คนที่ทุกคนรอคอย มันโผล่มาแล้ว
ตอน 26
“ไอ้ไม้ ไอ้เด็กเวรนี่แกทำอะไรกับเค้กเนี่ยห่ะ” เสียงเอะอะโวยวายของเจ้าของร้านดังลั่น พลางถือถาดตะโกนด่าไอ้เจ้าตัวแสบอยู่
“อะไรอ่ะลุง ผมก็แค่แต่งหน้าเค้กให้ มันน่ารักอกนี่นา”
“น่ารักกะผีน่ะสิ แกมาลบเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย”
“อะไรกันพี่” ผมเดินเข้าไปถามเจ้าของร้านที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่
“เล็กก็ดูไอ้เด็กเวรนี่มันทำสิ” พี่ต้นบอกก่อนจะยื่นเค้กเจ้าปัญหามาให้ผมดู
“ฮ่าๆๆๆ มันก็น่ารักดีนิพี่” ผมหัวเราะลั่นหลังจากที่เห็นผลงานชิ้นโบแดงของไอ้ไม้ ก็ที่ต้นโกรธเป็นฟืนเป็นไปขนาดนี้เพราะไอ้น้องไม้มันทำภาพการ์ตูนล้อเลียนพี่ต้นลงไปบนหน้าเค้กนะสิครับ พี่ต้นที่ยิ้มแฉ่งชูสองนิ้ว พร้อมกับสโลแกนที่เขียนข้างๆว่า
“ถึงแก่ แต่ก็งก นะคร้าบบบบบ”
“เล็กก็เป็นไปกับมันอีกคน”
“นี่ลุง ลุงเนี่ยไม่รู้จักสร้างความแตกต่างให้ร้านตัวเองเลยนะ เชื่อเดะว่าไอ้เค้กนี่ต้องขายดีแน่ๆ” ไอ้ไม้ที่หลบอยู่ข้างหลังลูกพี่มันบอก
“เถอะน่าพี่ต้น ลองดูก็ไม่เลยหายนะ บางทีลูกค้าอาจจะชอบก็ได้” ผมบอก
“พนันกันไหมลุง ว่าเค้กก้อนนี้จะขายได้”
“แกจะพนันด้วยอะไรว่ามา” พี่ต้นรับคำท้า
“เอางี้ ใครแพ้ต้องเป็นทาสคนชนะหนึ่งอาทิตย์ ตกลงไหมลุง”
“ได้ ตามนั้น แกเตรียมตัวแพ้เลย เค้กแบบนี้ไม่มีคนซื้อแน่นอน”
“ลุงนั่นแหล่ะเตรียมตัวเป็นเบ๊ผมได้เลย ”
สองคนนั้นจ้องกันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อถ้าเป็นการ์ตูนคงมีแสงออกมาแล้วอ่ะครับ
“เอ๋า ไปทำงานกันได้แล้วใกล้เวลาเปิดร้านแล้วนะ” พี่ต้นบอกหลังจากที่ปล่อยแสงใส่ไอ้ไม้เสร็จ
“เอ่อ พี่ต้นครับ พี่ต้นครับ ผมขอตัวสักครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ”
“จะไปที่โรงเรียนอีกแล้วเหรอ” เจ้าของร้านใจดีเอ่ยถาม
“ครับพี่ แต่ถ้าพี่ไม่…”
“ไปเถอะ ที่นี่มีทั้งไอ้ไม้ มีทั้งเมฆ คงไม่ยุ่งเท่าไหร่หรอก”
“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยขอบคุณก่อนจะวิ่งไปที่โรงเรียน พีพี ทันที วันนี้ผมมาสายตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงไม่รู้ว่าพีพีจะเข้าโรงเรียนไปหรือยังนะครับ
ผมแอบมองลูกจากรั้วรงเรียนเงียบๆ เด็กอนุบาลถึงจะเริ่มมีการเรียนการสอนบ้างแต่ยังไงก็ต้องเล่นเยอะกว่าอยู่ดี ซึ่งมันดีกับผมมากๆเพราะผมสามารถมองเห็นลูกได้ แม้ว่าจะต้องแอบดูอยู่ไกลๆก็ตามที
“พีพีครับ พ่อรักหนูนะลูก” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆซึ่งถ้าใครมาได้ยินคงหาว่าผมเป็นบ้า ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่า พีพีชื่อจริงชื่อ ชนาภัทร มันยิ่งตอกย้ำให้ผมรู้ว่าพัช รักผมและเธอต้องการให้พีพีเกิดมามากแค่ไหน แต่ผมกลับทำเรื่องเลวแบบนั้นกับเธอไปโดยที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทุกข์ใจและทรมานกับการกระทำของผม ผมมักเข้าข้างตัวเองเสมอว่าผมไม่ผิดและเที่ยวโทษว่ามันเป็นความผิดของไอ้วัตที่มันมาทำผมก่อน แต่เอาเข้าจริงผมกลับไม่เคยมีความสุขสักครั้งแม้ว่าจะแก้แค้นมันสำเร็จหนำซ้ำยังต้องทนให้มันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจสารพัด แต่มันก็สมกับความผิดของผมแล้ว ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ผมกำลังชดใช้กรรมหรือเปล่านะ ทั้งๆที่ผมอยู่ใกล้ลูกมากขนาดนี้แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้เลยมันทรมานจนผมแทบไม่มีแรงหายใจเลยด้วยซ้ำ
“คุณครับ มีอะไรหรือเปล่าผมเห็นคุณมายืนตรงนี้นานแล้วนะครับ” ยามของโรงเรียนเดินเข้ามาถามผม
“เปล่าครับ” ผมรีบเดินออกจากบริเวณโรงเรียนทันที เพราะกลัวว่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสายให้แก๊งค์ค้ามนุษย์ที่ชอบขโมยเด็กน่ะครับ
ผมเดินกลับมาที่ร้านด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ผมคิดถึงลูก ผมอยากกอดพีพี อีกสักครั้ง ช่วงเวลาสามเดือนมันช่างสั้นเหลือเกินที่ผมได้อยู่กับลูก ผมอยากกอดแกให้นานกว่านั้น อยากเล่านิทานก่อนนอนให้แกฟังอีก แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“กลับมาแล้วเหรอว่ะ” ไอ้เมฆเอ่ยทัก
“อืม”
“เฮ้อ เล็ก เอาน่าถึงมึงไม่ได้อยู่กับลูกแต่อย่างน้อยทุกวันนี้มึงก็ได้เห็นเขาทุกวันไม่ใช่เหรอ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิว่ะ สู้ๆเว้ยเพื่อนกูเชื่อว่ามันต้องมีทางออก”
“ขอบใจมากนะเมฆ” ผมยิ้มให้มันก่อนจะเดินเข้าไปทำงานของตัวเอง
“พี่เล็กผมฝากหน้าร้านหน่อยสิพี่ ข้าศึกตีด้านหน้าใกล้แตกแล้ว” ไอ้ไม้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอกก่อนจะผลุบหายไปหลังร้าน ผมได้แต่ส่ายหน้าระอา เฮ้อ เหมือนยะขิ่นไม่มีผิด พูดแล้วก็คิดถึงยัยมนุษย์ต่างด้าวนะครับไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
กรุ๊งกริ๊งๆๆๆๆ
“แกลอรี่ ยินดีต้อนรับครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปต้อนรับลูกค้า
“ขอ กาแฟดำ แก้วนึงนะ” เสียงนั้นเอ่ยบอกก่อนที่จะลดเมนูลง
“ครับ……………ไอ้วัต!!!”
ผมยิ้มค้างก่อนจะมองคนที่อยู่ตรงหน้าผมอย่างตกตะลึง ไอ้วัตมาที่นี่ได้ยังไง
“อ้าวน้อง ยืนนิ่งทำไมเนี่ย พี่สั่งไปแล้วนะครับ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยยังพูดเสียงเรียบ น้ำเสียงที่ใช้ดูห่างเหินบวกกับสายตาว่างเปล่าที่มองมายิ่งทำให้ผมตัวชาจนไม่มีแรงเดิน
เมื่อไหร่จะจำสักทีไอ้เล็ก ว่า เขาไม่เคยรู้จักมึง
“ได้ครับ” ผมตอบรับ
“เล็กเมื่อกี้ไอ้วัตใช่ไหม” ไอเมฆเดินมาถาม ด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อืม”
“มันทำอะไรมึงหรือเปล่า”
“ไม่หรอก ตั้งแต่นี้ต่อไป ก็คงไม่แม้แต่จะทักกูเลยมั้ง” ทำไมผมต้องรู้สึกโหวงๆในใจทุกครั้งที่คิดถึงสายตาเย็นชาของมันด้วยนะ
“เล็ก กูว่าวันนี้มึงดูหน้าซีดๆนะ ไปพักก่อนไหม”
“เฮ้ย กูไหวน่า แค่นี้จิ๊บๆ” ผมบอกก่อนจะไปชงกาแฟตามคำสั่งของลูกค้า
“กาแฟได้แล้วครับ”
“อืม”
“วะ…”
“วัตขา” เสียงแหลมที่คุ้นหูเอ่ยขัดขึ้น ก่อนที่ผมจะเรียกคนที่นั่งดื่มกาแฟอยู่
“อ้าวแพต มาได้ไงครับ”
“แพตตี้เป็นแฟนวัตนะคะ มาแค่นี้ไม่ได้เหรอ” เสียงแหลมๆนั่นยังคงอ้อนเจ้าของร่างสูงโดยที่ไม่สนใจผมที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พนักงานร้านนี้มารยาทเสียจัง ยืนมองอยู่ได้……..เอ๊ะ นี่แก” คุณนางแบบสุดสวย ลุกขึ้นชี้หน้าผมก่อนจะตะโกนลั่นร้าน
“มาอยู่ที่นี่เองเหรอย่ะ หึ โดนวัตไล่ออกมาเลยต้องมาเป็นพนักงานร้านกาแฟเล็กๆแบบนี้สินะ ” เสียงนั่นยังคงเอ่ยเยาะ ก่อนที่ปากแดงๆจะยิ้มเหยียด
“พอเถอะน่าแพต อย่ามีเรื่องเลย คนมองทั้งร้านแล้วคุณไม่อายเหรอ” คนที่นั่งนิ่งมานานเอ่ยห้าม
“แพตก็แค่อยากจะสั่งกาแฟ ไม่ได้เหรอคะวัต” คุณแพตตี้บอก ก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
“นี่ ขอลาเต้แก้วนะ ด่วนๆล่ะ ฉันไม่อยากรอนาน”
“ครับ”
“กาแฟได้แล้วครับ” ผมบอกก่อนจะยกกาแฟเสริฟคุณนางแบบ
เพล้ง!!
“อุ้ย ขอโทษนะไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเปลี่ยนแก้วใหม่ให้นะครับ”
คุณว่าเหตุการณ์มันคุ้นๆไหมครับ เหอะ ชีวิตผมเนี่ยเหมือนละครน้ำเน่าเลยเนาะ ช่างเถอะ ผมเหนื่อยเกินกว่าจะตอบโต้ใครแล้ว
“พี่เล็ก ยัยป้าปากแดงนั่นมันทำอะไรพี่” ไอ้ไม้กับคนอื่นวิ่งเข้ามาถามผม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่นี้ไกลหัวใจเยอะ”
“ได้ไงอ่ะพี่ พี่ไม่ใช่ดาวพระศุกร์นะ เรื่องอะไรต้องยอม ของแบบนี้ต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน สมัยนี้นางเอกเค้าไม่บีบน้ำตาแล้วนะพี่”
“ไอ้ไม้ พี่ไม่ใช่ผู้หญิงจะเป็นนางเอกได้ไงว่ะ” ผมเอ็ด
“อ้าว ก็เห็นพี่มองพี่คนนั้นตาละห้อย ก็นึกว่าแฟนเก่า พาแฟนใหม่มาเย้ยซะอีก” ไอ้เด็กแก่แดดว่า ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“พูดมากน่าไปทำงานไป๊”
“พี่น่ะแหล่ะไปทำแผลซะ เดี๋ยวเจ๊ปากแดงผมจัดการเอง” ไอ้ไม้บอกก่อนจะแย่งถาดกาแฟของผมไป ก่อนจะเดินเข้าไปเสริฟเอง
“กาแฟได้แล้วครับ”
“อ้าว ทำไมไม่ใช่ไอ้ เอ้ย คนเมื่อกี้ล่ะ หรือว่าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไปแล้ว”
“อ้อ เปล่าหรอกครับ พอดีว่าเมื่อกี้พี่เล็กโดน นอของคนแถวๆนี้ตำเลยไปทำแผล”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ไอ้เด็เวรนี่แกว่าฉันแรดเหรอห่ะ” คุณนางแบบกรี๊ดลั่นร้าน
“นี่ป้า ป้าพูดเองทั้งนั้น ผมบอกตอนไหนว่าป้า แรด!!” เจอไอ้ไม้จอมแสบเข้าไป คุณนางแบบถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่กรี๊ดจนลั่นร้าน ส่วนไอ้จอมแสบก็หัวเราะเยาะจนลั่นร้านเหมือนกัน
“ไม้ ไปทำงานได้แล้ว” เสียงเจ้าของร้านดังขึ้นทำจอมแสบหน้าเสีย เพราะคราวนี้โดนจับได้เต็มๆ
“ขอโทษด้วยนะครับที่พนักงานของเราเสียมารยาท” พี่ต้นบอกกับคุณแพตตี้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาพวกเราที่ยืนหน้าเสียอยู่
“ไม้วันนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว เลิกงานแล้วอยูต่อก่อนนะ” พี่ต้นบอกเสียงนิ่งเป็นน้ำเสียงที่มักจะยินทุกครั้งเวลาที่จริงจังหรือว่าโกรธซึ่งอันหลังผมว่ามันน่ากลัวโคตรๆ
“คุณผู้ชายครับ แย่แล้วครับ!!!!”
.......................................TBC...................................
อ้าวค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง อีกแล้ว
เขียนเองก็หมั่นไส้นางแพต อยู่เหมือนกันนะ
นางร้ายละครไทย มากๆ ฮ่าๆๆๆๆ
ปล หากใครรออ่านเรื่องของพี่ใหญ่กับเมฆแล้วก็ ลุงต้นกับไอ้น้องไม้
รอนิดนึงนะคะ เพราะบอกตรงๆว่าเพิ่งอยู่ในระยะวางโครงการ
ยังไม่กระดิกตัวทำอะไรเลย เอาเรื่องนี้ให้รอดก่อนเนาะ
ช่วงนี้ก็เตรียม ทิชชู่ เอาไว้ซับน้ำตารอไปก่อน โห่ๆๆๆ