ตอนจบจ้า
Chapter 28 : Last Playแด่พี่ชายผู้หอมหวาน.......
ของขวัญวันเกิดที่เกล้าต้องการมากที่สุดก็คือหัวใจของฉัตรมงคล.....
[เมื่อครั้งยังเป็นละอ่อน]
“โย่หมาฉัตร....มานั่งทำหน้าซื่อบื้ออะไรตรงนี้”
ณ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เกล้ายังไม่ได้ร่วมรักกับฉัตร(มันยังไม่ถึงวัยน่ะ----อะไร ๆ มันก็ยังเบบี๋) แต่เป็นช่วงที่เกล้าสนุกกับการกลั่นแกล้งพี่ชายไปวัน ๆ เสียมากกว่า น้อยมากที่เด็กชายทินกรจะคิดอะไรลามกกับพี่ เว้นเสียแต่พฤติกรรมบางอย่างที่เป็นไปตามสัญชาติญาณ ก่อนจะพัฒนาระดับมาเป็นการละเล่นแบบติดเรท....ติดเรททีละนิด....จากพีจี 13 เป็นอาร์ ท้ายสุดก็มาเป็นเรทเอ็กซ์แบบอันเซ็นเซอร์
“ขอดูกระปู๋ฉัตรหน่อยดิ๊”
“ไม่เอาเกล้า.....อย่า”
“ไม่เอานะเกล้า....อย่านะเกล้า....ซื่อบื้อเอ๊ย....ถกกางเกงตัวเร็วดิ”
“ไปให้พ้น!!!”
ฉัตรอาย จะไม่ให้อายได้อย่างไร ก็นี่มันที่โรงเรียนนี่นะ ถึงจะเป็นในหอคอยเด็กเล่นก็เถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ใครจะมาเจอเสียเมื่อไหร่กัน ทินกรพยายามจะดึงกางเกงนักเรียนตัวจิ๋วของพี่ชาย แต่ฉัตรก็เกร็งตัวแน่น จนแทบจะขดเป็นก้อนกลมดิ๊ก....หึ....น่าแกล้ง....น่าขยำขยี้
ที่เกล้าคอยกันฉัตรจากคนอื่น ๆ ก็เพื่อการนี้ เพื่อที่จะเก็บฉัตรเอาไว้เล่นเองคนเดียว
เกล้าไม่ชอบแบ่งของเล่นกับใคร
เกล้าเท่านั้นที่แกล้งฉัตรได้ เพราะเขาทำได้ดีกว่าผลักให้ล้ม หรือชกต่อย ทำได้ดีกว่าถลกกางเกงต่อหน้าสาว ๆในห้อง ไม่อยากให้ใครเห็นตรงนั้นของฉัตร นอกเสียจากเขาเท่านั้น ฉัตรร้องไห้เพราะคนอื่น น้อยกว่าที่ร้องไห้เพราะเขาเสียอีกแน่ะ คิดแล้วมันน่าภูมิใจไหมล่ะ
แล้ววันนี้ เกล้าก็เพิ่งมีเรื่องกับแก๊งค์เด็กอ้วนหัวโจก ที่ขนาดตัวไล่เลี่ยกัน ไอ้พวกนั้นชอบมาวุ่นวายกับฉัตรของเขา แน่นอน....เกล้าชนะ เด็กอ้วนนั่นแรงเยอะ แต่เกล้าแข็งแรงกว่า และบ้าระห่ำกว่าหลายเท่านัก ซึ่งเด็กพวกนั้นก็ดูจะเคืองอยู่ไม่น้อย
“ขอดูหน่อยน่า....เค้าเพิ่งช่วยฉัตรจากพวกมันเมื่อบ่ายนี้เองนะ...หรืออยากโดนต่อยวะฉัตร”
“อื่อ...แป๊บเดียวนะ” ฉัตรดึงกลางเกงลงอย่างอิดออด เด็กน้อยกลัวจะมีใครสักคนปีนขึ้นมาเห็น แค่นี้ชีวิตในโรงเรียนประถมของเขา มันก็แสนจะทรมานจะแย่อยู่แล้ว ถึงจะมีเกล้าคอยปกป้องก็เถอะ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่ต้องทนกับสายตาแปลก ๆ ที่เด็กคนอื่นมองมายังเขา เกล้าไม่ทนรอ เขาดึงกระชากกางเกงนักเรียนของฉัตรลงมาอย่างขัดใจ
“เล็กว่ะ”
“เคยบอกแล้ว”
“ดีดให้เอามั้ย....จะได้บวม ๆ”
“ไม่เอา!!!!”
“ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วยวะหมาฉัตร”
“เกล้าลงไปเล่นกับเพื่อนดิ๊....พี่อยากอยู่คนเดียว”
“หมั่นไส้หมาฉัตรว่ะ....ทำเป็นเก๊ก”
เด็กชายทินกรชะโงกหน้ามองด้านล่าง ไม่มีวี่แววของเด็กคนอื่นอีก ป่านนี้พ่อแม่พวกนั้นคงทยอยกันมารับกลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว เด็กน้อยหันกลับมามองพี่ชายที่เอาแต่นั่งกอดเข่า ด้วยใบหน้ากระหยิ่มยิ้ม
“หมั่นเขี้ยววววว”
“เจ็บบบบบบ”
เขากอดรัดไอ้ตัวผอมเต็มแรง ฟัดแก้มยุ่น ๆของฉัตรน้อยอย่างไม่ยั้ง หอมจนเนื้อแก้มหายเข้าไปในรูจมูกน้อย ๆ
“จะบอกคนอื่นว่าเกล้าติดพี่....เพื่อนไม่คบตัวแน่....เพราะตัวมันไม่เท่ห์”
“ใครจะไปเชื่อไอ้หมาฉัตร ตัวนั่นแหละที่ไม่เท่ห์ จุ๊ดจู๋ก็เล็กนิ๊ดดดด”
“จะฟ้องพ่อ”
“ลองดิ...จะต่อยให้หน้ายู่เลย”
“ฮึก....ฮึก....แง๊”
“โห่.....หมาฉัตรขี้แยว่ะ”
“เกลียดเกล้า...ไปให้พ้นเลยไป....ไอ้หมาเกล้า....แง๊”
ปวดใจเหลือเกิน ที่ถูกพี่ชายบอกแบบนั้น ไม่นานหรอก หัวใจของเขาก็คงชาชิน อย่างไรเสีย น้ำตาของเจ้าลูกหมาฉัตร ก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากกว่า หักลบกันแล้ว ก็ยังนับว่ากำไรเนาะ ๆ
“ไปเถอะ...พ่อมาแล้ว” ทินกรส่องมองด้านนอก ผ่านจากพลาสติกใสอย่างหนาที่ทำเป็นหน้าต่างหอคอย
“ไม่ไป....ไม่กลับ....จะไปไหนก็ไปเลย”
“ตามใจนะ”
“แง๊.....เกล้าทิ้งพี่....ฮึก....พี่จะฟ้องแม่....ฟ้องจริง ๆด้วย.....”
“โว๊ะ....ตัวก็ตามลงมาดิวะ”
“ไม่!!!!”
เอายังไงกันแน่หมาฉัตร....พ่อหนูทินกรเริ่มหงุดหงิด พอเขาจะไปก็มาคว้าชายเสื้อเอาไว้
แบบนี้มันปากอย่างใจอย่างนี่หว่าเฮ้ย
.
.
.
.
.
[บางที...เกล้าก็เป็นคนละมุนละม่อม]
“ฉัตร....หวานนนนนนจัง”
แม่น่ะสิ...เพิ่งซื้อคาราเมลไซรัปขวดใหม่มา สำหรับทำขนมเค้ก พอดีเลย....เกล้าน่ะเบื่อช็อคโกแล็ตเต็มแก่แล้ว
ปกติจะชอบเทราดตรงนั้น แล้วให้ฉัตรเลียกินมากกว่า แต่วันนี้เขาอยากจะชิมฉัตรบ้างน่ะสิ
เลียยอดอกสีอ่อนซีด....หน้าท้องแบนราบ.....แต่เว้นตรงหนอนชาเขียว(เขาชอบเรียกให้ฉัตรเจ็บใจเล่น ๆ)ที่กำลังสั่นกระตุกเอาไว้ บางทีฉัตรก็ควบคุมร่างกายไม่ได้ ไม่อาจอดทนต่อความรู้สึกแปร่ง ๆ ความเสียวซ่านแบบแปลก ๆ ตอนที่ถูกกระทำไม่ต่างจากของเล่น หรืออาหารว่าง
“มดขึ้นแน่ โดนมดกัดจู๋บวมแน่มึง”
แค่เอานิ้วสะกิดอย่างแผ่วเบา น้ำรักของหนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดก็ไหลทะลัก ออกมากเสียจนน้องชายยังอดตกใจไม่ได้ สุดท้ายเกล้าก็หัวเราะคิกอย่างเจ้าเล่ห์
“บ่มิ๊ไก๊....ตัวมันไร้น้ำยาว่ะ”
“เกล้า...”
“เงี่ยนเหรอ....อยากโดนกระแทกแรง ๆสินะ...อ้าขากว้าง ๆสิ”
ร่างกายนั้นตอบสนองโดยอัตโนมัติ ทินกรชโลมสารหล่อลื่นที่แอบฉกมาจากห้องของพ่อ แค่แบ่งมาใช้น่ะ เขาก็ชอบเล่นตลกแบบนี้กับผู้เป็นพ่อเสมอ ป่านนี้ตาแก่นั่นคงจะคลั่งตายไปแล้วล่ะมั้ง เกล้าชอบทิ้งร่องรอยบางอย่าง เพื่อให้พ่อตะหงิดใจว่าเขาอาจจะล่วงรู้......รู้เรื่องชั่ว ๆของพ่อ ครั้นพอถูกอีกฝ่ายมองอย่างจับผิด เขาก็ตีหน้าซื่อตาใส ไม่รู้ไม่ชี้
“ร้อนชิบ....ตรงนั้นของฉัตร”
“เกล้า....เบา ๆ....มันแน่นไปหมด”
“ตัวมันร่าน เพราะงี้ไง...เค้าถึงไม่รู้สึกผิดที่เอากับตัว เพราะเค้ารู้ว่าตัวก็ชอบใช่มั้ยล่ะหมาฉัตร”
วันนี้เขาจะเลิกตามใจตัวเองหนึ่งวัน เขาอยากเห็นพี่ชายมีความสุข ความสุขที่เจ้าตัวพยายามที่จะปฏิเสธมาโดยตลอด อยากเห็นไอ้ลูกหมากลืนน้ำลายตัวเอง ตอนที่ถึงจุดสุดยอดซ้ำ ๆ เพราะฝีมือเขา
เริ่มจากบดสะโพกช้า ๆ สลับกับสาวขึ้นแล้วดันลงไปจนสุด ทำอย่างนิ่มนวล ไม่กระแทกกระทั้น มองดูพี่ชายที่บิดไปมาด้วยความสุขแทบขาดใจ
“ของฉัตรแข็งอีกแล้ว....ดูสิ”
“ฮึก....เกล้า....พอแล้ว.....พอที”
“ตัวอย่าร้องสิ.....ไม่ใช่เรื่องน่าละอายซักหน่อย....ก็แค่ยอมรับว่าชอบ....ขนาดร่างกายของตัวมันยังไม่โกหกเลยนะ”
“ฮืออออ...พอแล้ว....เอาออกไป....อึก....อ๊า.....ไม่เอาแล้วเกล้า”
“ปกติทำแรงกว่านี้ยังทนเลย....มึงเสียวสินะไอ้ตุ๊ดฉัตร....ฮ่าฮ่าฮ่า”
เขาใช้เวลาไปไม่น้อย กับร่างกายของฉัตร หยอกล้อเหมือนระลอกคลื่น เดี๋ยวแผ่วเบา...นุ่มนวล ประเดี๋ยวก็โมโหโกรธา...บ้าคลั่ง เพียงแต่วันนี้เปลี่ยนจากความรุนแรง เหลือเพียงจังหวะที่หนักแน่น ไม่ช้าร่างกายของพี่ชายก็อ่อนปวกเปียก ทินกรสาดใส่ความรักของเขาทุกหยาดหยด ลงบนร่างกายขาว ๆของฉัตร ฉัตรสั่นกระตุก น้ำตาที่ไม่ได้ไหลมานานหนักหนา บัดนี้พรั่งพรูอาบสองแก้ม เปียกผ้าปูเป็นดวง
“ร้องทำไม....รับไม่ได้ใช่มั้ยที่ตัวเองก็รู้สึกดี คราวนี้ตัวจะโทษอะไรเค้าได้ ครั้งอื่นตัวอาจโยนบาปให้เค้า แต่วันนี้บาปมันก็เป็นของตัวครึ่งนึง ไอ้ลูกหมา....ยังไงมึงก็ต้องตกนรกพร้อมกู....ไอ้หมาฉัตร”
“พี่เกลียดเกล้า”
“เกลียดตัวเองที่อ่อนแอดีกว่า ไอ้ลูกหมาน่าสมเพช กูจะเอามึงไปเรื่อย ๆ แล้วมึงก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขืน มึงเป็นเมียกูแล้วได้ยินไหม”
ทินกรดึงร่างของฉัตรมงคลขึ้นมาเขย่าอย่างบ้าคลั่ง แล้วเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นกอด หอมซ้ำ ๆ จนแก้มช้ำ เหมือนกับรักปานจะกลืนกิน ใช่...เขาทั้งรักทั้งหลงลูกหมาตัวนี้ ไอ้ลูกหมาที่ปากแข็งและดื้อเงียบ หัวรั้นและอวดดีเล็ก ๆ ทั้งที่มั่นใจควบคุมได้อยู่หมัด แต่บางครั้งก็เหมือนว่าฉัตรนั้นช่างเข้าถึงได้ยากเหลือเกิน
“ไม่ต้องร้อง หยุดร้องได้แล้ว ยังไงคืนนี้พ่อกับแม่ก็ยังไม่กลับมาหรอก ไป....ไปอาบน้ำ น้ำว่าวเต็มหัวเลย”
“ฮึก....ฮึก”
“กูบอกให้หยุดไงวะ”
“.....”
“จำไว้นะฉัตร เค้าจะบอกพี่อีกครั้ง....เป็นรอบที่ล้าน ว่าพี่เป็นของเค้า เค้าเป็นเจ้าชีวิตพี่ ไม่ต้องถาม...ไม่ต้องหาเหตุผล ยังไงพี่ก็เป็นของ ๆ เค้าวันยังค่ำ”
“พี่รู้เกล้า....ยังไงพี่ก็หนีเกล้าไม่พ้น”
“ดี....ดีแล้วที่ตัวรู้”
หัวใจที่ถูกทารุณซ้ำ ๆ สุดท้ายมันก็คงจะเลิกเจ็บ และกลายเป็นความชินชาในที่สุด ฉัตรพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วเกล้าก็ยิ้มให้....ยิ้มแบบที่ใครเห็นจะต้องตกหลุมรัก แต่สำหรับฉัตร เขาก็เป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ที่คอยตอบสนองคำสั่งของเกล้าก็เท่านั้น
อ้อมกอดที่อบอุ่น มันไม่ได้ทำให้ฉัตรอบอุ่น
เลิกหาคำตอบไปนานแล้ว ว่าทำไมน้องถึงได้ชอบแกล้ง
แต่บางครั้งฉัตรก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
ว่าทำไมบางที....เขาถึงได้คล้อยตามไปกับการปฏิบัติของเกล้า
เหมือนอย่างในวันนี้
.
.
.
.
.
[สุดปลายทาง]
ทินกรในวันนี้ ไม่เหลือเค้าเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างแต่ก่อน เขาเติบโตขึ้นทั้งวัยและความคิด ปีนี้เขาอายุยี่สิบเก้า ขณะที่ฉัตรนั้นสามสิบ
ฉัตรเปลี่ยนไปนิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ หากตอนอยู่มหาวิทยาลัย เขาดูเหมือนเด็กประถม ไม่ก็มัธยมต้น ฉัตรในวันนี้ก็ยังคงดูเด็กกว่าอายุจริงโข หากให้เดาเล่น ๆ คงต้องมีคนทายว่าเขาเพิ่งจะอยู่ชั้น ม.ปลาย เท่านั้นเองแหละ
ใช้เวลานานเหมือนกัน กว่าจะปรับสภาพจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ หมายถึงอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งพึงจะเป็น หลังจากที่บิดเบี้ยวมานานแสนนาน ฉัตรเข้มแข็งเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว อย่างที่หินเคยบอก เข้มแข็งกว่าหินเสียอีก
ทินกรสระผมให้พี่ชาย พวกเขาอาบน้ำร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายในวันนี้ เกือบสามปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้อาบน้ำร่วมกัน หากแต่วันนี้เป็นวันพิเศษ เกล้าขอร้องพี่ชาย และฉัตรก็ตอบตกลง เกล้าทำความสะอาดร่างกายของฉัตรจนเอี่ยมอ่อง เขามองเข้าไปในดวงตาของฉัตร ดวงตาที่สื่ออารมณ์ได้ดีมาแต่ไหนแต่ไร แววตาของฉัตรจ้องตอบอย่างใสแป๋ว เหมือนเด็กชายที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา
“วันนี้ตัวดูหล่อมากเลยรู้ไหม”
“เกล้าก็เหมือนกัน”
“วันนี้เค้ายอมให้ตัวหล่อกว่า....นอนมาพอแล้วเนอะฉัตรเนอะ”
“อื่อ”
“ไอ้หินต้องอึ้งแน่ที่เห็นตัวในวันนี้ “
“พี่ดูเท่ห์ขนาดนั้นเลย”
“ดูเหมือนคนที่พร้อมจะเริ่มชีวิตใหม่”
“ขอบคุณนะเกล้า สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”
“ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ”
“เกล้าก็หาแฟนซักคนสิ”
ฉัตรสวมชุดสีขาว เซตผมง่าย ๆ หน้าตานั้นดูดีและสดใสโดยไม่ต้องแต่งแต้ม ถึงแม้ว่าจะเป็นวันพิเศษ แต่คน ๆนี้มีความพิเศษอยู่แล้วในตัวเอง เกล้าประคองใบหน้าของฉัตรเอาไว้อย่างทะนุถนอม พร้อมกับมอบจุมพิตอันแสนนุ่มนวลเป็นการจากลา
“ไปเถอะ ป่านนี้พวกนั้นคงรอฉัตรอยู่ ไอ้หินก็ด้วย มันโทรมาสองครั้งแล้วตอนที่เราอาบน้ำกันอยู่”
“อื่อ”
เกล้าพาฉัตรมายังสถานที่โอ่โถงแห่งหนึ่ง ระหว่างทางเขาแวะรับน้องจอม เด็กหนุ่มที่สนิทกับหินคนหนึ่งขึ้นรถมาด้วย จอมเอ่ยชมฉัตรไม่ขาดปาก จนเจ้าตัวเล็กแทบจะลอยขึ้นฟ้าอยู่แล้ว
“พี่เกล้าก็หล่อนิ หล่อแบบโจร ๆดี”
“เออ....ไอ้สัด....น่าให้เดินไปเองเนอะ”
“หูยยยยย”
หินยืนหล่ออยู่ด้านใน พร้อมกับบรรดาแขกเหรื่อส่วนหนึ่งที่เป็นญาติสนิท กำลังช่วยจัดเตรียมพิธี ฉัตรยกมือไหว้แม่กับสามีใหม่ แม่ของพวกเขาเพิ่งแต่งงานใหม่ได้ปีกว่า กับเพื่อนสมัยวิทยาลัย เกล้ามองหาใครบางคน สุดท้ายก็เจอคน ๆ นั้นยืนพิงเสาพร้อมแก้วไวน์
“ขอตัวนะฉัตร หินกูฝากพี่กูด้วยนะ เทคแคร์มันนะเว้ย”
“เออ ๆ ๆ....ฉัตร....หล่อนะมึงอ่ะ หล่อกว่ากูอีกนะวันนี้”
“เบื่อแล้ว....มีแต่คนชม”
เกล้าเดินออกมา เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องคอยขนาบข้างฉัตร เขาทำหน้าที่ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาอดทนข่มความรู้สึกด้านมืดของตัวเอง ดูแลฉัตรอย่างที่น้องคนหนึ่งดูแลพี่ แรก ๆ อาจดูเหมือนว่าเขาดูแลฉัตรมากเกินไปด้วยซ้ำ ต่อมาเขาก็ปฏิบัติกับฉัตรอย่างพี่น้องปกติ แค่ทำกับข้าวให้ คอยปลุกไปทำงาน นอกนั้นพี่ชายของเขาสามารถทำอะไร ๆได้ด้วยตัวเอง
“มาจนได้นะพ่อ”
“เออ....วันนี้วันสำคัญ ไม่มามันคงเสียใจแย่ น้องฉัตรน่ะ”
“แล้วไม่เข้าไปคุยกับพี่เค้าล่ะครับ”
“ก็ว่าจะไป รอให้แม่แกเขาหลีกฉากไปก่อน”
“บ๊ะ....ไปดิ๊ตาแก่ โน่น....ฉัตรโบกมือให้แล้ว ไปไปไป....ไปให้พรลูกหน่อยสิว๊า”
“แกลืมเจ้าเอิร์ธไปแล้วหรือไง.....มันมองพ่ออย่างกับจะหินหัว”
“จริงด้วยสินะ....ลืมไปเลย....คิดว่าทุกคนจะลืมเรื่องพวกนั้นไปแล้วเสียอีก”
“พ่อมันเลว....เลวเองที่ทำทุกอย่างพัง”
“แต่สำหรับฉัตร ยังไงพ่อก็คือพ่อนะครับ.....ผมเองก็เหมือนกัน”
ว่าแล้วเจ้าเด็กโข่งก็หอมแก้มพ่อดังฟอด เล่นเอาหนุ่มใหญ่หน้าร้อนผ่าวด้วยความเขิน สักพักฉัตรก็เดินเข้ามาสมทบ กอดพ่อเสียแน่นให้สมกับที่คิดถึง พูดคุยกันตามประสาพ่อลูกไม่อยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก ก่อนที่พ่อของพวกเขาจะขอตัวออกไปนั่งด้านนอกกับแขกเหรื่อที่ทยอยกันมาเรื่อย ๆ
“พร้อมยังฉัตรชาย” หินบีบมือฉัตร เกล้ากับน้องจอมก็พากันออกไปหาที่นั่ง หินส่งยิ้มละมุนมาให้ ก่อนจะจูงมือฉัตรให้เดินไปด้วยกัน
“หินใส่สูทแล้วดูดีเนอะ ค่อยสมที่จะยืนเคียงข้างเราหน่อย ว่ามั้ย?”
“เออ....กวนตีน ตื่นเต้นใช่มั้ยมึงน่ะ”
“นิดหน่อย”
งานแต่งงานนั้นดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น พ่อของเจ้าสาวซึ่งเป็นพิธีกร กล่าวถึงคู่บ่าวสาวตามสคริปต์ที่ตระเตรียมไว้ เพลงจากวงดนตรีซึ่งเป็นเพื่อน ๆ ที่สนิทกันในมหาวิทยาลัยถูกเล่นเพลงแล้วเพลงเล่า ฉัตรขึ้นพูดอย่างประหม่าในฐานะเจ้าบ่าว เรียกรอยยิ้มจากคนที่มาร่วมงาน ทุกคนปรบมือเมื่อฝ่ายหญิงนั้นปรากฏตัวออกมาจากอีกด้านหนึ่ง
หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่สวย ทว่าดูหมดจรด เป็นผู้หญิงธรรมดาที่เปี่ยมล้นด้วยความดีงามจากภายใน...
เหมาะสมกับฉัตร....
ทั้งคู่พบรักกันในที่ทำงาน ก่อนจะคบหาดูใจกันหลายปีโดยที่ไม่ได้ร่วมหลับนอนกันเลยสักครั้ง ฉัตรตกหลุมรักในความดีของเธอ พอ ๆ กับที่เธอพ่ายแพ้แก่ความซื่อสัตย์ของฉัตร
เกล้าปรบมือหลังจากที่ทั้งคู่แลกแหวนแต่งงานและจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม น้ำตาของชายหนุ่มไหลเอ่อ หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดี แม่ของพวกเขาก็เช่นกัน เกล้าหันไปส่งยิ้มให้พ่อที่นั่งคนละโต๊ะ หันไปยิ้มให้หินที่ยืนอยู่บนเวที ภาพบนนั้นช่างสวยงามราวกับความฝัน เมื่อมองผ่านม่านตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแบบนี้
บาปทั้งหลายอาจจะไม่ได้รับการอภัย แต่ช่างเถอะ แค่ฉัตรอภัยให้ก็พอแล้ว
เกล้ารักฉัตรและจะรักตลอดไป ไม่ว่าจะในฐานะไหน
เกล้าจะรักฉัตรตลอดไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เกล้า....ตื่น”
เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นหลังจากรู้สึกตัว ทั้งจากอาการที่ฟื้นตัวขึ้น และทั้งจากเสียงของฉัตรที่ปลุกเขาขึ้นมากินข้าวและยา
ครั้งที่สองแล้วที่เข้าโรงพยาบาล ครั้งแรกนั้นไส้ติ่ง คราวนี้ก็ไข้หวัดใหญ่ จะว่าไป....เขานี่ก็อ่อนแอเหมือนกันนะ ดูอย่างฉัตรสิ เห็นแบบนี้แต่กลับไปค่อยเป็นอะไรหนัก ๆ กับเขาบ้างเลย
“เกล้านอนยิ้มอ่ะ เพ้อนะ.....พิษไข้ล่ะสิ”
“ตัวนอนโซฟาสบายมั้ยฉัตร บอกให้กลับไปนอนที่ห้องก็ไม่เชื่อ”
“พี่ปูที่นอนนอนข้างล่างต่างหาก แหม่....พี่ก็อยากจะดูแลเกล้ามั่งนิ”
“ขอโทษนะ....ลำบากฉัตรอีกแล้ว ทั้ง ๆที่ตั้งใจจะดูแลฉัตร แต่สุดท้ายก็มาป่วย ให้ฉัตรต้องเหนื่อยดูแลอีก แบบนี้เมื่อไหร่ฉัตรจะได้กำไรวะ”
“พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นหรอก แค่ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว เท่ห์ม๊ะ....เดี๋ยวนี้พี่มีคำคมประจำตัวแล้วนะเกล้า”
“หึหึ”
เขาหัวเราะอย่างฝืดฝืน พิษไข้ทำเอาฝันเฟอะฟะไปไหนต่อไหน ขนาดที่ว่าเก็บเอาเจ้าเด็กจอมที่ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ ว่าคุยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ
“เกล้าฝันถึงอะไร งานแต่งงานเหรอ”
“อื่อ”
“ของใครอ่ะ”
“หึ....ไม่บอก”
“ชิส์”
ใช่...ฉัตรพูดถูก แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ลืมเรื่องในอดีตไปเสีย แล้วทำดีกับฉัตรอย่างที่อยากจะทำจริง ๆ ไม่ใช่ทำเพื่อจะชดเชยบาปหรืออะไรก็ตาม เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของฉัตรอีกครั้ง ก็คุ้มค่ามากกว่าอะไรทั้งหมดแล้ว
อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ช่าง อย่าไปยึดติด สักวันฉัตรอาจจะพบเจอผู้หญิงดีดีสักคนหนึ่ง แล้วแต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัว มีชีวิตเป็นของตัวเอง
เขาก็เช่นกัน
ถึงตอนนั้นเขาก็คงจะยินดีกับฉัตร....ในฐานะน้องชายคนหนึ่ง
แต่ถ้าถามถึงความต้องการที่แท้จริงของเขา เขาแค่อยากดูแลฉัตรตลอดไป ใช้ชีวิตร่วมกับฉัตร ไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ช่าง
ตราบสิ้นลมหายใจ
[อวสาน]
จบแล้วจ้า
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ และทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ