ต่อ ตอนที่ 10 และแล้วในที่สุดผมก็มายืนถอนหายใจหน้าบริษัทวิษาค้าไม้จนได้พร้อมกับที่คอยหลีกหนีมือไม้ยุ่มย่ามของไอ้ออยด้วย ผมว่าตอนนี้เหนื่อยใจเพิ่มเป็นสองเท่า ไอ้ออยบอกว่าวันนี้ไอ้คุณสุวัชอยู่บริษัทซะด้วย
“ไงครับน้องเฟย์ หน้ามุ่ยเชียวกลัวอาสุวัชเหรอครับ โอ๋ๆไม่ต้องกลัวนะครับอาสุวัชเป็นคนใจดี”
“เปล่าครับ ผมแค่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเลยกังวลเท่านั้นเอง”
ผมบอกแล้วเดินหนีมือมันที่เอื้อมมาลูบหัวผม แหม่ กูคนนะไม่ใช่หมา เอะอะลูบหัวๆ เดี๋ยวผมกูก็บางกันไปใหญ่หรอก!
เอาล่ะสิ ไอ้คุณสุวัชผมเคยเห็นแค่ครั้งเดียวก็ไม่รู้จะพูดไงดีแล้ว ผมเดินเข้าไปในบริษัทโดยมีไอ้ออยจับแขนผมลากเข้าไป สะบัดยังไงก็ไม่หลุด ผมเดินตามแรงฉุดไปจนถึงห้องประธานพร้อมทั้งเห็นการทักทายจากพนักงานแทบทุกคนที่แสดงท่าทีน้อบน้อมต่อไอ้ออยโดยสายตาพวกนั้นมองผมอย่างสงสัย
หึ นี่บริษัทของตระกูลผมแท้ๆแต่พวกเขากลับไม่รู้จักทายาทที่แท้จริงอย่างผม ซ้ำไอ้คุณสุวัชยังกล้าตั้งตนเป็นประธานเอาเองอีกด้วย ถึงจะเข้ามาจัดการดูแลที่นี่แทนคุณแม่ของผมก็ตามแต่ยังไม่มีการเลือกประธานบริษัทคนใหม่เลย ช่างบังอาจจริงๆ
“สวัสดีครับคุณอาสุวัช ผมพาน้องเฟย์มาตามคำสั่งของคุณพ่อแล้วคร้บ”
ไอ้ออยผลักประตูเข้าไปโดยไม่ยอมเคาะประตูและเลขาหน้าห้องก็ไม่อยู่ด้วย พอผมเดินตามเข้ามาก็อึ้งตัวแข็งค้างไปในทันที ไอ้ออยเอาตัวเข้ามาบดบังสิ่งนั้นจากสายตาผมแต่มันไม่ทันแล้วเพราะผมเห็นมันชัดเจน
ในห้องประธาน ผู้ชายสองคนกำลังนัวเนียกันเกือบได้ที เห็นได้จากช่วงล่างที่กำลังเร่งซอยอย่างแรงจนข้าวของบนโต๊ะกระจัดกระจาย เสียงร้องครางที่ดังเมื่อสักครู่ และชายคนที่ก้มหน้าก้มตาซอยเอาเป็นเอาตายมันก็ไม่ใช่ใครนอกจากไอ้คุณสุวัชและเลขาชายหน้าห้องมันนั่นเอง
“เอ่อ....โทษทีครับอา ผมไม่รู้ว่าอากำลังยุ่งอยู่ หึๆๆ งั้นเดี๋ยวผมพาน้องออกไปรอที่ห้องรับรองแขกแล้วกันนะครับ”
ไอ้ออยดึงหน้าผมซุกอกมันตลอดทางแล้วลากไปห้องรับรองแขกของบริษัทที่อยู่อีกฝั่ง ผมเดินตามมันไม่พูดอะไรต่อเพราะยังตกใจที่เห็นหนังสดชนิดชิดขอบเวทีขนาดนี้ เห็นแล้วอารมณ์เงี่ยนบังเกิด ถ้าผมยึดบริษัทนี้คืนมาได้ผมอยากจะลองทำอะไรๆกับน้องๆของผมที่นี่บ้างจัง......เอ้ย! ไอ้สัสเฟย์นี่มึงคิดเหี้ยอะไรอยู่วะ กลับมานะเว้ย กลับมาๆ
“ไงครับน้องเฟย์ ตกใจเลยเหรอ เห็นอะไรไปบ้างเนี่ย”
ผมที่หลุดจากจินตนการมีอันต้องสะดุ้งเมื่อไอ้ออยวางมือแปะที่หน้าขาผมก่อนจะลูบขึ้นลูบลงช้าๆยั่วอารมณ์ ปากมันก็เข้ามากระซิบถามข้างหูผม เออ สยิวดีแต่ไม่ใช่กับมึงนะไอ้ออย กับจินตนาการน้องๆของกูต่างหาก ผมเลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีไปยังหน้าต่าง
“เปล่า เรื่องแค่นี้ผมไม่ตกใจหรอก กับพี่แอลผมจัดหนักกว่านี้อีก”
ผมเหล่ตามองไอ้ออย มันกระตุกหัวคิ้วแล้วกลับมาตีหน้าเฉย ผมเลิกสนใจมันแล้วมองลงไปยังเบื้องล่างที่เป็นด้าหลังบริษัท และตรงข้ามคือโกดังเก็บสินค้า มีคนงานหลายคนที่กำลังทำงาน ผมมองอย่างสนใจ
“อะแฮ่ม ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ พอดีช่วงนี้อากำลังยุ่งนิดหน่อย”
ไอ้คุณสุวัชเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วตัวมันเองก็นั่งลงยังโซฟา จากนั้นก็หันมามองผมที่เดินมานั่งด้านตรงข้ามกับมันแต่เสือกเป็นฝั่งไอ้ออย ไอ้ออยมันเลยขยับเข้ามาเบียดผมได้อีก เวรกรรมจริงๆ
“ผมมาทำงานตามที่คุณพ่อสั่ง คุณอาจะให้ผมทำอะไร?”
“อืม หลานเฟย์ความจำเสื่อมสินะยังไม่หายดีงั้นเอางี้นะตอนนี้หลานเฟย์ก็มาเป็นผู้ช่วยอาก่อนแล้วกัน แล้วคล่องเมื่อไรก็มาทำตำแหน่งเลขาอาดีมั้ย?”
ผมแทบจะขากถุยใส่หน้ามันเลยครับ มีอย่างที่ไหนวะให้ลูกชายเจ้าของบริษัทมาเป็นเลขาไอ้คนเป็นผู้จัดการ นึกแล้วว่าคนแบบนี้สมควรกำจัดไปให้พ้นวงษ์ตระกูลผมจริงๆ แล้วไอ้สายตาหวานเยิ้มนั่นจะใช้มันมองกูเพื่ออะไรวะครับ หันไปมองไอ้ออยบ้างก็ได้กูขนลุก ชักไม่น่าไว้ใจซะแล้วสิ
“ผมยังไงก็ได้ครับก็ผมเพิ่งมานี่นาคุณอาจัดการเถอะครับ แล้วจะเริ่มงานกันเลยมั้ยครับ?”
“โวๆ เดี๋ยวสิน้องเฟย์ แหม เห็นมั้ยอา ผมบอกแล้วว่าน้องเฟย์เป็นเด็กดีแถมไฟแรงซะด้วย มาไม่ทันไรจะขอเริ่มงานแล้ว ใจเย็นๆสิครับวันนี้พี่ออยว่าน้องเฟย์เดินดูรอบๆบริษัทก่อนจะดีกว่านะครับ”
“นั่นสิ อาก็ว่ายังงั้นนะ ส่วนเริ่มงานอาว่าไว้พรุ่งนี้ดีกว่าอาจะได้ให้คนมาจัดโต๊ะทำงานให้หลานเฟย์ทัน”
ไอ้คุณสุวัชลูบหัวผมไล่ไปยังหลังต้นคออันเป็นจุดตายของผมแล้วลูบเบาๆจนผมสยิวหันไปมองหน้ามันแล้วสะดุ้ง สายตาแบบนั้นมันเหมือนสายตาคนที่มองเหยื่อตัวเองชัดๆผมขยับตัวหนีอย่างอึดอัดใจ
“เดี๋ยวให้เลขาอาพาน้องเฟย์ไปเดินดูบริษัทได้มั้ยครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับอาหน่อย”
ไอ้ออยบอกแล้วมองหน้าอามันนิ่ง ท่าทางจะเรื่องใหญ่เห็นหน้าเครียดซะขนาดนั้น ไอ้คุณสุวัชหัวเราะแล้วเรียกเลขาคนสนิทให้พาผมออกไป ผมมองคู่ขาไอ้คุณสุวัชเห็นได้ชัดว่าเขาแทบไม่มีอะไรผิดสังเกตตาผมเลย ท่าเดินปกติมั่นคง ใบหน้าไร้ซึ่งแววเขินอาย และยังฉีดน้ำหอมฟุ้งอีก ดับกลิ่นคาวกามรึไงวะ ฉุนจมูกชิบหาย
ผมถูกพาเดินชมในบริษัทจนทั่ว ทั้งแผนกโน่นนี่นั่นจนแทบเวียนหัว แผนกครีฯดูจะน่าสนใจเป็นพิเศษ ส่วนแผนกการเงินดูจะสุขสบายมากไปแล้วนั่งทาเล็บกันยังกับอยู่ในร้านเสริมสวย แต่สำคับที่สุดคือแผนกจัดซื้อและที่โกดังนั่นต่างหาก ไว้มีโอกาสมากกว่านี้เถอะผมจะจัดการทุกอย่างให้เข้าที่ให้ได้
สุดท้ายผมกับคู่ขาไอ้คุณสุวัชก็ลากขาเดินกลับมา ทันเห็นไอ้ออยและไอ้คุณสุวัชออกมาจากห้องรับรองแขกพอดี ไอ้ออยหันมาเห็นผมแล้วสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มให้ ส่วนไอ้คุณสุวัชมองผมด้วยสายตาแบบเดิมซ้ำยังยกยิ้มหวานเกินจำเป็นให้อีก ผมหันไปมองข้างหลังเพราะคิดว่ามันอาจจะยิ้มให้คู่ขาตัวเองแต่ก็เปล่า ไอ้เลขานั่นหายไปไหนไม่รู้เร็วชะมัด
“ไงเรา เดินดูทั่วรึยัง เห็นตาออยบอกว่าจะพาเธอออกไปซื้อของต่ออีกไม่ใช่เหรอ?”
“เอ๊ะ? ซื้อของเหรอ?”
“ใช่แล้วครับคุณอา งั้นผมขอตัวเลยนะครับ น้องเฟย์ไหว้ลาคุณอาซะสิจะได้รีบไปรีบกลับบ้านกัน”
ผมยกมือไหว้ลาไอ้คุณสุวัชแบบงงๆแล้วก็โดนไอ้ออยลากไปยัดใส่รถแล้วขับพาออกไปจากนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไอ้ออยจอดรถแล้วกระชากตัวผมเข้าไปบดจูบอย่างรุนแรง รสกลิ่นแปลกๆที่ผมคุ้นๆลอยอวลในปาก ผมผลักมันออกอย่างเร็วด้วยความตกใจ ไม่ใช่ว่าตกใจกับการกระทำของมันนะเพราะผมก็ไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้ว่าตัวเองโดนจ้องจะถูกกินอยู่แต่ที่ตกใจเพราะไม่คิดว่าอยู่ๆไอ้ออยจะบ้าบิ่นแตกหักกับผมวันนี้เลย ผมชกหน้าไปที มันเหมือนได้สติหันกลับมามองผมด้วยแววตาตื่นตกใจ
“อ่ะ เฟย์พี่.....พี่ขอโทษ คือเมื่อกี้พี่ไม่ได้ตั้งใจ....เฟย์”
มันขยับเข้ามาหาแต่ผมขยับตัวชิดประตูแล้วก็เปิดผลัวะลงไปทันที ผมวิ่งหนีมันออกมายังได้ยินเสียงมันเรียกชื่อผมแว่วๆ ผมคลำทางกลับบ้านของตัวเองในใจแทบจะทรุดอยู่ข้างทางแล้ว ทำไมผมต้องมาริเริ่มทำอะไรเอาตอนนี้ ทำไมผมต้องเจอพ่อตอนนี้ทำไมผมถึงปล่อยความเจ็บปวดที่อยู่ในใจตอนนี้ไม่ได้ เพราะอะไร
“เพราะผมกลัวว่าความสุขที่ผมมีกับน้องๆจะหายไป กลัวว่าสิ่งที่เคยค้างคาเมื่ออดีตจะมาทำให้มันเลวร้ายลงเพราะงั้นผมถึงต้องย้อนกลับไปเก็บกวาดพวกมัน.........แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ ทำคนเดียวมันเหนื่อยเหลือเกิน ผมไร้ความสามารถจะสู้กับพวกมันจริงๆ ขอโทษนะน้องซัน น้องนัทที่พี่เป็นคนไม่เอาไหน”
ผมเหนื่อยล้าแล้วกับการต่อสู้แย่งชิง เมื่อใดที่ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขที่สุด ความหวาดกลัวที่จะสูญเสียยิ่งมากขึ้น เหมือนครั้งที่ผมสูญเสียครอบครัว พวกเขาเข้ามาแย่งทุกอย่างไปจากผมผมกลัวที่จะสูญเสีย....ผมกลัวจริงๆ
++++++++
ผมไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงบ้านเมื่อไรแต่ตอนที่ลืมตามองเพดานห้องที่คุ้นเคยผมก็เด้งลุกขึ้นฉับพลัน เสียงคนคุยกันดังอยู่นอกห้อง เสียงตะหลิวกับกระทะเคาะกันเสียงดัง ผมลุกขึ้นเดินไปที่ประตูแล้วจับลูกบิด แต่ผมชะงัก ผมกลัวอะไรอยู่.....
“เฮ้ย กูบอกว่าใส่น้ำมันก่อนๆมึงนี่แม่งโง่ว่ะแค่ทอดไข่แค่นี้เอง ถุย”
“อะไรวะไอ้ซัน มึงทำเป็นก็มาทำดิ สั่งอยู่นั่นแหละ”
ผมกำลูกบิดประตูแน่น เสียงนั้นที่ผมโหยหามานาน เสียงที่ไม่ได้ยินมาเกือบเดือนอยู่หลังประตูบานนี้ หลายคืนที่ผมต้องสะดุ้งตื่นเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วไม่เจอใคร ผมกลัวว่านี่จะเป็นความฝันของผมอีกคืนหนึ่งที่พอเปิดประตูออกไปแล้วทุกอย่างจะว่างเปล่า แต่ผมก็อดใจไม่ได้ต้องเปิดมันออกไป เพราะผมโหยหาอย่างที่สุดแล้ว
แกร๊ก........
“อ้าว? หวัดดีครับพี่เฟย์ ตื่นแล้วสินะครับ”
“ไง นึกว่าจะนอนจนเช้าอีกวันซะอีก....เป็นอะไรไปอีกล่ะ”
ผมมองคนสองคนตรงหน้า แต่จู่ๆภาพมันก็เบลอจนมองแทบไม่เห็น น้องนัทพยายามทอดไข่ น้องซันเดินเข้ามาหาผมแล้วยกมือลูบหน้าผมเบาๆ
“ดูดิเนี่ย อะไรวะ ร้องไห้ด้วยเป็นอะไรอีกพี่เฟย์”
ผมตกใจยกมือลูบหน้าตัวเอง จริงๆด้วยหน้าผมเลอะไปหมด ผมกำลังอึ้งอยู่แท้ๆแต่ก็อดไม่ได้ต้องคว้าเอาตัวน้องซันเข้ามากอดสักที
“ซัน...ซัน...พี่คิดถึง...ซัน....”
“โอ๊ยๆ เอวจะหักแล้ว เบาหน่อยสิ.......ผมก็....”
“อะไรกันพี่เฟย์ คิดถึงแต่ไอ้ซันเหรอ แล้วผมล่ะ”
ผมเงยหน้ามองน้องนัทในชุดกันเปื้อนสีฟ้ายืนเท้าเอวหน้าบึ้งแล้วหัวเราะ ผมลากน้องซันเข้าไปใกล้น้องนัทแล้วกอดทั้งสองคนไว้แน่น ตอนแรกน้องๆก็พากันดิ้นกระดุกกระดิกแต่สักพักผมก็รู้สึกได้ถึงวงแขนที่กอดรัดตอบผม
“คิดถึงสินัท....คิดถึงมากที่สุด...มากจนจะตายอยู่แล้ว”
“เหอะ คิดถึงแต่เล่นหายไปเกือบเดือนเนี่ยนะ ผมจะเชื่อพี่ดีมั้ย”
“ผมเห็นด้วยกับไอ้ซัน พี่เฟย์กลับมาอยู่ที่นี่กับพวกเราเถอะนะครับ ผมรู้ว่าพี่มีเรื่องที่ต้องทำแต่มันไม่ได้จำเป็นไปกว่าความสุขของพี่ไม่ใช่เหรอครับ”
ผมยืนนิ่งครุ่นคิด อันที่จริงผมก็เริ่มท้อแล้วเหมือนกัน ถึงจะแก้แค้นพวกมันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ภาพใบหน้านองน้ำตาของไอ้แอลลอยขึ้นมาผมใจสั่น ความรู้สึกอึดอัดใจนี่คืออะไร ทำไมผมรู้สึกคิดถึงมัน เป็นไปไม่ได้ ไม่! ผมไม่มีทางคิดถึงมันเด็ดขาด
“ถ้าพี่ทำแบบนั้นไม่เท่ากับว่าพี่เป็นไอ้ขี้แพ้เหรอ ซันกับนัทคิดจะคบกับคนไม่เอาไหนเหรอ”
“น่ารำคาญจริงๆพี่เฟย์ ผมไม่ได้คบกับเทพเจ้านะจะได้ดีไปซะทุกอย่างน่ะ ผมแค่คบกับพี่ไม่เข้าใจรึไง”
“ใช่ครับ อย่างที่ซันพูด พี่จะเป็นคนแบบไหนไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่าผมคบกับพี่เท่านั้น”
นั่นสินะ ในเมื่อน้องๆก็ยังยอมรับตัวผมได้ แล้วทำไมตัวผมเองจะไม่ยอมรับตัวเองวะ เราเองก็เป็นผู้ใหญ่ เป็นพี่ด้วยซ้ำเรื่องแค่นี้ต้องให้น้องๆสอน น่าละอายจริงๆไอ้เฟย์ ไอ้คนโคตรปลวก! ผมด่าตัวเองในใจพร้อมเรียกรอยยิ้มออกมาส่งให้น้องๆ
“นั่นสินะ พี่ว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่แล้วล่ะแต่ยังไงพี่ก็ต้องกลับไปเอาของบางอย่างกลับมาก่อน ซัน นัท รอพี่เฟย์อีกหน่อยได้มั้ยครับ พี่สัญญาว่าจะแค่ไปเอาของแล้วจะรีบกลับมา”
น้องซันลังเลไม่ยอมตอบผมแต่น้องนัทพยักหน้าให้แล้วคลายอ้อมกอด ผมยืนมองหน้าน้องทั้งสองคนอย่างกังวลใจและเมื่อน้องซันและน้องนัทเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้และพยักหน้าให้อีกครั้งผมก็ยกยิ้มจนหุบลงไม่ได้เลยเชียว ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วมุ่งหน้าสู่บ้าน.....บ้านที่ไม่ใช่บ้านของผมอีกต่อไป
บทที่ 10 ยังไม่จบ ต่อวันหลังนะครับ
ส่วนใครที่ยังไม่ถูกใจกับไอ้เฟย์ หึๆๆๆ รอดูกันต่อไปผมไม่สปอย ตอนต่อไปเป็น "บท ล่อลวง" ครับ 