Chapter 6…………………….. “หมอนวด”
เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานดังขึ้นพร้อมเสียงปรบมือเป็นจังหวะสอดแทรกด้วยเสียงโห่แซวดังเป็นระยะยามเมื่อนิสิตกว่าหกสิบชีวิตที่นั่งเข้าแถวเป็นระเบียบกันอยู่ใต้ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์รู้สึกถูกอกถูกใจเมื่อเห็นรุ่นพี่ฝ่ายสันทนาการออกมาเต้นเพลงประจำสำหรับการรับน้อง ยิ่งเพลงไหนส่อแววล่อแหลมมอมเมาเยาวชน กลับทำให้ทุกคนหัวเราะชอบใจเมื่อได้ฟัง ส่วนคนเป็นรุ่นพี่เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องชอบอะไรแบบนั้น ก็ไม่มีความคิดที่จะหยุดการกระทำแต่อย่างใด เมื่อเพลงต่อไปเริ่มร้องท่วงทำนองโยกย้ายส่ายเอวก็กลับมาให้ได้เฮฮากันอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“กูทนดูไม่ได้แล้วโว้ยยยยยยย! ไอ้มิคมึงไปช่วยเอาตัวไอ้คิม กับ ไอ้แบท ออกมาทีดิ” ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างผมจู่ๆก็ลุกขึ้นยืนพร้อมพูดบอกไอ้มิคที่นั่งอยู่ด้านหลังอย่างคนเสียสติจนทำให้ผมที่นั่งข้างๆได้สะดุ้งลุกตามแทบไม่ทัน
“ไอ้ปอนด์กูรู้มึงก็คิดแบบเดียวกับกู แต่มึงไม่ต้องอินจัดถึงขนาดต้องลุกขึ้นตามกูก็ได้” ไอ้นนท์รีบท้วงผมทันทีพร้อมทำหน้าเกรงอกเกรงใจ
“อินเชี่ยไร! เก้าอี้ไม้มันเบาไหม?! มึงลุกขึ้นแล้วกูที่นั่งอยู่อีกข้างก็กระดกดิวะไอ้สัด” ผมรีบพูดไปอย่างหงุดหงิด หวิดจะลงไปแผ่บนพื้นราบให้ได้อายน้องๆปีหนึ่งแล้วครับ
“อ้าว หรอวะ โทษทีๆ ไอ้มิค รีบๆเลยมึง ไม่เห็นมันสองตัวหรอจะตายห่ากันอยู่แล้ว” มันสองตัวที่ไอ้นนท์ว่าคือไอ้คิม กับ ไอ้แบทครับ ยังจำสองหนุ่มโชคร้ายฝ่ายสันทนาการได้กันอยู่ไหม คนที่กลายเป็นเสาให้อิกราฟฟี่สิงนั่นแหละครับ แล้วตอนนี้มันก็กำลังทำหน้าที่เสาของมันอย่างเต็มที่จนพวกผมที่นั่งดูอยู่นานเกิดรำคาญปนสงสารที่เห็นมันโดนทำอนาจารกลางที่โล่งแจ้งอย่างอนาถและอุจาดตาเกินทน พวกผมไม่ได้มีอคติอะไรกับเพศที่สามกันหรอกนะครับ แต่เพราะสนิทกันมากเลยทำให้รู้นิสัยแล้วก็เล่นกันแรงๆได้ อิกราฟฟี่มันเข้าใจครับเพราะยังไงมันก็ยังคงเป็นที่รักของคนทั้งคณะอยู่ดี
“ถ้าจะรูดซะขนาดนั้น กูว่าแม่งสืบพันธุ์กันไปเลยดีกว่า” ทันทีที่ผมพูดไปหล่อโคตรพ่อที่ไม่รู้เดินมาจากไหนก็ฟาดลงกลางกบาลผมทันที กูพูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้นะเชี่ยไนท์ มึงจะโลกสวยเกินไปไหม ดูภาพตรงหน้าโน่น! เรท ฉ.18+ ยังเอาไม่อยู่เลย ถ้าจะขนาดนี้กูว่า เรท กอไก่ถึงฮอนกฮูกไปเลยดีกว่า! ดึงพยัญชนะไทยมาใช้ทั้ง44ตัวกูยังไม่รู้จะเทียบเรทกับภาพตรงหน้านี้ยังไงดี นี่กูกำลังดูหนังGVอยู่ใช่ไหม?
“กูก็อยากช่วยนะไอ้นนท์ แต่มึงแหกตาดูสังขารกูซักนิด ว่าจะมีปัญญาไปช่วยพวกมันได้ไหม” ว่าพลันสายตาผมก็หันไปเห็นสภาพของไอ้มิคที่แขนขวาใส่เฝือกอันเบ้อเริ้ม แขนซ้ายมีผ้าพันแผลพันยาวแทบทั้งแขน และดูจากสภาพหนังหน้าแล้วคาดว่าคงไปโดนหลังแหวนใครมา เชี่ยนนท์ก็เลวเกินครับ คนสภาพดีๆมีไม่ใช้ ไปใช้คนสภาพพิการ แค่มันจะพาตัวเองไปยืนฉี่ยังลำบากเลย ไอ้นี่ก็พี่ดีเด่น เจ็บจนจะตายห่าอยู่แล้วยังเสือกอยากมาดูแลน้อง แต่ลำบากเพื่อนพ้องต้องมาดูแลมันแทน
“ไอ้ไนท์ เหลือแค่มึงแล้วแหละ ไปพาพวกมันออกมาก่อนจะถูกพรากพรหมจรรย์ไป อิกราฟฟี่มันไซ้ใหญ่แล้วนั่น” จริงอย่างที่ไอ้นนท์มันว่าครับ พอผมมองไปก็เจอไอ้คิมกำลังโดนจัดชุดใหญ่เข้าซอกคอ อิกราฟฟี่มันเก็บทุกอณูรูขุมขนจริงๆครับ ไซ้เป็นเป็ดหาหอยขมในลำห้วยกันเลยทีเดียว
“เออๆ กูอีกแล้ว ลำบากหล่อตลอด” ถุ๊ย! ถ้าไม่ติดว่าจริงอย่างที่มันชมตัวเองผมคงเถียงไปแล้วละครับ พูดจบหล่อโคตรพ่อก็ตรงดิ่งไปกระชากโทรโข่งมาจากคอไอ้ต้นอย่างไม่ไยดีหัวประธานรุ่น ก่อนจะแจกยิ้มหวานกระชากเรตติ้งจากสาวๆให้กรี๊ดสนั่นลั่นตึก กลัวคนจะรักมึงน้อยลงรึไง ถ้าเขาตายแทนมึงได้กูว่าเขาวิ่งไปให้สิบล้อทับหัวตอนนี้ก็ยังไหว
“พี่ไนท์ขอคั่นเวลาหน่อยนะครับน้องๆ มาดูพี่เต้นควีโยมีกันบ้างดีกว่า ปล่อยให้พี่กราฟฟี่ พี่แบท แล้วก็พี่คัมหิน?”
“คิมหันต์ !!!!!” เสียงน้องๆกว่าหกสิบคนรีบผวนคำแก้มุขหล่อโคตรพ่อทันทีที่มันชงส่งมาให้ หล่อแล้วเสือกตลก ซกมกอย่างพวกกูก็ไม่มีที่ให้ยืนกันพอดี แล้วท่าควีโยมีจะทำชีวีสาวๆเขามลายตายไปเพราะความน่ารักของมึงแล้ว กูอยู่ฝ่ายสวัสดิการเดี๋ยวจะพาลกลายเป็นฝ่ายเก็บศพไปซะก่อน
“ได้เวลาไปหาผัวมึงแล้วไม่ใช่หรอไอ้ปอนด์?” ไอ้นนท์ถามผมขณะที่ผมกำลังตักน้ำจากกระติกก่อนจะยื่นส่งให้ไอ้คิมกับไอ้แบทที่เดินมานั่งอย่างคนเพิ่งกลับจากสงครามอิรัก ก่อนผมจะเข้าไปทุบไหล่ ตบแขน บีบขมับให้เพื่อนได้ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าไปบ้าง หากแต่พอเสียงดังตุบตับไอ้คิมก็แทบอยากเตะผมล้มพับทันที ก่อนมันจะฝากคำขอบคุณให้ผมได้ชื่นใจไปเต็มๆ “กูเจ็บไอ้เชี่ย!” ซึ้งครับ มือผมคงหนักไป
“เดี๋ยวโดนตีนกูไอ้นนท์”ว่าแล้วก็เลยหันมาด่าไอ้นนท์แทน ก็เมื่อวานหลังจากที่ผมโดนไอ้พี่เหนือมันหลอกไปกินผัก วันนี้มันนัดผมให้ไปหาตอนสิบโมงเหมือนเดิม แต่มันดันโทรมาบอกว่าตอนเช้ามันไม่ว่างให้ผมไปหาตอนเย็นแทน ผมก็ตามอารมณ์มันครับคนนี้ยิ่งคาดเดาอะไรไม่ได้อยู่ เลือดจะไปลมจะมา ผมคงต้องไปหายาสตรีเพ็ญภาคมาให้มันกินซักวัน
“พี่ปอนด์ครับ” ยังไม่ทันแจกตีนให้ไอ้นนท์ที่ทำหน้ากวนใส่เสียงเรียกชื่อผมก็ขึ้นก่อน
“ว่าไงครับน้องเขียว” จริงๆไอ้เด็กผู้ชายใส่แว่นหน้าจืดแสนเนิร์ดตรงหน้าผมมันชื่อกรีนครับ แต่เพราะมันเป็นคนซื่อๆดูไม่ทันคนเลยโดนพี่รหัสมันคือไอ้บีมแกล้งแปลชื่ออินเตอร์ๆให้กลายเป็นชื่อไทยโบราณไปในทันที
“พะ...พี่หน้าโหดที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาให้ผมมาเรียกให้พี่ไปหา ละ...แล้วๆ ก็บอกอีกด้วยว่าถ้าพี่ไม่รีบมาเขาจะเดินมาลากคอพี่ออกไปเอง” อาการสั่นเป็นเจ้าเข้าหลังจากพูดบอกผมทำให้ผมต้องหันไปมองหาไอ้พี่หน้าโหดที่ว่า อื้อหือ โหดเต็มตากูเลย อาการผมตอนนี้เริ่มสั่นเป็นสันนิบาตลูกนกตามไอ้เขียวไปติดๆแล้วครับ
“อ้าว ผัวมึงมาวะ ดูจากหน้าแล้วกูว่ามีบาดเจ็บ” เชี่ยนนท์มึงไม่ต้องบรรยาย แค่นี้กูก็รู้แล้วว่าคนที่กำลังจะตายคือกู ว่าแล้วผมก็รีบสาวเท้าเดินไปหาไอ้พี่เหนือที่ยืนรอผมอยู่ด้วยใบหน้าแสนเย็นชาเหมือนเดิมแต่เพิ่มความน่ากลัวไปสิบเท่า ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงมึงอัพเลเวลความน่ากลัวเร็วไปไหม? กูตามไม่ทัน
“พะ...พี่มานานแล้วหรอ?” หลังจากมาหยุดยืนในระยะห่างให้พอวิ่งหนีได้ทันผมก็เอ่ยถามคนตรงหน้าไปแต่ก็ยังไม่กล้าสบตา กลัวครับ สายตามันดูเหมือนปืนเลเซอร์ที่พร้อมจะยิงผมให้พรุนได้เลย
“มึงทำอะไร?” มาแบบนี้อีกแล้ว คำถามที่แม้แต่กูยังไม่รู้ว่าที่ถามหมายถึงเรื่องอะไร แต่ก็ต้องคิดคำตอบออกไปให้ได้ ผมเรียกมันว่าเกมส์ทายใจของไอ้พี่เหนือมันครับ ทายถูกโทษเหลือสถานเบา แต่ถ้าทายผิดโทษหนักกว่าเก่าเอาผมส่งเมรุเผาได้เลย
“ผมหรอ? ผมกำลังทำกิจกรรมรับน้องอยู่ครับ” ต้องตอบคำถามไปแบบเปิดกว้างก่อนครับ เผื่อไม่ตรงใจคนถามจะได้แถสีข้างเลี้ยวหักหลบลงข้างทางได้ทัน
“มึงทำหน้าที่อะไร?” เอาแล้วๆๆ แสดงว่าที่ตอบไปมันยังไม่ใช่คำตอบที่ตรงใจมัน เหงือเริ่มแตกแล้วครับ ในชีวิตผมยังไม่เคยกดดันอะไรเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกเหมือน เจมส์ บอนด์ ตอนโดนผู้ร้ายจับไปทรมานให้คลายความลับขององค์กรยังไงยังงั้น
“ผมอยู่ฝ่ายสวัสดิการ” อย่าจ้องนานสิ จิตสังหารมึงทิ่มแทงกู
“กูคิดว่ามึงเป็นหมอนวดซะอีก” จบคำว่าหมอนวดผมก็รู้ทันทีว่าที่ตอบมานอกจากจะไม่ถูกแล้วยังมีแววชะตาขาดอยู่รำไร ชีวิตผมคงได้บรรลัยเพราะความหวังดีที่เห็นเพื่อนเหนื่อยมาจากการถูกลวนลามก็เลยเข้าไปช่วยทุบไหล่ให้ไอ้คิมหลังจากที่มันผ่านสมรภูมิรบกับอิกราฟฟี่มา แต่ไม่คิดว่าในสายตาไอ้พี่เหนือผมจะกลายเป็นหมดนวดไป กูทุบไหล่มันยังกับตีกลองยาวมึงมองยังไงเป็นนวดเบาๆอย่างอ่อนโยน?!
“ผมแค่ทุบไหล่ให้มันหายเมื่อย พี่คิดมากไปเอง ผมกับมันเพื่อนกัน” แล้วทำไมผมต้องรีบร้อนแก้ตัวกับมันด้วย พูดไปก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยครับ
“มึงก็เลยเที่ยวแตะตัวคนอื่นไปทั่ว”
“คนอื่นที่ไหน ไอ้คิมมันเพื่อนผม แล้วแตะตัวอะไร ผู้ชายด้วยกันผมไม่ถือ ปกติกับคนอื่นผมถึงเนื้อถึงตัวมากกว่านี้อีก”
“แต่กูถือ! มึงไม่เข้าใจคำว่าหวงมากของกู?!”
“...................” เงียบครับ พอเห็นสายตาจริงจังที่มองมาก็พาลให้ผมเป็นใบ้ไปซะดื้อๆ ไม่ทันจะได้พูดอะไร ใบหน้าหล่อแสนเย็นชาก็ก้มลงมาช้าๆ ลมหายใจอุ่นๆเฉียดรดผิวแก้มผมไปพาลให้ผมหายใจติดขัด ใกล้กันจนได้กลิ่นเหงื่ออ่อนๆที่โชยมาเตะจมูกแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันหอมจนอยากเข้าไปสูดกลิ่นใกล้ๆซอกคอขาวตรงหน้า...
“อย่าให้เห็นอีก...ถ้าอยากนวดมากนักก็มานวดให้กูคนเดียวพอ” เสียงทุ้มกระซิบบอกเบาๆข้างหูก่อนจะถอนหน้าออกมาสบตากับผม มือเรียวค่อยๆยกขึ้นลูบที่แก้มผมแผ่วเบา ลากนิ้วเรียวไล้ขึ้นไปตามสันจมูกก่อนจะนิ่งค้างไว้ที่หน้าผาก ก่อนที่จะ..............
“โอ๊ย!....” ไอ้เชี่ยพี่เหนือมันดีดหน้าผากผมครับ!!!!!
“เจ็บนะเว้ย เล่นบ้าไรเนี่ย” เห็นคนอื่นเขาน้ำตาเล็ดยังมาอมยิ้มชอบใจ รู้สึกดีมากใช่ไหมที่เห็นคนอื่นเจ็บ
“สำออย” ดีดซะกะโหลกกูเต้นระบำ ไม่ขอโทษซักคำ เดี๋ยวกูเตะให้คว่ำเลยไอ้พี่เหนือ
“............................” มันเจ็บจริงๆนะครับ จับดูยังรู้เลยว่าตรงนั้นมันร้อนๆเริ่มจะนูนขึ้นแล้วด้วย ตอนนี้คงจะเริ่มเป็นสีแดงแล้วแน่ๆ ว่าแล้วก็จ้องตาไอ้พี่เหนือกลับไปแบบขุ่นเคือง
“เจ็บจริงหรอวะ ไหนกูดูดิ” พูดจบมันก็จับมือผมออก ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาดูตรงหน้าผากผมใกล้ๆ
“...........จุ๊บ...............” มันกดจูบลงบนรอยเจ็บที่เริ่มจางลงบนหน้าผากผมเบาๆ ผมอยากจะบ้าตายทั้งที่ตอนแรกหน้าผมแดงแค่จุดเดียวตรงกลางหน้าผากแท้ๆ แต่ตอนนี้ผมว่ามันคงลามไปทั่วทั้งหน้าผมแล้ว ส่วนไอ้คนทำนะหรอครับ ยังจับกระหม่อมผมไปเป่าประหนึ่งผมเป็นลูกศิษย์กำลังจะขึ้นสังเวียน สัด! กูไม่ใช่นักมวยไทยไฟต์
“เพี้ยง! หายยัง?” ดูมันทำครับ ไอ้คนตรงหน้าผมที่เอาแต่อมยิ้มทำหน้ากวนบาทาคนนี้มันเสียสติไปแล้วหรือไง ถึงได้กล้าทำอะไรน่าอายได้ขนาดนี้
“เก็บไว้ไปปลอบเด็กสามขวบเหอะพี่”
“กูคิดว่ามึงเพิ่งสามขวบซะอีก”
“ไอ้พี่แม่ง..... เลว!” พูดไปแต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบสายตาคนที่เอาแต่ยืนจ้องผมแล้วยิ้มอยู่ตอนนี้ กลัวมันเห็นหน้าแดงเป็นลูกตำลึงของผมครับ แต่เห็นมันกวนตีนผมได้ขนาดนี้แล้วแสดงว่าคดีหมอนวดของผมก็เป็นอันจบไปหนึ่งคดี
“ไอ้ปอนด์ ถ้าว่างแล้วมานวดให้กูต่อนะ ไอ้คิมมันบอกว่ามือมึงโคตรนุ่มเลย” เชี่ยแบท! คดีหมอนวดกูหายไปแล้วมึงจะพูดให้กูซวยอีกทำไม ผมว่ามันคงโดนไอ้คิมหลอกมากกว่าเพราะขนาดมันตะโกนบอกผมมันยังไม่หันหลังมามองเลยว่าผมทำอะไรกับใครอยู่เอาแต่มองไอ้ไนท์ทำควีโยมีเป็นรอบที่ร้อยอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ความซวยดันมาตกที่กูซะงั้น! นี่กูต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่เล่นเกมส์ทายใจกับไอ้พี่เหนือมันอีกรอบไหมเนี่ย!
“พวกมันแค่แกล้งผมเล่น อย่าไปใส่ใจเลยนะพี่ พวกมันกวนตีนผมไปงั้นแหละ” แววตามันดูเคืองนิดๆแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ถือว่าโชคดีของผมไปครับ
“......................”
“พี่ยังไม่ตอบผมเลยว่าพี่มานานแล้วหรอ?”
“มาตั้งแต่ที่ฮิปโปกำลังไล่ผสมพันธุ์กับลิงแสมอยู่” ถ้าอิกราฟฟี่มาได้ยินกูว่ามีวิ่งหนีไปฆ่าตัวตายเลยละงานนี้ เป็นคนอื่นมันคงไล่กระทืบตายห่าไปแล้ว แต่หล่อเทพอย่างไอ้พี่เหนือนอกจากมันจะไม่โกรธแล้วคงยอมถูกยกเป็นฮิปโปอยากสืบพันธุ์กับลิงแสมซึ่งคาดว่าเป็นไอ้คิมกับไอ้แบทอย่างเต็มใจ นี่ก็ช่างสรรหาคำมาเปรียบเทียบได้เห็นภาพได้ชัดเจนจริงๆ
“ทำไมพี่ไม่รอผมอยู่ที่คณะก็ไหนให้ผมไปหาตอนเย็นๆ”
“มึงช้า”
“...................” สรุปผิดที่กู
“ทำไมผิวมึงคล้ำ?” มันจับแขนผมทั้งสองข้างขึ้นมาดู ขณะที่ตอนนี้ผิวขาวๆก็เริ่มกลายเป็นสีแทนนิดๆเพราะผมไปวิ่งไล่หวดบอลกลางสนามกับไอ้ธามพร้อมเพื่อนคนอื่นๆมาเมื่อช่วงบ่าย เหตุที่ไอ้ธามมันหายหัวนั่นแหละครับ ถ้ามองไปที่สนามจะเห็นไอ้ตี๋ที่ตัวเริ่มดำวิ่งไล่บอลอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ มึงจะจริงจังไปเตะทีมชาติรึไงก็ไม่รู้
“ผมไปเตะบอลมาเมื่อตอนบ่าย”
“มึงไม่รู้จักครีมกันแดดรึไง”
“ทุกทีผมก็ไม่เคยต้องทากันแดดซักครั้ง ใครที่ไหนเขาเตะบอลแล้วสนใจเรื่องผิวกันบ้างวะ”
“กูไง” เออ มึงเป็นข้อยกเว้นก็ได้ แม่งเอ๊ย! มีอะไรให้กูเถียงชนะมึงบ้าง ได้ข่าวนี่ก็ผิวกูแท้ๆทำไมกูต้องเถียงแพ้มึงด้วย
“ดำก็กลับมาขาวได้ ทุกทีผมก็ไม่เคยต้องทาอะไร เดี๋ยวครั้งต่อไปผมจะใส่เสื้อแขนยาวให้ก็ได้”
“พรุ่งนี้มาเอาของกูไปใช้ ถ้าเตะบอลแล้วกูเห็นผิวมึงไหม้อีก มึงโดน!” พูดจบก็ยีหัวผมแรงๆอย่างที่มันชอบทำ
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ซีเรียสกับผิวตัวเอง!”
“กูพอจะรู้ หอมแก้มมึงยังกับเอาหน้าไปถูกับอูฐ” อื้อหือ เอาซะกูเห็นภาพ นี่หนังหน้ากูหยาบขนาดนั้นเลยหรอวะ? สงสัยต้องเอากระดาษทรายมาขัดบ้างแล้วจะได้ละเอียดขึ้น
“ตามใจพี่แล้วกัน แต่ฟรีนะ ผมไม่ซื้อ”
“กูไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เงินจากมึงอยู่แล้ว”
“.........................” จึก! เหมือนโดนฉมวกทิ่มลงกลางใจ หยาบคายแล้วก็โหดร้ายต่อจิตใจกูตลอด
“แล้วเล่นยังไงให้แขนขามีรอยช้ำ” มึงก็ถามไม่คิด กูเตะบอลนะครับไม่ไช่เป่ากบจะได้ไม่กระทบกระแทกอะไรใคร สงสัยว่าเกิดจากอะไรก็มองไปที่สนามครับ ไอ้ตัวที่วิ่งยังกับควายตกมันนั่นแหละตัวดี เสียบได้เป็นเสียบ สกัดได้เป็นสกัด เรื่องจริงจังต้องยกให้ไอ้ธามครับ สงสัยมันคงคิดว่ากำลังเตะกับเมสซี่อยู่ในบอลโลก
“แล้วเวลาพี่เล่น พี่ไม่มีรอยเลยหรอวะ?”
“มี แต่ไม่ด่างเป็นดัลเมเชี่ยนแบบมึง” หือ? ตรงไหนที่บอกว่าผมเหมือนหมา ผมแค่มีรอยช้ำที่แขนขวาสามรอย แขนซ้ายห้ารอย ขาขวาเข่าแตก ขาซ้ายเล็บฉีกแค่นั้นเองพี่อย่ากล่าวหาผมลอยๆแบบไม่มีหลักฐานดิวะ
“ช่างผมเหอะน่า ไม่กี่วันก็หาย”
“อย่าลืมทายา”
“คร้าบๆๆ” พอเห็นสายตาดุๆเลยตอบรับแบบขัดไม่ได้ คนอะไรสั่งยิ่งกว่าพ่อผมอีก
“กูไปก่อน วันนี้มีแข่งรถ” ว่าแล้วผมก็เพิ่งจะสังเกตครับ วันนี้มันไม่ได้ใส่ช็อปมา เพราะทุกทีเดฟขาดๆตัวละหลายหมื่นบาทของมันจะต้องเข้าชุดกับช็อปน้ำเงินเข้ม แต่วันนี้มันเลือกใส่เดฟสีซีดๆเหมือนใส่มาแล้วสามชาติแต่จริงๆคงเพิ่งซื้อมาใหม่ กับเสื้อยืดคอวีสีขาวที่มีตรายี่ห้อบอกความแพงไว้ มึงจะหล่อไปไหน ได้ข่าวไปแข่งรถเขาต้องสวมชุดทับอีกไม่ใช่หรอ หรือกลัวแฟนคลับยังเยอะไม่พอเลยต้องแต่งหล่อไปโกยคะแนน คิดแล้วก็พาลให้หงุดหงิดขึ้นมาเลยครับ มันจะหล่ออะไรกันนักกันหนากับแค่ไปนั่งขับเฉยๆ หมวกกันน็อคก็มีปิดหน้าไม่ต้องอยากให้ใครเห็นว่าหล่อนักก็ได้
“พี่แข่งรถด้วยหรอ?”
“นานๆที ส่วนใหญ่เพราะไอ้แทนบังคับ” ดูนิสัยแล้วไม่น่าเชื่องกับเพื่อนกับฝูงเลยแต่ก็เป็นมุมหนึ่งที่ผมได้รู้จากมันเพิ่มขึ้น
“ถ้าชนะจะเลือกอะไรวะพี่ เงิน รถ หรือ ผู้หญิง ?” ผมพอจะรู้มาบ้างว่าส่วนใหญ่วงการรถแข่งมักจะมีการพนันเข้ามาเกี่ยวด้วยเสมอ แล้วถ้ายิ่งเป็นระดับพวกรวยล้นฟ้าด้วยแล้ว ของที่เอามาวางเดิมพันก็จะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถ้าไม่ใช่เงิน ก็จะเป็นรถของตัวเอง หรือแม้แต่ผู้หญิงก็ถูกนำมาใช้วางเป็นเดิมพันด้วย ผมไม่ชอบอะไรที่มันไม่เหมาะไม่ควรอยู่แล้วครับ แต่ผมสนใจแค่เรื่องรถมากว่า นอกนั้นผมถือว่ารู้ไว้ให้เป็นประสบการณ์
“รถ กูมีเยอะแล้ว...เงิน ชาตินี้ทั้งชาติกูก็ใช้ไม่หมด...ส่วนผู้หญิง กูจะหาเมื่อไหร่ก็ได้...แต่กับบางคนแม้กูจะอยากได้มากแค่ไหน...มันก็ไม่ยอมเป็นของกูง่ายๆซักที” พูดเฉยๆไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก็ได้ ตรงคำว่าบางคนจะเน้นเสียงหนักมากไปไหม สายตาไม่ต้องเจ้าเล่ห์ขนาดนั้นมั้ง แล้วจะยังอมยิ้มอยู่อีกนานไหม คราวหลังพี่ก็ช่วยบอกผมล่วงหน้า ผมจะได้ไม่ต้องมายืนอมยิ้มเป็นคนบ้าตามไปด้วย...ยิ้มเรี่ยราดอีกแล้วนะมึง!
“ผะ...ผมก็เคยอยากไปดูนะ มีแต่รถแบบที่ผมชอบทั้งนั้นเลย” รีบเปลี่ยนเรื่องครับ ประเด็นเก่าพูดแล้วเลือดลมไหลเวียนหัวใจเต้นสูบฉีดส่งเลือดมาเลี้ยงที่หน้าผมเยอะเป็นพิเศษยังไงก็ไม่รู้
“หึ ไว้วันหลังกูจะพาไป” พูดจบมันก็ยื่นมือมายีหัวผมอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกไป ทิ้งให้ผมต้องจัดหัวสนามหญ้าของตัวเองใหม่พร้อมๆกับใจที่ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเรียกสติครบแล้วจึงเดินกลับไปรวมกลุ่มกับพวกกากเดนที่ตอนนี้เริ่มตั้งกลุ่มนินทาผมกันอยู่ เรียกว่านินทาไม่ได้ครับต้องบอกว่าเผากันซึ่งๆหน้าจะดีกว่า
“ผัวมึงกลับไปแล้วหรอวะ?”
“กูไม่มีแรงเหลือจะทะเลาะกับมึงแล้วเชี่ยนนท์ ขอร้องอย่ากวนตีน” ผมบอกไปอย่างหน่ายๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไอ้คิมอย่างอ่อนแรง
“ไปทำอะไรกันมาวะถึงได้หมดแรง อย่าบอกนะมึงไปซั่ม!” ยังไม่จบคำว่าซั่มผมก็ฟาดกบาลมันไปก่อนเต็มๆหนึ่งที เรื่องอกุศลละฉลาดคิดให้กูจัง
“มึงก็ลองไปคุยกับไอ้พี่เหนือมันเกินสามประโยคดูสิ ไม่หมดแรงกูให้ถีบยอดหน้าเลย” พูดไปก่อนจะคว้าน้ำเย็นๆจากกระติกมาดื่มให้ชื่นใจ ดื่มไปไม่ทันไรแก้วมือก็โดนไอ้ไนท์คว้าไปดื่มแทน แก้วไหม่ก็ได้ไหมมึง แล้วไปโมโหใครมาวะ เมื่อกี้ยังเห็นมึงแอ๊บแบ๊วแทบเป็นแทบตายอยู่เลย กลับมาหน้าโหดยังกับชาวสปาตาร์กูก็คิดว่ากำลังดูหนังเรื่องสามร้อยอยู่
“หน้าโหดมาเลยไอ้หล่อ เกิดอะไรขึ้นวะ? แล้วท่าตอนจิ้มแก้มทำไมหลังๆมึงทำเหมือนหมุนไขควงเลย หน้าแม่งอย่างโหด มึงทำควีโยมีเวอร์ชั่นไหมหรอ”
“เออ! เวอร์ชั่นควงสว่านที่แก้ม สัด! มึงก็กล้าถามกูนะไอ้คิม เห็นกูยืนทำควีโยมีเกือบจะร้อยรอบไหม ถ้ากูยังแอ๊บน่ารักไหวกูคงไม่ใช่คน”
“ใจเย็นๆเอาน้ำอีกไหมวะ?” ผมรีบถามมันไป ใจเห็นเพื่อนเหนื่อยก็อยากบริการเต็มที่ครับ ถ้าไม่ติดว่าหน้าผากยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆไม่หาย ผมคงกลายเป็นหมอนวดจำเป็นเข้าไปบีบไหล่ให้เพื่อนไปแล้ว
“แล้วเมื่อกี้มึงหายไปไหนมา?” ไอ้ไนท์ยื่นมือขวามารับน้ำจากผมไปก่อนจะถามขึ้น
“ไอ้พี่เหนือมันมา กูเลยออกไปหามัน”
“........................” มันไม่ยอมพูดอะไรอีก แต่ผมดูจากสีหน้ามันก็พอจะรู้ว่าคงไม่พอใจมาก ไอ้ไนท์มันไม่ชอบไอ้พี่เหนืออยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าพี่เหนือกับไอ้เชี่ยเหนือฟ้าที่มันเกลียดขี้หน้าคือคนเดียวกัน มันยิ่งพาลไม่ชอบเข้าไปใหญ่ ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไอ้ไนท์มันถึงจงเกลียดจงชังไอ้พี่เหนือนักหนา ถ้าเป็นผมที่ถูกไอ้พี่เหนือมันดุ มันด่า ก็ว่าไปอย่าง
“ถ้ามึงไม่ขอไว้ว่าเรื่องนี้มึงจะจัดการเอง กูคงไม่อยู่เฉยแบบนี้แน่” พูดจบมันก็เดินหนีผมออกไปเลย โดยไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกลับ ผมรู้ครับว่ามันคงแค่เป็นห่วงไปตามประสาเพื่อน หวังว่าไม่นานมันคงจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนแทน
“นี่กูกำลังดูหนังรักสามเศร้าอยู่ใช่ไหม?”
“สามเศร้าพ่องมึงสิไอ้คิม เชี่ยไนท์มันเพื่อนกู ถ้ารู้ว่าปากมึงเป็นแบบนี้น่าจับส่งให้อิกราฟฟี่เอาไปปู้ยี่ปู้ยำซะให้เข็ด”
“กูว่าสี่เศร้ามากกว่า” ไอ้นนท์พูดขึ้นก่อนผมจะหันไปมองปลายสายตาที่มันจับจ้องอยู่อย่างสงสัย เมื่อมองเห็นเป้าหมายคือร่างใหญ่ๆที่ผมยกให้เป็นพี่ชายที่แสนดีก็เดินตรงเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มและขนมถุงใหญ่ในมือ
“หวัดดีครับพี่เสือ” สี่เศร้าบ้าบออะไรเชี่ยนนท์ ได้ข่าวคนนี้พี่รหัสกูเหอะ ผมรีบยกมือไหว้ก่อนจะชิงเข้าไปแย่งถุงขนมในมือพี่แกมาถือไว้อย่างรวดเร็ว
“น้อยๆหน่อยไอ้ปอนด์ กูเอามาฝากพวกปีสองทุกคน มึงอย่าเนียนๆ” พูดจบมือใหญ่ๆก็ผลักหัวผมให้ได้เซ พี่เสือ แกเป็นพี่รหัสผมเองครับ ทั้งใจดี แล้วก็ชอบชวนผมไปกินเหล้าฟรีที่หออยู่บ่อยๆ แถมยังชอบเอาของอร่อยๆมาให้ผมกินเสมอ บ้านพี่แกเปิดร้านเบเกอรี่นะครับ ผมเลยพลอยลาภปากได้กินขนมฟรีมาเกือบสองปีแล้ว
“เออ ไอ้ปอนด์มึงอย่าเนียน เอามาให้กูแดกซะดีๆ” ว่าแล้วไอ้ธามที่ไม่รู้ว่าเลิกเล่นฟุตบอลตอนไหนก็วิ่งมาคว้าถุงขนมในมือผมไปทันที ก่อนที่ไอ้นนท์ ไอ้คิม ไอ้แบท ไอ้เอ ไอ้ต้น และอีกหลายๆคนจะมารุมฉกชิงขนมไป ฮิบโปและแก็งค์ผีห่า เอ้ย ผีฟ้าก็มาคว้ากันไปคนละห่อครับ เหลือแค่ผมที่ยังยืนเหม่อไม่ทันไรมองไปถุงที่อยู่ในมือไอ้ธามก็ว่างเปล่า
“เชี่ย ไม่มีใครเหลือไว้ให้กูเลย” ผมรีบต่อว่าไอ้ธามกับไอ้นนท์ทันทีที่ตอนนี้นอกจากจะไม่สนใจฟังผมแล้วยังเอาแต่แกะห่อขนมปังอย่างตั้งอกตั้งใจ
“กูคิดแล้วว่าเซ่อๆอย่างมึงต้องไม่ทัน เอานี่ กูเก็บไว้ให้มึงก่อนแล้ว” พูดจบห่อขนมปังห่อใหญ่กว่าทุกคนก็ถูกโยนเข้ามาในมือ ผมรีบถลาไปกอดพี่เสือไว้อย่างซาบซึ้ง
“พี่ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีสมกับที่ผมเคารพนับถือจริงๆ” ว่าแล้วก็รีบแกะขนมปังในมือเลยครับ
“งั้นให้กูเป็นได้มากกว่าพี่ชายไหมล่ะ” ได้ยินพี่แกพูดไรกลับมาแว่วๆ แต่ไม่ทันฟังครับ เพราะผมกำลังมองหาทำเลที่นั่งให้ห่างไกลไอ้ธามมากที่สุดอยู่
“ต้องกล้าเสี่ยงหน่อยนะพี่ ตัวเต็งเขาโหดมาก แถมยังสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง”
“ก็พอจะได้ยินข่าวอยู่เหมือนกันว่ะ มึงว่ากูพอจะมีลุ้นบ้างไหมวะ?” ข่าวไรวะไอ้พี่เสือ ให้กูรู้บ้างดิ
“คงยากว่ะพี่ เพื่อนผมมันโคตรโง่เลย” มึงพูดไรกันวะกูงง คุยกันสองคนกับไอ้นนท์อยู่นั่นแหละ ไม่สนใจจะให้กูรู้เรื่องบ้างเลย แต่ช่างหัวพวกมันไปเถอะครับผมขอกินขนมอร่อยๆก่อนแล้วกัน ยังไม่ทันได้กัดคำแรกเข้าปาก ก้อนขนมปังก็กระเด็นเข้าหน้าซะก่อน
“โทษทีไอ้ปอนด์ กูดึงแล้วมันหลุดมือว่ะ” ถ้าจะหลุดมาก้อนใหญ่ขนาดนี้ มึงเอาก้อนที่อยู่ในมือตีเข้าหน้ากูเลยดีกว่า กูว่ากูเดินหนีมึงมาแล้วนะ เสือกเดินตามมานั่งแดกตรงหน้ากูอีก! เวรกรรมกูอีกแล้ววววววว!
เชี่ยเหอะ! ใครก็ได้เอาไอ้ธามออกไปจากชีวิตผมที!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตอนที่6มาแล้ว หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ
ทั้งI-AM และ อเลน ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาให้กำลังใจของทุกคนมากคะ
เป็นกำลังใจให้นิยายเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะคะ
ปล. นักเขียนมันบ่นว่า จริงๆมันแต่งให้พี่เหนือร้าย แต่ทำไมทุกคนถึงได้ชมพี่เหนือว่าน่ารักกันก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ
ปล.2 หลายๆคนอาจสงสัยว่า ทำไมพี่เหนือถึงอยู่ๆก้อดูใจดีขึ้นมา เรื่องนี้มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่นอนค่ะ ยังไงก้อติดตามกันเรื่อยๆนะคะ แล้วจะเข้าใจในตัวพี่เหนือเค้า