มา 100% สำหรับตอนที่ 30 อัพต่อให้นะคะ
ขอบคุณ jing_sng ที่ช่วยแก้ไขคำผิด ตอนคนเขียนพิมพ์
มักเร่งพิมพ์ไปเรื่อย สมองไหลอาจมีพิมพ์หลุด สะกดผิด
หากคนอ่านเจอ แนะนำกันมาได้นะคะ จักขอบคุณอย่างสูง
จะได้แก้ไข ก่อนรวมเล่ม ประหยัดเวลาไปอีกเยอะ..
My Love
Part 30 100% แยกย้ายเสร็จ กนกกับโจ๊กมาพอดี แบมเพิ่งลงรถพี่ต้นไม่ลืมเข้าไปไหว้ทักทายพี่เขาด้วย
ถือโอกาสนัดเลี้ยงขอบคุณวันอาทิตย์หลังติวเสร็จ ฝากพี่ต้นเชิญพี่โชคแทน ยังไม่ได้ขอบคุณพี่เขาเลย
จากนั้นเราพากันเดินเข้าโรงเรียน ชวนพวกมันแวะไปดูบอลลูนที่ห้องก่อน
น้องเข้าไปกับน้องหนุ่ยล่วงหน้าแล้ว รีบจะไปลอกการบ้าน....
“บอลๆๆ...บลาๆๆๆ” เสียงเซ็งแซ่ได้ยินตั้งแต่ยังไม่ถึงหน้าประตู ไม่ดังสิแปลก
หน้าห้องบอลลูนเช้านี้ มีเด็กนักเรียนมุงเต็ม จนออหน้าประตู
“ขอเข้าไปหน่อยครับ” โจ๊กมันเอ่ยปาก หลังเห็นผมอึ้งไม่ขยับ
“พวกพี่โจ๊กนี่..กรี๊ดๆๆ!!..พี่แบม พี่บูตัส พี่หนก บลาๆๆ” กลายเป็นหันมาสนใจทักพวกผมจนหูอื้อ
กว่าจะหลุดเข้าห้องได้
น้องมีการ์ดจำเป็นรายล้อม ตัวหลัก น้องเอก น้องวิทย์ น้องหนุ่ย แถมเพื่อนสามสี่คนที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
พอคุ้นหน้าอยู่บ้าง วันที่ยกโขยงกันไปสมทบ แล้วบอลลูนต่อยไอ้รุจน์หลับนั่นแหละ
“บู..” น้องดูหน้าตื่นๆ รีบเข้าไปหาทันที บอลลูนคว้ามือผมไปจับ มือน้องเย็นเฉียบ เหงื่อซึมจนสัมผัสได้
“เป็นอะไรครับ” ร้อนรนถาม บอลลูนไม่ตอบหรือไม่เข้าใจก็ไม่รู้ ได้แต่ส่ายหัวดิก
“พวกนี่รู้ข่าวพากันยกโขยงมาดู ไอ้บอลมันป๊อบอยู่แล้ว หายไปไม่มาเรียนเกือบอาทิตย์ โผล่มาอย่างที่เห็น
แฟนคลับทั้งนั้น พวกผมไม่รู้ทำไง ได้แต่กันไว้หน้าประตู” น้องเอกรายงานรวดเดียว
“ว้าว! ยังไม่ขึ้นปกเลย ดังเป็นพลุแตกแล้ว” โจ๊กหัวเราะพูดติดตลก
“ผลั๊ว!..ใช่เวลาเล่นไหม” ทอมแสบซัดฝ่ามือบนต้นแขนซะแรง
สุดหล่อหน้าเข้มถึงกับลูบปอยๆ สงสัยทอมรอจังหวะเอาคืน
“มือหนักชิบ!..” มีบ่นตบท้าย
“ไม่เป็นไรเนอะ เพื่อนบอลทั้งนั้น เขาห่วงอยากรู้บอลสบายดีไหม” ผมอธิบายช้าๆ
“ยังไม่ได้ลอกการบ้านเลย” น้องปั้นหน้ายุ่ง คงเป็นภารกิจใหญ่ที่คาราคาซังสินะ
ปกติน้องรักเรียน เกรดดีอยู่ระดับต้นเชียวล่ะ
“มะ!พี่ช่วยดู บอลเอาขึ้นมาทำสิครับ แล้วทำไมถึงไม่ลอก ไม่เห็นเกี่ยวพวกที่มาแอบดูนี่นา” นึกสงสัย
“อาย..เดี๋ยวถูกล้อว่าลอกการบ้าน” พูดพร้อมอาการอายไม่มีกั๊ก
อายจริงอะไรจริงก้มหน้างุดคางชิดอกแล้ว ผมกับพวกแบมกลั้นขำท้องแข็ง
ให้ตายอยากลอกแต่แอบรักษาภาพพจน์ สมเป็นบอลลูน นิสัยเด็กยังคิดแบบนี้
มิน่าพอรู้เยอะถึงได้มาดแยะตาม ปิดบังความรู้สึกซะขนาดนั้น
อยู่สอนน้องทำแบบทดสอบจนเสร็จ เหลือเวลาไม่ถึงสิบนาที
ต้องแยกตัวเอากระเป๋าไปเก็บก่อนเข้าแถว ไม่ลืมกำชับพวกน้องหนุ่ยให้ดูแลบอลลูนใกล้ชิด
พักเที่ยงจะมาทานข้าวด้วย
“โห..พี่บูไม่ต้องห่วง แฟนคลับมันหนาแน่นขนาดนี้ ปกติไม่มีใครกล้าประเจิดประเจ้อแบบนี้หรอก
ฉายาเจ้าชายมีแต่แอบปลื้มกันห่างๆ ข่าวมันกลายเป็นเด็กไปเร็วอย่างกับไฟลามทุ่ง สภาพเลยเป็นอย่างที่พี่บูเห็น”
ผมชักกังวลแล้วสิ
“ใครไปกระจายข่าว” แบมมันแทรกถาม
“มีใครที่ไหนพูด พวกผมรูดซิปสนิท ที่รู้เพราะมันล้วนๆ เดินผ่านใครทักดันตอบเขาหมด
ทุกคนแปลกใจคำพูดมันน่ะ พวกพี่รู้ดีกว่าผมแหละ เห็นมันมาตั้งหลายวัน ผมเจอวันนี้ยังมึนตึ๊บ”
น้องวิทย์ ชิงพูดขึ้นบ้าง พร้อมท่าทางส้นมือทุบหน้าผากประกอบ มึนตึ๊บอย่างที่พูดจริงๆ
“เอาเถอะ พี่แค่กังวลกลัวโดนคนแกล้ง” ผมบอกความรู้สึก
“อุ่ยไม่มีหรอก เห็นแบบนี้ใครกล้าแกล้งศพคงไม่สวย แฟนคลับออกตัวปกป้องปานไข่ในหิน
ขืนใครอุตริทำมัน คงโดนประชาทัณฑ์ขึ้นปกอาชญากรรมหน้าหนึ่งแน่” น้องหนุ่ยเป็นคนยืนยัน
ผมแอบสำรวจโดยรอบ มีแต่คนพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียง สายตาน้องผู้หญิงมีแอบวิ้งค์ๆด้วย
ประมาณว่า ‘เจ้าชายหนู ใครห้ามแกล้ง’
“ไม่คิด..น้องมึงเป็นบอลลูนฟีเวอร์ไปแล้ว” แบมมันเปรย ระหว่างเดินเข้าห้อง หลังเลิกแถวเคารพธงชาติ
“กระแสแรงจริง ตอนเข้าแถวโซนม.ต้น รุมเป็นกลุ่มใหญ่ กูนึกว่าแย่งดูดารา ไหนได้บอลลูนฟีเวอร์ชัดๆ” ทอมเสริม
“ก่อนหน้ามีแต่คนอยากใกล้ แต่น้องมึงมันมีมาด ไม่มีใครกล้าปฏิสันถาร ตอนนี้แม่งใสซื่อ
คำพูดแบบนั้น มีแต่คนเอ็นดู” โจ๊กมันวิเคราะห์
“เอ็นดูไม่ว่า อย่าอุตริคิดดูเอ็นมาเชียวละ ยิ่งหล่อไส้แตก กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจริงกู” สวยตัวแม่สีหน้าหนักใจ
“มึงก็พูด แบบนี้บูตัสมันยิ่งกังวล” โจ๊กมันปราม
“แบมพูดถูก” ทอมแสบเห็นด้วย
“กูพูดให้พากันระวัง คลาดสายตาไม่ได้ พวกตุ๊ด กระเทยมันหลากนิสัยนะ
ไอ้ที่จ้องเขมือบแล้วไม่ได้โอกาส มีอยู่ไม่น้อย มือตีนน้องมึงใช่ย่อย กูกลัวข้อหาเกลียดตุ๊ด
จะกลับมาทำร้ายเอาก็ตอนนี้แหละ” ฟังแล้วกังวลจริงๆ บอลลูนเกลียดตุ๊ดพวกแรดเข้าไส้
กลุ่มที่ออกอาการแบบนั้นเจอดีไปเยอะ ถ้าหากคิดเอาคืนตอนนี้ น้องคงลำบาก
“เอาเถอะสัญชาตญาณคนเป็นมวย คงมีฝังในสายเลือด ถึงเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
กูมั่นใจน้องมึงคงไม่ถึงกับลืมสู้คนมั้ง” ข้อนี้พลอยใจชื้นขึ้นทันที น้องไม่ได้ความจำเสื่อม
แต่ไม่แน่ใจชกได้ประสิทธิภาพเก่งเหมือนเดิมหรือเปล่านี่สิ
“แบม..กูต้องลองเช็ค” หมายมั่นในใจ อาจมีซ้อมลงนวมกับน้องทดสอบ
ไว้พรุ่งนี้เย็นทีเดียว วันนี้ต่างติดภารกิจ
การพูดคุยยุติเมื่ออาจารย์เข้าสอน หันไปให้ความสนใจอาจารย์กันเป็นพิเศษ เหลือเดือนกว่าสอบปลายภาค
พักเที่ยงรีบไปโรงอาหาร โทรถามบอลลูนรออยู่กับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว
ขอคุยกับน้องหนุ่ยบอกจองโต๊ะไว้ให้เสร็จ พวกผมเลยดิ่งตามไปทันที
ไปถึงโซนที่น้องบอก คลาคล่ำด้วยไทยมุ่ง ทำให้ต้องก้าวขาแทบวิ่ง
พอพวกนั้นเห็นพวกผม พากันเปิดทางให้อัตโนมัติ
“ฮ่ะฮ่าๆๆ ปัญญาอ่อนไปแล้ว” เสียงหัวเราะตามมาด้วยคำพูดเย้ยหยัน
ผมเผลอกำหมัดแน่น บอลลูนหน้าซีดเหลียวมองวอกแวกเหมือนหาที่พึ่ง กระทั่งเห็นผมเข้า
“บู..” น้องเรียกทันที ไม่ต้องรอให้เรียกซ้ำ ไปยืนประกบจับมือน้องปลอบเบาๆ
ตาจ้องพวกสายไหมที่มากันครบ พอเห็นพวกผมโผล่ไปมีชะงักนิด แต่ไม่หยุดพร่ำ
“ต๊าย..สงสัยไม่ต้องเล่นละครตบตาแล้ว ผัวเมียลักเพศเปิดเผยชัดเลยนี่” เธอเหยียดปากสาดคำพูดใส่
คงเห็นมีคนสนใจมุงกันเยอะ คิดว่าผมไม่กล้าลงมือรุนแรงก่อนแน่
“ละครเหรอ ทำไมต้องตบตา ปกติก็รู้กันจนเหม็นคลุ้งไปทั้งโรงเรียน ไม่จำเป็นต้องปิดด้วยซ้ำ
จะให้ดีประกาศย้ำอีกซักรอบ ปัญญาอ่อนที่เธอพูดรสชาติคงหวานล้ำถึงใจสิท่า
อ่อนหรือแข็งก็กระทุ้งหว่างขาคนพูด รูโบ๋ไม่รู้กี่ท่าแล้ว ถึงกลายเป็นปรสิตวนเวียนขอส่วนบุญ
อยากให้เขากลับไปกระทุ้งซ้ำเพราะติดจนลืมไม่ลง ไม่อย่างนั้นคงไปผุดไปเกิดล่ะ
เสียใจ..สงสัยรูเธอมันไม่ดีจริง เท่าที่รู้มาหลายผัวเสียด้วย รูกลวงจนรถไฟกลับลำเป็นขบวน
ถึงได้เร่หาใหญ่ยาวไซร้ฝรั่ง ปากบอกเขาอ่อนก็ยังจะเอา พอเขาไม่เล่นด้วยสาดด่า
ต่อให้พี่น้องมันเป็นผัวเมียจริง น้องมันก็คงเลือกไปแล้ว ระหว่างตูดดูดสุดฟิต
คงให้รสชาติดีกว่ารูเน่าบางคน เหม็นยิ่งกว่าปลาร้าหมักไห แบให้ฟรียังไม่มีใครเอา
ร่านจนเสี้ยน แนะนำไปล่อกรรมกรพม่า พวกก่อสร้างทางด่วนดูสิ
อาจได้พม่าตีกรุง สนใจตีหม้อเธอดูก็ได้นะหล่อน”
สวยตัวแม่พูดน้ำไหลไฟดับ ไม่เว้นช่องไฟให้หายใจเบรก แถมได้รับรอยยิ้มสะใจจากไทยมุงรอบข้าง
พากันปรบมือระงม พร้อมเสียงกรี๊ดแปดหลอด หน้าซีดปากสั่นจากคู่กรณี
“แปะๆ..แปะๆๆๆ!!!...กรี๊ดดดด!!!..อีบ้า..อีตุ๊ด อีกระเทย” เพื่อนเธอพยายามห้ามไว้
สายไหมเหมือนหมาบ้าถูกน้ำร้อนสาด อาการเหมือนหลุดจากโรงบาลมาหมาดๆ!
“อีห่า..ปากดี ก้าวก่ายตุ๊ด กระเทย เดี๋ยวแม่ตบฟันร่วง ทำไม..หอยไร้สมรรถนะอย่างอีแบมมันพูดหรือยะ
พอไม่มีใครสนอง ผีฮิททีเรียเข้าสิง ถึงได้วิ่งไล่กัดเขาไปทั่ว”
ปุยนุ่นร่างยักษ์โผล่มาตอนไหนไม่ทันสังเกต พร้อมสมัครพรรคพวกตุ๊ด แต๋ว กระเทย
กระเหี้ยนกระหือรือตั้งท่าอยากตบสั่งสอนสายไหมกันถ้วนหน้า
“มิน่ากระทงปีนี้ไม่ได้เป็นนพมาศ หอยหล่อนเน่านี่เอง คนเขากลัวไปแพร่โรคระบาดในน้ำ
หล่อนถึงหมดสภาพระริกร่าน ปากหมาสะพานพุทธไม่ดูตาม้าตาเรือ ร่านนัก ชั้นแนะให้หล่อนไปขอส่วนบุญใต้ต้นมะขามดูสิ
ผีขนุนถือถุงโชคดี ยังมีภาษีดีกว่าชะนีหอยเน่า..เน่าทั้งปากบนปากล่างด้วยซ้ำ..บลาๆๆๆ”
แล้วสายไหมก็โดนรุมประชาทัณฑ์ด้วยสงครามน้ำลาย จากพวกสมาคมตุ๊ด กระเทยประจำโรงเรียน
นำด้วยปุยนุ่นนายกสมาคม ผู้ปลื้มโจ๊กเป็นการส่วนตัว เธอคือหัวโจกพาเด็กในสังกัดชี้นิ้วด่า จนสายไหมเหวอะหวะ
ผมไม่อยู่ฟัง ลากบอลลูนออกมาจากเหตุการณ์นั่นให้ไว แก้ปัญหาสั่งพิซซ่ากับไก่ ถาดใหญ่สองชุด
มากินตรงม้าหินใต้อาคาร พวกเพื่อนบอลลูนครบเซทร่วมแจมด้วย
“โชคดีพิซซ่าเลยสี่แยกนี่เอง ไม่เสียเวลารอนาน” กนกพูด พร้อมกับเคี้ยวพิซซ่าไปด้วย
“กู๊ดไอเดียมากพี่หนก” น้องเอกชูนิ้วโป้งให้ทอมแสบ มันเป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่เงินผมขอเลี้ยง
ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจพวกน้องๆไปในตัว ไม่มีใครปฏิเสธคัดค้าน
“เช็ดซอสหน่อยครับ” ส่งกระดาษที่แถมมา ให้บอลลูนหลังน้องเคี้ยวตุ้ยๆ ซอสติดแก้มแลดูน่ารักน่าหมั่นไส้
“อื้อ..” ขานรับ แต่ไม่หยิบไปเช็ด
“อื้อ..ก็เอาไปเช็ดสิครับ” ผมเร่ง
“บู..เช็ดให้หน่อย” บอกไม่ใส่ใจ ก้มหน้าเคี้ยวพิซซ่าอย่างเอร็ดอร่อย
ชำเลืองดูพวกเพื่อน รวมเพื่อนน้องพากันอมยิ้มท่าทางไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตามๆกัน เลยบรรจงเช็ดออกให้
น้องเงยหน้ายิ้มโชว์เขี้ยวให้ผมเหมือนเด็กๆ
“ชะนีสายหมอยคงเข็ดเข้าไส้ เผลอๆอาจโดนพวกปุยนุ่นตบหน้าแหก ถ้ายังไม่เลิกนิสัยเดิม”
สวยตัวแม่จิบโค้ก คงอิ่มแล้ว
“นั่นสิ..อยู่ดีไม่ว่าดี เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนใครบอกได้” กนกหันไปถามพวกน้องหนุ่ย
ในมือมีพิซซ่าอร่อยกันใหญ่
“พวกผมเลิกก่อน พากันลงมาจองโต๊ะ วางหูพี่บูไม่ทันไร พวกไหมเดินเข้ามา
แล้วก็แขวะอย่างที่พวกพี่เห็นแหละ” น้องเอกชิงบอกเสียเอง
“ยัยนี่มันจริงๆ ไม่รู้จักเข็ดหลาบ” กนกส่ายหัว
“คงได้ยินข่าวน้องมึง กะมาเยาะเย้ยสิท่า ไม่คิดว่าจะเจองานช้างเข้าเต็มๆ
แค่แบมคนเดียวกูแทบเอาหน้าแทรกซีเมนต์หนี ขุดคำด่าที่ไหนมาวะ เจ็บตับทะลุม้ามเลยมึง”
โจ๊กมันถาม ผมเองรู้สึกไม่ต่างกัน อย่าริไปปะทะฝีปากสวยตัวแม่เด็ดขาด
รายนี้ลองไม่พูดก็นิ่งได้นิ่งดี ลองได้ด่าแล้วแม่เจ้า!..บรื้อออ!!!
“คิดทำไม มัวแต่คิดมึงไม่ทันด่าหรอก กูพูดล้วนเรื่องจริง ถ้ามันไม่ติดใจน้องมึง
จะหาเรื่องวอแวทำไม คิดอาศัยจังหวะนี้เอาคืนรอชุบมือเปิบอยู่สิ เผื่อฟลุ๊คน้องมึงดันพลาด
She คงลัลลาหน้าบานไปแล้วมั้ง”
สวยตัวแม่วิเคราะห์ ก็จริงของแบม ไม่คิดอะไรด้วย ยังมาวุ่นวายทำไม
บอลลูนก่อนบาดเจ็บก็ประกาศชัดต่างคนต่างอยู่ ลองน้องปกติเธอไม่กล้าเฉียดด้วยซ้ำ....
“บทมึงซ้อมเย็นนี้ มีสองฉาก” แบมแจงให้ฟัง ใกล้เลิกเรียนแล้ว เหลือครึ่งชั่วโมง อาจารย์เบรกสิบนาที
“อืม..กูแวะดูน้องที่สนามฟุตบอลแป๊ป” ผมบอก
“เอาสิ..ก่อนมึงซ้อม ต้องให้โจ๊กกับหนกมันเล่นก่อน ยังไม่ถึงฉากของสาวใช้”
ค่อยยังชั่ว มีเวลาแวบไปดูบอลลูนหน่อย อดห่วงไม่ได้ ตอนแยกขึ้นเรียนช่วงบ่าย น้องมองตาปอย
ต้องเดินไปจับมือกุมเบาๆ ไม่กล้าลูบหัวต่อหน้าเพื่อน คงดูไม่ดีล่ะ
“ไม่เป็นไรนะ แค่แยกไปเรียน เลิกเจอกันเนอะ” ผมบอก
“เลิกแล้วบูมาใช่ไหม” น้องถาม
“มาสิ เดี๋ยวพี่แวะไปดู ไหนบอกนัดเตะบอลกันที่สนาม”
“พวกเอกนัดแข่งกับอีกห้อง” น้องบอกซื่อๆ
“ถ้างั้นพี่ไปเจอที่สนามเลยนะ”
“อื้อ..อย่าลืมนะ” มีกำชับอีก ใจอยากลูบหัวหรือโอบกอดมันดูไม่เหมาะ
ทำที่บ้านดีกว่า ถึงน้องจะคิดจะพูดแบบเด็กๆ แต่ร่างกายนี่สิไม่ได้เด็กตามเสียหน่อย
สูงใหญ่หล่อเทพเหมือนเดิม ดูน่ารักกว่าเดิมอีก เพราะแววตาใสซื่อนี่แหละ
ทำให้รู้สึกว่าน้องน่าปกป้องมากที่สุด
“คิดอะไรมึง อาจารย์มาแล้ว” แบมมันสะกิด
“เปล่า..ไม่มีอะไร” หันไปสนใจเรียนกันต่อ มาวันแรกได้เห็นอะไรไม่น้อยเกิดขึ้นรอบตัวเราพี่น้อง
มีสิ่งหนึ่งที่ประทับใจอย่างซาบซึ้ง คือความรักความห่วงใยจากเพื่อนๆ ทั้งของน้องและของผม ไม่มีใครทิ้ง..เราสองคน?
มาลงครบแล้วนะคะ ตอนหน้าเป็น Part เขมละเน้อ
ส่วนมาม่าบอลลูน ยังไม่มีตอนหน้าหรอก จะเป็นตอนถัดไป
ขอบคุณทุกกำลังใจที่เม้นท์ให้กันอย่างต่อเนื่อง เพราะแบบนี้แหละ
คนเขียนถึงใจแข็งไม่อัพไม่ได้สักที อย่างน้อยวันละครึ่งก็ยังดี
ตราบใดที่คนอ่านที่น่ารัก ยังส่งแรงใจกันมา ลงอัพทีขึ้น 3-4 หน้าแบบนี้ละก็
สต๊อกก็สต๊อกเถอะ อัพกระจายกันไปเลย คาดว่าไม่เกินกุมภาปีหน้า จบแน่ๆ
เล่นอัพซะขนาดนี้ เฮ้อ!
Luk.
ปลล. คนเขียนไม่ได้ท๊อปฟอร์มแต่ประการใด บังเอิญตุนสต๊อกไว้
ช่วงนี้ก็พยายามปั่นล่วงหน้าไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกกำลังใจเหนียวหนึบแบบนี้
ไม่กล้าหายหัวเลยตรู....
กะว่าจะแวบซะหน่อย เจอแบบนี้กลัวโดน
ปลล2. กดบวก 1 คะแนน ให้กับทุกเม้นท์ 50% ที่เม้นท์ผ่านมานะคะ แทนคำขอบคุณค่ะ