“เฮ้ยพี่ปืนมา!” คนงานคนหนึ่งร้องตะโกน
ดวงหน้าหวานยิ่งกว่าผู้ชายเงยขึ้น แก้มนวลซับสีเลือดแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะเห็นหน้าเขาแต่เป็นอากาศที่ร้อนจัดต่างหาก ตากลมหวานแสดงความแปลกใจแต่เพียงชั่วประเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นยินดี
“ไงนายปืน! มาถึงตั้งแต่เมื่อไร”
“เอ่อ พักใหญ่แล้วครับ คุณออย...รู้ว่าผมจะ..”
“ภูมิโทรมาบอกน่ะ”
คนพูดยิ้มบางๆ แค่นั้นก็ทำให้หัวใจเขากระตุก รอยยิ้มที่งดงามยิ่งกว่าภาพวาด เสียดายเหลือเกินที่เขาไม่มีโอกาสได้ครอบครอง เจ้าของหัวใจของเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว
“ขอโทษนะครับ แต่ผมคิดถึง...ที่นี่จริงๆ”
“ทำไมต้องขอโทษ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนาย”
ร่างโปร่งบางเดินตรงมาหา ดวงตาของเขาพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ ปืนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่เขาไม่ได้เห็นอาณกรมานานมากเกินไปจริงๆ
ยิ่งกว่าคิดถึง มือบางที่ยังนุ่มนวลเสมอเพราะเจ้าตัวไม่ต้องจับจอบจับเสียมเหมือนคนอื่นๆ คนมีสติปัญญาทำงานด้วยปัญญาผิดกับเขาที่ดีแต่ใช้แรงงานเท่านั้น มันยืนมาจับที่หลังมือกร้านแดดสีผิวตัดกันเหมือนสำลีกับก้อนถ่านไม่มีผิด
“เหนื่อยนักพักหน่อยก็ได้ ยินดีต้อนรับกลับบ้านชั่วคราวนะ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม นับเป็นรอยยิ้มแรกนับตั้งแต่จากที่นี่ไป ความคิดถึงที่หนักอึ้งปลดปล่อยลงไปบ้างแล้วสำหรับคนที่ได้แค่แอบรัก คำทักทายหรือขอบคุณมันก็น่ายินดีเหลือเกินแล้ว
“คุณออยสบายดีไหมครับ”
“อื้อ พี่เสือกลับมาเหมือนเดิมแล้ว แถมขยันกว่าเดิมด้วยเบาแรงฉันลงไปเยอะเลย”
ตาหวานเป็นประกายเมื่อพูดถึงพี่ชาย ความสุขปรากฏบนดวงหน้า ถึงจะเขาจะเจ็บปวดแต่อาณกรยิ้มได้เขาก็ทนไหว รักโดยไม่หวังอะไรตอบแทน
“กินอะไรมาหรือยัง เดี๋ยวฉันทำให้กิน นายอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”
“ถ้าคุณออยทำ ผมทานได้หมดครับ ขออย่าเป็นอาหารฝรั่งผมเบื่อเต็มทนแล้ว”
“ฮะ ฮะ ได้ซิ”
เขามองรอยยิ้มจากใบหน้าหวานนั่นเพลินตา ได้แต่มองไม่ได้แตะต้องหวังว่าเจ้าของตัวจริงคงจะไม่ว่าอะไร...
…………………
“โอ๊ย นายหั่นผักภาษาอะไรกันทำไมดุ้นใหญ่ขนาดนี้ล่ะ นี่มันต้องหั่นแบบนี้” มือเล็กประคองจับบนหลังมือใหญ่โตอีกที ประคองบังคับให้กะระยะห่างอย่างพอดีก้านคะน้าที่ใหญ่น้องๆ ไม้หน้าสามลดขนาดลงเหลือพอดีคำ แต่เขากลับไม่ได้สนใจกับผลงานที่ได้เลยสักนิด กลิ่นหอมคล้ายกลิ่นเด็กปนกับผลไม้สุกอ่อนๆ พัดผ่านปลายจมูก ไรผมสีเข้มระเรี่ยกับใบหูขาวสะอาดตาคมไล่มองลงมาที่แนวขากรรไกรเล็กวกขึ้นไปที่ริมฝีปากอิ่มสีสด จมูกเล็กมีเหงื่อซึมเล็กน้อย ขนตาหนาเป็นแพ อาณกรสวยยิ่งกว่าผู้หญิงคนใดๆ ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันทว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริง
“ก้านเนี่ยก็ต้องลอกเอาไอ้ที่หนาๆ ออกด้วย มันเคี้ยวไม่เข้า แต่ถ้าฟันนายแข็งแรงก็ไม่ว่ากัน”
ใบหน้าที่เขาชื่นชมเงยขึ้น เขาเผลอมองดวงตาหวานที่มีประกายขี้เล่น หัวใจไอ้หนุ่มโง่เขลาปัญญาเต้นแรงต้องคอยห้ามมือตัวเองไม่ให้ทิ้งมีดแล้วคว้าร่างนุ่มนิ่มมากอดสมใจ ทำได้แค่เก็บความหอมชื่นใจเอาไว้ในปอดให้ลึกที่สุดเท่านั้นเอง
“ปลอกเร็วๆ นะ เสร็จแล้วไปเอาไก่ในตู้เย็นมาให้ด้วยเดี๋ยวฉันจะทำไก่ทอดเผื่อพิกเล็ตด้วย กลับมาจากเล่นน้ำคงหิวน่าดู”
“ครับ”
ร่างเล็กผละจากไปเล่นเอาหัวใจเขาแฟบเหมือนลูกโป่งโดนปล่อยลม ไออุ่นน้อยๆ เมื่อครู่จางหายไปแล้วเหลือกลิ่นหอมตรึงใจที่ยังติดอยู่ในอากาศเท่านั้น มือใหญ่เทอะทะพยายามทำตามคำสอนเขาคิดว่ามันยากกว่าการผูกแนคไทด์เสียอีก เพราะต้องคอยระวังไม่ให้โดนมีดบาด ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำกับข้าวกินเองแต่ไม่เคยพิถีพิถันอย่างนี้ต่างหากอย่างดีก็แค่หั่นๆ แล้วก็จับโยนใส่กระทะกินกันตาย
กลิ่นตัวหอมๆ ของอาณกรถูกแทนที่ด้วยปลาอินทรีย์เค็ม เขายกกะละมังพลาสติกที่มีผักคะน้าลอกก้านหั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะใกล้ๆ พ่อครัวตัวเล็ก ก่อนจะไปทำหน้าที่ที่รับได้มอบหมายต่อ ตู้เย็นที่เมี่ยงเป็นคนควบคุมจัดการเสียส่วนใหญ่อัดแน่นไปด้วยข้าวของนานาชนิดๆ ทั้งแต่ขนมเค้กที่น่าจะเป็นของพิกเล็ตไปจนถึงน้ำพริกเผาเก่าๆ ที่ยังแข็งคาถ้วยพลาสติกใบน้อย ปืนทำจมูกฟุดฟิดคลับคล้ายคลับคลาจะได้กลิ่นเหม็นบูดของอะไรบางอย่าง เพียงแค่ผลักพุงขนมปังก็เจอกับยำมะม่วง เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านี่มันตู้เย็นหรือถังขยะกันแน่ ชายหนุ่มเบ้หน้ายกมือปัดป่ายเอาอย่างอื่นที่ไม่ใช่น่องไก่ไปให้พ้นทาง แต่ค้นจนเกือบจะหมดตู้แล้วก็ยังไม่พบสิ่งที่อาณกรต้องการอยู่ดี
“คุณออยครับ ผมไม่เห็นน่องไก่เลย” เมื่อหาไม่เจอก็ต้องร้องขอความช่วยเหลือ
“อยู่ชั้นล่างสุดหรือเปล่า ลองดูซิ” คนหน้าเตาตอบกลับมาขณะที่โยนผักคะน้าที่สวยกว่าเดิมเล็กน้อยลงกระทะ
ร่างสูงย่อกายลง มองหาน่องไก่เจ้าปัญหาทว่านอกจากหมูที่แช่แข็งเป็นน้ำแข็งเขาก็ไม่พบมัน ปืนค้นพบว่าอีกอย่างที่ยากพอๆ กับการหั่นผักคะน้าคือการหาของในตู้เย็นของไร่เคียงฟ้า
“นายนี่นอกจากทำงานไร่แล้วเคยทำอะไรเป็นมั่งไหมเนี่ย”
เสียงใสติดหงุดหงิดบอกขึ้นใกล้ๆ เขาเงยหน้าขึ้นก็พบกับต้นขาเรียวภายใต้กางเกงผ้าสีครีม ปืนเผลอกลืนน้ำลายลงคอเขาไม่กล้ามองสูงมากไปกว่านั้น แถมเจ้าสีกางเกงก็ใกล้เคียงกับผิวกายเหลือเกินทว่าจินตนาการมันสิ่งที่ห้ามยากจริงๆ ร่างเล็กย่อกายนั่งยองๆ ข้างเขา มือขาวคุ้ยหาน่องไก่อย่างเร่งรีบเพราะมีผัดคะน้าปลาเค็มอยู่บนเตา เขาเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานอดอมยิ้มกับคิ้วสวยที่ขมวดมุ่นนั่นไม่ได้
“นี่ไง! ซ่อนอยู่ซะลึกเลย โอ๊ะ!”
จังหวะที่ถุงน่องไก่พันปีถูกดึงออกจากซอกแคบๆ ในช่องแช่แข็ง ร่างที่ทรงตัวด้วยปลายเท้าก็หงายหลังลง ชายหนุ่มรีบสอดมือเข้าช้อนหลังเล็กเอาไว้ก่อนที่ศีรษะจะกระแทกกับขอบเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะล้มแรงและเร็วจนเกินไปกว่ากำลังมือเพียงข้างเดียวจะรั้งเอาไว้ได้ ทั้งสองเลยล้มไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
หัวของอาณกรไม่ได้ฟาดกับอะไรเพราะมีใหญ่รองรับไว้ ส่วนคนตัวโตทาบทับอยู่ด้านบน ร่างกายแนบชิดกันแทบทุกสัดส่วน ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบดี หัวใจสองดวงเต้นสอดประสานเกือบจะเป็นจังหวะเดียวกันแต่ของคนที่อยู่ด้านบนเต้นแรงกว่า ปืนมองภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตากลมหวาน ริมฝีปากสีสดเผยอขึ้นน้อยๆ คล้ายกับจะชวนให้ลิ้มลองความอิ่มฉ่ำ ราวกับมีแรงดึงดูดปืนก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ ปืนลืมทุกสำนึกไปชั่วขณะ....
.......................
โปรดติดตามต่อในวันพรุ่งนี้
เนื่องจากป้าคนแต่งกายหยาบกำลังจะสลาย ยังแต่งไม่จบตอนแต่กระสันอยากลงให้อ่าน
แต่ก็ฝืนสังขารแต่งให้จบไม่ไหวเลยเอาลงแค่นี้ก่อน
ส่วนที่เหลือป้าจะพยายามรวบรวมมวลสารแต่งให้เสร็จแล้วเอาลงต่อให้นะคะ
ป.ล.๑ ๔๐% นี้ของพี่ปืน ส่วนที่เหลือรออ่านต่อเนอะ
ป.ล.๒ ตอนนี้ไม่มีในเล่มนะคะ แต่งให้จากใจ เพราะรักคนอ่าน
ป.ล.๓ จะจัดพี่ช้างกะน้องพิกเล็ตสักหน่อย ถ้าไม่ขี้เกียจนเกินไป