70% ก่อนนะคะพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง ลงอีก 30% เป็นงานละครอำลาค่ะพี่ VAN กับพี่ jing_sug ขอบคุณมากๆ ค๊า
ช่วยบรรเทาภาระหนูได้มากมายทีเดียวMy love
Part 41
[Special Joke] “จะกินเปล่าเนี่ยะ” ยัยตัวแสบคงหงุดหงิดไม่น้อย ที่ผมแกล้งสนใจรูปบูตัสในเมมโมรี่การ์ดใจจดจ่อ
“โจ๊กถ้ามึงไม่เลิกดู..กูกลับ” พูดจบ ลุกพรวดรีบคว้าแขนอย่างไว
“หึหึ..เดี๋ยวนี้มึงนอยด์เก่งนะหนก ไม่แมนว่ะ” อดแหย่ไม่ได้
ปกติมันเคยออกอาการแบบนี้เมื่อไหร่ พักนี้ขยันทำบ่อยเกิน
“เหี้ย..มึงเป็นคนชวนกูมา เสือกดูรูปไม่เลิก” หน้ามุ่ยจ้องเอาเรื่อง
“มันเพลินนี่หว่า มึงว่า..กูหล่อไหม” ยิ้มกว้าง สบตาวิบวับ
“เหอะ..ถามผิดแล้ว กูดูผู้ชายหล่อไม่เป็น ผู้หญิงสวยว่าไปอย่างจะรีบสาธยายให้ฟังอย่างละเอียด”
ดูท่าทางวางมาดยืดอกช่างภูมิใจนักหนา นี่ถ้ารู้ผมกูรูกว่าละก็ คงหนาวไม่หยอก
คอลเลกชั่นสะสมเป็นตั้ง มิยาบิ ตัวแม่ผมมีครบเซท
“ตกลงไม่สันทัด เป็นแฟนกูไม่รู้เหรอ กูหล่อไม่หล่อ” แหย่สนุกๆ
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้ยัง นั่งแช่ร้านกาแฟนานแล้วนะ” เรานั่งในร้านกาแฟแบรนด์ดัง
ผมชวนมาหาอะไรกินก่อนเข้าบ้าน สอบวันสุดท้าย ไม่มีนัดเลี้ยงที่ไหน พรุ่งนี้ต้องเล่นละครงานอำลาสถาบัน
ล่อโต๊ะจีนเต็มสนามฟุตบอลกันเลย ทั้งม.6 ม.3
“แม็ค OK ไหม” หันไปบอก
“เออ..ลุกดิ” หน้างอง้ำเดินนำออกไปก่อน ผมเคลียร์ค่าเสียหายเสร็จรีบตามไปติดๆ
“ถามจริง..มึงคิดยังไงกับบูตัส” จู่ๆเปิดประเด็น หลังผมยกถาดไก่พร้อมโค้ก
บริการคุณแฟนทอมแสบเป็นที่เรียบร้อย
“กูไม่เข้าใจที่มึงถาม” มองหน้าขอคำอธิบายเพิ่ม
“มึงว่ามันน่ารักไหม” มีเหลือบตาจ้องรอคำตอบอีกต่างหาก
“ในบรรดาตุ๊ดทั้งโรงเรียน จัดอันดับน่ารักล่ะก็ อีอึนเข้าวินสุดๆ”
หยิบไก่มากัด พยักหน้าบอกมันกินไปด้วย มัวแต่คุยไม่ยอมขยับ
“นั่นสิ..คนชอบเป็นโขยง ทำไมมึงไม่จีบบูตัส” มาไม้ไหนของมันอีกเล่าเนี่ยะ
“นึกยังไง แนะนำกูจีบมัน..หืม” หยุดมือจ้องจริงจัง
“กูพูดตามความเหมาะสม ก่อนมันจะอะไรกับน้องบอล ถ้ามึงจีบเสร็จมึงชัวร์
บูมันชอบมึงเป็นการส่วนตัวด้วยสิ” ดูมันแสดงความเห็นใหญ่
“ความรักไม่ใช่นึกชอบก็สามารถทำให้รักกันได้ ไม่งั้นปานนี้คงมีคนสมหวังหมด
กูยอมรับมันน่ารัก เว้นแต่กูไม่มีคนในใจมาก่อน ก็ไม่แน่” ผมถ่ายทอดความรู้สึกผ่านดวงตาให้มันรับรู้
ยัยทอมสุดอึนมันคงยังไม่เชื่อ
“อย่าเยอะ..เข้ามหา’ลัย บทบาทแฟนจอมปลอมที่อุปโลกน์คงยุติ มึงกับกูกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม”
มันคิดสาระตะว่าผมใช้มันกันหมา พวกที่พยายามเข้ามาสะหวีวี่วีอ่อยผมนั่นแหละ
“มึงตั้งหน้าตั้งตาจะเลิกกับกูให้ได้ใช่ไหม” ชักหมดอารมณ์แดก พอมันพูดเรื่องนี้พาหงุดหงิดชะมัด
“เออ..มึงทำตัวติดกูแบบนี้ได้ยังไง เรทติ้งสาวกูตกหมด อีกอย่างมึงเรียนคนละคณะนิ”
ผมเลือกวิศวะการบิน ส่วนหนกมันเลือกวิศวะคอมฯ
“ผลแอดฯ ยังไม่รู้ มึงคาดการณ์ไปโน้น” ประชดเว้ย!
“สมองอย่างมึงไม่พลาดหรอก” ทีเรื่องนี้เชื่อมั่นกูจริงอีห่า
“เรื่องนั้นช่างแม่ง ประเด็นเกี่ยวอะไรที่เรียนคนละคณะ แล้วต้องเลิกเป็นแฟนด้วยวะ” ผมกำลังซีเรียส
“อ้าว!..กูต้องสละโสดสิวะ เผื่อเจอสาวถูกใจ มีมึงเป็นแฟนสาวไหนชายตาแล..ห๊ะ!”
ค้อนกูอีก ท่าทางมึงโคตรจะทอมเลยดิเนี่ยะ เหมือนตุ๊ดเข้าไปทุกที ยังไม่ยักรู้ตัวอีก
“หนกกูถามจริง ตกลงมึงจะใช้ชีวิตแบบนี้ ตั้งใจมีคนรักเป็นผู้หญิง
ทั้งที่มึงผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าเนี่ยะนะ” ไม่ใช่อยากซ้ำเติม แต่ผมเหลืออด
“กูไม่รู้” มันก้มหน้าหลบตา เฉหั่นไก่เข้าปาก เรื่องแบบนี้ยังไม่รู้ อึนพอบูตัสมันเลยแม่งเอ้ย!!!
“กูรักมึง” บอกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้
“มึงก็มามุกนี้อีกแหละ” เห็นยัง..มันไม่เคยเชื่อ
“ทำยังไงมึงถึงจะเชื่อ..ว่ากูรักจริง” จนปัญญาสุดๆ
“มึงแน่ใจไม่ชอบผู้ชาย พวกตุ๊ดแต๋วเกย์กะเทย ต่อให้มีครอบครัวมีลูก
สุดท้ายยังคงกลับไปใช้ชีวิต ตามรสนิยมตัวเองอยู่ดีแหละน่า”
“มึงอาจเห็นตัวอย่างห่าเหวที่ไหนมา แต่กูยืนยันแล้วไม่ได้เป็นตุ๊ด ขืนพูดไม่เลิกจูบโชว์เลยไหม”
วิธีเดียวที่ผมทำได้คือขู่มัน ความจริงยังไม่เคยได้จูบเลยสักครั้ง ทั้งที่ใจอยากชิมปากสีชมพูของมันใจจะขาด
“มึงแอ๊บเนียนเนอะ 6 ปี คงทำให้กูมั่นใจมึงแมน” ปัญหาสำคัญของผม
ระยะเวลาแกล้งเป็นตุ๊ดคบกับมัน พานให้ไม่มั่นใจว่าผมแมนเต็มร้อยเสียอย่างนั้น
“มึงหมิ่นศักดิ์ชายกูหลายหน พอท้าให้ลองมึงก็ไม่กล้า” ผมเคยท้ามันครับ
ลองนอนกับกูไหมจะได้รู้ตุ๊ดไม่ตุ๊ด มันก็ไม่กล้า
“กูไม่ได้ว่ามึงเอาไม่ได้นิ ประเภทมึงหญิงได้ชายดีมีถมเถ ที่มึงคิดกับกูอาจมีส่วนกูเหมือนเด็กผู้ชาย
เลยพานมองแบบนั้น” ความลึกซึ้งด้านการวิเคราะห์ของมันบรรเจิดเหลือเกิน ภาพที่พวกเพื่อนๆเห็น
ต่างเข้าใจเราเป็นคู่รักหวานแหวว ที่ไหนได้ยังไม่คืบหน้าสักกะผีก
“เฮ้อ!..กูจนปัญญาทำให้มึงมั่นใจจริงๆ ลองฝังใจไปแล้วนะ ที่จริงมึงเคยสำรวจตัวเองบ้างเปล่า
มึงเปลี่ยนมาชอบผู้ชายได้ไม่ได้ ก่อนโยนประเด็นให้กูรับภาระ” เสือกเงียบไม่ยอมปริปาก ไม่ยอมสบตา
บางครั้งสิ่งที่มันทำ ผมพานเข้าข้างตัวเองว่ามันมีใจให้ เหมือนขยาดกลัว มันถึงกั๊กๆไม่ยอมเปิดใจ
การคบกันของเราเลยคาราคาซังไปไม่ถึงไหนสักที
“ให้โอกาสกูหนก ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” สิ่งสุดท้ายที่สามารถทำได้มีแค่รอเท่านั้น
“ที่ผ่านมาก็ให้ไม่ใช่” มันตีรวนไม่เลิก
“มึงกลัวอะไรวะ ตั้งแต่คบกูมา เคยมีสักครั้งไหมที่กูล่วงเกินมึงห๊ะ” ชักเริ่มขึ้นแล้วตอนนี้
“เพราะแบบนี้ไง มึงไม่มีทางชอบกูจริง” กรรม!..มันเอาสมองส่วนไหนมาตัดสินวะนั่น
“อะไรคือเหตุผลที่มึงคิดแบบนี้” ตกลงไก่ไม่ต้องแดกแล้ว ดีที่มุมเรานั่งเป็นส่วนตัวมากหน่อย
“ถ้ามึงแมนอย่างที่พยายามยืนยันให้กูเชื่อ กลับเป็นกูแล้วที่มีอะไรให้แมนอย่างมึงพิศวาส
อกไม่อึ้มรูปร่างหน้าตาทอมบอยซะขนาดนี้ มันไปดึงดูดฮอร์โมนส่วนไหนไม่ทราบถึงได้มาชอบกูเข้า
ผู้ชายร้อยทั้งร้อยมันไม่มองกูหรอก แต่เล็กจนโตมีหมาสักตัวไหม มันแสดงว่าจะจีบกูห๊ะ!
ถ้ามึงไม่แมนแล้วนึกอยากลองกู ที่มึงคิดว่ามีความเหมือนผู้ชายมากกว่า สุดท้ายแล้วมึงต้องเบื่อ
กูเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง ทางออกดีที่สุดคือยุติความสัมพันธ์ไม่ให้มันก้าวข้ามไป เราเป็นเพื่อนรักเพื่อนเลิฟเหมือนเดิม
กูยังคบมึงกอดคอเล่นหัวสบายใจกว่ามาก เข้าใจความรู้สึกกูไหม”
อึ้งไปหลายวิ หลังมันระบายหมดเปลือก จะบอกได้ยังไง ที่ไม่มีไอ้ตัวผู้หน้าไหนกล้าจีบ
เพราะกูขวางมาตลอด มันไม่รู้ตัวสักนิดถึงจะแห้งหน้าอกแฟบเป็นไข่ดาว แต่ออร่าความน่ารักก็ไม่ได้ด้อยสักนิด
มันกันผมจากตุ๊ด แต๋ว กะเทย หญิงแท้ หญิงเทียม ผมก็แอบกันมันจากตัวผู้ทั้งหลายเหมือนกัน
ไม่คิดกลายเป็นปมปัญหาทำให้มันไม่มั่นใจในความเป็นหญิงไปเสียแบบนี้
“กูไม่สามารถสรรหาคำพูดไหนมาโต้แย้ง แต่กูไม่ยอมเลิกมึงแน่ ไม่ว่ามึงจะหาข้ออ้างแบบไหน
ระหว่างเรากลับไปยืนตรงจุดเดิมไม่ได้แล้ว กูไม่ใช่เพิ่งมานึกชอบมึง เคยบอกแล้วกูชอบมาตลอด 6 ปี
สำหรับกูมันนานพอแล้ว กูไม่ยอมอยู่ในฐานะเพื่อนสนิทของมึงแน่..หนก” ผมพูดจริงจัง ตอนนี้ที่ทำได้คงมีเพียงเท่านี้
รอมันเป็นฝ่ายเปิดใจให้อย่างเดียว
หนกมันมาส่งผมที่บ้าน ก่อนแยกกลับบ้านมัน พรุ่งนี้นัดมารับบ่ายสอง ต้องไปแต่งหน้าแต่งตัวเล่นละครอำลา
วุ่นวายไม่น้อย ผู้ปกครองเราสองครอบครัวไปกันครบ พ่อผมกับป๊าม๊าหนก ซื้อโต๊ะติดกับโต๊ะของครอบครัวพี่ต้นสวยตัวแม่
มีบ้านไอ้เขม น้องหนุ่ย น้องเอก น้องวิทย์ ซึ่งเลือกโซนเดียวกันทั้งหมด
เรื่องละครไม่มีใครบอกทางบ้าน เก็บเป็นเซอร์ไพรส์ ขืนให้รู้ผมเล่นแต่งเป็นหญิง ไอ้หนกเป็นพระเอก
คงมีคำถามยืดยาว
เปลี่ยนชุดเอาเสื้อที่มีลายมือเพื่อน ใส่ไม่แขวนผึ่งไล่กลิ่นอับ อดจ้องลายมือตรงกระเป๋าซ้ายตำแหน่งหัวใจไม่ได้
‘มึงคือเพื่อน..รัก ที่สุดในชีวิต Nok’ ยังไงมันยังคงวางผมในฐานะเพื่อน ทั้งที่เขียนบนจุดพิเศษ
ประเพณีต่างรู้ดีพื้นที่ตรงนี้ คนรักกันเท่านั้นที่จะเขียนให้กัน ส่วนผมก็เขียนให้มันเช่นกัน ตำแหน่งเดียวกันนั่นแหละ
‘กูรักมึง ตลอดมาและตลอดไป Joke’ ผมบอกความรู้สึกไม่มีกั๊ก มันไม่เคยมั่นใจสักที
เฮ้อ!..วันนี้หยุดคิดเรื่องนี้ก่อนจิตตก
หยิบมือถือมาเปิดรูปที่ถ่ายในสตูดิโอ เริ่มจากผมถ่ายคู่บอลลูน ไม่ยกหางเกินไปผมหล่อเอาเรื่อง
ไม่ได้ด้อยหน้าลูกครึ่งสักเท่าไหร่หรอกน่า หุ่นเหรอะก็คู่คี่สูสี แพ้ขาวน้องมันไปเท่านั้น
แต่ไอ้ที่ต้องเผลอกลืนน้ำลาย กำเดาแทบทะลัก คงไม่พ้นภาพชุดของบูตัส ไอ้ห่าบอลมันคาดโทษ
ห้ามไม่ให้ผมเอารูปนี้ไปเผยแพร่ให้ใครดู
เข้าใจความรู้สึกมันเลย แม่งเอ้ย! โคตรน่ารักอย่างยั่ว แทบไม่ต้องทำท่าเซ็กซี่แม้แต่น้อย
เสื้อชีฟองบางเห็นหัวนมสีชมพูบนอกเนียนขาวจั๊วะ ทำเอาน้ำลายสอได้เหมือนกัน ไม่รวมน่องเรียวขาว
โชว์ขาอ่อนอีกนิดเดียวได้เห็นแก้มก้นนูนแล้วเชียว
ไอ้ท่าแอ็คติ้งแบ๊วๆ ที่มันทำตามบทพี่สไว แสดงอารมณ์ออกมาโคตรเป็นธรรมชาติเสียเหลือเกิน
ปากจู๋ ตาโต พองแก้ม ทำงอนพวกผมได้น่าจับตีก้นชะมัด พลอยส่งอารมณ์ให้ทั้งผมทั้งบอลลูน
ได้ฟิลแทบไม่ต้องบิ๊วกันเลยงานนี้ สายตาผมกับแฟนของมัน มองหน้าใสสุดน่ารักเป็นประกายกรุ้มกริ่มได้เจ้าเล่ห์โคตรๆ
รูปไหนไม่เท่ารูปมันนอนหลับอุตุ มือซุกหว่างขาสองข้างคู้เข่างอหนุนท้องหมียักษ์หลับปุ๋ย แพขนตางอน
หลุบปิดตากลมปากนิดจมูกหน่อย แก้มออกสีเรื่ออมชมพู ให้ตาย..มันเป็นตุ๊ดคนแรกที่ทำให้ชายแท้อย่างผม
ใจเต้นรัวกระหน่ำจนได้
ขนาดแบมสวยตัวแม่ มันสวยจริงผมยังไม่รู้สึกอะไร แต่บูตัสโคตรดึงดูดผู้ชายเว่อร์
ยิ่งไอ้ท่าทางมึนๆอึนๆของมันด้วยนะ พานทำไอ้พวกตัวผู้กัดลิ้นชักตาตั้งมาหลายราย
ไม่ติดมีแบมคอยกันด้วยมาดนางพญา เย็นชาหนาวเยือกชวนขนหัวลุกละก็ บูตัสคงรับศึกรักหนักทีเดียว
กล้าพูดเต็มปาก หากผมไม่ได้รักไอ้หนกจนฝังราก บูตัสคือคนที่เหมาะเป็นคนรักที่สุด
ทั้งรูปลักษณ์และนิสัยส่วนตัวพร้อมสมบูรณ์จริงๆ...
มาอัพให้เท่านี้ก่อนนะคะ กดบวกแต้ม 1 ให้กับเม้นท์ทุกเม้นท์ตอนที่ผ่านมาค่ะ
ขอบคุณมากๆ กับทุกกำลังใจที่ตามกันมาตลอด ขอต้อนรับคนอ่านใหม่ๆ
ที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ด้วยเช่นกันค่ะ

Luk.
