มาต่อกันเลยนะครับ ตอนนี้อาจจะยาวนิดนึง ผมลงชดเชยให้นะครับ เนื่องจากหายไปหลายวัน เพราะงานยุ่ง
))
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เออ เป็นไงบ้างว่ะ ไอ้เก่ง” ศักดิ์นรินทร์ถามหมอเก่งแทบจะในทันทีที่หมอเก่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน หมอเก่งนั้นเป็นเพื่อน
ตั้งแต่สมัยที่ศักดิ์นรินทร์ยังเป็นเด็ก บ้านของทั้งสองนั้นอยู่ติดกันเมื่อสมัยที่เขาทั้งสองยังอยู่กรุงเทพ ต่อมาเมื่อพ่อของศักดิ์นรินทร์
ได้พาครอบครัวมาอยู่ที่ไร่แห่งนี้ ศักดิ์นรินทร์ก็ไม่ได้ติดต่อกับหมอเก่งอีกเลย จนกระทั่งเมื่อแม่ของเขาป่วยหนักจนเข้าโรง
พยาบาลเมื่อสามสี่ปีก่อน หมอเก่งได้เป็นหมอเจ้าของไข้ของแม่เขา ทำให้ศักดิ์นรินทร์รู้ว่าหมอเก่งนั้นได้มาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนี้แล้ว
“เออ จริงๆแล้วคนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะไอ้นาย ที่น้องเขาปวดท้องนั้นมันมาจากภาวะความเครียดและเกิดจากการอด
อาหารมาหลายวัน ข้าไม่แน่ใจนะว่าน้องเขาเคยเป็นโรคกระเพราะหรือเปล่า อีกอย่าง เหมือนที่ท้องน้องเขาได้รับความกระทบ
กระเทือนมาอย่างแรงซ้ำเข้าไป ทำให้อาการที่ปวดท้องอยู่แล้วเลยลุกลามไปกันใหญ่ ข้าลองดูที่ท้องน้องเขานะ ตอนที่ตรวจ ที่
ท้องน้อยเขามีรอยเหมือนกับว่าโดนต่อยมาก่อนน่ะ เอ็งบอกข้ามานะไอ้นาย ว่าเอ็งไปทำไรน้องเขา” หมอเก่งถามพลางยิ้มแบบยียวน
“เห้ย ข้าไม่ได้ทำไรน้องเขานะเว้ย ข้าเจอน้องเขาหลงทางระหว่างที่ข้าขับรถกลับบ้าน แล้วจู่ๆ น้องเขาก็ล้มลงไป ข้าก็เลยพามาโรง’บาล ก็เท่านั้นเอง” ศักดิ์นรินทร์พยายามปฏิเสธกับหมอเก่ง
“เออๆ ข้ารู้หรอกว่าเพื่อนข้าคงไม่ลักพาตัวใครมาหรอก” หมอเก่งพูดพลางยิ้ม แต่ศักดิ์นรินทร์สะอึกเบาๆ “ข้าก็แกล้งๆเอ็งไปงั้นแหละไอ้นาย เห็นเอ็งโหดๆอยู่ ว่าแต่ว่าข้าคุ้นๆหน้าเด็กคนนี้นะ เหมือนข้าเคยเห็นที่ไหนมา”
“ไม่มีไรหรอกไอ้เก่ง เด็กแถวบ้านข้าเอง”
“เออ ข้าก็ว่างั้นแหละ” หมอเก่งยิ้ม “ข้าไปก่อนนะจะเช้าแล้ว จะได้กลับไปนอนเสียที เจอกันที่ห้องคนไข้ตอนเย็นนะ ข้าจะไป
ตรวจอาการอีกไม่แน่เย็นนี้อาจจะออกจากโรง’บาลได้แล้ว ข้าไปล่ะ”
“เออ ฝันดีโว้ย ไอ้เก่ง” ศักดิ์นรินทร์พูดล่ำลาหมอเก่งที่เดินจากไป เขามองตามหมอเก่งจนหมอเก่งหายไปในมุมตึก สักพักหนึ่ง
บุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงคนไข้ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ศักดิ์นรินทร์เดินตามไปจนถึงห้องพักคนไข้ ร่างเล็กๆนอนหลับอยู่บนเตียง
ศักดิ์นรินทร์คิดว่าเขาทำเกินไปนิด ความคิดของเขาก็หยุดลงเมื่อบุรุษพยาบาลยื่นถุงใส่ของส่วนตัวของโกสินทร์ให้เขา ศักดิ์
นรินทร์เอ่ยคำขอบคุณเบาๆ บุรุษพยาบาลคนนั้นรับคำ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
โกสินทร์ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องสีฟ้าน้ำทะเล เขามองไปรอบๆ ก่อนที่จะหยุดสายตากับร่างใหญ่ที่ดู
เหมือนนอนหลับอยู่บนโซฟา โกสินทร์พยายามคิดว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่แล้วเขาก็ได้คำตอบเมื่อเห็นสายน้ำเกลือกับขวดน้ำเกลือที่
อยู่ข้างเตียง เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นชุดที่สวมใส่สบายๆ อาการปวดท้องที่เขาปวดเมื่อคืนนี้หายไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย
“อ้าว ตื่นแล้วหรอ?” ศักดิ์นรินทร์ที่ดูเหมือนว่าเพิ่งตื่นเช่นกันเอ่ยคำทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากแต่เด็กหนุ่มไม่สนใจ
“นี่! พูดด้วยทำไมไม่พูดด้วย แกเป็นอะไรนักหนาว่ะ? หรือว่าติดนิสัยคุณหนู ไม่ยอมคุยกับคนแปลกหน้า?” ศักดิ์นรินทร์ พูดแบบ
หัวเสีย
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” โกสินทร์เริ่มต่อปากต่อคำ
“อะไรนะ แกว่าอะไรนะ?” ศักดิ์นรินทร์เริ่มเดือด
“ทำไมคุณไม่ปล่อยให้ผมตายไปเลยล่ะ ให้มันสาสมใจคุณไง ให้เรื่องบ้าๆมันจบสักที ทำไมไม่ปล่อยให้ผมตายไปเลยล่ะ
ทำไม! ทำไม! มันจะได้จบสักที จบที่ผม อึก” เมื่อเด็กหนุ่มพูดจบน้ำตาเขาก็ค่อยๆไหลรดแก้มขาวนวลทันที
“ฮึ ทำไมฉันต้องให้แกตายตอนนี้ด้วยล่ะ ครอบครัวแกยังไม่พินาศ ฉันยังไม่ปล่อยให้แกตายง่ายๆหรอก แล้วอีกอย่าง แกอย่ามา
ทำเป็นสำออยบีบน้ำตาหน่อยเลยว่ะ มันน่าขยะแขยงสิ้นดี” ศักดิ์นรินทร์พูดอย่างแข็งกร้าว หากแต่ยามนี้เขาสงสารร่างที่อยู่บน
เตียงขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“ออกไป ผมบอกให้ออกไป” โกสินทร์ชันกายลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนที่จะเอาหมอนขว้างไปยังร่างของศักดิ์นรินทร์
“ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ทำร้ายฉันคนเดียวไม่พอ ยังทำร้ายป๊าฉันด้วย ฮือๆ ออกไป” เด็กหนุ่มพูดขึ้นทั้งๆที่น้ำตายังคงนองหน้า แต่ก่อนที่
จะมีอะไรรุนแรงไปมากกว่านั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของหมอเก่ง กับพยาบาลอีกคนหนึ่ง
“อ้าวหมอเก่ง ไหนว่าจะมาเยี่ยมตอนเย็นไง นี่เพิ่งบ่ายกว่าๆเอง” ศักดิ์นรินทร์เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกหมอเก่งทันทีเมื่อเขาอยู่
ในที่สาธารณะ หรืออยู่ต่อหน้าบุคคลอื่น
“อ้อ พอดีหมอลืมไปว่ามีประชุมตอนเช้าน่ะครับ พอประชุมเสร็จหมอก็เลยแวะมาตรวจอาการคนไข้เนี่ยแหละครับ” หมอเก่งพูด
พร้อมกับยิ้มให้ศักดิ์นรินทร์หนึ่งที ก็ที่จะเดินเข้ามาหาโกสินทร์ที่นั่งเช็ดน้ำตาอยู่บนเตียง
“อ้าว เป็นอะไรไปละครับ ร้องไห้ทำไมหรอครับ? หรือว่ายังปวดท้องอยู่หรือเอ่ย บอกหมอได้นะครับ” หมอเก่งถามโกสินทร์ด้วย
ถ้อยคำที่เหมือนไว้ถามกับเด็กเล็กๆ
“ไม่มีอะไรหรอกครับหมอ ผมหายปวดท้องแล้วครับ” โกสินทร์ตอบหมอเก่งแล้วยิ้มให้ เด็กหนุ่มพิจารณาหน้าตาหมอเก่งแล้ว เขา
คิดว่าหมอเก่งก็จัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งทีเดียวเลย ดวงตาดำขลับของหมอเก่งที่อยู่ใต้แว่นนั่นฉายแววใจดีอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งคำพูดคำจาของหมอเก่งก็ทำให้หมอเก่งนั้นดูมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย
“ครับ ดีแล้วล่ะ งั้นวันนี้ก็คงกลับบ้านได้แล้วนะครับ ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ดีใจไหมครับ?” หมอเก่งถามโกสินทร์ ก่อนที่จะสั่งให้พยาบาลถอดสายน้ำเกลือออกจากแขนของเด็กหนุ่ม
“กลับบ้านหรอครับ? ไม่เอา ผมไม่กลับได้ไหมครับ หมอช่วยผมด้วย ผมไม่อยากกลับ เขาจะทำร้ายผม ถ้าหมออยากให้ผมกลับ
บ้าน หมอต้องพาผมไปส่งที่กรุงเทพนะครับ ไปหาป๊าผม พาผมไปหาป๊าผมหน่อยนะครับ นะครับหมอ” โกสินทร์บอกหมอเก่ง
หมอเก่งทำหน้างุนงง ศักดิ์นรินทร์ที่ยืนอยู่ข้างๆหมอเก่งจึงรีบตัดบททันที
“หมอเก่งครับ ขอบคุณมากนะครับที่มาตรวจเยี่ยมอาการ วันนี้ผมจะพาน้องเขาไปส่งบ้านเลยครับ หมอไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“หมอครับ ช่วยผมด้วย” โกสินทร์ไม่ลดความพยายาม เด็กหนุ่มยังคงร้องเรียกให้หมอเก่งช่วยทันที ศักดิ์นรินทร์เห็นท่าไม่ดีจึง
บอกกับหมอเก่งว่า “หมอครับ เด็กคนนี้น่ะ พ่อเขาอยู่กรุงเทพนะครับ เขาคงอยากไปหา แต่ไม่แม่เขาไม่ให้ไป เพราะพ่อกับแม่
เขาแยกทางกันมานานแล้ว ตื่นมาก็เลยเพ้อแบบนี้แหละครับ”
“น้องครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านให้นะครับ ไม่ต้องกลัว” ศักดิ์นรินทร์แสร้งพูดดีกับโกสินทร์
“งั้นไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวก่อนนะครับ อย่าลืมทานยาตามที่หมอสั่ง อย่าเครียดมาก แล้วก็อย่าอดอาหารนะครับ คราวนี้โชคดีที่
ไม่เป็นโรคกระเพราะ แต่คราวหน้าต้องระวังนะครับ ถ้ามีอะไรให้หมอช่วยเหลือก็มาหาหมอได้ที่โรงพยาบาลนะครับ” หมอเก่งเน้น
เสียงกับประโยคท้าย ก่อนจะพูดต่อไปว่า”หมอขอตัวนะครับ ขอบคุณครับ” พูดจบหมอเก่งก็เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ เมื่อ
หมอเก่งเดินจากไป ศักดิ์นรินทร์หันมามองโกสินทร์ทันที
“แกอยากให้พ่อหรือพี่ชายแกตายใช่ไหม ถึงพูดแบบนั้นออกมา หา ?” ศักดิ์นรินทร์ถามเสียงเรียบที่เจือไปด้วยคำขู่ “ถ้าแกยังไม่หยุด ฉันสัญญาว่าจะเอาหัวของคนในครอบครัวแกมาให้แกแน่นอน!” โกสินทร์ไม่มีทางเลือกจึงต้องอยู่แบบเงียบๆ
“เอ้า นี่เสื้อผ้าแก ไปเปลี่ยนซะ” ศักดิ์นรินทร์พูดพร้อมกับยื่นถุงเสื้อผ้าให้โกสินทร์ โกสินทร์รับอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่จะลงมาจาก
เตียงไปเข้าห้องน้ำเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ได้รับมาอย่างเงียบๆ
บนรถของศักดิ์นรินทร์ยามนี้ช่างเงียบเหงายิ่งนัก ไม่มีแม้แต่คำพูดคำจาระหว่างโกสินทร์และศักดิ์นรินทร์ ที่ตักของโกสินทร์มีถุงยาวางไว้อยู่ เด็กหนุ่มมองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย
“เออ เป็นไง เสื้อฉันพอใส่ได้ไหม?” ศักดิ์นรินทร์เอ่ยถามโกสินทร์
“ก็ดี” เด็กหนุ่มตอบแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ความจริงนั้นเสื้อเชิ้ตของศักดิ์นรินทร์ที่โกสินทร์สวมอยู่มันใหญ่มากสำหรับเด็กตัว
เล็กๆแค่นี้ แค่ชายเสื้อก็เกือบถึงหัวเข่าของโกสินทร์แล้ว บทสนทนาระหว่างโกสินทร์กับศักดิ์นรินทร์ก็ไม่มีอีกเลย จนกระทั่งถึงไร่
ของศักดิ์นรินทร์เมื่อยามเย็น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณที่กำลังใจที่มีให้ผมนะครับ ส่วนเรื่องที่ว่าจะให้พระเอกร้ายไปมากกว่านี้ ผมจะพยายามหาเรื่อง ให้ทั้งคู่ตีกันเรื่อยๆนะครับ แต่ก็อาจจะมีแอบหวานหน่อยๆ ส่วนพระเอกของเรานั้นมีชื่อเล่นว่า "นาย"ครับ
ป.ล. ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้งนะครังที่ให้กำลังใจ และมาอ่านนิยายของผม ช่วงนี้งานยุ่ง เรียนเยอะ อาจจะอัพเรื่องสองสามวันครั้งนะครับ อย่าว่ากันนะครับ