เรื่องสั้น...เลี้ยงเด็ก #8“ยกออกไปวางข้างนอกก่อนเลยครับ กินก่อนได้เลยนะ” สามหันมาบอกกับเชี่ยงชุนให้ยกจานแพนเค้กออกไปที่ห้องนั่งเล่น วันนี้วันอาทิตย์ที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เลยมีปาร์ตี้ในบ้านเล็กๆ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่นั่งเล่นเกมส์และทำอะไรอร่อยๆกินเพียงแค่นั้น
“ครับ” เชี่ยงชุนค่อยๆยกจากออกจากครัวด้วยความระมัดระวัง
ยกหนอ ย่องหนอ ย่างหนอ...ยกหนอ ย่องหนอ ย่างหนอ...อืม ยกหนอ ย่องหนอ ยะ...ไม่ยงไม่ย่างมันล่ะ ช้าเกิน! - -; เดินเลยล่ะกัน
“อะไรอ่ะชุนจ๋า”
พอเอาจานแพนเค้กวางที่โต๊ะโซฟา ไอ้เด็กน้อยโชกุนก็พุ่งทะยานเข้ามาจ้องมองทันที
อย่าเอาหน้าเข้าไปใกล้มาก เดี๋ยวน้ำลายไหลลงไป!
“แพนเค้ก กินไหม” เชี่ยงชุนเอ่ยชวน เพราะสามทำให้เยอะมาก แต่หนึ่งกับสองไม่กินแพนเค้ก แน่นอนว่าแพนเค้กจานนี้สำหรับสองแสบของบ้านโดยเฉพาะ
“อร่อยไหม”
“อร่อยสิ” พูดแล้วก็ตัดแพนเค้กเข้าไป สีหน้าเต็มเปรี่ยมไปด้วยความสุข ทำให้อาทั้งสองคนที่มองดูสถานการณ์เงียบๆฉียกยิ้มออกมาให้กับความน่ารักของเด็กน้อยทั้งสอง
“อร่อยก็เก็บไว้กินเองสิ”
อ้าว..กวนตีนนี่ =_=^
“งั้นอย่างกินนะ” เชี่ยงชุนชี้หน้าคาดโทศโชกุน โชกุนหัวเราะคิดคักก่อนจะกระดืบๆไปเกาะขาเชี่ยงชุนก่อนจะ...
แผล็บ
เอาอีกแล้ว...หน้าแข่งของเขาต้องมีมลทินเพราะไอ้หมีโคอาล่านี่อีกแล้วเหรอนี่ แล้วดูมัน ยังจะมายิ้มให้เขาอีก โมโหนะโมโห!
“กินเข้าไปเลยไอ้เด็กบ้า” เชี่ยงชุนหยิบแพนเค้กยัดใส่ปากโชกุน ปากจะได้ไม่ว่างมาเลียขาของเขาอีก
“อืม อร่อยจริงๆด้วย”
โชกุนเลียบแบบท่าทางเปรี่ยมสุขที่เชี่ยงชุนทำก่อนหน้า สร้างความหมั่นไส้ให้เด็กตัวโตกว่าอย่างสุดซึ้ง
“มาแล้วๆ อ่ะเฮีย ลองชิมดู” สามส่งเสียงมาก่อนตัวก่อนจะวางจานกลับแกล้มเพื่อตั้งวงเหล้าเบาๆยามบ่าย บ้านนี่ไม่มีหรอกไอ้จิบน้ำชายามบ่าย มันต้องจิบเหล้าเท่านั้น!
“อา...”เด็กน้อยเรียกอาทั้งสามเสียงเบา จากที่สนใจเกมส์ก็ต้องหันมาสนใจหลานตัวน้อยแทน
“ว่าไงครับโชกุน” หนึ่งขานรับหลายรักที่ทำหน้ายุ่งไม่สมกับวัย ที่จริงแล้วอะไรๆที่เด็กชื่อว่าโชกุนทำมันก็ไม่เคยสมวัยอยู่แล้ว พูดให้ถูกคือไม่สมกับที่คนธรรมดาๆเขาทำกัน
“อาจะต้องตายแน่ๆถ้ายังกินเหล้าพวกนี่”
“...!”
อึ้งแดกไปตามๆกัน
“เป็นไงล่ะพี่หนึ่งพี่สอง เสียหมาเลย เก็บๆ” สามตั้งตัวได้ก่อนจึงโยนความผิดไปให้พี่ชายทั้งสองคน จากนั้นทั้งสามคนก็รีบเก็บวงเหล้าทันที เปลี่ยนไปยกนมกันมาดื่มแทน
“กินนี่สิอา มีประโยชน์”
“หืม” อาทั้งสามมองของในมือของหลานตัวน้อย
อมยิ้ม...
มีประโยชน์...
บ้าไปแล้ว!
“ไม่ต้องเกรงใจนะอา ตามสบาย” โชกุนส่งอมยิ้มให้อาทั้งสามคนละอัน ก่อนจะเหลือหนึ่งอัน โชกุนเดินตรงไปหาเชี่ยงชุนที่ตั้งหน้าตั้งตากินแพนเค้กไม่สนใจใคร
“เชี่ยงชุน กินไหม” โชกุนยื่นอมยิ้มไปตรงหน้าเชี่ยงชุน เชี่ยงชุนเงยหน้าขึ้นมองของที่ยื่นมาตรงหน้า
“เคยกินแล้ว กินไปเถอะ”
เมื่อกี้ไอ้เด็กนี่กวนตีนเขา คราวนี้ขอกวนตีนมันกลับบ้างล่ะกัน รู้จักเชี่ยงชุนน้อยไปซะแล้ว หึหึ
“ดีจัง ไม่เปลือง” น้ำเสียงโล่งใจสุดๆ
ไอ้...
เชี่ยงชุนมองโชกุนที่กำลังแกะห่ออมยิ้มด้วยความทุลักทุเลย ในใจนึกอยากจะหาหนทางแก้เผ็ดไอ้เด็กตรงหน้าที่ชอบกวนประสาทเขาอยู่ตลอดเวลา ตอนเด็กมันยังกวนตีนขนาดนี้ โตไประดับความกวนตีนของมันจะไม่พุ่งทะถึงฟ้าหรือยังไง คิดแล้วก็โมโห!
“อยากกินเหรอ” โชกุนเอาอมยิ้มที่แกะได้อย่างยากลำบากเข้าปาก มองหน้าคนเป็นพี่ที่นั่งหน้าบูดหน้าเบี้ยว
อ่อ...สงสัยจะอยากกิน
“อ่ะ ให้ก็ได้”
ผลุ๊บ!
“อ๊ะ…อุ้บ!”
เต็มๆ
เต็มปากเต็มคำ
T^T
อมยิ้มที่ไอ้เด็กบ้านั่นอมไปแล้ว ขณะนี้มันได้เข้ามานอนแน่นิ่งอยุ่ในปากของเชี่ยงชุนเป็นที่เรียบร้อย
มันกินไปแล้วแต่กลับเอาออกมาจากปากแล้วยัดใส่ปากเขา...ปากเขา!
แปะๆ
“โชกุนเป็นเด็กดีไหม แม่บอกให้โชกุนเสียสละ อิอิ” เด็กน้อยตบมือเปาะแปะให้กับความภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนที่เสียสละ
น่าซึ้งใจยิ่งนัก...ที่ไหนกันเล่า! เสียสละอย่างนี้อย่าทำเลย เห็นแก่ตัวเถอะ...พี่ขอร้องนะน้องนะ TxT
“ทำไมล่ะ รังเกียจเหรอ” เด็กน้อยถามหน้าซื่อเมื่อเห็นว่าเชี่ยงชุนทำท่าจะร้องไห้ อ้าปากที่ยังมีอมยิ้มอยู่น้อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะดูดเหมือนที่เด็กน้อยทำเลย เมื่อคิดได้ว่าคนเป็นพี่รังเกียจของๆตัวเอง โชกุนก็เบะปากทำท่าจะร้องไห้ออกมา แต่ไม่ทันแล้ว
ไม่ได้รังเกียจ แต่ขยะแขยงโว้ย!
“ฮือออออออ” ไม่ทันเพราะเชี่ยงชุนดันชิงแหกปากร้องก่อนแล้ว
และแล้วช่วงเวลาของการจากลามาถึง
ในเย็นวันหนึ่ง
“เฮ้ยไอ้ชุน เย็นนี้ไปกินไอติมกันเปล่า” เพื่อนรักของเด็กหนุ่มเอ่ยชวน นี่ก็ได้เวลาเลิกเรียนแล้วด้วย
“ไม่วะ เฮียสองมารอแล้ว”
“อะไรวะ ช่วงนี้มึงไม่ได้เที่ยวเล่นกับพวกกูเลย” เพื่อนๆต่างโอดครวญ
“ไว้วันหลังแล้วกัน ไปก่อนนะ”
โบกมือลาเพื่อนก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถเฮียสองที่มารอรับอยู่ที่ลานจอดรถของโรงเรียน
“วันนี้ตั้งใจเรียนหรือเปล่า” เสียงเข้มตามแบบฉบับของสองเอ่ยขึ้นเมื่อเด็กน้อยขึ้นมาอยู่บนรถ
“ตั้งใจเรียนสิเฮียสอง” เด็กหนุ่มยิ้มร่า วันนี้เขามีของไปอวดไอ้เด็กผีหมีโคอาล่านั่นด้วย ลับลองว่ามันจะต้องอึ้ง ทึ้ง และอิจฉาเขา หึหึ เตรียมตัวไว้ให้ดีไอ้หนูเอ๋ย ^_^
“วันนี้พ่อแม่โชกุนมารับกลับแล้วนะ เราได้เหงาแน่ๆ” สองพูดขึ้นระหว่างทางที่กลับบ้าน ทำเอาเด็กหนุ่มหันขวับไปมอง
“กะ กลับไปแล้วเหรอ” เสียงเบาหวิวหลุดออกจากลำคอเด็กน้อยที่ตอนนี้ใจกระตุกวูบ ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน เผลอลืมนึกไปว่าสักวันต้องแยกจากกัน
“ยังหรอก แต่คงเย็นๆนั่นล่ะ” สองคาดเดา ไม่รู้ว่าพี่สาวตัวเองมาจะมาเมื่อไหร่
ตลอดทางกลับบ้าน เชี่ยงชุนนั่งเงียบผิดปกติที่จะเล่าเรื่องราวที่เกินขึ้นระหว่างวันให้คนเป็นพี่ฟัง เด็กหนุ่มตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง เขาไม่ชอบใจที่โชกุนชอบแกล้งเขา แต่พอเอาเข้าจริง ตอนนี้เขากลับไม่อยากให้ไอ้เด็กนั่นกลับบ้านไปเลย
“แงงงงงงง จะหาชุนจ๋า ฮือออ มามา ไม่กลับ ฮืออ จะหาชุนจ๋า!” เสียงเด็กน้อยร้องไห้งอแงเรียกหาคนเป็นพี่อย่างน่าสงสาร ทำเอาพ่อแม่ หนึ่งถึงกับเศร้าตามไปด้วย
“โอ๋ๆ กลับบ้านก่อนจะคนเก่ง ไว้วันหลังค่อยมาหาชุนจ๋าไง” หนึ่งปลอบ แต่เด็กน้อยกลับส่ายหัวไปยอมท่าเดี๋ยว มือป้อมทั้งสองข้างเกาะราวบันไดแน่น ไม่ยอมให้ใครจับตัว เพราะกลัว...ไม่อยากกลับบ้าน
เชี่ยงชุนเดินเข้ามาในบ้านเห็นไอ้เด็กดื้อร้องไห้เรียกชื่อเขาก็รีบเข้าไปหาทันที สองเดินตามเข้ามาได้แต่สองเด็กทั้งสองคนนิ่ง
“โชกุน” เชี่ยงชุนเอ่ยเรียกโชกุนเบาๆ เมื่อเด็กน้อยได้ยินก็หยุดร้องไห้ ค่อยๆหันมามอง
“ฮึก ฮืออ ชุนจ๋า” จากที่กอดบันได้บ้านแน่น กลายเป็นพุ่งเข้าไปกอดขาเชี่ยงชุนแน่น ร้องไห้โยเยจนน้ำตาเปียกชุ่มไปทั่งขาเรียวเล็กของเชี่ยงชุน เด็กหนุ่มย่อตัวนั่งลงกอดเจ้าเด็กน้อยจอมดื้อเอาไว้
“กลับบ้านก่อนนะ ไว้ค่อยมาเล่นกันไหมก็ได้”
แม้ที่ผ่านมาอาจจะเรียนกว่า ‘เล่นด้วย’ ไม่ได้ เพราะออกแนวจะตีกันมากกว่า แต่เชี่ยงชุนปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีไอ้เด็กนี่เข้ามาในชีวิตก็เป็นสีสันเหมือนกัน
“ไม่อาววว หนูจะอยู่กับชุนจ๋า ไม่รักมามาปาปาแล้ว ทิ้งหนู หนูจะอยู่กับชุนจ๋า แงงงง”
เชี่ยงชุนถึงกับน้ำตาซึม เขาก็อยากให้โชกุนอยู่ต่อ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เด็กหนุ่มได้แต่กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงไม่ คนเป็นพี่ต้องเข้มแข็ง
“กลับบ้านไปกับหม่าม้าป่าป้าก่อนนะ ไว้วันหลังค่อยมา เดี๋ยวพาไปเล่นที่บ้านดีไหม” เชี่ยงชุนพยายามหว่านล้อม
“ฮึก บ้านของชุนจ๋าเหรอ”
“อืม”
“ชุนจ๋ามีบ้านด้วยเหรอ”
อ้าวววว ไอ้เด็กเวรนี่ อารมณ์กำลังซึ่ง เสือกกวนตีนซะงั้น -_-!
“มีสิ” เชี่ยงชุนทำใจเย็นค่อยๆปลอบเด็กน้อยที่สะอึกสะอื้นหมดท่าอยู่ตรงหน้า
“งะ งั้นก็ได้ ฮึก ต้องให้โชกุนไปนอนกับชุนจ๋าที่บ้านนะ” เด็กน้อยเงยหน้ามองคนเป็นพี่ตาแป๋ว แววตาสั่นระริก
“อืม”
“ต้องให้เลียขาด้วยนะ”
O_O!
“นะชุนจ๋า นะนะ”
“ก็ได้”
“สัญญานะ”
“อืม สัญญา”
”รักชุนจ๋าที่สุดเลย”
เสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะถูกยัดใส่รถมุ่งหน้ากลับบ้าน
“เชี่ยยยยยยชุนนนนนน”
เท่านั้นน้ำตาเด็กหนุ่มก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่...ก่อนจะตะโกนดังลั่น
“เชี่ยงชุนโว้ย! ไม่ใช่เชี่ยชุน!!!”
อาเมน =_=;
หลังจากที่โชกุนกลับไปแล้ว เชี่ยงชุนก็เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง ข้าวปลาไม่ยอมลงมากิน ทำเอาบุรุษทั้งสามคนได้แต่มองหน้ากันพลางถอนหายใจ
ก๊อกๆ
“ว่าไงครับเชี่ยงชุน” หนึ่งเปิดประตูห้องออกมาเจอเชี่ยงชุนยืนกอดหมอน ตาแดงก่ำเหมือนเพิ่งร้องไห้มา ยิ่งมองยิ่งสงสารจับใจ
“เฮียหนึ่ง ผมนอนด้วยนะ”
“มาสิครับ” หนึ่งเปิดประตูออกกว้างให้เด็กหนุ่มเดินเข้าห้อง เด็กน้อยเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงหลังใหญ่ หนึ่งเดินตามขึ้นไปนอนลงข้างๆ แล้วเชี่ยงชุนก็เบียดตัวเข้าหาอ้อมกอดของคนเป็นพี่ หนึ่งได้แต่กอดปลอบ ลูบหลังเบาๆ
“ฮึก” เชี่ยงชุนร้องไห้เบาๆกับอกพี่ชายตัวโต
“ไม่ร้องนะครับ”
“ฮึก เฮียหนึ่ง หนูคิดถึงน้อง..หนูคิดถึงน้อง...คิดถึง ฮืออ”
ในคืนนั้น โชกุนเองก็ร้องไห้หาชุนจ๋าไม่หยุดทั้งคืนเหมือนกัน
“ฮืออ มามา จะหาชุนจ๋า ชุนจ๋าของหนู ฮืออ”
โชกุน : "ใครอ่านแล้วไม่เม้น หนูงอน!!!"
เด็กน้อยของเราน่ารักกันจริงๆ
เหลืออีกสองตอนก็จบแล้ว สาบานสิว่านี่เรื่องสั้น