มองท้องฟ้าอีกทีตะวันก็ใกล้จะตกดินแล้ว ห้องน้ำมีเพียงสี่ห้องจึงตัดสินใจให้ผู้หญิงทั้งหมดได้ใช้ แต่ไม่รวมหญิงเหล็กคูโบต้าอย่างแก๊งผีห่านะครับ ส่วนพวกผู้ชายก็ตามที่ลุงชัยบอกครับ.......บ่อบาดาล!!!! ตกลงกันว่าจะจับฉลากตามกลุ่มที่นั่งกินข้าวว่าใครอาบก่อนอาบหลัง ผมที่กลัวผีขึ้นสมองจึงอยากจะรีบอาบก่อนอยู่แล้ว เนื้อตัวก็เปื้อนสีเต็มไปหมด จึงบังคับไอ้นนท์ออกไปจับฉลากจากมือไอ้พี่โรม เปิดมาได้กลุ่มสุดท้าย น้ำตาแทบไหล
“มึงอยากอาบก่อน?” คงเห็นผมทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้มันเลยถามขึ้นมา
“อยู่แล้วดิพี่ นี่ก็หกโมงกว่าแล้ว กว่าไอ้พวกนั้นจะอาบเสร็จก็มืดพอดี ผมกลัวผี”
“กูจะไปคุยกับไอ้โรม” ผมรีบฉุดแขนมันที่ลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินตรงเข้าไปหาพี่โรมแทบไม่ทัน คุยของมันคงไม่พ้นขู่กรรโชกนั่นแหละครับ รับรู้ว่าดวงชะตาไอ้พี่โรมกำลังจะขาดเลยขอเป็นคนดียอมกลัวผีช่วยต่ออายุให้มันดีกว่า
“ทำไม?” ยังมีหน้ามาถามกูอีกว่าทำไม เห็นหน้ามึงแล้วเดาได้เลยว่าไม่จบด้วยคอนเวิร์สประทับบนตัวไอ้พี่โรมก็ไม่ใช่เหนือฟ้าแล้ว ภาพตอนพี่เสือโดนกระทืบยังติดตาไม่หาย ก่อนมาก็แอบมันไปเยี่ยมพี่แกได้แค่ครั้งเดียว กำลังจะนัดกันไปเยี่ยมครั้งที่สองไอ้พี่เหนือมันเกิดจับได้ พี่เสือเกือบต้องย้ายจากห้องพักฟื้นไปห้องดับจิตแล้วครับวันนั้น ดีที่ผมสัญญาว่าจะไม่ไปเยี่ยมพี่แกอีกมันถึงได้ยอมไม่บุกไปกระทืบแกถึงโรงพยาบาล
“ผมไม่เป็นไร อาบกันตั้งเจ็ดคน ผีมันไม่กล้ามาหรอก อีกอย่างผมมีพี่อยู่ทั้งคน” จริงๆก็อยากจะบอกต่อว่ามึงน่ากลัวกว่าผีอีก แต่กลัวว่าถ้าพูดไปเดี๋ยวผมจะได้กลายเป็นผีไปซะเอง คิดแล้วก็เงียบไว้ดีกว่า
“.................” ไม่ตอบแต่ลงมานั่งข้างผมเหมือนตอนแรก แปลได้ว่า การเจรจาเป็นผลสำเร็จ
“อุบาทสัด ไอ้ธาม” ตะโกนด่าไอ้ธามทันทีที่เห็นมันนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวคลุมท่อนล่างไว้ ส่วนในมือมีกางเกงไหนสีแสดสะท้อนแสงยามค่ำคืนอยู่หนึ่งตัว เดินส่ายเอวไปมา เหมือนโลกนี้มีแค่มัน แต่จริงๆมีอีกหกชีวิตที่นั่งมองอยู่อย่างสมเพชลูกตาตัวเอง
“มึงไม่คิดจะหาเสื้อ หากางเกง ติดมือนุ่งตอนกลับมาบ้างหรอวะ บ่อก็อยู่ตั้งไกลเกือบติดทุ่งนาโน่น”
“ไอ้ปอนด์ ไอ้นนท์ พวกมึงนี่ช่างไม่รู้จักการใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับธรรมชาติซะแล้ว” แล้วเสือกกลมกลืนกับธรรมชาติซะกูคิดว่ามึงเป็นพญาแร้งเลยทีเดียว กูทนมองไม่ได้จริงๆ มันกะจะนุ่งกางเกงในตัวเดิมที่ใส่ติดตัวอยู่ตอนนี้อาบน้ำครับ แล้วถึงเปลี่ยนเป็นตัวสีแสดในมือแล้วก็นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดิมกลับมา
“บอกเพื่อนมึงด้วย ว่าถ้ายังไม่อยากโดนกูกระทืบตายก็หยุดทำอะไรทุเรศๆต่อหน้ากู” ไม่ต้องบอกครับ เพราะไอ้พี่เหนือมันตั้งใจพูดดังๆให้ไอ้ธามได้ยินอยู่แล้ว พญาแร้งหยุดชื่นชมธรรมชาติยามเย็นกลับเข้ารังนั่งรออยู่นิ่งๆทันที
“...................”รอซักพักกลุ่มรองสุดท้ายก็เดินกลับออกมา พวกผมจึงลุกขึ้นหยิบข้าวของตัวเองเดินตรงไปตามทางที่ตอนนี้ไร้แสงจากดวงอาทิตย์และแสงจากหลอดนีออน มีเพียงไฟฉายสองกระบอกจากไอ้นนท์และพี่แทนเท่านั้นที่ส่องให้พอเห็นทาง สองข้างทางเป็นป่ารกทึบ มืดสนิท มีเพียงเสียงจิ้งหรีด เรไรเท่านั้นที่ร้องดังระงม ความกลัววิ่งขึ้นสมองจนถึงขั้นต้องเกาะแขนไอ้พี่เหนือไว้แน่น มือแกร่งจึงโอบเอวผมไว้จากด้านหลังรู้สึกอุ่นใจขึ้นมายังไงไม่รู้..........
“บอกกูว่าบ่อบาดาล ห่า กูก็คิดว่ามีปั้มดึงน้ำขึ้นมา หรือใช้ถังตักโยง ที่ไหนได้เป็นบ่อบาดาลแบบโยก เหนื่อยมาทั้งวันกูต้องมาโยกน้ำอาบอีกใช่ไหม” ถึงที่หมายแทนที่จะโล่งใจระหว่างทางไม่เจออะไรแต่ก็ต้องมาหนักใจกับบ่อโยกตรงหน้า บ่อบาดาลแบบโยกคืออุปการณ์ที่ใช้ดึงน้ำจากใต้ดินขึ้นมาโดยการใช้แรงโยกคันเหล็กที่ยื่นออกมาขึ้นและลง จนกว่าจะมีน้ำไหลออกมาทางปากกระบอกที่มีครุถังรองอยู่ คิดภาพตามนะครับ ถ้ามีคนหน้าเย็นชาๆหล่อโฮกฮากกระชากตับมายืนโยกน้ำแบบเอาเป็นเอาตายด้วยใบหน้านิ่งๆ แค่คิดภาพในหัวก็ฮาไม่ไหวแล้ว “โอ้ ซาร่า มันยอดมากเลย น้ำไหลแรงดีจริงๆ” “โอ้ จอร์จ ท่านายสุดยอดไปเลย สมแล้วที่นายคือ บ่อบาดาลแมน” ภาพผมชื่นชมไอ้พี่เหนือหรือจอร์จบ่อบาดาลแมนในความคิด ทำเอาถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“ขำเชี่ยไรของมึง” แค่นี้ต้องทำหน้าดุใส่กูด้วย เหมือนกับรู้ว่าจินตนาการกูทำมึงเสียภาพลักษณ์ยังไงยังงั้น
“ผมก็หัวเราะของผมไปเรื่อยแหละ พี่อย่าใส่ใจเลย” พูดจบก็หัวเราะต่อ
“เชี่ยปอนด์อย่าอู้ เร็วๆ มาให้ไวๆ” เสียงไอ้นนท์ตะโกนเรียกผมขณะยืนคุมไอ้ธามที่ใส่เพียงกางเกงในสีเขียวสะท้อนแสงตัวเดียวโยกคันเหล็กประหนึ่งกำลังยกเวทอยู่ในฟิตเนต ช่างเป็นภาพที่อุจาดตาสุดๆ ส่วนหล่อโคตรพ่อก็ถือครุถังมารองน้ำ อื้อหือ คนมันหล่อทำยังไงก็หล่อจริงๆครับ ขนาดเอาผ้าขาวม้ามาพาดหัวแม่งยังดูนำแฟชั่น เทรนแต่งกายแบบกรรมกรกำลังจะมาแล้วครับปีนี้
“เดี๋ยวพวกผมสี่คนรับหน้าที่โยกน้ำให้เอง พวกพี่รออาบอย่างเดียวพอ”
“พี่อยากลองทำบ้างนะปอนด์” มึงหยุดเลยไอ้พี่มิน ยื่นสำรวจบ่อไปนิ่งๆอย่างเดิมน่ะดีแล้ว
“อย่าเลยพี่ ให้พวกผมจัดการดีกว่า” ขืนให้มึงทำตีสามพวกกูยังไม่รู้เลยว่าจะได้อาบน้ำกันไหม
“กูเพิ่งจะเคยเห็นอะไรแบบนี้ครั้งแรก กูอยากลองทำดู” ไอ้พี่แทน แค่จานข้าววัดมึงยังสแครชจนสีถลอก ถ้าพวกกูยอมก็ไม่ต้องได้อาบน้ำเพราะบ่อโยกแม่งอะไหล่ต้องพังหลุดออกมาไม่มีชิ้นดีแน่ๆ
“กูยังอยากมีน้ำอาบอยู่ แรงควายอย่างมึงยืนเฉยๆไปเถอะ” ไม่ทันไรมันก็จะตีกันอีกแล้วครับคู่นี้ ไอ้ไนท์ก็ชอบไปยั่วโมโหไอ้พี่แทนมัน ฟิลมันขาดขึ้นมาถีบบ่อเขาพังจะทำยังไง ไม่ต้องลำบากลงนาไปหาน้ำมาอาบกันเลยรึ
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจัดการเองสบายมาก” สบายมากเหงื่อแตกพลั่กๆ กางเกงในมึงจะหลุดตูดแล้วนั่น ทนความอุจาดตาไม่ไหวเลยต้องไปเปลี่ยนหน้าที่กับไอ้ธาม ตอนนี้ได้น้ำมาหลายถังแล้วคิดว่าแบ่งกันอาบก็น่าจะพอ ผ่านไปซักสิบนาทีผมก็หอบแฮ่กแล้ว ไอ้พี่เหนือมันก็มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังผมนิ่งๆ ผมว่าจริงๆมันคงอยากเข้ามาช่วยแต่ดูจากสภาพผมเลยปล่อยให้ผมทำเองจะดีกว่า เพราะมันก็คงไม่อยากมีสภาพน่าสมเพชเท่าไหร่นัก คิดว่าได้น้ำพอแล้วก็จัดแจงจะถอดเสื้อผ้าครับแต่ก็มีมือหนึ่งมาห้ามไว้
“อะไรวะพี่ ผมจะถอดเสื้อ อยากอาบน้ำจะแย่ เปื้อนทั้งสี ทั้งเหงื่อ โคตรเหม็นตัวเองเลย” เห็นไอ้ธามตักน้ำอาบอย่างสบายอกสบายใจก็อิจฉาครับ แต่พอหันกลับมามองมือที่รั้งผมไม่ให้ถอดเสื้อก็ต้องหยุดอิจฉาทันที โกรธอะไรผมอีกวะเนี่ย
“ไม่ต้องถอด” มึงจะบ้าหรอให้กูอาบทั้งเสื้อยืดกางเกงบอลเนี่ยนะ กูไม่แก้ผ้าอาบด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว ที่ยืนอยู่ก็ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้นจะมาอายเชี่ยอะไร
“ผมไม่อายหรอกพี่ ผมหน้าด้าน”
“ใครกลัวมึงอาย กูไม่ชอบให้ใครมองมึงแก้ผ้า ชัดไหม!?” ชัดเต็มรูหูกูพอๆกับหน้าโหดๆของมึงเต็มตากูเช่นกัน
“ผมว่าจริงๆลองใส่เสื้ออาบมันก็ดีเหมือนกันนะ รู้สึกหนาวๆขึ้นมาพอดีเลย” ว่าแล้วก็แย่งขันจากมือไอ้ธามจ้วงตักน้ำขึ้นมาราดหัวแม่งเลย หันไปแกล้งดึงกางเกงในไอ้ธามเล่น กับสาดน้ำใส่ไอ้นนท์บ้าง หันกลับมาอีกทีเลือดกำเดาแทบพุ่ง
“ถ้าจะหล่อแล้วหุ่นดีกันขนาดนั้น กูว่าแม่งไปเป็นนายแบบเถอะ” กลางป่า กลางทุ่งนา บรรยากาศรอบๆพร้อมซาวด์ประกอบเป็นเสียงจิ้งหรีด ชั่งไม่เข้ากับภาพไอ้สี่คนที่ถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็กเรียงสวยกับผิวขาวๆให้พวกผมสามคนได้อิจฉาเล่นเลยซักนิด ขนาดท่อนล่างใส่แค่กางเกงบอลพวกมึงยังเซ็กซี่ขนาดนี้ ถ้าสาวๆเขามาเห็นกูว่ามีเลือดหมดตัวแน่งานนี้
“เชี่ยไนท์แม่งทรยศไปเข้ากับฝ่ายตรงข้าม” เสียงนี้จากไอ้ธามครับ มึงไม่เห็นมันอวดซิกแพ็กกับไอ้พี่แทนจะฆ่ากันตายห่าอยู่แล้วหรือไง กูว่าแม่งก็ดูดีทั้งหมดนั่นแหละ มีแค่กูกับมึงเท่านั้นเชี่ยธามที่ไม่มีหกลอนบนหน้าท้องกับใครเขา
“มึงไม่ไปยืนรวมกับเขาเป็นบอยแบนด์เกาหลีล่ะเชี่ยนนท์ ห้าคนครบ ไอ้ห่า โคตรหล่อเลย”
“ไม่ว่ะ กูขอหล่อของกูอยู่มุมนี้ดีกว่า” เหยดดดดดดดดดดไม่ปฏิเสธแถมยังยอมรับหน้าตาเฉย เพื่อนกูมั่นจริงๆ
“..........................” ไอ้พี่เหนือเดินเข้ามาเทน้ำราดหัว มึงจะเซ็กซี่ไปไหน ตอนกูทำทำไมไม่เหมือนมึงเลยวะ ท่าเสยผมพ่นน้ำออกจากปากนั่นยังกับถ่ายMV แล้วทำไมกูต้องใจเต้นไปกับภาพตรงหน้าด้วย?
“มองอะไร?” ถามกูแล้วทำไมต้องยิ้มแบบมีเลศนัย ใครดูดีกูก็มอง ให้กูชื่นชมบ้างไม่ได้รึไง
“ใครมอง ผมไม่ได้มอง” แถแม่งเลย ยอมรับก็แพ้มันสิ
“หึ...เดี๋ยวคืนนี้มึงก็ได้เห็นมากกว่านี้” ไอ้เชี่ยแม่ง พูดจาแบบนี้ตลอด กูอายไหม? กูอายมาก! ถามกูซักนิดก็ได้ว่าอยากเห็นของมึงไหม?! ได้ข่าวว่ากูก็มีเหมือนมึง อาจต่างไซส์ไปบ้างแต่ก็มีเหมือนกันละวะ
“................” ว่าแล้วก็ไม่กล้าสบตามันแต่หันไปมองทุ่งนาแทน เกิดรักในธรรมชาติเหมือนเชี่ยธามที่ตอนนี้อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนกางเกงในเป็นสีส้มสะท้อนแสงแล้วเรียบร้อยขึ้นมาทันที แต่สายตาก็ไปพบกับอะไรบางสิ่งบางอย่างเข้า
“แสงไฟอะไรวะ?” เป็นไฟสีเหลืองออกส้มๆดวงใหญ่พอประมาณลอยอยู่ แล้วตอนนี้ก็กำลังตรงมาที่พวกผมช้าๆ
“กูว่าชักจะไม่เข้าท่าแล้วว่ะ” จากที่เคยเห็นว่าดวงไม่ใหญ่มาก เมื่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ดวงไฟก็เริ่มใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆๆ
“แค่หิงห้อยป่าววะไอ้ปอนด์” เชี่ยธามก็ถามไม่คิด หิงห้อยบ้านมึงสิตัวใหญ่ขนาดนี้
“............................” ทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว ทุกการกระทำหยุดนิ่ง ทุกสายตาจับจ้องไปยังสิ่งเดียวตรงหน้าอย่างจดจ่อ ไอ้พี่แทนที่สระผมอยู่ถึงกับต้องหยุดค้างไว้ทั้งที่ฟองยังเต็มหัว ส่วนพี่มินกับไอ้ไนท์ยังฟอกสบู่กันไม่เสร็จฟองฟอดเต็มตัว ผมกับไอ้พี่เหนือก็ยังยืนตัวเปียกซกไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า มีแค่ไอ้นนท์เท่านั้นที่เปลี่ยนใส่เสื้อยืดกางเกงบอลตัวใหม่ยืนอยู่ข้างไอ้ธามที่ยังโชว์กางเกงในสีแสดท้าทายดวงไฟปริศนาอยู่
“กูว่ามันชักจะเหมือน....” ยังไม่ทันที่ไอ้นนท์จะพูดจบประโยค ดวงไฟสีส้มดวงใหญ่ก็ปรากฎเงาเป็นร่างผู้หญิงผมยาวสยายให้เห็นเต็มๆตา
“กระสือ!!!!!” ห้าเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะมีเสียงร้อง “โอ๊ย!” ดังขึ้นอย่างไม่เข้าพวก
“ไอ้เชี่ยพี่มินโยนขันกระแทกหัวกู!” ด่ามันไม่ทันครับ เพราะหลังจากมันทิ้งขันมาใส่หัวผม มันก็วิ่งตามหลังไอ้นนท์ที่วิ่งเผ่นไปคนแรกทันที ในขณะที่ผมยังทำได้แค่ยืนนิ่งน้ำตาจะไหล ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้ามองเงานั้นเคลื่อนกายเขามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ไอ้พี่แทนมึงรอกูด้วย” เสียงไอ้ไนท์ตะโกนเรียกศัตรูคู่อาฆาต แต่ตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนวิ่งใส่เกียร์หมาลืมความบาดหมางวิ่งตามกันไป ทิ้งพวกกูไม่ว่า แต่เสือกเอาไฟฉายไปด้วยแล้วกูจะเหลืออะไร ไอ้พวกชั่ว!!!!!
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก กระสือ อ๊ากกกกกกกกกกกกก กระสือ....” เสียงไอ้ธามแหกปากตะโกนลั่นอย่างคนเสียสติ ก่อนจะวิ่งตามแสงไฟฉายของไอ้พี่แทนที่ยังพอเห็นอยู่รำไรไปอย่างรวดเร็ว และเพราะเสียงของมันทำให้ผมได้สติกลับมาเตรียมโกยเหมือนคนอื่นบ้าง
“ไอ้พี่เหนือมึงจะยืนนิ่งให้กระสือมาหักคอมึงรึไง!” วิ่งไปแล้วครับ แต่ลืมว่ายังมีใครอยู่ตรงนั้นอีกคน เมื่อหันหลังกลับไปก็เจอไอ้พี่เหนือยืนนิ่งหันหน้าไปจ้องตากับกระสืออยู่ไม่ห่าง ฉิบหาย! กระสือมึงยังจะหาเรื่องเขารึไง ไม่ปล่อยให้เหนือตีนบรรลัยได้ทันต่อสู้กับกระสือศิษย์น้ำลายยายสาย ผมก็ไปฉุดแขนลากมันออกมาวิ่งตามเสียงไอ้ธามไป ทางมืดมากครับ มองไม่เห็นอะไรเลยจึงใช้กางเกงในสีแสดสะท้อนแสงของไอ้ธามเป็นสิ่งนำทาง เห็นหลังไหวๆวิ่งแหกปากตูดกระเพื่อมเยี่ยงคนบ้า ผ้าขาวม้าบนบ่าปลิวไสวต้านแรงลม อื้อหือ ซุปเปอร์แมนเวอร์ชั่น2013ชุดเขาเริศจริงๆ เสื้อเบอร์เอสไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในสีแสดตัวเดียวกับใช้ผ้าขาวม้าเป็นผ้าคลุม ถ้ากูรอดกลับไปได้ กูจะตั้งหิ้งบูชากางเกงในมึงเลยไอ้ธาม
“ไอ้ปอนด์” ไอ้เชี่ยนี่ก็เรียกอยู่ได้ กูกำลังช่วยมึงไม่ให้โดนกระสือหักคออยู่นะ สำนึกบุญคุณกูซะบ้าง
“เงียบไปเลย กูเสียสมาธิวิ่ง ตามกูมาอย่างเดียวพอ” นาทีนี้ผมกลัวผีมากกว่าไอ้พี่เหนือมันครับ ตวาดมันไปเผื่อจะได้หยุดเรียกชื่อผมสักที ยิ่งหลอนๆอยู่ไอ้นี่ก็เรียกอยู่ได้
“ไอ้ปอนด์”
“..................” ไม่ฟังอะไรแล้ว ทันทีที่เห็นแสงไฟจากตัวอาคารที่เพื่อนๆรวมตัวกันทานมื้อเย็นกันอยู่ ก็เกียร์หมาวิ่งเข้าใส่ทันที เข้าไปนั่งหอบด้านในที่ตอนนี้มีไอ้นนท์ยืนมองไอ้ธามที่เนื้อมีร่องรอยขูดขีดเลือดไหลซึมออกมาเต็มไปหมด ผมเดาว่าผีกระสือต้องใช้ลำไส้ใหญ่ลอยไปฟาดแขนขามันจนได้แผลแน่ๆเลย!!!!!
“วิ่งยังไงให้หนามเกี่ยวว่ะไอ้ธาม” หัวเกือบทิ่ม ที่แท้โดนหนามเกี่ยว สัด! กูก็จินตนาการไปซะไกล
“สัด! ก็มึงไม่ใช่หรอที่เอาไฟฉายมา อีกอันก็อยู่กับไอ้พี่แทน กูจะรู้ไหมว่าข้างทางมีหนามจากต้นเชี่ยไรอยู่” กูวิ่งตามสีกางเกงในมึงมายังไม่ได้รอยอะไรบนตัวมาเลย มึงวิ่งยังไงของมึงวะ?!
“เอาน้ำมาทีดิ กูแสบตาฉิบหาย” พูดจบพี่โรมก็ยื่นขวดน้ำส่งให้ไอ้พี่แทน ก็สมควรจะแสบตาอยู่หรอกครับ ใส่เกียร์หมาทั้งที่ยังสระผมอยู่ อีกสองคนก็สภาพไม่ต่างกันฟองสบู่เต็มตัว ลำบากไอ้คิมต้องหาน้ำมาให้ล้างตัว เรื่องนี้สอนให้รูว่าก่อนจะทิ้งขันใส่หัวกูมึงก็ควรจะเก็บไว้เทราดตัวก่อนจะวิ่งมานะไอ้พี่มิน
“ไอ้ปอนด์!”
“เชี่ย!!!!!!” หันไปมองตามเสียงโหดๆที่พร่ำเรียกไม่หยุดก็ต้องตกใจในสภาพ เซ็กซี่หล่อลากกระชากตับยังเป๊ะเหมือนเดิมแม้ตัวเปียก แต่ที่ต้องร้องขึ้นพร้อมกันก็เพราะสายตามองต่ำลงไปเห็นนิ้วหัวแม่โป้งตีนของไอ้พี่เหนือทั้งสองนิ้ว ตีนบรรลัยที่เคยแจกจ่ายให้คนอื่นบัดนี้ได้ออกมาโชว์หราท้าทายสายตาประชาชีครบทั้งสิบนิ้ว
“รองเท้าพี่หายไปไหนวะ?!”
“กูจะบอกมึงก็ไม่ฟัง รองเท้ากูหลุดระหว่างทางไอ้เชี่ย!” กูผิดตลอด แล้วก็ไม่พูดให้จบ ทุกทีก็เห็นเถียงชนะกูตลอดคราวนี้แค่จะบอกว่า “รองเท้ากูหลุด” มึงถึงไม่พูดขึ้นมาละว่ะ โมโหครับแต่ก็ก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี
“เหนือ ปอนด์ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป ทุกคนด้วย แล้วเดี๋ยวค่อยมาเล่าเหตุการณให้ทุกคนฟัง” ผมเห็นด้วยกับพี่โรมมันครับ ก่อนจะมีใครโดนจับปล้ำไปซะก่อนเพราะตอนนี้ทั้งสาวแท้ สาวเทียมต่างจับจ้องมาที่พวกไอ้พี่เหนืออย่างหื่นกระหาย ก็ถ้าจะจ้องขนาดนั้น จับมันกลืนลงท้องไปเลยดีกว่า
“เกิดอะไรขึ้น?!” เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่กันเสร็จสรรพก็มานั่งรวมกลุ่มกันโดยมีครูทวีปและลุงชัยนั่งรวมอยู่ด้วย ไอ้ธามที่คันปากอยากจะเล่ามาตั้งแต่แรกจึงได้เริ่มต้นสาธยายเหตุการณ์เจอกระสือให้ทุกคนฟังอย่างเมามันส์เพิ่มอรรถรสด้วยการใส่สีตีไข่ลงไปเล็กน้อย จนสาวๆและแก็งผีห่าร้องกรี๊ดลั่นอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆกัน
“ไฟที่พวกเด๊กๆเห๋นกั๋นเป๋นแบบนี่ใช่ใหม่?” แปลได้ว่า “ไฟที่พวกเด็กๆเห็นกันเป็นแบบนี้ใช่ไหม?” พูดจบลุงชัยก็หยิบอุปกรณ์บางอย่างขึ้นสวมหัวก่อนจะกดปุ่มด้านข้างที่มีสายต่อระโยงระยาง ปรากฏเป็นแสงสว่างวาบขึ้นมากลางกระหม่อม จากหลอดไฟที่ติดอยู่คล้ายๆไฟฉาย
“ไฟส่องกบ!!!!!” ใช่ครับ ดวงไฟที่ว่าคือไฟส่องกบที่ชาวบ้านเอาไว้สวมหัวเวลาจะไปหากบ หาเขียด ในทุ่งนายามค่ำคืน ลุงชัยยังพูดต่อด้วยว่าที่เห็นเป็นแกเองนั่นแหละที่กำลังเดินหากบเพื่อจะมาทำกับข้าวให้พวกเราทานกันในวันพรุ่งนี้ แล้วผมยาวสยายที่เราเห็นเป็นเงาๆก็คงมาจากผ้าขาวมาที่แกพาดบ่าอยู่ปลิวสะบัดตามแรงลมจนพวกเราคิดว่าเป็นเส้นผมของผู้หญิง รู้แจ้งแจ่มชัดในอุราผมก็ยิ้มร่าอย่างสบายอกสบายใจที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในดอนเกิบหายนี้ต่อไปได้โดยปกติสุข ก่อนจะหันไปสบเจอสายตาโหดๆที่อยู่ข้างๆ
“...........................” คดีผีกระสือแก้กันได้แล้วครับ แต่คดีรองผ้าใบคอนเวิร์สของไอ้พี่เหนือหาย ผมภาวนาให้แก้ไขได้แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะครูทวีปที่อาสาเดินกลับไปหารองเท้าไอ้พี่เหนือมาให้ กลับมาบอกว่าหายังไงก็หาไม่เจอ สรุปแล้ว ไอ้พี่เหนือมันก็ “เกิบหาย” สมชื่อหมู่บ้านไปโดยปริยาย
“ผมขอโทษ” เห็นไหมกูจะร้องไห้แล้ว ทำหน้าโหดใส่กูอยู่ได้
“เพราะมึงคนเดียว” เออ!!!!! กูผิด กูยอม มึงใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้นแหละ สาวๆเขาแอบถ่ายรูปกันกรี๊ดกร๊าดอยู่รอบๆไม่เห็นรึไง คีบเตะหูหนีบยี่ห้อช้างดาวของลุงชัยไปก่อนมันจะเป็นอะไรไป มันก็มีดาวเหมือนคอนเวิร์สมึงนั่นแหละ แถมมีหูให้มึงคีบด้วย เวลาเดินก็มีเสียงแปะๆตอนส้นตีนกระทบรองเท้า คอนเวิร์สคู่ละหลายพันของมึงให้ความสุนทรีเป็นจังหวะดนตรีได้เท่ากับรองเท้าแบบนี้ไหม มีของดีไว้ประดับตีนมึงยังไม่รู้ตัวอีก
“เท่ห์ดีออกพี่”
“พ่องมึงสิ!” ชะอุ๊ย! ดูจะไม่ถูกใจ ว่าแล้วก็ขอแยกย้ายกลับไปนอนเต็นท์ใครเต็นท์มันตามที่ครูทวีปแกสั่งดีกว่า น่ากลัวเกินเดินหนีแม่งเลย
“มึงเจอกูแน่คืนนี้ โทษที่ทำรองเท้ากูหาย”
“.....................” สะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว เห็นมันเดินลากเตะตามมาห่างๆ ส้นตีนกระทบรองเท้าคู่ใหม่ดังแปะๆรู้สึกสมเพชปนอนาถใจแทนก็จริงครับ แต่ตอนนี้ทุกข์หนักมันมาตกอยู่ที่ผมแล้ว
จะมีบทลงโทษอะไรสำหรับคดีเกิบหายรอผมอยู่?!!!!!!!!!
เกือบช็อคตายเพราะไฟส่องกบไม่พอ ยังจะมาตายเพราะทำเกิบไอ้พี่เหนือหายด้วยหรอเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ภาพประกอบฉาก
บ่อบาดาลแบบโยก / บ่อโยก

ไฟส่องกบ / กระสือของน้องปอนด์

ร้องเท้าแตะตราช้างดาว / อิแตะคู่ใหม่ของพี่เหนือ
โบนัสแถม พี่เหนือตอนถอดเสื้ออาบน้ำ

เหนือฟ้า: มองเชี่ยไรกัน อยากตายคาตีนกูหรอ สัด!

ตอนเก้าอเลนอัพครบแล้วนะคะ

I-AM ฝากมาบอกว่าขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมากมาย

ถ้ารักนิยายเรื่องนี้ก็ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ I-AM มันอยากให้ได้สนุก

หัวเราะ

หื่นกาม

ไปด้วยกัน

ปล. อิมเมจฝ่ายหล่อเฮฮาจะมาอัพในไม่ช้าค่ะ I-AM แอบสปอยอเลนมาว่า ได้รูปอิมเมจน้องปอนด์ในความคิดมันแล้ว
