เรื่องสั้น...เลี้ยงเด็ก #6“อาหนึ่ง”
“ครับ” หนึ่งขานรับหลานรักที่นั่งปั่นจิ้มปั่นเจ๋อเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ข้างๆเขา
วันนี้เขาพาเจ้าตัวแสบไปของใช้ที่บ้านเจ้าตัว ขากลับก็แวะซื้อขนมไปฝากเด็กน้อยอีกคน แต่ที่พิเศษคือ เจ้าโชกุลน้อยมีของมาฝากพี่ชายสุดที่รักของเชี่ยงชุนด้วย แต่นอกจากเจ้าตัวแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าในกล่องใบเล็กๆนั่นมีอะไรอยู่ พอขอดูเจ้าโชกุนน้อยก็ไม่ยอมให้ดู บอกว่าจะให้เชี่ยงชุนดูคนเดียว
“อาหนึ่งว่า ชุนจ๋าจะชอบไหม” เด็กน้อยถามเสียงใสพลางชูกล่องใบเล็กให้อาหนึ่งดู
เป็นคำถามที่ตอบอยาก เพราะหนึ่งเองก็ไม่รู้ว่าในกล่องนั่นมันคืออะไร จะไปบอกได้ยังไงว่าเชี่ยงชุนจะชอบหรือไม่
หวังว่า...คงไม่ใช่อะไรที่พิเรนณ์หรอกนะ หลานเขายิ่งคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องอยู่ =_=;
“คงชอบมั่งครับ” แต่ก็นั่นล่ะ เขาไม่อยากจะทำลายความหวังของหลานรัก จึงได้ตอบแบบกลางๆไป
ก็ถ้าไม่ไม่ใช่ของแปลกๆ เชี่ยงชุนก็คงชอบนั่นแหละ
“ดีใจจัง”
แล้วเด็กน้อยโชกุนก็นั่งยิ้มอย่างมีความสุขไปตลอดทางที่กลับบ้านของอาหน่มทั้งสาม พอมาถึงที่บ้านเด็กน้อยก็เปิดประตูรถก่อนปีนลงจากรถด้วยความทุลักทุเลเพราะขาไม่ถึง แต่ก็ไม่ยอมให้อาหนึ่งช่วยเพราะกลัวจะช้า อยากจะเอาของขวัญไปให้ชุนจ๋าเร็วๆ
“ชุนจ๋า~~” เสียงเล็กๆนำไปก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าถึงตัวบ้าน แต่พอผ่านพ้นประตูในบ้าน เด็กน้อยก็หยุดยืนพลางเอียงคอทำหน้าสงสัย หนึ่งที่เดินตามมาทีหลังเห็นโชกุนหยุดยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้าไปในบ้านก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เป็นอะไรครับโชกุน ไม่เข้าบ้านเหรอ”
“อาหนึ่ง”
“ครับ”
“เราไปกันแปบเดียวเอง ดูสิ นอนตายกันหมดบ้านเลย” นิ้วป้อมชี้ให้อาสุดที่รักดูกองมนุษย์สามคนที่นอนกันเกลื่อนพื้นบ้าน
“โชกุนครับ พี่เขาไม่ได้ตาย แค่หลับไปเฉยๆ -_-;” หนึ่งไขข้อข้องใจให้กับโชกุน สมองน้อยๆนั่นถูกยัดไว้ด้วยอะไรนะ ถึงได้คิดอะไรแตกต่างจากเด็กธรรมดาเหลือเกิน
“โชคดีจริงๆที่ยังมีชีวิตอยู่” โชกุลพึมพำก่อนจะเดินเข้าไปหาเชี่ยงชุนที่นอนอยู่บนท้องของสอง
โชกุนหลังเลอยุ่ว่าจะปลุกพี่ชายสุดที่รักดีไหม เพราะทุกครั้งที่ถูกปลุกเชี่ยงชุนร้องไห้ตลอดเลย ไม่อยากให้เชี่ยงชุนร้องไห้ อย่าปลุกดีกว่า
แต่...ถ้าไม่ปลุกชุนจ๋าจะเห็นของขวัญได้ยังไงล่ะ
ว่าแล้วเด็กน้อยก็หันไปหาอาหนึ่ง มองด้วยแววตาออดอ้อน
“ไม่ล่ะ อาไม่อยากเสี่ยง” ทำไมหนึ่งจะดูไม่ออกว่าหลานรักที่ฉลาดเกินวัยต้องการอะไร แต่การที่เขาต้องปลุกเชี่ยงชุนนั้นมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
ถ้าอยากจะปลุกก็ปลุกเองเถอะ
โชกุนเมื่อเห็นว่าอาหนึ่งไม่ช่วยจึงลงมือปลุกเชี่ยงชุนเอง เป็นไงเป็นกัน!
“ชุนจ๋า ตื่นนนนนน!”
“....”นิ่งสนิท
“ชุนจ๋า!!! ตื่น!!!”
เมื่อไม่ได้ผลก็เพิ่มวอลุ่มของความดังเข้าไปอีก สองและสามที่นอนอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น แต่บุคคลที่ถูกเรียกกลับยังนอนไม่ไหวติ่ง
นี่ชุนจ๋าของเขาคงไม่ได้ตายไปแล้วหรอกนะ!
ว่าแล้วเด็กน้อยก็ตะโกนเรียกอีกรอบอย่างตื่นตกหนกเพราะกลัวว่าเชี่ยงชุนจะเป็นอะไร
“ชุนจ๋า ตื่นเดี๋ยวนี้!!!!!” ก้มหน้าลงไปตะโกนใส่หูเด็กหนุ่มเต็มกำลัง
พลั้ก!
“โอ๊ย!”
เต็มๆ
1-0!
โชกุนหน้าทิ่มลงไปกับพื้นเพราะโดนแขนเชี่ยงชุนฟาดเข้าที่คอเต็มรักเพราะสพดุ้งตกใจกันเสียงที่ดังแทรกเข้ามาในหู เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งมองซ้ายมองขวา จังหวะที่กำลังจะร้องไห้เพราะถูกกวนเวลานอนก็ได้ยินเสียงหัวเราะลั่นบ้านของฮียๆทั้งสามที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“น็อคไปเลยไอ้โชกุนเอ้ย ฮ่าๆ” สามกุมท้องตัวเองขำเสียงดังลั่นบ้าน
“เป็นไงล่ะไอ้หลานรัก ถึงกับมึนเลยดิ” สองมองหลานที่ค่อยๆพยุงตัวขึ้น ท่าทางจะมึนจากการโดนฟาด
เมื่อกี้...อะไรกันนะ? เด็กน้อยคิดแบบเบลอๆ
เชี่ยงชุนลืมร้องไห้กระทันหัน กำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น มองเหลือบไปมองเด็กที่พยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นก็เกิดอาการงง
แล้วเมื่อกี้มันเสียงอะไร...ฝันไปเหรอ?
“หึหึ ถึงกับนิ่ง นิ่งไปเลยไอ้ตัวแสบ” หนึ่งเดินมาขยี้หัวหลานรักที่ยังมึนอยู่
เชี่ยงชุนไม่ได้สนใจ เมื่อตื่นแล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คนปลุกที่โดนฟาดนั่นหน้ามึนอยู่อย่างนั่นไม่คิดจะสนใจ
เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลง เด็กน้อยหายจากอาการมึนก็เริ่มกลับมาซ่าได้ตามเดิม
“ชุนจ๋า โชกุนมีของมาให้” เด็กน้อยถือกล่องใบเล็กเดินไปหาเชี่ยงชุนที่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน
เชี่ยงชุนมองกล่องอย่างหวาดระแวง มันอะไรอีกล่ะ ไอ้เด็กน้อยนี่จะแกล้งอะไรเขาอีก
“อะไร” เชี่ยงชุนถาม แต่มือก็ยังไม่ยื่นไปรับ
“ของขวัญ” เด็กน้อยตอบ แววตาเปรี่ยมประการไปด้วยความหวัง พอเห็นแบบนั้นเชี่ยงชุนก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะที่ผ่านมาสามสี่วันโชกุนก็เป็นเด็กดีขึ้นเยอะ แต่ในบางทีก็ยังอ้อนตีนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
“เปิดเลยๆ” โชกุนเชี่ยให้เชี่งชุนเปิดกล่อง ลุ้นยิ่งกว่าคนได้รับอีก
เชี่ยงชุนมองกล่องในมือก่อนจะกลั้นใจเปิด ทำไมต้องกลั้นใจ เพราะเขากลัวว่าในนี่จะเป็นอะไรที่ประหลาดๆนะสิ ไอ้เด็กนี่ยิ่งเกินมนุษย์มนาอยู่
มือเรียวค่อยๆแกะฝากล่องออก พอเห็นของในกล่องเท่านั้นแหละ ตาที่โตอยู่แล้วก็ยิ่งโตเข้าไปใหญ่
“อ๊ากกกกกก!”
ฟิ้ววววววว
ตุ้บ!
กล่องเล็กนั่นล่วงลงพื้นส่วนเชี่ยงชุนหนีเข้าบ้านไปด้วยความไวแสง ส่วนเจ้าเด็กน้อยโชกุนก็ช็อคไปก่อนจะ...
“จ๋อมแจ๋ม!”
“เกิดอะไรขึ้นเชี่ยงชุน” สามถามทันทีเมื่อเชี่ยงวิ่งเข้ามากอดเขาแน่นพลางกระโดดร้องโวยวายไปมา
“ใครเป็นอะไร!” สองถามด้วยความกังวล หนึ่งที่อยู่บนบ้านรีบวิ่งลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น วันไหมไม่มีเรื่องคงไม่ใช่บ้านหลังนี้อีกแล้ว
“จิ้งจกๆๆ!!” เชี่ยงชุนโวยวายไม่หยุด มือก็ชี้ไปที่ประตู
สามลูบหลังปลอบเชี่ยงชุนที่ตอนนี้ตกอกตกใจขวัญกระเจิดกระเจิง สองทำท่าจะเดินออกไปดูนอกบ้านว่าจิ้งจกมาได้ยังไง เพราะเขารู้ว่าเชี่ยงชุนเกลียดจิ้งจกยังกับอะไรดี ไม่มีทางที่บ้านเขาจะมีได้เพราะได้กำจัดไปหมดแล้ว
แต่ยังไม่ทันที่จะออกนอกบ้านร่างของโชกุนก็เดินเข้ามาพลางทำหน้ายู่ ราวกับไม่พอใจ สองเห็นหน้าหลานที่ดูแปลกไปจากเดิมาทั้งสองก็หยุดชะงักตาก็มองไปที่มือป้อมที่กำอะไรสักอย่างไว
หวังว่าในมือนั่งคงไม่ใช่...
“ชุนจ๋า ทิ้งของขวัญทำไม”
มือน้อยๆค่อยแบออก ปรากฏให้เห็นร่างของสัตว์สี่ขาที่เกาะบนมือป้อนนั่นนิ่ง
“อ๊ากกกก เอามันออกไปๆ” เชี่ยงชุนดิ้นเร้าๆกอดสามแน่นกว่าเดิม
“โชกุน เอามันไปทิ้ง!” สองสั่งทำท่าจะเข้าไปแย่งจิ้งจกน้อยในมือ
“ไม่ได้นะ! ของขวัญของชุนจ๋า” โชกุนเบี่ยงตัวหนี
“ไม่เอาเว้ย เอามันออกปายยยยย! ฮืออ” เชี่ยงชุนร้องไห้วิ่งเข้าไปหาหนึ่งที่มองสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง หนึ่งกอดเชี่ยงชุนไว้แน่น ส่วนสามและสองก็ช่วยกันกันไม่ให้โชกุนที่มีสัตว์สี่ขาเข้าใกล้เชี่ยงชุน
“โชกุน มันสกปรก เอาไปทิ้งเร็ว” สามพยายามไกล่เกลี่ย
“นี่มันน้องจ๋อมแจ๋ม ทิ้งไม่ได้” โชกุนส่ายหน้าเป็นพัลวัน
จ๋อมแจ๋ม?
“สัตว์เลี้ยงของโชกุนเอง” เด็กน้อยไขข้อข้องใจให้อาๆทั้งหลาย
“ฮือออ เอามันออกไป ไม่เอา จ๋อมแจ๋มอะไร ไม่เอา ฮืออ”
เด็กบ้าอะไรเลี้ยงจิ้งจก!
“เชี่ยงชุนไม่อยากได้หรอก” เด็กน้อยถามเสียงสั่น รู้สึกเสียใจที่เชี่ยงชุนไม่อยากได้ของขวัญจากเขา
“ไม่เอา!”
ฮืออ ใครจะไปอยากได้กันของพรรค์นั่น!
“ฮึก ฮือ” โชกุนเดินออกจากบ้าน จังหวะนั่นเอง....
แปะ!
“เฮ้ย!”
“จ๋อมแจ๋ม!”
เจ้าจิ้งจกน้อยกลอยใจกระโดดลงจากมือของโชกุนก่อนจะวิ่งพล่านไปทั่วบ้าน เมื่อนั้นบ้านทั้งบ้านก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย
“ว๊ากกกกก”
“อ๊ากกกกกก”
“จ๋อมแจ๋ม!!!!”
กว่าเหตุการณ์จะสงบลง กว่าจะจับตัวการที่ชื่อว่า ‘จ๋อมแจ๋ม’ ได้ เล่นเอาหนึ่ง สองและสามวิ่งวั่งทั่วบ้าน ส่วนเชี่ยงชุนวิ่งหนีเข้าไปหลบในห้องเรียบร้อย และคนสุดท้าย...
“ฮึก ฮือออ มันตายแล้ว น้องจ๋อมแจ๋มตายแล้ว อาสองฆ่ามัน โชกุลจะฟ้องตำรวจ ฮือออ”
เด็กน้อยโชกุนนั่งหลั่งน้ำตาแห่งความเศร้าโศกอยู่ที่หน้าหลุ่มศพที่สามเป็นคนขุนแล้วเอาร่างที่ไร้วิญญานของเจ้าจ๋อมแจ๋มลงไปฟัง
สองได้แต่ถอนหายใจ ถ้าตำเรวจจะมาจับเขาข้อหาฆ่าจริงจกล่ะนะ เชิญเถอะ เขายอม
“ไม่ร้องนะโชกุน” หนึ่งกอดหลานรักแน่น แต่ในใจไม่ได้รู้สึกสงสารเจ้าจ๋อมแจ๋มเลยแม้แต่น้อย
“อาหนึ่ง หนูเลี้ยงมันมา ฮึก”
สามอยากจะปลอบว่าเดี๋ยวค่อยหามาเลี้ยงใหม่ก็ไม่ได้ ใครเขาบ้าเลี้ยงจิ้งจกกัน คงจะมีแต่หลานของเขาเท่านั้นแหละ
อาทั้งสามได้แต่ยืนมองเด็กน้อยร้องไห้ไวอาลัยให้กับสัตว์เลี้ยง(?)แบบปลงตก
“เชี่ยงชุนใจร้าย” เด็กน้อยต่อว่าต่อขานคนเป็นพี่
“เงียบไปไอ้เด็กบ้าหมีโคอาล่าเลี้ยงจิ้งจก!!!” เชี่ยงชุนยังตกใจไม่หาย ได้แต่ค้อนเจ้าเด็กน้อย ดีได้ไม่กี่วัน สุดท้ายก็หาเรื่องมาให้อีกจนได้ ถ้าหัวใจวายตายไปจะทำยังไง
“โชกุนตั้งใจให้เลยนะ” เจ้าเด็กน้อยังบ่นไม่เลิก มือก็ตักข้าวเข้าปากด้วยอารมณ์ขึงขึง
“ซึ่งใจมาก น้ำตาจะไหล!”
ไม่จะล่ะ...เชี่ยงชุนเป่าปี่ไปเรียบร้อยล่ะ ยิ่งคิดยิ่งขนลุก
“อาหนึ่ง” โชกุนหันไปเรียกอาหนึ่งที่นั่งกินข้าวเงียบๆ ได้แค่ฟังเด็กสองคนเถียงกันไปมา
“ครับ?”
“คืนนี้โชกุนนอนด้วย” เด็กน้อยบอก
“ทำไมล่ะ ไม่นอนกับชุนจ๋าเหรอ” หนึ่งถาม มองหน้าสองและสาม สองคนนั้นได้แต่ยักไหล่ไม่สนใจ
“งอน ไม่นอนกับชุนจ๋าหรอก” โชกุนสะบัดหน้าไปมองเชี่ยงชุนอย่างโกรธๆ
“อยากให้นอนด้วยตายล่ะ” เชี่ยงชุนสวนกลับทันควัน
“ชิ”
“จิ๊” เชี่ยงชุนเดินออกไปจากห้องครัว คุยกับไอ้เด็กบ้านี่แล้วปวดประสาท ไปเล่นกับเจ้าชูก้าร์ไกรเดอร์ดีกว่า สัตว์เลี้ยงเขาน่ารักกว่าไอ้เจ้าจ๋อมแจ๋มนั่นเป็นไหนๆ
บรื้ย! แค่นึกถึงก็ขนลุก
อาทั้งสามได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ไอ้ทีแรกมันก็สนุกหรอกนะที่มีเด็กมาอยู่ในบ้านสร้างสีสันในชีวิต แต่ตอนนี้สีสันมันจะกลายเป็นสีเลือดแทนหรือเปล่าไม่รู้ ทั้งสามได้แต่ภาวนาให้พ่อแม่ของเด็กสองคนนี้มารับกลับบ้านไปอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะเส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนวัยอันควร
คืนนั้นเชี่ยงชุนนอนคนเดียว เด็กหนุ่มยิ้มกริ่มกลิ้งไปทั่วเตียงด้วยความปิติยินดีที่คืนนี้ไม่ต้องแบ่งที่นอนกับไอ้เด็กน้อยนั่น คืนนี้แหละ เขาจะนอนหลับฝันดี แต่เอาเข้าจริงเชี่ยงชุนกลับนอนไม่หลับ สมองคิดไปถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาจำแววตาของโชกุนตอนที่ยื่นกล่องนั่นให้เขาได้ มันเต็มไปด้วยความหวัง...หวังว่าเขาจะชอบของขวัญนั่น
กับคำพูดก่อนที่เขาจะเข้านอน
‘อาสาม พรุ่งนี้เราไปใส่บาตรให้จ๋อมแจ๋มกันนะ’
‘หืม อะไรนะครับ’ สองถามเพราะไม่คิดว่าหลานรักจะพูดอะไรแบบนั้น
‘จ๋อมแจ๋มตายแล้ว เราไปทำบุญให้มันกันนะ’ พูดแล้วก็น้ำตาไหลลงมาอย่างน่าสงสาร สามจึงดึงเจ้าเด็กน้อยมากอด ตาก็มองมาที่เชี่ยงชุนที่นั่งนิ่ง
‘โชกุนเสียใจ ฮืออ'
ตอนที่เขาเห็นเจ้าชูก้าร์ไกรเดอร์สัตว์เลี้ยงแสนรักสลบไป เขาเสียใจมากๆ แล้วกับโชกุนที่สัตว์เลี้ยง(?)แสนรักตายไป คงเสียใจไม่แพ้กัน ถ้าตัดสิ่งที่เรียกว่า ‘จิ้งจก’ ออกไป โชกุนถึงเอาของรักของตัวเองมาให้เขา ถ้าเป็นเขาคงไม่ทำแบบนั้นแน่
แน่ล่ะ ของรักของหวงใครจะให้
แต่เพราะมันเป็นจิ้งจกไง...ใครจะเอา!
“โอ๊ยยย นอนไม่หลับ” เด็กหนุ่มนอนครวญครางอยู่บนที่นอน
ก็ปกติจะต้องมีคนมานอนกอดที่นา แล้วก็มีคนให้กอดด้วย พอตอนนี้...มันรู้สึกว่างเปล่าแบบแปลกๆ
ในที่สุดเชี่ยงชุนก็เดินออกจากห้องไปเคาะประดูห้องเฮียหนึ่ง สักพักหนึ่งก็เปิดประตูก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัยที่เชี่ยงชุนมาหาเขาดึกดื่นป่านนี้
“มีอะไรครับ”
“ผมนอนไม่หลับ” เชี่ยงชุนพูดเสียงอ่อย
“หืม อะไรนะ”
“ผมนอนไม่หลับ ไม่มีโชกุน..ผมนอนไม่หลับ”
สิ้นคำของเชี่ยงชุนหนึ่งก็ยิ้มออกมาก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องอุ้มเจ้าเด็กน้อยที่นอนหลับไปแล้ว แต่ก่อนจะหลับยังพูดถึงชุนจ๋าไม่หยุด
ภายในห้องของเชี่ยงชุน ที่ตอนนี้โชกุนได้มานอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เชี่ยงชุนมองโชกุนก่อนจะเอานิ้มจิ้มแก้มยุ้ยๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“อืม ชุนจ๋า” ขนาดละเมอเด็กน้อยยังละเมออกมาเป็นชื่อของเชี่ยงชุนเลย
“นอนซะ” เชี่ยงชุนลูบหัวของโชกุนเบาๆ เด็กน้อยกระเถิบตัวเข้ามากอดเชี่ยงชุนแน่นเท่าที่แขนสั้นๆจะกอดได้
“กอดหน่อยชุนจ๋า”

================================
เดี๋ยวริริจะไปบวชชีพราหมณ์กับที่บ้าน คงหายไปสักอาทิตย์ แล้วจะเอาบุญมาฝากนะคะ ปิดเทอมทั้งทีของไปทำบุญยาวๆหน่อย ^^
