ตอนที่ 13 ของขวัญจากพี่ชาย
“กลับมาแล้วเหรอไผ่”
คนชื่อทิวเอ่ยทันทีที่เห็นผมกลับเข้าบ้านหลังจากกลับจากที่ทำงานพิเศษ แน่นอนว่าผมไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย
“ไผ่ คือพี่มีของจะให้ รับไว้สิ”
กล่องของขวัญผูกริบบิ้นอย่างน่ารักถูกยื่นให้ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“พี่ซื้อเมื่อตอนเดินสยามน่ะ ที่จริงกะว่าจะให้ไผ่ตั้งแต่เมื่อเย็นแต่ก็เกิดเรื่องขึ้นซะก่อน”
ผมไม่ตอบอะไรเขา เพราะผมไม่คิดจะคุยกับเขา ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมาทำดีกับผมด้วย ทั้งๆที่เขาได้รับความรักจากคนที่ผมเคยเรียกพวกเขาว่าพ่อและแม่ มันยังไม่พออีกหรือไง ทำไมถึงต้องมายุ่งกับเขาอีก
“ถ้าไผ่ไม่อยากได้ อย่างน้อยก็ช่วยรับเอาไว้ แล้วไผ่จะเอาไปทิ้งทีหลังก็ได้ พี่ไม่ว่าไผ่หรอก”
ว่าแล้วเขาก็เอากล่องของขวัญใบนั้นใส่ในมือของผม พร้อมยิ้มน้อยๆให้ผมก่อนเดินจากไป ตั้งแต่คนชื่อทิวมาอยู่ที่นี้ เขามักจะมานั่งคอยการกลับมาของผมทุกครั้ง ในขนาดที่บุคคลทั้งสองคนนั้นไม่เคยคอยผมเลย
ผมมองกล่องของขวัญใบเล็กๆใบนั้น รับเอาไว้มันจะดีเหรอ แต่ถ้าทิ้งไปถึงแม้จะเกลียดคนให้ยังไงมันก็คงจะไม่ดี เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงแกะกระดาษและริบบิ้นออก และแกะกล่องกระดาษออกอีกชั้น สิ้งที่อยู่ภายในก็คือ หุ่นปูนปาสเตอร์รูปเด็กผู้ชายหน้าตาเหมือนกันสองตัวกำลังจับมือกัน พร้อมกับโน๊ตหนึงแผ่น
‘บางทีไผ่อาจจะไม่ชอบของขวัญชิ้นนี้ แต่พี่ไม่รู้จริงๆว่าไผ่ชอบอะไร
แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากให้ไผ่รับมันเอาไว้ และได้แต่หวังว่าสักวัน
พวกเราคงเข้าใจและผูกพันกันเหมือนตุ๊กตานี่
สุขสันต์วันเกิด ของให้มีความสุขมากๆนะ’
ผมไม่รู้หรอกว่าผมกับทิวจะมีวันที่เป็นเหมือนตุ๊กตาพวกนั้นได้ไหม หรืออาจจะไม่มีวันเลยก็ได้ ของสิ่งนี้ถูกนำมาไว้ในห้องนอนของผมและถูกเก็บไว้ในกล่อง ผมคิดว่าผมคงไม่หยิบมันขึ้นมาดูอีกแน่
รุ่งเช้าของวันถัดมา ขนาดที่ผมเอาแต่นั่งมองเมฆเหมือนที่เคยชอบทำเมื่อครั้งเป็นเด็ก เซนที่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าพวกเรายังคงเป็นเพื่อนกันอยู่รึเปล่า เดินเข้ามาทัก
“หวัดดีไผ่ ทำไรอยู่”
“ดูเมฆ”
“เมื่อวานนี้ขอโทษนะ ฉันเนี่ยไม่น่าลืมเลย ขอโทษจริงๆ”
“ช่างมันเถอะ ฉันชินแล้ว”
ผมไม่ได้พูดเพื่อประชดเซนหรอกนะ แต่ผมชินแล้วจริงๆ
“เพื่อเป็นการไถ่โทษ วันนี้เราไปดรีมเวิลกันเถอะ ฉันเลี้ยงเอง^^”
“แต่ว่าฉัน...”
“เถอะน่า ไปเถอะ ตกลงแล้วนะ^^”
นิสัยชอบคิดเอาเองแบบนี้นี่แหล่ะที่ผมมักตามเขาไม่ทัน
“ชวนทิวไปด้วยเนอะ ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก”
ว่าแล้วเซนก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที แบบนี้มันคงไม่ต่างอะไรกับตอนไปสยามหรอก ผมก็คงไม่ต่างอะไรกับส่วนเกินอีกแน่ๆ ไม่เอาหรอก ถ้าหากต้องเป็นแบบนั้นสู้ไม่ไปซะยังจะดีกว่า หรือถ้าหากต้องไปแล้วก็คงต้องชวนคนอื่นไปด้วย
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
เซนออกมาอย่างหน้าระรื่น นี่แสดงว่าคนชื่อทิวคงตกลงไปด้วยแน่ๆ
“เซน ฉันขอชวนอีกคนไปด้วยได้ไหม”
“อ่าว อีกคนหรอก ไปกันสามคนก็ได้นี่นา”
“นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไปกันหลายคนสนุกน่ะ”
“อ่ะ อืม แล้วแต่นายก็แล้วกัน”
“ถ้าอย่างนั้น เด๋วฉันไปถามเขาดูก่อนก็แล้วกัน รออยู่ที่นี่นะ”
คนอีกคนที่ผมจะชวนไปด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะว่างไปหรือเปล่านะ ผมเดินมาถึงที่ทำงานพิเศษเห็นเถ้าแก่กำลังกวาดขยะอยู่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับเถ้าแก่”
“หวัดดีๆ มาหาแต่เช้ามีอะไรหรือ ไผ่”
“พี่แทมินอยู่ไหมครับ”
“อยู่ข้างใน เข้าไปสิ”
“ขอบคุณครับ”
ผมเดินเข้าไปในบ้านของเถ้าแก่และเห็นพี่แทมินกำลังจัดของในร้านอยู่
“พี่แทมิน”
พี่แทมินเงยหน้ามามองผม จากหน้าเรียบเฉยตอนจัดของเปลี่ยนเป็นยิ้มเบิกบานทันที
“อ้าวไผ่ มาหาฉันแต่เช้า คิดถึงฉันใช่ม้า~”
“เอ่อ...แบบว่า - -^”
“เอ๊ะ หรือว่าติดใจรสจูบไปเมื่อวาน”
อีกแล้ว สายตาขี้เล่นเปลี่ยนมาเป็นสายตาที่เจ้าเล่ห์คู่นั้นจับจ้องมาที่ผมอีกแล้ว สายตานั่นมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะมองหน้าพี่แทมินตรงๆได้ ผมจึงเลือกที่จะหันข้างเพื่อมองไปทางอื่น
“เอ่อ ผมจะชวนพี่ ไปเที่ยวดรีมเวิลน่ะครับ”
“ไปสิ! ไปๆ”
สายตาเจ้าเล่ห์หายไปแล้ว สีหน้าดีใจเหมือนที่เคยเห็นทุกๆครั้งกลับคืนมา ผมว่า ผมชอบแบบนี้มากกว่าเมื่อกี๊อีกนะ
“ไปกันสองคนใช่มะ^^”
“เปล่าครับ ไปกันสี่คน”
“สี่? หนึ่งในนั้นคงมีเซนด้วยล่ะสิ - -^”
“ใช่ครับ”
พี่แทมินดูจะไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเซนไปด้วย แต่ก็ยังถามถึงคนอีกคน
“อีกคนก็คือ พี่ชายฝาแฝดของผมครับ”
“อ้อ คนที่ไผ่เคยพูดถึงสินะ เอาล่ะ ไปกันเถอะเดี๋ยวพวกนั้นคอยนานแย่”
พี่แทมินจับมือผมเหมือนทุกครั้งที่ไปส่งผมที่บ้าน ถ้าหากเซนเห็นว่าพี่แทมินจับมือผมแบบนี้เขาจะคิดยังไงมั่งนะ จะหึงผมบ้างไหม แต่ว่าผมก็ได้แค่คิด เพราะเซนเขาชอบคนชื่อทิว ไม่ได้ชอบผม
“นี่นายจะชวนพี่แทมินได้ด้วยเนี้ยนะ”
เซนเอ่ยเมื่อเห็นผมกับพี่แทมิน
“ทำไม ฉันไปไม่ได้รึไง”
“ก็ผมกลัวนี่ครับผมคนแก่จะหัวใจวายตายไปซะก่อน”
“- -^”
พี่แทมินกับเซนนั้นไม่ค่อยถูกกัน ตอนที่ผมมาสมัครงานใหม่ๆ เซนตามไปส่งผมบ้างบางครั้ง เซนบอกว่าเขาไม่ชอบพี่แทมินเพราะรู้สึกว่าพี่แทมินมักมองผมด้วยสายตาแปลกๆ แต่ผมไม่คิดอย่างที่เซนคิดหรอก
“สวัสดีครับ ผมชื่อทิวครับ เป็นพี่ชายของไผ่”
ทิวกล่าวแนะนำตัวกับพี่แทมิน ในใจของผมลึกๆผมกลัวนะ ผมกลัวว่าบางทีพี่แทมินอาจจะเป็นเหมือนเซน กลัวว่าแม้แต่พี่แทมินจะลืมตัวตนของผมเหมือนกับที่เซนลืม
“ฉันแทมิน เป็นลูกชายของร้านที่ไผ่ไปทำงานพิเศษน่ะ ว่าแต่หน้าตาเหมือนกับเปี้ยบเลยนะ”
“ก็พวกผมเป็นฝาแฝดกันนี่ครับ”
“ยังไงฉันก็คิดว่าไผ่น่ารักกว่านายเยอะ”
ว่าแล้วพี่แทมินก็คว้ามือของผมไปจับไว้เหมือนเดิม พี่แทมินไม่ๆได้เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ เขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป...
พวกผมนั่งรถโดยสารจนมาถึงที่ดรีมเวิล บอกกันตามตรงเลยนะว่าผมไม่เคยมาดรีมเวิลเลยสักครั้ง และดูจากท่าทางที่ตื่นเต้นของคนชื่อทิวแล้วคาดว่าเขาเองก็คงไม่เคยมาเช่นกัน (เอ่อ...คนแต่งก็ไม่เคยมาน้า T [] T หากเขียนผิดเพี้ยนไปจากความจริงก็ขออภัย) เซนนำพวกผมไปเล่นเครื่องต่างๆมากมายไม่เว้นแม้แต่บ้านผีสิง!! พี่แทมินจับมือของผมตลอดไม่ปล่อยเลย พอผมเอ่ยปากถาม เขาก็ตอบว่า คนเยอะกลัวผมจะผลัดหลง -*-
พวกผมเล่นเครื่องเล่นเกือบทุกชนิดจนกระทั่งถึงเวลาที่ควรจะกลับบ้านเสียที เซนจึงเสนอให้เล่นชิงช้าสวรรค์ก่อนกลับ โดยแบ่งเป็นคู่ และแน่นอนว่าเซนรีบจับคู่กับคนชื่อทิวทันที ซึ่งตรงนั้นมันทำให้ผมไม่ค่อยพอใจเท่าไร ดูเหมือนคนชื่อทิวจะสังเกตเห็น เขาจึงพยายามพูดเพื่อให้เซนนั่งกับผม แต่จนแล้วจนรอดเซนก็ไม่ยอม ลงท้ายคนชื่อทิวก็ต้องนั่งกับเซนจนได้....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนนี้ มีการกล่าวถึงดรีมเวิด์ล ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่า ที่นั่น...ไม่มีชิงช้าสวรรค์......(ก็แคนไม่เคยไปนี่นาาาาาา)
เอาเถอะ ในคำเตือนก็บอกไว้เเล้วว่าอย่าถามหาหลักการความเป็นจริงจากเรื่องนี้ ไว้รีไรท์ใหม่ ค่อยแก้เป็น ซานโตรินี พาร์คที่ ชะอำแทนดีกว่า มีชิงช้าสวรรค์ด้วย
@nunnan แคนจะลงให้ เฉลี่ยวันนึง 2-4 ตอน ตามความสะดวกนะคะ เพราะเรื่องนี้แคนแต่งจบไปนานเเล้วค่ะ (แต่ยังไม่รีไรท์ใหม่สักทีสิน่า)
@nunnan ไผ่ มักจะโดนแคนกลั่นแกล้ง
@KARMI ถ้าไผ่ยังซวยแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แคนจะโดนรุมทีนไหมเนี่ย???
@w1234 ไผ่ยังซวยได้อีกค่ะ รอลุ้นต่อไป
@mach201 อารมณ์พ่อแม่ลำเอียง เกิดความความโรคจิตอยากรังแกตัวละครล้วนๆ ชีวิตจริงคงไม่มีแบบนี้หรอก(มั้ง)คะ ส่วนเซน มีเหตุผลที่เป็นแบบนี้นะคะ รอตอนต่อๆไป
@MangoBlue จะดีเรอะคะ แทมินหื่น(?) นะ