DOUBLE-FACED: เสแสร้งแกล้งรัก
Chapter 24: It’s almost overHIM : MACO
ให้มันได้อย่างนี้สิ ผมออกไปข้างนอกแปบเดียว ไอ้ตัวดีลุกขึ้นมานั่งอ่านหนังสือตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ เสียงจามดังติดกันอย่างต่อเหนื่อยจนกลัวว่าลูกกระเดือกมันจะกระเด็นออกมาจากคอ พรุ่งนี้มันสอบแล้วครับ แต่มันยังไม่หายป่วยเลยเพราะมันดื้อ! ดื้อแบบสุดๆ มันไม่เคยดื้อขั้นแอดวานซ์แบบนี้กับผมมาก่อน แต่เพราะผมนั่นแหละที่ทำตัวเองครับ โทษมันก็ไม่ได้
แต่การที่มันฝืนสังขาลตัวเองแบบนี้มันก็เริ่มจะไม่น่ารักแล้วนะ ผมถามว่าไปทำอะไรมาถึงไม่สบายก็ไม่ยอมบอกผม ผมเลยต้องโทรไปเค้นเอาความจริงจากไอ้ธัน ที่ดูเหมือนว่ามันจะโกรธผมแบบขีดสุด แต่ก็ได้คำตอบมาว่า มันตากฝนตอนที่รู้เรื่องผม
สุดท้ายก็เป็นผมเองที่ทำให้มันเจ็บ
แต่เวลานี้ขอจัดการกับเด็กดื้อก่อนครับ
“พริก ใครให้ออกมาอ่านหนังสือ”
มันไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองผมด้วยซ้ำครับ วางคางลงกับโต๊ะโซฟา ดวงตาปรือมองตัวหนังสือผมหน้ากระดาษ
“ไม่ไหวแล้วจะฝืนทำไม ไปนอนพักเถอะ” ผมจับที่ต้นแขนมัน แต่พริกสะบัดแขนออก
“อย่ามายุ่ง ผมจะอ่านหนังสือ”
การที่มันขยันเรียกก็ดีอยู่หรอกนะครับ แต่ตอนนี้มันป่วยอยู่ ผมทำให้ผมเป็นกังวลจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ถ้ามันเป็นหนักยิ่งกว่านี้จะทำไง
“รักตัวเองหน่อยเถอะ เป็นหนักขึ้นมาฉันจะพาส่งโรงพยาบาลนะ”
ควับ!
อุ้ย!
ขนาดป่วยมันยังค้อนผมได้เลย เก่งจริงๆ เมียใครวะ
“ที่พูดก็เพราะเป็นห่วง รู้ไหม” ตอนนี้ยอมมันไปก่อนครับ หายโกรธหายงอนผมเมื่อไหร่ผมจัดเต็ม แต่ตอนนี้ผมมีแค่หน้าที่ง้อมันแหละดูแลมันเท่านั้น
“ถ้าพรุ่งนี้ผมสอบไม่ได้ ผมก็ตายเหมือนกันนั่นแหละ” เสียงมันดูหงอยๆ ผมนั่งยองๆลงข้างๆมัน ลูบศีรษะมันเบาๆ แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าซื้อขนมมาฝากมัน พอดีเมื่อกี้ออกไปจัดการเรื่องงานมา
“อยากกินเยลลี่ไหม”
“เยลลี่!”
หึหึ ตาวาวเชียว เมื่อคืนผมได้ยินมันนอนละเมอว่าอยากกินเยลลี่ ละเมอแบบละเมอจริงๆครับ วันนี้เลยซื้อเข้ามาให้
“กินไหม” ผมถาม มันทำหน้าคิดหนัก ก่อนจะหันกลับไปสนใจหนังสือเหมือนเดิม นี่จะไม่ใจอ่อนให้ผมสักหน่อยหรือไงวะ
“อร่อยนะ มีวิปครีมด้วย เยลลี่ก็เปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยสุดๆ” ผมไม่รู้หรอกครับว่ารสชาติมันเป็นยังไง แต่อยากจะยั่วเด็กมันก็แค่นั้น
“...” พริกยังคงเงียบ
“ไม่กินจริงเหรอ ไม่เป็นไร ฉันกินคนเดียว” ผมทิ้งตัวลงนั่งๆข้างมันมัน แหวกถุงเยลลี่ที่ซื้อมา หยิบออกมาถ้วยหนึ่ง คนขายเอาบีบวิปครีมใส่มาเรียบร้อยแล้ว และยังเย็นๆอยู่ แอบเห็นพริกชำเลืองมอง ผมแกะผาถ้วยออกช้าๆ ค่อยๆตักยั่วคนข้างๆ
“หืม อร่อยวะ” ผมพูดเสียงตื่นเตน้ แต่อร่อยจริงๆครับ อันนี้ไม่ได้พูดเล่น พอเงยหน้าก็เห็นเด็กนั่งหน้างอมองคนผม
“เสียงดัง ผมจะอ่านหนังสือ!” นั่น มีการโวยวายหาว่าผมเสียงดัง น่ารักจังวะ ถึงจะดื้อจะงองแงก็น่ารัก นี่ผมคงเพ้อเข้าขั้น ไอ้มาโคคนก่อนมันหายไปไหนวะ เหลือแค่ใครก็ไม่รู้เอาไว้ ไม่อยากจะยอมรับตัวเองเท่าไหร่ แต่มันทำให้ผมเปลี่ยนจริงๆ
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจย้ายที อ่านไปสิ ฉันจะนั่งกินเงียบๆ” อยากจะขำหน้ามันจริงๆ
“...”
ผมมองเสี้ยวหน้าของมัน สักพักพริกก็หันมาก่อนจะขยับปากพูดว่า
“ผมอยากกิน”
หึหึ ก็แค่นั้น
แต่...ของแบบนี้มันต้องมีข้อแม้กันสักหน่อยครับ
“ฉันจะให้นายกิน ก็ได้ แต่สัญญาก่อนว่ากินเสร็จแล้วนะไปนอน”
พริกทำหน้าเหมือนปลาขาดน้ำ แต่ก็ยอมพยักหน้า นี่มันอยากกินมากถึงขนาดยอมเชื่อฟังผมเลยหรือเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยวะ
ผมแกะถ้วยเยลลี่ให้มันถ้วยหนึ่ง รอยยิ้มที่ผมไม่เห็นตั้งแต่ทะเลาะกันปรากฏขึ้นบางๆ แม้ว่ามันจะไม่ยิ้มให้ผม แต่แค่มันยิ้มบางก็พอแล้ว
หมดถ้วยที่หนึ่งก็ต่อด้วยที่สองสามและ...
“พอแล้ว ไปนอน” ผมว่า มันจะกินเยอะไปแล้วครับ ไม่ได้หวง แต่มันไม่สบายอยู่ ไม่รู้ว่าคนป่วยเขาห้ามอีกอะไรบ้าง แต่เห็นว่ามันอยากกินผมเลยตามใจ แต่นี่คงจะตามใจมากไปหน่อย
แต่มันไม่มีทางเลือก ต้องยอมทำตามที่สัญญาเข้าไปนอนในห้อง ตัวมันร้อนไม่มีทีท่าว่าไข้จะลดลง พอมันหลับผมรีบโทรตามรุ่นพี่ที่เป็นหมอทันที ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ครับ มันแย่แน่ พอพี่เข้ามาผมก็ให้เข้าตรวจ มันไม่เป็นอะไรมาก ก็แค่ไข้หวัด แต่เพราะร่างกายอ่อนแอมาก เลยไม่หายสักที หมอฉีดยาให้มันไปสองเข็ม เพราะผมบอกว่าพรุ่งนี้มันมีสอบ คิดว่าตื่นมาช่วงบ่ายมันน่าจะดีขึ้น
ผมออกมาเก็บของข้างนอก เสร็จแล้วก็หิวหนังสือเรียนมันเข้ามาในห้องนอน ผมนอนอ่านหนังสือของมัน แล้วก็มาร์กส่วนที่สำคัญเอาไว้ ตอนมันอ่านจะได้อ่านแต่เนื้อๆ ผมอ่านเข้าใจบ้างไม่เช้าใจบ้าง แต่ก็พอจะจับทางได้ว่าตรงไหนที่น่าจะออกข้อสอบ
ตอนบ่ายผมปลุกมันลุกขึ้นมากินข้าวกินยา ไข้เริ่มลดลง รู้ขี้ผมโทรตามหมอตั้งแต่เมื่อวานก็ดี แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ครับว่ามีหมอมาตรวจมัน
“หนังสือผมอยู่ไหน” ตื่นมาก็นร้องหาหนังสือเลย
“อยู่บนเตียงนั่นแหละ ฉันมาร์กส่วนสำคัญไว้ให้แล้ว รออ่านดูล้วก็ว่าโอเคไหม”
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
ผมมองจ้องหน้ามัน ทำขนาดนี้มันยังไม่รู้อีกเหรอไงวะ
“คิดว่าไงล่ะ”
“แค่นี้ผมไม่หายโกรธง่ายๆหรอกนะ” มันพูดแล้วก็เดินเข้าห้องไป ผมเดินตามมันเข้าไปในห้อง
“เออ จะไม่หายโกรธก็ไม่ต้องหาย กูมีเวลาง้อมึงทั้งชีวิตนั่นแหละ”
“!!!”
ตกดึกผมยังคงอยู่ที่คอนโดพริก มันหลับไปแล้ว และสั่งผมว่าให้ปลุกมันตั้งแต่ดีห้า มันจะตื่นมาอ่าหนังสืออีกรอบ ผมนั่งดูทีวีข้างนอก เพราะไม่มีอะไรทำ ไม่อยากรบกวนคนป่วยด้วย
เสียงข้อความดัง ผมหยิบขึ้นมาดู แทบอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง
‘กูให้เวลาอีกสามวัน ไม่อย่างนั้น กูจะเป็นคนไปบอกเด็กนั่นด้วยตัวเอง’
และอีกหนึ่งฉบับ
‘แต่ถ้ามึงจะยอมแพ้ก็ได้นะ กูจะได้ล้างเท้ารอ’
ไอ้ดีน ก็ไม่มีทางที่จะยอมคนอย่างมึง แต่...ผมไม่อยากทำร้ายจริงใจพริกมันอีกแล้ว ถ้าผมทำครั้งนี้ มันต้องเกลียดผมแน่ๆ คำพูดของไอ้ธันผุดขึ้นมาในหัวผม
“มึงทำใจได้ใช่ไหม”
“เรื่อง?”
“เมื่อถึงวันที่มึงต้องทิ้งเขานะ มึงทำใจได้แน่นะ”
“กูทำใจได้”
วันนั้นผมตอบมันไปว่าผมทำใจได้ แต่วันนี้มันไม่ใช่ ผมจะทำได้ยังไงในเมื่อผมรักมันไปแล้ว
“แล้วกูจะคอยดู ว่ามึงจะทนเห็นคนที่มึงรักเจ็บได้ไหม”
“มึงจะบอกว่ากูรักมันเหรอ”
“นั่นมึงต้องถามตัวเองไม่ใช่เหรอไง”
ใช่ ผมต้องถามตัวเองว่าผมควรจะทำเลือกทางไหนดีในตอนนี้ อีกคนก็แสนรัก อีกคนก็สุดแค้น
ทางเดียวเท่านั้นที่ผมต้องเลือก...
…………………………………………….
ถ้าปิดเทอมแล้วจะไม่มาทีละครึ่งแน่นอน แต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆ สอบเสร็จเช้า บ่ายน็อคยาวถึงเย็น แล้วเป้นไง ปวดหัวจ้า T^T

ปมทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลายต่อจากนี้แล้วนะคะ ทีนี้ทุกอย่างก็จะค่อยๆกระจ่างขึ้นล่ะ ^_^
