ร่างบางกรีดเสียงพร้อมกับทุบกำปั้นเล็กลงกับอกของอติพัทธ์ที่ยืนนิ่ง น้ำตาไหลลงมาหากแต่ก็ไม่ได้สะอื้นไห้อีกต่อไป อติพัทธ์ไม่โต้ตอบเพราะรู้ดีว่าการกระทำของตัวเองมันยากเกินให้อภัย ชายหนุ่มยืนนิ่งให้คนที่เยาว์วัยกว่าทุบตีอย่างจำนน จนกระทั่งศราวินหยุดและถอยหลังไปเช็ดน้ำตาตัวเอง เขาก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“พี่..รักซันนะ”
“อย่างนั้นก็ช่วยจำไว้เลยนะฮะ ว่าความรักของพี่ ทำให้ซันเกลียดพี่จับใจ!” ศราวินกระแทกเสียงใส่ทันที แววตายังคงกรุ่นโกรธเป็นที่สุดกับสิ่งที่อติพัทธ์กระทำกับตน
“พี่...” อติพัทธ์รู้สึกพูดไม่ออกและรู้ว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดอีก ศราวินสูดลมหายใจลึกตั้งสติของตัวเองไว้ก่อนเอ่ยกับอีกฝ่ายเสียงแข็ง
“ถอยไปฮะ ผมจะกลับแล้ว”
“ดึกแล้ว มันอันตราย ให้พี่ไปส่งนะ” อติพัทธ์เสนอขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เด็กหนุ่มกลับยิ้มหยันมากกว่าเก่า
“มันคงไม่มีใครอันตรายเท่ากับพี่แล้วมั้งฮะ”
“ซัน..” อติพัทธ์ครางเสียงอ่อนอย่างรู้สึกผิด ดวงหน้าเยาว์วัยยังคงบึงตึงและหมางเมิน
“ซันกลับเองได้”
“ไม่ ถ้าซันไม่ให้พี่ไปส่ง พี่ก็ไม่ให้ซันกลับ”
อติพัทธ์ยืนกรานเสียงแข็ง และจ้องตาให้รู้ว่าเขาเอาจริงกับคำพูดนั้น เด็กหนุ่มกระแทกลมหายใจก่อนจะพยักหน้าอย่างจำยอม อติพัทธ์จึงหันกลับไปหยิบกุญแจรถมาและเอื้อมมือไปจะจับมือเล็กแต่ก็ต้องชะงักเพราะเด็กหนุ่มสะบัดแขนหนี
“ไปกันเถอะ..” นายตำรวจหนุ่มได้แต่เอ่ยชวนเสียงแห้งแล้วเปิดประตูให้ศราวินเดินนำออกไป
ตลอดทางมันไร้บทสนทนาใดๆ ศราวินเอาแต่มองออกไปด้านนอกรถ ไม่ยอมแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ ตัวอติพัทธ์เองก็รู้สึกแย่จนหาคำพูดใดๆมาพูดได้เลยสักคำ เขาลอบมองเสี้ยวหน้าที่สะท้อนกับแสงไฟสีส้มนวลบนท้องถนนอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ความโกรธและความหึงหวงมันครอบงำสติสัมปชัญญะจนเผลอทำร้ายทั้งกายและใจของคนที่ตัวเองรักเช่นนี้
ศราวินคงไม่มีวันให้อภัยเขาง่ายๆอย่างแน่นอน...
กว่าจะเสร็จจากการผ่าตัดและกลับมาหาศราวินได้ เวลามันก็ล่วงเลยผ่านเที่ยงคืนไปเสียแล้ว อนิรุทธ์แวะร้านสะดวกซื้อและซื้ออาหารกล่องกับขนมขบเคี้ยวหลายอย่างพร้อมทั้งเครื่องดื่มที่จำได้ว่าศราวินชอบกลับมาเต็มตะกร้า พอมาถึงหอพักของศราวินแล้ว ศัลยแพทย์หนุ่มก็หิ้วของทั้งหมดขึ้นมาบนห้อง เขายืนเคาะประตูอยู่พักใหญ่แต่ก็ศราวินก็ไม่เปิดประตูออกมา อนิรุทธ์ยกแขนขึ้นมาดูเวลาก่อนจะขมวดคิ้ว เขาแขวนถุงไว้กับลูกบิดประตูก่อนจะหยิบเอามือถือขึ้นมากดหา
แต่เสียงเมโลดี้กลับดังก้องที่โถงทางเดิน อนิรุทธ์หมุนตัวไปหาเสียงที่ดังขึ้นและเห็นร่างเล็กของคนรักหยุดยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์โดยที่ด้านหลังมีนายตำรวจหนุ่มคนนั้นยืนอยู่ ศราวินมองมาที่เขาก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหา
“ผมกำลังโทรหาคุณอยู่พอดี อะ..” อนิรุทธ์อุทานเสียงเบาเพราะร่างเล็กที่เดินมาหานั้นโผเข้ามากอดเขาไว้ อ้อมแขนของเด็กหนุ่มกอดรัดเขาไว้แน่นจนอนิรุทธ์รู้สึกประหลาดใจมากกว่าเก่า เขาเงยหน้ามองนายตำรวจหนุ่มที่ยืนห่างออกไป แวบหนึ่งที่เห็นความเจ็บปวดบนดวงตาคู่คมของอติพัทธ์ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะหันหลังกลับไปกดลิฟต์และเดินเข้าไปโดยไม่พูดอะไร
“เกิดอะไรขึ้นหรอซัน?” อนิรุทธ์ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กแล้วถามออกมา อ้อมกอดของศราวินคลายลงก่อนที่เด็กหนุ่มจะถอยห่างแล้วส่ายหน้าไปมา รอยยิ้มฝืนๆถูกส่งมาให้
“อาจารย์มานานแล้วหรอฮะ?”
“เพิ่งมาน่ะ” เขาบอกแล้วพิศดูดวงหน้าเยาว์วัย ดวงตากลมโตของศราวินมีรอยช้ำบวม พอเขายื่นมือจะไปจับแก้มเด็กหนุ่มก็เบี่ยงหน้าหนีแล้วก้มลงหยิบเอากุญแจออกมาไขประตูห้อง
“ซื้อของมาเยอะแยะเลยนะฮะ”
“มีขนมของโปรดของคุณมาหลายอย่างเลยนะ” อนิรุทธ์บอกแล้วดึงถุงออกมาถือไว้ เด็กหนุ่มหันมามองหน้าเขาแล้วยิ้มให้
“อาจารย์นี่น่ารักจัง”
อนิรุทธ์เห็นดวงตากลมสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินนำเข้าห้องไปเปิดไฟ เขาเดินตามเข้าไปและรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก
ลางสังหรณ์บอกว่ามันจะต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้นระหว่างคนรักของเขากับนายตำรวจหนุ่ม แต่อนิรุทธ์ก็รู้ว่าตัวเองไม่ควรที่จะถามออกไป ตราบใดที่ศราวินยังไม่พูดออกมา นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะให้เขารับรู้
เขาก็ไม่ควรเร่งเร้าที่จะถามให้ศราวินรู้สึกแย่ด้วยเช่นกัน
“คุณทานอะไรมาหรือยัง?” เขาเอ่ยถามและเดินเอาถุงข้าวของที่ซื้อมาไปวางลงที่โต๊ะและดึงกล่องอาหารที่อุ่นร้อนออกมาวาง รวมทั้งเครื่องดื่ม แต่ก็ไร้เสียงที่ตอบกลับ เขาหันมามองและเห็นว่าเด็กหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว ศัลยแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อยมองอย่างประหลาดใจมากกว่าเก่าที่คนรักไม่ชวนตัวเองเข้าไปอาบน้ำพร้อมกันแบบนี้
แต่บางที..ศราวินอาจจะอยากใช้เวลาเป็นส่วนตัวเพื่อคิดอะไรบางอย่าง
เขาคิดแบบนั้นก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาและหยิบรีโมตทีวีขึ้นมากดเปิดดูฆ่าเวลาระหว่างที่คนรักอาบน้ำ
ฝ่ายศราวินนั้นพอเข้ามาอยู่ในห้องน้ำแล้วก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ดวงตากลมโตที่ช้ำบวมเลื่อนไปมองร่างกายตัวเองในกระจก หยาดน้ำตาใสไหลกลิ้งลงอาบแก้มอีกครั้ง ศราวินกัดริมฝีปากไว้อย่างเจ็บปวด เขาสะบัดหน้าหนีจากร่างกายของตัวเองที่มีร่องรอยที่อติพัทธ์ฝากฝังเอาไว้เดินหนีไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำไหลลงมาชำระร่างกายตัวเองพลางปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง
ความโกรธเกลียดที่อติพัทธ์ทำกับตัวเองนั้นจากลงไปบ้างแล้ว เพราะรู้ดีว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่พูดออกไปจนทำให้อติพัทธ์ขาดสติ
บัดนี้ความรู้สึกที่เหลืออยู่คือความกลัว...
กลัวว่าหากอนิรุทธ์รู้..แล้วจะรังเกียจตน
เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากกลั้นสะอื้นแล้วหยิบเอาฝักบัวลงมาถือ ริมฝีปากขบเม้มแน่นกว่าเก่าและกลั้นใจจ่อฝักบัวไปที่หว่างขาของตนเอง สายน้ำแรงไหลชำระเอาคราบไคลที่เปรอะเปื้อนภายนอกออกไป แต่ก็ยังไม่อาจชำระเอาสิ่งที่ตกค้างอยู่ภายในออกมาได้ ศราวินใช้ปลายนิ้วมือแยกสะโพกของตัวเอง ทำอย่างนั้นแล้วสิ่งที่คั่งค้างข้างในก็ค่อยๆไหลออกมาให้อดสู เด็กหนุ่มสอดนิ้วเข้าไปแล้วล้วงเอาสิ่งที่อติพัทธ์ปลดปล่อยไว้ออกมา ศราวินล้างมันอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกแสบไปหมดจึงหยุด เขาวางฝักบัวกลับที่แล้วดึงฟองน้ำออกมาเทสบู่ถูตัวอย่างเหม่อลอยมีเพียงความคิดเดียวที่ล่องลอยอยู่ระหว่างที่ขัดถูร่างกายตัวเอง
จะต้องไม่ให้อาจารย์รู้เรื่องนี้....
ศราวินตอกย้ำตัวเองอยู่เช่นนั้นก่อนจะเปิดฝักบัวล้างฟองสบู่ออกไปจนหมด เขาถอนหายใจช้าๆแล้วหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาซับตัวให้แห้ง แต่พอสายตาหันไปเห็นชั้นในที่ถอดวางในตะกร้ามันมีรอยเปรอะอยู่ ดวงตาของศราวินก็สั่นระริกขึ้นมาอีกหน เด็กหนุ่มพาดผ้าเช็ดตัวไว้กับราวก่อนหยิบเอาชั้นในไปที่อ่างล้างหน้าและจัดการซักมันอย่างบ้าคลั่ง
คราบไคลที่เลอะปนกับเลือดที่ออกเพราะถูกอติพัทธ์ย่ำยีถูกสายน้ำละลายออกมาจากเนื้อผ้า ศราวินขยี้ชั้นในของตัวเองแรงๆอยู่หลายครั้งจนกระทั่งมันสะอาดก่อนจะบิดมันและโยนมันกลับลงไปในตะกร้าแล้วเอาผ้าเช็ดตัวโยนทับไว้ก่อนจะหันมาล้างมือ เขาเงยหน้าขึ้นมองกระจกอีกครั้งและเห็นเงาของคนที่อมทุกข์สะท้อนกลับคืนมา
นี่ไม่ใช่คนที่อาจารย์รัก..
คนที่อาจารย์รักคือศราวินที่สดใส
แต่ทว่า..ในยามนี้เขาจะเรียกคืนความสดใสที่อาจารย์รักกลับคืนมาได้อย่างไรกัน..
ศราวินถอนหายใจอย่างหนักอก เขาหันไปหยิบชุดนอนมาสวมและตัดสินใจที่จะออกไปเพราะรู้ดีว่าไม่สามารถซ่อนตัวเองไว้ในห้องน้ำได้ทั้งคืน แค่เข้ามาอาบน้ำคนเดียวแบบนี้ อาจารย์ของเขาก็ต้องนึกสงสัยแล้วแน่ๆ
พอออกไปข้างนอก เด็กหนุ่มก็พบว่าคนที่อยู่ข้างนอกนั้นกำลังหลับคอพับอยู่กับโซฟา อนิรุทธ์ที่มีคิวผ่าตัดทั้งวันคงจะเหนื่อยมากจนถึงขั้นหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้ทานมื้อค่ำที่ซื้อมา ศราวินมองดูอาหารกล่องที่ถูกนำออกมาวางไว้โดยไม่มีร่องรอยกินแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง เขาเดินไปหาคนรักที่นั่งหลับอยู่ แววตากลมโตที่บวมช้ำมองอนิรุทธ์อย่างอ่อนแสง ศราวินเอื้อมมือไปถอดแว่นสายตาให้ แต่มันก็ทำให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา
“ขอโทษฮะที่ทำให้ตื่น”
“อืม...ไม่เป็นไร คุณอาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?” อนิรุทธ์ถามพลางขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง เขาเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างรู้สึกเป็นห่วง เด็กหนุ่มยิ้มให้เขา มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสเหมือนดั่งเคยจนเขาอดไม่ได้ที่จะจับมืออีกฝ่ายไว้ มือของศราวินมันเย็นเฉียบ
“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบาและไม่พูดอะไรอีก
“หิวหรือเปล่า? ทานอะไรหน่อยไหม?”
ศราวินส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่ฮะ ง่วงนอนมากกว่า ขอโทษนะฮะ ผมขอเข้านอนเลยได้ไหม?”
“ได้สิ” อนิรุทธ์ออกจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่สีหน้าซีดเซียวนั่นก็พาให้เขานึกเป็นห่วงมากกว่า เขาจูงมือเด็กหนุ่มไปที่เตียงและดึงเอาผ้าห่มมาห่มให้คนรักหลังจากที่ศราวินเอนกายนอนลงบนเตียง
“ฝันดีนะครับ” เขากล่าวราตรีสวัสดิ์ก่อนก้มลงไปจูบเบาๆที่หน้าผาก ศราวินบีบมือเขาเบาๆแล้วหลับตาลง อนิรุทธ์ก้าวถอยออกมา มองคนรักอย่างไม่คลายความเป็นห่วง เขาตัดสินใจที่จะไม่ทานมื้อค่ำแต่หยิบเอาเสื้อผ้าไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองก่อนจะเดินออกมานอนบนเตียง เขาขยับเข้าไปหาคนรักที่นอนตะแคงหันหลังอยู่และสอดแขนเข้าไปกอดเด็กหนุ่มเอาไว้
อนิรุทธ์ได้แต่หวังว่าวันพรุ่งนี้ เด็กน้อยของเขานั้นจะกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเช่นเคย
-TBC-
แฮ่ แอบหายไปสองเดือนกว่า มันมีทั้งติดงานเล่มอื่นด้วย แล้วก็มีจุดที่ตัดสินใจยากมากของตอนนี้ด้วย เลยพาลให้อู้กันไปพักใหญ่ ขอโทษนะคะ
ช่วงนี้เปิดกรุ๊ปไว้สำหรับอัพเดทนิยายโดยเฉพาะในเฟสบุ๊คค่ะ จะได้ตามข่าวอัพเดทนิยายที่ลงเวปแล้วหรือรวมเล่มได้ง่ายๆ ใครอยากเข้าร่วมกรุ๊ปก็เข้าไปดูได้ที่แฟนเพจ หรือจะหลังไมค์มาถามก็ได้ค่ะถ้าหาไม่เจอ
ปล.ใครชอบดราม่า มีเรื่องสั้นมาฝากค่ะ (เป็น3Pด้วยนะ ^^)
[ซีรี่ย์เรื่องสั้น Drama] Harmonic Symphony - Love Chaconne (3P) จิ้มอ่านได้เลย
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^