Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15  (อ่าน 1180543 ครั้ง)

ออฟไลน์ hayatosan

  • ความเห็นใจช่วยใครไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ??
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หนูต่ายน้อยยย งือออออ สงสารน้องอ่าาาาา
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ต่ายน้อยยยย
อย่าเศร้าน่ะลูก
เชื่อว่าพี่เสือต้องหาทางออกได้

ช๊อคไปพร้อมกับต่ายน้อย ฮือออ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ไม่เป็นไรนะ ต่ายน้อย  :กอด1:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ขอบคุณที่มาต่อคะ
แอบอยากให้สองคนนีเแยกกันนะ 555

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :monkeysad: สงสารต่ายน้อย สู้ต่อไปนะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สงสารต่ายน้อยจัง
แต่ก็ต้องผ่านไปให้ได้นะ ยังมีปัญหาใหญ่กว่านี้อีก
สู้ๆๆ

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
ตอนนี้ทั้งเครียด ทั้งลุ้น เหมือนกลับไปสอบเองเลยอะ
ต่ายน้อย ไม่เป็นไรนะ คณะนี้ ของมหาวิทยาลัยอื่นก็มี เรียนที่ไหนก็เหมือนกันแหละจ้า
แต่ห่วงว่าจะอยู่ห่างพี่เสือ แล้วพี่เสือจะตกมัน บ้าคลั่งมากกว่าน่ะสิ เนาะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:สงสารน้องงงงงงงงงงงงง :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สงสารน้องต่าย  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: ไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการเอง รับรองหนูได้ไปเรียนพร้อมกับพี่เสือแน่

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
สงสารต่ายน้อย T^T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
สู้ๆน้าาา ต่ายน้อยสู้สิ ความรักของพี่เสือไม่ใช่แรงกดดันนะ ใจเย็นๆ รักที่ต่ายนัอยคือต่ายน้อยไม่ได้รักคนที่เรียนเก่งสักหน่อย อยู่คนลัมหาลัย พี่เสือยิ่งหวง55555

ออฟไลน์ diduek

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
    • http://diduek-san.exteen.com/
โถน้องต่าย อยากให้อยู่ด้วยกันนนนน

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
อ่า .. จริงๆเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราชอบที่สุดตลอดกาลอยู่นะคะ
เพียงแต่เวลาต่างๆอาจจะไม่ค่อยประจวบเหมาะเท่าไหร่ เม้นดีเลย์ทุกทีเลย หวังว่าไรเตอร์จะไม่เคืองกันนะคะ T T ..
คือที่เม้นช้าไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรืออะไรค่ะ มันเหมือนกับ .. อ่านครั้งแรกเอาเนื้อเรื่อง แล้วก็ขอเว้นระยะซักแปปนึง
มาอ่านอีกรอบ คราวนี้เก็บรายละเอียดกับอารมณ์ ซึ่งปกติเรื่องที่เราชอบมากๆเนี่ยพออัพทีก็ต้องรีบเข้ามาอ่านให้ไวเลย
ทีนี้เวลาเข้ามาอ่านให้ไวก็มักจะไม่ใช่สถานการณ์ที่ทำให้อินได้ (เช่นอยู่ในบีทีเอส หรือที่มหาลัย) พอเว้นไปรอบสอง
กว่าจะหาจังหวะเหมาะๆได้ก็ยาวเลย . . . . หวังว่าจะเข้าใจนะคะ ฮือ ไม่ได้ไม่ชอบนะ T ^ T

ทุกครั้งที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้จะมีความรู้สึกที่เด่นชัดอย่างนึงเลยคือเหมือนตกอยู่ใน 'ห้วงรัก'
พี่เสือน้องต่ายทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้จริง สกินชิพดูจะไม่ใช่เรื่องของกามรมณ์เลยด้วยซ้ำเมื่อเป็นคู่นี้
มันเป็นความโรแมนติกที่ลึกซึ้งกว่านั้นมากจริงๆค่ะ (ไม่นับมโนภาพหื่นแสนหื่นของนายเสือนะ //ฮา)
หมายถึงตอนที่พี่เสือกล่อมน้อง ดูแลน้อง นอนกอดกัน แค่เรื่องธรรมดาๆแต่ละวันก็ทำให้รู้สึกถึงคำว่ารักผ่านทุกๆการกระทำจริงๆค่ะ
ง่ายๆว่าอ่านแล้วอยากมีแฟนแบบพี่เสือบ้างเลย 5555555555555555

กลับมาเข้าเรื่องนิยายดีกว่า .. แฮ่ะๆ . ขอแก้คำผิดตอนนี้นิดนึงนะคะ ^^
ล่วงลง - ร่วง (คิดว่าน่าจะเป็น ร่วง นี้มากกว่า ลุล่วง นะคะ ผิดถูกขออภัยด้วยค่ะ)
เที่ยวให้เที่ยว - ทั่ว
กระต่ย - ต่าย
กฏ - กฎ (สะกดด้วย ฎ นะคะ)

ก็ .. สารภาพตามตรงเลยพอรู้ว่าอีกไม่กี่ตอนจบก็แอบเฟลนิดๆค่ะ นึกว่าจะมีดราม่าของครอบครัวซะอีก
คือจริงๆคิดว่าอันนี้น่าจะเป็น conflict ใหญ่ของเรื่องที่ผู้อ่านน่าจะรออ่านกันอยู่ แต่พอเหลือจำนวนตอนเท่านี้
แถมดราม่าใหญ่กลายเป็นว่าน้องไม่ติด เลยคิดว่าประเด็นนั้นอาจจะไม่ได้เขียนแล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราเคารพการตัดสินใจของไรเตอร์นะคะ
แค่เฟลนิดนึง 5555555555 แต่ยังไงก็ซัพพอร์ตจนจบและซื้อแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ^^

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ สู้ๆในทุกเรื่องเลยค่ะ <3
จะรอตอนต่อไปค่า ^ ^


ปล. หลายๆคนอาจจะบอกว่าชอบฟงแกงมากกว่า แต่สำหรับเรายังชอบพี่เสือน้องต่ายที่สุดนะคะ ~ ฮิๆ

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
56. พี่เสือ กับน้องกระต่ายและทางเลือก

คุณแม่ไม่เข้าใจลูกทั้งสอง

กระต่ายเก็บตัวอยู่ในห้องมาสี่วันแล้ว เสือก็นั่งรอหน้าห้อง ลากทั้งผ้าปู ผ้าห่มและหมอนมานั่งรออย่างอดทน เมื่อกระต่ายไม่เคลื่อนไหว เสือก็ไม่เคลื่อนไหว

ตราบจนวันหนึ่ง คุณแม่ตื่นขึ้นมาและพบกับลูกชายคนโตนอนเกะกะทางเดิน ร่างกายใหญ่โตของลูกชายแทบเต็มพื้นที่ แต่กระนั้นเลย... ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากในห้องเล็ก

กระต่ายโผล่หน้าออกมาเพียงเอาอาหารเข้าไปในห้องและออกมาวาง แทบไม่มีอะไรพร่อง บ่อยครั้งที่พ่อแม่พบว่าเขายื้อประตูกับพี่ชายที่พยายามเข้าไป

เสือยังไม่รู้จะพูดอะไรกับน้องดี แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้กระต่ายอยู่เพียงลำพังกับความเศร้าแน่ๆ

ร่างกายของกระต่ายเล็กลงกว่าเดิม เสือเห็นผมเผ้ารุงรัง ดวงตาดำคล้ำ กระดูกปูดโปนผอมผ่าย

เสือสะท้านในอก

คุณแม่ยกถาดอาหารให้เสือไปให้น้อง ตัวเองยืนดูอยู่ห่างๆ พี่เสือเคาะประตู นานช้า... กว่าคนในห้องจะออกมาเปิด เสือรีบดันตัวเข้าไป "ต่ายน้อย... กินข้าวเถอะนะ"

กระต่ายครางฮือ ร่างเล็กแทบปลิวลมดันพี่ชายออกไป เสือทดท้อใช้ขาดันประตูไว้ วันนี้ ต่อให้ใช้ต้องใช้กำลังก็ต้องเรียกเจ้าตัวเล็กมาคุยกันล่ะ
"ต่ายน้อย! ให้พี่เข้าไปนะ"

"ออกไป..." เสียงน้องแหบแห้ง ดวงตาแห้งผาก

"ต่ายน้อย! มาคุยกัน!"

"อึก... ออกไป!"

"ต่ายน้อย!" พี่ชายร้องหวือ กระต่ายผลักประตูด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ก่อนที่ประตูจะปิดลง เสือตะโกนบอกคนตัวน้อย

"ต่ายน้อย! พี่จะสละสิทธิ์! เราจะไปเรียนด้วยกันนะ! กระต่ายอยากเรียนอะไร ที่ไหน พี่เสือจะตามกระต่ายไป!"

คุณแม่ตาโต อ้าปากค้าง ยังไม่ทันจะพูดแย้ง ประตูห้องก็เปิดออก คนตัวเล็กผมฟูยืนประจันหน้ากับมารดาและพี่ชาย

"...พี่เสือ"

"ต่ายน้อย..." เสือโล่งอก ในที่สุดกระต่ายก็ยอมออกมาเสียที แต่แล้วร่างเล็กก็สั่นระริก ริมฝีปากแห้งกรังขบเม้มจนเลือดซึม

"พี่เสือ... คิดว่าหนูเศร้าเพราะเรื่องนั้นเหรอ... หึ..." รอยยิ้มบาง ดูร้าวรานราวกับจะแตกสลายลง ดวงตาคู่โตปิดลง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยเสียงแหบ "พี่เสือนี่... มันน่ารังเกียจจริงๆ!"

แล้วประตูก็ปิดดังปัง!

คุณแม่สะดุ้งตามเสียง แล้วร้องลั่นเมื่อลูกชายคนโตเข่าอ่อนลงกับพื้น

"เสือ... เป็นอะไรไป!"

ลูกชายไม่ตอบ เขาเอามือยันกำแพงไว้ ดวงตาแดงก่ำหันกลับมามองแม่ มือข้างหนึ่งกุมหน้าอกไว้ "คุณแม่... ต่ายน้อย... เพิ่งบอกว่า... รังเกียจใช่ไหม ?"

คุณแม่กลืนน้ำลาย เจ้าตัวนิ่มที่เคยว่านอนสอนง่าย ตอนนี้ทั้งดื้อรั้นและหดหู่ ริมฝีปากอิ่มที่เคยเจื้อยแจ้วฉอเลาะคนในบ้าน พ่นคำทำร้ายคนที่รักออกมาอย่างง่ายดาย

แล้วเสือเล่า... พี่ชายที่สู้ทะนุถนอม อยู่เคียงข้างมาตลอดจะรู้สึกอย่างไร

"เสือ... ลงไปกับแม่ป่ะ เรามาค่อยๆ คิดกันนะ"

ดวงตาลูกชายว่างเปล่า... ร้าวราน ยังอยู่ในสภาพช็อค

คุณแม่นิ่งเงียบ มองบานประตูที่ปิดสนิท ในใจวางแผนช้าๆ







'ต่ายน้อย! พี่จะสละสิทธิ์! เราจะไปเรียนด้วยกันนะ! กระต่ายอยากเรียนอะไร ที่ไหน พี่เสือจะตามกระต่ายไป!'

น่ารังเกียจที่สุด...

พี่ชายที่แสนดี เก่งกาจ ไม่ว่าต้องการอะไร ก็คว้ามาได้อย่างง่ายดาย

รอยร้าวเล็กบางเบาที่เคยทอดตัวยาวระหว่างกระต่ายและพี่เสือได้ขยายออก มันขยายกว้างซึมลึกในใจ กระต่ายเกลียดพี่เสือ... แต่ในใจกลับเจ็บแสบไม่แพ้กัน

เกลียดรอยร้าวนั้น... ที่ทำให้กระต่ายล้มลง เหมือนถูกหมัดหนักๆ ของพี่เสือต่อยเข้าเต็มหน้า หลังความมึนงงจากหมัดหนัก ดวงตากระต่ายจึงสว่างขึ้น

เห็นรอยร้าวนั้นชัดเจน

คำรักของพี่ชายฟังดูห่างไกล...

...มีเพียงความจริงที่เน้นย้ำเท่านั้นว่า

กระต่ายไม่เอาไหน ไม่สามารถสู้พี่ชายได้แม้แต่เรื่องเดียว อนาคตก็ไม่มี คงต้องผูกติดกันตลอด ที่ผ่านมา... ทำไมกระต่ายจะไม่รู้ว่าพี่เสือลดตัวเองมาอยู่ระดับเดียวกันกับกระต่าย เด็กโง่ที่เดินตามหลังพี่ชาย เกาะติด ดูดกิน สูบเลือดสูบเนื้อ และอนาคตที่รุ่งโรจน์ไปเรื่อยๆ

เกลียดตัวเองที่อ่อนแอ...

เกลียดตัวเองที่สร้างรอยร้าวขึ้นมา แต่มันกลับหยั่งรากลึกโดยไม่รู้ตัว

กระต่ายคุกเข่าลง ซบใบหน้าลงบนฝ่ามือ

เกลียดหัวใจตัวเอง... ที่รัก... และอยากอยู่ใกล้ จนไม่เจียมตัว เมื่อผิดหวัง กลับโทษรอยร้าว โทษพี่ชาย โทษทุกอย่าง...

...กระต่ายนัยน์ตามืดมัว มองไม่เห็นสิ่งใด...

เหมือนอยู่ในเขาวงกตไร้ซึ่งทางออก เต็มไปด้วยความรู้สึกทุกข์ฉุดรั้งทุกอย่าง อยากให้เขากอด จูบ ปลอบประโลม แต่กลับรู้สึกทรมาน ดูถูกตัวเองทุกครั้งที่เขามองตา...

...ขัดแย้งกันเหลือเกิน

ถ้าหากว่า อายุมากกว่านี้และเป็นอิสระกว่านี้ ใจกระต่ายอยากทอดกายลง... ให้เป็นของพี่เสือเพียงคนเดียว อยากให้รัก ทะนุถนอม อยากให้ดูแล จะกักขังกระต่ายไว้ในห้องก็ไม่มีปัญหา กระต่ายจะเป็นเมียที่แสนดี ทำอาหาร ทำความสะอาดและรับใช้พี่เสือทุกอย่าง... ขอเพียงอย่างเดียว ปิดตากระต่ายไว้ อย่าให้ดวงตามองเห็นภาพใครที่ผิดหวังในตัวกระต่าย หรือให้กระต่ายแข่งขันกับใครอีกเลย

...ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในสมอง ยิ่งพาลให้ตัวเองเกลียดตัวเองมากยิ่งขึ้น

อ่อนแอ... ไร้กำลัง...

ความคิดว่ายวนเพียงเท่านั้น... กระต่ายไร้ความสามารถจะหลุดพ้นจากก้อนโคลนแห่งความทรมาน

...

คุณพ่อเสนอให้พังประตูเข้าไปเลย คุณแม่และพี่เสือรีบค้าน ในที่สุด วันหนึ่งพี่เสือก็โทรเรียกหาตัวช่วย

พี่ชายพาเพื่อนขึ้นชั้นบน ปล่อยให้สอางค์เคาะประตู

"ออกไปนะ!" เสียงแหบตะโกนมาจากในห้อง สอางค์จึงร้องบอก

"ต่ายน้อย นี่อางค์นะ"

กระต่ายเงียบเสียงไป ก่อนประตูจะแง้มออกน้อยๆ ใบหน้าเล็กซีดเซียวโผล่มาเพียงเสี้ยว ลูกโป่งเลยรีบผลักประตูเข้าไป ลักซอร์เดินตามเข้าห้อง ก่อนประตูจะปิดลงอีกครั้ง

พี่เสือสูดลมหายใจอย่างข่มอารมณ์ เขาเดินลงชั้นล่าง พยายามระงับความเป็นห่วง

นับจากนี้ไป... อนาคตของกระต่ายขึ้นอยู่กับคำพูดไม่กี่คำของเพื่อนๆ แล้ว... เสือสำนึกได้ว่า... เรื่องบางเรื่องเสือก็ไม่สามารถจัดการให้ได้ ไม่ว่าจะรักเท่าใด... ห่วงหาเพียงใด

แต่หากส่งไปไม่ถึง... ก็ไร้ค่ายิ่งกว่ากรวดทราย




กระต่ายขดตัวอยู่ในอ้อมแขนสอางค์ ดวงตากลมปิดแน่น ลูกโป่งลูบหน้าลูบหลังเบาๆ

"อยากร้องก็ร้องเถอะ" ลักซอร์ถอนหายใจ ยืนดูอยู่ห่างๆ

เปลือกตาบางสั่นระริก ก่อนน้ำตาจะไหลออกมา... สอางค์ปลอบดังโอ๋ โอ๋เหมือนเด็กเล็ก

เมื่ออยู่กับเพื่อน ราวกับว่าความทุกข์จะลดลง ความคิดฟุ้งซ่านที่ลอยฟ่องในหัวค่อยๆ สลายไปเหมือนม่านหมอกต้องแสงอาทิตย์ ลูกโป่งและลักซอร์ช่วยกันเปิดหน้าต่างระบายอากาศ

ลูกโป่งรื้อตู้เสื้อผ้าออกมา กระต่ายกัดริมฝีปาก ซบหน้าลงกับไหล่แล้วปล่อยโฮ

"ชู่ว์ ต่ายน้อย ต่ายน้อย ร้องไห้เลย... ร้องออกมาให้หมด"

ร่างเล็กสะอื้นจนตัวโยน "ฮึก... อางค์ ต่ายเกลียด... ฮึก"

"โอ๋... อย่าเพิ่งพูด ไม่เป็นไรนะ ร้องออกมาเลย"

ราวครึ่งชั่วโมง... กว่ากระต่ายจะระบายน้ำตาออกมาจนหมด เพื่อนนิ่งเงียบ มีเสียงปลอบโยนดังขึ้นมาเป็นครั้งคราว

"ต่ายน้อย ป่ะ ไปอาบน้ำล้างหน้านะ" ลูกโป่งดึงแขนบาง ยัดห่อผ้าใส่มือ แล้วจูงเด็กน้อยเข้าห้องน้ำ

น้ำร้อนและกลิ่นหอมของสบู่ช่วยให้กระต่ายรู้สึกดีขึ้นมาก เขากลับมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ และพบว่าโต๊ะกลางห้องมีขนมนมเนยและอาหารร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมแตะจมูก

"มากินก่อนเร็ว"

กระต่ายสะอื้นอีกครั้ง โผเข้ากอดเพื่อนๆ ทุกคน ละล่ำละลักบอกขอบคุณ สอางค์เพียงลูบหลังเบาๆ แล้วฉุดให้กระต่ายนั่งลง

อาหารอร่อย ขนมก็อร่อย เค้กครีมสดหอมหวาน ชอกโกแลตเย็นๆ กับนมปั่น พอเริ่มเข้าปากกระต่ายถึงรู้ว่าตัวเองหิวแค่ไหน

หลังมื้ออาหารแล้ว ความคิดของคนตัวเล็กจึงเข้าที่ กระต่ายลูบท้องที่กินทุกอย่างจนอิ่มแล้วเริ่มต้นเล่าช้าๆ

ทั้งความรู้สึกต่างๆ ทั้งความเสียใจ ความเกลียดชัง ความผิดหวังและความรู้สึกต่อพี่เสือ ถึงจะวกวน แต่เพื่อนๆ ก็ช่วยกันฟังเงียบๆ ในที่สุด ลักซอร์จึงยื่นน้ำให้ดื่ม สอางค์ถอนหายใจและบอกว่า

"กระต่ายได้บอกพี่เสือไหม ?"

น้องเล็กส่ายหน้า พึมพำตอบ "ไม่ได้บอกใครเลย... ตั้งแต่วันนั้น... วันนี้เพิ่งได้ร้องไห้"

"โถ..." สอางค์ร้องได้คำเดียว

"ต่ายรู้ไหม มีคนสอบไม่ติดเหมือนกันนะ" ลูกโป่งค่อยๆ ชักจูง กระต่ายเงยหน้าขึ้นมามองตาปริบๆ

"โป่งเหรอ ?"

"เอ่อ... ไม่ใช่ จัมโบ้น่ะ"

"อ๊ะ แล้ว..." ที่ผ่านมากระต่ายมัวแต่นึกถึงตัวเอง ไม่คิดถึงเพื่อนเลย น้องเล็กกัดริมฝีปากน้อยๆ จัมโบ้กับกระเจี๊ยบ... เป็นแฟนกันนี่นา แล้วกระเจี๊ยบต้องไปต่างจังหวัดนี่...

"เลิกกันแล้ว" ลักซอร์ตอบเรียบๆ เพื่อนๆ ถอนหายใจ "พวกมันก็... พยายามยื้อกันอยู่น่ะนะ แต่โบ้มันไม่ฟังใครไง เอาแต่ใจจะให้กระเจี๊ยบสละสิทธิ์"

ลูกโป่งยักไหล่ "ใครจะไปทำ"

มีสิ... สอางค์ส่งสายตาตอบ ลักซอร์เลยพูดต่อ

"ต่ายไม่ใช่คนเดียวที่ผิดหวัง เสียใจนะ โบ้มันยิ่งกว่าสิ โดนแพ๊คคู่เลย"

"แล้ว แล้วตอนนี้..."

"เมาอยู่"

"พวกเราไปเยี่ยมโบ้วันก่อนเนี่ย ทั้งอกหัก ทั้งสอบไม่ติด"

"เห็นว่าจะเข้าเอกชนน่ะ... แล้วจะพยายามง้อเจี๊ยบใหม่"

กระต่ายพยักหน้า "อื้อ ดีจัง..."

"กระต่ายก็เหมือนกันนะ สอบไม่ได้ไม่ใช่จุดจบเสียหน่อย ยังมีอีกตั้งหลายที่นะ" ลูกโป่งปลอบ

ใบหน้าหวานซูบก้มลง ก่อนเอ่ยตะกุกตะกัก "มัน... ไม่ใช่เรื่องนั้นเรื่องเดียวน่ะ"

"ที่ว่าเกลียดตัวเองเพราะสู้เสือไม่ได้น่ะหรือ ?" ลักซอร์ยิงตรงกลางเป้า เธอเชยคางมนขึ้น สบตากลมตรงๆ "แล้วทำไมต้องสู้ ? ทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ? ถึงจะเป็นฝาแฝดกันแต่ก็เป็นคนละคน"

"แต่... แต่... รู้ไหมว่าเราฉุดพี่เสือแค่ไหน" พูดแล้วน้ำตารื้นเบ้า สอางค์พยายามสะกิดลักซอร์ให้หยุด แต่เพื่อนสาวกลับชักสีหน้าตอบ

"แล้วยังไง ? ใครมันจะไปฉุดใครได้ เสือมันเลือกของมันเอง ต่ายจะทำอะไรได้ ? ถ้าชีวิตมันฉิบหายเพราะต่าย แล้วไง ? มันเลือกของมันเอง"

กระต่ายอ้าปากค้าง "แต่... แต่..."

"เหมือนต่าย ชีวิตของต่าย เลือกเอา จะนั่งเศร้า เกลียดทุกคนบนโลกแบบนี้ไปเรื่อยๆ โทษคนนั้นคนนี้ หรือจะเดินต่อไป พิสูจน์ว่าตัวเองดีพอที่จะเคียงข้างเสือ ?"

"ใจร้าย" ลูกโป่งพูดเบาๆ สอางค์ถอนหายใจ แต่ลักซอร์ยังไม่หยุด

"ทำสิ่งที่อยากทำ อย่าให้ใครมาหยุดได้ ถ้าหากเสือมันเลือกแบบนั้น ก็ช่างมันปะไร ไม่มีใครมีสิทธิเปลี่ยนใครได้ เลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อยากได้ ในขณะที่ยังมีสิทธิเลือกเถอะ"

"..." กระต่ายก้มหน้าลง เห็นหยาดน้ำใสหล่นลงบนมือ สอางค์รีบโอ๋อีกครั้ง

"ใจเย็นๆ นะต่ายน้อย"

"มึงนี่น้า... มาทำให้เพื่อนรู้สึกดีขึ้นนะโว้ย ไม่ใช่ทำให้เลวลง" ลูกโป่งเบ้ปาก

"กูแทงใจดำใช่ไหม ?" ลักซอร์ลุกขึ้นยืน กอดอกมอง "สิ่งที่ต่ายต้องการคืออะไร กลับไปคิดดู แล้วทำมันซะ อย่าเอาคนอื่นมาเป็นตัวแปร ป่ะ อางค์ โป่ง กลับ!"

"หะ หา!" สอางค์ลุกแทบไม่ทัน

ลูกโป่งฟังแล้วนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า "จริงของซอมัน ป่ะ กลับ!"

"อ๊ะ" กระต่ายน้ำตาคลอเบ้า ยื้อเพื่อนสาวไว้แน่น

สอางค์จับมือน้อยไว้ "ต่ายน้อย... ถึงซอมันจะใจร้าย แต่มันพูดถูก... บางครั้งที่คนเราต้องการไม่ใช่มือที่ลูบหลังนะ แต่เป็นมือที่ผลักไปข้างหน้า... ต่ายน้อยต้องเจ็บ ถึงจะเดินต่อได้"

สิ้นคำพูด เพื่อนก็จากไปหมดแล้ว ปล่อยกระต่ายอยู่ที่เดิม...

ประตูห้องเปิดทิ้งไว้ พี่เสือเยี่ยมหน้าเข้ามา...

ดวงตากลมชุ่มน้ำสบเข้า กระซิบเบาๆ "พี่เสือ..."

"คนดี..." พี่ชายค่อยๆ เดินเข้ามา เมื่อกระต่ายอ้าแขนออก พี่เสือจึงอุ้มน้องไว้ในวงแขน พรมจูบบนหน้าผากนิ่ม "ตัวเล็ก... สุดที่รักของพี่"

กระต่ายมุดตัวอยู่ในอ้อมแขนอุ่น แล้วเงยหน้าขึ้น ยืดจนสุดตัว อ้าแขนกอดคอพี่ชาย ริมฝีปากอิ่มจึงค่อยวางทาบทับบนริมฝีปากร้อน

...จูบที่กระต่ายเริ่มต้นก่อน เหมือนจะขอโทษและบอกความรู้สึกทั้งหมดในหัวใจ

จูบหวาน... นุ่มนวล กระต่ายค่อยๆ เผยอริมฝีปากออก ให้พี่เสือสอดลิ้นเข้ามาอย่างเต็มใจ และปล่อยให้ดูดดื่มทั้งความคิดถึงและความรัก

จนเมื่อผละออก กระต่ายพนมมือไหว้ กราบลงกลางอก "หนูขอโทษนะครับ..."

หัวใจพี่เสือพองฟู รีบคว้ามือน้อยไว้ พรมจูบทุกนิ้ว "ไม่เป็นครับ... ไม่เป็นไร ไม่ว่าต่ายน้อยจะเป็นยังไง พี่เสือก็รักกระต่าย"

น้องเล็กไม่ตอบ มีเพียงอ้อมแขนที่โผเข้าหา "รัก... รักพี่เสือที่สุดเลย"







พอจบเรื่อง กระต่ายกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ที่ตัก คุณพ่อดุลูกชายคนเล็กก่อนจะรับขวัญด้วยจูบแรงๆ ตรงแก้ม คุณแม่เองก็น้ำตาซึม ขอร้องไม่ให้กระต่ายทำแบบนี้อีก

"อย่าทำแบบนี้นะลูก... รู้ไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วง" กระต่ายฟังแล้วก็ร้องไห้อีกครั้ง โผเข้าหาแม่แล้วเกาะแน่นเป็นลูกลิง

...ไม่มีใครรักกระต่ายได้เท่าคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว...


หลังจากนั้นสองสามวันคุณพ่อมีของเซอร์ไพร์สให้เด็กๆ แบบที่ลูกทั้งสองคนตาค้าง ขยี้ตาแรงๆ ก่อนหันไปหาความช่วยเหลือจากแม่

คุณแม่ยิ้มกริ่ม แต่ไม่ตอบอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่สามี

"คอนโดนี้น่ะ พ่อซื้อไว้ห้องนึง เอาไว้ให้เสือกับต่าย"

คอนโด... กระต่ายกับเสือไม่ใช่เด็กฟุ่มเฟือย แทบไม่เคยขอร้องเอาแต่ใจกับพ่อแม่ขอข้าวของราคาแพง แล้วจู่ๆ คุณพ่อก็ยื่นกุญแจคอนโดที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยพี่เสือนักให้ บอกว่าพ่อซื้อไว้ให้สองพี่น้อง

ของชิ้นโต... ชิ้นแรกๆ ที่ได้รับมูลค่ามหาศาลสำหรับเด็กอายุสิบแปดสองคน

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโอนชื่อกัน ทำหน้าแบบนั้นทำไม ?"

"เอ่อ สำหรับเสือ... เสือว่ามัน... เยอะไป" พี่เสือกระแอม แต่คุณพ่อหัวเราะ

"เสือเอ๊ย... เรายังเด็กเกิน คอนโดตรงนี้น่ะ พ่อซื้อมาได้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเพราะหลุดจำนอง... แล้วก็ พ่อกับแม่ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรจะให้เราสองคน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่เคยมีขาดทุน ยิ่งทำเลตรงนี้แล้ว ไม่ต้องห่วง พอเรากับน้องโตขึ้น ก็ขายตรงนี้เสีย เอาเงินไปตั้งตัว เข้าใจไหม ?" คุณพ่อสมเป็นคุณพ่อ ขนาดของขวัญมูลค่าสูงยังมีความหมายและมองการณ์ไกล

เสือพยักหน้า กระต่ายน้อยที่หลบหลังพี่ชายพยักหน้าตาม แต่สีหน้าไม่ค่อยเข้าใจนัก

"แล้ว... หนูกับพี่เสือกลับบ้านไม่ได้แล้วเหรอ ?" ลูกคนเล็กถามเสียงอ่อย คุณพ่อตอบยิ้มๆ

"ได้ทุกเมื่อ คอนโดนี่ก็ถือเป็นบ้านพักก็แล้วกัน"

"แต่หนู... แต่หนู...  สอบไม่ติด"

"ยังอยากเรียนกับพี่เสืออยู่ไหมล่ะ ?"

เจ้าตัวน้อยพยักหน้า คุณพ่อเลยสรุปให้ "งั้นก็ไม่ยาก หลังจากนี้มีรอบเก็บตกอีก แต่ไม่มีของคณะต่ายน้อย เพราะฉะนั้นคงต้องรอสอบปีหน้า"

"เอ๋..."

"เสียเวลาอีกปีก็ช่างมันเถอะ กระต่ายเตรียมตัวให้ดีๆ ปีหน้าจะได้เข้าเรียน เข้าใจนะครับ ?"

กระต่ายตั้งตัวไม่ทัน ใบหน้าน้อยเงยขึ้นสบพี่ชายและบุพการี 

หลังเรื่องราววันนั้นแล้ว กระต่ายนึกว่าจะโดนดุด่าเสียอีก... แต่สิ่งที่กระต่ายเผชิญไม่ใช่ความผิดหวังจากครอบครัว แต่เป็นอ้อมกอดแข็งแรงและของขวัญชิ้นใหญ่ ทั้งๆ ที่กระต่ายเป็นเด็กโง่ ไม่ได้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ภาคภูมิใจอะไรเลยแท้ๆ

ก้อนแข็งๆ บางอย่างจุกอยู่ที่คอ ดวงตาแสบร้อน แล้วคนบ่อน้ำตาตื้นก็ร้องไห้โฮ ผละออกจากพี่ชาย กางแขนให้คุณพ่ออุ้ม

"พ่อจ๋า ฮือออ หนูขอโทษ"

"โอ๋ๆ ร้องไห้ทำไมตัวเล็ก ร้องอีกแล้วนะ เดี๋ยวพ่อตีเลย"

กระต่ายมุดอยู่ในวงแขนกว้าง ซุกใบหน้ากับอกคุณพ่อ ไม่ใช่ดีใจที่ได้รับของขวัญหรือการอภัย แต่เพราะดีใจเหลือเกินที่เป็นที่รัก... ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เอาไหนที่สุด


....

ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
คอนโดของสองพี่น้องขนาดกะทัดรัด สองห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัวและห้องนั่งเล่น มีระเบียงเล็กๆ ยื่นออกไปเห็นถนนยาวเหยียด คุณแม่พาทั้งคู่ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองสภาพดีมาตกแต่ง คุณพ่อจ้างช่างมาปรับปรุงห้องน้ำและห้องนอน หลังจากชุลมุนวุ่นวายได้เดือนกว่า คอนโดของเด็กๆ ก็พร้อมเข้าอยู่ กระต่ายก็สมัครเข้าโรงเรียนกวดวิชาแบบเรียนทั้งวันเรียบร้อยด้วยความมุ่งมั่น

วันหนึ่งที่คุณพ่อไปทำงาน เสื้อผ้าถูกแพ๊คใส่กระเป๋า กระต่ายตาแดงๆ ดูตู้เสื้อผ้าที่ว่างเปล่าอยู่นาน จนพี่เสือต้องลากน้องขึ้นรถ

"อ้อ ลืมไป" คุณแม่ทักทั้งคู่ "อยู่กันสองคนก็ระวังๆ นะลูก อย่าเอาแต่เที่ยวเล่น ล็อกบ้านช่องห้องหับให้ดี"

"ครับ"

"เสือดูแลน้องด้วย"

"ครับ"

"ต่ายน้อยอย่าดื้อนะ"

เจ้าตัวเล็กยิ้มฝืนๆ "หนู... ไม่ใช่เด็กแล้วซักหน่อย"

คุณแม่ถอนหายใจ ยื่นกุญแจรถให้พี่เสือ "เอ้า เอารถเก่าของพ่อไป พ่อเค้าให้เราเอาไว้ใช้ เสือมีใบขับขี่แล้วนี่ ?"

เสือพยักหน้า คุณพ่อลากเสือไปหัดขับรถตั้งแต่อายุได้สิบแปดพอดี

"เผื่อกระต่ายเลิกดึกๆ หรือเราต้องไปไหน ไม่มีรถใช้จะลำบาก"

สองพี่น้องยกมือไหว้คุณแม่ เธอจึงยิ้มน้อยๆ ให้

"เอาล่ะ ไปเถอะ เดี๋ยวจะมืด"

ฝาแฝดขึ้นรถคันเก่าของคุณพ่อ กระต่ายเกาะเบาะข้างคนขับ หันกลับไปดูร่างเล็กของมารดาหันหลังกลับเข้าบ้าน... ดวงตากลมรื้นน้ำตาอีกครั้ง

แผ่นหลังของแม่คล้ายกับกระต่าย บอบบางแต่ดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน...

...ลูกเสือ ลูกกระต่ายของคุณพ่อคุณแม่ออกจากรังอันแสนปลอดภัยแล้ว





โรคโฮมซิคที่ได้ยินมานานเป็นอย่างไร เสือเข้าใจก็ตอนย้ายมาอยู่ข้างนอก น้องเล็กของเขาใช้ชีวิตแบบสังกะตาย ไม่ยอมให้ 'กิน' ตามสัญญาเอาเสียดื้อๆ พอตกดึกก็แอบร้องไห้หาแม่ เสือรู้สึกว่าตัวเองเป็นโจรป่าฉุดคร่าเอาลูกคนอื่นมาเป็นเมีย

กระต่ายกระตือรือร้นเพียงเรื่องเดียว... กลับบ้าน

จากที่คิดว่าจะกลับบ้านเดือนละครั้ง กลายเป็นสัปดาห์ละครั้ง เสือได้แต่กุมขมับ

กระต่ายเริ่มเรียนพิเศษได้สองสัปดาห์แล้ว นอกจากออกไปเรียนพิเศษตอนสิบโมงเช้าทุกๆ วัน สุดที่รักของพี่เสือก็ไม่ยอมออกไปไหน มือคอยแต่จะกดโทรศัพท์หาแม่ น้องเล็กยิ่งอาการหนัก เมื่อเสือไม่ได้อยู่เป็นเพื่อน กิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยเริ่มก่อนเปิดเทอมประมาณครึ่งเดือน กระต่ายตาแดงๆ ดูพี่ชายสะพายเป้ออกจากห้อง

"แน่ใจนะว่าไม่ออกไปพร้อมพี่ ?" เสือถามย้ำ พิธีปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัยเริ่มตอนแปดโมง กระต่ายตื่นขึ้นมาปิ้งขนมปังง่ายๆ ให้พี่แล้วนั่งจุมปุ๊กอยู่คนเดียว

น้องส่ายหน้า แต่ปากอิ่มเบะลงเป็นเด็กน้อย "ฮืออ หนูก็เหงาสิ"

"ไม่เหงาหรอก สิบโมงก็ออกไปเรียนแล้วนี่ ถ้าขึ้นรถเมล์ไม่ถูกก็นั่งแท๊กซี่ไปนะ"

กระต่ายดูนาฬิกา "ตอนนี้เจ็ดโมงเอง... จะให้หนูทำอะไรล่ะ"

"กลับไปนอนก่อนก็ได้ คนดี... อย่าร้อง" เสียงพี่ชายฟังดูอ่อนอกอ่อนใจ กระต่ายขยี้ตาแรงๆ แล้วพยักหน้ารับ เสือคว้าเอวบางมากอดแล้วกดจูบบนหน้าผาก "ไม่เป็นไรนะ ไว้ตอนเก้าโมงพี่จะโทรหาอีกที..."

"ฮื่อ... พี่เสือขับรถดีๆ นะ" เสียงหวานละห้อย เสือยิ่งอ่อนใจหนัก แบบนี้จะกล้าทิ้งเอาไว้คนเดียวได้อย่างไรกัน...

...

กว่าน้องจะคุ้นเคยกับการอยู่ลำพังในวันที่พี่ชายไม่อยู่ก็เดือนกว่าแล้ว เขาสำรวจรอบๆ ที่พัก พบร้านอาหารอร่อยหลายร้าน ตลาดใกล้ๆ กันก็คึกคัก มีทั้งของสดและอาหารสำเร็จรูปราคาไม่แพง บางวันสอางค์และลูกโป่งที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้วก็จะมารับไปกินข้าวด้วย ตอนกลางวันที่พี่เสือไม่มีเรียนก็จะพากระต่ายไปหาอะไรกินแถวๆ มหาวิทยาลัย

ดูอย่างดูครึกครื้น สนุกสนาน... แต่กระต่ายไม่มั่นใจว่าความรู้สึกวูบโหวงที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความเหงาที่พี่เสือไม่อยู่ หรือเพราะอะไรกันแน่

ในทุกวันหยุด พี่เสือและกระต่ายหยุดอยู่คอนโด กระต่ายทำงานบ้าน ทำกับข้าวคนเดียวทั้งหมด เพราะถือว่าพี่เสือยังต้องเรียนหนังสือ ควรปล่อยหน้าที่นี้ให้เป็นของคนสอบไม่ติดดีกว่า

แต่พี่เสือก็ใจดี... ทั้งกอด ทั้งหอม ถึงจะออกปากอ้อน 'เรื่องอย่างว่า' บ้าง... แต่พอเห็นกระต่ายท่าทางไม่สบายใจก็ไม่ได้พูดขึ้นมาอีก

อีกอย่าง... พี่เสือ... คนรักของกระต่ายเป็นคนมีความสามารถ สอบย่อยทุกครั้งก็ได้เต็มเกือบทุกครั้ง รายงานเกือบทุกเล่มก็ได้เอ เพื่อนๆ มาขอให้ติวเยอะแยะ แต่พี่เสือปฏิเสธทุกราย ในสายตาพี่เสือ กระต่ายยังคงเป็นอันดับหนึ่ง

เช่นนี้แล้ว กระต่ายตัดใจไม่ลงจริงๆ ที่จะเห็นคนหนุ่ม รูปร่างแข็งแรงสง่างาม หน้าตาหล่อเหลา หัวสมองดีมาขัดห้องน้ำ ตัวเหม็นเหงื่อ หน้ามันซ่กอยู่หน้าเตา...

...งานจิปาถะทั้งหมดน่ะ ให้กระต่ายทำดีกว่า






วันนี้ก็เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านๆ มา เป็นบ่ายวันอาทิตย์ที่แสนร้อนอบอ้าว กระต่ายและเสือกลับมาจากบ้านใหญ่ น้องเล็กบอกให้พี่ชายแวะเข้าห้างเพื่อซื้อของเข้าบ้าน

ภายในห้างแอร์เย็นฉ่ำ พี่เสือขี้หงุดหงิดที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งกับที่จอดรถของห้างจึงได้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง กระต่ายรู้นิสัยดีเลยไม่ชวนคุยให้อารมณ์เสียอีก

สองพี่น้องเดินเงียบๆ มีกระต่ายคอยเข็นรถไปตามแผนกต่างๆ หยิบข้าวของลงจากชั้นอย่างคล่องแคล่วอยู่คนเดียว เสือจะพูดหรือขยับตัวบ้างก็ตอนกระต่ายหยิบของที่อยู่สูงไม่ถึงเท่านั้น

"พี่เสือ จะเอากลิ่นไหน  ?" กระต่ายทำลายความเงียบขึ้นมา ถึงคนจะคึกคัก รอบข้างจะมีแต่เสียงจอแจ แต่ระหว่างพวกเขากลับเงียบเหลือเกิน

"เอาที่ต่ายน้อยเลือกนั่นแหละ" เสือตอบเรียบๆ ไม่ได้สนใจน้ำยาปรับผ้านุ่มในนุ่มบางเลย

คนฟังขมวดคิ้ว "คราวที่แล้วเลือกไปก็ไม่ชอบนี่นา"

"เลือกให้เสร็จๆ เถอะ" คำตอบเหนื่อยหน่าย "พี่เหนื่อยจริงๆ ต่ายน้อย รีบกลับบ้านเถอะ"

กระต่ายถอนหายใจ เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นกุหลาบวางในรถเข็นแล้วไม่ตอบอะไรอีก

เพราะไม่อยากให้พี่เสือหงุดหงิดมากไปกว่านี้ น้องเล็กเลยเข็นรถผ่านแผนกอาหารสดทั้งที่ต้องหาของเติมตู้เย็นแล้วก็ตาม

ถึงจะยังไม่เคยทะเลาะกัน ถึงพี่เสือจะตามใจกระต่ายมากขนาดไหน แต่ไม่ใช่ว่ากระต่ายเพิ่งรู้จักพี่เสือได้วันสองวัน น้องเล็กรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เอาแต่ใจ เมื่อไหร่ที่ควรตามใจ

พี่เสือน่ะอารมณ์ไม่จอยสุดๆ ทั้งหงุดหงิดจากรถติดหนึบระหว่างทางกลับคอนโดและหงุดหงิดกับที่จอดรถที่มีไม่พอของห้าง จนต้องวนรถอยู่หลายรอบ เสียเวลาไปเกือบชั่วโมงทีเดียว กระต่ายจึงสงบปากสงบคำ ไม่พูดอะไรมากให้พี่เสือต้องหงุดหงิดเพิ่ม


ระหว่างรอชำระเงิน กระต่ายยืนรอเท้าแขนบนรถเข็นอย่างเบื่อๆ พี่ชายถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกอยู่ข้างๆ ดูท่าทางพี่เสือจะอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว น้องเล็กจึงเงยหน้าขึ้น หมายจะชวนพี่คุยคลายเครียด แต่ร่างสูงกลับเมินเสียงหวาน ยืดตัวขึ้นสูง แล้วหันกลับไปด้านหลัง กระต่ายชะงักกึก เหลือบมองตามองตามแล้วแอบกัดริมฝีปาก...

...พี่เสือมองตามสาวสวยคนหนึ่งตาวาว

กระโปรงสั้น ขายาว เสื้อตัวเล็กรัดจนเห็นหน้าอกอวบอิ่ม เธออวดผิวกายขาวสะอาดน่าอิจฉา... ก็ไม่แปลกหรอกที่พี่เสือจะชอบดู กระต่ายก้มดูตัวเองแล้วหัวใจดวงน้อยแอบหล่นวูบไม่รู้ตัว

ตัวเตี้ย ไม่มีอก ไม่มีก้น เป็นผู้ชายทั้งเนื้อทั้งตัว แล้วยังไม่ฉลาดเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีประโยชน์ ทำตัวได้แค่เป็นกาฝากคนรักเท่านั้น...

พลันความคิดด้านลบก็สะดุดลง เมื่อร่างสูงใหญ่ข้างๆ หายไปแล้ว ดวงตากลมเห็นแค่แผ่นหลังกว้างไวๆ ที่ตามสาวสวยคนนั้นไป

พี่เสือ! กระต่ายเบิกตากว้าง

"คุณลูกค้าคะ ?" พี่สาวแคชเชียร์เรียกกระต่ายให้ผลักรถไปชำระเงิน กระต่ายสะดุ้งสุดตัว แล้วลนลานผลักเข้าไปยังช่องแคบๆ

กำลังจะหยิบวางบนสายพาน ในหัวหมุนติ้วกลับถูกแช่แข็งทันใด

กระต่ายไม่มีเงินติดตัวสักบาท! โทรศัพท์ก็อยู่ในรถ!

เพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองไม่สมควรใช้เงินให้คุณพ่อคุณแม่สิ้นเปลืองเลยไม่ค่อยพกเงินเท่าไหร่และไปไหนมาไหนพี่เสือก็เป็นคนจ่ายตลอด คนตัวเล็กเลยเหงื่อแตกพลั่ก ร่างสั่นน้อยๆ

"ลืมเงินเหรอ ?" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้น กระต่ายฝืนใจเงยหน้าขึ้น คุณอาหนุ่มสวมเสื้อเชิร์ตสีฟ้า พับแขนเสื้อที่ต่อคิวถัดจากเขาส่งเสียงถามอย่างอารี

"วางของเถอะ เดี๋ยวอาออกให้ก่อน"

กระต่ายแทบร้องไห้ ทั้งอับอายและโกรธเคือง ดวงตาแสบเคืองจนน้ำตาจะคลอหน่วยอยู่แล้ว คุณอาใจดีก็ช่วยกระต่ายเรียงของบนสายพาน แล้วพูดเบาๆ ว่า "รีบๆ วางดีกว่านะ แคชเชียร์เค้าหงุดหงิดแล้วเห็นไหม" รอยยิ้มถูกส่งมาพร้อมกัน กระต่ายสะท้านอก รีบสูดจมูกแล้วทำตาม

"ไม่เอา อย่าร้องๆ เก่งจังเลย มาซื้อของเองด้วย กี่ขวบแล้วครับ ?" คนใจดีไม่เพียงแต่ช่วยกระต่ายจัดของแล้วยังช่วยปลอบใจด้วย ท่ามกลางเสียงดังตี๊ด ตี๊ดของเครื่องแสกนและบาร์โค้ด กระต่ายพนมมือไหว้อย่างซาบซึ้ง

"ขอโทษนะครับ... อายุสิบแปดแล้ว พอดีมากับพี่ชายแล้ว..." เสียงหวานขาดห้วงไปเมื่อนึกถึงคนที่ผลักให้อยู่ในสถานการณ์ลำบาก "...คลาดกัน"

"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวอาช่วยหาพี่ชา..."

"ต่ายน้อย!" เสียงทุ้มดังกลบประโยคของคนใจดี พี่เสือหอบฮั่กพาตัวเองมาอยู่ข้างๆ น้อง

"อ้าว เจอกันแล้ว" คุณอาพูดยิ้มๆ "อย่าหลงกันอีกนะ"

"...ครับ" ร่างเล็กรับคำเสียงแผ่ว ของชิ้นสุดท้ายถูกบรรจุลงในถุงพลาสติกพอดี พี่สาวแคชเชียร์บอกราคาด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ เสือจึงควักเงินจ่ายแล้วหยิบถุงใส่รถเข็นท่าทางเฉยเมย ไม่พูดอะไรกับคนที่มาช่วยน้องชายสักคำ

เพราะถูกสอนมาดี กระต่ายจึงดึงชายเสื้อพี่ชาย "พี่เสือ คุณอาเค้ามาช่วยหนูไว้นะ"

ริมฝีปากหนาเหยียดตรง หน้าตาไม่น่าดูเลย ดวงตาคมดุจัดหันกลับไปมองชายหนุ่มข้างๆ "ขอบคุณครับ" น้ำเสียงแข็งห้าว ไม่เป็นมิตรทำให้กระต่ายหน้าเหยเก ไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านี้นอกจากรีบยกมือไหว้คุณอาแล้วบอกลา







ทางกลับคอนโดมีแต่ความเงียบ ทั้งๆ ที่โกรธจนจะเป็นลม แต่หน้าตาพี่เสือก็บอกบุญไม่รับเหมือนกัน กระต่ายมองแล้วก็หงุดหงิดเหมือนกัน

เสือกระแทกมือเข้าเกียร์เสียงดัง คนนั่งข้างๆ สูดลมหายใจลึก... เตือนตัวเองให้ขึ้นใจ

เขาไม่มีสิทธิโกรธ... เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสวยๆ อกอึ๋ม... แล้วกระต่ายก็ผิดที่ไม่พกเงินเอง...

...ใช่ กระต่ายไม่พกเงิน พี่เสือก็รู้ดี!

รถติดยาวเหยียดเป็นแพ กระต่ายได้แต่เฝ้าคิดว่า แล้วพี่เสือเล่า... มีสิทธิโกรธอะไรกระต่ายด้วย ? ถึงจะเข้าใจว่าพี่เสือขี้หึง ขี้หวง แล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้กระต่ายโกรธ... โกรธมากเพราะพี่เสือเองไม่ใช่หรือที่ทิ้งกระต่ายไปก่อนน่ะ!

ราวกับจะตอบคำถาม เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้น "ทำไมคลาดสายตาไม่ได้เลย ?"

กระต่ายไม่ตอบ ตอนนี้ในใจก็เดือดปุดๆ เหมือนกัน

"แป๊บเดียวก็มีผู้ชายเข้าหา" เสียงยังดังต่อเนื่อง น้ำเสียงฟังดูน่าเกลียดเหลือเกิน เสียงหวานๆ ที่ปลอบกระต่ายหายไปไหนแล้วเล่า ? พี่เสือควรจะขอโทษกระต่ายสิ!

"กระต่าย ?"

ตากลมกระพริบปริบๆ แล้วมองออกไปด้านนอก ไม่ตั้งใจจะใช้ความเงียบเข้าข่ม แต่เพราะไม่อยากตอบให้พี่เสือโกรธมากไปกว่านี้มากกว่า

"...."


พี่เสือเงียบไป... ไม่พูดอะไรจนกระทั่งถึงคอนโด

...






กระต่ายใจเย็นลงแล้ว กำลังทยอยเรียงของใส่ตู้เก็บของ พี่เสือพอมาถึงก็นั่งหน้าโซฟา เปิดทีวี ดีที่ไม่สั่งให้กระต่ายเอาเบียร์มาเสิร์ฟด้วย

คนตัวเล็กย่อเข่าลงจัดหมวดหมู่ของ ไม่ได้สนใจพี่ชายที่ลุกจากโซฟามายืนค้ำศีรษะอยู่

"ทำไมไม่ตอบ ?"

มือบางชะงักไปชั่วครู่ ก่อนเจ้าตัวจะถอนหายใจ "พี่เสือโกรธหนูเรื่องอะไรล่ะ ?"

"ทำไมต้องทำท่าแบบนั้นกับคนแปลกหน้า!?" คนตัวโตกว่าเน้นเสียงหนัก ก้มตัวลงเชยคางมนให้เงยขึ้นสบ "ไม่รู้รึไงว่าทำแบบนั้นแล้วมันอันตราย!"

"หนูไม่ได้ทำอะไร" เสียงหวานตอบเรียบๆ พยายามข่มอารมณ์ "พี่เสือพูดเหมือนหนูทำผิด"

เสือชะงักไปบ้าง กระต่ายไม่รู้ว่าพี่ชายกำลังคิดอะไร... เพราะถ้าหากรู้ กระต่ายคงไม่พูดออกไป

"พี่เสือหยาบคายมากนะ เค้ามาช่วยหนูเฉยๆ แต่พี่เสือกลับจ้องเค้าเขม็ง... รู้ไหมว่าหนูอาย... อายซ้ำอายซ้อ... พี่เสือ!"

โครม!

กระต่ายล้มลงกองกับพื้น!

คนตัวโตผลักร่างเล็กบางลงจนหลังกระแทก ทั้งจุกและเจ็บ กระต่ายร้องเสียงหลง แต่ไม่ทันกับร่างหนาที่ขึ้นคร่อม ดันร่างลงไปให้ติดกับพื้นใหม่

"ทำไมอะไรน่ะ... เจ็บนะ!" เสียงหวานทั้งกราดเกรี้ยวทั้งลนลาน พยายามดันแผ่นอกกว้างออก

"อาย! อยู่กับพี่แล้วอาย!?" รอยยิ้มเหยียดปรากฏบนใบหน้า สองมือบีบคางเล็กให้เผชิญหน้า กระต่ายเบิกตาค้าง ร่างเล็กสั่นสะท้าน... เข้าใจแล้วว่าทำไมทุกคนกลัวเกรง...

...ดวงตาดุคมเหมือนสัตว์ร้ายวาวโรจน์ความโกรธเหมือนไฟแผดเผาอยู่ในนั้น ร่างกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามตะปบร่างน้อยเหมือนสัตว์ร้าย

กลัว...

คำนี้จุกอก พร้อมๆ กับความโกรธที่พวยพุ่งออกมาพร้อมๆ กัน กระต่ายไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร เนื้อตัวสั่นเทิ้มขณะโพล่งออกไป "แล้ว... แล้วที่พี่เสือทิ้งหนูไปล่ะ!"

คิ้วเข้มแค่เลิกขึ้นน้อยๆ ก่อนกัดฟันกรอดแล้วเหยียดยิ้ม "อยากรู้เหรอ ? หึ... งั้นก็ได้!" เขาลุกขึ้นไปยังโซฟา แล้วปาถุงกระดาษสีสันสดใสลงกับพื้นตรงหน้า

บนถุงปั๊มลายนูนตัวอักษรสีทองของร้านขนมหวานชื่อดัง... หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบ


"มาการอง..." เสียงหวานกระซิบแผ่ว ความรู้สึกบางอย่างบดบังความโกรธ ความกลัวจนหมดสิ้น... ก้อนแข็งๆ มาจุกอยู่ที่คอ ทำให้ดวงตาแสบร้อน

ถุงแบบเดียวกับที่สาวสวยคนนั้นถือ...

"ชอบไม่ใช่เหรอ ? เจ้านี้หมดไว... เลยต้องรีบไปซื้อ ตอนแรกไม่รู้ว่าเปิดสาขาที่ห้างนี้ด้วยพี่เลยต้องไปถาม"

กระต่ายประคองถุงกระดาษด้วยสองมือ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้สั่น... แต่ทำไมถุงสีสวยถึงสั่นขนาดนั้นล่ะ ?

พี่เสือ... พี่เสือ... บ้าบอสิ้นดี

บนหลังมือขาว หยาดน้ำอุ่นค่อยๆ หยดลง กระต่ายไม่คิดจะเช็ดมันทิ้ง เขาเงยหน้าสบกับใบหน้ากราดเกรี้ยวตรงหน้า... ตอบดวงตาดุร้ายด้วยรอยยิ้มหวาน

นานช้า... เปลวไฟแห่งโทสะในดวงตาสัตว์ร้ายจึงค่อยจางลง มีเพียงความเยือกเย็นและเงียบงัน เสือไม่พูดอะไร ไม่ตอบสิ่งใด และไม่ได้เข้าประคองคนรักเข้าสู่อ้อมกอด

บรรยากาศเงียบเชียบ กระต่ายหลับตาลงทั้งๆ ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ใจน้อยๆ ฟูฟ่องราวกับจะโบยบิน และคงทำให้แผ่นอกบางพองขึ้นช้าๆ ก่อนจะระบายลมหายใจออกมายาวนาน

ริมฝีปากคนตรงหน้าเหยียดตรง ไม่ยิ้ม ไม่บึ้ง ไม่มีอารมณ์ใดๆ เหมือนเสือของทุกคน... แต่ไม่เหมือนพี่เสือของกระต่ายน้อยสักนิด...

...จะเป็นไรไปเล่า จะเสือร้ายหรือพี่เสือ ก็คือคนตรงหน้า คนหนุ่มที่เฉลียดฉลาดแต่กลับบ้าบอ... ได้น่ารักเหลือเกิน

ตากลมใสบริสุทธิ์ค่อยๆ เปิดขึ้นอีกครั้ง มือบางวางถุงกระดาษยับย่นลงกับพื้น แก้มนวลเนียนเป็นสีชมพูหวาน ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มค่อยๆ ขยับอย่างไม่แน่ใจนัก...

"พี่... เสือ"

คนรับฟังเพียงเลิกคิ้ว แต่นั่นก็เพียงพอแล้วให้เขาพูดต่อไป คนตัวเล็กรวบรวมกำลังใจที่มีทั้งหมด สูดลมหายใจลึก แม้แก้มจะแดงเหมือนจะแตก เนื้อตัวร้อนผ่าวราวกับจะระเบิดออก แต่เขาก็บังคับตัวเองให้สบตาคนตรงหน้า

เสียงหวานแผ่วเบา... ไม่ต่างจากขนนก แต่กลับทำให้คนตัวยักษ์สั่นสะท้าน

"พี่เสือ... เรามา.... มา.... มีอะไรกันเถอะ"





 

คอนโดขนาดเล็ก คับแคบ กลายเป็นโลกใบน้อยของคนสองคน พี่เสืออุ้มคนตัวเล็กที่ตัวแดงก่ำเป็นกุ้งต้มวางลงบนเตียง เสียงลมหายใจแผ่วเบาทั้งตื่นเต้น เขินอาย

เสือร้ายจ้องมองน้องไม่วางตา ร่างบอบบางยกมือขึ้นปิดหน้าไม่ยอมสบตาสักนิด เขาจึงหยัดตัวขึ้น ค่อยๆ ดึงสองมือออก มองแก้มกลมแดงจัดอย่างลุ่มหลง

แม้จะต้องการ... แต่บางอย่างเสมือนเสี้ยนเสียดแทงอยู่ในใจทำให้เขาเอ่ยปากออกไป

"ทำไม..." ทำไมถึงเป็นตอนนี้ ทำไมจึงต้องเป็นหลังจากการทะเลาะกัน...

นี่คือครั้งแรกของกระต่าย ครั้งแรกของเสือกับคนที่รักมากที่สุด แต่เหตุใดต้องเป็นที่นี่ ตอนนี้ ?

สองมือบางถูกกอบกุม ดวงตากลมแวววาวราวกับกวางน้อย เสียงหวานตอบกลับแผ่วเบาขาดห้วงด้วยความอาย "หนู... ไม่อยากเสียพี่เสือไป"

เสือไม่ถามต่อ เพียงแค่จุมพิตมือนิ่มเร่งเร้าให้พูดต่อ กระต่ายจึงกลืนน้ำลาย พยายามควบคุมร่างกายที่สั่นสะท้านจากความร้อนบริเวณที่ถูกจุมพิต "พี่เสือบ้า... บ้าที่สุด... เอาใจหนูเกินไป... ตอนที่ไปหาผู้... หญิงคนนั้น..."

"กระต่ายหึงเหรอ ?" รอยเย้าหยอกปรากฏบนดวงตาดุจัด กระต่ายหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ ใบหน้าคมสันบัดนี้ดูหล่อเหลา... เกินจริง แม้กระทั่งไรหนวดบนใบหน้าก็ส่งให้ดูคมเข้มสมชาย หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว...

...ตาย...ตายแน่ๆ กระต่ายหลงพี่เสือเกินไปแล้ว...

เบือนหน้าหนี คนตัวโตไม่ไล่ตามให้จนมุม เพียงแค่ดึงมือน้อยให้แนบกับอกกว้างแล้วกระซิบข้างหูนิ่ม "ฟังสิ..."

เสียงหัวใจเต้นตุบๆ ถี่ยิบ ไม่ต่างจากหัวใจกระต่ายเลย... พี่เสือคนบ้า...

"พี่ก็ตื่นเต้น... เขิน" รอยยิ้มชวนละลาย กระต่ายคงละลายไปแล้วจริงๆ เพราะไม่รู้สึกตัวเลยเมื่อพี่เสือแกะกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวเองออกเชื่องช้า แล้วลากปลายนิ้วสีทองแดงหยาบกร้านลงบนแผ่นอกขาว

ร้อน... ร้อนจัด แค่สัมผัสเบาๆ ก็ทำเอาทั้งร่างสั่นสะท้าน

"รักนะ..." จบคำหวานแสนเบาดังกระซิบ ริมฝีปากหนาก็ทาบทับ บดเบียดปากอิ่มอ่อนโยน... กระต่ายผวาตัวเข้าหาอ้อมอกแข็งแรง ปล่อยลิ้นร้อนให้โลมเลียโพรงปากราวกับจะกลืนกิน กระต่ายตอบสนองจูบอย่างเงอะงะ และแล้วจากจุมพิตแสนอ่อนโยนก็ร้อนแรง พร้อมๆ กับมือใหญ่ที่ลูบไล้ไปจรดหว่างขาขาว

"อื๊อออ"

เมื่อละริมฝีปากออก พี่เสือก็เคลื่อนตัวลงไปจูบต้นคอหวานหอม แลบลิ้นชิมรสเนื้อนวล สองมือทั้งบีบเค้นและนวดคลึงยอดอกสีชมพูเด่น กระต่ายร้องหวือ ครางลั่นพลางส่ายหน้า... ร่างกายกระต่ายถูกฝึกฝนให้ตอบรับสัมผัสของพี่ชายจนตอบสนองง่ายดาย

ริมฝีปากร้อนครอบตุ่มน้อยๆ สีหวาน ขบกัดดูดเม้มไม่เว้นว่าง อีกมือนวดคลึงจนเนื้อรอบๆ กลายเป็นก้อนกลม คนตัวเล็กสั่นน้อยๆ เมื่อมือหนาบีบแรง... จนกระแสไฟฟ้าในร่างกายพุ่งตรงไปยังท้องน้อย ทำให้สองขาเรียวหนีบแน่นตามสัญชาติญาณ กระต่ายส่งเสียงร้องหวาน

"อ๊ะะ อ๊าาาาาาาาาา"

ในหัวโล่งไปหมด... ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะทุ้มๆ หยอกเย้า "ถึงแล้วเหรอ ? หัวนมต่ายน้อยรู้สึกไวจังนะ"

เหมือนผู้หญิง... กระต่ายถูกทำเหมือนผู้หญิง... ตุ่มไตถูกเล้าโลมจนแข็งชันแดงจัด ทั้งยังแวววาวด้วยน้ำลาย กระต่ายคิดว่าจะตายเสียแล้ว... ทั้งรู้สึกไม่สบายตัวจากความชื้นแฉะในกางเกงตัวเองและมือหนาที่คอยเฝ้าลูบไล้ไปทั่ว คนตัวบางถูกล่อหลอกจนสมองมึนงง แทบไม่รู้ตัวเมื่อถูกปลดกางเกงขาสั้นออกพร้อมๆ กับกางเกงในตัวน้อย...

...ตัวกระต่ายขาวสะอาดเหมือนทารกแรกเกิดปรากฏต่อหน้า เสือยิ่งรุ่มร้อน ปฏิกิริยาไร้เดียงสาที่หลับตาแน่น ก่อนจะค่อยๆ ช้อนมองเขาอย่างตื่นเต้น... เขินอายแทบเอาเสือร้ายถึงจุดสุดยอด เด็กหนุ่มจุมพิตข้างแก้ม ลูบไล้เอวบางให้คลายความตื่นเต้น

"ต่ายน้อย... ถ้าเจ็บบอกพี่นะครับ"

"อื้อ" เสียงหวานรับคำอย่างล่องลอย ไม่รู้ว่าจะเข้าใจจริงหรือไม่ แต่เสือก็แลบลิ้นเลียกกหู ลิ้มรสเนื้อฉ่ำแทบทุกสัดส่วนและยังคงจูบ เลียไปจนถึงท่อนล่าง เอวบางสั่นสะท้าน ดวงตากลมเบิกโตเมื่อริมฝีปากหนาเข้าครอบท่อนเนื้อเล็ก สองมือยังลูบไล้พวงนุ่มทั้งสอง ลิ้นร้อนตวัดปลายขึ้นจากปลายจรดโคน สูบลึกเต็มปาก โลมเลียส่วนปลายอย่างทะนุถนอมจนกระต่ายดิ้นเร่า ท้องน้อยร้อนวูบวาบ ใบหน้างามชื้นเหงื่อเชิดขึ้นก่อนเปล่งเสียงครางลั่นพร้อมน้ำหวานฉีดพุ่งเต็มปาก

"อ๊าาา!"

คนตัวโตกลืนกินทุกหยาดหยด... หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นร่างน้อยนอนหายใจหอบรวยริน เขาจุมพิตริมฝีปากนุ่มก่อนจะจับพลิกตัว

กระต่ายนอนคว่ำ ซบหน้ากับหมอน แต่บั้นท้ายกลมถูกยกขึ้น เมื่อไม่เห็นใบหน้าอันเป็นที่รัก ร่างเล็กก็ดิ้นเร่าอย่างเอาแต่ใจ สองมือยันกายจะลุกกลับ

"ไม่เอานะ... พี่เสือ..."

เสือทาบทับตัวซ้อนลงมา ปลอบประโลมร่างตื่นกลัวอย่างอ่อนโยน "แป๊บเดียวนะครับคนดี ที่รักของพี่ ไว้ใจพี่นะ"

ถึงจะไม่ใช่มนตร์วิเศษ แต่เจ้าตัวน้อยก็สงบลงบ้าง "ฮืออ จะทำอะไรน่ะ"

สัมผัสเย็นชื้นค่อยๆ ปรากฏที่บั้นท้ายเปล่าเปลือย กระต่ายสะดุ้งเฮือก พยายามหันกลับไปดูแล้วก็ดิ้นแรง รู้สึกต่อต้านเต็มที่ "ทะ ทำอะไร!"

เด็กหนุ่มยึดสะโพกกลมไว้แน่น สูดดมกลิ่นหอมหวานแล้วตอบเชื่องช้า "ไว้ใจพี่นะ ตรงนี้ของกระต่ายยังไม่พร้อมเลย"

ไม่จริง... ไม่จริง กระต่ายเบิกตากว้าง จมูกโด่งๆ ลิ้นร้อนๆ น้ำลายเย็นๆ ของพี่เสือค่อยๆ เข้าไปตรงกลางบั้นท้าย ก้นกลมมนถูกแยกเป็นสองส่วน จุดอ่อนไหวภายในสีชมพูหวานถูกลิ้นละเลงไปทั่ว

"ฮื้ออ" สะโพกถูกเลีย แต่ท่อนเนื้อที่อยู่ด้านหน้ากลับแข็งขืน กระต่ายส่ายสะโพกอย่างทรมาน พยายามเอื้อมมือจะไปสัมผัสให้คลายความรุ่มร้อน แต่มือหนากลับยั้งไว้เสียก่อน

"ไม่ได้นะที่รัก จะเป็นผัวเมียกันแล้วต้องอดทนสิครับ" กระต่ายได้ยินแล้วหูอื้อตาลาย... แต่ไม่สามารถขัดขืนคนแข็งแรงกว่าได้ ได้แต่ปล่อยให้ลิ้นร้อนแยงเข้าไปยังกลีบเนื้อ รุกเร้าเข้าไปที่ที่กระต่ายไม่คิดไม่ฝันมาก่อน

นานช้า... ร่างกายกระต่ายถูกความร้อนเผาไหม้ แต่ลิ้นนั้นยังดึงดันสอดลึกเข้าไปจนเปียกชุ่มโชก... ปากทางนุ่มหวานไม่ต่างจากขนมแสนอร่อย ดวงตาคมจ้องมองน้ำลายตนเองจำนวนมากที่เอ่อล้นออกมาจากช่องทางคับแคบอย่างหยาบโลน

ไม่ใช่แค่สะโพกที่สั่นระริก แต่ร่างเล็กทั้งร่างก็สั่นไม่หยุด ทั้งหวาดกลัวและตื่นเต้น ปนกับความรู้สึกต่อต้าน...

..

ต่อข้างล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2014 23:41:13 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
...เสือไม่รีรอ นิ้วหยาบค่อยๆ เปิดเส้นทางบริสุทธิ์ เพียงปลายนิ้วที่ดึงดันเข้าไป กระต่ายก็สะบัดหน้าหนี ร้องออกมาแล้ว

"อื๊อ... อื๊อ... อะ... อะไร... พี่จ๋า..."

ยิ่งเมื่อถูกรุกรานร่างกายยิ่งเตลิด ร่างกายจุกเสียดจนพูดไม่ออก เพียงแค่นิ้ว... นิ้วเดียวเท่านั้นก็ฝืดเคือง คับแน่น น้ำตาใสค่อยๆ ไหลรินจากดวงตา พร้อมเสียงหวานอ้อนวอนปนกระเส่า

"ฮืออ อาา จุกก พะ.. พี่เสือ"

"อย่าเกร็ง... ที่รัก"

กระต่ายไม่ได้ยินอีกแล้ว ยิ่งเมื่อนิ้วที่สองสอดใส่ ทั้งจุกแน่นและเจ็บทรมานเหลือเกิน สองขาเรียวหนีบแน่น พยายามขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไป แต่ไม่สามารถสู้กับมือใหญ่ที่ดึงดังได้... เขาอาศัยความชื้นแฉะดันนิ้วที่สามเข้ามาอย่างฝืดเคือง กระต่ายกรีดร้องลั่นทั้งๆ ที่ริมฝีปากถูกกลืนกินอยู่

คับแน่น... ตอดรัด ช่องทางเล็กหดเกร็งไม่คลายตัว ไม่ว่าเสือจะเล้าโลมอย่างไร แม้ใจอยากค่อยๆ ทะนุถนอมให้ร่างเล็กผ่อนคลาย แต่ความกลัว ความเจ็บปวดทำให้กระต่ายดิ้นพล่าน ไม่ยอมรับ ไม่ยอมสานต่อบทรักอีกแล้ว... แล้วเสือเล่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงจะรักมากเพียงใด แรงปรารถนาอันไม่มีที่ระบายก็พลุ้งพล่าน เขารูดซิป ดวงตาเพ่งมองช่องทางสีหวานที่ยังปิดสนิท ภาพร่างบอบบางนอนเปลือยเปล่า สองขาหุบแน่น ใบหน้างามร้องไห้สะอึกสะอื้นนั้น ทำให้เขามั่นใจว่า ต่อให้เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่อาจอดใจไหว!

...ไม่ไหว... ไม่ไหวแล้วจริงๆ!

เสือจับร่างน้อยพลิกกาย ร่างกายที่ขาวสะอาดเริ่มแปดเปื้อนด้วยรอยจุมพิตสีแดงช้ำ ส่วนเร้นลับเปียกโชกด้วยน้ำลายมหาศาล สองขาที่พยายายามปกป้องตนเองยามนี้ไม่ต่างจากกลีบดอกไม้แสนเปราะบางที่ซุกซ่อนเกสรรสเลิศล้ำไว้ภายใน

ไม่มีผู้ใดทานทนใด!

"ต่ายน้อย พี่ขอโทษ" สิ้นคำ สองขาเรียวก็ถูกแหวกอ้า กลีบดอกไม้บอบบางถูกแหวกออก เกสรดอกแสนงดงามบานสะพรั่งก็เปิดเผยให้ผู้บุกรุกชื่นชม กระต่ายร้องอย่างตกใจ สองแขนรีบคว้าไหล่กว้างทั้งสอง... และยิ่งกัดริมฝีปากแน่นเมื่อท่อนลำขนาดใหญ่... ใหญ่เหลือเกินปรากฏตรงหน้า

"ต่ายน้อยไม่ต้องดู... หลับตานะคนดี... พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ"

เสายักษ์แข็งแกร่งที่ใช้สองมือโอบไม่มิด ยาวเกือบฟุตนั้นค่อยๆ ดุนดันตรงปากทาง หมายจะย่ำยีดอกไม้ให้ช้ำ เด็ดกินให้ไม่เหลือแม้นซาก เขาโน้มจุมพิตใบหน้าหวานแดงฉ่า ทั้งกลัว อับอายอย่างปลอบประโลม แต่เบื้องล่างกลับหยาบคายเสือกไสบดขยี้ความบริสุทธิ์ของกระต่ายตัวน้อย

"อ๊าาาาาา เจ็บ!!"

เสียงหวานกรีดร้องจนคับห้อง ลำคอแหงนเงยไปด้านหลัง ความใหญ่โตที่ผลุบเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ นำพาแต่ความเจ็บปวดแทบฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ แล้วยังความจุกแน่นที่ดันลึกจากท้องน้อย ขึ้นสู่กระเพาะและจนแทบถึงคอหอย มิใยที่สัตว์ร้ายจะเพียรจูบซับความเจ็บปวดเพียงใด แต่ร่างบอบบางที่เล็กกว่าครึ่งที่อย่างไรก็ไม่สมดุลกับการร่วมรักนั้นก็แข็งทือ ปลายเท้าจิกผ้าปูที่นอนแน่น หยาดน้ำตาหลั่งรินดั่งน้ำค้างต้องเกสรเป็นประจักษ์พยานความทรมาน สองขายังถูกยกขึ้นสูงเพื่อให้บั้นท้ายเปิดโล่ง และความรุ่มร้อนดึงดันเข้ามาให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น

"อ๊าา อ๊าา เจ็บบบ อ๊าาาาาาา พี่จ๋าา อย่าา!! อย่า!"

เสือลูบหลังลูบไหล่อย่างอ่อนโยน แต่ในขณะเดียวกันกลับคำราม กัดฟันแน่น ด้วยความตึงกระชับ คับแน่นที่ได้รับทำให้เขาเริ่มขยับตัวทั้งๆ ที่คนในอ้อมอกร่ำร้องให้หยุด

"ไม่เอา! ม่ายย เจ็บบบ หนูเจ็บ!" เสียงหวานร่ำร้อง... คร่ำครวญขอความเมตตา ปิศาจร้ายได้กลืนกินจิตใจผู้ชายที่รักที่สุดตรงหน้า ยิ่งเสียงครางแสนหวาน แสนทรมานดังเท่าใด เขาก็ยิ่งเริ่มเพิ่มความรุนแรงของท่อนล่าง...

...เสียดสีกลายเป็นกระแทกกระทั้น เส้นทางบริสุทธิ์ถูกแหวกอ้าให้ความหยาบคายเข้าครอบครอง เสือมุทะลุ ดึงดัน ยิ่งฟังเสียงหวานยิ่งเร้าอารมณ์ จมดิ่งลงสู่ห้วงรสกามแสนหวาน

เอวทรงสอบเสือกไสตัวเองเข้าสู่ภายใน ร่างเล็กที่รองรับความทรมานเริ่มคลายตัว ภายในช่องทางบีบรัดแนบแน่น เสือกระทุ้งตัวเองเข้าสู่จุดหวาบไหว... กระต่ายหลุดเสียงครางกระเส่า

"อ๊ะ..."

"ชอบตรงนี้ใช่ไหม ?"

ไม่ต้องตอบ แค่เล็บที่จิกลึกเข้ามาก็เร่งเร้าอารมณ์ เสือไม่นำพาความเจ็บปวด กระทุ้งตัวบดขยี้รุนแรงจนร่างเล็กขนลุกชูชัน แม้จะเจ็บปวด แต่ความหฤหรรษ์ที่มีมากกว่าทำให้ใบหน้างามแหงนเงย ดอกไม้งามถูกเด็ดขยี้ ย่ำยีและปรนเปรอด้วยความรุนแรง โลกทั้งใบของคนตัวน้อยสั่นไหว ถูกกระทำอย่างหยาบคายเสียจน... ท้องน้อยร้อนวูบวาบ ท่อนลำยักษ์วนเวียนกระแทกอยู่จุดเล็กๆ ภายใน กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ก่อตัวแล่นพล่าน กระต่ายหูอื้อตาลาย ไม่เห็นสิ่งใด ไม่ได้ยินสิ่งใด รสกามที่ถูกสอนสั่งทำให้ร่างกายระริกระรี้ยินดี ภายในเขาตอบรับด้วยการดูดรัดท่อนเนื้อยักษ์ไม่ยอมปล่อย ราวกับเป็นของโอชารส ความเจ็บปวดทรมานในตอนแรกเป็นดั่งภาพฝันที่จางหายไป...

ถูกเสียดสี.... ถูกกระทำ... ลำคอเพรียวแหงนเงย

"อ๊าา อย่า..ตรงนั้น..."

เสียงฉ่ำเยิ้มเฉอะแฉะดังลั่นห้อง เสียงเนื้อกระแทกเนื้อ.... กลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวกามและรสชาติแสนหวาน ทำให้สะโพกกลมบิดตัว เอวบางคอดแอ่นสูงต้อนรับความรุนแรงอย่างยินดี... ทั้งร่างกายสั่นระริก กระแสไฟฟ้าที่ก่อตัวได้เดือดพล่านทั่วร่าง ภายในสมองราวกับถูกจุดระเบิด ร่างกายแปรเป็นหดเกร็งสุดชีวิต รู้สึกเหมือนถูกโยนลงมาจากที่สูง... อาจเป็นสวรรค์ชั้นฟ้า สองขาหนีบแน่น สองมือจิกแผ่นหลังกว้างจนเลือดสดๆ ไหลตามซอกเล็บ

สัตว์ร้ายกู่ร้องคำรามก้อง สอดใส่สุดแรง กระแทกงัดแทงจนชนกับผนังภายในดังกึก!

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

ดอกไม้งามร่วงจากสวรรค์ ร่างกายหงิกงออย่างสุขสม ภายใต้เปลือกตาบางมีสีสันพร่างพรายเต็มไปหมด... และทั้งๆ ที่ถูกความใหญ่โตปักคาจนสุดลำอยู่ แต่ทั้งร่างกลับเบาหวิว... ราวกับอยู่บนเมฆ สมองขาวโพลนว่างเปล่า ไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าว่าสองขาถูกแบะอ้าให้กว้างยิ่งขึ้น เอวแกร่งจะได้เสือกไสเข้ามาให้ลึกยิ่งกว่า... ทั้งๆ ที่เบื้องหน้ายังสุขสมรุนแรง ท่อนลำน้อยๆ คายน้ำหวานออกมาจำนวนมากจนเนื้อตัวเปียกเยิ้ม ท่อนลำยักษ์ค่อยๆ สาวเข้าออกบดเบียดให้แนบชิดที่สุด มันยิ่งพองตัวใหญ่โตเมื่อผนังร้อนตอดรัดแน่นเป็นจังหวะ ทั้งคับ ทั้งรูดรั้งจนไม่มีช่องว่างใดๆ เหลืออยู่ แต่จู่ๆ เขากลับสาวลำออกเกือบสุดจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เอวบางแอ่วตามราวกับผวาหารสกาม แต่แล้วเมื่อถูกถอดถอนออกจนเกือบสุด ลำเสาก็กระแทกกลับเข้ามาด้วยแรงทั้งหมด!

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา!!"

ยอดอกถูกขบทึ้ง ระหว่างความใหญ่โตโยกวนภายในเป็นวงกลม... เอวบางถูกสะบัดไปตามจังหวะ สองขาสั่นระริก ปากครางตามความร้อนแรงที่ไต่ขึ้นสูงอีกครั้ง

"มะ... ไม่... อ๊ะ ตรงนั้น... อืมม อาา"

"ตรงนี้ ?" แกล้งกระทุ้งแรงๆ สองสามครั้ง สะโพกกลมก็บิดไปมาตอบรับความรัญจวน

"ฮาา อ๊าาา จะ... ร้อน... อ๊ะ" มือนุ่มคว้าไหล่เขา สะอื้นเบาๆ ขณะที่เอวบางแอ่นโค้ง ร่างกายจิกเกร็งอีกครั้ง... แม้ครั้งนี้จะไม่เท่ากับครั้งแรก แต่ความสุขสมนั้นก็ทำให้สมองน้อยๆ ว่างเปล่าไม่แพ้กัน... ไม่รู้ตัวว่าสองขาถูกอ้ากว้างให้เสือลิ้มรสเต็มที่ พร้อมๆ กับมือใหญ่ที่ลดลงมานวดคลึงท่อนลำเล็กให้คายน้ำหวานใสๆ ออกมาอีกเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งเสือสงสารเหลือเกิน เจ้าตัวน้อยแทบไม่มีน้ำรักให้ออกแล้ว ยังโดนเขากลั่นแกล้งไม่หยุด

เสือจูบแก้มเนียน ปรับเปลี่ยนท่าให้คนใต้ร่างสบายตัว มือหนาหยิบหมอนมาหนุนสะโพกให้สูง แล้วทั้งๆ ที่ยังปักคาอยู่ เขาจับข้อเท้าทั้งสองขึ้นสูง โหย่งตัวขึ้นสอดใส่จนสุดลำ กระต่ายอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้าง... เพราะบั้นท้ายมนถูกกระแทก... ความใหญ่โตเข้ามาลึกจนสุดลึก... ความยาวถูกรูดรั้งจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้ามาใหม่ เสียงหวานหวีดร้องจนแทบบ้า จังหวะรุนแรงทำให้กระต่ายทั้งร้องไห้ด้วยความหฤษหรรษ์และทรมาน ความยาวแทบถึงสะดือกระแทกเข้าออกรุนแรงที่สุด ถี่ยิบไม่ปล่อยเว้นว่าง

"แน่นน ซี๊ดดด"

"ใหญ่ ฮึอออ อ๊าา อ๊า อื๊ออ! " กระต่ายร้องไห้โฮ แต่กลับบีบรั้งท่อนลำจนแทบเป็นเนื้อเดียว

ความร้อนแรงเสียดสีจนท่อนลำเล็กพ่นน้ำใสๆ ออกมาอีกครั้ง แล้วท่อนเนื้อร้อนผ่าวในตัวก็ค่อยๆ เปลี่ยนจังหวะ ก่อนจะกระแทกเข้าจนถึงส่วนที่ลึกที่สุด ความร้อนผ่าวเต้นตุบๆ อยู่ภายใน กระต่ายแทบหมดสติไปแล้ว เขารู้สึกได้เพียงน้ำร้อนๆ ถูกพ่นรินรดเนื้อหวานภายใน รุนแรงจนร่างกายถูกกระตุกตามจังหวะการปลดปล่อย...

ดอกไม้แสนบริสุทธิ์ที่ถูกปกปักษ์ไว้ถึงสิบแปดปี... บัดนี้ป่นปี้ ถูกย่ำยี เด็ดดมไร้ความทะนุถนอมจนยับเยิน... รินรดด้วยน้ำกาม แล้วหลั่งริน ปรนเปรอให้สุขสมและทรมาน...

เสียงทุ้มครางอย่างสุขสม แล้วนอนทับร่างบอบบางสักครู่หนึ่ง ก่อนพรมจูบทั่วใบหน้า กระซิบว่า "ต่ายน้อยเป็นเมียพี่แล้ว"

รอจนปรับลมหายใจจนเป็นปกติ เสือจึงค่อยๆ ขยับตัวออก ร่างเล็กถูกทับจนเกือบขาดอากาศหายใจ เขาถอดถอนร่างกายออก แล้วสำรวจดูร่างน้อย... ยกสองขาขาวสะอาดขึ้น กระต่ายครางอย่างต่อต้านน้อยๆ ก่อนจะยอมปล่อยคนรักทำเลยตามเลย...

ก้นกลมถูกแยกออก ช่องทางบวมช้ำแดงก่ำปรากฏต่อหน้า ทั้งยังมีช่องว่างเล็กเท่ารูเข็มคายน้ำคาวจำนวนมากไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด ปะปนกับเลือดสีแดงฉาน ช่างเป็นภาพที่หยาบโลนเหลือเกิน... ราวกับช่องทางคับแคบเรียกร้องหาสิ่งของใหญ่โตมาปรนนิบัติอีก... โดยการปล่อยน้ำข้นขลั่กไหลจนไปถึงซอกขาขาวเนียน

 เสือจูบตามใบหน้าหวาน แล้วสอดท่อนลำยักษ์เข้าไปในดอกไม้ดอกน้อยอีกครั้ง ครั้งนี้ ด้วยน้ำรักที่ค้างไว้จึงทำให้เขากดตัวเองไหลเข้าสู่ช่องทางอันอบอุ่น แสนหวานได้ง่ายดาย

"อ๊ะ...." คนตัวเล็กอุทานเบาๆ พยายามผลักไสอกแกร่งออก แต่กระต่ายตัวเท่ากระต่ายตัวน้อยๆ หูยาว ขนฟู หางกลมมีหรือจะสู้แรงสัตว์กินเนื้อผู้ครอบครองพงไพรอย่างเสือได้

เสียงหวานแหบแห้ง รู้สึกแสบระคายคอจนเป็นผุยผง ทั้งยังเจือสะอื้น "ฮือ... ไม่เอาแล้ว.... แฉะไปหมดแล้ว...."

"ชี่ว์ คนเก่ง ขอผัวทำอีกรอบนะครับ" เสียงทุ้มข้างหูเหมือนปิศาจล่อหลอก... กระต่ายไม่ทันได้ปฏิเสธหรือตอบรับ สัตว์ร้ายก็จับสองขากระต่ายอ้า กดท้องน้อยที่เต็มไปด้วยน้ำกามเบาๆ

"มีแต่ลูกของเรา..."

จะทำอย่างไรได้... กระต่ายหมดแรงแม้แต่จะโต้ตอบ ใบหน้าคมคร้ามชอบอกชอบใจนักที่ภายในร่างขาวนวลมีแต่อสุจิของเขา... จากสีหน้าแล้ว... กระต่ายมั่นใจว่า หากคนตรงหน้าไม่ราดรดน้ำกามในตัวเขาให้ชุ่มฉ่ำ เปียกชื้นไปทั้งนอกและใน... ก็คงไม่หยุดง่ายๆ เป็นแน่

ความคิดหยุดลงพร้อมๆ กับสองขาที่ถูกรั้งสูงจนวางไว้บนไหล่หนา กับความรุ่มร้อนที่พองคับช่องทางแคบๆ...

"ฮ้า... อา..."

"เอาแบบนี้ดีไหม ? ถ้าเมียไม่ท้อง พี่ก็ไม่หยุด"

กระต่ายไม่ตอบ... ไม่อาจตอบได้ เมื่อเสือปิดปากเขาด้วยความรุนแรงของท่อนลำยักษ์เต็มช่องทางที่บวมช้ำ...

...เป็นเมียพี่เสือไม่ง่ายจริงๆ




หลังจากวันนั้นแล้วกระต่ายก็เป็นไข้ นอนซมไปถึงสามวัน โชคดีที่พี่น้ำแกงแวะมาเยี่ยมโดยบังเอิญ กระต่ายเลยพุ่งจองตัวรุ่นพี่ให้มาดูแลแทนพี่เสือ...

...พี่เสือบ้าแสนจะบ้า จะหยุดเรียนตั้งสามวันเพื่อมาดูแลกระต่าย



รสชาติแสนหวานอร่อยไม่ต้องบอกเลยว่าเสือร้ายติดอกติดใจแค่ไหน พอกระต่ายหายดีปุ๊บ ก็ถูกจับกินอีกครั้ง... และอีกครั้ง จนน้องไปเรียนด้วยอาการปวดสะโพก ร้าวไปทั้งตัว แม้กระทั่งช่องทางบอบบางก็แสบระคาย คัดเคืองเหมือนมีท่อนลำยักษ์ปักคาอยู่เลย




กระต่ายไม่ต่างจากดอกไม้ในเรือนเพาะชำ หายาก บริสุทธิ์และบอบบาง... ถึงเสือจะรู้สึกเสียดายความไร้เดียงสาไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อดอกไม้แสนงามโน้มตัวลงมาให้เขาชื่นชม... จะมีชายคนใดกล้าปฏิเสธอีกเล่า

ยิ่งร่วมรัก... ดอกไม้ก็เหมือนได้น้ำ คล้ายกับความเชื่อที่ว่าผู้หญิงหลังจากถูกกอดแล้วจะสวยขึ้น กับกระต่ายก็เช่นกัน ดอกไม้ที่ถูกทะนุถนอมมานาน เมื่อถูกกลืนกินกลับยิ่งงดงาม บอบบางขึ้น แต่ทว่ากลับเอิบอิ่ม เต่งตึง ผิวกายก็สะอาดใสราวกลีบดอกไม้ ใบหน้าหวานหยด ดวงตากลมโตแวววาวดูราวกับจะยั่วยวนทั้งๆ ที่แสนไร้เดียงสา เอวคอดกิ่ว... สะโพกกลมผาย เสือไม่ต้องใช้เวลาคิดนานเลยที่จะตามติดคนรักไปทุกที่

ตอนเช้าก็ไปส่ง พักกลางวันก็พาไปกินข้าว ตอนเย็นก็ไม่ยอมไปทำรายงานกลุ่ม รีบไปรับน้องกลับบ้านก่อนแล้วค่อยออกไปทำรายงาน

ทั้งหวง ทั้งหึง ไม่ยอมให้ใครจ้องมอง ไม่ยอมให้ใครส่งยิ้มให้.... แต่ดูจะยากแสนยาก เพราะกระต่ายเด็กดี มีเพื่อนไม่น้อยเลยที่เรียนพิเศษ บางวันก็ไม่ยอมมากินข้าวกลางวันกับคนรัก แล้วยังทำท่ารำคาญที่เสือโทรตามตลอดอีก

เมียสวย น่ารักขนาดนี้... ใครจะยอมให้ไอ้ผู้ชายหื่นๆ จ้องเล่า ? เสือคิดอย่างขุ่นเคือง เขาแค่โทรตามทุกๆ ชั่วโมงครึ่ง ไม่ว่ากระต่ายจะไปไหน ต้องโทรหาพี่เสือก่อนทุกครั้ง

กระต่ายอึดอัด... แต่เสือมีความสุขจนเหมือนขึ้นสวรรค์

เช้าไปเรียน ไปส่งเมียเรียนพิเศษ กลางวันไปรับกินข้าว ตอนเย็นไปรับกลับ ดูเอวบาง ร่างแน่งน้อยทำกับข้าว กินอิ่ม นั่งคุยกันบ้าง อ่านหนังสือ ทำรายงานกันไป เสือถือโอกาสทั้งกอด ทั้งจูบ ลวนลามน้องเต็มที่ เรียกไม่ขาดปากว่า

"เมียตัวน้อย"

...

มีต่อค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2014 23:55:26 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
เสือร้ายไม่เคยปกปิดความชื่นชม ภูมิใจในดวงตาเลย ทั้งความรัก ความยินดีที่ได้ครอบครองร่างบอบบางยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน สองมือไม่อายที่จะกอบกุมมือเล็กในที่สาธารณะ หรือกระทั่งจะกระชับเอวบางให้แนบชิด เมื่อกระต่ายตัวน้อยเป็นของเสือ ย่อมไม่มีใครมีโอกาสได้ชิดใกล้

กระต่ายถูกจับนั่งซ้อนตักบ้าง ยืนซ้อนบ้าง หรือกระทั่งเวลาอาบน้ำพี่ชายยังตามเข้ามาสัมผัสเนื้อนวล จูบร้อนแทบจะติดกับผิวกายตลอดเวลา จนร่างเล็กที่หอมกรุ่นกลิ่นละไอหวานไร้เดียงสาคล้ายมีกลิ่นของผู้ชายติดตัวไปแล้ว

พอจะเข้านอน... กระต่ายก็ถูกปอกเปลือก ชุดนอนไร้ค่าถูกถอดทิ้งไว้ปลายเตียง ร่างสูงใหญ่กลืนกินทั่วทั้งตัว จนช่องทางแคบเปียกแฉะ นุ่มจนแทบละลายและกลายเป็นรูปทรงของเขา ร่างหนาจึงยอมหยุด อุ้มคนตัวบางไปอาบน้ำและกลับมานอน

ใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวัน สุขบรมสุข เสือร่าเริงจนใครๆ ทัก เพื่อนเก่าบางคนทำท่าโก่งคออ้วกใส่ แต่เสือก็ไม่สนใจ ตกอยู่ในห้วงรักล้ำลึก... เขามองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากร่างอันบอบบาง ไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากร่างกายแสนหวานอยู่ในอ้อมแขน

...กระต่าย... ต่ายน้อย เมียตัวน้อยของพี่...
....

.....

......

คนรักมีความสุข กระต่ายก็มีความสุข ถึงจะอึดอัดแต่ก็นับได้ว่ามีความสุข แต่การเรียนของกระต่ายกลับชะงักงัน คนตัวเล็กพบว่าคะแนนสอบย่อยแต่ละครั้งของตัวเองแย่ลงเรื่อยๆ ช่องว่างในใจก็แผ่กว้าง... ภายในความสุขที่เบาหวิวเหมือนปุยนุ่น ยามถูกพี่เสือรัก สอดใส่ กกกอด เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง รอยแยกก็ยิ่งขยายกว้าง... เหมือนเนื้อร้ายที่ติดตามความสุขไปทุกหนทุกแห่ง

พี่เสือแสดงออกชัดเจนว่ารักเขามาแค่ไหน ต้องการเพียงใด ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่ทั้งหัวใจและวิญญาณ กระต่ายรู้ดี... ไม่มีใครบนโลกทำได้เหมือนพี่ชายอีกแล้ว...

...แล้วรอยแยกนั้นมาจากที่ใด ?

ทั้งๆ ที่ตัวติดกัน ความวูบโหวงนั้นไม่บรรเทาลงเลย

ทั้งๆ ที่เป็นที่ต้องการ แต่จุดดำมืดกลับขยายตัวกว้าง...

ทุกครั้งที่เห็นพี่เสือทำรายงาน ทุกครั้งที่พี่ชายกลับมาพร้อมการบ้าน ชีท คะแนนสอบย่อย... ทุกอย่างเลิศเลอไปหมด คนรักมีความสุขนักกับชีวิตมหาวิทยาลัย มีชื่อเพื่อนสนิทสองสามคนที่ติดปาก เสือไม่รีรอที่จะพากระต่ายไปพบ เพื่อนๆ ของเสือนิสัยดี ใจดีกับกระต่ายกันทุกคน...

...แต่เนื้อร้ายกลับยิ่งกัดกิน...

ส่วนลึกของหัวใจมีเพียงแต่ความเกลียดชัง...

...เกลียดความสุขของบรรดาเพื่อนๆ พี่เสือ

เกลียดผลคะแนนสอบที่ยอดเยี่ยมของพี่เสือ

เกลียดเครื่องแบบสีขาวของพี่เสือ

เกลียด.... เกลียด... เกลียดตัวเองที่เกลียดทุกสิ่งทุกอย่างของพี่เสือ...






วันนี้กระต่ายไม่รับสายจากคนขี้หวง เขาส่งข้อความสั้นๆ ว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ที่เรียนพิเศษ ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วปิดเสียง เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋า

เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายที่เรียนพิเศษบางคนอายุมากกว่ากระต่ายหลายปี บางคนอายุเท่าๆ กัน แต่ทั้งหมดก็เหมือนกับกระต่ายตรงที่เป็นเด็กซิ่วเหมือนกัน

เด็กๆ พากันไปกินอาหารกลางวันที่ห้างใกล้ๆ เพื่อนรุ่นพี่พาไปนั่งโต๊ะใหญ่ เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็นิสัยดี กระเซ้าเย้าแหย่กันสนุกสนาน กระต่ายเองก็สนิทสนมกับเพื่อนกลุ่มนี้พอควร

เมื่ออาหารมา รุ่นพี่ของกลุ่มชวนคุยเรื่องสอบ มีเสียงครวญครางประปราย ก่อนเปลี่ยนเป็นบทสนทนาจริงจัง

"เนี่ย กะจะเรียนหมอ" รุ่นพี่คนหนึ่งพูดกลั้วหัวเราะ "พยายามสอบมาสามปี... ไม่ติด ปีนี้ปีสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ติดก็จะเรียนอย่างอื่นแทน"

"บางอย่างก็ต้องยอมรับความจริงเนอะ" เพื่อนผู้หญิงอีกคนตอบ "กระต่ายล่ะ ?"

"คะแนนต่ายน้อยหลังๆ มาแย่ลงนะ" รุ่นพี่อีกคนบอกอย่างเป็นห่วง "กระต่ายอยากเรียนครุฯ ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมต้องมหาลัยนั้นด้วยล่ะ ? ไม่เรียนที่อื่นที่คะแนนต่ำกว่า ?"

กระต่ายยิ้มฝืนๆ ภาพเครื่องแบบสีขาวสง่างามและเพื่อนๆ ที่ดูเฉลียฉลาด ปราดเปรียวของพี่เสือฉายแว่บเข้ามาในความคิด ในใจกระต่ายร้อนเร่า... ทั้งชื่นชมและเกลียดชัง "อยากเรียนที่เดียวกับ... พี่ชายน่ะ"

"อ๋อๆ พี่ที่เรียนทันตะใช่ไหม ? หล่อล่ำไปเลยน้า... นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นพี่ชาย คงนึกว่าเป็นแฟนแน่ๆ" เพื่อนชายแต่ใจหญิงอีกคนพูดยิ้มๆ

"พี่ว่า กระต่ายตัดใจดีกว่า" พี่อีกคนโพล่งขึ้นมา พี่คนนี้อายุมากที่สุดและพูดจาตรงไปตรงมาที่สุด เล่นเอาทั้งกลุ่มเงียบลง เพื่อนๆ พากันสะกิดให้เขาหยุดพูด แต่กระต่ายกลับเงยหน้าขึ้นมอง รอฟังอย่างตั้งใจ

"พี่เคยฝืนเรียนวิดวะมอดัง... ได้สองปีแล้วก็โดนไทร์ จนตอนนี้เป็นแบบนี้ ถึงจะฝืนจนสอบได้ แต่พอเข้าไปเรียนก็ไม่มีความสุข เพราะมันยากเกินความสามารถจริงๆ บางครั้งก็ต้องสำนึกนะว่าสมองเรามีเท่าไหร่ ฝืนไปแล้วมีประโยชน์อะไรไหม" เขาจิบน้ำแก้กระหาย แต่เมื่อเห็นคนฟังยังตั้งอกตั้งใจ ไม่มีวี่แววโกรธเคืองจึงพูดต่อ "สำหรับกระต่าย พี่ไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการฝืนตัวเองเลย อนาคตข้างหน้าคิดดีๆ ว่าจะมีความสุขจริงๆ เหรอ เราต้องเรียนอีกสี่ปี ระหว่างนั้นจะเป็นยังไง อย่าลืมว่าการเข้ามหาลัยไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต"

"พูดเกินไปแล้ว" เพื่อนคนอื่นร้อง หันกลับมาปลอบกระต่าย "ไม่เป็นไรนะต่ายน้อย ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ"

"นั่นสิ สู้ๆ"

"มาพยายามด้วยกันนะ!"

"...." กระต่ายไม่ตอบคำ เพื่อนๆ ใจดี... แต่กระต่ายกลับคล้อยตามคำพูดแสนใจร้าย...


...แต่เป็นความจริง






"จะปรึกษาเหรอ ?" พี่หนูจิ๊บส่งเสียงดังมาตามสาย กระต่ายรีบแอบพี่เสือไปโทรหารุ่นพี่ด้านนอกระเบียง ปลายสายมีเสียงดังตึงตังแล้วค่อยๆ เงียบลง

พี่หนูจิ๊บ ลูกสาวป้านกหลังจากซิ่วคณะพยาบาลมาสองปี ปีนี้ก็ตัดใจ เรียนคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ซึ่งพี่สาวก็บ่นกะปอดกะแปดว่าเข้าง่าย... แต่เรียนยากชะมัด

"พี่หนูจิ๊บ..." เสียงกระต่ายแผ่ว พยายามเรียบเรียงคำพูดไปชั่วขณะหนึ่ง "หนูควรสู้ต่อไหม ?"

"สู้ต่อ ? อ๋อ...." เสียงปลายสายเคร่งขรึมลง "อืมม ดีแล้วที่โทรมาหาพี่ ปรึกษาเสือหรือแกงน่ะไร้ประโยชน์ พวกคนหัวดีไม่เข้าใจพวกเราหรอก"

"พี่หนูจิ๊บว่าไง ?"

"แล้วต่ายน้อยว่าไง ? ที่โทรมาเพราะว่าเหนื่อยแล้วใช่ไหม ?"

ถูกจี้ใจดำ กระต่ายชะงักแล้วตอบรับขื่นๆ "เหมือน... อาจจะ..."

"ไม่รู้สิ... ชีวิตมันพูดยากนะ ถ้ากระต่ายพยายาม อาจจะสอบติด พอได้เรียนที่สมใจแล้วก็อาจจะแฮปปี้สุดๆ จบมาด้วยเกียรตินิยม แต่อีกที.... อาจจะสอบไม่ติดแล้วหมดแรงไปเลยเหมือนพี่... หรืออาจจะติด แต่เรียนแล้วไม่ชอบ ไม่เป็นอย่างที่คิดขึ้นมาก็ได้"

คนฟังได้ยินที่รุ่นพี่แจกแจงมาแล้วรีบพยักหน้ารับ "หนูก็กลัวแบบนั้น...."

"ฮืมมม ของแบบนี้ ถ้าไม่รอจนถึงเวลามันก็ตัดสินใจยากนะ... อย่างของพี่นี่คือมันถึงจุดแล้วไง"

"แล้วทำไมพี่หนูจิ๊บถึงเลิกสู้ต่อล่ะ ?"

"มันถึงเวลาแล้วน่ะ.... เหนื่อยด้วย เบื่อด้วย เราใช้แรงไปหมดแล้ว เดี๋ยวไปเรียนถ้าไม่เป็นอย่างที่หวังจะยิ่งเสียใจ สู้มาสู้กับสนามรบใหม่ดีกว่า เจออะไรใหม่ๆ ที่ไม่คาดหวังมาก่อนน่าจะดีกว่า"

"แล้วตอนนี้..."

"สนุก... เรียนก็ยากนะ อิสระเยอะ แต่ต้องขยัน... เจอคนหลากหลายแบบ พ่อแม่ก็โล่งใจด้วย"

กระต่ายรับคำ รุ่นพี่ได้ยินปลายสายเงียบไปจึงพูดว่า "เหนื่อยแล้วใช่ไหม ? ลองคิดดูดีๆ ถ้าหันหลังกลับตอนนี้จะแฮปปี้ไหม การไม่ได้เรียนกับเสือมันทำให้ชีวิตกระต่ายแย่จริงๆ ไหม หรือว่าก็เหมือนเดิมหรือดีขึ้น เรียนแล้วจะมีความสุขจริงๆ หรือเปล่า คิดดีๆ นะต่ายน้อย"

คิดดีๆ.... กระต่ายจำคำนั้นไว้...

...สอบได้ หรือไม่ได้ เรียนแล้วหรือไม่เรียน... จะมีความสุขจริงๆ หรือ ?



...คำตอบช่างน่ากลัว...

....

มีต่อจ้า

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
มีชีวิตอยู่กับความเหนื่อยล้า... และความเกลียดชังที่เติบโตเหมือนวัชพืชนั้นไม่สนุกเลย กระต่ายไม่สามารถส่งยิ้มอย่างจริงใจให้พี่เสืออีกต่อไป...

...ทั้งรู้สึกผิดต่อความรัก ต่อรอยยิ้มพี่เสือ... กระต่ายรู้ว่าพี่เสือก็รู้... ว่ากระต่ายเปลี่ยนไป แต่คนรักนั้นแสนรักเขาจนไม่ถามอะไรให้ไม่สบายใจ

ท่อนแขนแข็งแรง แผ่นอกหนาเปลือยเปล่าปล่อยให้คนตัวเล็กร่างเปลือยนอนกลิ้ง มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างสลับกับริมฝีปากอิ่มที่จุมพิตหน้าผาก

"กระต่าย... ไม่อยากอยู่กับพี่แล้วหรือ ?"

ดวงตากลมปิดสนิท... เขาเองก็กำลังตอบคำถามนั้นกับตัวเองเช่นกัน...

...ไม่ใช่... อยากอยู่กับพี่เสือแบบนี้ ร่วมรักกัน ตื่นขึ้นมาแล้วส่งยิ้มให้กัน ให้พี่เสืออุ้มไปไหนมาไหน... โลกใบน้อยที่มีเพียงสองคน... ไม่ใช่คณะทันตแพทย์ ไม่ใช่ความเก่งกาจ การประสบความสำเร็จของพี่เสือหรือมหาวิทยาลัย

ท้องนิ้วเขี่ยแก้มนวล ดั้งโด่งซุกไซ้เรือนผมหอมกรุ่น "เมียที่รัก... พี่รักต่ายน้อยนะ... ถ้ากระต่ายไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียนนะครับ... เมียคนเดียว พี่จะหาเลี้ยงเอง"

คำพูดชวนฝัน... ไม่ต่างจากคำขอแต่งงาน เสือไม่รีรอที่จะเร่งรัดต่อ

"แต่งงานกันนะ... พี่มีเงินเก็บ จะไปสู่ขอกระต่ายจากพ่อแม่เอง.... ใครรังเกียจก็ช่างเค้าปะไร พี่มีแต่กระต่ายน้อยคนเดียวก็พอแล้ว..."

แสนหวาน... ยิ่งดวงตาดุที่อ่อนแสง หวานเชื่อม ริมฝีปากที่บรรจงจูบราวกับสัมผัสของล่ำค่าแสนเปราะบาง

"กระต่ายเป็นเมียพี่... ไม่ต้องทำงาน แค่ดูแลบ้าน ทำกับข้าว... ถ้ากระต่ายอยากมีลูก เราไปรับเด็กมาเลี้ยงดีไหม ? กระต่ายไม่ต้องทุกข์ทรมานอะไรเลย..."

เส้นทางง่ายดายถูกกรุยไว้ หากรับคำ... จะเป็นดังที่พี่เสือว่า คนรักจะเอาใจ ดูแลกระต่ายไปจนตาย... ให้กระต่ายสุขสบาย ทำทุกอย่างที่ต้องการ...

...เป็นเช่นนั้น กระต่ายมีความสุขจริงๆ หรือ ?

รอยแยกมืดดำกลายเป็นหุบเหวลึก คนฟังฟังคำสัญญาและคำหวานแล้วเหมือนดั่งถูกผลักลงเหวดำมืด ลึกสุดหยั่ง...

...ไม่ เสียงเล็กๆ ร้องดังก้องอยู่ในหัว

แม้จะเคยฝันเช่นนั้น เป็นเมียพี่เสือ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ต้องดิ้นรนอะไร แต่เมื่อเห็น... เมื่อสัมผัส โลกใบใหญ่ของพี่เสือ ท่าทางภาคภูมิใจของคนรัก คำชื่นชม รายงาน คะแนนสอบ เพื่อนๆ ที่เฉลียวฉลาด... ทำให้กระต่ายไม่อาจกลับไปเป็นกระต่ายคนเดิมได้

ทุกครั้งที่ถูกกกกอด นอกจากความรัก ความใคร่... ความรู้สึกด้อยค่าก็ชัดเจนขึ้นทุกทีๆ...

...ถ้าเป็นเช่นนั้น เป็นเมีย เป็นแม่บ้าน... กระต่ายก็เป็นกาฝาก... ไร้ค่าจริงๆ




สอบกลางภาคแล้ว พี่เสืออ่านหนังสือสอบสบายๆ ปฏิเสธคำชวนเพื่อนที่ให้ติว แต่กลับใช้เวลานอนเล่นอยู่ที่คอนโด สะกิดกระต่ายให้ขึ้นเตียงบ้าง นอนกอดน้องอย่างสบายอารมณ์บ้าง จนกระต่ายต้องดุให้คนรักยอมปล่อยเสียที ไม่อย่างนั้นกระต่ายคงไม่ได้ไปเรียนพิเศษ

ที่เรียนพิเศษของกระต่ายก็มีสอบกลางภาคเหมือนกัน ยิ่งสอบกระต่ายยิ่งรู้ตัว ทุกอย่างที่เรียนมาแม้จะคุ้นเคย... แต่ก็หายไปจากสมองอย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรหลงเหลือ

กระต่ายส่งกระดาษสอบด้วยจิตใจหดหู่

เพราะสอบเสร็จก่อนกำหนด หลังจากโทรเรียกคนรักแล้ว กระต่ายก็เข้าไปหลบร้อนที่ร้านหนังสือใกล้ๆ

เหมือนเท้ามีจิตใจของมันเอง พากระต่ายเดินเลยแผนกหนังสือติวสอบ ไปยังแผนกหนังสือทำขนม ร่างเล็กง่วนอยู่กับการหยิบเล่มนั้น วางเล่มโน้นได้ไม่นาน ก็มีเสียงเรียก

"อ้าว ต่ายน้อย!"

คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มอย่างดีใจ "ซอ!"

ลักซอร์ที่ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียยืนยิ้มแฉ่งตรงหน้า กวักมือเรียกกระต่ายเข้าไปหา "เฮ้ยย เป็นไงมั่ง ไม่เจอกันตั้งนาน"

"สบายดีจ้ะ ซอล่ะ กลับมายังไงเนี่ย"

"เออ พอดีต้องจัดการเอกสารน่ะ เลยกลับมา แล้วชีวิตเป็นไง ? ยังรอเรียนต่อเหรอ ?"

กระต่ายพยักหน้ารับ ลักซอร์เอียงคอก่อนจะหยิบกระดาษในเป้ออกมายื่นให้

เป็นเอกสารภาษาอังกฤษที่ถูกปริ๊นส์ออกมาจากคอมพิวเตอร์ กระต่ายก้มลงอ่าน... ภาษาอังกฤษของกระต่ายดีขึ้นเยอะ อ่านเข้าใจดีแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงถาม

"ตั้งใจจะเอาไปให้ที่บ้าน ไม่นึกว่าจะมาเจอที่นี่น่ะ"

"เอ๋ ?"

"ทุนเรียนที่ฝรั่งเศส... หาไม่ได้ง่ายๆ นะ" ลักซอร์โอ่ กระต่ายอ่านชื่อภาษาฝรั่งเศสบนกระดาษแล้วอุทาน เป็นชื่อสถาบันดังระดับโลก!

"ละ... แล้ว ?"

"ไม่ลองดูเหรอ ไหนๆ ช่วงนี้ก็ว่างนี่นา"

กระต่ายยิ้ม รู้สึกได้ว่ามือตัวเองสั่นน้อยๆ "อย่าง... อย่าง... เราน่ะเหรอจะสอบได้..."

สถาบันอาหาร ขนมและไวน์บนกระดาษเป็นอันดับหนึ่งของโลก เชฟมิชลินระดับห้าดาวส่วนใหญ่ก็จบมาจากที่นี่ ทั้งเข้ายาก เรียนยากและราคาแพงมหาโหด คอร์สทำขนมระยะเวลาหนึ่งปี ฝึกงานโดยไม่ได้รับเงินอีกหนึ่งปีในโรงแรมห้าดาวนั้นราคาหลายแสนบาททีเดียว

"นี่เป็นสาขาใหญ่ในปารีส กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนทุน... ทุนให้เปล่าด้วยนะ เรียนฟรีตลอดคอร์สพร้อมที่พัก สุดยอดไปเลย"

"ปะ... ปารีส!" หัวสมองแล่นเร็วจี๋ กระต่ายไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปารีสเลยนอกจากหอโลหะรูปตัวเอและมาการอง

"ฮื่อ... ลองดูเถอะ น่าสนุกออก" ลักซอร์ยังรื่นรมย์ แต่เพื่อนเหมือนหลุดไปนอกอวกาศแล้ว

"ยัง... ยังไงเราก็ไม่ได้หรอก" กระต่ายถอนหายใจ อ่านเงื่อนไขแสนดีแล้วกลืนน้ำลาย...

"มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าได้ไม่ได้นะ" เพื่อนฉวยกระดาษแผ่นนั้นออกจากมือ "มันอยู่ที่อยากไปหรือไม่อยากต่างหาก ว่าไงล่ะ ?"

ไม่ต้องคิดมาก สถาบันในฝันสุดหรู ข้อเสนอดีๆ ที่ฟรีเกือบทุกอย่างทำให้กระต่ายตอบรับทันที "อยาก!"

"ใช่ไหมล่ะ ? เท่าที่อ่านก็ไม่มีอะไรมาก... กระต่ายต้องเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นถ้าได้คัดเลือกก็ไปที่สถาบันสาขาประเทศไทยสอบสัมภาษณ์ ลองดูไหม ?"

แค่เขียนเรียงความกระต่ายก็กลัวแล้ว ใบหน้าหวานผงกลงแล้วก็สะบัดไปมา ลักซอร์หัวเราะแล้วคืนเอกสารให้

"มีเวลาอีกเดือนนึง... ไม่ต้องห่วงนะ ซอจะสอนต่ายเขียนเรียงความเอง เรียงความภาษาอังกฤษจะไม่เหมือนของไทย มันจะแบ่งเป็น topic แล้วเข้าสู่ sub-topic... ไม่ต้องกลัว หลังจากนั้นต่ายค่อยร่างให้ซอตรวจ"

"แต่... แต่... เดี๋ยวซอก็กลับออสฯ แล้วนี่"

"โธ่ หนูน้อย... ซออยู่นี่อาทิตย์เดียว จะให้กระต่ายอ่านตัวอย่างเรียงความดีๆ เยอะๆ แล้วให้หัดเขียน อาทิตย์เดียวก็เป็น ส่วนเนื้อหา ภาษาก็ให้ไคโรกับเมมฟิสช่วยตรวจ พูดแล้วจะหาว่าอวดน้อง... สองคนนั้นน่ะเป็นแชมป์เขียนเรียงความเชียวนะ เมมฟิสเคยได้ทุนจากการเขียนเรียงความที่อังกฤษมาแล้วด้วย"

กระต่ายตาวาว ได้ยินแผนการแล้วยิ้มกว้าง พยักหน้ารับทันที

"ตกลงเอาแบบนี้เนอะ... เที่ยวสุดท้ายซอจะให้พ่อตรวจให้ เจอ Native speakers หลายคนแบบนี้ ไม่ได้ให้มันรู้ไปสิ" ว่าแล้วก็หัวเราะ

"ขอบ... คุณนะ"

เพื่อนโคลงศีรษะ กอดแขนเพื่อนตัวเล็กอย่างอบอุ่น "ไม่เป็นไร... ซอก็อยากเห็นความฝันของกระต่ายเหมือนกัน"






กระต่ายไม่ไปเรียนพิเศษได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว พี่เสือไปส่งที่หน้าสถาบันกวดวิชาก็จริง แต่กระต่ายแอบหนีไปบ้านลักซอร์ เรียนเขียนเรียงความตลอดทั้งวัน

ลักซอร์เป็นครูที่ดีและเข้มงวดมาก ทั้งวันเธอไม่พูดภาษาไทยกับกระต่ายเลย ทั้งยังห้ามทุกคนในบ้านพูดด้วย กระต่ายจึงต้องฝึกทักษะการพูดไปด้วย

ตัวอย่างสำหรับเขียนเรียงความมีหลายพันเรื่อง ทุกเรื่องได้รับรางวัลใหญ่โตทั้งนั้น เธอคัดเรื่องที่ดีที่สุดจนไปถึงที่ยากที่สุดออกมาให้กระต่ายอ่านทีละแผ่นๆ พร้อมทั้งให้กระต่ายหาจุดเด่น จุดด้อยของแต่ละเรื่อง และที่สำคัญคือการวางดราฟต์ของการเขียนเรียงความ

"It's still confused!" ลักซอร์บ่นแล้ววงส่วนให้แก้ เธอเน้นแล้วเน้นอีกว่าอย่าพายเรือในอ่าง อย่าเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาพูด เรื่องที่พูดจบไปแล้วอย่านำมาเกี่ยวข้องอีก

จนวันสุดท้ายที่ลักซอร์อยู่เมืองไทย เธอก็พอใจกับโครงร่างเรียงความ ก่อนจะส่งให้เมมฟิสและไคโรตรวจ... ซึ่งไม่ง่ายเลย

เมมฟิสและไคโรให้กระต่ายแก้อีกรอบ ส่วนลักซอร์ยังวนเวียนสไกป์มาถามเรื่อยๆ กระต่ายทั้งเหนื่อยและมีความสุข เขาต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ดีที่คุณตาบุญส่ง ตาของลักซอร์เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยพากระต่ายไปห้องสมุดมหาวิทยาลัยและช่วยเลือกหนังสือทำขนมที่เกียวข้องมาเป็นจำนวนมาก นอกจากข้อมูลแล้ว ยังมีประสบการณ์ตรงของกระต่ายอีก กระต่ายเขียนเรียงความไปด้วย ทดลองทำขนมรูปแบบใหม่ๆ ไปด้วยเพื่อใช้ประกอบเขียน นอกจากนี้คุณตายังแนะนำให้นำศาสตร์อื่นเช่นบริหารธุรกิจ(ร้านเบเกอรี) การจัดการ ความต้องการบริโภคของลูกค้า ไปจนถึงเศรษฐศาสตร์มาบูรณาการในเรียงความด้วย ซึ่งทั้งหมด คุณตาสามารถเปิดคอร์สสั้นๆ สอนให้กระต่ายเข้าใจได้

เรื่องทั้งหมดนี้... กระต่ายไม่ปริปากบอกใครเลย แต่พี่เสือก็เข้าใจว่ากระต่ายเรียนไปได้ดี จึงไม่ถามอะไรมาก...

แม้กระทั่งกระต่ายยังแปลกใจ... แค่เขียนเรียงความสามพันตัวอักษรแต่กระต่ายกลับเรียนหนักกว่าที่เรียนพิเศษเสียอีก เขาต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยมากมาย อีกทั้งยังต้องฝึกทำขนมหลายรูปแบบ หลายเทคนิค ต้องรื้อเอกสารหาเทคนิคใหม่ๆ สูตรขนมหลายชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่กลับไม่เบื่อ ไม่รู้สึกท้อเลยสักนิด

...คงจะจริงอย่างที่ลักซอร์ว่า ถึงจะไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะกระต่ายก็มีความสุขจริงๆ ที่ได้ทำ

หุบเหวลึกในอกกลายเป็นพื้นที่ราบ... เนื้อร้ายภายในใจค่อยๆ หายไปอย่างเชื่องช้าแต่หนักแน่น...โดยที่กระต่ายไม่รู้ตัว

สองศรีพี่น้องทั้งเมมฟิสและไคโรคอยเป็นกำลังใจให้กระต่ายที่หลับตาปี๋ กดส่งไปทางอีเมล์หลังจากส่งทางไปรษณีย์ไปแล้วครั้งหนึ่ง

"ฮ้าาา ส่งไปแล้ว" ร่างเล็กหมดแรง นอนแผ่กับพื้น เมมฟิสยิ้มหวานให้กำลังใจ ไคโรถอนหายใจลุกขึ้นแล้วพยุงร่างเล็กให้ขึ้นนั่ง

"พี่ต่าย นั่งดีๆ"

"อ๊ะ นั่นสินะ ขอโทษด้วย" กระต่ายรีบเด้งตัวขึ้นนั่งให้เรียบร้อย ไคโรเบือนหน้าหนี แก้มแดงน้อยๆ... ก็รุ่นพี่ตัวบางน่ะ ทั้งขาวทั้งนุ่มแถมยังนุ่งกางเกงขาสั้น พอนอนแผ่กางเกงก็รั้งจนเห็นต้นขาขาวนวล... นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นคนของเสือ ไคโรก็คงไม่ปล่อยให้ร่างนุ่มที่เข้ามาสนิทสนมนี่รอดไปได้หรอก

ชะรอยเมมฟิสจะรู้ว่าพี่ชายคิดอะไร เธอรีบจูงมือรุ่นพี่ให้ไปหลังครัว เติมกระเพาะว่างเปล่าด้วยอาหารแสนอร่อยฝีมือคุณป้าแม่บ้าน

"ถ้าได้ก็ดีเนอะพี่ต่าย" เมมฟิสว่า

"ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ" กระต่ายตอบยิ้มๆ ช่างแตกต่างจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนัก ครั้งนี้กระต่ายทำดีที่สุดแล้ว ทุกประโยค ทุกสัญลักณ์ ทุกคำถูกกลั่นกรองมาจากสมองและประสบการณ์ของเขาล้วนๆ ถึงจะมีหลายคนคอยช่วยขัดเกลาแต่กระต่ายก็ยืดอกบอกทุกคนได้ว่า เรียงความเรื่องนี้กระต่ายทำเอง ความรู้สึกหลังส่งจึงมีแต่ความโล่งใจปนยินดี ถึงจะไม่ได้ แต่กระต่ายก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างที่เขียน ทั้งยังสนุกมากด้วย

"แล้วผลจะประกาศเมื่อไหร่"

"เดือนหน้าน่ะ" รุ่นพี่ตอบยิ้มๆ จิ้มปอเปี๊ยะกรอบอร่อยเข้าปากอย่างมีความสุข "ทางนั้นจะส่งจดหมายมาที่บ้าน... พี่ขอลงบ้านเมนะ"

"ได้อยู่แล้ว เมก็ตื่นเต้นไปด้วยแล้วเนี่ย"

"แล้วก็มีให้เช็คออนไลน์ด้วย... ถ้าติดก็ไปสอบสัมภาษณ์"

"ดีจังน้า... พี่ต่ายพยายามขนาดนี้แล้ว อยากให้ติดจัง"

กระต่ายกลับส่ายหน้า "ไม่หรอก... พี่มีความสุขจังเลยเม ทั้งๆ ที่พี่ไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่ระหว่างที่ต้องเขียนต้องอ่าน ต้องเรียนรู้อะไรๆ เยอะแยะ แต่กลับสนุกมาก"

"บางทีการเรียนที่เมืองไทยคงไม่เหมาะกับพี่" ไคโรออกความเห็น เขายักไหล่แล้วพูดต่อ "พวกเรากลับไทยมาเพราะตากับยายขอร้อง แต่การเรียนที่นี่ก็ทำให้พวกเราอึดอัดมากนะ"

เมมฟิสพยักหน้ารับ "นั่นสิ... ที่นี่ชอบสอบจังเลย การบ้านก็เยอะ หลายวิชาก็ไม่รู้เรียนไปทำไม เมเป็นคริสเตียน พี่ไคเป็นเอธิสต์แต่พวกเราต้องเรียนพุทธศาสนา ไม่แฟร์เลยนะ... ถ้าอยู่อังกฤษป่านนี้โรงเรียนโดนฟ้องแล้วล่ะ"

กระต่ายได้แต่หัวเราะแห้งๆ รับ ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น...

ก่อนกลับบ้าน เมมฟิสรั้งตัวกระต่ายไว้ "นี่ พี่ต่าย พรุ่งนี้มาทำขนมหน่อยสิ"

"หือ ?"

เด็กหญิงผิวดำยิ้มแฉ่ง ท่าทางกระตือรือร้น "เมอยากลองทำบ้าง ท่าทางน่าสนุก... พี่ต่ายมาสอนหน่อยนะ"

กระต่ายไม่เคยมีน้องมาก่อน การโดนอ้อนเป็นประสบการณ์ใหม่ทีเดียว เด็กหนุ่มหัวเราะแล้วรับคำ เมมฟิสร้องเย้ ก่อนกระโดดกอด

"พี่ต่ายใจดีจัง น่ารักด้วย ตัวก็นุ๊มนุ่ม..."

"ไม่เป็นไรหรอก พี่ต้องขอบคุณเมกับไคต่างหาก...."

"อย่ามัวแต่ขอบคุณเลย พรุ่งนี้เรามาทำขนมอร่อยๆ กันดีกว่า... เมอยากกินบานอฟฟี่ที่สุดเลย"

ท่าทางกระตือรือร้นยิ่งทำให้กระต่ายยิ้มอย่างเอ็นดู ถึงเมมฟิสจะเป็นเด็กเคร่งขรึมเกินวัย แต่ก็ยังมีมุมที่เป็นเด็กอยู่มาก "ได้เลย!"



กระต่ายต้องไปรอที่หน้าโรงเรียนกวดวิชาเพื่อรอพี่เสือมารับ ทั้งๆ ที่โกหกคนรัก... แต่กระต่ายกลับไม่รู้สึกผิดสักนิด ยิ่งคิดถึงความสุขที่บ้านของลักซอร์แล้วยิ่งกลับรู้สึกดี... บ้านนั้นไม่มีพี่เสือ ถึงจะไม่มีวงแขนอบอุ่นคอยปกป้อง แต่การถูกปล่อยให้เผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองนั้นก็สนุกไม่แพ้กัน

กระต่ายถอนหายใจ... เขารู้ตัวแล้ว ตั้งแต่เริ่มเขียนเรียงความมา ราวกับว่าช่องว่างของความน้อยเนื้อต่ำใจได้ถูกถม กระต่ายได้เห็นว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง... และทำได้ดีจนทุกคนเอ่ยปากชม

ตอนนี้... เมื่อรถคันเก่าแล่นมาเทียบ กระต่ายสามารถเปิดประตูรถ แล้วส่งยิ้มทักทายให้คนข้างๆ จากหัวใจจริงๆ

กระต่ายรู้แล้วว่าตัวเองเกลียดสิ่งใดในตัวพี่ชาย... และความรักที่มีให้นั้นมากมายเท่าใด...

ไม่ใช่เพียงแค่ตอบแทนความรัก แต่เพื่อแสดงความรักของกระต่าย มือบางวางบนมือหนาที่อยู่บนกระปุกเกียร์เบาๆ

แก้มนวลจัดแดงปลั่งน่ามอง เสือลอบชื่นชมความงามของเมียรักภายใต้แสงไฟ ตราบจนริมฝีปากอิ่มขยับน้อยๆ เสียงหวานเปล่งออกมาแผ่วเบาดั่งแมลงปอแตะผิวน้ำ

"พี่เสือ... คืนนี้... รักหนูเยอะๆ เลยนะ"


เพราะกระต่าย... ก็รักพี่เสือไม่แพ้กัน





หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว สอบปลายภาคผ่านพ้นไปแล้ว คะแนนของพี่เสืออยู่อันดับต้นๆ ของชั้นปี ส่วนคะแนนสอบของกระต่ายเล่า... อยู่อันดับล่างๆ ของชั้นปี

เมื่อเห็นคะแนนสอบแล้ว มือบางกำผลสอบแน่น ราวกับช่วงเวลาสนุกสนานที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่เมื่อเดือนที่แล้วเป็นความฝัน หลังจากส่งเรียงความแล้ว กระต่ายไม่สามารถตั้งสมาธิเรียนได้เลย จิตใจมันคอยจะโบยบินไปอยู่หน้าเตา แป้ง ครีม นึกฝันว่าจะทำขนมเค้กที่แตกต่าง อร่อยและไม่มีใครเคยกินมาก่อน

หลังจากรับผลสอบแล้ว กระต่ายก็มุ่งหน้ากลับ ขณะกำลังจะโทรหาคนรัก ก็มีคนโทรมาหาเสียก่อน

"เม!" อุทานอย่างดีใจ รีบกดรับ เสียงปลายสายดังขึ้นอย่างตื่นเต้น

"พี่ต่าย มาบ้านเมด่วนเลย!"

"เอ๋!?"

"จดหมายมาแล้ว!" เมมฟิสตะโกน "ผลมาแล้วววว ยังไม่มีใครเปิด แต่ทุกคนก็รอพี่ต่ายอยู่!"

"ตะ... แต่พี่จะกลับบ้าน เสือจะมารับแล้ว"

"ช่างเสือสิพี่!" คราวนี้เป็นเสียงไคโร "เดี๋ยวไคไปรับ หน้าที่เรียนพิเศษนะ!"

"แต่... ไค!" ไคโรผละไปแล้ว มีแต่เสียงเมมฟิสที่สุขุมขึ้นดังมา

"ไคไปแล้วล่ะ พี่ต่าย นี่เป็นความฝันของพี่ไม่ใช่เหรอ พี่เสือน่ะไว้อธิบายทีหลังก็ได้นี่นา!"

กระต่ายฟังดังนั้นก็รับคำอย่างกระตือรือร้นไปด้วย ลืมเสียสนิทว่า... ครั้งหนึ่ง ฝันของกระต่ายคือการได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับคนรัก...

....

// จบตอน

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
 :z13: :z13: :z13:

กรี้ดๆๆๆ พี่ต่ายน้องเสือ เย้ย พี่เสือน้องต่าย (ดีใจจนลนลาน) ไปอ่านโลด  :katai5:

ยาวได้อีกอ่ะตอนนี้  //กราบขอบคุณรัวๆ

จบตอนด้วยเสียงสับหมูเลยทีเดียว... แต่ก็นะ บางทีการดูแล ปกป้อง ไม่ให้ต้องเผชิญกะอะไรเลยมันก็ไม่ใช่คำตอบล่ะนะ โลกมันกว้างนะหนู เดินออกไปข้างนอก (อกพี่ชาย) บ้าง ความจริงเส้นทางอนาคตที่เกี่ยวกะอาหาร+ขนมนี่ น่าจะเป็นทางเลือกแรกๆของต่ายน้อยมานานล่ะ ทั้งชอบทำ ทั้งมีประสบการณ์มาตั้งกะเด็กอ่ะ ยังแอบคิดว่าทำไมไม่เห็นเลือกทางนี้ตั้งแต่แรกว้าา

มันคงเป็นอะไรที่เจ็บนะ กะพี่เสืออ่ะ รักดูแลทุกอย่าง แต่คนๆนึงก็เป็นทุกอย่างในชีวิตของอีกคนไม่ได้หรอก

รออ่านต่อ (แต่ก็ไม่อยากให้ต้องไกลกันเลยง่ะ...) เฮ้อออ  :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2014 22:40:21 โดย ppoi »

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ขอให้น้องต่ายได้นะ

แต่คงต้องเคลียกับพี่เสือยาวเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วิบวับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
อย่างแรกเลยคือ ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อย่างที่ 2 ชอบลักซอร์ที่สุด ของที่สุด!

กระต่ายโตแล้ว อยากให้กระต่ายพาพี่เสือไปดูผลสอบด้วย
จะได้รูเลยว่านี่คือสิ่งที่กระต่ายรัก และตั้งใจทำโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
กระต่ายสู้ๆ :a2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โหย.....ต่ายน้องต้องผ่านแน่ๆ สู้ๆ
แต่ถ้าพี่เสือมารู้ทีหลังล่ะ คงไม่อาละวาดนะ

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
กรี๊ดร้อง  พร้อมอยากตะโกนขอบคุณคนแต่ง สำหรับตอนใหม่ยาวได้ใจจริงๆ ชอบมากกกกกกกก
ดีใจที่ต่ายน้อยค้นพบทางเดินของตัวเองแล้ว ดีใจที่ต่ายน้อยเป็นฝั่งเป็นฝาออกเรือนไปแล้ว
สุดยอดจริงๆค่ะ สำหรับตอนนี้  o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 ยกนิ้วให้รัวๆๆ
พร้อมกระหน่ำบวก ++++++  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ยาวมากกกกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วรู้สึกดีใจไปกับน้องต่าย ที่ยังสามารถหาทางของตนเองจนเจอ
น้องต่ายก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตเอง
พี่เสือก็ต้องเรียนรู้ว่าไม่สามารถเป็นเจ้าของชีวิตใครได้
ต่างคนต่างไปมีโลกของตัวเองซะบ้าง
โตแล้วค่อยมารักกันใหม่ก็ได้เนอะ o13

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เด๋วพี่เสือมันก้อตามไปจนไชำแหละ
ไม่ใช่แค่ต่ายที่เปนคนตาม เสือก้อตามเปนนะ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
พี่เสืออาละวาดหนักแน่ๆ

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเครียดจังค่ะ .. แบบว่า กดดันนิดนึง
มันเหมือนหน่วงๆอึนๆทั้งตอนเลย บอกไม่ถูกจริงๆค่ะ คืออาจจะเพราะมันแอบตรงกับชีวิตจริงด้วยส่วนนึงมั้งคะ
เคยมีคนหายไปจากชีวิตเราเพราะเหตุผลเดียวกับกระต่ายนี่แหละค่ะ กลัวเป็นตัวถ่วง กลัวมาทำให้ชีวิตเราลำบาก ให้แย่ลง
ซึ่งเราก็นอยด์มากนะ คือเราไม่เคยเข้าใจความคิดของเค้าเลยจริงๆ สิ่งที่เราต้องการจากเค้ามีแค่อย่างเดียวคือความรักค่ะ
ไม่เคยต้องการอะไรมากกว่านั้นเลย ต่อให้เค้าจะจนจะลำบากจะต้องหาเลี้ยงครอบครัวก็ไม่เป็นไร เรายินดีจะช่วยทุกอย่างเอง
เราจะไม่ทิ้งไปไหนแน่ๆ เราจะผ่านมันไปด้วยกันแค่นี้ไม่ได้หรอคะ ? .. ซึ่งเราก็คิดว่าพี่เสือก็คงคิดเหมือนกับที่เราคิดแหละค่ะ
อยากให้น้องต่ายมองความรู้สึกของคนฝั่งนี้บ้างนะคะ ถึงจะบอกว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะรักพี่เสือก็เถอะ แต่มันก็แบบ ..
เราก็แค่อยากให้เค้าเข้าใจเราบ้างก็เท่านั้นเอง

มันไม่ใช่ว่าพอคุณหายไปจากชีวิตเราแล้วเราจะไปคบกับคนที่รวยกว่าดีกว่า แล้วไปกันรอดนี่คะ
ถ้าเป็นแบบนั้นจะทิ้งเราไปก็เข้าใจได้เลยนะ เพราะหวังดี อยากให้เราไปเจอคนดีๆ คนที่เหมาะสม ใช่มะ ?
แต่ความจริงล่ะ เคยหันมามองบ้างไหมว่าเราไปได้ดีกับคนพวกนั้นหรอ ว่าเราคบคนพวกนั้นรอดรึเปล่า แล้วที่ไม่รอดน่ะ มันเพราะอะไร
ไม่ใช่ว่าเพราะในใจเรายังมีแต่คุณเท่านั้นรึเปล่า ? ก็นั่นแหละค่ะ ; ___ ;
เม้นนี้อาจจะดูเยอะๆแรงๆนิดนึงต้องขอโทษไรเตอร์จริงๆนะคะ แบบอินเนอร์มาเต็มมาก 555555555555555
คือตรงเกิน . _____ . ..

รอลุ้นตอนพี่เสือรู้เรื่องน้องไม่ไหวแล้วค่ะ อยากเห็นสภาพจริงๆว่าจะแก้ปัญหาต่อไปได้ยังไง
กระต่ายใจร้ายมากนะคะที่ปิดกันมานานถึงขนาดนี้ ใจร้ายมากจริงๆ


ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์เสมอเช่นเดิมนะคะ จะรอติดตามต่อไปจนจบค่ะ
รักมากๆ <3

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอ้ว!!! แม่เจ้า สุดยอดมากเลย ขอบคุณมาก

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:อ่านเพลินเลยยยยยยยยยยย :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
สารภาพตรงๆว่า อ่านทิ้งไว้ที่ตอนแข่งกีฬา แล้วข้ามมาอ่านตอนก่อนหน้านี้เลย
ทำให้งงว่าทำไมต่ายเลือกครุ แทนที่จะเลือกการทำอาหาร แค่อยากเรียนที่เดียวกะเสือรู้สึกเหตุผลจะน้อยไป สุดท้ายน้องก็เลือกถูกทาง
ขอตำหนิการเลี้ยงต่ายน้อยของบ้านนี้หน่อยเหอะโดยเฉพาะเสือ
คิดจะเก็บน้องไว้ จะเลี้ยงดูเองไม่ต้องเรียนไม่ต้องทำงาน ถามจริงมั่นใจเหรอว่าจะตายทีหลังน้องน่ะ เลี้ยงให้อ่อนแอแล้ววันหนึ่งเกิดหมดรัก(อันนี้ยาก) วันหนึ่งตาย(อันนี้ใครก็ต้องเจอ ถ้าเจอเร็วล่ะ) ต่ายจะทำไง ฆ่าตัวตายตามรึไง บอกตรงๆ ไม่กลัวดราม่าเลยหากเสือรู้ เพราะเสือรักน้องหลงน้องจนลืมตัวตน จิตใจของน้องว่าต้องการอะไรกันแน่ จากกันแค่ไม่กี่ปีคงไม่ตายหรอก แถมน้องก็เข้มแข็งเติบโตขึ้น เสือน่าจะดีใจนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด