บท น้ำตา หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญได้ผ่านพ้นไป ผมและครอบครัวอันประกอบไปด้วยผม น้องนัท น้องซัน ฮี่ๆๆ ผ่านไปแต่ละวันอย่างมีความสุขแม้ว่าแต่ละวันจะแลกมาด้วยรอยช้ำตามตัวผมก็ตามเช่นตอนนี้
"พี่เฟย์ครับ ตรงนั้นยังมีฝุ่นอยู่เลยนะครับ จำไม่ได้เหรอครับว่าผมแพ้ฝุ่น"
ผมเงยหน้าจากผ้าขี้ริ้วในมือมองน้องนัทที่นั่งไขว้ห้างบนโซฟาชี้นิ้วไปที่โต๊ะกลาง ใบหน้ายิ้มแย้มส่งให้ผมขนลุกชัน มีลางว่าจะเจ็บตัว
"แต่พี่เช็ดไปเมื่อกี้แล้วนะครับน้องนัท พี่ว่ามันสะอาดแล้วนะ"
"พี่จะเถียงผมเหรอ ไหนบอกจะชดใช้ผมไงเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้! ดีผมจะไม่เชื่อพี่อีกแล้ว!"
"หวาๆ ไม่ใช่นะ โอเคพี่จะเช็ดเดี๋ยวนี้แหละครับ น้องนัทพูดถูกพี่เช็ดไม่สะอาดเลยพี่จะเช็ดใหม่เดี๋ยวนี้เลยครับ เพราะงั้นวางแก้วน้ำลงเถอะนะครับ"
ผมพูดเสียงอ่อยเมื่อน้องนัทคว้าแก้วน้ำขึ้นมาเตรียมขว้างมันใส่ผม แหม คราวที่แล้วแจกันหัวเกือบแตก คราวนี้แก้วน้ำ ผมรีบลุกขึ้นไปเช็ดโต๊ะอย่างรวดเร็ว น้องนัทยิ้มอย่างพอใจแล้ววางแก้วลงนั่งดูทีวีต่อ ผมแอบถอนใจเฮือก เมียผมดุจังเลย
"ไอ้พี่เฟย์! ยังไม่ซักผ้าอีกเหรอ นี่มันกี่โมงเข้าไปแล้วกว่าผ้าจะแห้งอีกจะซักตอนไหนกันแน่ นี่แดดมันจะหมดแล้วนะถ้าเสื้อนักศึกษาของผมแห้งไม่ทันพรุ่งนี้ผมฆ่าพี่แน่ๆ!"
เสียงน้องซันโวยวายดังมาจากหน้าประตูคาดว่าคงเพิ่งจะกลับจากไปเรียนมา ผมยืนเหงื่อตกมือที่เช็ดโต๊ะหยุดชะงัก หันไปมองน้องซันที่เดินเข้ามาพร้อมทั้งถอดเสื้อนักศึกษาตัวนอกออกเหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาว อารมณ์หื่นพลันถามหา
"มัวแต่มองอะไรอยู่ได้ผมกลับมาร้อนๆขอน้ำหน่อยไม่ได้หรือไงเนี่ย"
ผมหยุดอารมณ์หื่นตัวเองแล้ววางผ้าขี้ริ้วลงวิ่งเข้าครัวไปนำน้ำเย็นๆมาบริการเมียสุดที่รักทันที น้องซันรับไปดื่มอักๆทีเดียวหมด ผมเห็นเหงื่อหยดพราวเต็มตัวน้องเขาแล้วอดจะช่วยเช็ดไม่ได้
"ทำอะไรน่ะพี่เฟย์!"
น้องซันจับมือผมที่กำลังล้วงเข้าไปถูไถยอดอกนั้นไว้ได้ทัน สายตาคมหันมาจ้องผมเขม็ง ผมได้แต่เหงื่อไหลยืนกลืนน้ำลายเอื้อก!
"เอ่อ พี่จะช่วยเช็ดเหงื่อให้น้องซันน่ะครับ"
"เช็ดเหงื่อ? โดยใช้มือเนี่ยนะ น่าเชื่อมากเตรียมใจไว้แล้วใช่มั้ยครับ!"
"เอ่ะ! เดี๋ยว.....อุก! อ่อก! แอ่ก!"
ศอก เข่า ตามด้วยหมัดเข้าตรงเป้าทุกจุดเล่นเอาผมแดดิ้นกระแด่กๆบนพื้น น้องนัทหัวเราะขึ้นมาและหยิบขนมใส่ปาก ส่วนน้องซันหันมายักคิ้วให้ผมพร้อมทั้งเสียงหัวเราะน้อยๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมนอนยิ้มทั้งน้ำตาบนพื้นกุมเป้าที่ถูกประทุษร้ายแน่น
....คุณแม่ครับ แค่ผมสามารถทำให้น้องๆหัวเราะได้ผมก็มีความสุขแล้วครับ ฮือๆๆ.....
ติ๊ดๆๆ
เสียงโทรศัพท์บ้านสุดเชยดังขึ้นมาขัดจังหวะความสุขของผม ผมจำต้องลากตัวเองขึ้นมารับมันอย่างเสียไม่ได้ และเมื่อเสียงจากปลายสายพูดขึ้นทำเอาผมสั่นไปทั้งตัว
"ไงครับน้องเฟย์ที่รัก ลืมพี่มิลหรือยังเอ่ย หึๆๆ"
"มึง....โทรฯมาทำไม ต้องการอะไร!?"
"แหม ต้องถามด้วยเหรอครับ พี่โทรฯมาเพราะทนคิดถึงน้องเฟย์ไม่ไหวไงครับ อีกไม่นานพี่จะรับเราไปอยู่ด้วยกันนะครับ ที่รัก!"
"กูไม่ไป มึงมอบตัวเสียเถอะเห็นแก่แม่มึงโทษหนักจะได้เป็นเบา เพราะยังไงกูก็ไม่มีวันอยู่กับมึงหรอก!"
ผมพูดเสียงแข็งข่มความกลัวในใจตัวเอง ภาพที่มันยกปืนเล็งมาทางผมกับน้องๆยังติดแน่นในความทรงจำและอยากจะบอกว่าที่จริงผมกลัวมาก.....กลัวตายและ....กลัวสูญเสีย
"อย่าพูดหยาบๆกับพี่แบบนี้นะเฟย์! ไม่งั้นไอ้ณรงค์ได้กลายเป็นชิ้นๆแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ"
"มึงจะทำอะไรพ่อกู! อย่านะไอ้มิล!"
ผมตกใจมือไม้สั่นแทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ
......ผมนึกย้อนเหตุการณ์เมื่อวันนั้นขึ้นมา ตอนที่ไอ้มิลยกปืนขึ้นจะยิงพวกผม
ปัง! ปัง! ปัง!
ผมใจหายวาบนึกว่าตายแน่แล้ว แต่มันไม่ใช่ เสียงปืนนั้นไม่ใช่ของไอ้มิล ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งถือปืนเล็งไปที่ไอ้มิลอยู่
“ไอ้สารเลว มึงฆ่าดีโอ อย่าอยู่เลยมึง!”
อ่ะ เสียงนี่มัน คุ้นๆนะ หรือว่าจะเป็นคล็อก? ที่อกเขามีผ้าพันแผลไว้ เลือดซึมออกมาจนชุ่ม ผมหันไปมองไอ้มิล มันยกยิ้มน้อยๆ
“น่าเสียดายที่ตอนนั้นกูไม่มีเวลาดูว่าพวกมึงหมดลมหายใจไปแล้วรึยังเพราะต้องรีบพาสุดที่รักกูมาเก็บไว้ ไม่คิดว่ามึงจะยังมีชีวิตอยู่นะ คล็อก”
“กูจะฆ่ามึง กูจะแก้แค้นมึงแทนดีโอ!”
“เอาสิวะ!”
....แล้วมันก็กระหน่ำยิงกันอีก ผมกับน้องๆอยู่ในวิถีกระสุนทางเดียวที่จะรอด ต้องกระโดดลงไป ผมเล็งให้ตัวกระโดดลงไปยังพุ่มไม้และกองขยะลดการกระแทกและหนีมา ในหูยังได้ยินเสียงปืนในตอนนั้นอยู่เลย............. ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมือมาวางบนไหล่และบีบแน่น ผมหันไปมองน้องนัทกับน้องซันยืนจ้องผม เขาพยักหน้าให้กำลังใจผม มันทำให้ผมใจชื้นขึ้นเป็นกอง
"บอกว่าให้พูดกับกูเพราะๆ อยากเห็นพ่อมึงตายใช่มั้ย!"
"อย่านะ....ผมขอโทษครับพี่มิล อย่าทำอะไรพ่อผมเลยนะครับพี่ต้องการอะไรบอกผมมาสิ"
ผมกัดฟันพูดกับมัน ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อผมกำมือแน่นอยากจะชกมันให้สาสมกับสิ่งที่มันทิ้งไว้ในใจผมเหลือเกิน
"เฟย์น่าจะรู้ว่าพี่ต้องการอะไรนะ กลับมาหาพี่ซะพี่รอน้องเฟย์อยู่ที่บ้านนะครับ แล้วก็พาไอ้เด็กสองคนที่แย่งเฟย์ไปจากพี่มาด้วย!"
"ไม่! ทำไมต้องพาไปนัทกับซันไม่เกี่ยว!"
"มึงเลือกเอาระหว่างมันสองคนกับพ่อของมึง! เอามันมาให้กูพรุ่งนี้เช้า และอย่าบอกใครไม่ว่าเพื่อนๆของมึงหรือตำรวจ จำเอาไว้มึงอยู่ในกำมือกู!"
ตื้ดๆๆๆ
สายถูกวางไปแล้วแต่ผมยังยืนกำมันนิ่ง ตอนนี้ผมสมองโล่งว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออกสักอย่างเดียว
พ่อ กับ น้องนัทน้องซัน และตัวผม......
ผมจะเลือกอะไร และผมมีสิทธิ์เลือกมั้ย? ผมจะทำยังไงดี ผมกลัว ผมคิดไม่ออก ผม.....
"พี่เฟย์ใจเย็นๆครับ"
ผมสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิดอันสับสนของตัวเอง น้องนัทเดินเข้ามาจับไหล่ผมบีบแน่น ส่วนน้องซันหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อที่หน้าให้ผมอย่างแผ่วเบา
"พี่เฟย์ค่อยๆเล่าให้พวกผมฟังนะครับ พวกผมจะได้ช่วยคิด....นะ"
ผมยืนนิ่งมองลึกเข้าไปในดวงตาของน้องๆ ผมเชื่อใจน้องๆนะแต่ผมไม่เชื่อใจไอ้มิล มันต้องคิดจะทำอันตรายกับน้องนัทน้องซันแน่ๆ และผมคงไม่สามรถทำตามที่ไอ้มิลบอกได้
"ไอ้มิลมันโทรฯมา มันต้องการแลกตัวพี่กับพ่อของพี่เท่านั้นเอง ไม่ต้องเป็นห่วงพี่จะพาตำรวจไปด้วยรับรองทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย"
"จริงๆเหรอครับ?"
"แน่ใจนะพี่เฟย์?"
น้องนัทและน้องซันมองผมตาแป๋ว ผมยกมือขยี้หัวน้องๆอย่างที่เคยทำแล้วหัวเราะเบาๆ
"ครับ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย น้องนัทกับน้องซันไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวจะได้มาทานข้าวกัน"
ผมดันน้องๆเข้าห้องไป ส่วนตัวผมรีบออกมาเข้าครัวทำอาหาร ในสมองครุ่นคิดแต่เรื่องของไอ้มิล เห็นทีงานนี้ต้องขอตัวช่วยซะแล้ว
พอคิดได้ดังนั้นผมก็ยกมือถือกดเบอร์นั้นอย่างรวดเร็วและมันก็เป็นไปตามที่ผมต้องการ
'ไอ้มิล! อย่าคิดว่ามึงถือไพ่เหนือกว่ากูคนเดียวนะโว้ย กูไม่ใช่เฟย์ไอ้เด็กน้อยคนเดิมอีกต่อไปแล้ว แล้วมึงจะต้องรับผลที่ตามมา!'.......
เช้าตรู่วันต่อมา
ผมออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อให้ทันเวลาที่ไอ้มิลบอกและเพื่อไม่ให้น้องๆของผมตื่นทันผมด้วย ผมรีบกลับมาที่บ้านพ่ออีกครั้งอย่างรีบร้อน ภายในบ้านเงียบเชียบยิ่งกว่าครั้งก่อน ผมกวาดสายตามองไปรอบด้าน
"มาเร็วดีนี่ที่รัก ทนคิดถึงพี่ไม่ไหวแล้วเหมือนกันใช่มั้ยครับน้องเฟย์"
ผมหันไปตามเสียงเย็นๆนั้นทันที ไอ้มิลนั่งอยู่บนขั้นบันไดบ้านชั้นบน ในบ้านมืดสลัวๆเพราะไฟไม่ได้ถูกเปิดสักดวง ไอ้มิลค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินลงมาหาผม
"พ่อล่ะ? แล้วคนอื่นๆล่ะ ทุกคนหายไปไหน!?"
ผมขาสั่นยามเมื่อเห็นมันแสยะยิ้มส่งมาให้ ทำไมนะคนที่เงียบขรึมและดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในบ้านกลับกลายเป็นคนที่จิตวิปริตที่สุดในบ้านกัน ใจจริงผมอยากจะใส่เกียร์ถอยหลังนะเพราะผมตัวเปล่านี่ ส่วนมันผมเห็นปืนกระบอกสีดำเมื่อมในมือมันชัดเจน
"พวกมันน่ะเหรอ พี่พาไปอยู่ในที่ที่เงียบๆแล้วพวกมันจะได้ไม่มารบกวนเวลาฮันนีมูนของเราสองคนไงครับ"
มันเดินลงมาหยุดตรงหน้าผม มันสอดมือไปล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วชูบางสิ่งให้ผมดูซึ่งมันทำให้ผมเย็นวูบและตัวสั่นได้ในทันที
"ใส่มันไว้ที่มือซะ อ้อ! ใส่ไขว้หลังด้วยนะน้องรัก หึๆๆ"
มันโยนกุญแจมือสีเงินวาวมาให้ผม ผมลังเลหากผมใส่มันผมจะไม่มีทางหนีได้อีกแต่หากไม่ใส่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรคนในบ้านมั่ง
"รีบๆใส่สิวะ! หรือมึงอยากให้กูเลาะกระดูกพ่อมึงออกมาเล่นล่ะหา!"
มันตวาดผมเมื่อเห็นผมยืนนิ่งอยู่นาน ผมรีบคว้ามันขึ้นมาใส่อย่างลนลาน ความเย็นเฉียบของกุญแจมือแผ่ซ่านเข้าไปถึงหัวใจผม พอผมใส่เสร็จมันก็เดินเข้ามากระชากเส้นผมของผมเข้าไปใกล้มัน
"อึก! บอกได้หรือยังว่าพ่อกับคนอื่นๆอยู่ที่ไหน!"
"แหมๆ น้องเฟย์ของพี่ช่างน่ารักจริงๆขนาดตอนนี้ยังจะห่วงคนอื่นอยู่อีก แต่....."
เพี๊ยะ!
"อึก! ไอ้สัส!"
ผมเผลอด่ามันเมื่อมันตบหน้าผมอย่างแรง ได้รสเลือดในปากประแล่มๆในทันใด มันเหลือกตามองผมอย่างโมโห
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
มันตบซ้อนอีกสามทีเล่นเอาผมมึนงงสติวูบไปแว่บหนึ่งเลยทีเดียว มือหนักชิบเป๋งเลือดไหลออกมาจากปากผมจนมันหยดลงพื้น ไอ้มิลแล่บลิ้นเลียปลายคางผมก่อนจะหัวเราะลั่น
"ทีนี้อย่าริอาจด่ากูอีกจำไว้! กูจะไม่บอกที่ซ่อนพ่อมึงเพราะมึงไม่ทำตามที่กูบอก ไอ้เด็กสองคนนั่นมันอยู่ที่ไหน!"
"มันกลับบ้านนอกไปแล้ว....."
ผมพูดเสียงเบา พยายามแสดงละครให้สมบทบาทมากที่สุด อย่างน้อยๆผมไม่อยากให้น้องๆมาตกอยู่ในอันตรายกับผม แต่ไอ้มิลเหมือนยังไม่เชื่อ
"อย่ามาโกหกกู กูไม่ได้แดกหญ้าแทนข้าว มันอยู่ไหนบอกมา!"
"กูพูดจริงๆมันเลิกกับกูแล้วเพราะมึงไง! เพราะมันกลัวมึงมันเลยเลิกกับกู! สมใจมึงแล้วใช่มั้ย!"
ผมแกล้งทำสีหน้าจะเป็นจะตาย ไอ้มิลมันเชื่อมันยิ้มร่าแล้วหัวเราะเสียงดัง มันก้มลงมาหอมแก้มผมแรงๆทีหนึ่งแล้วพยายามลากผมขึ้นไปบนห้อง
"ดี....ดีแล้วจากนี้จะไม่มีใครเอามึงไปจากกูได้อีก ไม่มีวัน! มึงจะอยู่กับกูไปจนตาย ฮ่าๆๆๆ"
"ปล่อยกูนะ กูไม่อยู่กับมึง บอกมาว่าพ่อกูอยู่ไหน ไอ้สัส ไอ้โรคจิต อุ้ก!"
ผมพยายามดิ้นสะบัดมันออกแต่ไม่วายโดนมันต่อยเข้าที่ท้องจนได้ไม่ใช่แค่หมัดเดียว มันมาทั้งหมัดทั้งเตะจนผมจุกตัวงอมันแบกผมขึ้นบ่าแล้วเอาไปโยนโครมบนเตียงในห้องๆหนึ่ง
"ตอนนี้เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะจะถามหาผู้ชายอื่นทำไม คิดถึงแต่พี่สิ เรียกชื่อพี่สิครับน้องเฟย์ที่รัก ฮ่าๆๆๆๆ"
"แย่หน่อยนะทุกเวลากูคิดถึงแต่น้องนัทและน้องซันเท่านั้น ไอ้โรคจิต! ไปตายซะไป!"
ผมตะคอกมันสุดตัวแม้จะจุกจนแทบขยับไม่ได้ก็ตาม ผมรอสัญญาณแห่งความหวัง ผมว่าผมน่าจะถ่วงเวลาได้มากที่สุดแล้ว เพราะงั้นขอให้สำเร็จด้วยเถอะ!
ปัง!
ทั้งผมและไอ้มิลสะดุ้ง ผมสะดุ้งเพราะดีใจ ส่วนไอ้มิลสะดุ้งเพราะตกใจ ผมกลิ้งลงจากเตียงและกระเสือกกระสนพาตัวเองหนีออกมาจากห้องนั้น ในที่สุดสัญญาณที่ผมรอคอยก็มาถึงเสียที ไอ้มิลที่ตอนแรกตะลึงงันเพราะเสียงปืนนัดนั้นได้สติรีบตามมาจับผมแต่ไม่ทันหรอกเพราะผมระวังตัวอยู่เสมอ ผมไม่สามารถวิ่งลงบันไดได้เพราะไอ้มิลวิ่งตามมาติดๆผมจึงวิ่งไปที่ตึกปีกซ้ายของบ้านแทน
"หยุดนะไอ้เฟย์! มึงจะหนีกูไปไหน มึงหนีกูไม่พ้นหรอก!"
"แฮ่ก หยุดให้โง่เหรอไอ้สัส อย่าตามมานะเว้ย!"
ผมวิ่งหนีมันอุตลุต จะไปทางไหนก็มีแต่ทางตันจะโดดลงทางหน้าต่างก็ไม่ได้มันไม่ได้ต่ำขนาดตอนหนีจากตึกร้างและไม่มีต้นไม้เป็นเบาะรองอีกด้วย ผมวิ่งจนมาสุดทางจำต้องหันไปประจันหน้ากับไอ้มิลอย่างเลี่ยงไม่ได้ มันมองดูผมแล้วหัวเราะจิตๆอีกครั้ง
"ฮ่า...แฮ่กๆ ในที่สุดมึงก็หนีกูไม่พ้น ยอมกลับมานอนให้กูกอดดีๆเถอะเฟย์ กูไม่อยากรุนแรงกับมึงนะ"
"ไม่เอาหรอกไอ้ห่า....แฮ่กๆ กูเกลียดการเป็นฝ่ายรับที่สุดเลยมึงรู้มั้ย นั่นหมายความว่ากูก็เกลียดมึงด้วย!"
ผมพุ่งเข้าไปหามันไม่ให้มันทันตั้งตัวตวัดขาเตะเข้าที่ก้านคอมันแต่มันยกแขนขึ้นกันก่อนจะส่งหมัดขวาแลกกับผม ตัวผมเองไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้เลยจำต้องทิ้งตัวลงนอนกับพื้นเพื่อหลบหมัดนั้นและถีบตัวขึ้นในทันทีที่ไอ้มิลยกเท้ากระตื้บในตำแหน่งที่ผมล้มตัวลงเมื่อครู่
ผมกระโดดถอยหลังและพุ่งเข้าไปใหม่ ไอ้มิลยกแขนกันหน้ามันอีกครั้งแต่ผมไม่ได้เล็งมันที่นั่นเสียหน่อย ข้อเท้าซ้ายของมันต่างหากที่ผมเล็ง
ป้าบ!
โครม!
"โอ๊ย! ไอ้เฟย์ มึง!"
ผมได้โอกาสรีบดีดตัวหนีจากมันทันที ผมวิ่งลงไปยังบันไดที่หมายตาไว้แต่แรกแล้วไถลตัวลงไปอย่างเร็ว ไอ้มิลตามผมออกมาแต่ไม่ทันแล้วล่ะ ผมชนะแล้วเมื่อผมวิ่งออกมาหน้าบ้านได้เกมส์นี้ก็จะจบลง
"ทำได้ดีมากไอ้เฟย์ กูใจหายใจคว่ำหมด!"
"เฟย์ มึงมาหลบหลังกูนี่ เร็วๆ"
ผมวิ่งเข้าไปหาบรรดาเพื่อนๆของผมทั้งไอ้ยูเฟียไอ้หมาม่อนไอ้ซูกัสไอ้เป็ดและตำรวจอีกหลายสิบคน ผมหันหลังให้ไอ้เป็ดช่วยไขกุญแจมือ สายตาผมจ้องไปยังไอ้มิลที่ยืนนิ่งมองผมเขม็ง
"มึง.....ทำแบบนี้ทำไมกูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าแจ้งตำรวจและเพื่อนๆของมึง ไม่เป็นห่วงพ่อมึงแล้วหรือไง"
ผมหัวเราะนิดๆแล้วชี้มือไปทางด้านหลังของกลุ่มตำรวจ ไอ้มิลอ้าปากค้างเมื่อพ่อของผมก้าวออกมาพร้อมทั้งไอ้ออยไอ้แอลและแม่ของมันซึ่งอยู่ในความดูแลของตำรวจ
"กูไม่ใช่เด็กชายเฟย์ตัวเล็กๆที่คอยให้มึงรังแกอีกแล้ว มึงมันพลาดไปแล้วที่คิดว่ากูเหมือนเดิม"
"เฟย์ กูขอร้องกลับมาหากู...."
มันเรียกผมอีกครั้ง.....อีกครั้ง.....และอีกครั้ง มันเรียกร้องให้ผมกลับไปหามันตลอด อีกมือก็ถือปืนส่ายไปมาไม่ให้ใครเข้าใกล้มัน ผมมองมันด้วยความสมเพชเหลือเกิน
"พี่มิลมอบตัวเถอะนะครับ เห็นแก่ความเป็นพี่น้องของพวกเรา"
"ใช่ มิล มอบตัวเถอะ อย่าทำอะไรโง่ๆอีกเลย"
ไอ้แอลกับไอ้ออยออกมายืนด้านหน้าพูดกับไอ้มิลเสียงสั่นเครือ ท่าทางจะเสียใจมาก ผมไม่รู้จะจบเรื่องนี้ยังไงคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
"กูไม่ใช่พี่น้องมึง! กูไม่เคยมีพี่น้อง ถึงแม่เดียวกันแต่พ่อกูไม่ใช่พ่อมึง มึงจำเอาไว้กูไม่เคยคิดว่าพวกมึงเป็นพี่น้องกูเลยสักครั้งไอ้ออยไอ้แอล!"
ไอ้มิลตวาดเสียงกร้าวทำเอาผมชะงัก ไม่ใช่แค่ผมหรอกไอ้ออยกับไอ้แอลด้วย พวกมันตกใจจนทำหน้าพิลึก
"หมายความว่ายังไง พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันเหรอ?"
ไอ้แอลถามเสียงสั่น น้ำตาคลอ ผมเห็นแล้วรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาอยากเข้าไปกอดมัน ปลอบมันว่าอย่าร้องแต่ผมทำไม่ได้ ผมไม่ใช่คนที่สามารถยืนข้างๆมันได้
"อยากรู้เหรอกูบอกมึงก็ได้!"
"อย่านะตามิล อย่าพูดนะลูก ฮือๆๆ พอเถอะตามิล มอบตัวเถอะนะเดี๋ยวแม่จะช่วยลูกเอง พอเถอะนะลูกเห็นแก่แม่เถอะนะ ฮือๆๆๆ"
แม่ไอ้มิลจะวิ่งเข้ามาแต่ตำรวจจับตัวไว้ทัน ไอ้มิลหันไปมองแม่มันด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าไม่ควรใช้มองคนที่มันรักได้เลย
"หึๆๆ ไอ้ออยไอ้แอล พวกมึงรู้เอาไว้ว่าทำไมพ่อถึงไม่เคยรักกูเลย เพราะกูไม่ใช่ลูกของพ่อไงล่ะ เพราะกูคือลูกของนังสำส่อนนั่นกับคนใช้! ตอนที่พ่อรู้พ่อแทบจะฆ่ากูกับมันทิ้งแต่เพราะว่าพ่อกูตายไปซะก่อนพ่อมึงเลยยอมให้กูกับนังนั่นอยู่ในบ้านต่อ มันถูกลดขั้นมาเป็นคนใช้แต่พอมีไอ้แอล พ่อมึงก็ยอมให้นังนั่นกลับมาเป็นคนดูแลบ้าน ทุกอย่างเพราะอีนั่น อีคนที่เป็นแม่กู อีคนที่เป็นแม่พวกมึงไง! แต่สุดท้ายก็ทนอยู่กับมันไม่ได้จนต้องมาจับไอ้ณรงค์เป็นผัวไงล่ะ แม่ของพวกมึงดีมั้ยล่ะ พ่อของพวกมึงด้วยเคยทำอะไรไว้กับกูมึงรู้มั้ย!"
ผมนิ่งอึ้งฟังไอ้มิลพล่ามทั้งน้ำตา ผมไม่เคยรู้เลย ไม่เคยรู้ว่าบนความเจ็บปวดของคนหนึ่งคนจะสามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับคนอีกหลายคนได้ ผมสงสารมัน ผมเริ่มเห็นใจมัน
"ที่กูฆ่าคนเป็นก็เพราะมันสอนกู! สอนให้กูเหี้ย! แล้วกูก็ทำ เพราะกูมีสิ่งที่กูต้องการ.....เฟย์......สิ่งเดียวในชีวิตกูที่ทำให้กูอยากมีชีวิตอยู่ กูรักมึง.....กูรักมึง เฟย์"
"พอเถอะมิล มอบตัวเถอะนะถ้ามึงรักกูมึงต้องไม่ทำแบบนี้....."
ผมทนไม่ไหวแล้ว ไอ้ออยหน้าซีดไปแล้ว ส่วนแม่มันก็เป็นลมเรียบร้อยโดยมีพ่อของผมคอยประคองอยู่ส่วนไอ้แอลที่ร้องไห้จนตาแดงก่ำได้อ้อมแขนของไอ้ยูเฟียกอดปลอบไว้ ผมไม่จำเป็นกับที่นี่อีกแล้ว ผมหลับตาหนีภาพไอ้มิลที่ยืนน้ำตานองหน้าไว้ ผมเจ็บปวด ผมทำใจไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะรักผมหรือเพราะอะไรแต่แววตามันทำให้ผมปวดใจ
"พี่เฟย์!"
เสียงเรียกจากด้านหลังเจ้าหน้าที่ด้านหนึ่งดังขึ้นผมหันไปมองพร้อมกับที่ทุกคนหันไปมอง นัทกับซันวิ่งเข้ามาหาผม หางตาผมเหลือบไปเห็นเงาลางๆที่พุ่งเข้าไปหานัทกับซัน เท้าผมก็ไวกว่าความคิดวิ่งเข้าไปหาน้องๆด้วยความเร็วพอๆกับเงาร่างนั้น
ปัง!
ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเหมือนโดนต่อยหนักๆเข้าที่ท้อง ความรู้สึกเหมือนโดนกระแทกจากท่อนซุงทำเอาผมจุกและชาไปหมด ผมยืนบังน้องนัทกับน้องซันไว้ข้างหลัง ไอ้มิลยืนมองผมอยู่ด้านหน้าดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยน้ำตา ผมทรุดลงตรงนั้นในสายตาที่พร่ามัวผมเห็นไอ้มิลร่ำร้องจนเหมือนคนบ้า มันยกปืนจ่อหัวตัวเองและ.....
ปัง! ผมหมดสติลงในตอนนั้น.......จบตอนที่ 11 บท น้ำตา
เจอกันตอนหน้าคงไม่ต้องมาม่าแล้วละเนอะ ฮ่าๆๆ