Special Part........................................."คู่กัด"
“กูใช้งานพวกมึงหนักขนาดนั้นเลยหรอวะ? สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เลยจริงๆ” ต้นไม้ ประธานรุ่นเอ่ยถามขึ้นหลังจากมองเห็นสภาพเพื่อนตัวเองที่มีขอบตาคล้ำ ตาปรือ สภาพอิดโรยเหมือนไปอดหลับอดนอนกันมาจากไหน ที่สำคัญเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยยุงกัดเต็มไปหมด เขากับคิมหันต์แค่อยากจะมาเดินตรวจงานแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพเพื่อนทั้งสามที่ยืนสัปหงกหน้าถูไถอยู่กับผนังที่สียังไม่ทันแห้ง ช่างเป็นภาพที่อนาถต่อสายตาจนทนดูไม่ได้จริงๆ
“มึงจะสร้างอนุสรณ์สถานให้เด็กๆระลึกถึงหนังหน้าพวกมึงกันหรือไงวะ”
“พวกกูแค่พักสายตากันเฉยๆ” ธามรีบเถียงทันทีที่สะดุ้งลืมตาขึ้นมา น้ำลายที่ไหลย้อยออกมาถึงปลายคางนั้นเป็นหลักฐานมัดตัวได้เป็นอย่างดีว่าคงไม่ใช่แค่ยืนพักสายตาธรรมดากันแน่ๆ แต่เรียกได้ว่าหลับลึกกันเลยมากกว่า
“พักแบบไหนหน้ามึงเปื้อนไปแถบ ถ้ามากกว่าพักกูว่างานนี้มีเอาหัวมุดถังสี” ถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า ก่อนจะหยิบผ้าเย็นที่ถือติดตัวมายื่นส่งให้เพื่อนทั้งสามคน
“กูบอกแล้วให้พวกมึงพกกย.15มา เป็นไงล่ะ ตัวลายยังกับตุ๊กแก”
“ถ้ามึงพูดคำว่าตุ๊กแกให้กูได้ยินอีกนะไอ้คิมกูจะจับหน้ามึงมาถูกับกำแพง ละเลงหน้ามึงใช้แทนแปลงเลยคอยดู”
“ไอ้เชี่ย กรรมวิธีทรมานกูโหดสัดอ่ะไอ้ปอนด์” ทำหน้าแหยงๆถอยห่างออกไปเล็กน้อย ไม่รู้เพราะกลัวหรือรังเกียจเพื่อนกันแน่
“ตกลงพวกมึงไปทำอะไรกันมาวะ แล้วไอ้ปอนด์มึงจะใส่เสื้อแขนยาวทำเชี่ยไร หนาวหรอมึง กูร้อนจนจะแก้ผ้าได้อยู่แล้ว”
“เรื่องของกู พวกมึงจะมาตรวจงานก็ตรวจไปดิวะ” พูดไปแบบนั้นทั้งที่เหงื่อไหลท่วมตัวแต่ก็ยังดึงซิบเสื้อคลุมปิดมิดชิดถึงคอ
“กูจะไม่อะไรกับพวกมึงเลย ถ้าพวกมึงสามตัวจะไม่มีสภาพแบบนี้ เห็นแล้วคิดว่ากำลังดูสารคดีสัตว์โลก คนหนึ่งก็แพนด้าหลงฤดู ห่า อยู่ดอนเกิบหายร้อนจะตายใส่เสื้อยังกับจะไปขั้วโลก อีกคนก็ยังกับหมาโดนขี้เรื้อนแดก ถ้ามึงจะเกาขนาดนั้นนะไอ้ธาม กูว่าเอาน้ำร้อนลวกขูดหนังออกเลยเถอะ”
“พูดซะกูทุเรศตัวเองเลยไอ้ต้น มึงมายืนด่าพวกกูเพื่อ?!”
“กูแค่มาตรวจงาน ทาสีกันเร็วดีนิพวกมึง แต่ไม่ต้องเสือกอยากทำจิตกรรมฝาผนังหน้าตัวเองให้อาคารเรียนเค้าเลยนะ”
“เออๆ เผลอหลับนิดหลับหน่อยไม่ได้เลย แล้วไอ้ไนท์ไปไหนวะ?”
“อยู่ด้วยกันเพื่อนหายไปคนยังไม่รู้ แม้แต่มึงก็เป็นไปกับมันสองตัวด้วยหรอวะไอ้นนท์”
“กูเห็นพี่โรมใช้มันกับพี่แทนไปเอากระติกน้ำที่บ้านลุงชัยมาเพิ่ม”
“มึงว่าไงนะ!!!” สามเสียงถามขึ้นพร้อมกันจนคิมหันต์แปลกใจ ความง่วงหายไป ทิ้งไว้เพียงแพนด้ากับหมาขี้เรื้อนทำหน้าตกอกตกใจเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ได้ยินแบบนั้น
“หน้าตาแต่ละคน ทุนเดิมกูก็ขวัญเสียจะแย่แล้ว เพิ่มความตกใจมา ฉิบหายเหอะ ไม่ใช่สารคดีสัตว์โลกธรรมดาซะแล้ว สัดปะหลาดชัดๆ” พูดจบก็โดนฝ่ามือฟาดลงกลางหัวทันทีจากสัดปะหลาดที่ว่า
“ตกลงไอ้ไนท์ไปไหนวะ?!”
“เห็นว่ากระติกน้ำที่เอามามันไม่พอ พี่โรมแกเลยให้ไอ้ไนท์ไปขอยืมลุงชัยมาใช้ก่อน พอดีเห็นมันยืนเถียงอะไรไม่รู้อยู่กับพี่แทน พี่โรมก็เลยใช้ทั้งคู่เลย”
“เชี่ย! นรกแล้ว ตอนนี้ไม่ฆ่ากันตายอยู่กลางทุ่งนาแล้วหรอวะ”
“กังวลเกินไปแล้วไอ้ปอนด์ กูเห็นพี่โรมขอให้ไอ้พี่เหนือไปช่วยดูด้วย คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“ห๊ะ! ไอ้พี่เหนือเนี่ยนะ น่าเป็นห่วงกว่าเดิมสิไม่ว่า” แพนด้ากลายพันธุ์เป็นสัดปะหลาดแสนน่ากลัวกว่าเดิมทันทีที่ชื่อนี้หลุดออกมา
“เชี่ยปอนด์น่ากลัวมาก” คิมหันต์รีบถอยตัวเองไปยืนหลบหลังต้นไม้ทันที
“ต่อให้มันแทงกันไส้ไหล กูว่าผัวมึงก็ทำแค่ยืนดูอยู่นิ่งๆแน่เลย”
“กูก็เห็นด้วยว่ะไอ้ธาม แต่มันไม่ใช่ผัวกู”
“กูว่ารอดูไปก่อนเถอะ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงมันไม่กลับมาค่อยไปรับศพกัน” นนท์พูดดังนั้นทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยตามกัน แต่ในใจก็อดเป็นกังวลไม่ได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต เจอหน้าก็ไม่ถูกชะตากันซะขนาดนั้น ถ้าให้ไปไหนด้วยกันสองคนมีหวังไม่ตีกันตายกลับมาก็คงมีลงไม้ลงมือกันบ้างแหละ ทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้ ถ้าพวกเขาไม่หลับกันไปซะก่อน คงได้ไปเป็นเพื่อนห้ามตีนไม่ใครก็ใครได้บ้าง
“Knight Part”“.....................” คุณเคยเกลียดขี้หน้าใครตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นบ้างไหมครับ? ผมคนหนึ่งละที่เป็น และคนที่ผมเกลียดก็เดินทอดน่องให้ลมโชยพัดผ่านใบหน้าหล่อๆแสนเลวที่สาวๆกรี๊ดกราดอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้นี่เอง ผมไม่เข้าใจว่ามันเข้าใจสถานะตัวเองตอนนี้หรือเปล่า มันกำลังรับรู้ไหมว่าเดินอยู่บนคันนาไม่ใช่กลางห้างพารากอนหรือแคทวอล์คในงานแฟชั่นโชว์ มันจะรับรู้ไหมว่ามีแค่นกเอี้ยงบนหลังควายเท่านั้นที่กำลังจ้องมองความหล่อของมันอยู่ แล้วมันจะเก็กให้ได้อะไรขึ้นมา มันจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าให้เส้นผมพัดตีแสกหน้าทำตาปรือยื่นมือออกไปเกี่ยวดอกหญ้าเหมือนเล่นMVทำซากอะไรให้ใครดู แล้วมันจะรู้ไหมว่าหญ้าที่มันเอามือไปสัมผัสเหมือนกำลังเด็ดดอมดมดอกกุหลาบก็ไม่ปานอยู่ตอนนี้มันคือหญ้าเจ้าชู้ ชื่อเหมือนสันดานมันนั่นแหละที่แค่เดินผ่านก็ปักตามเสื้อตามกางเกงติดมาให้ต้องลำบากเก็บออกทีหลัง ยีนส์ตัวละหลายหมื่นของมันก็โดนหญ้านี้เล่นงานไปกว่าครึ่งแข้งแล้วยังไม่รู้จักคิด หรือเพราะมันบ้าก็ไม่รู้
“มองหาพ่อมึงหรอ เดินช้าฉิบหาย กูร้อนมึงรู้ไหมเชี่ยไนท์” พูดออกมาแต่ละทีผมอยากเอาตีนยัดปากมันแทบทุกครั้ง ผมเกลียดมันจริงๆ ในตัวมันแทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนผมซักอย่าง มันเป็นพวกชอบแต่งตัวจัด แอคเซสเซอรี่เยอะ สร้อย แหวน กำไล นาฬิกา ต่างหู อยู่ครบบนตัวมัน ไม่รู้ว่าขนมาทำไมในที่แบบนี้ รู้ครับว่ารวย แต่บางครั้งมันจำเป็นขนาดต้องพกมาเหมือนกับจะเอามาวางขายขนาดนั้นเชียวหรือ มันเป็นคนในแบบที่ผมเกลียดที่สุด เป็นคนที่ผมไม่อยากเข้าใกล้มากที่สุด และถ้าไม่ติดว่าผมต้องคอยอยู่ข้างๆปอนด์ผมก็คงไม่ยอมทนอยู่ใกล้ๆไอ้หมอนี่แน่
“กูว่าควายมันยังดูออกเลยว่าใครกันแน่ที่ช้า อย่ากวนตีนกูยิ่งง่วงๆอยู่” ไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงเหมือนทุกวัน เพราะเหตุการณ์พาเข้าใจผิดเมื่อคืน ผมคิดว่าปอนด์จะตกเป็นของไอ้เชี่ยเหนือไปซะแล้ว แต่ก็โชคดีที่มันไม่ใช่...ผมคิดกับปอนด์มากกว่าเพื่อน...แต่ผมไม่เคยคาดหวังให้ปอนด์ต้องรู้สึกแบบเดียวกับผม...ผมไม่เคยชอบผู้ชายคนไหน...แต่กับปอนด์...แค่ปอนด์ที่ผมให้ความสำคัญ...แล้วก็พิเศษกว่าใครๆเสมอมา...ถึงแม้ว่าปอนด์จะไม่เคยรู้เลยว่าผมแอบชอบมันอยู่ก็ตาม...ผมขอแค่ได้อยู่ข้างๆปอนด์ไปแบบนี้...แม้จะแค่ในฐานะเพื่อนผมก็พอใจแล้ว
“ทำหน้าเศร้า คิดถึงเรื่องเมื่อคืนรึไงวะ มึงนี่ดูออกง่ายชะมัด แอบชอบเพื่อนสนิท ถุย! น้ำเน่า กูล่ะอยากจะอ้วก”
“แล้วมึงมายุ่งเรื่องของกูทำเชี่ยอะไร ตัวมึงเองเอาให้รอดก่อนเถอะ สันดานเช้าชู้ ชาตินี้จะมีคู่กับเขารึเปล่าก็ไม่รู้” มันจ้องตาผมเขม็งเลยครับ เป็นแบบนี้ทุกที สุดท้ายก็ทะเลาะ สุดท้ายก็เผลอด่า แล้วจบด้วยลงไม้ลงมือตลอด เหนื่อย แต่ก็เต้นไปตามแรงยั่วโมโหของมันเสมอ ทั้งที่แบบนี้ไม่ใช่นิสัยผม ผมคืออัศวินของสาวๆ สุภาพบุรุษ อ่อนโยน และผมก็เป็นแบบนั้นมาตลอด จนมาเจอกับมันนี่แหละที่ทำให้ความป่าเถื่อนในตัวผมต้องแสดงออกมา ไม่อย่างนั้นได้ถูกมันเล่นงานตลอดแน่
“พูดจาแบบนี้มึงอยากเจอตีนกูอีกแล้วใช่ไหม” เมื่อวานก็เพิ่งแจกให้กันไปเองครับ หลังจากแย่งไข่พะโล้กัน ก่อนมื้อกลางวันเลยนัดกันไปต่อยให้รู้ดำรู้แดงว่าไข่ใครเป็นไข่ใคร สรุปก็ได้ตีนกลับมาทั้งคู่ แขนขาช้ำจนไอ้ปอนด์ถาม ผมก็บอกไปว่าล้มบ้าง ชนต้นไม้บ้าง เพราะรู้ว่ามันโง่ครับ พูดอะไรมันก็เชื่อหมด แถมสั่งผมซะยกใหญ่ว่าถ้าชนอีกก็ให้รีบมาบอก มันจะพาลุงชัยไปตัดต้นไม้ต้นนั้นให้ ผมหลงรักคนแบบนี้ไปได้ยังไงนะ...ผมคิดแบบนั้นทั้งวันเลยครับ
“คิดว่ากูกลัวหรอไอ้สัด!” ทิ้งกระติกน้ำสี่ใบในมือทันที ถลกแขนเสื้อขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปจ้องหน้าหาเรื่องมัน
“เอาดิ กูก็อยากแจกตีนให้มึงจะแย่แล้ว” เพราะส่วนสูง185เท่ากัน ร่างใหญ่เท่ากัน เวลาจะใช้กำลังอะไรใส่กันก็เลยเจ็บตัวเหมือนๆกันตลอด ผมเป็นคนใจเย็นแล้วก็ไม่ชอบมีเรื่องมีราวกับใคร แต่กับมันถือเป็นข้อยกเว้นครับ ความอ่อนโยนหรือความเป็นสุภาพบุรุษใช้กับคนสันดานชั่วๆอย่างมันไม่ได้หรอก
“มาดิกูกลัวตายล่ะ” รอมันวางกระติกน้ำสีแดงสดใบใหญ่ในมือก่อน แต่มันก็ไม่ยอมวางซักที ความจริงก็ทะเลาะกันตั้งแต่อยู่ที่บ้านลุงชัยแล้วละครับ เถียงกันเรื่องใครจะถือกระติกกลับไปคนละกี่ใบ จากทั้งหมดสี่ใบขนาดเล็ก แล้วก็หนึ่งใบขนาดใหญ่ ไม่ทันได้รู้ผลแพ้ชนะลุงชัยก็จับยัดใส่มือพวกผมเสร็จสรรพ สงสัยแกจะรำคาญ แต่รำคาญของแกช่างลำเอียงเหลือเกิน ให้ผมถือคนเดียวตั้งสี่ใบ ส่วนไอ้เชี่ยแทนถือแค่ใบเดียวแต่เป็นใบใหญ่ที่สุด
“ฟึดฟัด! ฟึดฟัด....พรืดๆ” ใครมาสั่งขี้มูกแถวนี้ คุณไม่เห็นหรอครับว่ามีคนกำลังจะฆ่าจะแกงกันอยู่ แล้วสั่งน้ำมูกรุนแรงขนาดนั้นโพรงจมูกคุณจะอักเสบได้นะครับ ทำไมถึงไม่ห่วงใยสุขภาพของระบบทางเดินหายใจตัวเองบ้างเลย เป็นเพื่อนนะผมจะตบกะโหลกสั่งสอน เป็นน้องเป็นนุ่งผมจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู
“ปรืด!....ปรืด!...ฟืด ฟืด” คราวนี้เป็นเสียงสะบัดของเหลวบางอย่าง ผมคิดว่าเขาคงจะหายใจทางจมูกไม่ถนัดครับก็เลยต้องหายใจทางปาก ทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าทำไมถึงไม่พกละครับ รู้ว่ากำลังไม่สบายทำไมถึงไม่ดูแลตัวเอง เที่ยวมาแพร่เชื้อให้คนอื่นเขาแบบนี้ไม่ดีเลย เกิดคุณเป็นไข้หวัด2013ขึ้นมาจะว่ายังไงละครับ เดือนร้อนคนอื่นไหม หงุดหงิดใจครับเพราะความดีในตัวเอง ผมคงต้องหยุดส่งสายตาพิฆาตใส่ไอ้เลวตรงหน้าหันไปมองข้างหลังมันสักหน่อยแล้วว่าใครที่ไร้มารยาทมายืนสั่งขี้มูกแพร่เชื้อใส่คนอื่นแบบนี้
“เชี่ย!.....” ตาแทบถลนเมื่อมองเห็นบุคคลนิรนามดังกล่าว ร่างสีดำทะมึน ดวงตาสีดำกลมโตดูบ็องแบ๊วเหมือนกับใส่บิ๊กอายด์ยังไงยังงั้น ช่างผิดกับเขาบนหัวสองข้างที่โค้งยาวแหลมได้ที่ ปากที่เคี้ยวหญ้าอยู่ตอนนี้มีน้ำลายฟูฟองออกมาไหลเยิ้มเต็มไปหมด ขาหน้าตะกรุยดินจนคันนาเป็นหลุมขนาดย่อม สะบัดหัวฟึดฟัดพร้อมวิ่งเข้าขวิดเต็มที่ เอาแล้วครับ ผมกำลังโดนเจ้าทุยจ้องเล่นงานเข้าให้แล้ว
“ด่ากูก็เข้ามาซักทีดิวะสัด ไม่แน่นี่หว่า” ไอ้ห่านี่ก็ไม่รับรู้อะไรเลย ควายตัวเท่ารถถังยืนอยู่ข้างหลังมันยังไม่รู้อีก ผมว่าเป็นเพราะมันเล่นMVเมื่อครู่นี้แน่ๆ ควายไม่ชอบใจถึงอยากวิ่งเข้าขวิดมันไส้แตกขนาดนี้ หายนะมาเยือน ถ้ามันซวยคนเดียวผมจะไม่ว่าเลยแต่นี่วิถีทางเดียวกับที่ควายจะวิ่งมาพาผมซวยไปด้วยแน่ๆ
“เบาๆดิไอ้เชี่ย” ผมพยายามจุ๊ปากบอกมันให้เบาเสียงลง แต่นอกจากมันจะไม่รู้แล้วยังเพิ่มโวลลุ่มใส่หูผมแทบแตก
“อย่ากวนตีนกู ลีลาท่ามาก จะจัดก็จัดมา”
“พี่ทุยตัวเท่ารถถังข้างหลังมึงเขาพร้อมจะจัดให้มึงแล้วไอ้เชี่ย ไม่ต้องวอนขอจากกู”
“อย่ามาหลอกกู กลัวมากถึงขั้นกุเรื่องเอาตัวรอดเลยหรอวะ”
“มึงนั่นแหละจะไม่รอด” ตอนนี้น้ำลายพี่ถุยแกไหลแรงกว่าเดิมอีกครับ จะมีหรือเปล่า โรคพิษควายบ้า ผมสงสัยเหลือเกิน นี่ถ้าพี่ควายแกหอนด้วยนะ ผมว่าใช่เลยครับ อาการมันฟ้อง
“มอ!....มอ!!......มอ!!!.....แงะ!!!!!” ว๊ากกกกกกกกกก!สติหล่อแทบระเบิด ควายหอนครับ หรือโรคพิษควายบ้าจะมีจริงอย่างที่คิด เอาแล้วสิ ขาหน้าพี่ทุยตะกรุยดินแรงขึ้น ผมจะทำยังไงให้ไอ้คนที่โง่เหมือนควายตรงหน้ามันรับรู้ดีว่าชีวิตมันตอนนี้ได้แขวนอยู่บนเส้นได้แล้ว
“มึงไอ้เชี่ยพี่แทน มึงฟังกูนะ กูไม่ได้โกหก มีควายอยู่ข้างหลังมึงจริงๆ มึงหันไปดูเดี๋ยวนี้!”
“สัดนี่ ถ้ากูหันไปไม่เจออะไรนะ มึงเจอตีนกูแน่”
“ตีนมึงกูไม่กลัว ที่กลัวอ่ะ ตีนตัวข้างหลังมึงโน่น!” ทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็ยอมหันไปดูครับ ไม่ถึงสองวิมันก็หันขวับกลับมา
“เหงื่อมึงไหลเยอะไปนะ เมื่อกี้กูคิดว่าคอมึงจะเคล็ด” ได้ทีก็ข่มมันไปครับ สะใจฉิบหายหน้าซีดเลย
“ไม่บอกกูแต่แรกวะ จะตายห่ากันหมดแล้วยังทำเฉย”
“กูเฉยตรงไหนกูบอกมึงอยู่นี่ไง”
“ฟึดฟัด...ฟึดฟัด....มออออออออออออออออ!!!!!” จบเสียงลากยาวมันก็คว้าข้อมือผมวิ่งไปข้างหน้าทันที
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!” สองเสียงประสานเป็นหนึ่งเดียววิ่งหน้าตั้งใส่เกียร์หมา ทุ่งนามันโล่งครับ เสียงก้องกังวานไปในพงไพร สัตว์น้อย สัตว์ใหญ่แตกตื่น นกบินอยู่ยังบินเป๋เพราะเสียงร้องของผมสองคน พี่ทุยรถถังก็ใส่ไม่ยั้ง พี่แกคงคิดว่ากำลังอยู่ในสนามแข่งวิ่งควายประจำปี
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!” โหยหวนกันไม่หยุด วิ่งลัดเลาะไปตามคันนาแคบๆ เลี้ยวซ้ายพี่ทุยก็เลี้ยวตาม พอเลี้ยวขวาพี่ทุยก็เลี้ยวตาม ผมจะทำยังไงดี กระชับมือที่จับกันไว้มั่น กลัวประหนึ่งจะตายจากกันไปโดยไม่ทันล่ำลา ทำไมหล่อเดือนคณะ เจ้าชายแห่งสถาปัตย์อย่างผมจะต้องมาจบชีวิตโดนควายไล่ขวิดตายอยู่ที่ดอนเกิบหายนี้ด้วย ผมยังไม่อยากลงข่าวหน้าหนึ่ง ผมยังไม่อยากตาย!
“อ๊ากกกกกกกกกกก! ไอ้พี่แทนมึงทำไรซักอย่างดิวะ” เริ่มหอบกันแล้วครับ แต่พอหันหลังไปดู พี่ทุยแกไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยซักนิด คันนาที่พวกผมวิ่งผ่านกันที่มีหญ้าเจ้าชู้หนาๆตอนนี้ราบเป็นหน้ากลองเลยครับ แต่ขากางเกงพวกผมสองคนนี่เรียกว่าดงหญ้าเจ้าชู้เลยก็ว่าได้ คงต้องทิ้งครับกางเกงตัวนี้
“อ๊ากกกกกกกกกกก! แล้วให้กูทำอะไรวะ” ก็รู้สึกสงสารมันนะครับ ระดับมันต้องมาวิ่งหนีควายกลางทุ่งนาแบบนี้ ถ้าบรรดาสาวๆในฮาเร็มมันรู้เข้านะ ผมว่างานนี้บัลลังก์หล่อซาตานมันมีสั่นคลอนแน่ผมว่า
“กุบกับ..กุบกับ...” นั่นก็วิ่งหน้าตั้ง เตรียมส่งเขาไล่ขวิดดีจริงๆ ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย เจ็บแค้นเคืองโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน ถึงได้อาฆาตกันขนาดนี้
“แฮ่กๆๆ ไอ้พี่แทนกูจะไม่ไหวแล้ว”
“แฮ่กๆๆ มึงหยุดก็ไส้แตก มึงเลือกเอาละกัน” พูดจบก็เพิ่มเกียร์หมาฉุดข้อมือผมวิ่งหน้าตั้งต่อไป มันก็ดีนะครับที่ไม่ทิ้งผม แต่...กำลังรู้สึกซาบซึ้งสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างสะท้อนมาในลูกตา
“ไอ้พี่แทน!”
“มีเชี่ยไร”
“มึงถือกระติกน้ำมาด้วยหรอวะ?!” เกิดรักในหน้าที่ เกิดอยากเป็นคนดี เกิดอยากทำสันดานดีๆอะไรตอนนี้ กระติกน้ำมึงสีแดงกระแทกตาพี่ทุยแกขนาดนั้น พี่แกก็คิดว่ากำลังวิ่งไล่เป้าอยู่สิวะ จับมือกูวิ่งจริงๆแล้วพากูมาตายด้วย ทีหลังปล่อยกูไว้ตรงนั้นแหละดีแล้ว ช่วยทอดทิ้งกูไปซะ ทำเป็นลืมกูไปเลยก็ได้!
“เออดิ อย่าพูดมากกูเสียสมาธิ”
“โยนทิ้งซะ!”
“เป็นเชี่ยอะไรของมึงอีก อย่าชวนกูทะเลาะตอนนี้ กูเหนื่อย”
“กูบอกให้รีบโยนทิ้ง!” พูดจบก็แย่งกระติกน้ำในมือมันมาแล้วโยนไปข้างๆทันที ไม่นานพี่ทุยแกก็เลี้ยวตามกระติกน้ำไปเข้าขวิดไม่ยั้งจนกระติกแตกผ่าซีกไปต่อหน้าต่อตาผม ถ้าเปลี่ยนจากกระติกน้ำเป็นพวกผมแทนนะผมว่ามันเป็นอาชญากรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดแห่งศตวรรษเลยก็ว่าได้ ขอไว้อาลัยแด่พี่กระติกของลุงชัยครับ
“แฮ่กๆๆ แล้วก็ไม่บอกกูวะ ว่าควายมันหิวน้ำ!” การเป็นลูกคนรวยมันก็ดีนะครับ เสียอย่างเดียวประสบการณ์ชีวิตมีน้อยนิดจนติดเรียกว่าโง่ได้เลย
“มันหิวน้ำพ่องสิ ควายมันไม่ชอบสีแดง มันเห็นอะไรสีแดง หรือสีแจ๊ดๆมันก็ขวิดหมดแหละ ห่า จับมือพากูไปตายด้วยแท้ๆ แฮ่กๆๆ” เอามือยันเข่าจ้องหน้ากันเลยครับตอนนี้ หมดสภาพทั้งคู่
“ฮ่าๆๆๆๆมึงอนาถว่ะ หนีควาย” มันหัวเราะครับ กวนตีน แต่พอหัวเราะแล้วก็ดูดีเหมือนกันนี่หว่า ทุกทีผมไม่เคยคิดว่ามันหล่อเลยครับ ไม่รู้สิ ผมเห็นใครดูดีแล้วไม่ชอบใจเท่าไหร่ กับไอ้เหนือยิ่งหนักครับ เกินหน้าเกินตาผมไม่ชอบ
“ฮ่าๆๆๆ ทำมาหัวเราะกู วิ่งหน้าตั้งเลยนะมึง” คิดๆไปก็หัวเราะบ้างครับ วิ่งหนีควายกันกลางทุ่งนาแดดจ้า ในหมู่บ้านทุรกันดาน ผมว่าประสบการณ์ครั้งนี้ต่อให้ตายก็ไม่ลืมครับ
“เวลามึงยิ้มก็น่ารักดีนี่หว่า”
“กูหล่อเถอะไอ้สัด! อย่ากวน”
“เขินหรอวะ น้องไนท์ เขินพี่แทนหรอคร้าบบบบ” อยากเอาตีนฟาดหน้ากวนๆของมันจริงๆ น่าให้พี่ถุยไล่ขวิดอีกซักรอบ อย่าเอามือสกปรกๆมาจับคางกู รีบปัดออกอย่างหงุดหงิดเลยครับ รู้ว่ามันแค่อยากยั่วโมโห แต่สุดท้ายก็เต้นตามอารมณ์มันทุกครั้งไป
“กูไม่ได้เขิน”
“น่ารักนะมึงเนี่ย”
“กูหล่อ!”
“กูว่าน่ารักก็น่ารักดิวะ”
“มึงจะเอาไงกับกูไอ้เชี่ยแทน”
“เอาไงหรอ? อืม...แล้วมึงให้กูเอาไหมล่ะ?!” ไม่ชอบที่มันยิ้มชอบใจ...หงุดหงิดที่มันทำสายตาแบบนี้ใส่...ไม่รู้ว่าทำไม รู้แค่เกลียด...ไม่ชอบ...ไม่อยากเห็น...ไม่อยากให้ยิ้มแบบนี้...เพราะเหมือนผมจะพ่ายแพ้ให้กับมัน...ผมเกลียดที่ตัวเองรู้สึกแบบนี้...
“สนุกหรอจีบกันหลังจากควายไล่” เสียงนี้ที่ผมไม่อยากได้ยินมากที่สุดเลยครับ หน้าหล่อแสนเย็นชาที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดยืนมองทำสายตาเย้ยหยันอยู่ห่างๆ
“ไอ้เหนือ มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“มาทันเห็นพวกมึงวิ่งแหกปากหนีควาย” อยากเอาตีนยันหน้าหล่อๆพูดจากวนตีนนั่นจริงๆ
“ห่า แล้วไม่มาช่วยกูวะ” ไอ้เชี่ยนี่ก็พูดไม่คิด ทำยังกับเพื่อนมึงเคยสนใจอะไรนอกจากเรื่องของไอ้ปอนด์
“กูไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน” จบครับ ก็จริงอย่างที่คุณชายเขาว่า ใครส่งมันมาวะ ไร้ประโยชน์มากถึงมากที่สุด
“ใครให้มึงมาวะ ไร้ประโยชน์สุดๆ” เพื่อนมันนะครับที่ด่า ผมแค่คิดในใจ
“ไอ้โรมให้กูมาดูพวกมึง”
“มึงก็ทำหน้าที่ได้ดีนะไอ้เหนือ ให้มาดูก็ยืนดูตั้งแต่ต้นจนจบ มึงเป็นคนที่รักในหน้าที่ดีจริงๆ” พูดจบมันก็ซบลงตรงไหล่ไอ้พี่เหนือเหมือนรู้สึกปลงตกบวกสงสารตัวเอง ผมหรอครับ ขอยื่นสมเพชตัวเองอยู่ห่างๆดีกว่า ว่าแต่วันนี้มันวันซวยอะไรของผมเนี่ย ยิ่งเกลียดมันแต่ก็ต้องนอนกับมัน ไปไหนก็เจอมันอยู่ตลอด ผมจะหนีมันยังไงดี ผมเกลียดมันไอ้เชี่ยแทน!
“ยืนทำเชี่ยไร ไปถือกระติกอีกสี่ใบของมึงโน่น!” วันนี้ถ้ามันไม่ตายคาตีนผมอย่าเรียกผมว่าอัศวินครับ.......
“ตีกันเสร็จเมื่อไหร่ก็บอกนะ กูขี้เกียจดู รำคาญ” เหนือฟ้าพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหันหลังกลับไป ทิ้งให้คนทั้งคู่แจกหมัด แจกตีนส่งให้กัน โดยมีฉากหลังคือทุ่งนาเขียวขจี รอบๆเป็นป่าดงพงไพรที่สัตว์น้อยใหญ่แตกตื่น กับพี่ทุยตัวเท่ารถถังที่ยังขวิดกระติกน้ำสีแดงสดอยู่อย่างเมามันส์...
“ฟึดฟัด...ฟึดฟัด...”
เอาตอนพิเศษมาฝากกันค่ะ I-AMมันบอกย้อนหลังวันพืชมงคล
ปล. ใครลุ้นคู่นี้ก็ลุ้นกันต่อนะคะ อาจจะลุ้นขึ้นค่ะงานนี้
ปล.2 I-AMมันกังวัลว่าเสียงควายร้องจะถูกต้องหรือเปล่า ถ้ายังไงก็ไปค้นหาคลิปเปิดฟังกันนะคะ จุดนี้อเลนก็ให้คำตอบมันไม่ได้
ปล.3 ตอน11ก็รอต่อไปอีกนิดนะคะช่วงนี้I-AMมีภาระกิจนิดหน่อยค่ะ ไม่ทิ้งให้ทุกคนรอนานแน่นอน ขอบคุนทุกคอมเม้น อ่านทุกคนค่ะ ขอบคุณจากใจแทนI-AMมันด้วย