“ก็คุณคุยนานผมไม่ชอบ”
“ไม่ชอบก็เรื่องของคุณ”
“แต่ผมชอบ”
“ชอบบ้าอะไร!”
“ชอบเสือกเรื่องของคุณไง”
“ไอ้…พอเลย แล้วก็เอามือออกไปจากเอวด้วย อื้อ! บอกให้ปล่อยไง”
บทสนทนาจากน้ำเสียงที่คุ้นเคยหยุดการชื่นชมธรรมชาติของเขา ดวงตากลมเหมือนลูกแก้วกวาดหาที่มา ที่หลังพุ่มเฟื่องฟ้าสามสีห่างไปสามสี่เมตรเขาเห็นแผ่นหลังของคนตัวสูงคุ้นตากำลังกอดก่ายใครบางคนอยู่ เสี้ยวหน้าและทรงผมที่ช่วงหัวไหล่บังไว้ไม่หมดหลุดมาให้เห็น เจ้าของแผ่นหลังกว้างนั่นเป็นของคิมหันต์อย่างแน่นอนส่วนเรือนผมสีเข้มนั่นคงเป็นอาณกร ถ้าหากเป็นการพูดคุยด้วยการทักทายหรือถามไถ่กันตามปกติคงไม่น่าสงสัยเช่นนี้ วรทย์เคลื่อนกายใช้เสาต้นใหญ่บังกายเอาไว้กลายเป็นคนเสียมารยาททั้งแอบฟังและแอบดูในคราวเดียวเพราะรู้สึกถึงความลับระหว่างคนทั้งคู่
“ผมคิดถึงคุณ”
“เราตกลงกันแล้ว! แค่คืนเดียวจบ ทำไมถึงงี่เง่าแบบนี้นะ อื้อ ปล่อยซิ”
กลีบปากนุ่มถูกครอบครองปิดกันถ้อยคำต่อว่าต่อขาน วงแขนสอดเข้ารัดเอวบางดึงร่างเล็กเข้าประชิดกาย หนุ่มตัวสูงบดเบียดริมฝีปากกดย้ำราวกับจะทำให้ช้ำ พออีกฝ่ายขยับอ้าหมายจะคว้าอากาศเข้าปอดก็ใช้โอกาสนั้นสอดลิ้นเข้าไปโรมรัน เพียงไม่นานหลังจากรุกรานล้ำลึกร่างน้อยที่ดิ้นขัดขืนก็อ่อนระทวย ยกมือขึ้นคล้องคอปล่อยให้โดนปล้นจูบได้เต็มที่
คนเสียมารยาทเบิกตาโพลงจากมุมนี้เขาเห็นทุกอย่างเต็มตามันชัดยิ่งกว่าหนังสี่มิติเสียอีก ถ้าไม่เห็นกับตาเขาไม่มีทางเชื่อเป็นแน่ คิมหันต์กับอาณกร สองคนนั่นไปสปาร์คกันตอนไหน ถ้าแค่คนรู้จักไม่น่าจะจูบกันดูดดื่มเช่นนี้ คุณหมอตัวน้อยยกมือขึ้นปิดปากเคลื่อนกายถอยกลับเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบ ทว่าแผ่นหลังกลับสัมผัสกับความแข็งแกร่งของบางสิ่ง ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกหมุนกายกลับทันควันแต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคนเข้าเสียแล้ว
“นะ นายเสือ” วรทย์อุทานเสียงเบา ถึงจะตกใจแต่ก็มีสติมากพอ ดวงตาคมทอดมองที่เขาสลับกับคู่รัก? ที่พุ่มเฟื่องฟ้า “เข้าบ้านกันเถอะ”
ไม่รอให้อีกฝ่ายได้เปิดปากถามหาความอะไร มือเล็กคว้าเอาข้อมือแข็งแล้วบังคับให้ตามกันไป แต่ยังไม่ถึงห้องโถงพ่อคนตัวใหญ่ก็หยุดเดินดื้อๆ พอยักษ์ปักหลั่นไม่ยอมเดินมดตะนอยอย่างเขาจะไปลากไหวได้อย่างไร วรทย์หันหน้ามองไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นอดีตเจ้าของไร่เคียงฟ้าทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าใครสักคน
“ไอ้หมอหน้าขาวมันจูบออย”
“………………”
“สองคนนั่นมันคบกันหรือไง”
“………………”
“เป็นได้ยังไงวะ ไอ้คีย์มันชอบมะรุมไม่ใช่หรือไง”
คราวนี้เป็นเขาเสียเองที่แปลกใจ ไม่ใช่แค่ได้ยินพศินเรียกชื่อเล่นของคิมหันต์แต่ยังรวมไปถึงเรื่องความรู้สึกที่คุณหมอรุ่นพี่มีให้กับเขาอีกด้วย
“นายว่าอะไรนะ”
ร่างสูงยืดแผ่นหลังตั้งตรงเพิ่มความสูงให้ห่างจากเขาไปอีกหลายเซน พลิกข้อมือมาเป็นฝ่ายจับมือเขาไว้แทน
“มันชอบมะรุมนะไอ้คีย์น่ะ ผู้ชายด้วยกันมันดูออก”
“แล้วฉันไม่ใช่ผู้ชายหรือไง!” ผู้ชายตัวเล็กย้อน ถึงจะไม่สูงตัวเล็ก ผิวขาว แต่เขาก็ยังเป็นผู้ชาย ทว่าเขากลับไม่เคยรู้ว่าคิมหันต์ชอบเขา
“พวกความรู้สึกช้าก็อย่างนี้และ จะโดนปล้ำอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
“ใครจะปล้ำฉัน นอกจากนายก็ไม่มีใครหื่นเท่าอีกแล้วล่ะ” วรทย์ทำหน้าง้ำใส่ เผลอทำแก้มพองโดยไม่รู้ตัว คนที่เป็นผู้ชายมากกว่าเลยดึงแก้มนวลเสียยืด “โอ๊ย! มันเจ็บนะ”
พศินไม่สนใจตาเขียวๆ ที่ตวัดค้อนใส่ “ไอ้คีย์น่ะมันชอบมะรุม ชอบก่อนพี่ด้วยซ้ำแต่พี่มันใจเร็วด่วนได้ ชอบก็เอาเลยไม่แทงกั๊ก”
“มั่ว! หมอคีย์จะชอบฉันได้ยังไง แล้วถ้าชอบฉันเขาไปจะจูบกับคุณออยทำไม”
“ก็นั่นแหละที่สงสัย ชอบมะรุมแต่ไปจูบกับออย เรื่องนี้มันต้องมีอะไรอยู่ในกอไพ่แน่ๆ”
คุณหมอตัวเล็กสอดส่ายสายตากลับไปที่พุ่มเฟื่องฟ้าสามสีอีกครั้ง ทว่ากลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว เขาไม่อยากเดาให้งงมากกว่านี้คงต้องใช้วิชามารแอบถามจากคิมหันต์อีกทีว่าไปจีบกันตอนไหนแถมความสัมพันธ์ยังล้ำหน้าไปไกลจนน่าตกใจอีกด้วย หัวไหล่โดนโอบหันเหความสนใจ สายตาเลยเปลี่ยนจากดอกเฟื่องฟ้าเป็นแผ่นอกแกร่งสีน้ำผึ้งแทน เพิ่งสังเกตว่าคนเพิ่งหายป่วยไม่ได้สวมเสื้อแถมตะขอกางเกงยังไม่ติดอีกด้วย ทำแค่รูดซิปลวกๆ เท่านั้นไม่รู้ว่าจงใจจะอวดสรีระตัวเองให้เขาอิจฉาเล่นหรือเปล่า
“โกนหนวดให้หน่อยซิ”
“โกนเองไม่เป็นหรือไง”
“โกนได้แต่อยากให้เมียโกนมากกว่า”
หน้าเขาร้อนเห่อเมื่อถูกเรียกว่า ‘เมีย’ แต่พอมองสภาพใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเคราก็อดสมเพชไม่ได้ คนอะไรนอนโรงพยาบาลแค่สองสัปดาห์หนวดขึ้นหยั่งกับฤๅษีชีพราหมณ์ ผิดกับเขาที่นานๆ หนวดจะโผล่มาฟ้องความเป็นชายสักเส้น ไม่ใช่แค่หนวดผมของพศินยังยาวมากอีกด้วย มันเลยต้นคอละหัวไหล่แล้วด้วยซ้ำแถมยังหยาบกระด้างไร้การบำรุงรวมๆ แล้ว อดีตเจ้าของไร่เคียงฟ้าก็ไม่ต่างจากโจรเสียเท่าไร
เขาจูงเด็กตัวโตเข้าห้องน้ำในห้องพักส่วนตัว จัดการเปิดน้ำเต็มอ่างใหญ่ฟองหอมๆ ลอยเหนือน้ำเดาจากความเอี่ยมอ่องคิดว่าเจ้าของคงไม่เคยย่างกรายลงไปนอนแช่ เขาพันขากางเกงขึ้นเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย หย่อนขาลงไปสำรวจความอุ่นของน้ำก่อน แล้วค่อยวางสะโพกนั่งลงที่ขอบอ่างแล้วค่อยกวักมืออีกคนให้ก้าวลงมา พศินเหลือเพียงแค่ชั้นในตัวเองหย่อนกายลงในอ่างน้ำอุ่น แทรกกายลงระหว่างขาของเขากางข้อศอกวางทับที่หน้าขาของเขาพลางเงยหน้าเอนศีรษะพิงกับหน้าท้องของเขาอีกที
วรทย์ป้ายครีมฟองฟูนุ่มบนคางยาวก่อนจะตวัดใบมีดโกนคมกริบตามแนวขากรรไกรกวาดเอาทั้งฟองครีมและเส้นขนหนาใหญ่ติดออก ทำซ้ำสลับซ้ายขวาอยู่หลายทีกว่าหนวดเคราของจอมโจรปล้นสวาทจะหลุดออกหมด พอกวักน้ำล้างเอาเศษขนออกถึงได้เห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาคมสันสะอาดสะอ้าน เส้นผมสีดำสนิทเปียกน้ำถูกเสยอวดความเหล่อเหลาให้ชัดเจนขึ้น ตาคมช้อนมองทั้งที่ยังแหงนหน้าอยู่อย่างนั้น หัวหนักๆ วางพาดอยู่หน้าขาพักใหญ่แล้ว กางเกงผ้าของเขาเปียกน้ำไปหมด
“หล่อแล้ว” เขาชม จากใจจริงเสียด้วยเพราะนายเสือหล่อขึ้นอีกสองระดับ ใบหน้าที่ไร้หนวดเคราเรียวได้รูป ริมฝีปากหยักลึกสีเข้มลูกคางแข็งแรง จนอดเผลอลูกเล่นไม่ได้
มือเรียวถูกคว้าไปจูบเอาใจ พศินคลี่นิ้วแล้วกดปากไล่พรมจูบทีละนิ้วบางจังหวะก็ดูดดุนเรียกเสียงครางแผ่วๆ จากเจ้าของได้
“อาบน้ำกันไหม”
“นายก็อาบคนเดียวซิ เดี๋ยวฉันจะลงไปดูเด็กๆ อ๊ะ”
เพียงแค่ปฏิเสธทั้งร่างก็ถูกดึงให้ลงไปนั่งในอ่างด้วยกัน ฟองเริ่มจางลงจนมองเห็นท่อนขาเปลือยรางเลือนในสายน้ำ หน้าเขาร้อนผ่าวช้อนตามองอีกฝ่าย ดวงตาดำขลับคู่นั้นเต็มไปด้วยความต้องการและขอร้องไม่ต่างจากวันนั้นที่โรงพยาบาล พศินขยับตัวในผืนน้ำยื่นหน้าไร้หนวดน่ารำคาญเข้ามาใกล้ก่อนจะเบียดริมฝีปากเข้ามาเคล้าคลึงแผ่วเบาเหมือนปีกผีเสื้อและเพิ่มน้ำหนักขึ้นจนกลีบปากประชิดกันแนบแน่น ลิ้นร้อนสอดเข้าเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นน้อย วรทย์เรียนรู้วิธีการจูบจากคนบ้ากามมาหลายครั้งเลยตอบโต้กลับไปได้บ้าง แม้จะไม่เชี่ยวชาญเท่าแต่ก็เรียกครางในคอจากคนตัวใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ร่างน้อยผ่อนกายลงในอ้อมแขน เสื้อยืดตัวบางถูกดึงให้พ้นศีรษะอย่างรวดเร็ว สองร่างผวาเข้าหากันมีแค่สายน้ำกับฟองสบู่หอมๆ กั้นกลางเท่านั้น ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนุ่มนิ่ม หยุดทักทายเม็ดทับทิมน้อยทั้งสองบีบเคล้นจนมันตั้งชัน พอสมใจก็เลื่อนมือต่ำไปที่หน้าท้องแบนราบขัดใจกับกางเกงผ้าเนื้อนิ่มต้องใช้ความสามารถอยากจะถอดมันมันออกได้ ทุลักทุเลพอเรียกเหงื่อแต่สุดท้ายร่างของคุณหมอก็เปลือยเปล่าสมใจ
พศินกรีดนิ้วไปตามแนวยาวของกายเล็กสีสด วรทย์ครางใส่ปากของเขาสะโพกลอยด้วยน้ำที่ช่วยพยุงอีกที ขาเรียวกางแยกเปิดทางให้เขาเต็มทีขณะที่สองแขนเหนี่ยวคอของเขาไว้ แค่แกล้งกดนิ้วที่รอยหยักเจ้าตัวก็หวีดร้องกอดเขากว่าเดิมอีก พอเลื่อนนิ้วต่ำไปที่ด้านหลังมันก็แห้งสนิทเสียจนแค่ปลายนิ้วเข้าไปสำรวจไม่ได้
“ยืนหน่อยซิคนดี”
คนที่อยู่ในห้วงเสน่หายอมทำตามอย่างง่ายดาย วรทย์ทรงกายขึ้นเขากดแผ่นหลังบางลงอีกฝ่ายรู้หน้าที่ของตัวเองดีใช้มือจับที่ขอบอ่างยกสะโพกให้เขาเชยชมเต็มที่ ก้นกลมลอยเด่นตรงหน้าหยดน้ำเกาะพราวทางสีสวยยังปิดสนิทรอให้เขาเบิกทางอยู่อย่างนั้น นิ้วอุ่นร้อนกดย้ำๆ รอบจีบสีสด แต่ดูเหมือนว่าเท่านั้นจะยังไม่เพียงพอเขาอยากจะกลืนกินคนๆ นี้ไปหมดทั้งตัว ชายหนุ่มย่อกายลง ระดับใบหน้าเท่ากับสะโพกกลมมือแกร่งจับก้นนุ่มแยกจากกันก่อนจะส่งลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปลิ้มรสความหวาน
“อื้อ อ๊ะ”
คุณหมอตัวเล็กครางฮือ แผ่นหลังแอ่นโค้งขาสั่นราวกับจะพยุงตัวไม่อยู่ พศินกดลิ้นจนรอบจีบสีสดอ่อนตัวลง ชายหนุ่มถอนใบหน้าห่างแต่ยังไม่วายขย้ำก้อนเนื้อกลมๆ อีกสองสามทีด้วยอดหมันเขี้ยวไม่ได้ นิ้วเรียวยาวลอดสอดนำทางเข้าไปก่อน เสียงครางแหลมสูงมากกว่าเดิมคนตัวโตได้ใจควานไปรอบในความอบอุ่น จากนิ้วเดียวเพิ่มเป็นสองและสาม บางจังหวะปลายนิ้วสะกิดโดนจุดกระสัน ร่างน้อยแอ่นโค้งกว่าเดิมเนื้อตัวสั่นระริก อีกฝ่ายได้ใจชอบแกล้งเป็นทุนเดิมเลยกดจุดนั้นซ้ำๆ จนแกนอันน้อยน่ารักกระตุกขยายขนาดอวดโฉม
เจ้าเสือน้อยตื่นตัวเต็มที่ กลิ่นกายหอมนุ่มเหมือนขนมปังติดอยู่ที่ปลายลิ้นเขาพรมจูบบนแผ่นหลังเนียนระหว่างที่ประคองกายจดจ่ออยู่กับปากทางเล็กและคับแคบใช้ส่วนปลายเกลี่ยทักทายเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเขากำลังจะบุกล้ำเข้าไป เขาเห็นมือเรียววางเกร็งบนผนังห้องน้ำ เขาเรียวกางมากกว่าเดิม ดวงหน้าเนียนแดงซ่านด้วยแรงอารมณ์
“อย่าเกร็งนะ เดี๋ยวพี่หัก”
เขากระซิบบอก เจ้าตัวหันมาค้อนทั้งที่หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึง แต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เมื่อเขาดันสัดส่วนร้อนแข็งจัดเข้าไปหาความอบอุ่น ทันที่แทรกกายเข้าไปผนังเนื้อร้อนก็โอบล้อมเขาไว้มันตอดรัดจนแทบจะขยับไม่ได้ เขาสูดหายใจแรงระงับความต้องการที่จะระเบิดแตกในนาทีนั้นเอาไว้ สองมือประคองสะโพกมนกัดฟันดันตัวเข้าไปทีละนิดอย่างใจเย็น ทางคับแคบค่อยๆ ขยายออกตามกลไกลของร่างกาย พศินแช่กายอยู่อย่างนั้นเมื่อเข้ามาจนสุดรอให้ฝ่ายรองรับปรับตัวได้และอาการตอดรัดทุเลาลง
“พี่ ขยับได้หรือยัง”
“อื้อ ขะ..ขยับซิ” เสียงหวานบอกระโหย
สะโพกแกร่งดันเข้าชิดก้มกลมขาวจัดมากกว่าเดิมอีกนิดก่อนจะสาวตัวออกจนเกือบสุดและดันเข้าไปใหม่ จังหวะช้าเนิบนาบทว่าล้ำลึกเสียจนเจ้าของร่างเล็กรองครวญคราง ทุกครั้งที่จากไปและกลับเข้ามาใหม่ดูเหมือนว่ามันจะลึกและหนักแน่นกว่าเดิม แข้งขาเริ่มจะอ่อนแรงลงความเจ็บแน่นเสียดเพลาลงเรื่อยๆ ขณะที่ความเสียวกระสันทำงานหนักมากขึ้น เขารับรู้ถึงกายร้อนแกร่งเต็มไปด้วยเลือดเนื้อที่ผ่านเข้าออกในร่างกาย วรทย์ปล่อยเสียงครางอย่างลืมอาย หน้าท้องเกร็งแน่นด้วยความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นทุกขณะ ร่างกายร้อนผ่าวราวกับโดนพิษไข้รุมเร้า
จังหวะรักเชื่องช้าเร็วขึ้นตามลำดับ ร่างเล็กสั่นคลอนไปตามการเคลื่อนไหวของคนตัวใหญ่ เสียงเนื้อกระทบเนื้อสะท้อนกับผนังสีสวย วรทย์เงยหน้ารู้สึกว่าเริ่มจะหายใจไม่ทัน ฉับพลันขาเรียวข้างซ้ายก็ถูกยกขึ้นเขาหวีดร้องด้วยความตกใจคิดว่าจะล้มลงเสียแล้ว ทว่าอ้อมแขนแข็งแรงสอดรัดเอวไว้ได้ทัน กายแกร่งกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่องและไม่ชาดช่วง มือที่ยันผนังห้องน้ำอ่อนแรงขึ้นทุกที ความเสียวเสียดเข้าครอบงำไปทั่วสรรพางค์ คุณหมอตัวเล็กพลิกกายใช้มือโอบรอบลำคอแกร่ง ใช้ร่างกายที่แข็งแรงกว่าตัวเองหลายเท่าเป็นที่พึ่งพิงขณะที่ส่วนล่างยังคงโดนรุกรานไม่หยุด
ขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบเอาไว้ ริมฝีปากอิ่มช้ำครางครวญระบายความร้อนระอุที่เกิดจากพลางเร่งตัวเร็วขึ้น ไอร้อนในร่างทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านหน้าของเขาตั้งชันทั้งที่ไม่มีใครแตะต้องเพราะกายแกร่งของคนตัวโตกดย้ำโดนจุดกระสันหลายต่อหลายครั้ง เขาเบียดร่างเข้าหาเรือนกายแข็งแกร่งแนบแน่น กล้ามเนื้อได้รูปสวยชิดติดกับผิวเนื้อเนียนลื่นของตัวเอง ห้องน้ำที่เย็นฉ่ำร้อนระอุขึ้นทันที วรทย์ครางเสียงสูงเมื่อพศินอำนวยมือปรนเปรอด้านหน้า มืออุ่นสากรูดรั้งพลางใช้ปลายนิ้วกดย้ำที่ส่วนยอด
“อื้อ อ๊ะ ยะ..อย่า อ๊ะ”
คุณหมอตัวเล็กหวีดร้อง เกร็งร่างเมื่อจุดสูงสุดมาเยือนไอร้อนพุ่งใส่ฝ่ามืออุ่นที่รองรับ ภายในกายบีบรัดสัดส่วนแข็งกร้าวของพศินแน่นกว่าเดิม จนชายหนุ่มตัวใหญ่คำรามเสียงต่ำ กดจูบลงบนกระหม่อมเล็กก่อนจะโหมสะโพกใส่ร่างเล็กเต็มกำลังอย่างไม่กลัวว่าอีกคนจะล้มพับไปเพราะความแข็งแรงของตัวเอง ขนอ่อนในร่างกายลุกชันเขาดันกายเข้าไปจนหมดอีกสองสามครั้งในที่สุดการตอดรัดรัวถี่ของวรทย์ก็บีบเค้นเอาสายธารสีขุ่นจากตัวเขาไปจนได้
“อา...อืม”
ชายหนุ่มอ้าปากครางเสียงต่ำ ปลดปล่อยความต้องการสู่กายอันอ่อนนุ่ม มันยาวนานและมากล้น น้ำสีขุ่นไหลย้อนลงเปื้อนต้นขาขาว แม้จะผ่านศึกรบบนเตียงมาไม่น้อยแต่ไม่เคยมีหญิงใดถึงใจเขาได้เท่ากับวรทย์ ร่างกายอ่อนนุ่มเหมือนตุ๊กตา ตอบสนองเขาอย่างน่ารัก พศินมอบจุมพิตแสนหวนบนกลีบปากนุ่มอีกครั้งแล้วจึงค่อยถอดถอนตัวเองออกจากความอบอุ่นร้อนชื้นนั้น
“อ๊ะ”
ร่างน้อยครางผะแผ่วเมื่อเขาดึงเจ้าเสือตัวเบ้งจากเรือนกาย น้ำที่เขาทิ้งไว้ไหลตามออกมา วรทย์ตัวสั่นผวากอดเขาไว้อีกครั้งร่างนุ่มนิ่มราวกับจะทรงตัวด้วยตัวเองไม่ได้ คนเพิ่งหายป่วยแต่ร่างกายแข็งแรงยิ่งกว่าช้างตวัดแขนช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้ จะเอาให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลย”
คุณหมอหนุ่มหน้าแดงก่ำ เข้าใจคำว่า ‘ทุกซอกทุกมุม’ เป็นอย่างดี คราวหน้าเขาจะไม่ใจอ่อนยอมอาบน้ำให้คนเจ้าเล่ห์นี่อีก อยู่ด้วยกันตามลำพังทีไรได้เรื่องทุกทีซิน่า...
……………………
ก็บอกแล้วว่าเก่งฉากบู๊บนเตียง
หลังจากแต่งเสร็จแล้วถึงได้รู้ว่ามี nc สองฉากในตอนเดียว
ตอนนี่ยาวกว่าปกติตั้งสองหน้าเพราะ nc นี่แหละ
แต่งไปแต่งมาก็เพิ่งสำเหนียกได้ว่า เนื้อเรื่องมันขาดๆ เกินๆ ไม่สมบูรณ์เอาซะเลย
จะว่าไปแล้ว เมารัก เป็นนิยายวายเรื่องแรกของชีวิต (ไม่รวมฟิค เทมป์จี (TOP x G-dragon) และนิยายปกติของข้าพเจ้า)
เนื้อเรื่องมันเลยเว้าแหว่งไม่สมประกอบเท่าไร กอปรกับงานราษฎร์งานหลวงตีกันยุ่งเหยิงไปหมด เมารัก เลยพาทั้งคนแต่งคนอ่านเมาไปด้วย ก๊ากกกก
แต่ถึงจะขาดๆ เกินๆ อย่างไร ในที่สุดก็ดั้นด้นแต่งจนจบ (ซึ่งก็เหลืออีกไม่กี่ตอนเท่านั้น)
การรวมเล่มมีแน่นอนค่ะ (มีตอนพิเศษของอาออยด้วยนะน่าจะประมาณสามถึงสี่ตอนอยู่ในระหว่างการแต่งค่ะ)
เรื่องนี้อาจทำได้ไม่ดีนัก แต่ขอสัญญาด้วยเกียรติของป้าคนนี้ว่าเรื่องหน้าและเรื่องต่อๆ ไปจะทำให้ดีกว่าเดิม (มั้ง) แน่นอนค่ะ
ป.ล. สำหรับผู้ที่ห่วงว่า สามพีของ ปืน หมอภูมิ และโยธิน นั้นจะเต็มไปด้วย nc ไม่จริ๊ง (เสียงสูง) ต้องมีเนื้อเรื่องด้วยน้า ส่วน nc ก็ต้องมีอยู่แล้วเพื่อความฟินส่วนตัวของอิฉันเอง
พล็อตเรื่องคร่าวๆ ร่างไว้ในหัวแล้วค่ะ การแก้แค้น ลงโทษมีตามท้องเรื่องทั่วไป ส่วนหัวใจค่อยเพิ่มเติมไปทีหลัง (เน่าสนิท) รออีกหน่อยนะคะ ขอเคลียร์โปรเจ็คพิเศษก่อนจะดำเนินการแต่งต่ออย่างเร่งด่วนทันทีเลยค่ะ
ป.ล. อีกรอบ ป้าไม่ได้เป็นแฟนคลับ exo นะ แค่เป็นติ่งเท่านั้นเอง
[attachment deleted by admin]