DOUBLE-FACED: เสแสร้งแกล้งรัก
Chapter 24: It’s almost over – 50 % หลังHIM: PRIK
“พริก พริก ตีสี่แล้ว”
ผมค่อยๆลืมตาที่แสนหนักอึ้งขึ้น กระพริบตาปริบๆปรับสายตาให้คงที่ ใบหน้ามาโคลอยอยู่เหนือหน้าผม เขาส่งยิ้มมาให้แล้วก็ก้มลงมาหวังจะจูบผม ผมคิดว่าเขาจะทำเช่นนั้นนะ แต่ผมกลับเบี่ยงหน้าหนี เขาเลยได้แค่หอมแก้มผมแทน
“ไปล้างหน้าเถอะ จะได้ไม่ง่วง”
ผมลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ก็ยังไม่หายป่วยดี แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงผมต้องสอบแล้ว สอบเสร็จค่อยกลับมานอนพักต่อก็ได้
ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้น มีบางอย่างเกิดขึ้นกับแขนผม ผมเพ่งมองดูดีๆ เหมือนรอยถูกอะไรทิ่ม เขียวเป็นวงช้ำเหมือนถูกฉีดยา ผมรีบเดินออกไปหามาโค ที่นอนอยู่บนเตียงผม
“พี่ฉีดยาให้ผมเหรอ” แต่ในใจผมคิดว่าเขาไม่มีทางฉีดให้ผมแน่ๆ เพราะมาโคไม่ได้เรียนจบหมอ เรียนอะไรผมก็ไม่รู้
“เปล่า ให้หมอมาฉีด”
“เหรอ” ผมเลี่ยงเดินไปหาหนังสือแล้วก็นั่งอ่านที่โต๊ะหนังสือ แต่อ่านก็เหมือนไม่ได้อ่าน จิตใจผมเอาแต่คิดถึงมาโค เขาทำแบบนี้ทำไมนะ ที่ง้อผม ที่ยอมตามใจผมทุกอย่าง แล้วนี่อะไร ยังมาอ่านหนังสือแล้วจดโน๊ตย่อให้ผมอีก ใช้มาร์กเกอร์มาร์กให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ก็อ่านแล้วอัดเสียงให้ผมนอนฟัง
ถ้าหากว่าผมไม่รู้ความจริง เขาจะทำดีกับผมแบบนี้ไหม ก็คงไม่หรอก เขามันคนเอาแต่ใจจะตายไป คิดจะทำอะไรก็ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่น
พอๆ เลิกคิด! เดี๋ยวก็ไม่ได้อ่านหนังสือกันพอดี
เวลาสอบคือตอนเก้าโมงตรง ผมอ่านหนังสือถึงหกโมงกว่าๆก็หยุดอ่าน รีบอาบน้ำแต่งตัวแทน พอเจ็ดโมงกว่าๆก็เสร็จ มาโคตื่นพอดี
“จะไปแล้วเหรอ?” เขาถามหน้างงๆ หัวฟูเป็นรังนก ถ้าผมไม่โกรธเขาอยู่ผมคงจะเกิดเข้าไปหอมแก้มมาโคสักที แต่ตอนนี้ผมยังโกรธอยู่ รอไปก่อนเถอะ
“อืม” ผมเก็บของใส่กระเป๋า ไม่อยากไปเข้าสอบสาย
“รอแปบดิ เดี๋ยวไปส่ง” มาโครีบลุกจากเตียงเข้าไปอาบน้ำ แต่ผมไม่คิดจะรอ ตอนเช้ารถยิ่งติดๆอยู่ด้วย ผมเลยออกจากห้องแล้วก็ขับรถไปมหาวิทยาลัยเอง
การสอบวันนี้ผ่านไปแบบถูลู่ถูกัง แต่ก็พอทำได้อยู่ ต้องขอบคุณมาโคที่เขาจดโน๊ตย่อให้ผมอ่าน แต่ก็นะ ขอบอกในใจแทนแล้วกัน ผมจะไม่บอกกับเจ้าตัวเด็ดขาด เคืองครับ
[Krrrr Krrrr]
มาโค
ก่อนหน้านี้เขาโทรเข้ามาหลายสายและล่ะตอนที่ผมขับรถ แต่ผมไม่ได้รับ ขี้เกียจฟังเขาโทรมาโวยวายที่ผมไม่รอ พอเข้าห้องสอบผมก็ปิดเครื่อง นี่ก็เพิ่งจะเปิด เปิดปุ๊บโทรปับ ตายยากจริงๆ
[พริก! ทำไมไม่รอฉันห๊ะ!] เห็นไหม ผมคิดไว้ผิดที่ไหนว่าเขาต้องโทรมาโวยวาย
“ผมขี้เกียจรอ เดี๋ยวเข้าสอบสาย” ผมนั่งรอเพื่อนอยู่ที่โรงอาหาร ให้คนอื่นไปซื้อข้าวให้ เพราะพวกมันไม่ให้ผมไปเบียดกับคนเยอะๆตอนซื้อข้าว เลยให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะแทน
“อ่ะข้าว เอาน้ำอะไร” ไอ้แดนเอาข้าวมาวางให้ผม
“น้ำเปล่าเย็นๆ” ผมบอก ไอ้แดนเดินไปซื้อน้ำ
[ใครบอกให้กินน้ำเย็น นายไม่สบายอยู่นะพริก!]
“ก็ผมอยากกิน”
[กินข้าวเสร็จรีบกลับมาห้องเลยนะ ถ้าไข้ขึ้นล่ะน่าดู]
“...” ผมไม่ตอบ แต่กดวางสาย ลงมือกินข้าว แจ๊ก ข้าวตังและแดนเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ลงมือกินชข้าวเที่ยงเสร็จผมกับพวกมันก็ตัดสินใจไปเดินเล่นที่ห้าง เพราะไอ้แจ๊กอยากได้แผ่นเกมส์แผ่นใหม่ ได้ข่าวว่ายังสอบไม่เสร็จดีเลยนะ แต่ไม่เป็นไรครับ ตัวต่อไปเว้นนานหน่อย อีกสามวันนู่น แต่หลังจากนั้นก็สอบติดกันจนไม่มีเวลาให้หายใจหายคอ
ปึก!
“อ๊ะ!”
เหม่อลอยจนได้เรื่องไหมล่ะผม
“เป็นอะไรไหม” เสียงแหบทุ้มดังใกล้มาก เพราะคนที่ผมเดินขนเขาคว้าตัวผมไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น
“ไม่ครับ ขอบคุณ”
พอผมทรงตัวได้แล้วเขาก็ปล่อยตัวผม ผมเงยหน้ามองคนที่ชน...คนๆนี้ ผมจำเขาได้...
ดีน!
ผมจำได้ เพื่อนเข้าเกือบจะข่มขืนผม ถ้าเขาอยู่ที่นี่ เพื่อนเขาก็อาจจะอยู่ด้วย ผมไม่อยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ผมเกือบจะตายทั้งเป็นแบบนั้น
“ขอบคุณครับ ขอตัวนะครับ”
“เดี๋ยวสิ!”
ผมเขาพยายามจะเรียกผมไว้ แต่ผมรีบวิ่งกลับไปหาเพื่อน แล้วก็บอกพวกมันว่าผมปวดหัว ขอตัวกลับห้องก่อน ผมรีบกลับห้องทันที ในใจคิดถึงแต่มาโค ถ้ากลับไปอยู่กับเขา ผมอาจจะปลอดภัย ผมไม่คิดว่าตันวเองจะกลัวจนรู้สึกแบบนี้ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผมคิดว่าคงลืม แต่...พอเห็นหน้าคนนั้นแล้วผมก็รู้ว่า...ผมยังกลัวเหตุการณ์นั้นอยู่
แค่เห็นหน้า ผมก็รู้สึกได้ว่าคนพวกนั้นอันตราย ไม่น่าเข้าใกล้
“ทำไมกลับมาช้า” มาโคถามเสียงดุ ผมไม่สนใจ วิ่งเข้าไปกอดเขาไว้แน่น มาโคดูจะตกใจไม่น้อย แต่เขาก็กอดผม ลูบแผ่นหลังผม จนผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสงบลง
“เป็นอะไร ใครทำอะไรนาย” เสียงของมาโคดูนุ่มกว่าตอนแรก
“เปล่า...” ผมส่ายหน้ากับอกมาโค ไม่กล้าบอกว่าผมไปเจอกับใครมา
กลิ่นกายของมาโคทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ผมอยากอยู่แบบนี้ไม่เรื่อยๆ แต่กลัวว่า สักวันหนึ่งผมจะไม่มีอ้อมกอดนี่อีกแล้ว
ผมยอมรับว่าผมไม่ได้โกรธเข้าแล้วเรื่องที่เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร ผมยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แล้วก็ระแวงว่าเขาจะไปทำกับใครอีกหรือเปล่า
“พี่มาร์ค...”
“หืม...”
“พี่...รักผมไหม” ผมกลั้นใจถามออกไป เรื่องงี่เง่าพวกนี้มันควรจะจบลง แค่ความรักของเขาเท่านั้นที่ผมต้องการ
“ฉันบอกนายไปแล้วนี่” มาโคหัวเราะเบาๆ แต่นั้นไม่ใช่คำตอบที่ผมอยากได้
“ก็บอกหน่อยไม่ได้หรือไง” ผมพูดเหวี่ยงๆ พลักมาโคออก มาโคหุบยิ้มแล้วทำหน้านิ่ง ผมใจหายไปเกือบครึ่ง ผมเลยเดินหนีเขาเข้าห้องนอน ทิ้งตัวนอนคว่ำหน้าบนเตียง พอ! ไม่อยากคิดอะไรแล้ว เซ็งแบบสุดๆ เซ็งตัวเอง เซ็งทุกคน เซ็งโลก!!!
“งอนเหรอไง”
“อื้อออ ออกไป!” อยู่ๆก็มานอนทับผมที่นอนคว่ำอยู่ มาโคชอบทำแบบนี้ เขาคิดว่าตัวเขาเบามากสินะ ผมจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว!
“เฮ้อ ถามหน่อย คนอย่างฉันจำเป็นต้องวิ่งตามใครด้วยเหรอไง แล้วที่ฉันอยู่กับนายนี่คิดว่าฉันทำไปทำไง ที่คอยง้อคอยดูแล นายคิดว่าฉันทำไปทำไม”
“...”
“พริก ถ้าฉันไม่รักนาย ฉันจะทำไม” มาโคลุกออกจากตัวผม ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ลุกขึ้นนั่งมองมาโคที่นั่งหันหลังอยู่ที่ปลายเตียง
อะไร อย่าบอกนะว่างอน ตัวโตซะเปล่า
ผมเข้าไปสวมกอดมาโคเบาๆ น้ำตาไหลลงมา ผมรีบปาดมันทิ้ง โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงผมสั่นอยู่เพียงแปบเดียว คงเป็นข้อความ ผมไม่คิดจะล้วงมันออกมาดู ตอนนี้ผมแค่อยากกอดมาโคไว้เท่านั้น
“ผมขอโทษนะ”
“เรื่อง”
“ก็แค่อยากบอก พี่มาร์ค...ผมขอถามอะไรอย่างได้ไหม”
มาโคขยับตัวหันมาหาผม ดีที่เมื่อกี้ผมเช็ดน้ำตา เขาจึงไม่เห็น
“จะถามหลายๆอย่างก็ได้” มาโคยิ้มให้ผม ช่วงนี้เขาใจดีเกินไป ใจดีจนผมใจอ่อน ผมหลุบตาต่ำมองมือตัวเอง
“ถ้าผมทำอะไรผิด ผิดแบบผิดมากๆ ผิดแบบที่ไม่น่าให้อภัย พี่จะเกลียดผมไหม”
มาโคดูจะอึ้งไม่น้อยที่ผมถามไปแบบนั้น เขาเงียบผมก็เงียบ
“กลับกัน ถ้าฉันทำอะไรที่ผิดมากๆ ผิดต่อนาย นายจะเกลียดฉันไหม”
นั่นสินะ ถ้าเขาทำผิดกับผมมากๆ ผมจะเกลียดเขาไหม...
“จะคิดมากอะไรขนาดนั้น ฉันไม่เกลียดนายหรอกน่า ไม่ว่านายจะทำอะไรผิด”
แต่ถ้าเป็นผม ผมคงจะเกลียดเขา แต่ผมจะเกลียดตัวเองมากที่สุด
.................................
คาดว่าทุกคนอ่านแล้วคงเครียด ฮ่าๆๆ

เดี๋ยวตอนหน้าเอาโอชินกับพอร์ชมาเบรคความเครียดแล้วกัน

(หรือจะเครียดหนักกว่าเดิมฟะ) เอาเป็นว่า ถึงตอนนี้จะเครียด แต่ไม่จบไม่เศร้าแน่นอน แฮปปี้เอ็นดิ้งจ้า
