ฉลอง 99 หน้าเอาไป 70% ก่อน
พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง อีก 30% ที่เหลือ
My love
Part 36 “บู..หัดขับรถเหรอ” น้องถามหลังมาเจอครูสอนขับรถ โจ๊กนัดให้
พี่เขาดูหนุ่มอยู่เลย เป็นพนักงานบริษัทฯ สอนขับรถหารายได้เสริม รอยยิ้มอบอุ่นดูเป็นกันเอง
“พร้อมไหมครับ พี่แนะนำอุปกรณ์ให้เข้าใจก่อน”
“ครับ..แต่น้องผมต้องนั่งไปด้วยนะครับ” ตกลงกันก่อน ไม่อยากฝากบอลลูนไว้กับลูกน้องพ่อโจ๊ก
ซึ่งไปรับพวกผมมาที่นี่ แกชื่อพี่ชาติ
“ให้น้องชายนั่งเบาะหลังเลยครับ” เรียกบอลลูนขึ้นรถ ก่อนหันไปบอกพี่ชาติเสียหน่อย
“พี่ชาติครับ ฝากกระเป๋าผมกับน้องไว้ในรถนะครับ”
“ดีแล้วครับ..พี่ต้องไปส่งพวกคุณที่บ้าน ไว้ในรถสะดวกดี ไม่ต้องย้ายไปมา” พี่เขาพูดกลับมา
“ขอบคุณมากครับพี่” ซึ้งใจโจ๊กจัง กำชับให้พี่เขาดูแลอย่างดี
“เสียบกุญแจ สตาร์ทรถด้วยการบิดกุญแจตรงนี้ ก่อนสตาร์ทดูให้แน่ใจเป็นเกียร์ว่าง
ส่วนนี่คันเร่ง ข้างๆคือเบรก ไฟเลี้ยวอยู่ตรงนี้ แตรอยู่ที่พวงมาลัย บลาๆๆ”
ระหว่างพี่เขาบรรยาย บอลลูนชะโงกหน้ามาดูด้วย
“มีไม่เข้าใจตรงไหนไหมครับ” เข้าใจนะ อุปกรณ์เหล่านี้ผมคุ้นเคยมาก่อนแล้ว
ไม่ลำบากทำความเข้าใจเท่าไหร่
“ไม่มีครับ” บอกไปตามจริง
“พี่ขับให้ดูก่อน แล้วบูตัสค่อยลองขับ สำคัญควรฝึกเป็นนิสัย เข็มขัดต้องไม่ลืมคาด
สังเกตคนนั่งข้างด้วย ถ้าเขาลืมเราต้องเตือน นี่บูตัสยังไม่ได้คาดเลย ขอโทษนะครับ”
พูดจบพี่แกเอี้ยวตัวดึงสายเข็มขัด บริการคาดให้ผมเสร็จสรรพ
“อ๊ะ!..” ตกใจสิ จมูกเฉียดแก้มจนรู้สึกได้
“บู..” บอลลูนหน้าคว่ำทันที พยายามมุดตัวมาขวางลำตรงกลาง
ทำอย่างกับตัวเล็กเสียอย่างนั้น..ยุ่งสิคราวนี้
“บอลกลับไปนั่งดีๆสิ เรียนแป๊บเดียวนะ” รีบปราม ท่าทางไม่ได้ผลเสียแล้ว เด็กโข่งออกอาการเอาแต่ใจ
“ไม่เอาไม่นั่ง..พี่คนนี้มานั่งเลย” น้องหันมองพี่เขาตาขวาง น้อยครั้งที่น้องเสียมารยาทไม่ฟังเหตุผล
“บอล..อย่าเสียมารยาทสิครับ” พอโดนตำหนิ ลูกตาไหวระริกออกอาการจะเบ้ให้ได้
ยุ่งแน่เกิดน้องน้ำตาทะลักเป็นเรื่อง มองพี่เขาอย่างลำบากใจ พี่แกคิ้วขมวดมุ่น
“พี่ไปนั่งบอกข้างหลัง บูตัสคอยทำตามที่พี่สอน พอไหวไหมครับ” ให้ผมขับเลย
โดยยอมย้ายไปกำกับอยู่เบาะหลัง ผมถูกฝากจากลูกนายพล แถมทหารรับใช้ตามดูแลต่างหาก ใครจะกล้ามีปัญหาล่ะ
“งั้นบอลย้ายมานั่งกับพี่” พยักหน้าเรียกน้อง
“บอลทำให้ดูเอง” บอกจบผลุนผลันเปิดประตูฝั่งคนขับเฉย
“บอลทำอะไร” งงสิ? ใช่แต่ผมที่งง พี่เขาก็งง ลงรถปุ๊บบอลลูนมุดเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับเฉย
“บอลขับได้ เดี๋ยวทำให้ดู” ผมจะห้าม นึกอีกทีน้องคงจำได้ บางทีความเคยชินในการขับรถ
ทำให้รู้ต้องทำยังไง เพียงแต่พฤติกรรมเป็นเด็กเท่านั้น ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้
“แน่ใจนะ” ผมย้ำหนักแน่น
“อื้อ..ขับได้จริงๆ” หันมองตาแป๋ว แววตามุ่งมั่นมาก
“บูตัสพี่ว่ามันอันตราย ให้น้องขับไม่ได้” พี่เขารีบปราม บอลลูนหันควับ เม้มปากใส่เหมือนเด็กโดนขัดใจ
“ไม่เป็นไรครับ ลองให้น้องขับดูก่อน” โทษพี่เขาไม่ได้ ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับบอลลูน
พอเห็นกิริยาเด็กไม่ยอมโต ย่อมกังวลเป็นธรรมดา
“แต่มันอันตรายมากนะครับ” พี่แกตั้งท่าจะลงรถ
“น้องผมขับรถเป็นครับ” รีบบอกให้สบายใจ สีหน้าไม่ไว้ใจเท่าไหร่
“เราแน่ใจนะ”
“ครับ..” พอผมยืนยันแกก็นิ่ง บอลลูนยิ้มใหญ่
น้องบิดกุญแจสตาร์ทรถ หันมายิ้มกว้างให้ผมอีกรอบ แนะนำโชว์
อีกนัยหนึ่งอยากเป็นครูสอนผมเองมากกว่า ดูจากสีหน้ามุ่งมั่นระบายยิ้มกว้างตลอดเวลา ปากพูดแจ้วๆไปด้วย
“บิดกุญแจแบบนี้ รถติดได้ยินไหม” ฟังบอลลูนสอน เข้าใจง่าย น้องเล่นบอกทุกอย่าง
“ครับ..แล้วยังไงต่อ” เผลอยิ้มตามไปด้วย
“เราก็จับตรงนี้โยกไปข้างหน้าแบบนี้ ค่อยเหยียบเท้าตรงนี้ รถจะค่อยเคลื่อนไป
บูอย่าเหยียบแรงนะ ไว้รอบูเก่งค่อยทำ เหยียบเบาๆ บลาๆ” น้องพูดไม่หยุด ผมฟังเพลินได้สมาธิไปอีกแบบ
บอลลูนพารถออกตัวอย่างนุ่มนวลไม่มีกระชากสักนิด พี่เขาถึงกับอึ้งไปเลย หลังเจอขโมยซีนอย่างจนปัญญา
พอผมลองขับที่เคยกังวลหายไปหมด คงไม่ต้องถึงอาทิตย์ขับคล่องแน่
น้องคอยกำกับอยู่ด้านข้างแทน บางจังหวะพี่เขาสอนผมขึ้นมา น้องเหลียวไปมองตาขวางประมาณไม่ให้ยุ่ง
จนปัญญาปราม ดูรู้พี่เขาหงุดหงิดไม่น้อย ไม่สามารถทำอะไรได้ บทบอลลูนเอาแต่ใจล่ะก็ ผมเองยังมึนตึ๊บ!
“ฮ่ะฮ่าๆๆ..บูเก่งแล้ว แปะๆๆ!!” ปรบมือชมใหญ่ หลังผมพาวนไปทั่วค่าย เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเดินหน้าถอยหลัง
หัดเปิดไฟเลี้ยวมองกระจกข้างกระจกส่องหลัง ยอมรับตื่นเต้นแรกๆ พอจับทางได้ไม่หนักใจสักนิด
“พี่ครับผมฝึกพรุ่งนี้อีกวัน พี่นัดพาไปสอบใบขับขี่เลยได้ไหมครับ”
มั่นใจไม่จำเป็นต้องฝึกถึงอาทิตย์หรอก ตอนนี้เริ่มคุ้นแล้ว
“เอาอย่างนั้นเลยเหรอ” พี่แกอิดออดนิดหน่อย
“ที่เหลือผมฝึกขับแถวบ้านเอาครับ พี่สะดวกพาไปสอบวันไหน รบกวนนัดล่วงหน้าสองสามวันนะ”
“ถ้างั้นวันศุกร์ดีกว่า ต้องไปแต่เช้าไม่งั้นคิวยาว แนวข้อสอบพี่เอาติดมาด้วย เราเอาไปอ่านกฎหมายจราจร
จำให้ขึ้นใจ ทฤษฎีผ่านปฏิบัติไม่เท่าไหร่หรอก มีโอกาสขับแก้ตัวสองครั้ง” รับเอกสารเอาไว้ แยกย้ายกลับ
ดูท่าพี่เขาคงหมั่นไส้บอลลูนไม่น้อย ตอนไปไม่มองน้องสักแอ๊ะ ผมบอกให้น้องยกมือไหว้ขอบคุณ
ยังแค่พยักหน้ารับเฉยๆ แต่น้องผมนี่สิ..
“แบร่!!!” ดันแลบลิ้นตามหลังเขาอีก
“บอล..ทำไมทำนิสัยแบบนั้น” ถึงขั้นนี้ต้องมีดุไว้บ้าง
“เขาหอมแก้มบู” หน้างอ เถียงผมแหละ
“หอมที่ไหน เขาคาดเข็มขัดให้” แม้ไม่ค่อยแน่ใจ แอบสงสัยไม่เห็นต้องคาดให้ผมด้วยซ้ำ บอกมาทำเองได้
“เขาหอม..บอลเห็น” หน้าคว่ำปากยื่นแล้ว
“ไม่ต้องทำปากยื่น ขึ้นรถสิพี่ชาติรอเราแล้ว” น้องยอมเดินตามต้อยๆ พากันไปขึ้นรถ
“เอาอะไรไหม เลยเซเว่นไม่มีที่ซื้อแล้วนะ” พี่ชาติขับถึงกลางซอยทางเข้าบ้าน เซเว่นอยู่ข้างหน้านี่เอง
“ซื้อกูลิโกะรสช็อกโกแลต กับเบงๆ” ขนมโปรดเขาเลย
“พี่ช่วยจอดเซเว่นทีครับ พี่กลับได้เลยไม่ต้องรอ จากตรงนี้ไปบ้านผมอีกไม่ไกลเท่าไหร่ พวกผมเดินกลับได้ครับ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ”
“ครับ..”
“งั้นจอดนะ” พอเห็นผมพยักหน้ารับ พี่แกตีไฟจอดหน้าเซเว่น ให้น้องไหว้ขอบคุณ
บอลลูนไม่มีอิดออด ยิ้มประจบอีกต่างหาก จากนั้นพี่เขาก็เคลื่อนรถวนกลับออกไป
“บู..บรีสกับบ็อบหิวไหม” ระหว่างยืนเลือกขนม หันมาถามถึงลูกชายตัวโปรดของเขา
ตอนนี้ปาเข้าไปสองทุ่มคงห่วงกระต่าย
“ไม่หรอก ก่อนไปเรียนเราใส่อาหารเติมน้ำไว้เต็มนี่ ถ้าบอลห่วงก็รีบเลือกสิ จะได้กลับไปดูเร็วๆ”
เร่งน้องหลังจดๆจ้องๆ ทำท่าหยิบหลายชิ้น มุมนี้ไม่เคยคิด ได้มีโอกาสพาน้องมาซื้อขนมอีก..อิอิ
จ่ายตังค์เสร็จ เราเดินเลาะถนนแยกเข้าซอยเล็กทางไปบ้าน
น้องแกะกูลิโกะเคี้ยวกรุ๊บๆ มาตลอดทาง มีน้ำใจป้อนผมด้วย
“อ่ะ..อ้าปาก” อยากขยี้หัว แต่น้องสูงกว่าได้แต่บิดแก้มแทน หมั่นเขี้ยวชะมัดเลย
“นี่แหนะ!!” อ้าปากงับขนม บิดแก้มไปเบาๆ
“อูย..ไม่เอาไม่บิด บูหอมสิ” พูดจบล็อกคอผม กดจมูกแนบแก้มสูดหายใจเสียงดัง
“ฟ๊อดด!!!...อ้าห์” มีท่าทางประกอบอีก
“บ้า..เดี๋ยวคนเห็นไม่อายเหรอ” หน้าร้อนเลยวุ้ย! ดีที่ละแวกนี้เป็นบ้านเดี่ยวไม่พลุกพล่าน
สองทุ่มเศษดูเงียบๆ ไม่งั้นคงต้องมุดดิน อายมาก!
“ต้องอายด้วยเหรอ” เออ..คำถามช็อคโลกจริงๆ
“เราทำในบ้านได้ ห้ามทำข้างนอกเข้าใจไหมครับ” ใจเย็นอธิบาย
“อื้อ..” ขานรับไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า หันไปสนใจหยิบกูลิโกะใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
เฮ้อ!..เด็กหนอ ใครเห็นจะเชื่อไหม น้องนิสัยเด็กขนาดนี้ สูงจนหัวผมแค่ปลายคาง เดินแกว่งแขนไปมา
อ้าวเฮ้ย!..แกว่งแขนกระเป๋าเป้ล่ะ ตายห่า..ลืมไว้บนรถพี่ชาติ
ต่อด้านล่าง