Because you're my love. (UP! Special4 P.5) [10/02/2014]<< END ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Because you're my love. (UP! Special4 P.5) [10/02/2014]<< END ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 67900 ครั้ง)

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 27 P.2) [30/03/2013]
«ตอบ #60 เมื่อ01-04-2013 10:43:25 »

เพิ่งมาอ่าน อ่านไปน้ำตาไหลพราก สงสารไผ่ และเราว่า เพราะพ่อแม่ไผ่ คิดแต่เพียงชดเชยให้ทิว คิดว่าต้องห่างทิว
กลัวทิวมีปม แต่กลับทิ้งขว้างไผ่ พ่อแม่แบบนี้ที่ลืมลูกตัวเองมีด้วยเหรอ เลวร้ายไปแล้ว กลายเป็นคนที่ขาดรักกลับเป็นไผ่
พี่แทมินดีจัง ไอ้เซนเลวเนอะ ทำกลับเพื่อนได้ นี่ไม่ใช่เพื่อนรักหรือสนิทหรอก แต่น่าจะเรียกว่าเหลือบเกาะมากกว่า

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (Special ตอนที่ 1 P.3) [01/04/2013]
«ตอบ #61 เมื่อ01-04-2013 19:31:41 »

อันนี้ เป็นตอนพิเศษ เกี่ยวเนื่องกับวันวาเลนไทน์ค่ะ   
แม้ว่ามันจะผ่านมาเเล้วในหลักความเป็นจริง แต่เอาลงตอนนี้คงไม่เป็นไรมั้งคะ

ตอนพิเศษนี้ จะมีทั้งหมด 2 ตอนด้วยกัน  ซึ่งแคนจะลงทีเดียวเลยค่ะ

ตอนแรกที่จะลง   ในเด็กดีคือ ตอนพิเศษตอนที่ 2  แต่ถ้าดูตามลำดับความเหมาะสมแล้ว แคนว่าอยู่ตอนที่ 1 ดีกว่าค่ะ


Special ตอนที่ 1 วาเลนไทน์ไร้สาระ



“พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์แล้วนะจ๊ะ  เด็กๆคิดเอาไว้แล้วรึยังว่าจะบอกใคร ^^”
 
อาจารย์สาวสวยประจำชั้นประถมปีที่สองถามเด็กนักเรียนของเธอ
 
“ค่า  หนูจะบอกรักคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ”
 
 เด็กหญิงผมเปียยกมือตอบอาจารย์  และเด็กคนอื่นๆก็เริ่มตอบตาม  มีเพียงเด็กชายคนหนึ่งที่นั่งข้างหน้าต่างเท่านั้นที่นั่งเงียบไม่ได้ยกมือตอบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
 
“ไผ่  เป็นไรอ่ะ  นั่งเหม่อเชียว”
 
เซนที่นั่งข้างๆ  สังเกตเห็นจึงเอ่ยถาม
 
“เปล่า  ก็ดูเมฆเหมือนทุกที”
 
“อ่ะนะ”
 
วันวาเลนไทน์  ตามที่เรียนมันคือวันแห่งความรัก  โดยเริ่มจากนักบวชที่ชื่อวาเลนไทน์อะไรนั่นสินะ  แล้วคนไทยก็บ้าเห่อตามคนต่างชาติ...งี่เง่าชะมัด
 
“ไม่แน่นา  พรุ่งนี้คุณลุงกับคุณป้าอาจจะกลับบ้านเร็วก็ได้”
 
“ทำไมเซนถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
 
“ก็แหม  วันแห่งความรักไง  พวกท่านรักไผ่เลยกลับบ้านเร็ว”
 
ไม่จริงหรอก  พ่อกับแม่ไม่เคยกลับบ้านเร็ว  ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง  พวกท่านก็คงกลับมาทุกวันเลยล่ะ  ถ้าหากรักเขาจริงๆ...
 
“เอาน่า  ไม่แน่ว่าปีนี้อาจจะแตกต่างจากทุกปีแน่ๆ”
 
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็คงดี”
 
เด็กน้อยปั่นจักรยานกลับบ้านเหมือนทุกวัน  บ้านที่ไม่มีแสงไฟและไร้ซึ่งเสียงใดๆ   เป็นหลักฐานบ่งบอกว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านเหมือนเช่นเคย
 
“ถ้าหากพรุ่งนี้คุณพ่อกับคุณแม่กลับบ้านก็คงจะดีนะ......จะลองเชื่อดูสักครั้งดีไหมนะ”
 
ขอเชื่อดูสักครั้งได้ไหม  ถ้าหากพรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรักจริงๆ  ก็ขอให้คุณพ่อกับคุณแม่กลับมาที่บ้าน  แม้เพียงสักครั้งก็ยังดี  เขาอยากจะทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้า  ที่มีเขา  มีคุณพ่อและคุณแม่....ครั้งเดียวก็ได้
 
รุ่งเช้ามาถึงแล้ว  เด็กน้อยปั่นจักรยานไปโรงเรียนเหมือนเช่นเคย  เขาไม่อยากรบกวนน้าภาแม่ของเซนเหมือนตอนอนุบาลอีกแล้ว  จึงเลือกที่จะออกมาเช้ากว่าเวลาไปโรงเรียนของเซน  สองข้างทางของถนนที่เคยว่างเปล่าตอนนี้เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่เริ่มตั้งแผงขายดอกไม้  ดูๆไปแล้วมันก็สวยดีเหมือนกันนะ  ดอกกุหลาบ...หากเขาให้ดอกไม้กับคุณพ่อคุณแม่  พวกท่านจะดีใจไหมนะ
 
“หวัดดี  มาเช้าอีกแล้วนะไผ่”
 
เซนเดินเข้ามาตั้งกระเป๋าที่โต๊ะข้างๆโต๊ะเรียนของไผ่  แล้วตั้งลูกอมรูปหัวใจจำนวนสิบเม็ดไว้บนโต๊ะของไผ่
 
“ลูกอมตั้งเยอะแยะ  เอามาตั้งบนโต๊ะฉันทำไม”
 
“ถามได้  ก็ของขวัญวาเลนไทน์ไง  ฉันให้ไผ่ นี่พิเศษนะเนี่ย  กับเพื่อนคนอื่นฉันให้แค่คนละเม็ดนะ^^”
 
หน้าของเด็กน้อยเริ่มแดงนิดๆจึงได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเพื่อนสนิทตรงหน้า
 
“ขอบใจนะ”
 
                +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
โรงเรียนเลิกแล้ว  เด็กน้อยเดินดูแผงดอกไม้ต่างๆที่วางเรียงรายมากมายนั้น  จะซื้อดอกกุหลาบแบบไหนดีนะ  ระหว่างที่เดินดูดอกไม้อยู่นั้น  เด็กน้อยก็ชนเข้ากับเด็กชายที่มีรูปร่างโตกว่า  ทำให้ไผ่ถึงกับล้มลงก้นกระแทกพื้น  ดอกไม้มากมายในมือของเด็กชายตัวโตกว่าหล่นลงกระจายเต็มพื้น
 
“เฮ้ย นายเดินระวังหน่อยสิ”
 
เด็กโตกว่าเอ่ยอย่างไม่พอใจ
 
“ขอ...โทษครับ”
 
“เดี๋ยวเหอะ  พูดให้มันดีๆหน่อยสิ”
 
เสียงเอ็ดเด็กชายตัวโต  ดังขึ้นจากข้างหลัง  ทำให้รู้ว่ามีเด็กชายม.ต้นอยู่ข้างๆเขาด้วย

“ง่า...ขอโทษครับ”
 
เด็กชายตัวโตดูหงอไปทันที  คงจะเป็นพี่ชายสินะ
 
“ไม่ใช่ขอโทษฉัน  ขอโทษเด็กคนนั้นต่างหาก”
 
“โทษนะ”
 
เด็กชายตัวโต  หยิบเอาดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่อยู่ในมือส่งให้เด็กน้อย
 
“ฉันให้  ยกโทษให้ฉันด้วยก็แล้วกัน”
 
เด็กน้อยรับเอาไว้  นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนให้ดอกไม้แก่เขา  แทนที่จะเป็นลูกอมเหมือนที่เซนให้เขาอย่างทุกที
 
“ไปกันเถอะแทมิน  พ่อคอยนานแล้วนะ”
 
“คร้าบฮยอง”
 
แล้วเด็กชายกับพี่ชายของเขาก็เดินหายเข้าไปในฝูงชน  เด็กน้อยมองดูดอกกุหลาบที่เด็กชายคนนั้นให้มา  รู้สึกดีเหมือนกันนะที่มีคนมาให้ดอกไม้แบบนี้  คุณพ่อกับคุณแม่ก็จะต้องรู้สึกเหมือนเขาแน่ๆหากได้รับดอกไม้  เด็กชายจึงตัดสินใจ  ซื้อดอกกุหลาบสีแดงสดดอกเล็กๆที่ราคาไม่แพงมากสองดอก  และปั่นจักรยานกลับบ้าน
 
บ้านยังคงมืดสนิทเหมือนเดิม  แต่ว่าคงไม่เป็นไรหรอก  ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่รักเขา  พวกท่านก็ต้องกลับบ้านสิ.....
 
.....
               
....
 
                 
.....

ห้าทุ่มแล้ว  คุณพ่อกับคุณแม่ก็ยังไม่กลับ  เด็กน้อยไม่สามารถคอยได้นานกว่านี้อีกแล้ว  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด  ถ้ารอจนคุณพ่อกับคุณแม่กลับมา  เขาก็จะต้องโดยดุเหมือนตอนนั้นที่เขารอคอยเพียงเพื่ออยากบอกว่าเขาอยากกินอะไร  เด็กชายจึงตัดสินใจวางดอกไม้ทั้งสองดอกไว้บนเตียงของคุณพ่อกับคุณแม่  เพื่อหวังว่าเมื่อพวกท่านเข้ามาในห้องนอนจะได้พบกับดอกไม้ของเขา
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
เมื่อแสงแดดยามเช้าสาดส่อง  เด็กน้อยเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของพ่อกับแม่แต่สิ่งที่เห็นนั้นไม่ได้ต่างไปจากเมื่อคืนนี้  ดอกไม้ยังคงถูกวางไว้เหมือนเดิม  ไม่ได้มีการขยับเขยื้อน  นั่นแสดงให้เห็นว่าเมื่อคืนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน  เพราะหากกลับมาจริง  ดอกไม้ที่วางอยู่บนกลางเตียงนั้นก็จะต้องถูกย้ายออกไป...
 
เด็กน้อยเดินเข้ามาหยิบเอาดอกกุหลาบสองออกจากเตียง  และเดินลงไปชั้นล่าง
 
สุดท้ายมันก็ไม่ได้ต่างอะไรเลย  พ่อกับแม่ก็ไม่กลับมา
 
หยดน้ำตารินไหลออกมา  หากเขาไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่าพวกท่านจะกลับมาก็คงดี  หากเขาไม่เชื่อเซนก็คงจะดี  ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันก็คงเหมือนเดิม  แต่ก็อยากจะลองเชื่อดูสักครั้ง....วาเลนไทน์ที่สุดท้ายก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากวันธรรมดา
 
 หึ  วันวาเลนไทน์อะไรนั่นช่างไร้สาระสิ้นดี...
               
ดอกกุหลาบสองดอกนั้นถูกทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี
 
มีเพียงดอกกุหลาบของเด็กชายคนเมื่อวานเท่านั้นที่ยังคงวางอยู่ในห้องของเด็กน้อยจนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่ามันจะแห้งเหี่ยวไปแล้ว หรือแม้จะถูกลืมไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกทิ้ง มันยังคงอยู่ในห้องนั้น  ดอกกุหลาบดอกแรกที่เขาได้รับ....
 
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 27 P.2) [30/03/2013]
«ตอบ #62 เมื่อ01-04-2013 19:42:03 »

สงสารไผ่อะ ไผ่เหมือนลูกที่ถูกลืมเลยอะ ทิวยังดีกว่าไผ่อยู่ดีี แม้ได้แยกกับพ่อม่ ก็ไม่เหมือนแยก เหมือนคนในใจ
ได้รับความรักจากย่า เฮ่อ แต่ไผ่ โดดเดี่ยวไปแล้วนะ

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (Special ตอนที่ 2 P.3) [01/04/2013]
«ตอบ #63 เมื่อ01-04-2013 19:42:33 »

ลงตอนพิเศษ ตอนที่ 2 ค่ะ   



Special ตอนที่ 2  วาเลนไทน์ของทั้งสอง



สองข้างทางของถนนหนทางต่างเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีต่างๆ  หญิงสาวที่ยืนเลือกสีดอกไม้  คู่รักที่เดินจับมือกันเต็มไปหมด  วันนี้คงจะเป็นวันวาเลนไทน์สินะ....
 
ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าแผงขายดอกไม้แผงหนึ่ง  จ้องมองดอกกุหลาบที่ถูกจัดเป็นช่อสวยงามและที่แยกเป็นดอกเดียววางเรียงราย
 
ถ้าหากผมซื้อดอกกุหลาบไปให้เซน  เซนจะคิดยังไงกันนะ.......
 
ผมยืนมือไปหยิบดอกกุกลาบสีแดงสดขึ้นมาหนึ่งดอก  ทั้งๆที่คิดว่าจะซื้อมันอยู่แล้วเชียวแต่ก็ต้องตัดใจวางมันกลับไปที่เดิม  ตอนนี้ในใจของเซนคงไม่มีที่ว่างให้ผมหรอก...ก็เซน  ชอบคนชื่อทิวนี่นา...เซนชอบเพียงคนชื่อทิวเท่านั้น  ถึงได้ทำเรื่องที่เลวร้ายแบบนั้นกับผมที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กได้...
 
ผมเดินออกจากแผงดอกไม้แผงนั้น  วันวาเลนไทน์สำหรับผมแล้ว  มันก็คงเป็นเพียงแค่วันธรรมดาๆวันหนึ่งเท่านั้นเอง  ไม่ได้มีความพิเศษอะไรเลย  แต่แล้วผมก็ต้องไปสะดุดเตากับแผงขายต้นกระบองเพชรเล็กๆของยายแก่ๆคนหนึ่ง  ท่ามกลางแผงดอกกุหลาบมากมาย  และหญิงสาวที่พากันเลือกซื้อดอกไม้นั้น  คงไม่มีใครมาสนใจต้นกระบองเพชรเล็กๆนี่หรอก
 
“ยายครับ  ต้นกระบองเพชรต้นนี้ขายเท่าไหร่ครับ”
 
ผมหยิบกระถางต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆดูน่ารักต้นหนึ่งขึ้นมาถามราคา
 
“สามสิบห้าบาทจ้าพ่อหนุ่ม”
 
“งั้นผมเอาต้นนี้นะ”
 
ผมส่งแบงค์ห้าสิบบาทให้ยายไปและบอกยายว่าไม่ต้องทอน  ดูท่าทางแกจะดีใจมากเลย
 
“วันนี้ขายต้นไม้ได้เท่าไหร่แล้วครับยาย”
 
“วันนี้ยายขายได้แค่สองต้นเองรวมของพ่อหนุ่มด้วยแล้วนะ ก็ทุกคนเขาแห่กันไปซื้อดอกกุหลาบกันหมดเลยนี่นา”
               
“งั้นเหรอครับ  ยังไงก็ขอให้มีคนมีซื้อต้นไม้ของยายเยอะๆนะครับ”
 
“ขอบใจจ้า”
 
ผมเดินถือกระถางของต้นกระบองเพชรออกมาจากแผงของคุณยาย  ทำไมวันวาเลนไทน์ถึงต้องให้ดอกกุหลาบกันด้วยนะ  ทำไมถึงไม่ให้ช็อกโกแลตเหมือนประเทศทางตะวันออก  อย่างน้อยช็อกโกแลตยังสามารถกินได้  หรือใครที่ทำเองมันก็คงสามารถสื่อให้รู้ถึงความตั้งใจของผู้ให้  แต่ดอกกุหลาบ  คงมีไม่กี่คนหรอกที่ปลูกเองและมอบให้กับคนที่รัก  โดยมากจะซื้อเอาทั้งนั้น  ได้มาโดยง่ายดายมันจะไปสำคัญอะไร...ดอกกุหลาบไม่นานมันก็ต้องแห้งเหี่ยวและโรยไปในที่สุด  แต่หากเปลี่ยนจากกุหลาบมาเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆแบบนี้แทนมันก็คงจะดีกว่าเพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้เหี่ยวเฉา  และจะค่อยๆเติบโตตามการดูแลของผู้รับ  มันคงจะน่าประทับใจมากกว่าทั้งตัวผู้ให้และผู้รับ  ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแต่ผู้คนก็ยังซื้อมัน  ซื้อดอกกุหลาบพวกนั้น...
 
ผมเดินมาถึงบ้านของพี่แทมินแล้ว  วันนี้ก็คงไม่มีลูกค้ามากนักหรอก  เพราะคู่รักส่วนใหญ่มักจะพากันไปกินร้านเค้กหรือไอศครีมหรูๆมากกว่าจะมากินร้านอาหารเกาหลีแถวนี้  เถ้าแก่จึงตัดสินใจปิดร้านเพื่อพักผ่อนเหมือนทุกปี
 
“ไผ่  กลับมาแล้วเหรอ  หายไปไหนมา”
 
พี่แทมินที่นั่งอยู่ภายในห้องนอนของเขาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเปิดประตูเข้ามาในห้องเขา
 
“ผมก็แค่ออกไปเดินดูอะไรนิดหน่อยข้างนอกน่ะครับ”
 
“เหรอ  อ่าวแล้วในมือนั่นอะไรน่ะ  ต้นไม้??”
 
พี่แทมินมองดูต้นกระบองเพชรในมือของผม  ผมก้มหน้ายื่นต้นกระบองเพชรนั้นไปให้พี่แทมิน
 
“เอ่อ...ของขวัญ...วันวาเลนไทน์ครับ”
 
พี่แทมินไม่พูดอะไรตอบกลับและไม่รับเอาต้นกระบองเพชรไปจากผมด้วย  ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขา   และสิ่งที่ผมก็คือ....ตอนนี้พี่แทมินหน้าแดงเอามากๆ
 
“ให้ฉัน...ไผ่ให้ฉันงั้นเหรอ”
 
“ครับ  ผมให้พี่  ทำไมเหรอครับ”
 
“ก็ดีใจน่ะสิ  ดีใจสุดๆเลยด้วย”
 
พี่แทมินรับของขวัญวาเลนไทน์ของผมเอาไว้  มันน่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ....
 
“ฉันเองก็มีเหมือนกันนะ  ของขวัญวาเลนไทน์^^”
 
พี่แทมินวางต้นกระบองเพชรของผมของบนโต๊ะ  และหยิบต้นกระบองเพชรอีกต้นหนึ่งที่ผมไม่เคยมาก่อนว่ามันมีอยู่ในห้องนี้ด้วยส่งให้ผม
 
“คิดๆดูแล้ว  สงสัยว่าเราคงจะซื้อจากร้านคุณยายคนนั้นเหมือนกันแน่ๆเลยใช่ไหม^^”
 
‘วันนี้ยายขายได้แค่สองต้นเอง’
 
คำพูดของยายคนนั้นแวบขึ้นมาให้หัวของผม  อีกคนหนึ่งที่ซื้อก็คือพี่แทมินเองเหรอ
“ฮ่าๆ  เราสองคนใจตรงกันด้วยล่ะ^^”
 
“-*-“
 
ผมรับต้นกระบองเพชรมาจากพี่แทมิน  ทำยังไงดีล่ะ  ตอนนี้หน้าผมร้อนไปหมดแล้ว
 
“ไผ่น่ารักจังเลย^^”
 
“=///=”
 
ผมวางต้นกระบองเพชรของพี่แทมินลงบนต้นข้างกับต้นกระบองเพชรของผม
 
“เอาเป็นว่าต้นที่ไผ่ให้ฉันม่าฉันจะตั้งชื่อว่าไผ่ดีไหม^^”
 
“ต้นกระบองเพชรบ้านไหนชื่อไผ่-*-“
 
“ก็ของบ้านนี้ไง  ส่วนอีกต้นที่ฉันให้ก็ให้ชื่อแทมินนี่แหล่ะ  ฟังดูดีไหม  ต่างคนก็ดูแลของกันและกันไง”
 
“-*-“
 
พี่แทมินกอดผมและจูบอย่างทุกครั้ง  มันเหมือนกับว่าเรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว...แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่มันไม่ปกติก็คือ....มือที่มันล้วงเข้ามาในกางเกงของผม!!!!!
 
“อย่านะ  พี่แทมิน”
 
“ทำไมล่ะ  ไผ่ไม่อยากเหรอ  แต่ฉันอยากจะแย่แล้วนะ”
 
มือของเขาเข้ากุมส่วนนั้นของผมและรูดมันอย่างชำนาญ(?)
 
“อา  พี่แทมิน  ปล่อยนะ”
 
“ไม่ปล่อย  มีอะไรไหม^^”
 
“อ่ะ  ผมไม่นึกเลยว่าพี่จะ...อ้าาา...เป็นคนแบบนี้”
 
“แบบไหนเหรอ  ไหนลองบอกฉันมาสิ^^”
 
“อึ่ก  ลามก  โรคจิต...หื่นที่สุด”
 
“แต่ยังไงก็รักไผ่ที่สุดด้วยเหมือนกันนะ”
 
“อ่ะ  อ๊าาา”
 
ผมปลดปล่อยออกมาทำให้ตอนนี้กางเกงของผมเปรอะไปหมด
 
“ว้า  แย่จัง  เห็นทีต้องเปลี่ยนกางเกงซะแล้วสิ  เดี๋ยวฉันเปลี่ยนให้”
 
แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ!!!!
 
กางเกงของผมถูกถอดออก(อย่างไม่เต็มใจ)
 
“ไม่ได้เลอะแค่กางเกงนะเนี่ย  ดูสิตรงนั้นก็เปื้อนด้วย”
 
สายตาแสนเจ้าเล่ห์นั้นมันทำให้ผมเริ่มจะรับรู้ถึงชะตากรรมซะแล้วสิ....
 
พี่แทมินก้มลงไปเลียส่วนนั้นของผม  ผมพยายามผลักหัวเขาออกไป  แต่ไม่ได้ผลเลย  ตัวผมเริ่มอ่อนยวบลงไปทุกที  นี่ผมกำลังเป็นอะไรไป!!!
 
ไม่เพียงแต่เลียเท่านั้น  นิ้วของเขายังสอดเข้ามาในช่องทางของผมอีกต่างหาก
 
“อื้อออ   พี่แทมิน  จะทำอะไร  อา”
 
“ก็ทำอย่างที่ไผ่กำลังคิดอยู่ไง”
 
นิ้วที่ขยับเข้าออก  จากหนึ่งเพิ่มเป็นสอง  อา...ไม่ไหวแล้ว  ผมไม่อยากได้แค่นิ้ว  ผมต้องการมากกว่านี้...
 
“พอแล้ว  ไม่เอาแล้ว  อาาา”
 
พี่แทมินหยุดนิ้วทันที  แต่สายตากับรอยยิ้มนั้นยังไม่หายไป
 
“ที่พูดนี่แน่ใจเหรอ  แล้วทำไมหน้าของไผ่มันถึงได้ไม่เข้ากับคำพูดนั้นเลยล่ะ”
 
หน้า ?  ตอนนี้ผมกำลังทำหน้าแบบไหนงั้นเหรอ
 
“หน้าที่แดงระเรื่อ  ทำตาปรือแสดงถึงความต้องการแบบนี้  ไผ่แน่ใจแล้วงั้นเหรอว่าอยากให้ฉันหยุด^^”
 
ไม่ไหวจริงๆ  ผมไม่มีทางชนะคนๆนี้ได้เลย
 
“ผม......”
 
“อะไรนะ  พูดให้ฉันได้ยินสิไผ่”
 
“เอ่อ..ผม......”
 
“ดังกว่านี้สิไผ่  ฉันไม่ได้ยินเลย”
 
โกหก  ผมรู่ว่าพี่แทมินได้ยินแต่เขาแค่ต้องการจะแกล้งผมเท่านั้น
 
“ว่าไงล่ะ  พูดให้มันดังๆหน่อยสิ^^”
 
“ผม...ต้องการมากกว่า...นี้ >////<”
 
โวยยยย   ไม่ไหวแล้ว  อายไปหมดแล้ววววววววว
 
“ก็แค่เนี้ย^^”
 
แล้วพี่แทมินก็ปลดกางเกงของตัวเองออกแล้วลากผมไปที่เตียงพร้อมดันส่วนแข็งของเขาเข้าไปทันที
 
“ฮา  อ๊า  พี่แทมิน”
 
“ไผ่  ฉันรักไผ่นะ”
 
คำพูดบอกรักกระซิบอยู่ข้างหู  และขยับกายไปพร้อมกัน  รู้สึกดีจังเลย  ทำไมผมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ
 
“อื้อออ   แรงอีกสิ  เร็วอีก  อ้าาา”
 
พี่แทมินทำตามความต้องการของผม  เขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  สองมือผมโอบกอดเขาเอาไว้เพื่อให้ช่องทางของผมแนบชิดกับเขามากขึ้นไปอีก
 
“ฉันรักไผ่นะ  รักที่สุดเลย”
 
คำพูดบอกรักที่ผมได้ยินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น  ทำไมวันนี้มันถึงได้ฟังดูไพเราะมากกว่าทุกทีกันนะ
 
“แล้วไผ่ล่ะ  รู้สึกยังไงกับฉัน”
 
นั่นสินะ....ผมรู้สึกยังไงกัน....
 
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากผม  พี่แทมินก็หยุดอยู่กับที่ไม่ขยับอีก
 
“ฮ่าๆ  นั่นสินะ  ฉันลืมไปได้ยังไงกัน  ก็ในเมื่อคนที่ไผ่รักคือเซนนี่นา”
 
แม้จะหัวเราะยังไง  แต่สายตาของพี่แทมินก็ไม่ได้หัวเราะไปด้วยเลย  มันเป็นสายตาที่ดูแล้วเจ็บปวดเหลือเกิน
 
“อื้ออออ”
 
พี่แทมินถอดถอนกายออกจากช่องทางของผมและห่มผ้าปิดตัวผมพร้อมหันหลังให้
 
“ขอโทษนะ  ฉันมันบ้าเอง  ที่คิดว่าเมื่อมีอะไรไปครั้งหนึ่งแล้ว  ไผ่ก็จะรักฉันได้”
 
ไม่นะ...อย่าพูดแบบนั้นนะ....
 
ผมเข้ากอดพี่แทมินจากข้างหลัง  ขอร้องล่ะ  อย่าทำแบบนี้
 
“ผม...ผมไม่รู้  ว่าผมคิดยังไงกับพี่  แต่ว่าไม่รู้ทำไม  พอผมหลับตาผมก็เห็นพี่  ตอนที่พี่ไม่อยู่  ผมก็คิดถึงพี่  ตอนที่ผมโดนพวกมันทำแบบนั้น  ผมก็นึกถึงพี่  อะไรๆผมก็นึกถึงแต่พี่”
 
พี่แทมินหันกลับมากอดผมเอาไว้  ผมจะเป็นคนเลวไปรึเปล่า  ทั้งๆที่ไม่สามารถบอกได้ว่ารักรึเปล่าแต่ก็ไม่อยากจากคนๆนี้ไป....
 
“ผมขอโทษ  ที่ผมไม่สามารถบอกพี่ได้ว่าผมรู้สึกยังไง  แต่ว่า...ผมอยากอยู่กับพี่....ผม..ผม...”
 
“พอแล้ว  ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว  แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้วล่ะ  ฉันนี่แย่จัง  ทำให้ไผ่ต้องเป็นแบบนี้  ทั้งๆที่สัญญาไว้แล้วเชียวว่าจะเป็นความสุขให้ไผ่”
 
ไม่หรอก...คนที่แย่มันผมต่างหาก....ผมได้แต่หวังว่า  สักวันความรู้สึกที่ผมพูดมามันจะแปรเปลี่ยนเป็นความรัก  แล้วพวกเราก็จะได้มีความสุขที่แท้จริงเสียที..
 
“ถึงผมจะยังบอกว่ารักพี่ไม่ได้  แต่ว่า....”
 
“แต่อะไรเหรอ”
 
“ผมชอบพี่ที่สุดเลย”
 
“>///<”
 
และแล้วบทรักของพวกผมก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง  อีกครั้ง.....และอีกครั้ง -*-
 
………
 
………
 
………
แล้วคุณล่ะ....วันนี้ได้บอกรักใครแล้วรึยัง ^^


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


@morningflower   ขอบคุณที่แสดงตัวตนนะคะ  ให้แคนได้มีกำลังใจว่า ยังมีคนอ่านนิยายของแคนอยู่  ดีใจจัง

@tantanlize   อยากเห็นเซนโดนรุมเรอะคะ?  ในเรื่องแยกของเซนที่แคนคิดว่า มีโดนรุมแน่นอนค่ะ  แต่ตอนนี้ แคนกำลังดองเรื่องนั้นอยู่อ่ะสิ  กำลังบิ้วอารมณ์ตัวเองอยู่  ยังบิ้วไม่ออกเลย :monkeysad:

@blanchet   ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ  อ่านไปเรื่อยๆ อาจจะเริ่มชอบเซนขึ้นมาก็ได้นะคะ(?)

@nunnan  อยากอ่านเรื่องของเซน  ตอนนี้อ่านในเด็กดีได้นะคะ  แต่ว่าแคนกำลังดองมันอยู่  แบบว่าพอจะเริ่มแต่งทีไร พาลแต่งไม่ออกทุกที ทั้งๆที่ในหัว เรื่องมันจบไปนานเเล้วนะ  เพราะอะไรก็ไม่รู้ ใครพอแนะนำให้แคนได้บ้างคะ  :mew2:

@hotladyanyavee  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและเม้นให้นะคะ  อย่างที่แคนแจ้งก่อนเริ่มเรื่องว่าเรื่องนี้ เน้นความมันส์ในการแต่ง ไม่อิงหลักความเป็นจริงอยู่แล้ว  ดังนั้น พ่อแม่ประเภทเดียวกับไผ่ อาจจะไม่มีจริงก็ได้ (หรืออาจมีสักที่ใดที่หนึ่งก็ไม่รู้) ส่วนเซน ไม่แน่ค่ะ อ่านไปๆ อ่านจะ รู้สึกกับเซนดีขึ้นก็ได้นะคะ (อ้างอิงจากกระแสตอบรับ บทแยกของเซนที่ลงเอาไว้ในเด็กดี)


 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
 
 

 

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: Because you're my love. (Special ตอนที่ 2 P.3) [01/04/2013]
«ตอบ #64 เมื่อ01-04-2013 20:45:13 »

นั่งทางในนนนระลึกชาติ  :ling2: :ling2: :katai1: เลยค่ะะะะะะ อิอิ

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: Because you're my love. (Special ตอนที่ 2 P.3) [01/04/2013]
«ตอบ #65 เมื่อ02-04-2013 00:49:15 »

 :mew6: อยากให้ไผ่ กับ พี่แทมิน มีความสุขกันซักที. คอคุณแคนมาต่อนะ

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 28 P.3) [04/04/2013]
«ตอบ #66 เมื่อ04-04-2013 17:18:21 »

ตอนที่ 28 คนที่โง่ที่สุดในโลก...ความฝันที่พังทลาย  (Zen talk)


วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสินะที่ทิวจะได้อยู่ที่นี่....
 
“ทำไมรีบกลับจัง  อยู่ต่ออีกหน่อยสิ”
 
ทิวส่ายหน้าปฏิเสธ
 
“อีกไม่กี่วันโรงเรียนที่นู่นก็จะเปิดแล้ว  ฉันต้องกลับไปซื้อหนังสืออีกนะ”
 
 “ทิวไม่อยู่  ฉันคงเหงาแย่เลย”
 
“เซนไม่เหงาหรอก  อย่าลืมสิว่าไผ่ก็ยังอยู่นะ”
 
จนถึงป่านนี้แล้ว  นายยังจะพูดแบบนี้อยู่อีกเหรอ....ทั้งๆที่ฉันก็บอกไปแล้วว่าฉันชอบนาย
 
“เซน  ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”
 
“เรื่องอะไรล่ะ”
 
“ช่วยพาฉันไปหาไผ่ทีสิ”
 
“อืม  ได้สิ”
 
ผมตัดสินใจทำตามที่ทิวต้องการ  เดินนำทิวไปยังร้านที่ไผ่ทำงานพิเศษ  ระหว่างทางนั้นผมคิดอยู่ตลอด  ทิวจะไม่อยู่แล้วแท้ๆ  แต่ทำไมผมถึงไม่กระวนกระวาย....
 
ผมพาทิวมาจนถึงหน้าร้าน  เถ้าแก่คนที่เป็นผู้ว่าจ้างไผ่กำลังกวาดขยะอยู่หน้าบ้าน  เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองบุคคลที่มาเยือนอย่างพวกผมก็ยิ้มหน้าบาน
 
“อ้าว ไผ่  ออกมาทำอะไรหน้าบ้านล่ะ”
 
“ขอโทษนะครับคุณลุง  ขอผมพบไผ่หน่อยได้ไหม”
 
ทิวตอบกลับ
 
“ได้สิไผ่  เดี๋ยวฉันไปตามมาให้  เอ๋?  ไผ่ขอพบไผ่???????”
 
ทิวขำกับท่าทางงงๆของเถ้าแก่  ถ้าไม่มีใครรู้มาก่อนล่ะก็  คงคิดว่าทิวเป็นไผ่กันทั้งนั้นล่ะ  ก็หน้าตาออกจะเหมือนกันขนาดนี้
 
“ผมเป็นพี่ชายฝาแฝดของไผ่ครับ  ชื่อทิว  สวัสดีครับ”
 
“อาๆ  หวัดดี  ไผ่ไม่เห็นเคยบอกเลยนะเนี้ยว่ามีพี่ชายด้วย  รอแปปนะเดี๋ยวไปเรียกมาให้”
 
“ไม่เป็นไรครับ  ผมเข้าไปหาไผ่เองก็ได้ครับ”
 
“งั้นก็  เชิญเลยๆ”
 
ทิวกับผมเข้าไปในร้าน  ไผ่ไม่อยู่แหะ
 
“รึว่าจะอยู่หลังร้านนะ  เข้าไปดูกันไหม”
 
ผมกับทิวเดินเข้าไปหลังร้าน  และก็ได้เห็นภาพที่ออกจะบาดใจเล็กน้อยนั่นคือภาพที่ไผ่กำลังจูบอยู่กับแทมินนั่นเอง...ดูท่าทางว่าจะอีกนานเลยนะ  ผมเลยเคาะประตูเป็นสัญญาณให้ทั้งคู่รู้สึกตัว
 
“นึกว่าใครที่แท้ก็เจ้าเซนกับพี่ชายของไผ่นี่เอง”
 
“เอ่อ...คือ  ขอผมคุยกับไผ่หน่อยได้ไหม”
 
ทิวที่ดูจะตกใจไม่หายกับภาพเมื่อครู่พยายามรวบรวมสติ
 
“ว่าไงล่ะไผ่  ไปคุยกับเขาหน่อยสิ”
 
“.....”
 
ไผ่ไม่ยอมตอบอะไรเลย  สงสัยคงยังไม่อยากคุยกับทิวเหมือนเดิมสินะ
 
“ไผ่  คือ  วันนี้พี่จะกลับแล้วเลยอยากจะคุยกับไผ่  ได้ไหม”
 
“.....”
 
ไผ่ยังคงเงียบเหมือนเดิม   น่าหงุดหงิดชะมัด
 
“พอเถอะทิว  สงสัยว่าเราจะมาผิดจังหวะไปหน่อย  ดันไปรบกวนคู่รักเขากำลังจู๋จี๋กันนี่นา”
 
“แต่ว่า..”
 
“ก็ได้”  ไผ่ตอบ
 
ไผ่กับทิวเดินออกไปข้างหน้าร้าน  เหลือเพียงผมกับแทมินเท่านั้น
 
“รู้สึกว่าความสัมพันธ์จะก้าวหน้าไปไกลกว่าที่ผมคิดซะแล้วนะครับพี่แทมิน”
 
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ”
 
รอยยิ้มเย้ยนั่นมันอะไรกันน่ะ  นายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่  แทมิน
 
“แต่ก็อย่างว่านั่นแหล่ะนะ  ยังไงของเหลือก็คือของเหลืออยู่วันยังค่ำ”
 
“กรุณาพูดให้มันดีๆหน่อยได้ไหม  คนที่ทำให้ไผ่เป็นแบบนั้นก็คือนายเองไม่ใช่เหรอ”
 
“รู้สึกจะปกป้องกันเหลือเกินนะ”
 
“......เฮ้อ  รู้สึกสงสารไผ่ขึ้นมาทันทีเลยนะที่ดันไปรักคนอย่างนายเข้า”
 
“ช่วยไม่ได้นี่  ใครใช้ให้มาชอบฉันกันล่ะ”
 
“ฉันขอบอกนายเอาไว้นะ  ว่าฉันจะไม่คืนไผ่ให้นายเด็ดขาด”
 
“อยากเอาไปทำอะไรก็เชิญเถอะน่า”
 
หงุดหงิดโว้ย  หงุดหงิดที่สุดเลย
 
“นายนี่มัน  โง่ที่สุดในโลกเลยว่ะ  รู้ตัวไหม”
 
แทมินจบบทสนทนาเพียงแค่นั้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง
                +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
“คุณมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเถอะ”
 
ไผ่เอ่ยด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย  ดูไม่ออกเลยจริงๆว่าไผ่กำลังคิดอะไรอยู่
 
“คือ  พี่จะกลับวันนี้แล้วนะ”
 
“อืมรู้แล้ว  ก็คุณบอกไปแล้วนี่”
 
“ไผ่  ยังโกรธพี่อยู่ใช่ไหม”
 
“ใช่”
 
ตอบกลับโดยไม่ลังเล  ฟังดูแล้วมันช่างบาดใจเหลือเกิน
 
“ขอโทษนะ  ขอโทษจริงๆ”
 
“.....”
 
“ต่อไปพี่จะไม่มาที่นี่อีกแล้ว...ดีไหม  ไผ่จะได้สบายใจซะที”
 
“ถึงคุณจะมาหรือไม่มา  ผลมันก็เหมือนเดิม  สุดท้าย...ผมมันก็ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในสายตาของพวกเขาอยู่แล้วนี่”
 
พวกเขา...คุณพ่อกับคุณแม่สินะ  แม้แต่คำพวกนี้ไผ่ก็ไม่เรียกมันแล้ว  เขาคงจะผิดจริงๆสินะ  หากเขาไม่มาที่นี่เสียแต่แรก  ไม่สิ  หากไม่มีเขาอยู่ล่ะก็
 
“นี่คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่  ถึงได้ทำหน้าเหมือนตัวเองผิดซะเต็มประดา”
 
ไผ่เดาถูก  เขากำลังคิด...
 
“คุณคงกำลังโทษตัวเองอยู่ใช่ไหมล่ะ  ผมพูดถูกใช่ไหม”
 
ทิวหลบสายตาของไผ่โดยการก้มหน้าลง  ไผ่เดาถูกอีกแล้ว...
 
“คุณจะคิดยังไงก็ตามใจคุณเถอะนะ  เพราะถึงยังไงผมก็เกลียดคุณอยู่ดี  และถึงจะไม่มีคุณ  ผมก็คิดว่ามันคงไม่ต่างอะไรไปจากเดิมนักหรอก”
 
“ไผ่...จะมีสักครั้งไหม  ที่พวกเราจะพูดดีๆกันน่ะ”
 
“...แค่นี้มันยังดีไม่พออีกรึไง”
 
ไม่ไหวจริงๆ  ไผ่ไม่เปิดใจรับเขาเลย  หมดหนทางแล้วจริงๆสินะ....
 
“ไผ่  ไว้ว่างๆก็แวะมาหาพี่บ้างนะ  ถึงไผ่จะเกลียดพี่  แต่ยังไงไผ่ก็เป็นน้องชายเพียงคนเดียวของพี่  พี่ไม่มีทางที่จะเกลียดไผ่ได้หรอก”
 
 คำพูดพวกนี่มันจะสื่อไปถึงใจของไผ่ได้บ้างไหมนะ  สักนิดก็ยังดี  อยากให้ไผ่ได้รับรู้...
 
“คุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณสิ  ที่จะพูดน่ะมีแค่นี้ใช่ไหม  ผมจะไปกลับเข้าไปในร้านเสียที”
 
ทิวพยักหน้า  เพื่อบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาอยากบอกได้บอกไปหมดสิ้นแล้ว  ไผ่หันหลังให้เขาแล้วเดินเข้าร้านไป  สื่อไปไม่ถึงจริงๆ  กำแพงในใจของไผ่มันช่างสูงเสียเหลือเกิน  เขากับไผ่อาจจะไม่มีวันเข้าใจกันเลยก็ได้....
 
“คุยกันเสร็จแล้วสินะ”
 
ผมเดินออกมาจากร้าน  ทิวทำหน้าเศร้าเหลือเกิน  ไผ่ยังไม่ยอมรับทิวแน่ๆ
 
“ไปเถอะกลับไปเอากระเป๋าที่บ้าน  เดี๋ยวฉันไปส่งนายที่หัวลำโพงด้วย”
 
พวกผมเดินกลับมาถึงบ้าน  กระเป๋าเพียงไม่กี่ใบของทิวถูกขนออกมาจากบ้าน
 
“เซน...”
 
“อะไร”
 
“นายมีรูปของไผ่ไหม”
 
“รูปเหรอ  อืม...ก็มีนะ  เป็นรูปที่ถ่ายที่โรงเรียนน่ะ  ได้ใช่ไหม”
 
“ขอได้ไหม”
 
 “เอาสิ  ว่าแต่ในบ้านล่ะ  ไม่มีรึไง”
 
ทิวส่ายหัวเป็นคำตอบให้ผม
 
“ฉันสำรวจดูทั่วบ้านแล้วล่ะ  ไม่มีรูปถ่ายของไผ่เลยสักใบ  ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ไม่มี”
 
เมื่อได้ฟังดังนั้นมันทำให้ผมแปลกใจ  ไม่ว่าบ้านไหนๆ  มันก้ต้องมีสิ  รูปของคนในบ้านน่ะ...
 
ผมส่งรูปใบเล็กๆที่เคยถ่ายกับไผ่ตอนอยู่ที่โรงเรียนจากกระเป๋าสตางค์ให้
 
“เซน  ทำไมนายถึงได้ชอบฉันล่ะ”
 
ทิวเปิดคำถามขึ้นมาระหว่างที่พวกเรากำลังเดินไปขึ้นรถเมล์
 
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
 
“ฉันอยากจะถามนายอีกครั้ง  ทำไมนายถึงได้ชอบฉันที่รู้จักกันได้แค่ไม่นาน”
 
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่รู้”
 
ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่นา  ทำไมผมถึงชอบทิวได้นะ  ไม่ว่าจะพยายามหาคำตอบยังไงก็คิดไม่ออก
 
“ฉันว่านายไม่ได้ชอบฉันหรอกนะ”
 
“ทำไมถึงคิดยั่งงั้นล่ะ  ฉันล่ะไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ”
 
“เซน  หากแม้แต่ใจของนาย  นายยังไม่เข้าใจแล้วล่ะก็  นายก็คงเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกเลยล่ะ”
 
ในวันเดียวกันนี้  ผมได้ยินประโยคนี้ถึงสองครั้งแล้วสินะ  ทั้งแทมินหรือแม้แต่ทิวก็พูดประโยคนี้กับผม...
 
“นายต้องการจะบอกอะไรกันแน่”
 
“ไม่รู้สิ  อันนี้นายต้องกลับไปคิดเอาเองนะ”
 
รถเมล์คันที่ต้องการมาถึงแล้ว  ทิวเดินขึ้นไปแล้วหันมาบอกผม
 
“นายส่งฉันแค่นี้ล่ะ  ฉันไปเองได้”
 
“จะดีเหรอ”
 
“ขอให้นายเข้าใจคำพูดของฉันเร็วๆนะ^^”
 
รถเมล์เคลื่อนตัวออกไปแล้ว  ทั้งคำพูดของแทมินหรือแม้แต่ของทิว  ตัวผมในตอนนี้ยังไม่เข้าใจความหมายของคำพูดทิ้งท้ายนั่น  กว่าผมจะรู้นั้น  ทุกอย่างมันก็....สายเกินไปเสียแล้ว
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
“แม่เฒ่าครับ  ผมกลับมาแล้ว”
 
เสียงเรียกของหลายชายทำให้ย่าของทิวล่ะสายตาจากโทรทัศน์หันไปตามเสียง
 
“ไอ้ทิว  มึงกลับมาแล้วเหรอ”
 
ทิววางกระเป๋าเข้ามากอดย่าของตนด้วยความคิดถึง
 
“เป็นพรือบ้าง  ไปอยู่ทางนู้น  พ่อแม่มึงดูแลมึงดีใช่ไหม”
 
“ครับ  คุณพ่อกับคุณแม่ท่านดูแลผมดีมากเลยครับ”
 
“เออ ดีแล้วๆ  แค่มึงมีความสุข  ก็ดีแล้วนะ  แล้วเป็นไงบ้างล่ะ  ได้เจอไผ่น้องมึงแล้วใช่ไหม”
 
“ครับ  ได้เจอแล้ว  ผมมีรูปของไผ่มาให้ดูด้วยนะครับ”
 
ทิวหยิบเอารูปที่เซนให้เอาไว้ให้ย่าของเขาดู
 
“เออเว้ย  หน้าตาเหมือนมึงไม่มีผิดเพี้ยนเลยนะ  แล้วเป็นไงล่ะ  พวกมึงเข้ากันได้ดีไหม”
 
“ไผ่เขา...เกลียดผมครับ”
 
สีหน้าของหลานชายแปรเปลี่ยนไป  ทำให้คนเป็นย่าเริ่มไม่สบายใจ
 
“ไผ่เขาเกลียดผม  เขาไม่เคยเรียกผมว่าพี่เลยสักครั้ง”
 
น้ำตาที่เริ่มคลอแต่พยายามสะกดมันเอาไว้  ย่าเอามือวางบนหัวของทิวของลูบไปมาเป็นการปลอบ
 
“ผมเป็นคนผิดครับ  หากไม่มีผมสักคนล่ะก็  ไผ่ก็คงไม่เป็นแบบนี้  ฮึก  ฮือ”
 
เขากั้นมันไว้ไม่อยู่อีกแล้ว  ความเข้มแข็งที่เคยมีมาตลอด  ยามเมื่ออยู่ต่อหน้าไผ่ได้หายไปหมดสิ้นแล้ว
 
“ไผ่เขาไม่ยกโทษให้ผมแล้ว  ผมจะทำยังไงดี  ฮือ  ผมจะทำยังไงดี”
 
“ไม่เป็นไรทิว  ทุกอย่างมันต้องดีขึ้นแน่ๆ  สักวันไผ่ก็จะเข้าใจมึงเอง  หยุดร้องเถอะนะ”
 
ตลอดเวลาที่ผ่านมา  เขาเฝ้ารอคอยมาตลอด  รอวันที่จะได้เจอกับน้องชายเพียงคนเดียวของเขา  แต่เมื่อเจอกันแล้ว  ผลมันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง  ความฝันของเขาพังทลาย  ครอบครัวที่แสนสุขนั้นไม่มีหรอก  หากขาดใครไปสักคนมันก็ไม่ใช่
อีกแล้ว  ให้มันจบลงเพียงเท่านี้ดีไหม  จบความฝันลมๆแล้งๆนั่น  แล้วกลับมาเป็นเหมือนก่อน  ที่มีเพียงเขากับย่าเท่านั้น...
 
                -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

@nunnan  น่ะ...นั่งทางใน ????? o22

@KARMI  สุขเมื่อไหร่ อันนี้ขอไม่บอกค่ะ แต่มีแววว่า เจ้าเซนจะรีเทิร์น(???)

 :mew1:
 

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 28 P.3) [04/04/2013]
«ตอบ #67 เมื่อ04-04-2013 17:57:24 »

ทิวที่รักกก อย่าน้อยใจไปเลยยยย  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 28 P.3) [04/04/2013]
«ตอบ #68 เมื่อ04-04-2013 19:03:48 »

รอตอนต่อไปฮะ 


อ่านจนเผลอน้ำตาไหลเลย


bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #69 เมื่อ05-04-2013 18:43:41 »

ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่เริ่มแปรเปลี่ยน



โรงเรียนของผมเปิดเทอมแล้ว  ในที่สุดชีวิตประจำวันที่ผมคุ้ยเคยก็กลับมา  ตื่นนอน  ไปโรงเรียน  ทำงานพิเศษและ...กลับบ้าน
 
“ถ้าไม่อยากกลับบ้านก็ไม่เห็นต้องกลับก็ได้นี่นา”
 
พี่แทมินเอ่ยเมื่อเห็นผมกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
 
“ก็ผมไม่อยากรบกวนไปมากกว่านี้นี่ครับ  แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”
 
“บอกแล้วไงว่ามันไม่ได้เป็นการรบกวนอะไรเลยสักนิด  ไผ่เองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวฉันเหมือนกันนะ”
 
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ....”
 
“ฉันอยากอยู่กับไผ่นี่นา  ได้ไหม”
 
“ยังไงเราก็ได้เจอกันทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
 
พี่แทมินเข้ามากอดผมเอาไว้  คนๆนี้ขี้อ้อนมากกว่าที่คิดอีกนะ
 
“ถึงยั่งงั้น  ฉันก็ว่ามันไม่พอหรอก”
 
“เวลาเหรอครับที่พี่ว่ามันไม่พอน่ะ”
 
“ช่าย”
 
อยู่ๆมือของพี่แทมินก็กุมเข้าที่ส่วนนั้นของผม
 
“อ่ะ  พี่แทมิน”
 
“เวลาที่ฉันจะได้อยู่กับไผ่มันต้องน้อยลง  ฉันเลยไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
 
มือนั้นค่อยๆเลื่อนเข้ามากางเกงของผมแล้วเข้าไปกุมส่วนนั้นของผมเอาไว้ในกำมือ
 
“อา...เวลาที่พี่ อึก..จะได้ทำแบบนี้กับผมใช่ไหม”
 
“ทำไมล่ะ  ไผ่ไม่ชอบเหรอ  หือ”
 
มือนั้นขยับรูดขึ้นลง  ทำให้ผมเสียวไปหมด  ทำไมพี่แทมินถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ!
 
“หยุดเถอะครับ...ผมจัดกระเป๋าไม่ได้”
 
“ฉันไม่ให้จัด  ฉันไม่อยากให้ไผ่ไปนี่”
 
กางเกงของผมถูกถอดออกไป  โพรงปากอุ่นของพี่แทมินได้เข้ามาครอบคลุมส่วนนั้นของผม  ไม่ไหวแล้ว  ผมกั้นมันไว้ไม่ไหวแล้ว
 
“อ้าาา”
 
พี่แทมินปล่อยให้ส่วนนั้นของผมเป็นอิสระ  แล้วมองผมด้วยรอยยิ้มของคนที่เหนือกว่า  นี่ผมคงไม่มีวันชนะคนๆเลยใช่ไหม
 
“นี่พี่....กลืนมันเข้าไปงั้นเหรอ”
 
“อะไรที่เป็นของไผ่น่ะ  ฉันไม่รังเกียจหรอก^^”
 
“=///=”
 
พี่แทมินทำท่าว่าจะดำเนินการต่อ(?)  ผมจึงรวบรวมกำลังผลักเขาออกไปเต็มแรงจนพี่แทมินเซไปข้างหลัง
 
“พอเถอะครับ  ผมต้องจัดกระเป๋าต่อนะ”
 
พี่แทมินถอดหายใจอย่างปลง  สงสัยคงจะถอดใจแล้วมั้ง
 
“ก็ได้ๆ  ฉันยอมก็ได้  แต่มีเงื่อนไข”
 
“เงื่อนไข ?”
 
ผมเริ่มคิดในทางที่ไม่ดีเสียแล้วสิ
 
“ไผ่ต้องทำให้ฉันพอใจก่อน  แล้วฉันจะไม่ขัดขวาง  ดีไหม”
 
“แล้วอะไรล่ะครับที่พี่คิดว่าผมทำแล้วพี่จะพอใจ”
 
“เอ...ไม่รู้สินะ^^”
 
“- -^”
 
“จะทำหรือไม่ทำล่ะ  ^^”
 
สงสัยว่าผมคงต้องตามที่พี่แทมินพูด  แล้วอะไรกันล่ะที่ทำแล้วพี่แทมินจะพอใจ  ผมคิดแล้วคิดอีกจนสุดท้ายผมก็ได้คำตอบ
 
“=///=”
 
“^^”
 
ผมก้มลงเพื่อปลดเข็มขัดและกางเกงของพี่แทมินออก  และจับเอาส่วนนั้นของพี่แทมินออกมา  ผมค่อยๆเลียส่วนนั้นของพี่แทมินแล้วครอบอมส่วนนั้นเอาไว้
 
“นี่น่ะ  ไผ่เลือกเองนะ^^”
 
ผมไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าพี่แทมินจะแกล้งผมได้ขนาดนี้  ตอนนี้ผมเริ่มสับสนเสียแล้วว่าตัวจริงของพี่แทมินเป็นคนยังไงกันแน่  เป็นคนใจดี  คนเจ้าเล่ห์  คนที่จริงจัง  หรือว่าคนขี้แกล้งคนนี้
 
“อึ่ก  ไผ่  ฉันรักไผ่นะ”
 
แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไหน  คำพูดนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  คำพูดบอกรักที่ผมมักได้ยินอยู่เสมอ...
 
พี่แทมินปลดปล่อยออกมาภายในปากของผมโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัว  ทำให้ผมสำลักมันออกมาทันที
 
นิ้วของพี่แทมินเคร้าครึงอยู่ที่ช่องทางของผมแล้วสอดมันเข้าอย่างช้า
 
“อาา  อุ้บ”
 
ปากของผมถูกปากของพี่แทมินประกบเอาไว้  เรียวลิ้นที่สอดแทรกรุกล้ำเข้ามาในปากของผม  กับนิ้วที่ขยับเข้าออกนั้นมันทำให้ผมแทบเข่าอ่อน
 
แต่แล้วจู่ๆพี่แทมินก็ถอดถอนปากออกมาและเอานิ้วออกเช่นกัน  พร้อมมองผมอย่างยิ้มๆ
 
“ฉันลืมไปเลยแฮะ  ว่าไผ่ต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายทำให้ฉันพอใจ  เอาล่ะ  จะทำยังต่อก็แล้วแต่ไผ่นะ”
 
ตอนนี้ผมไม่รู้หรอกว่าหน้าผมแดงขนาดไหนแล้ว  แต่ผมก็ต้องทำตามที่พี่แทมินบอก  ขึ้นคล่อมพี่แทมินเอาไว้  มือของผมจับส่วนแข็งของเขาให้จ่อเข้ากับช่องทางของผม  และค่อยๆทิ้งน้ำหนักตัวลงไปเรื่อย
 
“อื้อออ  อ้าา”
 
“อย่างนั้นล่ะ  น่ารักมาก”
 
“อึ่ก  อา  คนบ้า  ชอบแกล้ง  อ้าาา”
 
“ถึงเป็นอย่างนั้น  ฉันก็รักไผ่นะ”
 
เมื่อทิ้งน้ำหนักตัวลงมาจนส่วนนั้นของพี่แทมินจมมิดแล้วผมก็ค่อยๆขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ
 
“อ่ะ  อ้า  อื้ออ”
 
พี่แทมินมักมองผมตัวสายตาที่ผมมักแพ้ทางเสียทุกครั้ง  สายตาแสนเจ้าเล่ห์คู่นั้นกับยิ้มนั่น  เขามองผมที่กระทำเรื่องนั้นด้วยตัวเองอย่างมีความสุข  ถ้าหากผมอยู่ที่นี่ล่ะก็คงต้องโดนพี่แทมินทำเรื่องอย่างว่านี้ทุกวันแน่ๆเลย  เพราะฉะนั้นผมจึงต้องกลับบ้าน...
 
                ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
ผมรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในสภาพเปลือยตัวอยู่บนเตียงของพี่แทมิน  อา...จริงสินะ  หลังจากตอนนั้น  พี่แทมินก็อุ้มผมไปที่เตียงและทำเรื่องนั้นต่ออีกหลายต่อหลายครั้งเลยนี่นา....คนอะไรก็ไม่รู้  หื่นเป็นบ้า
 
เมื่อผมลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวก็พบว่ากระเป๋าของผมถูกจัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว....
 
เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็เดินลงมาชั้นล่าง  พี่แทมินที่อยู่ชั้นล่างมองผมด้วยสีหน้าอารมณ์...แน่ล่ะสิ - -^
 
“ไปเถอะ  เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”
 
พี่แทมินเดินจูงมือผมกลับบ้าน  ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่  ผมมีความสุขมากเลย  พี่แทมินกับเถ้าแก่ดูแลผมดีทุกอย่าง  จนผมเองก็ไม่อยากกลับหรอก  แต่ว่าหากไม่กลับผมก็คงจะ...>///<
 
“พี่แทมิน...”
 
“หือ?”
 
“ผม....”
 
“มีอะไรก็พูดมาสิ  ฉันพร้อมจะรับฟังนะ^^”
 
“ผมชอบพี่นะครับ”
 
อา...พูดไปซะแล้วสิ
 
“O_o!!!!”
 
“=///=”
 
“รู้อะไรไหมไผ่”
 
“*-*???”
 
“ไม่ว่าเมื่อไหร่  ไผ่ก็ทำให้ฉันรักไผ่ได้มากขึ้นทุกวันเลยนะ^^”
 
 
“...”
 
พี่แทมินโน้มตัวลงมาจูบผมอีกแล้ว  จูบที่บางเบาและนุ่นนวลมันทำให้ผมใจเต้นตามไปด้วย  ความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่แทมินในตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว...
 
ปากของผมเป็นอิสระ  และพี่แทมินก็จูงมือนำผมเดินต่อ  ผมเห็นนะ  ว่าหูของพี่เป็นสีแดงนิดๆด้วยล่ะ  พี่แทมินดีใจมากเลยเหรอที่ผมบอกว่าชอบพี่....แล้วถ้าหากสักวัน  วันที่ผมบอกว่ารักมันมาถึงแล้วล่ะก็  พี่จะดีใจขนาดไหนกันนะ....
 
               
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

@nunnan  นั่นสิ อย่าน้อยใจไปเลย เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองเนอะ

@daboo  ขอคุณที่รอนะคะ  ต้องการทิชชู่ซับน้ำตาไหม?


 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
« ตอบ #69 เมื่อ: 05-04-2013 18:43:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #70 เมื่อ05-04-2013 19:01:12 »

จัดหนักเลยยยย  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #71 เมื่อ05-04-2013 19:13:15 »

เอาอีกๆๆๆ



ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #72 เมื่อ05-04-2013 21:06:27 »

เข้ามาอ่านรวดเดียว  น้ำตาคลอเลย
บรรยายจนรู้สึกถึงความน้อยใจของไผ่ได้เยี่ยม
อยากให้พ่อกับแม่หันมาสนใจไผ่บ้าง
จะรอลุ้นต่อจ้าา
 :mew6:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #73 เมื่อ05-04-2013 21:12:50 »

สนุกดีนะค่ะ แต่คำพูดมันดูแบ๊วมากกกกกกกกกกก...><
เราว่าเอามาทยอยลงดีกว่ามั้ยค่ะ เรารู้สึกว่ามันถี่ไปหน่อยอ่ะ
ก็อย่างที่คนเขียนบอกนะแหละคนเม้นน้อยมันเป็นเรื่องธรรมดา
อาจเป็นเพราะเอาไปลงในเด็กดีก่อนมั้ง แล้วก็เอามาลงแบบ
ถี่ไปหน่อยอ่ะมันเลยดูไม่น่าตื่นเต้น แต่เอาจิงคนอ่านไม่น้อยเลยน้า
ตัวเนื้อเรื่องมันน่าติดตามนะค่ะแต่ภาษามันยังดูน่ารักไปหน่อย
ปมเยอะดีเราชอบ (อิซาดิส) เป็นกำลังใจให้น้ามาขนาดนี้ละอย่าท้อ!

เราว่าคนที่น่าสงสารสุดอาจเป็นทิวนะ แต่พูดไม่ได้อ่ะเราว่าน่าสงสารกันทั้งเรื่อง
ไผ่โดนแบบระยำสุดแล้ว ไอ้เวนก็เลวสุด ไหนจะมีปมเรื่องทิว กับพี่แทมินอีก
เฮ้ออออออ อย่ามีอะไรอีกเล้ยขอร้อง อยากให้อยู่กันแบบเข้าใจและรักกันซะที

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 29 P.3) [05/04/2013]
«ตอบ #74 เมื่อ12-04-2013 18:02:03 »

ตอนที่ 30  เรื่องราวภายหลังเปิดเรียน...สิ่งที่รู้สึกว่าขาดไป



“ขอให้ทุกคนออกมารับใบรบ.  ตามเลขที่นะ”
 
อาจารย์ผู้ชายวัยกลางคนตะโกนเรียกแต่ล่ะเลขที่เพื่อให้ออกมารับใบ รบ. หรือใบเกรดนั่นเอง
 
“เลขที่ยี่สิบเก้า”
 
เซนลุกขึ้นไปรับใบรบ.ของตัวเอง  สีหน้าที่เมื่อได้เห็นคะแนนดูก็รู้แล้วล่ะว่ามัน...คงไม่สวยเท่าไหร่  พูดกันตามตรง  ตั้งแต่เปิดเรียนวันนี้วันแรก  ผมกับเซนยังไม่ได้พูดคุยกันเลยสักคำเดียว  ผมไม่กล้าทักเขาและเขาเองก็ไม่ทักผมเลย  สงสัยว่าความเป็นเพื่อนกันของพวกเรามันคงจะไม่มีอีกแล้วตั้งแต่วันนั้น....
 
“เลขที่สามสิบหก”
 
ผมลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อไปรับใบรบ.ของตัวเอง  ส่วนเรื่องคะแนนนั้น....ช่างมันเถอะ  ยังไงซะไม่ว่าจะเกรดเท่าไหร่ก็คงไม่มีใครสนอยู่แล้วนี่
 
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกจึงไม่มีการเรียนอะไรทั้งสิ้นนอกจากแจกเอกสารผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ที่โรงเรียนของแคนเขาเรียกกันแบบนี้เจ้าค่ะ  ของที่อื่นคงจะเป็น ใบจุดประสงค์อะไรนี่ล่ะมั้ง)  และมีการแจกเอกสารให้กรอกเพื่อเข้าชมรมอีกบ้างเล็กน้อย
 
“เวรแล้วไง”
 
กรึก..
 
คำพูดติดปากที่เซนมักพูดประจำเมื่อลืมเอาเครื่องเขียนมา  ตัวผมที่เมื่อก่อนจะส่งให้เขากับมือตอนนี้เปลี่ยนเป็นเอามันวางไว้บนโต๊ะของเซนแทน
 
“ขอบใจ”
 
น่าแปลกนะ  ทั้งๆที่เจอเรื่องแบบนั้นไปแต่ผมก็ยังไม่ลืมที่จะพาพวกเครื่องเขียนสำหรับเซนมาด้วย  หรือมันจะกลายเป็นนิสัยไปเสียแล้วกันนะ
 
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษอีก  วันแรกของการเปิดเรียนจบลงแค่นั้น  และคิดว่าคงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกตลอดทั้งอาทิตย์  ตัวผมที่เมื่อก่อนมักจะปั่นจักรยานกลับบ้าน  ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาเป็นเดินกลับบ้านแทนแล้ว  ผมไม่อยากปั่นจักรยานกลับบ้านกับเซนเหมือนที่ผ่านมาเลยเลือกที่จะเดินกลับบ้านเพียงลำพัง
 
บ้านผมยังคงมืดสนิทเหมือนทุกครั้ง  เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของพวกเขา...แต่ก็ดีแล้วล่ะ  ผมไม่อยากเจอพวกเขาสักเท่าไหร่  ผมเปิดประตูบ้านและเดินเข้าไปยังห้องของตนเอง  ลิ้นชักที่โต๊ะเรียนหนังสือชั้นล่างสุดของผมถูกเปิดออก  ภายในนั้นเต็มไปด้วยกระดาษมากมายที่ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบ  มันไม่ใช่กระดาษเอสี่ที่ว่างเปล่าหรอก  มันคือเอกสารทั้งหมดที่ผมได้รับมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล  ประถม รวมถึงมัธยม  มีทั้งเอกสารประชุมผู้ปกครอง  เอกสารขออนุญาตทำกิจกรรม  หรือแม้กระทั้งใบรบ.ที่ผมได้รับ  พวกมันทั้งผมได้ถูกรวบรวมเก็บไว้ในลิ้นชักนี้  ถึงแม้จะมีการประชุมผู้ปกครองพวกเขาก็คงไม่ว่างมาหรอก  ถึงจะเป็นเอกสารขออนุญาตแต่พวกเขาก็ไม่ว่างจะมาเซ็นให้ผมหรอก  ใบรบ.งั้นเหรอ  ไม่ว่าจะได้เกรดดีขนาดไหน  หรือแม้แต่เกรดสี่จุดศูนย์ที่ผมได้มานี้แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้ดูมันแล้วจะมี ความหมายอะไร  ลิ้นชักถูกปิดลงผมเตรียมตัวไปทำงานพิเศษที่ร้านของเถ้าแก่
 
ผมเดินไปทำงานเหมือนเช่นเคย  อีกไม่นานก็จะได้เจอพี่แทมินแล้ว  รู้สึกดีจังเลย...
 
ผมเดินมาถึงร้านก็เห็นพี่แทมินรออยู่ตรงเก้าอี้หน้าร้านและส่งยิ้มให้ผม  นี่เขาคอยผมอยู่อย่างนั้นเหรอ
 
ผมเดินเข้ามาใกล้ๆเขา  เขาก็รีบวิ่งเขามากอดผมทันที  พี่แทมินนี่ไม่เคยแคร์สายตาชาวบ้านเลยจริงๆ - -^
 
“ฉันคิดถึงไผ่มากเลยรู้ไหม T^T”
 
“เมื่อคืนนี้เราก็เพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอครับ”
 
“ก็ฉันอยากอยู่กับไผ่ตลอดเวลาเลยนี่นา Q^Q”
 
“-*-“
 
พี่แทมินยังคงขี้อ้อนเหมือนเดิม  คนๆนี้มีกี่บุคลิกกันแน่นะ  ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
 
ตลอดเวลาที่ผมทำงาน  ยามเมื่อผมเผลอหรืออยู่คนเดียวพี่แทมินก็จะเข้ามาจูบผมและลูบนู่นลูบนี่(?)  ให้ตายสิ  นี่ถ้าหากผมยังอยู่ที่นี่สงสัยผมคงโดนทุกวันแน่ๆเลย  >///<
 
“พอเถอะครับ  นี่มันเวลางานนะ”
 
“ม่ายเอาอ่ะ  ฉันคิดถึงไผ่นี่นา”
 
ผมพยายามข่มอารมณของตัวเองเอาไว้  และทำเป็นไม่สนใจและทำงานต่อไป
 
เมื่อเลิกงาน  พี่แทมินก็จูงมือผมกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง  ผมชอบช่วงเวลานี้จังเลย....
 
เมื่อกลับมาถึงบ้าน  รถของพวกเขาก็จอดอยู่แล้ว  คงจะกลับมาแล้วสินะ  แต่ว่าภายในบ้านก็ยังมืดสนิท  แสดงว่าพวกเขาได้เข้านอนกันหมดแล้ว
 
“เดินกลับบ้านดีๆนะครับพี่แทมิน”
 
“ขอจูบราตรีสวัสดิ์หน่อยสิ^^”
 
ผมไม่ขัดคำขอของเขา  พวกเราจูบกันก่อนที่จะแยกกันพี่แทมินก็ไม่ลืมที่จะจูบหน้าผากของผม
 
“ฝันดีนะ  อย่าลืมห่มผ้าด้วยล่ะ^^”
 
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ- -^”
 
แล้วพวกเราก็แยกกัน  ผมเดินเข้าไปในบ้าน  กลับเข้ามาในห้องเพื่ออาบน้ำและเข้านอน  ตั้งแต่กลับมาคืนนี้ก็เป็นคืนที่สองแล้วที่ผมต้องนอนคนเดียว  ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผมนอนที่บ้านของเถ้าแก่  ไม่มีคืนไหนเลยที่ผมต้องนอนโดยปราศจากพี่แทมิน  พี่แทมินมักจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ  คอยปลอบผมจากฝันร้าย  ถึงแม้ตอนนี้ผมจะได้ฝันร้ายทุกวันเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม  แต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ  การอยู่โดยไม่มีอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นมันทำให้ผมเป็นถึงขนาดนี้เลยเชียวเหรอ....
 
ผมคิดถูกรึเปล่านะที่กลับมาอยู่ที่นี่  หรือจะขอกลับไปอยู่กับพี่แทมินอีกครั้งดีนะ  อยากเจอจัง...ทั้งๆที่เพิ่งจะแยกกันเมื่อกี้นี่เองแท้ๆ  แต่ว่า  ความรู้สึกคิดถึง  อยากเจอ  และกอด  พวกนี้มันก็เพิ่มพูนมากขึ้นทุกทีๆ....
 
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
บ้านที่อยู่ข้างๆบ้านของไผ่ก็คือบ้านของเซน   แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วแต่เซนก็ยังไม่ได้นอน  แน่นอนว่าเซนเห็นทุกอย่างตั้งแต่ตอนที่ไผ่กลับมาถึงบ้านโดยจูงมือกับแทมิน  และตอนที่ไผ่จูบกับแทมินก็เช่นกัน  รวมตอนนี้ก็เป็นสองครั้งแล้วสินะที่เขาเห็นไผ่กับแทมินจูบกัน
 
“หงุดหงิดเป็นบ้าเลย  อะไรวะเนี่ย”
 
ความรู้สึกไม่พอใจ  และหงุดหงิดเมื่อเห็นภาพเหล่านั้นมันค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ
 
ความรู้สึกของเขาเริ่มกลายเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นทุกทีๆ...........
 
 
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

@nunnan  ถ้าจัดหนัก เด๋วกลายเป็นว่าแคนหื่นสิคะ (???)  :hao6:

@daboo  เอาอีกเรอะคะ?   จัดไป!

@duck-ya  ขอบคุณสำหรับคำชมอ่ะ  ดีใจจังค่ะที่บรรยายเเล้วมันอินขนาดนี้  แต่เรื่องการบรรยายแคนยังต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย เพราะดูๆแล้วมันเหมือน บทละครมากกว่านิยายนะเนี่ย

@EARTHYSS :)  ค่ะ งั้นเราจะค่อยๆ ทยอยลงตามคำแนะนำนะคะ  ส่วนเรื่องภาษาแบ๊วๆ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ   เราก็รู้ตัวค่ะ เลยแปะบอกไว้ ตอนต้นเรื่องเลยว่าตอนที่แต่ง มันได้รับอิทธิพลจากแจ่มใสไปเต็มๆ  ตอนนี้ก็กำลังพยายามแก้ไขเรื่องคำแบ๊วๆอยู่ในเรื่องแยกของเซน(แต่ไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่) ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
 

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 30 P.3) [12/04/2013]
«ตอบ #75 เมื่อ17-04-2013 03:45:51 »

ตอนที่ 31  จุดเริ่มต้นของความรัก  (Taemin talk)



“อาาา  ฮ่ะ  อ๊า”

 

เสียงครางแสนหวานดังขึ้นจากปากที่ช้ำเป็นรอยแดงจากรสจูบของร่างเล็ก  แขนเรียวนั้นได้โอบกอดร่างสูงตรงหน้า  ใบหน้าซุกกับแผงอกเพื่อหลบความเขินอาย  ทุกครั้งที่ร่างสูงขยับ  ร่างเล็กก็จะยิ่งกอดแน่นขึ้น


“อ้า  อึ่ก  ผม..ผมรักพี่นะ  พี่แทมิน อา”


“อีกครั้งสิไผ่  พูดอีกได้ไหม”


“ผมรัก อ่ะ  ผมรักพี่แทมิน  อะ  อ้า”


ใช่แล้ว  คำที่เขาอยากได้ยินมาโดยตลอด  คำๆนี่ล่ะ  คือคำที่เขาปรารถนาจะได้ยินจากปากของคนที่เขารักที่สุด

 

ร่างสูงได้โอบกอดร่างเล็กไว้และถ่าโถมบทรักที่รุนแรงอย่างหักห้ามใจเอาไว้ไม่ได้  เสียงครางดังอย่างต่อเนื่อง  ยิ่งทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นกว่าเก่า  อยากได้ยินอีกครั้ง  คำพูดบอกรักจากร่างเล็กนั้น   ช่วยบอกให้เขาฟังอีกครั้งได้ไหม...

 
“พูดอีกสิไผ่ ฉันอยากได้ยินมากกว่านี้”

 

ร่างเล็กตรงหน้าใช้สองมือน้อยๆประคองหน้าของร่างสูงให้สายตาของพวกเขาสบกัน  รอยยิ้มหวานที่หาได้ยากจากยามปกติทำให้เขาแทบอยากจะกลั้นแกล้งร่างเล็กนี้ให้มากขึ้นไปอีก  ใบหน้าที่ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้  และเสียงหวานที่กระซิบแผ่วเบาข้างหูนั้น

 

“นึกรึว่าผมจะพูดคำพวกนี้ ฝันไปเถอะ”

 

“เอ๋”

 

“คนที่ผมรักน่ะมีแค่เซนเท่านั้น  จำเอาไว้!!!”

 

“ไม่นะ  ไผ่โกหก  มันไม่เป็นความจริง  ไม่  ไม่!!!”

 

ทันใดนั้น  นัยย์ตาที่ปิดสนิทก็ได้เปิดขึ้นมาแทบจะในทันที  เหงื่อที่ซึมตามเสื้อผ้าจนเปียกชุ่ม  และเสียงหอบหายใจนั้น  ทำให้ผมต้องลุกขึ้นจากเตียงมานั่งคิดทบทวน...

 

ข้าวของเครื่องใช้ที่คุ้นเคย  บรรยากาศที่คุ้นเคย  ผมยังคงอยู่ในห้องของตนเอง  และเหตุการณ์ที่ผมได้ประสบไปเมื่อครู่นี้คือความฝันสินะ...

 

ความปรารถนาและอารมณ์ความอยากที่พรุกพร่านนี่มันถึงขั้นทำให้ผมต้องเก็บไปฝันเลยเชียวเหรอ  นับตั้งแต่วันที่ไผ่กลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง  ถึงแม้จะเจอกันทุกวันเวลาที่ไผ่มาทำงานพิเศษ  แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่สามารถทำอะไรไผ่ตามที่ใจของผมต้องการได้  ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมสามารถอดกลั้นความต้องการพวกนั้นได้  แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันได้เปลี่ยนไปแล้ว  ผมได้ครอบครองไผ่รึก็คือไผ่ได้กลายเป็นของผมไปแล้ว  ความปรารถนาที่ผมต้องการมาตลอดได้สำเร็จไปมากกว่าครึ่ง  จะเหลือก็แต่เพียงหัวใจของไผ่เท่านั้น

 

‘นึกรึว่าผมจะพูดคำพวกนี้ ฝันไปเถอะ’

 

‘คนที่ผมรักน่ะมีแค่เซนเท่านั้น  จำเอาไว้!!!’

 

คำพูดที่ผมไม่ต้องการมันได้ปรากฏขึ้นในความฝัน  หึ  อะไรกัน  แม้แต่ในความฝันผมก็ไม่สามารถฝันได้อย่างนั้นเหรอ...นอนไม่หลับเสียแล้วสิ  ไปดื่มน้ำดีกว่า  แล้วก็.....ต้องไปห้องน้ำด้วยสินะ =///=  (คุณผู้ชายทั้งหลายเวลาที่ฝันเรื่องอย่างนี้คงจะเข้าใจชิมิ้เจ้าค่ะ)

 

ผมเปิดประตูห้องเพื่อจะเดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปดื่มน้ำจากตู้เย็นในห้องครัวแต่ก็พบกับความสว่างจากแสงไฟในห้องครัว  อะไรกัน  ลืมปิดไฟอย่างนั้นเหรอ...ไม่น่าจะใช่นะ  ก็ผมเป็นคนปิดมันเองนี่นา

 

ผมเดินลงไปดูและก็พบว่าพ่อนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่โต๊ะทานข้าว

 

“อะไรกันพ่อ  นึกไงถึงดื่มเบียร์ได้ล่ะ”

 

พ่อวางแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะและหันมามองผมที่ยืนอยู่ที่บันได

 

“แกเองก็เหมือนกัน  นี่ตีสามแล้วนะ  ทำไมถึงยังไม่นอนอีก”

 
“ผมนอนไปแล้วแต่บังเอิญว่ามีเหตุทำให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเลยตั้งใจว่าจะมาหาอะไรเย็นๆดื่ม  ว่าแต่พ่อเถอะ  ตอบคำถามผมมาสิ”

 

พ่อผมนึงไปครู่หนึ่งและหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มอีกอึกหนึ่งก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ

 

“คิดถึงแทยองมัน  ไม่รู้ทำไมอยู่ๆถึงนึกแบบนั้นขึ้นมาได้”

 

“นั่นสิ  ก็ผมไม่เห็นพ่อทำแบบนี้มาเกือบสามปีแล้วนี่นา”

 

“มันก็จริง”

 

ใช่  สามปีที่แล้ว  ช่วงที่ไผ่เข้ามาในวิถีชีวิตของครอบครัวผม...

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

“ขอโทษนะครับ  ไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ร้านที่ลงประกาศรับพนักงานล้างจานรึเปล่าครับ”

 

เด็กผู้ชายในชุดนักเรียนชั้นมัธยมต้นเปิดประตูร้านเข้ามาพร้อมกับใบประกาศรับสมัครพนักงานของร้าน

 

“ใช่แล้วล่ะ  รึว่าเธอจะมาสมัครงาน”

 

พ่อเดินเข้าไปถามเด็กชายคนนั้น  และเด็กคนนั้นก็พยักหน้า  อะไรกัน  ยังเด็กอยู่เลยนี่นา  ทำไมถึงได้มาสมัครทำงานกันนะ  รึว่าเกิดนึกสนุกตามประสาเด็ก

 

“ฉันว่าเธอเด็กเกินกว่าจะทำงานแบบนี้นะ”

 

พ่อของผมปฏิเสธที่จะรับคนที่อายุต่ำกว่าสิบแปดเข้ามาทำงาน  เพราะร้านของพ่อเป็นร้านอาหารที่เปิดขายถึงเวลาเที่ยงคืน  มันคงจะดึกเกินไปสำหรับเด็กก็ว่าได้  แต่เด็กคนนั้นก็ยังยืนกรานขอเข้าทำงานที่นี่จนสุดท้ายพ่อของผมก็ใจอ่อนจนได้

 

มารู้เอาทีหลังว่าชื่อของเด็กคนนั้นคือไผ่  ก็เมื่อเวลาผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว  ไม่ใช่เพราะผมไม่กล้าถามหรืออะไรหรอกนะ  เพียงแต่ผมไม่สนใจต่างหากล่ะ  ไม่ว่าใครจะเข้ามาทำงานผมก็ไม่อยากสุงสิงด้วย  เพราะผมไม่อยากซ้ำรอยเดิมกับที่ผ่านมา  เหมือนตอนของพี่แทยอง  หากสนิทกับใครเข้า  ยิ่งสนิทมากเท่าไหร่เมื่อโดนหักหลังก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น

 
ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ไผ่ได้มาทำงานที่นี่  ทำให้ผมรู้สึกอยากจะรู้จักเขาขึ้นมา  ผมไม่ได้ชอบเขาหรอกนะ  เพียงแต่ว่า  ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้ไผ่ดูแตกต่างไปจากคนอื่น  ไผ่มักจะมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา  และจะไม่พูดคุยหรือสนิทกับใครเป็นพิเศษ  เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นมากั้นระหว่างตัวเขากับบุคคลรอบข้างไว้อย่างนั้นล่ะ  มันทำให้ผมรู้สึกอยากค้นหาและอยากเอาชนะขึ้นมาเสียอย่างนั้น  อยากรู้เหลือเกินว่า  หากไม่มีกำแพงที่มองไม่เห็นนั้นมากั้นเอาไว้  ไผ่จะเป็นอย่างไร

 

“ขอบใจนะเซนที่อุตส่าเดินมาส่ง”

 

เสียงนี้...ไผ่สินะ  มาตรงเวลาเป๊ะเลย  ส่วนเด็กผู้ชายอีกคนคงจะเป็นเพื่อนล่ะมั้ง

 

“ตั้งใจทำงานเข้านะ  อย่าแอบหลับซะก่อนล่ะ^^”

 

“ใครเขาจะเหมือนเซนล่ะ”

 

เสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทำให้ผมเริ่มสนใจ  รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ผมไม่เคยได้ยินเมื่อตอนที่ไผ่อยู่ที่นี่  น่ารักเหลือเกิน  เด็กคนนั้นคงจะเป็นคนสำคัญสินะไผ่ถึงยิ้มได้ขนาดนี้

 

เมื่อเด็กที่ชื่อเซนจากไปไผ่ก็เข้ามาเริ่มทำงานของตัวเอง  ผมคิดว่าคงถึงเวลาสักทีแล้วล่ะที่จะเริ่มทำความรู้จักกับเขา  เพียงเพราะผมรู้สึกติดใจในรอยยิ้มนั่น  อยากเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยนั่นแสดงอารมณ์อื่นๆบ้าง

 

“นายน่ะ  ชื่อไผ่ใช่ไหม”

 

ผมเริ่มบทสนทนาด้วยคำพูดโง่ๆที่ควรรู้อยู่แล้วแต่ก็ดันไปถามเขาอีกครั้ง

 

“ครับ  คุณแทมิน”

 

“คุณ?  โทษทีนะ  มันฟังดูแก่อ่ะ  ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้”

 

“ถ้าอย่างนั้นผมเรียกว่าพี่แทมินได้ไหมครับ”

 

“อืม  เอางั้นก็ได้”

 

“แล้วมีอะไรเหรอครับ”

 

“คือ....”

 

เออ  นั่นสิ  เอาไงต่อดี

 

“คือฉันเห็นนายมักจะอยู่เงียบๆคนเดียวไม่สุงสิงกับคนอื่นๆ  ฉันเลยอยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”

 

“ก็เปล่านี่ครับ  ทุกคนๆที่นี่เป็นคนดี”

 

“ถ้าอย่างนั้น  ทำไมถึงแยกตัวมาอยู่คนเดียวล่ะ”

 

“...ผมก็แค่  ไม่อยากสนิทสนมด้วยก็เท่านั้น”

 

นั่นรึคือคำตอบ....

 
“ผมคิดว่าการสนิทกับคนอื่นๆมันก็เป็นเรื่องดีนะครับ  แต่ถ้าหากนั่นไม่ใช่นิสัยของเราถึงจะพยายามเข้าไปคุยด้วย  มันก็คงอึดอัดเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง”

 

นั่นรึคือเหตุผล...

 

“ฮ่าๆๆ”

 

ผมหัวเราะให้กับคำพูดพวกนั้น  อะไรกัน  แค่นี้เองน่ะเหรอ  ไร้สาระสิ้นดี

 

“ฉันว่านายกำลังโกหกฉันอยู่นะ^^”

 
ไผ่จ้องผมตาไม่กระพริบ  ผมคงไปพูดแทงใจดำเข้าสินะ

 

“ทำไมคุณ  เอ่อ...พี่แทมินถึงคิดว่าผมโกหก”

 

“ไม่รู้สิ  ฉันแค่พูดไปตามความรู้สึก”

 

“....”

 

“แต่ว่านะ  นายน่ะ  เป็นแบบนี้มันจะดีเหรอ”

 

สายตาของไผ่ที่จ้องมองผมนั้นไม่แสดงออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่  เด็กคนนี้นี่ทำไมถึงได้เก็บความรู้สึกได้เก่งขนาดนี้นะ

 

“แล้วพี่แทมินล่ะครับ  เป็นแบบนี้มันจะดีเหรอ”

 

“อ่าวๆ  แล้วกันสิ  นั่นมันคำถามของฉันนะ”

 

“ทำไมพี่ถึงอยู่เงียบๆคนเดียวไม่สุงสิงกับใครล่ะครับ”

 

“นี่นายลอกคำพูดของฉันงั้นเรอะ”

 

“แล้วอะไรทำให้พี่ที่มักจะอยู่คนเดียวเข้ามาคุยกับผมได้ล่ะครับ”

 

ที่ไผ่พูดมามันก็ถูก  ผมกับไผ่ก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่นักหรอก...หึ  ชักอยากรู้จักให้มากขึ้นเสียแล้วสิ  อยากจะค้นหาถึงตัวตนที่แท้จริงของเด็กคนนี้  และจากการตัดสินใจของผมในวันนั้นทำให้ทุกอย่างในชีวิตของผมต้องเปลี่ยนไป  ความรู้สึกที่ผมมีต่อไผ่ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  กลายเป็นว่าความรู้สึกที่อยากค้นหานั้นไม่เพียงพออีกต่อไป  อยากจะครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจ.....

 

                -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
 

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 30 P.3) [12/04/2013]
«ตอบ #76 เมื่อ17-04-2013 07:06:29 »

แอบย่องมาลงตอนดึกกกกหรอจ๊ะะะ  :katai4: :katai4: :katai4:

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 31 P.3) [17/04/2013]
«ตอบ #77 เมื่อ21-04-2013 02:26:38 »

ตอนที่ 32 กลับเป็นเหมือนเดิมได้ไหม (Zen talk)



            ผมคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม  ที่รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยปฏิบัติทุกวันจนกลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันมันได้เปลี่ยนไปเสียแล้ว

 

                ทุกเช้าจากที่เคยปั่นจักรยานไปโรงเรียนด้วยกัน  ตอนนี้กลายเป็นว่ามีเพียงผมเท่านั้นที่ปั่นไปเรียนเพียงคนเดียว

 

                เวลาที่ผมลืมอุปกรณ์การเรียนก็มักจะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเป็นเชิงตักเตือนพร้อมกับเครื่องเขียนที่ยื่นมาให้ผม  ตอนนี้มีเพียงเครื่องเขียนที่วางบนโต๊ะโดยไร้ซึ่งเสียงและคำพูดว่ากล่าวเวลาที่ผมลืม

 

                ตอนเที่ยงผมเคยไปนั่งทานข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน  และมักจะแย่งกับข้าวในจานมากิน  ตอนนี้ผมต้องไปกินกับเพื่อนคนอื่นโดนที่ไม่มีเพื่อนคนนั้นมาด้วย

 

                ตอนเลิกเรียนพวกเรามักจะปั่นจักรกลับด้วยกันและพูดคุยเรื่องทั่วไปตลอดทาง  ตอนนี้เหลือแต่ผมเพียงคนเดียว

 

                ตกดึกเวลาที่เพื่อนคนนั้นกลับจากทำงานพิเศษก็มักมาที่บ้านผมเพื่อสอนการบ้านและติวหนังสือไปด้วย  แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว  ไม่มีเสียงกดกริ๊งหรือเสียงเรียกให้ผมลงไปเปิดประตูให้อีกแล้ว....

 

                หงุดหงิด  หงุดหงิด หงุดหงิด  หงุดหงิด  หงุดหงิด หงุดหงิดที่สุด!!!!!!!!!

 

                ผมเริ่มรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงนี้  ไผ่หลบหน้าผมตลอด  พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย  แม้แต่หน้าผม  ไผ่ก็ยังไม่มอง  ไหนว่ารักผมไงล่ะ  งี่เง่าชะมัด!!!

 

                ผมเริ่มคิดเตลิดไปเรื่อยจนกระทั่งเริ่มมาฉุดคิดถึงสิ่งที่ผมมองข้ามมันไป  อะไรกันล่ะที่ทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป  อะไรกันล่ะที่ทำให้ไผ่ต้องเป็นแบบนี้....

 

                ตัวผมเองไม่ใช่เหรอ...?

 

                เป็นผมเองที่ทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้  ตัวผมที่ความโกรธเข้าครอบงำจนทำให้ทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นลงไป  ตัวผมคนเดียวยังไม่พอ  ยังลากเอาเพื่อนในชมรมบาสมาด้วยอีก  จะมารู้สึกผิดอะไรได้อีกล่ะ  ในเมื่อทุกอย่างมันคงไม่มีทางเหมือนเดิมได้อีกแล้ว  ทั้งคำพูดและการกระทำที่โหดร้ายของผมนั้น  ไผ่คงจะไม่มีวันยกโทษให้ผมแน่นอน....

 

                ‘ไผ่....นายช่วยเป็นตัวแทนของทิวให้หน่อยสิ’

 

                เหมือนโชคชะตาเล่นตลกให้ผมนึกถึงถ้อยคำพูดแสนโหดร้ายที่ผมเคยพูดกับไผ่  ตลอดช่วงเวลาที่ผมพร่ำเรียกชื่อของทิวนั้น  มันคงทำให้ไผ่เจ็บปวดมากสินะ  ก็ไผ่น่ะ  เกลียดทิวนี่นา...

 

                ‘หึ...ร่านจังนะ’

 

                ‘เป็นไงล่ะ  รสชาติของเหลือ’

 

                คำพูดที่ทำร้ายจิตใจของไผ่สารพัดมันโหมเข้าหัวผมเป็นว่าเล่นจนผมปวดหัวไปหมด  ยิ่งนึกก็ยิ่งเจ็บปวด  ตัวผมในตอนนั้นทำลงไปได้ยังไงกันนะ....

 

                ทิวที่ผมรู้สึกชอบตั้งแต่ตอนที่เจอกันนั้น  จนถึงตอนนี้ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเพราะอะไรผมถึงได้ชอบคนที่เจอกันแค่ไม่นานได้   มันเพราะอะไรกันแน่...

 

                ‘นายนี่มัน  โง่ที่สุดในโลกเลยว่ะ  รู้ตัวไหม’

 

                คำพูดของแทมินที่ว่าผมในตอนนั้น  มันทำให้ผมต้องกลับมาคิด  เพราะอะไร  ทำไมแทมินถึงได้พูดกับผมแบบนั้น

 

                ‘เซน  หากแม้แต่ใจของนาย  นายยังไม่เข้าใจแล้วล่ะก็  นายก็คงเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกเลยล่ะ’

 

            ที่ประโยคที่เหมือนกันกับแทมินที่ทิวพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่จะจากไป...แม้ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจ  ตอนนี้ผมต้องการเพียงอย่างเดิมเท่านั้นคือ  อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม....

 

                ตอนเช้าผมเดินเข้ามาในห้องเรียน  ไผ่ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอยู่แล้ว  ผมจึงเริ่มเปิดประโยคชวนคุย

 

                “วันนี้มาเช้าจังเลยนะไผ่”

 

                ไผ่สะดุ้ง  หันมามองหน้าผมและรีบก้มหน้าทันที

 

                “....”

 

                ไม่มีคำพูดใดๆตอบกลับมา....และแล้วเสียงกริ๊งเรียกให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวตอนเช้าก็ดังขึ้น...

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

                “ไผ่  ไปกินข้าวด้วยกันป่าว”

 

                ไผ่เดินผ่านตัวผมไปซะเฉยๆ  ไม่ได้สนใจคำชวนของผมเลยแม้แต่น้อย  แบบนี้มันเรียกได้ว่า  เมินสมบูรณ์แบบสินะ  ให้ตายสิ  จะทำยังไงดีวะเนี้ย

 

                ผมวิ่งตามไผ่ที่เดินเมินผมไป  ผมดักหน้าไผ่เข้าประจันหน้ากันตรงๆ

 

                “ไผ่  ฉันว่าเราต้องคุยกันนะ”

 

                “.....”

 

                ไม่มีเสียงตอบกลับอีกแล้ว  นี่ไผ่ไม่คิดจะคุยกับผมแล้วใช่ไหม  ผมตัดสินใจจับแขนของไผ่แล้วพาเดินออกจากบริเวณนั้น

 

                ไผ่พยายามจะสะบัดแขนออกแต่ผมไม่มีทางปล่อยแขนเขาหรอก  พวกเราจะต้องคุยกันให้รู้เรื่องให้ได้  เพื่อที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

 

                “ฉันเจ็บนะเซน  ปล่อยสิ!”

 

                ผมไม่ฟังคำทักท้วงอะไรทั้งนั้น  ผมพาไผ่มาถึงตรงบริเวณเรือนเพาะชำที่มักจะไม่ค่อยมีคนมากนัก  และปล่อยแขนของไผ่

 

                “นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”

 

                ไผ่ถามโดนที่ไม่มองหน้าผมเลย

 

                “ในที่สุดนายก็ยอมพูดกับฉันสักทีนะ  นายหลบหน้าฉันทำไม”

 

                “เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”

 

                คำพูดที่ฟังดูแล้วแสนจะเย็นชา  ไผ่เกลียดผมแล้วจริงๆสินะ

 

                “ไผ่  ฉันขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่าง  ฉันมันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ  ขอโทษนะ”

 

                “.....”

 

                ไม่มีเสียงตอบกลับมาอีกแล้ว  อย่าทำแบบนี้เลยนะ  ผมทนไม่ได้จริงๆ

 

                “ยกโทษให้ฉันได้ไหม  นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้  แต่ขอร้องล่ะ  พวกเรา...กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”

 

                “พูดง่ายจังเลยนะ  เซน”

 

                ดวงหน้าที่มักจะเรียบเฉยของไผ่กลายเป็นโกรธเกรี้ยว  ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา  ผมไม่เคยเห็นไผ่มีสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลย  มันให้ให้ผมใจหาย

 

                “นายทำกับฉันขนาดนั้นแล้ว  จู่ๆจะมาพูดให้เรากับเป็นเหมือนเดิมอย่างนั้นเหรอ  มันจะไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยรึไง!”

 

                “ขอโทษ  นายจะด่าว่าฉันยังไงก็ได้แต่ฉันทนไม่ได้จริงๆที่นายเมินฉันแบบนี้”

 

                “เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้ใช่ไหม  ฉันจะได้ไปกินข้าวสักที”

 

                ไผ่พยายามจะเดินหนีไปจากผมแต่ผมไม่ยอมหรอก  ผมคว้ามือของไผ่เอาไว้  ผมไม่ยอมให้ไผ่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าพวกเราจะคุยกันให้รู้เรื่อง

 

                “ปล่อยฉันนะ”

 

                “ไม่  เรายังคุยกันไม่จบ  ไผ่จะเดินหนีฉันไปไม่ได้”

 

                “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเซนทั้งนั้น”

 

                “แต่ฉันมี  ให้โอกาสฉันได้ไหม  ฉันรับรองว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นกับนายอีก  พวกเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะนะ”

 

                “บอกว่าไม่ไง”

 

                “ไผ่...ฉันขอร้องล่ะ  ฉันทนไม่ได้จริงๆ  พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึ  เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วไม่ใช่เหรอ”

 

                “คนที่เพื่อนกัน  เขาไม่ทำแบบนั้นหรอก”

 

                “ตอนนั้นฉันโกรธไผ่ที่รักฉัน  ฉันคิดว่าที่ทิวปฎิเสธฉันก็เพราะไผ่  ฉันขอโทษ”

 

                “พอเถอะ  ปล่อยฉันไปได้แล้ว”

 

                ไผ่ไม่ยอมยกโทษให้ผมเลย  บทจะใจแข็งขึ้นมา  ก็แข็งเสียจนผมเริ่มหมดหวังเสียแล้ว  ผมคุกเข่าลงตรงหน้าไผ่

 

                “นายทำอะไรน่ะเซน”

 

                “ถ้านายไม่ยอมยกโทษให้ฉันก็จะคุกเข่าอยู่แบบนี้ล่ะ”

 

                “คิดเรอะว่าการที่นายทำแบบนี้  มันจะทำให้ฉันใจอ่อน”

 

                “ไม่ลองก็ไม่รู้นี่^^”

 

                ไผ่ถอนหายใจกับการกระทำของผม

 

                “อยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนงั้นเรอะ”

 

                “ใช่”

 

                “ก็ตามใจนายนะ  แต่ฉันไม่รับประกันหรอกว่าตัวฉันในตอนนี้มันจะรู้สึกเหมือนเดิมได้รึเปล่า”

 

                “จริงนะ  ไผ่พูดจริงนะ”

 

                “หิวแล้ว  ไปกินข้าวกันเถอะ”

 

            “^^”

 

                ในที่สุดไผ่ก็ยอมผมจนได้  ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถเหมือนเดิมได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์  แต่มันก็คงดีกว่าการที่จะต้องมาทนกับสิ่งที่แตกต่าง  แต่ว่า...ผมรู้ดี  ไผ่คงจะแค่พูดตกลงไปแบบนั้น  ความรู้สึกของไผ่มันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วนี่นา  พวกเราคงไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกเด็ดขาด  มันก็เป็นแค่การฝืนใจของไผ่ก็เท่านั้นเอง 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 :ling1:

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 32 P.3) [21/04/2013]
«ตอบ #78 เมื่อ21-04-2013 07:44:28 »

 :angry2: สมน้ำหน้า! อย่าให้อภัยมันนะไผ่!

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 32 P.3) [21/04/2013]
«ตอบ #79 เมื่อ21-04-2013 10:38:56 »

ไม่ได้อ่านหลายวัน   มาอ่านรอบนี้   ได้อ่านเยอะเลย  ^^


มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องที่ชอบอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Because you're my love. (ตอนที่ 32 P.3) [21/04/2013]
« ตอบ #79 เมื่อ: 21-04-2013 10:38:56 »





bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (ตอนที่ 33 P.3) [21/04/2013]
«ตอบ #80 เมื่อ25-04-2013 13:19:07 »

ตอนที่ 33  ลางร้ายเริ่มเคลื่อนไหว



แม้ในตอนนั้นผมจะบอกเป็นเชิงยกโทษให้เซนแล้วก็เถอะ  แต่ว่าผมก็ยังทำตัวห่างๆกับเซนอยู่ดี  ผมมักจะใจอ่อนกับเซนอยู่เรื่อยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว  ปากก็พูดไปอย่างนั้นแต่ผมนั้นรู้ดีว่า  ยังไงซะ  มันก็คงไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก  ความเป็นเพื่อนของพวกเราคงเหมือนเดิมอีกไม่ได้แล้ว  คิดว่าเซนเองก็คงจะรู้ตัว  เพียงแต่เขาคงยอมรับความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ก็เท่านั้นเอง  หากเป็นตัวผมเมื่อก่อน  ผมคงจะดีใจที่เซนมาขอโทษและรู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ  แต่ว่าความรู้สึกของผมมันได้เปลี่ยนไปเสียแล้ว  ตัวผมในตอนนี้น่ะ....ไม่ได้รู้สึกรักเซนอีกแล้ว
 

“ไผ่  กลับกันเถอะ^^”
 

เซนชวนผมกลับบ้าน  ไม่ไหวเลยแฮะ  ผมอยากกลับคนเดียวมากกว่า
 

“โทษทีนะ  วันนี้ขอฉันกลับคนเดียวได้ไหม”
 

เซนมีสีหน้าจ๋อยลงถนัดตา
 

“อืม  ไม่เป็นไร  ขอโทษนะ”
 

วันนี้เซนพูดขอโทษผมกี่รอบแล้วนะ  แต่ว่าช่างมันเถอะ  ผมไม่อยากคิดให้ปวดหัว
 

ตลอดเส้นทางที่กลับบ้าน  มันช่างน่าเบื่อสิ้นดี  ผมไม่ชินกับการเดินคนเดียวซะแล้ว  อยากเจอพี่แทมินจังเลย  ตอนนี้พี่แทมินกำลังทำอะไรอยู่นะ.....
 
               
 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ตลอดทางที่ไผ่กลับบ้าน  ไผ่คงไม่รู้ตัวหรอกว่าเซนนั้นเดินตามหลังไผ่อยู่ห่างๆ  ทำยังไงได้ล่ะ  ก็บ้านของพวกเขาอยู่ติดกันเลยนี่นา
 

แต่สิ่งที่ไผ่ได้มองข้ามไปในระหว่างทางที่กำลังใจลอยคิดถึงแทมินอยู่นั้น  แต่เซนกลับสังเกตุเห็นมันได้อย่างเต็มสองตา
 
                รถสปอร์ตปอร์เช่คันสีดำได้จอดอยู่ข้างทาง  ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่รถหรูๆแบบนี้จะมาจอดอยู่แถวๆบ้านของเขา  คนขับเป็นชายหนุ่มสวมแว่นกันแดดสีดำ  ทันทีที่ไผ่เดินผ่านรถคันนั้น  คนขับกับหันมองไผ่  แล้วแสยะยิ้มที่ชวนให้นึกถึงรอยยิ้มของผู้ร้ายในละครหลังข่าว  เอกสารสองถึงสามใบถูกหยิบขึ้นมาดู  และเมื่อเขาอ่านได้ไม่นานก็ปามันทิ้งลงข้างทางและขับรถออกไป
 

เซนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล  จึงเดินไปหยิบเอกสารที่ชายคนนั้นปาทิ้งขึ้นมาดู  และถึงกับพูดอะไรไม่ออก  เอกสารนั้นคือข้อมูลของไผ่!
 

“ไอ้บ้านั่นมันอะไรกัน”
 

รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย  ผู้ชายคนนั้นคือใครกัน  รู้จักกับไผ่อย่างนั้นเหรอ  แล้วมันต้องการอะไรกันแน่นะ  และที่เซนระแวงที่สุดก็คือรอยยิ้มนั่น  ยังไงซะนั่นก็คงไม่ใช่รอยยิ้มในทางที่ดีแน่ๆ  เห็นทีจะปล่อยให้ไผ่กลับคนเดียวไม่ได้เสียแล้วสิ
 
                +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 

เหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาทำงานพิเศษแต่ว่าผมไม่สนใจหรอก  ผมอยากเจอพี่แทมินมากกว่า  ผมรีบแต่งตัวและออกจากบ้านเพื่อตรงไปยังบ้านของพี่แทมิน  แต่แล้วก็เจอกับเซนที่ยืนรอผมอยู่หน้าบ้านอยู่แล้ว
 

“จะไปทำงานเหรอ”
 

“อืม”
 

“ฉันไปส่งนะ^^”
 

“ไม่เป็นไร  ฉันไปเองคนเดียวได้”
 

“งั้นเหรอ  ตามใจแล้วกัน”
 

ผมเดินผ่านเซนตรงไปยังบ้านของพี่แทมิน  ตอนนี้แม้จะเร็วขึ้นสักนาทีก็ยังดี  อยากเจอจังเลย
 

ทางด้านเซนถึงแม้ไผ่จะปฏิเสธ  แต่ว่าเขาคงปล่อยให้ไผ่ไปคนเดียวไม่ได้อีกแล้ว  จึงได้แอบตามไผ่อยู่ห่างๆ
 

จะตามไผ่ไปเรื่อยๆ  เขาจะไม่วางใจจนกว่าไผ่จะเดินเข้าไปในร้าน  ส่วนขากลับเขาก็ไม่จำเป็นต้องแอบตามแล้ว  เพราะมีคนทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว....
 

“ไผ่  มาแล้วเหรอ”
 

แทมินที่นั่งอยู่หน้าร้าน  รีบวิ่งเข้ามากอดไผ่ทันทีที่เห็นไผ่  ความรู้สึกจุกเข้าไปในอกนี่มันอะไรกันนะ  ไม่ชอบเลยที่ต้องเห็นภาพแบบนี้  แต่ว่าตัวเขานั้นจะทำอะไรได้ล่ะ  มีสิทธิ์ไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ  แล้วในฐานะอะไรกันล่ะ  แม้แต่ในฐานะเพื่อนยังเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ  เขาจึงเลือกที่จะหันหลังให้กลับภาพเหล่านั้น  และตรงกลับไปยังบ้านของตนเอง
 

“พี่แทมิน  ผมหายใจไม่ออก”
 

“อ่ะ  ขอโทษนะ”
 

แทมินคลายอ้อมกอดลงทันที  นี่เขาเผลอกอดเข้าไปเต็มแรงเลยรึเนี่ย  ทำไงได้ล่ะ  ก็คนมันคิดถึงนี่นา             
           

“ว่าแต่  วันนี้มาเร็วจังเลยนะ^^”
 
               
“ก็...ผมอยากเจอพี่แทมินนี่นา”
 
               
“O_o!!”
 
               
อะไรกัน  พี่แทมินชอบทำหน้าแบบนั้นทุกทีเลย  ผมพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ
 
               
พี่แทมินยิ้มให้ผมเหมือนอย่างที่เคยและจับมือพาผมเดินเข้าไปในร้านเพื่อเริ่มงานพิเศษของวันนี้  ผมอยากหยุดเวลาแห่งความสุขนี้เอาไว้จังเลย  ตัวผมที่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเซนอีกแล้ว  คงอีกไม่นานแล้วสินะ  อีกไม่นานผมก็จะ...ตอบสนองความรักของพี่แทมินได้เสียที
 
               
ภายหลังทำงานพิเศษเสร็จ  พี่แทมินก็จูงมือผมกลับบ้านเหมือนทุกวัน
 
               
 “ปีหน้า  ไผ่จะเอายังไงเหรอ”
 
               
“เรื่องอะไรรึครับ”
 
               
“ก็เรื่องมหาลัยไง  ไผ่จะเป็นหมอใช่ไหมล่ะ”
 
               
พี่แทมินยังจำได้สินะ  ที่ผมเคยบอก
 
               
“ผมคิดว่า  จะสอบตรงน่ะครับ  ไม่อยากวุ่นวายกับเเอดมิชชั่น”
 
               
“อืม  เอาตามที่ไผ่ชอบก็แล้วกัน  แล้วอย่าลืมไปตรวจเช็คข้อมูลการสอบทางเว็บของมหาลัยบ่อยๆก็แล้วกัน^^”
 
               
“ครับ”
 
               
ถึงบ้านแล้ว  แย่จัง  ไม่อยากให้ถึงเลย  ผมอยากจะอยู่กับพี่แทมินนานกว่านี้  จะเป็นไรไหมนะถ้าจะขออยู่ด้วยอีกครั้ง
 
               
“เอ่อ  พี่แทมิน”
 
               
“*-*???”
 
               
“ผมคิดว่า  ผมอยากอยู่กับพี่มากกว่าอยู่ที่บ้านครับ”
 
               
“^^”
 
               
พี่แทมินลูบหัวผมสองสามครั้งแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมเห็นอย่างถนัดตา
 
               
“จะดีเหรอ   ไม่กลัวฉันทำอะไรไผ่แล้วรึไง^^”
 
               
 “ง่า...แต่ว่า  ผมชอบนี่นา  เวลาอยู่กับพี่แทมิน...”
 
               
“ไผ่นี่น่ารักจริงๆเลยนะ”
 
               
ว่าแล้วพี่แทมินก็กอดผม
 
               
“ฉันดีใจนะที่ได้ยินไผ่พูดแบบนี้  แต่ฉันมาคิดๆดูแล้วนะ  ถ้าไผ่อยุ่บ้านฉัน  ฉันว่าไผ่ต้องไม่ได้อ่านหนังสือแน่ๆ”
 
               
“ทำไมล่ะครับ”
 
               
“^^”
 
               
“เอ่อ...เข้าใจแล้วครับ-*-  งั้นผมเข้าบ้านก่อนนะ”
 
               
แม้จะพูดแบบนั้นแต่พี่แทมินก็ไม่ยอมคลายแรงกอดลงเลย  ผมพยายามดันตัวออกแต่ก็ไร้ผม  พี่แทมินคิดจะทำอะไรกันแน่!!
 
               
“พี่แทมิน  ผมจะเข้าบ้านแล้ว”
 
               
“^^”
 
           
“=_=”
 
               
“จูบราตรีสวัสดิ์^^”
 
               
“- -^”
 
               
พี่แทมินโน้มตัวลงมาจูบผมที่ยืนนิ่งรอรับจูบของเขาอยู่ในอ้อมแขน  รสจูบของพี่แทมินมันทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม   และมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้ง  ถ้าหากความรักที่เขามอบให้ผมนั้นต้องหายไปแล้วล่ะก็  ผมคงทนไม่ได้แน่ๆที่จะอยู่โดยไม่มีมัน...
 
               
ผ้าม่านของหน้าต่างถูกปิดลง  เซนทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้น  เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาต้องเห็นภาพแบบนั้น  ความรู้สึกเจ็บใจและเจ็บอยู่ในอกนี่มันทำให้เขาหงุดหงิด  ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้เลย...
 
                ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
               
ณ  ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร  ตึกสูงระฟ้าของตระกูลหนึ่งที่หน้าฉากทำธุรกิจการค้ากับต่างประเทศแต่หลังฉากกลับเป็นศูนย์รวมสิ่งคาวโลกีและอิทธิพลมืด  ชั้นสูงสุดของตึกนั้นชายหนุ่มใส่ชุดสูทมาดนักธุรกิจคนเดียวกับที่เฝ้ามองไผ่จากในรถปอร์เช่กำลังมองลงมายังถนนและรถที่เคลื่อนตัวผ่านไปมา  แสงไฟในยามค่ำคืนของหมู่ตึกและรถที่เคลื่อนที่นั้นช่างดูแล้วน่าหลงใหลเหลือเกิน
 
               
“ขออนุญาตครับท่านประธาน”
 
               
ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำสนิทเปิดประตูเข้ามาและโค้งทำความเคารพ
 
               
“อะไรกัน  ผมคิดว่าผมบอกไปแล้วนะ  ว่าถ้าอยู่กันสองคนให้เรียกผมว่าเอฟ  ยังไงซะลุงก็เป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อผมนะ”
 
               
“ไม่ได้หรอกครับ  หากยังอยู่ในบริษัท  ฐานะทางการทำงานของท่านประธานก็สูงกว่าผม  หากผมเรียกท่านอย่างสนิทสนมมันจะดูไม่ดีและอาจเป็นที่ครหาของลพนักงานคนอื่นๆได้”
 
               
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจลุงก็แล้วกันนะ”
 
               
เอฟใช้มือซ้ายเสยผมที่ลงมาปรกหน้าของตัวเองอย่างสบายอารมณ์จนคนเป็นลุงสังเกตเห็นได้
 
           
“ท่านประธานดูอารมณ์ดีจังเลยนะครับ  แสดงว่าวันนี้ไปเจอเรื่องดีๆมาสินะ”
 
               
“ก็นิดหน่อย  วันนี้ฉันออกไปดูเจ้าหนูที่แทมินมันห่วงนักห่วงหนาคนนั้น  รสนิยมไม่เลวเลยเชี่ยวล่ะเจ้านั่นน่ะ  ทางเจ้าหนูนั่นก็น่ารักใช่เล่น  ตอนนี้ฉันกำลังคิดแผนแก้แค้นแทมินโดยใช้เจ้าหนูเป็นเหยื่ออยู่น่ะ  หึหึ”
 
               
“แทมิน....รึว่า  น้องชายของแทยองคนนั้น”
 
               
“ใช่  ไม่ได้เจอกันหกปี  ดูเปลี่ยนไปเยอะอยู่เหมือนกันนะ”
 
               
“นี่รึว่าท่านประธานจะ...”
 
               
เอฟล่ะจากภาพทิวทัศน์เบื้องล่างมานั่งลงบนเก้าอี้สีดำสนิท  แล้วหยิบเอาแก้วไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
 
               
“ผมว่าพอเถอะนะครับท่านประธาน  เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว”
 
               
“เรื่องนี้ลุงไม่ต้องมายุ่ง  ผมจัดการของผมเองได้  หากแทมินยังไม่ตาย  ความแค้นของผมมันก็ยังไม่จบ!”
 
               
“แต่...”
 
               
“แทยองผมก็ฆ่าไปแล้ว  ฆ่าแทมินอีกสักคนก็ไม่เห็นเป็นไรนี่  ยังไงตำรวจก็หาหลักฐานมาจับผมไม่ได้อยู่แล้ว”
 
               
 คนเป็นลุงไร้ซึ่งหนทางจะห้ามหลานของเขาได้เลย  ลองได้ตัดสินใจอะไรไปแล้วคงเป็นการยากที่จะห้ามเขาได้  ความแค้นของหลานคนนี้  หากแทมินคนนั้นไม่ตายไปซะมันก็คงไม่มีวันดับสินะ....
           
                -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 

@nunnan   แบบว่ามันแล้วแต่อารมณ์อ่ะค่ะ  แบบดึกแล้วยังไม่นอน มัวแต่มาส่องนิยายคนอื่นอยู่ (ถึงได้ดองของตัวเองไม่คืบหน้า)

@KARMI  ไม่ทันแล้วค่ะ  น้องไผ่เขาใจอ่อน เจอเซนอ้อนวอนหน่อยเดียวก็หายแล้ว กรรมของน้องไผ่เลย

@daboo  ดีใจที่มีคนอ่านนิยายของแคนแล้วมีความสุขค่ะ   ได้ฟังงี้ แคนเองก็มีความสุขเช่นกัน

 :mew1: :mew1: :mew1:

 
 

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 33 P.3) [25/04/2013]
«ตอบ #81 เมื่อ25-04-2013 16:03:08 »

ตัวละครตัวต่อไป นี่ใครกัน   ทำไมโหดร้ายจัง

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 34 P.3) [25/04/2013]
«ตอบ #82 เมื่อ28-04-2013 13:25:20 »

ตอนที่ 34  ความสุขของผมคือ...



คาบเรียนที่น่าเบื่อของวันนี้จบลงแล้ว  ผมเตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อกลับบ้านเหมือนปกติ
 
“กลับด้วยกันไหม ไผ่”
 
เซนเอ่ยเมื่อเห็นผมจัดกระเป๋า  ตั้งแต่วันนั้น  วันที่เซนขอโทษผมนี่ก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว  เซนเอ่ยชวนผมกลับบ้านทุกวันแต่ผมก็ยังปฏิเสธที่จะกลับกับเขา  พูดตรงๆเลยว่าผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ต้องกลับกับเซน  ความรู้สึกกลัวและไม่ไหววางใจในตัวเขายังคงมีอยู่  นอกจากไปทานอาหารกลางวันเท่านั้นที่ผมยังพอทำใจไปกับเขาได้
 
“วันนี้ฉันอยากกลับคนเดียวมากกว่า”
 
“งั้นเหรอ  ไม่เป็นไร  กลับบ้านดีๆล่ะ^^”
 
ถึงจะบอกปฏิเสธไปมันก็คงไม่ต่างอะไรอยู่ดี  ยังไงซะเซนก็ต้องกลับบ้านทางเดียวกับผม  ก็บ้านของพวกเราอยู่ใกล้กันนี่นา  มันก็เป็นแค่การรักษาระยะห่างเอาไว้ก็เท่านั้นเอง
 
ผมเดินออกมาจากห้องเรียนได้สักพัก  เซนก็เดินตามออกมา  ดูเหมือนว่าเซนเองก็คงจะรู้  ถึงได้เว้นระยะให้ผมเดินออกมาก่อนช่วงหนึ่ง
 
ทางด้านเซนที่เดินตามออกมาทีหลังพอเดินออกมาจากอาคารเรียนตามหลังไผ่อยู่ห่างๆ  เขาก็สังเกตเห็นว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ตรงประตูทางออกของโรงเรียน  แม้จะเห็นจากระยะไกลแต่เซนก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนั้นก็คือคนๆเดียวกับชายสวมแว่นกันแดดสีดำที่มองไผ่ในรถสปอร์ตปอร์เช่สีดำคันนั้น
 
เซนเปลี่ยนจากเดินมาเป็นวิ่งให้ทันไผ่ที่อยู่ข้างหน้า  จะให้ไผ่ไปคนเดียวได้ยังไงกัน  ยังไงไอ้หมอนั้นก็ไม่น่าไว้ใจ
 
“เดี๋ยวก่อน  ไผ่!”
 
ผมหยุดเดินตามเสียงเรียกของเซน และรอจนเขาวิ่งตามมาทัน
 
“มีอะไรเหรอ”
 
“ยังไงวันนี้ฉันว่าฉันกลับบ้านกับไผ่ด้วยดีกว่านะ^^”
 
“ทำไมล่ะ”
 
“จะว่าไงดีล่ะ  เอาเป็นว่าไว้ฉันจะอธิบายให้ฟังคราวหลังก็แล้วกัน”
 
ผมก็ไม่รู้ว่าเซนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่  ถ้าอย่างนั้นวันนี้ปล่อยไปสักครั้งก็แล้วกัน  ยังไงเขาก็คงไม่คิดจะทำอะไรผมแล้วล่ะมั้ง
 
ในขณะที่พวกผมเดินเกือบถึงประตู  ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาคนหนึ่งที่ผมเห็นว่าเขายืนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนตั้งแต่ตอนที่ผมเดินออกมานั้นก็มายืนขวางทางของพวกผมไว้  ว่าแต่คนๆนี้หน้าตาคุ้นๆจังเลย  ผมเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนรึเปล่านะ
 
“สวัสดี  เธอคือ ไผ่ สินะ”
 
ชายคนนั้นเอ่ยถาม
 
“ครับ  คุณคือ....”
 
ชายคนนั้นขำเล็กน้อย  แล้วยิ้มให้ผม
 
“จำไม่ได้สินะ  เราเคยเจอกันแล้วไง  ที่ตลาดตอนนั้นเธออยู่กับแทมิน”
 
ตอนนั้น...ที่ตลาด  รึว่าเขาคือ
 
“นึกออกแล้ว  คุณคือ  พี่เอฟใช่ไหม”
 
“ปิ๊งป่อง  ดีใจจังที่เธอยังจำได้^^”
 
บทสนทนาและท่าทางที่ดูปกติธรรมดานั้น  สำหรับเซนแล้วไม่ว่าจะดูยังไง  รอยยิ้มของคนชื่อเอฟนั่นก็เสแสร้งชัดๆ  ไม่มีความจริงใจอยู่ในรอยยิ้มนั่นเลยแม้สักนิด!!
 
“แล้วคุณ  มีธุระอะไรกับผมอย่างนั้นเหรอครับ”
 
“เรียกว่าพี่เอฟก็ได้  บังเอิญว่าฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับไผ่นิดหน่อยน่ะ”
 
“เรื่องอะไรรึครับ”

“คุยกันตรงนี้มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะ  ถ้ายังไง  ฉันว่าเราไปคุยกันที่ร้านค็อฟฟี่ช็อปข้างโรงเรียนของไผ่ดีไหม  จะได้หาอะไรดื่มไปด้วยเลย  ฉันเลี้ยงเอง  จะพาเพื่อนเธอมาด้วยก็ได้นะ”
 
บอกตรงๆเลยว่า  ผมไม่อยากจะไป  แต่ว่าผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะเป็นการเสียมารยาท  เขาอุตส่าชวนแล้วแถมยังมีเรื่องจะคุยกับเราอีก  แต่ว่าผมอยากไปเจอพี่แทมินเร็วๆนี่นา  จะปฏิเสธเขายังไงดีนะ
 
เซนเห็นท่าทางอึกอักของไผ่  ก็พอจะเดาออกแล้วว่าไผ่คิดอะไรอยู่  จึงออกปากปฏิเสธแทน
 
“ขอโทษนะครับ  แต่ว่าพวกเราต้องรีบกลับ  เดี๋ยวไผ่จะไปทำงานพิเศษไม่ทัน  ขอตัวก่อนนะครับ”
 
เซนจับแขนผมแล้วพาผมออกมาจากจุดนั้นทันที
 
เอฟที่มองตามหลังเด็กทั้งสองได้เผยรอยยิ้มเหี้ยมที่ทำให้เด็กนักเรียนคนอื่นซึ่งเดินผ่านไปผ่านมาพากันขนลุก
 
“ดูท่าว่าเพื่อนคนนั้นของไผ่จะระแวงฉันน่าดูเลยนะ  เอาเถอะ  ตอนนี้จะหนีไปไหนก็เชิญเลย  หนีไปให้ไกลล่ะ  ขืนจับได้เอาตอนนี้มันก็คงหมดสนุกเอาเสียก่อน  หึหึ”
 
เมื่อแน่ใจว่าออกห่างจากหน้าประตูโรงเรียนพอสมควรแล้วเซนก็ปล่อยแขนของผม
 
“ขอโทษนะไผ่  ที่จู่ๆก็พานายออกมา”
 
“ไม่เป็นไร  ฉันก็ไม่รู้จะหาทางปฏิเสธยังดี  ยังไงก็ขอบใจนายด้วยนะ”
 
“ไผ่  ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการยุ่งเรื่องส่วนตัวรึอะไรรึเปล่า  แต่ฉันคิดว่านายควรอยู่ห่างๆเจ้านั่นไว้จะดีกว่า  บอกกันตรงๆเลยว่าฉันไม่ไว้ใจ  ถ้ายังไงช่วงนี้เรากลับบ้านด้วยกันก่อนดีไหม”
 
“แล้วไอ้การที่ฉันต้องอยู่กับนายสองต่อสองมันน่าไว้ใจมากนักรึไง”
 
เซนถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ฟังคำพูดของผม
 
“ถ้าหากคนๆนั้นไม่น่าไว้ว่างใจ  แล้วนายล่ะ  ฉันสามารถไว้วางใจนายได้อย่างนั้นเหรอ  ไม่ว่าจะเป็นคนไหน  ฉันก็ไม่วางใจทั้งคู่นั่นแหล่ะ”
 
“ถ้าไผ่คิดแบบนั้น  ฉันก็คงว่าอะไรนายไม่ได้อยู่แล้ว  ก็ฉันเป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้เองนี่นา  เอาเป็นว่า  ไม่ว่านายจะว่ายังไง  ฉันก็จะกลับบ้านกับนาย  อาจจะเดินห่างๆกันหรือยังไงก็ได้  ตามแต่นายสะดวกก็แล้วกัน”
 
ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน  ความเอาแต่ใจของเซนก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  เอาเถอะ  ถ้ามันได้อย่างที่เซนพูดก็คงจะดี
 
ผู้ชายคนนั้น  ถ้าจำไม่ผิด  พี่แทมินเคยบอกว่าเขาเป็นต้นเหตุทำให้พี่แทยองต้องตาย  และพี่แทมินเองก็เกลียดคนๆนั้นมากด้วย  พี่แทมินไม่ใช่คนที่จะเกลียดใครโดยไม่มีสาเหตุ  แสดงว่าคนๆนั้นต้องเลวจริงๆ
 
“ไผ่  ถ้ายังไงวันนี้ให้ฉันไปส่งนายที่ที่ทำงานพิเศษด้วยเลยก็แล้วกัน  ตกลงไหม”
 
“ตามใจ”
 
และแล้วช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง  เวลาที่ผมจะได้เจอกับพี่แทมิน  ผมรีบวิ่งเข้าไปในร้านโดยที่ไม่สนใจเซนที่เดินตามหลังผมมา  ผมอยากวิ่งเข้าไปหาความสุขของผม  พี่แทมิน...
 
“ไผ่   วันนี้ก็มาเร็วอีกแล้วนะ”
 
พี่แทมินยิ้มให้ผม  รอยยิ้มที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมชอบรอยยิ้มนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
 
“พี่แทมิน  วันนี้ผมเจอคนๆนั้นด้วย”
 
“คนๆนั้น?  ใครเหรอไผ่”
 
“คนที่เอฟ  วันนี้เขามาคอยผมที่หน้าประตูโรงเรียน”
 
ทันทีที่ได้ยินชื่อของเอฟ  พี่แทมินก็หน้าซีดทันที  แล้วเขาก็สำรวจและจับตามตัวของผม
 
“มันไม่ได้ทำอะไรไผ่ใช่ไหม  บอกฉันมาสิ!”
 
“เปล่าครับ  ผมรีบออกมาก่อน”
 
“ไผ่  ระวังมันเอาไว้  ไอ้เลวนั่นมันจะทำอะไรไผ่บ้างก็ไม่รู้  แล้วนี่ทั้งตอนกลับมาบ้านกับตอนมาที่นี่มาคนเดียวเหรอ  มีใครแอบตามมามั้งรึเปล่า”
 
พี่แทมินรัวคำถามใส่ผม  คนๆนั้นน่ากลัวมากเลยอย่างนั้นเหรอ
 
“ผมมากับเซนครับ  เซนเองก็พูดเหมือนพี่แทมินเลยว่า  ไม่ไว้วางใจคนๆนั้น”
 
“แต่ถึงไผ่อยู่กับเซนฉันก็ไม่ไว้วางใจอยู่ดีนั่นล่ะ =_=”
 
“แต่ว่า...มันก็คงดีกว่าเอฟคนนั้นนะครับ”
 
“...อืม  มันก็ถูกอย่างที่ไผ่พูดนั่นแหล่ะ  แล้วตอนนี้ไผ่อยู่บ้านคนเดียวรึเปล่า”
 
“คนพวกนั้นก็อยู่ครับแต่สำหรับผม  มันเหมือนกับอยู่คนเดียวมากกว่า”
 
พี่แทมินทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง  และดูเหมือนจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว
 
“เอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้ไผ่มาอยู่ที่บ้านฉันดีกว่า  ไผ่จะได้อยู่ในสายตาฉันไง^^”
 
“ทีตอนผมขออยู่ดันไม่ให้อยู่ - -^”
 
“ง่า  ก็แหม  ฉันเป็นห่วงกลัวว่าไผ่จะไม่ได้อ่านหนังสือนี่นา”
 
“ยังไงก็ช่างมันเถอะครับ  แค่ได้อยู่กับพี่แทมินผมก็มีความสุขแล้วล่ะ”
 
“>///<”
 
ตั้งแต่วันนั้น  วันที่พี่แทมินสัญญาว่าจะเป็นความสุขให้ผม  พี่แทมินก็ไม่เคยทำให้ผมต้องเป็นทุกข์เลยสักครั้ง  ในตอนนี้ผมมีความสุขที่ได้เจอพี่แทมิน  มีความสุขที่ได้อยู่กับพี่แทมิน  และมีความสุขกับทุกๆอย่างที่พี่แทมินทำให้ผม  ก็ความสุขของผมน่ะ  คือพี่แทมินนี่นา...
 
 
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

@daboo  ตัวละครใหม่เป็นใคร  ทำไมถึงโหดร้าย  มีเฉลยในเรื่องแยกของเซนค่ะ (ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดอง)

 :z2: :z2:

janek_alo

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 34 P.3) [28/04/2013]
«ตอบ #83 เมื่อ01-05-2013 01:54:49 »

 :sad4: :sad4: :sad4:
ร้องไห้เลยที่เดียว
สงสารไผ่อ่ะ
ตอนงานวันเกิดอ่ะ  เป็นเรา  เราปัดเค้กทิ้ง  กระทืบซ้ำไปแล้ว
ฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้
พ่อแม่ใจร้ายมาก  ลูกหายไปคนยังไม่รู้เรื่องอีก

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [28/04/2013]
«ตอบ #84 เมื่อ02-05-2013 13:19:10 »

ตอนที่ 35 คนโง่ที่รู้ตัวเมื่อสาย (Zen talk)




คืนวันนี้ผมนั่งรอไผ่อยู่ที่ริมหน้าต่างเหมือนทุกๆคืนที่ผ่านมา  เฝ้ามองไผ่ที่เดินจูงมือกับแทมิน  พูดคุยเรื่องทั่วไป  มีการกอดและจูบส่งท้ายก่อนที่จะแยกจากกัน  และทุกๆครั้งที่ดูการกระทำของพวกเขาทั้งสอง  ผมจะรู้สึกเจ็บในอกและมีอารมณ์หงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
 
แต่แล้วคืนนี้มันก็ได้แตกต่างไปจากทุกๆคืน  เพราะว่าคืนนี้  ไผ่ไม่ได้กลับมา...
 
“นี่มันก็ปาเข้าไปจะตีหนึ่งแล้วนะ  ทำไมยังไม่กลับมาอีก  จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้”
 
ผมเริ่มนึกถึงสถานการณ์ความเป็นไปได้ต่างๆนาๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับไผ่
 
“รึว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกันแน่”
 
ผมเริ่มหยุดความคิดเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว...
 
“รึว่า  เจ้าคนชื่อเอฟมันทำอะไรไผ่!!”
 
ความกังวลต่างๆได้ถ่าโถมเข้ามาในความคิด  ไม่ได้การ  ต้องไปดูให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับไผ่  แน่นอนว่าแทมินก็คงไม่ปล่อยให้ไผ่กลับคนเดียวแน่ๆอยู่แล้ว
 
ผมรีบหยิบเสื้อแจ็คเก็ตที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาสวมคลุมทับชุดนอนและวิ่งออกจากบ้านทันที  ตลอดสองข้างทางช่างเงียบสงัดเสียจนน่าวังเวง  นี่ไผ่กับแทมินต้องเดินผ่านความมืดแบบนี้ทุกวันเลยรึไงกันนะ
 
เมื่อผมมาถึงที่ร้านที่ไผ่ทำงานพิเศษ  ก็พบว่าร้านนั้นได้ปิดเสียแล้ว  ถ้าเช่นนั้นแล้วไผ่ล่ะ  ไผ่อยู่ที่ไหนกัน  ผมเงยขึ้นไปยังชั้นสองก็พบว่ามีอยู่ห้องหนึ่งเปิดไฟสว่าง  ยังไงซะก็ต้องหาทางขึ้นไปดูให้แน่ใจก่อน  ผมหันซ้ายหันขวาก็ไปก็พบกับต้นไม้ข้างบ้านหากปีนมันขึ้นไปก็คงถึงชั้นสองได้ล่ะนะ
 
ผมเริ่มปีนป่ายต้นไม้ต้นนั้นอย่างระมัดระวังไม่ใช่เพราะกลัวกิ่งไม้จะพังหรอก  แต่ผมระวังไม่ให้มันเกิดเสียงต่างหาก  ถ้าเกิดใครมาได้ยินเข้าคงไม่พ้นโดนหาว่าเป็นขโมยแน่ๆ  ผมเหยียบลงบนหลังคามุงกระเบื้องของชั้นสอง  ดีนะที่ต้นไม้ต้นนี้อยู่ใกล้กับหน้าต่างห้องที่เปิดไฟเอาไว้  ผมเลยไม่ต้องลำบากเดินไกลนัก
 
“อา  อ้า”
 
เสียงเหมือนกับเสียงครางดังแว่วมาจากหน้าต่างของห้องๆนั้น  ทำให้ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก  เมื่อถึงหน้าต่างของห้องนั้น  ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก  ต้นเสียงที่ผมได้ยินนั้นมันมาจากคนสองคนที่กำลังเริงรักกันอยู่ภายในห้องและสองคนนั้นก็คือ  คนที่ผมรู้จักดี  ไผ่กับแทมิน....
 
“อื้อออ  พี่แทมิน  แรงอีกสิ  อ๊า”
 
ไม่ว่าจะมองยังไงก็คิดได้อย่างเดียวว่าไผ่เต็มใจ  แย่ล่ะสิ  เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว
 
แทมินโอบกอดไผ่เพื่อเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นตามคำขอของร่างเล็ก  เสียงหวานดังกึกก้องไปทั่วห้อง
 
“ไผ่  ฉันรักไผ่นะ”
 
“อ่ะ  ผมก็ชอบ..อึก  พี่...  ฮา  อ๊าาา”
 
ทั้งสองโอบกอดและจูบกันอย่างคนรักใคร่  นี่สินะคือความรู้สกของนาย  คนที่นายรักในตอนนี้ก็คือแทมินสินะ.....
 
ผมกลับไปยังทางเดิมที่เคยมา  ปีนต้นไม้ต้นเดิมกลับลงไปข้างล่าง  และเดินกลับไปบ้านอย่างเชื่องช้า
 
ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่ต้องมาที่นี่  และคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องแอบตามไผ่ไปโรงเรียนตอนเช้า
 
น้ำตาของผมมันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ทำไมผมถึงต้องร้องไห้ด้วยนะ  ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ  ไม่เข้าใจ....
 
ประตูห้องถูกปิดอย่างเงียบเชียบ  ผมทิ้งตัวลงบนเตียงอย่าคนหมดอะไรตายอยาก  ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ.....
 
‘นายนี่มัน  โง่ที่สุดในโลกเลยว่ะ  รู้ตัวไหม’
 
เสียงของแทมินและคำพูดในวันนั้นตามมาหลอกหลอนผมอีกแล้ว

‘หากแม้แต่ใจของนาย  นายยังไม่เข้าใจแล้วล่ะก็  นายก็คงเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกเลยล่ะ’
 
แม้แต่ทิวเองก็ยังพูดแบบนี้กับผมเลย  นี่ผมกำลังมองข้ามอะไรไปรึเปล่านะ  มองข้ามสิ่งที่สำคัญมากไปโดยที่ไม่รู้ตัว
 
ลองมานึกๆดูแล้ว  ทำไมผมถึงทนไม่ได้กับสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคย  ทำไมผมถึงต้องหงุดหงิดเมื่อเห็นไผ่อยู่กับแทมิน  แล้วทำไม...ผมถึงรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นไผ่กำลังนอนอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผมอย่างเต็มใจ  ทั้งๆที่ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยเมื่อไผ่โดนเพื่อนๆที่ชมรมบาสข่มขืน  ทำไม....
 
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
แสงอาทิตย์ของวันใหม่ได้มาเยือนแล้ว  แต่ผมยังไม่ได้หลับเลยแม้สักงีบ  ผมคิดอยู่แบบนี้ทั้งคืน  จนคิดว่าตอนนี้ผมได้คำตอบของคำถามแล้วล่ะ  ผมรักไผ่...
 
ตัวผมนั้นรักไผ่มาตลอด  ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  แต่ว่าความรู้สึกที่เรียกว่าเพื่อนนั้นเองที่ทำให้ผมทำเป็นมองไม่เห็นความรักนั้น  คิดอยู่ตลอดว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน  คิดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนในที่สุดผมก็คิดว่าความรักที่ผมมีให้ไผ่มันก็แค่ในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
 
แต่เมื่อได้เจอกับทิว  คนที่มีรูปร่างและหน้าตาเหมือนไผ่เกือบทุกประการ  ความรู้สึกที่ผมได้ซ่อนและพยายามมองข้ามมันไปนั้นก็ได้ประทุขึ้นมา  คิดไปเองว่าความรักที่มากมายนั้นมีให้ทิว  ทั้งหึงหวงและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ความรักนั้นมาครอบครอง  ทำร้ายได้แม้กระทั้งเพื่อน...ไม่สิ  คนที่ตัวเองแอบรักมาโดยตลอด
 
คนโง่ที่สุดในโลก...
               
....
 
ในที่สุดผมก็เข้าใจคำพูดของพวกเขาแล้ว...
 
...
 
คนโง่คนนั้นก็คือผมเอง...
 
...
 
หากผมไม่โกหกตัวเอง  หากผมยอมรับความรู้สึกของตัว  เรื่องทุกอย่างมันก็คงไม่กลายเป็นแบบนี้...
 
                ...
               
หยาดน้ำตามากมายหลั่งไหลอย่างไม่ขาด
 
                ...
 
ถึงจะมารู้ตัวเอาตอนนี้  แต่มันก็...
 
...
 
สายเกินไปแล้ว...
 
...
 
คนที่ไผ่รักไม่ใช่ผมอีกต่อไปแล้ว...
 
 
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

@janek_alo  ถึงขั้นปัดเค้กกันเลยอ่ะ  ไผ่ไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ  เพราะไผ่เป็นประเภทใจอ่อนง่าย  และชอบเก็บทุกอย่างไว้ในใจค่ะ


 :katai4: :katai4: :katai4:

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [02/05/2013]
«ตอบ #85 เมื่อ02-05-2013 16:06:30 »

อ้ากกกกกกก  พึ่งตามิ่านฮ่าาา   ชอบอ้ะ แต่อยากให้พี่น้องรักกันจัว  ขอฝากด้วยน้ะคนเขียน  คือแบบรับไม่ค่อยอยากเห็นเลยฮ่า คือมันรู้สึกเหมือนตัวเองเกิน แต่เราไม่มีแฝดนะแต่แบบ พ่อแม่ไม่สนใจเราเหมือนไผ่เยยยย
 แล้ะ อินมากกกก

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [02/05/2013]
«ตอบ #86 เมื่อ02-05-2013 16:39:02 »

อ่านแล้วไม่รู้สึกสงสารเซนเลยซักกะจิ๊ดเดียว

แบบว่ามันโหดร้ายเกินไปอ่ะ พาเพื่อนมาทำแบบนั้น...เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีแท้ๆ T^T

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [02/05/2013]
«ตอบ #87 เมื่อ02-05-2013 19:33:18 »

เชนโคตรชั่ว กรรมตามทันและต้องมากกว่านี้

อ่านแล้วของขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2013 20:21:03 โดย loveaaa_somsak »

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [02/05/2013]
«ตอบ #88 เมื่อ02-05-2013 19:39:25 »

 :angry2: พี่เอฟบ้า!!! อย่าทำอะไรไผ่นะ!!!

moobaifern

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! ตอนที่ 35 P.3) [02/05/2013]
«ตอบ #89 เมื่อ02-05-2013 21:46:45 »

ไอ้พี่เอฟบ้าอย่าทำร้ายน้องไผ่นะ :m31:
เซนเค้าไม่ยกน้องไผ่ให้แล้วอย่า :pig4:มาง้อนะชิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด