ตากลมเบิกโพลงก่อนจะหลุบต่ำมองศีรษะทุยที่เกยบนหัวไหล่ ใจเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะก่อนที่เต้นโครมครามราวกับจะหลุดจากขั้วเสียให้ได้ ‘เขาโดนหอมแก้ม’ รอยสัมผัสยังติดที่ผิวแก้ม วรทย์ไม่รู้หรอกว่าหน้าตัวเองแดงแค่ไหนแต่เสือทำให้เขากลายเป็นสาวน้อยไปแล้ว
“แก้มพี่หอมจัง ตัวพี่ก็หอมด้วย” เสือพึมพำอยู่ที่หัวไหล่ หัวเกรียนๆ ขยับเข้าชิดกว่าเดิม
“เสือ”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีแค่เสียงหัวใจสองดวงที่ดังแข่งกัน มืออุ่นกร้านสอดเข้าระหว่างนิ้วเกี่ยวกระชับเข้ามา ปลายนิ้วเรียวนุ่มบีบกลับขนาดมือที่ยังไม่ต่างกันมากถ่ายทอดความรู้สึกที่ตรงกันให้ต่างฝ่ายได้รับรู้…
………………………….
“เฮ้อ”
คาร์บอนไดซอกไซด์จากปอดถูกระบายทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า เขารู้ว่าพยาบาลเอ๋หันมามองด้วยความสงสัยหลายครั้งแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น เลือกที่เบือนหน้าหันมองออกไปนอกหน้าต่างแทน
ทัศนียภาพเดิมๆ ที่เห็นมาจนชินตา เกือบปีแล้วที่มาทำงานที่นี่ แต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่ายจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ใครบางคนเข้ามาเติมเต็มโลกสีเทาทึมๆ ของเขาให้น่าสนใจมากขึ้น แต่ก็เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวใครคนนั้นหายไปราวกับใบไม้ถูกลมพัดแล้วหายไปพร้อมกับสายลม
ดวงตากลมหวานทอดมองไปยังทิวเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร เดาเอาว่ามันเป็นที่ตั้งของไร่เคียงฟ้าสถานที่เด็กคนนั้นพักอาศัยตามที่ได้ยินมา เสือกลับไปพักผ่อนที่ได้บ้านได้สองอาทิตย์แล้วหลังจากคืนที่เขาเผลอตัวเผลอใจยอมให้เด็กหัวเกรียนตัวดำหอมแก้มและนอนกอดไปตลอดคืน วันรุ่งขึ้นเสือก็ขอกลับบ้านท่ามกลางความประหลาดใจของเขาแต่เพราะสุขภาพของเสือดีจนค้านไม่ได้เขาเลยจำใจต้องยอมให้เด็กหนุ่มกลับบ้านไป ผ่านไปสองสัปดาห์ไร้วี่แววว่าเด็กคนที่ขโมยหอมแก้มเขาจะติดต่อมา เสือทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเรื่องคืนนั้นอาจจะเป็นแค่ความฝันที่เขาวาดขึ้นเอง
คุณหมอตัวเล็กถอนใจทิ้งอีกครั้ง ดวงตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย ในใจโหวงวูบและว่างเปล่า ไม่ปฏิเสธสักนิดหรอกว่าเขากำลังคิดถึงคนไข้ของตัวเอง ยอมรับทั้งที่ผิดทั้งศีลธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ แต่เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้เสียที่ไหน ถ้าทำได้เขาคงไม่มานั่งคิดถึงหัวเกรียนๆ ที่ซบหัวไหล่อยู่อย่างนี้หรอก
“หมอคะ หมอ หมอมะรุม!”
เสียงพยาบาลเอ๋ดังจนเขาสะดุ้งหลุดจากภวังค์ ดวงหน้าติดหวานของคุณหมอหนุ่มผินกลับมามองพยาบาลสาวที่ทำหน้าปั้นยากอยู่ไม่ห่างนัก
“ครับพี่เอ๋”
“ใจลอยไปถึงไหนแล้ว” พยาบาลเอ๋พูดยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูรับคนไข้ที่รอคิวอยู่ “นายพศิน…”
เขาไม่ได้ตั้งใจฟังว่าคนไข้ที่กำลังจะเข้ามาชื่ออะไร เปิดดูประวัติคร่าวๆ แต่ก็สะดุดกับชื่อและประวัติการรักษา ชื่อเหมือนกับคนที่เขาคิดถึง แต่ติดตรงที่ใครคนนั้นยังเป็นเด็กชายอยู่แต่คนที่พยาบาลเอ๋เรียกเป็นนายแล้ว วรทย์สั่นหัวเบาๆ พลางยิ้มให้กับความคิดบ้าบอของตัวเองก็แค่บังเอิญชื่อเหมือนเท่านั้น ป่านนี้เจ้าเด็กคนนั้นมันลืมพี่หมอคนนี้ไปแล้ว
“สวัสดีครับคุณพศิน…”
เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองคนไข้ที่ชื่อเหมือนกับเด็กหัวเกรียน หัวใจเขาก็หยุดเต้นลมหายใจสะดุดลง ริมฝีปากสีสวยเผยอค้าง นายพศินไม่เพียงแค่ชื่อเหมือนแต่ทุกอย่างที่เขาเห็นยังเหมือนกับเด็กชายพศินอีกด้วย ริมฝีปากหยักสวยสีเข้มคลี่บางเบา ดวงตาคมจัดมองมาที่เขามือกร้านที่จับกันคืนนั้นสอดลงในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีดกระชับท่อนขาที่กำลังจะยาวขึ้นอีก ผมเกรียนๆ ยาวขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังสั้นอยู่ดี ร่างกำยำอย่างคนสุขภาพดีแทรกกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่ตั้งตรงข้ามกับเขา นัยน์ตาสีดำสนิทเป็นประกายวาววับสะท้อนภาพใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
“คิดถึงพี่หมอจัง”
“สะ..เสือ”
“ครับพี่หมอมะรุม” เจ้าของชื่อพศินที่ตอนนี้เปลี่ยนจากเด็กชายเป็นนายแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิมอวดฟันขาวตัดกับสีผิว
เขาพูดอะไรไม่ออกในอกตื้อตันไปด้วยความรู้สึกมากมายจนแยกแยะไม่ได้ ขอบตาร้อนผ่าวเขาดีใจจนอยากจะร้องไห้ในขณะเดียวกันก็แปลกใจที่ได้เห็นเด็กหนุ่มที่คิดถึงอยู่ถึงสิบสี่วันอีกครั้ง พวกเขาจากการโดยไร้วิธีการติดต่อแม้จะเป็นแค่การรักษาธรรมดาแต่สำหรับเขาแล้วเสือคือคนไข้พิเศษ
หน้าของพี่หมอมะรุมตอนนี้น่ารักที่สุด ตากลมๆ แต่หวานนักมองเขาอยู่อย่างนั้นจนแทบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ เขาเห็นรอยน้ำเอ่อที่ขอบตาบอบบาง ริมฝีปากอิ่มสีสวยเผยอขึ้น แก้มเนียนใสระเรื่อซับสีเลือดขึ้นเรื่อยๆ เส้นผมสีเข้มยาวระคอเสื้อสีขาว พี่หมอของเขาเหมาะกับสีขาวที่สุด ทั้งสีผิวและเสื้อตัวนี้ พี่หมอจะรู้หรือเปล่าว่าเป็นคนเปลี่ยนให้เขาชอบสีขาวขึ้นมา เด็กหนุ่มดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะยกขึ้นวางบนโต๊ะทำงานของพี่หมอแล้วถือวิสาสะเลื่อนไปจับมือขาวของคนที่ยังไม่หายตกใจดีเอาไว้ มือพี่หมอยังนุ่มเหมือนเดิมแต่ไม่รู้ว่าจะหอมเหมือนเดิมด้วยหรือเปล่า เสือไม่ปล่อยให้เป็นแค่ความคิด เขาฉุดมือนุ่มขึ้นแล้วจรดจมูกบนหลังมือใจเต้นระรัวกับกลิ่นหอมเหมือนขนมเพิ่งอบ พี่หมอมะรุมหอมจนน่ากินไปทั้งตัว เสืออยากจะกินมะรุมแล้ว
“พี่หมอครับ คิดถึงผมไหม”
พี่หมอไม่ตอบแต่แก้มแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศ เห็นแล้วอดใจเอื้อมมืออีกข้างไปดึงแก้มนุ่มเบาๆ ไม่ได้ แก้มพี่หมอนุ่มยิ่งกว่าแก้มสาวอีก เสือยิ้มชอบใจที่เห็นคนโตกว่าเขินจัด
“สะ..เสือ หายไปไหนมา” กว่าที่เสียงหวานๆ จะกลั่นออกมาได้เล่นเอาเสือลุ้นเสียตั้งนานไม่ใช่อะไรเขากลัวว่าแก้มพี่หมอคนน่ารักจะแตกเสียก่อน
“รักษาตัวครับ ผมอยากเดินมาหาพี่เสืออย่างเท่ห์ๆ แล้วก็ไปทำบัตรประชาชนมาด้วย ตอนนี้ผมเป็นนายเสือไม่ใช่เด็กชายเสือแล้ว” เสือพูดยิ้มๆ
พี่หมอไม่รู้หรอกว่าคืนนั้นเขานอนไม่หลับเลย หัวใจเขาเต้นแรงผิดปกติแต่ในขณะเดียวกันมันก็อบอุ่นเหลือเกิน พี่หมอมะรุมไม่เหมือนสาวๆ ในสต็อกคนอื่นๆ เพราะไม่มีใครเลยสักคนที่ทำให้เขาอยากจะกอดไปทั้งคืน ไม่ใช่แค่ตัวหอมหรือว่านุ่มเหมือนตุ๊กตา แต่พี่หมอคนนี้ทำให้เขาอยากรู้จักไปเรื่อยๆ อยากรู้ว่าพี่หมอชอบกินอะไร สีอะไร เรียนจบมาจากที่ไหน สนใจอะไรเป็นพิเศษ คืนนั้นเสือไตร่ตรองอยู่นานจนกระทั่งแน่ใจว่าชอบพี่หมอเข้าให้แล้ว วันรุ่งขึ้นเสือตัดสินใจขอกลับบ้านเพราะไม่อยากอยู่ในสภาพน่าสมเพชอย่างนี้ต่อหน้าคนที่ชอบอีก
ใช้เวลาอยู่เกือบสองสัปดาห์กว่าจะเอาเฝือกออกได้โดยขอให้อาปยุตที่เป็นผู้อำนวยการที่นี่เอาออกให้ และใช้เวลารักษาแผลที่หน้าอีกสามวันหลังจากไปขอเลิกกับปารินแล้วเธอให้ดัชนีนางทั้งห้ามาให้ จากนั้นก็ไปทำบัตรประชาชนเขาดีใจยิ่งกว่าสอบได้เอเสียอีกตอนที่เห็นคำนำหน้าชื่อตัวเองเป็นนายแล้ว นั่นหมายความว่าช่องว่างมันลดน้อยลงไปอีกหน่อยแม้จะไม่ได้ช่วยเรื่องอายุแต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นเด็กชายอีกต่อไปแล้ว
เสือมองข้ามข้อห้ามและกฎเกณฑ์ของสังคม เขาไม่สนใจหรอกว่าพี่มะรุมจะเป็นเพศอะไรเขาแค่ทำตามที่หัวใจร่ำร้องเท่านั้น สองอาทิตย์แล้วที่เขาต้องอยู่กับคำว่าคิดถึง
“พะ..พี่คิดถึงเสือ”
เสืออมยิ้มก่อนจะยื่นนิ้วไปเกลี่ยน้ำตาที่รินผ่านแก้มใสให้แสนจะดีใจที่พี่หมอก็คิดถึงเขาเหมือนกันถ้าไม่ติดว่าข้างนอกมีคนอยู่เขาจะดึงตัวคุณหมอมากอดเสียให้เต็มรัก
“เป็นหมอร้องไห้ได้ไงกันครับ อย่างนี้คนไข้ก็ใจเสียแย่ซิ”
“ก็เพราะนายนั่นแหละ!” คุณหมอเสียงดัง จนพยาบาลเอ๋ชะโงกหน้าผ่านช่องใสๆ ของประตูมาดู
เสือเลื่อนนิ้วไปหยุดที่ปากนุ่ม ส่งสายตาบอกกลายๆ พี่มะรุมคนน่ารักเลยเงียบเสียง “ผมขอโทษครับ แค่อยากจะโตขึ้นอีกนิดพี่หมอจะได้ไม่ลำบากใจตอนที่คบกับผม”
“นายว่าอะไรนะ!” พี่หมอเสียงดังรอบ แต่ก็หุบปากฉับรู้ตัวได้เองโดยไม่ต้องให้เตือน
“ผมชอบพี่ครับ พี่คบกับผมนะ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างกดหน้าลงกับฝ่ามือนุ่ม อดไม่ได้ที่จะกดปากกับความนุ่มกลางมือ
“ตะ..แต่เสือมีแฟนแล้ว”
“เลิกหมดแล้ว พอเจอพี่มะรุมผมก็หมดอารมณ์กับผู้หญิงไปเลย พี่รู้ตัวหรือเปล่าฟีโรโมนของพี่มันแรงกว่าผู้หญิงอีก”
“เด็กบ้า”
คนที่เรียกเขาว่าเด็กหน้าแดงไปหมดแถมยังลามเลยไปถึงหูต่ำลงไปที่คอ ยิ่งมองยิ่งน่ารักต่อให้คนทั้งโลกต่อต้านความรักประหลาดของเขาก็จะไม่สนใจ พี่หมอของเขาน่ารักขนาดนี้ทำไมเขาต้องสนใจคนอื่นด้วย เสือกระชับมือแน่นกว่าเดิมอีกนิด มือพี่หมอเล็กกว่ามือเขาจริงๆ และอีกไม่นานเขาจะกุมมันได้หมดแน่นอน
“นะพี่หมอ คบกับผมนะ ผมรักพี่จริงๆ คิดถึงจนจะขาดใจอยู่แล้ว”
“แต่เราเป็นผู้…ชายนะ” พี่หมอมะรุมค้าน
“ใครสนใจล่ะ ความรักมันไม่มีเพศสักหน่อยแค่พี่รักผม ผมรักพี่ก็พอแล้ว ตกลงว่าคบกับผมนะ”
เด็กหนุ่มเร่งเร้าตามประสาวัยรุ่นใจร้อน ดวงตาคมกริบต้องมองคนตรงหน้ารอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ถึงจะมั่นใจว่าพี่หมอจะไม่มีทางปฏิเสธเขาแน่แต่ก็อยากเห็นปากสวยๆ ขยับตอบรับกับตามากกว่า
“เสืออายุสิบห้าแล้วใช่ไหม”
“ครับ ผมเป็นนายไม่ใช่เด็กชายแล้ว”
“แล้วเสือคิดว่าพี่อายุเท่าไร”
“นายแพทย์วรทย์ อายุยี่สิบหกปี เกิดเมื่อวันที่สิบแปด เดือนสิงหาคม ปีสองพันห้าร้อยสามสิบเอ็ด เลขที่บัตรประชาชน…”
“พอเลย ไปค้นประวัติพี่จากทะเบียนราษฎร์หรือไง” เจ้าของประวัติส่วนตัวทำหน้าง้ำ แต่อีกคนกลับยิ้มร่า
“เปล่า ไปขอมาจากอายุต พี่ลืมไปแล้วหรือไงว่าผมเส้นใหญ่” เจ้าเด็กจอมสอดรู้หักคิ้วรัว “ทีนี้จะคบกับผมได้หรือยัง ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุหรอกอีกสองปีหน้าผมก็แก่แซงหน้าพี่หมอแล้ว พี่หมอของผมหน้าเด็กขนาดนี้”
“ไอ้เด็กแก่แดดเอ๊ย!”
“ผมชอบอะไรแก่ๆ ครับ มันเร้าใจดี” เสือเอี้ยวตัวหนีฝ่ามืออรหันต์ที่หมายจะประทับลงที่หัวไหล่ได้ทัน เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับหน้าที่ทั้งงอทั้งแดงของว่าที่แฟนในอนาคต “คำตอบล่ะครับ ผมรออยู่นะ”
“ถ้าไม่คบกับเด็กแก่แดด แล้วพี่จะหาเด็กที่ไหนแก่ทั้งแดดทั้งหน้าได้อย่างนายอีกล่ะ”
เจ้าเด็กหน้าแก่หัวเกรียนฉีกยิ้มกว้างเกือบจะถึงใบหู ร่างที่กำลังจะสูงขึ้นอีกหลายเซนติเมตรชะโงกข้ามโต๊ะทำงาน ใบหน้าขาวใสอยู่ห่างแค่คืบเดียวเท่านั้นกลิ่นหอมเหมือนขนมที่เขาแสนหลงใหลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนที่ได้ดอมดมกลิ่นหอมก็โดนขัดด้วยเสียงของพยาบาลหน้าห้องเสียก่อน
“หมอคะ ผู้ปกครองนายพศินมาขอพบค่ะ”
“พ่อเสือจ๋า หนูหิวแล้วตื่นสักทีซิ”
ตากลมเปิดกว้างขึ้นกับเสียงใสที่ดังขึ้นใกล้ๆ หู ภาพใบหน้าหน้าคมสันของเด็กชายหัวเกรียนถูกแทนที่ด้วยใบหน้าขาวใสน่ารักของเด็กชายแก้มกลม จมูกเล็กจิ้มลิ้มอยู่ห่างจากดวงตาไม่ถึงนิ้วดี เปลือกตาบางกระพริบตัวถี่ ในหูยังได้ยินประโยคที่พยาบาลเอ๋บอกว่าผู้ปกครองของนายพศินมาขอพบ เขาจำได้ว่ามารดาของเสือหน้าตาเป็นอย่างไรแต่ที่เห็นอยู่นี่มันไม่ใช่คุณภาวิตาแต่เป็น
“พิกเล็ต!”
“ฮะ หนูหิวแล้วพ่อเสือไม่ยอมตื่นเอาแต่นอนกอดพี่มะรุมอย่างเดียวเลย”
วรทย์ตั้งปรับจูนสมองอยู่นานสองนานกว่าจะรู้ตัวว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือความฝัน เขาฝันว่าไอ้เสือบ้ากามเป็นเด็กอายุสิบสี่ที่แสนน่ารักและขี้อ้อน คุณหมอตัวเล็กย่นจมูกไอ้บ้านี่ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นไปได้หรอกมีแต่จะตกมันเมื่อคืนก็เล่นเอาเขาหมดเรี่ยวหมดแรงจนฝันเป็นเรื่องเป็นราวเสียขนาดนั้น
ตาหวานหลุบมองศีรษะทุยที่ยังซุกบนหัวไหล่ ริมฝีปากสดคลี่ยิ้ม อย่างน้อยท่านอนก็เหมือนในฝัน ถึงนิสัยน่ารักๆ อย่างนั้นจะเป็นแค่ฝันก็ตาม
“ตื่นได้แล้วเด็กชายพศิน” วรทย์ก้มลงกระซิบลงข้างๆ หู
“อืม ผมขอนอนต่ออีกนิดนะพี่หมอ” คนหลับละเมอตอบกลับมา
………………….FIN…………………
ถ้าเจอคำผิดไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะเค้าไม่ได้ตรวจ (รีบมาก)
อัพก่อนที่จะไปไหว้ตรุษจีนกันถือเป็นของขวัญวันตรุษจีนนะคะ (เนื้อหาไม่เกี่ยวกันตรงไหน ฮ่า)
ไม่มี nc เพราะอยากให้ออกมาดูหวานๆ หน่อย
สำหรับคู่พี่ออยเดี๋ยวเค้าจะหาเวลาแต่งให้น้า ตอนนี้ไปต่อเนื้อเรื่องปกติก่อนดีกว่า (แต่ไม่รู้ว่าจะต่อติดหรือเปล่านี่ซิ) ป.ล. ชอบเลโอมากกกกก รูปนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในตอนนี้แต่อย่างใด สมมุติให้เป็นพิกเล็ตละกันเนอะ
[attachment deleted by admin]