[Pontz x Joe]Forgotten Love รักที่ถูกลืม II:ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยค่า:15/05/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

เรื่องต่อไป>>>>

ไปป์ พลัสเตอร์
12 (19.7%)
ลิ้ม ท็อปเทล
4 (6.6%)
พีเจ ดล
12 (19.7%)
เมฆ แน็ต
25 (41%)
ฮอร์น
5 (8.2%)
ฮาว (น้องฮอร์น)
3 (4.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 52

ผู้เขียน หัวข้อ: [Pontz x Joe]Forgotten Love รักที่ถูกลืม II:ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยค่า:15/05/20  (อ่าน 158403 ครั้ง)

ออฟไลน์ Weena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คนแต่งหายยยยยยไปไหนอ่ะ :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนที่ 12



[Pontz x Joe]



[Joe]




หลังจากที่ผมกับไอ้ป๊อนซ์ต้องนั่งตอบคำถามของไอ้พวกขี้สงสัยนี้จนรอบวง ใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง เราทั้งหมดก็ลงมือสังสรรค์กันแบบเรื่อยๆ

“โจ อย่ากินเยอะ” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับจับแก้วเหล้าที่ผมกำลังจะเอาเข้าปากเอาไว้

“อืม ไม่เยอะหรอก นานๆกินที ให้กูกินเหอะนะ” ผมพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ป๊อนซ์

“หึๆ อ้อนเหรอ?? แต่ก็ได้ผลนะ กินไปเหอะ กูอยู่ตรงนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับก้มลงมาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆ
ทำเอาคนโดนกระทำ(?)อย่างผมเขินจนม้วนเป็นแยมโรลไปเลย

“แหม แรดเชียววว” เสียงสัมพเวสีอย่างไอ้ภูมิดังขึ้น

“เออ เห็นหน้าหงิมๆ ใครจะไปคิดล่ะเธอ” ไอ้นายคู่หูไอ้ภูมิก็รับมุกได้อย่างรวดเร็ว ให้ตายเถอะผมเกลียดสองคนนี้ที่สุดเลย

“พอๆสัด พวกมึงก็ชอบแซะมันจังเลย แดกไปๆ” ไอ้ป๊อนซ์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดห้ามขึ้นมาแต่ไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรืออย่างใด

“พี่ไปป์ พลัสรู้สึกเหมือนบ้านหมุน ติ้วววววว ติ้วววว” พลัสเตอร์ที่ไม่ค่อยจะได้จับแอลกอฮอล์เท่าไหร่โดนไปไม่กี่แก้วก็เริ่มออก
อาการให้เห็นแล้ว น่ารักจริงๆ ><

“หมุนอะไรของมึง นั่งดีๆพลัสเตอร์ อย่าให้กูโมโห!” ไอ้ไปป์ก็ปั้นหน้าโหดขึ้นมาทันที แหมสัด ชอบทำให้น้องเค้ากลัว โรคจิต
เชี่ยๆเลยเพื่อนผมคนนี้

“จะโมโหเหรอ พลัสไม่กลัวหรอก”

“พลัสเตอร์!”

“เอาน่าไปป์ น้องแม่งเมา” ผมจับไหล่ไปป์ไว้แล้วส่งยิ้มบางๆไปให้

“ภาระกูตลอด งั้นกูกลับก่อนนะพวกมึง อยู่ต่อมีหวังกูได้ฆ่าไอ้เด็กนี่ตายคาคอนโดมึงแน่” ไปป์พูดพร้อมกับเก็บของของพลัสและ
ของมันใส่กระเป๋าแล้วพยุงพลัสเตอร์เดินออกนอกประตูไป

“ให้ถึงคอนโดนะมึง อย่าจอดรถข้างทางหลวงกันอีก” ไอ้ลิ้มที่นั่งอยู่นิ่งๆก็ตะโกนไล่หลังไอ้ไปป์ไปอย่างขำๆ

“แล้วเทลไม่เมาเหรอ?” ผมถามพร้อมกับแสดงสีหน้าสงสัยออกมาเพราะตอนนี้ท็อปเทลไม่มีอาการมึนเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งๆที่ก็
นั่งกินมาได้พักใหญ่ๆแล้ว

“จะเมาได้ไงอ่ะพี่โจ เทลได้กินแต่โค้ก” เทลพูดพร้อมกับทำแก้มป่องๆแล้วเลื่อนแก้วดค้กไปมาบนโต๊ะ

“เอาน่า ถ้าอยากกินเดี๋ยวค่อยแวะซื้อก่อนขึ้นคอนโดก็ได้ ไปกินกับพี่สองคน โอเคมั้ย?” ลิ้มพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวเทลเบาๆ

“ก็ได้” เทลตอบรับอย่างจำยอม ก็นะ เด็กมันน่ารัก จะหวงกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

ออดดดดด  ออดดดด

“ใครมาวะ?” ป๊อนซ์พูดออกมาพร้อมกับชะเง้อมองไปที่ประตู

“เดี๋ยวดลไปดูให้ครับ” ดลที่นั่งอยู่ใกล้ประตูสุดก็ลุกขึ้นอาสาไปเปิดประตูให้

“มึงนัดใครไว้รึเปล่าป๊อนซ์” พีเจถามก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วเข้าปากจนหมด

“ไม่นะ ตกลงใครมาอ่ะดล” ป๊อนซ์ตอบพีเจก่อนจะหันไปตะโกนถามดลที่อยู่หน้าประตู

“เอ่อ คือ..พี่เค้าบอกว่า..”

“ไอ้เหี้ยนาย!!!!!!” ไม่ทันทีดลจะพูดจบก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาเสียก่อน

“เฮ้ยยยยย มาได้ไง!!??” ไอ้นายที่กำลังจะกระดกเหล้าเข้าปากก็ถึงกับสำลักเมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เข้า

หน้าตาจัดได้ว่าสวยในระดับหนึ่ง ส่วนหุ่นถึงจะไม่ได้ผอมมากแต่ก็ไม่ได้อ้วน ดูแล้วเหมือนเสริมให้เขามีอิทธิพลยังไงก็ไม่รู้

“เดินมามั้ง ไอ้ควาย!!” เอ่อ ใจเย็นก่อนนะครับ ==”

“อย่ากวนตีนดิป้า ถามว่ามาไง” ไอ้นายทำหน้าสบายๆก่อนจะนั่งกอดอกแล้วถามกลับไปอีกครั้ง

“กูพี่แม่มึงเหรอ ถึงเรียกกูว่าป้าอ่ะไอ้สัด! มานี่เลยมึง!!” พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามากระชากคอเสื้อไอ้นายให้เดินตามออกไป
ด้านนอก

“ไม่ไป ใจเย็นดิ พวกมึงช่วยกูด้วยยย” หลังจากไอ้นายลับสายตาไปก็มีเสียงโหยหวนของมันออกมาเป็นระยะๆ พวกผมทุกคน
ก็ได้แต่นั่งทำหน้าอึ้งๆพร้อมกับโบกมือลามันแบบงงๆ

“ใครวะมึง?” ไอ้ลิ้มถามพร้อมกับทำหน้าตาสะพรึงอย่างไม่ปิดบัง

“ไม่รู้อ่ะ แต่น่ากลัวเหี้ยเลย” ไอ้พีเจก็พูดออกมาแบบลอยๆ

“กิ๊กไอ้นาย” แล้วไอ้ภูมิที่นั่งกอดอกยิ้มกริ่มอยู่นานก็พูดออกมาแบบสบายๆ

“หา!!!!!” พวกผมที่เหลือทั้งหมดอุทานออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“เหมาะกันสุดๆ” ไอ้ภูมิยังคงแสดงสีหน้าสบายๆพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นจิบแบบชิวๆ

“น่ากลัวเว่อร์อ่ะ” ผมพูดแสดงความคิดเห็นออกไปบ้าง

“เอาน่า เขารักกันมั้ง ฮ่าๆๆๆ” กูควรเป็นห่วงเพื่อนกูมั้ยเนี่ยยยยยย





“พวกกูกลับกันก่อนนะมึง เดี๋ยวว่างๆแล้วมานัดสังสรรค์กันใหม่” ไอ้ลิ้มพูดพร้อมกับยกมือขึ้นพาดคอท็อปเทลแบบสบายๆ

“เทลไปก่อนนะครับ หวัดดีครับ” เทลยกมือไหว้ผมกับป๊อนซ์เราสองคนก็ยิ้มรับนิดๆแล้วสองคนั้นก็เดินกอดคอกันออกไป

“ดลไปก่อนนะ พี่โจโทรหาแม่ด้วยนะ”

“อืม กลับดีๆล่ะ พีเจพาน้องกูกลับดีๆนะ” ผมรับคำดลก่อนจะหันไปกำชับกับพีเจ

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว พวกมึงก็ดูแลกันดีๆนะ” ผมกับป๊อนซ์พยักหน้ารับเบาๆก่อนที่พีเจจะเดินจูงมือดลออกไป

“มึงเข้าไปเก็บของพลางๆเลยโจ เดี๋ยวลงไปซื้อของสดที่ร้านข้างล่างมาไว้ทำกับข้าวตอนเช้าหน่อย” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับหยิบ
รองเท้ามาใส่แล้วเดินมาขยี้หัวผมเบาๆ

“อืมๆ เอาเป๋าตังค์ไปแล้วเหรอ”

“เอาแล้วๆ อยู่ในห้องไปนะโจ ใครมากดออดก็ไม่ต้องเปิดนะถ้าไม่ใช่กู”

“คร้าบบบบบบ ไปได้แล้ว” ผมพูดพร้อมกับโบกมือขึ้นบ๊ายบ่ายเบาๆก่อนจะปิดประตูลง

ผมเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลงมือเก็บของที่เพื่อนๆที่รักทั้งหลายทำกระจัดกระจายไว้เต็ม
บริเวณ



Rrrr

แรงสั่นของไอโฟนที่ผมเสียบหูฟังเปิดเพลงฟังหลังจากทำความสะอาดเสร็จดังขึ้น

-Pontz ><-

“อ้าวว ป๊อนซ์ว่าไง” ผมพูดออกไปอย่างอารมณ์ดี

(โจ!! เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมกูกดออดแล้วมึงไม่เปิดประตู) ป๊อนซ์พูดออกกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

“กูไม่ได้เป็นอะไร กูใส่หูฟังอยู่” ผมพูดออกไปอย่างรู้สึกผิด

(อ๋ออ แล้วไป มาเปิดประตูให้กูหน่อยดิ กูถือของโคตรหนักอ่ะ) ป๊อนซ์มีทีท่าผ่อนคลายลง พร้อมกับมีการพูดอ้อนๆตอนท้าย
ประโยค

“คร้าบ รอแป๊ปนึงนะ” ผมพูดตอบกลับก่อนจะวางสายไปแล้วจึงรีบเดินออกไปเปิดประตูให้คนที่ยืนรออยู่ด้านนอก

“นึกว่าเป็นอะไรขึ้นมาอีก รู้มั้ยว่ากูตกใจมาก” พอเจอหน้าปั๊ปก็เริ่มสวดทันทีเลยล่ะครับ

“ขอโทษคร้าบบบ กูสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก” ผมพูดพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าป๊อนซ์

ป๊อนซ์ยิ้มนิดๆก่อนจะเดินไปวางของในครัวแล้วเดินกลับมายืนตรงหน้าผมที่ยังชูนิ้วก้อยพร้อมกับกระดิกไปมาอยู่

“อย่าลืมสัญญาล่ะ” ป๊อนซ์พูดก่อนจะก้มลงมาจูบที่ปลายนิ้วผมเบาๆแล้วยกนิ้วก้อยของมันขึ้นมาเกี่ยวกับนิ้วของผมไว้

“.........” เออเร่ออออ เออเร่อออ ไม่ได้แล้วะป๊อนซ์ ถ้ามึงยังทำแบบนี้อีกสักวันก็คงหัวใจวายตายย

“เออนี่” เสียงเรียกของป๊อนซ์ทำให้สติของผมกลับมาได้กึ่งหนึ่ง

“เอ่อ อืมม ว่าไง”

“มีใครเคยบอกป่ะ?” ป๊อนซ์พูดก่อนจะหยุดไว้แค่นั้น สร้างความสงสัยให้ผมอย่างมาก

“ว่า?”

“เวลามึงเขินอ่ะ โคตรน่ารักเลย” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับเดินมาบิดจมูกของผมเบาๆก่อนจะเดินผิวปากเข้าไปในครัวอย่างอารมณ์ดี

//><// เหี้ยป๊อนซ์!!!!!




Rrr

เสียงสั่นของไอโฟนป๊อนซ์ดังขึ้น

“ป๊อนซ์ มีคนโทรมา” ผมตะโกนเรียกป๊อนซ์ที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้อง

“ใครอ่ะ ดูให้หน่อยดิ” ป๊อนซ์ปิดน้ำก่อนจะตะโกนกลับมา

“อืมม แป๊ปนึงนะ” ผมวางถุงขนมในมือลงพร้อมกับเอาขาที่พาดไว้ลงจากโต๊ะก่อนจะเดินไปดูไอโฟนป๊อนซ์ที่ตั้งอยู่ข้างทีวี

-Mama+-

“ม๊ามึงอ่ะป๊อนซ์” ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดูก่อนจะตะโกนกลับไป

“เออๆแป๊ปๆ เดี๋ยวกูออกไปรับเอง” ป๊อนซ์ตะโกนกลับออกมาก่อนจะเงียบไปสักพักแล้วเปิดประตูห้องออกมาด้วยสภาพพัน
ผ้าเช็ดตัวไว้หมิ่นเหม่ที่ช่วงล่าง

“เอิ่มม” ผมหน้าร้อนทันทีที่เห็นกล้ามหน้าท้องขาวๆของป๊อนซ์ที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ

“ขอบคุณครับ” ป๊อนซ์กล่าวขอบคุณก่อนจะยิ้มทะเล้นมาให้ผมที่ยืนสตั๊นกับรูปร่างราวรูปปั้นหินสลักของมันอยู่

“อย่าทำหน้าแบบนี้บ่อยนะ เดี๋ยวกูห้ามใจไม่ไหว” ป๊อนซ์ยังไม่วายแกล้งผมด้วยการกระซิบถ้อยคำหยอกล้อก่อนจะขโมยหอม
แก้มผมเบาๆหนึ่งทีแล้วเดินออกไปรับสายที่ระเบียงอย่างอารมณ์ดี

เปรี้ยง!!!!

เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ผมวิ่งตรงไปที่ระเบียงแทบจะทันที

“ป๊อนซ์!!” ผมเปิดประตูระเบียงออกพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อป๊อนซ์จนสุดเสียงด้วยความตกใจ

“หื้มม มีไรอ่ะโจ” ป๊อนซ์เอาอโฟนออกห่างหูนิดนึงก่อนจะหันมาถามผม

“...” ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรทั้งสิ้น แต่กลับดึงป๊อนซ์เข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูทันที

“เป็นอะไรเนี่ยโจ เกิดอะไรขึ้น?!” ป๊อนซ์ถามผมอีกครั้งแต่คราวนี้กลับมีความโมโหแฝงอยู่ในคำพูดนั้นด้วย

“มึงไปยืนแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับไปยืนเป็นสายล่อฟ้านั่นแหละ ทำอะไรอ่ะคิดบ้าง ถ้ามึงเป็นอะไรไปอีกแล้วกูจะอยู่ยังไง?” ผม
พูดออกมายาวเหยียดก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา แต่มือของผมก็ช้ากว่าป๊อนซ์ เพราะป๊อนซ์ได้ยกมือข้างที่
ไม่ได้ถือไอโฟนขึ้นมาเกลี่ยเช็ดน้ำตาของผมออกก่อนแล้ว

“ขอโทษโจ กูสัญญาว่าวันหลังกูจะไม่ทำแบบนี้อีก ขอบคุณที่เป็นห่วงกู”

“อืมม” ผมไม่พูดอะไรแต่กลับโผเข้ากอดป๊อนซ์เต็มแรงก่อนจะซุกหน้าลงกับอกอุ่นๆนั้นทันที

“แล้วอีกอย่าง..” ป๊อนซ์พูดก่อนจะเว้นวรรไป

“...”

“ขอบคุณที่ยังรักกู” ป๊อนซ์พูดก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบเบาๆบนหัวของผม

“กูก็ต้องขอบคุณมึงเหมือนกัน” ผมพูดตอบกลัด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

“หื้มม?”

“ที่มึงกลับมาให้กูได้รักอีกครั้ง” ผมพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นเพื่อจูบเบาๆที่ริมฝีปากของป๊อนซ์เป็นการขอบคุณ

“หึ ยั่วแบบนี้เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้แล้วนะ” หลังจากที่พูดจบป๊อนซ์ก็ทาบริมฝีปากลงมาอย่างนุ่มนวลแต่มันกลับแฝงไปด้วย
ความร้อนแรงและความปรารถนาจนผมรู้สึกได้

สัมผัมอันนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความร้อนแรงของป๊อนซ์ยากเหลือเกินที่จะต้านทานไว้ได้



แล้วผมจะทำไงได้ล่ะ  นอกจากโอนอ่อนไปตามสัมผัมที่ป๊อนซ์มอบให้อย่างเต็มใจ




...............................................TBC......................................................

กราบขอโทษ เอาหัวโขกพื้นสิบล้านครั้ง  :hao5:  :z3:

ก็ยังไม่สาสมกับโทษของข้าพเจ้า  :mew6:

ต้องขอโทษแล้วขอโทษอีกที่หายไปเป็นเดือนแบบนี้ เพราะคนเขียนต้องเดินทางตลอดเวลา ขึ้นเครื่องจนแทบจะเป็นแอร์ได้แล้ว เลยไม่สะดวกที่จะพกคอมไปด้วย แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ภาคพื้นดินแล้ว  เพราะฉะนั้น อัพๆๆๆๆๆๆๆๆ รัวๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณหลายๆคนที่ยังเข้ามาแวะเวียนดู ส่วนคนที่ไม่มาแล้วก็กลับมาเถอะนะ 55555+

เดี๋ยวคนเขียนไปซักผ้าให้แม่ก่อน ซักเสร็จแล้วจะมาอัพตอน 13 ให้นะ  :katai4:

คราวนี้มีตัวละครใหม่โผล่มาจะใช่คู่จริงๆของพี่นายรึเปล่าก็ต้องคอยติดตามกัน  :hao6:

รักคนอ่านนะ :mew1:




KATIEZZ

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Special Halloween



[Pontz x Joe]



[Joe]



“วันนี้ นอนกับกูไม่ได้เหรอป๊อนซ์” ผมวิ่งมายืนดักหน้าป๊อนซ์พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนสุดชีวิต

“พรุ่งนี้กูมีเทสย่อยนะโจ ขืนอยู่กับมึงกูคงไม่ได้อ่านหนังสือแน่” ป๊อนซ์ส่ายหน้าน้อยๆพร้อมกับดึงดันที่จะเดินออกไปจากห้องเต็ม
ที่

“ง่า แต่วันนี้วันฮาโลวีนนะมึง” คราวนี้ไม่พูดเปล่าผมกระโดดเกาะหมับเข้าที่เอวป๊อนซ์อย่างแน่นหนาชนิดที่ว่าเอาช้างมาฉุดก็ไม่
หลุดแน่นอน

“อย่าคิดมากดิมึง ผีแม่งไม่มีในโลกหรอก” ป๊อนซ์เถียงพร้อมกับพยายามเกาะตัวลิงลมอย่างผมออกจากเอว

“ไม่รู้ล่ะ กูไม่ให้มึงไป” ผมยังคงดื้อดึงส่ายหน้าไปมากับอกป๊อนซ์อย่างเอาใจ

“โอเคๆ ไหนขอดูหน้าคนขี้กลัวหน่อยสิ” ป๊อนซ์มีท่าทีอ่อนลงก่อนจะจับหน้าผมให้ไปสบตากับมัน

“กูกลัวจริงๆนะมึง” ผมพูดอ้อนบวกกับน้ำตาที่คลอๆอยู่ในตาตอนนี้มันอยู่กับผมชัวร์ ฮ่าๆๆๆๆ

“อืมมม งั้นเอานี่นะ” มันแกะผมออกก่อนจะค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า

“อะไรเหรอ?” ผมพยายามชะเง้อมองอย่างสนใจแต่ก็ไม่เห็น

“อ่ะเจอแล้ว นี่ไง” มันกำสิ่งนั้นไว้ในมือก่อนจะดึงมือผมออกมารับของจากมือมัน

“อะไรอ่ะ?” ผมยังคงถามต่อด้วยความสงสัย

“หลวงพ่อที่กูนับถือ อ่ะกูให้มึงไว้เป็นที่พึ่งทางใจ มึงอย่าโกรธกูเลยนะที่รัก กูจำเป็นจริงๆ กูรักมึงนะ” ป๊อนซ์วางพระในมือผมก่อน
จะพร่ำออกมายาวเหยียดแล้วก้มลงมาจุ๊บเบาๆที่ปากผมหนึ่งทีก่อนจะวิ่งพุ่งออกไปจากห้องในขณะที่ผมกำลังมึนกับคำพูดของมัน
อยู่

“เหี้ยป๊อนซ์ ไอ้เลว!!!!!!!” ผมตะโกนไล่หลังไป แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ผมเลยทำได้แค่ปิดประตูปิดหน้าต่างให้มิดชิดก่อนจะ
กระโดดไปนั่งแปะอยู่กับโซฟา



Rrrr

“พ่องตาย!” ผมอุทานออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงสั่นของไอโฟนของผมเอง

“ตั้งสติหน่อยโจ นี่เพิ่งจะห้าโมงเย็นเองนะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนมาดูสายเรียกเข้าที่หน้าจอ

-Pontz^^-

ไอ้สันขวาน ดีเลยที่มึงโทรมา กูจะด่าให้หายแค้นเลยไอ้สัด

(ฮะ...)

“โทรมาทำห่าไร ไอ้เหี้ยป๊อนซ์ ไอ้สันเขื่อน ไอ้สันขวาน ไอ้ห่านจิก ไอ้ลูกพ่อแม่เก็บมาเลี้ยง ไอ้เก่ง ไอ้หมอ ไอ้เวร ไอ้...”

(หยุด!) ป๊อนซ์ตะคอกมาตามสายทำให้ผมรีบเอามือปิดปากทันที

“.....” เอิ่ม ด่าเพลินไปหน่อย

(เงียบได้รึยัง?)

“ก็กูพูดอะไรรึยังล่ะ?”

(อย่ากวนตีน)

“แล้วโทรมามีอะไร?”

(เออ กูจะบอกว่าฝากดูกะโหลกที่กูเอากลับไปท่องส่วนประกอบให้ทีดิว่ามันอยู่บนเตียงในห้องนอนรึเปล่า)

“หา!!!!!! มึงพูดว่าอะไรนะ” ไอ้เหี้ยป๊อนซ์นี่มึงทิ้งกูไว้คนเดียวไม่พอ มึงยังทิ้งชิ้นส่วนที่มึงเอากลับมาจากคณะให้กูดูต่างหน้าอีก
เหรอ

(ก็ตามที่พูดนั่นแหละ ไปดูให้หน่อยดิ นะๆๆๆๆๆ)

“ไม่!!”

(นะที่รัก)

“กูบอกว่าไม่!!”

(พลีสสสส)

“ม่ายยยยยยย!!!!!!”





“มันอยู่ส่วนไหนของห้องวะ?”ผมถามปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด

แล้วผมมายืนอยู่ในห้องนอนได้ไงเนี่ย เมื่อกี๊ได้ข่าวว่ายังเถียงจนคอแข็งอยู่เลยว่าให้ตายยังไงก็ไม่ แต่พอมันบอกจะซื้อเกมส์ที่
เพิ่งออกใหม่ให้เท่านั้นแหละ เดินตัวปลิวลืมกลัวเข้าห้องมาเลยกู เจริญจริงๆ

(กูจำได้ว่ากูตั้งไว้บนเตียงนะ) ผมเดินไปยืนข้างเตียงก่อนจะกวาดตาดูจนทั่ว

“ไม่มีอ่ะ มึงจะผิดที่รึเปล่า?” ผมถามพร้อมกับค่อยๆรื้อผ้าปูเตียงขึ้นแล้วดูจนทั่วเตียง

(เออ ไม่นะ กูจำได้อ่ะ กูวางไว้บนเตียงจริงๆ)

“ก็มันไม่มีอ่ะ มึงจะให้กูไปหาจากไหน?”

ออดดดดดดด

เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นทำให้ผมต้องผละจากห้องนอนออกมาเพื่อเปิดประตู

“ใครมาวะ?” ผมตะโกนผ่านประตูออกไปแบบเหวี่ยงๆ

“พวกกูเองงงง ภูมิคนหล่อกับนายคนน่ารัก เองคร้าบบบบ เปิดดอร์หน่อยดิ”

“ดอพ่อง” ผมตะโกนด่ากลับก่อนจะเปิดประตูให้พวกมันเข้ามา

“โหยยย เป็นไรวะมึงดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ไอ้นายทักขึ้นเมื่อเห็นผมออกอาการเหวี่ยงๆ

“ไอ้เวรป๊อนซ์ดิ”

(พูดถึงกูดีๆหน่อยคร้าบบบ) ไอ้ตัวปัญหาที่ยังอยู่ในสายแหวกับมา

“หุบปากไปเลยสัด” ผมตะคอกใส่ป๊อนซ์ก่อนจะหันมามองไอ้สองตัวนี้ที่หอบเหล้าหอบกับแกล้มมาเต็มไปหมด

“ทำไมมากินกันที่นี้วะ” ผมถามพร้อมกับหยิบกับแกล้มขึ้นมาเคี้ยวเล่น

“กูไปมาหมดแล้วทุกห้อง แต่แม่งไล่กูหมด บอกว่าพรุ่งนี้มีเทสย่อย” ไอ้ภูมิบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย

“แล้วพวกมึงอ่ะ?”

“ไม่มี” ไอ้นายหันมาตอบยิ้มๆ

“ด้อนเฮฟ” ไอ้ภูมิก็หันมาตอบผมด้วยคำพูดกระแดะๆตามสไตล์มันก่อนจะหันกลับไปจัดกับแกล้มต่อ

“เออ กูล่ะเบื่อพวกมีเทสต์”

(ดื้ออ หาเจอยังล่ะนั่น)

“เออ ลืมเลย มึงๆ มาช่วยกูหาของในห้องนอนหน่อยดิ” ผมลากคอเสื้อไอ้นายกับไอ้ภูมิให้เดินตามเข้าไปในห้อง

“หาอะไรวะ?” ไอ้ภูมิยืนกอดอกก่อนจะถามขึ้น

“กะโหลก” ผมหันไปตอบแบบเซ็งๆ

“เหยดโด้โคอาล่า ให้พวกกูมาหากะโหลกเนี่ยนะ” ไอ้นายอุทานขึ้นก่อนจะถอยไปยืนหน้าประตู

“เออ เพื่อนมึงเลยๆ” ผมพูดออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเดินเอาไอโฟนไปวางที่หัวเตียงแล้วเปิดลำโพง

(ว่าไงพวกมึง หาเจอกันยัง)

“ให้พวกกูหาแต่ของดีๆนะมึง” ไอ้นายบ่นพึมพำขึ้นมาเบาๆ

“เออ นั่นดิมึง ถ้าเกิดหาไม่เจอเพราะเจ้าของเค้ามาเอาคืนล่ะวะ” ไอ้ภูมิพูดจุดประเด็นขึ้นก่อนที่ไฟในห้องจะดับลง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมสามคนกระโดดขึ้นนั่งกอดกันกลมบนเตียง

(เกิดอะไรขึ้นวะ?) ไอ้ป๊อนซ์ถามแหวกความมืดมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ไฟดับอ่ะ ป๊อนซ์ ฮืออออออ ดับทั้งห้องเลย” ผมตะโกนกลับไปบอกป๊อนซ์

“ไอ้นายอย่าเอาหัวมึงมาเกยบนไหล่กูดิ กูขนลุก” ไอ้ภูมิแหวขึ้นมาท่ามกลางความมืด

“พ่องดิ กูยังไม่ได้เอาหัวไปเกยไหล่มึงเลยสัด!” ไอ้นายตอบกลับก่อนจะมุดหัวลงกับหัวผม

“งั้นก็มึงไอ้โจ”

“กูที่ไหนล่ะภูมิ กูก็กอดกะไอ้นายอยู่เนี่ย”

“ถ้าไม่ใช่มึงสองคน งั้นใครวะ?” สิ้นเสียงคำถามของไอ้ภูมิไฟทั้งห้องก็ติดขึ้นมาทันที

พรึ่บ!!!

“ภะ..ภะ..ภูมิ”

“หืมมม ว่าไง” ภูมิหันมามองพวกผมสองคนที่กอดกันกลมอยู่ที่อีกฝากนึงของเตียง

“ทะ..ทะ..ทะ...ที่..คะ..คอ มึง” ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วสั่นๆของตัวเองไปที่คอไปภูมิ

“อะไรวะ” ไอ้ภูมิหันหน้าไปทางด้านขวาของไหล่ตัวเองก็ต้องพบกับกะโหลกที่ป๊อนซ์กำลังตามหาอยู่

“ป๊อนซ์” ภูมิเรียกป๊อนซ์เสียงเครือ

(ว่าไง เป็นไงกันบ้าง)

“กูว่ากูเจอของที่มึงกำลังตามหาแล้วว่ะ” ไอ้ภูมิบอกพร้อมกับยกมือขึ้นไวห้ก่อนจะยกหัวกะโหลกนั้นลงมาจากไหล่ของตัวเอง

(เฮ้ย จริงดิ เจอที่ไหนๆๆ)

“ใกล้ๆกูนี่ล่ะ”

(เหรอ เป็นไงบ้าง ยังอยู่ในสภาพดีมั้ย?)

ไอ้ภูมิยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะตอบกลับ

“ก็ดีนะ เค้าดูอารมณ์ดีอ่ะ” ไอ้ภูมิพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

“มึงรู้ได้ไงวะ?”

“เออ นั่นดิ”

(อารมณ์ดีไงวะ?) ผม ไอ้นาย แล้วก็ป๊อนซ์ถามออกมาด้วยวามสงสัย

“ก็เค้ายิ้มให้กูอ่ะ” ไอ้ภูมิตอบก่อนจะเป็นลมล้มพับไปกับเตียง

“ว่าไงนะ!” เสียงของพวกผมสามคนที่เหลืออยู่ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

กึกๆๆๆๆ

กะโหลกอันนั้นค่อยๆหันมาทางพวกผม

ก่อนจะค่อยๆเปล่งเสียงออกมาเบาๆว่า

“Happy Holloween Day”

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมกับไอ้นายวิ่งหนีกันออกมาจากห้องอย่างไม่คิดชีวิต





แล้วพวกคุณล่ะ       เตรียมใจไว้สำหรับคืนวันฮาโลวีน คืนนี้หรือยัง?





................................................................End of Special part.....................................................................

มาเสิร์ฟสเปเชียลของคู่หลักให้แล้ว้วเน้ออออออออออ

หวังว่าจะชอบกันนะจ๊ะ

ส่วนตอนหลัก เป็นพรุ่งนี้แล้วกันนะ

 :katai3: :katai3:


KATIEZZ


ออฟไลน์ GimNgek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Blackpearl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เย้ๆๆๆๆ มาต่อแล้ว รอตอนต่อไปนะค่ะ  :hao6: :hao6: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :a5:
-Mama+-
ชื่อนี้..มีปัญหา

ดูๆแล้ว เหมือนมันจะเป็นรหัสลับ อะไรซักอย่างนี่ล่ะ
ลับลมคมใน มั่กๆ

แล้วคนที่กลับมาหาโจ ป๊อนตัวจริงหรือตัวปลอม ก็ยังไม่แน่ใจ แต่ออกแนวมีกลิ่น ตุๆ
 :angry2:

ตามมาจากเรื่อง Friend อ่านแล้วติดใจชอบมาก เลยตามมาอ่านพาร์ทนี้ต่อ
 :L2:
เหมือนว่าป๊อนจะได้ความทรงจำเดิมกลับมาง่ายไป--ง่ายไปมั้ยป๊อน หุหุ
ทำไมมาพร้อมๆกับ แฟนสาวโดนรถชนสาหัส บังเอิญเกินไปหรือเปล่า

บอกตรง..ไม่ไว้ใจป๊อน อย่างแรง กลัวเสแสร้งแกล้งทำเพื่อมาล้างแค้นโจมากกว่า

บวกเป็ด +1 ให้นะ..คนแต่ง หนุกมั่ก

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
เราเริ่มสงสัยในตัวป๊อนซ์อีกแล้วอะ มันมีอะไรที่เรียกว่าจำง่ายไป
และ Mama คือใคร หมายถึงแม่ไหม หรือคนที่อยู่เบื้องหลังของการทำให้ป๊อนซ์จำโจได้
หรือคนที่วางแผนทั้งหมดในการทำร้ายโจครั้งนี้ ความทรงจำที่กลับมาอาจป้อนมาจากความจริง
แต่อาจตีไข่ใส่สีไปมากๆ จนทำให้ป๊อนซ์แกล้งโจในครั้งนี้ กลัวว่าครั้งนี้หากโจเจ็บอีกครั้งคงสาหัสกว่าทุกครั้ง
และนั่นอาจทำให้ป๊อนซ์ต้องเสียโจไปจริงๆ และตลอดไป
หากเป็นแบบนั้น ทุกอย่างคงน่าสงสารสำหรับโจ แต่จะคือบทเรียนและความเจ็บปวดไปตลอดกาลของป๊อนซ์
แต่ขอให้ทั้งหมดเรามโนไปเอง อยากให้รอยยิ้มจากหัวใจโจกลับมา และชีวิตแห่งความสุขของโจ
ฟื้นอีกครั้ง เหมือนดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว แล้วได้น้ำมารดให้ใจชุ่มฉ่ำ ไม่อยากเห็นโจร้องไห้อีกแล้ว
แค่นี้ก็ทรมานโจมากพอแล้ว

ตอนพิเศษอยากบอกอย่างฮา ขำจนน้ำตาไหลเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2013 16:36:14 โดย hotladyanyavee »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แล้วคืนนี้จะได้อ่านมั้ย


 :katai1:
อยากมาก

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
ขออ่านอีกทีตอนจบเลยได้มั๊ย แบบว่าเราเกลียดพระเอกแบบป๊อนมากอะ :mew2:

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ประกาศ!!![สำคัญฝุดๆ]



ใครที่เป็นเพื่อนจะเค้าในเฟส คงจะเห็นแล้วว่า...


ตอนนี้ คอมซึ่งเปรียบเสมือนไหดองนิยายของเค้า ได้ถูกส่งตัวเข้า ICU เพื่อดูาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  :katai5:


เพราะฉะนั้นระหว่างนี้ ForgottenLove อาจจะมีอัพสเปเชียลสั้นๆบ้าง



แต่เค้าจะไม่แตะต้องตอนหลักเนื่องจากแต่งไว้แล้ว  :katai4:



แจ้งเพื่อทราบนะ  o13 o13




ส่วนใครที่กำลังหานิยายสั้นๆผ่อนคลายสมอง เค้าขอแนะนำ>>> Tutor ติวนี้มีรัก




ผลงานการประพันธ์โดย เค้าเอง!!!! 55555+




ในระหว่างที่คอมซ่อมเค้าก็จะอัพช็อตเรื่องนี้แก้เบื่อไปพลางๆเน้อ ใครสนใจก็เข้าไปพูดคุย ติชมกันได้  :z10:





รักคนอ่านนะ :mew1: :mew1:






KATIEZZ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนที่ 13







[Pontz x Joe]




[Joe]








“อื้อออ” ผมแอ่นตัวขึ้นรับสัมผัสจากป๊อนซ์

“หึๆ ครางออกมาเยอะๆเลย กูชอบฟังเสียงของมึงนะโจ” ป๊อนซ์ก้มลงมากระซิบข้างหูของผมก่อนจะกระแทกเข้ามาแบบเน้นๆจน
ผมถึงกับผวาเข้ากอดป๊อนซ์อย่างห้ามไม่ได้

“ปะ..ป๊อนซ์”ผมจิกเล็บลงกับแผ่นหลังของป๊อนซ์ แต่เจ้าของแผ่นหลังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังดูเหมือนกับจะชอบใจกับท่าที
ของผมซะด้วยซ้ำ

“เป็นอะไรเหรอ ไหนบอกป๊อนซ์มาซิว่าตอนนี้โจรู้สึกยังไง?” ป๊อนซ์พูดพร้อมกลับขยับร่างกายอย่างเชื่องช้า

“สะ..” ผมตอบออกไปเบาๆก่อนจะเอาหน้าซุกกับอกแกร่งของป๊อนซ์ด้วยความอาย

“หื้มมม ว่าไงนะ เมื่อกี๊ป๊อนซ์ไม่เห็นจะได้ยินอะไรเลย” ป๊อนซ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวนชวนให้โมโหก่อนจะหยุดการกระทำทั้ง
หมดแล้วดึงผมมาประจันหน้าอย่างต้องการคำตอบ
 
“อื้มมม บอกว่าเสียวไงเล่า!!” ผมหลับตาตะโกนใส่หน้าป๊อนซ์ไปเสียงดัง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็คนมันอายอ่ะ

“ครับๆ เข้าใจละ” ป๊อนซ์รับคำด้วยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเริ่มขยับกายขึ้นอีกครั้ง

“อ๊ะ ป๊อนซ์ เร็วอีกกก” ผมพูดออกมาอย่างเอาใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมาจนเส้นผมสยายกระจายทั่วหมอนใบโต

“โจ”

“อืมมมม”

“โจ”

“หืมมมม”

“ไอ้โจ!!!” เสียงเรียกพร้อมกับแรงสะกิด เอ๊ะ อย่าใช้คำว่าสะกิดเลย ใช้คำว่าผลักจะเหมาะกว่า ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นแต่ก็ต้อง
หลับตาลงอีกครั้งเพราะแสงแดดยามเช้าที่เข้ามาทางหน้าต่าง

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ!! ลืมตา  ตอนเช้างั้นเหรอ???

ผมรีบยันตัวขึ้นนั่งพร้อมกับหันไปมองรอบๆตัวทันที

“เป็นอะไรอ่ะโจ กูเรียกอยู่ตั้งนานก็ไม่ยอมตื่น” ป๊อนซ์ถามก่อนจะยัดแก้วน้ำอุ่นใส่มือผม ไอ้ผมที่เพิ่งตื่นก็รับมาแบบงงๆ

ใช่แล้วครับ เพิ่งตื่น  แสดงว่าเหตุการณ์อันแสนจะเร้าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊มันก็เป็นความฝันน่ะสิ

เฮ้ยยยยยย กูหมกหมุ่นขนาดเก็บเอามาฝันเลยเหรอเนี่ย กรรม!!!!

แต่ก็คงไม่แปลกหรอกครับ มันคงจะเป็นผลข้างเคียงมาจากเหตุการณ์เมื่อคืน

...

“อื้มมมม” ผมตอบการรุกล้ำที่มีชั้นเชิงของป๊อนซ์จนแทบจะลืมหายใจกันไปเลยทีเดียว

“อ่า น่ารักจังเลย แต่คืนนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันนะ ฝันดีครับที่รัก” ป๊อนซ์ค่อยๆละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะพูดออกมา
ยาวเหยียดจนคนที่กำลังเมารสจูบอย่างผมฟังแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว แต่รู้ตัวอีกทีไอ้ตัวดีก็เดินผิวปากเข้าไปในห้องนอนเรียบ
ร้อยแล้ว ปล่อยให้ผมยืนอารมณ์ข้างเติ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพียงคนเดียว

...

“อ๊ากกกกกกกกกก” ผมอายจนไม่รู้จะทำไง เลยตะโกนออกมาแม่งเลย

“เป็นอะไรโจ” ป๊อนซ์ที่เพิ่งจะก้าวออกจกห้องไปได้ไม่นานก็รีบพุ่งกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง

“ฮึ้ยยยยยย!!!!!!” ผมทำหน้าเหวี่ยงใส่ป๊อนซ์ก่อนจะกระแทกแก้วน้ำอุ่นตั้งไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วมุดกลับเข้าไปอยู่ในผ้าห่มอีก
ครั้ง

“ไหนบอกกูดิ ว่าโมโหเรื่องอะไร?” ป๊อนซ์ก้มลงมากอดผมที่นอนขดตัวเป็นหนอนอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมกับดระซิบถามอย่างใจเย็น

“เรื่องของกู” ผมตอบกลับไปด้วยอารมณ์โมโห

“ดื้อ!!!” ป๊อนซ์ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับตะคอกออกมาเสียงดัง ว่ากูเหรออ

“มึงว่าใคร?” ผมเปิดผ้าห่มออกมาพร้อมกับถลึงตาใส่ป๊อนซ์อย่างเอาเรื่อง

“ว่ามึง” ป๊อนซ์ตอบกลับมาหน้าตาย

“ป๊อนซ์!!”

“ก็มันจริงมั้ยล่ะ? อยู่กับมึงนี่บางทีก็เหมือนอยู่กับพระ แต่บางทีก็เหมือนอยู่กับเด็ก 2 ขวบ ช่วยอารมณ์คงที่หน่อยได้มั้ยดื้อ”

“.......” ผมไม่ตอบ แต่นั่งกอดอกแล้วหันหน้าไปอีกทางอย่างเอาใจ

“เฮ้อออ แล้วทำไมเราต้องมาทะเลาะกันตอนเช้าด้วยล่ะเนี่ย ไปกินข้าวกันเหอะ” ป๊อนซ์ส่ายหัวอย่างปลงๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับ
มือผมแล้วกระตุกเบาๆเป็นเชิงบอกให้ลงไปพร้อมกัน

“......”แต่มีเหรอผมจะไป ไม่แน่นอน

“โอเคๆ กูง้อครับ กูง้อ” มันพูดพร้อมกับเอาหัวลงมุดที่ตักของผมก่อนจะส่ายหัวไปมาแบบอ้อนๆ

“ไปกินข้าวกันเหอะ หิวข้าวแล้ว” ผมพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกหัวป๊อนซ์ขึ้นแล้วเดินไปกินข้าวพร้อมๆกัน



“โจ อย่ากินเนื้อเยอะดิ กินผักบ้าง” ป๊อนซ์ที่นั่งดูผมแทะซี่โครงหมูมาพักใหญ่ๆพูดขึ้น

“อืมๆ” ผมพยักหน้ารับส่งๆก่อนจะหยิบถั่วงอกขึ้นมาต้นนึงแล้วเคี้ยวอย่างรวดเร็วก่อนจะกลืนลงคอไป ยี๊ เหม็นเขียวสุดๆอ่ะ

“กวนตีนเหรอ” ป๊อนซ์วางช้อนลงก่อนจะจ้องหน้าผมอย่างโกรธๆ

“ก็กินแล้วไง” ผมพูดก่อนจะหยิบซี่โครงหมูอีกชิ้นขึ้นมาแทะต่อ

“ดื้อ!!!” ป๊อนซ์ตะโกนใส่หน้าผมก่อนจะหยิบชามใส่กระดูกหมูไปเก็บไว้ในตู้

“ป๊อนซ์อ่า”

“หยุดเลย พอแล้ว” ป๊อนซ์ชี้หน้าผมเป็นเชิงสั่งก่อนจะกลับมานั่งกินตรงข้ามผมเหมือนเดิม

ผมก็ทำไงได้ล่ะครับ ก็ต้องนั่งเล็มผักเล็มหญ้าที่เหลือไปเรื่อยๆ



Rrrr

“โจใครโทรมา” ป๊อนซ์ตะโกนออกมาจากในห้องนอน

“ดูให้หน่อยดิ” ผมตะโกนกลับไปเพราะกำลังติดลมอยู่กับหนังตรงหน้า

“พีเจโทรมา” ป๊อนซ์ตะโกนกลับมาอีกที

“รับให้หน่อยดิ” ผมตะโกนกลับไปแบบไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไหร่

เสียงป๊อนซ์เงียบไปทำให้บรรยากาศในการดูหนังของผมกลับมาอีกครั้ง

“อ่ะ มันบอกจะคุยกับมึง” ป๊อนซ์ยื่นไปโฟนมาเกือบจะทิ่มหน้าผมก่อนจะเดินกระทืบเท้าตึงตังออกไป เป็นห่านไรของมึงเนี่ย

“ว่าไงพีเจ” ผมเอาไปโฟนหนีบไว้กับไหล่เพราะมือกำลังล่วงขนมกินอยู่

(ทำไรอยู่อ่ะ?) เสียงพีเจตอบกลับมาด้วยท่าทีสบายๆ

“ดูหนัง แล้วมึงมีอะไรรึเปล่าถึงได้โทรมาเนี่ย”

(มันก็มีนิดหน่อย)

“ว่า?”

(ช่วงนี้ไอ้ป๊อนซ์มันมีท่าทางแปลกๆบ้างป่ะ?)

“ก็ไม่นะ ทำไมวะ?” ผมวางขนมในมือลงก่อนจะถือไอโฟนของตัวเองด้วยท่าทางที่จริงจังขึ้น

(คือ กูสงสัยว่า..) ไม่ทันทีพีเจจะได้พูดออกมาก็มีมือปริศนามาแย่งไอโฟนไปจากหูผมซะก่อน

“มึงจะคุยอะไรกับเมียกูนักหนา” ป๊อนซ์กรอกเสียงใส่ไอโฟนอย่างอารมณ์เสีย

“เหี้ยไรเนี่ยป๊อนซ์” ผมลุกขึ้นยืนกิ่นจะพยายามแย่งไอโฟนกลับมา

“อยู่นิ่งๆโจ แล้วมึงนะพีเจ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่” ป๊อนซ์พูดกับพีเจแต่กลับเหลือบมองมาที่ผม เอ่อ มีอะไรที่เกี่ยว
กับกูแล้วกูยังไม่ทราบรึเปล่าครับท่าน

“เรื่องของกู กูว่ากูกับมึงก็เลวไม่ต่างกันหรอก”

“มึงพูดเรื่องอะไรกันอยูวะ” ผมตะโกนแทรกขึ้นมาแต่ก็ต้องหยุดพูดเมื่อป๊อนซ์ผลักผมนอนลงกับโซฟาก่อนจะขึ้นมาทับท้องผมไว้
และเอามืออีกข้างหนึ่งที่วางอยู่มาปิดปากผมไว้ด้วย

“อื้ออ ไอ่ เอี้ยย”

“จะทำอะไรมันก็เรื่องของกู กูขอเตือนมึงเป็นครั้งสุดท้ายนะ อย่ามายุ่งเรื่องของพวกกูอีก” ป๊อนซ์ตะคอกใส่ไอโฟนเป็นครั้งสุด
ท้ายก่อนจะปามันลงข้างๆกับตัวผมบนโซฟา

“มึงก็อีกคน” ป๊อนซ์เอามือข้างที่ถือไอโฟนอยู่เมื่อกี๊มาชี้หน้าผม

“อึง อัน เอี้ยยย” ผมตะโกนออกมาพร้อมกับพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของป๊อนซ์

“ฮึ้ย!!!” ป๊อนซ์สบถออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าห้องไป

“ไอ้เหี้ย!!!!!!!!” ผมตะโกนไล่หลังพร้อมกับปาหมอนใบใหญ่ตามหลังมันไปอย่างเคืองๆ

แล้วสรุปพีเจจะบอกผมเรื่งอะไรผมก็ไม่รู้กันเลยซิเนี่ย เฮ้ออออ

ผมก้มลงหยิบไอโฟนขึ้นมาจะกดโทรออกหาพีเจเพื่อพูดให้รู้เรื่อง

“ทำอะไร?” ป๊อนซ์เดินกลับออกมาก่อนจะแย่งไอโฟนในมือของผมไป

“โทรหาพีเจ” ผมตอบออกไปตามวามจริง

“โจ!!” ป๊อนซ์ตะคอกใส่หน้าผมเสียงดัง

“เออ กูรู้ว่ากูชื่อโจ ไม่ต้องย้ำ!”

“อย่ามากวนตีน”

“กูพูดจริง” ผมยังต่อปากต่อคำมันกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

“อย่าให้กูรู้ว่ามึงติดต่อกับมันอีกนะ” ป๊อนซ์พูดพลางชี้หน้าผมเป็นเชิงออกคำสั่ง

“ทำไม มันก็เพื่อนกูนะ” ผมปัดมือมันลงก่อนจะตอบกลับไป

“แต่มันไม่ได้คิดกับมึงแค่เพื่อนไง!” ป๊อนซ์ตอบกลับเสียงดังก่อนจะหันตัวกลับเดินเข้าห้องไปโดยไม่ลืมที่จะเอาไอโฟนของผม
ไปด้วย

“......” ไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อนงั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง แล้วดลล่ะ ดลมันคบกับพีเจอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วพีเจจะมาคิดแบบนั้นกับ
ผมได้ไง


ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างมันดูเป็นปริศนาไปหมดเลยในตอนนี้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพีเจกับดล

เรื่องพีเจกับผม

หรือแม้แต่....

เรื่องที่พีเจพยายามจะบอกผมเกี่ยวกับป๊อนซ์

ผมต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ได้!!





............................................................................TBC...................................................................

มาอัพแล้วเด้อออออ  ได้ึคอมกลับมาแล้ววววววว  :katai4:

ดีใจสุดๆ

เตรียมตัวไว้ดราม่านิดนึงจะคนอ่านที่รัก  :hao5:


รักคนอ่านนะ  :mew1:





KATIEZZ

exoplanet

  • บุคคลทั่วไป
เย้เห้มาสักทีรอนานล่ะ ว่าแต่ป๊อนซ์แกจะทำไรอ่ะ
เราต้องเตรียมทิชชู่เอาไว้มั้ยเหมือนจะได้กินมาม่าอีกแล้ววว :o12: :o12:

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
หรือปอนซ์แกล้งว่าจำโจได้ หรือคบ 2 คนซ้อน

PNJB

  • บุคคลทั่วไป
ป๊อนซ์อย่าหลอกโจเลยนะ ไม่อยากเห็นโจ เสียใจแล้ว TT
ตอนนี้มองพีเจเปลี่ยนไปเลยอ่ะจากตอนแรก :sad4:
อัพบ่อยๆนะค๊าาาาาาา รออยู่เน้อออออ  :mew1:

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนที่ 14




[Pontz x Joe]






[Joe]







“ทำไมมานั่งทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้ล่ะตัวเธอ” ไอ้ภูมิทักขึ้นเมื่อเห็นว่าผมนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะป๊อนซ์มาพักใหญ่ๆแล้ว

“เฮ้ออออ” ผมไม่ตอบแต่ถอนหายใจยาวๆออกมาแทน

“แน่ะ หรือว่าผัวไม่ยอมทำการบ้าน” ไอ้นายที่เพิ่งจะเรียนเสร็จก็เดินมาสมทบร่วมกันเห่าหอนกับไอ้ภูมิทันที

“ประมาณนั้นแหละเฮีย โอ๊ย!! โจ เจ็บนะ” ไอ้แน็ตที่เริ่มจะปากหมาเป็นก็หัดเห่าทันทีแต่ด้วยความที่มันอยู่ใกล้มือผมเกินไปจึงไม่
รอดจากการเจ็บตัว

“ปากมึงนะ” ผมหันไปทำหน้าดุใส่แน็ตก่อนจะหันกลับมานั่งถอนหายใจตามเดิม

“แล้วนี่มึงมานั่งทำอะไรตรงนี้ล่ะเนี่ย เรียนเสร็จทำไมไม่นั่งหน้าคณะตัวเองจ๊ะ” ไอ้ลิ้มที่แม่งเพิ่งเรียนเสร็จก็หอบข้าวของหอบเสื้อ
ช็อปมากองไว้บนโต๊ะเหมือนกัน

“แล้วมึงอ่ะ” ผมถามย้อนกลับแบบเหวี่ยงๆ

“กูมารอเพื่อนกู” มันตอบหน้าตายพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้ไอ้นายกับไอ้ภูมิที่นั่งกินขนมอยู่

“กูก็มารอเพื่อน” ผมตอบกลับไปแบบส่งๆ

“เหรออออ” ทุกๆคนบนโต๊ะไม่เว้นแม้แต่ดลก็เห่าหอนขึ้นอีกครั้ง

“จะอะไรนักหนาวะแม่งงง” ผมหันไปเหวี่ยงใส่จนทุกคนบนโต๊ะเริ่มรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตของผม

“เล่นด้วยนิดเดียว โมโหเป็นหมาแม่ลูกอ่อนไปได้ ไอ้โจมารอเพื่อนแล้วน้องดลล่ะครับมารอใคร” ไอ้ภูมิที่เห็นว่าเล่นกับผมเริ่มจะ
ไม่สนุกก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นดลแทน

“เอ่อ..คือ...” ดลก็ได้แต่หน้าแดงอ้ำๆอึ้งไปตามสไตล์แหละครับ ท่าทางของน้องก็เรียกเสียงโห่เสียงแซวจากหมาๆได้เป็นอย่างดี

“มารอกูนี่ไง” พีเจที่เพิ่งจะเรียนเสร็จก็เดินลงมาโอบไหล่ดลก่อนจะนั่งลงข้างๆอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

“น้อยๆหน่อยพีเจ นั่นน้องกูนะ” ผมพูดแซะเพราะแบบว่าหมั่นไส้กับท่าทางของมันเหลือเกิน

“อืมน้องมึง แต่เมียกู” พีเจพูดออกมาหน้าตายพร้อมกับยักคิ้วไปให้ไอ้พวกที่เหลือในโต๊ะ

“เหยดดดดดด แมนมากเพื่อนกู” ไอ้ลิ้มที่นั่งลงไปแล้วถึงกับลงทุนลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวให้ไอ้พีเจกับความนิ่งและหน้าด้านของมัน

“รู้ตัวก็ดีว่าอะไรเป็นยังไง อย่ามายุ่มย่ามกับของคนอื่นแล้วกัน” ไอ้หมอป๊อนซ์ที่เพิ่งเดินลงมาจากตึกพร้อมๆไอ้ไปป์ก็แหวมาแต่
ไกล

“หึ พูดให้ดีไปเหอะ อย่าเผลอแล้วกัน ความชั่วที่ปิดอยู่มันจะกระจายฟุ้งออกมา” ไอ้พีเจที่นั่งยิ้มๆอยู่ตอนแรกก็พูดขึ้นมาเสียงแข็ง
เรียกความแปลกใจจากคนอื่นๆในโต๊ะได้ไม่น้อย

“อะไรของพวกมึงวะเนี่ย” ไอ้นายพูดขึ้นมาเป็นตัวแทนของทุกคนบนโต๊ะ

“เปล่า กูเพิ่งเรียนเสร็จเครียดๆ กูก็พูดอะไรไปเรื่อยแหละ” ป๊อนซ์พูดแก้ยิ้มๆก่อนจะนั่งลงข้างๆผมเหมือนไม่ได้เกิดเหตุการณ์ตึง
เครียดเมื่อกี๊ขึ้น

“อ่ะ” ผมเปิดกระป๋องชากูซ่าก่อนจะยื่นไปให้ป๊อนซ์ที่นั่งข้างๆ

“แต๊งกิ้วครับ” มันหันมาขอบคุณเสียงหวานก่อนจะรับไปกินอย่างกระหาย

“เย็นนี้ไปกินไหนกันดี?” ไอ้นายนักเที่ยวประจำกลุ่มพูดชวนขึ้นมา

“มึงไม่กลัวป้าที่บ้านมึงเค้าตามมากระชากหัวมึงเหมือนวันนั้นอีกเหรอวะ?” ไอ้ลิ้มถามล้อแบบขำๆ

“โอ๊ยยย ระดับกูแล้ว กลับไปบ้านนี่แทบจะคลานเข่าเข้าหา” ไอ้นายลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดออกมาเสียงดัง

Rrr

เสียงสั่นของไอโฟนในกางเกงสีดำของมันดังขึ้น

“อุ๊ย ฮัลโหล สวัสดีครับ” ไอ้นายรีบกดรับทันทีที่เห็นเบอร์โทรเข้าก่อนจะพูดด้วยโทนเสียงราวกับกำลังถวายสังฆทานให้พระอยู่

“ครับๆ วันนี้กลับเลยครับ ไม่เหลวไหลแน่นอน ครับ ครับ สวัสดีครับ” พูดเสร็จไอ้นายก็กดตัดสายก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ
หนึ่งที

“แหม หงอเชียวสัด” ไอ้ไปป์พูดล้อก่อนจะยกไอโฟนขึ้นโทรเช็คเมียมันทันที

“คลานเข่าๆ มึงดิคลานไม่ใช่เจ้แกคลาน” ไอ้ภูมิคู่หูก็ทับถมซ้ำเข้าไปอีกคน

“เออๆ อย่าให้มึงมีบ้างนะภูมิกูจะซ้ำให้จมดินเลย” ไอ้นายพูดงอนๆก่อนจะสะบัดหน้าหนี ร้อนถึงไอ้ภูมิที่ต้องตามไปง้อกันต่ออีก นี่
ถ้าไม่ติดว่าไอ้นายมีแฟนแล้วนี่ผมคงคิดว่ามันกินกันเองซะแล้วนะเนี่ย

“เป็นไงเรียนเหนื่อยมั้ยวันนี้” ไอ้ป๊อนซ์ที่นั่งเงียบเอามือเล่นผมของผมอยู่นานก็พูดขึ้น

“ก็เรื่อยๆอ่ะ” ผมตอบกลับพร้อมกับเอาหัวซุกลงที่ไหล่ของมันแล้วหลับตาลงช้าๆ

“อืม พักก่อนเหอะ เดี๋ยวถ้าจะไปไหนกันแล้วกูค่อยปลุก” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

“อืม” ผมทำได้เพียงรับคำเบาๆในลำคอก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยที่สะสมมาทั้งวัน



“ป๊อนซ์” ผมค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งก่อนจะยกมือขยี้ตาแล้วมองไปรอบๆ อ้าวว ไม่มีใครอยู่แล้วสักคน

“ไม่ต้องห่วงนะป๊อนซ์กำลังหาวิธีอยู่” เสียงของป๊อนซ์ที่กำลังโต้ตอบกับใครสักนที่ด้านหลังต้นไม้ดังขึ้น

“....” ผมทำได้เพียงเงียบและแอบฟังต่อไป

“อืม ดูแลตัวเองให้ดีด้วยล่ะ ป๊อนซ์ระ..”

แกร๊กก

คำพูดของป๊อนซ์ชะงักไว้แค่นั้นเมื่อได้ยินเสียงใบไม้แห้งใต้เท้าของผม

“อ้าวโจ อืม งั้นแค่นี้ก่อนนะ” ป๊อนซ์หันมาทักทายผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะบอกลาคนในสายแล้วตัดสายไป

“ตื่นนานยัง?” ผมได้เพียงเงียบกับท่าทีของป๊อนซ์

“เพิ่งตื่น เมื่อกี๊คุยกับใครอ่ะ?” ผมตัดสินใจถามออกไปตรงๆดีกว่าที่จะมาเก็บไว้ทุกข์อยู่คนเดียวเหมือนที่ผ่านๆมา

“อ๋ออ คุยกับเพื่อนอ่ะ มันไม่ค่อยสบาย” ป๊อนซ์พูดตอบกลับด้วยท่าทีลื่นไหลแบบไม่มีพิรุธ จนทำให้ผมรู้สึกวางใจขึ้นมาบ้าง

“อ๋ออ” ผมตอบรับคำก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ

“อะไรอ่ะ หึงเหรอ?” ป๊อนซ์ถามพร้อมกับเอามือมาบีบจมูกของผมเบาๆ

“เปล่าซะหน่อย” ผมแก้ตัวไปก่อนจะเดินมาหยิบของที่โต๊ะ

“หึ คร้าบๆๆ โจไม่ได้จับผิด โจไม่ได้หึงเลยย” ป๊อนซ์พูดอย่างล้อก่อนจะแย่งเอาของในมึงของผมและของที่เหลือบนโต๊ะทั้งหมด
เอาไว้ซะเอง

“แล้วไอ้พวกที่เหลือไปไหนหมดอ่ะ?” ผมถามขณะที่เดินตามหลังป๊อนซ์ไปขึ้นรถ

“วันนี้แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน ไอ้นายก็มีป้าเรียกตัวกลับด่วน ไอ้ภูมิพาไอ้แน็ตไปเหล่สาว ไอ้ไปป์มันได้ข่าวว่าพลัสเตอร์มีชู้เลย
ท่าจะเคลียร์กันยาว ไอ้ลิ้มก็พาเมียไปกกต่อที่คอนโด” ไอ้ป๊อนซ์ร่ายยาวออกมาก่อนจะเปิดรถเพื่อเอาของเก็บด้านหลัง

“แล้วพีเจอ่ะ?”

ตึง!!

เสียงปิดประตูดังสนั่นหลังสิ้นำถามของผม

“ทำไม?” ป๊อนซ์นิ่งก่อนจะถามขึ้นโดยไม่ได้หันมามองหน้าผม

“ก็แค่ถามดู ก็มึงบอกของทุกคนยกเว้นของพีเจ” ผมตอบออกไปตามความจริง

“หึ พีเจมันก็กลับไปกับดลดิ หรือมึงจะให้มันอยู่รอมึงตื่นแล้วกลับพร้อมกูล่ะ” ป๊อนซ์พูดประชดออกมาก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขึ้น
ไปนั่งประจำที่คนขับ

“เฮ้อออ” ผมทำได้แค่ถอนหายใจยาวๆออกมาแล้วขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ก่อนที่ป๊อนซ์จะขับรถออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว



“ป๊อนซ์” ผมเรียกชื่อมันเป็นครั้งที่ล้านแล้วมั้งตั้งแต่อยู่บนรถจนตอนนี้กำลังจะขึ้นลิฟท์แล้ว

“......” เงียบ

“ป๊อนซ์” ผมยังคงเรียกต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กูจะเรียกอยู่แบบนี้แหละป๊อนซ์มึงทนรำคาญได้ก็ทนไป

“......” เงียบ เงียบได้เงียบไป

ตึ๊ง!

ทันทีที่ลิฟท์เปิดออกป๊อนซ์ก็รีบพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หันมาจูงมือผมเข้าไปในลิฟท์เหมือนทุกที

“ป๊อนซ์” ผมยังเรียกต่อไป ตั้งแต่ไม่ขึ้นลิฟท์ยันลิฟท์ปิด

“....”

“ป๊อนซ์หันหน้ามานี่” ผมพูดพร้อมกับจับหน้าที่โคตรจะบึ้งของป๊อนซ์ให้หันมาทางผม

“.....” มันยังนิ่งครับ มันมองหน้าผมแบบขู่ๆ

“อย่าโมโหดิ โมโหแล้วไม่น่ารักเลย” ผมพูดพร้อมกับมองเข้าไปในตามันแบบต้องการจะสื่อความหมาย

“ก็ไม่ต้องมารัก ไปรักไอ้พะ..อุ๊บบ” ผมไม่รอให้ป๊อนซ์พูดจนจบประโยคผมก็รีบเขย่งเท้าพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างดึงคอเสื้อของ
มันจนหน้าโน้มลงมาแล้วริมฝีปากของเราทั้งสองคนก็ทาบกันสนิทพอดี

เป็นเวลาเพียงไม่นาน เป็นสัมผัสที่ไม่มีการรุกล้ำใดๆ แต่มันก็ทำให้อุ่นวาบในหัวใจได้ไม่น้อย ผมค่อยๆหลับตาลงเพื่อถ่ายทอด
ความรู้สึกทั้งหมดผ่านทางจูบนี้

ตึ๊ง!

เสียงเปิดของลิฟท์เรียกสติผมให้กลับมา ผมรีบผละออกจากป๊อนซ์ทันที

“เอ่อ..คือ.” น้องผู้ชายอายุประมาณ 17 ปีคนหนึ่งอยู่อยู่หน้าลิฟท์ พร้อมกับทำสีหน้าอึ้งๆ

“เข้ามาเลยครับน้อง” ไอ้ป๊อนซ์พูดเชิญชวนน้องเค้าอย่างอารมณ์ดี

“เอ่อๆ ครับๆ” น้องเค้าก็ทำตามมันอย่างงงๆ ก่อนลิฟท์จะปิดลงอีกครั้ง

“ไปชั้นไหนครับน้อง?”

“ชั้น14ครับ” น้องหันมาตอบก่อนจะกดเลขแล้วยืนชิดประตูจนแทบจะสิงกับลิฟท์อยู่แล้ว

“ถอยหลังมาอีกก็ได้ พวกพี่ไม่กัดหรอก”

“ครับๆ” น้องเขาถอยลงมาอย่างว่าง่าย จะว่าไปน้องแกสูงเกือบจะเท่าไอ้ป๊อนซ์เลยนะเนี่ย สูงกว่าผมอีกอ่ะ

“มองอะไรโจ” นั่น เสียงแข็งขึ้นมาอีกแล้ว

“กูกำลังดูว่าน้องเขาสูงเกือบจะเท่ามึงเลยอ่ะ” ผมพูดออกมาตามวามจริงพร้อมกับหันไปมองหน้าน้องแกที่ตอนนี้แดงจนเห็นได้ชัด

“มองทำไม มองกูนี่” ป๊อนซ์พูดก่อนจะหันตัวผมให้หันเข้าหามันแล้วกอดไว้แน่น จนทำให้หน้าของผมซุกลงกับอกของมันอย่าง
เลี่ยงไม่ได้

ตึ๊ง!

ลิฟท์หยุดที่ชั้น 14

“ขอบคุณครับพี่” น้องเดินออกไปจากลิฟท์แต่ยังไม่ลืมที่จะหันมาขอบคุณพวกผม

“ครับ ไม่เป็นไร” ไอ้ป๊อนซ์ตอบก่อนจะรีบกด close รัวๆ

ตึ๊ง!

ถึงชั้นเราซะที เมื่อลิฟท์เปิดออก ป๊อนซ์ก็ปล่อยให้หน้าของผมได้สัมผัสกับอากาศภายนอก

“มองจังเลยกับผู้ชายอ่ะ”

“เหี้ยเหอะ กูก็ผู้ชาย” ผมหันไปมองมันเหวี่ยงๆก่อนจะพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย

“กูก็ไม่ได้บอกว่ามึงเป็นผู้หญิง” ป๊อนซ์พูดก่อนจะยักไหล่แล้วเดินเข้าห้องไป หนอยยย กวนตีนรึมึง

“กวนตีนเหรอมึง เดี๋ยวก็โดนตีนหรอก” ผมพูดออกมาก่อนจะเดินไปกระแทกไหล่มันแล้วเดินแซงเข้าห้องนอนไป

“อืมมม กวนตีน โดนตีน งั้นถ้ากูกวนปาก กูจะโดนปากมึงป่ะ” ป๊อนซ์ถามพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัวผมทางด้านหลังก่อนจะก้ม
ลงจูบเบาๆที่ไหล่ที่โผล่ออกมาจาเสื้อนักศึกษา

“เชี่ยป๊อนซ์!” ผมตะคอกด่ามันเสียงดังก่อนจะเอามือฟาดลงไปเต็มแรงที่กลางกบาลมัน

“โอ๊ยยยย มาโซเหรอโจ ชอบทำกูเจ็บอยู่เรื่อย” ป๊อนซ์ร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับเอามือจับหัวส่วนที่ผมเพิ่งจะลงน้ำหนักไป

“หึ” ผมส่งเสียงในลำคอก่อนจะเดินเข้าห้องไป

“อย่าให้กูทำมึงเจ็บบ้างนะโจ มึงจะเจ็บจนลุกไม่ขึ้นเลยล่ะ” ป๊อนซ์พูดขู่ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“เหรอ เร็วๆนะ กูรอจนของกูมันหย่อนยานหมดละ” ผมเปิดประตูก่อนจะโผล่หัวออกไปพูดโต้ตอบกับมันแล้วรีบเอาหัวกลับเข้ามา
แล้วปิดประตูทันที


อ่ะนะ อย่างมึงต้องโดนแบบนี้แหละป๊อนซ์ ปากเก่งเกิ๊นนนนน


แต่เอาจริงๆไอ้ประโยคสุดท้ายที่พูดน่ะ ผมแอบคิดจริงนะ TT”





“ป๊อนซ์ตื่นเร็ว เดี๋ยวเข้าคลาสไม่ทันนะมึง” ผมยืนเป่าผมอยู่หน้ากระจกพร้อมกับตะโกนเรียกไอ้ตัวขี้เกียจที่ยังนอนอุตุอยู่บนเตียง

“อื้มมมม ขออีก 10 นาที” ป๊อนซ์โผล่หัวออกมาจากผ้าห่มก่อนจะตะโกนต่อรอง

“ไอ้หมอป๊อนซ์ วันนี้มึงเรียนกี่โมง”

“9 โมงงงงง”

“มึงแหกตาตี่ๆของมึงดูนาฬิกาหน่อยว่านี่มันกี่โมงแล้ว” ผมปิดไดร์เป่าผมก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนี้ผมเสื้อกับกางเกง
เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เข็มขัดกับไทก์ก็เป็นอันเสร็จพิธี

“หืมม ไหนดูดิ เพิ่ง 8 โมง 20 เอง หา!!! เหี้ยแล้ว” ป๊อนซ์ที่เพิ่งจะรับรู้ได้ถึงนรกก็วิ่งลงจากเตียงสะดุดหัวคะมำไปตลอดทาง กว่า
จะถึงห้องน้ำก็ได้ไปหลายแผลเลยในเช้านี้

“กูจะเวฟข้าว มึงจะกินอะไร?” ผมตะโกนไปถามมันในห้องน้ำ ในขณะที่กำลังเปิดตู้เย็นเลือกข้าวกล่องซีพีที่มีอยู่เต็มตู้

“เอาหมูกระโจ๊ก” ไอ้ป๊อนซ์ตะโกนกลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะกวนๆที่ท้ายประโยค แต่เช้าเลยนะมึง

“พ่องง กูถามดีๆ จะสายอยู่แล้วนะมึง ยังมีเวลาเอาหัวไปคิดห่าไรหื่นๆอีก” ผมตะโกนด่ากลับไปอย่างอารมณ์เสียกับความทะเล้น
ไม่ดูเวลาของมัน

“ขอโทษคร้าบบบ กูเอาหมี่ไก่เทอริยากิ”

“อื้มมมม อาบน้ำเร็วๆล่ะมึง” ผมหยิบหมี่ไก่ออกมาใส่เวฟไปพร้อมกับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของผม

ก่อนจะเดินไปหยิบจานมานั่งรอ

ตึ๊ง!

อาหารเช้าเสร็จละ

ผมรีบเปิดเวฟก่อนจะรีบยื่นมือเข้าไปหยิบโดยลืมไปว่า

“โอ๊ยยย!!” ผมรีบปล่อยมือจากถุงหมี่ไก่ไอ้ป๊อนซ์ทันที

“เป็นอะไรอ่ะโจ?!” ป๊อนซ์ที่แต่งตัวอยู่ รีบวิ่งออกมาในสภาพที่ใส่กางเกงเรียบร้อยส่วนเสื้อนั้นยังไม่ได้ติดกระดุมแม้แต่เม็ดเดียว
ทำให้เปิดให้เห็นหน้าท้องสุขภาพดีของมันอีกครั้ง

“เอ่อ..คือ..เปล่าหรอก กูลืมใส่ถุงมือก่อนหยิบของในเวฟอ่ะ” ผมพูดก่อนจะเอามือข้างที่โดนความร้อนเมื่อกี๊ไปล้างน้ำเพื่อบรรเทา
อาการแสบร้อนทันที

“ไหนดูดิ” ป๊อนซ์จับมือของผมขึ้นไปดูก่อนจะเปาเบาๆอย่างทะนุถนอม

“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกจะสายแล้วนะมึง” ผมพูดขัดก่อนจะดึงมือกลับแต่ป๊อนซ์ก็ขืนเอาไว้

“ไปนั่งเลย เดี๋ยวกูเอาใส่จานเอง” ป๊อนซ์ปล่อยมือผมลงแล้วจัดการเอาหมี่ไก่ของมันกับสปาเก็ตตี้ของผมใส่จานก่อนจะยกมาตั้ง
ไว้ที่โต๊ะส่วนมันกลับเดินเข้าห้องนอนไป

“ป๊อนซ์ไปไหนทำไมไม่กินก่อน” ผมตะโกนตามหลังไป แต่ป๊อนซ์ก็ไม่สนใจ หายเข้าไปในห้องพักใหญ่ก่อนจะเดินออกมาพร้อม
กับยาหลอดหนึ่งในมือ

“เอามือมา” ป๊อนซ์แบมือออกมาตรงหน้า ผมเลยยื่นมือของผมไปวางหงายบนมือของมันอีกที

“พองเลยอ่ะ” มันพึมพำเบาก่อนจะบีบยาออกจากหลอดแล้วทาจนทั่วบริเวณแผลของผม

“....” ผมมองการกระทำนั้นด้วยอารมณ์อธิบายไม่ถูก มันดูใส่ใจ ห่วงใย และทะนุถนอมอย่างมาก

“อ่ะ เสร็จแล้ว หายเร็วๆนะ” ทาเสร็จ ป๊อนซ์ก็เปาที่แผลผมเบาๆหนึ่งที

น่าแปลกที่ลมอุ่นๆที่กระทบปลายนิ้วของผมมันสามารถส่งผลไปถึงการเต้นของหัวใจของผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมรีบชักมือกลับ
ก่อนที่หัวใจของผมจะเต้นแรงจนอาจจะหลุดออกมาได้



“โจ ส่งงานยัง?” เพื่อนที่นั่งใกล้ๆชะเง้อคอมาถามผม เมื่อครูเริ่มถามถึงงานกลุ่มที่ให้มาเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว

“ส่งแล้ว” ผมตอบกลับไปพร้อมกับเก็บของใส่กระเป๋าจนเสร็จแล้วลุกขึ้นเตรียมออกจากห้อง

“เดี๋ยวนะเพื่อนๆ อย่าเพิ่งออกไปกัน ทางกระผมนายปะกิตและเพื่อนๆอีกหลายคนได้ลงความเห็นกันว่า...”



“หา!!! อะไรนะ คณะมึงจะเปิดคอนเสิร์ตการกุศลโดยให้มึงร่วมแสดงด้วย” ไอ้ภูมิตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับยกมือขึ้นกุมหัว
อย่างคนเสียสติ

“อืม กูจะปฏิเสธ แม่งก็ไม่ทันแล้ว เพราะทุกคนแม่งลงความเห็นกันหมดแล้ว” ผมพูดก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะประจำ
แล้วกระแทกตัวลงนั่งอย่างหมดแรง

“มึงต้องร้องกี่เพลง?” ไอ้ไปป์วางไก่ย่างในมือก่อนจะถามขึ้น

“เพลงเดียว ร้องคนสุดท้ายของงาน แล้วเค้าจะตัดสินด้วยจำนวนลูกโป่งที่ได้รับ” ผมตอบพร้อมกับปิดตาลงช้าๆด้วยความเหนื่อย

“เหยดดด เพื่อนกูเด่นสาดเลย ร้องปิดงานด้วยนะ” ไอ้นายที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดออกมาซะเสียงดัง

“ดังหาอะไรวะมึง?” ผมยกเปลือกตาขึ้นนิดหน่อยเพื่อนจะจ้องหน้าด่าไอ้นายก่อนจะปิดตาลงเหมือนเดิม

“แล้วมึงจะร้องเพลงอะไรวะ?” ไอ้ลิ้มที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน

“ไม่รู้วะ” ผมพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างปลงๆ

“เอะอะก็โป๊ เอะอะ เอะอะก็โป๊ ของดีมีโชว์จะเก็บไว้ทำไมค๊า!” ไอ้แน็ตที่นั่งเงียบมานานก็ลุกขึ้นยืนร้องเพลงพร้อมกับเต้นออกมา
อย่างไม่แคร์สื่อ

“เออ สาดดด เพลงนี้ก็แจ่มอยู่นะมึง ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ปากหมาภูมิได้ทีก็อวยพวกเดียวกันเข้าไปใหญ่

“เก็บไว้ร้องโชว์ผัวมึงเหอะแน็ต” ผมพูดก่อนจะยกเท้าขึ้นประทับที่ก้นของมันแล้วออกแรงถีบไปแรงๆหนึ่งที

“โอ๊ยยย โจ ใครจะมีผัว เดี๋ยวต่อยปากแตก” ไอ้แน็ตที่เซถลาไกลออกไปเพราะแรงเตะของผมก็เดินกลับเข้ามาประชิดตัวหวังจะ
เอาคืน

“ใครจะต่อยเมียกู เดี๋ยวได้ตายก่อนบวช” ไอ้หมอป๊อนซ์ที่เพิ่งเดินลงมาจากคุยกับอาจารย์ก็จับคอเสื้อไอ้แน็ตไว้ก่อนจะเหวี่ยง
ออกไปทันที

“แหมโหดเหลือเกินนะเฮียยยย เค้าล้อเล่นนิดเดียวเอง” ไอ้แน็ตที่เปรี้ยวๆอยู่เมื่อกี๊แทบจะลงไปคุกเข่ากราบตีนเมื่อเห็นท่าทีของ
ป๊อนซ์

“เข่าอ่อนเชียวนะมึง” ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปพูดกับไอ้แน็ตที่นั่งเกาะขาป๊อนซ์อยู่

“เมื่อกี๊คุยอะไรกันอยู่เสียงดังลั่นไปถึงข้างบน” ป๊อนซ์นั่งลงก่อนจะเอาแขนยกขึ้นพาดพนักพิงที่ผมนั่งอยู่

“มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานข๊าวววววว” ไอ้ภูมิ ไอ้นาย แล้วก็ไอ้แน็ตลุกขึ้นยืนก่อนจะเต้นพร้อมกัน

“ห่าไรเนี่ย ว่าไงดื้อมีอะไรเหรอ?” ป๊อนซ์หันไปด่าไอ้สามคนนั้นแบบขำๆก่อนจะหันมาถามผมที่นั่งคิดหนักอยู่

“คือคณะกูจะจัดคอนการกุศล”

“แล้ว?”

“เค้าลงความเห็นว่าให้กูเป็นหนึ่งในคนที่ร้องเพลงประกวด”

“.....” เกิดความเงียบขึ้นครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณทันทีที่ผมเอ่ยคำสุดท้ายออกมา

“เอ่อ..คือ..” ผมพยายามจะพูดเพื่อให้ป๊อนซ์ยอมให้ทำ ไม่ใช่เพราะผมอยากทำมากมายหรอกนะแต่แค่อยากมีส่วนร่วมกับงาน
ของทางคณะเท่านั้นเอง

“ไปบอก cancle ซะ” ป๊อนซ์พูดเสียงแข็งก่อนจะล้วงบุหรี่ในกระเป๋าออกมา

“ป๊อนซ์อย่านี่ในมหาลัย” ผมพูดพร้อมกับเอามือไปจับมือของป๊อนซ์ข้างที่กำลังจะหยิบบุหรี่ออกมาเอาไว้ ป๊อนซ์ก็เก็บบุหรี่ไว้ที่
เดิมอย่างว่าง่าย

“กูพูดอีกครั้งนะ ไปยกเลิกซะ”

“ไม่ได้ กูรับปากไปแล้ว”

“รับปากโดยที่ไม่ถามกูอ่ะนะ!”ป๊อนซ์ตะคอกใส่หน้าผมก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ป๊อนซ์ ฟังเหตุผลกูก่อน” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะคว้าแขนป๊อนซ์เอาไว้

“หึ เชิญมึงทำอะไรก็แล้วแต่ ที่มึงอยากจะทำไปเหอะโจ” ป๊อนซ์พูดทิ้งท้ายก่อนจะสะบัดแขนของผมออกแล้วเดินออกไป

“ป๊อนซ์” ผมรีบเก็บของเตรียมจะวิ่งตามป๊อนซ์ไป

“อย่าเพิ่งเลยโจ ปล่อยให้หายบ้าก่อน ไปคุยตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอกเชื่อกูเถอะ” ไอ้ไปป์คว้าแขนผมไว้ก่อนจะดึงให้
นั่งลง

“เออ กูก็ว่างั้นแหละ กูว่ามึงรอให้ป๊อนซ์มันเย็นลงแล้วค่อยคุยดีกว่า ระหว่างนี้มึงก็คิดคำพูดคิดวิธีที่จะทำให้มันยอมฟังมึงดีๆ ดีกว่า
นะ” ไอ้ลิ้มก็ช่วยพูดขึ้นมาอีกแรงทำให้ผมได้แต่พยักหน้าแล้วนั่งลงตามที่เพื่อนๆขอ





“มึงว่าทำงี้แล้วมันจะยอมฟังมึงเหรอ” ไอ้ภูมิที่กำลังช่วยผมติดกระดาษโพสท์อิทกับตุ๊กตาตัวเล็กๆในตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์
ป๊อนซ์ ถามขึ้น

“ไอ้ป๊อนซ์ชอบเซอร์ไพรส์จะตายไป” ผมหันไปพูดกับไอ้ภูมิก่อนจะหันกลับมาเขียนข้อความใส่โพสท์อิทต่อ

“เออๆ งั้นก็ดีจะได้ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยากมากมาย” ไอ้ภูมิก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปเรื่อยๆแต่ถึงมันจะบ่นมันก็ยังช่วยผมทำอยู่ตลอดจน
เสร็จ

“อ่า เสร็จละ น่ารักเว่อร์” ผมพูดพร้อมกับถอยหลังออกมายืนดูผลงานของตัวเอง

ตอนนี้ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของผมได้ถูกเนรมิตเป็นคล้ายๆกับกล่องของขวัญใบใหญ่เพราะในตู้ตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ตัวเดียว มี
แต่ตุ๊กตาหมีตัวเล็กตัวน้อยแขวนห้อยเต็มไปหมด แล้วไหนจะโพสท์อิทหลากหลายสีสันที่ติดจนไม่เห้นสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีเดิมของตู้เลย

“กูว่าหวานจนน่าอ้วกเลย” ไอ้ภูมิที่ยืนอยู่ข้างๆผมไม่ได้แสดงอาการแบบเดียวกับผมเลยแม้แต่น้อย

“เอาน่ามึง เสร็จละขอบคุณมึงมากนะ ได้ผลยังไงเดี๋ยวโทรไปบอก”

“ถ้าโทรไหวนะมึง ถ้าจุดจุดจุดกันจนเช้าก็ไม่เป็นไรกูเข้าใจว่าคงจะเสียงแหบเสียงแห้งกันเลยทีเดียว”

“เหี้ยยย” ผมตะโกนด่าพร้อมกับฟาดมือไปกลางกบาลมันเต็มๆ

“เออ ว่าแต่มึงกลัวที่แคบไม่ใช่เหรอ มึงจะเข้าไปอยู่ในตู้ได้แน่นะ” ไอ้ภูมิถามขึ้น เพราะแผนของผมคือเดี๋ยวผมจะแอบอยู่ในตู้
แล้วพอป๊อนซ์เข้ามาในห้องผมก็จะ Tadah!!! ออกไปเซอร์ไพรส์มัน หึๆ หลักแหลมสุดๆอ่ะ

“ก็คงอยู่ไม่นานหรอกแล้วอีกอย่าง มันไม่ได้ปิดสนิทซะหน่อย”

“เออๆงั้นก็ดี งั้นกูไปก่อนนะ”

“อืม ขับรถดีๆล่ะมึง” ผมพูดลาพร้อมกับเดินไปส่งไอ้ภูมิที่หน้าประตู

เอาล่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ป๊อนซ์กลับมาเพียงอย่างเดียวแล้ว



กึก กุก กัก ๆๆ

เสียงกุกกักจากหน้าประตูเป็นสัญญาณว่าป๊อนซ์กำลังจะเข้ามาแล้ว

ผมรีบวิ่งจากบนเตียงเข้าไปซ่อนตัวในตู้ทันที โดยแอบดูด้านนอกผ่านซี่ระหว่างไม้ของตู้เสื้อผ้า

“โอ๊ย ชนๆๆๆ” เสียงกลั้วหัวเราะของป๊อนซ์ดังเข้ามาจนทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ แต่ดูจากน้ำเสียงแล้วเมามาชัวร์

“ระวังซิคะ” แต่เสียงที่ดังตามมาอีกเสียงหนึ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วทันที

“โอ๊ยๆๆๆ เซอีกละ” เสียงกลั้วหัวเราะของป๊อนซ์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่สามารถที่จะเรียกรอยยิ้มจากผมได้เหมือนครั้งก่อน

“ป๊อนซ์อ่ะทะลึ่งแล้วนะ เซแล้วทำไมต้องมาหอมแก้มกันด้วยล่ะคะ” เสียงพูดจีบปากจีบคออย่างมีจริตจก้านอธิบายเหตุการณ์
ด้านนอกโดยที่ผมไม่ต้องดูก็สามารถที่จะนึกภาพตามได้

“เมื่อกี๊ไม่เรียกหอม หอมต้องแบบนี้”ป๊อนซ์ที่ยืนหยุดอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้ากระชากผู้หญิงคนนั้นมาหอมที่แก้มเต็มแรงต่อหน้าต่อตา
ผม

“ป๊อนซ์อ่ะบ้า เดี๋ยวมีคนเห็น” ผู้หญิงคนนั้นยอมให้หอมแต่โดยดีก่อนจะเอียงหลบเล็กน้อยอย่างมีมารยา

“ฮ่าๆๆ ใครจะมาเห็นล่ะครับ ป๊อนซ์อยู่ที่นี่คนเดียว” ป๊อนซ์พูดเสียงดังจนผมสะอึก

“เหรอคะ ถ้าป๊อนซ์อยู่คนเดียวงั้นเราก็มา..” ผู้หญิงคนนั้นพูดก่อนจะหยุดไว้แค่นั้นแล้วผลักป๊อนซ์ให้นอนลงกับเตียงก่อนจะขึ้น
คร่อมด้านบนแล้วเริ่มปรนเปรอป๊อนซ์จนสุขสมกันทั้งสองฝ่าย เสียงดังระงมไปทั่วทั้งห้อง

ผมที่นั่งอยู่ในตู้ก็ทำได้แค่เอามือขึ้นมาปิดตาและปิดหูพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่ต้องคอยระวังไม่ให้เสียงสะอื้นของ
ผมดังออกไปขัดจังหวะความสุขของเขาทั้งสองคนด้านนอกด้วย

นี่สินะความทรมาน เจ็บแบบนี้จนเกือบจะชินอยู่แล้ว

ผมก็ได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมต้องกลับมา ทำไมยังต้องให้โอกาสเขาอยู่ทุกครั้ง

คำตอบมีอยู่คำตอบเดียว ไม่สามารถหาคำอื่นมาแทนคำนี้ได้อีกแล้ว



.....คำว่า “รัก” .......



...................................................................TBC...........................................................................

อัพไปเลยแล้วกัน กลัวเก็บไว้นานๆแล้วจะบูด 555+

ดราม่านิดหน่อยก่อนเนอะ (หรือไม่เลยอ่ะ??555+)

ป๊อนซ์เริ่มเผยตัวละ อุ๊บบบบ  บอกได้แค่นี้ !!!!!

ตอนหน้า NC เด้อออออออ

ใบ้ว่าเป็น NC ของ ตัวละครที่มีตัว น. นำหน้าชื่อ 

ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ใครหว่า  :katai3:

ทายกันมาละกันเนอะ  :katai2-1:



รักคนอ่านนะ :mew1:



KATIEZZ

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เอาจริงๆนะ เราสงสารโจ ดูเหมือนว่าป๊อนซ์ไม่ได้รักโจเลย ที่บอกว่าจำได้
แล้วคืออะไรยังไง มันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้น พอเถอะเราสงสารโจ
โจเจ็บมาเยอะเกินไปแล้ว ถ้าเจ็บอีกรอบนี้โจจะเป็นยังไง สุดท้ายคนที่เสียใจ
ก็คือโจอยู่ดี เป็นไปได้อยากให้โจลืมทุกอย่าง ความจำเสื่อมไปเลย
 แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไปเลย

 :sad4:  :sad4: เราอินเกินไปม่ะ แต่เราสงสารโจจริงๆนะ T^T

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เชี่ยเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมอีก
จะรักคนเชี่ยๆ แบบนี้เหรอเนี่ย

เราว่ามันน่าจะเป็นเวลาที่โจต้องตั้งสติดีๆแล้วตัดใจได้แล้วล่ะ

ทำไมป๊อนซ์มันถึงได้เลวขนาดนี้ล่ะคะคนแต่ง

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ป๊อนซ์...ชั่วมาก

sappa24

  • บุคคลทั่วไป
ให้ปป๊อนซ์เจ็บบ้างง TT

ออฟไลน์ Weena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาต้มมาม่าโชว์ ขนาดนี้ มาต่อด่วน ใจจะขาดแย้วววว :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
กะไวแล้วว่าป๊อนซ์ต้องมีแผนตัวเงินตัวทองสักอย่าง

อยู่ดีๆ ก็มาทำดีกับโจ มันต้องวางแผนกับเมียสาวมันแน่

สงสารโจมาก ทำไมต้องเจ็บปวดและดราม่า วนเวียน ซ้าไป ซ้ำมา อยู่คนเดียว

อยากให้หลังจากเหตุการณ์นี้ ขอให้โจคิดได้สักที อย่าลืม แต่ขอให้ความรักของโจที่มีต่อปอนซ์หมดไปเรื่อยๆ

เปิดใจกับคนใหม่บ้าง หันมากินเด็กบ้างก็ดี (คนที่เจอในลิฟท์หรือเปล่า)

ความปรารถนาของผมอยากให้ดรามากับปอนซ์บ้าง โจเจ็บมามากพอแล้ว

ขอให้ปอนซ์คิดได้ตอนที่มันสายไปแล้ว โจมีคนใหม่ สวนปอน์ซเป็นคนที่โจหมดรัก ไม่เหลือใคร แม้กระทั้งเพื่อน



คนเขียนเก่งมากทำให้ผมอินกับเรื่องนี้อย่างแรง ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก จนถึงตอนล่าสุดของภาค 2 ขอบอกว่าเนื้อเรื่องสนุกมากๆ น่าติดตาม และได้ปวดตับเป็นระยะๆ


มาต่อไวๆ นะ รอดูปอนซ์ดราม่าบ้าง

nari

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเป็นแบบนี้เลยอ่ะ :sad4: อยากให้โจกลับไปอยู่กับพ่อ แม่จัง ทั้ง 2 ท่านคือคนที่รักโจจริงๆ

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ถ้าเรื่องนี้จบไม่สมหวังจะไม่เสียใจเลย
อยากให้ป๊อนซ์เจ็บมากกว่าที่โจเคยเจ็บเป็นล้านๆ เท่า
อ่านแล้วยิ่งโมโห ถึงจะความจำเสื่อมแต่ทำแบบนี้ก็ไม่ไหวจริงๆ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สงสารโจ ขอให้คราวนี้ป๊อนด์โดนทิ้งแบบโจไม่เหลียวแล
ป๊อนด์ทำหวงไม่ให้โจแสดง แต่พาสาวมาทำแบบนี้เนี่ยนะ
มีเหตุผลอะไรต้องทำแบบนี้ หาพระเอกใหม่ให้โจดีกว่า
อินสุด โจอย่าไปสนน

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ภาคแรกกับภาคสองมันต่างกันมากกกกกก

ถ้าโจยอมโง่ก็คงไม่มีอะไรจะพูด เปลี่ยนพระเอกก็สมเหตุสมผลเพราะปูว่าชั่วมาขนาดนี้

ออฟไลน์ katiezz

  • เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
***เนื่องจากตอนนี้ คนเขียนรู้สึกว่าคนอ่านที่รักทั้งหลาย อารมณ์พุ่งพล่านกันมาก :fire: เลยเอา Special ไม่สั้นไม่ยาวนี้มาเบรคอารมณ์กันสักนิดนึงก่อน ไม่งั้นป๊อนซ์คงจามทั้งวันแน่  :angry2: ***




Special







[Natt]





Rrr

“โหลเฮียป๊อนซ์ว่าไง?” ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาหนีบไว้ที่คอพร้อมกับก้มลงรูดซิปเดฟสีดำที่ขาดตั้งแต่ข้อเท้ายันขาอ่อนตัวโปรดของผมเอง

(มากินเหล้าที่ห้องกูมั้ย?)

“ฟรีป่ะ?” ผมถามกลับไปแบบทีเล่นทีจริง

(สัด!! ฟรีดิ ฮ่าๆๆๆ)

“งั้นไป ฮ่าๆๆๆ รอก่อนนะเฮีย อย่าเพิ่งกินกันหมดล่ะ”

(เออสัด มาเร็วๆนะมึง) เฮียป๊อนซ์พูดก่อนจะวางสายไป

เย้!!!!!!! ตอนแรกกะจะออกไปผับ คงจะเสียไม่ต่ำกว่าพัน แต่นี่ฟรีครับพี่น้อง ไปอย่างเร็วเลย

ผมยัดไอโฟนลงในกระเป๋าเป้สีดำสนิทก่อนจะยกขึ้นสะพายหลังและไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจฟีโน่คู่ใจของผมด้วยก่อนจะออกจาก
ห้อง



ผมจอดรถก่อนจะเดินเหวี่ยงกุญแจเดินไปที่ลิฟท์อย่างอารมณ์ดี

แต่เดี๋ยวก่อน เฮียป๊อนซ์แม่งอยู่ชั้นไหนวะ??

ผมหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋าก่อนจะกดโทรออกหาเฮียป๊อนซ์ทันที

(ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดด....)

แต่กลับไม่มีคนรับ แม่งเริ่มกินกันแล้วแน่เลย

ผมเก็บไอโฟนลงในกระเปาตามเดิมก่อนจะยืนตัดสินใจอยู่หน้าลิฟท์

ถ้าจำไม่ผิดเฮียบอกว่าอยู่ชั้นบนสุดนี่หว่า!!

ผมรีบกดเปิดลิฟท์ก่อนจะเดินเข้าไปยืนด้านในทันที

บนสุด บนสุด บนสุด อ๊ะ นี่ไง ชั้น 14 !!! ผมกดเลือกชั้น 14 ก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดีรอกินของฟรี โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าลิฟท์ตัวข้างๆตัวที่ผมใช้มันไม่ได้มีถึงแค่ชั้น 14 แต่มันมีถึงชั้น 15 ชั้นที่เฮียป๊อนซ์อยู่

ตึ๊ง!!

ลิฟท์หยุดก่อนจะเปิดออก ด้วยความที่คอนโดนี่เป็นอะไรที่หรูจนผมแทบจะถอดรองเท้าเดิน มันจึงมีห้องน้อยมากชั้นละประมาณ
สามถึงสี่ห้อง แต่ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปจะมีแค่ชั้นละห้องเดียว

แม่ง รวย!!!!

ผมเดินออกมาจากลิฟท์แล้วก็ยืนกดออดอยู่หน้าห้อง

ออดดดดดดดด ออดดดดดด

“เปิดเข้ามาเลยครับ” เสียงตะโกนมาจากข้างในทำให้ผมเปิดเข้าไปทันที โดยที่ไม่ได้มองเลยว่าด้านหน้าเป็นไงเพราะมัวแต่กด
ตอบไลน์กับเด็กๆในสต็อกอยู่

“ไหนอ่ะเฮีย เหล้าหมดยัง?” ผมพูดพร้อมกับถอดรองเท้าออกโดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากหน้าจอไอโฟนเลยแม้แต่น้อย

“ใครมาวะมึง?”

“สงสัยเด็กที่ไอ้เฟียสบอกว่าจะส่งมาให้มาถึงแล้วว่ะ”

“เหรอวะ กูอยากเห็นอ่ะๆๆๆ”

เสียงเอะอะโวยวายจากห้องนั่งเล่นทำให้ผมเก็บไอโฟนลงกระเป๋าก่อนจะเดินมุ่งตรงไปทันที

“เฮ้ย!!! ใครวะ?!” ผมอุทานออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่นั่งอยู่ไม่ได้เป็นพวกเฮียๆแต่เป็นเด็กม.ปลายกางเกงน้ำเงินของ
โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งกำลังนั่งกินเหล้ากันอยู่ โดยที่ทุกคนล้วนแต่ใส่กางเกงนักเรียนกับเสื้อกล้ามหรืออย่างบางคนก็ไม่
ใส่เสื้อเลย

“เฮ้ยย น่ารักดีนี่หว่า”เสียงหนึ่งในนั้นพูดขึ้น มันหมายถึงใครวะ ผมคิดในใจก่อนจะหันมองไปด้านหลัง ก็มีแต่กูนี่หว่าที่ยืนอยู่

“จัดว่าแจ่ม” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะหยิบเหล้าขึ้นมากระดกจนหมด

“เป็นอะไรวะเมฆ เงียบเลยมึง” ไอ้คนที่ชมผม(?) ว่าน่ารักมันหันไปถามคนที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มที่นั่งเปลือยท่อนบนอวดซิกแพ็ค
งามๆอยู่

“น่าฟัดชิบ” ไอ้เมฆ(เรียกเหมือนสนิท) มองผมราวกับจะให้ตัวผมทะลุก่อนจะพูดออกมาเบาๆ

“เหยดเข้ แม่งกูก็ว่าทำไมเงียบ หื่นอยู่นี่เอง”

“งั้นพวกกูกลับก่อนแล้วกันนะ ขี้เกียจอยู่เป็นก้างมึงกับเด็กนี่” พูดจบเพื่อนมันสองคนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเก็บข้าวของใส่เป้นักเรียน
โดยข้าวของที่ว่าก็มีสมุดเล่มสองเล่มกับบุหรี่แล้วก็อบายมุขอีกมากมาย ให้ตายเถอะเด็กสมัยนี้

“ไปก่อนนะ เด็ดยังไงมาเล่าให้ฟังด้วย พี่ไปก่อนนะ” มันพูดกับไอ้หุ่นดี(ไอ้เมฆนั่นแหละ) ก่อนจะหันมาพูดกับผมโดยที่เรียกแทน
ตัวเองว่าพี่ มึงบ้าเหรอ???

“อย่าทำตาขวางแบบนั้นดิน้อง ไอ้เมฆเพื่อนพี่มันยิ่งชอบอะไรที่พยศๆอยู่ด้วย” ในระหว่างที่ผมกำลังงงกับคำพูดของเพื่อนเบอร์
หนึ่ง เพื่อนเบอร์สองของไอ้เมฆนั่นก็เดินเข้ามาพูดกับผมพร้อมกับลูบแก้มผมเบาๆ ทำให้ผมปัดออกแทบไม่ทัน

ปัง!!

สิ้นเสียงประตูปิด ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที

ผมยืนนิ่งมองไอ้เมฆที่ยืนกอดอกมองผมมานิ่งๆเกือบสิบนาทีแล้ว

“มองเหี้ยไร?” ผมตัดสินใจถามเพื่อทำลายความเงียบในห้อง

“น่ารักดีว่ะ” มันพูดลอยๆก่อนจะเดินเข้ามาหาผม

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยมึง มึงเป็นใครแล้วกูเข้าห้องมึงมาทำไม?”

“ผมเป็นใครเหรอ? ผมชื่อเมฆ เรียนโรงเรียน XX อยู่ม.5 ส่วนที่ถามว่าคุณเข้ามาทำไมเนี่ยผมว่าคุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ”

“ม.5” บ้าไปแล้วพี่น้อง เด็กม.5 เหี้ยไรสูงขนาดนี้วะเนี่ย เพื่อนมันตะกี๊ก็สูงกว่าผมทั้งนั้นแล้วยิ่งมันนี่สูงสุดเลย สูงเกือบเท่าเฮียป๊อนซ์แน่ะ

“อืม” มันตอบกลับพร้อมกับกอดอกด้วยท่าทีสบายๆ

“แล้วทำไมเพื่อนมึงถึงเรียกกูว่าน้องวะ?”

“อ้าว ก็ไหนไอ้เฟียสบอกมาว่าน้องอยู่ม.4 ล่ะครับ”มันพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆชวนเคลิ้มก่อนจะเดินเข้ามาประชิดตัวผมอย่างรวดเร็ว

“ตลกป่ะ กูอยู่ปีหนึ่งแล้วเหอะ แล้วไอ้เฟียสห่านั่นใครวะ?”ผมถามออกมาด้วยความสงสัย

“หึ ปีหนึ่งงั้นเหรอ? แล้วทำไมสูงแค่อกผมเองล่ะครับ พี่ปีหนึ่ง” มันถามด้วยน้ำเสียงนุ่มๆแต่แฝงไปด้วยความกวนตีนก่อนจะ
กระชากตัวผมอย่างแรงจนเซไปชนกับอกของมัน

“โอ๊ยย กระชากกูทำเหี้ยไรเนี่ย แล้วนี่เนื้อหรือหินวะ แข็งเกิ๊นน” ผมโวยวายพร้อมกับเคาะที่อกมันสองสามทีพิสูจน์ความแข็ง

“หึ เดี๋ยวงั้นรอผมโทรถามไอ้เฟียสแป๊ป” มันพูดนิ่งๆก่อนจะเดินไปหยิบไอโฟนขึ้นมากดโทรออก

“เฟียส เด็กที่มึงส่งมาให้กูมาถึงยัง?”

“อ้าวเหรอ อืมม ไม่เป็นไร คืนนี้ก็มีละ น้องที่มึงเตรียมมาไม่ต้องแล้วก็ได้”

“ไม่รู้ว่ะ จู่ๆก็หลงเข้ามาในห้องกู” นั่นมึงหมายถึงกูรึเปล่าวะ

“อืมๆ เออแค่นี้นะ” พูดจบมันก็วางไอโฟนลงตามเดิมก่อนจะหันหน้ามามองผม

“ว้า พี่ไม่ใช่เด็กที่ไอ้เฟียสส่งมาจริงๆด้วย” มันพูดด้วยน้ำเสียงเสียดายนิดๆ

“ก็กูบอกแล้ว”

“แล้วพี่จะไปไหนอ่ะ?”

“กูจะมาหาพี่ๆกับเพื่อนกู เค้าอยู่คอนโดนี้กันเหมือนกันนะเว้ย แต่กูไม่รู้ว่าอยู่ชั้นไหน สงสัยกูคงจำผิดชั้นล่ะมั้ง”

“แล้วพี่จะมาหาพี่ๆเค้าทำไมอ่ะ?”

“กินเหล้า” ผมตอบกลับไปสั้นๆก่อนจะเดินไปใส่รองเท้าเพื่อกลับห้อง ถือว่าวันนี้ชวดของฟรีไปแล้วกัน

“จะรังเกียจมั้ย ถ้าผมจะชวนพี่กินเหล้าด้วยกัน” มันพูดพร้อมกับยิ้มแบบหล่อๆ(แรดแล้วแน็ต)

“ฟรีป่ะล่ะ?”

“แน่นอน ก็ตอนแรกผมจะกินกับเพื่อนแต่ตอนนี้เพื่อนผมก็กลับไปหมดแล้ว กินคนเดียวคงไม่หมดแน่” มันพูดพร้อมกับชี้ไปบนโต๊ะ
ที่มีเหล้าที่ยังไม่ได้เปิดเกือบสิบขวด

“งั้นก็ได้ นี่เพราะเห็นใจหรอกนะ ไม่ได้เห็นแก่ของฟรี”

“ครับๆๆ” มันยิ้มๆก่อนจะจัดที่จัดทางให้นั่งบนโซฟาข้างๆมัน


[Mek]


“ว่าแต่พี่ชื่ออะไรอ่ะ?” ผมถามพร้อมกับกระดกเหล้าแบบเพียวๆเข้าปาก

“กูชื่อแน็ต มึงชื่อเมฆใช่ป่ะ?” แม่งชื่อยังน่ารักเลยสัด

“ครับ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะชงเหล้าให้พี่แน็ต หึ เอาแบบเข้มๆไปเลยแล้วกันนะพี่ ผมไม่ค่อยชอบรอ

“อ่ะนี่ครับ”ผมยื่นแก้วเหล้าที่เพิ่งจะชงเสร็จไปให้พี่แน็ต

“อืม ขอบใจเว้ย” พี่แกรับไปก่อนจะกระดกทีเดียวเกือบหมด

“สัด อย่างเข้มอ่ะมึง” พี่แกทำหน้าเหยเกนิดหน่อยก่อนจะวางแก้วลง แม่งปากน่าจูบ

“พี่เรียนไรอ่ะ?” ผมเริ่มชวนพี่แกคุยแบบสบายๆมากขึ้น

“กูเรียนนิติ ม.AA”

“อืมม เก่งนี่” ผมชมก่อนจะเลื่อนมือไปจับแขนพี่แกแบบเนียนๆ แม่งแขนอย่างเล็กอ่ะ

“แน่นอนเว้ย บรื๋อออ หนาวอ่ะ เปิดแอร์อย่างกับอยู่ขั้วโลกเลยนะมึง แล้วมึงถอดเสื้อแบบนี้ไม่หนาวเหรอวะ?” พี่แน็ตพูดพร้อมกับ
ห่อตัวลงนิดหน่อยด้วยความ นี่ขนาดพี่แกใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวแล้วนะ แต่อาจจะหนาวเพราะกางเกงล่ะมั้ง แม่งขาดซะแทบไม่มีเนื้อ
ผ้าแล้ว

“ไม่อ่ะพี่ ผมชิน” ผมตอบกลับไปสั้นๆก่อนจะเปลี่ยนจากเหล้าเป็นวอดก้าแบบแรงๆแทน

“วอดก้าหน่อยมั้ยพี่?”

“ไม่เคยกินว่ะ แต่ลองก็ได้” ผมยิ้มรับก่อนจะเทวอดก้าที่แรงที่สุดที่มีลงในแก้วให้พี่แก

“อ่ะ ลองดูพี่ ถ้าติดใจก็กินได้อีกเยอะ ผมมีเก็บไว้เยอะเลยอันนี้”

“อืมๆ อื้อหือออ สัดบาดคอได้ใจ รสชาติโอเคเลยมึง” ผมยิ้มน้อยๆกับอาการของพี่แน็ตตอนนี้ แก้มเริ่มจะขึ้นเป็นริ้วสีแดงจางๆให้
เห็นบวกกับคำพูดที่ฟังดูจะยานขึ้นเรื่อยๆก็คาดว่าผมคงต้องรออีกไม่นานแล้วล่ะ



“มึงงงงง รู้ ม้ายยยย”

“อะไรครับ?” ผมยิ้มน้อยๆกับอาการของนตัวเล็กที่ตอนนี้เริ่มจะเลื้อยไปจนทั่วโซฟาแล้ว

“ว่า มี คน ชอบบบ บอก ว่ากู น่าร้าก”

“ก็มันจริง” ผมตอบกลับไปสั้นๆ

“เมิง ว่า ราย น้า” พี่แน็ตตะกุยโซฟาก่อนจะขึ้นมานั่งประจันหน้ากับผม

“ผมบอกว่าพี่น่ารัก” ผมตอบก่อนจะขโมยหอมแก้มพี่แกไปหนึ่งที คนไรวะตัวโคตรหอมเลย

“ตรง หนาย วะ??” พี่แกยังคงถามต่อ พร้อมกับเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเดิม

“จูบผมก่อนดิ เดี๋ยวบอก” ผมพูดออกมาอย่างเหนือกว่าพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก

“ก็ ด้ายยยยย แต่ เมิง ต้อง บอกก กู นะเว้ยยย”

“แน่นอน” ผมตอบพร้อมกับยักไหล่น้อยๆ

พี่แน็ตจับหน้าผมด้วยมือสองข้างของพี่แกก่อนที่จะโน้มหน้าลงมาจนผมได้กลิ่นของลมหายใจที่กลั้วไปด้วยแอลกอฮอล์ของพี่แก

พี่แน็ตค่อยๆทาบริมฝีปากลงมาช้าๆก่อนจะแช่อยู่แบบนั้นพักใหญ่ๆ ผมก็ทำเพียงนั่งกอดอกไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด พอพี่แกพอใจ
แล้วจึงผละออก

“อ่ะ กู จูบบ มึง ละ ที นี้ เมิง ก็ บอก กู ด้าย แล้ว” พี่แน็ตถอยหน้าออกห่างผมเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น

“ขู่อย่างกับแมวเลยนะ”

“เมิง ว่า กู เหรอออ”

“เปล่าซะหน่อย” ผมพูดแก้ตัวก่อนจะรั้งเอวบางๆของพี่แน็ตมาจนแนบสนิทชิดกับตัวของผม

“อ่ะ ทำ ราย วะ”

“ก็กำลังจะบอกไงว่าน่ารักตรงไหนบ้าง”

“อ่ะ บอก มา เด”

“ก็น่ารักตรงนี้” ผมพูดก่อนจะจูบลงเบาๆที่หน้าผากของพี่แน็ต

“คิกๆๆ จั๊กจี้”

“หึ”

“แล้ว ตรง หนายย อีกก”

“ตรงนี้” ผมพูดก่อนจะกดจูบลงที่แก้มเบาๆ

“ตรง หนาย อีกก”

“ตรงนี้” ผมพูดก่อนจะกดจูบลงที่ซอกคอขาวๆนั่น พร้อมกับฝากรอยไว้เบาๆ

“โอ๊ยยย เจ็บน้า”

“ขอโทษครับ”

“มี ที่ อื่น อีกมั้ย??” พี่แน็ตยังคงถามต่อ

“มี”

“ตรงหนายยยย??”

“ก็ตรงนี้ไง” ผมพูดก่อนจะบดจูบลงกับปากของพี่แน็ตอย่างรวดเร็วและร้อนแรง

ผมค่อยๆไล่ต้อนพี่แน็ตไปเรื่อยๆอย่างมีชั้นเชิง พี่แน็ตก็คอยจะหลบหลีกสัมผัสจากผมจนสุดท้ายหนีไปไหนไม่ได้เลยต้องลงเอย
ตรงที่ยอมให้ผมดูดดึงลิ้นเล็กนั้นจนพอใจ

“แฮ่กๆๆ” พี่แน็ตหอบหายใจแรงทันทีที่ผมปล่อยให้เป็นอิสระ

“ผมชอบพี่มากเลย” ผมพูดพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งรั้งหลังบางเอาไว้ ส่วนอีกข้างที่ยังว่างก็เลื้อยเข้าไปใต้เสื้อฮู้ดช้าๆ

“อื้อออ” พี่แน็ตครางออกมาแผ่วเบาพร้อมกับแอ่นตัวขึ้นมารับสัมผัสที่ผมมอบให้

“ยกมือหน่อยเร็วแน็ต” ผมเริ่มเรียกพี่แกแบบไม่มีคำว่าพี่นำหน้า ก็นะ ผมไม่ได้อยากได้เค้าเป็นพี่นี่หน่า

“อือออ” แน็ตทำตามอย่างว่าง่าย ผมจึงรีบถอดเสื้อฮู้ดตัวหน้าออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนทันที

“น่ารักไปทั้งตัวเลยนะเนี่ย” ผมพูดก่อนจะก้มลงใช้ลิ้นหยอกล้อกับหน้าอกเนียนอย่างมีชั้นเชิง

“อ๊ะ อ๊า อย่ากัด อื้มมมม” แน็ตสอดมือเข้ามาใต้เส้นผมของผมก่อนจะขยำอย่างแรงเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ผมมอบให้

“ทำไมถึงได้อร่อยไปทั้งตัวแบบนี้” ผมละปากจากอกสวยก่อนจะผงกหัวขึ้นมามองหน้าแน็ตที่ตอนนี้ปากแดงเจ่อกำลังเผยอออก
นิดๆราวกับเชิญชวน ส่วนตาก็ช้ำเยิ้มไปด้วยแรงปรารถนา

“อย่ายั่วผมแบบนั้นซิ” ผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะบดจูบลงบนปากแดงนั้นอีกครั้งโดยที่มือก็ยังคงหยอกล้อกับอกเนียนอยู่ไม่ห่าง

“อ๊ะ เมฆ พอ ก่อนน” แน็ตเอามือขึ้นมาดันอกผมไว้เบาๆ

“ทำไมล่ะครับ” ผมก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างๆหูของแน็ตก่อนจะกดจูบลงเน้นๆ

“กะ..ก็...อื้มมมม” ไม่ทันที่ปากเล็กจะได้พูดอะไรออกมามากกว่านี่ผมก็รีบก้มลงดูดดึงด้วยความโหยหาซะก่อน

“อึดอัดมั้ย??”

“อืมมม” แน็ตพยักหน้ารับรัวๆ

“งั้นเดี๋ยวเมฆถอดกางเกงให้นะ” ผมพูดก่อนจะก้มลงดูดดึงที่หน้าท้องแบนราบพร้อมกับใช้มือปลดตะขอกับซิปออกไปด้วย

“อ๊ะ อื้มมม” แน็ตยังคงครางออกมาอย่างต่อเนื่องและนั่นก็ช่วยปลุกอารมณ์ของผมได้ไม่น้อยเลย

“ยกสะโพกขึ้นหน่อยนะคนดี” ผมพูดเสียงนุ่มแน็ตจึงยกสะโพกตามอย่างว่าง่าย ผมค่อยๆดึงกางเกงเดฟนั้นออกอย่างง่ายดายตาม
ด้วยบ็อกเซอร์ก่อนจะโยนมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ

ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะมองร่างที่นอนเปลือยอยู่บนโซฟาด้วยสายตาที่เร่าร้อน

“น่าฟัด ขาว น่ากินไปหมด” พูดจบผมก็ก้มลงดูดเม้ม สร้างร่องรอยไว้ตามร่างขาวอย่างหยุดไม่ได้

“อื้มมมมม อย่ากัดดิ” แน็ตพูดเสียงแข็งเมื่อผมเผลอกัดลงที่ท้องแบนราบ

“ขอโทษครับ” ผมพูดขอโทษก่อนจะก้มลงจุ๊บเบาๆที่ปาก

“ร้อนมั้ย??”

“อืมมม”

“งั้นไปห้องน้ำกัน” ผมอุ้มร่างบางของแน็ตขึ้นจากโซฟา แน็ตก็ผวาโอบรอบคอพร้อมกับซุกลงที่อกของผมทันที

เมื่อมาถึงห้องน้ำผมก็ค่อยๆวางแน็ตลงก่อนจะดันจนหลังแน็ตไปชนกับผนัง ก่อนจะเปิดฝักเบาที่อยู่ด้านบนเราสองคนให้ไหลเบาๆ

“หายร้อนรึยัง?” ผมพูดข้างหูก่อนจะกดเน้นลงที่แก่นกายของคนตัวเล็ก

“อ๊า อ๊ะ อย่าจับตรงนั้น” แน็ตครางออกมาะพร้อมกับโผเข้ามาซุกกับอกผมอย่างหมดแรง

“ทำไมเหรอ?” ผมถามกลับกวนๆพร้อมกับเพิ่มแรงที่กดลงไปอีก

“สะ..เสียว อ๊ะ อ๊า อ๊า...” แน็ตครางออกมาจนเสียงดังก้องไปทั่วห้องน้ำ

“อยากเสียวกว่านี้มั้ย เดี๋ยวผมสอนให้” ผมพูดก่อนจะก้มลงถอดกางเกงนักเรียนกับบ็อกเซอร์ออก โดยที่มีแน็ตที่ยืนพิงผนังอย่าง
หมดแรงมองอยู่ตลอด

หลังจากถอดเสร็จผมก็ทาบตัวเข้ากับตัวแน็ตทันที จนกลายเป็นว่าตอนนี้เนื้อของเราทั้งสองคนแนบจนสนิทกันทุกส่วน สายน้ำจาก
ฝักบัวก็ไม่สามารถช่วยดับไฟในตัวของเราได้เลย

“อย่าเกร็งนะคนดี” ผมพูดปลอบเบาๆก่อนจะค่อยๆส่งนิ้วไปนวดคลึงเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง

“อ๊ะ อ๊า...” แน็ตเกร็งตัวพร้อมกับจิกเล็บลงบนหลังผมอย่างแรง

“อย่างเกร็งซิ” ผมพูดเบาๆก่อนจะก้มลงจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆส่งนิ้วเข้าไปด้านในช่องทางด้านหลังด้วย

“อ๊า ทำไมมันแน่นแบบนี้ล่ะ” ผมกัดฟันคำรามออกมาเมื่อผมใส่นิ้วเข้าไปจนสุดทางและนิ้วของผมก็โดนบีบรัดอย่างรุนแรง

“อ๊า อะไรอ่ะ เจ็บอ่ะ” แน็ตเงยหน้าขึ้นมองผมน้ำตาไหลลงเบาๆที่หางตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างสับสน

“เจ็บเหรอ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ” ผมถามก่อนจะเริ่มขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ

“อ๊า อ๊ะ อ๊ะ อย่าขยับ อ๊า...” แน็ตครางออกมาอย่างหนักพร้อมกับกอดผมแน่นขึ้นเพื่อพยุงร่างกายที่อ่อนเปลี้ยของตัวเองไม่ให้ร่วง
ลงไปกับพื้น

“หึ” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสามนิ้วตามลำดับ

“อ๊า อ๊ะ อึดอัดอ่ะ อ๊า ไม่ไหวแล้ว” แน็ตพูดพร้อมกับเอามือข้างที่ว่างไปขยับแก่นกายของตัวเองด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น จนในที่
สุดก็ปลดปล่อยออกมา

“อ๊า” แน็ตกระตุกสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนเลอะเต็มขาไปหมด

“ชิงเสร็จคนเดียวได้ไง” ผมจับแน็ตให้หันหน้าเขาหาผนังก่อนจะป้ายน้ำรักของแน็ตเองไปที่ช่องทางด้านหลังแล้วจึงจับแก่นกาย
ของผมถูไปมาช้าๆ

“อ๊า อื้มมมม จะใส่เข้าไปแล้วนะ” ผมพูดเบาๆก่อนจะค่อยๆดันแก่นกายเข้าไปในทางรักของแน็ต

“อ๊ะ เจ็บอ่ะ” แน็ตพยายามจะถดตัวหนีแต่ผมก็รีบจับไว้พร้อมกับบีบแค่นสะโพกเล็กไปด้วย

“อ๊า ใกล้สุดแล้ว” ผมคำรามออกมาช้าๆก่อนจะทนไม่ไหว กดลงไปทีเดียวจนมิด ทำให้คนตัวเล็กด้านหน้าถึงกับขาสั่นเลยทีเดียว

“อ๊า จุกอ่ะ”

“จุกแต่ก็เสียวใช่มั้ยล่ะ” ผมถามอย่างหยอกล้อก่อนจะเริ่มขยับกายช้าๆ

“อ๊ะ อ๊ะ เมฆ เร็วๆหน่อย เร็วอีกก” แน็ตพูดสั่งผมอย่างเอาใจ

“ตามบัญชาครับผม” ผมตอบรับก่อนจะเร่งจังหวะจนแน็ตตัวสั่นด้วยความเสียวซ่าน

“จะเสร็จแล้ว อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว อ๊า” แน็ตร้องออกมาเสียงดังก่อนจะปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง

“ทำไมเสร็จบ่อยจัง ขอผมเสร็จบ้างนะ” พูดจบผมก็เร่งจังหวะอย่างเร็วจนแน็ตครางออกมาไม่เป็นภาษาก่อนที่ผมจะเกร็งและ
กระตุกสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยใส่ในช่องทางด้านหลังของแน็ตจนหมด

“อ๊า มันส์ชะมัดเลย ขออีกรอบนะพี่” ผมไม่รอฟังคำตอบค่อยๆเริ่มขยับอีกครั้งและเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ

และกว่าจะเสร็จกิจกรรมกันก็ปาไปเกือบเช้า อันที่จริงผมยังไม่อิ่มเลยนะ แต่คนตัวเล็กผู้ถูกกระทำของผมน่ะสิ ไม่ไหวหลับไปซะ
ก่อนผมเลยต้องหยุดกิจกรรมไว้


เอาเป็นว่าฟื้นเมื่อไหร่เราค่อยมาต่อกันอีกทีละกัน






............................................................End of Special Part.....................................................................

อ่านะ  :hao6:

ใครที่เชียร์น้องโจกะอีเด็ก 17 คนนี้อยู่ก็ เสียใจด้วยเน้อออ 5555+  :z2: เพราะน้องแน็ตของเราได้คาบไปกินเรียบร้อยแล้ว

หวังว่ามันคงจะเบรคอารมณ์ขุ่นมัวจากคู่หลักได้บ้างน้าาา  :m31: :m16:

ส่วนคู่หลักเดี๋ยวจะคลานมาอัพและรีบจรลีออกไปอย่างรวดเร็ว (ไม่งั้นมีตาย  :z10:)

ปล.อย่าเกลียดผู้หญิงคนนั้นเลย เพราะผู้หญิงคนนั้นอ่ะ คนเีขียนเองแหละ (อ๊ากกก กระโดดหลบรองเท้า  :z6:)
ปล2.อันบนนั่นล้อเล่นนะ (ถึงจะแอบคิดจริง  :a5:)




รักคนอ่านนะ :mew1:





KATIEZZ


ออฟไลน์ GimNgek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
รอตอนน้องโจนะ เสียดายน้องเมฆเรียบร้อยไปแล้ว

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยยยยยย แน็ตตตต ได้สามีซะและหึหึ
ของด่าป๊อนส์ก่อนได้มะ เลวมากกกกกก
พีเจ จัดการเลย  โจ เลิกกก เลิกเลย
ป๊อนส์แม่ง เลวเหมือนเดิมมม

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด