Chapter 18 : Heaven on Earth“พ่อจ๋า.....พ่อจ๋าทำไรอ่ะ”
“หึหึหึ......อยู่นิ่ง ๆ นะน้องเอิร์ธ.....ถ้าเสียงดังล่ะก็ คุณแม่จะตื่นขึ้นมานะ”
“ครับ”
“เด็กดี.....เดี๋ยวพ่อจะซื้อของเล่นที่หนูอยากได้ให้นะลูกนะ”
เด็กน้อยในตอนนั้นเพิ่งจะอายุเพียง 6 ขวบ เขาไม่รู้หรอก ว่าสิ่งที่พ่อทำกับเขาคืออะไร เขาไม่มีสิทธิ์ดูแม้แต่หนังเรทพีจีสิบสามด้วยซ้ำ อวัยวะเพศของบิดากำลังถูไถร่องก้นของเขา เสียงลมหายใจประหลาดทำให้เขารู้สึกรังเกียจ แต่เพราะเขารักพ่อ และพ่อก็รักเขา เด็กน้อยจึงต้องทน แม้ว่าสัญชาติญาณลึก ๆ แล้วเขารู้สึกขยะแขยงเต็มกลืน
.
.
.
.
.
.
“เป็นไงวะตัวเล็ก.....พออยู่ได้ม๊ะ”
“สบายยยย”
ฉัตรดูตื่นเต้นกับที่หลบภัยแห่งใหม่ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ แบบนี้ ชีวิตที่ใจหวัง ไม่มีเกล้ามาคอยบงการสั่งว่าต้องทำอะไร.....
“บ้านญาติหินนี่สวยจัง....”
“เออ....เตรียมไว้เพื่อมึงโดยเฉพาะ”
บ้านญาติหินเป็นไม้เกือบทั้งหลัง.....ปลูกสไตล์กระท่อมตะวันตก คล้าย ๆกับหนังเรื่องผีอมตะ เป็นบ้านชั้นเดียว แต่กว้าง....และมีห้องใต้ดิน
“พ่อกูเขาเพิ่งสั่งเปิดน้ำไฟให้ มึงไปอาบน้ำซะสิ เน่ามาทั้งคืนแล้วนี่”
“หินจะอยู่กับเราตลอดเลยใช่มั้ย”
“เออ”
“ถ้าไปไหนให้เราไปด้วยนะ.....เราไม่อยากอยู่คนเดียว”
“รู้แล้วน่า....ไปอาบน้ำเถอะไป”
หลังอาบน้ำเสร็จ ฉัตรก็ลากหินไปสำรวจรอบ ๆบ้าน หินได้แต่เดินตามฉัตรต้อย ๆ อย่างเซ็งจัง แต่ทว่าก็อดเอ็นดูเจ้าเด็กน้อยอย่างฉัตรไม่ได้ หมอนี่เคยเจอโลกภายนอกบ้างหรือเปล่า ชีวิตน้อย ๆ ของมันเคยได้ก้าวพ้นจากโลกของไอ้สารเลวนั่นบ้างไหม หินต้องทำเป็นเออออไปกับฉัตร ทั้งที่ตัวเขานั้นคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี
เงียบสงบ.....ห่างไกลจากตัวเมืองและผู้คน.....เป็นสถานที่ที่เหมาะเจาะ สำหรับการหลบภัยและ......
“หิน.....มีต้นไม้ใหญ่ด้วย.....”
“เออ.....ตื่นเต้นมาก”
“ต้นอะไรวะหิน”
“มะขามไง.....ไม่หิวเหรอมึงอ่ะ.....เดี๋ยวกูพาไปหาอะไรแดกที่ตลาด....สนมั้ย”
“หิน.....”
“เออ ๆ ๆ.....ฮะไรอีก”
“เราอยากทำมานานแล้ว.....หินช่วยเรานะหินนะ”
.
.
.
.
.
.
“นี่อากร.....เพื่อนของพ่อเอง น้องเอิร์ธสวัสดีอากรสิครับ”
“หวาดดีฮับอากอนนนนน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....ลูกนายนี่น่ารักจริง ๆนะ น่ารักอย่างที่นายบอกไว้ทุกอย่างเลย”
เด็กชายไม่เคยสนิทกับผู้เป็นแม่ เนื่องจากหล่อนค่อนข้างมีอายุเยอะ เยอะกว่าพ่อของเขาหลายปี แถมยังไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน หลายครั้งที่ต้องบินไปต่างประเทศ พ่อบอกว่าแม่ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาให้พวกเขาใช้ ส่วนพ่อนั้นมีหน้าที่ดูแลเขา จึงไม่ต้องทำงาน พ่อมักออกไปสังสรรค์กับเพื่อน บางครั้งก็พาคนพวกนั้นมาที่บ้าน ตอนที่แม่ไม่อยู่ โหวกเหวกโวยวายเสียงดัง เด็กน้อยไม่ชอบเลยตอนที่พ่อเมา เพราะพ่อมักจะทำอะไรแปลก ๆ กับร่างกายของเขาเสมอ ครั้งหนึ่ง....พ่อเคยใส่มันเข้ามา เขาเจ็บ และดิ้นรนขัดขืน พ่อจึงยอมถอนมันออกไป และสั่งไม่ให้เขาบอกใคร
ในบรรดาเพื่อนของพ่อ อากรคือคนที่เข้ามาหาพ่อบ่อยที่สุด อากรเอ็นดูและรักเขาเหมือนกับที่พ่อรักเขา ชอบซื้อของเล่นให้ และพาเขาไปเที่ยวตอนที่พ่อไม่ว่าง
“ไหนพ่อบอกว่าไม่ต้องทำงานไงฮะ”
“หึหึ...เด็กดี...พ่อหนูเขามีธุระนิดหน่อยน่ะ”
ครั้งหนึ่งเขาเคยตื่นขึ้นมากลางดึก.....เขาเห็นอากรกบพ่อกำลังกอดรัดกันในสภาพเปลือยเปล่า พ่อของเขากำลังจุ๊บปากกับอากรด้วย
“อ้าวน้องเอิร์ธ.....เห็นหมดแล้วสินะ”
“เข้ามาเล่นด้วยกันสิเด็กดี
.
.
.
.
.
ฉัตรมองลงมาอย่างหวาดเสียว ถึงแม้ว่ากิ่งที่เขายืนอยู่นั้นจะเป็นกิ่งที่อยู่ต่ำสุดก็เถอะ ไอ้ตัวเล็กค่อย ๆเขยิบตัวมาจนกระทั่งถึงกึ่งกลางของกิ่ง หินกำลังมองขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ฉัตรยิ้มแฉ่งก่อนจะกระโดดลงมาพร้อมกับร่มคันใหญ่......
ตุ่บ
“อูยยยยย”
“กูบอกมึงแล้ว”
“หินนั่นแหละ.....แทนที่จะเขยิบเบาะมาให้ตรง”
“โทษกูอีกซะงั้น......เข็ดรึยังล่ะพ่อนักกระโดดร่ม ไปแดกข้าวไป”
“ครับผม”
หินพาฉัตรขับรถเล่นกินลมรอบเมือง พาไปหาของกินอร่อย ๆ ซื้อขนมมาตุนจนแน่นรถ ยืนตากลมหน้าเขื่อนจนผมปลิวยุ่ง ฉัตรไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน เจ้าตัวเล็กสูดลมจนเต็มปอด ก่อนจะตะโกนออกมาจนสุดเสียง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
สบายใจชะมัด ถึงแม้ว่าหลังจากนี้เกล้าจะตามหาเขาจนเจอแล้วจับตัวกลับไปได้อีกก็ช่างมันเถิด แค่นี้ก็คุ้มแล้วล่ะ สำหรับช่วงเวลาสั้น ๆที่ได้เป็นอิสระ
ได้ทำงานพิเศษ....ไม่สิ....เป็นงานประจำต่างหาก ถึงจะแค่สองเดือนกว่า ป่านนี้หัวหน้าแผนกคงด่ายับแล้วล่ะมั้ง แต่ฉัตรก็ทำงานให้ฟรีตั้งเกือบครึ่งเดือนเชียวนะ
เรื่องสอบคงไม่ได้ไปแล้ว และเรื่องเรียนก็คงต้องพักไปก่อนอีก รอให้จัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งเรื่องเกล้า.....ทั้งเรื่องสภาพจิตใจ
พ่อกับแม่จะเชื่อไหม.....แล้วถ้าพูดไปแล้วพวกท่านจะโกรธฉัตรหรือเปล่า ถ้าหากว่าพวกท่านไม่เชื่อล่ะ......ไม่หรอก คนที่ควรจะกังวลในเรื่องนี้ มันควรจะต้องเป็นเกล้าสิ พ่อต้องเชื่อฉัตร เพราะพ่อรู้ดีว่าลูกรักของพ่อเป็นคนแบบไหน
ถ้าไม่ทำแบบนี้ เกล้าคงไม่หยุด พ่อกับแม่อาจเสียใจ แต่ทุกอย่างต้องดีขึ้น เกล้าจะต้องได้รับการรักษา
“หิน....มันรู้สึกดีมากจริง ๆนะ.....หินลองทำดิ.....ตะโกนออกมาดัง ๆ จากกระบังลมแบบนี้ไง.....อ๊ากกกกกกกกก”
“เออ.....มึงทำไปเถอะ.....ตอนนี้กูโอเคแล้ว”
“ขอบคุณหินทุกอย่างเลยนะ ถ้าไม่มีหิน ป่านนี้เราคงกลายเป็นคนเร่ร่อน....ไม่ก็คงต้องทนอยู่กับเกล้า.....”
หินลูบหัวฉัตร ก่อนจะดึงตัวเข้ามากอด ลมแรงจนฉัตรต้องซุกหน้าเข้าหาเกราะกำบัง พวกเขาราวกับคู่รักที่ยืนชมวิวยามพระอาทิตย์ตก แต่แถวนั้นก็ไม่มีใครอื่น หินจึงจูบฉัตร
“หินนั่นแหละคิดอะไรกับเราแหง”
“เออ.....ก็นิดนึง”
“เราเป็นผู้ชายน่าหิน.....หินอกหักแล้วล่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
น่าแปลกที่ฉัตรไม่รู้สึกโกรธหรือรังเกียจ ยิ่งได้รู้ปมในใจของหิน ฉัตรก็ยิ่งสงสารและรักหินมากขึ้น รักเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะรักได้ มิหนำซ้ำยังรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้ใครสักคนได้บ้าง แต่จะเพียงเล็กน้อยก็เถอะ
“กลับไปนอนกินขนมให้พุงกางดีกว่า”
“มีทีวีมั้ย”
“หึยยยยย.....กูเอาติดมาด้วยน่า”
“มีเคเบิลช่ายป่ะ”
“เรื่องมากนะมึงอ่ะ”
.
.
.
.
.
.
ถ้าเป็นเด็กดี พ่อจะไม่ตีหนู.....ถ้าป็นเด็กดีหนูจะได้ทุกอย่าง
อากรมองเขาอย่างเห็นใจ ก่อนจะทายาให้
พ่อสั่งเขาเลียไอ้หนูของพ่อกับของอากร เขาไม่ยอมทำ พ่อก็เลยโกรธ เขาไม่เคยเห็นพ่อโกรธขนาดนี้ และไม่เคยถูกพ่อตบหน้ามาก่อน พ่อเดินหัวเสียออกไป เหลือไว้เพียงเขากับอากร
“หมดอารมณ์แล้วห่าเอ๊ย”
“เออ ๆ กูจัดการเอง มึงแม่งใช้อารมณ์ตลอด เด็กมันก็กลัวสิวะ”
อากรบอกเขา ว่าเขาควรจะทำอะไร เวลาที่พ่อสั่ง อากรเดินออกไป แล้วกลับมาพร้อมกับน้ำผึ้ง อากรเทมันลงตรงนั้น แล้วสั่งให้เขาเลียให้หมด
“คิดว่ามันเป็นขนมสิครับ เลียให้เกลี้ยง แต่ห้ามกัดนะ ทำแบบนี้แล้วพ่อจะไม่โกรธ เชื่ออานะ”
“ครับ...ฮึก....ฮึก”
เขารักอากร รักและเชื่อใจ
เขารักพ่อ รักและเชื่อใจ
แต่ผู้ชายสองคนนี้กลับทำลายความเชื่อใจของเขาจนย่อยยับ วันนั้นพ่อพาเขาไปยังที่แห่งหนึ่ง พ่อบอกว่ามันเป็นเหมือนชมรม
เขาเห็นเด็กผู้ชายสองคน ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกล่ามโซ่เอาไว้ และมีสภาพตื่นกลัว ท่ามกลางผู้ชายนับสิบที่ไม่สวมเสื้อผ้า เขาเห็นอากรกำลังยิ้มให้เขา หลังจากเงยหน้าขึ้นจากถาดที่มีผงสีขาวกองอยู่
“เอ้า....ให้ลูกมึงถอดเสื้อสิ”
.
.
.
.
.
“หิน......หินว่าเกล้าจะตามเราเจอมั้ย”
ฉัตรเอ่ยถาม ขณะที่พวกเขากำลังเข้านอน ฉัตรเดินตรวจแล้วตรวจอีก ว่าประตูทุกบานถูกล็อค หน้าต่างถูกลงกลอนเรียบร้อย แต่หัวใจของฉัตรก็ยังรู้สึกหวาดกลัวแปลก ๆอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้ามันจ้างนักสืบก็อาจจะใช้เวลาประมาณนึงมั้ง”
“อย่าล้อเล่นสิ....เราซีเรียสนะ”
“มันจะรู้เหรอว่าเรามาอยู่กันที่นี่ จังหวัดนี้มันก็ออกจะใหญ่โต ยิ่งกว่าในกรุงเทพ ขนาดในกรุงเทพนะ ถ้าไม่มีพวกห่าถ่ายรูปมึงลงเฟสบุ๊ค ไอ้เกล้าก็คงจะไม่มีวันตามมึงเจอ.....ถึงเจอก็ยากอ่ะ”
“แล้วถ้าเกล้าไปหาพ่อกับแม่หินล่ะ”
“ก็ลองดู.....ต้องผ่านด่านนักมวยเป็นสิบ.....น้องมึงไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่นะเฮ้ย....มึงคิดว่าห่าเกล้าแม่งเป็นจา พนมรึไง”
“เออ....เนอะ”
“นอนเถอะ เดี๋ยวกูเกาหัวให้ มึงจะได้หลับเร็ว ๆ เบื่อมึงจะแย่แล้ว....”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....นอนก็ได้ฟะ”
หินรอจนแน่ใจ แน่ใจว่าฉัตรนั้นหลับแล้วจริง ๆ เขาจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ เพื่อส่งข้อความหาใครบางคน
“พี่ของมึงอยู่กับกูที่ XXX แน่จริงก็ตามมาสิ”
ขอโทษนะฉัตร......กูจำเป็นต้องทำแบบนี้.....
ขอโทษมึงด้วยนะไอ้เกล้า.....
.
.
.
.
.
(END)
พอคุ้น ๆไหม...อากร...กับทินกร
หุหุหุหุ ก็อย่างที่เดากันไว้นั่นแหละ
เน็ตแอร์การ์ดอัพยาก พรุ่งนี้ค่อยมาอีดิทพวคำผิดนะคะ
