ตอน2

รูปนี้น้องคิงดูบ้ากามขึ้นมาบ้างไหมคะ

http://www.youtube.com/v/Q1tGsjZ9CqQเนื้อหาตอนนี้มีความเลื่อมล้ำทางภาษา อาจขัดใจเนอะ(เพราะมันเป็นภาษาที่แปลตรงตัวตามกูเกิลทรานสเลชั่น กร๊ากกก)
ปล.คุณเขียดตั้งใจเนอะ เพราะเรื่องนี้มีเค้าโครงเรื่องจริง(และเรื่องจริงแม่งก็ใช้ภาษากากๆแบบนี้อ่ะ)
ในขณะที่ผมกำลังสลายหายตัวหลอมรวมกับอากาศ เสียงใสๆก็ดังขึ้น
“you not glad?”ดีใจหรอ...สุดๆครับคุณ
“ห๊า”แบบว่าตอนนี้กูหลอนไปแล้วครับ ระดับความสุขขึ้นสมองจนเอ๋อ
แล้วสุดที่รักของผม(ที่เป็นคน)ก็พิมพ์อะไรก๊อกแก๊กในกูเกิลทรานสเลชั่นก่อนจะส่งแลบท๊อบของคุณแม่มาให้ผมดู
‘เพื่อนของคุณกล่าวว่า ถ้าบอกว่าเช่นนั้นคุณจะมีความสุขมาก’ คงหมายถึงถ้าบอกแบบนั้นผมจะมีความสุขสินะ
เฟิ้งอี้แย่งแลบท๊อปตรงหน้าผมไปอีกครั้ง ก่อนจะพิมพ์ก๊อกแก๊กๆ แล้วส่งมาให้ผม คราวนี้แปลจากจีนเป็นอังกฤษครับ เขาคงรู้ถึงความมั่วของกูเกิลทรานสเลชั่นอยู่เหมือนกัน
‘Are you happy? I want you to be happy.(คุณมีความสุขไหม ผมอยากให้คุณมีความสุข)’ผมอ่านแล้วก็พิมพ์กลับ
‘I'm so happiest’แต่จะให้สุขมากขึ้นๆไปกว่านี้ ถอดเสื้อผ้าแล้วไปรอพี่บนเตียงสิจ๊ะที่รัก
“เฟิ้งอี้!!! มายฮันนี่!!”พูดจบไอ้เอมก็โผมากอดคนที่กำลังนั่งเล่นกับหมาอยู่บนพื้น...แต่วินาทีนี้ ถ้าจะให้ผมสุขสุดๆๆๆเลยนะ ใครก็ได้เอาไอ้เชี่ยเอมไปขังไว้ในกรงหมาที!!!
แล้วจากนั้นสองคนก็เข้าสู่โลกที่มีแค่สองคน เหมือนกูดูหนังจีนไม่มีซับเลยว่ะ แต่ถึงฟังไม่รู้เรื่อง แต่กูก็หมันไส้ว่ะ นั่นๆ ไอ้เอมมือมึงจะลื่นไปแล้วมั้ง โอบที่รัก(ที่เป็นคน)ของกูทำไม
เพี๊ยะ!!
ฟาดมือปลาหมึกของไอ้แว่นหน้าม่อไปที
ผมสะบัดหน้าหล่อๆอย่างงอนๆ(ท่าแม่งตุ๊ดมาก)ก่อนจะเดินออกไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างคลินิก ผมเดินดุ่มๆเข้าไปที่ตู้เย็น ก่อนจะเปิดตู้แล้วเอาอิชิตันเย็นเย็น(ราวกับกูเป็นพรีเซ็นเตอร์)ออกมาแล้วเปิดฝากระดกทันที เฮ้ออ อารมณ์ดีขึ้นมานิด
“คนสวยครับ ใหญ่โฟไม่งอกไม่หมึกชามครับ”ผมหันไปสั่งป้าที่อายุรุ่นราวคราวแม่ที่ตอนนี้บิดใหญ่เลยครับ
“น้องคิงนี่ก็อะไรไม่รู้ ชอบพูดความจริงอยู่เรื่อย”ผมหัวเราะแล้วทำมือเป็นรูปหัวใจส่งให้ป้า แล้วป้าเพ็ญก็ส่งหัวใจกลับมา
คือผมกับป้าเพ็ญ เล่นกันมาตั้งแต่ผม5ขวบแล้วครับ(กะล่อนตั้งแต่เด็ก)เลยรับส่งมุขกันได้ทันท่วงที... แหม จะว่าไปผมนี่แม่งน่ารักน่าเอ็นดูตั้งแต่เด็กเลยเนอะ
“น้องคิง แล้ววันนี้น้องเอมไม่มาด้วยหรอลูก”สงสัยป้าเพ็ญจะเห็นรถไอ้เอมมันแหละครับ
“ไม่อ่ะครับ ตัดเพื่อนกันแล้ว”เพื่อนดีๆคงมีแต่ในนิยาย ส่วนตัวฉันก็มีแต่เพื่อนจัญไรไปทุกราย
“แหม ป้าก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที”แน่ะๆ มีแซว
“คราวนี้ตัดจริงครับป้าเพ็ญ”ป้าหัวเราะแล้วก็ไปทำใหญ่โฟให้ผมต่อ
ผมนั่งเล่นไอโฟนไปอย่างเบื่อๆ โมโหไอ้เอมว่ะ แต่ไม่รู้โมโหเรื่องอะไร เพราะผมกับมันก็ขัดขากันเรื่องนี้บ่อยนะ แต่ผมก็ไม่เคยโมโหหรือโกรธมัน แต่คราวนี้ผมเป็นอะไรวะ...ทำไมผมต้องหงุดหงิด
“I’m sorry”ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆผม “I might make you angry or upset, but... let you know that I’m thanks for everything(ผมอาจทำให้คุณโกรธหรือไม่พอใจ แต่ขอให้คุณรู้ไว้ ว่าผมขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง)”พูดจบแล้วก็ส่งแลบท๊อปที่เปิดหน้ากูเกิลทรานสเลชั่นมาให้ผมดู
‘If I make you uncomfortable, I'm going to go out of your life ‘ถ้าทำให้อึดอัดก็จะออกไปจากชีวิตผม
ผมผ่านความสัมพันธ์ one night stand มาอย่างโชกโชน แต่ทำไมกับคนที่แค่เจอกันยังไม่ทันจะถึงชั่วโมง แถมยังไม่มีเคยความสัมพันธ์ทางกายกันอีกตางหาก ทำไมนะ ทำไมผมถึงรู้สึกใจหายกับการจากลา
ผมพรมนิ้วไปบนคีย์บอร์ดโดยที่ยังไม่ได้กดแปลจีน
‘I’m not uncomfortable, but I’m hungry’พออ่านแล้ว เฟิ้งอี้ก็หันมายิ้มให้ผมจนตาแทบปิด
เด็กๆนี่ดีจังนะ ดีใจอะไรง่ายจริงๆ
“Are you hungry?”ผมถาม เฟิ้งอี้ก็พยักหน้า “Please have a seat”ผมเลื่อนเก้าอี้ข้างๆให้เด็กน้อย เด็กน้อยก็นั่งลงอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่วายจะหันมายิ้มให้ผมอีก...หัวใจกูใกล้จะวายแล้ว
“Do you eat spicy?”ผมถาม เด็กน้อยก็ส่ายหน้า “Do you like to pork chicken seafood Beef or duck?”คือแบบถึงกูจะเรียนสัตวแพทย์ แต่กูก็โง่อิ้งนะคะนะ
“chicken”ตอบผมเสียงอ่อมแอ้ม...แอร๊ยยย น่าขบ น่าฟัด น่า---ตื๊ด---
“สุดสวยครับขอเส้นเล็กไก่ตุ๋นด้วยคร้าบบ”ว่าแต่น้องหนูสุดโมเอะของผมอยากกินเส้นเล็กไหมวะ
แต่ไม่เป็นไร ถ้าหนูไม่ชอบของเล็กๆ เดี๋ยวพี่จะพาไปกินของใหญ่ๆบนห้องแทนล่ะกันนะจ๊ะ...คริๆๆๆ
“your name , what this mean?”บางทีกูก็เสือกเบาๆ
“Fēng is mean swan and Yì is mean fair”หงส์กับความยุติธรรม
“what’s your name? Aim said,I can call you sa-me(คุณชื่ออะไรหรอ เอมบอกว่า ให้ผมเรียกคุณว่าซะมี)”อ่อ ไอ้เชี่ยเอมนี่เองที่เสี้ยมมา...โถ ไอ้แว่น หัวใจกูเกือบจะวาย
“you better call king(เรียกว่าคิงดีกว่า)”ที่เรียกผมว่าสามีผมก็ชอบนะ แต่แบบว่าฟังทีไรกูหงี่ทุกทีเลยว่ะ...ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ
“wow,very cool”แน่นอนครับที่รัก แต่ถ้าจะให้เห็นแน่ๆว่าสุดหล่อคนนี้คูลแค่ไหน เรามาจูงมือกันขึ้นไปพิสูจน์ความคูลของพี่บ่นห้องหอรอรักของเราดีกว่านะเบบี๋
ผมนั่งหื่นได้ไม่นานตัวเล็กของผมฟาดก๋วยเตี๋ยวหมดไปสี่ชาม(แดกหรือปล้น) จากนั้นเราก็กลับมาที่คลินิก ซึ่งแม่บอกว่าไอ้เอมมันกลับไปแล้ว เห็นว่ามีปัญหาครอบครัว เมียมีชู้อะไรนี่แหละ...สมน้ำหน้า เสือกเรื่องของกูนัก
ที่คลินิกช่วงเย็นนั้นยุ่งมาก แถมยังยุ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อพ่อผมยังไม่กลับจากสัมนาไฮยีน่าที่แอฟริกา พี่แสบ(ผู้ช่วย)ที่วันนี้จะเข้ามาตอนดึก ไอ้คิว(น้องผมเอง)อยู่โรงเรียนประจำ และผมนั่งง่อยเปลี้ยเสียขาดมเซียงเพียวอิ๊วอยู่ที่เคาน์เตอร์
ส่วนสาเหตุที่ทำให้สุดหล่อต้องมานั่งตุ๊ดแตกดมยาดมน่ะหรอ เหอะๆ กูไม่เหล่าหรอก...มันไม่คูล
“ไอ้หื่น แม่เย็บแผลเสร็จแล้วนะ ไปเอาเข้ากรงที”ก่อนเอามันเข้ากรงได้ ลูกแม่อาจโดนมันแดกก่อนนะ “ไม่ได้เรื่องเลย แกควรจะต้องพิจารณาตัวเองแล้วนะคิง ว่าแม่ควรจะไล่แกออกจากการเป็นลูกไหม”ถ้าแม่ไล่หนูออก แล้วหนูจะกินอาร๊ายยย “มีที่ไหน เจองูปุ๊บมันทิ้งแม่ปั๊บ นี่ฉันควรจะรับเฟิ้งอี้มาเป็นพี่ไอ้คิวแทนไหมเนี่ย”นางเดินไปก็บ่นไป
ถ้าจะรับเฟิ้งอี้มาเป็นพี่ไอ้คิวน่ะผมไม่ว่าหรอก... แต่ต้องเป็นพี่สะใภ้นะคะนะ คริๆ
ดูสิ พอใส่ชุดผู้ช่วยสัตวแพทย์สีเขียวเข้มแล้วยิ่งขับให้ผิวขาวๆนั้นผ่องเข้าไปใหญ่ แหม เห็นแล้วอยากจะเดินเข้าไปกระชาก จากนั้นก็ขึงเธอกับผนัง บดขยี้ปากสีแดงฉ่ำนั้นให้สาแก่ใจ กระชากชุดออก แล้วก็ค่อยๆขบซอกคอเบาๆ จากนั้นก็ไล้ลิ้นไปตาม เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...ชิบหาย
กูลืมเซ็นเซอร์!!!
“พิคิง”เสียงใสๆดึงผมออกจากภวังค์ความหื่นกาม...แอร๊ยยย ซอกคอขาวสะท้านอารมณ์หื่น “berry”คงจะสื่อให้ผมไปแบกอิเบอร์รี่เข้ากรงสินะ
“Ok”ผมบอกแล้วก็ปาดเหงื่อ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
เดินดุ่มๆเข้าไปในห้องผ่าตัด อิเบอร์รี่นี่กำลังเลื้อยอยู่เต็มเตียงเลยครับ อิห่าอมหิตขนาดนี้มึงชื่อเบอเรอ เบอกามอส ไม่ก็เบอร์นักฆ่าเหอะ สมกว่า นั่นๆมีหันมาสบตากูด้วย ทำไมมึงไม่เสียเลือดจนตายไปฟะ อยู่เป็นภาระให้สุดหล่อฟ้าประทานทำไม
ฟ่ออออ
เหมือนจะรู้ว่ากูแช่งนะ จ้องเขม็งเลยสาสสส
“ใจเย็นๆนะเบอร์รี่จ๋า”ผมพูดเสียงอ่อนโยนก่อนจะสาวเท้าไปหยิบกรง “เลื้อยเข้ากรงไปดีๆนะมึงนะ นะจ๊ะ”ผมตั้งกรงไว้ข้างๆ อิเบอร์รี่ก็หันมามองผม ก่อนจะเลื้อยเข้าไปดีๆ
มันคงเหนื่อยเหมือนกัน เห็นได้ข่าวว่าโดนรั้วลวดหนามเกี่ยวมา... แหม ทำไมไม่เป็นรั้วไฟฟ้าเนอะ
ในขณะที่ผมกำลังปิดกรง ว่าที่พี่สะใภ้ไอ้คิวก็เดินมาลูบหัวอิเบอร์รี่ ก่อนจะก้มลงจรดริมฝีปากแดงๆนั้นบนหัวงูอย่าเอ็นดู
อิงูนี่ก็มองว่าที่เมียกูตาเยิ้มเลยนะ ทีมองกูนะอย่างกับกูไปจับพ่อจับแม่มึงมาแดกยังงั้นแหละ
“like?”ผมชี้ไปที่อิงูอมหิตที่ตัวอ้วนสักประมาณต้นขาผมได้(คือแดกควายได้ทั้งตัว) เฟิ้งอี้หันมายิ้มให้ผมก่อนจะพยักหน้า
แหมที่รัก ถ้าจะชอบงูขนาดนั้น เดี๋ยวคืนนี้พี่จะพาไปดูงูพี่ล่ะกัน ถึงจะใหญ่ไม่เท่า(อิเบอร์รี่)แต่น่าเอ็นดูกว่าแน่นอนนะจ๊ะ พอถึงเวลานั้นเฟิ้งอี้ที่รัก อยากจะใช้ปากแดงๆนั่นจูบ อม เลีย ดูด เม้ม หรือทำอะไรก็ตามสบายเลยจ๊ะ
คริๆ คิดแล้วน้ำเดิน
“why do you smile?”ตัวเล็กเอียงคอถามผม...โมเอะชิบหายเลย
“cause..., you’re very cute”พอผมพูดจบ หงส์น้อยตัวขาวของผมก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแทบจะทันที ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปจากห้อง...แหม ทนสายตาแห่งรักของพี่ไม่ไหวใช่ไหมล่ะ จุบุๆๆๆๆ (จริงๆเขาหวาดผวาตางหากล่ะอิโง่)
ฟ่ออออ
เป็นแค่ตัวประกอบ แต่เรียกร้องความสนใจจริงนะมึง
หลังจากปิดกรงเสร็จเรียบร้อย ผมก็หยิบประวัติผู้ป่วยขึ้นมาดู ชื่อ Berry ชนิด snake พันธ์ phython อายุ 3 year เพศ male ห๊า...male
กูอยากเห็นหน้าเจ้าของมึงจัง
ผมหันสบตากับอิเบอเร่ออีกครั้ง’คนนั้นว่าที่เมียกู’
ฟ่ออออ
อะไรนะ มึงบอกว่าไม่สนงั้นหรอ
ฟ่ออออ
ห๊า นี่มึงกล้าบอกว่าหน้าโง่อย่างกูมีปัญญาแค่หื่นไปวันๆ
ฟ่ออออ
จะว่าไปก็จริง มึงเจอแค่ชั่วโมงเดียวยังได้สัมผัสริมฝีปากอ่อนนุ่มนั้น กูเจอมาค่อนวันแล้ว แม้แต่มือยังไม่ได้จับ
ไม่ได้การแล้วสิ ขืนนั่งบ้ากามไปวันๆกูคงไม่มีวันได้แซ่บ ผมรีบเข็นกรงอิเบอเร่อไปห้องพักสัตว์ป่วยแล้วผมก็วิ่งออกมาที่ห้องรอทันที ทำไมเงียบแท้วะ ผมเดินไปดูที่ประตูจึงรู้ว่าเปลี่ยนเป็นclose
แล้วแม่กับเมียผมอยู่ที่ไหนกัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สงสัยไปนานกว่านี้ ผมก็เหลือบไปเห็นลายมือที่คุ้นเคยที่เขียนอยู่บนกระดานไวท์บอร์ดหลังเคาน์เตอร์
‘แม่กับเฟิ้งอี้ กลับไปนอนแล้ว หื่นอยู่รอพี่แสบนะครับ’น้องคิงอยากกรี๊ดดดดดดดดดดดด
กว่าผมจะกลับบ้าน เฟิ้งอี้ก็ต้องอาบน้ำแล้วสิ อุส่าจะแอบดู...แม่นะแม่
แม่ไม่เข้าใจคิง แม่ไม่เข้าจายยยย
หลังจากรอพี่แสบจนห้าทุ่ม พี่แสบเป็นหลานพ่อผมครับอยู่ปี4แล้ว(อีก2ปีก็จะจบ) ทุกวันนี้รับจ๊อบเฝ้าคลินิกให้ที่บ้านผมเพื่อประหยัดค่าหอ ก่อนกลับผมก็ช่วยพี่แสบเช็คนู้นนี่นั่น จนปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนนั่นแหละกว่าผมจะได้ยุรยาทออกจากคลินิก
ผมใช้เวลาขับรถมาไม่ถึงสิบนาที ผมก็ถึงบ้านแสนสุข...แต่จะเป็นบ้านแสนทุกข์ก็วันนี้แหละ
แม่ไม่เข้าใจคิง!!!!
ไฟในบ้านดับสนิท ไอ้ยี่โถหมาพันธ์เทอร์เรียวิ่งหัวกระเซิงออกมารับผม แต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์เล่นกับมันว่ะ เลยแค่เอาตีนเขี่ยมันไปทีเพื่อเป็นการทักทาย ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในบ้าน
หลังจากตรวจทานประตูหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขึ้นไปบนห้องนอน เปิดประตูเข้าไปด้วยจิตใจห่อเหี่ยว เอิ่ม ทำไมโคมไฟถึงเปิดอยู่วะ ผมกดสับสวิสต์ขึ้น ไฟทั้งห้องสว่างโล่ ทำให้ผมเห็นร่างขาวๆที่นอนหลับอยู่บนเตียงของผม
ริมฝีปากสีแดงเผยอเล็กน้อย ใบหน้าด้านข้างที่แนบกับหมอน ผิวขาวละเอียดกับหุ่นบางๆที่อยู่ภายใตเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่ทิ้งตัวลงมาคลุมช่วงล่างหมิ่นเหม่ ทุกอย่างที่ผมเห็นนั้น มันเล่นเอาซะผม...เยิ้ม
อยากจะเดินเข้าไป---ตื๊ด---เธอ จากนั้นก็กระชากเธอขึ้นมาแล้ว---ตื๊ด--- แล้วก็---ตื๊ด--- ต่อด้วย---ตื๊ด---กระแทก---ตื๊ด---เข้า---ตื๊ด------ตื๊ด------ตื๊ด------ตื๊ด---
หุๆๆๆ
ป้องปากหัวเราะด้วยท่าทางผู้ดี
ป้าบ!!!
“โอ๊ย!!”ผมร้องลั่น เมื่อโดนอะไรสักอย่างซัดเข้าเต็มกบาล
“มายืนทำหน้าโรคจิตอะไรอยู่ตรงนี้ห๊ะ!!”แม่ผมว่า
“ไรเนี่ยแม่ คิงยังไม่ได้ทำอะไรเลย”ผมลูบหัวตัวเองป่อยๆ
“ลองให้ฉันเข้ามาช้าหน่อยสิ...ไม่เหลือ”
“ah... How long are you back?”เสียงใสๆที่ส่อแววง่วงนอนดังขึ้น
“ah um, Shortly”อย่าทำตาปรือได้ไหม ใจพี่งี้จะละลาย
“ไอ้หื่น คืนนี้แกไปนอนห้องไอ้คิว”ไรอ่ะแม่ ไม่ใจเลยอ่ะ ไม่จายยย “อย่ามาสะบัดสะบิ้งใส่แม่นะ ไม่งั้นแกได้ไปนอนกับไอ้ยี่โถแน่”ผมเบะปาก ก่อนจะสาวเท้าไปเปิดตู้เสื้อผ้า คุ้ยๆชุดนอนออกมา แล้วจรลีจรจากยอดรักไปพำนักณ.แดนไกล
คอยดูเถอะ
คืนนี้กูจะย่อง!!!
.
.
.
ตื่นเช้ามาแม่กับเฟิ้งอี้ก็ออกไปแล้ว ในบ้านจึงเหลือเพียงสุดหล่อที่นั่งเจี้ยวเปลี่ยวกับหมาแก่หน้าเหี่ยวๆเท่านั้น สรุปแล้วเมื่อคืนไม่มีปัญญาย่อง พอหัวถึงหมอนปั๊บกูก็หลับเป็นตาย
หลังจากกินนมกินแซนวิชเสร็จผมก็ขับรถไปเรียน เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ มองไปทางไหนแม่งก็เห็นแต่พ่อหงส์น้อยตัวขาวๆคอยหลอกหลอน
กินข้าวก็เห็นหน้าเธอซ้อนทับกับไข่ดาว เอิ่ม... เจาะเลยดีไหม
กินน้ำก็คิดถึงวันที่ฉันได้—ตื๊ด--น้ำไปในเธอ...อ่า สดชื่น
แม้แต่ยามฉี่ ฉันก็เห็นแสงกระทบละอองน้ำเป็นหน้าเธอ...โอ้วที่รัก ฉันอยาก—ตื๊ด—เท๊อออออ
แต่ยังไม่ทันที่สติผมจะได้เพ้อไปไกลกว่านี้ไอโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงผมมันก็สั่น
Rrrrrrr
“ไง”ผมกรอกเสียงลงไปเมื่อรู้ว่าไอ้เอม
/”ไอ้คิงรวย กูทิ้งน้องเฟิ้งไว้ที่เซ็นฯลาดนะ”/ห๊า /”กูบอกเฟิ้งว่ามึงจะมาพาไปกินข้าว คงรออยู่แถวๆหน้าเปเปอร์ลันซ์แหละ”/
/”ไอ้เหี้ยเอม ปล่อยกู!!!”/เสียงดังเล็ดลอดมา ก่อนจะมีการต่อสู่ขัดขืนกันเล็กน้อย
/”ปล่อยทำไมจ๊ะเมียจ๋า ลานจอดรถนี่แหละตื่นเต้นดี”/แล้วก็เหมือนจะเกิดการต่อสู้กันอีกครั้ง
/”อ่ะ อ๊ะ อ๊ะ เจ็บ ไอ้เหี้ยเอม กูบอกว่า อื๊อ อ่ะ “/อ้าวอิเชี่ย มาเย็บกันให้กูฟังซะงั้น
/”สม ชอบยั่วกูดีนัก”/ไอ้เอมพูดกลั้วหัวเราะ...แม่งโคตรโรคจิตเลยอ่ะ /”แล้วไอ้เหี้ยคิง เมื่อไหร่มึงจะวาง น้องเฟิ้งรอมึงอยู่ อ่ะ แม่งฟิตดีว่ะ”/มึงอย่าเอาสองเรื่องมารวมกันได้ไหมไอ้เชี่ย มาบอกน้องเฟิ้งฟิตๆไรเนี่ย กูตั้งตามเลยไอ้สัตว์ /”แค่นี้นะ เมียกูไม่ชอบให้ฟังตอนเยะกัน แม่งร้องไห้ไปแล้วเนี่ย บายสัตว์”/
ก่อนจะบอกว่าเมียมึงชอบหรือไม่ชอบให้ฟัง
ถามกูก่อนไหม... ว่ากูชอบฟังหรือเปล่า!!!
หลังจากเก็บโทรศัพท์และเจี้ยวเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมก็บึ่งไปหาหงส์น้อยของผมทันที โชคดีที่รถไม่ค่อยติด เพียงไม่นานผมก็มาถึงที่หมาย จอดรถเสร็จผมก็รีบตรงไปที่เปเปอร์ลั้นซ์ทันที เหลียวซ้ายแลขวา หายไปไหนวะ
จึกๆ
แรงกระตุกที่ชายเสื้อ ทำให้ผมหันหลังไปดู เฟิ้งอี้ผิวหยวกอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ...แบบนี้ไม่โมเอะเลยอ่ะ
ทำไมไม่ใส่เสื้อคอกว้างโชว์ไหล่มนๆกับกางเกงขาสั้นที่โชว์ขาขาวๆล่ะจ๊ะ
“hey!”เสียงใสเรียกผมออกจากภวังค์ “I’m hungry”รู้สึกกูจะได้ยินคำนี้บ่อยไปนะ
แต่ไม่เป็นไร เด็กวัยกำลังกินกำลังนอน ว่าแต่อยากจะกินนมสดจากพี่สักแก้วก่อนทานมื้อเที่ยงไหมจ๊ะที่รัก อะคึๆๆ...จะรีดให้สดๆเลย
ต่อแต่นี้ผมจะหยุดหื่นสักครู่ เนื่องจากเพราะกูก็หิว...ผมคว้ามือคนข้างตัวมากุมไว้ ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงไปร้านที่ผมคิดว่าเหมาะที่จะเป็นเดทแรกของเราสอง เงยเหง้าหน้ามองป้ายหน้าร้านฟูจิ แล้วก็ได้แต่ยกยิ้ม...ชีวิตมันต้องมีการลงทุน
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินเข้าไปในร้านอย่างหน้าชื่นตาบานราวกับคู่สามีภรรยาที่พากันมาเดทในเวลาราชการ เฟิ้งอี้ก็สะบัดมือผมออก ก่อนจะรัวภาษาจีนออกมาด้วยสีหน้าโกรธจัด
แต่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าผมไม่เข้าใจภาษาจีน เขาจึงยื่นมือออกเหมือนจะขอไอโฟนจากผม ผมก็ส่งให้ เฟิ้งอี้ก็เอาไปปรับเป็นภาษาจีน ก่อนจะเข้ากูเกิลทรานสเลชั่น แล้วพิมพ์อะไรสักพัก ก็ส่งมาให้ผม
‘ถ้าให้ผมกินร้านนี้ ผมยอมอดตาย’ผมขมวดคิ้ว ‘ถ้าคุณเก่งขนาดเรียนสัตวแพทย์แล้วทำไมถึงไม่รู้ประวัติศาสตร์เอเชีย ว่าญี่ปุ่นทำอะไรไว้ที่นานกิงบ้าง’อ่านถึงตรงนี้ผมก็ยังคงนิ่งอยู่ แต่ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเหมือนกัน ทำไมเขาต้องมาใส่อารมณ์กับผมวะ...พ่อกูเป็นญี่ปุ่นหรอ!! กูถึงต้องรู้น่ะ ‘ถ้าคุณต้องการหนังสือประวัติศาสตร์ไว้ประดับความรู้ ผมจะออกเงินให้เอง’อ่านถึงตรงตอนนี้ผมยอมรับว่าผมโกรธ ผมกดลบ แล้วพิมพ์ภาษาอังกฤษลงไปให้มันแปลเป็นจีน
‘มันสมควรแล้วหรอ ที่เธอจะพูดกับผู้มีพระคุณแบบนี้’ผมส่งให้เฟิ้งอี้ดูก่อนจะดึงไอโฟนกลับ แล้วเดินออกมาเลย
ผมเดินออกมาสูบบุหรี่ด้านนอก ปกติผมไม่ค่อยได้สูบหรอกนะครับ แต่ก็มีบ้างเวลาเครียดหรือเวลาอ่านหนังสือสอบ ผมไม่เข้าใจทำไมเขาถึงต้องใส่อารมณ์กับผมมากขนาดนั้น ถ้าจะไม่กิน พูดกันดีๆด้วยเหตุผลผมก็เข้าใจ
แล้วไอ้เรื่องสงครามนานกิง ผมก็รู้เรื่องครับ แต่แบบว่าเรื่องมันผ่านมาชาติหนึ่งแล้วปะวะ คนที่โดนฆ่ากับพวกทหารญี่ปุ่นยุคนั้นก็ไปเกิดใหม่หมดแล้วมั้ง ใครมันจะไปนึกล่ะวะว่ายังจะมีคนคิดแค้นเรื่องนี้อยู่อีก...แม่งเอ๊ย!!!
ผมขับรถกลับไปเรียนตอนบ่าย เรียนไม่รู้เรื่องอีกเช่นเคย รู้สึกหงุดหงิด โมโห แต่ก็เป็นห่วง ไม่รู้ว่าจะได้กินข้าวหรือยังแต่ผมก็ยังโมโหอยู่ดี โอ๊ยยยย กูจะบ้า!!!
หาอะไรเล่นดีกว่า...แต่
อิเชี่ย!!! เครื่องกูเป็นภาษาจีน!!
หลังจากที่งมหาทางเปลี่ยนภาษาอยู่นาน ผมก็ประสบความสำเร็จในที่สุด วันนี้ผมเลือกที่จะไม่ไปช่วยงานที่ร้าน แบบว่ายังไม่อยากเจอหน้าใครบางคน ผมเดินเล่นอยู่ในม.จนยันสี่ทุ่ม เดินไปก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย กับแค่คนที่เจอกันไม่ถึง2วัน ทำไมผมถึงต้องใส่ใจด้วย
Rrrrr
ผมล้วงไอโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง ‘แม่’
“ไงแม่”เป็นไงล่ะคำทักทายแม่ของลูกบังเกิดเกล้า
/”อยู่ไหน แล้วเฟิ้งอี้อยู่กับแกใช่ไหม”/แม่กรอกเสียงมาตามสาย
“อยู่ม.”ผมบอกไปเสียงเรียบ “แล้วเฟิ้งอี้ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ เห็นบอกจะกลับเอง”ตอแหลเก่งจังเลยกู
/”จะกลับได้ไง น้องไม่ได้เอากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ออกไป...นี่แกทำอะไรลูกใหม่ฉันย่ะ ไอ้คิง!!”/โอ๊ย หูจะแตก
“แค่นี้นะแม่”แล้วผมก็วางสายไปเลย
ผมยืนงงอยู่นาน แต่ทันทีที่ได้สติ ผมก็รีบขับรถตามหาเฟิ้งอี้ทันที ไปมันทุกที่ที่ผมคิดว่าเฟิ้งอี้น่าจะไปได้ จนเที่ยงคืนผมได้แต่กุมขมับนั่งเพลียอยู่ในรถ ตอนนี้น้องไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเงิน และไม่มีแม้พาสปอตจะแสดงตัวว่าไม่ได้ลักลอบเข้าเมือง...เอ๊ะ หรือว่าบางทีจะโดนตำรวจเก็บไปแล้ววะ
แต่ก่อนจะไปตามหาที่ตำรวจ ผมก็คิดได้ว่าผมควรแวะไปที่หนึ่งก่อน ที่ที่ผมทิ้งน้องไว้ และเป็นที่ที่ผมสมควรจะไปเป็นที่แรก แต่ผมก็ดันมองข้ามไป ผมชะลอรถตรงหน้าเซ็น แล้วก็เห็นสิ่งมีชีวิตตัวบางๆที่นั่งกอดเข่าอยู่บนขั้นบันได
เที่ยงคืนสิบห้านาทีผมจอดรถเอาไว้ริมฟุตบาตร ล็อกรถเสร็จก็สาวเท้าเข้าไปใกล้คนที่ยังคนนั่งกอดเข่า ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะวางมือไปบนหัวทุยๆนั้น เฟิ้งอี้สะดุ้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผม เมื่อเห็นผม คนที่น้ำตาคลออยู่แล้วก็ถึงกับปล่อยโฮออกมา
ตัวเล็กกอดผมแน่น ผมก็ได้แต่ลูบแผ่นหลังเล็กนั่นเบา...แอร๊ยยย ลื่นมือดีจัง นี่ขนาดมีผืนผ้ามาขวางกั้น ยังละมุนมือขนาดนี้ แล้วลองถ้าไม่มีล่ะ ไม่อยากจะคิดเลย... ผิวขาวอมชมพูนั่น
อยากจะเค้นเน้นๆให้มันส์มือ
“sorry”ผมบอกแค่นั้น เฟิ้งอี้ก็ยิ่งร้องไห้หนัก
ผมก็นั่งปลอบอยู่นานเฟิ้งอี้ก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ ถามเขาว่าหิวไหม เขาก็บอกว่าหิว ผมเลยพาไปเยาวราช(ตัดปัญหาเรื่องชนชาติ) หากระเพาะปลากินกัน เฟิ้งอี้กินไปก็ร้องไห้ไป ที่นี้คนก็มองกูกันใหญ่เลยครับ นั่นๆอิป้าที่ขายน้ำทับทิม แม่งซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ มีชี้ไม้ชื่อมือ...เดี๋ยวพ่อปั๊ดเตะทับทิมกระจุย
กินกระเพาะปลาเสร็จ ผมก็โทรบอกแม่ว่าเจอตัวเฟิ้งอี้แล้ว แม่ก็ด่าผมสักพัก แต่สุดท้ายก็บอกว่าดีแล้ว ดูแลน้องดีๆ น้องจากบ้านจากพ่อจากแม่มาไกล น่าสงสาร ผมก็เออๆออๆไป วันนี้ผมกะไม่พาเฟิ้งอี้กลับบ้าน เพราะเจ้าตัวไม่ยอมหยุดร้องไห้ ผมกลัวแม่ผมเป็นห่วงอ่ะ... เอ๊ะ มองแบบนั้นหมายความว่าไง ...ไม่ได้กลัวโดนด่านะโว้ยยย
หลังจากคิดทบทวนหลาบตลบ ผมก็เลยตัดสินใจว่าคืนนี้จะไปนอนที่คลินิก ถึงคลินิกผมกดกริ่งเพียงไม่นาน พี่แสบก็เดินหัวฟูเกาไข่มาเปิดประตูให้ ผมยกมือไหว้ เฟิ้งอี้ก็ยกมือไหว้ตาม พี่แสบพยักหน้าทั้งที่หลับตา จากนั้นก็ล้วงมือเข้าไปเกาไข่อีกรอบ แล้วก็เดินขึ้นไปชั้นสองเลย...ทำไมพี่กูจัญไรจัง
“very handsome”เฟิ้งอี้พึมพำออกมาทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น
ผมไม่เคยบอกให้ไหมครับว่าพี่แสบมันหล่อ ใช่ครับมันหล่อ นอกจากจะได้หุ่นแมนๆกับหน้าคมๆมาจากทางพ่อแล้วมันยังได้ขาวโอโม่มาจากแม่ที่เป็นสาวเจียงฮายอีก แม่ง!!!
กูอิจฉา!!!
ตอนนี้อยากหื่นนะ แต่แบบว่าง่วงชิบหาย ผมให้เฟิ้งอี้อาบน้ำก่อน ส่วนเสื้อผ้าก็ใส่ของผมนั่นแหละ มีชุดนอนอยู่ในตู้เสื้อผ้าหลายชุดอยู่ พอผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็ตามขึ้นมานอน เฟิ้งอี้คงหลับไปแล้วแหละ เพราะหยุดร้องไห้ไปแล้ว ผมยื่นหน้าไปดูคนหลับ ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยคราบน้ำตาให้ ก่อนจะกดจูบไปบนเปลือกตาปิดสนิท
ผมทิ้งตัวนอน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พักผ่อนให้สบายอุรา ผมก็ต้องร้องลั่นอย่างเสียจริต
“เฮ้ย”ผมเงยมองคนที่ขึ้นมาคร่อมผมไว้ “w what do yo want?”ผมถามอย่างตะกุกตะกัก
“you...”นิ้วเรียวจิ้มลงบนอกผม “what do you want?”เฟิ้งอี้ก้มลงมาก่อนจะกระซิบข้างหูผม “I know, what do you think with me(ผมรู้ ว่าคุณคิดยังไงกับผม)”พูดจบก็เลียเลียซอกคอผมลามไปจนใบหู
เดี๋ยวก่อนนะ!!
ไอ้บทหมาป่าขยุ้มลูกแกะแบบนี้
มันต้องเป็นของกูไม่ใช่เหร๊อ!!!!!!!!!!!!!!
----------------------
๐จะเป็นเช่นไรต่อไปหนออออ

๐เพลียกะนังเอม มันชอบทำร้ายเฟาๆ

๐คุณเขียดหายไปนานเนอะ แบบช่วงนี้เคลียงานเคลียการอ่า

ใกล้สอบแล้วด้วย ขอตัวไปอาบหนังสือนะคะ หลังสอบเจอกันเนะ

๐ขอบคุณทุกคนเลยนะคะ อ่านแล้วก็ช่วยกันดันด้วยเน้อ
