เอาสต๊อกมาอัพกระจาย ฮ่ะฮ่าๆๆๆๆ!!!!
จัดไปค่ะ ไหนๆก็ไหนๆ กั๊กไว้ทำไมกันเล่าเนอะ
ไว้สต๊อกขาดอย่าด่าคนเขียนนะ
My love
Part 29 “โจ๊ก...” ผมเรียก พวกแบมมารับกลับบ้าน เราแวะทานมื้อเที่ยง บอลลูนดูสนใจรอบข้างแบบเด็กๆ
“ว่าไง” โจ๊กรออึดใจไม่เห็นผมพูดอะไรต่อ ถามขึ้น
“วันนี้เข้าบริษัทฯพี่วิชญ์” ไปตามตาราง บอกเรื่องบอลลูนให้รู้แล้ว อังคารที่ผ่านมาพวกผมก็ผลัดพี่เขา
“อืม..เข้าบ้านเก็บของก่อนค่อยไป” มันแนะ
“ขอบใจวะ พากันหยุดเรียนเพราะกู” พวกมันลาครึ่งวัน
“คิดเยอะ กูโทรบอกพี่ต้นตามไปบริษัทพี่วิชญ์ทีเดียว” แบมบอก ผมพยักหน้าเห็นด้วย
จังหวะอาหารมาเสริฟเลยหยุดคุย บอลลูนประเดิมตักใส่จานผมคนแรก ทุกคนชะงัก
น้องไม่รู้ตัวทำอะไร คงเคยชินไม่รู้ความหมายหรอก พวกผมแอบสบตากัน เรื่องตักอาหาร
น้องเริ่มบริการผมตอนพ่อแม่เสีย สืบเนื่องผมลงมือเข้าครัวทำมื้อเย็นให้เราสองคน น้องเจตนาขอบคุณโดยตักให้ผมก่อน
ถึงบ้านน้องตรงขึ้นห้องทันที รีบตามไปกุญแจอยู่ที่ผม บอกพวกโจ๊กทำตัวตามสบาย พวกมันโบกมือให้ไม่ต้องกังวล
“บู..นอนด้วยกันเนอะ” นั่งห้อยขาบนเตียง จ้องตาแป๋วรอคำตอบ
“อืม..” ตอบรับเสร็จถึงกับสะดุ้ง บอลลูนดึงผมเข้าไปกอด หน้าซุกท้องถูไถอย่างเด็กๆ
ลองปกติน้องไม่ทำแน่ ผมเอามือลูบหัวอย่างเอ็นดู
“บอล..อาบน้ำแต่งตัวนะ เดี๋ยวออกไปหาพี่วิชญ์กัน”
“พี่วิชญ์” น้องทวนชื่อซ้ำ
“พี่วิชญ์ที่เอาเราไปถ่ายแบบไง” เห็นทำท่าคิด เลยทวนความจำ
“ถ่ายแบบเหรอ..เอาสิ” เผยยิ้มกว้าง ลักยิ้มสองข้างบุ๋มเป็นรอยโชว์เขี้ยวแหลมอย่างน่ารัก
บอกหล่อก็กระไรอยู่ ตาน้องดูกระจ่างใสอารมณ์ไม่มีกั๊ก แสดงความรู้สึกแบบเด็กๆ
จะว่าแอ๊บคงไม่ใช่ แววตาใสซื่อแบบนี้ลอกเลียนมาทำไม่ได้ หมอยืนยันแล้ว
พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นจากภายในไม่สามารถปรุงแต่ง
กรณีของบอลลูน ผมเคยดูรายการทีวีวาไรตี้ดัง กระเทยแต่งหญิงประสพอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม
พอฟื้นกลับจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นกระเทย รับพฤติกรรมที่ญาติเอารูปตอนแต่งหญิงให้ดูไม่ได้ ความทรงจำไม่สูญเสีย
คุ้นเคยรู้จักเพื่อนสนิท ตุ๊ด แต๋ว กระเทยที่คบจำได้หมด เพียงแต่ความรู้สึกอยากเป็นผู้หญิงไม่มีอีกเลย
กลายเป็นผู้ชายปกติชอบผู้หญิงเฉย รสนิยมตาลปัตร กรณีของบอลลูนคล้ายคลึงกัน
เพียงแต่น้องพฤติกรรมกลับเป็นเด็กทางความคิดและอารมณ์แทน ไม่ใช่เป็นถาวรด้วย น้องสามารถหายได้..
“บู..ใส่เสื้อตัวไหน” ทำตาปริบๆกำลังใช้ความคิด หลังเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วไม่ไรู้เอาไง เห็นแล้วเผลอยิ้มไปด้วย
“ทำไมล่ะ ตัวที่ชอบใส่ลองนึกสิ” น้องเอามือไปแหวกเสื้อที่แขวน ก่อนหยิบยืดสีขาวคอวี
รูปกระต่ายกัดแคลรอทออกมาทั้งไม้ เห็นแล้วถึงกับกลั้นหัวเราะ ลองเป็นบอลลูนภาค 15 อย่าหวังจะใส่ตัวนี้
“กางเกงล่ะ” ถามมาอีก
“ก็เอาที่บอลชอบ” พูดกลั้วหัวเราะ เห็นท่าถือเสื้อเอียงคอ ดูเป็นเรื่องต้องใช้ความพยายาม
เป็นภาพที่ไม่คิดจะได้เห็นจากเจ้าชายรูปหล่อ ซึ่งมีแฟนคลับทุกชั้นปีมาก่อน
กิริยาอาการแบบนี้ หายไปกับกาลเวลาในความทรงจำของผม นานมากทีเดียว
พอกลับมาเห็นอดยิ้ม เกือบเผลอหัวเราะให้ได้
“ตัวนี้แหละ” น้องคว้ากางเกงสามส่วนสีฟ้า มีกระเป๋าข้างดีไซค์เก๋แบรนด์ดังขึ้นมา
รสนิยมในการเลือกชุดไปบริษัทฯ เห็นแล้วกลั้นขำไหล่สั่น เป็นปกติอย่าหวังน้องจะใส่สามส่วนไป
อย่างน้อยต้องเนี๊ยบแต่หัวจรดท้าย ถึงรองเท้าจะผ้าใบเซอร์ๆ ดันเข้ากับกางเกงยีนส์เดฟไม่ดำก็สีสนิมเหล็ก
ที่มักใส่ออกบ่อย ดูตอนนี้สิเหมือนแต่งตัวไปเดินเจเจ
“ครับ..ตัวนี้ก็ดี” ผมไม่ขัด อยากเห็นธรรมชาติบอลลูน
“รีบอาบนะ เดี๋ยวเจอกัน” ผมบอก
“อื้อ..” น้องผงกหัว แต่ก่อนการตอบรับคือมองนิ่ง ไม่มีมาผงกหัวขานรับแบบนี้..อิอิ
“พวกมึง น้ำเย็นกับคุกกี้เปิดเอา” แวะลงมาดูพวกโจ๊กหน่อย
“อืม..น้องมึงโอเคไหม” แบมมันถาม
“อาบน้ำอยู่” มันพยักหน้าให้
“กูขอตัวไปอาบก่อน”
“ไปเหอะ” สวยตัวแม่โบกไล่ รีบขึ้นห้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
แต่งตัวเสร็จมาหาบอลลูน ปรากฏน้องไม่อยู่ในห้องแล้ว ล็อกห้อง
คว้ากุญแจกระเป๋าตังค์ที่น้องไม่คิดจะติดมือ เดินลงมาด้านล่าง
พวกแบมเห็นผมลงบันได เสียงพูดคุยที่ได้ยินเงียบกริบ รู้สึกสงสัยสายตาพวกมัน
คงไม่อึ้งการแต่งตัวผมหรอก เห็นกันออกบ่อย..
“บูมาแล้ว” บอลลูนดูทีวี เห็นเงียบไปเลยหันมาทัก ผมอึ้งตาโต หน้าน้องวอกแป้งเด็กเกาะเป็นรอย
ตามหนวดกับเคราที่ไม่ได้โกนหลายวัน เหมือนน้ำตาลไอซิ่งติดบนหน้าเต็ม
“บอล..กลับขึ้นห้องแป๊ปสิ” พยักหน้าเรียก
“บูเอาอะไร” น้องเข้าใจผมจะเอาของ
“เปล่า..มาเถอะ” เห็นผมไม่ขยับตั้งท่ารอตีนบันได น้องยอมลุกมาแบบงงๆ
ผมชำเลืองมองโจ๊ก กนก แบม พวกมันกลั้นขำหน้าดำหน้าแดง เลยชี้นิ้วใส่คาดโทษไป
ก่อนดันหลังบอลลูนกลับขึ้นห้อง
“โกนหนวดเหรอ” น้องถาม หลังผมบีบครีมโกนหนวดป้ายคางทั่ว
“อืม..บอลลืมโกน” แกล้งบอกไป
“เปล่า..จะโกนแล้ว..ทำไม่เป็น” ผมขำพรืด..
“หัวเราะทำไม” มองอย่างไม่สบอารมณ์ ผมกลั้นไม่อยู่จริงๆ
“เปล่าๆ!..บอลเคยโกนได้นี่” พยายามพูดทั้งที่จะหลุดขำ
“รู้..แต่ตอนนี้มันทำไม่ได้” น้องบู้หน้า เข้าใจแล้วน้องจำได้
แต่พอจะทำขึ้นมาดันวางองศาใบมีดไม่เป็น ไม่รู้จะเอียงหรือเฉียงยังไง
กลัวใบมีดเฉือนเนื้อเลยไม่ทำ ผมเลยสอนโดยทำให้ดูไปด้วย สังเกตสีหน้าดูแหยงชอบกล
ตอนผมค่อยปาดใบมีดไปตามลำคอใต้คาง..หลับตาปี๋เลย
“อ่ะ..เสร็จ” เอามือลูบสำรวจ มีตอหนวดโกนไม่เกลี้ยงหรือเปล่า หลายครั้งช่วยโกนให้พ่อ
ความที่ตัวเองไม่มีเลยอยากลอง ต้องการเรียนรู้ไม่ใช่อยากมีหนวด อยากสัมผัสตอนโกนหวาดเสียวไหม
จึงไม่เก้กังเวลาที่โกนให้บอลลูน
“ล้างหน้าด้วย” ผมบอก น้องมองตาปริบ ก่อนจับมือผมที่ลูบคางให้หยุดอยู่นิ่งๆ
“อ่ะ..” งง..น้องออกแรงบีบจนชักเจ็บ
“ขอโทษ..” คงเห็นผมแสดงสีหน้า รีบปล่อยอย่างเร็ว
“ไม่เป็นไร บอลแสบเหรอ” ถามเพราะห่วง กลัวเผลอทำใบมีดบาดผิวน้องเข้า ตอนลูบค่อยรู้ว่าแสบ
“เปล่า..มันจักกะจี้” คำตอบของน้องตรงกันข้าม
“ห๊ะ..จักกะจี้” ไม่คิดบอลลูนจะบ้าจี้ที่คาง ความรู้ใหม่
“อื้อ..จักกะจี้” น้องผงกหัวรับ หน้าหล่อออกแดงๆ
“เอ๋?..ตอนบูโกนไม่จี้เหรอ” ตอนโกนไม่เห็นน้องมีอาการ
“ไม่..จี้ตอนบูลูบ..แถวท้อง”
“ห๊ะ..” ผมอุทาน ลูบคางไมไปจี้ตรงท้องได้ล่ะ
“อื้อ...แล้..แล้ว” น้องตะกุกตะกักหน้าแดงเข้าไปใหญ ผมกลั้นหายใจลุ้นไม่รู้ตัว
บอลลูนไม่ยอมพูดต่อ กลัวน้องมีผลกระทบอะไรอีก
“แล้วทำไม..มันเป็นยังไงอีก” เร่งเลยครับ
“มันเสียวจู๋...” กลายเป็นผมที่หน้าไหม้ รีบเก็บมีดมุดหัวออกประตู ไม่ลืมกำชับ
“ล้างหน้าด้วย เช็ดหน้าเสร็จไม่ต้องทาแป้ง พี่รอข้างล่าง” ไม่กล้าหันไปสบตา
บอลลูนคงได้เห็นหน้าผม แดงแข่งน้องไปเรียบร้อย
“ดีครับพี่วิชญ์ ดีครับ ดีฮะ” พากันยกมือไหว้พี่วิชญ์
“ดีครับทุกคน..น้องบอลดูไม่เป็นไรเลย” พี่วิชญ์พุ่งเป้าไปที่บอลลูน เป็นอันดับแรก
ถึงกับตรงเข้าไปสำรวจไม่วางตา
“ครับ..ร่างกายปกติดี เพียงแต่พฤติกรรมได้รับผลกระทบ น้องมีอาการแบบเด็กๆ” บอกพี่เขาไป
อย่างที่เล่าให้ฟังในโทรศัพท์
“งั้นไม่เป็นปัญหา ตกลงน้องบอลรู้หรือยังว่าบู...” พี่เขาไม่พูดต่อ คงกลัวที่รับปาก ไม่ให้บอลลูนรู้ว่าผมถ่ายแบบ
“บอลรู้แล้วครับ ยกตารางรวมกันได้เลย” พี่วิชญ์ยิ้มกว้าง ช่วยลดความยุ่งยากของพวกพี่สต๊าฟ
ไม่ต้องฝึกพวกเราหลายเที่ยว
“วันนี้เริ่มเลยนะ” พี่เขาบอก
“ครับ..”
“น้องบอลยังไม่ได้วัดตัว เดี๋ยวให้ใบเตยวัดตัวก่อนค่อยฟิตเนส หมอไม่ห้ามเรื่องออกกำลังกายแน่นะ”
พี่เขาแอบกังวล
“ไม่ครับ ใช้ชีวิตได้ปกติ แค่ดูแลใกล้ชิดหน่อย” รีบพูดให้สบายใจ
“OK งั้นดีเลย” พูดจบพี่เขาโทรสั่งเลขา รอไม่นานพี่ใบเตยก็เข้ามา
“เตย..วัดตัวน้องบอลให้เรียบร้อยด้วย” พี่วิชญ์ไม่ให้เสียเวลา
“ได้ค่ะ..บอส” พี่ใบเตยยิ้มอย่างลิงโลด ออกอาการดี๊ด๊าตามนิสัย หันไปหลิ่วตาให้โจ๊กด้วย มันหัวเราะตาม
“น้องบอลตามพี่มาเลยค๊า” ผมพยักหน้าให้น้อง นำออกประตูตามหลังพี่ใบเตยไปยังห้องวัดตัว
“ขอวัดรอบเอวก่อนนะค๊า..อูยหล่อกระชากใจสุดๆ” พี่แกถือสายวัดเข้าหาบอลลูน
ตั้งท่าจะรวบกอดเพื่ออ้อมสายวัดรอบเอวน้อง...
“พลั๊ก!..ว๊าย!!..” ไม่ใช่แค่พี่ใบเตยที่ตกใจ พวกผมเหวอกันหมด
ต่อด้านล่าง