บทที่ 20 สละยานแม่“กินกันก่อนสิ.....ของโปรดนายไม่ใช่เหรอ.....เราจำได้นะ” เป๋าเอ่ยกับชายหนุ่มตัวโตที่ทำหน้าตาเคร่งขรึม จ้องมองเขาเหมือนกับจะเค้นคำตอบ ก็น่าอยู่หรอก เขาบอกอีกฝ่ายไปว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยนี่นะ แต่ดูเหมือนว่าผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้ว เขาก็ยังไม่ได้คุยอะไรที่เป็นสาระสำคัญเลยสักที นอกจากคุยเรื่อยเปื่อยกันแบบฝืด ๆ ฝืน ๆ
“เบนไม่อยากกินข้าวกับเราสองคนเหรอ” เป๋าถามเสียงสั่น เขาอาจเป็นคนเข็มแข็งมากกว่าภายนอกที่ทุกคนเห็น แต่สำหรับคน ๆนี้แล้ว กลับทำให้เขารู้สึกอ่อนแออยู่บ่อยครั้ง เขารู้....การเป็นคนขี้แยมันน่ารำคาญ เขาเองก็ไม่ชอบ
“เปล่านี่.....ก็เห็นเป๋าบอกเราว่ามีเรื่องสำคัญ....เราก็รอฟังอยู่นี่ไง”
“เราอยากใช้เวลาอยู่กับนายแค่สองคนน่ะ ไหน ๆเรื่องร้าย ๆมันก็จบลงแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เราจะเริ่มรุกจีบนายอย่างจริงจัง”
“ถ้างั้นก็ไม่เห็นต้องโกหกเลยนี่นา....ถ้าอยากมากินข้าวกับเราก็บอกกันตรง ๆ สิ”
“เราไม่อยากให้โอโม่รู้สึกไม่ดี”
“นั่นสินะ.....ลืมไปเลย”
เบนซินตักอาหารจานโปรดของตนเข้าปาก ก่อนจะทำหน้าตามีความสุขเต็มเปี่ยมจนอีกฝ่ายขำพรืด
“ประชดแล้วเบนนน”
“เปล่านะป๋าววววว......หรอย ๆนิ” เบนซินแสร้งทำสำเนียงชาวใต้ ดูเข้ากับหน้าหล่อคมเข้มของเขาดีเหมือนกัน
“ของโปรดนาย.....เราจำได้.....ยำเนื้อ.....ร้านนี้อร่อยกว่าที่ร้านที่เคยไปกินกันตอนนั้นอีก....พ่อกับแม่เคยพาเรามากิน ลองปลาราดซอสตะไคร้ดูดิ....อร่อยนะ” เป๋าตักปลาส่งให้อีกฝ่าย ท่าทางตอนแกะปลาของเจ้าตัวจิ๋วดูขะมักเขม้นและตั้งใจ จนเบนซินอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ แถมปลาที่ตักให้เขายังไม่มีข้างเลยสักชิ้นเดียว แม่ศรีเรือนสุด ๆ.....
ทั้ง ๆ ที่ก็มีดีตั้งหลายอย่าง จะติดก็แค่เป็นผู้ชายเหมือนกันเท่านั้น.....แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ.....
นั่นสิ.....
ถ้างั้นปัญหาคืออะไรเล่า?.....เบนซิน.....
“เป๋า.......ขอบใจนะ” เสียงทุ้ม ๆ นุ่ม ๆ นั่นก็ทำเอาเป๋าเขินจนหน้าแดงเหมือนกัน ไม่ใช่เดทแล้ว แต่เหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันมานั่งกินข้าวกันชัด ๆ เหมือนภรรยาเลาะก้างปลาให้ผัว คู่เดทที่ไหนเขาทำกัน แค่ตักให้กันก็เกินพอแล้ว!!!!
“ไม่เป็นไร”
“นี่ๆ....อันนี้ของโปรดนาย”
“แหงล่ะ....ก็ทั้งโต๊ะนี่เราสั่งอยู่คนเดียว ไม่ใช่ของโปรดนายก็ของเรา....เชอะ”
“แหะแหะ....เราจำได้หรอก....คราวก่อนนายก็สั่ง.....อะไรนิ.....กระเพาะปลาน้ำแดงบึ๋ย?”
“ผิดแล้ว....อันนี้เราเคยสั่งมาที่ไหน....เพิ่งสั่งมากินเป็นครั้งแรก.....ชื่อมันแปลกดี.....อะไรน๊า....ไม่เอาดีกว่า...ตอนสั่งอย่างอายอ่ะ ออกเสียงผิดรึเปล่าก็ไม่รู้” เป๋าพยายามจะนึกชื่ออาหารหน้าตาประหลาดที่วางอยู่บนโต๊ะ ยังไม่มีใครแตะ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เมนูก็ถูกเด็กเสิร์ฟเก็บไปแล้ว อ่านยากได้อีก
“อ้าวเหรอ....หน้าแตกอ่ะ...เพล้งงงง”
“มั่วได้อีก”
"นายก็มั่วพอกัน....บุ๋ง ๆ อ่ะ.....ตอนสั่งอ่ะ"
"หึยยยย....ยอกย้อนนะเบนนนน"
“งั้นเราตักให้นายนะ.....จะจำไว้....ว่าไอ้นี่คือจานแรกของเราสองคน...เป็นไง....ดูมีเรื่องราวดี....ว่ามั้ย?”
บรรยากาศตึงเครียดในตอนแรก กลายเป็นกระหนุงกระหนิง สถานที่ก็แสนจะเป็นใจ ทั้งคู่นั่งอยู่ในมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว บนชั้นดาดฟ้าที่คนยังไม่เยอะนัก
“เรื่องของเรามันจะพอเป็นไปได้มั้ยเบนซิน” เป๋าตัดสินใจเอ่ยถึงสิ่งที่ยังคั่งค้าง....คาใจ
“เราก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนายนิ.....นายก็น่ารักดี.....อยู่ด้วยแล้วก็ไม่ได้อึดอัดอะไร”
“แล้วมีความสุขมั้ย....นายเขินหรือว่ารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแบบที่เราเป็นรึเปล่า เรามีความสุขมากเลยนะเบน....เวลาอยู่ใกล้นาย เรารู้สึกอะไรตั้งหลายอย่าง....มันเกินคำว่าชอบไปแล้ว....”
“เราก็.....รู้สึกดีนะ”
รู้สึกดี.....แค่นี้มันพอแล้วหรือ....เป๋าไม่อยากเพ้อไปเองอีกแล้ว ถึงแม้อีกฝ่ายรับปากว่าจะเปิดโอกาส แต่ตอนนี้เป๋าอยากให้คนตรงหน้านี้ ส่งสัญญาณบางอย่าง อะไรก็ได้ที่บอกให้รู้ว่าเขายังพอมีหวัง.....
อะไรก็ได้ที่ทำให้เป๋าได้รู้ตัว ว่ามีโอกาสที่จะสำเร็จ....เพราะถ้าไม่ เขาจะได้ถอนตัวเสียแต่เนิ่น ๆ....ถ้าผลลัพธ์เป็นศูนย์...มันก็ป่วยการเปล่าที่จะสู้ แต่ถ้าหากมีเปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จ แค่เพียง 0.0001% เขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่าง....
เพื่อให้ได้มาซึ่งหัวใจของผู้ชายคนนี้“เบนซิน”
“ครับผม”
“รู้สึกชอบเราขึ้นมามั่งมั้ย....ชอบเราแบบคนรักน่ะ.....นายรู้สึกแบบนั้นกับเราบ้างหรือยัง.....”
“เราไม่รู้....เรารู้ว่านายชอบเรา.....แต่ไอ้เห็ดมันก็ชอบนายนะ......นายเองก็ยังไม่เคยให้โอกาสมันจริง ๆ อย่างที่รับปากเลยนี่ แล้วอีกอย่าง....วันนี้ไอ้เห็ดมันชวนนาย ก่อนที่นายจะชวนเรานะ”
“หมายความว่าที่นายยอมให้โอกาสเรา....ก็เพราะโอโม่งั้นเหรอ....นายทำแบบนี้ไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะทำให้เรา.....”
“อะไร”
“รู้สึกไม่ชอบโอโม่มากขึ้น....”
“เป๋า!!!!” ชายหนุ่มเผลอขึ้นเสียงใส่คนตัวเล็ก พอโพล่งออกไปแล้วเห็นอีกฝ่ายจ๋อย เบนซินก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“เราขอโทษ....แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นกับโอโม่จริง ๆ.....ยังไงก็ไม่ได้.....เราเคยบอกไปแล้ว...ทั้งบอกเค้า.....บอกนาย.....แล้วถ้าเราไม่สามารถให้โอกาสโอโม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ล่ะ.....นายยังจะให้โอกาสเราอีกมั้ย....หรือว่าที่นายยอมให้โอกาสเรา.....ก็เพราะโอโม่ ถ้าทุกอย่างระหว่างเรา มันเป็นเพราะพี่ชายของนาย.....ไม่ได้เกิดจากความต้องการของนายจริง ๆ เราก็ควรจะหยุด.....”
บรรยากาศชื่นมื่นที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เบนซินก้มหน้าเงียบ ไม่ปริปากเลยแม้แต่คำเดียว ขณะที่เป๋าเริ่มสะอื้น เจ้าตัวเล็กกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้อีกคนสงสาร เขาไม่ได้ต้องการความเห็นใจจากใครทั้งนั้น
“โอโม่เป็นคนดี น่ารัก เราไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับเค้า”
“แต่ไอ้เห็ดมันชอบเป๋ามากนะ....วันที่เป๋าหายไป มันเหมือนคนบ้าเลยรู้มั้ย”
“........แล้วนายล่ะเบนซิน.....นายห่วงเราเหมือนที่พี่ชายนายห่วงเรามั้ย”
“ห่วงสิ....ไม่ใช่แค่นาย.....แต่เป็นทุกคนที่โดนจับไป......พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่....”
“แล้วสรุปว่าเรื่องของเราล่ะ....จะยังไงต่อ....ยิ่งปล่อยให้เรารู้สึกว่ามีความหวังต่อไป....เราก็จะยิ่งเจ็บนะ”
“ยังไงนายก็ไม่มีวันชอบไอ้เห็ดแบบนั้นสินะ....แค่ลองไปเที่ยวกับมันสองต่อสอง....ซักครั้งนึงก็ไม่ได้เลยเหรอ.....อย่างน้อยถ้าไม่ใช่จริง ๆ นายก็บอกมันไปตรง ๆ”
“เราบอกไปแล้ว....ในห้องสมุดวันนั้นไง”
“เฮ้อออออ......ทำแบบนี้เราลำบากใจนะเป๋า....นั่นพี่เรา....แล้วมันก็
ชอบนายก่อนเรา....”
“พูดแบบนี้แสดงว่านายเองก็ชอบเราแล้วใช่มั้ย”
“ก็คงงั้น.....เราคิดว่า....เราอาจจะชอบนายนิดนึง....ถึงนายจะเป็นผู้ชาย....แถมยังเหมือนเด็กประถมก็เหอะ”
เป๋ายิ้มแฉ่ง อารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง แค่นี้แหละ ให้ได้รู้ว่ายังพอมีหวัง มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง ถึงสุดท้ายจะผิดหวังก็ช่างปะไร อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา ต่อจากนี้ไป เขาจะทำให้อีกฝ่ายเปิดหัวใจยอมรับเขาหมดทั้งดวงให้ได้ ตอนนี้หัวใจของเบนซินมันแง้มออกมานิดหนึ่งแล้ว นั่นถือเป็นนิมิตรหมายอันดีมิใช่หรือ.....
ขณะที่เบนซินเองก็ได้พยายามถามตัวเองแล้วเหมือนกัน ว่าเขาพอจะมีทางที่จะชอบคนตรงหน้า ที่ไม่ใช่ผู้หญิงได้ไหม เขาไม่ได้รังเกียจเพศที่สาม แล้วก็ไม่ได้เสียใจหากตัวเองจะเบี่ยงเบน เขาลองนึกย้อนดู มีหลายครั้งที่เขาเองเผลอรู้สึกวาบหวิวขึ้นมา ยามที่ได้เห็น สัมผัส เข้าใกล้ผู้ชายด้วยกัน ก็ไอ้หัวเห็ดนั่นไง เวลาที่แอบมองร่างเปลือยเปล่าของพี่ชาย บางครั้งมันก็ทำให้เขารู้สึก.....
มีอารมณ์.....เขาอาจจะรู้สึกไปตามสัญชาติญาณก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นแล้ว เขาก็ต้องทำให้มันถูกต้อง เขาต้องเปิดใจยอมรับ ไม่ปิดกั้นตัวเอง เพียงเพราะคำว่าศีลธรรม สิ่งที่เขารู้สึกกับพี่ชายเป็นเรื่องปกติ หากว่าเขามีพี่สาว แล้วได้มาเห็นร่างเปลือยเปล่าของเพศหญิงแบบเต็มตา ถึงจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน แต่ร่างกายของเขามันก็ย่อมจะมีปฏิกิริยากับของสวย ๆงาม ๆอยู่ดีนั่นแหละ....นั่นคือธรรมชาติ....คือเรื่องปกติของมนุษย์
แต่เขาต้องทำให้มันถูกต้อง พี่กับน้องจะมีความสัมพันธ์แบบนั้นไม่ได้ ไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้ได้ ดังนั้นถ้าตัวเขารู้สึกชอบผู้ชายด้วยกัน.....
คน ๆนั้นจะต้องเป็นเป๋าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งรายนี้ชอบเขาด้วยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องมันก็ยิ่งง่าย
อย่าทำทุกอย่างให้ซับซ้อนสิเบนซินชายหนุ่มค่อย ๆ คิด เขาพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้คู่สนทนา เป๋ากำลังชวนคุยหลายเรื่อง แต่เขาก็ฟังบ้าง ไม่ได้ฟังบ้าง แต่ก็ยังสามารถโต้ตอบกับอีกฝ่ายได้อยู่ สมองของเขากำลังระบมเนื่องจากใช้งานหนัก เขากำลังนึกหาคำพูดดี ๆ เพื่อไปอธิบายให้พี่ชายของเขาฟัง เขาห่วงความรู้สึกของไอ้เห็ดมากกว่าใคร อะไรก็ตามที่จะทำให้พี่เสียใจ มันจะต้องไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าจะต้องเสียใจจริง ๆ พี่ชายของเขาต้องเสียใจน้อยที่สุด ให้หัวเห็ดเจ็บเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายธรรมดา คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด....
ก็อย่างที่บอก....นี่แหละข้อเสียของเบนซิน....ใช้สมองมากเกินไป จนไม่ยอมฟังหัวใจของตัวเอง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เค้ากลับมาแล้ว.....เห็ดกินข้าวแล้วรึยัง เค้ามีของอร่อยมาฝากด้วยนะ.....ขนมก็มีนะเห็ด......เห็ด.....”
เบนซินตกใจจนแทบปล่อยถุงอาหารลงกับพื้น เขามัวแต่พูดไปก้มมองถุงของกินไป ก็เลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย หัวเห็ดยืนจ้องเขา ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ สองมือกำลังล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้น ยืนห่อไหล่ด้วยความหนาวจากเครื่องปรับอากาศ พี่ชายเพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาด ๆ ก็เลยรู้สึกหนาวนิดหน่อย
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่เนี่ย....ทำไมเป็นงั้นล่ะ”
“อะไร?....อ๋อ.....เนี่ยเหรอ......เป็นไงหล่อใช่มั้ยล่ะ.....สละยานแม่ไงเบน”
“สละยานแม่?”
“ก็เบื่อทรงหัวเห็ดแล้ว พี่ก็ไปซอยออกไง อีกอย่างนึงผมมันยาวแล้วด้วย มันเหมือนผมบ๊อบผู้หญิง....พี่นายเป็นรุกนะเบน.....เกย์รุกนะไม่ใช่สาวเสียบ....งงอ่าดิ.....สาวเสียบก็เป็นสาวแต่เสียบไง......จำมาจาฮ่องเต้น่ะ....หมอนั่นมันกูรูเรื่องเกย์ ๆ.....ตกลงหล่อม๊ะ....”
“ก็ดูดี”
“แค่ดูดีเองเหรอตั๋ว....”
เบนซินยืนนิ่ง พี่ชายของเขาตั้งแต่จบชั้นมัธยม ก็ตัดแต่ทรงหัวเห็ดกะลาครอบมาตลอด นอกจากทรงนั้น กับทรงหัวเกรียนแล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นพี่ชายไว้ทรงอื่น ตอนที่ผมกำลังยาวช่วงปิดเทอมชั้นมอ.หก กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง พี่ชายก็ดูตลกมากกว่าจะดู....
น่ารัก.....ตอนนั้นผมของพี่ชี้โด่ชี้เด่ไปคนละทิศ ผมข้างหน้าก็ยาวจนทิ่มลูกตา ตอนนั้นนักร้องค่ายเพลงอินดี้ชื่อดังก็ตัดทรงหัวเห็ด พี่ชายก็เลยไปตัดบ้าง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของไอ้เห็ด แต่ตอนนี้ ผมที่ตัดซอยให้สั้นแบบเบสิคธรรมดา เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ไม่ได้แฟชั่นจ๋า แบบนี้ก็ดูเข้ากับโอโม่ดีเหมือนกัน ดูเรียบร้อย สะอาด ที่สำคัญมันทำให้เห็นดวงตากลมโตคู่นั้นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม หัวเหม่ง ๆ นั่นก็น่ารัก แต่พอเดี๋ยวผมเข้าทรงมากกว่านี้ ก็คงจะยิ่งดูน่ารักมากว่านี้ ตอนนี้มันน่ารักแบบเด๋อ ๆ ไปหน่อย
อีกแล้ว....ร่างกายขาว ๆ ของพี่ชายกำลังจะทำเบนซินคลั่ง กลิ่นหอมสะอาดหลังอาบน้ำก็จรุงใจเหลือเกิน อยากดึงพี่ชายมากอดมาฟัด แต่ขืนทำแบบนั้นไอ้เห็ดคงไม่ชอบใจ
ฝ่ายโอโม่เห็นน้องยืนนิ่ง ก็นึกคึกไปตามเรื่อง เดินเข้าไปจนใกล้ บิดหัวนมข้างหนึ่งของน้องชาย จนเบนซินสะดุ้งโหยง
“เชี่ย!!!”
“โอ๊ย”
“เฮ้ย....เค้าขอโทษ”
“นายต่อยพี่อ่ะเบน.....เต็ม ๆ เลย”
หัวเห็ดเบ้หน้า เอามือลูบคางตรงที่มือของน้องชายตวัดไปโดนเข้าอย่างแรง.....ตัวอันตราย....หัวเห็ดคิด
“ไปกินข้าวกับเป๋ามาเป็นไงมั่ง.....”
“นั่นแหละที่เค้ากำลังจะพูดกับพี่.....”
“นายซื้อของกินมาตั้งเยอะ.....มีเรื่องไม่ดีแหง”
“มันก็ไม่ค่อยดี....แต่มันก็ดีกับเห็ดนะ....อย่างน้อยทุกอย่างมันก็จะได้ชัดเจนกันซะที....”
“อะไรอ่ะเบน.....เป๋าบอกอะไรนายกันแน่.....พี่ไม่อยากฟังเบน......ไม่เอา”
ร่างผอม ๆ ถูกสองมือใหญ่รวบตัวเอาไว้ ใบหน้าคมจ้องมองพี่ชายอย่างแน่วแน่ หัวเห็ดหลับตาปี๋ ถึงจะทำใจเอาไว้บ้าง แต่ยังไงก็รับไม่ได้อยู่ดี มันเร็วเกินไป เขายังไม่ได้ลงมือทำอะไรเป็นจริงเป็นจริงเลยนี่นา....เขากำลังจะเริ่มมันพรุ่งนี้ เขาอุตส่าห์เปลี่ยนทรงผมเพื่อจะไปเซอร์ไพรซ์ไอ้ตัวเล็กพรุ่งนี้.....
เขาจะทำให้เป๋าได้รู้ ว่าเขามีทุกอย่างเหมือนที่เบนซินน้องชายของเขามี
หากความผิดหวังเข้ามาเยือนเร็วกว่าปกติ โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว....ความรู้สึกคงเหมือนกับถูกผลักลงจากที่สูง ตกลงมาไม่เป็นท่า!!!!
“เห็ด.....ฟังนะ.....พี่ต้องฟัง....คิด.....แล้วก็ยอมรับมัน.....มันอาจจะทำให้พี่เจ็บ แต่เชื่อเถอะ ว่าเราสองคนไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”
เราสองคน.....เราสองคนมันต้องเป็นเขากับเป๋าสิ ไม่ใช่เป๋ากับน้องชายเขา
ไม่อยากคิดว่าน้องทรยศ แต่สุดท้ายแล้วมันก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี
ถ้าน้องชายบอกเขาตรง ๆ ตั้งแต่แรก ว่าตัวเองก็สนใจเป๋าเหมือนกัน แล้วแข่งกันแบบแฟร์ ๆ เขาคงจะไม่รู้สึกแบบนี้
ยิ่งน้องพยายามที่จะช่วย เขาก็ยิ่งสมเพชตัวเองมากขึ้น.......
ไม่ว่าจะทำยังไง.....โอโม่ก็ไม่เคยเอาชนะเบนซินได้สักเรื่องเลยสินะ.
.
.
.
.
.
.
.
To be con
หัวเห็ดเสียใจแล้ว.....
บางคนอาจจะสะใจ....แต่บางคนอาจจะกำลังรู้สึกเกลียดเป๋ากับเบนซิน....
เอาน่า....นิยายทุกเรื่องต้องมีดราม่า มันเป็นธรรมเนียม คงไม่มีใครชอบกินของหวานเป็นอาหารหลักหรอกนะ ของหวานน่ะ.....
มันต้องเก็บไว้กินล้างปาก หลังจากจบมื้อคาวสิยะ!!!!
