“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ มึงแม่งน่าฟัดกว่าเมียเก่ากูอีก”
วรทย์พยายามจะเบี่ยงหน้าหนีให้พ้นจากอุ้งมือแกร่งแต่เรี่ยวแรงมันหมดไปแล้ว แม้จะใช้มือช่วยก็ไม่อาจต้านทานได้ เขาโดนไอ้เสือหื่นกามจูบหนักๆ ที่ปากอีกรอบ
“พี่เสือ พี่เสือ!”
เพราะโดนความพิษพิศวาสเข้าครอบงำหูที่เคยทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมกลับไม่ได้ยินเสียงเรียกที่ดังผ่านหน้าต่างเข้ามา จมูกโด่งเคลื่อนไปทั่วแก้มนวลสูดเอาความหอมหวานเอาไว้เต็มที่ แต่พอจะเลื่อนตัวลงเสียงที่ร้องเรียกก็ดังยิ่งกว่าเดิม
“พี่เสือ! ไอ้พี่เสือโว๊ย!”
“ไอ้ห่าดิน!”
พศินพ่นเอาชื่อไอ้ตัวแสบที่เข้ามาขัดจังหวะด้วยความหงุดหงิด ร่างสูงผละจากขนมหวานไปก้าวพรวดๆ ไปที่หน้าต่างตั้งใจจะเอากระป๋องสเปรย์แถวนั้นปาใส่หัวมันให้หายแค้น เขายื่นหน้าไปมองก่อนเห็นไอ้ตัวดีกระโดดเหย็งๆ อยู่ชายคาบ้านมือยังป้องปากตะโกนเรียกไม่หยุดหย่อน
“มึงจะเรียกหาพ่อมึงหรือไงไอ้ห่าดิน!”
ดินสะดุ้งแต่ก็โต้กลับได้ทันที “คุณออยโทรมาบอกว่าพี่ภูมิไปที่บ้านครับ”
“ใครนะ!”
“พี่ภูมิครับ เห็นว่าจะมาคุยเรื่องสมบัติ”
“ชาติชั่วเอ๊ย!”
ชายหนุ่มสบถลั่น จากที่หงุดหงิดทวีเป็นโกรธแค้นเพิ่งเห็นหน้ามันไม่กี่ชั่วโมง ก็ไปโผล่ที่บ้านเสียแล้ว ร่างสูงเดินกลับมาที่เตียงคว้าเสื้อยืดกลับเข้ามาสวม ความปรารถนาที่อาบรดทั่วร่างเมื่อครู่เหือดหายจนเกือบสิ้น แต่ยังไม่วายชำเลืองมองร่างเกือบเปลือยบนเตียงเล็กแต่น่านอนยิ่งนักนึกเสียดายที่ผิวขาวๆ ถูกบดบังด้วยผ้าห่ม เขายกเข่าข้างนึงวางไว้บนเตียงชะโงกหน้าเข้าไปชิดกับเจ้าของเตียงที่กระถดตัวหนีจนหลังไปชิดกับผนังห้อง มือจับคางมนเอาไว้ออกแรงบีบเล็กน้อยเพราะอีกฝ่ายตั้งท่าจะหนีลูกเดียว
“วันนี้กูมีธุระด่วน เอาไว้วันหลังกูจะมาช่วยอีกนะ มึงนี่หวานไปทั้งตัวจริงๆ”
“ไอ้บ้า!”
พศินหัวเราะร่วนแต่ก็หลบหมอนที่ปลิวมาเกือบจะโดนหน้าได้ทัน ร่างสูงกลับไปยังทางเดิมที่ขึ้นมา ทิ้งให้คนดวงซวยนั่งตัวสั่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เพียงลำพัง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน รอยสัมผัส ทั้งปาก ลิ้นและนิ้วมือติดตรึงไปทั่วทุกพื้นที่ที่โดนรุกราน เขารีบดึงกางเกงที่ถูกร่นลงไปให้กลับเข้าที่เพิ่งรู้ว่ามือตัวเองสั่นแค่ไหนก็ตอนติดตะขอกางเกง เขาด่าตัวเองไม่รู้กี่ร้อยรอบที่ปล่อยให้ร่างกายโดนรุกรานแม้ไม่ได้ถึงขั้นล้ำลึกแต่ก็มากพอที่จะสร้างความอับอายให้ได้ ใบหน้าร้อนจัดวางลงบนหัวเข่าที่ชันขึ้น เขาไม่อาจให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าเหตุผลเมื่อยามที่โดนแตะต้องร่างกายทำไมถึงคัดค้านไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้รัก ออกจะเกลียดด้วยซ้ำแต่ร่างกายมันสวนทางกันอย่าน่าโมโห
“บ้าเอ๊ย! ฉันเกลียดนาย ไอ้เสือบ้า!”
..................................
ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากโทรไปรายงาน รถกระบะสีแดงบุโรทั่งก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านเคียงฟ้า ก่อนที่คนขับจะกระโดดลงมาจากรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่พ่วงด้วยความโกรธเต็มพิกัด อาณกรพาร่างเล็กๆ ของตัวเองเข้าไปปาดขวางหน้าไว้ก่อนอย่างไม่กลัวชะตาขาด
“ใจเย็นๆ นะพี่เสือ ภูมิเขามาดี”
“คนอย่างมันน่ะรึ มาดี” พี่ชายต่างสายเลือดของเขากระตุกยิ้มเครียด ผมเผ้ายุ่งเหยิงเพราะโดนลมพัดยิ่งทำให้เจ้าตัวดูน่ากลัวกว่าเดิม ดึงดันจะเข้าไปในบ้านให้ได้จนเขาต้องใช้มือยันหน้าอกแข็งเอาไว้
“อย่าเพิ่งโมโหซิครับ พิกเร็ตก็อยู่ด้วย”
อีกคนไม่ยอมตอบแต่ปัดมือเขาออกจากอก ก่อนจะเดินเฉียดหัวไหล่เข้าไปในบ้าน ตาหวานมองตามร่างสูงไป ตอนนี้คงทำได้แต่ภาวนาขอให้ภาคภูมิอย่าก่อกวนอารมณ์พี่เสือเท่านั้น เขาเกือบจะเดินตามไปแล้วทว่าหางตาเห็นร่างกำยำของลูกน้องตัวเอ้ของพี่เสือเสียก่อน
“แบกอะไรน่ะดิน”
“อุ้ย! คุณออย” เจ้าของชื่อสะดุ้งจนไอ้ที่พาดอยู่บนบ่าเกือบจะหลุด “เอ่อ แค่บันไดน่ะครับ”
“แล้วจะเอาไปไหน”
“อะ เอาไปเก็บครับ”
ดินไม่รอให้คนตัวเล็กแต่ดุยิ่งกว่าเสือคาดคั้นต่อ ร่างหนารีบแบกบันไดหนีหายไปด้านหลังบ้านทันที
อาณกรขมวดคิ้วมองท่าทางมีพิรุธของดิน แต่ก็ไม่มีเวลาให้สงสัยมากพอเพราะในบ้านกำลังมีเรื่องใหญ่รอเขาอยู่ อาณกรรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้าน แล้วก็เป็นจริงอย่างที่เขากังวลที่ห้องโถงมีเสือสองตัวยืนจ้องหน้ากันเพียงแค่สายตาที่ปะทะกันก็รับรู้ได้ว่าทั้งสองพร้อมจะกระโดดใส่กันได้ทุกเวลา แต่คนที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดไม่ใช่ผู้ใหญ่สองคนทว่าเป็นเจ้าตัวน้อยที่นั่งมองผู้ใหญ่ทั้งที่มือยังจับดินสออยู่ เขารีบเข้าไปหาพิกเร็ตก่อนที่ได้เห็นฉากบู๊สมจริงโดยยิ่งกว่าได้ดูหนังสามมิติ มือขาวรวบร่างน้อยไว้ในอ้อมแขน แม้ว่าหลานชายจะมองเขาอย่างไม่ค่อยใจสถานการณ์นักแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรยอมให้เขาอุ้มห่างจากผู้ใหญ่ตัวใหญ่เท่ายักษ์สองคน
“มึงมาทำไม!” เจ้าของไร่เคียงฟ้าเปิดปากถามก่อนขณะที่สายตาไม่ได้ละจากใบหน้าที่คล้ายกันแม้ซักวินาทีเดียว
“ก็นี่มันบ้านผมเหมือนกัน ผมจะมาไม่ได้หรือไง” อีกฝ่ายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่ดวงตาคู่นี้หากมันจ้องใครด้วยแววเกลียดชังเช่นนี้ชะตาชีวิตของคนๆ นั้นอาจจะขาดเอาดื้อๆ แต่กลับเขามันไม่ใช่เขาไม่เคยกลัวคนตรงหน้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“แต่ที่ๆ มึงยืนอยู่มันเป็นของกู!”
ภาคภูมิส่ายหน้าเล็กน้อยเอือมระอากับการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลของเจ้าของไร่เคียงฟ้า ดุดันเหมือนหมาบ้าไม่เคยใช้สมองตัดสินปัญหา ล่าสุดได้ข่าวว่าเมียทิ้งไปก็ทำตัวเมาเป็นหมาถึงจะให้อาหมอมารักษาแต่คงยังไม่หายดีตาถึงได้แข็งเป็นหมาโดนน้ำไม่ได้อยู่อย่างนี้
“มันก็เป็นผมของด้วยครึ่งนึงเหมือนกัน พี่ลืมไปแล้วหรือไงว่าพ่อแบ่งให้เราคนละครึ่งแม้แต่บ้านหลังนี้ยังมีชื่อผมเป็นเจ้าของเลย”
ไอ้ท่าทางสบายๆ เหมือนกับมาพักผ่อนตากอากาศของไอ้คนถือสิทธิ์มันทำให้ความกรุ่นโกรธกระจายไปทั่ว หน้าเขาร้อนเหมือนโดนน้ำเดือดราดใส่ เลือดในกายอุ่นขึ้นหลายองศา โกรธยิ่งกว่าตอนโดนไอ้หมอหน้าตุ๊ดกัดน้องชายจนบวมเสียอีก มือหนาใหญ่คล้ำแดดกำเข้าหากันแน่นข่มอารมณ์ให้ต่ำลง แม้จะโกรธจะเกลียดแค่ไหนเขาก็ยังไม่อยากแสดงด้านเลวให้ลูกชายเห็น เพราะแค่เมาหัวราน้ำพิกเร็ตก็น่าสงสารมากพอแล้วเขาไม่อยากซ้ำการกระทำที่ไม่ต่างจากอันธพาลให้ลูกเห็นอีก เจ้าของไร่เคียงฟ้าสูดเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่นึกรังเกียจกลิ่นน้ำหอมที่ไอ้หน้าด้านมันใช้เพราะมันติดปะปนเข้ามาด้วย
“ออยพาพิกเร็ตขึ้นไปข้างบนก่อน พี่มีธุระจะคุยกับไอ้ไส้เดือนตัวนี้”
หางตาของเขาเห็นอาณกรพยักหน้ารับรู้ แต่ยังไม่ได้จากไปในทันทีหนุ่มร่างเล็กอุ้มพิกเร็ตเอาไว้สาวเท้าเข้ามาทางเขาก่อนจะบอกให้เขาใจเย็นๆ เขาแค่นยิ้ม ที่ระงับใจไม่พุ่งไปต่อยหน้ามันก็นับว่าเย็นที่สุดแล้ว เขารอให้น้องชายร่วมสถาบันอุ้มลูกชายหายขึ้นไปยังชั้นสองแล้วจึงค่อยเปิดบทสนทนาดันดุเด็ดเผ็ดมันต่อ
“แต่กูจำได้ว่ามึงปฏิเสธที่จะไม่เอา แล้วมึงจะหน้าด้านกลับมาอีกทำไม”
“ถึงจะไม่อยากได้แต่ชื่อก็ยังเป็นของผมครึ่งนึงอยู่ดี”
มันตอบเสร็จก็ย่อตัวนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่เท่านั้นไม่พอมันยังตวัดขายกขึ้นไขว้ เป็นท่านั่งที่เขาเกลียดเป็นที่สุดจำได้ว่าสมัยก่อนตอนที่เห็นมันนั่งใหม่ๆ เขาด่ามันว่าเป็นตุ๊ดหรือไงถึงได้นั่งท่าอย่างนี้ คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ด่าไปอย่างไม่คิดมันจะเป็นจริง ใช่! ไอ้น้องชายหน้าด้านของเขามันเป็นพวกผิดเพศอย่างที่เขาเกลียด ถึงท่าทางของมันจะไม่ได้กระตุ้งกระติ้งจนน่าถีบแต่มันก็ไม่ชอบผู้หญิง เรียกว่าตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มมันไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง แต่ที่ทำให้เขาเกลียดมันจนมาถึงทุกวันนี้คือการที่มันมีแฟนเป็นผู้ชายสมัยเรียนมัธยม เขากับพ่อต่อต้านกันเต็มที่แต่มันไม่สนใจแถมยังควงกันที่โรงเรียนอย่างเปิดเผยอีกด้วย เขาในฐานะพี่ชายซ้ำยังเรียนที่เดียวกันเลยโดนเพื่อนๆ ล้อว่ามีน้องเป็นตุ๊ด พ่ออายคนทั้งตำบลที่ลูกชายคนเล็กตัวใหญ่ ผิวเข้ม หน้าหล่อ ดันเป็นพวกผิดเพศ เอาผู้ชายมาเป็นเมีย ในฐานะของคนที่มีหน้ามีตาในอำเภอทำให้พ่อของเขาไม่ออกงานสังคมอยู่พักใหญ่ กว่าจะทำใจได้ก็ตอนที่มันเรียนจบแล้วสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ได้นั่นแหล่ะ แต่สำหรับเขาคนที่เกลียดเพศที่สามเข้าไส้ จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเกลียดอยู่วันยังค่ำ ถึงระยะหลังๆ จะโดนใครบางคนเข้ามาปั่นป่วนความคิดให้ไขว้เขวไปบ้าง
“มันก็เป็นของกูครึ่งนึงเหมือนกัน หรือว่ามึงจะให้กูเอามีดมาผ่าครึ่งแบ่งให้มึง”
ภาคภูมิอดหัวเราะกับความคิดที่ไม่ต่างจากเด็กของพี่ชายไม่ได้ หมอหนุ่มรูปหล่อยกท่อนขนกำยำขึ้นไขว้กัน เขารู้ดีกว่าท่านั่งนี่พี่ชายที่เป็นลูกผู้ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าเกลียดแค่ไหน แต่เขาไม่สนใจในเมื่อชีวิตมันเป็นของเขาทำไมเขาต้องสนใจคนอื่นด้วยถึงคนอื่นที่ว่าจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขาเองก็ตาม
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ แค่บริจาคห้องว่างๆ ให้ผมสักห้องนึงก็พอ”
“กูไม่ให้!”
“จุ๊ๆ ไม่เอาซิครับ” จักษุแพทย์หนุ่มส่ายหน้าเบาๆ “โตๆ กันแล้วอย่าทำตัวเป็นเด็กหน่อยเลย ผมแค่ขอห้องไม่ได้มาขอแบ่งสมบัติของพี่หรอกน่า ใครๆ ก็รู้ว่านายพศิน เอื้ออังกูร หวงสมบัติ เอ๊ย! ไร่เคียงฟ้าแค่ไหน”
“ไอ้ภูมิ!” พศินตวาดลั่นเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า รู้สึกถึงเสียงหวีดหวิวของลมในหูนิ้วแกร่งชี้ไปที่หน้าของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องชาย แต่เขากลับเกลียดมันไม่ต่างจากศัตรู “มึงออกจากบ้านกูไปเลยนะ ก่อนที่กูจะเอาปืนมายิงมึงทิ้งซะ”
ทว่าอีกคนกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำขู่ที่พร้อมจะเป็นจริงได้ทุกเมื่อสักนิด ตลอดยี่สิบเจ็ดปีที่เป็นพี่เป็นน้องกันมาถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดแต่เขาก็รู้นิสัยพี่ชายคนนี้ดี ดุดัน ใจร้อน ปากร้าย แต่ใจอ่อนเป็นขี้ผึ้ง ไม่อย่างนั้นจะโดนผู้หญิงแพศยาคนนั้นหลอกเอาได้อย่างไร เขาเห็นธาตุแท้ของหล่อนตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าทว่าพศินในตอนนั้นทั้งรักทั้งหลงซ้ำเขายังเป็นน้องชายที่น่ารังเกียจ พูดไปก็รังแต่จะผิดใจกันเขาเลยปล่อยเลยตามเลย หนีไปเรียนกรุงเทพฯ ปล่อยให้พี่ชายโดนผู้หญิงคนนั้นปลอกลอกแล้วก็ทิ้งไปไม่ไยดี โชคดีที่หล่อนเอาสมบัติของเอื้ออังกูรไปไม่ได้ทั้งไร่เคียงฟ้าและบ้านหลังนี้เลยยังอยู่รอด สงสารก็แต่หลานชายที่เพิ่งเห็นหน้าชัดๆ ก็วันนี้ หน้าตาน่ารักถอดแบบผู้เป็นแม่มาทั้งรูปร่างผิวพรรณ แต่ได้ดวงตามาจากบิดา สรุปแล้วพิกเร็ตได้ส่วนดีจากทั้งพ่อและแม่มาอย่างเหมาะเจาะลงตัว เสียดายที่ยังไม่ทันจะได้ทักทายอาณกรก็กันตัวเอาไปเสียก่อนท่าทางเจ้าหนูน้อยจะไม่ยังไม่รู้ว่าเขาคืออาแท้ๆ
ภาคภูมิผ่อนลมหายใจยาวๆ เขาไม่ได้กลัวลูกปืนอย่างคำขู่ แต่เบื่อที่จะต่อปากต่อคำมัดมือชกเลยจะง่ายกว่า
“เอาเป็นว่าผมเอาห้องนึงก็แล้วกันจะย้ายมาพรุ่งนี้เลย อยู่ใกล้โรงพยาบาลหน่อยเดินทางจะได้ไม่เหนื่อย” ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ มองใบหน้าที่ไม่ต่างจากยักษ์วัดแจ้งของพี่ชาย หางตาเห็นมือที่กำแน่นอยู่ชิดต้นขา “ผมกลับก่อนนะ ดีใจที่เห็นพี่เลิกเหล้าได้”
มือใหญ่แต่ไม่กร้านเท่าพี่ชายตบลงเบาๆ ที่หัวไหล่แข็งแรงโดยที่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหนีไม่ทัน ทิ้งไว้แต่กลิ่นน้ำหอมที่เจ้าของไร่เคียงฟ้าเกลียดจับใจ
พศินมองตามร่างสูงใหญ่ของน้องชายไป เขาโกรธจนพูดไม่ออกตอนที่มันสรุปความเองว่าจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ แต่ที่ทำให้ความโกรธชะงักลงก็ตรงที่มันรู้ว่าเขาติดเหง้า ดวงตาคมกล้าอ่อนแสงลงเล็กน้อยแม้ว่าจะไม่เห็นร่างนั้นในสายตาแล้วแต่หูยังคอยฟังเสียงเครื่องยนต์คุณภาพเยี่ยม เพียงไม่นานมันก็หายไปจากการได้ยิน ไหล่ตั้งตรงผ่อนลงแต่ไม่ได้ผ่อนคลายจากความเครียดเสียเท่าไร บอกตัวเองไม่ถูกว่าควรจะโกรธมากกว่านี้หรือรู้สึกดีที่ไอ้น้องชายมันรู้ความเป็นไปของเขา ทั้งที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบเก้าปี
“ภูมิกลับไปแล้วหรือครับ”
เสียงใสดังขึ้นจากเบื้องหลัง ทำให้แผ่นหลังหนาไหวเล็กน้อยหลุดจากภวังค์ความคิด ศีรษะทุยที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำยาวระคอผงกเบาๆ
อาณกรพาร่างเล็กของตัวเองมาเทียมเคียงพี่ชายต่างสายเลือด เอียงหน้าขึ้นมองหาร่องรอยของอารมณ์แม้จะมั่นใจว่าทั้งสองไม่ได้เหวี่ยงหมัดเข้าหากันแต่เสียงของพศินก็ดังขึ้นไปถึงห้องของพิกเร็ต
“ให้เขามาอยู่ด้วยเถอะครับ ท่าทางเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”
“แต่ฉันเกลียดมัน นายก็รู้”
หนุ่มร่างบางผ่อนลมหายใจเบาๆ ยกมือแตะที่หัวไหล่ที่เดียวกับที่ภาคภูมิทำไว้ก่อนไป “เขาเป็นน้องชายพี่เสือนะ ผมเองเป็นแค่รุ่นน้องพี่ยังให้ที่พักที่กินกับผมเลย”
“มันไม่เหมือนกันนายก็รู้ นายไม่เหมือน...มัน” ปลายเสียงเค้นมาจากไรฟัน เขาไม่อาจบอกใครได้ว่าน้องชายแท้ๆ ของตัวเองเป็นพวกลักเพศ ชอบเพศเดียวกัน มันน่าอาย น่าขายหน้า และน่ารังเกียจ
อาณกรกลืนก้อนแข็งที่ตีขึ้นมาบนลำคอ ฝ่ามือเล็กปล่อยจากไหล่แกร่งลงมาวางชิดลำตัวและกำแน่นเพื่อระงับความหวาดหวั่น พศินไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้วทั้งเขาและภาคภูมิก็ไม่ต่างกัน แต่ภาคภูมิน่าชื่นชมกว่าเขามากรักหรือชอบอะไรก็แสดงออกมาผิดกับเขาที่ได้เก็บงำเอาไว้อย่างคนขี้ขลาด
“เขาไม่ได้ฆ่าคนตายเสียหน่อย แถมยังเป็นหมอรักษาคนอีกด้วย ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยมันไปเถอะครับถือมากไปก็เมื่อยเปล่าๆ” ร่างเล็กถอยห่างจากพี่ชายที่ชาตินี้คงไม่มีวันได้ขยับฐานะได้ ตาหวานมองแผ่นหลังกว้างที่หวังตลอดว่าจะได้กอดอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นทำ แผ่นหลังที่ได้แต่จ้องมองมาตลอดเก้าปี...เก้าปีที่ยาวนาน เก้าปีที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้ว่าพี่ชายของเขาจะไม่มีใครข้างกายแล้วแต่เขาก็ยังไม่อาจขึ้นมายืนข้างๆ ได้ “ผมไปทำมื้อเย็นก่อนนะ เห็นพิกเร็ตบ่นอยากกินไข่เจียว พี่เสืออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”
“มะรุม” คนตัวสูงพึมพำตอบ
“อะไรนะ ผมได้ยินไม่ถนัด”
“เอ่อ แกงส้มมะรุมน่ะ กินกับไข่เจียวอร่อยดี”
“ได้ๆ เดี๋ยวผมให้เมี่ยงไปเก็บมะรุมก่อน”
รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของน้องชายที่เป็นแค่รุ่นน้องร่วมคณะถอยห่างออกไป ร่างสูงจึงหย่อนตัวลงกับเก้าอี้ไม้สักตัวยาว ท่อนขาแข็งแรงทอดเหยียดตามความยาว ความเครียดบวกกับอาการโกรธจัดเมื่อครู่มันทำให้ความต้องการที่พุ่งพล่านเมื่อพักใหญ่ๆ เหือดหายไปแล้ว เปลือกตาหนาปิดลงปล่อยให้สมองวนเวียนอยู่กับคำพูดทั้งของน้องชายแท้ๆ และน้องชายต่างสายเลือด เขาไม่เถียงอาณกรหรอกว่าไอ้ภูมิมันไม่ใช่คนเลวหรือโจรผู้ร้ายที่ไหน แต่มันก็ยากจะทำใจยอมรับกับสิ่งที่มันเลือก...ทว่าเสียงนึงในความคิดดังซ้อนเข้ามา ‘แล้วมันผิดตรงไหน’
ผิดตรงที่ไม่รักต่างเพศ ผิดตรงที่สร้างความอับอายให้วงศ์ตระกูล หรือผิดที่ไม่ได้เป็นดังที่เขาหวัง แต่เมื่อวกกลับมาถามตัวเองเขาเกลียดภาคภูมิตรงไหน...ตรงที่มันไม่ได้รักผู้หญิง ตรงที่มันทำให้พ่อกับเขาอาย หรือตรงที่มันทำตัวหายไปจากชีวิตเขาถึงเก้าปี คิดจนหัวแทบระเบิดสุดท้ายเขาก็ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดให้ตัวเอง แต่ที่น่าแปลกมากกว่านั้นแทนที่เขาจะโกรธจัดเหมือนเมื่อก่อน โกรธชนิดข้ามวันข้ามปีตอนที่มันบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย ทว่าวันนี้มันต่างออกไปแค่คำเดียวที่มันบอกถึงความห่วงใยเขาก็ใจอ่อนลง หรือว่าลึกๆ แล้วเขายอมรับในตัวของมันได้แล้ว จริงอย่างที่อาณกรพูดถึงมันจะเป็นพวกผิดเพศแต่มันไม่เคยทำตัวให้ตกต่ำ ซ้ำยังยกฐานะเป็นคุณหมออีกด้วย แล้วเขาล่ะคนที่ภูมิใจในความเป็นเพศชายแท้ๆ แต่กลับทำตัวเป็นไอ้หน้าโง่ขี้เมาอยู่เป็นปีๆ เมาแล้วต่ำยิ่งกว่าหมาเสียอีก บางทีเขาควรจะปล่อยวางอย่างที่อาณกร ถือว่าไว้ก็เมื่อย ปล่อยๆ มันไปจะได้เบาตัว สบายใจ
ชายหนุ่มเอี้ยวตัวบิดไล่ความปวดเมื่อยพลันกลิ่นบางอย่างที่แทรกกลิ่นเหงื่อตัวเองเข้ามาทำให้จิตใจที่ขุ่นมัวพลอยดีขึ้นมาได้ กลิ่นหอมที่เหมือนขนมเพิ่งอบเสร็จ กลิ่นที่เขาอยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวมันคงจะติดตัวเขามาตอนที่เอาตัวลงไปเกลือกกับตัวมัน ลิ้นใหญ่เผลอยกแตะขึ้นริมฝีปากเมื่อนึกถึงรสชาติหวานปนขมที่มาจากตัวมัน เปลือกตาเปิดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แต่แล้วสมองก็ประมวลผลได้ ใช่แต่เขาเสียที่ไหนที่ชักจะติดใจกลิ่นหอมของไอ้หมอมะรุม เมื่อครู่ใหญ่ๆ นี่เองที่เขาเห็นกับตาว่าไอ้ภูมิมันก็สนใจไอ้หน้าตุ๊ดของเขาด้วยเหมือนกัน ความโกรธที่ระงับดับไปเมื่อครู่ลุกฮือขึ้นมาอีกรอบ เขายอมให้มันเป็นตุ๊ด เป็นเกย์หรือเป็นห่าเหวอะไรก็ได้แต่อย่ามายุ่งกับไอ้หมอมะรุมของเขา...
..............................
แต่งไปก็งงตัวเองไป ไอ้เสือนี่พลิกไปพลิกมาจริงๆ อย่าโกรธเค้าเลยน้า เค้าแต่งตอนง่วงนอนคาแร็คเตอร์ไอ้เสือแล้วพิลึกพิลั่นอย่างนี้แหล่ะ