หายไปนานเลยเ้ค้ากลับมาแล้วววววตอนที่ ๗...หมอป่วยเสือก็ป่วย
“ได้ๆ เดี๋ยวผมจะเข้าเวรให้ถ้าเขาค่อยยังชั่วเมื่อไรคุณรีบพาเขามาส่งเลยนะ”
ถ้อยคำที่คนรับสายบอกยังชัดเจนในความคิดแม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม ถึงไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็รู้ว่าคิมหันต์เป็นห่วงวรทย์ไม่น้อย นี่ถ้าหากไม่ติดว่าเข้าเวรคงได้บึ่งรถมาแน่ ส่วนเขาเองติดที่ไร่วุ่นกันตั้งแต่ไก่โห่เลยต้องปล่อยให้คนป่วยนอนพักที่ไร่เคียงฟ้าไปก่อนขนาดพิกเร็ตยังต้องวานให้ดินไปส่งเพราะฝนตกหนักแต่น้ำไม่ได้ท่วมไปทุกพื้นที่ของจังหวัดโรงเรียนเลยไม่ประกาศหยุดกะทันหันบวกกับเจ้าตัวดีไม่ยอมหยุดเรียนอีกด้วย ตาโตหวานเบนกลับมายังร่างของคนป่วย เขาให้ปืนช่วยพาหมอมะรุมขึ้นมายังห้องพักห้องเดิม เขาไม่รู้ว่ามีไข้สูงหรือเปล่าให้ยาลดไข้ไปกับเช็ดตัวให้แล้วก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อโดยใช้ชุดของตัวเองเพราะรูปร่างพอๆ กัน มือบางแตะที่หน้าดูเหมือนว่าความร้อนจะทุเลาลงไปบ้างแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจไอ้ที่เป็นหมอแล้วต้องมาป่วยเองยังไม่น่าแปลกใจเท่ากับทำไมวรทย์ถึงเข้าไปนอนในห้องน้ำ
มันเป็นคำถามที่ไม่มีใครให้คำตอบได้เท่ากับคนป่วยเอง แถมยังอาเจียนออกมาอีกด้วยลักษณะคล้ายคนป่วยทั่วไปแต่เขาเชื่อว่ามันน่าจะมาจากสาเหตุอื่นมากกว่า ความสงสัยถูกพับเก็บเอาไว้ก่อนรอมีโอกาสเมื่อไรค่อยสอบถามกันอีกที
“เป็นยังไง ตายหรือเปล่า”
พอพ้นประตูห้องก็เจอคำถามชนิดไม่ถนอมน้ำใจคนป่วย แถมใบหน้ายังเฉยเมยเสียจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ อาณกรทำแค่สั่นหน้าพึมพำบอกไปว่าค่อยยังชั่วแล้ว ก่อนจะใช้มือตบต้นคอตัวเองเบาๆ เพื่อไล่ความเหนื่อยล้าทั้งเฝ้าคนป่วยไหนจะต้องลงไปดูไร่ปาล์มอีกเห็นปืนบอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนักน้ำท่วมร่องต้องเร่งระบายเอาน้ำออกไม่อย่างนั้นรากจะเน่า
“มันยังไม่ตื่นหรือ”
“อืม คงจะเพลียมากไม่รู้ว่าทำไมถึงไปนอนในห้องน้ำได้”
อาณกรไม่รู้หรอกว่าคนที่รู้ถึงเหตุผลอีกคนคือคนที่อยู่ตรงหน้า พศินไม่ได้สบตาน้องชายยื่นหน้าข้ามไหล่เล็กไปมองได้ตัวดีที่นอนเป็นเจ้าหญิงรอเจ้าชายอยู่บนเตียง
“ไปดูไร่ไป เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
“อะไรนะ” ถามคล้ายไม่เชื่อหูเลยได้คิ้วหนาๆ ที่ขมวดแน่นเข้าหากันตอบกลับมาแทน
“หูหนวกหรือไง บอกให้ไปดูไร่ไงเดี๋ยวฉันเฝ้าไข้ไอ้หมอนี่เอง”
อาณกรกระพริบตารัวคิดไม่ถึงว่าคนอย่างพี่เสือจะมีน้ำใจกับเขาเหมือนกัน หากเป็นเมื่อก่อนเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่เมื่อความไว้เนื้อเชื่อใจโดนทำลายมันเปลี่ยนให้คนใจดีเป็นคนใจร้ายได้เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรหรอกผมไม่ได้เหนื่อยอะไร”
“อีกเดี๋ยวก็ต้องไปรับพิกเร็ตแล้วไม่ใช่หรือ”
เมื่อหยิบยกประเด็นพิกเร็ตขึ้นมาเขาก็เลี่ยงไม่ได้ เมื่อเช้ามัวแต่ห่วงวรทย์เลยไม่ได้ไปส่งต้องวานให้ดินไปแทน ช่วงบ่ายที่ไร่คงวุ่นวายน่าดูดินไม่มีเวลาไปรับให้อีกแน่ อาณกรใช้เวลาไตร่ตรองพักใหญ่ที่สุดก็ต้องยอมเห็นพ้องกับพี่ชาย
“ก็ได้ พี่แค่คอยดูว่าถ้ามะรุมตื่นแล้วอยากได้อะไรก็พอ แล้วก็ถ้าเผื่อพี่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรโทรหาผมได้นะ”
พศินพยักหน้าเออออทั้งที่ไม่ได้ฟังที่น้องชายพูดเท่าไรนัก จดจ่ออยู่ที่คนป่วยมากกว่า เขารอจนน้องชายเดินลงบันไดไปแล้วจึงเข้าไปทำหน้าที่พยาบาลพิเศษเฝ้าไข้ให้คุณหมอที่แสนดี เมื่อคืนนี้มันทำเขาแสบนักไม่ใช่แค่แสบยังเจ็บมากอีกด้วย เนื้ออ่อนที่ส่วนปลายยอดโดนท้ายอย่างทารุณผู้ชายด้วยกันรู้ดีว่ามันทรมานมากแค่ไหนกว่าที่เขาจะคลายความเจ็บลงเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว พอตั้งหลักได้ก็ต้องฝืนสังขารไปหาอุปกรณ์มาทำแผลเองที่น่าเจ็บใจไปมากกว่านั้นคือเขาไม่อาจบอกเรื่องน่าขายหน้านี่กับใครได้ แผลยังไม่หายอีกและคงใช้เวลาอีกหลายวันเลยทีเดียวเกิดเป็นผู้ชายแต่จ้าวโลกกลับโดนทำร้ายอย่างแสนเจ็บปวด ความโกรธเคืองเพิ่มทวีเป็นสองเท่าของเก่ายังไม่ได้ชำระไอ้ตัวดีมันทำเพิ่มอีกแล้ว
ตอนแรกเขากะว่าจะรอให้อาหมอกลับมาก่อนแล้วจะทำการรักษาอย่างเป็นจริงเป็นจังสักที แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะให้ไอ้หมอมะรุมหน้าตุ๊ดคนนี้รักษาต่อไป เอากันให้ตายไปข้างนึงไม่อย่างนั้นมันไม่หายแค้น ใครจะว่าเขาปัญญาอ่อนก็ช่างแต่แค้นนี้ต้องชำระ
ไอ้หมอตัวแสบนอนนิ่งบนเตียงในห้องที่มันสร้างประวัติศาสตร์เลวร้ายไว้ให้เขา ดีที่เมื่อคืนฝนตกหนักฟ้าผ่าเสียงดังเลยกลบเสียงร้องอวดครวญไปได้ หยดเลือดไม่มีให้เห็นเพราะกางเกงเขาซับไว้หมดแต่ยังคิดไม่ออกว่าจะว่าแก้ต่างกับเมี่ยงยังไงถ้าหากเจอกางเกงในเปื้อนเลือด ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดเพราะมันคนเดียวแท้ๆ ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย! ชายหนุ่มยืนกอดอกมองร่างเล็กบนเตียงมันคงคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงที่รอเจ้าชายมามอบจุมพิตให้ แต่มันคิดผิดที่ไร่เคียงฟ้าแห่งนี้มีแต่ซาตานชื่อไอ้เสือเท่านั้น!
ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่ยังอุ่นอยู่เพราะอาณกรเพิ่งลุกจากไป สมองที่หยุดคิดไปนานเกือบปีกลับมาทำงานอีกครั้ง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่จู่ๆ เกิดยอมรับการรักษาขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้อาหมอเกลี่ยกล่อมเป็นร้อยเป็นพันรอบแต่มันไม่ได้ผล ใจกระหวัดนึกไปถึงใบหน้าที่มีรอยยิ้มมอบให้เขาเสมอแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลยก็ตาม สิ่งสุดท้ายที่ปารินเหลือไว้ให้เขา พิกเร็ต
ความโกรธที่มีให้ไอ้หมอหน้าตุ๊ดหายไปชั่วคราวเมื่อสำนึกในความผิดที่ก่อให้กับลูกชาย เกือบปีที่ผ่านมาเขาใช้แต่เหล้าบำบัดความบอบช้ำทางหัวใจแต่ไม่เคยคิดถึงคนที่ยังต้องการความรักจากครอบครัวเลย เขาปล่อยให้อาณกรทำหน้าที่แทนตัวเองทั้งที่รายนั้นเป็นแค่อาเท่านั้น เขาเอาแต่คิดถึงตัวเองไม่ห่วงลูกแต่เป็นลูกที่ห่วงเขา พิกเร็ตไม่เคยต่อว่าที่เขาเอาแต่กินเหล้าซ้ำยังช่วยอาณกรพยุงเขาตอนที่เมาเป็นหมานอนข้างทางด้วยซ้ำ เด็กชายเพียงแค่ห้าขวบต้องทนกับคำเย้ยหยันว่ามีพ่อเมาเหมือนหมา เขาไม่เคยทำอาหารให้ลูกจนต้องให้คนอื่นทำให้ ถ้าหัวไม่แตก ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเขาคงไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจังยิ่งพอได้เห็นตาใสๆ ของลูกชายมันช่วยให้ตัดสินใจได้เด็ดขาด
มันทรมานมากในช่วงแรกจนถึงตอนนี้ก็ยังมีอาการหลงเหลืออยู่ ความอยากเหล้าปรากฏเป็นระยะคอขมจนแห้งเขาต้องหาบางอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจ และไอ้บางอย่างที่ว่าก็คือการได้แกล้ง ได้เอาคืนไอ้หมอมะรุมนั่นเอง พอคิดถึงมันความคิดก็วกกลับมาจุดหมายอีกครั้ง มันยังนอนไม่ตื่นเขาเริ่มไม่แน่ใจว่ามันป่วยหรือว่าตายกันแน่ พศินเอียงคอพิจารณาโครงหน้าที่สวยเกินผู้ชายของมันอีกครั้ง ขนตาของมันยาวแต่ไม่ได้ดกหนาเป็นพระเอกลิเก จมูกโด่งใช้ได้ริมฝีปากอิ่มแต่วันนี้มันซีดกว่าเมื่อวาน เรื่องรูปร่างเมื่อวานเขาสำรวจไปแล้วเอวมันเล็กกว่าเขาเป็นคืบไม่รู้ว่าพ่อแม่มันเอาอะไรให้กินตัวมันถึงได้เล็กนัก
นานจนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีแต่เขายังจับจ้องร่างคนป่วยไม่วางตา มองแผ่นอกบางๆ สะท้อนเป็นจังหวะฟังเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของมันเรื่อยๆ จนเกือบลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าเขารับอาสามาทำหน้าที่ทำไม
“นะ หนาว”
กำลังมองผิวขาวๆ ของมันเพลินก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงครางแทรกกับลมหายใจของมัน ดูเหมือนมันจะพึมพำประโยคเดิมซ้ำฟังได้ความว่าหนาว ตั้งแต่เข้ามาเขารู้ว่าในห้องไม่ได้เปิดแอร์แถมอาณกรยังห่มผ้าให้มันอีกด้วยแต่ดันร้องว่าหนาวอีก ช่วงแขนยาวเอื้อมไปกระชับผ้าห่มให้สูงขึ้นอย่างลืมตัวแต่พอขยับตัวส่วนกลางของลำตัวก็เสียดสีกับกางเกงอาการเจ็บจี๊ดก็ถามหาพศินกันฟันแน่นระงับความเจ็บที่รุกราน
“ไอ้ห่า! ทำกูเจ็บเสือกมาป่วย กูนี่สมควรป่วยไอ้ตัวซวยเอ๊ย!”
ชายหนุ่มสบถนึกขึ้นได้ว่าลืมตัวไปช่วยมันเสียได้ เขาถอยกลับมานั่งที่เดิมคิดหาทางต่อไปว่าจะเอาคืนมันอย่างไรดีเพราะยังไม่หายแค้น บางทีความคิดปัญญาอ่อนมันก็ไม่เลือกวัยเหมือนกัน...
ลำคอแห้งผากเหมือนขาดน้ำมาเป็นแรมปี เปลือกตาอ่อนล้าค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบากสายตาพร่าเลือนไม่อาจจับพิกัดใดได้ชั่วอึดใจกว่าทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น ฝ้าลายดอกไม้ไม่คุ้นตาเอาเสียเลยพอมองไปทางอื่นก็ไม่มีอะไรที่บอกได้ว่าที่นี่เป็นห้องพักของเขา ร่างเล็กยันตัวขึ้นจากเตียงใหญ่กวาดตามองรอบห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้นอนมากจนเบลอไปพลันสายตาก็สะดุดกับร่างใหญ่ยักษ์ของใครคนนึงที่นอนฟุบอยู่ใกล้ๆ เห็นแค่หัวก็จำได้แล้ว นายเสือ!
ความทรงจำที่หายไปหลายชั่วโมงเพราะถูกแทนที่ด้วยฝันอันยุ่งเหยิงย้อนกลับมาบอกว่าที่ที่เขากำลังนอนอยู่คือไร่เคียงฟ้า หมอหนุ่มหอบหายใจแรงรับรู้ถึงไอร้อนที่เข้าออกอุณหภูมิในตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะต้องหนีไปนอนในห้องน้ำไข้เลยขึ้นแถมตัวต้นเหตุยังนอนเฝ้าอีกด้วย วรทย์เม้มปากแน่นปิดกั้นเสียงทันทีเพราะกลัวว่าจะทำให้นายตัวร้ายตื่นขึ้น เขารวบรวมกำลังที่น้อยนิดหย่อนปลายเท้าลงแตะพื้นหัวหมุนติ้วเหมือนบ้านหมุนได้ ต้องใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะทรงตัวอยู่ได้ อยากจะเดินหนีไปเลยทว่าเขาหิวน้ำจนคอขมโชคดีที่ในห้องมีแก้วน้ำอยู่เดาว่ามันต้องไม่ใช่ของอภินันท์ของนายเสือแน่ แต่น่าจะเป็นของอาณกรมากกว่า
น้ำในแก้วลงไปนอนในกระเพาะเขาเรียบร้อยแล้ว ได้น้ำพอชุ่มคอร่างกายที่อ่อนล้าเริ่มมีกำลังขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่หัวยังหมุนแถมยังปวดตุบๆ อีกด้วยที่สำคัญเขาหนาวทั้งตัวร้อน ไข้หวัดเล่นงานเข้าจนได้ ความสามารถในการทรงตัวน้อยลงทุกทีเขาหมุนตัวกลับคิดไม่ออกแล้วว่าควรจะไปที่ไหน แต่เพียงแค่ขยับปลายเท้าก็เสียหลักตัวหมุนคว้าง
พศินใจหายใจคว่ำเขาถลาเข้าไปหาคนจะล้มโดยไม่รู้ตัวรีบคว้าคนตัวเล็กเอาไว้ตามสัญชาติญาณ แทบจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่รับเอาร่างนั้นไว้ได้ทัน มือหนาสอดเข้ารัดเอวเล็กอีกมือกดหัวทุยไว้ที่ซอกคอ ไม่รู้ว่านานเท่าไรถึงได้ยอมคลายอ้อมแขนออก เป็นจังหวะเดียวกับที่รู้สึกตัวว่าเผลอทำเรื่องที่ไม่น่าทำเข้าอีกแล้ว และผลพวงจากการเคลื่อนไหวเร็วเกินไปโรคใหม่จึงถามหา กลางลำตัวเจ็บเหมือนโดนแหนบหนีบไม่มีผิด
“โอ๊ย!”
เสียงร้องด้วยความเจ็บช่วยปลุกให้คนป่วยที่กำลังถูกภวังค์ของความมึนงงเข้าเล่นงานพอมีสติขึ้นมาได้บ้าง วรทย์เงยหน้าจากอะไรบางอย่างที่ห่อหุ้มรอบตัว ลูกคางเขียวจากไรหนวดริมฝีปากสีเข้ม จมูกโด่งเป็นสันและดวงตาที่หรี่ปิด สมองพอจะประมวลผลได้ว่าบางอย่างที่ว่านั่นคืออ้อมแขนของนายเสือแต่พละกำลังมันหมดไปตั้งแต่พยุงตัวมากินน้ำเลยไม่อาจขืนตัวไปจากการโอบรัดไว้ได้
เขากัดฟันจนจะโยกหมดปากกว่าความเจ็บจะทุเลาลง อยากจะจับตัวไอ้ตัวปัญหาโยนทิ้งไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดแต่หัวเล็กๆ ของมันเอียงเข้ามาซบชิดกว่าเดิมแถมการพยุงตัวของมันยังแย่กว่าเดิมอีกด้วย จะเอาเรื่องกับคนป่วยมันจะได้ความอะไรเอาไว้หายเมื่อไรค่อยชำระความกันอีกที คราวนี้พ่อจะเอาให้หนักยิ่งกว่าป่วยอีก พศินข่มความเจ็บประคองร่างเล็กกลับไปที่เตียงอีกครั้ง
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดบนหน้าผากกว่าจะเอาไอ้หมอตัวซวยนอนได้สำเร็จไม่ใช่เพราะมันตัวใหญ่แต่เพราะต้องต่อสู้กับความเจ็บแบบลูกผู้ชายไม่สมควรต้องมาเจอต่างหาก ชายหนุ่มกลับไปนั่งที่เดิมอีกครั้งรู้สึกสับสนกับความคิดของตัวเองเหลือทนเดี๋ยวแค้นเดี๋ยวรอก่อนจนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาช่วยมันสองครั้งไปแล้วทั้งที่มันทำร้ายเขาอย่างสาหัสเมื่อคืนแท้ๆ พศินทึ้งผมตัวเองเพิ่งจะอดเหล้าได้ไม่กี่วันต้องมาคิดนู่นคิดนี่งงไปหมด สงสัยเขาคงจะลงแดงแล้วจริงๆ ไม่มีภาพหลอนแต่ความคิดตีกันยุ่งเหยิงยิ่งกว่ายุงตีกันเสียอีก...