[Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)  (อ่าน 222631 ครั้ง)

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ขอร่วมไว้อาลัย ณ ที่ตรงนี้ด้วยค่ะ ......

สงสารซันอะ ขออย่าให้ทั้งคู่ต้องมีจุดจบซ้ำรอยเดิมเลยนะคะ :monkeysad:
รอตอนต่อไปค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อ่านตอนนี้แล้วขนลุก .....

ประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอยนะ อยากให้ Happy ค่ะ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อ่านตอนนี้แล้วขนลุกเลย ไม่รู้สิ แต่ภาษาลื่นมากเลยค่ะ
สงสารซันอ่า อดทนไว้นะหมอ ติดตามมม

ปล.จริงๆเราว่าพูดตั้งแต่ตอนที่แล้ว ตอนอ่านฉากที่ซันโดนทำร้ายเราคิดถึงคดีของคุณจุนโกะขี้นมาเหมือนกัน
น่าสงสารมากๆเลย ไม่คิดว่าจะมีคนโหดร้ายแบบนั้นจริง คดีนั้นทำหดหู่ไปเป็นวันๆเลย

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
ภาวนาขอให้ประวัติศาสตร์ซ้ำร้อยเรื่องความรัก แต่ความโชคร้ายอย่างนั้นอย่าให้มันซ้ำรอยเลย  :monkeysad:

ออฟไลน์ Lacie

  • ความดาร์กคือชีวิต
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
    • บ้านของเค้า

อ่านแล้วจิตตกอย่างแรง :katai1:

ขออย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเลย :hao5:

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
แอร๊ ซัน ความจริงหนูน้อยปล่อยมันไปเลยจะดีกว่านะ อย่าคิดๆ ไอ้คุณหมอรเมศนี่ก็นะ ปากสว่างจริง น้องซันคิดมากเลย

อันนี้เราเข้าใจเองนะแบบว่า ซันกะอาจารย์หมอในชาตินี้ที่มีความรู้สึกดีๆให้นะ อาจเป็นผลพวงจากวิญญาณทั้งคู่มั๊ง

แต่อาจารย์หมอ แกต้องรู้สึกดีๆชัวร์ เพราะไม่งั้นแกจะไม่อยากเห็นซันร้องไห้ทำไมล่ะ

แต่ซันน่าสงสารจังนะ เฮ้อออออออออออออออออ หดหู่ชะมัด

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
อะไรๆที่มันบังเอิญมาเหมือนกันก็ขอให้เป็นเรื่องของการบังเอิญ แต่อย่าให้เกิดเหตุร้ายกับซันอย่างนั้นอีกเลย

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ขออย่าให้เกิดเรื่องเลวร้ายขิึ้นแบบในอดีตเลย เจ็บจิต!!

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สงสารซันมากๆ เหมือนคดีของจุนโกะ ทรมานจนทนไม่ไหว
ไม่อยากให้มีคนเลวจิตแบบนั้นเลย
 :mew2: :katai4:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อ่านแล้วสงสารแล้วก้อหลอนมากเลย
สงสารซัน ทำให้คิดถึงคดีของพริตตี้ตอนช่วงปีใหม่
พวกคนโรคจิตแบบนี้อยากให้เจอกับตัวเหมือนที่ทำกับคนอื่นจะได้รู้สึกว่าคนโดนกระทำจะรู้สึกอย่างไง


รออ่านตอนต่อไปคะ บีบคั้นหัวใจจริงๆๆ :hao5: :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
สงสารซันมากมากกกกกกกกกกก
ทำไมชะตาชีวิตต้องน่าสงสารทั้ง40ปีที่แล้วแล้วก็ตอนนี้ด้วยอะ
เราว่าจารย์หมอก็คงรู้สึกดีด้วยนั้นแหละ
แต่คือความคิดคนรุ่นใหม่ไง
ยิ่งเป็นตัวเองที่ดันไปเหมือนอีกเลยพยายามจะไม่สนใจ

โอ้ยยยยยยยยยยอยากให้จบแบบแฮปปี้จังเลยค่ะ แต่อ่านแล้วเพลินเหมือนเดิมเลย^^

sirpong

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆเลย  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ ckkk.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หวังว่าอดีตจะไม่ซ้ำรอยนะ
น่าสงสารน้องซันมากไม่อยากพูดถึงในอดีตเลย T__T
แต่อย่างพี่โกะแล้วคงจะมีดราม่ามาเป็นระลอกระลอก ฮือ

อย่าทำร้ายคนอ่านด้วยการดราม่าเลย ;__;

รอตอนไปนะคะพี่โกะ >3<

ออฟไลน์ Mrl●

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามอีานทันแล้ว
บอกตามตรงว่าไม่กล้าอ่านตอนกลางคืนเลย 5555555555
ฉากที่โดนข่มขืนไม่กล้าอ่านเลยค่ะ ทั้งกลัวทั้งสงสารร้องไห้ตลอด  :sad11:
เขียนได้ดีมากๆค่ะ ภาษาก็น่าติดตาม
อยากอ่านน้องซันคนนี้ต่อแล้วว รีบๆมาต่อเลยน่ะค่ะ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
แค่เริ่มอ่านก็ติด  แอบคิดว่าตัวเองโรคจิตเพราะอ่านมันซ้ำๆ หลายครั้ง เท่าที่มีอยู่แค่ 4 ตอน

สงสารซันจับใจ  เลยเกลียดอาจารย์แล้วตอนนี้ สี่สิบปีก่อนใจร้ายไม่พอ สี่สิบปีหลัง ทำท่าจะใจร้ายภาคสองแล้วนะ :katai1:

มาต่อไวไวนะคะ :mew2:

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ยิ่งอ่านยิ่งกลัวค่ะ กลัวเหตุการณ์ร้ายๆจะเกิดขึ้นอีก
หากอาจารย์หมอจะมีใจกับลูกศิษย์คนนี้บ้างก็ช่วยดูแลประคับประคองน้องด้วยนะคะ
ใช้เหตุการณ์นั้นเป็นบทเรียนว่ายังมีคนเลวๆอยู่ในสังคมอยู่บ้าง ต้องดูแลคนใกล้ชิดไว้ให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีก

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
ตอนที่ 2

การชันสูตรกินเวลามากมายกว่าที่คิดเอาไว้ กว่าจะเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเข้าไปเกือบเที่ยงคืน อนิรุทธ์มองดูนาฬิกาบนฝาผนังขณะที่หยิบเอาเสื้อกาวน์สีขาวมาพาดที่แขนตัวเอง ใจนึกเป็นห่วงคนที่ร้องไห้ซึ่งเขาทิ้งไว้ตามลำพังเมื่อกลางวันขึ้นมา

ไม่รู้ว่าป่านนี้เด็กน้อยของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

“วันนี้ขอบคุณมากนะหมอ แล้วก็ขอโทษด้วยเรื่องเมื่อกลางวัน”

รเมศเดินมาตบบ่าอนิรุทธ์เบาๆ อนิรุทธ์ส่ายหน้าช้าๆ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงผมขอตัวเลยก็แล้วกัน” อนิรุทธ์ค้อมศีรษะให้แล้วเดินเลี่ยงออกไป

บรรยากาศตอนกลางคืนดูเงียบสงบ แม้จะดึกแค่ไหนแต่อนิรุทธ์ก็เลือกที่จะเดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเองก่อน เจ้าหน้าที่ทั้งหลายส่วนใหญ่ต่างก็พากันกลับไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ศัลยแพทย์บางท่านกับเจ้าหน้าที่บางคนที่ยังคงนั่งสะสางเคลียร์งานของตัวเอง อนิรุทธ์ค้อมศีรษะรับคำทักทายของทุกคนก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

พอกดเปิดไฟ สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือกองงานที่พิมพ์อรเอามาวางไว้ และสมุดบันทึกที่อนิรุทธ์จำได้ดีว่าตัวเองเป็นคนสั่งให้ศราวินจด เขาเดินไปที่โต๊ะและวางเสื้อกาวน์พาดเอาไว้ที่พนักเก้าอี้ มือเอื้อมไปแตะสมุดบันทึกของศราวิน

ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่มีแต่น้ำตาทำให้หัวใจรู้สึกหน่วงจนเจ็บ

จะเป็นยังไงบ้างนะป่านนี้..

ความรู้สึกเป็นห่วงมันเกิดขึ้นในใจ อนิรุทธ์ถอนหายใจลึกแล้วยกมือขึ้นล้วงเข้าไปข้างในกระเป๋าเสื้อสูทจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาคนที่นึกเป็นห่วงก่อนจะยกมือค้างไว้เมื่อหาโทรศัพท์ของตัวเองไม่พบ

ก็ตัวเขาเองเป็นคนยื่นให้เด็กหนุ่มไปเอง ที่ศราวินมาหาเขาที่ตึกนิติเวชนั่นก็คงเพราะจะเอามือถือมาให้ แต่ก็เกิดเรื่องเข้าเสียก่อน

ก็ดี..

ไม่มีมือถือ ก็ไม่ต้องโทรหา...

บางทีศราวินอาจจะสงบและใจเย็นลงแล้ว เด็กคนนั้นฉลาดเสมอ คงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และอาจจะกลับมาร่าเริงสดใสเหมือนศราวินที่น่ารักคนเดิมแล้วก็เป็นได้

อนิรุทธ์ได้แต่หวังว่าตัวเองจะประเมินลูกศิษย์ไม่ผิดไป

 

อนิรุทธ์พยายามเลิกคิดสิ่งที่ทำให้เขาว้าวุ่นในก่อนรวบเปิดดูแฟ้มคร่าวๆ เมื่อพบว่ามันเป็นเอกสารที่ไม่เร่งรีบอะไร หัวหน้าศัลยแพทย์หนุ่มก็จัดการรวบมันเป็นกองเดียว เอาสมุดของศราวินซ้อนไว้ด้านบน เขายกมันขึ้นมาและเดินกลับออกมาจากห้องเพื่อนำกลับไปพิจารณาดูที่บ้าน

อนิรุทธ์ยกเอกสารเดินกลับมาถึงอาคารจอดรถ เขาเปิดท้ายรถและวางเอกสารพวกนั้นลงในกล่องพลาสติกที่เขามีติดท้ายรถก่อนปิดมันลงมา ร่างสูงกำลังจะเดินไปเปิดประตูที่นั่งคนขับอยู่แล้วตอนที่รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองเขาอยู่

เงาของคนที่จ้องเคลื่อนไหวอยู่ทางซ้ายก่อนจะหายไปจากหางตา อนิรุทธ์หันกลับไปมอง และเห็นเงาของใครคนนั้นยืนอยู่ตรงทางบันไดลง

"ศราวิน...?"

ใบหน้านั้นเป็นศราวิน แต่ที่อนิรุทธ์กำลังเห็น ไม่ใช่เด็กน้อยของเขา ศราวินตรงหน้าคือคนเดียวกันกับที่เขาเห็นในแฟ้มคดี และร่างผอมบางนั้นดูโปรงใสไม่ใช่มนุษย์

อนิรุทธ์นิ่งอึ้งเมื่อได้พบกับวิญญาณต่อหน้าต่อตา

"อาจารย์...ใจร้าย"

วิญญาณตัดพ้อเขาด้วยสีหน้าหม่นหมองก่อนจะหันหลังเดินลงไปในทางเดินหนีไฟ

เขาเพ่งมองอีกครั้งก่อนสะบัดศีรษะไปมา

"เห็นภาพหลอนเพราะเหนื่อยไปหรือเปล่านะเรา"

อนิรุทธ์พึมพำอย่างสงสัยก่อนเดินไปที่ทางเดินหนีไฟนั่น แล้วต้องแปลกใจที่บันไดนั่นดูมืดกว่าปกติทั้งที่มันมักจะเปิดไฟส่องสว่างไว้ตลอดเวลา พอก้าวเข้าไปอนิรุทธ์ก็ผงะเล็กน้อย ต่ำลงไปอีกครึ่งชั้น วิญญาณของศราวินเมื่อสี่สิบปีก่อนยืนเงยหน้ามามองเขาอยู่ สีหน้าเจ็บปวดและหม่นหมอง พอเห็นเขาตามมาก็หันเดินต่อลงไป

"เดี๋ยวสิครับ! เดี๋ยวก่อนสิศราวิน"

อนิรุทธ์รีบเดินตามไป เขาไม่นึกกลัววิญญาณของเด็กหนุ่ม

ในตอนนี้เขาตามไปด้วยความอยากถามถึงการตายของใครอีกคนที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่เสียมากกว่า

ร่างของวิญญาณหนุ่มเดินลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงชั้นหนึ่ง อนิรุทธ์ที่คิดว่าตัวเองเดินไวแล้ว แต่ช่วงขายาวๆของเขาก็เดินไปไม่ทันกับที่วิญญาณศราวินเดินเลยสักนิด เขาเดินตามร่างโปร่งแสงนั้นไปอย่างติดใจสงสัยว่าศราวินจะพาเขาไปที่ใดกัน มีบางสิ่งที่วิญญาณของศราวินเมื่อสี่สิบปีต้องการบอกเขาอย่างแน่นอน อนิรุทธ์คิดเช่นนั้นก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าวิญญาณของศราวินกำลังมุ่งหน้าไปยังอนุสรณ์สถานเล็กๆที่อยู่ในสวนหย่อมของโรงพยาบาล

นาทีที่เขาตระหนักได้เช่นนั้น ร่างวิญญาณของศราวินก็หยุดยืนอยู่ที่ใต้โคมไฟริมถนน อนิรุทธ์ที่ก้าวตามมาจนทันก็เดินเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นวิญญาณหนุ่มกำลังมองอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยไม่ตามอะไรจากเดิมจึงมองตามไป

ร่างผอมบางที่คุ้นเคยมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากำลังนั่งกอดเข่าซุกตัวพิงอยู่กับกอพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆกับอนุสรณ์สถาน

“ศราวิน..”

อนิรุทธ์ครางชื่อลูกศิษย์คนโปรดของตัวเองออกมา ก่อนหันมามองวิญญาณหนุ่ม แต่ทว่าที่ข้างกายของเขาไม่มีใครอยู่แล้ว

วิญญาณของศราวินนำเขามาที่นี่เพื่อมาหาศราวินที่ไม่รู้ว่านั่งอยู่ตรงจุดนานมานานแค่ไหนแล้ว

อนิรุทธ์มองอย่างนึกห่วง ช่วงขายาวก้าวข้ามตัดถนนไปหาเด็กน้อยของตัวเอง สายตาเหม่อลอยของคนที่นั่งซบท่อนแขนซึ่งยกขึ้นมากอดเข่าเอาไว้ทำให้นายแพทย์หนุ่มต้องค่อยๆย่อตัวลงไปนั่งทับส้นเท้าและยื่นมือออกไปแตะข้อศอกเล็กไว้เมื่อไม่เห็นสัญญาณจากคนตัวเล็กว่ารับรู้การมาของเขา

“ศราวิน...ทำไมคุณมานั่งอยู่ที่นี่?”

แค่แตะถูกข้อศอกอนิรุทธ์ก็สัมผัสได้ถึงความเย็น แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้วแต่เพราะมีความเปลี่ยนแปลงทางอากาศทำให้ช่วงกลางคืนนี้ออกจะเย็นไม่น้อย พาให้นึกห่วงกับการที่เด็กหนุ่มมานั่งตากน้ำค้างเช่นนี้

“อาจารย์...”

ศราวินเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มก่อนซบหน้าลงไปกับท่อนแขนของตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครืออ่อนระโหยคล้ายคนที่ต้องการจะร้องไห้พาให้เขารู้สึกหนักใจไม่น้อย อนิรุทธ์ทรุดนั่งลงข้างๆเด็กหนุ่มบนสนามหญ้า

“ทำยังไงผมก็ลืมมันไม่ได้..”

ศราวินสารภาพเสียงเบา และรู้สึกเสียใจที่พูดออกไปอย่างนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงอาจารย์ถอนหายใจช้าๆคล้ายคนหนักอก

“ผมก็ไม่ได้หวังที่จะให้คุณลืมมันได้เร็วขนาดนั้นหรอก..”

ตัวเขาเองก็ยังทำไม่ได้ จะหวังให้เด็กอ่อนไหวคนนี้ทำได้ อนิรุทธ์ก็คิดว่าตัวเองคงจะคาดหวังมากเกินไปหน่อย

แต่กระนั้น..การลืมคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้

อนิรุทธ์คิดแล้วก็ยกมือขึ้นวางแตะลงไปที่กระหม่อมเล็กก่อนลูบเบาๆ ศราวินสูดลมหายใจอย่างติดขัดเมื่อเขาทำเช่นนั้น

ใจหนึ่งก็รู้สึกยินดีที่ได้รับสัมผัสอ่อนโยนที่อีกฝ่ายปลอบประโลม แต่อีกใจก็ไม่อยากได้สัมผัสนั้น...สัมผัสที่จะทำให้เขาไม่อาจตัดใจจากคนทำได้

หากต้องรักโดยที่รู้ว่าคงไม่มีวันถูกรัก....มันก็คงต้องทนเจ็บเรื่อยไป

จะทนได้นานสักแค่ไหนกัน...

แค่คิดศราวินก็น้ำตาปริ่มว่าจะไหล เด็กหนุ่มสูดหายใจลึกๆและตัดสินใจที่จะพาตัวเองออกจากห้วงอารมณ์เศร้าหมองที่เกาะกินในหัวใจของเขามาทั้งวัน

“ฮ่ะๆ..ผมนี่บ้าจัง เอาแค่คิดมากอยู่ได้ คงทำให้อาจารย์รู้สึกแย่ไปด้วย เดี๋ยวไปดื่มซะหน่อยก็คงลืมเรื่องที่ได้ยินมาจากอาจารย์รเมศวันนี้ ขอโทษนะครับ” ศราวินแสร้งหัวเราะร่าเริงแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเองมาสะพายไหล่และทำท่าจะลุกขึ้น แต่ข้อมือเล็กของเขาก็ถูกมือใหญ่ของอาจารย์จับเอาไว้ก่อน

“หมอจะไปดื่มอย่างนั้นหรอ?”

ความรู้สึกเป็นห่วงมันพุ่งมาในใจว่าเด็กน้อยของเขาจะไปดื่มที่ไหน จะไปดื่มกับใคร หากจะต้องเข้าไปในสถานที่อโคจรตามลำพัง เด็กน้อยของเขาจะเป็นอันตรายหรือเปล่า

ความเป็นห่วงเหล่านี้ทำให้อนิรุทธ์ไม่ยอมปล่อยให้เด็กหนุ่มเดินจากตัวเองไปตามลำพัง

“ก็คงผับแถวนี้ล่ะครับ”

คำตอบนั้นทำให้อนิรุทธ์ที่ลุกยืนขึ้นตามต้องออกแรงจูงเด็กหนุ่มให้มากับตัวเอง

“อย่างนั้นไปดื่มกับผมก็แล้วกัน”

แปลกที่ศราวินยอมตามแรงจูงของอาจารย์ไปโดยไม่คิดที่จะปฏิเสธอีกครั้ง...

รถยุโรปสีดำแล่นทะยานออกจากโรงเรียนในเวลาเกือบตีหนึ่ง จุดมุ่งหมายคือคอนโดของอนิรุทธ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ศราวินที่นั่งมองดูแสงไฟสะท้อนอยู่บนถนนเพียงไม่ถึงสิบห้านาทีก็จึงได้รู้สึกตัวว่าที่หมายที่อนิรุทธ์พามาไม่ใช่สถานเริงรมย์ยามค่ำคืน

“คอนโดของอาจารย์หรอครับ?”

เด็กหนุ่มหันไปถามอย่างเกินความคาดหมาย อาจารย์ของเขาที่เพิ่งจอดรถเข้าที่เสร็จก็จัดการปลดเซฟเบลท์ออก

“ใช่ ลงมาสิ” อนิรุทธ์บอกอย่างนั้นก่อนจัดการเปิดฝากระโปรงหลังรถแล้วเดินไปเปิด ศราวินที่ตามลงมาเดินไปหาเขาที่กำลังจัดการยกกล่องลังลงมาวางที่พื้น

“ผมช่วยครับ” ศราวินเข้าไปช่วยยกกล่องตามประสาเด็กมีน้ำใจ แต่อาจารย์ของเขาส่ายหน้า

“ไม่เป็นไร ช่วยปิดกระโปรงรถแล้วล็อครถให้ผมแล้วกัน”

ศราวินพยักหน้าก่อนจัดการสั่งที่อาจารย์บอกจนเรียบร้อย ทั้งสองจึงเดินเคียงกันไปยังลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกลนัก

“งานที่พี่พิมพ์เอามาวางเมื่อกลางวันสินะครับ” ศราวินถามเสียงเรียบหลังจากทั้งสองเข้ามาในลิฟท์แล้ว เขาเหลือบมองดูเอกสารในลังพลาสติกนั่นและจำได้ดีว่าเห็นหญิงสาวหอบมาวางไว้ในห้องอาจารย์

“ใช่ พอดีพรุ่งนี้ผมหยุด เลยเอากลับมาด้วย จะได้สะสางให้เสร็จตอนว่างๆ” ศราวินยิ้มรับที่มุมปากบางๆกับคำพูดที่สมกับเป็นอาจารย์ ยามว่างแทนที่จะพักผ่อนคลายเครียดแต่กลับเอางานมาทำ บางทีงานคงจะเป็นความสุขของอาจารย์ก็ได้กระมัง

พอถึงชั้นที่อาจารย์อยู่แล้ว ศราวินก็อดนึกทึ่งในตัวอีกฝ่ายไม่ได้ อาจารย์อยู่ชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางเมืองชนิดที่ศราวินไม่อยากจะประเมินราคาของมัน ถึงอาจารย์จะไม่เคยโอ้อวดว่าตัวเองร่ำรวยหรือมีนิสัยสุรุ่ยสุร่ายให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนมีเงินจนใช้ได้แบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังอะไร แต่อันที่จริงศราวินก็พอจะเดาได้กับรสนิยมของใช้และเครื่องแต่งกายรวมถึงรถยนต์ที่อาจารย์ใช้ขับก็พอเดาอยู่ได้เลาๆว่าอาจารย์เป็นคนมีฐานะดีแต่ก็ไม่คิดว่าจะดีถึงเพียงนี้ ต่างจากเด็กกำพร้าที่อยู่ได้ด้วยเงินมรดกเล็กๆน้อยๆที่พอมีใช้ถึงเรียนจบพอดีอย่างเขาราวกับฟ้าดินเลยทีเดียว

ศราวินแอบคิดขณะที่ถอดรองเท้าและเดินตามอาจารย์เข้าไปในห้องชุดที่ดูกว้างโอ่โถง

“รบกวนด้วยนะครับ”

ศราวินเอ่ยอย่างเกรงใจขณะที่อาจารย์ของเขาเดินเอาลังพลาสติกไปวางไว้ที่โต๊ะกระจกข้างทีวีขนาดใหญ่ ห้องของอาจารย์เป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน บานหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานทำให้ศราวินพอจะจินตนาการได้ว่าอาจารย์คงจะชอบนั่งลงที่โซฟาสีดำตัวใหญ่นี่และหยิบเอากองงานเอกสารมากองไว้ที่โต๊ะและค่อยๆนั่งพิจารณาดูไปหรือไม่ก็อ่านตำราทางการแพทย์เพื่อทบทวนหรือเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเองท่ามกลางแสงแดดที่สดใสอยู่เสมอ เพราะข้างๆโซฟานั้นคือชั้นหนังสือที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ศราวินที่เป็นเด็กใฝ่รู้ก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปยืนมองสันหนังสือในชั้นนั้น

“ส่วนมากเป็นเท็กซ์ที่ผมซื้อมาจากอเมริกา หลายเล่มเป็นแขนงต่อของศัลยกรรม แต่ก็มีพวกขั้นพื้นฐานที่หมอน่าจะพออ่านได้ในตอนนี้อยู่ ถ้าสนใจจะเอาไปอ่านก็ได้นะ อยู่ตรงชั้นล่างสุดนั่นแหละ”

อาจารย์ที่เพิ่งถอดสูทกับเนคไทออกจากคอและกำลังปลดกระดุมข้อมือเสื้ออยู่เอ่ยออกมาเมื่อเห็นเขายืนอยู่

“ขอบคุณครับ”

ศราวินตอบรับความปรารถนาดีนั้นไว้โดยไม่ได้หยิบตำราแพทย์ออกมาจากชั้นวางหนังสือสักเล่ม หากเป็นยามปกติศราวินคงจะยินดีถึงขั้นดีใจเหมือนเด็กน้อยที่จะได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างแน่นอน แต่อนิรุทธ์ก็ไม่ว่าอะไร เขาเดินผ่านเด็กหนุ่มไป ชั่วจังหวะที่เดินผ่านไปมือใหญ่ก็วางตบลงบนศีรษะเล็กเบาๆสองที ศราวินหันมองตามเขาไป

อาจารย์ของเขาเป็นผู้ชายที่มีระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว แม้จะเลิกงานอยู่บ้านแล้วก็ตามที แต่อาจารย์ก็ยังคงพับชายแขนเสื้อขึ้นมาไว้อย่างเป็นระเบียบ เป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผนทุกอย่าง

และคงเป็นผู้ชายที่ไม่คิดจะออกนอกลู่นอกทางมารักกับเด็กผู้ชายอย่างเขาเป็นแน่..ไม่ต้องคิดไปถึงขั้นว่าเขากับอาจารย์อยู่ในฐานะของอาจารย์กับลูกศิษย์กันแม้แต่น้อย แค่ความเป็นเพศเดียวกันก็หนักหนาแล้ว

ศราวินได้แต่ทอดถอนใจจนต้องถอนหายใจออกมาอย่างหนักในอก

“อยากดื่มอะไรเป็นพิเศษล่ะหมอ?”

เสียงที่ถามดังมาจากอีกด้าน ศราวินเดินไปตามเสียงนั้นและพบว่าอาจารย์กำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ที่ด้านหลังเป็นตู้กระจกที่ฝังไว้ในผนัง แต่ละชั้นมีเหล้ายี่ห้อต่างๆอยู่มากมายเต็มไปหมด ดูแล้วต่างก็เป็นเหล้านอกชั้นดีราคาแพง

“อาจารย์เป็นนักดื่มหรอครับ?”

ศราวินถามอย่างสงสัยและไม่คาดคิดสักเท่าไหร่นัก อาจารย์ของเขาหัวเราะเบาๆ

“สมัยเป็นนักเรียนน่ะก็ใช่นะหมอ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลามานั่งดื่มเท่าไหร่ ที่หมอเห็นนี่ก็ได้จากคนไข้ทั้งนั้น”

ศราวินพยักหน้างึกงักอย่างเข้าใจ เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นอาจารย์ได้รับของกำนัลพวกนี้จากคนไข้เสียเมื่อไหร่กัน

“จะไม่รับก็เสียน้ำใจเขา คิดอยู่เหมือนกันว่าได้แต่รับมา ไม่มีเวลาดื่ม มันน่าเสียดาย”

ได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้นแล้วศราวินก็หลุดขำเบาๆไม่ได้

“ว่าไงล่ะ มีอะไรอยากดื่มเป็นพิเศษไหม?” อาจารย์หันมาถามอีกครั้ง

“อะไรก็ได้ครับ ผมดื่มไม่ค่อยบ่อยเหมือนกัน”

อนิรุทธ์พยักหน้าแล้วหันไปหยิบเอาเหล้าออกมาขวดหนึ่งพร้อมกับแก้วสองใบ เป็นเหล้าที่อนิรุทธ์คิดแล้วว่าดีกรีมันไม่สูงสักเท่าใดนัก เขาเลือกมันมาด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าเด็กน้อยของเขาคุ้นเคยกับแอลกอฮอล์มาแค่ไหน

“ผมช่วยครับ”

ศราวินขยับเข้าไปช่วยถือแก้วเอาไว้เมื่อเห็นว่าอาจารย์ที่ถือทั้งแก้วกับขวดเหล้าและกระติกน้ำแข็งจะเดินไปเปิดตู้เย็น อนิรุทธ์ส่งแก้วกับกระติกให้เด็กหนุ่มและเปิดประตูตู้เย็นออก เขาบิดน้ำแข็งในช่องแช่ลงมาเทใส่กระติกไว้เสร็จเรียบร้อยพร้อมหยิบโซดากับสไปร์ทที่แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นออกมาแล้วจึงพากันเดินมาที่โซฟา

ทั้งอนิรุทธ์และศราวินต่างก็เลือกที่จะนั่งลงที่พื้นกันอย่างไม่มีใครบอกออกมาก่อนเลยสักนิด แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายต่างก็นั่งลงที่พื้นแล้วก็พากันหัวเราะเบาๆ

“นั่งกับพื้นมันดูเป็นกันเองมากกว่านี่นะ”

“ครับ”

ศราวินได้แต่ตอบสั้นๆ แต่ก็บ่งบอกว่าเขาเห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์คิดอยู่ไม่น้อย

“มา ดื่มแล้วลืมเรื่องไม่สบายใจกัน”

อาจารย์เทผสมเหล้าลงกับมิกเซอร์อย่างคล่องแคล่ว ศราวินที่ไม่เคยได้เห็นบรรยากาศนอกบทบาทความเป็นแพทย์ของคนตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะมองแล้วรู้สึกว่าอาจารย์มีความเท่ห์กว่าผู้ชายทั่วไปชนิดนี่ถ้าเขากลายเป็นฝ่ายหยิบน้ำแข็งใส่แก้วเทโซดาเทเหล้าลงมาคนๆอย่างที่อาจารย์ทำก็คงไม่น่ามองแบบนี้เป็นแน่

“ของหมอเป็นสไปร์ทแล้วกันนะ” อาจารย์ว่าอย่างเลือกให้เสร็จสรรพก่อนจัดการชงและยื่นมาให้

“ขอบคุณครับ”

ศราวินรับมาแล้วยกขึ้นจิบ ในใจนึกชมคนที่จัดการเลือกให้ตัวเอง รสหวานๆที่ผสมกับกลิ่นและรสชาติแอลกอฮอล์อ่อนๆทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกดื่มทีเดียวหมดแก้ว

“ใจเย็นหมอ..เดี๋ยวก็เมาก่อนพอดี”

ศราวินหัวเราะเบาๆกับคำพูดของอาจารย์ที่ยกแก้วของตัวเองขึ้นมาจิบ

“อาจารย์ชงอร่อยนี่ฮะ”

คนอายุน้อยกว่าบอกแล้วยกมือขึ้นเกาแก้มเขินๆ เรื่องที่มัวใจอยู่มันค่อยๆจางหายไปทีละน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอจากคนที่รับแก้วของเขาไปชงเพิ่ม อาจารย์ของเขาดูเป็นปกติแล้ว

ศราวินอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะมองดูอาจารย์ชงเหล้าให้กับตัวเอง

 

เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง มิกเซอร์ต่างๆก็หมดลงไปตามเวลา ปริมาณเหล้าในขวดก็พร่องไปมาพอๆกับสติ จากที่นั่งหลังตรงอยู่ ตอนนี้เด็กน้อยของอาจารย์ก็ลงไปเลื้อยซบอยู่กับโต๊ะให้รู้ถึงความอ่อนเดียงสาในการแตะต้องของมึนเมา อนิรุทธ์ที่คอแข็งกว่านึกโล่งใจที่ไม่ปล่อยเด็กน้อยของตัวเองไปดื่มตามลำพัง ดื่มแล้วเมาจนประคองสติเอาไว้ไม่อยู่แบบนี้..คงไม่ดีแน่ ปัจจุบันหาใช่ว่าอันตรายจะมาเยือนแก่ผู้หญิงเท่านั้น เด็กหนุ่มหน้าตาดีอย่างศราวินก็ง่ายนักที่จะตกเป็นเหยื่อ

เหมือนกับศราวินคนนั้น...

ที่ถูกพวกอันธพาลลากไปข่มขืน..

อนิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเนื้อความในคดีนั้นขณะมองหน้าที่เห่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของศราวิน เขายกมือขึ้นมาลูบหัวเด็กน้อยที่เมาหลับคอพับอยู่กับโต๊ะอย่างนึกเป็นห่วง

อนิรุทธ์วางมือไว้บนศีรษะเล็กอย่างไม่มีความต้องการที่จะยกมันกลับมา เขาเทเหล้าลงไปในแก้วของตัวเองแล้วยกขึ้นดื่มเพียวๆจนหมด แอลกอฮอล์รสนุ่มไหลลงไปในคออย่างไม่มีทีท่าว่าจะพรากสติเขาไปจากตัวเลยสักนิด แต่กลับเป็นตัวกระชากความทรงจำตอนที่ได้ฟังเรื่องจากปากของรเมศพร้อมกับเด็กที่เมาหลับอยู่ข้างตัวและคำพูดรวมถึงสีหน้าของวิญญาณที่มาปรากฏตัวให้เห็น อนิรุทธ์ระบายลมหายใจอย่างอึดอัด

ใจร้าย...

เขาน่ะหรือที่ใจร้าย!?

อนิรุทธ์นึกฉงนกับสิ่งที่วิญญาณพูดกับตัวเอง และไม่เข้าใจว่าตนเองใจร้ายยังไงเลยสักนิด

"อา..จารย์..."

เสียงครางแผ่วเบาดังจากกลีบปากอิ่มสวยของเด็กเมา

อนิรุทธ์หันมองแล้ววางแก้วลงกับโต๊ะก่อนรั้งมือบางที่กำลังจะวาดไปปัดเอาขวดโซดาตกแตก

จังหวะนั้นเองที่ใบหน้าสวยหวานผิดเพศพลิกมาทางเขา ดวงตาฉ่ำปรือ พวงแก้มแดงและเรือนผมสีคาราเมลหยิกอ่อนที่ละล้อมใบหน้ามันตราตรึงสายตาเขาเอาไว้

“ใจ..ร้าย..”

แม้กระทั่งคนข้างกายยังพูดว่าเขาใจร้าย อนิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะนึกขัน เขาใช้ข้อนิ้วไล้ไปที่โหนกแก้มแดงจัดเบาๆ มองพิศใบหน้าน่ารักนั้นก่อนจะผ่อนลมหายใจยาว

“คุณยังอ่อนต่อโลกเกินไปที่จะรับรู้เรื่องราวนั้นแท้ๆ ไม่ควรให้ได้ยินได้รู้เรื่องเลย ถ้าผมรู้ว่ามันจะทำให้คุณต้องคิดมากขนาดนี้ ก็คง...”

อนิรุทธ์เก็บคำพูดไว้ก่อนถอนหายใจอีกครั้ง เขาเลื่อนมือสอดไปโอบเอวเด็กหนุ่มที่ทำท่าจะนอนพับอยู่ตรงนั้น หมายจะพาไปนอนให้หลับสบายในห้องพักรับรองแขกที่ครั้งหนึ่งนึกเสียดายว่ามันคงไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์และเกือบจะเรียกช่างมารีโนเวทใหม่ไปเสียแล้ว คืนนี้คงได้ให้เด็กน้อยของเขาอาศัยนอนหลับให้สบายตัวกว่ามานอนพับอยู่กับโต๊ะหรือโซฟาด้านนอก

แต่เมื่อออกแรงดึงให้เจ้าตัวลุกขึ้นจากพื้น คนที่เมาอยู่ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ศราวินเงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะสะอื้นร้องไห้โฮออกมา เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหนีแล้วชันเข่าขึ้นมากอดไว้ ซุกหน้าลงไปร้องไห้จนตัวสั่น อนิรุทธ์มองอย่างทำอะไรไม่ถูก

“ศราวิน...คุณร้องไห้ทำไม?”

ร่างสูงของศัลยแพทย์หนุ่มทรุดนั่งลงข้างๆอีกครั้งและยื่นมือออกไปลูบศีรษะเล็กพยายามปลอบประโลม

“อะ..อาจารย์....ใจร้าย...”

เจ้าตัวพลิกหน้ามาตัดพ้อด้วยสีหน้าที่เหมือนเด็กที่กำลังโดนแกล้งก่อนซุกหน้าลงไปร้องไห้อีก

"อาจารย์ใจร้าย บอกให้ซันลืมได้ไงกัน"

เสียงสั่นเครือตัดพ้อด้วยประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำ ศราวินร้องไห้ไม่ยอมหยุดจนอนิรุทธ์ลำบากใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ถ้าพวกเขาคือเราล่ะ..ถ้าพวกเราเกิดมาเพื่อเจอกันอีกรอบ...อาจารย์จะใจร้ายให้ซันลืมเรื่องพวกนั้นจริงๆหรอ?..”

อนิรุทธ์ฟังสิ่งที่เด็กหนุ่มพร่ำพูดออกมาด้วยความรู้สึกชะงักงัน..เขาไม่เคยนึกถึงสิ่งที่ศราวินพูดมาก่อนเลยสักนิด...

เกิดมาเพื่อเจอกันอีกรอบอย่างนั้นน่ะหรือ?..

“แล้วถ้าพวกเราเกิดมาเพื่อเจอกันอีกรอบจริงๆ...อาจารย์จะไม่รักซันแล้วใช่ไหม?...”

เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยก่อนก้มหน้าลงไปซบกับเข่าของตัวเอง เสียงสะอื้นลอดผ่านมาให้อนิรุทธ์รับรู้ความรู้สึกข้างใน

“ศราวิน..คุณเมาแล้วนะ”

อนิรุทธ์ได้แต่พูดอย่างนั้นและลูบหัวของเด็กหนุ่มเอาไว้ ในใจนึกสับสนจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังรู้สึกยังไงอยู่..ได้แต่ร้องบอกตัวเองซ้ำๆว่าคนที่กำลังร้องไห้เป็นลูกศิษย์ที่เขาไม่ควรเผลอใจไปรัก..

หากไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ที่แสนเศร้านั้นมันจะซ้ำรอยอีกครั้งก็ควรหยุดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเด็กหนุ่มไว้เพียงอาจารย์กับลูกศิษย์เท่านั้น อย่าได้คิดเกินเลยไปไกลกว่านั้น แม้มันจะทำได้ยากแค่ไหนก็ตามที

“อาจารย์...”

ร่างเล็กที่ซุกหน้าร้องไห้อยู่นั้น พลิกหน้ามามองเขาอีกครั้ง สายตาดูหม่นหมองขณะพยายามยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา..

“ซันรักอาจารย์นะฮะ....เรารักกันไม่ได้หรอ?”

เสียงที่หลุดมาจากริมฝีปากบางมันแผ่วเบาแต่อนิรุทธ์กลับได้ยินมันชัดเจนเหมือนที่เห็นแววตาของศราวินกำลังมองเขาอย่างหม่นหมองว่ามันชัดมากเพียงใด..และเช่นเดียวกับหัวใจที่มันบีบรัดเป็นจังหวะที่แรงขึ้น...

“หมอ..คุณแค่สับสนเท่านั้น...”

อนิรุทธ์รู้ดีว่าตัวเองฝืนพูดคำนั้นไปมากแค่ไหน เขายกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กของคนข้างกายเอาไว้

(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2013 20:49:59 โดย zynestras »

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com


“คุณก็แค่สับสนกับสิ่งที่ได้ยิน...และประคองสติไม่อยู่เพราะกำลังเมาเท่านั้น พรุ่งนี้เช้าคุณก็จะลืมทุกอย่างที่คุณพูด...”

แบบนั้นแล้ว...

ใครกันแน่ที่ใจร้าย...

อนิรุทธ์อยากย้ำถามนัก...

ศราวินไม่ได้ตอบอะไร แต่เอาแต่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดทั้งน้ำตา อนิรุทธ์สูดลมหายใจลึกก่อนจะสอดมือลงไปกอดเอวอีกฝ่ายและออกแรงดึงพยุงให้ลุกขึ้น

“ดึกมากแล้ว คุณไปนอนดีกว่านะ”

คราวนี้ศราวินยอมที่จะลุกขึ้นเดินตามแรงประคองของอาจารย์ไป

อนิรุทธ์พาเขามายังห้องนอนรับรองแขกและพยุงเด็กหนุ่มไปจนถึงเตียง เขาประคองให้ศราวินนั่งลง นึกขอบคุณแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดให้อยู่เสมอจนมันสะอาดเรียบร้อยดีพร้อมที่จะให้คนตัวเล็กได้นอนอย่างสบาย

“เดี๋ยวผมจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนก็แล้วกัน”

อนิรุทธ์พึมพำเช่นนั้นก่อนเดินออกจากห้องไปเมื่อรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ตามลำพังกับเด็กหนุ่ม ศราวินมองตามอาจารย์ไปแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ซุกหน้าลงกับหมอนก่อนร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น..

เขาอาจจะเมา แต่ก็ยังมีสติครบถ้วนดีทุกอย่างที่จะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป

แต่คำพูดของเขา อาจารย์กลับคิดว่าเป็นเพราะเขาขาดสติ

หรือเป็นเพราะอาจารย์ไม่ต้องการยอมรับในสิ่งที่เขาพูดและไม่อยากได้ยินมัน

ทั้งหมด..ก็คงเป็นเพราะใจของอาจารย์ไม่ตรงกับศราวิน...

อาจารย์จึงได้ปฏิเสธความรู้สึกที่ศราวินรวบรวมความกล้าบอกออกไปอย่างนี้

"ซัน..."

เสียงเรียกที่ดังแผ่วเบาอยู่ข้างหูทำให้คนที่กอดหมอนสะอื้นอยู่ต้องชะงัก เพราะเสียงนั้นเป็นเสียงของอาจารย์ แต่ศราวินไม่ได้ยินเสียงอาจารย์เปิดประตูเดินเข้ามา ซ้ำอาจารย์ของเขาไม่เคยเรียกเขาด้วยชื่อเล่นมาก่อน ศราวินพลิกหน้าหันมาทางต้นเสียงช้าๆ และต้องนิ่งอึ้งเมื่อเห็นเงาโปร่งแสงในความมืดสลัวนั่งอยู่ข้างศีรษะและกำลังมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน

ตรงหน้าคือวิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อสี่สิบปีก่อนเป็นแน่แท้

"หมอ...อย่าร้องไห้..."

ศราวินได้แต่นอนอึ้งเมื่อวิญญาณตรงหน้าเอ่ยเช่นนั้นพร้อมกับยื่นปลายนิ้วมาไล้เช็คราบน้ำตาของเขา สัมผัสที่ไม่สามารถแตะต้องตัวเขาได้ กลับสร้างกระแสอุ่นวาบขึ้นมาในใจ ศราวินมองพิศรูปหน้าและลักษณะกายที่เหมือนกีบอาจารย์ของเขาทุกกระเบียดนิ้วอย่างรู้สึกเจ็บหน่วงในใจ

"อาจารย์..ยังไม่ไปเกิดหรอกครับ?"

ความสงสัยทำให้ศราวินถามออกไป การได้เห็นวิญญาณของอีกฝ่ายทำให้ศราวินหมดสิ้นซึ่งความหวังที่คนเองกับอาจารย์จะเคยเป็นคนรักกันในชาติที่แล้ว

"ผมว่าคุณจะหาคำตอบได้ด้วยตัวเองนะ"

วิญญาณอาจารย์ว่าเช่นนั้นก่อนลูบศีรษะเขาช้าๆ ชั่วความคิดหนึ่งที่ศราวินไม่อยากให้วิญญาณอาจารย์จากไป อยากให้เขาอยู่กับศราวินตรงนี้และกอดเขาไว้

"กอดของผมไม่อุ่นหรอกนะหมอ...แต่เชื่อเถอะว่าอ้อมกอดที่หมอปรารถนา หมอจะได้รับมันในคืนนี้"

วิญญาณของอาจารย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากอิ่มบางของคนที่ตนลูบศีรษะอยู่ก่อนเลือนหายไป

"อะ..อาจารย์ อาจารย์!?"

ศราวินร้องหาและสะดุ้งขึ้นมานั่ง เขาไม่เห็นวิญญาณของอาจารย์อีก

"อาจารย์...."

ศราวินครางแผ่วเบาก่อนยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเอง เด็กหนุ่มเอนนอนลงกับเตียง มือเลื่อนไปลูบที่นอนตรงจุดที่วิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์นั่งเมื่อสักครู่อย่างเหม่อลอยก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลง

มีแต่เสียงแผ่วเบาในใจที่ดังซ้ำช้าๆ

อาจารย์....

 

อีกด้านนั้น อนิรุทธ์กำลังหยิบเอาเสื้อผ้าชุดนอนของเขาออกมาจากตู้ เมื่อปิดประตูและกำลังจะเดินออกจากหน้าตู้เสื้อผ้า อนิรุทธ์ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเงาบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ทางหางตา และพอหันกลับมามองเต็มตา อนิรุทธ์ก็ต้องตะลึงที่ได้เห็นเงาของศราวินซึ่งนอนอยู่ในห้องรับรองแขกมันสะท้อนอยู่ในกระจกที่สมควรต้องสะท้อนเงาของเขา ซ้ำยังเห็นตัวเอง..ไม่สิสมควรเรียกว่าวิญญาณของอาจารย์หมออนิรุทธ์คนที่มีชีวิตเมื่อสี่สิบปีก่อนเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พูดอะไรบางอย่างกับเด็กน้อยของเขาก่อนก้มลงไปจูบและตัวหายไป

อนิรุทธ์แทบจะวิ่งออกจากห้องไปหาศราวินในตอนนั้น ทว่าเมื่อภาพมันหายไป เงาของเขาก็สะท้อนกลับมาพร้อมกับเงาของใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังซึ่งทำให้อนิรุทธ์ถึงกับสะดุ้ง

วิญญาณของศราวินที่เขาได้พบเมื่อช่วงเที่ยงคืนมาปรากฏกายอีกครั้งด้วยแววตาเศร้าหมองเช่นเดิม

“คุณ..ทำไมคุณกับคนรักของคุณถึงมาที่นี่?”

อนิรุทธ์หันไปถามอย่างข้องใจ อีกฝ่ายเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเขาและมองหน้าเขา

“คุณกำลังทำให้ผมเสียใจ...”

ถ้อยเสียงหวานที่ดังก้องไม่เหมือนกับเสียงมนุษย์เอ่ยขึ้นอย่างโศกสร้อย อนิรุทธ์อึ้งกับคำพ้อของวิญญาณหนุ่มตรงหน้า

“คุณจะบอกว่า...ศราวินคือตัวคุณอย่างนั้นหรือครับ?”

วิญญาณตรงหน้าไม่ตอบคำถามของเขา แต่อนิรุทธ์ก็แน่ใจในคำตอบจากคำถามของตัวเองได้จากสีหน้าเจ็บปวดที่อีกฝ่ายใช้มองเขา

“ถ้าอย่างนั้น...ผมก็ยิ่งไม่สมควรรักเขา..”

ศัลยแพทย์หนุ่มสรุปออกมาทันที และคำพูดจากปากนั้นก็ดูว่าจะสร้างความเกรี้ยวโกรธให้กับวิญญาณของศราวินไม่น้อย มันสะท้อนออกมาในแววตาอย่างชัดเจน และความโกรธนั้นทำให้ทั่วห้องของอนิรุทธ์ถูกลมปริศนากระชักพัดอย่างแรงจนแจกันมันตกมาแตก

“คุณกำลังจะทำผิดซ้ำรอยเดิมอีกแล้วอาจารย์!”

เสียงตะคอกจากวิญญาณดังขึ้นก้อง วิญญาณของศราวินมองเขาอย่างเจ็บช้ำและเอื้อมมือมาจับมือเขาไว้ บังคับมือศัลยแพทย์ให้เคลื่อนไหวมาตามความต้องการของตนเอง อนิรุทธ์มองมือที่ถูกจับไปวางไว้บนแผ่นอกของวิญญาณหนุ่มอย่างสงสัย วิญญาณของศราวินมองหน้าเขาก่อนดันมือเขาเข้าไปในร่างของตัวเอง

อนิรุทธ์สัมผัสได้ถึงอวัยวะภายในที่ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ แต่มันปราศจากไออุ่นของความมีชีวิต มือของเขาถูกบังคับให้ไปจับอวัยวะอันหนึ่งที่เขาจำได้ดีว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการมีชีวิต

“หัวใจของผมเมื่อสี่สิบปีก่อนมันหยุดเต้นแล้ว...แต่อย่าทำให้มันต้องหยุดเต้นอีก...”

อนิรุทธ์รู้สึกว่าโสตประสาทของตัวเองมันกำลังถูกแช่แข็ง เขามองหน้าอีกฝ่ายที่พูดทันที

“คุณหมายความว่ายังไง...ถ้าผมกับศราวินไม่รักกันมันไม่ดีกว่าหรือยังไงกัน?”

วิญญาณของศราวินส่ายหน้าช้า...ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วที่ทำให้ใจของอนิรุทธ์แทบร่วงไปกองที่เท้า

“ถ้าคุณไม่รักผมต่างหาก...ที่จะทำให้ผมตาย...”

น้ำตาใสไหลกลิ้งจากหน่วยตาคู่สวยแสนเศร้า วิญญาณของศราวินมองหน้าเขาแล้วร้องไห้ออกมาขณะที่ร่างค่อยๆเลือนหายไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงเสียงที่ดังก้องให้อนิรุทธ์ได้ยิน

“อาจารย์..พวกเรากลับมาเกิดเพื่อรักกันอีกครั้งแท้ๆ...”

“ได้โปรด.. อย่าใจร้ายฆ่าผมด้วยความไม่รักกันเลยนะ...”

อนิรุทธ์นิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ไฟที่ดับไปเมื่อสักครู่เปิดสว่างกลับมาอีกครั้ง แจกันที่ตกลงมาแตกคือเครื่องยืนยันว่าเมื่อสักครู่วิญญาณของศราวินมาเยือนเขาแล้วจริงๆ

“ศราวิน...” เขาครางชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนผลุนผลันไปหาเด็กน้อยของเขาอย่างนึกเป็นห่วง

เมื่อสักครู่..ภาพที่เขาเห็นในกระจกนั่น อาจารย์หมออนิรุทธ์จะต้องมาหาศราวินแน่ๆ

 

เพียงไม่กี่ก้าวเท้ายาวๆก็พาอนิรุทธ์พรวดพราดเข้ามาในห้องที่ศราวินกำลังนอนอยู่ ศัลยแพทย์หนุ่มรีบเข้าไปหาและใจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ที่เห็นเด็กน้อยของเขานอนซุกอยู่โดยไม่หันมาหา

“ศราวิน..ศราวิน?”

เขาจับตัวเด็กหนุ่มพลิกให้กลับมานอนหงาย ศราวินที่ร้องไห้จนผล่อยหลับไปก็ปรือตาขึ้นมามอง

“ฮะ?...อ๊ะ!”

เด็กหนุ่มที่ถูกปลุกกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองซ้ายทีขวาทีราวกับต้องการมองหาอะไรบางอย่าง

“คุณกำลังมองหาอะไรอยู่?”

“อะ..เอ่อ..”

ศราวินยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมไปถัดหูตัวเองอย่างเก้อเขินและไม่กล้าบอกว่าสิ่งที่ตัวเองมองหาอยู่คือวิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์ที่เสียชีวิตเมื่อสี่สิบปีก่อนเพราะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ตัวเองคงจะฝันไป

“ไม่มีอะไรหรอกฮะ..”

ศราวินบอกแล้วก้มหน้าลงมองดูมือตัวเองที่วางอยู่บนตัก..และรู้สึกใจเต้นขึ้นมาเมื่ออาจารย์เอื้อมมือมาจับที่มือของเขา

“หมอ..”

ดวงตาคู่สวยที่บอบช้ำจากการร้องไห้แต่ก็ยังคงความน่ามองเอาไว้ค่อยๆช้อนขึ้นมาสบตาเขา อนิรุทธ์ยกมือขึ้นมาเกลี่ยผมอีกข้างไปถัดหูไว้ให้ราวกับต้องการให้ศราวินได้ยินคำถามของเขาชัดๆก่อนเอ่ยถาม

“ก่อนที่หมอจะรู้เรื่องจากอาจารย์รเมศวันนี้...”

อนิรุทธ์ถามช้าๆอย่างพยายามไม่เร่งร้อนทั้งตัวเองและความรู้สึกของตัวเอง เขาลูบไปตามนิ้วเรียวเล็กอย่างถนอม

“หมอรู้สึกยังไงกับผม?”

สองแก้มของคนถูกถามแดงปลั่งขึ้นมาทันที ศราวินรู้สึกหน้ามันร้อนผ่าวกับคำถามและสายตาของอาจารย์ที่มองมาอย่างรอคอยคำตอบ ริมฝีปากบางเม้มสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเงยหน้ามามองอาจารย์แต่ก็เขินจัดจนมองหน้าตรงๆไม่ได้จนต้องเลื่อนสายตาลงมามองช่วงอกของอีกฝ่ายแทน

“ผม...มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆอาจารย์ ไม่อยู่ใกล้ก็คิดถึง อยากเป็นเด็กดีที่อาจารย์คอยชม เป็นคนที่อยู่ในสายตาอาจารย์ตลอดเวลา สำหรับผม..อาจารย์คือคนสำคัญที่สุด แล้วก็อยากให้อาจารย์รู้สึกแบบเดียวกัน”

เด็กหนุ่มสารภาพเสียงเบาด้วยความรู้สึกเหมือสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในมันล้นทะลักออกมาจนไม่อาจห้ามเอาไว้ได้ ศราวินช้อนสายตาขึ้นมาหน้าอาจารย์อีกครั้งแล้วพูดเสียงแผ่วเบา

“ผมรักอาจารย์..”

คำว่ารัก..เมื่อเอ่ยออกไปแล้ว มันก็ยากที่จะถอนคืน

แต่ศราวินไม่คิดจะเอาคำพูดที่พูดให้อาจารย์ได้ฟังกลับคืนมาเลยสักนิด

เขาเพียงแต่กลัวว่าคำพูดของตัวเอง มันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดให้หากถูกปฏิเสธอย่างรังเกียจจากอีกฝ่าย...

อาจารย์ของเขานิ่งไปครู่ใหญ่จนพาให้เขารู้สึกใจเสีย ศราวินพยายามฝืนยิ้มก่อนก้มหน้าลง เขาดึงขาขึ้นมาชันเข่าก่อนวางคางลงไป รู้สึกหดหู่กับใจของตัวเองไม่น้อยที่คิดว่าคงจะทนไม่ไหวเป็นแน่หากอาจารย์แสดงทีท่ารังเกียจออกมา

“มันน่ารังเกียจใช่ไหมครับ ที่ผมรู้สึกแบบนี้กับอาจารย์?”

เด็กหนุ่มถามออกไปเสียงเบา ทว่าสิ้นคำถามของเขา อาจารย์ก็ถามกลับมา

“เป็นผม...ดีแล้วหรือ?”

เสียงทุ้มของอาจารย์หนุ่มเอ่ยถามคล้ายคลางแคลงใจ

ศราวินพลิกหน้ามามองเขา สีหน้าและแววตาของอาจารย์อ่อนโยนและอบอุ่น อาจารย์เขยิบเข้ามาใกล้เขาแล้วถามซ้ำอีกครั้ง

“เป็นผม..ดีแล้วจริงๆน่ะหรือ?”

คนถูกถามไม่ตอบแต่ยิ้มให้เขาก่อนพยักหน้า อนิรุทธ์ยิ้มอ่อนๆให้แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของอีกฝ่าย ก่อนโน้มตัวไปหาและจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากเนียน ศราวินหลับตาลงฟังเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงอย่างเกินความคาดหมาย

“ขอโทษ...ที่ทำให้เสียใจ..”

เสียงทุ้มของอาจารย์กระซิบอยู่กับหน้าผาก ความดีใจและความสุขมันทะลักล้นในใจ

“อาจารย์...อาจารย์”

ศราวินอดไม่ได้ที่จะปล่อยสองมือออกจากขาตัวเองก่อนโอบแขนกอดร่างสูงของอาจารย์เอาไว้ อนิรุทธ์รับกอดของเด็กน้อยไว้แล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก ปล่อยให้ศราวินกอดเขาอย่างไม่คิดจะผลักไสและเมื่อเด็กหนุ่มเป็นฝ่ายผละกอดจากเขาเพื่อมองหน้าเขาพร้อมกับรอยยิ้ม อนิรุทธ์ก็ไม่อาจรั้งห้ามหัวใจของตัวเองที่จะปล่อยให้ความรู้สึกมันดำเนินไปตามครรลองของมัน เขาก้มลงไปหาใบหน้าที่ลอยอยู่ใกล้ สองตาคมมองดูแววตาตกใจของเด็กน้อยของเขาที่ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำในสิ่งที่แม้กระทั่งเขาเองยังเชื่อได้ยาก...

ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบลงที่กลีบปากอุ่นนุ่มของศราวิน...

รสชาติหอมหวานกำซาบไปในใจของทั้งสองที่ค่อยๆปล่อยใจไปกับสัมผัสอ่อนละมุน ศราวินหลับตาลงปล่อยให้อาจารย์เป็นฝ่ายพาเขาไปสู่ความอ่อนหวานที่เพิ่งได้รู้จักเป็นครั้งแรก มือเล็กยกขึ้นทาบอกกว้างของอาจารย์โดยไม่รู้ตัวตัว เข่าที่ดึงขึ้นมาชันก็ค่อยๆขยับเหยียดลง

อนิรุทธ์เบียดจูบกับกลีบปากนุ่มก่อนไล้เลียด้วยปลายลิ้นของตนเอง แทรกไปตามร่องกลีบปาก ควานลึกเข้าไปในราวกับกำลังลิ้มชิมความหอมหวานจากเด็กหนุ่ม ศราวินเผยอริมฝีปากอ้าออกให้อาจารย์สอดลิ้นเข้ามา ความไม่ประสีประสาในการจูบทำให้อนิรุทธ์ต้องหยุดชะงักตัวเองเอาไว้เมื่อตระหนักได้ว่าเด็กหนุ่มอ่อนเดียงสาต่อเรื่องที่กำลังทำกันมากแค่ไหน

“อาจารย์..?”

ศราวินปรือตาขึ้นมาครางเรียกอีกฝ่ายอย่างงุนงงเมื่ออาจารย์ผละจูบจากเขา และเมื่อเห็นว่าอนิรุทธ์ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองท่าทางครุ่นคิด หัวใจที่พองโตด้วยความสุขเมื่อครู่มันก็ทำท่าจะฟีบลงทันที

“อาจารย์รู้สึกแย่หรอฮะ?”

ศราวินถามอย่างกังวลใจ ทั้งนึกคิดมากว่าตัวเองไม่ได้ความจนทำให้อาจารย์รู้สึกไม่ดีหรือเปล่า แล้วก็อดพาลคิดด้วยว่าอาจารย์จะรู้สึกแย่เพราะตัวเองเป็นผู้ชายด้วยหรือไม่

น้ำเสียงที่ถามออกมาอย่างกังวลใจทำให้อนิรุทธ์ชะงัก เขาหันกลับมามองคนพูดที่มีสีหน้าไม่ต่างจากคำถามก่อนส่ายหน้า

เขาไม่ได้รู้สึกแย่เลยสักนิด

ตรงกันข้าม...เขากลับรู้สึกดีสุดๆกับจูบครั้งนี้

อนิรุทธ์ยิ้มอ่อนโยนให้และโน้มตัวไปจูบเบาๆที่หน้าผากของคนซึ่งกำลังมองหน้าเขาอยู่

“ผมรู้สึกดีมากเกินไปต่างหาก..”

รู้สึกดีมาก...จนอยากทำให้ร่างเล็กของเด็กน้อยกลายเป็นของเขา

แต่ส่วนลึกในใจก็รู้สึกว่ามันยังเป็นสิ่งไม่ควรนัก

“จริงหรอฮะ? ดีใจจัง”

ศราวินอุทานแล้วยิ้มเต็มแก้ม ภาพรอยยิ้มของเด็กหนุ่มพาให้อนิรุทธ์ต้องยิ้มตามอย่างมีความสุขและสำนึกได้ว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ยอมเปิดรับความรู้สึกของอีกฝ่าย อนิรุทธ์เลื่อนตัวไปนั่งเอนพิงกับหัวเตียงและดึงร่างเล็กให้เอนพิงลงมาที่อกของตัวเอง เขาลูบศีรษะเล็กอย่างถนอม..

“หมอ..ผมขอโทษที่ใจร้ายบอกให้คุณลืมเรื่องที่ได้ยินนะ..”

ศราวินที่เอนพิงกับอกของเขาแหงนหน้าขึ้นมามองแล้วส่ายหน้าช้าๆ รอยยิ้มยังคงมีอยู่บนริมฝีปาก..

“ไม่เป็นไรครับ..อาจารย์ทำไปก็เพราะความเป็นห่วงเท่านั้น”

ศราวินบอกอย่างตระหนักรู้ ซึ่งทำให้อนิรุทธ์อดรู้สึกไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจในตัวเขาดีเสียยิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก

และไม่ว่ามันจะเป็นเพราะศราวินเคยเป็นคนรักของเขามาก่อนหรือเด็กน้อยของเขาเป็นคนฉลาดก็ไม่รู้ แต่ทุกสิ่งมันทำให้อนิรุทธ์รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้มีอีกฝ่ายมาอยู่เคียงข้างแบบนี้

ทว่า..เมื่อตระหนักได้ถึงน้ำหนักกายของเด็กหนุ่มที่นอนอิงกันอยู่กับกลิ่นกายหอมๆจากนวลเนื้อนุ่ม อนิรุทธ์ก็รู้สึกได้ว่าตนเองกำลังคิดผิดอย่างมหันต์ที่รั้งกอดเด็กหนุ่มให้ลงมานอนอิงตนเองเช่นนี้

ราวกับอารมณ์หนุ่มมันกำลังจะตื่นขึ้นจากการหลับใหลมาหลายปี อนิรุทธ์นึกอยากจะหัวเราะตนเองนัก กี่ปีแล้วที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เป็นเด็กหนุ่มวัยแรกคะนองรึก็เปล่า แต่กลับมานึกใจเต้นที่ได้กอดร่างผอมบางไว้ในวงแขนเช่นนี้

ศีลธรรมที่มีมันก็ค้ำคอเสียเหลือเกินที่จะฉกฉวยโอกาสที่ดูเหมือนจะเปิดกว้างให้เขาหน้ามืดตามัวที่จะทำให้เด็กหนุ่มกลายเป็นของตนเอง

“อาจารย์ครับ..”

“หืม...”

อนิรุทธ์ครางตอบเสียงเรียกในลำคอขณะที่มือยังคงลูบศีรษะของเด็กหนุ่มที่ซุกหน้าลงกับไหล่ของเขา

“กอดผมไว้แบบนี้..ทั้งคืนเลยได้ไหมครับ...?”

สุ่มเสียงหวานที่ถามดูแฝงไว้ด้วยความเกรงใจระคนขี้อ้อน แม้จะรู้สึกว่าถ้าหากทำตามคำขอ มันก็คงจะดูยากแก่การหักห้ามอารมณ์ของตัวเอง แต่อนิรุทธ์ก็กลับไม่คิดที่จะปฏิเสธ

“ได้สิ..”

อนิรุทธ์ตอบกลับไปและกดริมฝีปากจูบลงกลางกระหม่อมของคนที่ยิ้มเต็มแก้มและหลับตาลง

“ฝันดีนะหมอ...” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟที่ส่องสว่างลง

“ฝันดีครับอาจารย์...” ศราวินกระซิบบอกก่อนกอดร่างสูงแน่นขึ้น..

อนิรุทธ์ดึงผ้าห่มมาคลี่คลุมกายของลูกศิษย์คนโปรดที่ตอนนี้ก้าวเข้ามาอยู่ในฐานะพิเศษของหัวใจและตนเองก่อนข่มตานอนหลับทั้งที่อ้อมแขนยังคงกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมอกอย่างรู้สึกสงบสุขในใจ

-TBC-

Talk : ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเม้นส์มากนะคะ
ถ้าใครอยากติดตามข่าวสารอัพเดทต่างๆสามารถเข้าไปกดไลค์เพจได้นะคะ http://facebook.com/zynestrasfix

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ทั้งกลัวทั้งซึ้งทั้งเขินกันเลยทีเดียว :mew3:
สงสัยคู่วิญญาณจะกลายเป็นกามเทพชั่วคราว แค่อย่าให้เหตุร้ายมันเกิดกับทั้งคู่อีกเท่านั้นเองเนอะ :impress2:

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ซันนนน สู้ๆ เดี่ยวจารย์ก็ใจอ่อน  :mew2:

love2you

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วซึ้งจัง ชอบความรู้สึกของอาจารย์หมอในชาตินี้ที่เป็นแบบนี้ คืออยากให้ชาตินี้ทั้งคู่สมหวังนะคะ แต่ไม่ใช่กระโจนเข้าไปรักกันทันทีโดยที่ไม่ได้กลั่นกรองความรู้สึกกันก่อน ดังนั้นอาจารย์ทำถูกแล้วที่เตือน จากนี้หวังว่าทั้งคู่จะค่อยๆ ศึกษากันและกันไปจนเกิดเป็นความรักที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถเข้ามาทำให้หวั่นไหวได้นะคะ ^^

(แอบหลอนวิญญาณซันเบาๆ TT.TT)

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
มากันทั้งคู่เลย แอบกลัวนะแต่ก็สงสาร

บรรยานไม่ถูก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ดีใจจังกลับมารักกันเหมือนเดิมแล้ว

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
อันที่จริงอาจารย์หมอเอ็นดูน้องซันอยู่แล้ว เพียงแต่อะไรหลายๆอย่างค้ำคออยู่ ดีที่วิญญาณคู่รักมากระตุ้นให้ยอมรับหัวใจตัวเองนะเนี่ย
"ถ้าคุณไม่รักผมต่างหาก...ที่จะทำให้ผมตาย..."
ชีวิตคนมันสั้นค่ะอาจารย์ หากเจอคนที่เรารักแล้ว จงรักเค้าไปเถอะค่ะ

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
สาธุ สาธุ
ขออย่าให้ม่อะไรมาพรากทั้งคู่อีกเลยนะชาตินี้
อาจารย์อย่าใจร้ายกับซันเลยนะ :hao5:

รอตอนต่อไปค่ะ :L2:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
กลัวอย่างเดียวว่าเหตุการ์ณมันจะร้ายเหมือนก่อน
อยากให้วิญญาณเมื่อ40ปีก่อนช่วยคุ้มครองในชาตินี้ไปก่อนอะ
บอกตรงๆว่าอ่านแล้วลุ้นมาก
กลัวแล้วก็สงสารซันถ้าต้องมาเจอเหตุการ์ณซ้ำคงไม่ดีแน่ๆ

แต่เหมือนเมื่อ40ปีก่อนก็คอยตอกย้ำว่าไม่ควรทำสิ่งที่ผิดพลาดปะ
ฮือออออออออออบีบคั้นหัวจรายยยยยย

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
ถ้าเป็นสองคนนั้นจริง ขอให้ชาตินี้อย่าให้อะไรมาพรากให้ทั้งคู่จากกันอีกเลยนะคะ :)

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ซึ้งง ครั้งนี้ขออย่ามีอะไรมาขัดขวางเลยนะ
คู่รุ่นก่อนเป็นกามเทพเหรอเนี่ย น่ารักดี555
สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
วิญญาณซัน หลอนมากกกกกกก  o22

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด