ตอนที่ 27ธันว์‘เลิกคิด เลิกหวังซะ...ดูไว้ซะ คนนี้คือคนที่ฉันรัก และความรักของเราก็ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน ถ้าไม่มีคนในอ้อมกอดฉันคนนี้...หวางหลี่ผิงแห่งหวางหย่งกังคงไม่รู้จักคำว่า ‘รัก’ ’พวกคุณได้ยินประโยคนี้แล้วมีอาการเช่นไรครับ ผมเดาว่าบางคนอาจจะเบะปากด้วยความหมั่นไส้ แต่อาจจะแอบอมยิ้มยกนิ้วให้คนพูดและนินทาเบาๆว่า...‘ช่างกล้า!’ หรือถ้าหนักหน่อยก็คงกรี๊ดแทบสลบพูดจาไม่รู้เรื่องด้วยความถูกใจ!
ส่วนผม ‘คนนี้’ ไม่มีอาการอย่างที่พวกคุณเป็น ผมแค่ตกตะลึงตาค้างเหมือนโดนจับไปแช่แข็ง พูดไม่ออก ขยับไม่ได้ หูอื้อตาลาย ด้วยไม่คาดคิดว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้ ในสถานที่ที่ไม่ได้มีแค่เรา และยังไม่หมดเท่านั้นครับ เพราะยังมีสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายของผมอีก
เมื่อช่วงเวลานั้นปลายคางผมถูกเชยขึ้น จนสามารถเห็นแววตามุ่งมั่นของคนที่ก้มหน้าลงต่ำใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างชัดเจน สายตาที่จับจ้องมายังริมฝีปากของผม ทำเอาผมใจกระตุกและพอเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เพียงเสี้ยววินาทีท่ามกลางความเงียบ ริมฝีปากผมก็ถูกประกบอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเกิดเสียงฮือฮาดังแว่วเข้าหู แต่ผมไม่มีสติพอที่จะรับรู้ ด้วยถูกล่อหลอกจากจูบที่แสนอ่อนหวาน
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อร่างกายถูกโอบกอดอย่างทะนุถนอม ใบหน้าถูกซุกซ่อนไว้กับอกแกร่ง จนหูได้ยินหัวใจภายใต้กล้ามเนื้อแน่นๆเต้นด้วยเสียงหนักแน่นในจังหวะสม่ำเสมอ ก่อนผมจะรู้สึกถึงหัวใจภายในอกตัวเองเต้นเร่าเด้งกระดอนไปมา ตามมาด้วยกระแสความร้อนพวยพุ่งขึ้นแก้มขึ้นหูก่อนลามไปทั่วตัว
จนไม่ทันสังเกตว่าใครจะมีปฏิกิริยาเช่นไร กับเลิฟซีนเล็กๆที่ผมมิได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดครั้งนี้ แม้แต่กับนายซีอาร์นั่น ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีสีหน้าอย่างไรและมีความรู้สึกเช่นไร เพราะช่วงเวลานั้นผมคิดอย่างเดียวว่า อยากจะเข้าสิงร่างที่กอดผมไว้ เพื่อหนีจากสายตาของคนรอบตัว
“ยิ้มอะไรอยู่ครับ” เสียงนุ่มๆดังขึ้นข้างหู พร้อมสัมผัสอบอุ่นที่แผ่นหลังและแรงกระชับรอบเอว
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือความตั้งใจของเจ้าของอ้อมกอด เพราะเมื่อผมเอียงหน้าขึ้นนิด ทำเอาทั้งปากและจมูกฝังเข้าแก้มขาวเต็มๆ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะคลอเบาๆดังขึ้น ผมจึงได้คำตอบว่าเป็นเพราะความตั้งใจของเฮียหลี่ผิง พอได้ฮึดฮัดใส่ก็ยิ่งเป็นที่ถูกใจของอาเฮียขี้แกล้ง ผมที่ทำอะไรไม่ได้นัก จึงแกล้งเอาหัวกระแทกเข้าอกแกร่งเบาๆอยู่หลายที และแกล้งทำหน้าบึ้งเพื่อต่อว่าเจ้าของรอยยิ้มละลายใจ ก่อนแสร้งเบือนหน้าหนีตัวต้นเหตุของอาการใจสั่น
“เฮียล้อเล่น...น้องธันว์ทำไมถึงหนีเฮียมายืนตากน้ำค้างคนเดียวครับ” ผมถึงกลับอมยิ้มให้กับคำถามแสดงความห่วงใยที่มาพร้อมแรงกระชับรอบตัว
“ธันว์กะว่าจะออกมาสูดอากาศแป๊บเดียว นี่ก็ว่าจะเข้าแล้ว แต่เฮียหลี่ผิงนั่นแหละอาบน้ำเสร็จเร็วเอง...จุ๊บๆๆ...อ๊ะ!” ผมอดไม่ดีที่จะแกล้งยู่หน้ายื่นปากเข้าใส่ คนช่างเป็นห่วงเป็นใยเกินพอดีคนนี้
แต่เฮียหลี่ผิงกลับฉวยโอกาสแตะปากผมซ้ำๆอยู่หลายที ก่อนหมุนตัวผมกลับมาเผชิญหน้า และส่งปลายนิ้วมาลูบระหว่างคิ้วให้อย่างอ่อนโยน พร้อมส่งยิ้มหวานใส่ตาให้ผมต้องหลบตาคู่นี้อีกจนได้
“เฮียเป็นห่วงน้องธันว์นี่ครับ เห็นเงียบไปตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว ออกจากห้องน้ำมาไม่เจอ เฮียก็นึกว่าโดนงอนเข้าแล้วน่ะสิ แต่พอเห็นน้องธันว์ยิ้มได้แบบนี้ก็สบายใจ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเฮียหลี่ผิงแสดงออกชัดว่าเป็นห่วงผมจริงๆ ทำเอาผมตื้นตัน
ผมจึงสวมกอดเฮียหลี่ผิงไว้จนเต็มอ้อมแขน ซึ่งเฮียหลี่ผิงเองก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ด้วยสวมกอดผมไว้เช่นกัน ผมจึงออกแรงรัดร่างสูงแน่นๆและโยกตัวไปมา พร้อมยื่นมือตบแผ่นหลังกว้างเบาๆ ก่อนจะแกล้งปลอบเด็กโข่งขี้ตื่นด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“โอ๋ๆ ธันว์ไม่ได้หายไปไหนน้า ขวัญเอ๊ยขวัญมา ธันว์อยู่ตรงนี้แล้ว...ทั้งตัวและหัวใจธันว์ อยู่กับเฮียหลี่ผิงแล้วนะครับ” ผมไม่ได้ตั้งใจส่งคำหวานเอาใจอาเฮียแสนดีนะครับ แค่พูดออกไปอย่างใจคิดเท่านั้น
แต่ดูท่าคำพูดของผมจะทำให้เฮียหลี่ผิงตัวลอย วิญญาณหลุดจากร่างซะแล้ว เพราะอาเฮียมองผมตาเยิ้มและพูดชื่อผมเหมือนคนละเมอออกมา
“...ธันว์...น้องธันว์ ~” ผมกลั้นขำจนปวดแก้มกับภาพมาเฟียใหญ่ตรงหน้า ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยพูดลักษณะนี้นะ แต่พอได้พูดทีไรเฮียหลี่ผิงวิญญาณหลุดทุกที
ขอผมปลุกชีพท่านมาเฟียใหญ่ด้วยการจุ๊บเบาๆที่แก้มหน่อยเถอะ ผมขยุ้มเสื้อนอนของเฮียหลี่ผิงไว้ ก่อนเขย่งปลายเท้าจุ๊บแก้มขาวทั้งสองข้าง และคล้องแขนรอบคออาเฮีย เพื่อให้ใบหน้าคมคายโน้มลงมาหา ก่อนกระซิบคำขอบคุณที่ผมอยากจะพูดตั้งแต่อยู่ในงานวันเกิดของนลินออกไป
“ขอบคุณสำหรับการปกป้องความรักของเรานะครับ” ผมคลี่ยิ้มใส่แววตาหยาดเยิ้ม และรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคำพูดและการกระทำของเฮียหลี่คงทำร้ายนายซีอาร์นั่นไม่น้อย แต่ผมก็รู้สึกดีใจและภูมิใจในตัวคนรักมากๆเลยล่ะ ที่ออกตัวปกป้องความรักของเรา จะว่าผมมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นก็ได้นะ แต่ในเมื่อคนอื่นที่ว่านั่น พยายามเข้าแทรกกลางระหว่างเรา ทั้งๆที่รู้ที่เห็นเต็มตาว่าเรามีความสัมพันธ์กันแบบไหน มันจึงเป็นสิ่งสมควรแล้วที่นายนั่นจะได้รับ อย่าว่าผมโหดร้ายเลยนะครับ เพราะไหนๆผมก็เป็นเมียมาเฟียทั้งที ขอโหดบ้างไรบ้างเหอะ แต่ผมเชื่อนะว่านายซีอาร์แห่งวง Chic จะได้เจอคนที่ใช่เข้าสักวัน
เรายืนกอดกันเงียบๆนอกระเบียงสักพัก เฮียหลี่ผิงที่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ด้วยใบหน้าหล่อประดับยิ้มไม่คลาย แววตาระยิบระยับส่องประกายแข่งกับแสงดาวนั้น ก็จูงผมเข้าห้อง ผมแอบเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของมาเฟียรูปหล่อก็ให้ใจเต้น พลางคิดว่าวันนี้เฮียหลี่ผิงของผมดูหล่อกว่าทุกวัน ยิ่งเมื่ออาเฮียหันมาส่งยิ้มหวานๆให้ ผมถึงกลับเคลิ้มและเผลอจ้องตาที่สื่อว่ารักกันไม่ห่าง กว่าที่ผมจะรู้สึกตัว แผ่นหลังก็สัมผัสไปกับฟูกนอนนิ่มๆ พร้อมเจ้าของดวงตาที่ผมจับจ้องตามมาคร่อมร่างไว้แล้ว
ผมเอื้อมมือไปลูบแก้มสากที่มีไรเคราขึ้นจางๆ ก่อนไล้ปลายนิ้วไปตามรูปคิ้วเข้ม ไล่มาที่สันจมูกโด่งๆ และจบด้วยริมฝีปากสีสดที่ระบายยิ้มบางเบา ยิ่งได้กลับมาสบตาแวววาวก็เหมือนโดนมนต์สะกด ให้เป็นฝ่ายรั้งต้นคอมังกรรูปหล่อเข้าหา ก่อนแตะจูบเข้าที่ปากสีสดและส่งลิ้นไปหยอกเย้า เพื่อให้เจ้าของมันยอมเปิดทางให้ ซึ่งก็สมใจเมื่อผมสามารถส่งลิ้นเข้าไปมอบจูบหวานๆแทนคำขอบคุณได้
แต่ดูท่าจะไม่ทันใจเฮียหลี่ผิงนัก เพราะลิ้นผมกลับโดนดูดอย่างแรง ก่อนโพรงปากผมจะโดนรุกล้ำและเป็นฝ่ายได้รับจูบดูดดื่มซะเอง ทำเอาหายใจหายคอแทบไม่ทัน
“เฮือก!...ฮ้าๆ” แต่ยังดีที่มาเฟียใหญ่เค้ายังมีความกรุณาปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ จึงมีโอกาสสูดอากาศเข้าปอด ทดแทนลมหายใจที่ถูกสูบไป
ระหว่างที่ผมนอนระทวยอยู่บนเตียง เฮียหลี่ผิงไม่ยอมให้เสียเวลา ด้วยยืดตัวขึ้นยืนเข่าระหว่างขาผม ก่อนใช้มือจับชายเสื้อนอนตัวเองถอดขึ้นเหนือหัว โชว์ซิกแพ็คและกล้ามอกแน่นๆต่อหน้าต่อตาผม ไอ้สายตาไม่รักดีดันเหลือบลงต่ำ ไล่จากยอดอกสีเข้มมายังหน้าท้องแกร่งที่มีไรขนบางๆ จนถึงขอบกางเกงนอนที่แนวขนผลุบหายไป
แต่สิ่งที่ทำให้ผมปากแห้งคอแห้งคือสิ่งที่อยู่ต่ำกว่านั้น ด้วยขณะนี้กางเกงนอนเนื้อนิ่มโป่งพองจากสิ่งที่ตื่นตัวภายใน ทำเอาผมเผลอกลืนน้ำลายอย่างลำบาก เมื่อจินตนาการถึงตัวตนที่แท้จริงของมันเข้า ก่อนจะมีปลายนิ้วเย็นๆมาเชยคางผมขึ้น จนได้สบตาคมเข้มที่แสดงออกชัดถึงความปรารถนา
ผมสามารถอ่านมันออกได้ว่าเจ้าของนั้นต้องการอะไรจากผม และแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดที่จะตอบรับด้วยการพยักหน้าให้ ทั้งๆที่แก้มร้อนฉ่า แต่ก็คุ้มที่ได้เห็นแววตายินดีฉายชัดจากแววตาคู่คมของเฮียหลี่ผิง หากเทียบกับการกระทำของอาเฮียในวันนี้แล้ว สิ่งที่ผมจะทำมันช่างเป็นการตอบแทนที่เล็กน้อยนัก
ผมตัดสินใจขยับตัวลุกจากเตียง ก่อนนั่งทับขาเผชิญหน้ากับซิกแพ็คแน่นๆ และยื่นมือสั่นๆของตัวเองไปเกี่ยวขอบกางเกงจากเอวแกร่งให้เลื่อนลงต่ำ ซึ่งผมอดผวาไม่ได้กับสิ่งที่ออกมาทักทายสายตา ผมที่จ้องมันไม่วางตาถึงกับปากแห้งขึ้นมาฉับพลัน เมื่อมังกรหัวแดงค่อยๆแปลงกายขยายขนาดขึ้นคาตา ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้แตะต้องมันสักนิด ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่ส่งมาลูบหัว ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้น จึงได้พบกับแววตาเว้าวอนที่แสนออดอ้อน บนใบหน้าหล่อเหลาที่ส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้
ผมสูดหายใจแรงก่อนโน้มตัวเข้าหามังกรน้อยที่ผงกหัวเรียกร้อง และแตะจูบทักทายส่วนหัวเบาๆ แต่กลับทำให้เจ้าของถึงกลับครางหวิวเกร็งหน้าท้องจนขึ้นลูก ก่อนผมจะรวบจับมันด้วยความทะนุถนอม และครอบปากกลืนกินมันเท่าที่ผมสามารถทำได้
“อ่า ~...น้องธันว์ ~” เสียงครางและเสียงชื่อผมดังขึ้นไม่ขาด ระหว่างที่ผมปรนเปรอมังกรน้อยกลางลำตัวของเฮียหลี่ผิง แม้ขนาดที่ใหญ่โตจะสร้างความลำบากให้ผมไม่น้อย แต่ผมก็ทำสุดความสามารถเพื่อคนที่ผมรัก
ระหว่างที่ผมกำลังตั้งใจมอบความสุขให้เฮียหลี่ผิงด้วยปากและมืออยู่นั้น ฝ่ามืออุ่นๆของอาเฮียก็ลูบไล้เส้นผมของผมอย่างเบามือ ก่อนมันจะเลื่อนไปลูบแถวข้างเอวลามมาแผ่นหลัง จนชายเสื้อมากองอยู่แถวต้นคอ ขณะเดียวกันก้นของผมก็ถูกขยำเป็นจังหวะ ก่อนผมจะเย็นวาบไปทั้งบั้นท้าย และต้องครางแผ่วหวิวทั้งๆที่ปากไม่ว่าง เมื่อปลายนิ้วเย็นๆที่ชุ่มโชกไปด้วยเนื้อเจลกรีดผ่านรอยแยก และดันแทรกเข้าสู่ปากทางอย่างช้าๆ
ผมเกร็งตัวตามสัญชาตญาณทันที แต่เสียงนุ่มๆเหนือหัวที่มาพร้อมสัมผัสอบอุ่นของฝ่ามือที่ออกแรงลูบหัวเบาๆนั้น ทำให้ผมเหลือบตาขึ้นมองแววตาอ่อนโยน ทั้งๆที่อะไรๆก็คาปากอยู่ แต่ผมที่ไม่ทันคิดว่าภาพตัวเองที่ปรากฏต่อสายตาเฮียหลี่ผิงนั้น จะไปกระตุ้นไฟปรารถนาของอาเฮียให้ยิ่งลุกโชน
ฝ่ามือที่เคยลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนกลับดันให้ก้มต่ำ พร้อมเสียงคำรามที่ดังขึ้น และผมต้องตกใจเมื่อของร้อนในปากขยายขนาดขึ้นกว่าเดิม ก่อนสะโพกหนาจะเริ่มขยับ เพื่อส่งมังกรร้ายให้มาเริงรื่นในโพรงปากของผม แรกๆผมแทบสำลักจนน้ำตาคลอเบ้ากับความใหญ่โต จนผมต้องฟาดแรงๆไปที่หน้าท้องแข็งๆของคนเอาแต่ใจเพื่อให้รู้ตัว ไม่เช่นนั้นผมคงได้คอแตกเพราะมังกรร้ายอย่างแน่นอน
เมื่อเจ้าของมังกรเริ่มรู้ตัวว่าทำอะไรไว้ ก็ละล่ำละลักขอโทษผมเป็นการใหญ่ ก่อนจะดันไหล่ผมออกจนปากผมเป็นอิสระ
“ที่รัก เฮียขอโทษที่เอาแต่ใจ” ผมส่งยิ้มคืนให้แก่เจ้าของแววตาสำนึกผิด ด้วยเข้าใจและไม่คิดถือสา ก่อนรั้งต้นคอแกร่งเข้าหาตัว พร้อมกระซิบชิดริมฝีปากสีสด
“ไม่เป็นไรครับ” ผลของการเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจในตัวคนรักนั้น ทำให้ผมได้จูบหวานๆเป็นการขอบคุณ ก่อนมหกรรมการเอาใจครั้งใหญ่ของท่านมาเฟียใหญ่ที่มีต่อผมจะเริ่มขึ้น
บทรักอ่อนหวานที่ผมเป็นฝ่ายโดนปรนเปรอ และถูกมอบความสุขให้จากฝีมือของเฮียหลี่ผิง ทำเอาผมครางไม่เป็นภาษา เพราะทั้งมือและปากเชี่ยวชาญสำรวจร่างกายผมจนทั่ว ยิ่งจุดไหนเป็นจุดอ่อนไหวที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของผมได้แล้ว จุดนั้นจะยิ่งถูกเน้นย้ำเป็นพิเศษให้ผมกรีดร้องจนแทบปลดปล่อย แต่ก็ไม่ได้ปลดปล่อย เหมือนว่าผมกำลังโดนกลั่นแกล้งจากคนที่ผมรักสุดใจ ผมจึงได้แต่ดิ้นพล่านไปมาอยู่บนเตียง
อย่างในขณะนี้ผมแทบอยากจะทึ้งเส้นผมในอุ้งมือให้หลุดติดมือ เมื่อเจ้าของมันสนุกกับการหยอกเย้ากับธันว์น้อยกลางลำตัว ด้วยปากนุ่มที่ดูดเม้มอย่างแรงเหมือนอยากสูบพลังชีวิตของผม และนิ้วร้ายที่กวาดควานไปทั่วช่องหลืบด้านหลัง พร้อมสะกิดจุดพิเศษเป็นระยะ ทำเอาผมเกือบถึงปลายทางตัวกระตุกอย่างแรง แต่พญามังกรใจร้ายกลับส่งมือมากำรวบธันว์น้อยที่น่าสงสารไว้ และปิดกั้นช่องทางปลดปล่อย
ผมอดทนต่อความทรมานที่แสนหวานต่อไปไม่ไหว ถึงกลับปล่อยโฮ ทำเอาไอ้มังกรใจร้ายผวาลุกมากอดปลอบประโลมแทบไม่ทัน ผมจึงได้โอกาสกัดไหล่หนาตรงหน้าเพื่อลงโทษซะเต็มแรง ทั้งๆที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เฮียหลี่ผิงเองก็ไม่มีสะบัดออกให้ผมต้องเจ็บตัว และปล่อยให้ผมกัดจนพอใจ แต่มีส่งเสียงสูดปากระบายความเจ็บให้ผมได้ยินบ้าง จนผมได้กลิ่นคาวเลือดนั่นแหละ ถึงคิดจะปล่อยไหล่หนาออกจากปาก
เมื่อได้กลับมาสบตาไอ้เฮียใจร้ายอีกครั้ง จึงเจอเข้ากับสายตาหยอกเย้าแฝงแววอ่อนหวาน ไม่มีแววสำนึกผิดสักนิด ทำให้ผมนึกอยากกัดไหล่อีกข้างให้สมกับความหมั่นไส้ที่มี
“เฮียแค่ไม่อยากให้น้องธันว์ไปก่อน อยากให้เราไปพร้อมกัน” ผมที่กำลังส่งค้อนให้มังกรปากเก่งและยังไม่ทันตอบโต้อะไร ก็ต้องผวาและจิกนิ้วเข้าที่หัวไหล่หนาเต็มแรง เพราะยังไม่ทันขาดคำของเฮียหลี่ผิง มังกรหัวแข็งก็ชำแรกปากทางเข้ามา
จูบดูดดื่มและฝ่ามือที่ลูบไล้แถวยอดอก ถูกส่งมาเป็นตัวล่อเพื่อให้ผมผ่อนคลาย ยอมให้มังกรร้ายแหวกว่ายอย่างช้าๆเข้ามาในร่างกายผมจนสุดตัว ความคับแน่นเริ่มทำให้ผมไม่สบายตัว จนต้องเป็นฝ่ายกระถดสะโพกหนี ก่อนส่ายเข้าหามังกรหัวแข็งที่นอนสงบนิ่งรอเวลาผมส่งสัญญาณ
หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะทั้งผมและพญามังกร ต่างร่วมด้วยช่วยกันรังสรรค์บทรักที่เร่าร้อนอย่างไม่มีเกี่ยงงอน บริเวณไหนของร่างกายเฮียหลี่ผิงที่ผมสัมผัสแล้วสร้างความสุขได้ ผมก็ไม่มีรีรอที่จะทำ หรือแม้แต่เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ร้อน ในการร่วมรักให้ยิ่งทวีความร้อนแรงได้ ผมก็ไม่มีอิดออดที่จะทำ ซึ่งเฮียหลี่ผิงเองก็ใส่ใจผมและตั้งใจมอบความสุขให้ผมไม่ต่างกัน
บทรักมาถึงปลายทางอย่างสมบูรณ์ เราต่างปลดปล่อยความสุขในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงครางกระหึ่มยังดังก้องหู แม้แต่ผมที่นอนหมดแรงบนเตียงยังต้องฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นดู เพราะถ้อยคำบอกรักสุดท้ายที่ได้ยิน ทำให้พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่แดงก่ำจ้องผมไม่วางตา ก่อนร่างหนาจะผ่อนน้ำหนักลงมาทาบทับร่างกายผมทั้งตัว จนผมแทบจมไปกับฟูกนอน
แม้จะอึดอัดแต่ผมกลับไม่คำนึงถึงมันนัก เพราะความสนใจผมอยู่ที่ร่างแกร่งที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อ และอุณหภูมิของผิวกายที่ร้อนจัด พร้อมลมหายใจที่หอบกระชั้นที่ข้างหู แถมอ้อมกอดที่รัดร่างผมจนหายใจแทบไม่ออกนี่ด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นทางความคิดอย่างรุนแรง ว่าผมนั้นมีสิทธิ์ครอบครองเป็นเจ้าของได้แต่เพียงผู้เดียว จนผลักดันให้ผมได้เอ่ยคำรักด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแบบที่ตัวเองยังคาดไม่ถึงออกไป
“รักนะครับ ธันว์รักเฮียหลี่ผิง รักมาก...เฮียหลี่ผิงต้องเป็นของธันว์คนเดียวนะ” แต่อดไม่ได้จริงๆที่จะเอาแต่ใจ ขอยึดท่านมาเฟียใหญ่เป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว
“ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งครับที่รัก หวางหลี่ผิงคนนี้รักน้องธันว์คนเดียว ไม่คิดจะแบ่งใจให้ใครหน้าไหนอยู่แล้ว” คำพูดแสนหวานของท่านเฟียใหญ่สร้างความสุขใจแก่ผมมากมายนัก
ผมจึงคลี่ยิ้มหวานสุดใจใส่ดวงตาหยาดเยิ้มของเฮียหลี่ผิง ก่อนโอบรอบคอแกร่งและพลิกตัวเข้าหาอ้อมกอดที่เปิดรออยู่แล้ว ซึ่งเฮียหลี่ผิงเองก็กอดตอบผมจนแน่น และหัวเราะเสียงทุ้มคลอเบาๆ ก่อนฟัดหัวฟัดแก้มจนผมเริ่มมึน ผมจึงยอมนอนนิ่งๆให้ท่านมาเฟียใหญ่ได้หาเศษหาเลยตามใจชอบ แต่การที่ผมไม่ขัดขืนคงดูเหมือนว่าผมสมยอม เพราะทั้งมือทั้งปากของเฮียหลี่ผิงเริ่มฟอนเฟ้นร่างกายผมไปทั่วอีกครั้ง
“อ๊ะ!...อ่าๆๆๆ” จะไม่ให้ผมร้องได้ไงครับ อยู่ๆเฮียหลี่ผิงก็พลิกตัวผมคว่ำลงบนเตียง และพรมจูบไปทั่วแผ่นหลัง ทำให้ผมสำนึกได้ว่าคืนนี้คงยังไม่ได้นอนง่ายๆ แต่ก็ถือซะว่าให้รางวัลท่านมาเฟียใหญ่เค้าแล้วกันครับ และผมถึงกลับร้องเสียงหลง เมื่อรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่ขยำแก้มก้นผมอย่างแรง
เมื่อหันไปมองก็พบว่าเฮียหลี่ผิงตะครุบก้นผมเต็มฝ่ามือ แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือมังกรร้ายที่ชูคอขึ้นทักทายสายตา และถูกตระเตรียมจ่อปากทางเป็นที่เรียบร้อย สุดท้ายในค่ำคืนนั้นลิงน้อยก็โดนพญามังกรจับกินไปอีกรอบ และหลับคาอกอุ่นๆที่เป็นดังแหล่งพักพิงและที่คุ้มภัย ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มจนถึงเช้า
...........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หวังว่าคุณผู้อ่านจะฟินไปกับบทรักของทั้งคู่นะคะ

และคงไม่ทำให้ผิดหวังกับการรอคอย พิเศษเพื่อคุณค่ะ
หลังจากเสิร์ฟของหวานและของเผ็ดร้อนมาเยอะแล้ว
ตอนหน้าเราจะทำให้เรื่องนี้สมกับมีกลุ่มแก๊งมาเฟียแล้วนะคะ
วันศุกร์มาดูกันค่ะว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคู่หวาน
แต่อย่ากลัวไปล่วงหน้าค่ะ เพราะปรุงมาม่ามาแค่พอให้ได้กลิ่นเท่านั้น
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณสุดใจทุกการติดตามนะคะ
