จอมขมังเวทย์ปราบมาร : บทที่ 1(50%) (8/3/2557) P.57+แจ้งข่าว P.1ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จอมขมังเวทย์ปราบมาร : บทที่ 1(50%) (8/3/2557) P.57+แจ้งข่าว P.1ค่ะ  (อ่าน 406010 ครั้ง)

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
บทที่ 11
[/size]



   “กุหลาบไหมครับ สักดอกไหมครับ วาเลนไทน์ครับ” เสียงตะโกนขายดอกกุหลาบจากเด็กนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เดินเร่ขายดอกไม้ในวันแห่งความรัก ซึ่งก็มีบรรดานักศึกษาหญิงและชายซื้อกันไปคนละหลายดอก คนขายก็เก็บเงินเข้ากระเป๋ากันเรื่อยๆ


   จอมใจนั่งเล่นอยู่ใต้ตึกคณะยามบ่ายๆที่เขานั้นว่างและยังไม่ถึงเวลาเรียนเพราะกว่าจะเรียนอีกนั้นก็สามโมงเย็นนู่นซึ่งก็มีเวลาเรื่อยเปื่อยอีกนานโข สักพักกลุ่มเพื่อนๆที่เดินไปเซเว่นก็เดินหอบของกินถุงใหญ่กลับมา


   เมื่อน้ำตาลวางถุงลงบนโต๊ะเจ้าหนูก็เปิดดูมีทั้ง ไส้กรอกฟุตลองชีส ซาลาเปาแรบบิทครีมสองลูกซึ่งสองอย่างนี้เจ้าตัวเป็นคนสั่งและถุงขนมคบเคี้ยวอีกหลายห่อ ส่วนอีกถุงเป็นขวดน้ำอัดลม ชาเขียวอีกสี่ห้าขวด


   “มีใครได้อะไรเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ไหม” ธัชนั่งลงพร้อมถามเพื่อนๆที่นั่งอยู่ ทุกคนส่ายหน้า คนถามถอนหายใจเล็กน้อย


“เห็นคนได้แล้วอิจฉา”


   จอมใจตบไหล่เพื่อนหัวเกรียนเป็นการปลอบใจ


   “น้องจอมใจครับ” เสียงเรียกจากข้างหลังทำให้คนถูกเรียกหันกลับไปดูว่าใคร ร่างสูงสมส่วนหน้าขาวๆของพี่นัทก็ปรากฏในสายตา จอมใจทำหน้าเบ้เล็กน้อยก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเป็นยิ้มอย่างรวดเร็ว


   “สวัสดีครับพี่นัท” บางทีเจ้าตัวก็รู้สึกว่าพี่นัท “เยอะ” เกินไป แม้จะไม่ได้เจอกันทุกวันเพราะเรียนไม่ตรงกัน เอากันตามจริงคือจอมใจเลี่ยงทุกครั้งที่เจอพี่เขาแต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องคุยกัน บางครั้งรุ่นพี่คนนี้ก็จะมีขนมนมเนยมาฝากอยู่เสมอและเขาก็รับไว้เท่านั้นไม่ได้คิดอะไร ส่วนขนมทั้งหมดเขาก็ไปแบ่งเพื่อนๆกิน


   “วันนี้น้องจอมใจว่างไหมครับ”


   “ทำไมครับ”


   รุ่นพี่เกาแก้มเล็กน้อยก่อนชูบัตรร้านบุฟเฟ่เค้กร้านหนึ่ง “พี่ว่าจะชวนน้องจอมใจไปกินเค้กนะครับ”


   พี่ครับ...วันวาเลนไทน์แบบนี้...ผู้ชายสองคน...ไปนั่งกินเค้กด้วยกันในร้านหวานแหวว...ร้อยทั้งร้อยก็คิดว่าเขาสองคนต้องเป็นอะไรกันแน่ๆ


   ...เขายังไม่มีรสนิยมนั่งกินเค้กกับรุ่นพี่เท่าไรนัก...


   แต่หากสายตาเว้าวอนคู่นั้นทำเอาจอมใจใจอ่อนยวบ ชายหนุ่มไม่ได้ทำอะไรไม่ดี แค่ชวนไปกินเค้ก คง...ไม่เป็นไรหรอกมั้ง?


   “เอ่อ...งั้นก็ได้ครับ” คิดถูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่หากสายตาที่มีแววสดใสขึ้นมากะทันหัน ทำให้เจ้าหนูยิ้มออกมานิดๆ


   ...มันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น...
   


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   ตอนนี้แทบอยากกัดลิ้นตัวเองตาย ไม่ใช่เพราะร้านเค้กหวานแหววมีแต่คู่รักอะไรนี่หรอก แต่เป็นเพราะสายตาหวานหยดย้อยจนน่าขนลุกนี่มันอะไรกันเนี่ย!


   เข้าร้านมาก็มีแต่คู่รักเต็มไปหมด ทำเอาเขาอยากตบหน้าผากตัวเอง นี่เขาคิดผิดหรือว่าอะไรเนี่ย?


   “น้องใจอยากกินอะไร เลือกเลยนะ” รุ่นพี่ยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง เขาออกจะเกร็งๆอยู่บ้าง


   แต่ด้วยความน่ารักของร้าน และเค้กที่วางเรียงรายอยู่ทำให้เจ้าลูกหมูหันเหความสนใจไปทางนั้น ตักเค้กมาสองชิ้นกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม รุ่นพี่ยังไม่ได้เดินไปตักอะไร เขาเลยเลิกคิ้วเป็นคำถาม ชายหนุ่มหน้าขาวจึงตอบว่ากำลังจะไปตัก แล้วเจ้าตัวก็เดินไป


เขาจึงหันมาสนใจเค้กตรงหน้า หลังจากตักไปได้ไม่กี่คำจอมใจกรู้สึกถึงเสียงซุบซิบดังมาจามกโต๊ะข้างๆ เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนกระทั่งเงยหน้าขึ้นไปอีกครั้ง


   คราวนี้สายตาปะทะกับดอกกุหลาบสีแดงช่อโตที่ยื่นมาตรงหน้า เขาทำหน้าเลิ่กลั่ก


   “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับน้องใจ” พี่นัทเอ่ย เขารู้สึกว่าหน้าจะเห่อขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่ค่อยได้รับของพวกนี้จากใครเท่าไร และไม่เคยมีแฟนมาก่อน เรื่องแบบนี้จึงไม่ได้อยู่ในสมองมากนะ แค่เห็นเทศกาลพวกนี้ ได้สัมผัสเขาก็มีความสุข พอมีคนมาให้ของแบบนี้เลยอดเขินไม่ได้และที่สำคัญอีกฝ่ายดันเป็นผู้ชายเสียได้!


   “เอ่อ...ขอบคุณครับ” แอบได้ยินเสียงกรี๊ดของผู้หญิงคนอื่นในร้านเบาๆดังตามมา มันคงจะแปลกอยู่ไม่น้อยที่ผู้ชายสองคนมายื่นดอกไม้ให้กันแบบนี้


   พี่นัทเกาแก้มเขินๆ ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งแล้วหยิบถุงสีแดงออกมาอีกใบ “อันนี้เป็นชอกโกแลตนะครับ พี่ให้...”
   จอมใจเอื้อมมือไปรับมาอย่างเสียไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายเขย่าถุงในมือเมื่อเขาไม่ยอมหยิบเสียที พอรับมาก็แอบถอนหายใจ เขารู้ว่ารุ่นพี่คิดอย่างไรกับเขา ซึ่งเขาไม่ได้คิดอะไรกับพี่นัทเกินกว่าพี่น้อง แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียเพราะยังไงก็ยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันและยังต้องเจอกันอีกนาน


   หลังจากบุฟเฟ่เค้กมื้อนั้นผ่านไป รุ่นพี่ปีสองก็ตัดสินใจพารุ่นน้องไปส่งถึงบ้าน   
   


   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เมื่อถึงบ้าน...จอมใจก็เอ่ยขอบคุณรุ่นพี่แล้วเปิดประตูรถ พี่นัทก็เปิดประตูตามลงมาด้วย


“วันนี้พี่สนุกมาเลยครับ” ชายหนุ่มบอก จอมใจทำหน้างงแต่ก็ตอบกลับ


“เอ่อ...ครับ ขอบคุณที่เลี้ยงเค้ก แล้วก็ของพวกนี้ด้วยครับ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ยกช่อดอกไม้และถุงขึ้นมา พี่นัทยิ้มกว้างเกาแก้มเขินๆตามแบบฉบับของเจ้าตัว


“เอ่อ...ความจริงแล้วพี่มีอะไรจะบอกอีกอย่างครับ” ชายหนุ่มยิ่งพูดยิ่งหน้าแดง เขายืนนิ่งรอฟังอยู่ตรงนั้น


เขาเห็นรุ่นพี่สูดลมหายใจอีกครั้ง “คือพี่...พี่ชอบน้องใจนะครับ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมครับ!”


...อ้อ...


...นึกว่าเรื่องอะไร?...


...เอ๊ะๆ...


...เดี๋ยวนะ!...


เขาหูเพี้ยนหรือเปล่า ชอบ? แฟน?


“พี่นัทว่าอะไรนะครับ” เขาเหมือนจะรู้มาก่อนว่ารุ่นพี่คิดอะไรกับตัวเอง แต่ไม่นึกว่ารุ่นพี่จะมาสารภาพรักจริงอะไรจริงขนาดนี้ หน้าบ้านตัวเองอีกต่างหาก


จอมใจเหมือนโลกเบี้ยวไปชั่วครู่เมื่ออีกฝ่ายย้ำมาอีกกครั้ง


“พี่ชอบน้องใจครับ”


ถึงกับใบ้กินชั่วขณะ “อา...เอ่อ...คือ...คือใจคิดกับพี่นัทแค่พี่น้องนะครับ” จอมใจตัดสินใจตอบกลับไป แม้จะดูเป็นการตัดเนื่อใย


แต่หากปล่อยไว้ไม่ยอมพูดอะไรมันก็จะเรื้อรังเปล่า เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะน่ารัก(แต่ยังไงก็น่ารักนะ?)ถึงขนาดมีคนมาชอบ อีกอย่างอีกฝ่ายเป็นผู้ชายด้วย


จอมใจแอบใจเสียเมื่อเห็นหน้าขาวหมองลงไป “น้องใจไม่ลองรับไว้พิจารณาหน่อยหรือครับ”


“คือ...ใจขอโทษจริงๆครับ ใจคิดกับพี่นัทแค่พี่น้องจริงๆครับ”


พอฟังถึงตรงนี้ชายหนุ่มกำหมัดในมือแน่น ก่อนจะโพล่งอะไรบางอย่างออกไป “ที่น้องใจปฏิเสธเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นหรือเปล่าครับ!”


ถึงตอนนี้เจ้าหนูทำหน้างงใส่ ผู้ชายคนนั้น? ใคร?


“ใครครับ?”


“ก็ผู้ชายที่มารับน้องใจวันนั้นไงครับ ที่ร้านหมูกระทะนั่น ใช่ไหมครับที่ดูเป็นผู้ใหญ่คนนั้น” น้ำเสียงตัดพ้อแววตาที่หม่นเศร้า


จอมใจไพล่นึกไปถึงวันนั้นตามที่รุ่นพี่พูด วันนั้นที่เขาถูกพี่ชายเอ็ด คนที่มารับเขาก็มีแค่พี่ราชันกับพี่เวทย์เท่านั้น จะบอกว่าผู้ชายคนที่พูดถึงคือ...พี่ราชัน?


“คนนั้นเป็นพี่ชายของผมนะครับ” เขาแย้งกับไป


“หึ...พี่ชายแต่ก็ไม่แท้ไม่ใช่หรือครับ”


คราวนี้ความไม่พอใจแล่นเข้ามา จะแท้ไม่แท้แล้วมันยังไงกันละในเมื่อเขาก็เติบโตมากับพี่ทั้งสี่คน “ผมว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกันนะครับ”


“น้องใจไม่รู้จริงหรือครับ ว่าพี่ชายของน้องใจกำลังอาจจะจ้องน้องชายตัวเองอยู่ก็ได้” น้ำเสียงดูแคลนผิดจากที่เคยทำเอาร่างกลมตวัดสายตาไม่พอใจยกใหญ่


ชายหนุ่มบอกตามในสิ่งที่ตัวเองคิดเพราะต่อให้หวงน้องมากแค่ไหนก็ไม่มีพี่ชายคนไหนจะทำท่าโกรธเขาเหมือนโดนความหึงบังตาแบบนั้น เขาเลยพอจะเดาออกว่าพี่ใหญ่อาจจะไม่ได้รักเอ็นดูน้องเป็นเพียงน้องชายแล้วแต่หากก้าวข้ามไปสู่ความรักในอีกรูปแบบ แต่เจ้าตัวอาจไม่รู้ใจตัวเองก็เป็นได้


...เรื่องแบบนี้ใครมันจะยอมให้เกิดเล่า!...


รุ่นพี่มีสิทธิ์อะไรมาว่าพี่ชายของเขา พี่ชายเขาไม่เคยทำแบบนั้น จอมราชันเป็นพี่ชายที่ดีตลอดมา


“พี่ไม่มีสิทธิ์มาว่าพี่ชายผม ถ้าพี่ยังพูดอะไรอีกผมจะไม่ยอมแล้วนะ” เจ้าหนูไม่เคยรู้สึกโกรธใครมากเท่านี้มาก่อน พี่ชายทั้งสี่และ
บ้านสุทธิไพศาลมีบุญคุณกับครอบครัวเขามากมายนับไม่ถ้วน ของที่พี่ชายทั้งสี่เขาได้ เขาก็ไม่เคยถูกลืม และตอนนี้เมื่อมีคนมาว่าร้ายครอบครัวตัวเองใครจะนิ่งเฉยได้


รุ่นพี่หนุ่มที่ระเบิดความไม่พอใจออกมาเริ่มรู้ตัวว่าพูอะไรออกมา “คือ...พี่ขอโทษครับ”


จอมใจแค่นยิ้ม “ช่างมันเถอะครับ” ว่าแล้วพลางจะสะบัดตัวเข้าบ้าน แต่หากก็ไม่สามารถขยับได้ เมื่อมีอ้อมกอดรัดแน่นจากด้านหลัง


“พี่ขอโทษจริงครับ” พี่นัทพร่ำบอกพร้อมกับอ้อมกอดที่รัดแรงขึ้น จอมใจยืนนิ่งไม่ดิ้นแต่ก็ไม่ได้กอดกลับ


“ปล่อย...” เสียงแข็งๆของน้องทำให้อีกฝ่ายค่อยปล่อยพร้อมกับใบหน้าสำนึกผิด


“พี่ไม่ได้ตั้งใจตั้งจะพูดแบบนั้น”


“ช่างเถอะครับ” จอมใจตัดบทก่อนจะขอตัวเข้าบ้าน


ด้านชายหนุ่มที่โดนโกรธก็หน้าหงอย ขึ้นรถแต่ยังไม่ทันเข้าเกียร์รถคันสวยอีกคันก็มาจอดขวางหน้าเอาไว้ นัทแอบแปลกใจเพราะอยู่รถคันนี้จะมาดักหน้าเขาทำไม แต่ก็คลายความสงสัยเมื่อเห็นใครเดินลงมาจากรถ


...พี่ชายใหญ่ของน้อง...


เขาเลยเปิดประตูลงไปบ้าง การประจันหน้ากันของสองหนุ่มต่างวัยทำให้คนอ่อนวัยกว่ารู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าอีกฝ่ายทุกด้านไม่ว่าคุณวุฒิหรือวัยวุฒิ


“คุณมาขวางผมทำไม?” นัทเริ่มเปิดฉากก่อน


สายตาคมกริบของจอมราชันมองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง “วันหลังคุณอย่ามาทำรุ่มร่ามกับน้องของผม ต่อให้เขาเป็นผู้ชายคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปกอดเขาแบบนั้น” สายตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจ้องมองเหยื่อทั้งดุดันและข่มอยู่ในตัว


ถึงตรงนี้นัทเริ่มขนลุก เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มมาดูอยู่นานเท่าไรแล้ว “ทำไม?”


“เพราะผมรู้ว่าเขาไม่ชอบ”


“หึ...น้องไม่ชอบหรือคุณกันแน่ที่ไม่ชอบ?”


คำถามที่ทำเอาชายหนุ่มคิ้วกระตุก “คุณหมายความไง?”


“หึ คุณนี่ท่าทางจะเข้าใจยากนะ คุณลองไปถามใจคุณดีๆเถอะว่าคุณหวงน้องคุณแบบไหน เพราะคนอื่นเขาไม่หวงน้องแบบนี้หรอกนะคุณพี่ชาย!” นัททิ้งท้ายไว้ก่อนจะขึ้นรถไป ด้านจอมราชันยังคงยืนนิ่งจนแตรรถดังขัด เขาจึงจ้องมองอีกฝ่ายผ่านกระจกแล้วจึงค่อยเลื่อนรถออก


...เขาไม่ได้โง่ ที่จะไม่เข้าใจความหมาย...


...แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อน้องชายคนเล็ก...


...เขามั่นใจว่าเป็นพี่ชายน้องชาย เป็นครอบครัว...


...แต่หากไม่รู้ทำไม?...


...ส่วนลึกในใจของเขามันบอกว่าไม่ใช่!...


...ความรู้สึกนั้น...


...มันคืออะไรกันแน่?!...



TBC.

 :mew1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อร๊ากกกก   มาต่อเยยนะ
พี่นัทช่วยเตือนให้พี่ราชันด้วย อิอิ
จะได้รู้่ใจตัวเองเร็วๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จี้จุดซะงั้นนน

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:อยากอ่านต่ออออออออออออออ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
พี่ราชันแอบหึง

พี่นัทมองคนอื่นเถอะ  :hao7:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ทำไมรีแล้วรู้สึกพี่นัทดูน่าเขาข้างขึ้นเยอะเลย 555555

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
แล่ว แล่ว แล้วววววววววววววววววว  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ดีมากพี่นัท จี้เข้าไปพี่ใหญ่จะได้รู้ตัวสักที
 :laugh:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หึหึ ช้าๆเดี๋ยวก็เสร็จพี่นัทหรอก

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
พี่นัทเอีย ไปเล็งคนอื่นเถอะ
น้องใจคนนี้พี่ใหญ่อย่างราชันจอง(โดยไม่รู้ตัว)มานานแล้ว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ราชันนนนนนนนนนนนนน
โดนนัทสะกิดเรื่องน้องใจ
คิดดีดี เอาให้แน่ใจ

ออฟไลน์ yumijung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เอาล่ะซิ..นัท.แกร..ดันไปสะกิด..ใจอิพี่ใหญ่ราชัน
นัท..อย่างนี้เค้าเรียกว่า "ปากพาจน"..นะเออ

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
บทที่ 12
[/b]



   แม้เป็นเวลาบ่าย หากแต่เวลานี้ฟ้าออกจะครึ้มๆ ก้อนเมฆที่ล่อยละล่องอยู่บนท้องฟ้าเป็นสีเทา อากาศเย็นๆมาพร้อมกับกลิ่นฝน เหล่านักศึกษาที่เดินผ่านไปมารีบเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ร่างกลมๆในชุดนักศึกษาพร้อมกับเพื่อนสองคนรีบสาวเท้าเข้ามาใต้ตึกคณะ


   “เฮ้อ...เหมือนฝนจะตกเลย...” เด็กหนุ่มร่างสัดทัดของมรกรตพึมพำไม่ทันขาดคำ หยดน้ำก็ค่อยๆตกลงมาจากฟากฟ้า เมื่อกระทบกับพื้นก็ดังแปะๆ...ฝนตกปรอยๆเริ่มมีท่าทีหนักขึ้นเรื่อย ผู้คนยังอยู่ด้านนอกรีบหาที่กำบังกันใหญ่...ผ่านไปเพียงชั่วครู่ แค่ฝนตกปรอยกลับกลายเป็นฝนไล่ช้างที่หนักเสียจนแรงฝนที่กระทบหลังคาดัง ลมที่มาพร้อมละอองฝนทำเอาคนที่อาศัยอาคารเป็นที่หลบยังรู้สึกหนาวสะท้าน


   เจ้าลูกหมูเขยิบเข้ามายืนด้านในมากขึ้นเพื่อหลบฝน เพื่อนๆอีกสองคนก็เขยิบตาม...ความจริงวันนี้พวกเขาเลิกเรียนตั้งแต่เที่ยงแต่พวกเขาสามคนนั่งทำโปรแกรมมิ่งกันอยู่แล้วเพิ่งออกไปหาข้าวกลางวันกินกันตอนบ่ายสอง ตอนนี้ฝนก็ตกอีก ไปไหนไม่ได้
   มรกรตเรียกเพื่อนๆให้นั่งลงตรงโต๊ะไม้ที่ตั้งไว้ใต้ตึก ธัชดนัยและจอมใจเดินมานั่งอย่างเสียไม่ได้เพราะดันทุรังจะออกก็มีแต่เปียก


   มือขาวๆล้วงเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาพลางกดโทรออก รอสายเพียงครู่เดียวก็มีคนรับ “ฮัลโหล หม่าม้า นี่ใจนะครับ...วันนี้ใจกลับบ้านเองนะครับ...อีกสักพักครับ...รอฝนหยุด” ใช่...วันนี้เป็นวันที่หายากยิ่งสำหรับน้องที่ต้องกลับบ้านเอง เนื่องจากทุกครั้งจะมีลุงทศไม่ก็พี่เวทย์มารับ แต่หากวันนี้พี่เวทย์ติดโปรเจคจึงไปทำงานที่บ้านเพื่อน และลุงทศไปทำหน้าที่ให้ท่านประธานใหญ่


   หากแต่ผ่านไปร่วมชั่วโมงกว่าฝนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย ลมยังคงพัดแรงอยู่ตลอด


   “เอาไงดีเนี่ย ฝนไม่ยอมหยุดเลย” จอมใจหันไปปรึกษาเพื่อน ที่ยังคงนั่งรอๆแล้วก็รอ ในที่สุดเหมือนฟ้าจะเป็นใจ...เมื่อฝนห่าที่ตกลงมาไม่ลืมหูลืมตาเมื่อกี้ดูเบาลง แต่ว่าก็ไม่ได้หยุดเสียทีเดียว สามหนุ่มตัดสินใจวิ่งฝ่าฝนออกไปที่หน้ามหาลัย


   เสื้อนักศึกษาสีขาวเมื่อถูกน้ำก็แนบเนื้อมากขึ้น จนจอมใจรู้สึกอึดอัดเลยดึงเนคไทออกและปลดกระดุม รู้สึกเหนียวตัว เส้นผมก็โดนน้ำจนเปียก เพื่อนที่มาด้วยกันก็สภาพไม่ต่างกัน หน้ามหาลัยเวลานี้ก็เต็มไปด้วยเด็กนักศึกษาที่รอรถกลับบ้าน เพื่อนเขาสองคนนั้นพักอยู่หอจึงเรียกมอเตอร์ไซด์ไปส่งเลย แต่เขาซึ่งต้องนั่งรถกลับบ้านนั้นมีปัญหาใหญ่ เนื่องจากจำนวนคนที่ยืนออรอรถตู้จะขึ้นไปอนุสาวรีย์ชัยนั้นเรียกได้ว่าล้นออกมา จะขึ้นรถสองแถวไปแอร์พอร์ตลิ้งก็เกรงว่าจะไม่ไหวเพราะเนื่องจากอ้อมไกลมาก รถแท็กซี่ที่ตอนนี้ก็ขายดีถูกคนโบกไปคันแล้วคันเล่า จอมใจได้แต่ยืนหลบอยู่ใต้กำบังที่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ละอองฝนยังซัดสาดเข้ามาโดนอยู่ อ้อมแขนกลมกลึงกระชับกระเป๋าเข้าหาตัวเพื่อคลายหนาวและป้องกันกระเป๋าเปียกมากกว่าเดิม


   ยืนรออยู่สักพักจนปากเริ่มสั่นในที่สุดโชคก็เข้าข้าง...เมื่อมีแท็กซี่สีฟ้าคันหนึ่งหลุดเข้ามาให้โบก ขึ้นรถไปก็บอกเส้นทางกลับบ้าน พี่โชเฟอร์ผู้ใจดีก็ไม่ได้บ่นว่าที่ผู้โดยสารตัวเปียก...ฝนตกเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และก็ไม่มีใครอยากตัวเปียก แถมยังใจดีช่วยหรี่แอร์เบาเมื่อเห็นว่าร่างกลมสั่นงึกๆ เจ้าหนูทีนั่งหนาวสักพักก็พล่อยหลับไปเนื่องจากเพลียจัด จนมาได้ยินเสียงเรียกจากคนขับ


   “น้องๆๆ เลี้ยวซอยหน้าเปล่า” ตากลมแงะออกจากกันอย่างยากลำบาก แล้วค่อยปรับโฟกัสเรียบร้อยก็เอ่ยบอกทางเข้าหมู่บ้านให้พี่คนขับ รถโดยสารสีฟ้าก็พาผู้โดยสารมาถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัยท่ามกลางฝนที่ยังคงตกปรอย จ่ายเงินเสร็จสรรพก็คว้ากระเป๋าลงจากรถ


   เดินเตาะแตะเข้าบ้านทั้งๆที่ตัวยังหมาด หน้าใสกลมบัดนี้ขาวซีด


   “หม้าม้า กลับมาแล้วครับ” เอ่ยทักมารดาที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับสีหน้าห่วงใย


   “เปียกกลับมาเชียว” มือก็ดันตัวกลมๆขึ้นไปข้างบน “ไปอาบน้ำไปลูก สระผมด้วย” ขาวกลมกลึงก้าวขึ้นบันไดจนมาถึงห้อง วางกระเป๋าข้างโต๊ะแล้วก็คว้าเสื้อผ้าที่แขวนไว้เข้าห้องน้ำ ผ่านไปสิบห้านาที...ร่างกลมๆก็เดินหัวฟูออกมา การอาบน้ำอุ่นแล้วพอออกมาข้างนอกทำให้หนาวกว่าเดิม เจ้าตัวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เมื่อร่างปะทะกับที่นอนนุ่มๆก็ตาปิดทันที มือกลมยังคว้าเจ้าแบดแบดตัวโตมากอดเอาไว้ด้วย...


   ...โดยลืมไปว่าพี่ราชันเคยบอกว่าสระผมแล้วต้องเช็ดให้แห้ง...ไม่งั้นจะเป็นหวัด!...



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   “อืม...” เสียงงึมงำแผ่วเบาดังมาจากร่างกลมๆของคนที่ยังนอนกอดตุ๊กตาตัวยักษ์ เขารู้สึกเหมือนร่างกายมันหนักๆยังไงไม่รู้แถมหัวก็ปวดซะจนจะระเบิด พยายามลุกขึ้นมานั่ง ตากลมโตมองไปรอบๆอย่างงง เมื่อลุกออกจากที่นอนก็รู้ว่าร่างกายเหมือนจะเสียสมดุลเล็กน้อยทำให้ต้องลงไปนั่งบนเตียง จอมใจเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนมาดูเวลา ซึ่งตอนนี้ก็หกโมงเย็นเข้าไปแล้ว


   ...นี่นอนมาสองชั่วโมงได้...


   ตัดสินใจลุกขึ้นมาพลางเดินเข้าห้องน้ำ ส่องกระจกเงาบานใหญ่ก็เจอกับหน้ากลมๆที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ลองจับหน้าผากและต้นคอก็รู้สึกว่าอุ่นๆ


   พาร่างเปื่อยๆของตัวเองเดินละโหล่สะเหล่ลงมาข้างล่าง เดินมาทรุดตัวนั่งข้างปาปาที่นั่งดูทีวีอยู่ ปาป๊าเมื่อเห็นลูกชายเดินมาคลอเคลียเหมือนแมวก็เอ็นดู


   “เป็นอะไรเจ้าลูกหมู” หากแต่พอลองจับแขนกลมกลึงนั่นก็ขมวดคิ้ว “ทำไมตัวรุมๆละลูก ไม่สบายหรือเปล่า”


   เจ้าหนูส่งเสียงอืออาอย่างเหนื่อยๆ ลุกขึ้นมาซบไหล่กว้างนั่น “อือ...ปาป๊า ใจปวดหัวจัง”


   หม่าม้าที่จัดโต๊ะอาหารอยู่ก็เดินมาดูลูกชายอีกคน เธอลองจับหน้าผากเนียนๆนั่นก็พอจะรู้ว่าเจ้าหนูคงไม่สบายจากฝนวันนี้แน่นอน
   จอมใจเป็นเด็กร่าเริง แจ่มใส ร่างกายแข็งแรง แต่ฝนและของทอดนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของเจ้าหนูเลยทีเดียว...เจ้าลูกหมูเป็นเด็กชอบกิน รักอาหารอร่อยๆ แต่หากเกิดกินของทอดมากเกินพิกัดละก็แค่วันเดียวเท่านั้น...อาการไอโขลกๆจะมาเยือนทันที


   เธอเดินกลับไปที่ครัวแล้วกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าอุ่นๆหนึ่งแก้ว “ดื่มน้ำหน่อยลูก”


   “...ขอบคุณครับ...” เอ่ยเสียงแผ่วแล้วก็ดื่มน้ำช้าๆ ตากลมโตเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและเยิ้มๆ ใบหน้ากลมก็ขึ้นสี พอดื่มหมดค่อยๆลุกโดยมีปาป๊าพยุงไปที่โต๊ะกินข้าว


   วันนี้เจ้าตัวไม่มีความอยากอาหารสักนิดหนึ่ง ทั้งที่อาหารวันนี้ก็น่ากินเสียไม่มี แต่เขาไม่อยากกินสักอย่าง แต่ก็เอื้อมมือตักข้าวร้อนเข้าปาก แล้วทำหน้าแหยเกเมื่อรู้สึกขมปาก จนต้องคว้าแก้วน้ำมาดื่มพลางวางช้อนลง


   “ใจกินไม่ลงครับ” ป๊าม้าก็มีสีหน้าเป็นห่วง อรอุมาจึงลุกไปตักแกงจืดเต้าหู้ที่เธอทำไว้ในครัวใส่ชามเล็กๆมาวางตรงหน้าลูกชาย


   “ทนกินสักหน่อยนะลูก แล้วเดี๋ยวค่อยกินยานะ” เอ่ยเสียงอ่อนโยน มือขาวก็ยกช้อนแกงจืดเป่าเบาๆแล้วเอาเข้าปาก น้ำแกงร้อนไหลลงผ่านคอแม้จะรสชาติไม่อร่อยแต่หากก็กินง่ายกว่าอย่างอื่น


   จอมใจนั่งซดแกงจืดช้าไปเรื่อยสลับกับน้ำเปล่า แต่ยังไม่ถึงครึ่งชามดีเจ้าหนูก็หยุดกินแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เอาแล้ว นายประสิทธิ์จึงลุกไปที่ตู้ยาแต่...ไม่เจอยาแก้ไข แก้หวัดสักแผง ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามันหมดไปตั้งแต่สองสามอาทิตย์ก่อนแล้วยังไม่มีเวลาไปซื้อเพิ่ม


   “อร...ยาหมด เดี๋ยวผมว่าลองไปขอบ้านใหญ่ดู เผื่อมี” ว่าเสร็จร่างสูงสมส่วนก็เดินไป เจ้าหนูที่กินเสร็จก็มานั่งตาแดงบนโซฟา เอาหมอนอิงขึ้นมากอดแน่นแล้วหลับตา เนื่องจากอาการปวดหัวตุ้บๆมาอีกแล้ว หม่าม้าก็มองอย่างเป็นห่วงแล้วรีบเก็บจานไปล้าง


   นายประสิทธิ์เดินผ่านเข้ามาในตัวบ้าน เดินเลยผ่านไปจนถึงห้องอาหารที่มีสมาชิกในบ้านใหญ่นั่งอยู่ ขาดเพียงจอมพลและจอมทัพ คนแรกคาดว่าอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คนที่สองนี่อาจจะยังไม่กลับบ้านก็เป็นได้...บนโต๊ะจึงมีเพียงท่านประมุข ภรรยา และบุตรชายคนโตและคนที่สี่


   “อ้าวประสิทธิ์มีอะไรหรือเปล่า” ท่านจอมไตรถามเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้ามา


   “เอ่อ...ท่านครับ ที่บ้านมียาแก้ไขกับยาแก้หวัดสักแผงไหมครับ” ประโยคคำถามที่ทำเอาทุกคนขมวดคิ้ว


   จอมราชันเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้นมา “เอายาไปทำไมครับอา”


   “เจ้าใจไม่สบายนะสิ เหมือนจะเป็นไข้ อาจจะเป็นเพราะตากฝนเมื่อเย็นตอนกลับบ้าน” พอบอกเท่านั้นแหละ...ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดขึ้นยืนจนเก้าอื้นครูดกับพื้นเสียงดัง


   “น้องไม่สบายหรือครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลครับ” เสียงทุ้มใส่คำถามไม่ยั้ง ใจพะวงไปถึงร่างกลมๆของน้องชายอย่างเป็นห่วงสุดใจ


   “ไม่เป็นไรมากหรอก คงแค่เป็นไข้เป็นหวัดธรรมดา” หากแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนขี้ห่วงคลายความกังวล


   “ผมขอตัวไปดูน้องหน่อย”


   ด้านจอมเวทย์เมื่อเห็นพี่ชายท่าทางเป็นห่วงน้องชาย เจ้าตัวเริ่มรู้สึกผิดเพราะว่าวันนี้น้องคงต้องกลับบ้านเองเนื่องจากเขาไม่อยู่และลุงทศไม่ว่าง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้จอมใจต้องตากฝนกลับบ้าน


   “ผมขอโทษครับพี่ วันนี้ผมไม่ว่างไปรับน้อง น้องเลยต้องตากฝนกลับบ้าน”


   “ไม่ใช่ความผิดเวทย์หรอก” พี่ชายคนโตเห็นน้องคนที่สี่ทำหน้ารู้สึกผิดจึงปลอบ เขาไม่ได้คิดโทษน้องชายสักนิด เพราะเขารู้ว่าเรื่องฟ้าฝนมันโทษกันไม่ได้


   พี่ใหญ่รีบเดินไปที่ตู้กระจกในครัวที่บรรจุยาสามัญประจำบ้านเอาไว้ เลือกค้นยาแก้ไขและหวัดออกมาหนึ่งแผงแล้วเดินออกมา พลางบอกบิดามารดาว่าจะไปดูหาน้อง ซึ่งท่านทั้งสองก็ไม่ว่าอะไรเนื่องจากกูรู้สึกห่วงน้องน้อยเช่นกัน ส่วนจอมเวทย์นั้นก็ตามพี่ชายมาบ้านเล็กด้วยคน


   สามหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านหลังเล็ก เจอกับอรอุมาที่นั่งดูอาการเจ้าหนูอยู่ โดยเจ้าตัวนั่งหน้าแดง ตาปรืออย่างเหมือนคนเบลอๆ


   จอมราชันเห็นน้องไม่สบายก็ยิ่งห่วง รู้สึกหน่วงๆในใจ รีบสาวเท้าเขามา ยกมือไหว้อรอุมาแล้วทรุดตัวนั่งข้างเจ้าลูกหมูที่ยังสะลึมสะลืออยู่


   “เด็กดีเป็นไงบ้างครับ” จอมใจหันหน้ามามองงงอยู่พักหนึ่งจึงยิ้มแห้งๆ


   “พี่ราชันจ๋า...” เอ่ยเสียงแหบแล้วซุกหน้ากลมลงกับไหล่กว้างอย่างออดอ้อน มือใหญ่ลูบหัวทุยๆ อีกมือก็อังหน้าผากเนียนเมื่อรับรู้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาก็ยิ่งหน้านิ่ว


   “ตัวร้อนเหมือนกันนะ” พึมพำเสียงเครียด “พาไปหาหมอดีไหมครับ” หันไปถามความเห็นของผู้ใหญ่


   แต่เจ้าลูกหมูส่ายหน้าพัลวัน “ไม่เอาๆๆ...ใจไม่ไป”


   “เด็กดี...ไปตรวจสักหน่อยนะ จะได้กินยาตามที่หมอสั่งดีกว่า” พี่ชายปลอบเสียงนุ่ม เขารู้น้องไม่อยากไปโรงพยาบาลแต่เจ้าตัวนั้นกินยาที่มาจากร้านขายยาไม่ค่อยหาย ต้องหาหมอถึงจะดีขึ้น แล้วเขาก็ไม่อยากให้น้องกินสุ่มสี่สุ่มห้า


   เจ้าตัวกลมยังคงส่งเสียงงึมงำๆ หลับตาทำหน้าเบ้ “ไปก็ได้...ครับ” สุดท้ายก็ยอมเนื่องจากปวดหัวอยากกินยาแล้วนอนเลย


   พี่ใหญ่จึงหันไปบอกน้องชายร่างสูง “เวทย์เอารถออกให้พี่หน่อย...อาประสิทธิ์กับน้าอรรอที่บ้านก็ได้ครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว...เดี๋ยวน้องผมดูแลเอง” คราวนี้หันไปบอกผู้ใหญ่


   ท่านทั้งสองก็มีสีหน้าเป็นห่วงแต่หากยอมรับการตัดสินใจของชายหนุ่มเนื่องจากรู้ดีว่าเจ้าตัวดูแลน้องได้ดีเสมอ


   จอมเวทย์รีบกลับไปที่บ้านใหญ่เพื่อไปเอารถและไปบอกให้ทุกคนที่นั่นรู้ ส่วนพี่ใหญ่นั้นก็พยุงร่างกลมขึ้นมาจากโซฟาแต่หากร่างกายที่อ่อนเปลี้ยของเจ้าหนูทำให้ทรุดตัวลงไปนั่งอีกครั้งด้วยความมึนงง


   “ไหวไหมครับคนเก่ง...” เมื่อเห็นน้องหลับตาด้วยความทรมานชายหนุ่มก็ยิ่งกังวล “งั้นขี่หลังพี่แล้วกัน” ว่าแล้วร่างสูงก็ย่อตัวลงข้างโซฟาพลางจับมือขาวทั้งข้างมาคล้องคอแล้วยกตัวน้องขึ้น มือใหญ่เปลี่ยนไปรองสะโพกกลมกลึงทั้งข้าง น้ำหนักของน้องไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อชายหนุ่มสักนิดเนื่องจากเป็นคนแข็งแรงและน้องก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น ใบหน้าใสเนียนแดงก่ำซบลงกับลาดไหล่กว้าง ลมหายใจร้อนๆกระทบกับซอกคอแกร่งของชายหนุ่ม ส่งเสียงงึมงำด้วยความทรมาน ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านขยับเข้ามาดู ก่อนร่างสูงจะแบกร่างน้องน้อยออกไป


   “อดทนหน่อยนะคนเก่ง...” พี่ชายเอ่ยปลอบคนที่ขี่หลัง มือใหญ่กระชับสะโพกกลมกลึงในเข้าที่แล้วรีบสาวเท้าไปอีกบ้าน เมื่อเดินมาถึงก็พบว่าทุกคนในบ้านมายืนรอด้วยสีหน้ากังวล โดยที่จอมเวทย์ที่ติดเครื่องยนต์ไว้เรียบร้อยและก็เป็นสารถี


   “น้องเป็นอะไรมากไหมลูก” คุณหญิงถามด้วยความเป็นห่วง


   “ไข้ขึ้นครับ กำลังจะพาไปหาหมอ” เธอจึงรีบพยักหน้าให้ชายหนุ่มพาน้องขึ้นรถ จอมราชันส่งตัวน้องไปนั่งด้านหลังแล้วก็ก้าวตามเข้าไปนั่งติดๆ เขาเลือกที่จะนั่งกับน้องและจอมเวทย์ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เจ้าตัวยอมเป็นคนขับด้วยความเต็มใจ


   จอมใจซบหน้าลงกับไหล่กว้างมือก็กดอกตัวเองไว้ พี่ใหญ่จึงบอกให้น้องชายคนที่สี่เบาแอร์ลงแล้วขยับตัวชิดร่างกลมๆมาขึ้น มือใหญ่วาดผ่านมากระชับตัวน้องดึงเข้าไปชิดมากขึ้นเพื่อคลายหนาว เจ้าหนูยกมือกอดเอวพี่ใหญ่แน่น มือใหญ่ที่ว่างอีกข้างก็ยกมืออังหน้าผากเป็นครั้งคราวพลางเกลี่ยผมที่ลงมาปิดหน้า พร้อมกับเช็ดเหงื่อเม็ดบางๆที่ผุดขึ้นมาเล็กน้อย


   เมื่อรถแล่นเข้ามาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน บุรุษพยาบาลที่ประจำอยู่ก็เข็นรถมารับ จอมราชันอุ้มน้องที่ทำหน้าป่วยๆลงจากรถแล้ววางลงบนรถเข็นแล้วเดินตามเข้าไป ส่วนจอมเวทย์นั้นรีบวนหาที่จอดแล้วดับเครื่องวิ่งตามเข้าไป


   จอมใจมีประวัติคนไข้ที่นี่อยู่แล้วจึงสะดวกต่อการทำเรื่องต่างๆ จนเจ้าหนูถูกพาไปยังหน้าห้องเพื่อรอรับการตรวจ นั่งรอบนเก้าอี้แถวนั้น ระหว่างรอพี่เวทย์ก็กดน้ำจากตู้ดื่มมาให้ มือขาวรับมาดื่มนิด น้ำอุ่นไหลผ่านคอรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แล้วก็เอาหัวพิงกับบั้นเอวของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ มือใหญ่ก็ลูบหัวเบาๆ จนพยาบาลเรียกชื่อคนไข้ ร่างสูงพยุงน้องน้อยเข้าไป


   นายแพทย์หนุ่มซึ่งเป็นแพทย์ที่เข้าเวรช่วงกะกลางคืนยิ้มให้คนไข้และผู้ปกครองสองคน เดินมานั่งตุบหน้าคุณหมอ ส่วนร่างสูงสองคนก็เขยิบไปด้านข้าง


   หมอตรวจหู ตา คอ จมูก และอาการทั่วไป...


   “คนไข้เป็นไข้หวัดธรรมดา อาจจะเพราะตากฝนและช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยร่างกายเลยปรับตัวไม่ทันนะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ หมอจะจ่ายยาให้...ผักผ่อนสักสองสามวันก็หายครับ ยิ่งยังเด็กอยู่เลย” หมอสรุปเมื่อตรวจเรียบร้อย พลางยื่นใบจ่ายยาไปให้พยาบาล จอมใจยกมือขอบคุณ จอมราชันเข้าช่วยพยุงน้องพากลับออกไปด้านนอกเพื่อรอรับยา


   ร่างกลมนั่งซบไหล่พี่เวทย์อยู่ พี่เวทย์ก็นั่งกอดไหล่น้องเพื่อคลายหนาว พี่ใหญ่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ


   “เป็นไงบ้างครับเด็กดี”


   เจ้าหนูตอบเสียงอู้อี้ “ใจปวดหัว รู้สึกไม่สบายตัวด้วยครับ”


   “รอรับยาแล้วเดี๋ยวก็ลับบ้านนอนได้เลย” จอมเวทย์บอก พอช่องจ่ายยาเรียก ร่างสูงก็รีบเดินไปเอายาพร้อมจ่ายค่ารักษา จอมเวทย์พยุงเจ้าลูกหมูเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ ขากลับพี่ใหญ่เป็นสารถีแทน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
   


รถค่อยแล่นมาจอดในโรงรถ จอมเวทย์เปิดประตูพร้อมกับจอมราชัน ส่วนเด็กป่วยๆนั้นนอนหลับคร่อกไปเรียบร้อยแล้ว


   “เอาไงดีพี่ หลับไปแล้ว ยังไม่ได้กินยาเลย” จอมเวทย์ถาม ร่างสูงพยักหน้าแล้วก็เปิดประตูหลัง


   “เด็กดีถึงบ้านแล้วครับ” ปลุกพร้อมสะกิดเบา ร่างกลมๆขยับยุกยิกแล้วลืมตาแดงๆขึ้นมา ตาเยิ้มเพราะน้ำตาทำให้มือใหญ่อดเอื้อมมือไปเช็ดไม่ได้


   พยุงร่างกลมๆเดินเข้าข้ามฝั่งมาบ้านหลังน้อย ปาป๊าหม่าม้ายังคงนั่งรออยู่ที่โซฟาด้านล่าง


   “น้องเป็นไงบ้างราชัน” ปาป๊าถาม


   “ไม่เป็นไรมาครับ แค่ไข้หวัด” พี่ใหญ่ตอบพลางจับเจ้าหนูให้นั่งลงบนเก้าอี้เนื้อนิ่ม พอนั่งปุปเจ้าตัวก็ล้มลงนอนทันที พี่ใหญ่จึงช้อนหัวน้องน้อยขึ้น แล้วก็เอาตัวใหญ่ของตัวเองเข้ามาแทนที่แล้วจับหัวทุยนั่นวางลงบนตักตนเอง เจ้าลูกหมูขยับให้การนอนเข้าที่เข้าทางแล้วก็หลับฟี้ๆๆ มือใหญ่อังหน้าผากเนียนอีกครั้ง


   “ไข้ยังไม่ค่อยลดเลย เวทย์เอายามาให้น้องเลยดีกว่า” จอมเวทย์ผละตัวไปตามที่พี่บอก


   “น้าว่าพาน้องไปนอนข้างบนเลยดีกว่านะ...” อรอุมาเสนอเนื่องจากลูกชายจะได้ผักผ่อนเต็มที่ แล้วเธอก็ปลุกเจ้าหนูขึ้นมากินยา เสร็จแล้วจอมราชันก็พยุงน้องไปนอน


   พอวางร่างกลมลงบนเตียงก็จัดการถอดเสื้อชื้นเหงื่ออกและเช็ดหน้าเช็ดตาและหาเสื้อยืดเนื้อนิ่มใส่ให้ แล้วเจ้าตัวก็นั่งลงบนเตียงข้างๆแบดแบด เจ้าลูกหมูคว้ามือใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายมาแนบหน้าร้อนๆ


   “อือ...มือพี่ราชันเย็นจัง...จ...ใจ...ชอบมาก...” เสียงใสค่อยๆเลือนหายไปกับความง่วงจนเหลือเพียงความเงียบปกคลุมห้องเท่านั้น มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในห้วงฝัน ร่างสูงชะโงกลงมาใกล้ๆ


   “หายไวๆนะครับเด็กดีของพี่...” ริมฝีปากอุ่นๆประทับลงบนหน้าฝากเนียนกว้างอย่างอ่อนโยน...


   หากแต่...พอเลื่อนสายตาลงมามองริมฝีปากซีดเซียวนั่น ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ขึ้น...และใกล้ขึ้น แต่แล้วในที่สุดเสียงเพ้อที่หลุดออกมาจากปากคู่นั้นช่วยดึงสติเขากลับคืนมา


   ...จะบ้าไปแล้ว!...


   เมื่อกี้เขาคิดจะทำอะไร???



TBC.


พี่ใหญ่เกิดอาการแปลกๆแหะ หุๆๆ
จะเป็นอย่างไรต่อติดตามตอนหน้าค่ะ จะมาลงให้ในอีกไม่ช้าค่ะ
ขอบคุณที่ยังเป็นกำลังและติดตามน้องใจอยู่นะค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :hao6: :hao6:

กรี๊ดดดดดดดด อีกนิดคุณพี่จะลักหลับคนเปื่อยแล้ว


ปล. น้องใจเหมือนเราเลย เวลาไม่สบายต้องหาหมอ ทั้งๆที่อุตส่าห์เก็บยาเก่าไว้ไปซื้อเวลาเป็นคราวหน้า สรุปก็ต้องหาหมออยู่ดี  :hao5:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ราชันจะทำอะไรน้อง อิอิ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:hao3: :hao3: :hao3: :hao3:คุณพี่นี่ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกนะ :hao3: :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
อีกนิดเดียวๆ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อุ..กีซซซซ  พี่ใหญ่จะทำไรน้องอ่ะ
 :-[

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
พี่ราชันเลี้ยงต้อยๆๆๆ น้องใจหายไวไวน้าา

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันป๊อกกี้เดย์ของเกาหลีกันนะค่ะ 11.11 ค่ะ
(เพิ่งรู้เมื่อวานจากเพื่อนคนเกาหลี เห็นพวกเขาทำเคกป๊อกกี้มุ้งมิ้งๆ ฮะๆๆเลยเดินเข้าถามว่าทำทำไม)
วันนี้เอาตอนใหม่มาลงให้ค่ะ ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจะเป็นจุดเปลี่ยนแล้วนะค่ะ อีกประมานสองตอนเราจะรู้กันค่ะ
ว่าเปลี่ยนไปยังไง ขอบคุณที่ยังติดตามกันมาถึงตอนนี้ (แม้ว่าตอนนี้เรทติ้งจะตก แต่เราอยากแต่งต่อไปให้ทุกคนอ่าน)
ขอบคุณที่ทำให้ความฝันของเราที่อยากแต่งนิยายมันดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ :mew1: :hao5:


บทที่ 13
[/b]



   หลังจากเป็นไข้นอนป่วยแค่สองวัน จอมใจก็หายดีเป็นปลิดทิ้งเพราะได้ยาดีและกำลังใจดี เจ้าตัวกลับมาร่าเริงแจ่มใสดั่งเดิม ทำให้ทุกคนรู้สึกหายห่วง


เสียงเรียกเข้าจากไอโฟนสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ทำให้ร่างกลมๆที่กำลังจ้องสกรีนอยู่ผละมารับ


“สวัสดีครับ” กรอกเสียงลงไป สายตาและมือที่ว่างอีกข้างยังคงพุ่งเป้าไปที่โปรแกรมมิ่ง พิมพ์กอกแกกพร้อมกับการสนทนา


“เฮ้ย...จอมใจนี่ฉันเอง” ประโยคครุมเครือที่ดังมาจากอีกฝ่ายทำให้จอมใจขมวดคิ้วเล็กน้อย


“ใครครับ”


“โหห...ฉันต้นไง” คิ้วที่ขมวดค่อยคลายออก แปรเปลี่ยนเป็นความยินดีเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนเก่าที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน


“เฮ้ย...เป็นไงเนี่ย เบอร์ไม่คุ้นเลยนะ” เจ้าตัวดึงเครื่องมือสื่อสารที่โชว์เบอร์แปลกทำให้เขาไม่เดาไม่ออก


“เปลี่ยนเบอร์น่ะ เครื่องเก่าเสีย”


“อ้อ...อืม มีไรๆๆ คิดถึงจังเว้ย” เจ้าหนูบอก เขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าเลยตั้งแต่แต่ละแยกย้ายไปตามมหาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝัน
เพื่อนบางคนถึงกับไปเรียนต่างจังหวัดเลย ส่วนมากจะติดตามความเคลื่อนไหวกันบนโซเชียลเนตเวิร์กกันเสียมากกว่า ไม่ค่อยโทรหากันเท่าไร


“เอ่อ...วันศุกร์นี้ห้องเรานัดกันกลับโรงเรียนไปเยี่ยมมาสเตอร์น่ะ ไปไหมๆ”


“เฮ้ย ไปดิๆ ไม่ได้กลับโรงเรียนเลยตั้งแต่จบมา” เป็นเวลาร่วมหลายเดือนที่เขาไม่ได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียนเนื่องจากเลิกเรียนเย็นและระยะทางระหว่างมหาลัยกับโรงเรียนก็ไม่ใช่ใกล้ๆ เรียกได้ว่าคนละมุมเมืองกันเลย รวมถึงวันศุกร์นี้อาจารย์ยกเลิกคลาสตอนบ่ายพอดี นี่คงเป็นโอกาสดี


“เออๆ งั้นวันศุกร์เจอกันๆ บาย” หลังจากวางสายจากเพื่อนไป เจ้าหนูก็หันมาหัวหมุนกับงานต่อไป


จนเมื่องานชิ้นสุดท้ายเสร็จ เจ้าหนูก็บอกราตรีสวัสดิ์ปาป๊าหม่าม้าที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่เพื่อไปอาบน้ำนอน


เดินตาปรือๆขึ้นมาบนห้อง คว้าผ้าเช็ดตัวบนราวเข้าห้องน้ำไป สิบนาทีถัดมาร่างกลมก็เดินหอมฟุ้งออกมาในชุดนอนลายทางสีขาวครีม ทรุดนั่งลงบนเตียง ตั้งนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง ปิดไฟ ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ หน้าซุกกับพุงแบดแบดตัวโตหลับไปอย่างสุขใจ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



วันศุกร์ที่จอมใจนัดเพื่อนไว้เวียนมาถึง เจ้าหนูยังคงแต่งตัวอาบน้ำเพื่อไปเรียนตามปกติ วันนี้พี่เวทย์เป็นคนไปส่งเหมือนอย่างเคย


“พี่เวทย์ วันนี้ใจไม่มีเรียนบ่ายนะ จะกลับไปโรงเรียนเก่าครับ” บอกพี่ชายระหว่างที่นั่งรถอยู่ คนขับหันหน้ามามองนิดๆ


“อืม...ไปยังไง”


“เดี๋ยวเลิกเรียนคงติดรถเพื่อนไปส่งแอร์พอร์ตลิ้งแล้วนั่งรถไฟฟ้าต่ออะ”


“อืม...เอาอย่างนี้ไหม พี่ไปส่งดีกว่า” คนขับเสนอความคิดเห็น


“แต่พี่เวทย์มีเรียนบ่ายไม่ใช่หรือ” จอมใจรู้ว่าวันนี้พี่ชายไม่ได้ว่าง


“ไม่เป็นไร พี่ไปส่งได้ เดี๋ยวให้พวกไอ้เอกมันเช็คชื่อให้” จอมเวทย์ยังคงรู้สึกแย่ๆเมื่อครั้งก่อนที่เจ้าตัวไม่ว่างไปรับส่งน้องทำให้
เจ้าหนูเป็นไข้ไม่สบาย ทำเอาที่บ้านเป็นห่วงกันไปหมด


“อ้อ...งั้นก็ขอบคุณมากครับ” เจ้าหนูยอมรับในที่สุด


เมื่อรถแล่นเข้ามาถึงหน้าตึก เจ้าลูกหมูก็เปิดประตูลงจากรถ ไม่ลืมจะล่ำลาพี่ชายคนที่สี่ด้วย


วิชาตอนเช้าเป็นวิชาแคลคูลัสเบื้องต้นของปีหนึ่ง คณะของเขาเป็นคณะนานาชาติคนไม่ค่อยเยอะจึงเรียนเลขห้องเดียวกันได้ แต่วันนี้ไม่ได้เรียนที่ตึกคณะ เขามาเรียนที่อาคารเรียนรวมซึ่งอยู่ถัดมาไม่ไกลนัก และประเด็นมันคือใกล้ร้านเช่าการ์ตูนที่นานๆทีจะมีโอกาสเดินไปเช่า


วันนี้ก็เป็นโอกาสดี เขาเลยเดินลัดเลาะไปตามทางไปโผล่ที่ร้านเช่าหนังสือเล็กๆ ร้านด้านในมีตู้หนังสือเรียงกันหลายชั้น ขากลมกลึงเดินฉับๆเข้าไปที่ตู้หนังสือใหม่พอดี


ส่วนตัวแล้วเขาอ่านหนังสือหลายแนวขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่อง ลายเส้น คนเขียน อื่นๆๆ สายตากลมโตกวาดไปทั่วชั้น จนได้หนังสือการ์ตูนออกใหม่มาสามเล่มและการ์ตูนรายสัปดาห์หนึ่งเล่ม
ยื่นไปให้พี่เจ้าของร้านคีย์ข้อมูลการเช่าแล้วหอบหนังสือออกมา เดินย้อนกลับมาที่ตึกเรียน เดินขึ้นไปชั้นสองก็เจอกับกลุ่มเพื่อนๆที่นั่งรออาจารย์มาสอนอยู่ เจ้าหนูเลือกที่นั่งสงบแล้ว...
ลงมืออ่านหนังสือการ์ตูน


เวลาเก้านาฬิกาตรง อาจารย์ชายก็มาถึง นักศึกษาต่างทยอยกันเข้าไปในห้อง อาจารย์เช็คชื่อเล็กน้อยก่อนเริ่มการเรียนการสอน เจ้าหนูจึงต้องพักการอ่านการ์ตูนเอาไว้แค่นั้น


ในที่สุดเมื่ออาจารย์ปล่อยคลาส นักเรียนทุกคนแทบจะวิ่งออกจากห้องเนื่องจากการเรียนวิชาเดียวกันตลอดสามชั่วโมงทำให้ทั้งเบื่อทั้งล้าไปหมด


จอมใจเก็บของใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว


“จอมใจ ไปดูหนังกันไหม” เพื่อนสุดขรึมอย่างมรกรตถามขึ้นขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังเดินลงจากบันได


คนถูกถามส่ายหน้าเล็กน้อย “ไปไม่ได้อะ พอดีมีธุระต่อ” เนื่องจากวันนี้คลาสบ่ายไม่มีเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่จึงนัดเที่ยวกัน
พอเดินลงมาถึงข้างล่าง กำลังเลี้ยวออกจากตึก เจ้าหนูก็ชนปักกับบางสิ่งทำเอาเซนิดๆ


“เอ้าๆๆเดินดูทางหน่อย” สิ่งที่ชนนั้นก็คือร่างสูงของพี่ชายจอมกวนนั่นเอง


“สวัสดีครับ//สวัสดีค่ะ พี่จอมเวทย์” เพื่อนๆในกลุ่มเห็นรุ่นพี่หนุ่มจึงทักทาย


“ดีครับน้องๆ พี่ขอพี่เจ้าลูกหมูนี่กลับก่อนนะครับ” ว่าพลางจับแขนกลมไว้


“หึ้ยยๆๆ เจ็บจมูกจังเลย” จอมใจถูมากับจมูกเล็กๆของตน มองค้อนๆไปที่ร่างสูง


“อะไร มองแบบนั้นได้ไง เราเดินไม่ดูทางเองนะ พี่ยืนรออยู่เฉยๆ” คนโดนค้อนแก้ตัวทันที เขาเพียงแต่มายืนรอเจ้าหนูที่หน้าตึกที่เขาส่งลงจากรถเมื่อเช้า เนื่องจากเขาเลิกเร็วสิบห้านาที มายืนรออยู่สักพักก็มีหมูอ้วนมาชนเฉยเลย


“เชอะๆ” ส่งเสียงงอนใส่


“เอาน่า พี่มารับแล้ว จะไปกันยังครับพ่อน้องชาย”


คนเจ็บจมูกและจมูกแดงพยักหน้า บอกลาเพื่อนแล้วเดินตีคู่กันไปที่รถที่จอดไว้ฝั่งตรงข้าม



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



จอมเวทย์ขับรถเข้ามาในเมืองเรื่อยๆไม่เร่งรีบ จนรถยนต์คันงามแล่นมาถึงหน้าโรงเรียนเอกชนชายล้วนชื่อดังใจกลางเมือง มีโรงเรียนคริสต์หญิงล้วนขนาบข้างอีกสองโรงเรียน  โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่มีมานานกว่าร้อยปี อยู่คู่พื้นที่แถวนี้จนเป็นที่รู้จักดี และยังเป็นโรงเรียนคริสต์ มีโบสถ์ที่สวยงาม มีคู่รักมากมายมาแต่งงานที่นี่จนชินตา


เวลาบ่ายสองกว่าๆ โรงเรียนยังไม่เลิก ประตูเหล็กโรงเรียนยังปิดอยู่ จอมเวทย์บีบแตรหนึ่งครั้ง มีรปภ.วิ่งออกมาดู และเปิดให้เข้าเนื่องจากมีตราสติกเกอร์โรงเรียนติดไว้ มีกลุ่มเด็กนักเรียนในชุดเสื้อนักเรียนสีขาว กางเกงน้ำเงิน พร้อมด้วยรองเท้าหนังขัดมันเงาวับ ที่นั่งอยู่ ยืนอยู่ประปรายหันมามองรถบ้างเป็นครั้งคราว


จอมเวทย์ขับไปยังที่จอดรถแล้วดับเครื่อง จอมใจเลยเอาไอโฟนขึ้นมาโทรออกหาเพื่อน


รอจนปลายสายรับก็กรอกเสียงลงไป “ต้น อยู่ที่ไหนกันอะ”


เสียงปลายสายที่จอแจ อื้ออึงเหมือนมีคนกำลังคุยกันมากมาย “อยู่...โรงอาหาร เดินมาดิ เพื่อนอยู่กันเต็มเลย”


จอมใจอืออากับโทรศัพท์ก่อนวางสายไป หันหน้าไปบอกที่หมายกับพี่ชายที่ยืนเต๊ะหล่อๆอยู่ข้างๆ


เดินมาตามทาง เลาะตึกเรียนมาเรื่อย ก็เจอกับโรงอาหารของโรงเรียน ยังพอมีร้านรวงเปิดอยู่บ้าง แต่ที่เด่นที่สุดคือกลุ่มนักศึกษาที่นั่งครองพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงอาหาร คุยส่งเสียงดัง


จอมใจเดินดุ่มเข้าไปที่โต๊ะ เพื่อนๆก็หันมามองตามกัน ก่อนผิวปาก


“เสด็จมาแล้วครับคุณชายน้อย”


 เสียงตะโกนดังมาจากเด็กหนุ่มผิวเข้มคนหนึ่งที่นั่งหน้าสลอนอยู่...ไอ้แบงค์...ไอ้นี่สุดจะกวนตีน!!!


สมันเรียนอยู่มันชอบล้อเขาว่าเป็นคุณชายน้อยเนื่องจากมีที่บ้านคอยไปรับไปส่ง พี่ทุกคนก็จบโรงเรียนนี้ทั้งหมดตั้งแต่พี่ใหญ่จนมาถึงเขา ตัวเขานั้นกว่าจะเข้ามาเรียนนี่ พี่ๆก็จบกันไปหมดแล้ว เหลือแต่พี่เวทย์ที่ยังอยู่กวนโมโหเขาอยู่ เรียนตั้งแต่ประถมก็มีพี่เวทย์คอยดูแลอยู่ พอพี่เวทย์ย้ายมาเข้าชั้นมัธยมซึ่งต้องย้ายมาเรียนอีกที่แต่ยังเป็นโรงเรียนเดิม ส่วนตัวเจ้าหนูยังอยู่ป.สี่ที่เดิมนั้นตลอดทั้งสามปีเจ้าตัวหงอยลงไม่น้อย แต่พอย้ายตามเข้ามามัธยมหนึ่ง พี่จอมเวทย์ก็กลายเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นมัธยมปลายไปแล้ว แต่พี่เวทย์ก็ดูแลเขาอย่างดีที่สุด จนพี่เขาจบออกไป...เพื่อนๆทั้งหลายรู้ว่าเขามีพี่ชายห่างกันสามปีที่อยู่โรงเรียนเดียวและรักกันมาก รวมถึงยังเจอพี่ชายอีกสามคนที่เคยเป็นศิษย์เก่าที่นี่กลับมาเยี่ยมโรงเรียนเป็นครั้งคราว...เขาเลยได้ฉายาว่าคุณชายน้อยเนื่องจากเป็นน้องเล็กของบ้าน...


“อะไรๆ” คุณชายน้อยไม่ยอมน้อยหน้า “ไอ้ตูดหมึก” จอมใจจำได้ว่าสมัยไปค่ายไอ้นี่มันถูกเพื่อนกระตุกผ้าเช็ดตัวโครมกลางห้องน้ำอาบน้ำ กลายเป็นฉายาขำๆของมันเนื่องจากแบงค์มีผิวเข้ม


“เอ่อ...สวัสดีครับ พี่จอมเวทย์” คนที่นั่งในกลุ่มเอ่ยทักทายรุ่นพี่สุดหล่อที่เรียนจบไปแล้ว


“ครับ” จอมเวทย์แม้จะจำชื่อทุกคนไม่ได้หมดแต่ก็คุ้นหน้าทุกคน


ส่วนรุ่นน้องทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักพี่จอมเวทย์ สุทธิไพศาล ผู้เป็นคนนำเชียร์โรงเรียนเขา และยังเป็นผู้นำเชียร์ในงานจตุรมิตรด้วย ซึ่งพี่เวทย์สละเวลามาซ้อมเชียร์ให้น้องทำให้พลาดโอกาสที่จะลงแข่งขันบอลจตุรมิตรในปีนั้น แต่พี่แกก็มุ่งมั่นเต็มที่แม้ปีนั้นโรงเรียนเขาจะไม่ได้ที่หนึ่งมาครอง แต่พี่เวทย์ก็ครองใจน้องได้หมด


“แล้วเจอมาสเตอร์ยัง” จอมใจถามขณะทรุดตัวนั่งลง เพื่อนส่ายหน้า
ในที่สุดเด็กทั้งทั้งกลุ่มก็ยกโขยงไปสวัสดีมาสเตอร์ที่เคยสอนที่สนิทคุ้นเคยกันจนทั่วโรงเรียน จอมเวทย์เพียงแต่เดินตามน้องต้อยๆ เก๊กหน้าหล่อให้รุ่นน้องชื่นชม บางคนก็ไม่รู้จักเนื่องจากจอมเวทย์จบไปหลายปีแล้วแต่หากใบหน้าหล่อเหลาก็แตะตาได้ดี จนมีรุ่นน้องมาขอถ่ายรูปเรื่อยไป ตอนที่ชายหนุ่มยืนรอน้องชายเข้าไปสวัสดีมาสเตอร์


“พี่จอมเวทย์ครับ ถ่านรูปกับมิคหน่อยได้ไหมครับ” รุ่นน้องที่แทนตัวเองว่ามิคเป็นหนุ่มร่างน้อย หน้าขาวที่ดูก็รู้ว่ามีรสนิยมชอบไม่ป่าเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย น้องเขามากับกลุ่มเพื่อนอีกสองสามคนที่ยืนบิดไปบิดมาหน้าแดง


หากระดับนางงามผู้ไม่เคยเกี่ยงใคร จอมเวทย์ยืนยิ้มมุมปากหล่อๆให้ “ได้ครับ” ว่าแล้วก็ขยับไปยืนข้างๆ ยิ้มหล่อให้กับกล้องที่เพื่อนน้องเขาถือรออยู่ รุ่นน้องก็กรี๊ดเบาๆ เมื่อกดรูปจนเป็นที่พอใจ ก็ขอบคุณแล้วเดินกลับไป


กลุ่มเพื่อนๆและจอมใจก็เดินออกมา เด็กๆสรุปว่าหลังจากนี้จะไปหาอะไรกินกันที่สยามซึ่งจอมใจก็หันไปกระพริบตาปริบๆใส่พี่ชาย จนใจอ่อนให้ไปโดยที่จอมเวทย์โทรไปบอกที่บ้านจะกลับบ้านช้าหน่อยและไม่กินข้าวเย็น เจ้าหนูก็โทรบอกหม่าม้าเช่นกัน
พอถึงเวลาเฟรชชี่ทั้งหลายจึงโบกรถเฮโลกันไปสยาม จอมเวทย์ไม่เอารถไปด้วยเนื่องจากหาที่จอดรถยาก และยิ่งเป็นวันศุกร์อีก จึงนั่งเบียดเสียดไปกับรถแท็กซี่ไปกับน้องๆ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



จนในที่สุดแท็กซี่สองสามคันก็พากันมาจอดที่สยามสแควร์ หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยก็ลงมาจากรถกัน
ตกลงกันใหม่ว่าจะไปไหน แล้วก็ได้ความเห็นกันว่าจะเดินตากแอร์เย็นๆที่พารากอนกันและหาข้าวกินที่นั่น เมื่อสรุปได้ ก็เดินกันไป


“พี่เวทย์บอกที่บ้านแล้วใช่ไหมครับ” เจ้าหนูถามขณะที่กำลังเดินข้ามรถไฟฟ้าไปอีกฝั่ง ชายหนุ่มพยักหน้า


“อืม...” เจ้าหนูยิ้มแล้วไปคุยกับเพื่อน ส่วนรุ่นพี่ก็เดินจิ้มไอโฟนไปสลับกับคุยกับรุ่นน้องบ้าง


เดินผ่านประตูห้างเข้ามาสัมผัสกับอากาศเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศให้ความรู้สึกสบายผิดกับความร้อนอบอ้าวข้างนอกลิบลับ


“กินไรกัน” หนุ่มผิวหมึกร้องถามเมื่อเดินผ่านมาหลายร้านยังไม่มีท่าทีว่าจะลงได้สักที่ ผ่านมาทั้งร้านอาหารไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น
เคเอฟซี แมค บลาๆๆ


“งั้นมาตกลงกันก่อนไหม” รุ่นพี่คนเดียวในกลุ่มแนะนำ


“ใครอยากกินอะไรเสนอมา” หลังจากนั้นก็มีคนเสนอร้านฟูจิเอย ปิริปิริเอย จิปาถะเอย
ในที่สุดทุกคนก็ลงความเห็นว่าฟูจินี่เลิศสุดๆๆ


ก็เลยต้องเดินย้อนกลับมาอีกทาง แต่หากพอเดินผ่านกำลังจะเลี้ยว ร่างที่ส่วนมาจากอีกฝั่งก็ปะทะกันกับทางนี้พอดี...ร่างสองร่างชนกันจังงัง เหมือนรีเพลย์เมื่อตอนกลางวัน แต่หากคราวนี้คนโดนชนเป็นพี่เวทย์กับใครก็ไม่รู้
เหมือนจอมเวทย์ปรับการทรงตัวโดยมีแขนจะช่วยจับเขาเอาไว้ไม่ให้ล้ม ทำให้เจ้าตัวรู้เลยว่าคนที่เขาชนด้วยเป็นผู้ชายและตัวใหญ่กว่า พอเงยหน้าไปมองโลกมันเหมือนหยุดชะงัก...


...เชี่ยแม่ง นรกแตก!!!...


...ไอ้ตี๋ภัทร มึงมาได้ไงวะ...


“อ้าวคุณจอมเวทย์เดินไม่ดูทางเลยนะครับ” ร่างสูงใหญ่กว่ากวน


“อะไรของมึง มึงต่างหากเดินประสาส้นตีนอะไรวะ” พอเจออริเท่านั้นแหละพี่เวทย์ผู้ร่าเริงของน้องกลายเป็นเสือขี้โมโหทันที


“สวัสดีครับพี่ภัทร” จอมใจที่รู้จักชายหนุ่มมาตั้งแต่ตอนไปเยาวราชทักทาย


“สวัสดีครับน้องจอมใจ” ยิ้มตาตี่อวดเขี้ยวเล็กๆมาให้


“ทุกคนนี่พี่ภัทร เพื่อนพี่เวทย์น่ะ” จอมใจเลยแนะนำให้เพื่อนได้รู้จัก ซึ่งคนมาใหม่ก็ยิ้มผลกหัวรับให้น้องๆ


“เฮ้ย...ไอ้จ้ำม่ำ พี่ไม่นับญาติกับมันนะ” ร่างสูงโวยวายทันที พลางหันไปมองอีกฝ่ายตาขวาง


“นี่จะไปไหนกันครับ” คนโดนค้อนไม่สนใจ


“ไปกินฟูจิครับ พี่ภัทรกินข้าวยังครับ สนใจไปด้วยกันไหมครับ”


คนโดนชวนเหล่ตาไปมองคนที่ยืนหน้าบูดหน้าเบ้ ยักคิ้วจึกๆ “ไปสิครับ หิวพอดี” เท่านั้นแหละ...


“ไม่!!!กูไม่ให้มึงไป” จอมเวทย์ค้านเสียงแข็ง เรื่องอะไรจะให้มันไป ขืนไปกินไม่ลงพอดี


“อ้าวคุณ น้องคุณชวนผม ไม่ใช่คุณ” กวนกลับไปแบบไม่ทุกข์ร้อนพลางเดินตามกลุ่มน้องไปทันที ทิ้งให้คนหัวเสียยืนกัดฟันกรอดๆแล้วเดินสะบัดตามไป


เมื่อมาถึงหน้าร้านก็ต้องรอคิวอยู่สักพัก น้องก็จับกลุ่มกันไป คนหน้าเย้เดินเข้ามาหาน้องชาย


“ใจ พี่ไปร้านอื่นนะ กินเสร็จแล้วโทรเรียกพี่นะ” เจ้าตัวทำท่าจะทำอย่างที่ว่าโดยการเดินไปร้านอื่นจริงๆ


มือใหญ่แข็งแกร่งเอื้อมมาจับไหล่ไว้ทัน “อ้าวคุณจะไปไหน กินด้วยกันสิ”


จอมเวทย์สะบัดไหล่แต่ไม่หลุดจึงกระแทกไหล่เข้าหาเลย ไหล่ชนกับแผงอกแกร่งดังปัก จนคนโดนชนร้อง


“โอ้ย...คุณผมเจ็บนะ” ร้องโอดเบาๆ แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ


“สมน้ำหน้า” จอมเวทย์ยิ้มเยาะ


จอมใจหันไปสบตาเพื่อนๆอย่างขำ ทุกคนยังคงลุ้นมวยคู่เอกรุ่นเฮฟวี่เวทอยู่


“หึๆ คุณนี่มันป๊อดจัง แค่...” คนเจ้าเล่ห์หัวเราะหึๆ


“อะไรกูป๊อดอะไร มึงพูดดีๆนะ” คนโดนยั่วโมโหแตก ไอ้เวทย์คนนี้ฆ่าไม่ได้!!! หยามก็ไม่ได้เว้ย!!!!


“อ้าวก็แค่กินข้าวแค่นี้...”


“เออ!!!กูจะกินให้ดูไอ้เวร” ว่าแล้วก็เดินไปพิงตัวกับกระจกร้านอย่างหงุดหงิด หนุ่มภัทรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่


พอถึงคิวที่จองไว้ ก็เดินเข้าไปตามที่พนักงานนำทาง โต๊ะแบบญี่ปุ่นสามตะถูกจัด ต้องแยกนั่งกันเป็นกลุ่มๆ แต่ปัญหามันก็เกิดอีก


“กูไม่นั่งโต๊ะเดียวกับมึง” จอมเวทย์เจ้าเก่ายังคงมีปัญหาเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นั่นเดินตามมาที่เดียวกัน


“เอาน่าคุณน้องๆเขายังไม่มีปัญหาเลย คุณนี่มันเรื่องเยอะจริง” ภัทรบอกพลางดันร่างเล็กกว่าเข้าไปด้านในสุดแล้วเจ้าตัวก็ตามไปประกบ


“เฮ้ยๆๆ มึงจะมานั่งข้างกูทำไม ไปนั่งฝั่งนู่นเลยเว้ย” แต่พอดูอีกทีฝั่งนู่นก็ถูกน้องๆจองเต็มไปแล้ว เจ้าตัวได้แต่ฮึดฮัดท่ามกลางรอยอมยิ้ม


เมื่อพนักงานเดินมารับออเดอร์ ทุกคนเลือกได้หมดแล้ว เหลือเพียงจอมเวทย์ที่ยังขวมดคิ้วกับเมนู


“พี่เวทย์เลือกได้ยัง พี่เขารออยู่” น้องน้อยถาม


“อืม...อยากกินหลายอย่าง” เจ้าตัวงึมงำ แต่มีนิ้วเรียวยาวสวยชี้เข้ามาที่รูป


“อันนี้อร่อยนะคุณลองดูสิ” เมนูที่คนชี้บอกคือนาเบะอุงด้งซึ่งเป็นอุด้งร้อนมาพร้อมกับน้ำซุปสีน้ำตาลเข้มรสชาติกลมกล่อมเสิร์ฟในหม้อชาบูร้อนๆ


“อืม น่ากินดี เอาอันนี้แหละครับ” ด้วยความหิวหรือหน้ามืออะไรไม่รู้เจ้าตัวจึงตกลงอย่าง่ายดาย จนเมื่อคนรับออเดอร์เดินไปแล้วค่อยมารู้สึก “เฮ้ย ทำไมกูต้องเลือกตามที่มึงบอกด้วยวะ แม่งๆๆๆ”


ภัทรขำคิกๆ


“พี่ภัทรสูงเท่าไรครับเนี่ย ดูตัวใหญ่จัง ใหญ่กว่าพี่เวทย์อีกแนะ” จอมใจถามอย่างใคร่รู้เนื่องจากสังเกตมานานว่าชายหนุ่มมีรูปร่างที่สูงใหญ่และมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง


“สูงร้อยเก้าสิบเอ็ดครับ” คนที่นั่งรอบๆตาโตกับความสูงที่ไม่น่าจะมีในชายสัญชาติไทย ขนาดว่าพี่ราชันสูงมากแล้วนะยังเตี้ยกว่าตั้งสองเซน


“โห สูงจังเลย” จอมใจทำหน้าปลื้ม จอมเวทย์ยังอดที่จะแอบมองด้วยไม่ได้ เนื่องจากเขายังอิจฉานิดๆกับความสูงล่ำของไอ้หมอนี่


“ครับ พอดีพี่ดื่มนมเยอะ เล่นกีฬาตลอด”


“เล่นกีฬาอะไรครับเนี่ย”


“พี่เป็นนักกีฬารักบี้ของมหาลัยครับ แต่กีฬาอย่างอื่นพี่ก็เล่นครับ”


“รักบี้หรือครับ ใจไม่เคยได้ดูเลยครับ เพิ่งเข้ามาปีหนึ่งด้วย” เจ้าหนูทำหน้าเสียดาย


“ครับ เดี๋ยวอีกไม่กี่อาทิตย์เขาก็จะมีกีฬาประเพณีของมหาลัยจัดแข่ง มาดูได้นะครับ” พ่อนักกีฬาเอ่ยชวน
น้องๆทุกคนในโต๊ะยิ้ม มีเพียงจอมเวทย์ที่นั่งหน้าแหวะ...เขารู้ว่าไอ้นี่มันเล่นรักบี้เพราะมันเป็นตัวจริงในทีมมหาลัยตั้งแต่ปีสอง


“เหอะ รักบี้ แหวะ กูว่าอย่างมึงอะ...”รักขี้!!!” มากกว่า” ประโยคที่ทำเอาทุกคนขำกรากกกก ไม่เว้นแม้แต่คนเล่น


”รักขี้!!”เองก็ยังขำ


“ผมไม่ชอบรักขี้หรอกครับ แต่ถ้า...รักคุณ...นี่น่าคิดครับ!!!!” บึ้ม!!!!คราวนี้จอมเวทย์หงายลังตึงจอดไม่ต้องแจวเลยครับ...


...ถึงจะเล่นรักบี้...ไม่ชอบรักขี้...แต่...ผม รัก คุณ ครับ....กร๊ากกกกกกก


...โดนไปดิ!!!!!...


TBC.

ตอนนี้ภัทรเวทย์แซมเล็กน้อยค่ะ คิดถึงคู่นี้มากเลย เรื่องหน้ามาแน่ค่ะ :katai5:
 :katai2-1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รอออออออออออออ

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากอ่านอีกกกกกกกกกกกกก o13

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เอาอีกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


เป็นกำลังใขให้ค่ะ ไม่ว่ายังไงจะติดตามไปตลอดค่ะ

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
หนูใจน่ารักจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด