อย่างที่บอก คนอ่านเรื่องนี้ต้องเปียก! อาจะเปียกด้วยอะไรผมไม่ทราบ
แต่อย่างที่บอกยังไงก็ต้องเปียก! (ย้ำให้สมชื่อเรื่องครับ ฮ่าๆๆ) ตอนที่ 4 ตัดสินใจ น้ำตาและเลือด วันรุ่งขึ้น
ผมลุกจากเตียงเดินซึมเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองอย่างรีบเร่งเพราะผมสัญญาไว้ว่าจะพาน้องซันไปเยี่ยมน้องนัท ผมแต่งตัวลวกๆหน้าตาซูบจนเกินจะดูได้เพราะเมื่อคืนนี้ผมนอนไม่หลับเลย ผมเดินออกมาแล้วเข้าครัวทำข้าวต้มทะเลสองที่ ผมชะงัก! ปกติผมไม่ทานข้าวเช้า แต่ผมทำอาหารเผื่อน้องสองคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของผม เวลาแค่ไม่กี่วันทำไมมันฝังลึกลงในหัวใจผมได้ขนาดนี้ ผมหัวเราะสมเพชตัวเอง
น้องซันเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร เขาก้มหน้ามองแค่พื้น ผมเข้าใจเขาคงไม่อยากมองหน้าคนอย่างผมเท่าไรหรอก ดีไม่ดีแม้แต่การมีอยู่ของผมอาจจะทำให้เขาสะอิดสะเอียดก็ได้ ผมรู้สึกขมขื่นในลำคอขึ้นมาจะกลืนยังยาก ผมก้มหน้ามองพื้นกลัวจะเห็นแววตาที่สะท้อนความไร้ค่าของผม
"เอ่อ.....น้องซันทานข้าวเช้าก่อนนะเดี๋ยวพี่จะ....จะไปเตรียมของใช้ส่วนตัวให้น้องนัทก่อน"
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว"
"เอ่อ...."
หมดทางไปต่อทำได้แค่ยืนก้มหน้าเกาหัวแกรกๆ
"ทำอะไรอยู่ล่ะพี่เฟย์ มาทานข้าวสิครับ"
ผมอื้งเงยหน้ามองน้องซันทันที น้องเขานั่งตักข้าวต้มทานไปเงียบๆไม่ได้มองผมเลย ผมลังเลว่าจะเข้าไปนั่งด้วยดีมั้ยแต่สุดท้ายก็ย้ายก้นตัวเองมานั่งทานข้าวเช้าที่ผมไม่เคยทานเลยสักครั้ง
ตั้งแต่คำแรกที่ผมตักใส่ปาก มันพาลจะทำให้ผมน้ำตาไหลไม่เคยรู้เลยว่าข้าวเช้ามันจะอร่อยได้ขนาดนี้ยิ่งมีคนมานั่งทานด้วยแล้วมันยิ่งอร่อย อร่อยจนแทบไม่อยากให้ช่วงเวลานี้สิ้นสุด แต่ทุกอย่างมันมักจะมีจุดสิ้นสุดเสมอเช่นความรักที่โง่เขลาของผม
ผมรอให้น้องซันทานเสร็จแล้วผมก็เก็บถ้วยจานไปล้าง ผมมัวแต่เหม่อลอยจนทำแก้วแตกไปใบหนึ่ง อุตส่าห์จะเก็บไว้เป็นที่ระลึกมื้ออาหารครั้งนี้สักหน่อย เสียดายจัง
ผมหันไปหยิบกระเป๋าจากมือน้องซันมาถือเองแล้วเดินไปที่รถ ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งแล้วหันกลับมามองน้องซันที่แทรกตัวมานั่งข้างผม ถึงลึกๆผมจะแอบดีใจที่น้องซันอยากนั่งข้างผมแต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นเพราะคำที่ผมเคยพูดไว้ ผมอยากคิดเข้าข้างตัวเองสักนิดเพราะมันทำให้ผมมีความสุข
"ถ้าน้องซันฝืนใจจะนั่งข้างหลังก็ได้นะ พี่ไม่ถือหรอกเพราะพี่บอกแล้วว่าจะชดใช้คืนทุกสิ่ง"
ผมบอกแต่น้องซันยังคงนั่งนิ่งไม่เอ่ยปาก ไม่หันมามอง ผมไม่รู้จะทำยังเลยสตาร์ทรถแล้วขับออกมา
....บางทีน้องอาจจะรำคาญผม
เรามาถึงโรงพยาบาลในเวลาเก้าโมงเช้า ผมพาน้องซันไปหาน้องนัท พยาบาลบอกว่าอาการดีขึ้นแล้วจะย้ายกลับห้องพักฟื้นวันนี้ น้องซันกับผมยืนมองน้องนัทอยู่หน้ากระจก น้องซันยกมือลูบกระจกแล้วมองน้องนัทอยู่อย่างนั้น ผมเห็นแล้วคิดว่าปล่อยเขาสองคนอยู่ด้วยกันสักพักคงจะดีผมเลยปลีกตัวมานั่งตรงจุดนั่งรอของญาติ
"โอ๊ย ไอ้เหี้ยใครจะอยากได้มึงมาเป็นผัว เมายังกับหมาอยู่ทุกวันกูไปหาผัวใหม่ไม่ดีกว่าเรอะไอ้ชาติหมา!"
"แล้วมึงคิดว่ากูอยากได้มึงเป็นเมียนักหรือไง ร่านไปทั่วกูยอมเป็นผัวให้มึงก็ดีแล้วอีตอแหล!"
จู่ๆเสียงผัวเมียคู่หนึ่งก็ทะเลาะกันเอ็ดตะโรลั่น ผมนั่งมองพวกเขาอย่างตกใจนางพยาบาลเข้ามาห้ามก็แล้ว บุรุษพยาบาลก็แล้ว ร่ำๆว่าคุณหมอจะมาจับฉีดยาระงับประสาทผมเดินเข้าไปช่วยห้ามอีกคนเพราะตรงนี้นอกจากญาติคนไข้แล้วก็มีคนไม่กี่คน ผมตรงเข้าจับตัวฝ่ายสามีไว้แล้วบอกให้ใจเย็นๆ
"เพี๊ยะ!"
ผมหน้าชามึนงงไปวูบเลย ไม่ทันรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ถูกตบเข้าแก้มซ้ายแผลเก่าทันที เลือดมุมปากไหลออกมาเดินเล่นเป็นทาง ผมสะบัดหัวได้ยินเสียงนางพยาบาลร้องกรี๊ดทีหนึ่งจากนั้นทุกอย่างรอบตัวก็เงียบสงัดแม้แต่คู่ผัวเมียที่ทะเลาะกันอยู่ยังเงียบ ผมเงยหน้าขึ้นหาสาเหตุแล้วก็เข้าใจทั้งหมด
"เมื่อวานทำเรื่องไว้ยังไม่พออีกเหรอ! ยังจะมาแย่งผู้ชายกับคนอื่นอีก ไอ้เด็กวิปริต! คนเขามีเมียอยู่แล้วยังจะไปแย่งไม่รู้จักอาย!"
ผมยืนนิ่งคลายมือจากพี่ผู้ชายที่ตอนนี้วิ่งไปกอดเมียตัวแน่นดูรักใคร่กันขึ้นมาทันที ผมแอบหัวเราะในใจแม้ว่าหน้าจะเจ็บจนชาก็ตาม
"เอ่อ.....ไม่ใช่นะคะคุณหมอณรงค์ คือคุณคนนี้มาช่วยห้ามสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันน่ะคะ"
ปลายเสียงนางพยาบาลสาวอ่อยลงเมื่อเขาหันไปตวัดสายตามอง เขาหันกลับมามองผมอีกครั้งแค่นเสียง 'ฮึ' ขึ้นจมูกคราหนึ่งก็หันหลังเดินจากไป
ผมยกมือปาดเลือดจากปากออก ดวงตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตาผมข่มมันให้ไหลย้อนกลับ มันไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้วครอบครัวของผม
"คุณครับไปทำแผลหน่อยดีกว่าไหมครับ"
เสียงหมอคนหนึ่งถามผม เขาคือคนที่เป็นเจ้าของไข้น้องนัทนั่นเอง ผมส่ายหน้าแล้วปฏิเสธไป ผมหมดแรงแล้ว ไม่อยากจะทำอะไรต่อไปแล้วผมนั่งปิดหน้านิ่งอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ ผมเงยหน้าขึ้นมองเป็นน้องซัน ผมพยายามทำสีหน้าปกติแม้ว่าในใจผมมันจะจมดิ่งลงไปในกระแสความเจ็บปวด ผมไม่ต้องการให้น้องเขารำคาญ ความรู้สึกของผมไม่ควรไปรบกวนน้องเขา
"ว่าไงครับน้องซัน มีอะไรรึเปล่าครับ"
"เขากำลังจะย้ายไอ้นัทไปห้องพักฟื้นผมเลยออกมาคอย"
ผมพยักหน้ารับรู้ ตาน้องซันแดงก่ำสงสัยจะแอบไปร้องไห้เรื่องน้องนัท ผมนี่มันสันดานเหี้ยจริงๆเลย ผมนั่งเงียบๆกับน้องซัน น้องซันดูเหมือนจะอึดอัดที่ต้องนั่งอยู่กับผมสองคน ผมเสยกนาฬิกาขึ้นมาดู
"เที่ยงแล้วน้องซันหิวข้าวมั้ยครับเดี๋ยวพี่พาไป.....เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้"
ผมเกือบลืมว่าน้องซันไม่อยากอยู่ใกล้ผมเท่าไรเรื่องอะไรจะไปกับผมให้เสียเวลา สู้อยู่รอเพื่อนตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ ผมทนความเงียบไม่ไหวเลยลุกขึ้นยืนน้องซันคว้าชายเสื้อผมไว้ ผมหันไปมองอย่างประหลาดใจ
"ผมอยากออกไปกินข้าวนอกโรงพยาบาล"
ผมอยากจะยกยิ้มแต่ก็กลัวจะยิ้มค้าง น้องซันอาจจะไม่อยากกินอาหารในโรงพยาบาลจริงๆก็ได้แต่ผมขอเถอะ ผมขอคิดเข้าข้างตัวเองอีกสักครั้งว่าน้องซันเปิดใจให้ผม และอยากให้ผมพาเขาไปทานข้าวด้วยกัน
ผมพยักหน้าแล้วจับมือน้องซันอย่างลืมตัว น้องซันสะบัดมือหนีผมอึ้งไป นั่นสินะผมสำคัญตัวผิด บอกแล้วว่าผมอาจจะยิ้มเก้อ ฮะๆๆ
ผมเดินนำน้องซันออกมาจากโรงพยาบาล เราไม่ได้ไปไหนไกลนัก แค่เดินออกมาเข้าซอยและเดินไปอีกหน่อยร้านอาหารธรรมดาซึ่งน้องซันเป็นคนเดินนำผมเข้าร้าน
น้องซันเปิดเมนูแล้วก็สั่งๆ ผมได้แต่เหม่อมองหน้าน้องเขาจนไม่ได้ฟังอะไรเลย มารู้ตัวอีกทีตอนเมนูแปะหน้าผมเพราะบริกรยืนถามผมสามรอบแล้ว
ผมจำไม่ได้ว่าสั่งอะไรไป รู้แต่ว่าตอนนี้ผมอยากจะยิ้มทั้งน้ำตาทั้งดีใจและปวดใจ นี่กรรมคงจะตามสนองผมแล้ว เฮ้อ เจ็บ.....
ระหว่างมื้ออาหารนั้นเรากินกันไปเงียบๆพอเสร็จก็กลับโรงพยาบาลขึ้นไปเยี่ยมน้องนัท ตอนที่ขึ้นมาน้องนัทก็ตื่นแล้ว น้องซันโวยวายถามอาการเพื่อนวุ่นวายไปหมด ผมนั่งห่างๆปล่อยเพื่อนรักเขาคุยกัน สักพักน้องซันก็ขอตัวไปซื้อขนมให้น้องนัท บอกให้ผมดูแลน้องนัทด้วย ผมเลยต้องนั่งมองน้องนัทนิ่ง
"พี่เฟย์ไม่มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ"
น้องนัทเอ่ยทำลายความเงียบ ผมเดินเข้าไปยืนข้างเตียง ใบหน้าขาวซีดของน้องนัททำผมใจสั่น มันตอกย้ำสิ่งที่ผมทำลงไป
"อย่างที่น้องซันบอก พี่จะไม่ทำร้ายน้องๆอีกแล้ว พี่จะชดใช้คืนเรานะ ชดใช้ทุกอย่าง"
"พี่ทำผมเกือบตาย ทำผมฝันร้ายตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ พี่พูดแค่นี้จะให้ผมเชื่อเหรอครับ"
"พี่ไม่มีอะไรประกันว่าพี่พูดจริงนอกจากชีวิตพี่ ถ้าน้องนัทและน้องซันจะขออะไรจากพี่ก็ตามพี่ก็จะให้"
"แม้ว่าผมจะให้พี่ไปตายซะยังงั้นเหรอครับ"
"ครับ"
"แล้วมันจะคืนสิ่งที่ผมเสียไปได้ไหมล่ะ! พี่จะคืนสิ่งที่พี่ย่ำยีผมมาตั้งแต่ต้นได้มั้ยล่ะ! พี่ทำได้มั้ย!"
น้องนัทตะคอกออกมาเสียงดัง น้ำตาไหลพราก ยิ่งตะโกนน้องเขาก็ยิ่งไอ ผมรีบเข้าไปประคองแต่น้องนัทปัดมือผมออก
"พี่....พี่ขอโทษ อย่าตะคอกอีกเลย ไอใหญ่แล้วนะ"
ผมลนลาน น้องนัทก็ยิ่งไอ จนน้องซันเปิดประตูเข้ามาน้องเขาก็ตวาดเสียงกร้าวใส่ผมว่าทำอะไรน้องนัทจนเขาไอหนักขนาดนี้ น้องซันไล่ผมออกมา ผมมองหน้าน้องนัทอีกครั้ง
"ถ้าน้องนัทหายดีเมื่อไร พี่จะชดใช้ให้ สิ่งที่พี่ชดใช้เราสองคนได้มีแค่ชีวิตนี้เท่านั้น"
ผมก้าวถอยหลังน้ำตากำลังเอ่อนอง ผมหันหลังวิ่งออกมาจากห้องนั้น วิ่งหนีให้ไกล หนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง หนีจากโลกใบนี้....
เอี๊ยด!
โครม!
เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินคือเสียงคนกรีดร้องเสียงล้อรถบนท้องถนน และ......
เสียงหัวใจเต้นครั้งสุดท้ายของตัวเอง!จบตอนที่ 4 เฮ้อ ผมบิ้วอารมณ์อย่างอื่นนอกจากหื่นไม่ค่อยออกง่า
พอเขียนเสร็จ ขอไปนั่งมองสาวๆทำใจก่อนนะคร้าบบบ
เจอกันตอนหน้า มาดูมุมมองของไอ้น้องซันกันบ้างงงงงงงง