"อืมม พี่เสือ ไม่ทำได้ไหมวันนี้ ?" กระต่ายกระซิบหวาดๆ ให้พี่ชายที่เดินเข้าห้องมา แขนแข็งแรงช้อนเอากระต่ายตัวขาวนุ่มนิ่มขึ้นจากเก้าอี้อย่างง่ายดาย เสียงหวานอุทานเบาๆ ก่อนเกาะไหล่พี่ชาย ให้อุ้มแต่โดยดี
อุ้มเหมือน... อุ้มเด็ก บั้นท้ายกระต่ายวางบนท่อนแขนแข็งแรงข้างหนึ่ง ส่วนลำตัวกอดไหล่กว้างไว้
ถึงจะโดนอุ้มแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็ก... แต่ตอนนั้นกระต่ายยังคิดว่าตัวเองเป็นน้องชาย ถ้าพี่ชายจะอุ้มให้เหมือนเด็กอนุบาลก็ไม่เห็นจะเป็นไร
แต่ตอนนี้... เป็นแฟนกันแล้วนะ
กระต่ายฮึ่มฮั่มในลำคอ ยิ่งสัมผัสกับกล้ามเนื้อแข็งแรงแล้วยิ่งอิจฉา เผลอกัดไหล่พี่ชายด้วยความหมั่นเขี้ยว
คนร่างสูงใหญ่ร้องโอดโอยราวกับเจ็บนักหนา "ต่ายน้อยเป็นอะไร"
ริมฝีปากอิ่มคว่ำลง ท่าทางน่าเอ็นดูเหมือนเด็กเล็กๆ "ฮึ ก็บอกว่าไม่ทำไง!"
แต่พี่เสือยังเป็นพี่เสือ... มีเสือที่ไหนกลัวกระต่ายตัวขาวปุกปุยบ้าง ท่าทางขู่ฟ่อ ทำตาดุๆ ยิ่งเหมือนเด็กเอาแต่ใจ เสือหนุ่มเนื้อตัวร้อนผ่าว แค่เห็น แค่หายใจรินรดร่างบอบบางก็เล่นเอาส่วนกลางเริ่มแข็งขืน
ฟันคมกัดใบหูนิ่ม ก่อนแลบลิ้นเลียลึกไปถึงข้างใน ความเปียกชื้นทำเอากระต่ายตัวสั่นระริก "ฮือ..."
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่มีเสือตัวไหนยอมปล่อยเหยื่อไปได้ง่ายๆ หรอก...
...ถึงจะไม่ได้ถูกทำจนขั้นสุดท้าย แต่เหยื่อของเสือร้ายก็นอนหอบอยู่บนเตียง แผ่นหลังอิงกับอกกว้าง สองขาขาวชันขึ้นสูง ให้มือใหญ่ฟอนเฟ้นส่วนกลางของร่างกายอย่างไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ ผิวกายขาวผ่องกลายเป็นสีชมพูหวานทั่วทั้งตัว ยังไม่นับในร่มผ้าที่มีจุดสีแดงวาบหวามประดับทิ้งไว้...
...ไร้เดียงสาและเย้ายวนอย่างร้ายกาจ
คนเป็นพี่ลูบไล้เนื้อนวลอย่างบ้าคลั่ง ในใจนับถอยหลังวันที่ได้กินกระต่ายเต็มปากเต็มคำ!
แต่หารู้ไม่... กระต่ายก็คอยนับวันอยู่ในใจเงียบๆ เหมือนกัน ถ้าหากพี่เสือหรือใครๆ รู้เข้า ต้องเอามือทาบอก อุทานว่าเลือดเย็น... เหมือนพี่น้ำแกงแน่ๆ เลย
สองสามวันถัดมา พี่ชายก็ไปคัดตัว คราวนี้ไม่ต้องรอให้สอางค์บอก คนตัวขาวก็ไปเชียร์ถึงขอบสนาม ถึงจะขลุกขลักอยู่บ้าง เมื่อจัมโบ้และกระเจี๊ยบไม่ได้ไปด้วย คู่รักคู่นี้พยายามหาเวลาว่างอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด ส่วนลูกโป่งถึงจะรับปากดิบดีว่าจะไปส่ง แต่กลับเบี้ยวเสียเฉยๆ เพราะติดธุระที่บ้าน กระต่ายสังหรณ์ใจว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องยู เด็กน่าสงสารที่น้าของลูกโป่งรับมาเลี้ยง สอางค์นั้นติดต้องซ้อมแข่งทักษะเสียอีก พี่เสือในชุดกีฬาปราดสายตารอบวงเพื่อน เหลือเพียงเพื่อนสาวที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว นั่งอ่านขายหัวเราะอยู่คนเดียว
"ซอ" เสียงทุ้มทรงอำนาจเรียกให้เพื่อนเงยหน้าจากหนังสือ
"เออ มึงยังไม่ไปอีกเหรอวะ ?"
"นี่ ซอ พวกเราไม่ว่างกันนะ" สอางค์พูด ส่งสายตาห้ามปรามให้เพื่อน แต่ลักซอร์กลับยิ้มยียวน
"เออ แล้วไง ?"
"แล้วใครจะไปเป็นเพื่อนต่ายน้อย ?"
"อ้าว... ก็ไปพร้อมกับเสือนี่ไง ไคโรก็ไป พวกมึงกลัวอะไร"
ลูกโป่งเอามือกุมขมับ เจอคนที่หน้ามึนกว่าตัวเองแล้ว "เดี๋ยวเสือกับไคมันต้องแยกไปคัดตัว แล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนน้อง"
"เออ เราไปคนเดีย..." บุคคลในข่าวเอ่ยขึ้นช้าๆ มองเพื่อนทุกคนที่ช่วยตัดสินใจเหมือนตัวเองไม่ได้อยู่ตรงนั้น
"ไอ้พวกผู้ชายเหม็นเหงื่อต้องเต็มโรงยิมแน่ๆ" กระเจี๊ยบยื่นปากให้
"พวกมึงนี่ คิดอะไรมากวะ..." จัมโบ้เกาหัว "จะห่วงอะไรก๊านนน ก็นั่งอยู่บนสแตนด์ ใครจะฉุดไปไห..."
"ไม่ต้องไป!" คนเดียวที่เงียบที่สุดตัดบททุกคนด้วยเสียงเฉียบขาด "ต่ายน้อยไปอยู่กับสอางค์ที่ห้องพักครู พี่คัดตัวเสร็จจะไปหา"
ทุกคนเงียบกริบ... พยักหน้ารับคำสั่งท่านประธานแล้วทำท่าจะแยกย้าย ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง เว้นแต่...
เสียงนุ่ม เบาเหมือนเสียงกระซิบดังขึ้นหวาดๆ "แต่หนูอยากไปดูนี่..."
ทุกคนอ้าปากจะเตือน แต่ไม่ทันพี่เสือที่ตอบกลับรวดเร็ว "ไม่ได้! อย่าดื้อนะครับ ไม่มีอะไรน่าดูหรอก"
ปากอิ่มเบะลงท่าทางขัดใจ แต่ก็เถียงพี่ชายไม่ได้ เจ้าตัวน้อยพยักหน้าอย่างหมดแรง เก็บข้าวของเตรียมจะตามสอางค์ไป ทุกคนในกลุ่มเริ่มแยกย้าย เว้นแต่ลักซอร์ที่กระพริบตาปริบๆ มองเพื่อนๆ ทีหนึ่งแล้วโพล่งออกมา
"งั้นก็ไปกับกูก็แล้วกัน!"
หลังจากนั้น ลักซอร์ก็พากระต่ายมาดูพี่ชายคัดตัวจริงๆ ซึ่งกว่ากระต่ายจะไปถึงโรงยิม หูก็ชาสนิทจากคำเทศนาจากเพื่อนๆ พี่เสือได้ยินลักซอร์ตกปากรับคำแล้วมองหน้าเพื่อนคนอื่น... เชิงฝากฝัง ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษให้ลักซอร์
"กูต้องไปก่อนแล้ว..." แต่สายตาดุดันก่อนไปชวนให้ทุกคนขวัญผวา สอางค์และกระเจี๊ยบจึงต้องเปลืองน้ำลายเทศนาทั้งกระต่ายและเพื่อนสาว จนพอใจ เพื่อนขี้กังวลทั้งสองคนจึงยอมปล่อยไป
ลักซอร์เดินเอื่อยๆ ตามนิสัย ชี้ชวนกระต่ายดูโน่นนี่ ก่อนจะพาเลี้ยวเข้าโรงอาหาร ซื้อน้ำและไอศกรีมกันคนละแท่ง แล้วค่อยเดินต่อไป
กระต่ายไม่ค่อยสนิทกับลักซอร์นัก แต่รู้นิสัยดีว่า เพื่อนเป็นคนสบายๆ ทำอะไรตามใจตัวเองเท่านั้น เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ จึงได้แต่ทำตาปริบๆ เลียไอศกรีมไปด้วย คุยกันไปด้วย
"ทำไมถึงอยากไปดูนักล่ะ ?" เพื่อนถาม กระต่ายยิ้มบาง ใบหน้าอมชมพูน่ารัก
"ก็... เมื่อก่อนเป็นน้องใช่ไหม... จะไปเชียร์ พี่เสือก็มีสาวๆ คอยตามเชียร์อยู่แล้ว..."
"อ้อ..."
"แล้วทำไมซอถึงไปส่งเราล่ะ ?" กระต่ายถามกลับบ้าง
ใบหน้าตกกระสีน้ำตาลของเพื่อนขมวดมุ่น ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมคนตัวเตี้ยกว่า "นั่นสิ... เพราะเห็นอะไรแปลกๆ ละมั้ง ?"
"แปลก ?" น้องทวนคำ พอดีกับที่ใกล้ถึงโรงยิมแล้ว ลักซอร์หยุดเดินแล้วโน้มตัวลงใกล้ ท่าทางเหมือนคุยกับเด็ก
"ดูท่าทางน่าสนุก... อ้อ... กระต่ายอยากทำอะไรล่ะ"
จู่ๆ ถูกถามแบบนี้เล่นเอาคนฟังตั้งตัวไม่ถูก "อยาก ? อยากทำอะไร ?"
"วิ่งไหม ?" คนตรงหน้ายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู "อยากวิ่งไหม ถ้าไม่วิ่งละก็ไม่ทันนะ"
"เอ๊ะ!" กระต่ายอุทาน "จะเริ่มแล้วเหรอ ?" ว่าแล้วก็ตั้งท่าจะวิ่ง แต่จู่ๆ ก็ชะงัก
"มีอะไร ?"
"ปกติ... พี่เสือไม่ให้วิ่ง"
"ทำไม ?"
"ก็จะเหงื่อออก... เป็นผื่น... หกล้ม เป็นแผล" ระยะทางจากตรงนี้ถึงโรงยิมจะว่าใกล้ก็ใกล้ ไกลก็ไกล ประมาณห้าสิบเมตรได้ "ถ้าวิ่งตอนนี้ ไม่แน่ว่าจะทันนี่นา"
"นั่นสิ..." ลักซอร์ไม่มีท่าทางอนาทรร้อนใจ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนพาเพื่อนเดินเอื่อยๆ มาตลอดทาง "แล้วจะเอาไง ?"
คนตัวเล็กนิ่งคิดสักครู่ เงยหน้ามองเพื่อนสาวก่อนจะถามเสียงเบา "ถ้าวิ่งแล้ว... ไม่ดุนะ"
"อืม"
"ไม่บอกใครด้วย"
"อืม"
"วิ่งแล้วไม่ทัน หรือหกล้ม หรือผื่นขึ้น... จะทำยังไง"
ลักซอร์มองคนตรงหน้า มองมือเล็กบางที่เปื้อนไอศกรีม เธอไม่ได้หยิบผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดหรือพูดคำปลอบโยนใดๆ "ก็เจ็บ..." คำตอบเรียบง่าย "วิ่งแล้วไม่ทัน... ก็ไม่แล้วไง ไม่ทันคือไม่ทัน หกล้ม ผื่นขึ้นก็เจ็บ..."
กระต่ายกัดริมฝีปาก "ถ้างั้น... ไม่..."
"ตอนแรกบอกว่าจะไปคนเดียวด้วยนี่ ?" ลักซอร์โคลงศีรษะ จับมือน้อยค่อยๆ เดินเอื่อยๆ ต่อไป "เดินไป... ก็ถึง วิ่งไป... อาจจะเจ็บ แต่ก็ถึงแล้วก็อาจจะทันด้วย"
ไม่ต้องรอคำตอบ คนตัวบางวิ่งปร๋อนำหน้าเธอไปแล้ว
ลักซอร์หัวเราะ
กระต่ายไม่รู้จะขอบคุณหรือโกรธเพื่อนดีที่หลอกให้ตัวเองวิ่งมาแล้วพบว่าอีกสิบนาทีถึงจะถึงเวลาคัดตัว ที่พี่เสือต้องมาก่อนเพราะต้องวอร์มร่างกาย!
กระต่ายปั้นหน้าโกรธให้เพื่อนที่เดินเอื่อยๆ ตามมาทีหลัง "ซอขี้จุ๊!"
"เป็นไง ?"
"อะไร ?"
"ที่วิ่งมาน่ะ" เธอนั่งลงข้างๆ คนตัวเล็ก ยื่นน้ำดื่มให้ กระต่ายค้อนหนึ่งทีแล้วตอบ
"เหนื่อย!"
"แต่ดีใช่ไหม... โล่งใจ แล้วก็ได้ทำสิ่งที่คนอื่นห้ามด้วย"
กระต่ายตาโตกับคำพูดนั้น
นั่นสิ... ใครๆ ก็ห้ามกระต่ายวิ่ง ห้ามโน่นห้ามนี่ ทั้งๆ ที่ลองทำแล้วก็ไม่เห็นเป็นไรเลย คันๆ ผื่นนิดหน่อย แต่ก็พอทนไหว...
ความรู้สึกที่มีให้ลักซอร์เริ่มเปลี่ยนแปลง... กระต่ายมองเพื่อนในสายตาที่เปลี่ยนไป
ถึงจะดูลอยชาย ไม่เอาไหน ทำอะไรตามใจตัวเอง แต่กลับเป็นคนลึกซึ้งกว่าที่คิด เขาสูดลมหายใจลึก แล้วบอกเบาๆ "ขอบคุณนะ"
เพื่อนที่ดูเหมือนฝรั่งแท้นั้นหันกลับมายิ้มยิงฟันให้ "What doesn't kill you makes you stronger. Nice try!"
ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เสือและไคโรได้บรรจุเข้าทีมอย่างง่ายดาย หลังจบการคัดตัว เด็กๆ ก็พากันกลับบ้าน คืนนั้นเองที่พี่น้ำแกงโทรมาหากระต่ายน้อย
"ต่ายน้อย ตกลงว่าไง ?" เพื่อนรุ่นพี่นิสัยดีเช่นเคย เสียงหวานอบอุ่นเหมือนนางฟ้าดังมาตามสาย "ที่บ้านโอเคไหม ?"
กระต่ายกำลังอ่านหนังสืออยู่รีบบอกขอบคุณแล้วกัดปลายปากกาเล่น "อื้อ ทุกคนบอกใหญ่เลยว่าอยากให้หนูเรียนครุฯ"
เสียงหวานหัวเราะเบาๆ "ดีแล้ว มาเรียนที่มหาลัยพี่ไหม จะได้ช่วยกันดูแล"
"หนูยังไม่รู้เลย" คำตอบแผ่วลง "หนูอยากเรียนที่เดียวกับพี่เสือ"
"แทงหวยทำไมไม่ถูกนะ!" เสียงปนขำตอบกลับมา "อ้อ... พี่ว่าจะถามตั้งแต่คราวที่แล้ว เอิ่ม... ตอบยากหน่อยนะ"
"อะไรเหรอ ?"
"เอ่อ... ไม่อยากละลาบละล้วงพวกเราหรอกนะ... แต่ เอ่อ... ตั้งแต่คบกับเสือ... ต่ายน้อย..." พี่น้ำแกงเว้นวรรค คล้ายหาคำพูดไม่ถูก "เอ่อ... ถูกกินหรือยัง ?"
คล้ายใบหน้านวลถูกระเบิด สีแดงค่อยๆ แผ่ไปตามแก้มกลม เจ้าตัวบางสูดลมหายใจเฮือกแล้วตอบแผ่วๆ "ก็... เกือบ"
"หมายความว่าไง เกือบ ? อ๊ะ... เดี๋ยวนะ!" คล้ายคนถามจะเขินตาม "เอ่อ... อืม ก็ดีแล้วล่ะที่ยัง... พี่แค่เป็นห่วงต่ายน้อย ดูเสือท่าทางจะ...." เงียบไปอีกครั้ง "....แรงเยอะ แล้วเราจะรับไม่ไหว"
มือน้อยวางปากกา ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความเขินอาย ถ้าพี่เสือเข้ามาตอนนี้จะทำยังไงนะ "ฮื้อ.... พี่น้ำแกงอ่ะ"
"...เอ่อ แล้ว... ต่ายน้อยจะ... ยอมเมื่อไหร่ ?"
คนฟังกัดริมฝีปากแน่น เขินจนแทบจะมุดดินหนีได้แล้ว แต่ต้องกลั้นใจตอบไป เพราะรู้ดีว่าพี่น้ำแกงเป็นห่วงในฐานะ 'คนมีประสบการณ์'
"คงอีก... นาน อย่างน้อย... หลังจบกีฬาสานสัมพันธ์"
"อ้อ พี่ได้ยินมาบ้าง แล้วระหว่างนั้นทำยังไง ให้ 'เกือบๆ' ต่อไปน่ะเหรอ ?"
คำตอบนี้กระต่ายตอบได้ แก้มนวลไม่ได้ขึ้นสีจัดเท่าเดิมแล้ว "ไม่เป็นไรหรอกเรื่องนั้น... หนูมีแผน"
"หา ?"
เสียงหวานหัวเราะคิกคักตามมา "ก็... เพราะกลัวนั่นแหละ เลยให้แค่ 'เกือบๆ' มาตลอด แต่มันก็ยังเหนื่อยน้า หนูเลยให้พี่เสือลงนักกีฬาไป จะได้ไม่มีแรงมายุ่งกับหนู"
น้ำแกงฟังแล้วหัวเราะตาม "แผนสูง! เลือดเย็นมาก!"
ลมหายใจเบาบางเป่าพรู "ก็... หนูกลัวนี่นา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป วันที่มากกว่า 'เกือบๆ' น่าจะมาถึงไวกว่าที่คิด"
"เลยให้แฟนไปชะลออารมณ์ว่างั้น"
"อื้อ... แล้ว... เจ็บไหมอ่ะ" คำถามนี้กลั้นใจถาม คนปลายสายหัวเราะร่วน ตอบด้วยเสียงเจ้าเล่ห์
"ไว้ตั้งใจจะไม่ 'เกือบ' เมื่อไหร่ก่อนแล้วจะบอก! แค่นี้นะ!"
"อ้าว... จะไปไหน ? พี่น้ำแกงหมดรับน้องแล้วนี่ ?"
เสียงหวานตอบกลับอย่างคึกคัก "จะไปบังคับให้ฟงกลับไปช่วยโค้ชน่ะสิ!"
กระต่ายหัวเราะพรืด! โธ่เอ๊ย... ขนาด'คนมีประสบการณ์'ยังเหนื่อยเหมือนกันสินะ!
....
// ความจำเป็นของที่ต้องมีลักซอร์ค่ะ ต้องมีเด็กคนนี้ ที่คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน โตมาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง เป็นคนที่ไม่ประคบประหงมกระต่าย ด้วยเหตุนี้ฝนจึงต้องออกไป
เรื่องรวมเล่ม อ๊ายย รูปเสร็จแล้ว ปกเสร็จแล้ว และพี่เสือน้องต่ายก็เหลืออีกประมาณห้าตอนจะจบแล้วค่าาา ไชโยโห่ฮิ้วววววววว!! อย่าทิ้งกันไปนะๆ

ช่วยกันตามลุ้นว่าจริงๆ แล้วกระต่ายอยากทำอะไร และจะสำเร็จไหม สองพี่น้องจะได้รักกันไหม อยู่ด้วยกันอีกนิดก็จะถึงบทสรุปแล้วค่ะ
