= 2 = “ทางเราแค่ต้องการสอบปากคำคนที่อยู่ในห้อง หลังคุณคนนี้ซึ่งอาศัยอยู่ห้องติดกัน
โดนโจรยกเค้าทรัพย์สินกว่าแสนบาท พยานทั่วไปในละแวกไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลได้
เจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นคนข้างห้องที่รู้ว่าไม่ได้ออกไปไหน อยู่ภายในห้องทั้งวันจะเป็นคนให้ปากคำที่เป็นประโยชน์
แต่เราไม่ได้รับความร่วมมือ ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าคนในห้องอาจมีส่วนรู้เห็นกับหัวขโมย
หรืออาจเป็นคนลงมือเสียเอง ทั้งหมดเป็นสมมุติฐานของเจ้าหน้าที่ครับ”
ตำรวจบอกอย่างไม่ปิดบัง ไอ้รั่วคิ้วเข้มขมวดมุ่น ก่อนแทรกเข้าไปยืนหน้าห้อง
ทำการเคาะประตูพร้อมส่งเสียงเข้าไป
“คุณสมศรี ผมพรตนะ เปิดประตูออกมาคุยกันหน่อย”
“คุณพรตเหรอคะ ช่วยดิฉันด้วยค่ะ ตำรวจคิดว่าดิฉันเป็นหัวขโมยงัดห้องข้างๆ พยายามมาพาตัวดิฉันไปโรงพัก”
เสียงสั่นฟังตื่นๆจับน้ำเสียงได้ดังกลับมา ไอ้รั่วหันไปสบตาตำรวจที่ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อจนคำพูด
“อะไรทำให้คุณเข้าใจว่าตำรวจเขาคิดแบบนี้..เปิดประตูออกมาคุยกันก่อน”
ไอ้รั่วเร่งให้คุณสมศรีเปิดประตู พร้อมถามเหตุผลไปด้วยในตัว แต่คุณสมศรียังไม่ยอมเปิด กลับตอบมาว่า
“ดิฉันได้ยินตำรวจคุยกับเจ้าของห้องว่า ไม่มีใครในนี้ที่อยู่กันเลยยกเว้นดิฉันอยู่ในห้อง
จึงเป็นคนที่เข้าข่ายน่าสงสัยมากที่สุด” ไอ้รั่วหันไปมองหน้านายตำรวจคนเดิมอีก คราวนี้เจื่อนสนิท
คงไม่คิดว่าคำพูดตนเองจะดังให้ได้ยินถึงด้านในห้อง
“สบายใจได้คุณเปิดประตูเถอะ ถ้าบริสุทธิ์ใจไม่ต้องกลัวความผิด ผมไม่ยอมให้ใครพาคุณไปไหนหรอก”
พอฟังคำรับปากไอ้รั่ว เสียงลูกบิดกับสลักกลอนก็ดังขึ้น
“กริ๊ก!..แอ๊ดดด!!” อุแม่เจ้า! ร่างแม่บ้านวัยกลางคน ตัวน้องธิดาช้างสามพรานเผยโฉม
ตำรวจอึ้งปากค้าง ส่วนไอ้รั่วกลับหัวเราะท้องแข็งไม่สนใจสายตาไทยมุงที่มองมางงๆ
“คงไม่ต้องให้ปากคำแล้วมั้ง คุณดูรูปร่างลูกน้องผมสิ ไม่สามารถมุดลอดบานเกล็ดสามบาน
เข้าไปยกเค้าในห้องนี้หรอกจริงไหม ในเมื่อแม่กุญแจยังคล้องสายยูปกติ ทางที่คนร้ายขโมยของมีค่าออกมาจากห้องนี้ได้
คงมีทางเดียวคือลอดตรงช่องบานเกล็ด..ฮะฮ่าๆๆ” ผมยิ้มไปกับบทสรุป คุณสมศรีเชิดหน้าเริ่ดทันควัน หลังไอ้รั่วเข้าข้าง
อย่างเป็นธรรม พร้อมท่าทางหัวเราะงอหาย เสียงหัวเราะของไทยมุงที่เริ่มเข้าใจเหตุผลแล้วว่าไอ้รั่วหัวเราะอะไร
ผู้ต้องสงสัยแบกน้ำกว่าแปดสิบโล สามารถพาร่างอวบอั๋นลอดบานเกล็ดไปยกเค้าเป็นเรื่องไม่ต้องคิดกันเลย
เจ้าหน้าที่ยอมขอโทษคุณสมศรีที่ดันปากพล่อย จนทำให้เธอไม่กล้าออกมาเผชิญหน้าขังตัวเองอยู่ในห้อง
ตัดสินใจโทรหาคุณอิสระหัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท ยึดเป็นที่พึ่งให้มาช่วยไกล่เกลี่ยแก้ไขสถานการณ์ สรุปคุณอิสระมาถึง
ทุกอย่างคลี่คลายไม่มีไทยมุง ไม่มีตำรวจไม่เหลือใคร มาเมื่อตลาดวาย
“ขอบคุณนะคะคุณพรต..คุณรันที่มาช่วยอิฉัน ไม่คิดว่าเจ้านายจะมาเอง เป็นบุญหัวอิฉันสุดๆ”
หลังเชิญพวกเราเข้าไปนั่งยังห้องแคบๆ ไม่มีอะไรกั้นเป็นสัดส่วน ยกเว้นห้องน้ำกับระเบียง เตียงนอนโซฟารับแขก
อยู่ในแอเรียเดียวกันหมด เพียงแต่เป็นระเบียบเรียบร้อย
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาธุระแถวนี้พอดี ว่าแต่คุณสมศรีอยู่กับใครไปไหนกันหมดเหรอครับ”
ไอ้พรตกวาดสายตาลวกๆสำรวจคร่าวๆ ผมนั่งฟังมันสัมภาษณ์ไปพลางๆ คุณอิสระนั่งอย่างสำรวมไม่หือไม่อือ
“อยู่คนเดียวมาหลายปีแล้วค่ะ” เธอตอบน้ำเสียงติดเศร้านิดๆ
“อ้าว! ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเหรอครับ”
“เคยมีสามี หลังจากเขาไปมีคนใหม่พร้อมกับทิ้งภาระหนี้สินจนอิฉันกลายเป็นบุคคลล้มละลาย
ก็ไม่มีใครเหลือแล้ว” เธอพูดเริ่มจะติดสั่น
“เออ..ขอโทษที่ผมถาม เห็นรูปรับพระราชทานปริญญาบัตร คุณสมศรีเรียนจบอะไรมาครับ”
ผมมองตามสายตาไอ้รั่วไปบนหลังตู้วางทีวี มีภาพเธอสวมชุดครุยอยู่ในกรอบ ตอนนั้นถึงจะยังสาว
แต่ก็คงเค้าเดิมไม่เปลี่ยนโดยเฉพาะหุ่น
“ดิฉันจบอักษรฯ จากมหา’ลัย xxx ค่ะ” โห..ความรู้ไม่ธรรมดา
“คิดยังไงมาสมัครเป็นแม่บ้าน ความรู้ความสามารถดูไม่ธรรมดานี่ครับ ก่อนหน้าเคยทำอะไรครับ”
ไอ้รั่วทำหน้าที่สัมภาษณ์อย่างละเอียดโดยมีผมนั่งฟังเงียบๆ พร้อมหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่ควรทำหน้าที่นี้
กลับรับบทผู้สังเกตการณ์หุบปากสนิทไม่ต่างกัน
“ก่อนหน้าดิฉันทำงานกระทรวงxxx หลังโดนฟ้องล้มละลาย ก็ถูกปลดออกจากราชการเพราะเป็นคดีความ
ประวัติด่างพร้อยไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ กระทั่งได้งานตำแหน่งแม่บ้านบริษัทคุณพรต คุณอิสระมีน้ำใจรับอิฉัน
เข้าทำงาน ถือเป็นความกรุณายิ่งแล้ว ทำให้พอเลี้ยงตัวเช่าห้องอยู่ได้ นิติกรรมการเงินต่างๆ ต้องรับเป็นเงินสด
เงินเดือนผ่านแบงก์ก็ต้องถูกยึดทรัพย์ ความจริงผิดระเบียบบริษัท ที่มีพนักงานนอกระบบอย่างอิฉันที่นี่
เพราะคุณอิสระเห็นใจยอมแหกกฎไม่นำดิฉันเข้าระบบเป็นกรณีพิเศษ แม้แต่ประกันสังคมอิฉันยังส่งไม่ได้
ไม่อย่างนั้นคงมีหมายศาลมาตามหักเงินเดือนไปทุกเดือน ไม่พอค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรอกค่ะ”
ฟังดูน้ำเน่าพอสมควร ชีวิตคนเรามักเจอชะตากรรมน้ำเน่ายิ่งกว่าละคร เพียงแต่ได้ไปรับรู้เห็นสภาพ
เขาเหล่านั้นหรือเปล่าต่างหาก เช่นกรณีคุณสมศรีที่อยู่ใกล้ตัว ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ผมกับพรตคงไม่รู้มีพนักงานในองค์กร
อยู่นอกระบบ ทำหน้าที่แม่บ้านดูแลความสะอาดบริษัทของเราด้วย
“แล้วหนี้สินที่ถูกฟ้องล้มละลายจนยึดทรัพย์ เกิดขึ้นได้ยังไงครับ” จากนั้นก็เป็นคำบอกเล่าจากปากคุณสมศรี
สามีไปติดผู้หญิงเล่นการพนัน จนไม่เป็นอันทำการทำงาน เมียน้อยไปเจอกันในบ่อน ทำให้หนี้สินตามมาแอบเอาทรัพย์สินที่มี
ไปจำนอง ทั้งรถบ้านโดยที่เธอไม่รู้ มารู้ก็สายแล้ว..
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปคุณคือเลขาของคุณรัน รบกวนคุณอิสระประกาศรับแม่บ้านมาแทนคุณสมศรีด้วย
ให้คุณสมศรีไปเป็นเลขาคุณรัน” ไอ้รั่วสั่งเองผมยิ้มไม่ปฏิเสธ ดูจากประสบการณ์ทำงานวัยวุฒิคุณวุฒิ
คงได้เลขาฝีมือดีมาช่วยทำงานจริงจังคราวนี้แหละ
“คนที่เพิ่งมาทำล่ะครับ” คุณอิสระกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด
“ระบุใบประเมินไม่ผ่าน หากสงสารก็พิจารณาตำแหน่งอื่นแทน เธอไม่เหมาะงานเลขาคุณรัน
เรื่องนี้ผมพิสูจน์มาแล้ว ความจริงนโยบายในองค์กรเรา ต้องประเมินพนักงานภายในใหม่ รบกวนเรื่องนี้อีกข้อ
ที่คุณอิสระรับไปทำให้ผมที ศักยภาพความรู้ความสามารถของพนักงานเก่าๆที่มี ตำแหน่งไหนว่างไม่ควรรีบประกาศ
รับคนนอก ลองมองคนในที่เหมาะสมขึ้นมาพิจารณาก่อน ถ้าลงตำแหน่งได้ควรให้โอกาสเขาเหล่านั้น
เป็นการสร้างขวัญกำลังใจพนักงานอีกทางหนึ่ง ส่วนตำแหน่งที่ว่างลงค่อยประกาศรับ หาไม่ได้จริงๆคุณสมบัติ
ไม่เหมาะสมค่อยประกาศจากภายนอกก็ไม่สาย เห็นด้วยกับผมไหม”
ผมยิ้มกับความคิดของมัน พรตไม่ใช่รั่วอย่างไร้สาระ มันมีสมองที่ฉลาดจนล้น
ความคิดมุมกลับที่ไม่ธรรมดา คำพูดคำจาฟังไม่เหมือนคนทั่วไป ทำให้ใครๆมองมันรั่วสุดโต่งบ้าๆบอๆ
ใครรู้ดีเท่าผมครับมันไม่ได้รั่วแต่ฉลาดหลักแหลมต่างหาก...หึหึ!
เสร็จธุระจากห้องเช่าคุณสมศรี ผมกับพรตมาถึงสถานีวิทยุคลื่นดังที่เชิญเราให้สัมภาษณ์
หลังได้รับโหวตจากนิตยสารอินเตอร์ฉบับหนึ่งให้เป็นคู่หูนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปี ติดโผ 1 ใน 10 มาสดๆร้อนๆ
“สวัสดีครับ ผมมาไม่เลทใช่ไหม” เข้าไปทักทายเจ้าของสถานีรอต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง
“ไม่เลยครับ กำลังได้เวลาออกอากาศพอดี สคริปคร่าวๆที่ส่งไปให้คุณพรตอ่านล่วงหน้ากับคุณรัน
เป็นหน้าที่ดีเจในรายการตั้งคำถามคุณสองคนสลับกันไม่เกิน 5 นาที เหลืออีก 5 นาทีให้ผู้ฟังทางบ้านโทรเข้ามาร่วมพูดคุย
กับคุณสองคนเพื่อร่วมสนุกในรายการ บลาๆๆ”
จบการนัดแนะ พวกเราก็ถูกเชิญไปยังห้องออกอากาศของสถานี เจอดีเจสาวเสียงใสหน้าตาสะสวยยกมือไหว้
ตอนรับด้วยอาการเขินอย่างเห็นได้ชัด ทักทายเล็กน้อยก็เข้าสู่รายการสัมภาษณ์ หลังเปิดเพลงในรายการนำร่องไปสองเพลง
ระหว่างนั้นเธอทำความคุ้นเคยพวกผมพลางๆเพื่อสร้างความเป็นกันเอง สังเกตสายตาที่เธอใช้มองพรตเยิ้มตลอด
หลงความหล่อของมันเข้าอย่างจัง
“เอาล่ะค่ะ วันนี้นับเป็นเกียรติรายการ ได้แขกรับเชิญรูปหล่องามดังเทพเจ้ากรีกสองหนุ่มโสดมาเยือน
ตามคำเชิญของสถานี หลายคนคงพอรู้จัก ติดโผท็อปเท็นอันดับ 5 นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงพันล้านมาหมาดๆ
จนเป็นที่ฮือฮาอย่างครึกโครม ได้ชื่อว่าคิวทองมากสำหรับสองหนุ่มที่สาวๆพากันคลั่งทั่วประเทศ ไม่ให้เสียเวลา
เหมียวจ๋าขอเชิญพบกับคุณวรพรต มณีกาญจน์กับคุณอรัญ ขจรเกียรติวงศ์ เรียกชื่อเล่นจำง่าย คุณพรต
คุณรันแทนนะคะ..เฮๆๆ!!” เสียงซาวน์ปรบมือกับเสียงกรี๊ดเปิดจาก CD ต้อนรับพวกเรา
“สวัสดีครับ ผมพรตครับ สวัสดีครับ..ผมรันครับ” เราต่างแนะนำตัวผ่านไมค์ตรงหน้าโต๊ะ
อย่างเป็นทางการสั้นๆอีกครั้ง
“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เข้าสู่คำถามแรกที่สาวๆทั้งประเทศอยากรู้มากที่สุดเลยนะคะ คุณพรตกับคุณรัน
ทราบว่ายังโสดทั้งคู่ ตกลงโสดสนิทไม่มีภรรยาเป็นตัวตนจริงหรือเปล่าคะ” ผมกับไอ้รั่วมองหน้ากันยิ้มๆ
ก่อนผายมือให้มันทำหน้าที่เป็นคนตอบ
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง ผมโสดแต่ไม่สนิท..ฮะฮ่าๆ” พูดจบดันหัวเราะออกไมค์อย่างมีความสุข
พลอยทำให้ผมอดขำตามไปด้วย
“อ้าว! แบบนี้แสดงว่าแอบมีกิ๊กซ่อนไว้แน่ ว้า! พาสาวๆหลายคนใจแป้วกันเลยทีเดียว ในฐานะที่ดิฉัน
ก็เป็นอีกคนที่แอบปลื้มคุณพรตคุณรันด้วยเช่นกัน พอจะแย้มได้ไหมคะ ว่าสาวโชคดีคนนั้นเป็นใคร
มีแพลนสละโสดเมื่อไหร่ จะได้คอยเป็นกำลังใจไปด้วย” เธอพูดกึ่งแซวอย่างน่ารัก
“ไม่แย้มไม่พรายนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องสละโสดแต่งเมื่อไหร่ คงตอบไม่ติดขัด
รอคุณรันแต่งผมก็แต่งเมื่อนั้นครับ” หึหึ! ฟังมันตอบดิ
“โห!..นี่คู่หูดูโอตัวจริงเสียงจริงเลยทีเดียว ประวัติสนิทกันตั้งแต่มัธยมกระทั่งตอนนี้..
เรื่องแต่งงานมีครอบครัวยังอิงกันอีก แล้วคุณรันล่ะคะ มีแพลนเกี่ยวกับครอบครัวไว้ยังไงบ้างเอ่ย”
เธอหันมาคำถามผม ชำเลืองสบตาไอ้รั่วที่มองผมยิ้มๆ
“ผมคงคำตอบเดียวกับคุณพรตครับ รอคุณพรตแต่งผมค่อยแต่ง ไม่อยากหนีไปแต่งก่อน
เดี๋ยวจะหาว่าทิ้งกัน..ฮะฮ่าๆๆ” ปิดท้ายหัวเราะเลย เพราะไอ้รั่วมันหน้าแดงก่ำ พาผมขำจนได้
“แหม..เล่นโยนกันแบบนี้ เหมียวจ๋าจนปัญญาง้างปากสองหนุ่มหล่อของพวกเราแล้วค่ะคุณผู้ฟัง
มาสนใจคำถามต่อไปดีกว่า คนหนึ่งเป็นทายาทธุรกิจจิวเวลรี่แถวหน้าของประเทศ ส่วนอีกคนทายาทนักการเมือง
โคจรมาพบกันตั้งแต่เรียนจนกระทั่งชีวิตวัยทำงาน ยังร่วมกันบริหารบริษัทฯ จนเป็นที่รู้จักแพร่หลาย บลาๆๆ”
เธอถามต่อเนื่อง คำถามที่เคยส่งสคริปให้อ่านคร่าวๆไม่มีนอกบท เราตอบอย่างไม่มีคลางแคลง
จนเข้าสู่ช่วงที่สองหลังเปิดเพลงให้ผู้ฟังทางบ้าน 2 เพลง คือการรับสายสดจากผู้ฟังที่โทรเข้ามาร่วมสนุกในรายการ
“กริ๊งงงงๆๆๆ!! สวัสดีค่ะ รายการคลื่นความสุข สนุกกับเหมียวจ๋า ยินดีกับสายแรก ต้องการคุยกับแขกรับเชิญ
เชิญได้เลยค่ะ” ดีเจเหมียวจ๋า กดอินเตอร์โฟนรับสายเสร็จ เปิดโอกาสให้เธอคุยกับพวกเราทันที เพื่อให้เวลากระชับมากขึ้น
“สวัสดีค่ะพี่พรต พี่รัน กรี๊ด!!” ทักทายพวกผม ปิดท้ายกรี๊ดตามมาติดๆ เหมือนอยู่กันสามสี่คน เสียงสาวๆทั้งนั้น
“สวัสดีครับ ดีครับ..แนะนำตัวหน่อยชื่ออะไรครับ” ไอ้รั่วทำหน้าที่ถามอย่างกับดีเจมืออาชีพ
“ชื่อน้องแวนค่ะ” เสียงโทรศัพท์ซ่าจนฟังเพี้ยนนิดๆ
“ชื่ออะไรนะครับ แวนหรือแหวนพี่ได้ยินไม่ชัด รบกวนปิดวิทยุก่อนดีกว่าไหม เหมือนคลื่นจะแทรก”
จริงอย่างที่ไอ้รั่วมันแนะนำ เหมือนพวกเธอเปิดวิทยุไปด้วย คลื่นโทรศัพท์กับวิทยุตีกันจนมีเสียงซ่า
“ชื่อแวนค่ะ..กรี๊ดดดๆๆ” เธอพูดจบประโยชน์ก็พากันกรี๊ด โดยมีเสียงลูกคู่คงเป็นกลุ่ม
เพื่อนที่อยู่ด้วยกันประสานชัดเจน
“โอเคน้องแวน น้องแวนเป็นคนที่ไหนครับ” ไอ้รั่วอารมณ์ดี ถามเสียงทุ้มหล่อ
สาวๆถึงได้กรี๊ดเสียงมันอย่างที่ได้ยิน
“เป็นคนกรุงเทพฯ..กรี๊ดดๆๆ” น้องเขาตอบมา ตกลงตอนนี้ใครสัมภาษณ์ใคร
ใครตั้งคำถามใครกลายเป็นแขกรับเชิญถามผู้ฟังทางบ้านเสียอย่างนั้น เมื่อไม่มีการทักท้วงจากดีเจเหมียวจ๋า
ปล่อยไอ้รั่วไหลตามธรรมชาติ ซึ่งมันทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดด้วยซ้ำ
“เป็นคนกรุงเทพฯ อยู่แถวไหนครับ” มันมีความสุขกับการได้คุย ทำให้ภาพนักกิจกรรมตัวยง
ไหลเข้าหัวผมอีกครั้ง ความมีเสน่ห์ของพรตคือการเอนเตอร์เทนอย่างที่ทำ สามารถปล่อยฟีโรโมนกระจายโดยไม่รู้ตัว
ดีเจเหมียวจ๋าเป็นตัวอย่าง ตาเยิ้มเคลิ้มฝันจ้องมันล่องลอยไปแล้วตอนนี้
“แวนเป็นคน..ตลิ่งซัน..กรี๊ดด!!” อือหือ..เธอคงตื่นเต้นล่อซะชอช้างเป็นซอโซ่ชัดถ้อยชัดคำ
“เหรอ..น้องแวนเป็นคนกรุงเทพฯ อยู่ตลิ่งซัน..โว๊ะๆ!..แถวเดียวกับอ้ายบ่าวแหละอีหล้า..ฮะฮ่าๆ”
อ้าว! ไอ้รั่วเสียงในฟิล์มเว้าอีสานสำเนียงแปร่งๆอย่างฮา ปิดท้ายเสียงหัวเราะขำกลิ้งของมันเอง
คงตลกตัวเองที่เล่นพูดอีสาน พาดีเจเหมียวจ๋าหัวเราะปิดปากหน้าดำหน้าแดง
“ฮ่วย! แท้บ่ออ้ายบ่าวพรต คือคนอีสานบ้านเดียวกัน..กรี๊ดดด!!” เธอแล้งอีสานคล่องปรือ
สรุปเธอคนกรุงเทพฯอยู่ตลิ่งซัน สาวแวนจอมกรี๊ดจากทางบ้าน เล่นเอาผมขำน้ำตาเล็ดงานนี้
“อ้าว! สายหลุดเสียแล้วอีหล้า..ฮะฮ่าๆๆ” จู่ๆสายหลุด ผมยังขำไม่หยุด ชำเลืองดูดีเจเหมียวจ๋า
รายนั้นขำชนิดฟุบหัวกับโต๊ะไหล่สั่นเรียบร้อย คำตอบแสนซื่อฟังใสสะอาดของผู้ฟังทางบ้าน
หลังจากนั้นเหลือเวลารับอีกสองสาย เป็นผมตอบคำถามไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่สาวที่ปลื้มพวกเรา
ดีใจที่ได้คุยสดประมาณนั้น
เสร็จจากสถานีล่ำลาเรียบร้อย ผมกับไอ้รั่วดิ่งกลับบ้านทันที ไม่แวะกลับเข้าบริษัทแล้ว
ดูเวลาปาเข้าไปจะสี่โมงเย็นแล้วด้วย เผื่อรถติดถึงบ้านคงหกโมงพอดี ตอนเดินออกจากสถานีดีเจเหมียวจ๋ามองตามหลัง
แอบเห็นสายตาอ้อยอิ่งอาลัยจากเธอที่แผ่นหลังกว้างของไอ้รั่ว เฮ้อ! ไม่วายทำหัวใจสาวกระตุกหล่นตามเคย
ยิ่งมีวัยวุฒิความสมาร์ทกับเสน่ห์ของมันยิ่งล้ำลึกมากยิ่งขึ้น
“สนุกเนอะ” จู่ๆมันก็เปรย มือเคาะพวกมาลัยรถให้จังหวะเริงร่า เปิดเพลงคลอเบาๆ
รถติดยาวเป็นรถไฟยังไม่หงุดหงิด ท่าจะมีความสุขจริง
“อืม..ดูมึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ” ผมบอกตามที่เห็น
“ได้ยินคำพูดซื่อใสของน้องแวนคนกรุงเทพฯ อยู่ตลิ่งซัน..ฮะฮ่าๆ”
พอมันพูดประโยคนี้หัวเราะตาปิด ทำเอาผมขำไหล่สั่นไปด้วย
มองมุมกลับเธอซื่อจริง แสดงออกจากใจล้วนๆไม่มีแอ๊บแบ๊วแต่งเสียงให้พิรุธ
คนที่ได้สัมผัสพลอยมีความสุขด้วย ไม่ได้หัวเราะขำความโก๊ะเปิ่นของเธอแม้แต่น้อย
แต่หัวเราะด้วยความเอ็นดูในความใสซื่อแฝงความตลกอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าสายไม่หลุด
คงได้ฟังคำพูดซื่อๆของเธอไม่น้อย โดยคนพูดไม่รู้ตัวสักนิด ได้ทำให้พวกผมมีความสุข
เชื่อว่าทางบ้านที่รับฟังออกอากาศ คงมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไม่ต่างกับเราเช่นกัน...
หลังควบคุมอารมณ์ขำของตัวเองในระดับหนึ่ง ชำเลืองวงหน้าคมคายหล่อเหลาอย่างลงตัวคนขับ
ตาสวยประดับด้วยขนตาดำเป็นแพหนากำลังมองไปบนท้องถนนด้านหน้า มือเคาะจังหวะพวกมาลัย
เคลื่อนรถฝ่าการจราจรแออัดด้วยใบหน้ามีความสุข ผมแอบมีคำถามกับตัวเอง นี่ผมกับพรตอยู่กันมา 12 ปีแล้วหรือนี่
ครบรอบนักษัตร
นานแค่ไหนกันที่ผมไม่อาจละสายตาจากมันได้ นับตั้งแต่เผลอสบตาในกระจกห้องน้ำตอนมัธยม
แล้วมีการท้ายทายแข่งกีฬาสีของเราขึ้น จนมันแพ้กลายเป็นเมียผม ล่วงเลยมาถึงบัดนี้ ผ่านร้อนผ่านหนาว
ผ่านเหตุการณ์ไม่น้อย ผมยังมีมันอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เพิ่มสีสันชีวิตให้คนที่จริงจังอย่างผมไม่เบื่อ
ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยชีวิตผมก็มีสิ่งสำคัญเป็นสมบัติของตัวเองไม่ด้อยกว่าใคร...
’เหยี่ยวรั่วของผม’มาเสิร์ฟตอนแรกประเดิมกันแล้วนะคะ
ตอนหน้าเจอกันวันอาทิตย์ พบกับความรั่วของพี่พรตได้ก่อนเที่ยง
ขอ FC พรต..รัน รายงานตัวกันหน่อยนะคะ จะได้พาสองหนุ่มนำเสียงหัวเราะ
มาเสิร์ฟบ่อยๆ ถี่ๆ เพราะทนกระแสเรียกร้องของแฟนคลับไม่ไหว...อิอิ
Luk.
