[Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)  (อ่าน 222493 ครั้ง)

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
พึ่งได้มาตามอ่าน เรื่องนี้ค่ะ..  รอลุ้นให้รักของ อาจารย์กับน้องหมอ ไม่ซ้ำรอยเก่านะคะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
น่ารัก อบอุ่น แต่อ่านแล้วรู้สึกกลัวๆอนาคตยังไงไม่รู้

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เขียนเก่งจังเลยค่ะ อยากรู้จัง ปมเรื่องนี้คืออะไร

ปล.จำได้ว่าอ่านช่วงแรก น้ำตาไหลพรากกกกกกก ถ่ายทอดเรื่องราวความรักได้ดีมากค่ะ^^

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
น้ำตาลขึ้นพรวดๆ >________<
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตั้งใจอ่านทุกคำทุกบรรทัด

ละเมียดละไมดีจัง
เจ๋งอ่าาา

:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2013 17:04:30 โดย Mookkun »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ซัน หล่อนกล้ามาก เชิญชวนอาจารย์ของชั้นตลอดเวลาาา (????) 
ชอบอาจารย์อ่ะ ชอบบบบบบ

ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
อยู่ๆก็เข้ามาอ่านเรื่องนี้เฉยเลย ทั้งๆที่เป็นคนกลัวผีนะ :ruready

พอเข้ามาอ่านเท่านั้นแหละ ติดเลย หนังสง หนังสือ ไม่ได้อ่านกันเลยทีเดียว

เรื่องนี้อยากบอกว่าฟินมาก แต่งได้อารมณ์มากอ่ะ เวลาเศร้า โกรธ น้อยใจ เสียใจ หรือช่วงฟินๆ

อ่านแล้วอินมากอ่ะ  o13 ยิ่งตอนหลังๆ ที่ทำเอาอาจารย์หวานซะอิชั้นอายแทนซันกันเลยทีเดียว


อยากให้คนเขียนช่วยมาต่อเรื่องนี้ในเร็ววันด้วยเถิด :call: :call:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ระฆัง

  • บุคคลทั่วไป
ต้องบอกก่อนนะคะว่าอ่านสปอยเรื่องนี้มา
ทั้งๆที่เป็นคนกลัวผี แต่เรื่องน่าสนใจมากกกกก :hao7:
เล่าเรื่องเหมือนกับเรากำลังนั่งดูภาพยนตร์ในโรงเลยคะ
ไม่ว่าจะเป็นฉากซัน(ในอดีต)หรือจะเป็นซัน(ในปัจจุบัน)
บอกได้เลยว่าหลงรักตัวละครตัวนี้ไปแล้ว ไม่เป็นอันทำการทำงานเลยคะ
สนุกมากๆ มาต่อเร็วๆนะคะ
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
 o13 คนเขียนบรรยายได้ดีมาก

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
โหยตอนแรกๆนี่กระชากน้ำตาเราไปสองวันเลย แต่แล้วอ่านไปๆมันก็หวานซะ หวานแบบเดี๋ยวจะมีดราม่าอย่างงั้นหรอ ม่ายยยจริงงงงงง
อยากอ่านต่ออะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nut28phat

  • บุคคลทั่วไป
รอเลยค่ะ
หวังว่าอาจารย์และน้องซันในรุ่นนี้จะไม่มีอุปสรรคใดๆมาแผ้วพานความรักของทั้งสองคน

poppyk

  • บุคคลทั่วไป
รอติดตามอยู่น้า  หายไปนานจังเลยอ่ะ คิดถึงอาจารย์กับน้องหมอ ><

ออฟไลน์ babimild1985

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตามอ่านจนจบรวดเดียวเลย

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
เอ่ออออออออออออออ

เข้ามาอ่านตอนแรกก้อตกใจล่ะที่นายเอกต้องตายยยยยย
พอยิ่งอ่าน  อารัมภบท รู้ถึงความโหดร้ายก่อนนายเอกตายอีก(มันโหดมากกกกกกกก) ทำให้เราอ่านข้ามๆไป(โทดที)

แต่คนเขียนก้อทำให้เราอินมากเลยนะ อ่านแล้วน้ำตาจะไหลสงสารศราวินมาก 
ทำให้เราชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยล่ะ(ถ้าไม่นับความโหดตอนศราวินโดนทำร้าย)

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคร้าพพพพพพ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ขอให้ภาคปัจจุบันแฮปปี้นะ

อ่านอารัมภบทเข้าไป นอนไม่หลับเลยอะ สู้ๆจ้า

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
Chapter 5

การได้ตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับมีคนที่รักหลับอยู่ข้างๆนั้น ใครๆเขาก็ว่ามันเป็นความสุขที่สุดแล้ว

สำหรับอนิรุทธ์ วันนี้มันก็เป็นวันที่สองแล้วที่เขาได้สัมผัสกับความสุขนั้น ร่างเล็กๆของความรักกำลังนอนหลับอย่างมาความสุขอยู่ข้างๆเขา แม้เด็กหนุ่มจะมาเบียดเบียนครึ่งหนึ่งของหมอนใบโปรดและผ้าห่มผืนหนาแต่อนิรุทธ์ก็ยินดีที่จะแบ่งปันให้เหมือนกับไออุ่นจากร่างกายที่เด็กน้อยของเขากำลังซุกอิงอยู่

"หมอ..ได้เวลาตื่นแล้วนะ"

อนิรุทธ์เอ่ยปลุกพลางเลื่อนมือมาเขย่าแขนเด็กขี้เซาที่กอดเอวเขาอยู่เบาๆ

"อีกสองนาทีนะฮะ" เสียงเล็กบอกก่อนซุกหน้าลงกับไหล่ของเขาอย่างงัวเงีย

อนิรุทธ์ได้แต่ยิ้มขำก่อนกดจูบลงกับขมับเนียน

"ถ้าคุณตื่นสาย ผมจะไปอาบน้ำก่อน ไม่รอนะ" เด็กน้อยของเขาอ้าปากงับไหล่เบาๆก่อนพลิกหน้ามาหา

"มอร์นิ่งคิสล่ะฮะ?"

"ไม่จูบหรอก เหม็นขี้ฟันหมอ"

พอแกล้งเย้าไปอย่างนั้น กำปั้นเล็กก็ทุบลงที่อกของเขาไม่แรงนักก่อนคนถูกแกล้งจะม้วนตัวหนีไปอีกทางพร้อมผ้าห่มที่ยกมาคลุมโปง

"อาจารย์ไปอาบน้ำคนเดียวเลย งอนแล้ว"

อนิรุทธ์หัวเราะเบาๆ เพิ่งรู้ว่าการแหย่ให้เด็กน้อยของเขางอนแล้วมีความสุขมากแค่ไหน ซ้ำยังนึกชอบเวลาเด็กน้อยของเขาเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อและใช้คำพูดที่ลงท้ายเป็นกันเองกับเขาแบบนี้อีกด้วย

ไอ้คำว่าหลงรักเด็กเพราะเด็กมันน่ารักมันเป็นเช่นนี้นี่เอง

"แล้วคุณล้างข้างในเองได้หรือหมอ?"

ศัลยแพทย์หนุ่มโน้มตัวมากอดก้อนผ้าห่มกลมๆเอาไว้แล้วหยอกถาม เด็กขี้งอนในก้อนผ้าห่มดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมา เขาเลยจัดการรั้งเด็กขี้งอนให้ลุกขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง

"ไปอาบกับผมดีกว่า ผมจะล้างข้างในให้"

อนิรุทธ์เอ่ยอย่างอ่อนโยนด้วยความหวังดีที่อยากให้คนรักได้สบายตัวโดยไม่รู้เลยว่ามันก็เป็นนิสัยของเขาเองเมื่อสี่สิบปีก่อนด้วยเช่นกัน

"ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว..จูบได้รึเปล่าฮะ?"

อนิรุทธ์ไม่ตอบแต่ยิ้มให้แล้วยกมือขึ้นมาลูบแก้มเด็กหนุ่มเบาๆก่อนยื่นหน้าไปจูบมอร์นิ่งคิสให้กับเด็กช่างอ้อน เป็นจูบแสนหวานรับวันใหม่

"ฮึฮึ เหม็นขี้ฟันไหมฮะ?" ศราวินหัวเราะคิกคักเมื่อผละริมฝีปากจากกัน

"พอสมควร"

อนิรุทธ์แกล้งทำหน้าจริงจังตอบกลับไปก่อนหัวเราะเมื่อเด็กหนุ่มหน้าเสีย ทำเอาคนถูกแกล้งต้องยกมือขึ้นมาแกล้งบีบคอเขา

"นี่แน่ะ แกล้งกันหรอ!"

ศราวินกอดปล้ำร่างสูงไว้แล้วเอามือจี๋เอวคนรักก่อนจะเป็นฝ่ายถูกรวบมือและกดลงกับเตียง

"ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ แกล้งคุณแล้วมีความสุขจัง" ศราวินอมยิ้มเขินแล้วแกล้งเชิดหน้าขึ้นทั้งที่แก้มยังแดงอยู่

"เห็นกับความสุขของอาจารย์หรอกนะฮะ ศราวินจะยอมโดนอาจารย์แกล้งก็ได้ แต่..ตอนนี้เราไปอาบน้ำกันเถอะฮะ เดี๋ยวไปราวน์สายนะ" อนิรุทธ์พยักหน้าก่อนลุกขึ้นยืนและดึงแขนคนรักให้ลุกตาม

"อื้อ!"

ทันทีที่ลงมายืนก้บพื้น เสียงอุทานด้วยความเจ็บมันก็ดังขึ้น

อนิรุทธ์หันมองทันทีและเห็นเด็กน้อยของเขากำลังทำหน้าเหยเกอยู่ มือข้างที่ไม่ได้จับกับมือของเขากำลังกุมสะโพกไว้

"เจ็บสะโพกหรอ?"

อนิรุทธ์เอี้ยวมามองดู ที่สะโพกของเด็กหนุ่มมีรอยช้ำเขียวปรากฏอยู่ ศัลยแพทย์หนุ่มนึกกร่นด่าตัวเองที่ประมาทเลินเล่อไม่หายามาทาให้เด็กหนุ่ม

"เจ็บมากไหม?" อนิรุทธ์แตะลงที่รอยช้ำ แต่ศราวินส่ายหน้าไปมา

"ไม่ใช่ตรงนั้น ตรงนี้ต่างหากที่เจ็บ"

เด็กหนุ่มบอกพร้อมกับชี้ลงตรงจุดที่ใช้รองรับตัวตนของอนิรุทธ์สอดเข้ามาในร่างกาย ศัลยแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วก่อนทรุดลงคุกเข่ากับพื้นแล้วแหวกบั้นท้ายของคนรักออกดู

"บวมอักเสบพอสมควรเลย คุณเดินไหวหรือเปล่า?" เสียงทุ้มถามอย่างห่วงใย

ศราวินขยับเดินไปสองสามก้าวแบบเขยกๆก่อนพยักหน้า

"พอไหว แต่แบบนี้โดนล้อแหงๆ" เด็กหนุ่มมุ่ยหน้าบ่น

"ถ้าไม่ไหวก็หยุดสักวันก็ได้ วันนี้ไม่มีอะไรมาก แค่ราวน์เช้ากับเย็นนิใช่ไหม?"

อนิรุทธ์บอกอย่างห่วงใยแต่เด็กน้อยของเขาส่ายหน้าไปมา

"ไม่เอาหรอกฮะ ไปโรงพยาบาลดีกว่าเผื่อมีเคสน่าสนใจเดี๋ยวจะพลาดเอา เจ็บแค่นี้สบายมาก เดี๋ยวก็หาย"

เห็นแววตามุ่งมั่นที่จะไม่ยอมหยุดแล้วอนิรุทธ์ก็ต้องยอมตามใจ หลังจากนั่นจึงโอบเอวพาเด็กน้อยแสนขยันของเขาไปอาบน้ำและพาออกมาทายาที่โชคดีมีติดห้องเอาไว้

ทว่านอกจากรอยช้ำที่ก้นซึ่งเกิดจากศราวินสะดุดล้มเมื่อวานแต่เพิ่งมาปรากฏในเช้าวันนี้แล้ว เรือนกายของศราวินยังมีรอยอื่นปรากฏอยู่ เด็กหนุ่มเพิ่งเห็นมันก็ตอนที่แต่งตัวอยู่ตรงหน้ากระจก

ศราวินกะพริบตาเบาๆขณะมองดูรอยสีกุหลาบที่กระจายอยู่เต็มลำคอกับอกขาว รอยที่บ่งบอกว่าร่างกายของเขาเป็นของใครบางคนที่กำลังแต่งตัวอยู่ข้างกัน ศราวินยกมือขึ้นลูบลำคอตัวเอง ปลายนิ้วสัมผัสไล้ไปตามรอยนั้นก่อนหน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงสัมผัสที่ทำให้เกิดรอยนี้

อนิรุทธ์ที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเห็นคนรักยืนเหม่อแก้มแดงอยู่หน้ากระจกก็เดินเข้าไปหา เขาสอดมือกอดเอวบางเอาไว้แล้วกดคางลงกับไหล่เล็ก

"เหม่ออะไรอยู่หืม?"

ศราวินมองสบตาคนรักก่อนก้มหน้างุดด้วยความเขิน มือจะหยิบเนคไทที่แขวนอยู่มาผูกก็ทำร่วงหล่นพื้นไปเสียอีก อนิรุทธ์เห็นอย่างนั้นก็ก้มลงไปหยิบเนคไทขึ้นมา คีบมันไว้ด้วยนิ้วนางกับนิ้วก้อยก่อนสอดมืออ้อมไปติดกระดุมเม็ดบนสุดให้คนรักแล้วจัดแจงตั้งคอปกเสื้อขึ้นเอาเนคไทพาดรอบคอก่อนผูกให้อย่างประณีต

"ราวน์เสร็จก็อย่าเพิ่งถอดเนคไทก็แล้วกันนะ"

อนิรุทธ์บอกอย่างรู้ว่าเด็กหนุ่มคิดเรื่องอะไรอยู่ เพราะความสุขที่มีทำให้เขาไม่ทันคิดจนเผอเรอทิ้งรอยรักไว้นอกร่มผ้าเสียเต็มไปหมด

"คราวหลังจะระวังกว่านี้"

อนิรุทธ์ที่จัดการกับปกเสื้อของเด็กหนุ่มเสร็จแล้วก็ลดมือลงโอบกอดแล้วบอก

"ไม่เป็นไรฮะ" ศราวินยิ้มหวานก่อนยื่นหน้าไปจูบคนรักเบาๆที่ปลายจมูกและชะงักเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“หมอ..”

ศราวินเอียงคอมองสบตากับคนรักในกระจก มือใหญ่ยกขึ้นมาจับมือของเขาไว้ อาจารย์ดูคล้ายมีอะไรอยากพูดแต่ก็ดูลังเลที่จะพูด ศราวินเลยยิ้มให้กับเขาและบีบมือใหญ่ที่จับมือตัวเองอยู่แน่นขึ้น

“มีอะไรหรอฮะ?”

อนิรุทธ์ระบายลมหายใจช้าๆ เขากดจูบข้างแก้มของคนรักแล้วเอ่ยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“หมอจะโกรธหรือเปล่า ถ้าผมจะขอให้คุณเก็บความสัมพันธ์ระหว่างเราไว้เป็นความลับ?”

ศราวินนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนยิ้มมาให้เขาและส่ายหน้า เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับมาแล้วมองหน้าคนรักเอาไว้ สบตากันตรงๆโดยไม่ต้องผ่านกระจกบานใหญ่

“ซันจะโกรธอาจารย์ได้ยังไงกัน ซันเข้าใจฮะ”

เด็กหนุ่มบอกโดยไม่มีความขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าหากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรักล่วงรู้ไปถึงคนภายนอก ดีไม่ดีอาจนำความเดือดร้อนมาให้อนิรุทธ์ที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ก็เป็นได้

“อดทนหน่อยนะหมอ...แค่ช่วงเวลาที่คุณยังเป็นลูกศิษย์ของผมเท่านั้น” อนิรุทธ์บอกเสียงอ่อนและโล่งใจที่คนรักเป็นเด็กที่ไม่เอาแต่ใจให้เขาลำบากใจ

ศราวินยิ้มให้ทั้งริมฝีปากและดวงตาก่อนจูบเบาๆที่ปลายคางของเขา

“ศราวินจะอดทนรอฮะ”

อนิรุทธ์ยกมือขึ้นมาประคองแก้มเนียนก่อนจูบลงที่กลางกระหม่อม

"แต่เย็นนี้กลับพร้อมกันนะ" เด็กน้อยของเขายิ้มและพยักหน้าให้ ดวงตามีประกายอย่างมีความสุขพร้อมกับนึกคาดหวังโปรแกรมสำหรับเย็นนี้อย่างเรื่อยเปื่อยโดยไม่รู้ว่าจะไม่ได้ใช้มัน

เพราะปิดเรื่องความส้มพันธ์ไว้เป็นความลับ แม้จะออกมาจากที่พักด้วยกันแต่อนิรุทธ์ก็ต้องจอดรถให้ห่างจากโรงพยาบาลพอสมควรเพื่อให้เด็กหนุ่มเดินต่อเข้าไปในโรงพยาบาลเอง

"วันหลังจอดไกลก็นี้ก็ได้ฮะ ซันเดินได้"

น้ำเสียงของเด็กหนุ่มไม่มีแววประชดประชันแต่อย่างใด ศราวินหันไปจูบไวๆที่ข้างแก้มของคนรัก

"แล้วเจอกันบนวอร์ดนะฮะ"

"เดินระวังๆนะ"

อนิรุทธ์บอกอย่างเป็นห่วง เด็กหนุ่มส่งยิ้มเต็มแก้มให้กับเขาก่อนจะเดินลงไป อนิรุทธ์ยังคงจอดรถมองดูเด็กหนุ่มเดินไปตามฟุตบาทอย่างนึกห่วงเพราะศราวินยังเดินเขยกอยู่บ้างก่อนขับรถตามไปช้าๆจนกระทั่งร่างเล็กเดินเข้าไปในเขตรั้วของโรงพยาบาล อนิรุทธ์จึงวางใจได้

อนิรุทธ์มาถึงวอร์ดก่อนเด็กหนุ่มเล็กน้อย เขารับฟอร์มปรอทจากนางพยาบาลมาเปิดดูพร้อมเอ่ยทักตุลธรซึ่งเป็นแพทย์ประจำแผนกอายุรกรรมที่เพิ่งจะราวน์ตรวจคนไข้เสร็จ พลางชำเลืองมองไปทางลิฟต์เป็นระยะ จนกระทั่งเห็นร่างเล็กของศราวินเดินออกมาจากลิฟต์ก็จึงวางใจก้มดูฟอร์มปรอทในมือได้อย่างคลายความเป็นห่วง

"โอ๊ะหมอ!? ทำไมเดินเขยกแบบนั้นล่ะ!?"

เสียงตุลธรอุทานดังลั่นราวกับมีเรื่องใหญ่พาให้ทุกคนในห้องต้องหันมามองศราวินที่เพิ่งจะเดินผ่านกรอบประตูเข้ามา คนถูกถามยิ้มเจื่อนเล็กๆขณะที่อายุรแพทย์หนุ่มกุลีกุจอเข้าไปช่วยพยุงจนศราวินวางสีหน้าไม่ถูก

"ไม่เป็นไรครับ ผมเดินได้"

ศราวินบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจก่อนเขยกเดินมายืนใกล้ๆอนิรุทธ์ก่อนทักทายอาจารย์ของเขากับนางพยาบาลคนอื่นๆแต่ไม่วายตุลธรจะมายืนป้วนเปี้ยนถามใกล้ๆ

"ไปทำไรมาถึงเขยกแบบนี้ล่ะหมอ?"

ใบหน้าน่ารักแดงกล่ำขึ้นมาอย่างมีพิรุธ แต่พอศราวินยกมือขึ้นเกาแก้มแล้วอ้อมแอ้มพูดเสียงเบาถึงต้นเหตุ หลายคนที่ยืนรอฟังก็ไม่มีใครสงสัยติดใจอะไรเพราะคิดว่าเด็กหนุ่มอายกับความเปิ่นของตัวเอง

"สะดุดผ้าห่มล้มตอนลงจากเตียงนะครับ"

"โธ่หมอ ซุ่มซ่ามจริง กินยาหรือทายาหรือยังล่ะ ยังไงถอดกางเกงมาให้ผมตรวจดีกว่า ก้นสวยๆอย่างหมอช้ำไป ผมปวดใจแย่"

อายุรแพทย์หนุ่มหยอกแล้วยกมือตีก้นเด็กหนุ่มเบาๆ ทำเอาศราวินสะดุ้งยิ้มแหยกับการหยอกแบบถึงเนื้อถึงตัวนี้จนเผลอถอยไปเบียดอนิรุทธ์ที่ยืนมองอย่างไม่ชอบใจอยู่

"ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว"

ศราวินปฏิเสธและฝืนยิ้มให้ แต่คนช่างหยอกยังคงไม่หยุดและไม่รู้ถึงสายตาที่ไม่ชอบใจของแพทย์อีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

"โธ่หมอ..ผมยินดีตรวจให้ฟรีนะ แค่ได้มองก้นสวยๆของหมอก็คุ้มแล้ว"

ตุลธรทำท่าเพ้อพาให้พวกนางพยาบาลหัวเราะกันคิกคักกับความบ้าบอของเขา แต่อนิรุทธ์ไม่นึกขำด้วย ศัลยแพทย์หนุ่มกระแทกปิดฟอร์มปรอทในมือก่อนเอ่ยเสียงขุ่นขัดขึ้นมา

"ได้เวลาคุณลงโอพีดีแล่วไม่ใช่หรือหมอ?"

ได้ยินแบบนั้นตุลธรก็พลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรูของตัวเองแล้วทำตาโต

“อ๊ะจริงด้วย! งั้นต้องไปก่อนล่ะ อย่าลืมนะหมอ ถ้าระบมล่ะก็รีบมาหาผมเลยนะ จะรีบลัดคิวตรวจให้ก่อนเลย” สองประโยคท้ายตุลธรหันมาบอกศราวินแล้วหลิ่วตาให้พร้อมรอยยิ้มที่เห็นลักยิ้มเสน่ห์ทั้งสองข้าง แถมตอนเดินผ่านกันยังตีก้นเด็กหนุ่มไปอีกหนึ่งที ทำเอาศราวินหน้าเสียกับกิริยารุ่มร่ามนั้น

“ฮ่ะๆ ถ้าลงวอร์ดเมดเมื่อไหร่ต้องระวังอาจารย์ตุลหน่อยนะหมอ ท่าทางอาจารย์แกจะคลั่งไคล้ก้นหมอเอามากๆเลยล่ะ” นัชชาที่ยืนจัดยาให้คนไข้อยู่กับอธิชาเอ่ยขึ้นแล้วหัวเราะคิกคัก ศราวินหน้าแดงกับคำแซวของพยาบาลสาวไม่น้อย

“อาจารย์แกเคยพูดด้วยแหละว่าเห็นก้นหมอแล้วอยากเป็นหมอสูติแทน”

“ทำไมล่ะฮะ?” ศราวินถามไปอย่างไม่เข้าใจนัก ใบหน้างงๆของนักศึกษาแพทย์หนุ่มทำให้สองสาวหัวเราะเสียงใสขึ้นมาอีกรอบในขณะที่อนิรุทธ์ยืนนิ่งสีหน้าไม่พอใจอย่างพอรู้ในความหมายนั้น

“ก็อาจารย์เค้าบอกอยากตรวจภายในหมอน่ะ ว่าทำไมก้นหมอถึงได้น่ารักแบบนี้” ศราวินหน้าแดงมากกว่าเดิมก่อนบ่นอุบอิบ

“ตรวจภายในอะไรกัน ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย”

“ฮ่ะๆ..แต่หมอก้นสวยกว่าผู้หญิงอย่างพวกเราอีกนะ ฉันยังแอบอิจฉาก้นหมอเลย” อธิชาแซวแล้วหลิ่วตาให้กับศราวินที่วางสีหน้าไม่ถูก ขณะที่อนิรุทธ์ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ชอบใจกับกิริยาและคำพูดของตุลธรถึงจะรู้ว่าพูดหยอกเล่นก็ตามที

และอารมณ์ขุ่นมัวของศัลยแพทย์หนุ่มก็ดำเนินไปถึงตอนเย็นที่ใกล้จะเลิกงาน

“ยังไม่เลิกหงุดหงิดอีกหรอฮะ?” ศราวินที่แวะมาหาที่ห้องพักเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้านิ่งๆของคนรัก ตัวคนถูกลวนลามเองถึงจะไม่ชอบใจนักแต่ก็เห็นเป็นเรื่องขำๆ แต่คนที่รักกลับเก็บเอามาขุ่นใจ อนิรุทธ์ระบายลมหายใจช้าๆก่อนปิดแฟ้มประวัติคนไข้ในมือลง

“ผมไม่ชอบใจที่เขารุ่มร่ามกับคุณ ถึงจะหยอกเล่นกันก็เถอะ”

“หึงหรอฮะ?” ศราวินถามแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มกริ่ม คนถูกถมชะงักก่อนหน้าแดงขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่ศราวินเห็นอาจารย์ของเขาหน้าแดงเป็น เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใสอย่างดีใจก่อนจะเงียบเสียงลงเมื่อได้ยินเสียงประกาศตามสายดังขึ้น

“นายแพทย์อนิรุทธ์ที่โออาร์สาม นายแพทย์อนิรุทธ์ที่โออาร์สาม ขอบคุณค่ะ”

“เคสฉุกเฉิน”

อนิรุทธ์พูดก่อนลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับหยิบเสื้อกาวน์ที่แขวนอยู่มาสวม ศราวินเดินตามติดเขาไป พอทั้งสองก้าวเข้าไปในลิฟต์ อนิรุทธ์ก็หันมาหาร่างบางที่ยืนอยู่ข้างกัน

“ถ้าเป็นเคสใหญ่ คุณจะกลับไปก่อนก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ” ศราวินพยักหน้า แต่ในใจนึกอยากอยู่รอจนกระทั่งอาจารย์ของเขาเสร็จงานเสียมากกว่า

“แต่ถ้าเป็นเคสเล็ก ซันจะรอนะฮะ”

อนิรุทธ์พยักหน้ารับคำก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากลิฟต์แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องผ่าตัด

“หมอ..โชคดีจริงที่คุณยังไม่ได้กลับ คนไข้หัวใจล้มเหลวเพิ่งถูกส่งมาเมื่อครู่นี้ ผมดูภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์แล้วเลยให้เรียกหมอมาดีกว่า รายนี้เส้นเลือดตีบจนกล้ามเนื้อหัวใจตาย คุณเชี่ยวชาญมากกว่าผม ผมให้เซตโออาร์ไว้รอหมอแล้ว หมอเป็นมือหนึ่งแล้วกัน ผมเป็นมือสองให้”

“แบบนี้ก็นานเลยสินะครับ”

ศราวินถามอย่างสุภาพออกไป อนิรุทธ์พยักหน้าราวกับจะบอกเด็กหนุ่มเป็นนัยๆว่าไม่ต้องคอยก่อนก้าวเข้าไปด้านใน ศราวินยืนลังเลอยู่ก่อนจะเบียดตัวเข้ากับกำแพงเพื่อไม่ให้ขวางทางพวกแพทย์และพยาบาลที่เดินกันไปมาก่อนตัดสินใจเดินตามอาจารย์เข้าไปด้านใน ถึงจะไม่ได้เข้าไปในข้างในห้องที่ผ่าตัด แต่ศราวินก็อยากไปยืนมองดูห้องสังเกตการณ์เช่นกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเข้าไปในโออาร์ด้วยตามประสาเด็กช่างขวนขวายหาความรู้ใส่สมองของตัวเอง แต่การผ่าตัดในครั้งนี้อยู่ในโออาร์สามที่ไม่มีห้องสังเกตการณ์ อย่างน้อยเขาก็อยากจะไปยืนมองจากห้องสครับอยู่ดี

หลังจากที่อนิรุทธ์ล้างขัดมือฆ่าเชื้อเรียบร้อยและสวมชุดฆ่าเชื้อที่พยาบาลสวมให้เสร็จเขาก็ก้าวเข้าไปในฟิวส์ผ่าตัด ศราวินมองตามเขาที่อยู่ในห้องอย่างให้กำลังใจ พยาบาลและศัลยแพทย์ที่อยู่บริเวณนั้นก็ยุ่งวุ่นวายเกินกว่าจะมาใส่ใจนักศึกษาแพทย์ที่แอบเข้ามายืนมองอย่างเขา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือรู้ดีว่าเขาเป็นลูกศิษย์คนโปรดของอนิรุทธ์ที่หลายครั้งเคยเข้ามาสังเกตการณ์ในการผ่าตัดเล็กๆแล้วจึงไม่มีใครว่าอะไร จนกระทั่งศัลยแพทย์หนุ่มใจดีอย่างอาจารย์นันทิชเดินเข้ามา

“หมอ...อยากเข้าไปดูไหม? เคสบายพาสที่หัวใจตายแบบนี้นานๆทีจะมีเข้ามา เข้าไปดูไว้เป็นเคสตัวอย่างก็ดีนะ”

นันทิชเอ่ยถามอย่างใจดี ขณะที่เปิดประตูเข้าไปล้างมือในอ่างล้างมือใกล้ๆ ตัวเขาเองก็เพิ่งถูกตามตัวให้เข้าไปเป็นมือสามในการผ่าตัดครั้งนี้ ศราวินรีบแทรกตัวเข้าไปในห้องสครับก่อนที่ประตูจะปิด

“ได้หรอครับ?” ศราวินยิ้มและก้าวไปล้างขัดมือข้างๆเมื่ออาจารย์พยักหน้าให้

“อย่างหมอ อาจารย์รุทธ์ก็คงไม่ว่าอะไรอยู่แล้วล่ะ”

ศราวินยิ้มกับคำพูดของอาจารย์นันทิช พลางนึกดีใจที่จะได้เข้าร่วมในการผ่าตัดครั้งนี้ถึงจะเป็นเพียงการยืนสังเกตการณ์ก็ตามที

พออยู่ในชุดปลอดเชื้อเรียบร้อยแล้ว ศราวินก็เดินตามนันทิชเข้าไปด้านใน ในตอนนี้อนิรุทธ์เปิดหน้าอกของคนไข้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์หนุ่มตั้งสมาธิสนใจอยู่แต่กับการผ่าตัดตรงหน้าจนไม่ได้หันมามอง แต่ศราวินก็เข้าใจดี เขาเดินไปยืนหลบมุมและเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบๆเพื่อไม่ให้เกะกะใคร

“โอ้โห..แบบนี้ห้าชั่วโมงจะเสร็จหรือเปล่านี่” เสียงของนันทิชอุทานลอดมาส์กออกมาเมื่อเห็นเส้นเลือดของคนไข้ที่ตีบไปหลายเส้น

“แบบนี้แหละหมอ ประเภทไม่ชอบรักษา ไม่ชอบโรงพยาบาล เกลียดหมอ อาการร่อแร่แล้วถึงยอมมา แต่ก็ยังดีที่พามาส่งโรงพยาบาลทัน” บุรพลว่าด้วยน้ำเสียงปลงๆ ศราวินได้ยินเสียงคนรักหัวเราะในลำคอกับคำพูดนั้น

“ถ้ามาตั้งแต่เนิ่นๆก็ไม่ต้องเจ็บตัวขนาดนี้” ศราวินกระตุกยิ้มอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของคนรัก

มนุษย์เรานี่ก็แปลก ยามเจ็บไข้เล็กๆน้อยๆก็มักไม่ใส่ใจกับอาการเจ็บไข้ของตัวเอง ได้แต่คิดเอาเองว่าเดี๋ยวก็หาย บ้างก็ซื้อยากินแบบคิดวิเคราะห์เอง ไม่ได้เป็นห่วงเลยว่าร่างกายจะมีโรคภัยที่หนักหนาซ่อนอยู่หรือไม่ บางรายอย่างคนไข้รายนี้ก็ดื้อแพ่งไม่มาหาจนเจ็บหนักจะไม่รอดเอาถึงได้มา

เป็นภาระให้แพทย์อีก

ศราวินอดคิดอย่างเห็นแก่ตัวไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคนไข้รายนี้มาทำให้โปรแกรมของเขาที่วางเอาไว้ว่าจะได้ใช้เวลาอยู่กับอาจารย์ที่รักต้องพับเก็บไว้นั่นเอง

แต่ดูเหมือนคนรักของเขาจะไม่คิดเช่นนั้น ศัลยแพทย์หนุ่มลงมือทำบายพาสให้กับคนไข้อย่างใจเย็น และไม่บ่นอะไรสักนิด ต่างจากบุรพลและนันทิชที่ยังเอ่ยบ่นออกมาเป็นครั้งคราว

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสามทุ่ม ศราวินที่ยืนเฝ้าดูมาตั้งแต่ต้นก็เริ่มจะแสบๆท้อง นางพยาบาลก็เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมถาดที่มีกล่องนมวางอยู่

“หมอ...พี่รบกวนหมอเอานมไปป้อนให้พวกอาจารย์หน่อยได้ไหม ท่าทางจะต้องผ่ากันอีกนาน เดี๋ยวจะเป็นลมกันไปเสียก่อน วันนี้คิวผ่าเต็มกันทุกห้อง คนไม่พอ พี่ต้องไปช่วยที่โออาร์ห้าอีก วานหมอหน่อยแล้วกันนะ”

“ได้ครับ” ศราวินรับถาดนมมาถือไว้อย่างไม่เกี่ยงงอน

“พี่เอามาเผื่อหมอด้วยนะ อ่อ ของอาจารย์อนิรุทธ์เป็นนมกาแฟนะ รสอื่นอาจารย์ไม่ดื่ม ส่วนอีกสองคนเขาดื่มอะไรก็ได้”

เธอกำชับก่อนจะออกจากห้องไปด้วยท่าทางรีบร้อน ศราวินมองตามไปอย่างเข้าใจเพราะเขาเห็นทั้งศัลยแพทย์กับพยาบาลเดินกันให้วุ่น ท่าทางคงจะมีเกิดอุบัติเหตุแล้วถูกส่งตัวเข้ามาด่วนจนทุกคนต้องวิ่งวุ่นกัน

“ดีจริงที่มีน้องอยู่ ไม่งั้นพวกพี่คงต้องแขวนท้องจนผ่าเสร็จแน่ๆ” บุรพลเอ่ยพูดอย่างดีใจเมื่อเห็นศราวินถือถาดนมเข้ามาหา ปกติหน้าที่นี้เป็นของนางพยาบาลที่ช่วยผ่าตัด แต่เพราะวันนี้นางพยาบาลถูกดึงตัวไปช่วยในห้องอื่นเลยเหลือแต่พวกเขากันสามคนเท่านั้น

ศราวินยิ้มแล้ววางถาดนมลงบนโต๊ะใกล้ๆพลางลังเลว่าจะป้อนให้ใครก่อนดี มือเรียวเอื้อมไปจะหยิบนมกาแฟขึ้นมาแต่ก็ลังเลเพราะเกรงใจอาจารย์อีกสองท่าน และพอมองดีๆก็เห็นว่านมมันมีมากกว่าจำนวนคนเสียอีก

“ป้อนอาจารย์บุรพลก่อนเถอะ ผมยังไม่ค่อยหิว” อนิรุทธ์เอ่ยขึ้นขณะที่มือยังคงไม่หยุดขยับ

“ถึงหมอไม่บอกผมก็ว่าจะขอก่อนแล้วล่ะ ไม่ไหวหิวแสบไส้ ตอนเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน บางทีคงต้องขอสักสองกล่องด้วยซ้ำ”

ศราวินขำกับคำโอดครวญของอาจารย์บุรพลก่อนหยิบนมรสอื่นขึ้นมาเจาะแล้วเดินไปป้อนให้เขาโดยสอดผ่านหลอดเข้าไปใต้มาส์กให้ และนึกเข้าใจว่าทำไมพยาบาลถึงเตรียมนมมาเกินจำนวนคน จนกระทั่งป้อนบุรพลเสร็จก็ย้ายมาป้อนให้นันทิชต่อ บุรพลก็ถามขึ้นมา

“ว่าแต่น้องสนใจจะต่อศัลย์หรือเปล่า? เอ๊ะ พี่ถามเร็วไปหรือเปล่า น้องอยู่ปีสี่ใช่ไหม?”

“ครับ ปีสี่...แต่ก็สนใจศัลย์อยู่เหมือนกันครับ” ศราวินตอบไปอย่างสุภาพและตรงกับความจริง ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นปีสี่ ศราวินก็ยังไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆ แต่พอได้ลงวอร์ดศัลย์ ถ้าไม่นับรวมเรื่องอาจารย์ของเขาแล้ว ศราวินก็รู้สึกชอบใจในสาขานี้ไม่น้อย และยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยความรู้สึกว่าถ้าหากเขาเรียนจบและมาต่อยอดในสาขาวิชานี้ ก็จะได้ทำงานร่วมกับอนิรุทธ์

“ก็ดี ขยันๆแบบนี้พี่ก็อยากให้มาอยู่ศัลย์กับพวกเรา”

ศราวินยิ้มแป้นกับคำชมของอาจารย์บุรพลโดยไม่รู้ว่าคนที่ฟังอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ลอบยิ้มอยู่เช่นกัน

“ถ้าแบบนี้ก็ต้องให้รุทธ์ติวเข้มหน่อย ปูทางเอาไว้ พออินเทิร์นเสร็จ พื้นฐานจะได้แน่นๆ อย่างหมอเนมเองก็เป็นลูกศิษย์ของรุทธ์มาก่อนนะ”

“เอ๋? จริงหรอครับ?”

“เด้นท์รุ่นแรกที่พี่รุทธ์เขาสอนเลยน่ะหมอ ตอนแรกก็ตะขิดตะขวงใจนะมีอาจารย์แก่กว่าไม่ถึงปี แต่เอาเข้าจริงต้องยอมรับเลยล่ะว่าพี่รุทธ์เขาเจ๋งจริงไรจริงถึงมาเป็นอาจารย์ได้ สมัยนั้นน่ะพวกเด้นท์สาวๆเขากรี๊ดกันใหญ่ว่ามีอาจารย์ทั้งหนุ่มทั้งหล่อแถมเก่งอีกด้วย พวกสาวๆรุ่นผมที่ไม่ได้ต่อศัลย์ล่ะโอดครวญเสียดายกันใหญ่”

นันทิชที่ดื่มนมเสร็จพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ พาให้บรรยากาศครื้นเครงขึ้นมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดต่อมาของคนถูกชม

“พอเถอะหมอ ยอเอามากๆถ้าผมลอยไป คุณกับพี่พลต้องบายพาสต่อกันเองนะ”

ศราวินยิ้มขำก่อนเดินไปหยิบนมกล่องรสกาแฟมาป้อนให้คนรักของเขา แววตาที่มองอนิรุทธ์พราวระยับด้วยความรู้สึกภูมิใจ พอป้อนให้เสร็จก็เห็นว่าคนรักนั้นมีเหงื่อซึมอยู่ตามไรผม ด้วยความห่วงใยก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปหยิบทิชชู่มาซับเหงื่อให้ พาให้อีกสองแพทย์ต้องร้องออกมาอย่างอิจฉา

“โอ้ยหมอ..ทีพวกเราไม่เห็นซับเหงื่อให้บ้างเลย”

“ก็พวกอาจารย์ไม่มีเหงื่อนี่ครับ”

ศราวินตอบกลับไปอย่างขบขันกับกิริยาของพวกอาจารย์ที่แสดงความอิจฉาจนต้องร้องโวยวายเหมือนเด็กๆ

“แหม..ก็เห็นน้องซับเหงื่อให้รุทธ์แล้วนึกอิจฉา อยากให้มาซับให้พี่บ้าง คงจะรู้สึกสดชื่นขึ้นเป็นกอง” บุรพลว่าอย่างอารมณ์ดี

(ต่อ)

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
“น่ารักแบบนี้สินะถึงได้เป็นลูกรักของรุทธ์ ระวังเถอะจะย้อนรอยเดิม” นันทิชเหน็บด้วยความลืมตัวก่อนจะนึกขึ้นได้เมื่อได้ยินเสียงบุรพลกระแอม

“อะ..ขอโทษ ผมไม่ควรพูดแบบนั้นสินะ”

บรรยากาศภายในห้องที่เมื่อครู่ครื้นเครงกลับกลายเป็นความเงียบงันขึ้นมาชั่วขณะ แม้แต่อนิรุทธ์เองก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ศราวินที่รู้สึกได้ถึงความอึดอัดก็รีบพูดขึ้นมา

“อาจารย์หมายถึงเรื่องของอาจารย์หมออนิรุทธ์กับเอ็กซ์เทิร์นศราวินน่ะหรอครับ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ ผมก็สบายเลย ไม่ต้องกังวลใจว่าจะถูกอาจารย์อนิรุทธ์จับแอด”

ศราวินพูดแล้วหัวเราะคิกคัก พาให้บรรยากาศหายอึดอัดลงไปอีกครั้ง

“ขยันๆอย่างน้องน่ะมีหรือจะถูกจับแอด ถ้าถูกจับแอดก็วิ่งมาฟ้องพี่เลยนะ เดี๋ยวพี่ช่วยเอง”

ศราวินยิ้มรับคำพูดของบุรพลจนตาหยีและทำท่าจะเดินกลับไปอยู่ตรงมุมห้องตามเดิม แต่เสียงทุ้มก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน

“หมอ..มาอยู่ข้างๆผมสิ จะสอนให้ว่าบายพาสต้องทำอะไรบ้าง”

ภายใต้มาส์กที่ปิดใบหน้าท่อนอยู่อยู่คลี่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

หาใช่เพียงดีใจที่จะได้เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ที่เพื่อนร่วมชั้นหลายๆคนคงยากที่จะมีโอกาสในตอนนี้ แต่เป็นเพราะความดีใจที่จะได้อยู่ใกล้อาจารย์มากขึ้น ดีกว่าอยู่นอกวงคอยแต่สังเกตการณ์เงียบๆอย่างที่ผ่านมา

กว่าจะผ่าตัดเสร็จก็เกือบตีหนึ่ง บุรพลกับนันทิชถึงกับถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยขณะที่คนไข้ถูกเข็นพาออกจากห้องผ่าตัดไป

“ดีนะมีน้องมาอยู่ด้วย ค่อยหายเบื่อหน่อย”

บุรพลว่าพลางดึงมาส์กออก ซึ่งนันทิชเองก็เห็นด้วยเพราะเด็กหนุ่มช่างพูดช่างคุยซ้ำยังช่างเรียนรู้ที่จะซักถามแต่ก็ไม่สร้างความรำคาญให้เลยสักนิด

“ไว้ถ้าว่างๆก็มาอีกสิ จะได้เรียนรู้ไปในตัว” นันทิชเอ่ยอย่างเชื้อเชิญ

ศราวินยิ้มรับคำเชิญนั้นด้วยความรู้สึกยินดี

จัดการอะไรเรียบร้อยแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ศราวินที่เริ่มง่วงก็เดินปิดปากหาวหวอดๆตามคนรักของตัวเองไปยังลานจอดรถ

"ง่วงแล้วล่ะสิ"

อนิรุทธ์เอ่ยพลางยกมือขึ้นขยี้หัวเด็กน้อยของเขาอย่างเอ็นดู ศราวินพยักหน้างึกงัก ตาแดงกล่ำเพราะความง่วง

"เอาไงต่อดีล่ะ หิวหรือเปล่า? หรือจะกลับไปนอนเลย?"

"อาจารย์หิวหรือเปล่าฮะ? ผมยังไงก็ได้ แต่ก็อยากนอนไวๆเหมือนกัน"

"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแวะร้านสะดวกซื้อหาอาหารสำเร็จรูปไปทานที่ห้องก็แล้วกัน อ่อ หรือคุณจะกลับหอ?"

อนิรุทธ์ถามอย่างนึกขึ้นมาได้ว่าถ้าพาเด็กหนุ่มไปค้างที่คอนโดของตัวเอง ศราวินก็จะไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน

"กลับหอก็ได้ฮะ..ถ้าอาจารย์อยู่ค้างด้วยนะ"

เสียงเล็กเอ่ยอ้อนแล้วทิ้งหัวซบกับไหล่กว้าง ปิดตาลงด้วยความงัวเงีย อนิรุทธ์ยิ้มแล้วยกมือลูบหัวเขาและนึกขอบคุณที่ตัวเองมีเสื้อผ้าที่ซักรีดแล้วแขวนไว้ในรถ อนิรุทธ์มักมีเสื้อผ้าสำรองไว้ในรถเป็นประจำเผื่อในกรณีที่ต้องผ่าตัดนานข้ามวันกัน เขาก็มักอาศัยห้องน้ำในห้องพักเป็นที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้สดชื่นก่อนลุยงานต่อในวันถัดไป ดังนั้นการจะไปค้างกับเด็กหนุ่มจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้

อนิรุทธ์เหลือบมองเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ด้านหลังก่อนถอยรถออกจากที่จอดและมุ่งหน้าไปยังหอพักของศราวินที่อยู่ละแวกโรงพยาบาลโดยแวะซื้ออาหารมื้อค่ำติดมือกันมาด้วย

หอพักของศราวินเป็นหอเอกชนที่สะอาดสะอ้านและค่อนข้างใหม่ ทั้งอยู่ในจุดที่เป็นแหล่งชุมชนไม่ได้เข้าซอยไปลึกนัก อนิรุทธ์จอดรถไว้ใต้อาคารก่อนจะตามเด็กหนุ่มเข้าไปภายในหอที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีระดับหนึ่ง

"เป็นหอเอกชน คนส่วนใหญ่ที่อยู่เลยเป็นนิสิตมหาลัยใกล้ๆนี่มากกว่าพวกนักศึกษาแพทย์น่ะฮะ"

ศราวินบอกเมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์กันแล้ว เพื่อนเขาหลายคนเลือกที่จะอยู่หอพักของโรงพยาบาลเพราะสะดวกกว่ายามเรียกไปเข้าเวรและประหยัดด้วย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ต้องแชร์ห้องกันสี่คนต่อหนึ่งห้อง ศราวินที่ไม่ชอบการอยู่ร่วมกับคนที่ไม่สนิทก็เลือกที่จะออกมาอยู่หอพักเอกชนที่มีให้เลือกมากมาย

“หมอเป็นคนต่างจังหวัดสินะ บ้านเดิมอยู่ไหนหรือ?"

อนิรุทธ์เอ่ยถามขณะวางถุงอาหารลงกับโต๊ะและหันมาปลดกระดุมข้อมือเสื้อออก มองดูศราวินหันไปเปิดเครื่องปรับอากาศ

"นครปฐมน่ะฮะ จริงๆก็ไม่ไกลนักแต่จะให้ไปๆกลับๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน"

ศราวินบอกแล้วเดินไปหยิบน้ำเย็นออกจากตู้ เขาคว้าแก้วมาสองใบก่อนนั่งลงตรงข้ามอาจารย์

"คิดถึงบ้านไหม?"

อนิรุทธ์ถามอย่างนึกสงสัย ขณะยกกล่องอาหารออกจากทุก คนถูกถามที่กำลังรินน้ำใส่แล้วอยู่ส่ายหน้าไปมา

"ไม่คิดถึงหรอกครับ ไม่มีอะไรให้คิดถึง"

ศราวินพูดแล้วยิ้มให้แต่แววตาดูหมองลง อนิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะขยับเก้าอี้ไปนั่งข้างๆแล้วจับมือเด็กหนุ่มไว้โดยไม่เอ่ยถามอะไรอีกแต่ศราวินก็เป็นฝ่ายเล่าออกมาเอง

"พ่อกับแม่ของผมเสียไปตั้งแต่ผมอยู่ม.ห้าน่ะฮะผมเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง เลยต้องอยู่บ้านคนเดียว มันเหงาน่ะฮะ"

ศราวินสารภาพเสียงเบาก่อนฝืนยิ้มออกมา

"มาอยู่หอแบบนี้ดีกว่าเยอะเลย อย่างน้อยมันก็ไม่รู้สึกโล่งจนว้าเหว่เหมือนอยู่บ้าน"

อนิรุทธ์ส้มผัสได้ถึงความอ้างว้างในชีวิตที่ผ่านมาของเด็กหนุ่ม

เขายกมือขึ้นมากอดคนรักเอาไว้

"ย้ายไปอยู่กับผมไหมหมอ? ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง จะไม่ให้คุณเหงาอีก"

อนิรุทธ์เสนออย่างไม่ลังเล

"จริงหรอฮะ ซันไปอยู่กับอาจารย์ได้หรอ?”

ศราวินถามอย่างตื่นเต้นและเมื่ออาจารย์ของเขาพยักหน้า ศราวินก็ยกแขนกอดเขาไว้แน่น รอยยิ้มสดใสอย่างมีความสุข

"ดีใจจัง"

อนิรุทธ์ลูบศีรษะด้วยความถนอมเขากดจูบลงกลางกระหม่อมเล็กแล้วประคองให้ศราวินแหงนหน้าขึ้นมาก่อนประทับจูบซ้ำที่หน้าผากนวล

"จากนี้ไป ผมจะเป็นครอบครัวของคุณเอง"

เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นอยู่ข้างหูทำให้ดวงตาของศราวินมันร้อนผ่าวก่อนหยาดน้ำตาใสแห่งความสุขจะกลิ้งตัวลงมาอาบแก้ม ศราวินยื่นหน้ามาหอมแก้มคนรัก

"ขอบคุณนะครับ"

“อือ..อย่าร้องไห้สิ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังรังแกคุณอยู่ยังไงก็ไม่รู้” อนิรุทธ์บอกเขินๆแล้วกอดร่างเล็กไว้แนบอก คำพูดของเขาทำให้ศราวินต้องหัวเราะคิกคักออกมาก่อนแหงนหน้ามายิ้มจนตาปิดให้เขา

“จูบซับน้ำตาให้หน่อยสิฮะ”

ร้องขอเองแล้วก็หลับตาพริ้มแก้มแดงอย่างน่ารักน่าชัง อนิรุทธ์มองแล้วก็อดที่จะขำเด็กน้อยของตัวเองไม่ได้

“ไม่ล่ะ..คุณร้องไห้เองนินา ผมไม่ได้บังคับให้คุณร้องซะหน่อย”

อาจารย์หมอขี้แกล้งบอกไปอย่างนั้นก่อนแกล้งผละกอดออกมา ทำเอาคนที่รออยู่ต้องเก้อ ศราวินลืมตาขึ้นมาแล้วทำแก้มพอง

“อาจารย์อ่ะ ใจร้าย!”

เด็กหนุ่มว่าแล้วยกแขนเสื้อขึ้นมาจะเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา แต่มือของเขาถูกเกี่ยวเอาไว้ ตามด้วยริมฝีปากอุ่นที่แนบลงมาตรงหน่วยตาอย่างอ่อนโยน ศราวินที่กำลังจะงอนอยู่ชะงักค้าง หัวใจมันเต้นแรงกับความอ่อนโยนที่ได้รับ ริมฝีปากของอาจารย์ค่อยๆจูบซับน้ำตาของเขาด้วยกิริยาทะนุถนอม.. นึกรักใคร่ในการแสดงออกทางอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาของศราวิน มีความทุกข์ก็ร้องไห้ มีความสุขก็น้ำตาไหล ดีใจก็หัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้ ดีกว่าเก็บนิ่งเอาไว้ให้เดาไม่ถูก

เด็กขี้แยของเขาโอบมือขึ้นมากอดคอเขาไว้ ผละหน้าออกมาเล็กน้อยแล้วเลื่อนริมฝีปากมาจูบเขาเบาๆก่อนส่งยิ้มน่ารักให้ สีหน้าดูมีความสุขจนอนิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มขาว

“แก้มซันมีไว้จูบนะฮะ ไม่ได้มีไว้หยิกซะหน่อย” เด็กน้อยของอาจารย์ว่าแล้วหัวเราะร่าเริงก่อนยิ้มอ้อน

“ทานกันเถอะฮะ..แล้วไปอาบน้ำกัน”

แก้มแดงๆกับตาปรอยๆนี่ มองแล้วอนิรุทธ์ก็นึกให้สงสัยว่าเด็กน้อยของเขากำลังยั่วอยู่หรือง่วงนอนกันแน่ แต่เมื่อทานอาหารมื้อดึกกันเสร็จเรียบร้อยและพากันเข้ามาเบียดอยู่ในห้องน้ำที่พื้นที่ไม่ค่อยกว้างขวางสักเท่าไหร่ อนิรุทธ์ก็ได้ข้อสรุปจากคำถามนั้น...

“หมอ..คุณบอกว่าง่วงนอนไม่ใช่หรือ? ทำแบบนี้จะไม่ได้นอนเอานะ” อนิรุทธ์เอ่ยเสียงทุ้มอย่างปรามคนตัวเล็กที่ตอนนี้เอนหลังพิงอยู่กับอกของเขา ศราวินหัวเราะเบาๆแต่ไม่หยุดมือที่กำลังครูดอยู่กับต้นขาของคนรัก เด็กหนุ่มหันมามองคนรักด้วยตาปรอยๆแล้วยิ้มให้

“ก็ซันอยากให้อาจารย์กอดนี่นา”

“ไหนใครบอกว่าอยากรีบกลับมานอน?”

อนิรุทธ์แกล้งถามแล้วดึงมือเด็กซนที่ทำท่าจะมาจับตรงส่วนไวสัมผัสของเขา ศราวินหัวเราะเสียงใส

“ก็ถ้าอาจารย์กอด ซันยอมอดนอนได้นะฮะ แถมพรุ่งนี้ไม่มีเวรราวน์เช้าด้วย”

คำบอกของเด็กน้อยทำให้อนิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาบีบปลายจมูกโด่งรั้นแล้วหัวเราะอย่างยอมแพ้

“ยอมแพ้คุณจริงๆเลย...เด็กยั่วของผม”

สำทับคำด้วยจูบหวานๆที่ริมฝีปากเล็กของคนที่แหงนหน้ากลับมาส่งยิ้มให้เขา อนิรุทธ์ปล่อยมือเล็กให้เลื่อนมาสัมผัสแกนกายของเขาขณะที่เขาก็สวมกอดร่างเล็กที่พิงอยู่กับอกเอาไว้ มือค่อยๆเลื่อนไปลูบไล้แผ่นท้องบางก่อนเลื่อนลงต่ำ ริมฝีปากคลอเคลียซับจูบหวานของกันและกัน

“แต่คุณไม่เป็นไรแน่หรอ? ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

อนิรุทธ์ถามอย่างห่วงใยทั้งที่รู้ว่าอารมณ์รักตอนนี้ทั้งของเขาและเด็กน้อยแสนยั่วคงไม่อาจหยุดยั้งเอาไว้ได้อีกแล้ว..

“มันก็เจ็บ แต่อยากให้อาจารย์ฉีดยาซันบ่อยๆไงฮะจะได้หายเจ็บ” เด็กช่างยั่วพูดจาสองแง่สองง่ามแล้วก็หน้าแดงเขินกับคำพูดตัวเอง คนฟังเลยอดไม่ได้ที่จะซุกหน้าลงไปฟัดแก้มขาวอย่างมันเขี้ยว

“คุณนี่เซี้ยวจริงๆ”

“ศัพท์แก่จังเลยฮะอาจารย์..”

ศราวินแกล้งแซวคนรักที่หัวเราะทันทีเมื่อได้ยิน อนิรุทธ์หัวเราะพลางกอดรัดร่างเล็กนั้นอย่างเอ็นดู

“ก็ผมมันแก่แล้วนี่นา ซัน..ผมแก่กว่าคุณเกินสิบปีอีกนะ เสียใจหรือเปล่าที่มารักกับคนแก่อย่างผม?”

“แล้วอาจารย์เสียใจหรือเปล่าล่ะฮะที่มารักกับเด็กอย่างผม”

ศราวินย้อนถามกลับไปแล้วหมุนกายมาหาคนรักที่กอดตัวเองอยู่ สองมือยกขึ้นโอบรอบคอหนาไว้

อนิรุทธ์ส่ายหน้าแล้วจูบเบาๆที่หน้าผากของเขา

“ผมได้แต่เสียใจว่าเราพบกันช้าไป...”

หากได้พบกันเร็วกว่านี้ ช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มต้องอยู่ตามลำพังนั่น คงได้มีเขาอยู่เคียงข้างไม่ต้องโดดเดี่ยว ไม่ต้องอ้างว้างอย่างที่ผ่านมา

ศราวินยิ้มอ่อนๆให้กับคนรักก่อนซบหน้าลงกับอกกว้างแล้วพูดเสียงเบา

“แต่เราก็ได้มาพบกันแล้วไงฮะ...”

อนิรุทธ์ยิ้มละไมกับคำพูดของคนรักขณะที่ลูบศีรษะเล็กไปมา..พร้อมกับนึกขอบคุณวิญญาณทั้งสองที่ทำให้เขากับศราวินได้มารักเช่นนี้ แต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกขำเพราะสำนึกได้ว่ากำลังนึกขอบคุณวิญญาณของตัวเองอยู่ ถึงแม้จะไม่มั่นใจนักก็ตามทีว่าวิญญาณทั้งสองจะเป็นวิญญาณของเขากับศราวินจริงๆ

ถ้าเป็นวิญญาณของพวกเขาจริง ทำไมถึงยังอยู่ในสภาพวิญญาณเช่นนั้น..

ถ้าอาจารย์หมออนิรุทธ์กับเอ็กซ์เทิร์นศราวินที่เสียชีวิตเมื่อสี่สิบปีก่อนกลับมาเกิดเป็นเขาทั้งสองคน

ทำไมถึงยังมีวิญญาณเหลืออยู่บนโลกใบนี้...

มันเป็นสิ่งที่อนิรุทธ์คิดไม่ตกและหาคำตอบให้มันไม่ได้เลย

“อาจารย์..คิดอะไรอยู่หรือฮะ?”

ศราวินที่เห็นว่าคนรักเงียบไปก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาปรือปรอย อนิรุทธ์ส่ายหน้าช้าๆไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกไปเพราะไม่อยากให้เด็กน้อยของเขาต้องคิดมาก

เพราะอย่างไรก็ตาม...ตอนนี้ที่เขากับศราวินมีกันและกันอยู่คือสิ่งสำคัญที่สุด

สายตาคู่ใสยังคงมองอย่างคลางแคลง อนิรุทธ์เลยยิ้มให้และจูบทับเปลือกตาของเด็กหนุ่ม มือเลื่อนจากที่ประคองกอดตรงเอวบางลงไปด้านล่าง สัมผัสโคนขาด้านในของเด็กหนุ่มเบาๆ ดึงความสนใจศราวินออกไปจากความกังวลของเขา ซึ่งเมื่อพอถูกเขาสัมผัสเช่นนั้น ศราวินก็เบียดสะโพกเข้ากับกลางลำกายของเขา...

“อะ..อาจารย์”

เด็กหนุ่มครางเสียงเบาเพราะกลัวว่าเสียงจะลอดออกไปให้ห้องข้างๆได้ยิน อนิรุทธ์ที่นึกรู้จึงก้มลงจูบปิดปากเด็กหนุ่มเอาไว้ มือเลื่อนมาลูบคลำแกนเล็กที่เริ่มแข็งตัวรับอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังดำเนินขึ้น อนิรุทธ์ใช้มืออีกข้างเลื่อนไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำสาดลงมาเพื่อกลบเสียงครางหวานของศราวินก่อนใช้มือข้างนั้นเลื่อนลงมาสอดเข้าไปกลางหว่างขาเรียวขาว ปลายนิ้วของอนิรุทธ์แตะสัมผัสกับปากทางเล็ก สายน้ำอุ่นสาดลงมาจนร่างน้อยในอ้อมกอดของเขาพราวระยับด้วยหยาดน้ำ พอต้องกับแสงไฟสีส้มนวลของห้องน้ำแล้วก็ยิ่งน่ารักน่าใคร่ไปเสียทุกส่วน

“รักผมนะฮะอาจารย์..”

ออดอ้อนด้วยเสียงหวานที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มชวนให้ลุ่มหลง อนิรุทธ์จูบทับเปลือกตาของเด็กน้อยแสนยั่วก่อนเหนี่ยวขาศราวินให้มาพาดไว้กับเอวของตน เขาจับแกนกายของตนไปจรดจ่อปากทางแคบเล็กและค่อยๆดันเข้าช้าๆ อนิรุทธ์สอดใส่เข้าไปเพียงเล็กน้อยแล้วถอนกายกลับออกมาก่อนกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำอยู่เช่นนั้นและค่อยๆสอดกายเข้าไปลึกขึ้นทีละนิดๆในการสอดใส่แต่ละครั้ง

โพรงร้อนแสนอุ่นและนุ่มนวลโอบรัดกายของเขาไว้เหมือนก็สองมือของเด็กน้อยที่เลื่อนลงมากอดก่ายเข้าไว้เต็มตัว ศราวินซุกหน้าลงกับไหล่ของเขาแล้วครางเสียงหวิวอยู่ข้างหู

“อือ...ดี..รู้สึกดีจังเลยฮะ...”

อนิรุทธ์ยิ้มละไมกับคำพูดของเด็กน้อยในอ้อมอก เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ความอบอุ่นอันแสนหวานโอบกอดเขากับคนรักเอาไว้และค่อยๆเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงในทุกครั้งที่เริ่มขยับจนกระทั่งถึงสุดฝั่งของปลายทางที่แปรเปลี่ยนเป็นความอิ่มเอมทั้งกายและใจ..

 

เสร็จจากบทรักอันแสนหวานและชำระล้างร่างกายจนสะอาดแล้ว อนิรุทธ์ก็ดึงเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่แขวนอยู่มาซับน้ำออกจากร่างกายของเด็กหนุ่มเอาไว้อย่างทะนุถนอมและห่มมันไว้บนกายของร่างเล็กที่ยกมือขึ้นมาจับชายผ้าตรงกลางอกไว้ ศราวินยิ้มเต็มแก้มกับการกระทำอันอบอุ่นของคนรักและอดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มอนิรุทธ์ไวๆเสียทีหนึ่ง

คนเป็นอาจารย์ชะงักก่อนยิ้มขำออกมาเพราะคนลักไก่หอมแก้มตัวเองกับเขินเสียจนแก้มแดง ศราวินกัดปากเขินๆก่อนเดินออกจากห้องน้ำไป อนิรุทธ์ที่ยังคงยิ้มขำดึงเอาผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวก่อนเดินตามเด็กหนุ่มออกไปทันที่จะรวบร่างเล็กเข้ามากอดไว้ เขากดจูบแผ่วเบาลงที่ข้างแก้มของคนรักที่ยอมเอียงแก้มให้แนบจูบแสนหวานแต่โดยดี

“จะรักซันอีกหรอฮะ?”

เด็กน้อยถามทั้งที่ยังแก้มแดง แต่ตาเป็นประกายทั้งที่ดูเหมือนจะง่วง อนิรุทธ์หัวเราะขำเบาๆแล้วประคองคนรักลงนั่งกับเตียง

“คุณง่วงไม่ใช่หรือ? นอนกันดีกว่านะ”

พอบอกไปอย่างนั้น เด็กน้อยของเขาก็แลบลิ้นแล้วหลิ่วตาให้ก่อนล้อเลียนอย่างน่าจับมาตีก้น

“อาจารย์หมดแรงแล้วอ่ะสิ กอดซันไม่ไหวแล้วใช่เปล่าเอ่ย?”

อนิรุทธ์ขำกับความแก่นเซี้ยวของคนรัก เขาเอนพิงหัวเตียงของเด็กหนุ่มแล้วรั้งให้ศราวินเอนพิงอกตัวเองตาม

“ใช่..วันนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆล่ะ”

บอกแล้วลูบกลุ่มผมเสื้อเล็กนุ่มมืออย่างเพลินๆ เด็กน้อยของเขาเงยหน้ามายิ้มให้จนเห็นเขี้ยวซี่เล็ก

“งั้นนอนกันนะฮะ”

ศราวินบอกอย่างนั้นแล้วยิ้มให้อย่างไม่งอแง อนิรุทธ์จูบเบาๆที่กลีบปากนุ่มก่อนลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วเดินกลับมาที่เตียงซึ่งศราวินเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงไว้ให้

“เตียงของซันแคบกว่าที่ห้องอาจารย์นะฮะ เพราะงั้นอาจารย์ต้องกอดซันแน่นๆนะ เดี๋ยวซันตกเตียง”

เด็กน้อยแสนอ้อนขยับมานั่งระหว่างขาของอนิรุทธ์ที่นั่งลงพิงหัวเตียงตามเดิม อนิรุทธ์ยิ้มกับคำอ้อนที่แสนน่ารักนั้น

“จะกอดไว้ทั้งคืนเลยล่ะ”

บอกแล้วจะเอื้อมมือไปปิดไฟแต่ก็สะดุดเข้ากับขวดครีมทาผิวที่วางอยู่ข้างโคมไฟ อนิรุทธ์หยิบมันขึ้นมามองอย่างสงสัย

“คุณทาโลชั่นอะไรพวกนี้ด้วยหรอ?”

เพราะตัวเองไม่เคยสนใจเครื่องบำรุงผิวอะไรพวกนี้เลยไม่แน่ใจนักว่าปกติแล้วผู้ชายทั่วไปเขาทากันหรือไม่ เด็กน้องของเขาที่ดูท่าทางจะเริ่มง่วงอีกรอบเลยตอบข้อสงสัยหลังจากปิดปากหาวไปหนึ่งครั้ง

“ติดน่ะฮะ..ถูกแม่เขาจับทาทุกคืนตั้งแต่เด็กๆ พอคืนไหนไม่ทาก็แอบรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน”

ศราวินบอกไปตามตรง อนิรุทธ์พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนเปิดฝาขวดขึ้นมาเทครีมเนื้อนุ่มออกจากขวด กลิ่นของน้ำนมจากเนื้อครีมโลชั่นนั่นเองที่ทำให้อนิรุทธ์แน่ใจว่าเป็นกลิ่นหอมประจำตัวของเด็กหนุ่ม เขาช้อนแขนบางของศราวินและทาครีมไปบนผิวนุ่มเนียนอย่างอ่อนโยน ศราวินยิ้มกับการกระทำอันอ่อนโยนนั้นและปล่อยให้ผ้าห่มที่คลุมไหล่อยู่ตกลงไปกองอยู่กับตักของคนรักที่ตัวเองนั่งอิง

“ทาครีมทุกคืนถึงได้ผิวนุ่มแบบนี้สินะ...คุณทาแค่ครีมอย่างเดียวไม่ได้เทคฮอร์โมนอะไรใช่ไหม?”

อนิรุทธ์ถามอย่างติดใจสงสัย เพราะเคยรู้มาว่าผู้ชายบางคนต้องการให้ผิวเนียนสวยเหมือนกับผู้หญิงและรูปร่างอ้อนแอ้นก็มักจะเทคฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไประงับเพศชายของตัวเอง ซึ่งบางครั้งการเทคมากไปก็เกิดอันตรายได้ เขาเลยนึกห่วงเมื่อนึกว่ารูปร่างเพรียวเล็กและผิวนุ่มเนียนของเด็กหนุ่มคนรักอาจมาจากสาเหตุนั้นด้วย

“ไม่เคยเทคฮะ? ทำไมหรอ? อาจารย์อยากให้ซันเทคหรือเปล่า?”

ศราวินถาม ตัวเด็กหนุ่มเองก็พอรู้เรื่องการเทคฮอร์โมนเพศหญิงมาจากเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นพวกเพศที่สามบ้าง เพราะตัวเองมีผิวเนียนสวยและรูปร่างเล็กเพรียวจึงถูกคาดคั้นบ่อยๆว่าเทคฮอร์โมนตัวไหน ซึ่งศราวินที่ไม่รู้เรื่องในตอนแรกก็ถึงกับงงไปเหมือนกัน

“ไม่ล่ะ...แบบนี้น่ะดีแล้ว”

อนิรุทธ์บอกเสียงนุ่มแล้วกดจูบลงกับไหล่เล็กขณะที่มือลากเอาครีมลูบไปตามเรียวขาเนียนสวยที่ไร้ขนปกคลุม ความติดใจสงสัยว่าเด็กหนุ่มจะเทคฮอร์โมนเพศหญิงมันผุดขึ้นมาตั้งแต่วันแรกๆที่ได้พบกัน พอได้รับคำตอบที่สงสัยแล้ว ศัลยแพทย์หนุ่มตระหนักได้ว่าคนรักของเขามีฮอร์โมนเพศชายที่ต่ำมากแค่ไหน

แต่ก็ไม่ถึงขั้นต่ำขนาดที่พวกเพศที่สามเทคจนร่างกายดูเหมือนผู้หญิงอะไรแบบนั้น อนิรุทธ์รู้สึกว่าร่างกายของคนรักกำลังงดงามและน่ากอดเป็นที่สุด

“กำลังน่ารักใช่ไหมฮะ?”

ศราวินถามแล้วหัวเราะขำกับคำถามของตัวเอง แล้วก็ต้องหน้าแดงอีกระลอกเมื่ออาจารย์ตอบกลับมาด้วยเสียงทุ้มข้างหู

“ใช่...กำลังน่ากอดเลยล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็กอดแน่นๆเลยฮะ..ซันยอมให้อาจารย์กอดทั้งคืนและก็ทุกคืนด้วย”

เด็กน้อยบอกแล้วหันมากอดซุกอกอาจารย์เอาไว้อย่างขี้อ้อน อนิรุทธ์ค่อยประคองให้ร่างเล็กเอนนอนลงพร้อมๆกับตัวเอง เขาหยิบเอาผ้าห่มมาห่มกายที่เปลือยเปล่าของเขากับศราวินไว้แล้วบอกเสียงอ่อนที่เจือเสียงหัวเราะเบาๆเอาไว้

“ถ้าผมกับคุณจะได้นอนกันทุกคืนนะ”

“นั่นสิฮะ..ชักจะไม่ชอบการเป็นหมอก็ตรงนี้แหละ” ศราวินบ่นออกมาอย่างน่ารักเมื่อนึกถึงภาระหน้าที่ที่รออยู่ตรงหน้าของการเป็นแพทย์

“แต่ยังไงซันก็อยากเป็นหมออยู่ดี ซันอยากเก่งแบบอาจารย์ อาจารย์ต้องสอนซันเยอะๆนะ ซันจะได้เป็นศัลยแพทย์เก่งๆอย่างอาจารย์”

จะได้เป็นคนที่คู่ควรกับอาจารย์

จะได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป

สองประโยคหลังนี้ศราวินได้แต่ร่ำร้องบอกตัวเองในใจเพราะยังไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป

ในแสงสลัวสีส้มนวลจากโคมไฟที่สาดส่องจากหัวเตียง อนิรุทธ์ยิ้มที่มุมปาก เขากดริมฝีปากจูบคนในอ้อมแขนที่กลางกระหม่อมแล้วกอดศราวินเอาไว้

“ได้สิ...จะสอนให้เก่งยิ่งกว่าใครเลย”

เพราะศราวินคือลูกศิษย์ที่เขาภูมิใจที่สุด

ลูกศิษย์ที่กลายมาเป็นคนรักคนนี้ของเขา..

-TBC-

 :mew2: แอบหายไปพักใหญ่ ช่วงนี้ยุ่งๆกับการรวมเล่มฟิคเกาหลีค่ะเลยช้าหน่อย ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมอาจารย์หมอกับน้องซันกันน้า  :hao5:
ป.ล.ติดตามข่าวสารหรือแวะไปคุยกันได้ที่ FB นะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากค่ะ รอๆๆ เรื่องราวดำเนินมาเรียบง่าย หวานๆ กลัวมีพายุจัง. อย่าให้เศร้าเลยนะค้าาา

อดีตมันโหดร้ายเกิน^^

ระฆัง

  • บุคคลทั่วไป
 :katai4: :katai4: :katai4:
อ๊ายยยยยยย
เขิน เขิน เขิน
อาจารย์หมอกับหมอ  :hao7:
รักกันอ่ะ หวานมาก อั๊ยยยยเขินนนนน
แต่อ่านจบเเล้วรู้สึกว่า....ไม่อยากให้มีเรื่องร้ายเลยคะ
สงสารซัน ไม่ไหวนะ T^T

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
มาแล้ววว เย้ มาต่อยาวด้วยยย บรรยายภาพซันสะน่ารักเชียววว
 อยากได้น้องชายแบบนี่บ้างงง  :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ซันแม่งร้ายย ตบตีๆ อยากได้หมอรุท 5555

ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เม้นในเว็บแล้วแต่ก็อยากมาเม้นในนี้อีก

บอกอีกทีละกัน ซันน่ารักมากๆ ช่างฉอเลาะจริงๆ คนอะไร

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
แอบกลัวตอนจบอ่ะ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
โอ้ยยยยยย~ หวานซ้าาาา 555555

ขอหวานแบบนี้ไปนานๆนะคะ 55

:pig4:

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้มาหวานๆน่ารักนะคะ แต่ก็แอบกังวลกับอนาคตของทั้งคู่ ว่าจะมีอะไรร้ายแรงเหมือนเมื่อ 40 ปีที่แล้วรึเปล่า

แล้วก็เริ่มสงสัยเหมือนอาจารย์(ภาคปัจจุบัน)ด้วยค่ะ ว่าตกลงพวกเขาทั้งสองคู่เกี่ยวข้องกันยังไง

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ไม่ลืมฮ่ะ คิดถึงอาจารย์หมอกับน้องซันตลอดฮ่ะ :man1:
มาคราวนี้ก็หวานซ้าาาา ชอบมากๆๆๆๆๆ  :impress2:
มาต่ออีกนะฮะ :L2:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
คิดถึงน้องซัน อาจารย์ และคนเขียนมากมายยย :กอด1:
 เราไปแอบส่องมาเห็นคุณคนเขียนลงอีกบอร์ดแต่ยังไม่ลงบอร์ดนี้ นึกว่าจะลืมบอร์ดนี้ซะเเล้ว  :mew2:

น้องซันน่ารักมากมายอะ อ่านแล้วก็ได้เเต่ภาวนาขออย่าให้จบเศร้าเหมือนสี่สิบปีก่อนเลยนะคะ :mew6:

รอตอนต่อไปและเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ยิ่งอ่านยิ่งหวาน ตอนแรกที่อ่านบอกว่าจะไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยกัน ก็คิดว่่าจะเกิดเรื่องเหมือนอดีตอีกหรือเปล่า แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า หวานกันจนมดขึ้น ดีจังไม่อยากกินมาม่าเลย
 :mew3: :mew3: :mew3:
รอตอนต่อไปคะ
มาลงเร็วๆๆนะคะ

nut28phat

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้ชาตินี้ทั้งคู่สมหวังในรักเถ้อออออ เพี้ยง
แต่แอบสงสัยเหมือนกัน กลับชาติมาเกิดยังไงถึงยังมีวิญญาณเดิมอยู่หว่า
หรือจะแบ่งภาคมา?

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
หวานอะ น่ารักมากเลยอย่ามีอะๆรมาขัดขวางความหวานนี้นะ !! !

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด