มือ”

“อ่า...ทำความสะอาดให้ไงครับ”

“กูทำเองได้”

“อยากทำให้” เมลว่าเสียงอ้อน “ไม่ได้เหรอครับเท็นเท็น”

ก็ถ้าอ้อนขนาดนี้ ต่อให้ผมควักหัวใจไปฝากไว้ที่อื่น ก็ยังต้องยอมจำนน

“อะ...อื้อ ได้ แต่มึงสระผมให้กูก่อนได้ไหม อยากแช่น้ำแล้ว”

“ตามบัญชาครับที่รัก”

ทั้งอายทั้งขนลุก เมลแม่ง...ทำไมน่ารักอย่างนี้วะ!

ผมปล่อยให้เมลสระผมให้ มันขยี้เส้นผมให้อย่างเบามือราวกับกลัวว่าถ้าทำแรงหนังหัวผมจะหลุดติดมือมันไปด้วย แต่ผมบอกแล้วว่าให้ขยี้แรงๆ เลย ผมชอบ มันหัวเราะนิดๆ ขยี้แรงมากจนเหมือนแกล้ง พอผมโวยวายก็กลับมาทำให้ตามปกติ ไถ่โทษโดยการที่มันนวดขมับให้ด้วย

“รู้ไหม กูคิดมาตลอดว่าถ้าเจอมึงอีกครั้ง...กูจะดูแลมึงให้ดีๆ ไม่ให้กล้าทิ้งกูไปไหนอีก” เมลพูดอย่างอารมณ์ดี มันเปิดน้ำล้างแชมพูออกให้ ก่อนจะอุ้มผมไปที่อ่าง ไม่คิดว่ามันจะอุ้มไหว แต่เห็นขนาดกล้ามแล้ว เออ...ไม่สงสัยก็ได้วะ

ว่าแต่มึงไปทำงานอะไรมากันแน่ วิศวกรไฟฟ้าหรือไปฝึกกับหน่วยรบพิเศษมา ทำไมถึงได้แข็งแรงขนาดนี้กัน

“ก็บอกแล้วไงว่ากูไม่ไปไหนอีกแล้ว จะอยู่กับมึงไปจนแก่ มีแต่มึงนี่แหละที่ตอนนี้จะไม่อยู่กับกู”

“หืม”

“งานมึงน่ะ จำเป็นต้องไปทำไกลขนาดนั้นเหรอวะ”

เมลเอาแต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม มันนั่งพิงหลังแล้วดึงผมให้ขึ้นไปนั่งบนตักมันอีกที

“เมล”

“ครับ?”

“คิดถึง” ผมบอกเบาๆ

“ไม่ต่าง” เมลงับริมฝีปากล่างของผม เรามองกันแค่ไม่กี่วินาที ก็ปล่อยให้ริมฝีปากได้บอกอีกฝ่ายเองว่า...ปริมาณของความคิดถึง มันมากแค่ไหน ลิ้นร้อนที่เมลส่งเข้ามาหยอกล้อ ยังคงทำให้ลุ่มหลงได้ไม่เปลี่ยน

ผมคลี่ยิ้มยามเมื่อเราผละออกจากกัน แต่แค่อึดใจเดียวริมฝีปากของผมก็ถูกริมฝีปากของเมลครอบครองไว้อีก แต่คราวนี้เนิ่นนานและค่อนข้างรุนแรง ทั้งถูกดูด ถูกงับ ยกมือทุบอกเบาๆ เป็นการท้วง อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อย ตักตวงเอาจนหายใจแทบไม่ทัน แต่ก็สุขล้ำจนไม่อยากท้วงอะไรอีก

“ทั้งขมทั้งฝาด ไม่หวานเลย” ผมว่ามัน  แต่เสือกยิ้มรับอีกจนได้

“ก็กินไปหลายแก้ว”

“ไอ้ขี้เมา”

“ยังไม่เมาครับ ยังปราบเท็นเท็นได้อยู่นะ”

“กวนตีนละมึง”

“หึหึ”

“อื้อ...เมล มึงรีบๆ ...อาบ...น้ำ” เสียงของผมขาดห้วง เพราะถูกดันให้เอนไปข้างหลัง เมลใช้สองแขนโอบเอวผม เลื่อนใบหน้าลงต่ำจนอยู่ในระดับเดียวกับ...อ่า... ให้ตายเถอะ

“ไม่ได้เห็นนานแล้ว...ยังน่ากินเหมือนเดิม” เมลกำลังจ้องยอดอกของผมตาเป็นมัน ผมจะยกมือผลักหัวมันออกแต่ก็ไม่ทันเพราะมันลงลิ้นไปรอบๆ ซะแล้ว

“อ้ะ...” เสียงของผมสะท้อนก้องในห้องอาบน้ำ ยิ่งคนที่กำลังลงลิ้นรังแกสบตามองมา ก็ยิ่งรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นพล่านไปทั่วใบหน้า

“เมล...เจ็บ มึง ดูด แรง อื้อออ อ้ะ” ผมถูกเมลใช้ทั้งลิ้นทั้งนิ้วมือเล่นงาน พอท้วงว่าเจ็บมันก็ลดแรงลงบ้าง แต่ไม่กี่วินาทีก็กลับมาแรงอีก

“โอยยย เมล...เมล มึง พอ...ก่อน เมล...เจ็บ” เสียงของผมแผ่วและสั่นพร่า เมลไม่ฟังอะไรเลย มันกัดแรง กัดย้ำจนเกิดรอยหลายรอยบนตัวผม

“เมล...”

“เป็นการลงโทษ” เมลบอกเบาๆ แตะลิ้นลงยังรอยกัดที่มันสร้างไว้ “ที่ไปโดยไม่บอก”

“อ้ะ...อื้อออ อย่า...เพิ่ง...ใส่...เข้า...มา”

แก่นกายของเมล...พร้อมเต็มที่แล้ว พร้อมโดยที่ผมไม่ได้เล้าโลมอะไรมันเลย เมลจับมันแนบชิดกับช่องทางของผม ถูไถไปมาแล้วพยายามกดส่วนหัวที่กำลังมีน้ำเยิ้มเหนียวให้ลอดเข้ามาข้างใน  แต่เพราะผมห่างจากเรื่องอย่างว่ามาเป็นปี มันจึงไม่ใช่ช่องทางที่เข้าไปได้สะดวกนัก...แม้จะเคยเข้ามาแล้ว แต่ตอนนี้...ไม่คุ้นชินเลยสักนิด

“เมล...ถุงยางล่ะ”

“ไม่ได้ซื้อ ไม่มีคนให้ใช้ด้วยนานแล้ว เลยลืม” คำตอบนี้ มีร้อยใจผมก็ให้ร้อย มีพันผมก็ให้พัน ผมไม่คิดว่าเป็นคำโกหกนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนหนักหนา

“แล้ว...ทำไง”

“เท็นให้ทำไหมล่ะครับ”

“จะโกรธไหม ถ้าบอกว่าไม่”

เมลยิ้ม จูบแก้มของผมแล้วกดย้ำอยู่อย่างนั้นจนผมต้องผลักมันออก

“ว่าไง”

“ไม่โกรธ จะโกรธตอนผลักออกนี่แหละ”

“ไอ้บ้า”

“หึ เรายังมีเวลาอีกเยอะ ไม่รีบหรอก แต่วันนี้...ใช้ปากให้หน่อยนะครับ”

ผมแพ้จริงๆ นะ...แพ้กับผู้ชายคนนี้ แพ้ราบคาบเลย “อือ”

“ขอบคุณครับที่รัก”



“อร่อยไหม” เมลถามได้น่าถีบมาก แต่ผมไม่มีแรงถีบมันแล้วตอนนี้ ได้แต่นอนซุกอกมันอยู่บนเตียง ส่งสายตาค้อนวงใหญ่ให้ไปแค่นั้น

“ไม่อร่อย”

“แต่ของเท็นอร่อย” เมลมันบ้าจริงๆ “หวานสุดๆ”

“มึงโคตรลามกอ่ะ ไม่เจอปีเดียวทำไมเป็นงี้หืม”

“แฟนไม่อยู่ เก็บกด”

“เออ กูเชื่อเลย”

เมลหัวเราะแล้วดึงแก้มผมเล่น “ไม่ง่วงเหรอ”

“ไม่ค่อยเท่าไหร่”

ผมเพลียก็จริงนะ แต่ไม่ง่วง คงเพราะผู้ชายที่กำลังเป็นหมอนให้ผมหนุนอยู่นี่แหละครับ ทำให้ไม่อยากหลับตาลงเลย...กลัวหลับตาแล้วจะไม่เห็นหน้าหล่อๆ ของมัน

“แม่เป็นไงบ้าง” เมลยกมือขึ้นลูบหัวผม มันเป่าผมจนแห้งถึงอนุญาตให้ผมนอนได้ บริการดีสุดๆ “รู้จากกัสว่าแม่ไม่สบาย”

“อืม ไม่เป็นไรแล้ว”

“มีอะไรอยากเล่าให้ฟังไหม” เมลยังคงตั้งคำถาม “ตลอดหนึ่งปีที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทำอะไรมาบ้าง”

“ก็...ส่วนใหญ่ดูแลแม่ อยู่โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ เพราะกูเรียนเฉพาะทางด้วย มึงล่ะ”

“ก็เรียนจบแล้วทำงาน แค่นั้น”

“พอเดาได้”

“แม่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วเรื่องแต่งงานล่ะเท็น”

ผมส่ายหัว ถูจมูกกับอกน่าซบของมัน “ไม่แต่ง ป๋าโอเคทุกอย่างแล้ว กูถึงได้กลับมานี่ไง”

“อืม”

“ไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมถึงไม่ติดต่อมาหา”

“ก็...ไม่ดีกว่า มันผ่านมาแล้ว” เมลยิ้ม แต่ผมก็ยังเห็นร่องรอยความเสียใจในแววตาของมัน คงทรมานมากใช่ไหม คิดถึงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...ความรู้สึกนี้มันทำให้แทบตายใช่รึเปล่า

“เมล...กูโคตรรักมึง รักมากจริงๆ กูอยากให้มึงเชื่อว่ากูไม่ได้หายไปเพราะว่ามึงไม่สำคัญ ไม่ใช่ไม่อยากบอก ไม่ใช่ไม่อยากให้รอ กูก็ทรมาน มึงรู้ไหม”

เมลพยักหน้า มันยิ้มอีกแล้ว...ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด ไม่จำเป็นต้องยิ้มเลยด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไร...แค่มึงกลับมา ก็ดีเกินพอสำหรับกูแล้ว”

รอยยิ้มที่ผมเห็น...ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผม...เข้าไปรักษาแผลที่ใจของมันเลย

“ขอโทษ...กูกลับมาแล้ว กลับมาอยู่กับมึงแล้วนะ อย่ายิ้มแบบนี้ได้ไหม...ด่ากูก็ได้ ว่าอะไรก็ได้ จะต่อยก็ได้ แต่อย่าทำเหมือนกับว่าอภัยให้กูง่ายๆ ทั้งๆ ที่มึงก็ยังเสียใจ”

น้ำตาของเมลไหลลงมาทีละหยด  รอยยิ้มค่อยๆ เลือนหายไปทีละน้อย ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะนิ่งงัน มีแต่เพียงแววตาเท่านั้นที่กำลังสบกับผม

“มึงทำให้กูเกลียดการรอคอยไปแล้วเท็นเท็น” เสียงของเมลสั่น ผมใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของมัน อยากขอโทษเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง แต่คิดว่ามันคงยังไม่พอ และคงไม่สามารถเรียกความรู้สึกที่เสียไปกลับมาได้ ถึงอย่างนั้น...เมลก็ยังคงจับมือผมไว้ มันค่อยๆ คลี่ยิ้มทีละนิด ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างหน้ามองอย่างที่ผมคุ้นเคย

“แต่ยังไงก็ขอบคุณที่กลับมา รักเท็นมากนะ รู้ไหม”

“อื้ม รักเมลมากเหมือนกัน”

อ้อมกอดของเมลอบอุ่น จูบของเมลก็อ่อนโยน น้ำเสียงก็ทุ้ม นุ่มน่าฟัง ถ้าถามว่าผมชอบอะไรมากกว่ากัน ผมคงต้องบอกว่า ผมชอบทุกอย่างที่เมลทำให้ ชอบทุกอย่างที่เป็นเมล เพราะนี่คือผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ผมรัก และเขาก็รักผมมากไม่ต่างกันเลย


...........................................................End Special .......................................................................
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-11-2015 20:15:54
เมลที่รักของเท็นๆและของเรา\( ^0^ )/
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-11-2015 20:23:37
โอ้ยยยย โคตรเป็นคนดีอ่ะ พี่เมล รักพี่เมลที่สุดอ่ะ จะทำให้หลงไปถึงหนายยยค้าาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 20-11-2015 20:32:19
รักคู่นี้ที่สุดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 20-11-2015 20:38:00
 :impress2: กลับมาก็รักกันหวานเจี๊ยบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 20-11-2015 20:48:56
โอ้ยยยยยย คือบับบบบบบ ฮืออออออ คิดถึงเทพเท็น
คิดถึงมายด์ คิดถึงทุกคน

ป.ลิง จะมีตอนเท็นเท็นตบกิ๊กป่ะ 555555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-11-2015 20:50:14
แอร๊ยยยย พี่เมลอปป้าคัมแบ๊ค  :z2: ขอต้อนรับการกลับมาค่าเรารอคอยตอนพิเศษเรื่องนี้มานานแสนนานในที่สุดคนแต่งก็เลิกใจร้ายสักที งืออ พี่เมลหล่อละมุนมากค่ะโดนดาเมจไปเต็มๆจนใจสั่นรัว มีตอนพิเศษแบบนี้แล้ว ขอหนังสือด้วยได้มั้ยค่ะรอรวมเล่มเรื่องนี้อยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 20-11-2015 21:02:04
เมลหล่อมากกกกก   :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: kkoyz ที่ 20-11-2015 21:02:45
โอ้ยยยยย พี่เมลคนดี รักพี่เมลล
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 20-11-2015 21:03:13
ละมุนละไม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: veeveevivien ที่ 20-11-2015 21:22:50
ยิ่งอ่านเรื่องนี้แล้วเรายิ่งคิดถึง

"มายด์"

น้ำตาไหลยามที่เห็นตัวอักษรกล่าวถึง "มายด์"  :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: terui ที่ 20-11-2015 21:25:54
ตอนอ่านจบเราแอบคาใจนะว่าเท็นรักเมลพอมั้ย
พอมาภาคพิเศษวางใจได้แล้วสินะ
อยากเห็นเท็นหึงเมลบ้างอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 20-11-2015 21:29:10
พี่เมลของน้อง #พ่อยอดยาหยี #พ่อยอดขมองอิ่ม
เอาแก้มมาให้น้องหอมซักฟอดเถอะพ่อ
ใครอยากได้ป๋าพ่าย อยากได้หมอโปรด เอากันไปได้เลยค่ะ
แต่ผู้ชายคนนี้ ของน้อง!!!อยากได้ต้องข้ามศพน้องไปก่อน
#วิ่งหลบตีนเท็นแพล่บ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 20-11-2015 21:44:32
ไม่มีใครดีเท่าเมลอีกแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 20-11-2015 21:47:02
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 20-11-2015 22:09:14
คิดถึงเมลเท็นเสมอ แม้จะได้พบเจอในเพจ
แต่ก็ไม่เหมือนกับเรื่องที่มีแค่เมลเท็น
อยากอ่านบรรยากาศมุ้งมิ้งของสองคน

ขอบคุณนะคะที่ส่งตอนพิเศษนี้มาให้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-11-2015 22:47:25
ดีใจที่เมลเท็นได้อยู่ด้วยกันในคืนนี้
คนที่รอเท็นขนาดนี้ก็มีเมลนี่หล่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 21-11-2015 00:26:48
คือเท็น ยอมๆเมลไปเหอะ
อยู่บนแท่นอ่ะ คิดถึงแฟน  ก็มีแต่น้ำกับฟ้า
สงสารคนหล่อเถอะนะ 555555555
ส่วนคุณเมล ย้ายบริษัทเหอะ ใช้งานหนักมาก
 ทำแค่สองวีคออน สองวีคออฟ ก็พอแล้ว
เอาเวลาไปเที่ยวกับเท็นๆต่อดีกว่า
รอสวีทตอนต่อปายยยยยยยยยยยยยยยย

พูดถึงมายด์..ขุดอารมณ์ความเศร้าเรามาเต็มจริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2015 00:59:56
กว่าจะมีตอนพิเศษกับเขาได้  :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 21-11-2015 01:01:37
 :mew1:พี่เมลของเจ้ ดีแสนดี อบอุ่นจริมๆ
เท็นเท็นแพ้ทางหวานพี่เมลสินะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-11-2015 01:16:47
ในที่สุดตอนพิเศษก็มาแล้วววว
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 21-11-2015 03:01:58
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: YoK_mehok ที่ 21-11-2015 03:23:02
 :กอด1: :mew1: :L2: :L1:


หัวข้อ: Re: So whaกกรีt : ตกลงเอกรีาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 21-11-2015 06:00:29
กรี๊ดดดดดดดด ดีใจมากกกกกก

มาต่อแล้ว คิดถึงพี่เมลกับเท็นเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 21-11-2015 07:40:47
รอมานานมากๆๆ. รัก คิดถึง เมลกับเท็นมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: GenZ ที่ 21-11-2015 08:51:48
อ๋อยยยยยย ละมุนมากอ่ะ พี่เมลแบบฮื่อ ได้ใจน้องจริงๆ เมลเท็นอยู่ด้วยกันไปนานๆนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-11-2015 10:30:30
ขอแบบพี่เมลคนนึง ขอแบบนี้คนนึง
อิจฉาเท็นๆมากอ่ะ พี่เมลแสนดีมาก
โอ๊ยยยย ลุ้นกับคู่นี้มาโดยตลอด
พอเห็นเคลียร์กันแล้วเข้าใจแบบนี้ก็โอเค
ไม่ชอบให้คู่นี้ดราม่าเลยยยย
 :mew1:  :mew1: :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 21-11-2015 11:52:39
เท็นเมลคิดถึงงงงงงง อยากจะถามว่าไม่ได้ทำนานแล้วจริงหรอ ได้ข่าวน้องเพี้ยนยังแอบไปดูอยู่เลย ตั้งกล้องพร้อม  :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 21-11-2015 14:30:22
 :กอด1: ขออีกก55555555555 ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: lukYRKM ที่ 22-11-2015 04:31:20
รอเธอมานานแสนนาน สุดท้ายก็มา ความหวานก็มี   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 23-11-2015 06:49:33
 o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 23-11-2015 10:07:45
หาแบบเมลคุงได้อีกที่ไหนนนนน
โธ่ววววว ไม่มีถุงก็อดน่ารักอ่า
บางทีก็แอบคิดแบบเท็นจังนะ
คือบางอย่างทำได้ก็อยากทำเองบ้างไรบ้าง
แต่ก็เข้าใจเมลคงนะ
อารมณ์มันอยากทำให้มันอยากดูแล
โอ้ยยยยยยยยยย
ตายยยยยยยยย
ไม่ไหว ไม่รู้จะอิจฉาใคร
ชอบสไตล์เท็นจังมากอ่า แต่ก็หลงรักเมลคุง ><
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 23-11-2015 11:40:25
ปลื้มใจเหลือเกิน






คุณชายเมลช่างเป็นคนดี






คุณชายเมลช่างเป็นคนรักมั่นจริงใจ






อิจฉาเท็นเท็น มากมาย บอกเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 23-11-2015 12:06:12
ฮือออออ เมลลลลลลลลล
ู้ผู้ชายอะไรแสนดีขนาดนี้/////////
ฉันอยากได้เขา///////โดนเท็นตบ

เท็นเท็นอย่าทำให้เมลเสียใจอีกน้าาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-11-2015 14:06:30
เมลน่ารักมาก เขินแทน
แต้มเราเป็นฝั่งเป็นฝาซะงั้น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 23-11-2015 17:36:16
ตอนเมลร้องไห้ เราร้องไห้ตามเลย
สงสารเมลมาก ที่ต้องรอโดยไม่รู้อะไรเป็นปี
หายไปไม่บอกไม่กล่าว

แต่เมลก็ยังมั่นคง งื้ออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-11-2015 02:45:38
เมลดีมากไม่ไหว...
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 24-11-2015 08:31:15
เท็นจอมเจ้าเล่ห์เจอเมล แพ้ทางเห็นๆ
ดีใจทึ่มึสเปของคู่นี้ ให้เมลได้หวานบ้าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: เกรียนเหมียว ที่ 25-11-2015 10:36:38

รักเมลอ่ะ รักษาไว้ดีๆนะเท็น 
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 25-11-2015 12:16:45
รักเมลอ่าาาาา ผู้ชายแบบเมลหาได้จากที่ไหนบอกเราที  :ling2: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 25-11-2015 12:20:47
กรี้ดดดด เพิ่งเห็นว่ามีตอนพิเศษ
เย้ ดีใจๆๆ เอฟซีพี่เท็นคนเขิน พี่เมลคนอบอุ่น >///<
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: klebkamol ที่ 25-11-2015 13:07:15
ห่าไรก็ไม่รู้ อ่านไม่จบ 3 ตอนดีเลย ยิ่งอ่านยิ่งงง ไม่น่าสนใจเลย  :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:

         ลองเขียนนิยาย ซักเรื่องซิครับแล้วให้คนอื่นมา  แสดงความคิดเห็นแบบที่คุณทำบ้าง   คุณจะมีกำลังใจเขียนต่อไหม
         ลองอ่านจนจบครับ แล้ว ดูว่าผู้เขียนเขามี พัฒนาการดีขึ้นหรือไม่   และมีข้อเสนอแนะอะไรให้ปรับปรุงบ้าง
       ไม่ใช่ โผล่มาถึงก็    ห่าไรก็ไม่รู้         มันสะท้อนถึงระดับความคิด  และ สังคมของคุณเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 25-11-2015 16:07:43
ห่าไรก็ไม่รู้ อ่านไม่จบ 3 ตอนดีเลย ยิ่งอ่านยิ่งงง ไม่น่าสนใจเลย  :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:

         ลองเขียนนิยาย ซักเรื่องซิครับแล้วให้คนอื่นมา  แสดงความคิดเห็นแบบที่คุณทำบ้าง   คุณจะมีกำลังใจเขียนต่อไหม
         ลองอ่านจนจบครับ แล้ว ดูว่าผู้เขียนเขามี พัฒนาการดีขึ้นหรือไม่   และมีข้อเสนอแนะอะไรให้ปรับปรุงบ้าง
       ไม่ใช่ โผล่มาถึงก็    ห่าไรก็ไม่รู้         มันสะท้อนถึงระดับความคิด  และ สังคมของคุณเลยนะครับ

ปกติผมแทบจะไม่เคยแสดงความคิดเห็นลักษณะนี้เลยนะ  ปกติให้กำลังใจ ชื่นชม มีบ่นๆบ้างแต่ก็เกี่ยวกับรูปแบบ และนิสัยของตัวละคร  แต่นี้ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องเหมือนกัน ที่เหมือนจะน่าสนใจ แต่อ่านได้ไม่จบ 3 ตอนดีเลยก็โคตรเซ็งแล้ว ผมอาจจะเขียนนิยายไม่ได้ เขียนไม่เป็น คิดไม่ออก ได้แต่อ่าน ผมก็แสดงความคิดเห็นในฐานะผู้อ่าน แต่อาจจะตรงไปหน่อยเพราะไม่ชอบอ้อมค้อม อาจทำให้โกรธ แต่ผมว่ามันดีกว่ามานั่งบอกว่าดี ทั้งที่ตัวเองไม่ชอบ ผู้ที่เขียนจะได้พัฒนาฝีมือ หรือถ้าเรื่องมันดีอยู่แล้วผมอาจตาไม่ถึงเองก็ได้ ขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่พอใจ  :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 25-11-2015 19:43:17
เมลจ๋าาาาาา หวานละมุน ซาบซึ้งน้ำตาไหลเลย
ตอนเมลร้องไห้นี่ เค้าพราก ๆ เลยนะ รักเมลจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 26-11-2015 22:56:07
ขอสารภาพเลยว่าส่วนตัวแล้วอ่านสเปไปมีแอบน่ำตาซึม  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 26-11-2015 23:24:21
Special part. นี่พี่เมลเอาไปเต็มสิบเลยค่ะ ทูลหัวของบ่าววววววว  :-[
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 01-12-2015 14:18:13
เมลคือที่หนึ่งในใจจจจจจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 07-12-2015 13:10:33
รักเมล  :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Rosnest ที่ 13-12-2015 23:02:23
ขนลุกแล้วววววววววว ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ

กับตอนพิเศษนะค่า ฟินมากกกกค่า  :-[

 :z2:  :z2:      :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-12-2015 12:02:14
พี่เมลคนดี สุดชีวีของน้อง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 07-01-2016 00:00:47
https://www.youtube.com/watch?v=ZfjpL64GBI8

มายด์...    :m15: :m15: :m8: :m2: :sad2: :sad12:

เปลี่ยนตอนจบได้มั้ยอะแงงงงงงงง5555555555 ฮือออออออออออออออไม่เอาแบบนี้ได้มั้ย ยังไงก็ได้
ให้มายด์ตื่นขึ้นมาแล้วความจำเสื่อมก็ได้ ยังเจ็บน้อยกว่าอีก ดีกว่าไม่มีมายด์อยู่แล้วอะ :m17: :m17:

ขอโทษที่งี่เง่าและปัญญาอ่อน55555555 แตในเรื่องชอบมายด์ที่สุดเลย ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะอ่านติดๆกันหลายวันรวดเดียวจบเลย ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 08-01-2016 00:20:36
เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้เพราะเสมออัพ สนุกมากๆ ค่ะ เรื่องนี้ให้อารมณ์หลากหลายอย่าง เพิ่งอ่านจบ #ร้องไห้หนักมาก ทันพีคมากอนมายด์ตาย พิมพ์เม้นตอนนี้ยังนอยด์อยู่เลย มายด์ตายไม่พอน้ำตานองไปจนจบ อุปสรรคด่านสุดท้ายก่อนทั้งสองจะกลับมาหากัน ขอเวลานอยด์แป๊ป ยังอินอยู่  น่าสงสารอ่ะ แต่มันอารมณ์ชีวิตจริงดี ว่าแบบอะไรที่มันสายไปแล้วมันกลับไปแก้ไม่ได้ จะได้เป็นบทเรียนให้คนที่อยู่ต่อเรียนรู้ ชีวิตต้องเดินต่อไป อินอ่ะ สนุกมากจริงๆ อ่านเรื่อนี้เหมือนเล่นสไลด์เดอร์ภูเขา พาเราขึ้นลงๆ ตลอก ตอนท้ายทางชันหน่อย ลงยาว......จนจบ อินๆ อนด้วยตอนนี้ เข้าลัทธิอึนกับเมลแป๊ป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: บี๋น้อย ที่ 22-01-2016 01:49:05
จะอ่านกี่ครั้งๆก็ไม่เปลี่ยนเลนฝีมือนักเขียนคนนี้  :katai2-1: ผลงานทุกเรื่องสามารถทำให้เราเสียน้ำตาได้  :hao5: ความรักบางครั้งก็อาจไม่สมหวังเสมอไป เเต่เราก็ยังคาดหวังเเละยังเฝ้ารอเสมอ  :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 03-02-2016 16:50:39
สนุกมากเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 16-02-2016 01:33:55
สนุกมากๆค่ะ ทุกอารมณ์ครบรส เมลกับเท็นยังวานกันเหมือนเดิม ไม่สิ มากกว่าเดิม รักกันนานๆน่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: paper ที่ 31-03-2016 11:45:50
คิดถึงเมลกับเท็นเท็น :mew1:
เราชอบนิสัยเท็นเท็นมาก เท็นเท็นทำให้เรารู้ว่าชีวิตมีอะไรใหม่ๆให้ทำเยอะแยะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนพิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 05-04-2016 14:54:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

โอยยยย ชอบคู่นี้

ตั้งเเต่อ่านมา ชอบเรื่องนี้ที่สุด :z1:

ชอบนิสัยเท็น ชอบความทน ความดีเว่อร์ของเมล โปรดกับพ่ายตายเรียบจ้า   :laugh:  :laugh: :laugh:

ลงตอนพิเศษเยอะๆเลยก็ได้น้ารออ่าน  :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 1 :: 16-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 06-04-2016 14:52:15
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ล็อคอินมาเม้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ ชอบเท็นอ่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 4 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 07:57:42
เมลนะเมล  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 08:52:03
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 7 :: 19-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 09:28:45
เมลเอ้ยยย

เท็นพูดขนาดนี้เเล้วยังไม่เข้าใจอีก ยังๆๆๆๆๆ

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 09:41:40
 :-[
 :-[
 :o8:
 :impress2:
ตอนนี้เท็นน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 10:29:22
 :call: :call:

ชาบูคู่นี้เลยยย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 07-04-2016 10:40:28

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เเหมๆๆๆ เท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 08-04-2016 07:22:55
เห็นด้วยกับเท็นนะเมล

ทำขนาดนี้เเล้วววววว  :ling1: :ling1: :ling1:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 08-04-2016 07:36:02
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

คบกันเเล้ววว

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 14 :: 30-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 08-04-2016 07:47:38
ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดด
บักเท็นของพี่ น่ารักจริงๆเลย

 :hao6: :hao6: :hao6:

น้องเมลนี่หื่นดีงาม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 15 :: 3-09-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 08-04-2016 08:10:16
น้องเมลดีเกินไปเเล้วววววววววว :hao5: :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 17 :: 07-09-2013 (Page.6)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 04:22:03
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22

โอ้ววววว ท่านเทพ มากราบที
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 18 :: 09-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 04:34:12
ไปๆมาๆเพื่อนเมลนี่ติ๊งต๊องเอาเรื่องนะเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:

ส่วนเมลก็ป่วยเป็นโรคเท็นลิซึ่ม  :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 19 :: 10-09-2013 (Page.7)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 04:47:49
ขอเข้าลัทธิเดียวกับเมลได้ไหม
ท่านเท็นนี่ทำอะไรไม่ได้บ้าง :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 04:54:08
อ้าวเท็น ไหงเป็นงี้อ่ะ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 05:01:53
พออ่านไซด์เมลก็โมโหเท็น
เเต่พอเป็นไซด์เท็นก็โกรธไม่ลง เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 05:21:01
พออ่านไซด์เมลก็โมโหเท็น
เเต่พอเป็นไซด์เท็นก็โกรธไม่ลง เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 06:14:05


เท็นโดนหนักเเฮะ คราวนี้  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 06:19:20
เท็นอย่าร้องลูก อย่าร้องงงงงงงงงงงงงงงงงง :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 08:40:25
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

สวยงามตามท้องเรื่องอ่ะตอนนี้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 08:53:32
อ้าวๆๆๆๆๆ เอาเเล้วไง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 09-04-2016 09:08:40
ตามที่เมลเคยพูดว่า ใครที่อยู่ใกล้เท็นก็ต้องตกหลุมรัก อันนี้เราว่าจริง
นิสัยเเบบเท็นนี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เชื่อว่าใครๆก็ต้องสนใจ
พออยู่ใกล้ ทำความรู้จักก็ต้องรัก(เรายังรักเลย (เมล :ผมไม่อยากรังเเกผู้หญิงนะครับ))
เเถมเวลาเพื่อนมีปัญหาเท็นจะเป็นคนช่วยตลอด
เเล้วยังไปโผล่ช่วยคนอื่นในเรื่องอื่นอีก ยอมใจความเก่งของเท็น
ถึงจะไปเเต่ไม่กี่ตอนเเต่เท็นมากจริงๆ อ่านปุ๊บรู้เลยว่าใคร :laugh:
  :z10:เฟดตัวเองเข้ามาอยู่ในสัทธิเท็นลิซึ่มกับเมล

ปล. คนเขียนต้องเพิ่มค่าตัวให้เท็นเท็นนะ ใช้งานนางไปหลายเรื่อง :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 10-04-2016 22:57:40
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ชอบตรงไอ้หล่อมึนของพี่ นี่เเหละ  :z3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 11-04-2016 09:28:35
ชอบเท็นโหมดขี้หวงจัง  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 12-04-2016 09:51:36
ขำเท็น ทะเลาะกับเขาไปทั่ว ทั้งเเมวทั้งคน  :laugh:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 12-04-2016 11:09:56
 :hao5: :hao5:

กว่าจะเคลียร์กันได้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 12-04-2016 11:23:24
เมลหล่อ เมลดี เมลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsj_leedong ที่ 12-04-2016 11:56:52
นี่นึกภาพตอนเเฟนเดินมาหาเเล้วบอกว่า

เเฟน: เฮ้ยเธอเราจะดรอปเรียนนะ จะไปสร้างเนื้อสร้างตัวซักปี จะไม่กลับกทม

เรา : :a5:  เเละ  :z6:

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 20-04-2016 17:09:36
ขอบคุณค่ะ ^^
บอกตรงๆ เราไม่ค่อยเข้าใจคนแบบเท็นนะ
อ่านตอนแรกๆ เลยรู้สึกขัดๆไงไม่รู้
มาตอนหลังๆ ก็(พยายาม)เข้าใจมากขึ้นนะ 555
ส่วนเมล ไม่ต้องพูดไรมาก แฟนดีเด่นแห่งชาติ ประเสริฐเลิศที่สุดในปฐพี

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 03-05-2016 23:15:46
อ่านรวดเดียว 8 ตอน ต้องบอกเลยว่าไม่เคยตามความอินดี้ของท่านเทพเท็นทันเลย ทั้งๆที่เท็นก็พูดอ่อยอยู่ตลอดว่าไม่มีแฟนๆทำไมเมลไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 9 :: 22-08-2013 NC-18
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 03-05-2016 23:35:59
เท็นมุ้งมิ้งอ่ะ เมาแล้วอ้อนเหรอ ถามว่าชอบตัวเองมั๊ยนี่คิดยังไงอยู่ ถ้าเมลตอบว่าชอบเท็นจะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 10 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 03-05-2016 23:51:39
เมื่อไหร่จะเลื่อนขั้นจากเพื่อนสักทีล่ะท่านเทพเท็น อ่าาาา แล้วฟิวจะรู้เรื่องเพื่อนสนิทมากของท่าเทพเท็นแบบที่กัสรู้หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 11 :: 26-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 00:12:32
เมลน่ารักอ่ะ มีความกวน มีความงอน มีความเอาใจใส่ เฮ้อ ถ้าฟิวรู้ว่าเท็นกับเมลสนิทกันมาากกกกจะเป็นยังไงนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 12 :: 27-08-2013 (Page.3)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 00:28:48
แหมๆๆ มีที่รงที่รัก ชวนไปเดทงี้ไรงี้ เลื่อนขั้นจากเพื่อนสนิทมากกกกกสักทีเหอะนะท่านเทพเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 13 :: 28-08-2013 (Page.4)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 00:49:46
เป็นแฟนกันสักที เฮ้อ แต่ก็ต้องแลกกับความรู้สึกของเพื่อนสนิทที่เสียไป สถานะชัดเจนแล้วนะต่อไปเท็นกับฟิวจะมองหน้ากันติดไหม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 17:51:56
บางทีเราก็สงสัยว่าเมลกับเท็นสลับนิสัยกันหรือเปล่า ท่าเทพเท็นนี่ทำตัวอินดี้มากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside Extra :: 13-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 18:22:19
ฟิวนี่รอเสียบอย่างเดียวเลย แอบหมั่นไส้ฟิวเบาๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 21 :: 14-09-2013 (Page.9)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 18:46:21
ถึงเวลาที่เท็นต้องวิ่งตามเมลบ้างแล้วหละ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 22 :: 15-09-2013 (Page.11)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 19:12:22
นี่เมลคิดจะหยุดแล้วจริงๆใช่ไหมถึงทำแบบนี้ แต่เท็นแบบตอนที่บอกให้ฟิวไปปิดหน้าต่างนี่คืออยากเข้าไปกอดปลอบ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 23 :: 16-09-2013 (Page.12)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 19:59:44
ดีใจที่เมลไม่ไปพัทยา แล้วก็กลับมาเคลียความรู้สึกก่อนที่มันจะสายเกินแก้
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 24 :: 21-09-2013 (Page.13)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 20:19:53
บรรยากาศมุ้งมิ้งของกัสกับลินนี่คืออะไรกันหรือเราคิดไปเอง? ฟิวยังตัดใจไม่ได้สินะแล้วมายด์ชอบฟิวจริงๆเหรอหรือว่าแค่หวง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 25 :: 24-09-2013 (Page.15)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 20:36:51
หวานจนมดจะกัดตาอยู่แล้ว อิจฉาอ่ะ น่ารักเกิ๊นนนนนน

ทางฝั่งป๋ากับแม่เท็นรับรู้แล้วว่าเป็นแฟนกันแล้วฝั่งครอบครัวเมลล่ะจะรับได้ไหม
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 26 :: 28-09-2013 (Page.16)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 20:57:18
แฟนเก่าก็อยู่ไปเงียบๆดีแล้วจะมาวุ่นวายทำไมเนี่ย อุต๊ะ เต้แม็คนั่นคืออะไรยังไงคะ? มีซัมติงกันหราาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 27 :: 14-10-2013 (Page.17)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 21:13:58
เท็นเท็นแกล้งเพื่อนอ่ะ ดูสิแม็คร้องไห้เลย

เท็นนี่ก็อ่อยตลอดๆเมลก็หื่นสนองทุกที ดีจ่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 28 :: 21-10-2013 (Page.18)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 21:30:43
แม็คที่พยายามจะหนีกับเต้พี่ไล่ตามนี่คืออะไร ทำไมต้องหงุดหงิดใส่ด้วยล่ะจะเว้นระยะห่างเองไม่ใช่หรือไง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 29 :: 23-10-2013 (Page.19)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 21:55:55
เท็นเท็นหึงโหดดดดดด  :z6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-05-2016 22:25:11
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 30 :: 04-11-2013 (Page.20)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 22:54:32
เอาไอ้เป๊ปโยนเข้ากรงไอ้เจคเลย หมั่นไส้ความหยิ่งของมัน ฮ่าๆๆๆ เจคน่ารักอ่ะ

ตอนหน้าเมลจะพาเท็นเท็นไปเปิดตัวแล้ว เย้ๆๆ จะเกิดปัญหาาแม่ผัวลูกสะใภ้หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 31 :: 13-11-2013 (Page.21)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 23:28:21
เมลกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆไม่งั้นไม่ปล่อยมือเท็นแบบนี้หรอก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 32 : 24-11-2013 (Page. 24)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 04-05-2016 23:53:30
แม่เมลดูเอ็นดู ดูอยากได้เท็นมาเป็นลูกอีกคนมากกว่าจะมาเป็นลูกสะใภ้นะ ครอบครัวเมลต้อนรับเท็นดีมากในฐานะอาจารย์ใรฐานะเพื่อนเก่าและในฐานะเพื่อนของลูกแต่เหมือนยังไม่ยอมรับว่าาคนนี้แหละคือแฟนลูกชายฉันไรงี้
แหมคุณภูนี่ก็ปั่นประสาทจังนะคะ อยากให้เขาทะเลาะกันแล้วรอเสียบหรือไง ก็รู้อยู่ว่าไม่มีทาง นู่นนนนน ไปจีบนาตาชาไปค่ะ
ที่เมลไม่ตอบคำถามเท็นนี่คือยังไง คือมันไม่มีอะไร หรือว่าไม่อยากพูดความจริงออกมา คำว่ารักที่เมลบอกเท็นก่อนนอนมันเหมือนแค่เป็นคำที่พูดออกมาเพื่อรั้งเท็นเอาไว้แค่นั้นเอง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 33 : 25-11-2013 (Page.25)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 00:18:26
ไม่แปลกใจเลยที่เท็นหนีไปพักร้อน ความชัดเจนสำหรับสถานะของเท็นในบ้านเมลคลุมเครือมาก เมลไม่พูดอะไรเลยอ่ะ ยังจะมางีี่เง่าเรื่องภูอีกในขณะที่ตัวเองกอดกับนาตาชาหน้าตาเฉย ห่างกันไปเพื่อทบทวนตัวเองแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ยังดีที่เมลยังยึดมั่นที่จะรักไม่เลือกทีี่จะตัดใจเหมือนคราวที่แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเท็นแล้วหละว่าจะเอายังไงต่อ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 34 : 26-11-2013 (Page.26)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 00:47:48
เมลไม่ได้คิดอะไรแต่เป็นนาตาชาที่คิดมิน่าล่ะแม่เมลถึงส่งไปดูตัวกับชายอื่นจะได้ไม่มายุ่งกับเมล

เท็นเท็นกลับมาคราวนี้พุ่งชนทุกสิ่งอ่ะโดนใจเจ๊มาก เมลนี่ก็เกรงใจเมียดีจริงๆเมียสั่งอะไรทำทุ๊กกกอย่าง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 35 : 3-12-2013 (Page.27)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 01:12:01
อยากลูบรอยสักของเท็นเท็นบ้างอ่ะ จินตนากาารตามแล้วคิดว่าเซ็กซี่ดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 36 : 16-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 12:13:40
มินนีี่นี่มันตัวอะไรอ่ะ? ปลาหมอสีเหรอ? แล้วไอ้เจมนี่ไม่นับเป็นสัตว์เลีี้ยงเหรอเท็น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 37 : 05-02-2014 (Page.32)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 12:27:07
เทพเท็นคนอินดี้จะทำอะไรอีกแล้วเนี่ย ถ้าไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะทำอะไรท่านก็เรียนปริญญาต่ออีกสักใบสองใบก็ได้นี่ท่าน
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 38 : 09-02-2014 (Page.33)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 12:45:45
จะดร็อปจริงดิ แต่ก่อนจะทำอะไรต้องบอกเมลก่อนนะเท็นต้องคุยกันก่อนไม่งั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 39 : 10-02-2014 (Page.34)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 13:12:55
เท็นยังรักตัวเองมากเกินไป บรรยากาศระหว่างเท็นกับเมลหน่วงมาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 40 : 11-02-2014 (Page.35)
เริ่มหัวข้อโดย: อนุบาลตัวแม่ ที่ 05-05-2016 13:33:58
ที่เมลต้องพยายามเรีียนพยายามอ่านหนังสือมากขนาาดนี้เพราะป๋าเหรอเนี่ย เพื่อให้คู่ควรกับเท็นเมลยอมทำทุกอย่างจริงๆ แต่ป๋าก็ใจร้ายมากนะที่ทำแบบนี้ ไม่อยากเห็นลูกมีความสุขเหรอ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: akkharadech ที่ 31-05-2016 01:29:57
เอาจริงๆนะ ตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดคือฟิว ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้เลย ไม่ชอบยิ่งกว่านางร้ายอีก ชีวิตจริงเคยเจอนะ คนนิสัยแบนี้ใสๆ หวังดีกัยทุกคน แต่จริงๆคนแบบนี้โคตรเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะตอนที่ฟิวเมาแล้วไปนัวเมล หรือตอนที่บวกกับเทน อย่างที่เท็นว่าแหละ แรดเงียบ สมควรแล้วที่จะต้องจมอยู่กับความรู้สึกปิดไปตลอดชีวิต อย่ามีความสุขอีกเลยมรึง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 03-06-2016 01:20:11
เมลดีสุดๆอะ ไม่มีใครดีกับเท็นได้เท่าเมลแล้ว
ไม่มีใครยอมเท็นได้เท่าเมล
ไม่มีใครทนเท็นได้เท่าเมล
ไม่มีใครรักเท็นได้เท่าเมลอีกแล้ววว
รักษาไว้ดีๆนะเท็น  เท็นก้รักเมลมากแหละ
แต่คนไม่เคยมี พอมีครั้งแรกมันก้ปรับตัวไม่ถูก
ความผิดพลาดมันก้เยอะเป็นเงาตามตัว
แต่จบแบบนี้ดีงามมากค่ะ รัก อบอุ่น น่ารักมากก
ส่วนเรื่องของฟิวมายด์ มันน่าเศร้านะ
คนนึงรู้ตัวว่ารักเมื่อสายไปแล้ว และไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว
ส่วนอีกคนกเจากไปพร้อมความรู้สึกที่ติดลบแบบดิ่งเหวเลยอะ
น่าสงสารฟิวมาก เพราะสุดท้ายคนที่ต้องทนทรมานก้คือคนที่เหลืออยู่

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: maamookii ที่ 21-06-2016 21:05:13
จริงๆ อ่านเรื่องนี้มามากกว่า 3 รอบแล้ว
ชอบเรื่องนี้จริงๆ อ่านแล้วมีความสุขมากๆ
ขอบคุณมากนะคะ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 22-06-2016 00:22:38
อ่านกี่ทีก็ฟิน **พี่เมลของน้อง :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 16-07-2016 14:40:37
ตอนแรกบอกเลยอิจฉาที่เท็นเก่ง แต่ตอนหลังๆอิจฉาเท็นที่แฟนดีมากกกกกกกกก

อยากได้แบบนี้ 5555

สงสารฟิว ไปสบายนะมายด์ :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 12-08-2016 08:53:40
พึ่งอ่านจบวันนี้ สนุกมากคะ
ชอบมากๆๆ ตามอารมณ์เท็นไม่ทันเลยบางที
เศร้ามากตอนเรื่องของมายด์ เราร้องไห้ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 01-10-2016 14:49:23
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย แม้ตอนแรกๆ จะไม่ชอบนิสัยเท็นเท็นเท่าไหน่ แต่ก็สนุกดีในกลุ่มเพื่อนๆฮามาก ตอนมายด์อะเค้าร้องไห้เลย คือมันให้ความรู้สึกจริงๆ บางสิ่งมันแก้ไขไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 06-10-2016 16:55:48
อ่านรอยสองก็ยังชอบ  อ่านมาหลายปีก่อน ปีกว่าสองปีมั้ง แต่เพิ่งมาอ่านสุดโต่งและย้อนไปอ่านมาโปรดเพราะตัวละครมีบทข้ามเรื่องกันเลยย้อนมาอ่านเรื่องนี้อีกรอบ และว่าจะอ่านอีกรอบถ้าว่าง ชอบนะ ชอบอะไรๆแนวเท็น และเมลน่าสงสาร แต่ก็ชอบ สงสารมาย แต่ฟิวทำตัวเอง มีคนที่รักและดีกับตัวเองแต่กว่ารู้จักก็สายไป ตอนมายตายตอนเราอ่านครั้งแรกเราเสียใจตามมาก สงสารมาย ตอนที่มายไปรอฟิวดูหนังวันเกิด ฟิวไม่มาก็สงสารมาก ในไลน์เรามีที่ให้เขียนบรรยายหลังชื่อ เราก็เขียน "เซนซิทีฟเรื่องมาย" เพราะเราสงสารและเสียใจจริงตอนนั้น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Minzero ที่ 07-10-2016 20:37:15
อ่านแล้วฟิน ดราม่า เฮฮา มึนๆ รวมๆคือแต่งออกมาดีมากกกกกกกกก แต่เศร้าตรงที่มายด์ต้องตาย คืแบบ..ร้องไห้เลย :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: APO ที่ 09-10-2016 02:50:39
สุดยอดดดดดดดดด o13

อ่านรวดเดียวจบ ปวดตับได้โล่เลย  :sad4:

แต่น่ารักดีค่ะ ชอบมาก  :katai2-1:

รอตอนพิเศษนะค๊ะ   :-[  :กอด1:   :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-11-2016 19:50:34
รอบที่แล้วที่เข้ามาอ่าน ไม่แน่ใจว่ารู้สึกยังไง
แต่รอบนี้ น้ำตาไหลพรากให้กับมายด์ ปวดหัวเลยอ่ะ
และเมลก็ยังเป็นแฟนแสนดีเหมือนเดิม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 21-01-2017 18:12:52
เป็นนิยายที่อ่านกี่ครั้งก็ไม่เบื่อจริงๆ
อ่านรอบที่4 แล้วก็ยังฟิน และ อินไปกับเรื่องราวรวมถึงตัวละครทุกตัว
คิดใครก็สามารถทำให้กลับมาอ่านได้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีข้ามตอนใดๆ

รักนิยายเรื่องมากๆค่ะ นักเขียนเก่งมากเลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 29-01-2017 16:42:15
รวดเดียวจบ อ่านจบก็น้ำตาซึม ทึ่งกับความรักของเมลมาก ผัวแห่งชาติ ดีงามสามสี่โลก ดีมากจริงๆ ค่ะ

เท็นก็คือเท็น ช่วงแรกยอมรับเลยว่าไม่โอเคกับเท็น คือเท็นเข้าใจยากมาก ในมุมคนเป็นแฟนใครจะยอมรับได้วะ
แต่นานไปในที่สุด เราก็เข้าใจเท็นนะ เท็นเป็นตัวของตัวเอง ฉลาดมากกกก มากจริงๆ สมกับไอคิวเขาแหละ
ทุกเรื่องที่คิดที่พูดมาจริงหมด เช่น เรื่องฟิวชอบเมล เรื่องนาตาชาชอบเมล และเรื่องอื่นๆ คือเราคิดไปไม่ทันเท็นตลอด
เท็นเป็นคนตรง ซึ่งที่ตริงดี เพราะไม่เคยโอ๋คนที่ทำไม่ถูกเลย แต่ตัวเองมีคนโอ๋ตลอดนะ ทุกคนในเรื่องอ่ะ 555
ท่านเท็นซะอย่างเนอะ
 
เมลบ้าง ใครรรร จะทนได้เท่าเมล เอาจริงๆ เมลอดทนมาก รักมาก และเข้าใจอย่างมาก เสียใจแค่ไหนก็ทน
ตอนท้ายของเรื่องที่บอกกลัวการรอคือเศร้ามาก เพราะรักถึงรอได้ ไม่กลับไปรื้อฟื้นด้วย คือชาตินี้เมลทำใจ
แล้วว่ารักเท็น ชีวิตก็จะเป็นแบบนี้ แต่เมลก็มีมุมอ่อรแอเป็รเด็ก งอแงบ้างเหมือนกัน อย่างเรื่องอิจฉาเท็น
ซึ่งแหวกแนวมากจากนิยายที่เคยอ่าน พระเอกอิจฉานายเอก แต่ก็เป็นมุมที่ดีและเป็นมนุษย์ดีนะคะ
เมลได้เท็นมาเยียวยา มาเชียร์อัพ ให้กำลังใจเช่นกัน ให้กำลังใจว่าทำได้ ให้พอใจที่ตัวเองทำอยู่
เมลพยายามมากในทุกเรื่อง รักนะคะ แต่เบื่อตรงเสน่ห์แรงมาก ใครก็มารักมาชอบ เมียก็ยิ่งขี้หึงอยู่
หูเหอนี่ยาน เมียดึงค่ะ 555 ประธารชมรมพ่อบ้านใจกล้า

ขอบคุณนะคะ นิยายของคนเขียนทุกเรื่อวมีมิติหมดเลย ไม่มีใครดีเลวร้อยเปอร์ ทุกคู่ตัองปรับตัวเข้าหากัน
กว่าจะอ่านเรื่องนี้ได้นานมาก ว่าด้วยกิตติศัพท์เริ่อวความตืสท์ของท่านเท็นนี่แหละค่ะ
แต่อ่านจบแล้วชอบมาก มีเสน่ห์มาก
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 30-01-2017 19:01:16
 :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 28-06-2017 22:00:32
 :mew1: :mew1: o13
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: wikichan ที่ 30-06-2017 14:47:37
เค้าอ่านแล้ว ชอบมากๆ อีกแล้ว
เคยเป็นอยู่เหมือนกันที่ว่า ออกไปตามหาแรงบันดาลใจ เรียนๆ อยู่ก็อยากไปเยาวราช ทำพาร์ทไทม์ไปด้วย รับจ๊อบถ่ายรูป นั่งรถเมต้นปลายสายเล่น เพื่อเอาบรรยากาศ ตามอารมณ์เรื่อยไป แค่ว่าคิดไรออกมาอยากทำต้องได้ทำ แต่ก็ช่วงม.ปลายนะที่เป็น อยากออกจากบ้านไปไกลๆ สุดท้ายแล้ววันนึงก็มีเรื่องให้ว่า ไม่มีที่ไหนเป็นสุขเท่าที่บ้านอีกแล้ว และคำว่าอยู่คนเดียวไม่สามารถทำได้ตลอด

ชอบมากจนต้องแคปเก็บไว้ตรงข้อความ..ตอน
"/// Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 20 :: 12-09-2013 (Page.8)
'โลกของผมเหมือนถูกบีบให้เล็กลง อะไรที่ผมอยากทำกลับไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผมแค่คนเดียว ถ้าเมลบอกว่าไม่และผมยังดื้อทำ สุดท้ายมันจะจบลงด้วยการที่เราทะเลาะกันทุกที ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับผม' ////"

อ่านแล้วรู้สึกดี ไม่มีใครเหนือกว่าใครถ้าหากเราไม่ได้ใกล้ชิดเรียนรู้กันและกันอย่างเข้าใจ แค่ว่าทุกคนต่างมีจุดเด่นด้อยกันออกไป เรื่องที่ 5 จบไป กำลังติดตามสุดโต่งต่อล่ะค่ะ แต่อย่างไรซะก็ชอบ ป๋าพ่ายเพี๊ยนมากสุดๆ อยู่เดิมนั่นแหละ 5555
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: kaoma ที่ 30-08-2017 02:03:25
ขอบคุณมากครับ  ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่สื่อออกมา ขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 16-10-2017 17:13:49
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆ หวานปนขม มีตอนพิเศษอีกไหมอะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-11-2017 20:03:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 06-12-2017 12:19:18
ขอบคุณมากๆนะคะ
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ
รักพี่เมลจัง /โดนเท็นตบ555
อยากบอกว่าพี่เมลโคตรๆๆๆๆๆดีโคตรๆๆๆๆน่ารัก
เท็นก็โคตรๆๆๆๆๆๆๆโชคดีที่ได้คนแบบพี่เมลเป็นแฟน
และเราก็โคตๆๆๆๆโชคดีที่ได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณคนเขียนอีกครั้งนะคะ  :mew1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 05-01-2018 20:21:20
ชอบความสัมพันธ์แบบเท็นเมล โคตรจะรักกัน
ขอบคุณคนแต่งนะคะ
สนุกมากค่ะ มีครบทุกรสจริงๆ  :mew2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 06-01-2018 23:12:18
พึ่งตามอ่านเรื่องนี้ ทั้งสนุกทั้งเศร้า ขอบคุณคนแต่งค่ะ
สงสารมายจัง ฮืออ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::Special Inside-Ch.2 :: 22-09-2013 (Page.14)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-01-2018 21:28:36
โธ่ มายด์  :sad4: :hao5: :mew4: :monkeysad: :m15: :ling1: :katai1:

เห้อมม จะร้องไห้  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ทำไมฟิวไม่ลองมองคนอื่นบ้าง คนที่รักฟิว คนที่มองเห็นความรักของตัวเอง

 :กอด1: กอดนะมายด์ เราจะไม่เอ่ยถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ฟิวก็กอดตัวเองกับความรู้สึกนั้นของตัวเองไปละกันนะ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 21-12-2013 (Page.29)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-01-2018 21:38:41
 o1  พอฟิวรับสายเมลนี่ เจ็บจี๊ดแทนมายด์เลยอ่ะ

แม้จะบอกว่าอาบน้ำก็เถอะ  มายด์อ่ะ อยากรู้เหตุผล

ทำไมถึงทำแบบนั้น  :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว : 22-12-2013 (Page.30)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-01-2018 21:46:44
สู้อีกหน่อยสิมายด์ ทนอีกหน่อยไม่ได้หรอ  ฮือ

น้ำตาคลอมารอแล้ว :m15: :katai1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: Special มายด์+ฟิว Ch5 : 02-02-2014 (Page.31)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-01-2018 22:11:35
สงสารมายด์ T_T  :z3:  :mew4:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 22-01-2018 22:30:23
สนุกมากกกกกก คือตามมาจากพี่โปรดกับไร้พ่าย คือเท็นๆ คือดี เมลคือโครตดี ฟิว มายด์คือโครตเศร้า ตาบวมหมด  :o12:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่ 48 : 20-02-2014 (Page.40)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-01-2018 22:46:03
ถึงตอนนี้ก็รู้สึกผิดนิดๆที่ต่อว่าฟิวไปซะเยอะเลย

ก็สงสารฟิวนะ แต่ก็นะเราสงสารมายด์มากกว่าว่ะ

ต้องจากไปทั้งที่เข้าใจแบบนั้น ㅠㅠ  ฮือ

แต่ก็ไม่ต้องรู้สึกเจ็บกับคำพูดของฟิวอีกแล้วนะ

และฟิวก็สู้ต่อไปนะ สักวันคงทำใจได้ แม้มันจะไม่หายจากไปก็เถอะ

ตอนนี้แค่น้ำตาคลอๆ เพราะก่อนนั้นเป่าปี่ไปเยอะแล้ว  :o8:




อ่านนิยายแต่ละเรื่องของคุณ Snufflehp แต่ละเรื่องไม่ร้องไห้

ไม่ใช่เราบอกเลย บีบหัวใจมาก แล้วยิ่งเรื่องรักเสมอนี่แบบ...

ชนะลูก!  :sad4: :sad4: มาหาพี่ พี่จะกอด จะปกป้องหนูเอง ฮือ

ร้องไห้เสียน้ำตาเหมือนเขื่อนแตก ของนกขาสั้นก็เหมือนกัน

ขอบคุณนะคะ ที่แต่งดีมากๆจนทำเราอินและร้องไห้ตามได้ขนาดนี้

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 13-02-2018 00:35:46
 :pig4:
น่ารักมากๆเลย มีทุกอารมณ์ให้ลุ้น
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-02-2018 16:18:11
มายยยยยยยยยยยด์  :impress3:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: MacaroonCookie ที่ 25-02-2018 12:54:24
เมลอดทนมาก ใครจะรักเท็นได้มากเท่านี้ ถ้าเท็นยอมปล่อยเมลคือโกรธ ถึงจะชื่นชม+ปลื้มเท็นมากก็ตาม คู่รองมายด์+ฟิว ไม่กล้าอ่านตอนพิเศษกลัวเศร้าไปกว่านี้ ฮือออ สงสารมายด์อยากให้มีความสุข แต่เหมือนจะช้าไป เวลาไม่รอใครจริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 22-03-2018 22:41:48
อ่านอีกที ตอนนี้อยากสิงร่างท่านเทพ แบบแม่การะเกดเราจะอ้อนพี่เมลให้น่าดูเลยยยย รักอ่ะ พี่เมลของน้อง
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Pankwun ที่ 24-03-2018 11:22:16
สนุกมากเลยค่ะ ทำไมเรามาเจอนิยายดีๆแบบนี้ช้าจังเลยนะ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ :monkeysad: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 28-03-2018 22:57:36
คิดถึงมายด์ จากไปพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าคนที่เรารักเกลียดอ่ะ ทั้งที่ความจริงเค้าไม่ได้เกลียด แต่มายด์ไม่มีโอกาสรับรู้เลย
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 22-04-2018 18:09:51
เราตามมาจาก มาโปรด ค่ะ
เรื่องนั้นว่าหน่วงแล้ว แต่เรื่องนี้หน่วงยิ่งกว่า
คนแต่งใจร้ายนิสนึงที่ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับ มาด์และฟิว
แต่ป็ทำให้รู้ว่า ควรรักคนที่อยู่กับเราให้มากที่สุด

ขอบคุณสำหรับเรื่อง งดีดีที่มาแต่งให้อ่านกันค่ะ :ruready :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 8 :: 21-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: shane ที่ 11-10-2018 19:15:27
เห็นชื่อพี่มายด์แล้วจะร้องไห้ คิดถึงพี่นะพี่มายด์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 18-11-2018 18:14:21
ทำเราร้องไห้สะอื้นแทบแย่
มายด์...ทำไมต้องเป็นแบบนี้
ทั้งที่อ่านมาโปรดแล้วรู้เรื่องมายด์จากตอนอ่านก่อน
ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี สงสาร... :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 14-12-2018 22:49:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Superkastz ที่ 26-12-2018 17:13:21
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะงับ

Sent from my CPH1723 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 30-12-2018 10:48:37
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังอยากได้เมล 5555555 คือดจียยยยยย์
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: WEAK ที่ 11-05-2019 00:33:03
 :sad11:ไม่ว่าจะจากคนที่เรารักไปป ไม่ว่ารูปแบบใหนก็เจ็บปวดอยู่ดี
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 16-05-2019 18:43:36
ตามมาอ่านพี่เท็นเท็นแล้ววววว :katai5:
เรื่องนี้สนุกมากๆ เซอร์ไพรกับท่านเท็นตลอด :a5:
เมลคือที่สุดแห่งแฟน เมลดีงามทุกอย่าง มั่นคง อดทน รัก เข้าใจ เท็นทุกอย่าง o13
รักคู่นี้จัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: Tonson777 ที่ 02-12-2019 14:18:53
 :mew4:เสียใจกับตัวละครมายด์มากแต่มันก็ทำให้เราตระหนักว่าเวลาของคนเรามันสั้นไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราอาจจะไม่โชคดีที่สามารถแก้ตัวใหม่ได้เพราะคงไม่มีอะไรคงอยู่ไปตลอดการ
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-12-2019 21:19:10
 :pig4: :pig4: :pig4: มาซ้ำอีกรอบก็ยังต้องน้ำตาซึมเพราะมายด์ :mew6:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 02-06-2020 15:04:00
สนุกดีค่ะ น่ารักดี แต่ในความรู้สึกเราสงสารฟิวมาก มายด์ไม่น่าตายเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง ::ตอนที่ 5 :: 17-08-2013
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 16-07-2020 00:15:33
เท็นเป็นคนเลือดเย็นมากนะ ไม่มีหัวใจให้ใครเลยแม้แต่เพื่อนแม้แต่พ่อแม่ คนแบบนี้มีจริงในโลกเหรอ ไม่มีอนาคต ไม่มีความคิด
หัวข้อ: Re: So what : ตกลงเอาไง :: ตอนที่พิเศษ 1 : 20-11-2015 (Page.47)
เริ่มหัวข้อโดย: kurdsuk ที่ 24-05-2021 12:49:20
ขอบคุณค่าาา