ตอน 21
“เล็ก เหม่ออะไร” พี่ใหญ่ถามผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะตั้งแต่ผมจำความได้พี่ใหญ่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุแบบนี้เสมอ ทั้งน้ำเสียง ท่าทาง ที่ถอดแบบมาจากเจ้าชายในนิทานก่อนนอน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะมันดันสุภาพจนดูเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้มากกว่าจะเป็นคนจริงๆ
“เปล่าครับ พอดีผมง่วงของีบนะ ถึงบ้านแล้วบอกด้วย” ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลับตาลง ปิดทุกอย่างที่ควรรับรู้ ปิดทุกอย่างที่ควรเข้าใจ ผมไม่พร้อม ไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้น
“เล็กถึงบ้านแล้ว” น้ำเสียงนิ่ง ปลุกก่อนที่ผมจะงัวเงียตื่นขึ้นมา
“คุณเล็ก ทูนหัวของนมกลับมาแล้วเหรอคะ” นมพิศ วิ่งเข้ามากอดผมยกใหญ่ ก่อนที่ผมจะกอดตอบหญิงชราบ้าง นมพิศไม่ใช่แม่นมผมจริงๆหรอกครับ แกเป็นแม่นมของพ่อผมต่างหากอย่างว่าล่ะตระกูลผู้ดีเก่า เขามักจะมีอะไรแบบนี้เสมอแต่ ผมรักนมไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่คนนึงนะครับ
“ครับนม ผมกลับมาแล้ว”
“กลับมาซะทีนะ ไอ้ลูกไม่รักดี!!!” เสียงตวาดดังลั่นบ้านก่อนที่คุณผู้หญิงของบ้านจะเดินออกมา
“งามหน้านักนะ แกนี่มัน เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ แกเป็นบ้ารึไงห่ะ ถึงไปเป็นคนใช้บ้านนั้น แกรู้ไหมว่าอีพวกคุณหญิงคุณนายพวกนั้นมันเยาะเย้ยถากถางฉัน จนฉันแทบไม่กล้าออกจากบ้านแล้ว!!!!”
ผมเลือกที่จะเงียบ เพราะผมยังไม่อยากเป็นลูกอกตัญญู ยังไงซะคนที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ก็คือผู้ให้กำเนิดผม
“ตอบฉันมาสิ ว่าแกจะให้ฉันเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ใครๆเขาก็รู้กันทั่วแล้วว่าลูกชายคนเล็กของคุณหญิงทิพย์ ไปเป็นคนใช้เขา เฮ้อ ฉันจะทำยังไงกับแกดีนะไอ้เล็ก ทำไมแกถึงเกิดมาผ่าเหล่าผ่ากอแบบนี้กันนะ”
“แม่ครับ อย่าเพิ่งว่าน้องเลยครับ น้องเพิ่งกลับมา ผมว่าคุณแม่ไปช้อปปิ้งกับผมดีกว่าไหมครับ ” พี่ใหญ่ไกล่เกลี่ยให้
“แหม ตาใหญ่ รู้ใจแม่จังลูกคนนี้ ” แม่ยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับลูกชายคนโปรด
“คุณเล็กคะ อย่าน้อยใจคุณแม่เลยนะคะ คุณแม่แค่อารมณ์ไม่ดีไปหน่อย”
“ช่างเถอะนม ผมชินแล้วล่ะ ก็โดนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้วนิ”
นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องเจอมาตั้งแต่เด็ก ผมเกิดมาพร้อมๆกับคำว่า “ตัวซวย” แปะหราบนหน้าผาก วันแรกที่ผมเกิด พ่อผมเกิดอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นอัมพาธ และไม่กี่ปีพ่อผมก็เสีย ครอบครัวเราต้องเจอกับมารสุมทางการเงินนับตั้งแต่นั้น ผมก็ไม่รู้หรอกว่าแม่ใช้ตรรกะอะไรในการตัดสิน แต่ยังไงในสายตาแม่ผมมันก็คือไอ้เด็กเวรที่เกิดมาเพื่อล้างผลาญและทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลอยู่ดี
ตุ๊บ!!
ผมปล่อยตัวเองลงบนเตียงกว้างที่ไม่ได้นอนมาเกือบสามเดือนอย่างอ่อนล้า ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงกลับทำผมเหนื่อยมากขนาดนี้
ผมมองไปรอบๆห้องที่กว้างกว่าห้องผมที่บ้านไอ้วัตอย่างปลงๆที่นี่ถึงจะใหญ่กว่า ดีกว่า และผมไม่ต้องเป็นคนใช้ใครแต่มันกลับเหงา เหงาซะจนผมเองก็แทบทนไม่ได้ ไม่รู้ว่าผมทนอยู่บ้านนี้มาได้ยังไงนะครับ ผมรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้านนี้ ตั้งแต่ผมจำความได้แม่ไม่เคยกอดผมเลยสักครั้ง ไม่เคยถามว่าผมกินข้าวหรือยัง ไม่เคยแม้แต่ไปงานวันแม่ที่โรงเรียน แต่ในช่วงเกือบสามเดือนที่ผ่านมาผมรู้จักคำว่า “ครอบครัว” เป็นครั้งแรก ถึงผมจะโดนไอ้วัต ทำร้ายอยู่ตลอดเวลา แต่พีพี กลับทำให้ผมรู้จักและเข้าใจกับคำว่าครอบครัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงผมจะไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิดมาแต่เด็กคนนี้ก็ทำให้หัวใจที่ไม่ยอมเปิดรับใครของผม อ่อนโยนลง พีพีทำให้ผมเข้าใจว่า การรักใครสักคนโดยไม่ต้องถามเหตุผลคืออะไร ทำให้ผมเข้าใจ คำว่า “พ่อ” แม้ว่าตอนนี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ใช้มันก็ตาม
ก๊อกๆๆๆ
“คุณเล็กคะ คุณเมฆมาขอพบค่ะ”
“ให้มันขึ้นมาหาฉันข้างบนเลยนะ” ผมตอบออกไป
“ไงครับมึง ออกจากคุกมาไม่มีบอกเลยนะเว้ย” ไอ้เมฆปากห …..มาเดินแหกเข้าห้องมา
“อือ” ผมตอบรับแกนๆ ก่อนจะซุกหน้าลงบนหมอนเหมือนเดิม
“เป็นอะไรว่ะ ไอ้เล็กทำหน้าเหมือนท้องผูก มึงน่าจะดีใจนะที่หลุดออกมาได้น่ะ”
“เมฆ ถ้ากูเป็นสาเหตุให้คนๆนึงต้องตาย มึงยังจะเป็นเพื่อนกับกูอยู่ไหม”
“มึงพูดเหมือนไม่รู้จักกูนะไอ้เล็ก จำไม่ได้เหรอว่ากูเคยบอกมึงว่ายังไง” ไอ้เมฆบอกพลางนั่งลงข้างๆผม
“เมฆ พัช พัชเค้า…”
“พัช พัชราน้องสาวไอ้วัตนะเหรอ ทำไมว่ะ มีอะไรหรือเปล่า” ไอ้เมฆถามอย่างร้อนรน
“พัชตายแล้ว มึงได้ยินไหมเมฆว่าพัชตายแล้ว!!!! เขาตายเพราะกู ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะกู ”
“เล็ก มึงไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็ร้องออกมาเถอะ กูอยู่ข้างมึงเสมอ” ไอ้เมฆเข้ามาปลอบก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ
“กู กู รู้สึกผิดว่ะเมฆ กูมันเลวกูทำลายพัชคนเดียวยังไม่พอ กูยังทำลายพีพี ด้วย กูทำให้พีพีต้องเป็นเด็กกำพร้า”
“มึงหมายความว่าไงว่ะ”
“พีพี เป็นลูกกู!!!”
“มึงว่าไงนะ!!!” ไอ้เมฆอุทานเสียงดังลั่น ก่อนจะจ้องผมตาไม่กระพริบ
“มึงได้ยินไม่ผิดหรอก พัชท้องกับกู กูทำไมเลวอย่างนี้ว่ะ ถ้าวันนั้นกูยอมฟังคำเตือนของมึงสักนิดเรื่องทั้งหมดมันคงไม่เกิดขึ้น ป่านนี้พัชคงได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆสักคน พีพีก็คงไม่กำพร้าแม่ และไม่ต้องมีพ่อเลวๆอย่างกู”
“เฮ้อ กูก็ไม่รู้ว่าจะปลอบมึงยังไงเหมือนกันว่ะ แต่กูจะอยู่ข้างมึงตลอดไปนะเล็ก” ไอ้เมฆบอกก่อนจะยกยิ้มให้กำลังใจ ผมแต่ยิ้มตอบมันไป ถึงตอนนี้ผมจะยังหาทางออกไม่ได้แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นห่วงผมไปมากกว่านี้
“นี่ใช่ไหมเหตุผลที่ ไอ้วัต มันทำทุกอย่าง”
“คงใช่มั้ง เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรอีก ทำไมกูถึงลืมคิดไปนะว่ากูเคยทำเลวกับน้องมันไว้ กูคิดมาตลอด
ว่าพัชแค่หนีไปเมืองนอก กูนี่มันเป็นคนเลวจริงๆเลยว่ะ”
“คิดมากน่าไอ้เล็ก คืนนี้ไปเที่ยวกับกูหน่อยไหม ผ่อนคลายบ้าง ” ไอ้เมฆเอ่ยชวน
“มึงนี่ มีแฟนแล้วยังออกเที่ยวอีกเหรอว่ะ”
“แหมมึงครับ กูมัน เมฆา คลาสโนว่า ตัวพ่อนะครับ ยังไงๆกูก็รักน้องสาคนเดียวแต่คนอื่นมันก็แค่กำไรน่า มึงอย่าคิดมากเป็นคนแก่ไปหน่อยเล๊ย” พ่อคลาสโนว่าบอก
“อย่าเผลอไปทำใครเขาท้องเข้าล่ะมึง เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่อง”
“นี่ใครครับ ไม่มีทางพลาดหรอกเว้ย มือชั้นนี้แล้ว ฮ่าๆๆ” ไอ้เมฆบอกพลางตบอกตัวเองราวกับภูมิใจนักหนา ผมหัวเราะเบาๆกับความปัญญาอ่อนของมัน
“นั่นไง หัวเราะแล้ว กูดีใจนะที่เห็นมึงหัวเราะได้ ไปๆๆ ไปแต่งตัวกูรอข้างนอกนะ” ไอ้เมฆบอกก่อนจะดันผมเข้าห้องน้ำ เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วปล่อยความเครียดออกสักวันก็ดีเหมือนกัน
แล้วผมกับไอ้เมฆก็ยืนทำหน้าหล่ออยู่หน้าผับหรูที่ใครบางคนเคยพามา ทำไมนะ ผับมีเป็นร้อยไอ้เพื่อนบ้านี่มันดันไม่ยอมพาไป มาทำไมไอ้ผับนี้กันนะ
“เป็นไรว่ะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“เปล่า มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบผับเท่าไหร่” ผมเลี่ยงที่จะบอกความจริงเพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
“เอาน่า นี่ในรอบหลายปีนะเว้ย เข้าไปๆๆ” ไอ้เมฆบอกพลางดันหลังผมให้เข้าไปข้างใน ถ้ามันรู้ว่าผมมาที่นี่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว
เจอกับอะไรบ้างมันคงได้เผาที่นี่แน่ๆ ผมคิดว่าไม่บอกมันน่าจะดีที่สุดแล้ว
แสงหลากสียังคงวิ่งวนไปมาคล้ายต้องการให้ผมตาลายให้ได้บวกกับเสียงเพลงดังกระหึ่มยิ่งทำให้ผมแทบอ้วก เฮ้อ มากี่ครั้งมันก็ไม่น่าประทับใจเอาซะเลยนะครับ
“เฮ้ยไอ้เล็ก เดี๋ยวกูมานะเว้ย มีเหยื่อ” ไอ้เมฆบอกก่อนจะเดินไปหาสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่นั่งส่งสายตาให้มันมาสักพักแล้ว ผมได้แต่ส่ายหน้าปลงๆกับความเจ้าชู้ของมันขนาดมีน้องสาที่มันบอกว่ารักนักรักหนาอยู่แล้วมันยังกล้าไปมีกิ๊กอีกนะครับ เฮ้อ ไอ้นี่มันคลาสโนว่าตัวพ่อจริงๆ
“วัตขา เป็นอะไรไปคะ เห็นนั่งนิ่งมาตั้งนานแล้ว” เสียงแหลมที่เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนสักที่ดังขึ้นมาจากโต๊ะที่อยู่ข้างๆกับโต๊ะผม ไหนจะชื่อที่มันคุ้นหูดีนั่นอีก ทำเอาผมชาวาบไปทั้งตัว คงไม่ใช่หรอกน่า สงสัยจะเป็นคนชื่อเหมือนเฉยๆ
“ทางนั้นมันมีอะไรเหรอคะ เห็นคุณมองตั้งนานแล้ว” เสียงนั่นยังคงถามต่อไป น่าแปลกที่ในผับออกจะเสียงดังขนาดนี้ทำไมผมถึงยินชัดเจนแบบนี้นะ
“เอ๊ะ นั่นมันคนใช้คุณนิค่ะ แพตตี้จำได้” ผมตัวชาวาบทันทีที่เสียงนั่นพูดขึ้น ชัดเลย ยัยนางแบบลาบเลือดนั่นแน่นอน โถ่เว้ย ทำไมต้องมาเจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุดด้วยนะ
“หึ แพตคงจำผิดคนแล้วล่ะครับ”
“ไม่ผิดนะคะ แพตตี้จำได้ หนอย สงสัยจะแอบอู้งานมาเที่ยวแบบนี้ต้องมันต้องสั่งสอนนะคะ”
“ไม่ใช่หรอกครับ ไอ้เล็กคนใช้ของผมน่ะ มันกลับบ้านนอกไปแล้ว ที่นี่ ตอนนี้ไม่มีไอ้เล็กหรอกครับ”“ผมว่าเรากลับกันเถอะ ผมเบื่อแล้ว” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ทำไมล่ะ ทำไมผมต้องรู้สึกเจ็บกับคำพูดเมื่อกี้ด้วย ผมเป็นอะไรไป ผมเป็นอะไร
“เฮ้ย ไอ้เล็กมึงร้องไห้ทำไมว่ะเนี่ย” ไอ้เมฆที่เพิ่งเดินเข้ามาทักเสียงดัง จนผมต้องรีบใช้มือเช็ดที่ตาตัวเองอย่าง งงๆ นี่ผมร้องไห้เหรอ ร้องไห้เพราะคำพูดแค่ไม่กี่คำของคนที่ทำร้ายผมอย่างไอ้วัตอย่างนั้นนะเหรอ นี่ผม ผมกำลังเสียใจที่มันทำเหมือนไม่รู้จักผมอย่างนั้นเหรอ
“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะออกมาเบาๆจนไอ้เมฆ มองหน้า
“มึงเป็นบ้าอะไรไอ้เล็ก เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ มึงบ้าหรือเปล่าว่ะ”
นั่นสินะ ผมคงบ้าอย่างที่ไอ้เมฆบอกจริงๆ บ้ามาก ที่เผลอไปมีใจให้กับคนที่เกลียดผมยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกืออย่างไอ้วัต บ้าที่รักมันทั้งๆที่โดนมันทำร้ายสารพัดขนาดนั้น ผมมันบ้าจริงๆนั่นแหล่ะ
.....................................................TBC......................................
ฮ่าๆๆๆ ไอ้คุณวัต หลังจากที่ แค้นมานาน
ตอนนี้ มันจะ ซึน แล้วนะ ซึนมากถึงมากที่สุด
เตรียมหมั่นไส้มันได้เลย ก๊ากๆๆๆๆๆ ส่วน นายเล็ก
ก็ยังคงเก็บกดและดราม่าเช่นเดิม
ก็นี่มันนิยาย ดราม่า
วันนี้ลงเรื่อยๆ ค่ะ ลง ทั้งวัน