Brothers
Chapter 9 – This Love
ศักดิ์สิทธิ์นั่งมองลูกชาย ดวงตาพ่อเว้าวอนไม่อยากให้เสือย้ายออกจากบ้าน เมื่อเช้าเสือบอกกับเขาว่าจะย้ายออกไปอยู่คอนโดคนเดียว เพราะไม่อยากให้ที่บ้านอึดอัด เขาแทบลมจับ ไม่คิดว่าลูกชายเกลียดกันขนาดนี้ “เสือคิดดีแล้วเหรอลูก”
“ผมคิดมาเป็นสิบปีแล้ว”
พ่อยกกาแฟขึ้นดื่ม สิบปีที่ว่า..คือสิบปีที่เขาละเลยลูก หากย้อนกลับไปได้..ไม่มีวันที่ศักดิ์สิทธิ์จะปล่อยให้เสืออยู่คนเดียว “ให้พ่อช่วยอะไรไหม”
“ผมจัดการทุกอย่างเองได้ แค่มาบอกให้รู้เฉยๆ”
“อีกสักปีสองปีไม่ได้หรือ” พ่อขอร้อง อยากยืดเวลาให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ อีกอย่างหนึ่งคือเขาเป็นห่วงเสือ ลูกชายไม่เคยทำอาหาร ทำได้ก็แค่สองสามอย่าง ต้มไข่ ทอดไข่ ถ้าออกไปอยู่คนเดียวมีหวังลูกเขาน้ำหนักลดเป็นเสือแห้งแน่ๆ อีกอย่าง..เขายังอยากเห็นหน้าลูกทุกเช้า แม้ได้รับเพียงสายตาเฉยชาก็ตาม
“ผมอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ออกไปอยู่ข้างนอกดีว่า พวกคุณจะได้สบายใจ”
“พ่อไม่เคยสบายใจเลยตั้งแต่เห็นเสือเป็นแบบนี้”
เสือกำมือแน่น ที่ผ่านมา..มันคือความไม่สบายใจหรือ เขาถามตัวเองมาตลอดว่าทำไมวันหนึ่งพ่อเปลี่ยนไป พ่อเคยไปรับไปส่งที่โรงเรียน แล้วอยู่ๆวันหนึ่งให้เสือนั่งรถไปเอง ทำเองทุกอย่าง นานๆได้เจอหน้ากันที แต่พ่อเลือกเลี่ยงไม่เจอหน้า
เขาทำอะไรผิด..เสือไม่เคยรั้งใคร แล้วทำไมทุกคนพยายามรั้งเขา มันไม่มีประโยชน์หรอก
“เหรอครับ”
“ถ้าเสืออยากไปอยู่ข้างนอกก็ได้ พ่อยินดีซื้อให้เสือ..แต่กลับมานอนบ้านเป็นครั้งคราวได้หรือเปล่า”
ร่างผอมมองพ่ออย่างแปลกใจ ทำไมมาเรียกร้องจากเขาล่ะ..เขาไม่มีอะไรให้นอกจากความเฉยชาเท่านั้น “ผมไปทำงานก่อน ไว้คุยกันเมื่อคุณเข้าใจความหมายที่ผมพูด”
*เมื่อเสืออายุสิบห้าปี พ่อส่งไปเรียนโรงเรียนชายล้วน ในทุกวันเสือต้องนั่งรถมาเรียนเอง..มันไม่แปลกเท่าไหร่หรอก ก็แค่อิจฉาเพื่อนคนอื่นที่มีคนมารับมาส่งเท่านั้นเอง
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มลอบมองเด็กหนุ่มผิวขาวจัด ผู้ชายคนนั้นอายุมากกว่าเสือสองปีแถมยังดูดีทุกระเบียดนิ้ว ในทุกเช้า..เสือจะแอบมองร่างสูงจากอาคารเรียน เขาชอบนั่งคุยกับเพื่อนที่โต๊ะไม้หินอ่อน ชอบลอกการบ้าน หรือแม้แต่อ่านหนังสือ
เสือชอบผู้ชายคนนั้น..ทั้งที่ไม่รู้จัก แต่เสือเห็นแล้วเหมือนถูกดึงดูด
เพื่อนหลายคนบอกมาว่าอีกฝ่ายเกเรไม่น้อย ทั้งสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หนักสุดก็กัญชา..เสือว่ามันดูเท่สมเป็นชายดี จนความคิดหนึ่งแล่นมาคืออยากลอง..
วันหนึ่งหลังสอบปลายภาคเสร็จ เสือแอบมองกลุ่มผู้ชายที่ยืนสูบบุหรี่ปลดปล่อยความเครียดอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นท่าการปล่อยควันออกมา เสืออยากลอง..เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำราวกับมีความสุขเต็มประดา
เสืออยากมีความสุขบ้าง..
ปลายเล็บจิกหากันแน่น เด็กหนุ่มลอบมองหลังเสาก่อนสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือปริศนาตบบ่าอย่างแรง
“มายืนดูพวกกูสูบบุหรี่ทำไม”
“ไม่ได้ดูสักหน่อย” เสือขืนกายหนี ทว่าอีกฝ่ายจับไว้แน่น
“แล้วมาแถวนี้ทำไม จะเอาไปฟ้องครูล่ะสิ”
ร่างเล็กเม้มปาก ตวัดมองอีกฝ่ายอย่างขุ่นใจ เขาไม่ได้เอาฟ้องใครทั้งนั้นแหละ “ก็บอกว่าไม่ไง ฟังภาษาคนมีรู้เรื่องเหรอ!”
ก่อนอะไรจะเลยเถิด เสียงทุ้มก็ดังขึ้น ท่าทางคนที่เสือแอบมองจะรู้ตัวแล้ว “มีอะไรกัน”
“ก็ไอ้เด็กห่านี่มันยืนมองมึงสูบบุหรี่ กูเห็นมันด้อมๆมองๆเลยถามมัน ก็เท่านั้น”
ดวงตาคมหรี่มองเด็กหนุ่มตรงหน้า เดินผ่านกันบ่อยๆ คุ้นหน้าแต่ไม่เคยทัก มันตัวเล็กกว่าเขา ผิวขาวจัด เผลอๆ..ขาวกว่าเขาด้วยซ้ำ “บอกกูมาสิ มึงมาทำอะไรตรงนี้”
เสือเม้มปากแน่น ใครจะกล้าบอกว่าแอบดูอยู่
“เร็วๆถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
ร่างผอมของเด็กยังนิ่งงัน นำความหงุดหงิดใจให้เคียงแดนนัก เด็กบ้าอะไรนิ่งอย่างกับหุ่น
“ถ้าไม่พูดจะพาไปรุมโทรมเดี๋ยวนี้”
ความจริงเสือกลัวจนตัวสั่น แต่ไม่อยากพูดออกมาให้ตัวเองอายเท่านั้นแหละ “มันเรื่องอะไร ไม่เห็นต้องบอกนายสักหน่อย!”
เคียงแดนมุ่นคิ้ว เขาพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกชอบแอบมอง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเอามากขนาดนี้นะ ปลายนิ้วกร้านแตะคางมน เขาช้อนคางเด็กหนุ่มแปลกหน้า มองด้วยสายตาสงสัย “หน้าตาก็ดีนะ..เสียอย่างเดียวโรคจิต”
“ผมไม่ใช่โรคจิต”
“แล้วมาแอบมองคนอื่นทำไม หรือว่าชอบกู”
เสืออึกอัก ไม่ยอมตอบ ยิ่งทำให้เคียงแดนมั่นใจกว่าเดิมว่าอีกฝ่ายชอบกันจริงๆ
“ไม่ใช่สักหน่อย”
เคียงแดนเลิกคิ้ว รอคำตอบจากเด็กหนุ่มร่างผอมอย่างใจเย็น “ก็แค่อยากลองบ้าง..”
นับตั้งแต่นั้นมา ทุกๆเย็นหลังเลิกเรียนเสือจะมาเจอกับเคียงแดน บริเวณห้องน้ำเก่าของโรงเรียน มันเงียบ เพราะอยู่ลึกและไม่มีคนมาใช้งานหลายปี เป็นที่ที่เหมาะแก่การกระทำความผิดนัก
“มาช้านะเสือ”
“ครูเพิ่งปล่อยนี่”
เสือทรุดนั่งข้างๆก่อนอีกฝ่ายจะยื่นมวนบุหรี่มาให้ “เอาไปลองสิ”
“แต่ผมไม่เคย”
“ทุกคนก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ ได้ลองแล้วจะติดใจ” เคียงแดนจุดไฟให้น้อง คอยมองมวนบุหรี่ที่แตะริมฝีปากสีชมพูดเรื่อ มันน่าเสียดายหากต้องดำคล้ำเพราะการสูบบุหรี่ เขาเฝ้ามองเด็กหนุ่มสูดควันเข้าไป ไม่นานก็สำลัก ไอจนหน้าแดงก่ำไปหมด เขาเคยคิดว่าคนอย่างเสือไม่ควรมายุ่งตรงนี้
แต่ในเมื่ออยากลอง..เขาก็ยินดีสอนให้..
“เป็นยังไง”
“แย่ที่สุด ไม่เห็นมีความสุขสักนิด”
ร่างสูงยิ้ม สมัยเขาอายุเท่าเสือก็เป็นแบบนี้แหละ อยากลองไปหมดเพราะคิดว่ามันเท่ดี ความจริงแล้ว..มันก็แค่การหลีกหนีปัญหาจากที่บ้านเท่านั้น ความกดดันทั้งพ่อและแม่อยากให้เคียงแดนเป็นหมอตั้งแต่ขึ้นม.ปลายทำให้เขาอึดอัดใจ
“ลองแบบนี้น่าจะมีความสุขกว่านะ” เคียงแดนดึงบุหรี่จากเด็กหนุ่มมาสูบก่อนประกบปากจิ้มลิ้มของเสือ เขาปล่อยควันออกมา แบ่งปันลมหายใจร่วมกันจนน้องเริ่มขาดอากาศ
“อื้อ!”
“เป็นยังไง แบบนี้สนุกไหม”
เสือหน้าแดงก่ำ ดวงตาคลอหยาดน้ำ ถึงเขาจะชอบเคียงแดน แต่ไม่เคยคิดให้อีกฝ่ายทำแบบนี้ “ผมไม่ใช่ของเล่นนะ!”
“กูก็แค่ช่วย เห็นไหมล่ะ..มันไม่สนุกสักนิด แบบนี้ยังอยากลองอีกไหม”
มวนบุหรี่ค่อยๆลดลง ควันของมันลอยฟุ้งในอากาศ เห็นเป็นสีเทาขมุกขมัว ความจริง..มันก็ไม่มีอะไรน่าลองหรอก แค่เห็นคนอื่นมีความสุข เสือก็อยากลองดูบ้าง แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“มีอย่างอื่นอีกไหม”
เคียงแดนเลิกคิ้ว เสือเหมือนผ้าสีขาว หากสีจางๆหยดไปเมื่อไหร่มันก็เลอะนั่นแหละ เขาไม่ใช่คนเลวโดยกมลสันดาน และไม่อยากให้ใครมาเป็นแบบที่เขาทำตอนนี้ ไม่มีใครอยากถูกมองไม่ดีหรอก และเขาคิดว่าเสือก็เป็นเหมือนกัน
“พูดขนาดนี้แล้วยังไม่ฟังอีกเหรอ”
มันเป็นจุดเริ่มต้อนของทุกอย่าง..
เสือสูบกัญชา มันไม่มีผลต่อร่างกายแต่ส่งผลต่อจิตใจ ทุกครั้งที่เขาได้รับมัน เหมือนเสือล่องลอยอยู่ในอากาศ รอบกายดูสบายจนไม่อยากออกจากโลกที่เสือสร้างขึ้นมา นานวันเข้า..เขาเริ่มหยุดไม่ได้ ทุกครั้งมันมีความสุขเหลือเกิน อย่างน้อยในเวลาหนึ่ง..เสือก็สามารถมีความสุขแบบที่ต้องการได้
เขาคิดแค่นั้น..
“พี่แดน” เสือล้มพับข้างๆอีกฝ่าย เขาตาลอย อมยิ้ม ควบคุมตัวเองไม่ได้
เคียงแดนหันมองคนข้างกาย ท่าทางมันเป็นหนักแล้ว..เขาควรจะหยุดมัน “กลับบ้านเถอะ”
ร่างผอมของเด็กหนุ่มขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า ก็ลุกขึ้นมาโอบกอดอีกฝ่ายไว้ “ไม่กลับ”
“กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวคนที่บ้านเป็นห่วง” เสือส่ายหน้า ปลายผมกระจัดกระจายและทิ่มแทงบริเวณต้นคอเคียงแดน มันจักกี้ อีกทั้งกลิ่นตัวน้องยังหอมเกินห้ามใจ
ผิวขาวใต้เสื้อนักเรียนนั้นดึงดูดให้เคียงแดนสัมผัส ปลายนิ้วค่อยๆดึงชายเสื้อนักเรียนขึ้นก่อนสอดฝ่ามือเข้าไป สัมผัสเนื้อเนียนใต้ร่มผ้า มันละมุนนุ่มนิ่มน่าถนอม แต่เจ้าของกลับคอยทำร้ายมันอยู่เรื่อย
“เสือ”
“หือ”
เด็กหนุ่มปล่อยให้เคียงแดนทำตามใจ ไม่ร้องไห้ ทว่ากลับเปิดทางให้อีกฝ่ายรุกล้ำแต่โดยดี ปลายนิ้วเย็นเฉียบชื้นเหงื่อแตะยอดอกเล็กเบาๆ เสือสะดุ้งแล้วหัวเราะคิก แต่ความรู้สึกต่อมากระจุกอยู่ที่กึ่งกลางตัว มันน่าอึดอัดไม่น้อยเลยทีเดียว
“พี่แดน..ผม..” เสือหอบหายใจ เขาเกี่ยวคออีกฝ่ายแน่นเมื่อปลายนิ้วซุกซนล่วงล้ำไปจนถึงขอบกางเกงชั้นใน
“เสือ ได้เวลากลับบ้านแล้ว”
เหตุการณ์เลยเถิดเกือบทุกครั้ง พวกเขามักจูบกัน..รสชาติเด็กหนุ่มหอมหวานนัก ไม่ใช่แค่เสือที่ต้องการ เขาเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน
จนสุดท้ายแล้ว..เสือเกเร ไม่ยอมเรียน ไม่ยอมส่งงาน จนครูที่ปรึกษาต้องเรียกพ่อของเสือมาพูดคุย
วันนั้นเขาเห็นน้องตาแดงก่ำ..ร่องรอยฝ่ามือแดงเถือกบนแก้มขาว เสือคงเจ็บน่าดู ทว่าเคียงแดนได้แต่มองน้องห่างๆ..มันก็แค่คนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็เท่านั้น
แต่กับเสือ..เคียงแดนเป็นเหมือนคนใกล้ชิดสนิทใจ เสือเชื่อเคียงแดนมากกว่าพ่อ..เพราะเคียงแดนให้ความสุขกับเสือมากกว่าพ่อเสียอีก
พวกเขาโดนกีดกัน แต่เสือสามารถติดต่อกับเคียงแดนได้ ในทุกเย็นวันจันทร์ พวกเขาจะนัดเจอกันที่ห้องเรียนวิทยาศาสตร์หลังสี่โมงครึ่ง เพราะไม่มีคนอยู่แล้ว พวกเขาอยู่กันสองคน..และลอบสูบกัญชาบ่อยๆ แม้เสือรู้ดีว่าจะโดนพ่อทำโทษ..แต่เสือไม่เคยสนใจ ยอมเจ็บตัวแลกกับความสุขเพียงครั้งคราวพอ
เสือทำอย่างนี้ทุกครั้งกระทั่งเคียงแดนเตรียมตัวสอบ เขาเลยมาคนเดียวบ่อยๆ..ทั้งที่อีกฝ่ายเคยเตือนหลายครั้ง แต่เสือไม่เคยเชื่อเลย
กระทั่งวันหนึ่ง..เขาเกือบโดนรุมโทรม ด้วยฤทธิ์ของกัญชาทำให้เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์และการกระทำของตัวเองได้สักนิด เสือเที่ยวกอดคนรอบกายไปทั่ว มองด้วยแววตาหยาดเยิ้มจนใครหลายคนทนไม่ได้ แม้จะอยู่ในชุดนักเรียนก็ตาม ทว่าในแหล่งซ่อมสุม..มันไม่มีความหมายสักนิด
พวกมันสัมผัสเขาอย่างจาบจ้วง เสือไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกดี..กระทั่งนานๆเข้าเขาเริ่มอึดอัด หายใจไม่ออกจากฝ่ามือหลายคู่ที่ตรึงไว้กับพื้น
“อยากนักเดี๋ยวกูจัดให้!”
เสือขัดขืนจนหมดแรง เขาเกือบโดนทำร้ายจริงๆหากไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเข้ามาช่วย เรื่องมันไม่จบแค่นั้น..เสือโดนเคียงแดนตบจนหน้าหัน
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอีก”
ดวงตากลมของเด็กหนุ่มหลุบมองพื้นก่อนหยดน้ำตาหยดที่หนึ่งจะไหลลงมา ตามด้วยหยาดน้ำเป็นสายที่ไม่อาจประเมินได้*
เปรมยืนมองเพื่อนร่วมงานร่างผอมที่เอาแต่นั่งเหม่อเกือบสิบนาทีแล้ว เคยเห็นท่าทางแบบนี้ที่ไหนกันเล่า “เอ่อ..คุณเสือ พักก่อนไหมครับ”
ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วหันมองผู้มาใหม่ แววตาตระหนกนานๆได้เห็นที ดูน่ารักน่าแกล้งเหมือนกระต่ายอย่างที่ไอ้ตุลย์พูดจริงๆ
“ผมสบายดี”
“แต่งานของคุณจะเละเอานะครับ”
ดวงตาคมหลุบมองกระดาษแผ่นใหญ่ที่มีรอยดินสอขีดข่วน ดูไม่ออกเลยว่าจะวาดรูปอะไรกันแน่
“ไอ้เปรม งานมึงเสร็จแล้วเหรอถึงได้เดินมาป้วนเปี้ยนแถวนี้” ตุลายืนหลังเพื่อนสนิท เขาเห็นมันแกล้งเสือแล้วอดด่ามันไม่ได้ งานไม่เสร็จแต่ชอบระรานชาวบ้านไม่เปลี่ยนเลย
“แหม! แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ คนของมึงเหรอ”
ตุลาถอนหายใจเฮือก ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันไม่สำคัญหรอก “เปล่า..กูเห็นว่าเจ้านายอยากเห็นงานเสร็จวันนี้ ก็แค่เตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากเห็นมึงโดนตัดเงินเดือนอีก”
เปรมตาเหลือก เขาเห็นพี่ทศหอบงานมาให้แต่ไม่พูดอะไร ไม่ยักรู้ว่างานเร่งขนาดนี้ “ฉิบหายล่ะ! ทำไมมึงไม่บอกกูเร็วกว่านี้วะไอ้ตุลย์”
เสือหลีกหนีความวุ่นวายย่อมๆที่มักเกิดขึ้นช่วงเวลาสงบสุขของเขา ตอนนี้มุมกาแฟน่าจะเป็นที่ที่สงบที่สุดในออฟฟิศเลยก็ว่าได้
ในช่วงเวลานี้ เสือมีเรื่องให้คิดมากมาย อดีตมักย้อนกลับมาให้คิดถึงเสมอ อีกทั้งยังมีเรื่องย้ายออกไปอยู่คอนโดอีก ดูเหมือนทุกคนจะคัดค้าน ไม่ว่าจะเป็นตุลาหรือแม้กระทั่งผู้ชายคนนั้น ถึงปากจะบอกว่าให้กลับมานอนบ้านเป็นครั้งคราว แต่เสือคิดว่า..หากเขาย้ายออกไปเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ เสือจะไม่มีทางกลับมาแน่นอน
หลายคนอาจจะบอกว่าเสืออกตัญญู..แต่ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
หนุ่มร่างผอมเหม่อลอยอีกครั้งในรอบวัน เขาคนกาแฟไปเรื่อยๆกระทั่งสัมผัสได้ถึงไออุ่นประชิดหลัง “ผมว่าคุณลืมใส่ครีมเทียมนะ”
ตุลาหลุบตามองกาแฟสีดำปี๋ ปกติแล้วเจ้าตัวชอบเติมครีมเทียมกับน้ำตาลเป็นว่าเล่น
“วันนี้อยากกินกาแฟดำ”
“เอาสิ”
ดวงตาสีเข้มมองคนปากแข็งอย่างคาดคั้น เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมแตะกาแฟถ้วยนั้นสักที จนแล้วจนรอดตุลาก็ต้องเอื้อมแขนไปหยิบครีมเทียมจนได้ “ไม่อร่อยหรอก ไปเททิ้งซะ ผมจะชงให้ใหม่”
แผ่นอกกว้างทาบทับแผ่นหลัง เขาขนลุกซู่ พวกเขาใกล้กันจนสัมผัสถึงลมหายใจร้อนๆของตุลา
ไม่ไหวแล้ว..แก้มเสือร้อนไปหมด
“เป็นอะไรไป”
“เปล่า” ยิ่งใกล้เท่าไหร่เสือเหมือนหายใจไม่ออกทุกขณะ เขายกกาแฟดำถ้วยนั้นขึ้นดื่มอย่างเผลอตัว กาแฟขมปี๋และร้อนจนอดไม่ไหว มันพุ่งเปรอะโต๊ะสีขาวสะอาด ทั้งแก้วที่คว่ำไว้อย่างเป็นระเบียบ
ริมฝีปากอิ่มแสบนิดๆ ก่อนปลายนิ้วของตุลาจะแตะลงมาแผ่วเบา..และเสือไม่อาจปฏิเสธได้
ตุลามองคนดื้อด้านอย่างอ่อนใจ เขาดึงแขนอีกฝ่ายแล้วจับร่างผอมนั่งลงนิ่งๆ “อยู่เฉยๆ”
เสือไร้สิทธิ์ประท้วง เขาทำเลอะขนาดนี้ ไม่อยากนึกตอนไปอยู่คอนโดคนเดียวจะวุ่นวายแค่ไหน ถึงอย่างนั้น..เสือก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน
แผ่นหลังกว้างของตุลาดูน่าเกรงขาม ทั้งท่าทีการชงกาแฟอย่างเชี่ยวชาญนั่นอีก ทำให้เสืออดอิจฉาลึกๆไม่ได้..ทำไมเขาไม่เป็นแบบนี้บ้างนะ
ถ้วยกาแฟส่งกลิ่นหอมฉุยวางอยู่ตรงหน้า พร้อมกับแพนเค้กอันเล็กเสิร์ฟคู่กันดูน่าทานจนเสืออยากทิ้งมาดไว้ตรงนี้ “ขอบคุณ”
“ชิมสิ ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า”
ดวงตาคมเหลือบมองอีกฝ่าย ตุลานั่งลงตรงข้าม มองเขากับอาหารว่างมื้อนี้สลับไปสลับมา
“คุณเคยทำงานในร้านอาหารเหรอ”
ตุลายิ้ม นับเป็นคำถามแรกที่เสือถามเขา “ไม่เคยหรอก”
ร่างผอมมุ่นคิ้ว ทำคล่องขนาดนี้แถมยัง..อร่อยด้วย ไม่แปลกเลยถ้าตุลาจะย้ายออกมาอยู่คนเดียวแล้วไม่อดตาย แต่เขานี่สิ..มีหวังไม่รอด
“ตอนไปเรียนอยู่อังกฤษทำเองบ่อยๆ ทำทุกเมนูนั่นแหละ สนุกดี”
เสือพยักหน้ารับฟัง ตั้งแต่เด็กก็มีพ่อกับพี่เลี้ยง คอยดูแลไม่ห่าง เสื้อผ้าเขาก็ไม่เคยซักเอง มีแม่บ้านทำอาหารให้..จะมีอยู่เรื่องเดียวคือพ่อไม่เคยไปรับไปส่งเท่านั้น และเขาไม่อยากรบกวนคนขับรถด้วย เมื่อก่อนพ่อเป็นเชฟโรงแรมชื่อดัง ทำอาหารอร่อยที่สุด แต่วันหนึ่งพ่อก็หยุด..และจากนั้นมาพ่อไม่เคยเข้าครัวอีกเลย
“คุณบอกคุณลุงว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดหรือยัง”
“บอกแล้ว”
“แล้วยังไง” ในความคิดของตุลย์ แน่นอนว่าคุณลงจะไม่ขัดใจเสือโดยเด็ดขาด เผลอๆอาจจะยอมให้ไปเลยก็ได้ หนำซ้ำยังซื้อคอนโดให้ด้วย
“ผมไม่ต้องรายงานให้คุณรู้ทุกเรื่องนะ”
“หากคุณเห็นความเป็นห่วงจากคนรอบข้างสักนิด..คุณจะไม่มีทางพูดประโยคนี้ให้ใครได้ยินเลยสักคน”
ร่างผอมเม้มปาก ตุลาไม่เคยเกรงกลัวอารมณ์ของเขา ไม่เหมือนกับพ่อ..พ่อตามใจและไม่เคยขัดใจ หนำซ้ำยังดูแลเสือดีกว่าปกติทั้งที่ไม่เคยสนใจ ทว่าพี่ชายเมษากลับทำทุกอย่างตรงกันข้าม
“ว่ายังไง”
“เขาให้กลับมานอนบ้านเป็นครั้งคราว”
หนุ่มนักเรียนนอกถอนหายใจ เป็นอย่างที่คิด ไม่มีใครคิดว่าเสือจะไปไม่รอดเลยหรือ ดูอย่างวันนี้สิ..กาแฟสีดำปี๋แถมยังลวกปาก ซ้ำร้ายยังพุ่งออกมาเลอะเคาท์เตอร์ไปหมด แบบนี้หรือที่สมควรปล่อยลูกนกหัดบินออกจากรัง หากในอีกแง่หนึ่ง..มันอาจจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเสือก็เป็นได้
เมื่อบ่ายเมษาฟังมาจากแม่ แม่บอกว่าพี่เสือจะย้ายออกจากบ้านเร็วๆนี้เพราะพ่อตัดสินใจซื้อคอนโดติดถนนใหญ่ให้แล้ว ด้วยเหตุผลบางประการที่ไม่อาจบอกได้
นี่แหละสาเหตุที่เด็กเมษานั่งหงอยพอๆกับสุนัขแสนรัก
“แม่ พี่เสือเกลียดเมษหรือเปล่า”
แม่หันมายิ้มแล้วรีบปลอบลูกชายตัวดี “ไม่หรอก ไม่มีใครเกลียดเมษหรอก มีแต่คนรักเมษทั้งนั้นแหละ”
เมษาเบ้ปาก แม่คงไม่กล้าบอกว่ายกเว้นพี่เสือสินะ ถ้ารักกันจริงจะหนีไปอยู่ที่อื่นทำไม “พี่เสือล่ะ..เพราะเมษแน่ๆพี่เสือเลยย้ายออกไป”
“ไม่หรอก พี่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น..อย่าคิดมากนะเมษา”
จะไม่ให้คิดมากอย่างไร นับตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา พี่เสือเคยพูดดีๆกับเมษเสียที่ไหน เหมือนมะนาวไม่มีน้ำไม่มีผิด กระนั้นเมษาก็ไม่เคยยอมแพ้ มีแต่วิ่งเข้าหาเจ้าชายน้ำแข็ง ด้วยว่าวันหนึ่งความสัมพันธ์ของพวกเขาจะก้าวหน้าขึ้นไปอีก
เมษาหวังไว้..แต่มันไม่เคยเป็นจริงเลย
นานวันพี่เสือยิ่งออกห่างจนเมษาไล่ตามไม่ทันอยู่แล้ว..พอพี่เสือย้ายออกไป แน่นนอนว่าระยะห่างต้องเพิ่มขึ้นไปอีกจนมองไม่เห็นอีกฝ่าย
“แม่ทำเครปเค้กไว้ อยากลองทานหรือเปล่า”
เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ถึงเมษาจะเศร้าใจแค่ไหน แต่อาหารฝีมือแม่อร่อยที่สุด
แม่หยิบวิปครีมกับน้ำผึ้งจากตู้เย็นมาให้ ส่วนเมษาก็ไม่รอช้าทั้งราดทั้งบีบจนจะล้นขอบจานอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นแม่ไม่เคยห้าม..ถ้าหากมันทำให้เจ้าชายน้อยของแม่สบายใจ
เสือ..คนๆนั้นไม่เคยทำให้เมษาสงบได้เลย..
“ทำไมเมษอยากให้พี่เสืออยู่กับเรานักล่ะ” แม่เอ่ยถาม เพราะอยากรู้เหตุผล หลายปีที่ผ่านมา..หล่อนคอยเฝ้ามองลูกชายวิ่งตามคนเอาแต่ใจ และทุกครั้งเมษาต้องเจ็บตัวหรือเจ็บใจ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
“พี่เสือเป็นคนในครอบครัว เมษอยากให้มันสมบูรณ์เหมือนคนอื่นๆ”
ตอนที่พ่อแท้ๆของเมษและพี่ตุลย์แยกทางกันกับแม่ พี่ตุลย์อยู่กับพ่อ ส่วนเมษเลือกอยู่กับแม่ แม้ความจริงแล้วอยากอยู่ด้วยกันแทบขาดใจก็ตาม ทว่านั่นเป็นเพียงแค่ฝัน ผู้ใหญ่จะฟังเสียงเด็กเล็กๆอย่างพวกเขาทำไม เวลาไปโรงเรียน..เพื่อนชอบล้อเมษกับพี่ตุลย์ แต่พี่ตุลย์ไม่เคยแสดงออกว่าเสียใจแค่ไหน
เมษรู้ดีกว่าพี่ตุลย์ใจเย็นและข่มความรู้สึกเก่งยิ่งกว่าใคร..
พวกเขาอยู่ด้วยกันแค่ที่โรงเรียนเท่านั้น พอตอนเย็นก็แยกย้ายกันกลับราวกับไม่ใช่คนในครอบครัว เมษาไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว แม้ความพยายามสานสัมพันธ์ระหว่างพี่เสือกับเขาจะไม่ค่อยราบรื่น แต่เมษามั่นใจว่าลึกๆแล้วพี่เสือก็รู้สึกว่าเมษเป็นน้องคนหนึ่งเหมือนกัน
“แม่..เมษอยากกินอีก เมษจะกินเยอะๆเลย”
“ไม่กลัวอ้วนหรือไงน่ะ”
เมษาส่ายหน้าแล้วแบ่งส่วนเล็กๆให้เจ้าปุ้มปุ้ยกิน
พอๆกันทั้งคนทั้งหมาเลย..
เมาท์ๆๆๆ อิอิ สวัสดีค่ะ
หายไปแปดวันนนน T////T
หายไปนานเหมือนกันนะนี่ สอบเสร็จแล้วววว ก๊ากๆๆๆๆ
น้ำตาจะไหล สอบเสร็จวันนี้เองค่ะ เสร็จแล้วก็มาต่อนิยายเลยยย
เนื้อเรื่องอาจจะไม่ฟินเท่าไหร่ TT ขอโทษด้วยนะคะ แบบว่าพี่ตุลย์ได้แค่จูบอ่ะ
ไม่ได้อย่างอื่นเลย สงสารนิดหน่อย แต่เค้าอยากเป็นนายเอกเรื่องนี้จัง จะเอาพี่ตุลย์ จะเอาพี่ตุลย์ ก๊ากๆ
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ
ขอบคุณนักอ่านหน้าใหม่ที่หลงเข้ามาอ่านฟิคเรื่อยๆของคนเขียนคนนี้นะคะ คิคิ
แต่ว่าตอบคอมเมนท์ค้างไว้อ่ะ TT
ตอบไม่ไหว มาช่วยตอบหน่อยยยย (อู้งานอีกแล้ว)
มีแฟนเพจล่ะค่ะ จิ้มๆๆๆ
https://www.facebook.com/pages/Ellette/389007221190229อย่าลืมไปจิ้มเบาๆกันนะ คิคิ
ปล. *คือย้อนอดีตให้เห็นนะงับ
ถ้าทำตัวเองกลัวว่าคนอ่านจะคอเอียงไปด้วย ก๊ากๆ