● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1225379 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คิมมีนำ้ใจเนอะไม่อยากให้พี่ภพผิดสัญญาก็เลยต้อง.."พี่ไม่ต้อง..น้องทำเอง" เขินเป็นเพื่อนคิม~

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
น่ารักขึ้นทุกวันอ่ะคู่นี้ๆ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
น้องครีมเวลาแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ น่ารักเหลือหลาย ไม่แปลกเลยที่เฮียภพจะทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้
ไอ้คำว่า"เลี้ยง"คำเดียวนี่ รู้สึกจะเล่นกันไปเล่นกันมา แล้วก็เขินกันเองซะงั้นอ่ะ น้องคิมน่าฟัดจนเฮียจะอดใจไม่ไหวแล้วน้า :hao6:
บอมบ์ รูมเมท ท่าทางจะสงสัยน่าดูกับความสัมพันธ์ของน้องครีมกับหนุ่มหน้ายักษ์ ที่ตามเฝ้าทุกฝีก้าว
ความลับของน้องคิม มีหวังจะเปิดเผยก็เพราะนายบอมบ์นี่ซะล่ะมั้ง
เฮียมีการงอนที่น้องคีมแนะนำว่าเป็น"พี่ชาย"ซะด้วย แต่เจอการง้อสไตล์คิมหันต์เข้าไป เฮียมีหวังแกล้งงอนอีกหลายๆรอบ
ไม่อยากให้เฮียผิดสัญญา น้องคิมเลยรับอาสาเป็นผู้กระทำการแทน ด้วยการสาธิตระหว่างจุ๊บส์ กับ จูบ แหม  :o8:
ให้รู้กันไปเลย แต่แค่สาธิตก็ทำเอาเราฟินสุด ๆ ไปแล้วน้า น้องคิมน่ารักที่ซู้ดเลย
ตาจ้องหนังกันไม่กระพริบทั้งคู่ แต่ไหงการกระทำมันคนละเรื่อง
เฮียภพทำเนียนมานอนหนุนตักดูหนัง ที่จริงตั้งใจมานอนยั่วน้องครีมก็บอกมาเหอะ
ส่งสายตาหวาน ๆ เข้าใส่ ทำเอาน้องครีมของเราหลงเสน่ห์จนต้องเป็นฝ่ายก้มลงมาจูจุ๊บส์เฮียซะเอง
ไม่ผิดสัญญาแถมได้จูบที่แสนหวานจากน้องครีม มีแต่ได้กับได้นะเฮีย :z2:

lluvia

  • บุคคลทั่วไป
 ไม่ไหวแล้วนะคู่นี้  :-[   คิมน่ารัก น่าฟัด

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนนี้ โอยยยยยยย น่ารัก หวาน กร๊าว อิ๊บอิ้วววว มากกกกกกกกกกกกกก
ฟินนนนนนนน ขนาดยังไม่สมบูรณ์ยังฟินได้ขนาดนี้
ถ้าเกิดว่า.........ครบสัญญา หรือสัญญาเป็นการโมฆะ จะฟินขนาดไหนเนี่ยยย แอร๊ยยย ไม่อยากคิดดดด  :m3: :m3: :heaven


รอตอนต่อไปและเป็นกำลังใจเพื่อความฟินในภายหน้าจ้าาาาา  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ babimild1985

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
อ่านตอนนี้แล้วอยากระเบิดตัวเองอ่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●


ยกที่ 45 – ครึ่ง ๆ กลาง ๆ



 
      
         แค่นอนกอดกันเท่านั้นเอง เขาเหมือนจะหัวใจวายเสียให้ได้ในตอนแรก ทว่าหลังจากนั้นก็มีแต่ความรู้สึกอุ่นสบายจนอยากซุกอยู่ใกล้ให้นาน ๆ


         สามภพเป็นผู้ชายตัวใหญ่ แต่ไม่เทอะทะ กล้ามเนื้อแน่นตึงสมส่วน ทั้งที่คิดว่าร่างกายแบบนั้นคงจะหยาบกระด้างเมื่อไปคลอเคลียใกล้ ๆ  แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับตรงกันข้าม แน่นอนว่าความรู้สึกต่างจากตัวนิ่ม ๆ ของพี่สาวทั้งสองและมารดา พุงพลุ้ยของป๊า หรือว่าตัวผอมกะหร่องของเพื่อนปิ่นหยก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่อีกฝ่ายทั้งดูนุ่มนวลและแข็งแกร่งเวลาอยู่ใกล้ ไม่เหมือนใครเลยสักคน


         “เฮียเพี้ยน”


         “หืม?”


         อีกฝ่ายครางตอบแผ่วเบาในลำคอ ตายังไม่ยอมลืม แต่อ้อมแขนกอดรัดไว้จนแน่น น่าแปลกที่เขาไม่รำคาญสักนิด


         “อยู่บ้านกอดใครมั่งเปล่า?”


         “ไม่นี่”


         “เหรอ?”


         “มีอะไร?”


         เขาลอบยิ้ม เกาะแขนชายหนุ่มไว้แน่น ก้มหน้าลงไปซุกแถวลำคออุ่น  ได้กลิ่นหอมอ่อนของครีมอาบน้ำหรืออะไรสักอย่างอ้อยอิ่งตามเนื้อตัว และเขาคิดว่าตัวเองค่อนข้าง...ชอบ..กลิ่นแบบนั้นมากทีเดียว ทั้งที่ตอนหยิบขวดในห้องน้ำมาดมก็ไม่เห็นรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ แต่พอมาอยู่บนตัวอีกฝ่ายกลับถูกใจจนอยากเอาจมูกไปถูไถบ่อย ๆ  ดูโรคจิตกระทั่งกับตัวเองจนชวนให้วิตกจริตกับนิสัยประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น


         “เปล่าอะ”


         “หวงรึ?”


         “เปล่าไง”


         “ไอ้เบื๊อก”


         เขาได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วจากลำคอที่ซุกอยู่ หลับตาแต่รู้ได้ว่ามีมือโอบอยู่บนแผ่นหลัง ลากมาวางบนท้ายทอยอ่อนโยน คางแตะอยู่เบา ๆ กลางศีรษะ พร้อมถ้อยคำพึมพำทุ้มต่ำว่า “นอน”  อ้อมแขนกระชับแน่นขึ้นทีหนึ่งก่อนจะค่อยคลายลงคล้ายเป็นเชิงตักเตือน




         แค่นั้นก็อุ่นวาบไปทั้งตัวเลย




         “ฮื่อ”




         คิมหันต์วางแขนบนเอวอีกฝ่าย กำชายเสื้อสามภพไว้หลวม ๆ ค้างอยู่เช่นนั้นจนหลับไป พร้อมกับความคิดเลือนรางเรื่องสัญญาที่เคยตกลงกันไว้กับชายหนุ่มเมื่อหลายเดือนมาแล้ว ลังเลว่าควรจะไปทางไหนต่อดี



         คืนวันเสาร์จบลงด้วยกลิ่นหอมหวานและสภาวะทางจิตใจอันอยู่ในระดับครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่นนั้น









         เขากลับมาอยู่ที่หอในยามบ่ายของวันอาทิตย์ ฝนยังคงโปรยปราย ฤดูฝนชุ่มฉ่ำอาจเรียกรอยยิ้มหรือชวนให้ซึมเซากับความอึมครึมของท้องฟ้า คิมหันต์ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองมองสภาพอากาศตรงหน้าแล้วตกอยู่ในอารมณ์ไหน มันช่างขุ่นมัวและไร้ความชัดเจนเหมือนยืนอยู่กลางเมฆหมอกอย่างน่าประหลาด กระนั้นมุมปากก็คล้ายจะยกขึ้นนิดหน่อยโดยไม่เจตนาเมื่อนึกถึงคนที่เพิ่งมาส่งเขาและกลับไปได้ไม่นาน ขณะที่สายตาทอดไปไกลผ่านม่านฝนพรำนอกหน้าต่าง

         “เฮ่ยคิม!”

         ธนธรร้องทักตอนเขากำลังนั่งลากนิ้วมืออย่างไร้จุดหมายบนโต๊ะ เหม่อได้ที่ทีเดียว ถึงกับสะดุ้งเบา ๆ หลุดออกจากภวังค์ที่วนเวียนกับเรื่องราวเมื่อคืนกะทันหัน

         “เมื่อวานเป็นไงวะ?” อีกฝ่ายถามต่อ มือแตะหน้าจอสัมผัสบนกล้องตัวเองไปด้วย

         “เป็นไงคือ?”

         “เห็นไปกับพี่หน้าโหดคนนั้น” ธนธรกระซิบกระซาบถาม

         “อ้อ”

         “ใครเรอะ”

         “พี่ชายไง”

         “แท้ ๆ!?”

         คิมหันต์กระตุกไหล่ ส่งรอยยิ้มกวนประสาท “คิดว่าไงล่ะ”

         “ไม่รู้”

         “งงต่อไป” เด็กหนุ่มยักคิ้วให้เพื่อน ยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะ โยนสมุดที่เกะกะอยู่ลงลิ้นชักแล้วส่งเสียงหัวเราะระรื่น เรียกถ้อยคำสบถจากอีกฝ่ายอย่างขัดใจ

         “ไอ้เวรนี่!”

         “เอ้อ บอมบ์” คิมหันต์เปลี่ยนเรื่อง ชะเง้อเข้าหาเพื่อนร่วมห้องที่ยกกล้องขึ้นยิงชัตเตอร์ใส่เขา ไม่ทันตั้งตัวอย่างไรก็อุตส่าห์พยายามเก๊กหล่อ ขณะที่ปากยังทำหน้าที่ถามต่อไปด้วย “แล้วรูมเมทอีกสองคนอะ”

         คนฟังทำหน้าคล้ายนึกขึ้นได้ พยักพเยิดไปทางเตียง D ซึ่งเป็นเตียงชั้นสองของอีกฝั่งห้องพร้อมเอ่ยคำตอบ “เอาของมาไว้แล้วคนนึง หลังจากนั้นก็หายไปกับเพื่อนสาว”

         “เพื่อนสาว?” เขาทวนคำ เลิกคิ้วน้อย ๆ

         “แต๋วมาเลย” อีกฝ่ายได้ที เห็นเป็นการเปิดประเด็นก็บ่นกระปอดกระแปดอย่างอัดอั้นตันใจ “แต่ละคนนี่หน้าอย่างใสปิ๊ง แต่ผมแม่งรองทรงสูง”

         เขาชะงักไปแวบหนึ่ง พยายามกลั้นขำเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “เดี๋ยวผมมันก็ยาว”

         “ใช่ประเด็นที่ไหนวะเฮ่ย!”

         คิมหันต์หัวเราะลั่นอีกครั้งจนได้ “ว่าแต่ชื่ออะไรวะ”

         “ใคร?”

         “รูมเมทเตียงดีไง”

         “ซาราห์”

         “ไอ้บ้า!” เขาร้องลั่น กะว่าต้องกำลังโดนอำเต็มที่

         “ความจริงชื่อแซม” ธนธรว่าพลางห่อไหล่ไปด้วย ลูบแขนตัวเองซึ่งเริ่มขนลุก “แต่มันบอกได้โปรดอย่าเอ่ยชื่อนั้น มีรูปด้วย ดูไหม?”

         คิมหันต์กลั้นขำทั้งที่ยังอ้าปากค้าง พยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินไปนั่งแหมะอยู่ข้างเพื่อน ชะเง้อมองจอภาพบนกล้องในมืออีกฝ่ายไปด้วย ธนธรลากนิ้วเร็ว ๆ ไปบนหน้าจอ พอเห็นผ่านตาว่ามีรูปเขาเมื่อครู่อยู่หลายรูป เวลาแค่ไม่กี่วินาทีแท้ ๆ  มือไวใช้ได้เลยเชียว

         “นี่”

         “ไหน ๆ”

         “ซาราห์คนสวย”

         “เชี่ย!” เด็กหนุ่มอุทาน “โคตรล่ำ”

         ก่อนประตูห้องจะเปิดผาง พร้อมกับเสียงทุ้มต่ำของบุคคลเดียวกับในรูปพุ่งมาเข้าหู


         “ว้าย! หนุ่ม ๆ คะ นั่งสุมหัวอะไรกัน”


         หนุ่ม ๆ ผู้ถูกเอ่ยถึงจ้องมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาว่างเปล่า


         เจ้าตัวเอามือทาบอก ส่งรอยยิ้มกว้างมาทางธนธร เดาว่าคงเพราะได้คุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นจึงเดินตุ้งติ้งเข้ามาใกล้ ไม่เข้ากับรูปร่างเอาเสียเลย


         ณ จุดนี้ หากจะกล่าวถึงแซม หรือซาราห์ตามที่เจ้าตัวอยากให้คนอื่นเรียก อาจต้องเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งดูเหมือนกับนักมวยมากกว่ากะเทยสาว ผิวคล้ำเนียนละเอียดแบบชาวเอเชีย รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อสมส่วนติดจะล่ำหากเทียบกับคิมหันต์หรือแม้แต่ธนธรที่สูงกว่าเขา คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง พิจารณาแยกกับเรื่องจริตจะก้านแล้วจัดว่าค่อนข้างหล่อทีเดียว สิ่งเดียวที่คลับคล้ายคลับคลาผู้หญิงคงเป็นกิริยาชดช้อยของเจ้าตัวนั่นเอง


         และตอนนี้สายตาของผู้มาใหม่กำลังจ้องเป๋งมาทางเขาอย่างกระหายการแนะนำตัว


         “นาย?”

         คิมหันต์โบกมือน้อย ๆ เป็นเชิงทักทาย ชิงพูดชื่อตัวเองออกมาก่อน “คิม”

         อีกฝ่ายยิ้มรับอย่างนางงามที่ฝึกมาดีจากหน้ากระจก รีบตอบกลับมาทันควัน “ซาราห์ค่ะ”

         “แซม!” ธนธรร้องแทรก

         “นังบอมบ์!” ซาราห์หันมาแยกเขี้ยว เงื้อแขนเตรียมฟาดต้นแขนรูมเมทปากไวด้วยอาการสาวน้อยอย่างไม่ประเมินน้ำหนักมือตัวเอง “หยาบคาย!”

         แต่อีกฝ่ายกลับยกกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์ใส่พร้อมเสียงหัวเราะร่าเสียนี่

         “ชีสสส”

         พอเห็นอย่างนั้นเจ้าตัวก็บ้าจี้ยิ้มแฉ่งใส่กล้อง เอียงหน้าแอ๊บสวยอย่างไร้อาการสะดุด แย่หน่อยที่ออกมาแมนมากกว่าสาว ทำเอาเจ้าของกล้องส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขบขัน ปากบ่นอุบไปด้วย “โอย..กูเครียด”

         “คณะไรอะ” คิมหันต์ถามเรียบ ๆ เหลือบมองกองหนังสือและเอกสารของอีกฝ่ายที่วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นตามนิสัยเดิมผุดขึ้นมาเงียบเชียบคล้ายอยากทวงคืนความสำคัญ หลังจากเขาไม่ได้สนใจคนอื่นจริงจังมาพักใหญ่ตั้งแต่เจอกับสามภพ

         “พยาบาลค่ะ” ซาราห์ยิ้มกริ่ม ขยิบตาไปด้วยอย่างขี้เล่น “สวย ๆ”

         เขาพยักหน้า พยายามไม่ทำไหล่สั่นให้เสียความตั้งใจคนสวย  ชีวิตในหอพักมหาวิทยาลัยท่าทางจะมีรสชาติกว่าที่คิด





         ห้องพักของพวกเขาอยู่กันพร้อมหน้าสามคนเป็นครั้งแรกนับแต่วันนั้น ส่วนรูมเมทคนสุดท้ายผู้เป็นเจ้าของเตียง C ไม่เคยมาปรากฏตัวให้เห็นหน้าเห็นตา ในรายชื่อจากใบลงทะเบียนระบุไว้ว่าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์  ทว่าตัวเป็น ๆ ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว เพราะไม่เคยขนของเข้ามาในห้องเลยแม้แต่ชิ้นเดียว


         หลังจากเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์อย่างโหดฮาและยากลำบาก ทั้งกับการปรับตัวเรื่องเรียน ชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงพลังงานที่ถูกเอาไปละลายกับกิจกรรมของคณะและมหาวิทยาลัยช่วงต้นภาคเรียน สมาชิกร่วมห้องทั้งสามก็ลงความเห็นในที่สุดว่ารูมเมทลึกลับผู้นั้นคงไปพักที่อื่น และไม่มาใช้ห้องนี้เป็นที่ซุกหัวนอนแน่แล้ว


         ซาราห์ยังคงรักษามาตรฐานเดิมเป็นอย่างดีด้วยการทำหน้าสวยไปเรียนทุกวัน เฉิดฉายกลับมาพร้อมเพื่อนสาวบางครั้ง เครื่องประทินโฉมโหมสวยเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วห้อง ลามมาถึงโต๊ะเพื่อนด้วยในบางเวลาที่เดินเพลินไปหน่อยขณะทาครีมปะแป้ง เธอบอกไม่ชอบอยู่นิ่งขณะพอกสารพัดสิ่งบำรุงผิวลงบนร่างกาย บ่นหงุงหงิงไปด้วยเกือบตลอดเวลาว่าเมื่อไรจะขาวเท่ารูมเมทหน้าตี๋ผู้เอาแต่ฮัมเพลงเกาหลี วันดีคืนดีก็แวบไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียง ห่างไกลเกินระยะสอดรู้สอดเห็นจากหูเพื่อน ครู่หนึ่งจึงกลับมาบอกจะออกไปกินข้าวข้างนอกอย่างลึกลับ และหลายครั้งหลายหนที่จบลงด้วยคำบอกเล่าว่าเดี๋ยวไปค้างที่อื่น


         ความสงสัยถึงจุดสิ้นสุดจนได้ ว่าที่บุรุษพยาบาลคนสวยอดรนทนไม่ไหว ถึงกับต้องถามออกไปในเย็นวันหนึ่ง


         “ไปกับใครคะ?”


         “พี่ชาย” ธนธรช่วยตอบ ถือกล้องอยู่ในมือ กดปุ่มหยุกหยิกไปด้วย


         คิมหันต์ยักไหล่ ไม่แสดงอาการพิรุธ แม้ใจสั่นนิดหน่อยเมื่อนึกถึง ‘พี่ชาย’  คนที่ว่า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหากับการปั้นหน้าตายต่อหน้าเพื่อน


         “ก็ใช่” เขาตอบเสียงเรียบ


         เสียงคลิก ๆ จากจอสัมผัสของกล้องดังขึ้นในความเงียบ ก่อนเจ้าตัวจะพูดต่อ “เห็นโอบไหล่ด้วย"


         ซาราห์ทำตาโต ยกมือขึ้นทาบอกล่ำ ส่วนคิมหันต์กลอกตา หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์แชตบอกสามภพให้ไปรอที่ตึกอื่นแทนที่จะมาเฝ้าหน้าหอพักอย่างทุกทีเพื่อความปลอดภัย รีบตัดบทกับรูมเมทรู้มากผู้มีอาวุธเป็นกล้องถ่ายรูป บ่นงึมงำว่า “เรื่องปกตินี่”  แล้วเผ่นแผล็วออกจากห้องพักอย่างรวดเร็ว


         ประตูห้องปิดสนิทแล้ว แต่สาวในร่างหนุ่มล่ำยังข้องใจ หันมาสบสายตาคนที่เหลืออยู่ด้วยสีหน้ากังขา

         “จริงหรือบอมบ์?”

         “ก้มมาทีเกือบเอาจมูกชนหน้า อยากดูรูปไหม?” ธนธรหัวเราะพลางยื่นกล้องให้ดู เป็นภาพที่เขาบังเอิญถ่ายเก็บไว้ทันเมื่อสองวันก่อน ตอนกำลังเดินกลับเข้าหอ สวนกับคิมหันต์ที่เดินออกไปพอดี รอดูอยู่ครู่หนึ่งจึงเก็บช็อตดังกล่าวได้อย่างถูกจังหวะ เสียดายที่กล้องตัวนี้ซูมไม่ได้มากเท่าตัวของพ่อเขาที่เคยเอามาเล่น

         “อุ๊ยตาย!” คนมองขบริมฝีปากล่างตัวเอง ติดจะมันเขี้ยวชายหนุ่มในรูปซึ่งกำลังอยู่ในอิริยาบถอันดูเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเต็มแก่ทั้งที่ไม่ได้สัมผัสเนื้อตัวคนข้างกายมากมาย “หล่อซะด้วย”

         “คิดว่าใช่พี่ชายไหมล่ะ”
   
         “พี่ชายร่วมโลกไงคะ!” ซาราห์ฟันธง กดซูมดูรูปไม่พอยังแทบมุดหน้าเข้าไปในกล้อง “ร่วมป่าไม้เดียวกันด้วย อูย..ตาย ๆ”

         “ใจเย็น เช็ดน้ำลายหน่อย”

         “คิมมี่นางมิใช่ย่อยเลยนะ”

         “คิมมี่?” เจ้าของกล้องย้อนถามเสียงสูง กวักมือหย็อย ๆ เรียกสมบัติของตัวเองคืน “ชื่อบ้าอะไรวะ!”

         “นี่ก็ขัดจริง เป็นสก็อตไบรท์หรือคะ!?” ซาราห์ฟึดฟัด ผลักจากข้างหลังทีหนึ่งเหยื่อแทบหัวทิ่ม “ฉันจะเรียกของฉันอย่างนี้”

         ธนธรกลอกตา อยู่ร่วมห้องกับกะเทยสาวร่างล่ำเป็นเรื่องยากกว่าที่คิดแต่ก็ตลกดี ตัวบึ้กแต่พูดจาคะขามาเชียว เขาเคยถามว่าทำไมไม่รักษาหุ่นให้บอบบางสักหน่อย ได้รับคำตอบว่าต้องเก็บหุ่นอย่างนี้ไว้ให้ทางบ้านภาคภูมิใจในความแมน รักษาความลับไว้ได้อย่างแนบเนียนตั้งแต่เด็กจนเติบโตโผบินเข้ามหาวิทยาลัย พออยู่กับเพื่อนเข้าหน่อยก็พูดจาประหนึ่งว่าตัวเองเป็นหญิงแท้ มือหนักฟาดเขาตุ้บตั้บ แต่พอจะเอาคืนบ้างกลับโดนยกเรื่องสุภาพบุรุษไม่รังแกสุภาพสตรีมาอ้างเรื่อยเปื่อยเสียอีก

         “สุภาพสตรีบ้าไรวะ” เขาสบถ ลูบไหล่ตัวเองตรงที่เพิ่งโดนตีเผียะ “มือแม่งยังกะไม้พาย”

         “ต๊าย! พูดจาหยาบคายกับผู้หญิง”

         เด็กหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาคล้ายเสียงสะอื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ


         อยู่ห้องเดียวกับกะเทยไม่ง่ายเลยจริง ๆ






มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2013 23:09:08 โดย RAINYDAY »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ยกที่ 45 (ต่อ)


   
         หลังหลุดจากรูมเมทสาวดุ้นและเพื่อนผู้มีกล้องเป็นอาวุธไอ้อย่างเนียน ๆ (อย่างน้อยเขาก็คิดว่ามันไม่ได้แย่นัก) ยังต้องเดินต่ออีกหน่อยเพราะเขาบอกเองว่าให้อีกฝ่ายช่วยไปรออีกตึก

         พวกเขาออกมาไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก ตัดสินใจเดินไปร้านอาหารในละแวกนั้นเอง เป็นคิมหันต์ที่อ้างว่าอยากกินแถวนี้ให้ทั่วก่อน เอาแบบที่เดินเท้าถึง เผื่อวันหลังได้มากินกับเพื่อน แต่ในความเป็นจริงคือหวั่นไปเองว่าหากได้ลองขึ้นรถสามภพทีไร ไม่มีเหตุการณ์ชวนระทึกก็ได้ไปจบที่คอนโดฯอีกฝ่ายอย่างงง ๆ ทุกทีสิน่า

         ถึงจะไม่ปฏิเสธว่าไม่ได้รังเกียจอะไร ติดจะสบายใจตอนอยู่ใกล้เสียมากกว่าด้วยซ้ำ แต่พอรวมทั้งหมดกลับกลายเป็นความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองแบบที่ชวนให้ปวดหัวได้ทุกครั้งยามนึกถึง เขาอยากอยู่กับสามภพ แต่อีกใจก็ไม่อยากถลำลึกให้มากนัก ด้วยคอยจะเชื่อมโยงไปถึงจุดจบน่าเศร้าของพี่ชายคนโตทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องความรักระหว่างเพศเดียวกัน


         อากาศหลังฝนตกกำลังสบาย แสงไฟสีเหลืองนวลสบายตาและดนตรีที่เปิดคลอช่วยให้เจริญอาหาร กินไปตีกันไปอยู่พักใหญ่จนเขาสั่งของหวานมาจัดการต่อหลังหมดของคาว ส่วนสามภพส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อเขายื่นเมนูให้

         พอลูกตาลลอยแก้วยกมาวาง เริ่มจัดการได้ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายที่ปากว่างก็เริ่มต้นชวนคุยเรื่อยเปื่อย
   
         “เป็นไง? ช่วงนี้”

         “ก็ดี” คิมหันต์ตอบสั้น ๆ  เอาช้อนควานลูกตาลขึ้นมางับ “ผมน้ำหนักขึ้นมานิดนึงด้วยละ”

         สามภพหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ คลอไปกับดนตรีแจ๊สเบา ๆ ในร้าน ออกความเห็นอันชวนให้สะเทือนใจ “ก็กินเป็นยัดขนาดนี้ ใครไม่รู้นึกว่าที่บ้านเลี้ยงให้อดอยาก”

         “ผมกลัวเฮียเพี้ยนเสียน้ำใจหรอก”

         “ไอ้เด็กเกรียน เดี๋ยวจะอ้วนเป็นหมู”

         “ถ้าอ้วนจะชอบปะ”

         ไอ้ตัวยุ่งก้มหน้าก้มตาควานหาเนื้อผลไม้ที่อาจยังนอนอยู่ก้นถ้วย พอเห็นว่าไม่เหลือแล้วก็หันมาเคี้ยวน้ำแข็งกรุบกรับ เห็นได้ชัดว่าเลี่ยงการสบตา แก้มแดงตุ่ยจากน้ำแข็งที่อมไว้จนน่าหยิกให้หลุดคามือ

         สามภพจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน


         “ชอบ”


         คิมหันต์เผลอกลืนน้ำแข็งลงคอทั้งก้อน เย็นวาบไปถึงหลอดอาหาร ผิดกับหน้าที่ร้อนเอา ๆ โดยไม่มีถามไถ่ความสมัครใจกันก่อน กัดฟันทำเป็นคุยต่อเหมือนปกติทั้งที่รู้ตัวว่าเริ่มอาการหนัก

         “แล้วถ้ากวนตีนด้วยอะ”

         “เรื่องนั้นรู้ตั้งนานแล้ว”

         “ตาตี่” เขายิงเพิ่ม

         “ลืมไม่ขึ้น” สามภพช่วยต่อ

         “เฮียแม่ง..”

         ชายหนุ่มพูดแทรกฉับพลัน “หล่อ”

         “เชี่ย!”

         “ไอ้ปากหมา” อีกฝ่ายพูดจบก็หัวเราะ เอื้อมมือข้ามโต๊ะมาขยี้ผมเขาเบา ๆ “ไอ้อ้วน!”

         “ยังไม่อ้วนเว้ย”

         สามภพยิ้มมุมปาก จ้องหน้าเขานิ่ง นัยน์ตาเป็นประกายวาววับใต้แสงไฟโทนอบอุ่นในร้านอาหาร ท่าทางราวกับหมาป่าจ้องเหยื่อตอนที่ขยับปากน้อย ๆ เป็นสุ้มเสียงทุ้มต่ำอยู่ใต้ปลายจมูก “มาให้พิสูจน์สิ”

         เด็กหนุ่มทำคิ้วย่น ตั้งใจตักน้ำเชื่อมที่เหลือเข้าปากอย่างสงบเสงี่ยม แต่ดูเหมือนยิ่งทำอีกฝ่ายได้ใจ หัวเราะหึ ๆ แล้วถามต่อ

         “คืนนี้เลยดีไหม?”

         “อะไร”

         “คิดถึง”

         คิมหันต์ช้อนตาขึ้นมอง ด้วยมุมที่สามภพรู้สึกว่ารับมือลำบากสิ้นดี ทำหน้ามุ่ยปากจู๋ใส่อย่างไม่กลัวคนมองอดใจไม่ไหว แต่พอเห็นไม่เถียงอะไรเขาก็ชิงพูดต่อ

         “ไม่ได้ฟัดตั้งนาน”

         ถึงตรงนี้คนฟังถึงกับแค่นเสียงบ่นกระปอดกระแปด “ยังติดสัญญาเลยเหอะ”

         “ฉีกทิ้งได้แล้ว” ชายหนุ่มยักไหล่ “ถ้าจะมากระแซะจนแทบรวมร่างทุกครั้งที่นอนด้วยกันอย่างนั้นน่ะ”

         “ชู่ว!” ไอ้ตัวยุ่งทำตาถลน “เฮียเบา ๆ สิวะ”

         “เขินหรือ?”
   
         “เฮียเพี้ยนหน้าด้านฉิบหาย!”

         คิมหันต์ยังโวยไม่ทันจบด้วยซ้ำ สามภพก็พาเข้าเรื่องหลักอีกแล้ว “คืนนี้ไปนอนกับพี่”

         “การบ้านยังไม่เสร็จเลย”

         “เดี๋ยวสอน”

         “รูมเมทผมสงสัยแย่แล้ว” เด็กหนุ่มบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย แต่อีกฝ่ายเมื่อได้ยินเช่นนั้นเข้าก็รีบทำเสียงเข้มมาเชียว

         “ยังบอกเพื่อนว่าเป็นพี่ชายอยู่อีกหรือ?”

         “...”

         พอไม่ตอบก็จ้องเอา ๆ จนตาแทบหลุด ตามด้วยถามซ้ำอีกครั้งเป็นการกระตุ้น “หืม?”

         “คุยกันเรื่องนี้แล้วไง”

         “ไม่เห็นจำได้”

         เขาเฉไฉนอกเรื่อง “แก่แล้วอัลไซเมอร์เรอะ!?”

         แต่ดูเหมือนใช้วิธีพาออกทะเลไม่ค่อยได้ผลอีกแล้ว

         “ตอนนั้นเราพูดว่าไงนะ” สามภพเลิกคิ้ว ยื่นหน้าข้ามโต๊ะมาใกล้แล้วเอ่ยกระเซ้า “ไม่หอมแก้มพี่ชาย..”

         “..ก็จำได้นี่” คิมหันต์บ่นอุบ ก้มหน้าเขี่ยเศษกระดาษทิชชูเปียกบนโต๊ะ “แล้วยังจะเก็บมาเป็นประเด็นอีก กับคนอื่นมันก็ไม่ควรประเจิดประเจ้อเปล่าวะ”

         “ได้ แต่จุ๊บก่อน”

         เป็นเรื่องน่าขนลุกเอาการทีเดียว สำหรับการที่ผู้ชายมาดอย่างสามภพจะเอ่ยอะไรซึ่งฟังดูกุ๊กกิ๊กอย่าง ‘จุ๊บ’  ออกมา คนฟังถึงกับอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ ๆ  ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหู จนต้องถามออกมากระท่อนกระแท่น

         “ว่าไงนะ”

         “จุ๊บ” อีกฝ่ายได้ทีก็ยิ่งแกล้งต่อ ต่อให้กระดากปากตัวเองแค่ไหน แต่สภาพขัดเขินแทบม้วนของอีกฝ่ายก็เรียกว่าคุ้ม เขาแทบหลุดหัวเราะอยู่รอมร่อแต่ยังฝืนหน้านิ่งเล่นต่อให้ตลอดรอดฝั่ง “หรือจูบดีครับ?”


         ตี๋เกรียนอ้าปากค้างไปเลย


         สามภพหัวเราะออกมาในที่สุด เมื่อเห็นหน้าไอ้เด็กตัวแสบซึ่งคล้ายว่าจะระเบิดตูมออกมาได้ทุกเมื่อด้วยความเขิน เดาว่าต้องกำลังคิดไปถึงเหตุการณ์ครั้งก่อน ๆ ที่พวกเขาเคยเล่นกันอย่างนี้อยู่เป็นแน่

         “ล้อเล่นน่ะ” ชายหนุ่มโคลงศีรษะ หยุดล้อเลียนก่อนสักครู่ ให้เวลาเจ้าตัวได้นั่งทำใจ (และส่งเสียงสาปแช่งเป็นระยะไปด้วย) ระหว่างที่เขาเรียกพนักงานมาคิดเงิน คิมหันต์ทำท่าเตรียมควักกระเป๋าสตางค์มาช่วยจ่าย อายก็อายยังจะทำเป็นอยากช่วยหาร ติดตรงเขายกมือปรามเสียก่อน

         “เก็บตังค์ไว้กินขนมไป”

         “เฮียพูดเหมือนพวกลุงแก่ ๆ ต้อยเด็กเลย”

         “อืม”

         “ไม่เถียง?”

         “ต้อยอยู่” เขายักคิ้ว “เด็กดื้อก็เล่นตัวอยู่นั่น”

         คิมหันต์มั่นใจว่าพนักงานสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องได้ยินบทสนทนาล่าสุดเต็มสองรูหูแน่นอน สังเกตได้จากการที่เธอรีบหยิบถาดใส่เงิน เหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง แต่พอเห็นสายตาสามภพก็สะดุ้งน้อย ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาจ้ำออกไปด้วยอาการลนลาน

         “พี่พูดไรวะ” เขาพยายามโวยวายด้วยเสียงกระซิบเมื่อหญิงสาวเดินให้หลังไปแล้ว “เกิดเขาเอาไปเล่าต่อ”

         “ช่างเขา”

         “...”

         “แคร์สายตาคนอื่นหรือ?”

         “ถ้าคนอื่นรู้ อีกหน่อยเพื่อนก็รู้” คิมหันต์พึมพำ เขย่าแก้วน้ำเปล่าแล้วนั่งมองน้ำแข็งในนั้นละลายช้า ๆ  “ถ้าเพื่อนรู้ สักพักเจ้ก็รู้..”

         “แล้วไง”

         เด็กหนุ่มเผลอขมวดคิ้ว เงยขึ้นสบตาอีกฝ่ายตรง ๆ เพียงครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ย้ายกลับมาจดจ้องน้ำแข็งในแก้วอีกรอบ กระซิบเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน


         “ถ้าเจ้รู้..อีกไม่นานป๊ากับม้าก็รู้”


         พนักงานสาวเอาถาดใส่เงินทอนกลับมาวางไว้บนโต๊ะ ระหว่างนั้นพวกเขาไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาสักคำ จนกระทั่งเธอเดินออกไปพ้นสายตาอีกครั้ง เด็กหนุ่มจึงได้พูดต่อกับหยดน้ำเกาะแก้วใส


         “ผมก็แค่อยากยืดเวลาอีกหน่อย”


         “....”


         “แต่พี่กำลังจะทำให้มันสั้นลง”


         “พูดเหมือนถ้าป๊าเรารู้จะไม่ได้เจอกันอีกงั้นละ”

   
         “ไม่รู้สิ”


         สามภพมองอีกฝ่ายถอนใจเบา ๆ ด้วยสีหน้าอมทุกข์ เป็นที่น่าสังเกตว่าคุยกันอยู่ดี ๆ แต่พอวกมาประเด็นเรื่องที่บ้านทีไรเป็นต้องออกอาการหงอยอยู่เรื่อย


         “ลุก”


         ชายหนุ่มกระซิบ ดึงแขนคิมหันต์ให้ยืนขึ้นโดยไม่รอคำตอบ ได้รับสายตาข้องใจกลับมาแวบหนึ่ง แต่ไร้คำถามใดตามออกจากปากช่างเจื้อยแจ้ว หลังเสียงถอนหายใจแผ่วเบาอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็เดินตามเขาออกจากร้านอย่างว่าง่าย ปล่อยให้มือตัวเองโดนกุมไว้โดยไม่ได้กระตุกหนี


         พวกเขาเดินกลับตามเส้นทางเดิม สามภพพาเดินจ้ำเอา ๆ ในช่วงแรก แต่เมื่อออกมาไกลได้ระยะหนึ่งก็ชะลอฝีเท้า ขยับขาช้าลงเรื่อยจนแทบกลายเป็นหยุดนิ่ง


         “เอาไว้วันหยุดไหนสักวัน” ชายหนุ่มเริ่มต้นเอ่ยลอย ๆ  มองละอองน้ำบางเบาลอยฟุ้งในอากาศ กุมมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นพลางดึงให้เข้ามาเดินใกล้  “ไปเที่ยวที่บ้านกัน”


         “บ้านใคร?”


         “ทั้งสองบ้าน” เขาตอบ “ถ้ากลัวป๊า จะไปบ้านพี่ก่อนก็ได้”


         คิมหันต์ทำหน้ายุ่ง เห็นว่ารอบตัวไม่มีใครก็แกะมือตัวเองออกแล้วเอื้อมมาแปะบนที่ประจำแถวเอวเขา เดินเข้ามากระแซะตามความเคยชิน “จริงจังเกินไปเปล่าวะ”


         “จริงจังมาตั้งแต่แรกแล้ว”


         “...นี่รู้ไหม” เด็กหนุ่มงึมงำในลำคอ “พี่น่ารักว่ะ”


         “...”


         “พูดจริงนะ” คิมหันต์ยังย้ำอย่างไม่กลัวโดนปล้ำ "เป็นหมาบ้าที่ถูกทำให้เชื่องแล้วสินะ"


         สามภพล็อคคออีกฝ่ายแน่น ก้มลงไปยีผมเร็ว ๆ เรียกเสียงโอดครวญไม่เป็นภาษาจากไอ้ตัวยุ่ง “ทำไมฟังเราแล้วพี่ขนลุกวะ”


         เด็กหนุ่มหัวเราะแหะ เอาหัวดันสู้มือเขา “แค่ขนลุกเองหรือ ปกติผมเกรียนใส่ขนาดนี้ ไม่มีใครทนได้ตั้งแต่แรกแล้ว”


         “ลองใจเรอะ”


         “ใช่”


         “ไอ้เด็กแสบ!”


         คิมหันต์หัวเราะอีกครั้ง ปล่อยมือจากเขาเมื่อเริ่มเข้าสู่จุดที่ผู้คนพลุกพล่าน ครู่หนึ่งก็เริ่มเดินปัดไปปัดมาพร้อมกับเตะก้อนหินเล็ก ๆ ไปด้วย มีบางครั้งเซเข้ามาหาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เดี๋ยวเดียวก็เตร่ไปทางอื่นอีก ทำตัวอยู่ไม่สุขจนน่าจับมานั่งนิ่ง ๆ แล้วดูว่าจะขาดใจตายหรือเปล่า


         “ไว้เสร็จพ้นช่วงรับน้อง ซ้อมเชียร์ รออะไรเริ่มเข้าที่ก่อน..” เขาเปรย แย่งเตะก้อนหินที่คิมหันต์เลี้ยงมาตลอดทางหล่นจ๋อมลงแอ่งน้ำริมถนน เรียกสายตาค้อนขวับกลับมาหนึ่งชุดเบา ๆ ขณะเขาพูดต่อ “จะพาไปแนะนำกับที่บ้าน”


         เด็กหนุ่มชะงัก เลิกคิ้วแล้วอ้าปากหวอ 


         “แนะนำว่าไง”


         “ว่าเป็นคนรัก”


         “ยังเลย!”   


         “อีกไม่นานหรอก” ชายหนุ่มยักไหล่ เอ่ยกลั้วหัวเราะ โยกศีรษะอีกฝ่ายให้เอียงไปมาสนุกมือ “เผลอแป๊บ ๆ เดี๋ยวก็ครบปี”


         ไม่มีคำพูดใดอีกมากนักจนพวกเขาเดินกลับมาถึงหน้าหอพัก แสงไฟสว่างจากเสาริมทางเดินและจากในอาคาร ผู้คนสวนทางกันไปมา ทั้งมอเตอร์ไซค์ จักรยาน และเดินเท้าให้ขวักไขว่  เสียงหัวเราะเฮฮา ตะโกน ซุบซิบ ปะปนกันไปในความวุ่นวายยามหัวค่ำ แต่ทั้งหมดก็ลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เหมือนเป็นแค่สิ่งประกอบฉากไร้ความหมาย


         คิมหันต์คงรู้สึกไปเอง ว่าระยะทางไปจนถึงประตูทางเข้าดูสั้นกว่าที่เป็นจริงเมื่ออีกฝ่ายเดินมาส่ง


         “เฮีย..”


         แค่ไม่กี่อึดใจก็ถึงจุดที่ต้องแยกเสียแล้ว


         “ว่าไง?”
   

         “เปล่าอะ”


         แม้ปากจะว่าอย่างนั้น แต่เขากลับยืนค้างอยู่หน้าประตู มือเกาะที่จับอลูมิเนียมเอาไว้แน่น อ้ำอึ้งกับชายหนุ่มผู้ยืนโบกมือน้อย ๆ อยู่ตรงหน้า คลี่รอยยิ้มบางเบาซึ่งต้องจ้องดี ๆ จึงสังเกตได้


         “ตั้งใจเรียนไอ้ตี๋”


         ดูเหมือนสามภพก็ยังไม่แน่ใจตัวเองนักว่าจะพูดอะไรดี ถ้อยคำที่ออกจากปากไปจึงได้ฟังดูติดขัดอย่างประหลาด


         “การบ้านผมยังไม่เสร็จเลย” เขาบ่นขึ้นมากลางปล้อง


         “คืนนี้ก็ทำซะสิ”


         “จะสอนผมไหม?”


         สามภพลอบยิ้มมุมปาก จ้องมองดวงหน้าขึ้นสีระเรื่อของเด็กหนุ่ม ยื่นข้อเสนอสั้น ๆ อันเข้ากับความต้องการของทั้งสองฝ่าย 


         “ที่คอนโดฯ?”


         คิมหันต์ก้มหน้ามองเท้า บ่นพึมพำพลางยกมือจับใบหูเพราะเดาเอาเองว่าตอนนี้คงแดงแย่แล้ว


         “พอพูดแบบนี้แล้วเหมือนผมอ่อยเฮียเลยว่ะ”


         สามภพส่ายหน้าขบขัน “หรือไม่ใช่?”


         เด็กหนุ่มเม้มปาก พยายามมองไปทุกแห่งยกเว้นใบหน้าเขา แก้มและหูไม่ต้องให้อธิบายแล้วว่าแดงไปถึงไหน กระซิบตอบพยางค์เดียวแล้วรีบวิ่งเร็วจี๋ไปเก็บของที่ห้อง



         “ใช่”



         ทิ้งสามภพนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ลำพังบนเก้าอี้สำหรับนั่งรอที่ชั้นล่างของหอพัก





- หมดยกที่ 45 –






-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


รูมเมทอีกคนมาแล้วค่ะ น้องซาราห์ อยากเขียนถึงตัวละครที่เป็นกะเทยล่ำน่ารัก ๆ มานานแล้ว (ฮา)
ส่วนเด็กน้อยก็ยังลังเล จะเดินหน้าก็ไม่เต็มที่ โอ๋ ๆ


อ่านคอมเม้นต์ยกที่แล้ว จริงมากค่ะที่เราเล่าเวิ่นเว้อช่วงเฮียอยู่กับน้องเยอะมาก เวลาผ่านไปช้าสุด ๆ หมดไปเป็นตอน ๆ ยังจู๋จี๋กันไม่เสร็จ อา...ติดเป็นนิสัยซะแล้วค่ะ 555 มุ้งมิ้ง(?)กันเบา ๆ อีกสักตอนนะคะ หยอดกันจนจะตัวเหลวตายอยู่แล้วสองคนนี้

ปล.ช่วงรับน้องแอบข้ามไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ เพราะดันจำไทม์ไลน์ช่วงมหาวิทยาลัยปีหนึ่งไม่ได้แล้วค่ะ มันผ่านมานาน..เอ่อ...พอสมควร ความจริงน่าจะมีก่อนเปิดเทอม แต่ดันเขียนข้ามไปแล้ว ปล่อยเบลอเลยแล้วกันนะคะ ถ้ามีโอกาสอาจได้แปะเป็นตอนพิเศษเบา ๆ ตอนรับน้องแทน (ฮา)

ขอบคุณคนอ่านผู้น่ารักเช่นเคย *กอดรัดฟัดเหวี่ยง*  :L2: :กอด1: :L1: ขอบคุณมาก ๆ ที่คอยคุยคอยทวงทั้งที่เล้า ในทวิตเตอร์ และ fb นะค้าาา ทำให้มีแรงฮึดเขียนขึ้นมาในช่วงเวลาที่หัวตันค่ะ --กราบกราน

วันนี้มีของแถมค่ะ เยอะพอควร รีพลายถัดไปเลยค่า ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2013 01:14:56 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ของแถมมม ชะละล่า ^o^


บนโซฟา จากยกที่แล้วค่ะ





ส่วนอันนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน ที่ twitter ฮิตแท็ก #พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง เลยวาดอันนี้ขึ้นมาบ้าง เวอร์ชั่นเฮียเพี้ยนกับตี๋เกรียนค่ะ 555


(วาดอันอื่นในแท็กนี้ไว้อีกพอสมควร แต่พอดีว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยไม่ได้มาแปะ ดูได้ที่เพจนะคะเผื่อสนใจ^^)



ส่วนนี่..จิ้งจอกเบื๊อกที่ยิ่งวาดก็ยิ่งตัวเล็กลง ๆ 5555
บางวันที่อากาศร้อนก็อาจจะอยากเล่นเป็นซูเปอร์แมน(?)หน้าพัดลมกันบ้าง


เฮียเพี้ยนเหนื่อยหน่อยนะ (ฮา)


อันนี้ขำ ๆ เติมคำในบอลลูนคำพูดตามชอบใจค่ะ XD



ปิดท้าย ขอแถมคู่ลูกเจี๊ยบแม่ไก่ที่แสนคิดถึง สองคนนี้ก็เฟรชชี่เหมือนกัน  (แต่คนละมหาวิทยาลัยกับเรื่องนี้)

แม่ไก่ปีหนึ่งก็ยังหัวยุ่ง..และเสื้อหลวม(?) เอ๊ะ...??



ส่วนลูกเจี๊ยบ...ก็ประสบปัญหาทำนองเดียวกัน แต่เป็นเสื้อคับ (หืม?)


(โปรดใช้จิ้นตะนาการในการรับชมค่ะ 555)


พบกันยกหน้าค่าาาา >3<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2013 00:42:30 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ heangsure

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :mew1: :pig4:
ขอบคุณมากๆค่า สำหรับเรื่อง+ภาพน่ารักๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
คิดถึงแม่ไก่ 555

เฮียเลิกเปนหมาบ้าแล้ว น้องคิมดูลังเลจริงจัง

asarigb

  • บุคคลทั่วไป
เม้นแรกกกกก55555555
กรี๊ด~~~
ตี๋น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่าร๊ากกกกกก :ling1:
ถ้าเป็นเฮียเพี้ยนจะไม่ทน!  :katai1:

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

เขิลล์ เขิลล์ที่น้องครีมอ่อยเฮียภพ อรั๊ยยยย น่ารักมากอ่ะ


ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
อั๊ยย่ะๆๆ เขิลแทน

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
กรี๊ด ซาราห์นี่แซ่บมากอ่ะ อ่านคู่นี้แล้วยิ้มแก้มปริบ แต่แอบแซดช่วงพูดถึงที่บ้าน  :เฮ้อ:
ปล. แอบคิดไปเองว่ามหาลัยมันแหม่งๆ คล้ายมหาลัยเดียวกันรึป่าว

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
กรี๊ดดด ชอบบรรยากาศ ชอบเฮียเพี้ยน ชอบคิม
ชิบคนแต่ง และชอบเรืืิงนี้อะ
ตอนนี้ทำอมยิ้มได้ตลอด เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันแบบนี้ ทำเค้ายิ้มได้
ชอบทุกอย่าง มันลงตัวมาก o13

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
อ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ   :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :ling1: กำลังฟิน พี่ว๊าก  :laugh:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
 :katai1: อ๊ากกก อ่านเรื่องนี้แล้วตัวลอยไปโลกหน้าทุกที  :-[
น่าร๊ากกกกกอะ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
         “พี่ชายร่วมโลก แถมร่วมป่าไม้เดียวกันด้วย ”
โอ้ยตลกซาร่าห์จริงจัง5555 :m20:

----------

         “ตาตี่” เขายิงเพิ่ม
         
         “ลืมไม่ขึ้น” สามภพช่วยต่อ 
พี่ภพใจร้ายอ่ะ555555 แต่ยังไงก็รักน้องคิมใช่ม่าาาา :hao6:

----------

         “ผมก็แค่อยากยืดเวลาอีกหน่อย”

         “แต่พี่กำลังจะทำให้มันสั้นลง”
ตัดจากฮาๆมาดรามานิดๆได้อย่างรวดเร็ว แอบเครียดแทนน้องคิมจริงๆ :hao7:

----------

         “พอพูดแบบนี้แล้วเหมือนผมอ่อยเฮียเลยว่ะ”

         สามภพส่ายหน้าขบขัน “หรือไม่ใช่?”

         “ใช่”
สกรีมมมมม หลังจากผ่านดรามามาได้แป้บเดียวก็กลับมาหวานกันอีก อย่างรวดเร็ว555
 น้องคิมน่ารักมากกก :-[
มาต่อเร็วๆน้าาาา :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ซาร่าห์ตลกมาก ชอบมีเพื่อนแบบซาร่าห์ ตลกดี :laugh:
แต่บอมบ์ไม่ไหวนะฮะ แอบถ่ายเนี่ย อย่าทำแบบนั้นเลย แล้วก็อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นสิ
ฮามุกสก็ตไบรท์ของซาร่าห์มากฮ่ะ นอนขำตอนเช้าๆอยู่บนเตียง :pigha2:

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :-[  ชอบมากอ่ะ    แบบว่าคำเดียวเลย   "ฟินค่า"

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ชอบซาราห์อ่ะสวยๆไรงี้ ส่วนคิมกับพี่ภพก็อ่อยกันต่อไป น่ารักดี~

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ซาร่าห์ นางน่ารักดีนะ 5555

แอบรู้สึกหน่วงๆกับ ตอนท้าย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น่ารักทุกคนเลย :mew1:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ปวดหัวคิดถึง"ซาราห์" 555 ชอบตัวละครตัวนี้มาก เพิ่มสีสันได้พอเหมาะ

หนูคิมก็ยังครึ่งๆกลางๆเหมือนเดิม มีเฮียภพที่หยอดคงเส้นคงวาแถมหนักแน่นขึ้น

ของแถมก็ชอบมากกกกกกกกก  :o8:  โดยเฉพาะรูปที่โซฟาและรูปแม่ไก่กับลูกเจี๊ยบ
รูปปลิวตามพัดลมนี่ฮาจริงค่ะ

คนเขียนสู้ต่อไปนะคะ กำลังใจมีให้เพียบ  :กอด1:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
งื้อออออออออออ. น่ารักมุ่งมิ้งๆอะไรแบบนี้เนี๊ยะ
ใจจะขาดดดดดน่ารักมากๆๆๆๆๆเลยอ๊าาาาาา :haun4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด