Special Inside : ฟิว วิทวัส“อ๊ะ อ๊ะ เมล เมลจ๋าาาา อ๊ะ ไม่ไหวแล้วเมล อื้ออ อ๊ะอ๊ะอ๊ะ อ่าาาาาาาาาา”
เสียงของเท็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมดังลอดออกมาจากประตูที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย ผมนั่งพิงผนังซุกหน้าลงกับเข่าตัวเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไว้
ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะหิวน้ำ กำลังเดินผ่านห้องเท็นเพื่อลงไปห้องครัวแต่ก็ต้องหยุดชะงัก เสียงเหมือนคนกำลังร่วมรักกันดังมาจากในห้องของคนที่ไม่เคยพาใครมานอนด้วยเลยตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้
เท็นเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวชีวิตใครหรือให้ใครเข้าไปวุ่นวายในชีวิตมัน ห้องนอนของมันก็เป็นพื้นที่หวงห้าม ต่อให้มันไม่ล็อคประตูผมกับกัสก็ไม่กล้าเข้าไปถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ
“อื้อออ พอแล้วเมล กลับไปได้แล้ว”
เมล...เมลไหน ไม่ใช่เมลที่ผมคิดไว้ใช่มั้ย แต่รูปหน้าหล่อๆ กับหุ่นนายแบบอย่างนั้นคงมีอยู่คนเดียว ผู้ชายที่ผมแอบรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ผู้ชายที่ผมพยายามหาทางเข้าไปทำความรู้จักจนได้เป็นเพื่อนกัน ผู้ชายที่ผมทำทุกอย่างเพื่อจะได้เห็นรอยยิ้มของเขา ผู้ชายคนนั้นกำลังนอนกับเพื่อนสนิทที่สุดของผม
ไหนเท็นบอกผมว่าเมลเป็นเพื่อน แล้วทำไม...คนเป็นเพื่อนถึงได้มีอะไรกัน ทำไมคนเป็นเพื่อนถึงจูบ ถึงกอดกันได้ ภาพตรงหน้าทำผมช็อคจนพูดอะไรไม่ออก มีแต่เสียงออดอ้อนของเมล กับเสียงหัวเราะมีความสุขของเท็นดังอยู่ในหัว
“พรุ่งนี้ไปค้างที่ห้องนะ”
“ไม่เอา ไปทำไมบ่อยๆ”
“ไม่คิดถึงกันบ้างไง หืมมมมมม โอ้ยยย เท็น เจ็บนะ”
“ไม่ตัดมือทิ้งก็บุญหัวมึงแล้วไอ้เมล ทำไม งอน งอนเหรอ หึหึ มาจูบหน่อยเร็ว”
“มึงไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังกู”
“เมลลล เมลจ๋าาาา จูบหน่อยๆ อื้มมมม อีกแล้วเหรอ อ๊ะ บอกก่อนนะว่าตีห้าต้องกลับ”
“คร้าบบบบ”
ผมดึงประตูปิดให้เบาที่สุด มือสั่นจนควบคุมแทบไม่ได้ ผมเจ็บ ผมไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เมลกับเท็น เป็นสองคนที่ผมคาดไม่ถึงว่าจะทำอะไรแบบนี้
ทำไมถึงไม่เป็นผม...ทำไมถึงต้องเป็นเท็น เท็นที่ผมไม่มีอะไรเทียบติด ผมรู้ว่าเมลดูสนอกสนใจเรื่องของเท็นตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เจอหน้ากัน เมลแค่รู้จักเท็นผ่านการบอกเล่าของผมเท่านั้น แล้วทำไมเมลถึงเลือกเท็นล่ะ ผมทำอะไรให้เมลตั้งมากมาย ผมทำเพื่อเมลได้ทุกอย่าง แต่ทำไมเมลถึงคิดกับผมแค่เพื่อน รู้จักเท็นได้ไม่นานแท้ๆ ทำไมถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้กันได้ ผมมาก่อนนะ...ผมมาก่อนเท็น รู้จักเมลก่อนเท็น...
หลังจากวันนั้นผมก็คอยสังเกตคนทั้งคู่ เท็นก็ยังใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไปนั่นมานี่ได้ไม่หยุด โดดเรียนเป็นประจำ แต่ที่แปลกไปคือไม่ค่อยกลับมานอนบ้าน ทุกคืนวันศุกร์จะต้องหายไป แล้วจะโผล่หน้ามาอีกทีก็คือเช้าวันจันทร์ ผมได้แต่คิดอย่างเจ็บใจว่าเท็นคงไปอยู่กับเมล ผมอยากให้ตัวเองคิดผิด แต่ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง เท็นกับเมลไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เหมือนคนที่คบกันมากกว่าคนเป็นเพื่อน และที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือเมล
เมลเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ผมแอบรักเมลมานาน เห็นเมลควงใครมาแล้วก็เยอะ แต่ไม่เคยเห็นเมลจะดูจริงจังกับใครมากเท่านี้ ทุกครั้งที่เข้าเรียนเมลจะต้องถามถึงเท็น พอรู้ว่าเท็นไม่มาเรียนก็จะทำหน้าผิดหวัง เวลาที่ได้คุยกันก็ต้องมีเรื่องเท็นเข้ามาแทรกด้วยทุกครั้ง เมลอยากรู้ว่าเท็นชอบไม่ชอบอะไร แต่ไม่เคยอยากรู้เรื่องของผมเลย
ผมเจ็บปวดมากขึ้นทุกวันเมื่อรู้ว่าเมลจริงจังกับเท็นมากขนาดไหน ผมเก็บความเสียใจของตัวเองไว้ ทุกคืนต้องแอบร้องไห้อยู่คนเดียว กัสก็เหมือนจะรู้ แต่มันก็ไม่ถามหรือพูดอะไร ผมว่ามันก็คงจะรู้เรื่องของเท็นกับเมล ถึงได้ไม่พูดถึงความสนิทเกินเพื่อนของทั้งสองคนให้ผมฟัง
ผมยอมรับว่าผมโกรธเท็น ผมโกรธที่เท็นไม่ต้องพยายามอะไรก็ได้ความรักจากเมลไปง่ายๆ
ตั้งแต่เด็กๆ แล้วที่ผมอิจฉาเท็น ผมกับกัสเป็นเพื่อนเล่นกับเท็นมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่พวกเราเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันตอนเรียนมหาลัย พวกเราเลยพลอยสนิทกันไปด้วย แต่เท็นไม่เหมือนพวกผม เท็นต่างออกไปเพราะไอคิวที่มีมากกว่าคนธรรมดา อัจฉริยะกับออทิสติกต่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น แต่เท็นโชคดีที่ไม่ใช่อย่างหลัง เราไม่ได้เจอกันพักใหญ่ตั้งแต่เท็นถูกพาไปสถาบันสำหรับเด็กที่มีไอคิวสูง ตอนผมเจ็ดขวบเท็นก็เรียนอยู่ต่างประเทศแล้ว เท็นเรียนจบปริญญาเอกแค่อายุสิบสามปี และตอนนั้นผมก็รู้แล้วว่าผมไม่มีทางตามคนๆ นี้ทัน
พ่อแม่เท็นฝากให้ผมกับกัสดูแลเท็นที่กลับมาอยู่เมืองไทยด้วยเหตุผลทั่วไปคือไม่มีอะไรทำที่ต่างประเทศแล้ว ตอนเด็กที่เป็นเด็กเบื่อง่าย เจอกันอีกครั้งยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม และการใช้ชีวิตก็หลุดโลกมากกว่าที่คิด เพราะเป็นประเภทที่ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย เลยไม่มีอะไรที่เท็นจะทำได้นาน ที่เข้าเรียนตามพวกผมก็เพื่อหาอะไรแก้เบื่อเท่านั้น ตั้งแต่เริ่มเรียนก็โดดเรียนสะบั้นหั่นแหลก ขึ้นเหนือลงใต้ตามแต่ใจตัวเอง มามหาลัยบ้างตามแต่อารมณ์
แต่เหตุผลจริงๆ ผมรู้ว่าเท็นเข้าเรียนเพราะอยากมีเพื่อนวัยเดียวกัน เพื่อนที่สามารถไปไหนมาไหนด้วยกันและพูดเรื่องที่ตัวเองชอบได้อย่างสบายใจ ผมไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ต่างประเทศเท็นมีชีวิตแบบไหน แต่มาอยู่ที่นี่ ก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป ทำตัวธรรมดาจนผมเกือบลืมไปเลยว่าเราต่างกัน ผมไม่มีวันจะทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้เหมือนเท็น
ผมเหมือนคนที่ใกล้บ้าเพราะต้องเก็บความรู้สึกมากมายไว้ในใจ มีแต่เรื่องเมลเท่านั้นที่ผมคิดว่าผมจะชนะเท็นได้ ผมมาก่อน ผมทำเพื่อเมลตั้งมากมาย ผมจะใช้ความดีของผมเอาชนะใจเมลให้ได้ ให้เมลรู้ว่าคนที่รักเมลจริงๆ คือผม ไม่ใช่เท็น ...แต่มันก็ไม่ได้ผล ต่อให้ถูกเท็นทำให้เสียใจยังไง เมลก็ไม่เคยหยุดรักเท็นได้เลย ผมอยู่ปลอบใจเมลทุกครั้ง แต่เมลแค่มองว่ามันเป็นน้ำใจจากเพื่อนเท่านั้น เมลไม่เคยเล่าให้ฟังว่ากลุ้มใจเรื่องอะไรและเพราะใคร แต่ผมก็รู้ และเพราะผมรู้ ผมถึงได้โกรธเท็นมากขึ้นไปอีก
ทำไมเมลไม่เลือกผม...ถ้าเลือกผม ผมจะไม่ทำร้ายเมลเหมือนที่เท็นทำ...ผมเฝ้าคิดแบบนี้ซ้ำๆ
ความรู้สึกทั้งโกรธทั้งเจ็บใจของผมมากขึ้นจนเกือบระเบิด เมลเหม่อบ่อยๆ ไม่ค่อยยิ้มเหมือนทุกที ชอบนั่งเงียบๆ เหมือนมีเรื่องมากมายให้คิด ผมพยายามเรียกรอยยิ้มเมลกลับมา หาเรื่องมาคุยหรือชวนไปเที่ยวให้เมลสบายใจ ...แต่มันก็ไม่ได้ผล ทว่าแค่ได้เห็นหน้าเท็น เมลก็ยิ้มออกมาง่ายๆ คุยเล่นเหมือนคนไม่มีเรื่องกลุ้มใจอะไร ....ผมได้แต่คิดอย่างเจ็บใจว่ามันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ผมจะต้องทำยังไงให้เมลหันมาสนใจผมบ้าง
และในที่สุดผมก็ทนเก็บความรู้สึกที่มีอยู่ในใจไม่ไหว ผมทะเลาะกับเท็น มีผมฝ่ายเดียวที่ตะโกนใส่ ผมร้องไห้ในขณะที่เท็นได้แค่ยืนมอง ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆ เลยแม้แต่น้อย ผมรู้สึกแย่มากที่ตัวเองเป็นแบบนี้
“ฟิว มึงต้องยอมรับความจริงนะ เรื่องนี้มันไม่ได้มีใครผิดใครถูกเลย อย่าร้องนะมึง กูปลอบไม่เก่ง” กัสกอดผมไว้ นานแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้ในอ้อมกอดของมัน
“ทำไมถึงไม่เป็นกูวะกัส ทำไมถึงต้องเป็นเท็น ทำไมเมลไม่รักกูบ้าง ฮึกกกก ฮือออออออ กูไม่ดีตรงไหน กูทำเพื่อเมลได้ทุกอย่าง ทำไมล่ะกัส ทำไม! ฮืออออออออออ” ผมรู้คำตอบ แต่ผมรับไม่ได้ ผมเจ็บปวดมากเกินกว่าจะรับมันไหว
“เพราะไอ้เมลมันไม่ได้รักมึง เงียบซะฟิว เงียบซะ กูอยู่ตรงนี้นะ ไอ้เมลมันไม่รักมึง ก็ยังมีกูที่รักมึงนะ”
ผมเจ็บเหมือนกำลังจะตาย ผมรู้ว่าตัวเองได้กรีดร้องออกมาสุดเสียง ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้หายไปกับน้ำตาเลย มันยังคงอยู่กับผม ตอกย้ำให้ต้องร้องไห้อยู่ทุกวัน
เมลกับเท็นคบกันหลังจากนั้น และผมก็ไม่กล้าสู้หน้าเท็น ผมดีใจที่ช่วงนั้นมันยุ่งกับเรื่องทำสวนถึงไม่ค่อยได้มีเวลากลับบ้าน แต่ผมก็รู้ว่าผมเลี่ยงมันได้ไม่นาน
เท็นไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เรียกว่ามันไม่เคยคิดอะไรเลยจะถูกกว่า มันไม่ใช่คนจะมานั่งคิดว่าผมจะรู้สึกยังไงเรื่องมันคบกับเมล มันยังคงพาเมลมาที่บ้าน ทำตามชีวิตปกติของมัน ไม่มีความเกรงใจผมเลยแม้แต่น้อย ผมรู้ว่ามันไม่ได้เยาะเย้ยผม เพราะเรื่องของผมไม่ได้อยู่ในสมองมันด้วยซ้ำ แต่ผมก็อดที่จะโกรธแค้นมันไม่ได้
เท็นมันไม่เคยคิดถึงความรู้สึกผมเลยรึไง ขนาดเมลที่ไม่ใช่เพื่อนผม ยังดูจะเป็นห่วงผมมากกว่ามัน แล้วถ้าผมจะทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง ก็คงไม่ผิดอะไร ในเมื่อเท็นก็ไม่เคยคิดถึงใจผมเลย
แต่ผลลัพธ์ที่ผมได้ ไม่ใช่เท็นที่เจ็บปวด แต่กลับเป็น...เมล
“ฟิว เมลอยากให้ฟิวเข้าใจ เมลขอบคุณสำหรับความรู้สึกที่ฟิวมีให้ ทุกอย่างที่ฟิวทำให้ แต่เมลตอบแทนอะไรฟิวไม่ได้เลย ขอโทษนะ” เมลบอกผมหลังจากหายออกไปตามเท็นได้ไม่นาน เราออกมาคุยกันหน้าร้าน ผมสร่างเมาไปแล้วเพราะหน้าเศร้าๆ ของคนตรงหน้า
“ไม่เป็นไร ฟิวต่างหากที่ต้องขอโทษ เมลทะเลาะกับเท็นใช่มั้ย”
ไม่มีคำตอบจากเมล แต่ผมก็เดาได้จากความกังวลบนหน้าหล่อๆ นั่น
“เท็นเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว ตอนนี้มันอาจจะโมโห แต่พอผ่านไปสักพักมันก็หายเอง เมลอย่าคิดมากเลยนะ”
“เมลไม่คิดมากหรอก ฟิวอยากกลับเลยมั้ย หรือจะเข้าไปในร้านต่อ”
“กลับดีกว่า แต่เมลไม่ต้องไปส่งหรอกนะ ฟิวกลับเองได้”
“แต่มันดึกแล้ว งั้นเดี๋ยวเมลบอกไอ้มายด์ไปส่งฟิวละกันนะ”
ผมไม่อยากเรื่องมากเลยพยักหน้าตกลง เมลหายเข้าไปในร้าน ไม่นานผมก็เห็นมายด์เดินหน้าบึ้งออกมา
“นอกจากทำให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉานแล้ว มึงยังมาลำบากกูอีก เก่งแต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นจริงๆ นะมึง”
หน้าผมชาไปเหมือนโดนตบแรงๆ ริมฝีปากสวยที่เหยียดยิ้มมาให้ไม่ได้น่ามองเลยสักนิด ผมไม่เคยคุยกับผู้ชายคนนี้เลย เพราะมันเป็นคนเงียบๆ ไม่ร่าเริงและยิ้มง่ายเหมือนเมล
“กูกลับเองได้” ผมบอกมันก่อนจะรีบเดินหนีมา แต่ไอ้มายด์ก็ยังเดินตามมาจับแขนผมแล้วกระชากเข้าหาตัวมัน
“จะทำตัวเรียกร้องความสงสารจากเพื่อนกูรึไง ถ้ากูปล่อยให้กลับเองเดี๋ยวไอ้ห่าเมลคงมาโวยวายใส่อีก แต่มึงนี่ก็เก่งนะ ทำตัวเรียบร้อยอยู่ได้ตั้งนาน ไม่คิดว่าจะดีแตกเอาตอนนี้ คิดจะแย่งผัวเพื่อนเหรอครับคุณ”
“ไอ้เหี้ย! ปล่อยกูนะ! กูบอกให้ปล่อยไง! อย่าเอามือสกปรกของมึงมาจับกูนะ! คนคิดต่ำๆ อย่างมึงตายไปก็คงไม่ได้ผุดได้เกิด”
“มึงจะเถียงเหรอว่าที่กูพูดมันไม่จริง ที่ทำตัวสิงเพื่อนกูเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงนั่นเขาเรียกว่าอะไร รู้ทั้งรู้ว่าไอ้เมลมันคบกับไอ้เท็นมึงก็ยังทำ กูรังเกียจคนที่ทำตัวอย่างมึงว่ะฟิว ต่ำยิ่งกว่าความคิดกูซะอีก!”
เพียะ!
ผมสะใจมากที่เห็นหน้าหล่อๆ ของไอ้มายด์แดงเถือก แถมยังมีเลือดไหลออกจากมุมปาก มันยกมือขึ้นเช็ดเลือดก่อนจะกระชากหัวผมจากข้างหลังจนหน้าหงาย
“ไปเถอะฟิว กลับบ้านกัน กูจะไปส่งมึงถึงเตียงเลยล่ะ”
ผมทั้งเตะทั้งข่วนไอ้มายด์ไปตลอดทางเท่าที่จะมีปัญญาทำได้ มันพาผมขึ้นรถ แต่พอผมทำท่าจะหนี มันก็ยกปืนขึ้นจ่อที่เอวผมทันที ผมหันไปมองหน้าไอ้มายด์ด้วยความตกใจ
“ปืนมีลูก กูพกไว้ยิงหมา แต่ถ้ามึงอยากตายก่อนหมา มึงก็ลองหนีดู” หน้าตามันบอกว่าเอาจริง ผมเลยไม่กล้าขัดขืนอีก
“โอ้ย! ไอ้เหี้ย! มึงจะทำอะไร! อย่าเข้ามาใกล้กูนะ!” ไอ้มายด์ที่ตอนอยู่บนรถว่าบ้าแล้ว แต่พอมาถึงบ้านผมมันบ้ามากกว่าหลายเท่า
“กูอุตส่าห์จะช่วยเอามึงมาทำเมีย ไม่นึกขอบใจกูบ้างเหรอ มึงจะได้ไม่เที่ยวร่านไปยุ่งกับเพื่อนกูให้มันต้องทะเลาะกับแฟนมันอีกไง กูอาจจะหล่อสู้ไอ้เมลไม่ได้แต่กูก็โสดนะ แถมไม่เคยลองกับผู้ชาย ไม่ดีใจไงที่จะได้รับเกียรติเป็นคนแรก”
“พ่อมึงสิดีใจ กูไปเอากับหมาดีกว่าเอากับมึง! ไอ้เหี้ยมายด์ ปล่อยกู!!!!”
ผมโดนมันจับไว้ทั้งตัว ไอ้มายด์ก้มลงมาจูบผมอย่างรุนแรง กัดปากผมจนได้เลือดแต่มันก็ไม่ได้สำนึก เสื้อที่ผมใส่ถูกฉีกกระชากออกจากตัว ก่อนมันจะก้มลงกัดยอดอกผมเต็มแรง น้ำตาผมไหลด้วยความเจ็บ ผมทั้งผลักทั้งทึ้งหัวมันแต่ไอ้มายด์ก็ไม่สะทกสะท้าน
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้เหี้ย! กูเจ็บ มึงทำอะไร ฮืออออออออ เอาออกไป กูขอร้อง เอาออกไป”
ไอ้มายด์เหมือนหยุดชะงักกับการกระทำของมันไปนิด ผมเจ็บเหมือนโดนมีดกรีดเข้าผิวหนัง รู้สึกถึงการฉีกขาดจากช่องทางด้านหลัง ความทรมานแบบนี้ทำไมต้องเกิดขึ้นกับผม
“อ่าาาาาาา เหี้ย ผ่อนคลายสิวะ เกร็งทำบ้าอะไรของมึง กูจะแตกแล้วไอ้สัด อ่ะ อ่าาาา”
“อย่าทำกู มายด์ ปล่อยกู กูขอร้อง อย่าทำกู”
“เดี๋ยวดีเอง เชื่อกู ทำกูแตกตั้งแต่ยังไม่ทันขยับเลยไอ้ห่า ห้องมึงอยู่ไหน บอกกูมาเร็ว”
“ไม่ มายด์ อย่า อ๊ะ ขอร้อง หยุดเถอะ”
“อยากให้เพื่อนมึงกลับมาเจอรึไง บอกมาว่าห้องนอนมึงอยู่ไหน”
น้ำตาผมไหลออกมาเป็นสาย แต่ไอ้มายด์ไม่ได้นึกเห็นใจเลยแม้แต่นิดเดียว มันยังคงทำตามใจตัวเองต่อไป ผมไม่ได้มีความสุขไปกับมันเลย ทั้งเจ็บกายและเจ็บใจไปพร้อมๆ กัน ผมไม่เคยมีเรื่องอะไรกับมัน เราไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำไป แล้วทำไมมันถึงทำกับผมแบบนี้
“อาาาา สุดๆ เลยว่ะมึง ร่อนให้กูหน่อย อื้มมมม อ่าาาาาา ไปต่อกันบนห้องนะ”
“ไม่! เท็น กัส ช่วยกูด้วย ฮืออออออ พวกมึงอยู่ไหน มาช่วยกูด้วย กูเจ็บ เท็น กูเจ็บ ฮึก! ฮืออออ”
ผมนึกถึงแต่หน้าเท็น คนที่มาช่วยผมเสมอเวลาผมถูกรังแก มันต่อยกับเด็กคนอื่นเพื่อผม แต่มันไม่เคยปลอบใจ หน้าที่ปลอบใจไม่ให้ผมร้องไห้จะเป็นกัสทุกครั้ง
เท็น...ช่วยด้วย กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว
“เงียบ! ร้องไห้ทำบ้าอะไรวะ!”
ผมสะดุ้งกับเสียงตวาดของไอ้มายด์ มือที่จับสะโพกผมบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บ ไอ้มายด์มันเป็นสัตว์นรกมาเกิดจริงๆ ไม่คิดว่าคนเลวๆ อย่างมันจะเป็นเพื่อนกับเมลได้
ผมจะไม่โทษเวรกรรมที่ทำให้ผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะทั้งหมดมันเกิดจากอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำของไอ้ระยำมายด์คนเดียว!
“ฟิว ฟิว เฮ้ย! เป็นไรไปวะ” เสียงร้อนรนของไอ้มายด์เป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน
...............................To be continue...........................
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็น ทั้งคนที่ติดตามมาตั้งแต่ต้น และยินดีต้อนรับท่านผู้อ่านหน้าใหม่
